พิมพ์หน้านี้ - !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง [ตอนพิเศษ 4] (25-4-61) !!!!!!!!!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: thenista ที่ 03-06-2015 14:29:52

หัวข้อ: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง [ตอนพิเศษ 4] (25-4-61) !!!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 03-06-2015 14:29:52
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด


3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ


10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ


15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง


16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)


18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

**********************************************



DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง



              ชีวิตที่โคตรจะธรรมดาของมนุษย์เงินเดือนที่คุณพ่อลูกสองเริ่มจะวุ่นวาย เมื่อคืนหนึ่งได้ตกกระไดพลอยโจนเข้าไปช่วยเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งจากการต่อยตีข้างถนน ตอนแรกก็คิดว่าพอจากกันเรื่องราวก็จบ แต่มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น! ไอ้เด็กนั่น กลับเข้ามาอยู่ในชีวิตขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้...ชีวิตที่ธรรมดานะหรอ เหอะ! มันโคตรจะวุ่นวาย!


" แหนะ มองผมด้วย ผมหล่อใช่ปะละ รู้ตัวอยู่หรอก ไม่ต้องชมด้วยสายตากันแบบนั้นคร๊าบ "
" ฉันกำลังมองว่าใครบังอาจเอากางเกงไปสวมหัวลูกฉัน "
" ชะอุ้ย มันเป็นเทรนหมวกมาใหม่เว๊ยพี่ชายยยย~ "



บทนำ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.0)                   ตอนที่ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.180)                ตอนที่ 21 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.450)                ตอนที่ 30 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.900)                ตอนที่ 39 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.msg3273759#msg3273759)
ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.0)                ตอนที่ 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.210)                ตอนที่ 21.5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.480)             ตอนที่ 30.5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.900)             ตอนที่ 40 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.1320)
ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.30)                ตอนที่ 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.240)                ตอนที่ 22 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.510)                ตอนที่ 31 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.960)                ตอนที่ 41 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.msg3296937#msg3296937)
ตอนที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.30)                ตอนที่ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.240)                ตอนที่ 22.5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.540)             ตอนที่ 31.5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.990)              ตอนที่ 42 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.1380)
ตอนที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.60)                ตอนที่ 14.5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.270)             ตอนที่ 23 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.570)                ตอนที่ 32 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.1020)                 ตอนที่ 43 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.1410)
ตอนที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.60)                ตอนที่ 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.300)                ตอนที่ 24 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.570)                ตอนที่ 33/1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.msg3182046#msg3182046)              ตอนที่ 44 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.1410)
ตอนที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.90)                ตอนที่ 16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.300)                ตอนที่ 25 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.630)                ตอนที่ 33/2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.msg3187828#msg3187828)
ตอนที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.90)                ตอนที่ 17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.330)                ตอนที่26 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.690)                 ตอนที่ 34 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.msg3198609#msg3198609)
ตอนที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.120)                ตอนที่ 18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.360)                ตอนที่ 27 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.750)                ตอนที่ 35 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.msg3209128#msg3209128)
ตอนที่ 8.5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.150)             ตอนที่ 18.5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.390)             ตอนที่ 28 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.780)                 ตอนที่ 36 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.msg3228009#msg3228009)
ตอนที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.150)                ตอนที่ 19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.390)                ตอนที่ 29 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.810)                 ตอนที่ 37 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.msg3242374#msg3242374)
ตอนที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.180)              ตอนที่ 20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.420)                ตอนที่ 29.5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.840)               ตอนที่ 38 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.msg3261482#msg3261482)
               
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!! UP Intro (3/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 03-06-2015 14:36:58
บทนำ




               
                  “ตุลย์ จะกลับบ้านแล้วหรอ?” เพื่อนร่วมงานของผมคนหนึ่งทักขึ้นเมื่อเห็นผมกำลังปิดโน๊ตบุ๊ค มืออีกข้างหนึ่งของเธอถือเอกสารบางอย่างมาด้วย และนั่นก็ทำให้ผมต้องเปิดโน๊ตบุ๊คขึ้นมาอีกครั้ง

                  “มีอะไรเปล่า? พี่ณี”

                  “เมื่อกี้ไปฝ่ายบรรณาธิการมา เขาก็เลยฝากแผนการหนังสือของนักเขียนหน้าใหม่อ่ะ คนนั้นอ่ะ ที่ใส่ชุดโบฮีเมียมมาในบริษัทเราอ่ะ ชื่ออะไรพี่ก็จำไม่ได้” พี่ณีพูดพร้อมวางเอกสารที่กล่าวถึงนั้นลงบนโต๊ะทำงานของผม

                  “อ๋อ ผมนึกภาพออกอยู่ แต่นึกชื่อไม่ออกเท่าไหร่”

                  “นั่นแหละ คนนั้นๆ เมื่อกี้ฉันแอบอ่านคร่าวๆ แล้วนะ พวกบรรณาธิการดูเหมือนจะดันคนนี้น่าดู แต่ว่านักเขียนใหม่แบบนี้ จะพิมพ์เล่มออกมาเยอะขนาดนั้นได้ไง เดี๋ยวก็ล้นตลาดหรอก”

                  “แต่ถ้าฝ่ายบรรณาธิการคิดจะดันคนนี้ ก็แปลว่าต้องมีอยู่นั่นแหละครับ”


                  ผมเป็นผู้ชายธรรมดา อายุ 29 พนักงานบริษัทธรรมดา ตำแหน่งไม่ใหญ่โตเป็นเพียงพนักงานฝ่ายขายของสำนักพิมพ์หนึ่ง ทำงานอยู่ในคอกทำงานบุผ้าหยาบหนาในพื้นที่กว้างๆ กินเงินเดือนไปวันๆ


                  แล้วก็...เรื่องนี้อาจอาจจะมองไม่ดีเท่าไหร่นะครับ แต่ผมเป็นคุณพ่อลูกสองแล้วครับ พ่อลูกอ่อนด้วยเพราะคนเล็กอีกหนึ่งเดือนอายุครบ 1 ขวบ แต่ลูกคนโต อายุ 9 ขวบ ผมมีลูกตั้งแต่ยังวัยรุ่น เสียงเพิ่งแตกหนุ่ม ผมยังไม่ทันหายเขียว ตอนนั้นคบกับรุ่นน้องคนหนึ่งอยู่ครับ ตอนนั้นผมอยู่มหาวิทยาลัยแล้ว ส่วนแฟนผมอยู่ ม.6 เราฉลองจบการศึกษาของเขา ของขวัญจากผมคือทำลูกให้หนึ่งคน


                  ตอนรู้ก็อึ้งครับ หูอื้อ ผมกำลังจะเป็นเด็กปีสอง ส่วนแฟนกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย แต่ ’ลูก’ ไงครับ ถึงอะไรหลายๆ อย่างไม่พร้อม แต่ผมก็รักเขา เลี้ยงเขาอย่างดี แต่แฟนผมไม่ครับ พอประมาณห้าเดือนเธอก็ให้ลูกหย่านม แล้วก็ตีจากผมไป เธอถึงขั้นเสริชหาวิธีหย่านมจากในเน็ต ตั้งใจกว่าทำรายงานส่งอาจารย์อีก


แต่ครับ ถ้าเธอยังอยู่เป็นครอบครัวสุขสันต์ตอนนี้ ผมคงไม่ได้มาเป็นพระเอกอยู่ตอนนี้แล้ว


                  “อ้าว ตุลายังอยู่อีกหรอ?” หัวหน้าฝ่ายขายที่เพิ่งเดินเข้าพร้อมแก้วกาแฟในมือถือทักผมที่ยังนั่งจ้องอยู่หน้าจอคอม


                   ‘ตุลา’ ก็เป็นชื่อผมเหมือนกัน ชื่อจริงน่ะครับ ส่วนชื่อเล่นก็ ‘ตุลย์’ ชื่อไทยแบบสมัยชายยุคอโยธยา


                  “ครับ ดูแผนการตลาดของนักเขียนคนใหม่อยู่น่ะครับ”

                  “อ๋อ แต่นี่มันทุ่มนึงแล้วนะ ค่อยทำพรุ่งนี้ก็ได้ กลับๆ ไปไป๊” หัวหน้าไล่ผม

                  “แต่หัวหน้าก็ยังไม่กลับนี่ครับ เดี๋ยวผมอยู่เป็นเพื่อนหัวหน้าไง”

                  “ฉันไม่ได้มีลูกนะ แล้วนายไม่ไปหาไอ้สองพี่น้องนั่นไง”

                  “เออ! ใช่ วันนี้ปู่กับย่าเขามาเยี่ยมบ้านน่ะครับ เลยโล่งใจกว่าปกติ เลยลืมนึกถึงไปเลย” ทันทีที่นึกถึงลูกชายทั้งสองของผมได้ ก็รีบเก็บเอกสารที่สามารถเอาไปทำต่อที่บ้านได้เข้ากระเป๋าเอกสาร ปิดโน๊ตบุ๊คแล้วรีบลาหัวหน้าพรุ่งพรวดออกมาอย่างรวดเร็ว


                  ผมโทรไปหาแม่ของผมถามถึงไอ้ลูกชายทั้งสองด้วยความกระวนกระวาย แต่พอแม่ผมบอกว่าทั้งสองเข้านอนแล้ว ผมก็โล่งอก ลูกคนโต ผมไม่กังวลเท่าไหร่ เพราะเขาโตแล้วพอเข้าใจว่ามีบ้างที่ผมทำงานดึก แต่ผมกลัวลูกคนเล็กนี่ต่างหาก กลัวว่าเขาจะงอแงขึ้นมา ร้องไห้แต่ละครั้ง เล่นเอาวุ่นวายไปหมด


                  “งั้นเดี๋ยวผมแวะข้าวกล่องที่เซเว่นก่อนนะแม่ แล้วเดี๋ยวจะรีบกลับ...หะ ซื้อไข่? อ๋อ ได้ครับๆ” ผมวางสายทันทีหลังจากคุยจบ พอโล่งใจเรื่องลูก ความตั้งใจที่ว่าจะเรียกแท็กซี่กลับบ้านก็มลายหายไป ผมเดินไปอีกสักพักก็นั่งรอรถเมล์อยู่ที่ป้ายประจำทาง











                  ตื้อ ดือ


                  เสียงประตูเซเว่นดังไล่หลังผม ผมรู้นะว่าไอ้เสียงเนี่ยมีไว้บอกพนักงานว่า ‘เฮ้ย มึง มีคนเข้าร้านแล้วว่ะ’ แต่ตอนได้ยินตอนออกนี่ ผมมีความรู้สึกเหมือนมันบอก ‘รีบไปดิมึง กูจะปิดประตู ไอ้ห่า’ อะไรแบบนี้เลยล่ะ


                  ผมเดินถืออาหารมื้อค่ำของผม และโอบถุงไข่ของแม่ไว้อย่างระมัดระวังระหว่างเดินไปยังป้ายรถเมล์ เสียงจอแจของการใช้ชีวิตในยามค่ำคืนเป็นสิ่งที่ผมค่อนข้างคุ้นชิน บางคนที่ผมเพิ่งเดินสวนอาจจะเพิ่งเลิกงานเหมือนผม หรืออาจจะกำลังเข้าทำงาน ตอนที่ผมอยู่มหา’ลัย ก็จะคิดแต่ว่า ‘ไอ้พวกนี้ไปร้านเหล้าแน่นอน’ แต่พอผมอยู่ในอีกช่วงอายุหนึ่ง ผมก็เริ่มคิดอีกแบบ


                  พลั๊ก! ตุ๊บ ตุ๊บ! ผัวะ!


                  “อ่อก!”

                  ขณะที่ผมกำลังจะเดินถึงช่องระหว่างตึกผมก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง และไม่ต้องเดาอะไรผมรู้เลยว่าเสียงคนกำลังตีกันอยู่ในซอกนั่นแหละ มันค่อนข้างทำให้ผมกังวล แต่ถามว่ากลัวไหม? ผมไม่ใช่แก๊งคู่อริของใครนี่ครับ ไม่มีอะไรต้องกลัว ถ้าไม่เข้าไปยุ่ง ผมก็จะไม่ซวย


                  ผมกำลังเดินผ่าน...


                  พลั๊ก! ตุ๊บ!


                  “โอ๊ย ไอ้เหี้ย!”

                  “ไข่กู!” ผมกับคนที่กระเด็นมาชนผมร้องอุทานขึ้นพร้อมกัน มันร้องเสร็จก็พุ่งกลับเข้าไปมะรุมมะตุ้มในดงตีนนั่นอีกรอบ ส่วนผมพอร้องเสร็จก็สุดลงกับพื้น


                  โดนด่าตายห่าแน่กู


                  ผมคว้าถุงไข่ขึ้นมา ถึงจะไม่มั่นใจว่ายังมีไข่ที่ปลอดภัยอยู่ไหม แต่ก็เอาไว้ใช้เป็นหลักฐานว่าผมซื้อมาตามที่แม่สั่งแล้ว และขณะที่ผมกำลังจะเดินผ่านซอกตึกนั้นไป


                  ปึง! โพล๊ะ!


                  ผมช็อค...


                  ถุงไข่ของแม่ผมร่วงลงไปอีกแล้ว ได้ยินเสียงไข่ด้วยแปลว่าไข่ที่เหลือรอดจากเมื่อกี้แตกไปแล้วครับเรียบร้อย ผมรีบหันไปหาไอ้คนที่ชนผมเมื่อครู่ แต่ไอ้นั่นก็กลับเข้าไปวงต่อยตีแล้ว เพราะตอนนี้เป็นกลางคืนและซอกตึกนั่นก็มืดมาก จนผมดูไม่ออกว่าใครเป็นคนที่มาชนผมเมื่อครู่!


                  ผมหรี่ตามองไปยังจุดหนึ่งบริเวณด้านล่าง ก่อนหน้านี้ผมไม่คิดจะสนใจเลยไม่ได้มองสักเท่าไหร่ แต่พอมองดูแล้ว นี่มันไม่ใช่แก๊งสองแก๊งมาตีกันนี่หว่า! นี่มันเรียกรุมกระทืบแล้ว! ผมอ้าปากค้าง จะเข้าไปช่วย ผมก็ดันไม่ใช่ซุปเปอร์ฮีโร่ จะร้องให้คนมาช่วย นี่ก็ใจกลางกรุงไม่มีใครยุ่งเรื่องของคนอื่น


                  “เอาไงดีวะ?” ผมเดินถอยหลังหันหน้าเข้าซอกตึกนั้นจนหลังต้นขาชิดกับที่กั้นฟุตบาท


                  แต่ในขณะที่กำลังตัดสินใจอยู่นั้น ก็ดูเหมือนว่าไอ้คนที่โดนรุมยำเมื่อครู่ ไม่ใช่พวกไก่กาสักเท่าไหร่ สักพักก็ลุกขึ้นมาทั้งเตะทั้งต่อยอีกฝ่าย จนล้มกองระเนระนาด


                  โอ้ว เก่งแหะ ถ้างั้นกลับละ บาย


                  เมื่อเห็นว่าคนๆ นั้นเอาตัวรอดได้ ผมก็หยิบถุงไข่ขึ้นมาอีกครั้ง ตั้งท่าจะเดินผ่านซอกตึกนี่ไปแล้วไม่สนใจมันอีก แต่ก่อนที่จะได้พ้น...


                  ปึง!


                  มีคนกระเด็นมาชนผมอีกแล้ว!


                  ผมหันขวับไปมองทันทีด้วยความโมโห แต่คนที่มาชนผมคราวนี้ไม่ได้กลับเข้าไปในวงนั่นเหมือนสองคนก่อนหน้า แต่กลับทรุดลงกับพื้น พอสังเกตดีๆ ก็เห็นว่าไอ้นี่สะบักสะบอมไม่ใช่น้อยดูเหมือนจะเป็นคนที่โดนรุมยำอยู่เมื่อกี้ มันทำท่าเหมือนจะยืนขึ้นแต่ก็ทรุดฮวบลงไปอีก ส่วนอีกฝ่ายที่มีคนมากกว่าเกือบหกคนก็กำลังย่างกายเดินเข้ามาหาเหยื่อที่อยู่ข้างขาผม


                  คือจะให้ยื่นมือเข้าไปช่วยให้ได้เลยสินะ


                  “เฮ้อ”


                  ผมจับต้นแขนของคนที่ทรุดอยู่ข้างขาผม ก่อนจะดึงมันขึ้นแล้วพาวิ่งทันที!


                  “ฮะ เฮ้ยย! อะไรเนี่ย” มันร้องโวยวายทันทีที่ตั้งสติได้ ไม่ใช่แค่พวกผมเท่านั้นที่วิ่ง อีกฝ่ายหนึ่งก็วิ่งตามมาเป็นพรวนเหมือนกัน!


                  เอาตัวเองเข้าไปยุ่งวุ่นวายทำไมวะเนี่ย!?


                  “อะไรงั้นหรอ? ก็หนีอะดิ! ไม่เห็นหรอว่าพวกมันมากันกี่คน เดี๋ยวก็ได้ถูกเอาไปทำยำตีนหรอก!”

                  “ช่างดิ ใครกลัวอะ! หนีออกมาแบบนี้มันขี้ขลาดชัดๆ ปล่อยนะเว๊ย!” มันดิ้น! ทีเมื่อกี้ละรุกก็ยังไม่ไหว พอทีพาหนีแรงมหาศาลขึ้นมาเชียว!

                  “อย่าดิ้นดิ้ วิ่งไปลากไป ถือของอีกมันเหนื่อยนะ คนไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เที่ยงอย่าดื้อได้ปะ”

                  “บ่นอะไรเนี่ย มีใครขอให้มาช่วยหรอ? ปล่อยดิวะ ไม่ไปโว๊ย ปล่อย!”


                  ผมหันมองคนที่กำลังดิ้นอยู่ ถึงแม้หน้าตาจะเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ จนบวมไปหลายจุดแต่ก็พอดูออกว่าคงอายุน้อยกว่าผม ทรงผมเปิดข้าง หวีเซ็ตผมด้านบนเสยขึ้นไปทางด้านหลัง ถ้าไม่ได้ไปมีเรื่องกับใครก็คงหล่ออยู่พอตัว แถมต่างหูสีดำสามเหลี่ยมห้อยลงนั่นอีก นี่สินะ ที่เขาเรียกว่าแบดบอย


                  แต่สภาพตอนนี้นี่มัน...หมา ชัดๆ


                  “หุบปาก แล้วอยู่นิ่งๆ” ผมพูดเสียงเรียบ เลิกสนใจไอ้เด็กที่ผมลากมาก ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งอย่างเดียว เดี๋ยวพอเลี้ยวซ้ายตรงหัวมุมจะมีตรอกเล็กๆ อยู่ข้างตึกโรงแรมคงพอหลบไอ้พวกนั้นได้ แต่...มันต้องหาเจอแน่ ถ้าไอ้ตัวดีนี่ยังแหกปากตลอดทาง!

                  “ปล่อยนะโว๊ย หนีมาแบบนี้เสียมันเสียศักดิ์ศรีนะ!” มันตะคอกใส่ผมเสียงดังขณะที่เลี้ยวซ้ายตรงหัวมุมของถนน

                  “หยุด หุบปาก! ฟังไว้ให้ดี ชีวิตน่ะ เป็นสิ่งที่มีค่ามากกว่าศักดิ์ศรี!” ผมว่าเสร็จก็ฉุดมันเข้ามาในตรอกระหว่างโรงแรม ใช้มือปิดปากของมันไว้แน่น และดูเหมือนว่ามันเองก็ร่วมมืออย่างดี ไม่ดิ้น ไม่ขัดขืนอะไรทั้งนั้น


                  ผมฟังเสียงโวยวายข้างนอก ของอีกพวกหนึ่ง ดูเหมือนว่ามันไม่สังเกตเห็นช่องว่างระหว่างตึกเล็กๆ นี่


                  จนกระทั้งพวกมันผ่านไปกันจนหมด ผมเว้นระยะห่างจนแน่ใจแล้วว่ามันคงไปหาบนถนนเส้นอื่น จึงค่อยๆ พาร่างออกมาจากบริเวณนั้น


                  “พวกมันไปแล้ว แล้วนี่ไปสร้างเรื่องอะไรไว้เนี่ย ถึงโดนรุมกระทืบแบบนั้น”

                  “...เรื่องของผม”


                  ไอ้เด็กเวร


                  “เออ แล้วกลับยังไง กลับได้ไหม?”

                  “กลับได้” ไอ้เด็กนั่นปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้า แตะโน่น แตะนี่ตามตัวเช็คความเรียบร้อย ก่อนที่ผมจะได้ยินคำอุทาน ‘Shit’ ออกมาจากปากของเด็กนั่น “ผมกลับละ บาย” พูดเสร็จก็หมุนตัวกลับไปอีกทาง เดินไปตามทางเดิมที่วิ่งออกมา ผมยักไหล่ หันหลังให้กับเด็กนั่นและไปยังป้ายรถเมล์

                  ชีวิตของผมน่ะ วุ่นวายเร็วเพราะมีลูกตั้งแต่เด็ก เลยพยายามที่จะใช้ชีวิตที่ธรรมดาและเรียบง่ายที่สุด แต่ผมไม่รู้เลยว่า ที่ผมไปช่วยเด็กนั่น คือจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายในชีวิตบทใหม่!






           TBC
            ชิมลางฟิควายไทยเรื่องแรก ขอฝากเนื้อฝากตัว กับเรื่อง #daddybelover เรื่องนี้ด้วยนะคะ
 :call:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!! UP Intro (3/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 03-06-2015 14:49:41
 :L2: อ่านแล้วน่าติดตาม

รออ่านต่อนะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!! UP Intro (3/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: The_Beggar ที่ 03-06-2015 14:57:25
ต่อด่วนๆ  :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!! UP Intro (3/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: onekiss ที่ 03-06-2015 15:41:01
 :mew3: :mew3: :mew3:
มารอตอนตาอไปคร้าาาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!! UP Intro (3/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: we.jinkyu ที่ 03-06-2015 15:55:54
 o13มาเจิมเรื่องใหม่ค่า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!! UP Intro (3/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-06-2015 16:19:01
รอออออ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!! UP Intro (3/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: blanchet ที่ 03-06-2015 16:45:12
เอ้ย ชอบบ รอนะคะะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!! UP Intro (3/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 03-06-2015 17:57:28
น่าติดตามมากๆ
มาต่อไวๆนะครับ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!! UP Intro (3/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: sittawan ที่ 03-06-2015 18:02:21
ชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!! UP Intro (3/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nat-teen-nat ที่ 03-06-2015 19:40:07
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: !!!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!! UP Intro (3/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PURE LOVE ที่ 03-06-2015 21:10:41
สนุกดีค่ะ ชอบ ๆ น่าติดตามมาก ๆ ชอบตุลย์จัง  :o8:
ยิ่งเป็นมนุษย์เงินเดือน แบบเรา ๆ นี่ ยิ่งชอบ นั่งรถเมล์กินข้าวแกงเนี่ย มันใกล้ตัวดี
ว่าแต่ ตุลย์เป็นพระหรือเป็นนายกันน้อ แต่อ่านแล้วเดาว่า ตุลย์เป็นเคะแน่เลย
อายุมากกว่าแถมมีลูกติดอีกสอง น่าสนใจมาก ๆ
ส่วนหนุ่มแบดบอยนั่น ก็ท่าทางไม่ธรรมดาเลยนะ
ติดตามจ้า ขอบคุณนะคะ  :L1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!! UP Intro (3/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 03-06-2015 21:50:10
รอๆๆๆๆ  มาต่อด่วน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!! UP Intro (3/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 04-06-2015 12:47:32
Q: อยากให้แนะนำตัวหน่อยค่ะ?

T: ผม ‘ตุลา มงคลวัชรกุล’ หรือ ‘ตุลย์’ ครับ เป็นคุณพ่อลูกอ่อน และลูกสอง เป็นพนักงานฝ่ายขายของสำนักพิมพ์ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ
S: ใครอยากรู้จักผม ก็ทิ้ง line ไว้เลยครับ หรือจะเป็น Facebook ก็ได้ แล้วเราค่อยมาทำความรู้จักกันนะคร๊าบบบบ อิอิ






ตอนที่ 1






                 “ไอ้เอส! ชุดใหญ่ 2 ไม่เอาเลือด ไม่เอาตับ เอาชุดผัก 1 ไข่ไก่ 1 ข้าวเปล่า 2 น้ำเปล่า 2! โต๊ะ 5” เสียงตะโกนสั่งรายการอาหารจากปากของเฮียเปียวดังมาถึงในโซนครัวที่ผมแอบเนียนอู้งาน แถมระบุชื่อผมชัดเจนที่ต้นประโยคด้วยนะ ไม่ไปก็ไม่ได้สิคร๊าบบบ


                 ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ซักผ้าบอกลาป้าพนักงานล้างจานที่ผมแอบเนียนมาคุยด้วย ล้างมือเอาฟองซันไลต์ออก ก่อนจะเดินไปจัดชุดใหญ่ ไม่เอาเลือด ไม่เอาตับ ใส่ชามสีชมพู 2 ชุด เดินไปอีกสามก้าว คีบผักปลอดสารพิษคุณภาพคับแก้วใส่ถาดสเตนเลส เอาไข่ไก่ใส่ถ้วยน้อย เอาข้าวเปล่าใส่ถ้วยกลาง ขวดน้ำเปล่า 2 ก่อนที่จะแบกทั้งหมดนั่นไปยังโต๊ะ 5


                 ระหว่างทางที่เอาไปเสริฟก็แจกยิ้มให้กับลูกค้า ด้วยใจรักบริการ (?) และจงใจพิเศษแก่สตรีทุกคน ร้านหมูกระทะที่นี่ดีนะครับผม ขอโปรโมท นอกจากหมูอร่อย ผักปลอดสารพิษแล้ว ยังมีกับแกล้มหน้าตาดีอย่างผมคอยเดินเวียนไปเวียนมาด้วยน๊าา /ยิ้มอ่อน


                 “พี่คะ!” หลังจากที่ผมนำรายการอาหารไปเสริฟที่โต๊ะ 5 แล้วระหว่างทางจะกลับไปอู้ที่โซนครัว ผมก็โดนโต๊ะที่อยู่ด้านหลังเรียก ผมแอบถอนหายใจเบาๆ แต่ก็ยอมหันหลังกลับไป...


                 แม่เจ้าโว๊ย!! โคตรน่ารักกกกกก น่ารักอย่างนี้จีบได้ปู้ววววว


                 ผมนี่อยากนั่งยองๆ แล้วผิวปากแซวเธอเหมือนสมัยม.ปลายมาก แต่คาดว่าถ้าทำแบบนั้นเฮียเปียวคงได้เอาตะขอมาเกี่ยวคอผมแล้วลากให้ไปทำงานต่อ เลยทำได้แต่เดินหล่อๆ ไปให้สาวน้อยคนนั้น


                 “รับอะไรเพิ่มดีครับ” ผมยิ้มหวาน จงใจที่จะยิ้มให้เธอโดยเฉพาะด้วย ผมแอบเห็นเขาอึ้งเขินๆ ด้วยนะ โอ๊ยย อย่างว่าแหละครับ เดี๋ยวนี้ชายหน้าตาดีหายาก แล้วผมก็เป็นแรร์ไอเทมไง ใครๆ ก็หลง เป็นเรื่องธรรมด๊าาา

                 “เอ่อ เอา ชุดใหญ่ 2 ที่ค่ะ...เอาอะไรอีกไหมแก?” สาวน้อยคนนั้นสั่งรายการอาหารกับผมก่อนที่จะหันไปถามเพื่อนสาวที่มาด้วยกัน เขาว่ากันว่าคนเรามักจะคบกับคนที่เหมือนๆ กัน ทฤษฎีนี้ดูเหมือนว่าจะจริงนะครับ เพราะเพื่อนของเธอก็งามมาก 


                 ถ้ามีลูกค้าหน้าตาแบบนี้ ผิวแบบนี้ หุ่นแบบนี้เข้ามานั่งทุกวัน กระผมจะมาทำเร็ว ไม่ช้า ไม่สาย ไม่อู้ ไม่ดื้อ~~











                 “งั้นผมลาแล้วนะเฮีย” ผมบอกลาเจ้าของร้านหมูกระทะที่ผมทำงานพิเศษอยู่ขณะที่กำลังใส่รองเท้าผ้าใบ ก่อนจะเดินออกมานอกร้านทางด้านหลัง เดินอ้อมนิดหน่อยไปทางด้านหน้าของร้าน มองแสงสีของรถราที่ส่งแสงระยิบระยับเต็มท้องถนนก่อนจะก้าวเดินเคียงข้างกับมันบนทางเดินเท้า


                 ผมบีบหัวไหล่ตัวเองเล็กน้อยไล่ความขบเมื่อย ทุกครั้งหลังเลิกงานความเหนื่อยล้าก็มักจะถลาโถมเข้ามาอย่างรวดเร็วเสมอ ไม่ใช่ว่าผมสำออย ทำงานแค่ห้าชั่วโมงที่ร้านหมูกระทะแล้วปวดเมื่อยหรอกนะครับ ก่อนหน้านี้ผมทำงานเป็น PC รองเท้าผ้าใบเบรกเกอร์ที่จัดอีเว้นอยู่ในห้างเทสโกฯ มาด้วย ง่ายๆ คือ ผมทำงานพิเศษตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงสี่ทุ่มแล้วครับ ผมก็ไม่ใช่คนเหล็กอะนะ ก็เลยปวดเนื้อปวดตัวเป็นธรรมดา แต่ว่า ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไปครับ พ่อสอนไว้


                 ในขณะที่ผมกำลังเดินผ่านเซเว่น กระเพาะอาหารผมก็เหมือนมีตามองเห็น ร้องโครกครากทันทีเป็นสัญญาณบอกว่า ‘มึงเข้าไปเดี๋ยวนี้ กูหิวแล้ว’ ประมาณนั้น และเพราะผมเป็นคนดี นิสัยดี และหน้าตาดีก็เลยเดินเข้าเซเว่นไปไม่ดื้อ~


                 ผมแอบเนียนตากแอร์ไล่กลิ่นหมูกระทะอยู่ในเซเว่นอิเลเว่นอยู่สักพักใหญ่ ก่อนจะจบด้วยการหยิบถ้วยมาม่าใส่น้ำร้อน แล้วเอาไปจ่ายเงิน กลิ่นหอมกรุ่นๆ ของมาม่าทำให้ผมน้ำลายสอ แล้วผมก็คิดว่าไอ้คนที่ต่อแถวอยู่ข้างหลังผม มันก็ต้องน้ำลายสอกันบ้างแหละ!


                 อยากกินละซี่ อยากกินมึงก็ไปต้มแดกเองเถอะ


                 ผมก้มกินมาม่าออกมาจากเซเว่น โดยมีเสียง ตื้อ ดือ ไล่หลัง ผมเงยหน้าขึ้นและเป็นจังหวะเดียวกับที่ใครบางคนกำลังเดินผ่านหน้าเซเว่นแล้วหันมามองผมพอดี...


                 ตามองตา สายตาแล้วก็จ้องมองกัน แฮ่!


                 คิดว่าจะมีกลีบดอกไม้ซากุระไม่มีที่ไปที่มาพัดผ่านฉากนี้ละสิ ผมขอบอกว่าโนว! บังเอิญว่าคนที่สบตากับผมตอนนี้ไม่ใช่สาวน้อยน่ารักเลยน่ะสิครับ ไม่ใช่สาวน้อยน่ารักไม่พอ ไม่ใช่ผู้หญิงด้วย ไม่ใช่ผู้หญิงไม่พอ ยังตัวใหญ่อีกต่างหาก! ที่จริงสถานการณ์นี้เราควรจะหลบตากันไปแล้วแยกย้ายทางใครทางมันกับคนแปลกหน้า แต่เพราะคนตรงหน้าของผมดันเป็นคนที่จะบอกว่ารู้จักกันไม่ใช่ แปลกหน้าก็ไม่เชิง ผมก็เลยกยิ้มทักทายไป


                 “ไง พี่ชาย” ผมเดินถือมาม่า มาหาผู้ชายตรงหน้าที่ยังดูอึ้งๆ งงๆ ที่เจอหน้าผมอีกครั้งอยู่ ผมไม่รู้จักชื่อเขานะ แล้วผมก็ไม่แน่ใจอายุด้วย จะเรียกลุง ผมว่าอาจจะโดนต่อยกลับมา ก็เลยเซฟๆ ‘พี่ชาย’ ไว้ก่อนแล้วกัน “เฮ? จำผมไม่ได้หรอ? ก็ที่ประมาณสี่หรือห้าวันก่อนเนี่ยแหละ ที่พี่ฉุดกระชากลากถูผมเข้าซอกตึกไง”

                 “...ฉันจำได้อยู่” ผู้ชายคนนั้นขมวดคิ้วมองผมก่อนจะพูดขึ้นมาเสียงเรียบ ดูเหมือนว่าพี่แกจะไม่ใช่คนเฮฮาปาร์ตี้แบบผมสักเท่าไหร่ ก็เลยมีการไว้ท่าทางกับผมที่ยังคงเป็นคนแปลกหน้าอยู่บ้าง


                 แต่ผมไม่แค๊ร์! อาจเพราะผมเข้าหาผู้ใหญ่บ่อย ทำงานที่ต้องเป็นฝ่ายชวนคุย ชักจูงคน เลยได้สกิลหน้าหนา ตีสนิทกับคนแปลกหน้ามาเยอะอยู่ และนั่นทำให้ผม Keep going on ต่อไปครับ!


                 “เพิ่งเลิกงานหรอครับ?” ผมเนียนเดินกับพี่แกด้วย จะบอกว่ามาเดินตามก็ไม่ถูก คือผมก็ต้องกลับบ้านทางนี้เหมือนกันอะครับ ก็เลยมาเดินด้วยโดยปริยาย

                 “อ่า ใช่”

                 “แต่นี่มันสี่ทุ่มแล้วนะพี่ชาย ทำงานอะไรเนี่ย ดึกๆ ดื่นๆ หรือว่า...พี่จะทำงาน แบบ...ให้ความบันเทิงตอนกลางคืน” ผมแสร้งยกมือทาบอกเดินถอยหลังเล็กน้อยประหนึ่งจับได้ว่าลูกสาวมีแฟนแล้ว

                 “นี่ใช้สมองคิดแล้วใช่ไหม”

                 “ว่าผมทำไมอะ? ผมหมายถึง เป็นนักร้องตามร้านอาหารหรือเปล่า หรือเป็นดีเจต่างหาก คนให้ความบันเทิงอ่ะ พี่ชายนั่นแหละคิดอะไรอยู่ครับ ฮันแน่~” ผมทำเสียงกิ้วๆ ล้อเลียนให้อีกฝ่ายอารมณ์ดี แต่ดสายตาคมๆ ที่จ้องมานั่นเหมือนกำลังส่งสัญญาณเตือนว่าอีกสักพักจะโดนตีน ผมก็เลยต้องเถิบออกมาเดินดีๆ


                 ไม่เฮฮาเลยว่ะ วัยรุ่นเซ็ง


                 “แล้วทำไมนายถึงยังไม่กลับบ้าน กลับช่องอีก นี่มันสี่ทุ่มแล้วนะ” เขาถามผมบ้าง

                 “เพิ่งเลิกงานอ่ะ แต่ออกตัวก่อน ว่าไม่ใช่งานนักร้อง ดีเจ หรืองานบันเทิงอื่นๆ แต่อย่างใด เป็นแค่พนักงานเสริฟร้านหมูกระทะเฉยๆ”

                 “อ๋อหรอ”

                 “ครับ”


                 แล้วเราต่างคนต่างกับเงียบ บอกตรงว่าสำหรับผม ผมค่อนข้างอึดอัดนะ กับการเงียบไม่มีการสนทนา แต่ผมจะชวนพี่แกคุยอะไรก็นึกไม่ออก หยอกนิดหยอกหน่อย ก็ทำหน้าตาดุใส่ด้วย


                 ระหว่างคิดอะไรเพลินๆ สายตาก็เหลือบเห็นช่องว่างระหว่างตึกที่อยู่ไม่ห่างจากเซเว่นมากนัก ประมาณสี่ห้าวันก่อน ผมโดนผู้ชายคนนึงเรียกให้มาเจอ ตอนแรกนึกว่าจะสู้ตัวต่อตัว แต่แม่งมีพวกรอผมอยู่ตั้งห้าหกคน ก็เลยมารุมอัดผมแบบหมาหมู่ ขี้ขลาด และตอนนั้นก็มี ตาลุงที่เดินอยู่ข้างๆ ผมเนี่ยแหละมาลากผมหนีพวกมัน จำได้ว่าตอนนั้นผมเลือดโคตรขึ้นหน้า แบบฆ่าได้หยามไม่ได้ไรงี้เลย แล้วต้องวิ่งหนีพวกกระจอกพวกนั่นนี่มันไม่ใช่แนวจริงๆ! อยากจะเดินกลับไปกระทืบๆๆ ให้แม่งคลานกลับบ้านเลย (ไม่ดูสภาพตัวเองเท่าไหร่ตอนนั้น) ผมก็เลยดิ้น จะไปต่อยกับพวกมันอีก แต่ไอ้คนที่ลากผมไม่รู้ว่าแรงมันเยอะ หรือเพราะผมแรงเริ่มหมดแล้วก็เลยดิ้นไม่หลุดสักที


                 แต่ถึงแม้ผมจะเลือดขึ้นหน้า ผมก็จำคำนั้นของเขาได้ แล้วมันก็ทำให้ผมเย็นลงด้วย ‘ชีวิตเป็นสิ่งที่มีค่ามากกว่าศักดิ์ศรี’ ก็เป็นคำงั้นๆ ธรรมดาๆ แต่อารมณ์น้ำเสียงตอนนั้นที่ผมได้ยินต่างหากที่สำคัญ


                 ผมรู้สึกกับการที่มีใครสักคน มาเตือนสติผมแบบนั้น ก็เลยคิดว่า ถ้าได้เจอเขาอีกสักครั้งขึ้นมา ผมจะขอบคุณเขา...


                 เออวะ! ผมจะขอบคุณเขานี่หว่า!


                 “นี่ พี่ชาย!”

                 “อะไร?”


                 ผมหยุดเดินกึก ก่อนจะหันไปหาคนที่เดินอยู่ข้างๆ ก่อนโค้งตัวให้อย่างขอบคุณ “ขอบคุณมากนะครับที่วันนั้น พาผมหนีออกมา”


                 “อ๋อ เรื่องนั้น...ไม่เป็นไรหรอก”

                 ผมยิ้มแผ่ “ถ้าไม่มีพี่ชายนะมาช่วยวันนั้นนะ ผมอาจจะลืมตาอีกทีอยู่โรง’บาล หรือไม่ก็วัดเลยก็ได้นะ”

                 “ถ้ารู้อยู่ว่าอาจจะเป็นแบบนั้น ก็อย่าไปต่อยกับพวกนั้นแบบนั้นสิเฮ้ย”

                 “ผมไม่ได้อยากจะไปต่อยกับพวกมันสักหน่อย คืองี้นะ ก่อนหน้านั้นอะ ผมไปเจอไอ้ตัวหัวหน้ามันกำลังรังแกอยู่หญิงอยู่ ผมก็ไปช่วยไรเงี่ย มันบอกผมด้วยนะว่าเรื่องของผัวเมียอย่ามายุ่ง แต่ผู้ชายอ่ะ เขาไม่ทำร้ายของสำคัญของตัวเองกันหรอกใช่ม๊า นั่นแหละ ผมก็เลยต่อยเปรี้ยงเข้าให้ แล้วก็กระทืบมันอีกไปสามสี่ครั้ง ช่วยผู้หญิงคนนั้นอะ แถมพาไปแจ้งความเสร็จสรรพ พอหลายวันต่อมา มันก็ไปหาผมที่ร้านหมูกระทะที่ผมทำงานพิเศษอยู่อ่ะ บอกจะมาดวลเอาคืนไรสักอย่าง”

                 “ก็เลยโง่ตามไป”

                 “เอ้า! ใครจะรู้เล่า ว่ามันจะเอาเพื่อนมาด้วย คือผมเป็นสุภาพบุรุษไง พี่ชาย ผมก็เลยนึกว่า ผู้ชายบนโลกนี้ก็น่าจะเป็นสุภาพบุรุษแบบผมไง”

                 “เคยได้ยินไหม? สุภาพบุรุษ มักตายไว้อะ”

                 “ผมมีนักสู้พันธ์ข้าวเหนียวเป็นไอดอลไงพี่ชาย แบบว่าถ้าจะต้องตายขอตายแบบทุกคนจดจำไรงี้”

                 “สู้กันในซอกตึกแล้วมีคนตายเนี่ยนะ ใครจะจดจำ ไม่พ้นเป็นข่าวเด็กช่างตีกัน ตายแบบหมาข้างถนนเท่านั้นแหละ”

                 “พูดแบบนี้ผมเจ็บไปถึงทรวงเลยนะ” ผมแสร้งใช้กรีดนิ้วแตะที่หางตาซ้ายขวา  ใช้มือพัดไปมาประหนึ่งนางงามร้องไห้เพราะได้รับรางวัล พอได้ยินเสียงหัวเราะจากลำคอดังขึ้นเบาๆ จากอีกฝ่ายก็ทำให้ผมคลายความอึดอัดได้หน่อย

                 “แล้วนี่ นายตามฉันมาทำไม? บ้านนายไม่ได้อยู่อีกทางหรอไง? เห็นคราวที่แล้วเดินไปอีกทาง”

                 “บ้านผมอยู่ทางนี้เนี่ยแหละ ต้องขึ้นรถเมล์เหมือนกัน คราวที่แล้วเดินไปทางนู้นคือกลับไปทำงานต่อครับออกมาต่อยกับพวกมันระหว่างทำงานอะ”

                 “แล้วเขาให้กลับไปทำงาน?”

                 “เฮียเจ้าของร้านแก....”


                 Rrrrrrrrr


                 “แป๊บนึงนะ” ผมบอกกับคู่สนทนา เอี้ยวตัวหยิบมือถือขึ้นจากกระเป๋ากางเกงยีนส์เมื่อเห็นว่าเป็นป้าเพ็ญเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ที่ผมอยู่ก็รีบกดรับทันที


                 ปกติป้าแกจะโทรมาแค่ตอนเรียกเก็บค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟเท่านั้นแหละครับ แต่เดือนนี้ผมจ่ายไปหมดแล้วนะ แล้วนี่ป้าจะโทรมาทำไม?


                 “ฮัล...”

                 /เอส! แกอยู่ไหน!?/ ไม่ทันที่ผมจะได้ ‘ฮัลโหล’ จบประโยคป้าเพ็ญก็รีบตะโกนถามขึ้นมาเสียงดัง นอกจากนั้นยังมีเสียงอะไรไม่รู้วุ่นวาย ไซเรนดังรอดมาตามโทรศัพท์ด้วย

                 “ผมเพิ่งเลิกงานอะป้า มีไรเปล่า?”

                 /ตอนนี้อพาร์ทเม้นท์ไฟไหม้! ฉันไม่เห็นแกอยู่ด้านล่าง นึกว่าจมกองไฟอยู่ด้านในไปแล้ว!/

                 “หะ! ไฟไหม้! ป้า ป้ารอเดี๋ยวนะ ผมจะรีบกลับเดี๋ยวนี้แหละ!” ผมกดวางสายทันทีไม่รอให้ป้าเพ็ญพูดอะไร ผมพุ่งพรวดไปที่ขอบฟุตบาท ตั้งใจเปลี่ยนจากกลับรถเมล์ตามปกติเป็นขึ้นแท็กซี่ทันที

                 “เดี๋ยวๆ เกิดอะไรขึ้น ฉันได้ยินไฟไหม้”

                 “คือบ้านผมไฟไหม้ครับ เอาเป็นว่า ค่อยคุยกันใหม่ ถ้าเจอกันอีกรอบนะครับ!” ผมรีบร้อนพูดเลิกสนใจอีกฝ่าย พอเห็นแท็กซี่ที่ขึ้นว่างผมก็รีบโบกทันที

                 ขณะที่ผมเปิดประตูจะก้าวไปข้างในสายตาเหลือบเห็นมิเตอร์แท็กซี่ที่ขึ้นสีแดงฉ่าเห็นได้ชัดในเวลากลางคืนเช่นนี้ ถึงแม้ว่าเรื่องไฟไหม้จะอยู่ในหัวผมแต่การคำนวณตัวเลขก็เป็นอะไรที่อัตโนมัติแบบไม่ต้องสั่งการ แล้วเมื่อคิดได้ว่าเงินที่ผมติดตัวอยู่ตอนนี้ไม่พอค่าแท็กซี่แน่ ผมก็รีบค้วาคนที่ช่วยผมคราวที่แล้วเอาไว้แล้วดึงขึ้นแท็กซี่มาพร้อมกัน!


                 “เฮ้ย!”

                 “ออกรถเลยพี่ ไปอพาร์ทเม้นท์เดือนเพ็ญที่อยู่ถนน OOO”

                 “เดี๋ยว…”

                 “ใช่อพาร์ทเม้นท์ที่อยู่แถวๆ xxx ไหม?”

                 “นั่นแหละพี่ เหยียบเลย ผมรีบมาก!”

                 “ฉันไม่...”

                 “ได้เลยไอ้น้อง!”

                 “ไปเลยครับพี่!”

                 “เฮ้ยยยยย!”










                 ทันทีที่ผมมาถึงหน้าอพาร์ทเม้นท์ เข่าผมนี่ทรุดลงไปกองกับพื้น กว่าผมมาถึงไฟก็ใกล้จะดับได้แล้ว มีไทยมุงมาออกันเต็มไปหมด แต่นั่นก็ไม่ได้บดบังทัศนียภาพห้องของผมชั้นสามที่ดำเป็นตอตะโกไปแล้ว ส่วนอีกคนที่ผมลากมาด้วยก็จ่ายเงินแท็กซี่ให้ตามที่ผมขอร้องไว้ตอนที่นั่งอยู่ในรถด้วยกันก่อนจะลงมายืนอยู่ข้างๆ ผม


                 ป้าเพ็ญที่อยู่ในกลุ่มผู้อพยพที่ยืนร่วมกับกลุ่มไทยมุงรีบถลาเข้ามาหาผมทันที พร้อมกับพวกกระเป๋าเดินทางที่พอดูออกมารีบยัดใส่เข้ามา


                 “เอส ขอโทษด้วยนะ ที่ฉันเอาอะไรของแกออกมาไม่ได้เลย ไฟมันมาจากชั้นบนสุด ก็ชั้นสามห้องแกพอดี ชั้นอื่นยังพอโกยเก็บของออกมาได้ แต่ชั้นแกคือโดนเผาทั้งชั้นเลย

                 “...”

                 “เอส...สิ่งของมันเป็นของนอกกาย หาซื้อใหม่ก็ได้ ถ้ามีของต่างหน้าพ่อแม่ ถึงแม้มันจะถูกเผาไปแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในความทรงจำของแกเสมอนะเอส” ป้าเพ็ญเข้ามากอดผมที่ยังทรุดเข่านั่งกับพื้น แต่ความรับรู้ของผมมันอื้อไปหมดแล้ว


                 ไฟไหม้ห้อง ทุกอย่างไม่เหลือเลย แปลว่า...แปลว่า!


                 “เงินผมมมม เงินของผมอยู่ในนั้นหมดเลยยยย เงินที่จะเอาไปเริ่มต้นชีวิตมหา’ลัยของผมมม” ผมแหกปากออกมาทันทีแล้วนั่นทำให้ป้าเพ็ญ กับคนที่ผมหนีบมาด้วยสะดุ้งตกใจ “แถมนอกจากนั้นยังมีเงินที่ผมว่าจะเอาไปเที่ยวแบบฮิปเตอร์ตัวคนเดียวที่ต่างจังหวัด ยังมีกระดาษเขียนเบอร์ของลูกค้าที่เพิ่งได้มาด้วย ผมยังไม่ทันได้โทรหาเลย ยังไม่ได้เมมเบอร์ไว้ด้วย”

                 “เอ่อ เอสใจเย็นๆ นะ เรื่องเงิน ป้าให้แกยืมก่อนได้ แกช่วยคิดถึงอะไรที่มันสำคัญกว่าเบอร์สาวหน่อยได้ไหม”

                 “ไม่มีแล้วป้า ไม่มีอะไรสำคัญกว่าเงินกับเบอร์สาวน้อยน่ารักที่อยู่ในห้องนั้นอีกแล้ว” เรื่องเงินผมก็สบายใจไปเปราะหนึ่งแล้ว เพราะป้าเพ็ญบอกว่าจะให้ยืม แต่เรื่องเบอร์นี่สิ! เขาจะมาร้านผมอีกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ อาจจะเป็นคนสัญจรไม่เจออีกเลยในชาตินี้ก็ได้ ว่าแล้ว ก็ขอคร่ำครวญ อะฮืออออออออออ


                 ผัวะ!


                 “โอ๊ยย ป้าตบหัวผมทำไมอะ!” ผมกุมหัวที่โดนตบปอยๆ

                 “ฉันรึอุตสาห์เป็นห่วง แกนี่มันไร้สาระจริงๆ เลย!” ว่าแล้วป้าเพ็ญก็ลุกขึ้นเดินดุ่มๆ กลับไปรวมกับไทยมุงเหมือนเดิม ทิ้งให้ผมมึนงงกับการใช้ความรุนแรงของสตรีแก่อยู่ที่เดิม


                 ไรวะ? เบอร์สาวมันสำคัญกับผมนะเว๊ย


                 “ฉันว่าตอนนี้นายคิดเรื่องที่พักก่อนใหม่ เงินอยู่ในนั้นไม่ใช่หรอ ขนาดค่าแท็กซี่ยังมีไม่พอจ่าย แล้วจะเอาที่ไหนไปเช่าห้องพัก”


                 คนที่ยืนอยู่ข้างๆ ผมพูดขึ้น แล้วนั่นก็ทำให้ผมนึกได้ขึ้นมา ผมลุกขึ้นปัดฝุ่นตรงกางเกงเล็กน้อยก่อนจะจับคางอย่างครุ่นคิด


                 “นอนบ้านเพื่อนมั้ง แค่คืนเดียวคงได้อยู่”

                 “หรอ ถ้างั้นฉันกลับละ นี่มันจะห้าทุ่มแล้ว ฉันยังไม่ถึงบ้านอีก พรุ่งนี้ต้องตื่นไปทำงานแต่เช้าด้วย”

                 “อ๋อ โอเคครับ บาย” ผมส่งยิ้มให้เขา แถมโบกมือลาด้วย

                 “...” เขาจ้องหน้าผม

                 “...” ผมก็จ้องหน้าเขา 

                 “...นายก็ปล่อยเสื้อฉันสิฟะ!”


                 ชะอุ้ย!


                 ผมเหลือบตาลงดูที่ชายเสื้อเชิ๊ตของเขามันมีมือคุ้นๆ ที่ผมจำได้ว่ามือของผมจับไว้แน่นอยู่ แหม สัญชาติญาณความเอาตัวรอดของผมนี่สูงปรี๊ดจริงๆ สาบานได้เลยนะครับ ว่าผมไม่รู้เรื่องง


                 “ผมโทรหาเพื่อนแป๊บ” ผมใช้มืออีกข้างที่ว่างกดเบอร์โทรศัพท์ต่อสายหาเพื่อนทุกคนที่ผมมีเบอร์อยู่ในโทรศัพท์ แต่ทุกคนพร้อมใจไม่รับสาย บางคนก็ปิดเครื่อง บางคนแม่งขึ้นว่าเบอร์นี้ไม่มีการใช้บริการเลยครับ!


                 เป็นเด็กอนามัยกันหรือไงไอ้สัสส นอนกันตั้งแต่ห้าทุ่ม ไม่มีใครคิดจะตื่นเฝ้าโทรศัพท์มาให้ความช่วยเหลือกูหน่อยหรอ ไอ้เพื่อนชั่วววว


                 “ว่าไง?” คนที่ผมดึงเสื้อเอาไว้ ถามเสียงเซ็งเมื่อเห็นท่าทางจ๋อยสนิทของผม

                 ผมช้อนตาขึ้น สวมวิญญาณลูกหมาทันที “พี่ชาย ผมขอนอนด้วยคืนหนึ่งดิ นะ นะ นะ”

                 “...”

                 “นะ น๊า...ขอนอนด้วย ไม่ดื้อ~”







TBC
ตัวเอกอีกคนของเรามาแล้ววว ใครต้องการที่จะถามคำถามให้ คุณพ่อตุลย์ กับเด็กกวนเอส ตอบคำถาม
ส่งคำถามมาได้ที่ ตู้ ปณ. xxx เขต ooo ค่ะ ถถถถถถถถถถถ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 1 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 04-06-2015 13:10:12
ให้ทำงานเป็นพี่เลี้ยงเลยก็ดีนะครับ ^^"
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 1 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 04-06-2015 13:24:07
พี่ตุลย์ตกกระไดพลอยโจนไปกับหนูเอสเสียแล้วสิคะเนี่ย >< ถือเสียว่าเห็นแก่ลูกหมาดำๆ ก็แล้วกันค่ะพี่ตุลย์~ :impress: ..
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 1 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-06-2015 14:47:30
น่าสงสาร
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 1 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 04-06-2015 15:10:21
เริ่มเรื่องมาก็สนุก น่าติดตามแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่อ่านแล้วตัวละครเอกไม่ใช่ลูกคนรวยทั้งคู่  ตุลย์ตกกะไดพลอยโจรไปด้วยเลย  รอ รอ รออ่านตอนใหม่คับ มาเร็วๆคับ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 1 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 04-06-2015 16:53:00
โถ๋..สงสัยจะเป็นปีชงของพ่อตุลย์

เจอไอ้เด็กเกรียนนี่ สองครั้ง ก็ เกิดเรื่องทั้งสองครั้ง

แถวบ้าน เรียกตัวซวยนะแบบนี้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

ให้น้องมันไปนอนบ้านด้วยเหอะนะ น้าาาาา

สงสารเด็กมันเห๊อะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 1 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 04-06-2015 17:28:19
ตุลย์นี่ดวงซวยจริงๆ เจอเด็กนี่ที่ไรมีเรื่องทุกครั้งเลย


ว่าแต่ตุลย์ให้เอสไปนอนด้วยนะ นะ นะ นะ เห็นแล้วสงสารอ่า 555555+
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 1 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 04-06-2015 17:45:17
สนุกกกก  ชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 1 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Cc-kun ที่ 04-06-2015 18:10:25
ชอบตอพูดว่าไม่ดิ้ออ้ะ น่าร้ากกกกกก

หนูเอสพ่อแม่ไปไหอ่ะหรือเปนเด็กตจว

ปล.เรื่องนี้ไม่เรียกฟิควายนะ เราว่าน่าจะเรียกนิยายวายมากก่า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 1 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Cc-kun ที่ 04-06-2015 18:12:28
ชอบตอพูดว่าไม่ดิ้ออ้ะ น่าร้ากกกกกก

หนูเอสพ่อแม่ไปไหอ่ะหรือเปนเด็กตจว

ปล.เรื่องนี้ไม่เรียกฟิควายนะ เราว่าน่าจะเรียกนิยายวายมากก่า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 1 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เอแคร์ไวท์ครีม ที่ 04-06-2015 18:18:48
พ่อตุลย์อย่าเพิ่งเหวี่ยงนายเอสสิ ก็ดวงมันสมพงกัน ก็ต้องมีวีรกรรมให้ต้องปวดหัวนิดนึง  :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 1 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 04-06-2015 18:41:50
 :hao5: อะไรมันจะซวยขนาดนั้น  :o12:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 1 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabbitongrass ที่ 04-06-2015 20:03:40
เอชักอยากรู้เเล้วว่า พี่เลี้ยงเด็กจะอัพเกรดเป็นคุณพ่อหรือเเม่ ได้ยังไง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 1 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 04-06-2015 23:22:35
ชอบตอพูดว่าไม่ดิ้ออ้ะ น่าร้ากกกกกก

หนูเอสพ่อแม่ไปไหอ่ะหรือเปนเด็กตจว

ปล.เรื่องนี้ไม่เรียกฟิควายนะ เราว่าน่าจะเรียกนิยายวายมากก่า

นิยายวาย กับฟิควายแตกต่างกันยังไงคะะ?  :กอด1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 1 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 05-06-2015 07:06:24
เรื่องใหม่่่่
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!! UP Intro (3/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 05-06-2015 08:12:08
 “นะ น๊า...ขอนอนด้วย ไม่ดื้อ~”

จะตลกก็ตอนนี้แหละ แน่ใจเหรอเอสว่านาย ไม่ดื้ออ่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 1 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 05-06-2015 16:53:20
"...ไม่ดื้อ~..." น่าร๊ากเชียวอ่ะเอสของเรา 5555

ปล. พึ่งมาอ่านจร้า ^^
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 1 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 05-06-2015 20:41:41
จิ้มๆๆๆๆ
มาอ่านด้วยคน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 1 (4/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 05-06-2015 21:07:56
             
ตอนที่ 2





              ไม่ดื้อจริงๆ ครับ


              ผมเดินตามตาลุง (แอบเรียกแค่ในใจ) ไปเงียบๆ อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว ไอ้ตัวผมเคยอยู่แต่บ้าน กับอพาร์ทเม้นท์ เพิ่งจะเคยเห็นคอนโดมิเนียมเป็นครั้งแรก ถึงแม้จะไม่ได้ High class หรูหรา แต่กระดับ ‘คอนโดมิเนียม’ นั่นแหละครับ ตามทางเดินก็มีแอร์ ไฟส่องทางก็ยังเป็นนีออนสีส้ม มีลิฟต์อีก!


              นี่คือสถาน แห่งบ้านทรายทอง ที่ฉันปองมาสู่…orz


              “ถึงแล้ว” ผู้ที่อายุมากกว่าพูดขึ้นเสียงเบาพลางไขกุญแจประตูไม้อัดสีขาวเรียกความสนใจจากผมที่ยังมองไปรอบๆ ด้วยความสนอกสนใจ


              ห้อง B8002


              ตัวอักษรหน้าห้องนี่น่าจะหมายถึงหมายเลขตึกสินะ เพราะก่อนหน้านี้ผมเห็นตึกที่สร้างแบบเดียวกันอยู่ใกล้ๆ กันด้วย


              “เล็กหน่อยนะ” เขาบอกพร้อมกับเปิดประตูห้อง สิ่งแรกที่เข้ามาปะทะผมคือกลิ่นของห้องที่ถูกปิดไว้ทั้งวัน ผมเลิกคิ้วแปลกใจนิดหน่อย ปกติแล้วห้องของชายโสดเนี่ยจะเป็นกลิ่นพวกน้ำหอมผู้ชาย หรือไม่ก็กลิ่นประจำตัวของผู้ชายหน่อยๆ แต่กลิ่นที่ผมได้กลิ่น...อ่า ผมจะว่าไงดี เป็นกลิ่นอ่อนๆ หอมๆ ประมาณมะลิอะไรแบบนี้น่ะครับ จะบอกว่าเป็นกลิ่นน้ำหอมของเจ้าของห้องก็ไม่ใช่ เพราะก่อนหน้านี้ตอนนั่งแท็กซี่มาด้วยกัน ผมก็ไม่ได้กลิ่นนี้นะ


              หรือจะเป็นกลิ่นผู้หญิง


              เออ...ผมก็ไปเสือกกับเขาเนาะ


              “ขอรบกวนหน่อยนะครับ” ผมพูดกับผีบ้านผีเรือน ผมถอดรองเท้าผ้าใบที่ใส่มาด้วย ส่วนเจ้าของห้องก็เดินไปเปิดไฟสว่างโร่ทั่วห้อง ผมอดไม่ได้ที่จะร้อง ‘ว๊าว’ กับตัวเอง


              ห้องผมนะครับ แค่เปิดประตูผัวะ ก็เห็นทุกซอกทุกมุม ห้องเล็กนิดเดียว แต่ห้องนี้นะครับ! คาดคะเนด้วยสายตาแล้วห้องชุดขนาดประมาณ 30 ตารางเมตรโดยประมาณแน่นอน เปิดเข้าไปก็เจอโซฟาตัวยาวอยู่ทางซ้ายมือเลยครับ เป็นโซนของห้องนั่งเล่น ด้านหน้าผมเนี่ยจะมีประตูไม้อัดสีขาวอยู่บานนึง ถ้าให้ผมเดาน่าจะเป็นห้องนอน ส่วนทางขวาเยื้องห้องนั่งเล่นไปบนๆ จะเป็นส่วนของห้องครัวแล้วก็มีโต๊ะกินข้าวชิดผนัง


              และเพราะผมมัวแต่สำรวจห้อง หันมาอีกทีเลยไม่เห็นเจ้าของห้องอยู่แล้ว เอ้า แล้วปล่อยทิ้งให้ผมเฟร้งฟร้างอยู่คนเดียว!


              “อะ นายยืมชุดฉันไปก่อน” ในขณะที่ผมหมุนตัวเป็นวงกลม ไม่รู้จะพาตัวเองไปที่ไหน เจ้าของห้องก็เปิดประตูห้องนอนออกมาพร้อมยื่นเสื้อยืดกับกางเกงบอลมาให้


              “หะ? ให้ผมยืมทำไมอะ?”

              “แล้วนายจะไม่อาบน้ำหรอไง?”

              “อ๋อ! อาบคร๊าบบบ” ผมยิ้มแฮ่ “แล้ว ห้องน้ำอยู่ทางไหนครับ?”

              “นั่นอะ” เขาชี้ไปตรงบริเวณครัว ผมเดินตามนิ้วที่ชี้ไป ก่อนจะเห็นว่าตรงข้ามว่าทางซ้ายมือของห้องครัวจะมีประตูห้องอยู่ ส่วนทางขวามือจะเป็นห้องน้ำ ผมเดาได้จากประตูไม้ที่เป็นซี่ๆ ระบายอากาศสัญลักษณ์ของห้องน้ำ


              งั้นผมอาบน้ำก่อน อย่าแอบดูละ!












              ผมยืนมองกล่องที่อยู่ข้างๆ โซฟาที่ผมเพิ่งสังเกตเห็นหลังจากอาบน้ำเสร็จมาครู่ใหญ่แล้ว มันเป็นกล่องพลาสติกสีขุ่นมีล้อขนาดใหญ่ฝาเปิดทิ้งเอาไว้ ทำให้ผมเห็นของที่อยู่ข้างในได้หมด มันเป็นของเล่นครับ ของ ‘เด็ก’ เล่น


              ผมไม่ยักกะรู้ว่า ผู้ใหญ่สมัยนี้ระบายความเครียดด้วยกันเล่นกันดั๊ม ไม่ก็ธนูปลอมกันแล้ว…


               “จะเข้านอนเลยไหม?” ระหว่างที่ผมกำลังมองกล่องของเล่น ก็มีเสียงดังขึ้นจากทางประตูห้องนอน ละความสนใจจากกล่องหันไปหาอีกฝ่ายทันที


              “ผมนอนไหนได้บ้างอะ?”

              “นอนห้องนอนเนี่ยแหละ โซฟามันยุบแล้วนอนไปก็ปวดหลัง” อีกฝ่ายเปิดประตูให้กว้างขึ้น ราวกับเชื้อเชิญให้ผมเข้าไปข้างใน ผมมีท่าทีอึกอักเพราะความแปลกที่แปลกทาง แต่ก็ยอมเข้าไปโดยดี


              กึก


ประตูห้องปิดลง


              มีเพียงแค่เราสองและหนึ่งเตียงใหญ่…อร๊างงง!


              “นายนอนพื้นนะ ฉันมีผ้านวมสำรองอยู่ปูไว้ให้แล้ว จะได้ไม่เจ็บหลัง”

              เพล้ง


              มโนแตก


              ผมค่อยๆ เลื่อนสายตามองต่ำ ก่อนจะเห็นผ้านวมสีน้ำเงินเข้มลายทางถูกปูเอาไว้ที่พื้น มีผ้าปูเตียงวางอยู่บนผ้านวมพอให้รู้ได้ว่าใฃ้แทนผ้าห่มและหมอนที่มาจากเตียงใหญ่

              “เอ้านอนซะ ฉันจะปิดไฟแล้ว”

              “คร๊าบ” ผมขานก่อนจะยอมล้มตัวลงนอนบนผ้านวมที่จัดไว้ให้ มองอีกฝ่ายที่อยู่ถามกลางความมืดเดินตรงไปยังเตียงแล้วล้มตัวลงนอนเหมือนๆ กัน


              หลังจากที่ห้องตกอยู่ในความเงียบ ผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตั้งเวลาปลุกให้เร็วขึ้นกว่าปกติ เพราะว่ามีธุระต้องไปทำก่อนที่จะเข้าทำงานตอนเก้าโมงเช้า พอตั้งนาฬิกาเสร็จก็เตรียมที่จะนอน แต่เสียงของคนที่อยู่บนเตียงก็เอยดังขึ้นเสียก่อน


              “นาย ได้บอกที่บ้านหรือยังว่าห้องที่พักอยู่โดนไฟไฟม้แล้ว?”

              “ยังครับ” ผมตอบทั้งๆ ที่ยังไม่ลืมตา แต่ดูเหมือนว่าคำตอบของผมมันคงน่าตกใจมาก เจ้าของห้องจึงลุกขึ้นพรวดขึ้นนั่งบนเตียง

              “เอ้า! ทำไมไม่บอกเล่า ไปบอกที่บ้านก่อนไป เขาจะได้ไม่เป็นห่วง เผื่อช่วยแก้ปัญหาด้วย”

              “ไม่ต้องหรอกครับ” ผมหัวเราะน้อย “มันไม่ได้สำคัญเท่าไหร่หรอกหน่า ในห้องนั้นมีของๆ ผมก็แค่เสื้อผ้ากับของใช้นิดๆ หน่อยๆ พวกทีวี เตียง ตู้ ก็เป็นของที่อยู่ในห้องอยู่แล้ว”

              “ฉันไม่ได้หมายถึงให้บอกพ่อแม่เรื่องของถูกเผา แต่บอกพ่อแม่ว่านายปลอดภัยดี ไอ้ของน่ะไม่สำคัญหรอก แต่ชีวิตของลูกต่างหากที่สำคัญกับพ่อแม่!”
             
              “...” ผมยิ้มจางๆ อยู่ในความมืด “ตอนนี้ดึกแล้ว เขาคงนอนแล้วล่ะครับ งั้นเดี๋ยวผมค่อยบอกพรุ่งนี้เช้า” ผมพูดไปงั้น

              “โอเค งั้นก็...ฝันดี”

              “ฝันดีครับ”


              ผมขอบคุณเขาอยู่นะ ขอบคุณในความหวังดีของเขา แต่ผมก็ต้องขอโทษที่พรุ่งนี้ผมก็คงไม่ทำตามที่บอก ผมไม่อยากบอกเรื่องห้องไฟไหม้ให้กับ ‘คนที่บ้าน’ รู้สักเท่าไหร่ และผมก็คิดว่า รู้ไปก็เท่านั้น เขาคงไม่ว่างมาสนใจอะไรหรอก ป้าเขาก็มีลูกของเขา แค่เอาเวลาไปสนใจดูแลลูกของตัวเองก็หมดวันแล้วละครับ


              พ่อผมเสียตอนที่ผมกำลังขึ้น ม.1 พอดี ญาติทางฝั่งแม่ก็ไม่เอาผม แม่ตายตอนคลอดผม ยายกับตาก็เลยไม่ชอบผมที่เป็นสาเหตุทำให้ลูกสาวเขาตาย ป้าที่เป็นพี่สาวของพ่อก็เลยรับผมไปเลี้ยง ตอนนั้นผมคิดว่าตัวเองโชคดีนะครับ แต่พอไปอยู่ครอบครัวนั้น เห็น ครอบครัวของป้า ผมก็รู้สึกเป็นส่วนเกินขึ้นมา บวกกับมันบาดตาบาดใจครับ ก็ผมเป็นลูกที่ไม่มีพ่อไม่มีแล้วนี่หน่า ฮ่าๆ พออายุ 15 ก็เริ่มทำงานพาร์ทไทม์ ตัดสินใจว่า พออายุ 18 ที่ทำงานเต็มชั่วโมงได้ ผมจะย้ายออกมาอยู่หอ ดูแลตัวเอง ไม่ให้ป้าเดือดร้อนเป็นอันขาด


              แต่พอย้ายออกมาอยู่ได้ปีนิดๆ ก็ไฟไหม้ซะงั้น ถ้าบอกไป ก็คงทำให้ป้าเดือดร้อนอีก ผิดคำพูดตัวเองด้วย เพราะงั้นปัญหาแค่เนี่ย ก็แก้เองดีกว่าใช่ไหมครับ?


              อา...ที่ผมเล่าแค่ให้รู้ที่ไปที่มาเฉยๆ ไม่ได้ต้องการให้ดูน่าสงสารหรอกนะครับ! ไม่ได้ต้องการความสงสาร ไม่ต้องมาสงสารผมนะครับ!


              ...ผมว่าชักฟุ้งซ่านแล้ว นอนเถอะ นอนๆ!










              กริ๊งงง กริ๊งงงงงงง


              เสียงริงโทนแหลมๆ ที่ผมตั้งเอาไว้เป็นนาฬิกาปลุกดังขึ้นตอนเจ็ดโมงเช้า ผมเบิกตาโพล่งรีบคว้ามือถือมาปิดเสียงกันไม่ให้คนที่นอนอยู่ห้องเดียวกันอีกคนตื่นขึ้นมา


              ผมลุกขึ้นนั่งบิดตัวไล่ความขี้เกียจ แม้ในห้องยังไม่เปิดไฟแต่พระอาทิตย์ก็ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมอย่างเช่นทุกวัน สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างแม้จะมีผ้าม่านสีครีมปิดเอาไว้ก็ยังทำให้ห้องสว่างไสว ผมเก็บผ้าปูเตียงที่ใช้แทนผ้าห่ม และผ้านวมที่มาปูนอน ชิดกับกำแพงอย่างเรียบร้อย ก่อนจะค่อยๆ ย่องออกจากห้องนอนอย่างระมัดระวัง ทันทีที่ปิดประตูลงก็ถอนหายใจ เข้าไปในห้องน้ำทำธุระส่วนตัวก่อนจะออกมาโทรศัพท์หาเพื่อน


              /ฮัล...โหลวว/ เสียงยานครางที่ดังมาตามสายบอกชัดเจนว่าพึ่งตื่น

              “ฮัลโหล ไอ้ปัน มึงกูยืมชุดนักเรียนหน่อยดิ หรือถ้ามึงซื้อชุดมหา’ลัยแล้ว กูยืมตัวนึง”

              /ได้.../

              “กูจะเข้าไปเอาตอนเช้านี้เลยนะ คงถึงบ้านมึงแปดโมง”

              /อือ.../

              “ยืมแว๊กผมมึงด้วยนะ”

              /อือ/

              “ยืม กกน. ด้วยนะ” ผมแกล้งถามมัน

              /อือ.../ แต่มันก็ตอบรับผมเดิม ผมว่าไอ้นี่แม่งน่าจะละเมอตอบแล้วละเนี่ย แต่ช่างแม่ง ถึงแกล้งถามแต่เอาจริงครับ! กกน. ผมก็โดนเผาด้วย ตัวที่ใส่มาเมื่อคืนจะใส่ซ้ำอีกรอบผมว่ามัน...ออกจะ ทุเรศไปหน่อย เพราะงั้นไปใช้ตัวที่ซักแล้วของเพื่อนดีกว่าครับ เพื่อนกัน ไซส์เดียวกัน ใช้ด้วยกันได้อยู่~

              “แต๊งกิ้ว ขอบใจมาก งั้นแค่นี้แหละ” ผมกดวางสายโดยไม่รอให้มันละเมอตอบผม


              ถ้าสงสัยว่าทำไมผมต้องยืมชุด คืองี้ครับ ตอนเช้าผมทำงาน PC (ตัวแทนขาย) รองเท้าผ้าใบอยู่ห้างเทสโกฯ มันเป็นอีเว้นต้อนรับเปิดเทอม ก็เลยต้องใส่ชุดนักเรียน หรือนักศึกษาไปทำงานไงครับ แต่ตอนทำงานร้านหมูกระทะใส่อะไรก็ได้นะครับ แต่ผมก็คงยืมชุดไอ้ปันอีกเนี่ยแหละ ไอ้ห่านี่ แม่มันชอบซื้อเสื้อผ้าให้มันบ่อยครับ เลยมีหลายตัวที่มันใส่ครั้งเดียวบ้าง ไม่ได้ใส่เลยบ้าง


              ส่วนยืมแว๊กผม...ผมทำทรงเปิดข้างไว้ครับ เป็นทรงต่อยอดมาจาก รด. แต่ผมด้านบนมันยาวกว่า ปกติผมก็ใส่แว๊ก หวีเสยขึ้นเป็นอันจบ หล่อ เพอร์เฟ็ค แต่พอไม่มีแว๊กเนี่ย ส่องกระจกเมื่อกี้ผมนึกว่าชาวบ้านบางระจันมาเอง


              ถ้าเปรียบผู้หญิงติดหวี ผมก็คงติดแว๊กเนี่ยแหละครับ!


              ปิ๊ง ป๊อง


              ผมที่กำลังจะเดินไปหยิบชุดของตัวเองที่ถอดพาดโซฟามาเปลี่ยนเตรียมออกไปบ้านไอ้ปัน เปลี่ยนทิศทางไปที่ประตูห้องก่อนจะเปิดผ่าง! ให้กับแขก


              “...” แขกงง

              “...” ผมก็งง


              เอ้า เวร ลืมไป นี่มันไม่ใช่ห้องผมนี่หว่า


              แต่อย่างที่ผมเคยบอกก่อนน่าครับ ผมมีสกิลหน้าหนาสูง เนียนไปสนิทกับเขาก็สูง และยิ่งเป็นผู้หญิงด้วย (ถึงแม้ดูผิวแล้วจะเข้าเลขห้าไปแล้ว) สกิลตีสนิทและหน้าหนาของผมจะพุ่งเป็นพิเศษ


              ผมยิ้มหวาน


              แต่เขาก็ยังยืนนิ่งมองหน้าผมอยู่ แขนข้างนึงอุ้มเด็กอายุประมาณ 1 ปี ส่วนมืออีกข้างจูงเด็กผู้ชายวัยประมาณ 9 หรือ 10 ขวบมาด้วยอีกข้าง


              เดี๋ยวนะ...ผู้หญิง หอบเด็ก มาห้องผู้ชาย


              “เธอเป็นใคร?”

              “เอ๋? ผมเป็น...”

              “ไอ้ตุลลลลลลลลลลลลลลย์!!” ป้าแกตะโกนครับ!


              ผมนี่ช็อคนิ่งค้างกับความฮาร์ดคอร์ของหญิงวัยกลางคนตรงหน้า ไม่ทันทีที่จะได้ทำอะไร เจ้าของห้องที่นอนอยู่ก็เปิดประตูห้องนอนออกมาขานรับเสียงเรียก


              “ครับแม่”


              อะ อ้าว แม่หรอ


              ...นี่นึกว่าเมีย

              “แก! ไอ้เด็กผู้ชายคนนี้มันเป็นใคร อยู่ห้องแกตอนเจ็ดโมงเช้า แถมเสื้อนั่นก็ของแกใช่ไหม!? เอาผู้หญิงเข้าห้องฉันยังพอเข้าใจ แกอาจจะหาแม่ใหม่ให้ที่หนึ่งกับตอนต้น แต่นี่อะไร ผู้ชาย ผู้ชายย! แกอธิบายให้แม่ฟังเดี๋ยวนี้” คุณป้าฮาร์ดคอร์ลากและอุ้มเด็กทั้งสองคนไปเข้าไปหาเจ้าของห้องที่ยังยืนเกาหัวแกรกๆ เหมือนยังไม่ตื่นดี ติดที่มือของป้าไม่ว่างก็เลยใช้หน้ากับปากเผยิดมาทางผมที่ยังยืนอึ้งแดกอยู่ที่หน้าประตูห้อง


              เดี๋ยวนะป้า หน้าผมดูเหมือนเป็นเกย์หรอ? ความคิดจิตอกุศลที่สุด ดูหน้าผมด้วยดิ นี่หน้าตาดีแบบนี้ แรร์ไอเทม มีไว้ให้ผู้หญิงเท่านั้นครับผม!


              “แม่ พูดถึงอะไร เมื่อกี้ผมหาวอะ ไม่ได้ยินเลย” เจ้าของห้องพูดพร้อมกับหาวโชว์อีกรอบ “ที่หนึ่งเอาน้องไปเล่นที่ห้องลูกก่อนไปหรือไม่ก็ไปเล่นที่ห้องพ่อก็ได้”

              “ครับ” เด็กอายุ 9 ขวบที่ชื่อ ‘ที่หนึ่ง’ รับเด็กตัวเล็กจากคุณป้าฮาร์ดคอร์มาอุ้มก่อนจะพากันเข้าไปในห้องนอนที่ผมเพิ่งออกมา


              เดี๋ยวนะ ลูก พ่อ แม่ อะไรวะ ผมชักงง นี่เพิ่งตื่น สมองไบร์ทมากเลย บรัย บาย เลยละตอนนี้


              แต่ก่อนอื่นเลย คุณป้าฮาร์ดคอร์ พอไม่มีเด็กแล้วมือว่างก็ชี้หน้าผมจัดเต็มเลยครับ นี่ ไม่ใช่ผู้ชายขายน้ำนะครับ ทำไมต้องโวยวาย แว๊ดๆ แบบนั้นด้วยอะ แปลกตรงไหน อยู่ในห้องตอนเจ็ดโมงเช้าเวลาที่ควรจะอยู่บ้านใครบ้านมัน แล้วก็แค่ใส่เสื้อผ้าของเจ้าของห้องที่ชื่อ ‘ตุลย์’ แค่เนี่ย ผมอาจจะเป็นเพื่อนสนิทก็ได้ คิดในแง่ความเป็นจริงหน่อยสิป้า!


              “โอเค แกตอบฉันมาก่อนเลยทำไมผู้ชายคนนั้นถึงมาอยู่ห้องแกตั้งแต่เช้าแบบนี้?” ป้าแกชี้ผม ส่วนผมก็ถอดเสื้อ เดินไปหยิบเสื้อของผมที่ถอดไว้เมื่อคืนมาใส่

              “เขาไม่ได้เพิ่งมาตอนเช้า เขาอยู่ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ” เจ้าของห้องพูดเสียงเนือยผละออกจากแม่ตัวเองไปเข้าห้องน้ำ แต่ถึงแม้จะปิดประตูแล้ว ไม่วายคุณป้าฮาร์ดคอร์ยังตามไปเคาะถามต่อ

              “แล้วทำไมเขาต้องค้างคืนที่ห้องแกด้วยหะ บ้านเขาไม่มีนอนหรือไง?”

              “แอ๊บอึง อมแองอันอ่อน” เสียงอู้อี้ในห้องน้ำตะโกนกลับออกมา เมื่อเห็นว่าลูกชายไม่ตอบคำถามป้าแกก็จ้องผมใหญ่ ไอ้ผมมองตอบกลับไป คือผมไม่ได้จะท้าสู้กับแกหรืออะไรนะครับ ผมมองห้องน้ำต่างหาก ผมอยากเปลี่ยนกางเกงไง จะถอดตรงนี้ก็อนาจารไปหน่อย เพราะถึงว่าคนที่ยืนอยู่บริเวณจะมีเพียงผู้หญิงอายุ 50 แต่ผมก็เป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่แก้ผ้าต่อหน้าผู้หญิงครับ

              “บอกมา เธอเป็นใคร? เป็นอะไร? ทำไมต้องมาค้างห้องลูกชายฉัน? ดูแล้วก็ไม่น่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานของตาตุลย์ ไม่ใช่คุณครูโรงเรียนของที่หนึ่งด้วย”


              แอ๊ด


              ขณะที่ผมกำลังจะอ้าปากตอบก็เป็นจังหวะเดียวกับเจ้าของห้องเปิดประตูห้องน้ำออกมา แล้วก็เป็นจังหวะเดียวกับที่คุณป้าฮาร์ดคอร์ถามประโยคต่อมากับผม


              “เป็นผู้ชายขายตัวใช่ไหม?”


              อึ้ง


              ผมอึ้ง เจ้าของห้องที่ชื่อตุลย์ก็อึ้ง


              ผมค่อนข้างมีนิสัยวัยรุ่นมากนะครับ ถึงแม้จะทำงานตั้งแต่เด็ก มันก็เหมือนกับโดนรุมกระทืบครั้งนั้นแหละครับ เจ็บจนจะตาย แต่ก็อยากจะกระเสือกกระสนไปต่อยมันคืน ผมมันเป็นพวกฆ่าได้ หยามไม่ได้!


              “ไม่...”

              “ผมไม่ใช่นะครับ ผมน่ะเป็น ‘แฟน’ เขาเลยครับ : ) ” ผมพูดแทรกก่อนจะเดินเข้าไปควงแขนเจ้าของห้องที่ยืนอึ้งค้างไปแล้วเหมือนกับคุณป้าฮาร์ดคอร์ที่อ้าปากหวอไม่แพ้กัน “คือเราคบกันอยู่ครับ ว่าจะบอกคุณแม่อยู่ แต่ผมเป็นผู้ชายมันก็เป็นอะไรที่ลำบากครับ วันนี้คุณแม่ก็มาเจอแล้ว ผมก็เลยขอประกาศอย่างเป็นทางการเลยแล้วกันนะครับ” จัดด้วยเอนซบไหล่ของคนที่มีส่วนสูงไม่ต่างกันมากนัก


              ทุกคนยังอึ้งครับ นิ่งสนิทประมาณว่าผมเป็นสิ่งมีชีวิตคนเดียวที่อยู่ในห้องนี้ ผมทำหน้าเหนือใส่ ‘คุณแม่’ อย่างจงใจ แต่พอเลื่อนสายตาขึ้นปะทะกับเจ้าของห้องที่มองอยู่ ดูเหมือนเขาจะเริ่มรู้ตัวแล้วและกำลังจะอ้าปากด่าผม เพื่อไม่ให้ผมหน้าแตกและโดนหยามไปกว่านี้ผมเลยต้องพูดต่อ


              คนอย่างเอส เริ่มอะไรแล้ว ไม่มีหยุดอยู่แล้ว


              “แต่ว่าผมมีธุระต้องไปทำตอนแปดโมงเช้า คงอยู่ร่วมรับประทานอาหารกับคุณแม่ไม่ได้ เพราะงั้นผมต้องขอลาก่อนนะครับ” ผมคลายแขนออกมาไม่เปลี่ยนแม่งละกางกงกางเกง เดินถือมาไปแต่งที่บ้านไอ้ปันซะอย่างนั้นเลย ก่อนจะเดินตรงไปยังประตูห้องแล้วสอดตัวออกไป


              แต่ไหนๆ คุณป้าก็ทำผมปรี๊ดละ ขอแถมท้ายอีกหน่อย


              “วันนี้ก็เลิกงานเวลาเดิม อาจจะมาหาดึกหน่อยนะ” ผมจงใจส่งสายตาหวานไปหาเจ้าของห้องผ่านหน้าคุณป้าฮาร์ดคอร์แบบจะๆ “อย่าทำหน้าแบบนั้นสินะครับ ไม่ออกนอกลู่ นอกทาง ไม่นอกใจด้วย บอกแล้วไง ไม่ดื้อ~

              “ไอ้ตุลย์...”

              “ผมไปแล้วนะครับ บรั๊ยยส์” ผมจงใจใส่เสียงเอสให้คำท้าย ส่งจูบรัวๆ แจกจ่ายให้คนในห้องไปห้าครั้งติด โบกมือหยอยๆ ก่อนจะเดินตัวปลิวออกมาจากห้อง B8002

              “ไอ้ตุลย์!!! แก!!! อธิบายมาเดี๋ยวเนนนน้!!!!” เสียงของป้าฮาร์ดคอร์ดังอยู่ในห้องดังไล่หลังผมมาปิดท้าย


              ผมแลบลิ้นใส่ดิน ใส่ฟ้า ใส่อากาศ


              ขอโทษนะครับพี่ หาวิธีเอาตัวรอดเองแล้วกันนะครับ~








TBC
มาลง 3 ตอนติด ไม่ดื้อ~ #daddybelover
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 2 (5/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 05-06-2015 21:58:03
เย้ย ทิ้งละเบิดละหนีไปได้ไง ฮ่าๆ

บอกเป็นแฟนแบบนี้ แม่ตุลย์คงช็อค!!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 2 (5/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 05-06-2015 23:27:11
55555555
แม่ตุลย์ช๊อคค้าง กู่ไม่กลับแร้วเนี่ย
พี่ตุลย์ซวยไป อธิบายไป แม่เค้สจะเข้าใจไหมเนี่ย กิกิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 2 (5/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 06-06-2015 01:04:27
อือหือ ไอ้ตัวบอกไม่ดื้อนี่มันก็ไม่ดื้อจริงๆ นะ แต่!!!  มันเป็นตัวหายนะเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 2 (5/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 06-06-2015 01:10:15
น่าสนใจๆ ตามดู
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 2 (5/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 06-06-2015 01:24:59
คุณแม่สามี(?)คงต้องทำใจอย่างเดียวแล้วล่ะค่าา :laugh: เอสนี่นอกจากขี้ดื้อแล้วยังแสบเสียมากๆ เลยนะคะ น่ารักมากเลยล่ะค่ะ >\\<
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 2 (5/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-06-2015 01:43:34
แสบ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 2 (5/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: GoodNice ที่ 06-06-2015 01:52:48
 :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 2 (5/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 06-06-2015 03:00:53
ทิ้งระเบิดลูกยักย์ไว้ด้วย  5555 ร้ายกาจจจจจจจจนักเด็กนี่ จับทำเมียเลย  :z1: :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 2 (5/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 06-06-2015 03:31:56
อยากรู้จักกับเด็กๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 2 (5/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 06-06-2015 06:49:49
นุ้งเอสเป็นคนตลก 555
รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 2 (5/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 06-06-2015 10:03:02
 :m20: :m20: ร้ายจริงเอสเนี้ย  :hao3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 2 (5/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 06-06-2015 12:32:06
ตุลย์ ผู้กำลังดวงตก โดนเด็กนรกวางยาซะแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ

แหม เฮียตุลย์ ก็ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก ใหนๆ คุณแม่ก็เข้าใจผิดไปแล้ว

เลยตามเลยไปเถอะ โน๊ะ ยอมรับตามน้ำไปค่ะ ไม่ต้องแก้ตัว

น้องเอส หนูมัน งูเห่าชัดๆลูก งานเฮียตุลย์เข้าเพราะหนูเลยนะ

หนูนี่มันตัวซวย รอ้ยแรงม้าจริงๆ ฮ่าๆๆๆๆ พี่ตุลย์ตื่นเต็มตาเลยทีนี้
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 2 (5/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: onekiss ที่ 06-06-2015 13:10:26
 :hao7: :hao7: :hao7:
ตุลย์งานเข้าแล้ว อยู่ดีก้มีแฟน5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 2 (5/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เอแคร์ไวท์ครีม ที่ 06-06-2015 18:59:32
ตุลย์ถึงคราวซวยละ เอสนี่ทิ้งระเบิดไว้แล้วหนีหายเลยนะ  :m20:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 3 (6/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 06-06-2015 19:48:27
ตอนที่ 3








               นี่คือสถาน แห่งบ้านทรายทอง ที่ฉันปองมาสู่~ (อีกแล้ว)


               ผมยืนมองป้ายประตูห้อง ‘B8002’ มาสักพักใหญ่ๆ นิ่งๆ


               คือตอนแรกผมก็คิดว่า ลาแล้วลาลับ ไม่กลับย้อนมา เพราะผมก็ขอบคุณเขาที่ช่วยผมจากการโดยรุมตีไปเมื่อคราวก่อนแล้ว แต่พอหลังเลิกงานเมื่อวานผมก็เห็นกางเกงของเขาที่ผมใส่ออกมาเช้าเมื่อวาน นึกไปนึกมา ก็ยังติดค่าแท็กซี่เขาอีก คิดอีกรอบ ยังทำให้เขาโดนแม่ด่าอีก! orz


               ความผิดผมใหญ่หลวงอะครับ ก็เลยระหกระเหินกลับมาที่ห้องนี้อีกครั้งพร้อมกางเกงที่ผมซักมาให้กับมือ แถมแบงค์ยี่สิบอีกหลายใบที่ม้วนเอาไว้เป็นค่าแท็กซี่คราวนู่น


               แต่ทำไมผมยังไม่ยอมเคาะห้องสักทีน่ะหรอ


               ...


               คือกลัวโดนด่าอะคร๊าบบบ เมื่อวานก่อนออกจากห้องนี่ หน้าตาเขาเหมือนจะพุ่งมาแดกหัวผมเลย ถ้าผมไม่ใช้สกิลเนียน คิดว่าผมยังมีชีวิตรอดมาเล่าตอนต่อไปให้ฟังอย่างนี้ไหมละคร๊าบบบบ


               เพราะไม่อยากเจอหน้าเจ้าของห้องเนี่ยแหละ ผมก็เลยลังเลไม่กล้าเคาะสักที จะมาวันอื่นผมว่าเขาน่าจะทำงาน คงคืนให้ไม่ได้ จะมาคืนตอนกลางคืน ผมก็เลิกงานสี่ทุ่มทุกวัน เดี๋ยวก็โดนหาว่าเป็นผู้ชายขายน้ำอีก (พูดแล้วก็ขึ้น!) ผมก็เลยตัดสินใจว่าวันนี้ วันอาทิตย์ตอนบ่ายเนี่ยแหละคืนของได้ชัวร์สุด!


                เอางี้ พอประตูห้องเปิดปุ๊บ ผมก็รีบคืนรีบชิ่งเลยดีกว่า ถ้าท่าไม่ดี ก็โยนม้วนแบงค์ยี่สิบใส่หน้าแม่ง! เนี่ยแหละ เวิร์ก!


ว่าแล้วผมเคาะประตูสามทีเสียงดังฟังชัดแล้วยืนสงบนิ่งให้เจ้าของห้องมาเปิด


               ...เงียบ


               แต่ทว่าทุกอย่างกลับนิ่งสนิท ผมก็เลยตั้งท่าจะไปเคาะอีกรอบ แต่ทันใดนั้นประตูไม้อัดสีขาวก็เปิดแง้มออกเพียงเล็กน้อยเพราะล็อคที่เป็นตัวโซ่ยังคล้องไว้อยู่


               “มาหาใครคะ?”

               “...” ผมเงียบไม่ตอบ เดินถอยหลังออกมาเล็กน้อยแล้วเงยหน้ามองป้ายประตูห้องอีกทีเพื่อความแน่ใจว่าผมไม่ได้มาผิดห้อง เมื่อแน่ใจว่าห้องนี้แหละห้องเดียวกับที่ผมมาเมื่อครู่จึงค่อยบอกจุดประสงค์แก่ผู้หญิงที่เปิดประตูห้องออกมา “ผมมาคืนของให้คุณตุลย์ครับ”


               เธออายุราวๆ สามสิบถึงสี่สิบต้นๆ คราวที่แล้วผมเดาผิดจากแม่เป็นเมีย คราวนี้แหละเมียชัวร์!


               “อ๋อ คือว่าตอนนี้คุณตุลย์...”

               “ป้าสร้อยอย่าเปิดประตูให้เขาครับ! ครูบอกที่หนึ่งมาแล้วว่า คนขายตัวน่ะ เป็นคนไม่ดี”


               ปึด


               เส้นเลือดที่หน้าผากของผมปูดโปนขึ้นมาทันทีที่ได้ยินว่า ‘คนขายตัว’ ก้มหน้ามองหาเจ้าของเสียงเล็กๆ น่ารักของเด็กชายอายุ 9 ขวบที่กำลังแทรกตัวผู้หญิงที่เรียกว่า ‘ป้าสร้อย’ ออกมาประจันหน้ากับผม แต่เพราะว่าประตูที่เปิดอ้าไว้ มีโซ่คล้องอยู่แง้มได้เพียงเล็กน้อย ผมเลยเห็นใบหน้าท่าทางกวนตีน (ในความคิดของผม) ได้เพียงนิดเดียว


               “ว๊าย หนูหนึ่ง พูดอะไรแบบนั้นลูก ขายตัวอะไรกัน” ป้าสร้อยย่อตัวตะครุบปากของเด็กที่ชื่อ ‘ที่หนึ่ง’ ไว้ แต่ผมก็เห็นสายตาของป้าแกที่มองผ่านประตูมาระคนสงสัย


               โว๊ยยย! ช่วยไปใส่แว่นแล้วมาดูหน้าผมให้ชัดๆ ครับ! หล่อๆ แบบนี้ ไม่มาขายตัวหรอกครับป้า!


               “ฉันไม่ใช่คนขายตัวสักหน่อย ไปเอามาจากไหน?” ผมถอนหายใจยาวก่อนจะพูดกับไอ้เด็กเวร เอ๊ย น้องที่หนึ่งด้วยความใจเย็น

               “ที่หนึ่งได้ยินที่ย่าพูดเมื่อวานหมดแล้ว ถ้าไม่ใช่แล้วจะมานอนค้างบ้านพ่อทำไม!?” มันแว๊ดใส่


               ปึด…


               ผมนั่งยองๆ ให้สายตาอยู่รระดับเดียวกับไอ้เด็กที่อยู่อีกฝั่งของประตู


               หมับ!


               สอดมือเข้าไปในช่องแคบๆ ที่ประตูเปิดแง้มเอาไว้แล้วบีบแก้มมันจนปากเป็นสระโอ ผมยิ้มให้ ใช้รอยยิ้มอันสดใสและหัวใจที่สวยงามสื่อความหมาย


               ‘กูไม่ใช่นางงาม กูไม่รักเด็ก ตอนเด็กๆ กูดูซีอุยด้วย อยากลองกินเด็กอยู่ มึงอยากมาเป็นมื้อแรกกูไหม๊?’

               “ฟังพี่เอสคนนี้ดีๆ นะครับสุดหล่อ พี่ไม่ได้ขายตัว คุณย่าของสุดหล่อเข้าใจผิดนิดหน่อย พี่ทำงานขายรองเท้าตอนเช้า ขายหมูกระทะตอนดึก ไม่มีอาชีพเสริมอื่นเข้าใจไหมครับ?” แต่เพราะความเป็นมนุษยธรรมมันค้ำคอผมอยู่ เลยต้องสวมบทเป็นพี่ชายใจดีแล้วค่อยๆ คลายมือออกที่บีบแก้มออก


               นี่ถ้าไม่เกรงใจว่ามีป้าสร้อยอยู่ในฉากด้วยจะส่งนิ้วกลางให้รัวๆ


               “ไม่ต้องมาพูดเลย ไอ้คนเลว! ไอ้อันธพาล! นิสัยไม่ดี รังแกที่หนึ่ง เด็กตัวเล็กๆ ตาดำๆ อายุแค่ 9 ขวบ!” ไอ้เด็กนั่นไม่สนใจคำพูดแสนดีของผมแต่อย่างใด มันลูบแก้มตุ้ยนุ้ยของตัวเองเบาๆ โดยมีป้าสร้อยคอยปรามเด็กนั่นไว้


               อื้อหือ นี่ดีนะครับที่มันยังแค่อายุ 9 ขวบยังรู้คำศัพท์ไม่เยอะ ลองนึกว่ามันด่าผมตอนอายุ 16 สิ รับรองว่าจัดหนัก จัดเต็ม!


               “น้องที่หนึ่งครับ”ผมยิ้ม ยังคงยิ้มอย่างงดงามแม้ว่าตอนนี้เส้นเลือดที่หน้าผากของผมจะปูดโปนออกมาแล้วทุกเส้น “น้องที่หนึ่งปากดี ด่าพี่ตอนที่มีประตูกั้นอยู่สินะครับ แบบนี้เรียกขี้ขลาดนะครับรู้ไหม หรือไม่ก็ขี้แพ้ หดหัวเหมือนต่ำ เกิดเป็นผู้ชายต้องวิถีคนจริง เปิดประตูสิ แล้วมาสู้กันสิครับ”


               กูจะพามึงไปจุ่มในหม้อแล้วต้มน้ำใส่เส้นมาม่า /กัดฟัน


               “ก็เอาดิ! คิดว่าที่หนึ่งกลัวหรอ? ที่หนึ่งไม่ขี้ขลาด ที่เป็นผู้กล้า! อยู่แล้ว” ไอ้เด็กนั่นยุขึ้น รีบเอื้อมไปปลดโซ่ที่คล้องประตูไว้ออก ผมนี่ยิ้มกริ่มเลยครับ เตรียมคว้ามันออกมาสู้รบปรบมือนอกห้อง (เข้าไปในห้องไม่ได้มียังยันต์ป้าสร้อยอยู่)

               “เมื่อวานก็ทำเรื่องกับแม่ฉัน วันนี้ยังจะมาตีกับลูกฉันอีกหรอ?”


               ชะอุ้ย เสียงนี้...


               “อ้าวกลับมาแล้วหรอตุลย์?”

               “ครับ” เขาขานรับป้าสร้อย “ไปๆ ถ้าจะตีกันไปตีกันข้างใน เดี๋ยวห้องข้างๆ เขาก็ออกมาด่าเอาหรอก” ประตูไม้อัดสีขาวถูกเปิดกว้างออก ผมที่นั่งยองๆ อยู่ก็โดนเท้าเขี่ย รู้ตัวอีกที่ประตูก็ปิดลงโดยมีผมอยู่ข้างในเสียแล้ว...

               ว๊ากกกก!!

               “ป้าสร้อยเดี๋ยวป้ากลับเลยก็ได้นะครับ ขอบคุณมากนะครับที่มาดูตอนต้นกับที่หนึ่งให้”

               “งั้นป้ากลับแล้วนะจะให้ป้ามาช่วยดูเด็กๆ ตอนไหนอีกก็ไปเคาะห้องบอกได้นะ”

               “ได้ครับ” เจ้าของห้องกับป้าสร้อยลากัน หลังจากที่ป้าสร้อยออกจากห้องไปแล้ว ผู้ชายที่มีชื่อว่าตุลย์ก็หันมาทางผมกับเด็กที่หนึ่ง

               “เอ้า ตีกันได้เต็มที่ แต่อย่าส่งเสียงดังละ” 

               “เอ่อ ไม่ครับ เมื่อกี้ล้อเล่...”

               “เออ! มาๆ เข้าห้องมาแล้วก็สู้กันเลย ที่หนึ่งไม่ขี้ขลาด ไม่ขี้แพ้ เป็นผู้กล้าอยู่แล้ว” ไม่ทันทีที่ผมจะปฏิเสธไอ้เด็กนั่นก็โพล่งขึ้นมา พร้อมตั้งท่าจดมวยแล้วเรียบร้อย


               โอ้โห ตัวยังกับมดทำเป็นใจใหญ่


               แต่ผมก็เมินมันนะ หันไปหาเจ้าของห้องที่กำลังถอดสูทปลดเนคไท “ผมแค่จะเอาของ...”


               ปึก!


               ไอ้เด็กนั่นต่อยผมเข้าที่สีข้าง ถึงแม้แรงมันจะไม่ได้เยอะอะไร แต่ก็ทำให้เจ็บแปลบๆ


               ผมกัดฟันกรอด


               ทำไมไอ้คุณหลานกับคุณย่าแม่งเหมือนกันเลยว่ะ พ่อกับคุณปู่ไม่สอนหรอว่าแหย่ราชสิงห์ (?) เดี๋ยวก็โดนมันกัดเอาอะ!


               หมับ!


               ผมกางมือกว้างจับหัวมันแล้วดันสุดแขนเพื่อไม่ให้มันต่อยผมโดน ทีนี้มันก็เลยใช้เท้ายกเตะเลยครับ! แต่ผมก็เอี้ยวตัวไม่โดนอีกเหมือนกัน พอเห็นไอ้เด็กที่หนึ่งนั่นฮึดฮัดทำอะไรผมไม่ได้ ผมก็ทำหน้าเหนือ หน้าเดียวกับที่ให้คุณย่าของมันเมื่อวานพร้อมแลบลิ้นปริ้นตาให้เสร็จสรรพ พอเห็นว่าไอ้เด็กนั่นแผลงฤทธิ์ไม่ได้แล้ว ก็หันกลับไปหาเจ้าของห้องที่หายหัวไปแล้ว


               อ้าว...ไปไหนวะ


               “คนอะไรขี้โกง! คนเรามันต้องสู้กันอย่างยุติธรรม เท่าเทียมสิ ทำแบบนี้มันขี้โกงชัดๆ” ไอ้เด็กที่ผมผลักหัวมันอยู่ร้องแหกปากโวยวายขึ้นมา


               นอกจากประโยคข้างต้นแล้ว มันยังมีคำด่า น่ารักๆ แบบ ‘คนขี้โกง’ ‘นิสัยไม่ดี’ อะไรแบบนี้แถมท้ายมาอีกยาวยืดด้วยนะครับ


               “แล้วจะให้ทำไงวะ? จะให้ตัดแขนตัดขาให้มันเท่ากันหรือไง๊?”

               “ไม่รู้แหละ ถ้าไม่ยุติธรรมก็ไม่ใช่การต่อสู้! ไม่เล่นกับคนขี้โกงหรอก ไม่แน่จริงแล้วยังมาว่าคนอื่นขี้ขลาดอีก ตัวเองนั่นแหละขี้ขลาด!”


               โอ้โห ผมนี่ขึ้นเลย ขึ้น!


               หันซ้ายมองขวาก่อนจะเจอกับของเล่นบางอย่างที่ตั้งอยู่ท่ามกลางของเล่นอีกหลายชิ้นหน้าโซฟา ผมชี้นิ้วไปที่ของเล่นนั่นอย่างองอาจ


               “ได้มาเลยย งั้นสู้กันเลย เกมดึงแท่งไม้ จะแขนยาว ตัวเตี้ย ขาสั้น หลังค่อม หูหนวกอะไรก็ไม่มีผลทั้งนั้น โอเคปะละ”

               “ได้!”

               “ได้!”


               ผมกับเด็กนั่นเดินตึงๆ ช่วยกันกวาดของเล่นชิ้นอื่นที่อยู่บนพื้นออกไปให้ออกนอกลู่นอกทาง นั่งกันคนละด้านแล้วตั้งแท่งไม้ขึ้น


               Fight Start!










               โครม!


               แท่งไม้ที่ง่อนแง่นร่วงลงขณะที่ไอ้เด็กนั่นกำลังเขี่ยไม้ออก ทันทีที่มันล้มโครมลงผมก็ยืนขึ้นชูมือสองข้าง ดีใจแบบออกนอกหน้านอกตา


               “ว๊ายยยย ขี้แพ้นี่หว่า” ผมหัวเราะเสียงดังแบบตัวร้ายในละคร ยิ่งเห็นใบหน้าเจ็บแค้นผมยิ่งยิ้มเยาะ หันตูดโยกไปโยกมาใส่ด้วย “ว๊ายยยย นี่ขนาดของเล่นของตัวเองนะเนี่ย ยังแพ้เลยเอ๊าะ”

               “มันเพิ่งจะคะแนนแรกเท่านั้นแหละ ตอนนี้ 1-0! ยังไม่ถือว่าชนะหรอก!”

               “คุณน้องที่หนึ่งครับ คุณน้องที่หนึ่งเลือกเลยครับอยากแข่งเล่นเกมไหนต่อ เอามาโลด จำชื่อพี่ไว้นะครับ พี่เอส คนนี้พร้อมไฝว้กับน้องทุกเกม”

               “ได้ ต่อมาก็ปาเป้า!”

               “ได้!”

               “เล่นอย่างอื่นเถอะลูก เดี๋ยวลูกดอกโดนน้อง” เสียงของคนที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะอาหารเยื้องไปทางด้านบนจากห้องนั่งเล่นที่ผมกับไอ้เด็กที่หนึ่งนี่กำลังแข่งกันอยู่ดังขึ้น แต่สายตาไม่ได้ละออกมาจากหน้าจากโน๊ตบุ๊ค ดูเหมือนว่าผมคงจริงจังกับเกมดึงแท่งไม้มากไปหน่อยเลยไม่รู้ตัวว่าเจ้าของห้องมานั่งอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ นอกจากนั้นผมและไอ้เด็กที่หนึ่งก็เพิ่งสังเกตว่ามีเด็กอีกคนกำลังคลานไปมาอยู่บริเวณห้องนั่งเล่นด้วย


               ถ้าจำไม่ผิด ไอ้เด็กแก้มย้วย น่ารักๆ คลานไปมานี่ชื่อ ‘ตอนต้น’ สินะ


               “งั้นแข่งไรกันดีอะ อันธพาล”

               “ชื่อเอสโว๊ย” ผมแหกปาก


               แต่พอเกมการแข่งขันมันหยุดชะงัก ผมก็เหมือนจะดึงสติได้ รีบคว้ามือถือเครื่องเก่าขึ้นมาดูเวลาทันทีอย่างร้อนรน เมื่อเห็นว่าอีกสองชั่วโมงครึ่งถึงจะเข้างาน ก็โล่งอก


               “เอาๆ ยังพอมีเวลาจะแข่งอะไรแก้มือก็เอามาโลด บอกแล้วไงไอ้น้อง เกมไหนก็แพ้ ไม่ต้องเสียเวลาแข่งยังรู้เลย ว่าพี่ชนะใสๆ”

               “พูดมาก” ไอ้เด็กนั่นทำหน้ามุ่ยพร้อมกับสะบัดหน้าเชิดใส่ผม “เดี๋ยวไปคิดเกมก่อน อยู่ที่นี่แหละ แป๊บนึง!”

               “เออ ไปดีมาดี” ผมว่าพลางดูไอ้เด็กนั่นลุกไปที่กล่องของเล่นพลาสติกที่ผมเห็นเมื่อวาน ขุดคุยหาของ เสียงดังแกรกๆ ระหว่างที่ผมกำลังนั่งรอก็มีเสียง ‘ก๊อกๆ’ ดังสอดประสาน ผมหันไปตามเสียงก่อนจะเห็นว่าไอ้เด็กอ้วน (พอนั่งแล้วพุงมายื่นออกมาเยอะมากครับ) ตัวน้อยอายุประมาณหนึ่งขวบกำลังหยิบชิ้นส่วนเลโก้อันใหญ่เคาะกับพื้นกระเบื้อง แต่ถ้าคุณลองตั้งใจฟังอีกจะได้ยินเสียง ‘ต๊อกแต๊กๆ’ จากการพิมพ์คอมฯ จากคุณพ่อตุลย์ที่นั่งอยู่ในครัว

               ...


               ผมเพิ่งสังเกตว่าบ้านนี้มันบรรยากาศแบบว่า...อึมครึม?


               คือผมไม่รู้จะบรรยายว่ายังไงอะครับ อึดอัด?  คือมันเงียบแบบ เหมือนต่างคนต่างอยู่อะครับ นอกจากไอ้เสียงสามเสียงนี่ในบ้านก็มีแค่เสียงแอร์หึ่งๆ เท่านั้นเอง


               ...หรือมันเป็นเรื่องปกติของทุกบ้านอยู่แล้ว แต่บ้านป้าผมที่เคยอยู่มันโหวกเหวกโวยวายมากไปเองวะ?


               “ฟิ้วววววว” ผมหลุดออกจากภวังค์หลังจากได้ยินเสียงเลียนแบบเครื่องบินจากไอ้เด็กที่เมื่อกี้มันกำลังรื้อกล่องของเล่นอยู่


               ไหนบอกจะหาเกมมาแก้มือไงวะ!

 
               แต่ผมก็ไม่ได้แย้งอะไร นั่งอยู่กับพื้น ดูไอ้เด็กที่หนึ่งวางเครื่องบินบังคับวิทยุไว้กับพื้นแล้วหยิบรถบังคับมาไถลเล่นแทน พอเห็นว่าทุกอย่างเข้าสู่ความสงบ (ซึ่งผมว่ามันอึดอัด) ผมก็ตั้งท่าจะลุกไปหยิบกางเกงกับม้วนแบงค์ยี่สิบที่ยังวางไว้อยู่หน้าห้องมาคืนกับมาใช้หนี้เจ้าของห้อง ที่ยังนั่งพิมพ์งานต๊อกแต๊กหน้าเครียด แต่ขณะที่ผมกำลังจะลุก เด็กอ้วนนามตอนต้นก็คลานไปหาพี่ ใช้มือป้อมๆ ที่มีติ่งห้าอันงอกออกมาจับรถบังคับวิทยุที่กำลังไถลอยู่ไว้


               ที่หนึ่งหันขวับมองคนที่มาแย่งของเล่น ตอนต้นก็ทำตาปริบๆ อินโนเซ้นมองกลับไปแต่มือก็ไม่ขยับ


               สายตาของสองพี่น้องที่จ้องแบบไม่มีใครยอมใคร แทบจะมีกระแสไฟออกมาจากสายตาของทั้งคู่ แต่ถึงอย่างนั้นคุณพ่อตุลย์ที่มุดหัวอยู่หน้าโน๊ตบุ๊คก็ไม่รู้สึกถึงศึกสายเลือดนี้แต่อย่างใด


               เดี๋ยว! แล้วทำไมกูต้องมาอยู่เป็นกรรมการตรงเน้!


               พรึ่บ!


               หลังจากที่จ้องกันอยู่ได้สักพัก คนที่เป็นน้องอาศัยจังหวะที่พี่พุ่งความสนใจไปในเกมจ้องตามากกว่าคว้ารถของเล่นไปได้ในที่สุด คนเป็นพี่อ้าปากค้างกับความพ่ายแพ้ที่เกิดสองครั้งติดและจากสองคน กว่าจะหายเงิบไอ้ตัวเด็กอ้วนก็เอารถไป...


               เอิ่ม! มันเอารถบังคับวิทยุที่ราคาน่าจะสูงอยู่ไปเคาะกับพื้นกระเบื้องเสียงดัง โครมๆ แล้วคร๊าบบ!


               ผมอึ้งแดก


               คือถ้าจำไม่ผิดนี่ราคาเป็นพันนะรู้สึก ถ้ามึงจะเอามาเคาะเล่นวัดความแข็งแรงของกระเบื้องแบบนี้ นู่นมึงไปเล่นนกกระดาษไปไอ้อ้วน!

               “อย่านะ!” เสียงเล็กๆ ของที่หนึ่งร้องขึ้นก่อนจะชาร์จสกิลใส่น้องช่วยรถบังคับวิทยุที่ถูกกระทำได้ทันท่วงที ในที่สุดรถน้อยกลับมาสู่อ้อมอกของเจ้าของอีกครั้ง


               อื้อหือ นี่ขนาดผมไม่ได้ตั้งใจจับผิดนะ ผมเห็นตรงไฟหน้ารถแม่งแตกเลยอะ


               “ฮึก...”


               เสียงนี้...


               “ฮึก แงงงงงงงงงงงงงงงงงงง”


               ไอ้เด็กอ้วนมันร้องครับ!


               เกิดมาผมไม่เคยได้ยินเสียงเด็กร้องมาก่อน เลยหันรีหันขวางทำอะไรไม่ถูก จะเอาผ้าเช็ดเท้ามาอุดปากมันไว้ก่อนก็ไม่กล้า ผิดกับเด็กอีกคนที่ดูเหมือนว่าจะรำคาญมากกว่า ไม่ได้สนใจใยดีเสียงร้องจ๊าดังนั้นเลย


               “ที่หนึ่งทำอะไรน้องนะ? อย่าไปแย่งของเล่นน้องเขาสิลูก” ผมเงยหน้ามองคุณพ่อตุลย์ที่เดินเท้าเอวเข้ามายังห้องนั่งเล่น มองรถบังคับวิทยุในมือของลูกชายเหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้ส่งคืนไป

               “...”


               ผมหันมองไอ้เด็กที่หนึ่งที่มันก็มองหน้าพ่อตัวเองกลับ สายตากับใบหน้านั่นทำให้ผมรู้สึกสะอึกเล็กๆ ในอก เหมือนกับภาพของผมเองที่กำลังซ้อนลงไป ก่อนที่ผมจะเห็นว่าเด็กนั่นก็ยอมเอารถบังคับวิทยุให้อีกคนแต่โดยดีไม่ปริปากพูดอะไร พอเห็นทุกอย่างเรียบร้อยสงบ เด็กตอนต้นเลิกร้องไห้ คุณพ่อตุลย์ก็กลับไปนั่งทำงานที่โต๊ะกินข้าวต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น


               ...เมื่อกี้ผมบอกว่าไอ้เด็กที่หนึ่งนั่นก็คืนให้แต่โดยดี โดยไม่พูดอะไรใช่ไหมครับ ถ้ามองเผินๆ ก็ดูเหมือนเป็นเด็กดีที่เชื่อฟังพ่อธรรมดาๆ แต่ถ้ามองหน้าเด็กนั่น มองสายตานั่นก็จะเห็นว่าเขากำลังพูดอะไรมากมาย


               ถ้าไอ้แก่นั่น (สรรพนามเปลี่ยนไปตามอารมณ์) มองตาลูกตัวเองสักหน่อย คงไม่ตัดปัญหา ด้วยวิธีปัญญาอ่อนแบบนี้!


               ผมมองไอ้เด็กที่หนึ่งที่หันหลังให้น้องตัวเองไปเล่นของเล่นอื่นที่วางระเนระนาดอยู่ที่พื้นสลับกับมองไอ้เด็กอ้วนตอนต้นที่เอารถบังคับวิทยุมากระแทกๆ กับพื้นอีกรอบ


               ....


               หมับ!


               ผมคว้ารถบังคับวิทยุที่กำลังจะถูกกระแทกลงพื้นมาจากมือของเด็กตอนต้น แน่นอนตามระเบียบหลังจากที่อึ้งค้างก็ร้องไห้เสียงทันที เล่นเอาพี่ที่หนึ่งกับคุณพ่อตุลย์สะดุ้งกันเป็นแถบๆ


               “ร้องไห้ทำไม!? คิดว่าร้องไห้แล้วจะได้ของคืนไหม? ประสาท” ผมว่าไอ้เด็กตอนต้น ไม่สนใจสายตาดุๆ ของตาแก่ ตาลุง ไอ้คุณพ่อมักง่ายที่กำลังจ้องมองตรงมา นำซ้ำผมยังเอารถที่น่าสงสารนั่นไถลไปกับพื้นต่อหน้าไอ้เด็กอ้วนกับพ่อมันด้วย “อันนี้เขาเอาไว้เล่นแบบนี้ ถ้าเล่นไม่เป็นก็ไม่ต้องเล่น พี่เขาเล่นอยู่ไปแย่งมาทำไมละเอ้ออออ”

               “แงงงงงงงงงงงงงง ฮึก นื้อออ แงงงงงงงง” ไอ้เด็กนั่นยังแหกปาก

               “จะร้องทำไมเนี่ย เกิดเป็นลูกผู้ชายเปล่า โตขึ้นอยากใส่กระโปรงงั้นดิ ถึงได้แหกปากอยู่ได้ อยากเล่นก็เล่นให้มันเป็น เอาไปกระแทกๆ กับพื้นแบบเนี่ย คิดว่ามันราคา 2 บาทไง ไอ้เด็กxxx” คำท้ายนี่ผมแอบพูดเสียเบา คือพูดมากอารมณ์มันก็มาเต็มครับ แต่ลืมไปว่าพ่อแม่งก็อยู่ไง เลยยั้งตัวเองพูดให้ได้ยินแค่ผมกับไอ้เด็กอ้วน

               “แงงงงงงงง ฮึก แงงงงงงงงงงง” มันยังร้องอยู่ครับ

               “หรือว่าเตรียมตัวกับการเป็นกุ๊ย เป็นนักเลงถึงได้แย่งของๆ คนอื่นตั้งแต่เด็ก” ผมคว้าเลโก้ตัวใหญ่ยัดใส่มือป้อมๆ ของไอ้เด็กตอนต้น “อายุแค่นี้ก็เล่นแค่นี้ไปก่อน ไม่ใช่โจวซิงฉือ อย่ามาเป็นคนเล็กเล่นของเล่นใหญ่ เข้าใจป๊ะ!?” ผมถามเสียงสูง พุ่งหน้าแทบจะไปติดกับหน้าของไอ้เด็กนั่นพร้อมทำหน้าตานักเลงใส่

               “แอ๊…”


               เอ้า หยุดร้องซะงั้น ไอ้เด็กนั่นเลิกร้องเฉยเลยครับ แถมยังโบกแขนไปมาประหนึ่งว่าตัวเองเป็นผีเสื้ออ้วน ยิ้มแย้มแจ่มใสราวกับผมเป็นพระอาทิตย์ในการ์ตูนเทเลทับบี้


               กูเป็นแบดบอยนะรู้ปะ ตอนนี้โหด จริงจังอยู่ อย่ามายิ้มเดี๋ยวปั๊ด! โบกให้ นึกไม่พอ ผมนี่ง้างมือเลยครับ แต่ผมไม่ได้จะทำจริงนะ! ขู่เฉยๆ ถึงผมจะหล่อแต่ผมก็มีมนุษยธรรมนะครับ! ไม่ดื้อ ไม่โหด ไม่ร้าย!


               “ที่นายด่าอยู่ นั่นลูกฉันนะ”

               “แล้วก็น้องที่หนึ่งด้วย”


               ผมชะงัก เลื่อนสายตามองเจ้าของห้องที่กำลังยืนกอดอกค้ำหัวผมอยู่ก่อนจะเลื่อนมาอีกทางเห็นไอ้เด็กที่หนึ่งกำลังกอดอกมองผมอยู่เช่นกัน


               ไอ้เด็กนี่ นี่กูทำเพื่อนมึงนะเนี่ย!


               “...”


               ผมยืนขึ้น แหวกวงล้อมจากไอ้ครอบครัวห้อง B8002 ไปตรงประตูห้อง มือจับไว้ที่ลูกบิดแน่นพร้อมกับการเปิด ผมสูดหายใจเข้าลึก แล้วคลายออกช้าๆ ระหว่างดูไอ้เจ้าของห้องที่กำลังย่างสามขุมเข้ามาหาผม


               หน้าตาดุไปอะพี่ชาย
               

               แม้ใจจะหวาด แต่มาดผมยังเนี๊ยบ ว่าแล้วผมก็ลูบผมที่ใส่แว๊กหวีเสยไปด้านหลังหนึ่งที


               “เป็นเด็กเป็นเล็กก็ต้องด่าบ้างแหละ ก็มันทำผิดก่อนอะ ไอ้เด็กอ้วนนั่นมันแย่งของเล่นก่อนอะ ไอ้คุณพ่อมันก็ห่วยไง แทนที่จะแก้ปัญหาดีๆ กับใช้วิธีมักง่าย ผมไม่ด่าพ่อมันไปด้วยก็ดีแค่ไหนแล้ว!”


               ผมว่าเสร็จ ไอ้คนที่กำลังก้าวย่างสามขุมมาเมื่อกี้แทบเปลี่ยนมาเป็นกระโจนใส่! แต่ผมสกิลสปีดเต็มแม็ก! เปิดประตูออกไปแล้วปิดปัง! คว้ากางเกงกับม้วนแบงค์ยี่สิบแล้วพุ่งตรงลงบันไดทันที ลิฟต์เลิฟต์งานนี้ไม่มีพึ่ง!


               งานนี้ขอลาก่อนแล้วกัน ไปละ บรัยยยส์!!

               






TBC
มาแล้วลูกทั้งสองของคุณพ่อตุลย์ น่ารักน่าหยิกเลยใช่ม๊าาา #daddybelover
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 3 (6/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-06-2015 20:39:33
ของยังไม่คืนเลยเอส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 3 (6/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 06-06-2015 20:59:14
ตุลย์ทำดีแต่ไม่มีใครมองเห็นเลยอ่า~ :laugh: คุณพ่อไม่ดุน้องที่หนึ่งบ้างล่ะคะ ถึงยังไงน้องก็ไม่ควรไปว่าตุลย์ว่าเป็นเด็กขายแบบนั้นน้าา~
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 3 (6/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 06-06-2015 21:48:47
โอ้ยฮาอ่ะ 5555+ ชอบเอสมากๆ สอนเด็กอ้วนได้ดี ไม่สนใจพ่อเลย ฮ่าๆ

แต่ว่าของที่จะตั้งใจมาคืนยังไม่ได้คืนเลยนะ หนีไปอีกละ กร๊ากๆ


มาต่ออีกนะครับคนเขียน สนุกมากๆ ได้อ่านแล้วมีความสุข
อ่านไปยิ้มไป ผมว่าผมบ้าแน่ๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 3 (6/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 06-06-2015 22:23:16
ตุลย์ทำดีแต่ไม่มีใครมองเห็นเลยอ่า~ :laugh: คุณพ่อไม่ดุน้องที่หนึ่งบ้างล่ะคะ ถึงยังไงน้องก็ไม่ควรไปว่าตุลย์ว่าเป็นเด็กขายแบบนั้นน้าา~

เดี๋ยวๆ เข้าใจอะไรผิดแล้ว ตุลย์น่ะ พ่อที่หนึ่ง แล้วไอ้ที่โดนด่าว่าขายตัวน่ะคือเอส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 3 (6/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 06-06-2015 23:21:53
น้องเอสสู้ชีวิตจริง

 :katai2-1: ชื่นชมน้องค่ะ

แต่น้องไม่คิดจะโยนถุงกกน.กะมัดแบงค์ยี่สิบบาทคืนเฮียเขาหน่อยเหรอคะ  :mew3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 3 (6/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 07-06-2015 00:00:16
คือมึงลืมคืนตัง กับกางเกงป่าววะ เอส  :jul3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 3 (6/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 07-06-2015 01:18:13
ฮาจริงจังนะเนี่ย 5555
ว่าแต่ที่เอาของกลับไป เพื่อจะได้มาใหม่อีกรอบใช่ป่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 3 (6/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 07-06-2015 02:12:08
 :jul3:


 :L2: :L1:
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 3 (6/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 07-06-2015 02:15:56
ฮ่าๆๆๆๆๆ น่ารักกก เอสแสบมากก ไม่สนแม้กระทั่งเด็ก  ฮ่าๆๆๆ
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 3 (6/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 07-06-2015 05:10:07
ขำมากกกกก น้องเอสนี่ตัวจริงสุดๆ ใจกล้ามาก ไม่ไว้หน้าเบย
ขำที่สุดตรงด่าน้องตอนต้นว่าไอ้เด็กอ้วนเนี่ยแหละ นึกภาพแปะยิ้มขึ้นมาทันใด 5555
ปล.ตอนต่อไปมาด่วนนนนนน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 3 (6/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 07-06-2015 08:02:22
เอสตัวแซบบบบบ 55555555555
คือเจ๋งจิงๆอ่ะ เปนตัวแซบสร้างสีสันมากๆ ^0^
พี่ตุลย์เส้นเลือดจะแตกแระมั้ง 55
แต่ว่านะ บ้านของตุลย์มันก้อแปลกๆ อึดอัดๆ จิงๆ
มีเส มาช่วยจะได้สดใส อิอิ ><
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 3 (6/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 07-06-2015 14:36:34
ฮาอะ 55555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 3 (6/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 07-06-2015 18:37:39
เจ๋งอ่ะ สั่งสอนคุณพ่อไปด้วยเลยค่า  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 3 (6/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 07-06-2015 19:33:18
คุณพ่อไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูกๆเท่าที่ควรนะคะ  o18
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 4 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 08-06-2015 01:06:45
ตอนที่ 4





             “หัวหน้าครับ ผมส่งแผนตลาดของเรื่อง ‘แค้นพิพากษา’ ไว้ที่โต๊ะให้แล้วนะครับ” ผมพูดขึ้นขณะที่กำลังเห็นว่าหัวหน้าฝ่ายขายกำลังเดินเข้ามานั่งประจำโต๊ะตรงหัวมุม

             “ตุลย์นี่ทำงานเสร็จเร็วตลอดเลยนะ น่าอิจฉาจริงๆ” พี่ณีที่นั่งทำงานอยู่ในคอกบุผ้าหยาบหน้าตรงข้ามกับโต๊ะทำงานของผม โผล่หัวขึ้นมาล้อผมที่กำลังเก็บข้าวของใส่กระเป๋าทำงาน

             “ผมเอาไปทำที่บ้านนะครับ เผลอทำไปทั้งคืนก็เลยเสร็จเร็ว” ผมยิ้มตอบ

             “เดี๋ยวฉันดูให้ ถ้าเสร็จเร็วก็คงดูเสร็จพรุ่งนี้นะ” หัวหน้าตอบพลางยกแก้วกาแฟในมือขึ้นจิบ กลิ่นบุหรี่อ่อนๆ ที่โชยมาทำให้พอรู้ได้ว่าเมื่อครู่คงไปห้องสูบบุหรี่ ผมไม่รู้หรอกครับว่างานของหัวหน้าฝ่ายขายจะเยอะหนักแค่ไหน แต่ก็คงหนักพอดู เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลจำนวนมาก การคาดคะเนให้หนังสือของสำนักพิมพ์เราขายออก แข่งกับสำนักพิมพ์อื่นๆ “แล้วนี่จะกลับแล้วใช่ไหม?”

             “ครับ หัวหน้ามีงานอะไรเหลือหรือเปล่าครับ?”

             “ไม่มีๆ ถามเฉยๆ ทำงานเสร็จเร็วก็ได้กลับเร็ว” หัวหน้าหัวเราะอารมณ์ดีเล็กน้อยก่อนจะหันไปตะโกนบอกกับลูกน้องคนอื่นๆ ที่ยังนั่งก้มหน้าก้มตาทำงานในคอกทำงานของตัวเองไป “ได้ยินไหม ทำงานเร็วก็ได้กลับเร็ว ฉันรู้นะว่าใครแอบไปดอดจีบฝ่ายประชาสัมพันธ์ แอบอู้งานไป กลับตีสี่แน่วันนี้” แล้วหัวหน้าก็หัวเราะ


             ผมยิ้มนิดหน่อย พอเก็บของเรียบร้อย ก็บอกลารุ่นพี่ที่ทำงานและหัวหน้า งานของผมเหมือนเป็นวัฏจักรวนลูปกันไป ช่วงที่บรรณาธิการไปรับต้นฉบับ ตรวจ แก้พิมพ์ อะไรก็แล้วแต่ช่วงนั้นฝ่ายขายอย่างผมงานจะไม่หนักอะไร แต่พอถึงช่วงต้นฉบับเรียบร้อยพร้อมตีพิมพ์ ถึงค่อยเป็นหน้าที่ของผม ที่จะเข้าไปประชุมปรึกษาหารือเรื่องจำนวนตีพิมพ์ และการวางแผนการขายไปตามร้านหนังสือต่างๆ


             คำว่า ‘วางแผนการขาย’ เนี่ยแหละ ที่เป็นช่วงวุ่นวายที่สุดของฝ่ายผม


             ผมหมุนคอไปมา บีบนวดไหล่คลายความปวดเมื่อย ช่วงของการ ‘วางแผนการขาย’ เพิ่งจบลงไป กลับเข้าสู่ยุคของการแทบไม่มีงานต้องทำอีกครั้ง


             หลังจากที่ผมเพิ่งได้ถอนหายใจ ผ่อนคลายจากการทำงานเงยหน้ามองภาพตรงหน้าก่อนจะยืนนิ่งเหมือนพลังงานถูกสูบไปอีกครั้ง ภาพตรงหน้าของผมสั่นเครือเป็นระลอกๆ จากไอความร้อนที่พุ่งออกมาจากพื้น ผมตื่นมาทำงานแต่เช้า กลับก็มืด เกือบจะลืมไปแล้วว่าแดดประเทศไทยตอนเที่ยงตรงน่ะแรงแค่ไหน


             “หิวแล้วอะ ไปกินข้าวในห้างเถอะ หาไรกินเย็นๆ กัน”


             ผมเลื่อนสายตามองคู่รักวัยมหาวิทยาลัยที่เพิ่งเดินผ่านผมไป บางทีผมก็อิจฉานะ พอผมมีลูก วัยมหา’ลัยของผมก็พลอยหายไปด้วย ผมเลิกหาความสุขใส่ตัวเองตอนนั้น อะไรที่ผมมีผมจะให้ลูกก่อน หาเงินได้ก็ให้ลูกก่อน ได้กินอะไรก็ต้องให้ลูกกินก่อน พอจะดูบอลถ้าลูกร้องขึ้นมาผมก็ต้องรีบลุกไปดูเขา แต่มันก็ช่วยไม่ได้ เพราะตั้งแต่ผมมีลูก ความสุขของผมก็คือการมีเขา


             ...จะว่าไปผมไม่ได้ไปห้างนานแค่ไหนแล้วนะ














              ผมเดินเข้าไปในเซเว่นตั้งใจจะซื้อข้าวกล่องกลับไปกินที่ห้อง ถึงแม้ที่หนึ่งจะอยู่ที่โรงเรียน แต่ตอนต้นก็ยังอยู่ในห้อง ถึงแม้จะมีป้าสร้อยคอยดูแลให้เหมือนทุกที แต่ไม่มีใครทำให้ผมสบายใจเท่ากับดูลูกด้วยสายตาของตัวเอง อีกอย่างป้าสร้อยกับตอนต้นก็ไม่ได้เข้ากันดีสักเท่าไหร่เลย เฮ้อ


             “รับโออิชิอีกขวดไหมครับ? ถ้าซื้อสองขวดลดราคานะครับ”

             “ไม่ครับ...นาย!”

             “ตาแก่!”

             ตะ ตาแก่!?


             อายุยังไม่ถึงเลขสามเลยนะเว๊ย เรียกผมตาแก่ได้ไงวะ ไอ้เด็กนี่!


             เมื่อครู่ผมเงยหน้าขึ้นจากกระเป๋าเงินเพื่อจะตอบพนักงานเซเว่นฯ ว่าผมไม่รับโออิชิอีกขวด แต่พอเงยหน้าก็เจอว่าพนักงานคนนั้นคือเด็กตัวแสบที่ทำผมเปิดข้าง เสยเซ็ตไปด้านข้างหลัง และมีต่างหูสามเหลี่ยมห้อยลง


             เด็กคนเดียวกับที่บอกแม่ผมว่าเป็นแฟนผม จนผมต้องนั่งอธิบายให้แม่ฟังจนเข้างานสาย และเมื่ออาทิตย์ก่อนก็เป็นคนว่าตอนต้นต่อหน้าต่อตาผม ถ้าให้ย้อนไปอีกก็ คนที่ลากผมขึ้นแท็กซี่แล้วให้ผมจ่ายค่าแท็กซี่ และคนที่โดนต่อยกระเด็นใส่ผม จนผมต้องตาลีตาเหลือกวิ่งหนีไปพร้อมกันด้วย


             ไอ้เด็กเอส!


             ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด


             พอเด็กนั่นเห็นว่าเป็นผมก็คว้าของผมไปสแกนบาร์โค้ดอย่างไว ความเร็วระดับที่เล่นเอาลูกค้าที่ต่อแถวอยู่ถึงกับอึ้ง พอผมทำท่าจะพูด ถุงเซเว่นที่ใส่ของผมทุกชิ้นก็ถูกยื่นมาแล้ว


             “135 บาทครับ รีบยื่นเงินมาแล้วรีบออกไปเลยครับ มีลูกค้าต่อแถวเยอะครับ!”

             “หะ?” ผมร้องเสียงหลง แต่ก็ยื่นเงินให้


             มันจะทำท่าทำทางไม่อยากเจอผมทำไม ผมมากกว่ามั้งที่ควรจะทำท่าแบบนั้น ไอ้เด็กนี่ทำชีวิตผมวุ่นวาย พาเรื่องปวดหัวมาให้ผมทุกครั้งที่เจอ ผมนี่ไม่ได้ทำอะไรเลย


             “นี่ครับเงินทอน เชิญออกไปจากเซเว่นเดี๋ยวนี้เลยครับ” ไอ้เด็กนั่นว่า ไม่พอยังใช้มือยื่นมาดันต้นแขนผมให้ออกไปจากแถวอีก “เอ้ย เดี๋ยวพี่ชาย! ผมเลิกงานตอนบ่ายโมงอะ รอแป๊บนึงได้ปะ มีเรื่องคุยด้วย!” ขณะที่ผมกำลังจะออกจากเซเว่น เอสก็ตะโกนเรียกเอาไว้ก่อน ผมขมวดคิ้วแต่ก็ยอมพยักหน้า


             อะไรวะ เมื่อกี้ยังทำท่าไล่ผมอยู่เลย แล้วมาบอกผมให้รอซะงั้น


             “ฉันรอร้านคาเฟ่ที่อยู่ข้างๆ นี่นะ”

             “อะเค!” มันทำมือโอเคมาให้ผมก่อนจะกลับไปแสกนบาร์โค้ดลูกค้าคนอื่นต่อ











             “รอนานปะ”

             “ก็แค่สั่งแก้วที่สามแล้ว”

             “บ้าปะ สั่งแก้วเดียวก็พอ แล้วก็รอให้น้ำแข็งละลายกินน้ำเปล่าได้ต่อ ฟรี ไม่เสียตัง น่อววว โง่นะเนี่ย”

             “...”

             “หยอกนิดหยอกหน่อยต้องทำหน้าดุใส่ด้วย”

             “ฉันไม่ได้ทำหน้าดุ”

             “ก็คิ้วขมวดกันขนาดนี้ หน้ายิ้มมั้งเนี่ย” เด็กนั่นตัวนั่งลงที่เก้าอี้บุผ้าที่อยู่ตรงข้ามผม ทันทีที่อีกฝ่ายนั่งลงผมได้ยินเสียง ‘เฮ้ย แก’ จากกลุ่มเด็กสาว ม.ปลายที่นั่งอยู่ด้านหลัง ไม่ต้องสงสัยให้มากความก็พอเดาได้ว่าคงแอบกรี๊ดเจ้าเด็กที่ชื่อ ‘เอส’ เนี่ยแหละ


             เดิมทีเจ้าเด็กนั่นก็ลุคแบดบอยอยู่แล้วยิ่งใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว ยิ่งทำให้คนตรงหน้าราวกับหลุดออกมาจากการ์ตูนญี่ปุ่น


             แต่จริงๆ มันเป็นแค่เด็กแสบ ร้ายกาจเท่านั้นแหละครับ


             “ฉันสายตายาว พอนายมาอยู่ใกล้ๆ แล้วมันมองไม่ค่อยชัดก็เลยขมวดคิ้วแค่นั้นแหละ”

             “ว๊ายย แก่นะเนี่ยยย” มันทำหน้าล้อผม


             ผมขอย้ำอีกที ผมอายุ ’29’ ไม่ใช่ ‘49’


             “ฉันไปละ ฝากจ่ายค่าน้ำสามแก้วนี่ด้วยแล้วกัน” ผมทำท่าทุกลุก


             หมับ!


             “เดี๋ยวดิ พี่ชาย เค้าล้อเล่นนะฮืออ เค้ามิมีตังหรอก ทั้งเนื้อทั้งตัวมียี่สิบบาท พี่ชายอย่าทำกับเค้าแบบนี้เลยนะ~” มันคว้าแขนผม ทำเสียงน่าสงสารพร้อมทำตาปริบๆ มาให้ ผมกลับไปนั่งตามเดิม ผมก็แค่ล้อเล่นแหละครับ ใครมันจะไปทำแบบนั้น

             “แล้วนี่นายมีอะไรจะคุยกับฉัน?”


             เอสปล่อยมือที่จับแขนผม ก้มหน้ามองตักพูดหมุบหมิบอะไรบางอย่างที่ผมได้ยินไม่ถนัดเท่าไหร่นัก มันเงยหน้าขึ้นมามองท่าทางเหมือนลังเลอะไรบางอย่างทำให้ผมต้องเลิกคิ้วขึ้น


             “คือ...”

             “...”

             “คือ ว่าตอนนี้เราก็ได้นั่งคุยกันดีๆ แล้วนะ”

             “อาหะ แล้ว?”

             “แล้วที่นี่ก็เป็นที่สาธารณะ...”

             “แล้ว?” ผมขึ้นเสียงสูง สาธารณะแล้วยังไง?

             “ผมก็คิดมาหลายวันแล้วนะ!”

             “เมื่อไหร่จะเข้าเรื่อง”

             “คือ ผม...”


             Rrrrrrrrrrrrrrrrrr


             เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นขัดจังหวะ ผมรีบหยิบขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นป้าสร้อยโทรมาก็รีบกดรับ

             
             “ว่าไงครับป้า มีอะไรหรือเปล่าครับ?”

             /ตุลย์จะกลับมาเมื่อไหร่?/

             “เอ่อ ตอนนี้กำลังเดินทางกลับอยู่ครับ”

             /อ๋อ โอเคคือลูกป้าโทรมาบอกว่ากำลังเดินทางมาเยี่ยมป้ากับลุงน่ะ ป้าก็เลยว่าจะกลับห้องไปเตรียมข้าวปลาให้ลูก แต่ป้าก็ไม่กล้าทิ้งตอนต้นไว้คนเดียวก็เลยโทรมาถามดู/

             “ป้าสร้อยช่วยดูตอนต้นให้ผมสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมจะรีบกลับครับ”

             /โอเคจ๊า/ ผมกดวางสายก่อนจะหันไปถามเอสที่นั่งดูผมคุยโทรศัพท์อยู่

             “ที่จะคุยเป็นเรื่องสำคัญหรือเปล่า?”

             “ก็...สำคัญ...มั้ง”

             “งั้นปะ ฉันต้องรีบกลับบ้านไปดูลูก ย้ายที่คุยไปบ้านฉัน”

             “เฮ้ย ไม่ไป!” เด็กนั่นรีบปฏิเสธเสียงดัง จนคนที่นั่งโต๊ะอื่นหันมามอง

             “เสียงดังทำไมเนี่ย? ไปบ้านฉันเฉยๆ ไม่ได้ไปป่าช้า ก็เคยไปตั้งสองครั้งแล้วนี่”

             “มันก็ใช่...”

             “ถ้างั้นก็รีบมาเร็วๆ ลูกฉันรออยู่” ผมไม่คิดสนใจสีหน้าลำบากใจของอีกฝ่าย เดินไปที่เคาเตอร์เพื่อจ่ายเงินค่าเครื่องดื่ม ก่อนจะเดินนำเอสออกมาจากร้าน เด็กนั่นก็ยอมเดินตามมาแต่โดยดี แต่ทำท่าเหมือนผมลากคอให้มาด้วย พอขึ้นแท็กซี่ก็นั่งทำท่าเหมือนพร้อมจะกระโจนออกจากรถตลอดเวลา


             อะไรของมัน ฮอร์โมนว้าวุ่น?












             “ไอ้อันธพาล! ไอ้คนนิสัยไม่ดี มาหยิกตูดที่หนึ่งทำไม!?”

             “ก็แกบังอาจผลักประตูหนีบมือพี่อะ! จะได้รู้ซะบ้างว่าเวลาเนื้อโดนหนีบจะได้เป็นยังไงไง!”

             “ก็อยากจะซื่อบื้อยื่นมือมาให้โดนหนีบทำไมละ!”

             “แล้วจะยืนบื้อให้โดนหยิกตูดทำไมละ!”


             เอสทำท่าที่จะพูดธุระให้เสร็จระหว่างขึ้นลิฟต์มาด้วยกัน แต่เพราะมัวแต่อ้ำๆ อึ้งๆ ยืนอยู่หน้าห้องแล้วก็ยังไม่ได้พูด พอผมเปิดประตูห้องเข้าไปปุ๊บ ก็ทะเลาะกับที่หนึ่งลูกชายคนโตของผมปั๊บทันที ผมไม่ได้สนใจสองคนนั้นมากนัก เดินดุ่มๆ วางสูทกับกระเป๋าทำงานแล้วพุ่งไปหาตอนต้นที่ร้องไห้เสียงดังอยู่ในอ้อมแขนป้าสร้อย


             ตอนต้นเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ป้าสร้อยอุ้ม จะร้องไห้เสียงดังไปถึงห้องอื่น แต่ผมไม่รู้จะทำยังไงจึงทำได้แค่บอกป้าสร้อยว่าพยายามอุ้มตอนต้นให้น้อยที่สุด


             “คือแกคลานเข้ามาในครัวน่ะ กลัวจะเป็นอันตรายก็เลยจะอุ้มไปที่นั่งเล่น”

             “อ๋อครับ” ผมโยกลูกชายตัวน้อยทันทีที่อยู่ในอ้อมแขนผมเขาก็เงียบลงซบบ่าสะอึกสะอื้นอย่างน่าเอ็นดู “ขอบคุณมากนะครับป้าที่ช่วยดูแลตอนต้นให้ เอ่อ...ผมถามหน่อย”

             “จ๊ะ?”

             “ทำไมที่หนึ่งอยู่ห้องละครับ ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาเลิกเรียนไม่ใช่หรอ?” พอลูกคนเล็กสงบลงผมก็ถามถึงลูกคนโตที่กำลังเอาดาบของเล่นฟาดฟันกันอยู่ในห้องนั่งเล่น

             “คือ...ครูพากลับมาน่ะ บอกแค่ว่าแกร้องจะกลับบ้านอย่างเดียวเลย ถ้าไม่พากลับก็จะกลับเองก็เลยต้องพากลับมา แล้วครูก็ฝากให้บอกตุลย์ด้วยนะว่าถ้าว่างก็ให้ไปที่พบครูสักหน่อย”

             “...” ผมเงียบ ก่อนจะถอนหายใจแล้วพยักหน้ารับ “ครับ ป้าสร้อยกลับห้องได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมดูลูกเอง ขอบคุณมากนะครับ”

             “จ๊า งั้นป้ากลับแล้วนะ พรุ่งนี้ป้าจะมาดูให้ใหม่”

             “ข้าว่าเจ้ายอมแพ้เสียเถิด ท่านจักรพรรดิที่หนึ่ง ตอนนี้เจ้าปราชัยแก่ข้าแล้ว หากยังขัดขืนหัวของเจ้าคงได้หลุดออกจากบ่า”


             ผมหันไปตามเสียงที่ถูกดัดให้เข้มนั่นก่อนจะเห็นว่าลูกชายคนโตของผมกำลังนอนราบไปกับโซฟา ดาบของเล่นตกอยู่ที่พื้นโดยมีเด็กแสบที่ชื่อเอสกำลังยืนค่อมแล้วเอาดาบของเล่นอีกอันจ่อคอลูกผมอยู่

             “เป็นการสู้แบบเท่าเทียมยิ่งนัก ท่านนักดาบ ตัวของลูกข้ากับตัวของท่านเท่ากันเสียเหลือเกิน” ผมหัวเราะในลำคอพลางส่ายหัว พอได้ยินเสียงผม นักดาบเอสก็หันมาและจังหวะนั่นลูกชายของผมก็ลุกขึ้นแล้วผลักอีกฝ่าย!

             “เฮ้ยย!”


             ตุ๊บ!


             “ตอนนี้เจ้าต่างหากที่ปราชัยแก่ข้าแล้ว เจ้ายักษ์!”

             “เล่นทีเผลอนี่หว่า ขี้โกง! ไอ้เด็กเลวว~”

             “ในศึกสงคราม ใครกันสอนให้เจ้าละความสนใจจากศัตรู” ที่หนึ่งหัวเราะเสียงดัง นั่งทับกลางลำตัวของผู้เป็นแขก พอเห็นท่าทางสนุกของลูกชายที่ผมไม่ได้เห็นบ่อยนักก็ทำให้เผลอยิ้มออกมา


             ครั้งล่าสุดที่เด็กที่ชื่อเอสนั่นมาที่ห้องผม หลังจากกลับไปแล้วผมก็กลับมาถามที่หนึ่งอีกครั้ง ถึงตอนแรกลูกของผมจะทำท่าอึกอักเหมือนคนน้อยใจที่ผมเข้าข้างลูกคนเล็กมากกว่า แต่ท้ายที่สุดเขาก็ยอมเล่าให้ฟัง ว่าตอนต้นเป็นคนแยกของเขาก่อน แถมเอาของเล่นไปทุบกับพื้นจนไฟหน้าแตกและสีถลอก


             เพราะผมมัวยุ่งแต่กับการวางแผนการขาย เลยแก้ปัญหาส่งๆ ไป พอผมได้ฟังจึงได้ตำหนิตัวเองไปยกใหญ่ ว่าทำไมผมได้ทำแบบนั้นลงไป


             และครั้งนี้ก็เหมือนกัน พอเห็นท่าทางสนุกสนานของที่หนึ่ง ผมก็เพิ่งสังเกตว่า เขาแทบจะไม่ได้ทำหน้าแบบนั้นเวลาอยู่กับผมเลย...


             ผมเดินอุ้มตอนต้นเข้าไปในครัว หมายจะนั่งลงโต๊ะอาหารดูสองคนนั้นทะเลาะกัน แต่ไอ้เด็กเอสกลับผละออกจากลูกผมแล้วพุ่งมานั่งที่โต๊ะอาหารกับผมด้วย


             “ว่าและ ว่ามาห้องนี้ได้ตีกับเด็กเว...เอ๊ย ตีกับที่หนึ่งก่อน คืองี้นะเรื่องที่ผมจะคุยด้วย...”

             “อันธพาลหนีได้ไงอะ เรายังสู้กันอยู่นะ!”

             “ไม่ได้หนีเว๊ย เขาเรียกว่าไปตั้งตัว เดี๋ยวจะกลับไปสู้ใหม่ นั่งนิ่งๆ แล้วท่องสูตรคูณไป ชิ่ว!” ไม่วายหันไปทะเลาะกับลูกผมอีก “คืองี้นะ...” สูดลมหายใจอีกหนึ่งที “คือผมจะมาขอโทษเรื่องที่ผมพูดกับแม่คุณอะ!”

             “หะ เรื่องนี้หรอที่นายตั้งใจจะพูดกับฉันมาตลอด?” ผมเลิกคิ้ว “นี่คือเรื่องสำคัญแล้วใช่ไหม?”

             “เฮ้ย อย่ามาพูดด้วยเสียงดูถูกแบบนี้นะ! ผู้ชายไม่ใช่จะพูดขอโทษง่ายๆ นะครับพี่ชาย ผมพูดขอโทษไม่บ่อยด้วยสิ มันรู้สึกแบบ ปากหนักไรงี้อะ แล้วผมก็ขอยืนยันว่า ผมไม่ผิดนะ ก็ป้าฮาร์ดคอร์ เอ๊ย! คุณแม่พูดกับผมแบบนั้นก่อนนี่ ที่ผมขอโทษนี่ ขอโทษที่เสียมารยาทหรอกนะ!”


             อ๋อ ฟอร์มเยอะ


             “ไม่เป็นไร แม่ฉันก็ผิดแหละ พอดีแม่ฉันคิดมากกับเรื่องแบบนั้นมากไปหน่อย เรื่องคู่ครอง แฟน หรืออะไรเทือกๆ นั้น ฉันอธิบายให้แม่ฟังแล้ว แล้วแม่ก็ฝากมาขอโทษนายด้วย”

             “แล้วก็เรื่อง ที่ไปว่าลูกพี่ชายอ่ะ”

             “เลิกเรียกพี่ชายดิ้ ชื่อตุลย์ ไม่รู้สึกขนลุกหรอเวลาเรียก พี่ชายอย่างนู่น พี่ชายอย่างนี้น่ะ”

             “เอ้า พี่ชายคงแก่กว่าผมมากแหละ จะเรียกลุงก็ดูเสียมารยาท จะเรียกพี่...อายุก็ห่างมากเกิน เรียกน้า เรียกอา ไม่มีอะไรเวิร์กสักอย่าง”

             “แล้วเรียกพี่ตุลย์กับพี่ชายมันต่างกันตรงไหน”

             “ต่างกันตรงความรู้สึกเนี่ยแหละ”

             “ไหนลองเรียกพี่ตุลย์ดิ้”

             “พี่...ตุลย์” เจ้าเด็กเอสเรียกผมเสียงเบา สักพักมันก็ทำน่าพะอืดพะอมแล้วลูบแขนตัวเอง “มันขนลุกอะ ไม่รู้ทำไม!”

             “...เออ แล้วแต่เลย”

             “กลับเข้าเรื่องๆ คืองี้ผมอยากขอโทษพี่ชาย ที่คราวที่แล้วไปว่าไอ้เด็กนั่นอะ” อีกฝ่ายว่าพร้อมกับชี้มาที่ลูกคนเล็กของผมที่กำลังอุ้มอยู่ ตอนต้นมองอีกฝ่ายตาปริบๆ พอเห็นว่ามีแขนยื่นมาทางตนก็คงคิดว่าขออุ้มละมั้ง เลยดิ้นจากอ้อมแขนผมทำท่าจะไปหาเจ้าเด็กเอสนั่น

             “จะไปหาพี่เอสหรอลูก หื้ม?” ผมถามก่อนจะหอมแก้มย้วยๆ นั่นฟอดใหญ่ คำตอบที่ได้เป็นเพียงแค่แรงดิ้นที่มากขึ้น และนั่นก็ทำให้ผมยอมปล่อยเขาลงกับพื้นโต๊ะกินข้าว ทันทีที่ตัวเป็นอิสระจากผมก็คลานดุ๊กดิ๊กไปหาคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามผมทันที!


             ป้าสร้อยที่ช่วยเลี้ยงมาตั้งหลายเดือนไม่ยอมให้อุ้ม แต่จะไปหาไอ้คนที่ด่าตนแถมเจอกันแค่สองครั้งอีกเนี่ยนะ!


             “อย่าเข้ามานะเว๊ย กูมีพระ!”

             “พูดกับเด็กเพราะๆ หน่อยสิ เดี๋ยวตอนต้นก็จำหรอก”

             “อ่า...อย่าอย่างกรายเข้ามาหากระผมน่ะขอรับ กระผมมีพระ!”


             มันกวนตีนใช่ไหม?


             “แอ๊!”

             “แอ๊ พ่อง! แอ๊ อะไรละ พี่ไม่ถูกกับเด็กครับ ไปหาพ่อตุลย์ไป๊ ชิ่ว” เจ้าเด็กเอสสะบัดมือไล่ แต่นั่นไม่ทำให้ตอนต้นหยุดเลย เพียงแค่เปลี่ยนจากคลานเป็นนั่งจ้องหน้าเท่านั้น “อย่ามามองด้วยสายตาแบบนั้น เจ้าเด็กอ้วน ไม่น่ารักเลยบอกตรง!”


             มีสะบัดหน้าใส่ด้วยนะ


             “อันธพาล! นี่รอสู้ด้วยนานแล้วนะ ถ้าจะยอมแพ้ก็เอาหน้ามาให้เขียนว่าขี้ขลาดเดี๋ยวนี้เลย”

             “ใจเย็นดิเว๊ย!” มันตะโกนใส่ลูกคนโตของผม “เอ๊ะ! ไอ้นี่ อย่าเข้ามา เกลียดเด็ก เป็นภูมิแพ้เด็ก เข้ามาแล้วหัวใจจะวายเข้าใจไหม พ่อแกอยู่ฝั่งนู่น ไปชิ่วไอ้อ้วน!” มันไล่ลูกคนเล็กของผม


             ผมมองภาพตรงหน้าพลางนึกขำกับภาพตรงหน้า เหมือนกับผมมีลูกชายอยู่สามคน แต่ความรู้สึกหนึ่งก็พุ่งขึ้นมาทำให้ผมต้องถอนใจ


             ถ้าแม่ของที่หนึ่งกับตอนต้นยังอยู่กับผม...


             ผมคิดมาหลายวันแล้ว ว่าที่จริงแล้วการที่ผมเรียกลูกคนเดียวมันยังไม่ดีพอหรือเปล่า ปัญหาของครอบครัวผมยิ่งคิดก็ยิ่งผุดขึ้นมา จนผมนี่ตราหน้าตัวเองเลยว่าเป็นพ่อที่ห่วยแตกที่สุด


             หรือว่าจะถึงเวลาหาผู้หญิงสักคนมาเป็นเมียใหม่ได้แล้วน๊าา






TBC
อย่าสงสัยว่าทำไม ดำเนินช่วงนี้อืด
เพราะว่า อยากจะให้เห็นปัญหาของครอบครัวนึงที่เรียกลูกโดย 'ผู้ชาย' คนเดียว
ให้รู้ที่ไป ที่มา ของพ่อตุลย์และหนูเอส

ส่วนสาเหตุว่าทำไมหนูเอสไปโผล่เป็นพนักงานเซเว่น เจอคำตอบในตอนหน้าา
#daddybelover


ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจที่ผลักดันให้ อัพติดต่อกันมา 5 วันรวด! 555555555555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 4 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 08-06-2015 01:51:04
เป้นกำลังใจให้ต่อไปและมาอัพทุกวันจนจบ  o13

ชอบมาก อาอีเอสสุดๆ ทำตัวแบบเดียวมีสาระ เดียวไร้สาระ บางทีก็ปัญาอ่อน  555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 4 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-06-2015 02:25:27
มีแววว่าจะได้พี่เลี้ยงเด็กใหม่
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 4 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 08-06-2015 02:38:24
เด้กๆดูติดเอสแปลกๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 4 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 08-06-2015 02:51:07
 :laugh:

 :L1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 4 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 08-06-2015 03:32:05
น่ารักมากๆ เลยยยย  :-[ ชอบเอส ที่หนึ่งกับตอนต้นก็น่ารัก เด็กๆ ดูมีความสุขเวลาอยู่กับเอส  :mew1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 4 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 08-06-2015 03:43:54
ขำมากกกกกกกกกก ไม่ว่ายังไงก็รู้สึกขำที่เอสเรียกตอนต้นว่า ไอ้อ้วน อยู่ดี คือนึกภาพหนูเบล (เบลเซบับ) เวอร์ชั่นอ้วนตุ๊ยนุ๊ยขึ้นมาเลย 555 ที่หนึ่งเองก็น่ารักแบบเด็กผู้ชายนะ เอาเป็นว่าหลงเด็กสองคนนี้จริงๆ
ตุลย์คะ ไม่คิดอยากได้เอสเป็นภรรเมียเหรอคะ จะได้ไม่ต้องไปแก้ต่างอะไรให้คุณแม่ต้องระแวง และวุ่นวาย
ปล.รอตอนต่อไปจ้าาาา ลงทุกวันน่ะดีแล้ว!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 4 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 08-06-2015 05:22:31
ขำเอสมากมายเลยค่าา~ :m20: (ประเด็นคือจะหัวเราะก็ไม่ได้ เกร็งจะแย่แล้วค่ะ เพราะว่านั่งอ่านอยู่ในรถเมล์นี่สิค้าา เก็บกดสุดๆ ไปเลย  :serius2: ) ส่วนพี่ตุลย์แค่หาพี่เลี้ยงก่อนก็ได้มั้งคะ ไม่ต้องคิดกาลไกลไปจนถึงขั้นจะหาภรรยาใหม่หรอกค่าา เปลี่ยวล่ะสิท่า~ :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 4 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 08-06-2015 06:41:27
จ้างพี่เลี้ยงเพิ่มเถอะค่าาาาาา :)


ปูลู เอสยังไม่คืนของเลยเน้ออออ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 4 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 08-06-2015 06:59:28
ขำมากอ่า~~~~~!!!
เอวจะฮาไปไหน๊ ดูพูดกับตอนต้นสิอย่างฮาอ่ะ
รังเกียจเด็กขั้นสุดยอด แต่ก้อเล่นกับที่หนึ่งเหมือยอายุเท่ากัน 555555555555
พี่ตุลย์คร้า ไม่ต้องไปหาสาวมาเพิ่มหร๊อก เอาเอสนี่ล่ะจี้เส้นดี  :m20: :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 4 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: IIIA ที่ 08-06-2015 07:33:10
เด็กพอกัน นี่ทะเลาะกับเด็กจะฮาไไปไหน 5555555555555  น้องที่หนึ่งน่ารักจุงง น่าฆ่านัก   555555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 4 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 08-06-2015 08:14:03
ดู ดไปแล้ว ไอ้เอส นี่ อายุสมองอาจเท่ากับลูกพี่ตุลย์

มันแสบ มันน่ารัก มันกวน และที่สำคัญ มันคือตัวซวย ฮ่าๆๆๆ

พี่ตุลย์  อยากมีลูกเพิ่มใหม แนะนำ ไอ้เอสจอมเกรียน

พี่ตุลย์ อยากมีภาระเพิ่มใหม แนะนำ ไอ้เอสจอมมึน

พี่ตุลย์ อยากมีคนเล่นกับลูกใหม แนะนำ ไอ้เอส อันธพาล

พี่ตุลย์ อยากมีคนช่วยดูแลลูกใหม แนะนำ ไอ้เอส คนเกลียดเด็ก ฮ่าๆๆ

รับรอง อนาคตของพี่ตุลย์ จะมีสีสรร ทีสดใส ไร้ความสงบในชีวิตจริงๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 4 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BaZkon ที่ 08-06-2015 09:29:51
เดาไม่ถูกเลยว่าใครพระเอกใครนายเอก :serius2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 4 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 08-06-2015 10:34:09
ที่หนึ่งกับตอนต้นชื่อน่ารักจังค่ะ น้องเอสตลกอะ55
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 4 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 08-06-2015 12:24:30
สนุกดีๆชอบๆๆๆๆมาต่อไวๆนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 4 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 08-06-2015 12:42:05
โอ้ย ไม่ไหวล่ะ ฮาเอสมากอ่ะ ทะเลาะกับไอเด็กอ้วน 555+
น้องตอนต้นติดใจไรเอส โดนพี่เขาด่านะ ยังไปให้พี่เขาอุ้มอีก ฮ่าๆ

น้องเป็นหนึ่งก็ตลก เล่นกับพี่เอส เหมือนพ่อตุลย์จะมีลูกสามคนจริงๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 4 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 08-06-2015 13:43:46
เป็นภูมิแพ้เด็ก อยู่ใกล้แล้วหัวใจจะวาย เป็นอาการแพ้ที่น่ากลัวจริงๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 4 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 08-06-2015 20:35:13
นึกไม่ออกเลยว่าจะรักกันแบบไหน
โดยเฉพาะพี่ตุลย์ ดูไม่ค่อยสนใจเท่าไรเลย

รอนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 4 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 08-06-2015 22:46:43
โอ๊ยยยย ฮานัวนู๋เอสเล่นกับเด็ก :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 4 (7/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 08-06-2015 23:54:55
น้องเอส มึงไหวไหมเนี่ย เกรียนได้โล่มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 5 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 09-06-2015 00:27:36
ตอนที่ 5






               “ไอ้ปัน!!” ผมดึงหูเพื่อนที่ยังนอนอยู่บนเตียงใหญ่ก่อนจะแหกปากใส่หูมันจะมันผุดเด้งขึ้นมาอย่างไว

               “ไอ้เหี้ยเอส จะตะโกนใส่หูกูทำพ่อง! เกิดมาเพิ่งเคยพูดได้หรือไงวะ!” มันโวยผมทันทีที่เห็นผมยิ้มแป้นอยู่บนเตียงมัน


               เดี๋ยว! อย่าจิ้น ไม่คิดอกุศลนะ ไม่ดี ไม่เอา~


               คืองี้ครับ ถ้ายังจำได้ห้องผมไฟไหม้ไง แล้วพอผมมายืมชุดนักเรียนไปทำงานเมื่อวันนู่นนนนนนน คุยไปคุยมา ก็เป็นอันว่าผมได้พักค้างบ้านมันจนกว่าจะหาหอใหม่ได้ มันเป็นเพื่อนผมมา ม.4 บ้านมันผมก็มาเที่ยวบ่อย กับแม่มันผมก็สนิทชิดเชื้อ พอรู้ว่าผมลำบากก็แทบจะช่วยกันลากผมให้มาอยู่ด้วย แต่ผมมันเกรงใจครับ ย้ำ! หน้าตาดีและเป็นเจินเทลแมนมาก ก็เลยเกรงใจเขาครับ ขออยู่แค่ระหว่างหาห้องใหม่อยู่พอ


               ป.ล. อาหารฝีมือแม่มันอร่อยมาก เตียงนิ่มเปิดแอร์นอนทุกวัน สบายสุดอะไรสุด จนผมนี่แกล้งลืมหาห้องเป็นอาทิตย์...


               “มึงขับรถไปส่งกูที่เซเว่นหน่อยดิ”

               “ไม่เอาาา กูง่วง กูจะนอน” ไอ้ปันร้องโอดครวญ มันทำท่าเหมือนจะกลับไปนอนอีกรอบแต่ผมก็คว้าผมมันไว้! “ไอ้เหี้ย มึงจับแขนกูก็ได้มั้ง!”

               “โทษทีๆ มือมันไวไปหน่อย อิอิ” ผมแสร้งหัวเราะแบบรู้สึกผิดมาก “แต่กูไม่ปล่อยนะ ถ้ามึงไม่อยากจะหัวล้านโดยมือกู ก็ขับรถไปส่งกูเดี๋ยวนี้เลย”

               “ไม่เอา ไม่ไปปป ไอ้เหี้ยเอสมึงแหกตาดูนาฬิกาสิ ยังไม่เจ็ดโมงเลยไอ้ห่า ปกตินี่ยังเป็นเวลาของ HON อยู่เลยย”

               “จะเป็นเด็กมหาลัยอยู่แล้วไอ้สัส หันตื่นเช้าดูพระอาทิตย์กำลังขึ้นบ้างเถอะมึง อย่ามาอ้างเยอะ ขับรถให้กูไม่ถึงสิบนาทีมึงก็ได้กลับมานอนต่อแล้วเนี่ย ปกติกูเข้างานตีห้าไม่อยากกวนมึง แต่วันนี้กูเข้างานเจ็ดโมง มึงขับรถไปส่งกูได้อะ~ มึงช่วยกูประหยัดเงินหน่อยเส้!” ผมพูดอย่างกระเง้ากระงอด

               “ค่ามอไซค์ปกติสิบห้าบาทเองไอ้เหี้ยย”

               “สิบห้าบาทก็มีค่า อย่าบ่นเยอะได้ไหม มึงตื่นไปส่งกูเดี๋ยวนี้เลยไอ้ปัน!” พอใช้ไม้อ่อนมันก็ไม่ยอมผม ผมก็เลยทำเสียงดุพร้อมกระชากหัวมันจนหน้าเชิด

               “ไอ้เถื่อน!”

               “เร็วๆ เลยมึง ไม่งั้นกูกระชากหัวมึงหลุด ไม่มีผมไม่ทำสีโชว์สาวในมหา’ลัยแน่มึง!”

               “เอออ ก็ได้ๆๆ กูนี่คิดผิดจริงๆ เลยหลงมาเป็นเพื่อนกับมึงเนี่ย” ผมบ่นอุบ แต่ก็ยอมลุกจากเตียงเดินไปหยิบกุญแจมอไซค์ที่วางรวมกับกระเป๋าตังและมือถือบนโต๊ะคอมฯ “ยืนทำบื้อไม ไปดิไอ้ขี้เหร่”

               “เบื่อ คนขี้อิจฉา” ผมเบ้ปากใส่มัน หยิบกางเกงกับม้วนแบงค์ยี่สิบของคุณพ่อลูกสองที่อยู่ห้อง B8002 ติดมือไปด้วยก่อนจะพุ่งตัวออกไปนอกบ้านกระโดดซ้อนรถฟีโน่ซุปเปอร์จูเนียร์ลิมิเต็ดอิดิชั่น

               “จับพี่เอาไว้แน่นๆ นะน้องเดี๋ยวร่วง พี่จะซิ่ง!”

               “โอเคค่ะพี่” ผมดัดเสียงตอบล้อเลียนแล้วคว้าหมับเข้าที่ผมมันอีกรอบ

               “ไอ้เหี้ยเอส”

               “จ๊า คุณเพื่อนปัน รีบๆ ขับสิจ๊ะ เอสรีบนะตัวเธอ” ผมยิ้มตรงไปที่กระจกส่องหลัง เอาแบบว่าให้มันเห็นแน่ๆ ว่าผมยิ้มเหนือใส่มันอยู่

               “เล่นงี้ใช่ไหมไอ้เอส งั้นมึงจับแน่นๆ เลยไอ้สัส เดี๋ยวคุณปันจะพามึงไปส่งเซเว่นเองงง!” มันว่าแล้วบึ่งรถอย่างเร็วจนบ็อกเซอร์ตัวสั้นที่มันใส่อยู่แทบจะกระพรืบม้วนกลับมาข้างหลัง


               ฟิ้วววว!


               ไอ้เหี้ย กูรู้ว่ามึงอยากรีบกลับไปนอน แต่กูบอกให้มึงไปส่งที่ทำงาน ไม่ใช่ส่งกูที่นรกกก!!~











               เอ่อ...


               ผมยืนเอ๋ออยู่หน้าประตูหลังของเซเว่นฯ ที่ทำงานกะเช้าของผมงานใหม่ อ้าปากเหวอ ผมที่เซ็ตเอาไว้อย่างหล่อชี้ไปด้านหลังกลายเป็นซุปเปอร์ไซย่าไปโดยพลัน ส่วนไอ้คนที่ทำให้ผมสภาพเป็นแบบนี้ พอถีบผมลงรถมันเสร็จก็บิดรถบ็อกเซอร์กระพรืบกลับบ้านไปนอนแล้วเรียบร้อย


               “อ้าว เอสทำไม่เดินเข้าไปข้างในละ”

               “...” ผมหันตามเสียงช้าๆ พอเห็นว่าเป็น ‘น้ำตาล’ ผมก็รีบสาวสติที่กระเด็นไประหว่างทางกลับเข้าร่าง “หวัดดีน้ำตาล”

               “หวัดดีจ๊ะ เป็นอะไรเปล่า? ดูหัวสิทำไมชี้อย่างนั้นละ” เธอยิ้มขำ ลักยิ้มที่มุมปากทั้งสองข้างทำผมเคลิ้มไปชั่วขณะ ไม่พอมือเรียวขาวของเธอยังเอื้อมมาเซ็ตผมใหม่ให้ผม ระยะใบหน้าที่อยู่ไม่ห่างกันมากของเรา ทำให้ผมเผลอกลั้นหายใจ


               อร๊าง นั่ลลั๊คคค TT TT


               งาน PC ขายรองเท้าก่อนหน้านี้เป็นเพียงอีเว้นของทางห้างเทสโกฯ จัดเพียงเดือนเดียว พอสิ้นปี งานผมก็สิ้นกัน หลังจากนั้นผมก็เลยมาสมัครเป็นพนักงานเซเว่นฯ แทน และ ‘น้ำตาล’ ก็เป็นคนที่มาสมัครพร้อมกันกับผม ความน่ารักของเธอนี่เล่นเอาพนักงานเก่าใหม่เหลียวหลังตั้งแต่เดินเข้ามายื่นใบสมัครเลยครับ (ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น)


               ถึงแม้ว่าเราสองคนจะเริ่มทำงานมาด้วยกันได้เพียงเกือบอาทิตย์ แต่เพราะอะไรหลายๆ อย่างทำให้เราค่อนข้างสนิทกัน และอะไรหลายๆ อย่างที่ว่านั่นหลักๆ คือ ผมแอบเนียนจีบเธออยู่ครับ /หัวเราะหื่น


               ผมเป็นโรคแพ้คนสวย~










               “เอส มีคนมาขอพบอะ?” ในขณะที่ผมกำลังจัดเรียงกล่องนมใส่ตู้ พี่ชัยพนักงานเซเว่นรุ่นเดอะ (พี่แกทำงานมาพร้อมกับก่อตั้งเซเว่นสาขานี้เลย) ก็เดินเข้ามากระซิบบอกผม

               “ใครอะพี่?”

               “ไม่รู้ว่ะ พี่ไม่ได้ถาม โทษทีๆ แต่เขาก็พูดชื่อนายเลยนะ เพื่อนละมั้ง”

               “อ๋อครับ งั้นพี่ชัยทำอันนี้ต่อให้ผมหน่อยได้ไหมอะ? เดี๋ยวผมรีบไปรีบกลับครับ”

               “เออๆ เดี๋ยวพี่ทำเอง”

               “ขอบคุณครับ” ผมลุกขึ้นยืน ยืดเส้นยืดสายเล็กน้อย เดินเข้าไปทางด้านหลังของร้าน ตรงไปทางประตูหลัง มองซ้ายมองขวาหาคนที่พี่ชัยบอกว่ามาพบผมก่อนที่เห็นใครบางคนที่เดินหันหลังวนไปวนมาอยู่ไม่ไกลออกไป


               ใครวะ ไม่รู้สึกคุ้นเลย?

               แต่ถึงอย่างนั้นผมก็เดินเข้าไปหา “ขอโทษนะครับ มาพบผมหรอ?”

               “เอสหรือเปล่า?” เขาหันมา และนั่นทำให้ผมเห็นว่าเขาไม่ใช่เพื่อนผมครับ นี่นึกจนถึงเพื่อนสมัยอนุบาลก็มั่นใจว่าไม่ใช่ แต่ผมก็พยักหน้าไป


               แหมมม พอถูกเรียกออกมาแบบนี้แล้วนึกถึงสมัยม.ปลายเลยครับ ไม่อยากอวดแต่ผมโดนสาวๆ เรียกไปสารภาพรักบ่อยนะครับ! (เรียกไปโดนตบก็บ่อย) ฮันแน่ หรือว่าเขาจะเรียกผมออกมาสารภาพรัก แต่เดี๋ยวก่อน! ถึงผมจะหล่อมากจนทั้งสาวและหนุ่มหลงรักกันไม่หวาดไม่ไหว แต่ผมก็คนจริง ชายจริงไม่นิยมกินถั่วนะครับ!


               “นายนี่เองสินะ เอส...” เขาพูดเสียงเบาเหมือนกับพึมพำกับตัวเอง

               “มีอะไรหรือเปล่าครับ? คือผมอยู่ระหว่างงาน ถ้าไม่มีอะไรผมจะกลับเข้าไปทำงานต่อแล้วนะครับ” ผมตั้งท่าจะผละออก

               “เดี๋ยวสิ ไปคุยกันหน่อย”


               หมับ!


               ไม่ว่าเปล่า ไอ้คนตรงหน้าผมมันจับข้อมือผมแล้วครับ!


               “ผมต้องทำงานนะครับ จะคุยอะไรค่อยคุยหลังเลิกงานนะครับ” ผมพูดพลางดึงข้อมือตัวเองออกจากการเกาะกุม แต่มือนั่นก็จับแน่นจนเส้นเลือดที่แขนของทั้งผมและมันปูดขึ้น เส้นเลือดของมันปูดเพราะเกร็งแน่น แต่ของผมปูดเพราะเลือดแม่งไม่เดินแล้วเว๊ย!


               ผมว่าแรงแบบเนี่ย ไม่น่าจะใช่จะมาสารภาพรักแล้วละ!


               “กล้ามายุ่งกับแฟนของคนอื่น ก็กล้าสู้หน้าแฟนเขาสิวะ ไหนๆ ก็โตกันแล้วมาคุยกันหน่อยแล้วกัน”


               หะ เดี๋ยว แฟน อะไรยังไง ใคร?


               ไม่ทันที่ผมจะได้อ้าปากแย้งหรือถามอะไร มันก็ลากข้อมือผมให้เดินตามมัน ผมโวยวายทันทีที่ขาผมก้าวจากที่ที่ผมยืน แต่ไม่ทันจะได้แหกปากเกินสามวิ ก็มีผู้ชายอีกคนจากทางด้านหลังมาตะปบปิดปากผมไว้


               “ไม่ได้พาไปฆ่าหรอกนะ อะไรจะแหกปากดังขนาดนั้น แค่พาไปคุยที่ที่คุยกันง่ายนิดหน่อย” ผู้ชายที่มาใหม่บอกขึ้นด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ


               แหม ประโยคคุ้นๆ เหมือนผมเคยได้ยินจากคนๆ หนึ่ง แล้วผลสรุปออกมาได้ไปต่อยกันในช่องตึกที่ปรากฎอยู่ในบทนำ


               แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น คือถ้าเรียกผมแล้วบอกชัดเลยว่าจะมาต่อยกันผมก็โอเคนะ ไม่ใช่ปัญหาอะไร ผมเข้าใจว่าเรื่องผู้หญิงไม่เข้าใครออกใคร แต่ไอ้ที่คราวนี้ผมดีดดิ้นเป็นสาว พยายามจะแกะมือที่ปิดปากผมไว้ออกเพื่อจะแหกปากให้คนช่วย เพราะไอ้กล้ามปูของคนที่ลากผมนี่แม่ง น่ากลัวสัส! ตรงต้นแขนนี่ขนาดเท่าหัวผม ข้อมือนี่ขนาดจะเท่าคอผมอยู่แล้ว!


               ถึงผมจะวิถีคนจริง แต่ผมก็รักตัวกลัวตายเหมือนกันนะคร๊าบบ!



               ปึก!



               “โอ๊ย!” ผมร้องทันทีที่ถูกเหวี่ยงติดผนังเข้ากับด้านข้างของบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ในซอยที่ตั้งเดียวกับเซเว่นฯ ที่ผมทำงานอยู่ “เจ็บนะเว๊ย!”

               “เจ็บแค่นี้ไม่ตายหรอก แต่หลังจากนี้อะไม่แน่! ไม่มีใครสั่งสอนมึงไง ว่าคนมีเจ้าของแล้วอย่าเข้าไปยุ่ง เดี๋ยวจะไม่ตายดีอะ!” ไอ้คนที่พี่ชัยบอกว่าอยากเจอผมมันตะโกนใส่หน้าผม โดยมีอีกคนที่ปิดปากผมก่อนหน้านี่ยืนคุมเชิงอยู่ห่างๆ


               ผมไม่ได้มองหน้ามันเลยครับ จ้องมองแต่กล้ามที่โผล่ออกมาจากเสื้อกล้ามสีดำของคนทั้งสองคน คาดคะเนจากความใหญ่กับหัวของผม ดูยังไง๊ ยังไง ผมก็น่าจะตายในมือเดียวเลยอะ


               “เอ่อ... อันที่จริงพ่อผมก็สอนไว้นะครับ แล้วผมก็เชื่อฟังด้วยดีมาตลอด ไม่ได้ไปยุ่งกับแฟนพี่แน่นอนเลยนะครับ”

               “ไม่ต้องมาพูด! กูก็แปลกใจทำไมแฟนกูพูดถึงมึงบ่อยจัง วันนี้กูก็เลยแอบมาดูตอนที่แฟนมาทำงาน ก็เห็นมึงกุ๊งกิ๊งอยู่กับแฟนกูไงไอ้สัส! มึงล่อลวงแฟนกูใช่ไหม! เห็นแฟนกูสวยก็อยากได้เลยต้องมาแย่งกู!”


               มัน...หมายถึง ‘น้ำตาล’ หรอ


               เหยดดด! ก็ถามตอนแรกบอกว่าไม่มีแฟน ผมถึงได้เนียนตีสนิทจีบมาตลอด แล้วไหงแฟนถึงโผล่มาได้ไงวะ!

               “เดี๋ยวนะพี่ชายใจเย็น ผมไม่รู้เรื่องนะพี่ พี่หมายถึงน้ำตาลใช่ปะ? มันไม่ใช่แบบพี่คิดนะครับ” ผมยกมือดันอกของคนที่ยันแขนกับผนังล็อคผมเอาไว้ไม่ให้หนี ถึงแม้ว่าปากผมจะคันยุบยิบจากจะเถียงใจจะขาดว่า ‘ก็ผู้หญิงบอกว่ายังไม่มีผัวนี่หว่า กูไม่รู้ กูไม่ผิดเว๊ย’ แต่อย่างที่ผมบอก กล้ามแม่งที่อยู่ใกล้ๆ สายตาผมเนี่ยมันเหมือนกำลังร้องขู่ฟ่อๆ ว่าถ้ามึงปากดีเหมือนทุกที มึงได้โดนบีบหัวตายอยู่ซอกบ้านนี่แน่นอน

               “ถ้าไม่ใช่แบบที่กูคิดแล้วจะเป็นยังไง มึงอย่าคิดนะว่าอ้างว่าไม่รู้ แล้วจะรอด ไม่ต้องมาบอกด้วยว่าไม่ได้ยุ่งกับแฟนกู กูเห็นเต็มสองตา ว่าเล่นหัวกันได้ หน้าใกล้กันขนาดนั้นถ้าไม่ใช่ที่สาธารณะมึงคงเอากันแล้วใช่ไหม!”


               แค่หน้าใกล้กันเฉยๆ นี่พี่คิดการใหญ่ไปปะครับ


               “มึงยอมรับมาซะดีๆ ว่ามึงยุ่งกับแฟนกูจริง ถ้ามึงยอมรับตอนนี้และลาออกจากที่นั่น อย่ามายุ่งกับแฟนกูอีก กูจะอัดมึงแค่นิดหน่อย...แต่ถ้ามึงยังแถแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ไม่แขนก็ขามึงได้หลุดออกจากตัวแน่!”


               อึก..ผมกลืนน้ำลาย


               สายตาของคนที่กักผมเอาไว้ด้วยกล้ามใหญ่ขนาดเท่าหัวผมนั่นบ่งบอกชัดเจนว่าเอาจริง ผมพยายามมองหาทางหนีที่ไล่ ถ้าผมต่อยมันผมก็อาจจะหลุดรอด แต่ถ้าไม่รอดผมต้องตายแน่ไม่มีสงสัย


               เอาไงดีวะ!


               “ว่าไง เอส” มันกดเสียงต่ำลงที่ชื่อผมเป็นการข่มขู่


               ผมตวัดสายตามองมัน ถึงยั้งปากดีของตัวเองไว้ได้ แต่สายตาผมมันไวเกินระวัง แต่ผมก็ไม่คิดห้ามนะ ก็คนมันไม่รู้จริงๆ นี่หว่า เมียมึงไม่บอกว่ามีผัวแล้วนี่ กูจะรู้ไหมละ! พอถามก็บอกไม่มีแฟนนี่หว่า ไม่มีแฟน หน้าตาน่ารัก กูก็จีบดิ


               นี่อายุ 19 วัยเปลี่ยวอยู่นะ ไอ้สัส!


               “3”


               เวร นับอะไรวะ


               “2 จะยอมรับได้ยัง”


               ยอมรับอะไร กูไม่รู้ กูไม่ได้ตั้งใจจะจีบแฟนมึง แล้วแม่งดักคอผมไว้อีกว่าไม่ต้องพูดว่า ‘ไม่รู้’! แม่งหาเรื่องจะต่อยผมให้ได้ก็บอกเถอะ


               แต่ถึงผมจะคิดปากดีแบบนั้นก็ร้อนรนนะครับ!


               “2 นิด” ผมมองซ้ายมองขวา

               “2 หน่อย” ปลุกสัมผัสทั้งห้าทั้งหกทั้งเจ็ดทั้งแปดให้ช่วยกันหาทางหนีทีไล่

               “1” ผมเห็นคนกำลังจะเดินผ่าน...

               “ศูน...”

               “เดี๋ยว!” ผมร้องเสียงดังเบรกทันทีก่อนที่มันจะได้ลงหมัดแรงใส่หน้าผม “ที่ผมเข้าไปยุ่งกับน้ำตาลไม่ใช่เพราะจะไปจีบแฟนพี่นะครับ”

               “...” มันเลิกคิ้วขึ้นทันทีกับคำพูดของผม หันไปมองหน้าเพื่อนที่มาด้วยกันก่อนจะกลับหันมามองผม “มึงหมายความว่าไง?”
               
               “คืองี้พี่ มีคนมาชอบแฟนพี่อะ แล้วทีนี้ผมกับแฟนพี่สนิทกันเพราะสมัครงานพร้อมกัน เข้าทำงานพร้อมกัน เขาก็เลยแอบจ้างผมมาตีสนิทกับน้ำตาล สืบของชอบ ของไม่ชอบ นู่นนี่นั่นแค่นั้นนะพี่!”

               “มึงคิดว่ากูโง่มากขนาดจะเชื่อคำแก้ตัวบ้าบอพักนั้นของมึงหรอ!”

               “ผมพูดจริงนะ! พี่มองตาผมดิ สายตาไม่โกหกใครเคยได้ยินปะ มองเลย มอง แล้วพี่ก็จะรู้ว่าที่ผมพูดน่ะจริงหรือโกหก!”

               ผมโกหกครับ แต่พยายามสะกดตัวเองว่าเป็นความจริงอยู่ สาธุ! ขอให้แม่งมโนมองเห็นว่าผมไม่ได้โกหกด้วยเถ๊อะ แล้วผมจะตั้งใจทำงานที่เซเว่น ตั้งใจทำงานที่ร้านหมูกระทะเฮียเปียวด้วย ไม่ดื้อ ฮือ~

               “...”

               พอเห็นท่าทางลังเลของมัน ผมรีบร้อง ‘เยส!’ ในใจแล้วเล่าความเท็จต่อทันที “แล้วที่สำคัญนะพี่ ไอ้คนที่ตั้งใจจีบน้ำตาลของพี่มันก็อยู่นั่นไง!”


               ผมชี้ไปข้างหลัง ไอ้สองตัวที่ลากผมมาหันขวับตามนิ้วของผมทันที ผมอาศัยจังหวะเผลอนี้เตรียมใส่เกียร์หมาวิ่งหนีทันที แต่ขณะนั้นไอ้คนที่ผมชี้ไปมั่วๆ เพราะบังเอิญเดินผ่านก็หันมาพอดีทางพวกผมพอดี


               เราสบตากัน...


               เชี่ยแล้ว! ไอ้คุณเจ้าของห้อง B8002!









TBC


ที่จริงตอนนี้มีกว่านี้ แต่ว่ากว่าจะเขียนเสร็จคงได้อัพพรุ่งนี้ แต่อยากจะอัพให้คนอ่านได้ท่านทุกวันเลยต้องตัดไปเป็นอีกตอน
ฮือออ แล้วจะรีบมาอย่างไวเลยครับบบบ
#daddybelover


สปอย


"ของฟรีไม่มีในโลกนะรู้ปะ"
"มีบ้างเถอะ ผมเหนื่อยกับมุขนี้มากอะบอกตรง"
"ไม่ ตอนนี้ฉันไม่อยากได้บุญเท่าไหร่ เพราะงั้นจะไม่มีการทำทาน"
"...แล้วพี่ชายอยากได้อะไรตอบแทนละคร๊าบบบ"
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 5 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 09-06-2015 00:44:31
เอสสสส
แกมันตัวแสบ! ฉันเริ่มสงสารพี่ตุลย์ โอ้ยยย ซวยแล้วซวยอีก ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 5 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 09-06-2015 00:54:47
โอ้ยเอส 5555555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 5 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 09-06-2015 00:56:45
พี่ตุลย์จะดวงสมพงษ์กับตัวแสบเอสมากเกินไปแล้วน้าา~ :laugh: เจอกันทีไรได้เรื่องทุกทีเลยเชียว~ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 5 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 09-06-2015 01:10:45
เอสครับ แกมันตัวหายนะจริงๆ เฮียตุลย์กล่าวไว้?   :mew5:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 5 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 09-06-2015 01:22:52
 :katai1:  เฮ้ยสงสารพี่ตุลย์จริงๆ อี่เอสนี่ตัวนำความซวยชัดๆ  :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 5 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Cc-kun ที่ 09-06-2015 03:13:34
อย่าบอกนะว่าจะให้เป็นพี่เลี้ยงจริงๆ
เท่าที่อ่านมานนี่ไม่ิหมาะกับการดูแลเด็กเท่าไหร่นะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 5 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: IIIA ที่ 09-06-2015 07:34:56
อิเอสสสสสสสสสส แกทำอะไร๊  :z3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 5 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 09-06-2015 07:42:53
อ้าว..ไอ้เอส ไอ้เด็กนิสัยเสีย

หางานให้พี่ตุลย์ อีกเน๊าะมึง

สาธุ..ขอให้พี่ตุลย์ เคยเป็นศิษย์รักของ บัวขาวกับปาเกียว ด้วยเถ้อะ

ตั้งแต่เจอไอ้เด็กนี่ ชีวิตพีก็ ติดคำว่า ซวย กลางหน้าผากร๊ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 5 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 09-06-2015 08:08:31
ไอ้เอสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!! UP ตอนที 5 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: New_Tai ที่ 09-06-2015 10:58:38
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 5 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 09-06-2015 14:31:42
สงสาสพี่ตุลย์อ่ะ
เอสนี่ทำซวยตลอดดดดดดด!! 555+
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 5 (8/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: vk_iupk ที่ 09-06-2015 16:44:08
คุณพ่อลูกสองดวงตกนะค่ะ ต้องไปทำบุญด่วน ห้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 6 (9/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 10-06-2015 03:51:21
ตอนที่ 6






             ผมอึ้งแดก ไอ้ตาลุงตุลย์งงแดก ส่วนไอ้นักกล้ามขนาดเท่าหัวผมสองคนกำลังจะไปแดก ผมอ้าปากพะงาบๆ พอเป็นคนที่รู้จักขึ้นมาความรู้สึกผิดบาปผมนี่พุ่งปรี๊ดจนผมชี้ พอไอ้คนที่มันกักตัวผมผละออก ผมรีบวิ่งหน้าตั้งแซงพวกมันไปคว้าข้อมือของคนดวงซวยแล้วรีบพาวิ่งทันที!


             “ฮะ เฮ้ย! อะไรเนี่ย” คนที่โดนผมลากตะโกนเสียงหลงขึ้นมา พอไอ้นักกล้ามสองคนนั้นเห็นผมวิ่งหนี มันก็คงเดาได้แล้วว่าเรื่องที่ผมพูดไปเป็นเรื่องโกหก ทั้งมันทั้งผมใส่เกียร์หมาแทบจะเห็นขาที่วิ่งเป็นวงกลม ฝุ่นตลบ หัวที่ต่างคนต่างเซ็ตมาตั้งชี้ฟูโดยไม่ต้องพึ่งฟีโน่มาก่อนหน้านี้!

             “อย่าเพิ่งถาม วิ่งก่อน!”

             “นี่มันเรื่องอะไรอีกวะเนี่ย นายหาเรื่องซวยให้ฉันอีกแล้วใช่ไหม!” เสียงเข้มของคนที่วิ่งตามแรงลากของผมถูกกดต่ำจนผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบ แต่ไอ้นักกล้ามที่วิ่งตามมาเหมือนจะกระโจนมาเหยียบผมนั่นน่ากลัวกว่าจึงยังต้องหนีก่อน


             วิ่งไป พูดไปมันเหนื่อยเว๊ย! วิ่งก่อน ตอบทีหลัง


             “ไอ้เหี้ยเอสสส มึง! คิดว่าจะหนีกูพ้นหรอ!” ไอ้กล้ามปูแฟนน้ำตาลตะโกนกวดอยู่ด้านหลัง


             ไม่พ้น ก็ต้องพ้นแหละงานนี้ มหา’ลัยก็ยังไม่ได้เรียน แต่งงานก็ยังไม่ได้แต่ง ยังไม่มีลูก ยังไม่มีหลาน ยังไม่มีเหลน กูจะไม่ยอมตายเด็ดขาดดดด~ อ่านปากน้องเอสนะคะ ไม่-เด็ด-ขาด!


             ผมหันไปแลบลิ้นปลิ้นตาใส่พวกมัน พอเห็นสายตาที่ไฟลุกโชน เพิ่มความเร็วจนแทบจะกระโดดกอดคอได้ ผมก็รู้ตัวว่าคิดผิดแท้ๆ ที่ไปยังกวนตีนใส่พวกมันอีก โอ๊ยย ไอ้ตัวกระผมก็ไม่ออกกำลังกายเข้าฟิตเนสบ่อย ไม่กินเวย์เป็นอาหารหลักด้วยจะเอาอะไรไปสู้กับพวกม๊านน ไอ้พวกนั่นกำลังจะเข้าสู่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้วครับ ส่วนผมกำลังจะถอยหลังลงเหลือ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล๊วววว


             “นายหางานให้ฉันอีกแล้วสินะ...” ไอ้คนที่วิ่งตามแรงลากผมก็พูดเสียงเซ็งเหมือนไม่ทุกข์หนาวทุกข์ร้อนอะไร

             “ก็แบบ แฮ่กๆๆ กลัวพี่ชาย แฮ่กๆ ว่างไงครับ”

             “...” เขาเงียบ หันไปมองไอ้กล้ามปูสองคนที่ตามหลังมาแล้วถอนหายใจ “ไม่ได้วัดนิดเข้าวัดหน่อยทำไมถึงได้มีเจ้ากรรมนายเวรมาจองล้างจองผลาญขนาดนี้” ว่าแล้วจากฝีเท้าที่เหมือนจะวิ่งเหยาะตามผมก็เร่งสปีดมากขึ้นจนกลายเป็นผมเองที่ถูกลากซะงั้น


             เราทั้งสี่วิ่งไล่จับกันอยู่สักพักใหญ่ จนรู้สึกถึงเหงื่อที่ไหลโทรมไปทั่วร่างกับความเหนื่อยล้าของกล้ามเนื้อที่ปวดตุ๊บร้องประท้วง ผมชักจะเหนื่อย คิดว่าปล่อยให้พวกมันต่อยซะให้พอแล้วไปพักฟื้นต่อที่โรงพยาบาลน่าจะดี แต่ไอ้คนที่ (เปลี่ยนมา) ลากผมดูเหมือนจะไม่ยอมตายใต้ดงตีน ก็เลยยังวิ่งหน้าตั้งอยู่เหมือนเดิม


             แหม ว่าแล้วก็นึกถึงตอนแรกที่เจอกันเลย ฝีเท้านี่เร็วแบบนี้แหละ ถามจริง ก่อนหน้านี้ทำงานเป็นโจรปะหรืออะไร?


             พรึ่บ!


             “เหวออ~” ผมร้องเสียงหลงเมื่อคนที่ลากผมเปลี่ยนทิศทางกระทันหัน ทางที่เขาพาผมเข้ามา...อย่าเรียกว่าทางเลย เรียกว่าซอกเถอะ ซอกจริงๆ ครับ เพราะมันเล็กมันจนต้องเบี่ยงข้างวิ่งแบบปูไปในซอกนั้น เล็กแบบอกกับท้องนี่ชิดตึกทั้งคู่อะครับ!

             “เหี้ยเอ๊ย! แม่ง เข้าไม่ได้ว่ะ ไปทางนู่นแล้วหาทางไปอีกซอยนึง!” แฟนของน้ำตาลสบถ ก่อนที่จะหันไปสั่งเพื่อนแล้ววิ่งไปอีกทาง ผมยิ้มกระหย่องในใจที่ตัวมันใหญ่เกินกว่าจะเข้ามาในซอกเล็กๆ นี่ได้

             “มาเร็วๆ ดิ้” ไอ้คนที่นำผมเร่ง “รีบออกมาแล้วจะได้วิ่งออกไปที่ถนนใหญ่ ทางที่กำลังจะทะลุไปเป็นที่ระหว่างซอยสองซอยไอ้พวกมันคงหัวหมุนหาไม่เจอไปสักพัก

             “รู้ที่รู้ทางโคตรดีเลยพี่”

             “ก็นี่มันทางลัดที่ฉันไปที่ทำงานทุกวัน ไม่รู้สิบ้าแล้ว!” หลังจากที่หลุดออกมาจากซอกตึกได้พวกเราก็พากันวิ่งต่อไปจนถึงถนนใหญ่ ระหว่างทางวิ่งผมแอบเห็นแฟนน้ำตาลกับเพื่อนผ่านซอกอาคารพาณิชย์ด้วย ท่าทางมันคงเอาจริงแล้วไม่จบแค่นี้


             ซวยอะไรของกูเนี่ย ไปจีบคนมีแฟนไม่พอ เสือกมีแฟนเป็นเดอะฮัคอีก!


             “เวรเอ๊ย เข้างานสายจนได้” หลังจากที่พักหอบหายใจอยู่ตามฟุตบาทข้างถนนใหญ่ ตาแก่ตุลย์ก็บ่นขึ้นมาทันที

             “ถึงจะไม่สายแต่พี่ชายไปทำงานสภาพนี้ไม่ได้หรอก คือมันเหี้ยมากอะครับ” ผมมองตั้งแต่ปลายเส้นผมจรดปลายนิ้วเท้า สภาพพี่แกแบบเสื้อเชิ้ตที่ใส่มาคือชุ่มเหงื่อไปหมด สูทที่พาดไว้ที่แขนก่อนหน้านี้ก็เปรอะสีขาวๆ จากการที่ต้องเดินผ่านช่องแคบเมื่อครู่ สภาพหน้า สภาพผมคือพังยับ ไม่ต่างกับผมเช่นกัน

             “มันใช่ความผิดฉันไหมละ?”


             ชะอุ้ย


             ผมก้มหน้า


             “แบบว่า...ผมไม่ตั้งใจอะ ไม่คิดว่าจะเป็นพี่ชาย...” หูตูบ คอตก หางร่วง

             “เฮ้อ ช่างมัน มันก็เป็นแบบนี้แล้ว ดีนะเพิ่งปิดรอบวางแผน เลยไม่ค่อยมีงานเท่าไหร่ เดี๋ยวโทรลาหยุดเอาก็ได้” คนที่อายุมากกว่าพูดเสียงห้วนระคนเซ็งนิดๆ กับสถานการณ์ที่เจอ นั่นยิ่งทำให้ผมต้องรู้สึกผิดกว่าเดิม


             คือถ้าผมไม่รีบคว้าตัวเขาวิ่งให้เร็วกว่านี้ ก็คงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้แหละครับ ไม่เขาคนเดียวก็ผมด้วยได้นอนตายอยู่แทบเท้าไอ้พวกนั้นแล้ว


             “ขอโทษนะครับ” ผมพูดเสียงอ่อน

             “จะบอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่ได้ เพราะมันเป็น แต่ช่างมันเถอะ ยังไงฉันก็ตั้งใจจะมาหานายอยู่แล้ว ถึงจะเจอกันในสถานการณ์ที่แบบเกินคาดไปหน่อยก็เถอะ แล้วนี่นายได้เอาของมาคืนไหม?”

             “เอามา” ผมพยักหน้า เมื่อวานก่อนกลับบ้านไอ้ปัน ผมนัดเจอเขาเอาไว้หลังเลิกงานที่เซเว่นตั้งใจจะเอากางเกงกับเงินค่าแท็กซี่ไปคืน “แต่...ของมันอยู่ในล็อคเกอร์ที่เซเว่นอะดิพี่ชาย” ผมพูดอู้อี้ไม่เต็มคำสักเท่าไหร่

             “แล้ว?”

             “ไอ้พวกนั้นต้องไปดักรอผมอยู่ที่เซเว่นแน่เลยอะ ไม่กล้ากลับไปทำงานต่อ”

             “โอ๊ย ให้ตาย แล้วนี่คราวนี้อะไรอีกละ ถึงเกือบได้โดนต่อยเอาแบบนั้น”

             “คือเขาหาว่าผมจีบแฟนเขาอะ แต่ผมไม่รู้ไงว่ามีแฟนแล้ว ถ้ารู้ว่ามีผมจะจีบไหมละ”

             “...ปัญหาบ้าบอชะมัด” เขาพูดน้ำเสียงระอา “แต่ก็เป็นปัญหาที่วัยรุ่นโดนฆ่าบ่อยละนะ”

             “นี่ไม่ได้ขู่ชะ?”

             “ขู่อะไร? แล้วจะเอาไงถ้างั้น”

             “พี่ชายจะไปไหนต่ออะ เห็นบอกว่าจะลางาน”

             “ก็กลับบ้านดิ”

             “กลับด้วยดิ”

             “ก็กลับบ้านตัวเองดิ”

             “เออจริง งั้นแยกย้ายกันกลับบ้าน แล้วพอพวกมันไปแล้ว ผมจะเอาของจากล็อคเกอร์แล้วเอาไปคืนให้แล้วกัน”

             “อือ”


             พอตกลงกันได้แล้วเราต่างคนต่างก็แยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน ผมเลือกใช้ทางที่ผ่านเซเว่นที่ผมทำงานในทางกลับบ้านก่อนจะเห็นว่าไอ้นักกล้ามคนนึงอยู่แถวๆ หน้าเซเว่น ส่วนอีกคนก็น่าจะอยู่ด้านหลังตามที่ผมคาด ถอนหายใจอยู่บนรถเมล์อย่างเหนื่อยหน่ายกับปัญหาบ้าบอจุบจิบที่ผมไม่คิดว่าตัวเองจะได้เจอ


             ผมจ่ายเงินให้กับมอไซค์ที่ต่อเข้ามาถึงหน้าบ้านของไอ้ปัน แต่บ้านของมันปิดเงียบเชียบจนผมใจไม่ดี พอเลื่อนสายตามองไปที่ประตูรั้วหน้าบ้านก็เห็นว่าถูกล็อคเอาไว้เป็นการบ่งบอกชัดเจนว่าคนในบ้านไม่อยู่สักคน จะโทรหาไอ้ปันก็ไม่ได้เพราะมือถือผมก็อยู่ในล็อคเกอร์ที่เซเว่นด้วย


             ไปไหนของมึงเนี่ยยย เก้าโมงเช้า ยังเวลานอนของมึงอยู่ไม่ใช่หรือไงไอ้ฝัด!


             ผมเท้าเอว


             “เอาไงดีวะ...” ผมพึมพำกับตัวเองเสียงเบา จะรอหน้าบ้านอยู่แบบนี้ก็ไม่รู้เมื่อไหร่มันจะมา กว่าจะไปที่ร้านหมูกระทะเฮียเปียวก็ห้าโมงเย็น กลับไปทำงานต่อก็ไม่ได้ จะไปเดินห้างฯ ฆ่าเวลาลูกเหรียญที่ผมแบ่งใส่ในกระเป๋ากางเกงไว้ก็ไม่พอค่ารถ

              “อื้ม...”














             ผมเงยหน้ามองป้ายเลขห้อง ‘B8002’ อีกครั้ง คราวนี้ผมไม่ลังเลเท่าไหร่ เพราะมาพึ่งใบบุญล้วนๆ เลยจัด เคาะประตูห้าครั้งซ้อน


             แอ๊ด...


             “นาย..”

             “แหะๆ ขอแวะมาอยู่ห้องนี้แป๊บนึงก่อนถึงเวลางานตอนห้าโมงเย็นได้เปล่าคร๊าบบ” ผมส่งสายตาปริบๆ เหมือนลูกหมาหลงทาง แววตาเว้าวอนชนิดที่ว่าไม่ช่วยเหลือนี่ ผมจะสาปแช่งและโพสลงเฟสบุ๊คประจาน

             “เข้ามาสิ” แต่คุณเจ้าของห้องสุดหล่อ (สรรพนามเปลี่ยนไปตามการใช้สอย) ก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง “ตอนนี้ที่หนึ่งไม่อยู่หรอก อยู่โรงเรียน มีแต่ตอนต้นกับฉัน”

             “อ๋อครับ” ผมเดินเข้าไปข้างในห้องที่จะบอกว่าคุ้นเคยแล้วก็ไม่เชิง พอไม่มีไอ้เด็กที่หนึ่งให้ทะเลาะด้วย ผมก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก เลือกที่จะนั่งนิ่งๆ อยู่บนโซฟา ดูสารคดีสัตว์โลกที่เจ้าของเปิดทิ้งเอาไว้ แต่ผมก็ลืมไงว่าห้องนี้มันมีเด็ก! มันเงียบได้ไม่นานครับ สักพักเสียงร้องไห้ก็ดังขึ้นมาจนผมสะดุ้ง ก้มหน้ามองตามเสียงนั่นก่อนจะเห็นว่าไอ้เด็กตอนต้นมันนั่งมองหน้าผมอยู่ที่พื้นแล้วร้องไห้เสียงดัง


             อะไรของเมิงงงง!


             “พี่ชาย ไอ้เด็กนี่มันร้องทำไมเนี่ยยย” ผมแหกปากบอกคนที่ทำอะไรบางอย่างอยู่ในครัวซ้ำยังชี้นิ้วฟ้องตัวผู้ร้ายเสร็จสรรพ

             “ไม่มีอะไรหรอก หิวเฉยๆ ช่วยเล่นกับตอนต้นหน่อยสิ ฉันกำลังทำอาหารให้อยู่”

             “เล่นกับไอ้เด็กอ้วนนี่เนี่ยนะ!” ผมชี้ พอหันไปหามันก็เห็นว่ามันหยุดร้องแล้วทำหน้าเอ๋อๆ ตาแดงๆ ใส่ผมแทน แล้วตัวมันก็เอนไปเอนมาเหมือนพวกทรงตัวไม่ได้ ไอ้นี่ ชาติที่แล้วเกิดเป็นตุ๊กตาล้มลุกไง อยู่นิ่งๆ! ดิ๊

             “ก็แค่อุ้ม มันยากตรงไหนเนี่ย” แหม ไอ้คุณพ่อตุลย์ ตรงอุ้มเนี่ยแหละที่แม่งยาก จะไปรู้ไหมว่ากระดูกอะไรต่อกับอะไรแล้วหรือยัง เสือกจับไปคอหักกูทำไงอะ!

             “ผมไม่เคยอุ้มเด็ก!”

             “ก็ลองอุ้มดูสิ”

             “แล้วถ้ามันตายอะ”

             “นายก็จะตายตามลูกฉันไง”

             “ไม่อ๊าวววว โน ไม่! ผมจะไม่แตะต้องไอ้เด็กอ้วนนี่เด็ดขาด” ผมพูดเสียงหนักแน่นดึงขาทั้งสองข้างขึ้นมานั่งขัดสมาธิอยู่บนโซฟา แต่! มันครับ ไอ้เด็กอ้วนนั่นมันลุกเว้ยเฮ้ย มันยึดกับเบาะโซฟาครับแล้วก็ยืนขึ้น ดูเหมือนว่าแค่อยู่ในวัยแค่ยืนได้ เลยแค่ยืนจ้องหน้าผมอยู่แบบนั้น


             ไม่ต้องมองกูเลย กูเกลียดมึง รอมึงโตก่อนอายุ 14 แล้วกูจะมาเล่นด้วย!


             “พี่ชายเมื่อไหร่จะทำเสร็จเนี่ย ลูกพี่น่ากลัวมากอะ”

             “น่ากลัวอะไร นั่นลูกคนไม่ใช่ลูกเอเลี่ยนสักหน่อย” เจ้าของห้องพูดเสียงดุใส่ผม เสียงอะไรบางอย่างลงไปในกระทะที่ร้อนจัดดังฉู่ฉี่ และกลิ่นหอมๆ ของไข่ก็ลอยมาจนผมเผลอกลืนน้ำลาย “ถ้านายไม่กล้าอุ้มตอนต้นก็ดูเอาไว้ อย่าให้ล้ม อย่าให้สะดุด อย่าให้เผลอกลืนอะไรลงไปเข้าใจไหม?”

             “แค่ดูมันก็พอใช่ไหม?”

             “อือ”

             “ก็พอได้” ว่าเสร็จผมก็ใช้สายตาจับจ้องตรงไปที่มัน จ้อง จ้องและจ้องชนิดที่ว่าไม่ให้ขาดตกบกพร่งต่อหน้าที่


             ...


             ชิบหาย ตาแห้ง


             “ตอนต้นข้าวเช้ามาแล้วลูก” ไอ้คุณพ่อตุลย์เดินถือถ้วยขนาดกลางเข้ามาหาลูกชายคนเล็กที่ยังยืนจ้องผมอยู่ คนเป็นพ่ออุ้มเจ้าตัวอ้วนนั่นใส่เก้าอี้ทานข้าวขนาดย่อมเยาว์ที่ยกติดมือมาด้วย แล้วเอาถ้วยวางไว้ตรงหน้า


             กลิ่นหอมๆ ของไข่กวนใส่ชีส แฮมและเห็ดไม่ได้อยู่ในความสนใจของเด็กอ้วนตอนต้นนั่นเท่าไหร่ แต่อยู่ในความสนใจของผมทีไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้าแบบเต็มๆ แอบสูดฟุดฟิดหวังให้กลิ่นหอมๆ ของมันเข้าอยู่ในกระเพาะของผมบ้าง


             ผมนั่งมองคุณพ่อตุลย์ป้อนข้าวลูกชายคนเล็กอยู่เงียบๆ อยู่บนโซฟาพลางกลืนน้ำลายลงคอ เวลาเห็นไอ้เด็กนั่นเบี่ยงหน้าเล่นตัวไม่กินก็อยากจะกระโจนงับช้อนนั้นแทน


             กูอยากกินครับ กูอยากกิน ฮืออออ


             ครืด...


             ผมได้ยินเสียงบางอย่างจากท้องของผม พอเสียงมาปุ๊บ อาการบิดมวนของผมก็มาได้ ความหิวที่มีอยู่เดิมเพิ่มดีกรีขึ้นอย่างหนักจนรู้ตัวอีกทีผมก็ลงจากโซฟานั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ เก้าอี้ทานข้าวของไอ้เด็กอ้วนตอนต้นไปแล้ว


             “อะไร?” ไอ้คุณพ่อพอเห็นผมก็ขมวดคิ้วใส่ มือที่กำลังจะป้อนไข่กวนก็เป็นอันชะงักไปด้วย

             “คุณพ่อครับ” ผมทำตาปริบๆ ที่เคยใช้มานับครั้งไม่ถ้วน “ขอกินบ้างดิคร๊าบบ” ผมทำปากสั่นอย่างเว้าวอนที่สุด หวังให้คุณเจ้าของห้องสุดหล่อเห็นใจผมอีกสักครั้งแล้วตักไข่กวนนั้นเข้าปากผมที

             “ไม่”


             เพล้ง! ใจสลาย


             “ผมหิวอะะะะะ!”

             “โน่น เข้าครัวไปทำเอง” อีกฝ่ายไล่ ไม่สนใจท่าทางที่กำลังจะลงไปดิ้นอยู่บนพื้นของผม ส่ายหัวอย่างระอา พลางป้อนข้าวตอนต้นไปด้วย ไอ้เด็กนั่นตอนแรกๆ ก็เล่นตัวครับ กินบ้างไม่กินบ้าง พอเห็นกูอยากกินบ้าง แดกแม่งทุกคำเลยนะมึง!

             “กระผมทำเป็นแต่ไข่ดาวที่ไหม้เกรียม กับไข่เจียวที่ออกมาเป็นสีดำสนิท กระผมเองก็ยังอายุน้อย มันสมควรแล้วหรอครับที่จะให้เชื้อมะเร็งมาเข้าร่างของกระผมตอนนี้ ฮึก” ผมทำเสียงสะอื้นแถมให้ด้วยตอนท้ายเพื่อให้ดูน่าสงสาร

             “ฉันซื้อไข่ไว้เยอะ ใช้ทำได้เต็มที่ ทำสักร้อยครั้งเดี๋ยวก็ออกมากินได้เองแหละ”


             อื้อหือ หวงฝีมือไว้ให้เมียไง๊!?


             “วันนี้ผมคงมีแววอดตาย ผมทำอาหารได้โหลยโท่ย เผลอๆ อาจทำครัวพัง ห้องนี้ไหม้ จนต้องหนีหัวซุกหัวซุน หรือไม่ผมก็ทำจานแตก ทำไข่ที่พี่ชายซื้อตุนไว้หมดเกลี้ยง จนลูกพี่ชายไม่มีอะไรจะกิน ต้องหิวท้องไส้กิ่ว หรือไม่ผมก็...”

             “จะให้กินคำนึงแล้วหุบปากซะ เดี๋ยวป้อนข้าวตอนต้นเสร็จ จะทำให้กิน” อาจเพราะความรำคาญผมที่ชักแม่น้ำทั้งห้าหกเจ็ดแปดเก้าสิบสายเลยสรุปตัดปัญหา ผมนี่ยิ้มแก้มแทบแยก ด้วยความดีใจไปกับกระเพาะอาหารกระโจมโถมตัวใส่ไอ้คุณพ่อตุลย์เต็มแรงจนเซ ไข่กวนที่อยู่ในช้อนเกือบจะหกลงกับพื้น “ไอ้นี่!”

             “ง่า อย่าดุเขา” ผมผละออกมาช้าๆ แล้วยิ้มแผ่อารมณ์ดี

             “ไปเอาช้อนมา กินช้อนเดียวกับเด็กไม่ได้”

             “ครับๆ” ผมเดินเข้าไปในครัว มองหาช้อน พอเห็นแล้วก็รีบหยิบแล้ววิ่งกลับมาที่เดิม “อะ ช้อน” ไอ้คุณพ่อตุลย์รับช้อนจากมือผม ตักไข่กวนในถ้วยขนาดกลางเล็กน้อยก่อนจะมาจ่อให้ที่ตรงปาก

             “ไม่มีแบบ ไอ้นั่นบ้างหรอ แบบ เครื่องบินมาแล้วว~”

             “คิดว่าตัวเองกี่ขวบ” อีกฝ่ายเลิกคิ้วตีหน้ายุ่งใส่

             “ก็อยากย้อนวัยอะไรบ้างเฉยๆ” ผมหัวเราะร่วน อ้าปากงับไข่กวนที่ถูกยื่นมาจ่อให้ตรงหน้า

             “ได้กินแล้วก็ไปนั่งรอนิ่งๆ ไป”

             “อะเค อย่าลืมทำอะไรให้ผมกินด้วยนะ จะอยู่นิ่งๆ แล้ว ไม่ดื้อ~”













             หลังจากที่ป้อนข้าวเช้าให้ไอ้เด็กอ้วนตอนต้นเสร็จ ผมก็ต้องมานั่งจับตาดูมันต่อบนโซฟา ตามคำสั่งของไอ้คุณพ่อตุลย์ที่กำลังเข้าครัวไปอีกรอบ ไม่นานนักกลิ่นหอมของๆ ไข่กวนก็ลอยมาปะทะจมูกพร้อมกับถ้วยไข่ขนาดใหญ่ที่อีกฝ่ายถือมา


             “เอาโต๊ะญี่ปุ่นข้างทีวีอะ กางเข้า แล้วก็ไปเอาข้าวสวยที่อยู่ที่เคาเตอร์มาด้วย”

             “ครับๆ” ผมรีบกุลีกุจอทำตามคำสั่งพวกนั้นอย่างรวดเร็ว


             ทันทีที่ผมวางจานข้าวเปล่าทั้งสองแล้วก็รีบนั่งเตรียมพร้อมกับการกินมื้อเช้า แต่ขณะที่ผมกำลังจะตักคำแรกเข้าปากแขนของผมก็ถูกมือมารเล็กป้อมๆ คว้าเอาไว้ ผมเลื่อนสายตาไปมองมันแล้วส่งสายตาเชือดเฉือนดัง ‘ชิ้ง’ ไปเฉือดคอมัน


             คือมึงอิ่มแล้วไง แต่กูยังไง อย่ามากวน เดี๋ยวก็เตะโด่งออกไปนอกห้องเลยนี่! สายโหดนะเว๊ย!


             “ตอนต้นมาหาพ่อนี่มา” ไอ้เด็กนั่นหันมองตามเสียงของคุณพ่อตุลย์ ท่าทางลังเลเล็กน้อยแต่ก็ยอมคลานเต๊าะแต๊ะกลับไปอยู่ในอ้อมแขนของพ่อ และนั่นก็ทำให้ผมกับคนอีกคนได้เริ่มกินข้าวกันสักที

             “10 โมง...” ขณะที่ผมกำลังจะตักคำที่สองใส่ปาก สายตาเหลือบเห็นนาฬิกาที่ติดอยู่ข้างฝา เวลาที่บ่งชี้อยู่นั่นทำให้ผมชะงักเหมือนตั้งนาฬิกาเตือนในตัวเองเอาไว้


             10 โมง...


             “เฮ้ย!” ผมร้อง

             “อะไรอีก? นายนี่วุ่นวายจริง”

             “ขอยืมคอมหน่อยฯ! มือถือก็ได้ อะไรก็ได้ที่ต่อเน็ตได้อะ!” ผมลุกขึ้นพรวดยืนทันทีด้วยความตื่นเต้นเมื่อนึกถึงเรื่องที่ผมเฝ้ารอมาหลายต่อหลายวัน! “วันนี้ประกาศผลแอดมิชชั่น!”

             “อา ถ้างั้นเอามือถือฉันก็ได้ วางไว้แถวๆ โซฟาแหละหาดู” สิ้นคำผมก็พลิกตัวหามือถือที่ว่านั่นทันที ไม่ช้าไม่นานผมก็เจอกับโทรศัพท์เครื่องหรู แต่การตื่นเต้นที่ได้จับไอโฟนตอนนี้ไม่ได้อยู่ในสารบบความคิดของผมเลยแม้แต่น้อย รีบกดๆ จิ้มๆ จึ้กๆ เข้าดูผลประกาศแอดมิชชั่นอย่างรวดเร็ว


             จะได้เรียนต่อ หรือจบสิ้นนั่งทำงานแล้วรอแอดปีหน้า!


             ตึกตัก...


             ตื่นเต้นกว่าตอนขอคบกับแฟนคนแรกอีก!


             ‘นาย อชิร โรจนรัตติกร’


             ผมเลื่อนลงช้าๆ มาที่มหาวิทยาลัย...


             “เยท!!” ผมร้องดังลั่นห้อง จนคนที่กำลังกินข้าวไปหยอกล้อกับลูกไปสะดุ้ง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมสนใจเลยสักนิด ก้มมองดูมือถืออีกรอบอ่านชื่อของตัวเองและมหาวิทยาลัยอีกครั้ง ผมทำได้! พ่อ แม่! ผมทำได้! ผมได้เข้ามหาวิทยาลัยที่เลือกเอาไว้อันดับหนึ่ง!


             มหาวิทยาลัยsss คณะพาณิชย์และบัญชี สาขา การเงิน โอ๊ย เหมือนได้กลิ่นเงิน เงิน เงิน เงิน! ของชอบของผมเอง~ อยากกรี๊ดครับ อยากกรี๊ดงานนี้ อยากสวมวิญญาณกระเทยแล้วกรี๊ดให้สมกับความดีใจ ได้เข้ามหาวิทยาลัยที่ตั้งใจไว้เลยนะเว๊ย น่าดีใจปะ ดีใจกับผมหน่อยสิครับ ฮิ้วววววววววววววววววว!!


             ผมยิ้มหน้าบานไม่หุบ กดจิ้มตึ๊กๆ ที่ไอโฟนเครื่องหรูนั่นอีกหลายต่อหลายครั้ง รีบหาข้อมูล วันสัมภาษณ์ วันจองหอ วันเข้าหอ และนู่นนี่เสร็จสรรพ ผมศึกษามาแล้วครับโชคดีที่คณะนี้ของมหาวิทยาลัยนี้ค่าเทอมไม่ได้แพงสักเท่าไหร่ ผมก็เลยโล่งใจไปหน่อย


             ‘ภาระค่าใช้จ่ายของคณะพาณิชย์และบัญชี มหาวิทยาลัยsss’


             พอเห็นหัวข้อผมก็ไม่รอช้าคลิกเข้าไปดูทันที เลื่อนดูหาสาขาของตัวเองก่อนจะยืนอ่านมันด้วยหัวใจที่เป็นสุข มีที่เรียนแล้วเว๊ย เป็นเด็กมหาวิทยาลัยแล้วเว๊ย! อนาคตอันลุกโลด ตั้งใจเรียนอีกสี่ปี ก็ไม่ต้องทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อตแบบนี้แล้ว!


             ‘ถ้าเป็นหอสวัสดิการ จะมีให้ชำระ 6 เดือนกับ 1 ปี แต่ต้องจ่ายล่วงหน้า มีห้องพัดลม ห้องแอร์ และการ์เด้น เงินที่เสียส่วนนี้จะประมาณ 20,000- 30,000 โดยประมาณแล้วแต่ห้อง แต่ถ้าเป็นหอใน เดือนละ 300 เลือกได้ชำระ 6 เดือนหรือเป็นปี’


             แน่นอนอย่างผม วิถีคนจริง หอในอยู่แล้วครับ ก็ 1,800 บาทละนะ แต่ค่านี้ผมดูมานานแล้ว


             ‘ค่าเทอมจะอยู่ที่ 18,000 บาทชำระในวันรายงานตัว พอเปิดเทอมก็อาจจะมีค่าเก็บนิดหน่อยครับสัพเพเรหะของกิจกรรมและแต่ทางคณะก็จะประมาณอยู่ 500 บาท’


             ค่าเทอม 18,000 อื้ม...


             ...


             ค่าเทอม 18,000!


           
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 6 (9/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 10-06-2015 03:51:47
              ผมเบิกตากว้าง จำได้ว่าตอนที่ผมดูก่อนหน้านี้ มันยังไม่ถึงหมื่นเลยไม่ใช่หรือไงวะ! ผมรีบเปิดหน้าบราวเซอร์หาเว็บที่ผมดูครั้งนั้นทันทีเพื่อจะเอาเช็คให้แน่ใจว่าใครที่ถูกหรือผิด! 18,000 นี่มึงกะจะเก็บแล้วไปสร้างตึกต่อเลยใช่ไหมม คณะนี้มันต้องเสียอะไรนักหนาวะ ถึงต้องจ่ายแพงแบบนี้เนี่ย!


             ผมเลื่อนหาได้สักพักก็เจอเว็บที่ผมเข้าไปดูก่อนหน้า ไม่รอช้ารีบกดเข้าไปทันที อ่านเนื้อหาข้างในสองสามรอบก็เห็นว่าค่าเทอมไม่ได้แพงแบบนั้น! แต่ขณะที่ผมกำลังจะปิดสายตาเหลือบไปเห็นวันที่ที่ลงเขียนไว้


             2549...


             เชี่ย! ข้อมูลเก่า โอ๊ยยย ไอ้เอส โง่บรม เกิดมาไม่เคยอยากด่าตัวเองแบบนี้มาก่อน!


             18,000 ไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ สำหรับผมนะครับ ไหนจะค่าหอ ค่าชุดนักศึกษา ค่าจิปาถะอื่นๆ ก็ประมาณสองหมื่นกว่าๆ แล้วผมต้องจ่ายทั้งหมดนี่ภายในหนึ่งเดือนหลังสอบประกาศผลสอบสัมภาษณ์อีกที ถึงผมจะไม่ใช้ตังเลยสักบาททั้งเดือน ก็หาเงินได้แค่ 15,000 เท่านั้นแหละครับ! แล้วมันก็เป็นไปไม่ได้ด้วยที่ผมจะไม่ใช้เงินเลย ทุกวันนี้ผมทำงานสองที่ตั้งแต่ตีห้าถึงสี่ทุ่มไม่ก็เจ็ดโมงเช้าถึงสี่ทุ่ม ถ้าทำงานอีกที่ผมก็อาจจะพอไว้แต่ผมนอนได้แค่วันละชั่วโมง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ แล้วถ้าทำงานที่สามน้อยกว่า 8 ชั่วโมงก็ไม่มีทางหาเงินได้พออีกเหมือนกัน!


             ผมค่อยๆ ทรุดตัวนั่งลงที่พื้นอีกครั้ง ยื่นโทรศัพท์คืนให้กับผู้เป็นเจ้าของ นั่งเขี่ยข้าวในจานไปมาอย่างใช้ความคิด


             หรือผมจะขอยืมเงินป้าก่อน?


             แต่ถ้ายืมจำนวนเงินก็ไม่ใช่น้อยๆ ลูกเขาก็เข้ามหาวิทยาลัยปีนี้เหมือนกัน หนักเรื่องเงินแน่อยู่แล้ว จะไปรบกวนเขาก็ใช่เรื่อง แถมปฏิธานไว้แล้วว่าจะไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้เขา


             ป้าเพ็ญ ดีไหม? ตอนที่ห้องถูกเผาป้าแกบอกจะช่วยเรื่องเงิน แต่อพาร์ทเม้นท์แกเพิ่งถูกเผานะ! ถึงตัวตึกจะทำประกันไว้ แต่ก็ไม่รู้จะได้เยอะไหม แล้วต้องเสียค่าซื้อของใช้ น่าจะมีภาระเยอะอยู่ตอนนี้ ไปพึ่งเขาก็ไม่น่าจะดีเท่าไหร่


             เฮียเปียว ถึงทำงานกับแกมานานแต่ก็ไม่ได้สนิทขนาดจะยืมเงินเป็นหมื่นได้ ยิ่งหัวหน้างานเซเว่นไม่ต้องพูดถึง ผมทำงานได้ไม่กี่วันเอง


             ...หรือผมทำงานเก็บเงินก่อนแล้วรอแอดปีหน้า


             เสียดายวะ ความฝันผม ความตั้งใจของผม พอไม่มีเงิน อะไรๆ ก็ยืดออกไปหมดเลยหรอวะ!


             “มีปัญหาเรื่องเงินหรอ?” ผมหันตามเสียงของคนที่นั่งจิ้มโทรศัพท์อยู่ตรงข้ามผม แต่ไม่ได้ตอบอะไร “เห็นบอกว่าผลแอดมิชชั่นออก ยิ้มปากจะฉีกถึงรูหูคงเข้าคณะที่ฝันสินะ แต่เห็นทำหน้าเครียดก็นึกสงสัย นายลืมปิดบราวเซอร์ก็เลยเห็นไอ้เว็บค่าใช้จ่ายอะไรเนี่ย”

             “...ก็ตามนั้นแหละครับ ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก แค่จำนวนมันเยอะก็เลยอึ้งเฉยๆ แต่หาได้ สบายมาก!” ผมยิ้มพร้อมกับหัวเราะกลบเกลื่อน ทั้งๆ ที่ตั้งใจจะไม่ให้ความเครียดปะปนไปกับเสียงหัวเราะนั้น แตเสียงหัวเราะนั่นกับเหือดแห้งจนน่าเกลียด

             “หาได้?” อีกฝ่ายเลิกคิ้ว “นายหาเงินเรียนเองหรอ?”

             “อ้าว ไม่รู้หรอ?”

             “ไม่รู้ นึกว่านายทำงานหาเงินไปเที่ยว ไปนู่นไปนี่ตามภาษาวัยรุ่นเฉยๆ” เขาทำหน้าแปลกใจ ส่วนผมก็แค่หัวเราะเท่านั้น “แล้วพ่อแม่นายไม่ส่งหรอไง?”

             ผมส่ายหัว เลี่ยงที่จะพูดถึงพ่อแม่อีกครั้งว่าพวกท่านเสียแล้ว “ก็เห็นอยู่ใช่ไหมละ ก่อนหน้านี้ว่าผมอยู่อพาร์ทเม้นท์คนเดียว ก็โตแล้วนี่ครับ เรื่องของตัวเองก็ต้องจัดการเอง”

             “แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กนะ ถ้านายมีปัญหาก็บอกพวกเขา จะได้ช่วยเหลือ การส่งเสียให้เรียนมันเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ทุกคนอยู่แล้ว ไม่ต้องมัวทำหยิ่งว่าโตหรอกหน่า”


             ผมไม่ได้หยิ่ง...แต่


             “พ่อแม่ผมส่งเสียให้ผมไม่ได้จริงๆ เอ่อ ท่านก็ อื้ม...” ผมอ้ำอึ้ง ไม่อยากโกหกเท่าไหร่แต่ก็ไม่อยากบอกความจริงด้วย “คือพ่อแม่ผมไม่ได้มีเงินทองมากมายอะไร ภาระพวกเขาเยอะอยู่แล้วครับ ไม่อยากให้กู้หนี้ยืมสินด้วย มันเปลี่ยนเรื่องใหญ่ แค่เงินเรียนเอง ผมหาได้”

             “ถ้าหาได้ ทำไมทำหน้าเครียดแบบนั้นอะ รู้ตัวบ้างไหมว่าหน้านี่เป็นยังไงบ้าง?”

             “ก็บอกแล้วไง ว่าอึ้งกับเงินเฉยๆ ผมก็เสียได้นะครับ” ผมปั้นยิ้ม ตักไข่กวนกิน ทั้งๆ ที่มันอร่อยและหอมหวาน แต่ผมกลับไม่ซึมซับรสชาตินั้นเท่าไหร่ มีแต่ความเครียดและเครียดอยู่ในหัวผมไปหมด

             “...ถ้านายไม่มีเงินฉันก็จะให้”

             “!”

             "แต่ของฟรีไม่มีในโลกนะรู้ปะ?"

             "มีบ้างเถอะ ผมเหนื่อยกับมุขนี้มากอะบอกตรง"

             "ไม่ ตอนนี้ฉันไม่อยากได้บุญเท่าไหร่ เพราะงั้นจะไม่มีการทำทาน"ผมพยายามจะขำ ศักดิ์ศรีที่ค้ำคอผมอยู่ตะโกนบอกให้ผมปฏิเสธข้อเสนอนั่น แต่ความกดดัน ความคาดหวังของผมก็บอกให้ผมรับฟังมันต่อ


             แน่นอน ศักดิ์ศรีไม่ชนะ


             "...แล้วพี่ชายอยากได้อะไร?" ผมสบสายตาเข้มกับอีกฝ่าย ราวกับหยั่งเชิงกันและกันว่าจริงจังกับมันมากแค่ไหน ผมมองในสายตาเขา และผมตอบได้ว่าเขาพูดจริง และถ้าเขามองสายตาผมออก เขาก็รู้เช่นกันว่าผมก็พูดจริง “ไอ้ที่บอกจะให้เป็นพี่เลี้ยงเด็กนี่ ไม่เอานะ คือซ้ำอะ”

             “ถ้าฉันให้นายเลี้ยงลูกฉัน ลูกฉันคงตาย แล้วฉันก็คงประสาทแดกตาย ไม่เป็นอันทำงานเพราะไม่รู้ว่าลูกจะตายหรือยัง”


             ก็พูดไป


             “แล้วพี่ชายอยากได้อะไร?”

             “นายได้เงินแบบไหน งานนายอะ”

             “รายวันอะ”

             “อื้ม อย่างที่บอกงานนี้ไม่ฟรีนะ พอได้เงินจากการทำงานก็เอามาให้ฉันเป็นการผ่อนหนี้”

             “เหมือนกับกู้แต่ไม่มีดอกเบี้ยสินะ”

             “ประมาณนั้น”


             เป็นข้อเสนอที่ผมรับได้ ไม่ดูเสียศักดิ์ศรีมากเท่าไหร่ ก็แค่ยืมเงิน กู้เงิน พอมีแล้วก็คืน ซึ่งผมแค่ขอเวลาเท่านั้น ผมต้องจ่ายเงินก่อนโตนั่นภายในหนึ่งเดือนซึ่งยากมากสำหรับผม แต่ถ้ามีเวลา เงินจำนวนนั้นผมหามาคืนได้แน่!


             “แล้วก็...” เขาพูดต่อ และท่าทางที่หมองไปเล็กน้อยทำให้ผมต้องตั้งใจฟัง “ถ้านายว่าง เวลาเลิกงาน เวลาเลิกเรียน ตอนไหนก็ได้ ตอนเอาเงินมาคืนก็ได้ ช่วยมาเล่นกับที่หนึ่งหน่อยได้ไหม?”

             “!” ผมเบิกตากว้าง “หมายถึงทะเลาะอะหรอ? หรือเล่นดีๆ ผมว่าไม่ดีมั้ง ที่หนึ่งคงไม่อยากให้ผมมายุ่งด้วยสักเท่าไหร่”

             “ไม่หรอก คนเป็นพ่อมองลูกอยู่เสมอ ถึงจะบอกว่าทะเลาะ ถึงจะบอกว่าสู้กัน แต่ใบหน้าของที่หนึ่งตอนที่มีนายมาเล่นด้วย มาทะเลาะด้วยก็ดูสนุกมาก ทั้งๆ ที่ฉันพยายามซื้อของเล่นอะไรให้ก็แล้วแต่ก็ไม่เคยเห็นที่หนึ่งจะสนุก หรือจะสนใจเลย ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม เพราะงั้น ถ้านายมาได้ จำนวนเงินทั้งหมดที่นายต้องใช้ฉันก็ให้ยืมก่อนได้”

             “...” ผมมองคนตรงหน้า ที่จ้องมองผมกลับมาด้วยสายตาจริงจัง ท่าทางเศร้าหมองเหมือนคนมีทุกข์ระคนน้อยใจนั่นทำให้ผมต้องเม้มปากแน่น


             ถ้าสิ่งที่คนตรงหน้าผมเห็นจากไอ้เด็กที่หนึ่งนั่น ผมก็รู้ทำไมที่หนึ่งถึงทำแบบนั้น บ่อยครั้งที่ผมจะเห็นตัวเองซ้อนทับเด็กนั่นอยู่บ่อยๆ...


             “ได้” ผมตอบรับข้อเสนอ “ผมขอยืมเงิน 20,000 บาท แล้วจะเอาเงินมาคืนให้ทุกวัน แล้วก็จะมาเล่นกับที่หนึ่งให้

             “โอเค นายต้องการเมื่อไหร่ก็บอกฉัน ฉันพร้อมให้นายเสมอ”

             “ได้”


             ผมยิ้มให้เขา และเขาก็ยิ้มให้ผม แต่เป็นยิ้มของผลประโยชน์ที่เรามีต่อกัน


             และนั่นคือ สัญญา ‘อันที่ 1’





TBC

คือตอนนี้ยาวจริง ยาวกว่าตอนอื่น ตอนนี้เอสน้อยกลอยใจก็มีเฟิร์สบ่วงขึ้นมาแล้ว จะพาความซวย เอ๊ย ความสุข
มาหาแค่ไหน มาดูกัน อิอิ

ป.ล. นี่มีใครเอ็นดูน้องเอสบ้างไหม มีแต่เรียก ไอ้เอสสสสส 5555555555
#daddybelover
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 6 (9/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 10-06-2015 06:09:22
พี่ตุลย์ก็ใจดีเหลือเกินค่ะ พอเอสบอกให้ป้อนไข่ให้ตัวเองคำหนึ่งก็ป้อนให้ง่ายๆ เลยนะคะ ถึงแม้ว่าจะแยกช้อนคนละคันกับน้องตอนต้นก็เถอะค่ะ น่ารักจริงๆ เลยเชียว~ :-[ ..
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 6 (9/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 10-06-2015 07:16:40
โหยยยย มาต่ออย่างไว ขอบคุณนะค้า สนุกมากๆเลย

เอสน่ารักกกก ขอให้ที่หนึ่งหลงรักเอสไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 6 (9/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 10-06-2015 11:02:02
'ไอ้เอสสสสสสสสสสสสสสสสส'

นี่เป็นคำเรียกที่เหมาะมากนะคะ  :laugh:
คือเห็นแล้วฮาทันที

เป็นกำลังใจให้คนเขียนและรอคอยเช่นเดมค่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 6 (9/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 10-06-2015 14:09:57
พี่ตุลย์ใจดีมากๆ
ดีใจกับเอสที่จะได้เรียนแล้ว :)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 6 (9/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Sugar_Halloween ที่ 10-06-2015 14:18:57
พี่ตุลย์หวานกับเอสอีกเยอะๆเลยนะ เค้าชอบ  :m4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 6 (9/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-06-2015 14:39:01
ซวยตลอด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 6 (9/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: กาสะลอง ที่ 10-06-2015 16:07:40
อ่านรวดที่เดียว อยากบอกว่าสนุก เอสดูท่าจะเกรียนดี ชอบที่หนึ่งกับตอนต้น รออ่านอยู่นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 6 (9/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 10-06-2015 22:14:19
สัญญา 'อันที่ 1'
อย่างนี้เเสดงว่าต้องมีสัญญาอันที่ 2 3 4 5...ตามมาสินะ หึหึ ^0^
พี่ตุลย์คะ ดูท่าพี่จะซวยกับน้องเอสไปอีกนานอ่ะ 555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 6 (9/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 10-06-2015 23:55:35
 :pig4: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 11-06-2015 01:37:05
ตอนที่ 7





              “พ่อ อันธพาลมาอีกแล้วอะ!” ทันทีที่ไอ้เด็กที่หนึ่งเปิดประตูห้องให้ผม มันก็รีบวิ่งกลับไปนั่งข้างพ่อของตนที่นั่งอยู่บนโซฟาโดยมีเด็กอ้วน ลูกคนเล็กนั่งอยู่บนตัก


              ผมก้าวเดินก้าวเข้าไปในห้องนั้นช้าๆ ด้วยขาที่สั่นเทาก่อนจะกางแขนกางขาสไลด์นอนราบคว่ำหน้าไปกับพื้นกลางห้องนั่งเล่นในมือข้างขวากำเงินพิเศษที่เอามาใช้หนี้ ทันทีที่ผมกลายเป็นพรมมนุษย์ไอ้เด็กที่หนึ่งก็ลงจากโซฟาเอาดาบของเล่นมาปฃฟาดตามตัวผม สักพักผมที่เซ็ตไว้อย่างดีก็ถูกดึงรั้งด้วยมือป้อมๆ ของไอ้อ้วนตอนต้น ที่ไม่รู้ลงมาจากตักพ่อของมันตั้งแต่เมื่อไหร่


              เอาเล๊ย~ เต็มที่มึงจะตี จะเตะ จะดึงผมกูยังไงตอนนี้ก็เชิญ รอชาร์ตพลังแป๊บจะเอาคืนให้หมด!


              คือผมทำงานตั้งแต่เช้าถึงสี่ทุ่มเหมือนเดิมครับ ปกติแค่นั้นผมก็เหนื่อยจะตายห่า พอมาถึงหน้าคอนโดนี่ ลิฟต์เสียครับ! แล้วห้องของไอ้ครอบครัวนี่อยู่ล่างๆ คงกลัวโดนน้ำท่วมเลยอยู่ซะสูง กว่าผมจะปีนบันไดขึ้นมา แทบจะใช้คางลากมาแทน เป็นป็อก ป็อก ครืดกันเลยทีเดียว!


              “ตื่นมาเดี๋ยวนี้นะเจ้าม้า!” ไอ้เด็กที่หนึ่งนั่งทับหลังผม จับหูทั้งสองข้างแทนสายบังเหียนแล้วทำท่าเหมือนกำลังควบม้า ไอ้ตัวผมเรี่ยวแรงก็ถูกสูบไปหมดเกลี้ยงจะลุกขึ้นเล่นไปกับมันก็ไม่ไหว แต่จะหันไปมองมันให้ลงไปก็ทำไม่ได้ เพราะไอ้เด็กอ้วนอีกตัวกระชากหัวผมเอาไว้อยู่ ย้ำ กระชาก!


              แล้วไอ้พ่อมันนี่จะไม่คิดเอ่ยปากห้ามอะไรลูกเลยไงวะ!


              ผมแอบเบ้ปากใส่ 


              ตั้งแต่วันที่ผมกับไอ้ตาลุงตุลย์ตกลงทำสัญญายืมเงินกันเสร็จสรรพ ผมก็มาห้องนี้ทุกวันหลังเลิกงานตอนสี่ทุ่ม เออ! ผมยังทำงานที่เซเว่นสาขาเดิมครับ ผมไม่อยากเปลี่ยนงานเท่าไหร่ เพราะแปลว่าที่ๆ งานที่ผมทำไปก่อนหน้านี้จะชวดเงินทั้งหมด ก็เลยเอาเรื่องแฟนกล้ามปูที่จะฆ่าผมไปเล่าให้น้ำตาลฟัง เธอแก้ปัญหายังไงผมไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ไม่มีใครมาจองเวรผมที่เซเว่นแล้ว ผมก็เลยได้ทำงานต่อ แถมกางเกงกับเงินค่าแท็กซี่ผมก็คืนแล้วด้วย


              แต่ตอนนี้มีหนี้ใหม่มาแทนแล้วเรียบร้อย


              ผมเอาเงินพิเศษที่ผมได้เป็นรายวันมาคืนให้ทุกวัน แล้วก็มาเล่น (ทะเลาะ) กับไอ้เด็กที่หนึ่งตามข้อตกลงให้อีกหนึ่งชั่วโมง พอที่หนึ่งนอนผมก็กลับ ราวๆ ประมาณห้าทุ่มถึงห้าทุ่มครึ่ง


              ผมทำแบบนี้มาประมาณสี่วันได้แล้วครับ ถ้าวันไหนผมเหนื่อยมาก พอที่หนึ่งหลับผมก็กลับเลยไม่อิดออด แต่ถ้าผมยังพอไหว บางทีก็มานั่งคุยกับไอ้คุณพ่อที่ชอบทำหน้ายากใส่ผม


              “เฮ้ย หลับยัง?” เสียงทุ้มๆ ของผู้เป็นเจ้าของห้อง พูดขึ้นเสียงเบา ผมลืมตาตื่นขึ้นมาช้าๆ มองคนที่กำลังนั่งยองๆ มองผมอยู่ โดยมีเหล่าลูกๆ ของมันยังคงรังควานผมไม่หยุดหย่อน

              “พี่ชายเอาลูกออกไปดิ้ ตอนแรกก็จะไม่ตายแต่ตอนนี้กำลังจะตายละเนี่ย ให้พักแป๊บนึงดิ ลิฟต์เสียอะ ผมขึ้นบันไดมา ขาลาก เหนื่อย เครียด กินเหล้า!”

              “นายนี่มันไร้สาระจริงๆ เลย” คนที่อายุมากกว่าส่ายหน้าระอากับผม ก่อนที่จะอุ้มตอนต้นออกจากการถลกหนังหัวผม

              “ไอ้ตัวที่อยู่บนหลังด้วย”

              “แล้วเอาตัวนี้ไปกระชากหัวต่อ?”

              “นี่กวนตีน?”

              “นี่พูดแบบนี้แล้วใช่?”

              “ขี้เกียจจะมีมารยาทด้วยแล้ว” ผมยิ้มกว้างพร้อมยักคิ้วลิ่วตากวนโอ๊ยคนตรงหน้าหนึ่งดอกก่อนจะโดนดีดปากหนึ่งทีจากคนที่ผมไปกวนโอ๊ยใส่


              ทำไมต้องรุนแรง เสียใจ! TT TT


              “หึ เห็นบอกว่าเหนื่อยจะกินอะไหมละ?” เจ้าของห้องหัวเราะน้อยที่มุมปาก ทันทีที่ได้ยินคำว่า ‘อาหาร’ หูหางผมก็ตั้งขึ้นมา เรี่ยวแรงที่เหมือนจะหดหายก็พุ่งพรวดประหนึ่งกำลังเฮือกสุดท้าย

              “จะทำอะไรให้กินหรอ?”


              เห็นประกายในแววตาฉันไหม~


              “ทำอะไรละ? นี่มันกี่โมงแล้ว จะบอกว่าถ้าหิวก็ไปต้มมาม่าเอาไป ซื้อเผื่อเอาไว้”


              ผมช็อค...


              คลับคล้ายคลับคลาว่าน้ำตาจะคลอๆ เหมือนสาวสวยหมวยเอ็กซ์ที่เต้นอยู่อะโกโก้อยู่ตรงหน้า เดินเข้ามาพอผมกำลังจะเอื้อมมือไปจับก็เดินไปอีกทางอย่างนั้นลย ฮืออ


              “เรื่องอาหารไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ!”

              “แล้วฉันไปล้อเล่นอะไร ก็ถามว่าจะกินอะไรไหมเฉยๆ ถ้ากินก็ไปต้มมาม่าเอา ไม่ได้บอกสักคำเลยว่าเดี๋ยวจะทำให้นะ” ไอ้ตาแก่ตุลย์พูดสีหน้าเรียบเหมือนไม่ได้กวนประสามแต่อย่างใด แต่ไอ้ท่าทางแบบนั้นแหละที่ผมว่าแม่งกวนประสาท


              โมโหหิวครับ โมโหหิวพูดเลย!


              “น้ำใจงามครับ คนในบ้านนี้ ผมรึอุตสาห์ส่งหนี้ให้ทุกวัน เพื่อแสดงความซื่อสัตย์ว่าไม่โกง ตามคำสอนโตไปไม่โกง ลำบากลำบนดึกๆ ดื่นๆ มาหาทุกวัน วันนี้ลิฟต์ก็พังก็ยังอุตสาห์ถ่อร่างขึ้นมา พอมาถึงแรงก็ไม่มี ไอ้ลูกของพี่ชายก็...”

              “ทำให้ก็พอแล้วใช่ไหม?” เขาหมวดคิ้ว ติดหงุดหงิดรำคาญแม่น้ำหลายสายที่ผมชักมา พอเห็นเขาลุกผมก็ยิ้มกว้าง แอบทำหน้าหน้าเหนือแบบผู้ชนะ


              แหม มุขนี้ได้ผล เดี๋ยวผมจะเอามาใช่บ่อยๆ อิอิ!


              “เอ้าไอ้เด็กขี้แพ้! รีบจับพี่เอาไว้แน่นๆ เลยไอ้น้องเดี๋ยวจะควบแล้ว” พอเห็นแววของอาหารเรี่ยวแรงผมก็หวนขึ้นมา รีบลุกขึ้นเป็นนอนคว่ำเป็นท่าคลาน เตรียมไปหาเจ้าของห้องที่เขาครัวไปทำอาหารให้ผมแล้ว

              “อย่ามาเรียกที่หนึ่งว่าขี้แพ้นะ!” ไอ้เด็กที่นั่งอยู่บนหลังผม ใช้แขนใช้ขาเกี่ยวผมเอาไว้แน่นไม่วาย พอผมแอบเหน็บหน่อยก็ยังมีทุบไหล่ผมด้วยนะ

              “ก็คุณน้องที่หนึ่งแข่งเกมส์อะไรกับพี่ก็ไม่เห็นชนะสักทีนี่คร๊าบบบ ศึกของเราจะครบร้อยแล้วมั้งเนี่ย ชนะพี่สักครั้งยังถามจริง” ผมหัวเราะเสียงดังลั่นห้องแบบเอาให้รู้เลยว่าสะใจมาก ไอ้เด็กที่อยู่บนหลังผมก็คงเจ็บใจ ไม่ได้เถียงอะไร แต่สองมือที่ทุบผมยังกับผมเป็นกลองทัด

              “ถ้านายจะมาที่นี่ ก็เอาตอนต้นมาด้วย”

              “หะ?” ไอ้คนที่เหมือนว่ากำลังต้มมาม่าให้ผม หันมาเห็นผมที่เตรียมจะเล่นขี่ม้าไปหาในครัวร้องบอกขึ้นพร้อมกับเพยิดหน้าไปทางไอ้อ้วนอีกตัวนึงที่นั่งกลมๆ ตาแป๋วๆ อยู่บนโซฟา


              ผมหันมอง...


              กูจะพามึงยังไงวะ พาขี่หลังอีกก็กลัวแม่งจะร่วงตกตุ๊บลงไป แต่จะห้อยกระเตงไว้ตรงอกก็ใช่ที่อ่ะ ผมอุ้มเด็กมือเดียวไม่เป็น สองมือก็อุ้มไม่เป็น แถมผมไม่สามารถเดินคลานเข่าได้ด้วยมือเพียงมีเดียว


              “ที่หนึ่ง”

              “อะไรเจ้าม้า?”

              “อุ้มตอนต้นมานั่งทีหลังด้วยได้ไหม? แล้วจับน้องเอาไว้ไม่ให้ร่วง”

              “ได้ๆ” ว่าแล้วที่หนึ่งก็ลงจากหลังผม ไปอุ้มไอ้เด็กอ้วนมานั่งที่หลังผมแล้วตัวเองก็ตามขึ้นมาโดยจับทั้งไว้ไม่ให้ตกและยึดน้องเอาไว้ไม่ให้ร่วงด้วย “พร้อมแล้ว ไปเลย!”

              “โอ๊ส!” ผมร้องเสียงฮึมเหิม ก่อนจะคลานเข่าไปหาคนที่กำลังยกจานมาม่ามาไว้ที่โต๊ะกินข้าวพอดี “เอ้า ผู้โดยสารทุกท่าน ตอนนี้BTSบริการส่งถึงท่านถึงที่หมายแล้ว กรุณาลงจากรถด้วย ให้ไว เพราะหลังจะหักแล้วโว๊ย!”

              “เด็กๆ ลงจากหลังพี่เขาเร็ว” ไอ้เจ้าของห้องช่วยอุ้มตอนต้นออกจากหลัง ส่วนไอ้เด็กที่หนึ่งก็ลงจากหลังผมไป ทันทีที่ผมลุกขึ้นยืนเสียงกระดูกก็ดังลั่นกรอบๆ จนไอ้สามคนที่เหลือหันพรึ่บมาตามเสียง

              “มองไร ไม่เคยเห็นคนกระดูกลั่นไง”

              “เสียงดังขนาดหนัก นึกว่าจะตาย” ไอ้คุณพ่อตุลย์ยักไหล่พร้อมทำหน้ากวนที่นานน๊านนานนานจะได้เห็นครั้งมาให้แล้วพาลูกๆ ของตัวเองกลับไปนั่งบนโซฟาตามเดิม


              อะไรวะ พอยิ่งรู้จัก ยิ่งกวนประสาทหรอ?


              ผมเบ้ปากใส่กลุ่มพ่อลูกสองนั่นสามทีซ้อน ก่อนจะหันมาให้ความสนใจกับมาม่ารสต้มยำกุ้งที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งยั่วน้ำลาย


              เรื่องอื่นเอาไว้ก่อน ตอนนี้ขอแดกแล้วครับ~











              ผมนั่งพิงหลังไปกับขอบเบาะโซฟา ทันทีที่ผมกินมาม่าเสร็จ เก็บถ้วยเก็บจานเรียบร้อยผมก็รีบบึ่งมาเล่นกับที่หนึ่งโดยมีตอนต้นคลานมาผสมโรงบ้างบางที ให้ปะป๊าตุลย์หัวหมุนตามลูกออกจากวงล้อมของศึกระหว่างเจ้าชายเอสและคนตัดหญ้าที่หนึ่ง (ความลำเอียงมีอยู่จริง)


              คือหลงคิดว่าพลังงานจะฟื้นมาเต็มร้อยไง เลยเล่นแบบจัดเต็มไม่มีหมกเม็ด ลืมเวลา รู้ตัวอีกทีพลังชีวิตผมก็เข้าขีดแดงอีกครั้ง


              กูกำลังจะตายอีกแล้ววว~


              แต่วันนี้ผมใช้แรงกายเยอะจริง คือเยอะกว่าปกติ พอพยายามถ่างตาที่เริ่มปรือๆ ก็เพิ่งสังเกตได้ว่านี่มันเที่ยงคืนนิดๆ แล้วเลยว่าปกติของผมไปชั่วโมง


              ...อื้ม เวร ผมเริ่มคิดอะไรไม่ออก หัวหนัก ตาหนักๆ แรงที่จะไปโช้งเช้งฟันดาบของเล่นกับไอ้เด็กที่หนึ่งก็เริ่มหมดแรง
             

              ที่อธิบายยาวมาจนถึงบรรทัดล่าสุด สรุป คือวันนี้ผมใช้แรงเยอะมาก และผมง่วงแล้ว


              “เฮ้ย! เจ้าปีศาจร้ายลุกขึ้นมาสู้กับข้าเดี๋ยวนี้!” ผมรู้สึกว่าตัวผมถูกเขย่าจนเจ็บช่วงสะบักที่ไปกระแทกกับเบาะโซฟา แต่เปลือกตาของผมก็หนักอึ้งจนกว่าจะฝืนลืมตาขึ้นมาดู


              คือง่วง ง่วงมากจริงๆ ทั้งเหนื่อย ทั้งอิ่ม


              “ที่หนึ่ง เดี๋ยวค่อยเล่นต่อพรุ่งนี้ลูก วันนี้ไปอาบน้ำนอนดีกว่า พี่เอสเขาหมดแรงแล้ว” ผมได้ยินเสียงทุ้มนุ่มของใครบางคนพูดเสียงอ่อนโยน อืม..ผมชอบเสียงนี้จัง แต่เหมือนไม่ได้พูดกับผม

              “แต่ว่า...”

              “ลูกดูสภาพปีศาจของลูก ไม่ไหวแล้วน่ะ แยกย้ายกันไปพักก่อนเดี๋ยวพรุ่งนี้สู้กันใหม่ โอเคไหมครับ?”

              “...ก็ได้ครับ”


              ผมพาตัวเองปีนป่ายไปบนโซฟา มือที่เหยียดเต็มที่แตะเข้ากับงสิ่งมีชีวิตอ้วนๆ ที่คงนั่งทำหน้าโง่ๆ อยู่


              ...อื้ม ไอ้เด็กตอนต้นสินะ


              ปกติผมไม่ชอบแตะเด็กหรือยุ่งกับเด็กเท่าไหร่ แต่ผมวินาทีนี้คือความง่วงชนะทุกสิ่ง แล้วไม่รู้มันเป็นอะไรกับผมนักหนา พอเห็นอยู่ใกล้ๆ ก็คลานมายุ่งด้วยทุกที แต่ตอนนี้ยอมครับ มึงจะทำอะไรทำเลยยยยเผลอๆ ผมเอามือโอบตูดมันไว้อีก กลัวว่ามันจะเผลอเล่นแล้วตกลงไปจากโซฟา


              …


              …


              พรึ่บ…


              ผมรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ห่มอยู่บนตัวผม และความอบอุ่นจากสิ่งนั่นทำให้ผมขยับซุกหน้าลงกับมัน แต่สักพักผมก็รู้สึกถึงอะไรที่อุ่นกว่ารดอยู่บนผิวแก้ม


              “ฝันดี” ตามด้วยเสียงแผ่วเบากระซิบข้างหู ราวกับสายลมพัดชวนให้หลับฝันดั่งคำพูดนั้น


              สวิซต์ไฟที่อยู่ไม่ไกลนัก ถูกใครบางคนกดปิดลง จนทั้งห้องตกอยู่ในความมืดมิด ไม่ต่างกับวิวทิวทัศน์ข้างนอก เสียงของฝีเท้าดังห่างออกไป ก่อนจะตามมาด้วยเสียงประตูห้องนอนที่ถูกปิดลง


              ราตรีสวัสดิ์






             
TBC
รับรู้ถึงกลิ่นอายอะไรไหม... อิอิ

มีข่าวมาบอก คือ วันที่ 11 ไปภูเก็ตจ๊า กลับ 16 น๊า ก็เลยไม่ได้อัพต่อ แต่สัญญาว่ากลับมาปุ๊บจะอัพให้ปั๊บเลย TT TT


ป.ล.1 วันนี้เจอคาแรคเตอร์ของไอ้เอสแล้วววว เห็นปุ๊บ แบบร้อง เอสเลย อ่านกฎแล้วประมาณว่าคงไม่น่าจะอัพรูปให้ดูได้ ฮือออ
ป.ล. 2 ส่วนอันนี้ เห็นแล้วก็ร้อง ไอ้เอส! อีกเหมือนกัน 5555555555555555555555555
(http://i.imgur.com/gh4gCOh.jpg)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 11-06-2015 01:47:17
ชอบเรื่องนี้มากเลยยย น่ารักมาก  :hao7: ชอบเอสมากอ่ะ ฮืออออ เหนื่อยมากมั้ยเอส  :hao5: กด Skip ข้ามไปวันที่ 16 เลยได้มั้ยยยย เดินทางปลอดภัยนะค้า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 11-06-2015 02:02:14
555 จากภาพคือมันใช่อ่ะ   :m20: :m20: :m20:  รอยาวเลยหื้อๆ :mew2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-06-2015 02:52:18
สนุกมากจริงๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Cc-kun ที่ 11-06-2015 03:46:56
ยังไม่ได้อ่านตอนที่7แต่ขอเม้นถึงตอนที่หกหน่อย
ตอนเอสเครียดเรื่องค่าเทอมกะพูดถึงพ่อแม่ผมนี่น้ำตาไหลเลย สงสารจัดดด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Cc-kun ที่ 11-06-2015 04:07:28
อ่านตอนที่7จบละ
แบบว่าน่าร้ากกกก โอ้ย
นี่แค่กระซิบราตรีสวัสดิ์เฉยๆยังฟินขนาดนี้
เมื่อไหร่จะรักกันน้อออออ อิอิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 11-06-2015 04:15:15
ฉันสัมผัสได้ถึงรังสีบางอย่างจากตุลย์...อุกรี๊ดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 11-06-2015 04:24:21
 :jul3:


 :mew2:

 :L2: :L1:
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 11-06-2015 05:53:04
เห้ยๆๆๆ คุณพ่อยอดฝันดีใกล้เกินไปป่ะคะ


.....  นั่งรอนักเขียนมาอัพนะคะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 11-06-2015 06:52:31
ทำไมพี่ตุลย์ไม่ชวนเอสมาอยู่ด้วยกันเสียเลยล่ะคะ น่าสงสารเอสออกน้าที่ทำงานหนักทั้งวันยังไม่พอ กว่าจะได้กลับบ้านไปนอนเวลาก็ปาเข้าไปค่อนคืนแล้วด้วยน่ะ ที่สำคัญน้องที่หนึ่งกับตอนต้นจะได้มีเพื่อนเล่นตลอดเวลาเลยไงล่ะค้าา ^^ ดีออกน้าา~
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 11-06-2015 07:49:53
อื่ม..(นั่งกอดอก ยกมือข้างหนึ่งมาลูบคาง พยักหน้าเบาๆ) ไอ้เอส เป็นเด็กดีกว่าที่คิดนะ ไม่น่าเชื่อ

พี่ตุลย์ รู้จักไอ้เอสมาสักพักแล้วนะ แม้การเจอแต่ละครั้ง มันจะมีแต่เรื่องซวยๆ แต่พี่ก็ต้องยอมรับใช่ใหม

ว่าตื่นเต้นดี แล้ว ไอ้เอสมันก็มีดีกว่าที่มองเห็นใช่ปะ สงสารมันนะ ให้มันมาอยู่ด้วยซิ

มันจะได้ ไม่ต้องเหนื่อยไปกว่านี้  แล้วลูกพี่ก็จะได้มีเพื่อนเล่นด้วยงัย

(เฮ๊ย..อย่าบอกนะว่าพี่แอบจุ๊บราตรีสวัสดิ์ ไอ้เอส อร๊างงงงงง)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 11-06-2015 08:35:35
ไอ้เอสแม่งเกรียนหนักมากกกกกกกก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 11-06-2015 12:44:21
ไอ้เอส ของเราออกจะเปนเด็กดีนะเนี่ยยยยย
ตอนที่ไม่เริ่มกวนตรีนอ่ะนะ 5555
เอสเริ่มเข้าใกล้ตอนต้นได้บ้างรึยังเนี่ย ตอนต้นออกจะสนใจพี่เอสขนาดนี้ ^0^

เอ๊~~~ พี่ตุลย์แอยจุ๊บราตรีสวัสดิ์หราาาา หลงเสน่ห์ไอ้เกรียนเข้าแล้วละเซ่ 555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 11-06-2015 13:05:19
หูย พ่อตุลย์น่ารักอ่ะ มีการบอกฝันดีด้วย
เริ่มใกล้ชิดเข้าไปเรื่อยๆ อิอิ

ชอบไอ้เอสเวลาเล่นกับเด็กๆ เกรียนดี 55555+
น่ารักด้วย ชอบไอ่เด็กอ้วนอ่ะ
น้องหนึงก็ฮามาก 5555+
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 11-06-2015 16:49:16
ตอนนี้มาซะน่ารักเลยนะคะ  :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 7 (10/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 11-06-2015 21:39:52
เกรียนหนักมาก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 *spoil*
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 12-06-2015 09:22:39
Spoil


"เรียก 'พี่ตุลย์' ดิ"
"ไม่เอา ก็บอกแล้วไงว่ามันดึ๋ยๆ อะ"
"เรียก 'พี่ตุลย์' ร้อยครั้ง แล้วจะให้กลับบ้าน"





TBC
อยากอัพต่อให้อ่านแต่ที่นี่ไม่มีคอม เน็ตมีก็แค่ตอนเที่ยวเองง
อ่านตอน 7 รอก่อนนะ เคม๊ายยย /สำเนียงใต้
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 *spoil*
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 12-06-2015 10:17:57
อ้างถึง
"เรียก 'พี่ตุลย์' ร้อยครั้ง แล้วจะให้กลับบ้าน"

ประโยคนี้ทำให้เรานึกถึงท่าทางของทั้งสองคนเลยค่ะ แบบหลังเอสคงติดกับพนังห้องด้านหนึ่ง แล้วก็มีพี่ตุลย์ตามไปกักตัวเอสไว้ในอ้อมแขนอีกที พร้อมกับพูดประโยคนี้ออกมาแล้วจ้องตากันน่ะค่าา โง้ยยยย ฟิน~ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงต้องรอฉบับเต็มมาเฉลยนั่นล่ะเน้อ~ :-[ รอนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 *spoil*
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 12-06-2015 11:11:15
อ้างถึง
"เรียก 'พี่ตุลย์' ร้อยครั้ง แล้วจะให้กลับบ้าน"

ประโยคนี้ทำให้เรานึกถึงท่าทางของทั้งสองคนเลยค่ะ แบบหลังเอสคงติดกับพนังห้องด้านหนึ่ง แล้วก็มีพี่ตุลย์ตามไปกักตัวเอสไว้ในอ้อมแขนอีกที พร้อมกับพูดประโยคนี้ออกมาแล้วจ้องตากันน่ะค่าา โง้ยยยย ฟิน~ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงต้องรอฉบับเต็มมาเฉลยนั่นล่ะเน้อ~ :-[ รอนะคะ ^^


เอาฉากนี้อ่ะค่า หนูอยากด้ายยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 *spoil*
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 12-06-2015 11:48:39
โหย เห็นสปอยแล้วรอตอนต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ

แล้วๆกลับมานะครับ :)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 *spoil*
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 12-06-2015 12:08:17
แหมม่ เดี๋ยวนี้พัฒนาเยอะนะคะพี่ตุลย์
 :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 *spoil*
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 12-06-2015 13:17:54
ม๊ายยยเค แขบๆเอาตอนแปดมาลงด้ายแล้ว. 5555 รอจ้า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 *spoil*
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 12-06-2015 19:54:03
หุๆๆๆ พี่ตุลย์คิดไรอยู่เอ่ยยยยยยยย  :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 *spoil*
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 12-06-2015 20:09:15
ชอบจ้าาามาาาาาาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 *spoil*
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 12-06-2015 20:12:51
เรียกพี่ตุลย์ตั้งร้อยครั้ง ไปรังแกลูกเค้าแน่ๆๆ เลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 *spoil*
เริ่มหัวข้อโดย: onekiss ที่ 14-06-2015 20:23:11
 :z1: :hao3: :z1:
รอตอนต่อไปคร้าาาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 *spoil*
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 15-06-2015 22:32:17
น่ารักค่ะ ฮามาก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 18-06-2015 04:01:54
ตอนที่ 8






              “ผมกลับก่อนนะเฮียย” ผมตะโกนบอกกับเจ้าของร้านหมูกระทะที่ผมทำงานอยู่ ก่อนจะเดินลัดเลาะออกมาจนถึงฟุตบาทริมถนน


              บอกตรงๆ ชีวิตผมโคตรน่าเบื่อ อ่านมาจนถึงตอนแปดแล้วเนี่ย เห็นปะ ชีวิตผมมันมีอะไรที่ไหนละครับบบ ตื่นเช้าไปทำงาน กลับบ้านนอน ตื่นเช้าไปทำงาน กลับบ้านนอน มีแค่นี้เองอะ ถึงบางวันจะมีสาวสวยมาให้อ้อล้อด้วย หรือมีชายโฉดมารุมสะกำผมแต่ก็ไม่ได้มีทุกวัน เป็นชีวิตที่โคตรจะเด็กวัยรุ่นจนๆ คนนึง


              “ทำไมวันนี้มันหิวจังวะ...” ผมบ่นกับตัวเองเมื่อรู้สึกว่าท้องไส้มันบิดเยอะแปลกๆ จนแสบท้องไปหมด จะบอกว่าวันนี้ผมทำงานหนัก...มันก็หนักแบบนี้ทุกวัน


              เอ๋ หรือกูจะเมนส์ ก็เลยหิวหนัก แอร๊ย ตื่นเต้นจัง จะเป็นเมนส์ครั้งแรกหรือเปล่านะ :3


              Rrrrrrrrrrrrrr


              “ฮัลโหลลลล” ในระหว่างที่ผมกำลังเพ้อเจ้อกับตัวเองมือถืออเครื่องเก่ารุ่นราคา 1990 บาทหรืออาจถูกกว่านั้นในปัจจุบันก็แผดเสียงร้องขึ้น เช็คหน้าจอนิดนึงว่าเป็นใครก็กดรับสาย

              /มึงอยู่ไหนอะเอส?/

              “กูอยู่ข้างถนนอะตอนนี้”

              /เปลี่ยนอาชีพเป็นขอทานแล้วดิ/

              “เออ เบื่อว่ะ ต้องทำงานงกๆๆ ทุกวัน เลยนั่งนิ่งๆ ทำตาละห้อยให้คนหยอดเงินใส่ขันให้ดีกว่า”

              /ขอให้เจริญรุ่งเรืองนะมึง/

              “ขอบใจมากนะ แต่วันนี้รายได้ไม่ดีเลยว่ะ ขอยืมตังไปซื้อขันหน่อยดิ”

              /เอาดิ มึงนั่งอยู่แถวไหนอะ เดี๋ยวกูจะหยอดแบงค์ร้อยให้/

              “ขอบใจมากนะเว๊ย ถุ้ย! พอ โทรหากูมีอะไร” ผมพูดเสียงเนือยๆ ใส่ไอ้ปันเพื่อนตั้งแต่สมัยหัวยังเขียว

              /กูจะถามว่าเมื่อคืนทำไมมึงไม่กลับบ้านกูอะ? ตกลงกันแล้วไม่ใช่ไงว่ามึงจะย้ายออกตอนอยู่หอในมหา’ลัยแล้วอะ/

              “กูหายไปคืนเมื่อวาน มึงถามกูตอนคืนวันนี้เนี่ยนะ ดีเลย์ไปปะหรือไง?” ผมหัวเราะในลำคอเล็กน้อยใส่โทรศัพท์ พลันสายตาก็เหลือบเห็นเซเว่นที่ผมมักจะเดินผ่านบ่อยๆ เอื้อมมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงที่มีเงินรายวันจากงานสอง ยืนมองมันอยู่นานว่าจะเอาทั้งหมดนี่ไปใช้หนี้ให้ไอ้ตาแก่นั่นตามปกติหรือเอาไปซื้ออาหาร ขนมแบบจัดหนักจัดเต็มที่เซเว่นดี

              /กูว่าจะถามตั้งแต่เมื่อคืนละแต่ง่วงก็เลยนอนก่อนตั้งใจจะโทรหาตอนเช้า แต่กูดันตื่นบ่ายว่ะ ตื่นมาก็เล่นเกม เลยเพิ่งนึกได้เนี่ย อิอิ/

              “อิอิ พ่อง รู้สึกซาบซึ้งกับความรักเพื่อนจากมึงมากอ่ะ” ผมพูดเสียงหน่ายใส่พลางยัดเงินครึ่งหนึ่งใส่กระเป๋ากางเกงตามเดิม อีกครึ่งหนึ่งเอาไปถล่มเซเว่น

              /เออหน่า ช่างแม่ง แล้วสรุปมึงไปนอนไหนมาเนี่ย?/

              “นอนบ้านเสี่ยอะมึง”

              /นี่มึงไม่มีเงินพอใช้จนต้องมีเสี่ยแล้วช้ะ?/ มันทำเสียงกวนประสาท

              “ประมาณนั้นอะ ตอนแรกเอสก็คิดนะ ว่าผู้หญิงจะมีเสี่ยไปทำไม แต่พอได้มีแล้ว เอสก็โอเคเลย ไม่เป็นไรครับบบ~”

              /กวนตีนว่ะ เอาดีๆ/

              “กูพูดจริงอยู่นะเนี่ย” ผมว่าพลางหยิบห่อมาม่าไซส์บิ๊กใส่อ้อมแขน นึกถึงไอ้ตาแก่ลูกสองที่ผมกำลังจะไปหา อายุก็ห่างกว่าผมมาก แล้วก็ให้เงินผมเรียน (ถึงจะต้องมาใช้หนี้คืนก็เถอะ) ถ้าหัวล้าน ลงพุงหน่อย ห้องใหญ่กว่านี้อีกนิด มีรถยนต์หรูๆ สักสองคัน แถมมีเลขาฯ ส่วนตัวตามติด อื้อหือ ก็เสี่ยดีๆ นี่เอง

              /คือถ้ามึงไม่กวนตีนกู กูวางสายตั้งแต่สิบวินาทีแรกแล้ว นี่กี่นาทีแล้วห่า กูยังไม่ได้คำตอบเลย/

              ผมหัวเราะเสียงดัง “กูไปนอนค้างบ้านคนรู้จักตอนทำงานมา พอดีเมื่อวานกูแหนื่อยจัดก็เลยสลบเหมือดที่ห้องเขาอะ”

              /อ๋อ เออ แล้วไป กูก็เป็นห่วงนึกว่ามึงจะไปนอนห่มหนังสือพิมพ์อยู่ที่ไหนแล้ว/

              “นั่นปาก?”

              /เออดิ ปากแน่นอน แค่นี้แหละ โทรหามึงเปลืองตังฉิบ นี่มันยุคสมัยของโซเชียลแล้วเว๊ย!/

              “เอาเงินมาให้กูซื้อสมาร์ทโฟนสิ แค่นี้นะ” ผมพูดเสียงกวนทิ้งท้ายก่อนจะตัดสายแล้วเก็บมือถือ


              เดินวนอยู่ในเซเว่นจนได้ของกินเต็มอ้อมแขนซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นข้าวกล่องเป็นหลัก ขนมอีกเล็กน้อยจิปาถะ ตอนแรกผมตั้งใจจะว่าซื้ออะไรกินระหว่างไปคอนโดของไอ้คุณพ่อลูกสองนั่น  แต่รู้ตัวอีกทีมือทั้งสองข้างของผมก็เต็มไปด้วยของกิน จะกินระหว่างทางก็ดูท่าจะไม่สะดวกแล้ว


              “ช่างแม่ง ขนไปกินที่นู่นให้หมด”












              “หนีน้ำท่วมมาหรอ?” ผมก้มหน้ามองไอ้เด็กที่หนึ่งที่เปิดประตูให้ผม พอผมตั้งท่าจะตอบมันกลับไป มันก็ดันประตูจะปิดใส่ผม แต่บังเอิญว่าไวกว่าครับไอ้น้อง ผมก็เลยยื่นเท้าทีสอดประตูเอาไว้


              ว๊ายยย ปิดประตูใส่พี่ไม่ได้ เอาไว้เล่นไหมนะครับ น้องที่หนึ่ง


              “พ่ออออ ผู้อพยพมาขอความช่วยเหลือที่หน้าห้องงง” ไอ้เด็กที่หนึ่งมองเท้าของผมที่ขวางประตูเอาไว้ แต่มันก็ไม่ได้ลดแรงที่จะปิดประตูแต่อย่างใด ซ้ำยังหันไปตะโกนหาพ่อ! ที่อยู่ในห้องอีกต่างหาก


              อะ อะ ไอ้เด็กนี่คือมันกะจะให้เท้าผมนี่แบนเลยใช่ไหมหรือไง อยู่นานๆ ก็เจ็บเหมือนกันนะแสรดด!


              “ไหนผู้อพยพ?” เสียงเข้มๆ ของคนที่ผมจำได้แม่นว่าแก่แล้วดึงขึ้นก่อนจะปรากฎกายอยู่ด้านหลังของที่ไอ้เด็กที่หนึ่งที่ยัง...ยัง...ยังไม่หยุดปิดประตูหนีบเท้ากูอี๊กกกกก!~ “นั่นอะไร? น้ำท่วมหรอ? ซื้ออาหารมาเยอะขนาดนั้นอะ”

              “คือขอคุยในห้องได้ปะ ยืนขาเดียว ถือของสองมือ แถมตีนอีกข้างยังโดนหนีบไม่ใช่เรื่องตลกอะจริงๆ”

              “เอ้า โทษที” ไอ้คุณพ่อลูกสองนั่นก้มดูฝีมือลูกชายคนโตของตัวเองก่อนจะดันไอ้เด็กที่หนึ่งออกแล้วเปิดประตูให้ผมหอบของพะรุงพะรังเข้ามา


              ผมเอาของกินทั้งหลายแหล่ที่ซื้อจากเซเว่นวางบนโต๊ะอาหารก่อนจะควักเงินที่เหลือในกระเป๋ากางเกงเดินไปส่งคืนให้กับเจ้าของห้องที่นั่งดูทีวีอยู่กับไอ้เด็กที่หนึ่ง


              “วันนี้เอาเงินไปซื้อของกินเยอะไปนิดก็เลยเหลือเงินมาคืนแค่นี้อะ”

              “ไม่นิดนะ สองถุงใหญ่ขนาดนั้นอะ” อีกฝ่ายพูดเสียงเรียบก่อนจะยื่นเงินนั่นให้ไอ้เด็กที่หนึ่งไปเก็บในกระเป๋าเงินให้

              “นี่ๆ พี่ชาย ขอยืมใช้ไมโครเวฟหน่อยได้ปะ”

              “จะทำอะไรก็ทำ อย่าให้ไมโครเวฟระเบิดแล้วกัน”

              “แต๊งกิ้ว~” ผมพูดเสียงเริงร่าเดินต๊อกๆ เข้าไปในครัวหยิบข้าวกล่องอันแรกเจาะรูแล้วยัดใส่ไมโครเวฟ

              “ทำไมซื้อมาเยอะขนาดนั้นอะ? ซื้อมาเผื่อหรอ?” ขณะที่ผมกำลังยืนรอลุ้นอยู่หน้าไมโครเวฟเสียงของเจ้าของห้องก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ผมหันไปตามเสียงก่อนจะเห็นเขากำลังแหวกถุงขนาดใหญ่สองใบที่อัดแน่นไปด้วยของกิน

              “ห้ามแตะต้องนะบอกเลย ของผมหมด ไม่มีของพี่ชาย ไม่มีของลูกๆ ของพี่ชายด้วย” ผมตีมือทั้งสองที่มาจับถุงเซเว่นดังเพี๊ยะๆ
             
              “อะไร หวง? นี่ไมโครเวฟก็ของฉัน ไม่พ้นใช้ช้อนส้อมฉันอีก นั่งกินที่โต๊ะกินข้าวของฉันด้วย”

              “...” ผมเบ้ปากใส่ “ให้กินกล่องเดียว”

              “ไม่อะ กินข้าวแล้ว ไม่ได้จะมาแย่งกินสักหน่อยแค่มาดู หวงเวอร์ไปเอง” ไอ้คุณพ่อลูกสองหัวเราะในลำคอหึหึใส่ผม

              “ใครจะไปรู้ เห็นอย่างนี้ข้าวกล่องCPอร่อยนะครับ นี่ไม่ได้โฆษณาแต่มาบอกต่อเพราะชอบมาก ก็เลยนึกว่าอยากลองกินด้วย”

              “ฉันยังทำอร่อยกว่าอีก”

              “มั่นเนาะ” ผมกรอกตาไปมาจงใจกวนประสาทอีกฝ่ายเล่น ก่อนที่จะได้ยินเสียงดัง ‘ติ๊ง’ และนั่นก็ทำให้ผมละความสนใจจากตาแก่มาหาอาหารของผมที่กำลังส่งกลิ่นหอมกรุ่นๆ ให้ผมหยิบมันขึ้นมาไปไว้ที่โต๊ะ


              อร๊างงง ได้กลิ่นแล้วยิ่งหิวเลย TT


              ทันทีที่ว่างข้าวกล่องลงบนโต๊ะกินข้าวก็รีบผละออกไปหยิบช้อนส้อมแล้วเข้าประจำทีโดยไว ตักคำแรกขึ้นมาเตรียมพุ่งเครื่องเข้าสู่โพรงถ้ำปากไปสำรวจกระเพาะ


              “...”

              “...”

              “...”

              “กินเลยไหมถ้าจะจ้องขนาดนี้” ผมวางช้อนลงเงยหน้ามองไอ้คุณเจ้าของห้องที่แม่งยืนเท้าแขนกับโต๊ะก้มดูข้าวกล่องของผมอยู่

              “ก็บอกว่าไม่ได้จะกิน”

              “ถ้าไม่อยากกินแล้วจะจ้องทำไม”

              “ไม่ได้จ้องสักหน่อย” พูดพร้อมกับขมวดคิ้วให้ผม


              บางทีผมก็สังเกตนะว่าเขาเป็นคนที่ขมวดคิ้วบ่อยมาก เห็นเคยบอกอยู่ว่าสายตายาวแต่ผมว่าแม่งคงเป็นนิสัยด้วยอะไรด้วย ขมวดบ่อยๆ เดี๋ยวแม่งก็แก่เร็วคอยดูๆ


              “พี่ชายไปเอาช้อนส้อมมาอีกคู่เลย”

              “เอามาทำไม?”

              “เอามากินด้วยกันไง”

              “ก็บอกว่าไม่ได้กินไง”

              “ก็ดูจ้องดิ นี่ถ้าสายตาสูบอาหารไปได้ ข้าวผมคงหมดกล่องแล้วเนี่ย!”

              “ก็บอกว่าไม่ไง” ขมวดคิ้วให้ผมแน่นขึ้นไปอีกก่อนจะผละออกจากโต๊ะอาหารเดินกลับไปนั่งดูโทรทัศน์กับลูกชายที่นอนดูอยู่แล้ว


              เออดี วันนี้ไอ้เด็กที่หนึ่งก็ไม่มาชวนทะเลาะ ไอ้เด็กตอนต้นนั่นก็ไม่รู้ไปไหน แต่ช่างแม่ง ไม่อยู่ก็คือไม่อยู่ ไม่มีใครมากวน กระผม นายเอส ขอรับประทานกล่องอันแรกก่อนละคร๊าบบบ


              “พ่อๆ ทำไมคนนั้นถึงวิ่งเร็วจังละ” เสียงของที่หนึ่งถามคุณพ่อของตนดังขึ้นพร้อมกับชี้ไปที่หน้าจอโทรทัศน์ที่ผมเองก็ไม่แน่ใจว่ากำลังฉายอะไร ผมที่กำลังกินข้าวอยู่ก็เงยหน้าตามเสียงนั่น

              “เขามีพลังพิเศษไงลูก จากการผ่าตัดทางวิทยาศาสตร์ ถ้าลูกจะให้พ่ออธิบายนี่ยาวเลยนะ จะฟังไหมละ?”

              “ไม่อะ เดี๋ยวที่หนึ่งจะดูทีวีก่อน”

              “พี่ชายยย อยากมากินข้างด้วยกันเปล่า” ผมร้องถามคนที่ยังนั่งอยู่หน้าทีวีพลางตักข้าวเข้าปาก

              คุณเจ้าของห้องผละจากทีวีหันมาหาผม “บอกว่าไม่กิน”

              “ไม่กินก็ไม่กินดิ ทำไมต้องทำหน้าดุใส่ด้วยอะ” ผมยักไหล่ ก้มหน้าก้มตาข้าวต่อ


              …


              “พ่อ ไอ้ตัวเล็กนั่นน่าสงสารอะ มันโดนหลามกิน” สักพักนึงไอ้เด็กที่หนึ่งก็พูดขึ้นกับไอ้คุณพ่อที่นั่งดูอยู่ด้วยกัน

              “มันเป็นธรรมชาติน่ะลูก”

              “พี่ชายๆ ผมขอใช้ไมโครเวฟอีกรอบได้ปะ กล่องเดียวไม่พอสำหรับผมจริงๆ”

              เขาหันมา “บอกแล้วไงจะทำอะไรก็ทำ”

              “เคๆ แต๊งกิ้ว” ผมหยิบข้าวอีกกล่องขึ้นมาเจาะแล้วยัดใส่ไมโครเวฟ


              ...


              “พ่อดูอย่างอื่นได้ไหมอะ ที่หนึ่งเบื่อแล้วไอ้หลามไม่ทำอะไรเลยอะ เอาแต่อยู่นิ่งๆ” ยี่สิบนาทีต่อมาไอ้เด็กที่หนึ่งก็พูดขึ้นอีก

              “ลูกเลื่อนหาดูเอา ว่าอยากดูอะไร”

               “พี่ชายๆ หิวน้ำอะ หยิบน้ำให้หน่อยดิ” ผมเรียกคนที่ก็ยังนั่งอยู่หน้าทีวีขณะเบรกกินขนมผิง

              “ตัวเองอยู่ใกล้ตู้เย็นกว่าปะ หยิบเองดิ”

              “ช่ายย ที่หนึ่งยังหยิบน้ำเองได้เลย”


              ไอ้นี่มีเสริมทัพ


              “ครับๆ เดี๋ยวหยิบเองก็ได้ แบบว่ามันนั่งได้ที่แล้วไง ขี้เกียจลุก”


              …


              “ที่หนึ่งครับ เรื่องนี้จบแล้วพอนะลูก ดึกมากแล้ว”

              “ครับบบ”

               “พี่ชายๆ อิ่มแล้วเก็บซากให้หน่อย อิ่มลุกไม่ไหว” ผมวางคางไว้บนโต๊ะ อิ่มจนไม่อยากจะขยับตัว

              “...” เขาปรายตามองผมนิดนึงแล้วก็หันกลับไปมองทีวีตามเดิม

              “...”


              แม่งด่าผมสินะเมื่อกี้


              ผมลุกหยิบกล่องข้าวที่กินไปทั้งหมดสามกล่องไปทิ้งขยะเอง แยกช้อนส้อมใส่ซิงค์ล้างจานเรียบร้อย


              ...


              “ปะ ที่หนึ่งถึงเวลานอนแล้วลูก ไปเข้าห้องน้ำก่อนแล้วค่อยเข้าไปนอน” ไอ้คุณพ่อพูดขึ้นก่อนจะปิดโทรทัศน์ ไอ้เด็กที่หนึ่งก็เชื่อฟังแต่โดยดีวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ โดยมีคนที่ตัวโตกว่าเดินตามลูกมายืนเฝ้าอยู่หน้าห้องน้ำ ซึ่งอยู่เยื้องจากโต๊ะอาหารที่ผมนั่งกินขนมอยู่นิดหน่อย

              “นี่ พี่ชายทำไมต้องเฝ้าลูกหน้าห้องน้ำด้วยอะ”

              “เพื่อความปลอดภัย”

              “อ๋อหรออออ” ผมลากเสียงยาวพลางหยิบเลย์อีกแผ่นโยนเข้าปาก “พี่ชายๆ”

              “วันนี้เป็นไร? เรียกยังกับเป็นนกแก้ว” ไอ้คนที่ยืนเฝ้าลูกอยู่หน้าห้องน้ำเมื่อกี้เดินตรงมาเท้าแขนลงบนโต๊ะอาหาร

              “ก็ไม่มีคนเล่นด้วยอะ! ไอ้เด็กอ้วนนั่นก็ไม่รู้ไปไหน ไอ้เด็กที่หนึ่งก็เอาแต่ดูทีวีอะ” ผมยื่นปากใส่กำแพงที่อยู่ตรงข้ามกับผม
             
              “ทำตัวอย่างกับเด็กขี้เหงาไปได้” เสียงเข้มนั่นพูดเสียงเบาเหมือนจะบ่น “จะเรียกก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่หยุดเรียก ‘พี่ชายๆ’ ถี่ๆ เยอะๆ ได้ไหมมันขนลุก”

              “เอ้า ก็แล้วจะให้เรียกยังไงเล่า” ผมเผลอหลุดน้ำเสียงเอาเรื่องออกไป เมื่อเราพูดถึงเรื่องสรรพนามกันอีกเป็นครั้งที่สอง
             
              “ก็บอกว่าให้เรียกพี่ตุลย์ไง”

              “ไม่!” ผมสะบัดหน้าใส่ หยิบเลย์เข้าปากรัวแบบแสดงออกชัดเจนว่าไม่โว๊ยยยยยยยยย

              “เรียก ‘พี่ตุลย์’ ดิ” มีกดเสียงต่ำ อ๋อออ! นี่ข่มช้ะ?

              “ไม่เอา ก็บอกแล้วไงว่ามันดึ๋ยๆ อะ”

              “มันจะดึ๋ยๆ  อะไร” ไอ้คนที่เท้าแขนกับโต๊ะอาหารยื่นหน้าขมวดคิ้วใส่ ท่าทางไม่ค่อยพอใจเล็กน้อยถึงปานกลางหรืออาจจะมากแต่ผมดูไม่ออก

              “ก็มันขนลุกไง”

              “ก็เรียกให้มันชินสิจะได้ไม่ขนลุก”

              “พี่ชายตั้งหาก เดี๋ยวผมเรียกสักร้อยครั้งเดี๋ยวก็ชิน เลิกบ่นเถอะหน่า” ผมยังหยิบเลย์เข้าไปต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อน ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายขะขมวดคิ้วหรือทำหน้าดุอะไรใส่ผมหรือเปล่าทั้งนั้น


              ผมเป็นคนยึดมั่นครับ บอกตรง!


              “นายตั้งหากที่จะต้องเรียก ‘พี่ตุลย์’ ให้ชิน”

              “โฮะ โฮะ โฮะ พูดอะไรนะไม่ได้ยิน” ผมตบปากตัวเองเลียนแบบเสียงร้องคนป่าจงใจร้องให้ดังกลบเสียงพูดของอีกฝ่าย “ดึกแล้วผมกลับบ้านดีกว่าพรุ่งนี้ตื่นเช้าไปทำงานอีก โอ๊ย เหนื่อยยย” ผมตั้งท่าจะลุก


              พรึ่บ


              แต่มีวิญญาณเจ้าของห้องมาขวางคร๊าบบบ!


