LOVE (extra) HIGH STORY – 10 – Happily Ever After?ยามเช้าวันถัดมา ในห้องพักของโรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่งใจกลางตัวเมืองเชียงใหม่
กีต้าร์นอนลืมตาอยู่ในอ้อมกอดอุ่นของรุ่นพี่ร่างสูงคนสนิทที่กำลังหลับอยู่แนบกาย เขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่เข้าออกเป็นจังหวะประสานกับจังหวะยุบพองของอกกว้างที่แนบชิดแผ่นหลังของเขา ถึงแสงอาทิตย์จะฝ่าลอดม่านเข้ามาได้ไม่มาก แต่ก็สว่างพอที่จะช่วยให้เขาเห็นรอยคิสมาร์กสีแดงช้ำบนข้อมือซ้ายที่ร่างสูงทำไว้เมื่อคืน
“แม่ง... บอกว่าอย่าก็ไม่ฟัง เป็นรอยแล้วเนี่ย”
กีต้าร์นึกบ่นอยู่ในใจกับ ‘บทรัก’ ของเขากับรุ่นพี่คนสนิทที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แต่นึกๆ ไปก็เขินจนหูแดงอยู่คนเดียว เมื่อเผลอไปนึกถึงสีหน้าเร่าร้อนของหนุ่มรุ่นพี่ร่างสูงในช่วงที่กำลังมีอะไรกัน... แค่คิดถึงภาพใบหน้านั้นก็ได้ยินเสียงนุ่มทุ้มที่พร่ำเรียกชื่อของเขาดังก้องอยู่ในหัว... เซ็กซี่ชะมัด
แต่ไม่รู้นึกอะไรอีท่าไหน ถึงมีหน้าแม่ตุ้มโผล่เข้ามาในหัวซะงั้น ทำเอาความเขินแตกกระเจิง บทรักแตกกระจายหายวับไปทันที... เฮ้ออออ ข้อมือนี้จะให้แม่เห็นไม่ได้เลยเชียว
กีต้าร์ขยิบตาถี่ๆ ไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัวก่อนจะค่อยๆ แกะตัวเองออกจากอ้อมกอดของรุ่นพี่ร่างสูงแล้วไปนั่งบิดขี้เกียจอยู่ที่ขอบเตียง แต่บิดได้แค่ไม่เท่าไรก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองโป๊อยู่ ว่าแล้วก็จ้ำไปก้มเก็บกางเกงบ๊อกเซอร์ของตัวเองที่กองอยู่บนพื้นหน้าห้องน้ำมาสวม
“ฮ่ะๆๆๆๆ จะใส่ทำไมวะเนี่ย ยังไงก็จะอาบน้ำอยู่แล้ว” กีต้าร์นึกขำตัวเองที่มัวแต่อายว่าตัวเองโป๊เลยรีบหาบ๊อกเซอร์มาใส่ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วก็ต้องถอดอาบน้ำอยู่ดี นึกขำตัวเองเสร็จก็ส่ายหัวให้ตัวเองอีกสองสามทีแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปแปรงฟัน... แปรงไปก็จ้องสำรวจตัวเองไป รอยจ้ำจางๆ บนแผงอกทำให้รู้สึกอยากกระทืบรุ่นพี่ร่างสูงขึ้นมาตะหงิดๆ... ทำไมชอบทำให้เป็นรอยนะ ฮืมมมมมมม... ทันใดนั้นเอง
เฮือก! ไม่รู้ว่าร่างสูงเดินเข้าห้องน้ำมาตั้งแต่เมื่อไร แต่พอละสายตาจากรอยคิสมาร์กบนตัวของตัวเองเท่านั้นแหละ เขาก็เห็นหนุ่มรุ่นพี่คนสนิทมายืนโป๊ยิ้มหราอยู่ข้างหลังโดยจ้องและส่งยิ้มมาให้ผ่านกระจกเงาบานใหญ่หน้าอ่างล้างหน้า...
