หงุดหงิดเวลาบางครั้งลงนิยายไม่ได้อ่าครับ
แต่ก้...นะ จะสู้และเป็นกำลังใจให้โมทุกท่านต่อไป
ระบบของบอร์ดช่วงนี้รวนๆจังเลย
เป็นกำลังใจให้ชาวบอร์ดทุกท่านเลยนะครับ
บทที่ 60
“หา? อะไรนะครับป้าไผ่…นายเมฆิน…นายเมฆินเนี้ยนะจะจัดตั้งโรงเรียน”
ป้าไผ่ยิ้มร่ากับข่าวใหม่ล่าสุด
“ก็ไม่ถึงขั้นนั้นหรอกค่ะ แต่นายเมฆจะเป็นผู้จัดตั้งโครงการส่งเรื่องเพื่อร้องขอสถานศึกษาประจำชุมชน”
ชนินทร์ค่อนข้างอึ้ง
“เพราะอะไรกันนะ ป้าไผ่พอจะรู้มั้ยครับ?”
“อืม นายคงเห็นว่าเด็กๆลูกของคนงานส่วนใหญ่ไม่ได้เข้าโรงเรียน ถึงบางคนเข้าเรียนแต่ก็ไม่ค่อยมีเงินทองเท่าไรเพราะโรงเรียนอยู่ไกลบ้าน”
“อย่างนี้จะเรียกว่าผีเข้าหรือผีออกดี...”
ชนินทร์พึมพำ
ป้าไผ่เดินคล่องแคล่วไปหน้าเตา
“โธ่คุณนินคะ ให้โอกาสนายเมฆหน่อย นายเธอเปลี่ยนไปมาก นายไม่ได้มีนิสัยเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว คุณนินควรจะมองนายในแง่…ที่แตกต่างบ้างนะคะ”
ชนินทร์หงุดหงิดไปกับเสียงสดใสของป้าไผ่ หงุดหงิด…หมั่นไส้ นายซาตานตอนนี้กลายเป็นพ่อคนดีของใครต่อใครซะหมดแล้ว…อะไรหลายๆอย่างเปลี่ยนแปลงไม่เหมือนก่อน
“ผมไม่เชื่ออย่างนั้น…”
“คุณนินต้องให้อภัยนายค่ะ” ชนินทร์เบิกตามองป้าไผ่ที่ยิ้มกว้าง “สักวันหนึ่ง?”
ตอนนี้คนงานทุกคนรักและเคารพนายใหญ่อย่างแท้จริง…คงเพราะเมฆินรูปโฉมใหม่ในคราบเทพบุตร โอบอ้อมอารี จริงใจ อ่อนโยน แต่ยังคงความเที่ยงตรงและลักษณะแห่งความเป็นผู้นำเต็มเปี่ยม
เด็กๆชอบเมฆิน คนงานผู้หญิงก็แอบชอบเมฆิน…ชนินทร์รู้ บางคนถึงกับวางแผนจะให้ลูกสาวรุ่นๆของตนไปโปรยเสน่ห์เมฆิน…
เมฆินไม่เกรี้ยวกราด หากแต่จะมั่นคงราวต้นไม้ร่มครื้นแผ่กิ่งก้านกว้างใหญ่…
ชนินทร์พยายามทำไม่สนใจ
ส่วนคุณผกานั้นสุขภาพดีขึ้นทุกวัน กระทั่งตอนนี้กลับมาดูมีน้ำมีนวลสมวัย คอยดูแลธุระงานภายในบ้านช่วยเหลือลูกชาย
“คุณนินไม่ดีใจหรือคะ?”
“ก็…ดีใจครับ เด็กๆต้องเรียนหนังสือ ผมเห็นว่าบางคนเลยวัยเรียนตั้งหลายเดือนแล้ว แต่พ่อแม่พวกแกไม่มีเงิน”
“แต่น้ำเสียงคุณนินไม่ได้ภูมิใจนายเมฆ?”
“ผม…รู้สึกเฉยๆ อีกอย่างมันเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องทำตั้งนานแล้ว”
“นายคงยุ่งๆน่ะคะ…แต่หมู่นี้นายเมฆเธอบ่นว่าเมื่อไรคุณนินจะยกโทษให้เธอ?”
ชนินทร์เผลอตัว หันไปสนใจตาเบิกกว้าง
“เขาพูดอย่างนั้นเหรอครับ?”
ป้าไผ่หัวเราะเสียงใส
“ค่ะ เธอชอบมาปรึกษาบ่อย พร่ำเพ้อท่าทางน่าสงสารมากๆทุกทีเลยค่ะ”
แววตาของชนินทร์ฉายความรู้สึกผิดลึกๆ…ก้มหน้าหนี
“เขาก็พูดไปแบบนั้นแหละครับ…”
“ไหนจะชอบมาถามว่าคุณนินพูดอะไรถึงเธอบ้างอีกต่างหาก”
“…”
โรงครัวตกอยู่ในความเงียบ มีเพียงเสียงน้ำแกงเดือดปุดๆ และเสียงป้าไผ่หยิบจับนู่นนี่
ชนินทร์ถอนหายใจออกมาในที่สุด
“เฮ้อ…ทำไมนายเมฆินไม่เลิกยุ่งวุ่นวายกับผมสักทีนะ ทั้งๆที่…ผู้หญิงมากมายก็แอบชอบเขา”
ป้าไผ่อมยิ้ม มองไม่เห็นสีหน้าของชนินทร์ แต่ก็รับรู้จากการจับน้ำเสียงได้ว่าอีกฝ่ายกำลังเขินอาย
“หมายความว่าไงคะ?”
“ผมได้ยินว่า…นายเมฆินเนื้อหอมไม่เบา”
“อ้อ!” ป้าไผ่โผล่งเสียงดังลั่น “ที่แท้คุณนินก็หึงผู้หญิงที่มาแอบชอบนายเมฆนั่นเอง”
“มะ…ไม่ใช่นะครับป้าไผ่!”
ชนินทร์รีบขอตัวออกไป ป้าไผ่มองตามแล้วยิ้มขำ
“คนบ้านนี้…มีแต่พวกปากแข็งของแท้จริงๆเลย…เฮ้อ”
ชนินทร์ช่วยคนงานในไร่เก็บองุ่น พวงองุ่นสุกโตฉ่ำเนื้อหวานพวงแล้วพวงเล่าถูกประคองลงมาจากเครือเถาด้วยความถะนุถนอม
เทศกาลเก็บองุ่นประจำปี ฤดูกาลที่ชาวไร่ในแถบละแวกนี้จะเฉลิมฉลองกันอย่างมีความสุข จะมีงานรื้นเริงคล้ายๆงานวัดตามชนบท และมีการประกวดผลงานจากเกษตรกรต่างๆมากมาย
ชนินทร์หลบมานั่งพักที่ร่มไม้ห่างไกลจากผู้คน
ทอดสายตาแบบคนใจลอย…
ทุกอย่างกำลังดำเนินไปได้ดี ลงตัว…
ถึงเวลาแล้วซินะที่เขาจะกลับไปหาความจริง กลับไปสู่ชีวิตที่แท้จริงของเขาสักที
หากชนินทร์ดื้อรั้นจะอยู่ต่อ แม้ว่าหัวใจจะเรียกร้องมากแค่ไหนก็ตาม…แต่เหตุผลนำหน้าเสมอ
สมองสั่งให้เขากลับไป…อันที่จริงควรกลับไปตั้งนานแล้วหรือไม่ควรหวนมาเหยียบย่ำที่นี่อีกเลย
ชนินทร์จะเป็นเพียงเรื่องที่น่าจดจำ แต่ไม่มีวันเป็นตัวตนที่แท้จริงได้
เสียงกรอบแกรบของใบไม้ดังขึ้นข้างหลัง กระนั้นชนินทร์ก็ยังไม่รู้ตัว
“คิดอะไรอยู่เหรอครับ?”
ร่างสูงยืนค้ำเป็นร่มเงา ชนินทร์สะดุ้งก่อนจะลุกหนี
“เดี๋ยวก่อนซิครับ” เมฆินคว้าร่างบางแล้วกล่อมให้นั่งลง ซึ่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก
“เฮ้ยปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ!”
“อยู่เฉยๆก่อน” เมฆินกดใบหน้าลงไปหลังซอกคอ สูดกลิ่นหอมที่เขาเฝ้าฝันถึงทุกค่ำคืน
“นี่คุณเป็นบ้าอะไรนี่?”
“เผอิญเห็นคุณแอบหลบมานั่งตรงนี้ กำลังคิดอะไรอยู่ครับ?”
“คิดว่าเมื่อไรคุณจะเลิกยุ่งกับผมสักทีแล้วไปไกลๆซะ!”
เมฆินหัวเราะพลางกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น
“ไม่มีวัน…ผมไม่มีวันไปไหนจากคุณอีกต่อไป”
มือใหญ่กอดรัดและสามารถสัมผัสได้ถึงหัวใจดวงน้อยที่เต้นเร็วแรงจนน่ากลัว
“เอาล่ะบอกผมหน่อยว่าคิดอะไรอยู่”
ชนินทร์ขมวดคิ้วไม่ยอมตอบ
“คิดถึงผมอยู่ใช่มั้ยล่ะ?”
“เปล่า…”
“แต่ตอนนี้ผมกำลังคิดถึงคุณอยู่นะ…คิดถึงเรา”
ชนินทร์ผละตัวออกมาสุดแรง หันกลับมากล่าวเสียงดัง
“เก็บความคิดของคุณไว้ตรงนั้น…ผม ผมไม่อยากให้ใครเข้ามาได้ยินเข้า ผมไม่ชอบและจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคุณรู้ไว้ซะด้วย”
“ถ้าทำได้นะครับ…แต่บังเอิญจังว่าตอนนี้คนงานในไร่รู้หมดแล้วว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน คุณทราบดี”
ชนินทร์กำหมัดแน่น ใบหน้าแดงก่ำ เมฆินยิ่งหัวเราะชอบใจ
“ใครบอก…พวกผู้หญิงในไร่กำลังต้องตาต้องใจคุณ…เอาเวลาไปหาเลือกมาสักคนเถอะ!”
ปลายเสียงสูงขึ้นราวประชด กอดอกหันหลัง เมฆินยิ้มกริ่มสุดจะห้าม
“ครับ? คุณคิดว่าผมจะยอมรับผู้หญิงพวกนั้นหรือ?”
“ใครจะไปรู้…อ๊ะ! ผมไม่รู้หรอก จะถามทำไม!”
ชนินทร์โมโหที่ถูกต้อนจนมุมอีกแล้ว หันกลับมาวาดหมัดใส่เมฆิน ซึ่งเป็นอีกครั้งที่เขาคว้าข้อแขนเรียวไว้มั่นทันการ
“ผมไม่มีวันคิดถึงใครทั้งนั้น ยกเว้นคุณ”
“…พิมพาล่ะ คุณเอาพิมพาไปไว้ที่ไหน”
“ผมกับเขาไม่เคยเกี่ยวข้องกันและจะไม่มีวันเกี่ยวข้อง”
เมฆินกล่าวเน้นย้ำทีละคำ สายตาจดจ้องลึกล้ำไม่ละไปไหน
“ฮึ! เชื่อก็โง่แล้ว”
เมฆินปล่อยแขนเรียวเพราะเจ้าตัวบิดจากข้อนิ้วแข็งราวคีมเหล็กเกิดเป็นรอยแดง กัดริมฝีปากกลั้นเสียงหัวเราะ
“แล้วคุณล่ะครับ…อย่าบอกน๊าว่ากำลังคิดถึงไอ้เด็กทัตเทพนั้นอยู่?”
“ชะ ใช่! ผมคิดถึงนายทัตอยู่ เพราะผมรักเขามาก รักเขามากๆๆเลยด้วย อุ๊บ!-…”
ริมผีปากเล็กอิ่มสีแดงถูกทาบทับประกบด้วยริมฝีปากของเจ้าของร่างสูงใหญ่ มือของเมฆินข้างหนึ่งสอดรับเอวคอดไว้ไม่ให้ร่างบางล้มลงเพราะฤทธิ์ของจูบอันร้อนแรง ส่วนอีกข้างรวบข้อมือและกุมไว้ข้างหลัง
เป็นการสยบอันราบคาบ การยอมแพ้ที่แสนหอมหวาน ชนินทร์แทบทานรับลิ้นอุ่นๆและค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นร้อนระอุนั่นไม่ไหว แทบหลอมละลายกลายเป็นอากาศคาอ้อมแขนเขาเยี่ยงนี้
เมฆินถอนจุมพิต แววตากรุ้มกริ่ม
“นายเด็กนั่นทำแบบที่ผมทำได้หรือเปล่า?”
แววตารบ่งบอกว่าไม่…ทัตเทพไม่มีวันเทียบชั้น ราวกับฟ้าและเหวลึก…
ใบหน้าครามเข้มโน้มต่ำลงมาอีกครั้ง คราวนี้…จากสายตาที่ทอดมองหากชนินทร์ยอมแพ้ คงไม่มีหนทางรอดพ้นจากน้ำผึ้งที่ซาตานมอบให้…แสนอ่อนหวานทว่าอันตรายร้ายกาจ
“ปล่อย!”
เสียงแผ่วเบา แต่ชนินทร์ก็เอาตัวออกมาจากอ้อมแขนแกร่งได้ในที่สุด จ้องหน้าเมฆินที่ออกอาการงงๆก่อนจะวิ่งหนีไป
นายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ ตะโกนไล่หลัง
“คุณหึงผมต่างหากชนินทร์ คุณกำลังหึงหวงผมอยู่!”
ร่างบางลับตาไปแล้ว เมฆินกำมือแน่น…รอยจูบช่างทรงอาณุภาพรุนแรง สมองของเขามึนงงไปกับรสหอมหวานนั่นซะหมด นึกอะไรไม่ออกได้แต่ยิ้มร่าอยู่ตรงนั้นคนเดียวนานนับนาที…
โปรดติดตามตอนต่อไป