!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง [ตอนพิเศษ 4] (25-4-61) !!!!!!!!!!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง [ตอนพิเศษ 4] (25-4-61) !!!!!!!!!!  (อ่าน 421594 ครั้ง)

ออฟไลน์ gasia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-5
นี่ดีใจจะได้ไปเที่ยวกับผู้ชายใช่มะ
เบื่อนังฟ้าาาา

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
นังฟ้าแย่มากกก จะเอาลูกมาทำไมถ้าไม่รักไม่ดูแลอ่ะ  :m31: :m31:

เอสเลิกรู้สึกผิดเถอะ อยู่กับพี่ตุลย์เถอะ อย่าทิ้งพี่ตุลย์เลยน้าาาาาา :ling2: :ling2:

ออฟไลน์ Rabity

  • #slytherinforlife
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 523
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-8
ถ้าทำได้ไม่ดีแกเอาเขามาเลี้ยงทำไม?
ที่หนึ่งไม่มีวันลืมพ่อ เพราะผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าแม่ไม่มีแม้แต่นาทีเดียวที่จะไม่คิดถึงผัว
เข้าใจวี และอยากให้เลิกกับยัยบ้านี่ไปซะ
อินจริงจัง โอ๊ยยยยย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Natsuki-ChaN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ยัยทอฟ้า ตกลงดีใจที่ได้ไปกับลูก หรือ พี่วีของเธอ..... :z6: :beat:

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ทอฟ้าเป็นแม่ที่แย่มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :z6: :z6: :z6:

ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ thenista

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
    • NISTA
ตอนที่ 46






             “ดีขึ้นหรือยัง?” พี่ตุลย์ถามหลังจากที่ผมคืนแก้วน้ำให้   

             “ไม่ค่อยเพลียแล้วอะ”

             “อืม” พี่ตุลย์ขานรับก่อนจะยกหลังมือขึ้นแตะหน้าผากวัดอุณหภูมิ “ตัวยังรุม ๆ อยู่ แต่ก็ลดจากเมื่อคืนเยอะแล้ว”

             “แน่สิ เล่นนอนตั้งแต่เช้ายันเย็นขนาดนี้ นี่ถ้าพี่ไม่มาปลุกผมให้มากินยาอีกรอบ ผมคงนอนข้ามไปอีกวันเลย”

             “ถ้าเป็นงั้นฉันคงต้องมาดูว่าตายแทนหรือยังมากกว่า”

             ผมหัวเราะ “...ขอบคุณมากนะ”

             “ไม่เป็นไร” พี่ตุลย์ตอบ


             เราสองคนสบตากันราวกับต่างฝ่ายต่างก็มีอะไรจะพูดแต่ก็เงียบเอาไว้ จนกระทั้งถูกทำลายลงด้วยเสียงร้องไห้ดังลั่นจนพี่ตุลย์รีบผละออกจากห้อง ไปดูตอนต้นที่กระจองอแง ผมเองก็ผลอยตกใจไปด้วย โชคดีที่ไข้ลดแล้ว พอจะมีแรงขึ้นมาบ้าง เลยลุกพรวดตามพี่ตุลย์ออกไป


             “พี่ตุลย์เกิดอะไรขึ้นหรอ? ตอนต้นเป็นอะไรหรือเปล่า?”

             “ไม่มีอะไรหรอก ตอนต้นแค่ตกใจเพราะอยู่คนเดียวน่ะ ตามผลตรวจพัฒนาการคราวนั้นนั่นแหละ” พี่ตุลย์ที่กำลังอุ้มปลอบลูกชายตอบอย่างใจเย็นเช่นเคย

             “อ๋ออ แปลกดีจังปกติไม่เห็นร้องแบบนี้เลย”

             “ก็ปกติถ้าไม่เห็นฉัน เขาก็เห็นป้าสร้อยหรือไม่ก็ที่หนึ่งก็เลยไม่รู้สึกว่ามีอันตรายหรืออะไรละมั้ง”


             ผมสะอึกตอนที่พี่ตุลย์พูดถึงที่หนึ่งขึ้นมา พี่ตุลย์บอกว่ามันไม่ใช่ความผิดของผม เขาไม่ต้องการให้ผมคิดหรือพูดแบบนั้นอีก และเขาก็ทำใจยอมรับมันได้เพราะยังไงซะคนที่เอาที่หนึ่งไปก็คือแม่ของที่หนึ่งเองเขาคงดูแลที่หนึ่งได้เป็นอย่างดี


             แต่ผมยังคิดแบบนั้นไม่ได้ ผมสลัดเรื่องนี้ออกไปจากหัวแล้วพูดถึงที่หนึ่งแบบไม่คิดอะไรแบบนี้ไม่ได้

             “พี่ตุลย์ ถามอะไรหน่อยได้ไหม?”

             “อะไร? ก่อนอื่น เดี๋ยวฉันไปหยิบผ้าปิดปากให้ ฉันห่วงว่าหวัดนายจะติดตอนต้นเอา”

             “งั้นเดี๋ยวผมไปหยิบเอง”


             ผมเดินกลับเข้าไปในห้องนอน หาหน้ากากอนามัยที่พี่ตุลย์เก็บไว้ในลิ้นชักเสื้อผ้า แล้วเดินกลับออกมา ก่อนจะผงะเมื่อเห็นพี่ตุลย์อุ้มตอนต้นยืนจังก้าอยู่หน้าประตู แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือจากจัดหน้ากากอนามัยให้ผม เขาทำมันเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่นั่นคือพี่ตุลย์…เขาดูแลคนรอบข้างเสมอ

             “ใส่แล้วตลกดี เห็นแต่ตา” พี่ตุลย์หัวเราะหึหึเสียงเบา

             “เกิดมาหน้าเล็กมันช่วยไม่ได้จริงๆ” ผมใช้นิ้วกระชากหน้ากากอนามัยให้มันเปิดเผยจมูกสุดโด่งเป็นภูเขาเอเวอร์เรสของผม

             “หึหึ แล้วไหนบอกว่ามีอะไรจะถาม จะถามอะไรละ?”

             “เอ่อ...คือว่า เรื่องของ ที่หนึ่งอ่ะ” ผมพูดเสียงเบา เหลือบตามองด้วยความชั่งใจ ผมก็ยังไม่รู้ว่าเราสามารถพูดเรื่องนี้ได้อย่างเต็มปากเต็มคำหรือยัง ผมไม่อยากให้มันเกิดความกระอักกระอวนไง

             “ทำไม?”

             “พี่ไม่คิด แบบว่า...ทำอะไรหน่อยจริง ๆ หรอ พี่จะยอมรับง่าย ๆ แบบนี้เลยหรอ? ฟ้องขอเลี้ยงดูดีไหม? คือผมคิดแล้ว ยังไงพี่ก็เลี้ยงเขามา พี่ต้องชนะคดีสิ! ถึงพี่ทอฟ้าจะสู้คดีว่าพี่เป็นเกย์ก็เถอะ...แต่เรื่องเพศมันก็ยอมรับกันมากขึ้นแล้ว”ผมพูดเสียงเบาในตอนท้าย

             “แล้วถ้าเกิดฉันแพ้ละ”

             “...”

             “ถ้าเกิดฟ้าฟ้องฉันกลับ ไม่ให้ฉันเจอลูกอีกเลยตลอดชีวิตนี้ละ ฉันจะทำยังไง?”