“อองอะไอ ไอ้อีเอือย (มองอะไร ไอ้ชีเปลือย)” กีต้าร์เอ่ยถามร่างสูงผ่านกระจกเงาทั้งๆ ที่กำลังแปรงฟันฟองเต็มปาก เห็นร่างสูงมายืนโป๊เต็มๆ ตาแบบนี้มันเขินจนต้องหลบตาแล้วก้มหน้าก้มตาแปรงฟันต่อไป
“...” โบ๊ทไม่ตอบอะไร เอาแต่ยืนยิ้มตาหยีให้ผ่านกระจกเมื่อเห็นร่างเล็กเขินจนหูแดง
“อ่าอะอ้า (ท่าจะบ้า)” กีต้าร์เบ้ปากเล็กน้อยก่อนจะก้มลงไปบ้วนปากและล้างแปรงสีฟัน แต่ยังไม่ทันได้เงยหน้าขึ้นจากก๊อกน้ำ เอวเล็กก็โดนสวมกอดจากข้างหลัง ด้วยความตกใจเลยดีดตัวเงยหน้าขึ้นมา แต่ยังไม่ทันได้โวยวายอะไรก็โดนร่างสูงจูบปิดปากเสียก่อน
“อรุณสวัสดิ์” โบ๊ทเอ่ยทักทายหลังจากทักทายด้วยริมฝีปากไปก่อนแล้ว
“อรุณ... สวัสดิ์...” กีต้าร์ตอบรับเสียงเบา
“เขินไร” โบ๊ทถามพร้อมรอยยิ้มทะเล้น
“ยังจะมาถามอีก ใครให้มายืนโทงเทงแบบนี้วะเนี่ย กางเกงก็ไม่ใส่”
“แฟนกันจะอายอะไร ไอ้ที่เห็นๆ เนี่ยเอ็งก็เห็นมาหมดแล้วทั้งนั้นแหละ แถมจับหมดแล้วด้วย”
“อ๊ากกกกก ไอ้หื่นนนนนนนน พูดอะไรออกมาเนี่ย หน้าไม่อาย!!!”
“เอ้า ก็จริงอะ ไอ้ที่เห็นๆ เนี่ย ก็ของเอ็งทั้งนั้น”
“ของผม? หมดเลย?”
“อืม ทุกสัดทุกส่วน ทั้งตัวและหัวใจเลย” โบ๊ทหยอดคำหวานพร้อมขยี้ด้วยรอยยิ้มเท่
“ดี... งั้นคว้านเอาตับเอาไตออกมา ผมจะเอาไปขาย ท่าทางจะได้หลายตังค์ ฮ่าๆๆๆ” กีต้าร์เล่นมุขแก้เขิน
“โหหหหห ใจร้ายวะ”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
“แล้ว... ไอ้เปี๊ยกแสบเนี่ย มีตรงไหนเป็นของโบ๊ทบ้างนะ” โบ๊ทไม่พูดเปล่า ตีหน้าเศร้าเรียกความเห็นใจ แต่มือนี่เลื่อนไปถึงขอบกางเกงบ๊อกเซอร์ของร่างเล็กเรียบร้อยโรงเรียนลิง แต่ไอ้เจ้ากีต้าร์ก็รู้ทัน รั้งข้อมือของร่างสูงไว้ได้ก่อนจะกล่าวติดตลกกลบเกลื่อนความเขิน
“ไม่มี ฮ่าๆๆๆๆๆ... หัวจรดเท้าของคุณโบ๊ทเป็นของผม และหัวจรดเท้าของตัวผมก็เป็นของผม ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
“อะไรว้าาาาา แบบนี้โบ๊ทก็เสียเปรียบดิ”
“...” กีต้าร์ไม่ตอบอะไร เอาแต่ยิ้มแล้วหมุนตัวหันเข้าหารุ่นพี่ร่างสูง ท่าทางเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง
“...”
“ไม่เสียเปรียบหรอก...”
“...”
