ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2. ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
เวป ไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
******************************************************
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคล สมาคม หรือเหตุการณ์จริงแต่ประการใดทั้งสิ้น
สงวนลิขสิทธิ์เฉพาะเนื้อหาตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
[เรื่องสั้น] รักก่อนจากลา 14 กุมภา ภาค สิ่งที่ค้นหา วันนี้เป็นวันก่อนวันแห่งความรัก ผมวนเวียนไปมาบนทางเส้นนี้หลายต่อหลายครั้ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนแทบจำไม่ได้ว่านานเท่าไหร่
ผมเดินมาเรื่อยๆจนเกือบถึงสะพาน สักพักหนึ่งเรื่องต่างๆ ก็เข้ามาในความคิด........
จริงๆ แล้วดูภายนอกผมเป็นคนร่าเริงมีเพื่อนมากมาย ผมรู้ตัวว่าเป็นเกย์ตั้งแต่อายุน้อยๆ
ด้วยความที่ผมหน้าตาดีเลยมีทั้งหญิงและชายมากหน้าหลายตาเข้ามาแวะเวียนให้ผมได้เลือกคบหา........
ผมค่อยๆคบพวกเขาทีละคนบ้างทีละหลายคนบ้าง มากหน้าหลายตากันไป
ผมมักจะมีความสุขกับทุกคนที่มาเข้าใกล้ผม มาบอกว่ารักผม.....
ผมรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ร่วมรักกับผู้ชายทุกคนที่ผ่านเข้ามาแต่มันก็เหมือนขาดอะไรบางอย่าง
ความรู้สึกหรือความเชื่ออะไรบางอย่าง......
บางครั้งผมรู้สึกเหมือนผมทำหัวใจของตัวเองตกหายไประหว่างทาง หรือเพราะผมวนเวียนบนทางเส้นนนี้มานานแล้วก็ไม่อาจจะรู้ได้
แม้ผมจะได้ร่วมรักกับผู้ชายทุกคนที่ผมอยากได้ รสชาติของกายสัมผัสที่พรั่งพรูเข้ามากลับไม่เคยทำให้ผมได้อิ่มเอมเต็มที่เลยสักครั้ง
มันเหมือนยังว่างเปล่าทุกครั้ง...แม้ทั้งหมดที่ประกอบเป็นผมจะปนเปื้อนไปด้วยคราบของกามกิเลศที่ปรนเปรออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน.......
คงเพราะผมได้อะไรมาง่ายๆ อยากได้อะไรมาก็ได้ ทำให้ผมเหมือนไม่เชื่อในความรัก
ผมรู้สึกว่าผมได้ผู้ชายทุกคนมาง่ายเหลือเกินมันช่างขาดรสชาติ ขาดความท้าทาย ผมไม่ชอบชีวิตเรียบง่ายชอบแต่อะไรที่มันแปลกใหม่
ออกจะหวือหวาซะหน่อยด้วยซ้ำ......
แต่แม้ผมจะพยามปรนเปรอตัวเองเท่าไหร่ด้วยร่างกายของผู้อื่นที่ผ่านเข้ามาเป็นเหยื่อ
ผมจะตั้งใจบริการให้ดีที่สุดเพื่อให้ทุกคนหลงใหลในตัวผม ถวิลหาแต่ผมไม่มีวันตีจากจากผมได้........
แต่สิ่งเหล่านี้มันไม่ได้มีเจตนาที่บริสุทธิ์เลย...
มันยิ่งกลับทำให้ผมถวิลหาความรักจากใจมากขึ้นกว่าเดิม สรรหารักแท้ที่เกินปรกติมากกว่าเดิม
ต้องการสิ่งที่ได้มายากๆ ต้องการทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมคิดว่าดี ตามที่อ่านนิยายมา ผมไม่พิสมัยความเรียบง่ายและความธรรมดา
เพราะผมมองว่ามันเหมือนอาหารที่เย็นชืดไร้รสชาติ ผมฝเ้าแต่คิดว่ามันไม่อาจจะเติมเต็มสิ่งที่ผมเฝ้าวนเวียนหาได้.........
วันนี้ผมนัดเจอกับชายคนหนึ่ง คนที่ผมไม่เคยพบหน้ามาก่อนด้วยซ้ำ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะดีหรือเหมาะสมควรค่ากับผมแค่ไหน
แต่ผมรู้สึกว่าเขาแปลกกว่าทุกคน........
น่าแปลกข้อความเชยๆของเขาที่ส่งเข้ามาให้ผมมันทำให้ผมรู้สึกขำในช่วงแรก.......แต่ยิ่งนานวันไปมันกลับยิ่งเปลี่ยนแปลง...
ความสม่ำเสมอและความหนักแน่นมันคงของเขากลับทำให้หัวใจของผมเริ่มเป็นของเขาทีละน้อยๆ.....
ทุกวันที่เวลาผ่านไปความทรงจำอื่นๆเหมือนค่อยๆลดลงทุกขณะที่ผมวนเวียนอยู่
เวลาเหมือนจะเกาะกินและดูดกลืมผมไปให้หมดสิ้นจากสิ่งที่หลงเหลือ.........
แต่แปลกยิ่งเวลาผ่านไปความมั่นคงของเขากลับยิ่งประทับใจผม ความเรียบง่ายความเชยที่ผมไม่เคยแยแสวันนี้มันกลับหล่อเลี้ยงจิตใจผม
เมื่อรวบรวมพลังจากจิตใจที่หลงเหลือได้ วันนี้ผมตัดสินใจแล้วว่าจะไปพบเขาที่ผมนัดไว้คนนี้ให้จงได้.......
ผมไม่รีรออีกแล้ว.....ผมเห็นชายคนหนึ่งหน้าตาดี แต่ดูเรียบเฉยเหมือนหวาดกลัวและกังวลอยู่ตรงราวสะพาน
แม้มันจะดุไม่ยั่วยวนไม่หวือหวาเหมือนทุกครั้ง แม้ชายคนนี้ไม่หล่อเหมือนทุกคนที่ผ่านมา
แต่วันนี้แม้เหลือเวลาเพียงน้อยนิดผมอาจจะไม่ได้ครองคู่อยู่กับเขาตลอดไป แต่ผมก็เลือกจะเดินไปหาเขาคนนั้น.......
ระหว่างที่ผมคิดใครครวญเขากลับเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน.. “นายหรือเปล่าที่นัดเจอกับเราที่บนสะพานนี่.....”
ผมมองเขายิ้มๆก่อนตอบไป “ใช่เราเองหนะเราก็วนเวียนมานานแล้วนะเพื่อรอนาย”
ผมมองดูนาฬิกาข้อมือที่หยุดเดินมานานแต่ตอนนี้มันกำลังจะผ่านพ้น คืนวันที่ 13 กุมภา ไปยังคืนวันที่ 14 กุมภา...........
ผมรู้สึกชอบพอชายคนนี้อย่างประหลาดตัวผมค่อยเบาๆลงผมรู้ถึงการล่องลอยที่จะมาถึง
วันนี้ผมได้ทำสิ่งติดค้างของผมแล้ว ผมได้ค้นพบแล้วว่ารักที่แท้ไม่จำเป็นต้องยากลำบากไม่จำเป็นมากมาย
ไม่จำเป็นต้องซับซ้อนไม่จำเป็นต้องหวือหวา............เมื่อหมดห่วงแล้วคงได้เวลาแล้วที่ผมจะไปสู่ที่ที่ผมควรจะไป........
เขาถามผมอย่างกระตือรือร้น “แล้วเราดูเป็นยังไงบ้าง.....”
ผมมองหน้าเขาอย่างปิติสุขก่อนตอบเศร้าๆ เพราะตอนนี้คงหมดเวลาของผมแล้ว
“นายดูดีมากเลยนะ หน้าตาน่ารักจัง.......แต่เราว่าเราเจอกันช้าไปแล้วหละ..แต่อย่างน้อยก็ได้เจอแล้วนะ....
อึม......เรากับนายเจอกันวันใหม่พอดีเลยนะ.....วันที่ 14 กุมภา...เราคงต้องไปแล้วนะ......ลาก่อน...”
ผมค่อยๆหันหลังเดินจากเขามาช้าๆ ผมไม่อยากให้เขาผมกับภาพการจางหายของผม
แต่ความปิติในใจไม่อาจจะห้ามได้ มันกำลังส่งผมไปสู่สุขคติ ระหว่างที่กำลังสลายไปผมหันไปมองตีนสะพานที่ผมเคยโดยรถชนร่างแหลกยับเมื่อวันที่
13 กุมภาเมื่อ 1 ปีก่อนแต่วันนี้มันไม่สำคัญกับผมอีกแล้ว เพราะทุกสิ่งทุกอย่างของผมกำลังสลายไปสูความว่างเปล่าอีกครั้งหนึ่ง...
............สู่ที่ที่ผมควรจะไป............
รักก่อนจากลา 14 กุมภา ภาค สิ่งที่หวาดกลัววันนี้เป็นวันก่อนวันแห่งความรัก ผมนั่งทอดสายตามองออกไปไกลอยู่บนระเบียงสะพานสูง........แม้อากาศจะเริ่มร้อนแล้ว
แต่ลมที่พัดมาทำให้หัวใจผมเหน็บหนาวอย่างบอกไม่ถูก.........
จริงๆแล้วมันไม่ใช่ความหนาวเย็นจากภายนอกแต่มันเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนมาจากภายใน พลังจากภายในของผมมันเหมือนมอดไหม้ไปเรื่อยๆ
ทุกวันผมเหมือนถูกเผาให้ตายลงช้าด้วยความเหงา เหงาจนสุดก้นบึ้งของหัวใจ........
ผมได้แต่ทอดสายตามองออกไปจากสะพานไปยังโค้งน้ำที่แสนไกลที่ผมคุ้นเคย แต่มันก็ทำให้ผมต้องรำลึกถึงความเหงาลึกๆ
และความโล่งว่างเปล่าที่มาจากจิตวิญญาณของผม........
เดิมผมเคยมีหน้าที่มีตำแหน่งการงานที่จัดว่าดี แต่วันนี้เหมือนมันไม่ได้ช่วยอะไรผมเลย ผมเคยใช้มันเป็นข้ออ้างในการที่จะไม่ไปพบปะใครๆ
ด้วยกรอบความคิดที่ว่าวันหนึ่งถ้าผมออกไปพบปะผู้คนอย่างเกย์ทั่วไป ใครๆจะไม่ยอมรับผม .......ผมเฝ้าแต่คิดว่าคนอย่างผมคงมีใครรักไม่ได้!!
แต่แท้จริงแล้วมันไม่ใช่แค่ความกลัวจากภายนอกเท่านั้นแต่มันเป็นความต้องการจากภายในใครสักคนที่จะรักผมได้
ปากผมมักบอกกับใครๆว่าคนอย่างผมไม่เป็นที่ต้องการหรอก อย่ามารักผมเลย.....
ผมไล่ทุกคน.......ปฎิเสธทุกคน.......ไม่อยากให้ใครมาเข้าไกล้.....เพราะผมกลัวความผิดหวัง.....
มันรุนแรงเสียยิ่งกว่าอะไรในโลก..ความกลัวที่จะถูกทอดทิ้ง........
ความเหงานั้นทุกข์ทรมานมากมายนักสำหรับผม มันเผาผลาญความรู้สึกและความทรงจำให้ค่อยๆหมดไปช้าๆ
ความเหงามันดูดกลืนพลังของผมเหมือนเป็นกาฝากในจิตใจ แต่แม้มันจะเกาะกินลึกลึกถึงวิญญาณ
ผมก็กลับเลือกความเหงาเพราะมันน่ากลัวน้อยกว่าการถูกทอดทิ้งมากมายนัก.......
ทุกวันนี้ผมล่องลอยอยู่เรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมายโดยมีความเหงาคอยดูดกลืนสติของผมให้หมดลงไปทุกๆวัน
ผมพยามเฝ้ามองหาสิ่งที่ติดค้างในใจตนเองเรื่อยมาแต่บางครั้งก็หายากเหลือเกิน
เมื่อนานมาแล้วผมเคยเริ่มติดต่อกับคนๆหนึ่งที่ผมไม่เคยรู้จักหน้าค่าตาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจาเป็นใคร แต่ไม่รู้อะไรมาดลใจผม
ให้ประทับใจกับเพียงข้อความที่ส่งให้กัน ข้อความซึ้งๆที่บอกว่ารักผม บอกว่าห่วงใยผม.......
แม้มันจะเป็นข้อความที่ฟังดูว่าน้อยนิดแต่มันกลับช่วยเติมเต็มหัวใจผมให้เปี่ยมล้นไปด้วยความหมาย
ผมเหมือนเฝ้ารอมันมานานแสนนานที่จะพบเจอกับสิ่งนี้
แล้วผมก็ได้นัดพบจะเจอกับคนที่ผมติดต่อด้วย....แต่ความกลัวที่จะถูกทอดทิ้งมันทำร้ายผมทำ
ให้ผมมานั่งรออยู่นานแสนนานแต่ไม่กล้าจะเอ่ยปากถามสักที.....ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งหน้าตาดีวนเวียนไปมาอยู่ข้างๆผม
ท่าทีดูเป็นมิตรเหลือเกิน ผมสงสัยเหลือเกินว่าดึกสงัดของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ใครจะมาเดินกลางสะพานเปลี่ยวคนเดียวถ้าไม่ใช่คนที่ผมนัดพบ..........
ผมเฝ้าวนเวียนอย่างไร้จุดหมายที่นี่มานานแล้วในที่สุดวันนี้เวลานี้ผมจึงได้ตัดสินใจบอกไป
“นายหรือเปล่าที่นัดเจอกับเราที่บนสะพานนี่.....” ผู้ชายหน้าตาดีคนนั้นมองมาที่ผม
“ใช่เราเองหนะเราก็วนเวียนมานานแล้วนะเพื่อนรอนาย” ผมอดไม่ได้ที่จะถาม “แล้วเราดูเป็นยังไงบ้าง.....”
ผมถามจบประโยค ผู้ชายคนนั้นยิ้มอย่างเป็นสุขใจอย่างบอกไม่ถูกก่อนตอบผม “นายดูดีมากเลยนะ หน้าตาน่ารักจัง.......
แต่เราว่าเราเจอกันช้าไปแล้วหละ..แต่อย่างน้อยก็ได้เจอแล้วนะ....อึม......เรากับนายเจอกันวันใหม่พอดีเลยนะ.....
วันที่ 14 กุมภา...เราคงต้องไปแล้วนะ......ลาก่อน...” เขายิ้มให้ก่อนภาพของเขาจะค่อยๆจางหายไปในความืดระหว่างดวงไฟบนสะพาน.......
แม้วันนี้ผมถูกปฎิเสธแต่ผมกลับรู้สึกเบาสบายอย่างยอกไม่ถูก ผมพึ่งค้นพบวันนี้เองว่าจริงๆแล้วสิ่งที่ติดค้างในใจผมคืออะไร............
ผมต้องการเพียงที่จะบอกรักใครสักคน รักใครสักคนอย่างไร้เงื่อนไข และลึกลงไปในที่สุดของหัวใจ......
ผมยอมรับตัวตนของตนเองได้และได้บอกออกไปแม้ผลจะเป็นอย่างไรก็ตาม..........
วันนี้ร่างของผมค่อยๆเบาอย่างบอกไม่ถูก มันค่อยๆสลายไปช้า ผมจะได้ไปสู่สถานที่ที่ผมควรไปเสียที
ผมหันไปมองสะพานที่ผมพลัดตกไปเมื่อปีก่อนจนกระทั่งจบลมหายใจแต่ผมก็ยังวนเวียนอยู่ที่นี่
จนกระทั่งวันนี้ผมหมดห่วงแล้ว....ผมยิ้มให้อีกครั้งกับวันแห่งความรัก...........ผมนึก......."วันที่ 14 กุมภา"........ก่อนผมจะจางหายไป