             “มันไม่เป็นแบบนั้นหรอก” ผมพูด แต่ด้วยน้ำเสียงที่ไร้ซึ่งความมั่นใจแต่อย่างใด มีแต่เรื่องของที่หนึ่งเท่านั้นที่ผมไม่สามารถพูดอะไรหรือคิดอะไรได้อย่างเชื่อมั่นเลย


             พอพี่ตุลย์เห็นว่าผมหลบเลี่ยงสายตา เขาก็จูงมือผมให้มานั่งบนโซฟาเหมือนกับผมเป็นเด็กน้อยที่เขาต้องพามานั่งจับเข่าคุย เขาใจเย็นนะ และนั่นพลอยทำให้ผมรู้สึกสงบไปด้วย

 

             “ในหนัง เราคงเลือกจะทำอะไรที่เราคิดว่ามันถูกต้องไปจนสุดทาง แต่ในความเป็นจริงมันทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะเราไม่มีทางกลับไปแก้ใหม่ และความเจ็บปวดมันก็เกิดขึ้นที่เราเอง เพราะงั้นนายก็ต้องคิดนะเอส คิดถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเอาไว้ด้วย”

             “แต่ว่า...”

             “การขอเลี้ยงดูมันไม่ใช่แค่ใครเลี้ยงมาแล้วจะได้ไปหรอก มันมีปัจจัยอีกมากมาย อย่างแรกคือฉันไม่ได้แต่งงานกับฟ้า สิทธิของคนเป็นพ่อ กับสิทธิของคนเป็นแม่แค่นี้ก็ต่างกันแล้ว อย่างพื้น ๆ สิ่งที่ศาลจะดูคือ ใครมีสามารถที่จะเลี้ยงลูกได้ดีกว่ากันซึ่งในเรื่องนี้ทอฟ้าเองก็อาจดีจะกว่าฉันซะด้วยซ้ำไป”

             “แต่พี่เลี้ยงเขามานะ เลี้ยงมาสิบปีแล้ว พี่ทอฟ้าเขาทิ้งลูกไป...”


             ผมยังหาเหตุผลด้วยความดื้อดึง กฎหมายมันต้องยุติธรรมไม่ใช่หรอ…
             

             “เขาก็ต้องพิจารณาอีก เขาอาจจะมองว่าการที่ฟ้าทิ้งลูกไป มันอาจจะเป็นสิ่งที่จำเป็นก็ได้ ตอนที่มีที่หนึ่ง เราทั้งคู่ก็ยังเป็นนักเรียนนักศึกษา ผู้ชายอย่างฉัน ถ้าไม่บอกว่ามีลูก มันก็ไม่รู้หรอก แต่ผู้หญิงด้วยสังคมแล้วมันไม่ใช่อะไรแบบนั้น มันกระทบถึงการเรียน และชื่อเสียงของเขา อนาคตของเขา ศาลเขาคงมองอะไรที่มากกว่าแค่คำว่าว่า ‘เธอทิ้งลูก’ แบบนั้น”

             “...”

             “มันมีเรื่องอีกเยอะ นายอาจจะมองว่าฉันขี้ขลาด แต่ก็คงจะอย่างนั้น ฉันไม่คิดจะทำอะไรที่ทำให้เรื่องมันแย่ไปมากกว่านี้” พี่ตุลย์พูดพร้อมเอื้อมมือบีบท้ายทอยผมเบา ๆ เหมือนบอกขอบคุณที่ผมพยายามจะช่วย แต่ก็ขอโทษที่นั่นมันไม่ได้ช่วยอะไรเขาได้

             “…เฮ้อ” ผมยิ้มยอมแพ้เขาในที่สุด “ผมเข้าใจพี่แล้ว แต่อย่างน้อยเวลาที่ผมยังอยู่ที่นี่ ผมอยากให้พี่รู้ว่าพี่ไม่จำเป็นต้องเก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียว ผมให้พี่ยืมกอดได้ถ้าพี่ต้องการ ผมจะอ้าแขนกว้าง ๆ ไว้แบบนี้เลย!!” ผมอ้าแขนกว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ให้คนที่นั่งอยู่ด้วยกัน


             สายตาจริงจังที่ผมส่งให้คงทำให้เขาอึ้งไม่น้อย แต่เขาก็เผยยิ้มออก เขาไม่ได้พุ่งเข้ามาใส่อ้อมแขนที่มาอ้าไว้ แต่กับใช้มือกดหลังคอผมจนหน้าผากของเราชนกัน


             “ฉันน่ะ ขอแค่เขาร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บไม่ป่วย ยิ้มแล้วก็หัวเราะ แม้จะไม่ได้อยู่กับฉันก็ไม่เป็นไร ไม่ว่าเขาอยู่กับใครถ้าเขามีความสุข ฉันพอใจแล้ว คนเป็นพ่อเป็นแม่เขาจะหวังอะไรไปมากกว่าลูกมีความสุข มีชีวิตที่ดี”

             ผมยิ้ม “พี่ดูเชื่อมั่นมากเลย ว่าเขาจะเลี้ยงที่หนึ่งได้ดี”


             “ก็ยังเป็นแม่ของที่หนึ่งนี่หน่า” เขาพูด พร้อมกับผละออกจากกัน “หยุดคุยเรื่องนี้เถอะ รั้งแต่จะทำให้คิดมากเปล่า ๆ นายก็กลับไปนอนได้แล้วไป”

             “จะบ้าหรอ ผมเพิ่งลุกจากเตียงเนี่ย นอนมากกว่านี้แขนขาผมก็จะลีบแล้ว ผมว่าผมจะไปอาบน้ำอะ แล้วก็อ่านหนังสือสอบด้วย มัวแต่ป่วยไม่ได้อ่านสักที ไฟนอลยิ่งเข้ามาใกล้เรื่อยๆ อยู่”

อ“อาบน้ำตอนนี้? เดี๋ยวไข้ก็ขึ้นหรอก” พี่ตุลย์ขมวดคิ้วใส่ พูดเสียงดุตามสไตล์พร้อม

             “ไม่หรอกหน่า ก็อาบน้ำร้อนดิ จะไปอาบน้ำเย็นทำไม หรือจะไม่ให้อาบ? เน่าจะตายอยู่แล้วเนี่ย”

             “เช็ดตัว ไป เดี๋ยวฉันเช็ดตัวให้”

             “ไม่เอาอะ ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นแล้วก็ไม่ใช่เด็กแล้วด้วย” ผมปฏิเสธ ไขว้แขนเป็นรูปกากบาท เดินไปคุ้ยหาผ้าขนหนูที่เพิ่งจัดเก็บใส่กระเป๋าเมื่อวานออกมาเตรียมจะไปอาบน้ำตามที่พูด

             “อาบน้ำตอนนี้มันอันตราย ไข้ก็เพิ่งจะลดแท้ ๆ ยังจะไปหาเรื่องอีก” พี่ตุลย์รั้งพร้อมคว้าแขนจนผมเผลอเซแถดๆ

             “ก็บอกอยู่ว่าตัวเหม็น ๆ เหงื่อออกทั้งวัน มันไม่ใช่ตัวพี่พี่ก็ไม่รู้สึกอะไรสิ แต่ผมนี่โคตรจะเหนียวตัวแล้วเนี่ย พี่จับแขนผมไม่รู้สึกบ้างหรอว่าตัวโคตรเหนียว”


