ตอนที่ 3 : ความบังเอิญครั้งที่สาม
“พี่หลินผมฝากเล่มนี้ให้หนูดลด้วยครับ” ตะวันส่งหนังสือภาพดาวเคราะห์ในระบบสุริยะให้กับเจ้าของร้าน เขาตัดสินใจฝากไว้หลังจากพกมาเป็นอาทิตย์ที่สองแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสได้เจอ
“ได้ค่ะ ถ้ามาเดี๋ยวพี่เอาให้ หนูดลต้องชอบมากแน่ๆ”
“ขอบคุณครับ”
“เสียดาย กูอดเห็นหนูดลของมึงเลย” ไทยกับคนโปรดเดินตามตะวันออกมาจากร้าน เขาอยากเห็นว่าเด็กที่เพื่อนเล่าจะน่ารั กน่าชังแค่ไหน
“นั่นสิกูก็อยากเห็น”
“คนโปรดเคยเห็นแล้ว ที่เคยทำหน้าลิงใส่ไง” ตะวันรำลึกความหลังให้เพื่อน
“กูจำหน้าไม่ได้ จำได้แต่ว่าหน้าตาน่ารักดี”
“น่ารักมาก” ตะวันยิ้มเมื่อคิดถึงเด็กชายตัวน้อย
“นี่เจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง เขาข่ายหลงแล้วเหรอวะ ระวังนะแม่เด็กจะเข้าใจผิดเอา” ไทยเตือนเพื่อนด้วยความหวังดี
“เข้าใจผิดอะไร” ตะวันไม่เข้าใจ เขาไม่เห็นว่าจะมีเรื่องอะไรให้เข้าใจผิดได้
“อ้าว ระวังจะเข้าใจผิดว่าจะเข้าหาพ่อเด็กน่ะสิ”
“ไทยก็พูดเรื่อยเปื่อย เราเป็นผู้ชาย”
“โหหห” คนโปรดลากเสียงยาว “ตะวันไม่รู้อะไร เดี๋ยวนี้ผู้หญิงเขาระแวงทั้งผู้หญิงผู้ชาย ดีไม่ดีผู้ชายยิ่งตัวดีเพราะเนียนกว่าจับยากกว่า เลยเพ็งเล็งเป็นพิเศษ”
“จริง” ไทยพยักหน้าเห็นด้วย “เรื่องเพศเดี๋ยวนี้ไว้ใจไม่ได้”
“อืม แต่ไม่ต้องห่วง เราเคยได้ยินคุณเมธพูดว่าอดีตภรรยา คงไม่มีปัญหาแบบนั้น”
“หย่าหรือภรรยาเสียวะ” คนโปรดขมวดคิ้วมุ่น พยายามวิเคราะห์
“กูว่าหย่าชัวร์” ไทยฟันธง
“มึงรู้ได้ไง”
“อ้าวง่ายๆ ถ้าเมียตายไม่มีใครพูดว่าอดีตภรรยาหรอก ส่วนใหญ่ก็เรียกภรรยาเหมือนเดิม แต่ถ้าใช้คำว่าอดีตแปลว่าเลิกกันไปแล้ว ไปโมเมเรียกเขาเหมือนเดิมไม่ได้”
“เออ ไทยพูดมีเหตุผล หรือเรียกอดีตภรรยาเพราะมีเมียใหม่แล้ววะ”
“ก็ถ้าเขามีใหม่แล้วจะพูดถึงคนเก่าให้ตะวันมันฟังทำไมวะ ก็เลี่ยงๆ ไปไม่พูดถึงไม่ดีกว่าเหรอ”
“ไทย” คนโปรดมองเพื่อนตาโต สีหน้าชื่นชม
“หือ”
“ทำไมวันนี้มึงฉลาดวะ”
“เปล่ากูไม่ได้ฉลาด แต่กูแค่ขี้เสือกเลยรู้เยอะ”
“ฮ่าๆ” คนโปรดหัวเราะลั่น แม้แต่ตะวันยังหลุดขำ
“งั้นก็สรุปได้ว่า คุณเมธของมึงเป็นพ่อหม่ายเมียหย่า”