“เพราะอะไรที่เป็นของผม... ผมยอมให้คุณโบ๊ททุกอย่างแหละ” กีต้าร์พูดเสียงเบา เอาแต่อมยิ้มแล้วหลบตา และไล้นิ้วไปบนไหล่ของร่างสูงอย่างเขินๆ
“...” โบ๊ทยิ้มกว้างกับสิ่งที่ได้ยิน นานๆ จะได้ยินคำหวานหลุดออกจากปากของไอ้เจ้าเปี๊ยกสุดแสบนี้สักที ว่าแล้วก็จูบเข้าที่ขมับของกีต้าร์อย่างอ่อนโยนก่อนจะดึงร่างเล็กมาสวมกอดแน่นๆ
“คุณโบ๊ท... ผมว่า... กอดแน่นไปนะ” กีต้าร์พูดเสียงอู้อี้ เพราะโบ๊ทกอดแน่นขนาดที่หน้าของกีต้าร์มุดติดไปกับช่วงไหล่ใกล้ต้นคอเลยทีเดียว
“ฮ่ะๆๆๆๆๆ ก็เอ็งมันน่ารักอะ” ไม่พูดเปล่า ร่างสูงยิ่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีกจนร่างเล็กต้องร้องจ๊าก เพราะมันเข้าขั้นท่ารัดลำตัวของนักมวยปล้ำกันเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆๆ
หลังจากที่กีต้าร์งัดตัวเองออกจากอ้อมกอดของโบ๊ทได้แล้ว ก็พยายามดันโบ๊ทออกจากห้องน้ำ แต่พยายามจนจะหมดแรงก็ยังไม่สามารถเอาลิงตัวโตตัวนี้ออกจากห้องน้ำได้ สุดท้ายต้องปล่อยเลยตามเลย... อาบด้วยกันก็ได้วะ
“สระผมให้หน่อยดิ” เพิ่งเริ่มอาบก็อ้อนซะแล้วนะโบ๊ท
“สระเองดิ” กีต้าร์ตอบปัด อยากรีบอาบให้เสร็จๆ เพราะมายืนโป๊อาบน้ำต่อหน้าโบ๊ทแบบนี้มันเขินสุดๆ ทั้งๆ ที่ก็อาบด้วยกันมาตั้งหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่เคยไม่เขินเลยสักครั้ง
“ไม่รู้แหละ ถ้าเอ็งไม่ตามใจโบ๊ทนะ อย่าหวังว่าจะได้ออกจากห้องน้ำนี้เลย เอาสิ” โบ๊ทยื่นคำขาดพลางยักคิ้วยียวนให้กีต้าร์
“โอยยยยยยย อย่ามัวแต่เล่นได้ไหมคุณโบ๊ท นี่มันจะเลยเวลาอาหารเช้าแล้วนะ เขาเปิดให้กินถึงแค่เก้าโมงนะ รีบๆ อาบจะได้ลงไปกินให้ทันไง”
“ก็ถ้าเอ็งตามใจโบ๊ท ป่านนี้ก็สระเสร็จไปแล้วเนี่ย”
“ก็เว่อร์ไป ยังไม่ถึงนาทีนึงเลยเหอะ”
“มันจะผ่านไปอีกหลายนาทีเลยแหละ ถ้าเอ็งยังดื้อ”
“โหยยยยยย คนที่ดื้ออะไม่ใช่ผมซะหน่อย นุ้นนนนน คนที่อยู่ในกระจกนุ้นนนนนน คุณโบ๊ทไปดูสิ”
“ฮ่าๆๆๆๆ ไอ้เกรียน”
“ไม่ใช่ๆ ไอ้เกรียนก็อยู่ในกระจก ไปส่องดูสิ ฮ่าๆๆๆๆ”
“ไม่ไป จะอยู่ตรงนี้แหละจนกว่าเอ็งจะตามใจโบ๊ท”
“โอ๊ยยยยยยยย พ่อคุณมหายอดลิงภูเขา!!! มา!!! สระให้ก็ได้วะ” ก่อนจะตามใจก็ขอเหน็บสักที
“ดีมาก”
“ก้มลงมาสิ” กีต้าร์เทยาสระผมใส่มือ แต่ยึดตัวสระมันดูลำบากชอบกล
“...” โบ๊ทไม่ได้ก้มหัวตามที่กีต้าร์สั่ง แต่โน้มหน้าลงมาใกล้หน้าใสพร้อมรอยยิ้มหวาน ทำเอากีต้าร์ใจเต้นรัวจนต้องสระผมให้ร่างสูงทั้งๆ ที่หันหน้ามองไปทางอื่น เอาแต่หันหูแดงๆ ให้โบ๊ทมอง... เห็นเช่นนั้นโบ๊ทก็อดแกล้งไม่ได้ ว่าแล้วก็เลยขบเบาๆ ที่ใบหูแดงๆ นั่น
“เฮ้ย!!! เชี่ย!!!” กีต้าร์ผงะตกใจจนเผลอสบถออกมาเต็มปาก
“ฮ่ะๆๆๆๆๆ”
“ไอ้ลิงหื่นเอ้ยยยยยยย นี่แน่!! ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” กีต้าร์หมั่นไส้สุดพลัง เลยใช้มือที่เต็มไปด้วยฟองขาวๆ ลูบเข้าที่หน้าและปากของร่างสูงจนฟองเต็มหน้าไปหมด
แล้วมีเหรอที่โบ๊ทจะปล่อยให้กีต้าร์ลอยนวลยืนขำอย่างสะใจอยู่อย่างนี้? ไม่มีทางซะหรอก ภาพต่อมาเลยกลายเป็นศึกมวยปล้ำอยู่ใต้ฝักบัว โดยมีเสียงหัวเราะร่าของทั้งสองหนุ่มเป็นดนตรีประกอบ
กว่าจะได้ฤกษ์พากันออกจากโรงแรมก็ปาเข้าไปเกือบ 11 โมง อาหารเช้าของโรงแรมก็ลงไปไม่ทันเวลา เลยต้องพากันตะลอนหาร้านอาหารเพื่อเติมพลังลงกระเพาะกันก่อนยิงตรงกลับดอยเต่า...
สองหนุ่มขับวนมาเจอร้านอาหารล้านนาฟิวชั่นส์เปิดใหม่ในซอยเล็กๆ บนถนนนิมมานฯ... ร้านนี้ทำจากไม้เป็นเรือนสมัยใหม่ขนาดกลาง ติดกระจกโดยรอบร้านเพื่อให้ได้บรรยากาศโปร่งสบาย และช่วยให้ร้านดูใหญ่ขึ้น หน้าร้านมีที่จอดรถไม่มากนัก ส่วนหลังร้านเป็นลานและสนามหญ้าเล็กๆ ที่เชื่อมต่อกับโซนร้านค้าขายของหลากชนิด
ในขณะที่สองหนุ่มกำลังนั่งรออาหารกันอยู่นั้น กีต้าร์ก็หันไปเห็นฝูงนกกระจิบฝูงใหญ่บินลงมากินอาหารบนสนามหญ้าหลังร้าน ว่าแล้วก้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหมายจะถ่ายรูปช่วงเวลาน่ารักๆ ของฝูงนกกระจิบนี้ไว้สักหน่อย แต่ตรงที่นั่งอยู่นี้ก็อยู่ไกลไปนิด เลยต้องลุกเดินออกจากร้าน แล้วค่อยๆ ย่องเข้าไปใกล้ๆ ฝูงนกกระจิบ
โบ๊ทเห็นท่าทางของกีต้าร์ก็ช่วยลุ้นอยู่ในใจ แต่ก็อดนึกขำไม่ได้กับท่าทางของร่างเล็กที่กำลังพยายามย่องเข้าใกล้ฝูงนก ว่าแล้วก็เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอัดวีดิโอไว้สักหน่อย ซึ่งสุดท้ายแล้วก็นับว่าโบ๊ทตัดสินใจถูกที่ถ่ายวีดิโอไว้ เพราะได้เห็นวินาทีที่ฝูงนกบินแตกฮือหลังจากที่กีต้าร์พยายามเข้าใกล้ ส่วนไอ้เจ้าเปี๊ยกก็โวยวายใส่นกไปตามประสาก่อนจะเดินกลับมาด้วยสีหน้าขัดใจ
“โดนนกแกล้งเหรอเอ็ง ฮ่าๆๆๆๆ”
“แม่ง เดินเข้าไปอีกนิดเดียวก็จะถ่ายได้แล้วอะ”
“แล้วทำไมเอ็งไม่ซูมเอาอะ”
“เออวะ ลืม”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไอ้เปี๊ยกเอ้ยยยยย”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ... เห? นี่อัดคลิปอยู่เหรอ”
“อือ นี่ก็กำลังอัดอยู่”
“อ๊ากกกกก หยุดถ่าย!! ลบเดี๋ยวนี้เลยนะ!!!!! ลบบบบบบบบบบบ!”
“ไม่! จะเก็บไว้ให้ไอ้ทีกับไอ้โจดู ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
“อย่านะ! ลบเลยยยยยยยย!”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ”
ในเมื่อขอดีๆ แล้วโบ๊ทไม่ยอมลบ กีต้าร์เลยลุกขึ้นแล้วเดินอ้อมโต๊ะไปหาร่างสูงเพื่อแย่งโทรศัพท์ แต่โบ๊ทเคยมีบทเรียนมาก่อนแล้ว จึงหวงโทรศัพท์ยิ่งชีพ ยังไงก็จะไม่ยอมให้ไอ้เปี๊ยกเอาไปลบคลิปนี้เป็นอันขาด พอไอ้เปี๊ยกเริ่มรุงรังมากๆ ก็เลยหนีเข้าห้องน้ำแล้วล็อคเสียเลย และโบ๊ทก็ใช้เวลาที่อยู่ในห้องน้ำนี่แหละ ก็อปปี้คลิปเข้าไปเก็บไว้ใน dropbox ซึ่งเป็นที่เก็บไฟล์ออนไลน์... มั่นใจว่าไอ้เปี๊ยกไม่มีทางเข้ามาลบคลิปนี้ได้อย่างแน่นอน... ประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำ~
ส่วนไอ้เปี๊ยกอะเหรอ หลังจากที่ทำอะไรไม่ได้เพราะโบ๊ทหนีเข้าห้องน้ำไป ก็เลยมานั่งหน้าบูดอยู่คนเดียวที่โต๊ะ แต่ไอ้หน้าบูดนั่นก็หายวับทันทีที่อาหารทยอยมาเสิร์ฟ เพราะเป็นอาหารล้านนาฟิวชั่นส์ จึงมีหน้าตาที่แปลกตาไปจากที่เคยเห็น แถมแต่ละจานก็ไซส์ใหญ่ๆ ทั้งนั้น ไอ้เจ้าเปี๊ยกก็เลยตื่นตาตื่นใจจนเผลอลืมเรื่องคลิปไปเลยทีเดียว
.
.
.
ช่วงบ่าย ระหว่างทางกลับบ้านแม่ตุ้มที่อำเภอดอยเต่า
“โหยยยยยย ใช้ตังค์ไปเยอะเหมือนกันนะเนี่ย” กีต้าร์บ่นอุบเมื่อเปิดกระเป๋าสตางค์แล้วพบว่าเงินที่แม่ตุ้มให้มาเหลืออยู่ไม่มากนัก พอนึกๆ ดูแล้วก็ไม่เห็นว่าจะได้ซื้อของอะไรมาเยอะแยะขนาดนั้น แต่พอลองนึกๆ ดูดีๆ ว่าใช้เงินไปกับอะไรบ้าง ในหัวก็มีแต่ภาพของกินทั้งนั้น สรุปคือหมดเงินไปกับอาหารและขนมนั่นเอง โดยเฉพาะอาหารล้านนาฟิวชั่นส์ที่เพิ่งจัดเต็มกันมาหมาดๆ สูบเงินในกระเป๋าไปไม่น้อย
“ก็เอ็งมันกินเก่งนี่ เมื่อวานก็กินทั้งวัน แล้วจะใช้ตังค์น้อยได้เหรอเปี๊ยก” สารถีร่างสูงเอ่ยขึ้นอย่างรู้ดี เพราะแต่ไหนแต่ไรมา ไอ้เปี๊ยกที่เขารู้จักก็ขึ้นชื่อเรื่องกินเก่งอยู่แล้ว
“ธ่อออออ เมื่อวานไม่ใช่ผมคนเดียวสักหน่อยที่กินทั้งวัน คุณโบ๊ทก็เหมือนกันนั่นแหละ ก็กินอยู่ด้วยกันตลอดอะ ไม่ได้น้อยไปกว่าผมหรอก”
“เหรอครับคุณเปี๊ยก ไอ้ที่ว่ากินด้วยกันตลอดเนี่ย ‘โบ๊ทหนึ่งคำ กีต้าร์สามคำ’ ทั้งนั้นเลยนะครับ ฮ่ะๆๆๆๆๆๆ”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ไม่รู้แหละ ถือว่าทุกอย่างมูลค่าหารครึ่ง”
“เดี๋ยวจะฟ้องแม่”
“แม่คุณโบ๊ทอะเหรอ”
“แม่ตุ้มเนี่ยแหละ”
“ฮ่าๆๆๆๆ ขี้ตู่ว่ะ มาเรียกแม่ผมเป็นแม่ตัวเองเฉยเลย”
“ก็ลูกเขยอะ ก็ต้องเรียกว่าแม่สิ หึหึ”
“เฮ้ยๆๆๆๆ พูดให้ถูกนะ อย่างคุณโบ๊ทนะต้องเรียกว่าสะใภ้ต่างหาก ฮ่าๆๆๆๆ”
“อืมมมมมม ท่าทางเอ็งนี่จะสับสนไม่หาย สงสัยต้องจอดข้างทางทบทวนบทบาทกันหน่อยแล้วล่ะ ท่าทางเมื่อคืนจะยังไม่เคลียร์ หึหึหึ”
“ไอ้...!!! ว้อยยยยยยยยย” กีต้าร์โวยวาย หน้าขึ้นสี
“ฮ่ะๆๆๆๆ”
“...แม่ง... ขับไปเลยไป มัวแต่หัวเราะ เดี๋ยวก็เสยเสาไฟหรอก”
“ฮั่นแน่ คิดอะไรลามกอยู่แน่ๆ หูแดงเชียววววว”
“ไม่ใช่สักหน่อย!!!”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ” กีต้าร์เถียงไม่ออก เลยได้แต่สบถเบาๆ แล้วก้มหน้าลงไปนับเหรียญในมือแก้เขิน แต่จู่ๆ ไอ้เจ้าเปี๊ยกก็อุทานขึ้นมาเสียงสูง “ฮึ่ยยยยยย” เพราะเจอเหรียญแปลกๆ ปนอยู่กับเศษเหรียญในกระเป๋าสตางค์
“อะไร เปี๊ยก” โบ๊ทเอ่ยถามพลางละสายตาจากถนนมามองด้วยความสงสัย
“คุณโบ๊ทดูนี่ดิ” กีต้าร์หยิบเหรียญหน้าตาประหลาดขึ้นมาโชว์ให้ร่างสูงดู
“อะไรอ่ะ”
“เหรียญยูโร”
“เออ ดูผ่านๆ เหมือนเหรียญสิบบ้านเราเลยเนอะ”
“ใช่ สีคล้ายๆ กันเลยอะ แต่เหรียญยูโรใหญ่กว่านิดนึง” กีต้าร์ไม่พูดเปล่า หยิบเหรียญสิบไทยขึ้นมาเทียบ
“มูลค่าต่างกันมากด้วย เพราะนี่มันเหรียญ 2 ยูโร”
“เหรอ กี่บาทอะ”
“ก็ประมาณ 80-90 บา... เฮ้ยยยยยย” เพราะร่างสูงมัวแต่หันมามองเหรียญ ไม่ได้มองทาง เลยเกือบเข้าไปเบียดเกาะกลางถนน แต่ก็ยังดีที่หันมาเห็นทันเลยหักพวงมาลัยให้รถเบี่ยงออกมาอยู่ในเลนปกติทัน
“เชี่ยยยยยย!!! คุณโบ๊ทอะ เกือบแล้วไหมละ” กีต้าร์สบถด้วยความตกใจ
“ฟู่วววววว ตกใจหมดเลย เกือบสอบเกาะกลางแล้วไหมละ ฮ่ะๆๆๆๆ” โบ๊ทเองก็ตกใจ แต่ก็หัวเราะแห้งๆ กลบเกลื่อนไปงั้น
“ยังจะหัวเราะอีก... อ้าว...”
“อะไร”
“เหรียญหายอะ ตอนตกใจเมื่อกี๊คงหลุดมือกระเด็นไปไหนแล้ว”
“ตกไปใต้เบาะหรือเปล่า หรือเมื่อกี๊เอ็งยื่นมาให้โบ๊ทดู มันตกลงไปตรงแถวๆ เกียร์หรือเบรกมือหรือเปล่า”
“อืมมมมมม เดี๋ยวลองหาดู” กีต้าร์ลองก้มดูตามที่โบ๊ทบอก แต่ก็ไม่เห็น
“เจอไหม”
“ยัง.... อะ นั่นไง!!” กีต้าร์ไล่สายตามองหาจนทั่วบริเวณเกียร์และเบรกมือแต่ก็หาไม่เจอ จนไปสะดุดเข้ากับเหรียญสิบที่ตกอยู่ตรงซอกกางเกงตรงหว่างขาของโบ๊ท
“เฮ้ย มาตกตรงนี้ได้ไง... เฮ้ยยยย ไอ้เปี๊ยก ทำอะไร!!” โบ๊ทตกใจเมื่อจู่ๆ กีต้าร์ก็ล้วงมือลงมาที่เบาะตรงหว่างขาของเขา
“ก็เมื่อกี๊เหรียญสิบมันอยู่แถวๆ นี้ แปลว่าเหรียญยูโรก็ต้องตกลงไปแถวๆ นี้แหละ” กีต้าร์กล่าวหน้าตาเฉย
“งั้นเอ็งก็หาดีๆ ก่อนดิ เล่นล้วงมาแบบนี้ เดี๋ยวโบ๊ทน้อยก็ตื่นหรอก”
“ไอ้หื่นนนนนนน”
“ยังอีก ไอ้เปี๊ยกกกกกกกก เอ็งจะควานหว่างขาโบ๊ทอีกนานไหม”
“อย่าคิดลึกดิวะ ไอ้ลิงภูเขา!!”
“นี่เอ็งยั่วกันใช่ไหม ห๊ะ????”
“ตลกแล้ว ขับๆ ไป ขับดีๆ ถ้าคุณโบ๊ทดิ้นแบบนี้เดี๋ยวก็ขับไปสอยต้นไม้หรอก โว๊ะ!”
“ไอ้เปี๊ยกกกกกกกกกกก”
ภาพสุดท้ายเป็นภาพของรถ 4WD สีดำขับส่ายไปมาบนถนนที่มุ่งหน้าไปอำเภอดอยเต่าก่อนจะเบี่ยงเข้าจอดข้างทางแล้วตามมาด้วยเสียงโหยหวนของหนุ่มร่างเล็กและเสียงหัวเราะหื่นของหนุ่มร่างสูง... ส่วนไอ้เหรียญยูโรที่ไอ้เปี๊ยกกำลังหาอยู่นะเหรอ มันไม่ได้ตกอยู่หว่างขาของโบ๊ทเขาหรอก แต่ตกอยู่บนกันฝุ่นตรงที่รองเท้าใกล้ๆ กับคันเร่งต่างหากละ และตอนแรกที่ไอ้เจ้าเปี๊ยกมันมองไม่เห็นนั่นก็เพราะว่า ตรงคันเร่งมีเท้าของโบ๊ทบังอยู่นั่นเอง ฮ่าๆๆๆๆๆ
หนทางกลับบ้านแม่ตุ้มนั้นคงอีกไม่ไกล แต่หนทางของเขาทั้งสองหลังจากนี้ไปยังอีกยาวไกลนัก หลังจากนี้ยังมีบททดสอบอีกมากมายที่พวกเขาต้องร่วมกันฝ่าฟัน... จะสุข จะทุกข์ หรือมันจะเป็นอย่างไรก็ล้วนขึ้นอยู่กับโชคชะตาและการตัดสินใจของเขาทั้งสอง
ณ วันนี้ที่รู้แน่ๆ คือตอนนี้พวกเขามีความสุขร่วมกัน... ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่า “พวกเขาเป็นความสุขของกันและกัน” ต่างหากละ แต่จะ happily ever after หรือไม่ก็ช่างหัวมันปะไร แค่พวกเขาทั้งสองคนมั่นใจในวันนี้และเต็มที่กับทุกนาทีที่เป็นปัจจุบัน เท่านั้นก็เรียกว่า “รักกันจนคุ้มแล้ว” แหละนะ
- จบบริบูรณ์ - -------------------------------------------------
FlapJack's GOODBYE
ขอบคุณผู้อ่านทุกคนนะครับที่ติดตามเรื่องนี้ อาจจะตามมาจาก LOVE HIGH STORY หรือคลิกผิดเข้ามาเจอก็แล้วแต่ ฮ่าๆๆๆ
ท้ายนี้คงไม่ได้พูดอะไรมาก นอกจาก ขอโทษที่อัพช้า และขอบคุณมากๆ นะครับที่เอ็นดู "ไอ้เปี๊ยกกับไอ้คุณโบ๊ท"
ส่วนใครที่สนใจซื้อ LOVE HIGH STORY ไว้ประดับชั้นหนังสือก็ซื้อได้ที่ >> UNIX BOOK << นะครับ
สำหรับวันนี้ LOVE (extra) HIGH STORY ก็ต้องลากัน ณ ตรงนี้นะครับ ขอบคุณครับ