             “ถ้าอยากจะอาบจริง ๆ ละก็ ไป เดี๋ยวอาบด้วยกัน”

             “เฮ้ย! ไม่เอานะ”

             “ไม่เป็นไร ฉันกำลังจะไปอาบน้ำให้ตอนต้นอยู่พอดีด้วย”

             “อะ อ้าวหรอ นึกว่ามีแค่พี่กับผมสองคน...เอ๊ย! ไม่ได้จะเข้าไปด้วยกันทำไม ผมอาบน้ำคนเดียวได้หน่า”

             “มา”


             พี่ตุลย์ไม่ได้สนใจเสียงกรีดร้องของผมแต่อย่างใด เขาลากผมตรงดิ่งไปยังห้องน้ำอุ้มตอนต้นไปด้วยพร้อม ผมดิ้นขัดขืนสุดแรง แต่ผมก็ยังเป็นคนป่วยอยู่ไงครับเลยไม่สะเทือนไอ้พี่ตุลย์สักแอะ เดิมทีก็สู้แรงพี่ตุลย์ไม่ไหวอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งไปกันใหญ่ ตะโกนมาก ๆ ก็เจ็บคออีก แถมตอนนี้ใช้แรงมากเลือดสูบฉีดไปที่หน้าทำให้ปวดหัวขึ้นมาเสียอย่างนั้น สุดท้ายผมก็ยอมเดินไปตามแรงลาก ปล่อยให้พี่ตุลย์อยากทำอะไรก็ทำ ผมไม่มีอะไรจะเสียอยู่ละ

             “ลากผมมาแล้วก็ขัดหลังให้ผมด้วยก็แล้วกัน”






TBC




สำหรับใครที่อยากได้ น้องเอสไปนอนกอด อย่าลืมเข้าไปดูที่เพจนะจ๊ะ นะจ๊ะ NISTA

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
ถึงฝ่ายแม่จะมีความพร้อมในการเลี้ยงดู
 แต่อย่างไรเรื่องจิตใจเด็กก็สำคัญไม่ต่างกัน
ไปรับที่หนี่งกันเถอะ ได้โปรดดดด
อยู่ทางโน้นน้องท่าทางแย่แล้ว เฉานานเข้าเป็นซึมเศร้าขึ้นมาละเรื่องใหญ่  T________T

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ตอนนี้สงสารที่หนึ่งมากกว่า ไปอยู่กับผู้หญิงแบบนั้น เห้ออออ

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ที่หนึ่งอยู่กับครอบครัวแม่ไม่ไหวหรอก ในเมื่อสามีฟ้าก็ไม่ได้ยอมรับที่หนึ่ง

ออฟไลน์ gasia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-5
รอวันที่ที่หนึ่งกลับมาอยู่กับบ้านนี้ ฮือ
ยัยฟ้านี่ยังไงก็ดูว่าไม่ได้รักลูกมากขนาดนั้น ยังติดหลัวมากอยู่ มากกว่าติดลูกอีก
แฟนใหม่ก็ไม่ได้ชอบที่หนึ่งอีก เพลียใจ สงสารที่หนึ่ง

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
น่าสงสารที่หนึ่งนะที่ไปอยู่กับแม่ที่แคร์ผู้ชายมากกว่าลูกแบบนั้น o12 o12

ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แฟนแม่คงทนได้หรอกถ้าแม่มัวแต่โอ๋ลูก
คงให้ฟ้าเลือก ระหว่างลูกกับตัวเอง
แล้วอย่างยายฟ้าเหรอ จะเลือกลูก :katai1:
ถ้าเลือกลูกคงไม่ทิ้งลูกทิ้งตุลย์ไปมีผัวใหม่ร้อก
แต่แน่ๆ ที่หนึ่งทนสภาพแม่ทิ้งลูกไปขลุกกับแฟนแม่ไม่ได้
ที่หนึ่งคงรู้ด้วยตัวเองแล้วว่าแม่ไม่ได้รักที่หนึ่งเหมือนที่หนึ่งรักแม่
เดี๋ยวที่หนึ่งก็ขอกลับมาหาพ่อ น้องตอนต้น และพี่เอสเอง

ออฟไลน์ kangteuk1995

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ที่หนึ่ง  :m15:
จะผิดมั้ยถ้าอยากตอนต่อไปแล้ว :impress2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Arancia

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 463
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-2
ทำไมสั้นอย่างนี้ แงๆๆๆ รอ่าน

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
มีความ ปรบมือรัว  :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ oilk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เอายัยฟ้าออกไปที เราทนอ่านไม่ไหวแล้ว   :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ sembia

  • Me as me.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เดี๋ยวนะ  เป็นเกย์ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเลี้ยงดูเด็กให้เป็นคนดีไม่ได้   แล้วการที่ชอบผู้ชายหรือผู้หญิงก็เป็นเรื่องของรสนิยมมากกว่าที่จะเหมารวมว่าวิปริตนะ  คือเกลียดทอฟ้ามาก  ยัยสมองตีบตัน   มีการศึกษาซะป่าว   จริงๆเรื่องลูกก็ไม่จำเป็นต้องมาคอนโดฯตุลก็ได้นี่   ทอฟ้าพาลูกไปเที่ยวที่อื่นแล้วก็พามาส่งคืนก็ได้   วีคิดตื้นเกินไปที่จะไม่ได้ทอฟ้าเจอลูก   อีกอย่างทอฟ้าควรถามความสมัครใจของที่หนึ่งด้วยที่อยากอยู่กับใคร   โอํยย  อินมากกก   เรื่องนี้ต้องมีทางออก
ขอบคุณนักเขียนค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ Cc-kun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
ไปเอาที่หนึ่งคืนม่จากนังทอฟ้าเรววว
ตุลวางใจไปมั้ยยย
นั่นมันผู้หญิงที่ทิ้งลูกไปหลายครั้งเลยนะั

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
เห็นแก่ตัว?

ออฟไลน์ MintELF13

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ่านรวดเดียวจบเลย สนุกมากกกกกกก

นางทอฟ้าไม่ได้รักลูกจริงๆหรอก ถ้ารักนางคงไม่ทิ้งที่หนึ่งไปถึงสองครั้งหรอกนะ
นางสนใจแต่ผู้ของนางนั่นแหละ แค่ตามใจที่หนึ่งหน่อยนางยังให้ไม่ได้เลย

เคืองงงงงงง  :fire:

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
รอเรื่องนี้นานมากกก
จนพบว่า อ้าวในเด็กดีลงจบแล้ว
ฮือออออ เราก้รอตั้งนานนน
สนุกมากกกกค่ะ
ชอบตอนเอสกับพี่ตุลย์หวานกันที่สุดดด
ไม่ชอบกินมาม่าค่ะ5555555
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ

ออฟไลน์ thenista

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
    • NISTA
ตอนที่ 47   
           






               “ฮ๊าาา”


               ผมส่งเสียงด้วยความชื่นใจหลังจากได้หย่อนตัวแช่อยู่ในน้ำอุ่นที่พี่ตุลย์เป็นคนเตรียมให้ก่อนจะหันมองอีกฝ่ายที่กำลังเตรียมกะละมังอ่างน้ำของตอนต้นที่กำลังแกะผ้าเดินช้างห้อยตุเลง ๆ


               พอเห็นแผ่นหลังพี่ตุลย์ผมก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชม เขาเป็นคนเข้มแข็งผมรู้อยู่แล้ว แต่วันนี้ที่รู้เพิ่มคือเขาเป็นคนที่เข้มแข็ง ‘มาก’ พี่ตุลย์สามารถยอมรับความจริงได้ว่า มันไม่มีอะไรที่จะสมใจไปเสียทุกอย่าง แล้วเขาก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้พร้อมกับสิ่งที่ยังเหลืออยู่


               ผมคิดนะว่าคนอื่นที่เจอแบบเขาจะเข้มแข็งได้แบบนี้ไหม หรือตัวผมเอง ในวันที่อายุเท่าเขาแล้วต้องเจอกับการสูญเสียจขนาดนี้ผมจะทนได้อย่างเขาหรือเปล่า จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าไหวอยู่ไหม...