“ไม่ใช่ของเรา!” ตะวันรีบปฏิเสธ พูดแบบนี้มันไม่ดีกับคนอื่น
“วันนี้ไม่ใช่แต่ก็ไม่แน่นะ” คนโปรดทำตาเจ้าเล่ห์ “อย่าบังเอิญครั้งที่สามก็แล้วกัน”
“คืออะไรวะ” ไทยสงสัย “บังเอิญสามครั้งแล้วมันจะเป็นยังไง”
“มึงเสือกยังไงถึงไม่เคยได้ยิน เขาบอกว่าถ้าคนเราบังเอิญเจอกันถึงสามครั้งทั้งที่ไม่น่าเจอ เขาเรียกว่าพรหมลิขิต หรือเนื้อคู่นั่นเอง”
“งั้นกูคงเนื้อคู่ทั้งมหาลัย เดี๋ยวเจอ เดี๋ยวเจอ บางคนบังเอิญเจอหน้าเป็นสิบครั้งแล้วมั้ง จนเดินกับแฟนไปแล้วแม่งยังเจอ”
“มึงนี่ ใครเขาหมายถึงบังเอิญเจอแบบทั่วๆ ไปวะ”
“อ้าว แล้วไอ้ไม่ธรรมดาของมึงมันต้องขนาดไหน พิเศษไม่งอกลูกชิ้นเยอะๆ หรือไงวะ”
“มันต้องบังเอิญที่เป็นไปได้ยากหน่อยสิวะ อย่างของตะวันเนี่ยชัดเจน หนึ่ง บังเอิญแวะร้านหนังสือเดียวกันทุกวันศุกร์เหมือนกัน”
“เออ อันนี้โคตรบังเอิญ” ไทยพยักหน้า ยอมให้ข้อแรกผ่านว่ามันพิเศษจริงๆ
“สอง ดันบังเอิญอยู่หมู่บ้านเดียวกันอีก”
“คนละหมู่บ้าน” ตะวันค้าน
“หยวนๆ ได้ บัตรผ่านยังใช้ด้วยกันได้เลย”
“เออวะ มันบังเอิญไปจริงๆ ด้วย ถ้านับมาจากข้อแรก งั้นตะวันก็เหลืออย่างสุดท้ายสิใช่ไหม” ไทยชักเห็นด้วยกับคนโปรด
“ไม่เกี่ยวหรอก” แต่ตะวันกลับไม่เห็นด้วย เขาไม่เห็นว่ามันจะพิเศษตรงไหน
“ทำไมจะไม่เกี่ยว ไหนตะวันบอกว่าเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไง” คนโปรดจำได้แม่น
“มันก็ต้องกับผู้หญิงสิ” ตะวันเถียงเบาๆ
“หึๆ กูจะพูดในฐานะผู้มีประสบการณ์คนเดียวของกลุ่ม ว่าไม่จริง” คนโปรดยิ้มแป้น นี่คือสิ่งเดียวที่เขาพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าเขารู้จริงกว่าทุกคน
“ไอ้ขี้อวด”
“เขาเรียกว่าเป็นผู้อาวุโส” คนโปรดยักคิ้ว
“มัวแต่พูดเรื่องอะไรก็ไม่รู้ คนโปรดโทรบอกพี่รหัสหรือยังว่าจะไปบ้านเรา” ตะวันตัดบทไม่อย่างนั้นคงหาเรื่องมาเข้าเขาจนได้
“ฉิบหาย” คนโปรดหน้าตื่นรีบหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า “กูลืมบอกพี่รหัสว่าไม่ต้องรอกูจะมาบ้านมึง”
“เรียบร้อย”
“โดนดุไหม” ไทยรอลุ้นอยู่เรื่องเดียว
“ไม่ พี่รหัสบอกจะมารับกู ไม่ต้องนั่งแท็กซี่กลับเอง”
“เหอะ”
“ตะวันฟังไว้นะนี่คือเสียงของคนขี้อิจฉา”