              “จะกลับบ้านนน” ผมเริ่มทำเสียงงอแง ตั้งท่าจะเลี่ยงเดินไปอีกทาง แต่ก็มีร่างใหญ่ๆ ของไอ้ตาแก่เจ้าของห้องเขยิบมาบังทางไว้
             
              “เรียก ‘พี่ตุลย์’ ร้อยครั้งแล้วจะให้กลับบ้าน”

              “หะ!?” ผมร้องอุทานเสียงดังทันที ทำมือเป็นรูปตัวเอ็กซ์ ส่ายหัวอย่างรุนแรงเป็นการปฏิเสธแบบนอนสต็อป พยายามทั้งพุ่ง ทั้งลอด ทั้งเบี่ยงซ้าย เบี่ยงขวา ก็ไม่สามารถหลุดไปจากกำแพงไอ้ตาแก่นี่ได้ เหลือแต่จะกระโจนข้ามหัวไปแล้ว แต่ไอ้ตัวผมก็ไม่ใช่นักกีฬากระโดดข้ามไม้แต่อย่างใด


              อะไรของพี่คร๊าบบบบบบบบบบบบบ


              หมับ!


              ขณะที่ผมกำลังตั้งท่าพยายามหลุดออกไปอีกครั้ง ข้อมือก็โดนอีกฝ่ายจับเอาไว้เสียก่อน ลากผมไปในซอกระหว่างโต๊ะกินข้าวกับประตูห้องที่เป็นห้องนอนของไอ้เด็กที่หนึ่ง


              “หันหน้าเข้าหากำแพงแล้วเรียก ‘พี่ตุลย์’ ร้อยครั้งแล้วจะให้กลับ”

              “อะไรเนี่ย ผมไม่ใช่ลูกพี่ชายนะครับ ที่จะโดนลงโทษมายืนคุยกับกำแพงเนี่ย”

              “ตามนั้น จะเริ่มเรียกยัง เดี๋ยวช่วยนับ”

              “ฟังหน่อยสิโว๊ย” ผมร้องโวยวายขึ้นมา ตั้งท่าจะผละออกแต่ก็โดนจับให้กลับมาหันหน้าเข้าหากำแพงตามเดิม


              ฮือออ TT เขาต้องการอะไรจากผมอะครับ กะไอ้แค่ชื่อเรียกนี่มันทำไมนักหนา เทลมีพลีสส


              “พี่ตุลย์...” สุดท้ายผมก็ยอมเรียกแต่ใช้เสียงที่เบามากจนเหมือนกับว่าเป็นเสียงลมตดของผมเอง

              “หนึ่ง”

              “พี่ตุลย์...”

              “สอง”

              “พี่ตุลย์”

              “สาม”


              เอาจริงดิ นี่ผมต้องเรียกไปถึงร้อยจริงปะ


              “พี่ตุลย์”

              “เรียกไปนะ แล้วอย่าคิดออกมาจากมุมนั้นนะ ไม่งั้นเพิ่มเป็นสามเท่า”

              “ครับบบ พี่ตุลย์” ผมจงใจกัดฟันเรียก เอาให้เห็นชัดๆ ว่าผมโคตรของโคตรไม่เต็มใจที่จะเรียก


              แอ๊ด...


              “ล้างมือหรือยัง แปรงฟันหรือยัง?”

              “พี่ตุลย์ หก...พี่ตุลย์ เจ็ด...พี่ตุลย์ แปด”

              “ล้างมือแล้ว แปรงฟันแล้วครับ” ไอ้เด็กที่หนึ่งตอบพร้อมกับยื่นมือยิ้มยิงฟันให้พ่อที่มาตรวจความเรียบร้อยดู

              “โอเคครับ ปะ ไปนอนเดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นไปเรียนเช้าอีก”

              “พี่ตุลย์ สิบสาม...พี่ตุลย์ สิบสี่...พี่ตุลย์ สิบห้า”

              “แล้วพ่อจะไปนอนเมื่อไหร่อะ?”

              “ที่หนึ่งเข้านอน พ่อก็เข้านอนเหมือนกัน ปะๆ ไปนอนได้แล้ว” ไอ้ตาแก่ใจยักษ์ใจดำอำมหิตบอกกับลูกชายของตนพร้อมกับมือดุนหลัง ไอ้เด็กนั่นก็เดินตรงไปยังประตูห้องของตัวเอง ซึ่งผมอยู่ตรงทางผ่านของมันพอดีไง มันก็เลยจ้องผมแบบไม่วางตาประหนึ่งว่าผมนี่เอเลี่ยนผุดจากกำแพงออกมาเลยทีเดียว

              “เจ้าคนอพยพทำอะไรอยู่น่ะ”

              “พี่ตุลย์ ยี่สิบ...พี่ตุลย์ ยี่สิบเอ็ด...ทำตามคำสั่งพ่อแกอยู่ไง” ผมส่งสายตาเคียดแค้นใส่ไอ้เด็กนั่นหนึ่งทีก่อนจะกลับมาเรียกพี่ตุลย์ต่อ

              “หวายยย อันธพาลโดนลงโทษษษ” มันชี้นิ้วมาทางผมแถมหัวเราะเสียงดังสะใจเต็มประดาแต่ผมก็เบื่อที่จะต่อปากต่อคำเลยทำได้แค่เมินใส่

              “แต่ถ้าลูกยังไม่ไปนอน ลูกจะได้ยืนแบบนั้นเรียก ‘พี่เอส’ ร้อยทีนะลูกนะ” ไอ้คุณพ่อสายโหดสายเถื่อนเข้ามาขู่ลูกตัวเองก่อนจะเปิดประตูแล้วดันไอ้เด็กที่หนึ่งนั่นเข้าไปข้างใน “ง่วง ฉันไปนอนก่อนนะ นับให้ครบก่อนละ แล้วค่อยกลับบ้าน ถ้าไม่ครบ... หึหึ”


              หัวเราะแม่งโคตรเลว


              พูดเสร็จไอ้คุณพ่อลูกสองก็เดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง ทิ้งให้ผมยังเรียก ‘พี่ตุลย์’ อยู่กับซอกกำแพงตามเดิม อยากแอบชิ่งเหมือนกัน แต่ผมก็แม่งกลัวว่าเผื่อฟังอยู่นู่นนี่นั่น เขายังเป็นผู้กุมเงินที่จะเอาจ่ายมหา’ลัยอยู่นะครับ! Holy shit!


              …


              “พี่ตุลย์ ห้าสิบเจ็ด...พี่ตุลย์ ห้าสิบแปด...” ผมมานั่งเรียกอยู่ที่โต๊ะอาหารแทน พออยู่คนเดียวความง่วงก็เริ่มมาครอบงำผม ใจนี่ร้องประท้วงอยากวิ่งกลับบ้านใจจะขาด แต่ก็ยังต้องเรียกตามคำบัญชาของไอ้พี่ตุลย์นั่น “ฮ้าววววว พี่ตุลย์...ห้าสิบห้า เอ๊ยย เมื่อกี้นับถึงเมื่อไหร่แล้ววะ เวรกรรม”


              ...


              “พี่ตุลย์ หกสิบเก้า...พี่ตุลย์ เจ็ดสิบ...”


              โป๊ก!


              “เหี้ย!” ผมร้องอุทานทันทีที่ผมเผลอสับผงกจนหัวโขกโต๊ะอาหาร “พี่ตุลย์ หกสิบห้า...เอ๊ย ใช่เปล่าวะ” ผมขยี้ผมตัวเองที่ถูกเซ็ตเอาไว้อย่างดีจนกลับมาเป็นทรงบางระจันอีกครั้ง ตัดสินใจลุกขึ้นออกจากที่ตรงนั้นแล้วส่งข้อความบอกไอ้ปันว่าวันนี้ผมไม่ได้กลับไปนอนบ้างมัน เดินไปหยิบหมอนที่โซฟา ยิ้มเหี้ยมให้กับประตูห้องนอนใหญ่


              หึหึ ไม่ให้กลับห้องใช่ไหม ได้ บอกแล้วไงไม่ดื้อ~ ไม่กลับก็ไม่กลับดิ!


              ผมกอดหมอนไว้เดินไปปิดไฟทั้งหมดก่อนจะเดินตรงไปยังประตูห้องนอนใหญ่ของไอ้ตาแก่เผด็จการกับไอ้เด็กอ้วน เดินย่องเข้าไปเงียบๆ สอดตัวเข้าไปนอนข้างๆ บนเตียงใหญ่ที่มีที่ว่างเหลือเฟือ


              ผมจงใจหันหน้าเข้าหาใบหน้าที่หลับตาพริ้มของอีกฝ่าย


              ตื่นมาได้เจอกันแน่ ไอ้ ‘พี่ตุลย์’ ! : )





TBC
       

คัมแบ็คคค กลับมาจากภูเก็ตแล้วค๊าาาา คิดถึงไอ้เอสไหม
ส่วนใครที่รอแบบว่า พี่ตุลย์แบบจะทำอะไรโรแมนแบบนั้น ก็ต้องขออภัยด้วย พี่ตุลย์ก็ยังเป็นพี่ตุลย์อยู่ดี  5555555555555
#daddybelover
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 18-06-2015 04:55:55
55555555555 เอสเกรียนได้ใจจริงๆ ชอบๆ
รอตอนต่อไปค่ะ :)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 18-06-2015 08:15:12
เอสเกรียนได้ใจมาก XD
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 18-06-2015 08:39:24
พี่ตุลย์ ลงโทษ ไอ้เอส

หรือหาเรื่องให้เด็กมันนอนค้างที่ห้องด้วยนี่
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 18-06-2015 09:59:19
เอสมั่นใจแน่เหรอคะว่าพอตื่นขึ้นมาแล้วพี่ตุลย์จะตกใจจริงๆ น่ะ เราว่าจะเป็นเอสที่ตกใจเองเสียเองล่ะมากกว่า อย่าลืมนะคะว่าพี่ตุลย์เขาก็จิตแข็งอยู่นาา.. ไม่อย่างนั้นคงคุยกับเอสไม่รู้เรื่องหรอกค่าา :laugh: เอ๊ะ! ยังไง?
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 18-06-2015 11:10:26
ตลกดี  :m20:
คืออ่านมาขนาดนี้ยังเดาทางไม่ออกว่าใครเมะเคะรัยงี้
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 18-06-2015 11:35:44
เอสเกรียนหนักมาก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 18-06-2015 11:39:57
อ่านแร้วมันรู้สึกเขินๆ จั๊กจี๊ๆ อ่ะ
แบบดูไม่มีอะไร แต่ความหวานมันลอยฟุ้งพิกล >\\\\<
เรียกพี่ตุลย์ให้ชินเอส ต้องเรียกไปอีกนาน 555
#ไปนอนบนเตียงแบบนั้น พี่ตุลย์ตื่นมาจะหัวใจวายไหมเนี่ย คิคิคิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-06-2015 11:55:06
ลงโทษได้สมกับเป็นคุณพ่อมากอะ มีหลายวิธีการจัดการกับเด็กดื้อ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: whitefang ที่ 18-06-2015 12:34:06
5555 ตกลงพี่ตุลย์มีลูกสามคนใช่มะ 55
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 18-06-2015 12:56:26
พี่ตุลย์ ~
ฮ่อยยย เอสนี่น่ารักน่ากระทืบดีจริงๆ...
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 18-06-2015 13:14:10
#เอสอ่อยหนักมาก 5555555555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 18-06-2015 13:52:29
 :z10:  :z3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 18-06-2015 16:12:32
 :laugh:  เอสจ๊ะ ทำไมเธอถึงเกรียนเยี่ยงเน้
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 18-06-2015 16:52:59
พี่ตุลย์ 69  หึหึหึ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 18-06-2015 20:13:54
โคตรเกรียนอ่ะ 55555+

อยากรู้จริง พอตื่นมาจะเป็นยังไง อิอิๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 18-06-2015 20:46:55
พี่ตุลย์ก็ยังเป็นพี่ตุลย์สินะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 18-06-2015 21:38:39
แกจะเกรียนไปถึงไหนกันล่ะเนี่ยนังเอสสสสส
ฉันล่ะเพลีย+ขรรมวายวอดมาก
ปล.รอตอนต่อไปจ้าาาา
ปปล.โมเม้นต์หวานๆจะบังเกิดขึ้นตอนไหนล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 18-06-2015 23:47:34
งานนี้พ่อตุลได้เมียหนุ่มใหม่ให้สองแสบแน่ๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 8 (17/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 19-06-2015 09:34:12
งานนี้พี่ตุลย์คงหาทั้งแม่ใหม่และลูกอีกคนได้ในคนๆเดียวแน่นอน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 8.5 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 19-06-2015 16:26:09
             
ตอนที่ 8.5


             


              แรงสั่นจากมือถือในกระเป๋ากางเกง ทำให้ผมที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา คว้านมือเข้าไปหยิบกดปิดนาฬิกาปลุกที่ตั้งเอาไว้อย่างทุกที แอบงีบอีกสักนิดนับ 10 9 8 7 ในใจแล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้น เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยหัวใจที่แข็งแรง


              ...


              ทันทีที่ผมลืมตา ภาพที่ผมเห็นเป็นอย่างแรกไม่ใช่ภาพของกำแพงหรือ ไอ้ปันที่นอนอยู่อีกเตียง มันเป็นภาพของ...ใบหน้าที่กำลังหลับตา...กะ...กะ ใกล้มาก


              ลมหายใจอุ่นๆ จากคนๆ นั้นรดลงมาที่ปลายจมูกของผม


              3


              2


              1


              ...


              “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!”


              โครม!!!


              “หนวกหูอะไรแต่เช้าเนี่ย สงบเสงี่ยมสักวันได้ไหม” ทันทีที่ผมแหกปากร้องลั่นจนคอนโดโยก ไถตัวกระดึ๊บๆ ไปข้างหลังด้วยความตกใจตกโครมจากเตียงไปสู้พื้นไม้เล่นเอาตูดระบม ก็รีบกุลีกุจอปีนป่ายโผล่หัวกลับขึ้นมาบนเตียง


              ไอ้ตัวการที่ทำผมตกเตียง (คือไม่ยอมรับว่าโง่ตกไปเองไง) ยังไม่ตื่นครับ แต่คิ้วเนี่ยขมวดกันแน่นตามฉบับพี่แกพอให้รู้ว่าไม่โอเคกับการโดนปลุกด้วยวิธีที่ฮาร์ดคอร์อย่างเมื่อครู่


              เพี๊ยะ!


              ผมตีแขนคนที่นอนอยู่บนเตียงด้วยความโมโหอะไรสักอย่าง จนพี่แกลืมตาตื่นขึ้นมาจ้องเขม็งทางผม


              “ตีฉันทำไม?”

              “แล้วใครบอกให้พี่มานอนใกล้ผมขนาดนี้ด้วยเล่า!” ที่จริงแล้วนอกจากหน้าจะใกล้กันมากแล้วนะครับ แขนพี่แกก็พลาดอยู่บนเอวผมด้วยจะบอก!

              “เอ้า ไม่รู้ นึกว่าเป็นที่หนึ่ง แล้วใครใช้ให้นายมานอนเตียงฉันเล่า” ไอ้คุณพี่ตุลย์ลุกขึ้นนั่งบิดขี้เกียจซ้ายทีขวาทีก่อนจะลุกไปยังทางด้านซ้ายของห้องที่ถูกกั้นเอาไว้เป็นที่นอนของตอนต้น ไอ้อู๊ดๆ ตัวอ้วนที่ผมไม่เห็นมันเลยเมื่อวาน แต่ตอนนี้มันลืมตาแป๋วมองผมอยู่ในอ้อมแขนคุณพ่อมันแล้วครับ


              ผมทำเสียงจิ๊จ๊ะกับตัวเองสองสามที พอประมวลนู่นนี่นั่นได้ ก็รู้สึกหงุดหงิดกว่าเดิม เออ พอดีเพิ่งนึกออกไง ว่าจะแกล้งพี่แกไงครับ แบบผมตื่นมางี้ใช่ปะ แล้วก็นอนหันหน้าหาพี่แก เอามือเท้าหัว ยิ้มหวานให้ตอนเช้า แบบอารมณ์ตาเฒ่าหัวงูมอมเหล้าสาว แล้วตื่นเช้ามายิ้มสดใสแต่ที่จริงในใจ คือ กูได้มึงแล้วครับสาวน้อย (เสียงหล่อ) อะไรแบบนี้อะ กะจะให้พี่แกตกใจครับ ปรากฎ เป็นกระผมเองที่ตกใจจนตกเตียง


              เจ็บใจแล้วยังเจ็บตัวตั้งแต่เช้าอีกกู


              “แล้วนั่นเป็นอะไร ไปนั่งที่พื้นทำไม?” ขณะที่ผมคิดอะไรเพลินๆ เสียงเรียบๆ โทนเบสก็ดังผ่านไหล่ของผม ผมหันไปตั้งใจจะตอบ แต่พอเห็นระยะหน้าของพี่แกที่อยู่ห่างไปไม่เท่าไหร่ ผมก็รีบพลิกตัวด้วยความตกใจจนไหล่ชิดกับขอบเตียง!

              “เอาหน้ามาใกล้ทำไม!” ผมโวยวายอีกรอบ

              “อะไร? ก็เรียกแล้วเมื่อกี้ไม่หันเองอะ หยุดแหกปากได้แล้ว กะจะปลุกให้คนทั้งคอนโดตื่นเลยใช่ไหม?” ไอ้เวรพี่ตุลย์พูดเสียงระคนเหนื่อยหน่าย เดินอุ้มลูกคนอ้วน ไอ้เด็กตอนต้นออกไปนอกห้องนอน ทิ้งผมเอาไว้นั่งชิดขอบเตียงอยู่ที่เดิม ให้สงบสติอารมณ์


              เวรกรรม ตื่นใหม่ๆ หัวผมแม่งยังมึน น็อคแดกอยู่แน่นอน ขอเวลาสงบจิตใจแป๊บครับ คือตั้งแต่ตอนตื่น จนถึงตอนเมื่อครู่ หัวใจผมนี่เต้น Bon Bon เลย (แม่งเต้นแบบนี้จริงๆ ไม่เชื่อเปิดฟังท่อน Bon Bon แม่งจังหวะหัวใจผมเลยครับ!)


              ...


              อื้ม...


              ...


              มันไม่หายอ่ะะ!


              ผมเปิดประตูผ่างจนสามหนุ่มได้แก่ ไอ้ตาเฒ่า ไอ้เด็กที่หนึ่ง และไอ้อู๊ดๆ เด็กอ้วน หันมาจ้องผมเป็นตาเดียวแต่ตอนนี้ผมไม่สนใจเดินผ่านไอ้ครอบครัวสุขสันต์สามหนอนั่นออกจากห้องไปเลย พร้อมร้อง ‘อ๊ากกกก อ๊ากกกกก’ อยู่ในหัว


              คือแม่งเข้าใจผมปะ คือไอ้คนที่ผมตื่นมาแล้วเจอคือมันไม่ใช่เพื่อนผมไงครับ ไม่ใช่รุ่นพี่ ไม่ใช่พ่อแม่ คือแม่งไม่ใช่คนที่ผมแบบให้สถานะที่ชัดเจน 1000 เปอร์เซ็นไรเงี่ย มันก็เลยแบบเหมือนคนแค่รู้จักหันเฉยๆ แล้วเอาหน้ามาใกล้ๆ อะ แม่งจะอธิบายยังไงดีวะ!


              สรุป ผมไม่โอเคกับช็อตตื่นนอนนั่น โอเคปะครับบบบ


              อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!
             







TBC
ทำไมต้องเป็น 8.5 คือ เอิ่ม..... มันเป็นเรื่องของตอนที่ 8 ไง 55555555555555
เอามาไถ่โทษ เพราะเมื่อวานไม่ได้ลงอะไรให้เลย ฮือออออ
แต่ของวันนี้ก็ต้องมาาาาาาา

ใครถามหาโมเม้นหวาน อันนี้หวานไหม อาจจะหวานสุดได้แค่นี้สำหรับ ไอ้เอส (เลิกเรียกน้องเอส 55555) และพี่ตุลย์
#daddybelover
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 8.5 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 19-06-2015 16:37:24
น้องเอสเจบตัวอีกละ

ไหนๆก้ตื่นแล้วเลี้ยงเดกหน่อยจิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 8.5 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 19-06-2015 19:29:23
เหมือนมาทำให้อยากแล้วจากไป งื้อออ เอาอีกๆๆๆๆ  :ling1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 8.5 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 19-06-2015 21:07:24
โมเมนต์แบบนี้มันจะเกิดเฉพาะตอนที่ไม่รู้ตัวสินะ ไอ้เอส  o18
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 8.5 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seraty ที่ 19-06-2015 21:40:58
คือว่าอ่านตอนเเรกก็น่าสนุกนะเเต่ว่ามาตอนหลังๆเริ่มมั่วกับการบรรยายของเอส
คือเอสมันห่ามไปนะพูดจากับเด็ก ราวกับว่าไม่ได้ผ่านการศึกษามา พี่ตุลย์กะงง
 สรุปเเล้วพี่ตุลย์มีเมียตอน19 ได้ที่หนึ่งมาตอน20 เเล้วเมียกะหนีไปตั้งเเต่ที่หนึ่งหย่านม5เดือน
แล้วตอนต้นนี่เกิดจากแม่คนไหน งง สงสัยเกิดจากกระบอกไม้ไผ่รึ หรือว่ายังไงเหมือนคนเขียนจะไม่เอ่ยถึง ขนาดมาถึงตอนแปดเเล้วยังรู้สึกอึดอัดกับการบรรยายของเอส คือรู้สึกถึงความเยอะ และการไม่ไหลลื่นของภาษา ยิ่งอ่านยิ่งงง เม้นหนักขนาดนี้คงไม่ว่ากันนะ เพราะเรารู้สึกอย่างงี้จริงๆ แต่ถามว่าพล็อตเรื่องดีไหม มันกะโอเคเเต่ปรับเนื้อหาให้เข้าใจง่ายหน่อย อ่านเเล้วมันไม่ฟิน ต้องค่อยปรับไป
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 8.5 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 19-06-2015 22:41:05
ตกใจเองจนได้นะคะเอส ว่าแล้วเชียว~ :laugh:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 8.5 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 19-06-2015 23:02:19
บางครั้ง...ก็สั้นไปนะคะ T^T
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 8.5 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 19-06-2015 23:04:17
ชอบชื่อตัวละครอ่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 8.5 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 20-06-2015 02:38:52
555555 จะเซอร์ไพร์เค้า
โดนซะเองไง ตกเตียงเลยด้วย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 8.5 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 20-06-2015 09:32:11
ตอนที่ 9






              วันนี้วันหยุดของผมที่ร้านหมูกระทะ ทำงานเซเว่นเสร็จตอนเช้าวันนี้ก็ถือว่าว่างทั้งวัน อันนี้ผมจะขออธิบายนิดนึงครับ คือ ตามกฎหมายเขาไม่ให้ทำงานอาทิตย์นึงเกิน 42 ชั่วโมงครับบ ต่ออาทิตย์ผมก็เลยมีเวลาว่างหนึ่งวัน แต่ปกติผมชอบทำผิดกฎหมายครับ เพราะหยุดแล้วผมไม่รู้จะทำอะไรไง เลยทำงานทุกวัน สะสมวันหยุดไว้


              ผมนอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงในบ้านของไอ้ปัน ทำงานเซเว่นเสร็จ ผมก็ไม่รู้จะทำอะไรก็เลยตั้งใจว่าจะกลับมาเล่นกับมัน แต่ก็ดันไม่อยู่ พอโทรถามก็บอกว่าอยู่บ้านเพื่อน ผมก็เลยมานอนแง่ว โดดเดี่ยว เดียวดายในท้องเลอยู่แบบแหละครับ


              “โอ๊ย ร้อน โอ๊ยย เบื่อ...” ผมพูดบ่นพึมพำกับตัวเองพลางใช้มือพัดหน้าระบายความร้อน ที่บ้านนี้คุณแม่ของไอ้ปันมีกฎไว้ว่าห้ามเปิดแอร์จนกว่าจะหกโมงเย็น ตอนนี้ทั้งบ้านก็เลยร้อนตับแลบ สงสัยคุณแม่จะลืมว่าประเทศไทย นี่อุณหภูมิอยู่ที่ 15 ครับ


              15 องศาจะครบล้าน!


              ใช่ซี๊ คุณแม่ กับไอ้ปัน กฎนี้ไม่ค่อยกระทบพวกเขาเท่าไหร่หรอกครับ คนนึงก็ออกไปทำงาน อีกคนก็ไปหาเพื่อน เหลือแต่กระผมนอนเป็นคนหล่อแดดเดียวอยู่แบบนี้ ฮือ


              “ร้อน...” ผมบ่นอีกรอบพลางกลิ้งตัวนอนคว่ำหน้าลงกับเตียง ตอนนี้ทั้งเสื้อทั้งเตียงรู้สึกชื้นๆ ไปด้วยเหงื่อของผม


              อยากไปที่เย็นๆ แต่ห้างฯ ไม่ใช่ที่ของผม แค่ค่ารถนี่ก็เสียดายแล้ว ไม่มีที่ไหน ที่เปิดแอร์ แล้วอยู่สบายๆ แบบบ้านไรงี้บ้างไงวะ


              ...


              พรึ่บ!


              ผมเด้งตัวลุกขึ้นมา เมื่อนึกถึงคอนโดของครอบครัวสามหนุ่ม


              บ้านนั้นเปิดแอร์ตลอดครับ เพราะตอนต้นต้องอยู่บ้าน แถมตอนนี้ป้าสร้อยก็คงกำลังดูแลเด็กอ้วนนั่นอยู่ แปลว่ามันจะไม่มายุ่งกับผม Freedom! คิคิ


              ว่าแล้วผมก็รีบกุลีกุจออาบน้ำแต่งตัวใหม่ โทรหาพี่มอไซค์รับจ้างระหว่างแต่งตัว ทันทีที่เซ็ตผม wet look เสยด้านหลังเสร็จแล้วก็เป็นจังหวะเดียวกับทีพี่มอไซค์บีบแตรเรียกพอดี


              รออะไรละครับ ไปใช้แอร์ฟรีกันเลยยยย!











              ผมเดินเข้าคอนโดราวกับเป็นคอนโดของตัวเอง ตอนแรกๆ พนักงานประชาสัมพันธ์เขาก็ระแวงผมนะครับ ที่แอบด้อมๆ มองๆ ทุกทีเวลาจะขึ้นคอนโด (คือผมไม่มีคีย์การ์ดไง) แต่พักหลังๆ คือมาบ่อยมาถี่ ชนิดที่ว่ามาทุกวัน จนเดี๋ยวนี้พี่ๆ ประชาสัมพันธ์นี่เปิดประตูให้ผมเองก็มี


              คิดใช่ไหมละ ว่าตั้งแต่วันนั้นที่ผมร้อง อ๊ากกกก ออกมาจากห้อง แล้วผมจะกล้ากลับมาที่นี่หรือเปล่า บอกไว้ตรงนี้เลยครับว่า กล้า!


              ก็แบบ ก็เค้าหน้าด้านนิดนึงอ่ะ ผ่าง!


              ไม่ใช่อะไรครับ คือพอผ่านวันนั้นไปทุกอย่างก็ปกติดีไม่มีอะไร หัวใจผมเต้นเป็นจังหวะธรรมดา บางวันผมกับพี่ตุลย์ (เริ่มเรียกจนชินแล้ว) ก็อยู่ใกล้กันนะครับ เวลาอยู่ในครัว เดินสวนอะไรเงี่ย แต่เรื่องนอนค้างคือนับตั้งแต่วันนั้นก็ไม่มีอีกเลย ต่อให้ต้องลากตัวเองทั้งๆ ที่หลับกลางอากาศไปแล้ว ก็ต้องกลับบ้านไอ้ปันลูกเดียว


              เกรงใจ~ ไม่อยากไปรบกวนเตียงเขาแล้ว เป็นเด็กดีปะละ ไม่ดื้อ~


              ติ๊ง!


              ผมก้าวเดินออกจากลิฟท์ตรงไปยังห้อง B8002 ตามความเคยชิน เคาะประตูเล็กน้อย ก่อนจะเห็นป้าสร้อยที่อุ้มตอนต้นเปิดออกมาต้อนรับ ผมกับป้าเขาไม่เคยคุยกันแบบตัวต่อตัว เพราะว่าผมมาดึกตลอด แต่ผมเดาว่าพี่ตุลย์คงพูดถึงผมให้ป้าสร้อยฟังแล้วบ้างอะนะ ป้าแกเลยไม่มองผมด้วยสายตาแปลกๆ เหมือนตอนที่ไอ้เด็กที่หนึ่งบอกว่าผมขายตัวเหมือนครั้งนู้นนนนนน


              “มาหาตุลย์หรอลูก?”

              “ครับ จะเอาเงินมาคืนให้อะครับ พอดีตอนนี้ผมว่างก็เลยว่าจะรอจนกว่าพี่ตุลย์จะกลับมาอะครับ” ผมยิ้มหวานให้กับป้าสร้อย สกิวจิ๊จ๊ะกับสาวของผมนี่ใช้กับทั้งวัยรุ่นทั้งวัยโลงเลยนะครับขอบอก!

              “งั้นเข้ามาข้างในก่อนสิ จะได้ช่วยป้าดูตอนต้นด้วย เห็นตุลย์เล่าให้ฟังว่า ตอนต้นยอมให้อุ้มด้วย”


              มันยอมครับ แต่ผมไม่ยอมครับ ก็เลยไม่อุ้มมัน


“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ” ผมทรุดตัวลงนั่ง ก้มมองเด็กอ้วนตัวที่คลานเป็นวงกลมรอบเก้าอี้ทานข้าวของตัวเอง


              เอ่อะ...ตอนเกิดหมอใช้คีบหนีบหัวแรงไปหรอ?


              ผมเลิกสนใจเด็กอ้วนตอนต้นนั่น พอป้าสร้อยมานั่งเล่นกับมันผมก็เอื้อมไปหยิบรีโมทดูอะไรฆ่าเวลาประมาณว่า ผมเป็นเจ้าของห้องนี้เลย


              “ตอนต้น ไม่เอาลูก ไม่โยนของสิ โยนของเป็นเด็กไม่ดีนะรู้เปล่า”


              ผมละสายตาจากการ์ตูนที่กำลังฉายอยู่มองตอนต้นที่กำลังโยนแท่งไม้สามเหลี่ยมสีน้ำเงินใส่พื้น แล้วก็ขว้างแท่งไม้สี่เหลี่ยมสีแดง ใส่ป้าสร้อย ต่อด้วยหยิบแท่งไม้วงกลมสีเขียวกระแทกๆ กับพื้นร้อง ‘แอร๊ยๆ’ ไปพลาง


              เข้าใจนะครับว่าเด็กมันเล่นของเล่นไม่เป็น แต่ดูทำ นี่ถ้าเป็นลูกผมนะจะหยิกให้ตัวเขียว อะไรไม่น่าโกรธแทนเท่าปาของใส่คนเนี่ยแหละครับ


              ปึก!


              “โอ๊ย!”


              ไอ้เด็กอ้วนตอนต้นมันเอา แท่งกลมๆ ที่กระแทกพื้นเมื่อกี้มากระแทกที่ข้อเท้าผมครับ! ไอ้เด็กนี่!


              “ตอนต้นไม่เอาสิลูก อย่าไปทำพี่เขา”


              ป้าสร้อยที่ก็เป็นเหยื่ออีกคนที่โดนทำร้าย พยายามจะเอื้อมมือมาอุ้มตอนต้นออกไปจากข้อเท้าผม แต่ทันทีที่มือป้าแกแตะตัวมัน หน้ากลมๆ ก็แบะออกตั้งท่าจะร้องไห้ทันทีจนป้าสร้อยต้องชะงักไป ส่วนผมนี่ โมโหเลย ย้ำอีกครั้งผมไม่ค่อยถูกกับเด็กครับ!


              ผมใช้เท้าเขี่ยก้นมัน กะว่าแม่งให้หงายหลังสักทีสองที แต่! ไม่ได้ผลครับ ไอ้เด็กอ้วนนั่นพอผมเขี่ยตูดมันปุ๊บ ก็คว้าขาผมปั๊บ มานั่งทับหลังเท้าผมอีก ตาแป๋วๆ ช้อนมองที่ผม รอยยิ้มน้อยๆ นั่นดูชอบอกชอบใจที่ตัวเองได้แปลงร่างเป็นโคอาล่าแล้ว


               “ป้าสร้อยเดี๋ยวผมจัดการไอ้นี่เองครับ มื้ออาหารต้อนรับพี่ตุลย์ ต้มยำเด็กอ้วน” ว่าเสร็จผมก็ลุกขึ้นเดินโดยมีเด็กอ้วนที่ว่านั่นเกาะขาไปด้วย เดินเข้าไปในครัว กะจะใช้ตะหลิวแงะมันออกที่นั่น แล้วจับมันต้มเลย


              วันนี้แหละ กูจะได้เป็นอมตะ หึหึหึ


              ปัง!


              ผมสะดุ้งโหยง ขณะที่กำลังใช้ตะหลิวแงะเด็กอ้วนออกจากขาเสียงประตูกระแทกวงกบก็ดังขึ้น!


              “ป้าสร้อยครับ ขอบคุณมากนะครับที่ดูตอนต้นให้ ป้าสร้อยกลับไปก่อนเลยนะครับ” ผมหันมองตามเสียง แต่บังเอิญว่าผมอยู่ในห้องครัว มันเยื้องกับห้องนั่งเล่น ผมก็เลยไม่เห็นอะไร

              “อะ โอเค งั้นพรุ่งนี้เดี๋ยวป้าจะแวะมาใหม่นะ” ป้าสร้อยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนจะลังเล แต่ไม่นานนักผมก็ได้ยินเสียงประตูอีกครั้งเป็นการบ่งบอกว่าสุดท้ายป้าสร้อยก็ตัดสินใจที่จะออกจากห้องไป


              เกิดอะไรขึ้นวะ?


              “ที่หนึ่งไปนั่งบนโซฟา”

              “...”


               เสียงทุ้มที่ผมได้ยินทุกวันกดให้ต่ำลงราวกับต้องการคุกคาม แม้ผมที่อยู่ในครัวก็ยังรู้สึกขนลุกกับเสียงนั้น ผมวางตะหลิวลงบนเคาเตอร์ให้เบามือที่สุด สถานการณ์ตึงเครียดเริ่มลอยตลบอบอวลไปทั่วห้อง จนผมต้องยอมที่จะอุ้มตอนต้นขึ้นมาจากหลังเท้า


              “พ่อเคยสอนลูกให้เป็นคนแบบนี้หรอ? พ่อเคยสอนลูกให้เป็นนักเลงใช่ไหม?”

              “เปล่า...”


              ผมเดินอุ้มตอนต้นออกไปดูสถานการณ์ ก่อนจะเห็นว่าที่หนึ่งกำลังนั่งอยู่บนโซฟากอดกระเป๋านักเรียนโดยมีผู้เป็นพ่อยืนค้ำหัวอยู่ แม้เขาจะหันหลังให้ผม แต่น้ำเสียงและบรรยากาศโดยรอบก็ทำพอเดาได้ว่า เขาไม่ใช่บุคคลที่ควรจะไปทักทายตอนนี้


              “ถ้าพ่อไม่ได้สอนให้ลูกเป็นนักเลง แล้วไปต่อยเพื่อนเขาทำไม!” มือใหญ่นั่นคว้าเข้าที่ต้นแขนลูกชายคนโต ผมไม่แน่ใจเรื่องแรงนัก แต่มันก็คงอาจจะแรงเพราะเด็กที่หนึ่งเริ่มมีน้ำตาใสๆ คลอหน่วงอยู่ที่ตา


              คุณควรจะรู้ไว้อย่างหนึ่ง เด็กผู้ชายอายุเก้าขวบ เริ่มไม่ใช่วัยที่จะร้องไห้ด้วยเรื่องงี่เง่าแล้วนะครับ...


              “เพื่อนลูกเขาทำอะไรผิดนักหนา ยกโทษให้ไม่ได้หรืออะไร? หรือจะอวดภูมิ กร่าง สถาปนาตนว่าเออ ฉันนะเก่ง หรือยังไง? หรือดูการ์ตูนมาก อยากต่อสู้ ก็เลยไม่เอาแล้วนักเรียน จะเป็นนักเลงแบบนี้หรอ?”

              “เปล่าสักหน่อย!” ที่หนึ่งปฏิเสธทันทีเสียงดัง แต่ก็ต้องกลับไปก้มหน้าเมื่อสบตากับผู้เป็นพ่อของตน

              “งั้นบอกมา ว่าทำไม ไปต่อยเขาทำไม! ลูกจะร้องกลับบ้านก่อนบ้างบางที พ่อไม่เคยว่า เข้าใจว่าลูกคงติดบ้าน เรียนไม่ดี ไม่ตั้งใจเรียน พ่อก็พยายามเข้าใจ แต่ทำไม ทำไมลูกต้องทำตัวเลวร้ายจนถึงขั้นไปต่อยคนอื่น ลูกอายุเก้าขวบเองนะ ถ้าตอนนี้ทำตัวแบบนี้ โตขึ้นลูกจะไปเป็นโจรเลยไหม!”

              “ก็ไอ้นั่นมันด่าผมว่าลูกไม่มีแม่นี่!!”

              “!!”

              “...” ผมพิงกำแพงดูสถานการณ์ตรงหน้านั่นเงียบๆ


              ไม่มีแม่? เหออ คำคุ้นๆ เหมือนผมก็เคยโดน


              “เขาด่าลูกอย่างนั้นแล้วไง มันเลวร้ายมากจนต้องไปต่อยเขาเลยไหม ต้องต่อยเขาหนักจนคิ้วแตกเลยใช่ไหม กับไอ้แค่คำว่าไม่มีแม่เนี่ย! มันฟังแล้วทะลุออกอีกหูไม่ได้เลยใช่ไหม!”

              “...”


              ผมหัวเราะในลำคอ ไม่ได้ตลก แต่รู้สึก...ยังไงดี เยาะเย้ย สมเพช ไม่รู้ดิ? นี่สำหรับคำว่า ‘ไม่มีแม่’ สำหรับเขามันเบามากงั้นดิ ประหนึ่งแบบ ‘ไอ้ถุงเท้าขาด’ อย่างงี้เลยใช่ไหมอะ?


              “เขาด่าแล้วไง ก็ลูกมีแค่พ่อจริงๆ แล้วมันทำไม มันเป็นความจริง รับไม่ได้? ต้องโกรธ ต้องโมโห ต้องไปต่อยเขาใช่ไหม!? มันจะทำไมนักหนากับคำว่า ไม่มีแม่!”

              “...” น้ำตาของที่หนึ่งหยดลงมา แต่ไม่มีเสียงสะอื้น “แล้วทำไมผมถึงไม่มีแม่เหมือนคนอื่นๆ บ้างเล่า! ทำไมแม่ไม่อยู่กับเรา!? ถ้าแม่อยู่ด้วย ผมจะโกรธจนไปต่อยมันไหมละ!”


              ผมกำหมัด...


              มันผิดมากหรอวะ ที่โดนล้อ ‘ปมด้อย’ แล้วจะโกรธ


              “ไม่มีก็คือไม่มี ไปต่อยไอ้คนที่ล้อ แล้วลูกจะมีแม่ขึ้นมาไหม! ไปต่อยมันนอกจากจะโดนด่าว่าไม่มีแม่ ยังโดนด่าอีกว่าพ่อไม่สั่งสอน! มีแต่เรื่องวุ่นวายเข้ามาทั้งนั้น ทำแล้วมันดีขึ้นไหม ไปต่อยคนอื่นอ่ะ! ไม่มีแม่ก็คือไม่มีแม่ แค่นั้น ฟัง! แล้วก็ปล่อยให้มันทะลุหูไปเลย ทำได้ไหม!? ทุกวันนี้พ่อทำงานก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว อย่าสร้างเรื่องวุ่นวายให้พ่อเพิ่มอีกได้ไหม!

              “นี่คำพูดของคนเป็นพ่อหรอ?” ผมเดินอุ้มตอนต้นออกมาขวางระหว่างคนสองคนไว้ ก่อนหน้านี้ผมไม่อยากให้เด็กอ้วนนี่ฟังพ่อห่วยแตกสักเท่าไหร่ เลยกดหัวให้หูจมกับไหล่ผมแล้วเอามืออุดหูอีกข้างเอาไว้แล้ว

              “นาย...”

              “ที่หนึ่งเอาตอนต้นไปเล่นที่ห้องที่หนึ่งก่อนไป” ผมอุ้มตอนต้นให้กับไอ้เด็กที่หนึ่งที่นั่งอยู่บนโซฟา เด็กนั่นก็รับตอนต้นไป แต่ก็ยังไม่ยอมลุกจากที่
             
              “...”

              “ที่หนึ่ง ไปเข้าห้องก่อนไป” ผมย้ำ อีกฝ่ายจ้องหน้าผก่อนจะพยักหน้าแล้วอุ้มน้องตัวเองเข้าไปในห้องนอน ทันทีที่ประตูห้องนอนของที่หนึ่งปิดลง ผมก็หันมาเผชิญหน้ากับคุณพ่อยอด ‘แย่’ แห่งปี

              “มาเกี่ยวอะไรด้วย?”

              “พอดีนามสกุล ‘อยู่เสือก’ ก็เลยต้องเสือกอยู่นี่ไง” ผมยิ้ม แต่เขาก็คงรู้ว่ามันเป็นการยิ้มที่กำลังด่าเขานั่นแหละ “จริงๆ ก็ไม่ไต้ตั้งใจจะยุ่งหรอก เรื่องของครอบครัวใครก็จัดการกันเอง แต่มันรับฟังไม่ได้จริงๆ ว่ะ คือพ่อของผมดีไง เลยไม่คิดว่าจะมีคุณพ่อแย่ๆ แบบนี้อยู่บนโลก”


              ตุ๊บ!


              เขาจับคอเสื้อแล้วใช้แขนดันผม คงตั้งใจจะให้กระแทกกับกำแพงด้านหลัง แต่เพราะมีโซฟากั้นอยู่ผมก็เลยร่วงลงไปนั่งแทน ผมเงยหน้ามองคนที่ยืนค้ำหัวผมอยู่


              “นายอยู่ในสถานะหรอเอส ถึงได้มาด่าฉันแบบนี้” เขากดเสียงต่ำ

              “สถานะหรอ...อื้ม เอาสถานะแรกก่อนแล้วกัน สถานะคนไม่มีแม่ พออยู่สถานะนี้พูดได้ปะ?” ผมยิ้ม ผมจงใจทำหน้าหน้าทำตากวนประสาทคนตรงหน้าผมโดยเฉพาะ “ถามจริงเรื่อง ‘ไม่มีแม่’ ของเด็กวัยแบบที่หนึ่งเนี่ย แม่งเรื่องขี้ปะติ๋วมากดิ?”

              “...”

              “เคยมีปมด้อยไหม? รู้จักปะ สิ่งที่เรียกว่า ปมด้อย หรือพี่ไม่เคยมี มีครอบครัวสุขสันต์ พ่อแม่ส่งเสียง มีเงิน มีเพื่อน เรียนดี ชีวิตโคตรเพอร์เฟ็คไรงี้? ถ้าไม่มีปมด้อยเลยชีวิตนี้ พี่นั่นแหละ เอา ‘สถานะ’ อะไรไปด่าลูกวะ!” ผมยืนขึ้นแล้วผลักอกเขา “ไม่ดิ ไม่ใช่ด่าลูก เอาสถานะอะไร ไปด่าเด็ก ‘ไม่มีแม่’!”

              “...”

              “ถ้าตอนนี้แม่พี่ตาย ก็ไม่รู้พี่จะรู้สึกถึงการเป็นเด็กไม่มีแม่ไหม แต่ถ้ามีคนมาด่าปมด้อยนี่ ต้องยิ้มรับใช่ไหม? ต้องพูด ‘ขอบคุณ มากนะที่มาด่าปมด้อยผม’ แบบนี้เลยใช่ไหม?”

              “เรื่องที่ไม่มีแม่มันช่วยไม่ได้นี่!”

              “แต่เรื่องที่จะทำให้เขารู้สึกว่ามันเป็นปมด้อยหรือเปล่า พี่ช่วยได้นี่! ถ้าพี่ทำให้เขารู้สึกตัวเองไม่มีปมด้อยซะอย่าง ถ้าพี่เป็นพ่อ แล้วเป็นแม่ให้เขาได้ดีพอ จนเขาไม่รู้สึกขาด มันจะถึงขั้นเป็นปมด้อยไหม! ผมก็ไม่มีแม่ แม่ผมตายตอนคลอดผมเนี่ยแหละ แต่ผมมีพ่อ! พ่อที่พยายามดูแลผมอย่างดีทดแทนสิ่งที่ผมขาด เป็นทั้งพ่อ ทั้งแม่ ให้ผมได้! ผมก็เคย...มีคนมาล้อผมเหมือนกันว่า ไอ้เด็กไม่มีแม่ แต่พ่อทำให้ผมรู้ว่ามันไม่ใช่ปมด้อย! ผมก็แค่กลับไปถาม พ่อ แม่ไปไหน แค่นั้น ลองคิดดิ ว่าทำไม ที่หนึ่งถึงรู้สึกว่าการไม่มีแม่ ถึงได้เป็นปมด้อยขนาดต้องไปต่อยเพื่อนแบบนั้น!”

              “...”

              “ไม่ใช่เพราะพ่อมันเฮงซวยหรอวะ!”

              “!”

              “ต่อมา อันนี้ผมพูดในสถานะ ‘คนเป็นลูก’ พี่ที่จริงก็เป็นลูกเหมือนกัน แต่สงสัยจะคิดว่าตัวเองเป็นพ่อเยอะเกินไปหน่อย เลยลืมไปแล้วดิ ว่าตอนนี้ตัวเองก็เป็นลูกเหมือนกัน”

              "...”

              “พี่พูดว่าไรนะ อ๋อ! ‘อย่าสร้างเรื่องวุ่นวายเพิ่มอีก’ คำนี้ ผมแม่งโคตรจี๊ด เห็นแก่ตัวไปปะ? นั่นลูกพี่นะ ไม่ใช่เด็กที่เก็บมาเลี้ยง เด็กวัยเก้าขวบอะ แม่งทำไรได้บ้าง ทำงานพิเศษ ก็ต้องสิบห้าบัตรประชาชนมีก็ยังเก็บเองไม่ได้เลย! พี่คิดบ้างไหม ว่าคำพูดพวกนั้นจะติดลงไปในซีรีบั่มของที่หนึ่งอะ พอหลังจากนี้พอมีเรื่อง ให้เด็กนั่นทำไง เก็บไว้ แล้วเขียนไดอารี่? พี่คิดจริงๆ หรอว่าเด็กมันสามารถจะไม่มีเรื่องได้ตลอดชีวิต มันต้องเรียนรู้ บางคนสร้างความวุ่นวายให้พ่อแม่จนถึงอายุสามห้า มันเป็นหน้าที่ ที่พี่ต้องช่วยเขาแก้ ทำให้เขาเรียนรู้ว่า ต้องทำยังไงกับมัน ต้องปฏิบัติแบบไหน ไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก แต่พี่แม่งบอก อย่าสร้างความวุ่นวายให้พ่ออีกได้ไหม พ่อเหนื่อย!?”

              “...”

              “คืออะไรอะ? ถามจริง? ปัญหาของที่หนึ่งครั้งนี้มันใหญ่มากหรอ ใหญ่จนต้องพูดแบบนี้เลยใช่ไหม ใหญ่จนต้องขายบ้าน ขายรถ ขายนา ไม่มีจะกิน ไม่มีจะนอนเลยใช่ไหม?”

              “...”

              “ถามจริงๆ เหอะ ไอ้ที่ลูกพี่มีปัญหา มันเพราะตัวของเด็กเอง หรือเพราะใคร ไม่ใช่พี่ใช่ไหม ที่ทำให้ปัญหามันเกิดขึ้นมา...”


              ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริง และครั้งนี้ก็คงจะจริงจังที่สุดตั้งแต่ที่ผมรู้จักเขามา ผมผละออกเดินตรงไปยังห้องนอนของที่หนึ่งก่อนที่ พี่ตุลย์จะได้เถียงผม


              ผมไม่อยากให้เขาเถียง


              เพราะเมื่อไหร่ที่เถียง แปลว่าเขาไม่คิดจะเอาคำพูดของผมไปคิดเลย...



              แอ๊ด...


              ผมถือวิสาสะเปิดประตูห้องนอนของที่หนึ่ง นี่เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่ได้เข้ามาในห้องนอนของเด็กนั่น  มีของเล่น ตุ๊กตาจำพวกฮีโร่มากมายอยู่เต็มห้อง ส่วนเจ้าของห้องก็นั่งเล่นกับตอนต้นอยู่บนเตียง


              ไม่ร้องแล้วแหะ


              ผมเดาว่าเด็กนั่นคงไม่อยากให้น้องตัวเองเห็นน้ำตาละมั้ง มันไม่ใช่ลูกผู้ชายเท่าไหร่ ผมก็เป็นนะ

 
              “ว่าพ่อแบบนั้น เดี๋ยวพ่อก็โกรธเอาหรอก” ที่หนึ่งพูดขึ้น


              ผมไม่แปลกใจ ถ้าที่หนึ่งจะได้ยิน ดีไม่ดี ห้องข้างๆ อาจจะได้ยินแล้วด้วยซ้ำ เหอะๆ


              “โกรธเลย ทำอย่างกับแคร์นักนี่ ไม่ใช่พ่อฉันสักหน่อย” ผมใช้มือดันตัวที่หนึ่งให้เขยิบที่ให้ผม ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียง “ไอ้คนแบบนั้นต้องด่าซะบ้าง สงสัยจะไม่ได้โดนพ่อแม่ดุมานาน”

              เด็กนั่นหัวเราะแผ่วๆ “แล้วจริงหรือเปล่า ที่ไม่มีแม่เหมือนกัน”

              “จริงดิ จะไปโกหกทำไม แช่งให้แม่ตายไม่ใช่เรื่องตลกนะไอ้น้อง”

              “พี่เข้าใจใช่ไหมว่า ทำไมที่หนึ่งถึงต้องต่อยเขา” เสียงเด็กนั่นเบาหวิว ผมรู้ว่าในใจ มันต้องการจะให้ผมตอบว่า ‘เข้าใจ’


              ผมถอนหายใจ “ก็เข้าใจ แต่ว่านายก็ทำเกินไปนะ ต่อยจนคิ้วแตกเลยนี่”


              “ก็มันโกรธ...”

              “พี่ก็เข้าใจว่าโกรธ แต่การทำร้ายร่างกายคนอื่นก็เป็นสิ่งไม่ดีเท่าไหร่ กฎหมายระบุว่าเป็นความผิด ต้องจ่ายเงิน แล้วก็ขังคุกเลยนะ”

              “จริงอะ!”

              “แน่นอน แต่จะให้ไปด่ามันกลับ มันก็จะด่ากลับอีก จบด้วยการทะเลาะไม่จบไม่สิ้นสักที แต่ถ้าที่หนึ่งทำเฉยๆ ซะ พอการล้อมันไม่สนุกใครเขาอยากล้อต่อ”

              “พูดมันก็ง่ายสิ...”

              “มันก็จริง...” ผมยิ้มบาง


              แม้ว่าผมจะมาที่นี่บ่อยแค่ไหน แต่ผมก็ยังเป็นคนนอก เรื่องบางเรื่องผมพูดไปก็เท่านั้น คำว่า ‘คนนอก’ ก็ยังแปะที่หน้าของผมอยู่ ก็คงได้แต่หวังว่า ‘คนใน’ อย่างไอ้พ่อยอดแย่นั่นจะรู้สึกตัวขึ้นมาบ้าง มีบ้าน มีงาน ก็คงเรียนจบปริญญาอยู่หรอก น่าจะคิดเป็น


              แอ๊ด...


              ผมกับที่หนึ่งหันมองประตูพร้อมกัน ก่อนจะเห็นร่างของคนที่กำลังนึกถึงเมื่อครู่ยืนอยู่ พี่ตุลย์ไม่มองมาทางผมเลยสักนิด ทั้งสายตาของเขามีแต่ลูกชายของตัวเอง เพียงเท่านั้นผมก็ยิ้มขึ้นมา แล้วลุกขึ้นเตรียมที่จะเดินออกจากห้อง


              “ขอบใจมาก” เขาพูดระหว่างที่ผมกำลังเดินสวนเขาออกไป

              “...” ผมยิ้ม แล้ว...


              หยิก!!!


              “โอ๊ย!”

              “ฮ่าๆๆๆ มันแปลว่า ‘ไม่เป็นไร’ อะครับ” ผมหัวเราะร่วนรีบวิ่งหน้าตั้งนั่งหน้าทีวีทันทีหลังจากหยิกสุดแรง ไอ้พี่ตุลย์มองผม ค้อนวงใหญ่ แต่เขาก็เลือกที่จะเดินเข้าไปในห้องของลูกชาย ทำเรื่องที่สำคัญมากกว่า


              ผมมองตามจนกระทั้งประตูปิดหลัง


              เอาเถอะ ผมก็ไม่ค่อยว่างทำบุญเท่าไหร่ ทำดีบ้างนานๆ ทีก็ดี








TBC
นิยายเรื่องนี้ เป็นนิยายมีสาระนะ ฮู่เร่~
วันนี้ไรท์เตอร์มีเรื่องจะชี้แจ้ง ยาวหน่อย แต่อยากให้อ่าน ป.ล. มีแนะนำตัวไอ้เอส กับพี่ตุลย์อย่างเป็นทางการ (?) ด้วยยย


เมื่อวานเจอความเห็นนี้ อันดับแรกต้องขอบคุณก่อน ที่อ่านเรื่องนี้อย่างจริงจัง คิดว่าไม่ใช่แค่ความเห็นนี้ที่สงสัย เลยว่าจะเอามาอธิบายกันนะคะ

คือว่าอ่านตอนเเรกก็น่าสนุกนะเเต่ว่ามาตอนหลังๆเริ่มมั่วกับการบรรยายของเอส
คือเอสมันห่ามไปนะพูดจากับเด็ก ราวกับว่าไม่ได้ผ่านการศึกษามา พี่ตุลย์กะงง
 สรุปเเล้วพี่ตุลย์มีเมียตอน19 ได้ที่หนึ่งมาตอน20 เเล้วเมียกะหนีไปตั้งเเต่ที่หนึ่งหย่านม5เดือน
แล้วตอนต้นนี่เกิดจากแม่คนไหน งง สงสัยเกิดจากกระบอกไม้ไผ่รึ หรือว่ายังไงเหมือนคนเขียนจะไม่เอ่ยถึง ขนาดมาถึงตอนแปดเเล้วยังรู้สึกอึดอัดกับการบรรยายของเอส คือรู้สึกถึงความเยอะ และการไม่ไหลลื่นของภาษา ยิ่งอ่านยิ่งงง เม้นหนักขนาดนี้คงไม่ว่ากันนะ เพราะเรารู้สึกอย่างงี้จริงๆ แต่ถามว่าพล็อตเรื่องดีไหม มันกะโอเคเเต่ปรับเนื้อหาให้เข้าใจง่ายหน่อย อ่านเเล้วมันไม่ฟิน ต้องค่อยปรับไป

1. เรื่องของครอบครัวพี่ตุลย์ ไม่ใช่ว่าคนเขียนเลือกที่จะเลี่ยงไม่พูดถึง แต่ 'ยัง' ไม่พูดถึง

นิยายเรื่องนี้ใช้ตัวเอกในเรื่องหนึ่งคนเป็นผู้ดำเนินเรื่อง อธิบายเรื่อง จึงจงใจให้คนอ่านรู้เท่าที่เอสรู้
" ทำไมเอสไม่ถามละ มาหาบ่อยขนาดนี้ "
นางมาใช้หนี้ค่ะ กับแวะมาเล่นกับที่หนึ่งเพราะพี่ตุลย์ขอไว้ ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่า เอสไม่ใช่คนจู้จี้ขี้ถาม และก็ไม่อยากพูดถึงครอบครัวเท่าไหร่ เช่นกัน เพราะไม่อยากพูดถึงครอบครัวตัวเอง ก็ไม่อยากถามเรื่องของครอบครัวคนอื่น
" แล้วทำไมพี่ตุลย์ไม่เล่าให้ฟังละ "
แล้วเอสเป็นใครสำหรับพี่ตุลย์ สำคัญมากพอที่จะเล่าเรื่อง ภรรยาคนเก่า หย่าร้าง การมีลูก หรืออะไรเชิงนี้แล้วหรือยัง มันไม่ใช่เรื่องทั่วไป ที่จะสามารถเล่าได้กับทุกคน และก็ พี่ตุลย์อะ...พี่ตุลย์ ผู้ที่ เอิ่ม.. นะไม่ใช่คนคุยเก่งอะไรประมาณนั้น
" มาถึงตอนที่แปดแล้วยังไม่รู้เรื่องเลย "
อันนี้ขอให้มองว่า 'เพิ่ง' ตอนที่ 8 เอง ดีกว่า เรื่องยังไปไม่ถึงไหนเลยนิเนาะ ถ้าสังเกตดีๆ ในความไร้สาระ จะพยายามชี้ให้เห็นว่ามันมีปมอะไรบางอย่างอยู่ในเรื่อง ซึ่งตอนที่ 9 นี้ก็อาจจะเป็นตอนแรกที่พูดถึงปมหนึ่ง ที่แฝงอยู่ในนั้น

2. เอส เรียกเด็ก จนดูไม่มีการศึกษา
อันนี้ คนเขียนต้องขอโทษจริงๆ ฮือ เวลาเขียน 'ไอ้' ก็จะเผลออ่านในใจว่า 'ไอ' และไม่ได้เน้นเสียงอะไรมาก เลยเหมือนจะเป็นคำธรรมดา แต่พอมาคิดดีๆ มันก็อาจจะไม่ดีที่จะเรียกแบบนี้ตลอด หรือมีคำว่า 'เวร' เลยจะแก้ให้มีน้อยลง ใช้ 'กู' 'มึง' พูดกับเด็กแม้ในใจก็จะน้อยลงด้วยนะคะ เพราะอ่านใหม่ก็รู้สึกว่าแรงไป ใช่ไหม?

อันนี้เพิ่มเติม เราขอย้ำอีกครั้งว่า เอส ไม่ได้อยู่ในความอบรมดูแลของใครแบบเด็ดขาด ตั้งแต่ม. ปลาย แต่ป้าที่ช่วยดูแลไว้ตอน ม.ต้น ก็จะเห็นแววๆ ว่านางจะยุ่งกับลูกนางมากกว่าเอสที่เป็นหลาน

" การบรรยายของเอสมันมั่ว"
อันนี้ไม่แน่ใจว่าหมายถึงยังไงอะไร เพราะว่า มันมีทั้งบรรยายฉาก ความรู้สึก คำพูดในใจของเอสควบไปด้วยตลอดเวลาหรือเปล่า

3. เรื่องการเขียน
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใช้ตัวเอกคนนึงเป็นคนดำเนิน ซึ่งปกติไรท์เตอร์จะเป็นคนเขียนแนว ใช้บุคคลที่สามมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้ใช้ 'นิสัย' ของเอสเป็นตัวนำ ว่าจะอธิบายนู่นนี่แบบไหน เลยไม่เน้นคำที่สวยหรูมาก แต่ก็จะปรับปรุงให้เข้าใจง่ายขึ้นและให้ไหลลื่นมากขึ้น อันนี้ต้องฝากติดตามการพัฒนาต่อไปด้วยนะคะ


จบแล้ว สำหรับการอธิบาย ขอให้มิตรรักแฟนเพลง (เดี๋ยว?) ยังติดตาม Daddy be lover ต่อไปด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 9 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 20-06-2015 09:36:06
* ไม่รู้ให้ลงรูปได้ไหม อ่านในกฎแล้วก็ไม่เห็นว่า แต่เพื่อความปลอดภัย ตอนที่ 11 มาก็ค่อยลบรูปเนาะ



แนะนำตัวละคร

(http://i.imgur.com/n4XbuDM.jpg)
ตัดสินใจเลือกคนนี้ เพราะหน้าตาตอนพี่ตุลย์คิ้วขมวดประมาณนี้เลย 5555
ชื่อ         : นาย ตุลา มงคลวัชรกุล ชื่อเล่น ตุลย์
อายุ        : 29 ปี
อาชีพ      : พนักงานฝ่ายขายของสำนักพิมพ์หนึ่ง
สถานะ     : พ่อหม่าย
ครอบครัว :ลูก 2 (ที่หนึ่ง อายุ 9 ปี , ตอนต้น อายุ 1 ขวบ)
นิสัย        : เบสิก --> " ผมมีลูกตั้งแต่เด็ก เลยอยากมีชีวิตธรรมดาๆ "
                        ไม่ชอบความวุ่นวาย ชอบความสงบ เรียบง่าย ดำเนินชีวิตไปเรื่อยๆ
                        อีกทั้งเพราะมีลูกเร็ว เลยมีความผู้ใหญ่เร็ว ไม่มีช่วงวัยรุ่นจึงค่อนข้างเป็นคนจริงจัง
                        ไม่ใช่คนเย็นชา เป็นจำพวก " เลยตามเลย " แต่ในใจก็มีความคิดของตัวเองเยอะ

                         ในที่ทำงาน --> ได้ครับพี่ ดีครับท่าน
                         จริงจังต่อหน้าที่การงาน เพราะไม่ค่อยอยากมีปัญหา เลยไม่ค่อยมีปากเสียงสักเท่าไหร่
                         มีคนแอบกรี๊ดเยอะ เพราะหน้าตาดี แต่มีลูกแล้ว คนก็เลยพากันคิดว่ามีภรรยาแล้วด้วยเลยไม่ค่อยมายุ่ง
           
                        ที่บ้าน  --> เอาของเล่นไหมลูก? อยากกินอะไรดีลูก?
                        รักลูก แต่เหมือนกับพ่อทั่วๆ ไป คือไม่ค่อยแสดงออก อีกทั้งบ้างานจึงไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกมากนัก
                        มักจะชอบซื้อของเล่นให้ที่หนึ่งเล่น เพราะตัวเองไม่ค่อยว่าง
                        ลูกคนเล็กก็มักจะให้ป้าสร้อยที่อยู่ห้องข้างๆ มาช่วยดูแล
           
                        กับเอส --> คนอะไรวุ่นวาย
                        พี่ตุลย์ชอบความสงบ แต่ไอ้เด็กนี่คือไม่ พี่ตุลย์เลยมักจะรำคาญ หนวกหูจนต้องขมวดคิ้วใส่บ่อยๆ ถถถถถถถ







(http://i.imgur.com/xHqLx53.jpg)
คนนี้แหละ ที่เห็นปุ๊บ ร้อง เอส! ปั๊บ 5555555
ชื่อ         : นาย อชิร โรจนรัตติกร ชื่อเล่น เอส
อายุ        : 19
อาชีพ      : เพิ่งจบ ม.ปลาย กำลังจะเข้า มหาวิทยาลัย ระหว่างนั้นเลยทำงานพิเศษ เซเว่น และ ร้านหมูกระทะ
สถานะ     : เป็นหนี้พี่ตุลย์ เอ๊ย โสด โสดแบบไม่ว่างหาแฟน แต่ชอบหลีหญิงเป็นงานอดิเรก ไม่ลูกค้าก็พนักงานสาว
ครอบครัว : ไม่มี
นิสัย        : เบสิก --> วัยรุ่นผู้ชาย ร่าเริง อารมณ์ดี ขี้เล่น เข้มแข็ง วุ่นวาย ขี้โวยวาย
                        ไม่ใช่คนร้องไห้ง่าย ไม่ชอบการถูกหยามหรือดูถูก ไม่ถูกกับเด็ก (พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง)
                         มีมุมที่เป็นผู้ใหญ่เล็กน้อย (น้อยมาก) เพราะต้องดูแลตัวเองตั้งแต่เด็กๆ
                         ลึกๆ เป็นคนขี้เหงา ขี้อ้อน ขี้อิจฉา ต้องการคนดูแล เพราะตัวเองไม่มีพ่อแม่ที่จะให้ในส่วนนั้น

                        ที่ทำงาน --> " พี่ๆ หวัดดี วันนี้ถ่ายยัง กินไรอยู่อะ กินด้วยได้เปล่าาาา"
                       เป็นคนอัธยาศัยดี เข้าหาผู้ใหญ่เก่ง จนบางทีอาจดูไม่มีมารยาท แต่เป็นคนจริงใจ และจริงจังกับงานมาก

                        เพื่อน --> " ผมถือคติ มีเพื่อนน้อย แต่มีเพื่อนแท้ก็พอ "
                        เพื่อนน้อย ด้วยเรื่องสถานะการเงิน ไม่อำนวยในการสานสัมพันธ์กับเพื่อนเท่าไหร่
                        แต่ก็สนิทกับคนไปทั่ว คือสามารถคุยกับคนได้ทั้งโรงเรียน แต่สามารถโทรหาคนได้เพียงหยิบมือ
                        จริงใจ ไม่มีทางที่จะคิดไม่ซื่อกับเพื่อน ทั้งการทรยศ และการเปลี่ยนสถานะ No way!

                        กับตาลุงตุลย์ --> " อื้ม ไม่รู้ดิ"
                        มีเรื่องโยงกันหลายอย่าง ทั้งการพาซวย เรื่องเงินที่ให้ยืมอีก แต่ในเรื่องของความรู้สึก ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ
                       (ในปัจจุบัน)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 9 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 20-06-2015 10:14:14
เออเอส วันนี้แกมีสารระ ดูดี มีประโยชน์ ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 9 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 20-06-2015 10:27:12
คุณพระคุณเจ้าช่วย

ไอ้เอส เป็นคนมีความคิด เหมือนกันเว๊ยเฮ๊ย

ไม่น่าเชือ ว่าอะไรดีๆ แบบนี้จะหลุดออกจากปากเอส

พี่ตุลย์ ฟังแล้วจำใว้นะ เนี่ยคือความคิดของคนที่

มีอนาคตเป็นแม่คนได้ ที่หนึ่ง เริ่มชอบ แม่ใหม่ แล้วซิ คริ คริ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 9 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 20-06-2015 11:00:26
เอสทำเอาอึ้ง ~ o13

รูปเอสไม่ขึ้นอ่ะ อยากเห็น
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 9 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 20-06-2015 11:08:02
เอสก็มีความคิดดีๆนะ

อยากรู้สองคนนี้จะรักกันยังไง ยังดูไม่เห็นทาง5555+
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 9 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 20-06-2015 11:17:44
ตอนนี้เอสหล่อขึ้นมาเลยเชียวค่าา >\\\\\< จุกเลยไหมล่ะคะพี่ตุลย์~ แต่อาจเป็นเพราะพี่ตุลย์ (ที่เป็นผู้ชาย) เลี้ยงลูกด้วยตัวคนเดียวมาตลอดด้วยนั่นล่ะนะคะ เลยขาดความละเอียดอ่อนในเรื่องต่างๆ ไปบ้าง ^^ แต่หลังจากวันนี้ที่ถูกเอสจัดชุดใหญ่ให้ฟังไปก็คงจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างแล้วนั่นล่ะเน้อ~
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 9 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 20-06-2015 11:26:36
น้ำตาซึมเลยตอนนี้ เอสเจ๋งมากน้อง พ่อยอดแย่แห่งปีแบบนี้ต้องอบรม

กอดๆเกรียนเอส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 9 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Cc-kun ที่ 20-06-2015 11:31:33
ตุลย์หล่อกว่าที่คิด
เอสดูแมนน้อยกว่าที่คิด
เนื้อเรื่องโดยรวมกับภาษาเราชอบนะ แต่เห็นด้วยเรื่องลดคำหยาบกะเด็ก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 9 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 20-06-2015 11:45:21
เขียนตามที่คุณต้องการเถอะค่ะ คุณนักเขียน

ตอนนี้เอสดูแบบว่าโคตรโตอ่ะ พี่ตุลย์แม่งฝ่อเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 9 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: IIIA ที่ 20-06-2015 12:17:45
ตอนนี้สอนให้รู้ว่าอายุไม่เป็นตัวบ่งชี้วุฒิภาวะจริงๆนะ พี่ตุลย์ ต้องเข้าใจลูกเข้าใจความเป็นพ่อมากกว่านี้เว้ย ฟังเอสมันไว้นะ #ตบบ่า

เรื่องนี้มีแผลนจะเขียนภาคต่อป่ะคะ ถ้ามีขอเป็นเรื่องน้องที่หนึ่งได้ไหม น้องที่หนึ่งจ๋าซังนัมจามากลูก  :katai2-1:

เพิ่งตอนที่เก้านี่ขอภาคต่อละคือระ 555555555555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 9 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 20-06-2015 12:39:03
อ่านะ รอดูต่อไป
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 9 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 20-06-2015 12:58:43
เอส นายเท่มากกกกกก
จิงๆรู้สึกมาหลายตอนแล้วแหล่ะ ว้าตุลย์นี่เปนพ่อที่แย่จิงๆอ่ะ ดุลูกแบบไรเหตุผลและไม่เคยถามที่มาที่ไป
พอวันนี้เอสมาด่าแบบนี้ สะใจจุง 5555
แต่ก้อเข้าใจว่าเฮียแก มีลูกตั้งแต่ยังเด็ก -"-
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 9 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 20-06-2015 13:39:12
ไอ้เอส วันนร้แกมีสาระมาก

เอาไป10คะแนน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 9 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 20-06-2015 13:49:58
อย่างตะลึง!! เอสมีสาระกะเขาด้วยวุ้ย!!  o22
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 9 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 20-06-2015 15:05:37
วันนี้น้องเอสเราสาระมาเต็มค่ะ
ตรงจุดตรงประเด็นทำเอาพี่ตุลย์เงิบเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 9 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 20-06-2015 19:07:37
พ่อตุลย์ก็รับเลี้ยงน้องเอสอีกคนสิคะ  :katai3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 9 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 20-06-2015 21:57:44
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 9 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: onekiss ที่ 20-06-2015 22:16:29
 :mew1: :mew4: :mew1: :mew4:วันนี้เอสมีสาระ5555
รอตอนต่อไปคร้าาาาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 9 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 20-06-2015 23:25:11
ตอนล่าสุดมีสาระมาก ได้ข้อคิดไปใช้ได้เลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 9 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 20-06-2015 23:26:42
น้องเอสสาดกระสุนใส่ซะแล้วค่ะ 555 รัวมาก
สังเกตหลายตอนแล้วเรื่องพี่ตุลย์กับการเลี้ยงลูก คิดว่ายังไงต้องมีจุดเปลี่ยน แต่ไม่คิดว่าเอสจะมีสาระได้ขนาดนี้ ด่าพี่แกซะ ชอบๆ
ส่วนที่หนึ่งก็น่าจะเริ่มชอบน้องเอสแล้วใช่ไหมเอ่ย?
เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ลูกๆ หาแม่ใหม่ดีไหมพี่ตุลย์ ไม่ใกล้ไม่ไกลนี่เอง 555
ปล.เด็กอ้วนออกมานิดเดียวแต่ชอบอ่ะ!
ปปล.รอตอนต่อไปจ้าาา เรื่องนี้สนุกนะ เราคนหนึ่งล่ะที่ชอบ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 9 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: naumi ที่ 21-06-2015 00:57:16
วันนี้เอสพูดดีจริงๆ เอาไปสิบดาว!!! อย่างนี้เอามาเป็นแม่ของสองหน่อนี้ได้เลย อนุมัติ!!! อิอิ

ว่าแต่ทำไมมีแต่คนว่าเอสพูดแรง ก็คนมันเป็นคนแบบนี้อ่ะ แค่เป็นนางเอกต้องพูดจานุ่มนวล รักเด็กรักษ์โลกกันทุกคนเลยรึไง คนพูดแรงๆแต่จิตใจดีมีออกถมไป
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 9 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 21-06-2015 01:15:25
เอส พูดได้ดี *ปรบมือ*
พ่อตุลย์จ้างเอสมาอยู่ด้วยเลยสิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 9 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 21-06-2015 01:18:24
 o13
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 10 (22/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 22-06-2015 11:55:37
ตอนที่ 10







             “ไอ้เอส เมื่อกี้โทรศัพท์มึงดังอะ” ทันทีที่ผมออกมาจากห้องน้ำเดินเข้าไปในห้องนอนของไอ้ปันที่ผมมาสิงสถิตอยู่ได้นานแล้ว ไอ้ปันที่นั่งเล่นเกมอยู่ก็บอกพร้อมชี้ไปที่โทรศัพท์โดยที่ไม่ละสายตามามองหน้าผมสักนิด

             “ใครวะ?”

             “ไม่รู้ว่ะ ไม่ได้ไปดูหน้าจอ”

             “เออ” ผมรับคำ เดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คดูพลางเช็ดผมไปพลาง


             สายที่ไม่ได้รับ ‘พี่ตุลย์’


             ผมเลิกคิ้วนิดหน่อยก่อนจะกดโทรกลับไป อันที่จริงผมกับไอ้คุณพ่อลูกสองนั่นต่างก็มีเบอร์กันและกันอยู่แล้วอะนะ แต่ผมและเขาต่างก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องโทรหากันสักหน่อย


             /ยอดเงินคงเหลือของคุณ ไม่พอสำหรับใช้บริการ กรุณาเติมเงินด้วยค่ะ/


             แป่ว เมียน้อยรับ อิอิ ช่างเถอะ เดี๋ยวถ้าเขามีธุระจะคุยกับผมจริงๆ เดี๋ยวก็คงโทรมาอีก


             “ใครโทรมาวะมึง”

             “เรื่องของมึงเปล่า?” ผมจงใจพูดเสียงกวนกับคนที่ยังนั่งเล่นเกมอยู่ มันหันมาหัวเราะเหอะๆ ใส่ผมแล้วแยกเขี้ยวให้ ผมก็ยิ้มหวานให้มันไปเป็นการตอบแทน


             พอเห็นชื่อพี่ตุลย์ แล้วผมเพิ่งนึกขึ้นได้ เมื่อวานครับผมไปทำประโยชน์ให้พ่อแม่ภาคภูมิใจมาครับ และด้วยความเป็นพระเอกอย่างต่อเนื่อง ผมก็แอบออกจากห้องเขามาตั้งใจจะให้ครอบครัวได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง ปรับความเข้าใจกันและกัน ผมนี่ยิ้มหน้าบานออกมาเลยครับ


             คนอะไรโคตรหล่อ!


             แต่พอมาถึงหน้าลิฟท์ทุกอย่างก็ดับวูบเมื่อผมเห็นคำว่า ‘เครื่องขัดข้องงดใช้บริการ’ ผมนี่สบถเป็นภาษาที่ต้องเซ็นเซอร์เป็นการด่วนที่สุด คอนโดฯ แม่งดูดีซะเปล่าลิฟท์เสียบ่อยฉิบ! แล้วไอ้ชั้นที่ผมอยู่นี่ก็ไม่ใช่ชั้นสามนะครับ! แล้วพระเอกทำไง...


             ...


             ก็ลงบันไดสิครับ ไม่น่าถาม TT


             ตอนแรกว่าจะกระโดดลงก็จำได้ว่าตัวเองไม่ใช่ซุปเปอร์แมน จะปล่อยไยแล้วเหวี่ยงตัวไปก็ลืมไปว่าไม่ได้โดนแมงมุมกัด

             
             ออกมาจากห้องนี่หล่อครับ พอออกมาจากคอนโดปุ๊บ ผมนี่หมาเลย สภาพนี่เรียกว่าเหี้ยเลยครับ น้ำตาจะแชร์ขอไหลนะครับ


             Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr


             ขณะที่ผมกำลังคิดถึงความทรงจำครั้งก่อนเพลินๆ เสียงริงโทนแบบไทยบ้านก็ดังขึ้น ผมคว้าหมับมาดูรายชื่อทันทีพอเห็นว่าเป็นสายไม่ได้รับเมื่อหลายนาทีโทรกลับมาอีกครั้งก็ไม่รอช้ากดปุ่มรับสาย


             “เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ”

             /...แค่นี้นะ/

             “เดี๋ยววววว~ ล้อเล่นครับบบ” ผมรีบเบรกก่อนที่อีกฝ่ายจะวางไปจริงๆ หยอกนิดหยอกหน่อยละทำเป็นจริงจังตลอด “มีอะไรครับบ? เดี๋ยวนะ ผมขอจดไดอารี่แป๊บ พี่โทรมาผมครั้งแรก รู้สึกตื่นเต้นจุง”

             /...แค่นี้นะ/

             “ล้อเล่นนนน นี่ก็เป็นจริงเป็นจังตลอดเลยโอออ” ผมลากเสียงยาว “โทรมามีไรครับ?”

             /อื้ม...ทำไมรีบกลับอะ พอออกจากห้องนอนที่หนึ่งก็ไม่เห็นแล้ว/

             “ก็อยากให้ได้อยู่ด้วยกันตามลำพังไงครับ หมดหน้าที่ก็ต้องออกมา” ผมหัวเราะกลั้ว และนั่นก็ทำให้ไอ้ปันที่นั่งเล่นเกมอยู่หันมามอง ผมยักคิ้วลิ่วตาให้จงใจกวนประสาทเล็กน้อยแล้วกลับไปคุยกับคนในสายต่อ “ว่าแต่ พี่เพิ่งนึกได้หรอครับว่า ผมออกมาตั้งแต่เย็นๆ เพิ่งโทรมาตอนจะเที่ยงคืนแล้วเนี่ยนะ”

             /โทษทีๆ/ เขาหัวเราะในลำคอ /พอดีคุยกับที่หนึ่งอยู่ ลูกหลับหมดแล้วก็เลยเพิ่งว่างได้โทรเนี่ยแหละ/

             “อ๋อครับ” ผมตอบรับและไม่ได้เริ่มบทสนทนาใดๆ ขึ้นอีกรอให้ผู้ที่เป็นฝ่ายโทรมาเริ่มบทสนทนาใหม่ ผมไม่คิดว่าเขาโทรมาหาผมเพื่อถามผมแค่นี้หรอกจริงๆ เพราะถ้าเขาต้องการจะถามแค่นี้รอผมไปหาพรุ่งนี้ก็ได้มั้ง ยังไงผมก็ต้องเอาเงินไปให้เขาอยู่แล้ว…แต่ก็ยังเงียบ “พี่โทรมาหาผมแค่นี้หรอ?”

             /เปล่า ที่จริงจะโทรมาถามว่า พรุ่งนี้ว่างไหม?/

             “พี่รู้อยู่ไม่ใช่หรอว่าผมทำงานตั้งแต่เช้าถึงสี่ทุ่มทุกวันอะ”

             “ใครโทรมาอะ แฟนหรอ?” ระหว่างที่ผมกำลังตอบปลายสายไป ไอ้ปันที่นั่งเล่นเกมอยู่เมื่อครู่ ก็ลุกขึ้นมานั่งอยู่ข้างๆ บนเตียงผม ไม่พอยังยื่นหน้าพูดเสียงดังใส่โทรศัพท์อีกแล้วนั่นก็ทำให้ผมต้องใช้ฝ่าตีนดันมันออกไป “น้องครับๆ ไอ้นี่มันคบกับพี่อยู่ครับ น้องเลิกคุยกันมันไปได้เลย”

             “ไอ้เหี้ยยย พูดไรของมึงเนี่ยย” ผมลากเสียงรำคาญ ออกแรงถีบอกมันอย่างแรงจนตกเตียงไป แต่คนเราครับ ยังมีหน้าผงกหัวขึ้นมาขำอีก

             “เดี๋ยวนี้ผู้หญิงเป็นสาววายเยอะนะมึง ได้ยินแล้วอาจจะแอบกรี๊ดในใจก็ได้”

             “ประเด็นคือกูไม่ได้คุยกับผู้หญิงไง” ผมส่งนิ้วกลางให้คนที่เพิ่งตกเตียงไป แล้วกลับมาสนใจคนในสายต่อ “โทษทีนะพี่ อย่าไปสนใจเมื่อกี้นะ เพื่อนผมแม่งกวนตีนเฉยๆ”

             /อ๋อ...อื้มๆ/

             “เมื่อกี้พูดถึงไหนแล้ว อ้อ! ผมไม่ว่างอะครับ ต้องทำงานเหมือนเดิมแหละ พี่มีอะไรเปล่า?”

             /ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่พรุ่งนี้สายๆ หน่อยจะชวนไปห้างฯ/

             “...” เกิดเดดแอร์กับผมชั่วขณะ


             ไปห้าง?


             /ฮัลโล สายหลุดหรอ?/

             “เปล่าๆ ยังไม่หลุดอะพี่ ถ้าจะไปห้างแล้วโทรมาชวนผมทำไมอะ ไม่โทรชวนเพื่อนๆ พี่ไปละครับ เพื่อนที่ทำงานไรงี้น่ะ”
             
             /พรุ่งนี้ฉันลางาน เพื่อนที่ทำงานเขาก็ต้องไปทำงานกันสิ/

             “ผมก็ไปทำงานเหมือนกันครับบบ ไปคนเดียวก็ได้มั้งพี่ โตแล้วอะ อายุจะ 40 แล้ว”

             /ยังไม่ 30/ อีกฝ่ายพูดเสียงเรียบ ผมหัวเราะขนาดไม่เห็นหน้าผมก็พอนึกออกว่าเขาคงกำลังขมวดคิ้วอยู่แน่ๆ อะ

             “ครับๆ ยังไม่ 30 ก็ยังไม่ 30 ส่วนเรื่องนี้ผมทำงานอะพี่ ไปด้วยไม่ได้จริงๆ”

             “ไหนบอกไม่ใช่ผู้หญิงไง มีนัดดงนัดเดท” ไอ้ปันที่มันนั่งมองผมคุยโทรศัพท์อยู่ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ พูดแทรกขึ้นมาเสียงเบา ผมก็ไม่ได้สนใจจะตอบโต้มันเท่าไหร่นะครับ แค่หันไปทำปาก ‘พ่อง’ ใส่มันแค่นั้นเฉยๆ

             /ไปด้วยกันเหอะ...จริงๆ มีเรื่องอยากคุยด้วย/

             “ก็บอกอยู่ว่าทำงาน ผมย้ำหลายรอบแล้วนะ พี่นี่ก็!”

             /ไปลางานซะ ทั้งวันเลย แล้วค่าจ้างวันนั้นฉันจะจ่ายให้ โอเคไหม? ตกลงตามนั้น แค่นี้นะ ฉันง่วงแล้วต้องไปนอนก่อน ฝันดี ตี๊ด/

             “ดะ เดี๋ยว!” ผมอ้าปากค้างเมื่อได้ยินเสียง ตู๊ด ตู๊ด แทนเสียงทุ้มๆ นั่นเสียแล้ว คิดดูครับ พี่แกเล่นพูดประโยคนั่นเร็วกว่าคำว่า ‘เดี๋ยว’ ของผมคำเดียวอีกอะ! “อะไรวะ เผด็จการ?”

             “อะไรมึง?”

             “มึงนี่ก็ขี้เสือกเหมือนกันนะเนี่ย”

             “มึงไม่เคยได้ยินคำนี้หรอ เรื่องของกูก็คือเรื่องของกู เรื่องของมึงก็คือเรื่องของกู” ไอ้ปันพูดก่อนที่จะหัวเราะใส่ผมเสียงดัง แล้วมันก็ลุกขึ้นจากพื้นไปนอนเล่นบนเตียงของมัน ทิ้งให้ผมยังนิ่งค้างอยู่กับโทรศัพท์แล้วก็ไอ้คำสั่งเผด็จการนั่น


             คือ เอ่อ...คือ ผมต้องไปลางานตามพระบัญชา ของพระยาตุลย์จริงๆ ใช่ไหมวะ!?













             สรุปผมก็ลางานให้กับพระยาตุลย์จริงๆ ครับ ตอนแรกผมว่าจะไม่ทำตามหรอก เรื่องไรวะ ให้หยุดงานไปเที่ยวห้างฯ แต่พอดีเซลล์สมองผมตัวนึงมันจำได้ขึ้นมาว่าใกล้ถึงวันต้องจ่ายค่ามหา’ลัยกับทำเรื่องหอในแล้วครับ แล้วพี่แกก็ยังเป็นผู้กุมเงินก้อนนั้นอยู่ ผมก็เลยยอมทำตามในที่สุด ตอนเช้า พี่ตุลย์ก็โทรมาหาผมอีก แต่คราวนี้เป็นการโทรนัดเวลากับสถานที่ครับ และนั่นก็เป็นสาเหตุว่าทำไมผมต้องมายืนอยู่หน้าป้ายรถเมล์ในเวลาสิบเอ็ดนาฬิกาแบบนี้


             ไหนบอกจะไปตอนสายๆ ไงวะ มาตอนเที่ยงแบบนี้ นี่กล้าหือกับแดดเมืองไทยใช่ปะ!


             “เอ้า มาตรงเวลาจัง” ขณะที่ผมกำลังพัดผมไปมาระบายความร้อนอยู่ เสียงทุ้มของพี่ตุลย์ก็ดังขึ้นก่อนจะตามมาด้วยร่างของเจ้าตัว ปกติผมมักจะเห็นพี่ตุลย์ใส่สูทบ้างเสื้อเชิ๊ตบ้าง แต่พอมาใส่ลำลองสบายๆ แบบวันนี้ก็เลยทำให้เขาดูเด็กลงไปไม่น้อยทีเดียว ถ้าผมอารมณ์ดีอยู่ก็คงแซวไปแล้วครับ แต่บังเอิญว่าอากาศร้อนกับผมไม่ค่อยถูกชะตากันสักเท่าไหร่


             “ตอนผมดูละคร เวลานัดไปเที่ยวนี่ มีแต่ขับรถมารับนู่นนี่นั่น ไม่ก็แท็กซี่ นี่เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่ผมเห็นผู้ใหญ่ชวนไปห้างโดยไปรถตู้!”

             “ก็ฉันไม่มีรถนี่ แล้วไปกับรถตู้มันจะเป็นยังไง ก็ถึงเหมือนกันแหละหน่า ราคาประหยัดด้วย”

             “ครับๆ ก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่บอกว่าแปลกดี” ผมยักไหล่ พี่ตุลย์เดินเข้ามาทรุดตัวนั่งลงข้างๆ ผม รถเมล์คันแล้วคันเล่าขับผ่านไป แต่เราสองคนก็ไม่มีทีท่าว่าจะลุก ยังคงเอาแต่สอดส่ายสายตาหารถตู้ที่จะพาเราไปยังเป้าหมายปลายทาง

             “เรื่องเงินพิเศษวันนี้ ไม่ต้องห่วงว่าจะขาดรายได้นะ”

             “หื้ม?” ผมขานเสียงแต่สายตาก็ยังจดจ่อบนพื้นถนน มองหารถตู้อย่างตั้งใจไม่ให้พลาด

             “ฉันจะเป็นคนจ่ายเงินพิเศษให้วันนี้”

             “หา!?” ผมหันขวับ

             “วันนี้ ฉันจ้างนาย มาเที่ยวห้างฯ กับฉันไง”












             ช่างกล้าเรียกว่า มา ‘เที่ยว’ ห้างฯ กับผม พอมาถึงห้าง ผมก็เพิ่งรู้ว่าที่จริงแล้ว ไอ้พี่ตุลย์มันตอแหลครับ! เขาไม่ได้ต้องการคนมาเที่ยว เขาต้องการคนมาเข็นรถตามครับ! แล้วของที่พะเนินเทินทึกอยู่ในรถเข็นนี่ไม่มีอะไรที่เป็นของผมสักชิ้นครับ ส่วนใหญ่เป็นของเจ้าตัวเอง ไม่ก็ของกิน แล้วก็ของเล่นของที่หนึ่งกับเด็กอ้วนตอนต้นทั้งนั้น


             “ครบยังหว่า?” ไอ้พี่ตุลย์พูดเสียงเบา พลางยื่นหน้ามาเช็คของในรถเข็น

             “ผมจะไปรู้กับพี่หรอครับ” แล้วผมก็ตอบไปเสียงเซ็งๆ คือไงอะ นี่ผมลางานมาเป็นเบ๊ไรงี้ปะ อันที่จริงผมไม่น่าหงุดหงิดเนาะ เพราะไอ้คุณพ่อลูกสองนี่มันก็บอกผมอยู่ว่าจะจ่ายเงินให้ แต่แบบ ที่ผมคิดเอาไว้อะครับ มาเที่ยวห้าง...มันไม่ใช่แบบนี้โว๊ย!

             “ซื้อคิทแคทไปให้ที่หนึ่งด้วยดีไหมนะ? แต่ของหวานทำให้ฟันผุ” ไอ้พี่ตุลย์ยังพูดพึมพำกับตัวเองต่อไป ชนิดที่ว่าผมพูดอะไรนี่ไม่เจาะเข้าไปในหูพี่แกได้เลย สุดท้ายผมก็เลยเลิกที่จะเงียบแล้วเข็นตามพี่แกไปแค่นั้นพอ

             “เอาอะไรหน่อยไหม?” ไอ้คนที่เดินนำหน้าผมอยู่ ถามขึ้นขณะที่เราทั้งคู่เดินเข้ามาถึงโซนขนม อันที่จริงผมตาแววตั้งแต่ลูกกวาดตรงหัวแถวแล้ว แต่ไอ้คนที่ผมมาด้วยมันไม่ใช่พ่อผมไงครับ ก็เลยไม่อาจจะหยิบอะไรได้ตามใจชอบ แถมเงินก็ต้องประหยัด ถ้าอยากกินขนมผมก็มีแค่สองทางเลือก..


             1.   แย่งไอ้ปันกิน


             2.   แย่งไอ้เด็กที่หนึ่งกิน อิอิ


             “ไม่อะ พี่จะซื้ออะไรก็ซื้อเหอะ” ผมหยิ่ง พูดด้วยน้ำเสียงราวกับคนที่ไม่สนใจขนมจำพวกนี้


             พรึ่บ!


             “มาหน่า รู้หรอกว่าอยากกิน เห็นมองซ้ายทีขวาทีมาตั้งแต่เข้าซอยนี้มาแล้วเนี่ย” ไอ้พี่ตุลย์ขมวดคิ้วมใส่พร้อมคว้าแขนผมกระชากเข้าหาตัวจนหน้าผากผมแทบจะเคาะตาอีกฝ่ายพร้อม

             “พี่จะออกเงินให้ปะละ” ผมนิ่งไปสักพักก่อนจะพูดขึ้นพลางจ้องมองเข้าไปในแววตาที่อยู่ตรงหน้านั้น

             “ได้”

             “งั้นผมเอาหมดนี่เลย”

             “...”

             “ล้อเล่นคร๊าบ” ผมคอตก หูลู่ หางตกเมื่อเห็นสายตาดัง ชิ้ง! ที่ส่งมาจากคนที่อายุมากกว่า แต่พอเห็นเขาพผยิดหน้าเหมือนจะไล่ให้ผมไปหยิบขนมที่อยากกินมา หู หางก็ตั้งขึ้นมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว รีบวิ่งไปหยิบเลย์รสออริจินอล ขนมพริงเกิ้ลสีเขียว ทาโร่สีเหลือง ป็อกกี้ช็อกโกแลตกับสตอเบอร์รี่ ลงท้ายด้วยเบนโตะสามอัน

             “ลูกฉันยังไม่ได้กินขนมเยอะขนาดนี้เลย”

             “พี่ก็ไปซื้อให้ลูกกินดิครับบบ” ผมว่าพลางวางขนมลงในรถเข็น เตรียมจะเข็นตามพระบัญชาของพระยาตุลย์ต่อ แต่พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นไอ้พี่ตุลย์กำลังยืนมองหน้าผมอยู่ “กรุณาอย่ามองหน้าเพราะไม่รู้ว่าพี่มีปัญา หรือหน้าตาผมดี~” ผมยิ้มหวาน

             “...ปะ กินข้าว”

             “แหนะๆ มีหลบหน้า กำลังคิดอยู่ใช่ปะละ ว่าผมหล่อโคตร” ผมรีบเข็นเข้าไปข้างๆ พี่ตุลย์ ทำเสียง ‘กิ้วๆ’ ล้อเลียนพี่แก

             “นั่นเรียกว่าหน้าตาดีแล้ว”

             “ปากแข็งซะด้วย แบบนี้แหละพี่เรียกว่าหน้าตาดีแล้ว” ผมจงใจยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่าย พอเห็นพี่ตุลย์ย่นคอหนี ผมก็ยิ่งตามเอาหน้าไปให้ดู

             “นายต้องเข้าใจผิดคำว่าหน้าตาดีผิดอยู่แน่ๆ”

             “พูดนี่คืออะไร อิจฉาที่ผมหน้าตาดีใช่เปล่า กิ้วๆ” ผมยิ้มกว้าง สนุกสนานไปกับการแกล้งคนอายุมากกว่า ผมเข้าใจนะครับเวลาเห็นคนยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ แล้วมันจั๊กจี้ แต่ผมไม่ไง คือสกิลหน้าหนาผมนี่มันสูงแล้วครับ แล้วผมก็ชอบให้คนมองหน้าผมด้วย ก็บอกแล้วไง ผมหน้าตาดี~

             “ถ้ามีหน้าตาแบบนี้แล้วเรียกว่าดี ฉันขอมีหน้าตาแบบปัจจุบันดีกว่า”

             “...” ผมมองหน้าคนที่อยู่ตรงหน้าผม “ผมว่าพี่หน้าตาดีนะ”

             “!” ไอ้พี่ตุลย์ดูตกใจเล็กน้อยกับคำพูดของผม “พูดอะไร” ว่าแล้วก็เบือนหน้าไปอีกทาง เหมือนเรื่องที่ผมพูดเมื่อครู่มันไร้สาระไม่น่าสน


             แต่! ผมแอบเห็นนะครับบ แก้มพี่แกแดงกว่าปกติด้วย! ฮิ้ววววว


             “เขินหรอครับบบ” ผมยิ้มกระลิ้มกระเหลี่ย จงใจยื่นหน้าเข้าไปหาให้ตัวเองได้เห็นใบหน้านั่นชัดๆ ยิ่งเห็นพี่ตุลย์เอาแต่คอยหลบหน้า ผมก็ยิ่งนึกสนุกแกล้งพี่แกไม่เลิก


             หมับ!


             “โอ๊ย!” ผมร้องลั่น เมื่อโดนอีกฝ่ายบิดแก้มผม ทันทีที่ความเจ็บตุ๊บๆ แล่นเข้ามาผมก็หลับตาปี๋ ตีมืออีกฝ่ายให้ปล่อยแก้มผมออก
             
             “เอส”

             “ครับ?” ผมลืมตาขึ้นตามเสียงเรียกก่อนจะเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายในระยะที่ใกล้จนผมต้องเผลอกั้นหายใจ สายตาที่จ้องมองมาเหมือนราชสีห์ ตอนซิมบ้าในไลออนคิ้งพร้อมกะกระโจนไปตบสการ์ตัวร้าย TT

             “ครั้งนี้ฉันจะทนไว้ในใจ แล้วจะมาเอาคืนนี้” สายตาน่ากลัวสาดดดดด


             ผมยังไม่ได้ทำอะไรพี่เลยนะโว๊ยย! 


             ไอ้พี่ตุลย์ปล่อยแก้มผม ตีสีหน้าเรียบเหมือนช่วงสิบห้านาทีที่ผ่านมาไม่มีอะไรเกิดขึ้น


             “ปะ กินข้าวเถอะ หิวแล้ว”


             Holy Shit!













             “อะพี่ น้ำ” ผมว่างแก้วให้คนที่นั่งอยู่บนโต๊ะ ก่อนจะอ้อมไปนั่งอีกด้านหนึ่ง


             ที่จริงผมจำได้คุ้นๆ ว่ากำลังหงุดหงิดอยู่นะ แต่พอเดินขึ้นไปชั้นสี่ที่เต็มไปด้วยร้านอาหารแล้วไอ้พี่ตุลย์ก็บอกผมว่า ‘อยากกินร้านไหนเลือกเลย เลี้ยง’ เท่านั้นแหละครับ อารมณ์คุกกรุ่นเมื่อครู่หายวับไปกับตา หน้าบานเป็นกระด้ง แอบหยิกตัวเองหนึ่งที หยิกไอ้คุณพ่อลูกสองอีกหนึ่งทีเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ฝันไป ไม่ต้องให้บอกย้ำอีกครั้ง ผมลากแขนพี่แกเข้า ชาบูววววววว~ ชิ! เลย


             ผมชอบร้านนี้มากนะครับ แต่ไม่ได้กินมานานมากกกกก มากๆ แล้ว วันนี้เลยตั้งใจว่าจะกินให้เกลี้ยง แบบออกจากร้านนี่พนักงานต้องคิดว่าผู้ชายท้องได้อะครับ!


             “นี่พี่ นั่งโต๊ะนี่คิดดีแล้วหรอ? พี่ต้องจ่ายสี่คนเลยนะ ถ้ายังเปลี่ยนตอนนี้ก็ยังได้นะ ยังไม่เอาอะไรลงหม้อเลย” ผมถามคนที่นั่งจิบน้ำอยู่ตรงข้ามพลางหยิบเนื้อหมูที่กำลังผ่านตาไป

             “นั่งนี่แหละ บอกแล้วไงว่ามีเรื่องจะคุยด้วย ถ้านั่งแบบบาร์ คนอื่นก็ได้ยินหมดสิ”

             “อ๋อ” ผมพยักหน้าเข้าใจ “แล้วพี่จะคุยอะไร ถ้าพี่ไม่ย้ำอีกรอบผมก็เกือบลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าเมื่อวานพี่บอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย”

             “นั่นแหละ”

             “แล้วพี่จะคุยอะไรอะ?” ผมถามพร้อมกับใส่ผักลงในหม้อ ตามด้วยหมู กุ้ง ไข่ เต้าหู้ เห็ด ปลา ลงไป

             “เรื่องแม่นาย”

             “...” ผมชะงักค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม สีหน้าจริงจังที่มองตรงมาทำให้ผมรู้ว่าเขาต้องการที่จะคุยเรื่องนี้จริงๆ ผมก็เกือบลืมไป เมื่อวานผมบอกเขานี่เนาะ ว่าผมไม่มีแม่ “พี่จะคุยอะไร?”

             “...” ผู้ที่นั่งอยู่ตรงข้ามผมเงียบ ใช้ตะเกียบเขี่ยเนื้อหมูที่หยิบมาใส่หม้อ ผมเดาว่าเขาคงกำลังเรียบเรียงคำพูดอยู่ละมั้ง “นาย ไม่มีแม่จริงหรอ?

             “เฮ้อ ก็จริงอะ ผมจะโกหกทำไม”

             “แต่นายบอกว่า...”

             “ผมไม่พูดสักคำว่าคนที่บ้านคือพ่อแม่ผมนี่หน่า พี่คิดเองนะว่าผมมีพ่อมีแม่” ผมเอนตัวพิงผนักที่นั่งด้วยท่าทีสบายๆ ผิดกับอีกฝ่ายที่ดูเกร็งๆ ผมบอกแล้วไงครับเรื่องพ่อแม่ของผมไม่ใช่เรื่องที่ต้องเอามาสงสารกัน หรืออะไรแบบนั้น พ่อแม่ผมตายดี โอเคไหมครับ มันเป็นเรื่องธรรมชาติและผ่านมานานแล้วด้วย

             “แล้วคนที่บ้านนี่คือ?”

             “ป้าอะ พี่สาวของพ่อ พ่อตายตอนม.ต้น ป้าก็เลยรับไปเลี้ยงต่อ ส่วนแม่ตายตอนคลอดผม”

             “ถ้างั้นที่นายทำงานพิเศษหาเงินเอง ก็เพื่อหาเลี้ยงตัวเองจริงๆ ไม่ได้หยิ่งปีกกล้าขาแข็งสินะ...”

             “ฮ่าๆ พี่บ้าหรือเปล่า ถ้าเป็นฝรั่งอาจจะมีแนวคิดแบบนั้นนะ แต่ผมว่าคนปกติเขาไม่คิดแบบนั้นหรอกครับ ใครเขาอยากลำบากละ ถ้าตัวเองมีพ่อมีแม่ให้ถลุงเงินอยู่แล้ว” ผมพูด ตักเนื้อหมูกับผักที่สุกแล้วใส่ถ้วยของตัวเอง

             “เก่งนะ”

             “...” มือผมชะงัก แต่เพียงเสี้ยววินาทีมันก็กลับมาเป็นปกติ รอยยิ้มที่ผมไม่ได้ตั้งใจค่อยฉายขึ้นมาบนใบหน้าจางๆ “ไม่เก่งหรอก ไม่ทำก็ไม่มีกิน มันก็เลยต้องทำก็แค่นั้น ประมาณว่าสถานการณ์บังคับ”

             “นายเก่งน่ะ ถูกแล้ว มีหลายคนที่ก็เจอชีวิตทีไม่ต่างกัน แต่ก็เลือกที่จะยอมแพ้ ยอมใช้ชีวิตตามยถากรรม ไม่ขวนขวาย ไม่พยายาม แต่นายไม่ได้เป็นอย่างนั้น นายพยายามขีดชะตาชีวิตของตัวเอง ไม่ยอมแพ้ ไม่ใช่แค่เรื่องกินเรื่องอยู่ แต่รวมถึงเรื่องเรียนด้วย นั่นแหละ ฉันถึงบอกว่านายเก่ง”

             ผมยิ้ม และเปล่งเสียงออกใบอย่างแผ่วเบา “ขอบคุณ”











             หลังจากที่ผมกับไอ้พี่ตุลย์กินชาบูวววว~ชิ! กันเสร็จก็ตกลงกันว่ากลับบ้านเถอะ ไอ้ตัวผมยังไงก็ได้ แค่อิ่มจังตังอยู่ครบ วันนี้ผมก็คุ้มค่าแล้วคร๊าบบ แต่ระหว่างทางที่จะเดินออกจากห้างฯ ไปนั่งรถตู้กลับบ้าน พี่ตุลย์ก็ลากผมที่หอบของเต็มสองไม้สองมือเข้าไปในร้านหนังสือซีเอ็ดบุ๊ค ไม่พูดไม่จาอะไรกับผมสักคำเดินลิ่วๆ เข้าไปในโซน ‘แม่และเด็ก’ ทิ้งให้ผมต้องยืนเฟร้งฟร้างอยู่กลางร้าน


             คือ ผมไม่กล้าเดินเข้าไปด้วยครับ คุณลองนึกสภาพผู้ชายตัวเกือบเท่ากันสองคนมายืนดูหนังสือด้ยวกันในโซน ‘แม่และเด็ก’ จะคิดยังไงคร๊าบบบ! อย่าได้ดูถูกสาววายไป ถ้าวันต่อมา ผมแผ่หล่าอยู่หน้าเฟสบุ๊ค ‘เจอคู่เกย์มาดูหนังสือแม่และเด็กด้วยกัน น่ารักมาก’ ผมก็ซวยสิ! เอออออ


             แต่มายืนโง่ๆ อยู่กลางร้านแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่อง ผมเลยเดินหอบของทั้งหลายไปโซนหนังสือนิยายแนวลึกลับแทน มันเป็นโซนที่เซฟที่สุดสำหรับผู้ชายวัยอย่างผมแล้วล่ะผมว่า


             หลังจากผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ ไอ้พี่ตุลย์ก็เดินหอบหนังสือสองสามเล่มมาหาผมที่ปักหลังนั่งอ่านหนังสือฟรีแล้วเรียบร้อย


             “จะซื้อไหม?”

             “ไม่อะ แค่นั่งอ่านรอเฉยๆ”

             “งั้นปะ จ่ายตังแล้วจะได้กลับบ้าน” พี่ตุลย์เดินนำหน้าผมไปก่อน ผมก็เก็บหนังสือเข้าชั้นแล้วเดินตามออกไป ผมรอนอกร้านไม่นานเท่าไหร่ อีกฝ่ายก็เดินออกมาพร้อมกับถุงหนังสือในมือ อันที่จริงผมบอกแล้วมันรู้สึกตลกในใจพิลึกนะ เขาเป็นคุณพ่อแล้วมีลูกคนโตนี่จะ 10 ขวบแล้วไง แต่เพิ่งซื้อหนังสือคู่มือเลี้ยงลูกอะ ฮาปะ ผมว่ามัน เออ พิลึกดี

             “คำพูดผมคงฝังใจเยอะเลยใช่เปล่า”

             “ก็ประมาณนั้น”

             “ปกติผู้ใหญ่มันจะต้องมศักดิ์ศรีไม่ใช่ไง แบบไม่เชื่อคำพูดของเด็กไรงี้”

             “ก็ประมาณนั้น แต่นี่มันเรื่องของลูกฉันไง ฉันย่อมต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกอยู่แล้ว แม้มันจะต้องลงศักดิศรีลงไปบ้าง”
             
             ผมหัวเราะ “คุณพ่อยอดเยี่ยมมม” ผมลากเสียงยาวเหน็บแหนมเล็กน้อย แต่อีกฝ่ายกลับเพียงหัวเราะ ‘หึๆ’ เป็นการตอบกลับมา “ว่าแต่ผมเพิ่งนึกได้ พี่ถามเรื่องแม่ของผมไปแล้ว ผมขอถามเรื่องแม่ของที่หนึ่งกับตอนต้นบ้างสิ”

             “ถามอะไร?”

             “คือ...เอ่อ...พี่กับแม่ของเด็กสองคนนั้นอะหย่าร้างกันใช่ปะ” ผมเลือกใช้คำที่เลี่ยง ‘ตาย’ มากที่สุด คนเราจะไม่มีแม่ได้ก็แค่สองกรณีเท่านั้นแหละครับ ไม่ตาย ก็หย่าร้างกับสามี แต่ถ้าส่วนใหญ่ถ้าหย่าร้างมันก็ยังเจอกันได้ไงครับ แต่ดูจากอาการที่หนึ่งแล้วเหมือนกับไม่ได้เจอกันอีกแล้ว...

             “ก็ประมาณนั้น”

             ผมถอนหายใจฮู่ว “ที่จริงแล้ว พี่น่าจะลองคุยกับแม่ที่หนึ่งกับตอนต้นให้มาหา พาไปเที่ยวบ้างไรงี้นะ ไอ้เด็กสองคนนั้นมันจะไม่ได้ไม่รู้สึกแบบขาดแม่อะไรแบบนั้น”

             “ถ้าทำได้ฉันก็ทำไปแล้วสิ”

             “ทำไมอะ? พี่กับเขาจบไม่สวยหรอ?”

             “มันก็...รถตู้มาแล้วไปกันเหอะ” ไอ้พี่ตุลย์รีบวิ่งจากหน้าห้างไปยังป้ายรถเมล์ที่มีรถตู้เข้ามาเทียบจอด โดยมีผมวิ่งถือของพะรุงพะรังตามอยู่ข้างหลัง ทันทีที่ก้าวขึ้นรถตู้หาที่นั่งได้ ผมก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา พิงหลังไปกับเบาะอย่างเหนื่อยอ่อนจากการวิ่งขึ้นรถ


             ต้องเข้าใจนะครับว่า ระหว่างหน้าห้างฯ กับป้ายรถเมล์มีเพียงถนนสองเลนขวางไว้ก็จริง แต่ก็ยังมีบันไดที่ทอดจากหน้าห้างไปตรงถนนอีก มีทางเดินเท้าอีก ขยายที่เอาไว้ปลูกต้นไม่อีก ดอกไม้ด้วย! สรุปมาถึงป้ายรถเมล์ได้คือเหนื่อย


             “นี่พี่ตุลย์ เรื่องที่คุยค้างไว้เมื่อกี้...” ขณะที่ผมหันมาเพื่อจะคุยหัวข้อที่ค้างไว้ต่อ คนที่นั่งอยู่ข้างผมก็หยิบหนังสือคู่มือเลี้ยงลูกออกมากางต่อหน้าต่อตาผม เป็นการบอกนัยๆ ว่า ‘กูจะอ่านหนังสือกรุณาหุบปาก’ ผมก็เลยต้องรูดซิปปากแล้วนั่งกรอกตาเซ็งๆ แทน


             อะไรวะ ทีเขาถาม ผมยังตอบเลย ทีผมถามบ้างแม่งทำเลี่ยง!


             ผมมองวิวผ่านม่านหน้าต่างที่แง้มได้นิดเดียวเป็นการฆ่าเวลา ส่วนใหญ่คนที่ขึ้นรถตู้แล้วต้องมานั่งแช่นานๆ เขาก็ฟังเพลง อ่านหนังสือ แชทกันไปครับ แต่มืถือรุ่นราคา 1990 บาทอย่างผมจะทำไรได้


             “ฮ้าว...” ผมหาวออกมาเสียงเบาๆ อาจเพราะเมื่อคืนผมนอนดึกแล้วยังถูกปลุกให้ตื่นแต่เช้ามาใช้แรงงาน ความง่วงก็เลยเข้ามาครอบงำผมได้ในที่สุด


             …


             ตึง!


             หัวที่โขลกเข้ากับรถทำให้ผมรู้สึกตัวจากการเผลอหลับ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่ลืมตา ความง่วงที่เข้ามาเพียงทำให้ผมขยับตัวเล็กน้อยเพื่อที่จะหามุมนอนใหม่


             ตึง…


             หัวของผมกระแทกอีกครั้ง


             “มานอนนี่” ผมได้ยินเสียงคนข้างกายพูดเบาๆ ก่อนที่เขาจะเอามือใหญ่ของตนมาจับหัวผมให้นอนอิงไหล่แกร่ง ผมพยายามที่จะอยู่นิ่งให้มากที่สุด ให้เขาเข้าใจว่าผมหลับไปแล้วจริงๆ


             แต่ถึงอย่างนั้น...ผมก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา


             เพราะผมหล่อและใจดีมากหรอกนะ เลยจะยอมนอนอิงไหล่ให้สักวัน :  )








TBC
ฮูเร่~ ตั้งใจว่าจะลงตั้งแต่เมื่อคืน แต่ว่ามันยังไม่จบตอนดี ก็เลยมาแต่งต่อตอนเช้า

มีคนถามว่าจะมีภาคต่อ ของที่หนึ่งไหม?
อยากบอกว่า... ไม่มี ฮอลลลลลลลลลลล TT
แต่มีของ ตอนต้น... 55555555 มันมีเหตุผลอยู่นะว่าทำไม! แต่เหตุผลอยู่ในเรื่องของตอนต้นนะ
ถ้ายังอติดตามเด็กอ้วนคนนั้นอยู่
#daddybelover
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 10 (22/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: IIIA ที่ 22-06-2015 12:23:22
 โหยยยยไม่มีของที่หนึ่งหรอ  :mew2:

ไม่เป็นไรน๊าาา รอของน้องหนอนตอนต้นก็ได้ 5555555555

แต่ตอนนี้ชักอยากรู้ละพี่ตุลย์กับแม่ที่หนึ่งนี่เลิกกันยังไง ทำไมต้องเลี่ยง  :ling1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 10 (22/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-06-2015 13:46:38
รอฟังความลับ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 10 (22/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 22-06-2015 14:18:51
มุ้งมิ้งกันจังอ่ะ  o13
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 10 (22/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 22-06-2015 14:58:32
ชอบเด็กอ้วนคนนี้มากกกกกกก รู้สึกถูกชะตาตั้งแต่เห็นมันครั้งแรกแล้ว
ตอนนี้พี่ตุลย์-นุ้งเอสเขาไปเดทกันใช่ไหมคะ ฮี่ๆๆๆๆๆ //งานมโนต้องมา
อยากรู้เรื่องของแม่ที่หนึ่งกับเด็กอ้วนจังว่าเป็นยังไง แต่ไม่เป็นไร ไม่รีบๆ รอให้ตาแก่กับเด็กกวน (ตีน) เขาเป็นแฟนกันก่อนค่อยรู้ก็ยังไม่สาย //จิ้นไม่เลิก 555
ปล.รอตอนต่อไปจ้าาาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 10 (22/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 22-06-2015 15:52:40
เอสยังเกรียนเสมอต้นเสมอปลาย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 10 (22/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 22-06-2015 17:01:51
นั้นคือเดทกันใช่มั๊ย??
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 10 (22/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 22-06-2015 17:21:05
>\\\\\\\\<  >>> หน้าตอนอ่านจบตอน
ฟินอ่ะ มุ้งมิ้งสุดพลัง
นี่มันเดทง้อ & ขอบคุณชัดๆ น่าร๊ากกกกก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 10 (22/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 22-06-2015 17:37:52
พี่ตุลย์บอกความลับมาเดี๋ยวนี้น้าา o18
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 10 (22/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 22-06-2015 17:53:47
เอ๊ะยังไงๆ พี่ตุล
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 10 (22/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 22-06-2015 18:01:48
แบบนี้เรียกว่า ออกเดท กันได้เลยนะ

งื้อ อยากอ่านทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 10 (22/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 22-06-2015 18:52:00
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 10 (22/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 22-06-2015 20:21:33
มีปมของพี่ตุลย์เพิ่มมาแล้ว  :serius2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 10 (22/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: jinjin283 ที่ 22-06-2015 21:41:15
คืนยังไงอะพระเแกเรา รู้สึกสงสารน้องเอส หรือนางเริ่มคิดไรกับน้องเอสแล้วป่าวอะ ชวนไปเดทแบบนี้
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 10 (22/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 22-06-2015 21:53:12
เหมือนไปเดทกันเลยอ่ะ 5555+


อยากรู้ความลับพี่ตุลย์
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 10 (22/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 22-06-2015 22:51:18
เอสไม่กระโหลกกะลานะคะขอบอกกกก 55555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 10 (22/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 23-06-2015 00:16:42
อยากรู้จังงงง :hao5:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 10 (22/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 23-06-2015 12:46:59
พี่ตุลย์ชวนเอสไปเดทใช่ป่ะ ใช้เหตุผลมาอ้าง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 10 (22/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 23-06-2015 17:28:45
แค่นี้ก็ทำเอาเราฟินจิกหมอนขาดละนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 11 (24/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 24-06-2015 15:00:06
ตอนที่ 11







Tun’s Part


               ทันทีที่ผมสังเกตว่าอีกสักพักรถตู้กำลังจะจอดป้ายรถเมล์จุดหมาย ผมก็หันไปปลุกคนที่ยังนอนอิงไหล่ผมอยู่ เด็กนั่นส่งเสียงฮึ่มๆ แต่ก็ไม่ยอมเงยหัวขึ้นมาจากไหล่ ผมจึงต้องหันไปเขย่าตัว จนอีกฝ่ายลืมตาตื่นขึ้นมา


               “เช็ดน้ำลายหน่อยไป” ผมบอก เอสเหมือนจะยังมึนๆ เลยจ้องหน้าผมนิ่งอยู่ประมาณสิบวินาทีแล้วค่อยใช้หลังมืดปาดน้ำลายที่เลอะข้างแก้มออก แต่มือนั้นกลับมาเช็ดป้ายๆ ที่แถวไหล่ของผมด้วย เรียกความสนใจให้ผมต้องก้มมองดู ก่อนจะเห็นว่ามีคาบน้ำลายเป็นดวงๆ อยู่ตรงหัวไหล่ของผมด้วย


               อะ...ไอ้เด็กนี่!


               “โทษทีนะพี่นอนเพลินไปหน่อย อิอิ” มันยิ้มแผ่ ดูก็รู้ว่าไม่ได้รู้สึกผิดเท่าไหร่ที่นอนน้ำลายยืดใส่ผมหรอก “แล้วใกล้ถึงป้ายแล้วหรอ?”

               “อื้ม อย่าลืมของด้วย” ผมตอบคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะร้องบอกกับคนขับให้จอดป้ายหน้า


               โป๊ก!


               “ โอ๊ย!” ผมที่เดินลงมาจากรถหันไปตามเสียงดังด้านหลัง ก่อนจะเห็นไอ้เด็กเอสนั่นกำลังปิดประตูรถตู้ แล้วยกมือขึ้นมากุมหน้าผากด้านหน้า

               “เอาหัวไปโขลกขอบประตูรถทำไม?”

               “คนบ้าอะไร จะเอาหัวตัวเองไปโขลกขอบประตูรถเล่า!”

               “งั้นก็เดินระวังหน่อยสิ”

               “ก็คนมันยังง่วงอยู่นี่” เอสพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยสบอารมณ์นักพลางเดินถือถุงมากมายไปนั่งที่ม้านั่ง พิงหัวไปกับป้ายโฆษณาด้านหลังท่าทางสะลึมสะลือพร้อมจะหลับลงไปอีกรอบ


               ผมหัวเราะหึในลำคอ ตั้งแต่รู้จักกันมา ผมเห็นเด็กนี่ง่วงอยู่ไม่กี่ครั้งหรอก ถึงแม้ว่าจะมาคอนโดฯ ผมดึกทุกวันก็มีพลังงานเหลือเฟือในร่างกายผอมแก้งนั่น เล่นกับลูกผมบ้าง กวนประสาทบ้างจนบางทีผมยังรู้สึกเหนื่อยแทน แต่ถ้าเมื่อไหร่เด็กนี่ง่วงขึ้นมา ยังกับฟิล์มคนละม้วน สงบสเงี่ยม ไม่หือ ไม่อือ ผมจำได้ว่าผมเคยเห็นเอสหลับไปบนโซฟาโดยที่มือยังโอบตอนต้นไว้อยู่เลย ทั้งๆ ที่ปกติจะไม่แตะต้องลูกคนเล็กของผมเลยด้วยซ้ำ


               ตอนเห็นภาพนั้นผมขำนะ ไม่รู้ทำไม แต่ผมมองว่าน่ารักดี


               “เอส รถเมล์มาแล้ว” ผมเดินไปบอกกับคนที่นั่งพิงป้ายโฆษณาหลับไปอีกหน ไอ้เด็กนั่นผงกหัวลืมตาตี๋ๆ ขึ้นมามองนิดหน่อยก่อนจะกลับไปพิงป้ายโฆษณาต่อ

               “สายไปคอนโดฯ พี่นี่ โชคดีนะ”

               “โชคดีอะไร นายก็ต้องมากับฉันด้วยสิ” ผมคว้าต้นแขนมันให้ลุกขึ้น

               “ไปทำไมอีกอะ ผมอยากกลับบ้านไปนอนแล้ว มันง่วงงง” เอสพูดเสียงกระเง้ากระงอด พยายามดึงต้นแขนตัวเองออกจากการจับกุม ส่วนมืออีกข้างที่ว่างก็ดันตัวผมให้ออกห่างทั้งๆ ที่ยังตายังไม่ลืมด้วยซ้ำ เส้นเลือดที่ข้างขมับเต้นตุ๊บๆ กับท่าทางนั้น ถ้าคิดจะหลับรอรถเมล์ชาตินี้คงไม่ได้กลับบ้านหรอก นอนเป็นขอทานอยู่ที่ป้ายรถเมล์แหงๆ

               “นายจะให้ฉันถือของหมดนี่กลับบ้านคนเดียวได้ไง”

               "ของพวกนี้ก็ของลูกๆ พี่ทั้งนั้นอะ ทำไมผมต้องมาถือด้วย~”

               “มันก็มีของนายด้วย”

               “ขนมกี่ชิ้นเถอะ! สอง สามชิ้นอย่ามาทำพูด”


               ผมไม่ตอบ มือที่จับต้นแขนอีกฝ่ายอยู่ออกแรงกระชากตัวให้ลุกขึ้น ซึ่งเอสก็ยอมลุกขึ้นเดินตามมาแต่โดยดี แต่ไม่วายมีเสียงบ่นไปตลอดทาง


               “ผมง่วงนอนอะ ผมอยากกลับบ้าน~”

               “เดี๋ยวค่อยไปนอนที่คอนโดฯ”

               “คอนโดฯ พี่อะนะ?” ทันทีที่ได้ยินคำว่าคอนโดฯ ไอ้คนที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมก็หันขวับมาจ้องผมทันที “ไม่อะ ขอปฏิเสธ!” มันว่าเสียงแข็ง ทั้งส่ายหัวทั้งไขว้มือเป็นกากบาท ปฏิเสธเต็มรูปแบบว่าไม่นอนที่คอนโดฯ ผมแน่ๆ

               “ทำไม?” ผมเลิกคิ้วถาม ครั้งก่อนที่เอสแอบมานอนบนเตียงผม พอตื่นเช้ามาก็โวยวาย แล้วก็รีบพรวดพราดออกจากห้องผมไป เล่นเอาที่หนึ่งตกใจนึกว่าคอนโดฯ มีผี เลยไม่นอนห้องตัวเองเลยไปสองวัน

               “ไม่มีอะไร๊”

               “เสียงสูง”

               “ไม่ได้ อมสเตร็ปซิลรสน้ำผึ้งมะนาวอะพี่ เสียงก็เลยเพี้ยนๆ” ตามมาด้วยเสียงกระแอมไอสองสามทีก่อนจะไล่ โด เร มี ฟา ซอล ให้ฟัง

               “...” ผมกรอกตาไปมา แล้วหยิบหนังสือที่ผมซื้อขึ้นมาอ่านต่อ ไม่สนใจคนข้างๆ ที่เริ่มตื่นเต็มตามากวนประสาท พอเห็นเอสกำลังจะอ้าปากพูดอะไรสักอย่างผมก็รีบหันไปหยิบคู่มือเลี้ยงเด็กอีกเล่มส่งให้ “อ่านซะ แล้วนั่งเงียบๆ ไป”












               ตุ๊บ!


               “เฮ้อออ” เสียงถอนหายใจดังออกมาจากปากของเด็กเอสหลังจากที่ขนของทั้งหมดไปไว้บนโต๊ะกินข้าวได้ในที่สุด “วันนี้นี่มาใช้แรงงานชัดๆ”

               “เปล่า มีเรื่องจะคุยด้วย แต่บังเอิญว่าของในบ้านมันหมดพอดีต่างหาก”

               “หราาา” ผมตอบอื้อกลับไป เดินเข้าไปอุ้มตอนต้นที่นั่งคลานเต๊าะแต๊ะอยู่หน้าทีวี โดยมีป้าสร้อยนั่งอยู่บนโซฟาเฝ้าดูไว้ เสียง ‘แอร๊ย’ เหมือนจะทักทายของลูกคนเล็ก ทำให้ผมอารมณ์ดีซุกหน้าไซร้พุงกลมๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว

               “ถ้าตุลย์มาแล้ว งั้นป้ากลับห้องก่อนนะ”

               “ขอบคุณมากนะครับ”

               “จ๊า ไม่เป็นไรๆ” ผมจับมือของตอนต้นให้โบกมือลาป้าสร้อยคนที่คอยเลี้ยงตอนต้นให้ตลอดที่ผมไปทำงาน


               ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้เป็นญาติของผม เป็นเพียงคนข้างห้องเท่านั้น แต่เขาก็มานั่งดูลูกของผมให้ ผมรู้สึกซาบซึ้งนะครับ เวลาป้าสร้อยเดือดร้อนผมก็เข้าไปช่วยเสมอเป็นการตอบแทน แต่ไอ้ลูกคนเล็กผมนี่สิ เวลาเจอหน้าก็ดีใจนะครับ แต่พอจะแตะตัวก็ร้องไห้ซะอย่างนั้น


               “เน่พี่ตุลย์ไหนเงินอะ บอกว่าวันนี้จะจ่ายเงินให้ใช่ม๊า”


               ทีกับคนที่ยืนเท้าโต๊ะอยู่บนครัว กลัวเด็กอายุหนึ่งขวบ ไม่กล้าอุ้ม ไม่ชอบยุ่ง ตอนต้นกลับยอมให้แตะตัวซะงั้น ไม่ร้องสักแอะ


               “ยังไงนายก็ต้องเอาเงินมาจ่ายหนี้ฉันอยู่แล้วใช่ไหมละ? ก็ถือว่าจ่ายหนี้ส่วนวันนี้ไปแล้วกัน”

               “งั้นพี่ไปหยิบสมุดจดหนี้มาบันทึกเดี๋ยวนี้เลย เดี๋ยวพอวันหลังมาดูจะได้ไม่หาว่าผมขี้ตู่”

               “ฉันจำได้หรอกหน่า ไม่ขี้โกง”

               “แน่ใจนะ?” เอสกอดอกถาม ดวงตาตี่ๆ หรี่มองผมเหมือนจะจับผิด

               “แน่ใจสิ”

               “ถ้างั้นก็แล้วไป...พอพูดถึงเรื่องเงินขึ้นมา อื้ม...ประมาณอาทิตย์หน้าผมต้องไปรายงานตัวที่มหา’ลัยแล้วนะ แล้ววันนั้นมันต้องจ่ายค่าเทอมแล้วก็ค่าหอเลยด้วย...” เอสเหลือบตามอง เขาคงไม่กล้าพูดคำว่า ‘ขอเงิน 20,000 หน่อย’ ออกมาตรงๆ เพราะมันค่อนข้างจะกระดากสำหรับการพูดกับคนรู้จักอย่างผม

               “ได้ นายจะใช้วันไหนก็บอกฉันล่วงหน้าสักวันแล้วกัน”

               “โอเคๆ” เอสยิ้มจนเกิดรอยข้างร่องแก้ม ผมเดินอุ้มตอนต้นเข้ามาในครัว พอเห็นลูกคนเล็กของผม เอสก็มีท่าทางผงะเล็กน้อย เปลี่ยนสีหน้าดีใจเมื่อครู่อย่างรวดเร็ว


               ผมหัวเราะเสียงเบา


               “ลองอุ้มตอนต้นดูหน่อยไหมละ?”

               “โนว์!” คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมปฏิเสธเสียงแข็ง หน้าตาดูหวาดๆ ที่เห็นตอนต้นพยายามออกจากอ้อมแขนผมเพื่อจะไปหาอีกฝ่าย “อย่าเข้ามานะเว๊ยยย~ บอกแล้วไงว่ามีพระ เอ๊ย วันนี้ไม่ได่ใส่พระ แต่ไม่เป็นไร มีองค์นะเว๊ย อย่าเข้ามาาา”


               อะไรของมัน...


               “มีองค์อะไร?” ผมขมวดคิ้วใส่ เอสละสายตาจากลูกชายของผม เงยหน้ามามองพร้อมทำสายตากระลิ้มกระเหลี่ย

               “ก็องค...” คนตรงหน้าหยุดพูดไว้แค่นั้น แต่ใช้ตาตี่ๆ เลื่อนลงมาบริเวณเป้ากางเกงของผม


               ไอ้เด็กนี่!


               “มองของฉัน แปลว่าของนายไม่มีใช่ไหม?”

               “แรงอะ!”


               ผมหัวเราะหึหึในลำคอ เพิ่งรู้ว่าเห็นหน้าไอ้เด็กนี่เวลาไปต่อไม่ถูกแล้วมันดูตลกได้อย่างไม่น่าเชื่อ สายตาที่จ้องเขม็งตรงมายังผมเหมือนกำลังหาวิธีแก้แค้นเอาคืน แต่ผมกลับยักไหล่แล้วรีบอุ้มลูกชายออกมาก่อน


               “เดี๋ยวดิ! อย่าคิดหนีนะ พี่เพิ่งจะนับ 1-0 แค่นั้นเองเถอะ”


               มันคิดว่าผมเป็นที่หนึ่งหรือไง ถึงได้มาเล่นเกมนับแต้มอยู่แบบนี้เนี่ย


               “เอาตอนต้นไปอุ้มไป”

               “เกี่ยวไหมมมม~”


               แอ๊ด...


               “อ้าว พ่อกลับมาเร็วจัง” ขณะที่ผมกำลังโดนเอสกักตัวไว้โดยเอาแขนยันกับพนักโซฟาอยู่ ที่หนึ่ง ลูกคนโตของผมก็เดินเข้ามาในห้อง ผมเหลือบมองนาฬิกาเล็กน้อยก่อนจะนึกชื่นชบรถรับส่งนักเรียนอยู่ในใจที่พาที่หนึ่งกลับมาเวลาเดิมได้ทุกๆ วัน

               “วันนี้พ่อหยุด...”

               “หวายยย เหนื่อยเปล่า ไปเรียนทุกวันเลย น่าสงสาร ดูพี่ ไอ้น้องดูพี่ ปิดเทอมม สบาย ไม่ต้องไปเรียน” ทันทีที่เห็นที่หนึ่ง เอสก็ผละออกจากผมแล้วรีบปรี่เข้าหา

               “พ่อ ทำไมมีอันธพาลอยู่ในบ้านเราอะ” แต่ที่หนึ่งไม่สนใจเด็กโข่งนั่นเท่าไหร่ ร่างของเด็กตัวน้อยเดินมานั่งบนโซฟาข้างๆ ผม ทิ้งผู้เป็นแขกของบ้านยืนค้างอึ้งอยู่หน้าประตู

               “อันธพาลอะไรวะ ทีเมื่อวานยังเรียก ‘พี่’ อยู่เลย” เอสเริ่มโวยวาย

               “พี่อะไร? หูฟาดไปเองเปล่า สมองเบลอๆ แบบน้ำเข้าหูแล้วกองกันอยู่ในสมองแบบนี้น่ะ” ผมว่าลูกผมอยู่กับเอสมากไปแล้ว ถึงได้มีคำพูดจิกกัดแบบนี้ออกมา

               “อะไรนะ! เมื่อวานตัวเองยังร้องไห้ขี้มูกโป่งมาหาเรียก พี่อย่างนั้น เรียกพี่อย่างนี้!”

               “ที่หนึ่งไปทำตอนไหน!”

               “ทำทุกตอน!”

               “มั่ว!”

               “งั้นที่หนึ่งไม่ต้องกินขนมที่พี่ซื้อมาฝากเลย!”


               ผมว่าผมเป็นคนซื้อนะ ทั้งหยิบเอง ทั้งจ่ายตังเอง


               “ไม่เอา! ไหนขนม ที่หนึ่งจะกิน!”


               แล้วทั้งสองคนก็เดินหายเข้าไปในครัวด้วยกัน


               ผมมองตามโดยมีตอนต้นก็มองด้วย ผมว่าสองคนนี้เป็นความสัมพันธ์แปลกๆ เหมือนจะดีแต่ก็พร้อมตีกันอยู่ตลอดเวลา แต่พอทะเลาะกันปุ๊บ สักพักก็นั่งเล่นเกมด้วยกัน ผมรู้สึกดีทุกครั้งที่มองนะครับ เพราะทางโรงเรียนเคยโทรมาบอกผมว่าที่หนึ่งเข้ากับเพื่อนที่โรงเรียนไม่ค่อยได้เท่าไหร่ ผมเลยดีใจที่มองเห็นลูกของผมได้เล่นกับ ‘เพื่อน’ สนุกสนานแบบที่ผมทำให้ไม่ได้


               “แอร๊ย!”


               “อะไรลูก? อยากไปเล่นกับพี่เขาหรอ?” ผมก้มถามลูกชายคนเล็กที่นั่งอยู่บนตักผม สองแขนป้อมๆ ที่ตวัดไปมาเหมือนต้องการออกจากอ้อมแขน ผมส่ายหัวขำๆ อุ้มตอนต้นเข้าไปหาคนสองคนที่ตีแย่งขนมกันอยู่ในครัว

               “น้องอยากกินด้วย” ผมวางตอนต้นไว้บนโต๊ะข้างถุงห้างฯ แต่พอตอนต้นจะรื้อหาขนม เอสก็คว้าหมับเข้าที่ปากถุงเอาไว้เสียก่อน

               “คนอ้วนห้ามกิน! รู้ไหม อ้วนแล้วจะเป็นโรคอะไรขึ้นบ้าง นายจะเป็นโรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดตีบ หัวใจโต ข้อกระดูกเสื่อม เป็นเก๊าท์ มะเร็ง นิ่วในถุงน้ำดี หลอดอาหารอักเสบ นอนกรน ฮอร์โมนผิดปกติ แล้วก็ปวดเอว!

               ผมอ้าปากค้าง ที่หนึ่งก็ค้าง ตอนต้นก็ค้าง แต่ผ่านไปได้ไม่นานก็ดูเหมือนว่าตอนต้นจะไม่สนใจเท่าไหร่ พยายามดึงให้ปากถุงเปิดออกหาขนมของตัวเอง เดือดร้อนเอสที่ต้องรีบเข้ามาตะครุบเอาไว้

               “ฉันซื้อขนมเด็กมาอยู่นะ ให้ตอนต้นกินก็ได้”

               “พี่ซื้อหนังสือมาเองแท้ๆ อ่านไม่เจอหรือไง ว่าเขาไม่ให้เด็กอายุกินแค่นี้กินขนมอะ เพราะเด็กมันจะไม่ยอมกินข้าว” เอสหันมาว่าผม

               “แต่ฉันก็ให้ตอนต้นกินขนมมาเป็นเดือนแล้วนะ ก็กินข้าว...”

               “งั้นตั้งแต่วันนี้ไป อดเลยอด” เอสพูดเสียงดังแทรกผมขึ้นมาใช้นิ้วยาวของตนเองเขี่ยๆ ตอนต้นให้ออกห่างจากสารพัดถุง “วันนี้นายต้องเข้าครอสลดความอ้วนกับคุณหมอเอส หึหึหึหึ นายจะได้หุ่นดี มีซิคแพ็คอย่างฉันนะไอ้หนู”

               “แอร๊ย!” ตอนต้นส่งเสียงร้อง รอยยิ้มเผยกว้างจนเห็นฟันซี่เล็กๆ มือตะกุยตะกายไปมาอย่างอารมณ์ดีคว้าหมับเข้าที่นิ้วของเอสที่ยื่นมาจิ้มพุง

               “อ๊ากกกก ลมพิษขึ้นน ปล่อยฉันนะโว๊ยย”


               ขี้โวยวายจริงๆ ก็แค่ขนลุก ลมพิษอะไรขึ้นที่ไหน


               “น้องชายลูกแปลกดี ทีกับป้าสร้อยไม่ให้แตะตัวเลย นิ้วเดียวก็แตะไม่ได้ แต่กลับให้พี่เอสแตะตัวเฉย” ผมจูงมือลูกชายคนโตที่กำลังกินขนมอยู่ออกจากห้องครัวไปนั่งเล่นด้วยกันหน้าทีวี

               “ที่หนึ่งว่าตอนต้นไม่ชอบผู้หญิงเท่าไหร่มั้งพ่อ ไม่ใช่แค่ป้าสร้อยนะ ขนาดย่ายังอุ้มไม่ได้เลย”

               “อย่างนั้นหรอ” ผมพูดเสียงพึมพำกับตัวเองขณะมองลูกคนโตกับลูกคนเล็กสลับกัน พลางนึกโทษตัวเองในใจ


               สาเหตุของตอนต้นก็อาจจะมาจากการ ‘ไม่มีแม่’ อีกเช่นกัน ตั้งแต่เกิดตอนต้นไม่เคยโดนแม่อุ้มเลยสักครั้งเดียว...


               ผมกัดกระพุ้งแก้มตัวเองสะกดกั้นความนึกคิดที่แล่นไปไกล มีไม่กี่เรื่องที่ผมไม่อยากแม้แต่จะนึกถึง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็เป็นเรื่องของแม่ของลูกๆ ผม มันเป็นความทรงจำอันยาวนานที่แย่ที่สุดที่ผมมี อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมหมดศรัทธาในตัวของผู้หญิงคนหนึ่งไปได้เลย...


               “พี่ตุลย์...พี่ตุลย์!!”

               “อะไร?” ผมหันไปตามเสียงเรียกจากในครัว ก่อนจะเห็นเอสกำลังทำหน้าตาเหมือนมีหนอนกำลังมายั้วเยี้ยะอยู่ที่ตัว แต่พอเหลือบมองลงไปต่ำกว่าใบหน้านั่นแทนที่จะเห็นหนอน ผมกลับเห็นตอนต้นลูกชายคนเล็กกำลังเกาะแขนอีกฝ่ายไว้แน่น

               “ช่วยผมด้วย...”

               “ก็แค่เด็ก อุ้มขึ้นมาแล้วก็พามานี่ก็จบเรื่อง”

               “ผมจะเป็นลม”

               “อย่าเวอร์ได้ไหม แค่เด็กตัวนิดเดียว”

               “นิดเดียวอะไร ตัวเท่าโอ่ง! พี่! ผมไม่ถูกกับเด๊กกก~”

               “ก็ลองอุ้มดูก่อนสิ”

               “แล้วถ้าผมทำร่วงล่ะ ไม่เอานะ ผมกลัวเด็กอ้วนมันร่วงอะ”

               “...” ผมไม่สนใจ หันหลังให้คนที่อยู่ในครัว ดูลูกคนโตที่กินขนมไปพลางดูทีวีไปพลาง

               “พี่ตุลย์ ผมจะกลับบ้าน” เสียงของเด็กหนุ่มแขกประจำร้องเสียงหลงจนดูน่าสงสาร แต่ผมกลับหัวเราะออกมาเสียงเบาด้วยความตลก ถึงเด็กนี่จะขี้โวยวายไปหน่อย แต่ก็มีหลายครั้งที่ผมต้องมาแอบขำกับความฮาๆ บ้าบอของเจ้าตัว “พี่ตุลย์...!”

               “ก็อุ้มตอนต้นมานี่ แล้วนายจะกลับบ้านหรืออะไรก็ตามใจนายเลย ถ้าไม่อุ้มมาก็ยืนให้ตอนต้นกอดแขนแบบนั้นไปถึงพรุ่งนี้นู่นแหละ”

               “ไม่เอา! ผมไม่นอนห้องพี่หรอกนะ ขอบอกไว้เลย”

               “ไม่ได้ชวนให้นอนค้างสักคำ”

               “ที่หนึ่งก็ไม่ให้นอนในห้องที่หนึ่งหรอกนะ”

               “โอ๊ย ของใครก็ไม่นอนทั้งนั้นแหละ โซฟาก็ไม่นอนจะไปนอนบ้านอย่างเดียวเฟ้ย!”

               “จะกลัวอะไรห้องฉันนักหนา ถามจริงเจอผีไง?”

               “เปล่า”

               “แล้วกลัวอะไร?”

               “...” พอเห็นเอสเงียบ ผมก็หันหลังไปดู ก่อนจะเห็นว่าตอนนี้ไอ้เด็กนั่นกำลังอุ้มลูกชายคนเล็กของผมอย่างงกๆ เงิ่นๆ เดินตรงปรี่เข้ามาหาผมกับที่หนึ่งที่นั่งเล่นกันอยู่บนโซฟา “ห้องพี่ผมไม่กลัวอะไรทั้งนั้นแหละ!”

               “ถ้าไม่กลัวก็นอนค้างดิ ถ้างั้นอะ”

               “ฮันแหน่ะ! นั่นไง ชวนนอนค้างแล้วอะ” เอสวนนิ้วชี้อยู่ตรงหน้าผม สายตาที่จ้องมองมาเป็นประกายเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์

               “ไม่ได้ชวนเลย แค่บอกว่าไม่กลัวก็นอน ถ้าไม่นอนก็แปลว่ากลัว”


               ปุ๊ๆ!


               ไอ้เด็กเอสยื่นมือมาตบไหล่ผมสองทีพร้อมกับส่ายหัวไปมา “ผมไม่ได้กลัว...” พูดเสร็จร่างสูงบางก็เดินถอยหลังจนชิดกับประตูห้อง “แต่ผมไม่นอน!! ไปละ บร๊าย!~~” ไอ้เด็กนั่นหมุนลูกบิดแกรก พุ่งพรวดออกไปจากห้องผมทันที ไม่ลืมโบกมือและพูดลาผมด้วยเสียง รอ ’เรือ’ แบบฟังชัด!


               ผมหัวเราะเสียงเบา ก็คิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้








TBC
มาเป็นพาร์ทของพี่ตุลย์บ้าง จะได้รู้ว่าภายใต้ใบหน้าที่ชอบขมวดคิ้วที่แกคิดอะไรอยู่ (ก็ดูเหมือนจะไม่คิดอะไรเท่าไหร่...)

เพิ่มความหวานกันหน่อย ก่อนที่พายุจะเข้า หื้ม?
#Daddybelover
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 11 (24/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 24-06-2015 15:21:41
ได้อ่านตอนที่เอสอยู่กับเด็กๆ กี่ทีก็ขำน้ำตาเล็ดตลอดเลยนะคะ :m20: ท่าทางตอนต้นชอบใจที่ตัวเองจะได้เอสมาเป็นเทรนเนอร์ลดความอ้วนน่าดูเลยนะคะนั่น ^^ ร่าเริงขึ้นมาเลยเชียว~

ตั้งรับพายุค่ะ รอตอนต่อไปนะค้าา.. ><
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 11 (24/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 24-06-2015 15:23:49
งักๆๆๆ พายุไรจะเข้าอ่ะ ให้หวานต่ออีกหน่อยจิค่อยเข้าาาาา :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 11 (24/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 24-06-2015 15:29:47
น่ารัก  :mew1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 11 (24/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 24-06-2015 15:49:36
เอสคะ เด็กๆน่ารักจะตาย แกอย่ามาเวอร์ได้ปะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 11 (24/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 24-06-2015 15:52:14
ตอนต้นน่ารักดีนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 11 (24/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 24-06-2015 15:57:03
ทำไมน้องเอสไม่ถูกกับเด็ก???
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 11 (24/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-06-2015 16:52:25

คิดๆอยู่ มันจะรักกันได้ยังไงหนอ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 11 (24/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 24-06-2015 17:19:50
พายุอัลไล....
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 11 (24/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 24-06-2015 17:37:02
เมื่อไหร่จะมีซัมติงวรอง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 11 (24/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kangteuk1995 ที่ 24-06-2015 18:36:27
ชอบเด็กๆบ้านนี้จริงๆน่าร๊ากกกกกก (อยากได้มาเก็บไว้ที่บ้านจัง)
คุณพ่อกับพี่เอสก็น่าร๊ากกกกก (หลงเลย)

หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 11 (24/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 24-06-2015 18:37:37
เออ เฮียแกแทบไม่คิดอะไรเลยจริงๆ จะตกล่องปล่องชิ้นกันยังไงล่ะเนี่ย...
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 11 (24/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 24-06-2015 20:12:42
ชอบรีเอ็คชั่นของเอส ตอนที่อยู่กับตอนต้นจิงๆอ่ะ
5555555555555
คือนางสะดีดสะดิ้งได้ใจม๊ากมาก

#พายุจะเข้าหรอ?!! ม่ายน๊าาาาาาา
พึ้งจะมุ้งมิ้งได้สองตอนหลังดราม่าเล็กๆ
ยังจิมีพายุมาอีกหรอ ม่ายนะ T^T
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 11 (24/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: TOY_SKY ที่ 24-06-2015 20:44:33
พึ่งจะอ่านเรื่องนี้ครั้งแรก  อ่านตั้งแต่แรกจนจบเลย  สนุกจริงๆๆ  เรื่องราวไหลลื่นมากทำให้หยุดอ่านไม่ได้เลย
ความสัมพันธ์ในตัวละครค่อยเป็นไป  ไม่รวดรัดและไม่ช้าไป  ทำให้ฟินกับความน่ารักของทุกคน 
ขอบคุณนักเขียนนะคะ  ที่เขียนเรื่องดีๆให้อ่าน  และจะติดตามตอนต่อไปนะคะ 

 :mew1: :mew1: :mew1: 
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 11 (24/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 24-06-2015 21:01:23
พี่ตุลย์แกเป็นคนไม่คิดมากจริงๆนั่นแหละนะ 555
พายุอะไรอีกว้าาา เอสกรุณาตั้งรับด่วนนนน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 11 (24/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 24-06-2015 21:59:54
เอสทะเล้นมากเลย น่ารัก  :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 11 (24/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 25-06-2015 10:55:18
พายุอาร๊ายยยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 11 (24/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 25-06-2015 18:00:02
อื่ม..

ที่จริงไอ้เอส มันก็น่ารัก เหมือนกันโน๊ะ

แต่มันน่าเขก กะโหลกมากกว่า

พี่ตุลย์ เริ่มมองไอ้เอสน่ารักแล้วเว๊ยยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 11 (24/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 25-06-2015 18:11:16
อ๊ากกกก เด็กอ้วนน่ารักอ่ะ ชอบ 5555+
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 26-06-2015 14:48:40
ตอนที่ 12



              ก๊อก ก๊อก ก๊อกๆๆ ก๊อก ก๊อก...ก๊อก ก๊อก ก๊อก!


              “คุณเจ้าของห้อง B8002 เจ้าหนี้มาทวงหนี้ครับโผมมมม”

              “เจ้าของห้องไม่อยู่” พี่ตุลย์เปิดประตูอ้าซ่า พิงไหล่ไปกับวงกบโดยมีที่หนึ่งยืนอยู่ข้างๆ กับตอนต้นในอ้อมแขน

              “แล้วที่ออกมาต้อนรับผมกันทั้งครอบครัว นี่ผีบ้านผีเรือนหรอครับ?”

              “ใช่ ฆ่าตัวตายทั้งครอบครัวหนีหนี้นายไง”

              “เดี๋ยวผมจะฆ่าตัวตายตามไปทวงที่ถึงยมโลกเลย” ผมชูกำปั้นท่าทางเอาจริงเอาจัง พอเห็นอีกฝ่ายส่ายหัวระอา พาลูกทั้งสองของตัวเองเข้าห้อง ผมก็หัวเราะด้วยความชอบใจก่อนจะเดินตามเข้าไปบ้าง

              “พรุ่งนี้ต้องไปรายงานตัวแล้วใช่ไหม?”

              “ใช่ รายงานตัวแล้วก็จองหอ แต่ก็คงอยู่หอในแหละครับ ประหยัดดี” ผมว่า ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นพิงหลังไปกับขอบโซฟา “อ๋อพี่ เกือบลืม อันนี้เงินของวันนี้” ผมยืนเงินชำระหนี้รายวันให้กับคุณพ่อตุลย์ที่นั่งดูละครกับลูกๆ อยู่เหนือผม

              “ไปเอาเป๋าตังให้หน่อย อยู่ในสูทที่แขวนไว้ในห้องนอน”

              “นี่ใช้ผมหรอ?”

              “ใช้ตอนต้นมั้ง ตัวสูงจนหยิบสูทบนที่แขวนได้แล้วละ”


              กวนตีน


              ผมเบ้ปากใส่คนที่อายุมากกว่าก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอน


              ตอนแรกๆ ที่รู้จักกันนะครับ คงนึกว่าตัวเองเป็นกาแฟเลยทำเป็นเข้ม หยอกนิดหยอกหน่อย ขมวดคิ้วใส่ทุกที แต่พอรู้จักกันนานๆ เข้า ความกวนเริ่มโผล่แล้วครับ!


              “อะ” ผมยื่นกระเป๋าตังสีดำหนังที่พองแน่นให้กับผู้เป็นเจ้าของพร้อมกับยื่นเงินใช้หนี้ด้วยไปพร้อมกัน พี่ตุลย์เอาเงินนั้นเข้ากระเป๋า ก่อนจะควักแบงค์พันปึกใหญ่ออกมาเป็นการแลกเปลี่ยน

              “ลองนับดูว่าครบไหม” ผมรับเงินจำนวนนั้นมานับสองครั้ง จนแน่ใจแล้วว่าครบจึงค่อยใส่กระเป๋าตังตัวเอง “ครบนะ?”

              “ครบครับ”

              “ถ้าครบแล้วก็...”

              “ฮันแน่! จะเล่นมุข คบแล้วอย่าเลิกใช่ปะ มุขนี้เก่าแล้วครับลุง อย่ามาเล่นๆ” ผมใช้นิ้วชี้แตะที่ปากของอีกฝ่าย ส่ายหัวไม่ดีไม่เอา สวมบทเล่นตัวสุดขีด แต่ดูเหมือนว่าพี่ตุลย์จะไม่เล่นด้วยเท่าไหร่เลยอ้าปากกัดนิ้วผม!

              “โอ๊ย! ไอ้พี่ตุลย์!”

              “เรียกฉันหยาบคายต่อหน้าลูกๆ ได้ไง”

              “ก็คุณหลวงตุลย์กัดกระผมก่อนนี่ขอรับ!”

              “เอ้าหรอ โทษๆ พอดีหน้ามืดตามัวมากไปหน่อย...ตอนต้นมาหาพ่อนี่มา เดี๋ยวก็ตกโซฟาไปหงายหลังหรอก”


              ผมจ้องเจ้าของห้องเขม็ง ส่งสายตาไปชกอีกฝ่ายจนน่วมข้อหากวนไม่พอแล้วยังกล้าเมินผมอีกต่างหาก! เวลาเดินนี่ หญิงเหลียวมองจนคอแทบเคล็ดนะเว๊ย ขอบอก!


              “ช่างเถอะ ผมกลับก่อนนะวันนี้ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปมหา’ลัย” หลังจากที่อัดพี่ตุลย์ในมโนความคิดจนพอใจแล้ว ก็ตั้งท่าจะเดินออกจากห้องพี่แกเพื่อกลับบ้านไปนอน เตรียมจัดการเรื่องมหา’ลัยในวันพรุ่งนี้ แต่ผมก็ต้องชะงักซะก่อนเมื่อมีขายาวๆ ของเจ้าของห้องยื่นขวางทางไว้

              “แล้วพรุ่งนี้จะไปยังไง?”

              “ก็รถเมล์ไง”

              “รายงานตัวกี่โมง?”

              “8 โมง”

              “ถ้าจะไปรถเมล์นะ นี่ต้องเดินทางตั้งแต่ตีห้าเลยไหม? วันรายงานตัวเนี่ยคนคงน้อยเนอะ จะเข้าไปในมหา’ลัยยังไง”

              “งั้นก็ไปแท็กซี่ก็ได้”

              “มีเงิน?”


              เออวะ ผมรวบมื้อเช้ากับมื้อเที่ยงไว้ด้วยกันไปกินที่เซเว่นทุกวัน ตอนเย็นนี่ไม่แวะซื้อมาม่ากินที่เซเว่น ก็เนียนมากินมาม่าที่ห้องไอ้พี่ตุลย์เนี่ยแหละ (ทำไมกูได้แดกแต่มาม่าวะ?) เงินที่ได้จากงานพิเศษทุกวันก็เอามาใช้หนี้ไอ้พี่ตุลย์หมด ค่าแท็กซี่ไปกลับก็ประมาณสักสองร้อย...


              “ขอเงินหน่อยดิ” ผมหน้าด้านแบมือไปตรงหน้าพี่ตุลย์ กระพริบตาปิ๊บๆ ออดอ้อนจนแทบจะถลาเข้าไปกอดเข่า “ขอเลยนะ ไม่ยืมอะ ขี้เกียจเป็นหนี้เพิ่ม อิอิ”


              เขาว่ากันว่าเติม อิอิ แล้วจะทำให้ประโยคน่ารักขึ้น อิอิ


              “ขึ้นแท็กซี่ไปรายงานตัวที่คณะ แล้วจะเดินทางไปจองหอในยังไง?”


              เออวะ มหา’ ลัย sss ก็ไม่ได้ใหญ่โตจนมีมอไซค์วินรับจ้างซะด้วย


              “จำได้ว่ามหา’ลัย มีรถวิ่งในมออยู่นะ”

              “แล้วจะไปแย่งห้องกับเขาทัน”

              “ถ้าจะพูดดักคอกันแบบนี้ พี่ต้องการอะไรพูดมาเลยดีกว่า พูดมาเลย!” ผมเท้าเอวมองคนที่นั่งอยู่บนโซฟาอย่างหาเรื่อง ไอ้พี่ตุลย์ละสายตาจากหน้าจอทีวีขึ้นมามองหน้าผมนิ่ง

              “เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปรับ”

              “เอามอไซค์วินมารับหรอครับบบ” ผมลากเสียงยาว

              “เอารถยนต์ไปรับดิ”

              “หื้อ?” ผมเลิกคิ้ว เมื่ออาทิตย์ก่อนไปห้างฯ ด้วยกัน ยังนั่งรถเมล์ต่อรถตู้อยู่เลย ไหงอาทิตย์ต่อมาแม่งมีรถยนต์แล้ววะ “รถใคร?”

              “รถฉันสิ”

              “เหยดดดด มีด้วยหรอ? ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย” ผมถลาเข้าไปดันไอ้เด็กที่หนึ่งออก แทรกตัวนั่งชิดพี่ตุลย์ทันที นี่ถ้าผมเป็นผู้หญิงหน่อยนะ จะรีบไปยืมชุดพริตตี้มาใส่แล้วนั่งไถลหัวเป็นลูกแมวเลยครับ! แต่บังเอิญว่าไม่ใช่ไง เลยแบกสภาพตัวเองที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหงื่อจากการทำงานมาถูไถลพี่แกแทน


              ตอนนี้ผมเข้าใจฟิลแล้วว่าทำไมผู้หญิงชอบคนดี รักคนเลว แต่งงานกับคนรวย


              คนมีรถมันโซฮอตตตอย่างนี้นี่เองครับ~


              “พ่อเพิ่งดาวน์ลดเมื่อสองสามวันก่อน ดาวน์รถไว้ให้ที่หนึ่งกับตอนต้นนะ!” เด็กที่หนึ่งที่ผมเพิ่งยันมันออกไป มุดตัวเข้ามาแทรกผมกับพี่ตุลย์ก่อนจะทำหน้าที่ตอบแทน


              ผมหันไปยิ้มกระลิ้มกระเหลี่ยให้เจ้าของบ้าน


              “แต่งงานกันไหม? ผมสัญญาจะทำให้พี่เป็นเจ้าสาวที่โชคดีที่สุดในโลก” ว่าแล้วก็จับมือพี่ตุลย์ขึ้นหมายจะจุมพิษหลังมือประหนึ่งเจ้าชายกำลังขอสโนไวท์แต่งงาน


              มันหมดยุคแล้วครับ ผู้หญิงมาเกาะผู้ชายรวย ตอนนี้เจ้าชายเอสขอเหาะเจ้าหญิงสโนตุลย์รวยก่อน~


              เพี๊ยะ!


              “โอ๊ย!” ผมร้องลั่น ผิดคิวโดนเบิ่ดกระโหลกไม่พอ ยังหน้าทิ่มปากกระแทกหลังพี่ไอ้พี่ตุลย์อีก “ทำไมต้องโหดด้วยอะ!”

              “โทษทีๆ มือมันลื่น”

              “ทำไมเจ้าสาวทำร้ายเจ้าบ่าวแบบนี้ละครับ เดี๋ยวเจ้าบ่าวเอาคืนนะ” ว่าแล้วก็ขยิบตาให้หนึ่งที


              การโดนประทุษร้ายไม่ช่วยทำให้ความเกรียนของผมลดไปหรอกขอบอก


              “...” ไอ้พี่ตุลย์จ้องผมเขม็ง

              “...” ผมจ้องกลับ

              “...”

              “ล้อเล่นคร๊าบ” ผมก้มหน้าคอตกทันทีเมื่อเห็นสายตาเฉือดเฉือนจากคนตรงหน้า ลุกขึ้นยืนน้อมศรีษะให้อย่างถ่อมตน “กระผมคิดว่า นี่ก็เป็นเวลาอันสมควรแล้ว กระผมคงต้องกลับบ้านก่อน ขอโทษที่อยู่ถึงห้าทุ่มไม่ได้ เพราะพรุ่งนี้กระผมตื่นเช้า ลาละขอรับ”


              ผมพูดเพราะพริ้งด้วยเสียงประชดประชันสุดๆ ไอ้ที่ก้มหน้านี่ไม่ได้กลัวนะ กำลังมองเท้าพี่ตุลย์อยู่ กะว่าตอนออกจากห้องจะเนียนเหยียบสักทีสองที หึหึ


              “พรุ่งนี้เจ็ดโมงเช้าจะไปรับ ส่งข้อความบอกที่อยู่มาด้วยละ” ผมละสายตาจากเท้าของคนตรงหน้า สบเข้ากับรอยยิ้มจางๆ กับเสียงหัวเราะทุ้มๆ ในลำคอ พอเห็นท่าทางอารมณ์ดีของอีกฝ่าย ไอ้ความอยากที่จะเหยียบเท้าก็หายไปซะดื้อ


              ผมแม่งโคตรชอบเลยเวลาที่ผมทำให้คนรอบตัวรู้สึกดีมีความสุข เนี่ยแหละความฝันผม ไปเป็นตัวตลกอยู่ในสวนสนุกแน่นอน! 


              “เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าผมจะมาที่คอนโดฯ พี่ดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลาหาที่อยู่ผม”

              “เอางั้นก็ได้”

              “งั้นผมกลับก่อนนะ” ผมบอกก่อนจะเดินตรงไปยังห้องพัก หันมาโบกมือบ๊ายบายอีกรอบก่อนจะเห็นพี่ตุลย์กำลังอุ้มเด็กอ้วนตอนต้นทำท่าโบกมือให้ผมเช่นกัน

              “ฝันดี”

              “เหมือนกันครับ~”












              เสียงเจี้ยวจ้าวโหวกเหวกดังขึ้นไปรอบทิศทาง มหา’ลัยที่เคยเห็นในอินเตอร์เน็ตว่ากว้าง แคบลงถนัดตาเมื่อมีผู้คนมากมายเบียดเสียดอยู่ทุกหนทุกแห่ง ซึ่งคณะพาณิชย์และบัญชี ก็เป็นหนึ่งในนั้น ยิ่งเป็นคณะที่มีสาขาย่อยเยอะด้วยแล้ว ความแออัดยิ่งมากขึ้นเท่าทวีคูณ


              ไม่ใครก็ใครได้มีเป็นลมใต้ดงตีนกันบ้างแหละงานนี้


              ผมก้มกำหนดการรายงานตัวของสาขาการเงิน ดำเนินการไปตามสถานที่ต่างๆ อย่างไม่ติดขัดแม้จะไม่ได้มีผู้ปกครองมาด้วยอย่างเช่นเด็กคนอื่นๆ หา? ไอ้พี่ตุลย์อะหรอ? อย่างที่ผมบอกไปเมื่อสี่บรรทัดก่อนว่าคนโคตรของโคตรๆ เยอะ รถยนต์ก็เลยเยอะไปด้วยเลยไม่มีที่จอดรถ พี่แกเลยเอารถที่เพิ่งถอยมาใหม่ป้ายแดงไปขับเล่นรอบมอระหว่างรอผม


              พูดถึงรถ ตั้งแต่วันนั้นที่ผมว่าพี่เขาเรื่องเลี้ยงลูกไปแบบจัดหนัก จัดเต็ม วันรุ่งขึ้นเขาก็พาผมไปซื้อหนังสือเลี้ยงดูลูกใช่ไหมครับ ผมก็ไม่รู้พี่แกไปอ่านเจออะไรเข้านะ หลายวันต่อมาก็ถอยรถใหม่เลย ฮอนด้า แอคคอร์ด รุ่น 2.4 EL NAVI


              ด้วยความที่ผมชอบเสือก เอ๊ย เป็นห่วง! ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน เห็นพี่ตุลย์นั่งรถเมล์ รถตู้ แท็กซี่ วินมอไซค์อะไรก็แล้วแต่ตามยถากรรม แต่อยู่ดีๆ มาถอยรถอะครับ ก็เลยถามว่าพี่เขาผ่อนไหวหรอ กลัวเงินจะขัดสนอะไรแบบนั้น ถึงจะไม่ใช่เงินผมก็เถอะ แต่เวลาเสียเยอะๆ ไม่ว่าเงินใคร ผมก็เสียดายแทนตลอดอะ


              แต่ปรากฎว่า! เงินเดือนพี่เขาอาจจะธรรมดาหมื่นห้าทั่วไป แต่ทำงานเอกชนครับ! มันก็เลยมีโบนัสเยอะ แถมลูกยังเล็กเลยเสียเงินไม่มาก เที่ยวก็ไม่ค่อยเที่ยว เอาแต่บ้างาน (อันนี้พี่ตุลย์พูดเองเลยนะ) เลยมีตังเก็บเยอะ ผ่อนรถได้สบายบรือ


              โอ๊ยย โซฮอตอีกแล้ว ผมแพ้เงินครับ แพ้เงินน~


              แต่ที่จริงผมก็ไม่น่าจะแปลกใจนะ ลืมไปซะสนิทว่าเขาเป็นคนที่เอ่ยปากกับผมว่าจะให้ยืมเงิน 20,000 แบบชิลสุดๆ ยังกับผมขอยืม 200


              “ฮัลโหล ผมรายงานตัวเสร็จแล้วนะ พี่ขับรถไปถึงไหนแล้วกลับมารับผมเลย ผมรออยู่ศาลาหน้าคณะนะ”


              หลังจากที่ผมวางสายเกือบประมาณสิบนาที รถสีดำป้ายแดง ตราสัญลักษณ์ตัวเฮช ก็มาจอดเทียบศาลาหน้าคณะ อาจเพราะอะไรยังใหม่ ไม่คุ้นตาผมสักเท่าไหร่ เลยยึกๆ ยักๆ ไม่กล้าเข้าไปหากลัวหน้าแตก จนพี่ตุลย์ต้องเป็นฝ่ายลดกระจกลงแล้วเรียกให้ผมขึ้นไปเอง


              “ไปไหนต่อ? จองหอใช่ไหม?”

              “ช่าย พี่รู้เปล่าว่าหอในอยู่ไหน?”

              “รู้อยู่ ไปขับดูมาแล้ว แต่ว่าหน้าสำนักงานหอคนเยอะมากเลยนะ จะเหลือห้องไว้ให้นายหรอ?”

              “น่าจะเหลืออยู่มั้ง หอในมีตั้งหลายตึกนี่หน่า” ผมว่าพลางหยิบเอกสารในซองพลาสติกขึ้นมาเตรียมพร้อมในการใช้ทำสัญญาหอ พี่ตุลย์ส่งเสียง ‘อื้อ’ ในลำคอ ก่อนที่ทั้งผมและเขาจะเงียบไป


              วันนี้ผมเฮฮาไม่ค่อยออกเท่าไหร่ครับ เพราะเพิ่งเสียเงินก่อนใหญ่จ่ายค่าเทอมไปตอนรายงานตัว แถมในใจจริงๆ ก็กังวลเรื่องหอด้วยกลัวจะเต็มอย่างที่พี่ตุลย์พูด


              “เดี๋ยวหาที่จอดรถแป๊บนึงแล้วจะตามไป” พี่ตุลย์พูดกับผมขณะที่ผมกำลังลงจากรถ

              “ไม่ต้องหรอกพี่ ผมทำสัญญาแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว นั่งรอตากแอร์ชิลๆ ในรถได้เลย”

              “เอางั้นก็ได้ เสร็จแล้วก็โทรมาแล้วกัน”

              “คร๊าบบบ” ผมขานเสียงกวน พี่ตุลย์พยักหน้าให้ผมสองสามทีก่อนจะเอารถไปจอด ส่วนผมก็หันหลังแทรกฝูงชน เข้าไปหาเจ้าหน้าที่ที่นั่งประจำการกันอยู่สองคน “ขอโทษนะครับ คือผมมาจองหอ”

              “หยิบใบจองหอที่ตรงนี้น แล้วก็ไปเช็คห้องว่างที่บอร์ดทางซ้ายมือ ถ้ามีหมุดปักไว้แล้วแปลว่าไม่ว่างแล้ว กรอกหมายเลขห้องแล้วยื่นเอกสารตามที่ระบุ” พนักงานสาวคนหนึ่งที่มีความห่วงใยไม่เท่าไหร่แต่ห่วงยางเยอะมาก พูดเสียงห้วนโดยไม่มองแม้แต่หน้าของผม


              คิดดูนะครับ ขนาดมีนักศึกษาและผู้ปกครองเป็นจำนวนมากที่ต่อแถวเพื่อจะติดต่องาน แต่เธอกลับเอาแต่แต่งเติมคิ้วบ้าง ปากบ้างไม่ยอมหยุด ผมอยากจะบอกจังว่าแต่งหน้าจนกระสุนก็เจาะไม่เข้าแล้ว...


              ผมไล่นิ้วไปตามแผนผังแต่ละตึกอย่างละเอียด บอร์ดทางซ้ายมือแทบทุกห้องถูกยึดจองไว้ด้วยหมุดแล้วทั้งสิ้น ซึ่งหมายความว่าผมหมดสิทธิในการเลือกห้องที่อยากได้ ถ้าจะอยู่หอใน ว่างห้องไหนก็ต้องเลือกห้องนั้นสถานเดียว


              เชี่ย ไม่มีห้องว่างเลยไงวะ?


              ผมเริ่มร้อนใจ พอเป็นห้องว่างก็ของหอหญิง แต่สุดท้ายผมก็เห็นห้องว่างในที่สุด! ไม่รอช้าครับ รีบกรอกลงในใบจองห้องอย่างรวดเร็ว พวกเอกสารผมเขียนสำเนาแล้วตั้งแต่เมื่อคืน สิ่งที่ผมต้องทำตอนนี้ก็แค่รีบพุ่งไปที่คุณพนักงานสาวที่ห่วงใยไม่เท่าไหร่แต่ห่วงยางเยอะมากให้เร็วที่สุดก่อนมีใครจะแย่งห้องผมไป!


              “เขียนสำเนาถูกต้องทุกแผ่นแล้ว?” เธอเงยหน้าขึ้นมาถามผม สีหน้าเบื่อหน่ายถอนหายใจไปพลาง ดูเอกสารของผมไปพลาง “เธออายุ 19?”

              “ครับ ผมเข้าปีหนึ่งครับ”

              “แล้วมีใบมอบอำนาจหรือเปล่า?”

              “มอบอำนาจ?” ผมเลิกคิ้ว

              “ก็มอบอำนาจจากผู้ปกครองไง เธออายุยังไม่ถึงยี่สิบ ทำสัญญาเช่าหอเองได้ที่ไหนละ ถ้าไม่มีผู้ปกครองมาทำแทนก็ต้องมีใบมอบอำนาจมาด้วย”


              ไม่เห็นจะอ่านเจอเลยสักกระทู้!


              “อะ เอ่อ...พี่สาวคนสวยครับ อีกแค่ไม่กี่เดือนผมก็ 20 แล้วน๊า ปัดให้ผมหน่อยไม่ได้หรอ?”

              “ไม่ได้”

              “นะครับ~” ทำตาปริบๆ ไม่รอช้าที่จะสวมบทลูกหมาลูกแมวเข้าอ้อนทันที

              “ไม่ได้ ระเบียบการเป็นยังไง ก็ต้องทำตามนั้น ถ้าอยากได้ห้องก็รีบโทรบอกพ่อแม่ให้มาทำสัญญา หรือไม่ก็ให้เขาส่งแฟกใบมอบอำนาจมา”


              เอาธูปมาสิครับ จะได้จุดเชิญพ่อแม่มาทำสัญญาเช่าหอให้


              “พี่สาวก็ล้อเล่นไปครับ ผมทำแบบนั้นได้ที่ไหนละ นะ นะ พี่คนสวย สวยแล้วก็ยังใจดี ให้ผมทำเถอะนะ อายุเป็นเพียงแค่สายลมผ่านพัดไป เธออย่าคิดมากได้ไหม~ เล้าโลมเขาว่าเอาไว้แบบนี้นะครับบ”

              “เอ๊ะ! ก็บอกว่าไม่ได้ไง ถ้าเอกสารไม่ครบก็ออกจากแถวไป เห็นคนข้างหลังไม่น่ะว่าเขารออยู่! ไม่เอาพ่อแม่มาก็ไปหาใบมอบอำนาจมา!” เธอตะคอกดังด้วยน้ำเสียงรำคาญ แถมยังผลักผมให้ออกนอกแถวไป แต่ผมก็ยังยื้อตัวเองเอาไว้ไม่ไปตามแรงผลัก
             
              “ทำไมต้องเอาพ่อแม่มาทำสัญญา หรือมีใบมอบอำนาจด้วยละครับ ผม 19 แล้ว อีกนิดเดียวก็ 20 แล้ว วุฒิมันไม่ได้ต่างกันมากเลยนะครับ!” ผมเริ่มอารมณ์ขึ้นแต่ก็พยายามสะกดกั้น

              “ฉันบอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้ไง ถ้าพรุ่งนี้อายุ 20 ก็ค่อยมาทำพรุ่งนี้! ถ้านายไม่จ่ายค่าหอ ก็ซวยสิ!”


              โอ๊ย ป้า! ค่าหอเดือนละ 300 จ่ายครั้งละ 6 เดือน 1,800 ใครแม่งจะโกง!


              “แต่…!”

              “ไม่มีแต่ ออกไปเลยไป! ถ้าไม่มีเอกสารมาไม่ครบก็ไม่ต้องเข้าแถวอีก! รบกวนคนอื่น!!”


              พลั่ก!


              เธอผลักผม เพราะคนที่มีอยู่เยอะมาก ทำให้ผมไม่สามารถขยับก้าวทรงตัวได้ตามที่หวังจึงล้มลงไปกองกับพื้น ขณะที่ตั้งท่าจะลุกขึ้นยืนมือใหญ่ของใครบางคนก็ช่วยฉุดต้นแขนของผมไว้


              “ทำร้ายร่างกาย ‘ลูก’ ผมแบบนี้ ผมสามารถติดต่อหัวหน้าของคุณได้ทางไหนบ้างครับ?” สิ้นเสียงเข้มและดุดัน ทั้งผมและพนักงานอ้วนนั้นก็หันขวับตามเสียงแทบจะพร้อมกัน

              “พี่ตุลย์...”

              “อะ! เอ่อ...”

              “ว่าไงครับ? ผมว่าหัวหน้าคุณไม่รู้แน่ๆ ว่าคุณไร้มารยาทแบบนี้ ผมจะได้ไปช่วยบอกกับหัวหน้าคุณให้”

              “ไม่ ไม่เป็นไรคะ คือเมื่อกี้ คุณพ่ออาจจะเข้าใจอะไรผิดนะคะ ดิฉันแค่ดันเขาออก...”


              นั่นกล้าเรียกว่าดัน? ผมนึกว่าโดนถีบออกมาด้วยซ้ำ!


              “จริงหรือเปล่า? เขาไม่ได้ผลักหรอ?” พี่ตุลย์หันมองผม ผมเองก็มองพี่เขานิ่งก่อนจะส่ายหัวช้าๆ

              “เขาผลักผมครับ ‘พ่อ’ ” ผมพูดเสียงอ่อน แววตาลูกหมาที่น่าสงสาร พอกลายเป็นเด็กขี้ฟ้องเท่านั้นแหละพนักงานอ้วนก็ส่งสายตาเหมือนจะแดกหัวผมทันทีเลยครับ!


              ใครทำใครก่อนช่วยเก็บเอาไปคิด~


              “ดิฉัน ไม่ได้ผลักจริงๆ นะคะ คือว่าแค่ดันให้น้องเขาออกจากแถว เพราะน้องเขาเอกสารไม่ครบ”

              “เอกสารอะไร?”

              “คือถ้าไม่มีผู้ปกครองมาทำสัญญา ก็ต้องมีใบอำนาจจากผู้ปกครองมาทำสัญญาเช่าหอแทนน่ะค่ะคุณพ่อ”

              “ผมนี่ไงผู้ปกครอง”

              “อะ เอ่อ ค่ะๆ รอสักครู่นะคะ” ผมมองพี่ตุลย์กับพนักงานอ้วนที่กำลังลุกลี้ลุกลนนั้นสลับกันไปมา ท่าทางเคร่งขรึมในชุดเสื้อเชิ้ตทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ คล้ายความรู้สึกเวลาที่ผมเห็นพ่อเท่


              แต่...มันก็ต่างกัน


              วันนี้ผมก็เพิ่งรู้นี่แหละ ว่าเส้นความประทับใจมันบางแค่นี้เอง และนั่นมันก็ทำให้ผมเผลอยิ้มออกมา


              “เอส ไปนั่ง” พี่ตุลย์ดันหลังผมให้ไปนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนที่เขาจะทรุดตัวนั่งตัวข้างๆ เอกสารของผมถูกตรวจสอบอีกครั้ง แต่ใบจองห้องถูกเปลี่ยนใหม่และเป็นพี่ตุลย์ที่เป็นคนเขียนและเซ็นรายชื่อลงไป “นี่ครับ”

              “ค่ะ รอสักครู่นะครับ”

              “นี่ พี่มาเซ็นให้ผมจะดีหรอ? ผมอาจจะเบี้ยวแล้วให้พี่รับผิดชอบเรื่องค่าเช่าก็ได้นะ” ผมกระซิบ

              “แค่ 1,800 ไม่เป็นไรหรอก ของเล่นที่หนึ่งบางทียังแพงกว่าเลย” พี่ตุลย์พูดอย่างไม่แคร์ก่อนจะหันมาสบตากับผม “แล้วอีกอย่าง ฉันก็รู้ดีว่านายไม่หนีหรอก”


              แค่แว๊บเดียว แว๊บเดียวจริงๆ นะ! ที่ผมรู้สึกว่า ผมพึ่งพาคนตรงหน้านี้ได้...









TBC
เฮ้ยยย เห็นอะไรยัง~ คึคึ
ขอโทษที่เมื่อวานไม่ได้อัพ เพราะว่าไรทืเตอร์มัวทำอันนี้อยู่! แต่แด๊~~

(http://i.imgur.com/UIPVhSp.jpg)

#daddybelover
             
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: TOY_SKY ที่ 26-06-2015 15:26:24
พี่ตุลย์หล่อมากกกกกกก  มาได้จังหวะพอดีเลย   :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-06-2015 15:44:03
พระมาโปรดจริงๆเลยพี่ตุลย์เนี่ย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 26-06-2015 15:58:02
 o13
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 26-06-2015 16:12:47
แหมพี่ตุลย์อยู่ๆก็รับน้องเอสเป็นลูกเลยหรอ  :-[
แล้วพ่ออย่างพี่ตุลย์นี่เป็นพ่ออะไร " พ่อทูนหัวรึเปล่า "  :o8: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 26-06-2015 16:19:24
อิมเมจน่ารักมากๆ เลยค่าา :-[ .. พี่ตุลย์เริ่มผูกพันธ์กับเอสสุดเกรียนแล้วสินะคะ ^^ เน้อ~ อุตส่าห์อาสามาส่งรายงานตัวที่มหา'ลัยด้วยแบบนี้ถือว่าเป็นโชคดีของเอสสุดๆ ไปเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ่KEI_jry ที่ 26-06-2015 16:24:37
น่อวววววววว :katai2-1:

ไม่น่าจะมีห้องเหลือเลย อิอิ

คุณพ่อตุลย์~~~~
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 26-06-2015 16:52:01
อิมเมจเอสมันคือใช่อ่ะ
ตอนต้นน่ารักน่าหยิกมาก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 26-06-2015 17:44:46
พี่ตุลย์อย่างเท่อ่ะ  o13
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 26-06-2015 18:12:24
พี่ตุลย์หล่อมากกก ปรบมือรัวๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 26-06-2015 18:23:31
สนุกๆ อิอิ :really2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 26-06-2015 18:26:47
มีคุณพ่อ (ทูนหัว) คอยดูแลก็ดีแบบนี้แหละนะ :impress2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: SheGame ที่ 26-06-2015 18:28:47
อ๊ายยยยยย พี่ตุลย์หล่อค่าาาาาาาา :m3: :m3:
ช๊อบชอบบบบบบบบ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 26-06-2015 19:40:19
เป็นโรคแพ้คุณพ่อค่ะ  :o8:

แต่ความรู้สึกเราคือ พี่ตุลย์นี่ทำตัวชิลล์ๆ แต่หน้าที่การงานน่าจะดีมาก (แม้จะอธิบายว่ามันธรรมดา แต่ไม่เคยคิดอย่างนั้นเลย)
คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายแล้วมันจะธรรมดาจริงๆหรอเฮ้ย?  :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 26-06-2015 19:49:49
จริงๆ พี่ตุลย์ไม่น่ารับเป็นพ่อเลยนะครับ น่าจะรอให้ห้องเต็มให้หมด แล้วพาเอสไปอยู่ด้วย แบบนี้ดีกว่า หุหุ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 26-06-2015 20:02:30
เนื้อคู่กํนก็งี้แหละ บังเอิญพอดีตลอดเวลา น่าร้ากกก :mew1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 26-06-2015 20:03:57
พี่ตุลย์แม่งอย่างหล่อ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 26-06-2015 20:56:58
ตุลย์ พ่อพระมาโปรดเกรียนน้อยแล้ว

รอดตายไปนะไอ้เอส

ปล.ตอนต้อนน่าร๊ากกกกกก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Sugar_Halloween ที่ 26-06-2015 21:10:37
พี่ตุลย์หล่อสะเทือนตับ! คือดีงาม คือฟิน คือยุให้เขาได้กัน :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 26-06-2015 21:52:15
พี่ตุลย์รับเอสไปเป็นลูกอีกคนเลยดีกว่า ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 26-06-2015 22:04:22
โหหหหห พี่ตุลย์อย่างเท่ อย่างหล่อเรยอ่ะ
เอาใจเอสไปเรย!! 5555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Eangoey ที่ 26-06-2015 22:24:01
คิดว่าพี่ตุลย์จะไม่ได้คนรัก แต่ได้ลูกชายคนโตแทนใช่ป่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 26-06-2015 22:33:24
 :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 27-06-2015 09:56:16
ห้องไม่น่าเหลือเลยเนอะ น่าจะเต็มหมดแล้วให้เอสไปอยู่กับพี่ตุลซะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 27-06-2015 12:12:53
อร๊ายยย   พี่ตุลย์ พ่อบุญทุ่ม

พ่อคนดี

ไอ้เอส แกอย่าปล่อยให้หลุดมือไปละ

ป๋าขนาดนี้เกาะให้อยู่หมัดเชียวแก รู้ใหม
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Cc-kun ที่ 27-06-2015 17:06:25
ซอจุนนี่~~~
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 12 (26/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 27-06-2015 19:25:40
น่ารักจริงๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 13 (27/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 27-06-2015 22:37:55
ตอนที่ 13





                ครับ พี่ตุลย์เขาพึ่งพาได้ครับ แต่ตอนนี้สิ่งที่ผมต้องการพึ่งพามากที่สุดคือ โชค!!


                “เมื่อกี้ผมยังเห็นอยู่เลยว่าห้องนี้ว่าง!” ผมลุกขึ้นพรวดพราดพูดเสียงดังทันทีด้วยความตกใจ เมื่อพนักงานห่วงใยไม่เท่าไหร่แต่ห่วงยางเยอะมาก แจ้งว่าห้องที่ผมจะจองดันมีคนลงชื่อไปแล้ว!

                “ก็พอดีว่า ตอนที่เราขัดแย้งกันนิดหน่อยน่ะค่ะ ก็มีคนลงชื่อไปแล้วที่โต๊ะนู้นน่ะค่ะ”

                “เฮ้ยพี่ นี่มันไม่ใช่ความผิดผมเลยนะ ถ้าพี่ไม่เรื่องเยอะ ป่านนี้ผมก็ได้จองห้องนั้นไปแล้ว แล้วพี่จะทำไงอะ ผมไม่มีห้องอยู่นะพี่!”
               
                “น้องต้องไปดูที่บอร์ดใหม่นะคะ ว่ามีห้องไหนว่างอีกไหม หรือไม่ก็อาจจะต้องไปจองหออื่นอยู่...”


                ผมอ้าปากค้าง


                เฮ้ย! นี่มันเป็นความผิดผมหรอวะ มันจะมีหอไหนที่เดือนละ 300 แบบที่นี่อีกไหม หออื่น ยิ่งหอนอกแค่ค่าห้องก็ 3000 อัพแล้ว! ไม่นับค่าน้ำค่าไฟอีก ผมไม่ได้คาบช้อนทองท้อนเงินมาเกิดนะเว๊ย ตั้งแต่เด็กจนโตนี่กินข้าวด้วยช้อนสแตนเลสขอบอก!


                “แต่ผมไม่ผิด พี่ต้อง...”

                “เอาหน่าเอส ก็เราช้าเองนี่หน่า”

                “เฮ้ยได้ไงอะ ผมไม่ได้เป็นคนทำให้ช้าสักหน่อย” ผมหันมาเฮ้วใส่ไอ้พี่ตุลย์ทันที สีหน้าอีกฝ่ายยังนิ่งเรียบเหมือนไม่ได้เดือดร้อนอะไร ไม่สิ ไม่ใช่เหมือน พี่เขาไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลยแหละ ก็เขามีบ้านพร้อม รถพร้อม ลูกพร้อม ขาดเมียกับหมาเท่านั้นเอง!
               
                “กฎก็ย่อมเป็นกฎ ห้องโดนจองไปแล้วก็คือโดนจองไปแล้ว”

                “เอางี้นะคะคุณพ่อ เดี๋ยวให้น้องเขาไปดูที่บอร์ดถ้าเจอห้องใหม่ที่ว่าง ก็มาแจ้ง จะรีบลงชื่อให้ก่อนใครเลยค่ะ”

                “น่ะ เขาว่างั้นอะ รีบไปดูที่บอร์ดดิ” พี่ตุลย์เผยิดหน้าไปทางบอร์ดที่ติดแผนอาคาร ผมฟึดฟัดนิดหน่อยอย่างอารมณ์เสียแต่ก็ยอมเดินไปดูที่บอร์ดแต่โดยดี ไล่นิ้วดูอย่างละเอียด เบิกตากว้าง ยื่นหน้าเข้าไปดูใกล้ๆ จนแทบจะเห็นถึงส่วนประกอบบอร์ด เช็ดครั้งที่สองก็แล้ว ครั้งที่สามก็แล้ว ผลออกมา...


                ห้องเต็มแล้ว


                งานน้ำตามา กระซิก ฮึกๆ


                “ห้องเต็มแล้ว...” ผมเดินคอตกมาหาพี่ตุลย์อย่างท้อแท้ เข่าเหมือนจะหมดเรี่ยวแรงทรุดลงไปที่พื้น ถ้าที่นี่เป็นบอร์ดเวย์คงจะเห็นสปอร์ตไลท์สีขาวส่องลงมาที่ผมแล้ว

                “โอเค หมดก็คือหมด” พี่ตุลย์หยิบซองเอกสารของผมมาก่อนจะลุกขึ้นดันหลังผมออกไปจากสำนักงานขายด้วยกัน

                “ทำไงดี ห้องหมดแล้ว”

                “ก็ไปเช่าหออื่นไง ยากตรงไหน”

                “มันยากตรงเงินเนี่ยแหละพี่ หอนอกเดือนนึงประมาณ ห้าพัน หกพัน แพงจะตายห่า ไม่ไหวหรอก”

                “ก็ลองหาหอถูกๆ ดูไงที่ค่าหอ ค่าน้ำ ค่าไฟ รวมกันไม่กันไม่เกิน สามพัน สู้ราคาไหวไหมเท่านี้?”

                “...” ผมเงยหน้ามองพี่ตุลย์นิดนึง กรอกตาไปมาอย่างใช้หัว “ก็พอไหวอยู่นะ”

                “ปะ งั้นไปหาหออื่นกัน” พี่ตุลย์ว่าพร้อมกับตั้งท่าจะเดินไปที่รถ แต่ผมก็คว้าตัวเองไว้ก่อน “อะไรอีก?”

                “ถ้าหอถูก ก็แปลว่าต้องไกลถูกปะ เดินทางลำบาก แล้วผมจะเข้ามอยังไง เสียเงินหรอ ค่าวินมอไซค์ไปกลับประมาณสี่สิบบาท เดือนนึงคูณสามสิบ ประมาณ พันสอง...โอ้โห นี่ผมต้องเสียแค่ค่ารถกลับหออย่างเดียวพันสองเลยหรอ? แล้วถ้าเกิดผมมีเรียนตอนเช้า ว่างเที่ยงถึงเย็น แล้วมีเรียนอีกทีเย็นถึงดึกงี้ ก็เสียค่ารถสองเท่า...”


                ตอนนี้นิ้วผมสิบนิ้วนี่ขยับยุบยิบตลอด ตัวเลขมากมายแทบด้วยบวกลบคูณหารอัดแน่นเต็มสอง พอเป็นเรื่องเงินเรื่องทองทีไรหัวจะแล่นเร็วเป็นพิเศษ


                ผมเหลือบมองพี่ตุลย์ทีนึงเมื่อรู้สึกถึงสายตาที่มองแรงตรงมา แต่ผมก็เลือกที่จะเมินมัน แล้ววุ่นวายอยู่กับการคิดรายได้ รายรับต่อ แล้วเนี่ยเข้ามหา’ ลัยแล้ว งานพิเศษผมก็ต้องออก เพราะเวลาเรียนเริ่มไม่แน่นอนแล้ว รายได้ผมแปลว่า 0 เลย! ต้องรอตารางมาก่อนถึงจะหางานพิเศษได้ กว่าจะมีรายได้ก็คงอีกสักพัก แถมไม่รู้เงินเดือนดีไหมอีก


                โอ๊ย เกิดเป็นเอสนี่จะก็แย่เหมือนจะนะครับ แต่เรื่องดีก็เยอะนะเฮ้ย! 1. หล่อ 2. หล่อ 3. หล่อ! เห็นไหมข้อดีเยอะแยะ~


                “ฉันว่านายมายืนคิดเลขอยู่ตรงนี้พอดีแหละ กว่าจะทำบัญชีในหัวเรียบร้อยมืด หอถูกหอแพงก็คงเต็มหมดแล้ว” พี่ตุลย์ว่าแบบจิกกัด คว้าที่ท้องแขนของผมเตรียมจะลากไปที่รถ แต่ผมก็ยังขืนตัวเอาไว้อยู่

                “เราต้องวางแผนก่อนสิพี่!”

                “แผนอะไรของมะ..เอ๊ย ของนายอีก!”


                โอ้โห เมื่อกี้ครับ ชัดครับชัด คงจะหงุดหงิดผมจริงๆ ละมั้ง เกือบหลุด ‘มึง’ ออกมาเลยครับ!


                แหม เมื่อกี้ยังเรียกว่า ลูกผมอยู่เลย ไอ้แก่เอ๊ย!


                “ก็ต้องคิดวงเงินสูงสุดของ...”

                “โอ๊ย ถ้างั้นอาจารย์ก็เลือกเมทให้ผมเองเลยครับ แล้วแต่อาจารย์เลย เชิญ!” เสียงของใครบางคนดังขึ้นมาแทรกการสนทนาของผมกับตาลุงตุลย์และด้วยความเสือกที่มันฝังแน่นอยู่ในกมลก็ทำให้ผมต้องเลี้ยวหันไปดู


                เหยด...แต่งตัวจี๊ดสาดด


                คนที่ผมเห็นเป็นผู้ชายครับ ตัวสูงแต่บางในชุดนักศึกษาแบบไม่ค่อยถูกระเบียบเท่าไหร่ ผมสีแดงเพลิงกำลังคุย (ผมว่าแม่งเหมือนทะเลาะมากกว่า) กับผู้ชายอีกคนที่ตัวหนากว่า แต่ส่วนสูงก็เกือบจะพอๆ กัน เขาอยู่ในเสื้อเชิ้ตเหมือนพวกพนักงานบริษัท แต่เมื่อกี้เห็นเรียก ‘อาจารย์ๆ’ ก็น่าจะเป็นอาจารย์แหละ


                แหม ขนาดได้ยินแบบไม่ตั้งใจฟังนะเนี่ย รายละเอียดยังเก็บอย่างดีอะ ผมนี่เฟริสคลาสจริงๆ ไม่ใช่เรื่องเสือกนะครับ เราจะว่าตัวเองทำไมละ! เรื่องหูดีต่างหาก ผมเป็น ไอ้เอส ร้อยหูครับ อิอิ


                “ไม่ได้บอกให้ผมหาเมทใหม่อะไร? เห็นบ่นตลอด นี่บ่นเป็นเทอม เป็นปีแล้วนะอาจารย์!” ผู้ชายผมแดงคนนั้นยังคงพูดด้วยน้ำเสียงอันดังเหมือนกำลังโมโหเต็มทีไม่หยุดหย่อน ส่วนอีกคนก็พูดธรรมดาครับ ผมก็เลยได้ยินไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ แถมท่าทางเขาก็ไม่ได้โกรธเกรี้ยวอะไรเลยด้วย จะบอกว่าทะเลาะก็ เหมือนหงุดหงิดข้างเดียวอะครับ

                “พี่ยืนอยู่ตรงนี้นะ” ผมหันไปพูดกับพี่ตุลย์ก่อนจะเดินย่องๆ เข้าไปหาสองคนนั้นเพื่อให้ได้ยินการบทสนทนาชัดเจนมากขึ้น
               
                “ถ้านายอยากอยู่กับเมทต่อก็อยู่ไปสิ ไม่ได้ว่าอะไรเลย”

                “อยู่ไป อาจารย์ก็บ่นอะดิ ถ้าไม่พอใจมากนักก็หาเมทใหม่ให้ผมเองเลยไป”

                “ไม่ได้ประชดใช่ไหม?” อาจารย์อะไรนั่นพูดเสียงห้วนเหมือนกำลังพยายามสะกดกั้นอารมณ์

                “ไม่ได้ประชด!”


                ผมหัวเราะเหอะๆ เล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปหาสองคนนั้นด้วยท่าทางไม่รู้ไม่ชี้ที่สุด


                “ได้ยินมาต้องการเมทใหม่หรอครับ?”

                “ใช่ครับ” ผู้ชายหัวแดงหันมาตอบ ผมค้างไปนิดหน่อยเมื่อได้เห็นหน้าอีกฝ่าย ตอนแรกเห็นแค่ด้านข้างก็พอเดาได้นะครับว่าหน้าตาดี แต่พอเห็นด้านหน้าแล้วพูดได้เลยว่าเป็นผู้ชายที่สวยครับ


                เอ๊ย ไม่ดิ ผู้ชายที่ไหนจะสวยได้วะ! คือเขาหน้าตาดีครับ ตาคมๆ ปากสวยๆ หน้าเรียวๆ


                “อยู่หออะไรหรอครับ?”

                “หอสวัสดิการน่ะครับ เรซิเด้น อยู่อีกด้านนึงของมหา’ลัย”


                แล้วมาทะเลาะอะไรกันตรงหน้าสำนักงานขายหอในวะ?


                เฮ้ย! ไม่ดิ ผมเรียกโชคให้มาช่วยผมไง นี่ไง นี่ต้องเป็นโชคของผมแน่ๆ! ถ้ามีเมททุกอย่างก็ต้องหารครึ่งก็จะได้ลดรายจ่าย!


                “ผมก็กำลังหาเมทอยู่นะครับ” ผมยกยิ้มขึ้นมาทันที ท่าทางเฟรนลี่เข้าถึงง่ายเนี่ยแหละ ความประทับใจแรกที่เอาไว้ใช้เขาหาผู้คนทุกวัยทุกเพศ


                ผู้ชายหัวแดงดูงงไปสักหน่อย แต่สักพักก็ดูเหมือนจะเกทอะไรขึ้นมา พยักหน้าสองสามทีก่อนจะใช้สายตาคมเฉี่ยวราวกับเหยี่ยวจ้องมองผมอย่างพิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้า


                เอ่อ...สายตาเขาแบบ ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองไหม แต่มันรู้สึกอิโรติคอ่ะ ถ้าจะให้อธิบายแบบง่ายๆ ที่สุดเลยนะครับ สายตาที่ไล่มองดูผมเนี่ย เหมือนกำลังมองเนื้อหมูที่วางเปลือยอยู่บนแผงอะไรแบบนั้นเลย


                ผมว่าฟีโรโมนทางเพศเขาโคตรฟุ้งอะ


                “ชอบผู้ชายหรือเปล่าครับ?”


                เย้ย! นี่เชิญชวนปะวะ? ถึงตอนเด็กจะใฝ่ฝันเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ แต่ตอนนี้พี่ไม่พร้อมจะเป็นยอดชายอะไรทั้งนั้นนะน้อง ถึงน้องสวย เอ็ก เซ็กซี่แค่ไหน ถ้ามีไอ้จ้อน เป็นอันจบกัน!


                “โทษครับ ผมไม่ชอบ คือพ่อสอนให้กินนมตั้งแต่เด็กครับ กินไข่มันอ้วนครับ ก็เลยชอบกินนมมากกว่าอะครับ”


                คนทั้งสองตรงหน้าผมอ้าปากค้างก่อนที่ผู้ชายหัวแดงจะหัวเราะลั่นจนตัวงอ


                “ถึงผมจะเดินผูกผ้าขนหนูไปมาในห้องก็ไม่เป็นไรหรอครับ?”

                “ไม่ครับ แต่ถ้ามีนมคัพเอฟก็ค่อยมาว่ากันอีกที”

                “ฮ่าๆๆๆ เฮ้ย ชอบว่ะ” ผู้ชายหัวแดงเอื้อมมือมาตบไหล่ผม ก่อนจะหันไปหาใครอีกคนที่คงจะมาด้วยกัน “งั้นเอาคนนี้เป็นเมท โอเคไหม?”

                “มันก็แล้วแต่นาย มาถามอะไรฉันละ?”

                “ก็คนที่บ่นไม่พอใจมันอาจารย์ไม่ใช่ไง!?”

                “ก็บอกว่าไม่ได้บ่นไง”


                ไม่ครับ ไม่เอา ไม่ทะเลาะกันสิ


                “งั้นผมเอาคนนี้แหละ” ผู้ชายหัวแดงว่าอย่างฉุนเฉียวก่อนจะหันมายิ้มให้ผม “ผมอยู่ห้องแอร์พิเศษนะ ห้องกว้าง มีเน็ต มีแอร์ มีไมโครเวฟ มีทีวี ห้องน้ำ หารกันก็ตกเดือนละ 2,300 ค่าน้ำค่าไฟ หอสวัสดิการค่อนข้างถูกเรทเดียวกับหอในแหละ หารสองเหมือนกันก็อยู่ประมาณ 200-500 บาท”


                ถูกมาก น้ำตาจะไหล รวมค่าน้ำค่าไฟแล้วไม่ถึง 3,000 บาทแถมยังอยู่ในมหา’ ลัย มีห้องน้ำ มีแอร์อยู่ในห้องด้วย ฮืออ โชคดีจริงแท้ นี่มันเทวดามาโปรดชัดๆ


                “โอเคครับ! แล้วผมต้องจ่ายเงินให้เลยไหม? ต้องเอาเอกสารอะไรไปยื่นที่หอไหมครับ?” ผมพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

                “แต่ว่า เมทผมน่ะครับ เขาไปทำเรื่องไว้แล้วว่าจะอยู่ห้องเดิมต่อเลยยังติดสัญญาหกเดือนอยู่”

                “แปลว่า?”

                “แปลว่า จะเข้ามาอยู่ได้ตอนเทอม 2 อะครับ เทอม 1 ผมต้องอยู่กับเมทคนนี้ก่อน แล้วถ้าเปิดเทอม 2 ยังอยู่กับผม ก็ค่อยมาทำเรื่องเอกสารที่สำนักงานน่ะครับ โอเคหรือเปล่า? จะปฏิเสธก็ได้นะ”

                “ได้ครับ ไม่ปฏิเสธหรอก แค่เทอมเดียว เดี๋ยวผมไปอยู่ที่อื่นก่อนก็ได้ แล้วเทอม 2 ค่อยย้ายมาอยู่ด้วย”

                “โอเค! ตามนั้น ถ้างั้นแลกเบอร์กันก่อน” ผู้ชายหัวแดงคนนั้นหยิบไอโฟนขึ้นมา พอเห็นผมมือถือหรูก็รู้สึกกระดากกระเดืองที่จะหยิบมือถือราคา 1990 บาทของตัวเอง


                มือถือผมใครต่อใครก็เห็นมาเยอะนะครับ หัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน เพื่อนโรงเรียน ผมก็ไม่เคยจะอาย แต่พอต้องโชว์ความยากเค้นของตัวเองกับเพื่อนใหม่ในสังคมใหม่นี่รู้สึกอายพิลึก


                “นายชื่ออะไร?” เขาถามหลังจากที่ได้ยิงเบอร์มาที่เครื่องของผม

                “เอสครับ”

                “ชื่อเท่ดี งั้นฉันไปก่อนนะ แล้วเปิดเทอม 2 จะโทรไปหา”

                “โอเคครับ บาย” ผมโบกมือลาให้ผู้ชายหัวแดงกับอาจารย์ๆ อะไรนั่นก่อนจะเดินก้มหน้าเมมเบอร์กลับไปหาพี่ตุลย์ที่ตอนนี้หลบแดดพิงต้มไม้รอผมอยู่


                เอ้าเวร ผมไม่ได้ถามชื่อเขาเลยนี่หว่า! ช่างแม่ง พิมพ์ไปเลย ‘แชงคูส หัวแดง @ วันพีช’


                “คุยอะไรกันตั้งนานสองนาน”

                “ผมได้เมทแล้วนะพี่ ได้หออยู่ละ” ผมยิ้มกว้าง ยักคิ้วลิ่วตาให้อย่างอารมณ์ดี

                “ก็ดีแล้ว ถ้างั้นกลับเลยไหม? ถ้ากลับตอนนี้ฉันยังพอไปทำงานช่วงบ่ายทันอยู่”

                “แต่ผมยังมีปัญหาอยู่นิดหน่อย” ผมเท้าเอว ยกมือข้างหนึ่งเกาหัวแกรกๆ อย่างจนปัญญา มีเมท มีหอรอแล้วในเทอม 2 แต่เนี่ย เทอม 1 เนี่ยที่จะถึงเนี่ย เอาไงกับชีวิตดีละคร๊าบบบ!

                “ปัญหาอะไรอีก?” พี่ตุลย์ขมวดคิ้วแน่น

                “ก็คือ หอกับเมทที่ผมจะไปอยู่เนี่ย อยู่ได้ตอนเทอม 2 อะพี่...”

                “แล้ว?”


                ทำไมต้องทำเสียงห้วนขนาดนั้นด้วยวะ!


                “แต่เทอมหนึ่งยังไม่มีที่อยู่...” แต่ก็ตอบเสียงแผ่ว “เรายังต้องหาหออยู่ชั่วคราวก่อนอะพี่”

                “ต้องอยู่หอชั่วคราวอะไรนั่นกี่เดือน?”

                “ก็ประมาณ 3-4 เดือน” ผมตอบไปอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก ผมตั้งใจว่าช่วงปิดเทอมระหว่างเทอม 1 กับเทอม 2 จะกลับไปทำงานตั้งแต่เช้าจรดค่ำอีกเหมือนเดิม เลยจะพึ่งใบบุญไอ้ปันซุกหัวนอนอีก

                “งั้นอยู่คอนโดฯ ฉันไหม?”

                “หา!?” ผมร้องลั่น ลั่นจริงๆ ครับ คนแถวนั่นนี่ถึงกับต้องเหลียวหันมอง “เฮ้ย ไม่เอาพี่ ไม่อยากรบกวนอะ”

                “นายก็มาคอนโดฯ ฉันทุกวันอยู่แล้ว กะอีกแค่ค้างคืนไปเลย ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร”

                มันมีก็ตรงพี่กับผมสนิทกันขนาดนั้นแล้วหรอไงเนี่ยแหละ!

                “ไม่ดีกว่าพี่ หาหออยู่ดีกว่า” ผมปฏิเสธ ตั้งท่าจะเดินเลี่ยงแต่พี่ตุลย์กับดึงต้นแขนผมกลับมาที่เดิม

                “หอเขาติดสัญญาหนึ่งปีกันทั้งนั้นแหละ ไม่มีหอไหนให้อยู่แค่ 3-4 เดือนหรอก”

                “มันต้องมีแหละหน่า” จะเดินหนีอีก แต่พี่ตุลย์ก็ดึงผมกลับมาอีก

                “อยู่คอนโดฯ ฉัน นายก็ไม่ต้องเสียค่าหอ อาจเสียค่ารถไปมหา’ลัยหน่อย แต่มหา’ ลัยกับคอนโดฯ ฉันก็ไม่ได้อยู่ไกลกันมากเท่าไหร่ แถมนายก็ช่วยมาเล่นกับที่หนึ่งได้โดยไม่ต้องนั่งรถไปมา วินวินทั้งคู่”

                “แต่ผมว่ามันไม่โอเคอะ อารมณ์แบบน้องเมียไปอยู่บ้านพี่สาวกับสามีของเขาอะไรแบบเนี่ย” ผมส่ายหัวปฏิเสธข้อเสนอนั้น ถึงแม้ว่าในหัวผมจะคิดคำนวณแล้วว่ามันวินวินอย่างที่พี่ตุลย์ว่าจริงๆ นั่นแหละ หากจะขาดทุนก็ขาดตรงที่ผมต้องสู้รบปรบมือกับไอ้เด็กสองตัวนั่นอะ

                “น้องเมียอะไร? พี่สาวอะไร? อะไรของนายเนี่ย?” ขมวดคิ้วใส่ผมอีก

                “โอ๊ย พี่ไม่เข้าใจฟิลลิ่งหรอ แบบเหมือน กขค.”

                “กขค. ระหว่างใครละ ฉันกับผีหรือไง ก็รู้อยู่ว่าแม่ที่หนึ่งกับตอนต้นไม่ได้อยู่กับฉัน”

                “แล้วถ้าแม่พี่มาเห็นจะทำไงละ! เดี๋ยวก็ว่าผมเป็นคนขายตัวอีกอะ!”

                “ก็อธิบายสิเฮ้ย! เดี๋ยวโทรไปบอกแม่ฉันเอาไว้ก่อนเลยก็ได้”

                “แล้วลูกพี่ละ!”

                “ที่หนึ่งกับตอนต้นก็เจอหน้านายทุกวัน จะเจอเพิ่มอีกวันละยี่สิบชั่วโมงจะเป็นไร!”

                ไอ้ยี่สิบชั่วโมงนั่นแหละที่เป็นปัญหา!

                “ที่หนึ่งอาจจะไม่ยอมก็ได้!”

                “ที่หนึ่งก็ต้องไปเรียนเหมือนกันไม่ได้เจอกันทั้งวันสักหน่อย ถ้างั้นเดี๋ยวฉันโทรถามที่หนึ่งก่อนแล้วค่อยโทรบอกแม่ โอเคไหม?”

                “แต่...”

                “จะแต่อะไรอีกวะ!”


                ตะคอกใส่ผมทำไมมมมมม เคยบอกไปแล้วไม่ใช่หรอว่าคนหน้าตาดีอย่างผมมันแรร์ไอเทม ต้องทะนุถนอม ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมน่ะเฮ้ย!


                “ผมไม่อยากรบกวนพี่อะ คือพี่ไม่ใช่เพื่อนที่รู้จักมาเป็นปีๆ ไง คือพี่เก็ทปะ?”

                “ก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ถ้านายยังหัวแข็งแบบนี้นะ งั้นค่าน้ำมันที่ต้องขับหาหอให้นายเนี่ย ฉันคิดรวมกับหนี้ 20,000 ด้วยนะ”
               
                “อะไรวะ ชั่วอะดิอย่างนี้น่ะ”

                “รถฉันไม่ได้กินน้ำเปล่านะ กว่าฉันจะหาหอที่ไม่ติดสัญญาหนึ่งปี แถมยังถูกตรงสเป็คนายหมดเนี่ย นู่นแหละ คงหาถึงอีกจังหวัด”


                ก็เว่อร์ไป...


                ผมเริ่มคอตก พอคิดตามที่พี่ตุลย์พูดก็ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่ผมก็ไม่อยากจะรบกวนอะไรเขาอีกอะ


                เอาละ เรามาทวนกันอีกครั้งดีกว่า


                ตอนเจอกันครั้งแรก เขาต้องวิ่งหนีคนที่มาตีผม จ่ายค่าแท็กซี่ให้ผม ให้ผมยืมกางเกง ไปก่อเรื่องกับแม่เขาอีก ด่าลูกเขาด้วย หาเขาซวยตอนไอ้กล้ามปูนั่นอีก ยืมเงิน 20,000 แล้วเรื่องจิปาถะอีกเยอะที่ผมไปรบกวนเขาอะ


                ผมหน้าตาดีครับ และจิตใจใฝ่คุณธรรมเหมือนคำขวัญโรงเรียนเด็กประถม มันเลยรู้สึกแบบ ผมกำลังรบกวนเขามากไปแล้วนะอะไรแบบนั้นอะ


                เอาไงดีวะ...orz


                “3”

                “นับอะไรรร?”

                “ตอบฉันมา จะเอาไง อยู่คอนโดฯ ฉันไปก่อน  หรือจะหาหอแล้วจ่ายค่าน้ำมันมา”


                ไอ้หน้าเลือด


                “...”

                “2”

                “...”

                “1...ถ้านับถึงศูนย์แล้วหมดโอกาส แปลว่าเลือกหาหอเลยนะ”

                “...”

                “ศู...”

                “โอเคๆๆ” ผมพุ่งมือปิดปากไอ้พี่ตุลย์ แต่ดูเหมือนว่าจะรีบไปหน่อยเลยพาดเสยคางอีกฝ่ายเต็มๆ จนเกือบหงายหลัง

                “โอเคคือ?”


                ผมถอนหายใจช้อนตามองพี่ตุลย์อย่างจำยอม


                “ขอรบกวนด้วยนะครับ”









                “ยินดีต้อนรับสู่บ้านเรา อันธพาล” ผมยืนก้มหน้าอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน ต่อหน้าที่หนึ่งที่ยืนกอดอกอยู่บนโซฟาเหมือนกำลังไว้เชิงผมโดยมีตอนต้นนั่งยุกยิกๆ เหมือนอยากจะยืนข้างพี่ชายบ้าง

                “ขอรบกวนด้วยคร๊าบบ”

                “อันธพาลกวาดบ้านได้ไหม?”

                “ได้”

                “ถูบ้านเป็นไหม?”

                “เป็น”

                “แล้วเช็ดทีวีละ? ล้างจาน? ซักผ้า? กรอกน้ำ? ซ่อมท่อ? จัดรองเท้า? ชงนม? เปลี่ยนผ้าอ้อม? พาตอนต้นไปอึ”


                เดี๋ยวนะ นี่ผมมาอยู่อาศัยชั่วคราวหรือมาเป็นทาสอยู่ที่ห้องนี้กันแน่วะ


                “ทำได้แต่ไม่ทำมีไรมะ?” ผมวางกระเป๋าเป้ที่ใส่ข้าวของลงข้างตัว พักขาหนึ่งข้าง กอดอก พยักหน้าให้เด็กที่หนึ่งอย่างหาเรื่อง

                “นี่มันบ้านที่หนึ่งนะ” เด็กนั่นโวยวายที่ผมทำหือขึ้นมา


                แหมะ อายุกี่ขวบทำเป็นวางอำนาจ โตขึ้นจะไปเป็นข้าราชการไหง?


                “บ้านพ่อที่หนึ่งต่างหาก พ่อตุลย์เขาให้พี่อยู่ ถ้าพ่อตุลย์บอกให้ทำนู่นแหละถึงจะทำ ถ้าที่หนึ่งบอกให้ทำ พี่ก็ขอปฏิเสธนะไอ้หนู~”


                เปี๊ยะ!


                ผมดีดหน้าผากเหม่งๆ ไอ้เด็กที่หนึ่งหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้ มันตั้งท่าจะโวยวาย แต่ผมรีบชาร์ตตัวล้มลงไปบนโซฟาทั้งคู่ ล็อคคอปิดปากเอาไว้แน่นก่อนที่จะได้แหกปากร้องเรียกเจ้าของห้องที่กำลังอาบน้ำอยู่


                หึหึ ฝีมือพี่แกร่งแล้วน้อง อย่าหวังได้จะฟ้องพ่อเลยงานนี้


                “แอร๊ย!” ผมหันมองเด็กอ้วนตอนต้นที่กำลังพยายามปีนขึ้นมาบนตัวผม มือป้อมๆ นั่นคว้าผมที่เซ็ตเอาไว้อย่างดีเป็นเชือกในการปีนขึ้นมา แต่เพราะมีทั้งสองข้างผมไม่ว่างพอที่จะเขี่ยมันออกไปเลยทำได้แต่แหกปากลั่นเรียกให้ไอ้คนที่อยู่ในห้องน้ำออกมาช่วย

                “พี่ตุลย์ เด็กอ้วนมันจะกระชากหัวผมหลุดออกจากคอแล้วโว๊ย รีบออกมาช่วยผมดิวะ”

                “อ่อยอี่อึ่งอะ!!”


                ไอ้เด็กที่หนึ่งเริ่มดิ้น ข่วนไปทั่วทั้งมือและแขน ส่วนอีกตัวก็ยังกระชากหัวผมไม่ปล่อย เจ็บจี๊ดๆ ไปทั้งตัวจนไม่รู้จะร้องกับอันไหนก่อนดี


                ฮืออ คนรักเด็กแม่ง รักตรงไหนเนี่ยยย ผมขอบอกกับคุณหญิงๆ ที่กำลังคิดจะมีลูกทุกคนเลยนะครับ เลี้ยงหมาเถอะ น่ารักเหมือนกัน ไม่เป็นภาระของลูกหลาน ไม่ดื้อด้วยนะ~


                “ไอ้พี่ตุลย์!”

                “เลิกล็อคคอได้แล้ว ที่หนึ่งหายใจไม่ออกแล้วนะ”

                “อ๊า! แอร๊ย!”

                “K.O. แล้ว K.O. หยุดดิ้น หยุดข่วน หยุดจิกหัวได้แล้ว จะตายแล้วว”

                “อ้าว เล่นอะไรกัน ดูสนุกสนานนะ”


                สนุกบ้าอะไรเนี่ย!


                ผมเบือนสายตามองเจ้าของห้องที่พันผ้าขนหนูออกมาดูสามหนุ่มสามมุมที่กองเป็นก้อนขี้อยู่บนโซฟา พยายามส่งสายตาสุดตีนให้พี่แกเข้ามาช่วย แต่ไอ้พ่อตุลย์นั่นเอาแต่มองลูกแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่!


                “ช่วยผมหน่อยสิ!”

                “ได้ๆ แต่ขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ”


                ละ แล้วพี่แกก็เดินหายเข้าไปในห้องนอนเลย เข้าไปเลย ไม่มีแกล้งด้วย

                “เฮ้ย เดี๋ยว...กลับมาก่อนนน!!”


                นี่ผมต้องเอาชีวิตวัยรุ่นอันสดใส มาตายอยู่ในคอนโดฯ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปหรอวะเนี่ย น้ำตาจะมา!







TBC
อยากจะถามพี่ตุลย์ว่ามันวินวินจริงๆ หรอคะพี่ อาจจะได้คนช่วยเล่นกับที่หนึ่งแต่อาจจะได้โรคประสาทมาเพิ่มนะคะ 5555555
มีตัวละครใหม่ (?) โผล่มาแล้วว รู้สึกชอบม๊า ชอบม๊า ~

#Daddybelover
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 13 (27/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 27-06-2015 23:00:03
ชอบจ้าา ^^ พ่อหนุ่มผมแดงสุดจี๊ดกับอาจารย์หนุ่มขี้หวงสิน้าา :m3: ดีใจกับเอสด้วยค่ะที่หาหอ (ชั่วคราว) ได้ตามที่ต้องการแล้ว เย้ๆ แต่ระวังจะติดใจจนไม่อยากย้ายออกไปอยู่กับเมทสุดจี๊ดเสียนะค้าา :laugh:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 13 (27/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-06-2015 23:16:39
กลายสภาพเป็นของเล่นเด็กแล้วเอส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 13 (27/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 27-06-2015 23:21:22
แหม่ หัวแดงกะจารย์นี่คู่กันชัวร์  :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 13 (27/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 27-06-2015 23:23:29
เกรงว่าเทอมสองคงไม่ได้มาอยู่กับเมทหรอกมั้ง
ถึงตอนนั้นนองเอสคงจะติดใจ "คุณพ่อ" แล้วล่ะ เอ๊ะหรือว่าตัว "คุณพ่อ" จะติดใจ "ลูกเอส"แทนนะ
 :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 13 (27/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 27-06-2015 23:44:29
วินแน่ พี่ตุลย์อ่ะ 555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 13 (27/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 28-06-2015 00:30:46
รอพัฒนาการเลิฟๆแบบเกรียน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 13 (27/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 28-06-2015 00:47:36
วินวิน แต่ใครจะเข้าวิน ต้องรอดู
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 13 (27/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 28-06-2015 01:27:41
ชอบเอสเวลาเรียกตอนต้นว่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 13 (27/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 28-06-2015 05:19:41
5555สงสารใครดีเรืีองนี้ เอส? ไม่ๆๆเกรียนขนาดนั้น งั้นสงสารตอนต้นละกัน 55555 น่ารักจุงเบยพี่ตุลย์
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 13 (27/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 28-06-2015 07:57:34
เค้าเข้าเรือนหอ(?) กันแร้ววววววว 5555
พี่ตุลย์คะ พี่ดูไม่คิดอะไร แต่ชวนเค้าบ้าน ชวนนอนด้วยตลอดนี่คืออะไรคะ หุหุหุ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 13 (27/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 28-06-2015 11:23:20
รู้สึกถูกชะตากับหนุ่มผมแดงจังเลยย คิคิ

ว้ายเอสจะได้ไปอยู่กะคุณพ่อตุลย์แล้วอย่าดื้อนะ 5555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 13 (27/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 28-06-2015 12:24:39
หึๆๆ พี่ตุลย์ล่อลวงเด็กป่ะเนี่ย :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 13 (27/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 28-06-2015 13:30:08
ช่วงนี้เราว่าพี่ตุลย์น่าจะวินคนเดียวนะครับ ฮ่าๆ น้องเอสนี่ก็นะ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย บางเรื่องมันก็ฉลาด แต่บางเรื่องมันก็ไม่ฉลาด หุหุ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 13 (27/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 28-06-2015 14:49:30
อยู่ตลอดไปดีกว่านะเอส อิอิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 13 (27/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 28-06-2015 15:01:59
สำหรับน้องที่หนึ่ง ป้าไม่ห่วงเพราะหนูโตแล้วแยกแยะอะไรได้

แต่ป้าห่วงต้อนต้นเจ้าเด็กอ้วนของป้านี่แหละ

จะได้ตัวอย่างแย่ๆอย่างไอ้เอสเป็นไอดอล ฮ่าๆๆๆ

พี่ตุลย์รับอิหนูเข้าบ้านหราาาาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 13 (27/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 28-06-2015 15:12:23
ไม่ต้องไปอยู่หอแล้ว อยู่กับที่หนึ่งกับตอนต้นนี่แหละ 55555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 14-30% (29/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 30-06-2015 02:53:46
ตอนที่ 14



              ผมลืมตาตื่นขึ้นมาช้าๆ ในห้องนอนที่มืดสนิทไร้ซึ่งแสงไฟ เอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาตามความเคยชิน เมื่อเห็นว่าเป็นตีห้าเวลาปกติที่ผมตื่น ก็ค่อยๆ ลุกขึ้น หันดูเจ้าของที่นอนอุตุอยู่บนเตียงใหญ่คนเดียวกับเด็กอ้วนตอนต้นที่นอนอยู่ในคอกถัดเตียงไปพอเห็นว่าทุกคนยังหลับดีก็ค่อยๆ ย่องออกมาจากห้องให้เบาที่สุด จัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย ก่อนจะหยุดยืนอยู่หน้าครัว


              ปกติที่ผมเข้ามาในครัวเนี่ย ถ้าไม่มากับที่หนึ่งก็มาต้มมาม่ากินดึกๆ แต่ไหนๆ ผมก็ได้พักอยู่ที่นี่ฟรีแล้ว ถ้าผมไม่ทำอะไรให้เลย มันดูออกจะเห็นแก่ตัวไปหน่อยถูกไหม? เพราะงั้นเช้านี้แหละ ครอบครัวสามหนุ่มสามมุมจะได้กินมื้อเช้าฝีมือเชฟเอส! เจ๋งกว่าเชฟกระทะเหล็กอีกจะบอก~


              อันดับแรกต้องหุงข้าวก่อน


              แกร๊งๆ!


              หม้อหุงข้าวอยู่ไหนวะ?


              แอ๊ด...ปัง แอ๊ด...ปัง!


              ไหนข้าวสาร?


              “แล้วเครื่องหุงนี่มันใช้ยังไงเนี่ย? มีเมนูให้เลือกเยอะชิบ ช่างแม่ง กดไป ได้ไม่ได้เดี๋ยวรู้กัน”


              ต่อไปก็กับข้าว


              ...นึกแป๊บ กูทำอะไรเป็นบ้างวะ นี่ก็ฝากชีวิตไว้แต่กับเซเว่นอิเลฟเว่นเหมือนกัน


              อ๋อ! ไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ต้มไง!


              แกร๊งๆ


              ไหนกระทะ ไหนตะหลิว?


              แอ๊ด...ปึง! แอ๊ด...ปึง!


              น้ำมันละ?


              “แล้วนี่เตาแก๊สเปิดยังไง?”


              ผมยืนถือกระทะใส่น้ำมันในมือขวา และถือไข่สี่ฟองในมือซ้ายมองสิ่งที่เรียกว่าเตาแก๊สไฟฟ้านิ่ง ปุ่มมากมายที่วางเรียงเล็กใหญ่ จะจิ้มนู่นนี่นั่นตามอำเภอใจก็ไม่กล้า (ถึงแม้ว่าจะทำกับหม้อหุงข้าวไปแล้ว) ทำให้ผมรู้สึกตาลายพิลึก แถมเส้นเลือดที่ข้างขมับก็เต้นตุ๊บๆ เหมือนกำลังมีอาการหงุดหงิด


              มึงกลับไปเป็นเตาถ่านไหม? กูจะได้ไม่ต้องมาลำบากแบบนี้


              “อุตสาห์ตื่นมาจะทำกับข้าวให้กิน ไหงมันถึงยุ่งยากแบบนี้วะ!”


              ปึง!


              ถีบแม่ง!


              “ตื่นเช้ามาก็ทำลายข้าวของของฉันเลยหรอหะ?” ผมที่กำลังตั้งท่าจะถีบตู้ใต้เคาเตอร์อีกสักรอบชะงักหันขวับไปตามเสียง ก่อนจะเห็นเจ้าของห้องเดินหาววอดๆ เข้ามาหาผมที่อยู่ในครัว

              “พี่ตื่นเร็วจัง นี่มันตีห้าเอง”

              “ก็มีใครไม่รู้ ทำเสียงก๊องแก๊งๆ ดังตั้งแต่เช้ารบกวนเวลานอนคนอื่นเขาน่ะ”


              พูดงี้ก็ชี้หน้าด่าผมเถอะครับ ว่ามึงจะตื่นแต่เช้ามาทำเสียงดังทำไม


              “ขอโทษแล้วกันที่ทำให้พี่ตื่นอะ” ผมว่าติดหงุดหงิดจากเรื่องเตาแก๊สพลางวางของที่ผมอยู่ในมือลงกับเคาเตอร์

              “แล้วนี่จะทอดไข่หรอ? ไม่ทอดแล้วไง?”

              “เปิดเตาแก๊สไม่เป็นอะ ไม่กล้าจิ้มมั่วด้วยเดี๋ยวเครื่องพังแล้วผมต้องเสียเงินมาซื้อใช้พี่อีก”


              ไอ้ตาแก่เจ้าของห้องดูไม่ค่อยสนใจฟังผมเท่าไหร่ เดินลิ่วๆ ไปที่หม้อหุงข้าวกดปุ่มอะไรสักอย่างสองสามทีก่อนจะกลับมากดปุ่มเปิดแก๊สแล้วเอากระทะวางให้ผม


              “ปุ่มเปิดมันก็สีแดงใหญ่ขนาดนี้ นายยังเดาไม่ออกอีกหรอ?”

              “เดาออก แต่ก็ไม่มั่นใจ ถ้ามันเป็นปุ่มระเบิดตัวเอง ผมทำไงอะ? คือไม่ได้โง่นะครับ แต่ว่าเป็นห่วง กังวลมากเลยไม่กล้ากดปุ่มอะไรเลย เก็ทปะ?”

              “...” ไอ้พี่ตุลย์มองผมนิ่ง


              สายตาพี่ตุลย์ด่าคนเก่งนะครับ แต่นี่ใครครับ? เอสเว๊ยเฮ้ย บอกเลยว่าไม่มีคำว่าสะทกสะท้านอยู่แล้น~


              “มองอะไรครับ? พี่ชาย” ผมยื่นหน้าเข้าไปหาอีกฝ่าย พร้อมยักคิ้วกวนๆ ให้สองทีมีแถม “หล่ออะดิ มองจังเลย”

              “มองตาฉันดีๆ นี่ไม่ได้มองแบบที่นายคิดแน่นอน”


              ผมหัวเราะในใจ “ไหนๆ ขอดูดีๆ สิ” ผมพุ่งหน้าเข้าไปหา จนคนที่บอกผมให้มองดีๆ ถึงกับผงะถอย ผมเดินตามไปพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ขึ้น...ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ใกล้มากพอจนรู้ตัวอีกที ผมก็เห็นตัวเองในตาของเขาแล้ว


              “...”


              “...”


              “ใกล้ไปแล้วมั้ง” ผมชะงัก เสียงทุ้มลึกของคนที่อยู่ตรงหน้าเหมือนระฆังที่ดังเรียกผมให้หลุดออกมาจากภวังค์สายตา รู้ตัวอีกทีพี่ตุลย์ก็ผละจากผมไปกระทะที่ยังตั้งไฟเอาไว้แล้ว

              “เน่! เมื่อกี้ผมเห็นตัวเองในตาพี่ด้วยนะ” ผมเดินตามไปเท้าแขนอยู่ข้างๆ

              “แล้ว?” พี่ตุลย์ว่าพลางตอกไข่ที่ผมหยิบออกมาลงในกระทะจนได้ยินเสียงฉ่าดังออกมาพร้อมกลิ่นหอมๆ 

              “มันโคตรเจ๋ง! ผมขอมองตาพี่อีกรอบได้ไหม? นะ แล้วจะไม่ดื้อ~”

              “ไม่” เสียงถึงกับแข็ง

               “พลีสสส” ผมใช้นิ้วสะกิดไหล่อีกฝ่ายดิ๊กๆ ทำหน้าตาเว้าวอน กระพริบตาปริบๆ ประหนึ่งลูกหมาตัวน้อยที่อยู่ในกล่องกระดาษ

              “ไม่”

              “นะ~”

              “ไม่!”


              โว๊ะ เล่นตัวจังวะ คิดตัวเองเป็นแท็กซี่ไง?


              ผมมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของคนที่กำลังทอดไข่ดาวแทนผม ก่อนจะตัดสินใจจับใบหน้านั่นให้หันมองมาที่ผม แล้วไม่รอช้าที่จะมองเข้าไปในดวงตาคู่นั้น มองภาพของผมที่สะท้อนอยู่ในสายตาของเขา


              มันสวยวะ แล้วผมโคตรชอบ…


              “ทำอะไรกันอยู่?”


              ผมหันขวับไปตามเสียงก่อนจะเห็นไอ้เด็กที่หนึ่งกำลังยืนมองอยู่ด้านหลังของผมตาแป๋ว


              “เล่นเกมจ้องตาอยู่ครับ ถ้าที่หนึ่งตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำไปลูก จะได้มากินข้าวไปโรงเรียน” ที่หนึ่งพยักหน้ารับคำ เดินผ่านผมกับพี่ตุลย์เข้าไปยังห้องน้ำ “ส่วนนายก็ไปเตรียมตัวไปทำงานได้แล้วไป ต้องไปรีดผ้าอะไรก่อนไหม ก็ไปรีดซะ”

              “คร๊าบพ่อ” ผมพูดเสียงทะเล้น พอเห็นพี่ตุลย์ตวัดสายตามาก็รีบวิ่งปรู่ดกลับเข้าไปในห้องนอน


              เฮ้ย เกือบลืมเรื่องสำคัญ!


              ผมเปิดประตูผ่างแล้วยื่นหน้าออกไป


              “ไข่ดาวสองฟอง ไข่เจียวสองฟองนะพี่ ถ้าให้ดี เป็นไข่เจียวหมูสับด้วยนะ!”






30%

เหมือนเวลา สามีภรรยาที่โดนลูกขัดเวลาสวีทอะไรแบบนั้น 555555555555555

ตอนแรกตั้งใจว่าจะอัพให้ครบวันนี้ แต่ไปทำธุระเรื่องมือถือมาเลยกว่าจะได้กลับบ้าน ฮือออออ
แต่พรุ่งนี้จะรีบมาอัพต่อให้ไวเลยครับบ พร้อมกับเรื่องคุณหัวแดง /หื้มมม~

ป.ล. แบ่งปันประสบการณ์ อย่าเอาทิชชู่เปียกน้ำไปเช็ดเครื่องด้านหลังเด็ดขาด TT
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 14-30% (29/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 30-06-2015 03:26:23
มองตา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 14-30% (29/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 30-06-2015 06:17:35
โธ่ เดกๆต้องนอนเยอะๆนะคะ รีบตื่นทำไมมมม
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 14-30% (29/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 30-06-2015 07:04:56
ที่หนึ่งขัดจังหวะ 5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 14-30% (29/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 30-06-2015 07:22:29
คำว่า



ความเกรงใจ



ไม่เคยมีในสารบบ-พจนานุกรม ไอ้เอส




เหมือนจะคิดดี แต่มันดีแตกตลอด



โถ่..พี่ตุลย์ พ่อคนดี ศรีสังคม




มีแววว่าพ่อจะแปดเปื้อน มลทิน เพราะไอ้เด็กเกรียน กระเพราะแพะ เสียละกะมัง



ที่หนึ่ง หนูไม่เห็นเหรอลูกว่าผู้ใหญ่เขาทำอะไรกันอยู่




คราวหน้าไม่เอานะลูก ไม่ขัดนะคะ ไม่ต้องส่งเสียงดัง แอบบดูเงียบๆลูก


แล้วเก็บใว้เป็นตัวอย่าง เกมส์ จ้องตานะ เล่นย้ากนะ จะบอกให้
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 14-30% (29/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 30-06-2015 07:31:21
โมเม้นมุ้งมิ้งอ่ะ ตื่นเช้ามาทำกับข้าวให้ลูกๆแระสามี~~ ^0^
แต่ที่หนึ่งดันตื่ยมาขัดซะได๊ 55555

รอให้ครบ 100% >3<
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 14-30% (29/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Tsumsome ที่ 30-06-2015 07:40:17
 :-[ รีบมาต่อนะคับ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 14-30% (29/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 30-06-2015 08:45:00
ไอ้เอสเกรียน :katai5:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 14-30% (29/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 30-06-2015 10:39:59
พี่ตุลย์นี่หัวไวนะคะเนี่ย ^^ พอที่หนึ่งถามปุ๊บ ตัวเองก็ตอบปั๊บเลยว่าเล่นเกมส์จ้องตากันอยู่~ :m20: เชื่อได้จริงเหรอค้าา >.<
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 14-30% (29/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-06-2015 11:27:11
ถ้าที่หนึ่งไม่มาขัดคงจ้องอีกนานใช่ไหม
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 14-30% (29/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 30-06-2015 13:06:06
เอาที่หนึ่งไปเก็บ เย้ยยยยยย 5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 14-100% (30/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 30-06-2015 14:17:12
ตอนที่ 14
* ต่อจาก 30%







               หลังจากที่ผมแต่งตัวเป็นพนักงานเซเว่นเสร็จเรียบร้อยก็มานั่งดูทีวี รอคุณพ่อตุลย์กับเด็กที่หนึ่งที่สั่งผมไว้ให้รอไปด้วยกัน ห้องที่เคยเงียบสงบตอนที่ผมเพิ่งตื่นตอนนี้ดังเจี๊ยวจ๊าวจนหน้าหนวกหู แต่น่าแปลกที่ผมไม่รู้สึกรำคาญสักนิด ไม่ว่าจะทั้งเสียงของพี่ตุลย์ที่เร่งที่หนึ่งให้รีบๆ แต่งตัว เสียงของตอนต้นที่ร้องเอ้ออ้าไม่เป็นภาษาอยู่ในเก้าอี้ทานข้าว เสียงของป้าสร้อยที่กำลังล่อลวงให้เด็กอ้วนอ้าปาก ผมไม่รู้สึกรำคาญเลย แม้มันจะหนวกหูบ้าง แต่มันกลับรู้สึกครื้นเครงมากกว่า มันให้ความรู้ดีที่ดีกว่าห้องอพาร์มเม้นท์เล็กๆ ที่ผมอยู่คนเดียว หรือบ้านของไอ้ปันที่ผมไปทำงานแล้วมันก็ยังไม่ตื่น


พอผมได้มองความวุ่นวายตรงหน้า ภาพที่ผมไม่เคยได้เห็นมาก่อน บางอย่างในใจก็รู้สึกวูบวาบเหมือนกับเด็กน้อยที่อยากจะเล่นซน


               มันเป็นความรู้สึกแบบ...นี่สินะ ที่เขาเรียกว่าครอบครัว


               “รีบกินข้าวเลยที่หนึ่ง ลูกจะกินเช้าถ่วงเวลาไปก็เท่านั้นแหละ สุดท้ายลูกก็ต้องไปโรงเรียนอยู่ดี” ผมมองพี่ตุลย์ที่กำลังลูบหัวลูกชายคนโตอยู่ในครัว

               “ที่หนึ่งขอหยุดเรียนไม่ได้หรอ?”

               “ถ้าวันนี้ลูกได้หยุด แล้วลูกจะขอพ่อหยุดอีกกี่ครั้ง? ในเมื่อลูกต้องเจอพวกนั้นทุกวันอยู่ดี การเรียนหนังสือมันคือหน้าที่ ลูกก็อย่าไปยุ่งอะไรกับพวกเขา เดี๋ยวเขาก็เลิกแกล้งลูกไปเองแหละ”

               “อื้ม...” ที่หนึ่งตอบเสียงแผ่ว เพราะมีหลังกว้างของคุณเจ้าของห้องบังอยู่ ผมก็เลยไม่แน่ใจว่าที่หนึ่งกำลังทำหน้ายังไง แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่หน้ายิ้มแน่นอนแหละเสียงแบบนี้

               “นายเสร็จเรียบร้อยแล้วนะ” พี่ตุลย์ถามพลางเดินเข้ามาหาผมที่นั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา ผมพยักหน้าอยากจะบอกว่าเสร็จอาบน้ำทีหลังแต่เสร็จก่อนลูกพี่อีก ก็กลัวโดนคุณพ่อโบกเลยต้องงับปากเอาไว้ก่อน

               “พี่ ที่หนึ่งมีปัญหาอะไรหรอ?”

               “ก็พวกที่ล้อที่หนึ่งเรื่องไม่มีแม่นั่นแหละ เห็นที่หนึ่งเล่าว่าชอบโดนแกล้งตลอดเลยไม่อยากไปโรงเรียนเท่าไหร่”

               “อ๋อ...” ผมพยักหน้า “แล้วพี่จะทำไงอะ?”

               “ทำอะไร? มันทำอะไรได้ที่ไหนละ ก็แค่บอกที่หนึ่งว่าอยู่ใกล้ครูไว้ แล้วก็อย่าไปยุ่งกับเด็กพวกนั้นแค่นั้น”

               ผมเหลือบมองเด็กที่หนึ่งที่ก้มหน้าก้มตากินข้าวแบบช้าๆ เหมือนกับพยายามยืดเวลาที่จะต้องไปโรงเรียนออก “แล้วเดี๋ยวพี่ต้องไปส่งที่หนึ่งหรือเปล่า?”
               
               “ไม่อะ ที่หนึ่งมีรถนักเรียนมารับมาส่งอยู่แล้ว”

               “ก็แปลว่าไม่ได้ไปรับด้วยอะดิ”

               “ก็...”


               Rrrrrrrrrrrrrr


               เสียงโทรศัพท์ดังแทรกขึ้นมา พี่ตุลย์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเมื่อดูหน้าจอคนที่โทรเข้าเล็กน้อย


               “ที่หนึ่ง รถมารับแล้ว” สิ้นคำเด็กนั่นก็ถอนหายใจ ลุกขึ้นเอาจานข้าวไปไว้ในซิงค์ล้างจาน หยิบกระเป๋านักเรียนลายการ์ตูนของตัวเองเดินดุ่มๆ ก้มหน้าไม่พูดไม่จา ผ่านผมกับพี่ตุลย์ไปหน้าประตูห้อง


               แต่ก่อนที่เด็กนั่นจะได้ออกไป กลับโดนผู้เป็นพ่อคว้าตัวเอาไว้เสียก่อน!


               “ลูกบอกพ่อว่า มะรืนนี้มีสอบครูแจ๊สสิบคะแนนใช่ไหม?”

               “ครับ”

               “ถ้างั้นนะ ถ้าลูกทำได้ตั้งแต่แปดคะแนนขึ้นไป พ่อมีรางวัลให้ด้วย เอาไหม? พ่อจะพาลูกไปเที่ยวสักที่ที่ลูกอยากไปในวันอาทิตย์ดีไหม?”

               “แต่ผมไม่เก่งเลขอะ...”

               “ก็ตั้งใจเรียน ให้เพื่อนให้ครูช่วยติวก็ได้ กลับบ้านมาก็ให้พี่เอสช่วยสอน”

               “หา?” นี่ผมอุตสาห์นั่งดูการ์ตูนเงียบๆ แล้วนะเนี่ย! แต่ไอ้พี่ตุลย์ก็เมินผมครับ ละล่ำละลักบอกลาลูกชายตัวเองประหนึ่งที่หนึ่งกำลังจะไปออกรบ แล้วทันทีที่เด็กแสบนั่นพ้นประตูออกไป ผมก็ทะยานจากโซฟาพุ่งไปหาคุณพ่อตุลย์ที่อยู่หน้าประตูทันที “ผมเกี่ยวอะไรด้วยอะ?”

               “เลขเด็กป. สามเองไม่ยากหรอกนะ”

               “ไอ้ไม่ยากนะไม่เท่าไหร่ แต่คือผมต้องสอนหรอ?”

               “แต่นายอยู่บ้าน...”

               “โอเค ไว้ใจผมได้เลย ผมสอนปุ๊บ ที่หนึ่งได้คะแนนเต็มสิบปั๊บ!” ผมยกมือขึ้นตะเบะทันที แบบไม่ต้องรอให้พี่ตุลย์สาธยายความดีความชอบของตัวเองจนหมด อีกฝ่ายหัวเราะหึหึในลำคอเรียกความน่าหมั่นไส้ ตั้งท่าจะเดินผ่านผมไปหาลูกคนเล็ก แต่ผมรีบเข้ามาขวางเอาไว้เสียก่อน “แต่มีข้อแลกเปลี่ยนนะ”

               “อะไร?”

               “วันนี้ พี่กับผมจะต้องไปรับที่หนึ่งกลับบ้านเอง”











               “อ้าว เอส แปลกจังปกติเห็นพอเลิกงานปุ๊บ ก็รีบกลับปั๊บเลยไม่ใช่หรอ?” น้ำตาลทักผมที่นั่งอยู่หลังเซเว่น

               “รอคนอยู่อะ” ผมยิ้มตอบ ถ้าเมื่อก่อนนะครับ ผมคงลุกขึ้นเนียนเดินไปส่ง นู่นนี่นั่นแล้ว! แต่พอได้เจอฤทธิ์แฟนกล้ามปูของน้ำตาลเข้า ผมนี่ถึงกับต้องร้องเพลงนี้เลย ถอยดีกว่า ไม่เอา~ ดีกว่า เวลาผมจะยุ่งอะไรกับเธอทีนี่ต้องคิดแล้วคิดอีก เพื่อไม่ให้ตัวเองโดนต่อยตายอะครับคิดดู

               “ให้เรานั่งรอเป็นเพื่อนไหม?”

                “ไม่เป็นไรๆ เรารอคนเดียวได้”


               อีกความหมายนึง ไปเถอะ พี่ไม่อยากตาย TT


               “แน่ใจนะ?”

               “แน่ใจสิ เราเป็นผู้ชายนะน้ำตาล”

               “ฮ่าๆ โอเค งั้นเราไปก่อนนะ”


               ผมโบกมือให้สาวน้อยเพื่อนร่วมงานที่น่ารักที่สุดในร้านนี้ก่อนจะหันมองดูรอบๆ หาสายตาของมนุษย์กล้ามปู เมื่อเห็นว่าทางโล่งก็ยักคิ้วลิ่วตาให้เธอไปนิดหน่อยพอหอมปากหอมคอ


               ปี๊นๆ

                ผมสะดุ้งโหย่ง หันขวับตามเสียงก่อนจะเจอเข้ากับรถฮอนด้าสีดำป้ายแดง กระจกด้านคนขับลดลงช้าๆ จนได้เห็นใบหน้าของพี่ตุลย์ที่ยื่นออกมา “ไปรับที่หนึ่งได้ยัง?”

               “ไปรับดิ” ผมว่าพลางวิ่งอ้อมมาอีกทางขึ้นไปนั่งด้านข้างคนขับเป็นตุ๊กตาหล่อๆ หน้ารถให้กับรถใหม่ป้ายแดงอีกหน “มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยพี่?”

               “สักพักแล้ว” พี่ตุลย์เข้าเกียร์ก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนตัวรถ “แต่เห็นคุยกับผู้หญิงอยู่ก็เลยไม่อยากเข้าไปขวาง”

               “อ๋ออ เข้ามาขวางเถอะพี่ ผู้หญิงคนนี้น่ะ”

               “ทำไมอะ?”

               “พี่จำได้ไหม ที่มันมีผู้ชายกล้ามใหญ่ๆ สองคนไล่ตามเราอะ แฟนของผู้หญิงคนนั้นแหละ เขาเข้าใจผิดว่าผมไปเต๊าะแฟนเขาอะ นี่ก็เลยไม่อยากจะเข้าใกล้คุณเธอสักเท่าไหร่ถึงจะน่ารักมากตรงสเป็คผมเลยก็ตาม” ผมพูดอย่างหัวเสีย พิงหลังไปกับเบาะหนังดำนิ่มๆ

               “คนในสเป็คมีอีกเยอะ เอาชีวิตไปเสี่ยงก็ไม่คุ้มเท่าไหร่หรอกใช่ไหมละ?” คนที่นั่งขับรถอยู่ข้างๆ ผมหัวเราะเสียงเบา ผมหันมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่า

               “ผมเพิ่งสังเกตว่าพี่ไม่ค่อยหัวเราะกับผมเท่าไหร่”

               “หื้ม?”

               “ก็พี่ชอบขมวดคิ้วใส่ผมมากกว่าอะ ทำหน้าแบบ ‘อะไรของมึง’ ใส่ผมตลอดๆ อะ ไม่ค่อยยิ้ม ไม่ค่อยหัวเราะเหมือนเวลาพี่อยู่กับลูกพี่บ้างเลย”

               “อะไร? เป็นเด็กขี้อิจฉาไง ก็นั่นมันลูกฉัน ยิ้มให้ลูกผิดตรงไหน อยากให้ฉันยิ้มให้ หัวเราะให้เยอะๆ ชาติหน้าก็เกิดมาเป็นลูกฉันสิ”

               “ก็จะเอาชาตินี้อะ เป็นลูกไม่ได้แล้ว เป็นอย่างอื่นก็ได้ไง คิดดิเป็นอย่างอื่นได้ไหม ที่พี่จะไม่แค่ขมวดคิ้วใส่อะ อย่างเช่นเป็น...”

               “แฟนอะ อีกอันนึงที่จะยิ้มให้หัวเราะให้”


               คำว่า ‘ตัวตลก’ ที่ผมกำลังจะพูดต่อกลืนหายกลับเข้าไปในลำคอทันที ทั้งๆ ที่คนที่พูดก็ไม่ได้มีท่าทางคิดอะไรกับคำนั้น แต่ผมกลับนิ่งค้าง เสียงบางอย่างที่สะท้อนก้องอยู่ในหู ทำให้ผมรีบหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง


               “ผม...ขอนอนแป๊บนึงนะ ทำงานใช้แรงมามันเหนื่อยอะ”

               “ตามสบาย”


               ผมหลับตาปี๋ทันที พยายามที่จะไม่คิดถึงเรื่องเมื่อครู่ พยายามที่จะไม่คิดว่าความรู้สึกเมื่อกี้กับตอนที่ผมตื่นขึ้นมาบนเตียงพี่ตุลย์เป็นความรู้สึกเดียวกัน พยายามที่จะ!


               เวรเอ๊ย! กอเอ๋ยกอไก่ ขอไข่ในเล้า ฃอขวดของเรา คอควายเข้านา ฅอคนขึงขัง...


               ไอ้หัวใจนี่ มึงจะเต้นเบรกแดนซ์หาพ่อง!











               หลังจากที่ผมตบตีกับความรู้สึกแปลกๆ ที่รวนอยู่ในใจจนกลับมาสงบได้ ในที่สุดรถฮอนด้าสีดำป้ายแดงก็ขับเข้ามาในโรงเรียนโรงเรียนหนึ่ง เสียงเจี๊ยวจ๊าวโทนแหลมสูงของเด็กวัยอนุบาลถึงป.หกเข้ามาในหูเป็นการทักทายแทบจะทันที


               “ปะ ไปรอที่โรงอาหารก่อน”


               เด็กตัวเล็กๆ ในชุดนักเรียนลายสก็อตวิ่งพล่านอยู่ทุกคนหนทุกแห่ง แต่ยกเว้นที่โรงอาหารใต้อาคาร แม้จะมีโต๊ะยาวกับที่นั่งจำนวนมากก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่สถานที่ยอดนิยมสักเท่าไหร่ ก็เลยกลายเป็นว่ามีเพียงแค่ผมกับพี่ตุลย์ แล้วก็เด็กชั้นโตๆ สาม สี่คนที่นั่งอยู่บริเวณนั้นแบบห่างๆ กัน


               “พี่มาที่โรงเรียนที่หนึ่งบ่อยปะ?”

               “ไม่ค่อย มาแค่สมัครเรียน ประชุมผู้ปกครองสองสามหนแค่นั้นเองมั้งถ้าจะไม่ผิด” พี่ตุลย์ตอบพลางจิ้มโทรศัพท์ต๊อกแต๊กๆ

               “พี่ทำไรอะ?”

               “หาเบอร์ครูประจำชั้นของที่หนึ่งอะดิ จะได้ให้เขาบอกที่หนึ่งว่ามารับแล้วรออยู่โรงอาหาร”

               “อ๋อ” ผมลากเสียงยาว หันมองซ้ายมองขวาดูอาคารโรงเรียนของเด็กประถมอย่างสนอกสนใจ ตอนที่ผมเป็นเด็กตัวน้อยๆ ผมก็เรียนที่โรงเรียนแบบนี้แหละครับ อาคารไม่สูงมาก มีสีสัน แต่ไม่สดใส เวอร์วังอลังการแบบนี้หรอกครับ แต่อาจเพราะที่นี่มีเด็กอนุบาลด้วยอะไรด้วยละมั้ง เล่นซะอาคารแทบจะเป็นสีรุ้ง แถมสนามหญ้าหน้าอาคารยังเต็มไปด้วยเครื่งเล่นเด็กเรียงรายสดใส ทอดยาวไปจนถึงอาคารสอง


               หื้ม?


               ผมหรี่ตามองเด็กที่กำลังเล่นอยู่ในบ้านไม้ในสนามหญ้า เพ่งมองจนแน่ใจแล้วว่าคนที่ผมเห็นเนี่ยคือเด็กที่ผมตั้งใจจะมารับก็รีบสะกิดพี่ตุลย์ยิกๆ ให้ลุกขึ้นไปหาไอ้เด็กนั่นที่สนามหน้าหน้าอาคารเรียน แต่ขณะที่ผมกับพี่ตุลย์กำลังเดินเข้าไปหา ก็มีเด็กประมาณสามคนโดยมีคนที่ตัวใหญ่สุดเป็นผู้นำเข้าไปดึงขาของที่หนึ่งแล้วลากลงมาจากสไลเดอร์


               เอ่อะ สัญญาณแบบนี้ ไม่ใช่สัญญาณ Make friend แน่นอน


               “เครื่องเล่นนี้เขาไม่ให้เด็กไม่มีแม่มาเล่นนะรู้ปะ ฮ่าๆๆๆๆ” เด็กตัวใหญ่สุดหัวเราะเสียงดังก่อนที่เด็กคนอื่นๆ ในบริเวณจะหัวเราะคิกคักตาม


               อื้มมม ไอ้ไจแอนท์นี่สินะ ที่หัวเลี้ยวหัวตอตัวนำแกล้งที่หนึ่ง


               อันที่จริงที่ผมตั้งใจจะมารับที่หนึ่งก็เพราะอยากจะเห็นมันเนี่ยแหละ ผมไม่ใช่ลูกเสือที่จะรักกับเด็กทั่วโลกนะครับ บอกไว้ก่อน ผมไม่ถูกกับเด็กสักเท่าไหร่นัก แล้วยิ่งเป็นเด็กที่มาล้อปมด้อยคนอื่น แกล้งคนอื่นแบบนี้ด้วยแล้ว หึหึ เดี๋ยวเจอของจริงเลยไอ้หนู /ยิ้มอ่อน


               “นี่ๆ ไม่มีแม่แล้ว ไม่มีพ่อด้วยอะเปล่า? ไม่เคยจะเห็นพ่อนายมาที่โรงเรียนเลยนะ” เด็กอีกคนตัวแห้งแต่สูงฉลูดพูดแขวะที่หนึ่ง
               
               “ที่หนึ่งมีพ่อนะ!” ผมชะงักเท้าหลังจากที่เข้าไปใกล้มากพอแล้ว ยืนพิงถังเหล็กที่ถูกสร้างไว้เป็นเครื่องเล่นให้เด็กลอด แต่พี่ตุลย์กลับยังเดินต่อ และถ้าผมไม่เอามือกั้นเอาไว้ก่อนป่านนี้ก็คงเข้าไปดึงที่หนึ่งให้ออกมาแล้ว

               “อะไรของนาย?”

               “พี่นั่นแหละจะทำอะไร ยืนดูไปก่อนสิ จะได้รู้ว่าตอนพี่ไม่อยู่ที่หนึ่งเขาเจออะไรแบบไหน มากแค่ไหน?”

               “แล้วไหนอะพ่อนาย? พ่อนายก็โง่เหมือนนายเปล่า? สงสัยว่าพ่อนายต้องปัญญาอ่อนแน่เลยถึงมีลูกออกมาแบบนี้ ฮ่าๆๆๆๆ”

               
               เหยดดดด แรง


               “พ่อที่หนึ่งไม่ได้โง่นะ! แล้วพ่อที่หนึ่งก็ไม่ได้ปัญหาอ่อนด้วย!”

               “พ่อที่หนึ่งไม่ได้โง่นะ พ่อที่หนึ่งไม่ได้ปัญญาอ่อน บลาๆ” ไอ้เด็กไจแอนท์ทำเสียงล้อเลียน หน้าตาแม่งกวนตีนชิบ นี่ผมเริ่มไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมที่หนึ่งฟิวขาดจนถึงไปต่อยเอา ถ้าเป็นผมนะ เอาดินสอสีแทงตาแม่ง ถ้าตอนนั้นเป็นดินสอไม้ 24 สีก็แท่งนั่นแหละ 24 แท่ง

               “ว๊าย ไม่มีแม่ แล้วยังลูกแหง่ ที่หนึ่งอย่างนั้น ที่หนึ่งอย่างนี้ ลูกแหง่ ลูกแหง่ ลูกแหง่!~”

               “ทำไมฉันต้องมายืนฟังลูกตัวเองโดนด่าด้วย?” พี่ตุลย์ที่ยืนกอดอกอยู่ข้างๆ ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่ ถึงแม้ปกติพี่ตุลย์จะเป็นคนที่ค่อนข้างใจเย็น และมีเหตุผล (มั้งนะ) แต่ถ้าเป็นเรื่องลูก ก็ดูเหมือนว่าพร้อมที่จะใจร้อนแล้วเข้าไปรุมตีได้สินะ

               “เด็กขี้แหง่ เด็กไม่มีแม่ โง่ที่หนึ่ง ขี้แหง่ที่หนึ่ง ไม่มีที่หนึ่ง~” เสียงประโยคนั้นดังไปมาจากไอ้ลูกหมาสามตัว ผมยืนฟังอยู่เงียบๆ จนคิดว่าพอแล้วจึงค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าปอดแรง

               “นี่ๆ ดูไอ้เด็กนั่นดิ มันชอบผู้ชายอะ!!” ผมพูดขึ้นเสียงดัง จงใจใช้เสียงที่โคตรจะดัดจริตแล้วชี้นิ้วไปที่ไอ้เด็กหมูตอนนั้น

               
               ตอนดูโคนันมีเก็นตะเป็นไอดอลไง๊? นี่ไม่ได้ตามเทรนไทยใช่ไหมว่างานผอมตั้งหากที่ต้องมา~


               “อะ อะไรของนาย?” พี่ตุลย์ขมวดคิ้วใส่ผม

               “เอ้า พี่จำรายการที่เราดูด้วยกันเมื่อวานไม่ได้หรอ ที่เขาบอกว่าเด็กสมัยนี้ ถ้าชอบใครก็จะทำเป็นด่าคนนั้นเพื่อปกปิดไม่ให้รู้ว่า เราคิดกับเขามากกว่าเพื่อนไง” ผมขยิบตาใส่พี่ตุลย์ถี่ๆ พร้อมกับพูดเสียงดัง ดังชนิดที่ว่าคนขับรถอยู่บนถนนใหญ่ก็ต้องได้ยิน

               “อ๋อ...” พี่ตุลย์ร้องเสียงเบา มุมปากกระตุกยิ้มเหมือนชอบใจอะไรบางอย่าง “นั่นสิ รายการที่เราดูเมื่อวาน เขาบอกว่า ยิ่งแกล้งมากเท่าไหร่แปลว่ายิ่งรักมากเท่านั้น”


               ผมยิ้มในใจที่พี่ตุลย์ยอมเล่นตามน้ำไปกับผม แล้วเริ่มพอเข้าใจแผนการ หึหึ ไอ้รายการบ้าบอนั่นมันมีที่ไหนละครับ


               “แล้วเด็กเนี่ยก็เอาแต่หาเรื่องที่หนึ่ง มันก็แปลกๆ น๊าาา” ผมลากเสียงกวน พร้อมกับเดินเข้าไปหาไอ้เด็กไจแอนท์นั่น “แอบชอบน้องชายเขาใช่เปล่าละ ชอบก็จีบ อยากได้ก็ให้แม่มาขอสิ” ขยิบตาให้ด้วย วิ๊ง~

               “พูดอะไรอะ ใครจะไปชอบเด็กไม่มีแม่กัน ไม่ได้ชอบสักหน่อย”

               “อู๊ยยย ปากแข็ง หน้าแดง หัวใจเต้นเร็ว ท่าทางแบบนี้นี่ชอบที่หนึ่งชัดๆ ถ้าไม่ชอบจะมาแกล้งทำไมจริงปะ คืออยากจะให้ที่หนึ่งสนใจจริงๆ ก็บอกดิ ไม่ใช่ทำตัวแบบนี้ ปรึกษาพี่ได้นะไอ้น้อง พอดีพี่เป็นกูรูเรื่องนี้ ยินดีให้คำปรึกษาฟรีแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย แค่โทรมาที่เบอร์ 091-818-xxxx แล้วพี่ก็จะบอกให้ว่าตอนนี้ที่หนึ่งกำลังทำอะไร พูดอะไร ทำหน้าแบบไหนอยู่เลยเป็นไงดีไหม? เอ็กคูลซิฟสุดๆ เลยนะ~

               “ไม่ได้ชอบที่หนึ่งนะ!”

               “เฮ้ย ชอบเขาก็บอกเขา ปฎิเสธเสียงแข็งเดี๋ยวที่หนึ่งหาแฟนได้แล้วจะทำไงละ ไม่ต้องกลัวหรอกเรื่องชอบผู้ชายอะ เดี๋ยวนี้สังคมยอมรับมากขึ้นแล้ว” ผมยังลุกต่อ ก้มหน้าจ้องเข้าไปในตาของเด็กนั่น แล้วถ้ามันมองตาผมอยู่ มันก็จะเห็นนิ้วกลางที่ผมกำลังชูให้มันแบบนอนสต็อป

               “นายชอบที่หนึ่งหรอ?” ที่หนึ่งเดินมายืนข้างๆ ผมแล้วเอ่ยถามเสียงเบา ไม่รู้ว่าเข้าใจมุขผมหรือเปล่า แต่ผมคิดว่าก็ดีที่ใช้คำพูดนี้


               หึหึ ทำตัวซ่าตั้งแต่เด็กแบบนี้ เจอของจริงบ้างแล้วจะหนาวไอ้หนู พี่ก็เจอของจริงมาแล้ว แอร์คอนดิชั่น หนาวจริง เย็นจริงไม่มีโม้!


               “เราไม่ได้ชอบที่หนึ่งนะ ไม่ได้ชอบผู้ชาย!” เด็กอ้วนนั้นร้องเสียงหลง ถอยหลังหนีผมที่กำลังใช้สายตาสื่อนิ้วกลางคุกคามมัน ถึงตอนนี้มันจะเริ่มเห็นน้ำตาใสคลอหน่วงอยู่ที่ตาแล้วก็ไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกสงสารตั้งแต่น้อย


               1.   มันไม่ใช่ผู้หญิงในสเป็คของผม


               2.   แล้วตอนที่ทำคนอื่นร้องไห้ ทำไมไม่คิด


               “ว๊าย ชอบผู้ชาย ชอบผู้ชาย ชอบผู้ชาย~ แกล้งที่หนึ่งก็เพราะชอบที่หนึ่งนี่เองอะ” ผมส่งเสียงล้อดัง เหลือบมองเด็กที่เล่นกันอยู่ที่ซุบซิบๆ ต่อๆ กันไปอย่างรวดเร็ว

                “เราไม่ได้ชอบผู้ชายนะ ฮึก...”

               “เฮ้ย พอแล้ว” ผมที่กำลังจะอ้าปากล้อต่อ กลับโดนพี่ตุลย์ที่ดูอยู่ข้างหลังคว้าตัวปิดปากเอาไว้ เด็กไจแอนท์นั่นร้องไห้ไปจ้องผมไปเขม็ง ก่อนจะเดินปึงปังออกไปอีกทาง


               ผมส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างไม่ค่อยพอใจนัก ตอนแรกก็แค่คิดจะให้เด็กนั่นไม่มาแกล้งที่หนึ่งถ้าไม่อยากโดนล้อ แต่พอทำไปมากๆ ก็ดันเผลอหงุดหงิดด้วยซะงั้น


               “กลับบ้านเถอะ” พี่ตุลย์พูดสรุปพลางเดินเข้าไปหาลูกชายคนโต ส่วนผมก็เดินนำหน้าสองคนนั้นไปพลางสงบสติอารมณ์

               
               หมับ!


               ผมชะงักหันมองข้อมือตัวเองทีกำลังโดนใครบางคนยึดจับเอาไว้ ไอ้พี่ตุลย์ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรก็ลากทั้งผมและที่หนึ่งไปยังรถฮอนด้าสีดำของตัวเองที่จอดไว้


               “เฮ้ย พี่ตุลย์ลวนลามผมหรอ? แค่เดินอะทำเองได้อยู่ นี่ก็เดินด้วยขาตัวเองจะยี่สิบปีแล้ว”


               พี่ตุลย์เลื่อนสายตามามองผม ดันลูกชายตัวเองให้ไปนั่งด้านข้างคนขับก่อนจะลากผมไปที่ประตูหลัง ขณะที่ผมกำลังสอดตัวเข้าไปนั่ง เส้นผมสีดำสนิทที่เซ็ตเสยไปไว้ข้างหลังก็มีมือของใครบางคนวางลงบนมันแผ่วเบา ผมหันมองเจ้าของมือนั่น...


               รอยยิ้มอ่อนๆ แบบที่ผมไม่ค่อยได้เจอจากปรากฎอยู่จางๆ ความร้อนจากมือที่วางอยู่บนหัวเริ่มแผ่ลงมาเรื่อยๆ จนถึงใบหน้าของผม


               “ขอบคุณนะ”


               โธ่เว๊ย...ผมเพิ่งห้ามบังคับให้ใจเต้นเป็นโทนเดิมได้เมื่อประมาณชั่วโมงก่อนเองนะ!





TBC
เส้นความรู้สึกของคนเรามันก็ละเอียดดีนะ ~
#Daddybelover




สปอย.


'ตุลย์ โทษทีที่ไม่ค่อยได้ติดต่อมาเลยนะ ฉันกำลังจะบอกนายว่า ฉันกำลังกลับมาทำงานที่ไทยแล้วนะ~'

.

.

.

"ตุลา มาดูนี่เร็ว ว่าใครมา~"
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 14-100% (30/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 30-06-2015 14:49:26
ใครจะกลับมาหาพี่ตุลย์อ่ะ

ตอนนี้ฟินเบาๆ :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 14-100% (30/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 30-06-2015 15:23:13
แม่ของเด็กๆจะกลับมาเหรอ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 14-100% (30/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 30-06-2015 15:42:08
เอสเกรียนได้น่ารักน่าถีบมากเลย ...... รออ่านต่อนะครับ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 14-100% (30/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 30-06-2015 15:46:44
วัายๆๆ
เริ่มสปาร์คกันแล้วใช่ป่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 14-100% (30/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-06-2015 15:59:11
เหมือนมีเอสเป็นลูกชายคนโตที่ต้องคอยจัดการกับเรื่องน้องๆเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 14-100% (30/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 30-06-2015 17:37:33
เอสใจเต้นแรงให้กับพี่ตุลย์ด้วยอ่ะ ว๊ายๆ คิดอะไรกับพี่เขาหรือเปล่าคะเนี่ย~ >\\\\\<

แถมเอสยังทำที่หนึ่งเข้าใจผิดไปว่าเด็กอ้วนแอบตัวเองอยู่ด้วยนี่สิ :laugh:

ปล. คนที่จะกลับมาหาพี่ตุลย์จะใช่คุณแม่ของเด็กๆ ไหมน้อ~
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 14-100% (30/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 30-06-2015 17:57:20
 :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 14-100% (30/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 30-06-2015 18:09:39
เอสจัดการไจแอนท์ซะอยู่หมัดเรยอ่ะ 555
ไจแอนท์มาเจอเดกเกเรกว่า(??)ก้องี้ แพ้ไป! หุหุ

ปล. สปอยซะอยากอ่านต่อสุดๆ เปนไปตามจุดประสงค์ในการสปอยเจงๆ >๐<
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 14-100% (30/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 30-06-2015 20:07:14
แม่ที่หนึ่งกับตอนต้นหรือเปล่านะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 14-100% (30/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 30-06-2015 20:12:04
สรุป พี่ตุลย์มีลูก 3 คนใช่ม่ะ  :ruready
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 14-100% (30/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 30-06-2015 21:33:52
ตอนนี้ฟินอ่ะ 5555+

เคมีเริ่มเข้ากันแล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 14-100% (30/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ่KEI_jry ที่ 30-06-2015 21:46:49
 :o8: :-[


ว้ายๆ เอสชอบผู้ชาย ใจเต้นแรงด้วย ฮ่าๆๆ

ขอฉันแซวเธอหน่อยเถอะเอส หมั่นไส้  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 14-100% (30/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 30-06-2015 22:03:19
ว๊ายยยยยย ชอบพรี่ตุลย์หรอเอส ว๊ายๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 14-100% (30/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 30-06-2015 22:40:56
แม่สองหนุ่มโผล่ตอนหน้าหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 14-100% (30/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 30-06-2015 22:41:19
เอสกำลังจะหวั่นไหวแล้วเชียวอย่าเพิ่งมีใครมาแทรกแซงน้าาาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 14-100% (30/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 30-06-2015 23:33:59
แม่ของเด็กๆ  กำลังกลับมาสิ่นะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 14-100% (30/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Tsumsome ที่ 01-07-2015 00:07:50
จะกลับมาทำไม :z6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 14-100% (30/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 01-07-2015 03:46:51
 :hao3: ตอนนี้ฟินเบาๆ แต่ตอนหน้าดราม่าหนักๆใช่ไหม? =_=  :hao3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 14-100% (30/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 01-07-2015 04:21:31
ใครจะมา อย่าบอกนะว่า ... แม่ของ ที่หนึ่ง กับ ตอนต้น
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 14-100% (30/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kangteuk1995 ที่ 01-07-2015 04:27:36
มาม่าจะมาแล้วใช่มั้ย  :ling3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 14-100% (30/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 01-07-2015 11:32:05
ตอนหน้าชะนีแม่จิโผล่มาเรอะ

มาทำไมให้อายบ้านนา นวลน้อง~

เอสเพิ่งจะใจเต้นเองนะ รีบมาทำไมนิ ชิชะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 14-100% (30/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 02-07-2015 00:45:29
อ้าวเฮียตุลย์... เมียกลับหาแน่ะ... เฮ้ยยยย น้องเอสเรากำลังหวั่นไหว เฮียตุลย์กำลังมองเห็นความดีเอส ก้างมาทำไม มาทำม๊ายยยย :serius2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 02-07-2015 16:17:05
ตอนที่ 15




               “ยังไม่นอนอีกหรอ?”

               “ถ้าเห็นฉันหลับก็แปลว่านอนแล้ว”


               มีตุลย์ก็ต้องมีกวน


               “ขอยืนโน้ตบุ๊คหน่อยดิ” ผมว่าพลางเดินเข้ามาทรุดตัวลงนั่งกับเบาะข้างเตียงที่เป็นที่นอนใหม่ของผม พี่ตุลย์ปรายตามองผมนิดหน่อย

               “ทำงานอยู่”

               “ก็หลังทำงานเสร็จก็ได้ไง ผมตอนไหนก็ได้”

               “เอาไปทำไร?”

               “...” ผมเงียบ ไม่อยากจะบอกคุณพ่อลูกสองนี่เท่าไหร่ว่า เอามาเข้าเน็ตศึกษาคณิตศาสตร์ป. สามเนี่ยแหละ!


               เมื่อวานได้ยินว่ามะรืนที่หนึ่งมีสอบคณิตแล้วให้ผมติวให้ วันนี้หลังจากผมเลิกงานสี่ทุ่ม ก็เลยกลับมาตั้งใจจะทำตามหน้าที่ แต่ไอ้เด็กที่หนึ่งกลับบอกว่าครูเลื่อนไปสอบอาทิตย์หน้าซะงั้น ผมก็ เออ ก็ดี ขอดูหนังสือมันนิดหน่อย กะจะดูคร่าวๆ ว่าต้องสอนเรื่องอะไรจะได้เตรียมตัวถูกอะไรประมาณนั้น


               แต่พอเปิดปุ๊บ!...ผมนี่ถึงกับค้าง


               นี่สาบาน คณิต ป.สาม!?  WTF!! ผมเรียนเรื่องพวกนั้นตอนขึ้นมัธยมได้แล้วมั้งน่ะ!


               และเพราะมันไม่ใช่แค่บวกลบคูณหารธรรมดาเนี่ยแหละครับ ผมถึงต้องรอไอ้เด็กที่หนึ่งหลับก่อน แล้วตั้งใจว่าจะมาเสิชเน็ตหาข้อมูลในการติวให้เนี่ย


               “ฉันใช้เสร็จละ” สิ้นคำพูดของคนที่อยู่บนเตียง ผมก็รีบยื่นมือไปข้างหน้ารอรับโน๊ตบุ้คอย่างนอบน้อมทันที “ห้ามเอาไปเข้าเว็บโป๊นะ”

               “ตอนแรกก็ไม่ได้นึกถึงมันหรอก พอพี่พูดผมก็เริ่มอยากเข้าเลย”

               “งั้นไม่ต้องใช้”

               “ล้อเล่นคร๊าบบบบบ ไม่เข้าๆๆ แน่นอน พี่รอเช็คประวัติการเข้าชมได้เลย โหย หน้าตาดีขนาดนี้ หุ่นดีแบบนี้ทำไมผมต้องพึ่ง 2D ด้วยละครับ” ผมหัวเราะเสียงใสไปอีกหนึ่งลูกคอ แต่พอเห็นสายตาที่จ้องมองมาก็ต้องหุบปากลงอย่างเซ็งๆ “ผมจะเข้าเว็บที่มีประโยชน์ครับ เว็บการศึกษา ศาสนา และพระมหากษัตริย์ จะเข้าแต่เว็บที่มีคุณค่าแก่การชื่นชม”

               “ถ้าฉันเข้าเช็คประวัติการเข้าชมแล้วไม่เจอเว็บพวกนั้นนะ โดนแน่” พี่ตุลย์ว่าเสียงเหี้ยมแถมหัวเราะหึหึให้ผมอีกสามครั้งติด พอพี่แกนอนหันหลังนอนให้ผมเท่านั้นแหละ ปากผมนี่ขยับบ่นอัตโนมัติเลยทีเดียวเชียว


               ผมจดคำอธิบาย วิธีคิด ข้อมูลต่างๆ ลงในสมุดที่ผมใช้จดอะไรหลายๆ อย่าง เสียงแกรกๆ ของดินสอสลับกับเสียงพิมพ์แป้นของโน้ตบุ๊ค ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนที่ผมอยู่อพาร์ทเม้นท์ก็คงเปิดเพลงสักเพลงไว้อยู่เป็นเพื่อนผมแล้ว แต่ตอนนี้ผมอยู่ร่วมกับคนสองคนกับหมูอีกหนึ่งตัวเพราะงั้นคงไม่ดีเท่าไหร่ถ้าผมจะเปิดเพลงตอนนี้


               อะ ตอนนี้คิดแล้วใช่เปล่า ว่าทำไมผมต้องโคตรทุ่มเทแบบนี้! จริงๆ แล้วเปล่าครับ บรรยายให้ดูดีไปงั้นแหละ ลองมาดูที่หน้าจอดิ จะเห็นว่าตอนนี้ผม เปิด เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ และอีกสารพัดเว็บที่ไม่ใช่เว็บการศึกษา ศาสนา และพระมหากษัตริย์สักกะติ๊ด


               มันก็ต้องมีบ้างใช่ปะ ก็ผมวัยรุ่นอะ~


               ตื้อดึง!


               ผมเหลือบมองแท็กบาร์ที่ตอนนี้มีไอคอนรูป line กำลังกระพริบสีส้มๆ บ่งบอกว่ามีใครบางคนส่งไลน์เข้ามาหาในแอคเคาท์ที่ลงชื่อไว้ตอนนี้ ซึ่งแน่นอนไม่ใช่ผม มือถือผม 1,990 บาท บางเครื่องในปัจจุบันอาจเล่นไลน์ได้แล้ว แต่ใช้เครื่องนี้มาสามปี สมัยที่ไลน์ยังไม่เข้าเครื่อง 1,990 บาท เพราะงั้นแน่นอนว่าไลน์ที่เด้งนี้เป็นของเจ้าของโน้ตบุ๊คแน่นอน


               ว่าแล้วก็เหลือบมองคุณเจ้าของห้องที่นอนหลับสนิทไม่ได้ยินเสียงไลน์ที่เด้งเข้ามา อยู่ดีๆ นามสกุล ‘โรจนรัตติกร’ ของผมก็เปลี่ยนเป็นนามสกุล ‘อยู่เสือก’ ขึ้นมาทันที


               ผมเลื่อนเม้าผ่านหน้าต่างที่กระพริบๆ สีส้ม ไปที่ไอคอน line ที่อยู่มุมขวาสุด กดไปที่สัญลักษณ์รูปคำพูดก่อนที่ปรากฎแชทต่างๆ แต่ความสนใจของผมพุ่งตรงไปที่แชทบนสุด รูปโปรไฟล์เป็นรูปผู้หญิงหน้าตาดีคนหนึ่ง การถ่ายรูปบ่งบอกเลยว่าเธออายุประมาณ 30 แน่นอน ส่วนถัดจากรูปคือ line ที่เธอส่งมา


               'ตุลย์ โทษทีที่ไม่ค่อยได้ติดต่อมาเลยนะ ฉันกำลังจะบอกนายว่า ฉันกำลังกลับมาทำงานที่ไทยแล้วนะ~'

               ใครวะ? แฟน เมีย แม่ เพื่อน


               ผมจ้องข้อความนั้นอย่างพิจารณา แต่สักพักข้อความนั้นก็เปลี่ยนเป็นข้อความใหม่


               ‘ประมาณอาทิตย์หน้าละมั้ง ถ้าว่างมารับฉันที่สนามบินหน่อยสิ~’


               ตัด แม่ ออกไป จริงๆ ควรตัดตั้งแต่แรกเลยนะ สมองผมนี่คิดขึ้นมาได้ไงวะ ช้อย แม่เนี่ย


               ‘นายคงหลับแล้วสินะ โทษทีลืมไปว่าเวลาไม่ตรงกัน พอฉันรู้ว่าได้ย้ายกลับมาก็เลยดีใจลืมตัวรีบบอกนายไปหน่อย’


               แล้วข้อความก็หยุดอยู่แค่นั้นผมจ้องต่อไปเกือบสิบนาทีจนตาแห้ง ข้อความ line ก็ไม่มีอะไรเพิ่มมา ผมเลื่อนเม้าส์กดล็อคเอ้าท์ออกจากคอมเพื่อไม่ให้ตัวเองผันนามสกุลมาอยู่เสือกอีก สะบัดหัวสองสามทีไล่ความสงสัยที่ติดแน่นอยู่ในสมองออก ก่อนจะกลับมาให้ความสนใจกับวิชาคณิตศาสตร์ ป. สามตามเดิม


               ...


               เอ๋ หรือจะเป็นเมีย?










               โอ้ทะเลแสนงาม ฟ้าสีครามสดใส มองเห็นเรือใบ แล่นอยู่ในทะเล~


               ผมยืนมองปราสาทสีสดใสด้านหน้าของสวนสยามทะเลกรุงเทพฯ โดยมีไอ้เด็กที่หนึ่งอยู่ทางขวาและพี่ตุลย์ที่กำลังอุ้มเด็กอ้วนตอนต้นอยู่ทางซ้ายมือ


               ตอนนี้พวกเราอยู่สวนสนุกครับ! สถานที่ที่เด็กทุกคนอายุไม่เกินสิบสองปีโดยประมาณอยากจะมา! ผมนี่ตั้งแต่พ่อเสียก็ไม่ได้มาสวนสนุกอีกเลย หกเจ็ดปีโดยประมาณแล้วมั้ง เลยกลายเป็นว่าตอนนี้ผมตื่นเต้นกับสถานที่ตรงหน้ามากกว่าไอ้เด็กที่หนึ่งที่เป็นคนร้องจะมาเสียอีก!


               ในระหว่างที่ซื้อตั๋วเข้าสวนสยามทะเลกรุงเทพผมขอย้อนความเล็กน้อย


               เมื่อประมาณสามวันก่อน ผมกับพี่ตุลย์แล้วก็หมูตอนต้นนั่งอยู่บนโซฟา โดยมีที่หนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าถือข้อสอบที่ครูแจกคืนเพื่อประกาศผลคะแนน อย่างที่รู้กันครับ ว่าคุณพ่อตุลย์เนี่ย นางไปตกลงกับลูกเอาไว้ว่า ถ้าได้แปดคะแนนขึ้นไปจะพาไปเที่ยวตอนสุดสัปดาห์แล้วให้ที่หนึ่งเป็นคนเลือกสถานที่เอง


               ผลออกมาที่หนึ่งได้แปดจุดห้า! ไม่รู้จุดห้าแม่งมาได้ยังไง แต่ก็ถือว่าผ่าน! สถานที่แรกที่ไอ้เด็กนั่นพูดออกมาหลังจากประกาศคะแนนคือภูเก็ต ไม่ใช่แค่พี่ตุลย์นะครับที่เงิบ ผมก็เงิบ


               คือภูเก็ตไม่ได้อยู่ใกล้ไง แล้วมันก็ไม่ใช่ทริปที่แบบมีตังสองพันแล้วไปได้เลยอะไรอย่างงี้ ผมเดาว่าเรื่องเวลาด้วยละมั้ง ขับรถไปเช้าเย็นกลับมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว หรือจะขับรถไปเสาร์แล้วกลับอาทิตย์ก็ไม่ได้อยู่ดี เลยต้องเดือดร้อนโอ๋ที่หนึ่งให้เปลี่ยนสถานที่กันใหญ่


               แต่ปลอบอยู่สิบนาทีก็แล้ว ยี่สิบนาทีก็แล้ว สามสิบนาทีก็แล้ว ไม่เงียบสักทีงอแงจะไปทะเลให้ได้ ผมก็เลยเสนอสวนสยามทะเลกรุงเทพฯ ไป แค่นั้นแหละเงียบกริบ ตาเป็นประกาย เลยเป็นอันสรุปว่าไปสวนสยามทะเลกรุงเทพ


               แต่ตอนแรกผมนึกว่าเขาจะไปกันแบบคนสองคนหมูหนึ่งตัว ผมก็เลยไม่อะไรเท่าไหร่ แต่พอพี่ตุลย์บอกว่าจะให้ผมไปด้วยเท่านั้นแหละ! คนที่มีตาเป็นประกายต่อมาคือผมเลย!


แต่ผมไม่ง่ายนะครับ


               ‘ไปเถอะหน่า นายช่วยติวให้ที่หนึ่งตั้งหลายวันนี่หน่า ฉันเลี้ยง ถือเป็นค่าตอบแทนแล้วกัน’


               นั่นแหละครับ คำพูดเดียว ไม่มีเล่นตัวเพิ่ม ผมก็เลยมาปรากฎตัวอยู่ ณ ที่นี่


               ผมไม่ง่าย แต่ได้ไม่ยากครับ อิอิ












               สถานที่ที่แรกหลังจากเดินเข้ามาคือม้าหมุนสองชั้น ซึ่งแน่นอนผม ที่หนึ่ง พี่ตุลย์ น่าจะตอนต้นด้วยคิดเป็นอย่างเดียวกันว่าเก็บไว้ที่หลังเถอะ เราก็เลยเลี้ยวขวาครับเจอเข้ากับเครื่องเล่นหวาดเสียวที่เหมือนเป็นไอคอนของสวนสนุกไปแล้ว…รถไฟเหาะตีลังกาถอยหลัง!


               แน่นอนผมโคตรอยากเล่น แต่อย่างว่าครับ ผมมากับครอบครัวใครก็ต้องแล้วแต่ลูกชายของครอบครัวนั้น ผมก้มลงมองเด็กที่หนึ่ง


               “เล่นไหมไอ้หนู?”

               “มันเป็นยังไงอะ?”

               “เอ้า ไม่รู้จักหรอ” ผมเลิกคิ้วถาม พอเห็นว่าที่หนึ่งส่ายหัวก็เลื่อนสายตาไปหาคุณพ่อตุลย์

               “ไม่เคยพามา” คนที่อายุเยอะกว่าตอบให้อย่างรู้งาน ผมกลับไปมองไอ้เด็กที่หนึ่งอีกครั้ง


               ท่าทางแบบนี้...นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาที่อื่นนอกจากโรงเรียนเลยปะเถอะ


               “งั้นไปเล่นกันไหมละ? มันเป็นเครื่องเล่นวิถีผู้ชาย ผู้ชายคนไหนไม่เล่นนี่โตขึ้นเป็นตุ๊ดแน่นอน พอเป็นตุ๊ดใช่ปะ สังคมก็รังเกียจ พ่อแม่ก็เสียใจ”

               “งั้นที่หนึ่งจะเล่น!”


               เสร็จโจร อิอิ


               ผมร้องโอเคเบาๆ ก่อนจะรีบคว้าข้อมือที่หนึ่งพุ่งพรวดไปต่อแถวทันที อาจเพราะว่าพวกเรามาค่อนข้างเร็ว เลยมีคนไม่เยอะมากนัก รอไม่ถึงสองนาทีพี่พนักงานก็พาที่หนึ่งไปวัดส่วนสูงพอเห็นว่าเกิน 130 เซนฯ จึงค่อยปล่อยมานั่งเล่นเครื่องเล่นข้างๆ ผม


               “โบกมือให้พ่อตุลย์หน่อยเร็ว” ผมกระซิบบอกกับที่หนึ่ง ก่อนที่เราทั้งคู่จะโบกมือให้กับผู้ใหญ่ใจดีวันนี้ที่ต้องมาทำหน้าที่คุณแม่เข็นรถลูกคนเล็กไปมา อดร่วมสนุกไปกับวัยรุ่นวันซนอย่างผม


               ตึง!


               ที่หนึ่งร้องลั่นสะดุ้งด้วยความตกใจกับเสียงเป็นสัญญาณว่าเครื่องเล่นกำลังถูกดึงขึ้นสูง ผมหัวเราะชอบอกชอบใจ จับเซฟตี้เอาไว้มั่น แต่มือข้างหนึ่งกับโดนเด็กที่หนึ่งคว้าจับเอาไว้แน่น


               ผมกับที่หนึ่งค่อยถูกดึงสูงขึ้นไปจนวิวที่เห็นกลายเป็นเพียงท้องฟ้าสีสดสว่างจนแสบตา และวินาทีที่เราขึ้นอยู่บนจุดที่สูง ทั้งมือของผมและมือของที่หนึ่งที่จับกันเอาไว้ก็กำแน่นทันที ก่อนที่เครื่องจะทิ้งตัวดิ่งลงมา!!


               “อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!”


               สนุกละเว๊ยยยย~


               หลังจากลงมาจากรถไฟเหาะตีลังกาถอยหลัง ที่หนึ่งก็ดูเหมือนจะยังอึนๆ งงๆ ผมนี่ตั้งโด่เด่จนพี่ตุลย์ต้องลูบแล้วลูบอีกให้คืนทรง (วันนี้ผมใส่เจลแบบอยู่ทรงเป็นพิเศษ รับประกันว่าผมไม่ร่วงคืนทรงบางระจัน) ผมก็กังวลนะ ไม่รู้ว่ากลัวจนจะร้องกลับเลยหรือเปล่า แต่สักพักกกกก....ประมาณสิบห้านาทีได้ ที่หนึ่งก็ฟื้นคืนสติ ตั้งท่าจะลากผมเป็นเล่นรถไฟนั้นอีกสักรอบ


               “ที่นี่ไม่ได้มีแต่เครื่องนี้นะรู้ยัง? ปะๆ เดี๋ยวพี่เอสจะพาไปเล่นหมดนี่เนี่ยแหละ แล้วน้องจะได้พบเจอกับวิถีความเป็นชาย!” ผมหัวเราะลั่นด้วยความสะใจ พาดมือไว้ที่ไหล่ของไอ้เด็กที่หนึ่งที่เตี้ยกว่าผมประมาณห้าสิบเซนฯ ก่อนที่จะเราทั้งมุ่งหน้าไปสู่เครื่องเล่นอันใหม่


               อันที่ผมเลือกต่อมาเป็นไวกิ้ง ผมชอบเรื่องเครื่องเล่นเสียวนะ แต่ผมไม่ชอบไวกิ้งเท่าไหร่ เลยพาที่หนึ่งมานั่งอยู่แถวๆ กลางๆ ไม่สูงมากจนมองเห็นเครื่องที่กำลังปั่นอยู่ด้านล่าง แล้วก็ไม่ต่ำไปจนไม่รู้สึกอะไร แต่ไอ้เด็กที่หนึ่งครับ! เล่นเสร็จแม่งชอบเว๊ย จะเล่นอีก แล้วมันบอกว่าคนที่นั่งอยู่บนสุดน่าจะสนุก เลยชวนผมไปนั่งแถวบนซะงั้น ผมทำไงอะครับ...


               ก็ต้องตามไปอะดิ อะโธ่ เดินตามพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบหน้าประมาณนั้นเลย


               หลังจากที่เล่นไวกิ้งแถวบนสุดไปประมาณสองรอบ ผมก็ต้องมานั่งพักเพิ่มพลังชีวิตเล็กน้อย โดยมีพี่ตุลย์พาที่หนึ่งไปซื้อนน้ำมาให้ ทิ้งเด็กอ้วนไว้กลางทางกับผม เด็กนั่นก็ก็ส่งเสียงแอร๊ยๆ ยื่นมือเหมือนจะให้ผมอุ้มตลอด แต่ด้วยความรักเด็กอันล้นเหลือครับ ก็เลยหมุนรถเข็นให้มันหันหลังให้ผมแทน


               หลังจากที่พลังชีวิตเต็มเปี่ยมผมกับที่หนึ่งก็กลับมาเป็นคู่หูชั่วคราวผจญภัยต่อ

 
               มีเครื่องเล่นหลายชิ้นที่ก็...สนุกดีครับ แต่สำหรับวิถีชายยังถือว่าเบๆ แต่มีเครื่องเล่นนึงฝังใจผมมาก ลงมานี่ขาสั่น ผมขาสั่น ที่หนึ่งก็ขาสั่น หงึกๆๆ กันอยู่หน้าเครื่องเล่น


               ตอนแรกไม่อายหรอก แต่พอไอ้พี่ตุลย์มายืนขำเป็นวรรคเป็นเวรนั่นแหละ ที่ผมโคตรเสียเชิง อยากจะบอกให้พี่แกลองไปเล่นดู เดี๋ยวจะเสียสละดูแลตอนต้นให้ แต่นั่นแหละ ขามันสั่นเลยไม่มีแม้แต่แรงที่จะก้าวไปหาด้วยซ้ำ


               มันคือ ยักษ์ตกตึกครับ!


               เครื่องเล่นที่นั่งเรียงกันหันหลังให้เสาหนึ่งต้น ก่อนที่มันจะเลื่อนตัวขึ้นไปแล้วทิ้งดิ่งพสุธาลงมานั่นแหละ ตอนผมกับที่หนึ่งเงยหน้าดูก็เบๆ นะ จิ๊บๆ ก็เลยกระโดดพรวดขึ้นไปเล่นด้วย ตอนขึ้นก็ช้าๆ ดูวิวิทิวทัศน์กันไป แต่ตอนลงเนี่ยสิ!


               มันจะรู้สึกวูบอยู่ประมาณสามวินาทีได้ เป็นชั่วอึดใจที่เหี้ยที่สุดตั้งแต่เล่นเครื่องเล่นในสวนสยามนี่มาเลยครับ อารมณ์เดียวกับกระโดดตึกเลย ต้องไปลองดูครับ


               ...


               หมายถึง ลองไปเล่นนะ ไม่ใช่ลองไปกระโดดตึก


               ช่วงเวลาประมาณบ่ายสองผมกับที่หนึ่งก็ไปเล่นสวนน้ำ ก่อนมาที่นี่ผมบอกไปแล้วว่าจะไม่เล่นสวนน้ำ เพราะผมไม่มีชุดว่ายน้ำอะไรเลย แต่คุณพ่อตุลย์ครับเดินฉับๆ เข้าห้องนอนไปหยิบกางเกงว่ายน้ำมาให้ซะงั้น ก็เลยกลายเป็นว่าตอนนี้มีผมกับที่หนึ่งลงเล่นสวนน้ำ ส่วนผู้ใหญ่ใจดีของทริปกับตอนต้นนั่งใต้ร่มพักผ่อนชิลๆ กันไป


               “อันธพาล จะยืนอยู่ตรงนั้นทำไม ไปเล่นสไลเดอร์กัน!” ที่หนึ่งที่อยู่น้ำห่างผมออกไปตะโกนขึ้น ผมไม่ตอบแต่เลื่อนสายตาลงมองเกงเกงว่ายน้ำของไอ้พี่ตุลย์ที่ให้ผมยืม


               มันไม่ได้ขาดครับ แล้วมันก็ไม่ได้ทุเรศอะไรเลย แต่...


               เอื้อมมือไปจับตรงเป้ากลางเกงที่เหลือพื้นที่เล็กน้อย...


               ชุดว่ายน้ำนี่มันไม่ได้แนบไปกับรูปร่างหรอวะ? ทำไมตรงนี้ที่มันเหลือ


               “อันธพาล!!”

               “เอออ ไปแล้วๆ” ผมเลิกสนใจรีบพุ่งลงน้ำไปหาเด็กที่หนึ่ง


               เกือบสองชั่วโมงที่เล่นอยู่ในโซนของสวนน้ำ เด็กที่หนึ่งมีพลังงานเหลือเฟือ แต่ผมกลับร่อแร่เต็มที เลยขอโบกมือเซย์บายแล้วขึ้นฝั่งมาก่อน ทรุดตัวลงนอนไปกับเก้าอี้ชายหาดข้างๆ พี่ตุลย์ที่กำลังป้อนวาฟเฟิลให้ตอนต้นกินอยู่


               “ไม่ไหวแล้วไง?”

               “ไม่ไหวแล้ว ผมมาถึงจุดนี้ได้ไง จุดที่เล่นสวนสนุกเหนื่อยกว่าทำงานจนถึงสี่ทุ่ม”


               พี่ตุลย์หัวเราะขำเล็กน้อยเรียกให้ผมเหลือบมอง พอเห็นเสี้ยวหน้าด้านข้างดูท่าทางอารมณ์ดี ก็พลอยรู้สึกอารมณ์ดีไปด้วย


               “ที่ฉันตั้งใจซื้อรถก็เพราะจะพาลูกมาเที่ยวเนี่ยแหละ”

               “อ่านเจอในหนังสือที่ซื้อมาคราวก่อนหรอ?”
               
               “ประมาณนั้น เขาบอกว่าเราควรจะให้ของขวัญลูกบ้าง ควรจะพาไปเที่ยวบ้าง เขาเรียนรู้จากข้างนอกได้ดีกว่าในหนังสืออะไรประมาณเนี่ย ก็เลยตัดสินใจซื้อรถแล้วก็พามาเที่ยว สองสามเดือนมานี่ฉันใช้เงินเยอะกว่าปีที่แล้วซะอีก”

               ผมขำ “แล้วผลลัพธิ์มันดีไหม?”

               “ดี ฉันไม่เคยเห็นที่หนึ่งสนุกอย่างนี้มาก่อน อย่างที่เคยบอกที่หนึ่งไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไหร่ ฉันเองก็มัวแต่ทำงานไม่มีเวลาเล่นด้วย ซื้อของเล่นให้เยอะแค่ไหนก็ดูเหมือนที่หนึ่งจะไม่ตื่นเต้นแล้ว”

               “ก็ดีแล้ว” ผมตอบเสียงเบาก่อนจะหลับตาลงพักผ่อนร่างกาย เผื่อว่าถ้ามีแรงจะได้ไปเล่นสไลเดอร์อีกสักรอบสองรอบ แต่เมื่อหลับตาลง ผมกลับรู้สึกเหมือนมีเงาอะไรบางอย่างมาทาบทับบนใบหน้า และทันทีที่ลืมตาขึ้นมาก็ต้องเผลอผงะเมื่อเห็นใบหน้าที่สมกับเป็นผู้ใหญ่ของพี่ตุลย์อยู่ห่างเพียงฝ่ามือเท่านั้น “อะ...อะไร?”

               “นายน่ะพูดมาก น่ารำคาญ แล้วก็ไร้สาระ”

               “หา!”


               อะไรวะ? อยู่ดีๆ ก็มาด่า


               เส้นเลือดผมนี่ขึ้นปูดเลย ตั้งท่าจะผลักไอ้พี่ตุลย์ออกแล้วเตะให้กลิ้งลงไปในน้ำ แต่มือของผมกลับต้องชะงักเสียก่อน ไม่สิ ไม่ใช่แค่มือ ผมเนี่ยแหละที่ชะงัก...เมื่อได้ยินคำพูดต่อมาของคนตรงหน้า


               “แต่ฉันก็เผลอคิดหลายครั้งแล้วแหละ ว่า...ดีจัง ที่มีนายอยู่ด้วย










               งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา ห้าโมงเย็นเป็นช่วงเวลาที่ผม กับครอบครัวของพี่ตุลย์ตัดสินใจที่จะกลับไปพักผ่อนที่บ้าน ทันทีที่ขึ้นมาอยู่บนรถ ที่หนึ่งที่นั่งประจำอยู่ด้านหน้าก็หลับปุ๋ยทันทีเช่นเดียวกับตอนต้นที่ไม่ได้ทำอะไรมากมายแต่ก็สะลึมสะลือไปเสียอย่างนั้น


               “เด็กหนอเด็ก” เสียงทุ้มพูดขึ้นเบาๆ ขณะปรายตามองลูกชายคนโตของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นผมที่นั่งเยื้องอยู่ด้านหลังก็สังเกตเห็นรอยยิ้มที่ผุดพรายอยู่บนใบหน้า

               “...”


               ผมซึมซับบรรยากาศที่อบอุ่นนี่อย่างเงียบๆ พลางนึกถึงคำพูดของพี่ตุลย์ก่อนหน้า


               ถ้าไม่นับครอบครัวของตัวเอง นี่เป็นคำพูดแรกที่ทำให้ผมดีใจมากที่สุด เป็นคำพูดที่ผมอยากได้ยินมากที่สุด คำพูดที่บอกว่ามีใครบางคนที่ยอมรับผม แม้ผมจะไม่ใช่ครอบครัวของเขา และเพราะคำพูดนั้นอีกที่ทำให้ผมคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ผมมีความสุขมากแค่ไหน


               ผมมีความสุขมากกว่าตอนที่อยู่กับป้า มีความสุขมากกว่าตอนที่อยู่กับเพื่อน มีความสุขมากกว่าตอนที่อยู่ตัวคนเดียว


               ไม่อยากจะยอมรับเลยว่า..การอยู่กับครอบครัวนี่มันทำให้ผมกำลังมีความสุขมากจริงๆ...


               “เป็นอะไรยิ้มน้อยยิ้มใหญ่?” ผมเหลือบมองกระจกส่องหลัง สบตากับคนที่กำลังขับรถอยู่

               “เห็นผู้หญิงเมื่อกี้ หน้าตาโคตรน่ารัก”

               “กระเทยเปล่าเถอะ”

               “ตัวเองไม่เห็นก็อย่ามาอิจฉาได้ปะ กระเทยหรือเปล่าไม่รู้ แต่เมื่อกี้น่ะนางฟ้าแน่ๆ”

               “เดี๋ยววนรถให้ลงไปขอเบอร์เอาไหมละ?”

               “ถ้าพี่จะกรุณา ผมก็จะขอน้อบรับไว้ครับ”

               “กวน”

               “ก็มีบ้าง~”











               ติ้ง...


               เสียงลิฟท์ดังขึ้นก่อนที่ประตูจะเปิดออกยังชั้นที่ต้องการ แม้จะเป็นช่วงเวลาหัวค่ำแต่ทางเดินก็เงียบสงัด ผมดึงมีที่หนึ่งที่สะลึมสะลือจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ให้รีบเดินตามพี่ตุลย์ที่อุ้มตอนต้นไปตามควายแล้ว


               ถ้าจะเดินเร็วขนาดนั้นคืออะไร ปวดหนัก? 


               “คือพี่รีบไปปะ” ผมพูดเสียงดังไล่หลังไป


               “ตอนต้นอึใส่แพมเพิสจะรีบไปเปลี่ยน”


               มิหน่าละ! ตอนขึ้นลิฟท์ได้กลิ่นแปลกๆ นึกว่าคุณลุงที่ขึ้นชั้นหกเป็นคนแอบตดไว้!


               “งั้นรีบไปเลย” สิ้นคำของผม คุณพ่อตุลย์กับลูกหมูตอนต้นก็วิ่งกระเตงๆ พุ่งตรงไปยังห้องพักที่อยู่อีกไม่ไกล ส่วนผมกับที่หนึ่งก็เดินเอ่อระเหยลอยชายแบบไม่รีบร้อนเดินตามอยู่ข้างหลัง


               และทันทีที่ผมกำลังจะเปิดเดินเข้าไปในห้องของพี่ตุลย์ต่อจากเด็กที่หนึ่ง ห้องข้างๆ ของป้าสร้อยก็เปิดผัวะออกมาพร้อมกับเสียงของใครบางคนที่ผมไม่คุ้นหู


               “ตุลา ดูสิว่าใครมา~”


               และจังหวะนั้นก็มีเพียงแค่ผมหันไปพร้อมกับตกตะลึง!









TBC
ดื่มเรดบู้ด กำลังมีคนปลุกความแสบในตัวเอส /หื้มมม

#daddybelover
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 02-07-2015 16:37:43
เพื่อนสาว อดีตเมีย เพื่อนชาย เด็จแม่

หมดช้อยส์ยังว้าาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-07-2015 16:57:15
ดีจัง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 02-07-2015 17:55:20
ชะนีมาาาาา ฮ่าาาาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 02-07-2015 18:25:44
ป่านนี้เอสไขปริศนาออกหรือยังคะเนี่ย..ว่าทำไมกางเกงว่ายน้ำถึงหลวม~ :laugh:

ฮาา~ :m20: เห็นด้วยกับพี่ตุลย์เหมือนกันจ้าว่ามีเอสอยู่ด้วยแบบนี้นี่ดีจังน้าา ครอบครัวของพี่ตุลย์ครึกครื้นขึ้นตั้งเยอะเลยเน้อ ^^

รอตอนต่อไปนะค้าา..เฝ้าจอรอชมความแสบของเอส VS บุคคลปริศนา จ้าา >.<
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 02-07-2015 18:40:33
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 02-07-2015 18:57:27
ไอ้เอสเกรียนไม่ออกเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 02-07-2015 19:30:52
ใคร???
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 02-07-2015 19:36:40
ครอบครัวเขากำลังสุขสันต์



ยัยคนนั้น จะมาทำไม



เขากำลังปรับตัวเข้าหากัน



ยัยคนนั้นจะมาทำให้เด็กๆ เกิดปัญหาหรือเปล่า :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 02-07-2015 21:21:01
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :ling1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 02-07-2015 21:32:27
ใครอ่ะ? ใครรรรรรรรร  :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 02-07-2015 21:42:24
เห้ย ใครมาฟร่ะ!!!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ่KEI_jry ที่ 02-07-2015 22:00:39
กะเทย ไม่ใช่กระเทยน้าาาาาา

อย่าบอกนะว่าผู้หญิงที่ไลน์หา มาน่ะ

เป็นแม่ของเด็กๆหรอ

มาทำไม ต้องการอะไร

สงสัย?? :ling1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 02-07-2015 22:26:06
มันเป็นเครื่องเล่นวิถีผู้ชาย ผู้ชายคนไหนไม่เล่นนี่โตขึ้นเป็นตุ๊ดแน่นอน พอเป็นตุ๊ดใช่ปะ สังคมก็รังเกียจ พ่อแม่ก็เสียใจ

ขำหนักมากค่ะ   :laugh:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 02-07-2015 23:56:45
ชะนีแม่มาแล้วเหรอ ม่ายยยยยยยยย

ปล.ที่พื้นที่ตรงเป้าเหลือเยอะ เพราะไอนั้น ><// ของพ่อตุลย์มันใหญ่กว่าของแกไงหล่ะไอ้เอส 5555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 03-07-2015 00:18:40
ตอนนี้จัดแบบเบาๆ ใสๆ งิ้งค์ๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: pe-ar ที่ 03-07-2015 01:15:42
ใครมาล่ะนั่น
เมียรึ????
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 03-07-2015 11:43:39
เมียเก่ามาอะสิ 5555555555555555555555555555555555
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 03-07-2015 14:32:03
เดาว่าชะนีในไลน์ แต่หวังว่าคงไม่ใช่เมียเก่าหรอกน่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 03-07-2015 14:47:47
ขำตอนเอสใส่กางเกงว่ายน้ำของพี่ตุลย์อ่ะ 55555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 03-07-2015 20:03:33
ใครมาล่ะเนี่ยยยยยยย
แต่ขอให้มาดีนะคะ(ดีในที่นี้คือไม่มาบุ่งกับพี่ตุลย์แระเด็กๆ) ไม่งั้นโดนริดน้องเอส แร้วจะหนาววว 555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 03-07-2015 21:05:58
ครายยยยมาขัดจังหวะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 04-07-2015 01:00:59
นางมาทำไมมมม
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Cc-kun ที่ 04-07-2015 13:14:59
 อย่าทำแบบนี้!!!มะนค้างรุ้ม้ายยยTwT
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 15 (2/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Cc-kun ที่ 04-07-2015 13:18:07
อย่าทำแบบนี้ มันค้างนะรุ้ม้ายยยยยย!ToT
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 16 (4/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 04-07-2015 13:36:52
ตอนที่16







               เหยดดดดด สวยกว่าในรูปโปรไฟล์ใน line อีกครับ! โฉมเอย โฉมงาม อร่ามแท้ แลตะลึง~


               “ขอโทษนะคะ พอดีเข้าใจผิดน่ะค่ะ”

               “ตุลานี่หมายถึง ตุลย์ใช่ไหมครับ?” ผมยิ้มหวานพลางใช้สายตากะขนาด รองเท้านี่น่าจะประมาณ 5 นิ้ว ส่วนสูงเดิมก็สัก 160 อกนี่น่าจะ 36 แต่ตัวนิดเดียวน่าจะเสริมฟองน้ำมากกว่าตีไปสัก 32 เอวประมาณ 25 สะโพกประมาณ 34

               “ใช่ค่ะ คือรู้จักหรอคะ?”

               “ก็เจ้าของห้องนี้แหละครับ ถ้ามาหาพี่ตุลย์ก็เข้ามาก่อนสิครับ”

               “ดีจัง นึกว่าย้ายห้องไปซะแล้ว” พี่สาวคนสวยพูดเสียงโล่งอกก่อนจะยกกระเป๋าลากใบเขื่องออกมา ผมด้วยความเป็นสุภาพบุรุษก็เลยอาสาช่วยถือกระเป๋าใบอีกสองสามใบเดินตามหลังเข้าห้องของพี่ตุลย์

               “พี่ตุลย์มีคนมาหาา”

               “ใคร?...อ้าว ลิน!” พี่ตุลย์ที่โผล่หัวออกมาจากห้องครัว เดินตรงมาหาพี่สาวคนสวยที่อยู่หน้าผม รอยยิ้มที่มีให้ผมแทบนับครั้งได้ถูกวางไว้บนใบหน้าของผู้เป็นเจ้าของบ้าน


               อื้ม...ช้อยที่ผมตั้งไว้มีอะไรบ้างวะ แฟน เมีย แม่ เพื่อน


               “ก็ตุลย์บอกว่าไม่ว่างไปรับ แต่อยากมาหาไวๆ ก็เลยบึ่งมารอที่คอนโดฯ เลย”

               “มาตั้งแต่กี่โมงละเนี่ย นานไหม?”

               “ไม่ค่อยนะ ก็มาถึงนี่ประมาณบ่ายสอง ยืนรอแป๊บเดียวป้าข้างห้องที่ชื่อป้าสร้อยก็บอกว่าตุลย์ไม่อยู่ แล้วก็ให้ไปรอที่ห้องป้าเขาน่ะ”

               “อ๋อ ไม่น่าลำบากเลยนะ ค่อยเจอกันที่ทำงานพรุ่งนี้ก็ได้”

               “ก็บอกแล้วไงว่าอยากเจอเร็วๆ แล้ว...ที่หนึ่งละ?”

               “อาบน้ำอยู่ ถ้าที่หนึ่งรู้ว่าไพลินมาน่ะ คงดีใจตายเลย”

               “นี่ก็อยากเจอทั้งตุลย์ทั้งที่หนึ่งมากๆ เหมือนกัน”


               เค้าลางๆ นี่ น่าจะเมียแล้วไหม?


               ผมกรอกตาไปมา รู้สึกตัวเองเป็นก้างขวางคอพิลึก เลยเลี่ยงเอากระเป๋าของพี่สาวคนสวยไปวางไว้ข้างโซฟาแถวๆ กล่องของเล่นของที่หนึ่ง แอบเหลือบมองหน้าของพี่สาวคนสวยทีนึงเพื่อซึมซับความงามที่ใช่ว่าผมจะได้เห็นบ่อยๆ


               ฮึก ถึงพี่สาวจะมีผัวแล้ว แต่พี่สาวก็จะเป็นนางฟ้าคนสวยของไอ้เอสผู้นี่ครับ TT


               ว่าแล้วก็ปาดน้ำตาในใจ เดินคอตกเข้าไปหาเด็กตอนต้นที่เมื่อกี้ผมเห็นมันโดนล็อคตัวนั่งอยู่กับเก้าอี้มองผมตาแป๋วอยู่ในครัว พอเห็นผมเข้าไปหา ก็ส่งเสียงอ้อแอ้ แถมยังกระพือแขนประหนึ่งว่าจะบินมาหาผมให้ได้ ถ้าเป็นคนอื่นก็คงอุ้มมันมาโอ๋เอ๋ๆ แล้ว แต่ผม..โนว! ก็เลยเมินแล้วก็ทรุดตัวนั่งลงที่เก้าอี้อีกตัวแทน


               “แอร๊ย!”

               “อะไร?”

               “อา! อ๊าา!” ผมเลิกคิ้วมองเด็กอ้วนที่มีความพยายามสูงส่งในการที่จะคุยด้วย

               “พูดอะไร ไม่รู้เรื่องเลย เอาเป็นคำๆ ดิ หวัดดีงี้นะ พูดดิ้”

               “ไอ อาา!”

               “อา อะไรละ! บอกว่า หวัดดีๆ”

               “ตุลย์...นี่ก็ลูกตุลย์หรอ?” ผมเงยหน้าจากไอ้อ้วน มองพี่สาวคนสวยที่ไม่รู้ว่าเข้ามาในครัวตั้งแต่เมื่อไหร่ ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยความตกใจ งงงวย แล้วก็อะไรอีกอย่างหนึ่งที่ผมไม่แน่ใจขณะที่มองไปที่ตอนต้น


               แต่เดี๋ยวนะ... ‘นี่ก็ลูกตุลย์’ งั้นหรอ? เอ้า แล้วพี่สาวไม่ได้เป็นแม่เด็กหรอไง ถึงไม่รู้ว่าตอนต้นนี่ก็ลูกพี่ตลุย์ เวรเอ๊ย นามสกุลผมเปลี่ยนเป็นอยู่เสือกอีกแล้วอะ


               “อื้ม นี่ก็ลูกผม” พี่ตุลย์ที่เดินตามมาตอบก่อนจะเดินต่อไปที่เตาที่เขากำลังทำอะไรสักอย่างคาไว้

               “กับ...ผู้หญิงคนนั้นหรอ?”

               “อ่า ใช่”


               ผมมองคนสองคนสลับกันไปมา พยายามที่ตัวให้ลีบเล็กที่สุดก่อนจะเดินเลี่ยงไปนั่งดูทีวีแทน เรื่องครอบครัวเราไม่ยุ่งครับงานนี้


               “พ่อ เสียงใครอะครับ?...ป้าลิน!” ผมได้ยินเสียงที่หนึ่งที่คงเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ท้ายประโยคเต็มไปด้วยความดีใจถึงผมไม่เห็นกับตาเพราะโซฟาที่ผมกำลังนั่งกับครัวมันอยู่เยื้องกันก็คงเดาได้ว่าเด็กนั่นคงกระโดดกอดป้าลินเป็นลูกลิงไปแล้ว

               “ที่หนึ่ง~ คิดถึงจังเลย แต่ไปแต่งตัวก่อนนะครับ แล้วเราค่อยมาเล่นกัน”

               “ป้าลินจะอยู่นานไหมครับ?”

               “วันนี้หรอ? ขึ้นอยู่กับคุณพ่อที่หนึ่งนะว่าจะให้อยู่นานแค่ไหน”

               “พ่อออ วันนี้ให้ป้าลินนอนค้างด้วยได้ไหม นะๆ นอนที่ห้องที่หนึ่ง”

               “ถ้าป้าลินเขาไม่มีปัญหาก็แล้วแต่ที่หนึ่ง”

               “ไม่มีปัญหาหรอกน่ะ เสื้อผ้าข้าวของก็อยู่ในกระเป๋า วันนี้นอนค้างกับที่หนึ่งได้สบาย”

               “เย้! งั้นเดี๋ยวที่หนึ่งไปแต่งตัวก่อนนะ ป้าลินรอแป๊บ”


               ผมเห็นเด็กที่หนึ่งวิ่งปรู๊ดเข้าไปในห้องของตัวเอง แต่อีกสองคนกับอีกหนึ่งหมูตอนต้นผมไม่เห็นนะ แต่ได้ยินเสียงอยู่ ถ้าให้เดาก็ประมาณว่า ครอบครัวสุขสันต์พ่อแม่ลูกมั้ง


               พ่อแม่ลูก...เดี๋ยวนะ ผมเพิ่งสังเกต เมื่อกี้ที่หนึ่งเรียก ‘ป้าลิน’ ถูกไหม?


               งั้นก็แปลว่าไม่ใช่แม่ของที่หนึ่งอะดิ! คืองี้ครับ ตอนแรกผมคิดว่า แบบเป็นแม่ของที่หนึ่ง ส่วนตอนต้นนี่ประมาณว่าลูกของผู้หญิงอีกคนที่อาจจะ เอ่อ ระหว่างที่พวกเขาเลิกกันอะไรบลาๆ กันไป แต่ปรากฎว่า ไม่ใช่เว๊ย! ไม่ใช่ทั้งแม่ของที่หนึ่ง ไม่ใช่ทั้งแม่ของตอนต้น


               ..แล้วยังเป็นเมียของพี่ตุลย์อยู่ไหมวะ? อาจจะแบบ ไม่ใช่แม่ของลูก แต่เมียของกูไรงี้


               ซับซ้อนฉิบหาย ไปหยิบสมุดมาร่างความสัมพันธ์แป๊บ


               “ฮึก แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง” ผมที่กำลังเปิดประตูเข้าไปหยิบสมุดในห้องนอนหันขวับตามเสียงก่อนจะเห็นตอนต้นกำลังร้องไห้จ๊า โดยพี่สาวคนสวยที่อยู่ใกล้ๆกำลังมีท่าทีลุกลี้ลุกลนอย่างเห็นได้ชัด จนพี่ตุลย์ต้องรีบวางมือจากเตาเข้าไปอุ้มเด็กอ้วน

               “ตุลย์ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”

               “อื้มๆ ไม่ต้องคิดมาก ที่หนึ่งบอกว่าตอนต้นไม่ค่อยถูกกับผู้หญิงน่ะ” พี่ตุลย์ยิ้มให้อีกฝ่ายเป็นการบอกให้เบาใจได้ก่อนที่ตัวเองจะเดินไปมาในครัวปลอบตอนต้นที่ยังร้องไห้งอแงไม่หยุด “นี่ถ้าลูกไม่หยุดร้อง แล้วพ่อจะทำกับข้าวให้ลูกกินได้ยังไง หื้ม?”

               “เอ่อ งั้นเดี๋ยวฉันทำให้เอาไหม?”

               “ไม่เป็นไรๆ ตอนต้นเป็นเด็กกินยาก รสชาติผิดนิด ผิดหน่อยก็ไม่กินเลย”


               เด็กอะไรเรื่องมากขนาดนี้ ไม่ถูกกับผู้หญิงไม่พอ นี่ยังเลือกแดกอีก

               
               “เอส มาช่วยปลอบตอนต้นทีสิ”

               “ไม่เอาอะ พี่ก็รู้ว่าผมไม่อุ้มเด็ก”

               “เดี๋ยวฉันอุ้มให้ก็ได้ ทำความคุ้นเคยไว้ เดี๋ยวตอนต้นก็ไม่ร้องแล้ว” พี่สาวคนสวยตั้งท่าจะเอาตอนต้นมาอุ้มเอง แต่เพียงแค่นิ้วโดนเข้านิดหน่อย เด็กนั่นก็แผดเสียงดังลั่นขึ้นมาอีก

               “อย่าดีกว่าลิน ขนาดป้าที่ช่วยเลี้ยงมาตั้งหลายเดือน ยังแตะตัวไม่ได้เลย” พี่ตุลย์ว่าพลางกลั้วหัวเราะ ขายาวก้าวฉับๆ มาทางผม คว้าข้อมือฉุดไปที่โซฟา กดไหล่ผมให้นั่งลง ก่อนจะวางลูกชายคนเล็กของตัวเองลงข้างๆ


               แย๊ก เด็ก!


               พี่ตุลย์ขมวดคิ้วใส่ผมที่เขยิบตัวออกห่าง มือแกร่งผลักหัวผมเล็กน้อยด้วยความหมั่นไส้ และจากแรงแล้วก็คงหมั่นไส้สุดตีนด้วยอะไรด้วย “เล่นกับตอนต้นหน่อย เห็นนายเล่นด้วยทีไร ลูกฉันก็หยุดร้องทุกที”


               “แต่...”

               “ฉันจะไปทำข้าวให้ตอนต้น”


               ละ..แล้วพี่ตุลย์ก็หันหลังเดินกลับไปที่ครัวเลย!


               ผมถอนหายใจเล็กน้อย โน้มตัวเข้าไปหาเด็กอ้วน ตาจ้องตา หน้าผากแทบจะชนกัน


               “พี่ปลอบเด็กไม่เป็นหรอกนะไอ้น้อง แต่ถ้าไม่หยุดร้อง พี่จะจับยัดใส่ถุงบิ๊กซีแล้วไปแขวนไว้หน้าประตูหน้าโรงเรียนหญิงล้วน หึ ตอนต้นเอ๋ยยย แกได้ร้องไห้เพราะโดนผู้หญิงแตะตัวจนตายแน่!”

               “...” เด็กอ้วนตอนต้นมองผมตาแป๋ว ผมไม่รู้หรอกนะว่าเด็กหนึ่งขวบมันรู้เรื่องมากน้อยแค่ไหนแล้ว แต่ที่แน่ๆ เพราะผมหล่อมากแน่นอน พอเอาหน้าไปใลก้ก็แบบ ตะลึงไง ว๊าว พี่เอสหล่อจังไรงี้ ก็เลยเงียบไปเลยครับ อิอิ


               หมับ!


               “อ๊ากกกกกกก! พี่ตุลย์!!”


               ผมร้องลั่นเมื่อไอ้เด็กอ้วนตอนต้นมันเอามืออ้วนๆ ของมันมาดึงผมของผมครับบบบบบ


               “ไม่ว่างง เล่นด้วยกันไปก่อน”


               เล่นบ้าเล่นบออะไร มันดึงหัวผมลงไม่พอ ยังกัดผมของผมอีก ไอ้นี่! ถ้ากลืนลงไปนะโว๊ย ข้าอาจจะหัวล้านแต่เอ็งตายแน่เพราะวันนี้ใส่เจลผมอย่างดี ขนาดเล่นรถไฟเหาะยังไม่ออกมาสักเส้น!


               “พี่ตุลย์!!” ผมร้องเสียงสูง


               “ทำไรกันอะ!” แต่แทนที่จะเป็นไอ้พี่ตุลย์ที่เข้ามาช่วยแงะตอนต้นออกให้ กลับเป็นเด็กที่หนึ่งยืนจังก้าอยู่หน้าทีวีแทน แต่ตอนนี้จะเป็นใครไม่สนแล้วครับ กวักมือยิกๆ เป็นสัณญาณบอกให้พาตอนต้นออกไปจากหัวกูเน! “เล่นด้วย”


               เล่นอะไร อยากเล่นมากไปสนามเด็กเล่นไป๊ เห็นมีชิงช้าอยู่น่ะ สองตัวพี่น้องเนี่ยพากันไปเลยไปเล่นชิงช้าด้วยกันเลยไป๊


               แต่การกรีดร้องในใจของผมไม่ช่วยอะไรครับ เด็กที่หนึ่งกระโดดขึ้นมาโซฟาแล้วเรียบร้อยพร้อมกับดาบของเล่นในมือที่ไม่รู้เอามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ฟันแขนผมบ้าง ขาผมบ้าง คอผมบ้างโดยมีน้องชายคอยกระชากหัวบ้าง ปีนตัวบ้าง ร้องแอร๊ยๆ บนตัวผมบ้าง


               เต็มทีเลย เต็มที!


               ในระหว่างที่ผมกำลังนอนแผ่ถวายตัวให้กับสองพี่น้องปู้ยี้ปู้ยำให้เต็มที่ สายตาก็เหลือบไปเห็นพี่สาวคนสวยที่กำลังมองตรงมาที่ผมอยู่


               ว๊าย! มองผมงี้ชอบผมเปล่าพี่ ถ้าจะจีบ จีบตอนนี้ก่อนที่จะเข้ามหา’ลัย แล้วจะมีสาวๆ มารุมเป็นคู่แข่งนะครับ~


               ผมส่งยิ้มให้พี่สาวคนสวย ตั้งท่าลุกไปหา ยังไม่แน่ใจว่าใช่เมียพี่ตุลย์หรือเปล่าแต่ขอตีแต้มไว้ก่อนเถอะ เผื่อไม่ใช่จะได้รุกเลยอะไรเลย แต่พอจะลุก ไอ้สองพี่น้องกลับนอนแผ่ราบไปบนตัวผมซะงั้น โอ๊ย ถ้าง่วงไปนอนเตียงนู่นไป ผมแงะไอ้สองตัวออกจากร่าง แต่พวกนั้นก็เกาะเหนียวแน่นจนผมต้องยอมปล่อยเลยตามเลย


               ช่างแม่ง ตอนนี้ทำไรมากไม่ได้ ยิ้มแล้วกัน เขาว่ากันว่า ยิ้มคืดจุดเริ่มต้นของทุกความสัมพันธ์ครับผม อิอิ


               ว่าแล้วก็หันไปส่งยิ้มให้พี่สาวคนสวยอีกรอบ


               “...”


               ยิ้มหวานของผมเริ่มหุบลงแบบเก้อๆ เมื่ออีกฝ่ายกลับไม่ยิ้มตอบให้ผมเลยสักนิด หนำซ้ำยังจ้องตรงมาที่ผมไม่วางตาจนรู้สึกแปลกๆ ผมแยกออกนะครับ มันไม่ใช่สายตาพิศวาสอะไรหรอก มันเป็นสายตาแบบ...อื้ม ผมอาจจะรู้สึกไปเองก็ได้ ว่าสายตาที่เขามองมาที่ผม มันเป็นสายตาแบบ...


               ไม่อยากเห็นผมอยู่ตรงนี้?


               “เอ่อ...ตุลย์”

               “หื้ม?”

               “นี่มันก็สามทุ่มแล้วนะ ดึกมากแล้ว น้องคนนั้นเขาไม่กลับบ้านกลับช่องหรอ?”  ผู้หญิงคนนั้นพูดทั้งๆ ที่ยังไม่ละสายตาจากผม ผมเองก็จ้องมองเขา บรรยากาศแปลกๆ ก่อตัวขึ้นระหว่างเรา แน่นอนมันไม่ใช่บรรยากาศสีชมพู

               “หมายถึง เอสหรอ?”
               
               “ผม ‘หลับนอน’ ที่นี่ครับ” ผมพูดแทรกตอบให้ จงใจใช้คำกำกวมพร้อมกับส่งยิ้มให้อีกฝ่าย


               ถึงผมจะยังไม่ยี่สิบแต่อย่าลืมว่าผมมีประสบการณ์เรื่องที่อยู่เป็นยังไง กับไอ้แค่คนๆ หนึ่งอยากไล่ผมออกไปจากที่นี่ มันดูไม่ยากหรอกครับ แล้วที่สำคัญเลยนะ ถ้าเป็นเจ้าของบ้านพูด ผมไม่อะไรเลย ผมพร้อมจะเก็บของออกไปได้ตลอดเวลา แต่คนที่พูดเขาไม่ใช่ไง เขาเป็นใครถึงมีสิทธิมาทำสายตาแบบนี้กับผม พูดแบบนี้กับผม


               “หมายถึงนอนค้างใช่ไหมจ๊ะ? แล้วพ่อแม่ไม่ห่วงแย่หรอมาค้างที่นี่น่ะ” เธอยิ้มให้ผม ที่จริงรอยยิ้มนั้นสวยนะ แต่พอผมเผลอรู้สึกแย่กับเธอไปแค่จุดเล็กๆ ก็กลับรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นมันไม่สวยเอาซะเลย


               แต่ผมผู้ชายไงครับ ถึงเมื่อกี้จะเผลอปากดีไปหน่อย แต่ก็อย่าลืมว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง และอายุมากกว่าผม มันไม่เท่เท่าไหร่หรอกที่จะเอาชนะอะไรไม่รู้กับเธอ


               “เอสอยู่ที่นี่น่ะ อยู่มาอาทิตย์กว่าๆ แล้ว พอดีพ่อแม่ของเอสเขาอยู่ไกลน่ะ” ผมนึกขอบคุณไอ้คนที่เดินถือถ้วยสีสดตรงมาหาลูกชายคนเล็กที่ยังนอนแผ่อยู่บนตัวผม

               “นี่พี่ตุลย์” ผมละสายตาจากผู้หญิงคนนั้น ช่วยคุณพ่อตุลย์แงะลูกคนเล็กออกจากตัวผม

               “หื้ม?”

               “พี่ไม่คิดจะแนะนำพี่สาวคนสวยให้ผมรู้จักหน่อยหรอ?”

               “เขาชื่อ ‘พลอยไพลิน’ เคยเป็นเพื่อนร่วมงานที่สำนักพิมพ์เดียวกัน แต่เขาเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์”

               “เป็นเมียพี่ปะ?” ผมป้องปากกระซิบให้ได้ยินกันสองคน พี่ตุลย์ขมวดคิ้วใส่ผมเล็กน้อย

               “ไม่ได้เป็นอะไรกัน เป็นเพื่อนกันเฉยๆ เนี่ยแหละ”


               แหม ผมอุตสาห์ถามเสียงเบา พี่แกเล่นตอบซะเสียงดังเลย


               ขณะที่ผมกำลังจะถามต่อ สายตาเหลือบไปเห็นพี่ ‘พลอยไพลิน’ เม้มปากมองพี่ตุลย์อยู่ด้านหลัง สายตาทอดมองมาอย่างผิดหวัง เสียใจ หรืออะไรสักอย่าง ทำให้ผมต้องร้องอ๋อในใจ


               เพื่อน...แต่อีกฝ่ายคิดไม่ซื่อสินะ


               ผมก้มหน้ากระซิบเบาๆ ต่อ “แล้วทำไมเขาดูสนิทกับที่หนึ่งจัง ตอนแรกนึกว่าแม่ที่หนึ่งซะอีก”

               “ก่อนที่ลินเขาจะย้ายไปที่สาขาต่างประเทศ เขาก็กลับบ้านพร้อมฉัน มาเล่นกับที่หนึ่งบ่อยๆ เนี่ยแหละเรียกว่าทุกวันเลยก็ได้มั้ง”

               “อ๋อ”

               “แล้วทำไมต้องถามกระซิบด้วยเนี่ย?”

               “เอ้า แล้วผมจะถามเสียงดังเรื่องของเพื่อนพี่ ให้เพื่อนพี่ได้ยินหรือไงเล่า” ผมพูดเสียงห้วนเบาๆ ก่อนจะผึงตัวเองขึ้นมาพิงหลังไปกับผนักโซฟา โดยยังมีไอ้เด็กที่หนึ่งเกาะเอวอยู่ ซึ่งดูอาการแล้วน่าจะหลับไปแล้วเรียบร้อย “ผมพาที่หนึ่งไปนอนก่อนนะ”

               “ฉันไปด้วยๆ”


               ผมหันมองพี่สาวคนสวย ที่กุลีกุจอตามผมที่กึ่งพาเดินกึ่งลากที่หนึ่งไปนอนในห้อง ทันทีที่เข้าห้องได้ ที่หนึ่งก็เดินโซซัดโซลงไปนอนที่เตียงเอง ผมเห็นพี่สาวที่ชื่อ ‘พลอยไพลิน’ เดินไปที่เตียงนั่นด้วย คิดว่าคงจะเข้านอนแล้วเหมือนกันมั้ง เห็นก่อนหน้านี้บอกว่าจะนอนที่ห้องที่หนึ่ง เลยตั้งท่าจะเดินออกจากห้องมา แต่ผมกลับโดนคนที่อายุมากกว่าเรียกเอาไว้เสียก่อน


               “มีอะไรครับ?”

               “เรามีเรื่องต้องคุยกัน”








TBC
มาเฉยแล้ว ว่าสรุปนางเป็นใคร
มีความรู้สึกว่าตอนหน้าน่าจะมันส์ เพราะงั้น เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันเลยตอนหน้า 55555555555
#daddybelover

เรื่องนี้เปิดทาง DEK-D แล้วนะคะ เผื่อใครสะดวกตามทางนู้นมากกว่า
[YAOI] Daddy be Lover...รักนะครับคุณพ่อลูกสอง (http://writer.dek-d.com/thenista/writer/view.php?id=1365924)


สปอย

" บอกไว้ก่อน ว่าฉันชอบตุลย์ "
" งั้น... ให้ผมช่วยเอาปะคร๊าบบ~ "


/ถ้านี่เป็นพลอยไพลินจะไม่ให้ช่วย 55555555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 16 (4/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 04-07-2015 13:50:12
อุ้ยแหม่ น้องเอสช่างน่ารัก จะเป็นกองหนุนให้คนแอบรักอย่างลินเหรอคะเนี่ย


:D

เด็กอ้วนตอนแรกนึกว่าเอสกอดแล้วจะอารมณ์ดี แต่นึกไม่ถึงว่าจะงับผมเล่น

เจ็บนะนั่น

เจอกันพรุ่งนี้นะค้าาาาาา (เค้าจะนั่งรอออ)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 16 (4/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 04-07-2015 13:56:46
ค้างมากๆ

 ปล. รู้สึกถึงพลังร้ายจากพลอยไพลิน ไม่ถูกชะตาเลยแฮะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 16 (4/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 04-07-2015 14:21:11
พลอยไพลินเล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับเอสนะคะ จุ๊ๆๆๆ รอชมชะตากรรมของพลอยไพลินตอนหน้าดีกว่าค่ะ คงจะแซ่บน่าดูเลยเน้อออ :haun5: เอสสู้ๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 16 (4/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 04-07-2015 14:28:22
ยัยเจ้พลอย เดี๋ยวก็เจอน้องเอสจัดหรอก  :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 16 (4/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 04-07-2015 14:44:37
ชอบตอนเอสกะสัดส่วนลินในใจ แหมมมมมมมม
เก็บงูบนหัวหน่อยลูก ฮ่าาาา

แต่ก็นะ นางเล่นมาประกาศศึกชัดเจนแบบนี้
อย่าไปยอมเค้านะเอส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 16 (4/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-07-2015 15:06:03
เอสจัดการเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 16 (4/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 04-07-2015 15:23:56
รู้จักพี่เอส wet look น้อยไปซะแล้ววว !!!
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 16 (4/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 04-07-2015 15:36:35
นุ๋งพลอยจ๊ะ


ถึงไอ้เอส มันจะดูบ้าๆ



แต่มันไม่โง่นะแจ๊ะ แจ้จะบอก หึหึ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 16 (4/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: onekiss ที่ 04-07-2015 15:39:10
 :hao3: :hao3: :hao3:
เอสจัดการสิ เบื่อชะนีละ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 16 (4/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 04-07-2015 16:01:36
นุ้งเอสจะรับมือยังไงน้าาาาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 16 (4/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 04-07-2015 21:33:19
หึหึหึ เห็นเอสเป็นที่รักของเด็กแระอิจฉาอ่ะเด้คุณ"ป้า"ลินนนนนนนน 55555
ตอนหน้านี่ เอสเสนอตัวช่วยป้าลินหรอเนี่ย ป้าแกจิรับตัวช่วยกวนๆแบบนี้ไว้ไหมเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 16 (4/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 04-07-2015 22:47:15
เอสเล่นเจ็บแสบเลย
เจ้าของก็ไม่ใช่มาทำงี้ได้ไง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 16 (4/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 04-07-2015 23:26:18
ก็แค่ชนีนางหนึ่งที่เป็นตัวประกอบในเรื่อง อ่านะ อิอิ  :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 16 (4/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 05-07-2015 00:09:15
จัดหนักเลยเอส.....ช่วยไม่ให้สมหวังซะเลย อุคิๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 16 (4/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 05-07-2015 01:17:09
ไม่นะ!!!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 16 (4/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 05-07-2015 01:22:53
เฮ้ยยยยย อย่าช่วยนางนะเอส เอ๊ะ หรือจะช่วยดี พ่อสื่อพ่อชักมักได้ "ชัก"เอง  :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 16 (4/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 05-07-2015 20:03:18
ให้เอสช่วยนี่จะรุ่งสินะ 55555555555555
โอยเอสสสส มันส์มาก 5555555555555555555

ก็ยังคงไม่หายกลัวตอนต้นเนาะ  รอดูเฉลยเรื่องตอนต้นค่าาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 16 (4/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 05-07-2015 20:04:01
ที่หนึ่งงงงง ตอนต้นนนน หนูไม่เอาป้าลินมาเป็นแม่ใช่ไหม  เอสอย่าช่วยนางนะ 
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! UP ตอนที 16 (4/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Tsumsome ที่ 05-07-2015 22:29:45
เอส บอกป้าพลอยแกไปเลยว่า พี่ตุลย์นะของฉ้านนนนนนนนนนนนน :laugh:ㅋㅋㅋㅋㅋ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 17-50% (5/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 06-07-2015 00:01:55
ตอนที่ 17




             “คุยนานปะครับ? เดี๋ยวผมจะได้เอาหนมมากินด้วย” สิ้นคำ ผู้หญิงตรงหน้าผมก็อ้าปากค้างประมาณว่า เออ มึงเห็นหน้ากูไหมว่าจริงจังอะไรประมาณนี้ แต่ผมไม่ชอบให้ชีวิตซีเรียสครับ บอกแล้วไงอนาคตจะไปเป็นตัวตลกครับ คิคิ

             “คุย...ฉันคุยด้วยไม่นาน”

             “แล้วจะคุยเรื่องอะไรครับ การเมือง ศาสนา เศรษฐกิจ ผมขอออกไปหาข้อมูลก่อนได้ไหม ไม่อยากโชว์โง่ครับ”

             “ฉันไม่ได้จะคุยเรื่องนั้น...”

             “เรื่องงานสวนผมก็ไม่เก่งนะ”

             “...”

             “เรื่องงานครัวผมก็ไม่ถนัด”


             ผมยิ้ม นี่ไม่ได้กวนเลยนะครับ มันเป็นไปเอง~ ถ้าเป็นพี่ตุลย์ไม่อยู่ฟังผมพูดถึงตอนนี้หรอกครับ เดินออกจากห้องไปแล้ว หรือไม่ก็ยันผมออกจากห้องไปแล้วเนี่ย แต่ดูเหมือนว่าอาเจ๊ (สรรพนามเปลี่ยนไปตามความชอบ) อยากจะคุยกับผมมาก ก็เลยยังอดทนกับนิสัยแบบเอสเอสอยู่


             “ฉันจะคุยเรื่องตุลย์

             “ผมไม่รู้วันเกิด ไม่รู้กรุ๊ปเลือด ไม่รู้ส่วนสูง ไม่รู้น้ำหนัก ไม่รู้อะไรเลยครับ แต่เดี๋ยวผมไปถามพี่ตุลย์ให้เอาไหม? เพื่อเขายังเก็บใบสูติบัตรอยู่” ผมกระพริบตาปริบๆ แสนซื่อสุดอะไรสุด


             นี่ไม่ได้อยากกวนเลยนะครับ แต่ผมรับรู้ถึงลางหาเรื่องมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วอะ แล้วผมก็ไม่อยากขึ้นชื่อว่าหน้าตัวเมีย ไปตีกับผู้หญิงไง แล้วผมควรทำไงวะ ถ้าเกิดเจ๊เขามาหาเรื่องผมอะ


             ...ปล้ำเลยไหม?


             "นายเป็นหรือเปล่า?”

             “หะ?” ผมหันขวับกลับมาคอแทบเคล็ด สายตาของพี่สาวคนสวยที่มองผมนี่ สายตาเดียวกับตอนที่แม่พี่ตุลย์มองผม หรือไม่ก็ตอนที่ป้าสร้อยเห็นผมครั้งแรกไม่มีผิด ความรู้สึกเหมือนกับกำลังโดนหยามทำให้ผมคิ้วกระตุกขึ้นมา อย่าลืม ผมน่ะ เป็นพวกฆ่าได้หยามไม่ได้อยู่แล้ว


             ทำไมวะ? แค่เด็กผู้ชายอายุน้อยกว่าสิบปีมารู้จัก มาอยู่ร่วมชายคาเดียวกันนี่ มันไม่มีเหตุผลอะไรอื่นรองรับนอกจากขายน้ำ เป็นเกย์ เลยหรอวะ? แบบก็แค่พี่น้องที่รู้จักกันเนี่ย มันเป็นไปไม่ได้เลยไง๊!?


             “ฉันถามว่านายเป็น...พวกชอบผู้ชาย...”

             “ผมไม่ได้เป็นครับ” ชักหงุดหงิด

             “แน่?” ดวงตาที่ถูกตกแต่งด้วยเครื่องสำอางมาอย่างหรี่มองมาตรงมา ผมจ้องมองกลับไปก่อนจะพูดช้าๆ ชัดๆ

             “ผม-ชอบ-ผู้-หญิง”

             “...”

             “...”
             
             “...”

             “ถ้าจะคิดนานขนาดนี้ลองเลยไหมพี่สาว?” อ้าว เวร เผลอคิดดังไปหน่อย พอเห็นหน้าอึ้งๆ ปนไม่ชอบใจของอีกฝ่ายผมก็รีบปฏิเสธเป็นพัลวัน จนแทบจะคุกเข่าขอโทษ พลาดครับพลาด เราต้องเก็บความเป็นผู้ชายไว้ในใจสิครับ ฮึบ!

             “สรุปว่านายไม่ใช่?”

             “ไม่ใช่ครับ”

             “แล้วทำไมนายถึงได้มา...สนิท”

             “ผมอาจจะต้องเล่าอยู่มาประมาณสองวันหนึ่งคืนพี่สาวมีเวลาว่างพอฟังไหมละ?”

             “ไม่ละ บอกไว้ก่อน ว่าฉันชอบตุลย์”

             “อะหะ” ผมลากเสียงยาว ไม่อยากจะบอกเลยว่า ผมรับรู้ได้ตั้งแต่วินาทีที่เขาเจอพี่ตุลย์แล้ว หน้าตา ท่าทางไม่มีอะไรปิดบังอะไรเลยสักอย่าง เออ แต่ประเด็นจะมาบอกผมทำไมวะ ไม่เข้าใจ กลัวผมแย่ง? กลัวผมหลงรัก? หรืออะไร ยังไง? ผมเป็นผู้ชายนะเฮ้ย ไม่รู้สึกยังไงบ้างหรอ มาตั้งแง่กับผมเนี่ย “นี่ พี่สาว”

             “?”

             “งั้น...ให้ผมช่วยเอาปะคร๊าบ~” ผมยิ้มทะเล้น ไม่สนใจท่าทางที่มองผมอย่างไม่ไว้ใจ

             “จะมาช่วยฉันทำไม?”

             “ก็ผมใจดีไง” ผมผิวปากเดินเอามือประสานไว้ที่ท้ายทอยออกจากห้องที่หนึ่ง ตรงไปหาพี่ตุลย์ที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่กับตอนต้น

             “ที่หนึ่งหลับไปแล้วเรียบร้อยใช่ไหม?”

             “ใช่” ผมตอบพลางทรุดตัวไปนั่งข้างๆ พอหางตาเหลือบเห็นเจ๊พลอยไพลินเดินออกมาจากห้องก็อดไม่ได้ที่จะหันมาพิจารณาคนที่นั่งอยู่ข้างกาย ผู้ชายที่มีผู้หญิงสวยขนาดนั้นหลงรัก


             หน้าตา อื้ม ที่จริงหน้าตาดีนะ แต่เพราะไม่รู้ว่าเจ้าตัวไม่คิดจะสนใจดูแลตัวเองหรืออะไรยังไง ถึงดูหมองๆ เป็นอารมณ์แบบ เห็นแว๊บแรกแล้วไม่หันอะครับ ต้องพิจารณาอยู่สักพักถึงจะรู้ว่าเขาก็หล่อเหมือนกัน


              รูปร่าง ผ่านเลยได้ไหม เอาแบบไม่อคติเลยนะ ดีมาก สูง ขนาดผมเองก็สูงแล้วนะ แต่พี่ตุลย์สูงกว่าผมอีก (แต่ไม่กี่เซ็นหรอก) แถมพี่เขามีกล้ามเนื้อด้วย ผมเดาว่านี่น่าจะมาจากการเลี้ยงลูก ผมเคยได้ยินมาว่าเลี้ยงลูกนี่เหนือกว่าออกกำลังกายอีก


             หน้าที่การงาน...ดีไหมวะ ผมไม่รู้แหะอันนี้ แต่มีการงานทำนี่ก็น่าจะดีแล้วนะ มีบ้าน มีรถก็ถือว่าเจ๋งอยู่ละมั้ง


             นิสัย...รักลูก แต่จริงจังเกินไป ผมเล่นมุขอะไรไปนี่ถ้าถือสากก็คงเอามาตีหัวผมแบะไปแล้ว บ้างาน ตอนนี้ก็คงลดลงแล้วมั้ง แต่ผมว่าถ้าเป็นคนรักอาจไม่เวิร์กก็ได้นะ น่าจะเป็นคนแข็งๆ ไม่โรแมนติก หรือไม่ก็เป็นพวกรักแต่ไม่แสดงออก


             “จ้องหน้าฉันทำไม?”

             “พี่หล่อดี” ผมยิ้มแผ่กว้างให้กับเสี้ยวหน้าด้านข้าง สายตาดุๆ ปรายตามองผมเล็กน้อย “นี่ มีคนเข้ามาหาพี่บ้างปะ แบบเข้ามาจีบไรเงี่ย?”

             “ฉันมีลูกแล้วนะ”

             “ผมไม่ได้ถามว่าพี่มีลูกยัง ผมถามว่ามีใครมายุ่งกับพี่บ้างไหม?”

             “ก็ไม่นะ”


             ผมเลิกคิ้วชักไม่แน่ใจว่าไม่มี หรือพี่แกไม่รู้กันแน่


             “ตุลย์ ยืมครัวหน่อยนะ” เสียงหวานของเจ๊พลอยไพลินดังแทรก พี่ตุลย์ละความสนใจจากผมชะโงกหน้าไปมองในครัว

             “ลินจะทำอะไรหรอ?”

             “ทำอาหารไว้กินตอนเช้าไง เหมือนที่ฉันเคยมาทำเมื่อก่อน...ตุลย์มาช่วยกันหน่อยสิ”

             “คงไม่ได้อะลิน ตอนต้นยังไม่นอนเลยต้องอยู่ดู”

             ผมเหลือบมองพี่สาวคนสวยที่มีสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อยแต่ไอ้พี่ตุลย์คนบื้อคงไม่ได้สังเกต “พี่ก็เอาตอนต้นใส่เก้าอี้ฝึกเดินอะ เดี๋ยวผมอยู่เล่นอยู่ดูให้”

             “ไหนชอบบอกว่าไม่ถูกกับเด็ก” พี่ตุลย์เลิกคิ้วสงสัยใส่

             “ก็...เพื่อนพี่เขาไม่รู้ไม่ใช่หรอว่าของอยู่ตรงไหนบ้าง ตู้เย็นมีอะไรบ้าง พี่ไปช่วยเขาน่าจะดีกว่ามั้ง”

             “...” พี่ตุลย์มองหน้าผมเล็กน้อยเหมือนกำลังชั่งใจระหว่างทิ้งลูกไว้กับเด็กดีอย่างผม หรือจะให้เพื่อนตัวเองไปเสี่ยงกับครัวโดยลำพัง “ถ้างั้นก็ฝากไว้หน่อยแล้วกัน ฉันใส่เก้าอี้ฝึกเดินไว้นะ ลากๆ ไถๆ ก็พอ”

             “รับทราบครับ” ผมขานรับเสียงดัง พี่ตุลย์พยักหน้าหงึกๆ ให้ผมสองสามที เอาลูกคนเล็กของตัวเองใส่เก้าอี้ฝึกเดินแล้วเข็นมาให้ผม ส่วนตัวของเขาก็เดินเข้าไปในครัวอยู่กับเจ๊พลอยไพลิน


             ผมชะเง้อมองสองคนที่อยู่ในครัวเล็กน้อย เห็นว่าไปได้ด้วยดีก็หันมาหาตอนต้นที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ฝึกเดิน


             “หมู ไม่รู้ว่าพ่อตุลย์อยากได้แม่ใหม่ไหม แต่ดูเหมือนว่ามีคนอยากได้พ่อตุลย์ ไปเป็นพ่อของลูกเขานะ”

             “อา แอ๊!”

             “อะไร? ตะคอกหรอ! ไม่พอใจก็ไปเข้าฝันไปด่าพ่อตัวเองเอาแล้วกัน” ผมไถตัวจากโซฟาลงมานั่งพื้นพร้อมคว้ารีโมทลงมาด้วย


             …


             หลังจากที่นั่งดูทีวีกับเด็กอ้วนไปได้ประมาณสิบนาที เสียงพูดคุย หัวเราะคิกคักที่ดังอย่างต่อเนื่องก็ทำให้ผมต้องหันไปกำชับตอนต้นให้อยู่เฉยๆ ส่วนตัวเองก็เดินเนียนเข้ามาอยู่ในครัวข้างๆ เจ๊พลอยไพลิน เลยกลายเป็นว่าตอนนี้ในครัวหน้าเคาเตอร์มีมนุษย์วัยเจริญเติบโตเต็มที่สามคนยืนเรียงแถวหน้ากระดานกันอยู่


             ผมเคยดูละครครับ นางเอกนี่เหมือนจะเป็นโรคโปลิโอแบบเฉพาะเวลา อยู่ใกล้พระเอกทีไรเป็นต้องเซไปชน แล้วนางเอกก็เงยหน้าขึ้นก็จะเผลอสบตาปิ๊งๆ กับพระเอก อะไรแบบนั้น งานนี้เลยครับผมเลยจะเอาฉากนี้แหละเป็นฉากเปิดตัวกามเทพอย่างผม


             ว่าแล้วก็...


             “หิวน้ำจัง” ผมจงใจพูดเสียงดังให้อีกสองคนได้ยิน แสร้งทรุดตัวนั่งยองๆ ก่อนจะใช้สะโพกกระแทกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ!


             ปึง!


             “ว๊ายย!”

             “เฮ้ย!”


             โครม! ก๊อง! เพล้ง!


             ชะอุ้ย...


             ผมหัวเราะแห้งๆ ให้พี่ตุลย์ที่ล้มลงไปนอนกองกับพื้นโดยมีเจ๊พลอยไพลินนอนทับและเครื่องใช้ในจำพวกหม้อจานช้อนส้อมก็ล่วงลงมาพร้อมกันอยู่รอบๆ นี่ถ้ามีมีดอยู่แถวนั้นก็เสียบหัวพี่สาวคนสวยทะลุท้องพี่ตุลย์ไปแล้วเนี่ย


             “โอ๊ะ ตอนต้นเรียกผ่านทางโทรจิต สงสัยอยากให้ไปเล่นด้วย ถ้างั้นผมไปก่อนนะ” งานนี้โกยเลยครับ โกย จะเกลียดเด็กยังไงตอนนี้รักแล้วครับ รักก่อนเลย ฉันจะไปหาแกเดี๋ยวนี้ไอ้น้องชายสุดที่รัก!


             หมับ!


             “จะไปไหนเอส”


             ผมหันคอกึกๆ เลี้ยวมองคนที่คว้าคอเสื้อผมไว้ แต่พอเห็นหน้าของพี่ตุลย์ก็รู้สึกประหนึ่งยื่นคออยู่บนกิโยติน


             “ไปหา...ตอนต้น ทิ้งเด็กเล็กไว้คนเดียวไม่น่าจะดีเท่าไหร่นะ”

             “ไม่ต้องอะ” พี่ตุลย์ว่าเสียงเหี้ยมก่อนจะหันไปหาพี่สาวคนสวยที่มองอยู่ด้านหลัง “ลินทำต่อไปได้เลยนะ เดี๋ยวผมจะพาเอสกับตอนต้นเข้านอนก่อน”


             ไม่เป็นไรครับ ผมเข้านอนเองได้ครับ orz


             “ดะ ได้ เดี๋ยวฉันเตรียมข้าวเช้าเสร็จก็จะไปนอนกับที่หนึ่งแล้วละ”

             “โอเค ถ้างั้นเอส ปะ เราไปนอนกันเถอะ” ว่าแล้วพี่ตุลย์ก็ลากคอเสื้อผมไปหาตอนต้น อุ้มเด็กอ้วนนั่นด้วยแขนของเดียวก่อนจะลากผมพุ่งตรงไปยังห้องนอน


             ไหนบอกเข้านอน ทำไมฟิลลิ่งเหมือนจะไปตายงี้อะ TT







50%





             ผมยื่นก้มหน้าสำนักผิดอยู่หน้าห้องนอนที่หนึ่งในเวลาเช้าตรู่ เช้ามาก...ประมาณตีสี่ได้มั้ง คือเมื่อคืนพี่ตุลย์บอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุที่ค่อนข้างร้ายแรง ถ้าเกิดตอนนั้นต้มน้ำอยู่ หรือกำลังถือมีดอยู่อะไรอย่างนั้นมันอันตรายควรจะไปขอโทษเจ๊พลอยไพลินซะ ซึ่งผมก็เห็นด้วย ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะครับ ก็เลยจะมาขอโทษ แต่เมื่อคืน พี่ตุลย์ให้ผมนั่งสำนักผิด แล้วนั่งไปนั่งมาเพลิน หลับยาว ตื่นมาอีกทีตอนตีสี่เนี่ย


             อื้ม ตีสี่ โดนปลุกให้มาฟังคำขอโทษตอนนี้ผมต้องโดนตบกลับมาด้วยแน่นอน


             “เอาวะ ทำผิดก็ต้องขอโทษ”


             ผมเปิดประตูห้องนอนของที่หนึ่งอย่างถือวิสาสะ แต่แทนที่ผมจะเห็นพี่สาวคนสวยนอนหลับอยู่กับไอ้เด็กที่หนึ่งนั่น ผมกลับเห็นเจ๊แกนั่งพิมพ์โน๊ตบุ๊คๆ ต๊อกๆ มุมหนึ่งของห้องโดยที่เด็กที่หนึ่งหลับปุ๊บอยู่บนเตียงเพียงคนเดียว


             “มีอะไร?”

             “ตื่นไวจังเลยนะครับ”

             “ฉันยังไม่ได้นอนต่างหาก ยังปรับเวลากับประเทศไทยไม่ได้” ผมร้องเสียงอ๋อไปเบาๆ “แล้วมีธุระอะไร?”

             “คือ ผมจะมาขอโทษเรื่องเมื่อวาน...ในครัวครับ” ผมพูดเสียงอ่อนสำนักผิดอย่างจริงใจไม่แกล้งทำ

             “...” เจ๊พลอยไพลินไม่ตอบ แต่ลุกขึ้นเดินตรงมาหาผมที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องนอน ใบหน้าเอาเรื่องจนผมรู้สึกไม่ชอบมาพากล “เมื่อวานนายตั้งใจใช่ไหม?”

             “เฮ้ย ผมเปล่า จริงๆ ก็ตั้งใจจะชนแหละ ให้พี่สาวเซไปชนพี่ตุลย์จะได้มีโมเม้นโรแมนติกไง แต่ผมเป็นผู้ชายแรงมันเลยมากหน่อย ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำถึงขั้นล้มระเนระนาดขนาดนั้นเลยนะ”

             “นายทำ เพราะจะเรียกร้องความสนใจจากตุลย์ใช่ไหม? ถ้าไม่ใช่แล้วตุลย์จะพานายเข้านอนทำไม!”


             เดี๋ยว แล้วมันเกี่ยวอะไรวะ คือ ไอ้คุณเจ้าของบ้านทำเองปะ ผมไม่ได้บอกให้พี่ตุลย์พาผมเข้านอนเลยเถอะ แล้วที่สำคัญก็ไม่ได้พาเข้านอนด้วย พาเข้าไปอบรมชัดๆ!


             “ผมเปล่า ผมไม่ได้เรียกร้องความสนใจจากใครทั้งนั้นแหละ” ผมพูดอย่างใจเย็น ในเมื่อคนตรงหน้าของผมกำลังร้อนด้วยความคิดบ้าบอคอแตก ผมก็เลือกที่จะไม่เดือดให้ระเบิดตูมตามไปด้วย

             “ถ้างั้นฉันขอถาม ทำไมนายต้องเข้ามาครัวตอนที่ฉันกับตุลย์อยู่ด้วยกัน นายรู้นี่ว่าฉันชอบตุลย์ก็แปลว่า ฉันก็ต้องอยากอยู่กับเขาแค่สองคนอยู่แล้ว!”

             “ผมแค่อยากจะช่วยพี่สาว”

             “ฉันไม่ได้ขอให้นายช่วย!”

             “เอ้า!” ผมส่งเสียงจิ๊ปากอย่างเริ่มมีน้ำโห “ก็พี่สาวมองว่าผมเป็นเกย์ไมใช่ไง หาว่าผมนี่แมงดาไรงี้ ผมก็อุตสาห์หวังดีจะช่วย พี่สาวจะได้รู้ว่าผมไม่ได้เป็นเกย์ ไม่คิดจะมาจับพี่ตุลย์ของพี่หรอก!”

             “ถ้านายอยากช่วย วิธีที่ดีที่สุด คือ ออกไปจากที่นี่...เอาตรงๆ เลยนะ ฉันไม่ชอบที่นายสนิทกับทุกคนในบ้านนี้!”


             แล้วมันหนักหัวเจ๊ตรงไหนเนี่ยยยยย!


             “ผมว่าพี่ไร้สาระแล้ววะ เพิ่งกลับจากต่างประเทศใช่ไหม สงสัยจะแจ๊ตแล็ก เป็นเมนส์ หรืออยู่ต่างประเทศไรงี้มากไปแล้วมั้ง” ผมว่าตั้งท่าจะเดินเลี่ยงออกมา ถือว่าขอโทษแล้วหมดหน้าที่ จะได้ไปอาบน้ำเตรียมตัวไปทำงานที่เซเว่นต่อ แต่ก่อนที่ผมจะได้เดินออกมาเจ๊พลอยไพลิน (และอีกสักพักจะเลื่อนไปเป็นป้าละ) ก็จับแขนของผมให้หมุนตัวกลับมาเสียก่อน

             “เมื่อก่อนก็มีคนเข้ามายุ่งกับตุลย์ รู้ว่าเขามีลูกก็จะเข้าทางลูก ฉันเห็นมาเยอะ ทำไมฉันจะดูนายไม่ออก! นายก็แค่เอาความเป็นผู้ชายมาช่วยด้วยใช่ไหมละ ตุลย์หรือใครๆ ก็จะได้ไม่สังเกตว่าที่จริงนายมันคิดไม่ซื่อ”

             “ขอโทษนะครับ พี่สาวช่วยเลิกเพ้อได้ไหม ดูละครมากไปหรือเปล่า พี่สาวอายุจะเลขสี่แล้วหน่า มีวิจารณญาณในการรับชมละครได้แล้วมั้ง สมมุติว่าผมบริสุทธิ์ใจนะ สนิทกับพี่ตุลย์เฉยๆ ควรทำเลวกับลูกเขาหรอหรือไง ควรจะเตะโชว์พ่อมันเลยดีไหม หรือยังไง มันเป็นเรื่องปกติปะที่ก็ต้องมีมนุษย์สัมพันธ์กับลูกเจ้าของบ้านเหมือนกันอ่ะ แล้วเป็นผู้ชายนี่ยังไง คือไม่ว่าผมจะเพศอะไร ถ้าพี่สาวคิดจะหาเรื่องก็หาได้หมดแหละไม่ต้องมาอ้าง”

             “แล้วทำไมนายต้องใช้คำว่า ‘สมมุติว่า’ ด้วย!?”


             อะไรเนี่ยยยยยยย นี่ใช่ไหมที่เขาบอกว่าผู้หญิงแม่ง โคตรงี่เง่า!


             “เฮ้อ!!” ผมจงใจถอนหายใจใส่เสียงดังๆ บ่งบอกชัดเจนว่าผมเริ่มไม่โอเคกับคนตรงหน้าแล้ว “เอางี้นะ ผมจะไม่เข้าเสือกเรื่องของพวกพี่แล้ว โอเคไหม? จบปิ้ง” ผมพูดตัดปัญหา ตั้งท่าจะเดินออกจากห้องอีกครั้ง แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมง่ายๆ เสียที

             “ฉันขอบอกนายไว้ด้วยความหวังดี ผู้ชายกับผู้ชายมันเป็นไปไม่ได้ ถ้านายคิดอะไรกับตุลย์อยู่เลิกซะ ถึงนายแกล้งมาขัดฉันอีกก็ไม่ได้ผลหรอก”


             ใจเย็นไว้ นั่นผู้หญิง นั่นผู้หญิง...


             ผมเงียบไม่อยากจะตอบโต้ เพราะยังซะคนตรงหน้าผมก็คือผู้หญิง ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะทำหน้าตาเหนือผมมาก็ตามที


             ผมไม่คิดจะตีกับเธอเรื่องผู้ชายหรอกนะครับ บ้าเปล่า ผมก็ผู้ชายนะเฮ้ย! คิดได้ไงถึงมาพูดเรื่องประมาณนี้กับผู้ชายที่อยู่ในวัยจริญพันธุ์อย่างผม พูดแบบชั่วๆ เลยนะ ถ้าผมปล้ำเธอพิสูจน์ไปว่าผมชายแท้ ทุกอย่างก็จบแล้วเนี่ย สะใจด้วย ได้พวกอิโก้สูงมาเป็นเมีย


             แต่ก็นั่นแหละ ผมไม่ได้ชั่ว


             “ขอย้ำอีกที ให้รีบออกไปจากบ้านนี้ดีกว่า ที่นี่เคยเป็นที่ของฉัน ถ้ายังอยู่อาจจะเห็นภาพบาดตาบาดใจก็ได้นะ”


             ผมเดินออกจากห้องนอนของที่หนึ่ง ก่อนที่จะปิดประตูผมก็ไม่ลืมยิ้มหวานหยดย้อยให้กับผู้หญิงตรงหน้า


             ปฏิเสธยังไง ก็จะคิดว่าผมนี่เป็นเกย์ เป็นแมงดาให้ได้สินะ ได้...ได้ๆ งั้นเดี๋ยวเจอเลย คนอย่างเอสฆ่าได้หยามไม่ได้อยู่แล้ว


             “พระพุทธเจ้าเขาสอนให้อยู่กับปัจจุบันนะครับพี่สาว คนอดีตๆ อะ จบแล้วจบเลย :  ) ”










TBC
ครบ 100% อยากขอแนะนำพี่พลอยไพลินจังเลยค่ะ
อย่าไปยุ่งกับเอสเลย ขนาดแม่ของพี่ตุลย์นางก็จัดมาแล้ว 55555555
#daddybelover
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 17-50% (5/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 06-07-2015 00:20:27
นายเอสนี่รับมือยากจริงๆ
พลอยเธอหาเรื่องผิดคนหล่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 17-50% (5/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kangteuk1995 ที่ 06-07-2015 00:34:56
รักตอนต้นในตอนที่ 16 มากกว่าตอนที่แล้วๆมาอีก :man1:
ที่หนึ่งฟันดาบใส่เอสสนุกเลยสิ เอสช้ำในเเล้ว 5555  :hao7:
คุณพลอยไพลินจะมาไม้ไหนกันละ ลุ้น  :hao4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 17-50% (5/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 06-07-2015 01:21:49
โอ๊ยแต่ละนาง  ปวดหัววุ๊ย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 17-50% (5/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-07-2015 02:13:54
พังแน่ๆงานนี้
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 17-50% (5/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 06-07-2015 07:10:51
555555 สงสารยังเจ๊พลอย รู้จักเอสน้อยไปนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 17-50% (5/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 06-07-2015 07:11:58
เอสอยากให้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นแม่ของเด็กๆ จริงๆ เหรอคะเนี่ย? กับที่หนึ่งยังไม่เท่าไร แต่กับตอนต้นที่ไม่ถูกกับผู้หญิงอย่างแรงนี่น่าเป็นห่วงอยู่นะค้าา :laugh:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 17-50% (5/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 06-07-2015 07:55:01
ยังยืนยัน สงสารพี่ตุลย์


เกิดเป็นพี่ตุลย์ ผู้ชายเพอร์เฟคที่น่าสงสาร


นาทีนี้พี่ตุลย์ พี่ตุลย์คงอยากตะโกน ..พวกมึกต้องการอะไรจากผมมมมมม ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 17-50% (5/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 06-07-2015 09:49:56
เอสนี่ตัวป่วนจริงๆ

ไม่รู้คุณพ่อจะทนได้แค่ไหนน่ะสิ กลัวเตะออกจากบ้าน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 17-50% (5/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 06-07-2015 11:46:31
จะรอดไหมเอส ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 17-50% (5/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Tsumsome ที่ 06-07-2015 12:28:35
 :impress2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 17-50% (5/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 06-07-2015 13:01:58
โอ๊ย ชะนีพี่ตุลย์ไม่สนหรอก เขารอกินเด็กอยู่
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 17-50% (5/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 06-07-2015 13:19:37
อ่านๆไปรู้สึกว่าตอนต้นนี่คล้ายๆกับหนูเบล เรื่อง beelzebub เลยอ่ะ  :impress2: ไม่รู้ว่าคนเขียนเคยอ่านเรื่องนี้มั้ย  จะบอกว่าหนูเบลน่ารักมาก เวลาทำเสียง แอ๊ อ้อ ให้ความรู้สึกเหมือนกันเลย ยิ่งน้องเอสนะให้อารมณ์คล้ายกับโองะที่เป็นพ่อของหนูเบลเลย

เราชอบนะเวลาเห็นน้องเอสเถียงกันตอนต้น ดูน่ารักดี o13
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 17-50% (5/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 06-07-2015 13:21:57
ยอมใจเอสจริงๆ เดาใจไม่ถูก 5555555555555
แต่คือถ้าคบกันแล้วมีใครเข้ามาก้บอกเลยว่าสำหรับเอสนั้น สบ๊ายย 5555555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 17-100% (6/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 06-07-2015 13:31:22
เอสนี่เกรียนได้อีก

รักเธออออออ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 17-100% (6/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 06-07-2015 13:54:37
ไหนๆ เจ๊เขาก็ยัดเยียดให้เอสเป็นอะไรๆ แบบที่เขาว่ามาเสียขนาดนั้นแล้ว เอสก็สนองให้เขาเถอะค่ะ อยู่ดีไม่ว่าดีจริงๆ คนบอกว่าไม่เป็นๆ ก็ยังจะให้เป็นอยู่นั่นล่ะ งานนี้สนุกแน่ๆ เลยนะคะเจ๊พลอย~ :haun5:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 17-100% (6/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 06-07-2015 14:17:03
 :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 17-100% (6/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 06-07-2015 14:26:32
เริ่มสงสารเจ๊พลอยละ 55555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 17-100% (6/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: zoe131313 ที่ 06-07-2015 18:47:00
เอสๆๆๆๆ ชอบบบบ เกรียนได้อีก 55555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 17-100% (6/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 06-07-2015 18:56:52
น้องเอสครับ ... พี่เดาความคิดน้องไม่ทันจริงๆ นะครับเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 17-100% (6/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 06-07-2015 20:31:39
ดีมากเอสสสสสสส
เจ๊เค้าไม่ต้องการความช่วยเหลือ เราก้อไม่ต้องไปช่วย!!!! หึหึหึ
ตั้งตนเปนศัตรูจะเหมาะกว่า 555555554
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 17-100% (6/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 06-07-2015 20:56:33
จบเลยทีนี้คุณพลอยไปทำอิเด็กเกรียน
มันของขึ้นทีนี้ละอยู่ยากแล้วนะตัวเธอวว
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 17-100% (6/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 06-07-2015 21:20:09
ป้าพลอยไพลินรู้จักไอ้เอสน้อยไปซะแล้ว 555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 17-100% (6/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 06-07-2015 22:21:03
เอาเลยๆๆๆๆ เอาให้รักกันจริงเลยนะเอสสาธุ๊!!

ป้า... ชื่ออะไรนะ ไม่ได้จำ ฮ่าๆๆ กลับบ้านเก่าไปเลยป้า อดีตก็คืออดีตสิเอ้อออ ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 17-100% (6/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 07-07-2015 22:21:25
น้องเอสเอาแล้วไง

เจ๊เตรียมตัวไว้เลย 555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 17-100% (6/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 08-07-2015 01:14:24
เอสจัดนางจนวิ่งกลับไม่ทันแหงๆ 5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 18 (8/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 08-07-2015 23:53:16
ตอนที่ 18







             “Come back home~” ผมพูดพร้อมกับเปิดประตูห้องพัก เดินผ่านเจ๊พลอยไพลินที่กำลังนั่งตัดเล็บให้ที่หนึ่งไปหาพี่ตุลย์เจ้าของห้อง แอบใช้ตูดเขี่ยจึ๊กๆ ให้พี่สาวคนสวยหลีกทางแล้วทรุดตัวนั่งลงตรงกลางแบบไม่ได้ต้องรับเชิญ


             คนอย่างเอสครับ วิถีคนจริง มีแถม ว่าแล้วก็ตวัดแขนโอบรอบคออีกฝ่าย ก่อนจะใช้หัวไถเป็นลูกแมวหนึ่งที


             “ขนลุก” พี่ตุลย์ว่าเสียงไม่ไว้ใจพร้อมผลักหัวผมให้ออกห่าง แต่ผมก็ซัดสกิลหลบหลีก ไปทางซ้าย ไปทางขวา อาศัยช่องว่างเข้าชาต! ไถหัวเป็นลูกแมวตามเดิม


ว่าแล้วก็ขอแอบชำเลืองพี่สาวคนสวยแป๊บ...


             ใบหน้าสวยที่ผมชอบหงิกงอด้วยความไม่พอใจอย่างชัดเจน แต่ถึงอย่างนั้นในใจก็ยิ้มกระย่องอย่างชอบอกชอบใจ ก็รู้อยู่ว่าทำแบบนี้กับผู้หญิงโคตรจะไม่แมน แต่ช่วยไม่ได้จริงๆ ครับ ก็เห็นอยากให้ผมเป็นเกย์ แย่งผู้ชายด้วยนัก ก็จัดให้กันไป~


             เสียดายจัง ถ้ามือถือผมเล่นไลน์ได้นะ อยากอัดเสียงส่งไปว่า ไหล่พี่ตุลย์ฟิลลิ่งกู๊ดมากอะพี่สาว


             “พี่ตุลย์ หิวข้าวจังเลย...” ผมพูดเสียงอ่อย ทำตัวเลื้อยแบบหมดเรี่ยวแรง จนพี่ตุลย์ต้องหิ้วคอเสื้อผมขึ้นมาประหนึ่งเป็นทิชชู่ใช้แล้ว

             “ครัวปิดแล้ว มาร้องกินอะไรตอนสี่ทุ่ม”

             “ก็ผมทำงานเลิกเวลานี้ทุกวัน เลื่อนเวลาปิดครัวไปเป็นตอนห้าทุ่มได้ไหมละ!” ผมร้องเฮ้วเสียงดัง ดึงคอเสื้อตัวเองออกจากมือของพี่ตุลย์ ก่อนจะตวัดแขนโอบกอดรอบคออีกครั้ง

              “มานัวฉันทำไมเนี่ย?”


             อยากให้เพื่อนพี่อกแตกตายที่เห็นภาพบาดตาบาดใจไง


             นี่ถ้าไม่ติดว่าผมไม่ได้เป็นเกย์นะ ไซร้ไปแล้ว หึหึ!


             “ทำอะไรให้กินหน่อย นะๆ ถ้าไม่ทำผมจะขี่หลังพี่เป็นชัตเตอร์จนตาย ไปทำงานก็จะไปด้วย ตอนอาบน้ำก็จะอาบด้วย” ไม่พูดเปล่า ผมลุกขึ้นยืนบนโซฟาปีนป่ายขี่หลังพี่ตุลย์ที่ยังนั่งดูทีวีต่อไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นไปทำอาหารตามคำเรียกร้องของเด็กหล่อตาดำๆ สักนิด

             “ตอนนอนก็จะไม่ออก?”

             “ไม่ออก”

             “อยากทำอะไรก็ทำ ยังไงคนที่โดนนอนทับก็นายไม่ใช่ฉันอยู่แล้ว” พี่ตุลย์ว่า หันไปอุ้มตอนต้นที่กำลังเล่นของเล่นอยู่ข้างๆ ขึ้นมาบนตัก

             “พูดอย่างเนี่ย แปลว่าพี่จะนอนทับผมใช่ปะ?” ผมเลิกคิ้วเอี้ยวตัวมองอีกฝ่าย แต่ทันทีที่ผมพูดจบ ใบหน้าของพี่ตุลย์ก็พลั่นเปลี่ยนเป็นแดงแปร๊ด จนผมต้องขมวดคิ้วด้วยความมึนงง แต่ไม่นานก็นึกบางอย่างออกเลยเปลี่ยนมายิ้มแบบมีเลศนัยแทน ผมเหลือบมองพี่สาวคนสวยที่ยังนั่งตัดเล็บให้ที่หนึ่งอยู่เล็กน้อย ก่อนจะจงใจพูดเสียงดัง “ถ้าพี่ปล่อยให้ผมหิวแบบนี้ คืนนี้ก็ไม่ต้องหลับ ไม่ต้องนอนหรอกครับ เพราะผมจะกวนพี่ทั้งคืนเลยน๊าาา”

             พี่ตุลย์หันมามองผมด้วยใบหน้าที่ยังขึ้นสีจางๆ “ลงไป เดี๋ยวจะไปทำอะไรให้กิน”

             “รับทราบ!” ผมผละตัวมานั่งบนโซฟาดีๆ ก่อนที่พี่ตุลย์จะเดินเข้าไปในครัวผมก็คว้าข้อมือของอีกฝ่ายเอาไว้เสียก่อน “นี่ๆ คิดไรอยู่หรอ ทำไมต้องหน้าแดงด้วยอะครับ~”

             “พูดอะไร?”


             แหนะ มีขมวดคิ้วให้ก่อนไปในครัวด้วยนะ


             ผมหัวเราะเสียงดังลั่น ก่อนจะหันมองเจ๊พลอยไพลินเมื่อมีความรู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังจ้องอยู่ไม่วางตา 


             “พี่ตุลย์น่ารักใช่ไหมละครับ?”

             “...” อีกฝ่ายไม่ตอบ มีเพียงสายตาแข็งกร้าวที่จ้องมองตรงมาอย่างไม่เป็นมิตรและไม่คิดจะหลบหลีกไปแต่อย่างใด


             ถ้าจะมองขนาดนี้เข้ามาตบผมเลยก็ได้นะจริงๆ แล้ว


             “ตุลย์ เดี๋ยวฉันช่วยนะ” เจ๊พลอยไพลินละสายตาจากผม ตะโกนบอกกับคนที่อยู่ในครัว แต่ก่อนที่เธอจะลุกออกไป ผมก็ยื่นแขนไปกันทางเอาไว้ก่อน


             เธอหันมา


             ผมยิ้ม


             “ตัดเล็บให้ที่หนึ่งอยู่ก็ทำให้เสร็จก่อนสิครับ เดี๋ยวผมจะไปช่วยพี่ตุลย์เอง” ว่าแล้วผมก็ลุกไป หันมายักคิ้วหลิ่วตาให้เล็กน้อย


             ทีมเหย้า เอส 1-0 ครับผม~


             นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมทำแบบนี้หรอกครับ แล้วผมก็ไม่ได้เริ่มด้วยจะบอก คือหลังจากวันนั้นที่ผมตั้งใจมั่นเหมาะแล้วว่า เอ๊อออ เดี๋ยวจะเป็น เกย์เฉพาะการแย่งผู้ชายให้ป้านี่อกแตกตายไปเลย แต่ผมก็ไม่ได้ทำจริงๆ นะครับ ไม่ใช่ไม่กล้านะ แต่รู้สึกแบบ...ผมก็ผู้ชายอะ ทำไม่ลง แต่หลังจากวันนั้นครับ เวลาเจ๊พลอยไพลินได้ใกล้ชิด หรือมีโมเม้นกุ๊งกิ๊งจะชอบหันมาทำหน้าเหนือใส่ผมเว๊ย! ผมมันเอสลูกผู้ชายพันธุ์ข้าวเหนียว ฆ่าได้หยามไม่ได้ ผมก็ทำบ้างสิคร๊าบบบบ แล้วผมทำมาเกือบอาทิตย์ละ ไม่อยากอวดว่าถ้ามีกรรมการคอยให้คะแนนนะ ป่านนี้ผมกินขาดอะ


             คนอย่างเอสไม่ใช่ขี้ๆ อยู่แล้วครับ อิอิ


             “น่าเกลียดชะมัด” ผมเลื่อนสายตามองคนที่ยืนพิงโต๊ะกินข้าวอยู่ข้างหลัง แต่มือก็ยังไม่ละจากงานล้างจานตรงหน้า


             นี่ ถ้ามาพูดกับผมแบบนี้ได้ แปลว่าพี่ตุลย์กำลังพาตอนต้นเข้านอนอยู่สินะ


             “น่าเกลียดอะไรครับ อยากจะบอกว่าหล่อไม่ศัลยกรรม มีคนถามจีบตั้งแต่อายุสองขวบเลยนะ~”

             “ก็รู้อยู่ว่าฉันกำลังพูดถึงเรื่องอะไร”

             “เฮ้อ พี่สาว ถามจริง? ไม่เบื่อหรอ ว่านั่งแขวะ นอนแขวะ ยืนแขวะผมอยู่นั่น”

             “...”

             “คือพี่สาวต้องการอะไรจากผมครับบ พูดมาตรงๆ เลย ผมวิถีคนจริงพูดตรงๆ ได้นะครับ”

             “ก็บอกแล้วไง ว่าให้เลิกยุ่งกับครอบครัวนี้ซะ!”

             “ขอเหตุผลดีๆ สักข้อแล้วจะไปเลย ถ้าเหตุผลมีแค่ ‘ฉันไม่ชอบ’ ก็ไม่ต้องพูดเลยนะ บังเอิญผมไม่ใช่คนจำพวกทำทุกอย่างเพื่อให้คนทั้งโลกชอบหรอกน่ะครับ”

             “ถ้านายไม่ไปจากชีวิตของตุลย์ซะ ฉันกับนายก็จะอยู่กันแบบนี้แหละ จนกว่าไม่นายก็ฉันจะได้เขาไป”


             นี่เห็นไอ้พี่ตุลย์เป็นเกมปาเป้าไงวะ?


             ผมปิดก๊อกน้ำที่เปิดไว้ล้างน้ำยาล้างจานเมื่อครู่ ก่อนจะหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้าพี่สาวคนสวยที่ยังอยู่ในชุดทำงาน


             พี่ตุลย์เล่าให้ผมฟังว่าพี่สาวคนสวยเนี่ยกลับมาทำงานที่สำนักพิมพ์ที่สาขาไทยตามเดิมแล้ว ก็เลยติดรถแวะมาบ้านพี่ตุลย์ด้วยทุกวันเลย คิดดูดิครับ ผู้หญิงรูปร่างเอสไลน์ (ไม่เกี่ยว) แวะมาบ้านผู้ชายทุกวัน แถมกว่าจะกลับก็ดึกดื่น ห้าทุ่มงี้ เที่ยงคืนงี้


             ถ้าเป็นลูกสาวผมนะ จะจับขังห้องใต้ดิน ไม่มีห้องใต้ดิน ก็นั่งขุดหลุมแล้วโยนลูกสาวลงไป งานนี้มันต้องขัง!


             “ผมว่านะ จะมาเล่นแง่กับผมแบบเนี่ย พี่ไม่ชนะผมหรอกครับ อย่าลืมสิ ผมอยู่บ้านเดียวกับเขาน๊า” ไม่ได้ตั้งใจทำเสียงกวนประสาทนะ แต่สงสัยจะมาจากอินเนอร์

             “เจอหน้ากันกี่โมง เหอะ ทำงานเช้า กลับบ้านดึก เจอกันสองชั่วโมงก็นอนแล้วมั้ง ดีไม่ดี ฉันที่เจอกันที่ทำงานยังได้เจอเยอะกว่านายอีก”

             “...” ผมเลือกที่จะไม่ตอบโต้ใดๆ ทั้งสิ้น


             แม่งเอ๊ย ตั้งแต่มารู้จักพี่สาวคนสวยหุ่นเอสไลน์ หน้าอกขนาด 36 แต่ใส่ฟองน้ำโกงไป 2 เบอร์ ผมนี่อยากเกิดเป็นผู้หญิงเลย อยากจะถามเขาว่า ตบไหม จะได้จบ แต่นั่นแหละเลือกเกิดมามีไอ้จ้อนแล้วไง เลยทำได้แค่ปล่อยเขาด่าต่อไป


             “ลิน จะกลับบ้านหรือยัง?” เสียงทุ้มของเจ้าของบ้านดังขึ้น ทั้งผมและพี่สาวคนสวยหันไปตามเสียงนั้นก่อนที่เจ๊พลอยไพลินจะเดินเข้าไปหาพี่ตุลย์

             “กลับเลยก็ได้ ดึกมากแล้ว ตุลย์กับลูกๆ จะได้พักผ่อน”

             “โอเค” พี่ตุลย์พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะหันมาทางผม “งั้นฉันไปส่งลินก่อนนะ”

             “ต้องขออนุญาตผมด้วยหรอ~? รีบไปรีบกลับนะ อย่านอกใจด้วย” ผมแกล้งส่งจุ๊บ ทำมือเลิฟเลิฟให้พี่ตุลย์ไปอีกสองที จนเห็นคิ้วเข้มที่ขมวดเข้าหากันเป็นปมผมถึงค่อยหัวเราะออกมาแล้วโบกมือไล่

             “งั้นฉันไปก่อนนะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้เอส” รอยยิ้มหวานส่งมาให้ผม ผมก็ยิ้มตอบกลับไป


             หลังจากที่คนทั้งสองหายออกไปจากห้องแล้ว ก็จัดการในครัวอีกนิดหน่อย เช็คไอ้เด็กที่หนึ่งกับเด็กอ้วนตอนต้นอีกเล็กน้อย ก่อนจะมานั่งเอนกลายสบายๆ อยู่หน้าทีวี ละลายความเหนื่อยล้า


             เฮ้อ เจ๊พลอยไพลิน เป็นผู้หญิงที่ทำให้ผมปวดหัวรองจากครูห้องปกครองเลยจริงๆ












             “ช่วงนี้เป็นไร?”

             “หื้ม?” ผมละสายตาจากโน๊ตบุ๊คเงยหน้ามองคนที่นอนอยู่บนเตียง “พี่หมายถึงอะไรอะ?”

             “อย่าคิดว่าไม่รู้นะ หลายวันมาเนี่ย นายทำตัวแปลกๆ มาเกาะ มาจอแจด้วย แถมยังพูดอะไรแปลกๆ ทั้งๆ ที่ปกติก็ไม่ทำ”

             “แปลกอะไร? ก็ปกติของผมเนี่ยแหละ”


             พี่ตุลย์พลิกตัวมาอยู่ริมเตียง จ้องมองตรงมาที่ผมอย่างกดดันและคาดคั้นจนผมเผลอยุกยิกทำตัวไม่ถูก นี่สาบานว่าทำงานอยู่ฝ่ายขาย ไม่ใช่ตำรวจ?


             “เมื่อก่อนนายเคยกอดฉันซะทีไหน แถมยังพูดจาสองแง่สองง่ามบ่อยแปลกๆ”


             ผมหันไปให้ความสนใจโน๊ตบุ๊คที่ยืมมาจากเจ้าของห้องเป็นการซื้อเวลาที่จะคิดคำตอบ คือผมไม่คิดว่าจะเจอคำถามแบบขวานผ่าหัวแบบนี้อะ อารมณ์แบบเหมือนกำลังจีบหญิง แล้วหญิงก็เดินมาถามว่า เฮ้ย ชอบเราหรอ? อะไรแบบนั้นเลย ใครแม่งถามโต่งๆ แบบนี้บ้างครับ แต่ผมลืมไปเองแหละ ว่านี่มันคุณพี่ตุลย์!


             “ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษนะ ก็สนิทขึ้นไง ผมชอบสกินชิพน่ะพี่ กับเพื่อนก็ทำเป็นเรื่องปกติ”

             “อ๋อ แล้วเรื่องพูดนี่ก็ปกติ?”

             “ปกติ ไม่มีอะไรเลย” ผมว่าด้วยเสียงที่คิดว่านิ่งที่สุด

             “ฉันเคยอ่านเจอนะ เขาบอกว่าคนที่กำลังโกหก มือจะขยับไม่หยุดเลย แล้วเนี่ย นายเลื่อนทัชแพ็ดที่โน๊ตบุ๊คจนไฟจะลุกแล้วน่ะ”

             “อ๊ากกกกกกกกกก!” ผมร้องลั่นก้มหน้าซุกลงกับหมอนที่เอามารองคางไว้ “พี่ต้องการอะไรจากผมมมมม”

             “ต้องการความจริง”

             “...” ผมหันหน้าสบตากับไอ้พี่ตุลย์ที่ยังจ้องมองผมอยู่ กรอกตาไปมาอย่างเซ็งๆ กับหัวข้อบทสนทนา จะให้ผมตอบไรวะ ความจริงมันเป็นสิ่งที่ควรพูดไหมละ? กำลังกวนประสาทเพื่อนพี่อยู่ครับเงี่ยหรอ “เอางี้ไหม? ถ้าพี่เล่าเรื่องของพี่พลอยไพลินให้ผมฟัง ผมจะตอบความจริงก็ได้”

             “เรื่องของลิน?”

             “ใช่”

             “เอาเรื่องอะไรละ ฉันก็ไม่รู้เรื่องครอบครัว ประวัติครอบครัว หรือประวัติการเรียนมากหรอกนะ รู้จักกันตอนทำงานแล้ว แถมอยู่คนละแผนก อาจจะรู้เรื่องลินไม่มากเท่าที่นายอยากรู้

             “ผมไม่อยากรู้เรื่องชีวประวัติเขาครับ ผมอยากรู้เรื่องของพี่พลอยไพลิน...กับพี่”

             “เรื่องของลินกับฉัน?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างสงสัย เขาจ้องมองผมนิ่งเล็กน้อยแล้วผมเองก็จ้องเขาไม่วางตาเช่นกัน “...อยากรู้อะไรตรงไหนละ?”


             ผมยิ้มเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายตั้งท่าจะเล่า ลุกขึ้นมานั่งดีๆ พร้อมกับหยิบตุ๊กตาอุลต้ราแมนที่ไปจิ๊กมาจากห้องของที่หนึ่งมากอดไว้


             “อยากรู้ว่าเขามาเกี่ยวข้องกับพี่อะไรยังไงประมาณนั้นอะ”

             “ก็...ฉันกับลินเจอกันที่ทำงาน ประมาณสองปีกว่าๆ ได้แล้ว ฉันทำงานฝ่ายขายส่วนลินทำงานฝ่ายประชาสัมพันธ์อย่างที่เคยบอก เราก็เลยต้องมีเรื่องประสานงานกันบ่อย พูดง่ายคือๆ เกี่ยวข้องเรื่องงานเยอะ แต่ไปๆ มาๆ รู้ตัวอีกทีก็สนิทแล้ว ก็...สนิทระดับนึง”

             “ไม่ระดับนึงแล้วมั้ง มาบ้านทุกวันขนาดนี้”

             “เอาเป็นว่าก็สนิทอยู่ แล้วเขาก็รู้ว่าฉันมีลูก ตอนนั้นมีที่หนึ่งคนเดียว ฉันเคยระบายเรื่องลูกให้ฟัง ฉันกับที่หนึ่งมักจะมีปัญหากันอยู่เรื่อยๆ เพราะฉันต้องทำงานด้วยเรียกลูกด้วย ลินเขาก็เลยบอกว่า เขาเคยเลี้ยงหลานของเขามาก่อน จะมาช่วย หลังจากวันนั้นฉันกับลินก็เลยจะกลับบ้านพร้อมกัน มาที่ห้องของฉันช่วยดูแลที่หนึ่งประมาณนี้

             “อื้มมม” ผมร้องเออออ ไม่นึกแปลกใจเลยว่าทำไมที่หนึ่งติดเจ๊พลอยไพลินขนาดนั้น เดี๋ยวนี้ที่หนึ่งไม่ค่อยมาเรียกผมไปเล่นด้วยแล้วนะครับ ไม่ค่อยมากวน ไม่ค่อยมาหาเรื่องอะไร “แปลว่าตลอดสองปีเขาก็มาห้องพี่ทุกวันเลยหรอ?”

             “ใช่ มาอยู่ประมาณปีกว่าๆ แล้วเขาก็ย้ายไปทำงานที่ต่างประเทศปีหนึ่งแล้วเนี่ยก็เพิ่งกลับมา”


             ผมเหมือนเริ่มเห็นอะไรลางๆ แล้วแหละ เพราะนี่หรือเปล่าที่ทำให้เขาตั้งแง่กับผม แบบ เขาเห็นผมมาทับที่เขาอะไรแบบนั้น แต่เขามองเห็นผมเป็นวิญญาณเจ้าบ้านเจ้าเรือนไม่ได้หรอไงวะ? ก่อนหน้าที่ผมกับเขาจะมาทำสงครามเย็นกันเนี่ย ผมกับพี่ตุลย์โคตรจะทำตัวแบบไม่มีซัมติงอะไรเลยนะครับ! เจ๊พลอยไพลินระแวงไปเองอะ ระแวงหนักด้วยนะ ระแวงแม้กระทั้งผู้ชาย


             “พี่ ผมถามอะไรหน่อยดิ”

             “อะไร?”

             “พี่กับเขาแบบว่า...เป็น...” ผมชูนิ้วก้อยขึ้น แฝงความนัย

             “ไม่ได้เป็น เขาเป็นเพื่อน แค่เพื่อนเฉยๆ จริง เพื่อนที่ทำงานแล้วก็มาช่วยเลี้ยงที่หนึ่งก็แค่นั้น”

             “พี่ไม่หวั่นไหวเลยหรอ มาบ้านพี่ทุกวัน มาเล่นกับลูก มาช่วยเลี้ยงลูก เป็นโมเม้นโคตรโรแมนติกเลยนะพี่ เหมือนซีรี่เกาหลีเรื่องนึงเพื่อนผมมันเคยเปิดให้ดูตอนม.ปลาย แต่จำไม่ได้เรื่องอะไร”

             “เพ้ออะไร มันไม่มีอะไรทั้งนั้น ไม่รู้ดิ ก็ฉันไม่รู้สึกอะไรนะ ไม่แม้แต่จะคิดว่าจะมาเปลี่ยนสถานะอะไรด้วยซ้ำ”


             ผมพยักหน้าหงึกๆ ลูบคางตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบสมุดที่เคยเขียนๆ วาดๆ เรื่องครอบครัวของไอ้พี่ตุลย์ไว้


             เอออออ ผมเป็นคนจริงจังครับ ทำอะไรทำจริง แม้เป็นเรื่องเสือกผมก็จริงจัง อิอิ


             “พี่ ถามอะไรหน่อยดิ”

             “นายถามหลายอย่างแล้ว เมื่อไหร่จะตอบคำถามฉันบ้าง”

             “เนี่ย ตอบคำถามนี้ก่อน แล้วจะตอบคำถามพี่ให้”

             “...” พี่ตุลย์หรี่ตามองผมอย่างพิจารณา “ว่ามา จะถามอะไร”

             “ตอนต้นนี่โผล่มาจากไหนพี่?”

             “ช่องคลอดแม่ตอนต้นไง”

             “รู้ครับ เรียนหนังสือมาเหมือนกัน หมายถึง คือ ตอนที่ไม่มีที่หนึ่ง พี่ก็เป็นซิงเกิ้ลแด๊ดแล้วใช่ไหม?” ผมก้มหน้า ยกมือขึ้นเกาแก้มเล็กน้อย รู้สึกลังเลไม่รู้ควรจะถามเรื่องที่มันเจาะลึกขนาดนี้ไหม “คือถ้าพี่เป็นซิงเกิ้ลแด๊ดตั้งแต่ตอนที่ยังไม่มีตอนต้น ถ้างั้น...ไอ้เด็กอ้วนนี่ลูกใคร?”

             “ง่ายๆ คือนายจะถามว่า ตอนต้นกับที่หนึ่งแม่เดียวกันหรือเปล่าใช่ไหม?”

             “จะบอกอย่างนั้นก็ได้”

             “...” พี่ตุลย์เงียบไม่ตอบ ผมเองก็ไม่ค้านคั้นแต่สายตาที่จ้องออกไปก็สื่อชัดเจนแล้วว่า ผมกำลังรอคำตอบอยู่


             เอาวะ เสือกจนเขียนลงสมุดขนาดนี้ มันต้องให้สุด!


             “พี่ตุลย์...ว่าไง?”

             “แม่เดียวกัน”

             “หาาา? ถ้างั้น เดี๋ยว ผมงง เด็กพวกนั้นห่างกันหลายปีมากเลยนะพี่ แม่เดียวกันได้ไง? ยังไง เล่าให้ฟังหน่อย”

             “ก็แค่...ถ่านไฟเก่า” พูดจบพี่ตุลย์ก็พลิกตัวหันหลังให้ผมเป็นการจบบนสนทนา...


             แต่ผมไม่จบ! เดี๋ยวดิ นี่มันโคตรค้างอะ!


             “เฮ้ย มาเล่าให้ผมฟังก่อนดิ” ผมลุกขึ้นยืน ปีนขึ้นไปบนเตียงของอีกฝ่าย พยายามเอี้ยวตัวมองหน้าแต่พี่ตุลย์ก็พลิกตัวไปมาหลบหลีกผมตลอด พอยิ่งเห็นว่าอีกฝ่ายอยากปิดบัง ความรู้อยาเห็นของผมก็ยิ่งแสดงตัวออกมาชัดมากขึ้น รู้ตัวอีกทีผมก็คร่อมอยู่บนตัวของคนที่นอนอยู่บนเตียงเสียแล้ว “พี่ไม่อยากรู้แล้วหรอ ว่าทำไมช่วงนี้ผมทำตัวแปลก?”


             พี่ตุลย์เงยหน้าขึ้นมามองผม มุมที่เราสองคนเป็นอยู่ ไม่ใช่มุมที่ดีสำหรับผู้ชายสองคนเท่าไหร่ แต่ความสนใจในเรื่องแม่ของตอนต้นทำให้ผมลืมตระหนักไปเสียสนิท


             “ทำไมฉันต้องเล่าให้นายฟังด้วย?”

             “เพราะผมอยากรู้ เหตุผลง่ายๆ แบบนี้แหละ!” ผมเริ่มพูดเสียงดัง

             “ฉันว่าที่ตอบไปก่อนหน้านี้ก็ชัดมากแล้วนะ” พี่ตุลย์ตอบน้ำเสียงห้วนชัดถึงความไม่ค่อยพอใจ แต่ผมก็ไม่สน ต่อให้คิ้วนั่นขมวดจนกองกันอยู่กลางหน้าผากผมก็ไม่สน ผมจำได้ว่าผมเคยถามเรื่องนี้ตอนที่เราไปห้างด้วยกัน แต่ไอ้พี่ตุลย์ก็เลี่ยง ทั้งๆ ที่เรื่องครอบครัวผม ผมยังบอกเขาเลยแท้ๆ เรื่องครอบครัวของผม กับเรื่องความหลังของเขามันก็เป็นเรื่องที่ไม่อยากเล่าพอกันนั่นแหละ แต่ผมก็เล่าเพราะผมคิดว่าเรารู้จักกันดีมากพอ อย่างน้อยผมก็คิดว่าเราไว้ใจกันได้


             หรือมีแค่ผมคนเดียวที่คิดว่าเรารู้จักกันดีมากพอแล้ว


             แม่งเอ๊ย มาพูดแบบนี้เหมือนผมหาข้ออ้างมาเพื่ออยากรู้เรื่องของชาวบ้านเลยว่ะ แต่มันเป็นความจริง เบื้องหลังที่ว่าทำไมผมต้องจดเรื่องครอบครัวของพี่ตุลย์ ทำไมผมต้องอยากรู้เรื่องราวของเขามากมายขนาดนี้


             ลึกๆ แล้วเพราะก็แค่อยากรู้จักเขาบ้าง อย่างน้อยก็เท่าที่เขารู้จักผม


             “ก่อนหน้านี้พี่เคยบอกว่า พี่จะยิ้มจะหัวเราะให้กับแฟนนี่ใช่ไหม? ถ้างั้นนี่ก็ด้วยปะ ต้องเป็น ‘แฟน’ เท่านั้นใช่ไหมถึงพี่จะเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง”

             “ก็คงประมาณนั้น”

             “ถ้างั้น พี่ก็ให้ผมเป็นแฟนพี่สิ”







TBC
โหมดไอ้เอสซีเรียสมันก็มีนะเว๊ยยย ขอโทษฮือออ ที่มาอัพช้า บอกว่าจะมาอัพเมื่อวานแล้วก็ผิดสัญญา
ไถ่โทษยังไงดีความผิดนี้ orz
*ชูนิ้วก้อย มีความหมายประมาณว่า แฟน กิ๊ก เป็นต้น
#daddybelover




สปอย

" คนเรามันต้องมีบางเรื่องที่ไม่อยากเล่า "
.
.
" เฮ้ยๆ พี่สาว รู้ว่าอยากได้พี่ตุลย์มาก แต่ต้องทำขนาดนี้เลยหรอ? "
.
.
" ลองสลับกัน ลองมาเป็นฉันดูไหม? "
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 18 (8/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 09-07-2015 00:01:49
นางทำอะไรน้า แต่ที่แน่ๆเราว่าถ้านางไม่เริ่มเรื่องก็ไม่บานปลายอะ 5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 18 (8/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 09-07-2015 00:04:32
ขอกันง่ายๆเลยนะจ๊ะน้องเอส
 :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 18 (8/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 09-07-2015 00:04:51
อาเร๊ะ!? ไอ้เอสสสส อย่าทำเป็นพูดเล่นนะเว้ยย ฉันรอวันแกกับพี่ตุลย์รักกันอยู่ งื้อออ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 18 (8/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 09-07-2015 02:17:57
คืออารัยเอส เนียนรุกพี่ตุลย์น่ะย่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 18 (8/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 09-07-2015 07:14:49
ผญ.นิก็แปลก ผช.เขาก็ชัดเจนว่าเพื่อนๆ จะเอาอะไรมากมายวะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 18 (8/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 09-07-2015 08:02:37
เอสขอเป็นแฟนพี่ตุลย์ง่ายๆ เลยน้าา แต่ท่าทางพี่ตุลย์จะไม่เคลิ้มตามล่ะสิเนี่ย~ :laugh:

คราวหน้าเอสจะถูกเจ๊พลอยรังแกเอาไหมคะเนี่ย? ..
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 18 (8/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 09-07-2015 08:24:12
น้องเอสสู้ๆ นะ ^^
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 18 (8/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 09-07-2015 08:43:19
เอสบอกไปสิ ระหว่างให้ผมกิน กับ โดนคุณลินกิน พี่จะเลือกใคร~  :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 18 (8/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 09-07-2015 08:44:57
เอ๊ยยยยยย เอสค่ะ
นี่สาบานมานะ ว่าไม่ได้คิดอะไรกะพี่ตุลย์จิงๆอ่ะ
ไม่คิดไรยังทำขนาดนี้ ถ้าคิด(รู้ตัวว่าคิดจิงจังนานแร้น)ไม่รุกไปปล้ำเค้าเรยหรอเอ๊สสสสส!!!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 18 (8/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 09-07-2015 09:16:22
เกิดเป็นเอสนี่ก็ช่างลำบากจริงๆเลย
ไหนจะไฝ้วกับเจ้แกเอยอิพี่ตุลย์เอย
ไหนจะกับเด็กๆอีกช่างน่าสงสารจริงๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 18 (8/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 09-07-2015 10:37:48
เอสคนจริง 555555
อยากรู้เรื่องพี่ตุลเลยขอพี่ตุลเป็นแฟนเฉยเลย
เล่นงี้เลยนะเอส ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 18 (8/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 09-07-2015 10:45:08
โว๊ะๆๆๆๆๆ  ไอ้เอสเจ๋งเว๊ย






อาศัยจังหวะช่วงพี่ตุลย์ กำลังงงๆ






ขอเป็นแฟนพี่ตุลย์ สุดยอด






ชอบๆๆๆๆๆ ได้ใจไปเลยไอ้เอสเอ๊ย






เจ้ลิน จะว่างัยละเจอโหมดไอ้เอสอ้อนป๋าาาา ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 18 (8/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 09-07-2015 10:58:00
ชูป้ายไฟทีมเอส!

นุ้งเอสเหนือกว่ายัยป้าเห็น ๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 18 (8/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-07-2015 11:28:09
ระดับการเสือกไม่ธรรมดาเลยนะเอส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 18 (8/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 09-07-2015 12:25:44
เอสนี่แกอยากรู้ขนาดยอมขอพี่ตุลย์เป็นแฟนเลยหรอ สุดยอดคนเลย แต่ถ้ารูแล้วบอกต่อด้วยนะ อยากรู้เหมือนกัน 555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 18 (8/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 09-07-2015 12:28:15
ตอนหน้าท่าจะมันแหะ
ทัังสองคนจะมีความรู้สึดดีๆให้กันรึยังน้า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 18 (8/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 09-07-2015 13:55:37
ของ่ายๆงี้เลยหรอ เอส :ruready
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 18 (8/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 09-07-2015 19:34:46
เอสของ่ายๆแบบนี้เลยหรอ แอบคิดไรปะนี่ ฟินๆ 5555+


รอตอนหน้าๆ โอ้ย ตื่นเต้นๆ พี่ตุลย์จะตอบไงนะ 555+
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 18 (8/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aoraor ที่ 09-07-2015 21:57:13
หรือเพราะว่า น้องตอนต้นมาจาก ถ่านไฟเก่าที่เป็นเวลาเดียวกับนางลินที่โผล่เข้ามามีบทบาทในชีวิตเอส (งงจัง555)

นางก็เลยไม่ชอบน้องตอนต้น ดูจากตอนที่กลับมาอีกครั้งตอนแรก แล้วน้องร้องแสดงว่าต้องทำร้ายน้องแน่ๆ!!! :z13:

อยากให้เอสได้เห็นร่างจริงนางจัง ชิชะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 18 (8/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 09-07-2015 22:53:10
น้องเอสสแรงงงง 55555

พี่ตุลย์ใช่ย่อยนะ 5555555555555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 18.5 (9/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 09-07-2015 23:11:42
ตอนที่ 18.5





            “นี่สินะ เหตุผลที่ช่วงนี้ทำตัวแปลกๆ หลงรักฉันงั้นสิ?”

            “เฮ้ย! บ้าหรอ ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย!” ผมเด้งตัวผึ่งขั้นมาอย่างรวดเร็วจนเกือบจะหงายหลัง แต่รู้สึกถึงสัมผัสแข็งแรงอยู่ที่เอว... “แย๊กกกก! มาจับเอวผมทำไมมม”


            เพี๊ยะ!


            “ตีมือฉันทำไม! นี่ช่วยจับไว้ จะได้ไม่ร่วงจากเตียง!” ไอ้พี่ตุลย์ดุผมเสียงดัง ขยับตัวเล็กน้อยจนกลายเป็นนั่งพิงหลังไปกับหัวเตียงแทน ส่วนมือที่จับเอวผมไว้ก็ไม่ยอมปล่อย


            เยททททททท ผมมาถึงจุดๆ นี้ได้ไง จุดที่มาอยู่ในท่าล่อแหลมกับผู้ชายยยยยยยยยยย


            “ปล่อยผมเลย” ผมว่าพลางปัดมือพี่ตุลย์ออก ก่อนจะปีนลงจากเตียงมาอยู่บนผ้านวมที่ปูไว้บนพื้นตามเดิม “ช่างเถอะ พี่ไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร ไม่อยากรู้แล้ว”

            “เมื่อกี้ยังอยากรู้จนบอกว่าให้เป็นแฟนเลย”

            “ผมหน้ามืดไปเองแหละ หลงผิด ความเสือกมันล้นหัวมากไปหน่อย” ผมพูดเสียงห้วน ล้มตัวลงนอน หันหลังให้ด้วย! จะได้รู้ว่าตอนนี้ผมบ่จอยสุดๆ ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอเป็นเอกลักษณ์ของอีกฝ่าย ควันนี่แทบจะปรี๊ดๆ ออกหู

            “คนเรามันก็ต้องมีบางเรื่องที่ไม่อยากจะเล่า”

            “อย่ามาพูด ผมจำได้ว่า พี่พลอยไพลินเคยพูดประมาณว่า ‘ตอนต้นเป็นลูกของผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม’ อะไรประมาณนี้แปลว่าเขาก็รู้เหมือนกันใช่ไหมละ” ผมพูดเสียงดังด้วยความหงุดหงิด ขยับปากหมุบหมิบด่าไปอีกอย่างมีน้ำโห

            “ลินเขาเคยเห็นแม่ของตอนต้นก็แค่นั้น แต่ฉันก็ไม่เคยเล่าเรื่องอะไรให้ลินฟัง”

            “...” ผมยื่นปากพลิกตัวไปอีกด้านหาคนที่อยู่บนเตียงอย่างช้าๆ “พี่ไม่เคยเล่าเรื่องแม่ของที่หนึ่งกับตอนต้นให้ใครฟังเลยหรอ?”

            “ไม่เคย” ผมร้อง ฮู่ว ในใจ ผมไม่รู้ คนอื่นก็ไม่รู้ ก็แปลว่าไม่ใช่เขาไม่รู้สึกสนิทกับผมสินะ “แล้วก็อีกอย่างนึง ไม่ต้องเป็นแฟนฉันหรอกถ้าอยากรู้เรื่องนี้  ถ้าอยากเล่าก็เล่าเองแหละ”

            “ครับๆ”

            “แต่ถ้านายยังอยากเป็นแฟนอยู่ ลำบากหน่อยนะ เพราะฉันไม่ชอบผู้ชาย”

            “ผมก็ไม่ชอบผู้ชายเถอะ!” ผมรีบร้องลั่นปฏิเสธทันควัน พอนึกฉากที่ตัวเองพูดแบบนั้นในท่าที่กำลังคร่อมพี่ตุลย์อยู่ นี่อยากจะพุ่งเข้าไปในครัวแล้วฮาราคีรีตัวเอง ขนาดกับไอ้ปันผมยังไม่เคยเล่นหยอกกับมันถึงขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ

            “อีกอย่างฉันไม่อยากโดนด่าว่าเลี้ยงต้อยซะด้วย เพราะงั้นมันคงยากถ้าเราจะเป็นแฟนกัน”

            “ผมนี่โดนด่าว่าเสี่ยเลี้ยงเลยเถอะ ไม่หนักกว่าอีกไง แล้วผมก็ไม่ได้อยากจะได้พี่เป็นแฟนด้วย ก็บอกแล้วไง ว่าหน้ามืดๆ ความเสือกมันเยอะ อย่างผมนี่ต้องหุ่นเอสไลน์ หน้าอกของแท้ 36 เอว 25 สะโพก 35 เท่านั้น!”

            “แล้วอีกอย่างถ้าเราเป็นแฟนกัน บอกเลยว่าฉันไม่อยู่ล่าง”


            ผมลุกขึ้นนั่งตั้งท่าจะเอาเรื่องให้หยุดพูดตอกย้ำคำพูดหน้าด้านของผมสักที แต่พอผมเห็นหน้าของคนที่นอนอยู่บนเตียง คำพูดของผมก็ม้วนตัวกลับเข้าไปในลำคอ รอยยิ้มขี้เล่นที่ผมไม่ค่อยได้เห็นฉายกว้างอยู่บนใบหน้า ทั้งสายตาที่มักจะเรียบนิ่งก็เต็มไปด้วยความหยอกล้อ จนผมรู้สึก...


            เชี่ยเอ๊ย ปรี๊ดๆ ขอเวลานอก ปรี๊ด ขอเวลานอก! เตียงของไอ้พี่ตุลย์แม่งต้องมีซัมติงแน่นอน ขึ้นไปบนนั้นทีไร หัวใจแม่งเต้นผิดจังหวะทุกที


            “พี่แม่ง เป็นคนยังไงกันแน่วะ” ผมพูดเสียงงึมงำในลำคอก่อนจะนั่งชันเข่าหันหลังให้ไอ้พี่ตุลย์ “หยุดพูดเรื่องแฟนเฟินอะไรนั่นดิ๊ ก็บอกอยู่ว่าหน้ามืดๆ แบบพูดไปส่งเดชเฉยๆ นี่ก็เป็นจริงเป็นจังจังเลย”

            “ก็ฉันเป็นคนจริงจังนี่หน่า”


            จริงจังแล้วจะหัวเราะทำแป๊ะ!?


            “ถ้าผมเป็นแฟนพี่จริงๆ นะ พอรู้เรื่องแม่ของตอนต้นกับที่หนึ่งแล้ว ผมก็จะบอกเลิกเลย”

            “คิดว่าเป็นแฟนฉัน แล้วจะรอดไปง่ายๆ แบบนั้นเล๊ย?”


            เกลียดเสียงฉิบ อารมณ์แบบกำลังล้อผมสุดอะไรสุดอะ ผมว่าหน้าตาตอนนี้ต้องกวนมาก


            “หยุดพูดๆๆ ไม่ขนลุกไง นี่ผมเป็นผู้ชายนะเนี่ย” ผมหันขวับไปเฮ้วใส่ สีหน้าจริงจังมากอะตอนนี้บอกเลย

            “ฉันเป็นพวกไม่เหยียดเพศอะนะ ยังไงก็ได้”

            “หยุดพอ ไม่พูดๆ นอนๆ ผมก็จะนอนแล้ว บาย!” ผมจงใจกระแทกเสียงในคำสุดท้าย ให้ชัดเจนไปเลยว่า บายเว๊ย ไม่พูด ถือว่าเรื่องคืนนี้โมฆะ ก่อนจะล้มตัวลงนอนตะแคงหันหลังให้เจ้าของห้อง หลับตาลงไม่รู้ไม่ชี้อะไรทั้งนั้น ส่วนพี่ตุลย์เองก็ลุกขึ้นไปปิดไฟแล้วก็ล้มตัวลงนอนเหมือนกันไม่พูดอะไรต่อจากนั้น เป็นสัญญาณว่าคืนนี้จบแล้ว...


            เออ จบแล้ว ไอ้หัวใจบ้าเอ๊ย มึงก็เลิกตั้งวงร็อคได้แล้ว!









TBC
วรั่ยยยยย /เขิน
อัพต่ออย่างไว ไม่ต้องรอเป็นวัน ถือเป็นการไถ่โทษ~

#daddybelover
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 18.5 (9/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 09-07-2015 23:18:47

คู่นี้น่าฮักอ้าาาาาา.....      :m1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 18.5 (9/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 09-07-2015 23:26:10
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 18.5 (9/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 09-07-2015 23:26:38
อะไรอ่ะเอส....เขินเหรอ 55555

เอส ถ้าแกไปฮาราคีรีตัวเอง คาดว่ามีดห้องพี่ตุลย์คงหักอ่ะ แม้แต่มีดยังยอมแกเลยนะ 555

ชอบตอน .5 นี่จัง....แอบฟรินเบาๆ >.<
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 18.5 (9/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-07-2015 23:34:21
พ่่ีตุลย์ดูสดใสขึ้นเยอะเลยน่ะ :ling1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 18.5 (9/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 09-07-2015 23:36:12
ไอ้เอส ยอมรับกับพี่ตุย์แล้วสินะว่าเสือกอะ  :laugh:

ว่าแต่หนูก็ไม่คิดว่าพี่ตุุลย์จะอยู่ล่างหรอกค่าา ไม่เคยมีเสี้ยวความคิดเลยว่าเอสมันจะพลิกขึ้นมาได้  :hao7:
โอ่ยย เมื่อไรจะเริ่มรักกันซักที ดูๆก็รู้นะว่าเริ่มหวั่นไหว ใจแข็งกันจริงจริ๊ง สองคนนี้  :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 18.5 (9/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 09-07-2015 23:48:24
ดูท่าแล้ว น้องเอสต้องอยู่ล่างพี่ตุลย์อ่ะนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 18.5 (9/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 10-07-2015 00:12:43
น้องเอส พี่ตุลย์เขาบอกมาแล้วนะว่าไม่อยู่ล่างอ่ะ
หนูก็เตรียมตัวเครียมใจไว้ได้เลยนะจ๊ะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 18.5 (9/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Eangoey ที่ 10-07-2015 00:47:14
เค้าคุยอะไรกัน  :-[ :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 18.5 (9/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 10-07-2015 07:04:20
เหนือเอสก็คงจะมีพี่ตุลย์เนี่ยแหละที่เอาอยู่ 55555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 18.5 (9/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 10-07-2015 07:16:29
เล่นเองเขินเองนะคะเอส~ :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 18.5 (9/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 10-07-2015 07:47:33
ทำตัวเองแท้เอส ยังจะเขินอีก แซวบ่อยๆ เด๋วพี่ตุลย์ก็เอาจริงหรอก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 18.5 (9/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 10-07-2015 08:40:27
ไปหยอดเค้าเล่นเยอะเป็นไงละ
เจอเอาคืนถึงกับไปไม่เป็นเลยนะเอส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 18.5 (9/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 10-07-2015 08:53:38
อา


ตื่นมาเจอบอสเกรียนนี่มีความสุขจัง  :mew1:

มะไหร่บอสจะบอกพี่ตุลย์ว่ามีสาวกะลังอยากงาบพี่?? สัญญาไว้แล้วไงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 18.5 (9/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 10-07-2015 11:26:53
เอร๊ยยยยยย เจอพี่ตุลย์ล้อ เรื่องที่หน้ามืดขอพี่ตุลย์เป็นแฟนหน่อยเดียว
ใจถึงกับตั้งวงร๊อคเรยหรอเอสสสสสสส
ดูจากรูปการณ์ แกไปไหนไม่รอดแระเอส 5555
 :hao7: :hao7: :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 18.5 (9/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 10-07-2015 11:43:07
ฮา เอสเขิลอ่ะ 555+
น่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 18.5 (9/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 10-07-2015 11:49:07
อร๊างงงงง






บิดตัวเป็นเกรียวแข่งกะไอ้เอส






แล้วทำไม มาให้เขินสั้นนิดเดียว






บอกเลยเขินแค่นี้มันไม่พอออออออออ :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 19 (10/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 10-07-2015 13:31:46
ตอนที่ 19





               “ก็โทรมาบอกพี่ไง ใครจะไปรู้เดี๋ยวโวยวายหาว่าผมเป็นเด็กใจแตกทำไง...ฮ่าๆ โอเคๆ ถ้างั้นแค่นี้ก่อนนะ...ครับๆ” ทันทีที่ผมวางสายจากพี่ตุลย์ ก็มีมือของใครบางคนตะปบเข้าที่ไหล่

               “โทรหาใครอะ? แฟนหรอเอส?”

               “เปล่าพี่ กิ๊กอะ คนที่ 10 วันนี้ผมไล่โทรบอกกิ๊กทุกคนเลยว่า ผมไม่ว่างจะไปหาเพราะเสียสละเวลาอันล้ำค่าของผมมากับพี่ไงครับ”

               “ฮ่าๆๆ เออ! พูดดีๆ ถ้างั้นก็เข้าร้านได้แล้วไป เจ้าภาพไม่อยู่จะฉลองเพื่ออะไรละวะ”


               ว่าเสร็จผมกับรุ่นพี่ที่ทำงานร้านเฮียเปียวด้วยกันก็เดินกันเข้าไปในร้านเหล้าที่ตั้งอยู่ด้านหลัง วันนี้ผมลาออกจากงานพิเศษทุกอย่างครับ เพราะว่าอีกหนึ่งอาทิตย์ที่เหลือก่อนจะเป็นเด็กมหาวิทยาลัย ผมต้องทำเรื่องนู่นนี่เตรียมพร้อมอะไรหลายๆ อย่าง ถ้าทำงาน ตีห้า กลับสี่ทุ่มอยู่แบบนี้ก็คงไม่เป็นอันได้ทำอะไรกันพอดี พอเลิกงานปุ๊บ เฮียเปียวก็เลยพาพนักงานทั้งร้านมาเลี้ยงฉลองกันเลยครับ หัวข้อเป็นงานเลี้ยงอำลานะ แต่ผมว่าหาเรื่องมาร้านเหล้ามากกว่า


               แต่ ช่างเถอะ ผมไม่ซีอยู่แล้ว เพราะผมไม่เสียเงินงานนี้ อิอิ


               “เอ้าๆ กินเท่าไหร่เอาเต็มที่ แต่ใครทำแก้วแตก ไปจ่ายตังเองนะเว๊ย!” 

               “เฮ้ยๆ เจ้าภาพงานมา ใครก็ได้เอาแก้วมาให้เอสดิ!”

               “อย่างไอ้เอสเอาขวดไปเลยไป”

               “โหย พี่ก็พูดเกินไป ผมเป็นเด็กนะครับ ยังไม่บรรลุนิติภาวะเลย จะกินเหล้าเป็นขวดๆ ได้ไง” ผมพูดกลั้วหัวเราะพลางทรุดตัวนั่งลงที่เก้าอี้ว่าง

               “อย่ามาพูด จำคราวที่แล้วได้ไหม? ที่มากินเลี้ยงกันแล้วเหล้าเหลือเป็นขวดๆ คนอื่นแม่งตายหมดแล้วเว๊ย แต่ไอ้นี่ นั่งชิวๆ กินไปกินมาหมดเลย!”

               “มันทำถูกแล้วเว๊ย สั่งเหล้ามาแต่กินไม่หมด เสียดายเงินตายห่า” เฮียเปียวว่าแทรกขึ้นดังลั่นก่อนจะหัวเราะชอบอกชอบใจ ส่วนผมก็ปล่อยให้พี่ที่ทำงานคุยๆ กันไปตัวเองก็โบกมือเรียกพนักงานขอแก้วเปล่า


               ระหว่างกินเหล้าก็กวาดสายตามองไปทั่วร้าน ร้านเหล้าที่นี่เป็นแบบเปิดโล่ง แม้มีพื้นที่เยอะแต่ก็แน่นเอี๊ยดไปด้วยคนจำนวนมากขนาดที่ว่าจะไปเข้าห้องน้ำแต่ละทีเดินเบียดเสียดเนื้อนมไข่ไปตลอดทาง ด้านหน้าเป็นเวทีเตี้ยๆ สำหรับวงดนตรีขึ้นไปเล่น แต่ประเด็นของผมไม่ใช่เสียงเพลงเว๊ย มาร้านเหล้า มีเหล้าแล้วมันก็ต้องเคล้านารีสิครับ


               “เดี๋ยวมานะพี่ ไปร่อนก่อน” ผมบอกกับคนที่โต๊ะส่งๆ ก่อนจะคว้าแก้วเหล้าของตัวเองเดินเซอร์เวย์ไปตามโต๊ะต่างๆ


               นี่ถ้าไม่ติดว่าน่าพี่สาวที่ทำงานแต่ละคน หน้าอก 34 เอว 34 สะโพก 39 ละก็ ผมจะไม่ลุกออกจากโต๊ะเลย ไม่อยากไปเบียดกับคนเยอะครับ ไอ้เวลาที่ได้เนียนเดินสีไปกับหน้าอกคนอื่นมันก็ดีนะ แต่ตอนที่น้องชายของตัวเองไม่ปลอดภัยเพราะใครก็ไม่รู้ชอบมาจับๆ คลำๆ ผมก็รับไม่ค่อยจะได้จริงๆ เป็นผู้หญิงผมจะไม่ว่าเลย แต่มือแต่ละคนนี่ใหญ่ยังกะใบลาน ไม่ต้องหยิบขึ้นมาดูก็รู้ ว่ามิใช่พี่สาว TT


               ผมเดินเนียนไปชนแก้วกับผู้หญิงตรงนู้นทีโต๊ะนี้ที อาศัยความเฟรนลี่กับหน้าตาดีไม่พึ่งศัลยกรรมไปเต๊าะเหล้าฟรีเรื่อยๆ


               “ทางนี้!” เสียงผู้หญิงโต๊ะด้านหลังผมตะโกนเรียกใครสักคน แต่ผมก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ ยังคุยอยู่กับ ‘พี่มาย’ เจ้าของโต๊ะล่าสุดที่ผมเนียนมานั่งด้วย

               “ทำไมวันนี้คนเยอะอย่างนี้เนี่ย”

               “ร้านนี้ก็คนเยอะอย่างนี้ทุกวันแหละย่ะ”

               “ย่ะ จะไปรู้ไหมละ? ยังกับพวกฉันได้มาร้านเหล้าแบบนี้บ่อยนักแหละ”

               “ย่ะ สาวไฮโซ เข้าแต่คลับ กินแต่ไวน์”


               ผมกระดกแก้วเหล้าในมือดื่มเล็กน้อย เหลือบมองโต๊ะด้านหลังเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มกระย่องอย่างพอใจ ดูจากเสื้อผ้าน่าจะเป็นวัยทำงานแล้ว แต่ยังสวยเซี๊ยะทุกคนจนผมนี่เผลอขยับเก้าอี้เล็กน้อย ให้แอบมองได้ง่ายขึ้น


               “แล้วลินอะไม่ได้ชวนมาด้วยหรอ?”

               “มาด้วย แต่ไปเอาของนี่ให้แกอยู่ไง” มีผู้หญิงสองคนเดินเข้ามาที่โต๊ะพร้อมกับถุงกระดาษขนาดใหญ่ น่าเสียดายที่มุมผมมองไม่เห็นหน้าของคนที่มาใหม่ทั้งสอง แต่ผมเดาว่าน่าจะสวยเหมือนกับคนอื่นๆ นั่นแหละ

               “นี่อะไร?”

               “ลองเปิดดู เป็นของขวัญจากพวกฉันฉลองที่เพื่อนคนแรกในกลุ่มจะได้แต่งงาน”


               ป๊าด...


               “เดี๋ยวแกก็คงได้แต่งถัดจากฉันเลยแหละลินกับคนนั้นไง ชื่ออะไรนะ ตุลย์?”


               ผมชะงักกับชื่อของคนในบทสนทนา เหลือบมองโต๊ะของกลุ่มสาวนั้นเพื่อจะเช็คให้แน่ใจว่า ‘ลิน’ ที่นั่งอยู่ตรงนั้นใช่คนเดียวกับที่ผมคิดหรือเปล่า


               “อีกห้าปีมั้ง ฉันยังไม่รู้สึกว่าเราพัฒนาอะไรกันเท่าไหร่เลย”


               เหยดดดด ลินคนนั้นจริงๆ ด้วย เจ๊พลอยไพลิน ผู้ใส่ฟองน้ำโกงหน้าอก 2 ไซส์!


               “ความบังเอิญนี่โคตรน่ากลัว” ผมงึมงำกับตัวเองเสียงเบา ยกแก้วเหล้าที่พี่มายชงให้ขึ้นจิบเล็กน้อย อยากจะลุกขึ้นกลับโต๊ะเหมือนกันนะครับ แต่กลัวแจ็คพ๊อตเจ๊แกหันมาเจอแล้วได้ไฝว้กันกลางร้านเหล้า ผมก็เลยเลือกนั่งเงียบๆ แบบเนียมอายต่อไป

               “แต่แกไปบ้านเขาทุกวันเลยนะเว๊ย เมื่อก่อนก็ไปบ้านเขาทุกวัน จนฉันนึกว่าแกไม่ตงไม่แต่งมันแล้วงาน ผลิตลูกอยู่ที่บ้านเขาไปแล้วเนี่ย”

               “มันไม่มีอะไรไง ตอนนู้นก็ไปช่วยเลี้ยงที่หนึ่ง ลูกคนโตเขาอ่ะ พอมาครั้งนี้เขาก็เอาแต่ยุ่งวุ่นวายอยู่กับลูกคนเล็ก!”

               “เอ้า เขามีลูกคนที่สองด้วยหรอ?”

               “ใช่! ชื่อ ตอนต้น ตอนเจอครั้งแรกฉันตกใจมากอะ พอถามอายุดู เด็กนั่นก็เกิดตอนฉันย้ายไปทำงานที่นู่นพอดี เป็นลูกของนังผู้หญิงคนนั้นแน่นอน ตอนแรกเห็นท้องโตขนาดนั้นก็นึกว่ามีผัวแล้ว ที่ไหนได้!”

               “อย่าเพิ่งอารมณ์ขึ้นๆ...น้องคะ ขอเหล้าขวดกับโซดาสามแล้วก็น้ำเปล่าขวดนึง”

               “พอมาคิดดีๆ เรื่องนี้ก็แปลกนะ ถ้าสมมุติว่าเด็กที่ชื่อตอนต้นเป็นเด็กที่อยู่ในท้องผู้หญิงคนนั้น ก็แปลว่าอาจไม่ใช่ลูกตุลย์ของแกหรือเปล่า! ก็เขาเข้ามาหาตุลย์ตอนท้องโตแล้วนี่!”

               “เออว่ะ ฉันก็ไม่เคยคิด พอตุลย์บอกว่าคบกับผู้หญิงคนนั้นอยู่ ฉันก็ทำเรื่องย้ายสาขาไปหลบเลียแผลใจเลย”

               “...” ผมนั่งฟังเงียบๆ พลางจิบเหล้าไปพลาง ไม่ใช่แค่พวกเขาหรอกที่งงเรื่องของครอบครัวไอ้พี่ตุลย์ ตอนนี้ผมก็โคตรงง รู้สึกตัวเองโง่ชิบหาย จนอยากได้กระดาษเอสี่มาเขียนสรุปใหม่


               พี่ตุลย์บอกว่า ที่หนึ่งกับตอนต้นแม่เดียวกัน เอ๋? หรือจะคนละพ่อ แต่พี่ตุลย์ก็บอกตลอดว่าลูกฉันๆ นะ...


               “โอ๊ยแก ฉันว่าช่างมันเหอะ จะลูกใครยังไงก็ช่างมันไม่สำคัญหรอก ที่สำคัญคือแกกับตุลย์ต่างหาก! คบกันแล้วก็แต่งงานกันสักทีเถอะ!”

               “ก็บอกไปแล้วนี่ ว่ามันไม่มีอะไรคืบหน้าเลย! แล้วแกรู้ไหม ตอนเนี่ยที่บ้านของตุลย์ มีไอ้เกย์คนหนึ่งอยู่ด้วย มันก็จ้องจะจับตุลย์เหมือนกัน มันก็เลยขัดขวางฉันตลอดเลย ที่ทำงานก็เจอกันแค่ตอนพักกลางวันเท่านั้นเอง ที่บ้านยังมีมารผจญอีก!”


               ผึ่ง!


               พอเป็นเรื่องตัวเองแล้วหูผมจะกางดีเป็นพิเศษ


               “เกย์หรอ!? เฮ้ย แล้วทำไมตุลย์เอามาอยู่บ้านด้วยอะ?”

               “ไม่รู้ดิ ตุลย์ไม่เล่า แค่บอกว่าไอ้เกย์นั่นมีปัญหานิดหน่อยก็เลยมาอาศัยอยู่ด้วยชั่วคราว แต่ฉันว่าปัญหาอะไรก็ช่างมันก็ต้องตอแหลชัวร์ มันคิดจะจับตุลย์ละสิไม่ว่า เกย์ก็เป็นหวังแบบนั้นทั้งนั้นแหละ!” 

               “ความรักแกโคตรมีปัญหา”

               “ครั้งนู้นฉันวางใจไปหน่อย คิดว่าตัวเองสนิทกับตุลย์ที่สุด ใครๆ ก็คิดว่าฉันกับตุลย์คบกันแล้วจะไม่มีใครมายุ่ง จะไม่มีใครมาแทรกระหว่างเรา เพราะงั้นครั้งนี้ฉันจะไม่วางใจอีก! จะไม่ชักช้าอีก!”


               ผมไม่เคยรู้เลยนะครับว่าเรื่องความรัก หรือการอยากได้ผู้ชายสักคน ผู้หญิงจะจริงจังขนาดนี้ ไม่รู้ดิ อาจเพราะผมอยู่กับเพื่อนผู้ชาย มันก็จะอารมณ์ประมาณว่า จีบได้ก็ดี จีบแล้วชวดก็ไม่เป็นไร ค่อยไปลุยกับคนที่ชอบสนุกกับคนที่ใช่คนใหม่


                “แก...ใช้ตัวช่วยของฉันไหมละ?” เสียงพูดของผู้หญิงที่กำลังจะแต่งงานดังขึ้นแผ่วเบา นอกจากคนในโต๊ะที่ต้องเอนหูเข้าไปฟังแล้ว ผมก็ไปร่วมเอนกับเขาด้วย จนพี่มายคว้าตัวผมไว้นึกว่าผมกำลังจะตกเก้าอี้

               “ตัวช่วยอะไร?”

               “ยาไง รวบหัวรวบหางเลย! พอมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง เขาก็จะมาสนใจเรา มามีความรู้สึกให้เราเองแหละ”


               เดี๋ยวนะ…


               “อย่าบอกนะว่า ที่แกได้แต่งงาน...”

               “ถะ ถึงฉันจะใช้ แต่สุดท้ายเราต่างก็รักกันที่ตัวตนของกันและกันนะ!”

               “...” ผมเอนตัวกลับมานั่งดีๆ ตามเดิม คว้าแก้วเหล้าของตัวเองกระดกขึ้นหมดแก้ว ก่อนจะบอกลาพี่มายแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะของตน ไม่อยากฟังต่ออะ ไม่รู้ดิ แต่ผมมีความรู้สึกว่ามันน่ารังเกียจ น่ารังเกียจกว่าเกย์จ้องจะจับผู้ชายแบบที่เขาว่าร้ายผมเสียอีก ผมไม่เข้าใจว่ะ...แล้วก็ไม่อยากจะเข้าใจด้วย ว่าคนเรามันต้องอยากได้ผู้ชายคนนึงถึงกับต้องทำขนาดนั้นเลยไหม? มันจะตายหรอวะ ถ้าไม่ได้เขามา!

               “เฮ้ย เอสเป็นอะไร ทำไมทำหน้าน่ากลัวแบบนั้น”

               “หะ? ผมทำหรอ?”

               “ใช่สิ เครียดอะไร ไม่เจอสาวที่ถูกใจหรือไง?” พี่ที่นั่งอยู่ตรงข้ามเอ่ยแซว ปลอบใจผมด้วยการชงเหล้าเข้มให้ผม

               “ประมาณนั้นครับ” ผมตอบอย่างขอไปที












               ในช่วงเวลาเที่ยงคืนจุดที่มันส์ที่สุดในร้านเหล้ามีแต่ผู้คนทยอยเข้ามาไม่ขาดสาย แต่สายตาผมกลับปะทะเข้ากับคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังพากันเดินออกมานอกร้าน โดยที่ผู้หญิงที่ชื่อพลอยไพลินเดินแยกกับเพื่อนสามคนไปคนละทาง


               “พี่ ผมกลับก่อนได้ปะ?” ผมลุกขึ้นรีบบอกกับเฮียเปียวอย่างรวดเร็ว ตั้งท่าจะพุ่งออกไปนอกร้านเหล้า แต่ก็โดนคนที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดขวางเอาไว้ก่อน

               “รีบกลับได้ไง นี่วันเลี้ยงอำลานะเนี่ย เจ้าภาพไม่อยู่ก็หมดหนุกดิวะ”

               “โหย พี่! เดี๋ยวพี่ ผมไม่ได้ลาไปไกลเลย ก็บอกแล้วไง ว่าผมปิดเทอมเมื่อไหร่ก็กลับมาทำงานอีกอยู่ดี นะๆ ผมกลับก่อนนะพี่”

               “มันอยากกลับก็ให้มันกลับไปตะ รีบร้อนอย่างนั้นอะ สงสัยเมียโทรตาม ฮ่าๆ ” สิ้นคำเฮียเปียว คนที่ขวางผมก็หรี่ตามองเล็กน้อยก่อนจะขยับตัวหลีกทาง ผมไม่ชักช้ารีบพุ่งออกนอกร้านหันซ้ายหันขวามองหาพี่พลอยไพลิน ก่อนจะเห็นว่าเธอกำลังขึ้นแท็กซี่ไป


               ตอนที่ผมนั่งอยู่บนโต๊ะ ผมเห็นเหมือนเธอถือถุงพลาสติกเล็กๆ น่าสงสัย ผมกลัวว่าจะอคติไปเองก็เลยรีบวิ่งออกมาดู แต่ใช่! มันเป็นถุงพลาสติกเล็กๆ ที่น่าสงสัยจริงๆ ผมเห็นพลาสติกมีสีขาวอยู่ด้านนึงด้วย เหมือนจะเป็น


               ...ถุงยา!?


               ไม่รอช้าผมรีบโบกแท็กซี่ทันที เป้าหมาย...ห้องพี่ตุลย์!














               ทันทีที่ออกจากลิฟต์ผมก็รีบตรงดิ่งไปที่ห้องของพี่ตุลย์ แต่เพียงไม่กี่ก้าวที่ผมกำลังจะถึงห้อง กลับเห็นใครบางคนที่คุ้นตาเสียก่อน เธอยืนอยู่หน้าประตูมองวัตถุในมือด้วยสีหน้าราวกับกำลังช่างใจบางอย่าง


               "อะไรหรอครับ ที่ถืออยู่ในมือ?”

               ทันทีที่ได้ยินเสียงของผม ร่างเล็กของผู้หญิงตรงหน้าก็สะดุ้ง รีบซ่อนมือไว้ด้านหลังหันขวับมาหาผมด้วยท่าทีตกใจ “เกี่ยวอะไรกับนายด้วย?”

               “ก็แค่ถามดู...” ผมว่าเสียงเรียบพลางเดินอาดๆ เข้าไปหาเธอ แน่นอนพี่พลอยไพลินต้องถอยหลังหนีอยู่แล้ว แต่ผมก็เอื้อมมือไปข้างหลังกันตัวเอาไว้เสียก่อน ดูเผินๆ เหมือนว่าผมกำลังจะกอดเธอ แต่จริงๆ แล้ว...


               พรึ่บ!


               “เอามานะ!”

               “ขอดูหน่อยยย ไม่หวงดิครับ” ผมชูขึ้นสูง ด้วยส่วนสูงที่ค่อนข้างต่างกันพอสมควร ทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถแย่งคืนได้ “ยา-แก้-ปวด”

               “ใช่! มันก็แค่ยาแก้ปวด เอาคืนมานะ!”

               “งั้นดีเลย ผมกำลังปวดหัวพอดี งั้นผมขอกินเม็ดนึงนะ กินเสร็จแล้วผมก็จะได้ไปในนอน” ผมยิ้มหวาน ยัด ‘ถุงยาแก้ปวดหัว’ ลงในมือเรียวพร้อมกับเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ใบหูอีกฝ่าย “นอนในห้องพี่ตุลย์”

               “ไม่ได้! ฉันไม่ให้ ถ้าอยากกินมากนักก็ไปหาซื้อเองสิ!” คนตรงหน้าผละออกจากผมอย่างรวดเร็ว รีบยัดถุงยาที่ผมคืนให้ใส่กระเป๋าถือของตน แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังยิ้มอยู่ ยิ้มกว้างอย่างจงใจก่อนจะชูเม็ดยาแคปซูลเม็ดนึงขึ้นมา

               “ไม่ขี้งกดิครับ ผมปวดหัวจริงๆ ขอกินแล้วจะรีบเข้านอนแล้ว~” ผมพูดเสียงกวน ตั้งท่าจะเอายาเม็ดนั้นเข้าปาก แต่มือสวยของพี่พลอยไพลินกับคว้าต้นแขนของผมไว้! 

               “ห้ามกินเด็ดขาด! เอายาคืนมาเดี๋ยวนี้!”

               “ทำไมต้องเสียดังอะครับ มันก็แค่ ‘ยาแก้ปวด’ ถูกไหม? เดี๋ยวผมขอยืมเม็ดนึง พรุ่งนี้จะหาซื้อคืนให้” ผมแกะมือเธอออก กำลังจะยัดยาเข้าปากอีกรอบ แต่พี่พลอยไพลินก็ไม่รอช้าที่จะห้ามผมเอาไว้อีกครา

               “ฉันบอกว่าไม่ได้!”

               “เพราะมันเป็นยาปลุกหรืออะไรเทือกๆ นั้นหรอครับ?”

               “!”

               ผมจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตาจริงจัง ลดมือข้างที่ถือยาลง “อาการแบบนี้ ผมพูดถูกหรอเนี่ย”

               “ไม่...ไม่ใช่!”

               “ตอนที่ได้ยินอยู่ในร้านเหล้า ผมก็นึกว่าพี่จะมีศักดิ์ศรีไม่น่าจะทำแบบที่เพื่อนพี่ทำหรอก แต่สุดท้าย พี่ก็เป็นแค่ผู้หญิงคนนึงที่อยากได้ผู้ชายมากหรอครับ?

               “นะ นายได้ยินตอนนั้น!?”

               "เฮ้ยๆ พี่สาว รู้ว่าอยากได้พี่ตุลย์มาก แต่ต้องทำขนาดนี้เลยหรอ? พี่สาวครับ นี่มันวิธีผู้ร้ายชัดๆ"

               “นายอย่ามาว่าฉันนะ ถ้านายไม่ได้มาเป็นฉัน!”

               “ก็ผมจะว่าอะ! ทำไม? เพราะเริ่มจะเข้าสู่วัยทองแล้วหรอไง? ก็เลยต้องรีบมี ก่อนที่จะไม่ได้ใช้งานงั้นสิ” ผมพูด นี่ผมยังยับยั้งมารยาทได้อยู่บ้างนะ ถึงไม่ได้พูดคำหยาบแบบพวกไร้การศึกษาออกไปสักคำ “ผมไม่อยากยุ่งเรื่องของพี่สาวเท่าไหร่หรอก แต่ผมทนเห็นไม่ไหวจริงๆ อะ ใช้ยาเนี่ย มันโคตรน่าสมเพชเลยนะครับ”

               "ฉันถึงบอกไงว่านายไม่เป็นฉันนายไม่รู้หรอก!”

               “...”

               “ลองสลับกัน ลองมาเป็นฉันดูไหม? นายจะได้รู้ว่าความรู้สึกของคนที่เสียของรักไปต่อหน้าต่อตาครั้งนึงมันเป็นยังไง! เขาต้องเป็นของฉัน ฉันจะไม่ยอมให้ใครได้เขาไปอีกแล้ว!"

               “ก็เลยกะจะรวบหัวรวบหางเป็นผัวเมียแบบพฤตินัยไปเลยงั้นดิ? โห พี่สาวครับ นี่เราอยู่ในยุค ‘ได้กันต้องเป็นแฟนกันด้วยหรอ’ นะครับ ไม่อยากจะบอก ถ้าอยากจะเสียพรหมจรรย์ให้พี่ตุลย์ขนาดนั้นมันมีวิธีไหมอะ อย่าไปใช้เลยของพวกนี้”

               คนตรงหน้าจ้องผมเขม็ง แววตาแข็งกระด้าง “ที่นายมาห้ามฉัน บอกมาเลยก็ได้ว่าจริงๆ แล้ว นายกลัวว่าจะจับตุลย์ไม่ได้ใช่ไหมละ! นายกลัวว่าฉันจะชนะ แล้วก็พลาดผู้ชายอย่างตุลย์ไปใช่ไหม!”


               ปึ๊ด...


               ผมจ้องคนตรงหน้ากลับ เส้นเลือกข้างขมับปวดตุ๊บๆ จนต้องท่อง ‘ผู้หญิงพุทธ ผู้หญิงโธ’ อยู่ในใจ


               “งั้นมาเล่นเกมกันดีกว่า”

               “ทำไมต้องเล่น?”

               “ก็พี่อยากให้ผมออกจากชีวิตของครอบครัวนี้ไม่ใช่หรอ? ถ้าพี่ไม่เล่น ผมก็วนเวียนอยู่แบบนี้แหละครับ จะสิบปี ยี่สิบปี สามสิบปี จนพี่ต้องใส่แพมเพริสสำหรับผู้ใหญ่นอนเป็นยายเหี่ยวอยู่บนเตียงก็ไม่ได้แต่งงานกับพี่ตุลย์หรอกจะบอก” ผมยักคิ้วจงใจกวนประสาทให้คนตรงหน้าสองที

               “...”

               “แล้วอีกอย่าง ถ้าผมยังอยู่บ้านเนี่ย ยาพวกนี้พี่ไม่ได้มีโอกาสใช้หรอกครับบบ คนที่นอนอยู่ห้องพี่ตุลย์คือผมนี่ ดีไม่ดี ยานี่อาจจะส่งผลดีกับผมเสียอีก ตื่นมาเอ้า ได้เป็นผัวเมียกันเฉยอะแบบนั้นอะครับ~”

               “จะเล่นอะไรว่ามา!”

               “เกมง่ายๆ พี่สาวก็แค่ไปสารภาพรักกับพี่ตุลย์ซะ” ผมยิ้มหวาน

               “อะไรนะ!” เสียงหวานร้องลั่นจนแสบแหลม ตากลมโตเบิกกว้างจนแทบจะถลนออกมาจากเบ้า

               “ถ้าใจตรงกัน ผมจะเก็บของออกไปจากที่นี่เลย จะไม่ยุ่งกับครอบครัวนี้อีก ตามคุณหญิงต้องการเลยนะครับ” ผมหันหลังให้คนตรงหน้า หยิบกุญแจสำรองที่พี่ตุลย์เคยให้เมื่อนานมาแล้วขึ้นมาไขประตูห้อง ก่อนจะสอดตัวเข้าไปข้างใน

               “...”


               ผมหันมามองอีกฝ่ายที่อยู่อีกด้านของประตู ยิ้มหวานให้อีกรอบเป็นครั้งสุดท้าย


               “แต่ถ้าพี่ตุลย์ไม่เอา พี่สาวก็น่าจะคิดได้นะ ว่าต้องทำยังไง :  )”


               แล้วผมก็ปิดประตูลง






TBC
ใครรอไอ้เอสกวนขั้นแอดว๊านนน ตอบบบบบ~
#daddybelover
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 19 (10/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: maw__cat ที่ 10-07-2015 13:55:22
จะว่าลินร้าย........ มันก็ใช่อยู่ แต่เอสเหลี่ยมกว่าอ่ะ ชอบบบ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 19 (10/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 10-07-2015 14:02:07
เอสสสสสสสสส

เจ๋งจริงอะไรจริง


ชอบที่เอสเป็นแบบนี้นิสัยนี้ อย่าได้เปลี่ยนน้องเลยนะคะ พลีสสสส

(นั่งรอนังชะนีไปสารภาพรัก จะได้คำตอบอะไรน้าาาา)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 19 (10/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: onekiss ที่ 10-07-2015 14:11:46
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 19 (10/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 10-07-2015 14:17:07
ดีนะคะที่เอสอยู่ในเหตุการณ์ตอนที่ลินกับเพื่อนๆ คุยกันถึงเรื่องยา ไม่อย่างนั้นก็ไม่อยากจะคิดเลยว่าพี่ตุลย์จะเป็นยังไง :hao4: 
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 19 (10/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 10-07-2015 15:20:16
 :hao3: จริงๆกะลุ้นให้อีพี่ตุลย์ได้กินยานั้นน่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 19 (10/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-07-2015 15:38:55
 o13
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 19 (10/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 10-07-2015 15:52:06
น้องเอสนางเยี่ยมมาก ไม่เหมือนใครจริงๆ
 o13

หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 19 (10/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 10-07-2015 16:29:56
 o13
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 19 (10/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 10-07-2015 16:34:09
 o13 จัดไป
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 19 (10/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 10-07-2015 16:46:48
อิตาพี่ตุลย์รอดตัวไปนะเนี่ย ได้หญิงเอสมาช่วยไว้ได้ทัน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 19 (10/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kangteuk1995 ที่ 10-07-2015 17:23:03
พี่ตุลย์เอ๋ย ดีนะที่มีเอส ไม่งั้นพี่ได้แม่ใหม่ให้ที่หนึ่งกับตอนต้นแน่ :try2:
คุณไพลินนี่ยังไง บอกเสียคนที่รักไปต่อหน้า ถึงต้องใช้วิธีนี้
แต่อย่าลืมสิว่า เสียตัวให้เขาใช่ว่าเขาจะต้องเอามาเป็นแม่ของลูกเขานะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 19 (10/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 10-07-2015 17:35:37
น้องเอสหวงพี่ตุลย์ก็บอกมาเหอะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 19 (10/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 10-07-2015 17:46:27
ไอ้เอสนี่ฉลาดมาก ชอบๆ 5555+

เกมนี้ยัยป้าลินต้องแพ้แน่ๆ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 19 (10/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 10-07-2015 17:58:00
หึๆๆๆ เค้ารอเอสเสียตัวให้พี่ตุลย์ต่างหาก อร๊ายยยยยยยย :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 19 (10/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 10-07-2015 21:17:14
แล้วเดี๋ยวพี่ตุลย์ก็จะตกลงแบบงงๆป่ะ 55555
คือพี่โคตรชัดเจนอ้ะ คือแค่เพื่อนก็คือเพื่อนจริงๆงี้ ง่อววว
คือยังไงอ้ะ แบบว่าถ่านไฟเก่ามันคุก็กันไป แล้วก็ทิ้งลูกไปเหมือนเดิมงี้หรอ โอ้โห Orz
ตอนหน้าท่าทางจะแซ่บ #ทีมเอส อิอิอิอิอิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 19 (10/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 10-07-2015 22:21:13
 :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 19 (10/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Tsumsome ที่ 10-07-2015 22:45:40
 :hao6: :hao6: ร้ายกาจว่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 19 (10/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 10-07-2015 22:53:01
เพิ่งมาอ่านค่า รวดเดียวเลย
มันใช่มากเลยเอส!!!!!!
ชอบคนแบบนี้เลย เกรียนมากอะ ดูแลตัวเองได้ เหมือนเป็นคนไร้สาระแต่จริงๆแล้วทำให้คนรอบข้างมีความสุข แข็งแกร่ง แต่ก็มีมุมที่อ่อนโยนมากๆอยู่
สรุป แม่ยกเอสจ้ะ!!!!!!!! :mew1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 19 (10/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-07-2015 00:15:11
เอสเจ๋งมากกก
เจ้พลอยไพลินจะได้เลิกทำตัวเป็นนางร้ายสักที
หรือจะร้ายยิ่งกว่าเดิมถ้าพี่ตุลไม่สน ฮ่าาาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 19 (10/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 11-07-2015 00:18:50
มันต้องแบบนี้ค่ะ น้องเอสของพี่ !!!
น้องเอสคนจริง นายเอกที่ไม่โง่ๆ รู้ทัน แบบนี้พี่ชอบ

เออ เรื่องตอนต้น นิก็น่าเห็นด้วยนะ แม่เดียวกันแต่คนละพ่อ
งืมๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 19 (10/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 11-07-2015 06:05:12
กลับมาตามต่อออออ
มีตัวละครเพิ่มมาใหม่
สำหรับเกมที่เอสชวนยัยลินเน่าเล่น ไม่ต้องลองก็รู้อยู่แล้วว่าผลเป็นยังไง
เสร็จแน่ล่ะคราวนี้
ปล.รอตอนต่อไปนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 19 (10/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 11-07-2015 08:33:13
ดีงามมากเอส~~~~~!!!
จะให้เค้ามารักมาชอบก่อต้องแฟร์ๆ ใจๆหน่อย
ไม่ใช่ได้มาด้วยกลแบบนี้!!!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 20-30% (11/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 11-07-2015 15:33:30
ตอนที่ 20




               “เบื่อคู่นี้จังเลย พอลินกลับมา กับเพื่อนกับฝูงก็ไม่ไปกินข้าวด้วยกันหรอก” เสียงของใครบางคนดังขึ้นเรียกความสนใจจากชายหญิงทั้งสองที่กำลังนั่งกินข้าวด้วยกันอยู่มุมหนึ่งในโรงอาหารของสำนักพิมพ์ที่คนทั้งคู่ทำงานอยู่

               “ก็เพื่อนฝูงแถวนี้ ก็ชอบไปกินข้าวกับแฟน ไม่มีเวลาให้เพื่อนฝูงเหมือนกันไง”

               “โอ๊ย จึ๊กเลย” ผู้ชายที่เข้ามาใหม่เมื่อครู่หัวเราะเสียงร่วน

               “มาอยู่ตรงนี้นานๆ เดี๋ยวแฟนก็โกรธเอาหรอก นั่นมองผมตาเขียวแล้วน่ะ”

               “ลงสีตาผิดสีเฉยๆ เว๊ย! เออๆ งั้นไปก่อน ไม่อยู่กวนเป็น ก.ข.ค.หรอก แต่ เมื่อไหร่แต่งงานกับร่อนการ์ดมาให้ด้วยละ ฮ่าๆ” ผู้ที่เข้ามาเอ่ยแซวเดินจากไปพร้อมกับเสียงหัวเราะความสะใจ ตุลย์ส่ายหัวเล็กน้อยกับท่าทางของเพื่อนร่วมงานที่ค่อนข้างจะสนิทกว่าคนอื่นๆ

               “โทษที อย่าไปสนใจเลย” เสียงทุ้มเอ่ยบอกกับหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้า เธอส่ายหัวเล็กน้อยอย่างไม่ถือสา แต่วินาทีที่ตุลย์ก้มหน้ารับประทานอาหารต่อ ดวงตากลมโตที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอย่างดี กับถูกเคลือบไปด้วยความลังเลและความอึดอัด


               อึดอัดที่ต้องทำเหมือนว่า เป็นเพื่อนกันอย่างบริสุทธิ์ใจ ทั้งที่จริงๆ แล้วเปล่าเลย...


               “นี่ ตุลย์”

               “หื้ม?”

               “ตุลย์ไม่คิด...แต่งงาน มีครอบครัวบ้างหรอ?”

               “ผมมีครอบครัวแล้วไง มีที่หนึ่ง กับตอนต้นแล้ว”

               “แล้ว...ตุลย์ไม่คิดจะมี...ภรรยาหรอ?” เสียงหวานถามแผ่วเบา


               ใจนึงก็กลัวว่าคนตรงหน้าจะรู้ว่าเธอกำลังต้องการจะสื่ออะไร แต่อีกใจหนึ่งก็อยากให้เขารู้ๆ ไปเลย ว่าในใจเธอกำลังคิดอะไร เธออยู่ในสภาวะอึดอัดอย่างนี้มาเป็นปีๆ แล้วก็เริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว!


               “ก็คิดอยากมี แต่ผมมีลูกแล้ว การตัดสินใจของลูกผมก็ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง”

               “ปะ แปลว่าตุลย์จะแต่งกับใครก็ได้ที่ลูกตุลย์อยากให้แต่งงั้นหรอ?”

               “ประมาณนั้น”

               “ถ้างั้น...ฉันก็แย่เลยน่ะสิ ต้องถูกวางเป็นตัวเต็งอันดับหนึ่งแน่นอน” พลอยไพลินหัวเราะเสียงแห้งพูดทีเล่น แต่ในใจเอาจริง!

               ตุลย์หัวเราะเล็กน้อย “ก็คงอย่างนั้นมั้ง ก็ที่หนึ่งชอบลินจะตายไป”

               “...อึก” ริมฝีปากเสียงสดขบเข้าหากันเล็กน้อย รอยยิ้มจางๆ ของคนตรงหน้าเป็นสิ่งที่เธอชอบมาตลอด ไม่ว่าจะเมื่อตอนนี้หรือเมื่อสองปีก่อน

               “งั้นมาเล่นเกมกันดีกว่า”


               เสียงของเด็กผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นมาในห้วงความคิดพร้อมกับใบหน้าหล่อเหล่าที่ประดับด้วยรอยยิ้มกวนประสาทที่เธอรู้สึกเกลียดจับใจ


                “พี่สาวก็แค่ไปสารภาพรักกับพี่ตุลย์ซะ”


               พรึ่บ!


               “ฉันขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะ” หญิงสาวร่างเล็กลุกขึ้นพรวดพราดก่อนจะเดินจ้ำอ้าวออกไปจากโรงอาหารด้วยความร้อนใจ มือของเธอกำเข้ากันแน่นราวกับต้องการให้ความเจ็บปวดกลางฝ่ามือช่วยสลายเสียงของเด็กที่ชื่อ ‘เอส’ ให้หมดสิ้นไป!


               ก็แค่สารภาพรัก...ไม่เห็นยาก


               อย่างนั้นเหรอ!!


               เสียงรองเท้าส้นสูงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ก่อนที่จะหายเข้าไปในห้องน้ำหญิงห้องหนึ่งในบรรดาห้องย่อยที่ถูกแบ่งเรียงกันซ้ายขวา พลอยไพลินทรุดนั่งอย่างแรงบนชักโครกที่ถูกปิดฝาเอาไว้ก่อนจะยกมือขึ้นมากุมขมับที่กำลังปวดตุ๊บๆ


               เธอรักผู้ชายคนนี้มาเป็นปีๆ ในเวลาที่เธอพยายามจะกระเทาะหัวใจเขาอย่างใจเย็น ใช้ความอดทนเพื่อจะได้เป็นคนที่ครอบครัวของเขายอมรับ เพื่อที่จะได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของคนที่ตัวเองแอบชอบ แต่ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเขาเพียงไม่กี่วัน ก็ล้างความพยายามเป็นปีของเธอได้ในพริบตา! พอเธอคิดจะเริ่มใหม่พร้อมกับความมุ่งมั่นที่เธอจะไม่ชักช้าเหมือนครั้งก่อน เธอจะไม่ยอมแพ้ให้กับใครหน้าไหนอีก แต่กลับมีพวกผิดเพศมาแทรกกลางระหว่างเธอกับตุลย์ ผู้ชายที่ตนหลงรักจนได้!


              “ถ้าพี่ชนะ ผมจะไป”


               ตึง!


               เสียงรองเท้าส้นสูงคู่สวยถีบเข้ากับประตูห้องน้ำอย่างจังด้วยความโมโห พลางนึกถึงเมื่อคืนที่เธอกำลังยืนมองยาปลุกที่เพื่อนยัดใส่มือให้ด้วยความลังเล แม้เธอจะอยากได้ตุลย์มาก แต่ในใจก็รู้ผิดชอบชั่วดี เธอไม่คิดจะทำอย่างที่เพื่อนบอก ตั้งใจที่จะเอาไปทิ้งในภายหลังแล้ว แต่เด็กนั่นดันเข้ามาเห็นเสียก่อน!


               วินาทีที่เด็กเปรตนั่นบอกให้มาเล่นเกม เป็นวินาทีที่เธอเกลียดคนตรงหน้าตอนนั้นเข้าไส้!


               เธอรู้ดีว่าตุลย์ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับเธอเลยแม้แต่น้อย ตุลย์แสดงออกชัดเจนทุกครั้งว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาไปมากกว่าคำว่าเพื่อน เธอรู้ดีพอๆ กับที่เอสรู้…


               ว่าเกมนี้คนที่แพ้ก็คือเธอ!!






30%






               “ฮ้าวววว หวัดดีครับป้าสร้อย” ผมไหว้ทักทายป้าสร้อยที่นั่งป้อนข้าวตอนต้นอยู่ที่พื้นด้านหน้าทีวี

               “วันนี้ไม่ไปทำงานหรอลูก?”

               “ผมลาออกหมดแล้วครับ เตรียมตัวเป็นเด็กมหา’ลัย” ผมตอบพร้อมกับยิ้มกว้าง เดินเข้าครัวไปหาน้ำในตู้เย็นกินเล็กน้อย ก่อนจะเดินหายเข้าไปทำธุระในห้องน้ำ


               วันนี้เป็นวันแรกของการว่างงาน มันว่างจริงๆ พอตื่นนอนมาก็รู้สึกว่างเลย ปกติผมตื่นประมาณตีสี่บ้าง หกโมงเช้าบ้างเพื่อไปทำงาน พอไม่มีงานทำ ร่างกายก็ตื่นตั้งแต่ตีสี่อยู่ดี ด้วยความเงียบเหงาแล้วเปล่าเปลี่ยวครับ ผมก็เลยเอาทุกอย่างที่ดูเวลาได้ไปซ่อน แล้วปลุกพี่ตุลย์กับที่หนึ่ง บอกว่าเจ็ดโมงครึ่งแล้ว! พวกนั้นผึ่งลุกขึ้นมา รีบอาบน้ำแต่งตัวติดจรวดจนผมนี่ขำก๊าก แต่พอพี่ตุลย์รู้โดนผมหลอก พี่แกก็คิวผมด้วยสายไปไปหลายที แถมยังสั่งที่หนึ่งให้ผ้านวมมาห่อผมเป็นแยมโรล แล้วนั่งทับไว้


               ‘พ่อสั่งให้นั่งไว้แบบนี้ เจ็ดโมงแล้วค่อยลุก’


               นั่นแหละครับ! ปรากฎผมกับที่หนึ่งก็ต้องอยู่ท่านั้นไปสามชั่วโมง ที่หนึ่งไม่เท่าไหร่ จะนั่ง จะนอน จะยื่น เปลี่ยนท่าทางได้ทุกแบบ ไอ้ตัวผมนี่สิ ขยับไม่ได้ไม่พอ อึดอัดเพราะโดนทับอีก


               ก็เค้าเหงานี่ตัว เค้าตื่นมาคนเดียวมันช่างเฟร้งฟร้าง TT


               ไปๆ มาๆ ไม่รู้ยังไงครับ หลับ ตื่นมาก็เนี่ยแหละ เก้าโมงได้มั้ง พี่ตุลย์ไปทำงานแล้ว ที่หนึ่งไปโรงเรียนแล้ว ทิ้งผมเอาไว้ให้อยู่กับป้าสร้อยและหมูหนึ่งตัว


               แกร๊ก


               ผมเดินเกาท้องออกมจากห้องน้ำ ตั้งท่าจะเดินไปหน้าทีวีที่มีเด็กอ้วนตอนต้นที่กำลัง...


               เฮ้ย!! มันครับ มันครับ มันกำลังยืน!!


               ตอนต้นอายุหนึ่งขวบกำลังเกาะขอบโซฟายืนเว๊ย เขาเรียกอะไรนะ ตั้งไข่ปะ!


               “ป้าสร้อยยยยย ตอนต้นมันยืนอะๆๆๆๆ” ผมร้องโวยวายขึ้นมาทันที หันซ้ายแลขวาชี้นิ้วตรงไปที่เด็กอ้วนที่ล้มแผละก้นจ้ำเบ้าไปกับพื้น แต่มันยังสู้ครับ! มันลุกขึ้นมาเกาะขอบโซฟายืนใหม่! “สู้เขานะแก๊~” ขอแปลงร่างเป็นปอมปอมเชียร์แป๊บ สู้ ฮุ่ย สู้ ฮุ่ย! ผมรีบวิ่งไปหาเด็กอ้วนนั่น ตกมือเปาะแป๊ะให้มันเกาะโซฟาแล้วเดินมาหาผม ดวงตากลมโตประหนึ่งลูกหมูมองผมเล็กน้อยก่อนจะส่งเสียงอ้อแอ้อารมณ์ดี แล้วค่อยขยับตัวช้าๆ เดินเกาะขอบโซฟามาแต่เดินได้เพียงสามก้าวยังไม่ถึงผม ก็โงนเงนๆ แล้วล้มนั่งลงไปอีกหน


               “นี่ครั้งแรกเลยนะที่ป้าเห็นตอนต้นเดิน!”


               ผมหันมองตามเสียง ก่อนจะเห็นป้าสร้อย ยืนดูอยู่จากในครัวแต่ความสนใจของผมก็กระชากกลับมาที่ตักอย่างไวเมื่อรู้สึกว่ากำลังมีเด็กอ้วนกำลังคลานขึ้นมานั่งอยู่บนตัก


               แย๊กกกกกกก เด็ก!!


               “ปะ ป้าสร้อย เอาตอนต้นออกให้ผมที TT”

               “ป้าอุ้มตอนต้นไม่ได้ตอนต้นจะร้องจ๊า น่าอิจฉานะ ที่ตอนต้นมานั่งตักเองแบบนี้ ขนาดป้าเลี้ยงมาตั้งนานยังไม่ทำเลยนะ ตอนต้นต้องชอบเอสมากแน่ๆ เลย”


               ถามผมไหม ว่าผมชอบเหมือนกันหรือเปล่าาา /เสียงระโหยโรยแรง


               “มานั่งบนตักฉันทำไมหะ ไม่นิ่ม ไม่น่านั่งหรอกนะอยากจะบอก” ผมพูดกับเด็กอ้วนที่นั่งอยู่บนตักเงยหน้ามองอยู่

               “ป้าจำได้ว่าตุลย์เคยบอกว่าเอสไม่ค่อยชอบเด็ก” โซฟาเหนือผมยุบลงไปเพราะป้าสร้อยทรุดตัวลงนั่ง

               “ผมไม่ชอบเด็กวัยที่ยังต้องอุ้มอะครับ ตอนม.4 ผมเคยอุ้มน้องของเพื่อน แล้วมันร่วง! ผมก็ไม่แน่ใจว่าผมอุ้มไม่ถูกหรืออะไร เพราะตอนนั้นน้องของเพื่อนมันดิ้นด้วย งอแงด้วย เพื่อนผมนะโกรธเป็นปีๆ เลย ผมสนิทกับมันมากด้วย กว่าจะกลับมาคุยกันอีกก็จบม.5แล้ว แถมไม่สนิทใจกันอีก ผมก็เลยไม่อยากอุ้มเด็ก ไม่อยากยุ่งกับเด็กตั้งแต่นั้นมาเลยครับ”

               “อ๋อ กลัวเด็กตก”

               “ประมาณนั้นครับ”

               “ถ้างั้นลองจับตอนต้นยืนดูไหมละ ถ้าเท้าตอนต้นแตะพื้น ก็ไม่เป็นไรแล้ว” ผมหันมองป้าสร้อยเล็กน้อยสลับกับมองตอนต้นอย่างลังเล เด็กนั่นเองก็เงยหน้ามองผมเช่นกัน “ที่จริงแล้วตอนต้นตั้งไข่ได้เดือนกว่าๆ แล้วนะ ป้าอยากเห็นตอนต้นเดินได้เร็วๆ แต่ว่าป้าฝึกให้เดินไม่ได้ จับตัวทีไรร้องทุกที ไม่รู้ว่าตุลย์ฝึกตอนต้นให้เดินไปถึงไหนแล้ว”

               “ผมไม่เคยเห็นพี่ตุลย์ฝึกตอนต้นเดินเลยนะครับ” ผมรีบโพล่งขึ้นมาทันที สิ้นคำพูดของผม ป้าสร้อยก็มีท่าทีตกใจ เคลื่อนตัวลงมานั่งพื้นกับผมด้วย
               
               “จริงหรอ? หรือตุลย์ยังไม่รู้ว่าตอนต้นยืนได้แล้ว?”

               “ผมก็ไม่แน่ใจว่าพี่ตุลย์รู้หรือเปล่า...” ผมตอบเสียงเบา แต่ถ้าพี่ตุลย์ไม่รู้นะ หื้มม! เป็นคุณพ่อภาษาอะไรวะเนี่ย

               “ถ้างั้นเดี๋ยววันนี้ตอนตุลย์กลับมา ป้าจะบอกแล้วกัน แล้วก็ตอนนี้...” ป้าสร้อยลากเสียงยาวชำเลืองมองมาที่ผม “เอสลองช่วยตอนต้นเดินดูไหม?”

               “หา!?”

               “ไม่ต้องอุ้มอะไรเลยนะ ไม่ต้องกลัวว่าตอนต้นจะร่วงหรอก เอสก็แค่จับมือของตอนต้นขึ้นนะ แล้วก็พาเขาเดิน คล้ายๆ จับหมาเดินสองขาเลย”

               “แต่ว่า ผมว่า...รอให้พี่ตุลย์มาทำดีไหมครับ?”

               “กว่าตุลย์จะกลับบ้านก็เย็น ถ้าเราไม่ช่วยกัน กว่าตอนต้นจะเดินอาจจะสามสี่ขวบเลยนะ” ผมเงียบชักลังเล ผมไม่รู้หรอกว่าเด็กควรจะเดินได้ตอนอายุเท่าไหร่ แล้วผมก็ไม่รู้ด้วยว่าถ้าเกิดเดินช้า จะส่งผลต่อการพัฒนาอะไรด้านอื่นอีกหรอเปล่า “ลองดูนะเอส มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เอสกังวลหรอก...มาอยู่บ้านเขาก็ควรช่วยเจ้าของบ้านเขาบ้างใช่ไหมละ?”


               โอ้โห เหตุผลนี้ ถึงกับต้องยอมยกธงขาว


               “ก็ได้ครับ ผมจะลองดู แต่ว่าป้าสร้อยต้องช่วยผมนะ!” ผมตอบเสียงดังแต่เต็มไปด้วยความลังเล ป้าสร้อยหัวเราะเล็กน้อย ก่อนที่ลุกขึ้นมาจัดท่าทางให้ผมที่ยังมีท่าทีเก้ๆ กังๆ จับตัวตอนต้นอย่างตั้งใจครั้งแรกทำไมให้ผมรู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูก ป้าสร้อยให้ผมเริ่มจากการให้เด็กอ้วนเหยียบเท้าผมแล้วผมก็จับมือเอาไว้ก้าวเดินไปจนถึงหน้าประตูแล้วก็เดินกลับด้วยกัน ก่อนจะพัฒนาเป็นให้ตอนต้นก้าวเดินที่พื้นด้วยตนเองโดยมีผมจับมือเอาไว้กันล้มหน้ากระแทกพื้นเป็นคนไร้ดั้งตั้งแต่เด็ก


               ภายในห้องคอนโดแคบๆ มีเสียงโวยวายและเสียงเชียร์จากผม เสียงอ้อแอ้ไม่ได้ศัพท์ราวกับสนุกสนานเต็มทีของตอนต้นสลับกับเสียงหัวเราะด้วยความขบขันของป้าสร้อย


               จากนาที เป็นชั่วโมง จนผมกล้ามากพอที่จะอุ้มตอนต้นขึ้นมาเล่นซุปเปอร์แมนสลับกับเป็นไอ้แมงมุมคลานไต่อยู่บนกำแพง ผมหัวเราะลั่นเวลาที่เด็กอ้วนนั่นสับสนตอนพาเล่นซุปเปอร์แมนแต่ทำท่าคลาน


               “เมื่อวันก่อนป้าดูรายการสักอย่าง เขาบอกว่าเด็กหนึ่งขวบควรจะไปตรวจการพัฒนานะว่าเป็นยังไงบ้าง?”

               “ตรวจการพัฒนาที่โรง’บาลหรอครับ?” ผมก้มหน้ามองตอนต้นที่นั่งอยู่บนตัก “ไปโรง’บาลกันไหม?”

               “อาา” เด็กนั่นส่งเสียงเล็กน้อยขยับแขนไปมา อะไรของมันวะ? เดาว่า อยากไปได้ไหมเนี่ย

               “ถึงตอนต้นอยากจะไป แต่ไปตอนนี้ไม่ได้หรอก เพราะต้องมีพ่อแม่จริงๆ ไปด้วย”

               “อ๋อ...” ผมขานรับในลำคอ พยักหน้าหงึกๆ สองสามทีมองหัวบวมๆ ของตอนต้น “ป้าสร้อยครับฝากตอนต้นแป๊บนะ ผมจะไปอาบน้ำ”

               “เอ๋ ดะ ได้” ป้าสร้อยเข้ามาหาตอนต้นที่ผมวางไว้บนโซฟาทันทีด้วยท่าทีที่ยังมึนงงกับความรวดเร็วของผม แต่ตอนนี้ผมไม่สนใจอะไรแล้วครับ เข้าห้องนอนคว้าผ้าขนหนูวิ่งปรู๊ดไปเข้าห้องน้ำ


               ผมไม่วายหันมาหาตอนต้นทีนึง


               “เราจะไปหาพ่อตุลย์กัน!”












               ผัวฉันหาย~ เหลือแต่ไฟแช็ก!


               เพลงนี้ดังขึ้นในหัวผมเลย ตอนที่มายืนอยู่หน้าสำนักพิมพ์ที่เป็นที่ทำงานของพี่ตุลย์ โดยแขนข้างนึงของผมอุ้มตอนต้นและด้านหลังสะพายเป้ใส่ของจำพวกแพมเพิร์ส ขวดนม ขวดน้ำ ผ้าเช็ดน้ำลายอะไรเทือกๆ นี้ ผมเดินเข้าไปด้านในตึกด้วยท่าทางลังเล ที่นี่ไม่มีคนเดินเข้าออกมากมายเหมือนที่บริษัทอื่นๆ ผมก็เลยโดดเด่นไปโดยปริยาย หน้าตาผมดี สาวๆ เลยมองอันนี้ผมเข้าใจนะ แต่ผมรู้ว่าเกินครึ่งที่มองผมเนี่ย เพราะผมหอบเด็กมาด้วยเนี่ยแหละ ประมาณว่ามาตามเมียกลับบ้านอะไรประมาณนั้น orz


               ผมเดินก้มหน้าก้มตาก้าวฉับๆ ตรงไปที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์อย่างรวดเร็ว ใช้หลังมือเคาะเคาเตอร์สองสามทีเรียกความสนใจจากพนักงานสาวที่ก้มหน้าก้มตาอยู่ เธอเงยขึ้นมา...


               “อ้าววว สวัสดีครับ พี่สาว” ผมส่งยิ้มหวาน เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเจ๊พลอยไพลินที่กำลังตีสีหน้าตึงใส่ก็ทำงานอยู่ที่นี่เหมือนกัน ดวงตากลมโตที่ถูกแต่งแต้มมาอย่างดูจ้องมองตรงมาที่นี่ผมอย่างไม่ค่อยพอใจนักก่อนที่เขาจะกลับไปก้มหน้าเมินใส่ “เน่ สนใจผมหน่อยสิครับ~”

               “ฉันไม่ว่างมาเล่นกับเด็ก”

               “ก็ไม่ได้จะให้พี่สาวมาเล่นด้วยหรอก แค่จะถามว่าฝ่ายขายอยู่ชั้นไหนครับ?”

               “อยากรู้ก็หาเอาเองสิ” คนตรงหน้าเงยหน้าขึ้นมายิ้มเยาะใส่ผมที่กำลังขอความช่วยเหลือ

               “วันนี้ผมมีธุระจริงๆ ไม่อยากจะมาต่อล้อต่อคำนะครับ” ผมพูดอย่างเริ่มหัวเสีย


               นี่ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ตุลย์บอกว่า ให้มาถามฝ่ายประชาสัมพันธ์ว่าฝ่ายขายอยู่ไหน ผมจะไม่เดินมายุ่งด้วยเลย


               ก่อนหน้าที่จะถึงผมโทรนัดกับพี่ตุลย์ไว้แล้วครับว่าจะไปหาที่สำนักพิมพ์เพื่อจะพาตอนต้นไปตรวจพัฒนาการด้วยกัน พี่ตุลย์ก็เลยไปลางานครึ่งวัน แต่ผมต้องมาติดอยู่กับป้าพลอยไพลิน (สรรพนามขึ้นอยู่กับความโกรธ) แล้วมันแปลว่าอะไรรู้ไหม มันแปลว่า มันเสียเวลาที่พี่ตุลย์กำลังรออยู่ แล้วก็เสียเวลาที่จะเดินทางไปโรง’บาลด้วย!


               “อยากรู้มากก็เดินหาเอาเองสิ ตึกนี่มีไม่กี่ชั้นเอง”


               สิบกว่าชั้น! กล้าพูดดด


               ผมเคาะนิ้วลงกับเคาเตอร์ด้านหน้าพยายามระงับอารมณ์หงุดหงิดก่อนจะแสร้งยกยิ้มให้อีกครั้ง


               “ขอโทษนะครับพี่สาว คือเพิ่งไปสารภาพรักกับพี่ตุลย์มา แล้วโดนหักอกเอาหรอครับ ถึงได้ต้องมาพาลใส่คนอื่นแบบนี้”

               “แก...!” คนตรงหน้าลุกผึ่งอย่างโกรธจัด ก่อนจะตระหนักรู้ได้ว่าตนเองเผลอทำอะไรลงไปก็ค่อยๆ ยิ้มออกมาแล้วกลับไปนั่งตามเดิม ทำเหมือนเมื่อกี้ผมแค่ตาฝาดหูแว่วไปเอง โห...แม่ง เรียกผม ‘แก’ เขากับผมนี่สนิทกันขนาดไหนครับ ถึงมาเรียกผมด้วยคำแบบนี้ คนที่จะเรียกผมแบบนี้ได้ มีแต่เพื่อนผู้หญิงตอนอยู่โรงเรียนมัธยม กับหัวหน้าร้านหมูกระทะเฮียเปียวเท่านั้นเว๊ย! “เอส ฉันว่าเรามาเปลี่ยนเกมเล่นกันไหม?”

               “หา?” ผมมองใบหน้าสวยที่กำลังยิ้มหวานอย่างไม่ค่อยไว้ใจ

               “ก็เกมที่นายเสนอมาเมื่อวานเนี่ย ฉันว่ามันไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่เลย เปลี่ยนมาแบบนี้ดีกว่า ใครได้ตุลย์ก่อน คนนั้นชนะ คนแพ้ ออกไปจากชีวิตตุลย์ ก็คล้ายๆ กับเกมที่นายเสนอนะ แต่อันนี้น่าจะเร้าใจกว่า”

               “ได้...พี่ตุลย์?” ผมทวนคำด้วยความไม่แน่ใจความหมายของคำว่า ‘ได้’

               “ใช่ ‘ได้’ สารภาพรักมันก็แค่คำพูดไม่ชัดอะไรหรอก ภาษากายสิชัดกว่า ฉันรู้จักตุลย์ดีพอ คนอย่างตุลย์ถ้ามีอะไรกันแล้ว เขารับผิดชอบแน่!”


               ผมจ้องมองคนตรงหน้าเขม็ง สายตาที่มองมาที่ผมเต็มไปด้วยความโลภ รุมหลง ความโลภจนแววตาขุ่นมัวไปหมด ผมกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่านี่เป็นผู้หญิงคนแรกที่ผมรู้สึก...ขยะแขยง สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะเอาตัวเข้าแลกกับความรัก

               “ผมว่าเปลี่ยนเกมไปก็เท่านั้น ยังไงพี่สาวก็ไม่ชนะหรอกครับ” ผมพูดเสียงเรียบ เดินเลี่ยงอีกฝ่ายไปถามที่อยู่ฝ่ายขายจากพนักงานประชาสัมพันธ์คนอื่นที่พร้อมจะตอบคำถามผม เมื่อได้คำตอบตามที่พอใจผมก็กล่าวขอบคุณเล็กน้อยก่อนจะเดินอุ้มตอนต้นตรงไปที่ลิฟท์ ไม่หันมองผู้หญิงที่ชื่อ ‘พลอยไพลิน’ อีกแม้แต่เพียงเวี้ยววินาทีเดียว


               ผมไม่คิดจะลงไปเล่นเกมนั่นหรอก ไม่บ้ามากพอที่จะเอาตัวไปแย่งผู้ชายเอาชนะผู้หญิง...หึ ใคร ‘ได้’ พี่ตุลย์ก่อนถึงจะชนะอะนะ โคตรปัญญาอ่อน แต่ถ้าเขาอยากเล่น ผมก็พร้อมเป็นอุปสรรคให้ได้


               แล้วเดี๋ยวรู้เลย ว่ามีคนอย่างไอ้เอสเป็นอุปสรรค อย่าว่าแต่จะ ‘ได้’ พี่ตุลย์เลย แต่เส้นผมก็จะไม่ได้แตะ!








TBC

ขอโทษที่เอา 70% มาลงช้า ฮือออออออออออ เมื่อวานไปดูคอนมา กลับมาก็เลยเป็นตายเลยจ๊า แอมโซซอรี่จริงๆ YY
#daddybelover

(http://i.imgur.com/NQ0EaeC.jpg)


สปอย

" เอส ไหนบอกว่า ลินติดธุระไม่กลับด้วยไง ไหงเขาถึงทั้งโทรทั้งไลน์ตามขนาดนี้ "
" สวัสดีครับ ผมเป็น...อ่า ลูกพี่ลูกน้องของพี่ตุลย์น่ะครับ กำลังจะเข้ามหา'ลัยก็เลยอาศัยอยู่ด้วยกัน "
" พี่ก็แค่อย่าให้พี่พลอยไพลินมาบ้านพี่ทุกวันอีกก็พอ ^^ "
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 20-30% (11/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 11-07-2015 15:41:53
พี่ตุลย์แม่งฮอตเกิน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 20-30% (11/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 11-07-2015 15:49:26
พลอยไพลินก็รู้ตัวนี่นา.. แล้วทำไมถึงไม่หยุดหาเรื่องเอสเสียทีล่ะคะ? :undecided:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 20-30% (11/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 11-07-2015 16:01:11
 :ling1:

มีลางว่าเหมือนเอสจะต้องย้ายออก โฮฮฮฮฮ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 20-30% (11/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 11-07-2015 16:02:08
เอสอย่ายอม
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 20-30% (11/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 11-07-2015 16:38:19
ป้าก็รู้ตัวดีนี่ ก็ถอยไปซะสิป้า ให้คนเค้าได้รักกัน ฮ่าๆๆๆ


รอน้าาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 20-30% (11/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 11-07-2015 18:28:13
เอสตุลย์รีบรักกันเร็วๆๆๆน้ารออยู่ แล้วทุกอย่างจะสวยงาม
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 20-30% (11/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 11-07-2015 20:30:18
ก็รู้ทั้งรู้อ่ะนะเจ้แต่ก็ยังพยายามเนอะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 20-30% (11/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 11-07-2015 21:31:54
ป้าก็รู้ดีนี่ป้า?  งั้นก็รีบๆทำใจยอมรับแล้วถอยมาเป็นสาววายด้วยกันดีกว่า  :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 20-30% (11/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 11-07-2015 22:46:45
เกมที่เล่นแล้วมีแต่แพ้ คนฉลาดเขาไม่เล่นกันหรอกยัยป้า
ในเมื่อรู้ตัวแล้วจะหวังอะไรอีก สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าคนที่เขารักจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย มันสำคัญที่ว่าเขารักป้ารึเปล่าเท่านั้นเอง
ถ้าเขาไม่ได้รัก...เสียใจด้วย เกมโอเวอร์แล้วล่ะ
สำเหนียกตัวเองแล้วมูนวอร์กออกไปเงียบๆเถอะ แต่ถ้าไม่อยากให้ค้างคาก็สารภาพรักไปสักครั้งก็ได้จะได้เข้าใจอะไรง่ายๆหน่อย
ปล.โฮฮฮฮฮ อยากอ่านต่ออ่ะ รีบมานะ!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 20-30% (11/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 12-07-2015 02:29:26
มาแบบนี้แล้วให้รออีกนานๆ ฆ่าฉันให้ตายซะยังดีกว่ามาทรมาณ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 20-30% (11/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 13-07-2015 11:22:24
วันนี้จะมาไม๊ๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 20-30% (11/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lovely_aombo ที่ 13-07-2015 13:12:06
เพิ่งมาอ่านครั้งแรก ครอบครัว พ่อ พ่อ ลูก นี้ กลมกล่อมจิง :hao7: :laugh:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 20-30% (11/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Tsumsome ที่ 13-07-2015 13:19:13
 :z3:รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มาเร็วไปเร็ว
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 20-30% (11/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 13-07-2015 13:20:00
ยิ่งแข่งยิ่งแพ้นะคะคุณผู้หญิง.....
เพื่อนนี่ตัวชงเลยเนาะ 555555 ระวังเงิบ
ถึงกับจะใช้ยากันเลยหรอ ระวังมองหน้ากันไม่ติดดดด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 20-100% (13/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 13-07-2015 15:18:34
 :call: :call:


เด็กอ้วนยืนได้แล้ววว ดีใจจัง ไปหาหมอให้เช็คด้วยเน้อ

(กลัวเอสแพ้เกม เอสสู้ๆ)

หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 20-100% (13/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 13-07-2015 15:37:38
เอสมีความหลังฝังใจกับเด็กน้อยตัวเล็กๆ แบบนี้เองน้ออ..^^ แถมคราวนี้ยังได้แรงเชียร์จากป้าสร้อยจนฮึกเหิม!!! ถึงได้กล้าอุ้มตอนต้นอีกต่างหาก ดีจังเลยนะค้าา~
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 20-100% (13/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 13-07-2015 16:27:34
เอสฉลาด คงไม่พลาดท่า


แพ้ยัยป้าพลอยไพลิน หรอกนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 20-100% (13/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 13-07-2015 16:28:25
เหมือนจะมีใคนโผล่มาอีกเลยเนอะ
แต่ยังไงเอสก็กินขาด ฮ่าๆ
ว่าแต่ไปหาพี่ตุลเถอะ อย่ามัวเสียเวลากะเจ้เค้าเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 20-100% (13/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 13-07-2015 17:09:42
เจ้พลอยยังไม่เลิก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 20-100% (13/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: TOY_SKY ที่ 13-07-2015 17:13:51
ดีมากหนูเอส  ขวางให้ถึงที่สุด  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 20-100% (13/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 13-07-2015 18:30:33
เด็กอ้วนน่ารักอ่า เดินได้แล้ว 5555+
เอสยอมอุ้มเด็กอ้วนละ หุหุ

ส่วนเกมส์ #ทีมเอสสู้ๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 20-100% (13/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 13-07-2015 19:25:55
นังหมาบ้านี่นับวันยิ่งทุเรศเข้าไปใหญ่
รับไม่ได้ค่ะ นังชะนีนี่
ลูกเอสคะ ตบมันเล๊ยยยย!!
ปล.จริงๆหนูได้กับพี่ตุลย์เขาก็นับว่าเป็นเรื่องดีเหมาะกับชายชาตรีอย่างหนูดีนะคะ555
ปล.รอตอนต่อไปจ้าาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 20-100% (13/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 13-07-2015 20:02:14
มาต่อแล้ววววววว ชอบเวลาเห็นผู้ชายหล่อๆสะพายเป้ใส่ขวดนมแล้วอุ้มเด็กจังเลยค่าาาาา มันดูอบอุ่น มาก๊าวใจ

ปล.แม่ยกเอสเต็มขั้นละค่ะตอนนี้  รักเอสสสสสส  :mew1::mew1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 20-100% (13/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 13-07-2015 20:47:36
เบื่อป้าพลอยแล้วอ่ะ ใครก็ได้เอานางไปโยนทิ้งที!!!!!!!!!!!!!!!!!! :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 20-100% (13/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kangteuk1995 ที่ 13-07-2015 20:55:56
--> สปอย <-- ทำค้าง  :a5:
อยากอ่านต่อแล้วววว  :sad2:
เอสต้องไม่แพ้  :a2:
มาต่อเร็วๆนะ  :impress:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 20-100% (13/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 13-07-2015 21:08:42
เย่ๆๆๆๆ เด็กอ้วนตั้งไข่แล้ว เอสอุ้มน้องแล้ว
ส่วนเรื่อง ผญ คนนั้น ยิ่งเวลาเดินเท่าไหร่ยิ้งดิ้นรน แม้กระทั่งวิธีสกปรกยังจะไม่เว้น ถ้าตุลย์จะซื่อบื้อจนมองไม่เห็นอะไรๆแล้วละก็ เราจะพาเอสถอยห่างเอง เรื่องเงินที่ให้เอสยืม น้องมันคงทำงานมาคืนทุกบาทนั่นแหละ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 20-100% (13/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-07-2015 01:46:09
เอสสู้ๆปกป้องพี่ตุลย์ให้ได้
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 20-100% (13/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 14-07-2015 08:41:44
เอสเป็นอุปสรรคขัดแข้งขัดขาจ๊ลินให้ดีนะๆ
เพราะมาถึงขั้นนี้แล้ว เจ๊แกดูจะจนตรอกเข้าไปทุกที น่ากลัวจะไม่สนใจวิธีการให้ได้พี่ตุลย์มาแร้วแหล่ะ =_=

ตอนต้น ตั้งไข่แร้ว จะเดินแระน๊าาาา >\\\<
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 20-100% (13/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 14-07-2015 09:29:31
แหมๆ ถึงขนาดต้องใช้ยาเลยเหรอป้า?

ถ้าถึงขนาดที่ต้องใช้ตัวช่วยขนาดนี้แล้ว ก็แสดงว่า เขาไม่ได้มีใจให้แม้แต่นิดเลยน่ะสิ แบบนี้ควรจะม้วนเสื่อกลับบ้านไปได้แล้วนะครับ อย่าอยู่เป็นก้างขวางคอเขาเลย

ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 20-100% (13/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 14-07-2015 10:31:26
คือต้องอยากได้อยากโดนขนาดไหนถึงกล้าทำแบบพลอย = =
อยากรู้แล้วว่าเอสจะทำยังไงต่อ วี๊ดดดดดดดดด
เจ้าหมูน้อยยืนได้แล้ววววว  เอสก็อุ้มเจ้าหมูได้แล้ว กรี๊ดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 20-100% (13/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 14-07-2015 11:10:15
เอายัยป้าเข้ากรุไป
ครอบครัวเขาจะสุขสรรค์กัน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 20-100% (13/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 14-07-2015 18:31:34
เย้ ในที่สุดเอสกับเด็กอ้วนก็เข้ากันได้ซะที
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 15-07-2015 01:11:37
ตอนที่ 21




                ‘หมอเขาก็บอกอยู่ว่าตอนต้นอยู่ตัวคนเดียวมากเกินไปนะ’

                ‘แล้วจะให้ฉันทำยังไงเล่า ไม่ไปทำงานแล้วจะเอาเงินที่ไหนกิน

                ‘พี่กระเตงลูกไปทำงานด้วยสิ’


                พี่ตุลย์มองผมที่กำลังอุ้มตอนต้นขึ้นมาระดับปากก่อนจะสวมสูทที่พาดเอาไว้บนเตียงนอนในห้อง


                ‘ถ้าฉันทำงานนั่งออฟฟิศเฉยๆ ก็คงจะเอาลูกไปด้วยแล้วละหน่า ฉันก็อยากจะทำอย่างที่หมอบอกเหมือนกันแหละ แต่งานฉันมันต้องออกไปข้างนอก เจอคนมากมาย ไปดูตลาดที่จะเอาหนังสือลง มันกระเตงลูกไปมาไม่ได้หรอกนะ’

                ‘ก็ตอนที่พี่ออกไปก็ฝากเพื่อนร่วมงานไว้ก็ได้นี่’

                ‘จะฝากใครละ? เขาก็อยู่ฝ่ายขายเหมือนฉันกันหมด ฝากลินก็ไม่ได้ เป็นผู้หญิงแตะปุ๊บก็ร้องไห้ปั๊บอยู่ดี เพราะงั้นถึงหมอจะบอกแบบนั้นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องให้อยู่บ้านอยู่ดีละนะ’ พี่ตุลย์ว่าพร้อมกับลูบผมบางๆ ของลูกชายคนเล็กด้วยความเอ็นดู ใบหน้านั่นแฝงไปด้วยความหนักใจแต่มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริงๆ ‘ฉันไปทำงานก่อน ตอนต้นชอบนายมาก ตอนนี้เล่นกับตอนต้นได้แล้วนี่ ก็ฝายช่วยป้าสร้อยเขาหน่อยแล้วกัน ถ้าอยู่กับนาย ตอนต้นคงไม่เป็นอย่างที่หมอพูดหรอก’


                แล้วผมก็ทำได้เพียงแค่อุ้มตอนต้นดูไอ้คุณพ่อตุลย์เดินถือกระเป๋าเอกสารออกจากห้องไปทำงานอย่างเช่นทุกๆ วัน


                ...


                อยู่กับผมคงไม่เป็นไรงั้นหรอ...ผมใช่พ่อมันที่ไหนละเฮ้ย!!!!!!! 


                เมื่อวานครับ ผมกับพี่ตุลย์พาตอนต้นไปตรวจพัฒนาการมา มีอยู่ช่วงนึง ที่เจ้าหน้าที่ ให้พี่ตุลย์ที่เป็นพ่อแอบออกห้องไปทิ้งตอนต้นเอาไว้กับคนแปลกหน้า ถึงช่วงแรกที่ตอนต้นไม่เห็นคุณพ่อก็ยังไม่เป็นไรยังคงเล่นของเล่นที่กองอยู่ที่พื้น แต่คนแปลกหน้าที่อยู่ในห้องด้วย ทำท่าจะมาเล่นด้วยก็ร้องไห้จ๊าออกมา ตอนที่ผมยืนดูอยู่ข้างนอกก็คิดว่า ผลออกมาน่าจะดี เป็นเด็กไม่ขี้แย เลี้ยงง่าย แต่ปรากฎ ผลพลิก! คุณหมอบอกผลสรุปว่า ตอนต้นอยู่คนเดียวมากเกินไป หมายถึง อาจไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับคุณพ่อมากนัก ซึ่งปกติเด็กวัยนี้ ทันทีที่ไม่เห็นพ่อแม่อยู่ด้วยจะร้องออกมาทันที แต่ตอนต้นไม่ได้เป็นอย่างนั้น แสดงให้เห็นว่าเขาชินแล้ว ซึ่งหากเป็นอย่างนี้ต่อไปในอนาคต อาจจะทำให้เกิดช่องว่างระหว่างลูกชายกับคุณพ่อ โตไปในอนาคต ตอนต้นก็อาจจะเป็นเด็กที่เก็บความรู้สึกเอาไว้คนเดียว ไม่มีความรู้สึกว่าพ่อจะช่วยแก้ปัญหาใดๆ ได้ในอนาคต


                ฟังแล้วมันเป็นเรื่องใหญ่ใช่ไหมละ! นั่นแหละคือเหตุผลว่าทำไมตอนนี้ผมถึงมายืนอยู่ที่นี่อีกครั้งนึง!


                ผมเดินเข้าไปในตึกสำนักพิมพ์ที่ทำงานของพี่ตุลย์ที่เมื่อวานผมก็มา พร้อมกับความหล่อเหมือนเดิม ตอนต้นเหมือนเดิมกระเป๋าเป้เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเสื้อผ้าชุดใหม่และต่างหูวงกลมสีดำอันใหญ่แบบโคตรแบดแทนที่อันสามเหลี่ยมซื้อมาตอนขากลับไปคอนโดเมื่อวาน ผมเดินวางมาดย่างหนอย่างหนออย่างเชื่องช้า เพื่อให้ผู้หญิงในระแวกนั้นได้ยลของดีอย่างผม เล่นหูเล่นตาบ้างพอให้หัวใจกระชุ่มกระชวย ไม่ลืมที่จะหันไปหาพี่สาวคนสวย ‘พลอยไพลิน’ ที่ดูตกใจที่เห็นผมมาที่นี่อีกครั้ง


                ผมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปหาเธอ


                “หวัดดีครับ ทำงานเหนื่อยเปล่า~”

                “...” อีกฝ่ายเมิน ไม่ตอบคำถามผม แต่ผมไม่แคร์~ คนอย่างเอสพูดคนเดียวเป็นชั่วโมงๆ ได้ไม่อยากจะบอก สกิลสูงมาก

                “ไม่อยากคุยก็ไม่เป็นไรครับ งั้นผมขอตัวไปหาพี่ตุลย์ก่อนนะ ว่าไปพี่สาวก็น่าสงสารนะครับโดนขังอยู่ในคอก ไม่ใช่ๆ อยู่แต่ที่โต๊ะประชาสัมพันธ์ ไปหาพี่ตุลย์ก็ไม่ได้ งั้นไม่เป็นไรนะครับ เดี๋ยวผมไปหาให้เอง มีขนมเขนิมอะไรจะฝากไปไหมครับ? ผมจะได้เอาไปกินระหว่างทางตอนขึ้นลิฟท์ไปหาพี่ตุลย์” สิ้นคำพูด ดวงตากลมโตที่วันนี้ก็แต่งมาอย่างดีตวัดมองผมอย่างอาฆาต จนผมต้องแสร้งยกมือขึ้นทำท่ายอมแพ้อย่างกวนๆ “โอ๊ะๆ ผมไปดีกว่า” ผมส่งจูบให้หนึ่งทีก่อนจะเดินเลี่ยงตรงมายังลิฟท์


                หลังจากออกจากลิฟท์ก็ตรงไปทางซ้ายมือ ไปยังห้องกระจกใสขนาดใหญ่ที่มีป้าย ‘Sales Department’ อยู่เหนือประตู คราวนี้ผมมาโดยไม่ได้บอกเลยไม่รู้ว่าคอกทำงานอันไหนที่เป็นที่ทำงานของพี่ตุลย์ เลยทำได้เพียงยกตอนต้นขึ้นนั่งบนหัวให้ช่วยหาคุณพ่อจากมุมสูงแทน


                “อ้าว หนู มาหาใครหรอ?” ในขณะที่ผมกำลังสอดส่ายสายตาอยู่ ก็มีพนักงานที่ค่อนข้างมีอายุเปิดประตูผัวะออกมาถามผม

                “เอ่อ...คือ ผมมาหาคนชื่อตุลย์น่ะครับ”

                “อ๋อ ตุลามีคนมาหา” คนที่นั่งทำงานอยู่ด้านในคนหนึ่งโผล่หัวขึ้นมาจนพ้นที่กั้นโต๊ะทำงาน ทันทีที่พี่ตุลย์เห็นว่าเป็นผมกับตอนต้นก็รีบพุ่งออกมาจากห้องจนขาแทบพลิก

                “มาทำไม!” เสียงดุๆ มาพร้อมกับสายตาโหดๆ

                “พาลูกมาหา” ยกตอนต้นให้ดูด้วยนะ

                “เอามาทำไม! บอกแล้วใช่ไหมว่าฉันทำงะ...”

                “นี่ลูกตุลาหรอ?”

                “ครับ” ผมตอบผู้ชายที่ช่วยเรียกพี่ตุลย์ อีกฝ่ายดูตื่นตาตื่นใจขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นใบหน้าของตอนต้นชัดๆ รอยยิ้มกว้างกับเสียงหัวเราะดังแผ่วเบาเหมือนกับคุณตาเวลาได้เห็นหน้าหลาน เขาอุ้มตอนต้นออกไปอ้อมกอดผมทันทีก่อนจะวิ่งโร่กลับเข้าไปในห้องของฝ่ายขาย

                “ดูนี่! ลูกตุลาเว๊ยเฮ้ย!”


                เท่านั้นแหละทุกคนที่อยู่ในห้องก็กลายเป็นผึ้งที่ถูกตีรังลุกหือออกจากโต๊ะทำงานเดินกรู่กันเข้าไปหาตอนต้นที่ถูกคุณลุงนั่นพาตัวไป


                “เดี๋ยวหัวหน้า!” พี่ตุลย์ร้องลั่นรีบวิ่งกลับเข้าไปในห้องทำงานทิ้งผมที่ยังยืนอึ้งแดกอยู่ข้างนอก แต่พอตั้งสติได้ก็รีบเข้าไปในห้องฝ่ายขายที่ตอนนี้วุ่นวายเพราะไอ้เด็กอ้วนไปแล้ว!

                “กรี๊ดดด ตุลย์! ลูกน่ารักจังเลยอะ อ้วนจ้ำม้ำ น่ารักที่สุด ทำไมไม่พามาที่ทำงานบ้างหะ” พนักงานสาวคนหนึ่งทันทีที่เห็นพี่ตุลย์ฝ่าฝูงชนจะไปเอาลูกคืนก็มาร้องหวีดว๊ายด้วยความปลื้มปิติทันที

                “คือว่า...”

                “ลูกตุลย์น่ารักมากกก ผิวลื่นมากเลย นิ่มนุ่มไปหมด ขนาดมีคนเข้าไปรุมขนาดนี้ก็ไม่ตกใจไม่งอแงเลย ยิ้มหัวเราะเอิ๊กอ๊ากตลอด” พนักงานผู้หญิงอีกคนที่ค่อนข้างมีอายุหันมากรี๊ดกร๊าดกับพี่ตุลย์บ้าง

                “เอ๋? จับตัวแล้วลูกผมไม่ร้องหรอครับ?”   

                “ก็ไม่ร้องเลยนะ”


                พี่ตุลย์ละสายตาจากพนักงานคนนั้นหันมองลูกชายตนเองที่ยังโดนคนที่ตนเรียกว่า ‘หัวหน้า’ อุ้มไว้อยู่ โดยมีเพื่อนร่วมงานรุมล้อมจนแทบจะมองไม่เห็น ก่อนจะเดินถอยหลังห่างออกมาจนยืนข้างผมในที่สุด


                “เห็นม๊า พาตอนต้นมาที่ทำงานด้วยมันไม่ได้เรื่องเยอะอย่างที่พี่คิดหรอก พวกเขาชอบตอนต้นกันออก เขาไม่ว่างมาช่วยดูตอนต้นตอนพี่ออกพี่ข้างนอกอะหรอ? ผมว่าเขาพร้อมจะโดดงานมาเล่นกับตอนต้นให้พี่เลยมากกว่า”

                “อื้ม แต่ว่า...ทำไมตอนต้นถึงไม่ร้องเลยนะ โดนผู้หญิงจับตัวแท้ๆ”

                “ผมว่าเพราะนั่นหรือเปล่า ก็หัวหน้าของพี่อุ้มไอ้เด็กอ้วนนั้นไว้ไง อาจจะแบบอยู่ในมือผู้ชายอยู่ก็เลยรู้สึกปลอดภัยอะไรเงี่ย พอพูดแล้ว ก็นึกได้ เท่าที่ผมเห็นนะตอนที่ตอนต้นร้องไห้เพราะโดนผู้หญิงจับตัวก็ตอนที่นั่งอยู่คนเดียวทั้งนั้นเลยนะ”

                “อื้ม...”

                “พี่เคยอุ้มตอนต้นออกข้างนอก แล้วมีผู้หญิงมาเล่นด้วยไหมละ?”

                “ฉันไม่ค่อยได้พาตอนต้นออกจากบ้านหรอก”

                “หา?” ผมร้องเสียงสูง

                “ก็ฉันไม่ว่างต้องทำงาน”

                “อย่ามาอ้าง พ่อผมก็เลี้ยงผมไปด้วย ทำงานไปด้วยยังทำได้เลย” พี่ตุลย์หัวเราะเสียงเบาเล็กน้อยก่อนที่เราทั้งคู่จะมองไปยังภาพตรงหน้า ถึงแม้จะมีคนบางส่วนกลับไปทำงานแล้ว แต่ก็ยังร้องเรียก โบกขนมหยอกล้อกับตอนต้นไม่ขาดสาย ส่วนคนที่พาตอนต้นไปดูเหมือนว่าจะหลงรักเด็กอ้วนนั่นหนักสุด ใครขออุ้มบ้างก็ไม่ยอม หานู่นหานี่มาให้อย่างดี แทบจะดีกว่าคนเป็นพ่อแล้วเนี่ย “งั้นพี่ก็ดูตอนต้นไปนะ ผมจะไปที่อื่น”

                “เฮ้ย ไปไหน?” พี่ตุลย์คว้าข้อมือผมที่กำลังตั้งท่าออกจากห้องทำงานขนาดใหญ่นี่ไป

                “ไปห้างฯ ดิ ผมจะเข้ามหา’ลัยไม่กี่วันนี้แล้วนะ เสื้อผ้ายังไม่ได้ซื้อเลย”

                “อ๋อ” พี่ตุลย์ตอบรับเสียงเบาก่อนจะคลายมือที่คว้าผมเอาไว้ออก

                “ทำแต่งานอะ ทำตัวเป็นพ่อบ้างเหอะ ตอนเที่ยงก็นั่งป้อนข้าวตอนต้นซะ มัวแต่ให้ป้าสร้อยทำ ป่านนี้ป้อนข้าวลูกไม่เป็นแล้วเนี่ย ส่วนผมจะกลับมาประมาณบ่ายๆ แล้วกัน ไปละ บาย” พูดเสร็จก็ไม่ทิ้งระยะให้พี่ตุลย์ตั้งตัว ถอดกระเป๋าเป้ที่สายอยู่ข้างหลังยื่นให้คนเป็นพ่อแล้ววิ่งปรู๊ดปร๊าดออกจากสำนักพิมพ์นี้ไปทันที


                ในระหว่างที่พี่ตุลย์ทำหน้าที่ของตัวเอง ผมก็ขอทำหน้าที่ของตัวเองบ้างก็แล้วกัน












                หลังจากที่ซื้อของเตรียมตัวกับการเป็นเด็กมหา’ลัย จนกระเป๋าตังที่เดิมทีก็เบาอยู่แล้วก็ยิ่งเบาลงไปอีก ผมก็กลับมาที่สำนักพิมพ์ตามเดิม ตอนแรกก็ว่าจะกลับบ้านเลยดีไหม ให้พ่อลูกสองคนได้เขาอยู่ดูแลกัน แต่บังเอิญ วิถีคนจนครับ เกาะพี่ตุลย์กลับด้วยแล้วกัน อิอิ


                อ้ายคนจน จำต้องทนปั่นรถถีบ~ จะไปจีบอีน้องคนงะ...


                เฮ้ย นั่นพี่ตุลย์กับเจ๊พลอยไพลิน!


                ผมที่กำลังเดินขึ้นลิฟท์ ชะงักเท้าที่กำลังก้าวเมื่อเห็นว่าแบล็คแคนยอนที่ตั้งอยู่ห่างออกไปมีร่างของใครสองคนที่ผมคุ้นตานั่งอยู่ด้วยกัน ผมนี่ถลกแขนเสื้อขึ้นเลย เดินอาดๆ ตั้งท่าจะไปทำหน้าที่ของตัวอิจฉาสักหน่อย แต่ก่อนที่ผมจะได้ก้าวไปถึง กลับเห็นภาพตรงหน้าชึ้นมาชัดเจนเสียก่อน

               
                “หื้ม~” ผมยิ้มกระย่องในใจ ก่อนจะค่อยๆ ยืนกอดอก


                ภาพตรงหน้าผมเป็นภาพที่พี่ตุลย์กำลังป้อนข้าว ป้อนน้ำ เล่นกับตอนต้นที่พี่เขาเอามานั่งอยู่บนตัก ไม่สนใจคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเลยแม้แต่น้อย ไม่สนใจจริงๆ นะ นี่ผมยืนมองดูอยู่สักพักแล้ว เจ๊พลอยไพลินพูดอะไรไม่รู้อยู่คนเดียว แต่พี่ตุลย์แม่งไม่ตอบเลยอะ ฮ่าๆๆๆๆ โคตรจี้ เออ ฮาดีว่ะ


                ผมหัวเราะก๊ากจนคนที่เดินสวนต้องเลี้ยงหลังหันมามอง หัวเราะจนปวดท้องก่อนจะสูดอากาศลึกๆ ระงับอารมณ์ เดินฮัมเพลงอารมณ์ดีเข้าไปในร้าน หยิบช้อนตักอาหารในจานของพี่ตุลย์ขึ้นจ่อปากคนที่เอาแต่สนใจลูกของตัวเองแม้กระทั้งตอนที่อ้าปากงับที่ผมป้อน จนตอนที่กลืนลงไปแล้วนั้นแหละ ก็เหมือนกับจะเพิ่งรู้สึกตัวแล้วเงยหน้ามองมาที่ผม


                “ไหนบอกกลับมาตอนบ่าย?”

                “ก็ซื้อของเสร็จแล้ว ก็เลยกลับมาไวไง”

                “แล้วกินอะไรหรือยัง?”

                “กินแล้ว ฮี่ๆ พี่กินเสร็จยังอะ จะได้ขึ้นไปข้างบนด้วยกัน”

                “กินเสร็จแล้ว...งั้นผมไปก่อนนะลิน” ประโยคท้ายหันบอกกับพี่สาวคนสวยที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย

                “อะ โอเค งั้นเดี๋ยวตอน...”

                “พี่ ตอนต้นต้องไปเข้าห้องน้ำด้วยไหมอะ หลังกินข้าว เมื่อวานผมเห็นป้าสร้อยพาไปเข้าห้องน้ำด้วยนะ” ผมพูดแทรก

                “งั้นเดี๋ยวเข้าห้องน้ำก่อน แล้วค่อยขึ้นข้างบน”

                “โอเคครับ!~” ผมรุนหลังพี่ตุลย์ให้เดินนำหน้า เหลียวหันมองเจ๊พลอยไพลินที่ถูกทิ้งไว้ให้นั่งอยู่ที่เดิม ท่าทางเหมือนกำลังหงุดหงิดปนมึนงงที่ผมมาเร็วเคลมเร็ว แต่พอผมยักคิ้วให้ห้าทีแบบรัวๆ ก็ตู๊ม! กลายเป็นโกโก้ครั๊น


                บอกแล้วไง ผมมันอุปสรรคโคตรใหญ่อยู่แล้ว อิอิ


                “เออๆ พี่ตุลย์”

                “หื้ม?”

                “ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ตอนที่ผมมาหาพี่อะ พี่ลินฝากมาบอกด้วยแหละว่า เย็นนี้เขาไม่ไปคอนโดพี่นะ












                "เอส ไหนบอกว่า ลินติดธุระไม่กลับด้วยไง ไหงเขาถึงทั้งโทรทั้งไลน์ตามขนาดนี้"

                “แอ๊ก! เจ็บๆๆๆ อย่าเอาจริงขนาดนั้นเด๊ะ เดี๋ยวแขนหักจริงทำไง!” ผมร้องโวยวายขึ้นเมื่อที่หนึ่งใช้ท่า Cross Armbreaker ที่เลียนแบบจากมวยปล้ำที่เพิ่งดูด้วยกันตอนช่วงหัวค่ำมาเล่นกับผม ที่จริงมันก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากเพราะท่ามันยังไม่ถูกซะทีเดียว แถมตัวยังกระเปี๊ยก แต่เอาจริงก็คงทำให้ไหล่เคล็ดได้อยู่

                “เอส อย่ามาทำเลี่ยงไม่ตอบ”


                แม่ง รู้อีก


                ผมกรอกตาไปมาเล็กน้อย พลิกตัวนอนแผ่หลาทับที่หนึ่งก่อนจะลงมือจี้เอวจนไอ้เด็กนั่นหัวเราะก๊ากดิ้นตกโซฟาไปเป็นการจบสงครามในที่สุด


                “ก็ผมได้ยินอย่างนั้นจริงๆ นะ พี่เขาบอกว่า ‘เอส เย็นนี้พี่ไม่ไปคอนโดนะ’ นะว่างี้”

                “แน่ใจนะว่าเขาพูดงี้” พี่ตุลย์ที่นั่งพิมพ์งานอยู่ในครัวขมวดคิ้ว หรี่ตามองผม

                “สงสัยหูเพี้ยนแน่เลย พอดียังไม่ได้แคะขี้หูอะ อาจจะพูดว่า ‘เอส เย็นนี้พี่ไปคอนโดนะ’ ละมั้ง งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะไปขอโทษพี่สาวเขาเองครับบ~” ผมยิ้มแฉ่ง แบบไร้ซึ่งความรู้สึกผิดสุดๆ ก่อนจะลุกเดินไปหาเจ้าของบ้าน เท้าแขนกับโต๊ะมองหน้าจอโน๊ตบุ๊คที่กำลังขึ้นหน้าต่างเฟสบุ๊ค กับป็อปอัพหน้าต่างไลน์ของเจ๊พลอยไพลิน

                “พรุ่งนี้จะไปที่ทำงานฉันอีกแล้วหรอไง?”

                “ช่าย~” ผมเนียนปิดหน้าต่างไลน์ “อะ พี่ดูนี่ดิ ควิกเด็กดี ‘มาเช็คความรู้สึกของคุณกันเถอะ’ อ่า...คุณเคยรู้สึกแน่นหน้าอก เหมือนหัวใจเต้นเร็วบ้างไหม? อื้มมมมม” ผมทวนคำถามเสียงเบาก่อนจะกดคำตอบคำถามประมาณสิบข้อไปเรื่อยๆ

                “ทำตัวแปลกๆ”

                “...” ผมกดส่งคำตอบ

                “มีอะไรกันแน่? คราวที่แล้วก็ไม่ยอมบอก”


                ผมหันหน้าจอโน๊ตบุ๊คให้เจ้าของดูพร้อมกับหัวเราะลั่นกับคำตอบที่ผมได้รับ


                “ตอนที่ทำควิก ผมคิดถึงพี่อะ ควิกนี้บอกว่า ผมกำลังตกหลุมรัก แล้วก็ แล้วก็บอกว่า ‘ถ้าคนๆ นี้เป็นคุณที่ไม่อยากรัก ให้รีบออกมาห่างเขาซะ เพราะถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไป เธอต้องตกหลุมรักเขาถอนตัวไม่ขึ้นแน่เลย!’ ควิกนี้ตลกดี นี่ถ้าพี่เป็นผู้หญิงคงเชื่อไปแล้วนะเนี่ย แต่พี่ดันเป็นผู้ชายเนี่ยดิ รู้เลยว่าควิกนี้มัวแน่นอน”


                ผมทรุดตัวนั่งลงกับเก้าอี้ข้างๆ ยังหัวเราะค้างอยู่ จนกระทั้งรู้ถึงสายตาของพี่ตุลย์ที่มองมาทำให้เสียงหัวเราะของผมค่อยๆ กลืนหายเข้าไปในลำคอ


                ระ รอยยิ้มนั่นอีกแล้ว


                รอยยิ้มขี้เล่นอันเดียวกับที่ผมเห็นเมื่อตอนที่เผลอหลุดปากไปว่า ‘ให้ผมเป็นแฟนพี่สิ’ ตอนนั้น


                รู้สึกไม่ปลอดภัย ว่าแล้วก็ลุกไปเล่นกับที่หนึ่ง...


                หมับ!


                “แย๊กกก!” ผมหันขวับมองข้อมือตัวเองที่โดนไอ้พี่ตุลย์คว้าเอาไว้ทันที “จับทำไมมม จะไปเล่นกับที่หนึ่ง”

                “ก่อนหน้านี้ฉันก็เล่นควิกนี้แล้วนะรู้ปะ”

                “ไม่ได้อยากรู้เลยครับ ออกสอบรึก็เปล่า” ผมผิวปากแสดงท่าทางชัดเจนสุดๆ อะ ว่าไม่รู้ และไม่อยากรู้ อยากจะสะบัดข้อมือให้หลุดจากการเกาะกุม แต่ถ้าสะบัดแรงกว่านี้ นอกจากหลุดแล้วมือได้ม้วนตัวกลับมาฟาดหน้าผมด้วยแหงๆ

                “ก็แค่จะทำดูเล่นๆ แต่พออ่านคำถามแล้วก็นึกถึงนายขึ้นมาซะงั้น แล้วรู้ปะ ฉันได้อะไร?”

                “นี่เพิ่งบอกไปเมื่อสามบรรทัดก่อนหน้านี้ว่าไม่อยากรู้คร๊าบบบ ถ้ารู้แล้วได้เงินสักพักจะยอมฟังก็ได้นะเอ้า” สิ้นคำพูดผม ไอ้พี่ตุลย์ก็หัวเราะทันที ท่าทางอารมณ์ดี ที่ผมไม่ได้เห็นบ่อยนัก ยิ่งทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ จนทำตัวไม่ถูก อยากจะวิ่งทะลุกำแพงร่วงลงไปชั้นล่างให้รู้แล้วรู้รอด

                “ฉันก็ได้ ‘กำลังตกหลุมรัก’ เหมือนกันนะ”

                “ฮ่ะๆ” ผมหัวเราะเสียงแห้ง “ผมบอกแล้วไงว่าควิกมันมั่วๆ พี่ก็อย่าไปเชื่ออะไรมากเลย”

                “ยังไม่ได้บอกว่าเชื่อเลย ก็แค่บอกว่าฉันเล่นแล้วได้อะไรก็แค่นั้นเฉยๆ”


                นะจุดๆ นี้ เกลียดไอ้พี่ตุลย์


                ผมแงะเลยครับ แงะ ถ้าใช่มือแล้วแกะมือไอ้พี่ตุลย์ไม่ออกผมจะใช่ปากกัดและจริงๆ แต่บังเอิญว่าไอ้พี่ตุลย์คลายมือแล้วแค่แกะก็ออกมาอย่างง่ายดาย


                “ผมไปหาป้าสร้อยละ” ผมพูดเสียงห้วน เดินดุ่มๆ ตรงไปยังประตูห้อง

                “ไปทำไม?”

                “ไปเดท” ผมว่าพร้อมกับเปิดประตูออกไป แต่ก่อนจะปิดประตูลงผมดันได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของพี่ตุลย์ดังตามออกมาด้วย

               
                หึ่ย! ที่จริงผมนัดกับป้าสร้อยทำอาหารด้วยกันตอนเช้าพรุ่งนี้ต่างหาก แต่ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้พี่ตุลย์แหละที่พาผมเข้าโหมดแปลกๆ ผมก็ไม่ต้องรีบมาหลบภัยข้างนอกแบบนี้ เพราะไอ้ควิกบ้านั่นด้วย


                ตกหลุมรัก...งั้นหรอ?


                ...


                แม่งเอ๊ยยย ตอนแรกก็ไม่มีความคิดนี้หรอก แต่พอมีเท่านั้นแหละ ก็มีความคิดนี้เลย ถึงกับต้องขออุทาน


                ไอ้เหี้ยยยยยยยยยย









50%
งื้ออออ นี่นั่งแต่งตั้งแต่บ่ายสอง ไม่คิดเลยว่าจริงๆ แล้วฟิลลิ่งไอ้เอสมันยากกว่าที่คิด แง๊ววว
อีกครึ่งนึงเจอกันพรุ่งนะครัช




ขอสอบถามเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกในการหันมาจับนิยายวายแทนแฟนฟิค แล้วก็เป็นครั้งแรกที่โพสนิยายลงเล้าเป็ดแทนเด็กดี
อยากสอบถามว่า เอิ่มมม ถ้าเรื่องนี้จะทำเป็นหนังสือ คิดว่าไงคะ?
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-07-2015 01:48:20
เอสเก่งว่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 15-07-2015 02:02:16
แน่ะๆๆๆๆๆๆ เริ่มทำตัวแปลกๆกันทั้งคู่แล้ววววว เมื่อไรน้าคู่นี้เขาจะเริ่มฟินกันจริงๆจังๆสักที
ส่วนเรื่องหนังสือ ถ้าทำเป็นเล่มจริง เราจะซื้อนะ (เปิดดูเงินในกระเป๋าแป๊บ...เอิ่ม เบาบางมาก 555) เป็นอีกเรื่องที่น่าเก็บเพราะอ่านแล้วมันคลายเคลียดดี ยังเก็บมุกของนังหนูเอสไม่ครบเลย มุกเยอะเกิ๊นน 555
เราเคยสิงอยู่เด็กดีมาก่อน รู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลกๆชอบกล แบบว่ากึ่งต้อนรับกึ่งขับไล่อย่างไรชอบกล (โดยเฉพาะไอ้มาตรการคำหยาบ+เอ็นซีนั่นล่ะ ตอนนู้นที่เคยเข้าไปสิงนี่คือเจ็บใจมาก เรื่องที่ชอบโดนแบนหมดเลย แต่นิยายชายหญิง 18+++++ คืออะไรอ่ะ ติดท็อปหนึ่ง -*-)
เอาเป็นว่าสรุปสั้นๆ ถ้าเปิดก็จอง แต่ถ้าจะให้ดีก็เปิดนานๆหน่อยเนอะ จะรีบเก็บตังค์!
ปล.รออีกครึ่งหนึ่งนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 15-07-2015 02:17:08
รออีกครึ่งครับผม ^^
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 15-07-2015 06:49:17
เอสนี่เข้าใจหัวอกคนเป็นลูกอย่างตอนต้นโดยแท้~ ดีจังนะคะเหมือนกับพี่ตุลย์ได้ที่ปรึกษาทางด้านกระชับความสัมพันธ์กับลูกน้อยมาอยู่ใกล้ๆ ตัวเลย ^^
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 15-07-2015 08:33:33
เอส คุณแม่ดีเด่นมากๆเรยอ่ะ 55555
เราต้องให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูก อิอิ
แต่ได้ควิส "กำลังตกหลุมรัก" ทั้งคู่ขนาดนี้
ยอมรับความจิงดีไหม เอส! 55555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าชายหมูตอน ที่ 15-07-2015 08:57:42
ผมนักเขียนเก่งมากครับ
ที่ใช้ตัวละครไม่กี่ตัวเล่าเรื่อง เป็นนิยายที่สมูท
สอดแสรก การใช้ชีวิตของครอบครับ และหยิบจับ
การใช้ชีวิตมนุษย์เงินเดือนอย่างแท่จริง
พี่ตุลย์เป็น ผู้สวมบทพระเอกที่เหมือนนักเขียนหยิบเรื่องจริงมาเขียนเลย ส่วนเอส เป็นลุคนายเอกที่ กวนๆเกรียนตามแบบวัยรุ่นยุคโซเซียล ได้ดี ทุกๆอย่างเข้ากันได้ ลงตัว ครับ แต่ไหนๆแล้วช่วยต่อภาคของรุ่นลูก น้องที่หนึ่งกะเจ้าหนูจอมแกล้งด้วยนะครับ
ปล.ขอห้าม นักเขียนอย่าทิ้งนักอ่านไปนานนะครับ
การที่ทำงานหนักๆมาหนังอ่านนิยายเรื่องนี้แล้วช่วยให้คลายเครียดได้มากขึ้นเลยครับ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 15-07-2015 09:00:48
ไอ้เอสเอ๋ย...มาถึงตอนนี้แล้วแกอย่ามัวแต่คิดมาก


รวบหัวรวบหางพี่ตุลย์ไปเลย ยอมเป็นเมียพี่ตุลย์ซะ


ดีกว่าปล่อยพี่ตุลย์ให้กับคนอื่นนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 15-07-2015 09:27:17
เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราชอบเลยนะ
เราว่ามาลงในเล้าก็ดีนะ เมื่อก่อนเคยอ่านในเด็กดี แล้วแบบอารมณ์ค้างอ่ะ บางตอนก็โดนแบน มี NC ก็ไม่ได้
เราเลยเปลี่ยนมาอ่านในเล้าเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 15-07-2015 09:32:46
เอาหล่ะกำลังตกหลุมรึกในที่สุดก็แก้ปัญหาของตอนต้นได้แล้ว
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 15-07-2015 09:34:09
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน  พออ่านแล้วติดหนึบเลย  คนแต่งเขียนดี บอกเล่าเรื่องราวได้เหมือนคนที่ใช้ชีวิตอยู่ประจำ คนทำงานอย่างตุลย์ที่เป็นคุณพ่อลูก 2 ที่มัวแต่ทำงานหาเงิน โดยเอาเงิน หรือสิ่งของมาให้ลูก แต่หารู้ไม่ว่าลูกๆ อยากได้รับความอบอุ่น ความใกล้ชิด สนิทสนม  แต่พอมีเอสมาอยู่ด้วย เอสเหมือนเป็นคนที่เปิดโลกอีกใบให้ตุลย์ได้รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดอะไรไปบ้างเกี่ยวกับลูก และพยายามที่จะแก้ไข   ตุลย์เป็นผู้ใหญ่ที่ยังต้องให้เด็กมหาลัยอย่างเอสคอยสอน

ส่วนคุณพี่ลินนั้น  เอสคงต้องบอกพี่ตุลย์ให้พูดออกไปตรงๆ ดีกว่าที่จะให้ยัยพลอยมาใกล้ชิดแบบนี้  เพราะความที่ตุลย์เป็นผู้ชายที่มองโลกในแง่ดีเกินไป เพราะคิดเพียงว่าแค่บอกว่าคบเป็นเพื่อนก็จบ  แต่สำหรับพลอยไพลินแล้วเธอไม่จบ  หรือถ้าให้ดีเอสไหนๆ ก็เริ่มเข้ากับลูกๆ พี่ตุลย์ได้แล้ว ก็ยอมเป็นเมียพี่ตุลย์ไปเลยล่ะกัน 555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 15-07-2015 10:02:52
ดีใจที่ตื่นมาแล้วได้อ่านเรื่องนี้ :)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 15-07-2015 10:15:01
เอส จับพี่ตุลย์ทำสามีซะ

นี่คือคำแนะนำที่ดีที่สุดนะ 5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Tsumsome ที่ 15-07-2015 11:23:21
 :haun4: 
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 15-07-2015 12:21:05
เมื่อไหร่จะเป็นแฟนกานนนนน อิอิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 15-07-2015 12:36:49
โอยยยยย คบกันเถอะ 555555
ยัยเจ๊ลินนั่นต้องอกแตกตายแน่ๆ 555555555555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 15-07-2015 13:23:23
น้องเอสโดนพี่ตุลย์เล่นแล้ว 55555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 15-07-2015 16:04:15
พี่ตุลย์  จัดการ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Cc-kun ที่ 15-07-2015 16:07:39
ควิซครับควิซ
ไม่ใช่มาม่า ควิก ไวไว น้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 15-07-2015 17:09:30
อุ๊ยๆๆๆ เค้ากำลังจะมีซัมทิงรองทิงนองนอยกันในเร็วๆนี้แน่เลย  :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 15-07-2015 18:53:01
ฮา เกรียน 55555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 15-07-2015 19:25:37
ได้ตกหลุมรักน่ะถูกแล้ว!!!  พี่ตุลจะรอช้าอยู่ไยเล่า
รีบจีบมาเป็นแม่เลี้ยงที่หนึ่งกับตอนต้นเร็ว!!!!!
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 15-07-2015 21:09:55
สองคนนี้น่ารักมากกกกดด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 15-07-2015 21:54:22
เอสเอ๊ย แกหนีพี่ตุลย์ไม่พ้นหรอก ยอมๆเป็นเมียพี่ตุลย์ไปเถอะ!! :hao7: :hao7:

พี่ตุลย์นี่เริ่มออกลายเรื่อยๆเลยน้าาาาา ตอนแรกๆมาอย่างขรึม หลังๆนี่เริ่มหลุดแล้วอ่ะ :mew4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-07-2015 21:58:09
 :mew1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-50% (14/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 15-07-2015 23:28:56
ชักยังไงๆ หล่ะคู่นี้ อาการมันฟ้อง เล่นทำควิชแล้วคิดถึงอีกคนเนี่ย ไม่ธรรมดา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-100% (16/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 16-07-2015 12:03:11
ต่อจาก 50%


               “ตุลา ลูกมาหา” ทันทีที่ผมกับตอนต้นโผล่หน้าอยู่ที่ประตู คุณหัวหน้าฝ่ายขายที่นั่งอยู่ก็ตะโกนประกาศกับคนที่นั่งทำงานอยู่ข้างใน พอสิ้นคำ ก็เป็นอีกครั้งที่ฝูงชนพนักงานในแผนกลุกฮือขึ้นมาหาตอนต้นกันยกใหญ่ จนพี่ตุลย์ต้องรีบลุกแทรกฝูงชนเดินเข้ามาเอาตอนต้นไป

               “มาอีกจริงๆ ด้วยสินะ”

               “ก็บอกแล้วว่าจะมาอีกแล้วอีกอย่างตอนต้นก็บอกว่าอยากเจอพ่อ~”

               “ลูกฉันยังพูดไม่ได้” พี่ตุลย์ส่ายหัวกับคำพูดของผมเล็กน้อย ก่อนจะพาตอนต้นไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ทิ้งผมยืนโด่เด่อยู่หน้าประตู

               “เพิ่งสังเกต คนนี้ใครอะตุลย์?” พี่พนักงานหญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่ไม่ห่างหันถามพี่ตุลย์พร้อมกับชี้นิ้วมาทางผม 

               “นั่นสิ ตุลย์บอกว่าลูกคนโตอายุแค่เก้าขวบเองไม่ใช่หรอ?” พี่ผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่ไม่ห่างเสริมทัพ

               “สวัสดีครับ ผมเป็น...อ่า ลูกพี่ลูกน้องของพี่ตุลย์น่ะครับ กำลังจะเข้ามหา'ลัยก็เลยอาศัยอยู่ด้วยกัน"

               “หรอ หน้าตาดีจังเลยนะ บ้านตุลย์นี่หน้าตาดีหมดทุกคนเลยไหมเนี่ย?” พี่พนักงานสาวคนที่ถามว่าผมเป็นใครหันไปพูดกับพี่ตุลย์ ก่อนจะหันกลับมาที่ผม “ชื่ออะไรละเรา? พี่ชื่อแจงนะ”

               “ชื่อ...”

               “เอส มานี่หน่อย” กำลังจะอ้าปากตอบ คุณพ่อที่กำลังกระเตงลูกไปถ่ายเอกสารก็เรียกผมขึ้นเสียก่อน ผมหันไปบอกชื่อตัวเองกับพี่แจงแล้วรีบผละไปตามเสียงเรียกนั้น

               “มีอะไรหรอ?”

               “อย่าพาตอนต้นมาอีกนะ”

               “หะ? ทำไมอะก็บอกแล้วไงตอนที่พี่ออกไปทำงานข้างนอกก็ฝากพี่คนอื่นช่วยดูให้ก่อน ฝากหัวหน้าพี่ก็ได้ พี่ก็เห็นเมื่อวานแล้วนี่ว่าพวกเขาเอ็นดูไอ้เด็กอ้วนนั่นกันจะตายไป ยอมโดดงานมาดูลูกให้พี่อยู่แล้ว”

               “เพราะยอมโดดงานมาดูลูกให้ฉันเนี่ยแหละ ฉันถึงไม่อยากให้พาตอนต้นมา” พี่ตุลย์ว่าก่อนจะก้มหยิบกระดาษที่ซีร็อกแล้ว

               “ทำไมอะ?”

               “นายคิดว่ามันดีแล้วหรอ ที่ให้คนอื่นเสียงานเพราะต้องมาดูแลตอนต้น ฉันเข้าใจนะที่นายหวังดีกับเรื่องของฉัน ของลูกฉัน แต่นายก็ต้องคิดถึงคนอื่น คิดถึงผลกระทบอื่นๆ ที่ตามมาด้วย ถ้ามันทำให้คนอื่นเดือดร้อน ไม่ได้งาน งานล่าช้า ก็อย่าดีกว่า”

               “แต่หมอเขาบอกว่าพี่กับตอนต้น...”

               “ฉันได้ยินเหมือนกันหน่า” พี่ตุลย์พูดแทรก ก่อนจะหันมาสบตากับผมที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วมันก็เช่นเดิม เป็นสายตาของคนที่หนักใจและกลุ้มใจเหมือนกัน “แต่มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริงๆ พอมาคิดดูแล้ว ตอนที่ทำงานอยู่ฉันอาจจะไม่ได้เจอ ได้ยุ่งกับตอนต้นอะไรมาก แต่ตอนกลับบ้านไปแล้ว ฉันทุ่มเทให้ตอนต้นทดแทนตอนทำงานได้นี่”

               “มันก็จริงอะ...” ผมพยักหน้าคล้อยตามเมื่อคิดตามคำพูดนั้น ยกมือขึ้นมาเคาะกระโหลกของตัวเองเบาๆ เป็นการลงโทษที่คิดน้อยเกินไป

               “แต่ก็ขอบใจมากที่หวังดีกับฉัน” ผมหันตามเสียงทุ้มที่ดังอยู่ข้างหู รอยยิ้มจางๆ ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของการขอบคุณอย่างที่พูดทำให้ผมรู้สึก...


               ผม ‘กำลังตกหลุมรัก’


               แย๊กกก ไม่ใช่รู้สึกนั้นเว๊ย!


               หมายถึงรู้สึกแบบ ปลื้มปริ่ม! ปลื้มปริ่ม! เวรเอ๊ย ไอ้ควิซบ้านั่น ตื่นเช้ามาก็อุตสาห์ลืมๆ ไปแล้วนะ ยังมาหลอกหลอนกูอี๊ก!   


               “แล้วอีกอย่างที่นี่มันก็น่าเบื่ออะนะ ถ้าตอนต้นมานายก็ต้องมาด้วยใช่ไหม? ถ้าพามาส่งแล้วกลับเลยก็เปลืองเงินใช่ไหม หรือถ้าจะรอกลับพร้อมกัน แล้วระหว่างนั้นนายจะไปทำอะไร?”

               “ก็จริง จะให้นั่งรอจนเย็นก็ดูเป็นการทรมานวัยซนคนมหัศจรรย์อย่างผมไปหน่อย”

               “เพราะงั้นไม่ต้องมาหรอก ช่วงนี้อยู่แต่ห้องเตรียมตัวเข้ามหา’ลัยใช่ไหมละ? ก็อยู่เล่นกับตอนต้นที่นั่นแหละ ช่วยป้าสร้อยด้วย เฝ้าบ้านด้วย”


               อันหลังนี่น่าจะหมาใช่ไหม?


               “ก็ได้ๆ ถ้างั้นพรุ่งนี้...”

               “ตุลา! คราวนี้แฟนมาหา~” ขณะที่ผมกำลังจะพูด เสียงของหัวหน้าแผนกฝ่ายขายก็ดังขึ้นเรียกคนที่ยืนอยู่หน้าเครื่องถ่ายเอกสาร พี่ตุลย์เอาตอนต้นมาฝากไว้กับผม ก่อนจะเดินผละออกไป

               “ลินหรอครับ?”

               “แหนะ พูดอย่างนี้แปลว่าเป็นแฟนกันจริงๆ แล้วอะดิ”

               “เปล่าสักหน่อย ก็เวลาลินมาหาผมทีไร หัวหน้าก็พูดเรียกแบบนี้ทุกที” พี่ตุลย์พูดกับหัวหน้าขำๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานไป


               ผมขยับตัวเดินห่างจากเครื่องถ่ายเอกสารเล็กน้อยเพื่อที่จะแอบดูคนที่มาหาพี่ตุลย์…


               เหยดดดด เจ๊พลอยไพลินจริงๆ ตอนแรกก็คิดไว้แล้วว่าน่าจะใช่ แต่เมื่อตอนที่ผมเข้ามาที่สำนักพิมพ์นี้ ผมไม่เห็นเจ๊พลอยไพลินนั่งอยู่โต๊ะประชาสัมพันธ์ไง คิดว่าวันนี้จะได้มีชีวิตแบบเงียบสงบไลฟ์ เพราะเจ๊แกไม่มาทำงานซะแล้ว

               “แก... แกว่าตุลย์กับผู้หญิงฝ่ายประชาสัมพันธ์คนนั้นเขาได้กันยัง?”


               ผมที่กำลังส่องคนสองคนที่อยู่ด้านนอกเหลือบมองผู้หญิงคนนึงที่นั่งทำงานไปพลางคุยกับเพื่อนโต๊ะข้างๆ ไปพลางอยู่ท้ายแถว


               “ตุลย์บอกอยู่ว่าไม่ได้เป็นอะไรกันนี่”

               “แต่ช่วงนี้ฉันสังเกตนะ ตั้งแต่ย้ายสาขากลับมา ผู้หญิงคนนั้นมาหาตุลย์บ่อยมาก ถี่มากกก! ตอนกลางวันก็ไปกินข้าวด้วยกัน เวลาที่ออกไปติดต่อกับร้านขายหนังสือบางทีเจ้าหล่อนยังติดไปด้วยเลย แถมตอนเย็นฉันยังเห็นสองคนนั้นกลับบ้านด้วยกันตั้งหลายครั้งนะแก!”


               อือหือ...รุกหนักเหมือนกันนะเนี่ย


               “แต่ฉันก็เห็นสองคนนั้นเขาเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ก่อนย้ายสาขาไปต่างประเทศแล้วไม่ใช่หรอ?”

               “โอ๊ย แกนี่ ไม่สังเกตเลย มันถี่ขึ้นย่ะ เมื่อก่อนนานๆ จะมาทีแผนกเราสักทีนึง แต่ตอนนี้มาบ่อยยังกับทำงานอยู่แผนกนี้ไปแล้วอย่างนั้นแหละ แล้วก็เวลาตุลย์ไปทำงานข้างนอกนะ ผู้หญิงคนนั้นเคยไปด้วยที่ไหนกันละ”

               “ก็จริงนะ แต่ฉันไม่เห็นตุลย์มีอาการ ท่าทางแบบกำลังอินเลิฟอะไรอย่างนี้เลยนะ”

               “อันนี้ฉันก็ไม่รู้สิ แต่แกก็รู้ใช่ปะ ถ้าบังเอิญว่าตุลย์ไม่มีลูกแล้วนะ ฉันก็ปลื้มๆ เขา อยู่ ก็มีบางทีแอบไปเดินเนียนอ้อมทางด้านหลังงี้นะ ฉันเห็นเขาจับมือถือบ่อยขึ้นนะ แล้วที่สำคัญฉันได้ข่าววงในจ้ะ! คนที่กองบรรณาธิการยามสยองไลน์มาเล่าให้ฟัง บอกว่า ผู้หญิงฝ่ายประชาสัมพันธ์คนนั้นอะ ไปราวีกับคนที่ชื่อ ‘มิ้น’ ที่อยู่กองบรรณาธิการยามสยองด้วยนะ ประมาณว่าอย่ามายุ่งกับตุลย์อะไรแบบเนี่ย!”

               “มิ้น? ใช่ ผู้หญิงที่ห้าวันมานี่มาที่แผนกเราบ่อยๆ ปะ?”

               “ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่คิดว่าคงใช่ สงสัยนางบังเอิญมาเจอมั้ง ก็เลยไปราวีเขา ทำตัวเป็นเมียหลวงแบบเนี่ย มันต้องได้กันแล้วแหงๆ!”

               “แต่คนนั้นเขาเพิ่งเข้าอยู่ในกองบรรณาธิการยามสยองได้เดือนเดียวเอง ก็เลยวางแผนการขายไม่ค่อยดี เลยต้องมาปรึกษาเฉยๆ ไม่ใช่หรอ?”

               “โอ๊ย แก อารมณ์เมียหลวงมั้ง ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ อย่ามายุ่งกับผัวฉันอะไรแบบนั้น จำตอนที่นางย้ายสาขาได้ปะ ตอนนั้นตุลย์มีแฟนไง ผู้หญิงที่ท้องที่เคยมาที่แผนกเราน่ะ นางอาจจะกลัวประวัติซ้ำรอยอะไรงี้ละมั้ง เพราะตุลย์ยังบอกว่าตัวเองไม่ได้คบกับนางอยู่เลย”

               “เฮ้ยแก แต่ตุลย์จะเป็นพวกนั้นหรอ ที่แบบว่าได้เขาแต่ไม่คบเขาอะไรแบบเนี่ย ดูไม่ใช่คนแบบนั้นน๊า...”

               “มันเป็นเรื่องปกติของผู้ชายอยู่แล้วย่ะ นี่ไม่รู้อะไรเลยนะ ผู้ชายเรื่องได้กับใครเขาไม่แคร์ เขาจะคบกับคนที่ชอบจริงๆ เท่านั้นย่ะ”

               “ถ้างั้นผู้หญิงฝ่ายประชาสัมพันธ์นี่อารมณ์องุ่นเปรี้ยวปะ ประมาณว่าฉันไม่ได้แดก ตัวไหนก็ไม่ต้องได้กิน”

               “ประมาณนั้นมั้ง”


               ผมพยักหน้ากับตัวเองเล็กน้อยกลับมาสนใจที่สองคนที่อยู่ข้างนอกห้องทำงาน ตอนมัธยมผมอยู่กับเพื่อนผู้ชายเลยไม่มีโมเม้นฟังผู้หญิงนั่งนินทาชาวบ้านกันแบบนี้หรอกครับ แล้วพอผมได้มานั่งฟังแบบนี้ นี่รู้เลย ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่เก็บรายละเอียดอย่างแท้จริง ข้อมูลโคตรแน่น!


               แอ๊ด...


               เสียงประตูบานใสดังขึ้นเบาๆ พร้อมกับร่างของพี่ตุลย์ที่กำลังกลับเข้ามา ทันทีที่คนในแผนกหันมาเห็นก็พร้อมใจกันส่งเสียงแซวพี่ตุลย์ตลอดทางที่มายังโต๊ะทำงาน ส่วนผมรอให้ทุกอย่างกลับสู่ปกติ ก่อนที่จะเดินอุ้มตอนต้นเข้าไปนั่งขัดสมาธิอยู่ข้างเก้าอี้ทำงานของพี่ตุลย์


               “นี่”

               “หื้ม?”

               “ผมว่าพี่กับพี่พลอยไพลินอยู่แบบนี้ไม่ดีเลยนะ”

               “หมายถึงอะไร?”

               “ก็หมายถึงสถานะที่พี่กับพี่พลอยไพลินเป็นอยู่ไง”

               อีกฝ่ายก้มหน้าลงมามองผม คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน “พูดอะไร ไม่เข้าใจ อย่าอ้อมค้อมดิ”

               “ผมหมายถึงว่า เวลามีใครถามว่าพี่กับพี่พลอยไพลินเป็นอะไรกัน พี่ก็ตอบไม่ได้เป็นอะไรกันตลอดเลย แต่เวลาทำตัวเนี่ย มันเหมือนคนที่เป็นแฟนกันอย่างเงี่ย! มันไม่ดีเวลาที่คนนอกเขามองพี่พลอยไพลินนะรู้ยัง?”

               “ทำตัวเป็นแฟนกันยังไง? ไม่ได้จับมือถือแขน กอด หอมแก้มอะไรกันเลย”

               “พี่อยู่ในยุคไหนเนี่ย ไปกินข้าวด้วยกันทุกวัน เวลาพี่ไปทำงานข้างนอกก็มีพี่พลอยไพลินตามไปด้วย แถมตอนเลิกงาน พี่ยังกลับพร้อมกันแถมมาคอนโดพี่อีก นี่มันเพื่อนหรอหะ!?”

               “แล้วเพื่อนกันไปกินข้าวด้วยกันไม่ได้หรอไง? เวลาที่ลินไปทำงานข้างนอกแล้วลินไปด้วย ก็ลินบอกว่าต้องไปซื้อของแถวนั้น เรื่องกลับบ้านก็ด้วย ก็ลินเขาสนิทกับที่หนึ่งก็อยากแวะมาเล่นกับที่หนึ่งก็แค่นั้น”

               “คือพี่บริสุทธิ์ใจ ผมรู้ครับ แต่คนอื่นเขาไม่รู้ไง พี่จะอธิบายลงกระดาษเอสี่แปะไว้หน้าประตูทางเขาสำนักพิมพ์เลยไหมละ คนอื่นเขาจะได้เข้าใจ พี่ต้องมองในมุมคนนอกที่เขาไม่เข้าใจดิ”

               “แล้วไปแคร์อะไรกับคนนอก ในเมื่อฉันกับลินเราเป็นเพื่อนกันอย่างบริสุทธิ์ใจ”


               ประเด็นคือลินของพี่ เขาไม่บริสุทธิ์ใจโว๊ย


               “ถามหน่อยดิ ตั้งแต่มีลูกก็ไม่ได้สนใจเรื่องความรักเลยใช่ปะ?”

               “... ก็ ใช่อะ”

               “พี่จำได้ปะ ว่าผมเคยถามพี่ประมาณว่า มีใครเข้ามาหาพี่บ้างไหม? แบบเข้ามาจีบ’ ตอนที่เราไปห้างฯ ด้วยกันคราวนู่นอะ”

               “จำได้”

               “แล้วพี่ก็ตอบประมาณว่า ฉันมีลูกแล้ว ไม่มีใครชอบหรอก ตอนนั้นผมก็ยังสงสัยนะว่าไม่มีจริงๆ หรือพี่ไม่รู้ แต่ตอนนี้ผมมั่นใจและ ว่าพี่อะไม่รู้! พี่ไม่สนใจเรื่องนี้สักนิด พอพี่ไม่สนใจ พี่ก็ไม่ได้รู้เล๊ยยยย ว่าไอ้สิ่งที่พี่ทำอยู่ ที่แสดงออกมาให้คนข้างนอกเห็น มันเป็นพฤติกรรมของคนคบกันแล้ว!”


               พี่ตุลย์เงียบไป เหมือนกำลังใช้ความคิดกับตัวเอง ผมก็ไม่รีบร้อนให้เวลาคนที่อายุมากกว่าได้คิด


               ผมเข้าใจนะ ว่าพี่ตุลย์อยู่ในยุค ส่งจดหมายจีบกัน โดนพ่อกำนันไล่ยิงหน้าบ้าน(?) ถ้าเราแตะต้องใครแล้ว ก็หมายความว่าเขาเป็นแฟนเราอะไรเทือกๆ นั้น แต่นี่มันยุคที่ 4G เข้าโลกแล้วเฮ้ยยยย!


               “ฉันก็ไม่อยากให้ลินเสียหาย แต่ถึงกับขนาดเลิกไปกินข้าวด้วยกันเนี่ย...คนนอกอาจจะเลิกมองไม่ดีนะ แต่ความสัมพันธ์กับฉันของลินก็คงจบด้วย ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกัน ถ้าจะต้องทำขนาดนั้น...”

               “ผมยังไม่ได้พูดสักคำว่าให้พี่เลิกทำทุกอย่าง แค่บอกว่าการกระทำของพี่ในสังคมยุคนี้คนข้างนอกเขามองกันยังไงแล้วก็แค่นั้น”

               “แล้วถ้างั้นฉันควรทำไง?”

               “พี่ก็แค่อย่าให้พี่พลอยไพลินมาที่คอนโดนฯ ทุกวันอีกก็พอแล้ว~”

               “...” เงียบ

               “ว่าไงพี่?” ผมสะกิดข้อเท้าไอ้พี่ตุลย์ที่ตอนนี้เมินผมไปพิมพ์งานต๊อกแต๊กอยู่ที่โน๊ตบุ๊คแล้ว อะไรวะ เป็นคนถามเองว่าเอาไงดี พอผมตอบก็เงียบ เงียบแบบนี้แล้วจะทำตามไม่เนี่ย ถ้าทำตามนะ...เกมที่เจ๊พลอยไพลินอยากจะเล่น คงไม่มีทางชนะแล้ว หึหึ “เน่! พี่ตุลย์”

               “ฉันกำลังคิด” อีกฝ่ายพูดเสียงเรียบโดยที่ยังไม่ละสายตาจากเอกสารที่กับหน้าจอโน๊ตบุ๊ค

               “คิดอะไร? ที่ผมแนะนำอะหรอ?”

               “กำลังคิดว่า นายกำลังหวงฉันหรือเปล่า”

               “ไม่ใช่!”


               พรึ่บ!


               ทันทีที่ผมลุกขึ้นยืนพูดเสียงดังอย่างลืมตัว ทุกสายตาในห้องทำงานนั้นก็พร้อมเพียงกันหันมาหา จนผมต้องโค้งขอโทษรอบทิศทางไม่เว้นแต่กำแพงเผื่อปลวกที่อยู่ในนั้นจะสะดุ้ง!

               “จะเสียงดังทำไมเนี่ย?”


               แล้วยิ้มทำไมละ!


               “กะ ก็เป็นการยืนยันแบบหนักแน่นมากไง ว่าไม่ได้หวงเลย” ผมทำหน้าลอย ค่อยๆ ลดตัวลงกลับมานั่งขัดสมาธิเช่นเดิม และเพราะผมลุกพรวดเมื่อกี้แหละ ตอนต้นที่เผลอหลับไปก่อนหน้านี้ก็เลยลืมตาตื่นขึ้นมาซะงั้น แต่ก็มีท่าทีงัวเงียหลับตากลับไปนอนอีก

               “แต่อาการแบบนี้...ขอรื้อฟื้น ช่วงมีความรักครั้งเก่าก่อนนะ อื้ม...เขาเรียกว่า ‘ร้อนตัว’ ปะ”

               “ไม่ใช่ ก็บอกว่าไม่ใช่ไง ร้อนตัวบ้าอะไรเล่า!” ผมพูดเค้นเสียง ยิ่งเห็นใบหน้าไอ้พี่ตุลย์ที่ช่วงหลังๆ มานี่ผมเผลอคิดว่าเขาหล่อดีกำลังฉายความอารมณ์ดี มาพร้อมกับรอยยิ้มแบบล้อเลียนก็ยิ่งทำให้ผมอยากจะเอาเลื่อยมาเลื่อยขาเก้าอี้ให้คนที่นั่งอยู่แม่งล้มหงายท้อง

               “ก็ในควิซบอกว่านายกำลังตกหลุมรักฉันนี่หน่า”
               
               “ก็บอกอยู่ในควิซมันมัว อย่าไปเชื่อมัน” ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นที่สุด แถมชูกำปั้นด้วยนะยืนยันว่าจริงๆ เว๊ย เชื่อดิ!

               “อ๋อหรออออ”


               เกลียดว่ะ พอเวลาไอ้พี่ตุลย์เข้าโหมดนี้ทีไร ร่างกายผมนี่อยากจะพุ่งไปกระโดดถีบหน้า แต่ในใจ...เหี้ยเอ๊ย ขออุทานแบบนี้อีกรอบ มึงจะเต้นแรงทำไมมม! ไอ้พี่ตุลย์ก็เหมือนกัน ทีกับความรู้สึกคนอื่น พี่พลอยไพลินเงี่ย คนอื่นเงี่ย ดูไม่ออกบอกไม่ถูก! นี่อยากจะบอกมากว่า เพราะไม่อยากให้เจ๊พลอยไพลินได้พี่ไปครอบครองต่างหากถึงต้องมาทำอยู่อย่างนี้!


               เอ่อะ...ทำไมฟังแล้วมันก็ดูเหมือนคนกำลังหวงวะ


               ไม่ๆๆ ที่ต้องขัดขวางเนี่ยเพราะเจ๊พลอยไพลินทำฤทธิ์กับผมไว้เยอะต่างหาก! ว่าผมเป็นเกย์ เป็นแมงดา มาทำตัวหึงหวงไร้สาระกับผมต่างหาก!


               “ผมจะกลับแล้ว!” ผมลุกขึ้นพรวด

               “กลับตอนนี้? ไม่ได้หรอก ฉันยังทำงานไม่เสร็จ”

               “ไม่ได้บอกว่าจะกลับกับพี่สักหน่อย ผมจะกลับของผมเอง” วางตอนต้นลงบนตักของคนเป็นพ่อ “วันนี้เลี้ยงตอนต้นไปอีกวันเลยนะ ตอนกลางวันก็ป้อนข้าวตอนต้นด้วย เล่นกับตอนต้นด้วย!” ว่าจบก็หยิบเป้ที่สะพายมาส่งให้พี่ตุลย์แล้วบอกลาทุกคนในห้องทำงาน วิ่งปรู๊ดออกจากห้องตรงไปที่รีบทันที


               ณ จุดๆ นี้ ไอ้ปันเลย ไปหาไอ้ปันให้ไว รอกูก่อนนะเพื่อนรัก กูกำลังจะเอาปัญหาไปหามึงแล้วววว TT











TBC
ขอโทษที่มาช้า ฮืออออ ฟิลลิ่งของไอ้เอสช่วงนี้เป็นอะไรที่แบบ เหมือนจะซับซ้อนและวุ่นวาย เลยออกมาช้านิดนึง orz

ส่วนเจ๊พลอยไพลินนี่อารมณ์แบบ รุกหนัก ตื้อเท่านั้นที่จะครองโลก ผู้ชายของข้าใครห้ามแตะ แต่ทำอะไรได้ไม่มากเพราะไอ้พี่ตุลย์ไม่รู้เรื่องเลย 555555555
#daddybelover
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-100% (16/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 16-07-2015 12:18:10
เอสสสสส

มะไหร่ตุลย์จะหลงรักเอสหมดใจเนี่ย เด๋ยวน้องก็ออกไปอยู่หอแล้วนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-100% (16/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 16-07-2015 12:18:16
ยิ่งเอสลนก็เหมือนกับเป็นการยอมรับกลายๆ ว่าตัวเองมีความรู้สึกเหมือนอย่างในควิซเลยนะคะเนี่ย :-[ น่ารักเชียวค่าา~
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-100% (16/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 16-07-2015 12:22:50
พี่ตุลย์เรื่องสนใจหาแม่ใหม่ให้ลูกยังพี่
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-100% (16/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 16-07-2015 12:23:25
พี่ตุลย์นี่เป็นพวกแบบว่า ถ้าเป็นคนที่ตัวเองไม่สนใจนี่จะไม่รับรู้ความรู้สึกของคนนั้นเลยใช่ป่ะ แต่กับคนที่สนใจนี่รู้สึกว่าจะใส่ใจกับคนนั้นมาก อย่างน้องเอสนี่พี่ตุลย์คงเริ่มรู้สึกอะไรขึ้นมาบ้างแล้วล่ะสิ :impress2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-100% (16/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 16-07-2015 14:05:35
หวงก้างนะยัยลิน ชิชิ

เอสเป็นไรลูก สับสนชิมิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-100% (16/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-07-2015 14:11:55
เอสเนี่ยเหมือนพระมาชี้ทางให้ตุลย์เลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-100% (16/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 16-07-2015 14:47:51
น้องเอสไม่หวงเลยจริงเหรออออ อิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-100% (16/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 16-07-2015 15:39:22
เอสยอมรับมาเถอะว่าหวงพี่ตุลย์อ่ะ พี่แกไม่ว่าหรอก  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-100% (16/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 16-07-2015 16:04:11
 :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-100% (16/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 16-07-2015 17:53:54
อย่างอื่นพีตุลย์ไม่รับรู้ รู้แค่ว่ากำลังชอบเอสแน่ๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-100% (16/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 16-07-2015 18:18:43
นี่เป็นข้อพิสูจย์ว่าพี่ตุลย์



ฉลาดเรื่องงานอย่างเดียว



ชักจะหวั่นใจแล้วซิ



ว่าตอนต้นกับที่หนึ่งใช่ลูกพี่ตุลย์ใหม



ไม่ใช่แม่หญิงท้องแล้วมาหลอกพี่ตุลย์เป็นพ่อนะ



ดูแล้วพี่ตุลย์ไม่ค่อยมีอารมณ์ อะจึ๊กๆ กะใครเขาเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-100% (16/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Tsumsome ที่ 16-07-2015 18:25:04
 :impress2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-100% (16/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 16-07-2015 18:42:05
น้องเอสแย่แน่ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-100% (16/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 16-07-2015 19:03:33
อย่างงั้นเลยเอส!! หึงก็บอกหึงสิ!!!!!  :katai1:
ไม่ใช่ละ ว่าแต่ พี่ตุลซื่อบื้อมากฮ่ะ อะไรของพี่แกเนี่ย คิดว่าตัวเองไม่คิดอะไรแล้วคนอื่นเค้าจะบริสุทธิ์ใจตามรึ???
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-100% (16/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-07-2015 19:29:47
เอสหลุดแล้วแกรรร หวงก็บอกไปตรงๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-100% (16/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 16-07-2015 21:21:42
55555555
ใครก้อช่วยไม่ทันแร้วเอสสสสส
ไปหาปัน ก้อให้เพื่อนมันตอกย้ำให้ช้ำเล่นนั่นแหล่ะ
ว่า "แกน่ะชอบพี่ตุลย์ไปแร้นนนน" ^0^
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-100% (16/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 16-07-2015 21:39:30
พลอยไพลินพลาดมากที่ไปสร้างศัตรูแบบเอส ทั้งๆที่ตอนแรกเอสจะช่วย ส่งเสริมเสีย
กลายเป็นว่ากลายมาของลินเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาของคู่ไปเสียชิบ น่าสงสารลิน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-100% (16/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 16-07-2015 23:20:30
เอสหวงก็บอก อย่าเนียนๆ 5555+
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-100% (16/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 17-07-2015 02:53:05
ใครว่าพี่ตุลย์แกไม่รับรู้อะไร นางจะสนใจเฉพาะแต่คนที่นางแคร์เท่านั้นต่างหาก ไม่งั้นนางจะล้อเอสได้ยังไงล่ะ? 5555
ส่วนนังป้าพลอยฯ หล่อนจะหวงก้างไปทำไมคะ ในเมื่อป้าก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรอยู่แล้ว เลิกเถอะค่ะเพื่อตัวป้าเอง ตอนนี้สังขารป้ายังพอไหว เหนียงยังไม่ค่อยยาน หาผัวใหม่ยังทันนะคะ ด้วยความรักและความห่วงใย เพราะตั้งแต่ป้าคิดจะเป็นศัตรูกับเอส ชะตาของป้าก็ขาดลงเรียบร้อยแล้วค่ะ
ปล.รีบเอาตอนใหม่มาลงน้าาาา อยากอ่านต่อแล้วววว
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-100% (16/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 17-07-2015 21:11:14
 :z13:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 21-100% (16/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 17-07-2015 21:12:07
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 18-07-2015 13:40:07
ตอนที่ 22




              “ไอ้ปัน! มึงฟังกูอยู่ไหมเนี่ยย”

              “ฟังอยู่”

              “ฟังเหี้ยไร ไม่ละสายตาจากหน้าจอคอมฯ เลยนะมึง”

              “เอ้า แต่กูฟังอยู่ไง มึงจะให้กูนั่งจับเข่าคุยกับมึงเลยไหมอะ”

              “ถ้าทำได้จะดีมาก นี่กูกำลังปรับทุกข์กับมึงอยู่นะเนี่ย”

              “กูเล่นเกมไปด้วย กูก็ยังฟังมึงอยู่หน่า มีคนๆ นึงชอบมาพูดจาหยอดมึงบ้าง ล้อบ้าง แซวบ้างใช่ไหม? แล้วมึงก็รู้สึกอึดอัด อารมณ์เดียวกับเวลาที่เพื่อนมาแซวมึงกับคนที่มึงไม่ได้ชอบถูกไหม?”

              “เออ”

              “เห็นไหม กูก็ฟังมึงพูดอยู่เนี่ย” ถึงไอ้ปันจะว่าอย่างนั้น แต่นิ้วมือของมันสองข้างนี่รัวแป้นพิมพ์จนปุ่มแทบจะกระเด็นหลุดออกมา ผมถอนหายใจเล็กน้อยเอนร่างนอนเอกเขนกบนเตียงของมัน

              “เวลาแม่งทำอย่างนั้นกับกูทีไรนะ กูรู้สึก กูไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองอะมึง รับมือลำบากฉิบหาย ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนตอนอยู่ ม.ปลาย จำได้ปะ เพื่อนจะล้อกู แซวกูกับคนไหน กูก็รับมุข เล่นด้วยได้ตลอด แต่กับคนนี้แม่งไม่ได้เลยว่ะ พอเล่นด้วยก็ยิ่งหนัก พอไม่เล่นด้วยแม่งก็ยิ่งหนักอยู่ดี ทำยังไงให้เขาเลิกแหย่กูสักทีวะ?”

              “ตอนแรกกูก็ว่าจะแนะนำให้มึงลองเตะปากดู มันจะได้เงียบๆ ไปบ้าง แต่ลืมไปว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง กูเลยไม่รู้วิธีเหมือนกันว่ะ”

             
              ประเด็นคือแม่งเป็นผู้ชายไง...เออ เตะปากเลยไหม?


              “กูพูดจริงจังก็แล้ว อะไรก็แล้วก็ไม่ยอมหยุดนะเว๊ย ยิ่งช่วงๆ หลังมาเนี่ย หนักเลย แค่นิดหน่อยอะมึง หาเรื่องมาหยอด มาแหย่กูได้ตลอด”

              “ไม่ใช่ว่าผู้หญิงคนนั้นชอบมึงหรอวะ?”

              “เขาไม่ได้ชอบกูเว๊ย อันนี้กูแน่ใจเลย แบบแหย่เอาหนุกหนานอะมึง” ผมว่าพลางตีขากับเตียงไปมา

              “อ๋อ ถ้างั้นกูว่าเพราะมึงแกล้งหนุกละมั้ง พอมึงยิ่งโวยวายก็ยิ่งเข้าทางแหย่หนักกว่าเดิม ไอ้ของพวกเนี่ยกับคนแบบที่มึงเล่าเนี่ยต้องไม่ดิ้นไปกับคำที่เขาหยอดเว๊ย!”

              “...” ผมหันมองเสี้ยวหน้าของเพื่อนสนิท ที่ตอนนี้มันคงกำลังลุ้นกับเกมมาก เพราะมันแทบจะมุดหน้าเข้าจอคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว “มึงคิดงั้นหรอ?”

              “เออดิ! ยิ่งดิ้นเร้าๆ ก็ยิ่งได้ใจคนแกล้งเว๊ย ถ้าห้ามแล้วไม่ฟัง เราก็ต้องเอาคืน ผู้หญิงคนนั้นทำอะไรมามึงทำกลับเลย! แต่ไม่ใช่หยอดกันไปหยอดกันมากลายเป็นหนังอินเดียนะห่า แบบทำให้ผู้หญิงคนนั้นไม่กล้าหยอดมึงอีกอะ เล่นแรงไปเลย!”


              ตึง!


              มีเสียงซาวด์กระแทกปุ่มประกอบความระทึก


              “มึงช่วยแนะนำมาเป็นวิธีเลยได้ไหม พูดแบบนี้งงชิบหาย เล่นกลับแรงๆ ไม่ให้กล้าหยอด? งงว่ะ?”

              “เอ้า กูจะแนะนำมึงเป็นวิธีๆ ได้ไง กูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะหยอดมึงยังไง วิธีที่กูบอกเนี่ย มึงก็บอกกูเองใช่ไหมละ ว่าเขาไม่ชอบมึง ก็แปลว่าเขาแค่แกล้งไม่จะจีบมึงเว๊ย พูดง่ายๆ คือเขาไม่ได้จะเอามึงทำผัว ถ้าเขาไม่ได้ชอบมึงจริงๆ เวลาเขาจะพูดแบบนั้นอีก มึงก็ทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบไปเลย เขาจะได้ขยาดไง”

              “อ๋อ...”

              “แบบพูดปุ๊บ ก็บีบหน้าอกปั๊บเลย เขาไม่กล้าล้อมึง แทบยังได้กำไรนิดๆ หน่อยๆ~”

              “พร้อมกับรอยตบข้างแก้ม ถ้ากูเจอแบบชมมณี นักมวยเงี่ย มึงก็เตรียมตัวหาแบรนด์ซุปไก่สลัดจัดกระเช้าไปเยี่ยมกูที่โรง’บาลได้เลย”

              “ฮ่าๆๆ เออๆ กูมีเงินอยู่ซื้อกระเช้าให้มึงได้แน่นอน แต่มึงไม่โดนหรอกหน่า ผู้หญิงที่หยอดมึงน่ากลัวขนาดนั้นเลยไง๊?”


              มาก...นี่ยังงงอยู่ว่ารอดจากการโดนจับหักคอได้ยังไง


              “ก็...ไม่ เป็นผู้หญิงธรรมดาๆ ที่กล้าแหย่ผู้ชายก่อนเฉยๆ อะมึง”

              “ถ้างั้นก็ทำตามที่กูบอกเนี่ยแหละ น่าจะไล่แมลงหวี่แมลงวันได้ชะงักอยู่”

              “เออๆ” ผมพูดขอบคุณมันก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงไปหยิบหนังสือการ์ตูนที่เรียงรายกันเป็นระเบียบอยู่มุมนึงของห้องนอน ก่อนจะสังเกตเห็นหนังสือสามสี่เล่มที่วางอยู่นอกชั้น พอจับดูก็รู้ว่าเป็นหนังสือการ์ตูนเล่มใหม่ที่ผมยังไม่ได้อ่านทั้งนั้น ไม่รอช้า ผมกอบมาหมดนั้นแล้วกระโดดขึ้นเตียงหามุมทันที

              “เฮ้ย! เวร แพ้เฉยยย! ใครตือดึ้งมาตอนนี้วะทำเกมกูกระตุกไอ้สัส!” ผมเหลือบสายตามองไอ้ปันที่กำลังหัวเสียจากการเล่นเกม จากมุมที่ผมนั่งทำให้เห็นหน้าจอคอมพิวเตอร์เลยพลอยทำให้เห็นด้วยว่ามันกำลังปิดเกมและเปิดหน่าต่างเฟสบุ๊คที่ตอนนี้มุมขวาของหน้าจอเด้งสติ้กเกอร์โง่ๆ ตัวนึงออกมาไม่หยุด “โอ้โห ดูไอ้เนสมันส่งเฟสมา”

              “อะไรมันจะอยากคุยกับมึงขนาดนั้นวะ” ผมคลานเข่าลงมาจากเตียงไปหาไอ้ปันที่กำลังรัวนิ้วลงคีย์บอร์ดตอบ ‘เนส’ เพื่อนที่โรงเรียน

              “มันแค่อยากให้กูดูเอ็มวี เพลง Don’t wait กูเคยเผลอเข้าไปฟังแล้วเพลงนี้ เอ็มวีมันเป็นชายชายเว๊ย ไอ้เนสแม่งไม่เคยเจอ ตื่นเต้นตายห่าเลยส่งมาให้ดูเนี่ยแหละ”


              ผมจ้องตรงไปยังภาพตัวเองเพลง Don’t wait ที่ขึ้นโชว์อยู่หน้าจอ แม้จะเป็นเพียงภาพที่ผู้ชายสองคนเอาหน้าผากชนกัน ก็มากพอแล้วที่จะตัดสินว่ารับได้มากพอที่จะกดเข้าไปดูหรือไม่


              “ไอ้ปัน มึงคิดยังกับ...เกย์วะ?”

              “เกย์หรอ? เกย์เนี่ยมันเป็นพวกผู้ชาย แต่ชอบผู้ชายใช่ปะ? คือถ้าไม่มาวี๊ดว๊ายใส่กู กูก็รับได้หมดนะ กูแพ้พวกประมาณกระเทยอะมึง ถึงกูจะไม่ซีเรียสเรื่องเพศแต่กับกระเทยนี้เป็นกรณีเฉพาะของกูเลย แล้ว...มึงถามทำไมวะ?”

              “คือกูสนิทกับผู้ชายคนนึง แล้วทีนี้มันมีผู้หญิงคนนึงแอบรักแอบชอบผู้ชายคนนี้ คงชอบมาก ก็เลยระแวงทุกคนที่เข้าใกล้ผู้ชายคนนี้ไม่เว้นกูที่เป็นผู้ชาย ตอนแรกกูก็ปฏิเสธแล้วนะเว๊ย ว่ากูไม่ได้เป็นเกย์ ไม่ได้เป็นแมงดาด้วย แต่เขาก็ไม่เชื่อกู กูไปยุ่งกับผู้ชายคนนั้นหน่อยเดียว ผู้หญิงคนนั้นก็รีบปรี่เข้ามาหาเรื่องทุกที แต่ล่าสุด กูหมดความอดทน ว่ากูอยู่นั่น กูก็เลยเป็นมารความรักแม่งเลย คนอย่างเอสฆ่าได้หยามไม่ได้อยู่แล้ว”

              “หาาา? มึงไปทำลายความรักของคนๆ นึงเอาสะใจเฉยๆ เนี่ยนะ?” ไอ้ปันเลิกคิ้วถามผมเสียงสูง

              “มึงใช้คำรุนแรงไปปะ กูแค่ขัดขวาง ไม่ให้เขาได้อยู่ด้วยกันเฉยๆ แค่ไม่เจอกัน ไม่ได้คุยกัน ก็เป็นแฟนกันไม่ได้”

              “ก็ไอ้ตรงที่มึงบอกว่า ไม่เจอกัน ไม่ได้คุยกันเนี่ยแหละที่กูว่าทำลาย มึงจำตอนที่มึงแอบปลื้มน้องลูกไม้ได้ไหม ตอนม.5อะ?”
             
              “จำได้”

              “ตอนที่มึงรู้ว่าน้องเขาไม่มาโรงเรียนมึงจำได้ปะ ว่ามึงหงอยแค่ไหน เฟลแค่ไหน?”

              “ก็...จำได้ จำได้ว่าตอนนั้นกูรู้สึกแย่สุดๆ แบบทำอะไรก็ไม่ดีขึ้นเลย จนวันต่อมาเจอลูกไม้ที่โรงเรียนกูนี่นึกว่าตอนนั้นตัวเองติดปีกบินขึ้นฟ้าไปแล้วด้วยซ้ำ”

              “แล้วมึงจำได้ปะ? ตอนที่มึงจีบน้องลูกไม้ แล้วตอนนั้นน้องเขางอนมึงอะไรสักอย่างไม่ยอมพูดด้วย มึงนี่วุ่นวายจนไม่เป็นอันเรียน แถมยังมาระบายกับกูไปน้ำตาคลอเบ้าไปด้วยนะ”

              “เอ้า ก็ตอนนั้นกูใจเสียมากเนี่ยหว่า อยู่ดีๆ ก็ไม่คุยกับกู อยากคุยแทบตายก็ไม่ได้คุย นี่ถ้าตอนนั้นไม่ติดว่าอาจารย์โหดนะกูโดดเรียนไปหาลูกไม้ที่ห้องเรียนแล้ว”

              “เนี่ย มึงก็รู้นี่หว่า ว่าการไม่ได้เจอเขา ไม่ได้คุยกันมันรู้สึกแย่แค่ไหน แต่มึงก็ยังทำให้ผู้หญิงคนนึงเจอกับความรู้สึกแบบนั้นเพราะความสะใจ กับต้องการเอาชนะของมึงเนี่ยนะเอส?”


              ผมอ้าปากตั้งท่าจะเถียง แต่ไอ้สมองส่วนความดีที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ของผมกลับทำหน้าที่ขึ้นมาซะอย่างนั้น ผมเลยทำได้เพียงแค่เบือนหน้าหนีอย่างดื้อดึง ไม่ยอมรับ และไม่ปฏิเสธ


              “มึงรู้ปะ? ที่กูหมดความอดทนเพราะผู้หญิงคนนั้นแม่งบอกกูให้มาแข่งกัน ใครได้ผู้ชายคนนั้นก่อน ชนะ ได้นี่หมายถึง ได้กันอะมึง มึงว่ามันไม่ได้น่าโมโหหรอวะ!”

              “เออ มันก็น่าโมโหจริงๆ นั่นแหละ แต่แม่บอกว่า อย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา”

              ผมหัวเราะลั่น “นี่มึงกำลังด่าผู้หญิงว่าบ้าอยู่ใช่ปะ?”

              “ก็กูแมน แต่ไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษไง เขาด่าเรา ทำไมเราจะด่าเขาบ้างไม่ได้วะ”

              “มันร้ายค่ะหัวหน้า” ผมจีบปากจีบคอพูด ก่อนที่เราสองคนจะหัวเราะด้วยกันขึ้นมาอีกครั้ง

              “แล้วผู้ชายคนนั้นเขาก็ชอบผู้หญิงคนนั้นปะ?”

              “จากที่ดูแล้ว น่าจะไม่ได้ชอบนะ แค่เป็นเพื่อนกัน”

              “ถ้างั้นยิ่งแล้วใหญ่ มึงไม่ต้องไปขัดขวางเขาหรอก แค่นั้นก็ลำบากแล้ว”

              “โหย แล้วแม่มึงไม่สอนหรอ ผู้หญิงมีมารยาร้อยเล่มเกวียน ถ้าผู้หญิงคนนั้นใช้วิธีโกงอะ”

              “เขาจะโกงมึงยังไง? แบบพวกตัวร้ายในละครอะนะ? ในชีวิตจริงใครเขาจะร้ายแบบนั้นเล่า แต่ถ้าเขาทำอะไรมึงขึ้นมาจริงๆ ก็ค่อยเอาคืนดิ ถ้ามึงไม่อยากทำเองก็โทรหากูก็ได้ หึหึ”

              “ถ้ากูแพ้ กูก็ต้องเลิกยุ่งกับผู้ชายคนนั้นนะเว๊ย”

              “สรุป มึงไปลงแข่ง ใครได้กับผู้ชายคนนั้นก่อนชนะด้วยหรอวะ?”

              “เปล่า! กูคงไม่ทุ่มเทกายใจไปลงเล่นด้วยหรอก ก็บอกอยู่ว่ากูไม่ได้เป็นเกย์”

              “เออ ถ้าไม่ได้เล่นก็ไม่ต้องซีเรียส ไม่ต้องทำตามกฎ มึงจะอยู่หรือมึงจะไปมันก็เรื่องของมึง”

              “เหยดดด มีสาระ!”

              “แน่นอนอยู่แล้ว เวลามีปัญหามึงออกไปเดินดูผู้หญิงที่แต่งหน้านะ ขนาดผู้หญิงตัวเล็กๆ ยังพยายามเอาชนะธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ได้เลย แล้วเราละ!?

              “สาระของมึงทั้งหมดทั้งมวลจบลงแค่ตรงนี้เลยไอ้ปัน” ผมพูดจบ มันก็หัวเราะร่าทันที ผมลุกขึ้นไปนั่งอ่านหนังสือการ์ตูนต่อบนเตียง ส่วนมันก็กลับไปเล่นเกมของมันอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ถึงแม้ผมจะแสดงท่าทีแบบนี้ แต่หลังจากที่คุยกัน ผมรู้สึกโล่งใจยังไงบอกไม่ถูก เวลาที่อยู่บ้านพี่ตุลย์ ผมกับเขาอาจจะคุยกัน ช่วยเหลือกันได้ในหลายเรื่องๆ แต่เรื่องของพี่พลอยไพลิน หรือแม้แต่ความรู้สึกของผมที่มีต่อเขา ผมก็คุยกับเขาไม่ได้ ต้องเก็บเอาไว้ในใจคนเดียวตลอด แล้วพอมาได้คุย ได้มาระบายกับกับไอ้ปัน มันก็ทำให้ผมระลึกได้ว่า...


              เรามีเพื่อนไว้ทำไม













              วันนี้ผมออกจากสำนักพิมพ์ของไอ้พี่ตุลย์เร็ว เพราะรีบมาหาไอ้ปัน แต่ผมก็เพิ่งนึกได้ว่า เอ้า! ผมไม่อยู่ เจ๊พลอยไพลินก็กลับมากับพี่ตุลย์อะดิ! เท่านั้นแหละ ผมนี่ตั้งท่าจะกลับไปสำนักพิมพ์อีกรอบเลย แต่บังเอิญว่า ตอนที่คิดได้ผมนี่ยืนอยู่หน้าคอนโดแล้วครับ แล้วมันก็เย็นมากแล้วด้วย ก็เลยต้องขึ้นห้องไปอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ orz


              แอ๊ด...


              “พ่อ คนหนีเที่ยวกลับมาแล้วว!” ทันทีที่ผมเปิดประตูห้องเข้าไป เสียงของที่หนึ่งก็ดังขึ้นพร้อมกับปรากฎร่างของเด็กอายุสิบขวบที่กระโจนเข้ามาใส่ฟันดาบพลาสติกลงมาที่เอวของผม ผมกวาดสายตามองไปทั่วๆ ห้อง รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่ไม่เห็นเจ๊พลอยไพลินมาที่ห้อง B8002 นี่ ทั้งๆ ที่คิดว่ายังไงก็ต้องติดรถมาด้วยแน่ๆ


              หรือไอ้พี่ตุลย์จะทำตามที่ผมพูดวะ?


              “ฉัวะ!”

              ผมก้มมองไอ้เด็กที่หนึ่งที่ยังฟันเอวผมอย่างต่อเนื่องจนชัดเริ่มเจ็บ “พ่อไม่เคยสั่งสอนหรอว่า การต่อสู้มันต้องเท่าเทียม นี่ฉันยังไม่ได้เตรียมตัวเลยนะเว๊ย อาวุธก็ไม่มี!”

              “อื้อ ฉันยังไม่ได้สอน” เสียงทุ้มต่ำของพี่ตุลย์ดังขึ้นอยู่ด้านหลังที่หนึ่ง “ไปไหนมา? บอกกลับบ้านก่อนฉัน แต่มาถึงหลังเนี่ยนะ”
             
              “ไปบ้านเพื่อนมาครับบ”

              “น่าจะโทรมาบอกบ้าง นี่โทรไปก็ไม่รับด้วยนะ” พี่ตุลย์ว่าเสียงเรียบติดห้วนเล็กน้อยก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในครัว ทิ้งผมให้ยังยืนมึนๆ อยู่หน้าประตูโดยกับไอ้เด็กที่หนึ่ง

              “พ่อนายโกรธหรอ?” ผมกระซิบถาม

              “คงงั้นมั้ง พ่อบอกว่า อันธาพาลกลายเป็นเด็กหนีเที่ยวไปแล้ว แล้วก็บอกที่หนึ่งว่าถ้าจะไปไหนให้บอกพ่อก่อน พ่อจะได้ไม่เป็นห่วงแบบนี้อะ”

              “หรอ” ผมตอบที่หนึ่งเสียงเบา ก่อนจะเดินตรงไปหาใครที่อยู่บางคนที่กำลังชงนมให้ตอนต้นอยู่ในครัว “เป็นห่วงผมหรอครับ?”

              พี่ตุลย์เหลือบมองเล็กน้อยก่อนจะกลับไปให้ความสนใจที่ขวดนมตามเดิม “ก็ต้องเป็นห่วงสิ คนในบ้านหายไปไหนไม่บอกไม่กล่าว”

              “แต่ผมโตแล้วนะ อีกไม่กี่เดือนก็จะยี่สิบแล้ว”

              “แล้วไง? ฉันห่วงได้แค่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าหรอไง?” พี่ตุลย์พูดพร้อมกับเดินเอานมที่ชงไปให้กับตอนต้นที่นั่งเล่นอยู่กับที่หนึ่งหน้าทีวีแล้วเรียบร้อย แน่นอน มีผมเดินตามอยู่ข้างหลังด้วย

              “เปล่า ผมแค่สงสัยว่า ทีเมื่อก่อน ผมทำงานกลับบ้านสี่ทุ่มทุกวัน ไม่เห็นจะห่วงว่าผมโดนหิ้วไปหรือเปล่า แต่นี่มันแค่หกโมงเย็นเองน๊า~”

              “ก็นั่นนายไปทำงาน แต่นี่ไม่รู้ไปไหน ก็บอกว่ากลับบ้าน แต่พอฉันกลับมาแล้วไม่เจอ ห้าโมงครึ่งแล้วก็ยังไม่กลับ มันก็ต้องเป็นห่วงสิ!”

              “จะ ใจเย็น ผมแค่แซวเล่นเอง อย่าจริงจังขนาดนั้นสิ” ผมรีบยกมือขึ้นยอมแพ้ทันที เมื่อเห็นสีหน้าซีเรียสของผู้เป็นเจ้าของบ้าน ดูเหมือนว่าเพราะผมยิ่งทำล้อเล่น พี่ตุลย์ก็เลยดูโกรธกว่าเก่าอีก โอ๊ย! ไอ้เอสเอย ปากพาซวยจนได้ “พี่ตุลย์คือ...

              “ที่หนึ่งทำการบ้านหรือยัง?”

              “ยังเลยครับ”

              “งั้นรีบไปทำการบ้านเร็ว ถ้าลูกไปทำช้าเดี๋ยวพลาดการ์ตูนตอนทุ่มครึ่งพ่อไม่รู้ด้วยนะ”

              “ก็ได้ งั้นที่หนึ่งทำการบ้านอยู่ในห้องนะ ถ้าการ์ตูนมาแล้วพ่อต้องไปเรียกที่หนึ่งด้วยนะ!”

              “ครับๆ” ทันทีที่พี่ตุลย์รับปาก ที่หนึ่งก็โกยของเล่นที่อยู่บนพื้นไปเก็บในกล่องพลาสติกใสข้างโซฟา ก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเองไปทำการบ้านตามคำสั่งของคนเป็นพ่อ

              “พี่ตุลย์ คือว่า ผมขอโทษนะ” หลังจากที่ที่หนึ่งไปแล้ว ผมก็พูดขอโทษกับพี่ตุลย์ทันที แต่อีกฝ่ายกลับลุกเดินหนี หยิบโน๊ตบุ๊คเข้าไปทำงานที่โต๊ะกินข้าวในครัวซะอย่างนั้น


              โอ้โห นี่คิดว่าทำแบบนี้แล้วจะยอมหรอ!


              ผมเองก็ลุกขึ้นพรวดรีบเดินไปรินน้ำเย็นๆ ใส่แก้วแล้ววางลงบนโต๊ะกินข้าวข้างๆ โน๊ตบุ๊ค ฮือออ ทำไงได้ ก็ต้องยอมสิครับ ก็ผมมันเป็นคนผิดนี่หว่า


              “ทำงานไปด้วย กินน้ำไปด้วย หัวสมองจะได้ไบร์ทนะครับ~”

              “...”


              ไม่ได้ผล


              “พี่นั่งทำงานตลอดเลย ต้องเมื่อยแน่ๆ เดี๋ยวผมนวดให้นะ ผมนวดให้ป้าเพ็ญ เจ้าของอพาร์มเม้นท์ที่ถูกไปไหม้น่ะประจำเลย แกบอกว่าผมนวดเก่งด้วยนะครับ!” ว่าแล้วก็ผมก็รีบมานวดไหล่ให้คนที่นั่งพิมพ์งานต๊อกๆ นวดไหล่ นวดต้นแขน งัดสารพัดสกิลออกมาบริการกันสุดอะไรสุด

              “...”

              “รู้สึกปวดเท้าไหมครับ เดี๋ยวผมไปอุ่นน้ำให้แช่เอาไหม?” ตอนนี้เหงื่อเริ่มตก

              “...”

              “หะ หิวไหมครับ? เดี๋ยวผมทำอะไรให้กิน ถึงอาจจะไม่อร่อย แต่กินไปไม่น่าจะตาย ถ้าไม่อยากกินฝีมือผม เดี๋ยวลงไปซื้ออะไรแถวๆ นี้ให้กินก็ได้นะ!”

              “...”

              “อ๊ากกกก ผมขอโทษนะ วันหลังไปไหนจะโทรบอกก่อนทุกอย่างเลย ไปเซเว่น เข้าห้องน้ำจะรายงานด่วนแบบยี่สิบสี่ชั่วโมง ติดจอยิ่งกว่าข่าวสด แม้ตอนนอน ฝันว่าอยู่ข้างนอกก็จะโทรบอกแน่นอน เพราะงั้นยกโทษแล้วหายโกรธผมเถอะนะ นะ นะ พลีสสสส~” ณ จุดนี้ครับ ผมคุกเข่ากอดแขนพี่ตุลย์แน่น เอาแก้มไถประหนึ่งตัวเองเป็นแมวสีชาดกันเลยทีเดียว


              นี่ถ้ายังไม่หายโกรธอีกนิดจะไปกอดขาแล้วเนี่ย ฮือออ!


              “หึหึ”

             
              ผมเงยหน้าพรึ่บทันทีที่ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอที่คุ้นหู ก่อนจะเห็นไอ้พี่ตุลย์กำลังเท้าศอกกับโต๊ะปิดปากที่กำลังยิ้มอยู่ของตัวเอง!


              “ทำไมชั่วแบบนี้อะ!”

              “ชั่วอะไร? ฉันหัวเราะนี่ผิดตรงไหน”

              “อย่ามาทำเนียน รู้หรอกว่าหายโกรธแล้ว แต่แกล้งให้ผมทำนู่นทำนี่เอาใจพี่ใช่ไหม!”

              “นายทำของนายเองเลยนะ” ไอ้พี่ตุลย์ว่าพร้อมกับหัวเราะเสียงเบาอีกเล็กน้อย ผมรู้สึกว่าหน้าตัวเองหนักๆ เหมือนเลือดมันไหลปรี๊ดขึ้นมากองกันอยู่ใบหน้า รู้สึกอับอายด้วยโกรธด้วยปนเปกันไป แต่ก็ทำได้เพียงแค่ร้อง ‘ชิ’ เพราะผมเป็นฝ่ายผิดก่อนจริงๆ “ไม่มีใครพยายามง้อฉันมากขนาดนี้มาตั้งนานแล้วแหะ เออ รู้สึกดีพิลึก”

              “งั้นซึมซับเอาไว้มากๆ เถอะ เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของผมครับ” สะบัดหน้าใส่ด้วยนะ ให้รู้ว่าตอนนี้ผมเคืองมาก

              “ขอบใจที่แคร์ฉันมากนะ”

              “พี่ก็เป็นห่วงผมมากน่าดูเลยนี่ กลัวโดนผมใครหิ้วไปใช่ไหมละ~”

              “ถ้าฉันโกรธ นายคงวุ่นวายใจมากสินะ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ”

              “ไม่ได้ถึงขนาดนั้นสักหน่อย”

              “มีคนเอาน้ำมาให้ นวดไหล่ให้นี่นึกถึงมะ...”

              “แม่ใช่ไหมละ”

              “คิดอย่างนั้นก็ตามใจ” พี่ตุลย์พูดพร้อมกับหัวเราะในลำคออีกครั้ง

              "ฮึ่ย!" ทั้งสีหน้า แววตา รอยยิ้ม ทุกๆ อย่าง มันทำให้ผมนี่โคตรอยากจะชกเลย! แต่...มันเป็นแบบนี้ทุกทีสิหน่า! เวลาพี่ตุลย์ทำแบบนี้ทีไร ผมดันก้าวขาไม่ออกซะงั้น เหมือนเรี่ยวแรงมันไปอยู่ที่หัวใจหมด ก็เลยเล่นซะเต้นรัวขนาดนี้!

              “เดี๋ยวนี้ไม่รู้ทำไมฉันถึงเผลอคิดถึงคำตอบของควิซนั้นบ่อยๆ”

              “ผมก็พยายามบอกอยู่นี่ไง ว่าอย่าไปเชื่อมันมาก ลืมๆ มันไปเถอะ ก็แค่ควิซที่ใครก็ไม่รู้ทำขึ้น”


              ผมพูดอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก ทั้งๆ ที่จริงแล้ว ผมเองก็เป็นเหมือนกัน...และที่น่าตกใจกว่าคือผมรู้ตัวว่ามันไม่ใช่การงมงายหรือยึดติด มันเหมือน...


              เวรเอ๊ย! มันเหมือนเป็นอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมเอะใจว่าข้างในหัวใจผมมันกำลังมีประตูบานหนึ่งที่มันกำลังสร้างขึ้นโดยที่ผมไม่รู้ตัว!


              “ตอนนี้ฉันก็ยังสงสัยอยู่ว่าทำไมฉันถึงนึกถึงนายขึ้นมาตอนที่ทำ”

              “...”


              โกหกแน่ๆ เขาแค่แกล้งผม เขาอาจจะไม่ได้ทำควิซนั้น หรือถ้าทำก็อาจจะไม่ได้คิดถึงผมอย่างที่พูดก็ได้


              “นายว่าถ้าฉันไปทำควิซนั้นอีกรอบ คราวนี้ฉันจะได้อะไร?”

              “...”

              “ถ้าเขาไม่ได้ชอบมึงจริงๆ เวลาเขาจะพูดแบบนั้นอีก มึงก็ทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบไปเลย”

              “ฉันอาจจะเปลี่ยนจาก ‘กำลังตกหลุมรัก’ เป็น ‘รักไปแล้ว’ ก็...!”


              พอที!


              ผมกระชากคอเสื้อของคนที่นั่งพิมพ์งานเข้ามาประทับริมฝีปากเป็นการบังคับให้หยุดพูด และกว่าที่พี่ตุลย์จะรู้ตัวว่าอะไรเป็นอะไรผมก็รีบผละริมฝีปากออกมาอย่างว่องไว


              “ถ้าพี่พูดอะไรแบบนี้อีก ผมก็จะ...อุ๊บ!”


              ดะ เดี๋ยวนะ...

             
              “อ๊ากกกกกกกกกกกก!” ผมกรีดร้องลั่นหลังจากที่ผลักไอ้พี่ตุลย์ออกอย่างแรง ใบหน้านั่นเรียบนิ่งไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับการกระทำเมื่อกี้เลยสักนิด ผิดกับพี่ ที่แทบจะวิ่งไปกรี๊ดร้องอยู่กลางถนน


              มะ เมื่อกี้เว๊ย! ยังไม่ทันพูดจบเลย ไอ้พี่ตุลย์มัน...มันจูบผมอะ! ย้ำ จูบเลย! ไม่ใช่ประทับเล็กๆ อย่างที่ผมทำ แต่ถึงขั้นประกบ! ไม่มีลิ้น แต่ว่าแนบแน่นฉิบหาย ฮืออออ เป็นจูบแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นไม่มีเหี้ยไรมาผสมเลย ขอกรีดร้องอีกรอบ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก!!


              ผม-จูบ-กับ.....ผู้ชายยยย!


              “พี่ทำอะไรเนี่ย!”

              “จูบคืน”


              ช็อก...


              ผมอ้าปากพะงาบๆ ไม่รู้จะพูดอะไรในสถานการณ์แบบนี้ ที่ผมทำเนี่ยก็คิดว่าไอ้พี่ตุลย์มันจะได้ขยะแขยงแล้วไม่กล้าพูดอะไรกับผมแบบนี้อีก แต่แม่งดูทำ!


              “นี่...ผมเป็นผู้ชายนะ” โอ้โห เสียงนี่สั่น 7.9 ริกเตเอร์ ใจเย็นไว้ ไอ้เอส แค่จูบกับผู้ชายครั้งแรกเอ๊ง!

              “ฉันก็เป็นผู้ชาย นายยังจูบฉันก่อนเลย”

              “ก็ดูพี่พูดดิ! พูดอะไรอย่างนั้นกับผู้ชายด้วยกันมันน่าขนลุกจะตาย!”

              “แล้วที่จูบฉันนี่ไม่น่าขนลุกยิ่งกว่าหรอ? จูบได้ ฟังไม่ได้ สรุปขนลุกหรือเขินแน่ๆ เอาดีๆ”

              “พี่พูดแบบนี้ ถ้าเป็นผู้หญิง ผมคิดว่าพี่จะจีบผมแล้วนะ!”

              “อื้มมม นั่นสิ”


              นั่นสิ อะไร๊!


              “พอๆ ไม่พูดแล้ว สาม สี่! แยก” ผมพูดเองเออเองเสร็จจสรรพ เดินกระแทกเท้าตึงๆ ไปอุ้มตอนต้นมานั่งดูทีวีด้วยกัน เปิดช่องที่ฉายการ์ตูนของที่หนึ่งรอไว้พยายามไม่สนใจเสียงหัวเราของไอ้พี่ตุลย์ที่ดังลอยมาเบาๆ   


              ไอ้ปัน พรุ่งนี้มึงเจอกูใหม่แน่!








TBC
มาแล้วววว หายไปหนึ่งวัน มาพร้อมกับตอนยาว ย๊าว ยาว แทงตรงเด๊ะ
ตอนนี้เว๊ย มีการพัฒนาไปถึงขั้นแตะเนื้อต้องตัวกันแล้วววว ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าเรื่องนี้ใสกว่าที่ตั้งใจไว้มาก 555555555
#daddybelover

ส่วนใครที่คิดถึงเจ๊พลอยไพลิน รอแป๊บ เดี๋ยวนางก็มา~
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 18-07-2015 13:54:44
โธ่ ไม่อยากได้นางเลย

พี่ตุลย์รีบๆหลงเอสซิว้อยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 18-07-2015 14:01:31
นี่เอสเขินพี่ตุลย์มากกกกก จนลืมตัวเดินไปอุ้มตอนต้นมานั่งตักเลยเหรอคะเนี่ย >\\<
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 18-07-2015 14:03:43
แอร๊ยยยยยยยยยยยย   เอสโดนเข้าให้แล้วไง...ยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 18-07-2015 14:08:07
โอ้ย มีจูบกันแล้วด้วย ฟินๆอ่ะ

พี่ตุลย์จับเอสทำเมียไปเลย 5555+
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-07-2015 14:14:59
โอ้ วาว~~~ o13
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 18-07-2015 14:17:18
อ้าว อยู่ๆก็จูบกันเฉย  :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: SheGame ที่ 18-07-2015 14:26:26
อ๊ากกกกกกกก รู้สึกจริงจังแล้ว  :hao7: :hao7:
ฟินอ่ะๆ  :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 18-07-2015 14:43:04
หึๆๆๆๆ จูบแก้เขินหรอ? เอส  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 18-07-2015 14:57:03
เอสเอ๊ย ตกหลุมรักพี่ตุลย์แล้วก็ยอมรับมาเหอะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 18-07-2015 15:01:56
โอ้ยยยเขินอ่ะ
เค้าจูบกันด้วย....โอ้ยฟินที่สุด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 18-07-2015 15:05:07
ตุลย์เอสคู่นี้สูสี 555555 พี่ตุลย์ชอบก็จีบเลยเซ่ๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 18-07-2015 15:22:02
พี่ตุลย์จีบเอสเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 18-07-2015 15:26:45
กรี๊ดดดด เค้าจูบกันแล้ววว

ชอบบบ เอสมันก็น่าแกล้งจริงๆนั่น น่าเอ็นดู๊น่าเอ็นดู
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 18-07-2015 15:41:05
 :-[ ว๊ายๆ กรี๊ด เค้าจุ๊บกัน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 18-07-2015 15:42:58
 :-[พี่ตุลย์เนียนอ่ะ น่ารักกกกกก อนากได้แบบพี่ตุลย์อ่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 18-07-2015 15:59:33
นุ้งเอสของเจ้เริ่มหวั่นไหวกับพ่อลูกสองแล้ว  :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 18-07-2015 16:13:40
ปันนายรู้ เหมือนเรารู้ใช่ใหม



ไอ้เอสเอ๋ย เสร็จพี่คุลย์แน่



พี่ตุลย์เขารุกแล้วโว๊ยยยย :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 18-07-2015 16:13:58
นี่คือ หวงเฉยๆ ห่วงเฉยๆ จูบเฉยๆ ใช่ปะ
พอกันทั้งคู่อ่ะ 5555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 18-07-2015 17:22:27
ปันแกหลอกเพื่อนแกชิมิ  แล้วน้องเอสก็ทำตาม  เริ่มเอง เขินเอง  พี่ตุลย์ก็คงชอบเอส แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง  แต่เอสเริ่มก่อน พี่ตุลย์ก็เลยเป็นพี่เนียนตามน้ำไป

เจ้ลินแพ้แล้วแหละ  เจอกันยังไม่ถึงปี เค้าจูบกันแล้ว  แต่เจ้เฝ้ามาหลายปี ยังไม่เคยได้จูบพี่ตุลย์เลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 18-07-2015 18:45:15
กรี๊ดดดดด พี่ตุลย์ยอมรับแร้วอ่ะว่าจีบ!!!
เอสต้องยอมเฮียแกแร้วนะ
เสียจูบไปขนาดนี้แระ 5555555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: LiPzTicK* ที่ 18-07-2015 19:12:09
พี่ตุลย์รุกแล้ววววว
5555555555

หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: milkshake✰ ที่ 18-07-2015 22:45:16
แม่คะะะะะะะะ เขาได้กันแล้ววววววววววววววววววววว
โว้ววววววววววว


เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ สนุกมากกกก
ติดตามอยู่นะคะ <3
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 18-07-2015 22:57:15
ขำเอสเล่นเองโดนเอง 55555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 18-07-2015 23:26:36
ขำเอส งงอัลลไรรไปจูบเค้าแบบนั้น เข้าทางเค้าไปอีกกก :mew1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 19-07-2015 00:21:19
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด คู่นี้เขามีโมเม้นต์กันจริงๆจังๆแล้วค่าาาาาา ถึงขั้นประกบปากแนบแน่นนี่คือไม่ใช่ธรรมดาแล้วนะ! เอสเอ๋ย อย่ายอมแพ้พี่ตุลย์ล่ะ เราต้องเอาคืนเขาให้สมกับเป็นลูกผู้ชาย ตบด้วยปากกระชากด้วยลิ้นแม่งเลย!!
ส่วนป้าพลอยไม่ต้องออกมานะคะ ป้าสมควรออกมาด้วยเหตุผลเดียวคือออกมานั่งดูสองคนนี้ดูดปากกัน
ปล.รอตอนต่อไปน้าาาาาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 19-07-2015 01:41:47
ดีอ่ะ ... จูบกันด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 19-07-2015 08:06:25
โอยยยยย หึงก็บอกงว่าหึงเซ่~~~
พี่ตุลย์นี่... จริงๆคือไม่รู้จริงๆกรืออยากแหย่เอส
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกถึงออร่าความเจ้าเล่ห์ของพี่ 5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 22 (18/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 20-07-2015 12:56:07
อ๊ากกกกก จูบคืน!!!! มีจูบคืนด้วยเห้ย!!!!!
พี่ตุลพัฒนาแบบก้าวกระโดดจนแม่ยกไม่อยากเชื่อ!!
ไม่สิ จริงๆมันจะเริ่มชอบกันช้าไปป่าว ลูกสองแล้วนะ!!(ผิด)
รีบๆไปสู่ขอเลยพี่ตุล ชักช้าตอนหน้าเจ๊พลอยพล่อยๆอะไีรนั่นมาเดี๋ยวโดนรวบหัวรวบหางหรอก :ling1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 20-07-2015 14:53:53
ตอนที่ 22.5





               “เขาไม่รักฉัน ฮึก...เขาไม่มีวันรักฉัน! ฮือออออ...”


               ช่วงเวลาตีหนึ่ง ผู้คนที่มาร้านเหล้าเริ่มจะเมาด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์แต่ละคนปฏิบัติตัวแตกต่างกันแล้วแต่ลักษณะของบุคคล บ้างก็เมาแล้วเต้น บ้างก็เมาแล้วหัวใจ บ้างก็เมาแล้วหลับ บ้างก็เมาแล้วร้องไห้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่แสดงออกในเวลาที่ควบคุมสติไม่ได้เช่นนี้ มักจะเป็นสิ่งที่ซื่อตรงต่อหัวใจของตัวเองมากที่สุด


               “ลิน...แกคิดมากไปเอง มันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่แกคิด”

               “ฮึก! ไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันคิดงั้นหรอ! ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตุลย์ไม่เคยแม้จะทำสีหน้าลำบากใจเลยด้วยซ้ำที่ฉันไปคอนโดเขา แต่นี่มันอะไร! อยู่ดีๆ ก็มาบอกฉัน...ฮึก...บอกฉันว่าอย่าไปที่คอนโดเขาอีก มันแปลว่าอะไรได้บ้างนอกเหนือจากนี้ละ!”

               “ลิน...” เพื่อนสาวสองคนที่มานั่งกินเหล้าเป็นเพื่อนมองหน้ากันต่างใยต่างก็มีสีหน้าอึดอัดใจและเป็นห่วงในเวลาเดียวกัน ทั้งๆ ที่อยากจะปลอบแต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้มากเมื่อคนหนึ่งกำลังแต่งงานและอีกคนก็มีทีท่าว่าจะไปได้สวยในเรื่องของความรัก

               “ไม่ฉันจะพยายามแค่ไหน เขาก็จะไม่รักฉันหรอ ฮือ....แก เขาไม่มีวันรักฉันเลยหรอ? แต่ฉันชอบเขามากเลยนะ” เสียงสะอื้นดังคลอเคล้ากับคำพูดตัดพ้อที่ดังออกมาคล้ายคนละเมอ หยาดน้ำตาเกาะแพรวพราวอยู่ที่ขนตาสวย แต่ถึงอย่างนั้นเพื่อนทั้งสองก็ไม่สามารถยืนยันได้เต็มปากว่าผู้ชายที่ชื่อ ‘ตุลย์’ จะหลงรักเพื่อนของเธออย่างแน่นอน

               “มันไม่มีอะไรแน่นอนหรอกนะแก ตุลย์ต้องมีเหตุผลดีๆ ที่ไม่ให้แกไปห้องเขาอีกแน่เลย ลองคุยกับเขาดูก่อนนะ” เพื่อนคนหนึ่งพูดปลอบพร้อมค่อยๆ เอาแก้วเหล้าออกจากมือของพลอยไพลินอย่างช้าๆ แต่เธอกลับคว้าแก้วเหล้าที่เพื่อนจะเอาออกไปได้ทันแล้วกระดกดื่มขึ้นจนหมดแก้ว!

               “ฉันถามเขาแล้ว! เขาบอกฉันว่า คนอื่นจะมองฉันไม่ดี ที่ไปบ้านเขาที่เป็นผู้ชายตลอดทั้งๆ ที่เราไม่ได้เป็นอะไรกัน!”

               “นั่นไง...เหตุผลเขาก็...”

               “แต่ฉันอยากให้คนอื่นคิดน่ะสิส้ม! ว่าฉันกับตุลย์เรามีอะไรมากกว่าเพื่อนกัน! ผู้หญิงก็จะได้ไม่ยุ่งวุ่นวายกับตุลย์ แล้วฉันก็อยากให้คนรอบข้างกดดันเขา! ได้ทำให้เขาเห็นว่าสิ่งที่เขากับฉันเป็นมันไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบเพื่อน! แล้วเขาจะได้รักฉัน!”

               “ลิน...” ‘ส้ม’ เพื่อนสาวที่ปลอบอย่างอ่อนโยนสะดุ้งโหยงเมื่อเพื่อนของเธอที่ยังร้องห่มร้องไห้เสียใจเมื่อครู่กลับระเบิดความไม่พอใจและความเกรี้ยวกราดออกมา ใบหน้าแดงกล่ำกับสายตาทมึงถึงทำให้หล่อนเผลอเบียดตัวเข้าชิดเพื่อนอีกคน

               “ฉันเคยเสียตุลย์ให้นังผู้หญิงคนนั้นแล้ว นังผู้หญิงท้องที่ไม่รู้ใช้มารยาอะไรจับตุลย์ไปเพียงไม่กี่วัน! ฉันจะไม่ยอมให้มีอะไรแบบนั้นเกิดขึ้นอีก ไม่ว่ายังไง...ไม่ว่ายังไง! ตุลย์จะต้องเป็นของฉัน! ถ้าฉันพยายามดีๆ แล้วมันไม่ได้ ฉันก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เขามา ฉันจะไม่เลือกวิธี ฉันจะไม่สนใจอะไรอีกแล้ว!!”


               ผู้หญิงที่ชื่อส้มมองเพื่อนของตนอย่างหวาดๆ สายตา ถ้อยคำของคนตรงหน้า เธอมีความรู้สึกเหมือนมันไม่ใช่เกิดขึ้นเพราะความประชดประชันหรือความเสียใจชั่ววูบ แต่มันเป็นความรู้สึกที่เธออาจจะเก็บสะสมมานาน มานานกว่าที่ใครรู้ ในใบหน้าและการกระทำที่ดูไม่มีอะไรร้ายแรงนั่น!


               “งั้นฉันช่วยเอาไหม?” เพื่อนสาวอีกคนที่เงียบอยู่นานพูดขึ้นมาเรียกความสนใจจากคนทั้งสอง

               “แกหมายถึง?”

               “ฉันเข้าใจความรู้สึกของลินนะ ก่อนที่ฉันจะได้แต่งงานกับหนุ่ม ไม่ว่าฉันทำยังไงหนุ่มก็ไม่เคยรับรู้ความรู้สึกของฉันเลย ไม่ว่าทำยังไงเขาก็จะมองข้ามหัวฉันไปหาคนอื่นๆ เสมอ มันทั้งเจ็บ ทั้งปวดจนแทบจะทนไม่ไหว! แต่วันหนึ่งแค่ฉันกับหนุ่มมีจุดเปลี่ยน อะไรๆ มันก็ง่ายขึ้น”

               “...”

               “มันก็แค่ให้เขารู้ตัวว่าผู้หญิงคนนี้ที่เขามองข้ามเสมอ ก็เป็นเพียง ‘ผู้หญิง’ คนนึง


               ส้มเผลอเม้มปากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองคนคุยกันด้วยความอันตรายอะไรบางอย่างที่เธอไม่อยากนึกถึง แม้จะเข้าใจดีคำว่า ‘ผู้หญิง’ นั่นหมายถึงอะไร และรู้ดีว่าเพื่อนเธอกำลังคุยกันเรื่องอะไร!


               “ฉันกับเขาไม่มีโอกาสได้เกี่ยวข้องกันอีกแล้ว ฉันไปคอนโดเขาไม่ได้อีกแล้ว”

               “แต่แกก็ยังสนิทกับเขาไม่ใช่หรอไง?

               “...ก็ใช่”


               เพื่อนสาวที่กำลังจะแต่งงานหยิบเหล้าและโซดาที่เหลืออยู่น้อยนิดชงให้กับเธอและพลอยไพลิน


               “ชวนเขามาสิ ชวนเขามาวันแต่งงานของฉัน”










TBC
บอกแล้ว เจ๊พลอยไพลินเดี๋ยวนางมา~
ตอนที่ 23 ถ้าวันนี้แต่งจบ จะเอามาลงให้วันนี้นะคะ แต่ถ้าไม่จบก็รอพรุ่งนี้นะฮืออออ
#daddybelover
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 20-07-2015 15:14:16
ขอให้แต่งจบวันนี้ เพี้ยงๆๆๆ  :call: :call:


นังลินนี่เลวส่วนนึง เพื่อนเสริมอีกส่วน


พวกนี้ต้องจับผช เป็นเป้าหมายสุดท้ายของชีวิตหรืออย่างไร ไม่ปล่อยวางซะที
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 20-07-2015 15:29:38
นี่เจ๊พลอย เขาไม่รักไม่ชอบก็ยังดันทุรังอยู่นั่นแหละ  :angry2:
แล้วยัยเพื่อนนี่ก็ยังช่วยกันคิดชั่วอีก
ระวังเหอะ กรรมจะตามสนอง

โทษที อินไปหน่อย  :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 20-07-2015 15:32:29
เหอะ คิดได้ตอนนี้แค่ ไม่มอมเหล้า ก็ใช้ยา หรืออย่างน้อยสุดจัดฉาก แต่วิธีไหนด็แล้วแต่บอกได้แค่ว่า วิธีไหนก็เลว  หวังว่าตุลย์ ทำบุญมาเยอะพอ หรือน้องเอสตามป่วน แต่คิดว่าเอสน่าจะอยู่กีบเด็กๆที่ห้อง งานนี้ช่วยตัวเองนะตุลย์ ถ้าได้กะลิน น้องเอสคงต้องไปอยู่ที่อื่น หึหึ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aoraor ที่ 20-07-2015 15:35:24
เห้ยย ไม่ได้เลยนะเหวยยยย

เอสรีบปกป้องเอกราช(?)พี่เขาด่วนน ส่วนของตัวเองก็ไม่ต้องหรอกให้เขาไป 55555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 20-07-2015 16:03:33
ลินคบเพื่อนได้แย่มาก ลินคิดแย่อยู่แล้ว แทนที่เพื่อนจะตักเตือน กลับเห็นดีเห็นงามไปด้วย

แล้วลินจะภูมิใจเหรอถ้าได้ตุลย์มาโดยวิธีวางยา หรือวิธีอื่นที่มันแย่ๆ นะ  อยากให้เจ้าบ่าวของเพื่อนมาได้ยินสิ่งที่เจ้าสาวตัวเองแนะนำจัง  จะได้รู้ว่าสมควรที่จะเอาเป็นแม่ของลูกรึเปล่า

หวังว่าตุลย์คงไม่หลงเชื่อลินนะ ยิ่งเป็นคนใจอ่อนอยู่ด้วย  ต้องคอยให้เอสชี้แนะอยู่ด้วย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 20-07-2015 16:30:19
คิดได้แค่นี้เหรอคะ? ได้ตัวแต่ไม่มีวันได้ 'ใจ' มั่นใจแล้วใช่ไหมว่าตัวเองจะมีความสุข เราว่าสุดท้ายไม่แคล้ว..ก็คงจะมานั่งฟูมฟายแบบนี้อีกจนได้นั่นล่ะ เป็นผู้หญิงที่ไม่เคยพอจริงๆ เลยน้าา แทนที่จะอยู่เป็นแค่ 'เพื่อน' ที่เขาไม่ได้รักแต่ก็ยังได้อยู่ใกล้ แต่ลินกลับอยากอยู่แบบหลังจากนี้ 'มองหน้ากันไม่ติด' ไปเสียอย่างนั้นล่ะ o16
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 20-07-2015 16:30:34
เพื่อนไม่ห้ามแถมส่งเสริมเป็นเพื่อนที่พาลงเหวมาก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 20-07-2015 16:40:09
 :m16: นังนี่คันนะยะ ขอให้แผนหล่อนล้ม เป็นส้มร่วงใส่นู่เอส  ถ้านังลินทำสำเร็จ คนเขียนเตรียมตัวโดนบึ้มนะคะ ไม่ได้ขู่นะ #ยกหูโทรสั่งดินปืน  o18
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 20-07-2015 16:50:40
ร้ายกาจ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-07-2015 17:47:24
เอสสสสส พี่ตุลย์จะมีเรื่อง!!!!! ต้องหาทางช่วยน่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Eangoey ที่ 20-07-2015 18:01:40
แก็งค์นี้มีแผนอะไร เอสอย่ายอมน่ะ :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 20-07-2015 18:29:21
มาดูนัง 2 เจ้ว่าจะทำอะไร
เเต่เชื่อเถอะ ไม่รอดหรอก 5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: TOY_SKY ที่ 20-07-2015 19:27:36
หนูเอสต้องเสีย (ตัว) สละ ช่วยเฮียตุลย์แล้วละ  ไม่งั้นนางมารร้ายจะคาบไปกินนะเอิงเอ๋ย

 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 20-07-2015 19:43:26
เออดี อยากได้มากจนมองอะไรไม่เห็นเลยเนาะ
เอาเลยจ้า ผู้ชายนิไม่เหมือนผู้หญิงนะแก
มีอะไรกันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะรับผิดชอบนะเหวยยย

ระวังจะเสียตัวฟรีนะ ดีไม่ดี คนเสียอาจจะไม่ใช่เธอ
แต่เป็นน้องเอสของเจ๊ >_<

สู้เขานะคะ
 :katai4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 20-07-2015 19:47:35
นังป้านี่ชักพูดจาไม่รู้เรื่อง นี่ป้าตอนแรกป้าบอกอยากจะให้ตุลย์รักให้ได้ แต่ป้าลองดูซิว่าตลอดมาตุลย์รักป้ารึเปล่า และใช่...ตุลย์ไม่ได้รักป้าแม้ว่าป้าจะพยายามแทบตายก็ตาม แล้วทำไมตอนนี้ที่ป้ากำลังคิดที่จะทำเรื่องชั่วๆป้าถึงคิดว่าตุลย์จะหันมารักป้าได้ล่ะ คิดว่าความจำยอมมันทำให้ก่อเกิดความรักได้รึยังไง เพื่อนป้าก็เหมือนกัน สันดานเดียวกันรึยังไง คิดจะจับผัวทั้งทีทำตัวมีศักดิ์ศรีกว่านี้ไม่เป็นรึไง หรือว่าเขาเองก็เป็นอีกคนที่ความจำยอมทำให้ต้องกล้ำกลืนทุกอย่างลงคอไป บอกตรงๆด่าป้าไปด่าป้ามาชักเวทนาป้าแล้วจริงๆ ป้ามัวแต่รักตุลย์แต่ไม่เคยรักตัวเอง อยากเอาน้ำสาดหน้าป้าจังๆสักทีจริงๆเลย
หนูเอสเอ๋ยเตรียมสละประตูหลังรึยังคะลูก (รู้สึกได้ถึงสรรพนามที่เปลี่ยนไป 555) ถ้ายังแนะนำว่าให้เตรียมให้พร้อมนะคะเพราะนังป้านั่นกำลังทำเรื่องไม่ดีเข้าแล้ว ต้องพลีตูดเพื่อพี่ตุลย์นะคะ! 555
ปล.มาอัพลงวันนี้เลยนะ อยากอ่านต่ออ่ะะะะะะะะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: zoe131313 ที่ 20-07-2015 20:23:43
ไอ้เอสสสสสสส 55555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 20-07-2015 21:48:13
เย้ยยยยยไม่มีบทนังหนูเอสเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 20-07-2015 21:52:22
พี่ตุลย์คงไม่อ่อนขนาดนั้นมั้ง :hao4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 20-07-2015 22:00:12
โดนจนได้ กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 20-07-2015 22:25:07
เจ๊ลินยังไม่หยุดอีกหรืออออ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 20-07-2015 22:38:20
หึๆๆๆ อยากให้ตุลย์เห็นธาตุแท้นังลินจังเลยนะ แต่มอมแล้วจับกดเอสก็ดีนะ หึๆๆๆ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 20-07-2015 23:00:33
ยัยลินผู้ชายเค้าพูดขนาดนั้นเธอยังไม่คิด
ที่จะหยุดแล้วหันมารักตัวเองบ้างหรอที่จะ
ทำในอนาคตนะถ้าเกิดว่าแผนเธอสำเร็จคิด
บ้างมั๊ยว่าตัวเองจะอยู่ยังไงจะมีความสุขกับ
สิ่งที่เธอช่วงชิงมาจริงๆหรอ :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 20-07-2015 23:04:00
เธอร้ายกาจมากนะ  ลิน..
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 21-07-2015 00:58:43
เอส ต้องขัดขวางนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 21-07-2015 01:26:38
เอส!!

เจ๊แกกำลังเริ่มแล้ว

เอสจัดการด่วนๆๆๆๆ  :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 21-07-2015 02:21:39
เบื่อยัยป้าลิน
เอสมาจัดการด่วน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 21-07-2015 02:49:33
แหมๆ ความคิดชั่วทั้งตัว ทั้งเพื่อนเลยนะครับ แทนที่จะห้ามกัน แบบนี้เพื่อนกินอย่างเดียวสินะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 22.5 (20/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 21-07-2015 07:30:11
เป็นเพื่อนที่ดีมากจิงๆ เพื่อนเจ๊ลินเนี่ย หึ!
ส่งเสริมให้เพื่อนทำแต่ละอย่างดีๆทั้งนั๊น ศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิงยังจะมีไหม ถ้าต้องทำขนาดนั้น คุ้มไหม
ความรับผิดชอบเกิดขึ้นมาจากความผิดพลาด ไม่ใช่ความรักอ่ะเจ๊!!!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 21-07-2015 15:36:22
ตอนที่ 23




               สวัสดีครับ เรามาเจอกับเอสหอมจอมซนอีกแล้ว อันดับแรกผมประกาศก่อน ผม...เป็นเด็กมหา’ลัย เต็มตัวแล้วเฟ้ยยยย! เมื่อวานผมได้ใส่ชุดนักศึกษาครั้งแรกไปเข้ามหา’ลัยมาแล้ว ปริ่มมาก จนแทบจะจุดธูปเรียกผีพ่อผีแม่มาหาที่มหา’ลัยกันเลย แต่ว่าได้ยินเรื่องผีๆ จากพวกรุ่นพี่สักก่อน ผมไม่อยากเอาผีพ่อผีแม่มาเป็นเอฟเฟ็คประกอบฉาก ก็เลยยังไม่จุดธูปเรียกที


               แต่เข้ามหา’ลัยก็ไม่ค่อยแตกต่างจากเดิมตรงไหนหรอกครับ ถึงอย่างนั้นผมก็ยังอยู่ในช่วงรับน้องไปอีกสักพัก แถมที่อยู่ผมก็ต้องยังอยู่กับพี่ตุลย์ไปอีกกว่าจะจบเทอมแรก แล้วก็ย้ายไปอยู่กับ แชงคูสหัวแดงตอนเทอมสอง สรุปก็คือแค่เปลี่ยนจากไปทำงานก็ไปเป็นมหา’ลัยแทน กิจกรรมจบก็กลับบ้านพี่ตุลย์ มาอยู่กับที่หนึ่งกับตอนต้นอยู่ดี


               พูดถึงพี่ตุลย์...อ๊ากกกกกกกกกกกกก แม้จะผ่านเกือบอาทิตย์แล้วแต่พอนึกถึงฉากนั้นก็อยากจะเอาหัวยัดลงไปในไหแล้วไม่ต้องโผล่หน้าขึ้นมาอีก! มันเสียเชิงชายของนายเอสยิ่งนัก! ผมขอเล่าย้อนความ หลังจากโดนพี่ตุลย์ จู...เอ่อ เออ! โดนจูบนั่นแหละ! วันต่อมาผมก็รีบปรี่ไปหาไอ้ปันเลยนะ


               ‘อ๋อ ผู้หญิงคนนั้นจูบมึงหรอ? เออๆ แป๊บนะ กูเล่นเกมอยู่ด้วยว่ะ...กูกำลังจะตายแล้ว! สัส ตายเลย! ถึงไหนแล้วนะ เออ มีอยู่สองกรณี ไม่เขาชอบมึง ก็เป็นคนขี้เล่นมากจนจูบใครก็ได้ กูไม่รู้ว่ะ ไม่ได้เป็นผู้ฆญิงคนนั้น’


               ไอ้ห่านี่ สนใจเรื่องของผมมากอ่ะ


               พอไปคุยกับไอ้ปันเสร็จ ผมก็กลับมาคิดแหละ ว่าถึงพี่ตุลย์จะไม่ใช่พวกขี้เล่นติดออกจะเป็นคนจริงจังด้วยซ้ำ แต่พี่เขาอาจจะเป็นจำพวกแบบไม่ซีเรียสเรื่องจูบ กอดไรงี้ก็ได้นะ ผมก็เลยว่าจะโยนเรื่องนี้ออกจากสมอง


               แต่พอกลับห้องเท่านั้นแหละ!


               รู้เลยว่าประเด็นไม่ได้อยู่ที่พี่ตุลย์ซีเรียสหรือเปล่า แต่ประเด็นคือผมซีเรียส!


               คิดดูนะ เป็นบ้าปะ ตั้งแต่วันนั้น พี่ตุลย์พูดอะไรผมก็เผลอจ้องปากพี่แกตลอด เลยต้องก้มหน้าคุย มองนก มองฟ้า มองดินไปเรื่อย หนักสุดคือเผลอเสริชหาข้อมูลเกี่ยวกับเกย์เลยด้วยซ้ำ แต่พอรู้ตัวผมก็รีบปิดมันอย่างไวแล้วไม่เคยกดเข้าไปดูอะไรพวกนั้นอีก


               ผมไม่ได้เป็นเกย์นะ...


               สุดท้ายตลอดสี่วันก่อนเข้ามหา’ลัยผมเลยพยายามไม่ข้องแวะอะไรกับพี่ตุลย์เกินเหตุ ไปที่ทำงานของพี่ตุลย์อีก ระวังคำพูดทุกอย่าง ปิดทุกช่องทางที่พี่ตุลย์จะหาเรื่องมาแกล้งผมทุกกรณี


               ผมแม่งโคตรกระวนกระวายเลยว่ะ ไม่เหมือนอีกคนที่ทำตัวเหมือนเดิมทุกอย่าง เคยขมวดคิ้วใส่ผมยังไง เคยทำหน้าตาใส่ผมยังไงก็ทำเหมือนเดิมหมด


               ที่จริงมันก็ดีใช่ไหมครับ? ที่พี่ตุลย์ไม่ทำตัวแปลกไป ใช่ ก็ดีแล้วไง เป็นเหมือนเดิมแบบที่ผมต้องการ แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกเกลียดฉิบ


               เป็นคนทำให้ผมรู้สึกแท้ๆ แต่ตัวเองกลับยังไม่รู้สึกอะไรเลย...















               “ที่หนึ่งไปอาบน้ำไปลูกไป อาบน้ำดึกกว่านี้เดี๋ยวเป็นหวัดนะ” พี่ตุลย์ที่กำลังเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำบอกกับลูกชายคนโตที่นั่งเล่นเกมเพลย์ทูกับผมอยู่หน้าทีวี

               “เดี๋ยวอาบครับ รอผ่านด่านนี้ก่อน!”

               “เลือดแดงขนาดนั้นแล้วเนี่ย ไม่ผ่านหรอก”
               
               “ถ้าผ่านด่านนี้ไปได้ เลือดที่หนึ่งก็ขึ้นแล้ว!”

               “นี่เรายังไม่เจอบอสเลย ไม่รอดแหงะแซะ สงสัยจะเหลือพี่สู้อยู่คนเดียวแล้วมั้ง” ผมหัวเราะเสียงเหี้ยมพลางกดรัวจอยสติ๊กจนนิ้วแทบล็อค ถึงจะมีตอนต้นคลานขึ้นมานั่งเล่นอยู่บนตักด้วยแต่ก็หาใช่เป็นอุปสรรคของเซียนเกมเอสหรอกจะบอกให้~

               “ผ่านประตูนี้ไป ก็เจอบอสแล้ว!”

               “ในห้องนั้นพวกซอมบี้โคตรเยอะ พี่ว่าที่หนึ่งนอนตายอยู่ห้องนั้นแหละ”

               “งั้นมาดูเลย!”


               เราสองคนกดจอยสติ้กยิงปืนกราดใส่ซอมบี้ที่พุ่งเข้ามาทำร้าย โดยมีเสียงซาวของผมกับที่หนึ่งคอยดังทำหน้าที่แทนเกมไม่หยุดปากจนในที่สุด!


               ที่หนึ่งตายอยู่ที่ครับ อิอิ


               “ว๊าาา ไก่อ่อนตายซะแล้ว เหลือเจ้าป่าอย่างท่านเอสผู้นี้ไปสู้กับบอสเพียงลำพัง~” ผมยักคิ้ว

               “งั้นมาเล่นอีกรอบเลย! แก้มือ”

               “ได้อยู่แล้ว งั้นมาเริ่ม...”

               “ไม่ได้หรอก” ผู้เป็นเจ้าของห้องหิ้วปีกของที่หนึ่งให้ลุกขึ้นจากหน้าทีวี “สัญญากับพ่อว่าจบด่านนี้จะไปอาบน้ำใช่ไหม? ถ้างั้นลูกก็ต้องไปอาบน้ำก่อน แล้วค่อยกลับมาเล่น”

               “ถ้างั้นอันธพาลรอก่อนนะ เดี๋ยวที่หนึ่งจะกลับมาเล่นใหม่!” ที่หนึ่งพูดเสร็จก็วิ่งปรู๊ดปร๊าดหยิบผ้าขนหนูแล้ววิ่งไปห้องน้ำ ทิ้งให้บริเวณห้องรับแขกเหลือเพียงผมที่นั่งโหลดเริ่มเกมใหม่อยู่หน้าทีวีโดยมีตอนต้นนั่งอยู่บนตัก กับพี่ตุลย์ที่ยืนอยู่ข้างหลัง

               “ฉันขอเล่นสักตาได้ไหม?”

               “ไม่ได้หรอก ผมจะเล่นกับที่หนึ่ง เดี๋ยวที่หนึ่งก็อาบน้ำเสร็จแล้ว” ผมบอกกับคนที่กำลังทรุดตัวนั่งลงข้างๆ ผมแทนที่ที่หนึ่ง

               “ฉันเล่นเกมพวกนี้ไม่เก่งหรอก คงตายก่อนที่ที่หนึ่งอาบน้ำเสร็จอยู่แล้ว”

               “...ก็ตามใจ งั้นเดี๋ยวผมตั้งค่าให้เล่นคนเดียว”

               “นายก็เล่นด้วยกันสิ”

               “ไม่เอาอะ ผมขี้เกียจแล้ว”

               “ขี้เกียจแต่รอเล่นกับที่หนึ่งเนี่ยนะ?”

               “...” ผมเงียบ ไม่มีอะไรจะตอบหรือแย้งอีกฝ่ายทั้งนั้น สิ่งที่ผมอยากทำมากที่สุดคือลุกออกห่างจากพี่ตุลย์ต่างหาก


               มันไม่ปลอดภัย...


               “แค่ด้วยกันด่านเดียวก็ไม่ได้หรอ?”


               ทำไมต้องพูดแบบนี้ด้วยวะ


               “เฮ้อ...แค่ด่านเดียวนะ”


               สุดท้ายก็กลายเป็นว่าผมกับพี่ตุลย์ก็เล่นเกมด้วยกัน แต่เป็นการเล่นเกมที่อึดอัดที่สุดที่ผมเคยมีมา มีแต่เสียงเอฟเฟ็คจากตัวเกม แต่ไม่มีเสียงการพูดกันระหว่างเรา หรือเสียงโวยวายใดๆ ทั้งสิ้นจากผม มันเงียบจนรู้สึกใจไม่ดีแทบจะทนไม่ไหวอยากไปดึงปลั๊กออกแล้วลุกเข้าห้องนอนไปเสียดื้อๆ


               “นายโกรธอะไรฉันอยู่?” แต่อยู่ดีๆ เสียงทุ้มของพี่ตุลย์ก็ดังแทรกขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ

               “ไม่นี่ ผมไม่ได้โกรธอะไรพี่สักหน่อย” ผมตอบ ก่อนที่เราทั้งสองจะเงียบลงไปอีกครั้ง มีเพียงนิ้วมือของแต่ละฝ่ายที่ยังขยับกดบังคับตัวละครในเกมไปมา

               “หรอ”


               ผมเกลียดบรรยากาศแบบนี้ฉิบ


               “แล้ว...ทำไมพี่คิดอย่างนั้นละ?”

               “ก็แค่รู้สึกว่ามันเป็นอย่างนั้น”

               ผมหัวเราะเสียงแห้ง “พี่คิดไปเองแล้วแหละถ้างั้นอะ”

               “งั้นนายรู้ตัวบ้างไหม?ว่านาย...กำลังคุยกับฉันน้อยลง”

               “ไม่นะ ก็เหมือนเดิมแหละครับ”

               “ลองคิดดีๆ


               ผมเม้มปาก ผมรู้ตัวดีว่าผมคุยกับพี่ตุลย์น้อยลง ใช่สิ! ก็ผมต้องระวังคำพูดของตัวเองให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้พี่ตุลย์แกล้งผมได้อีก เพื่อไม่ให้พี่ตุลย์มาแหย่ผมได้ไง!


               “ก็...ก็ คงยุ่งอยู่กับมหา’ลัยแหละครับ ไม่มีอะไรหรอก กังวลเรื่องมหา’ลัยอยู่อะไรอย่างนั้นก็เลยไม่ได้กวนประสาทพี่เท่าไหร่ไง”
               
               “แล้วเรื่องมหา’ลัย ฉันกับนายตกลงกันแล้วไม่ใช่หรอ ว่าเดี๋ยวตอนเช้าฉันจะเป็นคนไปส่ง ถ้าเลิกเย็นให้โทรมาบอก จะได้ไปรับกลับด้วย แล้วทำไมถึงไปเองกลับเอง”

               “ผมก็แค่ไม่อยากรบกวนพี่มากไง แค่นี้ผมเป็นภาระให้พี่ไม่พออีกหรอ? มหา’ลัยผมนั่งรถเมล์ก็ถึงแล้ว อีกอย่างคนก็ไม่ได้เยอะเหมือนตอนนู้นไม่ต้องเอารถพี่ไปหรอกหน่า”


               รู้สึกโชคดีชะมัดที่ตอนนี้ผมกำลังเล่นเกมอยู่ ไม่งั้นมือของคนโกหกอย่างผมที่ขยับยุกยิกอยู่ตลอดเวลาคงไม่รู้เอาไปไว้ไหนเลย


               “นายไม่มาที่ทำงานฉันเลยนะ”

               “ก็พี่บอกเองว่าไม่ให้มา ไม่ให้พาตอนต้นมา พี่ต้องการอะไรจากผมหะ?” ผมกระชากห้วนๆ ด้วยความหงุดหงิด ความว้าวุ่นในใจที่เริ่มก่อตัวขึ้นมาด้วยเหตุผลที่ผมเองก็ไม่รู้ ทำให้การเล่นเกมของผมเริ่มไม่รู้เรื่องจนเผลอโดนโจมตีเลือดลดลงไปอย่างรวดเร็ว!

               “ใช่ฉันบอก แต่นายก็ยังดื้อพาตอนต้นมาไม่ใช่หรอ?”

               “แล้วมันจะแปลกมากหรอ ที่ผมเป็นเด็กดีเชื่อฟัง ไม่ไปที่ทำงานพี่อีกน่ะ! พี่จะมาตื้อถามอะไรไร้สาระทำไม!” ผมเผลอตวาดเสียงดัง ก่อนจะรู้สึกตัวถึงการกระทำแย่ๆ เหมือนเห็นสีหน้าของพี่ตุลย์ที่มีต่อการกระทำของผม “โทษที ผม...”

               “ที่ฉันมาถาม ก็เพราะว่าฉันอยากให้เราอยู่ด้วยกันอย่างสบายใจ นายโกรธอะไร ไม่พอใจอะไร ฉันก็แค่อยากให้นายบอกออกมาตรงๆ แต่ถ้ามันทำให้นายรำคาญก็ขอโทษด้วยแล้วกัน” พี่ตุลย์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งจนน่าใจหาย เขาตั้งท่าจะลุกขึ้นไป แต่อะไรบางอย่างก็ทำให้ผมรีบคว้าข้อมือของพี่ตุลย์เอาไว้แล้วดึงเขาให้กลับมานั่งลงที่เดิม!


               อะไรบางอย่าง ที่เป็นความรู้สึกว่า...ถ้าผมไม่รั้งเขาไว้ ไม่ว่าในฐานะใด เขาจะไม่สนใจผมอีกเลย


               “ผม...”

               “...” พี่ตุลย์เงียบ แต่ก็จ้องมองตรงมาอย่างใจจดใจจ่อในสิ่งที่ผมกำลังจะพูด


               นั่นสินะ พี่ตุลย์ก็ยังเป็นเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่มีความรู้สึกพิเศษใดๆ ให้ผมทั้งนั้น ไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างที่ผมกังวลเลยแม้แต่นิดเดียว แค่ผมทำตัวเหมือนเดิม เป็นคนเดิม ไม่มีความรู้สึกพิเศษใดๆ ให้เหมือนกัน เราก็จะเป็นเหมือนเดิมอย่างที่ผ่านๆ มา นี่ผมทำไรอยู่วะ? ผมกระวนกระวายใจไปทำไม ผมตีตัวออกห่างจากพี่ตุลย์เขาทำไม?


               “พี่...เดาๆ ไว้บ้างไหมอะ ว่าทำไมผมเป็นแบบนี้?”

               “ก็คิดไว้อยู่ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า”

               “พี่คิดว่าไงละ?”

               “คิดว่านายแปลกๆ ไป ตั้งแต่วันที่ฉันจูบ...”

               “นั่นแหละ แล้วพี่มาจูบผมทำไม?”

               พี่ตุลย์ร้องเสียง ‘อ๋อ’ ลากยาวเบาๆ “สรุปโกรธเรื่องนี้อยู่สินะ”

               “ใช่สิ ก็พี่เล่นแรงเกินไปแล้วนะ!”

               “ฉันเล่นแรง? ไม่ใช่เอสหรอที่มาจูบฉันก่อน”

               “ก็ดูพี่พูดสิ ตกหลุมรักบ้างละ รักบ้างละ หวงบ้างละ มันควรจะพูดแบบนั้นกับผู้ชายไหมอะ?!”

               “...โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ขอโทษด้วยนะที่ทำให้นายรู้สึกไม่ดี หายโกรธเถอะ เพราะฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้วล่ะ”


               อึก...


               “นั่นสินะ ขอนึกก่อนว่าถ้าหายแล้ว ผมจะได้ปนะโยชน์อะไรบ้าง อันดับแรกก็มีรถไปรับไปส่งที่มหา’ลัย”

               “จะได้ไม่เก็บกดจนอกแตกตาย” พี่ตุลย์หัวเราะในลำคอ

               ผมหัวเราะบ้าง “เกี่ยวไหมเนี่ย?”

               “เกี่ยวมั้ง” เขาหัวเราะ “ถ้างั้นก็ โอเคแล้วสินะ”

               “ครับ~”


               ผมคิดว่า ผมกำลังโกหกนะ...


               “อันธพาล ที่หนึ่งมาแล้ว! อ้าว พ่อแอบเล่นเกมของที่หนึ่งอยู่หรอครับ?”

               “เล่นรอลูกไง” พี่ตุลย์หันไปพูดกับที่หนึ่งก่อนจะหันกลับมาที่ผม “ฉันไปละ เดี๋ยวไปทำงานต่อแล้ว” พูดเสร็จเขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนก่อนที่ที่หนึ่งกลับมานั่งเล่นเกมข้างผมอีกครั้ง

               “โอเคแล้วสินะ”


               ไม่อ่ะ...ทำไมผมไม่รู้สึกโอเคเลย








TBC
มันใกล้ละะะ

ฟิลลิ่งอารมณ์ของคนอารมณ์ดีอย่างเอสนี่เป็นอะไรที่แบบ ยากแท้จะหยั่งถึง จนต้องกินเวลา
มาอัพวันนี้เลย ฮอลลล แล้วเจอกันพรุ่งนี้ อารมณ์จะต้องต่อเนื่องงง~~
#daddybelover
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 21-07-2015 15:50:22
ฮ่อลลลลลลลลลลลลลลล


พี่ตุลย์อ่ะรู้สินะว่าเด็กคิดอะไร ถ้างั้นจีบเด็กเถอะเว้ยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 21-07-2015 15:50:43
เอส~ เริ่มรู้สึกหวั่นไหวแล้วสินะคะ แถมยังต้องโกหกหัวใจตัวเองอีก มันเป็นอะไรที่รู้สึกแย่มากเลยเน้ออ.. :o12:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-07-2015 15:51:44
วัยรุ่นสับสน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 21-07-2015 15:55:29
พึ่งเข้ามาอ่าน..ชอบบบบบบบบบบ..แล้วจะมาอ่านต่อนะคะ.. :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 21-07-2015 16:19:49
พึ่ตุลย์ทำให้วัยรุ่นกลุ้มใจ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 21-07-2015 16:20:52
เอสคงต้องถามใจตัวเองแล้วว่าคิดยังไงกับตุลย์  ส่วนตุลย์อาจคิดกับเอสบ้างแล้ว ถึงได้เชื่อฟังเอสที่บอกให้ตุลย์ถอยห่างจากลิน

หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 21-07-2015 16:24:29
แบบว่าอึมครึมมาก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 21-07-2015 16:25:02
อึดอัดแทน  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 21-07-2015 16:33:35
ตกลงใครหวั่นไหวว่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 21-07-2015 18:28:45
เอสนิน่าจะสับสนอยู่
ส่วนพี่ตุลย์นิน่าจะชอบแล้วละ

 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 21-07-2015 20:45:18
เอสหวั่นไหวใช่ม่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 21-07-2015 20:54:36
เอสสสสสสส นายกำลังทำให้เรื่องมันแย่นะเอส
ถ้าพี่ตุลย์ถอดใจขึ้นมา แระเอสพึ่งรู้ใจตัวเองจะทำยังไง๊!!!!!!! -"-
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: IöLIKE ที่ 21-07-2015 20:56:12
ThankS
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 21-07-2015 21:15:12
พี่ตุลแกล้งน้องอยู่ใช่ปะเนี่ย
หรือซึนจริง งื้ออออ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 21-07-2015 21:16:25
เอสเอ๋ยยยย เริ่มรวนเรแล้วใช่ไหม ใจน่ะ พี่ตุลย์ก็อย่าแกล้งให้มันมากนักจะได้ไหม ทั้งๆที่น่าจะพอรู้อยู่แท้ๆ
ปล.รอตอนต่อไปจ้าาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 21-07-2015 21:56:09
เอสกำลังสับสนเราควรหาอะไรมากระตุ้นสินะ  อิอิ. สู้ๆนะเอสรักก็บอกพี่ตุลย์ไปเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 21-07-2015 22:08:04
น้องเอสโหมดนี้น่าสงสารมากก

อยากเห็นนุ้งเอสคนเกรียนคนเดิม  :hao5:

แอบเคืองพี่ตุลย์อ่ะ ไม่คิดอะไรจริงๆเหรอออ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 21-07-2015 23:15:13
เราก็ไม่โอเคคค อะไรอ่ะ เหมือนจะเดินหน้า แต่ก็ถอยหลังลงมาอีกแล้ว หน่วงแทนเอสเลย...
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Cc-kun ที่ 22-07-2015 00:54:06
เราชอบเรื่องนี้มากกว่าเรื่องพ่อหนุ่มหัวแดงนะ
รู้สึกคนเขียนเขียนรักใสๆได้ดีกว่าเรื่องแนวนั้นอ้ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 22-07-2015 01:41:15
ไม่สบายใจจริงหรอก เชื่อเถอะ!!!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 22-07-2015 10:35:49
บทเอสคิดมากนี่เหมือนนานๆทีจะได้เห็น หวั่นไหวแล้วสินะ~ ตุลอย่ารอช้า รุกเข้าๆๆ เจ๊พลอยจะกลับมาแล้ววววว
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 22-07-2015 10:49:08
เฮ๊ยอย่าบอกนะว่าเอสหายเครียด


แล้วพี่ตุลย์จะเครียดเอง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 22-07-2015 12:06:47
ใจเย็นๆไอ้เอส คิดให้ดีๆว่าเรารู้สึกยังไงกับพี่ตุ
ุลย์กันแน่
เอสมาโหมดนี้ แปลกไปเลย คงสับสนสินะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 22-07-2015 19:09:05
วัยรุ่นเข้าใจยากส์  5555555555
หัวข้อ: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Babylon ที่ 23-07-2015 03:03:32
รออยู่น้า มาต่อไวๆน้อ ค้างงะ :katai5:
สรุปว่าพี่ตุลย์นี่ชอบจริงๆจังๆแล้วใช่ป่ะพี่  :o8:
เฉาเลยดิเอส รีบๆรู้ตัวได้แล้ว สงสัยต้องให้ เพื่อนกระซิบก่อนถึงจะรู้ตัว :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 23 (21/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: onekiss ที่ 23-07-2015 16:56:14
 :hao3: :hao3: :hao3:
เอสอีผู้ร้ายปากแข็งชอบก้บอกไปสิ5555

ชะนีนางมีแผ่นร้ายๆอีกแล้วนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 23-07-2015 20:44:55
ตอนที่ 24




              “เอส ฝากดูตอนต้นกับที่หนึ่งด้วยนะ” ผมที่นั่งอยู่บนโซฟาหันมองตามเสียง ก่อนจะเห็นพี่ตุลย์ในชุดทักซิโด้สีดำสนิทดูเรียบร้อยผิดหูผิดตากำลังเดินออกมาจากห้องนอน

              “พี่จะไปแล้วหรอ? ผมยังไม่ได้เซ็ตเลย” ผมว่าพลางลุกเดินเข้าไปหา

              “มันก็ไม่ได้ยุ่งอะไรนี่”

              “ใส่ขนาดนี้แล้วจะไม่เซ็ตผมหน่อยหรอ? เดี๋ยวผมเซ็ตให้เอาไหม?”

              “แต่ฉันว่า...” พี่ตุลย์จับเส้นผมของตนเองเล็กน้อย แต่ผมไม่สนอะไรทั้งนั้นคว้าข้อมืออีกฝ่ายลากเข้าไปในห้องน้ำด้วยกัน

              “เดี๋ยวผมจะโชว์ฝีมือให้ดู รับรองว่าพี่หล่อเกินหน้าเจ้าบ่าวของงานแน่นอน” ผมพูดพร้อมกับหยิบกระปุกเจลแต่งผม แต่หลังจากที่ผมหมุนตัวกลับมา ก็ต้องชะงักค้าง เมื่อรู้สึกถึงร่างของใครบางคนกำลังอยู่ใกล้เกินไป ใกล้จนได้กลิ่นโคโลญ


              ใกล้จนเป็นระยะอันตราย...


              แต่ผมเกลียดอะไรที่สุดรู้ไหม?


              เกลียดที่ผมดันหวั่นไหว ทั้งๆ ที่พี่ตุลย์ไม่ได้ทำอะไรเลย...


              “เอส?”

              “หะ? เอ่อ...พี่เถิบออกไปหน่อยดิ” ผมแสร้งพูดเสียงห้วนอย่างไม่ค่อยพอใจนักพลางใช้กระปุกเจลดันอีกฝ่ายให้ออกห่าง หลังจากที่ตุลย์ยอมเดินถอยออกไปแล้ว ผมก็ค่อยเปิดกระปุกเจล ควักออกมาเล็กน้อยแล้วเริ่มลงมือเซ็ตผมให้คนตรงหน้า

              “ทำออกมาดีๆ นะ”

              “รู้แล้วหน่า”

              “...นายมือสั่นนะเอส”


              ไม่ใช่แค่มือหรอก ใจผมด้วย! บอกผมดิว่าผมควรทำยังไง ถ้ามีใครคนหนึ่งมองผมอยู่ตลอดแบบนี้!


              “พี่...หลับตาได้ไหม?”

              “ทำไม?”

              “บอกให้หลับก็หลับเถอะหน่า” ผมพูดเสียงระคนหงุดหงิด แม้พี่ตุลย์จะมีสีหน้าแปลกใจสงสัยแต่ก็ไม่พูดอะไร ยอมหลับตาลงตามที่ผมบอกแต่โดยดี


              ผม...พยายามแล้วนะ


              ตลอดเกือบสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมพยายามแล้วที่จะทำตัวเหมือนเดิม



















              ผมมองผู้ชายรูปร่างสูงสมส่วนในชุดทักซิโด้สีดำสนิทเสริมความสง่าที่กำลังบอกลาลูกของตัวเองสองคนอยู่ที่โซฟา แม้จะเห็นเพียงเสี้ยวหน้าด้านข้างก็ยังสังเกตเห็นได้ถึงความลังเลที่จะทิ้งลูกไปในเวลาสองทุ่มเช่นนี้ จนกระทั้งที่หนึ่งต้องย้ำแล้วย้ำอีก ว่าเขากับน้องอยู่บ้านได้ เพราะผมเองก็อยู่บ้านและป้าสร้อยก็อยู่ข้างๆ หากมีอะไรเดือดร้อนก็สามารถรีบไปหาได้ทันทีอยู่แล้วนั่นแหละ พี่ตุลย์ถึงยอมที่จะลุกขึ้นเดินไปยังประตูห้อง แต่ก็ไม่วายกันมากำชับกับผมที่ยืนพิงกำแพงอยู่ข้างประตูห้องนอน


              “เดี๋ยวผมดูแลให้หน่า ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก” ผมย้ำ พี่ตุลย์พยักหน้าให้ผมสองสามครั้งก่อนที่เขาจะปิดประตูไม้อัดสีขาวลง และทันทีที่เขาไม่อยู่ในห้องแล้ว ผมก็ถอนหายใจออกมาทรุดตัวลงนั่งขันเข่ากับพื้นห้องตรงนั้นพร้อมกับความอึดอัดใจ


              รู้สึกแย่ยังไงไม่รู้ ที่ดันคิดว่า ช่วงเวลาที่สบายใจที่สุดของผม คือช่วงเวลาที่ไม่มีพี่ตุลย์อยู่ห้อง ทั้งๆ ที่พี่ตุลย์ก็ไม่เคยพูด ไม่เคยทำอะไรให้ผมไหวหวั่นอีกนับตั้งแต่วันนั้น มีแต่ตัวผมเองที่กลับสรรหาสารพัดให้ตัวเองหวั่นไหวไม่หยุดหย่อน


              อ๊ากกกกกกกกกกกกก!! ไอ้เอส มึงเป็นอะไรเนี่ย มึงบอกว่าจะเกรียน ฮา บ้าบอเหมือนเดิมไม่ใช่ไง? พี่ตุลย์เขายังไม่เป็นอะไรเลย เขายังปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง แล้วมึงอะ เป็นอะไร! ตอนนี้มีแค่มึงคนเดียวเลยที่ไม่เหมือนเดิม!


              มีแค่มึงคนเดียวเลย...ที่เปลี่ยนไป


              “อันธพาล เป็นอะไร?” ผมเงยหน้ามองที่หนึ่งที่ยืนค้ำหัวผมอยู่ ผมเปลี่ยนจากการชันเข่ามาเป็นนั่งขัดสมาธิ ส่งยิ้มกวนๆ ให้มันเหมือนปกติราวกับในใจผมไม่มีเรื่องอะไรทั้งนั้น

              “กำลังคิดว่า นี่เป็นครั้งแรกที่มีแค่ พี่ ที่หนึ่ง กับตอนต้นจะทำอะไรกันดี?”
             
              “เดี๋ยวที่หนึ่งจะไปทำการบ้าน แล้วก็ดูการ์ตูน เสร็จแล้วที่หนึ่งก็จะไปนอนแล้วละ พ่อบอกว่าให้ที่หนึ่งนอนเร็ว”

              “ถ้าพ่อบอกแบบนั้นก็ต้องทำตามนั้นละนะ งั้นที่หนึ่งก็ไปทำการบ้านไป เดี๋ยวพี่กับตอนต้นจะนั่งเล่นอยู่หน้าทีวีเนี่ยแหละ การ์ตูนมาเมื่อไหร่แล้วจะเข้าไปเรียก”

              “ได้ๆ”


              พอที่หนึ่งไปแล้ว ผมก็เดินกลับเข้าไปหยิบโน๊ตบุ๊คในห้องพี่ตุลย์ตั้งใจจะเอามาหาอะไรดูระหว่างดูตอนต้นที่หลังจากยืนคล่องแล้ว เดินเต๊าะแตะสามสี่ก้าวได้บ้างก็ชักจะซนกว่าปกติ


              “หมู มาดูหนังด้วยกันไหม?”

              “แอร๊” เด็กอ้วนที่กำลังเกาะผนักโซฟาส่งเสียง เดินเต๊าะแตะตรงมาทางผม แต่ก็ล้มลงก่อนจะได้มาถึงตัก เดือดร้อนผมต้องรีบอุ้มมันขึ้นมาเช็คหัวเช็คหางแล้วพามันมานั่งลงข้างๆ ดูหนังฝรั่งที่ผมกำลังจะเปิด นี่ถ้าไอ้ปันมาเห็นเรื่องที่ผมเปิด มันต้องพาผมไปกินยาพานอนแหงๆ ผมชอบแนวหนังบู๊ครับ แฟนตาซี ไซไฟ ไม่ถูกโฉลกกับหนังรักเลยสักนิด แต่หนังที่ผมกำลังจะดูกลับเป็นหนังรักซะอย่างนั้น ไม่รู้ดิ ผมก็แค่มีความรู้สึกว่าอยากดูเฉยๆ 


              บางที ผมอาจจะแค่อยากรู้จักสิ่งที่เรียกว่า ‘รัก’ มากขึ้นละมั้ง
















              รถฮอนด้า แอคคอร์ด รุ่น 2.4 EL NAVI สีดำสนิทจอดเทียบหน้าคอนโดฯ แห่งหนึ่ง ผู้เป็นเจ้าของรถเดินลงมาพิงตัวรถพลางกดเบอร์หาคนที่ชวนตนไปงานแต่งงานของเพื่อนร่วมสำนักพิมพ์ด้วยกัน เสียงรอสายดังขึ้นอึดใจก่อนที่สายจะถูกตัดทิ้ง ไม่กี่นาทีต่อมาประตูคอนโดฯ ก็ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างเล็กของหญิงสาวในชุดราตรีสีชมพูอ่อนยิ่งเครื่องสำอางที่เธอแต่งแต้มในคืนนี้เป็นโทนสีเดียวกันทั้งสิ้น ยิ่งทำให้เธอดูอ่อนหวานราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย


              “รอนานไหมตุลย์?” เธอส่งยิ้มให้กับคนที่ยืนรอเธอ

              “ไม่หรอก เพิ่งมาถึงเหมือนกัน” เขาตอบ

              “วันนี้ตุลย์หล่อจังเลย” เธอเอ่ยปากชมเขาพลางเดินเข้าไปนั่งในราชรถสีดำสนิทโดยมีสารถีที่วันนี้เขาเองก็หล่อเหลาดูดีราวกับเจ้าชายรูปงามเป็นผู้เปิดประตูให้

              “วันนี้ลินก็สวยเหมือนกัน”

              “ขอบคุณ” เธอยิ้มหวาน และเขาเองก็ยิ้มตอบ ก่อนจะเดินอ้อมไปที่นั่งด้านคนขับ และไม่รอช้ารถสีดำก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากคอนโดฯ ตรงไปยังโรงแรมที่มีการจัดงานแต่งงานของเพื่อนร่วมสำนักพิมพ์


              โดยที่เขาไม่รู้เลยว่า รอยยิ้มร้ายกาจที่เต็มไปด้วยความอยากได้อยากมีจะฉายขึ้นบนใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มมาอย่างสวยหวานของคนที่นั่งอยู่ข้างกาย!

















              ภายในห้องประชุมของโรงแรมที่ใช้จัดเป็นงานแต่งงาน กว้างขวางและเต็มไปด้วยผู้คน แต่ส่วนใหญ่ตุลย์และพลอยไพลินก็มักจะคุ้นหน้าแขกรับเชิญดีเพราะไม่พ้นเป็นเพื่อนร่วมสำนักพิมพ์แทบทั้งสิ้น หากเป็นคนที่เขาไม่คุ้นหน้าค่าตาก็ไม่ต้องเดาให้มากความ ก็คงจะเป็นแขกรับเชิญของฝ่ายเจ้าบ่าวที่ทำงานอยู่บริษัทอื่นนั่นเอง


              “โอ๊ย คู่นี้มาแย่งซีนเจ้าภาพหรอค่ะ” ในขณะที่ตุลย์กำลังเขียนอวยพรคู่บ่าวสาว ผู้หญิงในชุดสีชมพูเช่นเดียวกับคู่ของเขาในวันนี้ผู้ที่มีหน้าที่ต้อนรับแขกก็เอ่ยแซวทั้งสองขึ้นมา

              “นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นงานแต่งงานเพื่อนนะ จะแต่งมาให้เต็มกว่านี้อยู่”

              “ยังเต็มได้มากกว่านี้อีกหรอ?”

              “ได้มากกว่านี้อีก” พลอยไพลินพูดอย่างขำขันพร้อมกับหัวเราะเสียงหวานอย่างอารมณ์ดี เธอเพยิดหน้าไปทางชายหนุ่มที่ยังเขียนอวยพรอยู่เป็นสัญญาณบอกให้เพื่อนเริ่มทำสิ่งที่ทั้งสองได้ตกลงไว้ก่อนหน้านี้

              “นี่ตุลย์ แล้ว...เมื่อไหร่จะแต่งงานอะคะ”

              “แต่งกับใครครับ?” ตุลย์วางปากกาลงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาถามผู้ที่มีหน้าที่เฝ้าโต๊ะเขียนอวยพรบ่าวสาวและต้อนรับแขก
             
              “แหม ยังมาถามอีก ก็วันนี้ควงกับใครมาก็แต่งกับคนนั้นไงคะ”

              “ลี!” พลอยไพลินแสร้งเอ็ดเพื่อนอย่างเขินอาย โดยที่ตุลย์ผู้ที่ถูกแซวทำเพียงยิ้มให้กับอีกฝ่ายหนึ่งเท่านั้น

              “ถ้าแต่งเมื่อไหร่ก็อย่าลืมร่อนการ์ดมาด้วยนะคะ ตั้งหน้าตั้งตารอจะไปร่วมเลยค่ะ”


              ตุลย์ยังคงยิ้ม เขารู้สึกเบื่อหน่ายกับคำพูดเชิงนี้เต็มที อันที่จริงแล้วคำพูดล้อแซวแบบนี้มีมาตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนแล้ว แต่เพราะเขาปล่อยให้มันผ่านไปตลอดไม่เคยเก็บเอามาใส่ใจ แต่พอได้มีใครคนหนึ่ง...เด็กตัวแสบที่ได้เข้ามาอยู่ในชีวิต เตือนสติว่านี่คือสิ่งที่คนภายนอกเห็นจากการกระทำที่ไม่กำหนดขอบเขตให้ชัดเจน เขาก็รู้สึกตัวว่าคำพูดนั้นมันน่าอึดอัดราวกับหินก้อนใหญ่ที่ถมลงมาบนตัวเพื่อให้เขาตกลงไปในหลุมอะไรสักอย่าง


              “ผมคงไม่กล้าแต่งกับลินหรอกครับ ไม่อยากจะโดนผู้ชายคนอื่นมารุมฆ่าเอาน่ะ”


              แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะพูดอย่างรักษาหน้าของอีกฝ่ายที่เป็นผู้หญิง


              “ไม่มีใครหรอกค่ะ ก็ลินกับตุลย์ออกจะประกาศตัวกันซะขนาดนั้นนิค่ะ”

              “คิดอย่างนั้นหรอครับ?” ตุลย์ยิ้ม แม้จะอยากจะพูดอธิบายสิ่งที่คนตรงหน้าเข้าใจผิด แต่มันคือการหักหน้าผู้หญิงที่มาด้วย สุดท้ายเขาก็ทำได้เพียงพาพลอยไพลินออกมาจากที่ตรงนั้น เดินไปหาบ่าวสาวที่ยืนต้อนรับแขกและถ่ายรูปกับผู้มาร่วมงานอยู่ที่ซุ้มหน้าประตู ทันทีที่เจ้าสาวหันมาเห็นเพื่อนของตนเอง เธอก็ไม่รอช้าที่จะดึงตุลย์และเพื่อนของเธอเข้ามาอยู่ในซุ้ม แม้ว่าพลอยไพลินกับผู้เป็นเจ้าสาวอยากจะคุยบางเรื่องด้วยกันเสียหน่อย แต่เพราะแขกที่มาอย่างไม่หยุดหย่อน หลังจากถ่ายรูปด้วยกันเสร็จเธอก็เลยทำได้เพียงแค่สื่อสารไปทางสายตาแล้วปล่อยให้ตุลย์กับพลอยไพลินเข้าด้านในของงาน

              “เห็นแบบนี้แล้วฉันอยากจะแต่งงานบ้างเลย อายุอานามไม่ใช่น้อยๆ แล้ว ยังโสดอยู่อีก” เสียงหวานพูดขึ้นเมื่อเขาทั้งสองเดินไปนั่งบนโต๊ะทรงกลมที่เจ้าภาพจัดเอาไว้ให้อยู่ด้านหน้าของงาน

              “อย่างลินน่ะ หาแฟนไม่ยากอยู่แล้ว”

              “ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ฉันคงไม่โสดอยู่แบบนี้หรอกหน่า” ตุลย์เลือกจะหัวเราะแทนการพูดจาที่เขาไม่ค่อยจะถนัดสักเท่าไหร่นัก “แล้วตุลย์ละ?”

              “หื้ม?”

              “เห็นแบบนี้ แล้วไม่อยากแต่งงานบ้างหรอ?”

              “ไม่นะ อาจเพราะผมข้ามขั้นมีลูกไปแล้วละมั้ง แถมยังเป็นผู้ชายอีก ก็เลยไม่ฝันที่จะเข้างานวิวาห์กับเขาหรอก”

              “หรอ” เธอยิ้ม ก่อนจะเงยหน้ามองป้ายวิวาห์ที่ติดอยู่หน้าเวที

              ถ้างั้นเดี๋ยววันนี้เธอเนี่ยแหละ จะทำให้เขาได้แต่งงานเอง!














              ติ๊ก...ติ๊ก


              เสียงนาฬิกาดังขึ้นอยู่ในห้องขนาดกลางที่เงียบสนิท เอสเด็กหนุ่มที่มาอาศัยอยู่ด้วยชั่วคราวเหลือบตามองเข็มนาฬิกาก่อนจะเห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มสี่สิบสี่ เกือบจะห้าทุ่มแล้ว แต่เขากลับยังไม่ง่วงนอนเลยสักนิด ทั้งๆ ที่ช่วงกลางวันก็เรียนจนเหนื่อย และพรุ่งนี้ก็ยังมีเรียนตอนเช้าอีกด้วยซ้ำ


              “เฮ้อ...” เขาถอนหายใจ นึกขอบคุณตอนต้นกับที่หนึ่งที่เข้านอนเร็วกว่าปกติทิ้งเขาเอาไว้ให้อยู่คนเดียวกับอารมณ์และจิตใจที่กำลังสับสนจนแทบจะหาทางออกไม่เจอ


              เสียงพูดคุยในหนังเรื่องที่สองยังดังอยู่ แต่สุดท้ายเขาก็เบื่อหน่ายจนต้องกดปิดมันลง เปลี่ยนหน้าจอยูทูปขึ้น นิ้วเรียวจ่ออยู่ที่แป้นพิมพ์ ก่อนที่ ‘ท’ จะถูกพิมพ์เป็นตัวแรกจนกลายเป็นคำว่า ‘ที่’ ในที่สุด


              ‘ที่-คิด-ถึง-เพราะ-รัก-เธอ-ใช่-ไหม’


              Enter 














              บรรยากาศที่อบอวนไปด้วยความรักจบลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา แม้จะเป็นงานวิวาห์ที่จัดเพียงไม่นานแต่ก็เต็มไปด้วยความสุข เสียงหัวเราะ รอยยิ้มและคราบน้ำตาแห่งความดีใจของคนสองคนที่กำลังได้เริ่มต้นเขียนบทนิยายความรักตอนใหม่


              ช่วงเวลาห้าทุ่มครึ่ง แขกทั้งหลายเริ่มทยอยออกจากงานโดยมีบ่าวสาวเจ้าภาพกล่าวขอบคุณอยู่หน้าประตู อันที่จริง ‘ตุลา’หรือ ‘ตุลย์’ ก็ควรจะเป็นหนึ่งในแขกที่ได้กลับบ้านไปหาลูกชายทั้งหลายของตัวเองเช่นกัน แต่เขากลับโดนพลอยไพลินและกลุ่มเพื่อนของเธอรั้งตัวเอาไว้เสียก่อนเพื่อร่วม After partyเช่นเดียวกับคนอีกประมาณห้าสิบคนซึ่งล้วนเป็นผู้ร่วมงานในสำนักพิมพ์เดียวกันแทบทั้งสิ้น


              “ขอโทษที่ให้รอ คลับที่จองไว้อยู่ชั้นใต้ดินของโรงแรมนะคะทุกคน วันนี้ฉันกับหนุ่มใช้เงินเก็บทั้งหมดเพื่อวันนี้เลยนะ ต้องฉลองกันให้เต็มที่!” เสียงอารมณ์ดีของผู้เป็นเจ้าสาวดังปลุกระดมคนที่ยังเหลืออยู่ ก่อนที่เธอจะเดินนำหน้าสามีหมาดๆ และคนอื่นๆ ไปยังคลับชั้นใต้ดินของโรงแรม

              “ลิน ผมไม่ไปได้ไหม?” ตุลย์กระซิบบอกกับคนที่เดินรั้งท้ายอยู่ข้างๆ

              “ไปเถอะนะ วันนี้มันมีแค่วันเดียวนะ ตุลย์น่าจะพักผ่อนสักวันนะ”

              “แต่ว่าลูกผม...”

              “ตอนนี้เด็กๆ คงเข้านอนหมดแล้วล่ะ ตุลย์ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ แถมเอสก็น่าจะอยู่ที่ห้องด้วยไม่ใช่หรอ?”

              “มันก็ใช่”

              “ถ้างั้นก็ไม่ต้องกังวลแล้วแหละ นะ ไปฉลองด้วยกันเถอะ แค่ไม่กี่ชั่วโมง ตุลย์ก็ได้กลับบ้านแล้วละ” เธอบอกก่อนจะควงแขนอีกฝ่ายพากึ่งเดินกึ่งลากแทบจะแซงคนนำไปยังคลับชั้นใต้ดินอย่างเร่งรีบ


              ใช่สิ เธอจะให้ผู้ชายที่หมายปองกลับไปก่อนได้ไง เมื่อสิ่งที่เธอวางแผนไว้กับเพื่อนของเธอก็คือช่วงเวลานี้!











ต่ออีกหนึ่งกระทู้
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 23-07-2015 20:45:44

              โน๊ตบุ๊คถูกปิดลงวางไว้อยู่ข้างตัวบนโซฟา เด็กหนุ่มที่นั่งมองดูนาฬิกาไม่กล้าแม้แต่จะเปิดทีวีให้อยู่เป็นเพื่อนกันเพราะกลัวเสียงจะดังจนปลุกเด็กน้อยทั้งสองที่นอนอยู่ในห้องของแต่ละคน


              เขาเดินไปเดินมาอย่างไม่มีอะไรทำ แต่ก็ยังเลือกที่จะยังไม่ไปนอน และถ้าหากสังเกตตัวเองบ้าง ก็คงจะรู้ตัว ว่าหลายครั้งมากแล้วที่เขาจ้องมองไปยังประตูไม้อัดสีขาวที่ไม่ยังไม่ถูกเปิดออกอีกเลยนับตั้งแต่วินาทีที่เจ้าของห้องได้เดินออกไป














              แก้วที่หก


              ตุลย์พูดกับตัวเองในใจเมื่อรุ่นพี่ที่ทำงานคนหนึ่งเดินเข้ามาชนแก้วกับเขา แถมยังคะยั้นคะยอให้ดื่มรวดเดียวหมดแก้วทั้งๆ ที่เขาก็บอกไปแล้วว่าเขาดื่มไม่เก่ง เช่นเดียวกับคนห้าคนก่อนหน้าที่ทำแบบเดียวกัน และมันไม่ใช่แค่นั้น มันมีทั้งเบียร์ ทั้งเหล้าผสมปนเปกันไปหมดจนรู้สึกแย่ แสบท้องจนอยากจะอ้วกอยู่ตลอดเวลา


              “ตุลย์ ไหวไหม?” พลอยไพลินที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเดียวกันเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าตุลย์กำลังกุมหน้าผากราวกับปวดหัวเต็มที

              “ไหวอยู่ แค่รู้สึกมึนเฉยๆ ตั้งแต่มีที่หนึ่งผมก็ไม่ค่อยได้ดื่มแอลกอฮอล์เท่าไหร่น่ะ”

              “งั้นกินนี่สิ เขาว่าช่วยได้นะ” เธอยื่นลูกอมฮอาร์ทบีทที่มีรสหวานให้กับอีกฝ่าย

              “ขอบคุณครับ”

              “ไม่เป็นไร” เธอฉีกยิ้มหวานมองผู้ชายตรงหน้าที่กำลังหยิบลูกอมที่เธอยื่นให้เขาปากไปอย่างรนวดเร็ว โดยที่ไม่เฉลียวใจเลยว่า ที่จริงแล้วความหวานต่างหากยิ่งทำให้แอลกอฮอล์ยิ่งถูกซึมซับได้เร็วขึ้น!
“ลิน” คนที่เป็นเจ้าสาวเมื่อชั่วโมงก่อนกระซิบข้างหูเรียกเพื่อนของเธอก่อนที่จะยัดอะไรบางอย่างลงในมือของอีกฝ่ายโดยไม่ให้คนอื่นที่อยู่ในงานรู้ตัว แต่เธอกลับต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเพื่อนของเธอเลือกที่จะปฏิเสธในสิ่งที่เธอเอามาให้ “ทำไมอะ? แกไม่อยาก...”

              “ไม่ใช่!” เธอรีบปฏิเสธเสียงแข็งอย่างแผ่วเบาเหลือบมองตุลย์ที่ยังคงโดนชนแก้วเหล้าอย่างต่อเนื่อง


              เธอไม่รู้หรอกว่าตุลย์จะรู้สึกผิดปกติหรือเปล่าที่มีแต่จะชนแก้วกับเขา แต่เธอไม่รู้สึกผิดปกติอะไรเลย เมื่อเธอเป็นคนที่หลอกล่อให้พวกนั้นแวะเวียนมาชนแก้วกับตุลย์เอง!


              “แล้วทำไม?”

              “ตุลย์ไม่ใช่พวกโง่หรอกง่าย ถ้ามารู้ทีหลังว่าฉันใช้ยาคงจบไม่สวย สู้ให้เกิดจากความเมาไม่ดีกว่าหรือไง?”

              “แล้วแกจะทำยังไง?”
             
              “เรื่องของฉันหน่า ไปอยู่กับสามีแกเถอะไป เดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเอง”

              “โอเค~ สู้เขานะเพื่อน” ผู้ที่เป็นเจ้าภาพของงานกระซิบบอกกับเพื่อนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปร่วมกลุ่มกับสามีและเพื่อนของสามีตรงโซฟาครึ่งวงกลมที่อยู่อีกด้านหนึ่งไม่ห่างออกไป พลอยไพลินกลับมาสนใจคนที่นั่งอยู่ร่วมโต๊ะเดียวกัน ตั้งใจจะชวนเขาออกไปเต้นที่หน้าเวที แต่เธอก็ต้องเห็นคนที่ตัวเองหมายปองสลบสไลฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะกลมแล้วเสียก่อน

              “ตุลย์! ไหวหรือเปล่า?”

              “อื้อ...” เสียงครางอื้ออึงดังขึ้นแผ่วเบา ท่าทางของคนตรงหน้าที่กำลังจะครองสติไว้ไม่อยู่แล้วทำให้เธอเผยยิ้มร้ายออกมา ถ้าหากมีแสงไฟอีกนิดในสถานที่นี้แล้วละก็ ทุกคนคงจะเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโลภและความหลงจนบูดเบี้ยวหมดสวยไปแล้ว!


              ไม่สิ มีอยู่คนนึงที่เห็น ‘ส้ม’ เพื่อนในกลุ่มที่รู้สึกไม่เห็นด้วยกับการกระทำของคนทั้งสอง แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่าดูอยู่ห่างๆ และด่าตัวเองที่ไร้ประโยชน์!


              “ตุลย์นอนตรงนี้ไม่ได้นะ” พลอยไพลินเขย่าตัวของชายหนุ่ม

              “...” แต่ยิ่งเธอเห็นเขาไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ ในใจเธอก็แทบจะเก็บยิ้มเอาไว้ไม่อยู่ เธอลุกเดินไปหาเพื่อนที่เป็นเจ้าสาวของงานกระซิบคุยอะไรกันบางอย่างก่อนที่เธอจะเดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมกับ ‘หนุ่ม’ สามีหมาดๆ ของเพื่อนเธอ

              “ช่วยหน่อยนะหนุ่ม ลินกลัวว่าแบกตุลย์คนเดียวแล้วจะไม่ไหวน่ะ”

              “ไม่เป็นไรครับ” หนุ่มยกยิ้มซื่อก่อนจะยกแขนของตุลย์ขึ้นพาดไหล่ตัวเองเช่นเดียวกับที่พลอยไพลินทำกับแขนอีกครั้งก่อนที่ทั้งสามจะพากันเดินออกจากคลับ ขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นสิบ ชั้นที่มีห้องห้องหนึ่งที่หนุ่มเองก็ไม่รู้ว่าภรรยาของตนจะจองไว้ทำไม!


              หลังจากที่หนุ่มออกจากห้องไปทำหน้าที่เจ้าภาพต่อที่คลับชั้นใต้กินของโรงแรมแล้วก็เหลือเพียงพลอยไพลินกับตุลย์ที่นอนแผ่อยู่กลางเตียง อันที่จริงเจ้าบ่าวค่อนข้างกังวลกลัวว่าทิ้งผู้หญิงให้ดูแลผู้ชายตัวโตเพียงคนเดียวจะลำบาก แต่เธอกลับยืนยันเสียงแข็งจนน่ากลัวว่าเธอจะขอดูแลผู้ชายที่ ‘ตุลย์’ เพียงลำพัง จึงทำให้หนุ่มต้องกลับลงมาอย่างช่วยไม่ได้


              และไม่คิดจะเอะใจว่าทำไมเธอถึงต้องพยายามจะไล่เขากลับออกไปมากมายขนาดนี้!


              “ตุลย์...” เสียงหวานเพ้อเรียกชื่อของคนที่นอนอยู่บนเตียงอย่างแผ่วเบา หัวใจเต้นรัวเมื่อคิดว่าอีกไม่กี่ข้างหน้า เธอกำลังจะได้ผู้ชายคนนี้มาครอบครอง!


              ร่างเล็กในชุดราตรีสีชมพูดอ่อนคลานขึ้นไปบนเตียงเดียวกับที่มีร่างของผู้ชายที่เธอหลงรักหลงชอบมาเป็นปีนอนหลับไหลอยู่บนนนั้น เธอกวาดสายตามองไปทั่วเรือนร่างของเขาที่ถูกปิดกั้นเอาไว้ด้วยชุดทักซิโด้สีดำสนิท ก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นมามองใบหน้าหล่อเหลาที่แดงกล่ำไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์อดใจไม่ไหวจนในที่สุดริมฝีปากบางก็ประทับจูบลงไปอย่างเชื่องช้าและผละออกมาอย่างอ้อยอิ่ง


              เธอขึ้นคร่อมตัวเขาในที่สุด ถอดสูทสีดำด้านนอก เสื้อกั๊กด้านในและปลดหูกระต่ายทิ้งลงไปข้างพื้น จนเหลือเพียงเสื้อเชิ้ตที่ถูกปลดกระดุมไปแล้วสองถึงสามเม็ดพอให้เห็นแผงอกล่ำสันที่ไม่บึกบึนจนน่ากลัวนัก แต่ก็มีบางจากการออกกำลังกายโดยเลี้ยงลูกชายสองคนเพียงลำพัง


              ตึกตัก...


              ใจเธอเต้นรัวจนแทบจะกระเด็นออกมาข้างนอก เธอผละออกหลังจากการปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตของคนใต้ร่างทุกเม็ด เอื้อมมือไขว้ไปด้านหลังเพื่อจะรูดซิปชุดราตรีเกาะอกสีชมพูที่เธอสวมใส่ เผยชั้นในไร้สายสีดำสนิท ไม่รอช้าที่จะปลดตะขอชั้นในต่อ แต่มันกลับงอปลดไม่ได้จนเธอต้องเหลียวหลังหลับไปดูอย่างหัวเสีย!


              “ทำอะไรอยู่หรอลิน?”


              เสียงทุ้มที่ดังขึ้นจากคนใต้ร่าง ทำให้พลอยไพลินที่กำลังจะปลดตะขอชั้นในหันขวับกลับมาแทบจะทันที เธอเบิกตากว้างก้มมองคนที่น่าจะนอนหลับไม่ได้สติด้วยความตกใจอย่างที่สุด!


              “ตะ ตุลย์!”

              “ว่าไง? ทำอะไรอยู่หรอ พลอยไพลิน” เสียงนั้นราบเรียบแต่ก็คุกคามอย่างหัวเสีย

              “ตุลย์...คือฉัน...”

              “ลุกออกไปจากตัวผม” สิ้นคำพูดของผู้ชายใต้ร่าง พลอยไพลินก็กระเด้งตัวออกจากที่นอนแทบจะทันที ใจเธอเต้นแรงเช่นเดียวกับเมื่อไม่กี่นาทีก่อน แต่กลับกัน ตอนนี้มันเต้นแรงด้วยความตกใจ และกลัวความผิด ตอนนี้ความรู้สึกของเธอคงไม่ต่างอะไรกับคนค้ายาที่โดนตำรวจเรียกค้น!

              “ตุลย์ อย่า...อย่าเข้าใจฉันผิดนะ มันไม่ได้เป็นอย่างที่ตุลย์คิด!”

              “แล้วลินรู้หรอว่าผมกำลังคิดอะไร?” เสียงนั้นเย็นยะเยือกจนน่าใจหาย แม้แอร์ภายในห้องจะทำงานอย่างดีไม่มีบกพร่องแต่เหงื่อกับค่อยซึมขึ้นมาตามไรผมและหน้าผาก


              ไม่เคยเลย ไม่เคยเลยสักครั้งที่เธอจะได้รู้จักกับตุลย์แบบที่ยืนอยู่ตรงหน้าตอนนี้!


              “ฉะ...ฉันเห็นนายเมามาก ก็เลยจะช่วยปลดเสื้อระบายความร้อนให้ก็แค่นั้นนะ!”

              “...” อีกฝ่ายทำเพียงปรายตามองเธอ ติดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่ถูกปลดออกก่อนจะก้มเก็บเสื้อผ้าของตนอย่างไม่ค่อยมั่นคงเซไปเซมาจนแทบจะล้มหลายต่อหลายที “ถ้างั้นลินก็ลงร้อนด้วยสินะ ถึงมาถอดเสื้ออยู่บนตัวผู้ชายเหมือนกัน”

              “!” เธอสะอึกกับคำพูดและสายตาที่ตวัดมองมาอย่างดูแคลนนั่น


              เขาไม่ได้ด่าเธอ ไม่โวยวายใดๆ ทั้งสิ้น แต่สิ่งที่เขาทำมันร้ายแรงยิ่งกว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นร้อยเท่าพันเท่า! เดินจากเธอไปและทิ้งเธอไว้กับความน่ารังเกียจ! 


              “ฉันรักนายนะตุลย์! เพราะฉันรักนายมาก ฉันก็เลยทำแบบนี้!” เสียงเล็กตะโกรก้องเสียงดังเรียกให้คนที่กำลังจะก้าวเดินออกไปชะงักเท้าหยุดอยู่กับที่ แต่เขาก็ยังทำร้ายเธอโดยการที่ยังไม่แม้แต่จะหันมามอง!

              “...”

              “ฉันยอมให้ใครเอาตุลย์ไปไม่ได้อีกแล้ว! ฉันเสียนายให้ผู้หญิงคนนั้นไปครั้งนึงแล้ว! แล้วฉันยอมอีกไม่ได้แล้วตุลย์ ฉันรักนายนะ ฮึก! ฉันรักนายมาก!”

              “แล้วคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะได้อะไรขึ้นมา?” เสียงนั้นถามกลับอย่างราบเรียบ ไม่คิดจะสนใจเสียงสะอื้นไห้ของผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้านหลัง “ถ้าสมมุติเราได้กัน คุณท้องลูกผม แล้วยังไง? คิดว่ามันช่วยอะไรหรอ? ถ้าผมไม่คิดจะเอาลิน ต่อให้ลินท้องลูกผมห้าคน ผมก็เอาแต่ลูก ไม่ได้เอาลินอยู่ดี

              “แล้วทำไมนายถึงไม่คิดจะสนใจฉันบ้างตุลย์! ฉันน่ะ ฮึก ฉันเป็นคนที่อยู่กับนายมาตลอดนะ! ฉันช่วยนายเลี้ยงลูก ฉันดูแลนายอย่างดีไม่เคยบกพร่อง ทำไมถึงไม่มองฉันบ้าง! ฮึก! ทำไมถึงไม่รักฉันเลย! ทำไมฉันถึงแพ้ให้กับคนอื่นอยู่เรื่อย! ทั้งนังผู้หญิงท้องแก่นั่น แล้วไอ้เกย์น่าเกลียดนั่นอีก!”

              “...นั่นสิ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ทำไมผมถึงไม่เคยรักลิน ไม่คิดจะรัก ไม่แม้แต่เสี้ยวเดียวที่จะลองรัก” เสียงนั้นตอบกลับมาอย่างรายเรียบ ร่างสูงใหญ่หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับหญิงสาวที่น้ำตานองหน้าอยู่ด้านหลัง “อาจเพราะผมมันสมองช้ามั้ง ก็เลยไม่รู้สึกตัว ว่าสิ่งที่ลินให้ผม กับสิ่งที่ผมรู้สึกกับลินมันคนละอย่างกัน”

              “ฮึก...ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร! ตอนนี้ไง ตอนนี้ คิดสิ ฮึก! เริ่มมองฉันใหม่ได้นะ นายรู้ความรู้สึกของฉันแล้วนี่ นายลองรักฉัน นะ แล้วเราอาจจะได้รักกันก็ได้!”

              “หลังจากที่คุณใช้วิธีน่ารังเกียจเพื่อที่จะจับผมแล้วน่ะหรอ?”

              “!”

              “ถ้าคุณบอกผมดีๆ ไม่แน่ผมอาจจะลองดู ลองรักดูอย่างที่ลินบอก แต่ตอนนี้ ผมทำไม่ลงจริงๆ”

              “ตุลย์...ฮึก! นาย นายกำลังเข้าใจฉันผิด! ฉันไม่ได้ทำอะไรอย่างที่นายคิดนะ ฉันบอกแล้วไง ใช่ ใช่! ฉันเห็นนายร้อน ฉันก็ร้อน ฉันแค่กำลังจะไปอาบน้ำ!”

              “...ขอโทษนะลิน คุณทำอะไรก็รู้ดีอยู่แก่ใจ ถ้าเป็นไปได้ นอกจากเรื่องงาน เราอย่าเพิ่งมายุ่งกันเลยจะดีกว่า” เสียงทุ้มนั่นพูดอย่างเรียบนิ่ง หมุนตัวกลับไปเปิดประตูห้องออกเป็นเวลาเดียวกับผู้หญิงที่อยู่ด้านในกรีดร้องไห้ออกมาอย่างสุดเสียง

              “อย่าไปนะตุลย์! ฮึก...ฉันรักนาย ฉันทำแบบนี้ก็เพราะฉันรักนายนะตุลย์ ฮึก...ฮือออ!” 


              ผู้หญิงร้องไห้อยู่ด้านหลัง ถ้าเป็นพระเอกก็คงจะเข้าไปปลอบโดยไม่สนทั้งนั้นว่าอีกฝ่ายทำเรื่องร้ายกาจไว้แค่ไหน


              แต่น่าเสียดายเขาไม่ใช่ผู้ชายที่เป็นพระเอกมากพอ


              ชายหนุ่มยกมือขึ้นกุมขมับที่ปวดตุ๊บๆ ก้าวเดินออกจากห้องไปอย่างเชื่องช้าโดยทิ้งคำพูดเอาไว้ทำร้ายผู้หญิงที่ร้องไห้อยู่ในห้องซ้ำไปซ้ำมา


              “อย่าทำให้ผมรู้สึกแย่กับลินไปมากกว่านี้เลย”













              ร่างสูงใหญ่เดินเซไปเซมายิ่งนานเข้าฤทธิ์แอลกอฮอล์ในร่างกายก็ยิ่งเพิ่มขึ้นจนปวดหัวไปหมด เขาใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่หน้าห้อง B8002 ได้ในที่สุด แต่ภาพเบื้องหน้าก็หมุนเวียนจนไม่อาจที่จะเสียบกุญแจได้อย่างที่ตั้งใจ


              เขารู้ดีไม่ใช่เพียงแค่จำนวนแก้วเหล้าที่จะทำให้ใครคนหนึ่งเมาหัวแทบทิ่ม แต่รวมถึงความรู้สึกด้วยที่มันยิ่งทวีคูณฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ เขาเหมือนผู้ชายใจร้ายที่พูดจาและทำตัวร้ายกาจกับพลอยไพลิน แต่ใจจริงเล่าใครจะรู้ ว่าที่จริงแล้วเขาเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน ไม่ว่าคนอื่นจะมองว่ายังไง แต่เขามองว่าการกระทำนั่นของคนที่เขาคิดมาตลอดว่าเป็นเพื่อน ไม่ได้ต่างอะไรกับการทรยศกันเลยสักนิด


              ถ้ารัก ทำไมไม่บอกดี ถ้ารักกันจริงๆ มันควรเอาความรู้สึกของใครเป็นที่ตั้ง แล้วเขาทำผิดอะไรถึงอยู่ดีๆ ก็เสียเพื่อนไป แบบที่ไม่มีวันเขาหน้ากันติดอีก...เขาทำผิดอะไร? เพียงเพราะเขาไม่รู้หรอ?


              แกร๊ก...


              “พี่ตุลย์ทำอะไรอยู่หน้าห้องน่ะ”


              เสียงของใครบางคนดังขึ้นพร้อมกับประตูไม้อัดสีขาวที่ถูกเปิดออก แม้ภาพตรงหน้าจะวนเวียนจนปวดหัวแต่เขาก็จำได้ดีว่านั่นคือเสียงของเด็กผู้ชายตัวแสบที่เข้ามาป่วนในชีวิต...


              ตุ๊บ!


              “เฮ้ย!” เสียงนั่นร้องลั่นเมื่อร่างสูงใหญ่ของตุลย์ผู้เป็นเจ้าของห้องทิ้งตัวลงใส่จนเซถอยหลังเข้าไปในห้องด้วยกันทั้งคู่ก่อนที่เอสจะล้มก้นกระแทกโดยมีอีกฝ่ายอยู่ในอ้อมแขน “พี่ไหวไหมเนี่ย?”

              “...ขอบใจนะ”

              “หะ? ขอบใจอะไรครับ?”

              “ที่นายสอนไว้ตอนที่ฉันบอกว่าจะไปงานแต่งไง” เสียงทุ้มดังอู้อี้แทบจะฟังไม่ได้ศัพท์

              “อ๋อ ที่ผมบอกพี่ว่า ถ้าเกิดได้กินเหล้า พอรู้สึกว่าถ้ากำลังจะไม่ไหวให้แกล้งหลับ หนีพวกที่จะมาชนเหล้าอะหรอ?”

              “อื้ม...”

              “เทคนิคนี้ดีใช่ไหมละ? เพื่อนสอนมาอีกทีเหมือนกัน คึคึ” น้ำเสียงอารมณ์ของอีกฝ่ายทำให้ตุลย์อดไม่ได้ที่จะเผลอยิ้มออกมา อย่างเช่นหลายต่อหลายครั้งที่เขาแอบทำ


              เอสไม่เคยรู้ตัวหรอกว่าเขามักจะเผลอยิ้มกับความสดใสนั่นมากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง


              “จำสิ่งที่ฉันพูดตอนนั้นได้ไหมเอส?”

              “ตอนไหนอะ?”

              “ตอนที่ฉันบอกว่า ‘ดีจัง ที่มีนายอยู่ด้วย’”

              “อะ อื้ม...จำได้”

              “ตอนนี้ฉันก็รู้สึกแบบนั้นนะ ฉันยังรู้สึกว่า ดีจัง ที่ฉันมีนายอยู่ด้วย

              “...”

              “หึ ขอโทษทีนะทั้งๆ ที่บอกตกลงไว้แล้วว่าจะไม่พูดอะไรแบบนี้อีกแท้ๆ”

              “...”

              “เอส ขอโท...”

              “ผมว่าผมชอบพี่แหงๆ” เสียงที่โพล่งแทรกขึ้นมาสั่นอย่างไม่เคยได้ยินมาก่อน ทั้งๆ ที่อยากจะขืนตัวดูสีหน้าของเด็กตัวแสบนั่น แต่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็ทำให้มึนจนลุกไม่ขึ้น ปวดหัวตุ๊บๆ พอๆ กับหัวใจที่เต้นแรงไม่แพ้กัน

              “...”

              “แต่ผมไม่ได้เป็นเกย์...” เสียงนั้นก็ยังสั่น แต่ก็ชัดเจนถึงความรู้สึก

              “...”

              “ทำไมพี่ถึงต้องเป็นผู้ชายด้วยวะ...”

              “...”


              จนถึงประโยคสุดท้ายเสียงนั้นก็ยังสั่นเครือ


              “แล้วผมควรทำยังไงดี...”









TBC
ตอนนี้มาแบบยาวไป อ่านกันไปยาว ยาววววว บอกว่าจะอัพตั้งแต่เมื่อวานแต่ว่าผิดนัดมาวันนึง ฮอลลลลลล
อย่าว่าเค้าเลยนะ แล้วเจอกันตอนหน้าครัชช


ป.ล. เรื่องนี้ได้ตีพิมพ์แน่นอนน!~ ใครอยากได้เตรียมเงินกันเถอะเราา พร้อมตอนพิเศษที่ไม่มีให้อ่านที่ไหนนอกจากในเล่ม จุ๊บ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 23-07-2015 20:59:12
 :mew4:


เด็กเอสในที่สุดก็ยอมรับใจซะทีนะ ง่อวววววววววว


พี่ตุลย์ชอบเอสขึ้นมามั่งยัง นึกภาพว่าอยากมีน้องเป็นส่วนนึงของชีวิตในอนาคตไหม??

จีบน้องไปเถอะ พลีสสสสสสสสส :z3: :z3:


(แอบสมน้ำหน้านังลิน แต่ก็นะ... แทนที่จะสารภาพรักดีๆ กลับใช้วิธีนี้)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 23-07-2015 21:10:06
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 23-07-2015 21:18:09
 :pigha2: สมน้ำหน้า นังพลอยไพลิน ชื่อสูงส่งมีค่า ทำตัวไร้ราคา ชิ ชะนี   
 :mew1: ฮิ้วววววว ในที่สุด เอสก็ยอมรับใจตัวเองสักทีสินิ อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ตอนหน้าได้กันเลยเปล่า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Malila ที่ 23-07-2015 21:22:56
เหยยยยย  บอกไปแล้ววว ไงต่อคะะะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 23-07-2015 21:27:12
เอ้ยยย รอดมือนังลินได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด ดีจัง  :katai2-1:

เอสสู้ๆ นะ :mew1: สารภาพแล้วว
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 23-07-2015 21:29:11
อีกไม่นานเอสจะเข้าใจนะคะ อย่าเพิ่งคิดมากไปเลยเนอะ เพราะยังไง 'รัก' ก็ยังเป็น 'รัก' อยู่วันยันค่ำนั่นล่ะ แต่ดีใจจังค่ะที่เอสตัดสินใจบอกให้พี่ตุลย์ได้รู้แล้ววว :heaven ส่วนพี่ตุลย์..ไหนๆ ตอนนี้หัวใจก็สั่นล่วงหน้าไปแล้ว รับเอสไว้พิจารณาบ้างก็ไม่เสียหายเท่าไรหรอกเน้ออ >\\\\\\<

ปล. ทำอะไรไม่คิดให้ดีๆ ก่อนไงล่ะ เราว่าเราเตือนคุณแล้วนะคะพลอยไพลิน~
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 23-07-2015 21:36:14
น้องเอสสารภาพแล้วว้ายยยย

พี่ตุลย์จะทำไงต่อหนออ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 23-07-2015 21:38:03
เอาแล้วเว้ยเฮ้ย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 23-07-2015 21:45:13
จากที่เกลียดลิน ตอนนี้เริ่มสงสารลินเหมือนกัน ยิ่งเจอคำพูดของตุลย์เข้าไป แต่เป็นเพราะเธอใช้วิธีการที่ผิด ก็ต้องรับกรรมที่ตัวเองก่อไว้

เป็นโชคดีของตุลย์ที่เชื่อเอส ทำให้รอดพ้นจากลินมาได้ และตอนนี้ก็ได้ยินคำสารภาพที่เอสบอก แต่ตุลย์จะมีสติพอที่จะฟังหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Chattcha ที่ 23-07-2015 21:47:25
ตอนต่อไปมาเร็วๆนะคะ ตอนนี้จบแบบค้างคาใจอ่ะ พี่ตุลย์จะตอบเอสว่าไง คงไม่เมาหลับไปก่อนอ่ะนะ 555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 23-07-2015 21:50:33
เอสยอมรับตัวเองแล้ววววววววววว o13

พี่ตุลย์ก็รีบๆรับรักน้องซะนะ :hao7:

หึๆๆ ในที่สุดพี่ตุลย์ก็ได้เห็นด้านมืดของยายลินซะที หึๆๆๆๆ :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: naumi ที่ 23-07-2015 21:53:42
เอสแมนว่ะ ชอบๆๆ ชอบก็บอกตรงๆว่าชอบ กล้ายอมรับความรู้สึกตัวเอง ใครยอมรับก่อนคนนั้นกล้าหาญกว่า มอบโล่ห์เลยงานนี้!!!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: SheGame ที่ 23-07-2015 21:56:50
อ๊ากกกกกกก บอกชอบแล้วๆๆๆๆ ดีใจๆ
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 23-07-2015 22:00:08
 :sad4: :sad4: :sad4:

น้องเอสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส
พูดไปร้าววววววววว พัฒนาไปอีกขั้นนนนนนน
น้องรอพี่ตุลย์อยู่นะค

><
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 23-07-2015 22:03:38
เอสเลือกเวลาพูดได้ดีจริงๆ ตุลย์เองก็กำลังแย่จากเรื่องลินมา ไม่รู้จะเป็ฯอย่างไรต่อไปนะ
แต่สงสารลิน ถ้าพุ่งชนมาตรง บอกรักมาเลยเรื่องคงเปลี่ยนไป สงสารเธอนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 23-07-2015 22:09:19
เยสสสสสสส
จบนะชะนี !!!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PREMIUM_ALMOND ที่ 23-07-2015 22:13:43
ทำดีแล้วเอสสสสสสสสสสสสสสสสสส  :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 23-07-2015 22:15:11
โอ๊ย...น้องเอสกับพี่ตุลย์ได้กันสักทีเถอะ
นังลินร้ายกาจนักนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 23-07-2015 22:23:10
อร๊ายยยยยยยยยยยย

เอสบอกชอบพี่ตุลย์    :impress2:

ตืนเช้ามาพี่ตุลย์จะจำได้ไหมอ่ะ     :katai1:    :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 23-07-2015 22:25:18
เอสอ่ะรู้ตัวแล้ว ตุลย์หล่ะรู้รึยัง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-07-2015 22:33:43
ตกใจนึกว่าพี่ตุลย์จะไม่รอดซะแล้ว
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 23-07-2015 22:47:57
เห้ย เอสรู้ใจตัวเองแล้วสินะ พี่ตุลก็เมา อ๊ากกกกก

รอตอนหน้าไม่ไหวแล้ว 5555+
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 23-07-2015 22:48:47
ลินพลาดหมดทั้งความเป็นเพื่อนด้วย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 23-07-2015 23:32:22
ยัยพลอยทำตัวเองนะจ๊ะ :angry2:

ส่วนน้องเอสไม่ต้องยังไงหรอก แค่ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ
ยอมรับแล้วก็ศึกษาดูใจกันไง  :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 23-07-2015 23:34:30
ไม่น่าเลยลิน เธอไม่น่าทำแบบนี้เลยจริงๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 24-07-2015 00:36:58
ตลกพลอยไพลิน ถ้าสารภาพรักไปตรงๆตั้งแต่แรก อย่างที่เอสบอก ป่านนี้หล่อนได้แต่งงานสมใจไปแล้ว เป็นไง หลังเค้าหนีคำสารภาพเธอออกมา เจอเอสที่พูดแบบเดียวกัน แต่ปฏิกิริยาอย่างแตกต่างอะ
พี่ตุลลลลลล เอสรู้ตัวเองแล้วนะ พี่ตุลล่ะ :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 24-07-2015 01:36:35
เฮ้ยๆๆๆ น้องเอสคนจริงงง พูดก่อนเลย อิพี่ตุลย์อย่าปฏิเสธน้องนะ ถ้าผลักไสไล่ส่งน้องแม่จะเตะให้ ฮ่าๆๆ #ทีมเอส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Babylon ที่ 24-07-2015 02:02:50
แล่ว แล่ว แล่วววววว  ฟินอะ พี่ตุลย์จะทำไงเนี้ยเอสเล่นมาไม้นี้ :katai1:
เหมือนความสัมพันธ์ระหว่างที่หนึ่งกับอันธพาล หมูอ้วน จะดีขึ้นเรื่อยๆ :mc4: :mc4:
(พี่ตุลย์เมาๆอยู่นี่แหละ แอบฉกชิมเอส ซะหน่อยดิพี่) :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 24-07-2015 03:05:52
เมื่อคนเมาเหล้าปะทะกับคนเมาความรู้สึก จะเกิดอะไรขึ้นบ้างเนี่ยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 24-07-2015 10:22:47
อร๊ายยยยเค้าเทรนกันมาดี :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 24-07-2015 10:43:06
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 24-07-2015 10:48:42
 :hao3: เอสนี้โต้งๆเลย 5555 ไม่รอดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 24-07-2015 12:19:23
บอกแล้ว ว่าเอสมันฉลาดดดดดดด







และพี่ตุลย์ ก็ไม่ได้โง่







เป็นไงละเจ้พลอยยยยย








 :z6: นี่สำหรับเพื่อนเจ้พลอย นางรู้ว่าเพื่อนนางจะทำเรื่องแบบนี้ ไม่ห้ามแล้วยังสนับสนุนอีก







อายุแต่ละคนก็ไม่ใช่น้อย แต่อายุสมองและจิตใจน้อยกว่าตอนต้นกับทีหนึ่งอีก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 24-07-2015 13:09:25
น่าสงสารนางนะ ไม่น่าใช้วิธีนี้เลย

แต่ตอนท้ายมัยอาร้ายยยย อิเอสบอกชอบพี่ตุลย์....จิกหมอนรัวๆ

ควรทำไงดีเหรอเอส.....ยอมเป็นแม่ของลูกให้พี่ตุลย์ไง นี่ล่ะดีที่สุด คึคึ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Tsumsome ที่ 24-07-2015 16:54:27
 :o8: เขิลแทนเอสอ่า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 24-07-2015 17:55:12
น้องเขาสารภาพรักแล้ว จับกดเลย จับกดเลย!!! (แต่จะแรงกดรึเปล่าในตอนนี้ก็อีกเรื่อง เมาเรื้อยได้ขนาดนี้)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 24-07-2015 21:27:13
ดีงามมากเรยเอสสสสสสสสส
เลิกหลอกความรู้สึกตัวเองซะที ที่นี้จะได้มาคิดอย่างจิงจังว่าจะทำยังไงต่อ
ถามพี่ตุลย์ให้มากๆนะ อิอิ

ปล. คำแนะนำดีงามมมมม!! ทำให้พี่ตุลย์รอดมาได้แม้ไม่ได้ไปกันท่าเอง เยี่ยมมากเอส!!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Cc-kun ที่ 25-07-2015 00:10:00
แอบสงสารนาง
เห้ออ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 24 (23/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 25-07-2015 10:37:22
ฟินโว้ยยยยยยย กรี๊ดดดดดดด ภาวนาให้พี่ตุลย์มันจำได้ทีเถอะ ไม่งั้นเอสแม่งต้องตีเนียนอีกแน่เลย จีบน้องมันด้วยนะ อย่าปล่อยให้อะไรๆมันค้างคา
ปล.รอตอนต่อไปจ้าาาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 25-07-2015 13:49:37
ตอนที่ 25





               ผมพูดมันออกไปแล้ววว! อ๊ากกกกกกก ผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดนะครับ ก็ดูไอ้พี่ตุลย์พูดดิ! แล้วเพิ่งจะดูหนังรักจบมาอีก เพิ่งฟังเพลงรักจบมาด้วย แล้วได้กลิ่นแอลกอฮอล์อีก! แบบว่า ตอนนั้นสมองผมมันรวนอะ ตกใจกว่าคนฟังก็คนพูดเนี่ยแหละ! พอพูดเสร็จปุ๊บ ก็เหมือนมีค้อนทุบลงมาที่หัว รู้ตัวอีกทีผมก็ลุกขึ้นวิ่งเข้าห้องนอนล็อคห้องเรียบร้อย ไม่สนใจไอ้พี่ตุลย์ที่นอนหมดสภาพอยู่ที่หน้าทีวีเลยสักกะนิดด ลืมไปเลย จนกระทั้งผมตื่นแล้วเห็นเจ้าของห้องนอนหลับคว้ำหน้าอยู่ที่พื้นเนี่ยแหละครับ


               ถ้าตื่นมาแล้วจำเรื่องเมื่อคืนได้ ผมจะทำยังไงวะ?
               

               สมมุติว่าพี่ตุลย์อื่นมาแล้วจำได้นะ มันก็มีไม่กี่ทางหรอกครับ คือ ตอบรับผม กับ ปฏิเสธผม แต่ทางไหนผมก็ไม่อยากได้ทั้งนั้นอะ ถ้าปฏิเสธก็แปลว่าผมอกหักถูกไหมครับ? ถึงผมจะพูดตอนที่หัวสมองเบลอก็จริง แต่ถ้ามันไม่ใช่ความรู้สึกผม ก็คงไม่เผลอพูดออกมาหรอกใช่ปะ แต่ถ้าเป็นพี่ตุลย์ตอบรับ...ผมก็กลายเป็นเกย์อะดิ! ไม่เอาาาาาาาา เป็นเกย์นี่เรื่องใหญ่อะ ตอนประถมหรือม.ต้นสักอย่างหนึ่ง จำมีเพื่อนร่วมห้องมาล้อผมว่าเป็ยเกย์ ผมนี่ต่อยมันปากแตก พากันเข้าห้องปกครองกันเลย แล้วตอนนี้ผมจะมาเป็นเกย์ได้ไง ไม่เอา ไม่ยอม ใครยอม แต่เอสไม่ยอมม!


               “เข้าส้วมจนตกชักโครกตายไปแล้วหรอไง?”


               ชะอุ้ย


               ผมหันมองประตูห้องน้ำ ถึงจะไม่เห็นหน้าแต่ก็รู้ว่าคนที่อยู่อีกด้านนึงก็คือเจ้าของห้องพัก ที่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนผมเห็นเข้านอนตายอยู่ที่พื้นหน้าทีวี


               ทำไมถึงเป็นคนแก่ที่ Die hard แบบนี้นะ คิดถึงหน่อยเป็นไม่ได้โผล่มาตลอด


               ...


               เอ๊ย! ไม่ใช่คิดถึง! นึกต่างหากนึก นึกถึงหรอก แค่หน่อยเดียวไม่ได้เยอะอะไร!


               “คนกำลังใช้ห้องน้ำอยู่ ไม่ว่างไม่เห็นไง รีบมากทำไมไม่มาเข้าตั้งแต่เมื่อวาน” ผมพูดตอบกลับไปพลางลุกขึ้นจากชักโครก ผมไม่ได้กำลังทำธุระหนักอยู่หรอกครับ แค่หาที่เงียบสงบมานั่งคิดอะไรเฉยๆ ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าห้องนี้ที่ที่เงียบที่สุดก็คือห้องสุขานี่เอง


               ผมถอนหายใจเล็กน้อย นี่จะเป็นการเผชิญหน้าครั้งแรกหลังจากที่ผมหลุดปากโพล่งออกไปแล้วเมื่อคืน


               ...


               ใจเต้นแรงชิบ


               แอ๊ด...


               ผมผงะเล็กน้อยเมื่อได้เห็นหน้าพี่ตุลย์ สภาพสุดเนี๊ยบที่ผมเห็นตอนก่อนจะไปงานแต่งงานคืออย่างหล่อครับ แต่ตอนนี้อย่างเซอะ หรืออาจจะเรียกว่าทุเรศก็ยังไม่หนักหนาอะไร ผมที่ผมอุตสาห์เซ็ตให้ ยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง เสื้อผ้าก็หลุดลุ่ยใส่ไม่เรียบร้อยผิดวิสัยสุดๆ หน้าก็แดงกล่ำ บวมชึ่ง แถมยังขมวดคิ้วดูอารมณ์เสียแต่เช้า ตัวก็ยังเหม็นกลิ่นเหล้าอีกต่างหาก!


               นี่ผมนึกถึงครอบครัวที่สามีนั่งกินเหล้าทั้งวันทั้งคืนทุกวันไม่มีขาดอะ คนเป็นภรรยานี่ทนอยู่ได้ไงวะ


               “ทำอะไรอยู่ฉันในห้องน้ำหะ ฉันนั่งรอตั้งนานสองนานก็ไม่ออกมาสักที”

               “ผมก็นั่งเพลินๆ แต่งกลอนไปพลาง อ่านฉลากยาสระผมไปพลาง ถ้ารีบมากทำไมไม่บอกเล่า”

               “แล้วฉันจะรู้ไหมว่านายนั่งไร้สาระอยู่ในห้องน้ำ..คนยิ่งปวดหัว ปวดตัวอยู่ ยังมากวนแต่เช้าอีก”


               เวรกรรม โดนด่าแต่เช้าเลยกู


               “ขอประทานอภัยด้วยนะขอรับ กระผมไม่อาจจะตรัสรู้ได้จริงๆ ว่ามีคนนั่งรออยู่ วันหลังถ้าพี่รีบมากก็เปิดประตูเข้ามาเลยก็ได้ มาใช้ด้วยกันเดี๋ยวผมขยับแบ่งชักโครกให้ใช้”

               “...”

               “...ล้อเล่นหน่า ไม่เห็นต้องทำหน้าเป็นจริงเป็นจังขนาดนั้นเลย” ผมยักไหล่ก่อนจะระบายยิ้มลอยหน้าลอยตาแบบกวนๆ เดินเลี่ยงอีกฝ่ายออกมาจากห้องน้ำ

               “นายชอบล้อเล่นตลอดเลยนะเอส” แต่ผมก็ต้องชะงักเท้าเมื่อได้ยินเสียงทุ้มๆ ดังขึ้น “เรื่องเมื่อคืน นายก็ล้อเล่นด้วยใช่ไหม?”


               จะ จำได้ด้วยหรอวะเนี่ย! ชิท! นึกว่าลืมไปแล้วซะอีก เอาไงดี จะปล่อยให้เข้าใจไปว่าล้อเล่นเลยดีไหม เนียนๆ ไปว่าไม่มีอะไร จะได้ไม่ต้องถูกปฏิเสธ ไม่ต้องเป็นเกย์ เป็นปกติอย่างที่แล้วๆ มา


               “คือ...”

               “แต่ฉันเคยบอกนายแล้วใช่ไหม? ว่าฉันน่ะเป็นคนจริงจัง”


               ผมเกลียดเวลาที่พี่ตุลย์แบบนี้ชะมัด...


               “เรื่องเมื่อคืน...” กัดปาก เอาวะไอ้เอส! เป็นผู้ชาย ทำไปแล้วก็ต้องรับผิดชอบดิวะ! “ไม่ว่าผมจะล้อเล่นอะไรแค่ไหนก็ตาม แต่เรื่องเมื่อคืนผมก็จริงจังเหมือนกันนั่นแหละ!”


               ยอมรับไปแบบแมนๆ! แมนมาก พูดแบบหันหลังให้ด้วยนะ ฮือออ ถึงจะเป็นผู้ชายแต่ใจมันก็แป่วได้เหมือนกันแหละ จะถูกปฏิเสธหรือเปล่าก็ไม่รู้ ใครอยากได้กระผมไปอยู่เครียงคู่กันที่บ้านของคุณกรุณารีบติดต่อมาที่เบอร์ 091-818-xxxx แล้วเตรียมที่นอนของผมไว้ให้พร้อม ข้างกรงหมาคู่ใจก็ได้ เพราะอีกไม่กี่นาที ผมอาจจะต้องโดนไล่ออกไปจากบ้าน...


               จุ๊บ…


               “แย๊กกกกกก” ผมร้องลั่นตะปบท้ายทอยของตัวเองที่เมื่อครู่มีความรู้สึกว่าอะไรนิ่มๆ ที่เรียกว่าปากมาประทับ แล้วยิ่งหันขวับมาเจอหน้าพี่ตุลย์ที่มีสีหน้าเพลียๆ แต่ดันยิ้มอารมณ์ดีก็รู้เลยว่าไอ้ที่จูบท้ายทอยผมเมื่อกี้มันเป็นฝีมือใคร

               “โทษที เมื่อคืนกินเยอะไปหน่อย ปวดหัว คิดอะไรไม่ค่อยออก เดี๋ยวไปล้างหน้าล้างตาก่อนแล้วกัน”


               ละ แล้วพี่ตุลย์ก็เดินเข้าห้องน้ำปิดประตูใส่หน้าผมเลย ทิ้งให้ผมยืนค้างหน้าโง่อยู่ที่เดิม


               ตุ๊บ...


               ผมทิ้งตัวลงนั่งอยุ่หน้าห้องน้ำ ท้ายทอยที่โดนจูบก็ร้อนผ่าวจนต้องยกมือขึ้นแตะไว้ตลอดเช่นเดียวกับใบหน้าของผมเองที่อุณหภูมิขึ้นสูงปรี๊ด ไอ้พี่ตุลย์แม่ง...ทำผมใจสั่นอีกแล้วอะ ทั้งๆ ที่รู้ว่าผมไม่ชอบที่ต้องมาหวั่นไหวแบบนี้แท้ๆ!


               แต่จริงๆ แล้วถ้าเทียบกับสองอาทิตย์ที่ผ่านมาที่ต้องอยู่กับความอึดอัดสับสนแบบนั้น อยู่แบบนี้ต่อไปอีกหน่อย ก็...ดีละมั้ง






30%




               “ขอข้าว...ขอข้าวให้ผมที~” ผมร้องโหยหวนขณะที่เปิดประตูเข้ามาภายในห้อง แทบจะล้มคว่ำไปกับพื้นอย่างหมดแรง


               ใครกันวะที่บอกว่า ‘เข้ามหา’ลัยเดี๋ยวก็สบาย’ สบายกับผีอะดิ! การบ้านไม่มี แต่เรียนหนักฉิบหาย อาจารย์ไม่ง้อ สอบรึก็ไม่บอก ข้อกาก็ไม่มี ข้อเขียนอีกต่างหาก โดดเรียนทีคืองง นี่ถ้าทำตัวเหลวไหลไม่วายติดเอฟแน่นอน ฮือออ


               ...


               ทำไมไม่มีใครตอบกลับผมมาเลยวะ


               ว่าแล้วก็เงยหน้าดูบรรยากาศภายในห้อง...


               “อะ เฮ้ย! พี่ตุลย์เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? ทะเลาะกับที่หนึ่งหรอ?”

               “เปล่า ไม่ได้ทะเลาะกัน” พี่ตุลย์ตอบเสียงเรียบ ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ดูยังไงก็ทะเลาะกันชัดๆ มันจะมีเหตุผลอะไรได้อีกที่คนสองคนจะยืนหันหน้าเข้าหากันโดยที่ทำสีหน้าน่ากลัวด้วยกันทั้งคู่

               “อ๋อหรอครับบ ไม่ทะเลาะเลย แล้วจะยืนคุยกันทำไม นั่งคุยกันดีๆ ดิ แล้วทำไมต้องทำหน้าตาน่ากลัวแบบนั้นใส่ที่หนึ่งด้วยอะ?”

               “น่ากลัว? ฉันไม่ได้ทำสายตาน่ากลัว แต่กำลังคุยเรื่องซีเรียสกับที่หนึ่งก็เท่านั้น” พี่ตุลย์ว่าก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย

               “ที่หนึ่งทำอะไรให้อีกอะ?”

               “จะไม่ไปโรงเรียนวันมะรืน”

               “หา?” ผมหันขวับไปหาที่หนึ่งทันที “โดนล้อเรื่องแม่ก็เลยจะโดดเรียนอีกแล้วไง?”

               “เปล่าสักหน่อย! ไม่มีใครล้อที่หนึ่งเรื่องแม่แล้ว” เด็กนั่นตะคอกใส่ผมกลับมา เดินกระทืบเท้าทำอารมณ์ไปนั่งโซฟาข้างๆ ตอนต้นที่กำลังเกาะเล่นอะไรสักอย่างอยู่คนเดียว

               “เอ้า แล้วถ้างั้นทำไมไม่ไปโรงเรียนละ?”

               “วันมะรืนที่โรงเรียนจัดงานวันแม่น่ะ ก็เลยไม่อยากไป เวลาที่โรงเรียนจัดงานวันแม่ทีไรก็ไม่ไปโรงเรียนทุกที พอไม่ยอมก็ร้องไห้ ก็เลยยอมๆ มาตลอด แต่ตอนนี้ที่หนึ่งไม่ใช่เด็กแล้ว จะมาโดดเรียนเพราะเรื่องแบบนี้มันไม่ได้!”

               “ไม่ว่าที่หนึ่งจะอายุกี่ขวบ แต่ที่โรงเรียนมันก็เหมือนเดิมทุกอย่าง ที่หนึ่งไม่มีแม่ให้ไหว้แล้วที่หนึ่งจะไปโรงเรียนทำไม!” 

               “แต่วันนั้นทั้งวันมันไม่ได้มีแค่กิจกรรมนี่ ตอนเช้าที่หนึ่งก็มีเรียนไม่ใช่หรอ? จะหยุดทั้งวันได้ไง”

               “ถ้าไปเรียนแล้วขอกลับตอนมีกิจกรรม เพื่อนก็ต้องรู้สิว่าที่หนึ่งกลับก่อนเพราะอะไร ที่หนึ่งไม่อยากให้มีคนมาว่าที่หนึ่งที่ไม่มีแม่ไปร่วมงานหรอก!”


               แล้วหยุดเรียนไปทั้งวัน นี่เพื่อนจะไม่รู้เลยสินะ


               “แล้วถ้าตอนเช้าเกิดมีเรื่องสำคัญขึ้นมาลูกจะทำยังไง ถ้าเกิดลูกขาดเรียนวันนั้นแล้วลูกเรียนตามเพื่อนไม่ทันจะทำยังไง ทำการบ้านไม่ได้จะทำยังไง พ่อเข้าใจว่าที่หนึ่งไม่อยากเจออะไร แต่ลูกก็น่าจะคิดถึงสิ่งที่ลูกต้องเสียบ้าง”

               “ที่หนึ่งไม่สนใจหรอก! ที่หนึ่งบอกว่าไม่ไปก็คือไม่ไป!” เด็กนั่นกระโดดลงจากโซฟาวิ่งตึงตังเข้าไปในห้องนอนของตัวเองก่อนจะปิดประตูเสียงดังอย่างใช้อารมณ์ ผมเหลือบสายตามองพี่ตุลย์ที่ยังยืนที่เดิม สีหน้าเหนื่อยใจ ลำบากใจแต่ก็เป็นห่วงและกังวล มือเท้าเอว เริ่มเดินวนไปวนมาอยู่หน้าทีวี


               ผมเข้าใจความรู้สึกของไอ้เด็กที่หนึ่งนั่นนะ ผมเองก็ไม่มีแม่ เวลาที่โรงเรียนจัดงานวันแม่ทีไรผมก็ไม่ค่อยอยากจะไปหรอก คิดดูสิครับ ในเวลานั้นนะจะมีคนที่มีแม่มารวมตัวกัน มาไหว้แม่ มากอดแม่ แล้วพวกแม่ๆ ก็กอดเด็กพวกนั้น มันเหมือนกับเข็มเล็กๆ ไม่รู้กี่ร้อยเล่มแทงเข้ามาในหัวใจเลยล่ะ แต่ผมก็ไม่ได้หนีปัญหานะครับ ไม่สิ...ไม่เชิง พ่อผม ไม่ให้หนีปัญหา พ่อผมเป็นคนใจดี แต่ก็ไม่ได้เป็นคนตามใจไปเสียทุกอย่าง ถ้าผมบอกพ่อว่าไม่ไปงานวันแม่ แน่นอนว่า ยังไงพ่อก็ต้องลากผมไป ดีไม่ดีจะยืนเฝ้าอยู่หน้าโรงเรียนไม่ให้ผมชิ่งหนีกลับเองอีกต่างหาก ตอนแรกๆ ผมก็ร้องไห้เหมือนกันนะครับ แต่พอหลายครั้งที่สอง ครั้งที่สาม ผมก็เริ่มเฉยๆ ดีไม่ดียังรู้สึกมีความสุขไปกับภาพตรงหน้าด้วยถึงแม้ว่าผมจะไม่มีแม่เหมือนพวกเขาก็ตาม ไม่รู้ดิ ผมมีความรู้สึกประมาณว่า...อื้ม พวกนายโชคดีแล้วล่ะที่มีแม่ แล้วก็ได้กอดแม่แบบนั้น อะไรประมาณเนี่ยแหละครับ


               “ปัญหาเรื่องแม่นี่จะเป็นปัญหาเรื้อรังไปตลอดชีวิตเลยหรอไง?” ผมสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงของพี่ตุลย์ ใบหน้าที่มักจะเรียบนิ่งดูเจ็บปวด


               ผมไม่เคยเป็นพ่อคน ผมไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกของคนเป็นพ่อจะเป็นยังไง แต่ถ้าให้ผมเดา เขาอาจจะกำลังเสียใจ ที่พ่อที่ยืนอยู่ตรงนี้ ไม่ได้มีค่าไปกว่า ‘แม่’ ที่ไม่รู้อยู่ที่ไหน...ละมั้ง


               “นี่พี่ตุลย์ ที่หนึ่งเคยไปเล่าเรื่องแม่ให้เพื่อนที่โรงเรียนฟังหรอ? พวกนั้นถึงมาล้อว่าที่หนึ่งไม่มีแม่”

               “ฉันคิดว่าไม่นะ สิ่งที่ตัวเองไม่มี ใครอยากจะพูดให้ฟังละจริงไหม? แต่ฉันคิดว่าเพราะเพื่อนที่โรงเรียนไม่เคยเห็นแม่ของที่หนึ่งมากกว่า ก็เลยรู้ว่าที่หนึ่งไม่มีแม่ เวลานัดพบผู้ปกครองหรือเวลาไปรับ ไปจ่ายค่าเทอม อะไรพวกเนี่ย ก็จะมีฉันไปทำตลอด ซึ่งแม่จะเป็นคนทำหน้าที่พวกนี้น่ะ ส่วนใหญ่”

               “อ๋อ...ถ้างั้นแค่หาแม่ไปงานวันมะรืนก็น่าจะจบนี่ใช่ไหม?”

               “ก็ไม่แน่ แต่จะหาใครละ”

               “พี่สาวที่ชื่อพลอยไพลินไง เขาสนิทกับที่หนึ่งนี่”

               “...”

               “?” ผมเลิกคิ้วสงสัยกับท่าทางอึดอัดของพี่ตุลย์ “มีอะไรหรอครับ?”

               “เฮ้อ!” อีกฝ่ายถอนหายใจเสียงดังพลางยกมือเสยผมทางด้านหลัง “ฉันกับลิน...ตอนนี้ไม่ค่อยโอเคกันเท่าไหร่น่ะ”

               “หะ? อ้าว ทำไมอะ? ทะเลาะกันหรอ?”

               “เชิงนั้น”

               “งั้นพี่ก็รีบไปคืนดีกับเขาเลยครับ จะได้สมมุติเขามาเป็นแม่ให้ที่หนึ่งไง พี่ไปง้อนิดง้อหน่อย ซื้อขนมให้สักยี่สิบบาทเดียวพี่สาวก็คืนดีด้วยแน่นอน”

               “คนที่ไม่อยากยุ่งด้วยคือฉันต่างหาก ช่างเถอะ ข้ามไปได้เลยคนนี้น่ะ”


               ผมมองคนที่ยืนอยู่หน้าทีวีนิ่งๆ ไม่ได้พูดอะไรตอบกลับไป


               “...” ผมก็เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าพักนี้พี่สาวคนสวยไม่ค่อยมาที่ห้องของพี่ตุลย์สักเท่าไหร่แล้วผมเองก็เป็นเด็กมหา’ลัยแล้วก็เลยไม่ว่างจะไปสำนักพิมพ์ของพี่ตุลย์ด้วย แถมมีเรื่องของพี่ตุลย์ให้คิดอีก เลยกลายเป็นว่าผมก็เลยลืมๆ เธอไปซะงั้น พอนึกได้แล้ว ก็แอบเหงาเหมือนกันนะเนี่ย ไม่มีใครให้เล่นด้วยเลยอ่ะ

               “จะเหลือใครอีกเนี่ย? ผู้หญิงคนอื่นที่ที่หนึ่งรู้จัก”

               “อื้มม...” ผมลากเสียงในลำคอ อุ้มตอนต้นขึ้นมานั่งตัก “อะ! ป้าสร้อยไง ป้าสร้อย! รู้จักกับที่หนึ่ง แถมอายุก็เหมาะสมกับการมีลูกแล้วด้วยนะ”

               “อายุสมกับเป็นแม่ฉันด้วย”

               ผมหัวเราะลั่น “คิดซะว่า พี่มีเมียแก่ไง มันเป็นเรื่องปกติครับ โคอ่อนกินหญ้าแก่ อย่าไปซีเรียส~”

               “เฮ้อ ก็คงจะอย่างนั้น ถ้างั้นฉันไปคุยกับที่หนึ่งก่อน”

               “คร๊าบ~”

               “เออแล้วก็...” ผมหันไปหาพี่ตุลย์ที่ตอนนี้หันมาคุยกับผมอยู่หน้าประตูห้องนอนของที่หนึ่งแล้ว “เห็นบอกว่าหิวข้าว ในตู้เย็นมีถุงกับข้าวที่ฉันแวะซื้อมาอยู่ อุ่นแล้วก็เอามากินซะ”


               เท่านั้นแหละครับ ผมรีบปรี่เอาตอนต้นใส่ในเก้าอี้ฝึกเดินแล้วเข็นเข้าไปในครัวด้วยกันแทบจะทันที ความหิวที่หายไปเมื่อครู่ปะทุขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นถุงพะโล้ กับข้าวเปล่าที่ใส่กล่องพลาสติกเอาไว้อยู่ในตู้เย็น


               “เก็บไว้ให้ผมใช่ไหมเนี่ย? น่ารักจังเลย ตกหลุมรักเลยนะเนี่ย!” พูดยิ้มสองสิ่งนั้นขึ้นมา ตั้งท่าจะเอาไปใส่จานอุ่นไมโครเวฟกิน แต่สายตาดันเหลือบไปเห็นเจ้าของห้องที่กำลังเอามือปิดหน้าอยู่หน้าประตูห้องของที่หนึ่ง และผมคงไม่สนใจอะไรหรอกถ้าบังเอิญไม่ให้ว่าหูของอีกฝ่ายแดงแปร๊ด


               ...รู้สึกเหนือขึ้นมาเลยอะ! ยืดครับ งานนี้ยืดเลย หึหึหึ


               ผมย่องเดินเข้าไปหาคนที่กำลังยกมือปิดหน้าช้าๆ ไม่ให้รู้ตัว ก่อนจะ...


               จุ๊บ!


               “เฮ้ย!” มือใหญ่ตะคุบเข้าที่ท้ายทอยของตัวเองอย่างเร็วจนแทบจะฟาดหน้าผม พี่ตุลย์หันขวับมองผมอย่างตกใจกับการจู่โจมของผม แต่ผมก็ทำแบบที่พี่ตุลย์ทำแหละครับ ไม่พอนะ แถมสกิลลอยหน้าลอยตาแบบกวนสัสให้ด้วยเป็นของแถม “นาย...”
               
               “เอาคืนครับผม”


               หึหึ ยุคของไก่อ่อนเอส มันจบแล้วเว๊ย


               ผมเลียริมฝีปาก ยักคิ้วให้อีกฝ่ายอย่างกวนๆ แต่พอเห็นท่าทางว่าผมกำลังจะขุดหลุมให้ตัวเองอีกจนได้ก็รีบละล่ำละลักเปิดไพ่ต่อไปทันที!


               “รีบเข้าไปคุยกับที่หนึ่งได้แล้ว เดี๋ยวเด็กนั่นหลับก่อน อดคุย เรื่องแม่กลายเป็นปัญหาระดับชาติขึ้นมาแล้วผมไม่รู้ด้วยนะ~” พอผมพูดถึงลูกขึ้นมาพี่ตุลย์ที่ตั้งท่าจะเข้ามาหาผมก็ชะงัก เปลี่ยนทิศทางเป็นเดินเข้าห้องของที่หนึ่งไปแทนแต่ไม่วายหันมาชี้หน้าอาฆาตประมาณว่าฝากไว้ก่อนด้วยนะ


               เป้ง เป้ง! หมดยก เอส จากทีมฝ่ายแดงชนะครับผม~





70%
รู้สึกอยากได้เอสส ง่อวววว
จงเสพความหวานให้มากๆ เข้าไว้ ~
#daddybelover
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 25-07-2015 13:56:29
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 25-07-2015 14:02:27
หือออออ :m20: เอสสสสส แกรรรร กร้ากกก พี่ตุลย์สติครบนะแกรนะ จุ้บคอก็ร้อนนะเว่ยยย /ขอให้สู้นะเอสนะ 555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 25-07-2015 14:06:36
พี่ตุลย์ร้ายกาจ~~ เรื่องทำขรึมให้เด็กใจสั่นเล่นนี่คืองานถนัดใช่ไหมคะเนี่ย :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 25-07-2015 14:23:08
อะฮึ้ย...... เขินด้วยเลย     :-[     ให้ตายสิ เห็นเงียบๆแบบนี้พอจะรุกก็ใช่ได้เลยนี่พี่ชาย โฮะๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 25-07-2015 14:24:30
พี่ตุลย์ร้ายมาก  :-[ ทำน้องเอสใจสั่นหลายครั้งแล้วนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-07-2015 14:27:41
ไปไม่เป็นเลยซิเอสเจอพี่ตุลย์แมนกว่า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 25-07-2015 14:59:33
พี่ตุลย์แม่_อย่างหวาน  เขินแทสน้องเอสอะ  :-[ :impress3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Eangoey ที่ 25-07-2015 15:18:35
จุ๊บ ทายทอยกันด้วย :กอด1: :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 25-07-2015 15:44:06
 :hao7: พี่ตุลละยาขา ฟินเลย~
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 25-07-2015 15:50:10
ขอเปลี่ยน PG เป็น NC แทนได้ป่ะคะ อยากอ่านอ่ะ เหอๆๆๆๆๆๆ :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: SheGame ที่ 25-07-2015 16:02:13
อ๊ากกกกกกกกกกก พี่ตุลย์ มียืดเวลาต่ออีก
มาต่อเร็วๆนะค่ะ  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 25-07-2015 17:26:44
ปริ่มมมม
พี่ตุลย์แอบโรแมนส์ มีจุ๊บ งี๊ดดดด
รอค่าาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: onekiss ที่ 25-07-2015 17:36:54
 :hao7: :hao7: :hao7:
อ้ายยยยยยยยมีจุ๊บด้วยอะ
รอๆๆๆๆตอนต่อไปคร้าาาาาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 25-07-2015 17:48:48
พี่ตุลเป็นคนจริงจัง ฮ่าๆๆๆ
ดีเลยพี่ เข้าไปล้างหน้าเรียกสติมาให้ครบก่อน แล้วรุกเลย!!!!(เฮ้ย!!!!!)


ปล.ยังคงสมน้ำหน้ายัยพลอยไพลินอยู่ สะจายยยยยย :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าชายหมูตอน ที่ 25-07-2015 18:04:05
ถ้าเรื่องนี้ซื้อไปทำซีรีย์ ละก้อฟินกัดหมอนขาดแน่ๆครับ ชอบมากกกก :ling1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 25-07-2015 18:36:31
 o13 เยี่ยมมากชายเอส บอกๆไปเถอะจะได้ไม่อึดอัด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 25-07-2015 19:43:52
ในที่สุดก็ "ตกล่องปล่องชิ้น" กันซะที ๕๕๕ รอ รอ รออ่านตอนใหม่คับ มาเร็วๆนะคับ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 25-07-2015 19:54:28
เอสแมนจัง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 25-07-2015 21:31:40
พี่ตุลย์ร้ายมาก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 25-07-2015 21:38:12
อุ้ย สามีจูบท้ายทอยภรรยาแต่เช้าเชียว :)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 25-07-2015 21:42:09
แมนๆ เป็นแฟนกันครัช  :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-07-2015 21:56:34
แมนๆ เค้าตกลงกันสินะ 5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 26-07-2015 03:14:38
สนุกกกกก ทำไมพึ่งมาเจอเรื่องนี้นะะะ
จะบอกว่าตอนที่ยืนสวนหันหลังให้ตรงห้องน้ำ
พอพี่ตุลย์บอกว่าเป็นคนจริงจังปุ้บ เหมือนเหนหน้าพี่แกยิ้มเจ้าเลห์แกมขำๆใส่น้องเลย 5555
แล้วก้คิดว่าถ้าอยู่ดีๆแอบเดินมาจุ้บคอจะเปนไง
พอเลื่อนๆๆๆมาปุ้บ! ก้จุ๊บ! ตามมาปั้บ
ลั่นนนน เลยค่ะ 5555555

มารอด้วยคนน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 26-07-2015 06:58:15
รออีก 70% ที่เหลือ
ต้องมันแน่ๆ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Beer04 ที่ 26-07-2015 17:00:18
มาต่อออออออ รออยู่น๊า :mew1: :mew1: :katai4: :hao5:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 26-07-2015 19:10:07
ต่อๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-30% (25/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Cc-kun ที่ 26-07-2015 19:11:50
มาต่อเดี๋ยวนี้น้าาาาาาาาาาาาาาาา ><
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-70% (27/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 27-07-2015 13:39:53
พี่ตุลย์ถูกเอสชมว่าน่ารัก จนตกหลุมรักอีกรอบ~ แค่นี้..ถึงกับหน้าแดงหูแดงเลยเหรอ
ค้าา :myeye:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-70% (27/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 27-07-2015 13:42:42
พี่ตุลย์ช่างร้ายกาจ






เอสสสสส แกต้องระวังหลังให้ดีนะ






พี่ตุลย์เขาเริ่มเล่นจากท้ายทอย หึ หึ






เดี๋ยวเขาก็เล่นท้ายอื่น แกแน่ๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-70% (27/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 27-07-2015 13:49:12
เอสแก้เกมเจ๋งจริง


ตกลงเอาป้าสร้อยจริงดิ?
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-70% (27/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 27-07-2015 13:56:39
คู่นี่สูสีเหมาะกันจริงๆ 5555+

จูบท้ายทอยกันด้วยอ่ะ เขิลๆ 5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-70% (27/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 27-07-2015 14:06:02
โอ้ๆๆๆๆๆ เอสโจมตีกลับซะด้วย หุๆๆๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-70% (27/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 27-07-2015 14:12:07
พี่ตุลย์น่าบอกเอสไปเลยเรื่องลิน   เอสนายคิดได้ไงให้ป้าสร้อยมาเล่นเป็นแม่ที่หนึ่่ง  ทั้งๆ ที่พี่ตุลย์ก็บอกว่าเล่นเป็นแม่แกยังได้เลย

สกิลขั้นเทพด้วยกันทั้งสองฝ่าย แล้วไอ้ที่บอกว่าเทอมสองจะย้ายไปอยู่หอ  สงสัยจะไม่ต้องย้ายแล้วมั้ง เพราะพี่ตุลย์คงอยากให้อยู่ด้วยกันไปตลอด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-70% (27/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-07-2015 14:36:39
ยกนี้ให้เอสไป
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-70% (27/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 27-07-2015 14:57:29
พี่ตุลย์ที่ว่าร้ายกาจ คราวนี้เจอเอสเข้าไปพี่ตุลย์นี่ถึงกับน็อกกลางเวทีเลยทีเดียว 5555
ปล.ใจร้ายมาก ไม่ยอมมาลงให้ครอบ 100 เปอร์ รีบมาต่อเลยน้าาาาา รออยู่!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-70% (27/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 27-07-2015 15:14:31
น้องเอสทำไมขยันอ๋อยพี่ตุลย์ขนาดนี้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-70% (27/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 27-07-2015 15:33:34
เอส แกรชนะจริงหรอ  :laugh:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-70% (27/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 27-07-2015 15:46:47
เอส นายไปแต่งหญิง ไปงานวันแม่ก็ได้ เอาให้สวย(???)ไปเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-70% (27/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 27-07-2015 15:48:57
มีการจุ๊บคืนด้วย :z1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-70% (27/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 27-07-2015 15:51:48
เค้าเล่นไรกันน่ะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-70% (27/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 27-07-2015 16:13:38
เอสมันร้าย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-70% (27/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 27-07-2015 16:38:14
ร้ายนักน่ะ  เอส...
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-70% (27/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 27-07-2015 17:17:47
แหน่ะ  มีการจุ๊บคืนด้วย  :-[

เรื่องแม่ จะยากอะไรน้องเอสก็ปลอมตัวเป็นแม่ที่หนึ่งสิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-70% (27/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 27-07-2015 22:06:23
เอร๊ยยยย มีจุ๊บคืนด้วย -////-
ที่หนึ่งที่น่าสงสาร สนใจเอาพี่เอสแต่งหญิงไปงานวันแม่แทนไหมลูก 55555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-70% (27/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 27-07-2015 23:52:39
เอ๊ะ หรือเอสจะเป็นพระเอก ฮาาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-70% (27/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 28-07-2015 00:47:35
เสพความหวานให้มากๆ เพราะอีกไม่นานจะเสิร์ฟมาม่าใส่บอระเพ็ดใช่ม้ายยยยยย

อุ้ย....นางเอสแก้แค้นแล้ว 555 . คือขำประโยคขอข้าวอ่ะ ประมาณว่าถ้าข้าวไม่ตกถึงท้อง พลังงงานของเอสจะหมดแทบทันที
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 25-70% (27/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Babylon ที่ 28-07-2015 02:04:45
ขอให้ป้าส้อยไปไม่ได้ เอสไปแทน  :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 28-07-2015 12:44:50
             
ต่อจาก 70%






                หัวใจเต้นแรง หน้าแดงทุกที~


              รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพวกโรคจิตครับตอนนี้ ถ้าเคยอ่านหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นมันก็ต้องมีแหละที่จะเจอแบบว่า ลวนลามในรถไฟฟ้า รถประจำทางอะไรพวกนั้นใช่ไหม แต่ที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นโรคจิตนี่ไม่ใช่เพราะผมกำลังแสดงบทเป็นตาแก่หัวล้านลงพุงที่ชอบลวนลามนักเรียนหญิงกระโปรงสั้นหรอกครับ แต่เพราะตอนนี้ผมกำลังแสดงเป็นนักเรียนหญิงที่กำลังถูกลวนลามด้วยสายตาเนี่ยแหละ!


              ตอนเป็นผู้ชายกลับคอนโดฯ ไอ้พี่ตุลย์ดึกนี่ผมก็ไม่รู้ตัวหรอกนะ แต่พอมาแต่งหญิงกลับไปคอนโดฯ พี่ตุลย์ตอนดึกนี่รู้เลย ว่าผู้ชายมันกระเหี้ยนกระหือรือ!


              อย่ามามองกูววววว กูมีกระปู้เหมือนพวกมึงนั่นแหละ T T!


              ผมขอเท้าความนิดนึงครับ


              เมื่อวานนี้ พี่ตุลย์กับที่หนึ่งมีปากเสียงกันเรื่องที่โรงเรียนมีจัดงานวันแม่แล้วไอ้ที่หนึ่งมันไม่ไปเว๊ย ผมกับพี่ตุลย์ก็เลยคุยกันว่าลองสมมุติว่าใครก็ได้สักคนเป็นแม่ไปโรงเรียนกับที่หนึ่งสิ เพราะเพื่อนไม่รู้นี่ว่าแม่ที่หนึ่งไปไหน มีไหม หรือไม่มี แต่เพราะว่าไม่เคยเห็นแม่ที่หนึ่ง ก็เลยคิดอย่างนั้น แล้วเอาไปล้อกันเอง


              อะ อ่านมาถึงตรงนี้คิดว่าผมกำลังแต่งหญิงไปเป็นแม่ให้ที่หนึ่งใช่เปล่า? ไม่ใช่โว๊ย


              คนที่จะเป็นแม่ของที่หนึ่งไปงานโรงเรียนพรุ่งนี้คือป้าสร้อย ป้าข้างห้องที่ใจดีคอยเลี้ยงตอนต้นกับที่หนึ่งให้ตอนที่พี่ตุลย์เป็นพวกคุณพ่อบ้างาน


              ส่วนสาเหตุที่ผมมาแต่งหญิงใส่ชุดนักศึกษาหญิงโหนรถเมล์กลับคอนโดฯ พี่ตุลย์อยู่อย่างนี้ เกิดขึ้นเพราะวัยอยากรู้อยากลองของนายเอสสัญจรนอนดึกเองแหละ


              “น้องครับ นั่งนี่ก็ได้นะ” ผมหันมองไปทางด้านหลังที่ผู้ชายคนหนึ่งกำลังลุกขึ้น เขาผายมือเป็นการบอกว่าให้ผมเป็นคนนั่งส่วนตัวเองจะเป็นสุภาพบุรุษยืนโหนราวแทนที่ผมเอง อุ๊ยตาย รู้สึกเขินขึ้นมาเลยฮ๊าาา อยากจะกล่าว Thank you 3 time แต่กลัวว่าหลุดเสียงออกไปมีหวังได้ชวดที่นั่งแน่เลยทำได้เพียงส่งยิ้มพิมพ์ใจแล้วทรุดตัวนั่งลงอย่างสง่างาม


              คืองี้นะครับ วันนี้ผมมีเรียนบ่ายถึงหกโมงเย็น พอเลิกเรียนเสร็จเนี่ยผมก็ว่าจะกลับพอดี แต่บังเอิญเพื่อนผมที่ชื่อ ‘ธัน’ มันลากผมไปที่ห้องชมรมแสดงละครด้วย เพราะว่าผู้หญิงที่มันกำลังจีบ ต้องเข้าชมรมทุกวันหลังเลิกเรียน ที่จริงไอ้ทันลากผมมาทุกวัน แต่ผมก็ไม่แค่ยืนรออยู่หน้าห้องก็แค่นั้น แต่บังเอิญว่าเมื่อวานดันมีเรื่องที่หนึ่งกับแม่ขึ้นมาครับ แล้วผมเห็นรุ่นพี่ในชมรมนั้นกำลังแต่งหน้าอยู่ ผมก็เลยโผล่พรวดเข้าไป บอกว่าช่วยทำให้ผมเป็นหญิงหน่อย เท่านั้นแหละครับ!


              สามทุ่ม เพิ่งปล่อยผมกลับบ้าน...ขาผมที่เพิ่งแว๊กมานี่ เนียนกว่าผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงประตูรถเมล์อีกครับอยากจะบอก อิอิ















              กว่าจะมาถึงคอนโดฯ ได้มีคนมองผมมาตลอดทาง แต่ผมไม่ซีเรียสครับ ก็เดินอาดๆ ในชุดนักศึกษาหญิงมาทั้งอย่างนั้นแหละ คนที่มองผมส่วนใหญ่เป็นผู้ชายบ้างผู้หญิงบ้างพอๆ กัน แต่ความคิดก็คงจะเหมือนกันแหละครับ คือ ‘มึงคิดว่า อีนี่เป็นผู้หญิงหรือกระเทยวะ’ เพราะถึงผมจะตัวผอมไปหน่อยแต่ผมสูงนะครับ แล้วรูปหน้า รูปขา รูปแขน เส้นเลือด กระดูก มันก็เด่นนูนเป็นผู้ชายทุกอย่าง แต่จะดูเหมือนหญิงหรือกระเทยก็ช่างเถอะ หน้าตาผมดีไง จะอยู่เพศไหนก็หน้าตาดีทั้งนั้นแหละครับ เก็ทปะ~


              ผมเดินมาถึงหน้าห้อง B8002 ขณะที่กำลังหยิบกุญแจสำรองขึ้นมาไขก็นึกเปลี่ยนใจเคาะประตูห้องห้าทีซ้อนแล้วหันหลังให้ประตู รอคุณเจ้าของห้องมาเปิด


              “มาหาใครครับ?” เสียงทุ้มที่ผมจำได้ดังขึ้นจากทางด้านหลัง เดาว่าพี่ตุลย์ก็คงแหละที่มาเห็นหญิงสาวตัวเล็ก (?) ในชุดนักศึกษามายืนอยู่หน้าห้อง

              “เอ่อ...มาตามที่โทรเรียกน่ะค่ะ จับหน้าอกเล่น 300 มากกว่านั้น 1,200 ค่ะ” เสียงอุบาทมาก นี่หวังให้พี่ตุลย์คิดว่านางผู้หญิงคนนี้เป็นหวัดไวรัสตับอักเสบบีลงคอ

              “หันหน้ามาหน่อย”

              “ค่ะ” ผมหันหน้าไปหาพร้อมแกล้งยิ้มหวาน

              “โทษทีนะ ผมไม่ชอบผู้หญิงแต่งหน้าหนา” ว่าเสร็จพี่ตุลย์ก็ปิดประตูห้องใส่หน้าดังปัง! เล่นเอาผมยืนเอ๋อ งงแดกอยู่หน้าห้อง พอตั้งสติได้ก็ใช้กุญแจสำรองไขเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว

              “พี่จะไล่ดาวแบบนี้ไม่ได้นะคะ!”

              “เข้าห้องมาผิดหรือเปล่า จำได้ว่าที่นี่ไม่มีกระเทยถึกอยู่ที่นี่หรอกนะ”

              “โอ้โห จี๊ดเลย จี๊ด! ว่าผมเป็นกระเทยถึกหรอ? ผมออกจะหุ่นดี สเลนเดอร์ขนาดนี้!”

              “เฮ้อ”

              “อย่ามาถอนหายใจใส่ผมนะพี่ตุลย์!” ผมรีบปรี่เข้าไปเขย่าคอเสื้อผู้เป็นเจ้าของบ้านที่นั่งเอกเขนกดูทีวีอยู่กับลูกชายทั้งสองของตัวเอง

              “ที่หนึ่งการ์ตูนจบแล้ว ไปนอนได้แล้วลูก พรุ่งนี้ต้องไปเรียนตามสัญญาแล้ว”

              “ครับ ตอนต้นไปเล่นกับพี่ไหม?” ที่หนึ่งลงจากโซฟา เดินไปหาน้องชายที่เดินเต๊าะแต๊ะอยู่บริเวณรอยต่อระหว่างครัวกับห้องนั่งเล่น ก่อนที่ทั้งสองคนพากันหายเข้าไปในห้องนอนของที่หนึ่ง ส่วนบริเวณหน้าทีวีก็มีแค่พี่ตุลย์กับผมในชุดนักศึกษากระโปรงพลีท

              “แล้วนี่ คิดอะไรแต่งหน้าหนาเตอะขนาดนี้เนี่ย”

              “จริงๆ แล้วพี่ควรจะถามว่าทำไมแต่งชุดนี้ก่อนถามเรื่องหน้าไหมอะ?”

              “มันก็ชุดนักศึกษานี่ มหา’ลัยเขาอนุญาตให้ผู้ชายใส่ชุดนักศึกษาหญิงได้อยู่แล้ว ฉันจะสงสัยทำไม?”

              “ผมไม่ได้เป็นกระเทยไง พี่ควรจะแบบ อ้าว เอส ใส่ชุดนักศึกษาหญิงทำไมไรงี้!”

              “เฮ้อ” พี่ตุลย์ถอนหายใจใส่ผมอีกรอบ เป็นเลเวลอัพจากการขมวดคิ้วใส่ แต่ผมเริ่มจะชินแหละ สกิลหน้าด้านมีเยอะอยู่แล้นนน ว่าแล้วผมก็เดินเข้าไปบังวิสัยทัศน์ของไอ้พี่ตุลย์ หันหน้าหนีไปทางไหนผมก็ตามไปทางนั้น

              “พี่ดู นี่ชุดนักศึษาหญิงเชียวนะ!” ผมหมุนตัวไปมาประหนึ่งนักบัลเล่ บิดซ้ายบิดขวาอวดชุดสุดอะไรสุด ไหนกระจกวะ ผมอยากลองโพสท่าปลุกใจเสือป่าดูจังอยากรู้ว่าชุดนี้มันจะเซ็กซี่ได้ใจชายอันดับหนึ่งอย่างที่จัดอันดับไว้จริงเปล่า หึหึหึหึ


              พรึ่บ!


              “แย๊กกกกกกก เปิดกระโปรงผมทำไม!” ผมร้องลั่น ตะคุบกระโปรงนักศึกษาเอาไว้ประหนึ่งตัวเองกำลังโพสท่ามาริลีน มอนโร

              “ก็นายหมุนจนกระโปรงจะครอบหัวฉันแล้วเนี่ย ก็เลยคิดว่าอยากจะให้เห็นอะไรหรือเปล่า ก็เลยเปิดดู”
             
              “ลามก!”

              “แล้วทำไมไม่ใส่บ็อกเซอร์?”

              “อ๋อ พี่ที่ให้ยืมชุดบอกว่า ใส่บ็อกเซอร์แล้วจะดูอ้วนก็เลยถอดใส่กระเป๋า เอ๊ย! ไม่ใช่! พี่เปิดสูงไปแล้วเว๊ยยย นี่เห็นกกน.ผมด้วยใช่ไหม!” ผมโวยวายเสียงดังลั่นห้อง ดึงกระโปรงของรุ่นพี่ที่ให้ยืมมาออกจากมือพี่ตุลย์อย่างเร็ว

              “ก็ต้องเห็นดิ หมุนจนกระโปรงบานเป็นกระโปรงบัลเล่ขนาดนี้ ใครกันแน่ลามก”

              “พี่นั่นแหละลามก ทำไมไม่ปิดตาหะ!”

              “เอ้า แล้วใครมันมาหมุนอยู่หน้าฉันละ”

              “เออ! ผมเอง แต่ผมไม่ได้ลามกไง”

              “ฉันก็เปล่า”

              “แล้วพี่มาดูกกน.ผมทำไม!”

              “มันเห็นเอง!”


              ผมกับพี่ตุลย์จ้องหน้ากันเขม็ง ทำสงครามกันผ่านสายตาแบบไม่มีใครยอมใคร แต่ผมก็ทำได้อยู่เพียงไม่กี่วินาทีเพราะหัวใจดันเต้นแรงขัดจังหวะขึ้นมาซะก่อน เลยต้องยื่นหน้าออกมาเล็กน้อยให้พ้นระยะอันตราย


              ชิ แม่งถ้าเป็นอย่างนี้ผมแพ้แน่เลยว่ะ ต้องคิดแผนอื่น!


              “นี่”

              “อะไร?”

              “มาเห็นกางเกงในผมแล้วอะ เอากางเกงในมาให้ดูบ้างเลย”

              “...” พี่ตุลย์ขมวดคิ้วใส่

              “เร็วๆ ดิ เป็นผู้ใหญ่คิดจะเอาเปรียบเด็กหรอ?”

              “...”

              “เร็วดิ พี่ตุลย์~” ผมพูดเสียงยานคาง ยื่นหน้าเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่บนโซฟาจงใจที่จะกวนประสาท


              อย่างพี่ตุลย์น่ะไม่กล้าอยู่แล้ว เอส ฟันเฟิร์ม


              “ได้”

              “หะ?” ผมเอามือป้องหู รู้สึกเหมือนตัวเองหูแว่ว แต่พี่ตุลย์ที่ทำสีหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อนก็ย้ำอีกครั้งว่า ‘ได้’ ผมนี่อ้าปากค้าง “เอาจริงดิ?”

              “แต่ ตอนที่นายหมุนฉันเห็นไม่ชัดหรอกนะ แว๊บไปแว๊บมาใครจะดูทัน ถ้าอยากดูของฉัน ก็ถลกกระโปรงขึ้นให้ดูของนายก่อนดิ”

“เฮ้ย!”


              ถะ ถลกกระโปรง? ดะ ดูของนายก่อน?...ทะ ทำไมคำมันรู้สึกอิโรติกจังวะ


              “ว่าไง? ถ้านายถลกกระโปรงให้ดูก่อน ฉันก็จะให้นายดูของฉันเหมือนกัน เท่าเทียมอยู่แล้ว ไม่เอาเปรียบเด็กหรอก”


              รอยยิ้มแม่งโคตรร้าย...


              อันที่จริงเรื่องเห็นกางเกงในนี่ผมชิวๆ นะ ไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อย แถมผู้ชายเห็นไป แล้วไงวะ หดรึ? ก็เปล่า ตอนม.ต้นผมกับไอ้ปันนี่เคยถอดอวดขนาดกันมาแล้วครับ มันก็เป็นเรื่องปกติของผู้ชาย ชิวๆ!


              “ถ้ายังชักช้าอยู่ ฉันจะจับถลกกระโปรงดูเองเลยนะ”

              “ใจเย็น ใจเย็นนน!” สิ้นคำพูดพี่ตุลย์ผมนี่กระโดดพึ่งไปข้างหลังเลย รู้สึกตัวเองไม่ปลอดภัยแบบสุดตีน ประหนึ่งนักศึกษาสาวหลุดเข้ามาในดงตาเฒ่าหัวงู แม่งเอ๊ย เมื่อวานยังหูแดงใส่อยู่เลยแท้ๆ!
             
              “สรุปจะดูไหม? หรือว่าป็อดแล้ว?”


              สิ้นคำดูถูกของพี่ตุลย์ หน้าผมก็หงิกทันทีอย่างไม่ต้องมีสมองส่วนไหนสั่ง ก็ปฏิเสธไม่ได้ เพราะมันก็จริงอะ แป่ว…ลองมาสลับกับผมดู๊ เอ้า มาเป็นผมดู สายตาไอ้พี่ตุลย์โคตรจริงจังอะ แบบถ้ามองทะลุได้เนี่ย ป่านนี้เห็นไปถึงกระดูกสันหลังผมแล้วเนี่ย!


              “ไปๆ ไปอาบน้ำล้างหน้าล้างตาแล้วไปนอนซะไป พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไหม?”

              “ไม่อะ ไม่มีเรียน”

              “แต่ฉันต้องตื่น เพราะงั้นฉันจะไปนอนแล้ว”

              “เดี๋ยวดิ!” ผมรีบพุ่งไปหาไอ้พี่ตุลย์ จับไหล่ของคนที่กำลังลุกไปนอนอย่างปากว่าให้กลับลงมานั่งที่โซฟาเหมือนเดิม ก่อนที่มือของผมจะเลื่อนจากไหล่ของคนตรงหน้าไปขย้ำอกแบนๆ ที่มีแต่กล้ามเนื้อของอีกฝ่ายแทน พอเห็นไอ้พี่ตุลย์ตกใจจนหน้าเหวอ ผมก็หัวเราะก๊ากขึ้นมาทันที รู้สึกสะใจยังไงบอกไม่ถูก จนกระทั้งพี่ตุลย์ตั้งสติได้นั่นแหละถึงค่อยดึงมือผมออก

              “ทำไรเนี่ย”

              “ดูกางเกงในยังไม่พร้อม จับนมไปก่อนได้ไหมอะ อิอิ” ว่าแล้วผมก็คว้ามือใหญ่ของอีกฝ่ายมาจับนมผมเหมือนกัน เป็นนมปลอมร้อยเปอร์เซ็นทำจากอะไม่รู้พี่ชมรมการแสดงเขายัดๆ มาแต่ชั้นในที่ใส่นี่เสริมสองไซส์แบบที่พี่พลอยไพลินใส่แน่นอน “พอและ ผมไปอาบน้ำดีกว่า” ผมหนีบหนังหลังมือพี่ตุลย์ให้ออกจากนม (ปลอม) ของผม

              “นายนี่มัน...จริงๆ เลยนะ”

              “พี่บอกว่าพรุ่งนี้ตื่นเช้าไปทำงานไม่ใช่หรอครับ ไปๆ ไปนอนๆ” ผมทำหน้าเหนือ สะบัดมือไล่เจ้าของห้อง ขณะที่กำลังจะไปอาบน้ำบ้าง คนที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ดึงเสื้อนักศึกษาของผมอย่างแรง! จนเซล้มกึ่งนั่งบนโซฟากึ่งเกยขาอยู่กับไอ้พี่ตุลย์

              “ฉันต้องรีบไปนอนหรอกนะ แต่ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ” พูดจบพี่ตุลย์ก็ดันผมให้ลุกขึ้น เดินอารมณ์ดีเข้าไปในห้องของตัวเองหน้าตาเฉย


              ทำไมรู้สึกยกนี้ผมไม่ชนะวะเนี่ย!








TBC
แม่ค่ะ ดูผู้ชายเขาหยอกกันสิค่ะแม่ (/-\)
พรุ่งนี้เจอต่อเลย อย่างไว ๆ ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ

#daddybelover
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 28-07-2015 12:56:13
เอ่อ... ถึงจะจะผู้ชาย แต่เปิดกระโปรง ทำงี้ได้ไงง
.
.
.
.
ทำไมไม่จับถอดกางเกงในไปเลย  :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 28-07-2015 12:56:54
เอสแค่อยากแต่งหญิงเพื่อมาอวดให้พี่ตุลย์ดูแค่นั้นเองหรอกเหรอคะเนี่ย :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 28-07-2015 13:08:09
เอสยั่วมากๆ ระวังพี่ตุลย์ของขึ้นนะ แล้วจะหาว่าไม่เตือน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 28-07-2015 13:17:25
ิสรุปยกนี้ใครชนะดีล่ะเนี่ย 55555+ :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 28-07-2015 13:29:48
เจอดีแน่ๆ   น้องเอสสสส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 28-07-2015 13:30:10
ตัวเองขยำกล้ามหน้าอกเขา แต่ให้เขาจับนมปลอมเนี่ยนะเอส ถถถถถถถถถถถถถ :jul3:

อยากเห็นเอสแต่งหญิง ก๊ากกกกกกก
คือไม่ใช่ไร ขำที่นางเดินมั่นๆแบบนั้นตั้งแต่มหาลัยกลับมาถึงบ้านเนี่ย
เอส ไม่หวิวๆลมเย็นๆบ้างรึลูก?    :m20:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-07-2015 13:40:02
พี่ตุลย์วิน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 28-07-2015 13:53:16
เอาๆๆๆๆๆ ตอนต่อไปอย่างด่วนเลยค่าาา

รอร๊อรออออ

อ่านเอสสุดเกรียนแล้วรมณ์ดีมากๆเลย ><
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 28-07-2015 13:54:34
หยอกกันได้แบบ อีโรติดสุดๆอ่ะ
ทีหลังๆม่ต้องหยอกนะ เอาจริงเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 28-07-2015 13:57:46
 :hao7: เอสนี้ยั่วน่ะยั่ว ยั่วโมโห 55555 เกรียนซะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: SheGame ที่ 28-07-2015 14:48:11
อ๊ายยยยยยยย เอสโตเป็นสาวแล้ว  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 28-07-2015 15:14:16
ตลกดีพี่ตุลย์น้องเอส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 28-07-2015 16:23:19
ก๊ากๆๆๆๆๆ น้องเอสซี่ :jul3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 28-07-2015 18:40:21
ฮาเอสอ่ะ

พี่ตุลจัดหนักให้เอสเลย โทษฐานมาจับนม 55555+
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 28-07-2015 18:53:21
แล้วไม่จับพี่ตุลย์คืนมั่งหรอเอส 555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 28-07-2015 20:02:22
อยากเปิดกระโปรงเอส บ้างงงงงงงงงงงงงงง :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 28-07-2015 21:43:49
เอส ติงต๊อง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 28-07-2015 22:24:27
เอสต๊องๆ เนอะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 28-07-2015 22:56:40
 :haun4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 28-07-2015 22:57:24
ใกล้แล้วววงุบงิบๆกันน่าระตลอด แฮปปี้~
รอเวลานุ้งเอสโดนจะดการ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 28-07-2015 23:14:10
เอาที่สบายใจนะเอสนะ :katai5:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Cc-kun ที่ 28-07-2015 23:14:45
แอร้ยยย
หนูเขิลแทนเขาาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 29-07-2015 02:11:29
อะไรเนี่ย ไปเปิดกระโปรงหนูเอสได้ไง

รับผิดขอบเลยนะลุงตุลย์....จับนางเอสทำเมียเลย 555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: bmbeii ที่ 29-07-2015 08:17:25
แอร๊ยยยยยยยยย ><
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 29-07-2015 08:35:18
ขำเอสจริงจังมาก :m20:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 29-07-2015 09:00:52
หยอกกันได้ชวน เลือดม่วงไหลตายมาก แฮ่กๆๆๆๆๆ :m10:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 25-100% (28/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 29-07-2015 10:15:51
งื้อออออออ หยอกเอินกันไปมาแบบนี้ ป้าก็ฟินตายเลยอะดิ







ไอ้เอส ไอ้เด็กบ๊องส์








แกอ่อยพี่ตุลย์ใช่ม๊ายยยยยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 29-07-2015 13:24:59
ตอนที่ 26


                Rrrrrrrrrrrrrrrrr


                “อื้อ...” เสียงโทรศัพท์ราคาถูกร้องขึ้นเหนือหัว ผมที่สะดุ้งตื่นคว้านมือสะเปะสะปะไปมา พอคว้ามือถือขึ้นมาได้ก็กดรับทันทีอย่างไม่สนใจว่าใครโทรมา “ฮัลโหล..”

                /ตื่นยัง?/

                “รับโทรศัพท์ได้เนี่ย ยังไม่ตื่นหรอก”

                /แปลว่าตื่นแล้วสินะ ถ้าตื่นแล้วก็ฟังฉันให้ดีๆ/

                “หื้ม?” ผมที่กำลังจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ ลุกขึ้นนั่งพิงหลังไปกับขอบเตียง น้ำเสียงร้อนรนและกำลังเดือดร้อนทำให้ผมรู้สึกตื่นตัวตามไปด้วย “มีอะไรหรอ?”

                /ชั่วโมงก่อนป้าสร้อยเขาโทรมา ลูกของป้าสร้อยที่อยู่อีกจังหวัดหนึ่งล้มป่วยก็เลยต้องไปหาลูกฉุกเฉิน ไม่รับประกันว่าจะไปโรงเรียนที่หนึ่งได้ทันตอนบ่ายที่เขากิจกรรมวันแม่น่ะ/
               
                “อ้าว! แล้วงี้ทำไง!?”

                /ฉันคุยกับที่หนึ่งไว้แล้วด้วย ถ้าไม่มีแม่ไปร่วมงานตอนบ่าย ที่หนึ่งโกรธแน่ๆ ยิ่งเป็นเรื่องแม่ด้วยแล้วก็ไม่รู้จะโกรธมากแค่ไหนด้วย/


                นั่นสิ ไอ้เด็กนั่นยิ่งเป็นลูกแหงอยู่ เรื่องแม่นี่อ่อนไหวเป็นพิเศษ


                “พี่ลองคิดดิว่ามีใครคนอื่นอีกไหมที่จะไปแทนได้แบบฉุกเฉิน เพื่อนที่ทำงานพี่ก็ได้ ใครก็ได้อะที่รู้จักที่หนึ่ง แบบเดินเข้าไปหาที่หนึ่งได้โดยไม่ต้องถามคนอื่นว่าที่หนึ่งหน้าตายังไงคะอะ มีไหม!”

                /ก็ถึงโทรมาหานายอยู่นี่ไง/

                “ผมนึกไม่ออกเหมือนกันอ่ะ นึกออกอีกคนก็แม่พี่เลย แก่มาก แต่สมมุติว่าเป็นแม่ที่หนึ่งได้อยู่มั้ง..ประมาณว่ามีลูกตอนหกสิบไรเงี่ยนะ...”

                /ฉันหมายถึงที่โทรมาหานายก็เพราะจะให้นายช่วยต่างหาก/

                “ผมก็ช่วยอยู่นี่ไง คิดอยู่เนี่ย ปลุกผมตั้งแต่เช้าให้มาใช้สมองเนี่ยนะ รู้สึกหมดแรงขึ้นมาเลย”

                /หมายถึง นายช่วยไปเป็นแม่ให้ที่หนึ่งตอนบ่ายแทนป้าสร้อยทีสิ/

                “หะ...”

                /อย่างที่พูด/

                “...”

                /.../


                รู้สึกสมองอันกระจิ๊ดริ๊ดของผมจะหยุดสั่งการชั่วคราว เมื่อกี้ไอ้พี่ตุลย์ว่าอะไรนะ ได้ยินว่า อะไร แม่ๆ ผมๆ แทนๆ เนี่ยแหละ


                “พี่...พูดว่าอะไรนะ?”

                /ไปเป็นแม่ที่หนึ่งตอนบ่ายให้หน่อย/


                กรี๊ดดดดดดด งานนี้ต้องขอกรี๊ดเลยครับ ไอ้พี่ตุลย์แม่งใช้หัวสมองส่วนไหนคิดดดดดด แค่เพศก็ไม่ใช่แล้วคิดได้ไงเนี่ย ดูละครมากไปเปล่าา ผู้หญิงปลอมตัวเป็นผู้ชายแค่ติดหนวด ผู้ชายปลอมตัวเป็นผู้หญิงแค่ใส่วิกมันใช้ไม่ได้กับชีวิตจริงนะโว๊ยยยยย!


                “ไม่! พี่จะบ้าหรอ คิดได้ไงเนี่ย”

                /ก็เห็นเมื่อวานยังใส่ชุดผู้หญิงเลย ยังคิดว่าอยากลองดูซะอีก แถมเมื่อคืนก็บอกว่าวันนี้ไม่มีเรียนไม่ใช่หรอ/

                “เมื่อวานก็แค่แต่งหญิง แต่ไม่ได้อยากไปเป็นแม่โว๊ย เขาใจคำว่าแต่งเล่นไหมอะ แต่งเล่นอะ!”

                /นั่นแหละ ก็แค่ไปแต่งเล่นอีกรอบแล้วไปโรงเรียนที่หนึ่งหน่อยก็แค่นั้นเอง!/

                “แล้วทำไมไม่ทำเองเล่า!”

                /ที่โรงเรียนเขารู้จักหน้าฉันไง!/

                “ไม่รู้แหละ ยังไงผมก็ไม่!”

                /ถ้านายไม่ทำ ก็เตรียมตัวย้ายออกจากคอนโดฯ ฉันไปได้เลย!/


















                ผมถอนหายใจรอบที่สิบระหว่างที่กำลังนั่งเป็นหุ่นให้รุ่นพี่ชมรมการแสดงแต่งหน้าให้อีกครั้ง


                “น้องเอสอย่าขยับสิ เดี๋ยวกรีดตาพลาดขึ้นมาได้เป็นงิ้วแน่เลยนะจ๊ะ”

                “ขอโทษครับ” ผมพูดเสียงแผ่ว ก่อนจะนั่งนิ่งๆ ให้พวกรุ่นพี่ละเลงหน้าได้ตามสบาย


                สุดท้ายผมก็ต้องยอมทำตามไอ้ที่พี่ตุลย์พูดจนได้ ก็ดูเล่นขู่ดิ โอ้โห ถ้าออกตอนนี้แล้วจะไปอยู่ไหน ไม่พอ แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายค่าเช่าด้วย ในเมื่อเงินที่ทำงานพิเศษตอนนู่นก็เอาไปใช้หนี้ไอ้พี่ตุลย์หมดเหลือพอเป็นค่าขนมอยู่นิดเดียว ทุกวันนี้เวลาพักเที่ยงนี่ถ้าไม่อดก็แทบจะขึ้นรถเมล์กลับมารื้อตู้เย็นของไอ้พี่ตุลย์อยู่ทุกวันแล้วเนี่ย


                “แล้วทำไมมึงต้องมาแต่งหญิงอีกรอบด้วยวะ เมื่อคืนลองแล้วติดใจหรืออะไร?” ไอ้ธันที่นั่งอยู่ดูอยู่ข้างๆ คนที่มันกำลังจีบเอ่ยปากถามขึ้นมา งานนี้ต้องขอบคุณมันเนี่ยแหละ ที่บังเอิญว่ามาหาผู้หญิงที่ชมรมพอดี ก็เลยติดต่อรุ่นพี่ให้มาช่วยผมแต่งหน้าในเวลาสายๆ ของวันแบบนี้ได้


                ในมหา’ลัยผมมีเพื่อนเยอะนะตามภาษาคนเฟรนลี่แต่ไอ้นี่เป็นคนที่ผมสนิทที่สุดครับ เพราะมันแม่งก็นิสัยคล้ายๆ กัน คุยไปคุยมาถูกคอรู้ตัวอีกที ผมกับมันก็ไปไหนๆ ด้วยกันแล้ว มันเป็นคนที่ผมถามว่าชื่อ ‘ธัน’ เนี่ยมาจากอะไร ธันเดอร์? ธันวา? แต่มันบอกว่าชื่อมันมาจากคำว่า ‘ทันใจ’ พ่อตั้งให้ประมาณว่าชมแม่ที่มีลูกทันใจจังเลยอะไรประมาณนั้น แล้วมันบอกว่าคำว่า ‘ทัน’ แม่งไม่เก๋ ก็เลยเขียนว่า ‘ธัน’ ตั้งแต่ประถม


                เป็นบุคคลตอแหลโลกตั้งแต่เด็ก


                “เมื่อวานมีคนลุกให้กูนั่งที่รถเมล์ด้วยนะเว๊ย”

                “จริง? เขาต้องตาถั่วมากแน่ๆ ที่เห็นกระเทยเสาไฟฟ้าอย่างมึงเป็นผู้หญิงได้เนี่ย”

                “เขาตาดีเว๊ย ก็พี่ๆ ที่ชมรมนี่แต่งหน้าโคตรเก่งไง คิดดูขนาดคนภายนอกยังเห็นกูเป็นผู้หญิงได้เลย ใช่ไหมครับ~” ประโยคท้ายจงใจพูดยอรุ่นพี่ที่กำลังช่วยกันละเลงหน้าให้ผมอยู่พอให้ได้ยินเสียงหวีดว๊ายปฏิเสธอย่างถ่อมตน

                “เอส แล้วคราวนี้จะใส่ชุดแบบไหน นางพยาบาล?”

                “เดี๋ยวววว ผมรู้สึกตั้งแต่ชุดนักศึกษาและ นี่ยังมาชุดพยาบาลอีก พี่เก็บชุดแนวปลุกใจเสือป่าเอาไว้ใช่ไหมบอกมา”

                “ฮ่าๆ ก็นะ ชมรมการแสดงมันก็มีทุกชุดแหละจ๊ะ”

                “เอส ลืมตาได้แล้ว” ผมลืมตาขึ้นช้าๆ รู้สึกขัดๆ ที่เหนือตาเหมือนเวลาที่ร้องไห้จนตาบวม พี่ที่กรีดตาให้เลยหยิบกระจกขึ้นมาส่องให้ดูว่าพี่เขาเอาที่ทำตาสองชั้นแปะให้ผมด้วย อายไลน์เนอร์ที่กรีดหนากว่าเมื่อวานก็เลยดูคมเฉี่ยวมากขึ้น เหมือนไม่ใช่ตาของผมเอง “เป็นไงสวยไหม?”

                “ผมไม่รู้ว่าสวยนี่ต้องเป็นยังไงอะ แต่ผมชอบนะ” ผมส่งยิ้มให้กับรุ่นพี่ที่กรีดตา

                “แล้วเอสจะเอาชุดแบบไหน?” ผมหันไปหารุ่นพี่อีกคนที่กำลังกรีดนิ้วเลือกชุดจากราวเสื้อผ้า

                “ผมขอชุดธรรมดาครับ แต่ขอเป็นผู้ใหญ่วัยทำงาน ถ้าเป็นไปได้ขอกางเกงก็จะดีมากครับ”

                “กางเกงไม่ได้หรอก ทรงเอก็ไม่ได้ ถ้าจะใส่พวกนั้นก็ต้องแต๊บก่อน”

                “เอ่อ ถ้างั้นแล้วแต่พี่จะเลือกเลยครับ” พอได้ยินคำว่าแต๊บหน้าผมก็รู้สึกซีดขึ้นมาอัตโนมัติจนพี่ที่เป็นคนรับผิดชอบเรื่องสีผิว ถึงกลับต้องหยิบบรัชออนมาปัดให้ผมใหม่อีกรอบ

                “งั้นชุดนี้แล้วกัน” ชุดตัวหนึ่งถูกหยิบออกมาจากราว เป็นชุดแซกผ้าหนาลายกุหลาบขนาดใหญ่ทั้งตัว สีเนื้ออมน้ำตาล คอกลม เสริมไหล่ แขนสั้น เป็นทรงทิ้งตัวแต่เข้ารูปตรงช่วงเอว


                จะบอกว่าดูสวยก็ได้เรียบแต่ดูหรู แต่จะบอกว่าลายแก่ก็แก่...



















                “ฮัลโหลล พี่อยู่ไหนแล้วอะ?” ผมกรอกเสียงไปหาคนปลายสายอย่างร้อนใจขณะยืนซุ่มหลบหลังต้นไม้ใหญ่หน้าโรงเรียนประหนึ่งโจรโฉด ถึงเมื่อวานผมจะใจกล้า เดินช้า ใส่ชุดหญิงอาดๆ ไปทั่วบ้านทั่วเมือง แต่วันนี้กลับรู้สึกใจแป๋ว โหวงเหวง กลัวโป๊ะแตกอะเอาจริง เกิดมาผมไม่เคยกินยาคุม ไม่เคยกินตัวเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงอะไรทั้งสิ้น ทั้งตัวตั้งแต่ปลายผมจรดปลายตีนเนี่ยมีแต่ฮอร์โมนเพศชาย ถ้าสมมุติวันนี้รอดไปได้ ผมว่าไอ้เพื่อนในห้องของที่หนึ่งเนี่ยคงไม่ล้อว่าไม่มีแม่แล้วแหละ แต่จะล้อว่าแม่มึงเหมือนกระเทยมากแทน

                /กำลังจะถึงแล้ว แค่นี้นะขับรถอยู่/
               
                “เฮ้ย!” ผมอุทานมองโทรศัพท์ที่ถูกตัดสายไปก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ในใจภาวนาให้พี่ตุลย์รีบมาถึงสักที


                งานนี้แม้พี่ตุลย์จะบังคับให้ผมมาทำหน้าที่แทนป้าสร้อยได้สำเร็จ แต่เพราะผมกลัวพลาด และพี่ตุลย์เองก็คงไม่ไว้ใจเท่าไหร่เลยเป็นอันตกลงว่าพี่เขาจะลางานครึ่งวันมาโรงเรียนที่หนึ่งด้วยกันกับผม แล้วตอนนี้อีกสิบนาทีกิจกรรมวันแม่ก็จะเริ่ม ผมยังไม่เห็นแม้แต่เงาเลยสักนิด!


                Rrrrrrrr


                ทันทีที่มือถือดังผมก็รีบคว้าขึ้นมาดู แล้วยิ่งเห็นว่าเป็นไอ้คนที่ผมบ่นอยู่ในใจก็รีบกดรับอย่างรวดเร็ว


                “อยู่…”

                /นายอยู่ตรงไหน? ฉันอยู่โรงเรียนแล้ว/ สิ้นคำพูดทุ้มของคนปลายสาย ผมรีบกวาดตาไปทั่วหน้าโรงเรียนทันที ถึงแม้ผมจะเห็นรถของพี่ตุลย์ไม่บ่อยมากนักแต่ก็ไม่ยากเลยที่จะรู้ว่าคันไหนเป็นรถที่กำลังรอ เท่านั้นแหละผมกดวางสาย แทบจะวิ่ง 4x100 เข้าไปหา


                ก๊อก ก๊อก!


                “ทำไมมาช้างี้อะ!” ทันทีที่พี่ตุลย์กดลดกระจกผมก็รีบร้องเฮ้วขึ้นมาเสียงดัง

                “นี่ก็รีบสุดแล้ว วันนี้แต่งหน้าดีนะ ไม่หนาเหมือนเมื่อวาน”

                “ใช่เวลามาชมเครื่องสำอางไหมถาม ช่วยรู้สึกร้อนใจอะไรบ้างก็ได้มั้งเนี่ย เออ ใช่สิ! ผมนี่ไม่ใช่พี่ที่ต้องไปเล่นเกมเสี่ยงดวงน่ะ”

                “ฉันว่านายกังวลมากไปแล้วล่ะ” พี่ตุลย์ว่าพลางออกมาจากรถ “จับมือไหม?”

                “หะ?”

                “ก็เห็นกังวล จะให้ยืมมือจับ เป็นแม่ที่หนึ่งอยู่นี่ ก็ต้องเป็นภรรยาฉันถูกไหม?”


                ...


                ฉิบหาย เขิน


                “ไม่ต้องอะ สมมุติว่าหย่าแล้ว” ผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดเสียงห้วนนะ แต่...ฮึ่ย! เออออ หงุดหงิดแก้เขินไงครับ ใจผมก็ยังเต้นแรงเหมือนเดิม รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้หญิงเป็นบ้าแถมยังใส่ชุดผู้หญิงอีก ทั้งๆ ที่ไอ้พี่ตุลย์ใส่สูทมาซะหล่อ!

                “หย่าแล้วก็จับมือได้นะ”

                “ไม่จับ อย่ามาทำตัวน่าขนลุกแถวนี้หน่า มางานวันแม่ไม่ได้มางานวันวาเลนไทน์เข้าใจปะ?” ผมทำทีไม่สนใจหมุนตัวตั้งท่าจะเดินนำหน้าอีกฝ่ายเข้าไปในโรงเรียน แต่เพราะผมเดินเก้งก้างไม่สมเป็นแม่หญิงไปหน่อยพี่ตุลย์ก็เลยต้องรีบคว้าตัวผมเอาไว้แล้วบอกให้เดินดีๆ






50%
บอกแล้ว ว่าจะมาวันนี้ ก็ต้องมาวันนี้สิเนาะ
กลัวรอนาน รีบลงเลย อีกครึ่งหนึ่งพรุ่งนี้แจกันน~~


ต่ออีกครึ่งนึงที่ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.720 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.720)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 29-07-2015 13:30:44
แม่เอสสสสสสสสสสสสส

งานนี้น้องจะเล่นละครตามทันป่าววะ *-*
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 29-07-2015 13:44:42
น่าร๊ากกกกกกกกกกกกก  :-[ :-[ :-[ แต่เหมือนตอนแต่งหน้าจะชื่อผิดนะ..ต้องเป็นเอสไม่ใช่เหรอ..ไม่ใช่พี่ตุลย์จิ..
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 29-07-2015 14:04:11
กรี๊ด รออย่างใจจดใจจ่อ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nice_nice ที่ 29-07-2015 14:12:12
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:  แอร๊ดดดดดดดดด

พี่ตุลย์คิดไรอยู่นะ  มีขอจับมือด้วย

ดูถ้าที่หนึ่งจะมีแม่จริงๆ ก้องานนี้แหละ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-07-2015 14:25:39
ขุ่นแม่~~~~~
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 29-07-2015 16:05:53
คุณแม่เอสสสส~
รออีก50% ค่าาาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 29-07-2015 16:45:51
ขอพาร์ทอิพี่ตุลเลยคิคิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 29-07-2015 16:51:43
กรี๊สสสสสสสส ก้อบอกแร้วว่ารีบเป็นแม่เอสไหม
ได้ของจริงเลยที่นี้ 5555555
อยากอ่นตอนต่อไปแระอ่ะ  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 29-07-2015 16:54:44
ที่หนึ่งจะตามทันมั้ยเนี่ย คือฮามาก ต่อไปไม่ต้องกลัวโดนล้อว่าไม่มีแม่ แต่จะโดนล้อเรื่องแม่เหมือนกระเทยแทน :m20:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 29-07-2015 17:54:57
555 ตอนนี้ตลกดีคับ แต่งสาวไปงานโรงเรียนด้วย แล้วจะถูกเลือกให้เป็นตัวแทนแม่ๆไปพูดอะไรรึป่าวคับ ๕๕๕
  รอ รอ รออ่านตอนใหม่มาเร็วๆนะคับ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 29-07-2015 18:21:06
เอสเอ๊ยยยยยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 29-07-2015 18:56:53
รอพรุ่งนี้ไม่ไหว มาต่อตอนนี้เลยได้มั้ย ฮืออออ น่ารักจริงๆ
  :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 29-07-2015 19:10:34
ถ้าเป็นที่หนึ่งจะร้องไห้
5555555555555555555555555555555555

 :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 29-07-2015 19:30:28
แม่เอส :m20:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 29-07-2015 19:44:30
แม่เอสสสสสสส  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Babylon ที่ 29-07-2015 20:36:09
กรีดร้อง ในที่สุด ในที่สุด............... อ้ากกกก ฟินจิกหมอน  :z3:  :ling1:
คนแต่งขา อยากเห็น ชุดของเอสจังเลย นึกภาพมิออก :hao5:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Eangoey ที่ 29-07-2015 20:55:57
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: buzeative ที่ 29-07-2015 21:27:02
อ๊ากกกกกกกกกกกก :ling1: สนุกอะ มากๆเลย มาต่อๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 29-07-2015 21:36:55
มอรออีกครึ่งค่าา   ตอนหลังๆอ่านแล้วลื่นไหล สนุกมากกกกก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 29-07-2015 21:40:13
 :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 29-07-2015 21:44:13
คุณแม่เอสมาแล้วจ้าาาาา 5555 :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 29-07-2015 21:52:51
เอสมั่นมากกกก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 29-07-2015 22:37:33
กรีดร้อง ในที่สุด ในที่สุด............... อ้ากกกก ฟินจิกหมอน  :z3:  :ling1:
คนแต่งขา อยากเห็น ชุดของเอสจังเลย นึกภาพมิออก :hao5:

เผื่อใครนึกภาพไม่ออกนะคะ
อันนี้ขุดฝีมือ Photoshop สมัยม.5 ออกมาเลย
 เอาอิมเมจเอสมาตัดต่อชุดให้ แต่ออกมาน่ากลัวมากอย่าไปสนใจ 5555555555
(http://i.imgur.com/GfzGI4K.jpg)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 29-07-2015 22:38:52
กรีดร้อง ในที่สุด ในที่สุด............... อ้ากกกก ฟินจิกหมอน  :z3:  :ling1:
คนแต่งขา อยากเห็น ชุดของเอสจังเลย นึกภาพมิออก :hao5:

เผื่อใครนึกภาพไม่ออกนะคะ
อันนี้ขุดฝีมือ Photoshop สมัยม.5 ออกมาเลย
 เอาอิมเมจเอสมาตัดต่อชุดให้ แต่ออกมาน่ากลัวมากอย่าไปสนใจ 5555555555
(http://i.imgur.com/GfzGI4K.jpg)


เอวบางมาก!!!!!

ขอไซส์นี้เลยนะคะ มะไหร่พี่ตุลย์จะหลงรักน้องงงงงงง  :ling1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: supizpiz ที่ 29-07-2015 23:10:54
รอตอนเต็มนะคะ :katai5:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 29-07-2015 23:23:59
 :ling1: :ling1:

ค้างคา  ตลอดๆ  จะงอลคนเขียนละนะ 

๕๕๕๕๕๕
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 29-07-2015 23:40:16
วันแม่ ไม่ใช่วันวาเลนไทด์ เข้าใจปะะะ ฮ่าาาาา ชอบประโยคนี้อ่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-50% (29/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: SheGame ที่ 29-07-2015 23:53:53
อ๊ายยยยยยคุณแม่เอส น่ารักๆๆ
มาพร้อมตุณพ่อตุลย์ด้วย
 :hao7: :mew3: :hao7: :mew3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 30-07-2015 09:45:48
             
50%
*ตัวอักษรเกิน





              ในช่วงบ่าย ลานใต้อาคารก็คราคร่ำไปด้วยเด็กชั้นป.4-ป.6 ที่กำลังทำกิจกรรมวันแม่โดยมีผู้ปกครองวัยกลางคนถึงวัยแก่มากอยู่รอบนอกรอช่วงเข้าไปร่วมงานกับลูกรักในช่วงในการไหว้ โชคดีที่งานครั้งนี้ ยังไม่มีใครได้ยินเสียงของผมที่ไม่ว่ายังไงก็ยังเป็นเสียงของผู้ชายเพราะคุณแม่ทั้งหลายต่างฝ่ายต่างก็จับจ้องไปที่ลูกของตัวเองไม่สนใจใคร่ที่จะชวนใครอื่นคุยทั้งสิ้น หรือถ้าจะเข้ามาคุยก็ต้องขอบคุณพี่ตุลย์ที่เข้ามาช่วยเหลือรับหน้าแทนตลอด


               “ตอนนี้ผมโคตรกังวล มือเย็นหมดแล้วเนี่ย”

               “อื้ม”

               “...”


               ผมหันมองคนที่อยู่ข้างกาย ก่อนจะระบายยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นเสี้ยวหน้าด้านข้างที่ฉายออกมาอย่างอบอุ่น เขาเองก็เหมือนกับพ่อแม่คนอื่นๆ ไม่มีอะไรที่อยู่ในความสนใจไปมากกว่าลูกชายของตนที่กำลังยืนร้องเพลงอยู่ในแถวร่วมกับเพื่อนๆ


               พอเห็นภาพนี้ผมก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงพ่อของตัวเองที่เสียไปเมื่อหลายปีก่อน


               ผมเองก็เป็นเด็กที่ไม่อยากจะมาร่วมกิจกรรมงานวันแม่เหมือนๆ กันแต่พ่อก็จะลากผมไปจนได้ แถมยังยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูโรงเรียนกันผมหนีออกมาอีกต่างหาก ตอนนั้นผมร้องไห้นะครับ งอแงโวยวาย แต่พ่อก็ไม่ยอม สุดท้ายผมก็เลยต้องไปร่วมกิจกรรมทั้งน้ำตานั้นแหละ วันนั้นพ่อยิ้มตลอด โบกไม้โบกมือไม่รู้จะเยาะเย้ยผมหรืออะไรเล่นเอาโมโหจนถึงวันแม่ปีต่อมาเลยครับ ถึงปีต่อมาผมจะเข้ากิจกรรมด้วยตนเองแต่ก็ไม่วายมีพ่อมาเฝ้าอยู่หน้าประตูโรงเรียนเหมือนเดิม แล้วก็เป็นอย่างนั้นอีกหลายปีจนผมเรียนจบ


               “ต่อไปนะคะ ให้เด็กๆ พาคุณแม่มานั่งที่เก้าอี้ที่จัดไว้ให้ ใครเตรียมพวงมาลัยหรือดอกไม้มาก็เอามาไหว้แม่ตอนนี้เลยนะจ๊ะ” สิ้นคำพูดของอาจารย์สาวหน้าเวที เด็กที่เข้าแถวอย่างเป็นระเบียบก็แตกหือหาแม่ของตัวเองกันจ้าละหวั่น

               “พ่อ” ผมกับพี่ตุลย์หันขวับไปตามเสียงก่อนจะเห็นที่หนึ่งกึ่งวิ่งกึ่งเดินตรงมาเราทั้งคู่ “ทำไมพ่อมาด้วยละ?”

               “เกิดเรื่องกับป้าสร้อยนิดหน่อย พ่อก็หาคนมาแทนให้ แต่พ่อกังวลก็เลยมาด้วย”

               “คนมาแทน?”

               “หวัดดี” ผมร้องทักทายทันทีที่ที่หนึ่งเบือนหน้ามาทางผม เด็กนั่นดูงงเล็กน้อยก่อนตั้งท่าจะโวยวายแต่ผมก็ตะครุบตัวปิดปากเอาไว้เสียก่อน “คือมันเป็นเหตุสุวิสัย ป้าสร้อยมาไม่ได้จริงๆ ใครๆ ก็มาไม่ได้ทั้งนั้น พี่ก็เลยเป็นซุปเปอร์แมนมาช่วยเนี่ย อย่าโวยวาย”

               “อืออื้อ!” แต่ดูเหมือนไอ้เด็กนี่จะไม่พอใจเท่าไหร่ ทั้งดิ้นทั้งโวยวายจนแขนผมที่ล็อคตัวมันอยู่ถึงกับเส้นเลือดขึ้น

               “ที่หนึ่งฟังนะลูก พ่อขอโทษที่ผิดสัญญาพาป้าสร้อยมาร่วมงานไม่ได้ มาถึงตรงนี้แล้วพ่อไม่ฝืน ถ้าลูกรับไม่ได้ พ่อจะพากลับเลยก็ได้”


               ผมก้มมองเด็กที่ผมกำลังล็อคตัวอยู่พอเห็นว่าที่หนึ่งเลิกดิ้นแล้วก็ค่อยๆ คลายอ้อมแขนออก


               “...”

               “ว่าไง? กลับกับพ่อเลยไหม?”

               “...ไม่เป็นไรครับ จะป้าสร้อยหรือพี่เอสก็ไม่ใช่แม่ที่หนึ่งเหมือนกันทั้งคู่ จะไหว้ใครก็คงเหมือนกัน”

               “...” มือใหญ่ของพี่ตุลย์วางลงบนหัวของที่หนึ่ง ใบหน้าที่มักจะเรียบนิ่งใส่ผมกลับแสดงออกมากมายกลับคนที่เป็นลูกชายเสมอ “พ่อขอโทษนะ”


               ผมไม่รู้ว่าพี่ตุลย์ขอโทษอะไร อาจจะขอโทษที่พาป้าสร้อยมาไม่ได้ หรือ...อาจจะขอโทษที่ไม่สามารถให้ที่หนึ่งมีแม่เหมือนคนอื่นๆ ได้


               “ไปเถอะ ครูเขาเรียกรวมแล้วอะ” ที่หนึ่งหันมาคว้ามือ แต่ผมกลับยื้อตัวเอาไว้ มองหน้าของพี่ตุลย์ที่ถูกทิ้งเอาไว้ด้านหลัง

               “ไม่ต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นก็ได้”


               ใครกันแน่ที่ทำหน้าเศร้า


               ผมเดินตามแรงดึงของที่หนึ่งไปถึงเก้าอี้ตัวยาว ที่มีคุณแม่มากมายนั่งอยู่ก่อนแล้ว ส่วนผู้เป็นลูกนั่งอยู่ด้านล่างซึ่งบางคนก็มีพวงมาลัยมาพร้อมกราบ เป็นบรรยากาศที่ผมเองก็เคยเจอมาเมื่อตอนเด็กๆ


               “นักเรียนคะ เราจะร้องเพลงค่าน้ำนมกันก่อน พอจบแล้วจึงค่อยกราบแม่ของเรานะคะ”


               สิ้นคำพูดเสียงดนตรีเพลงค่าน้ำนมก็ดังขึ้นและตามด้วยเสียงร้องดังกึ่งก้องของพวกเด็กนักเรียน ที่หนึ่งเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมเลือกที่จะไม่ก้มมองที่หนึ่งเพราะความรู้สึกกระดากอายแปลกๆ ที่อยู่ในใจเลือกที่จะมองเวทีด้านหน้าที่มีคุณครูสาวร้องนำอยู่แทน


               แต่ถึงอย่างนั้นผมก็อดไม่ได้ที่จะก้มมองดูที่หนึ่งที่นั่งอยู่ตรงหน้า


               “...ที่หนึ่ง”


               ผมเรียกเสียงเบา แต่คนเป็นเจ้าของชื่อก็ไม่สนใจเสียงของผมเลย ยังคงเอาแต่จับจ้องพ่อของตนเองที่กำลังส่งยิ้มและโบกไม้โบกมือมาให้อยู่ด้านข้างห่างออกไปไม่ไกล และผมจะไม่ตกใจเลยถ้าไม่ได้เห็นภาพพ่อของผมซ้อนทับขึ้นมา! พ่อที่ส่งยิ้มให้ผม พ่อที่โบกมือให้ผมเหมือนกัน...แต่สิ่งที่ต่างกันกับภาพในครั้งนั้น คือสิ่งที่อยู่ในดวงตา เพราะครั้งนี้พี่ตุลย์อยู่ใกล้กว่า ใกล้พอที่จะมองเห็นสิ่งนั้นที่ผมไม่สังเกตเห็นจากพ่อของผมเอง


               สายตาที่เต็มไปด้วยคำขอโทษ


               พรึ่บ!


               “อะ คุณแม่มีอะไรหรือเปล่าคะ!” สิ้นคำพูดของคุณครูที่ยืนอยู่หน้าเวที ทุกคนพร้อมใจกันหันพรึ่บมาทางผมที่ลุกพรวดพราดขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่สน ไม่คิดแม้แต่จะอธิบายอะไรให้ใครหรือแม้กระทั้งที่หนึ่งเองให้เข้าใจ เดินแน่วแน่ไปหาพี่ตุลย์ แล้วคว้าแขนอีกฝ่ายตรงมายังเก้าอี้ที่ผมเคยนั่งแล้วกดให้เขานั่งลง!

               “เอส!”

               “ถ้าที่หนึ่งควรจะกราบใครสักคนที่ไม่ใช่แม่ของเขาแล้วละก็ ผมว่าพี่ที่เป็นพ่อสมควรที่จะนั่งอยู่ตรงนี้ที่สุดแล้ว”

               “แต่นี่มันงานวันแม่นะ จะให้พ่ออย่างฉันมานั่งได้ไง!” พี่ตุลย์พูดเข่นเขี้ยวตั้งท่าจะลุกขึ้นเดินออกไปแต่ผมก็กดไหล่อีกฝ่ายเอาไว้ให้อยู่ที่เดิม

               “ที่หนึ่งมีพี่คนเดียว พี่เลี้ยงที่หนึ่งมาคนเดียวมันไม่ได้แปลว่าพี่เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับที่หนึ่งหรอไง?”

               “…”

               “พี่นั่งไปเถอะ เพลงค่าน้ำนมจะจบแล้ว ถ้าที่หนึ่งไม่กราบพ่อในวันแม่ก็ช่าง จบกิจกรรมเราก็แค่กลับบ้านเท่านั้นเอง” ผมยักไหล่พูดด้วยท่าทีสบายๆ เหมือนเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรก่อนจะเดินออกมาจากบริเวณตรงนั้นไปยืนอยู่ข้างๆ แทนที่ที่พี่ตุลย์เคยยืนดูอยู่


               หลังจากที่ผมออกมาแล้ว เห็นพี่ตุลย์กับที่หนึ่งมีท่าทีกระอักกระอวนตามภาษาพ่อกับลูกชายก็รู้สึกอดขำไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกันผมก็รู้สึกถึงความอบอุ่นของครอบครัวที่อยู่ตรงหน้า แม้จะเต็มไปด้วยความเคอะเขินแต่เมื่อจบเพลงค่าน้ำนมลง ที่หนึ่งก็ไม่ลังเลที่จะก้มกราบพ่อของตนเองที่ทำหน้าที่แทนแม่เสมอมา เลือกอย่างชาญฉลาดที่จะไม่สนใจสายตาของคนที่มองอยู่ด้านนอก


               มันมีนะครับ คนที่ไม่รู้ตัว จนไม่เคยได้กราบใครเลยในวันแม่อย่างผมนี่ไง


               “กราบคุณแม่กันแล้วอย่าลืมกอดคุณแม่ด้วยนะคะ...ส่วนใครที่มากับคุณพ่อวันนี้ก็กอดคุณพ่อได้นะคะ”


               ผมหัวเราะกับคำพูดของคุณครูสาวที่อยู่หน้าเวที มองที่หนึ่งกับพี่ตุลย์ที่กำลังกอดกันอย่างเก้อเขิน คุยอะไรกันบางอย่างที่มีเพียงแค่เขาสองคนได้ยิน และไม่เกี่ยวข้องกับคนนอกอย่างผม ผมเบือนหน้าหนีจากสิ่งที่ผมไม่มีตรงหน้า วางสายตาที่ภาพของผู้คนที่กำลังทยอยออกมาจากิจกรรม


               เอาจริงๆ ไหม? ก็จริงอยู่ที่ผมโตแล้ว โตพอที่ควรจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับเรื่องครอบครัวแล้ว แต่วันนี้ทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกลับไปเป็นเด็กเลย กลับไปเป็นเด็กที่อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์...


               “กอดไหม?”

               “หะ?” ผมหันขวับมาตามเสียงก่อนจะเห็นพี่ตุลย์ที่กำลังเดินมาพร้อมกับที่หนึ่ง “อะไร?”

               “กอดไหม?”

               “กอดใคร?”

               “กอดฉัน”

               “กอดทำไม?”

               “เห็นทำหน้าว่าอยากกอดบ้าง”

               “ตอนไหน?”

               “ตอนที่ฉันกอดอยู่กับที่หนึ่ง”

               “ไม่ได้อยากกอดสักหน่อย”

               “ไม่ได้หมายถึงอยากกอดฉัน แต่หมายถึงอยากกอด ‘พ่อ’”

               ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ยกมือขึ้นลูบท้ายทอยด้วยความลืมตัว “ผมทำหน้าแบบนั้นหรอ?”

               “อื้ม แล้ว...จะกอดไหม?”

               “ไม่อะ” ผมยักไหล่ตอบอย่างไม่แยแส “ผมไม่ใช่เด็กๆ แล้ว อีกอย่างพี่ก็ไม่ใช่...”


               หมับ!
               

               “...ผมเพิ่งบอกพี่ไปว่าไม่กอด”

               “แต่ฉันรู้ว่าอยากให้กอด ฉันไม่ใช่พ่อนายก็จริง แต่ฉันก็เป็นพ่อคนเหมือนกัน คงแทนกันได้อยู่มั้ง”

               “หะ” ผมหัวเราะออกมากับตระกะบ้าบอที่ผมไม่เคยได้ยิน ทั้งๆ ที่ผมไม่อยากกอดพี่ตุลย์เลยแต่ไม่รู้ทำไมผมกลับยืนอยู่นิ่งๆ ซุกหน้าลงกับไหล่แกร่งอย่างไม่ขัดขืนแม้ผมจะไม่กอดเขาตอบกลับ

               “นายเองก็มีครอบครัวเหมือนกัน ไม่ต้องทำหน้าเศร้าหรอกรู้ไหม” เสียงทุ้มนุ่มนั่นและลมหายใจรดอยู่ข้างหู แต่ผมก็ไม่สนใจมันไปมากกว่าสิ่งที่พี่ตุลย์พูด ทำหน้าเศร้าหรอ? ผมทำหน้าเศร้างั้นหรอ? ผมทำตอนไหนกัน...

               “...พี่หมายถึงป้าผมอะหรอ ผมว่าคงไม่ใช่มั้ง ป้าเขาก็มีครอบครัวของป้า ถึงผมจะเป็นหลานแต่ก็คงไม่ใช่ครอบครัวเขาหรอก”
               
               “ฉันหมายถึงครอบครัวฉันต่างหาก นายอยู่กับฉัน นายก็ต้องเป็นคนของครอบครัวฉันสิ

               “!”


               เกลียดว่ะ...พี่ตุลย์กำลังทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองอ่อนแอฉิบหาย แม่งเอ๊ย! ผมเนี่ยนะ ผมที่อยู่คนเดียวมาหลายปี ผมที่ต้องดิ้นรนด้วยตัวเองมาตลอด ไม่เคยที่จะร้องไห้งอแงเลยสักครั้ง แต่กลับน้ำตารื้อเพราะคำพูดสั้นๆ แค่นี้อะนะ!


               “เงียบเลย ไม่อยากเป็นครอบครัวฉันไง?”

               “ยังไม่ได้พูดสักหน่อย ให้ผมเป็นครอบครัวด้วยเนี่ย ถามที่หนึ่งกับตอนต้นก่อนไหม” ผมพูดเสียงอู้อี้ ยิ่งซุกหน้ากับไหล่ของอีกฝ่ายมากขึ้นซ่อนใบหน้าอีกด้านของตัวเองไม่ให้ใครได้มองเห็นทั้งสิ้น

               “ลูกฉันคงไม่ว่าอะหรอกมั้ง”

               “ก็ไม่แน่นะ” ผมหัวเราะ “ปล่อยผมได้แล้วหน่า อึดอัด”

               “ไม่เป็นไร ให้ยืมกอดฟรีหนึ่งวันไม่คิดเงิน” พี่ตุลย์กอดรัดแน่นขึ้นจนแทบขยับแขนไม่ได้ ผมเลยทำได้เพีนงถอนหายใจออกมาแล้วยอมอยู่ในอ้อมแขนนั้นต่อไป


               ผมจำความรู้สึกที่กอดพ่อไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แต่คิดว่าก็คงจะเป็นความรู้สึกแบบนี้ละมั้ง


                แข็งแกร่ง อบอุ่น พึ่งพาได้



















               ผมกลับคอนโดฯ พร้อมกับพี่ตุลย์และที่หนึ่ง หลังจากที่ช่วงเวลาของครอบครัวจบลงความกวนตีนก็เข้ามาทันที ตั้งแต่ขึ้นรถยันถึงหน้าคอนโดฯ ไอ้เด็กที่หนึ่งยังไม่หยุดล้อผมเรื่องแต่งหญิงเลยนี่พูด! บอกว่าอุบาทว์บ้างละ บอกว่าน่ากลัวบ้างละ บอกว่าผมฝักใฝ่บ้างละ นี่ขนาดผมบอกไปแล้วว่าเพราะแกนั่นแหละที่ทำให้ต้องตกอยู่ในสภาพนี้แต่มันก็ยังไม่ยอมหยุดครับ นี่ถ้าไม่ติดว่าจะอนาจารแล้วจะเข้าเรทอาร์นะ ผมนี่อยากจะเอากระโปรงครอบหัวมันมากเลยครับ หมั่นไส้   


               “เออ พี่ตุลย์ ป้าสร้อยไม่อยู่ ผมไม่อยู่ พี่ไม่อยู่ แล้วใครดูแลตอนต้นอะ?” ผมถามขณะที่เราทั้งสามคนกำลังเดินออกจากลิฟท์ตรงไปยังห้อง B8002

               “ฉันโทรเรียกคนมาช่วยอะ” พี่ตุลย์ว่าพลางไขกุญแจห้อง “พี่พลอยไพลินหรอ?”

               “เปล่า ถ้าฉันเรียกลินมา สู้ให้ลินไปที่โรงเรียนแทนนายไม่ดีกว่าหรอเอส”

               “เอ้า ก็ไม่รู้” ผมยักไหล่ “สรุปพี่เรียกใครมา”


               แล้วทันทีที่ประตูไม้อัดสีขาวถูกเปิดออก


               “หล่อนเป็นใคร! มากับลูกชายฉันได้ยังไง!”


               คุณป้าฮาร์ดคอร์นี่อีกแล้ว!









TBC
ถึงเอสจะเป็นกระเทยเสาไฟฟ้าอยู่ แต่ฟิลลิ่งครอบครัวได้นะ 5555555555555555
หยุดยาวสิ้นเดือนไปเที่ยวระวังกันด้วยนะ นี่ก็ไปเหมือนกัน เจอกันวันมะรืนครัชชช
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 30-07-2015 09:56:07
 :ling2:

หวัดดีค่ะคุณแม่

มานั่งดูว่าเอสจะทักอะไรคุณแม่อย่างแรก 55555+


แต่เอสนี่เป็นส่วนนึงของครอบครัวนี้ไปหรือยังนะ? พี่ตุลย์อย่าให้เอสไปอยู่หอเลยยยยย  :ling1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 30-07-2015 10:06:06
ฮ่าๆ เอสเอ๊ย งานเข้าตลอดนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 30-07-2015 10:41:19
สวัสดีค่ะ แม่ป้าฮาร์ดคอ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 30-07-2015 10:43:00
โอ้ววววววว ขุ่นแม่มา!! OxO
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 30-07-2015 11:00:12
จะทำยังไงหนอ หนูเอส :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 30-07-2015 11:23:19
เอสทำถูกแล้วที่ให้พี่ตุลย์มานั่งแทน  เพราะพี่ตุลย์เป็นพ่อและแม่ของที่หนึ่ง

พี่ตุลย์ที่บอกว่าเอสเป็นคนในครอบครัวนี่คิดอะไรกับเอสหรือเปล่า แล้วที่บอกว่าเป็นคนในครอบครัวเป็นเมียหรือเป็นน้องชาย

คุณป้าฮาร์ดคอร์ ก็คุณแม่พี่ตุลย์อ่ะดิ  ถ้าต่อไปอนาคตพี่ตุลย์กับเอสเป็นคนรักกัน  จะต้องมีศึกแม่ผัวลูกสะใภ้ป่าวนิ หวั่นใจแทน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 30-07-2015 11:29:55
55555555555555555555555555555555555555555555555555555555
ฝากเนื้อฝากตัวแล้วเอสสสสส


 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 30-07-2015 11:40:17
ฮากระเทยเสาไฟฟ้า มีเอสนี่เอสจริงๆ เหมือนมีทุกอย่างแบบออลอินวัน เป็นพี่เลี้ยง เป็นอันธพาล เป็นไม้กันหมา(?) เป็นคุณแม่ยามจำเป็น(?????) ครบเครื่องค่ะ!!!! :katai2-1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 30-07-2015 12:16:57
555555
คราวนี้ขุ่นแม่ปะทะเอสในคราบผู้หญิงซะด้วย
สนุกแน่งานนี้
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 30-07-2015 12:18:01
 :pig4: จะว่าไปก็สงสารเอสเนอะ อิอิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-07-2015 12:27:26
เป็นหญิงนี้มันไม่ง่ายเลยเนอะเอส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 30-07-2015 12:39:30
อ่าาา เจอแม่ย่าอีกละ :m20:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 30-07-2015 12:54:41
แม่พี่ตุลย์นี่เหมือนจะโหดนะ แต่ทำไมเราตลกป้าแก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 30-07-2015 14:11:44
กรี๊ดดดดดดดดด ไม่ได้เข้ามาตามแป๊บเดียว แต่ความสัมพันธ์ของคู่นี้เริ่มไปไกลแล้วนะเนี่ยยยยยย
มีการแต่งหญิงด้วยวุ้ย (ถ้าตามอิมเมจที่ให้มาล่ะก็ เราคิดว่าเอสก็สวยออก เพียงแต่แข็งๆไปนิดตามสไตล์ผู้ชาย ทำไมมีแต่คนล้อว่าเหมือนกระเทยล่ะ นางสวยจะตาย!)
ชอบตอนที่เอสลากพี่ตุลย์ให้ขึ้นไปนั่งแทนจังเลย ทำให้คิดถึงตอนที่อยู่โรงเรียนประถมจัง ตอนนั้นมีคุณแม่ของเด็กคนหนึ่งไม่มา คุณพ่อก็มาแทนให้ รู้สึก...ฟินนนนนนนน
หญิงแม่คัมแบ็ค รู้สึกได้ถึงความฮาที่กำลังจะบังเกิด
ศึกอภินิหารของว่าที่ลูกสะใภ้กับแม่ยายมหาประลัยกำลังจะเริ่มต้นขึ้น!
รอ ร๊อ รอ กรี๊ดดดดดดด
ปล.ไม่ได้หายหัวไปไหนนะ ยังติดตามอยู่ รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 30-07-2015 15:03:02
ตอนนนี้น่ารักอบอุ่นมากๆเลยยยย

แต่ตอนท้ายยยน้องเอสจะโดนไรอีกเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 30-07-2015 15:43:15
คุณป้าอีกแล้วนะทำเสียบรรยากาศอีกละ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 30-07-2015 16:59:26
เจอแม่(ผัวในอนาคต) สู้ๆๆนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 30-07-2015 17:20:27
คุณป้าจะมาทำไมเนี้ย 555+
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 30-07-2015 23:41:24
โธ่ กำลังฟินเลย มาพังทลายลงตอนเจอป้าแก่นี่ล่ะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 31-07-2015 00:51:38
รู้สึกฮาแม่พี่ตุลย์ชอบกล
รึเพราะนางเอสไม่เครียด เราเลยไม่เครียดตาม 555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 31-07-2015 01:37:03
๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ 
คุณป้า  ฮาร์ตคอ   ซ่ะงั๊น


สู้ๆนะเอสสส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 31-07-2015 03:14:01
โอ้วว กราบสวัสดคุณหญิงแม่ที่เคารพรัก...
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: onekiss ที่ 31-07-2015 13:34:00
 :hao3: :hao3: :hao3:
เอสงานเข้าอีกแร้ะ5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 31-07-2015 15:41:57
เอสเท่ห์มากๆ เลยค่ะ หลายงานแล้วเนอะที่ช่วยให้พ่อกับลูกเขาสมานฉันท์กันแบบนี้ ^^
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Tsumsome ที่ 31-07-2015 18:08:39
ทำไมเอสต้องปะทะกับแม่ผัว เฮ้ย แม่พี่ตุลย์ตลอดเลย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 26-100% (30/7/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 31-07-2015 23:20:04
คุณแม่มาแล้วววว 555554
อ่านแล้วทำไมเขินนน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 01-08-2015 16:06:14
ตอนที่ 27




             จะมีไหมสักวันที่ ผมตื่น กิน นอนดูทีวีโง่ๆ แล้วก็กลับไปนอนแบบเนี่ย ผจญศึกทุกวันอย่างกับอยู่อยู่ในโคลอสเซียม แต่เกิดมาต้องใช้กรรมครับ เกิดเป็นเอสต้องอดทนสิบล้อชนต้องไม่ตาย!


             “ตุลย์ แกพาใครมาบ้าน!?” คุณป้าฮาร์ดคอร์ที่กำลังอุ้มตอนต้นอยู่ตะคอกเสียงดังถามลูกชายเมื่อเห็นว่าผมไม่ตอบคำถามก่อนหน้านี้

             “แป๊บ ผมเอาที่หนึ่งเข้าห้องก่อน แม่ด้วย ถ้าจะพูดคำหยาบเอาตอนต้นมาเล่นกับที่หนึ่งเลยนะครับ” พี่ตุลย์พูดขณะดันหลังลูกชายคนโตเข้าห้องนอน

             “งั้นแกอยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะมาต่อแน่นอน!” ว่าแล้วคุณป้าฮาร์ดคอร์ก็อุ้มเด็กอ้วนเข้าห้องของที่หนึ่งตามหลังหลานคนโตไป

             “...” ผมตอบแต่พยักหน้า


             เอาจริงๆ ถ้าสมมุติผมเป็นผู้หญิงที่เป็นแฟนกับพี่ตุลย์อยู่ หรือเป็นเพื่อนร่วมงาน หรือเป็นห่าเหวอะไรก็แล้วแต่ ผมจะอยู่ตรงนี้ให้คุณป้ากลับมาด่าต่อไหม ไม่ครับ! ใครเขาจะยืนต่อละ ถ้านิสัยดีหน่อยก็แปะโพสอิทแจ้งเอาไว้ก่อน ‘กลับแล้วนะคะ ติดต่อได้ที่เบอร์...’ อะไรก็ว่าไป ผมนี่ก็อยากจะชิ่งหนีเหมือนกันครับ ไม่อยากจะสู้รบปรบมือด้วย แต่บังเอิ๊ญ บังเอิญว่าห้องที่ผมเหยียบอยู่ตอนเนี่ยมันเป็นห้องที่ผมใช้ซุกหัวนอนอยู่เนี่ยแหละ จะชิ่งก็ไม่ได้ ต้องยืนอยู่ร่วมห้านาทีจนกระทั้งคุณป้าฮาร์ดคอร์กับพี่ตุลย์จะเดินออกมาจากห้องของที่หนึ่งพร้อมกัน


             “เสร็จแล้ว! มา...ต่อ เธอเป็นใครมากับลูกชายและหลานชายของฉันได้ยังไง?”

             “เอ่อ...”


             สายตานี้อีกแล้ว เบื่อจัง สายตาเดียวกับที่คุณป้าฮาร์ดคอร์มองผมเมื่อตอนนู้นไม่มีผิด ถึงแม้คราวนี้ผมจะแต่งตัวเป็นผู้หญิงอยู่ก็ยังโดนมองว่าเป็นผู้หญิงแมงดาเกาะผู้ชายกินอยู่ดีสินะ เอ๊ย...ไม่ดิ ยิ่งเป็นผู้หญิงก็ยิ่งต้องคิดแบบนั้นนี่หว่า ต้องรีบอธิบายก่อนว่าผมไม่ได้เป็นอย่างที่คุณป้าคิดครับบ ไม่ใช่แม้กระทั้งผู้หญิงด้วยซ้ำ!


             “ว่าไง! หล่อน...หวังจับลูกชายของฉันใช่ไหม!?”

             “เฮ้ย!” อันนี้พี่ตุลย์อุทาน และเป็นจังหวะเดียวกับที่พนักงานในสมองเผลอเอามือไปตบสวิตช์ปากหมาเข้า

             “เราเป็น ‘ครอบครัว’ เดียวกัน อุ๊บ!” ผมโดนพี่ตุลย์กระโจนปิดปากเอาไว้ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นว่าไม่ทันเสียแล้วเพราะผมปล่อยหัวหน้าหมาออกไปแล้ว และมันก็กระโจนเข้าหูของคุณป้าฮาร์ดคอร์เรียบร้อย
             
             “ครอบครัวเดียวกัน!? นังผู้หญิงหน้าด้าน! ช่างกล้าพูดว่าเป็นครอบครัวเดียวกับลูกชายคนอื่นทั้งๆ ที่ลูกชายของฉันไม่พาเธอมารู้จักฉันซ้ำด้วยกัน”


             ฉอดๆๆ แล้วก็ตามมาอีกหลายประโยค ผมไม่โกรธนะครับ เพราะผมผิดเองแหละที่ไปพูดกวนโมโหคุณป้าฮาร์ดคอร์ซะอย่างนั้น ไม่ยอมรีบแก้ต่าง ผมก็เลยยอมก้มหน้าก้มตารับชะตากรรมฟังคำเทศน์ปนคำด่าไปอีกชุดใหญ่


             ...


             คุณป้าฮาร์ดคอร์ยังไม่หยุด ผมชักทนไม่ไหว สะกิดแขนพี่ตุลย์ยิกๆ แล้วกวักมือให้พี่ตุลย์เอียงหูเข้ามาหา


             “ผมว่าพี่ปิดปากผิดคนแล้วละ นี่พูดมาจะสิบนาทีแล้วนะ พี่ไม่คิดจะห้ามแม่พี่หน่อยหรอ!”

             “ถ้าไปขัดแม่จะโกรธอะ ทนฟังอีกหน่อยได้ไหม? เดี๋ยวก็จบแล้ว”


             ผมเบ้หน้าใส่พี่ตุลย์อย่างเซ็งๆ รู้ไหมครับประโยคของการฟังพี่คุณป้าฮาร์ดคอร์พูดอย่างหนึ่งคือ ผมเพิ่งรู้ว่าคนแก่เป็นพวกย้ำคิดย้ำทำและขี้ลืมครับ เอาจริงๆ ประโยคที่คุณป้าฮาร์ดคอร์พูดมาความยาวประมาณหนึ่งนาทีเศษๆ เท่านั้นแหละครับ แต่ป้าแกวนลูป พูดซ้ำไปมาจนตอนนี้ความยาวก็ล่วงเลยเข้าสู่วินาทีที่สิบแล้ว...


             “อย่ามายุ่งกับลูกชายฉัน!”

             “จบประโยค” พี่ตุลย์กระซิบบอกด้านหลัง “แม่ นี่เอส ที่เล่าให้ฟังครั้งก่อนไงว่ามาอาศัยอยู่ด้วย”

             “เอ๋? อย่ามาโกหกแม่ตุลย์ ถึงจะดูตัวใหญ่ไปหน่อยแต่นี่มันผู้หญิงชัดๆ!”

             “ก็ผมบอกแม่ไปแล้วไม่ใช่หรอตอนที่โทรบอกให้มาดูตอนต้นให้หน่อยเพราะว่าผมจะไปงานวันแม่ที่โรงเรียนที่หนึ่งกับคนที่ผมวานให้ปลอมตัวเป็นแม่ที่หนึ่งให้”

             “ก็บอกแล้ว...” คุณป้าฮาร์ดคอร์เริ่มพูดเสียงเบา

             “ก็เนี่ย เจ้าเนี่ยแหละครับ พอดีว่ามีปัญหานิดหน่อย ก็เลยต้องเอาผู้ชายมาแต่งหญิงน่ะครับ”

             “ละ แล้วทำไมไม่บอกแม่ให้เร็วกว่านี้!”


             โอ้โหหหห คุณป้าช่างกล้าถาม วินาทีแรกที่เปิดประตูปุ๊บคุณป้าก็เปิดศึกปั๊บแล้วจะเอาวินาทีไหนให้ผมกับพี่ตุลย์มาอธิบายละครับบบบ


             “อา...พี่ตุลย์ แม่พี่รู้จักผมด้วยหรอ?”

             “ตอนที่นายเข้ามาอยู่ใหม่ๆ ฉันโทรไปบอกแม่ด้วย แม่จำนายได้เพราะเป็นผู้ชายที่ไปโกหกว่าเป็นแฟนฉันไงตั้งแต่ตอนนู่น แม่ยังฝากมาขอโทษเลย จำได้ไหม?”   

             “อ๋อ” ผมลากเสียงยาว เหลือบมองคุณแม่พี่ตุลย์ที่มีสีหน้ากังวลปนทำตัวไม่ถูกก่อนจะปลดวิกผมออกโชว์ผมทรงบางระจันเวอร์ชั่นเริ่มยาวแล้ว “สวัสดีครับคุณน้า นี่คงเป็นครั้งแรกที่ผมกับคุณน้าทักทายกันจริงๆ จังๆ เลยนะครับ” ผมยิ้ม เข้าสู่โหมดเฟรนลี่เต็มตัว

             “อะ เอ่อ สวัสดีจ้ะ ขอโทษทีนะ ที่น้าเผลอ...” คุณป้าฮาร์ดคอร์พูดเสียงอึกอัก ทำตัวไม่ถูกเพราะตนเองเป็นผู้ใหญ่แต่ก็เพิ่งจะด่ากราดผมยาวร่วมสิบนาททีมา

             “ไม่เป็นไรครับ ผมก็ผิดเองที่ไม่อธิบาย แถมยังปากดีอีก ครั้งนู้นก็เหมือนกัน ผมขอโทษด้วยครับที่ลืมตัวเผลอโพล่งกวนคุณน้าออกไปแบบนั้น”

             “เรื่องนั้น...น้าก็เหมือนกัน กังวลบางเรื่องมากไปหน่อยก็เลยเผลอทำตัวเป็นผู้ใหญ่แย่ๆ แบบนั้น หลังจากที่หนูเอสไปแล้วตุลย์ก็อธิบายให้น้าฟังก็เลยฝากขอโทษผ่านตุลย์ไป แต่น้าว่ามันก็ไม่ดีเท่าไหร่ เลยต้องขอโทษเรื่องตอนนั้นด้วยนะจ๊ะ”

             “ไม่เป็นไรครับ~” ผมยิ้มกว้าง

             “แม่จะค้างหรือว่ากลับเลยครับ? ถ้าค้างผมจะได้ไปบอกเด็กๆ แต่ถ้ากลับเลยเดี๋ยวผมขับรถไปส่ง”

             “ขอค้างดีกว่า แม่เหนื่อยอะ พอลูกโทรมาแม่ก็รีบบึ่งมาที่นี่เลย”

             “โอเคครับ” พี่ตุลย์พูดพร้อมกับยิ้มจางๆ ให้แม่ของตนขณะที่กำลังจะเดินเข้าไปในห้องนอนของที่หนึ่ง คุณป้าฮาร์ดคอร์ (ที่ตอนนี้กลายเป็น R&B นุ่มคลาสสิคไปแล้ว) ก็เอ่ยเรียกเอาไว้ก่อน

             “แล้วตุลย์กับหนูเอสกินอะไรกันมาหรือยัง? ถ้ายังเดี๋ยวแม่ทำอะไรให้กินดีไหม?”

             “ได้ครับ” พี่ตุลย์หันมาตอบ ตั้งท่าจะเดินเข้าไปในห้องนอนของที่หนึ่งอีกแต่ผมรีบวิ่งมาขวางเอาไว้ก่อน

             “เดี๋ยวผมไปบอกเอง พี่อยู่กับแม่เถอะ”

             “ทำไมอะ?”

             “ทำไมอะไร? ผมขอเดาเลยนะ วันแม่พี่ก็ไม่ได้อยู่กับแม่หรอกใช่ไหม? ไหนๆ วันนี้แม่ก็มาหาแล้ว ก็อยู่คุยกับแม่หน่อยสิ เดี๋ยวที่หนึ่งกับตอนต้นไว้เป็นหน้าที่ผมเอง รับรองจะเล่นด้วยดี ไม่อันตรายไม่ใช้ท่ามวยปล้ำแล้วก็ไม่ดึงแก้มตอนต้นแรง สัญญา ไม่ดื้อ~” ว่าแล้วก็ตบไหล่ปุ๊ๆ

             “งั้นนายก็เดาผิดแล้วละ ขอโทษด้วยนะที่ภาพลักษณ์ของฉันทำให้นายคิดแบบนั้น แต่ฉันกับแม่รักกันดี เหนียวแน่น กลับไปไหว้วันแม่ทุกปีไม่มีพลาด ถึงแม้ว่าปีที่แล้ว ที่ตอนต้นเกิดจะไม่สะดวกไปหาแต่แม่ก็จะมาหาฉันที่นี่ในวันแม่อยู่ดี”

             “งะ...งั้นเหรอ” ผมหัวเราะเหอะๆ รู้สึกหน้าแตกยังไงพิกล แล้วยิ่งรู้สึกหนักขึ้นเมื่อพี่ตุลย์ตบไหล่ผมปุ๊ๆ เลียนแบบผมเมื่อครู่
             
             “กลับกัน ฉันว่าเป็นนายมากกว่ามั้ง”

             “หะ?”

             “ก็ตอนที่อยู่โรงเรียนกอดก็แล้วยังไม่หายทำหน้าเศร้าเลยนี่ เดี๋ยวฉันจะไปอยู่กับลูกฉัน นายก็ไปอยู่กับแม่ฉัน ให้ยืมแม่ดีไหมละ?”

             “เดี๋ยว”

             “โอเคตามนั้น” สิ้นคำพูดไอ้พี่ตุลย์ก็ใช้มือดันผมจนเซก่อนที่เขาจะเดินเข้าห้องของที่หนึ่งไปทิ้งผมเอาไว้ให้อยู่กับคุณป้าฮาร์ดคอร์กันสองคน


             ฉิบหาย!


             “ทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า? เห็นตุลย์ผลักซะแรงเลย”

             “อะ อ๋อเปล่าครับ พอดีว่าผมแค่ไม่ทันได้ตั้งตัวเฉยๆ ก็เลยเซง่ายน่ะครับ” ผมหัวเราะแห้งๆ ให้กับคุณแม่ของพี่ตุลย์ ทางฝ่ายนั้นเองก็ดูอึกอักไม่น้อยที่เหลือแค่ผมซึ่งเขาเพิ่งด่าแบบจัดหนักจัดเต็มไปอยู่ในห้องด้วย “คุณน้าบอกว่าจะทำกับข้าวใช่ไหมครับ? ให้ผมช่วยนะครับ”

             “อา โอเค เอาสิ แต่น้าว่าหนูเอสไปเปลี่ยนชุดก่อนดีไหมลูก? ใส่ชุดนี้น้าว่ามันดู...จัดเต็มเกินไป”


             ผมก้มมองตัวเองก่อนจะแทบร้องจ๊ากเมื่อเห็นว่าผมยังใส่ชุดเดรสลายดอกกุหลายอยู่ บอกขอเวลานอกกับคุณป้าฮาร์ดคอร์แล้วรีบวิ่งปรู๊ดเข้าห้องนอนเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างว่องไว...เอ่อ ก็อยากว่องไวอยู่ แต่ซิปด้านหลังชุดดูไม่อยากว่องไวด้วยเท่าไหร่เลย! แต่ในที่สุดหลังจากปล้ำอยู่กับซิปด้านหลัง หมุนตัวเหมือนกับหมาไล่งับหางอยู่ครู่ใหญ่ ผมก็ปลดชุดเดรสเจ้าปัญหาได้ในที่สุด พอออกมาเตรียมตัวจะไปช่วยงานเป็นลูกมือให้คุณป้าฮาร์ดคอร์ก็เห็นว่า ข้าวถูกหุงไปแล้ว และส่วนผสมก็ถูกหั่นและถูกตัดเรียบร้อย รอแค่น้ำมันเดือด และเทลงไปก็แค่นั้น


             “ขอโทษนะครับที่มาช่วยช้า พอดีว่าชุดมันถอดลำบาก” ผมพูดเสียงอ่อนพลางเดินเข้าไปในครัวที่มีผู้เป็นแม่ของเจ้าของห้องกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารอยู่

             “ไม่เป็นไร ชุดผู้หญิงมันค่อนข้างจะใส่ จะถอดลำบากแบบนั้นแหละ หนูเอสน่าจะเรียกให้น้าช่วย”


             ผมเกาจมูก รู้สึกเขินๆ แล้วก็ตะหงิดแปลกๆ ยังไงไม่รู้ที่คนเพิ่งด่าผมอยู่ร่วมสิบนาทีเมื่อครู่เรียกผมว่า ‘หนูเอส’ แต่ก็อย่างว่า เขาไม่ได้เกลียดอะไรผม ก็แค่เข้าใจผิดแล้วก็ระแวงเฉยๆ พอแก้ความเข้าใจผิดนั้นได้ มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะเรียกผมอย่างคนเกลียดชังนี่น่า แล้วอีกอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกคันๆ ในใจก็เพราะว่าไม่ค่อยมีใครเรียกผมว่า ‘หนูเอส’ ละมั้ง ส่วนใหญ่ก็เรียก ‘ไอ้เอส’ กันทั้งนั้น สุภาพหน่อยก็แค่เรียก ‘เอส’ แบบหยาบคายมากก็จะเป็น ‘ไอ้เหี้ยเอส’


             “แล้วคุณน้ามีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ? ผมทำกับข้าวไม่เป็น แต่ถ้าหยิบของส่งให้ผมทำได้นะครับ อยากช่วย”

             “งั้นเอสเอาน้ำใส่หม้อนี้ดีกว่านะ เอาน้ำแค่ถึงรอยนี้นะ แล้วก็เอามาตั้งที่เตาอีกข้างนึงที่ว่างต้มน้ำเดือด พอทำได้ไหม?”

             “ทำได้ครับ ทำได้” ผมรีบพยักหน้า หยิบหม้อรองน้ำต้มอย่างรวเร็วตามความเคยชิน เรื่องต้มน้ำนี่ผมเซียนมากอยากจะบอก เพราะต้มมาม่าในห้องพี่ตุลย์บ่อย


             หลังจากนั้นคุณป้าฮาร์ดคอร์ก็สั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อีกหลายอย่างจำพวกหยิบของ ตลอดเวลาที่ช่วยทำกับข้าวอยู่ด้วยกัน ผมไม่ค่อยได้ปล่อยมุขหรือพูดจาเฮฮาตามภาษาอะไรนักทั้งๆ ที่จริงผมเป็นพวกตีสนิทกับพวกผู้ใหญ่ง่าย (มาก) นะครับ ไม่ใช่เพราะผมอคติอะไรนะ แต่เพราะคำพูดของพี่ตุลย์ที่บอกว่าจะให้ยืมแม่นั่นแหละ ทุกครั้งที่ผมมองคุณป้าฮาร์ดคอร์หยิบจับนู่นนี่ ทำอาหาร ผมก็เผลอคิดขึ้นมาว่า ‘อ่า แม่ของผมเวลาทำอาหารก็คงจะเป็นอย่างนี้สินะ’ ทุกทีเลยสิหน่า


             “ทำเยอะเกินไปหรือเปล่านะ?” เสียงของผู้หญิงมีอายุพึมพำเบาๆ หลังจากที่กับข้าวทั้งหมดสี่อย่างพร้อมข้าวสวยถูกวางบนโต๊ะอาหารที่เพิ่งจะมีหน้าตาเหมือนโต๊ะอาหารจริงๆ ก็วันนี้แหละ

             “หมดอยู่แล้วครับ ถ้าพี่ตุลย์กินไม่หมดนะ เดี๋ยวผมกับที่หนึ่งช่วยกินเอง”

             “ที่หนึ่งเนี่ยนะ? เด็กนั่นกินยากจะตาย”

             “เดี๋ยวผมยัดเข้าปากให้เองครับ เป็นเด็กเป็นเล็กเลือกกินได้ไง พ่อผมสอนไว้”

             “ฮ่าๆ แปลว่าตอนเด็กๆ ก็โดนพ่อบังคับให้กินเหมือนกันสินะ”

             “ใช่ครับ เมื่อก่อนผมไม่ค่อยกินผัก พ่อผมล็อคคอจับยัดเลย ไปๆ มาๆ ก็เลยกินทุกอย่าง กินผักเยอะเป็นพิเศษก็เลยหุ่นดีแบบนี้เลย” แล้วผมก็เบ่งกล้ามให้คุณป้าฮาร์ดคอร์ดูไปหนึ่งทีเรียกเสียงหัวเราะจากหญิงสูงวัย

             “แต่น้าว่า หนูเอสผอมไปหน่อยนะ ไม่หน่อยแหละ น้าว่ามากด้วย พอแต่งหญิงน้าก็เลยเข้าใจผิดเลย แถมก่อนหน้าเจอหน้าหนูเอสจังๆ แค่ครั้งเดียวเองแถมยังเจอแป๊บเดียวด้วย พอมาแต่งหน้าใส่วิก ก็เลยยิ่งจำไม่ได้เข้าไปใหญ่เลย”

             ผมหัวเราะ “ผมใช้ชีวิตแบบวิธีนักสู้ครับ สู้ชีวิตไม่ค่อยได้กินแบบชุดใหญ่เท่าไหร่หรอกครับ”

             “ตุลย์ก็เคยเล่าเรื่องนี้ให้น้าฟังนะ ตอนนั้นน้าคิดว่าสุดยอดไปเลย เป็นเด็กแท้ๆ แต่กลับทำนู่นนี่นั่นได้ตั้งหลายอย่าง ทำงาน ใช้ชีวิตเพื่อเรียนหนังสือ แต่พอตุลย์เฉลยว่าเป็นเด็กที่พูดจาอวดดีเมื่อคราวก่อนน้านี่ยิ่งอึ้งเข้าไปใหญ่เลย”

             “ฮ่าๆๆ ไม่คิดว่าไอ้เด็กนั่น กับนักสู้ชีวิตมฤตยูจะเป็นคนเดียวกันสินะครับ

             “อะ ถูก~” ผมหัวเราะก๊ากออกมาเสียงดังกับท่าทางของอีกฝ่ายที่เลียนแบบท่าถูกต้องนะครับของคุณปัญญา ความรู้สึกตะขิดตะขวงใจค่อยๆ หายไป จนผมเริ่มกล้าจะทำตัวเกรียนแตกโป๊กฮากับแม่ของพี่ตุลย์ รู้ตัวอีกทีเราก็คุยสนุกสนานจนคุณป้าฮาร์ดคอร์นี่ถึงขั้นกระโดดกอดคอผมแล้วครับ!

             “ทำอะไรกันอยู่ครับ เสียงดังเข้าไปในห้องนอนของที่หนึ่งเลย?” พี่ตุลย์เดินคิ้วขมวดออกมาจากห้องนอนของลูกชาย แล้วยิ่งงงหนักมากขึ้นเมื่อเห็นผมกับแม่ของตนเองกำลังใช้พื้นที่วางในโต๊ะอาหารเล่นงัดข้อกันอยู่


             คุณป้าฮาร์ดคอร์มองหน้าผมเล็กน้อย ยิ้มกว้างจนใบหน้าที่มีแต่รอยย่นยิ่งย่นขึ้นไปอีก ก่อนจะหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดี


             “แม่เล่นกับเพื่อนอยู่ไม่เห็นไง?”

             “หะ เพื่อน?”

             “ใช่ไหม?” อีกฝ่ายหันมาถามผม

             “ว่าไงว่าตามกันสิครับ~”





















             หลังจากที่รับประทานกันจนเรียบร้อยโรงเรียนจีน คุณป้าฮาร์ดคอร์ก็ไล่ให้พี่ตุลย์ไปอยู่กับลูกๆ ที่หน้าทีวีส่วนตัวเองก็มาล้างจานซึ่งมีผมอาสาช่วยล้างด้วย แต่ถึงอย่างนั้นไม่รู้เพราะว่าคุณป้าฮาร์ดคอร์กลัวผมทำจานแตกหรือยังไง เลยเป็นเพียงแค่คนล้างน้ำแล้วก็เอาใส่ชั้นจานแค่นั้นเอง


             เฮ้ย ผมขออธิบายก่อนเลยนะ ถึงผมจะทำกับข้าวได้ไม่มาก ไม่อร่อย แต่ผมก็ล้างจาน กวาดบ้าน กรอกน้ำเป็นนะ!


             “นี่ หนูเอส”

             “ครับ?”

             “ตั้งแต่มาอยู่กับตุลย์ มีผู้หญิงคนไหนมาเกาะแกะเจาะแจ๊ะกับตุลย์มากจนผิดสังเกตบ้างไหม? ไม่ๆๆๆ มีใครมาเจาะแจ๊ะกับตุลย์บ้างไหม เล็กๆ น้อยๆ ก็เอาหมด เคยเห็นบ้างไหม?”

             “เอ่อ...” ผมมองบนพลางนึก จำได้ว่าตอนที่เคยไปที่ทำงานของพี่ตุลย์ ถ้าสังเกตดีๆ ก็มีคนชอบมองพี่แกอยู่หรอกนะ แต่ก็ไม่เห็นใครเข้ามายุ่มย่ามจริงๆ จังๆ เลยสักนิด อารมณ์เหมือนพวกรุ่นน้องปลื้มรุ่นพี่ม.6 อะไรประมาณนั้น “ก็มีนะครับ แต่ไม่มากเท่าไหร่ ผมเองก็ไม่แน่ใจ แต่ผมเคยเห็นแค่คนเดียวเองครับ”

             “ใครหรอ?” ผมกลืนน้ำลายเอือกเมื่อเห็นท่าทางของแม่พี่ตุลย์ ทั้งใบหน้าและน้ำเสียงเหมือนคนที่พร้อมจะเข้าไปหาเรื่องกับผู้หญิงที่ผมเอ่ยชื่อได้แทบจะในทันที

             “แต่เขาคงเป็นแค่เพื่อนแหละครับ ผมเคยถามพี่ตุลย์แล้ว แต่พี่ตุลย์บอกว่าเป็นเพื่อนกัน เป็นเพื่อนกันมาตั้งหลายปีแล้วน่ะครับ” ผมรีบพูดเลี่ยงทันทีพร้อมใช้รอยยิ้มตบท้าย


             นี่ถ้าได้เจอพี่สาวพลอยไพลินอีกเมื่อไหร่ จะให้ระลึกบุญคุณอยู่เจ็ดวันเจ็ดคืนเลยจริงๆ


             “อ๋อ ถ้างั้นก็แล้วไป”


             ผมหัวเราะแห้งๆ ก่อนที่ต่างฝ่ายต่างก้มหน้าก้มตาช่วยกันล้างจานกันต่อไป


             “...”

             “...”

             “...คุณน้าครับ”

             “หื้ม?”

             “คุณน้าหวงพี่ตุลย์น่าดูเลยนะครับเนี่ย”

             แม่ของพี่ตุลย์เงียบไป แต่มือก็ยังคงขัดถูจานอยู่อย่างนั้นราวกับกำลังชั่งใจอะไรบางอย่าง “ไม่ได้หวงหรอก เรียกว่าเป็นห่วงมากกว่า”

             “เอ๋? ทำไมหรอครับ? พี่ตุลย์ก็โตแล้วนะครับอีกไม่กี่เดือนก็สามสิบ แถมมีลูกตั้งสองคน โตเป็นผู้ใหญ่แล้วอีกต่างหาก”

             “ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แต่เพราะตุลย์เป็นคนจริงจังน่ะ จริงจังจนเกินไป นั่นแหละถึงทำให้น้าเป็นห่วง ตอนที่ตุลย์ย่ำแย่ไม่มีใครเห็นหรอก แต่น้ากับพ่อของตุลย์เขาเห็น ไม่มีใครอยากให้ลูกตัวเองตกอยู่ในสภาพนั้นอีก น้าถึงกังวลมากยังไงล่ะ กังวลว่าจะเกิดแบบนั้นขึ้น น้าถึงต้องระวังทุกคนที่เข้ามาหาตุลย์แทนตัวของตุลย์เอง”

             “ผมถามได้ไหมครับว่าพี่ตุลย์ไปเจออะไรมา?” ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง หยิบจานจากมือของอีกฝ่ายมาล้างแล้วเก็บเข้าชั้น “แต่ไม่บอกก็ได้นะครับ ถ้ามันเป็นเรื่องที่บอกไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ผมก็ไม่ได้อยากสอดรู้ขนาดนั้น”

             “มันมีไม่กี่เรื่องหรอกที่ทำให้คนเราเป๋ได้” แม่ของพี่ตุลย์หันมายิ้มจางๆ ให้ผม “ไม่เรื่องของครอบครัว ก็เรื่องของความรัก
             
             “...เรื่องแม่ของที่หนึ่งกับตอนต้นหรอครับ?”

             “จ้ะ เฮ้อ แต่ช่างมันเถอะ น้าเองก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องเก่า เรื่องอดีตก็ปล่อยๆ มันไปอย่าไปสนใจเลยนะหนูเอส” คุณป้าฮาร์ดคอร์ตบไหล่ผม ล้างมือที่เปื้อนไปด้วยฟองน้ำยาล้างจานก่อนจะไปหาหลานและลูกชายที่นั่งอยู่บนโซฟา ทิ้งผมเอาไว้ให้ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม


             ครอบครัวนี่มันเหมือนกันจริงๆ ทั้งแม่ทั้งลูก ถ้าคิดจะเปิดปากเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วก็เอาให้หมดสิฟะ จะกั๊กเพื่อ? นี่ไม่ใช่โคนัน ไม่ชอบเล่นปริศนาทายคำนะรู้ยัง ฮือ


             “เรื่องอดีตก็ปล่อยๆ มันไปอย่าไปสนใจเลยนะหนูเอส”

             แล้วมันไม่สนใจได้ที่ไหนกันนนนนนน






TBC
หวานก็ต้องหวาน งานปลดปมก็ต้องมา ซีเรียสกันนิด เฮฮากันหน่อยไม่ว่ากันนะเอ้าา~
#daddybelover

สปอย
' ฉันเป็นผู้ชายที่โดนทิ้งจากผู้หญิงคนเดิม 'สาม' ครั้ง '

.
.
.
.
.
' นี่ก็ลวนลามจัง เป็นอะไรกันยังถามจริง ? '
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 01-08-2015 16:17:20
เมื่อไหร่พี่ตุลย์จะพูดว่า

"เป็นแฟนกันไง" ซะทีเนี่ย  :z3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 01-08-2015 16:22:06
พอคุณแม่พี่ตุลย์รู้ตัวว่าปล่อยไก่ออกมาตัวเบ้อเริ่ม ก็เปลี่ยนท่าทีเป็นขวยเขินเอสเลยนะค้าา :laugh:

จากสปอยล์ หลังจากที่ถูกทิ้งมาตั้งสามครั้งก็จำไว้เป็นบทเรียนก็แล้วกันนะคะพี่ตุลย์ ครั้งที่สี่ ห้า หรือหกจะได้ไม่ตามมาอีก..
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 01-08-2015 16:24:09
เอสนี่ถึวจะดูกวนๆ แต่น่ารักน่าเอ็นดูเนอะ. เด็กน้อยเอ้ยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 01-08-2015 16:40:05
น้องเอสเป็นคนตลก :laugh:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 01-08-2015 16:42:19
แม่พี่ตุลย์สุดสุดมาก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 01-08-2015 16:47:01
:m20: จากคุณป้าฮาร์ดคอร์ กลายเป็นคุณป้า R&B  เอสเข้าใจคิดดีอ่ะ

คุณแม่พี่ตุลย์ประมาณว่าต่อยคนให้สะใจก่อน แล้วค่อยถามว่าเอ็งเป็นไปใครว่ะ เราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า เล่นพูดไม่เว้นช่องให้คนอื่นได้พูดเลย




หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-08-2015 17:28:45
นักสืบเอสทำงาน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 01-08-2015 17:29:05
 :m20: :m20:จากคุณป้าฮาร์ดคอร์เปลี่ยน
ไปเป็นคุณป้านุ่มนวลคลาสสิค
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 01-08-2015 17:48:13
 :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 01-08-2015 18:01:03
คุณป้าคงไปฝึกร้อง R&B มาเยอะแน่อ่ะ
ถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้  :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Tsumsome ที่ 01-08-2015 18:54:46
แม่ผัวกับลูกสะใภ้ อุ๊บ!!!! แม่พี่ตุลย์กับเอสก็เขเาใจกันแล้ว  o13
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Babylon ที่ 01-08-2015 19:01:11
ขอบคุณคนแต่งมากเลย เอารูปน้องเอสมาให้ฟิน อ่านแล้วดูแล้วก็ฟินมันไปยาวๆ 5555 ชอบอะ :mc4: :mc4:

พี่ตุลย์ปมอย่างเศร้า ว่าแต่ ไปลวนลามอะไรอะคะพี่ตุลย์ น้องเอสสมยอมรึยัง :hao6:
หัวข้อ: รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 01-08-2015 19:17:41
คุณป้า R&B จะเป็นอุปสรรคในความรักของน้องเอสกับพ่อตุลย์ไหมนิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 01-08-2015 19:39:48
นุ้งเอสน่ารัก คุณแม่ก็น่ารัก แล้วเมื่อไปร่พี่ตุลย์จะรักสักที   :กอด1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 01-08-2015 19:40:08
คุณแม่ขาาา มาทำให้อยากรู้แล้วจากไปทำไมค้า ทำไมไม่เล่าให้หนูเอสฟังให้หมดล่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 01-08-2015 20:27:14
คุณแม่(ฮาร์ดคอ)จัดหนักมากกกก 5555
ดีนะที่สุดท้ายก้อดีกันได้ สนิทสนมกลมเกลี่ย หุหุ
อยากเผือกเรื่องแฟนเก่าพี่ตุลย์มากๆอ่ะบอกเรย
> {       } <
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 01-08-2015 20:48:04
เอส นายแจ๋วมาก ได้(ว่าที่)แม่สามีเป็นเพื่อนด้วย หึๆๆๆๆ :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 01-08-2015 20:59:55
ค้างๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 01-08-2015 21:11:22
คุณแม่กะเอสหมดประเด็นไปเลยเมื่อเจอสปอยส์ :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 01-08-2015 21:23:10
เอสเป็นมิตรกับทุกคน
ทั้งเพื่อนเล่นที่หนึ่ง ทั้งเพื่อนคุณแม่พี่ตุล ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 01-08-2015 21:29:48
พี่ตุลย์ขอเอสเป็นแฟนเลยจะได้จำปล้ำซะ อิอิ รอนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 01-08-2015 21:43:08
ขุ่นแม่เห็นแบบนี้แล้ว รีบไปสู่ขอเขาสิคะ!!!  คนจริงจัง จริงใจ ขยัน อดทน รักเด็ก(?) สู้ชีวิต(??) แบบออลอินวันอย่างเอสเนี่ย หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วนะเอ้อ!!!!!!!! :katai3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 02-08-2015 01:44:45
ตอนนี้คิดว่าจะเป็นศึกอภิมหาสงครามทำลายล้างระหว่างว่าที่แม่ผัวและลูกสะใภ้
ปรากฏว่า
ดีงามมากค่ะ มาเล่นงัดข้อกันเฉยเลย! 555
เห็นเข้ากันได้ดีแบบนี้ก็ดีใจแล้ว แต่ปมของพี่ตุลย์แกน่าจะหนักอยู่นะ ตอนหน้ามีลุ้นแฮะ
แต่ฉันขัดใจกับแกเหลือเกินตุลย์ (สรรพนามเริ่มเปลี่ยนละ) ทำไมไม่ขอน้องแม่งเป็นแฟนซะทีวะ ได้ข่าวว่าชอบลวนลามด้วยไม่ใช่เหรอ! (อย่าเฉลยตอนหน้านะคะว่าคดีพลิก เป็นไอ้เอสที่ไปลวนลามซะเอง กรี๊ดดดดดด)
ปล.รอตอนต่อไปอยู่นะคะ มาต่อๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 02-08-2015 01:54:06
เอสสสสสสสสสสสส  แรดอ่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 02-08-2015 02:01:27
ตอนนี้อบอุ่นดี เอสน่ารักกก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 02-08-2015 09:29:20
คุณแม่ติดน้องเอสอีกคนแล้ว~
ตอนหน้าจะคลายปมแม่เด็กๆรึเปล่าน๊า~~
แล้วเมื่อไหร่จะคบกัน 5555 เอสนี่ก็ฮาเสมอต้นเสมอปลาย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 02-08-2015 12:00:38
ผู้หญิงไม่รักก็หันมารักกับหนูเอสนี่แหล่ะ เอาเลย ยกให้!!!!!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 02-08-2015 13:08:17
เรื่องในอดีตของพี่ตุลย์คงเศร้าแน่เลยงะ :(

รอตอนหน้าๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 02-08-2015 13:29:31
หนูเอสสสสสส






คุณแม่พี่ตุลย์ น่ารักที่สุด







ยินดีกับไอ้เอส จะมีครอบครัวเป็นของตัวเองแร๊นนนนนน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 02-08-2015 21:28:40
 o13
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 02-08-2015 22:52:49
น้องเอสดูเข้ากับแม่สามีได้นะคะ อุปส์ 5555555555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 02-08-2015 22:52:53
สปอยได้เจ็บปวดที่สุด

รอตอนต่อไป

ว่าแต่ เอส ไปเช็คหูด้วยนะ โดนชุดใหญ่เลย5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 27 (01/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: onekiss ที่ 03-08-2015 12:34:42
 :-[ :-[ :-[
อ้ายยยยยแม่ผัวลูกสใภ้
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 04-08-2015 23:52:58
ตอนที่ 28





                 เพราะว่าพี่ตุลย์ไปตกลงกับคุณป้าฮาร์ดคอร์เอาไว้ วันนี้ห้องคอนโดขนาด 30 ตารางเมตรที่อัดแน่นไปด้วยผู้ชายวัยสมบูรณ์สองคน เด็กวัยกำลังโตหนึ่งคน และหมูที่สมบูรณ์เกินไปอีกหนึ่งตัว (?) จึงมีผู้หญิงสูงวัยอีกหนึ่งคนมานอนด้วยในวันนี้ แต่ห้องนอนมีเพียงแค่สองห้อง ซึ่งห้องนึงเป็นของที่หนึ่ง  และอีกห้องเป็นของพี่ตุลย์ ที่มีตอนต้นและผมร่วมห้องอยู่ด้วย


                 ลองทายสิครับคุณป้าฮาร์ดคอร์จะไปนอนห้องใคร


                 ...


                 นอนห้องพี่ตุลย์ไง ทาด๊าาา~


                 อันกันเข้าไปเลย ผู้ใหญ่สามคนกับหมูอีกหนึ่งตัว ดี๊ดี (ประชด)


                 คือคุณป้าฮาร์ดคอร์เขาเป็นห่วงตอนต้นมากกว่าครับ เพราะเด็กวัยนี้ชอบตื่นมาดึกๆ เขาก็เป็นห่วงลูกชายของเขาต้องสะดุ้งตื่นมาดูลูก ก็เลยมานอนด้วยจะได้ช่วยดูแลหลานครับ และนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเตียงใหญ่ของพี่ตุลย์ตอนนี้ถึงมีร่างของคุณป้าฮาร์ดคอร์นอนแผ่หลาอยู่


                 อะ! อันนี้เก็ท คุณเก็ท ผมเก็ท


                 แต่ที่ไม่เก็ท...


                 “ที่นี่แคบเหมือนกันนะ นายนอนลงไปได้ไงเนี่ย”

                 “ตอนแรกก็ไม่แคบหรอก แต่พอพี่ลงมานอนเบียดมันก็แคบสิเฮ้ย!” ผมพูดเสียงเหี้ยมลอดไรฟัน แต่ก็ต้องปรับวอลุ่มให้เบาเพื่อป้องกันแม่และลูกของพี่ตุลย์ตื่น


                 ใช่ครับ บนเตียงมีคุณป้าฮาร์ดคอร์อยู่ แล้วแทนที่แม่ลูกจะนอนกอดกันย้อนวัยไปตอนสิบห้า แต่ไอ้พี่ตุลย์กลับลงมาเบียดผมซะงั้น แล้วที่นอนผมบนพื้นอะ ความกว้างแค่ 3.5 ฟุต! ชิดกำแพงและชิดเตียง แล้วผมกับพี่ตุลย์ตัวขนาด 180 ทั้งคู่ แล้วอีกคนแม่งตัวหนากว่าอีก สรุป โคตรเบียด โคตรแน่น!


                 แล้วก่อนหน้านี้ผมจะไปนอนโซฟาก็ไม่ยอม บอกว่าโซฟามันยุบอยู่ที่นึงนอนไปเดี๋ยวปวดหลัง พอบอกว่าไม่เป็นไรนอนพื้นหน้าทีวีก็ได้ก็บอกว่าแข็งไม่มีผ้าปูนอนรองแล้ว เอาจริงๆ คือผมไม่ซีเรียสซักอย่าง แต่นั่นแหละครับปัญหาของผมมันไม่หนักที่ผมครับ มันไปหนักที่ไหล่ไอ้พี่ตุลย์มัน ก็เลยฮึดฮัดยังกับเดือดร้อนไปด้วย


                 “อย่าบ่นหน่า ฉันไม่อยากจะไปนอนเบียดแม่ อยากให้นอนสบายๆ”

                 “คนบ่นมันก็พี่นั่นแหละ” ผมพ่นลมหายใจออกมาทางจมูกอย่างหงุดหงิด ตั้งแต่เกิดมาครั้งนี้แหละที่ผมนอนประหยัดพื้นที่มากที่สุด ตะแคงข้างแขนขาเหยียดตรง หน้าชิดกำแพงประหนึ่งแพลงกิ้งสไตล์ใหม่ “ให้มันได้อย่างนี้สิ วันนี้”

                 “...หงุดหงิดหรอไง? ถ้างั้นเดี๋ยวฉันไปนอนที่หน้าทีวีก็ได้” พี่ตุลย์ว่า ตั้งท่าจะเหมือนจะลุกไปจริงๆ ผมเลยรีบพลิกตัวกลับมาแล้วคว้าอีกฝ่ายไว้เสียก่อน

                 “ไม่ต้องอะ ถ้าพี่ไม่ให้ผมนอน แล้วผมจะให้พี่ไปนอนได้ไง แล้วอีกอย่างพี่ก็เป็นเจ้าของห้องด้วย”

                 “...”

                 “....นอนเนี่ยแหละ ทำตัวเล็กๆ หน่อยก็พอ”

                 “มันทำได้ที่ไหนกันเล่า” เสียงทุ้มพูดเสียงอ่อน รอยยิ้มเล็กน้อยที่ประดับขึ้นบนใบหน้านั้นทำให้ผมรู้สึกเขินขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก พลิกตัวไปอีกด้านหันหลังให้อีกฝ่ายแสร้งหงุดหงิดตามเดิม

                 “นอนได้แล้ว พรุ่งนี้ผมมีเรียนเช้า พี่เองก็ต้องไปทำงานเหมือนกัน”

                 “อื้อ” พี่ตุลย์ขานตอบ ผมค่อยๆ หลับตาหลงเตรียมตัวจะเข้าสู่ห้วงนิทราบ้าง แต่ก็ต้องเบิกจาโพล่งขึ้นมาอีกเมื่อรู้สึกถึงแรงสะกิดที่ไหล่

                 “อะไร?” ผมหันไปเฮ้ว

                 “ไม่บอกฝันดีหรอ?”

                 “หะ? ทำไมต้องบอก? ผมกับพี่ไม่เคยบอกฝันดีกันเลยนะ”

                 “งั้นวันนี้ก็เริ่มบอกได้แล้ว”

                 “แล้วทำไมผมต้องบอกด้วยอะ ถ้าไม่บอกแล้วจะฝันร้ายหรอไง?” ผมว่า ขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด พลิกตัวกลับมาประจันหน้ากับพี่ตุลย์ ก่อนจะชะงักกับความใกล้และลมหายใจร้อนๆ ของอีกฝ่ายรดลงบนใบหน้า อึ่ย! ดีนะที่ปิดไฟ เพราะไม่งั้นหน้าผมอาจจะแดงทะเลอทะล่าออกมาก็ได้

                 “บอกฝันดีฉันมาเดี๋ยวนี้”

                 “เอออออ โอเคๆ ฝันดีครับ พอใจยัง? นอนได้แล้ว” ผมพูดเสียงห้วนพลิกตัวกลับ หันหลังให้อีกฝ่ายตามเดิม

                 “...” พอเห็นว่าพี่ตุลย์ไม่พูดเอออออะไรอีก ผมก็ค่อยๆ หลับตาลงเตรียมจะเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง...

                 “นี่ เอส”

                 “อะไร!” ผมหันไปตะคอกเสียงเบาใส่ทันที คราวนี้ผมพลิกไปประจันหน้าเลย ไม่ขงไม่เขินแม่งแล้ว ไม่รู้หรอว่าคนเราจะยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นท่าถูกปลุกตอนที่กำลังจะนอน!

                 “ฉันขอโทษเรื่องแม่ด้วยนะ ที่ว่านาย แล้วนายยังต้องแบ่งที่นอนให้ฉันอีก”

                 “!” ผมอึกอักไปกับน้ำเสียงจริงจังของอีกฝ่าย ใช้เล็บขูดหมอนจนเกิดเสียงเบาๆ แก้อาการทำตัวไม่ถูก “ก็...ไม่เป็นไรหรอก เรื่องที่ด่าผม ผมคุยกับแม่พี่แล้ว เขาบอกว่าห่วงพี่มากเกินไป ผมก็เข้าใจ ไม่ได้ติดใจอะไร”

                 “ห่วงฉัน?”

                 “ใช่สิ”

                 “ห่วงอะไร?”

                 “ผมจะไปรู้กับแม่พี่หรอ? พี่เคยแหลกเหลวเรื่องครอบครัวหรือเรื่องความรักให้แม่กับพ่อของพี่เห็นหรือเปล่าละ ถ้าเห็นแม่พี่เขาก็คงห่วงเรื่องนั้น ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก”

                 “อ๋อ...” พี่ตุลย์ลากเสียงในลำคอ ก่อนที่ผมจะได้ยินเสียง ‘หึ’ ออกมาเบาๆ “เรื่องไร้สาระ ห่วงไม่เข้าเรื่องจริงนะ”

                 ผมเงียบ กรอกตาไปมาในความมืดอย่างลังเลก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถามในที่สุด “แม่พี่ห่วงเรื่องอะไรอยู่หรอ? เล่าให้ฟังหน่อยดิ” 

                 “เรื่องไร้สาระหน่า อย่าไปสนใจเลย แค่อาการวิตกของคนมีอายุแหละ”

                 “...” ผมเงียบ ถ้าไฟเปิดไอ้พี่ตุลย์คงเห็นแล้วว่าผมจ้องเขม็งและกำลังไม่พอใจ พอเป็นเรื่องของตัวเองทีไรแม่งไม่เคยเล่า ให้รู้อะไรแบบครึ่งๆ กลางๆ งี้ตลอด ชักจะขึ้นแล้วว่ะ ขึ้น! “ไม่ต้องอ้อมเลย พูดตรงๆ เลยว่าไม่อยากเล่า แค่นั้น!”


                 พรึ่บ!


                 ผมพลิกตัวหันหลังให้ ขยับตัวชิดกำแพงมากขึ้นสะบัดผ้าห่มที่คลุมตัวอยู่ออกแล้วยัดเอาไว้ในช่องว่างระหว่างผมกับไอ้พี่ตุลย์ ให้รู้ชัดไปเลยว่า หงุดหงิด! ช่างแม่ง ไม่เล่าก็ไม่ต้องเล่า นี่ไม่ได้งอนนะ อ่านปากณัชชา นี่-ไม่-ใช่-อาการ-งอน!


                 “เดี๋ยว...อะไร? โกรธหรอ?”

                 “...”

                 “มันแค่เรื่องเล็กน้อยหน่า ไม่น่าสนใจหรอก แม่ก็ห่วงมากเกินไปก็แค่นั้น”

                 “...”


                 ถ้ามันเล็กจริง พูดออกมามันจะตายไงวะ?


                 “เอาจริงดิ?”

                 “...”

                 “นี่หลับหรือเปล่า?”

                 “...”

                 “เฮ้อ...” มีการถอนหายใจใส่ด้วย! ผมหลับตาเตรียมตัวนอนเลยครับ ช่างมันเลยยยย ไม่อยากให้รู้ก็ไม่รู้ก็ได้ ปิดบังผมแม่งให้หมดทุกเรื่องนั่นแหละ! “อยากรู้ความผิดพลาดในชีวิตของฉันขนาดนั้นเลยหรอไง? หื้ม เอส ก็บอกอยู่ว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรก็แค่...ฉันเป็นผู้ชายที่โดนทิ้งจากผู้หญิงคนเดิม 'สาม' ครั้ง”

                 “...จากใครอะ?”

                 “นึกว่าหลับไปซะแล้ว”

                 “ถ้าหลับ แล้วจะคุยแบบนี้กับพี่ได้หรอไงละ เอาๆ อย่าเบี่ยงประเด็น ตอบมา ใครหรอผู้หญิงคนนั้นน่ะ?”

                 “ต้องเล่าอีกหรอ?”

                 “ก็พูดขึ้นมาแล้ว มันก็ต้องเอาให้สุดสิ!”

                 “ฉันง่วงแล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปทำงานอีก นอนๆ”

                 “พี่ตุลย์!” ผมพลิกตัวกลับมาประจันหน้า เขย่าตัวคนที่หลับตาไปแล้ว และถ้ายังไม่ตื่นนะจะเรียกไอ้แล้วอะจริงๆ! “โอเคๆ ไม่ต้องเล่าก็ได้ แต่บอกหน่อยดิ ว่าคนที่อกหักพี่ทั้งหมดสามครั้งนั่นอะ ใช่...แม่ที่หนึ่งกับตอนต้นปะ”

                 อีกฝ่ายลืมตาขึ้นหนึ่งข้าง “ทำไมคิดงั้นอะ?”

                 “ง่ายมาก เพราะในชีวิตพี่น่าจะไม่มีผู้หญิงในชีวิตเยอะอะดิ อิอิ โอ๊ย!” ผมร้องลั่นเมื่อไอ้พี่ตุลย์ดึงหูอย่างแรง ไม่พอแม่งเอามือมาตะปบหน้าผมอีก! เข้าใจว่าต้องการปิดปากไม่อยากให้แม่กับลูกตื่น แต่ช่วยทำแบบถนอมหน่อยได้ไหม!

                 “ดูถูกฉันมากไปหรือเปล่า?”

                 “เอ้า ถ้ามันไม่ใช่ก็บอกมาดิว่าใคร แต่แป๊บนะ! เดี๋ยวไปหยิบของก่อน” ผมลุกพรวดพราดหยิบสมุดจดและดินสอก่อนจะเดินกลับมานั่งขัดสมาธิพร้อมฟังและจดเล็คเชอร์ตั้งใจสุดอะไรสุด “พร้อมละ เล่ามาได้”

                 “...”

                 “เล่าๆ” ผมใช้นิ้วโป้งเท้าสะกิดคนที่ยังนอนอยู่ยิกๆ แต่ไอ้พี่ตุลย์พลิกตัวหันหลังให้ผมเฉย ตัดจบบทสนทนาไปเสียดื้อๆ จนผมเผลอเรียกเสียงหลง “ไม่ทำงี้ดิ”

                 “...”


                 ผมเกาหัวแกร๊กๆ พอเห็นว่าพี่ตุลย์ไม่ตอบสนองเลยสักนิด จะตื้อต่อก็ดันรู้สึกกังวลใจขึ้นมาว่าพี่ตุลย์โกรธไปแล้วหรือเปล่าที่ผมทำท่ากระตือรือร้นอยากรู้เรื่องที่เขาโดนหักอกมากเกินไป เออว่ะ...ถ้าตอนนั้นทำให้พี่เขาย้ำแย่จนแม่ต้องเป็นห่วงขนาดนี้ มันก็คงไม่ใช่เรื่องที่ผมจะเอามาทำเล่นๆ ได้สินะ


                 “...ขอโทษนะ”

                 “...”


                 ผมเม้มปากแน่นเมื่อเห็นว่าพี่ตุลย์ไม่ตอบรับคำขอโทษผมด้วยซ้ำ จะบอกว่าหลับไปแล้วก็ไม่ใช่เพราะผมรู้สึกอยู่ว่าเมื่อกี้พี่เขาขยับตัว ผมส่งเสียงอื้อในลำคอเบาๆ รู้สึกอึกอักขึ้นมาจนรู้สึกทำตัวไม่ถูก อยากจะขอโทษอีกรอบก็กลัวพี่ตุลย์ยิ่งหงุดหงิด จึงตัดสินใจวางสมุดไว้ข้างหมอนก่อนจะล้มตัวลงนอนหันหลังให้กับอีกฝ่ายเช่นกัน


                 หมับ...


                 ผมเหลือบมองแขนและขาที่พาดเกยมาบ่นตัว ไม่รู้จะยิ้มหรือจะถอนหายใจก่อนดี แต่ในใจกับรู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก


                 “สรุปไม่ได้โกรธอยู่หรอไง?”

                 “ไม่ได้บอกสักหน่อยว่าโกรธ”

                 “ก็เห็นหันหลังให้ พูดขอโทษแล้วก็ไม่หือไม่อือ”

                 “ก็บอกอยู่ว่าง่วง”

                 "หรออออ” ผมลากเสียงยาวกวนประสาท แต่ไอ้พี่ตุลย์ก็มีเพียงเสียงหัวเราะหึในลำคอตอบกลับมาเท่านั้นกลับแขนที่กระชับผมให้เข้าไปใกล้มากขึ้น จนหลังแทบจะแนบชิดอยู่กับบางอย่างที่ร้อนผะแผ่ว ความรู้สึกของอะไรบางอย่างที่เต้บตุ๊บอยู่ด้านหลัง ทำให้หัวใจของผมที่สงบนิ่งก็เริ่มบ้าคลั่งขึ้นมาเช่นกัน “ปล่อยหน่า อึดอัด”

                 “ก็มันไม่มีหมอนข้างนี่หน่า แม่เอาไปแล้ว” เสียงนั่นอยู่ใกล้หูมากกว่าที่เคย ลมร้อนที่รู้สึกจากอีกฝ่ายค่อยๆ แผ่กระจายไปทั่วร่าง


                 ฉิบ..หายแล้ว


                 กะ ใกล้ไป


                 “พี่ก็เอาผ้าห่มไปกอดก่อนไป! ปล่อยผม อึดอัด มันร้อนนอนไม่หลับ”

                 “อดทน เป็นผู้ชายก็อดทน หลับตาไปเดี๋ยวก็หลับเองแหละ”

                 “ก็บอกอยู่ว่านอนไม่หลับ ปล่อยดิ!” ผมกดเสียงเข้ม ขยับตัวดีดดิ้นพอเป็นพิธี (?) แต่ไอ้พี่ตุลย์ก็ทำหูทวนลมไม่รับรู้ไม่พอยังแสร้งทำเสียงกรนใส่อีก จนผมต้องจิ๊ปากอย่างขัดใจ “นี่ก็ลวนลามจัง เป็นอะไรกันยังถามจริง?”

                 “ต้องเป็นอะไรกันเท่านั้นหรอไงถึงจะแตะได้”

                 “ก็เอออะดิ มันควรจะเป็นเรื่องปกติดิครับ ผมไม่ใช่รูปปั้นนะที่ไม่ว่าใครก็จะมาแตะตัวได้หมดอะ” ผมพลิกตัวไปหาอีกฝ่าย และเป็นระยะที่ใกล้มากจนมองเห็นแววตาของพี่ตุลย์ได้ในความมืด และบางอย่างก็ทำให้ผมรู้สึกตัวว่านานแล้วที่ผมกับเขาไม่เคยได้คุยเรื่องของ ‘เรา’ กันบ้างเลย “นี่ พี่ลืมไปยังว่าผมบอกชอบพี่ไปแล้ว?”


                 พี่ตุลย์สบตาผมนิ่ง ราวกับทดสอบความจริงจังที่ผมมีอยู่ และตอนนี้เขารู้แล้วว่าผมไม่ได้กำลังล้อเล่น เขาถอนหายใจ แขนอีกข้างที่ไม่ได้พาดอยู่บนเอวผมถูกสอดไว้ใต้หัวของเขา ขยับท่าทางให้พร้อมคุยมากขึ้น


                 “พรุ่งนี้ทั้งฉันทั้งนายต้องตื่นเช้าแท้ๆ แต่วันนี้เราคงจะไม่ได้นอนแล้วแหละ”

                 “...”

                 “...ฉันยังไม่ลืม”

                 “แล้วพี่มีคำตอบให้ผมยัง? จริงอยู่ที่ตั้งแต่วันนี้ผมไม่พูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก แต่ไม่ใช่เพราะผมไม่ใส่ใจหรอก แต่ผมไม่อยากจะเร่งเร้า..ทั้งพี่และตัวของผมเอง ผมอาจจะเล่นไปเรื่อย ดูไม่จริงจังกับเรื่องไรเลย แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ ผมรอ...ผมรอคำตอบของพี่อยู่นะ” เสียงผมสั่นราวกับนั่นไม่ใช่เสียงของตัวเอง


                 ทั้งๆ ที่ควารจะเขินอายเพราะกำลังพูดในเรื่องที่ตัวผมไม่ชิน แต่ความรู้สึกกดดัน อึดอัดกลับอัดแน่นอยู่ในอกของผมมากกว่า

                 
                 “คนที่รอมันไม่ใช่นาย แต่เป็นฉันต่างหาก”

                 “หะ?”


                 พี่ตุลย์ดึงแขนที่พาดอยู่บนเอวผมกลับ พลิกตัวนอนหงายประสานมือไว้หลังศีรษะมองฝ้าเพดานสีขาวอย่างใช้ความคิด


                 “ฉันรอให้นาย ‘รัก’ ไม่ใช่ ‘ชอบ’ ฉันต่างหาก”

                 “!”


                 อะ ไอ้พี่ตุลย์กำลังพูดอะไร...


                 “ฉันไม่มีอนาคต ไม่มีความรู้สึกอะไรให้กับคนที่เพียง ‘ชอบ’ ฉันหรอก แต่ฉันมีให้กับคนที่ ‘รัก’ ฉัน และนี่ฉันก็กำลังรอให้นายเป็นคนนั้นอยู่ เป็นคนที่รักฉัน

                 “!”

                 “ขนาดห้องมืดขนาดนี้ แต่ฉันคิดว่านายต้องหน้าแดงอยู่แน่ๆ”

                 “มะ มันก็ต้องแดงสิ! ก็พี่พูดอะไรของพี่เนี่ยเป็นผู้ชายหน้าไม่อายหรอไง” ผมเผลอพูดเสียงดัง ก่อนจะหลบตาวูบพูดเสียงอุบอิบด้วยความขวยเขินในตอนท้าย ความร้อนวูบวาบไปทั่วใบหน้าจนปวดหัวจี๊ด วินาทีนี้เนี่ยแหละที่ผมเพิ่งเข้าใจว่า เขินจนควันออกหูมันเป็นยังไง


                 ทั้งๆ ที่ผมก็เป็นผู้ชาย และพี่ตุลย์ก็เป็นผู้ชาย แล้วทำไมถึงต้องเป็นผมที่มีความรู้สึกเหมือนสาวน้อยแบบนี้ด้วยวะเนี่ย

                 
                 “หน้าไม่อายอะไร? ก็นายเป็นคนเริ่มก่อนเอง”

                 “นอนไปเลยไป ไม่คุยด้วยแล้ว!”

                 “เอาแต่ใจชะมัด นึกอยากคุยก็ชวนคุยไม่สนใจ อยากถามอะไรก็ถาม อยากรู้อะไรก็เค้นมาให้ได้ แต่พอไม่อยากคุย ก็ไล่กันเฉยๆ คุยกันไม่จบก็ตัดบท แล้วมันคุยได้เรื่องบ้างไหม”

                 “พี่ก็ลองรู้สึกแบบผมบ้างดิ แบบที่เขิน แบบที่อายจนทำอะไรไม่ถูกอะ!” 

                 “แล้วนายรู้ได้ไงว่าฉันไม่รู้สึกเหมือนกัน ถ้านายคิดว่าฉันไม่ตื่นเต้นก็ลองจับหัวใจฉันดู”

                 “...” ผมสบตากับพี่ตุลย์ปล่อยให้ความเงียบเป็นตัวสื่อระหว่างเรา ก่อนที่ผมจะเลื่อนสายตามองอกด้านซ้ายและวางมือลงบนหัวใจดวงนั้น...หัวใจที่กำลังเต้นแรงอย่างเดียวกับกับที่หัวใจของผมกำลังเป็น “เต้นแรงจัง...ไม่ใช่แค่หัวใจพี่นะ หัวใจผมก็ด้วย”

                 “ทีนี้รู้ยังว่าฉันเองก็ไม่ได้ไม่รู้สึกอะไร เวลาคุยเรื่องนี้ฉันก็เป็นเหมือนๆ นายนั่นแหละ”

                 “มันแปลว่าตอนนี้พี่ก็ชอบผมใช่เปล่า?”

                 “...คงงั้น”

                 “แม้ผมจะเป็นผู้ชายอะหรอ?”

                 “ฉันเป็นผู้ชายนายยังชอบฉันเลย แล้วอีกอย่างจะให้ทำยังไงได้ ก็มันดันเผลอกลายเป็นแบบนี้ซะแล้ว”

                 “งี้ก็แปลว่า ผมไม่ได้อกหักใช่เปล่า!?”

                 “ก็ใช่สิ” พี่ตุลย์ขมวดคิ้วใส่ผมมึนงงกับรอยยิ้มกว้างๆ ที่ผมก็ไม่รู้ว่ามันขึ้นมาประดับอยู่บนใบหน้าของผมตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี่เคยคิดด้วยซ้ำว่าถ้าพี่ตุลย์ตอบรับก็เท่ากับผมเป็นเกย์แล้วคงรู้สึกแย่มากแท้ๆ แต่พอพี่เขาตอบรับผมจริงๆ ผมกลับไม่รู้สึกกังวลเรื่องนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว มีแต่คำว่าดีใจ ดีใจ และดีใจอยู่ในหัวแค่นั้นเอง!


                 นึกออกไหมอะ นึกออกไหม การที่ชอบคนๆ นึง และคนๆ นั้นก็ชอบกลับมันให้ความรู้สึกที่วิเศษยังไง!


                 “นี่ พี่บอกว่ารอให้ผมเป็นคนที่รักพี่อยู่ใช่ไหม ขอบอกตรงนี้เลยนะ ว่าผมจะไม่เป็นคนที่รักพี่ก่อน! ไหนๆ ตอนนี้เราอยู่ในขั้น ‘ชอบ’ เหมือนกันแล้ว ถ้าจะ ‘รัก’ ก็ต้องพร้อมกันเท่านั้น เข้าใจเปล่า? ฮี่ๆ” ผมยิ้มแฉ่ง


                 พี่ตุลย์เบิกตากว้างก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงเบาๆ คลอเคล้ากับท่าทางอารมณ์ดีของผม เขาไม่พูดอะไรแต่ตวัดแขนดึงผมเข้าสู่อ้อมกอด แถมกดหัวจมกับอกแกร่งนั่นเป็นการตอบรับคำพูดที่ผมลั่นไว้ ด้วยความตกใจผมขืนตัวสุดแรงก่อนจะต้องยิ้มและหัวเราะออกมาอีกชุดใหญ่เมื่อรู้ว่าทำไมพี่ตุลย์ถึงต้องกดหัวเอาไว้ให้ผมไม่เห็นใบหน้าของเขา


                 “ขนาดห้องมืดขนาดนี้ แต่ฉันคิดว่านายต้องหน้าแดงอยู่แน่ๆ”


                 ขอคืนให้แล้วกัน ขนาดห้องมืดขนาดนี้ ผมยังรู้เลยว่าหน้าพี่ตุลย์ก็ต้องกำลังแดงอยู่แน่ๆ เหมือนกันแหละ~








TBC
ชอบม๊าาาา ชอบม๊าาาา ตอบบบบบบ
หวานมากมั้งง แต่งไปก็ฟินไป ฮืออออ (/-\) เป็นความรู้สึกเรื่อยๆ แบบ หวานๆ เรื่อยๆ กันไป
ขอโทษที่หายไป 2 วันนะคะ เพราะว่าคอเคล็ด เดี้ยงเลยพิมพ์คอมไม่ได้เลย พอไปนวดจนหายก็เอาเอสน้อยมาเสริฟเลยน๊าาา ~

หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 05-08-2015 00:04:18
แม่แอบฟังเปล่าอ่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 05-08-2015 00:05:55
คุณพี่ตุลย์ร้ายมาก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 05-08-2015 00:07:13
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยย บอกชอบกันแล้วอ่ะ น่ารักจนอ่านไปยิ้มไปเลย :-[
พี่ตุลย์มีมุมน่ารักกับเขาด้วยอ่ะ เอสก็สุดยอดมาก พุ่งชนไม่หลบเลยนะ  :impress2:

ว่าแต่มาบอกรักกันแบบนี้ ไม่กลัวคุณแม่ได้ยินบ้างหรอเนี่ย  :hao3:

หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 05-08-2015 00:07:56
เขิลลลลลลบ้านแคก แม่ขาเค้าน่ารักมากกกกก  ขอให้ป้าเปิดทางให้รักกันนะ   :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 05-08-2015 00:14:16
เค้าบอกชอบกันได้อย่างมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้งมากเลยอ่ะ  :-[

ว่าแต่คุณแม่ได้ยินรึเปล่าเนี่ย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 05-08-2015 00:37:44
กราบบบบ


ชอบมากๆเลยยยยยยยยยยยยยย


ไอเลิฟยูวนะเอส ฝ่าด่านคุณแม่ให้ได้ล่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Tsumsome ที่ 05-08-2015 00:44:52
 :o8: :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Chattcha ที่ 05-08-2015 00:49:14
หวาน หวาน.. :o8:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Babylon ที่ 05-08-2015 01:08:39
แม่ต้องแอบฟัง ตื่นมาก็ทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้รึเปล่าเอ่ย 5555 (งดดราม่านะคะ) :katai1:
ฟินอะ เหลือแม่กับที่หนึ่งแล้ว ดูท่าหมูอ้วนจะไฟเขียว แอร๊~ :mew1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-08-2015 02:14:13
แข่งกันหน้าแดง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 05-08-2015 05:02:28
หื้มมมมม  ...มมมม  ร้ายนักน่ะ  เอส  !!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 05-08-2015 06:29:23
ถ้าคุณแม่ได้ยินเรื่องทั้งหมดแล้ว ก็ช่วยเปิดใจรับความรักในแบบที่พี่ตุลย์กับเอสเขาเลือกแล้วด้วยเถอะนะค้าา~ :m5:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 05-08-2015 06:45:14
แม่ป้าฮาร์ดคอหลับหรือยังล่ะนั้นอ่ะ :mew3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 05-08-2015 07:14:47
ชอบบบบบบบบบบบบฉากรักเบาๆ ถามจริงคุณแม่มานั่งฟังด้วยป่ะเนี่ย.
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 05-08-2015 07:33:56
แล้วแม่ก็ได้ยินหมดแล้วซินะ 5555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 05-08-2015 08:45:18
เอิ่ม...ไอ้เอสคะ พี่ตุลย์คะ คือ....







ลืมไปหรือเปล่าคะ ว่า........คุณนายแม่นอนอยู่ให้องด้วย






อยู่กันมาตั้งหลายวันไม่คุยเรื่องนี้







แต่มาคุยตอนคุณนายแม่ มานอนด้วย มันใช่เวลาใหม ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 05-08-2015 09:22:38
แอร๊ยยยย เค้าเขิลลลล :-[ ว่าแต่คุณนายแม่ได้ยินป่าวเนี่ยย :m26: :m29:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 05-08-2015 09:32:48
พี่ตุลย์กับเอสลืมไปป่าวว่าคุณแม่ฮาร์ดคอร์ก็นอนอยู่ด้วยอ่ะ มัวแต่อยู่ในโลกส่วนตัว 2 ต่อ 2  ระวังตอนเช้าคุณแม่เข้ามาถามล่ะว่าที่พูดไปเมื่อคืนจริงหรือเปล่า

2 คนนี้ชอบเล่นบทพ่อแง่แม่งอนได้น่ารักมาก  :o8:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 05-08-2015 10:39:59
พี่ตุลย์เห็นเงียบๆนี่ช่าง...... เขินแรงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง >.<
คุณแม่จะได้ยินมั้ยน๊าาาาาา  ว๊ายยยยย เขินสุดดดด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 05-08-2015 11:31:48
หั่นแน๊! พี่ตุลย์หน้าแดงด้วยกิ๊วๆๆๆๆๆๆๆ
ชอบคู่นี้จังเลยค่ะ ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป มาต่ออีกเร็วๆน้าาาาาาา
ปล.รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 05-08-2015 11:55:01
บอก 'ชอบ' กันมางงๆนะเนี่ย 555555
แต่ก้อถือว่าคืบหน้ามากกว่าที่คิด ^0^
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 05-08-2015 12:45:28
ตายด้วยความฟิน.....แต่ มันใช่เวลาเหรอออ
คุณป้าฮาร์ดคอร์นอนอยู่ด้วยนะ 5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 05-08-2015 13:15:52
 o13 ร้ายกาจมาก อิพี่ตุลย์
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 05-08-2015 14:36:24
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 05-08-2015 15:07:04
ขอพนันว่า ขุ่นแม่ยังไม่หลับ และกำลังเงี่ยหูฟังอยู่แน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 05-08-2015 16:19:21
ความจริงแล้วคุณป้าฮาร์ดคอร์แกตื่นอยู่
แล้วช่วยปลอบตอนต้นไม่ให้เสียงดัง จะได้แอบฟังเค้าได้ง่ายๆใช่เปล่า ระแวงสุด ณ จุดนี้ :oo1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 05-08-2015 19:22:56
งื้ออออออ เขามุ้งมิ่งกันได้น่ารักมากอะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 05-08-2015 22:28:40
ฟินนนนนน ทำไมหวานนนขนาดนี้
คุณแม่ต้องได้ยินแน่ๆ
คนทีีเตรียมตัวมานอนเฝ้าเด็กตื่น
 เสียงคุยกันขนาดนี้ ตื่นแน่ๆ >_<
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 05-08-2015 22:40:04
หวานมากกกก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 05-08-2015 22:43:36
หวานนนนจังตอนนี้ นี่แค่ชอบนะเนี่ย

 รอวันที่ รักกันค่ะ 55555555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 05-08-2015 23:30:10
แหมๆ สองคนนี้หน้าแดงกันน่ารักเชียว 5555+

แอบเขินแทน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!! UP ตอนที 28 (04/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 06-08-2015 01:59:53
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 29-30% (06/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 06-08-2015 22:59:39
ตอนที่ 29


             ตอนนี้ผมมีเรื่องคาใจอยู่อย่างนึง คาใจมาก มากแบบมากๆ so much too mush very much


             ...เพลงโคตรเก่ายังจะเอามาเล่น


             แต่ช่างแม่งก่อน! จะบอกว่าผมมีเรื่องคาใจมาก อยากจะหันหน้าไปหาใครสักคนแต่รอบข้างมีแต่ต้นไม้และใบหญ้า นั่งอยู่คนเดียวในศาลาโง่ๆ


             ที่ผมคาใจคือ มันเป็นเรื่องของผมกับ...


             “เมื่อไหร่จะขึ้นรถ” เสียงทุ้มที่คุ้นหูดังขึ้นอยู่ด้านหน้าเรียกสติของผมที่กำลังลอยไปสู่ความเวิ่งว้างอันไกลโพ้น ผมคว้ากระเป๋าเป้ที่วางอยู่ข้างตัวก่อนจะเดินขึ้นรถพี่ตุลย์ไปอย่างว่าง่ายไม่อิดออด

             “อ้าว คุยโทรศัพท์อยู่หรอ?” ผมที่สอดตัวเข้ามาในรถเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่ามือด้านซ้ายของพี่ตุลย์ถือโทรศัพท์อยู่ห่างหูเล็กน้อย

             “อื้อ เพิ่งวางไปเมื่อกี้”

             “คุยกับใครอะ?” ผมถามโยนกระเป๋าเป้ไว้เบาะหลังก่อนจะดึงเซฟตี้เบลมาคาดกันตำรวจเรียก อันที่จริงผมไม่ค่อยชอบคาดนะมึนอึดอัดเหมือนโดนลัดตลอดเวลา แต่พี่ตุลย์แม่งก็คะยั้นคะยอให้คาดตลอด แล้วมีครั้งนึงด้วยความแบบดื้อไง กวนตีนด้วยก็เลยปลด ปลดปุ๊บโดนเรียกปั๊บ พี่ตุลย์เสียเงิน ผมนี่โดนด่าไปหนึ่งวันเต็ม แถมยังโดนเหน็บแหนมไปอีกตั้งสามวัน หลังจากนั้นผมก็เลยคาดตลอดไม่ปลดเลย

             “คุยกับแม่”

             “ช่วงนี้แม่พี่โทรมาบ่อยนะ เกือบทุกวันเลย”

             “ก็โทรมาถามเรื่องที่หนึ่งกับตอนต้นเนี่ยแหละ แต่ฉันว่ามันน่าแปลกใจที่แม่เอาแต่ถามเรื่องนายต่างหาก” พี่ตุลย์ว่า วางมือถือลงคอนโซลกลางก่อนจะเคลื่อนรถออกจากบริเวณมหา’ลัย


             อะ อะ~ ตอนนี้มีพัฒนาครับ ถ้าผมเลิกเรียนเย็นพี่ตุลย์มารับผมที่มหา’ลัย ตอนแรกผมก็ปฏิเสธนะ ลองนึกสภาพมีคนเห็นว่าชายหนุ่มหน้าตาดี (มาก) อย่างผมมีผู้ชายอายุแก่กว่าแต่ยังไม่ถึงคราวพ่อมารับเขาจะคิดอะไรนอกจากผมเป็นเด็กเสี่ย! ไม่ได้เลยไม่ได้! เสียชื่อสุดๆ แต่พี่ตุลย์ก็ไม่ยอมอ้างเหตุผลสารพัดร้อยแปดมาแย้ง จนสุดท้ายก็เลยกึ่งกลาง มารับก็ได้ แต่ผมจะไปรอที่ที่ไกลจากคณะ


             พี่ตุลย์บอกว่าเพื่อความปลอดภัย แต่จริงๆ แล้วอยากเจอผมเร็วๆ ปะเถอะ~ อิอิ


             “แล้วแม่พี่โทรมาถามเรื่องผมว่าไงบ้างอะ?”

             “ก็เหมือนกับที่ถามถึงลูกฉัน วันนี้เอสทำไรบ้าง แล้วก็จะถามยิบย่อยๆ ลงไป แล้วก็เพิ่มมานิดหน่อยตรงที่ถามเรื่องในอดีตด้วย เดือนก่อนเอสทำอะไร เมื่อวันก่อนเอสทำอะไร อย่างนี้น่ะ”

             “เอ่อ...เป็นแฟนคลับผมหรือเปล่า” ผมหัวเราะแห้งๆ จับต่างหูของตัวเองเล่น

             “ฉันสิน่าถาม ว่านายไปทำอะไรแม่ฉันเข้าหรือเปล่า”

             “ก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ถามเพราะเป็นห่วงเฉยๆ ละมั้ง” ผมไต่นิ้วไปทางหลังหูหมุนตัวล็อคต่างหูด้านหลังที่มันเกลียวออกมานิดหน่อย

             “แล้วแม่ก็บอกว่าเดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะมาค้างด้วยอีก”

             “มาอีกแล้วหรอ? อาทิตย์ที่แล้วก็เพิ่งมาเองนะ”

             “ก็แม่ว่างี้จะไปรู้ไหมเล่า คิดถึงหลานเห็นว่างี้นะ”

             “หรอ” ผมลากเสียงยาวอย่างไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่ ผิดกับพี่ตุลย์ที่พอผมเปิดประเด็นนี้ปุ๊บก็ดูเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ซะงั้น สำหรับพี่ตุลย์อาจจะแปลก แต่เพราะผมไม่รู้ว่าเมื่อก่อนแม่พี่ตุลย์เป็นคนยังไง มาหาบ่อยไหม โทรคุยบ่อยไหม เป็นพวกเห่อหลานไหม อะไรยังไง ก็เลยไม่รู้ว่าการกระทำของคุณป้าฮาร์ดคอร์เขาแปลกไปหรือเปล่า “เอ๋ หรือว่าแม่พี่จะได้ยินที่เราคุยกันเมื่อสองอาทิตย์ก่อน?”

             “เรื่องอะไร?” พี่ตุลย์ขมวดคิ้วงง เพราะว่าอีกฝ่ายกำลังขับรถเลยไม่เห็นผมที่กำลังยิ้มกริ่ม เขยิบตัวเข้าไปหา จงใจกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู

             “ก็เรื่องที่พี่...บอกชอบผมไง!”

             “ตอนนั้นฉันไม่ได้บอกชอบนายสักหน่อย”

             “ฮันแหนะ” ผมชี้นิ้วล้อเลียนแกมหยอก “ปากก็บอกปฏิเสธแล้วจะหูแดงทำไมอะ~”

             “...” ไอ้พี่ตุลย์เงียบ แต่ผมนี่หัวเราะก๊ากลั่นรถเลย เงียบนี่ไม่ได้เงียบโมโหนะครับ แต่เงียบเถียงไม่ออก จะหันมาเฮ้วใส่ผมก็ไม่ได้เพราะขับรถอยู่ หลังจากคืนนั้นตอนแรกๆ ผมก็เขินนะครับ มีเข้าหน้าไม่ติดเล็กน้อยไปสองวัน แต่ความหน้าหนาของผมก็ฟื้นฟูเร็วตอนนี้เลยไม่สะทกสะท้านล้อพี่ตุลย์สบายใจเฉิบ โอ๊ยย อยากให้มาเห็นด้วยกันครับ ตอนที่พี่ตุลย์หูแดง เงียบเถียงไม่ออกแต่เก็กวางฟอร์มขมวดคิ้วใส่นี่น่ารัก น่าหยิกแก้มเป็นที่สุด~ “หุบปากหน่า”

             “ฮ่าๆๆ อะๆ โอเค เงียบก็ได้ กลัวใครบางคนจะโมโหแล้วหักรถชนเสาไฟฟ้าตายกันไปทั้งคู่” ผมพูดเสียงกวนเรียกเสียงจิ๊จ๊ะจากพี่ตุลย์จนถึงวินาทีสุดท้าย “อาา แต่ผมว่าไม่หรอก แม่พี่ไม่น่าจะได้ยิน คนที่พร้อมจะแหกอกทันทีที่ผมแต่งหญิงเข้าห้องมากับพี่ ถ้าได้ยินแบบนั้นคงจะลุกเอามีดเสียบพุงผมตั้งแต่สองนาทีแรกแล้ว...ไม่ปล่อยให้รอดจนพี่ได้นอนกอดผมหรอก~”

             “ยังอีก”


             ผมหัวเราะฮี่ๆ ได้แกล้งพี่ตุลย์นี่นิดๆ หน่อยๆ ผมก็เอาหมด


             ดูแล้วชีวิตผมตอนนี้ก็แฮปปี้ใช่ไหมครับ เรื่องคุณป้าฮาร์ดคอร์ก็ไม่เครียด ความสัมพันธ์กับไอ้พี่ตุลย์ก็ดูดั่งดอกไม้บาน แล้วผมจะคาใจเรื่องอะไร


             ...ก็คาใจความสัมพันธ์ดอกไม้บานกับไอ้พี่ตุลย์เนี่ยแหละ!!! คาใจอยู่สองข้อด้วย!


             1.ผมกับพี่ตุลย์เป็นแฟนกันยังวะ?


             2.ถ้าเป็นแฟนกันแล้ว ก็แปลว่าคบกันมาสองอาทิตย์แล้วดิ แล้วมันถึงเวลาจูบได้ยังอะะะ?








30%







             ต๊อกๆๆ


             อ๊าาา คาใจจังเลยแหะ ถ้าพี่ตุลย์เป็นผู้หญิงอะไรๆ ก็คงง่ายมากกว่านี้ ป่านนี้น่ะ จูบแหลกแหกปล้ำ ได้กันไปแล้วเนี่ย!


             ตอนม.ปลาย ผมก็เคยคบกับผู้หญิงนะ ถึงแม้จะไม่ได้พูดว่าคบกันเถอะออกมาตรงๆ แต่มันจะมีบางจุดที่เราและเขา (และทั้งโรงเรียน) เป็นอันรู้กันว่าสองคนนี้เป็นแฟนกันแล้วนะอะไรอย่างนี้น่ะ แต่กับพี่ตุลย์นะครับ โคตรจะเดาทางไม่ออก จะเข้าข้างตัวเองว่านี่แหละแฟนแล้ว ก็ไม่กล้า ถ้าไม่ใช่หน้าแตก อับอายอีก แล้วอีกอย่างผมก็ไม่อยากให้ความสัมพันธ์มันค้างคาด้วย แค่ตอนที่ก่อนจะบอกชอบไอ้พี่ตุลย์ครั้งนั้นครั้งเดียวก็เกินพอ เล่นเอาผมซึมกระทือเป็นหมาหางลู่ไปตั้งหลายวัน เพราะงั้นไม่แล้วครับกับเรื่องค้างคา แมนแมนต้องชัดเจนดิถูกปะ! และนั่นแหละ หนักเลย เครียดเลย เครียดหนักมาก


             ต๊อกๆๆๆๆ!


             “ทำไมต้องใส่อารมณ์กับโน๊ตบุ๊คฉันด้วย เดี๋ยวพังจะซื้อใช้ให้ไหมหะ?” ผมหันขวับไปตามเสียงก่อนจะเห็นพี่ตุลย์ยืนดื่มน้ำอยู่ด้านหลัง ปาก...


             อึก...


             ไอ้พี่ตุลย์มันจะมาดื่มน้ำให้ผมดูทำไมวะ! ต้องการอะไรบอกม๊าา!


             “พี่ออกไปจากครัวดิ๊ ผมทำงานอยู่ไม่เห็นหรอเนี่ย ไปเลยไป”

             “ทำงานอะไรกันหน้าเวิร์ดไม่เห็นมีอะไรเลย เอาแต่กดปุ่ม Enter จนจะพังแล้วน่ะ”

             “กำลังใช้ความคิดอยู่ไง ยิ่งพี่มากวนผมก็ยิ่งคิดไม่ออกสิ”

             “ไม่ได้เข้ามากวนสักหน่อย ก็แค่มากินน้ำก็เท่านั้นเอง” พี่ตุลย์ขมวดคิ้วใส่ผม วางแก้วน้ำข้างซิงค์ล้างจานก่อนจะเดินไปร่วมกลุ่มกับที่หนึ่งที่นั่งอยู่บนโซฟาโดยมีตอนต้นที่เดินเต๊าะแต๊ะอยู่ด้านล่าง บังทิวทัศน์หน้าจอทีวีทุกๆ สิบวินาที


             ฮึ่ย ไอ้เรื่องจูบนี่เหมือนกัน พอความคิดนี้มันจิกเข้ามาในสมองผมแล้วความคิดอกุศลของผมก็เกิดขึ้นทุกครั้งที่มองหน้าไอ้พี่ตุลย์ โฟกัสผมนี่จะพุ่งไปที่ปากก่อนเลยอันดับแรก ตอนนี้นะ ถ้าเอากระดาษเอสี่กับดินสอมาให้ผมนะ วาดปากพี่ตุลย์ได้อย่างเป๊ะ จนอ.เฉลิมชัยนี่ถึงต้องอุทานอาจารย์อะบอกเลย


             แต่บอกก่อนเลยว่าผมไม่ได้ใจร้อนนะครับ แต่สมัยนี้จูบมาก่อนจับมือแล้ว!


             “อ๊ากกกกกก!”

             “พ่อๆ อันธพาลไม่รู้เป็นไรไปแล้ว” ที่หนึ่งที่กำลังนั่งดูทีวีชี้นิ้วมาทางผมที่กุมขมับยีผมจนหัวฟูและกำลังจะกรีดร้องอีกครั้งในไม่ช้า โฮฮฮฮ เรื่องใช้หัวมันไม่ใช่สไตล์เอสสส~

             “เป็นบ้าลูก อย่าไปสนใจ”


             เนี่ย! ดู แบบนี้มันควรจะใช่คนเป็นแฟนกันปะ!...ปล้ำเลยดีไหม เรื่องจะได้จบๆ ปล้ำปุ๊บก็เป็นแฟนกันเองแหละ แล้วก็ได้จูบด้วย หมดเรื่องคาใจไปเลยทีเดียวสองเรื่อง


             “ทำไม? ยังคิดงานไม่ออกอีกหรือไง ยากขนาดนั้นเลย?”

             “ก็ไม่ยากหรอก แต่ก็คิดไม่ออก ส่งวันพุธนี้แล้วแท้ๆ” บอกไม่ได้ว่าไม่มีสมองส่วนไหนว่างคิดเรื่องงานแล้ว เฮ้อ

             “หรอ ใกล้แล้วนี่ ถ้างั้นก็พยายามเข้านะ ฉันรู้ว่าถ้าวันนี้ทำไม่เสร็จนายก็ต้องไม่เข้านอนแน่เลย”

             “หะ! อย่ามามัว ต่อให้งานผมไม่คืบหน้าสักนิดเดียว ผมก็จะเข้านอน!”

             “แต่ฉันไม่ให้เข้า ถ้านายไม่ทำงาน ก็ไม่ได้คะแนน ติดเอฟ เกรดร่วง โดนไทร์ในที่สุดจะยอมเป็นอย่างนั้นหรอ?”

             “มันก็ไม่ได้คะแนนเยอะขนาดนั้นปะ” ผมตีหน้าเซ็งใส่ หันมองหนังสือเรียนที่ผมกางไว้บนโต๊ะอาหารข้างโน๊ตบุ๊คพยายามรวบรวมสมาธิกลับเข้าสู่งานอีกครั้ง 


             ...


             ไม่ได้!! นี่เข้าใจเลยว่าทำไมคนมีแฟนแล้วมักเกรดร่วง คือพอมีสมาธิได้พักนึง หัวผมมันก็แล่นไปเรื่องพี่ตุลย์อีก สะบัดไล่แล้วสนใจแต่งานทำวนๆ แบบนี้อยู่ห้ารอบจนในที่สุดผมก็ปิดหนังสือและโน๊ตบุ๊คลงอย่างหมดความอดทน แค่มีพี่ตุลย์อยู่ในหัวก็มากพอแล้ว นี่ยังจะมานั่งดูทีวีอยู่เยื้องข้างหน้าผมอีก มันจะไปทำงานลงได้ไงละเฟ้ย!


             “อะไรเลิกแล้วหรอ? ถ้าไม่เสร็จไม่ต้องนอนนะ”

             “ช่างดิ ผมจะไปนอนบ้านเพื่อน ไปทำงานเงียบๆ ที่บ้านมันน่าจะดีกว่า อยู่แบบนี้ผมไม่มีสมาธิทำหรอก” ผมพูดเสียงหงุดหงิดถือหนังสือกับโน๊ตบุ๊คจ้ำๆ เข้าไปเก็บในห้องนอนก่อนจะจัดกระเป๋าเสื้อผ้าชุดนอนกับชุดนักศึกษาเข้ากระเป๋าเป้เตรียมตัวจะไปค้างบ้านไอ้ปัน


             ไม่ได้หงุดหงิดใครหรืออะไรนะครับ นี่หงุดหงิดตัวเองล้วนๆ อะที่เอาแต่คิดเรื่องส่วนตัวจนทำงานทำการไม่ได้


             “ถ้าหนวกหูเสียงทีวีเดี๋ยวฉันเบาให้ก็ได้” ผมหันขวับไปตรงประตูห้องที่มีร่างของพี่ตุลย์ยืนกอดอกพิงวงกบก่อนจะหันกลับมาจัดของใช้ส่วนตัวเข้ากระเป๋ต่อ

             “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก พี่อยากดูอะไรก็เต็มที่เถอะ”

             “ถ้างั้นที่หนึ่งกับตอนต้น? รออีกสักพักนึง เดี๋ยวสองคนนั้นก็ไปนอน ห้องก็เงียบไม่มีอะไรรบกวนแล้ว”

             “ผมไม่ได้รำคาญพวกนั้นสักหน่อย”

             “ถ้างั้นนายจะไปรบกวนเพื่อนเขาทำไม?”

             ผมปิดเป้แล้วยกขึ้นมาสะพายพาดไหล่ “ผมก็ไม่อยากจะไปรบกวนมันหรอก แต่มันช่วยไม่ได้จริงๆ พี่ก็เห็นว่าผมนั่งอยู่หน้าโน๊ตบุ๊คตั้งหลายชั่วโมงแล้วแต่ยังไม่พิมพ์งานสักตัว ไปค้างบ้านเพื่อนจะได้ช่วยคิดอะไรได้บ้าง”


             “ฉันก็ช่วยคิดได้”


             แต่พี่ช่วยคิดเรื่องที่ผมคาใจอยู่กับพี่ไม่ได้ไง


             “ไม่เป็นไร ผมจะไปบ้านเพื่อน ผมไม่ได้รำคาญเสียงทีวีหรือเสียงพวกเด็กๆ หรอก เอาเถอะหน่า ค้างแค่คืนเดียวเอง” ผมพูดเดินผ่านพี่ตุลย์ออกมานอกห้องนอน บอกที่หนึ่งกับตอนต้นเสร็จสรรพว่าจะไปค้างบ้านเพื่อนก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้จึงหันหลังกลับไปหาพี่ตุลย์อีกรอบ “พรุ่งนี้ผมเลิกเที่ยงนะ เดี๋ยวกลับเอง”

             “อือ”

             “งั้นผมไปแล้วนะ” ผมโบกมือบ๊ายบายสามหนุ่มสามวัยในห้องก่อนจะปิดประตูไม้อัดสีขาวลง รีบวิ่งไปที่ลิฟท์ กดปุ่มลงอย่างรวดเร็วตามความรีบร้อนในใจ


             และนั่นก็เป็นอีกครั้งที่ผมไม่เห็นใครนอกจากตัวเอง ทั้งๆ ที่คิดเรื่องของพี่ตุลย์มากขนาดนี้แท้ๆ แต่สีหน้าของพี่ตุลย์ ผมก็ไม่ได้สังเกตเห็นเลย...














             “มึงก็เลยมาหากูตอนสี่ทุ่มอย่างนี้เนี่ยนะ!” ไอ้ปันเฮ้วใส่ผมที่นั่งยืมคอมฯ มันพิมพ์งานต๊อกๆ

             “ไม่เห็นเป็นไรเลย สี่ทุ่มมึงยังไม่นอนนั่งตี HON อยู่แล้วไม่ใช่ไง”

             “มันก็ใช่ แต่เหตุผลมึงมันไม่สมควรที่จะมาหากูตอนดึกแบบนี้เลยอะจริงๆ มึงโทรมาคุยกับกูยังได้เลย โคตรขี้ปะติ๋ว”

             “เรื่องใหญ่จะตาย! มึงลองเป็นกูบ้างสิ มึงอาจจะเข้าใจมากขึ้นก็ได้” ผมว่าเสียงห้วนกดกระแทกปุ่ม Enter จนไอ้ปันแทบจะถลาถีบขาคู่ใส่

             “ใช้เบาๆ หน่อยดิเว๊ย! กูไม่อยากได้แป้นใหม่นะ!”

             “โทษทีๆ~ กูนึกว่ากำลังเล่นเกมอยู่เลยใส่อารมณ์มากไปหน่อย” ผมหัวเราะ “อีกอย่างกูต้องมาใช้คอมฯ มึงด้วยไง ถ้ากูพูดแล้วมึงนั่งพิมพ์งานให้ กูก็ว่าจะแค่โทรหาไม่มาค้างกับมึงหรอก”

             “เออๆ อยากทำอะไรทำเลย แต่ไหนแต่ไรมึงก็ทำยังกับบ้านนี้เป็นบ้านมึงอยู่แล้วนี่” ปันส่ายหัวขำเสียงเบาอย่างเหนื่อยอกเหนื่อยใจ แล้วคิดว่าผมสนปะ? โคตรไม่สนเลยอะ ไม่มีความสำนึกผิดใดๆ ทั้งสิ้นอยู่ในหัวใจดวงน้อยๆ น่ารักของผมเลยแม้แต่นิดเดียว อิอิ

             “กูละอิจฉามึงจริงๆ ที่มหา’ลัยมึง ไม่มีงานบ้างไงวะ ถึงได้ยังมานั่งเล่นเกมเหมือนเดิม”

             “งานมันก็ต้องมีอยู่แล้ว แต่กูความผิดชอบสูงมากก็เลยทำเสร็จตั้งนานแล้ว ไม่มาทำตอนดึกๆ อย่างมึงหรอก”

             “ไม่กัดกูจะตาย? ชาติที่แล้วเกิดเป็นลิงหรอ?”

             “ก็มึงทำตัวหน้าโดนด่าอะ”

             “กูทำอะไร? ก็แค่หน้าตาดี”

             “ไอ้ตรงนี้ของมึงเนี่ยแหละที่มันน่าด่า” ไอ้ปันผลักหัวผมจนแทบจะมุดเข้าไปในหน้าจอคอมฯ อยากจะหันไปด่ามันอยู่แต่ติดที่ว่าผมเองก็ติดพันกับงานที่กำลังแล่นไหลลื่นเลยทำได้เพียงแต่เสียงจิ๊จ๊ะ

             “เกลียดคนขี้อิจฉา”

             “เออ กูอิจฉามึง อิจฉาที่มึงปอดแหกไม่กล้าจูบหญิง แล้วก็อิจฉามึงที่เป็นปลาซิวไม่แน่ใจว่าเป็นแฟนกับหญิงหรือยังเลยต้องหนีมากลบดานบ้านเพื่อน~”

             “ไอ้ห่า แรงเล่นจุดอ่อนเลยหรอ! นี่มันเรื่องซีเรียสนะเว๊ย” ผมพูดเสียงเขียว เลื่อนเม้าส์กดเซฟงานก่อนจะหันหน้าเข้าหามันพร้อมสู้อย่างจริงจัง

             “เรื่องน่าขำมากกว่า ปัญหามึงมันไม่ได้ใหญ่แบบนั้นเลยจริงๆ อะเอส โคตรจะเล็กน้อยเลยนะเว๊ย แก้ปัญหาง่ายมากกกกกก”

             “หรอๆ งั้นมึงบอกมาดิว่ากูต้องดูตรงไหนถึงจะรู้ว่ากูกับเขาเป็นอะไรกันหรือยัง กูต้องทำอะไรถึงจะมั่นใจว่ากูกับเขาเป็นแฟนกัน กูจะได้เคลียร์ด่านไปเลเวลต่อไป” ผมเชิดหน้ากอดอก

             “มึงไม่ต้องดูที่อะไรเลยเว๊ย มึงก็แค่ถามเขา”

             “หา? ให้กูไปถามเขาว่า เฮ้ยๆ เราเป็นแฟนกันยังงี้หรอ? มึงต้องคิดด้วยว่าอย่าทำให้กูหน้าแตก อับอายขายขี้หน้าจนต้องมุดรู้ไปอยู่ในดิน แล้วก็อย่าให้กูโดนต่อยด้วยดิ”

             “มึงจะไม่โดนผู้หญิงคนนั้นต่อยหรอกแต่มึงจะโดนกูต่อยเนี่ยแหละ กูจำได้ว่ามึงไม่ได้โง่นะ พอเข้ามหา’ลัย แล้วแอบหลับบ่อยสมองเลยฝ่อหรอ?”

             “เอ้า ไอ้นี่ด่ากูอีก!” ชักจะขึ้น วันนี้มันด่าผมจะสิบครั้งแล้วอะ!

             “มันน่าด่าไหมละ กูไม่ได้ให้มึงไปถามแบบขวานผ่าซากอย่างนั้นโว๊ย”

             “แล้วมึงจะให้กูถามเขาว่ายังไงละ! จะใช้คำพูดซอฟต์ยังไงความหมายมันก็เหมือนเดิมปะ”

             “กูไม่ได้ให้มึงไปถามเขาว่า เฮ้ย เราเป็นอะไรกัน แต่กูให้มึงไปถามเขาว่า ‘คบกันไหม?’ ต่างหาก!” 

             “!!”

             “ถ้าผู้หญิงคนนั้นบอกว่า เราคบกันอยู่แล้วนี่ ก็แล้วไป ก็ตามนั้นมึงจะได้เลิกคาใจว่ามึงกับเธอเป็นอะไรกัน หรือถ้าเธอบอกว่า ได้ เราคบกัน ก็โอเค เป็นแฟนกัน แค่นั้นจบ! มึงคิดไม่ได้จริงอะ?”

             “อะ อื้ม...ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย” ผมพูดเสียงเบา


             พอมาฟังแบบนี้แล้วผมรู้สึกว่าผมโง่มากที่คิดไม่ออก มันเป็นเรื่องพื้นๆ แท้ๆ ทำไมผมถึงคิดไม่ได้?


             “แล้วถ้าเกิดมึงโดนปฏิเสธขึ้นมา มันก็แค่คนนึงที่โดนปฏิเสธก็แค่นั้น มันคงไม่น่าอับอายจนมึงต้องขุดรูอยู่หรอก”

             “กูรู้สึกโง่มากที่คิดไม่ได้จนต้องเสียเงินค่ารถเมล์ กับค่ารถมอไซค์รับจ้างมาที่บ้านมึง” ผมพูดติดตลกหันไปปิดคอมฯ เก็บแฟลชไดรฟ์เข้ากระเป๋าเป้ก่อนจะปีนขึ้นไปบนที่นอน

             “มันเป็นเรื่องปกติ พอเป็นเรื่องของตัวเองเรื่องเท่าขี้เล็บก็มองไม่เห็นคิดไม่ได้ แต่พอเป็นเรื่องของคนอื่นก็จะฉลาดประหนึ่งเป็นปรมาจารย์ กูเองก็เป็น ตอนนั้นมึงยังต้องชี้ทางให้กูทุกสเต็ป” ไอ้ปันล้มตัวนอนเหยียดยาวบนที่นอนพูดถึงเรื่องราวตอนที่เราทั้งสองเป็นเพียงเด็กมัธยม “แล้วนี่มึงจะทำยังไงต่ออะ?”

             “ทำยังไงละ เพื่อนแนะนำมาว่าไงกูก็ต้องทำตามนั้นอยู่แล้ว” ผมพูดก่อนจะทั้งไอ้ปันและผมจะหัวเราะด้วยกันเสียงดังลั่นห้องนอน

             “อย่าลืมดอกกุหลาบด้วยนะ จัดช่อสวยๆ ผู้หญิงเขาจะได้เป็นปลื้ม”

             “เอาตังมาให้กูยืมดิ้ เพื่อความรักที่สดใสของเพื่อนเลิฟ”

             “มีแต่ตีนเอาไหม?”

             “เอาตีนไปจัดช่อแล้วขอเขาเป็นแฟนได้ไหมละ?”

             “ฮ่าๆ เขาไม่ตบมึงหรอก เขาจะถีบมึง แล้วเขาก็จะไปเล่าให้เพื่อนฟัง แล้วมึงก็จะมีชีวิตอยู่ไม่ได้เลยแหละ พลังหญิงโคตรน่ากลัว”

             “ฮ่าๆ ถ้างั้นกูคงต้องทำตามกำลังทรัพย์ เอาไปหนึ่งกลีบพอ”

             “ไอ้สัส” ไอ้ปันก่นด่ากลั้วขำ แต่ผมเลือกที่จะไม่สนใจ นอนมองฝ้าสีขาวที่แตกต่างจากห้องนอนของพี่ตุลย์เงียบๆ


             นี่เป็นครั้งแรกที่ผมนอนที่อื่นตั้งแต่ย้ายไปอยู่กับพี่ตุลย์ ไม่คิดเลยว่าผมจะมีวันที่คิดถึงห้องคอนโดฯ ที่ผมต้องอยู่เพียงไม่กี่เดือนก่อนย้ายเข้าหอ...ไม่ดิ ผมว่าผมไม่ได้คิดถึงห้องหรอก ผมคิดถึงใครบางคนที่นอนอยู่บนห้องเดียวกันมากกว่า คนที่นอนเตียงดีๆ ไม่ชอบเริ่มเนียนลงมานอนพื้นกับผมอยู่เรื่อย


             “ก็คนมันอยากเจอ ก็เลยมาเฝ้ารอตามคำขอ ของหัวใจ...มีมาแต่ตัว แค่ตัวกับหัวใจและดอกไม้ เก็บมาให้เธอ...”


             ผม...กำลังคิดถึงพี่ตุลย์
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 29-30% (06/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 06-08-2015 23:06:56
คือเอส อยากจูบพี่ตุลย์ ว่างั้น  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 29-30% (06/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 06-08-2015 23:08:09
เอสใจร้อนจังเลยยย ฮ่าๆๆ

คุณแม่เอ็นดูเอสเยอะๆน้า อย่ากีดกันนนะ อย่าดราม่านะ  :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 29-30% (06/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 06-08-2015 23:16:32
ที่สงสัย..เป็นเพราะว่าอยากได้จูบจากพี่ตุลย์ใช่หรือเปล่าคะเอส~ :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 29-30% (06/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ่KEI_jry ที่ 06-08-2015 23:51:01
คือหนูอยากจูบลุงเค้าว่างั้น นังเอสขี้อ่อย!  :z2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 29-30% (06/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Maple ที่ 07-08-2015 01:14:14
กรี๊ดดด หวานเว่อ วีว่าที่สุดเลยลูกกก
น่ารักอ่ะ ฟินจิกหมอน อยากขึ้นเตียงแทนเอส (ไม่ใช่ล่ะ)
จัดว่าดีงาม
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 29-30% (06/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 07-08-2015 01:24:08
อิเอสสสสสสสส
อิแรด   ๕๕๕๕๕๕

ร้ายกาจมาก   อยากเป็นแฟนพี่ตุลยืช่ายม่ะ 
กร๊ากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 29-30% (06/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-08-2015 02:12:18
วัยรุ่่นใจร้อนอะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE !!!!!!!! UP ตอนที 29-30% (06/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 07-08-2015 08:58:26
 :-[ มุ้งมิ้ง สุดๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 29-30% (06/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 07-08-2015 09:04:21
เอสใจร้อนจริงนะ อยากจุ๊บพี่ตุลย์ขนาดนั้นเลยหรอจ๊ะ หึๆๆๆๆ :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 29-30% (06/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 07-08-2015 11:06:47
เอสคะ สารภาพมาตามตรงว่า ที่สงสัยหนักสุดเนี่ย
ไม่ใช่ประเด็นคบกันแล้วรึยัง แต่เป็นประเด็นจูบได้แล้วรึยังใช่ไหม๊????? 5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 29-30% (06/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 07-08-2015 11:35:25
เอสเอ้ยแม่พี่ตุลย์สงสัยอะไร
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 29-30% (06/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 07-08-2015 14:27:48
อยากจูบพี่เค้าก็พูดมาาาาาาาาาา
คุณแม่ต้องรู้เรื่องแล้วแน่ๆเลยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 29-30% (06/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 07-08-2015 15:13:47
โถว น้องเอสสส5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 29-30% (06/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 07-08-2015 15:34:44
แหมๆๆๆๆ ไอ้เอส ได้ทีละเอาใหญ่






เดี๋ยวโดนพี่ตุลย์แกล้งคืนแล้วแกจะหนาว






อะไรคือ สมะการ ของการที่ไอ้เอสนึกถึงเรื่องจูบ






ฮ่าๆๆ ไอ้เอส ไอ้เด็กเกีรยน แกใจแตก แล้วละซิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 29-30% (06/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 07-08-2015 15:48:40
เพิ่งจะเป็นแฟนกันได้สองอาทิตย์เองนะลูก
นี่อยากจะจูบเลยหรอเร็วไปม้ายยยยยยยยย
เล่นตัวซักนิดก็ยังดีนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 29-30% (06/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 07-08-2015 17:27:23
ไม่มีการเล่นตัวเลยนะเธอ
55555555555555555555555555555555555555

หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 29-30% (06/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 07-08-2015 21:26:36
จูบเลย จูบเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 29-30% (06/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 07-08-2015 22:25:32
นังเอสหื่นนนนนนน
จูบเลยค่ะ (?) ไม่ต้องคิดอะไรมาก จูบสิคะ (??) บอกให้จูบ!! (???) 5555
ใจร้ายจังเลยค่ะ มาแบบปล่อยให้อยากแล้วจากไป
รับผิดชอบเลยนะคะ กลับมาลงต่อเลยยยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 29-30% (06/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 07-08-2015 23:43:06
นังเอส(เปลี่ยนจากไอ้เป็นนัง5555)
อย่าทำแบบนี้ลูก เป็นสตรีต้องรักนวลสงวนตัวนะ....
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 29-30% (06/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Babylon ที่ 08-08-2015 01:59:27
เอส...หนูอย่ารีบจูบเลยนะหนูนะ 

จูบปุ๊บรู้เรื่องเลย ใครเป็นใคร ฮ่าๆๆๆ กระดูกมันคนละเบอร์ แถมความโปรมันคนละชั้น  :laugh:  :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 29-30% (06/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Disthaporn ที่ 08-08-2015 06:35:27
เอส...หนูอย่ารีบจูบเลยนะหนูนะ 

จูบปุ๊บรู้เรื่องเลย ใครเป็นใคร ฮ่าๆๆๆ กระดูกมันคนละเบอร์ แถมความโปรมันคนละชั้น  :laugh:  :hao7:

นั่นนะสิคะ55555555555 :laugh:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 09-08-2015 02:59:09
ตอนที่ 29
ต่อจาก 100%


               “ฮ้าวววววว~ ง่วงฉิบ” ผมป้องปากหาวขณะเดินออกมาจากห้องเรียนพร้อมกับธันที่เรียนอยู่ในเซคเดียวกัน

               “พอเข้าห้องปุ๊บก็ฟุบหลับปั๊บยังจะง่วงอีกหรอ? คนที่ง่วงควรจะเป็นกูมากกว่าไหมที่นั่งแหกตาเรียนแทนมึงอะ”

               “มึงกล้าบ่นกูเนาะ ตอนที่มึงหลับไม่ใช่กูหรือไงที่นั่งแหกตาเรียนแทนมึงด้วยเหมือนกันอะ” ผมส่งสายตาโหดใส่จนไอ้ธันต้องหัวเราะแห้งๆ ทำหน้าอินโนเซ้นใส่ประหนึ่งว่าไม่เคยพูดประโยคก่อนหน้านี้มาก่อน

               “แกดูนั่นดิ แกว่าเขามารับใคร?” เสียงของผู้หญิงที่เดินอยู่กับเพื่อนของเธอด้านหน้าของผมดังขึ้น

               “ไม่รู้สิ แต่ว่ายังมีพ่อมารับเนี่ยมันดูไม่เป็นลูกแหงไปหน่อยหรอ?” ผู้หญิงอีกคนพูดขบขันหัวเราะคิกคักอยู่กับเพื่อนที่ร่วมนินทาผสมโรงอยู่ด้วยกัน ผมมองดูเธอสองคนอยู่สักพัก พอเห็นว่าพวกเธอกำลังพูดถึงรถสีดำคันหนึ่งที่จอดอยู่หน้าตึก ผมก็ไม่รอช้าที่จะเลื่อนสายตาหันไปมองมัน


               !!


               ฮอนด้า แอคคอร์ด รุ่น 2.4 EL NAVI! รถรุ่นนี้! ป้ายทะเบียนนี้! ขนาดไม่มองผ่านกระจกดูคนขับยังรู้เลยว่านี่มันรถพี่ตุลย์!


               ฉิบหาย


               “มึงจะกลับเลยเปล่าธัน?”

               “ไม่อะ กูจะไปชมรมการแสดงก่อน แล้วค่อยกลับ”

               “งั้นมึงไปคนเดียวนะวันนี้ กูคงไปเป็นเพื่อนไม่ได้แล้ววะ”

               “อ้าว ทำไมอะ!?”

               “เออหน่า กูบอกว่าไปไม่ได้ก็คือตามนั้น มีธุระว่ะ เดี๋ยวกูขอตัวก่อนนะ” ว่าจบผมก็โบกมือไล่ไอ้ธัน ปลีกตัวออกมาอีกทางที่ห่างผู้คนก่อนจะรีบโทรหาพี่ตุลย์อย่างรวดเร็ว!

               /ฮัลโหล/

               “เอารถออกไปจากหน้าตึกเรียนผมเลยนะ!”

               /ถ้าเห็นรถฉันแล้วทำไมไม่ขึ้นมา/

               “ขึ้นให้โดนล้อว่าเป็นลูกแหงหรอ! รีบออกมาก่อนเลยนะ ไปเจอตรงที่พี่มารับผมบ่อยๆ ก็ได้ เดี๋ยวผมจะไปหาเอง”

               /ฉันมารับถึงที่แล้ว ทำไมต้องให้ไปที่อื่นอีก ตอนนี้เพิ่งเลิกเรียนใช่ไหมเห็นคนออกมาเยอะ ก็รอให้คนซากว่านี้ก่อนแล้วค่อยรีบขึ้นรถมา/

               ผมกรอกตาไปมาอย่างช่างใจก่อนจะพูดเออออไปตัดปัญหา “เอางั้นก็ได้ จบวันนี้ไปพี่เอารถไปติดฟิล์มดำเลยนะ!”


               ตี๊ด!


               หลังจากกดตัดสายผมก็เคลื่อนตัวกลับมาหน้าตึกอีกครั้ง พยายามทำเป็นมองไม่เห็นรถของพี่ตุลย์ แต่ก็พยายามที่จะอยู่ในที่ที่เราจะมองเห็นกันโดยไม่ผิดสังเกตว่าผมกำลังจ้องจะขึ้นรถคันนั้น ผมรออยู่เกือบยี่สิบนาที จนบริเวณชั้นล่างของตึกคนเริ่มซาจึงค่อยหันมองซ้ายมองขวาหาเวลาเหมาะๆ แล้วพุ่งขึ้นรถสีดำสนิทอย่างรวดเร็วก่อนจะร้องเร่งให้พี่ตุลย์ออกรถทันทีที่ปิดประตูลง


               “ฮู่...” ผมพ่นลมหายใจคลายความตึงเครียดเมื่อครู่ลงพลางเอื้อมมือไปปรับช่องแอร์ “พี่มาทำไมเนี่ย เมื่อคืนก็บอกแล้วไม่ใช่หรอว่าเดี๋ยวผมกลับเองค่อยเจอกันตอนเย็น”

               “...”

               “...”

               “...”

               “นี่ ได้ยินผมไหมเนี่ย?”

               “ได้ยิน”

               “ได้ยินก็ตอบผมสิ ว่ามาทำไม” ผมเลิกคิ้วมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของคนขับรถ ก่อนจะยิ้มกว้างแล้วใช้นิ้วจิ้มแก้มของอีกฝ่ายอย่างหยอกเอิน “หรือว่าอดทนไม่ไหวอยากเจอหน้าผมเร็วๆ~”

               “...ฉันมีเรื่องที่อยากคุยด้วย”

               “หื้ม? เรื่องอะไรอะ? เรื่องใหญ่มากจนรอคุยตอนเย็นไม่ได้เลยหรอ? เรื่องของที่หนึ่งกับตอนต้นหรือเปล่า?” ผมเริ่มร้อนใจ แต่พี่ตุลย์ก็ส่ายหัวปฏิเสธว่าไม่ใช่สิ่งที่ผมกังวล

               “มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่มันก็เป็นเรื่องสำคัญ...

               “…?”

               “นายรำคาญฉันหรือเปล่า?”

               “หา? ไม่นี่ ผมไม่ได้รำคาญพี่ ผมจะรำคาญพี่ทำไม!”

               “ก็เมื่อวานนายบอกว่า อยู่ที่ห้องฉันแล้วไม่มีสมาธิ ถ้าไม่ได้รำคาญเสียงทีวี ไม่ได้รำคาญเสียงที่หนึ่งกับตอนต้น ก็เหลือแค่ฉันแล้วที่นายจะรำคาญ”

               “ผมไม่ได้รำคาญพี่” ผมพูด พยายามที่จะยิ้มเพื่อให้เขารู้ว่ามันไม่ใช่เป็นอย่างที่เขาคิด แต่เพราะใบหน้านั่นเต็มไปด้วยความกังวล มันกลับทำให้ผมยิ้มไม่ออกและเสียงสั่น


               ผู้ชายคนนั้นที่แทบจะไม่ทำสีหน้าอะไรเลยนอกจากรำคาญและตีหน้านิ่งใส่ผม แต่กลับเต็มไปด้วยกังวลเพียงเพราะเขาคิดว่าผมรำคาญเขา


               ทำไงดี...ตอนนี้ผมโคตรจะดีใจเลย!


               “ผมไม่ได้รำคาญพี่” ผมพูดเสียงเบา เบือนสายตาหนีรู้สึกเขินอายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก “แต่ที่ผมไปค้างบ้านจริงๆ ก็เพราะพี่นั่นแหละ”

               “เพราะฉัน?”

               “ใช่สิ เพราะผมคิดเรื่องพี่อยู่เต็มสมองจนทำงานไม่ได้! อยู่ในสมองของผมยังไม่พอ ยังมานั่งหน้าทีวีอยู่ในสายตาผมอีก แล้วเงี่ยจะไม่ให้ผมหนีไปทำงานบ้านเพื่อนได้ไง พี่ยอมหรอให้ผมไม่มีงานส่ง ไม่ได้คะแนน เกรดร่วงแล้วโดนไทร์ในที่สุดน่ะ”

               “นาย...!” พี่ตุลย์อึ้งค้างกับประโยคยาวเหยียดที่ผมพูดขึ้น หันมองผมกับถนนสลับกันเป็นระยะ ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่มีเสียงใดหลุดออกมาเลย นอกจากใบหูที่แดงขึ้นเรื่อยๆ จากความเขินอายที่ไม่ได้ต่างอะไรจากผม และนั่นก็ทำให้ผมหัวเราะออกมา

               “อะ! พี่จอดรถก่อนเลย จอดรถก่อน!” ผมพูดโพล่งขึ้นมาเสียงดังจนพี่ตุลย์ตกใจเผลอหักชิดเข้าเลนซ้ายแล้วเหยียบเบรกกระทันหันพลอยทำให้รถคันหลังตกใจเหยียบเบรกตามไปด้วยก่อนจะมีเสียงบีบแตรด่าทอออกมาไม่หยุดหย่อน ผมรีบเปิดประตูลงไปพะงกหัวขอโทษขอโพยรถข้างหลังแล้วกวาดสายตามองหาอะไรบางอย่างที่มักจะอยู่ริมทางเท้าสุดขอบถนนเสมอ!


               ปึด!


               “เอส! ทำอะไรอยู่ รีบขึ้นมาที่รถได้แล้ว”

               “ครับๆ” ผมตอบรับอย่างอารมณ์ดี เดินขึ้นรถไปพร้อมกับอะไรบางอย่างที่อยู่ในมือ

               “เด็ดมันมาทำไม?”

               ผมยิ้มก่อนจะยื่นดอกไม้สีขาวให้กับคนที่นั่งอยู่ข้างๆ “เป็นแฟนกันไหม? ถ้าไม่ใช่เดี๋ยวกลับมาส่ง”

               “!...” พี่ตุลย์ไม่ตอบอะไร มีเพียงดวงตาที่เบิกกว้างเพียงเล็กน้อยก่อนจะกลับไปเป็นอย่างเดิมอย่างรวดเร็วและคิ้วที่เริ่มขมวดเข้าหากัน


               มันทำให้ผมใจเสีย...


               ผมลดมือที่ถือดอกไม้ลง แม้จะใจสั่นมากเท่าไหร่แต่ผมก็ยังมองหน้าพี่ตุลย์ มองเข้าไปในสายตานั่น ไม่มีหลบหนี


               “พูดอะไรสักอย่างสิ ถ้าผมต้องถูกปฏิเสธ ผมก็อยากได้ยินมันชัดๆ ไม่อยากให้มีอะไรค้าง...อุ๊บ!”


               !!


               “มาขอคบอะไร นายเป็นของฉันตั้งแต่วันนั้นไม่ใช่แล้วหรอไง? ก็บอกอยู่ว่าฉันรอให้นายรักฉัน มันก็แปลว่าฉันแปะตัวนายเอาไว้แล้ว”


               ตอนนี้หัวของผมไม่รับรู้อะไรไปมากกว่ารสจูบที่เข้ามาประทับอย่างรวดเร็วเมื่อครู่ มันเป็นจูบเดียวกับตอนที่พี่ตุลย์จูบคืนผมเมื่อคราวก่อน แต่ครั้งนี้กลับไม่รู้สึกตกใจเลย กลับกันผมกลับรู้สึกดีมาก...มากจนหัวใจแทบจะกระดอนออกมาจากอก


               และตอนนี้ผมก็อยากจะถามเรื่องที่ผมคาใจเรื่องสุดท้าย


               “พี่ตุลย์”

               “หื้ม?”

               “เราจูบกันได้แล้วใช่ไหม?”

               “ก็คงได้ ก็ฉันจูบนายไปแล้วนี่หน่า” พี่ตุลย์พูดพลางขมวดคิ้วใส่ กดปิดปุ่มหยุดรถฉุกเฉิน ตั้งท่าจะตั้งลำรถขับกลับคอนโดฯ แต่ทุกอย่างก็ต้องชะงักเมื่อผมตวัดแขนคว้าคออีกฝ่ายเอาไว้เสียก่อน

               “ถ้างั้นขอจูบอีกทีได้ปะ? ครั้งนู่นก็มัวแต่ตกใจ ครั้งนี้ก็ยังไม่ทันตั้งตัวเลยอะ คราวนี้ขอแบบซีเรียสแอนด์จริงจัง”

               “หะ!?”

               “เร็วๆ ดิ นี่ให้โอกาสนะเนี่ย ถ้าไม่จูบ ผมจะจูบเอง”

               “...เฮ้อ” พี่ตุลย์ถอนหายใจ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ประคองใบหน้าของผมด้วยมือที่ร้อนผ่าวทั้งสองข้างนั่น “โอเค ถ้างั้นก็ ตั้งใจๆ จะจูบแล้วนะ”

               “ครับ~” ผมตอบกลับอย่างอารมณ์ดี


               ใบหน้าของเราสองคนเข้าใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดทั้งเขาและผมก็หลับตาลงก่อนที่เราสองคนจะจูบกัน








TBC
ตาลาย เขียนจนถึงตีสาม ขอโทษที่มาช้า ก็เลยเอามาชดเชยไปเลย 150%
แต่นี่จะตอนที่30แล้ว เพิ่งจะจูบกันเอง น่ารัก กุ๊บกิ๊บ ใสๆไหมละ 555555555555555
#daddybelover
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 09-08-2015 05:58:26
จูบกันแล้วนะ  :-[ เขินแทนนู๋เอสกับพี่ตุลย์เลย  :impress3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: junpa ที่ 09-08-2015 06:31:52
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-08-2015 06:33:43
 :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 09-08-2015 07:59:49
เอสน่ารักจังค่ะมีการเก็บดอกไม้มาขอพี่ตุลย์เป็นแฟนเสียด้วยน่ะ~ :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 09-08-2015 08:04:14
 :ling1: :ling1: :ling1:

 :katai2-1:

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Babylon ที่ 09-08-2015 08:19:59
แม่ขา หนูเห็นผู้ชายเขาจูบกัน(ครั้งที่ 3)แล้วคะ  :-[
ฟินนนนนน~
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 09-08-2015 08:23:37
ตัลลหลกกก ทั้งนู๋เอส ทั้งพี่ตุลย์ :m20:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 09-08-2015 08:35:48
นายเอกเรื่องนี้ไม่มีคำว่าเล่นตัวอยู่ในพจนานุกรม 5555555
มีแต่พุ่งใส่และไวไฟมาก ให้ตายเถาะ
ลูกๆ รู้จะสติแตกตายไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 09-08-2015 08:36:25
เอิ่มมมมมม เอสสติกลับมาลูก
ดูสติแตกจิงๆ 5555
ก้อยังดีที่เข้าใจกันแร้ว~~~~~
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 09-08-2015 09:38:55
อุว๊ากกกกก . กรีดร้องดังๆ
ผู้ชายจูบกันบนถนน.....อยากจิเข้าไปส่องจัง
นายเอกเรื่องนี้สุดยอดจริงๆ 555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 09-08-2015 09:42:44
เรื่องนี้ รักใสๆ
เพิ่งเห็นคนเค้าจูบกัน  :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 09-08-2015 10:28:07
อร๊างงงงงงงงง






เขา







จูบ







กัน







แล้วววววววววววว







อิเอสอ่อยพี่ตุลย์ ที่สุดอะแกร
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-08-2015 11:05:46
นิ่งๆแล้วรอมันไม่ใช่เอสสไตล์ ต้องรุกเท่านั้นถึงจะได้มา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Chattcha ที่ 09-08-2015 11:16:34
เริ่มหวานขึ้นมาบ้างแล้ว.. :impress2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: SheGame ที่ 09-08-2015 11:48:30
พี่ตุลย์น่าจะไม่จูบ เอสจะได้เป็นคนจูบก่อน คริคริ
น่ารักใสๆ :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 09-08-2015 13:53:25
หุๆๆๆๆ น่ารักจังนะ เอส มีขอจูบอีกรอบด้วย ว้ายๆๆๆๆๆ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 09-08-2015 14:27:34
นี่ถัาปันรู้ว่าที่แกเคลียดๆไม่ใช่เพราะผู้หญิงนะสงสัยหัวเราะท้องหาย เอสนี่ก็คิดมากเรื่องพี่ตุลย์เหมือนกันนะเนี่ย อิอิ เลิกคิดมากได้แล้วนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 09-08-2015 15:27:58
ฮาเอสมากกกก โถ ลูกแหงอยากมีแฟน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 09-08-2015 18:13:26
จูบเลย จูบเลย จูบเลย จูบเลย จูบเลย จูบเลย เฮ!!!!!!!!!!!  (เชียร์แบบแขกเชียร์คู่บ่าวสาวในวันแต่งงาน) ฮ่าๆๆๆ คู่นี้เค้าน่ารักจริงอะไรจริง เอสนี่ก็แมนสุดมากอะ เข้าใจไอ้อารมณ์ที่ไม่ชอบความรู้สึกค้างๆคาๆเลย มันไม่รู้ มันหงุดหงิด มันครึ่งๆกลางๆ แต่นางรุกแรงจริง มีเอาดอกไม้มาให้ด้วย พี่ตุลย์ถ้าไม่ติดว่ามีสกิลหนาแน่น การันตีด้วยลูกสอง เค้าจะคิดว่าพี่ตุลย์โดนเด็กกินแทนแน่ๆ ฮ่าๆๆๆ :z1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: MinKKniM ที่ 09-08-2015 18:28:25
น้องเอสน่ารักแบบถ่อยๆ พี่ปลื้ม  :impress2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 09-08-2015 21:23:59
เอส แกต้องเดินหน้าอ่อยเต็มที่ละ  :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 09-08-2015 21:36:41
เป็นแฟนกันเต็มตัวละสินะ อ๊าก ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง 5555+
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mekaming ที่ 09-08-2015 21:56:40
เค้าจูบกันเบิ้ล2รอบค่าาา :hao7: :hao7: :hao7:
 :katai5: :katai5: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 09-08-2015 22:03:43
จูบแล้วโว้ยยยย สมใจเอสแล้ว 55555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 09-08-2015 22:47:43
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ สนุกจัง

ค่อยๆรักกันเบาๆ 

โอ้ยยยย แต่ตอนล่าสุดทำเราเขินน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 10-08-2015 00:10:30
พี่ตุลย์กังวลใจเลยเอส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 10-08-2015 02:32:24
อิเอสสสสสสสสสสสสสสสส

อิแรด   แรดตลอด   ๕๕๕๕
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LUP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 10-08-2015 04:27:35
 :haun4: จิกหมอน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 10-08-2015 08:37:18
แล้วก็มีคนมาขัดตาทัพเสียก่อน...   ป่ะเนี่ย 555+
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 10-08-2015 14:47:59
สมใจเอสแล้วสินะ 5555555555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 10-08-2015 23:19:36
น้องเอสนี่แบบ โอ๊ย น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 10-08-2015 23:33:21
เร็วดีแท้ 55555555555
เอสเอ้ยยยย รีบมาบอกเลยนะ ว่าจูบแบบตั้งใจมันรู้สึกยังไงมั่งอ่ะ หุหุ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 10-08-2015 23:41:27
นังเอสสสส
นังแรดดดดด 5555
เดี๋ยวนี้ใจแตกนะยะหล่อน ฟินไหมยะจูบผู้ชายน่ะ!
ปล.มาต่อตอนใหม่ไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Cc-kun ที่ 11-08-2015 02:40:02
เขิลล
คู่นี้นี่น่าร้ากกตะล้อด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: onekiss ที่ 11-08-2015 15:08:09
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 12-08-2015 00:25:35
อ๊าย ...... น่าเอ็นดู
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 12-08-2015 08:49:03
อร๊ายยยยส์... ลอกความเห็นข้างบนรัวๆค่ะ
(ขอบพระคุณคุณ river เอาไว้ ณ ที่นี้ ^^)

รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 29-150% (09/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 12-08-2015 09:07:40
ฮ่าๆ น้องเอสก็มีมุมน่ารักอยู่นะเนี่ย พี่ตุลย์ดูแลดีๆ หน่อยนะครับ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 30-30% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 13-08-2015 02:07:19
ตอนที่ 30




                 “ตุลย์กินเอสเปรสโซใช่ไหม?” ทันทีที่ชายหนุ่มในชุดสูทสีเทาเข้มเดินเข้ามาภายในห้องที่มีป้าย ‘Sales Department’ ติดอยู่เหนือประตู หัวหน้างานที่มาพร้อมกับแก้วกระดาษหน้าสีดำโลโก้ตัวอักษรสีขาวสองแก้วก็ยื่นแก้วที่อยู่มือซ้ายให้กับเขา

                 “อา...อะไรครับหัวหน้า?”

                 “เลี้ยงไง เลี้ยง!” หัวหน้าฝ่ายขายพูดอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับยื่มแก้วกาแฟให้อีกครั้ง

                 “รับไปเถอะ หัวหน้าเลี้ยงทุกคนเลย นี่ไงฉันก็ได้”


                 เพื่อนร่วมงานที่กำลังเดินกลับเข้ามาในนั่งประจำโต๊ะร้องบอกพร้อมกับชูแก้วกระดาษหนาลวดลายเดียวกัน เมื่อเห็นว่าคนอื่นๆ ก็ได้นั้นตุลา หรือตุลย์ก็ยื่นมือไปรับน้ำใจของหัวหน้างานอย่างไม่มีข้อตะขิดตะขวงใจ


                 “ขอบคุณมากครับหัวหน้า” เขายิ้ม

                 “ไม่เป็นไร เป็นคนใจดีก็เงี่ยแหละ” อีกฝ่ายหัวเราะเสียงดังท่าทางอารมณ์ดีตั้งแต่เช้า พลอยทำให้บรรยากาศของห้องทำงานที่ต้องเคร่งเครียดอยู่หน้าคอมฯ และเอกสารทั้งวันสดใสขึ้น

                 “แอบถูกใจเจ้าของร้านกาแฟที่เพิ่งมาเปิดอยู่ซอยถัดจากสำนักพิมพ์เราก็บอกมาเถอะค่ะ”


                 ‘ณี’ เพื่อนร่วมงานที่กำลังเดินเข้ามาภายในแผนกฝ่ายขายพร้อมเอกสารและแก้วกาแฟในมือลวดลายเดียวกันพูดพลางกลั้วหัวเราะ ยื่นเอกสารให้กับหัวหน้างานก่อนจะเดินกลับเข้าไปนั่งประจำตรงโต๊ะทำงานของเธอ


                 “เปล่าสักหน่อย ไม่ได้ถูกใจอะไรเล๊ย แค่เห็นว่าร้านเพิ่งเปิดใหม่ กลัวเงียบเหงาก็เลยไปช่วยอุดหนุนเท่านั้นเอง” หัวหน้าแผนกหัวเราะขำแสร้งเขินอายประหนึ่งตัวเองยังเป็นเพียงชายหนุ่ม

                 “หรอค่ะ ก่อนหน้าร้านนี้เปิดมีร้านอาหารมาเปิด แถมยังอยู่ใกล้กว่าหัวหน้ายังไม่เห็นไปช่วยเขาอุดหนุนเลย”

                 “เพราะว่าเจ้าของร้านเป็นผู้ชายไง หัวหน้าก็เลยไม่สน” ‘ชาติ’ ชายหนุ่มเพื่อนร่วมงานที่นั่งติดกับณีพูดขึ้นร่วมแซว ทำให้คนทั้งสองได้เสียงเอ็ดทีเล่นทีจริงไปคนละทีสองที

                 “อย่าไปฟังพวกมันตุลา ฉันก็แค่ใจดีเท่านั้นแหละอยากช่วยร้านเพิ่งเปิดใหม่เฉยๆ”

                 “เจ้าของร้านสวยหรอครับ?”

                 “ระดับนางฟ้า!”

                 “หัวงูโผล่แล้วค่ะหัวหน้า ถ้าภรรยาหัวหน้าได้ยินคงจะพุ่งมาบีบคอแน่เลยค่ะ” ณีสาวผู้ไม่เคยเกรงกลัวหัวหน้าพูดหยอกเอิน พออีกฝ่ายรู้ตัวว่าเผยไต๋ออกไปแล้วก็โวยวายยกใหญ่ เรียกเสียงหัวเราะของลูกน้องที่นั่งทำงานอยู่อย่างประปราย

                 “ผมเพิ่งได้ยินหัวหน้าชมผู้หญิงก็เพิ่งวันนี้เองเนี่ยแหละครับ อยากเห็นขึ้นมาเรื่อยว่าจะสวยระดับนางฟ้าอย่างที่หัวหน้าพูดจริงหรือเปล่า”

                 “อะๆ อย่ามาดูถูกสายตาฉันเชียว บอกว่าสวยระดับนางฟ้าก็ต้องเป็นไปตามนั้นแน่นอน! เอางี้ไหม เดี๋ยวตอนเที่ยงเราแวะไปร้านนั้นกัน นายจะได้เห็นความสวยระดับนางฟ้าว่าเป็นยังไง ออกมาจากกองงาน หยุดคิดถึงเรื่องลูกสักพักแล้วไปดูสีสันของชีวิตกันดีกว่า” ชายผู้สูงอายุกว่าพูดพลางใช้ศอกกระทุ้งเป็นเชิงกระเซ้าเย้าแหย่

                 “ผมก็อยากจะไปเห็นเหมือนกันนะครับ แต่ตอนเที่ยงผมว่าจะไปแวะร้าน ‘หนังสือดี’ สักหน่อยน่ะครับ เมื่อวันก่อนเห็นยอดขายแล้วนึกแปลกใจที่ทำได้มากกว่าร้านอื่นตั้งสองเท่า ทั้งๆ ที่สองเดือนก่อนยังทำยอดได้เท่าร้านอื่นอยู่เลย”

                 “งานอีกแล้ว นายนี่หน่า บ้างานจริงๆ เลย ไม่มีใครในแผนกออกไปลงพื้นที่มากเท่านายแล้วเนี่ย”

                 “ผมก็ได้แต่ขอความเมตตาให้หัวหน้าเพิ่มโบนัสให้ผมเท่านั้นแหละครับ” ตุลย์ยิ้ม

                 “ฮ่าๆ นั่นสินะ ถ้าไม่ให้รางวัลพนักงานซะบาง ก็คงทำงานแบบซังกะตายเหมือนไอ้พวกที่เหลือสินะ” ผู้ที่อายุมากกว่าตบบ่าคนใต้บังคับบัญชาพลางกวาดสายตามองคนอื่นๆ ในห้องทำงานที่ก้มหน้าแสร้งขยันขันแข็งขึ้นมาทันตา “โทษที ยืนคุยด้วยนานเลย จะไปทำงานอะไรก็ไปทำไป”

                 “ครับ” ชายหนุ่มโค้งตัวให้เล็กน้อยอย่างนอบน้อมขณะที่ตั้งท่าจะเดินถือกระเป๋าทำงานและแก้วกาแฟไปยังโต๊ะของตนเขากลับโดนเรียกเอาไว้เสียก่อน

                 “อ๋อ! แล้วก็อย่าลืมแวะไปที่ร้านนั้นละ จะได้เห็นนางฟ้าแบบที่ฉันเห็นบ้าง”

                 ตุลย์ยิ้ม “ครับ แล้วผมจะแวะไปนะ”
















                 มือใหญ่ปลดเนคไทของตัวเองเล็กน้อยระบายความร้อน ก้าวขายาวเดินฉับๆ เพื่อให้ถึงสำนักพิมพ์ที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำตลอดวันนั้นอย่างรวดเร็ว


                 “หื้ม...” เสียงทุ้มร้องอุทานขึ้นเบาๆ กับตัวเองเมื่อในขณะที่เขากำลังปาดเหงื่อข้างไรผมสายตาเหลือบเห็นร้านกาแฟร้านหนึ่งที่เขียนโปรโมชั่นเปิดร้านใหม่ลงบนกระจกใสที่ถูกใช้เป็นกำแพงของร้าน

                 “แอบถูกใจเจ้าของร้านกาแฟที่เพิ่งมาเปิดอยู่ซอยถัดจากสำนักพิมพ์เราก็บอกมาเถอะค่ะ”

                 เขาหันมองที่ตั้งของสำนักพิมพ์ที่อยู่ไม่ไกลก่อนจะกลับมาดูที่ตั้งของร้านกาแฟทางซ้ายมือ นอกจากที่อยู่น่าจะถูกต้องแล้ว ลายประจำร้านที่อยู่เหนือประตูยังเป็นลายเดียวกับที่อยู่บนแก้วกาแฟที่หัวหน้าให้มาตอนเช้าอีกด้วย


                 “เชิญเข้ามาลองไหมคะ? นอกจากเครื่องดื่มแล้วทางร้านยังมีเค้ก แพนเค้ก วาเฟเฟิลด้วยนะคะ”

                 “ไม่...” เสียงปฏิเสธขาดหายเข้าไปในลำคอ แม้ว่าเขาจะไม่ถูกกับของจำพวกเบเกอรี่สักเท่าไหร่นัก แต่ในอากาศที่ร้อนอบอ้าวจนเหงื่อมซึมเสื้อกล้ามด้านในขนาดนี้ก็คงดีไม่น้อยถ้าได้นั่งตากแอร์จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ก่อนเข้าไปนั่งทำงานในออฟฟิศต่อ “อ่า หนึ่งที่ครับ”


                 หลังจากที่ดื่มแดงโซดาที่สั่งมาจนหมด ตุลย์ก็ค่อยๆ จัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง คว้าสูทที่พาดอยู่ก่อนจะเดินไปยังเคาเตอร์ชำระเงินที่มีพนักงานสาวสองคนช่วยกันทำหน้าที่อยู่ ในระหว่างที่รอใบเสร็จเขาก็อดไม่ได้ที่จะกวาดสายตามองไปทั่วร้านเพื่อจะหา ‘สาวสวยระดับนางฟ้า’ อย่างที่หัวหน้าพูดถึง


                 “ขอโทษนะครับ เจ้าของร้าน...”

                 “ผู้จัดการออกไปตอนสิบเอ็ดโมงค่ะ ยังไม่กลับเข้ามาเลย”

                 “อ๋อ งั้นหรอครับ”

                 “แต่ว่า เดี๋ยวผู้จัดการก็น่าจะเข้าร้านแล้วค่ะ ถ้ามีธุระจะรอสักครู่ก็ได้นะคะ” แคชเชียร์สาวว่าพลางยื่นใบเสร็จ
                 
                 “ไม่เป็นไรครับ ไม่ได้มีธุระอะไร” ตุลย์ส่งยิ้มเล็กน้อย รับใบเสร็จมาก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากร้านโดยมีเสียงขอบคุณจากพนักงานไล่หลังตามมา


                 ซึ่งเขาไม่รู้เลยว่า ผู้จัดการร้านที่เขาถามหากำลังจะเดินเข้าร้านมาในเพียงอีกไม่กี่วินาที


                 “นั่นใครน่ะ?”

                 “คะ?” พนักงานสาวที่ยืนต้อนรับอยู่หน้าร้านร้องเสียงหลง ชะโงกมองตามสายตาก่อนจะเห็นลูกค้าในชุดสูทสีเทา เดินห่างอยู่ไกลออกไป “ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ผู้จัดการมีอะไรหรือเปล่าคะ?”

                 “ไม่มีอะไรหรอก” เธอยิ้ม “ก็แค่คุ้น...”








30%









                 ผมรู้ตัวมาตลอดว่าตัวเองเป็นชายหนุ่มที่อยู่ในวัยเจริญเติบโต แต่เพิ่งจะมีสองสามวันมานี่เนี่ยแหละ ที่มีความรู้สึกว่าผมนี่มัน ‘หนุ่ม’ จริงๆ! แถมยังเป็นคนโลภด้วย! พยายามจะหักห้ามใจตัวเองหลายครั้งแล้วละครับ แต่รู้ตัวอีกทีความอยากรู้อยากเห็นของหนุ่มสามวัยเช่นผมก็ทำให้เผลอใช้โน๊ตบุ๊คของไอ้พี่ตุลย์ไปหาเรื่องอย่างว่าซะได้ ทั้งๆ ที่ผมกับเขามีข้อตกลงกันว่าจะเปิดเว็บใฝ่คุณธรรมนำปัญญาเท่านั้น!


                 ว่าแล้วก็เหลือบมองหน้าจอโน๊ตบุ๊คที่เปิดหน้ากระทู้ๆ หนึ่งที่มีหัวข้อว่า ‘ระหว่างผู้ชายมีอะไรกันยังไง’


                 ...


                 จบแล้วว!


                 นามสกุล โรจนรัตติกร ไม่มีทายาทสืบต่อไป สิ้นสุดกันเพียงเท่านี้แล้ว ขอโทษพ่อที่อยู่บนสวรรค์ ขอโทษปู่ที่ตอนนี้ก็ยังใกล้จะเกิดใหม่แล้ว ขอโทษทวด ดับเบิ้ลทวด ทริ้ปเปิ้ลทวดที่ตอนนี้เกิดใหม่จนจะลาโลกไปอีกรอบแล้วด้วย ที่นามสกุลนี่ต้องจบด้วยลูกหลานเยี่ยงผม ไอ้ตอนจูบกับพี่ตุลย์ก็คิด เออ ผู้ชายกับผู้หญิงมันก็มีปากเหมือนกัน จูบกับผู้หญิงหรือผู้ชายมันก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่นี่ถึงขั้นเสริชวิธีการเสียบกับผู้ชายแล้วเนี่ย...


                 กูฝักใฝ่แบบไม่ธรรมดาแล้วใช่ไหม...ไม่หรอกมั้ง ก็แค่ศึกษาไว้เพราะตอนนี้คบกับผู้ชายอยู่นี่...คบกับผู้ชายยย!!


                 “หมดกันแล้วบุรุษเพศบนโลกใบนี้”

                 “หื้ม? เมื่อกี้เอสพูดอะไรหรือเปล่าลูก?” ป้าสร้อยที่นั่งดูทีวีดูตอนต้นที่เดินหอบของเล่นเต๊าะแต๊ะไปทั่วห้องเอ่ยถามผมที่นั่งเล่นโน๊ตบุ๊คอยู่ที่โต๊ะกินข้าว

                 “ไม่มีอะไรหรอกครับ” ผมหัวเราะเสียงแห้ง

                 “ถ้าคิดเรื่องงานไม่ออก พักก่อนก็ได้นะ หาอะไรเย็นๆ ดื่มดีไหม? ห้องผ้ามีเฮลลูบอยด้วย เดี๋ยวป้าไปเอามาดีกว่า ฝากดูตอนต้นแป๊บนึงนะ”


                 ป้าสร้อยพูดเองเออเองเสร็จสรรพก็เดินกลับห้องของตัวเองไปเลย ทิ้งผมที่ยังมึนๆ กับกระทู้ที่เปิดค้างไว้ให้อยู่กับตอนต้นที่ตอนนี้ถือลูกบอลผ้าเดินเข้ามาหาผมในห้องครัวแล้ว


                 “อา!”

                 “จะเอาอะไร?” ผมก้มหน้าถามเด็กที่ชี้นิ้วมาทางผมแล้วส่งเสียงไม่ได้ศัพท์ มันทำหน้าเอ๋อๆ เหมือนหมูที่เพิ่งคลอดก่อนจะเปล่งเสียงคำเดิมอีกครั้งพร้อมชี้จนนิ้วแทบจะทิ่มเข้ามาในตาของผม

                 “อาา!”

                 “ก็ถามอยู่นี่ไงว่าจะเอาอะไร? หิว ฉี่ ขี้? อยากได้อะไรก็บอกดิ หรือว่าอยากจะมาอ่านกระทู้ชายชายด้วยกันไหมละ?” ผมยักคิ้วกวนๆ ไม่รอให้มันส่งเสียงหรือเดินหนีก็อุ้มขึ้นนั่งตัก อ่านกระทู้ ‘ระหว่างผู้ชายมีอะไรกันยังไง’ ด้วยกัน

                 “เอส ที่ห้องมีน้ำแข็งไหมลูก?”

                 ผมละสายตาจากกระทู้ในหน้าจอโน๊ตบุ๊ค ลุกขึ้นอุ้มตอนต้นไปตอนรับการกลับมาของป้าสร้อยกับขวดเฮลลูบอยในมือหน้าทีวีก่อนจะส่ายหัวเป็นการปฏิเสธคำถามเมื่อครู่

                 “ไม่มีอะครับ ที่นี่ไม่ค่อยใช้น้ำแข็งอะ แต่แช่ตู้เย็นกินเย็นๆ เท่านั้นเองครับ”

                 “หรอ แย่จัง ที่ห้องป้า ก็เผลอไม่ได้ทำน้ำแข็งเอาไว้ ถ้าไม่มีน้ำแข็งก็ทำน้ำแดงเย็นๆ กินไม่ได้น่ะสิ เอางี้ดีกว่า เอสช่วยลงไปซื้อที่ร้านขายของใต้คอนโดให้หน่อยได้ไหมลูก?”

                 “อ๋อ ได้ครับๆ”

                 “ขอบใจมากนะ อะ แป๊บนะเดี๋ยวป้าหยิบค่าน้ำแข็งให้”

                 “ไม่เป็นไรครับๆ เดี๋ยวผมออกเองดีกว่า อุตส่าห์ทำน้ำแดงให้กิน จะให้มาเสียเงินค่าน้ำแข็งอีก ผมก็เป็นผู้ชายที่ใช้ไม่ได้แล้วละครับ” ผมหัวเราะ ล้วงหยิบแบงค์ห้าสิบในกระเป๋ากางเกงนักศึกษาโชว์ขึ้นมาให้อีกฝ่ายดู

                 “ถ้างั้นก็ ฝากด้วยนะ เดี๋ยวป้าจะทำน้ำแดงไว้รอเลย”

                 “ครับผม~” ผมขานรับเดินกลับเข้าไปในครัว ปิดหน้ากระทู้และโน๊ตบุ๊คที่วางอยู่บนโต๊ะกินข้าวก่อนจะพุ่งชาตตัวตอนต้นออกไปซื้อน้ำแข็งด้วยกัน “ผมยืมตัวหมูไปด้วยนะครับ”

                 “ระวังตอนต้นร้องนะ”

                 “ครับ ถ้ามันร้องเดี๋ยวผมเอามือยัดปากเอง” ผมหัวเราะก่อนจะปิดประตูห้องลง


                 ตอนแรกที่ผมเริ่มพาตอนต้นออกจากห้องบ้าง ไอ้อ้วนนี่จะดูอะเลิทอยู่ตลอดเวลาหันซ้ายแลขวาประหนึ่งว่านอกห้องพักเป็นโลกใบใหม่ ตื่นเต้นตื่นตาไปหมดส่งเสียงร้องลั่นก้องไปทั่วจนผมแทบจะพุ่งเข้าไปปิดปากไว้แทบไม่ทัน แต่พอเริ่มออกมาครั้งที่หก ครั้งที่เจ็ดท่าทางของเด็กนั่นก็เป็นอย่างเช่นตอนนี้เนี่ยเฉย นิ่ง ไม่สนใจอะไรประหนึ่งไม่ต่างจากอยู่ในห้องของตัวเอง 


                 “เดี๋ยวพอไปเจอพี่ที่ร้านขายของ ต้องทักทายพี่เขาด้วยรู้เปล่า พูด ‘สวัสดี’ นะไม่ใช่ร้องไห้ เข้าใจไหม?” ผมว่าพลางเดินเข้าไปในลิฟต์ ตอนต้นที่มันเอาหัววางแหมะอยู่บนไหล่ของผมไม่ตอบอะไรกลับมานอกจากผงกหัวขึ้นมาดูหน้าผมเล็กน้อยแล้วซบไหล่ต่อ “ไอ้นี่ ทำเมินฉันหรอไง?”

                 “อื้ออ” มีการฮึมฮัมในลำคอประมาณว่ารำคาญด้วย!

                 “เดี๋ยวจะไปให้ไปอยู่กับพี่เจ้าของร้านด้านล่างเลย โดนแตะตัวร้องไห้จนตายแน่แก หึหึ”

                 “แอ๊!”


                 ตุ๊บ!


                 “มีทุบ! อยากเจอใช่ปะ? หาเรื่อง? งั้นรีบโตเลย รีบโตแล้วมาต่อยกันเลยมา?”


                 ตุ๊บ!


                 ไอ้นี่วอนซะแล้ว เดี๋ยวนี้สนิทมากไปมีทำร้ายร่างกายตลอด


                 “แก ตายซะเถอะไม่ต้องโตมันแล้ว” ผมแยกเขี้ยวใส่ ตั้งใจจะหนีบเนื้อมันสักทีสองทีต่อด้วยดีดหน้าผากมันสักหนสองหน!
                 
                 “จะทำอะไรลูกฉันน่ะ?”


                 ชะอุ้ย!


                 เสียงทุ้มที่คุ้นหูของคนที่เพิ่งเดินเข้าคอนโดฯ มาก็ทำให้ผมต้องหยุดชะงัก ลดมือ หันคอไปหาอย่างช้าๆ พร้อมโปรยยิ้มประหนึ่งนางงามผู้ใสซื่อรักเด็กรักสัตว์รักซากุระ จะทำร้ายร่างกายใครนี่ไม่เค๊ยไม่เคยจะมีอยู่ในหัว


                 “กลับเร็วจัง เพิ่งบ่ายสองเองอะ แหะๆ”

                 “มีลางสังหรณ์ว่าลูกจะถูกทำร้ายก็เลยมาดูหน้าคนใจโหด”

                 “หะ อะไร? ใครไปทำร้ายลูกชายของพี่กัน ไม่จริ๊ง ไม่จริง พี่ต้องคิดมากไปแน่เลยอะ ฮ่ะๆ” ผมหัวเราะเสียงแห้งทำเป็นมองซ้ายทีขวาทีมองบนมองล่างมองหน้ามองหลังให้รู้กันไปเลยว่าผมนี่โคตรมีพิรุธ “เออ เดี๋ยวผมต้องไปซื้อน้ำแข็งให้ป้าสร้อยอ่ะ หลีกทางไปดิ๊” ว่าแล้วก็ใช้ยกเท้าเขี่ยขาอีกฝ่ายให้หลีกทางออกไป

                 “...จะไปก็ไปดิ ไม่ได้ขวางทางสักหน่อย” ไอ้พี่ตุลย์หรี่ตามองผมก่อนจะคว้าลูกชายคนเล็กของตัวเองไว้ในอ้อมแขนเสียเอง

                 ผมจิ๊ปาก “แล้วจะเอาอะไรปะ? อย่าสั่งเยอะนะมีงบอยู่ห้าสิบบาททั้งเนื้อทั้งตัว”

                 พี่ตุลย์คว้ามือก่อนจะวางแบงค์สีแดงสองใบลงบนฝ่ามือ “ซื้อเบอร์ดี้แบบซองมาให้หน่อยมันหมดแล้ว แล้วก็ซื้อผงซักฟอก น้ำยาล้างจานมาด้วย ส่วนเหลือเท่าไหร่จะเอาไปซื้อขนมก็ได้”

                 “อา โอเค”


                 ผมก้มมองเงินในมือ อดไม่ได้ที่จะแอบอมยิ้มออกมา พี่ตุลย์รู้ดีว่าตั้งแต่เปิดเรียน ผมไม่ได้ทำงานพิเศษ มีเงินเก็บอยู่เล็กน้อยและผมพยายามที่จะประหยัดอย่างมาก เขารู้ดีพอๆ กับที่รู้ว่าผมมีศักดิ์ศรีมากพอที่จะไม่ขอเงินเขาใช้เช่นกัน เขาเลยมักจะให้แบงค์ใหญ่กับผมไปซื้อของเล็กน้อยให้เสมอ ช่วงแรกๆ ผมซื้อของให้ เงินทอนทั้งหมดก็ให้เขา แต่พี่ตุลย์ก็ไม่เคยรับกลับไปเลย ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง พอผมยัดเยียดก็จะเอาเงินนั้นวางไว้ แบบไม่ใส่ใจ ปล่อยให้ขึ้นอยู่กับดวงว่าจะถูกตอนต้นกินเข้าไปหรือจะกลายเป็นซากอารยธรรมอยู่ในซอกหลืบโซฟาจนถึงชาติหน้า พักหลังๆ ผมก็เลยเอาเงินนั้นซื้อของให้เขา หรือไม่ก็เอาไปซื้อของใช้เข้าบ้านแทน เหลือเงินเป็นจำนวนน้อยเมื่อไหร่ก็ค่อยเก็บเข้ากระเป๋าตัวเองถือเป็นค่าสินน้ำใจ และพี่ตุลย์เองก็ดูพอใจกับการพบกันครึ่งทางแบบนั้น


                 “รีบไปซื้อของสิ ฉันกับตอนต้นจะไปรออยู่ข้างบน” เสียงทุ้มพูดขึ้นแทรกความคิด ขณะที่เขาตั้งท่าจะอุ้มเด็กอ้วนนั่นขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนผมก็รีบเอื้อมมือคว้าชายเสื้อสูทเอาไว้เสียก่อน “อะไร?”


                 ผมยิ้ม ใช้มือข้างหนึ่งปิดตาของตอนต้นไว้ ส่วนมืออีกข้างคว้าคอเสื้อของพี่ตุลย์ดึงเข้ามาประกบปากอย่างรวดเร็ว แม้อีกฝ่ายจะมีทีท่าตกใจแต่ก็ให้ความร่วมมืออย่างดี


                 ผมผละออกอย่างอ้อยอิ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ประตูลิฟต์ที่อยู่เยื้องออกไปเปิดออก เราสองคนมองหน้ากันเล็กน้อยก่อนที่พี่ตุลย์จะเดินเข้าไปในลิฟต์พร้อมกับตอนต้น ส่วนผมเองก็หันไปอีกทางเพื่อจะไปซื้อน้ำแข็งให้ป้าสร้อยตามเดิม


                 ตึกตัก...


                 พี่ตุลย์ไม่ใช่คนแรกที่ผมจูบด้วย พูดไม่ได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าจูบกับพี่ตุลย์คือจูบที่ดีที่สุดในโลก แต่สิ่งหนึ่งที่ผมยืนยันได้ คือการที่เราได้ใกล้ชิดกันแบบนี้มันทำให้หัวใจของผมเต้นตูมตาม อยากจะปฏิเสธแต่กลับเฝ้ารอแต่เวลาที่จะได้จูบซ้ำย้ำที่เดิม เป็นความสับสันระหว่างใจกล้ากับความเขินอาย ขัดแย้ง


                 แต่...ผมก็ชอบความรู้สึกนี่มาก


                 ชอบมากจริงๆ










TBC
ตอนนี้มหา'ลัยเปิดแล้วค่ะ เปิดตั้งแต่วันที่ 10 แล้ว ก็เลยมีเรื่องนิดนึง เลยหายไปตั้ง 3 วัน ไม่โกรธนะพลีสส
ตอนแรกว่าจะรวมเป็นตอนที่ 30 ตอนเดียวแต่ว่าตัวอักษรเกิน น่าจะเยอะเลย งั้นตัดไปเป็น 30.5 แล้วกันเนาะ ~
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 30-30% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Babylon ที่ 13-08-2015 02:18:40
นางคนนั้นเป็นใคร มาดีรึมาร้าย :katai1:


นายเอสใช่ไหม ใช่ชัวรฺๆ ขอบคุณคนแต่งมากค่าาาา :กอด1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 30-30% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 13-08-2015 06:12:08
รึว่า....คนรักเก่า!!!!!! :katai4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 30-30% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 13-08-2015 07:33:17
ใครน้อ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 30-30% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 13-08-2015 09:40:54
แม่ของลูก??

เพ่ื่อนสมัยเรียน?  :ruready
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! D!!!!!!! UP ตอนที 30-30% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 13-08-2015 10:49:21
ไม่ใช่แม่ของเด็กๆ ใช่ไหม ถ้าใช่หวังพี่ตุลย์จะเจ็บแล้วจำ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 30-30% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 13-08-2015 13:50:16
ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร? เอสก็พร้อมรับมือเสมอค่า~ :laugh3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 30-30% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 13-08-2015 13:52:15
แม่ของลูกหรือเปล่าเนี่ย
มาเจอน้องเอสหน่อยเป็นไง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 30-30% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-08-2015 13:52:45
ใคร?????
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 30-30% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 13-08-2015 15:02:33
คุณแม่ของเด็กๆรึเปล่า....  พี่ตุลย์เจ็บแล้วจำคือคนนะพี่  ไม่เป็นไร เอสต้องสู้ไหวแน่ๆ ไหนจะมีคุณป้าฮาร์ดคอร์อีกคน 5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 30-70% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 13-08-2015 15:48:56
เดี๋ยวๆๆๆๆๆ ไอ้ตรงสปอยนั่น เจ้าเอสเนี่ยนะจะให้พี่ตุลย์เป็นฝ่ายท้อง คิดได้นะเอสสส แค่ดูชั้นเชิงก็รู้และว่าใครชนะ หึๆๆๆๆ :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 30-70% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 13-08-2015 16:22:22
เอสอยากจูบพี่ตุลย์แต่ก็ยังเป็นห่วงกลัวว่าตอนต้นจะเห็นฉากเรทเสียด้วยเน้ออ.. น่ารักจังเลยค่าา :m3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 30-70% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 13-08-2015 17:31:44
ตรงสปอยนี่เอสช่างคิดเหมือนเดิมเลยนะ 5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 30-70% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 13-08-2015 17:54:42
ค้างคาอ่ะ   ฮือๆ  ทำร้ายกันน่ะ  ผู้เขียน  ๕๕๕
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 30-70% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 13-08-2015 18:04:10

“พี่มีลูกสองแล้วนะ...”
“แล้ว?”
“ผมยังไม่มีลูกเลยสักคน”
“แล้ว?”
“งั้นพี่เป็นฝ่ายท้องลูกให้ผมแล้วกันเนาะ”



กร๊ากๆๆๆๆๆๆ เอสคงคิดได้คนเดียวในโลกแน่แท้

คิดไม่ผิดที่เป็นติ่งเอส


หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 30-70% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 13-08-2015 19:10:13
เอสเข้าใจอะไรผิดป่ะ พี่ตุลย์ต่างหากล่ะที่จะทำลูกคนที่สาม 55555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 30-70% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 13-08-2015 19:33:29
นางผญ.ผู้นั้น นิสงสัยจะเมียเก่าซีนะ
ตอนหน้าาาาาาาาาา น้องเอสสสสสสสสสสส
ทำไม ทำไม ทำไม ไม่รักนวลสงวนตัวบ้างงง ง

 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 30-70% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 13-08-2015 19:43:03
นังน้องเอสในสปอยนั่นคืออะไรตลก 555555555555555555555
แล้วจะทำร้ายลูกเค้าต่อหน้าพ่อเค้าอีก โดนแน่ๆ จัดการเลยค่ะพี่ตุลย์ จูบเลยๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 30-70% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 13-08-2015 20:04:20
ผู้หญิงที่ร้านกาแฟ...หรือว่าจะเปนแม่ที่หนึ่ง...!!!
 :sad5: :sad5: :sad3:

ฉากจูบช่ำได้ใจจิงๆ อิอิ
ชอบตอนต้นตอนที่ทุบเอสจิงๆ อย่างฮาอ่ะ 55555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 30-70% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-08-2015 21:57:08
อยากเห็นแล้วเนี่ย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 30-70% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 13-08-2015 22:17:58
สปอยนี่อีเอสชั่งกล้าอยากทำลูก

ว่าแต่เจ้าของร้านกาแฟคือใคน จะเกิดอะไรขึ้บ้าง


 :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 30-70% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 13-08-2015 22:27:38
น่าาาาาานนนนนนงะ....ไอ้เอส เด็กแก่แดดเอ๊ย!!!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 30-70% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 14-08-2015 00:32:17
ผู้หญิงคนนั้นคือใครรรรรรร

สปอยตอนต่อไปตลกกกกกกก 5555555555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 30-70% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 14-08-2015 01:01:43
 :ling1: :ling1: :ling1:

ขุนเอส   ขุนแรดดดดด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!! UP ตอนที 30-70% (13/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 14-08-2015 01:04:40
เจ้าของร้านกาแฟคือใครน้อ :m28:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 14-08-2015 14:22:57
ตอนที่ 30.5
               



                “เอส ฉันว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันหน่อยแล้วมั้ง”


                 ทันทีที่ผมเดินเข้ามาภายในห้องนอน พี่ตุลย์ที่กึ่งนอนกึ่งนั่งพิงหลังกับเตียงก็พูดกับผมเสียงเหี้ยมจนรู้สึกใจคอไม่ดีแต่ถึงอย่างนั้นผมกลับไม่สนใจลางสังหรณ์ของตัวเองยกผ้าขนหนูผืนเล็กขึ้นเช็ดผมแล้วเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย


                 “มีอะไรอะ?”

                 “โน๊ตบุ๊ค...”

                 “หื้ม? ก็อยู่ข้างตัวพี่ไง ที่เรียกมานี่คือจะให้ผมกางโน๊ตบุ๊คเปิดหน้างานพี่ให้ไง?” ผมยืนพักขามือเท้าเอว แต่พี่ตุลย์กลับไม่พูดอะไรนอกจากเงยหน้ามองผมด้วยสายตาที่เรียบนิ่งและคิ้วที่ขมวดกันเป็นปมอย่างที่ผมเห็นจนชินตา


                 อะไรวะ?


                 “วันนี้นายได้เอาโน๊ตบุ๊คฉันไปทำอะไรหรือเปล่า?”

                 “หา เปล่านะ นี่กวาดห้องก็กวาดเอง ล้างจานก็ล้างเอง ไม่ได้ให้โน๊ตบุ๊คพี่ไปทำ...”


                 ฉิบหายแล้ว!


                 เพิ่งนึกได้ ก่อนลงไปซื้อน้ำแข็งให้ป้าสร้อยเปิดดูกระทู้ ‘ระหว่างผู้ชายมีอะไรกันยังไง’ เอาไว้นี่หว่า ปกติจะลบประวัติการเข้าชมไม่ให้ไอ้พี่ตุลย์จับได้ แต่คราวนี้ไอ้เอสพลาดครับผม คือตอนนั้นตั้งใจว่าจะรีบลงไปซื้อน้ำแข็งแล้วกลับมาเสิร์ชข้อมูลต่อไง ก็เลยแค่ปิดหน้าจอแค่นั้นเอง ลืมลบประวัติการเข้าชมไปซะสนิท อ๊ากกกกกก พลาด พลาดดดด!


                 ไม่ ใจเย็นเอส มึงอาจจะคิดมากไป พี่ตุลย์อาจจะแค่ถามเฉยๆ ว่า ‘เอส นายเอาโน๊ตบุ๊คไปใช้หรือเปล่าน่ะวันนี้ /เสียงแบบนักบวช’ ก็ได้!


                 “เมื่อกี้ฉันเพิ่งเข้าไปเช็คประวัติการเข้าชม”

                 “...อึก”


                 ทำได้แค่กลืนน้ำลายตอนนี้ ประหนึ่งว่าพ่อแม่จับได้ว่าลูกชายโตเป็นสาวแล้วนะ


                 “แล้วรู้ไหมฉันเจออะไร?”

                 “อะ เอ่อ...บทสวดธรรมมะใช่เปล่า เมื่อวันก่อนเพื่อนมันบอกว่าสวดมนต์ก่อนนอนเนี่ย จะนอนหลับสบายมาก ฝันดี ตื่นมาสดชื่นก็เลยเสิร์ชหาดูไง แปลกใจอะไรละพี่”

                 “เสิร์ชหาบทสวดธรรมมะในกระทู้ ‘ระหว่างผู้ชายมีอะไรกันยังไง’ หรอ?”


                 นั่นไง! โชคไม่เคยเข้าข้างกูวววว ให้ไอ้พี่ตุลย์สมองฝ้าฟาง สายตาพร่าเบลอตอนที่เห็นชื่อกระทู้เล็กๆ ที่มือผมมันเลื่อนไปคลิกไม่ได้เลยหรอไงฟะ เอาไงดี โดนไอ้พี่ตุลย์จับได้ว่าแอบเข้ากระทู้เกย์นี่ไม่ใช่เรื่องตลกอะ แถมเสือกไม่ใช่เกย์ธรรมดานั่งจับมือด้วยนะ เป็นเกย์แบบสิบแปดบวก ไอ้คนตอบกระทู้บางคนที่ตอบมาเป็นตัวหนังสืออย่างเดียว กลัวคนตั้งกระทู้จะไม่เก็ท มึงมาเป็นรูปเลยย รูปเดียวไม่พอมาทุกกระบวนท่า ทุกขั้นตอน บางคนหนักมาเป็นคลิป มาเป็นเว็บ


                 ฮึก ธรณีนี่นี้เป็นพยาน มึงช่วยสูบกูลงไปหน่อยได้ไหม


                 “คือ...” คอนี่แห้งผาก

                 “อยากรู้เอามาใช้กับฉันหรอ?”

                 “ตรงประเด็นไปมั้ง” ผมหัวเราะเสียงแห้ง เบือนหน้าหนีไม่อยากจะยอมรับว่า เออ เอาไปใช้กับไอ้พี่ตุลย์เนี่ยแหละ ก็คบกับมันแล้วผมจะเอาไปใช้กับเจ้าของร้านขายข้าวแกงที่หน้ามหา’ลัยมั้ง

                 “ถ้าอยากรู้น่าจะมาบอกฉัน ปฏิบัติไปเลยจะมามัวลองทฤษฎีอยู่ทำไม”

                 “หะ!”


                 ผมหันขวับคอแถมเคล็ด อะ ไอ้พี่ตุลย์ไม่ด่า แต่กลับพูดกับผมแบบนี้ แถมรอยยิ้มนั่น สุดยอดของความไม่น่าไว้วางใจ เหี้ยเลย ตอนนี้ขนลุกชูชันเป็นสัญญาณบอกว่าไอ้เอสมึงกำลังจะไม่ปลอดภัย ว่าแล้วก็ก็ขอเดินถอยหลังสองก้าว


                 ต๊อก ต๊อก


                 “พี่ พูดเล่นใช่ปะ?”

                 “ฉันเคยพูดเล่น? เล่นโน๊ตบุ๊คอยู่ดีๆ เห็นคนที่ตัวเองคบอยู่เสิร์ชหาอะไรแบบนี้จะให้ฉันรู้สึกยังไงละจริงไหม?”


                 ‘กำลังคบอยู่’ โหยเต็มปากเต็มคำ ผมนี่ขนาดคิดในใจยังไม่กล้าคิดดังเลย


                 “ผม...ก็แค่อยากรู้เฉยๆ เป็นความรู้รอบตัว ไม่ได้คิ๊ด ไม่ได้อยากจะทำอะไรอย่างนั้นเลยจริงๆ นะ แบบเผื่อเพื่อนเป็นเกย์ฝึกหัดแล้วมาปรึกษาไง ก็จะได้ตอบคำถามนู่นนี่นั่นถูก จริงๆ! พี่อย่าคิดว่ามีอะไรแอบแฝงดิ มันไม่ได้มีอะไร!” พูดเสียงดังนะแต่เดินถอยหลัง ตอนแรกก็ช้าๆ แต่พอเห็นไอ้พี่ตุลย์ขยับตัวเหมือนจะเข้ามาก็แทบจะถอยหลังกรูด

                 “ไม่มีอะไรแล้วจะถอยหลังหนีทำไม”


                 แล้วทำท่าเหมือนจะลุกมาหาทำไมครับบ! ตั้งแต่เกิดมาก็เคยเป็นฝ่ายไล่ต้อน ตอนเล่นบทประหนึ่งหนังรักอินเดียก็เป็นแต่ฝ่ายไล่จับ นี่อะไรทำไมคราวนี้แม่งกูมาอยู่ฝ่ายลูกแกะรอโดนจับกินแบบนี้ได้ เสียเชิงชายสุดๆ แต่พอเห็นหน้าไอ้พี่ตุลย์แล้วจะจะพลิกสวมบทหมาป่าเพลงนี้ก็ขึ้นเลย


                 รักษายังไงไม่หายต้องตายอยู่ดี~


                 “เอส มานี่มา”

                 “เรื่องไรอะ!” ผมพูดเสียงดัง ทำหน้ากวนส่งท้ายหันหลังบิดลูกบิดเตรียมไปนอนนอกห้องคืนนี้ แต่ไอ้พี่ตุลย์ครับ! ส่วนสูงก็เท่ากัน ขาก็ยาวไม่ได้ต่างกันแท้ๆ แม่งพุ่งมาเร็วกว่าเว๊ย พอเปิดประตูปุ๊บเราควรจะพุ่งไปที่โซฟาในห้องนั่งเล่นใช่ปะ นี่ครับ เปิดประตูปุ๊บ กูกระเด็นมานอนอยู่บนเตียงไอ้พี่ตุลย์ปั๊บ งงมากกก


                 แต่มีเวลามึนไม่นาน เพราะต้องมาดิ้นแด่วๆ เพราะไอ้พี่ตุลย์แม่งขึ้นคร่อมมาแล้ว!


                 “จูบบ่อยแล้ว คงไม่รู้สึกอะไรแล้วมั้ง เพราะงั้นก็มาขั้นต่อไปกันดีกว่า”

                 “ไม่เป็นไรพี่ เนี่ยผมยังรู้สึกดีกับจูบพี่อยู่เลย นอนจูบแม่งให้ปากบวมไปเรียนก็ยังได้เลย ขั้นต่อไปอะไร ไม่เอาไม่ดีไม่พูดแบบนี้สิครับ” ผมพูดหันซ้ายมองขวาหาหนทางชิ่ง

                 “ปากบอกไม่เอา แต่ตัวเองไปเสิร์ชหาข้อมูลในเน็ตเลยเนี่ยนะ แถมไม่รู้ว่าเพิ่งเริ่มเสิร์ชวันนี้หรือเสิร์ชมาตั้งแต่เมื่อไหร่” พี่ตุลย์พูดเสียงเรียบ

                 “พี่โกรธหรอ?” ผมถาม เลิกคิ้วงง สรุปพี่ตุลย์มันครุ่นเคืองที่โน๊ตบุ๊คตัวเองมีมลทินหรืออะไรยังไงกันแน่

                 “หา? ฉันดูโกรธหรอ?”

                 “ผมจะไปรู้พี่หรอ ปกติพี่ทำตัวแบบนี้ซะที่ไหน ปกตินั่งคิ้วขมวดนึกว่ารูปปั้นหินมีชีวิตด้วยซ้ำ”

                 “ถ้าฉันเป็นรูปปั้นหิน ฉันจะมีลูกถึงสองคนเลยไหมหะ?”


                 นะ นั่นสิ


                 “แปลว่า...”

                 “ตอนแรกก็ไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้หรอก แต่พอเห็นนายดูสนอกสนใจ ฉันก็เลยพลอยอยากรู้ไปด้วยเหมือนกันว่าระหว่างผู้ชายกับผู้ชายมันเป็นยังไง”

                 “ให้ผมปล้ำพี่ให้เอาไหมอะ?”

                 “ไม่ ฉันจะทำเอง”

                 “ผมเข้าใจนะว่าพี่ชินกับการอยู่บ่นคร่อมสาวจนมีลูกออกมาสองคน แต่ถึงผมจะไม่มีลูก และประสบการณ์อาจจะไม่ได้เยอะแยะมากมาย แต่ผมก็อยู่บนมาตลอดเหมือนกันไง คือเก็ทปะ ผมไม่ชินจริงๆ ที่ต้องมานอนเงยหน้ามองอะ” ผมโน้มน้าว พยายามใช้มือตัวเองดันอกพี่ตุลย์


                 ถ้าแม่งเอนตาม โอเคคืนนี้จะเป็นคืนแรกและผมอยู่บน แต่ถ้าไม่เอนตามแปลว่าผมควรรีบชิ่ง! เพราะได้อยู่ล่างแน่นอน ตัวเราสูงเท่ากันก็จริงแต่ความหนามันต่างเพราะสถานะทางการกินครับ!


                 กึก!


                 แม่งไม่เอน ไม่ขยับหาทางหนีไม่ได้ด้วย!


                 “เอางี้ไหมพี่ เจอกันครึ่งทางไม่มีใครอยู่ล่างไม่มีใครอยู่บน นอนหันหน้าเข้าหากันเป็นไง”


                 ไอ้พี่ตุลย์เงียบไม่มีทีท่าเออออด้วยแล้วยิ่งดูจากหน้าที่แบบเริ่มรำคาญผมเต็มทน ผมก็เริ่มรู้ชะตาเหมือนว่าจะไม่รอด แล้วยิ่งแน่ใจขึ้นไปอีกเมื่อพี่ตุลย์ก้มลงประกบจูบผมพร้อมกับมือที่กำลังเข้าไปในเสื้อยืด


                 “พูดมาก มาเริ่มคืนที่หนึ่งได้แล้ว” แล้วเขาก็จูบผมอีกครั้ง

                 “อื้ม...” เสียงครางฮึมในลำคอมาพร้อมกับสติที่ลดถอยลง ผู้ชายอารมณ์มันปลุกง่ายอยู่แล้วครับ ขนาดกับคนที่ไม่รู้สึกอะไรยังตั้งได้ แล้วนับภาษาอะไรกับคนที่ผมใจเต้นให้ตลอด


                 แต่ถึงอย่างนั้นโครโมโซม xy ที่ฝังอยู่ในร่างกายของผมมาตั้งแต่เกิดก็ยังรวบรวมกำลังครั้งสุดท้ายดันพี่ตุลย์ออกยื่นข้อเสนอไปให้อีกครั้ง ยังไง๊ ยังไงก็ยังมีความหวังว่ากูจะต้องได้อยู่บนน!


                 “พี่ตุลย์”

                 “อะไรอีกอะ”

                 “พี่มีลูกสองแล้วนะ...”

                 “แล้ว?”

                 “ผมยังไม่มีลูกเลยสักคน”

                 “แล้ว?”

                 “งั้นพี่เป็นฝ่ายท้องลูกให้ผมแล้วกันเนาะ” ยิ้มหวาน

                 “...”

                 “...”


                 ....


                 “เจ็บอ่ะ...” ผมนอนคว่ำหน้าร้องครวญคราง


                 อย่าคิด! ยังไม่เสียเอกราชโว๊ย! ไอ้พวกนี่นี่ก็เชียร์ผมจังเลย!


                 เดี๋ยวผมจะย้อนความให้ฟัง คือพอผมพูดก็เกิดเดดแอร์ขึ้นมาชั่วขณะ รู้ตัวอีกทีผมก็โดนดีดหน้าผาก พี่ตุลย์ที่เส้นเลือดปูดทั่วใบหน้าจับผมนอนคว่ำแล้วก็ใช้เท้า ย้ำ เท้า เขี่ยผมกลิ้งหลุนๆ ตกเตียงไปนอนตายยอมแพ้อยู่ที่พื้น ร้องโอดครวญโหยหวน พี่แกถึงมาจูบหลังหัวผมทีนึงแล้วก็เอนตัวลงกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงเขาหยิบโน๊ตบุ๊คเจ้าปัญหามาทำงานหน้าตาเฉย


                 แล้วคืนแรกของเรา (?) ก็จบไปประการเช่นนี้แล...






TBC
เจอกันใหม่ตอนหน้า เรื่อง Daddy be lover ก็เข้ามาสู่ช่วงโค้งครึ่งสุดท้าย (ยังอุตสาห์มีครึ่ง 5555555555)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 14-08-2015 14:30:53
 :m20:โธ่ เอสเอ้ยยยยย  :z10:  :laugh:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 14-08-2015 14:35:32
ไม่ค่อยเลยนะคะพี่ตุลย์ :hao3:

ทฤษฎีไม่ต้อง..ปฏิบัติเลยดีกว่าสิน้าา  :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 14-08-2015 14:36:52
5555555 เอสสสเกือบโดนทวงคืนแล้วมั้ยล่ะ
พี่ตุลย์เค้าเป็นคนมีประสบการณ์ต้องยอมๆเค้าไปนะ 555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 14-08-2015 14:56:39
 :really2:

ครึ่งแรกผ่านไปแล้วเหรอนี่

มันสนุกมว้ากกกกกกกกกกกกกก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 14-08-2015 15:38:47
โธ่ พี่ตุลย์น่าจะจับเอสกินซะเลย อยากเห็นเด็กปากดีโดนกินนนนนนนนน :katai1:

งานนี้สงสัยต้องหาของมาเซ่นคนแต่ง ให้ช่วยส่งเอสเข้าปากพี่ตุลย์เร็วๆซะแล้ว :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 14-08-2015 18:05:15
เอสสสสส เพราะความกวน...เรยนะเนี่ย
ลยรอดมือพี่ตุลย์ไปแบบหวุดหวิด
รอบหน้าไม่รอดแน่ หึหึ ^0^
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 14-08-2015 18:23:00
โหย พี่ตุลย์น่าจะจับเอสกดให้หายซ่าซะเลย 5555+

หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-08-2015 18:47:28
แหม น่าเสียดาย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 14-08-2015 19:09:26
เอาที่สบายใจนะเอสนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 14-08-2015 19:21:36
ช่างเป็นคืนแรกที่ดื่มด่ำดีจริงๆ แอบกลัวเมียเก่าพี่ตุลย์จะมาก่อดร่ามานะเนี่ย ระแวงจริงๆ

หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 14-08-2015 19:28:35
นึกว่าเอสจะได้ทำภาคปฏิบัติจริงซะแล้วว 555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 14-08-2015 19:28:48
โธ่พี่ตุลย์ จัดการเอสเลยรออยู่ๆๆๆๆๆน้า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 14-08-2015 20:06:21
 :hao3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 14-08-2015 21:52:30
555555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 14-08-2015 22:23:08
 :z10: :hao3: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 14-08-2015 23:10:57
เกือบละ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 15-08-2015 00:06:38
ร้ายมาก  อิเอสสสสสสส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 15-08-2015 01:02:16
เอาตามที่เอสสบายใจเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-08-2015 01:10:16
 :mew1: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 15-08-2015 10:24:24
ชอบโมเม้นท์ตอนที่เอสอยู่กับตอนต้น น่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 15-08-2015 10:53:04
เหอะๆ ตกเตียงเหรอน้องเอส พี่ตุลย์ช้าจังตับปล้ำเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 15-08-2015 11:23:35
เกือบเสร็จพี่ตุลย์แล้วหนูเอส  :mew4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 15-08-2015 11:44:23
เอสฮาตลอด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 15-08-2015 13:13:28
ไอ้เอส แรด นะตัวเทอ ฮ่าๆๆๆ ทำเหนียมอาย แต่ นางหาข้อมูลตรึม




พี่ตุลย์นะ เห็นเงียบๆ ขรึมๆ แต่เฮียนะ ร้ายกาจที่สุด  o13
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 15-08-2015 18:22:34
ปากแบบนี้ มันน่า..จริงๆเลย ใช่ไหมพี่ตุลย์?
เพราะปากของแกแท้ๆนุ้งเอส ดูซิอดเลยตรู นึกว่าจะได้เห็นนุ้งเอสแกโดนทะลวงซะแล้ว พี่ตุลย์แกน่าจะไม่ธรรมดาแฮะ ลูกสองเชียวนะ ลูกสอง มีลูกคนนึงนี่ไม่ได้จำเป็นว่าจะต้องจุดจุดจุดครั้งเดียวติดนะจ๊ะ คิดดูนี่มีตั้งสองคน พี่ตุลย์เขาจะขนาดไหน?!
ปล.เอาตอนต่อไปมาสังเวยเลยค่ะ อยากอ่านต่ออ่ะะะะะะะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: onekiss ที่ 16-08-2015 11:18:47
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 16-08-2015 20:41:09
มาลุ้นเอส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 17-08-2015 01:43:15
 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 17-08-2015 20:40:22
พี่ตุลยยยยยยยยยยยยยยยยยยย์
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 17-08-2015 22:50:13
ยอมๆไปเหอะเอส...มีสามีมันเท่นะเฟ้ย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 19-08-2015 14:15:36
อีกนิดเดียวเท่านั้น!! เฮ่ออออ! แม่ป้าฝันสลายแท้เหลา :เฮ้อ:
รออ่านตอนต่อไปค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 19-08-2015 21:00:54
เอส....เมื่อไหร่จะยอม...555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 30.5 (14/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 19-08-2015 21:08:06
คิดถึงพี่ตุลย์ 5555+
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 21-08-2015 23:36:38
ตอนที่ 31





               “เอส ตื่น”


               เสียงทุ้มมาพร้อมกับแรงเขย่าที่แขน ผมส่งเสียงครางหือ ดึงแขนออกอย่างรำคาญก่อนจะกลับไปกอดก่ายหมอนข้างเพื่อนคู่ใจที่ลงมานอนพื้นด้วยกัน


               “มีเรียนเช้าไม่ใช่หรอไงเอส?”

               “ช่าย...” ผมส่งเสียงตอบแบบงัวเงียเต็มที เมื่อวานไม่รู้ไอ้อ้วนตอนต้นจะนึกคึกอะไร ทั้งๆ ที่ปกติจะเป็นเด็กนอนยาวแท้ๆ ตื่นเช้าพร้อมๆ กัน เมื่อวานดันตื่นมาสดใส วัยอาราเล่พร้อมเล่นตอนตีสาม! เล่นเอาผมกับพี่ตุลย์ต้องลุกผึ่งขึ้นมาเล่นด้วยจนมันหมดแรงนั้นแหละ ผมสองคนถึงค่อยได้กลับไปนอนอีกครั้ง


               แล้วนี่อะไร! มีมารผจญมารบกวนการนอนของผมอีกแล้ว


               “มีเรียนแปดโมงไม่ใช่หรอหะ? นี่มันเจ็ดโมงสี่สิบแล้ว หนังสงหนังสือจะไม่เรียนมันแล้วใช่ไหม?”


               อยากจะบอกว่ายอมไปสายดีกว่าตื่นอะตอนนี้ ส่วนที่ยากที่สุดของการไปมหา’ลัย คือการตื่นนอนเนี่ยแหละ


               และที่สำคัญวันนี้ผมมีเรียนที่ไหนละ!


               แต่ถ้าไม่ตื่น พี่ตุลย์คงได้อาเท้าถีบ ผมก็ต้องค่อยๆ ยันตัวเองลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิหันหลังให้เตียงเกาพุงแกรกๆ ด้วยความง่วงงุน

               
               “ฮ้าววว~” หาววอดหลายรอบจนแทบจะหลับน็อคไปกลางอากาศ

               “ไม่ไปอาบน้ำ?” เสียงทุ้มที่ผมจำได้แม่นว่าเป็นของพี่ตุลย์ดังขึ้นจากทางด้านหลัง กลิ่นน้ำหอมประจำตัวลอยฟรุ้งอยู่ในอากาศพอเดาได้ไม่ยากว่าตอนนี้อีกฝ่ายคงแต่งตัวเสร็จพร้อมออกไปทำงานแล้ว

               “วันนี้ผมไม่มีเรียนสักหน่อย”

               “ฉันจำได้ว่าวันพุธนายมีเรียนเช้า”

               “อาจารย์งดคราวอะวันนี้ แจ้งในเฟสฯ ตั้งแต่เมื่อวานซืน” “อ้าว แล้วไม่บอก ฉันจะได้ไม่ปลุก”

               “โทษที ลืมอะ” ผมบอกเสียงอู้อี้ กระแอ่มไอเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่าเหมือนจะเสมหะติดคอ


               ง่วง ง่วงจริงๆ ครับ เปลือกตาหนักอึ้งประหนึ่งถ่วงลูกระเบิด และคงไม่อาจฝืนตัวเองได้อีกต่อไป ว่าแล้วก็ล้มตัวลงนอนอีกรอบ อรุณสวัสดิ์ แล้วก็บายครับ ราตรีสวัสดิ์


               ...


               จุ๊บ…


               ผมลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสนิ่มที่แก้มเบาๆ ไม่ต้องสงสัยให้มากความก็เงยหน้ามองไอ้พี่ตุลย์ที่นั่งอยู่บนเตียง จะโวยวายก็ขี้เกียจเลยได้แต่มองค้อนแบบรุนแรงไปให้คนที่ก็มองหน้าผมอยู่


               “ตื่นขึ้นมาทำไม?”

               “แล้วพี่หอมแก้มผมทำไมละ คนกำลังนอนอยู่”

               “บอกฝันดีไง” พี่ตุลย์ลุกขึ้น หยิบกระเป๋าเอกสารของตัวเองเดินออกจากห้องโดยมีผมที่นอนตะแคงอยู่บนพื้นที่นอนประจำมองตามไม่คาดสายตา เมื่ออีกฝ่ายหายออกจากห้องนอนไป ผมก็ยกมือขึ้นแตะแก้มของตัวเองเบาๆ


               เขินหรอ? บอกเลยตรงนี้ครับว่า ไม่!


               ตั้งแต่คืนแรกของเรา (?) วันนั้น พี่ตุลย์ก็ดูเหมือนจะเริ่มสนใจเรื่องอย่างว่า ปกติจะเป็นผมที่เข้าไปนัวเนีย ขอจูบหน่อยงุ้งงิ้งตามภาษาวัยรุ่น แต่หลังๆ มานี่เริ่มมีหลายอย่างที่ไอ้พี่ตุลย์เริ่มก่อนบ้างแล้วครับ ตอนแรกๆ ก็ไม่ค่อยเก็ท โวยวายแก้เขินกันไป ตัวบิดเป็นเกลียว เพราะมันไม่ค่อยชินครับ ตอนที่เราคบกับผู้หญิง ฝ่ายนั้นเขาก็จะมีหน้าที่ของเขา คือสวย โดนเอาใจ งอน ให้ผมไปอ้อน ไปง้อ ไปเอาใจ ไปนัวเนียใส่ ไถหัวอะไรก็ว่าไป แต่ตอนนี้คนที่โดนนัวเนียใส่คือผมไง ก็ต้องเขินสิครับ ทำตัวไม่ถูก แต่พอเริ่มรู้ตะหงิดๆ ว่ากำลังมีซัมติง หวังอะไรบางอย่าง ผมนี่เริ่มขนลุกเลย รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยแรง!


               ถึงก่อนหน้านี้ผมจะสนใจว่าเซ็กซ์ระหว่างผู้ชายกับผู้ชายมันเป็นไงก็เถอะ แต่ผมไม่เคยจินตนาการตัวเองที่อยู่ล่าง แล้วคืนแรกของเรา (?) อีกนิดดดเดียว ถ้าไม่ได้ความกวนในกระแสเลือดช่วยไว้ โดนทำแต้มไปแล้วครับ


               ผมยังรับไม่ด้ายยย /ปิดหน้า


               นั่นไง ดันเผลอมาคิดเรื่องพี่ตุลย์ซะงั้น ตอนนี้ผมตาสว่าง ใจบอกว่าง่วง กูอยากกลับไปนอน แต่ผมก็ลืมตาโพล่ง นอนไม่ลงจนต้องลุกขึ้นมานั่งฟังเสียงจอแจๆ ด้านนอกแล้ว


               “เฮ้อ...” ผมถอนหายใจ ไหนๆ ลุกขึ้นออกจากห้องนอน เดินผ่านพี่ตุลย์ที่อยู่กับตอนต้นและป้าสร้อยหน้าทีวีเข้าไปในห้องน้ำทำธุระส่วนตัวตอนเช้า

               “เอส”

               “อะไร?” ผมแปรงฟันจนปากเต็มไปด้วยฟอง พลางเสยผมทรงบางระจันของตัวเองไปด้านหลัง


               เห็นใบหน้าง่วงๆ ของตัวเองแล้วผมก็อยากจะกลับไปนอนจริงๆ


               “ที่หนึ่งไม่สบาย”

               “อื้ม”


               แต่ล้างหน้าล้างตาแล้วจะนอนหลับหรอเนี่ย ตาค้างแต่ร่างกายต้องการพักผ่อนอย่างมาก


               “ฉันจะเอาตอนต้นไปที่ทำงานด้วยนะวันนี้ นายจะได้ไม่ต้องพะวงทีเดียวสองคน”

               “อื้ม...ถุ้ย!” ผมบ้วนยาสีฟันลงบนอ่างล้างหน้า ใช้มือรองน้ำจากกรอกมาล้างขอบปาก ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโฟมล้างหน้า

               “วันนี้ป้าสร้อยจะไปทำธุระด้วยนะ ยังไงวันนี้ก็ไม่มีเรียน ดูแลที่หนึ่งด้วยละ นอนซมอยู่ในห้องนอนนะ”

               “อื้ม” ผมถือโฟมล้างหน้าค้างไว้ในมืออย่างชั่งใจระหว่างว่าจะล้างหน้าหรือไม่ล้างดี คือถ้าล้าง เป็นอันหมดสิ้นเรื่องการกลับไปนอนไง มันจะตื่นเต็มตาแล้ว แต่ร่างกายผมเนี่ยอยากจะนอนต่อ ช่วงนี้ผมเรียนเยอะ แล้วเมื่อคืนตื่นมาเล่นกับตอนต้นตอนดึกจนหมดแรง ไอ้พี่ตุลย์ยังจะมาปลุกตั้งแต่เช้าอีก   

               “งั้นฉันไปทำงานแล้วนะ”


               ผมมองผ่านกระจกมองภาพสะท้อนของพี่ตุลย์ที่อุ้มตอนต้นอยู่ด้านหลัง ผมโบกมือหยอยๆ ให้อีกฝ่าย พอพี่ตุลย์ออกจากบริเวณไป จนกระทั้งได้ยินเสียงประตูไม้อัดสีขาวปิดลงผมก็หันมาให้ความสนใจโฟมล้างหน้ามืออีกครั้ง หลังจากชั่งใจอยู่นานสุดท้ายผมก็ตัดสินใจล้างหน้าเลยละกัน ไหนๆ ก็ตื่นมาแล้ว


               ซ่า ซ่า...


               เสียงน้ำก๊อกหยุดลงด้วยมือผมที่เอื้อมไปปิดมัน หันหลังเดินกลับเข้าห้องนอน หยิบผ้าขนหนูซับหน้าที่เปียกซกก่อนจะเดินถือมันออกมาจากห้อง


               นี่เป็นรอบหลายต่อหลายต่อหลายวันที่ผมได้อยู่ห้องนี้คนเดียว ไร้ซึ่งเสียงตอนต้น เสียงทีวี หรือเสียงของป้าสร้อยที่มาช่วยดูแลเด็กอ้วน ผมยืนอยู่กลางห้องพักประหนึ่งมีกล้องดอลลี่ถ่ายมุมเสยรอบตัว

               “...เงียบเกินไปก็โหวงเหวงแหะ” ผมบ่นกับตัวเองเสียงเบา พลางทรุดตัวนั่งลงบนโซฟา เปิดทีวีให้มีเสียงอยู่เพื่อนในวันเงียบๆ ที่ผมไม่ค่อยจะชิน จะว่าไปพี่ตุลย์เอาตอนต้นไปทำงานด้วยทำไมในเมื่อผมก็อยู่บ้านเฝ้าไอ้อ้วนนั่นได้อยู่แท้ๆ


               ‘ไฮโซสาวชื่อดังเตรียมแถลงข่าวเรื่องสถานะที่แท้จริงของตนพร้อมเครื่องตรวจเพชร ส่วนในเรื่องอื่นใด ไอโซดังกล่าวชี้แจ้งว่าให้รอฟังในวัน...’


               Rrrrrrrrrrrr


               ผมละสายตาจากหน้าจอโทรทัศน์ที่เป็นข่าวซุบซิบดาราตั้งแต่เช้า เดินหายเข้าไปในห้องนอนตามเสียงโทรศัพท์ราคา 1,990 บาท พอเห็นว่าเป็นไอ้ปันเพื่อนสนิทที่แยกกันไปเรียนมหาวิทยาลัยอื่นโทรมา ผมก็ไม่รอช้าที่จะกดรับสาย


               “What up”

               /ซับพ่อง มึงมีเรียนเปล่าวันนี้?/

               “ไม่ว่ะ วันนี้กูว่างทั้งวัน อยู่คนเดียว เซ็งฉิบ” ผมพูดพร้อมกับเดินกลับมานั่งที่โซฟาหน้าทีวี ซึ่งตอนนี้กำลังเสนอข่าวอื่นไปแล้ว

               /พอดีเลย กูว่าจะไปหามึงหน่อย กูมีเรื่องจะคุยด้วย/

               “กูก็มีเรื่องอยากคุยกับมึง มึงไม่ต้องมาหากูนะ เดี๋ยวกูจะไปหามึงเอง” ผมรีบบอก ไอ้ปันมันไม่รู้เรื่องว่าตอนนี้ผมพักอยู่ที่ไหนกับใคร มันเข้าใจว่าผมอยู่หอของมหา’ลัย อันที่จริงผมก็ไม่อยากจะปิดมันนะ แต่เรื่องมันยาวครับ ดีไม่ดีมันจะบอกให้ผมไปอยู่บ้านมันเหมือนก่อนหน้านี้อีก ยุ่งยากซะเปล่าๆ แล้วผมก็เกรงใจแม่มันด้วย

               /ไม่เป็นไรเว๊ย มึงก็บอกว่าอยู่คนเดียวไม่ใช่หรอ เดี๋ยวกูไปอยู่เป็นเพื่อนไง/

               “ไม่อะ ไปบ้านมึงสบายกว่า เปิดแอร์เปิดคอมฯ รอกูได้เลย กูไปอาบน้ำก่อนแล้วเดี๋ยวแจกัน”

               /เออๆ แล้วแต่มึง แจกันๆ รีบๆ นะสัสเดี๋ยวกูลืมเรื่องที่จะคุยด้วย/

               “เออ จดโน๊ตใส่สมุดไว้เลยไป/ ผมพูดเสียงกวนกลั้วหัวเราะ กดวางสายโยนโทรศัพท์ลงบนโซฟาก่อนจะรีบเข้าห้องนอนไปหยิบผ้าขนหนู อาบน้ำเตรียมตัวไปบ้านของไอ้ปันอย่างกระตือรือร้น กระตือรือร้นมากแค่ไหนอะคิดดู๊! ตอนไปมหา’ลัยนี่ เกือบชั่วโมงกว่าจะระเห็จถีบตัวเองออกมาจากห้องได้ แต่ไปบ้านไอ้ปัน ใช้เวลายี่สิบนาที ตอนนี้มายืนอยู่หน้าลิฟต์แล้วครับเรียบร้อย~ กระดิกขายิกๆ พอได้ยินเสียง ‘ติ้ง’ นี่แทบจะวาร์ปผ่านประตูลิฟท์ไปยืนอยู่ข้างใน


               ไอ้ปันอยากคุยอะไรกับผม ผมไม่รู้หรอก แต่ถ้ามันไม่โทรมาหาผมว่าจะตั้งกระทู้พันทิปแล้วเนี่ยว่า ‘ทำยังไงดีแฟนอยาก แต่เราไม่พร้อม 18+’!














               “อื้อ...” เสียงครางหือแหบพร่าของเด็กน้อยที่นอนอยู่บนเตียงดังขึ้น เหงื่อไหลโทรมไปทั่วใบหน้าด้วยพิษไข้จนหมอนเปียกซก อาการปวดหัวตุ๊บๆ พุ่งเข้าเล่นงานไม่หยุดแต่ก็ทุเลาขึ้นมาจนสามารถฝืนร่างกายตัวเองขึ้นมานั่งบนเตียงเดี่ยวของตน


               ที่หนึ่งโตมากพอที่จะไม่งอแงร้องเรียกหาพ่อที่ต้องทำงาน การเดินออกมาหาน้ำดื่มในตู้เย็นโดยเห็นห้องที่โล่งตาไม่มีใครแค่สร้างความประหลาดใจให้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่ป้าสร้อยผู้เคยมาดูแลตนยามป่วยตลอดกลับไม่อยู่


               ตึง


               ขวดน้ำขนาดใหญ่ถูกวางลงบนโต๊ะกินข้าวที่อยู่ไม่ห่างเท่าไหร่นัก มือน้อยๆ กุมข้างขมับด้วยอาการปวดหัวจี๊ดจากน้ำเย็นที่ขึ้นไปผสมโรงกับอาการปวดหัวเพราะพิษไข้ที่มีอยู่เดิม เด็กน้อยเดินโซซัดโซเซกลับห้องของตัวเอง ล้มตัวลงนอนอย่างเหนื่อยอ่อน


               เขาเป็นคนที่ไม่ค่อยป่วยเท่าไหร่นัก แต่ถ้าได้เป็นสักครั้งก็เป็นหนักซึ่งจุดนั้นตุลาหรือตุลย์เจ้าของห้องและผู้เป็นพ่อรู้ดี จึงให้ป้าสร้อยต้องคอยดูแลใกล้ชิดตลอดเวลา แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ไม่มีใครอยู่ดูแล


               แต่ช่างเถอะ เขาโตแล้ว ดูแลตัวเองได้นี่หน่า



50%



เราพยายามจริงๆ แล้วนาย เวลาเราช่างน้อยนิด เขียนได้กระจึ้งๆ หายไปเต็มๆ 1 อาทิตย์ นานที่สุดที่เคยทำ
เราขอโทษจริงๆ นะนายยยย เรียนก็เรียน บาสก็ต้องซ้อม แต่เราพยายามจะไม่หายไปนานมากเท่านี้อีกแล้ว
อย่าลืมเรา และไอ้เอสเลยนะ ~

#daddybelover
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 21-08-2015 23:40:14
 o22


เอสลืมน้อง!!! กลับมาเอาน้องไปด้วยสิ  :ling1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 21-08-2015 23:52:05
ตายแล้วเอส อย่าทิ้งน้องไว้สิ
เป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 22-08-2015 00:02:14
คิดถึงงงงงงงงง

คิดถึงเด็กอ้วนกับเอส

มาต่อลแล้วรอตอนต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 22-08-2015 00:06:02
เอสนายลิมน้องได้ไงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 22-08-2015 00:06:21
อีเอส ที่หนึ่งต้องเป็นอะไรหนักแหงๆเบย  เอากับสิอิเอส หมดคำจะพูด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 22-08-2015 00:24:25
เอ้ยยย เอสลืมน้องได้ไง ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะแบบนี้
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 22-08-2015 00:35:57
อีเอสสสสสสส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 22-08-2015 01:52:06
เอสสสสสสสสสสส แกลืมน้องได้ยังง้ายยยยยย. กลับมาก่อนนนนนนนนน  :ling1: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 22-08-2015 07:47:27
เอ้ยยยยนี่เอสลืมที่หนึ่งหรอเนี่ย โดนพี่ตุลย์จัดหนักแน่บอกเลย โกรธเอสว่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 22-08-2015 08:05:56
อ้าวววววว เอสทำไมมัวแต่เมาขี้ตาขนาดเน้
ที่หนึ่งป่วยนะเว้ยยยยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 22-08-2015 08:45:57
ตายยยยเอสเบลอแน่เลยลืมน้องไปได้
น้องป่วยอยู่นะเอสรีบนึกได้เร็วๆด้วย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 22-08-2015 09:22:46
พี่ตุลย์โทร.มาเตือนเอสอีกสักรอบก็ดีนะคะ เพราะถ้ามัวรอให้เจ้าตัวเขานึกได้เองก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นอาการของที่หนึ่งจะหนักขึ้นหรือเปล่าเนี่ยสิ~
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 22-08-2015 14:28:32
งือ :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 22-08-2015 14:34:35
เอสจะทะเลาะกับพี่ตุลย์ป่ะเนี่ยยยย Orz  ทำไมลืมน้องได้เล่าเอสสสสสสสสส
โอยยยยยยย ปวดหมอง  เด็กทั้งคนนะเว้ยงงกับเอส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-08-2015 15:02:44
เป็นเรื่องแน่ๆ!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 22-08-2015 15:19:33
ง่ะ เอสลืมน้อง สงสัยคิดว่าน้องไป รร. สินะ
ถ้าพี่ตุลย์รู้คงมีปากเสียงกันอีกแน่เลย :(
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: zerea ที่ 23-08-2015 04:16:55
มาปักหลักเป็นขาประจำอีกคนจ้า
ตกใจเอสลืมน้อง  :serius2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 23-08-2015 20:22:45
งานงอกละเอส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 23-08-2015 21:57:02
เอสลืมอะไรรึเปล่าาาาาา

ขอให้ที่หนึ่งไม่เป็นอะไรมากนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 23-08-2015 22:55:04
เอสเอ๊ยยยยย น้องป่วยหนักละนั่นนนน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 24-08-2015 12:02:13
ไอ้เอส ความรับผิดชอบของแกอยู่ที่หน๊ายยยยยยย :m31:



ที่หนึ่งเป็นไข้หนัก จะชักตายอยู่แล้ว



แกช่างลืมน้องได้ โถที่หนึ่ง หนูต้องหาข้าวหายากินเองมีชีวิตอยู่



รอพ่อรอน้องกลับมาหาตอนเย็นนะลูก อย่าเพิ่งช๊อคตายไปก่อน



ส่วนไอ้เอส ไอ้คนสติไม่เสถียร อย่าไปหวังพึ่งพาอะไรมันเลย :z6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ~@มาวินฮับ@~ ที่ 25-08-2015 20:33:54
 :katai1:รอว่าพี่ตุลย์จะจัดการยังไงกับเอส ที่หนึ่งดูแลตัวเองนะลูก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: onekiss ที่ 26-08-2015 13:35:13
 :serius2: :serius2: :serius2:



เอสลืมน้องได้ไงเนี้ย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 26-08-2015 23:18:26
อิเอสสสสสสส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 26-08-2015 23:37:24
เจ้าเอสกลับมาดูน้องเลยนะ เดี๋ยวได้มีมาม่ากะดาลิ้งแกแน่  :angry2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 28-08-2015 23:04:23
 :ling1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31-50% (21/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: NuTonKaw ที่ 29-08-2015 00:26:31
เฮ้ยๆๆๆ เด็กละ นอนป่วยอยู่อะลืมหิ้วไปด้วยปะ?? :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 29-08-2015 22:32:41
               
ตอนที่ 31
*ต่อจาก 50%






                “มึงบอกมีเรื่องจะคุยด้วย แล้วนี่คืออะไร” ผมพูดเสียงเข้มชี้นิ้วไปที่เคาเตอร์ขายตั๋วหนังที่มีพนักงานประจำอยู่หนึ่งคน แถมยังเพิ่งเปิดระบบเมื่อตะกี้นี้เลย ในใจคงนินทาพวกผมสองคนอยู่ว่ามึงจะมาแต่เช้ากันทำไม ช่วยกูเปิดโรงหรอ?

                “ก็มาดูหนังไง”

                “ก็รู้ กูเรียนมาอยู่ แต่ประเด็นคือมึงโทรหากู บอกกูว่ามึงมีเรื่องจะคุยด้วย แล้ว...คืออะไรที่กูกับมึงมาโผล่อยู่ที่หน้าโรงหนังได้หะ!”

                “กูมีเรื่องจะคุยกับมึงจริงๆ เว๊ย! แต่เพื่อนที่มอกูแม่งคะยั้นคะยอให้กูไปดู inside out ฉิบหาย ก็เลยว่าไหนๆ มึงกับกูว่างตรงกันทั้งที ดูหนังก่อนแล้วค่อยคุยก็ไม่สายใช่เปล่าวะ อิอิ”

                “อิอิ พ่อง”

                “เขาบอก อิอิ จะทำให้ประโยคน่ารักขึ้น”

                “ไอ้สัส อิอิ” ผมพูดกวนตีน แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้ครับ หลวมตัวมากับมันจนถึงหน้าโรงหนังแล้วก็คงต้องตามใจมันสถานเดียว เอาตรงๆ ผมไม่อยากดูหนังเลย ไม่ใช่ว่าไม่ชอบดูหนังในโรงนะ แต่เสียดายเงินครับ ตอนนี้รายได้เดียวที่ผมมีคือเงินที่ไอ้พี่ตุลย์ให้มาเนียนๆ โดยการใช้ไปซื้อของแล้วไม่เอาเงินทอนนั่นแหละ

                “เอาเถอะหน่า เดี๋ยววันนี้กูเลี้ยงเอง เต็มที่!”

                “ไม่ต้อง เดี๋ยวกูจ่ายเอง”

                “เฮ้ย ไม่เป็นไร กูเป็นคนลากมึงมา เดี๋ยวกูเลี้ยง”

                “รอเป็นเงินที่มึงหาได้เองก่อน แล้วเดี๋ยวกูจะให้มึงเลี้ยงสมใจอยาก แต่ตอนนี้มึงเก็บเงินของมึงไปแดกข้าวในอนาคตเถอะ” ผมยักคิ้วแล้วเดินนำไอ้ปันไปที่เคาเตอร์ขายตั๋วหนังที่ตอนนี้พนักงานพร้อมจะบริการแล้ว

                “Inside Out Soundtrack ครับ” ผมบอกกับพี่พนักงานผู้หญิง


                พอมาดูใกล้ๆ อย่างนี้แล้วน่ารักจังแหะ ตั้งแต่ผมออกมาจากงานพิเศษก็ไม่ค่อยเจอคนสวยเลย ตั้งใจไว้ว่าจะไปหาในมหา’ลัย แต่ก็ไม่รู้ทำไมช่างอาภัพนัก สวยก็หายาก ที่สวยมากก็มีผัวแล้ว ฮือออ


                “รอบแรก ตอน 11:15 นะคะ” คนสวยยิ้มหวาน ใจบริการ น่ารักที่สุดอะ

                “ครับ” ว่าแล้วผมก็ยิ้มหวานตอบกลับไป “อะ เฮ้ย! อะไรของมึงเนี่ยปัน” ผมเฮ้วเสียงหลงเมื่อไอ้ปันมันดังคอเสื้อผมไปข้างหลังแล้วมันก็เข้ามาแทรกจัดการซื้อตั๋วหนังแทน จริงๆ ผมก็โวยวายเป็นพิธีแหละ ชินแล้วครับ ไอ้เหี้ยนี่สกัดดาวรุ่งของผมทุกทีตั้งแต่อยู่ ม.ปลาย แต่ถึงอย่างนั้นความหล่อก็ไม่เข้าใครออกใคร โดนสกัดแค่ไหน ก็ต้องมีสาวน้อย สาวใหญ่ วัยสาวงามเดินเข้ามาในดวงพงไพรของเอสผู้นี้~

                “ปะ มึงไปหาอะไรกินกัน มีเวลาประมาณชั่วโมง”
               
                “แล้วค่าตั๋วเท่าไหร่?”

                “เออ เดี๋ยวค่อยจ่าย ไปหาร้านกินก่อนๆ แล้วเดี๋ยวกูจะเล่าเรื่องที่กูเรียกมึงมาคุยให้ฟัง”
















                12: 53 น.


                “เฮ้อ...” เสียงถอนหายใจจากผู้ชายในสุดสูทดังขึ้นก่อนจะปรากฎร่างของเขาเดินเข้ามาในห้องทำงานที่มีป้าย ‘Sales Department’ อยู่เหนือประตู

                “ตุลย์ได้กินข้าวกลางวันหรือยังเนี่ย?” เพื่อนร่วมงานที่อยู่ใกล้ที่สุดเอ่ยทัก ผู้ที่เข้ามาใหม่

                “ระหว่างตอนกลับจากไปดูร้านหนังสือแวะซื้อที่เซเว่นกินแล้วครับ” ตุลย์ตอบพลางเดินตรงไปยังโต๊ะทำงานของตัวเอง เขาถอดสูทพาดไว้บนผนักเก้าอี้ก่อนจะล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมาเตรียมจะโทรหาเอส ถามไถ่เรื่องของที่หนึ่งที่เขาฝากฝังเอาไว้เมื่อเช้า

                “ตุลย์! มาพอดีเลย กำลังจะประชุมเรื่องยอดผลิตแล้วเนี่ย!” เสียงตะโกนของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นอยู่หน้าประตูห้องทำงาน ทำให้ตุลย์ต้องวางโทรศัพท์ลงกับโต๊ะแล้วหันไปตอบอีกฝ่าย

                “ไหนบอกประชุมบ่ายสองไงครับ? ผมยังไม่ได้สรุปประเมินที่ไปดูเลย”

                “ไม่รู้เหมือนกัน แต่เห็นว่ามีธุระมั้ง ช่างเถอะ เอาข้อมูลดิบในหัวเนี่ยแหละไปประชุม เอาเอกสารมาให้พร้อมด้วยนะ เอาเรื่องอื่นของนักเขียน ‘สายลม’ มาด้วยนะ เผื่อคุยเรื่องพิมพ์ครั้งที่สามอีก อีกสิบห้านาทีเจอกันที่ห้องประชุมสอง” 

                “ครับ” ตุลย์ตอบ เขามองโทรศัพท์ที่ยังคาอยู่ที่เบอร์ของเอส แต่สุดท้ายก็นำมันกลับเข้าไปในกระเป๋าเสื้อสูท หยิบเอกสารของนักเขียนรายดังกล่าว ที่เขาจัดเอาไว้เป็นหมวดหมู่ระเบียบเรียบร้อยอยู่ก่อนแล้วพุ่งออกไปจากห้องของฝ่ายขาย


                วันปิดรอบของพวกบรรณาธิการ จบไปก็กลายเป็นวันหัวหมุนของฝ่ายขายแทน!
















                13:50 น.


                “เรื่องที่กูอยากคุยกับมึงก็มีเท่านี้เนี่ยแหละ” ผมถอนหายใจหลังจากที่เล่าเรื่องที่อยู่ในใจให้เพื่อนสนิทฟัง สรุปแล้ววันนี้ที่ผมกับมันมาคุยกันก็เรื่องความรักของแต่ละคนเนี่ยแหละครับ ผมใช้คำว่าเรื่องความรักนะ ไม่ใช่เรื่องผู้หญิง ไอ้ปันเล่าเรื่องผู้หญิงที่มันรู้สึกดีด้วยกันจริง แต่ประเด็นคือเรื่องที่ผมเล่านี่แม่งเป็นเรื่องของผู้ชาย!

                “ที่กูแปลกใจมากกว่า คือทำไมมึงถึงมาปรึกษาเรื่องนี้เนี่ยแหละ ปกติไม่เคยเห็นมีปัญหาเลยไอ้เรื่องแบบนี้”

                “เออหน่า ก็กูรู้สึกไปแล้ว”


                จริงๆ อยากบอกใจจะขาดครับ ว่าที่กูเล่าเนี่ยอีกฝ่ายเป็นผู้ชายนะ แล้วคนที่โดนเสียบเนี่ยน่าจะเป็นกู เพราะงั้นถึงได้มาวุ่นวายอยู่นี่ไงวะ!


                “กูแนะนำไม่ได้ว่ะ บอกเลย นอกจากอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ปล่อยให้มันเกิดไป เขาอยากก็สนองเขา สมมุติว่ามันไม่สู้จริงๆ หดแล้วหดอีก ถึงจะรู้สึกผิดกับผู้หญิงคนนั้นไปหน่อย แต่มึงก็คิดถึงหน้าคนอื่นเอาไว้แล้วกัน”


                ประเด็นคือมันไม่ใช่เรื่องนั้น


                ...มั้ง จริงๆ ก็อาจ ไม่รู้เหมือนกัน ว่าจะสู้หรือจะถอย แค่คิดว่ากูต้องอยู่ร่างนี่ สมองก็สั่งให้ถอยดีกว่า ไม่เอา~ ดีกว่า


                “คือมันไม่มีอะไรเปลี่ยนใจให้เขาไม่อยากกับกูได้เลยใช่ไหมวะ?”

                “มีนะ แค่มึงกับเขาเลิกกันไปเลย มึงก็ไปมีคนใหม่ซะ แค่นั้นแหละ เขาก็จะเปลี่ยนมาเป็นอยากฆ่ามึงแทน”

                “ไอ้สัส วิธีนี้กูไม่เอาเว๊ย!”

                “ถ้างั้นอีกวิธี คือปล่อยให้มันเป็นไป ปล่อยให้มันเกิด อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดกูขอย้ำอีกที”

                “เฮ้อ...” ผมถอนหายใจ ที่มาคุยกับไอ้ปันก็เพราะผมไม่อยากให้มันเกิด ไม่ใช่ให้ไอ้ปันมาย้ำกับผมแบบนี้สักหน่อย

                “หรือไม่ก็เลิกกัน”

                “...”


                แบบนั้น ผมก็ไม่เอา
 
















                ตุลย์เดินก้าวยาวๆ มาที่ห้องพักของตนเองพร้อมกับลูกคนเล็กที่อยู่ในอ้อมแขน เหงื่อโทรมกายและใบหน้าจนสูทที่ใส่อยู่ชื้นทางด้านหลัง แม้เขาจะรู้ว่าเอสดูแลที่หนึ่งเอาไว้ให้อยู่ตามที่ฝากไว้ตอนเช้า แต่ทุกครั้งที่เป็นเรื่องของลูก มันก็ยากจริงๆ ที่จะอยู่สุขได้


                แกร๊ก!


                เสียงไขกุญแจดังขึ้นพร้อมกับประตูไม้อัดสีขาวเปิดออก ปรากฎห้องว่างๆ ที่ไม่มีใครเลย


                ...ไม่มีใครอยู่ แม้กระทั้งคนที่เขาบอกว่าให้ดูแลที่หนึ่งเอาไว้


                “เอส!” เสียงเข้มร้องเรียกทั่วห้อง ขณะวางตอนต้นไว้บนโซฟา แต่ไร้ซึ่งเสียงตอบรับจากผู้เป็นเจ้าของชื่อ ภายในท้องเริ่มบิดมวนด้วยความรู้สึกที่ตีรวนอยู่ในอก แต่สมองก็ยังคิดในแง่ดีว่า เอสอาจจะแค่ลงไปซื้อของด้านล่างเท่านั้น แม้ว่าตอนที่ขึ้นมานั้นเขาจะไม่เห็นผู้ชายคนนั้นอยู่เลย!


                ฝีเท้าหนักๆ เดินตรงไปยังห้องนอนของลูกชายคนโต เปิดมันออกอย่างเบามือที่สุดสิ่งแรกที่เขากวาดตามองคือคนที่เขาหวังอย่างยิ่งว่าจะอยู่เฝ้าลูกของเขาในห้อง แต่เมื่อไม่เห็นใครนอกจากที่หนึ่งที่นอนฟืดฟาดอยู่บนเตียงความรู้สึกจุกแน่นก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น


                “พ่อ?”

                “ที่หนึ่ง เป็นไงบ้างลูก? ได้กินข้าวบ้างหรือยัง? กินยาหรือยังลูก?”

                “ยังครับ”

                “พี่เอสไม่ได้เอาอะไรให้เลยหรอ?”

                “พี่เอส? ที่หนึ่งตื่นก็ไม่เจอใครแล้วอะ วันนี้ที่หนึ่งลุกไปกินน้ำครั้งเดียวแล้วก็นอนอยู่บนเตียงตลอดเลย”

                “...หรอ อย่างนั้นหรอ” เสียงเข้มนั่นเรียบจนน่ากลัว “ที่หนึ่งรอแป๊บนะ เดี๋ยวพ่อทำให้อะไรให้กินแล้วก็จะได้กินยาด้วย”
               
                “ครับ”


                ตุลย์ลูบผมที่เปียกซกจากเหงื่อของลูกชายคนโตแผ่วเบา ก่อนจะลุกเดินออกจากห้องนอนของลูกชาย ตุลย์มองความว่างเปล่าไร้ซึ่งแววของคนที่เขาฝากฝังอีกครั้ง ความรู้สึกในใจเดือดจนแทบปะทุแต่ก็ต้องเก็บกักเอาไว้ ทำได้แค่เบือนหน้าหนีแล้วเดินเข้าไปในครัว


                สุดท้าย ก็กลายเป็นแค่เด็กที่หวังพึ่งไม่ได้ อย่างนั้นหรอ?



















                “อ้าว ทำไมกลับมาเร็วจังเพิ่งจะบ่ายสองครึ่งเอง” ผมที่เดินเข้าห้องมาเอ่ยถามพี่ตุลย์ที่นั่งอยู่กับตอนต้นบนโซฟาหน้าทีวี ผู้เป็นเจ้าของห้องเบือนหน้ามาหาผมเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นเดินตรงมาหาเช่นเดียวกับผมที่เดินเข้าไปหาเหมือนกัน


                ฉิบหาย คำพูดของไอ้ปันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ


                “ไปไหนมา?”

                “หะ? ก็...ไปบ้านเพื่อนอะ ไอ้ปันเพื่อนสนิทตั้งแต่มัธยม”

                “ไปตั้งแต่กี่โมง?”


                ผมขมวดคิ้วกับการถามจี้ของคนตรงหน้า ทั้งสีหน้าแววตามันดูจริงจังจนผมรู้สึกไม่ดี แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังตอบคำถามของอีกฝ่าย


                “ก็ไปตั้งแต่เช้า จำไม่ได้ว่ากี่โมงอะ พอล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ ดูทีวีแป๊บนึงแล้วก็อาบน้ำไปเลย”

                “แปลว่าออกจากห้องหลังจากที่ฉันไปทำงานแป๊บเดียว?”

                “ก็...ประมาณนั้นแหละ” ผมพยักหน้า “ทำไมอะ? มีไรเปล่า?”

                “นายจำที่ฉันบอกก่อนจะออกไปทำงานได้ไหม?” ในขณะที่พี่ตุลย์เอ่ยถามประโยคนี้ขึ้น ทั้งสีหน้าและแววตาก็เปลี่ยนไป และมันทำให้ผมรู้สึกอันตรายอะไรบางอย่างขึ้นมา

                “เอ่อ...

                “ว่าไง? จำได้ไหมก่อนที่ฉันจะไปทำงาน ฉันฝากฝังอะไรไว้?”

                “...” ผมเงียบ ผมจำได้ดีว่าตอนที่ผมล้างหน้าแปรงฟันก่อนหน้านี้พี่ตุลย์พูดอะไรบางอย่างกับผม แต่ที่มันเป็นปัญหาคือผมจำไม่ได้แม้แต่นิดเดียวว่าพี่ตุลย์พูดอะไร!

                “ว่าไง? ที่เงียบนี่คืออะไร?”

                “ผม...” ผมอ้ำอึ้ง เผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างเหนียวหนืด

                “เอส จำได้ไหมว่าเมื่อเช้าฉันพูดอะไร!”

                “ผม...เฮ้อ! โอเคๆ ผมจำไม่ได้ โทษทีๆ ตอนเช้าที่พี่พูด ผมไม่ได้ตั้งใจฟังเลยอะ”

                “งั้นฟังฉันให้ดีๆ เมื่อเช้าฉันบอกนายว่า ‘ที่หนึ่งไม่สบาย ฝากดูแลด้วยนะ นอนซมอยู่ในห้อง’!”

                “!” ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “แล้วที่หนึ่งกินยาหรือยัง!” ผมถามเสียงดังด้วยความตกใจ ตั้งท่าจะเดินไปที่ห้องนอนของที่หนึ่ง แต่มือของพี่ตุลย์กับกระชากผมเอาไว้ให้กลับมายืนอยู่ที่เดิม

                “ที่หนึ่งกินยาแล้วก็หลับไปแล้ว”

                “หรอ ถ้างั้นก็ดีไป โล่งอก ได้นอนสักตื่นก็คงหาย” ผมถอนหายใจก่อนจะรู้สึกเจ็บจี๊ดที่แขนบริเวณที่พี่ตุลย์กำลังจับ กำลังจะเงยหน้าขึ้นไปโวยแต่ผมก็ต้องชะงักเมื่อเห็นสายตาของอีกฝ่ายที่มองมาด้วยความโกรธเกรี้ยว

                “เพิ่งคิดได้หรอว่าต้องเป็นห่วง!? มีเวลาเป็นห่วงทั้งวัน แต่มัวไปอยู่ที่ไหน!?”

                “ถ้าผมรู้ว่าที่หนึ่งอยู่ในห้อง ผมก็ไม่ออกไปหาเพื่อนหรอกหน่า!” ผมขึ้นเสียงบ้างด้วยความหงุดหงิดที่พี่ตุลย์ใช้กำลังกับผม ผมผิดผมรู้ตัวที่แม่งมัวแต่เมาขี้ตาจนไม่ได้ฟังที่พี่ตุลย์บอกเมื่อเช้า แต่มันผิดมากจนต้องมาบีบแขนผมแทบจะหักคามือแบบนี้เลยไหม! ถ้าที่หนึ่งเป็นอะไรไป จะซ้อมผม ผมไม่ว่า! แต่นี่ที่หนึ่งก็ไม่เป็นอะไร!

                “แล้วทำไมนายถึงไม่รู้ ในเมื่อฉันบอกไปตั้งแต่เช้าแล้ว!”

                “ก็ผมบอกพี่ไปแล้วไงว่าผมไม่ได้ตั้งใจฟัง ก็คนมันเพิ่งตื่น กำลังล้างหน้าแปรงฟันอยู่ มาบอกอะไรตอนที่ยุ่งๆ เล่า!”

                “พอนอนแล้วสมองตายหรอไง! ตื่นมาระบบประสาทนี่ไม่ทำงานเลยใช่ไหม!? แล้วล้างหน้าแปรงฟันนี่มันยุ่งมากงั้นหรอ? ยุ่งมากจนฟังอะไรไม่ได้เลยใช่ไหม!”

                “ทำไมพี่ต้องพูดแบบนี้กับผมด้วยวะ! เออผมผิดที่ไม่ได้ตั้งใจฟัง แต่ที่หนึ่งก็ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อยนี่ ที่หนึ่งอายุจะสิบขวบแล้ว ดูแลตัวเองได้แล้ว!”

                “แล้วนายจะรอให้ที่หนึ่งเป็นอะไรก่อนใช่ไหมเอสถึงจะสำนักผิดในความไม่ใส่ใจของตัวเองได้! รอให้ล้มหัวฟาดพื้น เลือดไหลนองก่อนใช่ไหมถึงจะรู้ตัวว่าปล่อยเด็กที่อายุ ‘แค่’ จะสิบขวบไว้อยู่คนเดียวมันอันตรายแค่ไหน!”

                “สิบขวบมันโตพอดูแลตัวเองได้แล้ว ถ้าที่หนึ่งมันดูแลตัวเองไม่ได้ต้องให้คนอยู่เฝ้าก็เพราะพี่คอยโอ๋ ประคบประหงมแบบนี้เนี่ยแหละ!”

                “ฉันไม่ได้กำลังพูดถึงเรื่องว่าที่หนึ่งดูแลตัวเองได้หรือยัง แต่ฉันกำลังพูดถึงเรื่องที่นายมันไม่ใส่ใจ เอส! ฉันอุตสาห์ไว้ใจให้นายดูแลลูกชายฉันแท้ๆ ไม่ต้องมาอ้างเรื่องอื่นเหตุผลเดียวที่นายไม่ได้ยินที่ฉันพูดตอนเช้าก็เพราะนายเอาแต่คิดถึงแต่เรื่องของตัวเอง!”

                ผมกำหมัดแน่น กัดฟันกรอดด้วยความโมโห “ขอบคุณครับที่ ‘อุตสาห์’ ไว้ใจผม แต่เออผมมันคิดแต่เรื่องของตัวเอง ถ้าเป็นห่วงมากนัก ทำไมพี่ถึงไม่หยุดงานมาดูเองอะ เป็นพ่อมันไม่ใช่หรอไง!!”

                “นายเองก็เป็นครอบครัวของที่หนึ่งเหมือนกันนี่!”

                “ผมไม่ใช่! เกี่ยวโยงกันทางสายเลือดหรืออะไรก็ไม่มี! คนที่ควรทำจะดูแลที่หนึ่ง มันก็คือพี่ที่เป็นพ่อ ถ้าจะด่าก็ด่าตัวเอง ไม่ใช่มาด่าคนนอกอย่างผม!”

                “ฮึก...แงงงงงงง!”


                เสียงร้องไห้จ๊าของตอนต้นดังขึ้น ผมกับพี่ตุลย์หันไปมองพร้อมกัน แต่พี่ตุลย์ผู้เป็นพ่อเป็นฝ่ายที่หันหลังจากผมเดินเข้าไปอุ้มตอนต้น และจังหวะที่พี่ตุลย์หันกลับมาหาผมที่ยังหอบหายใจด้วยความฉุนเฉียว ความผิดหวังที่อยู่ในสายตาของพี่ตุลย์ ก็ราวกับมีค้อนปอนด์อันใหญ่กระแทกที่หัวอย่างจัง!


                และนั่นผมก็เพิ่งรู้ตัวว่า คำพูดที่พูดออกไป เป็นอะไรที่เหี้ยที่สุดเท่าที่ผมเคยพูดมา


                “พ่อครับ ทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า? เสียดังเข้าไปในห้องของที่หนึ่งเลย” ที่หนึ่งที่มีคูลฟีเวอร์แปะอยู่ที่หน้าผากเดินเข้ามายังบริเวณ “อ้าว แล้วตอนต้นร้องไห้ทำไมครับ?”

                “น้องงอแงปกติ ไม่มีอะไรหรอกครับ คุยกันธรรมดาเนี่ยแหละแต่พ่อใช้เสียงดังไปหน่อย ขอโทษนะ” พี่ตุลย์เดินอุ้มตอนต้นเข้าไปหาลูกชายคนโต

                “แน่ใจนะครับ?”

                “แน่ใจสิ พ่อว่าลูกกลับไปนอนดีกว่า พักผ่อนเยอะๆ จะได้หายไข้ไวๆ” ว่าแล้วเขาก็ดันหลังที่หนึ่งให้กลับไปห้องนอนของตัวเอง เด็กนั่นก็หมุนตัวกลับไปอย่างว่าง่ายแม้จะแอบลอบมองกลับมาที่ผมหลายต่อหลายครั้ง


                ปัง...


                ทันทีที่ประตูห้องนอนของที่หนึ่งปิดลง ผมก็รีบสาวเท้าเดินเข้าไปหาตั้งท่าจะอธิบายสิ่งที่ผมพูดออกไป แต่ทุกอย่างก็ต้องกลืนหายกลับลงไปในลำคอกับสายตาที่ตัดพ้อและเต็มไปด้วยความผิดหวังของพี่ตุลย์


                “ฉันก็เพิ่งรู้ ว่านายคิดแบบนี้เอส”


                ปัง...


                พูดเสร็จ พี่ตุลย์ก็เดินอุ้มตอนต้นเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง ทิ้งผมที่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ก้มหน้าสำนึกผิด สุดท้ายแล้วผมมันก็แค่เด็กวัยรุ่นคนนึงที่ระงับอารมณ์ไม่ได้ และสนใจแต่เรื่องของตัวเอง!


                “นายเองก็มีครอบครัวเหมือนกัน ไม่ต้องทำหน้าเศร้าหรอกรู้ไหม?”

                “นายอยู่กับฉัน นายก็ต้องเป็นคนของครอบครัวฉันสิ”


                “...”


                โถ่เว๊ย!


100%
*ต่อกระทู้ด้านล่าง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 29-08-2015 22:33:20
*ต่อจาก 100%



                ผมปล่อยให้ตัวเองได้นั่งคิดทบทวนเกือบสองชั่วโมง ผมคิดทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ คิดทุกคำพูด คิดทุกอย่าง ทุกหนทางที่มันอาจจะเกิดในอนาคต จนกระทั้งผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะคิดฟุ้งซ่านเกินไปเลยตัดสินใจที่จะลุกขึ้น หันมองประตูห้องนอนของพี่ตุลย์ก่อนจะเดินผ่านมันไป ตรงไปยังห้องนอนของที่หนึ่ง คนที่ผมทำผิดไว้มากที่สุด


                ก๊อก ก๊อก...


                ผมเคาะตามมารยาทก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของที่หนึ่ง ห้องนอนของเด็กชายวัยเก้าที่เต็มไปด้วยของเล่นและตัวการ์ตูนมีร่างของเจ้าของห้องนอนอยู่บนเตียงเดี่ยว ผมไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปหาใช้หลังมือวัดความร้อนที่แก้มของที่หนึ่ง รู้สึกโล่งใจขึ้นมาเมื่อเห็นว่าที่หนึ่งไข้ทุเลาลงมากแล้ว


                “...”


                “แล้วนายจะรอให้ที่หนึ่งเป็นอะไรก่อนใช่ไหมเอสถึงจะสำนักผิดในความไม่ใส่ใจของตัวเองได้!”


                ตอนนั้นผมเถียงพี่ตุลย์อยู่ในใจนะ ‘เอ้า ก็กูบอกว่ากูไม่ได้ยิน ไม่ได้ยินก็คือไม่ได้ยิน มันแปลว่าไม่ใส่ใจตรงไหนวะ!’ แต่พอได้คิดผมถึงรู้ว่า ใช่ พี่ตุลย์พูดถูก เพราะผมมันไม่ใส่ใจเอง ถ้าผมให้ความสำคัญกับไอ้เด็กนี่มากพอ ต่อให้พูดเสียงเบาแค่ไหน ผมก็ต้องได้ยิน ถ้าผมคิดเรื่องของตัวเองให้น้อยลงอีกนิด ใส่ใจเรื่องของคนอื่นให้มากขึ้น มันไม่มีทางเลยที่ผมจะไม่รู้ว่าที่หนึ่งกำลังไม่สบาย


                ผมทรุดตัวคุกเข่าลงข้างเตียง ตอนนั้นที่ผมนั่งคิดอยู่บนโซฟา ผมคิดด้วยนะว่าสมมุติว่าที่หนึ่งเป็นอะไรไป ผมจะทำยังไงดี สมมุติว่าเด็กนั่นเกิดปวดหัวล้มฟาดพื้นไปอย่างที่พี่ตุลย์บอก แล้วจะทำยังไง ยิ่งคิด ผมก็ยิ่งรู้สึกตัวเองมันแย่! ที่ไม่ใส่ใจฟังคำพูดของพี่ตุลย์เลยแม้แต่นิดเดียว


                “อื้ม...อันธพาลหรอ?”

                “เปล่า นี่พี่เอส” ผมตอบไอ้เด็กแสบที่ปรือตาขึ้นมามองผมเล็กน้อย “เป็นไงบ้างอะ? อยากได้อะไรไหม?”

                “ไม่อะ แต่รู้สึกตัวหนักมากเลย”

                “ผีอำหรือเปล่า” ผมพูดหยอกพลางหัวเราะออกมาเบาๆ ถ้าเป็นปกติไอ้เด็กนี่คงโวยวายออกมาแล้ว แต่มันคงหมดแรงจริงๆ เลยไม่สวนอะรไกลับมาสักคำ “งั้นพี่ไปละ นอนซะ นอนเยอะๆ จะได้หายไวๆ”

                “อืม”


                ผมมองที่หนึ่งที่หลับตาลงไปแล้วก่อนจะค่อยๆ ยันตัวเองลุกขึ้นเดินไปยังประตูห้องนอน เตรียมจะออกจากห้องให้ที่หนึ่งได้พักผ่อนเต็มที่แต่ก็ไม่วายหันกลับไปหาคนที่หลับตาพริ้มอยู่บนเตียงอีกรอบ “ขอโทษด้วยนะ”


                “ขอโทษที่หนึ่งทำไมอะ?” เด็กนั่นตอบทั้งๆ ที่ยังไม่ลืมตา

                “ที่วันนี้ไม่อยู่ดูแล”

                “ที่หนึ่งโตแล้ว ดูแลตัวเองได้”

                “หรอออ” ผมลากเสียงกลั้วหัวเราะเบาๆ พอรู้สบายใจขึ้นแล้วผมก็ค่อยๆ เดินออกมาจากห้อง ปิดประตูห้องนอนของที่หนึ่งอย่างเบามือที่สุด ถอนหายใจโล่งอกกับตัวเอง ก่อนจะเดินไปยังห้องนอนของใครอีกคน ที่ผมก็รู้สึกผิดไม่แพ้กัน


                เพี๊ยะ!


                ผมตบปากพล่อยๆ ของตัวเองเป็นการลงโทษและเรียกขวัญไปในตัว เปิดประตูสอดตัวเองเข้าไปข้างใน ผมรู้ว่าอีกฝ่ายรู้ว่าผมเข้ามาอยู่ในห้องแล้ว แต่เขาเลือกที่จะไม่สนใจผม ไม่แม้แต่จะปรายตามองผม


                ผมรู้สึกแย่ แต่ก็รู้ตัวดีว่าผมไม่มีสิทธิอะไรในเมื่อผมเป็นคนทำให้เขารู้สึกไม่ดีก่อน


                “...”

                “...”

                “ขอโทษนะ”

                “เรื่องอะไร?”

                “เรื่องของที่หนึ่ง” ผมก้มหน้าพูดเสียงเบา “ผมไม่มีอะไรจะแก้ตัว มันเป็นอย่างที่พี่พูด เพราะผมเองที่ไม่ใส่ใจ สนใจแต่เรื่องของตัวเองจนไม่ได้ยินสิ่งที่พี่บอกเมื่อเช้า ผมรู้ตัวว่าผมผิดไปแล้ว ผมจะไม่ทำอีก พี่ยกโทษให้ผมได้ไหม?”

                “...” พี่ตุลย์เงียบไม่ตอบแต่กลับหันมาสบตากับผมราวกับต้องการค้นหาความรู้สึกจริงๆ ข้างใน ผมเองก็สบตาตอบกลับไปเพราะผมอยากให้รู้ว่าผมสำนึกผิดกับทุกเรื่อง และต้องการให้เขายกโทษให้ผมจริงๆ “เฮ้อ...ที่จริงแล้วฉันเองก็คงผิด เอาแต่คิดว่า ’เดี๋ยวก่อนๆ คงไม่เป็นไร’ จนไม่ได้โทรย้ำเลยสักครั้ง ถ้าฉันเป็นกังวลเรื่องของที่หนึ่งอีกสักนิด ฉันก็คงโทรมาเตือนไปแล้ว”

                “...”


                ผมไม่อยากให้พี่ตุลย์คิดว่าตัวเองผิด ผมรู้ดีว่าเขาใส่ใจที่หนึ่งมากกว่าใครๆ ผมอยากให้เขาตำหนิผมมากกว่าตำหนิตัวเอง


                “เอาเป็นว่าช่างมันเถอะ ฉันเองก็มีส่วนผิดด้วยแล้วอีกอย่างก็ไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดกับลูกชายของฉันด้วย”

                “พี่จะยกโทษให้ผมหรอ?”

                “อืม ก็นายเป็นคนบอกเองไม่ใช่หรอเอส ว่า ‘จะไม่ทำอีก’ แล้วมันจะมีเหตุผลอะไรต้องไม่ยกโทษให้อีก?”

                “พี่ไม่ได้ประชดผมใช่ไหม?”

                “ฉันไม่ใช่เด็กแล้วที่ต้องมานั่งประชดประชันกัน โกรธก็คือโกรธ ไม่ก็คือไม่ นายใช้เวลาอยู่ข้างนอกจนคิดได้ว่าตัวเองผิด แล้วคิดว่าฉันที่อยู่ในนี้จะไม่คิดอะไรบ้างเลยหรือยังไง? ฉันก็คิดเหมือนกัน ที่บอกว่าต้องทำงานก็เป็นข้ออ้างเท่านั้นแหละ ฉันลางานได้ สุดท้ายแล้วก็เพราะว่านายกับฉันยังใส่ใจที่หนึ่งไม่มากพอก็แค่นั้น”

                “...”

                “ฉันยกโทษให้นายและฉันเองก็ยกโทษให้ตัวเองด้วย ทั้งนายและฉัน ‘จะไม่ทำอีก’” แล้วรอยยิ้มจางๆ ก็ปรากฎขึ้น ผมมองมันด้วยความรู้สึกหลากหลายก่อนจะเดินเข้าไปหา แล้วนั่งลงขอบเตียงหันหลังให้กับคนที่อยู่ก่อน

                “ตอนงานวันแม่ พี่บอกว่าผมเองก็เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้เหมือนกัน ผมดีใจมากเลยนะ ผมก็ไม่รู้หรอกว่าที่พี่พูดตอนนั้นเพราะบรรยากาศมันพาไปหรือพูดให้ผมดีใจเล่นๆ แต่ไม่ว่าอะไรผมก็ดีใจกับมันมากจริงๆ

                “...”

                “ตั้งแต่พ่อผมตาย ก็ไม่เคยมีใครพูดกับผมแบบนี้เลยสักครั้ง ไม่มีใครทำกับผมเหมือนผมเป็นครอบครัวของเขาเหมือนกัน พอพี่พูดกับผมวันนั้น มันก็มีความคิดนึงขึ้นมาว่า นี่คือครอบครัวของผม แต่ลึกๆ ผมก็คงคิดแหละว่า ‘ใช่หรือเปล่าวะ? ครอบครัวกับคนที่ไม่มีสายเลือดเดียวกันแน่นะ อาจจะพูดไปอย่างงั้นก็ได้ สุดท้ายแล้วก็เป็นแค่คนนอกเหมือนเดิม’ ผมยอบรับนะ ว่าผมพูดพล่อยๆ เองแหละ พูดไม่คิด ไม่ใช้สมอง ปากไม่ดี แต่ผมก็อยากให้พี่เข้าใจ...ผมอยากเป็นครอบครัวของพี่ด้วย ผมไม่ได้คิดว่าพี่ ที่หนึ่ง ตอนต้นเป็นคนนอก เพียงแค่ลึกๆ ผมไม่มีความมั่นใจ กลัวว่าพี่ไม่ได้คิดเหมือนกัน”

                “นายก็รู้ดีว่าฉันไม่ใช่คนปากพล่อย”

                “ก็รู้ แต่ทำยังไงได้ เห็นผมเป็นแบบนี้ ก็มีบางเรื่องที่ไม่มั่นใจเหมือนกันนั่นแหละ” ผมหันขวับไปมองคนที่อยู่ด้านหลัง “แต่ก็ขอโทษนะ ถึงอย่างนั้นแต่ผมก็พูดไม่ดี ทำให้พี่เสียความรู้สึก”

                “นายเป็นครอบครัวของฉัน เป็นคนของครอบครัวนี้”

                “...” ผมทำได้เพียงแค่รับฟังและมองตาคนที่พูดคำว่า ‘ครอบครัว’ กับผมอีกครั้ง

                “ฉันจะบอกนายแบบนี้ จนกว่านายจะมั่นใจ จนกว่าไม่ว่าจะโมโหมากแค่ไหน นายจะไม่พูดแบบนั้นออกมาอีก”   


                ผมหัวเราะ เอนตัวลงนอนบนเตียงเดียวกับคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนรัก ใช้ทั้งแขนทั้งขาก่ายไอ้พี่ตุลย์เอาไว้แน่น จมหน้าตัวเองเอาไว้กับเอวของอีกฝ่าย ความตื้นตันประหลาดๆ นี่ทำให้ผมรู้สึกอยากร้องไห้และอยากจะหัวเราะไปพร้อมๆ กัน


                ตอนนี้ผมเก็ทเรื่อง Inside out ที่ไปดูกับไอ้ปันเลย พอเราสุขหลังจากเศร้า ความสุขนั้นแม่งเท่าทวีคูณอะ


                “วันนี้นอนด้วยกันไหม?”

                “นอน~”





TBC
คิดถึงไอ้เอสกันอยู่ไหมมมมมมมมมม อย่าเพิ่งลืมกันนะะะะ
กรี๊ดดดด ยังอยู่ในลิมิต 1 อาทิตย์ เอาแบบตอนยาวโคตรๆ มาให้เป็นการขอโทษ ฮือออออออ
วันนี้ปั่นจนหัวฟู เพราะว่า บาสคณะคนเขียนได้ที่สอง เย้!
และด้วยเป็นการฉลอง และ ขอโทษไปในตัว พรุ่งนี้รอเลย ตอนพิเศษ รับรองว่าพิเศษแน่นอน!
พรุ่งนี้นะ รอเลยนะ รอเลยยยย!

#daddybelover



สปอย ตอนพิเศษ
' คือตอนเย็นๆ มันเป็นฟิลลิ่งคนเพิ่งดีกันไง คือเก็ทปะ แต่ตอนนี้...คือกูว่ามันไม่ใช่ '
' อยากจับนมผม อยากทำอะไร ทำเลยครับ ผมไม่ใช่ผู้หญิงนะ ไม่รู้สึกหรอก บอกเลย '
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 29-08-2015 22:55:07
 o13

ยกนิ้วให้เอสเลย

ชอบที่เอสเป็นคนมีเหตุผล รักฮิมมากๆ

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: SheGame ที่ 29-08-2015 22:57:50
 :hao6: :hao6: อยากอ่านตอนต่อไปเลยอ่ะ กรี๋ดๆๆๆ :hao7: :hao7:
ตอนนี้ก็ซึ้งมากจรืงๆ :mew4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 29-08-2015 23:03:04
คิดถึงจังเลยยยย

มาต่อแล้ววว

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aoraor ที่ 29-08-2015 23:05:26
 :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 29-08-2015 23:18:40
อิเอส  แรดจัง...งงงงงงงง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 29-08-2015 23:33:46
ที่หนึ่งดูเป็นผู้ใหญ่มาก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: pe-ar ที่ 29-08-2015 23:56:04
ตอนพิเศษ พิเศษจริงๆๆๆด้วย
 :hao6:

อร้ายยย อยากอ่านแล้วๆๆๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 29-08-2015 23:58:32
เอสจะทนไม่รู้สึกอะไรได้จริงเร้อ..ถ้าพี่ตุลย์จับนมไม่ปล่อยขึ้นมาจริงๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 30-08-2015 00:23:08
หน่วงหัวใจมากตอนนี้ แต่ยังดีนะที่เคลียร์กันได้
หัวข้อ: Re: !!!!!!!ักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 30-08-2015 00:29:56
แจ่ม ผิดแล้วรู้จักผิดและรู้จักขอโทษ พี่ตุลย์เป็นผู้ใหญ่โคตรๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 30-08-2015 00:31:42
 :hao6: จับนม   :z1: ทำอะไรก็เชิญ  อิอิ  เชิญๆๆ มามันส์ อิอิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 30-08-2015 00:36:46
โอยยยยย คิดถึงนิยายเรื่องนี้มากกกกกกกเลยค่ะ เข้ามาดูแทบทุกวันเลย กลับมาทีนี่คิดถึงมากกกกกกกกก
เฮ้อ ดีใจที่ตอนนี้เข้าใจกันได้ ไม่ดราม่าอย่างที่คิด แต่ตอนหน้าที่สปอยล์นี่คืออะไรคะ แอบกรี๊ดแล้วนะเนี่ย 55555
ปล.พรุ่งนี้จะรีบเข้ามาอ่านนะคะ จะรออย่างตั้งอกตั้งใจเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 30-08-2015 01:12:28
ดีที่เข้าใจกัน  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 30-08-2015 06:22:18
ตอนนี้เรียนกน้ำตาเบา เบา ส่วนตอนหน้าจะเรีบกเลือกหรือเรียกเสียงฮาดีดูจากสปอย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 30-08-2015 07:02:43
ยกโทษง่ายจัง. เข้าใจหล่ะทำไมถึงโดนผู้หญิงคนเดิมทำร้ายซ้ำๆ 2-3 รอบ
ถ้ารักคงยอมง่ายๆ สินะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 30-08-2015 09:31:02
รับเอสไม่ได้ เราอินนนนนนน
ถ้าในแวบที่โมโห เอสคิดและพูดออกมาแบบนั้น
เราว่าเอสไม่เหมาะกับพี่ตุลย์เลย
คำขอโทษบางครั้งมันก็เหมือนพูดส่งๆ เฉยๆ ฮรือออ เราอินไป 5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 30-08-2015 10:23:25
ก็หวังว่าเอสจะไม่คิดแบบนี้อีกนะ
ตอนนี้ตั้งตารอตอนพิเศษมากกว่า อิๆๆๆ :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 30-08-2015 10:44:04
พี่ตุลย์ ใจดีใจกว้างมีเหตุผลจัง






ถ้าเป็นป้านะ ต่อให้รักแค่ใหน ก็คงเก็บเสื้อผ้าไอ้เอสเฉดหัวมันออกจากบ้านแน่ๆ






แต่พี่ตุลย์เป็นคนดีที่พร้อมจะให้อภัยและเข้าใจมนุษย์อย่างไอ้เอสก็ดีแล้วละ






สำหรับไอ้เอส :z6: นี่คือความผิดที่แกปล่อยให้ที่หนึ่งอดข้าวเป็นวันๆ






น้องนอนป่วยอยู่คนเดียวในบ้านทั้งวันได้คลานไปกินน้ำหนเดียวเพราะลุกไม่ใหว






พี่ตุลย์อภัยให้แก แต่ฉันไม่ โถ๋ ที่หนึ่งหนูโตมีความคิดกว่าไอ้เอสจริงๆลูก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 30-08-2015 12:57:12
กรี๊ดดดดกับสปอยหนักมากกกก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 30-08-2015 13:04:26
นึกว่าพี่ตุลย์จะโกรธเอสนานกว่านี้ซะอีก

แต่ก็นะยังไงพี่ตุลย์ก็มีความเป็นผู้ใหญ่มากๆ

หวังว่าเอสจะไม่พูดจาทำร้ายจิตใตพี่ตุลย์แบบนั้นอีกนะ

รอตอนพิเศษ อิอิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 30-08-2015 13:42:10
ขอบคุนะที่มาต่อจน 150% ถ้าค้างถึงแค่100% นี่ตึงเครียดหลังจากทะเลาะแน่ๆ

ดีจังที่ทั้งสองทะเลาะทแล้วให้เวลาตัวเองคิด กล้าที่จะขอโทษ ไม่เก็บเงียบ ดีแล้วที่พูดแล้วเข้าใจกัน

อยากอ่านตอนหวานๆแล้ว~~
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 30-08-2015 14:00:38
ตอนทะเลาะกัน อ่านแล้วน้ำตาซึม :(
ดีนะ ที่กลับไปคิดทบทวน ลดทิฐิแล้วขอโทษกัน เคลียร์กันได้ด้วยดี
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 30-08-2015 14:01:06
ดีที่เข้าใจกันแล้ว เรานี่นั่งลุ้นตัวโก่งเชียว
หัวข้อ: Re: !!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 31-150% (29/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 30-08-2015 15:29:30
เอสก็นะ ลืมน้องได้ไงเนี่ย ดีนะที่ไม่เป็นไรมาก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 31-08-2015 03:02:43
ตอนที่ 31.5

*เรื่องที่ถูกวางไว้แต่แรกแล้วว่าต้องมีฉากอัศจรรย์แน่นอน แต่พอเขียนๆ ไป เอ้า ใสกว่าที่คิด ก็เลยอาจจะมีคนอ่านที่อาจรู้สึกแปลกๆ หากพี่ตุลย์กับไอ้เอสจะเล่นบทอัศจรรย์กัน สามารถข้ามได้นะครัช รออ่านตอนใหม่วันพฤหัสนี้ ~





               คือตอนเย็นๆ มันเป็นฟิลลิ่งคนเพิ่งดีกันไง คือเก็ทปะครับ ปกติผมนอนบนเตียงพี่ตุลย์ที่ไหนกัน แต่เพราะว่าผมเป็นคนผิด ยังไงดีละ คือถ้าเราเป็นฝ่ายผิดต่อให้คืนดีกันแล้วมันก็ยังไม่รู้สึกวางใจเต็มร้อยเลยอาจมีอ้อนๆ ง้อๆ อยู่ พอพี่ตุลย์ชวนให้วันนี้มานอนด้วยกัน หลังจากที่ถึงเวลาเข้านอนผมก็กระโดดขึ้นเตียงยอมให้พี่ตุลย์กอดแต่โดยดี ไม่มีดื้อ ฟิลลิ่งแฮปปี้โลกเป็นสีชมพูอมม่วงหลังจากผ่านวิกฤตการกระทบกระทั้ง


               แต่ตอนนี้...


               คือ...กูว่ามันไม่ใช่แล้ว


               “นี่พี่ แกล้งหลับนี่มันชั่วมากนะ” ผมพูดเสียงเรียบขณะที่มือของพี่ตุลย์ยังสะเปะสะปะอยู่บนตัวผม เดี๋ยวก็เลื่อนไปที่ท้องบ้าง ขึ้นมาที่อกบ้าง เกือบไถลลงไปข้างล่างใต้สะดื้อเลยก็มี


               ถ้าเป็นแรกๆ นี่ผมโวยวายพุ่งออกจากห้องไปนอนบนโซฟาแล้วครับ แต่อย่างที่เคยบอก พอหลังจากคืนแรกของเรา (?) คนที่สนใจเรื่องอย่างว่าก็กลายเป็นไอ้พี่ตุลย์แทน แต่เขาไม่ได้สนใจแบบเสิร์ชเน็ตแบบผมไง แต่สนใจแบบปฏิบัติ


               “โทษที มันชินมือไปหน่อย”

               “ชินมาจากไหน ปกติผมนอนพื้นตลอด พี่จะไปนอนกอดแบบนี้กับใครได้?”

               “หมอนข้างไง”

               “พี่โรคจิตหรอ นอนลูบไล้หมอนข้างเนี่ย” ผมพลิกตัวกลับไปเผชิญหน้ากับคนที่นอนกอดอยู่ทางด้านหลัง แต่ไอ้พี่ตุลย์ไม่ตอบคำถาม ทำเพียงแค่นอนมองหน้าให้ผมงงเล่น จนกระทั้งมีความคิดบางอย่างแว๊บเข้ามาในหัว ผมถึงค่อยยกยิ้มกริ่ม เอามือจิ้มแก้มอีกฝ่ายแล้วส่งเสียงแซวยาวๆ “รู้ละ~ ทำแบบนี้กับคนเก่าอะดิ ก็เลยต้องนอนกอดหมอนข้างตลอดใช่ปู่ววว~”

               “อืม ก็...ประมาณนั้น” พี่ตุลย์ตอบโดยที่สายตาก็ยังวางอยู่บนใบหน้าผม


               ตอนแรกก็ไม่อะไรหรอกครับ ผมเริ่มรู้แล้วละว่าพี่ตุลย์มันพวกเสือซ่อนเล็บ ถ้าหงิมๆ ทื่อๆ เป็นหุ่นยนต์คงยังไม่มีลูกโผล่มาสองคน แถมคนโตจะสิบขวบแล้วทั้งๆ ที่คนเป็นพ่ออายุยังไม่สามสิบแบบนี้ แต่พอเผลอคิดว่าเคยมีคนอื่นมาได้รับในสิ่งที่ผมได้รับก็รู้สึกตะหงิดขึ้นมาแปลกๆ


               แม่ง ถึงตอนนี้จะมีแฟนเป็นผู้ชาย แต่ไม่ได้หมายความว่ามึงต้องมีความคิดตุ๊ดแบบนี้ดิเอส!


               ว่าแล้วก็เลิกคิด ขึ้นคร่อมพี่ตุลย์แม่ง!


               “เรามาเป็นครอบครัวทางพฤตินัยด้วยดีไหม”

               “รู้ตัวอยู่ใช่ไหมว่าที่พูดอยู่นี่แปลว่าอะไร?”

               “รู้ดิ นี่โตแล้วจะยี่สิบอยู่แล้ว หรือพี่ไม่รู้ว่ามันแปลว่าอะไร? ถ้างั้นผมจะอธิบายแบบภาษาชาวบ้านให้ก็ได้ พี่จะเอาเลเวลคำชัดสักเท่าไหนละครับ ผมพูดได้ตั้งแต่คำไทยรากหญ้า จนถึงราชาศัพท์อะ”

               “ฉันรู้หน่า แค่สงสัยว่านายมาอารมณ์ไหน ปกติไม่เห็นจะเอาด้วย”

               “ก็ตอนนี้จะ ‘เอา’ ด้วย”

               “...” พี่ตุลย์มองผมด้วยสายตาระคนสงสัยปนไม่ไว้ใจ แต่มือสองข้างกลับคว้าหมับเข้าที่เอวของผมแล้ว

               “จริงๆ ผมก็สนใจเรื่องพวกนี้อยู่ ถ้าไม่สนก็คงไม่เสิร์ชเน็ตแบบนั้นหรอก แล้วช่วงนี้พี่ก็อยากลองอยู่เหมือนกันใช่ไหมละ ‘อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด’ ก็แค่ขี้เกียจจะฝืนแล้ว” ผมยกยิ้มกริ่ม

               “งั้นนายรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าตัวเองอยู่ตำแหน่งไหน?”


               ถึงจะพอรู้ตัวอยู่คร่าวๆ ก็เถอะว่าตัวเองจะอยู่ตำแหน่งไหน แต่อะไรก็ไม่แน่นอน เดี๋ยวค่อยเข้าชาร์ตตอนทีเผลอ แล้วรู้เลยว่าใครจะได้เป็นเมียใคร~


               ตุ๊บ!


               “เหวอออ” ผมร้องเสียงหลง มึนงงไปชั่วครู่ก่อนจะรู้สึกตัวว่าตอนนี้ผมโดนพลิกให้มาอยู่ข้างล่างแล้วพี่ตุลย์เป็นฝ่ายคร่อมอยู่ข้างบนแทนแล้ว แถมยังเอาขามาทับขาผมเอาไว้บ่งบอกชัดเจนว่ามึงหมดสิทธิหนี

               “เตรียมใจแล้วใช่ไหม?”

               “หึ พี่อาจจะเป็นเมียผมขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวก็ได้ ระวังไว้ดีไหม~”

               พี่ตุลย์หัวเราะในลำคอ “คิดว่าทำได้ก็ก็ทำ”

               พรึ่บ!

               สิ้นคำพูดของพี่ตุลย์ เสื้อนอนของผมก็ถูกถลกขึ้นเผยหน้าอกที่เปล่าเปลือย ผมยักคิ้วเล่นหูเล่นตาจงใจกวนตีนอีกฝ่ายไร้ซึ่งความเขินอายใดๆ บนใบหน้า

               โธ่ มันไม่ได้ต่างจากตอนเล่นวรรณคดีในงานโรงเรียนหรอกครับ ถอดเสื้อโชว์คนทั้งโรงเรียนก็ทำมาแล้ว กับไอ้แค่ถลกให้ไอ้พี่ตุลย์ดู มันจะไปเขินอะไรจริงปะครับ?

               “อยากจับนมผม อยากทำอะไร ทำเลยครับ ผมไม่ใช่ผู้หญิง ไม่รู้สึกหรอก บอกเลย”

               มือใหญ่ของอีกฝ่ายวางลงบนหน้าอกของผม “เขาคงไม่สร้างเอาไว้ให้เปล่าประโยชน์หรอก ในเมื่อผู้ชายให้นมลูกไม่ได้ นายคิดว่าเขาจะสร้างอันนี้ไว้ทำไมละ?” ไม่พูดเปล่าพี่ตุลย์ใช้นิ้วคีบยอดอกของผมราวกับมันเป็นเพียงแค่เม็ดถั่ว

               “จะไปรู้หรอ เป็นอวัยวะประดับ ให้พี่ถาม...อุ๊บ!” ไม่ทันจบประโยคดี คนที่คร่อมอยู่บนร่างก็เลื่อนใบหน้าเข้ามาประกบจูบปิดปากเป็นสัญญาณบอกถึงการเริ่มต้นของ ‘เซ็กซ์’ อารมณ์ บรรยากาศที่เปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน ทำให้ผมรู้หน้าที่ของตัวเองมากพอที่จะหลับตา อ้าปากรอรับลิ้นนุ่มที่กำลังสอดเข้ามา ตวัดแขนหารอบคอตักตวงรสจูบที่โปรดปรานอย่างเต็มที่!

               “อือ...” เสียงครางฮึ่มอย่างพอใจดังซ้อนทับกันไปกับเสียงจูบปาก เราผละออกจากกันพอให้ได้ต่อลมหายใจแต่ก็ประกบเข้าหากันใหม่อย่างรวดเร็ว คนที่เริ่มก็ให้อย่างไม่มีกั๊ก คนที่รับก็ตอบแทนอย่างไม่มีหยุดเช่นเดียวกัน


               ผมขอพูดอีกที ว่าผมโคตรชอบจูบกับพี่ตุลย์เลย รู้สึกดีฉิบหาย ก่อนหน้านี้แอบกังวลอยู่ว่าต่อให้คบกับผู้ชายแล้วผมจะมีอารมณ์กับผู้ชายหรอกวะ แต่ตอนนี้เคลียแล้ว ยังไม่ต้องทำอะไรมาก แค่จูบกับจินตนาการถึงตอนอย่างว่าแค่นี้ผมก็เริ่มมีอารมณ์จนปวดหน่วงๆ ที่กลางลำตัวแล้ว


               “ฮ๊าา...” ทันทีที่ปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ เสียงครางหายไปมีเสียงหอบหายใจเข้ามาแทนที่ คนที่เป็นฝ่ายคุมเกมอยู่ก่อนหน้านี้ ก็ค่อยๆ เลื่อนริมฝีปากระดมจูบ กัด ไล่ลงมาตั้งแต่แนวสันกราม สำคอ ไหปลาร้า เรื่อยลงมาจนถึงหน้าอก “อื้อ...”

               “แล้วมาดูว่านายจะรู้สึกหรือเปล่า?”

               “พยายามเข้าละ แล้วไม่ต้องไปแอบร้องไห้นะ ถ้าผมไม่รู้สึกอะไร” ผมส่งสาส์นท้าดวลด้วยสายตา แนบรอยยิ้มกวนประสาทอย่างจงใจ

               “นายมากกว่ามั้งเอส อย่ามาอ้อนวอนขอทีหลังก็แล้วกัน” สิ้นเสียงของพี่ตุลย์ คนที่อายุมากกว่าก็ขบฟันลงมาเป็นการลงโทษความกวนตีนของผม ก่อนที่สัมผัสนั่นจะแปรเปลี่ยนเป็นเพียงจุมพิศที่ประทับลงบนที่หน้าอกอย่างแผ่วเบาสลับกับการเล่นลิ้นไล่เลีย ไล่จูบไปทั่วแผงอก

               “อึก! จั๊ก...จั๊กจี้หน้าอกอะ” ผมพูดพลางพยายามกั้นเสียงหัวเราะ

               “เดี๋ยวก็รู้สึกดีเอง”

               “ไม่มีทาง ฮ่าๆ ปะ ไปเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน อื้อ! จั๊กจี้อะ” ผมพูดพลางกลั้วขำ พยายามใช้มือดันหัวอีกฝ่ายออกจากอกของตัวเอง แต่พี่ตุลย์กลับยึดข้อมือของผมทั้งสองข้างไว้เหนือหัว

               “อย่าดื้อสิ”

               “ก็มัน...พอ ฮ่าๆ พอแล้ว พี่ตุลย์! มัน..ฮ่าๆ พอเถอะนะ พอ...อ๊ะ!...อืออ” เสียงหัวเราะเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเสียงครางฮึ่มขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ อยู่ดีๆ อาการจั๊กจี้หายไปเปลี่ยนเป็นความรู้สึกใหม่เข้ามาแทนที่! “อึก!...ดะ เดี๋ยว...เดี๋ยว! มันรู้สึกแปลกๆ...”

               “รู้สึกยังไง?” ริมฝีปากผละออกมาเอ่ยถามก่อนจะกลับไปละเลงปลุกอารมณ์ที่หน้าอกและตุ่มเม็ดสีคล้ำอีกครั้ง

               “มัน...อะ! อืม...มมม”


               บ้าเอ๊ย! มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เป็นความหวาบหวิวที่ปนความเสียวนิดๆ เป็นความรู้สึกผสมผสานที่ไม่มีอะไรสุดเลยสักอย่าง เป็นความรู้สึกประหลาดๆ ที่เต็มไปด้วยความไม่เพียงพอ


               และมันก็ทำให้ยิ่งอยากได้!


               “ตรงไหนที่ทำให้นายรู้สึกดีหรอ? ใช่ตรงนี้หรือเปล่า?” ผมผวาเฮือก ผงกหัวขึ้นมาดูพี่ตุลย์ที่กำลังใช้ปากครอบครองตุ่มเม็ดไตของผม ทั้งดูดทั้งดุนจนเกิดเสียงลามกเคล้าไปกับเสียงครางฮึ่มระบายความซ่านของตนเอง บิดเร้าอย่างสับสน อยากจะหนีออกจากสัมผัสที่ไม่ชินนั่นแต่ในเวลาเดียวกันก็แทบจะอยากกดหัวไอ้พี่ตุลย์ให้ทำแรงขึ้น!

               “อะ โอ๊ย! ยะ...อย่ากัดแล้วก็เลียดิ” ผมซี๊ดปาก แม้รู้สึกเจ็บๆ แสบๆ แต่กลับปฏิเสธไม่ได้ว่าผมชอบอะไรแบบนี้มากกว่าสัมผัสที่แผ่วเบาราวกับตัวเองเป็นแก้วกระเบื้อง


               ยังไงซะผมก็ไม่ใช่ผู้หญิง ผมไม่ต้องการหรอกความเอาใจ แต่ผมต้องการอะไรที่ถึงใจต่างหาก!!


               “นายพูดว่า ‘อย่า’ ไม่ใช่หรอเอส แล้วทำไม...”


               หมับ!


               “อื้อ!...” ผมสะดุ้งเฮือก เผลอครางลั่นเมื่อมือใหญ่ของพี่ตุลย์ตะปบเข้าที่ส่วนกลางลำตัวเข้าอย่างจัง ซ้ำยังลูบไปมาเหมือนกับต้องการตรวจสอบว่าผมตื่นตัวไปมากแค่ไหนแล้ว “อย่าแหย่...อะ อย่าแหย่ผมสิ!”

               “ใครแหย่กัน” เสียงทุ้มก้มลงกระซิบข้างหูพร้อมกับลมอุ่นๆ ที่ถูกเป่าใส่อย่างจงใจ ผมนิ่วหน้าติดหงุดหงิดเล็กน้อย ตวัดแขนไปที่สะโพกของคนที่คร่อมอยู่ด้านบน ใช้ปลายนิ้วสอดเข้าไปด้านหลังกางเกงชั้นใน

               “ของจริงได้แล้วมั้ง ถ้ายังลีลาเป็นหมาหยอกไก่อยู่แบบนี้ ก็มานอนนิ่งอยู่ข้างล่างเป็นเมียผมดีกว่า”

               “...ฉันก็อุตส่าห์ให้เวลานายได้เตรียมตัวเตรียมใจ แต่ในเมื่ออยากได้ ฉันก็จะทำให้”

               “รออยู่เลย~”
















               เสียงครางฮึ่มในลำคอต่ำๆ ดังขึ้น รู้สึกอับอายกับการที่ต้องเป็นฝ่ายอ้าขาให้พี่ตุลย์เห็นส่วนที่ลับที่สุด แต่ตอนนี้ความกลัว และกังวลกลับมีมากกว่า มีมากจนมือทั้งสองข้างเย็นเฉียบ ทั้งๆ ที่คิดและทำใจมาก่อนหน้านี้แล้วแท้ๆ แต่ก็ไม่สามารถผ่อนคลายได้เลย ใจนึงก็อยากจะถอยหนี แต่...ถอยตอนนี้ก็ตุ๊ดไปปะวะ  สุดท้ายผมก็ต้องเดินหน้าต่อ ทำอย่างที่ไอ้ปันบอก ‘อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด’


               “เจ็บไหม?”

               “ไม่อะ ไม่เท่าไหร่ แต่ว่ารู้สึกอัดอัด” ผมพูดเสียงเบา หลับตารู้สึกถึงแต่นิ้วแปลกปลอมสองนิ้วที่เข้ามาอยู่ในร่างกาย


               ผมก็อ่านจากเน็ตมาเยอะนะ แต่พอเจอของจริงแม่งยิ่งกว่าอะ นี่สินะ ที่เขาเรียกว่าเรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย รู้สึกแปลกๆ ฉิบหาย ไหนใครบอกรู้สึกดีไง!


               “ฉันจะใส่นิ้วที่สามแล้วนะ”

               “โอ...อะ! โอ๊ย เจ็บ” ผมแหกปากลั่น จะดิ้นหนีให้นิ้วทั้งสามหลุดออกจากตัวก็ไม่ได้เพราะโดนไอ้พี่ตุลย์กันไว้ สุดท้ายผมก็ทำได้เพียงแค่รัวมีตีไหล่ไอ้พี่ตุลย์ระบายความเจ็บปวด “เจ็บๆๆๆ!”

               “ผ่อนคลายหน่อยสิ”

               “ผ่อนคลายอะไรเล่า! พี่กำลังแหกตูดผมอยู่นะ!”

               “อย่าพูดอะไรน่าเกลียดๆ สิ”

               “อือ...นี่ถ้าไม่ติดว่าอายุมากกว่า จะด่าว่าไอ้สัสแล้ว ฮืออ” ผมนิ่วหน้า รู้สึกขอบคุณที่พี่ตุลย์ไม่ฝืนทะลุทะลวงเข้ามาแต่ในขณะเดียวกันก็ไม่เอาออกไป คาเอาไว้อย่างนั้นให้ผมทรมานเล่น “มันเจ็บอะ...”

               “...เฮ้อ ช่วยไม่ได้” สิ้นคำพูดพึมพำของพี่ตุลย์ ตัวผมที่อยู่ท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนเมื่อกี้ก็กลายเป็นนอนหงายไปกับเตียง สะโพกลอยขึ้นสูงเล็กน้อย แต่ไม่มีอะไรน่าตกใจเท่ากับ อะ ไอ้พี่ตุลย์มันก้มลงไปที่หว่างขาผมแล้ววว ชะ ใช้ปากแล้วด้วย!

               “เดี๋ยว! เดี๋ยวทำอะไรเนี่ย!?”

               “อย่าไปสนใจเรื่องอื่น สนใจที่นิ้วฉันสิ”

               “เดี๋ยวๆ พี่ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้! พี่อายุเยอะกว่าผมตั้งเยอะอะ ทำแบบนี้ไม่ดีหรอก ออกไปได้แล้ว!”

               “ฟังที่ฉันพูดสิเอส” เสียงทุ้มนั้นพูดดุผมเบาๆ ก่อนที่จะกลับไปครอบส่วนอ่อนไหวกลางลำตัวของผมอีกครั้ง

               “อะ อื้ออ!...” เสียงครางหลุดออกมากอย่างพึงพอใจ ส่วนที่อ่อนไหวที่สุดของผู้ชายก็คงไม่พ้นอวัยวะที่อยู่ในปากของพี่ตุลย์ตอนนี้ แค่โลมเลียมันเพียงนิดเดียวอารมณ์กามที่เกือบหดหายไปเพราะความเจ็บก่อนหน้านี้ก็กลับฟื้นขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วจนน่าอัศจรรย์ “อือ...อาา...อืม..มม”

               “ตอนนี้ ยังเจ็บอยู่ไหม?”

               “อื้อ?” ผมยันตัวเองขึ้นมาเล็กน้อย เพ่งความสนใจไปทั่วร่างกายหาจุดหมายที่พี่ตุลย์กำลังหมายถึง ก่อนจะรู้สึกถึงนิ้วทั้งสามที่เข้ามาอยู่ข้างในทั้งหมดตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้กำลังหมุนวน ค้นหาอะไรบางอย่างอยู่ภายใน


               พี่ตุลย์กำลังทำอะไร...


               “อ๊าา!! อุ๊บ!” ผมตะครุบปากตัวเองแทบไม่ทันเมื่อเสียงครางดังลั่นเผลอหลุดออกไปอย่างไม่ตั้งใจ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือความตกใจของผมกับพี่ตุลย์ที่มีต่อปฏิกิริยาเมื่อกี้


               มะ เมื่อกี้มันคืออะไร...


               “...ตรงนี้สินะ”

               “!!...เดี๋ยว!” ผมรีบร้องห้ามอย่างไวเมื่อเห็นรอยยิ้มถูกใจของพี่ตุลย์ ไม่ทันที่ผมจะได้ตั้งตัว ก็ถูกร่างที่ใหญ่กว่านั้นโถมลงมาพร้อมกับที่นิ้วทั้งสามกดย้ำลงจุดที่เดิมที่ผมเผลอร้องลั่น ความเสียวซ่านแผ่ขึ้นมาอย่างรวดเร็วทุกครั้งที่ปลายนิ้วทั้งสามนั่นกระทุ้งโดน เสียงครางดังออกมาไม่หยุดหย่อนจนผมต้องยกมือที่เย็นเฉียบปิดปาก เพื่อไม่ให้ห้องข้างๆ ที่หนึ่ง หรือแม้กระทั้งตอนต้นได้ยินจนกระทั้งตื่นขึ้นมา “อะ! อ๊า! ยะ หยุดก่อน!”


               เวรเอ๊ย! เวรเอ๊ย! นะ นี่มันอะไรกัน นี่มันอะไร! ความรู้สึกที่แตกต่างจากที่เคยรู้จักมาทั้งหมดนี่คืออะไร!?


               ปึง!


               ผมทุบไหล่ของพี่ตุลย์เท่าที่แรงยังพอมี รู้สึกถึงร่างที่สั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัวราวกับคนหมดแรง รู้สึกกลัวความรู้สึกประหลาดที่ไม่รู้จัก แต่ในขณะเดียวกันกลับรู้สึกดีมากๆ จนแทบจะควบคุมเสียงครางของตัวเองไว้ไม่ได้ รู้ตัวอีกที ผมก็อ้าขาให้อีกฝ่ายกว้างที่สุดเท่าที่ผมจะอ้ากว้างได้!


               “จะเสร็จเลยก็ได้นะ”

               “อือ!...อื้มม อือ...อืออ!”

               “ไม่ต้องฝีนเอาไว้ จะปล่อยก็ปล่อยมาเลย บีบนิ้วฉันขนาดนี้แปลว่าตรงนั้นคงจะรู้สึกดีมากๆ สินะ”

               “อื้ออ...อือ!”


               ผมตวัดสายตามองคนที่ยังเอาแต่ย้ำจุดกระสันในร่างผมอยู่ภายใน เหลือบมองส่วนกลางลำตัวของอีกฝ่ายที่โป่งพองขึ้นมาเหมือนกันก่อนตัดสินใจเอื้อมมือข้างหนึ่งจับส่วนนั้นเอาไว้แน่น!


               “เฮ้ย!”


               ถ้าวันนี้มันจะมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ต้องเอาให้สุด! ผมไม่ได้อ่อนด๋อยขนาดนี้ใช้นิ้วก็เสร็จหรอก!


               “เข้ามา...”

               “หะ?”

               “ผมบอกว่าให้ใส่เข้ามา!”

               “จะบ้าหรอ เดี๋ยวนายก็เจ็บน่ะสิ!”

               “แล้วไงเล่า! เข้ามาเถอะหน่า!” ผมพูดเสียงเด็ดเดี่ย พร้อมกับบีบตุลย์น้อยของพี่ตุลย์เป็นการบังคับกลายๆ ว่าถ้าไม่ทำตามที่ผมพูด ก็เละเป็นข้าวหลามคามือผมแน่ พอรู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นว่าผมนอนราบอยู่กับเตียง ขาถูกยกและมีสิ่งที่ใหญ่กว่านิ้วทั้งสามถูกดันบางส่วนเข้ามาอยู่ภายในร่างกายแล้ว!

               “อือ! เจ็บ!!”

               “นืออ...แน่น หายใจเข้าลึกๆ”

               “รู้หน่า อึก! อ่านมาเยอะกว่าพี่อีก แต่ว่า...อือ! อืม...มม”


               เจ็บฉิบหาย...แล้วทำไมในเน็ตมันถึง...


               “มองหน้าฉัน เอส มองหน้าฉัน”

               “อืมม!...อือออ!” ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นพยายามจะมองหน้าพี่ตุลย์ตามที่สั่ง ในขณะเดียวกันก็พยายามหายใจเข้าออกลึกๆ ผ่อนคลายร่างกายไม่ให้เกร็ง

               “ดีแล้ว หายใจแบบนั้นแหละ เปิดปากเอาไว้ แล้วก็หายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ”


               ผมทำตามเสียงของพี่ตุลย์ สบเข้ากับตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงของคนที่อยู่เหนือร่าง ปรับร่างกายตัวเองให้ผ่อนคลาย รู้ตัวอีกทีส่วนนั้นของพี่ตุลย์ก็เข้ามาอยู่ในร่างผมทั้งหมด และมือใหญ่ของเขาก็กำลังประคองใบหน้าของผม


               “พี่...ตุลย์” ผมเรียกเสียงเบาเคล้าเสียงหอบหายใจ เอนหน้าอิงแอบไปกับฝ่ามือใหญ่ ก่อนที่พี่ตุลย์จะยกประคองใบหน้าของผมขึ้นแล้วก้มลงประทับจูบ

               “โทษทีนะ ฉันว่า ฉันทนไม่ไหวแล้วละ”

               “อะ...อ๊าาา!!” ทันทีที่พี่ตุลย์กระแทกกระทั้นเข้ามาภายใน ผมก็ร้องลั่นเสียงดังทันทีด้วยความเจ็บ น้ำตาไหลออกมาเองอย่างห้ามไม่อยู่ เช่นเดียวกับเสียงจนต้องยกมือตะครุบปากตัวเองเอาไว้อีกหน “เจ็บ! เจ็บ! อืมมมม!”

               “ทนหน่อย...ฉันจำได้ว่าแถวๆ นี้”


               ตึง!


               “อื้อออ!!” เสียงหัวเตียงกระแทกกับผนังเป็นจังหวะเดียวกับที่ส่วนกลางลำตัวของพี่ตุลย์กระแทกเข้ากับอะไรบางอย่างภายในร่างกายผม ความเสียวแปล๊บแล่นไปทั่วทั้งร่างรวมกันที่เอสน้อยที่ชูชันสั่นระริกทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เอื้อมมือไปแตะ “ตรงนั้น...”

               “หาเจอแล้ว”


               เพียงเท่านั้น รอยยิ้มถูกอกถูกใจก็ฉายขึ้นบนใบหน้าของพี่ตุลย์ เขาย้ำจุดเดิมในร่างกายของผมอีกครั้งด้วยส่วนที่แข็งขืดอยู่ภายในร่างกาย เสียงครางพึงพอใจในรสเซ็กซ์ดังน่าอาย แต่เสียงหัวเตียงกระแทกกับผนังตามจังหวะการกระแทกกระทั้นนั้นเป็นอะไรที่ไม่แพ้กัน


               “อื้อออ! อือ...! ยะ หยุด! เบาหน่อย อื้ออ…หรือไม่ก็อย่าทำตรงหัวเตียง มันกระแทกกับผนังอะ”

               “กลัวเขารู้ว่าพวกเราทำอะไรกันอยู่หรอไง?”

               “...อื้อ!”

               “แต่นายดูเหมือนจะตื่นเต้นนะ” เสียงทุ้มพูดกระซิบพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ “หน้าลามกเชียว” ...แล้วเราก็จูบกัน


               และที่สำคัญนะ คำพูดนั่นมันควรเป็นคำพูดของผมมากกว่าอีกครับพี่ตุลย์






TBC
มาเกินเวลา 3 ชม. ฮือออออออ
#daddybelover
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 31-08-2015 03:28:38
เอสคะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดนะ  :hao6:
แต่แกก็ยังคงเป็นเอสคนเดิมที่กวนได้แม้แต่ฉากอัศจรรย์
พ่อตุลย์ก็ท่าทางจะเอาเรื่องอยู่นะ รอบเดียวคงไม่พอ อดทนไว้นะเอส :m12:
รอตอนต่อไปนะคะ ฉากอัศจรรย์ยังไม่จบใช่มั้ย  :z1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 31-08-2015 07:56:31
 :hao6: ใสๆ แปลกๆดี จริงๆนะ   5555   :z1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 31-08-2015 08:40:50
 :z1: :z1: :hao6: :hao6: 
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 31-08-2015 09:24:27
 :-[

เอสสสสส

เข้าด้ายเข้าเข็มยังซ่าส์ได้อยู่

จะว่าไป......ให้พี่ตุลย์เป็นรับก็ท้าทายไม่หยอกเลยนะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP )
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 31-08-2015 10:10:36
ปกติ ไม่รู้สึกแปลกนะที่เขาจะมีอะไรกันแล้ววววววววววววว
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 31-08-2015 10:14:58
 :oo1:ฉากนี้ก็ยัง Hot แบบฮาๆ ตามสไตล์เอส :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 31-08-2015 10:39:35
เอสนายเกิดมาเพื่อสิ่งนี้เลยใช่ใหม






พี่ตุลย์ พี่จะคล่องเกินไปแล้ว :impress2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 31-08-2015 11:33:52
กลับเข้าสู่โหมดปกติ 5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 31-08-2015 11:36:57
อือฮือ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 31-08-2015 12:10:35
ถ้าที่หนึ่งหลับลึกก็รอดตัวไป แต่ถ้าไม่..พี่ตุลย์กับเอสอย่าลืมเตรียมคำตอบเอาไว้ให้เด็กช่างสงสัยด้วยนะคะว่าทำไมถึงมีเสียงดังตอนกลางดึก :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 31-08-2015 12:26:52
เย้ เอสเป็นเมียพี่ตุลย์เต็มตัวแล้ว 55555+
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 31-08-2015 12:38:13
อิเอส เวลานี้ยังจะฮาได้อีกนะ   :hao6:

พี่ตุลย์นี่ก็ไม่เบาเลย เห็นเงียบๆแต่ฟาดนายเอสซะเรียบเลย  :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 31-08-2015 14:37:46
กรี๊ดดดดดดด ในที่สุดก็ได้กันจนได้ ขอกรีดร้องอีกรอบ อร๊ายยยยยยยยย
แต่...รู้สึกว่ามันจะยังไม่จบแค่นี้นะคะ มาต่ออีกนิดส์สิคะ เขายังไม่เสร็จสมอารมณ์หมายกันเลยนะ 5555
แอบเข้ามาดูตอนตี 1 กว่า แล้วก็กลับไปนอนด้วยความเหงาหงอย สุดท้ายตัวเองมาอัพตอนตี 3 กว่า โถ่ววว ถ้ารู้จะเข้ามาอ่านตั้งแต่ตอนนั้นแล้วนะเนี่ย 5555
ปล.รอตอนต่อไปนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 31-08-2015 15:30:27
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด เค้าได้กันแล้วๆๆๆๆๆๆ//กรีดร้องโวยวายอยู่หน้าคอม

ขอต่ออีกค่ะ ขออีกๆๆๆๆๆ///ทุบโต๊ะรัวๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 31-08-2015 18:52:18
กรี๊ดดดดดด >\\\\\\<
ได้กันแร้วอย่างไม่คาดคิด
อ่านตอนที่แล้ว ก้อคิดอยู่เลยว่าเอสโดนหนักแน่งานนี
ทิ้งที่หนึ่งที่กะลังป่วยไปเที่ยว (แม้จะไม่ได้ตั้งใจก้อเหอะ) กลัวมาม่าหนักหน่วงงงงง
ดีที่พี่ตุลย์คือแบบพระเอกอ่ะ ผู้ใหญ่มากๆ ^0^
แระก้อจบด้วยฉากอัศจรรย์ -////- ได้อารมณ์ประมาณเอสผู้ปากดีโดนจัดการสุดๆ ชอบอ่ะ!!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 31-08-2015 20:12:19
และแล้วน้องเอสก็ จุดๆๆๆๆ พี่ตุลย์    :hao6:   :hao6:

 :haun4:     :haun4:   :haun4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 31-08-2015 21:17:08
ว่าแล้วว่าฉากนี้ของเอสมันจะฮามากกว่าฟิน 55555 แต่พี่ตุลย์ก็เก่งใช่ย่อย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 31-08-2015 21:52:08
เออออ เอสต้องอย่างนี้แมนๆอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดดด แอร๊ยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 31-08-2015 23:11:30
ว๊ากกกกก เอสมีปั๋วแล้วววว
จุดพลุฉลองให้นาง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 01-09-2015 00:44:01
เสร็จจนได้  อิเอสสส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 01-09-2015 08:50:31
อิพี่ตุลย์ขี้หื่นแถมขี้แกล้งอีก
เสร็จจนได้นะแกรเอสว้อนเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 01-09-2015 13:24:25
 :pig4 :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: onekiss ที่ 01-09-2015 17:46:54
 :z1: :z1: :z1:
ในที่สุดดดดดนางก้โดน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: NuTonKaw ที่ 01-09-2015 20:32:57
 :o8: อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด :m20:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! UP ตอนที 31.5% (30/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 02-09-2015 20:53:36
อย่างนี้ต้องขอสอง...เอ๊ย! ต้องฉลอง
ยินดีกับคู่นี้ที่ได้กันเสียทีเนอะ หืดหาด หืดหาด  :hao6:

เป็นกำลังใจให้ค่ะ รออ่านตอนต่อไปนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 03-09-2015 20:17:30
ตอนที่ 32


                   ถ้าคิดว่าพอหลังเสียตัวครั้งแรกแล้ว จะเป็นฟิลลิ่งคืนเข้าหอละก็...บอกเลยว่าคิดผิดแล้วครับ! ผมขอแนะนำทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายที่ต้องเป็นฝ่ายเสียตัว (?) อย่าไปตั้งความหวังว่าหลังจากเขาได้เราแล้ว จะเป็นฟิลลิ่งคู่แต่งงานใหม่ครับ นอนเปลือยใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน คุยกันหวานแหวว มันไม่จริงครับ!


                   ผมขอย้อนไปเมื่อตอนเจ็ดโมงถึงเจ็ดโมงครึ่งโดยประมาณ พี่ตุลย์ก็ลุกขึ้นจากเตียงไปอาบน้ำตามปกติ ใส่เสื้อผ้าตามปกติ ไล่ผมไปอาบน้ำเตรียมไปเรียนตามปกติ ไปปลุกที่หนึ่งตามปกติ ไปหาป้าสร้อยตามปกติ จุ๊บผมที่นอนเป็นผักอยู่บนเตียงสักแอ๊ะก็ไม่มี อย่าว่าแต่จุ๊บเลย แค่ไม่ใช้เท้าปลุกผมเหมือนทุกทีก็รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก


                   “เอส วันนี้มีเรียนไหม?”

                   "มี” ผมที่นอนคว่ำตะแคงหน้ามาหาพี่ตุลย์ที่เดินเข้ามาในห้องนอนอุ้มตอนต้นที่เริ่มงอแงออกจากคอกข้างเตียง

                   “กี่โมง?”

                   “เรียนเช้าอ่ะ ตอน 8 โมงครึ่ง”

                   “งั้นลุกไปอาบน้ำไป”

                   “ไม่เอา วันนี้จะโดด” ผมยันตัวลุกขึ้นนั่ง เสื้อผ้านี่เต็มยศ ถ้าไม่มีอาการปวดตุ๊บๆ ตรงสะโพกนี่ผมนึกว่าเมื่อคืนเป็นเรื่องฝันเปียกไปแล้วเนี่ย

                   “โดดเรียนได้ไง เดี๋ยวก็เรียนตามเพื่อนไม่ทันหรอก เขาให้มีเรียนก็เรียนไปเถอะหน่า ความรู้ตอนนี้ต้องเอาไปใช้ในอนาคต” พี่ตุลย์ขมวดคิ้วใส่

                   “ห่วงอนาคตผม ผมก็ขอบคุณมาก แต่ห่วงร่างกายผมด้วยครัช” ผมจงใจเน้นเสียง ‘ช ช้าง’ “บอกเพื่อนให้เช็คชื่อให้แล้ว เดี๋ยวค่อยไปยืมวิดิโอที่เขาอัดไว้มาดูทีหลัง ไม่ต้องห่วงว่าจะเสียการเรียนหรอกครับพ่อ”

                   “ถ้าเสีย พ่อคงต้องอัญเชิญออกจากที่นี่”


                   พูดเล่นกลับมา แต่หน้านี่อย่างดุ


                   ผมขอย้ำอีกที เมื่อคืนครับ ไม่เกินเจ็ดชั่วโมงก่อนหน้านี้ เราได้กันครับ


                   ผมไม่ได้อยากให้มาประคบประหงมร้องห่มร้องไห้อยู่บนเตียงหรอกครับ เมื่อคืนถึงจะเจ็บไป (ไม่) หน่อย แต่ก็รู้สึกดีอยู่แหละ (อันนี้ไม่ค่อยอยากยอมรับเลย สึดเอ๊ย) แล้วก็เป็นความเต็มใจของผมเอง ที่สุดท้ายก็ยอมอยู่ล่างก็ได้วะ แต่คือผมก็อยากจะกุ๊กกิ๊กๆ บ้างไง นิดนึงอะ นิดนึง เข้าใจวัยรุ่นหน่อยดิเฮ้ย!


                   แต่ก็เท่านั้นครับ สิ่งที่อยู่ในใจก็อยู่ในใจต่อไป เดี๋ยวรอกลับมาก่อนค่อยจัดเองก็ได้วะ


                   ก๊อก ก๊อก


                   หลังจากที่พี่ตุลย์ออกไปทำงานแล้ว ที่ประตูห้องนอนก็มีเสียงเคาะดังขึ้น ไม่ต้องเดาให้มากความก็คิดว่าคงเป็นป้าสร้อยนั่นแหละ


                   “เข้ามาได้เลยครับ ประตูไม่ได้ล็อค” ผมตะโกนบอก


                   อยากจะเป็นฝ่ายลุกขึ้นไปเปิดประตูเองให้อยู่นะครับ แต่ตอนเดินนี่มันรวดร้าวจริงๆ ตอนตีสอง หนาว เลยลุกขึ้นมาเอาเสื้อผ้าที่ถอดทิ้งไว้ขึ้นมาใส่ ทันทีที่เท้าแตะพื้น ขานี่ฮวบเลย ดีนะที่ไม่ได้ลุกขึ้นยืนพรวดพราดไม่งั้น ได้มีเดี้ยง ไม่ก็หน้าเสียโฉมบ้างแหละงานนี้


                   “ตุลย์บอกว่าเอสป่วย ป้าก็เลยแวะเข้ามาดูน่ะ ติดหวัดจากที่หนึ่งหรือเปล่า?”

                   “เปล่าครับ” ผมปฏิเสธพร้อมกับส่งยิ้ม สายตาเหลือบเห็นที่หนึ่งที่ยืนอยู่หน้าทีวีแอบมองผมกับป้าสร้อยที่กำลังคุยกันอยู่

                   “ดีแล้วล่ะ ที่หนึ่งเขากลัวว่าเอสจะไปติดหวัดจากเขา”


                   หื้ม? ไอ้เด็กแสบนั่นเป็นห่วงด้วยหรอเนี่ย


                   “ไม่ใช่หรอกครับ บอกที่หนึ่งได้เลยว่าผมไม่ได้ติดหวัดจากเขา”

                   “จ๊า เดี๋ยวบอกให้นะ ถ้างั้นเอสอยากได้อะไรก็เรียกป้าได้ตลอดนะ อยู่ข้างนอกกับที่หนึ่งแล้วก็ตอนต้นเนี่ยแหละ แล้วตอนนี้ปวดหัวไหม? ป้ากำลังจะทำอาหารเช้าให้เด็กๆ จะได้ให้เอสด้วยแล้วก็กินยาพร้อมเลย”

                   “เอ่อ...คือผมไม่ได้ป่วยอะไรเลยครับ สบายดี ตัวไม่ร้อน ไม่เป็นหวัด ไม่เป็นไข้ พลังแรงม้าเหมือนเดิม”

                   “อะ อ้าว แต่ตุลย์บอกว่าเอสไม่สบาย เนี่ยก่อนไปทำงานยังวานป้าให้เข้ามาดูเอสบ่อยๆ เลย แล้วยังกำชับอีกว่าถ้าเอสเป็นอะไรหนักขึ้นมาให้รีบโทรหา”

                   “...” ผมอ้าปาก ตั้งท่าจะตอบกลับไป แต่กลับไม่มีเสียงอะไรหลุดออกจากปากทั้งสิ้น มีเพียงรอยยิ้มโง่ๆ ที่ออกมาผมจึงต้องรีบก้มหน้าหลบอย่างไว ยกมือจับท้ายทอยของตัวเองด้วยความรู้สึกดีแปลกๆ


                   ไอ้พี่ตุลย์เอ๊ย


                   ...แบบนี้ ก็...ได้อยู่


















                   “กลับมาไวจัง?” ในขณะที่ตุลย์กำลังเดินเข้ามาในสำนักพิมพ์ ก็จังหวะเดียวกับที่หัวหน้าในฝ่ายของตนเองกำลังเดินออกมาจากตึก เขาทักลูกน้องคนสนิทพลางกอดคอหมุนเปลี่ยนทิศทางให้ตุลย์เดินออกจากตึกสำนักพิมพ์อีกรอบ

                   “วันนี้รถไม่ติดเลยครับ ก็เลยเดินทางสะดวกหน่อย แล้วเมื่อวานก่อนกลับบ้านผมได้โทรไปบอกร้านหนังสือที่จะไปดูไว้แล้วให้สรุปแนวโน้มยอดขายหนังสือเรื่องใหม่น่ะครับ ก็เลยไม่ได้ใช้เวลานานอะไร”

                   “รอบคอบจริงๆ ทำงานเร็วแบบนี้ พักหายใจก่อนแล้วค่อยไปทำงานต่อก็ได้”

                   “แต่...”

                   “เถอะหน่า หัวหน้าอยู่นี่จะกลัวใครด่า ฮ่าๆ ตอนนี้ฉันกำลังจะไปซื้อกาแฟที่ร้านที่อยู่ซอยถัดจากสำนักพิมพ์เราไง”

                   “อ๋อ ร้านที่หัวหน้าซื้อกาแฟเลี้ยงพวกผมเมื่อวันก่อนน่ะหรอครับ?”

                   “ใช่ๆ นายก็มาด้วยกันสิ เมื่อวานฉันก็แวะไปมา แคชเชียร์บอกว่าช่วงนี้เจ้าของร้านเข้าทุกวัน นายจะได้เห็นว่าสวยระดับนางฟ้าแค่ไหน ฉันตั้งใจจะถ่ายรูปคู่ด้วย เอาไปให้ไอ้พวกนั้นดู จะได้รู้ว่าสวยจริง!”


                   ตุลย์หัวเราะ ถึงแม้ตนจะปฏิเสธแต่หัวหน้าฝ่ายขายก็เดินกอดคอพามาจนเกือบจะถึงปากซอยถัดจากสำนักพิมพ์อยู่แล้ว
                   

                   “เดี๋ยวพวกนั่นจะเอาไปฟ้องภรรยาหัวหน้ามากกว่าน่ะสิครับ”

                   “ถ้าใครกล้าฟ้องเมียจ๋าของฉันนะ งดโบนัส ตัดเงินเดือนแม่ง!”

                   “ทำงั้นก็แย่สิครับ”


                   กริ๊ง...


                   “สวัสดีค่ะ” หลังจากที่ประตูกระใจใสของร้านกาแฟร้านโปรดของ ‘ศิลา’ หัวหน้าฝ่ายขายถูกเปิดออก เสียงของพนักงานสาวก็ประสานดังขึ้นต้อนรับ สำหรับตุลย์ที่มาเป็นครั้งแรกแม้เขาจะเก็บสีหน้าได้ดีคงความใจเย็นเอาไว้ได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาตกใจไปกับเสียงต้อนรับที่ดังลั่นร้านนั่น ผิดกับหัวหน้าของตนที่ดูเหมือนจะชินเสียแล้ว นอกจากจะไม่ตกใจยังมีการทักทายกลับไปอีกต่างหาก

                   “วันนี้เจ้าของร้านเข้ามาหรือยังครับ?” ศิลาเอ่ยถามแคชเชียร์สาว โดยมีตุลย์เดินมาสมทบภายหลัง

                   “เข้าแล้วค่ะ แต่อยู่หลังร้าน จะให้เรียกผู้จัดการให้ดีไหมคะ? คุณศิลาอุตสาห์มาหาผู้จัดการทุกวัน”

                   “แหม พูดอย่างนี้ฉันรู้สึกต่อเมียที่บ้านเลย ฮ่าๆ ใช้คำว่ามาของสวยของงามดีกว่า” ศิลาพูดหยอกแคชเชียร์สาว ก่อนจะสั่งเครื่องดื่มของตนเอง “ตุลย์เอาอะไร?”

                   “ผมขอเอสเปรสโซแล้วกันครับ” ชายหนุ่มอีกคนบอกกับแคชเชียร์สาว

                   “เมื่อตอนเช้าก็กินไปแล้วไม่ใช่หรอ กินเข้มขนาดนี้อีกแก้วเดี๋ยวก็ตาค้างหรอก”
                   
                   “ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าไม่หลับก็ทำงานต่อไงครับ ทำผลงานเยอะๆ เผื่อหัวหน้าจะได้เพิ่มโบนัสบ้าง ตอนนี้ผมมีรถยนต์แล้ว ต้องหาค่าน้ำมันนะครับ”

                   “ไม่มีเงินไหนจะเพิ่มให้นายทั้งนั้นแล้วละ ตอนนี้”

                   “เดี๋ยวเครื่องดื่มจะไปส่งที่โต๊ะนะคะ” แคชเชียร์สาวพูดแทรกขึ้น พร้อมกับยื่นใบเสร็จที่ให้นำมาชำระเงินทีหลังกับลูกค้าผู้มาใหม่ทั้งสอง ก่อนที่ศิลาและตุลย์จะเดินไปยังโต๊ะนั่งที่ว่าง ชิดกับกำแพงกระจกใสมองเห็นนอกร้านที่เป็นถนนและสวนเล็กๆ ที่ถูกจัดเอาไว้

                   “หัวหน้าครับ ระหว่างรอดูสรุปก่อนไหมครับ? เผื่อจะได้ประชุมเรื่องยอดตีพิมพ์ครั้งที่สองไว้ขึ้นหน่อย”

                   “...เฮ้อ ยังไงก็จะทำงานสินะ ชีวิตจริงจังตลอดเลยใช่ไหมเนี่ย?” ศิลา ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายขายวิจารณ์ลูกน้องคนสนิทเล็กน้อย แต่ก็ยอมรับใบสรุปแนวโน้มมาดู “หื้ม? แวะไปร้าน ‘หนังสือดี’ อีกแล้วหรอ?”

                   “ก็ผมยังคาใจอยู่นี่ครับ ว่าทำไมยอดของร้านนี้มันถึงสูงจัง แต่ผมว่าร้านนี้สูงโดดอยู่ร้านเดียว เวลาหาว่าโดยเฉลี่ยแล้วควรจะส่งไปที่ร้านไหน เท่าไหร่มันคิดยากนะครับเนี่ย”

                   “ร้านนี้ลองสมมุติดูก็ได้ ประมาณว่าถ้าขายเท่ากับร้านอื่นๆ แล้วยอดหนังสือเล่มใหม่จะยังไง ค้างสต็อกไหม หรือต้องพิมพ์เพิ่ม ฝ่ายบรรณาธิการก็มาโวยจังเลยว่าจะให้พิมพ์เพิ่ม จะให้พิมพ์เพิ่ม”

                   “ถ้าอย่างนั้นเขาก็ต้องมั่นใจสินะครับ ว่าผลงานของนักเขียนคนนี้ต้องขายได้”

                   “ไม่รู้เหมือนกัน ถ้ามีเหตุผลก็คุยในที่ประชุม แต่ถ้าเป็นความรู้สึกส่วนตัวเราก็เอามาใช้กำหยดยอดพิมพ์ไม่ได้หรอกนะ”

                   “ขอโทษนะคะ ของที่สั่งได้แล้วค่ะ”

                   “โอ๊ะ ขอบคุณมากครับ” ศิลา ช่วยรับเครื่องดื่มทั้งสองแก้วที่ถูกยื่นมาให้ ตั้งใจจะส่งยิ้มอย่างคนมีมิตรไมตรีแต่ทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้นแล้วเห็นว่าคนที่เสริฟเครื่องดื่มให้นั้นเป็นใคร ความตกใจก็ทำให้เขาส่งเสียงดังจนลูกค้าใกล้ๆ หันมาส่งสายตาตำหนิ! “คุณทอฟ้า!”

                   “สวัสดีค่ะ คุณศิลา เจอกันอีกแล้ว เห็นน้องพนักงานบอกว่า คุณศิลาถามหาฟ้าบ่อยๆ”

                   “ก็นิดหน่อยครับ อยากรู้ว่าคุณทอฟ้ามาวันไหนบ้าง ผมจะได้ขนพวกลูกน้องมาได้รู้จักกับคุณทอฟ้าบ้างไงครับ”

                   “มารู้จักแล้วก็ต้องอุดหนุนด้วยนะคะ” เธอยิ้มหวาน

                   “แน่นอนอยู่แล้วครับ” ศิลายิ้มหวานให้กับผู้เป็นเจ้าของร้านสาวสวยตรงหน้า พลันสายตาเหลือบเห็นตุลย์ที่เอาแต่นั่งก้มหน้าก้มตาไม่มองผู้ที่เข้ามาเดินมาทักเลยแม้แต่น้อย ด้วยความอยากจะนำเสนอเขากลับไม่สนใจท่าทางแปลกๆ นั่นแล้วสะกิดให้ตุลย์ได้ทำความรู้จักเจ้าของร้านกาแฟ ที่ชื่อ ‘ทอฟ้า’

                   ซึ่งเขาไม่รู้เลยว่า สองคนนั้น รู้จักกันมากพอจนแทบจะเกิน...ไปแล้ว

                   “สวัสดี” เสียงทุ้มพูดทักทาย พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าสวยที่เปี่ยมไปด้วยความตกตะลึง

                   “พี่...ตุลย์!”




50%
บอกว่าจะมาวันพฤหัสก็มาวันพฤหัสดิ ~ แต่มาก่อน 50 แล้ววันอาทิตย์ไม่มีเรียน เจออีก 50 นะครัชช
#daddybelover



สปอย

' เขาเป็น....แม่ของลูกผมครับ '
' แล้วกับคนนั้นยังดีอยู่ไหม? '
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 03-09-2015 20:36:13
มาให้อยากแล้วจากไป โฮฮฮฮฮ ค้างอ่ะ ค้างมากมาย
เจ็บใจอ่ะ แล้วเดี๋ยวมาต่อด้วยนะคะะะะะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 03-09-2015 20:45:29
เป็นแม่ของที่หนึ่งรึป่าว ตุลย์อาจจเลี้ยงลูกให้เค้า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 03-09-2015 21:04:11
แม่ของลูก???
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 03-09-2015 21:06:40
โอ๊ะจะยังไงละทีนี้ งานเข้า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 03-09-2015 21:30:52
คงไม่มีมาม่าใช่มั้ย? ใช่มั้ยๆๆๆๆๆๆๆๆ :mew2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 03-09-2015 21:42:17
 :z10:

เอสสสสสสสสสสสส น่าจ๋งจ๋าน ไม่มีมู้ดโรแมนติกกะเขาบ้างเลย  :ling2: :ling2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 03-09-2015 21:45:03
ก็คงต้องแล้วแต่ใจพี่ตุลย์แล้วล่ะค่ะว่าจะเดินต่อไปข้างหน้า หรือจะก้าวถอยหลังมายังจุดๆ เดิม o18 ..
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 03-09-2015 21:45:16
 :katai1: :katai1:มันค้างกะสปอยนี่ละค่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 03-09-2015 21:53:05
แม่ของลูกหรอ อะไรยังไง ค้างงงงง :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 03-09-2015 22:27:13
ว่าละไง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 03-09-2015 22:27:48
อ้าวแม่ของลูก ออกมาซะงั้น แล้วเอสจะเป็นอย่างไง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 03-09-2015 22:46:44
ค้างงงงงงงงงงงง ทำร้ายโดยการทำให้เราค้างอ่ะ TT
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 04-09-2015 00:08:18
 :katai1: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-09-2015 00:22:34
  :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 04-09-2015 00:47:16
กรี๊ดดด ค้างมากมายยยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOV!!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 04-09-2015 08:50:08
หวังว่าตุลย์จะไม่โง่อีกครั้ง อย่ามาดราม่าแบบว่าฟ้ากลับมา ตุลย์สับสน เอสน้อยใจหนีไป ตุลย์คิดได้แล้วตามไปง้อนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 04-09-2015 09:49:11
จะมีงานเข้า คู่ข้าวใหม่ปลามันใหม
หัวข้อ: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 04-09-2015 12:57:26
ห๋า!!!  อะไรน้าแม่ของลูกพี่ตุลย์
ยังไม่ทันจะหวานจนมดกัดแต่จะกลับเป็นหวานปนขมแล้วเหรอ  ไม่น้าา

 :katai1:   :o12:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 04-09-2015 13:00:08
ถ่านไฟเก่าตุลย์หรือเปล่านะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 04-09-2015 15:09:14
ไม่เห็นหวานเลย 5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 06-09-2015 15:17:13
เวรละ.....
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: แค่ความทรงจำ ที่ 07-09-2015 00:51:37
 :a5: :a5:

ค้างงงงงงงงงงงง

ลุ้นๆ ต่อไป
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Umiko ที่ 07-09-2015 19:43:10
ค้างด้วย...มาสปอยให้อยากแล้วจากไป....
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-50% (3/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 07-09-2015 20:58:45
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด แม่ของเด็กๆหรอ
พี่ตุลย์อย่าหวั่นไหวนะเว้ย / เขย่า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 08-09-2015 10:07:54
50%
่ต่อจาก 32-50%







               “อะ อ้าว รู้จักกันอยู่แล้วหรอ?” ศิลา หัวหน้าแผนกฝ่ายขายเอ่ยถามขึ้นอย่างประหลาดใจ

               “เป็นรุ่นน้องตอนมัธยมน่ะครับ”

               “อ๋ออ เก่ามากเลยนะเนี่ย ฮ่าๆ” ศิลาหัวเราะ “ถ้าไหนๆ ก็รู้จักกันหมด คุณทอฟ้าก็มานั่งคุยกับเราสักพักสิครับ”

               “ขอโทษนะคะ แต่ฟ้าว่าไม่...”

               “เถอะนะครับคุณทอฟ้า ผมมาร้านนี้บ่อยๆ แต่ไม่เจอคุณทอฟ้าสักที วันนี้ได้เจอแล้วก็คุยกันแป๊บนึงสิครับ”


               คนทำงานฝ่ายขายต้องมีคารมที่ดีเพราะต้องติดต่อประชาสัมพันธ์กับบุคคลภายนอกอยู่ตลอดเวลา และการที่ทอฟ้ายอมเปลี่ยนใจมานั่งร่วมโต๊ะคุยกันอย่างที่ศิลาขอนั้นก็ทำให้ไม่เห็นข้อกังขาเลยว่า ทำไมผู้ชายที่ดูไม่จริงจังกับอะไรเลยคนนี้ถึงได้เข้ามาขึ้นแท่นเป็นหัวหน้าฝ่ายขาย


               ในโต๊ะที่มีคนนั่งอยู่สามคน ศิลาเป็นคนที่ชวนทอฟ้าคุยเป็นเสียส่วนใหญ่ ส่วนมากก็จะเป็นการคุยเรื่องธุระร้านเครื่องดื่มของทอฟ้าเอง นานๆ ทีถึงจะชวนคุยในเรื่องของเขาที่นั่งเงียบๆ ทำเป็นสนใจงานที่ติดมือมาด้วย


               Rrrrrrrr


               “อะ ขอโทษที ลูกน้องโทรมาตามนะ คงเห็นว่าหายไปนาน” ศิลายกมือปรกๆ บอกกับคนที่นั่งร่วมโต๊ะทั้งสอง “ผมขอออกไปคุยโทรศัพท์หน่อยนะครับ...ตุลย์ดูแลคุณทอฟ้าดีๆ ละ!” ประโยคหลังหันมากำชับกับลูกน้องที่เข้าร้านมาด้วยกัน

               “ครับ”


               แต่ถึงตุลย์จะอยู่อย่างนั้นแต่ทันทีที่ศิลาพ้นประตูออกไป บรรยากาศภายในโต๊ะก็อึดอัดขึ้นมาทันทีด้วยความเงียบและความกดดัน แต่ถึงอย่างนั้นทั้งสองกลับไม่มีใครที่ลุกออกไปจากโต๊ะ ราวกับมีอะไรบางอย่างดึงพวกเขาไม่ให้ลุกออกไป


               “...”

               “...”

               “ฟ้า...ไม่คิดว่าพี่ยังทำงานอยู่ที่นี่”

               “พี่ก็ทำงานที่นี่ตลอด แล้วทำไมฟ้าคิดว่าพี่ไม่ได้ทำงานอยู่ที่นี่ละ?”


               หญิงสาวที่มีเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนล้อมกรอบใบหน้าสวยตามวัยที่ถูกแต่งแต้มสีไว้เข้มพอประมาณ เธออยู่ในชุดทำงานที่มีรสนิยมและราคาสูงแสดงออกถึงตัวตนของคนที่มีระดับ ไม่ใช่คนอ่อนแอ และไม่ใช่คนยอมใคร 


               แม้กระทั้งตอนนี้เธออยู่ต่อหน้าผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่า ‘เคยเป็นคนรัก’ เธอก็ยังไร้ซึ่งความหวั่นไหวใดๆ สามารถที่จะไขว้ห้าง กอดอกมองผู้ชายตรงหน้าได้ราวกับเขาเป็นเพียงผู้ชายหน้าไม่อายที่เข้ามาตามตื้อเธอ


               “ก็ก่อนหน้าที่มาเปิดร้านนี้ แวะไปถามหาพี่ที่สำนักพิมพ์แล้วแต่คนที่อยู่ฝ่ายประชาสัมพันธ์บอกว่าพี่ ไม่ได้ทำงานอยู่ที่นั่นแล้ว”


               ฝ่ายประชาสัมพันธ์...พลอยไพลินสินะ


               เขาไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่พลอยไพลินจะเป็นคนบอกทอฟ้าว่าอย่างนั้น พลอยไพลินก็คงจำได้ว่าผู้หญิงท้องที่อยู่กับเขาก่อนที่ตนเองจะย้ายไปสาขาอื่น ก็คือ ผู้หญิงคนนี้...ทอฟ้า


               “แล้วฟ้าไปถามหาพี่ทำไม?”

               “ช่วงนี้ฟ้าต้องกลับมาอยู่บ้านพ่อแม่ เพราะว่าเปิดร้านอยู่ที่นี่ ก็เลยอยากเจอหน้าลูกขึ้นมา ที่หนึ่งอาจจะไม่เปลี่ยนอะไรมาก แต่ตอนต้นคงเปลี่ยนไปเยอะน่าดู” ทอฟ้ายิ้มเล็กน้อยเมื่อนึกถึงลูกชายทั้งสองของเธอที่จากมา “อะ พี่ไม่ต้องห่วงหรอก ฟ้าไม่ได้ถามหาพี่ เพราะว่าอยากจะสานสัมพันธ์อะไรกับพี่หรอก”

               “หึ แล้วจะมาสานสัมพันธ์อะไรกับลูกตอนนี้ ก็เป็นคนทิ้งเขามาเองนี่หน่า ตอนต้นน่ะยังไม่รู้อะไร แต่ที่หนึ่งโดนฟ้าทิ้งมาสองครั้งแล้ว จะไปทำให้มีครั้งที่สามอีกหรอไง?”

               “ตอนนี้ที่หนึ่งโตพอแล้ว ที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ถ้าฟ้าอธิบายลูกก็ต้องเข้าใจว่า พี่กับฟ้าไม่มีทางกลับไปเป็นครอบครัวพ่อแม่ลูกอะไรแบบนั้นได้อีกแล้ว

               “...”

               “แล้วอีกอย่าง ฟ้าก็มีร้านที่นี่แล้ว ต่อให้ไม่ได้ย้ายมาอยู่ถาวร ยังไงก็ต้องมาที่นี่บ่อย มาหาที่หนึ่งมาหาตอนต้นได้บ่อยๆ แล้ว เขาเองก็เป็นลูกฟ้าทั้งสองคน ฟ้าก็อยากจะสนิทกับลูก”


               ชายหนุ่มเผลอกำมือเข้าหากันแน่น เขาเข้าใจดีว่าเหตุผลเดียวที่ผู้หญิงคนนี้ทิ้งลูกไป ก็เพราะว่าถ้าอยากอยู่กับลูกก็ต้องอยู่กับเขาด้วย...ต้องมาอยู่ด้วยกัน


               และนั่นคือสิ่งที่เธอไม่อยาก...


               “แล้วกับคนนั้นยังดีอยู่ไหม?”

               “คนนั้น?”

               “คนที่ฟ้าทิ้งพี่ไปหาเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าน่ะ”

               “อะ อ๋อ...พี่วี” พอพูดถึงบุคคลที่สามที่ชื่อ ‘วี’ สีหน้าของทอฟ้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจก็ฉายความรู้สึกผิดขึ้นมาจนเธอต้องเผลอเบือนหน้าหนีไป “กับพี่วีก็ยังดีอยู่ อื้ม...เราแต่งงานกันได้...อื้ม เดือนหน้าก็ครบปีแล้ว”

               “หรอ ยินดีด้วยนะ”

               “ขอบคุณค่ะ”

               “แต่พอมาคิดๆ ดูแล้ว พอคลอดตอนต้นเสร็จก็กลับไปแต่งงานกับเขาเลยนะ มันดูตลกๆ นะฟ้า ที่คลอดลูกของผู้ชายคนนึงเสร็จ ก็กลับไปแต่งงานกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง”

               “!”

               “โทษทีนะ พี่ต้องกลับไปทำงานแล้ว อยากจะไปหาลูกเมื่อไหร่ก็ติดต่อมาแล้วกัน ถ้าลบเบอร์พี่ไปแล้วก็ไปหาที่สำนักพิมพ์ก็ได้ พี่อยู่ทำงานอยู่ที่เดิมนั่นแหละ” ตุลย์พูดเสียงเรียบ เก็บเอกสารทุกอย่างเข้ากระเป๋าทำงานของตน ไร้ซึ่งกาแฟที่ยังมีอยู่เต็มแก้วเช่นเดียวกับหญิงสาวที่นั่งเม้มปากอยู่ที่เดิม


               เธออาจจะเสียหน้า รู้สึกผิด หรือโมโหอะไรก็แล้วแต่ ยังไงซะ ก็ไม่ใช่เรื่องของเขาอีกแล้ว


               “ไม่ใช่แค่รุ่นน้องตอนมัธยมสินะ”

               “หัวหน้า” ตุลย์หันขวับไปทางศิลที่สูบบุหรี่รออยู่ข้างทางระหว่างกลับสำนักพิมพ์

               “คุยธุระเสร็จตั้งนานแล้วแหละ แต่เห็นพวกนายคุยกันหน้าดำคร่ำเครียดก็เลยเลือกเดินมารอหน้าสำนักพิมพ์แทน”

               “อ๋อครับ”

               “พอเห็นนายกับคุณทอฟ้าคุยกันเครียดๆ แบบนั้นแล้วฉันก็นึกถึงสาวท้องโตที่มาหาที่สำนักพิมพ์เมื่อก่อนได้ขึ้นมา แต่เพราะว่าเธอคนนั้นมาแค่ครั้งสองครั้ง แล้วก็รออยู่ด้านล่างตลอดเลยจำหน้าไม่ได้ทันที แค่นั่นน่ะ...คุณทอฟ้าสินะ”

               “...ครับ” ตุลย์ยอมรับเสียงเรียบ ทั้งสีหน้าและท่าทางเหมือนกับว่าเขาไม่แยแสสิ่งใด “เขาเป็น...แม่ของลูกผมครับ”

               “อื้ม...แล้วเขากลับมาตื้อนายหรือไง?”

               ตุลย์หัวเราะเสียงแห้ง “ไม่ใช่หรอกครับ เขากับสามีเขารักกันจะตาย เขาไม่มาตามง้อผมหรอกครับ ก็แค่คุยกันเรื่องเขาอยากเจอลูกบ้างก็แค่นั้น”

               “หรอ เอ๋! คุณทอฟ้ามีสามีแล้วหรอ!? แต่ว่า ลูกคนเล็กของนายเพิ่งจะหนึ่งขวบเองนี่”

               “เขากับสามีเขารักกันมาตั้งนานแล้วครับ อาจจะตั้งแต่ที่ที่หนึ่งยังไม่เกิด...”

               “...”


               หมับ!


               ศิลาบีบไหล่ของลูกน้องคนสนิทของตัวเองอย่างให้กำลังใจ ตุลย์ไม่ใช่คนพูดเรื่องของตัวเองมากนัก แต่แค่นั้นเขาก็เดาได้มากพอแล้วว่าสิ่งที่อีกฝ่ายเจอมันซับซ้อนและคงเจ็บปวดมากเต็มที ซึ่งคนนอกอย่างเขาสอดรู้ไปคงช่วยอะไรไม่ได้ สิ่งที่ทำได้ก็เพียงแค่ให้กำลังใจไม่ว่าเรื่องในอดีต หรือเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต


               “ที่ฉันบอกให้อย่าเพิ่งเข้าไปในสำนักพิมพ์ก็เพื่อจะพักผ่อน เราก็ต้องพักผ่อน อย่าเอาเรื่องเครียดมาปวดหัว! ลืมไปซะ ปะๆ กลับเข้าไปทำงานกันดีกว่า ให้งานมันโถมเราจนตายกันไปข้างเลย!”

               “...” ตุลย์มองหัวหน้าของตน อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าอย่างระอา แต่ถึงอย่างนั้นรอยยิ้มน้อยๆ ก็ประดับอยู่บนใบหน้านั่นอย่างเงียบๆ




















               “ใกล้สอบแล้วหรอ?”

               “ครับ”

               “สอบกลางหรือปลาย?”

               “ปลายแล้ว ตอนกลางภาคผมอ่านกับเพื่อนอยู่ที่มหา’ลัยแป๊บๆ แบบว่ายังเหลิงอยู่ คะแนนออกมาเกือบตกมีน เพราะงั้นปลายภาคผมต้องตั้งใจละ ไม่งั้นเอฟแดกแน่เลย”

               “แปลว่าจะจบเทอมหนึ่งแล้วสินะ เวลาผ่านไปเร็วจัง”

               “นั่นดิ ทำไมผมรู้สึกว่าเทอมนี้ผมใช้ชีวิตแบบไม่วัยรุ่นเลยหว่า” ผมใช้ปลายปากกาเคาะปากตัวเองเบาๆ เหลือบมองพี่ตุลย์ที่กำลังเดินเข้าห้องนอนมาพร้อมกับผ้าขนหนูพันเอว

               “ใช้ชีวิตวัยรุ่นนี่คืออะไร?”

               “ก็...แบบ ไปร้านเหล้า แซวสาวไรงี้ละมั้ง”

               “ไม่ไปเองอะ ฉันก็ไม่ได้ห้ามอะไรสักหน่อย”


               ผมวางปากกาที่ถืออยู่คั้นหนังสือเอาไว้ก่อนจะหมนุตัวกลับมาหาพี่ตุลย์ที่กำลังใส่ชุดเตรียมนอน


               “ไปแล้วไม่ว่าจริงดิ?”

               “อื้ม แค่โทรมาบอกก่อนว่าจะกลับดึก ไปอะไรกับเพื่อนก็ว่าไป ตอนที่นายลาออกจากงานพิเศษแล้วไปฉลองอะไรกันฉันยังไม่ห้ามเลย”

               “ก็จริง ถ้างั้นพรุ่งนี้ผมไปกับเพื่อนหลังเรียนได้ปะ แบบ ไปกินเหล้า~ เคล้านารี~” ผมจงใจใช้เสียงกวนประสาทกับคนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงของตนเอง

               ไอ้พี่ตุลย์ปรายตามองผมเล็กน้อยก่อนจะเบือนหน้าหนี “จะไปก็ไป”


               เท่านั้นแหละ ผมนี่หัวเราะก๊ากเลย ปิดหนังสือเก็บเครื่องเขียนทุกอย่างแล้วลุกไปหาพี่ตุลย์ที่อยู่บนเตียง จิ้มแก้มจึ๊กๆ อย่างหมั่นไส้ ถึงพี่ตุลย์จะปัดมือผมออกหลายต่อหลายครั้ง ผมก็ไม่แคร์จิ้มจนนิ้วแทบจะทะลุแก้มพี่แกออกไปอีกด้าน


               “ทำท่าแบบนี้ ไม่อยากให้ไปก็บอกมาเถอะ หวงเขาใช่ไหมละตัวเอง~”

               “...” พี่ตุลย์ไม่ตอบ มีเพียงสายตาขี้รำคาญที่จ้องผมนิ่ง


               คึคึ ผมชินแล้วครับ บอกตรงโดนตรงแบบนี้ หลงเข้าข้างตัวเองก็ยังได้อะ! รู้หรอกว่าเขินเขาใช่เปล่าตัว~ ตอนเช้าก็เหมือนกัน ทำเป็นเฉยๆ แตจริงๆ ก็ห่วงผมไม่น้อยนั่นแหละ


               รู้สึกดีว่ะ~


               พรึ่บ!


               “เฮ้ย!” ผมร้องเสียงหลง เมื่อไอ้คนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนเมื่อกี้กระชากแขนผมให้ขึ้นมาบนเตียงด้วยกัน ไม่พอเสือกขึ้นไปอยู่บนตัวอีก


               ...โอ้โห จะบอกว่าโรแมนติกประหนึ่งฉากมในละครมันก็นะ... ผมขอย้ำอีกทีว่าถึงแม้ว่าผมตัวจะผอมกว่า แต่ส่วนสูงเราเท่ากันครับ ต่างกันเซนสองเซนเท่านั้นแหละ แล้วตัวคือไม่เบานะครับ หนัก ดูจากหน้าไอ้พี่ตุลย์ตอนนี้ยังรู้เลยว่าจุก


               หัวเราะใส่หน้าแม่ง สมน้ำหน้า ทำอะไรไม่ดูขนาดตัวผมเอง


               “ขึ้นมาทำไมบนตัวเนี่ย” พี่ตุลย์นิ่วหน้า พูดด้วยน้ำเสียงประมาณว่าพูดออกมายากมาก

               “ไม่ได้ขึ้นมาเลย ก็พี่กระชากขึ้นมาเองอะ”


               ปึก!


               ทุบไปทึนึง


               “ไม่ได้ดึงขึ้นมาถึงบนนี้เลย แค่จะให้มานอนเตียงด้วยกันเฉยๆ ลงไปเลยไป หนัก”

               “ชิ” ผมจิ๊ปาก แต่ก็ยอมกรนะดึบๆ ลงจากตัวพี่ตุลย์มาอยู่ที่เตียง และกำลังกลิ้งต่อให้ตัวเองตกลงไปที่พื้น ที่นอนประจำของผม อ้อมแขนของพี่ตุลย์กลับตวัดกอดเอาไว้ซะอย่างนั้น “อะไรเนี่ย ปล่อยดู๊ว! ผมก็จะไปนอนแล้ว”

               “นอนข้างล่าง?”

               “เออดิ”

               “ไปนอนทำไม นอนบนเตียงสิ”

               “แล้วทำไมต้องนอนบนเตียงด้วยอะ ไม่เอาไม่นอน ไม่ชิน”

               “เมื่อวานก็นอนมาแล้ว” แล้วพี่ตุลย์ก็รัดผมแนน่ขึ้นจนเริ่มรู้สึกหายใจไม่ออก ดิ้นๆ ให้ตัวเองหลุดตกตุ๊บลงไปที่ด้านล่าง แต่ทำยังไงพี่ตุลย์ก็ไม่ยอมปล่อยเลยสักนิด ไม่แม้แต่จะคลายออกด้วยซ้ำ


               เออ ใช่สิ เมื่อวานนอนเตียงมาแล้ว แต่พอมันมาอยู่บนเตียงอีกรอบแล้วมันก็ทำให้คิดไงว่าเมื่อวาน กูเสียประตูให้ผู้ชายไปแล้ววววววว!


               “นอนนิ่งๆ เถอะหน่า”

               “หมอนข้างก็มี ไปกอดหมอนข้างนู่นไป”

               “ถ้างั้นแล้วฉันจะมีแฟนไว้ทำไมละ”


               ฉึก!


               ดอกนี้ครับ เข้าไปเต็มๆ ตรงหัวใจ อุตสาห์ไม่ย้ำบ่อย เพราะมันรู้สึกเขินๆ ไม่ค่อยชิน แต่ไอ้พี่ตุลย์กลับมาย้ำให้ฟังซะงั้น


               “เออๆ รู้แล้วหน่า นอนแบบนี้แล้วสบายก็ตามใจ ดีซะอีก ผมจะได้ไม่ต้องนอนอะไรแข็งๆ!”

               “เสียงดังแก้เขิน?”


               รู้อีก


               “นอนไปเถอะหน่า”


               ผมพูดเสียงเบา พอสิ้นคำของผมพี่ตุลย์ก็ไม่ตอบอะไรมา มีเพียงแต่อ้อมกอดที่รัดผมไว้และลมหายใจอุ่นๆ ที่รินรดอยู่บนต้นคอ อ่าไม่สิ...ปาก จมูกของคนที่อยู่ด้านหลังก็แนบชิดอยู่กับคอของผมเช่นกัน


               ตอนที่ยังไม่มีอะไรกัน ทำแบบนี้ก็แค่หวั่นไหว ใจเต้นเป็นความรักเด็กอนุบาล แต่พอมันได้ทำไอ้นั่นไปแล้ว...ความรู้สึกมึงก็โดนขึ้นมาเป็นความรักวัยมหา’ลัยเลยนะสัส! มึงจะตื่นขึ้นมาทำไมเนี่ยย


               “...”

               “...”


               เอาเถอะ...ถ้าไอ้พี่ตุลย์อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวสักพักก็คงสงบ


               ...


               “โอ๊ย! พี่จะกอดผมให้ตัวขาดเป็นสองท่อนเลยหรอไง!” ผมร้องโวยวาย พลิกตัวควับเตรียมจะไปหาเรื่องเต็มที่ แต่คนที่ผมคิดว่าน่าจะนอนไปแล้วกลับลืมตาแป๋วมองผมอยู่ ก็เลยกลายเป็นว่า พอพลิกกลับมาปุ๊บก็จ้องตากันปั๊บ คำที่จะด่าเมื่อครู่ก็ถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอ เหลือแต่ความอ้างว้างอันไกลโพ้น

               “ขอกอดหน่อย”

               “ก็...ก็กอดอยู่ไม่ใช่ไง?”

               “แล้วเสียงดังทำไม?”
               
               “ก็พี่กอดผมแน่นไปอะ ขอพื้นที่ว่างให้ท้องผมได้ขยายตอนหายใจเข้าด้วย”

               “โทษที” พี่ตุลย์พูดมาแค่นั้นก็หลับตาลง “จะนอนกอดดีๆ แล้ว”

               “...”


               อื้ม...คิดว่าวันนี้พี่ตุลย์ดูอ้อนๆ ปะครับ?


               “นอนได้แล้วหน่า” พี่ตุลย์ลืมตาขึ้นมาเห็นผมที่ยังนอนมองหน้าเขาอยู่ พี่ตุลย์ก็ใช้มือกดลงหัวผม ถ้าผมตัวเตี้ยกว่านี้ก็คงซุกอก แต่เพราะความสูงของเราแทบไม่ต่างกัน เลยกลายเป็นว่าหน้าผากของเราชนกันก็เท่านั้นเอง

               “...พี่จะนอนจริงๆ อะ?”

               “หืม? อืม”


               พรึ่บ!


               ผมยันตัวเองออกจากอ้อมกอดของพี่ตุลย์ แล้วขึ้นไปคุกเข่าคร่อมตัวคนที่ขึ้นชื่อว่า ‘คนรัก’ เอาไว้ ผมเดาว่าพี่ตุลย์ก็คงจะตกใจนั่นแหละถึงแม้จะแสดงท่าทางออกมาไม่มาก แต่ก็ลืมตาขึ้นมองผมไม่ละเหมือนกับกำลังดูว่าผมกำลังทำอะไร


               แล้วแน่นอนกับผมไม่มีผิดหวังอยู่แล้วครับ


               ทำอะไรละ?


               ก็ถอดเสื้อเลยอะดิ!


               “ทำไหม?”








TBC
ตัดฉับเก็บไว้ในรูปเล่ม 55555555555555
ช่วงนี้มาแบบ 150 ตลอดเป็นการขอโทษที่มาช้า งื้อออ ~
#daddybelover
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 08-09-2015 10:33:58
 :a5: :a5: :a5:
 :katai1: :katai1: :katai1:
มันค้างงงงงงงงงงงงนะคะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-09-2015 11:23:46
อีเอส อย่าให้เสียชื่อแกน่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 08-09-2015 11:30:31
เอสเอ็ติดใจแล้วอ่ะดิ แหม่ๆ โอ๊ยฟินตายเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 08-09-2015 11:47:20
จัดไปเอสตุลย์
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 08-09-2015 12:15:45
แอร๊กกกก ขนาดนี้แล้วพี่ตุลย์อย่าปล่อยไปเด็ดขาดนะ

สรุปชีวิตคุณทอฟ้านี่ยังไงเนี้ย?  แฟนใหม่อะไรนี่ยังไงกันงงไปหมด เหมือนจะอึกอักด้วย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 08-09-2015 12:30:02
เอสเดี๋ยวเจอพี่ตุลย์จัดหนัก ยิ่งมีเรื่องกังวลด้วย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 08-09-2015 12:56:17
เชิ่ดไปเถอะค่ะทอฟ้า เพราะตอนนี้พี่ตุลย์ไม่ใช่คนเก่าที่จะยอมให้เธอทำอะไรก็ได้อีกแล้วล่ะ 
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 08-09-2015 14:04:01
ประมาณว่าตุลย์คบกับทอฟ้า แล้วทอฟ้าแอบมีใจให้คนชื่อวีเหรอ ลึกลับซับซ้อนวุ้ย :serius2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 08-09-2015 14:17:40
เอส เอาให้พี่ตุลย์ลืมทอฟ้าไปเลย  :m20:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 08-09-2015 15:48:53
 :z6: ประมาณว่าคบพี่ตุลย์อยู่ แต่ใจแอบรัก ...อาจจะไม่ใจอย่างเดียว กะผู้ชายอีกคนสิน่ะ แล้วคือไม่เข้าใจผู้หญิงคนนี้เลยให้ตายสิ มาพูดแบบนี้ แกมีที่หนึ่งทิ้งไป แล้วกลับมาหาพี่ตุลย์อีกมีตอนต้นแล้วคลอดเสร็จก็ทิ้งไป ไปแต่งกะผู้ชายอีกคน คือไร?!? ระหว่างท้องเก้าเดือนนี้มดลูกเป็นแค่ลำไส้ใหญ่สิน่ะ ลูกดิ้นคงแค่ท้องร้องหิวข้าว จิตใจทำด้วยอะไร ไม่เข้าใจ รักลูก? รักตัวเองมากกว่าละมั้ง! ดูจากคำพูดที่ขัดกับการกระทำละก็น่ะ  สงสารเด็ก ถ้าไม่มีพ่อคง..... (อินเกินไป( *`ω´) อีกนิดละกัน การมีเพศสัมพันธ์ชายหญิงไม่ป้องกันยังไงก็ท้อง อยู่ที่จะทำรึเปล่า พกไว้สิถุงยาง ยาคุมฉุกเฉินนะ ตัวเองเป็นฝ่ายต้องท้องยิ่งต้องป้องกันจะมาทำเป็นอุ๊ป!ชั้นท้องค่ะตุลย์แต่ชั้นไม่พร้อมจะอยู่กะคุณ แล้วไง พี่ตุลย์ก็ลูกกูไงยังไงก็ลูกป่ะวะ ส่วนอีแม่มันก็.... :beat: (555ได้ระบายค่อยโล่งหน่อย)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 08-09-2015 18:23:00
อิเอส อิแรด ฮ่าๆ



แหม...แก กระโดขึ้นไปถอดเสื้อเลยเหรอแก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 08-09-2015 18:59:51
 :confuse: :confuse:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 08-09-2015 20:45:48
หืมมมมม ยัยคุณทอฟ้าคนนี้ เปนคนที่เรารู้สึกรำคาญลูกตาจิงๆ
ทำตัวมั่นใจมาก!! เซลฟ์สุดๆ เหมือนตัวเองทำอะไรก้อดีที่สุด (แม้กระทั่งพูดถึงลูกที่ทิ้งไป ไม่เคยใยดี ก้อยังไม่รู้สึกผิดสักนิด)
ไม่แปลกหรอกที่กับ "วี" ไม่น่าจะไปได้ด้วยดี หึ!!
พี่ตุลย์อย่าไขว้เขวนะคะ!!! เอสจัดการให้รักให้หลงเรยนะ จัดไปยาวๆเอส~~~~!!!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 08-09-2015 21:35:37
ดีไม่ดี ตอนต้นก็อาจจะไม่ใช่ลูกตุลย์อาจจะเป็นลูกชายของผู้ชายอีกคน อีกคน ของแม่นางทอฟ้านั้น
สู้เขานะเจ้าเอส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 09-09-2015 00:16:12
ก็เอสยังวัยรุ่น เลยว้าวุ่นเป็นธรรมดานิ  :-[

หวังว่าจะได้อ่าน NC อีกนะคะ :hao6: :hao6:

ทอฟ้าแย่มาก นี่ชียังซุกผู้ชายไว้อีกกี่คนเนี่ย :fire:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 09-09-2015 17:37:26
แรดนะเอส 
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: neno.jann ที่ 09-09-2015 20:00:45
ฟินนาเร่~! :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วมาลูน ที่ 09-09-2015 20:15:02
ฟิน ~    
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 10-09-2015 00:28:51
ตกลงได้ทำไหมมม 555555

รู้สงสารพี่ตุลย์ในอดีตแฮะ คงจะช้ำใจน่าดู
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 12-09-2015 11:08:49
คลายเครียดให้พีตุลย์

เกลียดทอฟ้า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 12-09-2015 13:19:42
น้องเอสจะปล้ำพี่ตุลย์เหรอ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 16-09-2015 01:55:34
นังทอนี่ยังไง ....อย่ากลับไปโง่อีกนะพี่ตุลย์ ถ้าไม่มีเอสป่านนี้คงเสร็จชะนีลินไปเเล้ว ผู้ชายอะไรอ่อนจริงอะไรจริง    :mew5:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 16-09-2015 21:47:42
มาได้แล้ววววว
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! UP ตอนที 32-150% (8/8/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 19-09-2015 14:30:07
,ดัน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! แจ้งความล่าช้า (20/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 20-09-2015 02:01:13
รอต่อไป
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-30% (20/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 20-09-2015 03:53:21
ตอนที่ 33




                 ท่าเดิม เตียงเดิม...และเจ็บตูดเหมือนเดิม เฮ้อ นี่ผมมาถึงจุดๆ นี้ได้ไง จุดที่ตัวเองโดนเสียบ! แต่ก็ยังดีนะที่ผมกับพี่ตุลย์มีประสบการณ์ (ครั้งนึง) มาก่อนแล้ว เมื่อคืนก็เลยไม่ได้โดนทะลวงจ้วงเอาๆ ความเจ็บก็เลยทะลุมาได้ตี๊ดดดดดนึง


                 “ไม่มีเรียนหรอไง?” พี่ตุลย์ที่กำลังติดกระดุมข้อมือเอ่ยถามผมที่นอนคว่ำกดโทรศัพท์ส่งข้อความหาเพื่อน อะ! อย่าคิดว่าได้แฟนเฒ่าแล้วจะได้ไอโฟน เครื่องที่ผมจิ้มๆ อยู่นี่ก็เครื่องเดิมแหละครับ 1,990 บาทนั่นแหละครับ ข้อความที่ส่งตอบกลับเพื่อนก็ข้อความที่เสียครั้งละ 3 บาทนั่นแหละ ไลน์เลยอะไรผมก็ไม่มีกับเขาหรอก


                 ...นี่ทันยุค ข้อความ 3 บาทกันปะ


                 “เพื่อนบอกว่าวันนี้งดเซคอะ โชคดีแหะ นี่ก็คิดว่าจะโดดอยู่”

                 “ใครจะอนุญาตให้โดดกัน” พี่ตุลย์ตวัดสายตามาหาผม นี่ขนาดนอนคว่ำหันหลังให้นะเนี่ยยังรับรู้ถึงสายตาของไอ้พี่ตุลย์


                 โดดเรียนนิด โดดเรียนหน่อยไม่ได้ ทำดุตลอด โด่ว ผมนี่ชักเริ่มงงแล้ววะ ตัวผมนี่มาจากเสปิร์มไอ้พี่ตุลย์ปะ?


                 “สงสารผมเหอะ พี่จะให้ผมถ่อสังขารสภาพนี้ไปมหา’ลัยหรอไงเล่า ไม่เห็นแก่หน้าผมก็เห็นแก่ตูดผมบ้าง”


                 เท่านั้นแหละครับ พี่ตุลย์เงียบกริบไม่มีเสียงตอบกลับมาสักแอะ ไม่รู้เดินออกจากห้องนอนไปแล้ว กำลังรู้สึกผิด หรือขี้เกียจจะเสวนากับผมกันแน่


                 สวบ...


                 “ก็บอกแล้วว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้จะตื่นเช้าไม่ไหว ก็ยังจะดื้อ” พี่ตุลย์พูดเสียงอ่อนหลังจากที่นั่งลงข้างเตียง

                 “ก็ถ้าไม่ใช่เพราะใครบางคนทำหน้าเหมือน ‘ปลอบหน่อย’ ผมก็คงหลับตาแล้วหลับไปเลย”

                 “ฉันผิด?”

                 “ใช่ดิ นี่ผมเจ็บตัว แล้วผมยังผิดอีก มันก็ไม่แฟร์ปะครับ” ผมยักคิ้ว กวนประสาทคนที่อายุมากกว่าพอให้ได้เรียกความครื้นเครงในยามเช้า


                 แหม เพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นแฟนที่ควรค่าแก่การมีไว้ก็ช่วงนี้แหละ คนอะไร หน้าตาก็ดี คารมก็เจ๋ง ความขยันหมั่นเพียรเป็นที่หนึ่ง แถมยังมีอารมณ์ขันอีก อิอิ 


                 “เฮ้อ ช่างเถอะ ขี้เกียจจะเถียงด้วย” พี่ตุลย์ถอนหายใจ ไม่ไหลกับความเฮฮายามเช้าของผมเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ในเมื่อลูกตลกใช้ไม่ได้ ก็ต้องใช้ลูกเลื้อย ว่าแล้วผมก็เลื้อยตัวเองพันเอวพี่ตุลย์ไว้ประหนึ่งงูเขียว “เอส ผมเริ่มยาวแล้วนะ”

                 “อือ ไม่ว่างไปตัดอะ นี่ตั้งใจว่าจะปล่อยเซอร์ละ มีพี่อยู่แล้ว ไม่รู้จะหล่อไปทำไม ปล่อยตัวดีกว่า” ผมพูดเสียงอู้อี้ซูกหน้าอยู่กับเอวพี่ตุลย์ นี่ถ้ามีเนื้อนิ่มๆ แบบผู้หญิงสักหน่อยนะ ฟิน หลับแม่ง แต่บังเอิญว่าคนที่ผมกอดอยู่มีแต่กระดูกกับเส้นเลือด ซูกแป๊บเดียวนี่เริ่มเจ็บดั้งละ

                 “หึ ก็เห็นบ่อยๆ ไม่ใช่หรอไง? ปล่อยตัว ก็มักจะตามมาโดยโดนทิ้ง”

                 “โหย! พูดงี้จะแฝงความนัยอะไรปะครับ!”


                 ขึ้นเลยขึ้น!


                 ลุกขึ้นยืนบนเตียงเลยงานนี้!


                 “ก็แค่พูดให้ฟัตามที่เคยเห็นมาบ่อยๆ” พี่ตุลย์พูดประหนึ่งเป็นเรื่องเล่าธรรมดาๆ ประมาณว่า เออ แมวกูคลอดลูกแล้วนะ แต่รู้ไหมครับ? ผมเห็นไอ้พี่ตุลย์แม่งยิ้มด้วยครับ ยิ้มไม่พอมีเสียงหัวเราะในลำคอดังแว่วๆ มาด้วย เอ้า นี่มันกวนประสาท

                 “เอาตังมาสองร้อยเดี๋ยวจะไปตัดผมเลย! จัดไปแบบหล่อๆ ถ้ามีสาวติดก็ระวังเถอะ รู้ตัวอีกทีโสดไม่รู้ด้วยนะ” ผมหัวเราะเสียงดังลั่นห้องด้วยความสะใจ นอกจากจะยืนเหนือกว่าแล้วยังรู้สึกเหนือขึ้นมาบอกไม่ถูก

                 “หึ ฉันน่ะมีลูกสองคนอยู่แล้ว ไม่ได้เหงาอะไรหรอก แต่นายต่างหากอยากกลับไปอยู่คนเดียวหรอไง?” พี่ตุลย์ถาม รอยยิ้มที่มุมปากทำให้รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาในใจอย่างบอกไม่ถูก


                 ผมหยิบบ็อกเซอร์ที่อยู่ถอดเอาไว้ก่อนหน้านี้ขึ้นมาสวมใส่ เดินลงจากเตียงตรงไปหาพี่ตุลย์ที่กำลังเลือกเนคไทอยู่บริเวณตู้เสื้อผ้า แต่เขาก็ต้องชะงักเมื่อมีมือของผมไปดันให้ลิ้นชักปิดลงอย่างหาเรื่องจนพี่ตุลย์ต้องเงยหน้าขึ้นมามอง


                 “นี่จริงจังกับผมปะ?” พูดถามอย่างไม่สบอารมณ์


                 ผมบอกตรงนี้เลยนะ จริงอยู่ที่ทุกครั้งผมพูด หรือทำอะไรอย่างที่คนรักเขาทำกัน ก็รู้สึกแปลกๆ ทุกทีเพราะอีกฝ่ายเป็นผู้ชาย แต่เพราะว่าคนตรงหน้าผมคือ ‘พี่ตุลย์’ เหตุผลเดียวเลยที่ทำให้ผมยังพูด ยังทำ ยังใจเต้นทุกครั้งถึงแม้เราจะเป็นผู้ชายเหมือนๆ กัน!


                 ไม่ว่าผมจะแสดงออกแบบไหน แต่กับเขา ผมจริงจัง


                 “อ้าปาก”

                 “หะ?” ผมร้องเสียงหลง ไม่ทันที่จะได้ถามอะไร พี่ตุลย์ก็คว้าหน้าของผมเข้าไปจูบ! ไม่เบา ไม่อ้อยอิ่ง เป็นจูบที่มีรสชาติของความรู้สึกที่รุนแรงราวกับต้องการให้มันเป็นคำตอบในคำถามของผม

                 “ฉันดูเหมือนพวกเล่นไปทั่วหรือไง? บอกแล้วใช่ไหม ว่าฉันมีลูก มันไม่เหงา ไม่ได้ต้องการใค แต่ลองคิดดูว่าทำไมนายถึงอยู่กับฉันตรงนี้ ไม่ใช่เพราะว่าฉันจริงจังเรื่องของนายหรอไง”

                 “...”


                 ฉิบหาย เขินแต่เช้าเลยกู


                 เมื่อกี้โมโหจนลืมความเจ็บช่วงล่างไปเลย พอมาเจอบทนี้เขา ผมนี่ถึงกับขาอ่อนขอเจ็บปวดขึ้นมาอีกรอบ


                 “ชัดเจนหรือยัง?”

                 “ชัดแล้วๆ” ผมตอบพยายามทำน้ำเสียงเหมือนคนที่ไม่ได้ใจเต้นกับประโยคนั้นสักเท่าไหร่ “ไปแต่งตัวต่อเถอะ เดี๋ยวก็ไปทำงานสายหรอก ผมจะกลับไปนอนแล้ว บาย ฝันดี” พูดจบไม่ต้องรอให้พี่ตุลย์ขานอนุญาตผมก็เดินดุ่มๆ กลับไปนอนคว่ำหน้าบนเตียงตามเดิมโดยมีเสียงหัวเราะ ‘หึหึ’ ดังเป็นซาวด์ประกอบตามมา พอสิ้นเสียงหัวเราะนั่น ผมก็รับรู้ได้ว่าอีกคนกำลังเดินตรงมาหาผมที่เตียง จูบผมเบาๆ ที่ข้างขมับก่อนที่จะหันหลังกลับไปแต่งตัวเตรียมไปทำงานอีกครั้ง


                 ผมเคยบอกยัง? ว่าอยู่แบบนี้ ผมโคตรมีความสุขเลย กลับไปอยู่คนเดียวอะไรนั่นไม่เอาแล้วนะ


                 ผมขออยู่แบบนี้ตลอดไปนะ




30%




                 “ตุลย์ก่อนหน้านี้มีใบอะไรสักอย่างส่งมาที่ห้องด้วยนะ พี่ก็มัวแต่ยุ่งๆ ไม่ได้เช็คให้ แต่บอกเขาแล้วละให้วางบนโต๊ะ” ชาติ หนึ่งในพนักงานแผนกฝ่ายขายบอกกับตุลย์ขณะที่เดินสวนกันหน้าสำนักพิมพ์ โดยที่เขากำลังเตรียมตัวออกไปลงพื้นที่ และตุลย์เป็นฝ่ายที่กลับมา

                 “อ๋อ ครับ เดี๋ยวผมจะไปรีบเช็คเลยครับ”

                 “ช่วงนี้คนในแผนกไม่ค่อยอยู่ในสำนักพิมพ์นะ พี่ฝากนายช่วยดูเอกสารอะไรที่ฝ่ายอื่นเอามาติดต่อด้วยละ”

                 “ได้ครับ” ตุลย์ผงกหัวรับคำของผู้ร่วมงาน “ตอนนี้มีนโยบายให้หาพื้นที่ขายมากขึ้น เหนื่อยหน่อยนะครับ”

                 “กำลังจะตายแล้วเนี่ย” ชาติพูดทีเล่นทีจริง พอให้ได้เรียกเสียงหัวเราะคลายความเครียดจากงาน ก่อนที่เขาจะขอตัวกับตุลย์แล้วรีบตรงไปยังลานจอดรถของสำนักพิมพ์


                 หลังจากที่แยกกับ ‘ชาติ’ เพื่อนร่วมงาน ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ก็คลายเนคไทออกเล็กน้อยเดินอย่างเร่งรีบเข้าไปในสำนักพิมพ์เพื่อทำงานต่อ อย่างที่เคยบอกหลังช่วงเวลานรกปิดต้นฉบับของฝ่ายบรรณาธิการเสร็จ ก็จะมาเป็นช่วงนรกของฝ่ายขาย อีกทั้งยังซ้อนทับกับช่วงเวลาที่ประธานมีคำสั่งให้หาพื้นที่ลงหนังสือเพิ่ม ยิ่งทำให้พนักงานทุกคนในแผนกฝ่ายขายหัวหมุนจนแทบจะไม่ได้นั่งติดเก้าอี้เลยแม้แต่น้อย

                 “ตุลา!”

                 “ครับ?” เจ้าของชื่อที่ถูกเรียกหันกลับมาหาพนักงานฝ่ายประชาสัมพันธ์ที่เรียกตัวเอาไว้ก่อนจะเดินเข้าไปหาเธอที่เหมือนกับต้องการหยิบอะไรให้

                 “คือว่าประมาณยี่สิบนาทีก่อนมีผู้หญิงต้องการขอพบน่ะค่ะ เขาบอกว่าจะรออยู่ที่ร้านด้านนู่น...แล้วเขาก็ทิ้งนามบัตรไว้ด้วยค่ะ” พนักงานสาวยื่นกระดาษแข็งเล็กๆ ทรงสี่เหลี่ยมพื้นผ้ายื่นให้กับผู้ชายร่างสูง ตุลย์มีสีหน้าสงสัยเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเป็นนามบัตรของทอฟ้า ซึ่งเขารู้จักดีอยู่แล้วไม่จำต้องฝากนามบัตรไว้เลยสักนิด

                 “ขอบคุณมากนะครับ” เสียงทุ้มนั่นบอกกล่าวก่อนจะส่งยิ้มให้กับพนักงานสาว เขาเหลือบเห็นพลอยไพลินที่นั่งทำงานอยู่ห่างออกไปหนึ่งเก้าอี้ แม้จะเห็นเพียงด้านข้างก็รู้ว่าเธออักอวนไม่น้อยที่เห็นเขายืนอยู่ตรงนี้ห่างเธอไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น


                 ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงอาจจะเข้าไปทัก หรือผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นคนเดินเข้ามาทักเขาเอง แต่ทุกอย่างมันจบลงไปตั้งแต่คืนนั้นแล้ว!


                 “อะ ตุลา! ลืมบอกไปอีกอย่าง ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าอยากคุยเรื่องที่ได้คุยในร้านกาแฟน่ะค่ะ”

                 “ครับ ขอบคุณนะครับ” ตุลย์ส่งยิ้มจางๆ ให้กับหญิงสาวฝ่ายประชาสัมพันธ์ ทั้งๆ ที่อยากจะรีบไปทำงานให้มันจบไปแท้ๆ แต่เพราะประโยคสุดท้ายที่ถูกฝากบอกเอาไว้ มันติดอยู่ในหัวสมองจนต้องเปลี่ยนเส้นทางตรงเข้าไปในร้านสตาร์บั๊คที่พนักงานสาวฝ่ายประชาสัมพันธ์ได้แจ้งไว้ว่าทอฟ้ารออยู่


                 เขารู้ว่าเรื่องที่ผู้หญิงคนนั้นจะพูดก็คงเป็นเรื่องของที่หนึ่งและตอนต้นนั่นแหละ


                 และเขาก็รู้ใจของตัวเองด้วย ว่าจริงๆ แล้ว เขาไม่อยากให้ผู้หญิงคนนั้นได้เจอกับลูกเลยแม้แต่วินาทีเดียว...โดยเฉพาะที่หนึ่ง


                 เขาไม่อยากให้เด็กคนนั้นได้รู้...


                 “จะไปหาลูกสินะ” เสียงทุ้มพูดใส่ผู้หญิงคนหนึ่งที่หันหลังนั่งรอเขาอยู่

                 เธอหันมา ก่อนจะส่งยิ้มหวานขับใบหน้าให้ยิ่งสวยสะดุดตา “พูดกันง่ายดีนี่”

                 “ทั้งๆ ที่ทิ้งที่หนึ่งกับตอนต้นไปเองแท้ๆ” ตุลย์พูดเสียงเรียบ จ้องเขม็งตรงไปยังผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้านหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเดียดฉันท์ “แต่คำว่า ‘แม่’ มันค้ำคอ จะไม่ให้เจอก็คงจะไม่ได้สินะ”

                 “...” ใบหน้าสวยถมึงทึงขึ้นมาทันทีกับคำค่อนแคะ “พี่อยากพูดอะไรก็พูด...แต่ฟ้าคิดถึงลูก ฟ้าอยากเจอลูกนี่”

                 “...”

                 “วันนี้ฟ้าไม่เข้าร้านอยู่แล้ว จะรอพี่ที่นี่แหละ เลิกงานเมื่อไหร่ก็พาฟ้าไปหาลูกด้วยก็แล้วกัน”

                 “...ได้ ก็รอไปเจอลูกอยู่ที่นี่แหละ อย่าเผลอเดินตามผู้ชายไปก็แล้วกัน” ตุลย์ทิ้งคำพูดเจ็บแสบไร้ความเป็นสุภาพบุรุษให้กับอดีตคนรักและแม่ของลูกตน


                 เขาไม่อยากให้ที่หนึ่งได้รู้...


                 ว่าเราไม่มีวันกลับไปเป็น ‘ครอบครัว’ อย่างที่ที่หนึ่งรอมาตลอดได้อีกเลย




50%

มาน้อยๆ ดีกว่าไม่มาใช่เปล่า~

มีใครคิดถึงเค้า กับ เอสบ้างไหมมมม
เข้าสู่ช่วงเวลาของสอบมิดเทอมมาเกือบเดือน ได้แล้ว แล้วจะสิ้นสุดในวันที่ 5
แต่ก็พยายามหาเวลาว่างอย่างที่สุด แต่งานก็เดินหน้าค่อนข้างช้ามากจริงๆ
เพราะเหตุผลดั่งที่แจ้งไป ‪‎อาจทำให้อัพช้าผิดปกติ‬ (มาก)
รอเค้าหน่อยนะ

ถ้าถามว่าทำไมเพิ่งมาบอกตอนนี้ คือเพราะรู้สึกว่าตอนนี้หายไปนานมากจริงๆ แล้วก็ไม่อยากให้คิดว่าเค้าหายหัวไปเฉยๆ
ฮืออออออ


ป.ล. ในฉากอัศจรรย์ของตอนที่ 32 ขอเก็บไว้ลงในหนังสือนะ อิอิ



สปอย



' เขาเป็นแม่ของที่หนึ่งและตอนต้น '

' ผมว่าพี่ควรเล่าเรื่องทุกอย่างให้ผมฟังได้แล้วละ '
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-30% (20/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 20-09-2015 04:09:16
 :hao4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-30% (20/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 20-09-2015 04:12:03
เเง่วววว สปอยทำร้ายกันมาก  :ling1:

'เขาเป็นแม่ของที่หนึ่งและตอนต้น' โถ่วววว พี่ตุลย์เอ้ยยยยยยยยย ไม่รู้ชะนีมันมาดีหรือมาร้าย
นุงเอสดูสามีไว้ให้ดีๆนะ นางไม่ค่อยทันชะนี ผัวฉลาดน้อยเมียต้องฉลาดเยอะ 55555
เเต่ที่ผ่านมาเราไว้ใจฝีมือกำจัดมารของเอสนะ  o18
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-30% (20/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 20-09-2015 05:45:16
เอสรับมือได้อยู่แล้ว ^^
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-30% (20/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 20-09-2015 07:40:01
เอสต้องเอาใจลุงไว้เยอะๆนะ ต้องหมั่นดูแลตัวเอง 5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-30% (20/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 20-09-2015 08:36:58
กรี๊ดดดดดดด สปอยทำร้าย
ยายฟ้าอะไรนั่น จะกลับมาทำไมย้ะ!! ทิ้งลูกไว้ตั้งนาน มาเกิดคิดถึงอะไรไม่ทราบบบบบ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-30% (20/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 20-09-2015 09:24:46
ยังไงๆเนี่ย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-30% (20/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-09-2015 12:12:08
รออีกๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-30% (20/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 20-09-2015 12:42:39
อุต่ะะะะะะ  หวานกันเบาๆ
ตอนหน้าคือคุณฟ้าอยากเจอลูก  จะไม่มีปัญหาตามมาใช่ม๊ายยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!! ตอนที่ 33-30% (20/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 20-09-2015 12:49:20
เอสนี่!!! คิดถึงมั่กๆเลยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-30% (20/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 20-09-2015 15:05:48
ไม่คิดถึงไอ้เอสหรอก






แต่...






คิดถึงพี่ตุลย์และลูกๆมากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-30% (20/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 20-09-2015 18:19:52
สปอยทำร้ายกันที่สุด 55555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-30% (20/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 20-09-2015 21:25:46
โธ่...ฉากอัศจรรย์ที่เค้ารอ.... :ling2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-30% (20/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: pe-ar ที่ 20-09-2015 21:46:54
น่ารักกก  หวานๆๆๆ ฟินตอนจูบขมับเนี่ย
จริงๆๆๆ  แอบลืมตอนเก่าไปล้ะว่าถึงไหน ต้องย้อนกลับไปอ่าน ฮ่าๆๆ

ตอนหน้าไม่ดราม่าเนอะ  เอสบอก อยู่แบบนี้มีความสุขก้ให้น้องสุขนานๆหน่อยนะ :mew3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-30% (20/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 20-09-2015 23:58:34
:)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-30% (20/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 21-09-2015 00:55:20
คิดถึงมากจ้า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-30% (20/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 21-09-2015 03:01:21
อิเอสสสส  อิแรด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-30% (20/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 21-09-2015 03:52:57
อ่านจนทัน ได้อ่าน แล้ววางไม่ลง 55555

เอส แกแรด บอกเลยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-30% (20/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 21-09-2015 12:47:30
 :z13:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-30% (20/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 21-09-2015 20:15:08
หวานอ่ะ อย่าเพิ่งดราม่าได้ไหมคะ 555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-30% (20/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 21-09-2015 21:22:20
คิดถึงเอสมากกกกก
คิดถึงตอนต้นกับที่หนึ่งด้วย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-50% (23/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 23-09-2015 14:06:22
คุณผู้หญิงค่ะ กล้าทิ้งน้องทั้ง 2 ไป ยังมีหน้ามาพูดคิดถึงลูกเรอะ

สุดยอด จิง ๆ ผู้ ๆ หญิงคนนี้
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-50% (23/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 23-09-2015 16:35:14
ทอฟ้า คนนี้ต้องมีอะไรแน่
ไม่งั้นคนที่ทิ้งลูกไปอย่างเลือดเย็น คงไม่กลับมาบอกว่าคิดถึงอะไรแบบนี้แน่ -_-^^^
เอส จัดการดิ๊ (โดดงับคอไปเร๊ย!!!)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-50% (23/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-09-2015 16:39:13
ทีละเล็กทีละน้อย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-50% (23/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 23-09-2015 16:56:28
เรื่องเด็กๆ เป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนที่สุดเลยนะคะ ถ้าพี่ตุลย์อธิบายเหตุผลให้ที่หนึ่งฟัง เจ้าตัวเขาจะต้องเข้าใจแน่ๆ ค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-50% (23/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 23-09-2015 18:51:11
รอค่าาาาาา

หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-50% (23/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 23-09-2015 22:04:58
 :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-50% (23/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 23-09-2015 22:41:04
โอ๊ยเยอะแยะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-50% (23/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 23-09-2015 23:39:06
สงสารที่หนึ่งนะ.....คงอยากให้แม่กลับมา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 33-50% (23/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 24-09-2015 18:01:26
สนุกดีคะชอบน้องเอส อย่าลืมมาต่อเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 27-09-2015 04:02:35
ตอนที่ 33
*ต่อจาก 50%




          “ตอนต้น จะเดินไปไหนละครับ” เสียงของหญิงวัยกลางคนพูดขึ้นขณะที่เธอเดินตามเด็กชายตัวน้อยวัยหนึ่งขวบพร้อมกับถ้วยข้าวในมือ


          เธอต้องเหนื่อยทุกวันมาเลี้ยงตอนต้นให้กับครอบครัวข้างบ้านโดยไม่มีค่าจ้างใดๆ ตอบแทน ต้องเหนื่อยทั้งวันกับการวิ่งไล่เด็กที่ตอนคลานก็คลานเก่งคลานไม่หยุด พอเดินได้ ก็เดินเตาะแตะโงนเงนไปทั่วห้องต้องมาไล่จับจ้าละหวั่น ไหนยังต้องชงน้ำ ทำอาหาร เล่นของเล่น พาอาบน้ำ พานอนกลางวัน แทบจะสูบพลังงานจากหญิงที่กำลังเข้าสู่วัยชราจนแทบจะหมดร่างกาย


          แต่สำหรับเธอที่ลูกโตและแยกไปอยู่ นานๆ ทีจะมาเยี่ยมสักทีแล้ว การอยู่กับตอนต้นก็เป็นสิ่งที่คลายเหงาไม่ใช่น้อย และมันก็ทำให้เธอนึกถึงสมัยที่ลูกของเธอยังอยู่กับเธอตลอดเวลา เพราะงั้นแม้จะเหนื่อยสายตัวแทบขาด และไม่ได้เงินตอบแทนแม้แต่บาทเดียว เธอก็ยินดีที่จะตื่นเช้ามาดูแลเด็กตราสมบูรณ์ได้ทุกวัน


          “แอ…อ่าา!”

          “อยู่นิ่งๆ มากินข้าวก่อนสิครับตอนต้น”


          แกร๊ก...


          “ป้อนข้าวตอนต้นอยู่หรอครับป้าสร้อย?”

          “อ้าว กลับมาแล้วหรอ” ป้าสร้อยละสายตาจากเด็กตัวน้อย หันไปหาผู้เป็นเจ้าของห้องพักที่กำลังเดินเข้ามาเธอแต่เพียงเสี้ยววินาที หญิงวัยกลางคนก็ต้องรีบหันกลับไปดูเด็กตัวน้อยที่ยังเดินโงนเงนไปมาไม่มั่นคง

          “เดี๋ยวผมช่วยนะครับ ป้อนข้าวทั้งๆ ที่จับตอนต้นแบบนี้ไม่ได้คงลำบาก” เสียงหัวเราะในลำคอเป็นเอกลักษณ์ของตุลย์ดังขึ้นแผ่วเบา เขาก้าวเท้าเพียงไม่กี่ก้าวก็สามารถจับตัวลูกชายมาอยู่ตรงหน้าป้าสร้อยได้ แต่แทนที่เรื่องจะจบโดยการที่ตอนต้นยอมกินข้าวแต่โดยดี เด็กตัวน้อยกลับดิ้นหนีปฏิเสธซุกหน้ากับไหล่ของผู้เป็นพ่อแทน “อ้าว ดื้ออะไรอีกครับหื้ม?”

          “หรือว่าพอเห็นพ่อมาแล้ว ก็อยากให้พ่อป้อนข้าวให้แทนครับ?” ป้าสร้อยเดี๋ยวอ้อมไปด้านหลังเพื่อจะถามตอนต้นที่ซูกหน้าอยู่กับไหล่ของผู้เป็นพ่อ

          “งั้นเดี๋ยวผมป้อนตอนต้นเองครับ” ตุลย์กลับหลัง หันมาทางป้าสร้อย และในขณะที่เธอกำลังยื่นชามข้าวของตอนต้นให้อีกฝ่าย สายตาก็เหลือบเห็นใครบางคนที่ยืนอยู่หน้าประตู


          และมันสร้างความแปลกใจให้เธออย่างมากเมื่อผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ ‘พลอยไพลิน’ และตุลย์ก็ไม่ใช่ผู้ชายจำพวกที่จะพาผู้หญิงขึ้นคอนโดฯ บ่อยนัก!


          “ตุลย์ ผู้หญิงคนนั้น...”

          “อ๋อ...” เสียงทุ้มลากเสียงยาวในลำคอ เอี้ยวตัวไปหา ‘ทอฟ้า’ ที่ยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับกวักมือเรียกให้หญิงสาวเดินเข้ามา “ผมจะแนะนำให้รู้จักนะครับ”


          แกร๊ก...


          “ป้าสร้อยครับ นี่ ทอฟ้า” ตุลย์เงียบเสียงไป เหลือบมองใบหน้าสวยของหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างกาย “เขาเป็น...”



















          “จอดครับ” ผมลากเสียงยาวบอกกับพี่วินฯ ที่ขับมาส่งถึงหน้าคอนโดฯ ก่อนจะควักเศษเหรียญที่ดังก๊องแก๊งอยู่ในกระเป๋าตังส่งให้สิบห้าบาท “เอาไปเลยพี่ ไม่ต้องทอนนะพี่ พอดีวันนี้มีตัง”

          “จ่ายมาพอดีเป๊ะแบบนี้จะเอาตรงไหนทอนละเนี่ย กรีดเนื้อเลยไหม?” พี่วินฯ พูดหยอกพลางยัดเหรียญบาทล้วนในมือลงเสื้อกั๊กสีส้มประจำตำแหน่ง

          “โถ ก็เผื่อแบบฟลุ๊คคนกันเองคิดสิบบาทอะไรแบบนี้ไง”

          “ต่อให้เป็นญาติพี่ก็คิดราคาเต็มเว๊ย” พี่วินฯ หัวเราะสะใจก่อนจะขับมอเตอร์ไซค์ออกไปหาลูกค้ารายใหม่


          บอกแล้วไง ผมเป็นคนสนิทกับคนง่ายครับบ นี่ผมอยู่ที่นี่มากี่เดือนแล้ว ใช่บริการแทบทุกวัน วันดีคืนดี ขี้เกียจกลับคอนโดฯ เร็วผมก็นั่งคุยกับพี่วินฯ ฆ่าเวลาซะเลย ไปๆ มาๆ เลยสนิทกันครับ แต่ขนาดสนิทกันแล้วนะ ไม่ยอมลดราคาบ้างเลย แต่ก็อย่างว่าแหละครับ ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำก็ต้องเข้าใจ


          เหมือนป้าแม่บ้านที่ผมอุ้มตอนต้นไปนั่งคุยด้วยเมื่อหลายวันก่อนอะ เขาก็ย่ำแย่กับเงินเดือนเหมือนกันครับ งานแม่บ้านเงินก็น้อย งานก็หนัก ข้าวของก็แพง ลูกก็โลภ ผัวก็ไม่มี


          ชีวิตคนเรามันต้องถีบครับ ผมเข้าใจ


          ติ้ง...


          เสียงลิฟต์ที่เคลื่อนลงมารับผมดังขึ้นก่อนที่จะค่อยๆ เปิดออก ก่อนหน้าที่ผมจะมาถึงลิฟต์นี้ ลิฟต์อีกตัวที่อยู่ข้างๆ ก็เพิ่งมารับคนที่ชั้นหนึ่งเหมือนกัน แต่ผมมาไม่ทันครับ ตะโกนบอกก็สายไป เห็นแต่ไหล่ของใครสักคนแล้วประตูลิฟต์ก็ปิดใส่หน้าผมที่อยู่ห่างออกไปสักเกือบ 7 เมตรเห็นจะได้


          ติ้ง...


          เสียงลิฟต์ดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับประตูที่ค่อยๆ เปิดออก ผมเดินทอดน่องอย่างอารมณ์ดี ไปตามเส้นทางที่คุ้นเคย ฮัมเพลงเบาๆ แต่ขณะที่ผมกำลังสุนทรีย์อยู่นั้น ข้างหน้าผมห่างออกไปไม่มากเท่าไหร่ปรากฎแผ่นหลังของชายหญิงคู่หนึ่ง ผมคิดว่าน่าจะเป็นสองคนนี้แหละ ที่ขึ้นลิฟต์อีกตัวหนึ่งมาก่อนผม


          “ผู้หญิงนี่หุ่นดีชะมัด” ผมพึมพำเสียงหื่นกับตัวเองเบาๆ พลางมองทรวดทรงของผู้หญิงตรงหน้า จากที่ผมใช้ชีวิตอยู่มา สิ่งที่เรียนรู้ได้คือบางครั้งผู้หญิงหุ่นดีใช่ว่าจะสวย เพราะงั้นมองจากด้านหลังนี่เพอร์เฟ็คแล้วครับ ไม่ต้องหันหน้ามา อิอิ


          ดูหุ่นผู้หญิงจนหน่ำใจแล้วก็เหลือบมาดูผู้ชายที่เดินอยู่ข้างๆ


          ...


          เดี๋ยวก่อนนะ เสื้อเชิ้ตสีนั้นคุ้นๆ เหมือนจะเห็นพี่ตุลย์ใส่ตอนเช้า...กวาดตาดูตั้งแต่หัวจรดเท้ารู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นคนที่ขึ้นว่าคนรักของผมเอง


          ...


          มากับผู้หญิง!?


          ว่าแล้วก็หันไปดูอีกที...หันแบบนี้ สะโพกแบบนี้ ขา ความสูงแบบนี้ ...อื้ม...


          นี่ไม่ใช่ พี่สาวคนสวยพลอยไพลินนี่หว่า!


          “มากับใครวะ? บุกเลยดีไหมเนี่ยพาผู้หญิงขึ้นคอนโด” ผมหัวเราะหึหึในลำคอเดินหักนิ้วมือกร๊อบๆ ไปหาคู่ชายหญิงตรงหน้า


          เอ๊ย แต่เดี๋ยวก่อน อาจจะไม่มีอะไรก็ไปวะ ไอ้เอส หัวหน้าเยี่ยมบ้านไง เหมือนกับสมัยเรียนที่มีครูไปเยี่ยมตามบ้านไง!


          เอออ...


          แต่หัวหน้าไอ้พี่ตุลย์เป็นผู้ชายไม่ใช่หรอฟะ!


          หรือจะเป็นผู้หญิงเหมือนเจ๊พลอยไพลินแบบเข้ามายุ่งกับพี่ตุลย์ ตามมาถึงคอนโด? ไอ้พี่ตุลย์ยิ่งเป็นพวกบื้อๆ ไม่ค่อยทันมารยาทหญิงอยู่ แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นเอาไงดีวะ ตอนนี้ได้กันแล้วด้วย มีสิทธิในตัวพี่ตุลย์เต็มที่อะ แต่จะไปหาเรื่องผู้หญิงก็ไม่ใช่สไตล์ เราเกิดเป็นสุภาพบุรุษ ตอนเกิดนี่คาบพรมแดงมาเกิดเลย เอาไว้ปูทางให้กับสาว (สวย)ๆ


          อื้ม....คิดไม่ตกแหะ orz


          ปัง...


          อะ อ้าว ชิบหาย มัวแต่ยืนคิดเพลินไปนิด สองคนนั้นเขาห้องไปแล้วเฮ้ย!


          ไม่รอช้า ผมกึ่งวิ่งกึ่งเดินตรงไปยังประตูห้อง B8002 ทันที หายใจเข้า หายใจออกเรียกสติให้ได้มากที่สุด ประเมินความเป็นไปได้พร้อมเตรียมแผนรับมือ จริงๆ จังยิ่งกว่าว่างแผนตอนเล่นเกมกับไอ้ปัน


          ฮู้ววว ฮ้าาา ฮู้วววว ฮ้าาาา


          เอาวะ...เปิด!


          แกร๊ก...


          “ป้าสร้อยครับ นี่ ทอฟ้า” ผมค่อยๆ ปิดประตูห้องลงให้เสียงเบาที่สุด ไม่รบกวนพี่ตุลย์ ป้าสร้อย และผู้หญิงที่ได้ยินว่าชื่อ ‘ทอฟ้า’ “เขาเป็น...แม่ของที่หนึ่งกับตอนต้นครับ”


          !!


          “อันธพาล ทำไมมายืนเกะกะขวางทางแบบนี้อะ” เสียงที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังของผมเรียกความสนใจจาก คนอีกทั้งสามที่ยืนอยู่รอยต่อบริเวณห้องครัวกับห้องนั่งเล่น ทุกคนพร้อมใจกันหันมาทางผมและที่หนึ่งที่กำลังเบียดผมเข้ามาข้างใน

          “ที่หนึ่ง!”

          “...แม่!” คำเรียกสั้นๆ แต่ชัดเจนที่สุดดังเข้าโสตประสาทของผมที่ยังมึนงง รู้ตัวอีกที ที่หนึ่งกับผู้หญิงที่เขาเรียกว่า ‘แม่’ ก็พุ่งกอดเข้าหากันพร้อมกับเสียงสะอึกสะอื้นที่ดังขึ้นแผ่วเบา


          แม่ของที่หนึ่งกับตอนต้นจริงๆ ถ้างั้นนี่ก็เป็น คนรักเก่าของพี่ตุลย์ ผู้หญิงที่พี่ตุลย์ไม่เคยเล่า และไม่เคยพูดถึงมาก่อน เป็นผู้หญิงที่ทำให้พี่ตุลย์ ‘อกหักสามครั้ง’ สินะ


          “ที่หนึ่ง แม่คิดถึงจังเลย ปีเดียวลูกโตได้ตั้งเยอะแหนะ เป็นไงบ้างจ๊ะ? สบายดีไหม?”

          “สบายดีครับ...แม่หายไปไหนมา รู้ไหมว่า...ฮึก ที่หนึ่งคิดถึงแม่มากแค่ไหน”

          “ไม่ว่าที่หนึ่งจะคิดถึงแม่เท่าไหร่ แม่เองก็คิดถึงหนูเท่านั้นเลยนะลูก” ผู้หญิงที่ชื่อทอฟ้ากอดลูกชายคนโตของตัวเองแน่นขึ้น จงใจให้ความคิดถึงของตนแสดงออกผ่านอ้อมแขนนั้น

          “แม่จะกลับมาอยู่กับที่หนึ่งแล้วใช่ไหมครับ?...ฮึก แม่จะมานอนกับที่หนึ่ง จะกินข้าวด้วยกันเหมือนเดิมใช่ไหมครับ ฮึก...”

          “ที่หนึ่ง แม่เขาไม่ได้จะกลับมาอยู่กับเราหรอกนะ” เสียงที่ตอบเป็นเสียงของพี่ตุลย์ที่กำลังคุกเข่าลงตรงหน้าลูกชายคนโตพร้อมกับมือใหญ่ที่กำลังลูบหัวของเด็กที่หนึ่ง

          “ทำไมละ! ฮึก ทำไมแม่จะไม่กลับมาอยู่กับที่หนึ่ง ที่หนึ่งไม่ดีอะไรงั้นหรอ?”

          “ไม่ใช่ว่าที่หนึ่งไม่ดีนะลูก แต่แม่เองก็มีบ้านที่ต้องกลับเหมือนกัน มีงานและหน้าที่ที่ต้องไปทำ”

          “ฮึก...”

          “แต่บ้านของแม่ และที่ทำงานของแม่ก็อยู่ไม่ไกลจากที่นี่เลยนะ อยู่ใกล้ที่ทำงานพ่อด้วยนะ แม่สามารถมาหาลูกได้ทุกวันเลย บางวันแม่ก็อาจจจะนอนค้างกับที่หนึ่งก็ได้ด้วยนะ”

          “ถ้าบ้านแม่อยู่ที่นี่ มาหาที่หนึ่งที่นี่ได้ทุกวัน ถ้างั้นทำไมแม่ไม่กลับมาอยู่กับพ่อเหมือนเดิมละครับ ฮึก” ที่หนึ่งว่าพลางปาดน้ำตาปรอยๆ

          “แม่กับพ่อ...มีเหตุผลของผู้ใหญ่อยู่นะลูกรัก”

          “ถ้างั้นวันนี้แม่นอนกับที่หนึ่งได้ไหม? ที่หนึ่งอยากนอนกอดแม่ ที่หนึ่งมีเรื่องเยอะแยะอยากจะเล่าให้แม่ฟัง”

          “เอ่อ...วันนี้แม่คงนอนค้างกับที่หนึ่งไม่ได้หรอกครับ แม่มากระทันหันมาก เสื้อผ้าอะไรก็ไม่ได้เอามาเปลี่ยนเลย พรุ่งนี้ถ้าพ่อไม่ว่า เดี๋ยวแม่จะมานอนค้างด้วยดีไหมละ?”

          “...ก็ได้ครับ”

          “แต่ว่าวันนี้แม่แค่อยากเจอหน้าที่หนึ่งกับตอนต้นเท่านั้นเอง แล้วก็จะพาไปกินข้าวเย็นกันด้วยดีไหมละ”

          สิ้นคำพูดของผู้หญิงที่ชื่อ ‘ทอฟ้า’ ท่าทางหงอยๆ ของที่หนึ่งเมื่อครู่ก็พลันสดใสดีใจขึ้นมาทันตาก่อนที่เด็กนั่นจะหันมาถามพี่ตุลย์ที่ยืนป้อนข้าวตอนต้นอยู่ “พ่อจะไปด้วยไหมอะ?”

          “ไม่ครับ พ่อมีงานต้องทำน่ะ วันนี้ให้เป็นวันของแม่กับที่หนึ่งเลยแล้วกัน เดี๋ยวพ่อจะอยู่บ้านกับพี่เอสแล้วก็ตอนต้นเอง”

          “เอส? ใครหรอ?”


          หลังจากยืนอยู่หน้าประตูห้องซะนาน ผมก็ได้มีตัวตนอะไรขึ้นมาบ้างแล้วสินะ แต่ผมไม่แปลกใจนะ มีพ่อ มีแม่ มีลูก คนอื่นก็กลายเป็นหมา ป้าสร้อยที่อยู่เป็นคนนอกร่วมกันกับผมก่อนหน้านี้ก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน จนแอบเดินเลี่ยงออกจากห้องพักไปตั้งหลายนาทีก่อนแล้ว


          “ยืนอยู่หน้าประตูน่ะ” พี่ตุลย์ว่าพลางเพยิดหน้ามาทางผมไม่พอยังกวักมือเรียกผมให้เดินเข้าไปหาอีก

          “สวัสดีครับ”


          ที่จริงผมเป็นคนอัธยาศัยดี รู้อยู่ใช่ไหมละ ยิ่งกับผู้หญิงหน้าตาดีแล้วด้วยความเฟรนลี่ของผมนี่แทบทวีคูณ แต่ตอนนี้มันกลับไม่ทำงาน เต็มไปด้วยความรู้สึกอึกครึม ระแวงและกังวล


          ผมไม่ได้รู้สึกแย่กับการมองเห็นภาพ ‘ครอบครัว’ ที่แท้จริง กลับกันผมชอบภาพของ ‘ครอบครัว’ นะ ตามภาษาคนที่ยังเป็นลูกนั่นแหละ ไม่ว่าเบื้องหลังคำว่า ‘ครอบครัว’ จะเลวร้ายมากแค่ไหน แต่การได้เห็นพ่อกับแม่อยู่ใกล้ๆ กันยังไงก็มีความสุขอยู่ดี แล้วมันก็ทำให้รู้สึกยินดีกับเขาไปด้วย


          ผมไม่สะเทือนใจกับคำว่า ‘แม่’ ที่หลุดออกมาจากปากที่หนึ่งเลย เพราะไม่ว่าผมจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เป็นคนรักของผมหรือไม่ แม่ของที่หนึ่ง ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง การได้เรียกคนเป็นแม่ว่า ‘แม่’ เป็นสิ่งที่ดีแล้ว ผมไม่นึกอิจฉาอะไรเลย


          แต่สิ่งที่อยู่ในใจของผม...ไม่รู้หรอกว่า จะเรียกว่า เห็นแก่ตัวคิดแต่เรื่องของตัวเองหรือเปล่า แต่ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง ผมก็พร้อมโดนด่าครับ แต่มันก็เป็นเรื่องเดียวที่ผมมีสิทธิที่จะคิดระแวง


          คือเรื่องของ ผู้หญิงที่ชื่อ ‘ทอฟ้า’ กับพี่ตุลย์


          ถ่านไฟเก่าน่ากลัวกว่ามือที่สาม และผมก็ไม่เคยรู้เรื่องของเขาทั้งสองเลยแม้แต่นิดเดียว!


          “นี่เอส เป็น...ลูกของคนรู้จักน่ะ กำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยแถวนี้ ก็เลยมาอาศัยอยู่ด้วยประหยัดค่าหอน่ะ แล้วก็มาช่วยดูแลที่หนึ่งกับตอนต้น”


          ผมไม่เคยคิดหงุดหงิดเรื่องงี่เง่าอย่างเรื่องสถานะที่แนะนำกับคนอื่น จะเป็นคนรู้จัก ลูกของเพื่อน ลูกของญาติ เป็นคนข้างบ้าน เป็นห่าอะไรก็ช่างผมไม่เคยแคร์ แต่มันมีข้อยกเว้นให้กับคนที่ผมระแวงเสมอ


          “อ๋อ แล้วเรียนอยู่คณะไหนหรอ?”

          “คณะพาณิชย์และบัญชี สาขา การเงินครับ”

          “พี่ชื่อ’ทอฟ้า’ นะ ขอบคุณมากนะจ๊ะที่ช่วยดูแลลูกชายทั้งสองของพี่”

          “ไม่เป็นไรครับ สบายมาก” ผมยิ้มตอบไปตามมารยาท ก่อนจะขอตัวเดินเข้าห้องนอนของพี่ตุลย์เสียดื้อๆ คุยกันแค่นี้ผมก็รู้แล้วว่าผู้หญิงที่ชื่อ ‘ทอฟ้า’ ไม่ใช่สไตล์เดียวกับพี่พลอยไพลิน แต่ผมก็ไม่รู้อะไรนอกเหนือไปกว่านั้น ไม่รู้ว่าเขาปรากฎตัวขึ้นในตอนนี้ทำไม ไม่รู้ว่าทำไมบ้านเขาถึงอยู่แถวนี้ตอนนี้ ไม่รู้ว่าทำไมที่ทำงานเขาต้องอยู่ใกล้กับที่ทำงานของพี่ตุลย์ด้วย


          ปึง!


          ผมจงใจถีบใต้เตียงอย่างจังด้วยความหงุดหงิด โยนกระเป๋าไว้ที่มุมประจำก่อนจะทิ้งตัวลงกับฟูกบนพื้นที่เป็นที่นอนของตัวเอง


          หงุดหงิดที่มันไม่รู้เนี่ยแหละ!

















          “ก่อนหน้านี้ทำอะไรเสียงดัง? เตะตู้หรอ?” พี่ตุลย์เดินอุ้มตอนต้นเข้ามาภายในห้องนอนพร้อมกับคิ้วที่ขมวดกันเป็นปม ผมละสายตาจากเกมมือถือมองหน้าอีกฝ่ายเล็กน้อยก่อนจะกลับมาสนใจกับเกมในมือต่อ

          “เดินชนขอบเตียงต่างหาก ไม่ได้ทำเสียงดังอะไรสักหน่อย”

          “หรอ เสียงดังขนาดนั้นนิ้วหักหรือยังละ?”

          “ไม่หักหรอก นี่แข็งแรงยันเล็บเท้า” ผมพูดกวน ถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะปิดเกมแล้ววางโทรศัพท์เครื่องละ 1990 บาทไว้ข้างตัว “พี่ทอฟ้ากลับแล้วหรอ?”

          “พาที่หนึ่งไปกินข้าว แล้วจะกลับมาส่งอยู่”

          “อ๋อ”

          “...”

          “...”

          “...”


          อื้มม...


          พอได้อยู่คนเดียวเงียบๆ สักพักแล้วความหงุดหงิดก็หายไปอยู่หรอก แต่ความแคลงใจที่ตัวเองไม่รู้อะไรเลยก็ยังอยู่ และตอนนี้ก็ดันกลายเป็นความอึดอัดแล้วด้วยเรียบร้อย


          “ผมว่าพี่ควรเล่าเรื่องทุกอย่างให้ผมฟังได้แล้วละ”

          “เล่าอะไร?”

          “เรื่องที่ทำงานมั้ง วันนี้มันมีอะไรที่แตกต่างจากเดิมละ!”

          “เรื่องของทอฟ้า?”

          “ใช่ เรื่องของผู้หญิงที่ทำให้พี่อกหักสามครั้ง เรื่องของเขาที่พี่ไม่เคยเล่าอะไรให้ผมรู้เลย จนวันนี้ผมเห็นเขากับตาเนี่ย”

          “จะรู้เรื่องของทอฟ้าไปทำไม ไม่เห็นมีประโยชน์อะไรเลยสักนิด”

          ผมถอนหายใจ ลุกขึ้นจากฟูกตรงไปหาพี่ตุลย์ที่กำลังนั่งพักผ่อนอยู่ปลายเตียงพร้อมกับท่าทางและสายตาที่จริงจังไร้ซึ่งความล้อเล่น “ผมอยากรู้เรื่องของพี่กับเขา”

          แต่พี่ตุลย์กลับขมวดคิ้วแสดงความไม่ชอบใจ “จะอยากรู้ไปทำไม เรื่องของฉันกับฟ้ามันก็แค่เรื่องอดีต”

          “ผมอยากรู้ ว่าผมต้องระแวงเขาไหม”

          “!”

          “ผมอยากรู้ว่าถ่านไฟเก่าจะติดขึ้นมาไหม”

          “...”

          “ผมอยากรู้ว่าพี่จะกลับไปรักเขาครั้งที่สี่ไหม”

          “...เฮ้อ” พี่ตุลย์ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะดึงแขนผมให้ไปนั่งลงข้างๆ เขา “ฉันกับฟ้ารู้จักกันตั้งแต่ตอนม. ต้น ฟ้าเป็นรุ่นน้องหนึ่งปีแล้วก็เป็นคนที่เข้าหาก่อน แต่กว่าฉันจะตกลงคบก็ตอนขึ้น ม.ปลาย ปีสุดท้าย อาจเพราะว่าฟ้าพยายามกับฉันอยู่หลายปี ฉันก็เลยค่อนข้างรักและไว้ใจเขามาก”

          “...”

          “ตอนที่ฉันกำลังขึ้นปีสอง ฟ้ากำลังเข้ามหา’ลัย เราก็เกิดพลาดมีที่หนึ่งกันขึ้นมา ฟ้าต้องออกจากมหา'ลัย แต่ฉันเรียนต่อ ที่จริงพอรู้ว่าท้องเราก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันที่หอพักของฉัน แล้วเราก็เริ่มระหองระแหงกันขึ้นมาในช่วงเวลานั้น ทะเลาะกันบ่อยขึ้น มีเรื่องกันบ่อยขึ้นแต่ฉันก็ไม่เคยเอะใจหรอก เข้าใจว่าคนท้องมักจะอารมณ์แปรปรวน จนกระทั้งที่หนึ่งคลอดออกมา ฉันนึกว่าอะไรๆ จะดีขึ้น...แต่ก็ไม่เลย ฟ้าอยู่กับที่หนึ่งเพียงแค่ห้าเดือนแล้วก็ทิ้งลูกให้อยู่กับฉันส่วนตัวเองก็หายไป”

          “แล้วพี่รู้ไหมว่าเขาหายไปไหน?”

          “ไม่รู้หรอก ตอนนั้นฉันก็พยายามติดต่อเขานะ แต่ฉันเองก็ต้องเรียนแล้วยังเลี้ยงที่หนึ่งคนเดียวอีก ถึงจะมีแม่มาช่วยก็ยังยุ่งมาก อยากจะไปตามหาก็ทำไม่ได้”

          “ตอนที่ตุลย์ย่ำแย่ไม่มีใครเห็นหรอก แต่น้ากับพ่อของตุลย์เขาเห็น ไม่มีใครอยากให้ลูกตัวเองตกอยู่ในสภาพนั้นอีก น้าถึงกังวลมากยังไงล่ะ กังวลว่าจะเกิดแบบนั้นขึ้น น้าถึงต้องระวังทุกคนที่เข้ามาหาตุลย์แทนตัวของตุลย์เอง”


          วันนั้นที่แม่ของพี่ตุลย์พูดเป็นนัยๆ ว่าเพราะแม่ของที่หนึ่งกับตอนต้นทำให้พี่ตุลย์เป๋ไป ก็คงเป็นเรื่องตอนที่ผู้หญิงที่ชื่อทอฟ้าทิ้งไปครั้งแรกสินะ...


          “แต่เพราะเพื่อนที่อยู่โรงเรียนเดียวกัน เลยรู้ว่าฟ้าหนีฉันกับที่หนึ่งไปหาผู้ชายอีกคน ฉันก็ไม่รู้ว่าหรอกว่าพวกนั้นเอาเวลาไหนมาสวมเขาให้ฉัน อาจจะเป็นตอนที่ท้อง หลังคลอด หรืออาจจะเป็นตอนที่ฉันเพิ่งเข้ามหา’ลัย ก็ได้ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”

          “ผู้หญิงคนนั้นคิดยังไงถึงกล้าทิ้งพี่กับลูกที่เพิ่งคลอดได้” ผมแสดงความคิดเห็นอย่างเจือน้ำโห

          “จริงๆ ฉันก็เสียใจ อย่างที่บอกว่าฉันรักเขามาก ผูกพัน และก็ไว้ใจ แต่ฉันก็ทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อคนจะไป รั้งไว้ก็เท่านั้น ฉันก็เลี้ยงที่หนึ่งไป เรียนไป จนจบ ชีวิตของฉันไม่มีใคร พอมีลูกฉันก็ทุ่มกับลูกหมด ฟ้าก็เลยเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ยังมีอิทธิพลอยู่ข้างในใจ และยังอยู่ในความทรงจำเต็มไปหมด ตอนที่ที่หนึ่งอายุ 6 7 ขวบ ฟ้า...ก็กลับมา”

          “...”

          “ไม่สิ ก็ไม่เชิงกลับมา ตอนนั้นคงจะทะเลาะกับผู้ชายอีกคนละมั้ง ก็เลยหนีมาอยู่บ้านพ่อแม่ตัวเอง ก็เลยมาเจอฉันอีก อย่างที่บอก...ฟ้าเหมือนผู้หญิงที่ถูกแช่แข็งเอาไว้ พอเจอกันทุกอย่างมันก็ละลาย เราก็เลยเผลอมีความสัมพันธ์สี่ห้าครั้งในช่วงหนึ่งเดือนที่เขาหนีอีกคนมา พอเขาคืนดีกันทุกอย่างระหว่างฟ้ากับฉันก็จบ”

          “อกหักครั้งที่ 2 สินะ”

          “แล้วอีกประมาณห้าหรือหกเดือนต่อมา ฟ้าก็กลับมาหาฉันอีกพร้อมกับ ‘ตอนต้น’ ที่อยู่ในท้อง ฟ้าบอกว่าเลิกกับผู้ชายคนนั้นแล้วจะกลับมาหาฉัน มาช่วยกันเลี้ยงลูกอยู่เป็นครอบครัวด้วยกัน ตอนนั้นฉันคิดว่ามันดีกับที่หนึ่งและตอนต้น...ฉันให้อภัย ให้ฟ้ากลับมาเป็นครอบครัวของฉัน เป็นแม่ของลูกชายทั้งสอง...เป็นผู้หญิงของฉันอีกครั้ง”

          “...”

          “มันเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก ฉันทำงานสำนักพิมพ์ ฟ้าเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก จนกระทั้งตอนต้นคลอด... ตอนที่หนึ่งคลอด ฟ้ายังอยู่เลี้ยงให้นมอยู่ตั้งหลายเดือนนะ แต่ตอนของตอนต้น ทันทีที่ฟื้นตัวแล้วฟ้าก็หายไป ไปแต่งงานกับผู้ชายอีกคน!”

          “...”

          “ตลอดสี่เดือนที่กลับมาอยู่ด้วยกันมันเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับฉัน แต่ ‘พิเศษ’ สำหรับที่หนึ่ง วันนั้นสิ่งที่ทำให้ฉันเจ็บปวดไม่ใช่การที่ฟ้าทิ้งฉันไปเป็นครั้งที่สาม แต่เพราะเขาทิ้งที่หนึ่งกับตอนต้นต่างหาก ตอนที่ฉันเห็นลูกชายตัวเองร้องไห้หาแม่แทบทุกวัน นายจินตนาการไม่ออกหรอกเอสมาฉันรู้สึกยังไง”

          “เพราะครั้งสุดท้ายสินะ ที่ทำให้พี่ไม่อยากนึกถึงเรื่องของแม่ของเด็กสองคนนี้อีก”


          ตุ๊บ


          พี่ตุลย์ทิ้งตัวลงนอนกับเตียง เรื่องราวที่เขาเล่า ภาพเก่ามันก็จะย้อนฉายอยู่ในความคิด สิ่งที่เขาไม่อยากเห็น ความรู้สึกที่เขาไม่อยากจำได้จะเข้ามาอย่างที่ห้ามไม่ได้


          “เอส”

          “หื้ม?”

          “ที่นายถามว่าต้องระแวงหรือเปล่า ถ่านไฟเก่าจะติดขึ้นมาไหม นายได้คำตอบหรือยัง?”

          “...ผม”

          “ถ้ายัง ฉันก็จะตอบให้ว่าไม่มีอะไรที่ต้องระแวง มันไม่มีอะไรที่จะหวนกลับมาได้อีก”


          ตุ๊บ


          ผมทิ้งตัวลงนอนข้างผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนรัก เอนหัวซบไหล่ทิ้งความแคลงใจเอาไว้ด้านหลัง


          “และที่นายถามว่า ฉันจะรักทอฟ้าเป็นครั้งที่สี่ไหม...ก็คงไม่ เพราะฉันมีนายแล้ว”






TBC
O<=< นอนแผ่หลาหน้าบทความ ในที่สุดก็เข็นออกมาได้ 150% จากการเก็บเล็กผสมน้อยวันละจึ้ง วันละจึ้ง
อีก 8 วัน ก็จะจบมิดเทอมล้าววววววววว
#daddybelover
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 27-09-2015 05:13:50
หน่วงแทนเอส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 27-09-2015 06:11:10
แค่พี่ตุลย์ไม่จมอยู่กับความรู้สึกเก่าๆ ก็เป็นอะไรที่ดีมากแล้วค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 27-09-2015 07:25:53
โถ่ พี่ตุลย์ไม่เป็นไรนะ อยากรู้จริงๆว่าทอฟ้าคิดอะไร ทำไมถึงทิ้งไป
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 27-09-2015 07:28:45
สงสัยเอสต้องจัดการเรื่องทอฟิาเองซะละ อย่าให้เข้าถึงตัวพี่ตุลย์นะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 27-09-2015 07:47:20
สู้ๆ  :ped149:
ขอให้สอบได้คะแนนดีๆนะ :m18:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 27-09-2015 09:15:11
พี่ตุลย์หวาน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 27-09-2015 10:08:50
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 27-09-2015 10:11:10
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 27-09-2015 10:16:50
เข้าใจเอสนะ ไม่อยากระแวงแต่ก็อดไม่ได้
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 27-09-2015 10:24:48
.........


 :ling1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-09-2015 11:24:46
แย่อะผู้หญิงแบบนี้
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 27-09-2015 11:45:51
 :z6: :z6: :z6: เกลียดแม่ของที่หนึ่งกับตอนต้น.. :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 27-09-2015 12:06:27
ผญ.แบบนี้ ดีไม่ดีตอนต้นก็ไม่ใช่ลูกตุลย์เหอะ
เอาลูกทั้งสองไปตรวจดีเอ็นเอบ้างก็ดีนะ

สู้เขาเอสๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 27-09-2015 12:25:25
ชีวิตพี่ตุลย์นี่แบบบบ เฮ้อออออ

แอบสงสัยเหมือนกันว่าตกลงตอนต้นใช่ลูกพี่ตุลย์จริงๆหรือเปล่าา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 27-09-2015 12:41:50
ผู้หญิงอย่างทอฟ้ามีจริงป้าเคยเจอ และชะนีประเภทนี้จะไม่มี



จิตสำนึกว่าเรื่องที่นางสำส่อนเป็นเรื่องผิต



นางจะชอบพูดว่านางไม่มีทางเลือกและนางจำเป็นต้องทำ



และชะนีประเภทนี้จะสวยและเจอแต่ผู้ชายดีๆโง่ๆ(กุอิจฉางัย)



สงสารที่หนึ่งกับตอนต้น มีแม่เป็นแรด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 27-09-2015 12:50:11
โห้ ผู้หญิงคนนี้ทำได้ไงเนี่ย พอทะเลาะกับผู้ชายอีกคนก็กลับมาหาพี่ตุลย์ แล้วพอคืนดีก็ทิ้งพี่ตุลย์และลูกไป เป็นคนที่เห็นเเก่ตัวจัง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 27-09-2015 13:00:23
พี่ตุลย์มีเอสแล้วนะ   อิอิ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 27-09-2015 18:17:45
ทำให้ได้อย่างที่พูดล่ะคุณตุยล์ ไม่ใช่วันดีคืนดีอินี้มีปัญหากับผัวเเล้วมาร้องห่มร้องไห้อยากขอคืนดี เเล้วไปใจอ่อนกับมันนะคะ
ครั้งที่เเล้วตัวเองโง่ เเต่เจ็บคนเดียว เเต่ครั้งนี้ถ้ากลับไปเป็นควายเผือกอีก คนที่จะเจ็บที่สุดก็คือเอส   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 27-09-2015 20:25:34
โว้วววววววว เป็นเอสนี่ต้องเขินเลยนะเนี่ย
ทอฟ้านี่เป็นคนยังไง.......  อยากรู้เรื่องที่พอฟื้นตัวแล้วไปแต่งงานนี่คือแต่งจริงๆใช่มั้ย
แต่อยู่กันแบบนี้ก็ดีแล้วววว
สงสารที่หนึ่งมาก ดีใจที่แม่มาอยู่ด้วยสุดท้ายแม่ก็ทิ้งไป โถลูก อยู่กับเอสนะ TT
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 27-09-2015 21:52:07
เอาจริงๆ นะ เป็นเราก็คงระแวงแบบน้องเอสเหมือนกัน พี่ตุลย์น่ะเคลียร์แล้ว แต่ยัยฟ้านี่สิ ไม่น่าไว้ใจ!!!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: แค่ความทรงจำ ที่ 28-09-2015 01:19:30
รีบเคลีย์ๆกันนะ

ลุ้นๆ ต่อไป
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: FaiiFay_Elle ที่ 28-09-2015 02:50:48
เป็นผญที่มีความเป็นแม่อยู่ในตัวน้อยมาก  :fire: :m31:
ขออย่าให้มาวถ่นวายกับพี่ตุลย์กับเอสอีกเลย ไปแล้วไปลับสิ ชิ่วๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 28-09-2015 11:42:23
สงสารพี่ตุลย์อ่ะ ยัยป้าแล้งทึงน่าจะไปไกลๆซะ จะมาทำไมตอนนี้อีกอ่ะ ผู้หญิงแย่ๆแบบนี้น่าจะหายๆไปซะ :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 28-09-2015 13:02:50
บางที่ก็คิดว่าพี่ตุลย์งี่เง่าเกินไปโดยเฉพาะเรื่องความรัก.   จากตอนนี้ทำให้แอบสงสัยว่าเด็กทั้งสองคนจะไม่ใช่ลูกแท้ๆของพี่ตุลย์
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 28-09-2015 23:39:58
ถ้าเราเป็นเอส  เราก็คงคิดมากเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: StamPu ที่ 30-09-2015 00:18:11
ผู้หญิงคนนี้มันน่า :z6:

สงสารที่หนึ่งกะตอนต้น โดยเฉพาะคุณพี่ตุลย์ของน้องเอส   :hao5: :hao5:

มันก็ไม่หน่วงขนาดนั้นนะเพราะว่า พี่คุลย์ก็เคลีย์อยู่

รอตอนต่อไปจร้า  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Minnie~Moo ที่ 30-09-2015 11:51:04
ผัวใหม่นางจะรู้ไหมเนี่ยะว่าเมียเป็นแม่ที่แย่มาก  :z6:
แอบสงสัย ที่หนึ่งกับตอนต้อนเป็นลูกของตุลย์จริงๆรึเปล่า มันน่าสงสัยนัก  :m16:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 30-09-2015 22:51:07
ไม่รู้จะให้คำนิยามกับทอฟ้าว่ายังไงดี
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 33-150% (27/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 03-10-2015 20:11:45
ประโยคสุดท้ายนี่ละลายมาก เพราะฉันมีนายแล้ว

อ๊ากกกกก เอสอย่ากังวลไปเลย พี่ตุลย์พูดขนาดนี้ละ อิอิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 34 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 08-10-2015 23:05:25
ตอนที่ 34




               ตั้งแต่วันที่คุยกับพี่ตุลย์จนเคลียร์วันนั้น ถามว่าผมหายระแวงไหม ผมบอกเลยนะว่า...ไม่อ่ะ ไม่หาย บางทีมันก็ยังมีเล็กๆ อยู่ในใจผม พอแว๊บๆ ขึ้นมาพอให้รู้สึกหงุดหงิดตัวเองที่ดันทำตัวเป็นผู้หญิงคิดเล็กคิดน้อยทั้งๆ ที่พี่ตุลย์ก็บอกชัดเจนแล้วว่าไม่มีอะไร แต่ก็อย่างว่า เขาเป็นคนพิเศษของผมนี่


               แต่ถ้าถามผมว่า คลายความระแวงลงไปมากแค่ไหน อันนี้ขอยืดอกบอกเลยว่าผมลดความระแวงลงไปเยอะมาก อาจเพราะว่าคนที่บอกว่า ‘ไม่’ คือพี่ตุลย์อะครับ พี่ตุลย์อะ! เก็ทปะ ตั้งแต่รู้จักกันมาผมว่าพี่ตุลย์ไม่น่าจะใช่พวกจับปลาสองมือ หรือถ่านไปเก่ายังไม่ดับก็มาจุดถ่านก้อนใหม่อะไรแบบนั้น


               แล้วถ้าอยากรู้ว่าผมหายระแวงมากขนาดไหนนะ ผมลดความระแวงถึงขั้นวันต่อมา นั่งมองพี่ทอฟ้าตาเยิ้มอ่ะ อิอิ


               ผู้หญิงอะไร๊ สวยโคตร โคตรๆ ครับผม! อยากจะให้อยากรู้ อยากให้ลองมุดเข้ามาในจอมองหน้าพี่ทอฟ้าพร้อมๆ กัน สวยมากก เจ๊พลอยไพลินก็สวยแล้วนะ แต่พี่ทอฟ้าคือสวยกว่าอีก (ดูได้จากสรรพนามที่เรียก) เขาสวยแบบดูมีชาติตระกูลอะครับ ผิวพรรณ การแต่งตัว การวางตัว หน้าตา ทุกอย่าง คือดีหมดครับ


               สรุป มองไปมองมา ฟินนาเล่~


               แล้วผู้หญิงยิ่งเล่นกับเด็กก็จะยิ่งน่ารักมากขึ้นใช่ไหมครับ ผมนี่โดนแอคแทคตลอดจนน็อคเอาท์อยู่ในใจไปหลายรอบแล้ว สับสนกับตัวเองเบาๆ ว่าจะระแวงหรือจะอะไรดี แต่อย่างว่าแหละครับ ผมก็ยังมีไอ้จ้อนอยู่ เป็นผู้ชาย ก็ต้องมองของสวยๆ งามๆ น่ารักๆ เป็นธรรมดา


               นอกจากนั้นนะครับ ตอนแรกผมก็คิดว่าพี่ทอฟ้าจะไม่เชื่อว่าผมกับพี่ตุลย์จะเป็น.........กัน แอบคิดว่าเขาจะมาทำกับผมเหมือนที่เจ๊พลอยไพลินทำหรือเปล่า แบบลับหลังผมก็มาหาเรื่องผมอะไรแบบนั้นน่ะครับ แต่ปรากฏว่าก็ไม่มีเลย ตอนนั้นผมล้างจานอยู่ ปล่อยให้คนเป็นแม่เล่นกับลูกๆ ไปแทนผม แต่พอพี่ตุลย์ออกมาช่วยดูแลลูก พี่ทอฟ้าก็มาช่วยผมล้างจานกันสองต่อสอง เขาก็ไม่พูดจาหาเรื่องผมเลย ไม่ถามผมสักคำว่าเป็นลูกของคนรู้จักของพี่ตุลย์แน่หรอ ยังถามผมด้วยซ้ำว่ามหา’ลัยเป็นยังไงบ้าง ใช้ชีวิตที่นี่ลำบากไหม แล้วก็อีกหลายๆ เรื่อง ถ้าไม่นับนิสัยอย่างที่พี่ตุลย์เล่า ผมว่าพี่สาวคนนี้เป็นคนนิสัยน่ารักคนนึงเลยนะครับ พอตอนล้างจานเสร็จกำลังล้างมือกันอยู่สองคน เขายังบอกผมอีกว่า


               ‘พอมาที่นี่เห็นเอสเล่นอยู่กับที่หนึ่งแล้วก็ตอนต้นที่ไรรู้สึกเหมือนตัวเองมีลูกสามคนทุกทีเลย’


               ฉึก!


               อะไรไม่เท่ากับรอยยิ้มที่ส่งมาตอนนั้นครับ สวยจริงนะน้องสาว ผิวขาวราวกับเส้นหมี่~


               โถๆ มันมีคุณแม่ที่ไหนอายุห่างจากลูกแค่สิบปีบ้างครับ อย่างงี้เป็นแม่กับลูกชายคนโตไม่ได้หรอก แต่ถ้าให้ผมเป็นสามีเด็กละก็ได้อยู่ อิอิ -..-


               ‘แล้วนี่หน้าตาดีขนาดนี้ เอสมีแฟนหรือยัง?’


               ถามกันมาแบบนี้ ลงล็อค! อยากจะมาเป็นแฟนผมไหมละครับ พี่สาวคนสวย~ แต่งงานแล้วไม่เป็นไร ลักกินขโมยกินกันก็ได้นะครับ ผมว่าง~


               ‘แฟนหรอครับ ผมยังไม่...’

               ‘เอส’


               ชะอุ้ย


               แฟนไม่มีแต่พ่อมี...พ่อคุณทูนหัว!


               ผมนี่ตัวสั่นหงิงๆ ประหนึ่งโดนจับได้ว่ามีเมียน้อยหันไปหาพี่ตุลย์ที่เรียกอยู่ด้านหลัง พอหันปุ๊บผมนี่ร้องแว๊กกก! ปั๊บ เพราะหน้าของตอนต้นอยู่ชิดผมมากจนจมูกผมนี่ปาดไปโดนน้ำลายข้างปากมันเต็มๆ


               ‘อะไรของพี่เนี่ย!?’

               ‘ตอนต้นจะเล่นด้วย ส่งเสียงก็แล้ว นายก็ไม่รู้สึกตัว เห็นจะเดินมาหา ฉันก็เลยอุ้มมาให้เลย’

               นั่นแหละครับ ผมก็เลยต้องเดินอุ้มตอนต้นกลับไปนั่งเล่นด้วยอยู่หน้าทีวี #จบข่าว



















               แกร๊ก


               “ป้าสร้อย หวัดดีครับ” ผมยกมือไหว้ปรกๆ หลังจากเปิดประตูแอ๊ดเข้ามาเจอป้าสร้อยกำลังเดินตามหลังตอนต้นที่ตอนนี้เห่อการเดินมาก แทบจะไม่ยอมนั่งเลย ซึ่ง...มันเป็นภาพที่ผมเห็นบ่อยจนชินตาละ


               ว่าไปแล้วผมก็อยู่ที่นี่นานแล้วเหมือนกันนะเนี่ย


               “อ้าว ทำไมวันนี้กลับมาเร็วจังละเอส เพิ่งจะ 10 โมงครึ่งเอง”

               “วันนี้มีเรียนแค่ตอนเช้าครับ อ.ปล่อยเร็วด้วย ผมก็เลยกลับเร็วแบบนี้ไง มาช่วยป้าสร้อยดูแลมารครับ”

               “ก็ไปว่าน้อง” ป้าสร้อยหัวเราะ “จะว่าไปเอสมาก็ดีแล้ว โทรบอกตุลย์ให้หน่อยสิว่าแพมเพิสจะหมดแล้วนะ อันสุดท้ายน่าจะได้ใช้เย็นนี้แหละ

               “แค่แพมเพิสใช่ไหมครับ?” ผมทวนขณะล้วงหยิบมือถือเครื่องละ 1,990 บาทออกจากกระเป๋ากางเกง

               “อ่า กล้วยก็ใกล้จะหมดแล้วนะ นมผงเหลือครึ่งกระป๋อง แต่อยากซื้อเผื่อไว้ก็ได้”

               “ครับๆ” ผมรับคำก้มหน้ากดเบอร์พี่ตุลย์ละ

               “แต่ป้าว่า เอสไปดูของใช้ส่วนตัวดีกว่า อันนี้ป้าก็ไม่รู้ว่าขาดเหลืออะไร ตุลย์จะได้ไปหาซื้อมาทีเดียว”

               “โอเคครับ” ผมละมือที่กำลังกดเบอร์ไอ้พี่ตุลย์ เดินดุ่มๆ ชะโงกหน้าเข้าไปในห้องน้ำเช็คสบู่ ยาสระผม ครีมนวด ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก เอ้า! น้ำยาบ้วนปากใกล้จะหมดแล้ว เจลแต่งผม ครีมโกนหนวด...ผมเดินเข้าไปเขย่าๆ เบาหวิวๆ นี่แปลว่าใกล้จะหมดแล้วสินะ

               “เอส ถ้ามันมีของต้องซื้อก็หากระดาษมาจดไว้สิ จะได้ไม่ลืม จำแบบนี้เดี๋ยวก็หลงๆ ลืมๆ จนได้” ป้าสร้อยแนะนำท้ายเสียงเชิงบ่นตามภาษาคนแก่ ผมรับคำแล้วเดินกลับมาฉีกกระดาษจากสมุดเรียนของตัวเองแล้วชะโงกหน้าเข้าห้องน้ำอีกครั้ง จดๆ เขียนๆ อื้มๆ


               ...


               ไม่ดูเป็นแม่บ้านแม่เรือนเกินไปช้ะ?


               นี่แค่มีเมียเป็นผู้ชาย (เออ ถึงจะโดนเสียบก็จะเป็นผัวอะ มีไรปะ!) ยังไม่พอ ตอนนี้กำลังจะพัฒนาการมาเป็นพ่อบ้านใจกล้าแล้วหรอ


               ...รับไม่ดั่ยยย orz


               ผมคร่ำครวญอยู่ในใจแต่สายตาก็เช็คมือก็จด ลายมือเหี้ยมากครับ ไม่อยากให้เห็นไม่ต้องมาแอบมอง หลังจากที่เช็คของในห้องน้ำเสร็จผมก็เดินเข้ามาโซนห้องครัว ห้องครัวกับผมนี่เป็นภัยต่อกันมากอะ อยู่คนเดียวเกือบทั้งชีวิตปัจจุบันนี้สิ่งที่ทำได้ในห้องครัวสำหรับผมคือทอดไข่ ต้มมาม่าและหุงข้าวแค่นั้นแหละ ไอ้ที่ผมพอจะเช็คๆ ได้ก็เป็นน้ำมัน น้ำปลา แม็กกี้ ไข่ไก่อะไรพวกนั้น แต่ของพวกนี้ที่นี่ไม่ค่อยพร่องลงไปเลย อาจเพราะว่าไม่ค่อยได้ทำอะไรหรอก ไม่มีแม่บ้านปักหลักปักฐานแน่นอนที่ห้องนี้ แต่เมื่อกี้ป้าสร้อยบอกว่ากล้วยอาหารของตอนต้นกำลังจะหมด อื้มๆ จดๆ ซื้อยำยำมาด้วยดีไหม เห็นโฆษณาว่ารสข่าไก่ออกใหม่ น่าลองๆ โหย แค่พูดน้ำลายผมก็แตกในปากละ หึหึหึ


               ก่อนที่น้ำลายจะย้อยลงเป็นทางผมออกจากห้องครัว ไปยังรังรักของเรา เจ๊ย ห้องนอนครับห้องนอน พูดเล่นแบบนี้พูดได้นะ แต่ถ้าพูดแบบจริงจัง... (ขนลุกโดยพร้อมเพรียงกัน) ผมชะโงกหน้าเข้าไปในห้องนอน ปรกติห้องนอนมันก็ไม่ต้องซื้ออะไรปะวะ กางเกงในใหม่งี้อะหรอ? มันไม่ใช่อ่ะ ว่าแล้วผมก็ปิดประตูห้องและพับเศษกระดาษที่มีตัวหนังสือคล้ายๆ จะเป็นตัวอักษรสมัยพ่อขุนรามเอาไว้ในกระเป๋ากางเกงนักศึกษา


               “ป้าสร้อยผมเช็ค...”


               โครม!


               “ตอนต้น! ตายละๆๆ” ป้าสร้อยรีบถลาไปหาไอ้เด็กอ้วนที่มันเดินเต๊าะแต๊ะอยู่ดีๆ แล้วก็ดันหัวทิ่มล้มโครมอยู่ตรงเท้าผม ใช้เวลาไม่กี่วิเสียงร้องก็แผดดังขึ้นจนแทบจะทะลุไปถึงโต๊ะประชาสัมพันธ์หน้าคอนโดฯ

               “ไม่ร้องดิวะ เกิดเป็นผู้ชายซะเปล่า” ผมพูด พลางอุ้มหมูที่ร้องไห้อยู่ที่พื้นขึ้นมาอุ้ม

                “โอ๋ๆๆ ไม่ร้องนะ ไม่ร้อง เจ็บนิดเดียวเอง เดี๋ยวก็หายนะ” ป้าสร้อยพูดปลอบ ยื่นแขนมาเหมือนจะขออุ้มเอง แต่ก็คงนึกได้ว่าตอนต้นไม่ชอบให้ผู้หญิงแตะตัวเลยชักมือกลับไป ทำได้แต่ปลอบอยู่ห่างๆ


               ป้าสร้อยมีสีหน้าลำบากใจ ผมเองก็ลำบากใจเหมือนกัน ยังไงดีละ คือเด็กนี่มันไม่ค่อยร้องนะ ค่อนข้างเป็นเด็กไม่ขี้แง ผมเลยเห็นมันร้องไห้ไม่บ่อยเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ไม่พี่ตุลย์อุ้มไปปลอบ นานๆ ทีผมจะดุมันจนกว่าจะเงียบไปเอง


               แต่ถ้าจะให้ผมดุมันตอนนี้...ให้เกียรติป้าสร้อยด้วย orz


               “ไม่ร้องๆ หกล้มนิดเดียว เรื่องเล็ก”

               “ฮึก...ฮึก...แงงงงงงง”

               “ไม่ร้องนะคะ แต่ช้าแต่ แต่ช้าแต่ เดี๋ยวป้าเป่าให้นะ มาๆ เจ็บตรงไหน” พอเห็นว่ายังร้องอยู่ป้าสร้อยเลยรีบเข้ามาสมทบ แต่ช้าแต่กันยกใหญ่ แต่ป้าแกคงจะกระวนกระวายใจมากจริงๆ จึงเผลอยื่นมือคว้าตัวตอนต้นหวังจะไปโยกอยู่ในอ้อมกอดตัวเอง


               แต่นั่นแหละ...


               ผู้หญิงแตะตัวปุ๊บ ตอนต้นมันก็เลย..


               “แง๊! แงงงงงงงงงงงงงงงงง!!! ”


               Holy shit! หันมาร้องใส่หูด้วย


               “ไอ้...”


               ชิ้ง!


               ประหนึ่งว่ามีไฟฟ้าแล่นแปล๊บอยู่ที่ปากให้ผมยั้งคำพูด ปรายตามองป้าสร้อยที่ก็กำลังจ้องผมอยู่


               ปัดโธ่…


               “ไม่ร้องนะ แต่ช้าแต่น๊า แต่ช้าแต่”


               ก็ได้ แต่ช้าแต่กันไปยาวๆ! TT

















               ผมยื่นมือที่สั่นหงึกๆ ไปหยิบโทรศัพท์คู่กายที่โยนไว้บนโซฟาก่อนหน้านี้ กดเบอร์พี่ตุลย์อย่างยากลำบากเพราะนิ้วที่แทบจะควบคุมไม่ได้ ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเวลาเด็กร้องแล้วปลอบยังไงก็ไม่หยุดนี่มันจะมีอนุภาพร้ายแรงขนาดนี้...


               สั่นถึงนิ้วอะคิดดู


               /ตรู๊ดด....ตรู๊ด..../


               ระหว่างรอให้พี่ตุลย์รับสาย ผมก็ใช้มืออีกข้างที่สั่นไม่แพ้กันล้วงหยิบเศษกระดาษที่ลิสรายชื่อของที่จะฝากพี่ตุลย์ซื้อเข้าห้องมาด้วย


               /ฮัลโหล/

               “พี่ตุลย์ ขากลับจากสำนักพิมพ์ซื้อของใช้เข้าห้องมาด้วยนะ ก็มี แพมเพิส กล้วย น้ำยาบ้วนปา...”

               /บอกช้าไปไหม?/ ไม่ทันที่ผมจะพูดจบ เสียงทุ้มเป็นเอกลักษณ์ก็ดังแทรกขึ้นมา /นี่มันกี่โมงแล้ว?/

               “กี่โมงหรอ? อ่า แป๊บนะ ดูนาฬิกาแป๊บ” ผมยกโทรศัพท์ออกจากหู ดูเวลาบนหน้าจอ “ตอนนี้จะสี่โมงแล้ว”

               /ฉันขึ้นลิฟต์มาแล้ว จะถึงหน้าห้องอยู่แล้วเนี่ย/

               “หา เลิกงานแล้วหรอ?”

               /อื้ม ก็เลิกงานสี่โมงเย็นเนี่ยแหละ แต่ฉันย้ายเวลาพักมาตอนบ่ายสามครึ่ง เวลาพักหมดก็เลิกงานพอดี ฉันก็เลยกลับบ้านเลย/
               
               “อ้าว แล้วจะ...”


               แกร๊ก


               ประตูห้องไม้อัดสีขาวถูกเปิดออกก่อนจะปรากฏร่างของเจ้าของห้องที่มือข้างหนึ่งก็ถือโทรศัพท์คุยกับผมอยู่ และ...พี่ทอฟ้า ผู้มาที่นี่อะเกน


               “ถ้าจะให้ซื้อของทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้หะ มาบอกตอนเวลาใกล้เลิกงานเนี่ยนะ”

               “ก็ว่าจะบอกตั้งนานแล้ว แต่มัวยุ่งๆ อยู่กับตอนต้นนี่หน่า” ผมกดตัดสายโทรศัพท์ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ป้าสร้อยเดินออกมาต้อนรับ พร้อมถ้วยข้าวในมือ สภาพนี่ไม่ต่างกับผมอะ ตัวสั่นงันงกเหมือนกันเลย เด็กร้องไห้คนเดียว สูบแรงผู้ใหญ่ไปถึงสอง

               “เฮ้อ แล้วต้องซื้ออะไรบ้าง?” พี่ตุลย์นำเสื้อสูทกับกระเป๋าเอกสารวางไว้บนโซฟา ส่วนพี่ทอฟ้าก็ทักทายผมเล็กน้อย แล้วเดินเข้าไปหาป้าสร้อยก่อนที่ทั้งสองจะพากันไปหาตอนต้นที่นั่งรออยู่ในครัว


               เอิ่ม...โคตรจะทำตัวเหมือนไม่ได้มาเหมือนด้วยกัน ประมาณว่า กูหนีบเอาวิญญาณข้างทางมาด้วย


               “เนี่ยอะ ผมจดเอาไว้แล้ว” ผมละสายตาจากพี่ทอฟ้ายื่นเศษกระดาษให้พี่ตุลย์ที่ตอนนี้ปลดเนคไททิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาแล้ว

               “ขอพักหน่อย แล้วเดี๋ยวจะออกไปซื้อให้”

               “ที่ห้างฯ อะหรอ?”

               “อื้ม”

               “ตุลย์ เอส ถ้างั้นป้ากลับห้องก่อนนะ”

               “ตอนต้นกินข้าวหมดแล้วหรอครับ?”

               “ยังหรอก แต่ป้าให้หนูทอฟ้าเขาทำต่อแล้วละ แม่เป็นคนป้อนอาจจะดีกว่าให้คนข้างห้องยังป้าป้อนนะ” ป้าสร้อยยิ้ม ก่อนที่จะเดินออกจากห้อง B8002 ไป จังหวะที่ป้าสร้อยเปิดประตูนั้นเป็นจังหวะเดียวกับที่ที่หนึ่งที่กลับบ้านมาด้วยรถรับส่งกำลังจะเปิดประตูห้องเข้ามาพอดีเลย เกิดเดดแอร์ชั่วขณะ ก่อนที่ป้าสร้อยจะเป็นฝ่ายทักทายที่หนึ่งก่อน แล้วค่อยกลับห้องของตัวเอง

               “พ่อ!” ที่หนึ่งร้องลั่นเมื่อเห็นไอ้พี่ตุลย์ที่กำลังนั่งพักผ่อนอยู่บนโซฟา “แม่มาไหมครับ?”

               “อยู่ในครัวกับน้องครับ” พี่ตุลย์ตอบ


               ผมนึกถึงเรื่องนึงที่เคยอ่านในเน็ตเลยอะ ที่ว่า คำถามของลูกที่มักจะถามพ่อแม่ สิ่งที่ถามแม่มีเป็นร้อยเป็นพันอย่าง ตั้งแต่หมากฝรั่งติดผมจนถึงสอบตก โดนทิ้ง แต่คำถามที่ถามพ่อคือ ‘พ่อ แม่อยู่ไหนอะ’


               ไม่ใช่ว่าไม่รักพ่อหรอกนะครับ แต่มันยังไงดีละ เรียกว่า ติดกว่าละมั้ง? แล้วยิ่งกับที่หนึ่งด้วยแล้ว อยากมีแม่ อยากอยู่กับแม่มาตั้งนาน แล้ววันนึงแม่ก็กลับมาอยู่ตรงนี้อีกครั้ง ก็ไม่แปลกที่เด็กคนนึงที่เคยเดินตามผมต๋อยๆ เรียก ‘อันธพาลๆ’ ตอนนี้พอกลับถึงบ้านก็ถามหาแต่แม่ ไปขลุกอยู่กับแม่


               “ทำไมทำหน้าแบบนั้น?”

               “หื้ม?” ผมส่งเสียงนำลำคอเป็นเชิงสงสัยกับคนที่นั่งอยู่ข้างๆ

               “ก็มองที่หนึ่ง แล้วทำหน้าแบบแปลกๆ เหงาหรอที่เดี๋ยวนี้ ที่หนึ่งไม่เล่นด้วย”

               “อ๋อ ก็ธรรมดาแหละ ปกติติดผม เกาะหนึบ ร้องจะเล่นด้วยตลอด แต่พอวันนึงเปลี่ยน มันก็ต้องโหวงๆ กันบ้าง” ผมพยักหน้าหงึกๆ ประหนึ่งคนเข้าใจสัจธรรม

               “ก็ไม่ได้อยู่ห่างอะไรกันขนาดนั้นสักหน่อย ก็ยังอยู่ห้องเดียวกัน ถ้าอยากเล่นด้วยก็แค่เดินเข้าวงไปก็แค่นั้น”

               “ไม่เอา อะ ให้อยู่กับแม่อะดีละ ไอ้ตัวผมมันก็ไม่มีซะด้วยสิ ‘แม่’ เนี่ย แต่ถ้ามี ผมก็คงอยากอยู่ด้วยนานๆ เหมือนกัน”

               “...”

               “ส่วนผมก็อยู่กับพี่นี่ไง จู๋จี๋ดู๋ดี๋ไม่มีใครขัด อิอิ” หัวเราะแบบกวนตีนใส่ไปหนึ่งที กระพริบตาปริบๆ จนขนตานี่แทบปลิวไปอยู่หน้าพี่ตุลย์ ชีวิตคู่มันต้องมีสีสันคร๊าบบ~ หยอกพี่ตุลย์ที่ทำหน้าเหมือนอมมะระ นี่โคตรความบันเทิงของผมอะ อิอิ


               นี่ถ้าไม่ติดว่ามีสามชีวิตอยู่ในห้องนี้ด้วยนะ ไม่งั้น...หึหึหึ


               “ฉันไปซื้อของดีกว่า อยู่ที่นี่เหมือนจะไม่มีสาระ”

               “พูดแบบนี้ก็ถีบหน้าผมเลยก็ได้ ไม่ห้าม”

               พี่ตุลย์ปรายตามองเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้มีทีท่าสนใจหน้าตากวนตีนของผมสักเท่าไหร่ “ที่หนึ่ง พ่อจะไปห้างฯ หน่อยนะ ลูกจะเอาอะไรไหม?”

               “ไม่อะ แต่พ่อจะซื้อนมจืดมาก็ได้นะ”

               “โอเค”

               “เดี๋ยวฟ้าไปด้วย พี่จะได้เลยไปส่งฟ้าเลย ไม่ต้องขับรถหลายรอบ” ขณะที่พี่ตุลย์กำลังจะออกจากห้องไปซื้อของตามแผนที่ลายแทงของผม พี่ทอฟ้าที่กำลังอุ้มตอนต้นอยู่ก็รีบเดินมาที่หน้าทีวี

               “ไม่เป็นไรหรอก”

               “ฟ้าก็ไม่เป็นไรเหมือนกัน ก่อนกลับฟ้าจะได้ไปช่วยซื้อของ ถือของด้วยไง รอแป๊บนึง เดี๋ยวไปเอากระเป๋าก่อน”

               “พี่ไปคนเดียวได้”

               “ไม่เป็นไร ฟ้าจะไปด้วย” แล้วทั้งสองก็จ้องกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ความรู้สึกอึดอัดรายล้อมจนผมรู้สึกอยากจะเฟดตัวหลบฉากไปอยู่ในห้องน้ำ “รอแป๊บ เดี๋ยวฟ้าจะไปด้วยเนี่ยแหละ ขอไปหยิบกระเป๋าก่อน อีกอย่างมีคนไปช่วยเลือกช่วยถือมันก็ดีกว่าใช่ไหมละ?”

               “เดี๋ยวพี่จะเอาเอสไปช่วย”


               ...


               ชิบหาย! พูดอะไรออกไปวะะะ มันควรเอาคนที่สามเข้าไปยุ่งด้วยไหมไอ้พี่ตุลย์! ถามมม!


               หมับ!


               แว๊กกกกก! ไอ้พี่ตุลย์แม่งมาจับข้อมือผมแล้วด้วย! ชิบหายกว่าเก่าอีก!


               “เอ่อ ไม่ดีกว่า ผมว่า ผม...”

               “ฟ้าอยากอยู่กับลูก อยากเจอลูกไม่ใช่หรอไง ที่หนึ่งก็เพิ่งกลับมาก็อยู่กับลูกไปเถอะ เดี๋ยวฉันจะเอาเอสไปช่วยถือของแล้วกัน รถพี่น้ำมันเต็มถัง ขับไปส่งอีกรอบได้ ไม่ต้องห่วงหรอก”


               คำพูดนี่แบบหัวหน้าครอบครัว แต่แววตานี่เรียบสนิท เหมือนเวลาสึนามิจะมา


               เอ่อ...ผมควรพูด หรือควรขยับตัวไหม? Orz


               “ก็ตามใจพี่แล้วกัน พี่จะขับรถไปส่งฟ้าอีกรอบ ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรฟ้าอยู่แล้ว” อีกฝ่ายยิ้ม


               ยิ้มแบบนางฟ้า แต่แววตานี่ก็ไม่แพ้กับของพี่ตุลย์


               “ไปเถอะ” พี่ตุลย์พูดเบาๆ แล้วลากผมออกจากห้องไปด้วยกัน


















               “เฮ้อ” เสียงถอนหายใจดังขึ้นจากผู้ชายที่เดินอยู่ข้างๆ ขณะที่เราทั้งคู่ออกจากลิฟต์ ผมปรายตามองเล็กน้อยไม่ได้พูดอะไร แล้วก็ไม่รู้ว่าผมควรจะพูดอะไร แล้วก็ไม่ได้อยู่ในฐานะไหนที่ควรจะพูดได้ด้วย “เห็นหรือยัง? ว่าฉันกับทอฟ้าไม่มีทางกลับไปมีครั้งที่สี่ ครั้งที่ห้า ครั้งที่หกได้หรอก”

               “ผมก็ไม่ได้คิดเรื่องนั้นแล้วสักหน่อย พี่ยังคิดมากกับคำพูดของผมอยู่หรอไง?”

               “ก็ฉันมันพวกชัดเจนละนะ”

               “ไม่ต้องไปคิดที่ผมเคยถามพี่เมื่อหลายวันก่อนแล้ว แค่เห็นทุกวันนี้ผมก็รู้ยิ่งกว่ารู้คำตอบซะอีก”

               พี่ตุลย์หัวเราะเสียงฝืน “โทษที ที่ทำให้ต้องมาเห็นอะไรแบบนี้หลายครั้ง”

               “ช่างเหอะ ก็นี่มันเรื่องของ ‘ครอบครัว’ ของผมเหมือนกันนี่ใช่ไหม?” ผมยิ้ม พี่ตุลย์ทำหน้าตกใจเล็กน้อยก่อนจะคลายยิ้มออกมาบ้าง “จะว่าไป ไปห้างฯ ด้วยกันครั้งนี้ถือว่าเดทเลยนะเนี่ย ไม่มีใครมารบกวน”

               “แล้ว?”

               “เพราะงั้น ปะ! พอซื้อของเสร็จแล้วเลี้ยวเข้าข้างทางด้วยนะ อิอิ”

               “ดีแต่ปาก ก็อย่าพูดเลย” พี่ตุลย์ขำในลำคอพลางส่ายหัวน้อยๆ กับท่าทางปากดีกวนประสาทของผมเอง 


               ถึงตอนนี้ผมจะพูดปลอบใจอะไรไม่ได้ แต่ถ้าอยู่กับผมแล้วสบายใจก็โอเคละนะ






TBC
จะ-บอก-ว่า-สอบ-มิดเทอม-เสร็จ-แล้ว!!!
มีความสุขมากอ่ะ กลับมาอัพแบบ 100% ตู้มเดียวอีกครั้ง แฮปปี้ ~
ตอนนี้หลายๆอารมณ์ ให้เห็นสภาพปัจจุบันและอะไรหลายๆ อย่าง
ตอนหน้า หึหึหึหึหึ หวานๆ จัดหนัก จัดเต็ม ลด แลก แจก แถม! ให้คุ้มกับที่สอบมิดเทอมจบแล้ว~~~

อันนี้ของแถม เผื่อใครลืมหน้าเอสไปแล้ว~ เวอร์ชั่นไม่เซ็ตผมก็เป็นทรงบางระจันเยี่ยงนี้นี่เอง
(http://i.imgur.com/JNp4P6W.jpg)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 34 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 08-10-2015 23:13:38
หูย เอสนี่เจอทอฟ้าไปแปปเดียวยังรู้ขนาดนี้

นี่ถ้าชีออกลายจะเป็นยังไงนะ จากนางฟ้าเป็นนางมาร?


หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 34 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 08-10-2015 23:19:05
เป็นผู้หญิงที่แย่มากๆ อ้างลูก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 34 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 08-10-2015 23:36:32
เอสก้กวนตีนเนอะ สงสัยว่าง. 555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 34 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 08-10-2015 23:44:12
ไปๆ ที่ห้องไม่สะดวกแวะข้างทางน่ะถูกแล้ว 5555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 34 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-10-2015 02:46:59
ยิ่งอ่านยยิ่งมีความรู้สึกว่าทอฟ้าเนี่ยนิสัยแย่แบบแปลกๆนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 34 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 09-10-2015 07:10:31
เห็นเอสทำหน้าเคลิ้มให้ทอฟ้าหน่อยเดียว พี่ตุลย์ถึงกับอุ้มตอนต้นมาดับฝันกันถึงที่เลย
เหรอคะเนี่ย :m20:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 34 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 09-10-2015 08:11:42
เอิ่ม น้องทองฟ้า เอ๊ย ทอฟ้า






เริ่มมีกลิ่นตุๆร๊ะ นางกะจะไส่ไฟให้ถ่านไฟเก่าคุอีกครั้งเหรอ






เอสอย่าไปยอมนะ พี่ตุลย์เขาชัดเจนขนาดนี้อย่าไปกลัว สู้ๆ






ทอฟ้าจะเหลวแหลกแค่ใหน ก็อย่าเอาความคิดอะไรที่ไม่ดีไปเสี้ยมใส่หัวที่หนึ่งนะน้องยังเด็ก






ปล่อยให้เขา รัก เขา โกรธ ด้วยตัวเขาเอง อย่าไปชี้นำเขาเด็ดขาด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 34 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 09-10-2015 09:13:12
ปากก็พูดนะว่าอยากมาหาลูก
แต่การกระทำของเธอนี่มันดู
จะย้อนแย้งกันนะ :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 34 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 09-10-2015 09:21:15
ชัดเจนแบบฟูลเฮชดี ชอบพระเอกแบบนี้ ถึงจะโง่สามครั้งก็เถอะ ไม่่โง่ครั้งที่สี่ห้าหกหรอกเนอะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 34 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 09-10-2015 09:45:57
มาอัพแร้วววววว ดีใจๆๆ
อะไรคือการที่เอสเคลิ้มไปกับทอฟ้า 5555
เสพไปแต่รูปกายนะเอส อย่าไปรู้จักข้างในเลย เจ๊แกไม่สวยหรอก -_-
สงสัยเจตนาของทอฟ้าจิงๆ มันทะแม่งๆยังไงไม่รู้อ่าาาาาาาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 34 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: MinKKniM ที่ 09-10-2015 11:21:16
คิดถึงน้องเอสจัง ว่าแต่ยัยทอฟ้านี่มาแปลกนะ น่ากลัวตรงที่ดูนางไม่ออกเลยว่าจะมาแนวไหน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 34 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 09-10-2015 12:20:02
พี่ตุลย์ก็ชัดเจนอย่างนี้ให้ตลอดนะ อย่าทำให้เอสเสียใจล่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 34 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 09-10-2015 13:16:00
ทอฟ้านี่ยังไงค้าาาาา

นุ้งเอสยังเกรียนเหมือนเดิมมม
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 34 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 10-10-2015 08:54:49
ยัยทอฟ้่านี่จะเอายังไงหรอ ดูมีลับลมนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 34 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: devilpoo ที่ 10-10-2015 13:45:34
มาปักหมุดไวก่อน เดี๋ยววันอาทิตย์จะอ่าน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 34 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 10-10-2015 17:19:18
ทอฟ้าดูมีชั้นเชิงอ้ะ ดูยากไม่เหมือนพลอย
หรือจริงๆคือไม่มีอะไร?  ไม่น่าใช่ 55555555555
ใช่เอสถ้าในบ้านไม่สะดวกก็ข้างทางเนาะ  พี่ตุลย์ทำจริงมาละอย่าร้องนะ 55555555555555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 34 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 10-10-2015 18:39:30
เอสสู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 34 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 10-10-2015 19:08:59
พึ่งเข้ามาอ่านจ้ะ  :katai2-1:

น่าสนใจๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 34 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 10-10-2015 20:27:21
 :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 34 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 10-10-2015 22:06:13
ทอฟ้าค่ะอย่าพยามค่ะ อยู่ที่เดิมของเทอแล่ะดีแล้ว
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 34 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 10-10-2015 23:28:17
ยัยป้าฟ้านั่น สรุปเอาลูกมาอ้าง คิดจะกลับมากิ๊กกับพี่ตุลย์อีกสินะ

เอสอย่ายอมป้านั่นนะะะะะะ :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 34 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 11-10-2015 08:04:04
สามีตามกฏหมายของทอฟ้าคะ มาลากนางกลับด่วนค่ะ :m16:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 34 (08/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 15-10-2015 00:44:32
รู้สึกว่าทอฟ้ามีพลังอะไรบางอย่างแอบแฝงอยู่นะ
แปลกๆนะยัยชะนีคนนี้อ่ะ 5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 21-10-2015 03:25:37
ตอนที่ 35




           “จะว่าไป ตอนต้นนี่โดนผู้หญิงแตะได้แล้วหรอ?” ผมพูดขึ้นอย่างสงสัยขณะเข็นรถเข็นเดินตามหลังคุณพ่อบ้านที่ถือรายการซื้อของที่มีลักษณะคล้ายๆ ลายแทงสมบัติที่เขียน By มาริเอส เมาเร่อ

           “ไม่รู้สิ อาจเพราะเป็นแม่มั้ง อยู่ในท้องมาตั้งเก้าเดือน” พี่ตุลย์ตอบอย่างไม่ค่อยใส่ใจมากนัก พลางหยิบชี้ไส้กรอกให้พนักงานใส่ถุงชั่งขีด


           พวกไอ้ของสดเนี่ย ผมไม่ได้จดลงไปในกระดาษแผ่นนั้นเลยสักอย่างเดียวครับบอกไว้ก่อน แต่ไอ้เนื้อหมูเอย เนื้อไก่เอย ไข่เอย ไส้กรอกเอย ปลาเอยนี่คุณพ่อบ้านตุลย์เป็นคนเลือกสรรซื้อเองล้วนๆ ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาซื้อของด้วย เพิ่งได้เห็นมุมพ่อบ้านแบบนี้เป็นครั้งแรก


           “เด็กนี่ก็แปลกจริงๆ ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน แต่รู้สึกคุ้นเคยก็จับได้งั้นหรอ? ส่วนป้าสร้อยนี่เจอมาเป็นปี กลับยังไม่ให้แตะสักแอะ”

           “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนอายุเท่าตอนต้นจำได้คล้ายๆ ว่า ใครจะจับก็ได้ไม่ถือ”

           “แหม ตอนนั้นความจำพี่ทำงานแล้วหรอครับ” ผมปรายตามอง

           “อือ สมองพัฒนาเร็ว”

           “แหวะ หมั่นไส้ว่ะ” ผมเบ้ปาก เท้าคางกับที่จับรถเข็นระหว่างรอคุณพ่อบ้าน เดินวนพิจารณาไส้กรอกอื่นๆ

           “เข็นรถตามมาสิ”

           “ไม่เอาอะ จะอยู่ตรงเนี่ยแหละ พี่ก็เดินเอาของมาใส่รถเองดิ แก่แล้วต้องเดินเยอะๆ นะรู้ปะ เดี๋ยวเป็นเก๋า” ผมว่าเงี่ย แต่ไม่รู้ทำไมร่างกายดันเข็นรถไปหาซะงั้น นี่ กูเป็นหมาหรือเปล่า เขาเรียกก็ไปหาตลอด!

           “โรคเก๋ามันไม่ได้เกิดจากการไม่ได้เดินสักหน่อย ฉันจะเป็นได้ไงเล่า”

           “เป็นได้ดิ ก็โรคเก๋ารักเตงไง~ อิอิ”

           “...เฮ้อ” พี่ตุลย์มองหน้าแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ เอาถุงไส้กรอกใส่ในรถก่อนจะเดินห่างผมประหนึ่งไม่ได้มาด้วยกัน เล่นเอาผมเผลอหัวเราะดังลั่นจนคนที่เดินช้อปปิ้งแถวๆ นั้นหันมามองเป็นตาเดียว แต่ผมก็ไม่ได้สนใจนะ ยิ้มร่าอารมณ์ดีเข็นรถตามพี่ตุลย์ไปติดๆ

           “ฮันแหนะ แค่นี้ทำเขิน รอด้วยดิครับ~”

           “อับอายมากกว่า”

           “หะ? อะไรนะ เขินอาย?~” ผมเข็นรถไปอยู่ข้างๆ ใช้ศอกกระทุ้งๆ หยอกแซว

           “ฉันว่า แค่ของ รถก็น่าจะเต็มแล้ว นายเดินกลับไปแล้วกัน”

           “โหยยยย หยอกนิดหยอกหน่อย ใจร้ายตลอด” ผมทำปากเชิดใส่ โชคดีที่ล็อคนี้ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ ผมเลยแสดงออกได้เต็มที่ ก็อะนะ ถึงยังไงก็เป็นแฟนกันปะวะ~ 

           “นายคิดว่าฉันอายุเท่าไหร่แล้วหะ”

           “อีกนิดก็สามสิบแล้วไง อายุตัวเองยังจำไม่ได้อีกหรอ โห่”

           “จะเดินกลับเองจริงๆ?”

           “ล้อเล่นอ่าาา~” ผมนี่แทบสละรถเข็นแล้วพุ่งไปกอดขา มากับไอ้พี่ตุลย์ไง ผู้ชายใจดีที่สุดในสามโลก /กัดฟัน “เอาหน่า ถึงพี่จะสามสิบก็อย่าทำตัวแก่ตามดิ สามสิบยังแจ๋ว หวานแหววได้อยู่”

           “มันไม่ใช่กับคนที่มีลูกสองอย่างฉันแล้ว” พี่ตุลย์ว่าพลางยิ้มน้อย ก่อนจะใช้มือดันหน้าผากผมจะแทบจะหงายหลัง


           แหม พอเห็นว่าไม่ใช่ผู้หญิงละ ไม่ค่อยจะยั้งมือหรอก


           “โหย แต่แฟนพี่ยังเด็กอยู่นะ ถ้าพี่จืดชืดเดี๋ยวผมก็นอกใจซะหรอก อยู่ด้วยกันอาจจะไม่รู้ แต่ผมหล่อมากนะ ขอบอก”

           “อยากนอกใจก็เชิญ”

           “ไม่ง้อเล๊ย?”

           “ไม่ละ คนจะไปก็ต้องไป แต่ฉันก็จะไปเหมือนกัน ไปตามหักคอทั้งนาย ทั้งอีกคนนึงเลย”

           “อึก” ผมนี่ถึงกับกลืนน้ำลาย ขนาดเห็นแค่หลังฟังแต่เสียงขนยังลุกเป็นแทบๆ ไม่ชักช้าผมรีบเข็นรถตามไปอยู่ข้างๆ สะกิดไหล่พี่ตุลย์ยิกๆ ให้หันมาสนใจสายตาระห้อยไห้ของผมสักเล็กน้อย “ผมแค่ล้อเล่นนน ใครมันจะไปนอกใจพี่ได้ลงคอ TT”


           พี่ตุลย์ปรายตามองผมด้วยท่าทางนิ่งๆ เป็นเอกลักษณ์ ก่อนจะคลี่ยิ้มให้ผม “บังเอิญจัง ฉันก็ล้อเล่นเหมือนกัน”


           “หา! ล้อเล่นแบบนี้ก็เอามีดมากรีดท้องผมเลยเถอะ”

           “อะไร? ก็บอกเองว่าอยากหวานแหววบ้าง ความรักวัยรุ่นก็ต้องมีหยอกๆ แซวเล่น ฉันก็อุตสาห์ทำให้”

           “ฮ่ะๆ” ผมจงใจหัวเราะเสียงแห้งเต็มที่ ไม่รู้จะซึ้งกับความพยายามนี้ดีไหม “ถ้างั้นพี่ก็ไม่ต้องทำแล้วละ อย่าฝืนเลย เป็นตัวของตัวเองเถอะ ผมชอบแบบที่พี่เป็นนั่นแหละ

           “...”

           “ไปเหอะ ไปโซนเด็กดีกว่า ตอนต้นรอแพมเพิสกับนมผงอยู่นะ”

           “...”

           “เอ้า เป็นอะไร? ไม่เดินมาอะ” ผมเลิกคิ้ว เข็นรถกลับไปหาพี่ตุลย์ที่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ขณะที่กำลังจะสะกิดเรียก สายตาก็เหลือบมองเห็นใบหูที่ขึ้นสีแดงจางๆ ของอีกฝ่าย ความเขินอายที่นานๆ จะออกมาที ทำให้มผมอดไม่ได้ที่จะยิ้มจนปวดแก้ม มืออีกข้างที่ไม่ได้ขับรถเข็น ผมเอื้อมไปเกี่ยวนิ้วก้อยของอีกฝ่ายที่ทิ้งอยู่ข้างตัวก่อนจะดึงให้เดินตามมาด้วยกัน

           “นายนี่มัน...จริงๆ เลยนะ”

           ผมหัวเราะ “อะไรครับ? ผมยังไม่ได้ทำอะไรพี่เลย”


           พี่ตุลย์มองหน้าผม ผมเองก็ส่งหน้ากวนกลับไป ตอนนี้ออกมาจากล็อคนั้นแล้วไง คนก็เริ่มกลับมาแน่น รู้ดีว่าไอ้พี่ตุลย์ไม่กล้าทำอะไรผมหรอก อิอิ


           “นี่ อื้ม...หลังจากซื้อของเสร็จ ผมขอตัดผมด้วยได้ไหมอะ?” ผมถามพี่ตุลย์ขณะที่เราทั้งคู่เดินออกมาจากโซนของเด็กเล็กซึ่งเป็นของอย่างสุดท้ายในรายการที่ต้องซื้อ

           “ได้ ทำไมจะไม่ได้ละ?”

           “งั้น เดี๋ยวพี่ช่วยขับรถไปส่งผมที่ร้านหน่อยนะ เดี๋ยวผมจะบอกทางให้”

           “ทำไมไม่ทำที่ห้างฯ เลยละ ชั้นล่างก็มีร้านตัดผมอยู่” พี่ตุลย์เลิกคิ้วถามขณะที่เข็นรถเข้าช่องจ่ายเงิน

           “ตัดผมที่ห้างฯ แพงจะตาย ไปตัดข้างนอกดีกว่า ถูกกว่า” ผมว่าพลางเดินไปอีกด้านหนึ่งเพื่อรอนำของที่บรรจุใส่ถุงขึ้นรถเข็น

           “ขับไปก็เสียค่าน้ำมันรถอยู่ดี ตัดที่นี่แหละ จะได้ไม่ต้องขับรถย้อนไปย้อนมา”

           “แต่ผมเอาเงินมาไม่พอร้านที่นี่หรอกนะ”

           “เงินฉันไง”

           “ไม่เอาอะ”

           “ทั้งหมด 1,359 บาทค่ะ”

           “นี่ครับ” พี่ตุลย์ควักแบงค์สีเทากับสีม่วงอย่างละใบให้กับแคชเชียร์สาวก่อนจะหันมาคุยกับผมต่อ “ฉันเป็นคนที่จะพานายไปร้านอยู่ดี เพราะงั้นเอาตามที่ฉันพูดเนี่ยแหละ ไม่อยากขับรถไปขับรถมา”

           ผมจิ๊ปาก “อยากเสียเงินจ่ายตังให้ผมก็แล้วแต่ ผมจะได้เก็บเงินเอันน้อยนิดของผมไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นต่อ” ว่าแล้วก็รีบหยิบถุงอื่นๆ ใส่รถเข็น เดินนำหน้าแบบไม่มีรออีกฝ่าย ขณะที่ผมกำลังจะไปถึงบันไดเลื่อนก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีมือใหญ่วางแหมะลงบนหัว

           “อะไร?”

           “อะไร? ผมต้องถามพี่มากกว่า ว่าอะไร จับหัวผมทำไม?”

           “โกรธที่ไม่ได้ไปตัดผมร้านประจำหรอไง? เดี๋ยวฉันขับไปให้ก็ได้”

           ผมมองหน้าไอ้ตุลย์ หนีบมือที่วางอยู่บนหัวออก “ไม่ได้โกรธ” โอ้โห โทนเสียงมึงนี่อย่างสูง “ผมไม่ใช่คนเอาแต่ใจขนาดนั้นปะ จริงๆ ผมตัดผมที่ไหนก็ได้ไม่ได้ยึดติดหรอก แต่ตัดที่ห้างฯ ผมก็มีเงินไม่พอไง”

           “ก็ใช้เงินฉันไง”

           “นั่นแหละ” ผมถอนหายใจลากยาว ขยี้หัวตัวเองระบายอารมณ์ “มันแค่รู้สึกน่าหงุดหงิดตัวเอง ว่าทำไมผมต้องมาสร้างภาระให้พี่ด้วยวะก็แค่นั้น เรื่องตัดผมมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ประมาณของฟุ่มเฟือย ผมก็ไม่ควรรบกวนใครใช่ไหมละ?”

           “...”

           “...”


           เวรกรรม อยู่ดีๆ ผมรู้สึกว่าบรรยากาศมันชวนอึดอัดแปลกๆ ขึ้นมาซะงั้น เลยรีบบอกปัดหันไปเข็นรถลงบันไดเลื่อนทางลาด


            อุตสาห์ได้มาเดินซื้อของด้วยกันแท้ๆ ไอ้พี่ตุลย์ก็มีเรื่องไม่สบายใจ ผมก็ควรจะสร้างบรรยากาศให้มันผ่อนคลายๆ ดิวะ!


           “นี่ เอส”

           “หื้ม?” ผมเหลียวหลังกลับไปมองคนที่ลงบันไดเลื่อนตามมา

           “ฉันเข้าใจความรู้สึกนายนะ แต่นายเป็นครอบครัวฉัน แล้วฉันก็เป็นหัวหน้าครอบครัว”

           “หะ?” ผมขมวดคิ้ว

           “ฉันน่ะ ทำงาน มีเงินเดือนแล้ว แต่นายไม่ใช่แบบนั้นเอส นายควรจะพึ่งฉันให้มากกว่านี้ ถ้าไม่งั้นฉันก้คงรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ได้เรื่อง”


           ผมอึ้งกับน้ำเสียงของพี่ตุลย์ ทั้งๆ ที่ผมคิดว่าเรื่องที่เราพูดกันอยู่ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องไปจริงจังขนาดนั้น แต่พี่ตุลย์ก็ยังใส่ใจในความคิดของผม ยังจริงจังกับความรู้สึกแบบวัยรุ่นของผมเอง


           ไอ้พี่ตุลย์ไม่ใช่คนหวานครับ เอสรู้ โลกรู้ แต่พี่เขาเป็นคนใส่ใจ และถ้าเรื่องที่ใส่ใจเป็นเรื่องของผมนะ


           ...


           อ๊าก! ผมโคตรดีใจ โคตรเขิน...โคตรมีความสุขอะ!


           “ไม่จริงสักหน่อย พี่เป็นผู้ใหญ่ที่ดี” ผมเอื้อมมือไปดึงอีกฝ่ายให้ลงมาอยู่ในระดับเดียวกัน “แต่ผมแค่ไม่อยากให้พี่ลำบากก็แค่นั้นเอง หวังดีนะเนี่ย” ว่าแล้วก็ตวัดแขนกอดคอ

           “ฉันก็ไม่อยากให้นายลำบาก คนของฉัน ฉันเลี้ยงได้”

           “...” ผมยิ้มกว้างมองเสี้ยวหน้าด้านของของคนที่อยู่ในวงแขน “น่ารักจังเลยอ่ะ~ ขอจูบที” ว่าแล้วก็โน้มประกบปากจูบไปทีนึงก่อนจะรีบผละออก

           “...นี่มันที่สาธารณะนะ” พี่ตุลย์พูดลอดไรฟัน เป็นจังหวะเดี๋ยวกับที่เราทั้งสองคนและรถเข็นก็มาถึงชั้นล่าง

           “ก็ใช่น่ะสิ เพราะงั้น...รีบโกยสิครับ!~” ไม่ขาดคำ ผมนี่คว้าพี่ตุลย์ชิ่งด้วยความเร็วแสง แทบจะทุบสถิติโลก คิดว่าอย่างไอ้เอสที่กว่าจะทำใจว่าชอบผู้ชายได้ จะทำอะไรประเจิดประเจ้ออย่างนั้นหรอ ไม่มีท๊างง! นี่คิดไว้แล้วว่าจูบเสร็จก็จะชิ่งเลยกะไม่ให้ใครเห็นหน้า ให้เสียดายความหล่อของผมเล่นครับ อิอิ

           “นายนี่มัน...สร้างเรื่องให้ตั้งแต่วันแรกที่เจอจนถึงวันนี้เลยนะ”

           “สีสันชีวิตหน่า ใช่ว่าจะได้เจอกันง่ายๆ นะคร๊าบ~”


           พี่ตุลย์เสมองผมเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจเสียงดังจงใจให้ผมได้ยิน แต่ผมก็ไม่สนอะ ลอยหน้าลอยตา ชมนก ชมไม้ไปเรื่อย


           “เฮ้อ ปะ ไปตัดผมได้แล้ว”

           “คร๊าบบ เออใช่ ผมยังไม่ค่อยโอเคกับที่ต้องใช้เงินพี่หรอกนะ เดี๋ยวจะใช้คืนให้”

           “บอกว่าไม่ต้องไง”

           “ใครบอกจะใช้คืนเป็นเงิน พี่ก็ ผมนะเอสคนจร เงินไม่มี ให้ แต่ ‘เอา’ ตัวไปได้นะ รู้ยัง~”

















           “อึก...อื้ม...ใจเย็นๆ อืออ ใจเย็นๆ ก่อน!” ผมพูดเสียงห้วน พลางใช้มือดันอกคนที่คร่อมตัวผมอยู่ แต่อีกฝ่ายก็ดูเหมือนหูตาจะฝ้าฟางขึ้นมา ไม่หือ ไม่อือ ไม่สนใจอะไรผมทั้งนั้นอะ แม่งจะจูบลูกเดียว


           อยู่ในโหมดผลิตลูกแล้วหรือไงฟะ! มีแล้วสองคนยังไม่พอช้ะ!?


           “ไอ้พี่ตุลย์! อุ๊บ!...อื้มมม...” ผมพยายามจะดิ้นหนีแล้วนะจริงๆ แต่ต้องเข้าใจนะครับว่า ‘เบาะหลัง’ มันแคบ จะถีบก็กลัวจะหมดอารมณ์แล้วพาลไม่ได้ทำ ดันแม่งก็ไม่ออก ตัวสูงเท่ากันไม่ช่วยอะไร เมื่อไอ้พี่ตุลย์แม่งตัวหนากว่า ประมาณว่าช้างแมมมอธกับจิ้งเหลน “ไอ้พี่ตุลย์ พอก่อน!”

           “อะไร? ตัดผมก็ตัดไปแล้ว จะใช้หนี้ฉันไม่ใช่หรอไง”

           “เออ ก็ไม่ได้จะบอกว่าไม่ใช่นี่ แต่ก่อนอื่น พี่ช่วยเข้ามาในรถดีๆ แล้วปิดประตูรถก่อนได้ไหมละ!”


           เอ้าระหว่างรอไอ้พี่ตุลย์ จัดท่าจัดทาง ปิดประตูรถดีๆ ผมจะเล่าเรื่องย้อนกลับไปห้านาทีก่อนหน้านี้ คือซื้อของเสร็จแล้ว ตัดผมเสร็จแล้ว เอาของไปเก็บที่หลังรถ แต่มันก็มีบางส่วนที่ต้องเอามาไว้เบาะหลัง พอสอดตัวเข้ามาเบาะหลัง เอาของไว้ข้างล่างปุ๊บ โดนไอ้พี่ตุลย์ผลักปั๊บ รู้ตัวอีกที คือนอนอยู่ที่เบาะ มีไอ้พี่ตุลย์คร่อมไล่จูบอยู่ แถมประตูรถแม่งก็ไม่ปิด!


           นี่ไม่ได้อายอะไรหรอกนะครับ แต่กลัวว่าคนอื่นจะมาเห็นมังกรของผม แล้วจะกลับไปน้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง อิอิ


           “ปิดแล้ว มาต่อ”


           ผ่าง! หมดเวลาฮา เข้าสู่เวลาเฉือด TT


           “เดี๋ยวก่อน! จะทำในรถจริงดิ คือคนข้างนอกจะเห็นปะ?” อันนี้จริงจังนะครับ อยู่ร่วมโลกกันก็ต้องเกรงใจซึ่งกันและกัน เห็นรถสั่น อะ อาจจะทำอย่างอื่น แต่ถ้าเห็นภาพเคลื่อนไหวนี่ บัดสีบัดเถลิง ถึงจะเห็นผม นายเอสสัญจรนอนดึกเป็นแบบนี้ แต่ก็ยังมีสมบัติผู้ดีติดตัวมาจากชาติก่อนอยู่บ้างนะคร๊าบบ

           “ไม่เห็นหรอก ติดฟิล์มดำแล้ว”

           “ไปติดมาตอนไหน?”

           “ตอนที่ไปรับหน้าตึกคณะ แล้วนายไม่กล้สขึ้นรถเพราะกลัวโดนด่าเป็นลูกแหงอะไรนั่นไง ไล่ให้ฉันไปติดฟิล์มดำเองแท้ๆ”

           “หรอ ไม่ได้สังเกตเลยอะ”

           “ไม่ต้องเปลี่ยนประเด็น พูดเองว่าจะใช้คืน ถ้างั้นก็เอาให้คุ้มเงินที่เสียไปหน่อยสิ” พี่ตุลย์ว่าพร้อมยิ้มร้าย โอ้โห นี่มันกระตุกหนวดเสือชัดๆ

           “ติดฟิล์มดำแล้ว คราวหน้าไปยกหลังคาให้สูงๆ หน่อยนะ แคบๆ แบบนี้ผม ‘ควบ’ เองไม่ได้” ทำมาทำกลับไม่โกงครับผม

           “ทำมาพูดดี จากที่ดูๆ มาแล้ว นายยังทำท่านั้นไม่ได้หรอก”

           “โอ้โห ขึ้นเลย ขึ้น มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นปะครับ ตูดผมอะซิง โดนพี่ชิงไปคนแรก แล้วเพิ่งจะเคยมีอะไรกันไปสองครั้งเอง นี่ครั้งที่สามจะให้ผมเชี่ยวมันก็ไม่ใช่ละ ลองมาอยู่ล่างบ้างดิ เดี๋ยวรู้เลย ว่า ผมไม่เล็กนะครับ ช่างแอร์ในตำนานมาเอง หึหึหึ”


           พี่ตุลย์มองหน้าผมก่อนจะถอนหายใจ ก่อนจะดึงต้นแขนผมให้ลุกขึ้นนั่ง จัดท่าจัดทางรู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นว่านั่งหันหลังให้ไอ้พี่ตุลย์ซะงั้น


           “อะไรอะ? หมด’รมณ์?”

           “เปล่า วันนี้จะสอนท่าใหม่ให้” เสียงทุ้มกระซิบข้างหู ก่อนจะรู้สึกถึงสัมผัสนิ่มแตะเบาๆ ที่หลังคอ ก่อนจะลามมายังแก้ม จนสุดท้ายก็โดนจับคางให้ไปรับจุมพิศอีกรอบ

           “อื้ม...” ผมทิ้งแขนลงข้างตัว มีเพียงแค่ลิ้นกับริมฝีปากที่ขยับรับกับอารมณ์ที่อีกฝ่ายส่งมา ภายในรถแคบๆ มีแต่เสียงจูบและครางฮึ่มด้วยความพอใจ ความร้อนที่แผ่ซ่านจากกายของเราทั้งคู่ ค่อยๆ พุ่งลงสู่ร่างกายเบื้องหลังให้พองขยาย คับแน่นกางเกง

           “ยกมือขึ้นหน่อย”


           ผมยกมือทั้งสองขึ้นอย่างว่าง่าย ให้พี่ตุลย์ถอดเสื้อยืดที่ผมใส่อยู่ ไม่ทันที่เสื้อจะได้หลุดพ้นข้อมือไปดี ปากที่ซุกซนอยู่กับปากของผมเมื่อครู่ ก็แตะลงมาเบาๆ ที่แผ่นหลัง เพราะตอนนี้ผมยังอยู่ในท่าหันหลังให้อีกฝ่าย ผมเลยไม่เห็นหน้าพี่ตุลย์เลย สิ่งเดียวที่รู้สึกคือ จูบที่ซุกซนไปทั่วแผ่นหลัง


           “อึก...”

           “ผอมลงอีกแล้วหรือเปล่าเนี่ย?”

           “อือ...หุ่นนายแบบต่างหาก...อิจฉาหรองะ...อ๊า!” ผมตะครุบปากตัวเองแทบจะทันที ตัวสั่นระริกขึ้นเพียงเพราะสัมผัสเพียงนิ้วเดียวที่ไล่ไปตามกระดูกสันหลังมาจนถึงบั้นสะโพก

           “หื้ม? จุดอ่อนไหวหรอเนี่ย?”

           “จะไปรู้ได้ไงเล่า!” ผมพูดเสียงเฉียว สลัดเสื้อที่ยังติดอยู่ที่ข้อมือออกก่อนที่พี่ตุลย์จะจับแขนผมทั้งสองข้างให้เท้ากับกระจกรถเอาไว้

           “ไหน ขอสำรวจหน่อย ว่ายังมีที่อื่นอีกหรือเปล่า” พูดไม่ทันขาดคำ มือของอีกฝ่ายก็เริ่มเลื้อยมาด้านหน้าที่เปลือยเปล่า จับคลึงที่ยอดอกทั้งสองข้างของผมพร้อมกับริมฝีปากที่ขบเม้มสลับลิ้นเลียไปทั่วใบหูและลำคอ

           “ฮ๊า...ฮ๊า...อื้อ!...” ผมหอบหายใจระบายความเสียวซ่าน ตั้งท่าจะผละมือออกจากกระจกมาปลดกางเกงยีนส์ที่ใส่อยู่ แต่เหมือนพี่ตุลย์จะรู้ใจมากกว่า มือที่เคยทั้งบดทั้งคลึงยอดอกของผมเมื่อครู่จึงเลื่อนลงมาปลดซิปกางเกงลง เผยบ็อกเซอร์ที่นูนเด่นออกมาเพราะแก่นกายที่ขยายเต็มรูป แต่อะไรคงไม่น่าอายเท่ากับจุดๆ หนึ่งของบ็อกเซอร์เปียกชุ่มไปแสดงออกอย่างโผงผางว่าการถูกเล้าโลม เป็นเบื้องล่างราวกับเป็นผู้หญิงนี้ทำให้ผมมีอารมณ์มากแค่ไหน!

           “นายเปียก...” ไม่พูดเปล่า มือที่รูดซิปกางเกงยีนส์ให้เมื่อครู่ล้วงเข้าไปในบ็อกเซอร์จับส่วนอ่อนไหวที่นูนออกมา

           “หยุดพูดหน่า...อ๊ะ!” ผมสะดุ้งเมื่อปลายนิ้วของพี่ตุลย์เขี่ยที่ส่วนปลายของลำแท่ง ตวัดสายตามองคนที่อยู่ด้านหลัง อยากจะต่อว่าทำปากเก่งเหมือนเช่นเคย แต่สิ่งที่ออกมาจากปากผมกลับมีแต่เสียงหอบกระเส่า

           “อึก...นี่จะไม่ปล่อยฟีโรโมนมากไปหน่อยหรอเอส!” พี่ตุลย์ว่าเสียงเข้ม ดึงเอวและกดไหล่ผมไปพร้อมๆ กัน รู้ตัวอีกทีจากที่นั่งหันหลังให้ ก็กลายเป็นอยู่ในท่าคลาน ‘ท่าใหม่’ ที่อีกฝ่ายบอกว่าจะสอนให้!


           และผมจะไม่รู้สึกอายเท่านี้เลย ถ้าไม่ใช่ว่าความมือเร็วของพี่ตุลย์ดึงร่นกางเกงยีนส์และบ็อกเซอร์ผมไปกองอยู่ที่เข่า! โชว์เรือนร่างด้านหลังที่ไร้ซึ่งอาภรณ์ใดปกปิด ท่าที่ผมไม่คุ้นเคยทำให้รู้สึกเขินอายอย่างประหลาด แต่ในขณะเดียวกันก็ตื่นเต้นกับสิ่งที่จะได้เจอต่อไป


           “ฉันก็ไม่คิดหรอกนะ ว่าวันนึงตัวเองจะได้พูดคำนี้...แต่ท่านี้มุมสวยดีนะ”


           พรึ่บ!


           “ตาแก่หื่น” ผมเฮ้วตวัดมือปิดเต้ารับที่ผมมี

           “หึ? ตาแก่หื่นงั้นหรอ?” ผมเหลียวมองด้านหลังด้วยความรู้สึกไม่ปลอดภัย เห็นแววตากับรอยยิ้มร้ายของอีกฝ่ายแทบจะเปิดประตูรถด้านหน้าแล้วพุ่งหนีให้รู้แล้วรู้รอด แต่ดูเหมือนว่าความคิดนี้จะช้าไป อย่างน้อยก็ช้ากว่ามือของไอ้พี่ตุลย์ที่ปัดมือของผมออก ดันนิ้วกลางเข้ามาในช่องทางคับแคบ!

           “อึก!...อือ!...มัน...เจ็บอะ”

           “อดทนหน่อยนะ ฉันจะปลุกด้านหน้าให้” ว่าแล้วพี่ตุลย์ก็ยื่นมือมาจับส่วนอ่อนไหวด้านหน้าที่ยังคงแข็งขืด ใช้ปลายนิ้วสะกิดส่วนปลาย คลึงเรียกน้ำใสให้ไหลออกมาเคลือบลำแท่งจนเปียกชุ่ม ผมร้องครางด้วยความเสียว ฟุบหน้าลงไปกับเบาะรถ แอ่นสะโพกให้อีกฝ่ายอย่างเต็มที ผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆ ผ่อนคลายให้มากที่สุดเพื่อนิ้วที่พี่ตุลย์กำลังดันเข้ามา


           เมื่อนิ้วแรกเบิกทางได้ ก็ไม่ใช่ปัญหากับนิ้วต่อๆ ไป


           “อือ...อือ...อ๊ะ! อ๊าาา!” ผมผวาจิกเบาะรถแน่น ท่านี้ทำให้ผมมองไม่เห็นอะไรเลย จดจ่ออยู่เพียงความรู้สึกที่พี่ตุลย์มอบให้ ทั้งสองนิ้วที่เข้ามาอย่างกระทันหัและขาที่สั่นเทาแทบจะทรงตัวไม่อยู่

           “ตอนนี้รู้สึกดีหรือรู้สึกเจ็บ?”

           “...อะ...อื้ออ...อ….ทั้ง...ทั้งสอง” ผมตอบเสียงกระเส่า หัวใจกระตุกวูบทุกครั้งที่นิ้วที่คว้านอยู่โดนจุดเสียวในร่างกาย และเหมือนอีกฝ่ายก็จะรู้ดี เล่นกดย้ำๆ ให้เสียวจนแทบคิดอะไรไม่ออก นอกจากส่งเสียงครางฮึ่มจนผมต้องใช้มือปิดปากเอาไว้

           “จะเอามือปิดปากทำไมเนี่ย ขอฟังเสียงหน่อย” พี่ตุลย์โน้มตัวมากระซิบข้างหู พร้อมกับมืออีกข้างจับมือที่ปิดปากอยู่ออก แต่ผมก็ขืนเอาไว้ไม่ยอมง่ายๆ!

           “ไม่เอา!”

           “ทำไม? ไม่ต้องกังวลหรอกหน่า ไม่มีใครได้ยินหรอก”

          “พี่ได้ยินนั่นแหละ ที่ทำให้ผมอายที่สุดแล้ว!”

           “…!”


           หมับ


           “เฮ้ย!”


           ตึง!


           “แต่ฉันจะฟัง”

           “ปล่อยดิ นี่มันไม่แฟร์อะ!” ผมขยับข้อมือททั้งสองข้างให้หลุดจากการถูกตรึงไว้ด้วยมือข้างเดียวของอีกฝ่าย แต่ในขณะที่ผมกำลังสนใจข้อมือที่ถูกรวบยึดไว้ กว่าจะรู้สึกว่ามีอะไรดุนๆ อยู่ปากทางเข้า ก็เป็นตอนที่พี่ตุลย์กระแทกสะโพกดันแกนกายของตนเข้ามาในร่างของผมเสียแล้ว!

           “อึก...อื้อ!!”

           “ยังอั้นไว้อีก ให้ฉันได้ยินหน่อยเถอะหน่า”

           “บอกว่า อืออ...! มมมม ไม่ ไม่เอาไง!”

           “ดื้อเอ๊ย”


           จุ๊บ...


           “หะ?” ผมเอี้ยวตัวมองคนที่โน้มตัวมาหอมแก้มผมอย่างงงๆ รสจูบอ่อนโยนที่ไม่มีที่มาที่ไปค่อยๆ ไต่ขึ้นไปตามกรอบหน้ามาจนถึงหัวคิ้ว “อะไรของ...”


           สวบ!


           “อ๊าาา!!..อือ...อะ ไอ้พี่ตุลย์! อ๊า!”

           “เสียงก็ดีนี่” พี่ตุลย์พูดด้วยน้ำเสียงชอบอกชอบใจ ทั้งรสจูบที่แผ่นหลัง และแรงกระแทกกระทั้น ทำให้ผมหลุดครางออกมาอย่างห้ามไม่ไหว จะปิดปากก็ไม่ได้เพราะมือที่ยังถูกตรึง ต้องฟังเสียงของตัวเองบรรเลงไปพร้อมกับเสียงครางฮึ่มทุ้มต่ำของอีกฝ่าย เสียงเนื้อกระทบเนื้อ และเสียงแอะแฉะจากการสอดสาทางด้านหลัง ทุกเสียง ทุกอย่างล้วนเร้าอารมณ์ความหฤหรรษ์ให้ค่อยๆ ดำเนินไปจนถึงสุดยอด

           “อือ..อ”

           “ฮ๊า...ฮ๊า...อะ อ๊าา! ตรงนั้น...” ผมหลุดออกมาในที่สุด ตอนนี้ช่างแม่งแล้วครับ ด้านได้อายอด! พอพี่ตุลย์รู้ว่าตรงไหนเป็นจุดที่ผมปราถนา เขาเองก็ไม่ลังเลที่จะดันส่วนแข็งขืนนั่นกระแทกกับจุดนั้นซ้ำไปซ้ำมา ยิ่งผมมีความปราถนามากเท่าไหร่ ส่วนอ่อนไหวนั่นก็ถูกบีบรัดมากเท่านั้น

           “เอส...” ความเร็วของสะโพกเริ่มเปลี่ยน ความเร็วความแรงที่กระแทกเข้ามาทำให้รู้ว่าอีกไม่นานพี่ตุลย์ก็คงจะถึงสุดทางอารมณ์ ผมบิดมือออกจากการจับยึดเอื้อมจับส่วนอ่อนไหวของตนรูดรั้งด้วยความเร็วที่เท่าๆ กัน

           “อะ...อื้อ...! พี่ตุลย์...ใกล้แล้วอะ”

           “อืม” พี่ตุลย์ครางฮึ่มในลำตอบกลับมา จับเอวไว้มั่นแล้วสวนสะโพกขึ้นไปพร้อมกับที่สวนสะโพกผมลง ความลึกที่มากกว่าปกติแทบทำให้ผมเข่าทรุด แต่พี่ตุลย์ก็ยังไม่หยุด ระบายความใคร่ของตัวเองใส่เรือนร่างของผมอย่างเต็มที่


           ความแรงมากขึ้น ความถี่กระชั้นชิด เสียงหอบหายใจผสานกับเสียงครางกระเส่า ความรุ่มร้อนดำเนินมาถึงจุดเดือดเช่นเดียวกับแรงอารมณ์ที่มาถึงปลายทางกลั่นน้ำหนืดสีขาวขุ่นหกเลอะเปรอะมือและแผ่นหลัง


           “โทษทีนะ ฉันไม่ได้ใส่ถุงยางก็เลยต้องเอาออกมาก่อน” พี่ตุลย์พูดขึ้นหลังจากที่เราทั้งสองพักจากกิจกรรมรัก เขาหยิบทิชชู่ที่มีอยู่บนรถมาเช็ดตัวผมที่นอนแผ่คว่ำหน้าอย่างหมดสภาพ


           พูดแบบ ฉ18+ เลยนะครับ ผมยังรู้สึกเหมือนกับตุลย์จูเนียร์อยู่ในตัวผมอยู่เลย


           “ทำที่รถนี่ไม่เอาแล้วได้เปล่า แคบอะขยับได้ไม่เยอะเท่าไหร่ แถมไม่นิ่มด้วย”

           “ไม่รับปาก เผื่อมีกรณีฉุกเฉินอีก” พี่ตุลย์ดึงบ็อกเซอร์และกางเกงยีนส์ที่กองอยู่ที่หัวเข่าของผมขึ้นมาพร้อมรูดซิปให้เรียบร้อย “ลุกขึ้นนั่งได้ไหม? จะใส่เสื้อให้”

           “ได้อยู่ แต่ต้องใจเย็นๆ” ผมตอบ ค่อยๆ ชันตัวเองขึ้นไม่ให้สะเทือนกับด้านหลังมากนัก ก่อนจะหยิบเสื้อยืดส่งให้พี่ตุลย์ ชูมือขึ้นให้อีกฝ่ายสวมให้ได้สะดวกๆ

           “...ผมทรงนี้”

           “หื้ม?”

           “เหมือนตอนที่ฉันเจอนายวันแรกเลย โดนอัดอยู่ซอกตึก ช่วยหนีแท้ๆ ก็เอาดิ้นแต่จะกลับไปสู้”

           “ฮ่าๆ ผมมันจำพวกไม่ชอบโดนหาเรื่อง สู้ไม่ไหว หรือเป็นผู้หญิงรู้ตัวอีกทีผมก็ตอกกลับไม่ลืมกูลืมตา”

           “ทั้งๆ ที่ตอนนั้นสภาพก็เละเทะแล้วแท้ๆ”

           “ก็วัยรุ่นอะ”

           “กลับมาคิดๆ ดูแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าฉันกับนายที่เจอกันสภาพนั้น จะอยู่ด้วยกันเหมือนตอนนี้”


           ผมเอนตัวพิงเบาะ มองเสี้ยวหน้าด้านของคนที่เคยเป็น ‘คนแปลกหน้าที่ยุ่งไม่เข้าเรื่อง’ ตอนนั้น ที่กลายมาเป็น ‘คนรัก’ ในตอนนี้


           “แล้วก็ได้มาเอาผมด้วย”

           “...เฮ้อ พูดอะไร หน้าไม่อายชะมัด”


           ผมหัวเราะก๊ากเสียงดังลั่นทันทีกับใบหน้าเบื่อหน่ายของพี่ตุลย์ ผมก็ไม่ได้อยากจะพูดอะไรขัดอารมณ์แบบนี้หรอกนะ แต่มันก็ช่วยไม่ได้ ที่คนบางคนเขาก็ทำตัวไม่ถูกกับฉากซึ้งๆ เอาเสียเลย ทั้งที่จริงผมน่ะ จำได้ทุกเรื่องตั้งแต่วันแรกที่เห็นหน้าจนถึงวินาทีก่อนหน้านี้ ไม่ขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่วินาทีเดียว


           ถึงผมไม่ได้หวานไม่ได้ซึ้ง แต่ผมคิดว่าเขาก็คงรู้ดีว่า สำหรับผม เขาน่ะ...เป็นคนสำคัญ


           “กลับบ้านเถอะ ป่านนี้ตอนต้น ที่หนึ่งรอแย่แล้วเนี่ย”

           “โอเค~ กลับบ้านกัน”
           







TBC
o<=< นอนแผ่นหน้าบทความ เป็นฉากที่เข็นยากอย่างเหลือเชื่อ เรื่องนี้คือใส เวอร์ ตอนที่ 35 มี NC สองตอน 55555555555
หายไปเกือบ 2 อาทิตย์แหนะ คิดถึงเค้าไหม ฮืออออออออออ อย่าเพิ่งลืมเค้า ลืมเอส ลืม #daddybelover เลยนะเตงง
เค้าพยายามมาเร็วที่สุดล้าวววววว~~~
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 21-10-2015 04:48:54
ร้อนฉ่าเลยฉากนี้ มาอีกบ่อยๆ นะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 21-10-2015 09:12:57
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 21-10-2015 09:38:10
อร้ายยยยอิพีตุลย์มุมหื่น มุมดาร์ค
จัดเด็กในรถซะด้วยยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 21-10-2015 10:19:44
จัดหน้กจัดเต็มมม เอส นั่งไหวป่ะลูก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: supizpiz ที่ 21-10-2015 11:31:48
ว้ายยย พี่ตุลย์เป็นตาแก่หื่นกามแหละ 555555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 21-10-2015 12:11:30
55555 กลับมาพร้องกับฉาก  :pighaun: ชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 21-10-2015 12:49:48
ขอค่าตัดผมคืนจากเอสไวเชียวนะคะพี่ตุลย์ :-[ ..
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 21-10-2015 12:54:44
อ่านจบแล้วก็นึกได้ว่าพี่ตุลย์ก็หื่นไม่เลือกสถานที่เช่นเดียวกันสินะ 55555555 #ตุลย์อินคาร์
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 21-10-2015 13:04:27
เชื่อแล้ว ว่าพี่ตุลย์ มีลูก สองคนจริงๆ พี่ตุลย์ แซ่บเว่อร์
หัวข้อ: Re: !!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 21-10-2015 13:19:50
อ่านตอนนี้แล้วบอกได้อย่างเดียว  "เลือดกระฉูด"  :pighaun:    :pighaun:

น้องเอสกับพี่ตุลย์ ร้อนแรงอ่ะ    :ling1:   :ling1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 21-10-2015 13:23:38
 :z1: :z1: :m25:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 21-10-2015 14:17:28
พี่ตุลนี่เห็นเงียบๆท่าเพียบนะครัชชชช
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 21-10-2015 17:51:27
 :hao6: :-[ :hao6: :jul1: :hao6: :-[ :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 21-10-2015 17:59:56
ร้อนแรงแบบสุดๆ
ในรถอ่ะ..เหนือคำบรรยาย >\\\\\\<
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 21-10-2015 18:16:01
ฟินเลย 5555
พี่ตุลย์เห็นเงียบๆ แต่ท่าเยอะนะ 555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 21-10-2015 20:29:06
อีพี่ตุลย์ แบบ อย่ามองแต่ภายนอกนะ 555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 21-10-2015 22:24:17
พี่ตุลย์โหมด ... หื่นมาก
น้องเอสจะไหวไหมเนี่ย ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 21-10-2015 22:50:23
 :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 21-10-2015 23:39:55
พี่ตุลย์เนี่ยยย เห็นนิ่งๆก็ร้ายเหมือนกันนะตะเองงง~
จะว่าไปร้ายไม่ร้ายก็ลูก2อะเนอะ 55555
ร้อนแรงเหลือเกินนนนน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 21-10-2015 23:56:15
"ท่านี้มุมสวยดีนะ"
 :oo1: :oo1: :oo1:
 :haun4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: NuTonKaw ที่ 22-10-2015 01:03:52
ค่าตัดผมเอาซะคุ้มเชียวนะพี่ :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: GMJeam ที่ 22-10-2015 07:43:14
เอสเขิน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 22-10-2015 09:19:31
แหม่...อยากเห็นเอสทำบ้างจัง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 22-10-2015 15:24:12
อ่าาาาาา ช่างร้อนแรง ขอตายแป๊บบบบ :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 22-10-2015 15:38:54
แม่ของลูกชายพี่ตุลย์แย่มาก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 23-10-2015 00:21:57
รอได้จ้า นานแค่ไหนก็รอ อิอิ
ตายอย่างฟิน เพิ่งรู้ว่าลุงตุลย์ก็หื่นใช่ย่อย
ตอนต้นรอแย่แล้ว555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 23-10-2015 12:30:39
ร้อนแรงมากกกกกกกกกกกก :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 23-10-2015 14:00:12
พี่ตุลย์เห็นเงียบๆแบบนี้แต่จริงๆไม่ธรรดานะครัช
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 25-10-2015 01:46:30
พี่ตุลย์ร้อนแรงดั่งภูเขาไฟ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 29-10-2015 14:18:05
สนุกมากอ่ะ ตามอ่านจนทันแล้ว
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: กวังกีเมย์บี ที่ 29-10-2015 21:45:33
 :m10: :m10:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 31-10-2015 17:50:13
คิดถุง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 01-11-2015 23:34:10
คิดถึง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 04-11-2015 22:23:51
เจอช็อตหวานตอน35เข้าไป ตายสนิทจ้ะ... :jul1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 04-11-2015 23:55:28
พี่ตุลย์ดูอ่อนโยนขึ้นเนอะ  :hao5:
เอสก็เป็นเด็กดีนะน้อง อย่าดื้อมาก :hao3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 07-11-2015 14:17:30
 :o8: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 35 (21/10/58)
เริ่มหัวข้อโดย: snpmrth ที่ 07-11-2015 18:05:39
คิดถึงเอสคิดถึงพี่ตุลคิดถึงตอนต้นที่หนึ่งจังเลยค่ะ
 :o12:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 12-11-2015 04:44:55
ตอนที่ 36


                  “ที่หนึ่งจะมานอนค้างบ้านฟ้าไม่ได้นะคะ!” หญิงสาวแผดเสียงหลังจากที่ได้ยินสิ่งที่ผู้ชายตรงหน้าพูด ซึ่งก็ไม่ใช่ปฏิกิริยาที่ผิดคาดสักเท่าไหร่นัก

                  “ทำไมละ?” ทั้งๆ ที่เขามีคำตอบที่อยู่ในใจอยู่แล้ว ก็เลือกที่จะถามไล่ต้อน

                  “ฟ้า คือ...ฟ้าไม่สะดวก บ้านฟ้าไม่มีอะไรหรอก ไม่มีของเล่น ไม่มีเกมอะไรพวกนี้เลย พี่ไปบอกที่หนึ่งให้หน่อยแล้วกัน ว่าถ้าอยากนอนด้วยกัน เดี๋ยวฟ้าจะไปนอนด้วยที่คอนโดฯ พี่เอง”

                  “ก็บอกเองสิ”

                  “ก็ฟ้าเพิ่งเรียกพี่เพื่อจะมาบอกว่าฟ้าไปคอนโดฯ พี่ไม่ได้สักพักนี่ไง!” เธอเริ่มฉุนเฉียว แต่ด้วยวุฒิภาวะ และสถานที่ก็ทำให้เธอเก็บสีหน้าและน้ำเสียงได้ดีเยี่ยม พอๆ กับอีกคนที่หงุดหงิดตั้งแต่ต้องเดินเข้ามาในร้านของผู้หญิงคนนี้แล้ว

                  “แล้วถ้าลูกถามว่าทำไม พี่จะตอบว่ายังไง?”

                  “ก็บอกไป ว่าเดี๋ยวฟ้าจะไปนอนค้างที่ห้องเขาเอง”

                  “แล้วถ้าที่หนึ่งถามอีกว่าทำไม พี่จะตอบว่ายังไง?”

                  “ก็บอกว่าบ้านของฟ้า ไม่มิอะไรน่าสนใจ ไม่มีของเล่น ไม่มีเกม น่าเบื่อจะตายไป”

                  “แล้วถ้าเขายังยืนยันว่าไม่เป็นไร แล้วจะไปค้างด้วยละ?” ตุลย์ถามจี้ เขารู้สึกหงุดหงิดกับความรู้สึกที่ว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้เลยหรอ ว่าที่หนึ่งต้องการอะไร! ดูไม่ออกเลยใช่ไหม ว่าสิ่งที่เด็กคนนั้นเรียกหา คือ ‘แม่’ ไม่ใช่ของเล่น!?

                  “โอ๊ย พี่ก็พูดๆ อะไปก็ได้ พูดไปเถอะ แต่เขามานอนบ้านฟ้าไม่ได้เข้าใจไหม!” เธอพูดเสียงห้วน ตั้งท่าจะลุกหนีเป็นการตัดจบบทสนทนาแต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินคำพูดเสียดแทงจากปากของอดีตคนรัก

                  “ให้พี่บอกลูกให้ไหมละ ว่าไปบ้านแม่ไม่ได้ เพราะว่าที่นั่นมี ‘ผู้ชาย’ ของแม่อยู่”

                  “!”

                  “ถ้าให้พี่เดาต่อ ผู้ชายคนนั้นเขาคงไม่ชอบใจเท่าไหร่ใช่ไหมละ ที่ฟ้ามาหาลูก ที่คอนโดฯ พี่จนกลับดึกแทบทุกวัน เพราะว่าแย่งจากคนอื่น ก็เลยกลัวพี่จะแย่งเมียตัวเองกลับไปอย่างนี้หรอ? เหอะ ก็คิดได้ว่าฟ้ามีค่าขนาดนั้น”


                  เธอหันขวับมองอย่างโกรธเกรี้ยว หน้าชาราวกับโดนตบ ยิ่งเห็นสายตาที่มองว่าเธอไร้ค่าก็ยิ่งทำให้โกรธจนมือแทบสั่น!   


                  “พูดแบบนี้กำลังร้อนตัวอะไรหรือเปล่า? หวั่นไหวกับฟ้าอีกรอบ จนต้องกล่อมตัวเองอยู่หรอไง?” เธอยิ้มทั้งๆ ที่ดูไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่เขารู้ดีว่านั่นคือการเยาะเย้ย

                  “อย่าเลย หลงผิดมาสามครั้งก็มากพอแล้ว ให้พี่ได้เจอของดีๆ บ้างเถอะ” เสียงทุ้มพูดขึ้นพร้อมกับที่ร่างสูงใหญ่ของตุลย์ลุกขึ้นยืน เขาวางเงินเท่ากับราคาของเครื่องดื่มที่เขายังไม่ได้แตะต้องลงบนโต๊ะ มองหน้าของอดีตคนรักที่ตอนนี้เป็นยิ่งกว่าคนแปลกหน้า “เอาเป็นว่า จะไปบอกที่หนึ่งให้ก็แล้วกัน ถ้าคราวหน้ามาหาลูก แล้วลูกถามก็หาคำตอบเอาไว้ให้ดีๆ ก็แล้วกันคุณผู้หญิง”


                  กริ๊ง~


                  “ขอบคุณค่ะ”


                  แผ่นหลังของตุลย์ค่อยๆ ห่างเธอออกไป แต่ความโกรธเกรี้ยวมิได้จางลงตามเลยแม้แต่น้อย เธอโมโหกับคำพูด ท่าทาง น้ำเสียง สายตาทุกๆ อย่างของผู้ชายคนนั้นที่ทำกับเธอ! อยากจะพูดจาแรงๆ ตอกหน้าอีกฝ่ายกลับไปให้หงาย แต่ผู้ชายคนนั้นกลับเลือกที่จะเดินออกไปก่อนที่เธอจะได้ระบายอารมณ์! 


                  ตึง!


                  เธอทิ้งตัวนั่งกระแทกเก้าอี้อย่างแรง!


                  “ผู้ชายอะไร แย่ที่สุด!”

















                  ทันทีที่ก้าวมาถึงบันไดชั้นล่าง ความรู้สึกกดดันก็ค่อยๆ ไหลออกจากบ่า ตุลย์ถอนหายใจพลางเสยผมของตัวเองลวกๆ ตอนนี้เขานึกขอบคุณอาชีพพนักงานขายที่ต้องเชื่อมต่อกับบุคคลภายนอกของตัวเองมาก ที่ทำให้เขาใจเย็นและระงับอารมณ์ได้ดีขนาดนี้ แต่ในขณะเดียวกันเขาทึ่งกับตัวเองเช่นกันที่สามารถพูดกับผู้หญิงคนหนึ่งได้อย่างแสบทรวง


                  แต่เธอต้องนึกดีใจนะ ที่สามารถเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขารู้สึกชิงชังได้


                  ปึก!


                  “ขอโทษครับ / อะ ขอโทษที” เสียงสองเสียงดังขึ้นพร้อมกับที่ต่างฝ่ายต่างได้มองหน้ากันและกันเพียงเสี้ยววินาที ตุลย์นึกแปลกใจเล็กน้อยที่อีกฝ่ายมองเขม็งจนเสียมารยาท แต่สุดท้ายเขาก็ปล่อยผ่าน ทำเพียงพูดขอโทษอีกครั้งแล้วเดินไปตามเส้นทางของตัวเอง

                  “นั่นมัน...”


                  โดยที่เขาไม่รู้เลยว่า ผู้ชายที่เขาชนด้วยนั้น เป็นคนที่เขาครั้งหนึ่ง เขานึกอยากจะลองเจอหน้า!

















                  กริ๊ง~


                  “ยินดีต้อนรับค่ะ” เสียงพนักงานสาวเอ่ยขึ้นพร้อมกัน เขาทักทายคนเหล่านั้นอย่างสนิทสนมก่อนตรงไปยังผู้จัดการของร้านที่กำลังหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่ไม่ห่างออกไป

                  “ฟ้า”

                  “อ้าว พี่วี ไหนบอกจะมาตอนเย็นๆ ไงคะ นี่เพิ่งจะบ่ายสองเอง”

                  “พอดีงานเสร็จเร็ว ก็เลยตั้งใจว่าจะมาอะไรดื่ม แล้วก็นั่งรอฟ้ากลับพร้อมกันเลย” ‘วี’ สามีของหญิงสาวตอบก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้าม


                  อุ่น...เหมือนเพิ่งมีใครนั่งมา


                  “อ๋อ ถ้างั้นพี่อยากกินอะไร? เดี๋ยวฟ้าไปทำมาให้” เธอลุก ตั้งท่าจะไปทำเครื่องดื่มให้คนรักอย่างที่เสนอตัว

                  “...เมื่อกี้พี่เจอ ผู้ชายคนนั้น”

                  “คะ?”

                  “ตุลย์...มันมาทำไมที่นี่? มาหาฟ้าหรอ? มาคุยเรื่องอะไรกัน?” แม้จะเป็นน้ำเสียงราบเรียบไม่มีการกระโชกโฮกฮากแต่อย่างใด แต่สายตาที่เขาจ้องมองภรรยาของตนนั้นกลับเหมือนคนตะคอกและช่างดูคาดคั้น

                  “อะไรของพี่? ฟ้าไม่ได้เรียกเขามาคุยอะไรส่วนตัวหรอกค่ะ  ฟ้าแค่เรียกเขามาบอกว่าฟ้าคงไปหาลูกไม่ได้สักพัก ก็พี่เป็นคนห้ามฟ้าไม่ให้ไปหาลูกเอง ให้ตายเถอะ พูดขึ้นมาแล้วฟ้าก็อยากรู้ พี่ห้ามฟ้าไม่ให้ไปหาลูกทำไม? พี่รู้ไหมว่าฟ้าอยากเจอเขา อยากอยู่กับเขามากแค่ไหน! หรือที่พี่ไม่อยากให้ฟ้าไปหาลูก ก็เพราะว่าถ้าไปหาลูก ฟ้าก็ต้องเจอพี่ตุลย์ แค่นั้นหรอ!?”

                  “ใช่! นั่นก็เป็นเหตุผลที่สำคัญที่สุดแล้ว!” วีเริ่มขึ้นเสียง โชคดีที่ในร้านไม่ได้เงียบเกินไปจนทำให้เสียงของเขาเด่นมากนัก

                  “ก็ฟ้าบอกพี่ไปตั้งไม่รู้กี่ครั้งแล้วว่า ฟ้ากับพี่ตุลย์ไม่มีอะไรต่อกันแล้ว เราไม่มีทางต่อกันติด!”

                  “แล้วพี่จะไว้ใจแค่ไหน ในเมื่อฟ้ากลับไปหามันตั้งไม่รู้ตั้งกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง! แล้วยังมีลูกกับมันตอนที่คบกับพี่อยู่อีกตั้งสองคน! แค่นี้พี่ก็ใจกว้างจนไม่รู้จะใจกว้างยังไงแล้ว พี่ยังต้องใจกว้างกับฟ้ามากกว่านี้อีกใช่ไหม! มันผิดตรงไหนที่พี่จะไม่ชอบใจในเมื่อตอนนี้ฟ้าเป็นเมียพี่โดยสมบูรณ์แบบแล้ว!”

                  “อึก”

                  “นึกถึงพี่บ้างเถอะ ทั้งๆ ที่ตลอดมาฟ้าไม่เคยร้องหาลูกเลยสักครั้ง แต่พอเจอมัน เจอลูกก็มาขอพี่ไปเยี่ยมลูก ไปบ้านมันอยู่จนดึกเป็นเดือนจะให้พี่รู้สึกยังไง”


                  ทอฟ้าเบือนหน้าจากคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม การมีลูกกับตุลย์เป็นความผิดที่เธอก็รู้ตัวดี ทั้งๆ ที่เธอพลาดไปถึงสองครั้ง แต่ผู้ชายที่ชื่อ ‘วี’ ก็ยังอภัยให้เธอเสมอ เขาให้มากขนาดนี้ แต่เธอก็ยังเรียกร้อง...


                  “ฟ้าแต่งงานกับพี่แล้ว” เธอเอื้อมมือที่ใส่แหวนแต่งงานไปกุมมือของชายคนรัก “ฟ้าเป็นของพี่คนเดียว ถ้าพี่ไม่สบายใจ ฟ้าก็จะไม่ทำ พี่ไม่อยากให้ฟ้าไปหาลูก ฟ้าก็จะไม่ไปหาเขา ฟ้าจะอยู่กับพี่”


                  รอยยิ้มสวยปรากฎขึ้นให้กับชายคนรัก สายตาที่บ่งบอกว่าสิ่งที่เธอพูดมาเป็นความจริง ทำให้วีเองก็ค่อยๆ เผยยิ้มตอบกลับไปเช่นกัน ความแคลงใจ ความไม่ไว้ใจลอยออกไปราวกับเมฆดำ หญิงสาวคนนั้นถามเครื่องดื่มที่ผู้เป็นสามีต้องการและอีกฝ่ายก็ตอบกลับไปเป็นเครื่องดื่มของโปรด


                  ความรู้สึกอ่อนหวาน ความรักที่เป็นสีชมพู ทำให้ทั้งคู่กลายมาเป็นที่น่าอิจฉาของคนรอบข้างอย่างที่เคยอีกครั้ง การหยอกล้อที่ดูน่ารักทำให้ใครต่อใครมากมายพร้อมใจที่จะบอกว่า ‘ช่างเหมาะสม’


                  แต่กลับไม่มีใคร หรือแม้แต่จะสังเกตเห็น ร่องรอยเล็กๆ ในสีชมพูนุ่มหวาน ความบ่งพร่องของการเป็น ‘แม่คน’! นี่คือคำพูดของคนที่บอกใครต่อใครนักหนา ว่าเธออยากเจอลูก อยากอยู่กับลูก อยากเห็นหน้าลูก การไม่มีเขาทำให้เธอแทบขาดใจ


                  อีกครั้ง...ที่สุดท้ายเธอก็เลือกผู้ชายมากกว่าลูกของตัวเอง
















                  แกร๊ก


                  “กลับมาแล้วลูกลิง” ตุลย์ร้องบอกกับคนที่อยู่ภายในห้องขณะที่เขากำลังถอดสูทและกระเป๋าเอกสารลงบนโซฟา ก่อนจะย่อตัวหาคนลูกชายคนโตที่วิ่งเข้ามากอดอย่างแรง

                  “พ่อ แม่ละ? แม่อยู่ไหนครับ? อยู่ไหนๆๆๆ” เด็กน้อยร้องถามพร้อมกับชะเง้อมองไปที่ประตู หวังว่าแม่ของตนอาจจะเซอร์ไพร์เปิดผ่างเข้ามาหาเขาอย่างทุกที โดยที่ไม่ได้สังเกตเลยว่าพ่อที่ตนกอดอยู่นั้นมีสีหน้าเจื่อนลงไปอย่างเห็นได้ชัด


                  เขาไม่ได้เสียใจเลยแม้แต่น้อยกับการที่ที่หนึ่งไม่ร้องหา กลับกันเขาสงสารที่หนึ่งเสียมากกว่าที่คนเป็นแม่ไม่ได้โหยหาเฉกเช่นที่เด็กคนนี้เป็น


                  “วันนี้แม่เขาไม่ว่างเลยมาหาที่หนึ่งไม่ได้นะ”

                  “งานหรอ?”

                  “ใช่แล้วครับ”

                  “แต่พรุ่งนี้แม่จะมาอยู่ใช่ไหมอะพ่อ ถ้างั้นพ่อบอกแม่ให้มาตั้งแต่เช้าได้ไหม? พรุ่งนี้วันอาทิตย์ที่หนึ่งหยุดอยู่บ้านทั้งวันเลย จะได้อยู่กับแม่นานๆ ชดเชยวันนี้ด้วยเลย”

                  “พรุ่งนี้แม่ก็ยังมาหาที่หนึ่งไม่ได้นะ”

                  “ทำไมอะ? แม่ยังติดงานอยู่หรอ?”

                  “ประมาณนั้นครับ วันนี้แม่มาบอกพ่อว่า แม่คงมาหาที่หนึ่งไม่ได้...สักพักหนึ่งเลย”

                  “ห่างกันสักพัก ห่างกันสักพัก สักพักนี่นานต้องนานแค่หน๊ายยยยย~”


                  ผ่าง!


                  “ตลอดชีวิตหรือจนฉันตาย ห่างกันทำไมมม ทำไมไม่เลิกกัน~”


                  หมุนตัวสองทีเป็นอันจบการแสดง


                  “...”

                  “...”


                  วี๊ๆ... /เสียงแมลงวัน


                  “ยังร่าเริ่งเหมือนเคยเลยนะเอส เข้ามาก่อนสิ กินอะไรมาหรือยัง?”

                  “ป้าสร้อยสวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ป้าสร้อยที่อยู่ในครัวกับตอนต้นปลกๆ ก่อนแทรกตัวเดินผ่ากลางระหว่างพี่ตุลย์กับไอ้เด็กที่หนึ่งเข้าไปหา


                  อธิบายก่อน คือผมก็ไม่ได้อยากทำตัวไร้มารยาทนะครับ แต่สองคนนั้นขวางทางอะ ที่ว่างที่พอจะเดินได้มีแค่ตรงกลางเท่านั้นเอง จะยืนทื่ออยู่หน้าประตูจนกว่าสองคนนี้แยกย้ายกันไป...ผมก็รู้สึกเฟร้งฟร้าง


                  เพราะงั้นอาจจะทำตัวไร้มารยาทไปนิด แต่ขอไปรวมกลุ่มกับป้าสร้อยดีกว่า


                  “เอสมาพอดีเลย มาช่วยป้าพาตอนต้นอาบน้ำหน่อยสิ”

                  “อ๋อ ได้ครับ เอ่อ...แต่ว่า เกิดเรื่องอะไรกันขึ้นหรือเปล่าครับ ทำไมบรรยากาศระหว่างพี่ตุลย์กับที่หนึ่งแปลกๆ ทะเลาะกันอีกแล้วหรอ?” ผมเอนตัวถามป้าสร้อย มองที่หนึ่งที่ผละกลับไปเล่นเกมเพลย์หน้าทีวีกับพี่ตุลย์ที่กำลังเดินเข้าห้องนอน

                  “ก็ไม่นะ ตุลย์เขาแค่มาบอกที่หนึ่งว่า หนูทอฟ้าจะไม่มาสักพักนึงก็เท่านั้นเอง”

                  “อ๋อ” ผมลากเสียงยาว เริ่มเข้าใจแล้ว ผมพูดขอบคุณป้าสร้อยเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งข้างไอ้เด็กน้อย “ก่อนหน้านี้ที่หนึ่งเคยบอกว่าตัวเองโตแล้วไม่ใช่ไง? นี่ยังมานั่งซึม คิดถึงแม่อยู่เลย” ผมเริ่มโดยการพูดหยอก

                  “ที่หนึ่งไม่ได้ซึมสักหน่อย”

                  “หรอออ ไม่ซึมเลยยย อีกนิดก็จะร้องไห้แล้วเนี่ยๆ พี่ทอฟ้าเขาก็คงติดงานนั่นแหละ งานเสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวเขาก็มาหาเอง ไม่ต้องทำหน้าหงอยหรอกหน่า”

                  “แล้วเมื่อไหร่จะเสร็จละ?”

                  “สักสองสามวันละมั้ง แล้วพี่จะไปรู้ได้ไงวะ แต่ที่แน่ๆ ไม่รอนานชัว ยังไงคนเป็นแม่เขาก็ต้องอยากรีบทำงานให้เสร็จ กลับมาเจอลูกอยู่แล้ว!” ผมยืดอก พูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

                  “...” แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่ผมทำก็ไม่ได้ทำให้เจ้าเด็กที่หนึ่งนั่นรู้สึกดีขึ้นเลย ยังคงหงอยซึมเป็นหมาป่วยอยู่ดี


                  อื้มมม...ทำไงดีวะ สถานการณ์แบบนี้ผมก็ไม่เคยเจอเหมือนกันด้วยสิ


                  “อ่า คิดถึงแต่แม่แบบนี้พี่ตุลย์จะน้อยใจเอาดิเนี่ย หนีเข้าห้องนอนไปแล้วเห็นไหมนะ” ไม่ว่าเปล่าพร้อมชี้ไปยังประตูห้องนอนที่ปิดสนิท ที่หนึ่งหันตามก่อนที่ใบหน้าอูมๆ ของเด็กน้อยจะสลดยิ่งกว่าเก่า


                  …


                  ฉิบหาย! กูทำอะไรผิดวะเนี่ย


                  “อะ เอ่อ ร่าเริงหน่อยเถอะหน่า ระหว่างแม่ไม่อยู่ เดี๋ยวพี่จะเล่นกับที่หนึ่งเองเอาไหม? เล่นได้ทุกอย่างตั้งแต่ต่อจิ๊กซอว์ยันวินนิ่งเลย!” ผมเสนอตัวสุดอะไรสุด แต่ที่หนึ่งก็ไม่ตอบรับกดจอยในมือของตนเองอย่างเลื่อนลอย ผมเองก็เริ่มจะคอตก ไม่รู้ดิ คือผมรู้นะครับว่าผมเป็นคนนอก แต่...ผมก็ไม่อยากให้ที่หนึ่งรู้สึกเสียใจแบบนี้

                  “แอ๊!” ผมกับที่หนึ่งหันมองตามเสียงพร้อมกัน ก่อนจะเห็นเด็กสมบูรณ์กำลังเดินเตาะแตะมาทางพี่ชายของตนพร้อมส่งเสียงอ้อแอ้คลายปลอบใจ ที่หนึ่งดูอึ้งเล็กน้อยกับการที่น้องชายพยามยามจะปีนขึ้นมาบนตัก แม้มือเล็กๆ นั่นป้วนเปี้ยนอยู่บนใบหน้าจนดูเหมือนจะน่ารำคาญแต่ที่หนึ่งกลับยิ้มออกมาแล้วกอดเจ้าหมูอ้วนเอาไว้แน่น


                  พอเห็นภาพนั้นผมเองก็หลุดยิ้มออกมา ส่ายหัวให้กับความเป็นเด็กของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมวางมือลงบนหัวมันก่อนจะออกแรงขยี้จนที่หนึ่งร้องเสียงโวยวายดังลั่น


                  “ทำอะไรเนี่ย!”

                  “หมั่นไส้ๆๆๆ” ผมพูดซ้ำพลางกลั้วหัวเราะ จากหนึ่งมือก็ใช้ทั้งสองมือขยี้หัวมั้ง จี้เอวมั้งจนเด็กนั่นลงไปนอนแดดิ้นอยู่กับพื้นพร้อมกับตอนต้นที่หัวเราะเริ่งร่าอยู่ในอ้อมกอด

                  “หมั่นไส้อะไรเนี่ย!”

                  “หมั่นไส้เด็กติดแม่ ทำหน้าหงอยๆ อยู่ได้ เนี่ยคิดดูขนาดให้เด็กหนึ่งขวบมาปลอบ! แม่ก็แค่ไม่มาสักพัก ไม่ใช่ว่าจะไม่มาเลยสักหน่อย”

                  “ไม่แน่หรอก! ตอนนั้นที่แม่หายไป พ่อก็มาบอกว่าแม่แค่จะไม่มาหาสักพักเหมือนกันนี่! ก็มันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว มันผิดตรงไหนที่ที่หนึ่งจะคิดมากอะ!”


                  ผมเงียบ ไม่มีอะไรจะพูด ไม่มีคำพูดอะไรที่จะพูดได้เลยในตอนนี้ อันที่จริง ผมอยากจะบอกมันว่า ดีแค่ไหนแล้วที่จะยังได้เจอแม่บ้าง ดูผมนี่! ตั้งแต่เกิดจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้เจอเลยสักนิด! แต่...ผมก็ไม่รู้ว่าจะเอาเรื่องดราม่ามาพูดใส่กันทำไม อีกอย่าง การที่ไม่เคยได้มีแม่เลย แต่การที่เคยได้มีแม่แล้ววันหนึ่งไม่มีมันก็คงจะทุกข์ต่างกันนั่นแหละ ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็ไม่มีทางที่จะเข้าใจได้อย่างถ่องแท้หรอก


                  “เฮ้อ” สุดท้ายผมก็ถอนหายใจ ทำได้เพียงแค่ลูบหัวที่หนึ่ง “คราวนี้มันจะไม่เป็นอย่างนั้น เชื่อสิ แม่ของที่หนึ่งจะต้องรีบทำงานให้เสร็จ ตรงกลับมาหาที่หนึ่งไม่หนีหายไปไหน”

                  “จริงหรอ?”

                  “จริงดิ! นี่ไม่อยากจะอวดหรอกนะ แต่เวลาพูดอะไรมักจะเป็นอย่างนั้นตลอดเลยแหละขอบอก!” ผมยักคิ้วกวนประสาทให้สองทีติดแถมท้ายด้วยยิ้มมุมปากแบบคูลๆ “เพราะงั้น นั่งเล่นเกมแล้วก็รอแม่ไปเถอะ เข้าใจ๊?”

                  “รู้แล้วหน่า” ที่หนึ่งพูดเสียงฉุน พยายามจะแกะมือผมที่ยังวางอยู่บนหัวตัวเองออกแต่ผมก็กวนตีนไงทำมือแข็งแขนแข็งไม่ขยับ จนเด็กนั่นเริ่มร้องแง๊วๆ บอกให้ปล่อย ผมเลยลุกขึ้นผลักหัวมันหนึ่งทีเป็นการส่งท้าย “เดี๋ยวสิ! แล้ว...จะไม่เล่นเกมด้วยกันกับที่หนึ่งก่อนหรอ”

                  “หะ?” ผมเลิกคิ้ว ก่อนจะหัวเราะออกมากับท่าทางเหมือนลูกหมาที่อยากให้ผมเขวี้ยงบอลแล้วตัวเองจะวิ่งไปคาบมาเก็บ ผมว่าเป็นเด็กมันดีอย่างนะ เปลี่ยนอารมณ์ง่าย ไม่คิดอะไรมาก เห็นงี้แล้วผมอยากกลับไปเป็นเด็กเหมือนหน้าเลย เฮ้อ เศร้า~ “ไม่อะ ให้โอกาสที่หนึ่งไปฝึกฝีมือมาแล้ว แล้วเก่งแล้วพี่ชายจะยอมมาสู้ด้วยแล้วกันนะไอ้น้อง~”

                  “อย่ามาอวดเก่งหน่อยเลย เกมนี้น่ะ ที่หนึ่งเก่งมากนะยังไงก็ชนะแน่!”

                  “ครับๆ” ผมหัวเราะเสียงดังลั่นพลางเดินตรงไปยังห้องนอนใหญ่ ไม่เคาะให้เสียเวลาเปิดผ่างเข้าไปข้างใน มองผู้ชายที่นอนเอกเขนกกายอยู่บนเตียงก่อนจะปิดประตูลง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 12-11-2015 04:54:51
ต่อ




                  “จะอาบน้ำหรอไง?” พี่ตุลย์ถาม

                  “เปล่าอะ แค่มาดูว่าพี่มีปัญหาอะไร ทำไมต้องมาอยู่ในห้อง พี่รู้ไหมเนี่ยว่าที่หนึ่งเสียใจอยู่นะ นี่ไม่คิดจะปลอบลูกเลยดิ?” ผมพูดบ่นพลางเท้าเอวมองคนที่กำลังลุกขึ้นนั่งบนเตียงใหญ่ พี่ตุลย์มองผมเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไรนอกจากตบลงที่ข้างๆ ตนให้ผมไปนั่งด้วยก็เท่านั้น


                  แหม เรียกผมยังกับผู้หญิงติดเบอร์


                  ตุ๊บ!


                  แต่ก็ยอมเดินเข้าไปหานะ แถมนั่งตรงที่ตบด้วยเสร็จสรรพ ไม่ง่าย แต่ได้ไม่ยากครับ อิอิ


                  “มากอดหน่อย”

                  “อยากกอดก็กอด นั่งอยู่วงรัศมีแขนพี่อยู่แล้วเนี่ย” พูดจบปุ๊บ แขนพี่ตุลย์ก็มาตวัดก่อนผมปั๊บ “อื้ม...เป็นไรเปล่าอะ?”

                  “ปลอบไป ก็ยิ่งได้กลายเป็นเด็กงอแง”

                  “แบบนี้มันก็เกิน...”

                  “อีกอย่าง ฉันบอกลูกว่า ‘ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวแม่ก็มา’ ไม่ได้หรอก...เพราะฉันก็ไม่รู้ว่าทอฟ้าจะมาหาลูกอีกหรือเปล่า เมื่อวานอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะมาหาก็ได้ ผู้หญิงคนนั้นทิ้งลูกมานับครั้งไม่ถ้วน แล้วฉันจะเอาอะไรไปมั่นใจว่าครั้งนี้เขาจะกลับมาหาลูกอีก”

                  “...”

                  “ฉันเสียใจแทนที่หนึ่ง นายรู้ไหมว่าเขาน่ะรักแม่เขามากแค่ไหน ทอฟ้าเป็นอะไรที่สำคัญกับที่หนึ่งมากๆ มากจนฉันไม่รู้จะพูดยังไง มากจน ฉันคิดว่าเขาควรได้ความรักตอบแทนกลับมามากๆ เช่นกัน แต่ผู้หญิงคนนั้น กลับเห็นลูกเป็นอะไร! คิดจะมาก็มา คิดจะทิ้งก็ทิ้ง เห็นลูกเป็นตุ๊กตาที่นึกขึ้นมาได้เมื่อไหร่ ก็หยิบมาจากตู้มาเล่น อย่างงี้หรอ!?”

                  “...”


                  คนเราบางคนนะครับ มันมีเรื่องบางเรื่องแหละที่เราเข้ายุ่งไม่ได้และไม่มีสิทธิมาวิพากษ์วิจารณ์


                  เรื่องของพี่ทอฟ้าเป็นเรื่องหนึ่งที่ผมไม่มีสิทธิที่จะพูดและก็ไม่อยากที่จะพูดด้วย มันเป็นเรื่องของครอบครัวอะครับ ครอบครัวจริงๆ ที่เป็น พ่อ แม่ ลูก มันเป็นปัญหาภายในที่คนนอกอย่างผมก็เข้าไปเกี่ยวข้องไม่ได้ หรือแม้จะเป็นพ่อแม่ของพี่ตุลย์ก็เกี่ยวข้องไม่ได้ ไม่มีใครที่จะแก้ปัญหานี้ได้นอกจากตัวพวกเขาสามคนก็แค่นั้น


                  “ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงหรอกนะ แต่ผมไม่อยากให้พี่คิดมาก การที่เขาจะมาหรือไม่มาอีกมันเป็นเรื่องของอนาคตที่มันก็ไม่แน่นอนอะ คือยังไงดีละ ผมไม่อยากให้พี่คิดไปก่อน คิดไปลึกขนาดว่าเขาไม่รักลูก ไม่คิดถึงลูก หรืออะไรแบบนั้น โอ๊ย ผมก็พูดไม่ถูกว่ะ แต่ผมไม่อยากให้พี่เครียดโอเคปะ! ทั้งพี่ทั้งที่หนึ่งเลย ผมไม่อยากให้เครียด ร้อนใจ วุ่นวาย! เอาจริงๆ วันนี้วันเสาร์นะครับ พรุ่งนี้วันอาทิตย์วันแห่งการพักผ่อน เราควรจะผ่อนคลาย หายใจเข้าหายใจออก ไม่ควรเอาเรื่องอะไรมาคิดให้ฟุ้งซ่าน!”


                  พี่ตุลย์มองหน้าผมงงๆ เหมือนประมาณว่า มึง เอ่อ มา ระบายอารมณ์ กับ กู อะไร ทำไม เชิงๆ นั้น


                  แต่มันก็จริงนะ คือผมกลับห้องมาอารมณ์สุนทรีย์ไง ร้องเพลงห่างกันสักพักของหวายมาเลยคร๊าบ ซิงเกิ้ลเก่าแต่เพื่อนคนนึงที่มหา’ลัยแม่งร้องทั้งวันจนติดหู แต่พอเข้ามาในห้อง โอ้โห ประหนึ่งมีเมฆตั้งเค้าในบางพื้นที่ ที่หนึ่งก็คิดเยอะ พี่ตุลย์ก็คิดลึก แล้วมันแบบ...อิทนอทมายสไตล์ยูโนว พอคนในห้องเครียด ผมก็เครียดไง


                  ...


                  ระบายบ้างแม่งเลย


                  “นั่นสินะ วันเสาร์ วันอาทิตย์ วันแห่งการพักผ่อน ฉันจะเอาเรื่องเครียดมาใส่หัวทำไม” พี่ตุลย์ยิ้มจางๆ เป็นรอยยิ้ม ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังบอก ‘ขอบคุณ’ ผมหรืออะไรแบบนั้นเลย “ขอโทษทีนะ ที่เอาเรื่องแบบนี้มาเล่าให้ฟัง”

                  “ไม่เป็นไรหรอก ผมว่าดีซะอีกที่พี่มาเล่าให้ผมฟัง ใครๆ เขาก็อยากเป็นคนที่พึ่งพาได้ของแฟนตัวเองทั้งนั้นแหละ ง่อวววว หล่อ”

                  “คนอะไรพูดเอง ชมเอง” พี่ตุลย์หัวเราะเสียงทุ้มในลำคอ พอเห็นอีกฝ่ายอารมณ์ดีขึ้นบ้างแล้ว ผมก็เริ่มสบายใจ รู้สึกครื้นเครงจนหลุดเสียงหัวเราะออกไปด้วยเช่นกัน


                  โครม!


                  แต่ได้ไม่นานนัก ผมกับพี่ตุลย์ก็ชะงักด้วยเสียงของล้มดังด้านนอกเรามองหน้ากันเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะรีบถลาออกจากห้องนอนด้วยความเป็นห่วงเด็กๆ ที่อยู่ข้างนอก แต่ปรากฎว่าคนที่ล้มกลับกลายเป็นป้าสร้อยที่นั่งร้องโอดโอยอยู่กับพื้นโดยมีเก้าอี้ล้มตัวด้านหลังและที่หนึ่งที่อุ้มใต้ปีกน้องกำลังเดินมาดูอาการด้วยความเป็นห่วง!


                  “ป้าสร้อย! เป็นอะไรหรือเปล่าครับ!?” ผมกับพี่ตุลย์เข้าถึงตัวป้าสร้อยแทบจะพร้อมกัน แต่พี่ตุลย์สนใจกับการไล่สายตาดูอาการบาดเจ็บของอีกฝ่าย

                  “ไม่เป็นอะไรมากหรอก พอดีว่าเดินไม่ระวังชนเก้าอี้ล้มแล้วทรงตัวไม่อยู่ก็เลยล้มตามน่ะ ไม่เจ็บตรงไหนมากหรอก”

                  “ยังไงผมว่าไปหาหมอให้ตรวจดูดีไหมครับ?” พี่ตุลย์พูดเสนอด้วยความเป็นห่วง แต่ป้าสร้อยก็รีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว

                  “ไม่ต้องหรอกๆ ป้าไม่ได้เป็นอะไรมาก ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้น”

                  “แต่ผมว่าป้าน่าจะไปตรวจหน่อยนะ เผื่อมีอะไรที่บาดเจ็บแต่ป้าไม่รู้ก็ได้นะครับ” ผมพูดเสริมทัพอีกแรง แต่ป้าสร้อยก็ไม่ได้สนใจ เอื้อมมือคว้าขอบโต๊ะตั้งท่าจะลุกโชว์ให้พวกผมดูว่าเธอสบายดีไม่ได้บาดเจ็บอะไร แต่...

                  “โอ๊ย!”

                  “ระวังครับ!”


                  ไม่ทันจะได้ยืนสุดขา ร่างของป้าสร้อยก็ร่วงลงพื้นอีกรอบ! แต่โชคดีที่คราวนี้พี่ตุลย์จับประคองไว้ได้ก่อนที่จะล้มโครมลงไปอีกรอบให้ได้รับบาดเจ็บหนักกว่าเดิม!


                  “ผมว่าข้อเท้าป้าพลิกแน่เลยครับ! ไปโรง’บาลให้หมอตรวจดีกว่าครับ มันอาจจะเป็นหนักก็ได้!” ผมพูดโพล่งด้วยความร้อนใจ

                  “แต่ป้า...” ป้าสร้อยมีสีหน้าลังเลอย่างเห็นได้ชัดด้วยความที่ไม่อยากรบกวนพวกผมแต่จะปฏิเสธก็ไม่ได้เต็มปากเพราะสายตาของพวกผมบ่งบอกชัดเจนว่ายังไงก็จะเอาไปโรง’บาลให้ได้!

                  “ไปเถอะครับ คนอายุมากร่างกายก็ไม่ได้แข็งแรงเท่าตอนสาวๆ ล้มแบบนี้ก็ทำให้บาดเจ็บหนักได้เหมือนกันนะครับ ถ้าปล่อยทิ้งไว้ให้เรื้อรังจะแย่กว่าเดิมนะครับ อาจจะถึงขั้นเดินเหินไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะงั้นรีบไปรักษาดีกว่าครับ” พี่ตุลย์พูดขึ้นบ้าง

                  “...ถ้างั้น ป้าก็รบกวนด้วยนะจ๊ะ” ทันทีที่ป้าสร้อยยอม พี่ตุลย์ก็หันหลังให้เตรียมจะให้ผมพยุงป้าสร้อยขึ้นขี่หลังพี่ตุลย์ โชคดีที่ทั้งผมทั้งพี่ตุลย์ตัวใหญ่ทั้งคู่การพาป้าสร้อยขึ้นขี่หลังเลยไม่ได้มีอะไรยากนัก


                  แต่...


                  “เอส ไปเอากุญแจรถ กุญแจห้อง กระเป๋าเงินแล้วก็มือถือของฉันมาด้วย”

                  “โอเคๆ” ผมวิ่งปรู๊ดไปหยิบของพวกนั้นก่อนจะยัดในกระเป๋ากางเกงของพี่ตุลย์เอย กระเป๋าเสื้อของพี่ตุลย์เอย นี่ถ้าไม่ติดว่าใส่หมดแล้ว ผมจะใส่ไว้ในกางเกงไอ้พี่ตุลย์แล้วเนี่ย

                  “ปะ”

                  “เดี๋ยวพี่ แล้วที่หนึ่งกับตอนต้นอะ!”

                  “เอาไปด้วยสิ จะให้เด็กอยู่บ้านกันสองคนได้ไง ที่หนึ่งดูแลตอนต้นไม่ไหวหรอกนะ”

                  “อะ โอเคๆ” ผมรีบหันไปคว้าตัวตอนต้นมาอุ้มไว้ มืออีกข้างก็จับมือที่หนึ่งพร้อมเดินทาง “เอ๊ยพี่ แล้วถ้าตอนต้นหิวขึ้นมาอะ แพมเพิสด้วยต้องเอาไปปะ? ไม่รู้ว่าต้องอยู่โรง’บาลนานแค่ไหนอะ”

                  “เอาแพมเพิสไปเผื่อด้วย”

                  “โอเค!”

                  “เอากล้วยมาเผื่อตอนต้นด้วย!”


                  โอย ก็ถ้าจะวุ่นวายขนาดนี้!





TBC
ขอโทษที่มาช้าาาาา (อีกแล้วว) แต่อยากอัพตู้มเดียว ไม่อยากอัพทีละจึ๋งๆ เลยเขียนให้วันละนิดวันละหน่อยให้จบตอนไป
แต่ก็ยังไม่มีการให้รอเป็นเดือนๆ นะจ๊ะ กิกิ

 - เมื่อวันก่อน เพิ่งจะดีใจไปเองว่า สอบมิดเทอมเสร็จแล้วจ๊าา จะมาบอกว่า ฮะๆๆ.... 30 พฤศจิกายน เริ่มสอบไฟนอล orz #ทีมอ่านไม่ทันและใจเริ่มไม่เย็น
 - แล้วก็เมื่อวันก่อนในที่สุดก็ตามหา นายเอกของตอนต้นเจอแล้ววว อ๊ายยย~
(http://i.imgur.com/GjYgdOr.jpg)
เอส มันสาย #หล่อฮา แต่ต่อมา #สายหล่อเถื่อน หึหึหึหึหึหึหึ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 12-11-2015 05:26:45
“ผู้ชายอะไร แย่ที่สุด!” โอ้โห ....ดอกกกกกกกกกกกก
นี้เอาปากหรือรูตูดพูด ว่าเขาเเต่ไม่ดูตัวเอง
เเต่ก่อนก็เป็นเมียที่เเรด ตอนนี้ก็เป็นเเม่ที่เลว
ไม่อยากให้เด็กเสียใจ เเต่อยากให้ลูกได้รู้สันดารเเม่มันจริงๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 12-11-2015 06:41:15
เป็นผู้หญิงที่หมดคำบรรยายจิงๆ ทอฟ้า
เอาที่สบายใจแล้วกัน แต่ขอให้สักวันหนึ่งเธอต้องร้องไห้เพราะที่หนึ่งรู้ว่าแม่ของเขามันเลว!! สาธุ๊!

ตลกเอสมากจิงๆ พอนางเปิดตัวด้วยเพลงตรงสถานการณ์ "ห่างกันสักพัก" ก้อทำเอาบรรยากาศสดใสขึ่นทันตาเรยอ่ะ 55555555
แต่ป้าสร้อยข้อเท้าแพลงแบบนี้ เอสนายวุ่นแน่ๆๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 12-11-2015 07:24:16
ผู้หญิงร้ายผู้ชายเลวจริงๆคนคู่นั้น
ดีแล้วล่ะพี่ตุลย์ไม่หลงไปกับอารมณ์
ขึ้นๆลงๆของยัยนี่แต่เราคิดว่านะ
ถ้าไม่มีเอสเบรคไว้อิพี่ตุลย์อาจจะ
หลงไปกับยัยนี่ก็ได้
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 12-11-2015 07:44:17
ทอฟ้านี่แย่ยิ่งกว่าแก่อีก
ดีแล้วที่พี่ตุลย์หลุดมาได้
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 12-11-2015 08:29:23
ทอฟ้า ค่ะก่อนจะว่าใครแย่

ช่วยส่งกระจกแล้วด่าตัวเองก่อนเลยค่ะ

เหอะ ๆ น่าเอากากกาแฟยีหน้าเผื่อจะนุ่มมั่ง

หน้าด้านชะมัด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 12-11-2015 10:52:18
ยัยทอฟ้า หล่อนควรจะไปจากชีวิตที่หนึ่งและตอนต้นได้แล้ว ยัยคนเห็นแก่ตัว  :beat: :beat: :beat: :z6: (อินไปนิสสส)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 12-11-2015 10:58:47
กลับมาอีกทำไมก็ไม่รู้นะครับ ผู้หญิงแบบนั้น สงสารเด็กทั้งสอง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 12-11-2015 11:06:59
พี่ตุลย์พูดเบาไปด้วยซ้ำ ผู้หญิงแบบนั้น.....ที่เลือกผู้ชายมากกว่าลูกนั่น เหอะ!
  :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 12-11-2015 12:30:28
สงสารที่หนึ่ง กับตอนต้น






มีแม่เป็นแรดผสมกิ้งก่า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-11-2015 13:17:37
กำลังปรี๊ดให้กับผู้หญิงคนนั้นอยู่เลย พอมาตอนท้ายก็ตบด้วยความฮาความวุ่นวายของการเลี้ยงเด็กอีก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 12-11-2015 13:40:53
พี่ตุลย์เขาตาสว่างมานานมากแล้วค่ะคุณ อย่าเสียเวลามาหึงเพราะผู้หญิงอย่างทอฟ้าอีกเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: MinKKniM ที่ 12-11-2015 14:04:49
ไม่ว่าใครจะดราม่ายังไง น้องเอสไม่หวั่น นางสายฮา น่ารักกก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 12-11-2015 14:31:31
ผู้หญิงอะไรแย่มาก รักผู้ชายมากกว่าลูกตัวเอง น่าสงสารพี่ตุลย์นะที่หนึ่งก็เรียกหาแต่แม่ ทั้งที่พ่อก็อยู่ด้วยตลอดแท้ๆ งือ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 12-11-2015 20:28:05
สงสารที่หนึ่งมากๆๆๆๆๆ ต่อให้นางเป็นนางร้ายยังไง ก็อยากให้ที่หนึ่งได้เจอแม่บ้างนะ หน้าที่แม่มันลาออกกันไม่ได้หรอก ไม่มีจิตสำนึกเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: กวังกีเมย์บี ที่ 12-11-2015 21:52:26
พอๆกันทั้งผัวทั้งเมีย เกินเยียวยา

เอสนี้น่ารักเสมอต้นเสมอปลายเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 12-11-2015 21:55:48
ให้พี่เอสเป็นแม่แทนไปก่อนได้ป่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 12-11-2015 22:37:07
นังทอฟ้าาา ฉันว่าแกทุเรศมากเกินไปแล้วนะยะ เป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องมากๆ อยากรู้จริงๆว่าทำไมตุลย์ถึงได้ไปคว้านังนี่มาได้ (ไม่เป็นไรนะ ฉันให้อภัย เพราะตอนนี้แกได้แฟนดี 555) บอกตรงๆว่าสงสารพี่วีนะคะ (ทำไมออกมาตอนเดียวได้ใจฉันไปแบบนี้ล่ะเนี่ย) การให้อภัยผู้หญิงที่นอกกายตัวเองมาถึงสองรอบ และที่สำคัญคือตั้งท้องทั้งสองรอบด้วย ถ้าไม่โง่ก็คงใจกว้างเป็นมหาสมุทร บอกเลยค่ะ ว่าความรักของพี่วีไม่คู่ควรกับนังนี่เลยสักนิด หาผู้ชายดีงามสักคนให้พี่วีได้ไหมคะ ฮือออออ ส่วนน้องเอสผู้ดีงามของฉัน แกยังคงร่าเริงได้สตรองมากกกกกก แอบฮาส่งท้ายกับพี่ตุลย์ เรื่องเยอะเหลือเกินเนอะ แค่ไปโรงพยาบาลเองงง
ปล.รอตอนต่อไปน้าาาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 13-11-2015 00:20:53
ทอฟ้า..  อย่าเรียกตัวเองว่าแม่เลยนะ เป็นแค่คนที่คลอดเด็กสองคนนี้ออกมาก็พอ. เอสยังมีบทบาทเหมือนแม่ยิ่งกว่าเธออีกนะ ถ้าจะเลือกผู้ชายแล้ว ก็เบือกไปเลยนะ ไปต้องให้ความหวังเด็ก
ปล. ตอนหน้าอยากเห็นเอสดูแลเด็กฉบับเกรียนจัง55555 :katai3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 13-11-2015 02:32:44
เพลงหวายขึ้น เรานี้ฮาเบย
นางเอสช่างมาได้ถูกเวลา 5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 13-11-2015 22:23:08
สงสารที่หนึ่งจัง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 14-11-2015 00:11:10
พี่ตุลย์ตาสว่างแล้ว อยากให้ที่หนึ่งตาสว่างเร็วๆบ้างจัง :hao4: :hao4:
ู่ที่ดีๆให้วีบ้างนะ ส่วนยัยป้าฟ้าน่ะ เอาไปโยนทิ้งซะดีกว่านะ :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kukkikkooka ที่ 14-11-2015 00:34:37
ชอบเวลาที่เอสปลอบพี่ตุลย์ น่าร้ากกก

ป้าสร้อยคงไม่เป็นอะไรมากนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 14-11-2015 21:04:44
สงสารที่หนึ่งอ่ะ แม่ไปๆมาๆงี้แย่เลย เราเข้าใจเธอนะ /ตบไหล่สองที  เรารับปลอบใจเด็ก สนใจมั้ยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 15-11-2015 21:40:57
ปวดตับจริงๆกับยัยทอฟ้า เหมือนเป็นผู้หญิงที่ไม่ยอมและไม่เคยแพ้ใครอ่ะค่ะ อะไรๆก็ต้องได้ ต้องชนะ ต้องตามใจตัวเองไปหมด
นี่พอเห็นพี่ตุลย์เค้าไม่ใส่ใจสนใจอะไรหล่อนเลยก็พยายามเนอะ พยายามติดถ่านไฟเก่างี้ บอกว่าเค้ากำลังหลอกตัวเองอยู่งี้
ละยังทิ้งลูกไปหาผู้ชายแบบง่ายๆ โคตรง่ายเลย คือเป็นแม่ประสาอะไรวะ ไม่รักลูกเลยหรอ ? หรือลูกในไส้ไม่สำคัญเท่าผู้ชาย ?
คือโคตรรรรรรรไม่โอเคกับทอฟ้าอ่ะ สงสารน้องหนึ่งมาก T ______ T .. ดูจะรักแม่มากอยากอยู่กับแม่มากสุดๆ
เอสก็ไม่น่าไปพูดให้ความหวังน้องนะ :< เพราะเราก็ไม่ได้รู้ใช่ป่ะว่าจริงๆนางจะกลับมาไหม แต่ไปพูดแบบกลับมาชัวร์ๆงี้น้องก็มีหวังอีก
นั่นแหละ .. สรุปเรื่องนี้พี่ตุลย์วินสุดค่ะจบ 5555555555555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 16-11-2015 00:40:49
ยัยทอผ้า นี่ดีออกมากกกกก  :beat:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วมาลูน ที่ 17-11-2015 16:30:32
ปวดตับ!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 20-11-2015 21:36:15
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ ยิงยาวเลย
บอกเลยว่าเอสนี่เกรียนฮาน่ารักจริง


มานั่งรอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 36 (12/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 24-11-2015 22:09:40
done done
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 29-11-2015 00:40:04
                 
ตอนที่ 37



                  ผลสรุปออกมาว่า ป้าสร้อยข้อเท้าพลิกจริงๆ นั่นแหละเพียงแต่ไม่ได้ถึงขั้นร้ายแรงมีเพียงอาการเส้นเอ็นฉีกขาดเล็กน้อย ไม่ถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาล แต่คุณหมอบอกว่าเพราะป้าสร้อยอายุมากแล้ว ความสามารถในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอก็ลดน้อยลงไปด้วย กระดูก กล้ามเนื้อ เอ็นอะไรก็เปราะบางไม่เหมือนเก่าจึงงดการเดินทุกกรณี นอกจากได้ยามาแล้ว ก็ได้เครื่องพยุงข้อเท้ากับวีลแชร์กลับบ้านมาหนึ่งคัน


                  ตอนที่ฟังผมก็ทั้งโล่งใจและก็กังวลด้วย คือป้าสร้อยเขาอยู่กับสามีเขาอะครับ แก่ไม่ต่างกัน ผมก็กลัวว่าตอนที่คุณลุงเขาต้องอุ้มป้าสร้อยอะไรแบบเนี่ย จะล้มข้อเท้าพลิกไปอีกคนหรือเปล่า แต่จะให้ผมโดดเรียนไปดูแลจนหายดีก็ไม่ได้


                  “ลำบากเลยแหะ พี่โทรไปบอกลูกป้าเขาแล้วใช่ไหมอะ?” ผมพูดขึ้นพลางทิ้งตัวลงบนโซฟ้าหน้าทีวี

                  “โทรบอกไปแล้ว เขาบอกว่าเขาจะมาพรุ่งนี้”

                  “มาสินะ เฮ้อ ค่อยโล่งหน่อย ผมละกลัวว่าลูกแกจะไม่ว่างมาไม่ได้อะดิ”

                  “ฉันว่านายมาคิดเรื่องของทางเราดีกว่า”

                  “หื้ม?” ผมเลิกคิ้วมองพี่ตุลย์ที่กำลังยืนอุ้มตอนต้นอยู่ตรงหน้าบังทีวีผม “อะไร?”

                  “เนี่ย”


                  หะ อะไรวะ ผมไม่เห็นภาษากายประกอบคำว่า ‘เนี่ย’ ของพี่ตุลย์สักกะแอะนอกจากแขนที่กระตุกอยู่นิดเดียว


                  “อะไรของพี่วะ ผมดูไม่ออกอะ”

                  “ตอนต้น!”

                  “ทำไมอะ?”

                  “...” พี่ตุลย์ทำหน้าเซ็ง เฮ้ย อะไร! นี่งงจริงๆ ไม่อิงนิยาย พูดมาแค่ ‘ตอนต้น’ แล้วผมควรจะนึกเหี้ยอะไรออกคร๊าบบบบบ “นี่เอาสมองลืมไว้ที่โรงพยาบาลหรือเปล่า?”

                  “โอ้โหหห พูดงี้ก็สวยสิครับ วางตอนต้นลงเลย แล้วไปต่อยกับผมหน้าห้อง!” ผมนี่ถลกแขนเสื้อรอเลย ลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้นะครับ!

                  “แล้วจะให้พูดยังไงละ นี่ยังคิดไม่ออกอีกหรอ” พี่ตุลย์ทำหน้าแบบเหลือเชื่อมากว่าผมคิดไม่ออก


                  อะไรวะ ใช้สมองแป๊บ อันดับแรกป้าสร้อยข้อเท้าพลิก เดินไม่ได้ ต้องนั่งวีลแชร์ อื้ม...แล้วก็ตอนต้น อื้ม...


                  “เฮ้ย! เออ แล้วตอนที่พี่ไปทำงานกับตอนที่ผมไปเรียนใครจะดูแลตอนต้นอะ!”

                  “ก็นั่นแหละ หมอบอกว่าสองอาทิตย์ถึงจะอนุญาตให้เดินได้ จะให้นั่งวีลแชร์เลี้ยงเด็กวัยหัดเดินก็ไม่ได้ด้วย”

                  “ก็ฉิบหายอะดิ เอ่อ เอางี้ โทรขอความช่วยเหลือจากแม่พี่ได้ไหมละ”

                  “ไม่ได้ คุยโทรศัพท์เมื่อวันก่อนก็ดูเหมือนจะยุ่งมากเหมือนที่บ้านแม่จะเกิดอะไรขึ้นสักอย่าง โทรไปเดี๋ยวนี้ก็บอกแต่ว่าเดี๋ยวโทรกลับๆ ยุ่งอยู่ตลอดเลย”

                  “เอ้า งั้นทำไงดีอะ พี่พลอยไพลินละ!”

                  “ลินกับตอนต้นเนี่ยนะ แค่นายคิดถึงผู้หญิงก็ผิดแล้ว”


                  เออก็จริง อีกอย่างเหมือนพี่ตุลย์กับเจ๊พลอยไพลินสาวโกงนมจะมีเรื่องอะไรกันอยู่ด้วย พูดชื่อปุ๊บ ชักสีหน้าปั๊บ เฮ้อ จะเรียกพี่ทอฟ้านางฟ้าคนสวยของผมมาก็ไม่ได้ซะด้วย


                  “พาไปโรงเรียนกับที่หนึ่งไหม? โรงเรียนของที่หนึ่งมีแผนกเด็กอนุบาลด้วยนะ” ที่หนึ่งกระโดดยกมือหยอยๆ แสดงความคิดเห็นของตัวเองบ้าง

                  “ไม่ได้หรอก ลูกจะให้น้องอยู่คนเดียวที่ฝั่งอนุบาลหรอ เขาไม่รู้จักใครเลยนะ” พี่ตุลย์อธิบายอย่างใจเย็นไม่หงุดหงิดกับการที่ยังหาทางออกไม่ได้

                  “ผมว่าสงสัยต้องพึ่งตัวเองแล้วแหละ ช่วงนี้ใกล้สอบไฟนอลแล้ว อาจารย์ก็ปิดครอสไปหลายวิชาแล้ว เพราะงั้นจันทร์ อังคาร แล้วก็พฤหัสผมไม่มีเรียนอยู่เลี้ยงตอนต้นได้อยู่ ส่วนวันอื่นพี่ก็เอาไปที่ทำงานด้วยแล้วผมเลิกเรียนเมื่อไหร่จะรีบไปช่วย โอเคไหม”

                  “...” พี่ตุลย์ถอนหายใจแรง “ก็คงต้องเป็นอย่างงั้น จริงๆ ฉันไม่อยากพาไปที่ทำงานเท่าไหร่เลย กลัวจะวุ่นวายซะเปล่าๆ ช่วงนี้ฉันงานเยอะออกนอกพื้นที่บ่อยซะด้วย”

                  “นั่นแหละกระเตงลูกไปเลย ให้เห็นว่าพี่มีครอบครัวต้องดูแล ชีวิตขัดสนต้องหอบลูกมาทำงานด้วย เอาให้น่าสงสาร รับรองลูกค้าพรึ่บ!”

                  “จะบ้าหรอ”

                  “ฮ่าๆ” ผมหัวเราะ “แต่มีข้อแลกเปลี่ยนนะเพราะว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นผมจะไปอ่านกับเพื่อนก็ไม่ได้ ฉะนั้นวันจันทร์ อังคารแล้วก็พฤหัสพี่กลับมาปุ๊บ ผมจะอ่านหนังสือบ้างแล้วห้ามเข้ามากวนเด็ดขาด”

                  “ได้ งั้นฉันขอถามอะไรนายอย่างหนึ่ง”

                  “หื้ม?”

                  “นายเลี้ยงตอนต้นเป็นหรือเปล่า เพราะว่าตอนนี้ไม่มีป้าสร้อยมาคอยมาช่วยเป็นตัวหลักให้แล้วนะ”

                  “อะ”


                  เออว่ะ...


                  ฉิบหายแล้วววว! กูก็ไม่เคยเลี้ยงเด็กแบบจริงจังเหมือนกันนี่หว่าา!!


                  “ทำหน้าแบบนี้ไม่เคยลองเลี้ยงตอนต้นแบบเต็มๆ สินะ” ผมส่ายหัว “ไม่เป็นไร พรุ่งนี้วันอาทิตย์เดี๋ยวฉันจะสอนให้เอง เตรียมบอกลาวันพักผ่อนได้เลย” ยิ้มให้ด้วยนะ แล้วรอยยิ้มแม่งอย่างเหี้ยม

                  “อึก” ผมกลืนน้ำลายลงคอ ขอสละสิทธิเลี้ยงเด็กตอนนี้ทันไหมเนี่ย!!
















                  ตอนแรกผมคิดว่าการฝึกของผมจะเริ่มสักเก้าโมงเช้าวันอาทิตย์ไรงี้ แต่ไม่เว๊ย ผมโดยพี่ตุลย์ปลุกตั้งแต่ตีหนึ่ง! ผมถามว่าปลุกผมขึ้นมาทำไมเนี่ย พี่ตุลย์ก็บอกว่าตอนต้นชอบตื่นมาตอนกลางคืน เมื่อก่อนตื่นมาแทบจะทุกสิบห้านาที แต่ตอนนี้เริ่มโตก็จะตื่นขึ้นมาสักสามหรือสี่ครั้งต่อคืน พี่ตุลย์ให้ผมดูว่า ตอนต้นร้องทำไม ต้องการอะไร เล่นหรือเปล่า หิว หรืออาจจะอึใส่แพมเพิสก็ต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยน ให้ผมนั่งดูเวลาพี่เขาจัดการกับตอนต้นที่ร้องตอนกลางคืนยังไง


                  แล้วเท่านั้นแหละครับ ผมเข้าใจว่าจะปลุกมาดูรอบเดียว ไม่! ปลุกแม่งทุกรอบ พี่ตุลย์บอกว่าร้องแค่สามสี่รอบ บัท! คืนนั้นตื่นไปหกรอบครับ น้ำตาจะไหล ฮืออ ตื่นมาดูพี่ตุลย์บ้าง ให้ผมทำเองบ้าง กว่าจะได้หลับจริงๆ อีกสองชั่วโมงฟ้าแจ้ง


                  ณ ปัจจุบัน 6 โมงเช้า


                  ผมนั่งตาปรืออยู่บนพื้นข้างเตียงแล้วก็คิด...


                  ตอนกลางคืนผมมีพี่ตุลย์ช่วยดูแลตอนต้นปะวะ แล้วนี่...กูตื่นขึ้นหกรอบเพื่อไร!


ปึง!


                  “ตรงเวลาเป๊ะ 6 โมงสิบนาที” พี่ตุลย์ร้องทักหลังจากเห็นผมที่มีตอนต้นขี่คออยู่เดินหน้าตึงออกมาจากห้องนอน สภาพนี่ไม่ต้องพูดถึง ถ้าเพื่อนที่มหา’ลัยเห็นก็คงประมาณร้องทัก ‘ไฟนอลนี้มึงเอแน่นอน’

                  “ตอนกลางคืนพี่อยู่ช่วยผมดูตอนต้นอยู่แล้ว เมื่อคืนปลุกผมทำไมเนี่ยยย ดูตาผมดิ โคตรแย่ แล้ววันนี้ผมจะกล้าออกไปสู่หน้าใครได้!”

                  “วันนี้ไม่ได้ออกไปไหนหรอก อยู่เลี้ยงตอนต้นทั้งวันนั้นแหละ”

                  “ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ!”

                  “รู้ไว้เถอะหน่า เผื่อในอนาคตอาจต้องใช้”


                  ผมคอตก ช่างมันเถอะ โวยวายหาเรื่องไปผมก็ย้อนเวลากลับไปไม่ตื่นก็ไม่ได้


                  ว่าแล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าแปรงฟันพร้อมหมูชัตเตอร์ที่ยังขี่อยู่บนคอ แต่ผมกลัวว่าตอนที่ผมก้มหน้าบ้วนปาก ตอนต้นจะตกลงมาคอหัก ผมเลยจับมันใส่อ่างล้างหน้าเอาไว้ แล้วไปล้างหน้าแปรงฟันตรงฝักบัวแทน


                  “เอานี่ ผ้า” ผมเหลียวมองคนที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำยื่นผ้าขนหนูผืนเล็กที่ผมลืมหยิบเข้าห้องน้ำมาด้วย ผมบอกให้รอแป๊บ ก่อนจะแปรงฟันแบบติดสปีดจนหัวแปรงแทงเหงือกพอให้ได้แผลซิบๆ


                  ฉิบหาย วันอะไรของกูเนี่ยย! แต่บ่นก็ไม่ได้กำลังเจ็บ ทำได้แต่รีบแปรง รีบบ้วน รีบหันไปคว้าผ้าขนหนูมาเช็ดหน้า เอาผ้าพาดบ่าแล้วอุ้มหมูที่อยู่ในอ่างล้างหน้าออกไปหาพี่ตุลย์ที่ตอนนี้กำลังทำอะไรสักอย่างอยู่ในครัว


                  “ทำอะไรอยู่อะ?”

                  “เตรียมอาหารเช้าไง”

                  “อ๋อ ให้ผมช่วยอะไรไหมอะ? หรือว่าให้ผมไปปลุกที่หนึ่งไหม?”

                  “ไม่ต้องอะ ยังเช้าอยู่เลย สักเจ็ดโมงครึ่งค่อยไปปลุก วันหยุดก็ให้เขานอนสบายๆ” ผมพยักหน้ารับคำ ขณะที่กำลังจะพาตอนต้นไปหน้าทีวี พี่ตุลย์ก็เกี่ยวคอเสื้อรั้งผมเอาไว้เสียก่อน

                  “อะไร?”

                  “ตอนต้นกินข้าวมื้อแรกตอนหกโมงครึ่ง นายก็ต้องดูไว้สิ วิธีชงนมน่ะ”

                  “เอ้า ไม่ใช่ตอนที่ป้าสร้อยมาหรอ?”

                  “ไม่ นั่นก็ครั้งที่สอง ตอนต้นยังตัวแค่นี้ ไม่ทำอะไรมาก นอนจาก กิน นอน เล่น เวลาของเขาไม่ได้ตรงกับอย่างเราๆ เขานอนบ่อย เขาก็กินบ่อยเหมือนกัน” ผมร้องอ๋อพร้อมพยักหน้าหงึกๆ “ถ้านายชงกาแฟได้ นมเด็กก็ไม่ได้ต่างกัน แค่เปลี่ยนจากแก้วเป็นขวด ปริมาณนมที่ต้องใส่ต่อน้ำเขาก็เขียนเอาไว้ที่ข้างกระปุกอยู่แล้ว อ่านได้ใช่ไหม?”

                  “อ่านได้ เรียน ป.4 มาอยู่”

                  “ก็ตามนั้น แต่ต้องระวังเรื่องความร้อนให้ดี เด็กไม่กินนมที่ร้อนเกินไปแล้วก็เย็นเกินไป ต้องอุ่นๆ ประมาณอุณหภูมิห้องก็กำลังดี” พี่ตุลย์พลิกตัวมาพร้อมกับขวดนมที่ชงเสร็จแล้วหนึ่งขวด ไม่พูดพร่ำทำเพลงคว้ามือไปอย่างวิสาสะก่อนจะบีบนมหนึ่งหยดลงบนหลังมือของผ...!!

                  “โอ๊ย! ร้อน!” ผมร้องลั่น ชักมือกลับมาเป่าอย่างรวดเร็ว น้ำตาแทบจะไหล มันไม่ร้อนธรรมดานะ ร้อนมาก! ประหนึ่งอยู่ในปาร์ตี้ร้อนดังกับไฟเออร์!!

                  “ถ้านายรู้สึกว่าร้อน ลิ้นลูกฉันก็รับไม่ได้หรอก แต่มันก็คงต้องร้อนละนะ เพิ่งกดน้ำร้อนเมื่อกี้นี่หน่า” พี่ตุลย์หัวเราะ ดูชอบอกชอบใจไม่น้อยกับการที่ได้แกล้งผม

                  “ขอบคุณนะครับ ซึ้งใจมากที่ถนอมผมขนาดนี้” กัดฟันกรอดกันเลยทีเดียว แต่ไอ้พี่ตุลย์ก็ไม่สำนึกอะไรทั้งนั้นอะ หัวเราะหึหึตามสไตล์ลูกเดียว


                  ฟิลลิ่งอยากชูนิ้วกลางให้สักร้อยที จริงๆ แอบยกให้ในใจไปแล้วด้วย


                  “เอาใหม่ๆ เอามือมา”

                  “ไม่ เวลาเพิ่งจะผ่านไปไม่ถึงสองนาทีได้มั้ง น้ำมันคงจะอุ้มให้อยู่หรอก ตอนนี้มันก็ยังต้องร้อนเส้!” ผมโวยวายเสียงดัง ซ่อนมือไว้ด้านหลังไม่ให้พี่ตุลย์คว้าออกไปได้ พี่ตุลย์มองผมแบบข่มขู่ผมมากอะ ประมาณว่า จะเอามือออกมาดีๆ หรือจะเอาออกมาทั้งน้ำตา แต่ผมก็ทนไง สกิลแน่น เลเวลสูง จ้องมาจ้องกลับไม่โกง ดื้อด้วยงานเนี่ย!

                  “ถ้าไม่ทดสอบดูจะรู้ได้ไงว่าอุ่นขนาดไหนถึงจะพอดี”

                  “ผมรู้ว่าไม่ใช่ตอนนี้แน่นอนอะ” ผมส่ายหัว ยังไงๆ ก็ไม่ยอมเอามือออกไปให้ทดสอบเด็ดขาด

                  พี่ตุลย์ถอนหายใจใส่หน้าผมหนึ่งทีก่อนจะเอาขวดนมของตอนต้นแนบแก้ม “อุ่นแล้ว”

                  “...” ผมมองอย่างลังเล

                  “อุ่นแล้วจริงๆ ขนาดโดนแก้มยังไม่เป็นไร โดนหลังมือมันจะร้อนได้ไงละ”

                  “...” ผมยื่นหลังมือให้ โห นี่เพิ่งเห็นนะว่ารอยที่โดนนมลวกเมื่อกี้แม่งแดงเลย แต่ก็อย่างว่าน้ำร้อนอะ กระติกยังไม่ถอดปลั๊กด้วยซ้ำ


                  แหมะ


                  “โอ๊ย! นี่ไม่ร้อนหรอ! ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ ไม่หลังมือผมบาง ก็หน้าพี่หนาเนี่ยแหละ!” ผมชักมือกลับมาลูบๆ ระบายความแสบ แต่ไอ้ที่แสบกว่าคืออะไรรู้ไหมครับ? คือพี่ตุลย์ครับ หน้านี่แบบ... “จงใจหรอ? นี่มันแสบนะ! เกิดมาจากไข่สายพันธุ์ซาดิสหรอไง ถามจริง!”


                  คราวนี้ผมไม่เล่นด้วยครับ ชักหงุดหงิดขึ้นมาจริงๆ โดนปลุกตั้งไม่รู้กี่รอบ นอนได้สองสามชั่วโมง แปรงสีฟันก็แทงเหงือก ยังมาโดนไอ้คุณพ่อโรคจิตแม่งหยดนมร้อนใส่หลังมืออีก!


                  แล้วก็ต้องขอบคุณผมด้วยนะครับ เพราะตอนนี้เด็กก็อยู่ แถมอีกฝ่ายยังอายุมากกว่าพยายามด่าให้ซอฟต์ได้แค่นี้แหละ นี่ถ้าเป็นเพื่อนนะ ขุดคำด่ามาตั้งแต่สมัยก่อนสุโขทัย ใช้คำด่าตั้งแต่อังกฤษจนถึงภาษาใต้แล้ว! แบบเปรตนิ!


                  “โกรธหรอ?”

                  “ไม่โกรธมั้ง ดูหน้าดิ พี่ไม่ได้โกรธเล่นๆ นะครับ พี่โกรธจริง!” อันนี้ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ผมไม่ใช่พวกโกรธแล้วเดินหนี ผมอยู่แม่งที่นี่แหละ โกรธจ้องหน้าจนกว่าจะขอโทษอะ วิถีคนจริ...


                  จุ๊บ


                  “เฮ้ย!” ผมร้องลั่นด้วยความตกใจ ชักมือตัวเองที่ไอ้พี่ตุลย์คว้าไปจูบหลังมือกลับมาแทบไม่ทัน “ทำอะไร?”

                  “หายแสบหรือยังไง? ขอโทษนะ”

                  “!” ผมอ้าปาก อยากจะโกรธให้นานกว่านี้อยู่แต่พอเห็นท่าทางรู้สึกผิดจริงๆ ก็โกรธไม่ลง


                  ช่วยไม่ได้ มันก็ต้องมีบ้าง คนสองคนในชีวิตที่ยังไงก็ต้องยอมให้อยู่ดี


                  “ก็...ไม่แสบแล้ว” แค่รู้สึกว่าตรงที่ถูกจูบมันร้อนมากกว่า

                  “ขอโทษทีนะ ตอนแรกก็ไม่ได้จะแกล้งหรอก ก็แค่อยากให้รู้ว่าร้อนขนาดเท่านี้ห้ามให้เด็ก แต่พอเห็นหน้าที่เหมือนอยากจะด่าแต่ด่าไม่ได้แล้วมันก็รู้สึกอยากแกล้งขึ้นมา” อารมณ์ซึ้งเมื่อกี้ผมดิ่งวูบ ส่งหน้า ‘อยากด่าแต่ด่าไม่ได้’ ออกไป สุดท้ายก็เลือกที่จะยักไหล่ แล้วก็ปล่อยๆ ให้มันผ่าน

                  “พอๆ เลิกเล่น นมกินได้ยัง? ตอนต้นรอจนจะเข้ามหา’ลัยได้แล้วเนี่ย”


                  พี่ตุลย์หยดนมลงหลังมือตัวเอง แล้วมาหยดใส่หลังมือผม ซึ่งคราวนี้มันอุ่นกำลังดี แถมเพิ่งรู้ว่ากลิ่นหอมมากจนอยากจะเอาไปนอนดูดเอง ตอนต้นก็ดูดีใจไม่น้อยที่ตัวเองจะได้กินนมสักที หลังจากที่นั่งนิ่งรออยู่บนแขนผมอย่างใจจดใจจ่อ


                  “ตอนที่ตอนต้นกินนม ก็จะได้พักเก็บแรง เพราะหลังจากกินเสร็จจะครื้นเครงมากๆ แต่ก็แป๊บเดียว เดี๋ยวก็จะง่วง ตื่นมาอีกทีก็เกือบเวลาเดียวกับนายตื่นประจำนั่นแหละเอส”

                  “แต่ยังไงเวลานี้พี่ก็ช่วยผมอยู่ดี ไม่ต้องเปลี่ยนเวลานอน อิอิ” ผมจงใจหัวเราะให้น่าหมั่นไส้ที่สุด

                  “ก็ไม่แน่ ฉันอาจจะปลุกให้มาช่วยดู หรือไม่ก็สลับทำหน้าที่กับฉันก็ได้”

                  “โอ้โนวววว” ถึงกับต้องร้องโหยหวน หนีจากโชคชะตาเลวร้ายไปหน้าทีวีพร้อมกับหมูหนึ่งตัวที่เงยหน้ากินนมสุดฤทธิ์จนแทบจะหงายหลังตกไปจากแขน “กินดีๆ สิ อะไรมันจะต้องกระดกขึ้นขนาดนั้น” ผมพูดบ่นนั่งลงบนโซฟาพลางจับท่าตอนต้นให้มานอนอยู่บนตักผมแทนแล้วใช้แขนตัวเองเป็นหมอนหนุนไม่ให้หัวเงิบลงไป

                  “มองหน้าตอนต้นไว้ด้วยนะ”

                  “หะ? มองทำไมอะ?”

                  “เขาว่ามันดี เหมือนประมาณช่วยเรื่องความสัมพันธ์ละมั้ง แล้วก็เป็นการพัฒนาสมอง” พี่ตุลย์ว่าพร้อมกับนั่งลงข้างๆ ผม

                  “ความสัมพันธ์?”

                  “อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน ตอนที่ไปซื้อเลี้ยงเด็กก่อนหน้านู่นจำได้ไหม? ไปอ่านเจอเขาว่าเวลาให้นมลูก แม่ควรจะสบตากับลูกให้มากๆ ยิ้มให้ พูดคุย เหมือนเป็นการโยงความสัมพันธ์ ให้เขารู้สึกอ้อมแขนเราน่ะปลอดภัยอะไรแบบนั้น เมื่อก่อนฉันก็ไม่ทำ ตอนต้นกินนม ฉันก็ดูทีวี แต่พอลองทำดูมันก็ดีนะ ลองทำดู”

                  “ผมไม่ใช่แม่มันสักหน่อย”

                  “ถ้าไม่เห็นว่าตอนต้นกำลังดูดขวดนมอยู่ อุ้มท่านี้ฉันก็นึกว่าให้นมลูกชายฉันแล้ว”

                  “หะ ไม่ อะไร? มองยังไงเนี่ย” ผมเบือนหน้าหนี รู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมาชั่วขณะ รู้สึกตัวเลยว่าหัวใจข้างในมันเต้นแรงกว่าปกติ แล้วพอก้มมองตอนต้นที่นอนดูดขวดนมอยู่ในแขนผมก็รู้สึกเขินอายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก


                  โอ๊ย มันไม่ใช่ คือ...ยังไงดี ผมอธิบายความรู้สึกนี้ไม่ถูก จะปฏิเสธเพราะเลือดลูกผู้ชายก็ทำได้ไม่เต็มปาก จะเผลอคิดตามว่านี่คือลูกของตัวเองก็ไม่กล้า ความรู้สึกนี้ อื้ม...ทำตัวยากจัง


                  “ลองสบตาตอนต้นดู ไม่มีอะไรต้องกลัวหรอก ตอนนี้เขายังไร้เดียงสา นายอาจจะรู้สึกดีก็ได้กลับการมองความจริงใจใสซื่อของใครสักคน” ผมมองรอยยิ้มของพี่ตุลย์ที่มีให้กับลูกชาย ภาพลักษณ์นิ่งๆ เหมือนไม่แคร์ใครไม่เคยปรากฎขึ้นเลยยามที่เขาเล่นกับลูกของตัวเอง ไม่มีเสือยิ้มยาก ไม่มีคนที่ขี้รำคาญ มีแต่คุณพ่อที่รักลูกชายของเขามากๆ คนนึง “เอา มองตอนต้นสิ”

                  “...รู้แล้วหน่า” ผมพูดเสียงเบา กระแอมเรียกขวัญกำลังใจ แม้จะเขินอายแต่ก็ตัดสินใจที่จะก้มลงสบตาสีดำกลมของลูกหมูที่อยู่ในอ้อมกอด


                  ‘ตอนนี้เขายังไร้เดียงสา นายอาจจะรู้สึกดีก็ได้’


                  แล้วมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เหมือนผมได้เห็นลูกแก้วสีดำแวววาว เป็นดวงตาของคนที่ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรให้ต้องระแวดระวัง คงเป็นความรู้สึกผ่อนคลายอย่างนี้ละมั้งที่พี่ตุลย์อยากให้ผมได้ดู


                  แต่ผมกับเขาชอบไม่เหมือนกันหรอก เพราะเหนือกว่านั้น ผมก็ไม่รู้หรอกว่าทำไม แต่ผมชอบ...ชอบที่มองเห็นภาพของตัวเองที่ชัดขนาดนี้อยู่ในสายตานั้น


                  “พ่อ ทำอะไรอยู่อะ?” ผมกับพี่ตุลย์เงยหน้าตามเสียงของที่หนึ่งที่เดินหาวออกมาจากห้องนอน

                  “พาน้องกินนมอยู่ครับ” พี่ตุลย์ว่ายื่นแขนไปข้างหน้าเรียกให้ที่หนึ่งเข้ามาร่วมกลุ่มด้วยกัน “ที่จริงลูกก็น่ามามองน้องบ้างเหมือนกันนะ น้องจะได้รู้ว่ามีลูกเป็นพี่ มีกันสองคนพี่น้องจะได้รักกันมากๆ”

                  “ได้เลยยย หลบๆ เดี๋ยวที่หนึ่งจะมองตอนต้นเอง” แล้วหัวกลมๆ นั่นก็บังวิสัยทัศน์ผมมิด


                  ช็อก


                  ได้แค่อ้าปากพะงาบๆ ไม่รู้จะด่ามันหรือด่าพ่อมันดี orz


                  “พ่อ เมื่อกี้น้องทำตาเหล่ด้วยอะ!”

                  “ก็ลูกมองน้องใกล้ไปน่ะสิ เอาหัวออกมาห่างๆ ให้พ่อกับพี่เอสเห็นน้องด้วยสิ”

                  “ก็ดูกันไปเยอะแล้วอะ ที่หนึ่งเพิ่งมาดูเองนี่หน่า”


                  ผมหัวเราะ


                  เอาเถอะอยู่อัดๆ มันก็อุ่นดีนั่นแหละ 










TBC
มหาลัยอื่นใกล้จะสอบกันเสร็จแล้ว
วันที่ 30 นี่สอบตัวแรกจ่ะ หรือก็คือพรุ่งนี้ 555555555555 (เห็นน้ำตาในเลขห้านั่นไหม)
เลยมาอัพส่งท้ายก่อนไปสอบ
แจกันอีกที 25 ธันวานะครัชช มาพร้อมกับ คุณแม่ดีเด่น หึหึหึหึหึหึหึ ขาดนางได้ไง~~~
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-11-2015 01:03:07
5555 อบอุ่นดีเนอะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 29-11-2015 03:46:05
เล่นขอโทษด้วยการจุ๊บหลังมือแบบนี้ใครจะไปกล้าโกรธต่อกันล่ะคะพี่ตุลย์ :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 29-11-2015 03:54:29
นี่มันการหยดน้ำร้อนแล้วจุ๊บมือ 5555 แถมเหมือนจะมีคนยอมเป็นแม่ตอนต้นแล้วด้วย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 29-11-2015 07:57:03
ครอบครัวสุขสันต์จริงๆ 5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 29-11-2015 11:44:37
อ๊าาาา ฟิลลิ่งครอบครัวสุขสันต์กระแทกมาสุด!!
>\\\\\\\< ♡
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 29-11-2015 12:32:39
มุ้งมิ้งเชียว
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 29-11-2015 14:11:56
ครอบครัวอบอุ่น :katai2-1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 29-11-2015 15:42:55
พี่ตุลย์ขี้แกล้ง...แต่น่ารักอ่ะ 555 ให้อภัยๆ ฟีลนี้ครอบครัวจัดเต็ม อย่าให้มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเลยนะ
เจอกันอีกนานเลย สุขสันต์วันคริสต์มาสล่วงหน้านะคะ ><
ปล.รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 29-11-2015 18:24:54
 จะรอดไหมเนี่ยเอสๆๆๆๆิิ55555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: smoking ที่ 29-11-2015 21:06:35
น่าร้ากกกกกกก  :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 29-11-2015 21:17:43
 :mew1:ครอบครัวสุขสันต์
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 29-11-2015 21:31:17
น่ารักดีอะ
มองตอนต้นกันใหญ่ๆ อบอุ่นๆ5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 29-11-2015 22:12:39
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 30-11-2015 10:55:14
ตายละ คุณแม่คนสวยจะออกมาละ//เตรียมเปลือกทุเรียนแปป 55555

หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 30-11-2015 12:04:16
อบอุ่นเลย ช่วงที่มาช่วยกันมุงตอนต้น 5555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 30-11-2015 15:00:06
ฝึกการเป็นคุณแม่ นะ เอสสสส 555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Tequila ที่ 30-11-2015 15:26:23
แม่เอสสสสสสสสสสสส     :impress2: :impress2: :impress2:
จะรอน้าาา :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 30-11-2015 16:53:23
อบอุ่น
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 04-12-2015 02:39:40
เอสฝึกเป็นคุณแม่ :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: MinKKniM ที่ 04-12-2015 11:14:38
โมเมนต์ครอบครัวมันอบอุ่นมากกก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 06-12-2015 00:34:36
:)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 06-12-2015 14:29:55
เอสเข้าคอร์ทการเป็นคุณแม่แล้ววววว  :impress2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 07-12-2015 16:10:07
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: orangesmooty ที่ 07-12-2015 21:53:45
เพิ่งอ่านตอนต้นๆ เลยไม่รู้ว่ามีคนถามไปบ้างหรือยัง
แต่สงสัยมากเลยค่ะ ว่าแม่น้องที่หนึ่งกับน้องตอนต้นคนเดียวกันไหม
บอกว่าแม่หาวิธีอย่านมตั้งแต่ลูก 5 เดือน ถ้าเรื่องเกิดตั้งแต่น้องหนึ่ง แล้วน้องต้นมายังไง...
ว่าจะอ่านให้ครบถึงค่อยถามแต่สงสัยมากเลย อ่านไปสงสัยไป
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 08-12-2015 23:22:11
ว่าที่ซุเปอร์มัมมาแล้วววว. คิดอยู่ตลอดเลยค่ะว่าเอสต้องเป็นแม่ที่ดี(?)ได้แน่ๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 09-12-2015 08:45:20
ตามทันแล้ววว รีบมาต่อนะครับ ชอบเอสมากกกกกก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 19-12-2015 19:41:41
ตอนที่ 38


               วันจันทร์เช้าอันสดใสมาพร้อมกับใต้ตาที่บวมเป่ง เมื่อคืนครับ ไอ้พี่ตุลย์มันปลุกผมให้มาดูตอนต้นอีกแล้วววว นี่ผมนึกว่าเราจะคุยกันเข้าใจแล้วนะว่าตอนที่พี่ตุลย์อยู่ก็ช่วยดูแลไป ตอนที่ไม่อยู่เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง


               ‘ก็นายยังตื่นยากอยู่เลย เสียงตอนต้นร้องไห้นายก็ไม่ตื่น ฉันก็ต้องปลุกจนกว่านายจะชิน เผื่อมีอะไรสุดวิสัยนายจะได้ตื่นมาดูแทนได้’


               นั่นแหละครับ ผมจะไปเถียงอะไรเขาได้ สุดท้ายเมื่อคืนก็ตื่นครับ นับรวมกันก็สี่รอบ เบากว่าคืนก่อนอยู่ แต่มันรวมกันคือสองวันนี้ผมยังนอนไม่ครบแปดชั่วโมงเลยไง ผมเริ่มเข้าใจคนเป็นแม่เป็นพ่อคนเลยนะ ไม่แปลกใจแล้วว่านางฟ้าในวันนั้นถึงกลายมามีสภาพเป็นคนทำถ่านขนาดนี้


               “เอส ฉันจะไปทำงานแล้วนะ” พี่ตุลย์พูดเสียงดังบอกผมที่อยู่ในครัวขณะที่กำลังหยิบรองเท้าให้ที่หนึ่งไปด้วย

               “ครับๆ โชคดี รีบกลับบ้าน” ผมยื่นหน้าออกตอบ

               “ดูแลตอนต้นดีๆ ละ ถ้ากลับมาลูกฉันเป็นอะไรไปละก็ เตรียมตัวไว้ได้เลย” มีขู่

               “รู้แล้วหน่า ยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอมเลย” ผมลากเสียงยาวพลางโบกมือไล่ พี่ตุลย์มองหน้าผมนิ่งเหมือนจะหยั่งเชิง ก่อนจะหันไปคุยกับที่หนึ่งแล้วพากันออกจากห้องไป เหลือเพียงผมกับตอนต้น มนุษย์หมู

               “เหลือเราแค่สองแล้วละเบบี้ หลังจากนี้จะดื้อแค่ไหนก็ได้แต่อยู่กับช่วยสงบเสงี่ยมทีเถ๊อะ” พูดจบก็เทินขึ้นเหนือหัว


               วันนี้วันออกภาคปฏิบัติครั้งแรก หลังจากเมื่อวานติวเข้มอย่างหนักหน่วง ยิ่งกว่าสอบไฟนอลชนิดที่ว่าเมื่อวานนี่แทบไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยนอกจากเรียกชื่อผม แล้วดันไม่ใช่แค่เรื่องลี้ยงเด็กด้วยนะครับ ผมก็ไม่รู้ไปมายังไงรู้ตัวอีกทีก็ล้างจาน เก็บของ กวาดบ้าน ถูโต๊ะแล้วเรียบร้อย พอรู้สึกตัวหายจากการสมองช้า ไม่ทันจะได้โวยวายว่าเกี่ยวกับเลี้ยงตอนต้นตรงไหนพี่ตุลย์ก็ชิ่งตอบมาก่อนยาวเป็นหางว่า


               เมื่อวานนี่อย่าเรียกผมว่าพ่อบ้านครับ เรียกผมว่าทาสยังไม่เกินไปด้วยซ้ำ


               “ง่วงแล้วหรอ?” ผมถามเมื่อเห็นว่าตอนต้นตาปรือพิงหัวมาที่ไหล่ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนหยิบเป้อุ้มเด็กที่เก็บอยู่ในตู้เสื้อผ้าขึ้นมา แล้วยัดหมูลงไป ผมไม่กล้าทิ้งให้ตอนต้นนอนในห้องคนเดียวหรอกครับ ผมกลัวเกิดสถานการณ์ฉุนเฉิน แต่จะให้เฝ้าจนกว่าจะตื่น ผมก็ทำไม่ได้ เมื่อวานผมก็เพิ่งรู้ว่ามีเป้นี่ด้วย ผมเลยตัดสินใจกระเตงเลย ให้แปะอยู่กับตัวผมเนี่ยแหละสบายใจสุด


               แต่ก่อนที่ผมจะออกมาจากห้องนอน ก็หยิบหนังสือวิชาที่สอบไฟนอลเป็นวิชาแรกติดมือออกมาด้วย ตั้งใจจะเอามาอ่านในระหว่างที่ตอนต้นกำลังนอนหลับ


               ถึงยังไงผมก็นักศึกษาเตรียมสอบละนะ


















               “ฮ้าววว” ผมหาวเสียงดังชนิดไม่อายผีบ้านผีเรือน อ่านหนังสือไปได้เกือบชั่วโมง ความง่วงเริ่มครอบงำ อยากจะเปิดทีวีดูอะไรก็ได้ให้หายง่วง แต่ผมก็กลัวว่าตอนต้นจะดันตื่นขึ้นมาด้วยเลยทำได้แค่นั่งนิ่งๆ แล้วก็ปิดหนังสือลง


               เฮ้อ


               ผมมันเป็นสัตว์สังคมครับ พอไม่ได้คุยกับใคร ไม่ได้ยินเสียงอะไรนี่ทำให้ผมรู้สึกงุ่นง่านไม่น้อยเลยนะ จะโทรไปคุยกับเพื่อนเอาแบบไร้สาระเป็นชั่วโมง เงินโทรศัพท์ผมก็มีไม่เยอะขนาดนั้น จะใช้เงินฟุ่มเฟือยซื้อบัตรเติมเงินทีละหลายๆ ร้อยก็ไม่ได้หรอก


               “ตอนต้นเมื่อไหร่จะตื่นสักที มาเล่นกับพี่เถอะ นี่จะเฉาตายละ” ผมเอี้ยวตัวหันไปพูดกับตอนต้นที่ยังนอนแปะอยู่ที่หลัง แต่เสียงที่ได้ตอบกลับมาก็เป็นเสียงฟี้ๆ ของคนที่นอนหลับสนิทแล้วก็เท่านั้นเอง


               เห็นมันนอนแล้ว ผมนี่อยากนอนบ้างเลย แต่ก็กังวลว่าถ้าตอนที่ผมเผลอหลับจะเกิดเรื่องขึ้น


               ...แต่ถ้ากอดไว้คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง?


               ว่าแล้วผมก็จัดการเอาตอนต้นออกจากเป้อุ้มเด็กแบบเบามือที่สุดแล้วไปหยิบผ้านวมจากเตียง ปูกับพื้นหน้าทีวีก่อนจะล้มตัวลงนอนพร้อมกับกอดเด็กอ้วนไว้แน่นเพื่อให้ชื่นใจว่าอีกฝ่ายจะอยู่ใกล้ๆ ตัว


               …


               แต่ด้วยความกังวล สุดท้ายผมก็สะดุ้งตื่น ไม่แน่ใจตัวเองว่านอนไปนานเท่าไหร่ สิ่งแรกที่ทำคือปัดป่ายมือหาตอนต้นที่ผมมั่นใจว่านอนกอดเอาไว้แน่น ก่อนจะลุกพรวดขึ้นมานั่งจนหน้ามืดเมื่อรู้สึกว่าเด็กนั่นไม่ได้อยู่ใกล้ๆ ตัว! กวาดสายมองไปรอบๆ ด้วยความตกใจ ก่อนจะค่อยๆ โล่งที่เห็นตอนต้นกำลังเล่นของเล่นจากในกล่องอยู่ไม่ห่างจากผมไปสักเท่าไหร่


               โอเคๆ ผมคงนอนไม่ได้แหละ ผมกังวลเกิน จนนอนหลับไม่ค่อยสนิทเลย


               “จะทำอะไรก็บอกกันบ้างสิ” ผมบ่น แต่เด็กนั่นก็ไม่สนใจยังหัวเราะสนุกสนานอยู่กับของเล่นตรงหน้า ผมเลิกสนใจไอ้เด็กอ้วนนั่น หันมองนาฬิกาดูว่าถึงเวลามื้อที่สองตามที่พี่ตุลย์ได้บอกเอาไว้หรือยัง


               9:42 น.


               อีกนิดก็เป็นเวลาตื่นปกติของผมแล้วนะเนี่ย


               หมับ


               ผมอุ้มตอนต้นขึ้นใส่เป้อุ้มเด็ก สะพายหลังไว้ เดินดุ่มๆ เข้าไปในครัวเตรียมอาหารเช้าให้ตอนต้นกับตัวผมเอง ไอ้ของผมเนี่ยเมินไปก่อนได้เลย เสียบน้ำร้อนเป็นอันจบ ม.ม.น.น. มาม่าแน่นอน แต่ของตอนต้นนี่ต้องพิถีพิถันกันหน่อย พี่ตุลย์บอกว่าเด็กวัยนี่จะค่อนข้างเลือกกิน เหม็นคาวปลาบ้าง คาวไข่บ้าง สารพัดจะเลือกมาก


               “อยากกินมาม่ารสต้มยำดูไหม? อร่อยนะ แซ่บๆ” ผมชวนเด็กที่อยู่ที่หลังผมคุยหลังจากรู้สึกว่า ไม่มีเสียงอ๋อแอ๋อะไรมากสักพัก แต่ว่า ทั้งๆ ที่ปกติเด็กนั่นก็จะส่งเสียงตอบกลับมาแท้ๆ แต่คราวนี้เงียบจนผมใจคอไม่ดี ต้องเอี้ยวคอเพื่อจะหันไปมอง “เป็นอะ...”

               “ฮึก...”

               “ฮะ เฮ้ย! เป็นไร?” ผมรีบคว้าตอนต้นออกจากเป้ที่สะพายอยู่ด้านหลัง เด็กนั่นเริ่มหน้าแบะพร้อมปล่อยโฮ เล่นเอาผมทำอะไรไม่ถูกไม่รู้ว่าไปทำอะไรผิดเข้า หรือเพราะว่าผมอุ้มมันออกมาจากกองของเล่นวะ!?

               “เดี๋ยว เป็นอะไรอะ? อย่าเพิ่งร้องนะ” ผมหันซ้ายแลขวาหาคนช่วย แต่ก็นึกขึ้นได้ เอ้า สัส กูอยู่คนเดียววว หรือจะโทรเรียกตำรวจดีหรือจะเป็นผู้ว่า กทม. ตามนโยบายทั้งชีวิตเราดูแลดี ไม่ได้ๆ สงสัยต้องใช้วิชาพระพุทธศาสนาแล้วครับ อัตตา หิ อัตตโน นาโถ


               ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนครับ!


               “ฮึก...ฮึก แงงงงงงง” มันร้องแล้ว!

               “โอ๋ๆๆ ไม่ร้องนะ แต่ช้าแต่ แต่ช้าแต่ หิวหรอ? กำลังจะทำอะไรให้กินอยู่นะ รอแป๊บได้ไหม”

               “แงงง แงงงงงง!” แต่แทนที่จะต่อรองกันได้ ปรากฎว่าตอนต้นยิ่งแหกปากร้องกว่าเดิม ผมที่ไม่ชินก็ยิ่งรนรานอยากจะวิ่งไปหาป้าสร้อยใจจะขาด แต่จะเอาภาระไปให้คนเจ็บก็ไม่ใช่เรื่องเลยตัดสินใจวิ่งเข้าห้องน้ำ อย่างน้อยก็น่าจะทำให้เสียงไม่ออกไปรบกวนคนที่อยู่ชั้นเดียวกันมากนัก

               “จะร้องทำไมเนี่ย เป็นผู้ชายไม่ร้องสิ! เอาไหนลองบอกสิ ว่าเป็นอะไร จะได้แก้ไขถูกไง”

               “แงงง!”

               “เฮ้ย ไม่ได้บอกให้ร้อง! บอกว่าให้พูด ต้องการอะไรเนี่ย”

               “ฮึก ฮึก! แงงง แงงงงงง!”


               ผมชูตอนต้นขึ้นระดับสายตา ไม่รู้จะทำยังไงให้อีกฝ่ายหยุดร้อง เอาจริงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมต้องมาเผชิญตอนต้นที่งอแงอย่างนี้คนเดียว ผมไม่ทำเก่งนะ ยอมรับเลยว่าทำอะไรไม่ถูก ยิ่งอีกฝ่ายร้อง ผมก็ยิ่งเครียด หน้าตอนต้นแดงไปหมด ทั้งน้ำมูกน้ำตาก็ไหลไม่หยุดเลย


               “ไม่เอา ไม่ร้องสิ เป็นอะไรไปหรอ?” ผมรู้ตัวเลยว่าเสียงสั่น แต่ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ ตอนต้นก็ยิ่งร้องดังขึ้น ดังขึ้น 


               สุดท้ายผมตัดสินใจออกมาจากห้องน้ำ โทรหาพี่ตุลย์ที่พึ่งเดียวที่จะช่วยได้


               /ฮัล.../

               “ตอนต้นร้องไห้อะ! ทำไงดีอะ ผมไม่รู้ว่าหิวข้าว อยากเล่นของเล่นหรืออะไร แต่ถ้าหิวข้าวก็ต้องรอก่อนเพราะผมยังทำไม่เสร็จเลย แล้วผมควรจะให้ตอนต้นปลอบให้หยุดร้องก่อน หรือว่าปล่อยให้ร้องไปก่อนแล้วรีบทำข้าวให้เสร็จดี พี่กลับมาช่วยได้ไหมอะ ทำไงดี หรือ หรือผม...”

               /อันดับแรก นายควรจะใจเย็น/

               “พี่ไม่ได้ยินเสียงร้องของตอนต้นหรือไง จะให้ผมใจเย็นอะไรได้ยังไงเล่า!”

               /แล้วนายร้อนรนไปจะได้อะไรขึ้นมา ยิ่งเจอปัญหานายต้องยิ่งนิ่งเข้าไว้/

               “...โอเค” ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ถอนหายใจออกมายาวๆ เรียกสติสที่กระเจิดกระเจิง

               /เมื่อวาน ฉันก็บอกนายไปหมดแล้วว่าเด็กจะร้องเพราะอะไรบ้าง ลองเช็คดูดีๆ/

               “พี่บอกว่า...”

               /ตุลา ทำอะไรอยู่!? เดี๋ยวก็เข้าประชุมสายหรอก....ครับ เดี๋ยวผมจะไปเดี๋ยวนี้...โทษทีฉันต้องไปก่อน ใจเย็นๆ เข้าไว้แล้วกัน ตู๊ด/ พี่ตุลย์ตัดสายไปอย่างเร่งรีบ


               ตอนต้นยังคงแผดเสียงร้องอยู่ คงความดังได้ดีไม่มีตก แต่คำของพี่ตุลย์ก็ทำให้ผมใจเย็นขึ้นมาก พยายามเมินเสียงร้องนั่นไปแล้วหาสาเหตุ


               เจ็บ? ไม่ ตอนต้นจะเจ็บอะไรละ ไม่ได้ไปโดนอะไรเข้าสักหน่อย


               หิว? อันนี้ก็ไม่แน่


               ของเล่น? ผมยื่นของเล่นที่ตอนต้นเล่นค้างไว้อยู่ แต่อีกฝ่ายก็ไม่มีทีท่าจะสนใจไม่ว่าผมจะหยิบอันไหนๆ ขึ้นมา


               อึ?


               ...


               เออว่ะ!


               ผมชูตอนต้นขึ้น จับมันหันตูดให้ผมก่อนจะดมกลิ่น


               รู้แจ้งเห็นชัด ชัดมากยิ่งกว่าหนัง 4D กะระยะไม่ถูก ดมใกล้ไป กลิ่นแม่งลงไปถึงคอ!


               พอตั้งสติ เอาของเก่าที่ทำท่าจะขย่อนออกกลับลงไปในกระเพาะได้ก็รีบวิ่งปรู๊ดเข้าไปในห้องน้ำจัดการตามที่ได้ร่ำเรียนเมื่อวาน ตอนที่อยู่ในห้องน้ำก็ว่าได้กลิ่นตุๆ แต่ก็นึกว่ากลิ่นห้องน้ำ แม่งเอ๊ย


               “วันหลังปวดอึก็บอก เดี๋ยวจะพามา!” 
















               ตาย ตาย กว่าป้าสร้อยจะหายดี กูตายแน่ๆ


               ผมพิงตัวไปกับโซฟาอย่างหมดแรง เหี่ยวแห้งเหมือนผ้าเปียกพาดไปกับเบาะ เวลาตอนนี้สี่โมงครึ่ง พวกพนักงานบริษัทก็คงเลิกงานแล้ว เด็กมหา’ลัยอย่างผมตอนนี้ก็หมดคาบเรียนแล้ว แต่ผมกลับยังไม่จบ วันนี้ผมเดินตลอด ยืนทั้งวันแล้วยังต้องแบกตอนต้นที่ตัวหนักอย่างกับหมูไว้อีก จนรู้สึกว่าขาหร่อยๆ จะหมดแรงให้ได้


               ได้พักนั่งดูทีวี หึหึ จะไปดูตอนไหนละครับ! พอมันหิว ผมก็ต้องเข้าครัว ต้องมานั่งป้อน กินเสร็จผมก็ต้องล้างจาน ตอนต้นก็คึกคักเวลาจะเล่นถ้าไม่เล่นด้วย ก็งอแง เขวี้ยงของใส่อีก ระบบขับถ่ายก็ดีเยี่ยม เปลี่ยนผ้าอ้อมจนชักจะชินกลิ่น พอมันหมดแรง นอน ผมจะนอนก็กลัวว่ามันจะหาย ดูทีวี ก็กลัวจะตื่น อ่านหนังสือสอบก็กลัวจะเผลอหลับ ได้แต่นั่งโง่ๆ จนมันชาตพลังเต็ม แล้วตัวผมก็ไปวนลูปทำกับข้าวใหม่


               นับถืออะบอกตรง นับถือทุกคนที่เป็นแม่คนเลยนะครับ นับถือซิงเกิ้ลแด๊ดด้วย นับถือป้าสร้อย ซิงเกิ้ลคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยายที่ต้องเลี้ยงหลานด้วยนะครับ


               Rrrrrrrrrr


               “ฮัลโหล” ผมตอบเสียงยานครางอยากให้พี่ตุลย์ที่โทรมารู้ว่า ฉันกำลังจะตายไปอีกในไม่ช้า แต่อยากจะบอกคำนึงให้รู้ว่า คนที่รักเธอจนตายมีอยู่จริง ไม่ใช่นิยายจำไว้~ ถุ้ย

               /ตอนต้นเป็นไงบ้าง?/

               “สดใสร่าเริงสุดๆ ปลอดภัยหายห่วง” ผมหัวเราะเหอะๆ ในลำคอ พอนึกว่าก็เด็กนั่นสูบพลังผมจนเหี่ยวแห้งขนาดนี้ “แล้วทำไมวันนี้กลับช้าจัง นี่มันสี่โมงครึ่งแล้วนะ”

               /มารับที่หนึ่งน่ะ โทษที แล้วก็จะแวะห้างฯ นิดหน่อย ที่หนึ่งอยากกินแดดดี้โด แล้วจะเอาอะไรด้วยไหม?/

               “ไม่อะ ผมไม่อยากได้อะไรทั้งนั้นนอกจากพี่แล้วตอนเนี่ย รีบกลับเถ๊อะะ” นี่ถ้ามุดเข้าไปในโทรศัพท์แล้วกราบได้ จะเบญจางคประดิษฐ์งามๆ

               /...โอเค จะรีบกลับให้เร็วที่สุดก็แล้วกัน/

               “คร๊าบๆ” ผมขานรับก่อนจะกดตัดสาย โยนมือถือไว้ข้างตัวก่อนจะอุ้มตอนต้นที่ยืนเกาะโซฟาทำท่าเหมือนอยากจะมาเล่นด้วย

               “แอะ”

               “ยังต้องอยู่ด้วยกันอีกแป๊บนึงอะ กว่าพ่อจะกลับ” ผมถอนหายใจ

               “อะ แอะ...” อีกฝ่ายส่งเสียงฟังไม่ได้ศัพท์ออกมาเหมือนอยากจะปลอบ อยากจะคุยด้วย


               ผมหัวเราะเบาๆ อ่า เอาเถอะ 
















               “กลับมาแล้วววว~” เสียงของที่หนึ่งดังไกลๆ ตั้งแต่หน้าลิฟต์ จนผมที่ได้ยินแว่วๆ นี่แทบจะนับเป็นวินาทีรอให้สองคนพ่อลูกเข้าห้องมา แล้วทันทีที่พี่ตุลย์เปิดประตูเข้ามาปุ๊บ ผมที่ตั้งท่ารออยู่แล้วก็ยัดตอนต้นใส่มือปั๊บ!

               “ฝากต่อด้วยนะ ผมจะไปนอนแล้ว บาย!”

               “อันธพาลกินโดนัทด้วยกันไหม?” ที่หนึ่งที่กำลังกินแดดี้โดอยู่หน้าทีวีเอ่ยปากชวน แต่ผมก็โบกมือปฏิเสธแบบไม่มีลังเล เดินจ้ำๆ อีกนิดก็จะถึงห้องนอนแล้วว!

               “เอส ไม่อ่านหนังสือสอบหรอ? ตกลงกันว่า ถ้าฉันกลับมาดูตอนต้นนายจะอ่านหนังสือสอบไม่ใช่หรอไง?”

               “ก็จะอ่านอยู่” ผมตอบเสียงเนือย มือจับลูกบิดแล้วเนี่ย รู้เลยว่าอยากจะพุ่งตัวใส่เตียงมากแค่ไหน “ผมขอพักก่อนเถอะ สองวันมานี้ผมนอนยังไม่ถึงแปดชั่วโมงเลย”

               “แล้วจะตื่นมาอ่านกี่โมง? ถ้านอนยาวตื่นเช้าก็ไม่ได้อ่านอีก”

               “เอางี้ พี่ค่อยปลุกผมแล้วกัน ตอนไหนที่พี่กะว่าผมคงพักผ่อนพอแล้วอะ”พูดเสร็จผมก็เปิดประตูก่อนจะเข้าไปในห้องนอน อาบน้ำ กินข้าวอะไรตอนนี้ไม่อยากทั้งนั้น อยากนอนสุดอะไรสุด


               พอคิดว่าวันนี้ภารกิจเลี้ยงเด็กของผมจบสักทีก็...


               “เฮ้อ...” ถอนหายใจ


               เอ้า ฉิบหายน้ำตาไหล


               ไหลมาทำไมวะ! มึงทำงานตรงต่อร่างกายส่วนไหนกูเนี่ย


               คือผมก็ไม่รู้แน่ชัดนะ ว่าทำไมอยู่ดีๆ น้ำตาก็ไหลออกมาเอง แต่ผมคิดว่ามันไม่ใช่ความรู้สึกซาบซึ้ง เสียใจ ท้อแท้หรืออะไรแบบนั้นเลยครับ ความเหนื่อยผมว่าก็ไม่เชิงอะ ผมไม่ใช่คนที่จะเหนื่อยแล้วร้องไห้แบบนั้น ชินครับชิน แต่ผมคิดว่าน่าจะเพราะความ ‘รู้ซึ้ง’ มากกว่า


               จะยังไงดีละ ผมก็อธิบายไม่ถูก คงเป็นการรู้ซึ้งของการเลี้ยงลูก ความเหน็ดเหนื่อยของคนเป็นพ่อเป็นแม่ ความเหนื่อยของพี่ตุลย์งี้ละมั้ง


               ผมก็ไม่รู้ว่ะ


               เออ ช่างแม่ง ปาดน้ำตาแล้วนอนเถอะ ผมไม่ไหวแล้วครับ ฝันดี!

















               “ตื่นได้แล้ว สี่ทุ่มแล้ว”

               “อื้อ...ขอสิบนาที” ผมส่งเสียงอื้อ เขยิบตัวหนีแขนพี่ตุลย์ที่มาเขย่า ก่อนจะลุกพรวดร้องจ๊าก เมื่อไอ้พี่ตุลย์เปลี่ยนมาหยิกแขนผมแทน “หยิกทำไมเนี่ย! ไม่ต้องปลุกรุนแรงขนาดนั้นก็ได้มั้ง”

               “หยิกอะไร? แค่บีบเนื้อที่แขนดูเท่านั้นเอง” พี่ตุลย์พูดด้วยสีหน้างงๆ ผมหรี่ตามองอย่างพิจารณาแต่ก็ดูเหมือนว่าพี่ตุลย์ตั้งใจแค่จะบีบแขนเช็คไขมันหรืออะไรสักอย่างจริงๆ แต่คงกะแรงไม่ถูกมั้ง หรือไม่แขนผมก็อ่อนแอไปเอง “ช่างมันก่อน ตื่นแล้วก็ไปอ่านหนังสือไป จะสอบไฟนอลอยู่แล้วไม่ใช่หรอ?”

               “อือ” ผมลากเสียงยาวขณะลุกออกจากเตียง “ไม่อยากอ่านเลยอะ อยากนอนยาวๆ ขี้เกียจชะมัด”

               “สอบแบบมหา’ลัยไม่ได้เหมือนม.ปลายหรอกนะ ที่จะอ่านหน้าห้องก็ทำได้”

               “รู้หน่า อ่านมาเป็นเทอมยังไม่รู้เลยว่าจะทำได้เปล่า” ว่าพลางบิดขี้เกียจ ยืดแขนยืดขาให้ร่างกายได้ตื่นตัว ก่อนจะเดินไปหยิบหนังสือเรียนที่จะสอบเป็นวิชาแรกตั้งใจจะเอาไปอ่านที่นอนตัวเองข้างเตียง

               “อ่านที่หน้าทีวีได้นะ เด็กๆ แยกย้ายกันนอนหมดแล้ว คงจะเงียบอยู่”

               “อ้าวหรอ เดี๋ยวผมไปอ่านหน้าทีวี”

               “โต๊ะญี่ปุ่นอยู่หลังตู้เสื้อผ้าน่ะ”

               “คร๊าบๆ” ผมเดินไปตามที่พี่ตุลย์บอก ใช้แขนข้างนึงหอบหนังสือ อีกข้างถือโต๊ะญี่ปุ่น มีพี่ตุลย์ช่วยเปิดประตูห้องนอนให้ “พี่กางโต๊ะให้ผมหน่อยนะ เดี๋ยวขอไปล้างหน้าล้างตาให้ตื่นๆ ก่อน”


               หลังจากเห็นพี่ตุลย์พยักหน้า ผมก็เดินเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ ทำธุระให้เสร็จเรียบร้อยเพื่อจะได้อ่านหนังสือสำหรับคืนนี้ ผมเช็ดมือที่เปียกน้ำกับกางเกง ตกใจไม่น้อยที่เห็นพี่ตุลย์กำลังยืนพิงเคาเตอร์อยู่ในห้องครัว


               “ผมนึกว่ากางโต๊ะให้เสร็จแล้วพี่จะกลับไปนอน”

               “เดี๋ยวอีกสักพักก็จะไปนอนแล้ว”

               “อ๋อ ฝันดีนะ” ผมบอกก่อนจะเดินไปทรุดตัวนั่งหน้าโซฟา กางหนังสือเรียนที่ต้องอ่าน กับแนวข้อสอบที่จดเอาไว้ในสุด รวบรวมสามารถจดจ่ออยู่กับการเรีย...

               “ดูเหมือนว่าจะยากนะ มีแต่ตัวเลข” พี่ตุลย์ที่ไม่รู้ว่าโผล่มานั่งข้างๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ยื่นหน้ามาใกล้จนผมถึงกับผงะผลักหน้าออกแทบไม่ทัน

               “ก็พี่ไม่เคยเรียนมาก่อน แล้วมาดูหนังสือเลยคงจะรู้เรื่องอยู่หรอก” ผมรวบรวมสติที่กระเจิดกระเจิงเมื่อกี้กลับมาใหม่ ก้มหน้าอ่านหนังสืออีกครั้งไม่สนใจสายตาของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ

               “เหนื่อยไหม?”

               “พี่หมายถึงอะไรละ?” ผมถามกลับไป ใช้ความพยายามมากขึ้นในการที่จะเพ่งความสนใจไปที่หนังสือ

               “เลี้ยงตอนต้น”

               “เหนื่อย แต่วันนี้มันก็ครั้งแรก ต่อๆ ไปก็คงจะดีขึ้น”

               “ตอนที่นายโทรมาตอนนั้น น้ำเสียงร้อนรนมากจนฉันก็พลอยกังวลไปด้วย จนเกือบทำงานพลาด”

               “ขอโทษแล้วกันนะ ตอนนั้นผมทำอะไรไม่ถูกจริงๆ คิดว่าพี่คงช่วยได้ ไม่ได้อยากทำให้พี่กังวลหรอก” ผมใช้ไฮไลต์ขีดเน้นข้อความสำคัญของหัวข้อที่กำลังอ่าน พอพี่ตุลย์ลุกกลับเข้าไปในครัว ก็ค่อยรู้สึกสงบขึ้น เพ่งสมาธิอ่านหนังสือได้เต็มที่ แต่ผมว่าทางที่ดีพี่ตุลย์น่าจะรีบๆ กลับห้องนอนไปสักที

               “กินกาแฟไหม?” พออ่านหนังสือได้ไม่นาน พี่ตุลย์ก็ถามขึ้นเสียงดังจนสมาธิผมกระเจิงอีกรอบ เงยหน้ามองเจ้าของห้องด้วยสายตาตำหนิ ก่อนจะตกใจเมื่อเห็นแก้วกาแฟ ที่อีกฝ่ายยื่นให้มา

               “อ๋ออ แต้งกิ้ว” ผมยื่นมือไปรับไว้ เนี่ยแหละเพื่อนผมในยามค่ำคืนนี้ ยาวๆ กันไป ว่าแล้วผมก็ยกซดสักหนึ่งอึก ที่อยู่ในห้องครัวตอนนั้นคือกำลังต้มน้ำร้อนสินะ

               “เข้มไปไหม?”

               “นิดหน่อย แต่เขาว่าเข้มแบบนี้จะทำให้ไม่ง่วง”

               “อืม”


               ผมเหลือบตามองพี่ตุลย์ที่ยังไม่ไปไหน ชั่งใจว่าจะบอกให้เขาไปนอนเถอะ ผมจะได้อ่านหนังสือ หรือช่างแม่ง อ่านทั้งๆ ที่มีพี่ตุลย์กวนอยู่เนี่ยแหละ


                “เมื่อไหร่พี่จะเข้านอนอะ?” สุดท้ายผมก็เลือกพูดไล่กลายๆ ไฟนอลนี้ผมต้องไม่เอ...เอ สงสัยจะเอฟ อะไรแบบนั้น ไม่ครับ!

               “ก็อีกสักพัก” พี่ตุลย์ตอบ ผมส่งเสียงออในลำคอเป็นการขานรับ เมื่อพี่ตุลย์ยังไม่ไปผมก็ทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่า ก้มหน้าอ่านหนังสือ “อา โทษที ฉันอยู่กวนนายสินะ”

               “ถ้าไม่ติดว่าเกรงใจ ก็จะบอกว่าใช่อยู่” ผมยิ้มแฉ่ง ท่าทางผมคงกวนตีนไม่หน่อย จนพี่ตุลย์ต้องหัวเราะหึหึตามสไตล์ออกมา

               “งั้นฉันไปนอนแล้วนะ”

               “ฝันดีครับผม ไม่ต้องให้ผมไปร้องเพลงกล่อมนอนหรอกเนาะ” ผมโบกมือประหนึ่งนางงามก่อนจะเบือนหน้ากลับมาเพ่งสมาธิอยู่ที่หนังสืออีกครั้ง แต่เพียงแว๊บเดียว! แค่แว๊บเดียวที่สายตาของผมน่าจะอยู่กับตัวอักษร กลับต้องมาสบตาอยู่กับใครสักคน ใช้เวลาอึ้งอยู่นานก่อนจะรู้ตัวว่าผมโดนพี่ตุลย์ที่พุ่งเข้ามาจับหันหน้าแล้วขโมยจูบไป!

               “ขอบคุณที่ช่วยดูแลลูกของฉันนะ ตั้งใจอ่านหนังสือละ” พี่ตุลย์ยิ้มให้ ก่อนจะลุกเดินกลับเข้าไปในห้องนอน


               ปัง


               “...”


               ผมหันกลับมา ตั้งท่าจะอ่านหนังสืออีกครั้ง


               ...


               โธ่! หัวใจเต้นดังชะมัด บอกผมทีสิครับแล้วอย่างนี้จะอ่านหนังสือได้ยังไงเล่า…






TBC
เฮลโล่ววว บอกไว้แล้วว่าเจอกันหลังคริสมาสต์ เพราะว่าสอบเสร็จก็คริสมาสต์นู่นเลย แต่ว่า แต่ว่า
คิดถึงงงงงง! คิดถึงมาก อยากพาเอสมาหา โฮฮฮฮฮฮฮ
 เพิ่งผ่านวันพ่อไปประมาณสิบกว่าวัน ถือว่าวันนี้เป็นตอนฉลองวันพ่อแล้วกัน 5555555555
ต่อไป ความเข้มข้นจงมา หึหึหึ

#daddybelover

คัมแบ็คทอฟ้า! <3
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 19-12-2015 20:14:30
 :ling1:

คุณแม่ยอดแย่แห่งปีจะกลับมาทำไม........
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-12-2015 20:49:26
ทอฟ้าไม่ต้องคัมแบกได้มะะะะะะะะะะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 19-12-2015 21:02:32
หายไปนาน คิดถึงน้องเอสมากมาย ^^
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 19-12-2015 22:41:34
น้องเอสเก่งมาก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 19-12-2015 22:53:22
จะเอายัยป้านั่นกลับมาทำไม!!!!! ไปแล้วไปลับเลยดิ!!!///สาดเกลือไล่ๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 19-12-2015 23:03:21
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-12-2015 23:33:12
ไอ้ที่รีๆรอๆอยู่เนี่ยคือรอจูบขอบคุณใช่ไหม
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 20-12-2015 00:19:28
แอบเขินตอนจบ

แต่ยัยป้าทอฟ้าจะมาอีกแล้วรึ เอานางออกป๊ายยยย//พรมน้ำมนต์ไล่ยิกๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 20-12-2015 03:24:06
โอยยยยยย หวานอ้ะบอกเลยว่าหวานนน >_<
น้ำตาจะไหลซึ้งกับการเป็นพ่อเป็นแม่คน T v T
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 20-12-2015 06:05:56
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: GMJeam ที่ 20-12-2015 15:28:50
 :o8:  :o8:  :o8:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 20-12-2015 16:30:05
เดี๋ยวป้าจะไปช่วย เลี้ยงตอนต้นเอง ทอฟ้าไม่ต้องมา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 20-12-2015 18:00:33
อุบ๊ะ น่ารักแท้

อยากเฝ้าก็บอกสิครับ พี่ตุลย์
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 37 (29/11/58)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 20-12-2015 18:06:21
เพิ่งอ่านตอนต้นๆ เลยไม่รู้ว่ามีคนถามไปบ้างหรือยัง
แต่สงสัยมากเลยค่ะ ว่าแม่น้องที่หนึ่งกับน้องตอนต้นคนเดียวกันไหม
บอกว่าแม่หาวิธีอย่านมตั้งแต่ลูก 5 เดือน ถ้าเรื่องเกิดตั้งแต่น้องหนึ่ง แล้วน้องต้นมายังไง...
ว่าจะอ่านให้ครบถึงค่อยถามแต่สงสัยมากเลย อ่านไปสงสัยไป



เชื่อว่ายังต้องมีคนงงอยู่เหมือนกัน เพราะบางทีนังคนเขียนก็มักมึนๆ 55555555555
อันดับแรกเข้าใจกันก่อนว่า นางเป็นพวกท้องติดง๊าย ง่าย
(http://i.imgur.com/XnOiXyH.jpg)
อ้างอิงจากคำที่พี่ตุลย์พูดเลยนะฮับ <3


ส่วนคำถามว่า ตอนต้นลูกใครกันแน่ .... อื้ม นั่นสิ ลูกใครหว่า อายุเท่านี้ยังตรวจดีเอ็นเอไม่ได้ซะด้วย
แต่พี่ตุลย์คงไม่สนใจหรอก ที่หนึ่งคือลูก และตอนต้นก็เหมือนกัน

หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 20-12-2015 21:15:44
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 21-12-2015 13:10:10
เอสสู้ๆ คุณแม่มือใหม่  :z2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 21-12-2015 19:36:39
เอานางมาทำมัยยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 21-12-2015 21:09:19
เอสเก่งมากที่เลี้ยงเด็กได้ขนาดนี้
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 22-12-2015 12:09:06
ขุ่นแม่เอสสู้ๆ สตรองนะเสเข้าใจไหม 55555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 22-12-2015 15:16:00
น่ารักกก หวานกันดีจริงๆ
นางมารจะกลับมาทำไมมคะ
ไปแล้วไปลับไม่ต้องกลับมาสิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Tequila ที่ 23-12-2015 00:32:06
เอสสู้ๆ แอบมีหวานนิดๆนะ :hao3:  :hao3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Zignup12 ที่ 23-12-2015 00:45:53
ตามมาจากในเด็กดี
เอสน่ารักมาก ชอบมาเวลาที่เอสอยู่กับที่หนึ่งและตอนต้น
ยิ่งตอนนี้ที่เอสเลี้ยงตอนต้น ฟิลลิ่งแม่ ฟิลลิ่งครอบครัวมาก
พี่ตุ้ลย์ยิ่งอยบู่ก็ยิ่งหวานนะ อาจจะดูเงียบแต่ก็หวานอยู่
น่ารักมากๆๆเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 24-12-2015 13:49:43
:)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: YADA ที่ 24-12-2015 16:58:27
ใกล้ กิ้ดสะมาด แว้ววววววว....  :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: fightreblue ที่ 26-12-2015 00:21:39
ปูเสื่อรออ่าน  :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: fightreblue ที่ 27-12-2015 21:58:11
มารออ่านนะค้าบบบบ  :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Pisoi ที่ 27-12-2015 22:17:25
ทอฟ้าจะกลับมาทำไมมมม :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 28-12-2015 00:22:54
ครอบครัวกำลังหวานเลย ยัยป้านั่นจะมาทำเรื่องอีกละ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: fightreblue ที่ 28-12-2015 13:06:46
มาต่อเถอะนะครับ ..ติดตามๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 38 (19/12/58)
เริ่มหัวข้อโดย: fightreblue ที่ 31-12-2015 00:54:52
รออย่างใจจดจ่อ รออย่างมีความหวัง
 ..มาต่อไวๆ นะครับ  :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 04-01-2016 16:37:48
ตอนที่ 39



               หลังจากวันนั้นโมเม้นแบบนี้ไม่เคยเกิดกับผมอีกเลยครับ ทุกวันนี้เข้าถึงชีวิตวัยรุ่นท้องในวัยเรียนแล้วยังกำลังสอบไฟนอลได้โคตรจะท่องแท้ เลี้ยงตอนต้นจนหัวหมุน แล้วยังต้องแบ่งเวลาหลังจากที่ทุกคนเข้านอนหมดแล้วมาอ่านหนังสือสอบ เวลานอนถดถอย ใต้ตาก็เริ่มถามหา บางทีหนวดเคราก็ไม่มีเวลาจะโกน ปล่อยเซอร์ถือว่าเป็นฮิปเตอร์ไปช่วงนี้


               “ฮ้าววว” ผมหาวปากกว้าง อยากจะฟุบหลับให้รู้แล้วรู้รอด แต่ติดที่ว่าครั้งนี้เป็นคาบเรียนสุดท้าย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเนื้อหาของการสรุปการเรียน เผื่อบางทีอาจารย์ใจดีหน่อยก็บอกแนวข้อสอบ ถ้าหลับไปก็จะพลาดทันที เลคเชอร์ของผมก็ไม่ดีเดอะไร แต่ก็รู้สึกสบายใจมากกว่าถ้าฟังเองจดเอง

               “มึงจะหาวก็ช่วยให้เกียรติอาจารย์หน่อยเถอะ แล้วยังเสือกมานั่งหน้าอีก” ไอ้ธันเพื่อนมหา’ลัยที่สนิทที่สุดพูดเอ็ดแต่ตัวเองก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์แชทหาสาวชมรมการแสดงที่ตอนนี้เป็นแฟนกันแล้วเรียบร้อย

               “นอนก็ไม่ได้นอน แค่หาวก็ให้กูเถอะ” ว่าแล้วผมก็หาวอีกรอบแต่คราวนี้ให้เกียรติเพิ่มเติมโดยการปิดปากด้วย

               “ทำอะไรอยู่วะ? เล่นเกม? คุยกับสาว?”

               “อ่านหนังสือเหอะ เห็นกูอย่างนี้ก็เป็นคนหวัง ‘ดี’ อยู่” ผมหัวเราะ ถึงวันนี้ความง่วงจะถาโถมเข้ามาเป็นพิเศษเนื่องจากเลี้ยงตอนต้นมาอาทิตย์นิดๆ แต่รู้สึกสบายตัวกว่าเยอะครับ วันพุธผมมีเรียนก็เลยไม่ต้องมาทำหน้าที่นักศึกษาปล่อยให้คนเป็นพ่อเขากระเตงลูกไปทำงานด้วยไป

               “ไม่อยากเชื่อ” ไอ้ธันทำเสียงเหมือนเห็นสิ่งมหัศจรรย์ แต่ผมก็เพียงแค่ยักไหล่กวนๆ ตอบกลับไป พอดีกับเป็นจังหวะที่อาจารย์กำลังจะบอกแนวข้อสอบผมกับไอ้ธันก็เป็นอันแยกย้ายกันไป

               “แนวก็มีเท่านี้นะครับ ตั้งใจอ่านกันมาให้ดีๆ ผมไม่อยากจะเจอพวกคุณอีกในเทอมหน้า” อาจารย์วันกลางคนพูดด้วยท่าทางอารมณ์ดี “วันนี้ก็จบเพียงเท่านี้ครับ กับไฟนอลก็พยายามเข้านะครับ ขอบคุณครับ” อาจารย์โค้งให้เล็กน้อยก่อนที่คนในคราส ผมแล้วก็ไอ้ธันจะพูดขอบคุณขึ้นพร้อมกัน มีการให้ของเล็กๆ น้อยๆ อย่างแบรน์รังนกจากประธานรุ่นเป็นการขอบคุณที่สอนพวกผมกันมาทั้งเทอม แม้จะหลับกันทั้งห้องตั้งแต่ชั่วโมงแรกก็ยังไม่ย่อท้อต่อการพูดให้ซึมเข้ามาในฝันของพวกเราทุกคน


               หลังจากที่อาจารย์เดินออกไปแล้ว ต่างก็เก็บข้าวของเสียงดังพรึ่บพรั่บๆ ไปทั่วห้องพร้อมกับเสียงดังเซ็งแซ่ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นไอ้ธันที่ชวนผมไปห้างฯ เพราะว่าคราสจบวันนี้อาจารย์ปล่อยเร็วกว่ากำหนดเกือบสองชั่วโมง


               “หนังใหม่พึ่งเข้าโรงพอดีด้วยนะมึง!”

               “ใครไปบ้าง กูกับมึง?”

               “มีแฟนกูไปด้วย”

               “แล้วมึงจะพากูไปเป็นก้างเพื่อ?” ผมยกเป้ขึ้นมาสะพายก่อนจะเดินออกจากห้องโดยมีไอ้ธันเดินตามๆ กันมา

               “เอ้า คือกูก็ไม่อยากให้มึงน้อยใจแบบมีแฟนแล้วทิ้งเพื่อนอะไรแบบนั้นไง”
 
               “กูไม่คิดมากหรอกเรื่องนั้นอะ มึงไปอยู่กับแฟนมึงให้เต็มที่เถอะ กูรู้ว่าต่อให้กูไปด้วยมึงก็สวีทกับแฟนมึงมากกว่า”

               “นี่งอนใช่ไหมเนี่ย”

               “งอน พ่อง” ผมด่ามันไปที “เอาเป็นว่า กูไม่ไปต่อให้มึงจะสนใจกูมากกว่าแฟนมึง มีธุระแล้ว”

               “โหย ธุระอะไรของมึงวะ? มึงอ้างกับกูแบบนี้มาสองครั้งและ กูอุตสาห์ตั้งใจว่าจะเที่ยวให้เต็มแม็กก่อนที่กูจะต้องไปตายกับกองหนังสือ” ไอ้ธันเริ่มโอดครวญ แต่ก็จริงอย่างที่มันว่าอาทิตย์ที่แล้ววันไหนที่มีเรียนแม่งก็ชวนผมไปเที่ยวตลอด แต่ผมไม่ไปครับ หยิ่ง ฮ่าๆ ไม่หรอก จริงๆ คือผมรีบไปหาพี่ตุลย์อะ ไปช่วยดูตอนต้นที่พี่เขาต้องกระเตงไปทำงานด้วยอะ

               “เออหน่า เอาเป็นว่าเดี๋ยวกูว่างเมื่อไหร่จะชวนมึงเองโอเคไหม?” ผมบอกปัดๆ ไป

               “หรือจะมีเมียแล้วไม่บอกกูวะ” มันหรี่ตามอง แต่ผมก็ไม่ตอบอะไร จนมันต้องถามจิกๆ จนออกมาถึงหน้าคณะ

               “นี่เป็นเมียกูอะไรหรือเปล่า? หรือแอบชอบกูอยู่? สนใจกูจังเลย ป่านนี้แฟนมึงน้อยใจตายห่า แยกย้ายๆ มึงไปดูหนัง กูไปธุระของกู เคไหม? หรือต้องให้แจกนิ้วกลางก่อน”

               “เฮ้ยๆ กูรักเดียวใจเดียวเว้ย ถามนิดถามหน่อยมาทำ...”


               Rrrrrrrrrrrrrrr


               เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะ ผมเห็นไอ้ธันหยิบขึ้นมาดูชื่อคนโทรเล็กน้อยก่อนจะเริ่มออกอาการลุกลี้ลุกลนประมาณว่าอยากไปหาอีกคน แต่ผมเสือกยื้อเอาไว้อะไรประมาณนั้น


               “เมียโทรตาม?”

               “ก็เอออะดิ”

               “แล้วมึงจะยืนหมุนเป็นหมามึนอยู่เพื่อ? ก็ไปสิวะสัสนี่ก็” ไอ้ธันมองหน้าเหมือนอยากบอกความนัยผ่านสายตาว่าอยากเสือกต่อ แต่เมื่อเมียโทรตามจะช้าก็ไม่ได้ สุดท้ายมันเลยบอกลาผมแบบลวกๆ ก่อนจะรีบวิ่งไปหากวางน้อยตามนิสัยพ่อบ้านใจกล้าไป ส่วนผมก็เดินต่อไปยังป้ายรถเมล์ไปยังที่ทำงานของพี่ตุลย์เป็นสถานีต่อไป

















               วันพุธผมมีเรียนก็จริง แต่ผมมีเรียนแค่ช่วงเช้าครับ ช่วงบ่ายก็ว่างแผนเดิมคือมารับตอนต้นไปดูแลต่อตั้งแต่บ่ายเป็นต้นไป แต่พอเอาเข้าจริงพี่ตุลย์เขาบอกว่าเดี๋ยวอีกไม่กี่ชั่วโมงเขาก็เลิกงานแล้ว เลยกลายเป็นว่า แค่ให้ผมดูตอนต้นอยู่ที่ทำงานเขาเนี่ยแหละจะพาไปที่ไหนก็ไป แต่อย่าสร้างความเดือดร้อนแล้วก็กลับบ้านพร้อมกัน ถือว่าเป็นการประหยัดเงินค่ารถของผมไปด้วย


               แต่ผมก็ไม่รู้นะ...อาทิตย์ที่แล้วเป็นอย่างนั้น แต่วันนี้อาจารย์ปล่อยเร็วกว่าเดิมเกือบสองชั่วโมงตอนนี้เพิ่งจะเกือบสิบโมงครึ่งเท่านั้นเองพี่ตุลย์อาจจะให้ผมเอาตอนต้นกลับไปเลี้ยงที่คอนโดฯ ก็ได้


               ...บอกตรงว่ายังไม่อยากเลี้ยงอ่ะ ฮ่าๆ ให้ผมพักบ้างเถ๊อะ นี่เหนื่อยจนน้ำตาจะไหล


               ว่าแล้วผมที่ยืนหยุดนิ่งลังเลที่จะตรงไปยังตึกสำนักพิมพ์ก็เปลี่ยนใจเลี้ยวเข้าซอยทางซ้ายมือหาร้านข้าวกินไปด้วยแล้วก็ถือว่านั่งยาวแล้วบ่ายโมงค่อยเข้าสำนักพิมพ์แล้วกัน


               ผมเดินเข้าไปในซอยได้ไม่เท่าไหร่ ก็เจอร้านกาแฟที่ดูท่าทางสบายๆ อยู่ร้านนึง แม้กระจกใสที่ถูกใช้เป็นกำแพงนั้นจะถูกเขียนโปรโมชั่นไว้ขนาดใหญ่แต่ก็ยังทำให้ร้านดูโปร่งได้อย่างไม่น่าเชื่อ...แต่จะว่าไปเหมือนคุ้นๆ ว่าพี่ตุลย์บอกว่าพี่ทอฟ้ามีร้านกาแฟอยู่ใกล้ๆ สำนักพิมพ์...หรือว่านี่จะเป็นร้านพี่ทอฟ้าวะ?


               คือถ้าเป็นร้านของพี่ทอฟ้า...ก็ดีอะดิ! เผื่อผมจะได้ส่วนลดไม่ต้องเสียเงินเยอะ อิอิ


               ไม่ต้องคิดให้มากความผมเดินเข้าไปในร้านแล้วถามพนักงานที่ใกล้ตัวที่สุด พอได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นร้านของพี่ทอฟ้าแน่นอนผมก็ตัดสินใจที่จะเข้ามานั่งร้านนี้ (เพราะอาจจะได้ส่วนลดหรือฟรี) แต่...เพราะว่าข้างในเต็มซะแล้วผมเลยต้องระเห็จมานั่งข้างนอกอย่างช่วยไม่ได้


               “อากาศก็เย็นสบายอยู่ ช่างแม่ง” ผมพูดกับตัวเอง เลือกนั่งหันหน้าเข้าหาร้าน เผื่อพี่ทอฟ้าจะได้เห็นว่าผมมาใช้บริการหรือไม่ก็ถ้าผมเห็นจะได้รีบปรี่เข้าทักได้ทันท่วงที

               “นี่เมนูค่ะ”

               “ขอบคุณครับ” ผมส่งยิ้มก่อนก้มหน้าดูรายการเมนู โชคดีแหะที่นี่ขายข้าวด้วยถึงราคาจะแพงกว่าพวกร้านอาหารตามสั่งอยู่หน่อยๆ ก็เถอะ “ผมขอโกโก้เย็นกับข้าวหน้าไก่เทอริยากิครับ”

               “ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ” พี่พนักงานจดยิกๆ รับเมนูคืนจากผมก่อนจะหายเข้าไปในร้าน เหลือผมลูกค้าจนๆ นั่งโด่เด่คนเดียวอยู่ข้างนอกไป


               อากาศเย็นดีแหะ...แต่สำหรับสิบโมงครึ่งนี่แดดแม่งไม่แรงไปหน่อยหรอวะ


















               ในขณะที่ผมกำลังละเลียดกินซึมซาบความยากลำบากของชาวนา ผมก็ได้ยินเสียงทุ้มๆ ของเครื่องรถยนต์ดังเข้ามาใกล้จนจอดสนิททางด้านหลังในที่สุด ผมไม่ได้สนใจกับรถปริศนาที่ผมกำลังหันหลังให้ไปมากกว่าอาหารตรงหน้า แต่พอได้ยินเสียงของพี่ทอฟ้าที่มากับรถคันนั้นก็ทำให้ผมตื่นตัว


               “ขอบคุณนะคะพี่วี ขนาดกำลังยุ่งก็ยังพาฟ้ามาส่ง” ผมเอี้ยวตัวหันไปตามเสียงตั้งท่าจะลุกเดินเข้าไปหา แต่ก็ต้องหยุดชะงักตามมารยาทพอเห็นว่าพี่ทอฟ้ากำลังคุยกับผู้ชายในชุดภูมิฐานที่กำลังเท้าแขนกับหลังคารถคนหนึ่ง

               “ไม่เป็นไร ภรรยาทั้งคนทำไมจะมาส่งไม่ได้”


               อา...ผมก็พอรู้อยู่ว่าพี่ทอฟ้าแต่งงานแล้ว คนนี้สินะสามี


               ผมไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังเขาคุยกันนะครับ แต่หูผมมันได้ยินเองอะ! อาจเพราะว่าส่วนด้านนอกมีผมเป็นลูกค้านั่งอยู่คนเดียวก็เลยไม่มีเสียงคนอื่นมากลบมันละมั้ง


               “แต่วันนี้พี่คงมารับฟ้าไม่ได้พี่มีงาน แต่ถ้าฟ้าอยากกลับพร้อมกันพี่ก็จะพยายามรีบมาให้เร็วที่สุด แต่มันกอาจจะเลทมาก จะรอไหม?”

               “แล้วแต่พี่วีเลยค่ะ ถ้าจะมารับฟ้าก็จะรอ ถ้าไม่ว่างจริงๆ เดี๋ยวฟ้ากลับเองก็ได้”

               สิ้นคำพูดของพี่ทอฟ้าผมเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายดูหงุดหงิดเล็กน้อย “พี่ไม่ให้ฟ้ากลับเองหรอกนะ” เสียงนั่นดูห้วนจนผมเผลอคิ้วกระตุก “ยิ่งวันนี้พี่ต้องกลับดึกด้วยแล้ว โอกาสดีที่ฟ้าจะไปหามันเลยละ”


               หาใคร...?


               “ฟ้าไม่ไปหรอกค่ะไม่ต้องห่วง ก็พี่เป็นคนบอกฟ้าเองว่าไม่อยากให้ไปหาลูก ฟ้าก็จะไม่ไปค่ะ” พี่ทอฟ้าเอื้อมไปจับมือของคนที่ชื่อ ‘วี’ สามีที่ทำหน้าเครียดอยู่อีกฝั่งของตัวรถ พอได้ยินคำรับปากจากภรรยาใบหน้านั่นก็ดูชื้นขึ้นมาบ้าง


               ตรงข้ามกับผม...


               นี่มัน...อะไรกัน? ไม่ไปหาลูก...เพราะผู้ชายขอไว้? อะไรวะ! 


               “โอเค ถ้างั้นถ้าฟ้าไม่อยากรอพี่จะกลับก่อนเลยก็ไม่เป็นไร อย่าไปหามันก็แล้วกัน ตอนนี้ครอบครัวของฟ้าคือตรงนี้ กับพี่”

               “ฟ้ารู้แล้วหน่า พี่ย้ำมากจนอยากจะขัดขืนซะแล้วสิ”

               “ฟ้า” พี่ทอฟ้าหัวเราะเสียงเล็กหลังจากได้ยินเสียงเอ็ดของอีกฝ่าย

               “ถ้าพี่ไม่อยากให้ฟ้าไปหาลูก เสาร์นี้เตรียมเงินไว้ให้พร้อมด้วยนะคะ เพราะฟ้ารู้สึกว่าในตู้เสื้อผ้าฟ้าเริ่มไม่มีอะไรใส่ซะแล้ว~”


               !!


               ผมได้ยินเสียงส้นรองเท้าแหลมดังเป็นจังหวะขณะก้าวขึ้นบันไดไม่กี่ขั้นหน้าร้านและก่อนที่จะถึงประตู เขาก็ต้องหยุดชะงักกับขาที่ผมจงใจยื่นเหยียดออกไปขวางทางแต่พอเห็นว่เจ้าของขาเป็นผมเอง สีหน้าที่ทำท่าจะเอาเรื่องก็แปรเปลี่ยนเป็นยิ้มหวานอย่างที่ผมชอบ


               อ่า...ไม่สิ ถ้าตอนนี้ผมไม่ได้กำลังรู้สึกโกรธขนาดนี้ รอยยิ้มนั้นก็เป็นรอยยิ้มที่ผมชอบไป


               “อ้าว เอส! บังเอิญจังเลย มาอยู่ที่ร้านพี่ได้ไงเนี่ย?”

               “...สวัสดีครับ พอดีมาหาพี่ตุลย์น่ะครับ” ผมเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนจะยกยิ้มขึ้นให้ไปในที่สุด


               ตอนนี้มีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากถามเข้ามากเลย สรุปที่ผมเข้าใจมาตลอดว่าพ่อแม่รักลูกที่สุด...นี่ผิดใช่ไหม?


              “ไม่แน่หรอก! ตอนนั้นที่แม่หายไป พ่อก็มาบอกว่าแม่แค่จะไม่มาหาสักพักเหมือนกันนี่! ก็มันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว มันผิดตรงไหนที่ที่หนึ่งจะคิดมากอะ!”

               “คราวนี้มันจะไม่เป็นอย่างนั้น เชื่อสิ แม่ของที่หนึ่งจะต้องรีบทำงานให้เสร็จ ตรงกลับมาหาที่หนึ่งไม่หนีหายไปไหน”



               ผมโคตรจะผิดหวังในตัวเขาเลย...แต่โกรธตัวเองมากกว่าที่บอกที่หนึ่งแบบนั้น


               โกรธตัวเองที่ ‘เชื่อว่า’ จะเป็นแบบนั้น


               เรานั่งคุยกันไปตามภาษาเสมือนว่าสิ่งที่เขาตกลงกับสามีก่อนหน้านี้ผมไม่รู้ไม่เห็น แม้ในใจคุกกรุ่นแต่ความไม่มีสิทธิก็ทำให้ผมทำได้เพียงแค่ยกโกโก้เย็นขึ้นดื่มเพื่อดับมัน รู้สึกเจ็บใจนักกับการต้องมารู้ว่าที่ผู้หญิงคนนี้ไม่ไปหาลูกเพราะอะไร!


               “อะ โทษทีนะคุยเพลินเลย แต่พี่ต้องเข้าร้านไปทำงานแล้วละ นี่ก็เลทมากแล้วไม่รู้พวกพนักงานทำร้านพี่พังหรือยัง” พี่ทอฟ้าพูดขึ้นขณะที่กำลังลุกยืน ผมกับเขาจบการสนทนากันอย่างสั้นๆ แต่ในจังหวะที่เขากำลังจะก้าวตรงไปยังประตู ผมกลับคว้าข้อมือของอีกฝ่ายเอาไว้ในวินาทีสุดท้าย

               “...ตอนนี้ป้าสร้อยข้อเท้าพลิกทำให้ไม่มีใครดูแลตอนต้นตอนนี้ครับ”

               “เอ๋! แล้วตอนนี้ตอนต้นอยู่ไหน! ทำไมพี่ตุลย์ไม่เห็นโทรบอกอะไรพี่เลย!”

               “ตอนนี้พี่ตุลย์ดูแลตอนต้นอยู่ครับ ก็ต้องพามาทำงานด้วย วันนี้ผมช่วยเลี้ยงไม่ได้เพราะว่ามีเรียนน่ะครับ”

               “หมายความว่า ตอนนี้ถ้าเอสไม่มีเรียนก็เลี้ยงน้องแทนป้าสร้อยอยู่หรอ?”

               “ประมาณนั้นครับ”

               “อ๋อ...ถ้างั้นก็แล้วไป พี่ก็ตกใจหมด ถ้าตอนต้นมีคนดูแลอยู่พี่ก็หมดห่วง” พี่ทอฟ้ายิ้มเหมือนเรื่องที่ผมเล่าเมื่อครู่ไม่ได้มีปัญหาอะไรนักหนา ทั้งๆ ที่ผมคิดว่า ในความคิดของคนเป็นแม่นี่ควรจะเป็นปัญหา! ในเมื่อคนที่เลี้ยงเด็กได้ ดูแลตอนต้นมาตลอดขาเจ็บ ตอนต้นต้องอยู่ในความดูแลของพี่ตุลย์ที่ต้องทำงานไปด้วย บางทีก็เป็นผมที่ต้องเลี้ยงเขา ซึ่งแล้วพี่ทอฟ้ามั่นใจได้ยังไงว่าผมเลี้ยงลูกเขาได้! เอาอะไรมามั่นใจว่าผมจะไม่ทำอะไรให้มันเกิดขึ้น ตอนต้นเพิ่งอายุขวบเดียวเท่านั้นเอง เด็กเกินไปที่จะเอาคนสุ่มสี่สุ่มหกมาเลี้ยงด้วยซ้ำ จะบอกว่า ก็ไว้ใจไง แต่มันใช่แล้วหรอกับความนึกห่วงใยของคนที่เป็นแม่คน!

               “...จะไม่มาเลี้ยงตอนต้นหน่อยหรอครับ” 

               “คงไม่ได้หรอก” พี่ทอฟ้ายิ้มแห้งๆ “พี่เองก็ต้องทำงานเหมือนกันจะไปอยู่เลี้ยงเด็กเล็กแบบนั้นพี่ก็ทำไม่ได้ พี่คงต้องฝากเอสนั่นแหละ อีกอย่างพี่ตุลย์ก็คงเลี้ยงได้ ถ้าไม่ไหวก็จ้างพี่เลี้ยงเอาก็ได้”

               “...” ผมกำหมัดแน่น มองเข้าในแววตาของอีกฝ่าย


               มันจะไม่มีเลยหรอ สิ่งที่เรียกว่า จิตสำนึกน่ะ


               “พี่ต้องไปทำงานแล้วนะ เอสจะจับพี่ไปถึงไหนกันครับ” พี่ทอฟ้ายังคงยิ้มราวกับว่าไม่ได้รู้สึก ไม่ได้เอะใจในความคิดหรือคำพูดของตัวเองเลยแม้แต่น้อย

               “ถ้าแค่ไปเยี่ยมละครับ?”

               “ช่วงนี้คงไม่ได้หรอก พี่ยุ่งจริงๆ ถ้าพี่ว่าง...”

               “พี่รู้ไหมครับ ที่หนึ่งอยากเจอพี่มากเลยนะ ตั้งตารอพี่ทุกวัน” ผมปล่อยมือที่จับข้อมือเขาออกก่อนจะหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นพาดไหล่ “เอาเป็นว่าถ้าเห็นลูกดีกว่าผู้ชายเมื่อไหร่ ก็รีบมาหาที่หนึ่งแล้วกันนะครับ ก่อนที่เขาโตจนไม่อยากจะเห็นหน้าแล้ว”

               “!!”


               ผมมองหน้าของอีกฝ่ายที่ดูตกใจไม่น้อยกับพูดไม่ไหวหน้าก่อนจะทิ้งเขาไว้แล้วเดินเข้าร้านไปจ่ายเงิน


               ตอนนี้ผมเหมือนผู้ชายปากหมาแล้วก็คงเป็นหน้าตัวเมียขึ้นทุกที ก่อนหน้านี้ก็พี่พลอยไพลิน วันนี้ผมก็ยังทำกับพี่ทอฟ้าอีก แต่ถ้าได้เห็นหน้าเด็กนั่นตอนนั้น เวลาที่พี่ตุลย์กลับห้องมาโดยที่ไม่มีแม่ของเขามาด้วยก็คงจะทำไม่ต่างกันหรอก เด็กนั่นน่ะ!...ที่หนึ่งน่ะรอแม่เขามากเลยนะครับ…


               หมับ


               ผมหันมองพี่ทอฟ้าที่เข้ามาคว้าแขนผมเอาไว้ขณะที่กำลังจะเดินออกจากร้าน


               “เอสกำลังว่าพี่ไม่รักลูกงั้นหรอ?” น้ำเสียงเข่นเขี้ยวด้วยความหงุดหงิด ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนอีกฝ่ายเผลอผงะออก

               “แล้วมันไม่ใช่หรอครับ?”

               “ชีวิตคนเรามันมีอะไรมากมาย ผู้ชายที่เอสบอกว่าเห็นว่าสำคัญกว่าลูกนั่นก็สามีพี่ เขาก็สำคัญกับพี่พอๆ กับลูกนั่นแหละ แล้วในเวลาที่เขาต้องการความมั่นใจให้ครอบครัวของเรา แล้วพี่ก็ให้เขามันผิดอะไรตรงไหน ตรงไหนหรอที่มันแปลว่าพี่ไม่รักลูก!”

               “ตรงที่ในเวลาเดียวกัน ลูกที่พี่บอกว่าก็สำคัญเขาก็เรียงร้องอยากเจอพี่ไงครับ” ผมกดมือเขาออกจากแขน “พี่บอกว่าอะไรนะ สำคัญพอๆ กัน? แต่ในเวลาที่เขาเรียกร้องพร้อมๆ กันพี่กลับทำให้สามีมากกว่าลูกในใส่ของตัวเอง นี่หรอครับที่บอกว่าสำคัญพอๆ กัน”

               “...”

               ผมถอนหายใจ “จริงๆ ผมอาจจะผิดเองก็ได้ ที่เข้าใจมาตลอดว่าสำหรับคนเป็นพ่อคนเป็นแม่แล้ว ‘ลูก’ น่ะ เป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง ไม่ได้เทียบเท่าหรือรั้งท้ายใคร...รีบไปทำงานไม่ใช่หรอครับ? ผมเองก็ต้องรีบไปแล้วเหมือนกัน”


               พี่ทอฟ้าเงียบไม่ตอบอะไรนอกจากค่อยๆ ปล่อยมือออกแล้วเป็นฝ่ายที่เดินผละออกไปก่อน ผมมองตามหลังจนเขาหายเข้าไปในห้องเฉพาะพนักงานผมถึงค่อยเดินออกมาจากร้านกระชับกระเป๋าเป้เมื่อคิดว่าวันนี้พอเจอที่หนึ่งผมควรทำยังไงดี ควรจะบอกความจริงไหม หรือจะปล่อยไว้เฉยๆ


               ...แต่ถ้าถามในใจผมลึกๆ สุดท้ายแล้วผมอยากให้เป็นยังไง ผมก็ยังอยากให้พี่ทอฟ้าไปหาที่หนึ่งกับตอนต้นอยู่ดีไม่ว่ายังไง


               ไม่ว่าตั้งใจหรือจำใจต้องมา...
















               รถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเลตสีเทาสว่างจอดนิ่งอยู่หน้าคอนโดฯ ที่คุ้นตาร่วมสิบห้านาทีจนยามที่เฝ้าอยู่ด้านล่างเริ่มจับตาดูแต่ก็ยังคงไม่มีใครเข้ามาไปถามเจ้าของรถคันนั้น


               ทอฟ้าฟุบหน้าลงกับพวงมาลัยรถ นึกประหลาดใจตัวเองที่เลี้ยวเข้ามาที่นี่ไม่มีปี่มีขลุ่ยเพียงแค่นึกได้ว่าวันนี้วันอาทิตย์ซึ่งลูกชายทั้งสองของเธอน่าจะอยู่ที่นี่ แต่เธอก็ยังลังเลเกินกว่าจะก้าวลงไป แม้จะยังคงยึดมั่นในความคิดของตัวเองว่าการที่ทำให้สามีเป็นที่พอใจเป็นสิ่งที่ถูกที่ควรในฐานะภรรยา และไม่ได้ทำผิดต่อลูกตรงไหนในเมื่อผู้เป็นพ่อของเด็กสองคนนั้นก็คอยอยู่ดูแล แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าคำพูดของเด็กอวดดีที่กล้ามาตัดสินความรักของเธอเมื่อสี่วันก่อนก็รบกวนใจของเธอมาก มากจนเกือบจะเข้าไปคุยกับวี สามีของเธอเรื่องที่จะมาหาลูกใหม่


              “จริงๆ ผมอาจจะผิดเองก็ได้ ที่เข้าใจมาตลอดว่าสำหรับคนเป็นพ่อคนเป็นแม่แล้ว ‘ลูก’ น่ะ เป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง ไม่ได้เทียบเท่าหรือรั้งท้ายใคร”

               “รีบมาหาที่หนึ่งแล้วกันนะครับ ก่อนที่เขาโตจนไม่อยากจะเห็นหน้าแล้ว”


               หญิงสาวเม้มปากแน่นอย่างชั่งใจก่อนที่สุดท้ายจะตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าไปในคอนโดฯ เดินเข้าไปในตัวอาคารผ่านหน้าเคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ไปถึงที่ลิฟต์ ทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจแน่วแน่ แต่...คนเราก็มักจะลังเลในวินาทีสุดท้าย


               ทอฟ้ามาถึงชั้นที่ต้องการ เธอเดินออกมา แต่กลับไม่ก้าวเดินต่อไปยังห้องที่อยู่ไม่ใกล้ ความลังเลที่ยังเหนียวรั้งขาเธอไว้คือการที่ไม่อยากจะทำผิดกับพูดกับสามีของเธอ...หรือจะกลับไปคุยกับเขาดีๆ ถ้าไปคุยตอนที่อารมณ์ดีละก็เขาอาจจะอนุญาตก็ได้ ถึงแม้ว่าความเป็นไปได้จะน้อยมากก็ตาม...


               “เอสกำลังว่าพี่ไม่รักลูกงั้นหรอ?”

               “แล้วมันไม่ใช่หรอครับ?”



               ไม่สิ ถ้าไปขออนุญาตก็คงจะไม่ได้แล้วเธอก็จะไม่อยากให้ใครมาว่าเธอในฐานะแม่อีก จะพิสูจน์ให้ดูว่าคนอย่างเธอไม่ใช่แม่ที่ไม่ได้เรื่อง!

               “ช่างมัน แค่อย่าให้พี่วีรู้ก็จบ”

               เธอสูดลมหายใจเขาจนเต็มปอด เดินตรงไปยังห้อง B8002 ด้วยหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกับเสียงของส้นรองเท้า


               ก๊อกๆๆ...


               เมื่อเคาะประตูออกไปแปลว่าเธอหันหลังกลับไม่ได้อีกแล้ว


               “ครับ?”

               “ไงเอส”

               “...ที่หนึ่ง แม่มาหาแหนะ”





TBC
สุขสันต์วันปีใหม่ย้อนหลังนะคะ ปีนี้ขอให้เป็นปีที่ดีของนักอ่านทุกคน สุขภาพร่างกายแข็งแรง มีความสุขและรอยยิ้มไปตลอดทั้งปี ขอบคุณทุกคนสำหรับการติดตามและสนับสนุน Daddy be lover มาตลอด ปีนี้ก็ยังต้องเจอกันต่อไป ยังไม่จบ 5555555555
(แต่ใกล้จะจบล้าวว)

สุขสันต์วันปีใหม่ แฮปปี้นิวเยียร์อีกทีค่ะ <3
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 04-01-2016 16:53:30
มาเจิมไว้ก่อน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 04-01-2016 16:58:47
ต้องให้เอสจัดการ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 04-01-2016 16:59:41
เธอก็จะไม่อยากให้ใครมาว่าเธอในฐานะแม่อีก จะพิสูจน์ให้ดูว่าคนอย่างเธอไม่ใช่แม่ที่ไม่ได้เรื่อง!


ู^

ไอเดียนี้จะอยู่ในหัวได้กี่นาทีกัน พอสามีใหม่ขึ้นเสียงก็ยอมทุกแล้ว ทอฟ้าเอ๋ย

แม่ลื้อคงดีใจน่าดู ลูกเป็นแบบนี้ (ประชดนะยะ)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: DKTime ที่ 04-01-2016 17:03:40
เอาอีกๆๆๆๆ เอามาหลายๆตอนเลย ชอบบบบบบ~~

ยิ่งอ่านยิ่งชอบเอส เราว่าฟ้าก็จัดได้ว่าเป็นคนดีคนหนึ่งนะ อย่างน้อยก็ยังมีความรู้สึกของแม่
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 04-01-2016 17:13:25
สงสารกว่าใครทั้งหมดก็สงสารเอสนี่แหละ  :mew4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 04-01-2016 18:02:20
หรือว่าพี่วีเค้าสายเอส อารมรุนแรง ทอฟ้าเลยไม่กล้าหือ
แต่ก็ไม่นะ ดูเลี้ยงด้วยเงิน ทอฟ้าไม่เหมือนเป็นภรรยา เหมือนเป็นแค่เด็กเสี่ยอะไรเทือกๆ นั้นมากกว่า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 04-01-2016 19:23:00
ทอฟ้าอยู่กับพี่วีเพราะรักจริงหรือเปล่า หรือเพราะเงิน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 04-01-2016 19:33:32
แสดงว่าถ้าผัวรู้ยัยฟ้าก็คงเลิกมาหาลูกเหมือนเดิม อย่างนี้มันต้อง :beat: :beat: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 04-01-2016 20:18:14
นานๆมาต่อทีแต่ก็ชอบ อิอิ จะจบแล้วเหรอออ ไม่อยากให้จบเลยค่ะ ให้พี่วีทิ้งยัยทอฟ้านี่ไปอีกคนได้ไหม ไม่ชอบขี้หน้าเจ๊เล๊ยยย
รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-01-2016 20:20:18
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 04-01-2016 20:39:24
สรุปว่าถ้าไม่มีใครมาว่ากันซึ่งๆหน้านี่ คุณนายทอฟ้าเธอก็จะยังเห็นผู้ชายดีกว่าลูก ใช่มั้ย??
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: bonusbobobo ที่ 04-01-2016 20:41:34
ทอฟ้านี่จริงๆเลยนะ :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 04-01-2016 21:50:36
เแสนายเท่ห์มากโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-01-2016 22:20:09
ต้องโดนเอสว่าก่อนหรือ ถึงจะคิดได้
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-01-2016 22:24:41
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Eangoey ที่ 04-01-2016 23:16:23
จะเป็นยังไงต่ออ่ะ รอๆๆๆๆ :mew5: :mew5:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 04-01-2016 23:25:03
สงสารวีนะ อยากให้เจอคนดีๆ หนุ่มน้อยน่ารักๆ เห้ยยย!

เอาไป10คะแนนเลยเอส พูดได้ดี
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 05-01-2016 01:43:30
เอสพูดได้ดีอะ
ทอฟ้าหน้าหงายไปเลยย
เอาจริงๆอยากให้ที่หนึ่งกับตอนต้นไม่รักนางแล้วอะ
ผู้หญิงคนนี้ไม่มีอะไรที่จะเป็นแม่ได้เลย
ไม่คู่ควรกับความรักที่สวยงามขนาดนั้นเลยอะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Tequila ที่ 05-01-2016 09:54:49
เอสพูดดีอ่ะ :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 05-01-2016 11:23:23
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 05-01-2016 15:11:00
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 06-01-2016 15:57:45
ผู้หญิงคนนี้...มันเกินคำบรรยายจิงๆ
ทุกวันนี้ยังคิดว่าตัวเองเป็นแม่ที่ดีงั้นสิ!!!
เพลีย~~=_=
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 06-01-2016 17:39:28
มันมีเบื้องหลังอะไรหรือเปล่า

เพราะคนเป็นแม่ไม่น่าจะเป็นได้แบบนี้ไง

หรือเป็นแบบนี้จริงๆ

เพลีย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Zignup12 ที่ 09-01-2016 22:15:51
สัมผัสได้ถึงกลิ่นม่า
ทำไมคนเป็นแม่คิดแบบนี้นะ
ทำไมต้องให้เอสไปพูดถึงจะคิดได้ :ruready :ruready
เฮ้อออออออออออออ

มาต่อเร็วๆนะ คิดถึงแรง :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Baitaew ที่ 10-01-2016 17:51:40
เขียนดีจังเลยค่ะ สู้ๆ นะคะ รออยู่ค่า :)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 10-01-2016 18:13:24
:)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 11-01-2016 13:46:12
แม่ยังไงก็คือแม่ละนะ ไอ้พี่วีนี้ห้ามทอฟ้ามาหาลูกเพราะกลัวยัยทอฟ้าจะกลับมาหาพี่ตุลย์อีกละสิ ก็สมควรละนะดูจากที่ผ่านมายัยทอฟ้าทำตัวไม่น่าไว้ใจเอง กลับมาหาตุลย์ทีก็ท้องที อย่างงี้ใครจะกล้าไว้ใจ น่าสงสารที่สุดก็ที่หนึ่งนี้แหละT^T
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 16-01-2016 12:30:46
;)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 18-01-2016 21:34:36
คือแปลว่าถ้าไม่โดนตอกหน้าตรงๆเนี่ย นางจะไม่มีวันนึกออกเลยใช่มั้ยว่าตัวเองเป็นแม่ที่แย่มาก
จริงๆอย่าบอกว่าเป็นแม่เลย เธอเป็นแค่คนคลอดเด็กอะ
คือจะว่าเพราะสามีใหม่เค้าระแวง เค้าไม่สบายใจ ครอบครัวใหม่พี่มันจิไม่ยั่งยืน~(ทำเสียงสูง)
ก็ตลกเกินไปละ ฝ่ายนั้นอะ ถึงจะดูเป็นคนดีศรีประเสริฐ ยอมรับการกลับมาของเธอมากแค่ไหน ก็เป็นแค่ผู้ชายไร้เหตุผลที่ห้ามไม่ให้เด็กสองคนพบหน้ากระทั่งแม่ตัวเองนะ?
อีกฝ่ายเป็นแค่เด็ก ที่หนึ่งกำลังจะโต กำลังอยู่ในวัยเรียนรู้และจดจำ ต้องมาฝังใจซ้ำๆซากๆว่าตัวเองถูกคนที่คลอดออกมาทิ้งอยู่เรื่อย ส่วนตอนต้นนี่ไม่ต้องสงสัยเลย ไม่ชินกับผู้หญิงด้วยซ้ำไป คือสำหรับทอฟ้า โลกของหล่ออาจจะมีคนอยู่มากมายให้คิดถึง แต่สำหรับเด็กๆ พ่อแม่ก็คือโลกทั้งใบของเขา คือคนที่จะสอนให้รู้ถูกผิด รู้จักโลกภายนอก เอ้อ....  ชักไปกันใหญ่ :katai1:
ทั้งหมดทั้งมวลแค่จะบอกว่า รักหนูเอสมาก 5555
ฉันล่ะชอบวิธีการเลี้ยงเด็กของแกจริงๆ :impress2:
ให้เอสเลี้ยงล่ะก็ สองคนนี้ต้องเติบโตมาเป็นเด็กที่ดีแน่นอนค่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Zignup12 ที่ 20-01-2016 20:21:12
คิดถึงเอสแล้ว
คิดถึงตอนต้อนกับที่หนึ่งด้วย
ฮืออออออออ
 :hao5: :hao5: :mew2: :mew2: :mew6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Shxtaop ที่ 23-01-2016 21:21:09
บอกตรงๆๆเลยยยชสตินี้ก็ไม่มีทางเข้าใจทอฟ้า เหอะอย่างที่เอสพูดเลยยย :z6:
แล้วที่สำคัญมีข้ออาจไม่มาโดยได้เงินช๊อปปิ้งเนี้ยิ่ะนะ รักลูก รักตัวเองมากกว่ามั่ง
เกลียดสุดๆๆ สงสารเด็กที่ไม่รู้ไรเลยแต่ต้องมาเจ็บปวดกับเรื่องที่แม่สร้างไว้
เอสสู้ๆๆน๊าาาาาาอยุ้ข้างๆๆครอบครัวนี้ค่อยช่วยครอบครัวนี้นะ :mew6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: lovenina ที่ 24-01-2016 19:24:33
ชอบเอสมากๆอ่ะ. :L1: ด่าได้เจ้บดี  o13
น่าสงสารตุลย์จังอ่ะ. เข้าใจดีว่า คนที่ไว้ใจหักหลัง
มันเจ้บแบบไหน แต่ไม่เป้นไรเนอะ มีสุดยอดตลกอยู่ใกล้หนิ คงหายเครียดได้เนอะ o18
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ตอนที่ 39 (04/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 25-01-2016 17:05:52
คิดถึง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 40-30% (25/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 26-01-2016 02:15:47
ตอนที่ 40


              “ทำไมทำหน้าแบบนั้นละครับ?” ผมยิ้ม ถามพี่ทอฟ้าที่กำลังป้อนข้าวตอนต้นอยู่หน้าทีวีก่อนจะวางแก้วกาแฟตัวเองลงบนโต๊ะญี่ป่นที่ผมกางไว้อ่านหนังสือสอบ “เบื่อจะเลี้ยงลูกแล้วหรอ?”

              “หยุดแขวะฉันได้แล้ว” เขาตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด สะบัดหน้าใส่ผมเหมือนไม่อยากเสวนาด้วย

              “ขอโทษครับ ก็แค่ถามเฉยๆ” ผมหัวเราะเล็กน้อยพลางสุดตัวลงนั่งเตรียมอ่านหนังสือต่อ


              ตอนนี้ป้าสร้อยเขาหายดีแล้วครับ เดินเหินได้ปกติไม่ต้องนั่งวีลแชร์แล้ว แต่ว่าลูกเขาก็อยากให้ป้าสร้อยพักก่อน เพิ่งหายก็ไม่อยากให้กลับมาเจ็บอีก ไอ้ตัวผมอยู่มาได้สองอาทิตย์จะต้องอยู่ต่ออีกบ่ยั่น ก็เลยสรุปกึ่งบังคับว่าให้ป้าสร้อยพักผ่อนไป แต่เขาก็แวะมาหายะครับ เอากับข้าวมาให้ผมก็มี อันนี้คือปริ่มมากเพราะผมไม่ต้องทนกินมาม่า หรือไม่ก็ไข่ดาวแล้วครับ (;-;) 


              อีกอย่างหนึ่งตอนนี้พี่ทอฟ้าเขาก็มาช่วยเลี้ยง ผมก็ได้เลยอ่านหนังสือแบบยาวๆ ไปทั้งวัน แต่ผมเขามาหาลูกได้ในแค่เวลางาน สามีเขาคงยังไม่รู้เรื่องนี้ละมั้งผมว่า เสียดายจัง ตอนนี้ผมใช้ความสวยเขาเป็นกำลังใจอ่านหนังสืออยู่ครับ พอเขากลับ กำลังใจมันก็มอด เฮ้อ (ถึงตอนนี้เขาจะไม่ชอบผมจนเปลี่ยนสรรพนามจากเอสน้อยกลอยใจไปเหลือแค่ เธอๆ แล้วก็ตาม เฮ้ออีกรอบ)


              “ฉันว่า ฉันกลับดีกว่า”

              “อ้าว ทำไมละครับ? นี่เพิ่งจะบ่ายสามเองนะ อีกแป๊บเดียวที่หนึ่งก็จะกลับมาแล้ว”

              “วันนี้ฉันบอกเขาให้มารับ เพราะงั้นขอกลับเลยดีกว่า”

              “โหย พี่ทอฟ้าครับ อยู่ต่ออีกนิดเถอะครับ” อยู่เป็นกำลังใจอ่านหนังสือของผมก่อน -..- พอดีว่าผมไม่เอาเรื่องความสวย กับความเป็นแม่มาร่วมกันครับ อิอิ “เดี๋ยวที่หนึ่งก็กลับมาแล้วนะครับ”

              “ไม่เป็นไรค่อยเจอวันอื่นแล้วกัน ฝากบอกที่หนึ่งด้วยแล้วกันว่าฉันมีธุระที่ร้านต้องกลับเร็ว”


              พี่ทอฟ้าพูดพลางหยิบกระเป๋าของตัวเองที่วางอยู่บนโซฟา จุ๊บแก้มลาตอนต้นที่นั่งเล่นของเล่นอยู่หนึ่งที


              “ยังไงเขาก็ต้องมารับเวลาเลิกงานอยู่แล้ว เวลายังเหลือเฟือเลยนะครับ อยู่อีกนิดนะๆ” ผมเข้าสู่โหมดอ้อน นี่ถ้าไม่ติดว่าไม่ใช่เมียตัวเองนะครับ หื้มมม ขาสวยๆ นั่นจะโดนแก้มผมไถจนลอกออกมาเป็นแผ่นๆ ยิ่งกว่าสบู่ลอกผิวอีกครับ!

              “โทษทีนะ ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาจะมากี่โมง แต่ถ้าเขาจับได้ว่าฉันไม่ได้อยู่ที่ร้านละก็ แย่แน่” พี่ทอฟ้าตอบเดินตรงไปประตูห้องอย่างไม่มีลังเล หันมาโบกมือบายๆ ผมเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องไป


              พอความสวยหายไป ความขี้เกียจก็เริ่มเข้าครอบงำ


              ผมวางปากกาคั่นหน้าหนังสือไว้ ตั้งใจมาอ่านต่อหลังจากพี่ตุลย์กลับ อุ้มตอนต้นที่ตอนนี้เริ่มออกอาการง่วงขึ้นกล่อม โอ๋เอ๋ๆ กันไป พอมองนาฬิกาดูแล้วอีกประมาณไม่เกินยี่สิบนาทีที่หนึ่งก็น่าจะถึงห้อง ลำบากใจอยู่นะครับที่ต้องบอกที่หนึ่งว่า ‘โทษที แม่นายเพิ่งกลับไปเมื่อกี้’


              อารมณ์คงเหมือนคนกำลังวิ่งเข้าเส้นชัย แต่อยู่ดีๆ เส้นชัยก็เขยิบห่างออกไปอีก


              “เฮ้อ ให้ตายเถอะ”














              “ครับ แม่ก็รีบนอนได้แล้วครับ เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะครับ...ครับ ฝันดีครับ”

              “แม่โทรมาหรอคะ?” ทอฟ้าเดินเข้าไปกอดหลังชายผู้เป็นสามี ออดอ้อนอย่างที่มักทำเป็นประจำ

              “โทรมาถามสารทุกข์สุขดิบตามภาษานั่นแหละ”

              “ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยด้วย แม่เขาก็คงเป็นห่วงนั่นแหละค่ะ”

              “ผมว่าแม่น่าเป็นห่วงกว่าอีก ไม่รู้อากาศที่นู่นเป็นยังไงบ้าง อายุก็มากแล้วแท้ๆ น่าจะพักผ่อนให้เยอะๆ” วีพูดบ่นด้วยความเป็นห่วงกับการรักการท่องเที่ยวแบบไม่สนใจอายุของแม่ตน

              “แต่ตอนนี้คุณกำลังบ่นเหมือนคนอายุมาก มากกว่าคุณแม่อีกนะ” ทอฟ้าพูดหยอกก่อนที่วีจะหันกลับมาคว้าตัวเธอไปกอดไว้

              “ที่ผมพูดบ่นก็เพราะว่าเป็นห่วงนั่นแหละ”

              “...นี่พี่วี”

              “หื้ม?”

              “ฟ้า...เองก็เป็นแม่คน ฟ้าก็เป็นห่วงลูกเหมือนกับที่แม่ของพี่เป็นห่วงพี่ ฟ้าเข้าใจนะ พี่เข้าใจนะว่าพี่ระแวงฟ้ากับพี่ตุลย์ แต่ฟ้าอยากให้พี่แยกเรื่องนี้ออกจากกัน คนที่ฟ้าอยากเจอคือลูกของฟ้า เพราะงั้น...”


              เสียงนั้นเงียบไปด้วยความลังเลและกังวล ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายว่ากำลังฟังคำพูดของเธอด้วยสีหน้าเช่นไร


              “...พี่ก็เข้าใจความรู้สึกนั้นนะ แต่ฟ้าจะให้พี่แยกเรื่องออกจากกันได้ยังไง ในเมื่อสถานที่ที่ฟ้าจะไปหาลูก ก็คือห้องของมัน พี่เองก็ไม่อยากพรากแม่พรากลูกใคร แต่ไม่ใช่มันหรือไงที่ฟ้ากลับไปหาเสมอ จนมีลูกให้มันตั้งสองคน นี่พี่ก็ใจกว้างมากแค่ไหนแล้ว ที่ยังเรื่องที่มีลูกกับมันได้”

              “...”

              ชายหนุ่มผละออกจากอ้อมกอดของทอฟ้า โยนมือถือไว้บนโซฟาที่อยู่กลางห้อง “เลิกคุยเรื่องพวกนี้เถอะ เพราะไม่ว่ายังไง พี่ก็คงต้องไม่ให้ฟ้าไปหาลูก” 

              “ตะ แต่ในฐานะแม่ ฟ้าอยากเจอลูกมากจริงๆ นะ!” เธอรวบรวมความกล้าพูดขัดเสียงดัง ค่อยๆ หันหลังกับไปประจันหน้าสามีที่ยืนนิ่งอยู่อีกฝ่ายหนึ่งของห้องใหญ่ “ไม่มีทางไหนเลยหรอ ที่ฟ้าจะได้เจอลูก ที่จะอยู่กับพี่แล้วก็กับลูกได้ ไม่มีสักทางเลยหรอ...”

              “มันไม่มีทางสมหวังทั้งสองอย่างหรอกนะฟ้า” เขาตอบ


              เพียงแค่นึกถึงเรื่องราวตั้งแต่สมัยเรียนที่ต้องแบ่งผู้หญิงที่ตัวเองรักใช้กับไอ้เวรนั่นก็หงุดหงิดจนอยากจะไปต่อยหน้ามันให้สาแก่ใจ ไม่ว่ายังไง เขาก็ไม่ให้มันมายุ่งกับทอฟ้าอีกเป็นอันขาด!


              “แต่ฟ้า...”

              “ถ้าอยากจะอยู่ด้วยกันมากนัก ก็กลับไปอยู่กับมัน หรือไม่ ก็พาพวกเด็กนั่นมาอยู่กับเรา





-------30%--------
ยังคงรักษาสถิติไม่หายเป็นเดือน 5555555555555
คืนนี้แจกันอีกนะครัช - v -)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 40-30% (25/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 26-01-2016 03:01:07
ถ้างั้นก็ให้ยัยทอฟ้าเน่าๆนี่ไปเถอะค่ะ เข้าใจที่วีระแวงนะ เป็นเราเราก็ไม่ยอมหรอก ผู้หญิงคนนี้หลายต่อหลายครั้งแล้วที่เลือกผัวมากกว่าลูก เพราะฉะนั้นแล้วก็ให้เขาอยู่กับผัวต่อไปนั่นแหละดีที่สุด กับคนที่ทิ้งๆขว้างๆลูกตัวเองน่ะพอกันทีเถอะ
ปล.รอเจ็ดสิบเปอร์ที่เหลือค่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 40-30% (25/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 26-01-2016 03:02:07
เอ้า!!! ทำไมวีวี่พูดแบบนี้ล่ะคะ ไหนบอกไม่อยากพรากแม่พรากลูกแต่กลับพรากพ่อพรากลูก....เชื่อเลยถ้าเอามาแล้วเดี๋ยววีวี่ก็วีนทอฟ้าคนดี(มั้งนะ) ว่าเอามาเป็นภาระ แล้วทีนี้คุณพ่อตุลย์กับขุ่นแม่เอสเล่าเออ จะอยู่อย่างไร อุ๊ต๊ะ ขึ้นตอนใหม่ก็เปิดปัญหาใหม่ ถถถถถถถถถถถถถถถถถ  :ruready  :ruready
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 40-30% (25/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-01-2016 03:14:35
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 40-30% (25/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 26-01-2016 05:18:13
สงสารสามีใหม่
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 40-30% (25/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 26-01-2016 08:32:20
ยัยทอฟ้านี้ล่ะตัวปัญหาหลักเลย หลายใจ โลเล เหมือนจะรักลูกมากว่าผัว แต่ก็ไม่ใช่ สุดท้ายนางก็กลับไปหาผัวอยู่ดี เป็นผู้หญิงที่ จะเป็นแม่ที่ดีก็ไม่ใช่จะเป็นเมียที่ดีก็ไม่ได้ ไม่ชอบนางจริงๆๆ  :katai1: :katai1: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 40-30% (25/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 26-01-2016 09:08:49
วีเค้าก็คงแบกความรู้สึกแย่ไว้เยอะเหมือนกัน คือแบบ ฟ้านี่แหละของเสียอ่ะ พูดเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 40-30% (25/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 26-01-2016 09:58:38
 :ling1:

อืมมมมมมมม

งานนี้ทอฟ้าต้องไปฟ้องศาลแล้วล่ะมั้งงงง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 40-30% (25/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-01-2016 11:59:18
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 40-100% (27/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 28-01-2016 02:24:44
                 
ต่อจาก 30%



                  ผมหันมองประตูก่อนจะลุกขึ้นเดินไปรอหลังจากได้ยินเสียงรองเท้าหยุดยืนอยู่หน้าห้อง ก่อนที่ประตูจะเปิดอ้าออก ปรากฎร่างของพี่ตุลย์ที่เบี่ยงตัวให้พี่ทอฟ้าซึ่งจูงมือที่หนึ่งอยู่นั้นเข้ามาก่อน


                  แกร๊ก


                  “โอ๊ะ...มายังไง ถึงครบพ่อแม่ลูกอย่างนี้เนี่ยครับ”


                  ส่วนผมก็ประมาณเมียน้อยอุ้มลูกของตัวเองไว้เหมือนกัน


                  “มาดักรออยู่ใต้คอนโดฯ” พี่ตุลย์ตอบ แม้จะโดนพี่ทอฟ้าตวัดสายตามาให้ก็ดูไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่ ผมก็ทำได้เพียงแค่ยิ้มแหะๆ กับภาพครอบครัวร้าวๆ ที่ไม่น่าดูนัก

                  “อา เอ่อ มาที่นี่หลังเลิกงานได้แล้วหรอครับ?”

                  “วันนี้ฉันมีธุระจะคุยกับพี่ตุลย์เป็นพิเศษน่ะ”

                  “อ๋อ เหรอครับ”

                  “แม่ๆ แม่กินข้าวหรือยังครับ? กินข้าวกับที่หนึ่งก่อนไหม?” ที่หนึ่งกระตูกเสื้อแม่ตัวเองยิกๆ นอกจากสายตาที่เป็นประกายแล้ว เหมือนผมจะเห็นเสงวิบวับๆ ลอยอยู่รอบตัวมันด้วย


                  แต่ก็อย่างว่าแหละ ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้เจอ พอพี่ทอฟ้ามาที่นี่ได้ ส่วนใหญ่ก็สวนกับที่หนึ่งทุกที


                  “มีอะไรให้แม่กินบ้างละครับ?”

                  “วันนี้มีแกงจืดครับ ป้าสร้อยเอามาให้เมื่อตอนเที่ยง” ผมเป็นฝ่ายตอบ ขยับตัวหลบให้สองแม่ลูกเดินร่าเริงเป็นอาราเล่เข้าไปในห้องครัวก่อนจะเดินอุ้มตอนต้นไปหาพี่ตุลย์ที่กำลังกางแขนรออยู่


                  กระโจนตัวเองใส่แทนได้ไหมเนี่ย~


                  ทำได้แค่คิดครับ สุดท้ายก็ยื่นตอนต้นให้นั่นแหละ เอาจริงๆ นะครับ ช่วงนี้ผมกับพี่ตุลย์แม่งไม่มีเวลาส่วนตัวเลยอะ พอพี่ตุลย์กลับบ้านมา ก็เลี้ยงพวกเด็กๆ แทนผม ส่วนผมก็อ่านหนังสือกว่าจะเลิก พี่ตุลย์ก็หลับไปแล้วทุกที พอตื่นมาพี่ตุลย์ก็ไปทำงาน ผมก็วุ่นกับเลี้ยงเด็กต่อหรือไม่ก็ไปเรียน นี่สินะ ที่เป็นปัญหาว่าทำไมคนเราพอมีลูก ชีวิตคู่ก็เหมือนจะหายไป


                  เฮ้ออ


                  “พ่อกินข้าวด้วยไหมอะ?”

                  “กินเลยๆ พ่อกินมาแล้วครับ” พี่ตุลย์ตะโกนตอบกลับไป

                  “กินแล้วจริงดิ?” ผมเลิกคิ้วทำหน้ากวนๆ รู้อยู่ครับว่าไอ้พี่ตุลย์ยังไม่กินข้าวเย็นมาหรอก ก็ปกติเขาจะกลับมากินพร้อมผมนี่หน่า

                  “หึ โกหกน่ะ กลัวคนแถวนี้จะเห็นภาพบาดใจ”


                  ผมกอดอก “ขอโทษด้วยนะครับ ที่พี่สอยได้คนไม่งี่เง่ามา เห็นภาพพ่อแม่ลูกนั่งกินข้าวด้วยกัน ผมไม่นั่งร้องไห้หรอก บอกเลย” ส่งเสียงหึไปด้วยสองที


                  “หรอ แล้วถ้าเกิดลูกอยากเห็นพี่ป้อนข้าวให้ฟ้าเงี่ยละ?”

                  “เฉยๆ มีเจ็บกว่านี้ปะ” พร้อมทำหน้าตาแบบมะเฟืองเอง

                  “แล้วถ้าที่หนึ่งบอกให้หอมแก้มละ?”

                  “...เฉยๆ มีเจ็บกว่านี้ปะ ไม่เป็นอะไรเลยครับ”

                  “แล้วถ้าเป็นจุ๊บละ?”

                  “...” ผมเงียบยาว ยิ่งไอ้พี่ตุลย์เห็นว่าไม่ตอบ ก็ยิ่งทำหน้าเหนือใส่ อยากจะบอกแม่งไปเลยว่า เฉยๆ แต่ทำจริงขึ้นมานี่ก็มีพีคกันบ้างละครับ พี่ตุลย์ยิ่งใช่ว่าจะคาดเดาอะไรได้

                  “ว่าไง?”

                  “โอ๊ย หิวข้าว พี่ไม่กินช้ะ? เดี๋ยวผมไปกินเอง บาย”


                  ผมหันหลังเดินเข้าครัวแม่ง ตักข้าวๆ ตักแกงๆ มานั่งกินเป็นพ่อแม่ลูกแทนซะเลย พอเหลือบมองพี่ตุลย์ก็เห็นกำลังท่าทางอารมณ์ดีเดินอุ้มตอนต้นเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องนอน


                  เห็นผมเถียงไม่ได้ละมีความสุข!

















                  หลังจากกินข้าวเสร็จผมก็มาล้างจานส่วนที่หนึ่งกับพี่ทอฟ้าก็นั่งดูการ์ตูนด้วยกันอยู่หน้าทีวี ตอนต้นกำลังเดินเล่นอยู่ในครัวป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ ตัวผมเนี่ยแหละ


                  ที่จริงแล้วพี่ทอฟ้าก็อาสาจะมาช่วยผมล้างจานอยู่เหมือนกันนะครับ แต่พอดีมีเด็กขี้หวงกีดกันเอาไว้ไม่ให้แม่ตัวเองพบรักใหม่ครับ อิอิ ก่อนหน้านี้ที่นั่งกินข้าวอยู่ด้วยกัน ผมก็เผลอพูดหยอกไปตามภาษาที่ฝั่งแน่นอยู่ในสายเลือด ที่หนึ่งนี่หัวฟัดหัวเหวี่ยง ประมาณว่าเคยเป็นเพื่อนรักกันมากแค่ไหน แต่ตอนนี้เอ็งกับข้าเป็นศัตรูประมาณนั้น (จะแทนว่ากูกับมึง ผมว่าแม่งดูโหดสัดไปหน่อย)


                  อ่า...ส่วนไอ้พี่ตุลย์


                  แกร๊ก


                  เขาว่าพวกแก่ๆ นี่หนังเหนียว ตายยากครับ เผลอคิดปุ๊บ เปิดประตูโผล่มาปั๊บ


                  “พี่...”

                  “พี่ตุลย์” เสียงเรียกของผมโดนกลบด้วยเสียงเรียกของพี่ทอฟ้าที่อยู่ใกล้มากกว่า “ฟ้ามีเรื่องจะคุยด้วย”


                  พี่ตุลย์ไม่ได้พูดอะไรตอบเพียงแค่เดินเข้ามาในครัว เปิดตู้เย็นกินน้ำโดยมีพี่ทอฟ้าเดินตามหลังมา


                  “มีเรื่องอะไรก็พูดมา”

                  “พูด...ตรงนี้หรอ?” พี่ทอฟ้าถามเสียงลังเล มองผมแล้วก็มองลูกของตัวเองคล้ายจะบอกกลายๆ ว่าไม่อยากจะให้ผมแล้วก็ที่หนึ่งได้ยินเรื่องที่กำลังจะคุยกัน

                  “งั้นก็ไปคุยกันในห้องนอน”

                  “อะ โอเค เอางั้นก็ได้”

                  “เดี๋ยวสิ...”


                  พรึ่บ!


                  ผมพุ่งเข้ามาขวางคนทั้งคู่ที่กำลังเดินเข้าไปในห้องนอน พี่ทอฟ้ากับพี่ตุลย์ตกใจไม่น้อยที่อยู่ดีๆ ผมก็โผล่มา แต่อย่าว่าแค่พวกเขาเลยครับ ผมเองก็ตกใจเหมือนกันที่อยู่ดีๆ ก็โผล่พรวดมาขวางหน้าพวกเขาเอาไว้แบบนี้ มันก็แค่ผม...ไม่อยากให้สองคนนั้น เขาไปในห้องที่เป็นของผมกับพี่ตุลย์ก็แค่นั้น


                  “ห้องนอน...ห้องนอนมันห้องเล็ก เสียงมันอาจจะก้องดังออกมาข้างนอกก็ได้ ผมว่าพี่คุยกันข้างนอกเถอะ ส่วนผมจะพาที่หนึ่งกับตอนต้นไปอยู่ในห้องนอนของที่หนึ่ง โอเคนะ?”

                  “เอางั้นก็ได้”


                  ผมพยักหน้า ก่อนจะพาเด็กทั้งสองเข้าห้องนอนของที่หนึ่ง ปล่อยให้พวกเขาทั้งสองได้คุยธุระกันไป


                  “อันธพาล! ทำไมต้องให้มาอยู่ในห้องนอนด้วยละ ที่หนึ่งยังอยากจะอยู่กับแม่นะ!”

                  “ตอนนี้แม่ที่หนึ่งเขาขอเวลาส่วนตัวคุยกับพ่อที่หนึ่งอยู่ไง เขาไม่อยากให้เรารบกวน”

                  “ไม่รบกวนหรอกหน่า จะนั่งดูการ์ตูนเงียบๆ เดี๋ยวแม่กลับไปแล้วที่หนึ่งไม่รู้จะทำยังไง!”


                  ผมเกาหัวแกรกๆ เอาไงดีวะ


                  “แม่ไม่กลับไประหว่างที่ที่หนึ่งอยู่ในห้องหรอกหน่า อย่าวุ่นวายสิ ดูตอนต้นยังสงบเสงี่ยมเลยเห็นไหมเนี่ย” ผมจิ้มแก้มตอนต้นจนได้ยินเสียง แอ๊ แอ๊ ตอบกลับมา

                  “ไม่เอา ที่หนึ่งจะไปหาแม่” เด็กนั่นพูดเสียงฉุน พุ่งจะไปเปิดประตูห้องแต่ดีที่ผมยกขาขึ้นมากั้นไว้ได้เสียก่อน

                  “คือ...พ่อแม่ที่หนึ่งอาจจะกำลังสวีทกันอยู่ก็ได้นะ อย่าไปรบกวนเขาดีกว่า ให้พ่อแม่อยู่ส่วนตัว เพื่อคุยกระจุกกระจิกๆ รื้อฟื้นความหลังอะไรแบบนี้”

                  “แปลว่าพ่อกับแม่อาจจะมาอยู่ด้วยกันหรอ?”

                  “อะ อ่าก็ไม่รับปากว่าใช่ แต่ก็อาจจะเป็นไปได้”


                  ฉิบหาย ผมก็เริ่มกังวลแล้วแหะ


                  “เอางี้นะท่านนายพล กระผมหน่วยสอดแหนมจะขอไปปฏิบัติหน้าที่แล้วจะนำมารายงานให้ ส่วนท่านขอให้พักอยู่บนเตียงของท่านให้สบายเถอะ” ผมตะเบ๊ะ

                  “รับทราบ! งั้นจงรีบไปสอดแหนมแล้วมารายงานให้ไว” ที่หนึ่งก็เข้ามาอินด้วย กระโดดขึ้นบนเตียงประหนึ่งเป็นบัลลังก์พร้อมตอนต้น ส่วนทหารสอดแหนมต๊อกต๋อยอย่างผมก็แนบหูไปกับประตูไม้อัด

                  “ไม่ได้!”


                  ผมแอบสะดุ้งในใจกับน้ำเสียงที่พี่ตุลย์ใช้ ผมไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้พี่ทอฟ้าพูดอะไรเลยยังจับต้นชนปลายไม่ถูกนัก


                  “พี่ไม่เข้าใจหัวอกฟ้าบ้างหรือไง ฟ้าอยากจะอยู่กับพวกเขาทดแทนช่วงเวลาที่ฟ้าไม่ได้อยู่กับเขา”

                  “โดยที่ฟ้ากำลังจะบังคับให้พี่ไม่ได้อยู่กับเขา ทั้งๆ ที่พี่ไม่ได้ทำอะไรผิดงั้นหรอ? พี่เป็นคนที่อยู่กับพวกเขามาตลอดนะ พี่เป็นคนที่ดูแลเขามาตลอด มันใช่แล้วหรอ ที่จะต้องมาเสียสละลูกให้คนที่ทิ้งพวกเขาไป!”

                  “ฟ้าถึงอยากแก้ตัวอยู่นี่ยังไงคะ แต่ฟ้าอยู่ที่นี่กับพี่ไม่ได้ ฟ้าอยากอยู่กับลูก แต่ฟ้าก็มีครอบครัวของฟ้าแล้ว พี่จะให้ฟ้าทำยังไงเล่า”

                  “นั่นมันก็เรื่องของฟ้า แต่พี่ไม่ยอมให้ลูกๆ ไปอยู่กับฟ้าเด็ดขาด!”


                  ผมตกใจกับการโต้เถียงที่ดุเดือด แต่รู้สึกตะลึงมากกว่าคือหัวข้อที่พวกเขากำลังคุยกัน ถ้าให้ผมตีความ มันหมายความว่า พี่ทอฟ้าจะเอาที่หนึ่งกับตอนต้นไปอยู่ด้วยงั้นหรอ!?


                  “ถะ ถ้างั้นแค่ตอนต้น...เขายังเล็ก เขายังปรับตัวได้ให้เขาไปอยู่กับฟ้านะ ให้ฟ้าได้ดูแลเขานะพี่ตุลย์ฟ้าขอร้อง ไม่ว่ายังไงฟ้าก็อยากจะอยู่กับลูก แค่คนเดียวก็ได้ ให้เขาไปเป็นครอบครัวของฟ้ากับพี่วีนะ!”

                  “ที่พูดนี่ไม่เข้าใจหรอ? คำว่าไม่นี่มันเข้าใจยากมากหรือไง ไม่ได้ ไม่ได้ก็คือไม่ได้! ไม่ว่าจะใคร คนไหนพี่ก็ไม่ให้!”


                  ผมได้ยินเสียงพี่ตุลย์ตะคอกดังมากก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงเดินกระแทกฝีเท้าราวกับคนที่เส้นความอดทนใกล้จะขาดผึง แต่เพียงไม่นานผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของอีกคนเดินเร็วๆ เหมือนจะมารั้งตัวพี่ตุลย์เอาไว้


                  “พี่จะให้โอกาสฟ้าสักครั้งไม่ได้เลยหรอ! ฟ้ารู้ตัวว่าฟ้าผิดไปแล้วที่แล้วมา แล้วฟ้าก็ขอโทษ สำนึกผิด พี่จะไม่ให้ฟ้าแก้ตัวบ้างเลยหรือไง ลูกก็มีสอง ก็เอามาให้ฟ้าสักคนสิ!”


                  เพี๊ยะ!


                  …


                  ผมอ้าปากค้าง...และคิดว่าคนที่โดนตบหน้านั้นก็คงไม่ต่างกัน


                  “เธอเองไม่ใช่หรอที่ทิ้งพวกเขากับมือ! แค่ทุกวันนี้ยอมให้เจอหน้าลูก ได้มานั่งกินข้าวกับลูก ได้มาเล่นกับลูกไม่รู้ตัวหรอว่านี่มันก็มากเกินไปแล้วกับคนอย่างเธอ! หมามันยังไม่ทิ้งลูกของตัวเอง เกิดมาเป็นคนแท้ๆ ลูกคนไหนๆ ก็ทิ้งหมด แล้วที่อย่างนี้จะมาทำเป็นสนใจ ทำไมเธอไม่รอให้เขาแต่งงานไปก่อนละ ถึงคิดจะกลับมาได้! บังเอิญย้ายมาที่นี่ บังเอิญเจอหน้าพี่ ก็เลยนึกถึงลูกขึ้นมาได้งั้นหรอ! ที่แล้วมาไม่คิดแม้จะถามหรือติดต่อมาหาสักครั้ง เห็นพวกเขาเป็นอะไร! แล้วยังมาพูดขอกันได้หน้าด้านๆ นี่ลูกนะ ไม่ใช่ตุ๊กตา เธอยังเป็นแม่คนอยู่บ้างไหมทอฟ้า ช่วยทำให้ไม่รู้ว่าแม่ของลูกฉันเป็นคนหน้าสมเพชหน่อยได้ไหม!!”

                  “พี่เอส...”


                  เสียงเรียกมาพร้อมกับแรงที่ดึงเสื้อ ผมหันไปหาที่หนึ่งทันทีที่สบตากับอีกฝ่ายผมก็ดึงที่หนึ่งเข้ามากอดไว้ทันทีใช้ท่อนแขนของตัวเองปิดหูของเด็กคนนั้นเอาไว้


                  ผมไม่รู้ว่าที่หนึ่งได้ยินตั้งแต่ตอนไหน แต่แววตานั่น...


                  ได้ยินแน่ๆ ที่หนึ่งได้ยินเรื่องนอกประตูนั่นแน่ๆ!


                  ตึง!!


                  ผมหันขวับไปที่ประตูหลังจากได้ยินเสียงของแข็งอะไรบางอย่างกระแทกกับกำแพงอย่างรุนแรง ยิ่งข้างนอกเดือดพลาดมากแค่ไหน ผมยิ่งกอดที่หนึ่งเอาไว้แน่นเท่านั้น ให้แขนของผมมันปิดหูของที่หนึ่งให้มิดจนไม่ได้ยินเสียงอะไร


                  “อย่ามาดูถูกฟ้านะ! ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นฟ้าแท้ๆ จะไปรู้อะไร! พี่ไม่เข้าใจความลำบากใจของฟ้าหรอก ไม่มีใครเข้าใจความลำบากใจของฟ้า ฟ้ามาหาลูกไม่ได้เพราะลูกอยู่กับพี่! แล้วมันผิดหรอที่ฟ้าอยากจะเป็นภรรยาที่ดี เชื่อฟังสามี เคารพสามี ไม่ทำในสิ่งที่สามีลำบากใจ ฟ้าผิดมากหรอ! พี่ไม่เข้าใจฟ้า ไม่มีใครเข้าใจ ไอ้เด็กนั่นก็เหมือนกัน! ทำไมถึงมีแต่คนว่าฟ้าไม่รักลูก ฟ้ารักพวกเขา ฟ้ารักลูกมาก! ฟ้าเป็นแม่พวกเขา! ฟ้าก็ต้องรักพวกเขาสิ อย่ามาดูถูก! อย่ามาว่าฟ้านะ!!”

                  “พี่ไม่เข้าใจฟ้าหรอก แต่ถ้านี่มันเป็นทางเลือก แล้วฟ้าเลือกที่จะเป็นภรรยาที่ดีแทนที่จะเป็นแม่ที่ดีไปแล้ว ฟ้าจะกลับมาเปลี่ยนใจทำไม? ในเมื่อฟ้าก็มั่นใจว่าสิ่งที่ตัวเองเลือกมันไม่ผิดแล้วจะกลับมาหาทางที่ตัวเองไม่ได้เลือกทำไม”


                  เสียงของพี่ตุลย์อ่อนลงมาก แต่ในขณะเดียวกันเสียงนั่นก็สั่นด้วยความเจ็บปวด เจ็บปวดจนผมไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าที่หนึ่งที่อยู่ในอ้อมกอด หรือตอนต้นที่นั่งไม่รับรู้เรื่องราวอยู่บนเตียง


                  “ฟ้าไม่ได้กลับมาเลือกใหม่นะ ฟ้าแค่อยากให้สองทางนี้มันเป็นทางเดียวกัน ลูกเองก็ต้องการแม่ แล้วฟ้าเองก็ต้องการพวกเขา พี่วีเขาต้องดูแลลูกดีมากแน่ๆ มันไม่มีอะไรที่จะแย่เลย ทำไมพี่ถึงไม่เข้าใจ”

                  “...”

                  “พี่ตุลย์...”

                  “กลับไปเถอะ ถ้าฟ้าเลิกเห็นแก่ตัว คิดถึงใจของคนอื่น ของลูก ฟ้าคงไม่พูดแบบนี้ แค่นี้พี่ก็ยิ่งมั่นใจว่าฟ้าดูแลลูกไม่ได้หรอก...แค่รักลูกให้เท่ากับที่พี่รัก ฟ้ายังทำไม่ได้เลย

                  “!!”

                  “กลับเถอะ มันเสียเวลา”


                  ความเงียบรายล้อมอยู่หลายนาที ก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงประตูห้องถูกเปิดและปิดลงเป็นสัญญาณว่าข้างนอกนั่นไม่มีใครนอกจากพี่ตุลย์


                  แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังไม่กล้าเปิดประตูเพื่อที่จะไปหา ผมไม่รู้ว่าผมควรต้องทำยังไง พูดอะไร อยู่กับเขาแบบไหน และผมก็ไม่รู้ว่ากับคนที่กำลังเสียใจไม่แพ้กันอยู่ในอ้อมกอดผมเนี่ยหละ ผมควรทำยังไง


                  สุดท้ายผมก็ทำได้เพียงแค่อยู่เฉยๆ ไม่สามารถจัดการอะไรกับความเจ็บปวดที่อยู่ทั้งสองด้านของประตูได้เลย









TBC
ป๊าดดด เขียน 70% ที่เหลือนี่ หยุดไม่ได้ จะ pause 50% ก่อนไม่ได้เลย แบบต้องเขียนให้จบจะบอกว่า ฟิลลิ่งนี่คืิอมาเต็มโกรธแทนพี่ตุลย์
ทอฟ้านี่เหมือนเป็นผู้หญิงสมัยก่อนมากก แบบจะเป็นช้างเท้าหลังขั้นสุด ไร้ซึ่งความเป็นผู้นำ 55555555555555

#daddybelover
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 40-100% (27/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-01-2016 02:40:20
ระเบิดลงตู้ม!!!!!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 40-100% (27/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-01-2016 02:50:57
สงสารพี่ตุลย์ สงสารเด็ก. อีฟ้านี้เห็นแก่ตัวสุดๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 40-100% (27/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: SheGame ที่ 28-01-2016 09:48:33
ฟ้าไม่น่าจะเป็นแม่คนได้ แย่จริงๆ  :pigangry2: :pigangry2: :pigangry2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 40-100% (27/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 28-01-2016 10:09:34
สงสารที่หนึ่งเลยอ่ะ
ฝังใจไปอีกนานแน่ๆ กับเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 40-100% (27/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 28-01-2016 12:33:39
อ๊ากกกกกก  กรีดร้องงงงง   :katai1: :katai1: :katai1: สำหรับทอฟ้า :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:
สงสารที่หนึ่งอะ  ทอฟ้าเป็นแม่ที่แย่มากกกกกก   :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 40-100% (27/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 28-01-2016 14:22:41
ที่หนึ่งจะซึมอีกนานแค่ไหน....ตอบ!! =_= สงสารเด็ก สงสารพี่ตุลย์ และสงสารเอส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 40-100% (27/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 28-01-2016 16:37:21
เกลียดฟ้า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 40-100% (27/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 28-01-2016 16:58:18
สงสารที่หนึ่ง
เอาที่หนึ่งไปอยู่ด้วยก็ใช่ว่าจะทำให้ที่หนึ่งมีความสุขได้ สามีใจแคบขนาดนั้น เกิดเรื่องอะไรขึ้นมา นางคงเข้าข้างสามีชัวร์
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 40-100% (27/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 28-01-2016 20:06:54
สุดท้ายทอฟ้าก็เป้นคนเห็นแก่ตัวที่สุด
คิดจะได้ทั้ง 2 ทาง โอ้โหแม่คุณ อยากฟาดให้ล้มม
นึกถึงจิตใจลูกบ้างป่าววะ พี่มีตั้งสองคนแบ่งมาให้คนนึง นี่ลูกหรืออะไรอ้ะ นี่คนเป้นแม่จริงป่ะเนี่ย ไปเลี้ยงลูกเทพเหอะอยากได้เท่าไหร่ก็ซื้อเอาเลย!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 40-100% (27/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 28-01-2016 20:43:45
อ่านมาถึงตอนนี้ ก้อหมดเรื่องพูดกับทอฟ้าแล้วจิงๆ
หวังก้อแต่ว่า "ที่หนึ่ง" จะเข้าใจ และต้องทำใจยอมรับว่าเค้าไม่ใช่ "ที่หนึ่ง" สำหรับแม่ของตัวเอง ที่หนึ่งกับตอนต้นไม่มีทางเลือกแล้วจิงๆ
และขออย่าให้ลูกต้องไปอยู่กับผู้หญิงคนนี้เลย เธอปกป้องดูแลใครไม่ได้หรอก อยู่กับโลง(สามี)ผุๆของเธอต่อไปเถอะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 40-100% (27/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 28-01-2016 22:15:48
เกลียดฟ้า ผญ.ที่คิดถึงแต่ตัวเองไม่รู้จักหน้าที่หรือความเป็นแม่
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 40-100% (27/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 29-01-2016 23:36:09
สงสารพี่ตุลย์อ่ะ แต่ที่สงสารที่สุดคือ ที่หนึ่ง  :hao5:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 40-100% (27/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Shxtaop ที่ 30-01-2016 07:27:23
พี่ตุลพูดถูกที่สุดแล้ววว มันแค่รักจากปากเพราะกลัวคำคนอื่นนินทา เหอะ
ฟันธงเลยยยังไงอิตาวีนั้นเลี้ยงไม่ดีแน่ๆๆ แค่เด็กมันยังเรียกเด็กนั้นเลย
หลงผู้ชายจนประสาทอิบ้าทเกลียดขอผลกรรมมันด้วยเถอะ :fire: :katai1: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 40-100% (27/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 30-01-2016 15:56:05
เฮ้อออ เอสที่เป็นคนกลางคงลำบากใจน่าดู
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!! ตอนที่ 40-100% (27/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 31-01-2016 12:42:43
อยากตบยัยทอฟ้าสักสิบที หึ้ยยยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 31-01-2016 21:52:31
ตอนที่ 41




              “ที่หนึ่งจะไปนอนแล้วละ”

              “หะ อ๋อ โอเคๆ” ผมปล่อยที่หนึ่งออกจากอ้อมแขน มองเด็กตัวเล็กๆ ที่กำลังอุ้มน้องชายของตนมาให้ผมก่อนแล้วตนค่อยปีนขึ้นเตียง “พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปเรียนอีกนี่เนาะ”

              “...” ที่หนึ่งไม่ตอบนอกจากพลิกตัวหันหลังให้ผม

              “โอเค” ผมลากเสียงยาว “ถ้างั้นพี่ออกจากห้องแล้วนะ” ผมว่าพร้อมหมุนตัวเตรียมจะออกจากห้อง

              “...พ่อกับแม่ทะเลาะอะไรกันไม่รู้แต่เสียงดังขนาดนั้น คงไม่มีโอกาสที่จะได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาอีกแล้วใช่ไหมพี่เอส?”

              “เอ๋? เอ่อ...พี่ก็ตอบไม่ได้ว่ะ มันอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ พี่ก็ไม่อยากจะ...”

              “ไม่ต้องพูดแล้วละ ที่หนึ่งจะนอนแล้ว”

              “...ถ้างั้นก็ ฝันดีแล้วกัน” ผมบอก เอื้อมไปปิดไฟในห้องก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับตอนต้นที่มีทีท่าง่วงไม่ต่างกัน ผมมองพี่ตุลย์ด้วยความลังเล แต่ตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องนอนพาตอนต้นเข้านอนก่อนแล้วค่อยเดินออกมา

              “ที่หนึ่งนอนแล้วหรอ?” ทันทีที่พี่ตุลย์เห็นผมก็ถามขึ้น

              “ก็ว่าจะนอนแล้วอะนะ”

              “ที่หนึ่งได้ยินอะไรหรือเปล่า? ไม่ได้ตั้งใจจะให้เสียงดังขนาดนี้”

              “ที่หนึ่งได้ยินเสียง แต่คงจับใจความไม่ได้ เขารู้แค่ว่าพี่กับพี่ทอฟ้าทะเลาะกันขนาดนี้คงจะกลับมาอยู่ด้วยกันอีกไม่ได้ ตอนนี้ก็เลยซึมๆ อะ”

              “ถ้างั้นก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะความจริงมันแย่กว่านั้นอีก” พี่ตุลย์พิงหลังไปกับโซฟา

              “พี่...โอเคไหมอะ?” ผมถามพลางทรุดตัวนั่งลงข้างๆ

              “โอเค ก็ไม่ได้เป็นไรหรอก แค่โกรธแล้วก็รู้สึกกังวลนิดหน่อย เด็กๆ เขาก็คิดว่าพ่อกับแม่ต้องอยู่ด้วยกัน แต่ชีวิตจริงมันมีอะไรมากกว่านั้นก็เลยกลัวว่าวันที่ที่เขาเข้าใจว่าครอบครัวทุกครอบครัวไม่ได้สมบูรณ์ เรื่องพวกนี้ก็จะกลายเป็นปมด้อยไปน่ะ”

              “อืม ผมเข้าใจอยู่”

              “เฮ้อ ให้ตายเถอะ ทำไมอยู่ดีๆ ถึงมาทำอะไรแบบนี้นะ”

              ผมก้มหน้าพอคิดไปว่าที่ความเป็นแม่ของพี่ทอฟ้ามันเดือดขึ้นมาอาจเพราะคำพูดของผมก่อนหน้านี้ก็ได้ “...เรื่องนี้อาจจะผิดที่ผมเองก็ได้นะ”

              “หา? แล้วนายไปเกี่ยวอะไรด้วย?”

              “ก็วันนั้น...”


              ผมเล่าเรื่องวันที่ผมบังเอิญเจอพี่ทอฟ้าอยู่ที่ร้านให้พี่ตุลย์ เล่าทุกเม็ด เก็บทุกรายละเอียดไม่ตกหล่นแม้แต่คำพูดเดียว


              “อ๋อ คงเพราะโดนด่ามาสินะ” พี่ตุลย์หัวเราะ

              “ขอโทษนะที่ผมเข้าไปยุ่งก็แค่หวังดีอยากให้ที่หนึ่งได้เจอแม่บ้าง ไม่คิดว่าจะออกมาเป็นแบบนี้อะ ถ้าผมระงับอารมณ์ตัวเองตอนนั้น ก็คงไม่ต้องเกิดเรื่องแบบนี้หรอก”

              “ช่างมันเถอะ เป็นแบบนี้อาจจะดีก็ได้เรื่องมันจะได้จบๆ ถ้าไม่มีเรื่องวันนี้ฉันก็คงรู้สึกเหมือนว่ามันยังก้ำกึ่ง”

              “แล้วพี่ทอฟ้าเขาจะมาที่นี่อีกไหมอะ?”

              “ถ้ายังกล้าอยู่ก็มา ฉันไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว”

              “ถ้าเป็นผม ผมไม่กล้านะโดนขนาดนี้” ผมหัวเราะเสียงแห้ง เกาหัวแกรกๆ ยังไม่รู้จะทำตัวยังไงกับความตึงเครียดแบบนี้ ผมไม่รู้ว่าตอนนี้พี่ตุลย์รู้สึกหรือไม่รู้สึกอะไร แต่ที่แน่ๆ ฟิลลิ่งอึดอัดมากครับ O<=<


              ตุ๊บ


              “อะไร? อย่ามาเนียน” ผมผลักหัวไอ้พี่ตุลย์ที่ถือวิสาสะมาหนุนตักผมหน้าตาเฉย

              “หวงเนื้อหวงตัว?”

              “ก็ใช่อะดิ มาแตะตัวลูกเขานี่ได้ขอพ่อแม่เขายัง” ผมพูดเสียงกวนแต่ไอ้พี่ตุลย์ก็ทำเพียงหัวเราะหึหึตอบกลับมา กวนประสาทพอกันจนอยากจะลุกให้หัวโหม่งพื้นไปให้รู้แล้วรู้รอด

              “ขอพักหน่อยเถอะหน่า ถ้ามีหมอนแถวนี้ก็ไม่หนุนตักหรอกหน่า”

              “หรอออ” ผมหัวเราะหึหึเลียนแบบ เหลือบมองหมอนพิงหลังที่อยู่หลังไอ้พี่ตุลย์ “เห็นว่าวันนี้ผจญศึกหรอกนะ จะให้ยืมตักเป็นกรณีพิเศษ ขอบอกเลยว่า ใช่ทุกคนจะได้สัมผัสกับตักทองคำของผมนะคร๊าบ"

              “ครับๆ”


              ผมหัวเราะเบาๆ ก้มมองหน้าพี่ตุลย์ที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ไม่รู้ว่าที่สีหน้าเขาไม่ค่อยแสดงอารมณ์เพราะถ้าแสดงออกมาแล้วจะเห็นใบหน้าพวกนี้หรือเปล่า


              “นี่ๆ หลับหรือยัง?” ผมถาม เอานิ้วจิ้มหูพร้อม ไม่มีหรอกครับจิ้มกงจิ้มแก้มไอ้คนที่นอนอยู่ตักผมตัวใหญ่ถึกทึนจะตายห่าผมไม่อาจจะหลอกตัวเองให้ทำได้จริงๆ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงน่ารักๆ สักคนนะ อือหือออ ไม่ใช่นิ้วด้วยที่จะใช้จิ้มอะ ป.น.น. ปากแน่นอน <3

              “...”


              ไม่มีเสียงตอบรับจากไอ้พี่ตุลย์ แต่เห็นอยู่ว่าคิ้วขมวด


              “หลับแล้วหรอ? เสียดายจังน๊า...วันนี้อุตส่าห์ว่าจะยอมทุ่มเทกายทุ่มเทใจปลอบให้เต็มที่สักหน่อย นานๆ จะยอมเสียตัวให้ผู้ชายทั้งที”


              คำพูดพวกนี้ให้รู้กันแค่เรา ผม และก็พี่ตุลย์นะครับ ชาตินี้ชาติหน้าชาติไหนอย่าไปบอกใครเด็ดขาด ใจไม่ได้ฝักใฝ่ทางนี้นะครับ! (ขอย้ำอีกครั้งครับ!) แต่ไอ้พี่ตุลย์เขาเป็นกรณีพิเศษ


              ช่างแม่ง ว่าแล้วขอแอบเหล่ดูผลลัพธ์


              อะๆ มีขยับตัว


              “เฮ้อ หลับไปแล้วมันก็ช่วยไม่ได้อะนะ ช่วงนี้ใกล้สอบไฟนอลแล้วด้วยต้องงดพักกิจกรรมเข้าจังหวะ สอบเสร็จก็ต้องมาลุ้นกับผมสอบ พอผลออกก็จิตตก กว่าจะมีฟิลลิ่งยอมเสียตัวคราวหน้าสงสัยจะปีหน้า~”


              พรึ่บ!


              อยู่ดีๆ ไอ้พี่ตุลย์ก็ลุกพรึ่บหัวแทบโขลกกับคางผม หันมามองแบบน่ากลัวมากจนถึงกับต้องผงะ


              “งั้นต้องขอเต็มที่กักตุนไว้จนถึงปีหน้าแล้วกัน”

              “ฮะ เฮ้ย! ใจเย็-ๆ เอ๊ย ใจเย็นๆ!” ผมแทบจะถลาหัวฟาดพื้นไปตามแรงฉุดกระชากลากถู นี่ถ้าไม่รู้มาก่อนนึกว่ากำลังเล่นไฟรักอสูร! “ไอ้พี่ตุลย์โว๊ย ปิดบ้านปิดช่องก่อนจะเข้านอนสิเฮ้ย”


              พี่ตุลย์ชะงักลากผมไปเช็กเตาแก๊ซ ปักไฟ ประตูห้อง พอเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยก็ปิดไฟจนให้ห้องมืดตื้ดตื้อ


              เอาละมืดๆ แบบนี้ถ้ายังลากถูลู่ถูกังอีก กูได้เลือดแน่ๆ


              “เตรียมตัวเตรียมใจแล้วสินะ”


              อยากจะบอกว่า ตอนนี้อยากถอยหลังกลับมากเลยครับ รู้สึกกลัวอะตัวเองงงง!~


              “รู้สึกไม่ค่อยพร้อม ปวดท้องสงสัยเมนส์มา แหะๆ”

              “ไม่เป็นไร ฝ่าไฟแดงได้” หันมายิ้มเหี้ยมเปิดประตูห้องนอนพร้อม

              ทำได้เพียงก้มหน้ารับชะตากรรม แต่อันที่จริงก็แอบตื่นเต้นนะครั้งที่สี่~ (ปิดหน้า) “จะทำอะไรก็ขอแบบนุ่มนวล เกรงใจเด็กๆ ด้วยนะพลีส”

              “แน่นอนอยู่แล้ว”


              ปัง













              “ช่วงนี้มีหนังอะไรน่าดูบ้างวะ” ผมแอบกระซิบถามไอ้ธันที่กำลังพิมพ์ไลน์ยิกๆ ส่งให้แฟนมัน

              “ก็หลายเรื่องอยู่นะ มึงชอบหนังแนวไหนอะ?”

              “ไม่รู้ว่ะ”

              “อะไร? แนวหนังที่ตัวเองชอบก็ไม่รู้เนี่ยนะ”


              เอ้า ก็ไม่ค่อยได้ดูหนังนี่หว่า ล่าสุดที่เข้าไปดูกับโรงก็นู่นตอนที่พ่อยังอยู่นู่น หลังจากนั้นผมก็รอแผ่นอะ ถูกกว่าเยอะ สบายไม่ต้องเบียดใครด้วย


              “เออหน่า หาหนังให้กูสักเรื่องสิ เอาแบบที่คนกำลังฮือฮา สนุกๆ”

              “แป๊บ วันนี้หนังเข้าหลายเรื่องด้วยเดี๋ยวเช็คก่อน” ไอ้ธันว่า ปิดช่องแชทที่กำลังคุยกับแฟนแล้วเช็คหนังให้ผมแทน ระหว่างที่รอให้ไอ้ธันกำลังสแกนหนังให้ ผมก็หันมาจดเลคเชอร์ยิกๆ


              เหี้ยไรเนี่ย หันไปคุยกับเพื่อนแป๊บเดียว จารย์พูดอะไรไม่รู้เรื่องแล้ว orz


              “แล้ว...มึงจะไปดูหนังหรอ?”

              “ทำไม? มันแปลกมากหรือไง?” ผมถามกลับจ้องโปรเจอเตอร์เขม็ง

              “ก็แปลกอะดิ ทีกูชวนละไม่เคยไป ไหนบอกไม่มีตังไงวะ! จะแอบกูไปดูกับสาวคนไหน ตอบ!”

              “กับแฟนมึงไง นี่แอบกิ๊กกันอยู่ไม่รู้หรอ ว๊าย โดนสวมเขานะเนี่ย” ผมหัวเราะเจ้าเล่ย์พร้อมกระดิกนิ้วก้อยยิกๆ กวนประสาท เห็นมันฮึดฮัดๆ อยากจะกระโจนมากัดคอผมแต่ทำไม่ได้เพราะยังอยู่ในคาบเรียนแล้วรู้สึกมีความสุข ฮ่าๆ

              “งั้นมึงไปหาหนังดูเอาเองเลย” พร้อมนิ้วกลางสวนกลับมา ผมเลยต้องเป็นฝ่ายกระโจนเอาหัวไถกับไหล่ของมันแทน

              “เก๊าล้อเล่นนะตัวเองงงง ไม่ได้ไปดูสักหน่อย พอดี แบบว่า...คนรู้จักเขาอยากพาคนที่กำลังดูๆ กันอยู่ไปดูหนังแต่เขาไม่ค่อยได้ตามสักเท่าไหร่เลยไม่รู้ว่าหนังอะไรน่าดูบ้างก็แค่นั้นเอ๊งงง”

              “เขาว่ากันว่า คนที่อ้างว่าเป็นคนรู้จัก ร้อยละเก้าสิบเก้าคือเรื่องของตัวเอง”


              อะจึ่ย


              “ไม่ใช่นะ เรื่องของคนรู้จักกูจริงๆ มองตากูๆ” ผมจ้องตาเขม็ง คิ้วขมวดแบบซีเรียสแอนด์จริงจังสุดๆ

              “เหรออออออ”

              “เออสิ” หน้าตาแม่งไม่เชื่อสุดๆ “อย่ามัวแต่ถามกูหน่า สรุปได้ยังอะหนังที่ดูให้มึงหาให้เนี่ย”

              “ทำโวยวายกลบเกลือน เออๆ ดีนะที่วันนี้มีหนังเข้าน่าดูหลายเรื่อง เรื่องที่น่าจะมีคนดูเยอะก็น่าจะมีเรื่องนี้ เรื่องนี้ แล้วก็...”












              “ฮึม ฮึ้ม ฮึ่ม~” ผมเดาฮัมเพลงทอดน่องอย่างอารมณ์ดีเข้าตึกจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ผ่าง! ไม่ใช่ครับเขาตึกสำนักพิมพ์ที่พี่ตุลย์ทำงานอยู่ ที่เล่นมุข ‘หะ’ แบบนี้แค่อยากให้รู้ว่าอารมณ์ดีคร๊าบ! ~ “โย่ หวัดดีครับพี่พลอยไพลิน”

              “...ต้องการอะไร?”


              โหย ยังมองผมตาขวางเหมือนเดิมนี่จะจองล้างจองผลาญกลายเป็นวิญญาณสิงตึกนี้เลยไหมเนี่ย


              “แค่มาทักทายเฉยๆ เองอะ ทำไมต้องหงุดหงิดใส่ด้วยอะครับ” ผมพูดเสียงหงอย

              “คนรู้จักหรอ? หล่อจัง”

              “ขอบคุณครับผม” ทันทีที่ได้ยินคำพูดของพี่ประชาสัมพันธ์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมก็รีบส่งยิ้มโปรยเสน่ห์ อื้อหือ รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก~

              “มาทำไมที่นี่หรอ? หรือว่าจะเอาต้นฉบับไปให้ฝ่ายบรรณาธิการดูจ๊ะ ให้พี่พาไปไหม?” ง่อ ยิ้มให้ผมแบบนี้แปลว่าหลังเลิกงานนี่นัดต่อได้สินะ

              “ผมไม่ได้จะมาส่งต้นฉบับอะไรหรอกครับ มาหาคนน่ะครับ”

              “มันมาหาผู้ชายน่ะ” พี่พลอยไพลินพูดแทรก “ยังตามตื้อเขาอยู่อีกหรอ? หน้าด้านจัง” 

              “เอ๋? ปะ เป็นเกย์หรอ?”


              ผมหันจ้องหน้าผู้หญิงที่ชื่อพลอยไพลินโดยที่ไม่ได้สนใจเสียงของพี่สาวอีกคนเลยสักนิด ทั้งๆ ที่วันนี้ก็แค่อยากมาทักทายคิดว่าเรื่องเก่าๆ มันจะจบไปแล้วแท้ๆ 


              หึ ตามตื้องั้นหรอ?


              อยากจะประกาศออกโทรโข่งว่าได้กันแล้วด้วยเว๊ย!


              “แค่อยากมาทักทายเฉยๆ เท่านั้นเองน๊า ไม่ได้อยากจะมาหาเรื่องเลย ผมไปหาผู้ชายดีกว่า วันนี้ว่าจะไปดูหนังด้วยกัน ไม่ต้องอิจฉานะ ที่ตัวเองแค่คุยกับเขาก็ยังทำไม่ได้~”


              ผมพูดเสียงกวนพลางเดินถอยหลัง พอเห็นเจ๊พลอยไพลินลุกขึ้นพรวดขึ้นมาแทบจะปีนออกจากเลานจ์พุ่งมาตบ ผมก็รีบแลบลิ้นใส่แล้วหันหลังเดินตรงไปยังลิฟต์


              เฮ้อ วันนี้อุตสาห์อารมณ์ดีแท้ๆ มาโดนทำให้หงุดหงิดจนได้


              ติ้ง...


              “อ้าว เอสมาทำอะไรที่นี่?”

              “หือ” ผมเงยหน้าตามเสียงที่ได้ยิน ก่อนจะเห็นว่าประตูลิฟต์เปิดออกแล้ว และคนตรงหน้าผมก็เป็นไอ้พี่ตุลย์ที่ผมกำลังจะไปหา “ก็จะมาหาพี่เนี่ยแหละ”

              “งั้นหรอ” พี่ตุลย์ว่าพลางเดินเข้ามาในลิฟต์ กดชั้นที่ต้องการเสร็จสรรพ “ถ้ามีเรียนก็น่าจะบอกกันก่อน จะได้เอาตอนต้นมาด้วย...แฮ้ย แล้วตอนต้นละ!?” พี่ตุลย์หันขวับมาทันที ผมรีบต้องยกมือขึ้นเบรกก่อนจะกลายเป็นเรื่องใหญ่

              “ตอนต้นป้าสร้อยดูแลอยู่ครับ เขาบอกว่าคิดถึงตอนต้นมากแล้วตอนนี้ก็หายดีแล้ววันนี้ผมก็เลยให้ป้าสร้อยดูแลตอนต้นไปแล้วละ ไม่ต้องเป็นห่วง”


              ผมแอบไขว้นิ้วไว้ที่หลัง ที่จริงก็ก็ไม่ได้โกหกหรอก...แค่ไม่ได้บอกว่าป้าสร้อยไม่ได้เป็นคนขอดูแลตอนต้นหรอก แต่ผมเป็นขอให้ป้าสร้อยมาดูแลตอนต้นเอง ป้าเขาเองก็คิดถึงตอนต้นก็เลย โป๊ะเช๊ะ!


              คือไม่อยากให้พี่ตุลย์คิดว่าผมทิ้งๆ ขว้างๆ ไอ้หมูอ้วนนั่นนะ


              “งั้นหรอ แล้วแน่ใจนะว่าป้าสร้อยเท้าเขาหายดีแล้วน่ะ”

              “เขาบอกว่าหายดีแล้วอะ” ผมตอบ เหลือบมองพี่ตุลย์เล็กน้อย “นี่ วันนี้เลิกงาน เราอย่าเพิ่งกลับบ้านกันไหม”

              “หือ?”

              “วันนี้...ไปดูหนังกับผมนะ”

              “...”

              “ก็ ก็แค่เห็นว่าช่วงนี้มันมีแต่เรื่องเครียดๆ ได้ไปพักผ่อนบ้างแบบดูหนังอะไรงี้ก็คงดี แถมเรื่องที่จะไปดูก็มีรอบใกล้ๆ เวลาด้วย จะได้ไม่ต้องเสียเวลารอนาน เป็นหนังเพิ่งเข้าใหม่มีแต่คนบอกว่าสนุกด้วยนะ แต่เราจะกลับบ้านก็ได้ ไปดูแลตอนต้นเองน่าจะสบายใจกว่า แล้วเดี๋ยวที่หนึ่งก็จะกลับมาแล้วด้วย แล้วก็ ลืมๆ มันไปก็ได้ ก็แค่ลองชวนดู ไม่มีอะไรมากหรอก”


              ผมพูดรัวพอเห็นพี่ตุลย์เงียบไป หัวเราะเสียงดังแต่รู้สึกน่าอายชอบกล อยากทะลุลิฟต์ให้หัวโหม่งชั้นล่างชะมัด


              “เอาสิ”


              ติ้ง...


              ไม่ทันที่ผมจะหายตกใจกับคำตกลงนั่น เสียงลิฟต์ก็ดังขึ้นเรียกพี่ตุลย์ให้ออกไปเสียก่อน


              “ฉันทำธุระเสร็จแล้วจะรีบไปหา รออยู่ข้างล่างนะ”

              “โอ โอเค” ผมตอบ มองตามแผ่นหลังในชุดสูทนั่นจนประตูลิฟต์ปิด ยังมึนๆ งงๆ สงสัยก็สงสัยว่าทำไมถึงยอม แต่ถ้ามว่าดีใจไหม ก็ดีใจแน่นอน

              …

              “เยสสสส! ได้เรื่องเว๊ย เก่งมากเจ้ากู! กำลังจะได้ไปดูหนังกับพี่ตุลย์แล้ว เดอะเฟริสเดทเว้ยเฮ้ย!”












              “คนโดนชวนต้องเป็นคนจ่ายใช่ไหม?” พี่ตุลย์เหล่มองผมที่เดินลอยหน้าลอยตาเข้าช่องขายตั๋วหนัง

              “พี่ไม่มีเงินอะน้อง ติดไว้ก่อนได้เปล่า~” ผมว่าพลางกระดิกนิ้วยิกๆ ให้ส่งเงินมา

              “ทีก่อนหน้านี้บอกให้ใช้เงินฉันเอาไปตัดผม ไม่ยอม จะเป็นจะตาย”

              “ตอนนั้นก็ส่วนตอนนั้นดิ ตอนนี้ก็ส่วนตอนนี้ บ่นมากจัง ถ้างั้นเดี๋ยวเปิดกระปุกเลี้ยงป็อปคอร์นเลยเอ้า!”

              “เก็บไว้กินข้าวเถอะ”


              ผมหัวเราะหึหึ รู้หรอกว่าต่อให้ผมจะอาสาเลี้ยงทั้งหมด พี่ตุลย์ก็ไม่ยอมหรอกครับ เบื่อจริงเลยพวกปากแข็งเนี่ย ว่าแล้วหันไปคุยกับพนักงานที่รออยู่ดีกว่า


              “ดูเรื่องไหนครับ?”

              “เดอะบอยครับรอบที่ใกล้จะถึงเนี่ยอะครับ”

              “มันเป็นหนังอะไร?” พี่ตุลย์ที่ยืนอยู่ข้างหลังเอ่ยถาม ที่จริงเขาก็ถามผมอย่างนี้มาตั้งแต่ออกจากสำนักพิมพ์ ลงจากรถ เดินเข้าห้างฯ ตลอดทาง แต่ผมก็ไม่อยากบอกไง ให้ไปตื่นเต้นเองในโรง อิอิ

              “เข้าไปดูก็รู้เองละหน่า”

              “ที่นั่งเต็มหมดแล้วครับเหลือแค่ด้านหน้าใกล้ๆ จอกับแถวฮันนีมูนเองครับ”

              “เอาไงดีอะ จะนั่งใกล้จอไหม? เพื่อนบอกว่าเรื่องนี้มีคนแห่ไปดูเยอะ แต่ไม่คิดว่าจะถึงขั้นเต็มขนาดนี้อะ” ผมหันไปถามพี่ตุลย์ที่ยืนกอดอกรออยู่ข้างหลัง เอิ่ม นี่ผมมากับแฟนหรือมากับพ่อวะ

              “ก็นั่งฮันนีมูนก็ได้”

              “มันเสียเงินเพิ่มนะ?”

              “อื้ม ไม่เป็นไร”

              “โอเค งั้นฮันนีมูนครับ” ผมบอกกับพนักงาน แต่พอเห็นเขาไม่ขยับในทันทีก็เงยหน้าขึ้นมอง งงเล็กน้อยที่เขาทำหน้าแปลกๆ อะไรวะ? ซื้อที่นั่งฮันนีมูนมันผิดตรงไหนเนี่ย ถึงหน้าผมจะดูเหมือนคนไม่มีตัง แต่ผู้ชายอีกคนหนึ่งเขามีนะครับ!


              หลังจากที่ได้รับตั๋วหนังกันมาแล้ว ผมกับพี่ตุลย์ก็พากันขึ้นไปชั้นบนซื้อป็อปคอร์นแล้วก็รอหนังเข้า


               “จะว่าไปทำไมเขาต้องมองผมแบบนั้นด้วย? หน้าอย่างผมนี่ไม่เหมาะกับที่นั่งฮันนีมูนหรอถามจริง” ผมหันไปบ่นกับพี่ตุลย์พลางโยนป็อปคอร์นรสชีสเข้าปาก เพิ่งมีรสสตอเบอร์รี่มาใหม่ด้วย แต่เห็นสีแล้วน่าจะเลี่ยนผมขอบายดีกว่า

              “ไปเห็นที่นั่งก่อนอาจจะเข้าใจอะไรมากขึ้นก็ได้”

              “หะ?”

              “ออกมาแล้วจะไปอธิบายอะไรให้เขาฟังฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ”

              “หา?” ผมมองพี่ตุลย์ที่กำลังหัวเราะเสียงเบาด้วยความงงๆ


              เออ อะไรของพวกเขาวะ











              “ไม่มี! มันหายไปไหนเนี่ย” หญิงสาวพูดเสียงเครียดขณะที่รื้อกระเป๋าถือของเธอทุกใบจนบนเตียงรกเละเทะไม่มีชิ้นดี แต่เธอก็ไม่คิดจะเก็บแม้แต่น้อย ยังคงรื้อซ้ำๆ ยกสิ่งนั้นวางสิ่งนี้ หาของบางอย่างจนวุ่นวายแทบประสาทเสีย

              “ฟ้า หาอะไรอยู่หรอ?”


              เธอชะงักเมื่อได้ยินเสียงของผู้เป็นสามีอยู่ด้านหลัง


              “เปล่าค่ะ” เธอปฎิเสธพร้อมรอยยิ้มที่ถูกส่งออกไปอย่างฝืนเต็มที่ เขาเป็นคนที่สุดท้ายที่เธออยากจะบอกว่ากำลังหาอะไร เพราะถ้าเขารู้ว่าสร้อยข้อมือที่เป็นของขวัญชิ้นแรกหายไปละก็ด้วยนิสัยของสามีที่เธอรู้ดี นี่จะได้เป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ!

              “แต่หรือของซะเต็มเตียงเลยนะ บอกมาเถอะเดี๋ยวช่วยหา”

              “มะ ไม่เป็นไรค่ะพี่วี!” เธอรีบปฏิเสธน้ำใจของสามีพร้อมขยับตัวเข้าไปขวางไม่ให้อีกฝ่ายเข้าไปยุ่ง แอบคลำๆ หาอะไรก็ได้ที่ทำให้เธอสามารถหลบเลี่ยงสถานการณ์นี้ออกไป “อะ! คือว่าฟ้ากำลังหาลิปสติกอยู่น่ะค่ะ พอดีจำไม่ได้ว่าใส่ไว้ในกระเป๋าถือใบไหน พอดีตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะใช้น่ะค่ะ”


              เธอพูดเร็วพร้อมยกลิปสติกที่คลำหาได้เมื่อครู่ขึ้นแถ แม้วีจะงงๆ กับท่าทางของอีกฝ่ายแต่เขาก็ยอมพยักหน้าเออออเข้าใจในที่สุด


              “หาเจอก็ดีแล้วละนะ ถ้าเป็นของที่หาซื้อไม่ได้แล้วแย่แน่เลย”


              เธอทำได้เพียงแค่หัวเราะเสียงแห้งตอบกลับไป ถึงแม้ปกติเธอจะใส่ข้อมือรวมๆ กันจนสร้อยข้อมือเส้นนั้นไม่เป็นที่สังเกตุเห็นสักเท่าไหร่ แต่ถ้านานกว่านี้ละก็เขาต้องจับได้แน่ว่าเธอทำสร้อยข้อมือที่สำคัญมากระหว่างเขาทั้งสองได้หายไป!


              “พี่จะนอนแล้วหรอ? ฟ้าจะรีบเก็บของให้นะ”

              “พี่ยังไม่ค่อยง่วงเท่าไหร่เลย ว่าจะไปดูทีวีสักหน่อยแล้วค่อยมานอน แต่ถ้าฟ้าง่วงแล้วจะนอนก่อนเลยก็ได้ไม่ต้องรอพี่” วีบอกกับหญิงสาวผู้เป็นภรรยาขณะที่เขากำลังหยิบชุดนอนออกจากตู้เสื้อผ้าตน

              “โอเคค่ะ” เธอตอบรับ หันหลังกลับไปจัดของที่รื้อออกจากกระเป๋าหลายๆ ใบแต่อย่างนั้นใจเธอก็ยังล่องลอยไปหาสิ่งที่ตนยังหาไม่เจอ


              มันอยู่ที่ไหนกัน! ในเมื่อไม่เคยถอดเลยแท้ๆ เมื่อวานก็ยังใส่อยู่เลย!


              ใจเย็นๆ ทอฟ้า เมื่อวานนอกจากไปทำงานที่ร้านก็ไม่ได้ไปไหนเลยแท้ๆ


              ....ไม่สิ ยังมีอีกที่หนึ่งเมื่อวานนี้ยังมีอีกที่หนึ่งที่ไปมา ห้องของผู้ชายคนนั้น อดีตคนรักกับลูกชายทั้งสองของเธอ!


              ใช่แล้ว เมื่อวานเธอมีปากเสียงกับเขา! หลังจากที่ผู้ชายคนนั้นตบเธอ เลือดก็ขึ้นหน้าจนคว้ามือถือปาใส่กระแทกกับผนังจนจอแตก ตอนที่ล้วงมือถือขึ้นมาตอนนั้นสร้อยข้อมือต้องไปเกี่ยวโดนอะไรสักอย่างแล้วตกอยู่ที่ห้องนั้นแน่ๆ!


              จะต้องกลับไปที่นั่นอีกเหรอเนี่ย! ทั้งๆ ที่ไม่อยากจะเหยียบเข้าไปที่นั่นอีกแล้วแท้ๆ!


              “บ้าจริง!” เธอสบถพร้อมกับเหวี่ยงกระเป๋าที่อยู่ใกล้มือลงกับเตียงอย่างระบายอารมณ์ หันขวับไปยังประตูห้องที่เปิดอ้าเผยภาพสามีของเธอที่นั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่น


              ถ้าออกไปตอนนี้ละก็ไม่ได้แน่ แต่ถ้าไม่รีบหาให้เจอโดยเร็วละก็ เขาอาจจะสังเกตเห็นก่อนก็ได้!












              เสียงยวบลงด้วยน้ำหนักตัวของคนที่กำลังปีนขึ้นมา วีมองหน้าหญิงผู้เป็นภรรยาพอเห็นว่าเธอหลับสนิทแล้วจึงค่อยเอนตัวลงนอนเพื่อจะหลับใหลลงบ้าง โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าผู้หญิงที่นอนอยู่ข้างตัวค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ มือกำกุญแจรถเอาไว้แน่นเตรียมพร้อมที่จะออกไปทันทีอีกฝ่ายหลับสนิทจนไม่รู้สึกตัว


              คืนนี้ เธอต้องออกไปคืนนี้…





TBC
#Daddybelover
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30%
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 31-01-2016 22:07:03
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด มาให้อยากแล้วจากไป
คนเขียนทำอย่างนี้ได้ไงคะ เจ๊ไม่ย๊อม!ไม่ยอม! ฮือออออออออออ
เอา 70% ที่เหลือมา//ดิ้นๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 31-01-2016 22:08:20
ปลอบแบบเอสได้ผลเสมอ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 31-01-2016 22:26:20
น้ำลายกำลังจะหก คนเขียนตัดฉับป้าขากรรไกรค้างงงงงงงง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 31-01-2016 22:36:09
พี่ตุลย์หายเครียดเป็นปลิ้ดทิ้งเลย ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 31-01-2016 22:56:17
เอส ยั่วพี่เค้าเองนะลูก :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 01-02-2016 00:07:07
รับผลไปนะเอส 5555555555555555555555555
สงสารที่หนึ่งนะแต่เจอเอสเข้าไปอะเดี๋ยวค่อยสงสารต่อ -.,- 55555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ssuchaa ที่ 01-02-2016 02:56:34
ขอร้อยเลยไม่ได้หรอออออ  :sad4: :sad4: ตอนหน้า ยนน. 55555555 ทำไมลุงหื่นจัง เอสนี่ก็ขี้ยั่ว น่าตีก้นจริงๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: killmus ที่ 01-02-2016 12:03:42
ไม่เข้าใจผู้หญิงแบบทอฟ้าจริงๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 01-02-2016 13:07:34
จะเอา 70% ที่เหลือออออ :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 01-02-2016 17:19:39
เอาที่เหลือมานะ อยากอ่านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 01-02-2016 22:22:32
 เป็นการปลอบที่เลิศที่สุดเลยเอส หุหุ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 01-02-2016 22:39:42
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ทำไมช่างตัดได้ค้างคาขนาดเน้  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Zignup12 ที่ 02-02-2016 00:35:48
กรี๊ดดดดดดด มาต่อแล้วๆๆๆๆๆ
รักเอสมากเลย อยากก็บอกว่าอยากนะเอส
ไม่ใช่อ้างว่าจะปลอบใจ //ท่ดๆๆๆๆ
รอที่เหลือ รอทุกลมหายใจ :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 02-02-2016 02:31:05
5ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ

ความหื่นไม่เข้าใครออกใครจริงๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 03-02-2016 15:26:59
นังทอฟ้า เลวร้ายมาก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Natsuki-ChaN ที่ 03-02-2016 16:41:06
กรี๊ดดดดด โฮฮฮฮฮ ค้างงง ทำไมช่างค้างคาขนาดเน้  :z3: :z3: :z3:
มาต่อเถิดดด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: fon270640 ที่ 03-02-2016 16:42:15
รออ่านฉากนี้ อิอิ. เข้ามาดูวันละ4-5รอบ รีบต่อเถอะค่ะพรีสสสส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 03-02-2016 19:58:26
กรี๊ดดด มา 30% นี่ถึงกับรีบกดเข้ามาดูรัวๆ ><
สมกับที่คาดหวัง อิอิ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Cc-kun ที่ 09-02-2016 23:42:23
เด๋วๆแบบนี้มันค้างคานะคะะะะะะ
คนเขียนกลับมาต่อสะดีๆเรยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Natsuki-ChaN ที่ 10-02-2016 17:44:21
โฮววววว ค้างงค่า ค้างงง  :ling1: :ling1:  :z3: :z3:
อยากเห็นพี่ตุลย์กินเอสแล้วค่ะ ///-///
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Zignup12 ที่ 11-02-2016 01:21:03
ฉันยังรอตอนที่เหลือของเธออยู่

 :m25: :m25: :m25: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 11-02-2016 22:07:32
รอๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Eliz ที่ 14-02-2016 19:24:06
พึ่งได้เข้ามาอ่าน อยากบอกว่าสนุกมากๆ เลยค่า  แถมตอนล่าสุดนี้ก็ค้างมากเลย คนเขียนเข้ามาต่อไปไวๆ นะคะ รออยู่จ้า  :o8:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Shxtaop ที่ 20-02-2016 00:19:52
ค้างสุดอะไรสุด. โอ๊ยยยยยยยยยย :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Zignup12 ที่ 20-02-2016 22:41:16
คิดถึงเหลือเกิน
เมื่อไหร่จะมาต่อ
คิดถึงพี่ตุลย์ คิดถึงไอ้เอสจอมป่วน
คิดถึงลูกหมู คิดถึงที่หนึ่ง
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 28-02-2016 03:53:41
เจอคำว่า ได้อีกทีปีหน้า เข้าไป
สับสวิตซ์อารมณ์ตามพี่ตุลย์ไม่ทันเลยทีเดียว
รออยู่ค่าาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-30% (31/01/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Tequila ที่ 28-02-2016 22:39:39
ค้างงงงงงง :z3: :z3: :z3: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 06-03-2016 23:44:17
ตอนที่ 41 คลิกเพื่ออ่าน (ทวน) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47193.msg3296937#msg3296937)




ตอนที่ 42


              ผมมองพี่ตุลย์ที่เดินวนไปวนมาระหว่างครัวกับห้องนั่งเล่น ที่ผมยึดไว้เป็นที่อ่านหนังสือ อยากจะทำเป็นมองไม่เห็นอยู่เหมือนกัน แต่พอก้มหน้าอ่านหนัสือทีก็จะเห็นขาแว๊บๆ ผ่านไปผ่านมา เสียสมาธิแล้วพาลหงุดงิดสุดๆ


              “ผมว่าถ้าพี่จะออกกำลังกายก็ลงไปเดินที่ใต้ตึกเถอะ” ผมพูดพลางโยนปากกาลงบนหนังสือ

              “หา? เอ่อ เปล่า ก็ไม่ได้จะออกกำลังกาย”

              “แล้วพี่ทำอะไรอยู่เนี่ยเดินวนไปวนมาอยู่ได้ มันรบกวนการอ่านหนังสือมากเลยรู้ปะ”


              พี่ตุลย์ท่าทีอ้ำอึ้ง ส่วนผมก็มองแรงด้วยความหงุดหงิด ตามระดับความเครียดที่ไฟนอลใกล้เข้ามานั่นแหละครับ


              “หรือพี่อยากให้ผมไปส่งเข้านอน?” ผมเลิกคิ้วถาม

              “ห้องก็อยู่ตรงเนี่ย”

              “เผื่ออยากให้ไปส่งถึงเตียง ห่มผ้า ร้องเพลงกล่อมอะไรแบบนี้ เห็นเดินเรียกร้องความสนใจจังเลย”

              “ฉันเปล่าสักหน่อย” ผมส่งเสียงหืมประมาณว่าผมเชื่อคำพูดนั้นมาก (ประชด) แต่ผมก็ขี้เกียจจะสนใจแล้วครับ เหนื่อยเมื่อไหร่ก็คงจะเข้านอนไปเอง “...นี่ ยังหงุดหงิดเรื่องที่พนักงานมองอยู่หรอไง?”

              “หา? ไม่ได้หงุดหงิดแล้วสักหน่อย” ผมตอบพี่ตุลย์ที่เดินเข้ามานั่งลงที่พื้นข้างๆ “ถ้าพี่ไม่พูดขึ้นมาผมก็ลืมไปแล้วด้วยซ้ำนะเนี่ย”

              “โทษที เห็นตั้งแต่กลับมาก็ดูเงียบๆ แถมเมื่อกี้ยังดูเหมือนหงุดหงิดอีก”

              “ผมหงุดหงิดที่พี่เดินเป็นวิญญาณเร่ร่อนรบกวนการอ่านหนังสือของผมเนี่ยแหละ” ผมหัวเราะใส่


              คือ ก่อนหน้านี้ผมกับพี่ตุลย์ไปดูหนังกันมาครับ บังเอิญว่าเรื่องที่เราที่นั่งปกติมันเต็มหมดเหลือแต่ที่นั่งฮันนีมูน ผมไม่ได้ดูหนังในโรงมาหลายปีครับ ก็เลยยังเข้าใจว่าที่นั่งฮันนีมูนเป็นที่นั่งธรรมดาที่อยู่สูงประมาณแถว A แถว B แต่ปรากฎว่าที่พอเข้าไป ที่นั่งฮันนีมูนมันก็ฮันนีมูนจริงๆ ครับ! เป็นที่นั่งสองเบาะติดกัน ห่างจากที่นั่งอื่นๆ ค่อนข้างเป็นส่วนตัวกว่า (ก็ว่าอยู่ว่าทำไมแพงจัง แต่นึกว่าราคาขึ้นตามน้ำมัน) เป็นที่นั่งแบบคู่รักโดยแท้ ตอนที่เห็นมันนี่ถึงกับไหล่ลู่ เข้าใจว่าทำไมพนักงานขายถึงมองผมแบบนั้น อับอายไปบ้าง แต่พอหนังฉายก็ลืมครับ


              ประเด็นมันดันอยู่ที่ตอนออกเนี่ยสิ พนักงานขายคนเดิมเข้าคุยอะไรไม่รู้กับเพื่อนหัวเราะคิกคักแล้วชี้มาทางผมครับ ดูท่าแล้วก็น่าจะนินทาผมที่ซื้อตัวฮันนีมูนเข้าไปดูกับผู้ชายด้วยกันเนี่ยแหละ นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นสุภาพบุรุษจุฑาเทพผมก็อยากจะเดินดุ่มๆ ไปเคลียให้รู้เรื่องอยู่ครับ


              ฮ่าๆ จริงๆ ผมลืมไปหมดแล้วนะ มันหลายชั่วโมงแล้วอะครับ เพียงแค่ไม่คิดว่าพี่ตุลย์ยังคิดถึงมันอยู่ก็เท่านั้น แต่เขาก็เป็นคนแบบนั้นแหละครับ แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่เขาก็ใส่ใจความรู้สึกของผม (ยิ้ม)


              “ขอบคุณนะครับที่ใส่ใจ” ผมวางคางเกยไหล่คนที่นั่งอยู่ข้างๆ พอนึกย้อนไปตอนนั้นก็อดไม่ได้ถึงเรื่องอีกเรื่องนึงที่ทำให้ผมเงียบไปจนพี่ตุลย์ผิดสังเกตเนี่ยแหละ “สุดท้ายก็ไม่ได้ทำเลยน้า...”

              “ทำอะไร?”


              เอ้า ฉิบหายเผลอคิดดังไปนิด!


              “ทำอะไร? เปล่าๆ” ผมรีบผงะปฏิเสธเป็นพัลวัน แต่พอเห็นสายตาพี่ตุลย์ที่หรี่มองเหมือนต้องการจะเค้น ผมก็ทำได้เพียงแค่กลิ้งลูกตามองหนังสือที่ยังเปิดค้างเอาไว้ ขยับตัวมาเนียนๆ ประมาณว่า ‘อ่านหนังสือต่อดีกว่ากู’

              “อย่ามาเลี่ยงหน่า ไม่ได้ทำอะไร? นี่หรือเปล่าที่พอกลับห้องมาดูเงียบๆ”

              “...”


              เออ สาเหตุเนี่ยแหละครับ แต่บอกไม่ได้โว๊ย อายตายชัก ฮือ orz


              “ว่าไง?” พี่ตุลย์ใช้หัวไหล่สะกิด แต่ผมก็ยังคงนิ่ง นิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหว


              จะรู้ไปทำไมละโว๊ย ไม่ได้เด็ดขาด โคตรเด็กเลย ถึงแม้ผมจะยังเป็นวัยรุ่น อายุนำหน้าด้วยเลข 1 อยู่ก็เถอะ!


              “เอส”

              “พี่จำเป็นต้องรู้ด้วยหรือไงเล่า” ผมแสร้งพูดเสียงรำคาญ พยายามจะขยับตัวหนีไหล่พี่ตุลย์แต่ผมโดนขาของโต๊ะญี่ปุ่นล็อคเอาไว้ให้ขยับตัวลำบาก

              “แล้วฉันรู้เรื่องคนของตัวเองไม่ได้หรอ?”

              “...!!” ผมหันขวับ อ้าปากพะงาบๆ อยากจะว่าอะไรสักอย่าง แต่ความเขินที่แล่นพรวดๆ ขึ้นมา ก็ทำให้ผมทำได้เพียงแค่ฟุบหน้าลงกับหนังสือ โอเค ยอมแพ้... (ก็ได้) “...มันก็แค่มีอะไรผิดไปจากที่คิดไว้ก็เท่านั้นแหละ”

              “อะไรละ?”


              ผมอึกอัก จะให้พูดหรอวะ คือแม่งโคตรน่าอาย แต่ถ้าผมไม่พูด พี่ตุลย์ก็คงตื้อจนไม่ได้นอนกันละครับคืนนี้


              “เฮ้อ...ก็แบบว่าเราอุตสาห์ได้ไปดู The Boy ด้วยกัน ผมดันมัวแต่ตกใจจนไม่ได้ทำอะไรอย่างที่คิดไว้เลยสักอย่าง...แต่ผมไม่ได้คิดอะไรแปลกๆ นะ!! ก็แค่...แบบว่าหนังแบบนี้มันก็ต้องมาพร้อมกับซุกไหล่ จับมืออะไรแบบนั้นอยู่แล้วใช่ไหมละ!...ก็แค่คิดไว้ว่าจะมีอะไรแบบนั้น”


              ผมพูดอู้อี้ในตอนท้าย ใช้ความกล้าอย่างถึงที่สุดแล้วกับการพูดอะไรน่าอายแบบนี้


              “...”


              พี่ตุลย์เงียบ แต่ผมก็ไม่กล้าจะคะยั้นคะยอให้เขาตอบอะไรหรอก แค่มองหน้าผมก็ยังไม่กล้าเลย ตอนนี้พี่ตุลย์คงคิดว่า ‘อะไรวะ’ อยู่แน่ๆ ขนาดตัวผมเองยังคิดเลย ไร้สาระชะมัด


              ...แต่ผมก็ดันอยากทำเรื่องไร้สาระแบบนั้นไปแล้วจริงๆ


              “ขอโทษนะ ที่ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรแบบนั้น ฉันเองก็ไม่ใช่วัยรุ่นเหมือนอย่างนาย ไม่รู้เลยว่าสมัยนี้จะต้องทำยังไงในที่ไหน แต่ตอนนี้เราก็นั่งอยู่ข้างกันแล้ว ถ้าเกิดไม่ซีเรียสเรื่องสถานที่ละก็ จะซุกไหล่หรือจับมือก็ทำได้นะ”

              “...”

              “หันหน้ามาทางนี้หน่อยสิ”

              “...ไม่เอาอะ”

              “ถ้าไม่หันมาแล้วจะจูบได้ยังไง”


              ผมเม้มปาก ก่อนจะหันไปคว้าคอเสื้อของอีกฝ่ายแล้วกระชากเข้ามาจูบ พี่ตุลย์ดูตกใจไม่น้อยกับท่าทางของผม แต่พอตั้งสติได้ก็รุกกลับอย่างไม่ยอมกัน รสจูบฝาดๆ ทำให้หัวใจผมเต้นแรง


              แต่ไม่รู้ทำไม ผมกลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่นั้น...












              เพียงไม่นานนักทอฟ้าก็มาถึงคอนโดฯ ของอดีตคนรัก แต่เนื่องจากเธอไม่มีคีย์การ์ดที่จะทำให้เข้าไปในตัวคอนโดฯ ได้ แม้จะเร่งรีบและร้อนรนมากแค่ไหนเธอก็ทำได้เพียงแค่นั่งรออยู่ในรถด้วยความกระวนกระวายใจ เฝ้ารอแต่เพียงใครสักคนจะพาเธอขึ้นไปได้


              แต่รอแล้วรอเล่า ก็ยังไม่มีรถสักคนเลี้ยวเข้ามาใต้คอนโดฯ อาจเพราะว่ามันดึกเกินกว่าจะมีใครเข้า-ออก ทางเดียวที่เธอจะเข้าไปในคอนโดฯ นั้นได้ ก็คงจะต้องโทรเรียกให้ผู้ชายที่เธอไม่อยากเจอหน้าที่สุดตอนนี้ลงมาเปิดประตูให้


              “...”


              ทอฟ้าฟุบหน้าลงกับพวงมาลัย ไม่อยาก! ไม่อยากเจอหน้าผู้ชายคนนั้นเลย!


              บรืน


              ในขณะนั้นเองแสงไฟก็สว่างวาบขึ้นเรียกให้เธอเงยหน้าไปมอง รอยยิ้มค่อยๆ ปรากฎขึ้นบนใบหน้าสวยเมื่อเห็นว่ากำลังมีรถเลี้ยวเข้ามา ทอฟ้ากุญแจรถเปิดประตูออกไปทันทีที่เห็นว่าคนนั้นกำลังหยิบคีย์การ์ดขึ้นมา ไม่รอช้า รีบปรี่ไปยังประตูคอนโดฯ อาศัยคีย์การ์ดของคนแปลกหน้าคนนั้นจนเข้ามาได้ในที่สุด


              ทอฟ้ากล่าวขอบคุณหญิงแปลกหน้าที่เปิดประตูไว้รอ ก่อนจะเดินแยกออกตรงไปยังลิฟต์ที่จอดรออยู่


              “เฮ้อ” เสียงถอนหายใจดังก้องอยู่ในลิฟต์ตัวใหญ่ก่อนจะตามมาด้วยเสียงบ่น “เร็วๆ สิ จะได้รีบหา รีบกลับสักที”


              แน่นอน เพราะมันไม่มีอะไรรับประกันว่าสามีของเธอจะไม่ตื่นมาเห็นว่าเธอหายไปเสียก่อน!


              ติ้ง!


              เสียงลิฟต์ดังขึ้นก่อนที่ประตูลิฟต์จะเปิดออกอย่างช้าๆ ราวกับต้องการถ่วงเวลาคนที่กำลังเร่งรีบแต่ดูเหมือนทอฟ้าจะมีเวลาไม่พอที่จะรอจนกว่าลิฟต์จะเปิดจนสุด เธอพุ่งพรวดออกไปทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดพอที่ตัวเธอจะรอดออกไปได้!


              เธอใช้เวลาเพียงชั่วครู่จนหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องที่เธอคุ้นเคย เธอสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนจะยกมือขึ้นเพื่อเคาะเรียกคนข้างไหน แต่ทว่าเธอกลับต้องหยุดความคิดนั้นไว้เสียก่อน


              หากโชคดีละก็ เธออาจจะได้เข้าห้องได้โดยไม่ต้องเจอหน้าผู้ชายคนนั้นก็ได้…


              คิดแล้ว มือที่กำลังจะเคาะเรียกค่อยๆ ลดระดับจับที่ลูกบิดประตู เธอลองหมุนเบาๆ เพื่อเช็กว่าประตูล็อคอยู่หรือไม่ ทว่าประตูที่น่าจะล็อคไว้อย่างดีตามนิสัยของเจ้าของห้องกลับไม่ได้ล็อคเอาไว้!


              เธอยิ้มโล่งอกก่อนจะเปิดประตูเข้าไป


              และตอนนั้นเองเธอก็เพียงเข้าใจว่าที่อะไรหลายๆ อย่างทำให้เธอต้องรอราวกับถ่วงเวลา เพื่อต้องการให้เธอเห็นอะไร!!


              “นะ นั่นกำลังทำอะไรกันอยู่!!!” เสียงหวีดร้องดังลั่นพร้อมกับการกระชากเด็กหนุ่มที่ชื่อเอสออกจากการคร่อมอยู่บนอดีตคนรักของเธอ!!

              “ทอฟ้า...”


              ตุลย์พูดชื่ออีกฝ่ายเสียงเบาอย่างไม่เชื่อสายตา รีบลุกขึ้นนั่ง จัดเสื้อผ้าที่ไม่เรีบร้อยให้เข้าที่ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่เขาก็ตัวดีว่าภาพที่ทอฟ้าเห็นนั่นมันหมายถึงอะไร เช่นเดียวกับเอสเด็กหนุ่มที่โดนกระชากแขนเอาไว้ แม้แรงบีบที่แขนจะเจ็บราวกับกระดูกจะแตกแต่ความสนใจก็ทำให้เขาแทบจะลืมมันไป!


              “นี่มันอะไรพี่ตุลย์! พี่กับไอ้เด็กนี่กำลังทำอะไรกัน!?”

              “...” ตุลย์เบือนหน้าหนี เขาไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ในเมื่อเห็นอยู่คาตา แต่จะให้ยอมรับเขาก็ไม่สามารถทำได้อีกเช่นกัน

              “พี่จะมีเมียใหม่ฟ้าไม่คิดจะยุ่งเลย แต่นี่...มันเป็นผู้ชายนะ!!” เสียงนั่นยิ่งตวาดดังขึ้นอย่างหัวเสียกับการที่ทั้งสองไม่มีใครตอบเธอเลยแม้แต่น้อย “สรุปแล้วที่บอกว่าเป็นลูกของคนรู้จักอะไรนั่นก็โกหกทั้งเพสินะ ที่พี่เอามันเข้ามาอยู่ด้วย ก็เพราะสมสู่อยู่กับไอ้เด็กนี่งั้นสิ!?”

              “มันไม่ใช่...” เสียงปฏิเสธของเด็กหนุ่มกลับถูกเปล่งขึ้นมาด้วยเสียงที่เบาจนแทบจะไม่ได้ยิน อยากจะบอกว่าเขากำลังเข้าใจผิด อยากจะบอกว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิด แต่ตอนนี้พูดอะไรไม่ได้เลย ในเมื่อภาพที่คร่อมตัวอยู่บนตุลย์พร้อมกับเสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่ก็ทำหน้าที่อธิบายแทนไปแล้ว!

              “หึ แล้วกล้ามาว่าฟ้า พูดจาเหมือนตัวเองประเสริฐเลิศเลอ แต่สุดท้ายก็พี่มันก็น่าทุเรศ!! วิปริตผิดเพศ!! พอกันที! ฟ้าจะไม่ยอมให้ลูกอยู่คนอย่างพี่หรอก! ลูกอยู่ห่างออกนิดเดียวก็ยังไม่เว้น ใครกันแน่พี่หรือฟ้าที่ไม่ควรจะเป็นพ่อแม่คนมากกว่ากัน!!”


              หลังจากที่ประกาศกร้าว ร่างของหญิงสาวก็เดินผ่านคนทั้งสองไปยังประตูห้องนอนของลูกชาย เธอเดินเข้าไปปลุกลูกชายที่หลับสนิท ก่อนจะผละไปยัดเสื้อผ้าเท่าที่จะคว้าได้ใส่กระเป๋าที่วางอยู่ข้างตู้นั้นเอง


              “แม่?”

              “ที่หนึ่งรีบลุกขึ้นเลยครับ เราจะไปนอนค้างบ้านแม่กัน”

              “เอ๋?”

              “ลุกครับ” ทอฟ้าสั่งเสียงเข้มหลังจากที่รูดซิปกระเป๋าแล้วก็รีบคว้าข้อมือของลูกชายที่ยังสะลึมสะลือออกมาจากห้องนอน

              “ดะ เดี๋ยวก่อนครับฟังที่ผมอธิบายก่อน” แต่ก่อนที่เธอจะลากที่หนึ่งออกไปจากที่นี่ เอสก็พุ่งเข้ามาพร้อมกับกางแขนขวางเอาไว้ “มันไม่ใช่อย่างที่พี่คิดนะครับ! พี่กำลังเข้าใจผิด! ที่จริงแล้ว คือ...ว่า...”

              “ฉันจะเข้าใจผิดอะไรอีกในเมื่อเห็นเต็มตา! เธอก็เหมือนกันทำเป็นพูดดีหวังดีกับลูกของฉัน ช่วยดูแลลูกฉันแต่ที่ไหนได้ก็หวังจะเอาพ่อมัน! ไม่มีความละอายใจบ้างหรือไงลูกของฉันสองคนห่างกับพวกเธอแค่ประตูกั้นเท่านั้นเอง! น่าทุเรศ! แกนั่นแหละตัวดีที่เอาความวิปริตเข้ามาในบ้าน!”

              “แม่ทำไมต้องว่าพี่เอส...” ที่หนึ่งเอ่ยถามเสียงสั่นด้วยความตกใจกลัวแต่ก่อนที่จะได้พูดจบทอฟ้าก็ตัดบทเสียก่อนพร้อมออกแรงกระชากให้ลูกชายของตนเดินตามมา

              “ไปเถอะที่หนึ่ง ลูกต้องรีบนอน!”

              “แม่...”

              “พี่ทอฟ้า! เดี๋ยวครับ! ฟังผมก่อน เดี๋ยวครับ!”

              “พี่ตุลย์...แล้วฟ้าจะกลับมาพาตอนต้นไป”


              ปัง!!!


              เสียงประตูกระแทกกับวงกลบดังลั่นจนเอสสะดุ้ง แต่เขาก็ถลาไปที่ประตูตั้งใจจะไปคุยกับอีกฝ่ายให้รู้เรื่อง เพราะเขากลัว...เพราะเขารู้ว่านั่นไม่ใช่คำขู่ วันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายที่ที่หนึ่งอยู่ที่นี่ก็ได้!


              “เอส ไม่ต้องไป” แต่เสียงทุ้มของชายผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของเด็กคนนั้นกลับเป็นฝ่ายที่เรียกรั้งให้เขาไม่เปิดประตู “ตามไปก็ไม่ช่วยอะไร”

              “แล้วจะให้ทำยังไง ให้ผมดูที่หนึ่งถูกพาตัวไปแล้วอย่างนี้หรอ พี่รู้ไหมว่าที่หนึ่งอาจจะอยู่ที่นั่นตลอดไปก็ได้ ตอนต้นก็อาจจะต้องถูกพาตัวไปอีกคนก็ได้! พี่จะให้ผมดูโดยไม่ทำอะไรเลยงั้นหรอ!? พี่ต่างหากที่ทำไมถึงไม่ทำอะไรเลย! ทำไมถึงไม่พูดไม่ห้ามอะไรเลย!!”

              “นายจะให้ฉันพูดว่ายังไง! แล้วนายจะให้ฉันรั้งว่าอะไร! น้ำมันท่วมปากจนจะตายแล้วในเมื่อสิ่งที่ทอฟ้าเห็นมันก็ปฏิเสธอะไรไม่ได้!”

              “แต่แล้วยังไงอะ!? แปลว่าพี่จะยอมให้ที่หนึ่งกับตอนต้นถูกเอาตัวอย่างนี้ใช่ไหม? พี่จะยอมให้พี่ทอฟ้าเป็นคนเลี้ยงทั้งสองคนอย่างนี้ใช่ไหม? พี่เป็นพูดเองไม่ใช่หรอว่าคนที่ทิ้งลูกไปกับมือจะเลี้ยงอะไรลูกได้ พี่พูดเองไม่ใช่หรอ ว่าแค่ให้พี่ทอฟ้ารักลูกเท่ากับที่พี่รัก พี่ทอฟ้ายังทำไม่ได้ แล้วพี่ไว้ใจได้ยังไงว่าเขาจะเลี้ยงที่หนึ่งกับตอนต้นออกมาได้ดีกว่าพี่!”

              “ฉันก็ไม่ได้ไว้ใจ แต่จะให้ฉันทำยังไง! บอกสิว่าจะให้ฉันทำยังไง! ต้องไปพูดกับทอฟ้าว่าอะไร! ต้องไปแก้ตัวว่าอะไร! ต่อให้ขึ้นโรงขึ้นศาล นายคิดหรอว่าเราจะได้อยู่กันเหมือนเดิม! แค่เพราะพ่อมันวิปริตผิดเพศแค่นี้ ฉันก็ไม่ได้ลูกคืนแล้ว!!

              “...”

              “ฉันก็คิดมากเหมือนกัน ฉันก็เครียดเหมือนกันนั่นแหละ...นั่นน่ะลูกของฉันนะ...”


              เอสมองคนรักที่นั่งอยู่บนโซฟา แม้ใบหน้านั่นจะก้มต่ำแต่เขาก็รู้ว่ามันเต็มไปด้วยความเครียด เสียใจ...และทำอะไรไม่พูด เขารู้ยิ่งกว่ารู้ว่าสำหรับตุลย์แล้วสิ่งที่มีค่ามากที่สุดก็คือลูกสองคน....แต่สิ่งที่มีค่านั้นกำลังโดนพรากจากไปโดยที่เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนดู เพียงเพราะมีความรัก...


              เพียงเพราะว่ามีความรักกับผู้ชาย...


              “...ถ้าพี่ไม่คิดจะทำอะไรเลย ผมก็จะทำเอง”


              เสียงที่พูดช่างเบาหวิวแต่สายตากลับหนักแน่น เอสเดินเข้าไปในห้องนอนที่มืดสนิท เผยยิ้มให้กับตอนต้นที่ยังคงหลับสนิทไม่รู้เรื่องราว ก่อนที่เขาจะกวาดเสื้อผ้า กระเป๋า ทุกๆ อย่างของตัวเองออกมานอกห้อง!


              “จะทำอะไร” เสียงทุ้มถูกกดต่ำพร้อมกับแรงกระชากที่ต้นแขน

              “มันก็ถูกอย่างที่พี่ทอฟ้าพูด เรื่องทั้งหมดมันความผิดของผมเอง เพราะผมเข้ามาในชีวิตพี่เรื่องมันถึงได้กลายเป็นแบบนี้ ถ้าไม่มีผมสักคนตอนนี้พี่ก็คงได้นอนอยู่กับลูกๆ ของพี่” เอสดึงแขนที่ถูกยึดไว้ออกอย่างแผ่วเบาพร้อมกับเงยหน้าสบตาที่ไร้ซึ่งความลังเลกับคนรัก แต่ใจของเขากระตุกวูบเมื่อเห็นความสั่นไหวไม่มั่นคงอยู่ในแววตาที่เขากำลังมองดู


              ...แววตาที่ไม่เคยอ่อนแอมาก่อน แววตาของคนที่มักจะเข้มแข็งอยู่เสมอ


              “พี่ต้องไปบอกพี่ทอฟ้าว่าพี่ไม่ได้ผิดเพศ ผมคนเดียวที่วิปริตเอง ผมเองที่เป็นคนล่อลวงพี่ ผมเองโกหกจนได้มาอยู่กับพี่ บอกเขาว่าพี่กับผมไม่มีอะไร ผมต่างหากที่อยากได้พี่จนตัวสั่น วันนี้เขาก็เห็นแล้วว่าเป็นผมที่คร่อมอยู่บนตัวพี่ เพราะงั้น...ถ้าพี่บอกเขาไปอย่างนี้ละก็ เขาต้องเชื่อแน่”

              “พูด...อะไรออกมา คิดบ้างหรือเปล่าว่าจะถูกมองว่ายังไง!” 

              “ผมไม่แคร์!! ถ้ามันทำให้ที่หนึ่งกลับมา ถ้ามันทำให้ตอนต้นไม่ถูกเอาไป เขาจะมองผมยังไงก็ช่าง!”

              “มันก็ไม่มีอะไรที่จะยืนยันว่าทำแบบนี้จะได้ที่หนึ่งกลับมา! ไม่มีอะไรยืนยันเลยว่า ทอฟ้าจะไม่เอาตอนต้นไปอีก!”

              “งั้นพี่ก็บอกผมสิว่ามันมีทางไหนที่ดีกว่านี้ไหม! ถ้ามันมีผมก็ยอมทำทุกทาง...แต่มันไม่มีไง!!” เสียงตวาดนั้นสั่นเครือ


              เอสกัดปากตัวเองแน่นสะกดกั้นความรู้สึกที่เขาซ่อนอยู่ข้างใน ก้มหน้าเอาไว้เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเห็นความรู้สึกที่กำลังเอ่อล้น ไม่ให้เห็นว่าความจริงแล้วเขาไม่ได้อยากทำแบบนี้ ความจริงที่ว่าไมอยากเลิกกัน


              ความจริงที่ว่า...จริงๆ แล้ว ยังอยากจะอยู่ด้วยกัน อยากจะอยู่ด้วยกันเหมือนที่ๆ ผ่านมา


              “นายก็จะทิ้งฉันไปอีกคนใช่ไหม…?” สิ้นคำถามนั้นราวกับประการด่านสุดท้ายได้แตกออก สิ่งที่เขาเก็บกลั้นไว้ไหลออกมาเป็นน้ำตาที่อาบแก้ม

              “ผม...ก็ไม่ได้อยากให้เราเลิกกัน” เสียงนั้นสั่นเครืออย่างน่าสงสาร พร้อมกับน้ำตาที่พรั่งพรู่ออกมาไม่ขาดสาย “เพราะพี่ผมถึงได้มีชีวิตอยู่ตอนนี้ เพราะพี่ผมทำให้ผมได้เรียนหนังสือ เพราะพี่ทำให้ผมมีที่ซุกหัวนอน ฮึก...เพราะพี่ทำให้ผมมีครอบครัว เพราะพี่ผมถึงได้รู้จักความอบอุ่นอีก เพราะพี่ทำให้ผมความสุข ฮึก...เพราะพี่ทำให้ผมมีความรัก ฮึก...เพราะพี่ทุกๆ อย่าง!”

              “...”

              “แต่จะผมทำยังไงอะ ฮึก!...จะให้ผมมองสองคนนั้นถูกเอาผมก็ทำไม่ได้ จะยืนมองดูครอบครัวของผมพังไปต่อหน้าต่อตาผมก็ทำไม่ได้ แล้วจะให้ผมทำยังไง! ฮึก...ผมไม่ได้อยากเลิกกับพี่เลย พี่ตุลย์ ไม่ได้อยากเลิกเลย ฮึก...ผมอยากอยู่กับพี่ อยากอยู่ด้วยกันอีกนานๆ ยังอยากตื่นมาเจอพี่คนแรก ได้นอนอยู่ข้างๆ กันเหมือนเดิม ฮึก”


              เขาก็เหมือนกัน เขาก็อยากอยู่ด้วยกัน ถ้าไม่มีเอส ถ้าวันนั้นเขาไม่ได้เจอกัน ตอนนี้เขาก็ยังคงเป็นพ่อที่ไม่เรื่อง บ้างานใช้เงินเลี้ยงลูกไปวันๆ เพราะมีเอสชีวิตที่น่าเบื่อของเขาถึงได้มีสีสันขึ้นมา เพราะมีเด็กคนนี้อยู่ด้วย เขาถึงได้มีความสุขมากขนาดนี้


              แต่เขาไม่สามารถพูดคำว่า ‘อย่าไป’ ได้ เขารั้งคนที่อยากอยู่ด้วยที่สุดไม่ได้


              ...เพราะว่าเราทั้งสองต่างรู้ดี ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่หัวใจของเราสองคน


              “ถ้าผมรู้ว่าวันหนึ่งเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ผมจะบอกรักพี่ จะบอกรักให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้...จะไม่ชักช้าเลย"   


              รอยยิ้มถูกฉายขึ้นบนใบหน้าที่อาบไปด้วยน้ำตาใส แต่มันก็ต้องจางไปเมื่อกลายมาเป็นจูบ...


              จูบที่เต็มไปด้วยรสชาติของการบอกลา...


              “ถ้าฉันรู้ว่าวันหนึ่งนายต้องจากฉันไป ฉันจะจูบนายให้มากๆ” เสียงทุ้มกระซิบแผ่วเบาขณะที่เข้าสวมกอด “จะกอดให้แน่นๆ จะอยู่ด้วยกันให้ได้มากๆ”


              เอสขยับแขนที่โอบกอดไว้กระชับให้แน่นขึ้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซ่อนน้ำตาเอาไว้กับไหล่ที่คุ้นเคย โดยที่เขาก็ไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายก็กำลังมีน้ำตาเหมือนๆ กัน


              “นายจำได้ไหมที่ฉันบอกว่า ฉันรอให้นายเป็นคนที่รักฉัน...เพราะวันนั้นฉันก็ตั้งใจจะบอก...”

              “...”

              “ว่าฉันก็รัก...ไม่ต่างกัน”


              เพียงเท่านั้น น้ำตาที่กำลังเหือดแห้งก็พังทลายลงมา เสียงร้องไห้ของคนขาดใจก็ดังกึกก้องไปทั่วห้อง ราวกับคนที่จะล้มทั้งยืน ทำได้เพียงแค่กอดกันให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ บอกรักกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้


              ทิ้งความรู้สึกเอาไว้ในใจ แล้วปล่อยมือออกจากกัน











              ผมเงยหน้ามองท้องฟ้าที่มืดสนิท ยื่นมือออกไปหาฝนที่กำลังเทหล่นมาจากฟ้า เหมือนมาร้องไห้เป็นเพื่อนกัน ผมคงดูน่าสงสารมากละมั้ง ฟ้าถึงได้ส่งฝนมาร้องไห้แทนกันแบบนี้


              แต่ก็ช่างมันเถอะ ร้องไห้แทนผมก็ดี เพราะตอนนี้ร่างกายผมไม่มีแรงจะร้องแล้ว ไม่มีแรงจะทำอะไรทั้งนั้น ควรจะชมผมด้วยซ้ำ ที่เดินออกมาจนถึงที่ถนนได้


              “เรียก ‘พี่ตุลย์’ ร้อยครั้งแล้วจะให้กลับบ้าน”

              “เน่! เมื่อกี้ผมเห็นตัวเองในตาพี่ด้วยนะ มันโคตรเจ๋ง! ผมขอมองตาพี่อีกรอบได้ไหม?”

              “แต่ฉันก็เผลอคิดหลายครั้งแล้วแหละ ว่า...ดีจัง ที่มีนายอยู่ด้วย”

              “ก่อนหน้านี้พี่เคยบอกว่า พี่จะยิ้มจะหัวเราะให้กับแฟนนี่ใช่ไหม? ถ้างั้นนี่ก็ด้วยปะ ต้องเป็น ‘แฟน’ เท่านั้นใช่ไหมถึงพี่จะเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ถ้างั้น พี่ก็ให้ผมเป็นแฟนพี่สิ”

              “ตอนที่ทำควิซ ผมคิดถึงพี่อะ ควิซนี้บอกว่า ผมกำลังตกหลุมรัก”

              “ผมว่าผมชอบพี่แหงๆ แต่ผมไม่ได้เป็นเกย์...ทำไมพี่ถึงต้องเป็นผู้ชายด้วยวะ...แล้วผมควรทำยังไงดี...”

              “ฉันหมายถึงครอบครัวฉันต่างหาก นายอยู่กับฉัน นายก็ต้องเป็นคนของครอบครัวฉันสิ”

              “เป็นแฟนกันไหม? ถ้าไม่ใช่เดี๋ยวกลับมาส่ง”

              “ถ้างั้นพี่ก็ไม่ต้องทำแล้วละ อย่าฝืนเลย เป็นตัวของตัวเองเถอะ ผมชอบแบบที่พี่เป็นนั่นแหละ”



              ความทรงจำที่ผมทิ้งไว้ข้างหลังฝากซ้ำไปมาในหัวอย่างที่ผมไม่ต้องการราวกับรั้งให้ผมยังอยู่ที่นี่ แต่ในทางกลับกันมันก็เหมือนเป็นความทรงจำที่มาเยาะเย้ย เพื่อบอกผมว่า


              นายกลับไปไม่ได้อีกแล้วเอส…







TBC

ต่อจากนั้นฉันก็ล้มทั้งยืน
ไม่มีเหลือเรี่ยวแรงที่จะเดิน
อ้างว้างเหมือนว่าเธอ...ฆ่าฉันไปแล้วทั้งเป็น

จบลงแล้วชีวิตของคนหนึ่ง
ไม่มีรักให้ซึ้ง
ทิ้งไว้แค่เพียงร่างกายอ่อนล้า




ในที่สุดสถิติไม่เกินหนึ่งเดือนก็แตกโพละ ห่างไป 1 เดือน 6 วัน ฮืออ ก็เลยมาไถ่โทษด้วยการเอาไปเลยค่ะสองตอน!! (41 70% กับ 42 100%) ตอนนี้สำหรับใครที่ติดมิดเทอมก็สู้นะคะ ส่วนใครที่สอบเสร็จไปแล้ว ก็สบายตัวกันเถอะเรา ฮิ้วววว
#daddybelover

หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-03-2016 00:03:35
อีฟ้า อีเลว  :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 07-03-2016 00:06:59
ฮือ มันต้องมีทางออกที่ดีกว่านี้สิ  :hao5:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 07-03-2016 00:27:27
เอาลูกไปแล้วสามีใหม่รับได้หรอ?
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 07-03-2016 00:34:57
อึ้งค่ะ กลับมาพร้อมกับดราม่า
โฮฮฮฮ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Zignup12 ที่ 07-03-2016 01:38:58
ใจจะขาดแล้วค่ะ น้ำตาไหลพราก
ทอฟ้ามีสิทธิ์อะไรมาขัดขวางความรักคนอื่น
แค่ผิดเพศแล้วยังไง เป็นผู้ชายด้วยกันแล้วยังไง
ความรักมันไม่มีเส้นกั้นอะไรหรอกนะ

แล้วเอสจะไปอยู่ที่ไหน ทำไมพี่ตุลย์ปล่อยน้องออกไปดึกๆแบบนี้
ไม่เอาแบบนี้สิ ไม่เอา ฮืออออออออออ
 :katai1: :katai1: :mew6: :mew6: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ssuchaa ที่ 07-03-2016 03:29:31
เกลียดทอฟ้าแรงมาก คือไม่รู้จะด่าไงแล้วอ่ะคือแบบเขารักกันป่ะวะ ผู้ชายแล้วไงสุดท้ายเขาสองคนก็เลี้ยงลูกได้ดีกว่า ผู้หญิงต่ำๆอย่างเธอที่คลอดลูกแล้วหนีตามผู้ชายไปแล้วกัน แล้วคิดว่าเอาเด็กๆไปแล้วจะแฮปปี้มากสินะ เหอะแกโดนผัวใหม่เล่นแน่เตรียมใจเลย นี่เปล่าเตือนแต่กูแช่ง แช่งให้ผัวใหม่ทิ้งแก ไหนๆพังแล้วก็พังแม่งให้หมด ทั้งความรักของตุลย์เอส ทั้งครอบครัวเฮงซวยของเธอ พังแม่งให้หมด  :fire:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 07-03-2016 07:43:56
ไม่เอาดราม่าสิ ฮรือออ  :hao5:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 07-03-2016 08:20:17
เอส ตุลย์ สู้ๆ... :m15:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 07-03-2016 08:20:34
เงิบ

งานนี้ถ้าทอฟ้าขึ้นศาลจริง ตุลย์อาจจะแพ้ก็ได้

เฮ้ออออออออ งานนี้ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ฮือออออออ  :ling1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 07-03-2016 10:02:01
ทำไมมมมมมม  :sad4: :sad4: อี่ฟ้าาาาาาา มาตบกันไหมมมมม โถ่  น้องเอส  :hao5: :hao5:  ไม่เอามาม่าได้ไหมมมม ฮือๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: YADA ที่ 07-03-2016 11:13:08
ง่ะะะะะะะ สงสารที่หนึ่ง สงสารพ่อ สงสารพี่เอส สงสารหมูอ้วนผู้ไม่รู้เรื่อง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 07-03-2016 13:03:33
แล้วมันดีกว่าคนเป็นแม่ที่ไม่รักลูกตรงไหน เลือกที่จะทำหน้าที่เมียที่ดี โดยละทิ้งลูก มันดีตรงไหน ผัวแต่งงานไป ถ้าเลิกกันก็คือคนอื่น แต่ลูก ทะเลาะกันแค่ไหน สุดท้ายก็ยังคือสายเลือด เลือกทางนั้นแล้ว แล้วยังอยากได้อะไรอีก ไม่เข้าใจ

สู้ๆนะเอส สู้ๆนะพี่ตุลย์ ไปจัดการให้เรียบร้อย แล้วค่อยกลับมารักกันใหม่เถอะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Natsuki-ChaN ที่ 07-03-2016 13:32:25
ขอให้ สามีใหม่นังฟ้า   :z6:  รับเลี้ยงที่หนึ่งกับตอนต้น ไม่ได้ 
เอสสสส กลับมาาา :hao5:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 07-03-2016 14:19:36
เศร้าอ่ะ มันไม่มีวิธีอื่นแล้ว นอกจากที่ทั้งสองต้องแยกกัน
ถ้าขึ้นศาล ประเด็นที่ทอฟ้าใช้ พี่ตุลย์อาจจะแพ้แน่ๆ

สงสารเอส สงสารพี่ตุลย์อะตอนจากกัน เกือบร้องไห้



หวังว่าสามีทอฟ้าจะให้เลี้ยงเด็กไม่ได้นะ
หวังว่าเอสกับพี่ตุลย์จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกละ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: capool ที่ 07-03-2016 16:42:06
ระหว่างพ่อที่เป็นเกย์แต่ดูแลเลี้ยงลูกอยู่ตลอดไม่เคยหนีหายไปไหน กับแม่ที่สำส่อนทิ้งลูกไปครั้งแล้วครั้งเล่าไม่สนใจเลี้ยงดู ศาลจะตัดสินให้แม่ได้ลูกไปอีกเหรอคะ แล้วจะมั่นใจได้ยังไงว่าเธอจะไม่ทิ้งลูกไปอีก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Eliz ที่ 07-03-2016 20:18:18
กลับมาพร้อมมาม่าชามใหญ่มากกกก สงสารเอสจังเลย แล้วใครจะปลอบใจพี่ตุลย์ละเนี่ย รู้สึกว่าพี่ตุลย์จะเจ็บสุดนะ ทั้งลูกทั้งคนรัก ไม่เหลือใครเลย อยากให้ปัญหามันผ่านไปเร็วๆ จัง สงสารรรรรร
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-03-2016 20:47:36
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 07-03-2016 22:05:01
แงงงงง เอส อย่าไปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปป :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: May99 ที่ 07-03-2016 22:43:17
คือแบบ อ่านๆๆไปทำไมมันเบลอๆๆฟ่ะ อ้อ น้ำตาไหลนี้เอง ฮื่อออออออออออออออออออออออออ  :hao5: อยากโดดถีบฟ้าซ่ะจริง :z6: :beat:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: GOLDMIND ที่ 08-03-2016 01:55:02
โอยยย จบด้วยการจากลา โซเวรี่แซดอ่ะ
หนักหน่วงแท้ล่ะ แล้วงี้จะเป็นไงต่อเนี่ย

เอสสสสส นายคือนายเอกเรื่องนี้นะ ยู้โน้วว
 :ped149: :ped149: :ped149:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 08-03-2016 04:05:45
กรี้ดดดดดดด เกลียดอิทอฟ้าา
เอานางไปเกบที โลกแคบมากอินี่
เค้ารักกันอะ เพศเดียวกันแล้วไงงง
ตัวเองนั่นแหละ จิตวิปริต ตรรกะแปลกเลี้ยงลูกไม่ได้หรอก
สงสารเอสสส สงสารพี่ตุลย์ ฮืออออ
สงสารที่หนึ่งกับตอนต้นด้วย
อิผู้หญิงบ้าาาาา
แล้วเอสจะไปอยู่ไหนน
แล้วใครจะช่วยพี่ตุลย์เลี้ยงลูกก
แล้วพี่นุลย์จะเป็นยังไงง ฮือออ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 08-03-2016 18:58:41
อย่างแรงอ่ะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 08-03-2016 21:27:03
ชะนีใจแคบเห็นแก่ตัว โอ๊ยไม่รู้จะด่าอะไรแล้วอ่ะ. ขอตอนจบของนางแบบแซ่บๆเลยนะ. แบบสุดท้ายก็ไม่เหลือใครเลยยิ่งดี
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 09-03-2016 22:36:47
ฟ้า...มีความตอแหลมาก เกลียด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 11-03-2016 17:55:52
ชะนีฟ้าสตอมากกก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: jillongame ที่ 12-03-2016 14:38:27
เกลียด ฟ้าสุด และเกลียดกว่าคือการปล่อยมือคนที่รักไป แทนที่จะอยู่ช่วยกัน คือไม่หาข้อมูลไรเลยคือ บอกแค่ถ้าฟ้องกันยังไงฟ้าก็จะได้ลูกไปพูดเลยมากสุดก็คนเดียว แต่เจตนาไม่เลี้ยงดูบุตรของตนแม้แต่ไม่ให้นมลูกนี้ เป็นยืนฟ้องถึงเจตนามากๆ คลอดลูกไม่ให้นมแต่งงานกับคนอื่นลูกคนแรกทิ้งไม่พอเจอนานกี่ปี แต่งงานหรือก็ไม่ ถ้าพึงคลอดนี้แม่ได้ชัวแต่นี้ อยู่เป็นปี อืมมมมมม ไม่พิมพ์แล้วอินจัดไม่ไหว



เอาว่ามาต่อด่วนเลยอย่าหายไปเพื่อทำลายสถิติตัวเองอีกเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: -Otto- ที่ 20-03-2016 08:49:24
 :hao5: :hao4::hao5:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Tequila ที่ 20-03-2016 22:41:48
 :sad4: :sad4: :o12: :o12:  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 01-04-2016 18:52:10
ดัน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: fightreblue ที่ 03-04-2016 13:32:44
รอมาต่ออยู่นะครับ  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: paloy ที่ 03-04-2016 17:27:48
เกลียดนังฟ้าาาา :katai4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 41-42 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Tequila ที่ 04-04-2016 03:26:05
นับถอยหลังอีก2วันจะครบเดือนแล้วววววว รอฉันรอเธออยู่
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 04-04-2016 19:23:21
ตอนที่ 43



               “ปัน ไปเรียกเอสกินข้าวลูก”

               “คร๊าบ” เด็กหนุ่มขานรับ ก่อนจะผละออกจากหน้าทีวี ขึ้นไปชั้นบนเรียกเพื่อนสนิทที่ยึดห้องนอนของเขาเป็นของตัวเองไปแล้วเรียบร้อย “เอส แม่เรียกให้กินข้าวแล้วว่ะ มึงจะได้แดกยาด้วย”

               “อื้ออ ไม่เอา กูจะนอน”

               “ก็ไปกินข้าวก่อน กินยาแล้วเดี๋ยวค่อยมานอนต่อ”

               “ไม่เอา กูขอกระโดดข้ามไปนอนเลยไม่ได้ไง?” เอสตอบด้วยน้ำเสียงเจือหงุดหงิด แต่มันไม่ได้ทำให้ปันรู้สึกสลดลงแต่อย่างใดหนำซ้ำยังหัวเสียกับความงอแงของเพื่อนอีก

               “ไอ้สัด! ไม่ได้ มึงลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยนะ! ถ้ามึงไม่ลุกขึ้นมากินข้าวดีๆ กูจะยัดจานใส่ปากมึงเลย!” ไม่ว่าเปล่าพร้อมดึงแขนของเพื่อนให้ลุกขึ้นนั่ง เอสมีท่าทีขัดขืนแต่เพราะร่างกายตอนนี้ที่ไม่เอื้ออำนวยสุดท้ายเขาก็โดนลากจนมาถึงโต๊ะกินข้าวในที่สุด

               “มาๆ กินข้าวแล้วจะได้กินยานะลูก”

               “ครับ” สุดท้ายเอสก็ต้องยอมนั่งลงที่ข้างๆ เพื่อนสนิททั้งๆ ที่ใจอยากจะนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆ นั่นมากกว่า เขา...ไม่อยากตื่นขึ้นมาเลย

               “นี่เอส คราวหน้าคราวหลังกดกริ่งเรียกได้ตลอดเลยนะ อย่าๆ ไปยืนตากฝนรอแบบนั้นอีก เห็นไหมเป็นหวัดเลยเนี่ย”

               “ขอโทษครับน้า ผมเกรงใจอะ ตอนนั้นมันก็ดึกแล้วก็เลยไม่กล้าอะครับ” เอสยิ้มจางๆ พร้อมขอโทษให้อีกครั้งหลังจากที่เมื่อคืนนี้เขาก็ขอโทษตอนที่โดนบ่นไปแล้วรอบนึง

               “มึงรู้จักความเกรงใจด้วยหรอวะ กูเพิ่งรู้นะเนี่ย” ปันที่นั่งอยู่ข้างๆ เท้าคางแซวเพื่อนสนิทที่กำลังนั่งทำหน้าซึมหลังจากโดนแม่ของเขาตักเตือนด้วยความเป็นห่วง

               “อะไร? หาเรื่องกูหรอ?” เอสหันมาขมวดคิ้วใส่ ยังคงหงุดหงิดเพื่อนสนิทที่ลากตัวเองลงมาจากเตียง

               “หาเรื่องอะไร เปล่าสักหน่อย แค่แปลกใจเฉยๆ” ปันลอยหน้าลอยตาไม่ได้สนใจท่าทางของเพื่อนเลยสักนิด พอเห็นท่าทางกวนประสาทอย่างนั้นแล้วเส้นเลือดที่ขมับก็เริ่มรู้สึกปูดๆ ขึ้น กวนมากวนกลับสิ ไม่โกง!

               “ก็นะ กูมันดีตั้งแต่ภายในยันภายนอก มีความเกรงใจ เป็นสุภาพบุรุษไม่พอ กูยังหล่อมากอีกต่างหาก”

               “เหออ นี่เรียกหล่อแล้วดิ กูนึกว่าลิงเพิ่งกลายพันธุ์ซะอีก” ไม่ว่าเปล่าตามมาด้วยเสียงหัวเราะหึหึในลำคอ

               “ไอ้คุณปันครับ” เอสเอื้อมมือไปบีบไหล่เพื่อนทั้งสองข้าง

               “ครับ ไอ้คุณเอส” ขานรับด้วยความสุภาพเช่นกัน

               “ถ้าอย่างกูเรียกลิงเพิ่งกลายพันธุ์ อย่างมึงนี่ลิงกำลังลดระดับไปเป็นอะมีบาแล้วใช่ปะ”

               “เหี้ย แรง กูอุตสาห์ให้มึงเป็นลิง นี่มึงด่ากูไปเป็นสัตว์เซลล์เดียวเลยหรอ! กูฟ้องแม่แน่!” ปันชี้หน้าก่อนจะหันขวับไปหาแม่ของตัวเองที่ไม่ได้สนใจการต่อล้อต่อเถียงที่เห็นจนชินตานั่นเลยแม้แต่นิดเดียว “แม่ ไอ้เอสมันด่าผมเป็นว่าลิงที่กำลังจะกลายเป็นอะมีบาอ่ะ! ผมกับมันใครหล่อกว่ากันแม่!”

               ผู้ถูกถามวางช้อนส้อมลงหลังจากกินข้าวพร่องไปแล้วครึ่งจานพลางคว้าแก้วน้ำขึ้นมาจิบดับกระหาย “ไม่มีใครหล่อถูกใจแม่สักคน หน้าตาเหมือนพี่เจ เจตริน หรือพี่ติ้ก ไม่ต้องมาถามเรื่องความหล่อกับแม่”

               “โห เป็นบุคคลที่ไม่อาจเอื้อมจริงๆ ครับ” เอสพูดหยอก

               “โห นี่ลูกนะ จะเข้าข้างลูกสักนิดก็ไม่มี” สิ้นคำกับหน้าตาบูดบึ้งของปัน ทั้งโต๊ะอาหารก็หัวเราะร่วมกัน เรียกบรรยากาศในการทานมืออาหารยามเช้าได้ครื้นเครง


               ...ซึ่งเอสก็หัวเราะ ร่วมมือกับมันอย่างดี















               หลังจากที่นั่งกินข้าวกันไปสักพัก ผู้ที่อาวุโสสุดในบ้านก็ลุกขึ้น เอาจานของตัวเองที่กินหมดแล้วไปไว้ในอ่างล้างจาน เธอหันมาเร่งเด็กทั้งสองที่ยังกวนกันไปกินกันไปไม่หมดสักทีพลางหยิบกระเป๋าของตัวเองที่วางเตรียมไว้อยู่บนโต๊ะหน้าทีวี

               
               “แม่จะไปทำงานแล้วนะ”

               “ครับ” ปันกับเอสขานรับ

               “ดูแลบ้านกันดีๆ ละ เอสก็อย่าลืมกินยานะลูก ปันดูแลเพื่อนด้วย”

               “โหยแม่ นี่คือว่ามันอายุกี่เดือนเนี่ยถึงต้องดูแลขนาดนั้น เป็นหวัดแค่เนี่ยดูแลตัวเองไม่ได้ ให้มันตายในบ้านเราไปเลยแม่”

               “ดูแลกูสักนิดนี่จะตาย?”

               “ถ้ามึงเป็นผู้หญิง กูก็จะไม่บ่นอยู่หรอก”

               “เอาเป็นว่า ดูแลกันดีๆ แล้วกัน ถ้าเอสตายในบ้านแม่จะพาปันตายตามไปเลยนะ” เธอชี้หน้าลูกชายอย่างคาดโทษขณะที่เปิดประตูบ้านออกไป


               ปันทำหน้าเซ็งเล็กน้อยหลังจากที่แม่ออกจากบ้านไปแล้วพลางบ่นกระปอดกระแปด ที่เอสมาบ้านที่ไรประคบประหงมกันอย่างดีอนุญาตให้เปิดแอร์นอกเวลางี้ นี่บางทียังคิดเลยว่าหรือเขาเป็นลูกคนข้างบ้านกันแน่วะ


               ว่าแล้วก็หันไปมองเพื่อนด้วยสายตาเฉือดเฉือน


               “กูอิ่มละ กูจะไปนอน บาย”

               “หะ? เฮ้ย เดี๋ยว! ยังไม่หมดเลย กินให้หมดเลยสัดถึงค่อยไปนอน” ปันคว้าแขนเพื่อนที่กำลังลุกเอาไว้ก่อนจะชี้ไปที่จานข้าวที่พล่องลงไปไม่ถึงครึ่ง

               “แต่กูอิ่มแล้ว”

               “กินเท่าเนี่ยพอกระเพาะมึงที่ไหนหรือพยาธิในท้องมึงตายห่าไปหมดแล้วหรือไง?”

               “มันก็เป็นสิ่งมีชีวิตนะ ป่วยบ้างไปตามเรื่องตามราว”

               “ไม่ต้องพูดมาก แดกเข้าไปเดี๋ยวนี้เลย แล้วจะได้กินยาต่อ หลังจากนั้นมึงจะนอนจนถึงชาติหน้าก็เรื่องของมึงเลย”

               “กูไม่อยากก็คือไม่อยากดิว่ะ” เอสพูดเสียงห้วน เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้งกับการบังคับของเพื่อนสนิท เขาอยากนอน ไม่อยากกินข้าว ไม่อยากกินยา ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นอะ อยากนอน!

               “มึงอย่ามาดื้อกับกูนะเอส” ปันเริ่มเสียงแข็งบ้าง มีไม่กี่ครั้งหรอกที่เขาจะดุแบบนี้ ก็เหมือนกับเอส มันมีไม่กี่ครั้งหรอกที่คนอารมณ์ดีอย่างมันจะขี้หงุดหงิดขึ้นมาแบบนี้ “กินข้าวซะให้หมด ถ้าไม่หมดก็นั่งอยู่ที่นี่ให้รากมึงทะลุเก้าอี้ปักพื้นบ้านกูเลย”


               พูดจบปันก็ลุกขึ้นออกจากโต๊ะอาหารทันที เป็นการตัดขาดไม่ให้อีกฝ่ายได้ขัดขืนหรือต่อรอง


               เขาเข้าใจดีว่าตอนนี้เอสกำลังอ่อนไหวไม่ได้อยู่ในสภาวะปรกติ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ใช่เด็กน้อยที่ต้องคอยมานั่งปลอบนั่งโอ๋กันแล้ว


               ...เมื่อคืนตอนตีสองเกือบตีสามฝนตกหนักและไม่มีทีท่าว่าจะเบาบาง เขากำลังจะไปนอนหลังจากที่ตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมตั้งแต่สี่โมงเย็น ซึ่งหลังจากที่เขาปิดคอมฯ ลูกรักแล้ว เขาก็เดินไปปิดผ้าม่านต่อและในขณะที่เขากำลังปิดผ้าม่านลงนั้น สายตากลับเหลือบเห็นใครบางคนยืนอยู่หน้าบ้านด้านล่างท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำเทราวกับฟ้าแกล้ง แต่ทว่าคนนั้นกลับไม่มีทีท่าว่าจะหาทางขึ้นมาหรือแม้จะกดกริ่งเรียกเลย


               แค่ยืนอยู่นิ่งๆ หน้าบ้านก็เท่านั้น


               ปันกำผ้าม่านแน่นตื่นตัวเผื่อสถานการณ์ฉุกเฉินพลางจ้องเขม็งไปยังผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างล่าง เขาใช้เวลาอยู่นานในการเพ่งมอง จนในที่สุดเขาก็รู้ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเอส เพื่อนสนิทของเขาเอง!


               เท่านั้นแหละปันก็รีบถลาออกไปหาเพื่อนสนิทจนแทบจะตกบันได ตกใจกับสภาพของเพื่อนที่ยืนตัวเปียกซกอยู่ท่ามกลางสายฝนไม่รู้ร้อนรู้หนาว พอเขาตะโกนว่ามันไป ว่าทำไมถึงยืนอยู่ที่นี่ไม่เข้ามาในบ้าน มันก็เอาแต่ยิ้มโง่ๆ แล้วก็พูดขอโทษซ้ำๆ


              “ขอโทษนะ มันดึกแล้ว่ะว กูเลยไม่อยากกดปลุกเรียกสักเท่าไหร่”


               มันเป็นเหตุผลที่ตลกที่สุดที่เขาเคยได้ยินมา เขาเป็นเพื่อนกับเอสมากี่ปี มันเคยมานอน มาอยู่บ้านนี้กี่หน ปรกติก็ทำตัวเข้าออกเหมือนเป็นคนในบ้านและมันก็รู้ดีว่าบ้านนี้ต้อนรับมันเสมอไม่จำเป็นที่จะต้องมาเกรงใจเลยสักนิด


               ‘เอาไว้ค่อยคุยกัน เข้ามาในบ้านก่อนเลย’


               ...แล้วหลังจากที่เข้าบ้านมา เขาถึงรู้ว่าที่จริงแล้วทำไมเอสถึงต้องยืนอยู่อย่างนั้น ทำไมถึงไม่กดกริ่งเรียก ทำไมถึงไม่เข้ามา ทำไมต้องยืนอยู่ใต้ฝน...


               คนเรายืนอยู่ใต้ฝน ไม่ลบรอยเปื้อน ก็ซ่อนน้ำตา...


               พอเขาเห็นสภาพของเพื่อนสนิท เขาก็ไม่อยากคิดเลย มันร้องไห้มากี่ชั่วโมงแล้ว...
















               “ยาอยู่ไหนวะ? กูกินข้าวเสร็จแล้ว” เอสเดินเข้ามาถามเพื่อนที่ติดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่หน้าทีวีก่อนจะเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทหันขวับมองไม่วางตา

               “...อยู่ที่ตู้ติดผนังข้างบันได เดี๋ยวกูไปหยิบให้”

               “ไม่ต้องอะ เดี๋ยวกูไปหยิบเองจะได้เลยขึ้นไปนอนเลยด้วย มึงจะขึ้นไปเล่นคอมฯ ปะ?”

               “กูว่าจะอ่านหนังสือ ใกล้สอบไฟนอลละ ไม่อ่านเดี๋ยวตายห่า”

               เอสหัวเราะ “เออว่ะ เหมือนกัน กูเสือกดันมาไม่สบายตอนนี้ซะงั้น แล้วหนังสือเรียนกูก็...” เอสชะงักเมื่อนึกได้ว่าหนังสือเรียนของเขาอยู่ที่ห้องที่เขาเพิ่งจากมา ไม่ใช่แค่หนังสือเรียนเท่านั้น เสื้อผ้าข้าวของทุกอย่างอยู่ที่นั่นหมด ร่วมถึงมือถือด้วย ตอนที่ออกมาเขาไม่ได้เอาอะไรออกมาเลยนอกจากตัว 


               ...ขนาดหัวใจยังทิ้งไว้ที่นั่นเลย


               “เป็นไรมึงอยู่ดีๆ ก็หยุดพูด?”

               “เปล่า” เอสส่ายหัวปฏิเสธ “งั้นกูไปนอนก่อนนะ ตอนบ่ายสองมึงช่วยขึ้นไปปลุกกูทีแล้วกัน”

               “...ได้” หลังจากที่เพื่อนรับปากแล้ว เอสก็หันหลังกลับไปเดินไปหยิบยาที่อยู่ในตู้ติดผนัง เขากระดกมันเข้าปากกลืนโดยไม่ต้องใช้น้ำช่วยก่อนจะเดินเอื่อยๆ ขึ้นไปชั้นบน โดยมีปันมองตามอยู่เงียบๆ จนสุดสายตา...
 














               ตุลย์นั่งถอนหายใจอยู่ในห้องสูบบุหรี่ เอนหัวพิงไปกับกระจกใสด้านหลัง เพราะว่าวันนี้จิตใจของเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ทำให้ทำงานพลาดทั้งวันทั้งๆ ที่เคยทำได้ดีมาตลอด แย่จนเขายังรู้สึกตัวพยายามแล้วที่จะพุ่งความสนใจไปที่งาน แต่เพียงไม่นานเขาก็รู้สึกว่าใจมันเหมือนจะลอยหายออกไป สุดท้ายเขาก็ต้องเอางานให้คนอื่นช่วยแล้วออกมา ขอสงบสติอารมณ์ก่อนเพื่อกลับไปทำงานใหม่ให้มันดี


               คนทั่วไปอาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องปกติก็ได้ในเมื่อเขาเสียทั้งลูกทั้งคนรักไปพร้อมๆ กัน แต่เขากลับมาว่ามันก็ไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้งานต้องมาเสียหาย ทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อน เขาไม่ได้มองว่าการสูญเสียทำให้เขาสามารถทำงานพลาดได้ เขาไม่อยากเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องขนาดนั้น


               ...เพียงแค่เรื่องเมื่อวานเขาก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่ใช้ไม่ได้มากพออยู่แล้ว ดูแลลูกไว้ไม่ได้แล้วยังปกป้องคนรักไว้ก็ไม่ได้อีก


               ตุลย์ล้วงโทรศัพท์เครื่องหรูออกจากกระเป๋ากางเกง เปิดรูปภาพของลูกชายทั้งสองที่เอสเคยลากเขาไปถ่ายด้วยกัน


               ‘โทรศัพท์ผม ราคา 1,990 บาทจะทำอะไรได้ ตัวเองใช้เครื่องเป็นหมื่นยืมถ่ายรูปนิดเดียวทำบ่น’


               ตลกชะมัด


               นิ้วเรียวจิ้มที่หน้าของลูกชายคนโตที่โดนพาตัวไปเมื่อวาน เมื่อตอนเช้าก่อนเข้ามาทำงานเขาไปหาทอฟ้าที่ร้านกาแฟนั่น ไปอ้อนวอนอย่างที่เอสต้องการ พยายามอย่างสุดความสามารถทั้งขอโทษและรับปากทุกๆ อย่างเพื่อให้ได้ลูกรักคืนมา เพื่อให้การเสียสละของเอสไม่เสียเปล่า แต่...


               ‘ฟ้าไม่คิดจะให้ลูกไปอยู่กับพวกวิปริตอย่างพี่หรอก ในเมื่อพี่เคยคบกับมันได้ ในอนาคตพี่อาจจะคบกับผู้ชายอีกก็ได้ ฟ้าจะไม่ยอมให้ลูกต้องอยู่กับพ่อโสโครกแบบนั้นแน่!’


               “...” สิ่งแรกที่เขาคิดคือ ‘ว่าอยู่แล้วเชียว’ แต่มันก็ยังเจ็บปวดใจอย่างไม่น่าเชื่อ เขาไม่รู้จะรู้สึกยังไง ทำตัวแบบไหน ทำอะไรถึงจะได้ลูกชายคืนมา ถึงจะได้ความสุขของเขาคืน


               แค่เพราะมีความรัก แล้วมันบังเอิญที่ว่าคนที่เขารักดันเกิดมาเป็นผู้ชาย...แค่นั้นเอง


               ปลายนิ้วเลื่อนไปยังใบหน้าของลูกชายคนเล็กที่เอสอุ้มไว้ด้วยแขนข้างหนึ่ง เด็กน้อยที่ตอนนี้คงกำลังทำป้าสร้อยวุ่นวายอยู่ที่ห้องไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร


               “พี่ตุลย์...แล้วฟ้าจะกลับมาพาตอนต้นไป”


               ตอนนี้เขาเหลือแค่ตอนต้นคนเดียว ถ้าเสียตอนต้นไปอีกเขาอยู่ไม่ได้ เพราะยังมีตอนต้นอุ้มชูเขาไว้ ยังให้ตัวเองมีมีเหตุที่ยังต้องนั่งทำงานต่อไป ยังให้มีเหตุผลที่ต้องกลับบ้านไปหา ถ้าถูกเอาไปอีกละก็...


               “อ้าว พี่ อยู่นี่เองหรอ หัวหน้าถามหาแหนะ”รุ่นน้องในแผนกเดียวกันที่เปิดประตูเข้ามาร้องทักขึ้น “ว่าแต่แปลกใจนะครับเนี่ยที่เห็นพี่อยู่ในห้องนี้ พี่ก็สูบหรอ? เห็นปรกติไม่ออกพื้นที่ก็อยู่ที่โต๊ะตลอดเลย”

               “เปล่าหรอก แค่มาพักให้หัวสมองมันเบาขึ้นน่ะ”

               “หรอครับ แล้วเป็นไงครับ ดีขึ้นยัง? ถ้ายังเอาสักม้วนไหมพี่?” ไม่ว่าเปล่าพร้อมยื่นซองบุหรี่ที่อัดแน่นไปด้วยแท่งสีดำ

               “เล่นของแพงเชียว แต่ไม่ละ ผมเลิกสูบบุหรี่แล้ว” ตุลย์ยิ้มน้อยๆ เป็นการขอโทษก่อนจะลุกขึ้นยืนตั้งท่าจะออกไปจากห้องสูบบุหรี่นี่ “เมื่อกี้บอกว่าหัวหน้าเรียกสินะ งั้นผมขอตัวก่อนแล้วกันนะ”

               “โอเคครับ”

               “แล้วก็อย่าสูบเยอะละ เดี๋ยวเป็นมะเร็งปอดเอา”

               อีกฝ่ายหัวเราะ “แม่ผมก็พูดแบบเนี่ย อยากสูบก็อยากสูบ ไม่อยากเป็นมะเร็งก็ไม่อยาก ผมถึงต้องซื้อของแพงมาสูบเนี่ยไงแหละครับ แต่ถ้าพี่มีแนะนำวิธีเลิกบุหรี่ผมก็รับฟังนะครับ”

               “...มีลูกสิ แล้วนายก็จะเลิกมันเพียงเพราะอยากอุ้มเขา”


               ตุลย์ยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องสูบบุหรี่ เขายกโทรศัพท์ที่ยังถือค้างไว้ขึ้นดูอีกครั้ง สไลด์ดูภาพอื่นๆ ที่ถ่ายในวันเดียวกัน ทั้งเบลอบ้าง แอบถ่ายบ้าง แต่มันก็ทำให้เขานึกบรรยากาศตอนนั้นได้


               วุ่นวายแต่ก็สนุกสนาน


               ภาพหยุดลงที่รูปที่ถ่ายรวมกันสี่คนโดยตั้งกล้องพิงทีวีไว้ เป็นภาพที่เอสหน้าเหวอหันไปคว้าตอนต้นที่ตะเกี่ยตะกายหลุดออกไปจากแขน ส่วนเขาก็หันไปดูโดยมีที่หนึ่งที่นั่งอยู่บนตักหน้ายิ้มแป้นอยู่คนเดียว เขามองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่อ่อนไหว ก่อนที่สุดท้ายก็ตัดสินใจปิดมันลง


               ถ้ามีทางที่ทำให้ภาพแบบนี้กลับมาเกิดขึ้นอีก เขาก็จะทำโดยไม่ลังเลเลย...














               “แม่ ที่หนึ่งไม่ได้ไปเรียนสองวันแล้วจะดีหรอครับ” ที่หนึ่งถามแม่ของตนที่กำลังเข็นรถเข็นซึ่งเต็มไปด้วยของเล่นอยู่ข้างๆ

               “ไม่เป็นไรหรอกครับที่หนึ่ง วิชาที่สอนๆ กันตอน ป.3 ให้แม่สอนให้ที่บ้านยังได้เลย” ทอฟ้าหันมายิ้มให้ลูกชายพลางหยิบหุ่นกันดั้มที่เรียงรายไปสุดทาง

               “พรุ่งนี้ก็วันเสาร์ ที่หนึ่งไม่ได้เจอเพื่อนตั้งสี่วันแหนะ”

               “ก็อยู่กับแม่แทนไงครับ หรือว่าที่หนึ่งไม่อยากอยู่กับแม่…?”

               “ที่หนึ่งอยากอยู่กับแม่ครับ! “ ที่หนึ่งรีบตอบทันควัน


               การได้อยู่กับแม่แบบนี้มันเป็นสิ่งที่เขาใฝ่ฝันถึงมาตลอด เป็นสิ่งที่ต้องการมากที่สุดเลย เพียงแต่ที่หนึ่งรู้ดีว่ามัน ‘ไม่ใช่’ มันมีบางอย่างที่ขาดหาย บางอย่างที่ไม่เหมือนกับที่ฝันไว้ สิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่การอยู่กับ ‘แม่’ สิ่งที่เขาต้องการน่ะคือการได้อยู่พร้อมหน้าต่างหาก พ่อแม่แล้วก็ลูก เหมือนครอบครัวอื่นๆ...


               แต่เรื่องในวันนั้นเขายังจำทุกอย่างได้ดี แม้จะฟังไม่ได้ศัพท์เลยแม้แต่น้อย แต่เสียงทะเลาะก็ดังอึกทึกและน่ากลัว เหมือนกับเป็นที่เสียงที่ตะโกนอยู่ในหัวว่า ไอ้ครอบครัวพ่อแม่ลูกอะไรนั่น มันไม่มีทางเกิดขึ้นจริง


               แล้วยังมีตอนที่เขาถูกพาตัวมาค้างที่บ้านของผู้เป็นแม่อีก ครั้งนี้เขาไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมแม่ต้องว่าพี่เอส และที่บอกว่าจะพาตอนต้นไป คือไปที่ไหน


               ...แล้วทำไมตอนที่เขาออกไปถึงได้มองด้วยสายตาแบบนั้นนะกันละ...ก็แค่ไปนอนค้างบ้านแม่เฉยๆ ไม่ใช่หรอ?


               “แม่ให้ที่หนึ่งซื้ออะไรๆ ก็ไม่ซื้อสักอย่างเลย ถ้างั้นเราไปกินข้าวกันไหม? ที่หนึ่งหิวหรือยังครับ?”

               “ที่หนึ่งยังไม่หิวเลย แม่หิวแล้วหรอ?”

               “ครับ แม่หิวแล้วละ ตั้งแต่เช้าทุกนู่นทำนี่ไม่ได้หยุดเลย ถ้างั้นเราไปกิน MK กันไหม? ลูกชอบเป็ดหรือเปล่า?”

               “ชอบครับ”

               “โอเค งั้นเราไปกินเป็ดกันเถอะ!” ทอฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงก่อนจะจูงลูกชายและรถเข็นไปที่แคชเชียร์เพื่อจ่ายเงิน














               ใช้เวลาเพียงไม่นานนักทั้งคู่ก็ได้นั่งอยู่ในร้าน โต๊ะทางขวามือติดกระจกบานใส ทอฟ้ามองไปรอบๆ ร้าน นึกพอใจที่มีคนอยู่เพียงประปราย เพราะนั้นหมายความว่า ร้านจะไม่วุ่นวายและเธอกับลูกจะไม่ต้องรอของนาน


               “นี่เมนูนะคะ” พนักงานสาวในชุดนักศึกษาทับด้วยยูนิฟอร์มเดินเข้ามายื่นเมนูพร้อมรอรับ ทอฟ้าจัดแจงสั่งเป็ดจานใหญ่ให้ลูกชายพร้อมชุดสุขภาพให้ตัวเอง

               “ที่หนึ่งอยากกินอะไรอีกไหมลูก? สั่งได้ไม่อั้นเลยนะ” ทอฟ้าหันมาถามลูกชาย


               ที่หนึ่งก้มหน้าดูเมนูแผ่นใหญ่ก่อนจะชี้สั่งนู่นนี่ที่น่ากิน หลังจากที่พนักงานสาวทวนรายการแล้วทอฟ้าก็รับเมนูจากลูกชายแล้วยื่นคืนให้กับพนักงานที่รออยู่


               “สั่งมาเยอะขนาดนี้จะกินคนเดียวหมดไหมละเนี่ย?” ทอฟ้าพูดหยอกลูกรักที่นั่งอยู่ตรงข้าม ที่หนึ่งที่กำลังแกะซองตะเกียบทำหน้าประหลาดใจ

               “แม่ไม่กินกับที่หนึ่งหรอ?”

               “แม่สั่งเมนูของแม่แล้วครับ ไม่แย่งที่หนึ่งกินหรอก”

               “แต่ที่หนึ่งสั่งมาเผื่อแม่ด้วยนะ กินด้วยกันหลายๆ คนอร่อยดีออก ที่หนึ่งกินอยู่คนเดียวน่าเบื่อแย่เลย ปรกติตอนที่มากินกับพ่อแล้วก็พี่เอสนะก็กินด้วยกันตลอด เวลาที่สั่งเป็ดมานะที่หนึ่งแล้วก็พี่เอสก็สู้กันตลอดเลย ใครเร็วคนนั้นได้กิน”


               ที่หนึ่งเล่าพลางหัวเราะพอนึกถึงครั้งก่อนที่มากินด้วยกันแล้วโดนผู้เป็นพ่อดุเพราะทำเสียงดังเกินไป แต่มันก็สนุกมากพลอยทำให้อาหารมื้อนั้นอร่อยไปด้วยเลย


               “หรอครับ คราวนี้ที่หนึ่งก็ได้กินแบบสบายๆ เลยไง ของพวกนี้แม่ไม่กินหรอก มันทำให้แม่อ้วนแล้วก็จะไม่สวยน่ะ” ทอฟ้ายิ้มตอบ ขณะนั้นเมนูเพื่อสุขภาพที่เต็มไปด้วยสารพัดผักก็เข้ามาเสริฟพร้อมกับเป็ดจานใหญ่ที่เธอวางไว้ตรงหน้าที่หนึ่งโดยเฉพาะ “แต่ถ้าที่หนึ่งอยากมาด้วยกันหลายๆ คนละก็ คราวหน้าพอน้าวีว่าง เราสามคนไปหาอะไรกินด้วยกันอีกดีไหม? ที่หนึ่งเจอหน้าน้าวีแป๊บเดียวตอนที่มาถึงบ้านแม่เองนี่เนาะ แล้วน้าวีก็ยุ่งจนไม่ได้รู้จักกันเลย แต่อาทิตย์นี้น้าเขาว่างแน่นอน ถ้าที่หนึ่งรู้จักเขานะ แม่พนันเลยว่าที่หนึ่งจะต้องชอบเขาแน่ๆ!”

               “แม่หมายถึงเพื่อนแม่ที่อยู่บ้านเดียวกันหรอ?”

               “อา ใช่ๆ แม่ยังไม่ได้แนะนำอะไรให้รู้จักเลยนี่เนาะ ชื่อก็ยังไม่ได้บอก” ทอฟ้าหัวเราะ ก่อนที่เธอจะเผยยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงภาพที่มีเธอ วีและลูกได้เดินเที่ยวอยู่ด้วยกัน จูงมือที่หนึ่งกันคนละข้าง ภาพครอบครัวในฝันที่เธออยากให้เป็นจริง


               อดใจรอแทบไม่ไหว อยากให้สามีของเธอกับที่หนึ่งได้รู้จักกัน เธอเชื่อว่าพวกเขาจะต้องเข้ากันได้ดีแน่นอน ที่หนึ่งจะต้องรักวีอย่างที่เธอรักแน่ บอกสิจะมีอะไรที่ดีไปกว่า ได้อยู่กับลูกกับคนที่รักไปพร้อมๆ กัน!


               “ที่หนึ่งครับ”

               “หือ?” เด็กน้อยที่เคี้ยวเป็ดจนแก้มตุ้ยเงยตามเสียงเรียก เลิกคิ้วอย่างไร้เดียงสาเมื่อเห็นแม่ยิ้มจนตาปิด

               “น้าวีน่ะ...เขาไม่ใช่เพื่อนแม่นะลูก” ทอฟ้ายิ้ม “น้าวีน่ะ เขาเป็นสามีของแม่เอง แล้วก็จะเป็นพ่ออีกคนของที่หนึ่งด้วยนะ









TBC
ยังคงสถิติ หนึ่งเดือนหนึ่งตอน แง ช้าไหม รอไหวกันใช่ไหม ;-;)/^


(http://i.imgur.com/OBAs0td.jpg)
เปิดจองเร็วๆ นี้นะฮับบบ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 04-04-2016 19:34:26
ตรรกะนังทอฟ้านี่ประหลาดดีนะ

โดนลูกบอยคอตซะเถอะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: SaNip015 ที่ 04-04-2016 20:12:06
ทอฟ้า 
ฉันอยากให้เธอเสียทั้งสามี และลูก
เธอเป้นผู้หญิงที่เห็นแก่ตัว  ปากอ้างรักลูก แต่ทิ้งลูก
แล้วพออยากได้ลูกคืน ก็แย่งลูกไปทั้งๆที่ไม่เคยเลี้ยง
ฉันสาปเธออยู่ตรงนี้
คนเขียนสู้ๆนะคะ อินหนักมาก ร้องไห้หนักมาก รอตอนต่อไปคะ
 o18 :mew6: :m16: :m16: o18 o18 :angry2: :angry2: :serius2: :serius2: :serius2: o13 o13 :hao5: :hao5: :hao5: :katai1: :katai1: :mew4: :mew4: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-04-2016 20:18:58
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 04-04-2016 20:43:11
รังเกียจ ทอฟ้า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 04-04-2016 21:08:44
ทอฟ้านี่มันคนจัญ..จริงๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 04-04-2016 21:52:56
เฮอะ ท่าทางจะดีใจอยู่คนเดียว
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 04-04-2016 22:24:21
ทอฟ้าเลวมากพูดได้แค่นี้
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 04-04-2016 22:42:22
อีทอฟ้าาาาาาาาาา อีเลวววววววววว  :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: GMJeam ที่ 04-04-2016 23:01:44
ฟ้า นางมันบ้า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: aoraor ที่ 04-04-2016 23:35:01
คนที่โสโครกน่ะคือหล่อนย่ะ !!!! :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 04-04-2016 23:48:23
นังฟ้ามันรักลูกจริงๆ หรือทำแค่อยากเอาชนะอ่ะ นิสัยเธอน่ารักเกียจมากกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 04-04-2016 23:52:59
เอิ่ม นี่ลูกนะไม่ใช่ตุ๊กตา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: oilk ที่ 04-04-2016 23:56:12
 เอาน้องทอฟ้าออกไปจากโลกนี้ที  :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Cc-kun ที่ 05-04-2016 00:23:00
ทุเรศ
อ่านประโยคนี้แล้วรู้สึกเกลียดนางขึ้นอีกร้อยเท่า         
" ที่หนึ่งจะต้องรักวีอย่างที่เธอรักแน่ บอกสิจะมีอะไรที่ดีไปกว่า ได้อยู่กับลูกกับคนที่รักไปพร้อมๆ กัน! "
เหอะะะ ทำลายครอบครัคนอื่นก็อย่าหวังจะมีความสุขเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Tequila ที่ 05-04-2016 01:26:02
เกลียดทอฟ้าที่สุดอ่ะ เห็นแก่ตัวจริงๆ ปล. เอสหน้ากวนตีนไปนะ ส่วนพี่ตุลย์ก็หล่อเกินไป 555555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: NUBTANG ที่ 05-04-2016 20:55:58
เดี๋ยววีก็ได้ทุบตีที่หนึ่ง สำเร็จรูปพ่อเลี้ยงแบบทั่วไป เฮ้อ เอาลูกไปคืนตุลย์เถอะ  :ling2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Soda.wine ที่ 05-04-2016 22:51:32
 :serius2: :angry2:  ที่หนึ่งอย่ายอมนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 06-04-2016 14:52:59
สะเทือนตับไต เรื่องนี้คนชื่อฟ้ามาอ่านมีสะดุ้งเฮือกๆ #ซึ่งเราเป็นหนึ่งในนั้น แต่ก็แบบมันอดไม่อ่านไม่ได้ มันติดมากกก รักเอสหลงตุลย์เกลียดทอฟ้า จบปิ๊ง!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 06-04-2016 20:38:31
เฮ้อ คำเดียวเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 06-04-2016 20:50:20
ที่หนึ่งแผลงฤทธิ์เลยลูก  :z6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 06-04-2016 22:13:45
โอ้ยยย  อยากโบกหน้ายัยฟ้าจริงๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Pisoi ที่ 07-04-2016 01:53:53
เป็นผู้หญิงที่เห็นแก่ตัวมากอ่ะ
สงสารเอส  :hao5:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Natchapat.chanachon ที่ 07-04-2016 14:09:41
โอ๊ยยย~~ นังทอฟ้าาา~ เลวจริมๆ :z3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: jillongame ที่ 08-04-2016 17:29:22
ไรำบรรยาย ว่าแต่น่ะมาต่อไวๆเถอะอยากอ่านตอนกลับมาอยู่สี่คนละ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: GAZESL ที่ 13-04-2016 16:10:39
เฮ้อออออออ งานยากละะ :katai1:
ที่หนึ่งต้องเลือกแล้วลูก  :ling2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 07-05-2016 01:48:04
โอ้ยยย ชั้นเกลียดแกกกอิชะนีผีบ้านี่
ตรรกะบิดเบี้ยวอะไรเบอร์นั้นอะ คิดได้ไงว่าลูกจะรับได้
ขอให้โดนทิ้ง ขอให้โดนเท
ขอให้เสียทั้งลูก ขอให้เสียทั้งผัว
ขอให้ไม่เหลือใครเลย เพี้ยงงง
มาพรากลูก พรากพ่อ พรากคนรักกันงี้ ไปไกลๆเลยยยยย

ยังรออยุนะคะะTT
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: P.PIM ที่ 09-05-2016 09:16:40
พนันได้เลยว่าจะต่้องไม่ปลื้มที่หนึ่ง ถึงปากจะเคยบอกว่าให้พามาอยู่ด้วยก็เถอะ เพราะนั้นมันลูกของผู้ชายที่เมียตัวเองไปหาถึงสองครั้ง และที่หนึ่งจะรู้เองว่้ามันไม่มีความเท่าตอนอยู่กับพ่อตุลย์  :ling1: :ling1:

เกลียดฟ้าสุดไรสุด อยากได้ลูกก็มาแย่งไปเลยแล้วเอาเรื่องผิดเพศมาอ้าง น่าตบชะมัด  :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: นางสาวกานาเลส ที่ 11-05-2016 17:54:53
เกลียดทอฟ้าาา อะไรของนางไม่มีเหตุผลเลย สงสารพี่ตุลย์ สงสารเอส ฮือออออออ  :sad4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ตอนที่ 43 (04/04/59)
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 03-06-2016 00:33:45
อีฟ้า อีเ-ี้ย ไม่มีคำไหนจะด่า
คนเลวที่รู้ตัวว่าเลว
ยังดีกว่าคนเลวที่คิดว่าตัวเองดี
 :beat:
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 44 (25/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 25-06-2016 01:25:40
ตอนที่ 44



              ปันค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องที่มืดสนิท หันมองเพื่อนที่นอนพลิกไปพลิกมา พอเห็นทีท่าว่าจะไม่นิ่งง่าย ๆ จึงเอื้อมมือเขย่าให้คนที่นอนอยู่ข้าง ๆ ลืมตาตื่น


              “เอส มึงนอนไม่หลับหรอวะ? เอาแต่ขยับตัวยุกยิกตลอดเลย”

              “ขอโทษที” เอสพูดขอโทษเสียงเบาพลางลุกขึ้นนั่ง “คืนนี้กูคงนอนไม่หลับอีกแล้วแหละ กูจะลงไปอยู่ข้างล่างแล้วกัน”

              “มึงโอเคไหมเนี่ย? เห็นนอนไม่หลับมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ แล้วนี่จะลงไปทำไรวะ?” ปันเลิกคิ้วถามขณะเบี่ยงตัวหลบ ให้คนที่นอนอยู่ด้านในออกไปได้

              “ก็นอนตอนกลางวันมากไปเท่านั้นแหละ” เอสหัวเราะเสียงแห้ง “กูจะลงไปอ่านหนังสือสอบนะ อุตสาห์ไปเอาชีทซีร็อกตั้งแต่บ่าย ๆ เมื่อวานพอกินยาไปก็น็อคไม่ได้อ่านสักที”

              “กูว่าจะถามมึงอยู่แล้วหนังสือเรียนมึงอยู่ไหนอะ? ข้าวของมึงด้วยว่าจะถามเมื่อวานละ แต่กูลืม”

              “...กูลืมไว้ที่ห้องพักว่ะ”

              “เออ เมื่อวานอุตสาห์ไปเอาชีทซีร็อกจากเพื่อนแทนที่จะไปเอาหนังสือเรียนที่มึงลืมไว้เนาะคนเรา”

              “เออหน่า ๆ”


              เอสก้าวลงจากเตียง เขาอุ้มถุงที่อัดแน่นไปด้วยชีทซีร็อกที่ไปเอามาจากธันเพื่อนที่มหา’ลัย ตั้งใจจะลงไปอ่านอยู่ด้านล่างตามที่พูด แต่ทว่าปันกลับคว้าแขนเขาเอาไว้เสียก่อนที่จะเดินไปถึงประตูห้อง


              “กูว่าอย่าเลย มึงนอนเยอะ ๆ ดีกว่า หายสนิทก่อนแล้วค่อยอ่านหนังสือ กูกลัวแม่งจะเป็นเรื้อรังอะ”

              “มึงกังวลมากไปปะปัน มึงก็รู้ว่ากูแข็งแรงแค่ไหน เป็นหวัดแค่นิดหน่อยจะทำให้กูตายตอนอ่านหนังสือก็ให้มันรู้ไป”

              “...” เขาก็คิดอยู่แล้วว่าคงไม่ฟังหรอก สุดท้ายก็ต้องยอมปล่อยให้ได้ทำตามใจ ก็แค่ลองห้ามดูเผลอฟลุ๊คจะเชื่อฟังก็แค่นั้น “ก็ได้ แต่ถ้าดูแล้วไข้จะขึ้นมึงเลิกอ่านแล้วขึ้นมานอนเลยนะ เข้าใจไหม? เป็นสองวันแล้วเนี่ยกูไม่เห็นไข้มึงลดสักนิด”

              “ขอบคุณที่เป็นห่วงนะพ่อ”

              “พ่อ พ่อง”


              เอสหัวเราะ หันกลับไปกวนประสาทเพื่อนด้วยการดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้แล้วตบท้องกล่อมนอนไปอีกสองที ก่อนจะวิ่งปรู๊ดออกจากห้องพร้อมถุงชีท หนีเท้าของปันที่กำลังพุ่งเกือบถีบตูดของเขาเอง


              เด็กหนุ่มก้าวเดินลงบันไดอย่างช้า ๆ ท่าทางขี้เล่นหายไปราวกับมันเป็นเพียงหน้ากาก


              “แต่ถ้าดูแล้วไข้จะขึ้นมึงเลิกอ่านแล้วขึ้นมานอนเลยนะ เข้าใจไหม?”


              ถ้าไข้ขึ้นแล้วให้กลับมานอนงั้นหรอ...คงทำไม่ได้หรอก ถ้าต้องนอนจริง ๆ ก็คงต้องพึ่งโซฟาหรือไม่ก็พื้นละมั้ง ไม่รู้ทำไมทั้ง ๆ ที่ตอนกลางวันก็นอนได้หลับสบายดีบนเตียงแท้ ๆ แต่พอตอนกลางคืนกลับไม่เคยหลับลง เหมือนกับว่าร่างกายชินไปแล้วกับการนอนอยู่ในอ้อมกอดของใครบางคนที่ชอบเนียนมากอดไว้ด้วยเหตุผลงี่เง่าว่า ‘ติดหมอนข้าง’ นั่นไปซะแล้ว...


              น่าสมเพชชะมัด คิดจะออกมา ก็รู้อยู่แล้วว่าต้องเสียอะไรแท้ ๆ แต่ก็ยังโหยหาไม่เลิกสักที...














              ปันที่ยังนอนเท้าแขนอยู่บนเตียง คิดอยู่ว่าจะลงไปดูอาการของเพื่อนดีหรือไม่ เพราะเขาเคยได้ยินว่า ถ้าคนที่ไม่ค่อยป่วยแล้วมาป่วย ก็มักจะป่วยหนักหรือไม่ก็เป็นเรื้อรังหายช้า เพื่อนตัวดีของเขาไม่ว่าจะทำงานหนักแค่ไหน อดหลับอดนอนยังไง หรือแม้แต่เพื่อนทั้งกลุ่มเอาหวัดไปหามัน มันก็ไม่เคยติด ไม่เคยป่วยเลย แต่ตากฝนแค่นี้กลับไม่สบายเสียอย่างนั้น ต่อให้ปากบอกว่าไม่สบายนิดหน่อยก็เถอะ แต่ขนาดบังคับให้กินยาทั้งเช้า เที่ยง เย็น เมื่อวานแล้วก็วันนี้ก็ไม่เห็นไข้จะลดเลยสักนิดเดียว


              แต่ก็อย่างที่เอสพูด ‘แค่อ่านหนังสือจะตายให้มันรู้ไป’ มันไม่มีอะไรหรอก โต ๆ กันแล้วดูแลตัวเองกันได้ทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องมากังวลแบบนี้เลยสัก


              “อ๊ากกกก! ให้ตายเถอะ”


              ปันกรีดร้อง สุดท้ายก็รู้สึกกระวนกระวายจนอดไม่ไหวลุกพรวดจากเตียงลงไปหาเพื่อนที่อ่านหนังสืออยู่ชั้นล่างเช็คดูให้ตัวเองแน่ใจว่ามันยังไม่ตายคาชีทเรียนไปเสียก่อน!


              ขณะที่ปันกำลังเดินลงบันได้จนเกือบถึงข้างล่างอยู่นั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงฟึดฟัดเหมือนคนหายใจไม่ค่อยออกลอยมาเบา ๆ พอชะโงกหน้าไปดูก็เห็นเพื่อนตัวดีกำลังอุดจมูกข้างนึงแล้วพ่นลมออกอีกข้างหนึ่งอย่างเอาเป็นเอาตาย


              “มึงทำอะไรอยู่วะเอส?”


              ปันส่งเสียงทัก เขาชะงักเท้าที่กำลังเดินเข้าไปหาเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนที่หันมาดูย่ำแย่จนน่าตกใจ ทั้งตาทั้งจมูกแดงกล่ำแล้วยังมีคราบน้ำตาเปรอะหน้าเต็มไปหมด!


              “มึงลงมา...”

              “มึงร้องไห้หรอ!?” ปันคว้าทิชชู่ที่อยู่บนชั้นเหนือทีวีถลาเข้าไปหาเพื่อนจนอีกฝ่ายต้องผงะด้วยความตกใจ “มึงโง่หรือโง่เนี่ย ไม่รู้หรอไงว่าคนไม่สบายไม่ควรร้องไห้ พอดีทั้งน้ำตาทั้งขี้มูกอุดตันหลอดลมตายห่า ไม่ต้องหายใจหายคอ! แล้วสั่งฟืด ๆ เมื่อกี้คิดว่ามึงจะหายใจออกหรอ กำเดาจะไหลน่ะสิไม่ว่า! ถ้ามึงเอาขี้มูกหรือน้ำตาออกมาไม่หมด มึงก็แดกมันกลับเข้าไปเลย!”

              “ก่อนที่มึงจะมาห่วงอาการบ้าบออะไรของกู มึงควรจะถามกูก่อนปะ! ว่ากูร้องทำไม”

              “เสียงอุบาทฉิบหาย” ปันทำหน้าแหย “อะแล้วมึงร้องไห้ทำไม?”

              “..”

              “เนี่ย พอกูถามมึงก็ไม่ตอบ กูรู้คนอย่างมึงถ้าไม่อยากเล่าก็คือไม่อยากเล่า แล้วจะให้กูถามทำไม แม่กูบอกว่าให้ดูแลมึงอย่าให้ตายคาบ้านเฉย ๆ แล้วทำไมกูต้องมาเสือกเรื่องอื่นที่มึงก็ไม่อยากให้กูเสือกด้วย หรือมึงเป็นพวกปากบอกไม่มีอะไร แต่ในใจรอให้คนมาถาม มาสนใจงี้หรอ?”

              “กูแค่บอกว่าปกติถ้าเห็นอะไรแบบนี้มันก็ต้องถามก่อนว่าร้องไห้ทำไม ไม่ได้บอกมึงให้มาถามกูสักคำว่ากูเป็นห่าอะไร”

              “เออ กูก็ไม่ได้ด่ามึงนี่ กูแค่จะสื่อว่า กูไม่ยุ่งเรื่องที่มึงไม่อยากให้ยุ่งหรอก”

              “...”

              “แต่ถ้ามึงอยากให้ใครรับฟังมึง...กูก็อยู่ตรงนี้เสมอ”


              เอสนิ่งค้างไปด้วยความตกใจไปกับคำพูดและสีหน้าที่จริงจังที่ไม่ได้พบเห็นบ่อย ๆ นั่น ก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมาเสียงดังจนต้องฟุบหน้าลงกับโต๊ะ


              “มึงบอกว่าไม่ได้ด่ากูหรอ กูอยากอัดคลิปตอนที่มึงพูดแล้วให้มึงดูจัง อีกนิดกูนึกว่ามึงจะเข้ามาต่อยกูแล้วเนี่ย”

              “เปล่าสักหน่อย กูพูดเสียงอย่างนี้เป็นปกติ หน้านี้ก็เป็นตั้งแต่เกิด”


              เอสเท้าคางมองคนที่กำลังพูดแก้ตัว เพื่อนสนิทตั้งแต่ ม.ปลายที่มักจะพูดเหมือนไม่สนใจและทำหน้าติดจะรำคาญ แต่กลับเป็นคนที่อยู่ข้าง ๆ เวลาที่ต้องการความช่วยเหลือ ก็ยื่นมือมาเสมอ ครั้งนี้ก็ด้วย เพียงแค่เปิดประตูต้อนรับแล้วก็ไม่ถามอะไรสักคำ


              ปัน มักจะทำเพียงแค่ทำให้เขารู้สึกสบายใจที่สุด โดยไม่รื้อฟื้น ไม่ค้นหา ไม่รีดคั้นใด ๆ ทั้งสิ้น


              “กูกับเขาเลิกกัน ทั้ง ๆ ที่ก็ยังรักกันอยู่ว่ะ”

              ปันเลิกคิ้วเดินอ้อมไปอีกด้านของโต๊ะก่อนจะนั่งลงประจันหน้ากัน “ถ้างั้นจะเลิกทำไม?”

              “มันไม่ถูกต้อง”

              “ไม่ถูกต้องอะไร? ไปเป็นกิ๊กใครหรือไง หรือมึงเอาใครเป็นกิ๊กหรอ?”


              เอสมองหน้าเพื่อนสนิทด้วยความลังเล อ้าปากเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่มีเสียงอะไรหลุดรอดออกมา ก่อนที่สุดท้ายเขาจะถอนหายใจ แล้วเปิดปากบอกออกไป


              “ผู้ชาย...คนที่กูคบอยู่ เป็นผู้ชาย”

              “...มึงเป็นเกย์หรอวะ?”

              “กูก็ไม่รู้ว่าเป็นหรือเปล่า เพราะผู้ชายที่กูชอบ ก็ยังมีแค่เขาคนเดียว แล้วกูก็ยังไม่เคยมองผู้ชายคนไหนเป็นอาหารตาด้วย”


              ปันยกมือขึ้นเบรก กุมขมับอย่างใช้ความคิด


              “กูก็แอบเคยคิดนะว่ามึงเป็นหรือเปล่าก่อนหน้านี้ที่มึงมาถามกูว่าเกลียดเกย์ไหมนั่นไง แต่กูก็ไม่คิดว่ามึงจะ...คบผู้ชายจริง ๆ...เออ ไอ้ก่อนหน้านี้ที่มึงมาขอคำปรึกษากูอะไรนั่น ก็...กับผู้ชายคนนี้หรอ?”

              “อืม...มึงรังเกียจปะวะ?”

              “เฮ้ย ไม่ ๆ กูก็แค่ตกใจเฉย ๆ เอสมึงต้องย้อนกลับไปดูตัวมึงเมื่อก่อน คือมึงชอบผู้หญิงมากจนกูไม่คิดว่ามึงจะมาทางสายนี้ได้ แต่กูก็เข้าใจนะบางเรื่องมันก็ห้ามไม่ได้ว่ะ แล้วกูก็เคยบอกแล้วไงว่ากูไม่ซีเรียสเรื่องเพศ นอกจากจะเป็นกระเทยแล้วมากรี๊ดกร๊าดใส่กู อันนี้เป็นข้อยกเว้นของกู...ช่างมันเถอะ แล้วยังไง มึงเกิดคิดขึ้นได้ว่าชายรักชายมันไม่ถูกต้อง ก็เลยบอกเลิกเขาหรอ?”

              “คนที่กูคบเขามีลูกติด แล้วลูกเขาถูกเอาไป...เพราะเขาคบกับกู”


              ปันตกใจแต่ถึงอย่างนั้นก็พยายามยอมรับมันอย่างรวดเร็วไม่คิดจะติดความอะไรเพราะเขามีความรู้สึกว่านี้ไม่ใช่ปัญหาวัยรุ่น มันเป็นเรื่องใหญ่กว่าที่เขาคิด!


              “เอส มึงต้องเล่ามาให้ละเอียดแล้วละ”

              “อือ”


              เสียงนั่นดังขึ้นก่อนเรื่องทั้งหมดจะถูกเล่าออกไป


              …


              เป็นเวลาเกือบชั่วโมงที่เอสใช้ในการเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้กับเพื่อนสนิทฟัง เล่าทุกอย่างตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน เล่าทุกสาเหตุ เล่าทุกเหตุผลที่ทำให้เขามอบหัวใจให้ผู้ชายคนหนึ่งได้อย่างไม่ลังเล เล่าวินาทีที่เริ่มต้น จนถึงวินาทีที่สิ้นสุด ทุกคำพูดทุกสีหน้าที่จำได้ดีไม่มีลบเลือน ภาพของที่หนึ่งถูกเอาตัวไปพร้อมกับตราบาปยิ่งใหญ่ประทับลงกลางหน้าผาก ประจานว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะเขาคนนี้


              ...เพราะเข้ามาในชีวิตของครอบครัวนี้ เอาความวิปริตเข้ามาในบ้านอย่างที่ทอฟ้าได้พูดเอาไว้


              “เพียงถ้ากูไม่ชอบเขา ไม่คบกับเขาแล้วคิดอะไรให้มันมาก ๆ มองอะไรให้มันกว้าง เรื่องนี้มันก็คงไม่เกิด ที่หนึ่งก็คงไม่ถูกเอาตัวไป”


              เสียงนั้นสั่นเครือ ใบหน้าของเอสถูกซ่อนไว้ใต้ฝ่ามือ สองวันที่เขาได้นั่งคิดเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า นอกจากความเสียใจที่จุกอก ความรู้สึกหนึ่งก็ก่อตัวขึ้นมือความรู้สึกของการอยากจะขอโทษ


              ขอโทษกับเรื่องที่มันเกิดขึ้น...


              ขอโทษที่ทำให้ครอบครัวต้องพัง…


              ปันถอนหายใจ “เพราะงั้นมึงก็เลยบอกเลิกเขา เพื่อไม่ให้ถูกหาว่าเป็นเกย์แล้วก็จะได้ลูกคืน?”

              “ให้พี่ทอฟ้ารู้ว่าที่พี่ตุลย์คบกับกูมันแค่หลงผิดชั่วครั้งชั่วคราว เป็นแค่อารมณ์อยากรู้อยากลอง กูเองที่ไปล่อลวงเขามา จะได้คืนลูกให้พี่ตุลย์เหมือนเดิม”

              “มึงคิดอย่างนี้จริงดิ? นี่ปะที่เขาเรียกว่าไม่ว่าเรียนสูงเรียนต่ำแค่ไหน เรื่องความรักของตัวเองก็โง่เหมือนกันหมด” ปัน เท้าแขนกับโต๊ะจ้องมองเพื่อนที่นั่งอยู่ตรงข้ามด้วยสายตาที่จริงจัง “มึงคิดจริง ๆ ดิ ว่าทำแบบนี้แล้วผู้หญิงที่ชื่อทอฟ้าอะไรนั่นจะยกลูกคืนให้แฟนมึง”

              “...”

              “ถ้าเป็นกู กูไม่คืนให้หรอก มึงเป็นคนบอกเองไม่ใช่หรอว่าก่อนหน้านี้เขาทะเลาะกันเพราะว่าผู้หญิงคนนั้นอยากได้ลูกไปเลี้ยงเอง แล้วนี่เขาก็มีโอกาสแล้ว มึงคิดว่าเขาจะปล่อยลูกกลับมาเพียงเพราะว่าพ่อของลูกเขาเลิกกับมึงหรอ?”

              “...”

              “มึงอย่าลืมว่าผู้หญิงคนนั้นอ้างว่า ที่เขาจะเอาลูกไปเพราะว่าพ่อเด็กมันเป็นเกย์ เกย์อะคือสิ่งที่เป็นตลอดไป ไม่ได้หมายถึงสถานการณ์ ๆ ที่แบบ พอเลิกกับมึงเขาจะหายเป็น ต่อให้เขาเลิกกับมึงไปเป็นสิบปี ผู้หญิงคนนั้นก็เอาคำว่า ‘เกย์’ มาอ้างได้ แค่เนี่ย มึงคิดไม่ได้หรอเอส?”

              “แล้วมึงจะให้กูทำยังไง...เรื่องแค่นี้ทำไมกูจะคิดไม่ได้ กูรู้ดีอยู่แล้วว่าการเลิกกับพี่ตุลย์ไม่ได้ทำให้เขาจะได้ลูกคืนร้อยเปอร์เซ็น แต่มันก็ยังมีความเป็นไปได้มากกว่า ถ้าเขายังคบกับกู! กูอยู่กับเขา กูก็ช่วยอะไรไม่ได้ นอกจากยิ่งทำให้เขาถูกตราหน้า ไม่มีสิทธิที่จะได้ลูกคืน แล้วยังอาจจะเร่งให้เขาโดนเอาลูกอีกคนไปอีก แล้วอย่างงี้มึงจะให้กูทำยังไง!”


              ปันอึกอักพอเห็นน้ำตาของเพื่อนไหลลงมาแต่ก็ถูกปัดออกลวก ๆ ด้วยท่าทางหงุดหงิดกับความอ่อนแอที่แสดงออกมาไม่หยุดสักที


              ...เขาก็ไม่รู้จะพูดว่ายังไงเหมือนกัน ในเมื่อมันไม่ใช่เรื่องราวที่คนทั่วไปจะพบเจอ เขาก็คงทำได้เพียงแค่นั่งอยู่ตรงนี้ เวลาที่เพื่อนต้องการก็เท่านั้น


              “กูไม่อยากเลิกกับเขา...กูน่ะรักเขามากจริง ๆ นะปัน ฮึก...”

              “...กูก็อยากจะสงสารมึงนะเอส แต่กูว่าคนที่น่าสงสารมากกว่าคือคนที่ชื่อตุลย์ว่ะ เขาเสียลูก แล้วเขาก็ยังเสียมึง ถ้าวันนี้เขาไม่ได้ลูกกลับมา มึงคิดว่าตอนนี้เขามีใครที่ปลอบโยนเขาอยู่ว่ะ มึงยังดีที่มึงยังมีกู แล้วเขาละ ไม่ใช่ว่าเขามีแค่มึงหรอ

              “...”

              “เฮ้อ...ไปนอนเถอะ ดึกมากแล้ว มานั่งเครียด นั่งเสียใจจนถึงเช้าก็ไม่ทำให้อะไรดีขึ้นมา”


              ปันลุกขึ้นยืน ยืดแขนยืดขาเตรียมตัวจะขึ้นไปนอนข้างบน เขาสะกิดไหล่เรียกเพื่อนให้ขึ้นไปด้วยกัน แต่เอสกลับไม่ยอมขยับตาม เอาแต่ก้มหน้ามองมือตัวเองที่ประสานวางอยู่หน้าตัก


              “เอส?”

              “ปัน...กูลืมของทุกอย่างไว้ที่ห้องเขาว่ะ กูว่าจะไปกลับไปเอา”

              “หา? อะไร? ค่อยไปเอาพรุ่งนี้ก็ได้”

              “ไม่ได้ กูต้องไป วันนี้” เอสเงยหน้าขึ้นสบตากับเพื่อนสนิท “และกูต้องไปเดี๋ยวนี้”


              ปันเองก็สบตากลับไป เขามองความลังเลที่ฉายสลับกับความเด็ดขาดก่อยจะยกยิ้มอ่อนอกอ่อนใจให้กับเพื่อนรัก


              “กูให้ยืมค่าแท็กซี่แล้วกัน”












              ทันทีที่รถจอดสนิท เอสก็ยื่นเงินที่เตรียมเอาไว้พอดีจำนวนให้กับคนขับ ก่อนจะถลาลงไปด้วยความเร่งรีบ เด็กหนุ่มไม่เสียเวลาแม้จะเงยหน้ามองตัวตึก เขาเดินจ้ำอ้าวยาว ๆ ไปจนถึงหน้าประตูคอนโด ชะเง้อมองเข้าไปข้างในหาใครสักคนที่จะช่วยให้เขาเข้าไปได้


              หลังจากที่สอดส่ายตาอยู่เพียงชั่วครู่ ก็มีแม่บ้านที่คุ้นหน้าคุ้นตาเดินลงมาจากชั้นสอง เธอมองเห็นเอสแล้วทำสีหน้าประหลาดใจ แต่ก็ยอมเดินไปเปิดประตูคอนโดฯ ให้ตามที่อีกฝ่ายได้ทำมือเป็นสัญลักษณ์


              “ทำไมถึง...”

              “ขอบคุณมากครับ ไม่มีอะไรหรอกครับ พอดีผมลืมบัตรไว้ที่ห้อง”


              เอสพูดขอบคุณอย่างรวดเร็ว ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ชวนคุยเหมือนทุกที เขาพุ่งตัวเข้าไปในลิฟต์ กดชั้นที่ห้องนั้นอยู่แล้วกดปิดประตูลิฟต์อย่างรวดเร็ว!











              หลังจากที่ประตูลิฟต์เปิดออก เอสก็ไม่รอช้าที่จะพุ่งไปตามทางที่เขาคุ้นเคย หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ หายใจเหนื่อยหอบเพราะความร้อนใจ จนในที่สุดเขาก็หยุดยืนอยู่หน้าประตูห้อง ‘B8002’


               ...ห้องที่เขาอยากอยู่ไปทั้งชีวิต


              ขณะที่เอสกำลังเคาะเรียกคนที่อยู่ด้านใน เขากลับนึกขึ้นได้ว่านี่มันตีสองเข้าไปแล้ว เคาะไปเจ้ของพักก็คงไม่ได้ยินเสียง หรือถ้าได้ยินมันก็เป็นการปลุกให้ตื่นขึ้นมาซึ่งเขาไม่อยากทำตัวมีปัญหาแบบนั้น


              “ให้ตายเถอะ” เอสสบถพร้อมกับซบหน้าผากลงกับประตูไม้อัดสีขาว


              ...แต่ว่า เขาอยากเจอ อยากเจอมากจริง ๆ


              และสุดท้ายก็มันก็ทำให้เขาตัดสินใจที่จะเคาะประตู เพียงแค่ขอให้ได้เรียก ขอให้ได้รู้สึกว่ามาหาแล้ว ต่อให้คนในห้องจะไม่ได้ยินก็ไม่เป็นไร เขารอได้


              รอจนถึงเช้าเขาก็จะรอ...


              ก๊อก ก๊อก...


              เอสลดระดับมือลงหลังจากได้ทำในสิ่งที่อยากทำ เขานั่งหลังชนกับประตูไม้ กอดเข่าตัวเองไว้แล้วเอนศีรษะพิงกับประตู


              “เขาเสียลูก แล้วเขาก็ยังเสียมึง ถ้าวันนี้เขาไม่ได้ลูกกลับมา มึงคิดว่าตอนนี้เขามีใครที่ปลอบโยนเขาอยู่ว่ะ”

“เอส...”


              เจ้าของชื่อเงยหน้าตามเสียงเรียกด้วยความตกตะลึง เขาลุกพรวดออกจากหน้าประตูเผชิญหน้ากับคนที่ตกใจไม่ต่างกัน!


              ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจจะแค่มาเอาของคืน แค่เพื่อจะมาถามว่า ที่หนึ่งกลับมาแล้วใช่หรือเปล่า แต่พอเจอหน้า ทุกอย่างมันเลือนหายไปหมด เหลือแค่คำว่า ‘คิดถึง’ คิดถึง คิดถึง คิดถึงจนไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งเขาจะคิดถึงใครได้มากขนาดนี้เพียงเพราะไม่เจอหน้าเพียงแค่ 2 วัน


              คิดถึง...คิดถึงมาก ๆ เลย


              “ผม...มาเอาของที่ลืมไว้ที่นี่น่ะ”

              “อ๋อ...เขามาก่อนสิ”


              เจ้าของห้องเบี่ยงตัวหลบให้ผู้ที่มาเยือนได้เดินเข้ามา เอสผงะกับความมืดเล็กน้อยก่อนจะกวาดตามองรอบ ๆ เขาเห็นเพียงหน้าจอทีวีที่เหมือนกับเปิดทิ้งค้างเอาไว้ กับ...


              “ทำไมพี่มานอนที่โซฟา ไม่ไปนอนในห้องดี ๆ” เอสถามคนที่เดินตามอยู่ข้างหลัง หลังจากที่เห็นพวกหมอน ผ้าห่มกอง ๆ อยู่บนโซฟาเหมือนคนที่นอนไปแล้วแล้วลุกขึ้นมา

              “นอนในห้องไม่หลับน่ะ” ตุลย์ตอบ เดินไปดึงผ้าห่มที่เกือบตกพื้นขึ้นไปบนโซฟาดี ๆ “เพราะว่าไม่ชินละมั้ง”

              “...” เอสชะงัก เขาก็เหมือนกัน เขาอยากจะตะโกนบอกออกไปว่าเขาก็ไม่ต่างกัน...แต่เขาทำได้เพียงปล่อยให้มันก้องอยู่ในใจเช่นเดียวกับคำว่า ‘คิดถึง’ ”งะ งั้นหรอ”

              “ถ้าจะจัดของ เอามาไว้ข้างนอกก็ได้ ตอนต้นนอนไปแล้ว เดี๋ยวจะตื่นเอา”

              “อือ โอเค”   

              “ให้ฉันช่วยไหม? จะได้ไม่ต้องขนหลายรอบ”

              “ไม่เป็นไรหรอกของผมน้อยจะตายไป” เอสเดินเข้าไปในห้องนอน ตรงไปยังกองข้าวของของตัวเองที่เขากวาด ๆ เอาไว้เข้ามุม คว้ากระเป๋าเสื้อผ้ากับหนังสือเรียนพร้อมกันเพื่อลดจำนวนรอบ แต่มันก็ทุลักทุเลจนตุลย์ที่ยืนดูอยู่ ต้องเดินเข้ามาช่วยถือพวกหนังสือให้ “เฮ้ย ไม่เป็นไร”

              “ไม่เป็นไรอะไร ของจะตกอยู่แล้ว ตั้งใจจะให้ลูกฉันตื่นหรอไง?”

              “ก็...เปล่า”


              เอสตอบเสียงเบายอมรับความช่วยเหลือนั้นในที่สุด ก่อนที่ทั้งคู่จะช่วยกันขนของมากองรวมกันไว้หน้าทีวี ทั้งสองใช้เวลาอยู่ไม่นานนักของทั้งหมดก็ถูกย้ายออกมา แต่เอสกลับกันตุลย์ออกตอนที่เขาจะมาช่วยจัดของ


              บรรยากาศรอบอึดอัดเมื่อเอสบอกให้ตุลย์นั่งลงโซฟาแล้วตัวเองไปจัดของอยู่เงียบ ๆ คนเดียว แน่นอนว่าสำหรับเอสเป็นช่วงเวลาที่เขาไม่ชอบและไม่คุ้นชินที่สุด อยากจะคุยเล่นให้บรรยากาศดีขึ้นเหมือนที่เคยทำมาตลอด แต่กลับทำอะไรไม่ถูกเหมือนทุกที  สุดท้ายเขาก็เลยเลือกที่จะพูดถึงสิ่งที่เขาอยากรู้มากที่สุด


              ...สิ่งที่ทำให้เขามาที่นี่


              “ที่หนึ่งน่ะ...นอนอยู่ในห้องใช่ไหม?”

              ตุลย์เงียบไปชั่วอึดใจก่อนจะตอบออกมา “ที่หนึ่งยังอยู่กับฟ้าน่ะ”


              ราวกับฟ้าผ่าลงกลางใจ เขาเองก็เคยคิดอย่างที่ปันคิด ว่าผู้หญิงคนนั้นไม่มีทางพาที่หนึ่งมาคืนเพียงเพราะว่าเขากับตุลย์เลิกกัน ไม่ใช่ว่าเพราะคิดไม่ได้ แต่มัน ‘ทำได้แค่นั้น’ มันทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่านั้น ถึงได้เชื่อมั่นว่าถ้าเขาสองคนเลิกกัน ที่หนึ่งจะกลับมา ผู้หญิงคนนั้นจะคืนที่หนึ่งให้ แล้วอะไร ๆ ก็จะเป็นเหมือนเดิม


              แต่สุดท้าย...มันก็เป็นความเชื่อมั่นที่เลื่อนลอย มันช่วยอะไรไม่ได้เลย! ไม่ไป ก็ยิ่งทำให้เรื่องมันแย่ แต่ไป ก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น!


              “ผมขอโทษนะ ผมขอโทษที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทุกอย่างมันก็เพราะผมเอง เพราะผมเข้ามาในชีวิตพี่...พอชอบพี่ ก็มัวแต่อยากให้รักสมหวัง มองแต่ตัวเอง ไม่ได้สนใจผิดถูก...ไม่แม้แต่จะคิดว่ามันจะสมควรหรือเปล่า ผมขอโทษนะพี่ตุลย์ ผมขอโทษ...”

              “อย่าร้องไห้”


              ตุลย์ลงมาจากโซฟาเช็ดน้ำตาให้อย่างเบามือ เป็นน้ำตาที่ไม่ได้มาคู่กับเสียงสะอื้นแต่อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกโทษตัวเอง จนแทบจะทนมองมันไม่ได้


              “ผมทำเรื่องนี้ให้มันเกิดขึ้น แก้ไขอะไรก็ไม่ได้ แค่อยู่ข้าง ๆ พี่ผมก็ยังทำไม่ได้ ทำไมผมถึงเอาแต่สร้างปัญหา ช่วยอะไรพี่ไม่ได้สักอย่าง!”

              “มันไม่ใช่อย่างนั้นเอส”

              “อะไรที่ไม่ใช่!? พี่ยังทำตัวใจเย็นอยู่ได้ แต่ผมรู้ยิ่งกว่ารู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคนที่เสียใจที่สุดก็คือพี่ แล้วใครทำให้มันเกิดขึ้น ก็ผม แล้วตอนนี้ตอนที่พี่เสียใจที่สุด ผมไปอยู่ไหน ผมก็ไม่ได้อยู่ข้างพี่! ผมทิ้งพี่ไว้ แล้วก็เอาแต่คิดว่าถ้าผมไปซะ เรื่องมันจะได้จบ ๆ! ผมเอาแต่..”

               “พอได้แล้วเอส!”

              “...”

              “หยุดโทษว่าเป็นความผิดตัวเองสักที ถ้านายคิดว่าตัวเองทำผิด แล้วฉันละไม่ได้ทำผิดหรอไง? ฉันเป็นพ่อเขาแท้ ๆ แต่ก็ยังเลือกจะกอดนายไว้ ฉันไม่แย่กว่าหรอ? แต่โทษตัวเองไปมันไม่ช่วยอะไรได้ ต่อให้โทษให้ตาย มันก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ใช่ฉันเสียใจที่ที่หนึ่งใม่มีทางได้กลับมา แต่คนที่เอาเขาไปก็คือแม่ของเขาเอง ถ้าลูกของตัวเองยังดูแลไม่ได้ก็ให้มันรู้ไป ชีวิตที่หนึ่งอาจจะดีกว่าตอนที่อยู่กับฉันก็ได้…”

              “...”

              “แต่ถ้านายยังรู้สึกผิดมากขนาดนั้น ถ้ายังหยุดโทษตัวเองไม่ได้ก็แก้ตัวซะตอนนี้”


              ตุลย์จ้องมองเข้าไปในแววตาที่เคลือบไปด้วยน้ำใส มองให้ลึกลงไปถึงข้างในไม่ให้มีที่ซ่อนก่อนที่เขาจะประทับริมฝีปากจูบคนตรงหน้า


              “...”

              “ฉันยังอยู่ไม่ได้เอส เพราะงั้นแค่คืนนี้อย่าเพิ่งทิ้งฉันนะ ตอนเช้าจะหายไปก็ได้ แต่คืนนี้จับมือฉันไว้ที”





TBC

ขอโทษที่มาช้า (ไม่) เล็กน้อย แต่ในที่สุด ก็เปิดจองหนังสือได้สักที จุดพลุ!! วาดเอง จัดเอง ทำเองไปเลยทุกขั้นตอนนน เสร็จสมบูรณ์แบบ จนแทบจะระเหยลงไปกับพื้น T v T


ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ แฟนเพจ ด้านล่างนะจ๊ะ นะจ๊ะ
CLICK (https://www.facebook.com/nistawriter/)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง!!!!!!!! ep. 44 - เปิดจอง (25/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 25-06-2016 06:21:22
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง!!!!!!!! ep. 44 - เปิดจอง (25/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 25-06-2016 08:02:44
 :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง!!!!!!!! ep. 44 - เปิดจอง (25/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Natsuki-ChaN ที่ 25-06-2016 10:13:38
 :sad4:  :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง!!!!!!!! ep. 44 - เปิดจอง (25/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 25-06-2016 10:26:59
เอสอย่าทิ้งพี่ตุลย์ไปเลยนะ น่าสงสารทั้งสองคนจัง
ส่วนยัยทอฟ้าน่ะ จับโยนลงแม่น้ำน่าจะดีกว่า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 44 (25/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 25-06-2016 13:24:16
กอดพี่ตุลย์ กอดเอส



และกระชากปันปัน  มาจุ๊บปากรัวๆๆ



ชอบปันปัน เพื่อนที่ดูจะพึ่งไม่ได้



แต่ไม่เคยทิ้งเพื่อน กอดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 44 (25/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 25-06-2016 13:32:47
ปันปันทำดีมาก เอส จับมือนั้นไว้ไปตลอดเลยเถอะ อย่าปล่อยเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 44 (25/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-06-2016 21:30:50
ยัยฟ้านี่เมื่อไหร่จะเอาลูกมาคืน !!!!
สงสารพี่ตุลกับเอสจัง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 44 (25/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-06-2016 21:35:15
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 44 (25/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Arancia ที่ 25-06-2016 21:39:12
แง้ สงสารทั้งคู่เลย ยัยฟ้า เอาที่หนึ่งคืนมานะ
คนเค้าจะรักกันก็ขวางซะ ไปอยู่กับสามีเธอไป๊ !!!

อินจัด เอาใจช่วยและรออ่านจ้า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 44 (25/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 25-06-2016 21:52:59
น่าสงสารทั้งคู่เลย น้ำตาไหล
กอดกันไงว้ก่อนได้มั้ย ฮือ
ถ้าปันไม่เตือนสติเอสก็คงยังไม่กล้บมา
ฟาดยัยฟ้าแรงๆสักที โอ๊ยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 44 (25/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: decem ที่ 25-06-2016 22:33:38
 :o12:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 44 (25/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: YADA ที่ 25-06-2016 23:53:32
 :mew2: ร้องไห้ตาม สงสารจริงๆ เรื่องลูกๆเรื่องเด็กๆอิยี่เปราะบางค่ะ พี่ตุลย์เข้มแข็งเน้อ..
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 44 (25/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 27-06-2016 12:19:03
 :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 44 (25/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 27-06-2016 13:03:14
สงสารทั้งสองคน แต่ตอนนี้คงมัวแต่โทษตัวเองไม่ได้แล้วล่ะนะ เพราะมันไม่ช่วยอะไร
แต่ลองคิดดูก่อนหน้าที่เอสจะมาห้อง พี่ตุลย์คงแย่แน่ๆ อย่างที่ปันว่า พี่ตุลย์ไม่มีใคร รู้สึกสงสารมาก

เอสคืนนี้ก็อยู่เป็นเพื่อนพี่ตุลย์ไปก่อนนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 45 (30/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 30-06-2016 21:28:30
ตอนที่ 45




             “ที่หนึ่งครับ ไปนอนกันเถอะ แม่เริ่มง่วงแล้วละ”


             ทอฟ้าหาววอดขณะนั่งดูการ์ตูนเป็นเพื่อนลูกชายที่ยังตาสว่างและไม่มีทีท่าว่าจะง่วงสักที


             “ถ้าแม่ง่วงแล้วไปนอนก่อนก็ได้ เดี๋ยวที่หนึ่งตามไป”

             “ไม่เอาอะ แม่อยากนอนพร้อมที่หนึ่ง” ทอฟ้าพูดพร้อมกับโถมตัวใส่ลูกชายพลางพูดอ้อน “ไปนอนกันเถอะ แม่ง่วงแล้วก็เพลียมากเลยนะ”

             “ถ้างั้นไปนอนก็ได้ จริง ๆ ที่หนึ่งยังไม่ง่วงเลยแต่ที่หนึ่งจะไปนอนกับแม่นะ” เด็กน้อยยิ้ม

             “ดีมากลูกรัก!” ทอฟ้ากอดแน่นก่อนจะดึงแขนทีหนึ่งให้ลุกขึ้นตามมา เตรียมจะพาเข้านอนที่ห้องนอนแขกด้วยกัน

             “ฟ้ามานี่หน่อยสิ”


             สองแม่ลูกหันตามเสียงที่เรียกอยู่บริเวณทางเชื่อมระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนใหญ่ ทันทีที่หนึ่งเผลอไปสบตากับผู้ชายที่ถูกแนะนำว่าเป็น ‘สามี’ ของแม่ ร่างกายของเด็กน้อยก็หยุดกึกเผลอเบียดตัวเข้าหาคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อัตโนมัติ


             “พี่วีมีอะไรหรอ?”


             ทอฟ้าปล่อยมือที่จับมือลูกชายไว้ เดินไปหาผู้เป็นสามีตามที่ถูกเรียก พลางยื่นมือช่วยปลดเสื้อสูทถอดเนคไทอย่างเคย ๆ


             “เข้าไปนอนที่ห้องซะ”


             มือที่กำลังช่วยรูดเนคไทออกชะงัก เมื่อคนตรงหน้ากระซิบคำสั่งข้างหู เธอเผลอขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดเอาแต่ใจนั้นก่อนจะถามเสียงขุ่น


             “หมายถึงอะไร? เข้าไปนอนในห้องเราหรอ?”

             “ใช่ ฟ้าคิดว่าคืนนี้ตัวเองจะได้ไปนอนกับลูกแล้วทิ้งให้พี่นอนคนเดียวสามคืนเลยหรือไง! นี่ก็ยอมจนเกินทนแล้ว” วีกดเสียงต่ำแต่แฝงไปด้วยความคุกคามและควบคุม

             “แต่ฟ้าทิ้งให้ลูกนอนคนเดียวไม่ได้”

             “เด็กนั่นโตแล้วนะ! สิบขวบแล้ว ไม่ใช่เด็กสามสี่ขวบ...แล้วอีกอย่างพี่ก็ยังไม่ได้เคลียร์เลยนะ ทั้งเรื่องที่ออกจากบ้านไปดึก ๆ เอาลูกของฟ้ามาที่นี่ แล้วยังไปหาเมื่อตอนกลางวันก็ไม่เจออีก ทั้ง ๆ ที่บอกตอนเช้าแล้วว่าจะไปหา!”


             เสียงท้ายประโยคดังจนทอฟ้าเผลอหันไปหาลูกที่ตัวเองทิ้งไว้ให้รอด้วยความตกใจ เธอรู้ว่าถ้าไม่อธิบายที่นี่และตอนนี้ มีหวังได้เกิดเรื่องขึ้นแน่ จึงตัดสินใจบอกที่หนึ่งให้รออยู่ที่เดิม ก่อนจะดึงแขนของสามีเข้าไปในห้องนอนใหญ่แล้วล็อคประตู


             “ที่หนึ่งก็ยืนอยู่ไม่ไกล พี่จะพูดอะไรก็คิดถึงใจลูกฟ้าบ้างสิ!”


             ทันทีที่เหลือกันเพียงสองคน ทอฟ้าก็เริ่มต้นขึ้นด้วยคำตำหนิ แต่ดูเหมือนว่าวีจะไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เขาเพียงแค่รูดเนคไทออกจากคอแล้วโถมตัวลงนั่งบนเตียงนุ่ม


             “เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ ตั้งแต่คืนวันพุธที่เอาเด็กนั่นเข้าบ้านจนถึงวันศุกร์ก็ไม่มีโอกาสได้พูดเรื่องนี้สักที ตอนกลางวันว่าจะเข้าไปคุยด้วยก็ไม่อยู่ เพราะงั้นตอนนี้รีบอธิบายมาฟ้า ไปคอนโดฯ มันทำไม”


             เสียงที่ถามเย็นยะเยือกจนน่ากลัว เธอรู้ยิ่งกว่ารู้ วีใจกว้างและเชื่อใจเธอมากพอที่จะไม่หึงหวงเรื่อยเปื่อย แต่กับตุลย์เท่านั้นที่ไม่ว่ายังไงวีก็ไม่เคยยอม ไม่ว่าตั้งแต่ตอนมัธยมหรือแม้แต่ตอนนี้…!


             “เรียกเด็กนั่นได้ไง ลูกฟ้าก็มีชื่อนะ เขาชื่อที่หนึ่ง” เธอพูดเสียงอ่อน แม้จะหงุดหงิดที่อีกฝ่ายเรียกลูกเธออย่างนั้น แต่กับคนตรงหน้าแล้วเธอไม่เคยกล้าหือ เป็นช้างเท้าหลังด้วยความเต็มใจและไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน ”แล้ววันนั้นฟ้าก็ไม่ได้ไปหาพี่ตุลย์สักหน่อย”

             “แล้วไปที่คอนโดมันทำไม?”

             “...ก็แค่ไปอาของที่ลืมไว้”

             “ลืมอะไร? แล้วลืมไว้ตอนไหน? แล้วทำไมต้องไปตอนดึก? อย่าคิดปิดพี่เชียวนะ ฟ้าก็รู้ว่าตัวเองโกหกไม่เก่งยังไงพี่ก็ต้องจับได้” ทอฟ้ากลืนน้ำลาย 

             “ก็พี่เป็นคนบอกฟ้าเองว่าถ้าฟ้าอยากจะเจอลูก ทางเดียวก็คือให้พาลูกมาอยู่ด้วยที่นี่ ฟ้าก็เลย...ไปหาพี่ตุลย์บอกให้เขายกลูกให้ฟ้าเลี้ยงเอง สักคนหนึ่งก็ได้ แต่ว่าพี่ตุลย์ไม่ยอมให้เลยสักคน ก็เลยมีปากเสียงกันนิดหน่อย ฟ้าโมโหมากก็เลยเขวี้ยงของใส่เขา แล้วตอนนั้น...”

             “แล้วตอนนั้น?”

             “...ฟ้าก็เลยคิดว่าน่าจะทำสร้อยข้อมือที่พี่ให้หาย ฟ้ากลัวพี่จับได้ว่าฟ้าทำหาย ไม่อยากจะให้พี่โกรธเลยไปที่นั่นเพื่อเอาสร้อยข้อมือ...แค่นั้นเอง จริง ๆ นะ!”

             “สร้อยข้อมือ?

             “สร้อยข้อมือชิ้นแรกที่พี่ให้ ที่พี่ชอบให้ฟ้าใส่มันติดตัวไว้ไง ฟ้าเคยทำหายครั้งนึงแล้วพี่โกรธจะเป็นะจะตาย คราวนี้ฟ้าก็เลยกลัวว่าพี่จะโกรธอีก ก็เลย...”

             “...แล้วไอ้ตุลย์มันแถมเด็กนั่น มาพร้อมสร้อยข้อมือหรอไง?”

             “เปล่า...มันเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อยฟ้าก็เลยพาตัวที่หนึ่งมาด้วย...มาอยู่กับเรา พี่วีที่ฟ้ากำลังจะพูดคือเขาจะไม่ได้มาอยู่กับเราแค่ชั่วคราวนะ ฟ้าจะพาเขามาอยู่กับเรา...ตลอดไป”













             ที่หนึ่งกระสับกระส่ายด้วยความกังวล เพราะผู้ชายคนนั้นน่ากลัวสำหรับเขามาก ทุ้งครั้งที่เจอหน้าร่างกายก็จะเกร็งอย่างไร้สาเหตุ ทำให้เด็กน้อยไม่กล้าเข้าใกล้หรือแม้แต่จะยุ่งเกี่ยวกัน...แต่ถึงจะกังวลมากมายขนาดนั้น ที่หนึ่งกลับไม่กล้าเดินออกจากจุดที่ถูกสั่งไว้ให้รอ


             บางทีมันอาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น อาจเพราะเขาเพียงแค่ไม่ชินกับคนแปลกหน้าเท่านั้นก็ได้ เพราะนอกจากครอบครัวแล้วที่หนึ่งก็แทบจะไม่รู้จักผู้ใหญ่คนไหนเลยด้วยซ้ำไป


             “ทำไม แม่ไม่ออกมาสักที”


             เด็กน้อยชะเง้อมองประตูห้องนอนอีกครั้ง เตะฝุ่นแก้เก้อพร้อมกับเหลือบตามองประตูห้องนอนเป็นระยะ ๆ


             “ที่หนึ่ง รอนานไหม?”


             ทอฟ้ายิ้มปนี่ถลาเข้ามาหาลูกชายขณะเปิดประตูออกจากห้องพร้อมกับวีที่พาดผ้าขนหนูเตรียมตัวจะไปอาบน้ำ


             “ที่หนึ่งนึกว่าแม่หลับไปแล้ว”

             “แม่จะหลับได้ไงครับ ที่หนึ่งยืนรอแม่อยู่แล้วหน้าห้องแบบนี้ ถ้าแม่เผลอหลับไปคงใจร้ายน่าดูเลย” ทอฟ้าลูบหัวลูกชายของตัวเองอย่างเบาก่อนจะจูงมือที่หนึ่งเข้าห้องนอนแขก ที่เป็นที่นอนของที่หนึ่งอีกครั้งในคืนนี้


             หลังจากที่ทอฟ้าขึ้นไปนอนคุยกับที่หนึ่งจนเด็กน้อยเริ่มมีอาการง่วงนอน ทอฟ้าก็ค่อยลงมาจากเตียงห่มผ้าให้ลูกชาย ตบสะโพกของเขาเบา ๆ เป็นการกล่อม แต่ก็ไม่ได้ทำให้ที่หนึ่งหลับตาลงนอนแต่อย่างใด ในทางกลับกันเขากลับมองไม่ละสายตาด้วยความสงสัยว่าทำไมทอฟ้าถึงไม่นอนกับตน ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็เอาแต่บอกนักหนาว่าง่วงนอนเต็มที


             “แม่ไม่ง่วงแล้วหรอ?”

             “หืม? ง่วงสิครับ”

             “แล้วทำไมแม่ไม่นอนละ เนี่ยที่หนึ่งก็แบ่งที่ไว้ให้แล้ว”


             ทอฟ้ามีสีหน้าลำบากใจที่ลูกชายตบที่ว่างข้าง ๆ เรียกเธอให้ขึ้นไปนอนด้วยกันอีกครั้ง


             “ที่หนึ่งครับ คืนนี้แม่คงไม่นอนกับที่หนึ่งนะลูก”

             “ทำไมอะ?” ที่หนึ่งถามเสียงรนพร้อมพรุดตัวลุกขึ้นนั่ง

             “คืนนี้แม่จะไปนอนกับน้าวีที่อีกห้องนึงนะครับ”

             “ไม่เอานะ” เด็กน้อยส่งเสียงงอแง คว้าแขนแม่เอาไว้อย่างออดอ้อน “ที่หนึ่งอยากนอนกับแม่นี่หน่า”

             “แม่ก็อยากนอนกับที่หนึ่งนะ แต่ว่า...ที่หนึ่งเข้าใจแม่ใช่ไหมลูก น้าวีเขาก็เป็นสามีแม่ เขาเองก็อยากจะนอนพร้อมกับแม่เหมือนกัน ชีวิตคู่น่ะ ถ้าทิ้งให้ใครสักคนอยู่คนเดียวแล้วมันจะไปต่อได้ยังไง แม่ทิ้งเขาให้นอนคนเดียวมาสองวันแล้ว คืนนี้ก็ให้แม่ไปนอนกับเขานะครับ”

             “ไม่เอา” ที่หนึ่งดื้อเพ่ง


             แม้ที่หนึ่งจะโตมากพอที่จะเข้าใจเรื่องราวดี แต่เขาก็ยังเป็นเพียงเด็กที่ต้องการเพียง ‘แม่’ และ ‘พ่อ’ แท้ ๆ เท่านั้น ไม่ต้องการใครอื่น ไม่ต้องการให้ใครแทนใคร ต้องการให้แม่อยู่ในอ้อมแขนของพ่อ ถ้าไม่ได้เป็นอย่างนั้นก็ห้ามมีใครได้มากอดแม่เลย!


             “ที่หนึ่งไม่ดื้อสิครับบ พรุ่งนี้แม่จะมานอนกับที่หนึ่งโอเคไหม? แม่มีคนสำคัญของแม่สองคนแม่ก็ต้องดูแลทั้งคู่นะ หรือว่า...ที่หนึ่งจะไปนอนห้องนู่นด้วยกันกับแม่แล้วก็น้าวีดีครับ?”

             “...ไม่เอาแบบนั้นด้วย” เสียงปฏิเสธดังขึ้นเบา ๆ


             ที่หนึ่งผละออกจากแม่อย่างจำยอม เขาเป็นเด็กที่มักจะเก็บอะไรไว้กับตัวแล้วทำให้คนอื่นสบายใจ มากกว่าที่จะปล่อยทุกอย่างออกไปแล้วทำตามใจตัวเอง...ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ในเมื่อเขารวบรวมความกล้าบอกในสิ่งที่ต้องการแล้ว แล้วมันไม่ได้ ก็ต้องเป็นไปแบบเดิม ๆ คือ ‘ทำเป็นว่า’ เข้าใจ แล้วก็ยอมรับมัน


             “แม่ไปนอนกับน้าวีก็ได้ ตอนอยู่กับพ่อ ที่หนึ่งก็มีห้องนอนเป็นของตัวเองอยู่แล้วแค่นี้น่ะสบายมาก”

             “ลูกนอนคนเดียวได้ใช่ไหมครับ?”

             “อืม” ที่หนึ่งปล่อยแขนผู้เป็นแม่ก่อนจะยกยิ้มขึ้นอย่างประดิษฐ์ประดอย “แต่พรุ่งนี้แม่สัญญาแล้วนะว่าจะนอนกับที่หนึ่ง ห้ามเบี้ยวนะ”

             “ได้เลยครับ! ไม่เบี้ยวแน่นอน งั้นนอนได้แล้วลูกนะ ให้แม่อยู่กับลูกจนหลับไหม?”

             “ไม่เป็นไรอะ”

             “โอเคงั้น ฝันดีนะครับ” เธอจูบหน้าผากของลูกชาก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากห้อง ขณะที่กำลังปิดไฟก็หันมายิ้มให้ที่หนึ่งอีกครั้ง แล้วประตก็ถูกปิดลง

             “...ฝันดีนะแม่”












             ผมนอนลืมตาอยู่บนเตียงมองพี่ตุลย์ที่กำลังยกถ้วยข้าวต้มเข้ามา


             “ลุกไหวไหม?”

             “ไม่ไหว”


             ผมตอบไปตามความเป็นจริงครับไร้ซึ่งความสำออยใด ๆ เพราะตอนนี้ร่างกายผมหนักไปหมดทั้งตัว จนทำเป็นเก่งไม่ไหว


             “เดี๋ยวฉันช่วย” พี่ตุลย์เข้ามาช่วยประคองผมให้ลุกขึ้นนั่ง

             “ขอโทษนะที่ทำให้พี่ลำบาก”

             “ไม่หรอก กินข้าวก่อนแล้วกัน จะได้กินยาพักผ่อน”

             “อืม” ผมรับถ้วยข้าวต้มมาจากพี่ตุลย์ก่อนที่เขาจะวางน้ำกับยาไว้ตรงหัวเตียงเตรียมให้ผม


             เมื่อคืนผมไข้ขึ้นครับ จนพี่ตุลย์ที่แตะตัวผมยังสะดุ้งลุกขึ้นมาเช็ดตัว ดูแลให้ทั้งคืนจนสุดท้ายก็ไม่ได้นอน แล้วอาการผมก็เพิ่งทุเลาลงเมื่อตอนตีห้านี่เอง ผมก็เพิ่งรู้วันนี้เนี่ยแหละว่าร่างกายผมซื่อตรงกับใจมาก ก่อนหน้านี้ตากแดดตากลมตากฝน หวัดฤดูร้อน หวัดฤดูหนาวอะไรผมก็ไม่เคยเป็นกับเขาหรอก ต่อให้ทำงานหนักจนไม่ได้นอน ใช้หัวสมองจนแทบควันขึ้นผมก็ยังสบายดี ไม่สะดุ้งสะเทือนแม้เพื่อนทั้งฝูงจะพาหวัดมาติดผมแค่ไหนก็ตาม


             แต่พอใจผมอ่อนแอ...ผมเครียดแล้วก็คิดมาก ผมร้องไห้หนักแล้วก็ซึมเซา ตากฝนนิดหน่อยผมก็เป็นหวัดทันที ผมเป็นตั้งแต่คืนวันพุธที่ไปหาไอ้ปัน จนตอนนี้นี้เช้าวันเสาร์ อาการก็ยังทรง ๆ จะแย่หรือจะนิ่งก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของผมล้วน ๆ ทั้ง ๆ ที่กินยาตลอดไม่เคยดื้อ ผมก็ไม่หายเสียที


             “ขอโทษจริง ๆ ที่ไม่เอะใจเลยว่าไม่สบาย...แล้วยังไม่ยับยั้งชั่งใจอีก”

             ผมชะงักกึกรู้สึกหน้าร้อนวูบพอเผลอนึกถึง ‘เรื่องที่พี่ตุลย์ไม่ยับยั้งชั่งใจ’


             ...เมื่อคืนเป็นเวลาที่เราต่างก็เสียใจไร้ที่ยึดเหนี่ยว เราผลัดกันฉุดสลับกันรั้ง เหมือนเหลือเราสองคนบนโลก เพื่อให้ลืมความทุกข์แล้วก็หลับไปพร้อมกับความเจ็บปวด...มันดูน่าละอาย แต่ผมมองว่ามันคือการปลอบประโลมไม่ใช่สนองตัณหา


             ผมไม่คิดจะรู้สึกผิดกับเรื่องเมื่อคืน...แม้แต่นิดเดียว


             “วันนี้นายอยู่ที่ห้องนอนเนี่ยแหละ ฉันกับตอนต้นจะอยู่ข้างนอกจะได้ไม่ติดหวัด”

             “แล้วพี่ไม่ไปทำงานหรอ? บริษัทพี่ไม่หยุดวันเสาร์ไม่ใช่ไง?”

             “ก่อนหน้านี้ฉันโทรไปลางานแล้ว”

             “อ๋อ...อืมถ้างั้นผมขอยืมห้องแป๊บนึง ถ้าดีขึ้น ผมก็คงจะไม่อยู่รบกวนแล้วละ”

             “ไม่ต้องรีบกลับหรอก อย่างน้อยก็อยู่ที่นี่...จนกว่าจะหายไข้ก็ยังดี”

             “...” ผมเผลอกำผ้าห่มแน่นด้วยความลังเล...ก่อนจะส่งเสียง ‘อืม’ เป็นการตกลงกับคำขอนั้น ยืดเวลาสนองความรู้สึกของตัวเอง ที่ผมมาหาเขาตอนนี้เพราะผมยังมีข้ออ้างว่าต้องการมาดูเขา...ดูว่าเขาอยู่ได้แม้จะไม่ได้ที่หนึ่งกลับมา แล้วก็เพื่อมาเอาของกลับ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ผมก้าวเท้าออกไปจากห้องนี้แล้วละก็...ข้ออ้างอะไรนั่นผมก็ไม่มีอีกต่อไปแล้ว

             “ถ้างั้น ฉันอยู่หน้าทีวีนะ จะเอาอะไรก็ตะโกนเรียกเอาก็ได้ถ้าลุกไม่ไหว”

             “โอเค”


             ผมหยักหน้ารับพอพี่ตุลย์เห็นผมว่าง่ายก็ค่อยเดินออกจากห้องปล่อยให้ผมได้กินข้าวกินยาพักผ่อนไปตามเรื่องตามราว แต่ข้าวต้มนี่ผมไม่ไหวจริง ๆ ครับ กินเยอะก็ชักอยากอ้วกมันเหลวเกินไปจนรู้สึกไม่ค่อยดี ถ้ากินข้าวสวยปกติคงจะดีกว่า ว่าแล้วผมก็ยอมแพ้กับข้าวต้มวางมันลงข้างเตียงแล้วคว้ายา กรอกปากว่าจะนอนเลยเพราะรู้สึกนอนไม่เต็มอิ่มสักที


             พรึ่บ


             ผมซุกหน้าลงกับหมอนสูดกลิ่นที่คุ้นเคยเข้าเต็มปอดอย่างโหยหา คว้าทั้งหมอนข้างผ้าห่มมาพันตัวให้กลิ่นนัวเนียอยู่รอบ ๆ ก่อนจะหลับตาลง แล้วผลอยหลับไปอย่างง่ายดาย










             “ที่หนึ่งครับบ มีที่ไหนที่ที่หนึ่งอยากไปไหมครับผม?”


             ทอฟ้าหอบโน๊ตบุ๊คที่ยังเปิดค้างไว้มาหาลูกชาย ซึ่งกำลังนั่งดูการ์ตูนรายการโปรดอยู่หน้าทีวี พอเห็นว่าที่หนึ่งไม่ได้สนใจ ก็สะกิดลูกชายให้มามองที่หน้าจอโน๊ตบุ๊คที่เธอกำลังนำเสนอยกใหญ่


             “อะไรหรอ?”


             เด็กน้อยเงยหน้าถามงง ๆ หลังจากละสายตาจากทีวีมองหน้าจอที่เปิดหน้าสถานที่เที่ยวต่าง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นเด็กน้อยก็ยังไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายเอามาให้เขาดูทำไม


             “อ้าว เมื่อวานที่เราไปกินเอ็มเคด้วยไงจำไม่ได้หรอ ที่หนึ่งบอกว่าอยากกินด้วยกันหลาย ๆ คน แล้วแม่บอกว่าวันอาทิตย์น้าวีเขาว่างเดี๋ยวเราจะไปเที่ยวด้วยกันไงครับ”

             “อ๋อ ที่หนึ่งจำได้ ๆ” ที่หนึ่งร้องแต่กลับไม่ได้มีความตื่นเต้นอะไรขึ้นมา


             แน่นอนอยู่แล้ว ในเมื่อเขาไม่ได้หมายความว่าอยากไปกับผู้ชายคนนั้น ไม่ได้หมายถึงอยากไปกับคนจำนวนมาก ๆ เขาน่ะแค่อยากให้แม่ได้ไปด้วยกันกับพ่อ พี่เอส ตอนต้น ทุก ๆ คนที่บ้าน มันสนุกมากและเขาอยากให้แม่ได้สนุกแบบนั้น


             พ่อเขาน่ะดูแลดีเอาใจใส่ ส่วนพี่เอสของเขาก็มีมีเรื่องเล่าตลก ๆ เยอะแยะไปหมด แล้วก็ชอบทำอะไรขำ ๆ ตอนต้นก็ไม่งอแง เป็นเด็กที่น่ารักมาก แค่กินข้าวข้างทางแถวคอนโดฯ ยังสนุกได้ด้วยซ้ำ


             นั่นต่างหากสิ่งที่เขาหมายถึง นั่นต่างหากที่เป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อวานที่ไปกินเอ็มเคด้วยกันตอนนั้นถึงได้เล่าให้ฟัง


             “แล้วที่หนึ่งจะไปที่ไหนดีละลูก? ที่เที่ยวใกล้ ๆ แถวนี้มีเยอะเลย ร้านอาหารก็เยอะแยะเลยนะ ที่หนึ่งเลือกได้เลยนะครับ เต็มที! น้าวี แม่แล้วก็ที่หนึ่งจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันทั้งวันเลย แล้วที่หนึ่งก็จะได้สนิทกับน้าวีด้วยนะ น้าวีเขาดูแลดีมากเลยนะลูก ที่หนึ่งต้องชอบเขาแน่ ดีไม่ดี ที่หนึ่งอาจจะมาขอนอนด้วยกันกับแม่แล้วก็น้าวีเลยด้วยซ้ำนะ”


             ...ไม่เอา


             “ไม่ต้องไปไหนก็ได้ อยู่บ้านก็ได้”

             “ไม่ได้นะ!” ทอฟ้าร้องขึ้นมาเสียงหลง “ได้ไปใช้เวลาอยู่กับน้าวีทั้งทีนะลูก เขาน่ะงานยุ่งมากจนไม่ค่อยมีเวลาว่างแบบนี้เลยนะ!”

             “กะ ก็ไม่ใช่ว่าอยู่บ้านดีกว่าหรอ พ่อบอกว่าการอยู่บ้านคือการพักผ่อนที่ดีที่สุดนะ”

             “ไม่ได้ครับที่หนึ่ง อุตสาห์เป็นโอกาสดีที่พวกเราสามคนได้ไปไหนด้วยกันแท้ ๆ จะนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่บ้านได้ไงละ เอาแต่อยู่บ้านเป็นคนแก่แบบนี้ที่หนึ่งไม่เบื่อหรอไงครับ? แม่ยังเบื่อเลยนะ”

             “ที่หนึ่งไม่เบื่อนะ ที่หนึ่งชอบอยู่ที่บ้านดูทีวีมากกว่า”

             “เอาไว้วันอื่นแล้วกันนะที่หนึ่ง น้าวีอุตสาห์ว่างทั้งทียังไงพรุ่งนี้ก็ต้องไปเที่ยวด้วยกัน ช่วงนี้แม่เองก็ไม่ค่อยได้อยู่กับเขาเลย เวลาว่าง ๆ เราต้องตักตวงให้เต็มที่!”

             “...”

             “อะ! ว่าแต่ตอนแม่หยิบ ๆ เสื้อผ้าใส่กระเป๋ามามีชุดไปเที่ยวบ้างไหมหว่า เดี๋ยวแม่ไปดูก่อนดีกว่า ถ้าไม่มีจะได้บอกน้าวีซื้อเข้ามาด้วยเลย”


             หลังจากพูดจบทอฟ้าก็วางโน๊ตบุ๊คไว้บนโซฟา แล้วตัวเองก็เดินลิ่ว ๆ เข้าไปในห้องนอนที่เป็นห้องของลูกชายชั่วคราว เดินตรงไปยังกระเป๋าที่เธอพาออกมาพร้อมกัน ที่หนึ่งไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ในห้องนั้น แต่เขาคิดว่าคงจะกำลังหาชุดเที่ยวอย่างที่พูดนั่นแหละ เพราะหลังจากที่หายไปอยู่ในห้องนั้นได้สักพัก แม่ของเขาก็ออกมาโทรศัพท์หา ‘น้าวี’ ให้ซื้อเสื้อผ้าเข้ามา


             เด็กน้อยวางคางกับพนักโซฟามองแม่ที่กำลังเดินวนไปวนมาไม่หยุด อยู่หน้าห้องจนดูวุ่นวายก่อนที่เขาจะหันกลับมาดูการ์ตูนต่อตามเดิมราวกับไม่ได้รู้สึกอะไร


             ทั้ง ๆ ที่ในใจก็อดไม่ได้ที่จะมีคำถามขึ้น...ที่แม่ของเขาดูตื่นขนาดนี้เป็นเพราะจะได้ไปเที่ยวกับใคร...





TBC

หรือเพราะมันจะเป็นอย่างที่เคยได้ยินกันมา ว่าสุดท้ายสิ่งที่ผู้หญิงต้องการที่สุดในชีวิต คือคนที่จะคอยดูแลไปตลอดชีวิต เท่านั้น?



#DaddyBeLover #ไอ้เอส



NOTE
ติดตามข่าวสาร please click. Believe me /กระซิบ
www.facebook.com/nistawriter/ (https://www.facebook.com/nistawriter/)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 45 (30/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 30-06-2016 21:38:28
 :z3:

ที่หนึ่งจะเข้ากับน้าวีได้หรือเปล่านะ?? ผ่านไปซัก 4-5 ปี อาจจะลืมพ่อไปบ้างก็ได้

T T เด็กๆนี่ชวนดราม่าจริงจัง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 45 (30/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 30-06-2016 21:49:56
น่าตบมากคุณแม่ หึ้ยยยยยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 45 (30/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 30-06-2016 22:06:12
ฝากตบยัยฟ้า100ครั้ง

ดูท่าสามียัยฟ้าคงไม่ชอบที่หนึ่งแน่ๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 45 (30/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-06-2016 22:15:57
 :mew4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 45 (30/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 30-06-2016 23:00:35
นี่ดีใจจะได้ไปเที่ยวกับผู้ชายใช่มะ
เบื่อนังฟ้าาาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 45 (30/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 30-06-2016 23:12:27
นังฟ้าแย่มากกก จะเอาลูกมาทำไมถ้าไม่รักไม่ดูแลอ่ะ  :m31: :m31:

เอสเลิกรู้สึกผิดเถอะ อยู่กับพี่ตุลย์เถอะ อย่าทิ้งพี่ตุลย์เลยน้าาาาาา :ling2: :ling2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 45 (30/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 30-06-2016 23:23:29
ถ้าทำได้ไม่ดีแกเอาเขามาเลี้ยงทำไม?
ที่หนึ่งไม่มีวันลืมพ่อ เพราะผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าแม่ไม่มีแม้แต่นาทีเดียวที่จะไม่คิดถึงผัว
เข้าใจวี และอยากให้เลิกกับยัยบ้านี่ไปซะ
อินจริงจัง โอ๊ยยยยย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 45 (30/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 30-06-2016 23:52:54
 :m16: :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 45 (30/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 01-07-2016 07:40:10
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 45 (30/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Natsuki-ChaN ที่ 01-07-2016 10:35:05
ยัยทอฟ้า ตกลงดีใจที่ได้ไปกับลูก หรือ พี่วีของเธอ..... :z6: :beat:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 45 (30/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 01-07-2016 14:24:46
ทอฟ้าเป็นแม่ที่แย่มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 45 (30/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 06-07-2016 10:17:29
 :m18:
รอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 45 (30/06/59)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 06-07-2016 17:17:06
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 46 (9/07/59)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 09-07-2016 21:46:49
ตอนที่ 46






             “ดีขึ้นหรือยัง?” พี่ตุลย์ถามหลังจากที่ผมคืนแก้วน้ำให้   

             “ไม่ค่อยเพลียแล้วอะ”

             “อืม” พี่ตุลย์ขานรับก่อนจะยกหลังมือขึ้นแตะหน้าผากวัดอุณหภูมิ “ตัวยังรุม ๆ อยู่ แต่ก็ลดจากเมื่อคืนเยอะแล้ว”

             “แน่สิ เล่นนอนตั้งแต่เช้ายันเย็นขนาดนี้ นี่ถ้าพี่ไม่มาปลุกผมให้มากินยาอีกรอบ ผมคงนอนข้ามไปอีกวันเลย”

             “ถ้าเป็นงั้นฉันคงต้องมาดูว่าตายแทนหรือยังมากกว่า”

             ผมหัวเราะ “...ขอบคุณมากนะ”

             “ไม่เป็นไร” พี่ตุลย์ตอบ


             เราสองคนสบตากันราวกับต่างฝ่ายต่างก็มีอะไรจะพูดแต่ก็เงียบเอาไว้ จนกระทั้งถูกทำลายลงด้วยเสียงร้องไห้ดังลั่นจนพี่ตุลย์รีบผละออกจากห้อง ไปดูตอนต้นที่กระจองอแง ผมเองก็ผลอยตกใจไปด้วย โชคดีที่ไข้ลดแล้ว พอจะมีแรงขึ้นมาบ้าง เลยลุกพรวดตามพี่ตุลย์ออกไป


             “พี่ตุลย์เกิดอะไรขึ้นหรอ? ตอนต้นเป็นอะไรหรือเปล่า?”

             “ไม่มีอะไรหรอก ตอนต้นแค่ตกใจเพราะอยู่คนเดียวน่ะ ตามผลตรวจพัฒนาการคราวนั้นนั่นแหละ” พี่ตุลย์ที่กำลังอุ้มปลอบลูกชายตอบอย่างใจเย็นเช่นเคย

             “อ๋ออ แปลกดีจังปกติไม่เห็นร้องแบบนี้เลย”

             “ก็ปกติถ้าไม่เห็นฉัน เขาก็เห็นป้าสร้อยหรือไม่ก็ที่หนึ่งก็เลยไม่รู้สึกว่ามีอันตรายหรืออะไรละมั้ง”


             ผมสะอึกตอนที่พี่ตุลย์พูดถึงที่หนึ่งขึ้นมา พี่ตุลย์บอกว่ามันไม่ใช่ความผิดของผม เขาไม่ต้องการให้ผมคิดหรือพูดแบบนั้นอีก และเขาก็ทำใจยอมรับมันได้เพราะยังไงซะคนที่เอาที่หนึ่งไปก็คือแม่ของที่หนึ่งเองเขาคงดูแลที่หนึ่งได้เป็นอย่างดี


             แต่ผมยังคิดแบบนั้นไม่ได้ ผมสลัดเรื่องนี้ออกไปจากหัวแล้วพูดถึงที่หนึ่งแบบไม่คิดอะไรแบบนี้ไม่ได้

             “พี่ตุลย์ ถามอะไรหน่อยได้ไหม?”

             “อะไร? ก่อนอื่น เดี๋ยวฉันไปหยิบผ้าปิดปากให้ ฉันห่วงว่าหวัดนายจะติดตอนต้นเอา”

             “งั้นเดี๋ยวผมไปหยิบเอง”


             ผมเดินกลับเข้าไปในห้องนอน หาหน้ากากอนามัยที่พี่ตุลย์เก็บไว้ในลิ้นชักเสื้อผ้า แล้วเดินกลับออกมา ก่อนจะผงะเมื่อเห็นพี่ตุลย์อุ้มตอนต้นยืนจังก้าอยู่หน้าประตู แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือจากจัดหน้ากากอนามัยให้ผม เขาทำมันเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่นั่นคือพี่ตุลย์…เขาดูแลคนรอบข้างเสมอ

             “ใส่แล้วตลกดี เห็นแต่ตา” พี่ตุลย์หัวเราะหึหึเสียงเบา

             “เกิดมาหน้าเล็กมันช่วยไม่ได้จริงๆ” ผมใช้นิ้วกระชากหน้ากากอนามัยให้มันเปิดเผยจมูกสุดโด่งเป็นภูเขาเอเวอร์เรสของผม

             “หึหึ แล้วไหนบอกว่ามีอะไรจะถาม จะถามอะไรละ?”

             “เอ่อ...คือว่า เรื่องของ ที่หนึ่งอ่ะ” ผมพูดเสียงเบา เหลือบตามองด้วยความชั่งใจ ผมก็ยังไม่รู้ว่าเราสามารถพูดเรื่องนี้ได้อย่างเต็มปากเต็มคำหรือยัง ผมไม่อยากให้มันเกิดความกระอักกระอวนไง

             “ทำไม?”

             “พี่ไม่คิด แบบว่า...ทำอะไรหน่อยจริง ๆ หรอ พี่จะยอมรับง่าย ๆ แบบนี้เลยหรอ? ฟ้องขอเลี้ยงดูดีไหม? คือผมคิดแล้ว ยังไงพี่ก็เลี้ยงเขามา พี่ต้องชนะคดีสิ! ถึงพี่ทอฟ้าจะสู้คดีว่าพี่เป็นเกย์ก็เถอะ...แต่เรื่องเพศมันก็ยอมรับกันมากขึ้นแล้ว”ผมพูดเสียงเบาในตอนท้าย

             “แล้วถ้าเกิดฉันแพ้ละ”

             “...”

             “ถ้าเกิดฟ้าฟ้องฉันกลับ ไม่ให้ฉันเจอลูกอีกเลยตลอดชีวิตนี้ละ ฉันจะทำยังไง?”

             “มันไม่เป็นแบบนั้นหรอก” ผมพูด แต่ด้วยน้ำเสียงที่ไร้ซึ่งความมั่นใจแต่อย่างใด มีแต่เรื่องของที่หนึ่งเท่านั้นที่ผมไม่สามารถพูดอะไรหรือคิดอะไรได้อย่างเชื่อมั่นเลย


             พอพี่ตุลย์เห็นว่าผมหลบเลี่ยงสายตา เขาก็จูงมือผมให้มานั่งบนโซฟาเหมือนกับผมเป็นเด็กน้อยที่เขาต้องพามานั่งจับเข่าคุย เขาใจเย็นนะ และนั่นพลอยทำให้ผมรู้สึกสงบไปด้วย

 

             “ในหนัง เราคงเลือกจะทำอะไรที่เราคิดว่ามันถูกต้องไปจนสุดทาง แต่ในความเป็นจริงมันทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะเราไม่มีทางกลับไปแก้ใหม่ และความเจ็บปวดมันก็เกิดขึ้นที่เราเอง เพราะงั้นนายก็ต้องคิดนะเอส คิดถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเอาไว้ด้วย”

             “แต่ว่า...”

             “การขอเลี้ยงดูมันไม่ใช่แค่ใครเลี้ยงมาแล้วจะได้ไปหรอก มันมีปัจจัยอีกมากมาย อย่างแรกคือฉันไม่ได้แต่งงานกับฟ้า สิทธิของคนเป็นพ่อ กับสิทธิของคนเป็นแม่แค่นี้ก็ต่างกันแล้ว อย่างพื้น ๆ สิ่งที่ศาลจะดูคือ ใครมีสามารถที่จะเลี้ยงลูกได้ดีกว่ากันซึ่งในเรื่องนี้ทอฟ้าเองก็อาจดีจะกว่าฉันซะด้วยซ้ำไป”

             “แต่พี่เลี้ยงเขามานะ เลี้ยงมาสิบปีแล้ว พี่ทอฟ้าเขาทิ้งลูกไป...”


             ผมยังหาเหตุผลด้วยความดื้อดึง กฎหมายมันต้องยุติธรรมไม่ใช่หรอ…
             

             “เขาก็ต้องพิจารณาอีก เขาอาจจะมองว่าการที่ฟ้าทิ้งลูกไป มันอาจจะเป็นสิ่งที่จำเป็นก็ได้ ตอนที่มีที่หนึ่ง เราทั้งคู่ก็ยังเป็นนักเรียนนักศึกษา ผู้ชายอย่างฉัน ถ้าไม่บอกว่ามีลูก มันก็ไม่รู้หรอก แต่ผู้หญิงด้วยสังคมแล้วมันไม่ใช่อะไรแบบนั้น มันกระทบถึงการเรียน และชื่อเสียงของเขา อนาคตของเขา ศาลเขาคงมองอะไรที่มากกว่าแค่คำว่าว่า ‘เธอทิ้งลูก’ แบบนั้น”

             “...”

             “มันมีเรื่องอีกเยอะ นายอาจจะมองว่าฉันขี้ขลาด แต่ก็คงจะอย่างนั้น ฉันไม่คิดจะทำอะไรที่ทำให้เรื่องมันแย่ไปมากกว่านี้” พี่ตุลย์พูดพร้อมเอื้อมมือบีบท้ายทอยผมเบา ๆ เหมือนบอกขอบคุณที่ผมพยายามจะช่วย แต่ก็ขอโทษที่นั่นมันไม่ได้ช่วยอะไรเขาได้

             “…เฮ้อ” ผมยิ้มยอมแพ้เขาในที่สุด “ผมเข้าใจพี่แล้ว แต่อย่างน้อยเวลาที่ผมยังอยู่ที่นี่ ผมอยากให้พี่รู้ว่าพี่ไม่จำเป็นต้องเก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียว ผมให้พี่ยืมกอดได้ถ้าพี่ต้องการ ผมจะอ้าแขนกว้าง ๆ ไว้แบบนี้เลย!!” ผมอ้าแขนกว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ให้คนที่นั่งอยู่ด้วยกัน


             สายตาจริงจังที่ผมส่งให้คงทำให้เขาอึ้งไม่น้อย แต่เขาก็เผยยิ้มออก เขาไม่ได้พุ่งเข้ามาใส่อ้อมแขนที่มาอ้าไว้ แต่กับใช้มือกดหลังคอผมจนหน้าผากของเราชนกัน


             “ฉันน่ะ ขอแค่เขาร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บไม่ป่วย ยิ้มแล้วก็หัวเราะ แม้จะไม่ได้อยู่กับฉันก็ไม่เป็นไร ไม่ว่าเขาอยู่กับใครถ้าเขามีความสุข ฉันพอใจแล้ว คนเป็นพ่อเป็นแม่เขาจะหวังอะไรไปมากกว่าลูกมีความสุข มีชีวิตที่ดี”

             ผมยิ้ม “พี่ดูเชื่อมั่นมากเลย ว่าเขาจะเลี้ยงที่หนึ่งได้ดี”


             “ก็ยังเป็นแม่ของที่หนึ่งนี่หน่า” เขาพูด พร้อมกับผละออกจากกัน “หยุดคุยเรื่องนี้เถอะ รั้งแต่จะทำให้คิดมากเปล่า ๆ นายก็กลับไปนอนได้แล้วไป”

             “จะบ้าหรอ ผมเพิ่งลุกจากเตียงเนี่ย นอนมากกว่านี้แขนขาผมก็จะลีบแล้ว ผมว่าผมจะไปอาบน้ำอะ แล้วก็อ่านหนังสือสอบด้วย มัวแต่ป่วยไม่ได้อ่านสักที ไฟนอลยิ่งเข้ามาใกล้เรื่อยๆ อยู่”

อ“อาบน้ำตอนนี้? เดี๋ยวไข้ก็ขึ้นหรอก” พี่ตุลย์ขมวดคิ้วใส่ พูดเสียงดุตามสไตล์พร้อม

             “ไม่หรอกหน่า ก็อาบน้ำร้อนดิ จะไปอาบน้ำเย็นทำไม หรือจะไม่ให้อาบ? เน่าจะตายอยู่แล้วเนี่ย”

             “เช็ดตัว ไป เดี๋ยวฉันเช็ดตัวให้”

             “ไม่เอาอะ ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นแล้วก็ไม่ใช่เด็กแล้วด้วย” ผมปฏิเสธ ไขว้แขนเป็นรูปกากบาท เดินไปคุ้ยหาผ้าขนหนูที่เพิ่งจัดเก็บใส่กระเป๋าเมื่อวานออกมาเตรียมจะไปอาบน้ำตามที่พูด

             “อาบน้ำตอนนี้มันอันตราย ไข้ก็เพิ่งจะลดแท้ ๆ ยังจะไปหาเรื่องอีก” พี่ตุลย์รั้งพร้อมคว้าแขนจนผมเผลอเซแถดๆ

             “ก็บอกอยู่ว่าตัวเหม็น ๆ เหงื่อออกทั้งวัน มันไม่ใช่ตัวพี่พี่ก็ไม่รู้สึกอะไรสิ แต่ผมนี่โคตรจะเหนียวตัวแล้วเนี่ย พี่จับแขนผมไม่รู้สึกบ้างหรอว่าตัวโคตรเหนียว”


             “ถ้าอยากจะอาบจริง ๆ ละก็ ไป เดี๋ยวอาบด้วยกัน”

             “เฮ้ย! ไม่เอานะ”

             “ไม่เป็นไร ฉันกำลังจะไปอาบน้ำให้ตอนต้นอยู่พอดีด้วย”

             “อะ อ้าวหรอ นึกว่ามีแค่พี่กับผมสองคน...เอ๊ย! ไม่ได้จะเข้าไปด้วยกันทำไม ผมอาบน้ำคนเดียวได้หน่า”

             “มา”


             พี่ตุลย์ไม่ได้สนใจเสียงกรีดร้องของผมแต่อย่างใด เขาลากผมตรงดิ่งไปยังห้องน้ำอุ้มตอนต้นไปด้วยพร้อม ผมดิ้นขัดขืนสุดแรง แต่ผมก็ยังเป็นคนป่วยอยู่ไงครับเลยไม่สะเทือนไอ้พี่ตุลย์สักแอะ เดิมทีก็สู้แรงพี่ตุลย์ไม่ไหวอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งไปกันใหญ่ ตะโกนมาก ๆ ก็เจ็บคออีก แถมตอนนี้ใช้แรงมากเลือดสูบฉีดไปที่หน้าทำให้ปวดหัวขึ้นมาเสียอย่างนั้น สุดท้ายผมก็ยอมเดินไปตามแรงลาก ปล่อยให้พี่ตุลย์อยากทำอะไรก็ทำ ผมไม่มีอะไรจะเสียอยู่ละ

             “ลากผมมาแล้วก็ขัดหลังให้ผมด้วยก็แล้วกัน”






TBC




สำหรับใครที่อยากได้ น้องเอสไปนอนกอด อย่าลืมเข้าไปดูที่เพจนะจ๊ะ นะจ๊ะ NISTA (https://www.facebook.com/nistawriter/)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 46 (9/07/59)
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 09-07-2016 22:00:42
ถึงฝ่ายแม่จะมีความพร้อมในการเลี้ยงดู
 แต่อย่างไรเรื่องจิตใจเด็กก็สำคัญไม่ต่างกัน
ไปรับที่หนี่งกันเถอะ ได้โปรดดดด
อยู่ทางโน้นน้องท่าทางแย่แล้ว เฉานานเข้าเป็นซึมเศร้าขึ้นมาละเรื่องใหญ่  T________T
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 46 (9/07/59)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 09-07-2016 22:17:45
ตอนนี้สงสารที่หนึ่งมากกว่า ไปอยู่กับผู้หญิงแบบนั้น เห้ออออ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 46 (9/07/59)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 09-07-2016 22:58:50
ที่หนึ่งอยู่กับครอบครัวแม่ไม่ไหวหรอก ในเมื่อสามีฟ้าก็ไม่ได้ยอมรับที่หนึ่ง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 46 (9/07/59)
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 09-07-2016 23:07:07
รอวันที่ที่หนึ่งกลับมาอยู่กับบ้านนี้ ฮือ
ยัยฟ้านี่ยังไงก็ดูว่าไม่ได้รักลูกมากขนาดนั้น ยังติดหลัวมากอยู่ มากกว่าติดลูกอีก
แฟนใหม่ก็ไม่ได้ชอบที่หนึ่งอีก เพลียใจ สงสารที่หนึ่ง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 46 (9/07/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-07-2016 23:14:06
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 46 (9/07/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-07-2016 23:15:14
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 46 (9/07/59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 10-07-2016 15:21:47
น่าสงสารที่หนึ่งนะที่ไปอยู่กับแม่ที่แคร์ผู้ชายมากกว่าลูกแบบนั้น o12 o12
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 46 (9/07/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 10-07-2016 17:46:47
+1ให้จ้า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 46 (9/07/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-07-2016 18:58:54
แฟนแม่คงทนได้หรอกถ้าแม่มัวแต่โอ๋ลูก
คงให้ฟ้าเลือก ระหว่างลูกกับตัวเอง
แล้วอย่างยายฟ้าเหรอ จะเลือกลูก :katai1:
ถ้าเลือกลูกคงไม่ทิ้งลูกทิ้งตุลย์ไปมีผัวใหม่ร้อก
แต่แน่ๆ ที่หนึ่งทนสภาพแม่ทิ้งลูกไปขลุกกับแฟนแม่ไม่ได้
ที่หนึ่งคงรู้ด้วยตัวเองแล้วว่าแม่ไม่ได้รักที่หนึ่งเหมือนที่หนึ่งรักแม่
เดี๋ยวที่หนึ่งก็ขอกลับมาหาพ่อ น้องตอนต้น และพี่เอสเอง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 46 (9/07/59)
เริ่มหัวข้อโดย: kangteuk1995 ที่ 10-07-2016 19:26:40
ที่หนึ่ง  :m15:
จะผิดมั้ยถ้าอยากตอนต่อไปแล้ว :impress2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 46 (9/07/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Arancia ที่ 10-07-2016 20:47:18
ทำไมสั้นอย่างนี้ แงๆๆๆ รอ่าน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 46 (9/07/59)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 11-07-2016 11:18:50
มีความ ปรบมือรัว  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 46 (9/07/59)
เริ่มหัวข้อโดย: oilk ที่ 11-07-2016 12:37:45
เอายัยฟ้าออกไปที เราทนอ่านไม่ไหวแล้ว   :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 46 (9/07/59)
เริ่มหัวข้อโดย: sembia ที่ 12-07-2016 20:31:02
เดี๋ยวนะ  เป็นเกย์ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเลี้ยงดูเด็กให้เป็นคนดีไม่ได้   แล้วการที่ชอบผู้ชายหรือผู้หญิงก็เป็นเรื่องของรสนิยมมากกว่าที่จะเหมารวมว่าวิปริตนะ  คือเกลียดทอฟ้ามาก  ยัยสมองตีบตัน   มีการศึกษาซะป่าว   จริงๆเรื่องลูกก็ไม่จำเป็นต้องมาคอนโดฯตุลก็ได้นี่   ทอฟ้าพาลูกไปเที่ยวที่อื่นแล้วก็พามาส่งคืนก็ได้   วีคิดตื้นเกินไปที่จะไม่ได้ทอฟ้าเจอลูก   อีกอย่างทอฟ้าควรถามความสมัครใจของที่หนึ่งด้วยที่อยากอยู่กับใคร   โอํยย  อินมากกก   เรื่องนี้ต้องมีทางออก
ขอบคุณนักเขียนค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 46 (9/07/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Cc-kun ที่ 16-07-2016 22:53:51
ไปเอาที่หนึ่งคืนม่จากนังทอฟ้าเรววว
ตุลวางใจไปมั้ยยย
นั่นมันผู้หญิงที่ทิ้งลูกไปหลายครั้งเลยนะั
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 46 (9/07/59)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 16-07-2016 23:09:29
เห็นแก่ตัว?
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 46 (9/07/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MintELF13 ที่ 28-07-2016 20:25:09
อ่านรวดเดียวจบเลย สนุกมากกกกกกก

นางทอฟ้าไม่ได้รักลูกจริงๆหรอก ถ้ารักนางคงไม่ทิ้งที่หนึ่งไปถึงสองครั้งหรอกนะ
นางสนใจแต่ผู้ของนางนั่นแหละ แค่ตามใจที่หนึ่งหน่อยนางยังให้ไม่ได้เลย

เคืองงงงงงง  :fire:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!!!! ep. 46 (9/07/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 21-10-2016 21:43:11
รอเรื่องนี้นานมากกก
จนพบว่า อ้าวในเด็กดีลงจบแล้ว
ฮือออออ เราก้รอตั้งนานนน
สนุกมากกกกค่ะ
ชอบตอนเอสกับพี่ตุลย์หวานกันที่สุดดด
ไม่ชอบกินมาม่าค่ะ5555555
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 47 (27/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 27-10-2016 21:21:55
ตอนที่ 47   
           






               “ฮ๊าาา”


               ผมส่งเสียงด้วยความชื่นใจหลังจากได้หย่อนตัวแช่อยู่ในน้ำอุ่นที่พี่ตุลย์เป็นคนเตรียมให้ก่อนจะหันมองอีกฝ่ายที่กำลังเตรียมกะละมังอ่างน้ำของตอนต้นที่กำลังแกะผ้าเดินช้างห้อยตุเลง ๆ


               พอเห็นแผ่นหลังพี่ตุลย์ผมก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชม เขาเป็นคนเข้มแข็งผมรู้อยู่แล้ว แต่วันนี้ที่รู้เพิ่มคือเขาเป็นคนที่เข้มแข็ง ‘มาก’ พี่ตุลย์สามารถยอมรับความจริงได้ว่า มันไม่มีอะไรที่จะสมใจไปเสียทุกอย่าง แล้วเขาก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้พร้อมกับสิ่งที่ยังเหลืออยู่


               ผมคิดนะว่าคนอื่นที่เจอแบบเขาจะเข้มแข็งได้แบบนี้ไหม หรือตัวผมเอง ในวันที่อายุเท่าเขาแล้วต้องเจอกับการสูญเสียจขนาดนี้ผมจะทนได้อย่างเขาหรือเปล่า จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าไหวอยู่ไหม...


               “ตอนต้นมานี่มาลูก” พี่ตุลย์ลุกไปอุ้มตอนต้นใส่กะละมัง ได้ยินเสียงหัวเข่าลั่นเพราะนั่งยอง ๆ เป็นเวลานานพอดี “ใส่นี่ไว้ก่อนนะ เดี๋ยวน้ำตาสระผมจะเข้าตาเอา”

               “...”


               ผมเองก็คงต้องยอมรับสิ่งที่เป็นแล้วก็เดินหน้าต่อไปเหมือนกัน ถ้าผมอยู่ที่นี่ต่อไป มีแต่จะรั้งให้ตอนต้นถูกพาตัวไปเร็วขึ้น ผมไม่อยากให้ตอนต้นถูกพาตัวไปอีก เพราะถ้าเสียไปอีกคน ผมก็ไม่รู้ว่าความเข้มแข็งของเขาจะมากพอให้ยืนอยู่ต่อไปได้หรือเปล่า แต่ผมไม่อยากเสี่ยงกับมัน ผมไม่ต้องการให้พี่ตุลย์ต้องสูญเสียใครไปมากกว่านี้ เพราะงั้นถ้าเมื่อไหร่ผมหายดี มันก็คงถึงเวลาที่ต้องออกไปจากที่นี่แล้วดำเนินชีวิตของใครของมัน


               ผมพลิกตัวกลับเงยหน้าวางขอกับขอบอ่างเซรามิก


               วันหนึ่งผมก็จะยอมรับมันได้ แล้วก็คงมองย้อนความสุขที่ผ่านมาได้โดยไม่มีอะไรติดใจ













               “หล่อมากเลยครับที่หนึ่ง!”


               ทอฟ้าชมเป๊าะหลังจากที่จัดเสื้อผ้าของลูกชายให้เข้าที่เข้าทาง ใบหน้าของเธอแพรวพราวไปด้วยความชอบอกชอบใจผิดกับลูกชายที่รู้สึกไม่ชอบใจกับสไตล์เสื้อผ้าที่เขาโดนบังคับให้ใส่ มันจะไม่น่าหงุดหงิดได้ยังไง เขาสิบขวบแล้วแต่ต้องมาถูกจับแต่งตัวเหมือนตัวเองสามสี่ขวบอย่างนี้


               “ที่หนึ่งไม่ค่อยชอบเลย”

               “ทำไมละ? หล่อมากเลยนะ เนี่ยชุดนี้น้าวีเลือกซื้อนานแหนะ สไตล์คล้าย ๆ กับแบบที่น้าวีชอบใส่ด้วยนะ เดี๋ยววันนี้แม่จะใส่ชุดเขากับลูกด้วย โอเคไหมครับ?”

               “...ก็ได้”


               ที่หนึ่งมองสภาพของตัวเองผ่านกระจก เขาอยากใส่แค่เสื้อยืดธรรมดากับกางเกงยีนส์เหมือนปกติ แต่วันนี้เขาต้องมาใส่เชิ้ต ทับด้วยเสื้อแขนยาว แล้วยังมีหูกระต่ายอีก กางเกงยีนส์ที่ใส่สบาย ๆ ก็ยังมีเข็มขัดมารัดให้ชวนอึดอัด ผมของเขาก็โดนจัดทรงจนแข็งไม่นิ่มมือเอาเสียเลย

               จากที่เห็นในกระจกไม่มีอะไรเลยที่ชอบสักอย่าง แต่มันช่วยไม่ได้ในเมื่อแม่ของเขายิ้มไม่หุบเลย และเขาก็ชอบที่แม่ยิ้มแบบนั้น อีกอย่างก็อุตสาห์ปลุกตั้งแต่เช้าเพื่อออกไปเที่ยวด้วยกันสามคนในวันอาทิตย์นี้ แต่งตัวแค่นี้ให้แม่ เขาทำได้อยู่แล้ว


               “อะ! ที่หนึ่งครับ เดี๋ยวแม่ไปดูน้าวีก่อนนะ ไม่รู้ตอนนี้แต่งตัวเสร็จหรือยัง ที่หนึ่งใส่ถุงเท้าแล้วก็ไปดูทีวีรอก่อนก็ได้นะ”

               “อืม” เด็กน้อยรับคำ


               หลังจากที่แม่ของเขาออกจากห้องไปแล้ว ที่หนึ่งก็กระโดดขึ้นเตียงพร้อมกับของ ๆ ตัวเองที่เขากวาดขึ้นไว้บนเตียง ก่อนจะคว้ากระเป๋าที่ถูกเอามาพร้อมกัน แต่ก่อนจะได้เก็บของใส่กระเป๋านั้น ที่หนึ่งก็ยังอุตสาห์ใส่ถุงเท้าลายน่ารักที่เขาก็ไม่ชอบตามคำสั่งของแม่เสียก่อน


               วันนี้คงจะได้กลับบ้านแล้วสินะเพราะพรุ่งนี้เป็นวันจันทร์ก็ต้องไปโรงเรียนแล้ว หลังจากที่หยุดอยู่กับแม่ตั้งแต่วันพฤหัสฯ 4 วันเต็ม ๆ


               “แต่พ่อจะมารับกี่โมงนะ ไม่เห็นแม่บอกเลย” เด็กน้อยพึมพำขณะเก็บของ ช่างเถอะ อย่างน้อยพ่อมารับเมื่อไหร่ก็จะได้พร้อมไปทันทีไม่ต้องมาเร่งรีบเก็บของอยู่อีก


               ที่หนึ่งเก็บของเข้ากระเป๋าตัวอย่างเรียบร้อย แต่ทว่าชุดนอนตัวโปรดที่เขาใส่อยู่ตอนที่ถูกพามาด้วยกลับหาไม่เจอ เด็กน้อยหันรีหันขวางก่อนจะเช็คที่ตู้เสื้อผ้าและตระกร้าอีกรอบ รวมถึงใต้เตียงที่อาจจะเผลอเตะเข้าไป แต่ว่าไม่ว่าเขาจะหาซอกไหนของห้อง ก็ไม่เจอชุดนั้น


               ชุดตัวโปรดด้วยแท้ ๆ...


               ที่หนึ่งตั้งใจจะไปถามแม่ เลยหันมารูดซิปปิดกระเป๋าก่อนจะยกขึ้นสะพายแล้วเดินดุ่ม ๆ ออกจากห้อง โชคดีที่แม่ของตนกำลังง่วนอยู่ในครัวไม่ได้อยู่ในห้องนอนอีกห้องอย่างที่นึกกังวลไว้


               “แม่ แม่เห็นชุดนอนของที่หนึ่งไหมอะ ที่ใส่มาที่นี่ด้วย”

               “อยู่ในตู้เสื้อผ้าหรือเปล่า หรือไม่แม่ก็พับไว้ข้างเตียงแล้วละมั้ง” ทอฟ้าตอบลูกชายแต่สายตาก็ยังไม่ละจากไข่ที่เธอกำลังใช้ส้อมตีให้เข้ากัน

               “ที่หนึ่งหาแล้วนะ แต่หาไม่เจอเลย”

               “แม่น่าจะวางไว้บนชั้นข้างบนในตู้เสื้อผ้านะ ลูกลองไปหาดู”

               “มันสูงอ่า แม่ไปหยิบให้ที่หนึ่ง...”

               “ที่หนึ่งครับ แม่ทำอาหารอยู่นะลูก อย่าเพิ่งกวนแม่นะครับ แล้วนี่มันก็ยังเช้าอยู่เลย ลูกจะถามหาชุดนอนไปทำไม” ทอฟ้าพูดขณะที่เทไข่ใส่กระทะส่งเสียงฉู่ฉ่า


               ...กลบความเงียบที่เธอไม่รู้ตัวว่าก่อมันขึ้น


               “ฟ้า กาแฟของพี่ได้หรือยัง?”


               ขณะนั้นเองวีก็ออกมาจากห้องร้องถามหากาแฟอย่างเช่นทุกวัน เสื้อผ้าที่เขาใส่เกือบจะเหมือนกับที่หนึ่งทุกระเบียดนิ้วราวกับเป็นชุดพ่อลูก


               “ได้แล้วค่ะ แต่พี่ไปนั่งรอก่อนนะ ฟ้าจะทอดไข่เสร็จแล้ว เดี๋ยวเอาไปให้ที่โต๊ะพร้อมกันเลย อา แล้วก็ที่หนึ่งครับข้าวเช้าลูกอยู่บนโต๊ะอาหารนะครับ เอาไปกินหน้าทีวี ดูการ์ตูนไปพลาง ๆ ปะลูกปะ” ประโยคสุดท้ายทอฟ้าหันมาบอกกับลูกชายที่ยังยืนอยู่ในครัวกับเธอ


               ที่หนึ่งไม่ตอบ เขาเพียงเดินออกจากครัว หยิบจานข้าวไข่ดาวที่น่าจะเป็นของตัวเองไปนั่งกินที่โซฟา โดยไม่คิดจะสนใจหรือทักทายใครก็ตามที่นั่งอยู่บนโต๊ะกินข้าวนั่นเลยแม้แต่น้อย


               สิ่งที่เขาคาดหวังไว้น่ะ...มันไม่ใช่แบบนี้   











               ที่หนึ่งมองซ้ายขวาด้วยความตื่นเต้น เสียงจอแจครึกครื้นทำให้เขาลืมเรื่องที่อยู่ในใจไปชั่วขณะ


                เด็กน้อยน่ะไม่ค่อยได้ออกไปนอกบ้านบ่อยนักเพราะว่าพ่อของเขาไม่ค่อยว่างพาไปไหน ๆ ส่วนใหญ่การไปเที่ยวก็คือไปห้างสรรพสินค้าใกล้ ๆ เพื่อซื้อของเข้าห้องหรือไม่ก็หาอะไรกินธรรมดา ๆ ในวันพิเศษเพราะงั้นเลยไม่แปลกใจที่ที่หนึ่งจะตื่นเต้นกับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมดาอย่างสยามแสควร์นี้ แม้ก่อนหน้านี้พ่อที่เคยบ้างานของเขาจะเริ่มพาเที่ยวที่อื่นบ้าง โดยมีเอสคอยหาเรื่องไปเที่ยวได้ตลอด


               แต่ขณะที่ที่หนึ่งกำลังมองร้านรวงฝั่งตรงข้ามของถนน เขากลับโดนทอฟ้าซึ่งเดิมทีอยู่ตรงกลางดึงให้มาอยู่แทนที่พร้อมเปลี่ยนมือข้างที่จูงเอาไว้ เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองแม่เหมือนจะถามแต่ก็ตัดสินใจเงียบไป ไม่ทำตัวเป็นเด็กดื้อหลังจากที่แม่ของตนยิ้มแก้มปริหน้าบานกับคำซุบซิบของคนที่เดินผ่านไปผ่านมาว่าพวกเขาเป็นพ่อแม่ลูกที่น่ารักน่าชัง


               ไม่ใช่สักหน่อย...ผู้ชายที่เดินอยู่ข้าง ๆ อีกด้านตอนนี้น่ะ ไม่ใช่พ่อของเขาสักหน่อย...


               “ฟ้า พี่ว่าที่ฟ้ามาที่นี่ไม่ใช่เพราะมีร้านอาหารน่ากินอะไรนั่นหรอก แต่เพราะจะไปซื้อเสื้อผ้าที่พารากอนใช่ไหมเนี่ย”


               วีพูดหยอกภรรยาที่อยู่ถัดไปจากเด็กที่หนึ่งหลังจากที่เพิ่งสังเกตเห็นห้างฯ หรูอยู่อีกด้านไกลออกไป


               “ใครบอก ฟ้ามาที่นี่เพื่อหาอะไรกินด้วยกันจริง ๆ นะ แต่ว่าก็อาจจะมีแวะบ้างตามภาษาผู้หญิง เสื้อผ้า รองเท้า บ้างอะไรบ้างเฉยๆ ทำไมคะ? หรือพี่ไม่อยากไปด้วยกัน ถ้างั้นพี่ก็แยกไปเดินดูอย่างอื่นก็ได้นะ กลับเมื่อไหร่จะโทรหา ฟ้าจะไปกับลูกสองคน ไม่ต้องห่วงเรื่องเงิน วันนี้ฟ้าจ่ายเงินเองได้ไม่ต้องง้อพี่เลย” ทอฟ้าหัวเราะพูดต่อปากต่อคำพอให้ได้หยอกเล่นกลับไปบ้าง

               “ได้ไงเล่า มาด้วยกันก็ต้องไปด้วยกันสิ จะไปซื้อเสื้อผ้ารองเท้าอะไรก็ตามใจฟ้าเลย พี่ไปด้วยอยู่แล้ว แล้วก็ไม่ต้องควักเงิน เมียพี่พี่ดูแลเอง”

               เธอหัวเราะ “ค่ะ ๆ อย่าลืมที่หนึ่งด้วยนะ วันนี้พี่ไม่ได้มาจ่ายให้ฟ้าคนเดียวนะคะ~”

               “ได้อยู่แล้ว”

               “เพื่อไม่ให้เอาเปรียบพี่เกินไป งั้นฟ้าจะเป็นคนถือของเองหมดเลยก็แล้วกัน” ทอฟ้าพูดหยอกพร้อมยิ้มหวานให้กับชายคนรัก วีเองก็ทำได้เพียงแค่หัวเราะให้กับความน่ารักที่ไม่เคยเปลี่ยนของสาวผู้เป็นภรรยา

                “เห็นพูดงี้ทีไรพี่ก็ได้ถือทุกที”


               ใช่ ทอฟ้ารู้ดีว่าเขาไม่มีทางปล่อยให้เธอต้องถือของพวกนั้นคนเดียวแน่


               “ก็พี่เป็นคนอาสาถือเองทุกที”


               ทั้งสองยิ้มให้กันเหนือหัวของเด็กน้อยที่ดูเป็นส่วนเกิน ที่หนึ่งมองมือของตัวเองที่จับอยู่กับแม่เงียบ ๆ ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือเปล่าแต่เขาว่ามันหลวมขึ้นทุก ๆ ที... อาจเพราะเหงื่อ หรือเพราะขนาดมือของเขามันเล็กเกินไปละมั้ง มันถึงทำท่าเหมือนจะหลุดตลอดถ้าเขาไม่ได้บีบมือเอาไว้แน่นขนาดนี้


               “ว๊าว ดูร้านนั้นสิ เสื้อผ้าน่ารัก ๆ ทั้งนั้นเลย”


               ฟ้าปล่อยมือที่จับกับลูกชาย ชี้เสื้อผ้าที่โชว์อยู่นอกร้านที่พวกเขากำลังเดินผ่าน เธอรีบปรี่เข้าไปในข้างในทันทีด้วยความชื่นชอบพร้อมกับคว้าแขนของชายคนรักเข้าไปช่วยเลือกด้วยความเคยชิน โดยที่ไม่รู้ว่าสำหรับที่หนึ่งภาพที่เธอปล่อยมือออกยังเคลื่อนไหวราวกับเป็นภาพช้าอยู่ในหัวของเขา


               มือ...หลุดไปแล้ว


               “หนูไม่เข้าไปพร้อมคุณพ่อคุณแม่หรอจ๊ะ?”


               ที่หนึ่งเงยหน้ามองพี่พนักงานสาว


               “เข้าครับ” เขาตอบเสียงเบาก่อนจะเดินตาม ‘คุณพ่อคุณแม่’ เข้าไปข้างใน










               หลังจากที่ใช้เวลาเดินเที่ยวไปจนเกือบบ่ายสอง ทอฟ้าก็ชวนทุกคนไปร้านที่อาหารที่เธอดูรีวิวมาเป็นอย่างดีพร้อมบรรยายสรรพคุณของร้านที่กำลังไปให้ลูกและสามีของเธอฟังตลอดทาง


               แต่ทว่าความตื่นเต้นนั้นก็ต้องถูกแทนที่ด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าร้านที่เธอจะมารับประทานนั้นไม่ได้มีเพียงแค่เธอที่อยากมาลิ้มลอง มีคนยืนออกันเต็มหน้าร้านแน่นขนัดชนิดที่ว่าแทบไม่เห็นพนักงานที่เป็นคนเขียนคิวเลยด้วยซ้ำ


               “เอาไงดีฟ้า เปลี่ยนร้านไหม?”

               “ฟ้าอยากกินร้านนี้อะ นาน ๆ จะได้มาที่นี่ทั้งทีก็อยากกินที่เขาว่าให้มาลองนี่หน่า...แต่ว่าถ้าพี่กับที่หนึ่งหิวกันแล้วเราเปลี่ยนหาร้านอื่นแถวนี้กินกันก็ได้”

               “ที่หนึ่งยังไม่หิวนะ”


               เด็กน้อยรีบตอบเอาใจแม่ทั้ง ๆ ที่มันไม่มีทางที่เขาจะไม่หิว ในเมื่อตอนเช้าเขากินแค่ข้าวไข่ดาวแล้วยังไม่ได้มีอะไรตกถึงท้องอีกเลยนับจากตอนนั้น


               “พี่ยังไงก็ได้อะ จะรอก็ได้ พี่ก็ไม่หิวเท่าไหร่ แต่ว่าพี่อยากกินกาแฟสักหน่อยเหมือนกินแค่ตอนเช้าจะเอาไม่ค่อยอยู่ ก็เลยว่าจะลงไปซื้อที่ชั้นล่างก่อน”

               “ถ้างั้นเรากินกันที่นี่แหละเนาะ! พี่ก็ลงไปซื้อกาแฟของพี่ก็แล้วกัน เดี๋ยวฟ้ากับที่หนึ่งจะรอคิวอยู่ที่นี่เอง” เธอยิ้มร่าอาสาอย่างอารมณ์ดี

               “ได้สิ แล้วฟ้าจะเอาเครื่องดื่มอะไรด้วยหรือเปล่า? หรืออยากเอาอะไรไหม? เดี๋ยวพี่ซื้อมาให้ด้วยเลย”

               “ฟ้าไม่เอาอะ...ที่หนึ่งอยากกินอะไรหน่อยหรือเปล่าลูก? เดี๋ยวน้าวีเขาจะได้แวะซื้อมาให้”

               “ที่หนึ่งก็ไม่เอาอะ”

               “เดี๋ยวหิวนะ”

               “ไม่เป็นไร ที่หนึ่งยังไม่หิวหรอก”

               “งั้นหรอ โอเค งั้นเอาเป็นว่าพี่จะซื้ออะไรก็ซื้อมาแล้วกันนะคะ”

               “ได้ งั้นรอแป๊บนึงก็แล้วกันนะ”

               “ค่ะ” ทอฟ้าหยักหน้ารับ


               หลังจากที่ชายคนรักลงลิฟต์ไปชั้นล่างแล้วทอฟ้าจึงค่อยพาลูกชายไปรับบัตรคิวอย่างกระตือรือร้น ก่อนจะออกมาหาที่นั่งที่อยู่ไม่ไกลนักเพื่อรอเรียกคิวของตน


               “ฮึบ” ที่หนึ่งถอดกระเป๋าเป้ที่ใส่ของเตรียมกลับบ้านออกจากหลังเพื่อให้ตนได้นั่งสบาย ๆ แล้วเอากระเป๋านั้นวางไว้บนตัก

               “แม่ก็บอกแล้วว่าให้วางไว้บนรถ จะเอามาทำไมให้เกะกะหือ”

               “ไม่เป็นไรหรอกแม่ มันก็ไม่ได้หนักมากขนาดนั้น” เด็กน้อยว่าพร้อมตบกระเป๋าปุ ๆ

               “จ้า ๆ พ่อคนเก่ง”


               ก่อนหน้านี้เธอเคยถามแล้วว่าจะเอากระเป๋ามาด้วยทำไม แต่ที่หนึ่งก็ไม่ได้ตอบอะไร เธอเองก็ไม่คิดจะถามซ้ำให้มากความ บางทีเด็กน้อยก็อาจจะเห็นว่ากระเป๋ามันเข้ากับชุดก็ได้ละมั้ง ถึงแม้เธอจะมองว่ามันขัดกับชุดมากก็ตาม


               “ว่าแต่ แม่ วันนี้พ่อจะมารับที่หนึ่งเมื่อไหร่หรอ?”


               ขณะที่ทอฟ้าหันกลับไปจดจ่อดูหมายเลขคิวที่กำลังขึ้นบนป้ายไฟ ลูกชายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็เอ่ยถามขึ้นเรียกเธอให้หันกลับมาสนใจอีกครั้ง


               “ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงถามถึงพ่อละครับ อยู่กับแม่ที่หนึ่งเบื่อแล้วหรอ?”

               “เปล่านะ ที่หนึ่งจะไปเบื่อตอนอยู่กับแม่ได้ไง แต่ว่าวันนี้พ่อน่าจะต้องมารับที่หนึ่งแล้วก็เท่านั้นเอง เพราะว่าพรุ่งนี้ที่หนึ่งต้องไปเรียน แล้วพ่อก็คงไม่ให้หยุดแล้วด้วย แต่แม่ก็ไม่เห็นบอกที่หนึ่งเลยว่าพ่อจะมารับกี่โมง ที่หนึ่งก็เลยถามเฉย ๆ”


               ทอฟ้ามีสีหน้าเหลอหลาอย่างเห็นได้ชัด เธอยังไม่ได้บอกที่หนึ่งว่านี่ไม่ใช่การมานอนค้างช่วยคราว แต่มันคือการย้ายที่อยู่ เธอยังไม่ได้บอกที่หนึ่งเลยว่า ต่อไปเขาน่ะจะอยู่กับเธอ....ตลอดไป


               “ที่หนึ่ง...อ่า ที่หนึ่งมาถามอะไรตอนนี้ละครับ! เพิ่งจะบ่ายสองเองนะ เหมือนไม่อยากจะอยู่กับแม่แล้วอย่างนั้นแหละ” เธอเลือกที่จะพูดเบี่ยงประเด็นไปก่อน

               “ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ที่หนึ่งแค่เพิ่งนึกขึ้นได้เฉย ๆ ที่หนึ่งอยากอยู่กับแม่จะตาย ไม่ต้องน้อยใจนะ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าที่หนึ่งค่อยมาใหม่ ถ้าพ่อไม่ว่านะที่หนึ่งจะมานอนค้างกับแม่ทุกอาทิตย์เลย!~”


               ทอฟ้ายิ้มกับความสดใสร่าเริงนั่น ก่อนที่รอยยิ้มนั่นจะค่อย ๆ เลือนไปพร้อมสีหน้าจริงจังที่ฉายขึ้นมา


               “...ที่หนึ่ง วันนี้พ่อน่ะ ไม่มารับที่หนึ่งหรอกครับ”

               “อ้าวงั้น แม่จะไปส่งที่หนึ่งที่คอนโดฯ หรอ?” เด็กน้อยเอียงคอถามด้วยความไร้เดียงสา “หรือพ่อจะมารับวันอื่น?”

               “ที่หนึ่ง....อยากอยู่กับแม่ไหมครับ? ที่เราอยู่ด้วยกันตั้งแต่คืนวันพุธจนถึงตอนนี้ที่หนึ่งมีความสุขไหมครับ?”

               “...ก็ต้องมีความสุขสิ ที่หนึ่งน่ะอยากอยู่กับแม่มาก ๆ เลยนี่หน่า นี่มันก็นานแล้วที่ที่หนึ่งไม่ได้อยู่กับแม่แบบนี้ ที่หนึ่งมีความสุขมากเลย”

               “แม่น่ะอยากอยู่กับที่หนึ่งตลอดไปเลยนะลูก”

               “ที่หนึ่งก็อยากอยู่กับแม่เหมือนกัน เหมือนเมื่อก่อนตอนที่เราอยู่ด้วยกันที่คอนโดฯ ตอนที่แม่กำลังมีน้องให้ที่หนึ่ง ที่หนึ่งอยากอยู่กับแม่แบบนั้นไปตลอดเหมือนกัน”


               อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา พ่อแม่ลูก และไม่มีใครคนอื่นเข้ามา...


               ทอฟ้ามองลูกชายเธอ สายตาฉายแววความลังเลเพียงชั่วครู่ แต่เธอก็มั่นใจว่าที่หนึ่งก็ต้องยินดีที่จะได้อยู่กับเธอตลอดไปเหมือนกับที่เธอรู้สึก ที่หนึ่งจะได้เจอสิ่งที่ดีกว่าในทุก ๆ อย่าง เงินทอง บ้านหลังใหญ่ โรงเรียนดี ๆ สังคมดี ๆ


               หรือแม้แต่พ่อ เธอก็มั่นใจว่าวีจะเป็นพ่อที่ดีให้ที่หนึ่งได้มากกว่าตุลย์แน่!


               “ที่หนึ่งครับ ถ้างั้นต่อไปนี้ที่หนึ่งอยู่กับแม่นะ เราอยู่ด้วยกันตลอดไปเลยนะครับ”

               “เอ๋?”

               “ก่อนหน้านี้แม่คุยกับพ่อแล้วว่าจะเอาที่หนึ่งมาเลี้ยงเอง แล้วพ่อก็ตกลงแล้วด้วย เพราะงั้นพ่อไม่มารับแล้วละครับ เพราะที่หนึ่งอยู่ด้วยกันกับแม่แล้วนะตอนนี้ อยู่ไปด้วยกันตลอดไปเลย ให้แม่ได้ทดแทนตอนที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันนะลูกนะ”

               “...”

               “ส่วนโรงเรียนที่หนึ่งก็ไม่ต้องแล้ว แม่คุยกับน้าวีก่อนแล้วว่าจะให้ที่หนึ่งย้ายโรงเรียนมาอยู่ใกล้ ๆ บ้านเรา โรงเรียนแถวนั้นมีแต่โรงเรียนดี ๆ ทั้งนั้นเลย ที่หนึ่งจะได้เจอแต่เพื่อนดี ๆ สังคมดี ๆ แล้วที่หนึ่งก็ไม่ต้องขึ้นรถโรงเรียนอะไรนั่นแล้ว แม่จะพาที่หนึ่งไปโรงเรียนทุกวัน ไปรับทุกวัน แม่จะตื่นมาทำข้าวเช้าให้กิน จะทำกล่องข้าว แล้วเราก็จะไปเที่ยวด้วยกันสามคนบ่อย ๆ เลย แม่ไม่อยากให้...”


               ทอฟ้ายังคงพูดอะไรอีกยาวเหยียด แต่ดูเหมือนว่าที่หนึ่งจะไม่รับรู้อีกต่อไปแล้ว ทุกอย่างมันขาวโพลนตั้งแต่ประโยคแรกที่เขาได้ยิน...


               “ก่อนหน้านี้แม่คุยกับพ่อแล้วว่าจะเอาที่หนึ่งมาเลี้ยงเอง แล้วพ่อก็ตกลงแล้ว เพราะงั้นพ่อคงไม่มารับแล้วละครับ”


               ทำไมละ...ที่หนึ่งทำอะไรผิดหรอ…


               “...แล้วพ่อก็ตกลงแล้ว เพราะงั้นพ่อคงไม่มารับที่หนึ่งแล้วละครับ”


               เพราะที่หนึ่งงอแงบ่อย ๆ ว่าอยากมีแม่ อยากเจอแม่ อยากอยู่กับแม่อย่างนั้นใช่ไหม...?


               “ฟ้า คิวเราคิวที่เท่าไหร่?”

               “อะ!”


               เสียงทุ้มของวีดังขึ้นพร้อมกับเครื่องดื่มที่ถูกยื่นมาตรงหน้า ทอฟ้าที่กำลังพูดอยู่กับที่หนึ่งหันมองคนที่เพิ่งกลับมาก่อนจะเอ่ยปากขอบคุณแล้วรับแก้วเครื่องดื่มนั้น


               “ยังไม่ถึงคิวเราอีกหรอ?” วีชะโงกหน้าดูใบคิวแล้วหันมองป้ายไฟ เธอเองเมื่อถูกทักก็มองตามก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อหมายเลขบนป้ายไฟนั้นเป็นหมายเลขคิวของเธอ

                “ตายจริง ฟ้ามัวแต่คุยกับลูก ลืมดูคิวเลย...ที่หนึ่งลุกมาเร็วลูก คิวเราแล้ว”


               ทอฟ้าคว้ามือของลูกชายกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปหาพนักงานที่ชะเง้อมองหาเจ้าของคิวโดยมีวีเดินดูดกาแฟตามหลังไม่ห่าง


               “ก่อนหน้านี้แม่คุยกับพ่อแล้วว่าจะเอาที่หนึ่งมาเลี้ยงเอง แล้วพ่อก็ตกลงแล้ว เพราะงั้นพ่อคงไม่มารับที่หนึ่งแล้วละครับ”


               พ่อ...


               ...ทิ้งที่หนึ่งแล้วหรอ


















                “ดีขึ้นแล้วหรอไง ถึงได้มาอ่านหนังสือไม่ยอมนอนเนี่ย”

               “ก็ไม่ค่อยปวดหัวแล้วอะ ผมไม่อยากนั่ง ๆ นอน ๆ เท่าไหร่ ใกล้จะสอบแล้วด้วยเดี๋ยวได้เอฟมาจะทำยังไง ผมต้องรักษาเกรดนะ” ผมตอบโดยที่ยังไม่ละสายตาจากหนังสือก่อนจะเขียนโน๊ตเล็ก ๆ ลงในหนังสือ

               “โอเค อย่าฝืนร่างกายก็แล้วกัน เดี๋ยวก็ไม่หายสักที”

               “ไม่ได้ฝืนอะไรหรอกหน่า เนี่ยดีวันดีคืน ไม่รู้ว่ายาที่บ้านพี่กับยาที่บ้านเพื่อนมันต่างกันตรงไหนถึงได้ผลลัพธ์ต่างกันซะเหลือเกิน”

               “งั้นวันนี้ก็ไม่อาบน้ำพร้อมกันแล้วสินะ”

               “ไม่ต้องแล้ว!”


               ผมเงยหน้าพรึ่บทันทีเมื่อพี่ตุลย์พูดเรื่องนี้ เมื่อวานนี้ตอนที่โดนลากอาบน้ำพร้อมตอนต้น หลังจากที่เขาอาบน้ำให้ตอนต้นเสร็จเขาก็จะมาอาบน้ำให้ผมต่อจริง ๆ ตอนแรกผมนึกว่าเขาพูดเล่นแต่เห็นบีบสบู่ใส่มือแล้วผมนี่รีบเบรกเขาเลยครับ ผมไม่ยอมก็เลยกลายเป็นว่าผมได้อาบเองโดยมีพี่ตุลย์ยืนคุม


               “แต่มันก็ไว้ใจไม่ได้”

               “ไม่ต้องจริง ๆ ครับ เมื่อวานพี่ปล่อยให้ผมอาบน้ำคนเดียวก็ได้นะ เห็นไหมเนี่ย ไข้ขึ้นอะไร ก็ยังเห็นสบายดี กำลังจะหายหวัดอยู่ร่อมร่อแล้วด้วยซ้ำ”

               “ถ้าฉันไม่นั่งดูไว้ไม่ให้นายแช่น้ำนานเกินไป คิดว่าจะมีแรงมาเถียงฉันอยู่แบบนี้หรอ ป่านนี้นอนป่วยอยู่บนเตียงแล้ว”

               “ก็ไม่ถึงขนาดนั้นสักหน่อย” ผมบ่นอุบ


               พี่ตุลย์ส่ายหัวใส่ก่อนจะพาตอนต้นไปนั่งเล่นบนโซฟา ทิ้งผมให้นั่งอ่านหนังสือคนเดียวต่อ แต่ดูเหมือนว่าสมาธิผมจะลอยติดไปกับพี่ตุลย์ด้วย แทนที่จะมองหนังสือกลับดันเลื่อนไปมองมนุษย์หน้านิ่งที่กำลังเล่นอยู่กับลูกชายตัวเอง


               ที่จริงในใจผมน่ะ แอบอยากป่วยแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เลยครับ ยืดเวลาที่จะอยู่กับเขาไปอีกสักพัก แต่โคตรจะไม่มีอะไรเข้าข้างผมเลย ขนาดร่างกายตัวเองก็ยังดีวันดีคืนเลยเฮ้อ แต่ก็ช่างมันเถอะ ก็แค่ความเพ้อบ้า ๆ บอ ๆ พี่ตุลย์รับกับสิ่งที่เป็นอยู่ได้และก้าวเดินต่อไปข้างหน้า ผมเองก็ต้องทำอย่างนั้นเหมือนกัน มันก็เป็นบท ๆ หนึ่งในชีวิต เริ่มขึ้นแล้วก็ต้องจบลง


                ...ตอนนี้ผมเองก็ไม่มีอะไรติดค้างแล้ว แม้มันจะไม่ได้จบอย่างที่หวัง อย่างน้อยมันก็ไม่ได้เศร้าสลด


               “มองอะไร? ไม่อ่านแล้วหรอไงหนังสืออะ ไหนบอกต้องรักษาเกรดไง”

               “กำลังพักสายตาไง”

               “พักนานไปไหม อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่านายมองฉันตั้งแต่เมื่อไหร่”

               “เออออ ไม่มองแล้วก็ได้” ผมหันขวับกลับมาที่หนังสือ มองนิดมองหน่อยทำเป็นบ่น ชิ!


               Rrrrrrrrrrrrrrr


               ผมหันตามเสียงโทรศัพท์ของพี่ตุลย์ที่เสียบชาร์จแบตอยู่ในครัว ตั้งใจว่าหยิบเอาไปให้ แต่พี่ตุลย์ก็อุ้มตอนต้นมารับโทรศัพท์นั้นเสียก่อน


               “โทรมาทำไมฟ้า”


               กึก...


               ผมชะงักมือ ลุกขึ้นไปหาที่ตุลย์ที่กำลังคุยโทรศัพท์อย่างถือวิสาสะ ผมบอกแล้วไงไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตอนนี้ผมยังอยู่ที่นี่ ผมจะไม่ให้เขาเผชิญอะไรคนเดียว


               “อะไร? พูดอะไรพี่ฟังไม่รู้เรื่อง ใจเย็นกว่านี้ก่อนแล้วค่อยโทรมาใหม่ก็แล้วกัน”


               พี่ตุลย์ถอนหายใจ ทำท่าเหมือนจะวางแต่ผมคว้าโทรศัพท์จากมือพี่ตุลย์มาเสียก่อน แล้วเปิดสปีคเกอร์โฟนเพื่อช่วยฟัง


               /ฟ้าบอกว่า ที่หนึ่งหายตัวไปแล้ว!! ได้ยินไหม!/








TBC
Come Backkkk I'm sorry But I LOVE U ค่ะ  :hao5:



เพื่อการติดตามการอะพเดททุกช่องทางค่ะ   (http://i.imgur.com/EET2yfi.jpg) (https://www.facebook.com/nistawriter/)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 47 (27/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 27-10-2016 21:25:06
โอ๊ยยยย นังฟ้าหลงผัวจนลืมลูก!!! แล้วหล่อนจะบังคับให้ลูกมาอยู่ด้วยทำซากอะไร!!!! :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 47 (27/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-10-2016 23:26:32
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 47 (27/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 28-10-2016 00:20:19
ที่หนึ่งงงงงงงง!!!! หายไปไหน กลับมาอยู่กับพ่อตุลย์เถอะ ดูยัยแม่ฟ้าทำกับเราดิ มันไม่ช่ายยยยย //เออเอ้อเออโอ๊ยยยคิดถึงเอสพี่ตุลย์โคตรๆ นานมาแล้วอ่านถึงล่าสุดยังไม่เคยเม้นท์เลยแต่ชอบบบมากกกก เรื่องนี้ดีมากจริงๆชอบเอสมาก เป็นคนดีมีเหตุผล รักเด็ก รักจริง พี่ตุลย์ก็ดี๊ดี อ๊ากกกกชอบอ่ะค่ะ นึกว่าจะหายไปแล้วไปเลย 55555 ลืมแบบต้องมาอ่านวนอีกอ่ะ 5555 //กลับมาอยู่กับพ่อละพี่เอสนะที่หนึ่ง เอสอย่าไปไหนนะ ห้ามเลยห้าม แต่ก่อนอื่นต้องไปตามหาที่หนึ่งให้เจอก่อน ไปหลงทางอยู่ไหน แม่ก็จัญไรลืมลูก ก็นะคนมันไม่พร้อม/ชินที่จะรักและเลี้ยงลูก สงสารที่หนึ่งพ่อตุลย์และพี่เอส รอครอบครัวสุขสันต์หรรษานะค่ะ //รอตอนต่อไปนะค่ะ นานก็รอ รอแบบใจอยากอ่านมากกก 555  :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 47 (27/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 28-10-2016 00:51:33
ค้างงงง เกลียดยัยฟ้า :katai1: :katai1: :z10:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 47 (27/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-10-2016 01:09:59
 :ling3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 47 (27/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 28-10-2016 10:48:40
 :pig4:
รอมานานมากกกกกก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 47 (27/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: flowerloveyaoi ที่ 28-10-2016 12:51:47
ที่หนึ่งจ๋า พ่อไม่ได้ทิ้งที่หนึ่งนะแต่แม่แย่งหนูไปเองต่างหาก  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 47 (27/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 28-10-2016 13:21:38
อ๊าว  อินี่ ทำลูกหาย



โถ๋ที่หนึ่งลูกหนู ยิ่งไม่ค่อยได้ไปใหนมาใหน



โดนไอ้แก๊งส์ขอทานลักตัวไปหรือเปล่าลูก



ขอด่าหน่อยได้ใหม แม่แบบนี้ ขอด่าหน่อยเถอะ



อีช้างลาก แกเอาลูกไปทำซากอะไร เอาไปแล้วทำหาย อีบ้า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 47 (27/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 28-10-2016 18:32:15
ยัยบ้า ปล่อยให้ลูกหายได้ยังไง
แค่นี้ก็ไม่เหมาะสมในการพาที่หนึ่งมาเลี้ยงแล้ว
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 47 (27/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 28-10-2016 18:33:08
ถ้าฟ้องร้องกันจริง ฝ่ายพ่อมีโอกาสชนะสูงนะ ฝ่ายแม่ที่ทิ้งลูกไป2 ครั้งซ้อนนี่โอกาสชนะไม่มากนะ นัดสืบพยานอีก ฝ่ายที่เลี้ยงดูมาเป็น 10 ปีเนี่ย ไหนจะพฤติกรรมแม่เด็กกับสามีใหม่อีก โหเฮียตุลย์สู้เหอะ แม่พูดแบบนั้นไปแล้ว ใจเด็กแตกสลายไปเรียบร้อยแล้วละ ไม่ต้องกลัวแล้วละว่าลูกจะเสียใจ เพราะมันเสียไปแล้ว
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 47 (27/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 28-10-2016 22:26:42
ทอฟ้าน่าตบมากกกกกก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 48 (28/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 28-10-2016 23:47:53
ตอนที่ 48






            ตึง!!


            โทรศัพท์ร่วงลงจากมือกระแทกกับพื้นกระเบื้องอย่างแรง โชคดีว่าชิ้นส่วนยังไม่แยกออกจากกัน แม้มือของพี่ตุลย์จะสั่นจนผมยังสังเกตเห็น แต่เขาก็พยายามที่จะใจเย็นแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคุยต่อ


            “ลูก...หายไปจากที่ไหน”

            /สยาม ไม่ ๆ พารากอน ฟ้ากับลูกมาเที่ยวด้วยกันที่นี่ เราซื้อของกันแล้วก็กำลังจะกลับ ตะ แต่ว่าพอฟ้าละสายตาไปแป๊บเดียว ที่หนึ่งก็หายไป!/

            “นี่ฟ้าดูลูกยังไง เขาถึงหายไปได้หะ!”


            ผมสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ ใบหน้าของพี่ตุลย์และน้ำเสียงก็น่ากลัวจนผมใจสั่น แต่ในขณะเดียวกันมือของเขาก็กำแน่นเหมือนกำลังอดทนและใช้มันเพื่อดึงสติให้ยังอยู่กับตัว


            /ฟ้าก็แค่คุยกับพี่วีแป๊บเดียวเท่านั้นเอง! อย่าเพิ่งว่าฟ้าได้ไหม! ช่วยฟ้าก่อน!!/


            ผมเองก็เห็นด้วยเลยบีบไหล่พี่ตุลย์เบา ๆ ให้ใจเย็นลง


            “...แล้วฟ้าให้ประชาสัมพันธ์หาหรือยัง?”

            /ฟ้าทำแล้ว พอรู้ตัวว่าลูกหายไป พี่วีก็ไปบอกให้เขาประชาสัมพันธ์หาเลย แล้วก็ขอความช่วยเหลือจากยามช่วยหาทุกชั้นแล้ว ฟ้ากับพี่วีก็เดินหาตลอดยังไม่ได้หยุด แต่ก็หาไม่เจอเลย ทำไงดี.../

            “พี่ตุลย์ แถวนั้นมันมีห้างฯ อยู่ติด ๆ กัน ผมว่าให้เขาไปแจ้งฝ่ายประชาสัมพันธ์ของห้างฯ อื่น ๆ ไว้ด้วยดีกว่า เผื่อที่หนึ่งอาจจะเดินหลงไปห้างฯ อื่น”

            /นั่นเสียงเอสหรอ? พี่ยังอยู่กับไอ้เกย์นั่นหรอ! นี่พี่ยังกล้า.../

            “หุบปาก!! แล้วไปทำตามที่เอสบอกซะ ถ้าลูกเป็นอะไรไปพี่ไม่เอาเธอไว้แน่ทอฟ้า! แล้วก็อยู่ที่นั่นแหละ พี่จะไปหา” เสียงนั่นต่ำจนเย็นยะเยือก


            ตุลย์กระชากที่ชาร์จแบตออกอย่างแรงจนทั้งตัวที่ชาร์จหลุดออกมาจากปลั๊กติดผนัง เขาอุ้มตอนต้นมาให้ผมรับต่อ ก่อนจะพรวดพราดเข้าห้องนอน หยิบกุญแจรถและกระเป๋าเงิน


            “ผมไปด้วยนะ!”

            “ไม่ต้อง อยู่ที่นี่แหละ ดูแลตอนต้นไว้”

            “แต่ถ้าผมไปด้วยก็จะได้ช่วยหาไง ไปกันหลาย ๆ คนมันก็ดีกว่าไม่ใช่หรอ?”

            “จะให้ฉันต้องมาพะวงทั้งที่หนึ่งทั้งตอนต้นหรอไง! อยู่ที่นี่ เฝ้าตอนต้นไว้เข้าใจไหม!”


            ปัง!


            ผมสะดุ้งกับเสียงปิดประตู หน้าตาน่ากลัวของพี่ตุลย์ก่อนที่จะกระชากประตูปิดทำให้ผมหวาดหวั่นไม่น้อย นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเขาฟิวส์ขาดขนาดนี้ แต่มันก็ไม่แปลกในเมื่อลูกหายไปทั้งคนแล้วมันก็ไม่ใช่ใกล้บ้านเลยด้วย ที่หนึ่งหายไปในที่ที่เขาไม่เคยไปมาก่อน ทั้งผู้คนทั้งรถยนต์ล้วนแต่น่ากลัว มันสามารถเกิดเรื่องเลวร้ายได้ตลอดกับเด็กหลงทางคนหนึ่งในเวลาเย็นย่ำแบบนี้


            “แอ แอ๊!”

            “ตอนต้นจะไปไหนละ?”


            ผมจับตอนต้นที่กำลังตะเกี่ยตะกายออกจากแขนผมไว้ ล็อคไว้อย่างดีกันไว้ทุกทาง แม้ตอนต้นจะไม่รู้เรื่องอะไรแต่เขาก็คงจับสังเกตได้ว่ามันมีเรื่องเกิดขึ้นถึงได้ดิ้นแรงขนาดนี้


            ทำไงดี ผมเองก็ใจคอไม่ดี ไม่อยากอยู่ที่นี่ อยากออกไปตามหาอีกแรง...แต่ถ้าผมเอาตอนต้นไปด้วยมันก็ลำบากอย่างที่พี่ตุลย์พูด ต้องมาพะวงหน้าพะวงหลัง ป้าสร้อยก็ไม่อยู่ตั้งแต่วันเสาร์แล้วด้วย


            โธ่เว้ย! นี่ผมได้แต่นั่งสวดภาวนาให้หาที่หนึ่งเจอหรอไง!














            ตุลย์เป็นคนใจเย็นอยู่เสมอและในทุกสถานการณ์ เขาเชื่อมั่นว่าถ้าคิดให้ดี ๆ รอบคอบ ระมัดระวัง ปัญหามันก็แก้ได้ไม่ยาก แต่วันนี้เขาก็เพิ่งรู้ว่ามันใช้ไม่ได้ในทุกสถานการณ์!! ตอนที่เขารู้ว่าที่หนึ่งหายไป เขาสงบสติอารมณ์ไม่ได้เลย! เขาเก็บงำความเยือกเย็นเอาไว้ไม่ได้! แม้จะนั่งอยู่ในรถเย็นเฉียบแต่ใจกลับร้อนรุมด้วยความกังวลไม่หยุด


            ทำไมมันถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้!!


            “พี่ดูเชื่อมั่นมากเลย ว่าเขาจะเลี้ยงที่หนึ่งได้ดี”

            “ก็ยังเป็นแม่ของที่หนึ่งนี่หน่า”



            ตึง!!


            บ้าเอ๊ย เขาไปไว้ใจผู้หญิงคนนั้นได้ไง เขาคิดได้ยังไงว่าผู้หญิงคนนั้นจะดูแลที่หนึ่งได้ดี!


            ตุลย์แทบจะประสาทเสีย อยากจะร้องเสียงดัง ๆ ด้วยความคับแค้นใจตัวเองแต่เขาก็ทำได้แค่เงียบและสะกดกั้นอารมณ์ สอดส่องสายตาซ้ายขวาเวลาที่ขับรถ มองทุกอย่าง มองทุกที่เผื่อจะเห็นลูกเดินอยู่ หรือนั่งรถของใคร หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้เขารู้ว่าลูกปลอดภัยแล้วจะพาตัวกลับมาได้!


            Rrrrrrrrrr


            “เจอที่หนึ่งแล้วหรอ?” ทันทีที่เห็นว่าทอฟ้าเป็นคนโทรมา ตุลย์ไม่รอช้าที่จะกดรับสาย

            /ยังเลย แต่ฟ้าแจ้งเจ้าหน้าที่บริเวณใกล้ ๆ ไปหมดแล้วเขาจะช่วยตามหากันอีกแรง พี่ว่าเราโทรแจ้งตำรวจดีไหม ให้เขาช่วยหาด้วยเผื่อที่หนึ่งขึ้นรถไปไหน ๆ/

            “ยังหายไม่ถึงวันเขาไม่รับแจ้งหรอก”

            /งะ งั้นเราควรทำยังไงต่อดี?/

            “คิดเข้าสิ! ผู้ใหญ่ไปกันตั้งสองคนดูแลเด็กคนเดียวยังทำไม่ได้!”ตุลย์ตวาดก่อนจะกดตัดสาย


            โทรศัพท์เครื่องหรูถูกโยนไว้ที่นั่งข้างคนขับ ทันทีที่รถจอดเพราะสัญญาณไฟแดงเขาซุกหน้าลงกับพวงมาลัย ทั้งเครียด กังวล เป็นห่วง โมโห สารพัดความรู้สึกถาโถมเข้ามาจนแทบจะเป็นบ้า


            ถ้าเขาหาที่หนึ่งไม่เจอ...ถ้าที่หนึ่งเป็นอะไรไปละก็ เขาจะไม่มีวันให้อภัยสองคนนั้นแน่!


            “ที่หนึ่งอยู่ไหนเนี่ยลูก...” เสียงนั้นถูกเปล่งอย่างสิ้นหวัง แต่เขาก็ยังมองซ้ายมองขวาอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อหาลูกชายของตน


            ที่เขากำลังจะไปหาทอฟ้านั้นไม่ใช่เพื่อไปช่วยหาแถวนั้นหรอก ที่นั่นมีคนหามากมายยู่แล้ว ที่ที่เขาออกมาตามหาคือ ‘ระหว่างทาง’ ต่างหาก เขาคิดว่าที่หนึ่งคงไม่อยู่บริเวณนั้นแล้วด้วยซ้ำ เพราะไม่งั้นที่หนึ่งคงไปหายาม หรือพนักงานที่สามารถพาเขาไปประกาศตามหาทอฟ้าอย่างที่เขาเคยสอนไปแล้ว ในเมื่อไร้วี่แววขนาดนี้สิ่งที่มีความเป็นไปได้คือโดนลักพาตัวไปหรือไม่ก็เดินหลงออกมาบริเวณข้างนอกที่ไม่ใช่สถานที่เที่ยวแล้ว


            เขาก็ได้แต่หวังแค่ว่าลูกชายแค่หลงทางออกไป แล้วกำลังหาทางกลับมา…














            ผมเงยหน้ามองนาฬิกา ตั้งแต่พี่ตุลย์ออกไปก็ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ยิ่งผ่านไปนานเท่าไหร่ผมก็ยิ่งใจคอไม่ดีเท่านั้นแทบจะหยุดตัวเองที่เดินวนไปวนมาอยู่ในห้องไม่ได้


            ก๊อก ๆ


            ความว้าวุ่นใจถูกชะงักด้วยเสียงเคาะประตูห้อง ผมเหลียวหลังมองก่อนจะอุ้มตอนต้นขึ้นแล้วเปิดประตูดู


            “อ้าว เอส! อยู่ด้วยหรอเนี่ย เห็นตุลย์บอกว่าไปพักอยู่กับเพื่อนไม่มาที่นี่สักพัก”


            ป้าสร้อยนั่นเอง...


            “ผมก็แวะ ๆ มาอะครับ มาเอาของด้วยอะไรด้วย”

            “หรอ โทษทีนะป้าก็ไม่รู้ว่าเอสอยู่ด้วย ป้าเลยไม่ได้เตรียมของฝากมาเผื่อเลย มีแต่ของตุลย์กับเด็ก ๆ เท่านั้นเอง”

            “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมรับไว้แค่น้ำใจก็พอแล้ว” ผมยิ้ม

            “แต่เสียดายจังเลยนะ ถ้ารู้ว่าเอสอยู่จะได้เอาของดีของบ้านป้ามาอีกเยอะ ๆ อร่อย ๆ ทั้งนั้นเลย”


             ขณะที่ป้าสร้อยกำลังพูดถึงของฝากของบ้านที่ต่างจังหวัดอย่างชื่นชมเสียงโทรศัพท์ของป้าสร้อยก็ดังขึ้น ผมที่ยังยืนอยู่พอจับใจความได้จากคำที่ใช้โต้ตอบของป้าสร้อยว่า สามีของป้าสร้อยที่ลงไปขนของจากรถอยู่ล่างคอนโดฯ ไม่สามารถขึ้นมาได้เลยเรียกให้ป้าสร้อยลงไปรับ แล้วก็คุยอะไรกันอีกเล็กน้อยที่เป็นเรื่องส่วนตัวก่อนจะกดตัดสายไป


            “คุณลุงขึ้นคอนโดฯ ไม่ได้หรอครับ?”

            “ใช่แล้วละ ไม่มีคีย์การ์ดน่ะ งั้นป้าลงไปข้างล่างไปรับสามีป้าก่อนนะ”

            “อะ เอ่อ ให้ผมลงไปดีกว่าไหมครับ? เห็นได้ยินว่าต้องขนของขึ้นมาด้วย ผมจะได้ลงไปช่วยขนด้วย”

            “ดีเลย! ลุงกับป้าก็กระดูกกระเดี้ยวก็ใช่ว่าจะดี ถ้างั้นป้ารบกวนหน่อยแล้วกันนะ ระหว่างนั้นเดี๋ยวป้าช่วยดูแลตอนต้นให้”

            “ได้เลยครับ” ผมเปิดประตูห้องให้อีกฝ่ายเข้ามาข้างใน


            หลังจากปล่อยให้เด็กอ้วนอยู่ในความดูแลของป้าสร้อยแล้วผมก็รีบลงไปชั้นล่างหาสามีของป้าสร้อยที่กำลังรออยู่ แต่พอผมลงไปถึง ผมกลับไม่เห็นใครอยู่เลยสักคน ชะเง้อมองออกไปข้างนอกแล้วก็ไม่เห็นวี่แววของสามีป้าสร้อย ดูเหมือนว่าตอนที่ผมกำลังลงลิฟต์มา เขาก็คงเข้าคอนโดฯ ได้ แล้วขึ้นลิฟต์อีกตัวไปซะแล้ว


            ผมที่กำลังหมุนตัวกลับ ตัดสินใจเปิดประตูคอนโดฯ หันซ้ายหันขวาดูอีกรอบเพื่อให้มั่นใจว่าผมไม่ได้คิดผิดแล้วปล่อยคุณลุงทิ้งเอาไว้ด้านล่าง จนแน่ใจแล้วว่าสามีของป้าสร้อยคงขึ้นลิฟต์สวนกับผมไปแล้วจริง ๆ จึงค่อยตัดสินใจหันหลังกลับ


            ...ถ้าหากว่า ขณะที่ผมกำลังจะปิดประตู ไม่เจอใครที่คุ้นตากำลังลงมาจากแท็กซี่ เข้ามาใต้คอนโดฯ...


            “...ที่หนึ่ง?”













            ทันทีที่เอสวางสายไป ตุลย์ก็รีบหาที่ตีรถกลับไปที่คอนโดฯ ในใจเต้นระรัวไปด้วยความดีใจ โล่งอกที่รับรู้ว่าลูกชายของเขาปลอดภัยดีไม่ได้ถูกใครพาไปไหน และโชคดีที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์ซึ่งรถค่อนข้างมาก ทำให้เขายังออกไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่นัก อีกถนนฝั่งขากลับก็มีรถเบาบางพอที่จะทำให้เขาสามารถรีบกลับไปหาที่หนึ่งได้ภายในครึ่งชั่วโมง ในระหว่างนั้นเขาโทรศัพท์ต่อสายไปหาทอฟ้าด้วย ใช้เวลาคุยไม่นานนักเพียงแค่แจ้งข่าวของที่หนึ่งก็กดตัดสายทิ้ง ความเร่งรีบทำให้เขาไม่ต้องการจะทำอะไรไปมากกว่าขับรถไปเจอหน้าลูกชายของตัวเองให้เร็วที่สุด!

     รถฮอนด้า แอคคอร์ด รุ่น 2.4 EL NAVI สีดำสนิทเลี้ยวเข้าคอนโดฯ ตุลย์รีบลงจากรถอย่างรวดเร็ว เดินจ้ำอ้าวเข้าไปในตัวตึก ตรงดิ่งเข้าลิฟต์ที่จอดนิ่งอยู่ชั้นหนึ่ง นิ้วเรียวกดเลขชั้นของตัวเองย้ำ ๆ แม้จะรู้ว่ามันจะไม่ได้ทำให้ลิฟต์ขึ้นเร็วขึ้น แต่เขาต้องการระบายออกถึงความเร่งรีบและความกระวนกระวายใจ


            ยิ่งที่หนึ่งอยู่ใกล้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งร้อนรนมากขึ้นเท่านั้น!


            ติ้ง


            เสียงของลิฟต์ดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าเขามาถึงชั้นห้องพักของตัวเอง เขาพุ่งออกไปไม่ชักช้า วิ่งไปยังห้องของตัวเอง ไม่มีรีรอเอื้อมมือไปเปิดประตู!


            ตึง!


            เอสและที่หนึ่งผงะกับเสียงบานประตูกระแทกวงกบและท่าทางพรวดพราวของผู้มาใหม่ แต่มันไม่ได้อยู่ในความสนใจไปมากกว่าลูกชายของตัวเองที่นั่งอยู่บนโซฟา เขาปรี่เข้าไปหาที่หนึ่งด้วยมือที่สั่นเทา เขาเงื้อมันขึ้นสูงจนทำให้เอสตกใจ ตั้งท่าจะไปห้ามเอาไว้แต่มือนั่นกลับทำเพียงแค่ลดระดับลงมาแตะเข้าที่ใบหน้า เพียงแค่ให้มั่นใจว่าลูกน้อยของเขายังปลอดภัย


            เพื่อให้มั่นใจว่าลูกรักของเขายังสบายดี


            “พ่อนึกว่าตัวเองจะตายซะแล้ว”

            “...”

            “พ่อเป็นห่วงที่หนึ่งมากเลยนะลูก”

            “ฮึก…”


            รอยยิ้มอ่อนโยนของตุลย์ เรียกน้ำตาของเด็กน้อยให้รื้นขึ้นมาอย่างง่ายดาย พอเห็นหน้าผู้เป็นพ่ออย่างที่อยากเห็น ความในใจที่เขาเก็บไว้มาหลายวันก็เหมือนจะพังทลายลงในเวลานั้น


            “เป็นอะไรไป? ไม่ร้องนะลูกนะ”


            ตุลย์ยังคงพูดปลอบอย่างอ่อนโยน เขารู้ว่าที่หนึ่งกลับมาเองจากคำบอกเล่าของเอสแต่เขาก็ไม่โกรธเลย ไม่แม้แต่จะต่อว่าสักคำ แต่กลับทำให้ที่หนึ่งยิ่งรู้สึกเศร้ามากขึ้นจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แล้ว


            “ที่หนึ่ง ฮึก...ขอโทษนะ ที่หนึ่งขอโทษ ฮึก”

            “ไม่เป็นไร ที่หนึ่งปลอดภัยก็ดีแล้ว”


            ที่หนึ่งสะอื้น น้ำตาที่รินไหลนั่นมันมากกว่าแค่รู้สึกผิด มันมีความอัดอั้นตันใจอยู่ในนั้น เขาอดทนกับมันมาได้ตั้งหลายวัน แต่วันนี้ก็พังทลายลงไม่เหลือชิ้นดี เผยคาวมจริงว่าเขายังเด็กเกินกว่าจะเก็บมันไว้เพียงคนเดียว


            “ที่หนึ่ง...ไม่ได้อยากทำให้พ่อเดือดร้อนเลย ที่หนึ่งแค่อยากกลับบ้าน ที่หนึ่งแค่อยากเจอพ่อมาก ๆ เท่านั้นเอง ฮึก...ทำไม...ทำไมพ่อถึงทิ้งที่หนึ่งละ ฮึก ที่หนึ่งทำผิดอะไรหรอ? ทำไมพ่อถึงให้ที่หนึ่งอยู่ที่นี่ด้วยไม่ได้ ที่หนึ่งกลับบ้านไม่ได้แล้วหรอ? ที่หนึ่งเจอหน้าพ่อไม่ได้แล้วหรอ? ฮึก ฮืออ พ่อไม่อยากอยู่กับที่หนึ่งแล้วหรอครับ”

            “ไม่ใช่อย่างนั้นนะลูก! อย่าคิดอย่างนั้นพ่อไม่ได้ทิ้งที่หนึ่งนะลูก” ตุลย์พูดเสียงสั่น


            เขาไม่รู้จะทำยังไงกับลูกชายที่กำลังร้องไห้เสียงดัง เขาอยากจะอธิบายแต่ความจริงเป็นสิ่งที่พูดออกไปไม่ได้


            นอกจากนั้นตอนต้นที่ถูกเอสอุ้มไว้ก็เริ่มร้องไห้ออกมาเช่นกัน ความโศกเศร้าส่งต่อถึงกันผ่านเส้นใยสายสัมพันธ์ของพี่น้อง


            “ถ้างั้นทำไมที่หนึ่งต้องอยู่กับแม่ ฮึก ทำไมที่หนึ่งถึงอยู่กับพ่อไม่ได้!” เด็กน้อยตวาดลั่น ทั้งเสียใจ ทั้งไม่เข้าใจ เสียงร้องไห้มีแต่ดังขึ้นและดังขึ้นเสียดแทงคนเป็นพ่อให้เจ็บปวดราวกับมีมีดกรีดใจ

            “พ่อขอโทษนะที่หนึ่ง พ่อขอโทษ ที่หนึ่งไม่ต้องไปไหนแล้ว เราจะอยู่ด้วยกันนะลูกนะ”


            เขาโอบกอดลูกชายเอาไว้แน่น ที่หนึ่งไม่รอช้าที่จะกอดพ่อของตนเช่นกัน ตอบรับคำพูดนั้นด้วยอ้อมแขนของตัวเองเด็กน้อยร้องไห้เสียงดัง ๆ ข้างหูของคนเป็นพ่อ ซุกหน้าเช็ดน้ำตาไปกับไหล่


            “...”


            เอสยิ้มกับความสัมพันธ์ของพ่อลูกขณะที่กำลังตนเองก็ยังปลอบให้ตอนต้นหยุดร้อง มันซาบซึ้งแต่ในเวลาเดียวกันมันก็ย้ำความรู้สึกผิดขที่เขามีให้ลึกลงไป...


            ...ถ้าเขารู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้


            ตึง!


            “ที่หนึ่ง!”


            ประตูไม้อัดกระแทกเข้ากับวงกบอย่างแรงอีกครั้ง ก่อนจะปรากฏร่างของหญิงสาวที่พุ่งเข้ามาพร้อมเสียงเรียกที่แหลมดัง ทอฟ้าเข้ามาภายในห้องอย่างถือวิสาสะพร้อมกับผู้เป็นสามีที่เดินตามหลัง เธอถลาหาลูกชาย แต่เพราะว่าที่หนึ่งยังอยู่ในอ้อมกอดของตุลย์ ระหว่างเธอกับที่หนึ่งจึงมีวงแขนของตุลย์กั้นกลางเอาไว้


            “ทำไมมาที่นี่...?” ตุลย์ถามเสียงเบาด้วยความประหลาดใจ

            “ฟ้าก็เป็นห่วงลูกเหมือนกันนะ! โชคดีที่ตอนที่พี่โทรมา ฟ้ากำลังมาคอนโดฯ พี่เหมือนกันเพราะว่าพี่วีบอกว่าให้ฟ้ามารอที่นี่ก่อนเผื่อที่หนึ่งกลับมา ก็เลยขับรถมา”


            ทอฟ้าตอบคำถามของตุลย์แต่สายตาเธอเลยมองไปทางคนที่ยืนติดกับทีวี ชักสีหน้าใส่ด้วยความไม่ชอบใจ ยิ่งเห็นเด็กนั่นอุ้มลูกชายคนเล็กของเธอไว้ก็ยิ่งทำให้โมโห จนอยากจะด่าความหน้าด้านหน้าทนที่ยังกล้ามายืนในห้องนี้อีก


            “แม่...ที่หนึ่งขอโทษนะที่ทำให้เดือดร้อน วุ่นวายกันไปหมด”


            แต่ความสนใจของทอฟ้าถูกเรียกกลับมาด้วยเสียงขอโทษของที่หนึ่ง แม้จะไม่ได้อยู่ในอ้อมแขนของผู้เป็นพ่อแล้ว แต่มือเล็กนั่นกลับจับนิ้วของตุลย์เอาไว้แน่น


            “ไม่เป็นไรครับ ที่หนี่งสบายดีแม่ก็สบายใจนะ ถ้าเกิดหลงทางอีกให้ไปหาคุณยามนะลูก อย่ากลับบ้านคนเดียวแบบนี้อีกมันอันตราย แล้วก็คราวหน้าเดินจับมือแม่เอาไว้นะ เราจะได้ไม่หลงกันอีก”

            “อืม...” ที่หนึ่งก้มหน้า


            ภาพที่แม่ปล่อยมือเขาไป มันย้อนกลับมา...มันไม่ใช่เขา ที่ไม่จับมือ….


            “พี่ตุลย์ ฟ้าขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น มันเป็นความผิดของฟ้ากับพี่วีเองที่ปล่อยให้ที่หนึ่งคาดสายตา แต่ฟ้าจะไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก” ทอฟ้าโค้งขอโทษอดีตคนรักด้วยใจจริง

            “ฟ้าคิดว่ายังมีคราวหน้าอีกหรอ” น้ำเสียงเย็นยะเยือกดังขึ้นเหนือหัว

            ทอฟ้าเงยหน้าขึ้น สายตาขอโทษเมื่อครู่แข็งกร้าวขึ้นมาอย่างไร้มารยาท “หมายความว่าไง?”

            “ฟ้าคิดว่าพี่จะยอมให้ฟ้าเอาลูกไปทำหายอีกหรอ?”

            “ฟ้าบอกแล้วไงว่าฟ้าขอโทษ มันจะไม่เกิดขึ้นอีก ฟ้าจะดูแลอย่างดี ไม่ต้องกังวลไปหรอก ที่หนึ่งเป็นลูกพี่ เขาก็เป็นลูกฟ้าเหมือนกัน”

            “ก็เพราะคิดว่าฟ้าเป็นแม่ที่หนึ่งก็น่าจะดูแลได้ไม่ใช่หรอไง? ลูกถึงได้หายไปแบบนี้ ถ้าสมมุติว่าที่หนึ่งไม่ได้กลับบ้านมา ถ้าที่หนึ่งถูกลักพาตัวไป ถามหน่อย ฟ้าจะรับผิดชอบยังไง” เสียงนั้นกดต่ำด้วยความคุมคาม “อย่าคิดว่าทำลูกของตัวเองหายจะไม่เดือดร้อนใคร เพราะที่หนึ่งเขาก็เป็นลูกของพี่เหมือนกัน”


            ทอฟ้ากัดฟันกรอด มันเป็นความผิดพลาดที่เธอไม่อาจแก้ตัวอะไรได้ ใช่! โชคดีของเธอมากแค่ไหนแล้วที่ครั้งนี้ที่หนึ่งเพียงแค่กลับมาบ้าน ไม่ได้ถูกพาตัวไป!


            แต่เพราะความถือดีเธอไม่เลือกที่จะโต้เถียงกับสิ่งที่เธอไม่มีวันชนะ แต่กลับยื่นมือออกไปหาลูกชายที่ยืนมองอยู่แทน


            “ที่หนึ่งกลับบ้านกันครับ”


            เด็กน้อยที่ถูกเรียกชะงักค้างเขามองพ่อแม่สลับกัน ไม่ยื่นมือออกไปและไม่กล้าพอที่จะพูดปฏิเสธ


            ถ้าหากถามว่าอะไรที่เลวร้ายที่สุดของชีวิตลูก ก็คือวันหนึ่งต้องมาเลือกว่าพ่อ...หรือแม่


            แต่ทว่าน่าเสียดายที่ ทอฟ้าไม่คิดจะรอจนที่หนึ่งตัดสินใจได้! เธอคว้าแขนของลูกชายแล้วออกแรงดึงให้ตามมา!


            ที่หนึ่งเมื่อโดนกระชากเช่นนั้นก็ออกแรงขืนด้วยความตกใจ! ตุลน์และเอสพอเห็นลูกชายโดนดึงไปเขาทั้งสองก็ตั้งท่าจะพุ่งเข้าไปยื้อ แต่ทอฟ้ากลับโพล่งขู่เรื่องการฟ้องศาลขึ้นก่อนที่ทั้งสองจะได้ขยับตัว!


            ตุลย์กัดฟันกรอดด้วยความโมโหที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้ เอสเองพอเห็นคนที่เป็นพ่อหยุดชะงัก เขาเองก็พลอยไม่กล้าทำอะไรไปด้วย ทั้งคู่ได้เพียงแค่มองลูกชายที่กำลังดิ้นสุดแรงให้หลุดจากแรงกระชาก...แต่แรงเด็กมันจะไปสู้อะไรได้! มือที่จับกับนิ้วของพ่อเอาไว้ถูกดึงจนตึง ที่หนึ่งส่งสายตาหาพ่อให้ดึงเขากลับไป แต่อีกฝ่ายกับยืนอยู่นิ่ง ๆ ราวกับยินยอมให้เขาไปเสียอย่างนั้น


            “พ่อ...” เด็กน้อยเรียกเสียงเบาด้วยความไม่เข้าใจ

            “ที่หนึ่งไม่ดื้อสิครับ! มากับแม่!”


            เด็กน้อยมองมือที่จับนิ้วของพ่อเอาไว้ที่กำลังเลื่อนหลุดออกจากกัน น้ำตารื้นด้วยความหวาดกลัว ชั่วเวลาเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่มือจะหลุดออกจากกัน เด็กน้อยดิ้นพล่านส่งเสียงร้องไห้ดังด้วยความไม่ยินยอม และวินาทีที่มือเลื่อนหลุดออก ราวกับโลกทั้งใบแตกสลายลง เด็กน้อยกรีดร้องเรียกพ่อด้วยความจนตรอก!


            “พ่อ! อย่าทิ้งที่หนึ่งนะ พ่อ! ไม่เอานะ ฮึก ไม่เอา...ไม่ไป ที่หนึ่งจะอยู่กับพ่อ...ที่หนึ่งจะอยู่กับพ่อ!นะ! ฮึก! นะครับ”

            “ที่หนึ่ง…”

            “ไหนพ่อบอกจะอยู่ด้วยกันไง! ฮึก ฮืออ...ที่หนึ่งกลัวอะ พ่อ! ที่หนึ่งขอร้อง พ่อครับ ที่หนึ่งไม่เอาแบบนี้อย่าทิ้งที่หนึ่งนะขอร้อง อย่าทิ้งที่หนึ่ง พี่เอสช่วยที่หนึ่งด้วย ฮืออ ที่หนึ่งอยากอยู่ด้วยกัน ที่หนึ่งไม่ไปนะ ไม่เอา พ่อ พ่อ!”


            หมับ!


            แขนเล็กที่ยังกวัดแกว่งหาพ่อถูกตุลย์คว้าเอาไว้แต่ไร้ซึ่งการดึง ทอฟ้าตวาดเรียกเสียงดังลั่นพยายามจะแกะมือของตุลย์ออกจากแขนอีกข้างของลูกชาย แต่เธอก็ไม่อาจจะแกะมันออกไปได้


            เขาไม่กล้าดึงที่หนึ่งกลับมาด้วยความลังเล เขา...ทรมานเกินกว่าจะเห็นลูกชายกรีดร้องไปมากกว่านี้ แต่คนเป็นพ่อสุดท้ายก็อยากจะเจอลูก ยังอยากเห็นความสุขของลูกตัวเองตลอดไป


            “พ่อ...”แต่สำหรับเด็กน้อยเพียงแค่มีพ่อจับไว้ ใจก็ชื้น


            แต่ความโล่งใจไม่เคยอยู่นาน!


            เมื่อทอฟ้าไม่ยอม เธอจึงใช้สองมือฉุดกระชากลูกให้มาจนที่หนึ่งตัวเซ ด้วยความตกใจ ตุลย์จึงดึงไว้อีกด้านไม่ให้ลูกล้ม แต่การดึงจากทั้งสองฝ่ายดูจะหนักเกินไปสำหรับที่หนึ่งจนเด็กน้อยเผลอร้องลั่นด้วยความเจ็บ และในจังหวะที่ตุลย์คลายมือนั้นเอง ทอฟ้าก็ดึงพรวดจนที่หนึ่งเซมาอยู่กับเธอ!









TBC

วันเกิดปีนี้ ขอให้ของขวัญกับทุกคนค่ะ <3
#DaddyBeLover #ไอ้เอส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 48 (28/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 29-10-2016 00:17:40
เฮ้อออออ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 48 (28/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-10-2016 01:28:07
 :fire:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 48 (28/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 29-10-2016 04:05:48
โอ๊ยยยยยสงสารที่หนึ่งไม่ไหวแล้ววว ดึงกันขนาดนั้น เจ็บให้เห็นไปเลย จะได้รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรกัน //พี่ตุลย์อย่าปล่อยที่หนึ่งไปนะ ที่นหนึ่งพูดอ้อนขอร้องมาขนาดนั้นมันต้องทรมานใจไม่อยากไปมากๆ เอสก็รู้สัมผัสได้ใช่ไหม ดูที่หนึ่งดิ ร้องไห้ใหญ่เลย โฮรรรรร TT___TT ขนาดหายไปก็เพราะต้องการกลับมาหาพ่อ คิดสิคิด อย่าปล่อยไปเด็ดขาด สู้คดีฟ้องร้องแม่งเลย ขืนไปอยู่กับแม่ จากเด็กน่ารักๆกลายเป็นเด็กเก็บกดมีปัญหา อย่าๆอย่าปล่อยไปนะ //โอ๊ยยสนุกค่ะ ชอบบบบ รอตอนต่อไปไม่ไหวแล้ว จะไปหรือจะอยู่ยังไง เอสสสช่วยพี่ตุลย์ด้วย รอคะๆ ขอบคุณที่มาต่อ ^^
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 48 (28/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 29-10-2016 11:44:01
เฮียตุลย์ฉลาดอีกหน่อยได้แล้วนะ ยังให้เขาขู่ฟ้องศาลอีกเหรอ ที่หนึ่งบอกชัดเจนแล้วนะ ใช้พี่วีนั่นก็ได้ มายืนประดับฉากให้อยู่น่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 48 (28/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 29-10-2016 12:04:01
ฟ้องร้อง ศาลฟังเสียงเด็ก... หาข้อมูลหน่อยคุณตุลย์ จะได้ไม่กังวลนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 48 (28/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 29-10-2016 16:04:17
นึกว่าตาฝาด อัพแย้ววว  :mc4:
แต่พกมาม่ามาจนอิ่ม เก๊าเข้าใจว่าปลายๆ เดือนต้องกินบ่อย
โอ๊ยสงสารเด็กอะ  :m15: สรุปนางคือรักลูกเป็นห่วงลูก หรืออยากเอาชนะกันแน่  :m16:
ใจเย็นนะคะพี่ตุล น้องเขาพูดชัดเจนแล้วคะ ไม่ต้องกลัวธรรมะย่อมชนะอธรรม ค่อยคิดๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 48 (28/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-10-2016 17:00:04
ทอฟ้า เธอสวย แต่เธอเป็นนางมารร้าย เป็นแม่ ที่ไม่มีความเป็นแม่ ทิ้งลูกสองคน ไประเริงสุข กับคนรักใหม่
เธอเสียหน้า ที่สามีเก่าเลือกเอส ที่เป็นผู้ชาย แทนที่จะอยู่เลี้ยงลูกคนเดียว
นั่นแสดงว่าตุลย์ ไม่เหลือใจรักให้เธอ ที่เคยเป็นที่รักมาตลอด
ทอฟ้า เคยกลับไปกลับมากับตุลย์ โดยตัวเองยังเป็นคนสำคัญ เป็นแม่ของลูกชายทั้งสอง
เลยเลือกเอาเอสมาด่าว่า เอามาเป็นตัวกำหนด โดยเอาที่หนึ่งไปอยู่กับตัวเอง
เพื่อเอาชนะตุลย์ ตุลย์ต้องยอมเธอเหมือนเดิม
ทอฟ้า ขอมีความสุขคนเดียว ตุลย์มีไม่ได้ ตั้งใจเอาชนะคะคาน ไม่สนใจ ความสุข ความต้องการของลูก
นางเลวววววว มากกกกกก ฮึ่ยยย.....ความเลวคงสนองเธอแน่ๆ
วีร์ คงเห็นพฤติกรรมบ้าๆ แล้วเข้าใจ นังผู้หญิงที่สวยแต่รูป สักที
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:



หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 48 (28/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 29-10-2016 20:18:24
ทำไมหลอนไม่ฟังลูกบ้างนังฟ้า ทำแบบนี้เรียกรักลูกหรอ ข้ออ้างสิไม่ว่า ในหัวหลอนก็คิดเรียกหาแต่ผัวๆๆๆๆ แล้วจะเอาลูกไม่ทำไม เอาไปให้เกลียดขี้หน้าแม่หรอ :m16: :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 48 (28/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 30-10-2016 01:09:26
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 48 (28/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 30-10-2016 12:06:08
โอ๊ยย ยิ่งอ่านยิ่งเกลียด ไม่ได้มีความสำนึกเลยว่าไม่ดูแลลูกจนทำให้ลูกหายไป

รู้สึกว่านางแค่อยากเอาชนะตุลย์ ไม่ได้มีความเป็นแม่เลยนะนังทอฟ้า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 48 (28/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 31-10-2016 14:00:23
                                       :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
เป็นนิยายที่สนุกมากเราอ่านในเด็กดีจบแล้วเลยมาให้กำลังใจนักเขียนในนี้นะคราฟฟ...
ตัวละครทุกๆตัวจะอยู่ในความจำที่จะไม่ลืมเลยทั้งเอสคนจริง  พี่ตุลย์  ที่หนึ่ง  ตอนต้น และป้าสร้อย ทอฟ้ออีดอกอิอิ
เติมอิอิประโยคจะได้น่ารักcr.เอส :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 48 (28/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 31-10-2016 14:35:57
เอสสสสส!

เป็นพระเอกเข้าไปช่วยที่หนึ่งเร็ว อย่าให้อินังนั่นเอาไปได้นะ

โดนฟ้องก็ช่างมัน ไว้ไปหาทางสู้คดี
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 48 (28/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 31-10-2016 15:47:45
เกลียดๆๆๆๆๆๆๆยัยฟ้าาาาาาาาาาาาา :katai4: :katai4:  :pigangry2: :pigangry2: :ซูโม่: :ซูโม่:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 48 (28/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 31-10-2016 18:50:26
สำนึกของความเป็นแม่ของทอฟ้าอยู่ที่ไหน แย่มากถึงมากที่สุด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 48 (28/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 31-10-2016 21:07:33
                                       :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
เป็นนิยายที่สนุกมากเราอ่านในเด็กดีจบแล้วเลยมาให้กำลังใจนักเขียนในนี้นะคราฟฟ...
ตัวละครทุกๆตัวจะอยู่ในความจำที่จะไม่ลืมเลยทั้งเอสคนจริง  พี่ตุลย์  ที่หนึ่ง  ตอนต้น และป้าสร้อย ทอฟ้ออีดอกอิอิ
เติมอิอิประโยคจะได้น่ารักcr.เอส :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:

ขอบคุณมาก จะได้ตามไปอ่านให้จบบ้าง อยากเห็น นังทอฟ้ออีดอกอิอิ ได้รับผลกระทบอย่างไร
ดีใจมากๆ ไร้ท เขียนเรื่องใหม่ เป็นเรื่องของตอนต้น   Unlimited....พี่ครับ รักไม่จำกัดอายุ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 49 (31/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 31-10-2016 21:32:08
ตอนที่ 49




           ทอฟ้าไม่เปิดโอกาสให้มีการคว้าตัวเกิดขึ้น เธอพลิกตัวที่หนึ่งให้หันหน้ามาหาเธอ ก่อนจะนั่งยอง ๆ ให้สายตาอยู่ระดับเดียวกับลูกชาย


           “ที่หนึ่งครับ แม่กับพ่อเราคุยกันแล้วว่าจะให้แม่เป็นคนเลี้ยงที่หนึ่ง แม่เข้าใจว่าอยู่กับพ่อมาตลอดมันอาจจะลำบาก แต่แม่เองก็อยากอยู่กับลูกชดเชยช่วงเวลาที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันเหมือนกัน ที่หนึ่งบอกเองไม่ใช่หรอครับ ว่าหลายวันมานี้ที่เราอยู่ด้วยกันก็มีความสุข แม่บกพร่องอะไรตรงไหน?”

           “ฮึก...” เด็กน้อยไม่ตอบนอกจากส่งเสียงสะอื้น

           “ลูกต้องการอะไรแม่หามาได้หมด แม่จะส่งลูกเรียนโรงเรียนดี ๆ มีอนาคตดี ๆ แม่เข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งอะไรที่น่ากลัว แต่ลูกไม่ต้องกังวลเลยเข้าใจไหมครับ เพราะงั้น...เรากลับบ้านเรากันดีกว่านะ”

           “ถ้างั้น...แม่กลับมาอยู่กับที่หนึ่งที่นี่สิ อยู่ด้วยกันกับพ่อเหมือนเมื่อก่อนไง”

           “!!...”

           “ถ้าแม่กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมแม่ก็จะได้อยู่กับน้องด้วย! ที่หนึ่งก็ไม่ต้องย้ายโรงเรียน ที่หนึ่งก็จะได้อยู่กับพ่อแล้วก็อยู่กับแม่พร้อมหน้าพร้อมตา ทำไมที่หนึ่งต้องเลือกระหว่างใครสักคน! ทำไมเรากลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเมื่อก่อน…”

           “ที่หนึ่งก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แม่มีน้าวีเขาแล้วนะครับ!”

           “เลิกกับเขาสิ!”

           “ที่หนึ่ง!!” ทอฟ้าตวาดลั่นทันทีที่ที่หนึ่งพูดแบบนั้น “ที่หนึ่งยังเด็ก ที่หนึ่งไม่เข้าใจหรอกว่าแม่กับพ่อเราไม่ได้รักกันแล้ว! เราอยู่ด้วยกันไม่ได้! แล้วแม่ก็แต่งงานกับน้าวีแล้ว แม่ต้องอยู่กับเขานะลูก!”

           “แต่ที่หนึ่งไม่อยากอยู่บ้านที่มีน้าวีอยู่ด้วย! ถ้าแม่ไม่อยู่ที่นี่ ที่หนึ่งก็จะไม่ไปอยู่กับแม่เหมือนกัน!”

           “ที่หนึ่งจงเกลียดจงชังอะไรน้าวีเขานักหนา! ที่หนึ่งยังไม่รู้จักเขาเลยด้วยซ้ำ! ถ้าที่หนึ่งต้องการอะไรเขาหามาให้ที่หนึ่งได้!...ที่หนึ่ง ถ้าลูกได้รู้จักน้าวีดีกว่านี้ แม่เชื่อว่าที่หนึ่งต้องชอบเขา เชื่อแม่สิ ให้โอกาสลูกได้รู้จักกับเขาก่อน”

           “...สิ่งที่ที่หนึ่งไม่ชอบไม่ใช่เพราะว่าน้าวีเป็นคนยังไง...แต่น้าวีไม่ใช่พ่อของที่หนึ่ง! แล้วที่ที่หนึ่งเกลียดที่สุดคือแม่รักเขามากกว่ารักที่หนึ่งอีก! ฮึก! ถ้าแม่รักที่หนึ่งมากกว่าละก็แม่ก็ต้องนอนกับที่หนึ่งทุกวันต่างหาก ฮึก แม่ต้องมากินข้าวกับที่หนึ่ง...แล้วก็เดินจับมือกับที่หนึ่งด้วย ฮึก...ที่วันนี้แม่ไม่รู้ตัวว่าที่หนึ่งขึ้นแท็กซี่ไป เพราะแม่เอาแต่คุยอยู่กับน้าวี! เวลาแม่จะเข้าร้านไหน แม่ก็เอาแต่คว้าน้าวีไปด้วยไม่สนใจที่หนึ่งเลย พอหนึ่งบอกว่าอยากกินอะไร แม่ก็ไม่สนใจ แม่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับที่หนึ่งเลย แม่จะให้ที่หนึ่งอยู่กับแม่ไปทำไม ถ้าแม่ชินแล้วกับชีวิตที่ไม่มีที่หนึ่ง!!”


           ทอฟ้าสะอึกไปกับคำพูดเหล่านั้น เธออยากปฏิเสธใจแทบขาดว่ามันไม่จริง...แต่เธอกับทำได้เพียงแค่อ้าปากเหมือนจะพูดเถียงแล้วก็หุบลง ในเมื่อถ้าย้อนไป สิ่งที่ที่หนึ่งพูดมามันคือเรื่องจริงทั้งนั้น!


           “ถ้าที่หนึ่งมีแม่เหมือนคนอื่น ๆ แล้วที่หนึ่งจะไม่ได้อยู่กับพ่อไม่ได้เจอพ่ออีก แม่น่ะ...” เด็กน้อยกำมือแน่น “แม่น่ะ ที่หนึ่งไม่มีก็ได้!”

           “ที่หนึ่ง...”


           ...มือที่ยึดไหล่ของลูกชายร่วงลงไปกับพื้น เธอมองที่หนึ่งที่วิ่งไปกอดเอวตุลย์โดยไม่มีแม้แต่แรงจะไขว้คว้าเอาไว้


           “ฟ้าจะฟ้องก็ได้ ถ้ามีความสุขกับการอยู่กับลูกที่ร้องไห้ไม่อยากอยู่กับฟ้าทุกวัน”


           เธอไม่คิดสนใจคำพูดของตุลย์ ในหัวเอาแต่คิดถึงคำพูดของลูกซ้ำแล้วซ้ำเล่า


           ...จะให้ทำยังไง? เลิกกับวีงั้นหรอ? มันทำได้ที่ไหนกัน! มันเป็นแค่คำพูดเด็ก ๆ ที่หนึ่งยังไม่เข้าใจสิ่งที่เรียกว่าความรักด้วยซ้ำ เธอจะเอาผู้ชายที่มีค่าที่สุดในชีวิตไปแลกกับความเอาแต่ใจ ไร้เหตุผลของเด็กแบบนั้นได้ยังไง!


           “ไม่ได้!”


           สิ่งที่เธอคิดเอาไว้มันไม่ใช่แบบนี้! สิ่งที่เธออยากได้ คือครอบครัวพ่อแม่ลูกสุขสันต์ที่ใครเห็นก็ต้องอิจฉา! เธอจะเป็นแม่บ้านดูแลสามีและลูกอย่างดีไม่ขาดตกบกพร่อง สร้างครอบครัวที่มีความสุขที่สุดในโลก! ทำไม...ทำไมถึงไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่เธอต้องการ! ทำไมที่หนึ่งไม่เข้าใจว่าเธอต้องเป็นภรรยาที่ดีเหมือนกัน ทำไมตุลย์ถึงไม่เข้าใจแล้วยอมยกลูกให้เธอดี ๆ ไม่ได้ในเมื่อเขาเองก็มีตอนต้นอยู่แล้วหนึ่งคน!


            ทำไม ทำไม ทำไม!!


           “เอส”


           ตุลย์เรียกเด็กหนุ่มคนนอกที่ยืนปลอบตอนต้นที่คอยแตกตื่นกับเสียงดังอยู่เงียบ ๆ ก่อนจะสัญญาณมือให้เอาที่หนึ่งไปปิดหูไว้ให้ดี ๆ อีกฝ่ายเองก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็วพาที่หนึ่งออกจากเอวของตุลย์แล้วปิดหูเด็กน้อยเอาไว้ตามคำสั่งนั้น แล้วหลังจากที่ตุลย์มั่นใจว่าลูกชายจะไม่ได้ยิน เขาก็เดินไปหาอดีตคนรักและแม่ของลูกชายตัวเอง


           “ถ้าฟ้าไม่ทิ้งลูกไป ลูกอาจจะอยากอยู่กับฟ้ากว่านี้ก็ได้ ฟ้าเองที่เป็นทิ้งพวกเรา พี่ให้โอกาสฟ้ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งให้กลับมาหาลูก กลับมาหาคนที่รักฟ้า แล้วยังไง? ทุกครั้งฟ้าก็เลือกที่จะไปเองไม่ใช่หรอ? เลือกไอ้ผู้ชายคนนั้นตลอด ไม่เคยเลือกลูกเลยแม้แต่ครั้งเดียว มันจะผิดตรงไหนที่วันหนึ่งลูกก็จะไม่เลือกฟ้าเหมือนกัน”

           “พี่เอสปิดหูที่หนึ่งทำไม?”

           “พี่ก็ไม่รู้นะว่าทำไมฟ้าถึงคิดอยากได้ลูกขึ้นมา แต่ลูกไม่ใช่ตุ๊กตา ทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ แล้วอยากกลับเอามาเล่นใหม่ก็หยิบขึ้นมาจากทั้งขยะได้”

           “อย่ามาพูดนะ!”

           “โอกาสของฟ้ามาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ ในเมื่อฟ้าก็ยังเลือกคำตอบเดิมทุกครั้ง มันก็คงหมดเวลาแล้วที่จะเปลี่ยนใจ ในเมื่อฟ้าเลือกไอ้ผู้ชายคนนั้นก็เลือกไปให้สุด อย่ามาโหยหาหาตัวเลือก ‘ถูกทั้งสองข้อ’ หรือถ้ายังอยากได้ลูกมากนัก ก็ไปทำกับมัน มีลูกกับผู้ชายที่ฟ้ารักน่าจะดีกว่า อย่าเอาลูก ‘คนอื่น’ ไปเลี้ยงเลย วันหนึ่งมันไม่มีอะไรรับประกันเลยว่าที่หนึ่งจะไม่กลายเป็นหมาหัวเน่า”

           “อึก...”

           “พี่เอสปล่อยที่หนึ่งนะ”


           ตุลย์เสมองผู้ชายของคนรักเก่า วีเองก็จ้องกลับมาประกาศกร้าวอย่างชัดเจนถึงความรู้สึกที่มีต่อตุลย์


           “หึ ก่อนหน้านี้ เราต่างก็มีความสุขกันดีแล้ว จะมาทำให้ยุ่งเหยิงทำไม...อีกอย่างพี่ไม่คิดว่าผู้ชายของฟ้าจะเลี้ยงดูปูเสื่อลูกของคนที่เขาเกลียดขี้หน้าดีนักหรอก”

           “พี่เอส ปล่อยที่หนึ่ง...”

           “แล้วฟ้าต้องยอมให้ลูกอยู่กับพ่อเกย์อย่างพี่งั้นหรอ! ทำไมที่หนึ่งถึงรับพี่วีไม่ได้ แต่รับไอ้เด็กนั่นได้!!”

           “อันธพาล ปล่อยนะ!”

           “อะ!”

           “ทั้ง ๆ ที่เอสก็เป็นคนรักของพี่เหมือนกัน พี่ก็เอามันมาแทนที่ฟ้าเหมือนกัน! ทำไมที่หนึ่งถึงรับได้ ทำไมถึงเรียกหาให้มันช่วย ระหว่างพี่วีกับเอสมันก็คนรักใหม่ของพ่อแม่เหมือนกันแท้ ๆ! ทำไมถึงไม่ได้!!”


           สิ้นคำนั้นเหมือนฟ้าผ่าลงกลางห้อง ทุกอย่างนิ่งสนิท สิ่งที่ตุลย์กับเอสทำให้มันจบลงไปแล้วอย่างเงียบ ๆ โดยที่ไม่ให้ลูกชายต้องรับรู้ กลับถูกผู้หญิงตรงหน้าโพล่งออกมาอย่างไม่คำนึงคิด เอสก้มมองที่หนึ่งด้วยความหวาดกลัว แล้วเขา...ก็รู้ทันทีว่าที่หนึ่งได้ยินคำพูดพวกนั้นไปแล้ว...


           “กลับไปซะทอฟ้า” ตุลย์ออกไปไล่ “กลับไปคิดเรื่องที่คุยกันวันนี้ให้ดี คิดกับสิ่งที่พี่พูด ที่ลูกพูด ถ้ายังรับไม่ได้ อยากได้ลูกไปนักก็ฟ้องมา พี่จะสู้ต่อให้มีทางชนะแค่หนึ่งเปอร์เซ็นพี่ก็จะสู้”

           “กลับเถอะฟ้า” วีคว้าแขนของภรรยาเมื่อมีท่าทีว่าทอฟ้ายังดื้อด้านรั้นไม่ยอม

           “ไม่!”

           “กลับบ้านฟ้า!!” วีตะคอกใส่คนรักจนเธอสะดุ้งโหยง “กลับไปคิดอย่างที่ตุลย์พูด เลิกใช้อารมณ์ เลิกใช้ทิฐิแล้วใช้สมองคิดซะ! ทำตัวให้สมเป็นแม่สักครั้งเถอะฟ้า” 


           พายุร้ายจากไปพร้อมกับเสียงประตูที่ปิดลง แต่ความพังพินาจยังคงอยู่ เอสไม่กล้าที่จะพูดกับที่หนึ่ง ตุลย์เองก็ได้แต่ยืนนิ่งราวกับรอตัดสินโทษประหาร


           “ที่หนึ่ง...”


           เพี๊ยะ!


           มือของเอสที่ยื่นออกไปจับไหล่ถูกที่หนึ่งปัดออกไปด้วยความไม่ตั้งใจ แต่เท่านั้นเอสก็รู้ได้แล้วว่าในใจของที่หนึ่งกำลังรับกับเรื่องนี้ไม่ได้


           “ที่หนึ่ง...ไม่ได้อยากมีพ่อหรือแม่ใหม่”


           เสียงพูดนั้นเบาหวิว แววตาสั่นระริกไปด้วยความสับสน...


           “...”


           และมันน่าเจ็บปวดที่ในดวงตานั้นก็มีความผิดหวัง...


           ”แม้แต่พี่เอส ที่เข้ามาอยู่ด้วยกันที่ดูแลที่หนึ่งกับตอนต้นก็เพราะเป็นแม่ใหม่ของที่หนึ่งหรอ?”

           “ไม่ใช่” เอสตอบกลับแทบจะทันที สถานการณ์ตรงหน้าทำให้เขากลัวจนมือสั่นแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็มองตรงไปที่ที่หนึ่งไม่หลบหาย “พี่ไม่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะแม่ที่หนึ่ง ไม่ได้ดูแลเพื่อหวังเอาชนะใจลูกชายอะไรทั้งนั้น พี่ไม่รู้ว่าพี่ตุลย์ได้บอกไหมว่าพี่มาอยู่ที่นี่เพราะอะไร แต่เริ่มต้นที่พี่อยู่ที่นี่เพราะพี่ไม่มีบ้าน พี่กำลังจะไม่มีที่เรียนหนังสือ! พี่ตุลย์ก็เลยช่วยไว้เพราะความสงสาร ไม่ต่างอะไรกับการอุปการะเลี้ยงดูเด็กเพิ่ม โดยตกลงกันไว้ว่าจะออกจากที่นี่ทันทีที่พี่หาหออยู่ได้ ไม่มีภาระอะไรที่ผูกพันธ์ไปมากกว่านั้น!”

           “...”

           “ที่พี่ดูแลที่หนึ่งกับตอนต้นทั้ง ๆ ที่พี่ไม่ชอบเด็ก มันไม่ใช่เพื่อการเอาใจใคร แต่เพราะมันเป็นสิ่งที่ต้องทำ พี่มาอยู่บ้านเขา แล้วเขาก็มีบุญคุณกับพี่!...เพียงแต่ว่า พี่กับพี่ตุลย์ก็มีความรู้สึกดี ๆ ให้กัน...แต่ถึงอย่างนั้นจุดยืนพี่ก็ไม่ได้เปลี่ยน พี่ก็ไม่ได้มาเป็นแม่ใหม่ พี่ยังเป็นพี่ ยังเป็นแค่อันธพาลของที่หนึ่ง เป็นคนที่มาขออาศัยอยู่เหมือนเดิม”

           “...”


           เอสลอบถอนหายใจ เขาอธิบายทุกอย่างแล้ว...ต่อไปมันก็เป็นหน้าที่ของที่หนึ่งที่จะตัดสินใจว่าจะรู้สึกยังไงกับสิ่งที่เขาพูด


           “แล้วก็ พี่กับพี่ตุลย์เลิกกันแล้วละนะ ที่จริงวันนี้ก็แค่มาเก็บของเฉย ๆ ไม่ต้องห่วงไปหรอก ที่หนึ่งจะไม่มีแม่ใหม่ หรือพ่อใหม่อะไรทั้งนั้น ที่หนึ่งจะได้อยู่กับแบบที่เคยอยู่มาตลอด”

           “จะไปแล้วสินะ?” ตุลย์ถาม

           “อือ ไม่ต้องห่วงหรอก หวัดก็ดีขึ้นจนจะหายขาดแล้วด้วย” เอสบอกด้วยท่าทีสบาย ๆ


           ความเสียใจระหว่างเขากับตุลย์มันเคลียร์จบกันไปแล้ว ทั้งสองเข้าใจและพร้อมจะปล่อยมือออกจากกัน ตัดสินใจที่จะเดินหน้าในทางที่ต้องเลือก ไม่ใช่การจากลาที่เต็มไปด้วยน้ำตาอย่างก่อนหน้านี้


           เอสส่งตอนต้นที่อุ้มอยู่ให้กับตุลย์ เดินไปหยิบของของตัวเองที่ยังจัดเตรียมไว้แล้ว แม้ว่าเขาจะไม่สบายจนต้องพักอยู่ที่นี่ แต่ของที่เขาใช้ก็เก็บเข้ากระเป๋าตลอด เพราะยังไงซะเขาก็มาที่นี่เพื่อย้ายออกไม่ใช่เพื่อคงอยู่


           น่าแปลกที่วันนี้เขาแต่งตัวดีเสียด้วย ราวกับว่าจะรู้ตัวว่าถึงเวลาต้องไปอย่างนั้นแหละ ตลกชะมัด


           “ให้ฉันช่วยไหม?”

           “ไม่เป็นไร ๆ ได้อยู่ ฮึบ!”


           เอสยกข้าวของของตัวเองขึ้นหมดในคราวเดียวแสดงออกชัดเจนว่าเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือใด ๆ ทั้งสิ้น


           หมับ…


           “...ถ้าอยู่ที่นี่แบบไม่ได้เป็นอะไรกับพ่อ ที่หนึ่งให้อยู่ด้วยได้นะ...ถ้าเลิกรักพ่อละก็ อยู่ที่นี่ด้วยกันเหมือนเดิมก็ได้!”


           เอสนิ่งไปคำพูดพวกนั้น เป็นครั้งแรกที่เขาอยากยกมือขึ้นลูบหัวของเด็กตรงหน้า แต่น่าเสียดายที่มือของเขากลับไม่ว่างพอที่จะทำเช่นนั้น


           “ขอโทษนะ แต่พี่คงทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ที่หนึ่งคิดว่าคนอายุน้อยที่หน้าตาดีขนาดนี้อย่างพี่อยากจะรักคนแก่ ๆ ที่มีลูกแล้วหรอไง? ถ้าห้ามได้ พี่ไปรักสาว ๆ สวย ๆ ไม่ดีกว่าหรอ?...แต่เพราะว่ามันห้ามไม่ได้ พี่ถึงได้รักพ่อของที่หนึ่ง ที่หนึ่งคิดว่ามันจะห้ามได้งั้นหรอ? ที่หนึ่งจะสนุกหรอกับการที่ต้องคอยระแวงพี่กับพ่อที่หนึ่งอยู่ตลอดเวลา”

           “...”

           เอสถอนหายใจ “มันเป็นแบบนี้น่ะ ดีที่สุดสำหรับที่หนึ่งแล้ว” เอสเงยหน้ามองพี่ตุลย์ จดจำภาพของเขาเอาไว้ให้ได้มากที่สุด เพราะเขาไม่รู้ว่าตัวเองต้องใช้ความทรงจำนี้อยู่ต่อไปอีกนานเท่าไหร่ “พี่ก็อย่าบ้างานมากนะ ถ้าที่หนึ่งหรือตอนต้นเป็นเด็กมีปัญหาขึ้นมาเกิดจากพี่ล้วน ๆ เลย”

           “ไม่เป็นอย่างนั้นหรอก”

           เอสหัวเราะ เขากลับมาก้มมองที่หนึ่งอีกครั้ง “ถ้าเจอพี่ข้างนอก...ก็ทักพี่ได้นะ”

           “...อือ”

           “โอเค! งั้น ผมไปแล้วนะ ขอบคุณมากสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา”

           “ไม่เป็นไร” ตุลย์ตอบพร้อมกับรอยยิ้มจาง ๆ


           เอสไม่เคยรู้มาก่อนว่าความใจหายก็ทำให้น้ำตาไหลได้เหมือนกัน เขาจึงรีบหันหลังมาแล้วเดินออกไป


           ตั้งแต่วันแรกที่เขาเข้ามาในห้อง B8002 จนถึงตอนนี้ ก็เป็นเวลาหลายเดือนจนเกือบปี มีเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นที่นี่ ทั้งเสียงหัวเราะ ทั้งร้องไห้ ทั้งความเขินอาย ทั้งความอบอุ่น ทุก ๆ อย่างจะถูกเก็บไว้ในห้องนี้ ราวกับหีบสมบัติ เหมือนกับโจรสลัดก็ไม่เก็บของล้ำค่าไว้บนเรือ ซึ่งเขาก็เป็นเช่นนั้น


           เด็กหนุ่มเงยหน้ามองหมายเลขห้องเป็นครั้งสุดท้าย


           ...ไปก่อนนะ









TBC
จะมีสักกี่ความโชคดี ที่จะอนุญาตให้พวกเขามีครอบครัวเหมือนคู่ชายหญิงได้


#ไอ้เอส #DaddyBeLover


หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 49 (31/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 31-10-2016 21:39:52
แม่ภาษาอะไร ลูกนะไม่ใช่ตุ๊กตา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 49 (31/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: PREMIUM_ALMOND ที่ 31-10-2016 21:45:34
 :m15: :monkeysad: :sad11:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 49 (31/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 31-10-2016 22:03:06
สงสารเอส อยู่ในห้องนั้นที่มีพี่ตุลย์ หนึ่ง ตอนต้น มานานคงผูกพันเนอะ
พอมาจากลาแบบนี้ คงใจหายมาก อ่านแล้วแอบซึมๆเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 49 (31/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: flowerloveyaoi ที่ 31-10-2016 22:20:38
 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 49 (31/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 31-10-2016 22:21:46
สงสารเอสมากกกกบอกเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 49 (31/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 31-10-2016 22:38:42
 :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 49 (31/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 31-10-2016 23:23:50
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 49 (31/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 01-11-2016 00:18:36
นังฟ้าบ้าผู้ชายนั่นน่ารังเกียจมากกกก  โธ่ ปากบอกรักลูก แล้วที่ทำนี่้เพราะรักหรือต้องการเอาชนะกันแน่ ชิๆๆๆ :m16: :m16:

น่าสงสารเอสอ่ะ ทุกอย่างน่าจะดีขึ้นถ้าไม่ใช่เพราะนังฟ้านั่น ฮึ่มๆๆๆๆ :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 49 (31/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: naya-devil ที่ 01-11-2016 00:46:51
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:  เศร้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 49 (31/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-11-2016 06:05:05
ทอฟ้าเอ๊ย.......นางเป็นแม่แท้ๆ
ยังคิดสู้ลูกไม่ได้
นางมีโอกาสที่จะกลับมาอยู่กับลูกทั้งสองคน
ที่อ้างว่ารักนักหนา แค่นางไม่เคยใช้โอกาสนั้นเลย
เพราะนางรักผู้ชายของนางยิ่งกว่าลูกน่ะสิ
แถมตัวเองไม่ได้ลูก ก็ทำให้ที่หนึ่งรับเอสไม่ได้ด้วย
นางแย่มากกกก นิสัยเสีย เป็นแมที่แย่สุดๆ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 49 (31/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 01-11-2016 09:52:00
สมน้ำหน้ายัยฟ้า กร๊ากกก :z1:

เหมือนพี่ตุลย์มีอะไรกับเอสแล้วทิ้งเลยอ่ะ พอได้เขาก็ทิ้งเลยอ๋อ //โดนตบ :seng2ped: :mew5: :z3:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 49 (31/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 01-11-2016 16:25:04
หมดเรื่องทอฟ้า ก็ต้องมาเรื่องเอสต่อเลย ปวดตับจริง
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 49 (31/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 01-11-2016 18:04:58
โฮรรรรเศร้าาาาา สงสารเอส เห็นใจพี่ตุลย์ เลิกกันทั้งที่ยังรักกันมาก ทำไมทำไมไม่อยากเข้าใจเลย เมื่อไหร่จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก จากกันไปแบบนี้ทรมานที่สุด //ชอบความชัดเจนของเอสมากๆ ตรงๆเข้าใจกันไปเลย ที่หนึ่งขอความเห็นใจให้พยายามที่จะเข้าใจรักของพ่อพี่เอสนะ จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวสุขสันต์อีก //เพิ่งจะพูดได้ถูกใจก็วันนี้ละไอ้พี่วี พูดดีมาก เออ พานางกลับไปสงบสติซะทีเถอะ จะประสาทตาม!!!!! //พี่ตุลย์ค่อยๆคิดนะ จากนี้ไป ละขออย่าให้เอสปล่อยไปนานนะ ฮรื้อออออ!! เป็นกำลังใจให้จะยังไงต่อไปละทีนี้ เอาไงดีคิดไม่ออกเลย รอไรท์มาต่อเลยค่ะ สนุกกกกติดตาม ชอบบบ  :pig4: ที่มาต่อ รอๆๆๆ ^^
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 49 (31/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Mangmai1997 ที่ 02-11-2016 02:23:37
เอสสสสสสสสส อย่าปายยยยยยยยhttp://www.thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/hao5.gifhttp://www.thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/hao5.gif

สงสารทุกคนเลยยย นอกจากอีฟ้า หึ่มๆ!!!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 49 (31/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Dangdang ที่ 03-11-2016 07:47:01
 :monkeysad: :sad11:สู้ๆพีตุลย์น้องเอส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 49 (31/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 03-11-2016 08:51:58
 :m15: เฮ้อ... เศร้า ไม่อยากให้เป็นยังงี้เลยอะ รักกันแต่จำเป็นต้องเลิก เพื่อคนที่รัก  :monkeysad:
ผู้หญิงอะไรเห็นแก่ตัวที่สุด เด็กพูดนาดนั้นยังไม่รู้สึกสำนึก อยากเอาชนะ ทิฐิบ้าๆ
มโนซะสวยหรู ลมๆ แล้งๆ แต่ไม่สามารถทำได้ ไม่มีคำจำกัดความเลยสำหรับผู้หญิงคนนี้  :beat:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 49 (31/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 03-11-2016 16:00:31
การเดินจากไปของเอสในตอนนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว
หวังว่าหลังจากฟ้ากลับไปคิดแล้วคิดได้ ทำให้เลิกคิดที่จะฟ้องร้อง
ส่วนที่หนึ่งที่มีบาดแผลความหวาดกลัวว่าแม่รักแต่พ่อใหม่ ทำให้กลัวว่าพ่อจะรักแต่แม่ใหม่
 หลังจากเอสจากไปแล้วจะมีแต่ความคิดถึงที่มากพอจนเอาชนะความหวาดกลัวนั้นได้
หวังว่าเมื่อวันนั้นมาถึง เรื่องนี้จะได้happyendนะคะ ขอบคุณค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 49 (31/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: thyme812 ที่ 05-11-2016 23:41:27
 :mew6:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 49 (31/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: oppapp ที่ 06-11-2016 22:05:07
อ๊ายยยยยยยยยย ร้องไห้ ที่หนึ่งไปตามพี่เอสกลับมาสิลูกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 49 (31/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: เมื่อนั้นฝันว่า ที่ 11-11-2016 23:30:30
ตามอ่านทันสักที อ่านตอนนี้เหมือนจะไม่ไหว น้ำตาไหลแบบไม่รู้ตัว สงสารทุกคนมาก สงสารที่สุดที่คือที่หนึ่ง ทำไมเด็กตัวแค่นี้ถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 49 (31/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: semen ที่ 24-11-2016 15:27:27
รอๆๆๆ อยุ่นะคับผม
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!!!! ep. 49 (31/10/59)
เริ่มหัวข้อโดย: thyme812 ที่ 12-12-2016 01:10:10
รออยู่นะ :mew1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 08-01-2017 13:15:11
ตอนที่ 50



               หนึ่งเดือนหลังจากที่ทุกอย่างจบลง ทอฟ้าไม่ติดต่อมาอีก ถึงแม้จะเปิดร้านคอฟฟี่ช้อปอยู่ใกล้สำนักพิมพ์ก็ยังไม่ได้เจอกัน รวมถึงหมายศาลซึ่งนั่นคงเป็นสัญญาณดีว่าทอฟ้ารามือกับเรื่องนี้ไปแล้ว


               ทุกอย่างกลับคืนอย่างที่มันเคยเป็น เช่นเดียวกับครอบครัวของตุลย์ที่หมุนย้อนกลับไปที่เลขหนึ่งอีกครั้ง แต่มันดีขึ้นเมื่อตุลย์ตัดสินใจไม่เอางานมาทำที่บ้านอีก เวลางานของเขาจบลงแค่เวลา 16:00 นาฬิกา ไม่มีต่อ ยกเว้นกรณีที่งานติดพันจริง ๆ เขาจะทำงานอยู่ที่สำนักพิมพ์แล้ววานให้ป้าสร้อยดูแล จะไม่ทำงานที่บ้านให้ลูกชายของเขาได้เห็น


               เรื่องการเลี้ยงลูกนั้น เขาใส่ใจตอนต้นมากขึ้น พยายามอยู่กับเด็กน้อยให้มากที่สุด เขายังคงจำเรื่องที่เคยพาตอนต้นไปหาหมอได้ และเขาก็ใช้มันย้ำเตือนตัวเอง เขารักลูก และอยากให้ลูกรู้ถึงความรักนั้น เขาไม่ต้องการให้ตอนต้นโตมาโดยที่รู้สึกว่าเขาไม่รัก หรือเราไม่สนิทกัน จนตอนนี้ตอนต้นกลายเป็นว่าติดเขามากจนน่าตื้นตันใจ หลายครั้งที่เขาต้องพาตอนต้นไปที่ทำงานด้วยเพราะว่าเด็กน้อยติดเขาจนร้องไห้งอแงไม่เลิกลา


               ส่วนที่หนึ่ง รู้สึกได้เลยว่าเขาโตมากขึ้น แต่เขาโตเพราะเรื่องราวที่เด็กอย่างเขายังไม่ควรรู้...


               ที่หนึ่งยังคงเป็นเด็กร่าเริงแต่เก็บอารมณ์มากขึ้น พูดถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการน้อยลง ไม่ขัดขืน ไม่โต้เถียงและยินยอมไปกับมัน...ถ้าดูเพลิน ๆ ก็คงมองว่าที่หนึ่งกลายเป็นเด็กที่น่ารักและว่านอนสอนง่าย แต่ตุลย์รู้ว่ามันไม่ใช่แบบนั้น เห็นด้วย กับ ไม่เห็นด้วยแต่ไม่พูด มันต่างกัน ยินยอม กับ ไม่ยินยอมแต่ไม่ขัดขืน มันต่างกัน ไม่มีสิ่งที่ต้องการ กับ มีสิ่งที่ต้องการแต่ไม่บอก มันต่างกัน....แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากอยู่เคียงข้างที่หนึ่ง และพยายามให้เขาพูดในสิ่งที่เก็บเอาไว้ และหวังว่ากาลเวลาจะช่วยให้ที่หนึ่งดีขึ้น


               และสำหรับที่หนึ่งแล้ว มีอีกสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไป…


               ในขณะที่ตุลย์ไม่เคยพูดถึงคนที่เดินจากไปแล้วเพื่อรักษาความรู้สึกของที่หนึ่งให้ได้มากที่สุด กลับเป็นที่หนึ่งเสียเองที่มักจะมองไปที่ประตูเพื่อรอใครบางคนให้เปิดออกมา


               ตุลย์ไม่คิดถามว่าเขากำลังรออะไร หรือมองทำไมเพราะกลัวว่าถ้าที่หนึ่งจะรู้สึกตัว ก็คงจะเก็บความรู้สึกนั้นไว้เหมือนกับเรื่องอื่น ๆ เขาเลยทำได้เพียงแค่รอ


               ...รอเวลาที่ที่หนึ่งจะพูดออกมา ว่าตอนนี้เขาต้องการอะไร


               “ที่หนึ่ง พรุ่งนี้วันเสาร์ไม่ได้หมายความว่าลูกจะนอนดึกได้นะ”

               “ขออีกนิดเดียว เดี๋ยวก็จะไปนอนแล้ว” ที่หนึ่งตอบกลับ แต่สายตาก็ยังจดจ่ออยู่กับหน้าจอทีวีที่ใช้ต่อเข้ากับเครื่องเล่นเกม

               “ให้พ่อเล่นด้วยไหม?”

                “พ่อไม่เก่งอะ แป๊บเดียวก็ตายแล้ว”

               “พ่ออาจจะฝืมือพัฒนาขึ้นแล้วก็ได้ ต้องมาลองพิสูจน์กันสักหน่อย”


               ตุลย์ทรุดตัวนั่งลงข้าง ๆ ลูกชาย อีกฝ่ายมองเขาอย่างพิจารณาก่อนจะยอมกดเริ่มเล่นใหม่พร้อมยื่นจอยอีกอันให้ตน หลังจากที่เกมขึ้นหน้าเตรียมพร้อม ที่หนึ่งก็ร่ายยาวเทคนิคเพื่อไม่ให้พ่อที่สวมบทบาทเป็นเพื่อนร่วมทีมต้องตายไปแล้วปล่อยให้เขาลุยเดียวเหมือนกับทุก ๆ ที


                “พ่อทางซ้าย!!” ที่หนึ่งร้องลั่นเมื่อซอมบี้กำลังบุกมาทางซ้าย แต่พ่อของตนยังคงยิงมั่วไม่รู้ทิศทาง “พ่อเก็บของด้วย! เผื่อจะเป็นลูกกระสุน!”

                “อะ โอเค ๆ”


               ตุลย์ย้อนกลับอีกทางไปเก็บกล่องที่ลอยอยู่เหนือพื้นตามที่ลูกชายบอก เขากดเปลี่ยนปืน เติมกระสุนอย่างเงอะงะ ถ้าไม่มีที่หนึ่งที่เล่นอีกตัวมาช่วยยิงศัตรูป่านนี้คงตายตั้งแต่เริ่มเกมไปแล้ว


                “พ่อระวัง!! มันมาแล้ว!”


               ตุลย์ที่กำลังก้มหน้าดูปุ่มจอยรีบเงยขึ้นมาดูหน้าจอ ตกใจไม่น้อยกับหน้าตาของตัวซอมบี้ในเกมที่เข้ามาประชิดตัวจนทำให้เขากำลังเสียเลือดอย่างหนัก แต่ตุลย์ก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็วแล้วยิงโต้กลับไปก่อนที่เลือดจะหมดเขาก็ล้มซอมบี้ตัวนั้นได้หลังจากนั้นจึงค่อยอัดยาเลือดอย่างหนัก จนพ้นช่วงอันตรายไปได้ในที่สุด


                “โห เจ๋งมากพ่อ!”

                “แน่นอนอยู่แล้ว”

                “ตั้งแต่เล่นกับพ่อมา นี่เล่นมาไกลสุดเลยนะเนี่ย แต่ว่าเดี๋ยวตอนนี้มันจะเริ่มมีค้างคาวแล้ว บินด้วย พ่อเล็งแม่น ๆ นะ แล้วค่อยยิง ต้องผ่านตรงนี้ไปให้ได้ก่อนถึงจะมีพวกลูกกระสุนให้เก็บ”

               “ถ้างั้นพ่อขอเติมกระสุนก่อนนะ”


               ตุลย์ก้มมองจอยอีกครั้งเพราะเขาไม่ถนัดกับการที่ต้องกดหลาย ๆ ปุ่มพร้อมกัน แต่ในขณะนั้นเอง ที่หนึ่งก็ร้องดังขึ้นให้อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมา ศัตรูตัวใหม่เป็นค้างคาวหลายสิบตัว กำลังบินเข้ามาโจมตี ในขณะที่ที่หนึ่งเล็งร่วงไปได้หลายตัว แต่เพราะเป้ามันเยอะเกินไปทำให้ตุลย์ที่ไม่เก่งเรื่องการบังคับทิศทางเริ่มยิงออกไปอย่างสะเปะสะปะ ตัวละครที่เขากำลังเล่นเลือดกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว


                “พ่อ! เล็งนิ่ง ๆ แล้วค่อยยิ่ง! กวาดแบบนั้นมันไม่โดน!”

                “ที่หนึ่งทำไงดีกระสุนพ่อหมดแล้วอะ”

               “เปลี่ยนปืน ๆ!”

               “แงงงงงงงงงงงงงงง!!”


               ตุลย์กับที่หนึ่งสะดุ้งเฮือกพร้อมกันทันทีที่ได้ยินเสียงกรีดร้องของตอนต้นที่นอนอยู่ในห้องนอนใหญ่ ตุลย์ยิ่งลุกลี้ลุนลนทั้งจากหน้าจอทีวี ทั้งเสียงแผดร้องของลูกชายคนเล็ก


                “สงสัยเสียงดังมากไป น้องก็เลยตื่น ที่หนึ่งหยุดชั่วคราวไว้ก่อนได้ไหมเดี๋ยวพ่อขอไปดูน้องก่อน”

                “พ่ออย่าพึ่งเนี่ยผ่านตรงนี้ไปได้ก็ไม่มีอะไรแล้ว แล้วพ่อค่อยไปดูตอนต้น”

                “แงงงงงงง แงงงงงงงงง!!”

                “พ่อปล่อยให้น้องร้องนาน ๆ ไม่ได้ เดี๋ยวข้างห้องเขาจะได้ยิน นี่มันก็ดึกแล้ว ที่หนึ่งหยุดเอาไว้ก่อนลูก แล้วพ่อขอไปดูน้องแป๊บเดียว เดี๋ยวมาเล่นต่อ ๆ”


               ตุลย์วางจอยแล้วลุกขึ้นไปทันทีไม่ว่าลูกชายจะกดหยุดไว้หรือไม่ ที่หนึ่งที่เห็นดั่งนั้นแม้อยากจะเล่นต่อก็ต้องยอมหยุดเอาไว้รอให้พ่อกล่อมน้องชายเสร็จ


               เขารู้ว่าพ่อไม่ได้รักใครคนใดคนหนึ่งมากกว่า แต่เพราะช่วงวัยทำให้ตอนต้นที่ยังเป็นแค่เด็กเล็ก จึงต้องได้รับการดูแลที่แตกต่างกัน ไม่มีใครทิ้งเขาไว้ข้างหลัง และไม่ควรที่จะน้อยใจ แต่เขาก็ยังอดคิดไม่ได้ทุกครั้งที่เป็นฝ่ายถูกบอกว่าให้รอ


               ถ้าเกิดตอนนี้มีเอสอยู่ด้วย เขาก็คงได้เล่นเกมต่อไปแล้ว แล้วก็คงจะไปด่านสูง ๆ ด้วย...


                “...”


               ไหล่เล็กของที่หนึ่งลู่ลงเมื่อคิดถึงใครบางคนที่ไปจากที่นี่ ทั้ง ๆ ที่มันเป็นเพราะเขา แต่กลับเอาแต่มองประตูหวังให้คน ๆ นั้นเปิดเข้ามาอยู่ตลอด พอเวลาผ่านไป ไตร่ตรองเรื่องราวให้มากขึ้น ความเคลือบแคลงในใจก็เริ่มคลายลง เพราะความอคติทำให้เขามองแต่ฐานะที่เอสอยู่ ‘เป็น’ เอาแต่คิดว่าก็คงจะไม่ต่างอะไรกับคนใหม่ของแม่ ทั้ง ๆ ที่ก็รู้มาตลอดว่าสิ่งที่อีกคน ‘ทำ’ มันไม่ได้เหมือนกันเลย


               พอเวลาผ่านไป เขาก็เริ่มมองถึงสิ่งที่เขาเสียอะไรไปและสิ่งที่ได้อะไรกลับมา แล้วก็ถามตัวเองว่ามันคุ้มค่ากันแล้วใช่หรือเปล่า? กับการที่เขาจะไม่มีพ่อหรือแม่ใหม่ แลกกับการที่ก็จะไม่มีใครมาเล่นด้วยหรือเล่าเรื่องตลก ๆ ให้ฟัง มันคุ้มแล้วใช่ไหม? กับการที่เขาจะไม่มีพ่อหรือแม่ใหม่ โดยต้องแลกกับที่เขาต้องรอพ่อมาเล่นด้วยหลังจากที่ต้องดูแลลูกอีกคนก่อน


               ...มันคุ้มแล้วใช่ไหมกับการที่ต้องเสียใครคนหนึ่งไป ที่ตลอดมาก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากดูแล และก็เล่นเป็น ‘เพื่อน’ กัน


               ที่หนึ่งใช้นิ้วซับน้ำตาตัวเองเบา ๆ


               เป็นครั้งแรกของเด็กน้อย ที่ได้รู้จักคำว่า ‘คิดถึง’


                “โอเค เล่นต่อได้แล้ว พ่อพาน้องเข้านอนแล้ว แต่ว่าคราวนี้คงต้องงดใช้เสียงหน่อยนะ เดี๋ยวน้องตื่นมางอแงอีก”

                “...”


               ตุลย์กลับมานั่งข้าง ๆ ที่หนึ่งอีกครั้งพร้อมหยิบจอยขึ้น แต่ที่หนึ่งก็ยังไม่กดให้เล่นต่อ จนเขาต้องหันมอง ก่อนจะตกใจที่เห็นลูกชายของตนกำลังนั่งปาดน้ำตา


                “ที่หนึ่งเป็นอะไร? โกรธที่พ่อไปดูน้องก่อนหรอ?”

                “...” ที่หนึ่งส่ายหัวปฏิเสธ

                “งั้นบอกพ่อสิ เป็นอะไรไป? ถ้าที่หนึ่งไม่บอก พ่อก็ไม่รู้จะแก้ปัญหาให้ที่หนึ่งได้ยังไง”

                “เปล่า ที่หนึ่งไม่ได้เป็นไร” เด็กน้อยปฏิเสธเสียงสั่น

               ตุลย์วางจอยลงก่อนจะจับลูกชายให้หันหน้ามาคุยกัน “พ่อรู้นะว่าช่วงนี้ที่หนึ่งร้องไห้บ่อย ๆ พ่อไม่ถามเพราะต้องการให้ลูกพูดออกมาเอง แต่ถ้าลูกยังเก็บเอาไว้อยู่แบบนี้ พ่อก็ไม่รู้จะพาที่หนึ่งฝ่ามันไปได้ยังไง”

               “...”

                “ที่หนึ่ง...”

                “....ที่หนึ่ง คิดถึงพี่เอส” เด็กน้อยเบะปาก พยายามฝืนไม่ให้ตัวเองร้องไห้ แต่มันก็อดไม่ได้จนต้องยกมือน้อยขึ้นมาปาดน้ำ “ที่หนึ่งอยากให้พี่เอสมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม พ่อ...พาพี่เอสกลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมได้ไหม”

                “...พ่อคงทำให้ไม่ได้”

                “...”

                “เพราะว่าที่พี่เขาไปไม่ใช่เพื่อใคร แต่ก็เพื่อลูกเอง ถ้าคนที่ทำให้เขาไปไม่ใช่คนที่ขอให้เขากลับมา ลูกคิดว่าเขาจะกล้ากลับมางั้นหรอ?”

                “...” ที่หนึ่งส่ายหัว

                “แล้วลูกรู้ใช่ไหมว่าถ้าพี่เอสกลับมาอยู่ด้วย พ่อกับพี่เอสจะเป็นยังไง? ลูกรับได้หรอ?”

                “ที่หนึ่ง...”

                “พ่อไม่รีบให้ลูกตอบตอนนี้ ไปถามตัวเองดี ๆ แล้วคิดถึงเรื่องสิ่งที่ตามมา ความรู้สึกของลูกจะเปลี่ยนไปหรือเปล่า เขาเองก็ไม่ใช่ตุ๊กตาพอคิดถึงก็อยากได้มา พอรับไม่ได้ก็จะโยนทิ้งไป พ่อรอคำตอบของลูกได้เสมอ จะมาบอกพ่อเมื่อไหร่ก็ได้...แต่พ่อก็ไม่รู้ว่าถ้าผ่านไปนานเข้าพี่ เอสจะอยากกลับมาอยู่ไหม”

                “...”

               “...แล้ว นี่ลูกจะเล่นเกมต่อไหม? หรือว่าจะเข้านอน นี่ก็ดึกแล้วด้วย ถ้าเล่นเกมพ่อจะนั่งเล่นด้วย ถ้าเข้านอนเดี๋ยวพ่อไปส่ง แต่พ่ออยากเล่นเกมต่อนะ นี่พ่อยังไม่แพ้เลย”

               ที่หนึ่งหัวเราะก่อนจะจับจอยขึ้นโชว์ “งั้นที่หนึ่งขอเล่นเกมต่อแล้วค่อยไปนอนนะ”










หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 08-01-2017 13:18:31

               “มะรืนนี้ก็ตัวสุดท้าย ใกล้จะเป็นไทแล้ว โว้ยย”

               “เสียงดังไปแล้วสัส”


            ไอ้ธันแหกปากลั่นจนคนที่เดินสวนมาถึงกับเดินลงจากฟุตบาทเพื่อเลี่ยงมันแถมท้ายด้วยการมองแรงเผื่อแผ่มามองผมที่ไม่รู้อีโหน่อีเน่อะไรด้วย ผมไม่เกี่ยวครับ ผมไม่รู้จักมัน orz


            “คืนนี้ไปร้านเหล้ากันไหม? คณะเราแห่กันไปเต็มเลยนะเว้ย”

             “ไม่ไปอะ ถึงจะเหลือตัวเดียวก็เหอะ มึงเอาให้รอดก่อนไหม ถ้ามึงไม่กลับไปอ่านหนังสือ ร้านเหล้าคืนนี้มึงได้เป็นการฉลองเอฟล่วงหน้าแน่”

            “กูมันพวกอัจฉริยะข้ามคืน อ่านล่วงหน้าไม่ค่อยเข้าหัว ต้องอ่านแบบวันต่อวันถึงจะได้”

             “ทฤษฎีไหนเนี่ย” ผมปรายตามองมัน “เออ ๆ มึงอยากทำอะไรก็เรื่องของมึง แต่กูคงไม่ไปด้วยนะ กลิ่นเหล้าติดตัวเดี๋ยวแม่งไม่ให้เข้าบ้านอีก”

             “หืม~? เอสเพื่อนร๊ากก ใครไม่ให้เข้าบ้านหรอครับ~”

             “เพื่อนดิสัสเพื่อน!” ผมใช้มือยันหน้ามันออกไป นี่ถ้าไม่เกรงใจอยากจะยกเท้ายันหน้ามันแทน

             “เพื่อนหรอ สวยปะ? อึ๋มปะ? เพื่อนที่แบบ...” ไอ้ธันกระแทกสันมือเข้าหากันแทนคำพูดในช่องว่าง ผมจับชีทที่เอามาอ่านหน้าห้องเอาไว้มั่นก่อนจะหวดวงสวิงสุดแรงเกินจนมันร้องโอ๊ย ทรุดไปนั่งกับพื้น “เหี้ยไรเนี่ย! เล่นแรงนะมึงอะ”

            “สมควรที่มึงจะได้ เพื่อนกูเนี่ย เพื่อนจริง ๆ ไม่มีฉิ่ง มีแต่ขลุ่ย ตอนนี้มันมาคุมกูอ่านหนังสือ ถ้าแม่งจับได้ว่ากูไปเที่ยว โดดอ่านหนังสืออย่างมึงกูคงโดนแม่งฆ่าหมกส้วม”


            จริง ๆ นะครับ ตอนนี้ไอ้ปันนี่คุมยังกับแม่ มันกลัวผมจะฟูมฟายก็เลยให้ผมอ่านหนังสือเตรียมไฟนอลทั้งวี่ทั้งวัน ก็ได้พักไปข้างนอกบ้างอะไรบ้าง แต่ก็ต้องแปะมันติดตูดไปด้วย ไม่รู้จะกลัวไรนักหนา มันคิดว่าผมจะแอบไปร้องไห้ตอนขึ้นบันไดเลื่อนหรือไงถามจริง! เฮ้อ แต่ก็ต้องยอมรับนะครับ ว่าส่วนหนึ่งก็เพราะมีมันช่วยสนับสนุน ผมถึงอยู่กับความ ‘ไม่ชิน’ นี้ได้ แถมมันกับแม่ก็ยังใจดี ทั้ง ๆ ที่ผมเป็นภาระก็ยังให้ผมพักอาศัยอยู่ด้วย แต่ผมก็คงรบกวนอีกไม่นาน เพราะว่าเทอมสองก็ได้อยู่หอที่เคยตกลงกับพี่ผมแดงก่อนหน้านี้แล้ว


             “ไม่ไปกินเหล้าก็ได้ งั้นหาหมูกระทะแดกกัน”

             “ไม่อะ ตอนนี้กูยากไร้ว่ะ มึงไปชวนแฟนมึงแดกเถอะ เปลี่ยนบรรยากาศบ้างไรบ้าง”

             “กูกับแฟนกูอะนะ ไปแดกหมูกระทะเกือบแทบทุกอาทิตย์ ไม่มีบทพูดคุยโรแมนติกอะไรบนโต๊ะหมูกระทะอีกแล้ว แต่มึงเนี่ย ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมายังไม่เคยไปแดกกับกูเลยนะครับคุณเอส”

             “ถ้ากูมีก็ไปกินกับมึงแล้วแหละ”

             “มึงก็พูดงี้ตลอด” มันกลอกตาเซ็ง ๆ “งั้นปะ เที่ยงนี้ฝากท้องไว้ร้านป้าศรีเหมือนเดิมเนี่ยแหละเรา”


            ผมหัวเราะ สงสารมันอยู่นะที่ได้กินแต่อาหารตามสั่ง อะไรที่มันอยากแดกนี่ชวนผมทีไรชวดตลอด แต่ถ้าผมมีผมก็อยากไปกับมันนะ แต่ผมไม่มีนี่หว่า เงินเก็บผมก็ยังพอมีอยู่บ้างหรอก พอใช้ชีวิตผ่าน ๆ ไปได้ แต่ใช้เละเทะคงไม่ไหว เทอมหน้าผมก็ต้องหาเงินจ่ายค่าเทอม ค่าหออีก ประหยัดได้ก็คงต้องทำไปก่อน พอปิดเทอมผมก็คงหัวหมุนทำงานพิเศษเหมือนเดิม กลับไปวงจรชีวิตปกติแบบเดิม ๆ


             “เฮ้อ ร้อนฉิบหาย อะไรจะร้อนเบอร์นี้ กูนี่อยากจะได้รถพ่อมาขับเลย”


            ธันเริ่มบ่นอีกครั้ง หลังจากที่ออกมาจากร้านอาหารก็มาเจอกับแดดตอนบ่ายโมง ความร้อนประหนึ่งก็อปปี้เกรดเอมาจากนรก


             “ก็ไปขอพ่อมาดิ”


            ผมพัดมือระงับความร้อนให้ตัวเอง รู้งี้ผมนั่งแช่จนถึงหกโมงเย็นค่อยกลับดีกว่า ร้อนขนาดนี้ทะเลก็ไม่อยากไปเลย กลัวจะไหม้เป็นข้าวเกรียบกรอบกลางทะเล


             “นี่คิดว่ากูยังไม่ขอเหรอ กูขอตั้งแต่ข่าวบอกว่าประเทศความร้อนขึ้นเลขสี่แล้ว แต่พ่อไม่ให้ บอกว่าอยากได้ก็ไปซื้อเอง กูนี่ถึงกับทรุด”

             “ตอนนี้มึงก็เอาเงินไปซื้อร่มแก้ขัดไปก่อนแล้วกัน” ผมหัวเราะ

             “สัส หัวเราะกู” ไอ้ธันยกขาขึ้นเตะ แต่ผมก็ยังหัวเราะอยู่ หัวเราะใส่หน้ามันด้วย “เออ แต่พูดถึงรถ...ไอ้เอสมึงแบบ...ไปทำอะไรไม่ดีมาเปล่าวะ แบบแย่งแฟนคนอื่นงี้ หรือแบบไปกู้เงินนอกระบบ”


            ไอ้ธันถามขณะที่เราสองคนเดินมาถึงป้ายรถเมล์ ผมหันขวับคอแทบเคล็ดกับคำถามมันแต่ดูหน้าไอ้ธันแล้วก็ซีเรียสไม่ใช่น้อยเลย


             “ทำไมวะ?”

             “มึงตอบคำถามกูก่อนสิ”

             “กูไม่ได้ทำอะไรไม่ดีเลยสักอย่าง ผู้หญิงคนไหนกูก็ไม่ได้ยุ่ง แล้วถ้ากูกู้เงินละก็ป่านนี้ก็มีตังแดกหมูกระทะกับมึงแล้วสิ”

             “เออจริง”

            “ทำไม ๆ มีอะไร?”

             “แบบตอนที่สอบวิชาแรก ๆ เลยอะ มีคนมาถามหามึง เขาถามกูว่าแบบ เป็นเพื่อนมึงหรอแล้วก็ขอตารางสอบอะไรแบบเนี่ย”

             “หืมมม หน้าตาดีปะ?”
           
             “ก็หน้าตาดีอยู่”

             “อ๋อ ถ้างั้นช่างเถอะ มีเพื่อนเสน่ห์แรงก็ต้องทำใจหน่อย เดี๋ยวก็มีมาอีกเรื่อย ๆ คณะไหนวะ? หน้าตาเป็นไง? ทำไมมึงไม่ให้เบอร์กูไปเลย!”
           
             “หะ? เฮ้ย คนที่มาถามหามึงอะ เขาไม่ใช่ผู้...”

             “เฮ้ย ๆ สายกูมาแล้วว่ะ เดี๋ยวกูขึ้นรถก่อนแล้วกัน ค่อยคุยกันใหม่ ถ้ามึงเจอผู้หญิงคนนั้นที่ถามหากูก็ค่อยชี้ให้กูดูแล้วกัน”


            ผมโบกมือลามันด้วยทความรีบ ๆ รถเมล์ประเทศนี้ไม่ค่อแคร์ป้ายเท่าไหร่ครับ เลยต้องรีบบอกลาไอ้ธันแล้ววิ่งปรู๊ดไปขึ้นรถเมล์ที่จอดเลยป้าย หลังจากที่ผมก้าวขาสองข้างขึ้นรถ รถเมล์ก็พุ่งออกตัว จนผมถึงกับเซชนเหล็ก แต่ชักจะชินเลยประคองตัวเองไปหาที่นั่งได้ในที่สุด ขึ้นรถเมล์แต่ละทีกูนี่ถึงกับต้องปาดเหงื่อ


            ว่าแต่ไอ้ธันพูดอะไรค้างไว้วะ พอดีมัวแต่สนใจรถเลยไม่ได้ฟังเลย...อื้ม ช่างมันเถอะ ถ้าอยากเจอผมถึงขนาดมาถามไอ้ธันแบบนี้ เดี๋ยวผมก็คงได้เจอเขาเองแหละ


















            รถสีดำเคลื่อนตัวจอดอยู่ตรงข้ามบ้านหลังหนึ่งในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย เขาเคยสะกดรอยตามมาแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากที่เช็คตารางสอบกับเพื่อนของเจ้าตัว เพราะงั้นเลยค่อยข้างมั่นใจว่าบ้านอีกฝั่งหนึ่งเป็นบ้านที่เอสอยู่ในตอนนี้แน่

           
             “ที่หนึ่ง ไม่เปลี่ยนใจนะ?” ตุลย์เอี้ยวตัวถามลูกชายที่นั่งอยู่เบาะหลัง  เห็นได้ชัดถึงความวิตกกังวลแต่ถึงอย่างนั้นเด็กน้อยก็พยักหน้ายืนยันว่าเขาจะไม่เปลี่ยนใจกับการกระทำในครั้งนี้ “จะลงไปพร้อมพ่อไหม? หรือจะให้พ่อเรียกพี่เอสมาหา?”

             “ที่หนึ่งจะไปพร้อมพ่อ”

             “โอเค ถ้างั้นลงมาเลย”


            ตุลย์ดับเครื่องยนต์ เขาลงจากรถมาก่อนดูถนนหนทางว่าปลอดภัยดีจึงค่อยเปิดประตูด้านหลังให้ลูกชายของตัวเองลงมา


             “อะ! ที่หนึ่งหยิบของก่อน”


            ที่หนึ่งร้องท้วงขึ้น เปิดประตูรถเอื้อมมือไปหยิบกระดาษที่เขาเตรียมมาด้วย ก่อนจะเดินจูงมือพ่อตรงไปยังหน้าประตูบ้านหลังนั้น


            เสียงหัวใจของเด็กน้อยเต้นรัว เขาใช้เวลานานไม่น้อยเลยในการที่จะคิดทบทวนอย่างดีจนมั่นใจว่าเขาต้องการพี่เอสอยู่ในชีวิต... เพราะงั้นตอนนี้เขาเลยกลัวมาก ว่าพี่เอสอาจจะไม่ได้อยากกลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมแล้วก็ได้...


            ออด...


            ตุลย์กดออดโดยไม่บอกที่หนึ่งสักคำทำให้เด็กน้อยตกใจจนเผลอพุ่งเข้าหลบหลังพ่อ ขณะที่หญิงเจ้าของบ้านเปิดประตูออกมาด้วยความประหลาดใจ


             “มาพบใครคะ?”

             “เอสอยู่ไหมครับ?”


            หญิงผู้เป็นเจ้าของบ้านมองลอดแว่นดูแขกที่มาใหม่ในช่วงเวลาหัวค่ำ มองเลยไปทางเด็กวัยประมาณสิบขวบที่หลบอยู่ด้านหลัง แม้จะไม่ค่อยวางใจนักแต่เพราะการที่มีเด็กมาด้วยทำให้เธอยอมตอบในที่สุด


             “ก็...อยู่ค่ะ จะเข้ามาก่อนไหมคะ?”

             “ไม่เป็นไรครับ รบกวนเรียกเอสให้หน่อยได้ไหมครับ” ตุลย์ยิ้มรับอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน

             “ถ้างั้นรอสักครู่นะคะ”


            เจ้าของบ้านเดินกลับเข้าไป เรียกหาคนที่พวกเขาต้องการพบ ตุลย์จะมองผ่านมุ้งลวดเห็นเอสเดินลงจากชั้นสอง โดยมีเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันอีกคนเดินตามลงมาด้วย เขาไม่ได้ยินว่าพูดกันว่าอย่างไร แต่สักพักเอสก็หันมองหน้าเด็กหนุ่มอีกคนก่อนจะกึ่งวิ่งกึ่งเดินออกมาหน้าบ้าน


            ...ตรงที่เขาและที่หนึ่งยืนอยู่


             “เอ่อ ตกใจเลยนะเนี่ยที่เห็นพี่มาอยู่ที่นี่ รู้บ้านเพื่อนผมได้ไง?” เอสทักทายอย่างเก๋ ๆ กัง ๆ

             “ขอโทษที่มารบกวนตอนนี้ แต่มีคนอยากเจอน่ะ”


            ตุลย์เถิบตัวไปด้านข้าง ปรากฎร่างของที่หนึ่งที่ยืนถือกระดาษแผ่นหนึ่งในมือ กำลังจ้องมองเขาด้วยท่าทางจริงจัง ผิดกับเอสที่นิ่งค้างกับการประจันหน้ากับคนที่เขาไม่คิดว่าจะได้เจอ


             “ที่หนึ่ง...”


เอสหันมองตุลย์ทันทีราวกับต้องการคำอธิบายความกังวลทำให้เขาแทบอยากจะวิ่งกลับเข้าไปในบ้าน แต่ขามันก็แข็งจนก้าวไม่ออก ตุลย์ก็ไม่คิดที่จะตอบอะไรทั้งนั้นนอกจากดันหลังที่หนึ่งให้เป็นคนตอบคำถามนั้น

           
            “ที่หนึ่งขอให้พ่อพาที่หนึ่งมาหาเอง ที่หนึ่งอยากเอานี่มาให้พี่เอส”


            เด็กน้อยยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้ด้วยความลังเล  เอสเองก็กังวลแต่ก็ยังเอื้อมมือไปรับกระดาษนั้นไว้แล้วพลิกดู


            สิ่งที่ปรากฎ เป็นรูปวาดสีไม้ที่เป็นภาพผู้ชายที่เหมือนวาดเลียนแบบตัวการ์ตูนเหมือนที่เขาเคยวาดตอนเด็ก ๆ สามคน...เป็นภาพผู้ชายสามคนจับมือต่อ ๆ กัน โดยที่คนตรงกลางตัวเล็กกว่าอีกสองคน มีพื้นหลังเป็นบ้าน ภูเขา แม่น้ำ แล้วก็พระอาทิตย์ที่โผล่ออกมาจากภูเขา


            อ่า...ไม่สิ ข้าง ๆ ผู้ชายทั้งฝั่งซ้ายมีผู้ชายตัวเล็กมาก ๆ อีกหนึ่งคน ยืนอยู่ด้วย


             “ที่หนึ่งอยากจะบอกพี่เอสว่า...” เด็กน้อยเริ่มเบะปากทำท่าทางเหมือนจะร้องไห้จนตุลย์ต้องคว้ามือลูกชายเอาไว้เพื่อให้กำลังใจ

           
            เขาอยากให้ที่หนึ่งเป็นคนพูดเองเพราะมันจะไม่มีความหมายเลย ถ้าคำพูดที่ที่หนึ่งเตรียมมาอย่างดีจากที่บ้าน ถูกเขาเป็นคนพูดแทน


            เด็กน้อยมองหน้าผู้เป็นพ่อก่อนจะปาดน้ำตาแล้วเริ่มพูดใหม่อีกครั้งถึงความรู้สึกที่เขาเตรียมมา...


             “ที่หนึ่งอยากให้พี่เอสกลับไปอยู่ด้วย ที่หนึ่งขอโทษนะ ที่หนึ่งอยากจะเล่นเกมกับพี่เอสอีก อยากจะฟังเรื่องตลก ๆ ดูการ์ตูนแล้วก็ไปเที่ยวด้วยกันเหมือนเมื่อก่อน” เสียงนั้นสั่นเครือพยายามสะกดกั้นน้ำตาไว้อย่างสุดความสามารถ “พี่เอสจะเป็นแม่ใหม่ของที่หนึ่งก็ได้ จะเป็นแฟนพ่อก็ได้...แต่กลับไปอยู่ด้วยกันนะ ที่หนึ่งคิดถึงพี่เอสมาก ๆ เลย ที่หนึ่งอยากให้พี่เอสกลับไปเป็นอันธพาลของที่หนึ่งอีก!”


            ทันทีที่พูดความในใจไปจนหมดสิ้นน้ำตาก็ร่วงเพาะ เขาไม่สนอีกต่อไปแล้วว่าเอสจะเข้ามาอยู่ในชีวิตของเขาในฐานะอะไร แต่เขาอยากพี่เอสอยู่ด้วย อยากจะยิ้มแล้วก็หัวเราะไปด้วยกันเหมือนเดิม!


            เขาไม่อยากเล่นคนเดียวอีกต่อไปแล้ว


             “ฮึก พี่เอสไม่อยากอยู่กับที่หนึ่งแล้วหรอ? ทำไมถึงไม่ตอบอะไรที่หนึ่งเลยละ”

             “มะ ไม่ใช่แบบนั้น” เอสรีบละล่ำละลักตอบ


            หัวสมองของเขาอื้ออึงไปกับคำพูดนั้น ทั้งตกใจ ทั้งดีใจ เอสก้มมองภาพที่อยู่ในมือ ภาพครอบครัวแบบที่เขาอยากอยู่ด้วยไปตลอดชีวิต ก่อนที่เขาจะรู้สึกถึงน้ำตาที่ร่วงใส่ภาพนั้น น้ำตาแห่งความตื้นตันของคนที่ถูกยอมรับ


             “กลับมาอยู่ด้วยกันไหม?”


            เอสหันไปหาคนที่ถามประโยคนั้น มือใหญ่ของอีกฝ่ายเอื้อมมาปาดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน เพียงเท่านั้นรอยยิ้มก็ผุดขึ้นมาบนใบหน้า พร้อมกับเสียงหัวเราะกับความสุขที่ไม่อาจจะอธิบายได้


             “กลับสิ มันต้องกลับอยู่แล้ว!”


            รอยยิ้มกว้าง ๆ ของเอสเป็นสิ่งที่ตุลย์รู้สึกว่าไม่ได้เห็นมานาน เขาที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะยิ้มออกมาได้เพียงเพราะเห็นรอยยิ้มของใคร แต่เขาก็ยิ้มออกมาแล้วเพราะรอยยิ้มของเอส ไม่น่าเชื่อเลยว่าในใจของเขาที่ได้ยินคำตอบนั่นจะรู้สึกดีใจมากขนาดนี้ ไม่เคยคิดเลยว่าตอนนี้เขาจะรู้ตัวแล้วว่าชีวิตนี้เขาอยากอยู่กับใคร


            ตุลย์ก้มมองลูกชายของตัวเองที่กำลังยิ้มดีใจจนเขาต้องผลักไหล่ของที่หนึ่งเพื่อให้เข้าไปกอด เอสก็ไม่ลังเลที่จะอ้าแขนรับ พอเห็นอีกฝ่ายทำท่ายุกยิกเขินอายเขาก็คว้าตัวที่หนึ่งเข้าไปกอดไว้เสียเอง!


             “ขอบคุณนะ ขอบคุณมากนะที่หนึ่ง” เอสพูดขณะที่กอดเด็กน้อยเอาไว้แน่น “แต่พี่เคยบอกแล้วไง พี่ไม่ได้เข้ามาในชีวิตที่หนึ่งเพื่อจะเป็นแม่ใหม่ หรือพ่อคนที่สองของใคร ที่ก็ยังเป็นพี่ เป็นแค่อันธพาลของที่หนึ่งเหมือนเดิม”

             “ที่หนึ่งรู้แล้ว ๆ”


            เอสหัวเราะกับความสุขนี้ เด็กหนุ่มผละกอดออก มองที่หนึ่งสลับกับตุลย์ที่ยังคงยืนอยู่ ในใจก็อยากกอดคนพ่อด้วยแต่มันคงไม่เหมาะเท่าไหร่เขาเลยทำได้เพียงแต่ยิ้มให้กัน (แล้วทดไว้ในใจ)


             “แต่ผมคงกลับไม่ได้หรอกตอนนี้ ผมเหลือสอบอีกตัว”

             “เอาไปอ่านที่นู่นก็ได้นะ!”


            เอสหัวเราะก๊ากออกมาเสียงดังขยี้หัวของที่หนึ่งจนฟู่ฟ่อง ก่อนจะส่งยิ้มกว้าง

             “ไม่ต้องห่วงหรอกหน่า สอบเสร็จแล้วจะรีบกลับบ้านนะ”















            ผมหิ้วของพะรุงพะรังผิวปากอารมณ์ดีขณะเดินไปตามทางที่ทอดยาว ตรงไปยังห้องที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกความรู้สึก ห้องที่เป็นเสมือนหีบสมับติที่ผมล็อคเก็บไปแล้ว และไม่คิดเลยว่าจะว่าวันหนึ่งจะได้กลับมาไขกุญแจเปิดมันอีกครั้ง


            ตุ๊บ!


            ของทื่ผมถือถูกลงลงกับพื้นขณะที่ผมเงยหน้ามองหมายเลขห้องเหนือประตู ในใจเต้นระรัวและไม่อาจจะหยุดยิ้มได้ ผมยังคงรู้สึกขอบคุณทุกคนที่ให้พื้นที่คนอย่างผมยืนอยู่ใน ‘ครอบครัว’ แล้วผมก็หวังว่าผมจะไม่ต้องจากครอบครัวหรือห้องนี้ไปไหนอีกแล้ว


            แกร๊ก


             “มาช้า ไหนบอกรีบสอบเสร็จจะรีบมา” พี่ตุลย์เปิดประตูพรวดจนผมเผลอสะดุ้ง

             “ให้เวลาผมเก็บของย้ายจากบ้านไอ้ปันมาที่นี่หน่อยได้ไหมละ”


            เมื่อกี้ผมพูดถึงไหนละ อ๋อ...แล้วผมก็หวังว่าผมจะไม่ต้องจากครอบครัวหรือห้องนี้ไปไหนอีกแล้ว ให้ผมอยู่ท่ามกลางครอบครัวและความรัก ให้ผมผ่านทุกข์และสุขไปพร้อมกับครอบครัว อยู่เคียงข้างไปกับผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี้ไปตลอด


             “รีบเข้ามาได้แล้ว ที่หนึ่งรอนายตั้งแต่เช้า”

             “แล้วพี่ละ?” ขณะที่กำลังเดินเข้าห้องก็เอี้ยวตัวมาถามคนที่หลีกทางให้

             “อะไร?”

             “รอผมอยู่ปะ?” พี่ตุลย์ไม่ตอบครับแต่หน้าเริ่มแดง! รู้เลยว่าเขารอผมอยู่ตั้งแต่วันนั้นแหละ ฮ่า ๆ นี่ไม่ได้หลงตัวเองเลยนะครับ แต่มันแจ่มแจ้ง! “ว่างายยย รอผมอยู่เปล่าาา~”

             “อันธพาลมาแล้วหรอ!”

             “โอ๊ะ! มาแล้วว รอนานเปล่า?” ผมเลิกแหย่พี่ตุลย์เล่นหันไปกอดรัดขาก่ายอยู่กับที่หนึ่งแทน

             “ไหนพ่อบอกว่าจะมาตอนบ่ายสอง ทำไมมาช้าตั้งสองชั่วโมงแหนะ”

             “โทษที ๆ เก็บของนานฟังเพื่อนเทศน์เรื่องการออกเรือนอยู่ด้วย”

            “ที่หนึ่งยังไม่เท่าไหร่นะเล่นเกมรออยู่ แต่พ่ออะดิ เดินวนไปวนมาอยู่หน้าประตูตลอดเลย ชวนที่หนึ่งไปรับอันธพาลที่บ้านเพื่อนตั้งหลายครั้งแหนะ” ที่หนึ่งเล่าให้ฟังอย่างใสซื่อ


            ผมเหลือบมองพี่ตุลย์ก่อนจะส่งยิ้มให้ด้วยความเจ้าเล่ห์ พร้อมมีซาวด์ ‘ง่อววว’ ผ่านสายตา


             “ที่หนึ่ง! ตอนต้นจะเอาอะไรเข้าปากแล้วน่ะ!” ผมเล่นใหญ่เลยครับ โวยวายพร้อมชี้ไปที่ตอนต้น ที่หนึ่งก็เลยหันพรึ่บรีบกลับไปดูน้องตัวเองทันที ส่วนผมก็ชะแว๊บมาหาพี่ตุลย์ที่ยืนไม่รู้ไม่ชี้ เหมือนกับว่าไม่ได้ถูกที่หนึ่งประจานอะไรเมื่อกี้

             “อะไร?” แหนะ มีทำท่าขุ่นเคืองง

             “อยากเจอเร็ว ๆ ก็น่าจะโทรมาบอกนะ~” ผมล้อกิ้ว ๆ ให้พี่ตุลย์น่าแดงเล่น


            โหย โมเม้นนี้หายไปนานร่วมสองเดือนได้มั้ง! ฤดูสีชมพูของผมกลับมาอีกครั้ง! /ร้องไห้ มีโอกาสแล้วต้องแหย่ให้เต็มที่! ว่าแล้วก็จิ้มแก้มไปอีกรัว ๆ


            หมับ


            มือผมถูกพี่ตุลย์คว้าเอาไว้ ใบหน้าแดงเทือกนั่นก็ยังแดงอยู่ แม้สายตาจะเฉือดเฉือนผมก็ไร้ซึ่งความหวั่นเกรงใด ๆ ยังยิ้มล้อเลียนไม่เลิก ไม่พอมียื่นปากจุ๊บ ๆ ด้วยนะ -3- น่ารักจังเลยอะน้องสาววว ฮิ้ววว


             “หยุดล้อได้แล้วหน่า ก็คนมันรัก มันคิดถึง ก็เลยอยากเจอผิดตรงไหนเล่า”


            …


            One shot ตายสนิท


             ผมได้แต่อ้าปากพะงาบ ๆ ทีนีกลายเป็นผมเองที่รู้สึกว่าหน้ามันร้อน ๆ ชอบกลจนอยากจะเดินไปเช็คแอร์ดู แถมรู้สึกว่ามองหน้าไม่ได้จนต้องมองกระเบื้องบ้าง มองเพดานบ้าง เอ๋ ฝ้าขาวดีจัง...ฮือ คือมันไม่กล้ามองหน้าตรง ๆ อะครับ T T!


            เอาจริง ๆ ไหมผมโคตรอยากจะกระโดดกอดพี่เขาตั้งแต่เปิดประตูผัวะให้เห็นหน้าตั้งแต่ห้านาทีก่อนแล้ว แต่ผมก็ไม่กล้าจะทำอะไรโจ้งแจ้งถึงแม้ที่หนึ่งจะบอกว่ารับได้ก็เถอะ ผมเหลือบมองที่หนึ่งตรวจสอบว่าผมกับพี่ตุลย์ไม่ได้ตกอยู่ในความสนใจตอนนี้ ก่อนจะหันกลับมามองพี่ตุลย์


            เอนหน้าซบลงกับไหล่ที่ผมไม่ได้สัมผัสมานาน แล้วยกแขนขึ้นโอบกอดรอบคอเขา


            กลิ่นที่ผมคิดถึง สัมผัสที่ผมโหยหาย ผมเพิ่งรู้ตัวตอนนี้เองว่าพอผ่านเรื่องราวมากมายความรู้สึกที่ผมมีให้เขามันยิ่งลึกซึ้งมากขึ้น แล้วก็กำลังมากขึ้นเรื่อย ๆ...


             “ผมก็คิดถึงพี่นะ” ผมยิ้ม ในที่สุดคำว่า ‘คิดถึง’ ที่ผมอยากจะพูดใจแทบขาดก็ได้พูดมันออกมา และตอนนี้ผมก็มีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากบอกเขามากที่สุด “รัก ผมรักพี่มากเลย”
 
                     


THE END





จบแล้วค่ะะะ ในที่สุดเรื่องนี้ก็จบลงแล้ว
ขอขอบคุณสำหรับกำลังใจ และการติดตามตลอดมาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายนะคะ
ขอบคุณที่ให้พื้นที่เล็กๆ สำหรับนักเขียนมือใหม่และเรื่องราวของเอสน้อยกลอยใจกับพี่ตุลย์
ในที่สุด งานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกลาค่ะ แต่ความสุขที่เอสได้ให้กับทุกคน ขอให้อยู่ในความทรงจำดีๆ ตลอดไปนะคะ
ขอบคุณอีกครั้งจากใจ และขอโทษสำหรับความเหลวไหลเสมอมาค่ะ
แล้วเจอกันใหม่ในเรื่องหน้านะคะ จุ๊บ ค่ะ รักทุกคนนนน เอสคงต้องจากลากันเพียงเท่านี้ค่ะ บัมมม
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-01-2017 13:51:32
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
มีตอนพิเศษแถมๆหน่อยก็จะดีมากๆเลย
พี่ตุลย์ เอส  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-01-2017 14:54:10
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-01-2017 16:55:04
 :L2: :L1: :pig4:

ขอบคุณที่แบ่งปันความสุข
ที่หนึ่งโตแล้ว พ่อกะอันธพาน จะกุ๊กกิ๊กละ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 08-01-2017 18:22:41
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

                                               เรื่องนี้คือน่ารักกกก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 08-01-2017 18:33:08
อ่านรวดเดียวจบค่ะ
สนุกมาก ตลก เศร้า ซึ้ง
มีครบ

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-01-2017 18:39:38
 :heaven
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: tomnub ที่ 08-01-2017 21:08:15
จบแล้ว...อยากอ่านตอนพิเศษจัง...คิดถึงพี่ตุนย์ เอส ที่หนึ่ง และหมูตอนต้น ขอบคุณผู้แต่งด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 08-01-2017 21:20:46
ในที่สุดก็ได้อยู่ด้วยกันแล้วนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 08-01-2017 22:11:28
สงสารที่หนึ่ง //แต่สุดท้ายก็ครอบครัวสุขสันต์
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 08-01-2017 22:57:27
คือทอฟ้าโง่เองมั้ย มีแต่คนไทยนี่แหละนิยมดราม่า ไม่เคารพชีวิตคนอื่น ถ้าจบกันด้วยดี มองคนเป็นคนมากกว่าเรื่องเพศที่สาม ตัวเองก็คงยังมีลูกในชีวิตไว้ได้ ความเป็นพ่อเป็นแม่มันยังเป็นกันได้เสมอ ไม่จำเป็นต้องเก็บลูกไว้คนเดียวแล้วให้เด็กเลือกเลย
เมืองนอกเขาแยกกันไปมีคู่ แต่พ่อแม่ยังผลัดกันดูแลลูกได้ ไม่จำเป็นต้องไปเลิกกับคู่ใหม่ตัวเองด้วย แฟนใหม่พ่อแม่ก็คือแฟนใหม่ ไม่เกี่ยวกับเด็ก ไม่จำเป็นต้องมีฝ่ายไหนลำบากใจเลยถ้ารู้จักบอกสอนเด็กให้เป็น
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 09-01-2017 19:07:20
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 09-01-2017 21:02:48
 :mew4: :mew4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 10-01-2017 20:54:01
ดีใจด้วยนะเอส ในที่สุดก็มีความสุขซะทีนะ
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: cirrus ที่ 10-01-2017 23:30:58
เฮ้ยยย แถวมใ ก็มีร้านหมูกระทะ ชื่อเฮียเปียวนะ คนเขียนอยู่ม. เดียวกันป่าวเนี้๊ยยยย

อ่านรวดเดียวจบ ฟิน~~
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: yokibear ที่ 11-01-2017 11:36:39
แฮปปี้แล้วววววว
ในที่สุดดดดดด ชอบมากๆเลย
เราตลก เราขำ เราชอบความคิดที่เป็นผู้ใหญ่ของเอส
ฉากแม่ของที่หนึ่งนี่บีบใจเราสุดละ
เราทึ่งกับความเป็นแม่คน ว่าเอ้ออแบบนี้ก็มีด้วย
ทำกับที่หนึ่งของเราแบบนี้ได้ยังไงห้ะ!
ทำตัวไม่ดียังจะเอาลูกไปเพื่ออุดช่องว่างในชีวิตตัวเอง
ที่หนี่งเป็นเด็ก10ขวบที่คิดเป็นอะไรเป็น คงเป็นเพราะเค้าผ่านอะไรมามากเหมือนกัน
ส่วนตอนต้น ลูกกกกกอยากจับเล่นเครื่องบิน อยากจับโยนสูงๆ555555
ส่วนคนเป็นพ่อ ว้ายยยยหน้าแดงให้เด็กเต๊าะเด็กแกล้งตลอดเลยนะคะ
น่ารักกกกก ขอบคุณมากๆนะคะ จุใจจริงๆ

หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 11-01-2017 13:24:46
 ตามอ่านตั้งแต่ปีที่แล้ว ตอนนี้จบแล้ว ประทับใจอีกเรื่อง ยิ่งตอนจบที่หนึ่งทำให้รู้สึกดีมากๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: MIwEMInE ที่ 11-01-2017 16:55:37
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: nuch-p ที่ 12-01-2017 00:55:57
 :-[ :กอด1:
สุดยอดดดดดด ขอตอนพิเศษด้วยนะคะ

 :mew1: :mew1: :mew1:

ชอบมากเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 12-01-2017 01:53:25
 :-[ โอ้ยยย น่ารักมากอ่าา รออ่านซีรีย์ 2 ค่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 12-01-2017 03:26:29
ตอนเลิกกันทำซะน้ำตาไหลเลย เลิกเพื่อลูก

นางนี่แปลกคน จะมาเอาลูกทำไมในเมื่อนางรักวีขนาดนั้น ก็มีลูกใหม่กับวีไปเลยดิ

ไหนๆนางก็ทิ้งลูกทั้งสองคนมานานแล้ว :fire:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 12-01-2017 20:24:38
 :hao5: น้ำตาไหลพราก ใครว่าเด็กไม่มีหัวใจ เจอไปคำเดียวจอดสนิท

ตุลย์น่าสงสาร เพราะรัก ถึงจะเจ็บยังไงก็ยอม แต่เพราะสุดท้ายแล้ว เค้าไม่รู้ค่าเอง ก็ต้องปล่อย
เอสหนักสุด เจอดราม่าตลอด แล้วดันมารักจริงจัง เจ็บหนักเลย น่าสงสาร

แต่ตอนนี้คุ้มสุดค่ะ จริงๆก็ต้องขอบคุณฟ้านะ ทำให้รู้ว่า ครอบครัวและคนเคียงข้างสำคัญ
ไม่ต้องพร้อมหน้า แต่คนที่อยู่รักกัน ดูแลกัน หัวเราะ ร้องไห้ ไปด้วยกัน ดีออก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 12-01-2017 22:27:46
 :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 14-01-2017 02:20:31
จบลงอย่างประทับใจ
เป็นเรื่องที่ติดตามกันข้ามปีเลย
ที่หนึ่งต้องโตขึ้นมาเท่มากๆ แน่ๆ อยู่กับพี่เอส
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 14-01-2017 19:35:43
จบได้ประทับใจมากกกกค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: numildkub ที่ 15-01-2017 04:27:38
ก่อนอื่นขอบคุณสำหรับนิยายที่ดีและสนุกนะค้า
ชอบที่นิยายเรื่องนี้มีการบอกถึงพัฒนาการของตัวละคร
ไม่ใช่ปุ๊ปปั๊ปได้กันก็รักกันเลยอะไรแบบนี้
กว่าจะได้รักกันก็แหย่ไปแหย่มาจนเข้ารูเลยค่ะ 55555
เอสก็ออกแนวแบบ 'เปรู' มาก 55555 แรดได้โล่จริงๆ
ชอบนิยายพี่ตุลย์นะ รู้สึกถึงความเป็นพ่อในขณะเดียวก็พยายามที่จะเป็นคนรักที่ดี
ตอนต้นกับที่หนึ่งก็ดูมีพัฒนาการเรื่อยๆ แม้ว่าบางครั้งจะดูน่าสงสารไปหน่อย
แต่หวังว่าคงจะได้เจอตัวละครเรื่องนี้อีกนะคะ ขอบคุณจริงๆค่า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 16-01-2017 22:45:43
จบแล้ววววว ง่ออออออ

ที่หนึ่งน่ารักเนอะะะะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 17-01-2017 12:04:44
 :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Pukpuy79 ที่ 18-01-2017 09:04:41
อ่านรวดเดียวจบ มีทุกอารมณ์จริงๆๆๆ น่ารักมากชอบๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 20-01-2017 13:10:00
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: beer9999 ที่ 20-01-2017 13:48:02
ชอบมากเลยอ่ะ ^_^
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Kikikung ที่ 22-01-2017 13:22:06
ขอบคุณมากน้า อินมาก มีน้ำตาคลอนิดๆตอนที่หนึ่งชวนกลับบ้าน  :hao5:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 23-01-2017 06:31:25
ขอบคุณสำหรับนอยายดีๆนะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: psyche ที่ 24-01-2017 00:34:35
อ่านจบแล้วรวดเดียวเลย
ชอบพระเอก ชัดเจน ตรงๆดี เด็กๆน่ารัก
นายเอก ฮาดี แต่แรกๆ คำเรียกเด็ก ไม่ใช่เกรียน แต่ดูแบบบอกไม่ถุก แต่พอเรื่องดำเนินไปสักพัก คำเรียกซอฟลง เริ่มดีขึ้นค่ะ จริงๆนางน่ารักนะ


โดยรวมชอบมากค่ะ รอติดตามเรื่องต่อไปน๊าาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 25-01-2017 05:05:52
ขอบคุณเรื่องราวดีๆค่ะ

น่ารักกันทั้งนั้นเลย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: miwmiwza ที่ 25-01-2017 11:19:50
น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 29-01-2017 12:08:10
น่ารักอะ
ปล.อยากเห็นฉากพี่ตุล หึง เอส จัง :mew2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 24-02-2017 19:30:00
 :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: N-T ที่ 13-03-2017 22:45:08
 o13
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 17-03-2017 12:19:03
สนุกมากครับ เอสเกรียนมากแต่ก็มีเหตุผลมาก ที่หนึ่งกับตอนต้นน่ารัก


ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: GAZESL ที่ 29-03-2017 21:56:00
ในที่สุดที่หนึ่งก็ยอมรับ แฮ๊ปปี้เอนดิ้ง

ขอบคุณคนแต่งนะคะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 02-04-2017 01:58:18
 :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 03-04-2017 20:46:04
อูยยยยยย อบกินมาม่าไปนิดลุ้นแทบตาย
ว่าอันธพาลจะได้กลับมาอยู่กับตุลย์หนือเปล่า
เรื่องนี้ทอฟ้าเห็นแก่ตัวมาก ที่หนึ่งเกือบไม่ได้กลับบ้านแล้ว
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 04-04-2017 11:27:23
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆมาให้อ่านนะคะ
จะติดตามเรื่องต่อๆไปนะคะ  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Premo1492 ที่ 05-04-2017 01:30:34
 :pig4: :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 06-04-2017 02:41:04
 o13
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 08-04-2017 11:10:37
จบได้ดี ฮือออออ ชอบบบบ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: .hnk ที่ 08-04-2017 18:38:48
จบแล้ววว อ่านจบแล้ววว
เป็นนิยายที่ดีมากๆเลยค่ะ เอสเป็นนายเอกที่ดีอ่ะ ชอบมาก ไม่งี่เง่าไม่คิดไปเอง ไม่รู้ล่ะ คือดีมาก
ชอบมากเลยค่ะ สนุกจริงๆ
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 08-04-2017 19:17:32
เพิ่งเข้ามาอ่าน แอบสะดุดตรงคำผิด แต่ชอบๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 11-04-2017 01:50:22
ร้องไห้จนปวดหัวเลยค่ะ แค่ห้าหกตอนท้ายเองนะ น้ำตาเป็นโอ่งอ่ะ สนุกมากค่า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: happy-jigsaw ที่ 14-04-2017 12:37:31
ชอบความสู้ชีวิตของเอสนะ เหมือนมองเห็นตังเองในอดีต สำนวนการเขียนง่ายๆ และก็เข้าถึงอารมณ์ได้ง่ายเหมือนกัน :)
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 15-04-2017 10:49:08
 :z13:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Baitaew ที่ 17-04-2017 00:14:46
อ่านแล้วสนุกมาก ชอบๆ

เขียนได้ดีเลยนะคะเนี่ย พอเหมาะพอดี ไม่มีน้ำ ไม่ยืดเยื้อ แล้วก็บรรยายได้เห็นภาพ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Maeo ที่ 18-04-2017 23:42:45
อ่านจบแล้ว
คือแบบ...
น่ารักมากกกกกกกกกกกกก
อินสุดๆเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีนะคะ
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: anchovy ที่ 19-04-2017 01:34:28
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 19-04-2017 08:45:46
สนุกมากค่ะ
อีเอสแรดและเกรียนมากค่ะ 555555+
แต่ชอบนายเอกแบบนี้นะ คือมีเหตุผลอ่ะ
แต่ช่วงหลังๆก่อนจบนี่มีแอบน้ำตาซึม 55555+
ขอบคุณนิยายดีๆค่ะ สนุกมาก
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 06-05-2017 06:27:58
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Napa ที่ 08-05-2017 20:02:52
สนุกค่ะ  สงสารที่หนึ่งค่ะ 
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: cookie8009 ที่ 12-05-2017 00:49:40
จะมีตอนพิเศษแถมอีกหน่อยมั้ยอ่าคับ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: AgotoZ ที่ 18-06-2017 15:09:27
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 18-06-2017 15:23:52
 :-[
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ANIKI. ที่ 20-10-2017 00:59:59
นึกว่าจะจบแบบต้องจากกันจริงๆ ตอนหนึ่งคิดถึงเอสน้ำตาซึมเลย อยากให้มีตอนพิเศษ แต่ไม่น่าจะทันแล้วเนอะ  5555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: z9_0 ที่ 23-10-2017 11:11:01
 อ่านเพลินมาก แรกๆลุ้นว่าจะรักกันได้ยังไง อย่างเอสเนี้ยนะ. แต่พอรักกันก็เป็นแนวของคู่ยี้จริงๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักครับ คุณพ่อลูกสอง !!!!!!!!! ep. 50 (END) (08/01/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 26-10-2017 12:27:25
เพิ่งเข้มาอ่านค่ะ (เคยอ่านละทิ้งร้างไปสมัยยังเพิ่งเริ่มเรื่อง แหะๆ)
สนุกมากมาย นี่เมื่อคืนนอนตีสี่ เพราะตามอ่านอยู่ ตื่นมาก็คว้ามือถือมาอ่านต่อเลย
หลงรักครอบครัวนี้ เข้ากันได้ดี ชอบเวลาเอสอยู่กับเด็กๆ มาก ยิ้มได้ทุกครั้ง
ปล. ยังค้างปมคุณแม่ฮาร์ดคอร์อยู่นะคะ อย่าลืมเอาตอนพิเศษมาเสิร์ฟ อิอิ (ใส่อิอิ ละประโยคจะน่ารักขึ้น)
ขอบคุณสำหรับช่วงเวลาพิเศษในการอ่านนิยายเรื่องนี้ค่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง - ที่หนึ่ง's Side Story (1)!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 25-01-2018 15:09:16
B8003

 


     สวัสดีทุกคนนนนนน~~ ทั้งคนที่จำกันได้และจำกันไม่ได้ กลับมาอีกครั้งกับตอนพิเศษของ Daddy Be Lover ซึ่งคราวนี้เป็นเรื่องของเด็กน้อยที่หนึ่ง ที่ตอนนี้เติบใหญ่ขึ้นมาได้น่ารักน่าชังเสียนี่กะไร  TT /จูบหัว

     มีคนถามเข้ามากันเยอะมากว่าทำไมไม่มีตอนพิเศษของที่หนึ่ง ทำไมไม่มีเรื่องของที่หนึ่ง จริงๆ เรื่องของที่หนึ่งนี่คิดไว้ตั้งแต่ Daddy ยังไม่จบเลยนะ แต่ว่าเป็นโทนดราม่าซึ่ง นิสก็ไม่อยากให้ภาพลักษณ์ของ Daddy ในความทรงจำของทุกคนแปดเปื้อนไง เลยเป็นโปรเจ็คที่พับเอาไว้

     จนกระทั้ง!!! ได้เพลงๆ หนึ่งช่วยเอาไว้ ทำให้ทุกอย่างลงตัว ทั้งบรรยากาศ แนวเรื่องมีการปรับแต่งให้คงเรื่องราวที่คิดเอาไว้ แต่ก็จะไม่ทำร้ายภาพ Daddy ในหัวของทุกคน ออกมาเป็นตอนพิเศษประมาณไม่เกิน 10 ตอนที่ทุกคนกำลังจะได้อ่านกันตอนนี้


ถ้าพร้อมแล้วก็ไปอ่านกันเลย ปู๊น ปู๊นนนนน !!!
   




........................................................................................





ต่างก็เคยผิดหวังในรักมา เคยหลับหูหลับตาไอตอนเวลาหาคู่
ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำไง ก็เห็นแล้วชอบแค่นั่นก็เลยเผลอใจ

 
ไม่เป็นไรส่วนฉันไม่ต้องการเยอะแค่มีเธอผู้เดียวฉันก็พอเถอะ
เดินไปด้วยกันแค่เพียงมีฉันและมีเธอ : )



(https://i.imgur.com/hIQYFz8.png)

.

.

.



            ในหนึ่งปี มีวันที่คนเราตั้งหน้ำตั้งตารออยู่ไม่กี่วัน และก็เป็นวันไม่กี่วันที่เราคาดหวังจะเจอแต่เรื่องดีๆ ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่มีวันที่ตั้งตารอในรอบหนึ่งปี


            วันเกิด

 
            วันเดียวที่ผมตั้งตารอเป็นพิเศษในทุกๆ หนึ่งปี

 
            เป็นวันที่ผมคาดหวังมากว่าจะเจอแต่เรื่องดีๆ ในวันนั้น วันอื่นจะแย่ยังไงก็ได้ แต่ผมมักจะขออยู่ในใจว่าให้วันเกิดของผมเป็นวันที่อย่ามีอะไรแย่ๆ ถาโถมเข้ามาสักวัน

 
            ตลอด 19 ปีที่ผ่านมาคำขอของผมสัมฤทธิ์ผลเสมอ ไม่พลาดสักที แต่ดูเหมือนว่าแต้มบุญของผมจะหมดแล้วในวันเกิดปีนี้

 
            วันเกิดปีที่ 20

 
            “หนึ่ง ขอโทษนะที่อยู่ดีๆ ก็มาหาที่คณะ” แฟนของผม ‘หมิว’ พูดขึ้นเมื่อเห็นผมที่กึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาหาเธอ

 
            “ไม่เป็นไรๆ อาจารย์ยังไม่เข้าพอดี” ผมยิ้ม “มีไรเปล่า? เห็นบอกว่ามีเรื่องด่วนอยากคุยด้วย”

 
            “อ๋อ ใช่ แต่ว่า เราไปหาที่เงียบๆ คุยกันดีกว่า” พูดจบหมิวก็เป็นคนเดินนำผมมายังบริเวณสวนหย่อมเล็กๆ ที่อยู่ตรงกลางระหว่างตึกเรียนสี่ตึก ก่อนจะคว้ามือให้นั่งลงตรงม้านั่งที่ไม่มีคนอยู่ในบริเวณที่สุด

 
            “หนึ่ง หมิวมีเรื่องจะถามหนึ่ง แต่ก่อนจะถาม หนึ่งสัญญาก่อนได้ไหมว่าจะตอบมาตามความจริง”

 
            “หมิวจะถามอะไรครับ?” ผมลุกจากม้านั่งลงไปนั่งยองๆ ต่อหน้าหมิวจับมือเล็กๆ ที่กุมกันไว้บนตัก สบตาที่เหมือนพยายามจะสื่ออะไรบางอย่างของเธอ

 
            “หนึ่งสัญญามาก่อนว่าจะตอบความจริง”

 
            “ครับ หนึ่งจะตอบตามความจริง”

 
            “หนึ่ง…” หมิวเงียบไปชั่วอึดใจ “หนึ่งเป็นเกย์ใช่ไหม?”

 
            “หะ?” ผมหัวเราะเสียงแห้ง “หนึ่งคบกับหมิวอยู่นะ แล้วหนึ่งจะไป-”

 
            “ไหนหนึ่งสัญญาว่าจะพูดความจริง”

 
            “…”

 
            “หมิวขอถามอีกครั้ง หนึ่งเป็นเกย์ใช่ปะ? ขอความจริง”

 
            “…ไม่ได้เป็น”

 
            เพี๊ยะ!!!


 
            เยี่ยม!! วันเกิดปีที่ 20 ความลับผมแตก และโดนคนรักที่คบกันมา 1 ปี 1 เดือน ตบหน้าพร้อมบอกเลิกกลางคณะประหนึ่งเธอลืมไปแล้วว่าเธอมีไลน์ของผม แล้วสามารถทักมาบอกเลิกเงียบๆ ทางนั้นได้


            แต่ก็อย่างว่า…


            บอกเลิกทางไลน์ ตบหน้าไม่ได้

 
            นี่ผมต้องบอกขอบคุณเธอหรือเปล่าที่ไม่ตะโกนบอกสาเหตุที่เลิกกันให้คนทั้งคณะเขารู้ด้วย


            “นี่มันบาดแผลของนักรบ”


            “เงียบหน่า” ผมเอ็ดพวกเพื่อนๆ เสียงหน่าย นั่งลงที่นั่งประจำก่อนจะยกมือขึ้นกุมแก้มซ่อนรอยแดงที่ขึ้นมาเด่นชัดจากสายตาคนในห้องบรรยาย


            ตั้งแต่คบกันมาผมรู้ว่าหมิวไม่ได้เป็นหญิงอ่อนหวานอะไร ออกไปทางห้าว แก่น มั่นใจในตัวเองสูง แต่อย่างน้อยเห็นแก่เวลาหนึ่งปีที่คบกันมา เธอควรจะเบามือกับหน้าผมบ้าง

 
            “ไหนบอกว่าแฟนจะเซอร์ไพรส์วันเกิด”

 
            “บอกเลิกในวันเกิด พร้อมตบหน้ากลางคณะไง เซอร์ไพรส์!~”

 
            “ขำตาย”

 
            “เห็นกูหัวเราะปะละ”

 
            “แล้วไหงโดนบอกเลิก? ก็ยังดีๆ อยู่แท้ๆ”

 
            ผมไม่ชอบการโกหกเท่าไหร่หรอกนะ แต่น่าเสียดายที่เรื่องผมเป็นเกย์ดันเป็นความลับของผมกับคนทั้งโลก


            “เธอบอกว่าเข้ากันไม่ได้”

 
            “แม้จะเข้าได้ไปหลายรอบแล้ว” เพื่อนผมเสริมต่อ


            ผมหัวเราะ ภาพลักษณ์ของผมในสายตาเพื่อนเป็นแบบนั้นหรอ? ฮ่าๆ แต่น่าเสียดายที่ผมยังไม่เคย ‘เข้าได้’ กับหมิวเลยสักครั้ง ตลอดหนึ่งปีหมิวกับเพื่อนของเธอบอกว่าผมเป็นสุภาพบุรุษให้เกียรติผู้หญิง แต่ตอนนี้พวกเธอคงรู้แล้วว่า อ๋อ เปล่า ผมเป็นเกย์

 
            ผมพูดเหมือนจะเป็นเรื่องขำๆ นะครับ แต่จริงๆ แล้วไม่เลย เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องตลก ผมซีเรียสตอนที่บอกว่าเรื่องนี้เป็นความลับของผมกับคนทั้งโลก หรือถ้าวันนึงคนทั้งโลกรู้ อย่างน้อยครอบครัวของผมต้องไม่รู้

 
            “น่า ไม่มีแฟน แต่มีเพื่อน! ไหนๆ วันนี้ก็อายุ 20 เข้าร้านเหล้าแบบอกผายไหล่ผึ่งได้แล้ว เดี๋ยวกูพาเข้าในเมือง”


            “กูอยากเริ่มต้นอายุ 20 ด้วยหมูกระทะ”

 
            “เออ หมูกระทะก็ได้ ตามใจเจ้าของวันเกิดเลยครับ”

 
            “พวกมึงเลี้ยงกูด้วย”


            “เออ เต็มที่ไปเลย”
 

            ผมตาวาวจับมือกับพวกเพื่อนๆ เป็นการดีลข้อตกลงก่อนที่จะแยกไปโต๊ะใครโต๊ะมันเมื่ออาจารย์เดินเข้าห้องบรรยายมา

 
            เอาเถอะ วันเกิดราบรื่นมา 19 ปี ฟ้าคงรู้สึกว่ามันน่าเบื่อเลยอยากเพิ่มสีสันอะไรบ้าง ผมควรจะน่าชื่นเข้าไว้ให้คุ้มกับเป็นวันที่ผมรอคอยในรอบหนึ่งปี ก็แค่โดนบอกเลิกกับตบหน้านิดหน่อยแค่นั้นแหละ!


 


 

 


 
            ซะเมื่อไหร่


            “โทษทีนะหนึ่ง เอาตรงๆ เราไม่พร้อมเจอหน้าหนึ่งช่วงนี้อะ และมันก็คงดูไม่ดีเท่าไหร่ด้วยที่จะอยู่หอกับผู้ชายที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน เพราะงั้น…หนึ่งย้ายออกได้ไหม? หมิวอยากอยู่หอนี้คนเดียว”

 
            นั่นเป็นประโยคแรกที่หมิวพูดขึ้นหลังจากที่ผมเปิดประตูห้องเข้ามาเห็นเธอกำลังเอาหนังสือเรียนและชีททั้งหลายของผมใส่กล่องลัง กว่าที่ผมจะตีความหมายได้ว่าเธอกำลังไล่ผมออกจากห้องที่พักอยู่ด้วยกันก็ตอนที่เทปกาวสีน้ำตาลถูกดึงดังแควกปิดกล่องหนังสือกล่องสุดท้าย

 
            “พวกของส่วนตัวต่างๆ หนึ่งก็จัดการเอานะ คืนนี้หมิวจะไปนอนกับเพื่อน กลับมาก็พรุ่งนี้เย็นๆ”

 
            ตีความหมายได้ว่า กรุณาย้ายออกให้เรียบร้อยก่อนเย็นวันพรุ่งนี้

 
            “อ่า แล้วก็พวกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ซื้อด้วยกันหนึ่งเอาไปด้วยก็ได้หมิวไม่ว่า เดี๋ยวซื้อใหม่เอา”

 
            “ไม่เป็นไร หมิวก็เอาไว้ใช้แหละ หนึ่งไม่ได้ใช้ของพวกนี้อยู่แล้ว”


            “โอเค ตามนั้นก็ได้” หมิวพูดพร้อมกับคว้ากระเป๋าเป้ใบเล็กที่อยู่บนเตียง “งั้น…ตรงนี้หมิวปล่อยให้หนึ่งจัดการไปนะ หมิวไปก่อนพอดีนัดเพื่อนไว้ตอนห้าโมงเย็นอะ”

 
            “อ๋อ โอเค”

 
            “อืม ไปนะ”


            ปัง 

 
            เยี่ยม แฟนบอกเลิก โดนตบหน้า และต้องย้ายออกจากห้องแบบกะทันหัน


            ผมหยิบโทรศัพท์ต่อสายหาเพื่อนที่แยกย้ายเตรียมตัวไปร้านหมูกระทะหลังมอ

 
            “ฮัลโล กูขอเปลี่ยนจากนัดหมูกระทะ เป็นร้านเหล้าอะไรในเมืองของมึงนะ”

 
            วันเกิด…

 
            วันเหี้ย!!

 

 

 

 

            ผมตั้งใจแค่จะมากินเหล้าพอให้หายเซ็ง แต่พอมาถึงร้านเหล้าในเมืองที่ ‘ลี’ เพื่อนของผมเอาแต่โฆษณาชวนเชื่อตลอดเส้นเทางก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นกับบรรยากาศใหม่ๆ ที่แตกต่างจากร้านเหล้านั่งดริ้งหลังมอโดยสิ้นเชิง ทั้งแสงสีเสียงที่ไปในทางผับ อาคารที่ปิดทึบเป็นส่วนตัว และผู้คนที่ดูเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งผมก็เข้าใจได้ เพราะกลุ่มลูกค้าของที่นี่คงไม่ใช่เด็กมหา’ลัยเป็นหลัก แม้กว่าครึ่งหนึ่งของลูกค้าในร้านจะเป็นเด็กมหา’ลัยก็ตาม

 
            แถมยังมีการตรวจบัตรที่เข้มงวดมาก และหน่วยรักษาความปลอดภัยที่เป็นเรื่องเป็นราว

 
            “เดี๋ยววันกูเลี้ยงเลย ปลอบใจเพื่อนที่โดนทิ้ง”


            “มึงสัญญากับกูแล้วว่าจะเลี้ยง ต่อให้กูหนีบแฟนมาด้วยมึงก็ต้องเลี้ยง มึงจำนิ้วก้อยที่เกี่ยวกันเมื่อตอนเช้าไม่ได้ไง?”

 
            “พวกกูหมายถึงหมูกระทะปะตอนนั้น” ‘เดช’ เพื่อนของผมอีกคนที่มาด้วยกันพูดขึ้นบ้าง


            “หรอ แต่ตอนกูเกี่ยวก้อยกูหมายถึงเลี้ยงทุกอย่าง”

 
            “สัส นี่เพื่อนไง มึงจะทำกับเพื่อนแบบนี้หรอ” ลีพูดเสียงอ่อน แววตาขอความเห็นใจ


            “แต่นี่วันเกิดเพื่อนไง ไม่มีของขวัญแล้ว จะไม่เลี้ยงอะไรกูหน่อยหรอ” ผมทำเสียงน่าสงสารบ้าง และดูเหมือนว่าได้ผล ผมเป็นฝ่ายชนะ

 
            “รู้งี้กูเลี้ยงข้าวหมูแดงตอนเที่ยงให้มันจบๆ ไปก็ดี” ลีบ่น ก่อนจะเงียบปากเมื่อเหล้ากับมิกเซอร์ชุดแรกมาเสริฟที่โต๊ะ


            เอาละ ปาร์ตี้วันเกิดครบรอบปีที่ 20 ของผมเริ่มขึ้นแล้ว

 
            ติ้ง!

 
            เสียงข้อความเข้าดังแทรกขัดจังหวะชนแก้ว ผมยกมือขอเวลานอกก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแจ้งเตือน

 
            “ข้อความจากใครอะ?” เดชถาม

 
            “สาวใหม่หรอครับคุณที่หนึ่ง~”


            “จากหมิว” ไม่พูดเปล่า ผมพลิกโทรศัพท์ให้เพื่อนทั้งสองดูหน้าจอที่กำลังโชว์แจ้งเตือนว่ามีข้อความจากหมิวส่งมา ทั้งสองมีสีหน้าประหลาดใจเมื่อเห็นมันซึ่งไม่แตกต่างอะไรจากผมเลย

 
            “สงสัยใจเย็นแล้ว เลยส่งข้อความมาขอคืนดีมั้ง”


            “แบบว่า ที่บอกว่าเราเข้ากันไม่ได้จริงแล้วโกหกน่ะ ที่จริงเราเข้ากันได้ดีเลยล่ะ~”


            ผมหัวเราะเสียงแห้ง ที่ลีมันกล้าแซวสองแง่สองง่ามเพราะมันไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วหมิวบอกเลิกผมเพราะอะไรกันน่ะสิ ผมบอกเลยว่าวินาทีนี้คนที่ไม่อยากติดต่อผมมากที่สุด ก็คือหมิวเนี่ยแหละ

 
            “มึงจะดูหน้าจออีกนานไหม ก็รีบกดๆ เข้าไปดูดิ”


            “รู้แล้วหน่า” ผมเอ็ดเสียงเบา ก่อนจะกดหน้าจอเข้าดูข้อความ


            ‘สุขสันต์วันเกิดปีที่ 20 นะ ขอให้ที่หนึ่งมีความสุขมากๆ ดูแลสุขภาพร่างกายด้วย แล้วก็ ขอโทษนะที่หมิวบอกเลิกหนึ่งวันนี้ หมิวลืมไปเลยว่าวันนี้วันเกิดหนึ่ง ไม่ได้อยากทำให้มีความทรงจำแย่ๆ ในวันเกิดนะ แต่ก็…นั่นแหละ หมิวขอโทษนะ’


            “ว่าไงๆ?”


            ข้อความ…จากแฟนเก่าที่เมื่อสิบสองชั่วโมงก่อนยังเป็นแฟนกันอยู่ มีใจความสำคัญว่า…‘โทษที ลืมวันเกิด’

 
            ‘โทษที ลืมวันเกิด’


            ‘โทษที ลืมวันเกิด’

 
            ‘โทษที ลืมวันเกิด’


            ปึง!


            ผมกระแทกโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ ไม่สนใจเสียงโวยวายจากเพื่อนสองคนที่ตกอกตกใจกับท่าหุนหันพลันแล่นของผม ก่อนจะคว้าแก้วเหล้าโชว์ขึ้นเหนือหัว

 
            “วันนี้…ไม่เมาไม่กลับ อ้วกไม่นับ หลับคือหมา!!”

 
            ของขวัญวันเกิดของผมปีนี้แม่งโคตรท็อปฟอร์มเลยโว้ย!!!

 

 

 

            21:02

 
            “แม่ง ทำกับกูแบบนี้ได้ไงวะ คบกันมาเป็นปีนะเว้ย! เป็นปี ไม่มีความผูกพันกับกูสักนิดเลยหรอ ไล่กูออกจากห้องได้ลงคอ ไม่คิดจะถามกูสักคำว่ากูสะดวกอะไรยังไง คิดบ้างไหมว่าไล่กูออกไป แล้วกูจะไปอยู่ที่ไหน ที่ผ่านมามันไม่มีความหมายอะไรเลยหรอไง!”

 
            “กูเข้าใจมึง กูเข้าใจ” ลีพูดปลอบเพื่อนที่พูดเรื่องนี้ขึ้นเป็นรอบที่ห้าพลางเทเหล้าใส่แก้วที่ว่างเปล่า หวังให้เหล้าช่วยเพื่อนระบายความอัดอั้นตันใจออกมาให้หมด


            “แล้วแม่ง! ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาเป็นปี วันสำคัญอะไรก็เคยผ่านมาด้วยกันหมดแล้วแท้ๆ พอตั้งใจจะบอกเลิกกู วันเกิดกูก็จำไม่ได้ขึ้นมาเลยหรอ นี่ไม่ได้คบกันสองวันนะเว้ย! ทีกูยังจำได้ทั้งวันเกิด วันครบรอบ วันเจอกันครั้งแรก! สรุปที่ผ่านมาใส่ใจกันบ้างไหม! ที่บอกกูว่ารักๆ นี่ คำพูดสวัสดีตอนเช้าหรือไงวะ!”

 
            “เขาไม่ได้รักมึงไง ถ้ารักมึงจริงก็ต้องจำวันเกิดมึงได้แล้วดิ”

 
            “เออ แม่ง! คำรักที่ผ่านมามันคือคำลวง!!”

 
 

 

 

            23:05


            “วันเกิดกู…ปีนึงมันก็มีแค่วันเดียว มันเป็นวันเดียวที่กูตั้งตารอเลย ขอแค่วันเดียวที่ไม่มีเรื่องแย่ๆ…แค่นี้ไม่ได้หรอวะ”


            ‘ที่หนึ่ง’ พูดเสียงเซื่องตัดพ้อพลางกุมหัวที่หนักอึ้ง ฤทธิ์เหล้าที่กินเข้าไปเริ่มออกฤทธิ์อย่างน่ารำคาญ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังมองหาแก้วเหล้าของตัวเองหวังให้น้ำเมาช่วยบรรเทาอาการที่เป็นอยู่แม้เขาจะรู้ว่าเพราะน้ำเมานี่แหละที่ทำให้เขาปวดหัวปวดท้องอยู่นี่!


            แต่ก็อย่างว่า ตอนนี้เขาเมา จะเอาสติสัมปชัญญะอะไรกับคนเมา

 
            “วันเกิดของมึงวันนี้ก็ดีอยู่นะผลควิซที่ประกาศวันนี้มึงได้ท็อปห้อง”

 
            “แต่กูโดนบอกเลิก…โดนตบหน้า…โดนไล่ออกจากห้อง ถ้ามึงบอกว่ายังดีอยู่ ก็อยากให้มาเจอดูบ้าง”


            ลีหัวเราะเสียงแห้ง ค่อยๆ ถอนตัวกลับไปดื่มด่ำกับบรรยากาศขาวๆ…หมวยๆ เพลง EDM สุดเจ๋งและแก้วเหล้าในมือ

 
            “เดช แก้วเหล้ากูอยู่ไหนวะ?” ที่หนึ่งถามเสียงเบาซบหน้าลงไปกับโต๊ะก่อนจะใช้แรงเท่าที่คนเมาจะมีโงหัวขึ้นมา


            “กูเอาไปซ่อนแล้ว กูไม่ให้แดก”

 
            “ได้ไง! วันนี้วันเกิดกูนะ มึงจะมาห้ามกูไม่ให้กินเหล้าไม่ได้”

 
            “ก็มึงเมาแล้ว”


            “แล้วไงอะ ก็กูจะกินต่ออะ”

 
            “ไม่ให้กิน”


            “เดช ไอ้เพื่อนเหี้ย…มึงอะ…” ที่หนึ่งชี้นิ้วที่ง่อยเปลี้ยใส่หน้าเพื่อนสนิทตัวดีที่เอาแก้วเหล้าคนอื่นไปซ่อน แต่ตัวเองนั่งกินเหล้าสบายใจเฉิบ! “มึงแม่ง เพิ่มเรื่องแย่ในวันเกิดกู TT วันเกิดที่มีค่าของกู…วันที่หนึ่งเดย์ วันของกู วันเกิดกู เพื่อนมึงเจอเรื่องแย่ๆ ในวันเกิดนะเว้ย มึงต้องปลอบใจเปล่าวะ มึงต้องตามใจกูดิ มึงทำกับเพื่อนแบบนี้ได้ยังไง มึงจะห้ามกูวันไหน กูไมเคยว่า แต่วันนี้มันวันเกิดกูอะ วันของกูอะ!”


            “งอแงสัส แต่ต่อให้ลงไปดิ้นกับพื้นกูก็ไม่ให้แดก”

 
            “มึงทำกับกูในวันเกิดกูแบบนี้ได้ไง!”

 
 

 

 

            00:32

 
            “ลี มึงพากูกลับมอก่อนได้เปล่าวะ มีเรื่องฉุกเฉิน” เดชพูดสีหน้าเครียดหลังจากเอาแต่จดจ่ออยู่หน้าจอโทรศัพท์ร่วมสิบห้านาที

 
            “งั้นกลับเลยไหมละ ไอ้หนึ่งก็แน่นิ่งไปแล้ว”


            “ไม่ต้องอะ มีแนวโน้มว่ากูคงได้นั่งรถกลับมากินต่อ”

 
            “เอ้า แล้วทำไงกับมันอะถ้างั้น” ลีเพยิดหน้าไปทางเพื่อนสนิทที่นอนฟุบหน้าไปกับโต๊ะอย่างหมดสภาพ สายตาเลือนลอยก่ำกึ่งระหว่างคนหลับกับคนละเมอ “ดูท่ามึงน่าจะรีบ แต่ถ้าเอามันไปด้วย กูว่ามึงไม่น่าจะรอด”

 
            “งั้นเอามันไว้ที่นี่แป๊บนึง มึงรีบไปส่งกูแล้วรีบมาเฝ้ามัน”

 
            “จะดีหรอ?” ลีมีท่าทีลังเล


            “มึงก็เอาพวกกระเป๋ากับโทรศัพท์มันมาด้วย เหลือแต่ตัวเปล่าๆ ไม่มีใครพาไปไหนหรอก แล้วดูจากสภาพมันแล้วกูว่าลุกเดินไม่พ้นโต๊ะ แล้วเดี๋ยวกูไปบอกพี่พนักงานให้ช่วยดูมันระหว่างที่มึงไปส่งกูด้วย”


            “เออ โอเคๆ”

 

 

 

            01:12


            “พี่โย กลับแล้วหรอพี่? ยังตีหนึ่งอยู่เลย”


            “ผมไม่ไหวละ มาช่วยงานวันหยุดนี่ผมจะล้มเอา”


            “ก็วันศุกร์มันวันปล่อยผี พวกผีๆ มันก็มีเยอะ นี่ถ้าไม่มีพี่ มีหวังร้านเละ”

 
            “ก็เกินไป” เสียงหัวเราะทุ้มๆ ดังขึ้นเบาๆ “แล้วนี่ทำไรอยู่? ผมเห็นคุณยืนอยู่ตรงนี้มาสักพักแล้ว”


            “เฝ้าลูกค้าเมาพี่ เพื่อนเขาบอกไปธุระแป๊บนึงแต่นี่ผ่านมา 40 นาทีแล้ว ผมว่าแม่งโดนเพื่อนแกล้งปล่อยทิ้งที่นี่ชัวร์”

 
            “แล้วไม่ปลุกเขาให้เขาโทรตามเพื่อนละ”


            “ผมปลุกเขาแล้วก่อนหน้านี้ เขาก็ตื่นมาจะโทรนะพี่ แต่เขาบอกเขาหาโทรศัพท์ไม่เจอ แล้วก็ฟุบต่อ ผมก็ไม่รู้ทำไงเลยเฝ้าต่ออีกหน่อยเผื่อเพื่อนเขากลับมา”


            “อือ”

 
            “ดีนะที่คนนี้เขาเมาหลับ พึมพำยังกับท่องบทสวดนิดหน่อย ถ้าเมาแล้วชอบหนีไปคุยกับบ่อปลาเหมือนคนเมื่ออาทิตย์ก่อน ผมเหนื่อยตาย”

 
            เสียงหัวเราะที่ทุ้มนุ่มดังขึ้นอีกครั้ง “ก็ดีแล้ว แต่ว่าผมคุ้นหน้าเขาจัง ผมขอดูใกล้ๆ หน่อยได้ไหม?”

 
            “เชิญเลยพี่เชิญ จะผัดคิวเฝ้า ผมก็ไม่ว่านะ”

 
            “บอล เดี๋ยวคนนี้พี่โยจะพากลับเอง”

 
            “หะ? เดี๋ยวๆ พี่รู้จักเขาหรอ?”

 
            “อือ จะว่างั้นก็ได้ นี่…คนข้างบ้านพี่โยเอง”

 

 

 

 

 

            01:56

 
            เสียงโหวกเหวกของคนเมาดังขึ้นตลอดทางตามภาษาคนไม่ได้สติ เป็นคำพูดที่จับใจความอะไรไม่ได้มากนักเหมือนคนบ่นงึมงำคนเดียวในลำคอ แต่การที่ต้องฝั่งติดต่อกันเป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงก็ทำให้ ‘โย’ พอจับใจความได้ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นที่ทำให้คนที่ตัวเองกำลังประคองมาพึ่งน้ำเมาในคืนนี้


            “วันเกิด…วันเหี้ย!”

 
            อ่า เขาฟังประโยคนี้มาเกือบร้อยรอบได้แล้ว

 
            “อุตส่าห์คิดว่ามีเซอร์ไพรส์วันเกิด รีบลงมาเกือบตกบันได แต่กลับต้องมาเจอคำบอกเลิก มันใช่หรอ!”


            โยกดปุ่มลิฟต์และยืนรออย่างใจเย็น ไม่คิดจะห้ามคนที่กำลังเริ่มพูดอนาล็อคเดิมอีกครั้ง


            “แค่บอกเลิกกันวันเกิดก็แย่มากพออยู่แล้ว จิตใจทำด้วยอะไรกับการส่งข้อความมาย้ำอีกว่า ‘โทษทีนะที่บอกเลิกวันนี้ ลืมไปว่าวันนี้เป็นวันเกิด’! เพิ่งเลิกกันไม่ถึง 24 ชั่วโมง ความแคร์กันนี่ไม่เหลือแล้วเลยหรอไง! สรุปตั้งแต่คบกันมาใครที่มันหลอกใครกันแน่วะ!”

 
            ติ้ง…


            ประตูลิฟต์เปิดออกก่อนจะปรากฏสองร่างเดินออกมาจากลิฟต์อย่างทุลักทุเล

 
            “คุณ ตรงนี้มันเป็นห้องพัก จะรบกวนคนอื่นเขา พูดเสียงเบาลงหน่อยนะแค่ให้ผมได้ยินพอ”

 
            “อ๋อ โอเค…” ที่หนึ่งยกมือโอเคให้อีกฝ่าย แต่ก็เงียบไปไม่ได้พร่ำเพ้ออะไรต่อ จนทั้งคู่มาหยุดยืนอยู่หน้าห้อง ‘B8002’

 
            “คุณ มีกุญแจห้องหรือเปล่า? ห้องที่คอนโดเอ็กเซล”

 
            “อยู่ใน…กระเป๋าตัง แต่กระเป๋าตังอยู่ไหนไม่รู้…”

 
            “…” โยยืนนิ่งกับสถานการณ์ฉุกเฉิน ก่อนจะตัดสินใจคว้าแขนของคนที่ไหลไปกองอยู่ที่พื้นแล้ว


            “วันเกิดอะไรวะ ไม่มีเซอร์ไพรส์ ไม่มีกล่องของขวัญ…ไม่มีเค้กวันเกิด อย่างน้อยก็ขอเพลง Happy Birthday ก็ยังดี”


            “คุณอย่านอนตรงนี้ ลุกขึ้นก่อน เดี๋ยวผมจะพาไปห้องผม”


            “ลุกไม่ไหว…” คนที่นอนกองอยู่กับพื้นตอบเสียงอ่อย พยายามจะลุกขึ้นยืนตามแรงช่วยดึง แต่หัวที่หมุนติ้วก็ทำให้ขาเปลี้ยจนล้มลงไปกองกับพื้นอีกรอบท่าเดิม

 
            สุดท้ายโยที่เห็นท่าทางอเนจอนาจนั้นก็ตัดสินใจช้อนร่างอีกฝ่ายขึ้นก่อนจะจับพาดบ่า แล้วเดินไปทางขวามือ หยุดยืนอยู่ประตูหน้าห้องถัดไป

 
            B8003

 
            “ปวดหัวชะมัด…”

 
            “เดี๋ยวเอาน้ำให้กิน รอก่อน” ผู้เป็นเจ้าของห้อง B8003 พูดต่อรองขณะไขกุญแจเข้าห้องพักของตัวเอง พอประตูเปิดออก เขาก็ไม่รอช้าที่จะเดินตรงไปยังห้องนอน ก่อนจะทิ้งร่างที่พาดบ่าลงบนเตียงยักษ์แล้วจัดแจงให้คนแปลกหน้าได้นอนอย่างสบาย “คุณนอนไปแล้วกัน เดี๋ยวผมจะไปเอาน้ำมาให้”


            พูดไปแต่ก็ไร้เสียงตอบรับ มีเพียงถ้อยคำพึมพำตัดพ้อที่ยังคงดังอยู่เบาๆ เท่านั้นที่เล็ดลอดออกมาจากปากคนไม่ได้สติ โยจึงตัดสินใจหมุนตัวเตรียมออกจากห้องเพื่อไปเอาน้ำมาให้ดื่มก่อนที่แขกเฉพาะกิจของเขาจะหลับลึกแล้วจะปลุกให้ตื่นมากินน้ำไม่ได้


            “นี่…” แต่ทว่าเสียงเรียกที่งัวเงียเต็มทีดังรั้งเอาไว้เสียก่อน ทำให้คนที่กำลังจะเดินพ้นประตูต้องเอี้ยวตัวกลับมา “คุณคิดว่าที่จริงแล้ว เพราะผมเป็นเกย์หรือเปล่า?”

 
            เหมือนเป็นคำถามที่ไม่ได้ต้องการคำตอบ ยังไม่ทันทีที่อีกฝ่ายจะได้เปิดปากพูดอะไรออกไป เด็กหนุ่มขี้เมาก็เอ่ยความในใจออกมาต่อ

 
            “วันนี้ที่มันมีแต่เรื่องแย่ๆ มันอาจเพราะว่าผมเป็นเกย์ก็ได้ นั่นสิ ถ้าไม่ได้เป็นเกย์ วันนี้ก็คงไม่ถูกบอกเลิก โทษทีแล้วกันนะหมิวที่หนึ่งเป็นเกย์ แต่ถ้าเลือกได้ใครเขาอยากเกิดมาเป็นกัน หนึ่งพยายามที่สุดแล้ว”


            “…”


            “หนึ่ง พยายามที่สุดแล้ว”


            ประโยคตัดพ้อเรื่องเพศสภาพนั้นยังดังราวกับเล่นซ้ำอีกประมาณสองรอบก่อนที่อยู่ดีๆ เสียงนั้นก็เงียบไป เรื่องเล่าถูกตัดจบพร้อมสติของอีกคน ปล่อยให้คนฟังที่กำลังประมวลผลลอยค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น

 
            …


            “อ่า ลืมเอาน้ำให้เลย”

 












       TBC
            เจอกันใหม่อาทิตย์หน้า (อัพทุกวันพุธ) ปู๊น ปู๊นนนน
            ช่องทางการติดต่อสำหรับการเม้ามอยและทวงฟิคชั่นจ้าา  (https://i.imgur.com/6zVnSJK.png) (https://www.facebook.com/nistawriter/) (https://i.imgur.com/qenFWbF.png) (https://twitter.com/_vipnista)


               #B8003
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง - ที่หนึ่ง's Side Story (1)!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 25-01-2018 22:28:33
 :mc4: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง - ที่หนึ่ง's Side Story (1)!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 26-01-2018 00:30:17
ที่หนึ่งโตแล้ว!!!
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง - ที่หนึ่ง's Side Story (1)!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-01-2018 13:31:58
ทุกคนไปไหนหมดทำไมปล่อยให้ที่หนึ่งเศร้าในวันเกิด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง - ที่หนึ่ง's Side Story (1)!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 26-01-2018 17:54:21
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง - ที่หนึ่ง's Side Story (1)!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: golfycoffee ที่ 26-01-2018 19:22:32
รอๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง - ที่หนึ่ง's Side Story (1)!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 26-01-2018 23:16:26
โอ้ยยย ที่หนึ่งโตเป็นหนุ่มแล้ว
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง - ที่หนึ่ง's Side Story (1)!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: graciej ที่ 26-01-2018 23:41:35
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง - ที่หนึ่ง's Side Story (1)!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 27-01-2018 12:13:11
น่าสงสารที่หนึ่งจังเลย โถ่ลูก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง - ที่หนึ่ง's Side Story (1)!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 27-01-2018 13:12:24
สงสัยอย่างใครรุกใครรับอ่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง - ที่หนึ่ง's Side Story (1)!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-02-2018 06:05:30
 :katai5:  :katai5:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง - ที่หนึ่ง's Side Story (1)!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 02-02-2018 18:10:27
ร้องให้พอ แล้วก็กลับมาเข้มแข็งกว่าเดิม
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง - ที่หนึ่ง's Side Story (1)!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: cookie8009 ที่ 09-02-2018 09:28:50
อ้าว อยู่ๆ ที่หนึ่งก็เป็นเกย์

งี้ พี่เอส จะโทษตัวเองที่ทำให้น้องเป็นเกย์ ป่าวเนี่ย
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง - ที่หนึ่ง's Side Story (1)!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-02-2018 10:04:53
คนเมาหาย เพื่อนที่หนึ่งคงต้องหากันจ้าละหวั่น

ว่าแต่โย คนข้างห้อง คิดไรๆ กับที่หนึ่งบ้างมั้ยเนี่ย

คิดถึง ตุลย์ เอส   :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ตอนต้น ก็หายไปเลย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง - ที่หนึ่ง's Side Story (1)!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: ANIKI. ที่ 09-02-2018 18:42:29
โอ้ย อย่างลุ้นเลยนะ ชอบมากกก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง - ที่หนึ่ง's Side Story (1)!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Sirada_T ที่ 12-02-2018 02:53:56
ต้องไซ้สตอรี่ไปเรื่อยๆแล้วค่ะ ให้ดีหาคนมาไซ้ด้วยก็ดี
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง - ที่หนึ่ง's Side Story (1)!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: lovejinjunno ที่ 12-02-2018 14:18:34
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ
ชอบมากเลย ให้ความรู้สึกเป็นครอบครัวที่อบอุ่นจริงๆ
ชอบเอสที่เกรียนได้ขนาดนี้

ต่อตอนพิเศษของที่หนึ่ง
โตแล้วหรอลูก ฮือออออ รู้สึกเหมือนตัวเองแก่ขึ้นเยอะเลย 55555
ดีนะที่ห้องพี่โยอยู่ข้างๆ
แบบนี้เวลาที่หนึ่งออกเรือนไปก็ไม่ต้องอยู่ไกลจากครอบครัวเดิมด้วย แต่ไม่รู้ว่าก่อนที่จะดีนั้น มันจะมีเรื่องที่ไม่ดีเพราะห้องอยู่ข้างกันมากน้อยแค่ไหน
ก็ต้องตามลุ้นกันไป
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง - ที่หนึ่ง's Side Story (1)!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: cookie8009 ที่ 27-03-2018 23:55:14
อยากอ่านเรื่อง ที่หนึ่ง ต่อ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง - ที่หนึ่ง's Side Story (1)!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Killian ที่ 29-03-2018 04:21:23
อ่านรวดเดียวจบ แอบซึ้งตอนที่หนึ่งบอกคิดถึงเอส
คือดีอ่ะ ชอบบบบบ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง - ที่หนึ่ง's Side Story (1)!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: สุนิสา ที่ 31-03-2018 21:35:54
น่ารักอ่าา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง - ที่หนึ่ง's Side Story (1)!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 31-03-2018 22:18:57
พี่โยนี่ต้อง อนาคตแฟนที่หนึ่งแน่ๆ 555


เพื่อนที่หนึ่งอ่ะแฮ้บบกระเป๋านังกะทอสัพไป เอามาคืนด้วยเสะ

อยากให้ที่หนึ่งพูดถึงพ่อกะพี่เอสบ้างแบบคึดถึงมั้ยนะตอนอกหักแบบนี้ /อินยาวๆ ไป 555
หัวข้อ: Re: !!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง (ตอนพิเศษที่หนึ่ง ch 2-3)!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 24-04-2018 08:46:47
B8003
02





ต่างก็เคยผิดหวังในรักมา เคยหลับหูหลับตาไอตอนเวลาหาคู่
ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำไง ก็เห็นแล้วชอบแค่นั่นก็เลยเผลอใจ

 
ไม่เป็นไรส่วนฉันไม่ต้องการเยอะแค่มีเธอผู้เดียวฉันก็พอเถอะ
เดินไปด้วยกันแค่เพียงมีฉันและมีเธอ : )





.

.

.



           คนเรามีเรื่องให้คิดตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมา โดยคำถามที่ขบคิดในแต่ละวันก็จะต่างกันไปตามช่วงวัย อย่างวัยผมคำถามที่จะถามตัวเองบ่อยมากที่สุดในทุกเช้าคือ ‘เอาไง? จะตื่นไปเรียนดีไหมเรา?’ แต่วันนี้คำถามยามเช้าของผมแตกต่างไปนิดหน่อย แล้วถ้าเป็นไปได้ผมก็ต้องการใครสักคนช่วยตัดสินใจ ว่า…ผมควรจะพูดถึงอะไรก่อนดีระหว่าง


           1.อาการเมาค้างที่ทำให้ผมปวดท้องจนอยากจะย้อนเวลากลับไปชวนเพื่อนเมาแป๊ปซี่แทน


           2.การตื่นเช้ามาในห้องของใครก็ไม่รู้ และจำได้ด้วยว่าไม่เคยมาห้องนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว หรือ


           3.การรับรู้ได้ว่าข้างซ้ายของตัวเองมีคนนอนหันหลังให้อยู่ ซึ่ง…เป็นผู้ชาย…และยังไม่ใช่ไอ้เพื่อนสองตัวที่ไปกินเหล้าด้วยกันอีก


           เอาเป็นว่าก่อนที่ผมจะพูดถึงอะไรก็ตาม ผมว่าผมควรจะออกจากที่นี่ก่อนอย่างด่วนที่สุด แล้วโทรด่าไอ้เพื่อนสองตัวจนกว่ามันจะก้มขอขมาผม!


           …



           เวร โทรศัพท์ผมหาย!


           ผมตบไปตามเสื้อและกางเกง (ขอบคุณที่ผมยังใส่เสื้อผ้าชุดเดิมอยู่) หากระเป๋าเงินและโทรศัพท์พลางกวาดสายตามองไปรอบๆ เผื่อว่าคนที่พาผมมาที่นี่อาจจะหวังดีเอาของๆ ผมออกไปวางไว้ที่ไหนสักแห่ง


           “เชี้ย อยู่ไหนวะ” ผมสบถเสียงเบา


           “ตื่นแล้วหรอ?”


           ผมเผลอสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นหูดังขึ้นจากคนที่นอนบิดขี้เกียจอยู่บนเตียงก่อนจะละล่ำละลักตอบ “อ่า ครับ”


           ผมขอสารภาพครับ แว๊บแรกที่ผมตื่นขึ้นพร้อมกับรู้สึกตัวว่าตัวเองอยู่ในห้องใครไม่รู้และมีผู้ชายที่ไม่รู้จักนอนอยู่ข้างๆ ผมคิดว่า ‘เอาแล้ว…’ แต่พอลุกขึ้นมาเห็นตัวเองใส่เสื้อผ้าครบถ้วน ไม่ผ่านการถอด และตัวยังเหม็นกลิ่นเหล้าอยู่ ก็เลยรู้ตัวว่าเมื่อวานผู้ชายคนนี้เขาแค่น่าจะพาผมที่เมายังกับหมามาพักที่ห้องของเขาแค่นั้น


           ฮ่ะๆ ตลกความคิดตัวเองชะมัด ผมคงดูหนังมากไป


           “แฮงค์มากไหม? เดี๋ยวผมไปเอายาแก้แฮงค์ให้”


           “ไม่เป็นไรครับ ไม่ค่อยแฮงค์มากเท่าไหร่” ผมโกหก ผมโคตรปวดหัว สามารถเห็นโลกหมุนทั้งๆ ที่นอนอยู่บนเตียงด้วยซ้ำ แต่ผมไม่อยากจะรบกวนอีกฝ่ายมากกว่านี้ แล้วก็อยากกลับคอนโดฯ ด้วย “เอ่อ ขอโทษนะครับ เห็นโทรศัพท์กับกระเป๋าตังของผมบ้างไหมครับ?”


           “ไม่ครับ พนักงานที่ร้านลองหาโทรศัพท์เพื่อที่จะติดต่อเพื่อนคุณแล้ว แต่เห็นว่าเขาหาโทรศัพท์ไม่เจอ แล้วก็กระเป๋าตังคุณด้วย”


           ฉิบหาย…


           อันนี้เป็นความฉิบหายของจริงแล้วครับ


           “ขอโทษนะครับ เอ่อ ถ้างั้น ผมขอยืมโทรศัพท์แป๊บนึงได้ไหมครับ” ผมชี้ไปที่โทรศัพท์เครื่องหรูที่กำลังชาร์จแบตอยู่หัวเตียง อีกฝ่ายมองตามนิ้วของผมก่อนจะกระชากที่ชาร์จแบตออกแล้วยื่นเครื่องโทรศัพท์มาให้ “ขอบคุณครับ”


           ผมไม่รอช้าต่อสายไปที่เบอร์ของตัวเองทันที ผมภาวนาเลยว่าขอให้เป็นใครสักคนแค่เก็บไปแล้วรอคืนเจ้าของเถอะ อย่าเป็นมิจฉาชีพเลย พ่อฆ่าผมแน่ถ้าผมทำโทรศัพท์ที่เพิ่งได้มายังไม่ถึงปีหายและเตรียมตัวใช้โทรศัพท์รุ่นคุณปู่จนกว่าจะเก็บเงินซื้อเองได้เลย


           (ฮัลโล)


           เสียงนี้…


           “ลี!!”


           (หนึ่ง! เชี้ย! มึงอยู่ไหนเนี่ย!? เมื่อคืนมึง-)


           “เอาไว้ก่อนเรื่องนี้เดี๋ยวค่อยเคลียร์” ผมเบรกคนในสายที่กำลังถามถึงเรื่องเมื่อคืน “มึงเก็บโทรศัพท์กูใช่ไหม รวมถึง’เป๋าตังด้วยหรือเปล่า?”


           (เออ ก็เก็บมาหมดแหละ เมื่อคืนมึงเมาไม่รู้เรื่องฉิบหาย กูกลัวว่าจะมีคนขโมยไปก็เลยเอาโทรศัพท์ของมึงกับกระเป๋าตังมึงมาด้วย)


           “แล้วตอนนี้อยู่ไหน เอามาคืนกูเดี๋ยวนี้เลย”


           (แล้วมึงอยู่ไหน?)


           ผมหันไปหาเจ้าของห้อง “เอ่อ ตอนนี้ผมอยู่ที่ไหนครับ?”


           “เอ็กเซล คอนโดมิเนียม”


           ผมพยักหน้าก่อนจะตอบคนในสาย “ตอนนี้กูอยู่-”


           เดี๋ยวนะ


           (มึงอยู่ไหน?)


           “แป๊บนึงนะมึง เดี๋ยวกูโทรไปอีกรอบ” ผมกดตัดสายก่อนจะหันหน้ากลับมาทางเจ้าของห้องอีกครั้ง “ตอนนี้ผมอยู่คอนโดเอ็กเซลหรอครับ?”


           “ครับ ห้องผม B8003”


           เอ้า!


           “ผมจะพาคุณกลับห้องคุณแล้วเมื่อคืน แต่คุณบอกว่ากุญแจอยู่ในกระเป๋าตัง แล้วผมหากระเป๋าตังคุณไม่เจอ ก็เลยพามานอนห้องตัวเองแทน ขอโทษด้วยนะ”


           “ไม่ครับๆ ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณที่พี่…แบบว่าขอเรียกพี่แล้วกันนะครับ…ขอบคุณที่พี่พาผมกลับคอนโดฯ ถ้าไม่ได้พี่ ผมคงได้นอนอยู่ที่นั่น”


           “ไม่เป็นไรครับ” 


           “งั้น…ผมขอตัวกลับห้องผมก่อนนะครับ” ผมยิ้มเจื่อนชี้ไปที่ประตูห้องนอน ก่อนจะเดินถอยหลังออกทางประตูแล้วปิดคืนเสียงเบา


           พอพ้นจากห้องนอนแล้วผมก็ไม่รอช้า สาวเท้าออกจากห้องอย่างรวดเร็วตรงดิ่งไปยังห้องข้างๆ ก่อนจะหัวเราะเสียงแห้งเมื่อเห็นว่าห้องข้างๆ เป็นห้องของผมจริงๆ


           ขอบคุณตัวเองที่ไม่ได้โวยวายเล่นใหญ่อะไรออกไป ไม่งั้นผมคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไหวที่ไหน และผมหวังว่า เมื่อคืนผมคงจะไม่ได้เผลอทำตัวแย่ๆ ใส่เพื่อนบ้านที่ผมเพิ่งรู้จักหรอกนะ


           …


           ใช่ไหมวะ?


           “อุตส่าห์คิดว่ามีเซอร์ไพรส์วันเกิด รีบลงมาเกือบตกบันได แต่กลับต้องมาเจอคำบอกเลิก มันใช่หรอ!”


           “แค่บอกเลิกกันวันเกิดก็แย่มากพออยู่แล้ว จิตใจทำด้วยอะไรกับการส่งข้อความมาย้ำอีกว่า ‘โทษทีนะที่บอกเลิกวันนี้ ลืมไปว่าวันนี้เป็นวันเกิด’! เพิ่งเลิกกันไม่ถึง 24 ชั่วโมง ความแคร์กันนี่ไม่เหลือแล้วเลยหรอไง! สรุปตั้งแต่คบกันมาใครที่มันหลอกใครกันแน่วะ!”



           เดี๋ยวนะ…


           เอ่อ ฮ่ะๆๆๆ ผมพูดกับเพื่อนของผมใช่ไหม?


           เมื่อวานผมนั่งกินเหล้ากับลีแล้วก็เดช ผมจำได้ว่าบ่นอะไรไม่รู้กับพวกมันเยอะมาก นี่ก็เป็นหนึ่งในอะไรสักอย่างที่ผมพูดกับเพื่อนของผม…ที่ร้านเหล้า…ใช่ไหม?


           “คุณคิดว่าที่จริงแล้ว เพราะผมเป็นเกย์หรือเปล่า?”


           “วันนี้ที่มันมีแต่เรื่องแย่ๆ มันอาจเพราะว่าผมเป็นเกย์ก็ได้”



           “หนึ่ง พยายามที่สุดแล้ว”


           ผมรู้ว่าผมพูดคำนี้หลายรอบมากแล้วในวันนี้ แต่ผมขอครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายสำหรับวันนี้


           ฉิบหายยย!!!!!!!


           ยังไม่ทันทีที่ผมจะได้เปิดประตูห้องของตัวเอง ผมก็หันหลังกลับไปที่ห้องที่ผมเพิ่งออกมา ห้อง ‘B8003’ ก่อนจะเปิดผัวะ! เจอเข้ากับเจ้าของห้องที่กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำพอดิบพอดี


           “เมื่อคืน”


           “??”


           “เมื่อคืนผมไม่ได้พูดอะไรกับพี่ใช่ไหม? แบบว่า ตอนพี่พาผมมาผมหลับปุ๋ยเลย แบบไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย เงียบสุดๆ จนถึงเช้าเลย ใช่ไหมครับ?”


           ขอเถอะ ขอให้ภาพที่ผมจำได้ลางๆ นั่นเป็นเพียงแค่ฝันไป


           เรื่องที่ผมโดนบอกเลิก หรือวันเกิดอะไรที่ทำให้ผมเสียหน้านั่นผมพอรับได้ถ้าหากเผลอพูดกับตรงหน้าออกไป แต่อย่างน้อยแค่ ‘เรื่องนั้น’ ขอให้เป็นแค่ฝัน ขอแค่ ‘เรื่องนั้น’ ที่ผมไม่ได้พูดออกไปกับใครเลย!


           “คุณพูดอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ผมพาออกจากร้านจนถึงที่ห้อง”


           อ๊ากกกกกกกกกกก!!!


           “ผมพูดอะไรไปบ้างหรอ?” ผมถามเสียงแห้ง รู้สึกถึงเหงื่อที่มือ และขาก็หมดแรงคล้ายจะล้มพับ


           “เรื่องเลิกกับแฟน เรื่องวันเกิด เรื่องที่ต้องออกจากหอ มีบ่นเรื่องที่เพื่อนไม่ให้กินเหล้าด้วยอะไรสักอย่าง แค่นั้น ก็ไม่เยอะนะ”


           ไม่เยอะห่าอะไร นี่มันทุกเรื่อง!


           แต่ดูเหมือนว่า ‘เรื่องนั้น’ ผมแค่คิดมากจนเก็บเอาไปฝันจริงๆ โอเคๆ ถ้าแค่เรื่องนั้นผมไม่ได้พูดออกไปก็พอแล้ว


           “ผมพูดแค่นั้นใช่ไหมครับ อ่าา โอเคครับ ผมแค่มาถามดูน่ะ พอเหล้าเข้าปากแล้วผมชอบพูดไม่ดี กลัวว่าจะเผลอพูดอะไรที่ทำให้พี่ไม่พอใจไป” ผมโกหกไปคำโต “ถ้างั้น ผมกลับก่อนนะครับ ขอโทษที่รบกวนอีกครั้งครับ”


           ผมบอกลาเจ้าของห้อง ‘B8003’ ที่ผมยังไม่รู้ชื่ออีกครั้ง หมุนตัวกลับไปที่ประตูเตรียมออกจากห้อง แต่ว่า…


           “เฮ้”


           เสียงเรียกของอีกคนที่ดังขึ้นขัด ก็ทำให้มือที่กำลังจะเอื้อมไปจับลูกบิดของผมหยุดลงก่อนจะหันกลับมาตามเสียงเรียกนั้น “ครับ?”


           ผมส่งเสียงตอบ แต่ว่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่ก้าวเดินตรงมาหาผมพร้อมสีหน้าที่ดูจริงจัง…มันดูเครียดมากจนผมเผลอถอย หลังติดประตูยามที่เจ้าของห้องเดินมาอยู่ตรงหน้าห่างกันไม่ถึง 30 เซนฯ


           แปะ…


           หะ?


           ผมที่หลับตาปี๋ตอนที่มือใหญ่ยื่นมาตรงหน้าลืมตาขึ้นช้าๆด้วยความงุนงงเมื่อมือนั้น (ที่คิดว่าอาจจะโดนตบ (แบบที่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร) หรือเท้าประตู (แบบในละคร)) วางลงบนหัวของผมพร้อมใบหน้าอ่อนลงที่ยื่นมาใกล้


           “ผมรู้ว่าเรื่องบางเรื่องไม่ใช่เรื่องที่คนนอกอย่างผมจะพูดได้ แต่ว่า..ผมไม่อยากให้คุณดูถูกตัวเอง เรื่องที่เกิดกับคุณมันเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดได้กับทุกคน ทั้งผม ทั้งผู้หญิง ทั้งผู้ชาย สิ่งที่คุณเป็นไม่ได้ทำให้คุณต่ำต้อยกว่าใครจนต้องสมควรที่รับอะไรอย่างนั้นอย่างที่คุณคิดเลย”


           …สาบานไหมว่าการที่เจ้าของห้องพูดมาแบบนี้ คุณจะไม่รู้สึกตัวว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร


           “ไหนพี่บอกว่าผมพูดแค่เรื่องเลิกกับแฟน เรื่องวันเกิด เรื่องย้ายออกจากห้อง กับเรื่องที่เพื่อนไม่ให้ผมกินเหล้าไง…”


           “อ่า มีเรื่องนี้ด้วยอีกเรื่องนึง แต่ว่าไม่ต้องห่วง คุณไม่ได้พูดอะไรที่ทำให้ผมไม่พอใจอย่างที่คุณกังวลอยู่หรอก สบายใจได้”












           “มึงไหวปะ? กูเข้าใจนะเว้ยว่าคบกันมาเป็นปีก็ต้องมีอาลัยอาวรณ์บ้าง แต่เขาทิ้งมึงแล้ว มึงก็ต้องก้าวเดินต่อไป หรือรอใจเย็นกว่านี้ค่อยง้อก็ยังได้”


           “อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่แดกเหล้าอีกอะ”


           “เออ ปกติก็ไม่ค่อยอยากเห็นด้วย แต่อันนี้กูเห็นด้วยกับไอ้เดช เมื่อคืนพอกูกลับมาไม่เจอมึงวุ่นวายกันฉิบหาย จะตามตัวจากพนักงานที่กูฝากให้ดูมึงไว้ เสือกกลับไปตอนไหนไม่รู้ แถมพอจะหาทางติดต่อพนักงานคนนั้น ก็ทำไม่ได้อีกเพราะดันไม่รู้ชื่อพนักงาน”


           “เมื่อคืนพวกมึงไปทำอะไรกันมาเนี่ย ดูวุ่นวายจัง”


           “พาหมาไปแดกเหล้าที่มันอกหักเนี่ยแหละ มึงน่าจะมาด้วยอะตาว”


           “หยุดคุยเรื่องกูตอนที่กูก็นั่งฟังอยู่ได้ไหม รีบเก็บของได้แล้ว หมิวให้เวลากูแค่ถึงตอนเย็น ไม่ใช่เที่ยงคืน”


           ผมหันไปพูดกับเพื่อนทั้งสามคนพร้อมกับคว้าเสื้อผ้าที่ ‘ตาว’ เพื่อนในกลุ่มอีกคนเป็นคนพับ ยัดใส่กระเป๋าเป๋


           “ก็แค่เล่าเรื่องระหว่างเก็บของเอง ทำงานเงียบๆ มันอึดอัดอะ” ลี ไอ้เพื่อนตัวดีทุกสถานการณ์เอ่ยพูดแก้ตัวพลางเอาชีทเรียนของผมใส่กล่องลังกระดาษโดยมีเดชเป็นคนคอยจัดที่จัดทางให้เป็นระเบียบ


           “มึงก็พูดเรื่องอื่นดิวะ เรื่องมีเป็นร้อยเป็นล้าน” ผมพูดหัวเสีย


           “เออ มึง แอนเจลิน่า โจลี่ เปลี่ยนสัญญาชาติแล้วนะเว๊ย”


           “เฮ้ย จริงปะ!?”


           “ไม่จริง…เนี่ยหนึ่ง พอคุยเรื่องอื่นแล้วมันไม่ค่อยมันส์เลยว่ะ ต้องเรื่องมึงอะ”


           ผมเกลียดความกวนตีนหน้านิ่งของไอ้เดชชะมัด ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้ใจผมไม่ค่อยอยู่กับล่องกับลอยผมคงนึกคำด่ามันได้แล้ว


           “เออ หนึ่ง แล้วยังไงต่อวะหลังจากที่พี่เขาบอกว่ามึงไปพูดใส่พี่เขาทุกอย่างไอ้เรื่องเมื่อวานอะ” ลีถาม


           “ก็ไม่แน่ใจ รู้สึกมึนๆ รู้ตัวอีกทีก็ยืนเคาะห้องตัวเองแล้ว แล้วก็นึกได้ว่ามีเรียนบ่ายก็อาบน้ำแต่งตัวแล้วก็โทรให้มึงมารับนั่นแหละ จบ”


           “เหล้าแม่งน่ากลัวสัส” ตาวเป็นคนแรกที่ออกความเห็นหลังจากที่ผมเล่าจบ


           “ต่อไปมึงจะไม่แดก?”


           “แดกอย่าให้หมาเหมือนหนึ่งดิ นี่ดีนะที่มึงแค่พูดเรื่องประสบการณ์วันเหี้ยอะไรของมึง กูเคยครั้งนึงกินเหล้าอยู่กับลูกบ้านข้างๆ ที่บ้านข้างๆ นั่นแหละ แล้วกูก็พูดเรื่องนู่นนี่ของกูไปเรื่อย พ่อแม่เพื่อนกูได้ยิน พอเจอหน้าพ่อกูก็จัดใส่ไม่มีเหลือ ความลงความลับอะไรของกูหลุดสู่พ่อแม่กูหมด ตอนนั้นกูก็ค้นพบสัจธรรมว่า ถ้ามีเรื่องที่ไม่อยากให้พ่อแม่รู้ ก็ปิดข้างบ้านให้มิดด้วย”


           “ดีนะ กูไม่สนิทกับข้างบ้าน แล้วข้างบ้านก็ไม่คิดจะผูกมิตรกับใคร”

 
           “เออ แม่ง จะทักทายก็พูดว่า ‘หวัดดีครับ’ ดิวะ ไม่ใช่มาพูดเรื่องกู”


           ผมนั่งฟังเพื่อนสามคนคุยกันแบบหน้าซีดๆ จากที่ผมนั่งคิดถึงคำพูดของเจ้าของห้อง B8003 ตลอดคาบบ่ายและภาพในหัวที่โผล่มาอย่างคับคล้าบคับคลา ผมก็มั่นใจว่าเมื่อคืมผมคงได้เผลอโพล่ง ‘เรื่องนั้น’ ออกไปจริงๆ แม้จะดูเหมือนว่าคุณเจ้าของห้องจะไม่ได้โฟกัสที่ว่าผมเป็นเกย์ แต่ผมคิดว่าเพราะไม่ได้ใส่ใจจุดนั้นเนี่ยแหละ ที่อาจจะทำให้เขาเผลอไปพูดต่อได้ง่าย


           ถ้าเขาบังเอิญเจอพ่อผม แล้วไปทักทายด้วยเรื่องพวกนี้เขา…แบบ ‘เมื่อวานได้มีโอกาสคุยกับลูกชายคุณนะครับ ผมว่าคุณพ่อควรจะให้กำลังใจเขานะครับว่า ‘เป็นเกย์’ ไม่ได้ทำให้ใครด้อยกว่าใคร’ อะไรประมาณนี้ ชีวิตผมคงจบ


           ไม่ดิ!!


           ตอนเช้าเขาไม่น่าจะได้เจอพ่อผม โอกาสเจอกันก็มีแค่ช่วงเย็น แล้วตอนนี้พ่อก็น่าจะยังไม่กลับบ้านด้วย ถ้าเกิดว่าผมไปคุยกับเขาก่อน……


           “ลี เดช ตาว มึงรีบเก็บของเดี๋ยวนี้เลย กวาดใส่กล่องได้กวาด เสื้อผ้าอะไรไม่ต้องพับแล้ว ยัดใส่มาเลย! แล้วรีบขนขึ้นรถไอ้ลี กูจะรีบกลับบ้าน!!”










           ก๊อก ก๊อก ก๊อก


           ผมเคาะห้อง B8003 ด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำ ให้ความรู้สึกเคาะประตูห้องปกครองตอนที่โดนเรียกตัวให้ไปสารภาพผิดอะไรแบบนี้


           ผมไม่เคยพูดเรื่องผมเป็นเกย์กับใคร แล้วอย่างที่ผมเคยบอก ผมไม่อยากแม้แต่จะจำได้ว่าผมเป็น มันไม่ใช่อะไรที่ผมภูมิใจนัก แต่ตอนนี้ผมกำลังจะพูดเรื่องพวกนี้กับคนแปลกหน้า คุยเรื่องความลับเดียวในชีวิตของผม


           “ครับ?”


           ผมเผลอหยุดหายใจชั่วขณะ เมื่อเจ้าของห้องเปิดประตูออกมา เอาวะ…ไม่มีอะไรให้ลังเลแล้ว


           “ผมขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมครับ? ใช้เวลาไม่นานครับประมาณสิบนาที เอ่อ หรือห้านาทีก็ได้”


           พี่เจ้าของห้องมีสีหน้างงงวยเล็กน้อยแต่ก็ยอมเบี่ยงตัวหลบไปในที่สุด ผมสูดหายใจให้กำลังใจตัวเองเต็มที่ก่อนจะเดินก้าว-


           “อ้าว โยยังไม่ไปทำงานอีกหรอ?”


           เสียงนี้มัน…


           “วันนี้ผมลางานน่ะครับ เหมือนว่าแฟนผมจะมีปัญหา เลยว่าจะไปหาสักหน่อย”


           ผมหันขวับไปทางเจ้าของห้อง B8003 


           เขา-เขา…รู้จักพี่เอสด้วย


           “เตรียมเงินไปเท่าไหร่ละทีนี้ โทษที ปากไวน่ะ”


           “ไม่เป็นไรครับ” เจ้าของเสียงทุ้มพูดรับพร้อมกับยิ้มดูเหมือนว่าไม่ได้ติดใจเอาความอะไรกับความปากเสียของพี่เอสจริงๆ


           ….


           ซื่อจัง


           “งั้นพี่เข้าห้องก่อนนะ แล้วก็…ที่หนึ่ง ห้องเราอยู่นี่ ไปทำอะไรห้องโย”


           “รู้ด้วยหรอ?” ผมหัวเราะเสียงแห้งขณะหันหน้ากลับมาทางพี่เอส “หนึ่งมีเรื่องจะคุยกับพี่โยนิดนึงก็เลยมาห้องพี่เขาไง ไมอะ ไม่ได้หรอ?”


           “ก็ไม่ได้ว่าอะไร อย่าไปก่อความเดือดร้อนให้พี่เขาแล้วกัน”


           “หนึ่งอยู่ปีสองแล้วนะ”


           “อ๋อหรอ ลืมๆ นึกว่ายังสิบขวบอยู่” พี่เอสหัวเราะก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้อง B8002 พอหลังจากพี่เอสไปแล้วผมก็คว้าข้อมือพี่โยเข้าห้อง B8003 บ้าง พร้อมปิดประตูลงกลอนเสร็จสรรพ


           ตอนที่กลับคอนโดฯ ผมยังคิดในแง่ดีว่าต่อให้เป็นเพื่อนข้างห้องกัน แต่ถ้าไม่รู้จักมักจี่กันก็คงไม่เอาเรื่องของผมไปเล่าต่อให้ใครฟัง แต่ดูจากที่คุยกับพี่เอสเมื่อกี้แล้ว ผมว่าไม่ใช่แค่รู้จักแบบทักว่า ‘หวัดดี’ กันไปมาด้วยซ้ำ


           ความลับของผมกำลังอยู่ในอันตราย


           “ผมจะพูดตรงๆ ไม่อ้อมค้อมเลยนะ” ผมเกริ่น สูดลมหายใจเข้าปอดไปอีกเฮือก “เรื่องที่ผมพูดไปตอนเมาเมื่อคืนน่ะ”


           “…”


           “เรื่องนั้นน่ะ เรื่องที่ผม…พูดอันหลังๆ อะ”


           “ครับ? เรื่องเลิกกับแฟน?”


           “ไม่ใช่”


           “เรื่องวันเกิด?”


           “ไม่ใช่ เรื่องที่ผมพูดก่อนที่ผมหลับอะ ที่ผมพูดหลังๆ โถ่เว้ย เรื่องที่ผมเป็นเกย์น่ะ!”


           ผมพูดออกไปแล้ว!


           “อ๋อ ครับ เรื่องนั้น”


           “เรื่องนั้นแหละ! มันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้ แล้วผมก็ไม่อยากให้ใครรู้ด้วย โดยเฉพาะครอบครัวของผม ที่จริงผมก็อยากจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับตายไปพร้อมกับผม แต่นั่นแหละ เหล้าเอาความจริงผมออกมาแล้ว ผมถึงต้องมายืนอยู่ตรงนี้ตอนนี้”


           “…”


           “ที่ผมมาวันนี้ผมเลยอยากจะมาขอให้-”


           Rrrrrrr


           “โทษทีนะ เดี๋ยวเราค่อยมาคุยต่อได้ไหม แฟนพี่โยเขาโทรตามแล้วครับ พี่โยต้องไปก่อน” ไม่พูดเปล่า พี่โยเจ้าของห้องเดินไปหยิบกระเป๋าตังและกุญแจรถก่อนจะดุ่มๆ ไปยังประตู ทิ้งผมที่ยังพูดไม่จบให้ยืนขวางทางอยู่กลางห้อง “ออกจากห้องล็อคประตูให้พี่โยด้วยนะ”


           “อ่า ครับ”


           ปัง…


           ประตูห้องปิดลงไปแล้ว เจ้าของห้องก็ไม่อยู่แล้ว เหลือแต่ผมที่ยืนเคว้งคว้างคนเดียวอยู่ในห้องของเพื่อนบ้าน…บ้าเอ้ย เขาจะรีบอะไรกะหนักกะหนากับแค่อยู่ฟังผมพูดว่า ‘พี่เก็บเป็นความลับได้ไหม?’ อีกแค่ประโยคเดียว แล้วเขาตอบว่า ‘ได้ครับ จะเก็บให้มิด’ แล้วค่อยออกไป ใช้เวลาไม่ถึง 10 วินาทีด้วยซ้ำ!


           บ้าเอ้ย! ความลับของผมอยู่ในระยะปลอดภัยหรือยังเนี่ย ทำไมเริ่มต้นวันเกิดปีที่ 20 ของผมถึงได้ย่ำแย่แบบนี้กัน คนบนฟ้าลืมให้พรวันเกิดผมหรอ ฮัลโล!?


           เฮ้อ…ให้ตายเถอะ


           ผมเกลียดเหล้าที่สุด


           “พรุ่งนี้สงสัยต้องมาล็อคตัวแค่เช้า”






           TBC
หัวข้อ: Re: !!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง (ตอนพิเศษที่หนึ่ง ch 2-3)!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 24-04-2018 08:51:22
B8003
03





ต่างก็เคยผิดหวังในรักมา เคยหลับหูหลับตาไอตอนเวลาหาคู่
ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำไง ก็เห็นแล้วชอบแค่นั่นก็เลยเผลอใจ

 
ไม่เป็นไรส่วนฉันไม่ต้องการเยอะแค่มีเธอผู้เดียวฉันก็พอเถอะ
เดินไปด้วยกันแค่เพียงมีฉันและมีเธอ : )





.

.

.
           ก๊อก ก๊อก


           แปดโมงนาฬิกาสิบห้านาทีผมยืนอยู่หน้าห้อง B8003 อีกครั้งดังคำประกาศิตที่ลั่นไว้เมื่อตอนก่อน


           อันที่จริงผมกะว่าคงไม่ปล่อยให้ถึงตอนเช้า พอพี่โยกลับห้อง ผมก็จะเคลียร์ต่อให้จบ คือสิ่งที่ผมจะบอกใช้เวลาไม่ถึงห้านาที! ปล่อยให้กูพูดให้จบเถ๊อะะ TT แต่นั่นแหละครับ ที่ผมมายืนอยู่หน้าห้องในตอนเช้าแบบนี้ก็เพราะว่าเมื่อคืนผมไม่ได้เจอเขาไง!


           ทำไมถึงไม่เจอน่ะหรอ?


           ผมก็ไม่รู้!


           ผมอุตส่าห์นั่งรอบนโซฟาแบบใกล้ประตูห้องที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทีวีนี่ไม่เปิดเลย ใครมาแตะจะเปิดผมตีมือเรียบ ใครมาคุยด้วย ผมสะบัดหน้าใส่ไม่คุย ไม่ยอมให้มีเสียงอะไรกลบเสียงประตูห้องข้างๆ ที่เผื่อดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าเจ้าของห้องกลับมาแม้แต่นิดเดียว


           แต่จนแล้วจนรอด


           ครับ


           เมื่อคืนเหมือนว่าจะไม่กลับ หรือไม่ก็น่าจะกลับหลังจากที่ผมสลบคาโซฟาไปแล้ว และเพื่อไม่ให้เพื่อนบ้านเจ้าของห้อง B8003 เผลอไปเม้าท์ตามภาษาแม่บ้านจนหลุดออกไปว่า ลูกชายเจ้าของห้อง B8002 เป็นเกย์จ้าผมถึงได้มายืนอยู่หน้าห้องตอนเช้าตรู่รบกวนการพักผ่อนแบบคนไม่มีมารยาทแบบนี้


           ก๊อก ก๊อก ก๊อก!


           ผมเคาะห้องอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเจ้าของห้องยังไม่เปิดประตูออกมา ผมไม่แน่ใจว่าไม่ได้ยินเสียง (เจ้าของคอนโดฯ เขาคิดว่าเสียงกระดูกกระทบไม้สามารถดังทะลุเข้าไปถึงในห้องนอนที่มีไม้อีกแผ่นที่คอยตัดเสียงรบกวนได้) หรือว่าไม่อยู่กันแน่


           ผมมีเรียนตอนเก้าโมงเช้า ผมมีเวลาอีกนิดหน่อยในการเคาะห้องให้กระดูกแตก ผมไม่อยากพลาดโอกาส ผมอยากจะพูดให้มันจบๆ ไม่อยากต้องไปนั่งกังวลไปตลอดทั้งวัน


           ก๊อก ก๊อก ก๊อก! ปึงๆๆๆๆ!!


           กูทุบแม่งละ!


           ใครจะยังมาใจเย็นเคาะห้องกุ๊งๆ ได้อยู่อีกวะ เปิดประตูเดี๋ยวนี้!


           ปึงๆๆๆ!!


            “ประตูห้องจะพังแล้ว”


           ผมชะงักมือที่กำลังจะฟาดลงไปที่ประตูไม้อีกรอบ เมื่อประตูห้องเปิดออกเผยหน้าเจ้าของห้องที่อยู่ในสภาพเพิ่งตื่นโดยไม่ต้องสงสัยเลยว่าแล้วอะไรทำให้เขาตื่น


            “คุณ…มีอะไรแต่เช้าครับ?”


            “ผมขอเวลาคุยไม่เกินสิบนาที แค่พี่ตั้งใจฟังผมให้ดีๆ แล้วก็ทำตามที่ผมพูด ผมจะรีบพูดให้เสร็จแล้วปล่อยให้พี่พักผ่อนต่อเลยครับ” ผมไม่อารัมภบทอะไรเยอะ พูดเข้าเรื่องเข้าประเด็น


            “…โอเค เข้ามาในห้องก่อนไหม?”


            “อ่า ครับ” ผมตอบรับก่อนจะเดินก้มหัวผ่านเข้าไปภายในห้อง รออีกฝ่ายปิดประตูแล้วค่อยเดินตามพี่โยไปที่โซฟา


           อ่อนน้อมเหมือนไม่ใช่คนที่กำลังจะพังประตูเมื่อกี้


            “กินอะไรไหม? ผมพอมีโอวัลติน น้ำส้มอะไรพวกนี้ หรือจะกาแฟ?”


            “ไม่เป็นไรครับผมกินข้าวเช้าแล้ว ไม่อยากรบกวนเยอะด้วย” ผมปฏิเสธไป


           พี่โยพยักหน้ารับ


           เขาเดินเข้าไปในครัวที่มีแบบผังไม่ต่างอะไรกับห้องของผมนักก่อนจะหยิบนู่นหยิบนี่เกิดเสียงดังก๊องแก๊งเป็นจังหวะพอให้ผมได้จดจ่ออยู่กับอะไรอย่างอื่นนอกจากความกังวลของตัวเองไปได้


           เฮ้อ


           จริงๆ ผมควรจะสบายกว่านี้ ผมแค่พูดท่อนต่อไปของสิ่งที่จะพูดเมื่อวาน แต่ก็อย่างที่ผมเคยบอก แค่คิดว่าเรื่องที่ผมกำลังจะพูดเป็นเรื่องที่ผมไม่เคยพูดกับใคร เป็นเรื่องที่ผมไม่คิดจะเล่าให้ใครฟัง หรือพูดหน้ากระจกก็ยังไม่เคย มันก็ยังทำให้ผมกดดันอยู่ดี ถึงแม้ว่าผมจะพูดประโยคที่พูดยากที่สุดอย่าง ‘ผมเป็นเกย์’ ไปแล้วก็ตาม


           ใจเย็นไว้ที่หนึ่ง ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นขนาดนั้นเลย


            “นี่”


           ผมสะดุ้งเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรเล็กๆ มาแตะที่แก้ม พอหันไปตามเสียงและสัมผัสนั้น ก็เจอเข้ากับลูกอมฮาร์ทบีทเม็ดนึงที่เจ้าของห้องยื่นส่งมาให้


            “เอ๋? อ่า ขอบคุณครับ” ผมรับมันไว้อย่างงงๆ ก่อนจะแกะเข้าปาก


           เอ่อ อันนี้คือไม่ได้เป็นการบอกให้ผมดับกลิ่นปากแบบทางอ้อมหรอกใช่ไหมครับ…


            “มีอีกนะถ้าคุณชอบ”


            “ไม่เป็นไรครับ” ผมตอบพลางกลิ้งลูกอมในปากไปมา คิดในแง่ดีไว้เจ้าของห้องอาจจะแค่มีน้ำใจก็ได้ ฮ่ะๆๆๆ “เฮ้อ”


           เยี่ยม ผมเผลอหลุดถอนหายใจไปซะแล้ว


            “ยังคิดเรื่องที่พูดเมื่อวานอยู่หรอ?”


            “ครับ?”


            “ที่บอกว่าเรื่องนี้เป็นความลับที่อยากให้ตายไปพร้อมกัน ไม่มีใครรู้ และไม่อยากให้ใครรู้ เมื่อวานถึงผมจะรีบไปทำธุระจนอยู่ฟังไม่จบ แต่ผมฟังอยู่ และที่จริงมันไม่จำเป็นต้องห่วงเลย คุณไม่อยากให้ใครรู้…พี่โยก็จะไม่บอกใคร”


           พบสบตากับคนตรงหน้าก่อนจะหลุบตาลงต่ำเมื่อมือใหญ่ของอีกคนวางลงบนหัวของผมราวกับต้องการบอกว่าให้ผมวางใจ


            “ผม--ก็ไม่ได้คิดว่าพี่จะไปตั้งใจบอกใครหรอก ผมแค่กลัวว่าพี่จะหลุดปาก ที่ผมอยากจะคุยเรื่องนี้ให้ได้เพราะผมอยากย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ควรแม้แต่จะพูดถึง”


            “…”


            “ผมแค่…อยากจะบอกว่าให้ระวังมันไว้ให้มากๆ มันเป็นเรื่องคนอื่นสำหรับพี่ แต่มันเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับผมจริงๆ”


           พี่โยเงียบไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำ


           แต่ทว่ามีนิ้วก้อยที่ถูกยื่นมาตรงหน้า


            “ผมจะตามล่าพี่ประหนึ่งมสุธร จะเอาให้เละเป็นขี้เหมือนจอห์นวิคเลย” ผมทำเสียงใหญ่ข่มก่อนจะยกนิ้วขึ้นเกี่ยวก้อย


            ‘สัญญา’


           ไม่น่าเชื่อ แต่รู้สึกว่าเหมือนตัวเองกำลัง ‘เชื่อ’


            “แล้วนี่แต่งตัวนักศึกษาแบบนี้ คุณมีเรียนหรอ?”


            “อะ ครับวันนี้ผมมีเรียน ตอนเก้าโมงเช้าซะด้วย” ผมตอบ “งั้นผมว่าผมคงต้องรีบไปก่อนเดี๋ยวเข้าเรียนไม่ทันอาจารย์ล็อคห้อง ผมคงแย่เลย”


            ผมยิ้มให้พลางลุกขึ้นยืน เตรียมตัวจะลาเจ้าของห้องที่ผมมารบกวนแต่เช้า แต่ว่า…คำพูดของผมก็ต้องกลืนกลับเข้าไปในลำคอซะก่อน เมื่อพี่โยพูดแทรกผมขึ้นมา


            “เดี๋ยวผมไปส่งที่มหา’ลัย”


           …


            “ครับ?” ไม่มีกระจกผมยังรู้เลยว่าตัวเองกำลังทำหน้าตาเหลอหลาทำร้ายน้ำใจคนตรงหน้าอยู่แน่นอน แต่โทษเถอะครับเมื่อกี้ผมหูแว่วหรือพี่โยละเมอนะ?


            “กำลังจะไปมหา’ลัยเองใช่ไหม? เดี๋ยวพี่โยไปส่งแทน”


            “ไม่ๆ พี่ ไม่เป็นไร ไม่อยากรบกวนอะ” ผมปฏิเสธเป็นพัลวัน คือมันไม่ใช่เรื่องอะที่จะรบกวนคนที่ไม่ได้สนิทอะไรขนาดนั้นให้ไปส่งที่มหา’ลัย ผมก็อยากรักสบายนะ แต่น่าเสียดายที่ความขี้เกรงใจของผมมีสูงกว่าเยอะ “ผมไปเองได้ครับ ผม 20 แล้วนะ พี่คิดดูดิพี่จะไปติดแหง่งอยู่บนถนนช่วงชั่วโมงเร่งด่วนแบบนี้ทำไม น่าเบื่อจะตาย ผมเกรงใจอะ ขอรับไว้แค่น้ำใจแล้วกันครับ”


            “คุณอยู่มหา’ลัย SS ใช่ไหม? แฟนพี่โยก็อยู่มหา’ลัยนี้เหมือนกัน วันนี้เขามีเรียนบ่ายตั้งใจจะไปหาเขาตอนเช้าอยู่แล้ว เพราะงั้น เดี๋ยวไปส่งเอง”


           ครับ พ่อครับ










           เผลอหลวมตัวมาด้วยยยยย


           พอพี่โยเขาบอกว่าเขาตั้งใจจะมาหาแฟนเขาอยู่แล้ว ความเกรงใจผมนี่ลดฮวบๆ แห้งเหือดเป็นทะเลทราย เดินตามหลังต๊อกๆ เข้ามานั่งในรถของเขาหน้าตาเฉยในหัวไม่เหลืออะไรเลยนอกจากไปทางเดียวกัน ไปด้วยกัน ช่วยชาติประหยัดพลังงาน


           จนกระทั้งพ้นหน้าคอนโดฯ มาได้สักระยะ ผมก็เพิ่งคิดได้ว่า…เอออออออ กูกำลังอยู่ในที่แคบ 2 ต่อสอง กับคนที่รู้จักกันแค่ 2 วันนี่หว่า ซึ่งสิ่งที่ตามมาคืออะไรที่ผมไม่ชอบเลย นั่นก็คือ ‘ความเงียบ’ เพราะผมกับพี่โยไม่มีอะไรจะคุยกันเลย และเราทั้งสองก็ไม่ใช่คนที่ช่างพูดช่างเจรจาอะไร (ถ้าเป็นพี่เอส ป่านนี้คงชวนพี่โยคุยหูดับตับไหม้ไปแล้ว) สิ่งที่ผมทำได้คือนั่งอึดอัดอยู่บนถนนที่ติดแหง่งในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน กอดกระเป๋านั่งตัวตรงเกร็งจนตะคริวจะกินตีน


            “ฟังเพลงไหม? พี่โยฟังเพลงสากลเป็นส่วนใหญ่ ถ้าคุณฟังได้ คุณจะเปิดก็ได้นะ”


            “ฟังได้ครับๆ ผมก็ชอบเพลงสากลเหมือนกัน” ผมตอบพลางกดเปิดเครื่องเล่นเสียงรถยนต์ ไม่รอช้าที่จะให้เสียงเพลงช่วยเยียวยาความน่าอึดอัดใจบนรถ “ที่จริงผมก็ฟังหลายแนวนะ เกาหลี จีน ญี่ปุ่น อังกฤษ ไทย เพลงใต้ดินบางทีก็ฟังนะ ถ้าเพราะผมก็ฟังหมด”


            “ลูกทุ่ง?”


            “ผมชอบจ๊ะ อาร์สยามที่สุด ผมว่าเพลงเขาติดหูดี เสียงเขาก็เอกลักษณ์ดีด้วย”


            “ขอสักท่อน”


            “ร้องไม่ลงอะ อายยังไงไม่รู้”


            “นี่กำลังทำให้นักร้องขวัญใจพลาดการขยายฐานแฟนคลับนะ”


            “กลัวว่าร้องไปจะได้แอนตี้แฟนเพิ่ม”


           พี่โยหัวเราะเสียงเบากับคำพูดผม


            “แล้วเพลงลูกกรุงละ?”


            “อยู่ที่บางกอก บางงงงกอกกก ดินแดนความหลังของเราเธอยังไม่ลืมใช่ไหม~”


            “พี่โยหมายถึงแนวเพลงสิ”


            “เอ้าหรอ” ผมหัวเราะฮี่ๆ ใส่หน้าคนขับรถ กวนไปงั้นแหละพอดีว่ามันได้ ฮ่าๆๆๆ “แล้วพี่โยชอบเพลงแนวไหน? เดี๋ยว!--ผมขอทายก่อน”


            “พูดถึงแนวเพลงใช่ไหม?”


            “ช่ายย”


            “ลองทายดู”


           ผมกอดอกพิจารณา เพลงในรถของพี่โยตอนนี้กำลังเล่นเพลง Scars to your beautiful ของ Alessia Cara เป็นเพลงป็อปจังหวะเบาๆ แต่ดูจากนิสัยท่าทางทื่อๆ ซื่อๆ เหมือนกระต่ายของคุณเจ้าของห้อง B8003 แล้ว ผมว่าเขาน่าจะไปทาง R&B มากกว่า


            “ผมว่า R&B”


            “คิดว่าถูกไหม?”


            “80% เลย อีก 20% ผมลงว่าเป็นเพลงแนวป๊อป”


            “ผิด แนวที่ผมชอบไม่ใช่ทั้ง R&B ทั้งป็อป”


            “จริงดิ!?” ผมเผลออุทานเสียงดัง อันนี้คือตกใจจริงๆ คือต้องเข้าใจถึงความพี่โยก่อนครับ หน้าตาซื่อๆ แล้วก็นิสัย ยิ้มง่าย หัวเราะง่าย ใจดี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (รถยนต์ยังเป็นโตโยต้าไฮบริด) ผมให้แนวหนักสุดของพี่เขาเลยคือบอดี้แสลม ความพี่โยคือ ถ้าเขาบอกว่าเพลงที่เขาชอบสุดคือ คุกกี้เสี่ยงทาย ผมก็ไม่แปลกใจอะเข้าใจไหมครับ? คือมันได้


            “ผมยอม พี่เฉลยเลย”


            “ผมชอบเพลงแนว EDM”


            “เพลงที่พี่เปิดฟังในรถคือเบาสบายมากครับ บอกตรง ไม่ได้ใกล้เคียงกับแนวเพลงที่พี่ชอบเลย”


           พี่โยหัวเราะ “แต่จริงๆ ผมเป็นคนฟังเพลงแบบฟังความหมายเพลงนะ เพลงส่วนใหญ่ที่อยู่ในรถก็จะเป็นเพลงความหมายดีๆ ซึ่งเพลงความหมายดีๆ ก็มักเป็นเพลงแนว R&B เลยดูเหมือนคนชอบเพลงแนว R&B ไป แต่ที่จริงชอบเพลงที่ค่อนข้างสนุกๆ น่ะ”


            “ผิดคาด ผมนี่นึกว่าพี่ชอบเพลงแนวแบบ คุกกี้เสี่ยงทาย ด้วยซ้ำ แต่ว่าเพลงนี้มันเป็นแนวป็อป ความหมายเพลงก็เฉยๆ พี่อาจจะไม่ชอบก็ได้”


            “ผมคิดว่าเพลงนี้ความหมายดีนะ”


            “หือ?”


            “มันเป็นเพลงของผู้หญิงหน้าตาธรรมดาๆ คนนึงที่รู้ว่าตัวเองไม่ได้น่ารักเหมือนคนอื่น ที่จะทำให้คนที่ชอบหันมามอง แต่ก็ยังกล้าที่จะซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเองและแสดงออกไป ผมชอบที่นำเสนอว่าอย่าคิดว่าไม่ได้ไม่มีทาง ซื่อสัตย์กับใจตัวเอง แสดงออกไป และลองเสี่ยงดู”


            “…”


            “ผมว่ามันต้องใช้ความกล้าหาญมาก และผมชอบที่สุดท้ายก็ให้กำลังใจว่า วันที่คุณบอกชอบเขาออกไปคุณอาจจะเสียน้ำตาแต่ก้าวเดินต่อไปเพราะสักวันนึงคุณก็จะได้เจอกับความรักของคุณ”


            “โห ผมคงฟังเพลงนี้ด้วยความรู้สึกแบบเดิมๆ ไม่ได้แล้วละ” พี่โยไม่พูดอะไรนอกจากยกยิ้มให้ผม เราต่างก็เงียบกันไปอีกครั้ง เหลือแต่เพลง Scars to your beautiful ที่ยังดังก้องคลอเบาๆ อยู่ในรถ “แล้ว…เพลงนี้อะ ที่เล่นอยู่”


            “Scar to your beautiful?”


            “ครับ เพลงนี้มันสื่อถึงอะไรหรอ? ผมชอบฟังเพลงสากลนะ แต่ผมไม่เก่งอังกฤษเท่าไหร่ พี่เป็นพวกเสพความหมาย แต่ผมมันเป็นพวกเสพทำนองอะไรประมาณนั้น”


            “เพลงนี้เป็นเพลงที่มอบให้แก่คนที่กำลังไม่พอใจในตัวเอง คนที่อยากจะเปลี่ยนอะไรสักอย่างของตัวเองเพื่อให้เป็นที่จดจำ เพื่อให้เข้าสังคม เพื่อสายตาคนอื่น”


            “…”


            “เป็นเพลงให้กำลังใจว่า You should know you’re beautiful just the way you are คุณควรรู้ไว้ว่าอย่างที่คุณเป็นอยู่นั้นมันสวยงามแล้ว”


            “…”


            “And you don’t have to change a thing. The world could change its heart คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอะไรเลย โลกต่างหากที่ต้องเปลี่ยน หมายถึง ค่านิยมต่างหากที่ต้องเปลี่ยน เช่น ขาวถึงดูดี สูงถึงดูดี ผอมถึงดูดี--”


            “เป็นชายหญิงถึงจะดี”


           ฉิบ…


            “โทษทีครับ พอผมบอกความลับของผมกับพี่ไป ผมระวังน้อยไปหน่อยปากก็เลยเปราะ คราวหน้าจะระวังกว่านี้”


            “ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนิ”


            “แต่เลือกได้ก็ไม่ฟังดีกว่าใช่ไหมละ---พี่เข้าประตูนี้ก็ได้มันใกล้กับคณะผมมากกว่า” ผมชี้นิ้วไปที่ประตูซ้ายมือข้างหน้า บทสนทนาของเราชะงักไปชั่วคราวเมื่อผมต้องบอกทางไปคณะของผมเองซึ่งนั่นก็ดีเพราะผมรู้สึกว่าถ้าเราคุยกันต่อ มันคงเป็นหัวข้อบทสนทนาที่แย่ที่สุดบนรถ


            “ขอบคุณมากนะครับที่มาส่ง” ผมเอ่ยขอบคุณกับคนที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับก่อนจะเปิดประตูรถ และขณะที่กำลังจะก้าวลงจากรถไปนั้นก็มีมือรั้งต้นแขนผมเอาไว้


            “สิ่งที่คุณเป็นไม่ได้ส่งผลอะไรกับผมเลย มันก็ไม่ต่างกับการที่ผมชอบฟังเพลงแนวนึง และคุณชอบฟังอีกแนวนึง คุณฟังสิ่งที่เป็นผมได้ ผมก็ฟังสิ่งที่เป็นคุณได้ สุดท้ายมันก็คือเพลง มันก็คือความรู้สึก---อีกอย่าง มันดีแล้วที่คุณรู้สึกระวังตัวน้อยลงตอนอยู่กับผม ถ้านั่นมันหมายความว่าคุณกำลังสบายใจ ผมก็ดีใจด้วย”


            “…”


            “พี่โยไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ไปเรียนเถอะ เดี๋ยวถ้าอาจารย์ล็อคห้องเรียนจะแย่เอาไม่ใช่หรอ”


            “อ่าครับ” ผมก้าวลงจากรถไม่ลืมที่จะหันมาขอบคุณอีกรอบ


            “ตั้งใจเรียนละ”


            “พี่ก็ขับรถดีๆ นะครับ” พี่โยยิ้มรับ พอผมปิดประตูลง รถอีโก้คาร์คันสวยก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไป ผมเองก็มุ่งตรงไปยังห้องเรียนที่กำลังจะเริ่มการบรรยายอีกภายในไม่ถึงสิบนาทีพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อหูฟัง เปิด Youtube แล้วเสิร์ชชื่อเพลง ‘Scar to your beautiful’


           เพลงป็อปจังหวะเบาๆ ที่มีความหมายติดอยู่ในใจ


            ‘มันดีแล้วที่คุณรู้สึกระวังตัวน้อยลงตอนอยู่กับผม ถ้านั่นมันหมายความว่าคุณกำลังสบายใจ’


            ‘You should know you’re beautiful just the way you are คุณควรรู้ไว้ว่าอย่างที่คุณเป็นอยู่นั้นมันสวยงามแล้ว’








            TBC
            กรี้ดดดดดดดดดดดด จะสารภาพว่าไม่ได้ขี้เกียจหรือแต่อะไร แต่ว่า ลืมจ้า ลืมว่าอัพในเล้าด้วย นี่เข้าใจว่าอัพในเด็กดีอย่างเดียว ฮืออออออออ เพิ่งมาเห็นว่าอัพในเล้าด้วย ก็เลยรีบเอามาลงเลยครัช จัดไป 2 ตอน!! อภัยให้ข้าน้อยด้วย ข้าพเจ้าสมควรตายยิ่งหนัก /ฮาราคิรีตัวเอง

            ปล. ก่อนตายขอหวีดพี่โยหน่อยได้ไหม แม่คุณเอ๊ยยยยยยยยยยย อ่อนโยนกว่านี้ก็เป็นผ้าอนามัยแล้วจ้าาาา ฮืออๆๆ
ยักดั้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
            เจอกันใหม่ตอนหน้า อ่านนิยายให้สนุกมีความสุขในวันทำงาน วันเรียน และวันหยุดนะจ้ะ ปู๊น ปู๊นนนนนนนน
            ติดตามข่าวสารและการอัพเดทนิยายที่เพจเฟสบุ๊ค คลิก (https://www.facebook.com/nistawriter)

#B8003
หัวข้อ: Re: !!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง (ตอนพิเศษที่หนึ่ง ch 2-3)!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 24-04-2018 13:01:40
ทำไมพี่หนึ่งถึงปิดบังล่ะ ทั้งๆที่พ่อก็คบพี่เอส หรือเพราะที่หนึ่งคิดว่าการที่ตังเองเป็นเกย์เพราะพ่อมีแฟนเป็นผู้ชาย พ่อรู้คนอื่นรู้กลัวพ่อกับพี่เอสคิดว่าเป็นเพราะพวกเค้าเหรอ พี่หนึ่งเลยเลือกที่จะปิด
หัวข้อ: Re: !!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง (ตอนพิเศษที่หนึ่ง ch 2-3)!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 24-04-2018 14:22:33
พ่อกะพี่เอสน่าจะรู้อยู่แล้วมั้ยนะ เลี้ยงกันมาตั้งนาน น่าจะดูออกบ้างแหละ แต่พี่โยท่าทางจะน่ารัก
หัวข้อ: Re: !!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง (ตอนพิเศษที่หนึ่ง ch 2-3)!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: suginosama ที่ 24-04-2018 16:00:27
นิยายน่ารักมากเลยค่ะ
อ่านไป ยิ้มไป เศร้าไป ครบรสมากค่ะ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง (ตอนพิเศษที่หนึ่ง ch 2-3)!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 24-04-2018 19:04:18
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง (ตอนพิเศษที่หนึ่ง ch 2-3)!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: konfaibint ที่ 24-04-2018 23:13:36
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง (ตอนพิเศษที่หนึ่ง ch 2-3)!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: ichream ที่ 25-04-2018 07:42:43
 :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง (ตอนพิเศษที่หนึ่ง ch 2-3)!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-04-2018 11:57:49
ดีใจ ได้อ่านต่อ  :katai2-1:

ที่หนึ่ง ทุกข์ใจที่เผยความลับที่เป็นเกย์ให้พี่โย คนข้างห้องรู้
แต่พี่โย ก็ทำให้ที่หนึ่งสบายใจคลายทุกข์

เหมือนแฟนพี่โย รบกวนพี่โยเรื่องเงินซ้ำแล้วซ่ำเล่า
ขนาดพี่เอสยังรู้
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ขอแก้ที่ผิด
ใจผมไม่ค่อยอยู่กับล่องกับลอย ------- ร่องกับรอย
คับคล้าบคับคลา ------ คลับคล้าย คลับคลา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง (ตอนพิเศษที่หนึ่ง ch 2-3)!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: konfaibint ที่ 25-04-2018 14:39:55
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง [ตอนพิเศษ 4] (25-4-61) !!!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 26-04-2018 00:17:58
B8003
04





                        “เมื่อไหร่ไอ้เดชจะเรียนเสร็จเนี่ย นี่มันเลยสี่โมงมาแล้วนะเว้ย” ลีวางโทรศัพท์ตัวเองไว้ข้างตัวอย่างหัวเสีย “ถ้าไปดูหนังไม่ทันนี่ต้องโทษมันเลย”

                       “โทษมึงแหละ ลืมได้ไงว่าเพื่อนมีเรียนบ่าย” ผมพูด พร้อมยกขาขึ้นก่ายไอ้ลีที่นอนหงุดหงิดอยู่ข้างๆ

                        “ก็ปกติลงเรียนเหมือนกันทุกวิชานี่หว่า” ลีพูดพร้อมกับผลักขาของผมที่เกยทับอยู่บนตัวมัน “มึงนี่ ถ้าจะนอนเล่นโทรศัพท์สบายขนาดนี้ ขึ้นมาเล่นบนตัวกูเลยไหม”

                        “ได้หรอ?”

                        “ไม่ได้ ไอ้สัส”

                        “แล้วจะพูดทำไม” ผมพลิกตัวหันหลังให้ไอ้ลี

                       ตอนนี้ผมอยู่ห้องลีครับ เตรียมตัวจะไปดูหนังเรื่องหนึ่งที่เข้าฉายวันนี้วันแรก ซึ่งเป็นหนังที่ไอ้ลีตั้งหน้าตั้งรอสุด ถึงขั้นเอ่ยปากเลี้ยงหนัง เลี้ยงป็อปคอร์นพวกผม แต่บังเอิญว่าตาวมีนัดแล้ว หวยเลยตกมาที่ผมกับเดช แก๊งเมาเละ ณ U-bar ซึ่งผมเต็มใจอยู่แล้วมีเรียนแค่ตอนเช้า และก็ยังไม่อยากกลับคอนโดฯ พอดี โดนเลี้ยงหนังแบบนี้มีหรือจะปฏิเสธ

                       แต่ดันติดที่ไอ้เดชครับ…เดชมันเรียนไม่เหมือนเพื่อนอยู่วันนึงก็คือวันนี้ มันเป็นคนเดียวในกลุ่มที่มีเรียนบ่ายแล้วลีมันก็ลืม แต่ดันซื้อตั๋วไปแล้วสามที่นั่ง ยังโชคดีตรงที่ซื้อรอบสี่โมงครึ่ง ซึ่งถ้าอาจารย์ปล่อยตรง ก็จะไปถึงโรงหนังแบบเฉียดๆ เลย แต่ก็…

                        “สี่โมงสิบห้าแล้ววว”

                       ครับ

                       แทนที่จะได้นอนรอเวลาแล้วขับรถออกไปดูหนังชิวๆ กลายเป็นว่าต้องมาพะว้าพะวังเพราะหนังก็ใกล้จะถึงรอบ เพื่อนที่ควรจะเลิกเรียนเสร็จตั้งแต่สี่โมง ก็ยังไม่โทรตามให้ไปรับสักที

                        “หนึ่ง กูว่าเราไปรอไอ้เดชที่คณะกันดีกว่า มันเรียนเสร็จแล้วจะได้ขับรถออกไปห้างฯ เลย”

                        “ขออีกห้านาทีๆ เกมกูมันหยุดไม่ได้ แล้วโทรศัพท์กูก็ไม่มีเน็ตด้วย” ผมต่อรองพร้อมกับสะบัดข้อเท้าที่ไอ้ลีพยายามจะจับลากลงจากเตียง

                        “ปล่อยให้แม่งตายๆ ไปเถอะ เร็วๆๆ ลุก!”

                        “ไม่ได้ กิลล์ต้องการกู เหวออออ” ผมร้องเสียงหลงเมื่อไอ้ลีจับผมลากลงจากเตียงได้ในที่สุด “เชี้ยลี!” ผมหันไปเฮ้วใส่

                       Rrrrrrrr

                        “เดชโทรมาแล้วๆๆ!”

                       แป๊บบบบบบบบบบ

                        “หนึ่งถ้ามึงยังไม่ลุก กูจะโยนโทรศัพท์มึงออกนอกห้องกูเลยนะ!”

                       ผมยกโทรศัพท์หนีการคว้าของไอ้ลี นิ้วโป้งยังคงประสานพลังอย่างเต็มที่ในการตีศัตรูตรงหน้าให้ตาย

                       ใกล้แล้วๆๆๆๆๆๆ

                        “ไอ้หนึ่ง!”

                        “เสร็จแล้ว!” ผมโยนโทรศัพท์ไว้บนเตียงพร้อมกับลุกขึ้นยืนผึ่งแล้วยิ้มหวานให้ไอ้ลี “เสร็จแล้วครับ~ ปะๆ ไปหาไอ้เดชกัน”

                        “มึงทำกูออกจากห้องช้าตั้งห้านาที” ลีบ่นขณะเดินตรงไปยังประตูห้องโดยมีผมเดินตามหลัง “เนี่ยถ้าเข้าโรงไปแล้วหนังมันเล่นไปแล้วห้านาทีกูจะโทษว่าเป็นความผิดมึงเลยหนึ่ง”
                        “คร้าบๆ”

                        “เออ แล้วกูจะงดป็อปคอร์นมึงด้วย--อะ”

                       ผมที่เดินตามอยู่ข้างหลังเงยหน้าขึ้นตามเสียง ก่อนจะเห็นว่าลีเปิดประตูห้องปะกับคู่รักคู่หนึ่งที่เดินผ่านมาพอดี ซึ่งมันควรจะเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นแล้วผ่านไป ถ้าไม่บังเอิญว่าผู้ชายของคู่รักนั้นคือ เจ้าของห้อง B8003 ที่มาส่งผมที่มหา’ลัยเมื่อเช้า และทำให้เพลง ‘Scar to your beautiful’ ติดอยู่ในหัวของผมทั้งวัน

                       พี่โยยิ้มทักทายให้ผมเล็กน้อยก่อนที่เราต่างฝ่ายต่างก็เดินตามแฟนและเพื่อนของตัวเอง

                        “ลี มึงรู้จักพี่ผู้หญิงคนนั้นหรอวะ? กูเห็นพี่เขาถามมึงด้วยว่ามึงจะไปไหน” ผมถามขึ้นขณะเราทั้งคู่สอดตัวเข้าไปในรถ

                        “คนที่เจอที่หน้าห้องกูอะนะ?--มึงคาดเข็มขัดนิรภัยด้วย เดี๋ยวกูโดนเรียก”

                        “อือ” ผมเอี้ยวตัวไปคว้าเข็มขัดนิรภัยตามคำสั่ง

                        “เขาอยู่ห้องถัดจากห้องกูไปสองห้องอะ ชอบเจอตอนเดินผ่านประตูอย่างเงี้ยแหละ บางทีก็บังเอิญเจอใต้ตึกตอนเอาเสื้อผ้าไปซัก”

                        “สนิทกัน?”

                        “ไม่ แค่มีทักบ้างตามเรื่องตามราว รู้สึกถ้าจำไม่ผิดจะชื่อพี่เมย์ อยู่คณะมนุษย์ฯ ปีสาม”

                        “อ๋อ”

                        “สวยอะดิ”

                        “หรือมึงว่าไม่สวย?”

                        “อย่างเด็ด กูนี่ซี๊ดดดเลย”

                       ผมหัวเราะ เห็นด้วยเลยแหละว่าพี่ผู้หญิงที่ชื่อ ‘เมย์’ เด็ดมากจริงๆ ผมพูดถึงในเชิงความสวยนะ เขาสวยมากจริงๆ และดูมั่นใจจนผมรู้สึกแปลกใจเลยที่เป็นแฟนกับพี่โยที่ดูติ๋ม ดูทึ่มแบบนั้น ผมไม่ได้ว่าเขาไม่เหมาะกันนะ ผมแค่แบบ…ไม่คิดว่าผู้หญิงสไตล์เปรี้ยวเข็ดฟันที่ใส่กระโปรงสั้นพอปิดกางเกงในแบบนั้นจะเป็นสเป็คของพี่โยได้ เข้าใจผมปะ?

                       แต่พูดงั้นก็เถอะ ขนาดแนวเพลงที่พี่โยชอบยังเป็นแนว EDM เลย ก็คงไม่แปลกละมั้งถ้าเขาจะชอบผู้หญิงที่ใส่เสื้อนักศึกษาตัวเล็ก ขนาดเอามือไขว้หลัง กระดุมเสื้อก็สามารถกระเด็นใส่ตาได้แบบนั้น

                        “แต่ว่านะ แฟนใหม่พี่เขาแบบคนละแนวกับคนเก่าเลย เมื่ออาทิตย์ทะเลาะกับแฟนตรงทางเดิน เสียงดังชิบหาย คือได้ยินทั้งชั้น กูนี่แบบกลัวเลยว่าจะมีผลักกันตรงลงไปข้างล่าง แบบผู้ชายแม่งโหดสัส”

                        “หมายถึงทะเลาะกับผู้ชายคนที่เดินมาด้วยกันอะหรอ?”

                        “ไม่ใช่ๆ กูหมายถึงเขาทะเลาะกับคนเก่า” ผมลากเสียง ‘อ๋อ’ ยาว “ส่วนผู้ชายคนใหม่ที่เดินมาด้วยกันวันนี้ดูเรียบร้อยชิบหาย แบบดูเป็นคุณชาย พูดคำหยาบไม่ได้ ผู้ดีๆ  กูว่าถ้าลองล้วงกระเป๋ากางเกงดูนี่น่าจะเจอผ้าเช็ดหน้าสีขาวอะ”

                       ผมหัวเราะ แล้ว…ก็อดไม่ได้ที่จะนึกย้อนกลับไปเรื่องเมื่อตอนเช้า…

                        “ที่จริงมันไม่จำเป็นต้องห่วงเลย คุณไม่อยากให้ใครรู้…พี่โยก็จะไม่บอกใคร”

                        “สิ่งที่คุณเป็นไม่ได้ส่งผลอะไรกับผมเลย มันก็ไม่ต่างกับการที่ผมชอบฟังเพลงแนวนึง และคุณชอบฟังอีกแนวนึง คุณฟังสิ่งที่เป็นผมได้ ผมก็ฟังสิ่งที่เป็นคุณได้ สุดท้ายมันก็คือเพลง มันก็คือความรู้สึก”


                        “เขา…ใจดีแล้วก็พึ่งพาได้”

                        “อะไร? ผู้ชายคนนั้นอะหรอ? เออ อะไรแบบนั้นแหละ เหมือนแบบถ้ากูทำอะไรผิดมา เขาก็พร้อมบอกกูว่า ‘ไม่เป็นไร พระเจ้าจะให้อภัยเธอ’” ลีหัวเราะ “ไม่รู้ดิ หายากนะเนี่ย ขนาดกูไม่รู้จักเขา กูยังรู้สึกเลยว่าถ้าอยู่ด้วยกัน กูคงรู้สึก—”

                        “สบายใจ”











                       ผมกระชับมือที่ถือโน้ตบุ๊กแน่น สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด แล้วยกมือขึ้นเคาะห้องตรงหน้า

                       ห้อง B8003

                       ก๊อก ก๊อก ก๊อก

                        “ครับ?” ประตูเปิดออกพร้อมร่างสูงของเจ้าของห้อง ใบหน้าหล่อเหลานั่นดูงงงวยไม่น้อยเมื่อเห็นว่าเป็นผมเอง ที่มาทักทายในเวลาหัวค่ำนี้…แถมยังหนีบโน้ตบุ๊กมาด้วยอีกต่างหาก

                        “พี่โย ผมขอดูหนังห้องพี่หน่อยได้ไหมครับ?” ผมถามเสียงอ่อย

                       รู้สึกเกรงใจไม่น้อยนะครับที่ต้องมาขออาศัยห้องคนอื่นดูหนัง แต่ว่า…

                       แต่ว่า…!

                       ห้องผมแม่งโคตรไม่มีความเป็นส่วนตัวเลย! TT ผมดูหนังตรงไหนก็มีคนคอยกวน หนีไปที่ห้องนอน น้องชายผมก็ยังตามมา ลองไปนั่งดูหนังในห้องน้ำก็แม่ง…ถูกเคาะทุกยี่สิบนาที สรุปกูดูหนังไม่ได้! อย่าว่าแต่ดูหนังเลย เข้าเฟสผมยังระแวง!

                        “ผมสัญญาเลยว่าจะไม่รบกวนพี่เลยแม้แต่นิดเดียว พี่จะทำอะไรของพี่ก็ทำไปได้เลย ซ่อมท่อ ต่อเตียง รื้อตู้อะไรก็ได้ ผมขอแค่พื้นที่เล็กๆ เท่านั้น  ขอพักพิงแป๊บเดียวไม่เกินสองชั่วโมง สัญญาเลยครับ TT”

                        “…”

                        “ผมเอาโน้ตบุ๊กมาเองด้วยนะ ไม่ขอยืมเลย เอาหูฟังมาแล้วด้วย”

                       พี่โยมองหน้าผมนิ่ง เข้าใจว่าคงตกใจผมเนี่ยแหละ อารมณ์เดียวกับตอนผมสัมภาษณ์เข้ามหา’ลัย คือ เป็นการเข้าไปนั่งให้อาจารย์สามท่านปล่อยมันฮุคซ้ายทีขวาที จนสมองอึน หน้าตาก็จะเลื่อนลอยนิดนึง แต่พอพี่โยเหมือนจะเรียบเรียงคำพูดของผมได้แล้ว เขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาชุดใหญ่ จนกลายเป็นผมที่สมองอึนแทน

                        “ดูหนังอะไรละเราน่ะ ถึงให้ที่บ้านดูด้วยไม่ได้?” พี่โยถามพลางกลั้วหัวเราะ เบี่ยงตัวหลบให้ผมได้เดินเข้าไปภายในห้อง

                        “สาบานว่าพี่เดาไม่ได้?” ผมคร่อมตัวเล็กน้อยขณะเดินผ่านพี่โยเข้าไปภายในห้อง ไม่ลืมที่จะปิดประตูห้องตามหลังให้ด้วย

                        “หนังโป๊?”

                        “ไอ้พี่โย!”

                        “ไม่ใช่หรอ?”

                        “ถูกต้องแล้วต่างหาก”

                        “จริง?”

                        “ไม่จริง ล้อเล่นเฉยๆ” ผมบอกกับคนที่แก่กว่าพลางจับจองที่นั่งบนโซฟาเป็นอาณาจักรดูหนังในค่ำคืนนี้ “แต่ถ้าผมดูหนังโป๊จริงๆ ผมว่ามันก็อาจหาญเกินไปนะ กับการดูกับเพื่อนบ้านที่รู้จักกันได้ประมาณสองวัน ฮ่าๆๆๆ”

                        “แล้วเราดูหนังเรื่องอะไร?” เจ้าของห้องถามขึ้น ขณะเดินมาหาผมที่กำลังจัดแจงที่ทางเตรียมฉายหนัง

                        “Call me by your name หนังเกย์น่ะ อยากดูตั้งแต่ฉายในโรงแล้วครับ แต่ก็คงโดนมองแปลกๆ ถ้าผมไปนั่งดูหนังเรื่องนี้คนเดียว เลยต้องรอเข้าเว็บแบบนี้” ผมพูดพลางกดเข้าลิงก์เว็บดูหนังฟรีเว็บโปรด

                        “เรื่องย่อเป็นยังไงหรอ?”

                        “อืม…ก็ไม่มีอะไรมาก เป็นเรื่องราวของคนสองคนที่ได้มาเจอกันในฤดูร้อนปีหนึ่งซึ่งคนหนึ่งยังเป็นเด็กวัยรุ่นอายุ 17 ปีอยู่ เรื่องราวมีแค่นั้น…แต่ว่า สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ถูกพูดถึงทั้งๆ ที่ไม่ใช่หนังชายหญิง เพราะว่าหนังเรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวความรักครั้งแรกที่สามารถมองข้ามไปได้ว่าเขาเป็นเพศอะไร และตกหลุมรักที่ตัวตนจริงๆ ของเขา”

                        “หนังโรแมนติก”

                        “ช่าย มีคนบอกว่าหนังเรื่องนี้ทำให้เห็นถึงพัฒนาการความรักที่สมบูรณ์แบบ จากชอบแบบป็อปปี้เลิฟของเด็กวัยรุ่น จริงจังขึ้นมาเรื่อยๆ จนเป็นคำว่ารักในที่สุด ถึงผมจะเดาได้เลยว่าจะเป็นหนังแนวรักครั้งหนึ่งคิดถึงตลอดไปก็เถอะ แต่ผมชอบนะ ผมมองว่าบางทีความรักที่อยู่ในความทรงจำอาจจะเป็นรักที่สวยงามที่สุด —แต่! หนังอาจจะมีการเสนออะไรที่มากกว่านั้นอีก ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะมีมุมมองดีๆ ซ่อน ผมถึงได้จะดูอยู่นี่” ผมหัวเราะเสียงเบา

                        “ผมชักอยากดูด้วยแล้วสิ”

                        “เอาจริง?”

                        “จริง แต่ว่าผมต้องไปทำงานตอนสองทุ่มครับ คงอยู่ดูด้วยไม่ได้”

                        “อ้าว ผมไม่รู้ว่าพี่กำลังจะไปทำงาน งั้นผม—”

                        “ไม่ๆ ไม่เป็นไร” พี่โยพูดเบรกผมที่กำลังจะปิดโน้ตบุ๊ก “หาที่ส่วนตัวดูหนังอยู่ไม่ใช่หรอ? ผมยกห้องให้คุณดูแลเลย ดูหนังได้เต็มที่ ถ้าหน้าจอโน้ตบุ๊กมันเล็กไป ตู้ใต้ทีวีมีสายต่อโน้ตบุ๊กกับทีวีอยู่”

                        “…พี่ไม่กลัวผมขโมยของหรอ?”

                        “แล้วหนึ่งจะขโมยของของพี่โยไหมครับ?”

                        “ไม่ครับ”

                        “งั้นพี่โยก็ไม่มีอะไรต้องกังวลครับ”

                        “…พี่ไว้ใจคนง่ายเกินไปหรือเปล่า” ผมขมวดคิ้ว

                       รู้สึกเป็นห่วงแทน กับการที่เพื่อนบ้านของผมไม่ค่อยระมัดระวังตัวอะไรเลย ซึ่งผิดกับพ่อผมลิบลับ ที่ระวังตัวแจ ถ้าพี่เอสไม่คอยห้ามนะ ป่านนี้ประตูบ้านผมมีกลอนสัก 4 อันได้แล้วมั้ง!

                        “มีอย่างที่ไหนให้คนที่รู้จักกันสองสามวันเฝ้าห้องให้! ยังดี ที่ผมเป็นเด็กดี ไม่ได้คิดจะหยิบจับอะไรของพี่ แต่ถ้าสมมุติว่าผมเกิดเป็นพวกมีนิสัยลักเล็กขโมยน้อยขึ้นมาแล้วพี่วางใจแบบนี้พี่รู้ตัวไหมว่าพี่จะแย่นะ! กลับห้องมาแม้แต่โซฟาก็ไม่เหลือ พี่จะทำยังไง!?”

                        “ซื้อใหม่ละมั้ง?”

                        “บ้านรวยหรอ” อันนี้ไม่ได้ถามแบบตาใสนะครับ ถามแบบประชด พี่โยเขาคิดว่าโซฟาราคาสองร้อยหรือไง!

                        “ก็โดนยกเค้าไปแล้ว”

                        “ผมกำลังจะหมายถึงว่าให้พี่ระมัดระวังตัวกว่านี้ อย่าไว้ใจคนง่ายแบบนี้ แก้ปัญหาที่ต้นเหตุอะเข้าใจปะ ถ้าพี่แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ โซฟาหายสักร้อยครั้ง พี่ก็จะซื้อสักร้อยทีเลยหรอ!?” ผมดุพี่โยแบบคนเป็นเดือดเป็นร้อนแทน

                       พี่โยมองผมดูอึ้งไปพอสมควร ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลานั่นจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นยิ้มบางๆ ตามมาด้วยมือใหญ่ที่วางแหมะลงบนหัวผมอีกครั้ง 

                        “พี่โยแค่ล้อเล่นครับ แต่ไม่ต้องห่วง พี่ไม่โยไม่ได้ไว้ใจคนง่ายๆ พี่โยแค่รู้ว่าใครไว้ใจได้”

                       ตึกตัก

                        “อะ—อะไรๆๆ! รู้ได้ไงว่าผมไว้ใจได้! รู้จักกันไม่กี่วันเอง! เออออออ พูดไรไม่รู้เรื่อง! วู้ๆๆ!”

                        “?? โวยวายทำไมน่ะเรา??”

                       เอออออออ ทำไมวะเนี่ย?

                        “เปล่าา ไม่ได้โวยวายอะไรสักหน่อย” ผมแก้ตัว ยิ่งเห็นพี่โยหัวเราะเสียงเบาๆ แล้วรู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมากว่าเก่าหน้า เป็นบ้าไรเนี่ยๆ “พอแล้วๆ พี่โยไปทำงานได้แล้วครับ ทุ่มครึ่งแล้ว เดี๋ยวจะไปทำงานสายเอา?”

                        “โอเคๆ งั้นผมฝากดูแลห้องด้วยนะ”

                        “ครับบบ”

                        “เออ ผมลืมถาม” พี่โยที่กำลังจะเปิดประตูห้องหันกลับมาทางผมที่เตรียมตัวจะดูหนังแล้วเช่นกัน “คุณบอกที่บ้านหรือยังว่ามาอยู่ที่ห้องของพี่โย?”

                        “อ๋อ บอกแล้วครับว่าจะมาเล่นห้องพี่ พี่เอสมีถามด้วยว่าผมไปรู้จักพี่ตอนไหน แต่ผมบอกเดี๋ยวค่อยเล่าให้ฟัง ตอนแรกน้องชายผมก็จะขอมาด้วยนะ ตื้อจะมาด้วยน่าดู แต่ผมบอกไปว่าพี่เจ้าของห้องเป็นผู้หญิง น้องชายของผมก็เลยไม่มาแล้ว” ผมหัวเราะ

                        “ปกติคุณเป็นคนแบบนี้หรอ?”

                        “ครับ?”

                        “ก่อนหน้านี้ผมคิดว่าคุณเป็นคนไม่ค่อยเล่าเรื่องของตัวเอง แต่ว่าจริงๆ ก็เป็นคนเปิดเผยนี่หน่า”

                        “ไม่นะ ปกติผมก็ไม่เล่าเรื่อง—” เสียงของผมเงียบหายกลับเข้าไปในลำคอเมื่อผมย้อนคำพูดของตัวเอง “ปกติผมไม่ค่อยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ใครฟังหรอก โดยเฉพาะเรื่องในบ้านแล้ว…แบบก็ไม่ได้ปิดเป็นความลับอะไรนะครับ แต่ก็ต้องสนิทกับผมในระดับนึงเลย”

                        “ก็แปลว่ารู้สึกสนิทกับพี่โยในระดับนึงแล้วสิ”

                        “ได้ไง? รู้จักสองวันเอง ไม่นับวันที่ผมเมาเละ”

                        “นั่นสิ แปลกจัง คงเหมือนที่ผมรู้สึกไว้ใจจนฝากห้องได้ทั้งๆ ที่รู้จักกันสองวันละมั้ง ^^"

                        “…”

                       พี่โยยกยิ้มบางๆ “ผมว่าผมไปทำงานก่อนดีกว่า ใกล้จะเข้างานสายแล้ว”

                        “อ๋อ โอเคครับ”

                        “ฝากดูแลห้องด้วยนะ จะใช้อะไรที่ห้องก็ตามสบายเลย”

                        “ครับ…พี่โย!” ผมเรียกไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะออกจากห้อง “วันนี้ผมจะไม่ดู Call me by your name นะ ผมจะดูเรื่องอื่น ส่วนเรื่องนี้ รอพี่ว่างเมื่อไหร่ แล้วค่อยมาดูด้วยกันนะครับ”

                        “โอเคครับ รอพี่โยก่อนแล้วกันนะ”

                       ผมพยักหน้าหัวเราะฮี่ๆ ส่งท้ายก่อนที่ประตูห้องจะปิดลง

                        “…”

                       การที่ผมชอบเผลอพูดเรื่องนู่นนี่นั้น ทั้งๆ ที่ไม่เคยพูดกับใคร มันอาจเพราะมีเขาอยู่ด้วย แล้วผมสบายใจจริงๆ อย่างที่เขาเคยพูด มันเป็นความรู้สึกประหลาดแล้วก็จั๊กจี้ยังไงบอกไม่ถูก แต่ตอนนี้ผมคิดแล้วว่า…

                        ‘ก็ดีนะ กับการที่มีใครสักคน…ที่เราสามารถเล่าให้เขาฟังได้ทุกเรื่อง : )’
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง [ตอนพิเศษ 4] (25-4-61) !!!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: thenista ที่ 26-04-2018 00:18:57
                       หลังจากวันนั้นที่ผมตกลงปลงใจ (ไปเอง)(คนเดียว) ผมก็แวะเวียนมาห้อง B8003 ทุกครั้งที่ผมไม่มีเรียนบ่าย ตีสนิทกับพี่โยอย่างรวดเร็วจนผมยังอดไม่ได้ที่จะขำกับความเปิดใจของตัวเอง และอดจะส่ายหัวไม่ได้กับความไว้ใจคนง่ายเกินไปของพี่โย

                       คิดดูสิครับ เวลาคนเราที่จะรู้จักกับใครใหม่ๆ มันก็จะมีป้อมปราการเล็กใหญ่กันไปตามระดับความระแวง ผมเองก็มีสูงหน่อยพ้นหัวมานิดนึง แต่คนส่วนใหญ่อย่างน้อยก็ต้องสูงระดับเข่ากันบ้าง แต่พี่โยนี่ไม่เลยครับ เหมือนนั่งอยู่กลางทุ่ง ไม่มีแม้แต่รั้ว ใครจะมาก็มา ใครจะไปก็ไป ไม่ระแวดระวังอะไรทั้งสิ้น กลายเป็นว่าพอผมเอาค้อนทุบป้อมของตัวเองปุ๊บ ผมก็เจอกับพี่โยที่นั่งอยู่กลางทุ่งเลย

                       …แต่พูดอย่างนั้นอย่างนี้ จริงๆ พี่โยเป็นแบบนี้ก็อาจจะดีก็ได้ครับ ผมเองก็ไม่ใช่คนสายเริ่มความสัมพันธ์กับใครก่อน ที่มีเพื่อนได้ เพราะว่าไอ้ลี มีป้อมสูงเท่าข้อเท้า…ส่วนไอ้เดชและเพื่อนคนอื่นๆ ไอ้ลีเป็นคนไปตีป้อมให้ ขนาดหมิวแฟนเก่าของผมเธอก็เป็นคนตีป้อมของเธอออกมาเอง

                       แล้วก็ถึงผมจะบอกว่าผมกับพี่โยสนิทกัน และพี่โยเป็นคนที่ผมคิดว่าผมสามารถคุยได้ทุกเรื่อง ก็ไม่ได้หมายความว่าผมเอาความลับทั้งหลายแหล หรือเอาครอบครัวไปเล่าให้พี่โยฟังหรอกนะครับ ผมยังมีสิ่งที่เรียกว่า กาลเทศะอยู่นะ ฮ่าๆๆๆ เพราะงั้นเรื่องที่ผมคุยกับพี่โยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องทั่วไปครับ วันนี้เป็นไง วันนั้นเป็นไง เกิดวันไหน เรียนคณะอะไร อย่างนั้นซะมากกว่า 

                       แต่ว่า…พี่โยเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งรู้จักยิ่งแปลกครับ ผมรู้ว่าพี่โยทำงานพี่ร้านเหล้า เริ่มงานสองทุ่ม กลับห้องตีสองตีสามโดยประมาณ ผมก็เลยถามว่าพี่เขาทำงานอะไร ตอนนั้นผมคิดในใจว่าประมาณเด็กเสิร์ฟ ร้องเพลง ดีเจ อะไรเทือกๆ นั้น ผมไม่ค่อยอยากคิดว่าเขาเป็นเจ้าของร้านครับ ถึงแม้ผมคิดว่าคนระดับที่สามารถซื้อห้องที่คอนโดฯ นี้ได้แบบไม่ต้องผ่อนเหมือนพ่อผม ก็คงต้องเป็นเจ้าของร้านก็ตาม เพราะผมคิดว่าพี่โยกับกิจการสุรายาเมานี่มัน…แบบ…เข้าใจปะครับ คนอย่างพี่โย…จ่ายเงินใต้โต๊ะตำรวจ……ผมว่ามันไม่ได้อะ!! แล้วสุดท้ายคำตอบของพี่โยคือ พี่โยทำงานเป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยครับ หรือก็คือคุณยาม

                       ….

                       ผมนี่อึ้งไปเลย ภาพคุณลุงตรงป้อมยามลอยมาซ้อนทับ

                       แต่ว่าพอคุยรายละเอียดลงไป พี่โยไม่ได้ทำงานที่ U-bar แบบขึ้นตรงกับที่ร้านอะไรแบบนั้นนะครับ พี่เขาทำงานอยู่บริษัทรับจ้างที่จะรวมรวบช่างฝีมือเก่งๆ แต่ละแขนงไว้ แล้วกระจายบุคลากรออกไปทำงานกับผู้ว่าจ้างเป็นงานๆ พอฟังดูแล้วเหมือนจะเป็นอะไรที่คล้ายกับงานบอดี้การ์ดมากกว่า

                       ซึ่งผมก็ว่าเหมาะดีกับความมีคลาสของเขา แต่ผมก็ยังรู้สึกพิลึกอยู่ดีพอนึกภาพพี่โยจะไปต่อยตีกับใคร

                        “เย็นนี้กินไรดีวะก่อนดูหนัง? ชาบูชิไหม?” ลีหันขวับมาถามผมกับเดชที่นั่งอยู่ด้วยกันทันทีที่คาบเรียนช่วงบ่ายจบลง

                       หนังอะไรวะ?

                        “มึงจะไปดูหนังกันอีกแล้ว? เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมึงก็เพิ่งไปดูมาไม่ใช่ไง?” ตาวที่นั่งอยู่ข้างหน้าคู่กับลีหันมาร่วมบทสนทนาบ้าง

                        “หนังอะไรวะมึง?” ผมถามงงๆ ขณะเก็บสมุดเลคเชอร์ของตัวเอง หันหาคำตอบที่ไอ้ลีที ไอ้เดชที

                        “ก็หนังที่เราคุยกันเมื่ออาทิตย์ที่แล้วตอนออกจากโรงว่าจะไปดูด้วยกันไง” เดชตอบ

                        “เมื่อวานก็ยังคุยเรื่องที่จะไปดูหนังวันนี้อยู่เลย มึงยัง ‘อือๆ’ อยู่เลยนะหนึ่ง” ลีเสริม

                        “หะ!? กูไม่เห็นจำได้” ผมพูดเสียงหลง

                       ผมจำได้แล้วว่าเมื่ออาทิตย์ก่อนคุยกับลีแล้วก็เดชลอยๆ ไว้ว่าเราจะไปดูหนังเรื่องหนึ่งที่ดูทีเซอร์แล้วหน้าสนใจมากกันครับ แต่ผมจำไม่เห็นได้ว่าเมื่อวานผมตกลงว่าจะไปดูหนังเรื่องนั้นกับพวกมันแล้ว

                        “มึงถามไอ้เดชเลย กูพูดแล้วตอนที่กินข้าวเที่ยงอยู่ที่โรงอาหารอะ”

                        “ตอนที่มึงนั่งยิ้มจิ้มโทรศัพท์อยู่อะ”

                        “เอ้าา ตอนนั้นกูไม่ได้ฟังเลย กูขานไปเรื่อยเฉยๆ ขอโทษจริงๆ ว่ะ แต่ไม่ได้ยินจริงๆ ว่าตอนนั้นมึงคุยอะไรกัน กูอือๆ ไปตามเรื่องตามราวเฉยๆ”

                        “แล้วมึงจะไปดูหนังกับพวกกูไหมวันนี้?”

                        “กูก็อยากไปนะเว้ย แต่วันนี้กูมีนัดแล้วว่ะ…” ผมพูดเสียงหงอย รู้สึกผิดอยู่นะครับที่พูดตกลงไป (ลอยๆ) แล้ว แต่มากลับลำเอาวินาทีสุดท้าย ผมไม่ค่อยชอบการทำผิดคำพูดเท่าไหร่เลย แต่…. วันนี้ผมมีนัดกับพี่โยว่าจะไปกินข้าวด้วยกันแล้ว และผมนัดกับเขา…เมื่อวานตอนพักเที่ยงที่จิ้มโทรศัพท์อยู่นั่นแหละ

                        “งี้กูกับไอ้เดชก็ไปสองคนอีกแล้วดิ สัส ไปด้วยกันบ่อยจนจะเป็นผัวเมียกันแล้วเนี่ย”

                        “กูขอโทษครับบบบบ” ผมแทบจะคลานเข่าไปกอดขา TT

                        “ชวนกูสิกูว่าง” ตาวที่เงียบอยู่นานพูดขึ้นพร้อมยกมือสูง ชี้นิ้วจิ้มอกตัวเองแบบนำเสนอสุดขีด

                        “ไม่มีนัดกับแฟนหรอวันนี้อะ?”

                        “ไม่มีครับ ว่าง มีเวลาให้เพื่อนได้อย่างเต็มที่”

                        “เยี่ยม! งั้นเราสามคนไปดูหนังกันสังสรรค์กับเพื่อนให้เต็มที่เว้ย ปล่อยให้ไอ้หนึ่งไปแฟนของมันเลยยยย เทเพื่อนได้เต็มที่ เอากับเมียให้สาแก่ใจจจจจจ”

                        “สัส เมียเมออะไร ไม่มี โสดสนิท ยังไม่มีแฟนใหม่โว้ย”

                        “อย่ามาโกหก คิดว่าปิดกูพ้นหรอ”

                        “เอ้า ก็กูไม่มีจริงๆ”

                        “งั้นวันนี้มึงมีนัดกับใคร? ใช่คนที่มึงเอาแต่แชทด้วยจนไม่ได้ฟังกูเมื่อวานปะ?”

                        “ก็ใช่ แต่…”

                        “เนี่ย! เมื่อวานก็นั่งคุยแชทยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ วันนี้ยังเทเพื่อนไปกับคนนั้นอีก ไม่เรียกแฟนแล้วจะเรียกว่าอะไร หะ!?”

                        “ใจเย็นค่ะคุณ ลูกเรายังเด็กนัก” อะ ตาวเริ่มเล่นใหญ่

                        “เนี่ยก็ดูมันสิ! ไม่ใช่แค่เมื่อวานด้วยนะ อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์อะเงยหน้าจากโทรศัพท์มานี่นับเป็นวินาทีได้ วันไหนไม่มีเรียนบ่ายรีบกลับบ้านยังกับเมียจะคลอดลูก! หน้าตาเบิกบานจนกูเกือบลืมไปแล้วเนี่ยว่ามันเพิ่งเลิกกับแฟน”

                        “และโดนตบหน้า และไล่ออกจากห้องด้วย”

                        “ย้ำแผล!” ผมหันไปเฮ้วใส่เดชที่โผล่แพล่มออกมา

                        “ยังจะบอกว่าไม่ใช่แฟนอีก!”

                        “ก็ไม่ใช่แฟนจริงๆ อะะะะ” ถ้ามันพูดว่าเป็นแฟนผมอีก ผมจะกรี๊ดแล้วนะ

                        “เป็นคนที่ชอบเฉยๆ”

                        “ไอ้เดชชช!! กูไม่ได้ชอบโว้ย ไม่ใช่แฟน แค่คนรู้จักกันเฉยๆ”

                        “หืมมม~”

                        “จริงๆ! ชอบบ้าชอบบออะไรละ โว๊ะ บ้าบอ ไร้สา—”

                       ติ้ง!

                       เสียงข้อความเข้าดังขัดขึ้น เราทั้ง 4 คนพุ่งความสนใจไปที่โทรศัพท์ของผมที่ถืออยู่ในมือ ก่อนที่บรรดาเพื่อนๆ จะมองหน้าผมเป็นการบอกนัยๆ ว่าให้ผมพลิกขึ้นมาดู

                        ‘เรียนเสร็จแล้วออกมารอตรงที่พี่เคยมาส่งนะ พี่โยกำลังไปรับครับ’

                        “จากคนที่มึงนัดด้วยวันนี้อะดิ?”

                        “อือ”

                        “เขาบอกว่าไง?”

                        “วันนี้กูคงติดรถมึงไปหน้ามอไม่ได้ว่ะ เขาบอกว่า เดี๋ยวจะมารับกูที่คณะ…”

                        “เฮ้อ” ลีถอนหายใจก่อนที่มันจะหยิบโทรศัพท์มือถือของมันยื่นมาให้ผม “เคสโทรศัพท์กูเป็นกระจกส่องได้ มึงเอาไปดูอาการตัวเองก่อน แล้วค่อยมาเถียงกู สัส ตาเป็นประกายขนาดนี้ยังบอกว่าไม่ได้ชอบอีก”

                        “ก็กูไม่ได้ชอบจริงๆ อะ”

                       ลีไม่ได้พูดอะไรนอกจากเอานิ้วเคาะที่เคสโทรศัพท์ให้ผมก้มหน้าลงไปดูมัน

                       ภาพสะท้อนใบหน้าของผม

                        “…”

                        “เฮ้ออออ กูว่ากูขอตัวไปเฮฮาตามภาษากับเพื่อนกับฝูงก่อนนะ” ลีคว้าโทรศัพท์ตัวเองไปจากมือผม “ส่วนมึงก็อยู่รอเจ้าสาวของมึงไปแล้วกัน~”

                        “เจ้าสาวอะไรเล่า!”

                        “บลาๆๆๆๆ พูดไรนะ ไม่ได้ยินนน~”

                       ผมอยากกระโดดถีบขาลอยให้ไอ้คนที่กำลังลากเพื่อนออกจากห้องกลับหอตัวเองแบบไม่ต้องใช้รถใดๆ แม่ง กวนตีนจริงๆ

                       ติ้ง!

                        ‘พี่โยถึงคณะแล้วนะ’

                        ‘ผมกำลังเดินออกไป’ ผมพิมพ์ตอบกลับไปก่อนจะคว้ากระเป๋าเดินออกจากห้องเรียนบ้าง

                       เฮ้อ พวกไอ้ลีพูดอะไรไม่รู้ ไร้สาระครับอย่าไปสนใจ มันก็พูดไปเรื่อยอย่างนั้นแหละครับ คุยไลน์กับพี่เอสผมก็ยิ้มนะ กับพ่อผมก็ยิ้ม กับพวกเพื่อนๆ เองผมก็ยิ้มเหมือนกัน ถึงแม้ว่าตอนที่ผมก้มดูหน้าตัวเองในเคสโทรศัพท์ของลี ผมจะไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าผมกำลังยิ้มอยู่ แต่มันก็ไม่ได้พิเศษอะไรหรอกครับ ยิ้มก็คือยิ้ม ตาเป็นประกายอะไรนั่นก็เหมือนกัน มันจินตนาการไปเอง ไม่จริงสักหน่อย หูเหอแดงนั่นอีก ก็เพราะพวกมันแหละที่เอาแต่ล้อผมอะ!

                       ผมจะ—

                       ติ้ง!

                        ‘อยู่ไหนแล้วครับ?’ 

                        ‘ผมอยู่ตรงที่พี่เคยมาส่งแล้วนะ พี่โยอยู่ไหนครับ?’

                        ‘หันหลังสิ”

                       ควับ

                        “ไง ^^”

                       ตึกตัก

                       ผมจะไปชอบคนที่รู้จักกันได้แค่อาทิตย์กว่าๆ ได้ยังไง…
           





                       TBC
                       พี่โย๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย (กรี้ดใส่โอ่ง) โอ้ย ละมุนละไมเป็นสายไหมสายรุ้งอีกแล้ว ฮือๆๆ มีอีกไหมมีอีกไหมมีอีกคนไหมเธอ TvT ชอบเวลาพี่โยแทนตัวเองว่า พี่โยอย่างนั้น พี่โยอย่างนี้ ละมุนละไมสุดฤทธิ์ กิ้ดๆๆๆ ไม่มีอะไรจะพูดนอกจาก อยากได้เหลือทนค่ะพี่ขาาา
                       เจอกันใหม่ตอนหน้า มีความสุขกับการอ่านนะคะ ขอให้หลับฝันดีทุกคน ปู้น ปู้นนนนน
                       และอย่าลืม ติดตามข่าวสารและการอัพเดทนิยายได้ที่เพจนะจ้ะ คลิก (https://www.facebook.com/nistawriter/)
#B8003
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง [ตอนพิเศษ 4] (25-4-61) !!!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-04-2018 01:20:42
 :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง [ตอนพิเศษ 4] (25-4-61) !!!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 28-04-2018 02:30:41
ที่หนึ่งโตแล้วเหมือนเอสมากเว่อ ควรดีใจหรือเสียใจดีที่ได้ความเด๋อด๋าของเอสมา5555555555 คิดถึงพี่ตุลกับเอสเหมืนกันน้าาา อยากอ่านอีกๆๆๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง [ตอนพิเศษ 4] (25-4-61) !!!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 30-04-2018 09:07:10
เอ็นดูที่หนึ่ง น่ารักเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง [ตอนพิเศษ 4] (25-4-61) !!!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 30-04-2018 09:44:36
น่ารักทั้งคู่ แต่ยังเดาไม่ออกว่าใครโพซิชั่นใด  :o8:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง [ตอนพิเศษ 4] (25-4-61) !!!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: SmileCheek ที่ 01-05-2018 22:18:39
่อ่านรวดเดียวจบเลยชอบมาก พี่ตุล &เอส ว่าน่ารักแล้ว เจอที่หนึ่งกับพี่โย โอ้ยยยยยย :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง [ตอนพิเศษ 4] (25-4-61) !!!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 16-06-2018 08:50:00
พี่โยน่ารักกก เวลาแทนชื่อว่าพี่โยนี่แบบ น่ารักสุดๆ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง [ตอนพิเศษ 4] (25-4-61) !!!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: cookie8009 ที่ 16-06-2018 11:44:40
หายไปเลย มาต่อเร็วๆน้า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง [ตอนพิเศษ 4] (25-4-61) !!!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: curious ที่ 07-07-2018 02:21:37
เรื่องนี้ดีมากกกก /รอพี่โยกับที่หนึ่งอยู่น้า
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง [ตอนพิเศษ 4] (25-4-61) !!!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Keawmikami ที่ 29-07-2018 02:09:38
 :impress2:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง [ตอนพิเศษ 4] (25-4-61) !!!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 19-11-2018 21:53:48
 :hao5: ฉันเสียน้ำตาให้กับเรื่องนี้เยอะมาก ทั้งสุข เศร้า ดีใจมาเต็มมากอ่ะ ขอบคุณจริงค่ะที่มีนิยายดีๆมาให้อ่าน ดีใจ
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง [ตอนพิเศษ 4] (25-4-61) !!!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-04-2020 14:26:43
 :pig4:
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง [ตอนพิเศษ 4] (25-4-61) !!!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำหูู้ปาโก๋ ที่ 17-09-2020 13:19:31
ดีต่อใจจริงเรื่องนี้ มันเรียลมากกกกก  o13
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง [ตอนพิเศษ 4] (25-4-61) !!!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 27-09-2020 09:51:04
ที่หนึ่งครับ  พี่ตามจนมาตอนนี้เเล้ว
ที่หนึ่งกลับมาาา
หัวข้อ: Re: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง [ตอนพิเศษ 4] (25-4-61) !!!!!!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 03-10-2020 15:44:35
ตามมาอ่านอีกรอบ เพราะคิดถึง ^^