               “ตอนต้นมานี่มาลูก” พี่ตุลย์ลุกไปอุ้มตอนต้นใส่กะละมัง ได้ยินเสียงหัวเข่าลั่นเพราะนั่งยอง ๆ เป็นเวลานานพอดี “ใส่นี่ไว้ก่อนนะ เดี๋ยวน้ำตาสระผมจะเข้าตาเอา”

               “...”


               ผมเองก็คงต้องยอมรับสิ่งที่เป็นแล้วก็เดินหน้าต่อไปเหมือนกัน ถ้าผมอยู่ที่นี่ต่อไป มีแต่จะรั้งให้ตอนต้นถูกพาตัวไปเร็วขึ้น ผมไม่อยากให้ตอนต้นถูกพาตัวไปอีก เพราะถ้าเสียไปอีกคน ผมก็ไม่รู้ว่าความเข้มแข็งของเขาจะมากพอให้ยืนอยู่ต่อไปได้หรือเปล่า แต่ผมไม่อยากเสี่ยงกับมัน ผมไม่ต้องการให้พี่ตุลย์ต้องสูญเสียใครไปมากกว่านี้ เพราะงั้นถ้าเมื่อไหร่ผมหายดี มันก็คงถึงเวลาที่ต้องออกไปจากที่นี่แล้วดำเนินชีวิตของใครของมัน


               ผมพลิกตัวกลับเงยหน้าวางขอกับขอบอ่างเซรามิก


               วันหนึ่งผมก็จะยอมรับมันได้ แล้วก็คงมองย้อนความสุขที่ผ่านมาได้โดยไม่มีอะไรติดใจ













               “หล่อมากเลยครับที่หนึ่ง!”


               ทอฟ้าชมเป๊าะหลังจากที่จัดเสื้อผ้าของลูกชายให้เข้าที่เข้าทาง ใบหน้าของเธอแพรวพราวไปด้วยความชอบอกชอบใจผิดกับลูกชายที่รู้สึกไม่ชอบใจกับสไตล์เสื้อผ้าที่เขาโดนบังคับให้ใส่ มันจะไม่น่าหงุดหงิดได้ยังไง เขาสิบขวบแล้วแต่ต้องมาถูกจับแต่งตัวเหมือนตัวเองสามสี่ขวบอย่างนี้


               “ที่หนึ่งไม่ค่อยชอบเลย”

               “ทำไมละ? หล่อมากเลยนะ เนี่ยชุดนี้น้าวีเลือกซื้อนานแหนะ สไตล์คล้าย ๆ กับแบบที่น้าวีชอบใส่ด้วยนะ เดี๋ยววันนี้แม่จะใส่ชุดเขากับลูกด้วย โอเคไหมครับ?”

               “...ก็ได้”


               ที่หนึ่งมองสภาพของตัวเองผ่านกระจก เขาอยากใส่แค่เสื้อยืดธรรมดากับกางเกงยีนส์เหมือนปกติ แต่วันนี้เขาต้องมาใส่เชิ้ต ทับด้วยเสื้อแขนยาว แล้วยังมีหูกระต่ายอีก กางเกงยีนส์ที่ใส่สบาย ๆ ก็ยังมีเข็มขัดมารัดให้ชวนอึดอัด ผมของเขาก็โดนจัดทรงจนแข็งไม่นิ่มมือเอาเสียเลย

               จากที่เห็นในกระจกไม่มีอะไรเลยที่ชอบสักอย่าง แต่มันช่วยไม่ได้ในเมื่อแม่ของเขายิ้มไม่หุบเลย และเขาก็ชอบที่แม่ยิ้มแบบนั้น อีกอย่างก็อุตสาห์ปลุกตั้งแต่เช้าเพื่อออกไปเที่ยวด้วยกันสามคนในวันอาทิตย์นี้ แต่งตัวแค่นี้ให้แม่ เขาทำได้อยู่แล้ว


               “อะ! ที่หนึ่งครับ เดี๋ยวแม่ไปดูน้าวีก่อนนะ ไม่รู้ตอนนี้แต่งตัวเสร็จหรือยัง ที่หนึ่งใส่ถุงเท้าแล้วก็ไปดูทีวีรอก่อนก็ได้นะ”

               “อืม” เด็กน้อยรับคำ


               หลังจากที่แม่ของเขาออกจากห้องไปแล้ว ที่หนึ่งก็กระโดดขึ้นเตียงพร้อมกับของ ๆ ตัวเองที่เขากวาดขึ้นไว้บนเตียง ก่อนจะคว้ากระเป๋าที่ถูกเอามาพร้อมกัน แต่ก่อนจะได้เก็บของใส่กระเป๋านั้น ที่หนึ่งก็ยังอุตสาห์ใส่ถุงเท้าลายน่ารักที่เขาก็ไม่ชอบตามคำสั่งของแม่เสียก่อน


               วันนี้คงจะได้กลับบ้านแล้วสินะเพราะพรุ่งนี้เป็นวันจันทร์ก็ต้องไปโรงเรียนแล้ว หลังจากที่หยุดอยู่กับแม่ตั้งแต่วันพฤหัสฯ 4 วันเต็ม ๆ


               “แต่พ่อจะมารับกี่โมงนะ ไม่เห็นแม่บอกเลย” เด็กน้อยพึมพำขณะเก็บของ ช่างเถอะ อย่างน้อยพ่อมารับเมื่อไหร่ก็จะได้พร้อมไปทันทีไม่ต้องมาเร่งรีบเก็บของอยู่อีก


               ที่หนึ่งเก็บของเข้ากระเป๋าตัวอย่างเรียบร้อย แต่ทว่าชุดนอนตัวโปรดที่เขาใส่อยู่ตอนที่ถูกพามาด้วยกลับหาไม่เจอ เด็กน้อยหันรีหันขวางก่อนจะเช็คที่ตู้เสื้อผ้าและตระกร้าอีกรอบ รวมถึงใต้เตียงที่อาจจะเผลอเตะเข้าไป แต่ว่าไม่ว่าเขาจะหาซอกไหนของห้อง ก็ไม่เจอชุดนั้น


               ชุดตัวโปรดด้วยแท้ ๆ...


               ที่หนึ่งตั้งใจจะไปถามแม่ เลยหันมารูดซิปปิดกระเป๋าก่อนจะยกขึ้นสะพายแล้วเดินดุ่ม ๆ ออกจากห้อง โชคดีที่แม่ของตนกำลังง่วนอยู่ในครัวไม่ได้อยู่ในห้องนอนอีกห้องอย่างที่นึกกังวลไว้


               “แม่ แม่เห็นชุดนอนของที่หนึ่งไหมอะ ที่ใส่มาที่นี่ด้วย”

               “อยู่ในตู้เสื้อผ้าหรือเปล่า หรือไม่แม่ก็พับไว้ข้างเตียงแล้วละมั้ง” ทอฟ้าตอบลูกชายแต่สายตาก็ยังไม่ละจากไข่ที่เธอกำลังใช้ส้อมตีให้เข้ากัน

               “ที่หนึ่งหาแล้วนะ แต่หาไม่เจอเลย”

               “แม่น่าจะวางไว้บนชั้นข้างบนในตู้เสื้อผ้านะ ลูกลองไปหาดู”

               “มันสูงอ่า แม่ไปหยิบให้ที่หนึ่ง...”

               “ที่หนึ่งครับ แม่ทำอาหารอยู่นะลูก อย่าเพิ่งกวนแม่นะครับ แล้วนี่มันก็ยังเช้าอยู่เลย ลูกจะถามหาชุดนอนไปทำไม” ทอฟ้าพูดขณะที่เทไข่ใส่กระทะส่งเสียงฉู่ฉ่า


               ...กลบความเงียบที่เธอไม่รู้ตัวว่าก่อมันขึ้น


               “ฟ้า กาแฟของพี่ได้หรือยัง?”


               ขณะนั้นเองวีก็ออกมาจากห้องร้องถามหากาแฟอย่างเช่นทุกวัน เสื้อผ้าที่เขาใส่เกือบจะเหมือนกับที่หนึ่งทุกระเบียดนิ้วราวกับเป็นชุดพ่อลูก


               “ได้แล้วค่ะ แต่พี่ไปนั่งรอก่อนนะ ฟ้าจะทอดไข่เสร็จแล้ว เดี๋ยวเอาไปให้ที่โต๊ะพร้อมกันเลย อา แล้วก็ที่หนึ่งครับข้าวเช้าลูกอยู่บนโต๊ะอาหารนะครับ เอาไปกินหน้าทีวี ดูการ์ตูนไปพลาง ๆ ปะลูกปะ” ประโยคสุดท้ายทอฟ้าหันมาบอกกับลูกชายที่ยังยืนอยู่ในครัวกับเธอ


               ที่หนึ่งไม่ตอบ เขาเพียงเดินออกจากครัว หยิบจานข้าวไข่ดาวที่น่าจะเป็นของตัวเองไปนั่งกินที่โซฟา โดยไม่คิดจะสนใจหรือทักทายใครก็ตามที่นั่งอยู่บนโต๊ะกินข้าวนั่นเลยแม้แต่น้อย


               สิ่งที่เขาคาดหวังไว้น่ะ...มันไม่ใช่แบบนี้   











               ที่หนึ่งมองซ้ายขวาด้วยความตื่นเต้น เสียงจอแจครึกครื้นทำให้เขาลืมเรื่องที่อยู่ในใจไปชั่วขณะ


                เด็กน้อยน่ะไม่ค่อยได้ออกไปนอกบ้านบ่อยนักเพราะว่าพ่อของเขาไม่ค่อยว่างพาไปไหน ๆ ส่วนใหญ่การไปเที่ยวก็คือไปห้างสรรพสินค้าใกล้ ๆ เพื่อซื้อของเข้าห้องหรือไม่ก็หาอะไรกินธรรมดา ๆ ในวันพิเศษเพราะงั้นเลยไม่แปลกใจที่ที่หนึ่งจะตื่นเต้นกับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมดาอย่างสยามแสควร์นี้ แม้ก่อนหน้านี้พ่อที่เคยบ้างานของเขาจะเริ่มพาเที่ยวที่อื่นบ้าง โดยมีเอสคอยหาเรื่องไปเที่ยวได้ตลอด


               แต่ขณะที่ที่หนึ่งกำลังมองร้านรวงฝั่งตรงข้ามของถนน เขากลับโดนทอฟ้าซึ่งเดิมทีอยู่ตรงกลางดึงให้มาอยู่แทนที่พร้อมเปลี่ยนมือข้างที่จูงเอาไว้ เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองแม่เหมือนจะถามแต่ก็ตัดสินใจเงียบไป ไม่ทำตัวเป็นเด็กดื้อหลังจากที่แม่ของตนยิ้มแก้มปริหน้าบานกับคำซุบซิบของคนที่เดินผ่านไปผ่านมาว่าพวกเขาเป็นพ่อแม่ลูกที่น่ารักน่าชัง


               ไม่ใช่สักหน่อย...ผู้ชายที่เดินอยู่ข้าง ๆ อีกด้านตอนนี้น่ะ ไม่ใช่พ่อของเขาสักหน่อย...


               “ฟ้า พี่ว่าที่ฟ้ามาที่นี่ไม่ใช่เพราะมีร้านอาหารน่ากินอะไรนั่นหรอก แต่เพราะจะไปซื้อเสื้อผ้าที่พารากอนใช่ไหมเนี่ย”


               วีพูดหยอกภรรยาที่อยู่ถัดไปจากเด็กที่หนึ่งหลังจากที่เพิ่งสังเกตเห็นห้างฯ หรูอยู่อีกด้านไกลออกไป


               “ใครบอก ฟ้ามาที่นี่เพื่อหาอะไรกินด้วยกันจริง ๆ นะ แต่ว่าก็อาจจะมีแวะบ้างตามภาษาผู้หญิง เสื้อผ้า รองเท้า บ้างอะไรบ้างเฉยๆ ทำไมคะ? หรือพี่ไม่อยากไปด้วยกัน ถ้างั้นพี่ก็แยกไปเดินดูอย่างอื่นก็ได้นะ กลับเมื่อไหร่จะโทรหา ฟ้าจะไปกับลูกสองคน ไม่ต้องห่วงเรื่องเงิน วันนี้ฟ้าจ่ายเงินเองได้ไม่ต้องง้อพี่เลย” ทอฟ้าหัวเราะพูดต่อปากต่อคำพอให้ได้หยอกเล่นกลับไปบ้าง

               “ได้ไงเล่า มาด้วยกันก็ต้องไปด้วยกันสิ จะไปซื้อเสื้อผ้ารองเท้าอะไรก็ตามใจฟ้าเลย พี่ไปด้วยอยู่แล้ว แล้วก็ไม่ต้องควักเงิน เมียพี่พี่ดูแลเอง”

               เธอหัวเราะ “ค่ะ ๆ อย่าลืมที่หนึ่งด้วยนะ วันนี้พี่ไม่ได้มาจ่ายให้ฟ้าคนเดียวนะคะ~”

               “ได้อยู่แล้ว”

               “เพื่อไม่ให้เอาเปรียบพี่เกินไป งั้นฟ้าจะเป็นคนถือของเองหมดเลยก็แล้วกัน” ทอฟ้าพูดหยอกพร้อมยิ้มหวานให้กับชายคนรัก วีเองก็ทำได้เพียงแค่หัวเราะให้กับความน่ารักที่ไม่เคยเปลี่ยนของสาวผู้เป็นภรรยา

                “เห็นพูดงี้ทีไรพี่ก็ได้ถือทุกที”