“พอๆ จะเถียงกันทุกเรื่องหรือไง ขึ้นปีสองแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น” ตะวันเร่งฝีเท้าให้รู้ว่าตั้งใจเดินหนี จะได้เลิกเถียงกัน
“กูว่าไม่มีทางดีขึ้น คงทะเลาะกับมันไปจนแก่ตายนั่นแหละ”
“ถูกต้อง ตะวันก็ต้องอยู่ห้ามพวกกูไปจนแก่ตายเลยนะ” คนโปรดกอดไหล่ของตะวัน สามเพื่อนซี้หัวเราะเบาๆ พากันเดินไปยังป้ายรถเมล์ ตะวันมองตรงไปข้างหน้า แถวนี้สินะที่เมธจอดรับเขาคราวก่อน ครั้งที่สามงั้นเหรอ ไม่มีทางเกิดขึ้นหรอกมั้ง
“พี่ใจดี” ตะวันหันกลับไปมอง แต่ไม่เจอเด็กน้อยที่คิดว่าเป็นเจ้าของเสียง เพราะคนโปรดแท้ๆ ทำให้เขาเอากลับมาคิดจนหูฝาด ห้างใหญ่โตแบบนี้แถมอยู่ไกลจากหมู่บ้านที่เขาอยู่ ถ้าเจอกันก็บังเอิญมากเกินไปแล้ว
ตะวันะมาเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าใกล้กับมหาลัยหลังเลิกเรียน เขายังไม่อยากกลับหอจึงคิดจะมาหาภาพยนตร์ดูสักเรื่องหนึ่ง เพื่อนในกลุ่มไม่มีคนไหนว่าง แน่นอนว่าคนโปรดไปกับพี่รหัส ในขณะที่ไทยอยู่ซ้อมฟุตบอลที่มหาลัย เขาจึงมาเตร็ดเตร่เพียงลำพัง
ตะวันไล่สายตาไปเรื่อยๆ เพื่อเลือกภาพยนตร์ที่น่าสนใจ หลังจากวนสายตาขึ้นลงสองสามรอบ เขาตัดสินใจที่จะดูการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่สร้างโดยคนไทย โชคดีที่คนเข้าแถวรอซื้อตั๋วมีไม่มากนัก ไม่อย่างนั้นเขาคงถอดใจ
“พี่ใจดี” เสียงเรียกเบาๆ ตะวันยังอดมองไปรอบๆ ไม่ได้ จนสายตาปะทะเข้ากับร่างสูงที่อุ้มลูกชายไว้ในอ้อมแขน
ตะวันเผยอปากค้าง ไม่อยากคิดว่าเขาจะเจอกับเมธจริงๆ จังหวะการเต้นของหัวใจขยับเร็วขึ้นเรื่อยๆ พรุ่งนี้เห็นทีต้องไปจัดการคนโปรดกับไทย พูดอะไรบ้าๆ ให้เขาคิด
“สวัสดีครับ” ตะวันค้อมศีรษะเป็นการทักทายเมื่อเมธเดินเข้ามาใกล้
“สวัสดีครับ สวัสดีพี่ตะวันหรือยังครับดล” ผู้เป็นพ่อก้มลงบอกลูกชาย
“สวัสดีครับ” เด็กชายยกมือขึ้นระดับอก โค้งศีรษะลง นิ้วโป้งจรดปลายจมูก ตะวันอดทึ่งมารยาทของหนูน้อยไม่ได้ คงต้องชมคนพ่อว่าสอนมาดีจริงๆ
“ตะวันมาดูหนังเหรอ”
“ครับ”
“ผมก็ดูเหมือนกัน พาดลมาดูการ์ตูนฝีมือคนไทย” ตะวันเลิกคิ้วขึ้นสูง เมธเห็นอย่างนั้นจึงเดาได้ทันที
“อย่าบอกว่าดูเรื่องเดียวกันนะ”
“ครับ”
“บังเอิญจริงๆ ตะวันซื้อตั๋วหรือยัง”
“ยังครับ” ตะวันกำลังคิดว่าเขาจะเปลี่ยนเรื่อง ไม่ใช่เพราะไม่อยากเจอ แต่เพราะถ้าคนโปรดกับไทยรู้ว่าดูหนังเรื่องเดียวกันล่ะก็เป็นเรื่องแน่
“ดีเลยครับ” เมธยิ้มกว้าง หยิบตั๋วหนังจากกระเป๋ากางเกงส่งให้ตะวัน “ผมจองเป็นโซฟาคู่พอดี ยอมจ่ายแพงหน่อย เพราะนั่งแบบเก้าอี้ธรรมดาตัวเดียวไม่ไหว เผื่อดลอยากยืดแข้งยืดขา จะจองเก้าอี้ธรรมดาสองตัวก็ยังนั่งเองไม่ได้” “ไม่เป็นไรครับ นั่งกันสองคนน่าจะสบายกว่า” ตะวันรีบปฏิเสธ
“ที่นั่งเหลือเฟือครับ ดลยังตัวเล็ก ส่วนใหญ่จะนั่งตักผมอยู่แล้ว ลงไปนั่งเองแค่แป๊บๆ”
“แต่..”
“ไปเถอะครับ ผมจะได้รู้สึกว่าคุ้มเงิน”
“คือผม..” ตะวันกำลังคิดว่าจะปฏิเสธอย่างไรดี
“ดลชวนพี่ตะวันไปดูหนังกับเราดีไหมลูก อยากให้พี่ตะวันไปด้วยไหม” เด็กชายพยักหน้าสองสามครั้งติด
“งั้นดลชวนพี่ตะวันสิครับ” เด็กชายดลกอดคอพ่อไว้ หันมายิ้มอายๆ ให้กับเขา
“พี่ใจดีไปด้วยกัน” เด็กชายพูดเสียงเบามากแต่ตะวันก็ได้ยินชัดทุกคำ สายตาของหนูน้อยที่มองเขาเป็นสายตาของเด็กที่กำลังรอคอยความหวัง และนั่นทำให้ตะวันไม่กล้าปฏิเสธ
“ครับ”
“พ่อ พี่ใจดีไป” เด็กชายรีบหันไปบอกพ่อด้วยสีหน้าดีใจ
“ดีใจใช่ไหมลูก” เด็กชายซบหน้าลงกับบ่าของพ่อ แหงนเงยหน้าขึ้นมองพ่อ พยักหน้าน้อยๆ
“ดีใจ ดลชอบพี่ใจดี” หนูน้อยยิ้มเอียงอาย ลอบมองเขา หัวใจของตะวันอ่อนยวบ นึกอยากกอดเด็กชายไว้แน่นๆ
“งั้นไปหาที่นั่งรอกันครับ อีกเกือบสามสิบนาที”
“คุณเมธครับ” ตะวันเรียกเอาไว้เมื่อเมธทำท่าจะออกเดิน
“ครับ”
“ขอบคุณมากครับที่ชวน”
“ขอบคุณทำไม ผมดีใจที่เจอตะวัน”
ตะวันรู้สึกตัวเองงี่เง่านิดๆ เขาไม่ควรใส่ใจเรื่องความบังเอิญสามครั้งที่คนโปรดเล่าให้ฟังเลย ระแวงอะไรไม่เข้าเรื่อง เขากับเมธต่างเป็นผู้ชายจะเป็นเนื้อคู่กันได้อย่างไร
“ไปเถอะ” รอยยิ้มที่ส่งมาให้ทำให้ตะวันอดยิ้มตามไม่ได้ บางทีความบังเอิญสามครั้ง อาจนำมิตรภาพดีๆ มาให้เขาแทนก็เป็นได้
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
หลังจากตอนนี้ หนูดลจะมาขอความรักพี่ๆ นะคะ ^^
เรื่องนี้แค่เข้มข้น แต่ไม่ดราม่าน้า รออ่านได้เลย
.
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin