บังเอิญ...มันแน่นอก
หลังจากที่เราย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันได้พักใหญ่ๆ ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะลงตัวเป็นไปได้ด้วยดี ตื่นเช้ามาเราก็ออกไปทำงานพร้อมกัน ถึงแพนจะเลิกงานก่อนก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะคนน่ารักก็จะกลับห้องมาทำนู้นทำนี่ไว้รอทานข้าวเย็นพร้อมกัน แล้ววันไหนเบื่อๆ อยากไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกบ้าง ทั้งสองก็จะจูงมือกันไปหาร้านอาหารบรรยากาศสวยๆ ไว้ทานดินเนอร์ ช่างเป็นชีวิตคู่ที่ไม่ว่าใครมาได้ยินเป็นต้องพูดว่าอิจฉา
แต่จะให้หนทางรักมันโรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างเดียวก็ดูจะเพ้อฝันไปซักหน่อยใช่ไหม แน่นอน คนสองคนอยู่ด้วยกันความคิดความชอบก็ใช่ว่าจะเหมือนกันไปหมด แล้วทั้งชอร์นและแพนเองก็เป็นคนธรรมดาๆ คนนึง จะไม่ให้มีเรื่องไม่พอใจกันได้ไง ก็แล้วไอ้เรื่องที่ว่าเนี่ยมันเรื่องไหน ตรงนี้สิน่าคิด เพราะคู่นี้เขาออกจะหวานซะขนาดนั้น
ชอร์นเป็นผู้ชายที่อบอุ่นมาก และคำว่าอบอุ่นเพียงคำเดียวก็คงจะไม่พอ เพราะเขาทั้งอ่อนโยนและเป็นสุขภาพบุรุษ แต่ถึงชอร์นจะได้ชื่อว่าอ่อนโยนมากยังไงก็มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ชอร์นไม่ถนอมแพนเลย
เป็นรอยอีกแล้ว...เรื่องบนเตียงชอร์นชอบเอาแต่ใจ พูดแล้วมันก็อดเขินไม่ได้ เขาไม่ได้ซาดิสหรือวิปริตชอบใช้ความรุนแรงกับคู่นอนหรอกนะ แต่เขา...แรงเยอะ
เอ่ยถึงเรื่องนี้ทีไรแพนเป็นต้องหน้าแดงทุกที เพราะนึกไปถึงภาพตอนที่ชอร์นไม่มีเสื้อผ้าติดตัวซักชิ้นกับเสียงครางกระเส่าแล้วมันเขินพิลึก
ชอร์นชอบทำรอยรัก..
เพราะเขาคิดว่ามันเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเขาและแพนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน และอีกอย่างคือความแข็งแรงกว่าด้วยชาติพันธุ์ทางตะวันตกทำให้ชอร์นไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยสักทีกับกิจกรรมนี้ แล้วแพนที่เป็นคนตัวเล็กเป็นทุนเดิม เวลาโดนชอร์นบีบนู่นจับนี่เป็นต้องมีรอยทิ้งไว้ตลอด แถมเช้าวันต่อมาของกิจกรรมนี้แพนก็กลายเป็นลูกลิงน้อยไปไหนมาไหนไม่ได้ ต้องให้ชอร์นอุ้มไปมาเสมอ เป็นเรื่องที่แพนหนักใจจริงๆ กับผู้ชายที่ชื่อชอร์น
จะบอกยังไงดีนะ... แพนคิดไม่ตกกับเรื่องนี้มาหลายวัน ครั้นพอจะเล่าให้ฟังก็เข้าอีหรอบเดิม คิดถึงเรื่องนั้นแล้วหน้าแดงจนเรียบเรียงเป็นคำพูดไม่ได้ เลยทำให้เวลาล่วงเลยมาจนถึงปานนี้ แพนจนปัญญาถึงที่สุดจนต้องหาคนมาให้คำปรึกษา และคนๆ นั้นก็คือ
“ฮัลโหลไอ้นัท ว่างป่ะวะ?”
‘เออ ว่าไง’
“กูถามหน่อยดิ มึงกับแฟนเคยมีปัญหาเรื่องบนเตียงป่ะวะ”
‘ฮ่าๆ ทำไมวะ ไอ้ฝรั่งนกเขาไม่ขันเรอะ’
เสียงขำจากปลายสายทำให้แพนอดหน้ายู่ไม่ได้ ไม่ขันบ้าไรวะ...ไม่ยอมลงเสียมากกว่า
“ไม่ ไม่รู้ดิ กูว่ากูกับเขามีบ่อยเกินไปว่ะ”
‘โอยยย...ไอ้คุณแพนครับ แฟนมึงเพิ่งยี่สิบกว่าๆ นะครับ ไม่ใช่วัยแง้มฝาโลง อย่าไปซีเรียสมากเลย’
“แต่ของอย่างนี้มันเกิดจากความสมัครใจของทั้งสองฝ่ายไม่ใช่รึไง ก็ตอนนี้กูเริ่มไม่แฮปปี้แล้วด้วย”
‘เออๆ แล้วมึงจะทำไง จะไปขอเขาอย่าเพิ่งมีเซ็กกันช่วงนี้เหรอวะ เหี้ย! เป็นกูอกแตกตายแน่ๆ’
“ก็ถ้าเขารักกู มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นไหมล่ะ ถ้าเขาไม่ยอมก็แสดงว่าเขาคิดกับกูแค่เรื่องนั้น”
‘งั้นมึงก็คุยกับเขาดีๆ ล่ะ ไม่ใช่ไปตัดฉับไม่เอาๆ ถึงจะรักยังไงก็ถ้าไม่มีเหตุผลก็ไม่ไหวนะเว้ย’
คำพูดของนัททำให้แพนฉุดคิดกับตัวเองว่าที่เราขอร้องเรื่องนี้มันจะดูงี่เง่าในสายตาเขาหรือเปล่า แต่ว่าถ้าชอร์นรักเขาจริงก็น่าจะเข้าใจนะว่าเขาทำแบบนี้ไปทำไม
“อือ ขอบใจมาก กูไปทำงานละ”
‘เออ บาย’
แพนยิ้มแล้วจ้องมองโทรศัพท์หลังวางสายจากเพื่อนรัก นัทมันก็เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน แล้วก็ไม่นึกรังเกียจเพื่อนอย่างเขาด้วย ตั้งแต่มันรู้ว่ารสนิยมเขาเป็นยังไงมันก็ไม่เคยตีตัวออกห่างเขาเลย เขาเป็นเขาเสียอีกที่ละอายใจเวลายืนข้างมัน จนถึงตอนนี้มันก็ยังคอยให้คำปรึกษาเขาเสมอมา
“มีอะไรเหรอครับ ทำไมยิ้มเชียว” เสียงเรียกด้านหลังทำให้แพนหันไปมอง
“ชอร์น! เลิกงานแล้วเหรอ” รีบเดินเข้าไปหาทันทีที่รู้ว่าเป็นใคร
“ครับ ว่าแต่เมื่อกี้คุยกับใครเหรอ อารมณ์ดีเชียว”
“อ๋อ คุยกับไอ้นัทน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”
จะบอกได้ยังไงล่ะว่าคุยเรื่อง....
“อืม..แล้วแพนเลิกงานยัง?” ชอร์นเอียงคอแล้วยิ้มมุมปาก ขอบอกเลยว่า....หล่อมาก
“อื้อ! เดี๋ยวขอไปเก็บกระเป๋าแป๊ป”
“ครับ” อีกคนรีบวิ่งไปที่ห้องทำงานทันทีเพราะไม่อยากให้อีกคนคอยนาน
***********
“วันนี้ได้ไปถ่ายที่แม่น้ำเจ้าพระยาเหรอ” เสียงใสถามอีกคนอยากตื่นเต้น
“ครับ วันนี้เป็นสารคดีแนวส่งเสริมการท่องเที่ยวน่ะ” ชอร์นที่ทิ้งตัวพิงโซฟาหันมาตอบอีกคนที่ยกจานผลไม้มาวางไว้
“หูย..ว่าแล้วก็อยากไปนั่งเรือ ไม่ได้นั่งชมวิวที่นั่นนานแล้ว” ท่าทางสนใจระคนตื่นเต้นทำให้ชอร์นอดที่จะยีผมอีกคนด้วยความเอ็นดูไม่ได้
“งั้นว่างๆ เราไปนั่งเรือกันนะ”
“จริงนะ!”
ชอร์นพยักหน้ารับ แพนจึงขยับไปกอดคออีกฝ่ายแล้วหอมแก้มทั้งสองข้างพลางพูดว่าน่ารักที่สุดด้วยความเคยชินเมื่อชอร์นตามใจ แต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งชอร์นก็ไม่อาจหักห้ามใจตัวเองได้เลย เวลาที่ร่างน่ารักเข้ามาใกล้เขาทีไร หัวใจมันก็สั่นรั่วเหมือนกลองถูกกระหน่ำตี ไหนจะผิวหนังที่โผล่พ้นชายกางเกงขาสั้นที่สัมผัสกับหน้าแข้งเขาอีก เขาอดไม่ได้ที่ยื่นมือไปแตะจริงๆ
“ชอร์น...” แพนเอ่ยขึ้นเมื่อมือใหญ่นั้นคืบคลานเข้าใกล้ชายกางเกง
“ผมน่ารักแล้ว ไม่ให้รางวัลผมหน่อยเหรอครับ” จมูกโด่งเป็นสันไล้ไปทั่วนวลหน้าแผ่วเบา สูดดมกลิ่นกายอ่อนๆ เข้าไปเต็มปอด
“ก็ให้ไปแล้วไง” น้ำเสียงแผ่วเบาในท้ายประโยคยิ่งทำให้ชอร์นสติเตลิดไปไกล
“นั่นคนละรางวัล” พูดจบชอร์นก็ประกบริมฝีปากบางด้วยปากของเขาเอง ก่อนที่อีกคนจะหาเรื่องลบหนีการให้รางวัล
ชอร์นค่อยๆ ดันร่างในอ้อมกอดเอนตัวลงนอนราบบนโซฟา ร่างสูงใหญ่ของเขาคร่อมอีกคนมิดจนแทบมองไม่เห็น สองมือเลื่อนเข้ารุกรานอาณาเขตภายในร่มผ้าอีกฝ่ายอย่างชำนาญ แพนได้แต่บิดกายไปมาด้วยอีกปัดป่ายไปส่วนใดนั่นยิ่งทำให้ตัวเองร้อนรุ่ม
“อือ..อืม”
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้กางเกงขาสั้นที่แพนตั้งใจว่าจะใส่นอนนั้นร่นไปอยู่ตรงข้อเท้าเรียบร้อยแล้ว แถมเสื้อยืดตัวบางก็ถูกเลิกขึ้นสูงกองไว้ที่หน้าอก ชอร์นมัวเมาไปกับตุ่มไตสีชมพูทั้งสองข้าง ขบเม้มจนคนใต้ร่างส่งเสียงครางหวานให้ได้ยิน มือใหญ่ลูบไล้หน้าท้องเนียนก่อนจะเคลื่อนตัวไปสัมผัสที่กางเกงในตัวจิ๋ว
“ชอร์น! ไม่! ไม่! หยุด!”
แพนลืมตาโพลงได้สติทันทีที่รู้สึกว่ามือของชอร์นกำลังจะเลื่อนเข้าในไปชั้นในตัวเอง สองมือดันไหล่อีกคนที่หยุดทุกอย่างทันทีที่ได้ยินเสียงร้องจากเขา แพนฝืนความวาบหวามที่ยังติดตรึงจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เข้าที่ก่อนจะเขยิบไปชิดโซฟาอีกฝั่ง
“แพนมีอะไรครับ?” ชอร์นถาม สีหน้าของเขาบ่งบอกว่างง และตกใจกับการกระทำคนตรงหน้ามาก
“คือ...วันนี้..เราอย่าเพิ่งมี..เลยนะ”
“...” ชอร์นเอียหน้าสงสัยจนแพนเริ่มลำบากใจ
“คือ..ยัง ยังไม่หายปวดเอวเลยอ่ะ นะๆ ชอร์น...ไม่สงสารแพนเหรอ” งัดไม้ตายทำตาโตบีบน้ำตาใส่ซะเลย ทำเอาชอร์นทำหน้านิ่ง
“ผมขอโทษนะครับ ปวดมากมั้ยคนดี”
ได้ผลเกินคาด นอกจากชอร์นจะหยุดกิจกรรมสุดหรรษาแล้วยังตรงเข้าไปตระกองกอดแพนเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างนุ่มนวล เอื้อมมือปัดไรผมอย่างแผ่วเบานวดตามเนื้อตัวอีกคนให้ผ่อนคลาย
“อือ..” แพนส่งเสียงครางเครือส่ายหน้าเบาๆ อ้อนอีกคนให้อุ้มไปนอนที่เตียง ซึ่งนายชอร์นก็ยินดีปฏิบัติอย่างเต็มที่
ชอร์นค่อยๆ วางร่างนวลลงบนเตียงอย่างแผ่วเบาแล้วไปกดปิดสวิตซ์ไฟก่อนจะขึ้นมาสวมกอดอีกคนที่นอนรออยู่ กิจวัตรที่เขาจะต้องทำก่อนนอนทุกคืนก็คือหอมแก้มคนรัก จุมพิตเบาๆ แล้วกระซิบรักข้างหู และวันนี้ก็เช่นกัน
“ฝันดีนะครับคนดีของผม”
“อื้อ ชอร์นก็เหมือนกันนะ” แพนจุ๊บแก้มอีกฝ่ายเบาๆ แล้วซุกเข้ากับอกอุ่น
***********
“เป็นไงวะครับไอ้คุณแพน ประกาศเคอร์ฟิวคุณชอร์นว่าไง” เสียงทักของไอ้นัทมาแต่ไกลตั้งแต่ยังเดินผ่านหน้าร้านข้าวไม่กี่ก้าวด้วยซ้ำ
....ไอ้นัทกูอายเขา....“มึงจะตะโกนหาพระแสงไรวะ” แพนด่าเพื่อนทันทีที่มันเดินมาถึงโต๊ะ
“เอ๊า! ก็กูเป็นห่วงว่าเพื่อนรักรอดจากเนื้อมือฝรั่งไซต์ยักษ์ได้รึเปล่า เป็นไงบ้างวะเมื่อคืน” ท้ายประโยคนัทโน้มตัวมากระซิบข้างหูแพนจนรู้สึกสยิวกิ้ว
“ไอ้นัท! จะกระซิบหาพ่อง! พูดดีๆ ก็ได้”
“เออๆ เล่ามาดิ” นัทเปลี่ยนโหมดจากขี้เล่นเป็นจริงจังทันที
แพนเล่าเรื่องราวตั้งแต่เจอคนรักอยู่ทำงานตอนเย็นไปจนถึงตอนที่หนังดูสารคดีที่ชอร์นเปิดให้ดู แล้วก็เกือบจะได้ปั่มปั๊มกันแต่ยังดีที่แพนได้สติหยุดไว้ได้
เพี๊ยะ!!
“บ๊ะ! มึงนี่ไม่ธรรมดาแต่แฟนมึงนี่ขั้นกว่า น้องชายกึ่มๆ ขนาดนั้นนี่กูต้องขอไปเข้าห้องน้ำบ้างล่ะ ยังใจเย็นนอนกอดมึงได้ไงวะ” นัทตบเข่าแล้วเลื่อนมาท้าวคางอย่างเท่ห์ๆ แต่คำพูดของมันนี่สิ...
ป๊าบ!
“หนอย...ไอ้นี่ เขาไม่ใช่มึงโว้ย”
“ฮ่าๆๆ”
นัทหัวเราะใส่เพื่อนรักอย่างไม่อายโต๊ะข้างๆ ซึ่งก็เรียกความสนใจจากคนในร้านได้เป็นอย่างดีจนไปถึงคนด้านนอกที่ยืนมองผ่านกระจกไปยังคนทั้งคู่
***********
“จำไว้นะครับไอ้คุณแพน มึงน่ะเป็นคนที่โคตรจะโชคดีสุดๆ แล้วที่ได้คนรักน้ำใจงามมาดคุณชายอย่างไอ้ชอร์น กูแม่งไม่เคยเห็นใครเอาอกเอาใจใส่ดูแลมึงสารพัดเท่ามันมาก่อน แค่เขาเอาแต่ใจกับมึงเรื่องนี้เอง แถมมันไม่ได้ซาดิสต์อะไรซักหน่อย อย่าคิดมากน่า”แพนฉุกคิดถึงคำพูดของเพื่อนสนิทที่กล่าวไว้กับตัวเองเมื่อตอนกลางวัน พอมาคิดดูดีๆ แล้วมันก็จริงอย่างที่นัทว่า ชอร์นไม่ได้สร้างปัญหาอะไรที่น่าหนักใจให้แพนเลย กลับเป็นตัวเองที่คิดเล็กคิดน้อยมากขนาดนี้
...นี่เราเป็นคนเอาแต่ใจขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย...
“สงสัยวันนี้ต้องเอาใจคุณแฟนหน่อยแล้ว” ยิ้มกับตัวเองก่อนจะรีบเข้าบริษัท
ติ๊งต่อง!เสียงเปิดประตูก้องพร้อมกับร่างบางที่มีของพะลุงพะลังเต็มไม้เต็มมือไปหมด อุตส่าห์รีบเคลียร์แล้วไปซื้อของซุปเปอร์มาร์เก็ตกะทำอาหารเย็นเซอร์ไพรส์ชอร์นเย็นนี้ เอาใจคุณแฟนซักหน่อยหลังที่ความคิดเล็กคิดน้อยของตัวเองทำให้ไม่ได้ทำการบ้านด้วยกันหลายวัน
“อืม...เริ่มจากอะไรก่อนดีนะ”
ด้วยความที่อยู่คนเดียวมานาน ครั้งจะทำอาหารอิตาเลี่ยนไว้กินใต้แสงเทียนนี่คงจะไม่เป็นผล แพนเลยทำอาหารง่ายๆ แต่ได้ประโยชน์ดีกว่า มีเวลาไม่มากแต่ก็พอทันที่ชอร์นจะกลับมาที่ห้องพอดี
ใช้เวลาพอสมควรกับมื้อค่ำของวันนี้แต่ก็เป็นที่น่าประทับใจ อาหารสามสี่อย่างถูกจัดเรียงไว้บนโต๊ะอาหารเรียบร้อย แถมวันนี้มีของพิเศษเป็นไวน์องุ่นที่แอบไปซื้อมาแช่ตู้เย็นไว้ เดาเลยว่าชอร์นจะต้องพอใจแน่ๆ หันไปมองดูนาฬิกาเป็นเวลาหกโมงสิบนาที รถคงติดชอร์นถึงยังไม่มา
รีบเข้าครัวหาฝาครอบมาปิดอาหารไว้แล้วย้ายตัวเองไปนั่งรอที่โซฟา แพนยอมรับเลยว่าตื่นเต้นมากๆ เพราะน้อยมากที่จะลุกมาทำอะไรแบบนี้ วันนี้ชอร์นต้องบอกว่าจะให้รางวัลแน่เลย แค่คิดก็เขินแล้ว
***********
“คุณชอร์นยังไม่กลับอีกเหรอคะ?” หญิงสาวในแผนกถามอย่างสงสัยคนที่กลับบ้านตรงเวลาทุกครั้งยังอยู่ที่โต๊ะทำงาน
“ยังครับ วันนี้ผมว่าจะทำโอที”
“แหม วันนี้แฟนไม่อยู่เหรอคะ ปกตินี่กลับเร็วเชียว” เย้าว่าอย่างไม่จริงจังแต่กลับทำให้คนฟังพูดไม่ออก และชอร์นก็แสร้งหัวเราะกลบเกลื้อนกลับไป
“งั้นพี่กลับก่อนนะคะ อย่าหักโหมมากล่ะ”
“ครับ สวัสดีครับ”
ติ๊ง!!เสียงข้อความจากไลน์ดังขึ้น
PAN : ถึงไหนแล้วค้าบบ =w=
ชอร์นกดอ่านข้อความจากแพนที่ส่งมาก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไป
CHOHN : วันนี้คงกลับดึกนะครับ มีงานค้างไว้ (:
ติ๊ง!! PAN : ดึกมากมั้ยครับ?
CHOHN : ไม่แน่ใจครับ แพนนอนก่อนเลยนะครับ
...นอนก่อนเลยเหรอ...
แพนนั่งอ่านข้อความในโทรศัพท์ก่อนจะหันไปมองอาหารที่วางเรียงรายอยู่โต๊ะ แล้วถอนหายใจออกมา ...เป็นหมันซะแล้วอาหารเรา...
“ช่างเถอะ หนักเย็นซักวันนะเรา”
***********
(มีต่อค่ะ)