               ใช่ ทอฟ้ารู้ดีว่าเขาไม่มีทางปล่อยให้เธอต้องถือของพวกนั้นคนเดียวแน่


               “ก็พี่เป็นคนอาสาถือเองทุกที”


               ทั้งสองยิ้มให้กันเหนือหัวของเด็กน้อยที่ดูเป็นส่วนเกิน ที่หนึ่งมองมือของตัวเองที่จับอยู่กับแม่เงียบ ๆ ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือเปล่าแต่เขาว่ามันหลวมขึ้นทุก ๆ ที... อาจเพราะเหงื่อ หรือเพราะขนาดมือของเขามันเล็กเกินไปละมั้ง มันถึงทำท่าเหมือนจะหลุดตลอดถ้าเขาไม่ได้บีบมือเอาไว้แน่นขนาดนี้


               “ว๊าว ดูร้านนั้นสิ เสื้อผ้าน่ารัก ๆ ทั้งนั้นเลย”


               ฟ้าปล่อยมือที่จับกับลูกชาย ชี้เสื้อผ้าที่โชว์อยู่นอกร้านที่พวกเขากำลังเดินผ่าน เธอรีบปรี่เข้าไปในข้างในทันทีด้วยความชื่นชอบพร้อมกับคว้าแขนของชายคนรักเข้าไปช่วยเลือกด้วยความเคยชิน โดยที่ไม่รู้ว่าสำหรับที่หนึ่งภาพที่เธอปล่อยมือออกยังเคลื่อนไหวราวกับเป็นภาพช้าอยู่ในหัวของเขา


               มือ...หลุดไปแล้ว


               “หนูไม่เข้าไปพร้อมคุณพ่อคุณแม่หรอจ๊ะ?”


               ที่หนึ่งเงยหน้ามองพี่พนักงานสาว


               “เข้าครับ” เขาตอบเสียงเบาก่อนจะเดินตาม ‘คุณพ่อคุณแม่’ เข้าไปข้างใน










               หลังจากที่ใช้เวลาเดินเที่ยวไปจนเกือบบ่ายสอง ทอฟ้าก็ชวนทุกคนไปร้านที่อาหารที่เธอดูรีวิวมาเป็นอย่างดีพร้อมบรรยายสรรพคุณของร้านที่กำลังไปให้ลูกและสามีของเธอฟังตลอดทาง


               แต่ทว่าความตื่นเต้นนั้นก็ต้องถูกแทนที่ด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าร้านที่เธอจะมารับประทานนั้นไม่ได้มีเพียงแค่เธอที่อยากมาลิ้มลอง มีคนยืนออกันเต็มหน้าร้านแน่นขนัดชนิดที่ว่าแทบไม่เห็นพนักงานที่เป็นคนเขียนคิวเลยด้วยซ้ำ


               “เอาไงดีฟ้า เปลี่ยนร้านไหม?”

               “ฟ้าอยากกินร้านนี้อะ นาน ๆ จะได้มาที่นี่ทั้งทีก็อยากกินที่เขาว่าให้มาลองนี่หน่า...แต่ว่าถ้าพี่กับที่หนึ่งหิวกันแล้วเราเปลี่ยนหาร้านอื่นแถวนี้กินกันก็ได้”

               “ที่หนึ่งยังไม่หิวนะ”


               เด็กน้อยรีบตอบเอาใจแม่ทั้ง ๆ ที่มันไม่มีทางที่เขาจะไม่หิว ในเมื่อตอนเช้าเขากินแค่ข้าวไข่ดาวแล้วยังไม่ได้มีอะไรตกถึงท้องอีกเลยนับจากตอนนั้น


               “พี่ยังไงก็ได้อะ จะรอก็ได้ พี่ก็ไม่หิวเท่าไหร่ แต่ว่าพี่อยากกินกาแฟสักหน่อยเหมือนกินแค่ตอนเช้าจะเอาไม่ค่อยอยู่ ก็เลยว่าจะลงไปซื้อที่ชั้นล่างก่อน”

               “ถ้างั้นเรากินกันที่นี่แหละเนาะ! พี่ก็ลงไปซื้อกาแฟของพี่ก็แล้วกัน เดี๋ยวฟ้ากับที่หนึ่งจะรอคิวอยู่ที่นี่เอง” เธอยิ้มร่าอาสาอย่างอารมณ์ดี

               “ได้สิ แล้วฟ้าจะเอาเครื่องดื่มอะไรด้วยหรือเปล่า? หรืออยากเอาอะไรไหม? เดี๋ยวพี่ซื้อมาให้ด้วยเลย”

               “ฟ้าไม่เอาอะ...ที่หนึ่งอยากกินอะไรหน่อยหรือเปล่าลูก? เดี๋ยวน้าวีเขาจะได้แวะซื้อมาให้”

               “ที่หนึ่งก็ไม่เอาอะ”

               “เดี๋ยวหิวนะ”

               “ไม่เป็นไร ที่หนึ่งยังไม่หิวหรอก”

               “งั้นหรอ โอเค งั้นเอาเป็นว่าพี่จะซื้ออะไรก็ซื้อมาแล้วกันนะคะ”

               “ได้ งั้นรอแป๊บนึงก็แล้วกันนะ”

               “ค่ะ” ทอฟ้าหยักหน้ารับ


               หลังจากที่ชายคนรักลงลิฟต์ไปชั้นล่างแล้วทอฟ้าจึงค่อยพาลูกชายไปรับบัตรคิวอย่างกระตือรือร้น ก่อนจะออกมาหาที่นั่งที่อยู่ไม่ไกลนักเพื่อรอเรียกคิวของตน


               “ฮึบ” ที่หนึ่งถอดกระเป๋าเป้ที่ใส่ของเตรียมกลับบ้านออกจากหลังเพื่อให้ตนได้นั่งสบาย ๆ แล้วเอากระเป๋านั้นวางไว้บนตัก

               “แม่ก็บอกแล้วว่าให้วางไว้บนรถ จะเอามาทำไมให้เกะกะหือ”

               “ไม่เป็นไรหรอกแม่ มันก็ไม่ได้หนักมากขนาดนั้น” เด็กน้อยว่าพร้อมตบกระเป๋าปุ ๆ

               “จ้า ๆ พ่อคนเก่ง”


               ก่อนหน้านี้เธอเคยถามแล้วว่าจะเอากระเป๋ามาด้วยทำไม แต่ที่หนึ่งก็ไม่ได้ตอบอะไร เธอเองก็ไม่คิดจะถามซ้ำให้มากความ บางทีเด็กน้อยก็อาจจะเห็นว่ากระเป๋ามันเข้ากับชุดก็ได้ละมั้ง ถึงแม้เธอจะมองว่ามันขัดกับชุดมากก็ตาม


               “ว่าแต่ แม่ วันนี้พ่อจะมารับที่หนึ่งเมื่อไหร่หรอ?”


               ขณะที่ทอฟ้าหันกลับไปจดจ่อดูหมายเลขคิวที่กำลังขึ้นบนป้ายไฟ ลูกชายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็เอ่ยถามขึ้นเรียกเธอให้หันกลับมาสนใจอีกครั้ง


               “ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงถามถึงพ่อละครับ อยู่กับแม่ที่หนึ่งเบื่อแล้วหรอ?”

               “เปล่านะ ที่หนึ่งจะไปเบื่อตอนอยู่กับแม่ได้ไง แต่ว่าวันนี้พ่อน่าจะต้องมารับที่หนึ่งแล้วก็เท่านั้นเอง เพราะว่าพรุ่งนี้ที่หนึ่งต้องไปเรียน แล้วพ่อก็คงไม่ให้หยุดแล้วด้วย แต่แม่ก็ไม่เห็นบอกที่หนึ่งเลยว่าพ่อจะมารับกี่โมง ที่หนึ่งก็เลยถามเฉย ๆ”


               ทอฟ้ามีสีหน้าเหลอหลาอย่างเห็นได้ชัด เธอยังไม่ได้บอกที่หนึ่งว่านี่ไม่ใช่การมานอนค้างช่วยคราว แต่มันคือการย้ายที่อยู่ เธอยังไม่ได้บอกที่หนึ่งเลยว่า ต่อไปเขาน่ะจะอยู่กับเธอ....ตลอดไป


               “ที่หนึ่ง...อ่า ที่หนึ่งมาถามอะไรตอนนี้ละครับ! เพิ่งจะบ่ายสองเองนะ เหมือนไม่อยากจะอยู่กับแม่แล้วอย่างนั้นแหละ” เธอเลือกที่จะพูดเบี่ยงประเด็นไปก่อน

               “ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ที่หนึ่งแค่เพิ่งนึกขึ้นได้เฉย ๆ ที่หนึ่งอยากอยู่กับแม่จะตาย ไม่ต้องน้อยใจนะ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าที่หนึ่งค่อยมาใหม่ ถ้าพ่อไม่ว่านะที่หนึ่งจะมานอนค้างกับแม่ทุกอาทิตย์เลย!~”


               ทอฟ้ายิ้มกับความสดใสร่าเริงนั่น ก่อนที่รอยยิ้มนั่นจะค่อย ๆ เลือนไปพร้อมสีหน้าจริงจังที่ฉายขึ้นมา


               “...ที่หนึ่ง วันนี้พ่อน่ะ ไม่มารับที่หนึ่งหรอกครับ”

               “อ้าวงั้น แม่จะไปส่งที่หนึ่งที่คอนโดฯ หรอ?” เด็กน้อยเอียงคอถามด้วยความไร้เดียงสา “หรือพ่อจะมารับวันอื่น?”

               “ที่หนึ่ง....อยากอยู่กับแม่ไหมครับ? ที่เราอยู่ด้วยกันตั้งแต่คืนวันพุธจนถึงตอนนี้ที่หนึ่งมีความสุขไหมครับ?”

               “...ก็ต้องมีความสุขสิ ที่หนึ่งน่ะอยากอยู่กับแม่มาก ๆ เลยนี่หน่า นี่มันก็นานแล้วที่ที่หนึ่งไม่ได้อยู่กับแม่แบบนี้ ที่หนึ่งมีความสุขมากเลย”

               “แม่น่ะอยากอยู่กับที่หนึ่งตลอดไปเลยนะลูก”

               “ที่หนึ่งก็อยากอยู่กับแม่เหมือนกัน เหมือนเมื่อก่อนตอนที่เราอยู่ด้วยกันที่คอนโดฯ ตอนที่แม่กำลังมีน้องให้ที่หนึ่ง ที่หนึ่งอยากอยู่กับแม่แบบนั้นไปตลอดเหมือนกัน”


               อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา พ่อแม่ลูก และไม่มีใครคนอื่นเข้ามา...


               ทอฟ้ามองลูกชายเธอ สายตาฉายแววความลังเลเพียงชั่วครู่ แต่เธอก็มั่นใจว่าที่หนึ่งก็ต้องยินดีที่จะได้อยู่กับเธอตลอดไปเหมือนกับที่เธอรู้สึก ที่หนึ่งจะได้เจอสิ่งที่ดีกว่าในทุก ๆ อย่าง เงินทอง บ้านหลังใหญ่ โรงเรียนดี ๆ สังคมดี ๆ


               หรือแม้แต่พ่อ เธอก็มั่นใจว่าวีจะเป็นพ่อที่ดีให้ที่หนึ่งได้มากกว่าตุลย์แน่!


               “ที่หนึ่งครับ ถ้างั้นต่อไปนี้ที่หนึ่งอยู่กับแม่นะ เราอยู่ด้วยกันตลอดไปเลยนะครับ”

               “เอ๋?”

               “ก่อนหน้านี้แม่คุยกับพ่อแล้วว่าจะเอาที่หนึ่งมาเลี้ยงเอง แล้วพ่อก็ตกลงแล้วด้วย เพราะงั้นพ่อไม่มารับแล้วละครับ เพราะที่หนึ่งอยู่ด้วยกันกับแม่แล้วนะตอนนี้ อยู่ไปด้วยกันตลอดไปเลย ให้แม่ได้ทดแทนตอนที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันนะลูกนะ”

               “...”

               “ส่วนโรงเรียนที่หนึ่งก็ไม่ต้องแล้ว แม่คุยกับน้าวีก่อนแล้วว่าจะให้ที่หนึ่งย้ายโรงเรียนมาอยู่ใกล้ ๆ บ้านเรา โรงเรียนแถวนั้นมีแต่โรงเรียนดี ๆ ทั้งนั้นเลย ที่หนึ่งจะได้เจอแต่เพื่อนดี ๆ สังคมดี ๆ แล้วที่หนึ่งก็ไม่ต้องขึ้นรถโรงเรียนอะไรนั่นแล้ว แม่จะพาที่หนึ่งไปโรงเรียนทุกวัน ไปรับทุกวัน แม่จะตื่นมาทำข้าวเช้าให้กิน จะทำกล่องข้าว แล้วเราก็จะไปเที่ยวด้วยกันสามคนบ่อย ๆ เลย แม่ไม่อยากให้...”


               ทอฟ้ายังคงพูดอะไรอีกยาวเหยียด แต่ดูเหมือนว่าที่หนึ่งจะไม่รับรู้อีกต่อไปแล้ว ทุกอย่างมันขาวโพลนตั้งแต่ประโยคแรกที่เขาได้ยิน...


               “ก่อนหน้านี้แม่คุยกับพ่อแล้วว่าจะเอาที่หนึ่งมาเลี้ยงเอง แล้วพ่อก็ตกลงแล้ว เพราะงั้นพ่อคงไม่มารับแล้วละครับ”


               ทำไมละ...ที่หนึ่งทำอะไรผิดหรอ…


               “...แล้วพ่อก็ตกลงแล้ว เพราะงั้นพ่อคงไม่มารับที่หนึ่งแล้วละครับ”


               เพราะที่หนึ่งงอแงบ่อย ๆ ว่าอยากมีแม่ อยากเจอแม่ อยากอยู่กับแม่อย่างนั้นใช่ไหม...?


               “ฟ้า คิวเราคิวที่เท่าไหร่?”

               “อะ!”


               เสียงทุ้มของวีดังขึ้นพร้อมกับเครื่องดื่มที่ถูกยื่นมาตรงหน้า ทอฟ้าที่กำลังพูดอยู่กับที่หนึ่งหันมองคนที่เพิ่งกลับมาก่อนจะเอ่ยปากขอบคุณแล้วรับแก้วเครื่องดื่มนั้น


               “ยังไม่ถึงคิวเราอีกหรอ?” วีชะโงกหน้าดูใบคิวแล้วหันมองป้ายไฟ เธอเองเมื่อถูกทักก็มองตามก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อหมายเลขบนป้ายไฟนั้นเป็นหมายเลขคิวของเธอ

                “ตายจริง ฟ้ามัวแต่คุยกับลูก ลืมดูคิวเลย...ที่หนึ่งลุกมาเร็วลูก คิวเราแล้ว”


               ทอฟ้าคว้ามือของลูกชายกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปหาพนักงานที่ชะเง้อมองหาเจ้าของคิวโดยมีวีเดินดูดกาแฟตามหลังไม่ห่าง


               “ก่อนหน้านี้แม่คุยกับพ่อแล้วว่าจะเอาที่หนึ่งมาเลี้ยงเอง แล้วพ่อก็ตกลงแล้ว เพราะงั้นพ่อคงไม่มารับที่หนึ่งแล้วละครับ”


               พ่อ...


               ...ทิ้งที่หนึ่งแล้วหรอ


















                “ดีขึ้นแล้วหรอไง ถึงได้มาอ่านหนังสือไม่ยอมนอนเนี่ย”

               “ก็ไม่ค่อยปวดหัวแล้วอะ ผมไม่อยากนั่ง ๆ นอน ๆ เท่าไหร่ ใกล้จะสอบแล้วด้วยเดี๋ยวได้เอฟมาจะทำยังไง ผมต้องรักษาเกรดนะ” ผมตอบโดยที่ยังไม่ละสายตาจากหนังสือก่อนจะเขียนโน๊ตเล็ก ๆ ลงในหนังสือ

               “โอเค อย่าฝืนร่างกายก็แล้วกัน เดี๋ยวก็ไม่หายสักที”

               “ไม่ได้ฝืนอะไรหรอกหน่า เนี่ยดีวันดีคืน ไม่รู้ว่ายาที่บ้านพี่กับยาที่บ้านเพื่อนมันต่างกันตรงไหนถึงได้ผลลัพธ์ต่างกันซะเหลือเกิน”

               “งั้นวันนี้ก็ไม่อาบน้ำพร้อมกันแล้วสินะ”

               “ไม่ต้องแล้ว!”


               ผมเงยหน้าพรึ่บทันทีเมื่อพี่ตุลย์พูดเรื่องนี้ เมื่อวานนี้ตอนที่โดนลากอาบน้ำพร้อมตอนต้น หลังจากที่เขาอาบน้ำให้ตอนต้นเสร็จเขาก็จะมาอาบน้ำให้ผมต่อจริง ๆ ตอนแรกผมนึกว่าเขาพูดเล่นแต่เห็นบีบสบู่ใส่มือแล้วผมนี่รีบเบรกเขาเลยครับ ผมไม่ยอมก็เลยกลายเป็นว่าผมได้อาบเองโดยมีพี่ตุลย์ยืนคุม


               “แต่มันก็ไว้ใจไม่ได้”

               “ไม่ต้องจริง ๆ ครับ เมื่อวานพี่ปล่อยให้ผมอาบน้ำคนเดียวก็ได้นะ เห็นไหมเนี่ย ไข้ขึ้นอะไร ก็ยังเห็นสบายดี กำลังจะหายหวัดอยู่ร่อมร่อแล้วด้วยซ้ำ”

               “ถ้าฉันไม่นั่งดูไว้ไม่ให้นายแช่น้ำนานเกินไป คิดว่าจะมีแรงมาเถียงฉันอยู่แบบนี้หรอ ป่านนี้นอนป่วยอยู่บนเตียงแล้ว”

               “ก็ไม่ถึงขนาดนั้นสักหน่อย” ผมบ่นอุบ


               พี่ตุลย์ส่ายหัวใส่ก่อนจะพาตอนต้นไปนั่งเล่นบนโซฟา ทิ้งผมให้นั่งอ่านหนังสือคนเดียวต่อ แต่ดูเหมือนว่าสมาธิผมจะลอยติดไปกับพี่ตุลย์ด้วย แทนที่จะมองหนังสือกลับดันเลื่อนไปมองมนุษย์หน้านิ่งที่กำลังเล่นอยู่กับลูกชายตัวเอง


               ที่จริงในใจผมน่ะ แอบอยากป่วยแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เลยครับ ยืดเวลาที่จะอยู่กับเขาไปอีกสักพัก แต่โคตรจะไม่มีอะไรเข้าข้างผมเลย ขนาดร่างกายตัวเองก็ยังดีวันดีคืนเลยเฮ้อ แต่ก็ช่างมันเถอะ ก็แค่ความเพ้อบ้า ๆ บอ ๆ พี่ตุลย์รับกับสิ่งที่เป็นอยู่ได้และก้าวเดินต่อไปข้างหน้า ผมเองก็ต้องทำอย่างนั้นเหมือนกัน มันก็เป็นบท ๆ หนึ่งในชีวิต เริ่มขึ้นแล้วก็ต้องจบลง


                ...ตอนนี้ผมเองก็ไม่มีอะไรติดค้างแล้ว แม้มันจะไม่ได้จบอย่างที่หวัง อย่างน้อยมันก็ไม่ได้เศร้าสลด


               “มองอะไร? ไม่อ่านแล้วหรอไงหนังสืออะ ไหนบอกต้องรักษาเกรดไง”

               “กำลังพักสายตาไง”

               “พักนานไปไหม อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่านายมองฉันตั้งแต่เมื่อไหร่”

               “เออออ ไม่มองแล้วก็ได้” ผมหันขวับกลับมาที่หนังสือ มองนิดมองหน่อยทำเป็นบ่น ชิ!


               Rrrrrrrrrrrrrrr


               ผมหันตามเสียงโทรศัพท์ของพี่ตุลย์ที่เสียบชาร์จแบตอยู่ในครัว ตั้งใจว่าหยิบเอาไปให้ แต่พี่ตุลย์ก็อุ้มตอนต้นมารับโทรศัพท์นั้นเสียก่อน


               “โทรมาทำไมฟ้า”


               กึก...


               ผมชะงักมือ ลุกขึ้นไปหาที่ตุลย์ที่กำลังคุยโทรศัพท์อย่างถือวิสาสะ ผมบอกแล้วไงไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตอนนี้ผมยังอยู่ที่นี่ ผมจะไม่ให้เขาเผชิญอะไรคนเดียว


               “อะไร? พูดอะไรพี่ฟังไม่รู้เรื่อง ใจเย็นกว่านี้ก่อนแล้วค่อยโทรมาใหม่ก็แล้วกัน”


               พี่ตุลย์ถอนหายใจ ทำท่าเหมือนจะวางแต่ผมคว้าโทรศัพท์จากมือพี่ตุลย์มาเสียก่อน แล้วเปิดสปีคเกอร์โฟนเพื่อช่วยฟัง


               /ฟ้าบอกว่า ที่หนึ่งหายตัวไปแล้ว!! ได้ยินไหม!/








TBC
Come Backkkk I'm sorry But I LOVE U ค่ะ  :hao5:



เพื่อการติดตามการอะพเดททุกช่องทางค่ะ   

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
โอ๊ยยยย นังฟ้าหลงผัวจนลืมลูก!!! แล้วหล่อนจะบังคับให้ลูกมาอยู่ด้วยทำซากอะไร!!!! :fire: :fire:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด