Round 22... ผมขับรถ… โดยมีคนข้างล่างนอนตักหลับตานิ่ง ผมก้มลงไปมองเป็นพักๆ แต่ตามันก็ยังหยุกหยิกไปมา เหมือนคนพยายามหลับ แต่ก็ยังไม่หลับเสียที
“เป็นอะไร”
“…ปวดหัว นอนไม่หลับ” มันบอกเสียงแหบ
ไม่รู้จะตอบยังไง เลยได้แต่ใช้มือที่ว่างอยู่ลูบหัวมัน…มาร์ชเองก็นอนนิ่งให้ผมลูบอย่างว่าง่าย อาการซึมของมันยิ่งทำให้บรรยากาศรอบตัวดูหมองม่นไปด้วย มือใหญ่ลูบหน้าลูบตามันไปเรื่อย มาร์ชหลับตาลงอีกครั้งแล้วยกมือมันขึ้นมาแนบทับมือผมอีกทีหนึ่ง พร้อมกับพูดละเมอเบาๆ ว่า ‘…อุ่นจัง…’ ผมยิ้ม…
ในที่สุดผมก็พามันกลับมาที่คอนโดมัน มือถือไอ้มาร์ชสั่นดังหลายรอบมาก มันหยิบขึ้นมาดู…กดรับ แล้วก็ได้แต่พูดว่า ครับ ครับ …ค่อยวาง จัดการกดปิดแล้วโยนไปเบาะหลังทันที
“พ่อเหรอ” ผมถาม…หลังจากพวกเราเดินเข้าไปในลิฟท์
“เปล่า ทนายของพ่อ นัดกันไปคุยเรื่องมรดกน่ะ” มันพูดเย็นๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“วันไหน”
“พรุ่งนี้”
เงียบ…ผมเองก็ไม่ใช่คนที่พูดมากแต่เดิมอยู่แล้ว พอยิ่งมาเจอสถานการณ์อย่างนี้ยิ่งไม่รู้จะพูดหรือทำอย่างไรให้อีกฝ่ายรู้สึกดีขึ้น โดยส่วนตัวแล้ว ถ้าผมรู้สึกไม่ดี ไม่สบายใจ อยากจะอยู่เงียบๆ โดยไม่มีคนรบกวนมากกว่า…หรืออย่างน้อยก็อยากจะให้มีใครซักคนอยู่ข้างๆ ….แค่อยู่ข้างๆ…แค่นั้นก็พอแล้ว ผมจึงคิดว่าจะทำแบบเดียวกัน
พอเข้าไปในห้อง มาร์ชก็เดินไปเดินมา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู กดนู่นกดนี่ แล้วโทรคุยกับใครสักคน…น่าจะเป็นเรื่องจัดงานศพของแม่…เพราะได้ยินพูดเกี่ยวกับเรื่องงาน เรื่องวัด….ผมจึงปล่อยให้มันคุยไป แล้วเดินไปรินน้ำในตู้เย็นใส่แก้ว ยื่นให้มัน…มันหันมามองแล้วรับแก้วไปดื่ม วางไว้บนโต๊ะสูง แล้วจึงเดินไปมองกระจกแก้ว ดูวิวข้างนอกพร้อมกับคุยโทรศัพท์ไปด้วย
เมื่อกี้ดูในตู้เย็นแล้วไม่มีอะไรเลยวุ้ย…อยู่ไปได้ไงฟะ…เลยตัดสินใจว่าจะลงไปหาซื้ออะไรให้มันกินข้างล่าง แต่ไม่มีโอกาสได้บอกเพราะมาร์ชเองก็คุยโทรศัพท์ไม่หยุด ผมเลยค่อยๆ ย่อง เดินไปเปิดประตู…แล้วจึงปิดประตูลงเบาๆ
หลังจากเดินดูร้านค้าข้างล่างกับเข้า Tops ก็ได้ของติดไม้ติดมือมาเล็กน้อย…เนื่องจากทำอาหารเองไม่เป็น เลยซื้อพวกอาหารสำเร็จรูปที่กินง่ายๆ เข้าเวฟก็กินได้เลยมาซะเต็มไม้เต็มมือ ก็ไม่รู้ว่ามันชอบกินอะไรนี่ครับ เลยซื้อมาเผื่อๆ ไว้….แถมยังได้ผลไม้ ทั้งแอปเปิ้ล องุ่น และส้มมาบำรุงไอ้ตัวแสบด้วย…
ผมขึ้นลิฟท์ ยิ้มบางๆ…คิดในใจว่าจะเอาอะไรให้มันกินก่อนดี ไม่สิ ต้องถามมันก่อนว่าจะกินอะไร ซื้อข้าวต้มกุ้งมาเผื่อด้วย เพราะไม่รู้ว่าจะกินลงหรือเปล่า…ข้าวต้มมันกินง่ายนี่นะ…ถึงกินไม่ลงก็ต้องบังคับให้กินล่ะ ไม่งั้นร่างกายจะแย่เอา…
ค่อยๆ หมุนลูกบิดเปิดประตูเบาๆ มองซ้ายมองขวาเข้าไปข้างในก็ไม่เจอร่างที่ตามหา…ผมจึงถอดรองเท้า ก้าวเข้าไป …หายไปไหนวะ
“มาร์ช” ลองตะโกนเรียกดูหน่อย…เผื่อเข้าห้องน้ำอยู่
แต่แล้วผมก็เห็นไอ้ตัวแสบวิ่งหน้าตื่นออกมาจากห้องนอน…หน้าตามันเปื้อนคราบน้ำตามากมาย ดวงตานั่นเปลี่ยนจากตื่นตระหนกเป็นดุทะมึน แล้วเข้ามากระชากเสื้อผมอย่างแรง
“ไปไหนมา!” มันตะโกนใส่หน้าผม…เหวอสิกรู
“…ไปซื้อของมา” ผมบอกมันตะกุกจะกักเพราะยัง งงๆ อยู่…อะไรวะ ไปซื้อของก็ผิดเหรอ?? รึกรูไปทำอะไรในห้องมันพังวะ…ยังไม่ทันได้แตะอะไรเลยนะเว้ยตั้งแต่เข้ามา แค่เปิดตู้เย็นนิดเดียวเอง
ว่าแล้วก็ยกถุงสีเหลือง มีคำว่า Tops เขียนอยู่ทั้งสองข้างให้มันดู…พร้อมกับทำหน้าเบลอๆ ประกอบ…แต่ในใจแอบยิ้ม…หึหึหึ
“ทำไมไม่บอก!” ถึงผมจะทำเป็นทีเล่นทีจริง แต่มันนี่สิ ยังตะโกนใส่ผมไม่เลิกครับ หัวหูเริ่มแดงละ
“ก็เห็นคุยโทรศัพท์อยู่…” ผมตอบตามความจริง
“…..”
ไอ้มาร์ชเงียบไป…มือสองข้างจากที่กำเสื้อผมแน่นเปลี่ยนมาเป็นเกาะคลายๆ…ซบหน้าลงบนหน้าอกผม
“ต่อไปต้องบอกนะ….”
“อืม”
“ไม่ว่าไปไหน จะทำอะไรต้องบอกนะ”
“ครับ”
ผมยิ้มให้กับคนที่เปลี่ยนจากเกาะเสื้อมาเป็นโอบเอวโดยที่หน้ายังซุกอยู่กับตัวผม…ค่อยๆ ย่อตัวลงวางถุงทั้งสองลงข้างตัว แล้วกอดไอ้คนตรงหน้ากลับ
“ไม่เป็นไรนะ…ไม่หนีไปไหนหรอก” ผมกระซิบบอกที่ข้างหูมัน..ไอ้มาร์ชเริ่มปล่อยเสียงสะอื้นให้ได้ยิน
“….ฮึก…ซัน กูไม่เหลือใครแล้ว…”
“ไม่จริงซักหน่อย…มึงยังมีกูนะมาร์ช”
“…มึงอย่าไปแบบนั้นอีกนะ กูใจหาย…รู้มั้ย ตอนวางโทรศัพท์แล้วมองหา ไม่เจอมึง…กูแทบบ้า”
ผมแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง…นี่เป็นครั้งแรกที่ไอ้มาร์ชพูดแบบนี้ พูดเหมือนมันต้องการผม…แค่นี้ก็ทำให้หัวใจดวงน้อยนี่พองโตจนคับอก
“อืม…ขอโทษนะ” พร้อมกับก้มลงจูบที่ขมับชื้นเหงื่อนั่น…ทั้งๆ ที่แอร์ในห้องก็เย็นเฉียบ แต่คนตรงนี้กลับเหงื่อออกซ่ก …เชื่อแล้วว่าคงวิ่งตามหาขนาดไหน
“กูโทรเข้ามือถือ ก็ไม่มีคนรับ…” เออว่ะ นึกขึ้นเลยมองหา เห็นมือถือเครื่องสีเงินวางอยู่บนโต๊ะ
“ลืมเอาไปน่ะ โทษทีๆ”
“….”
มันไม่ตอบ แต่ต่อยเข้าที่ท้องผมแทน…แต่เบาๆ นะครับ
“ซัน”
“หืม?” ผมขานตอบในลำคอ
“กูเป็นคนเลวนะ นิสัยไม่ดี ชอบใช้กำลัง…แล้วก็เอาแต่ใจ”
“อาฮะ...บอกทำไมเนี่ย รู้อยู่แล้ว 555”
“….” มันทำหน้ายู่ เงียบไปเลย
“อ่ะๆ ครับผม แล้ว…?”
“ซัน”
“ครับ”
“ซัน”
“….” จะเรียกอะไรนักหนาเนี่ย…แต่ผมคิดว่ามันกำลังเรียบเรียงคำพูดในหัวมากกว่า เพราะทำหน้ายุ่งเชียว
“กูเป็นคนเอาแต่ใจสุดๆ ด้วย” มันย้ำอีกครั้ง
“คร้าบ พ่อคนเอาแต่ใจ หึหึ”
“….แล้ว….”
“….?” ผมทำหน้างง รอ…
“…ซัน อย่าทิ้งกูไปนะ”
มันพูดแล้วรีบเอาหน้าซุกอกผมใหญ่…ไม่รู้ว่าอายหรืออะไร แต่สิ่งที่ผมทำได้ตอนนี้นอกจากยิ้มกว้างแล้วคือกอดมันให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้… มันเองก็กอดผมตอบเช่นเดียวกัน
“กูรู้ว่ากูเอาแต่ใจ…แต่แค่ตอนนี้ก็ได้ ตอนนี้อย่าเพิ่งทิ้งกูไปเลย” มันพูดไป มือก็เกาะหลังผมไม่ปล่อย
“ใช่…ไอ้เอาแต่ใจ”
“ถามจริงเถอะ ใครจะไปทนไอ้แสบแบบมึงได้หะ….”
เงียบเลยครับ…
“…นอกจากกูเนี่ย”
มันเงยหน้ามามองอย่าง งงๆ ….
“อีกอย่าง…ถึงไม่บอก กูก็จะหน้าด้านอยู่อยู่แล้วล่ะ” ผมหัวเราะแล้วยิ้มให้มัน พร้อมกับจับมันเหวี่ยงๆ ไปมาทั้งๆ ที่กอดกันอยู่นั่นแหล่ะครับ…โอยยยย อารมณ์ดีเว้ยยย
มาร์ชเองก็ดูมึนๆ ไปพักใหญ่…เงยหน้ามองผม แล้วก็ยิ้มน้อยๆ ออกมา แต่ก็เปลี่ยนเป็นหน้าบึ้งอีกที…
“ฮึ่ย…” มันพ่นลมออกจากจมูกแบบหัวเสีย
“5555”
“หัวเราะไร” เริ่มแล้วครับอาการพาลเนี่ย
“จะบอกให้…ถ้ากูจะทิ้งมึงนะ กูทิ้งตั้งแต่วันแรกแล้ว คนอะไรวะ โคตร…โอ๊ยยย” มันทำร้ายร่างกายผมอีกแล้วครับ แม่งงงงงง
“ไม่ต้องพูดเลย….แล้วหมายความว่าไง ‘คนแบบกู’ เนี่ย”
“อ่าว! ก็เลว นิสัยเสีย ชอบใช้กำลัง เอาแต่ใจ…โอ๊ยยยย” ไม่ทันขาดคำมันก็เตะเข้าที่ขาผมทันที อีกแล้วซี้ดด
“เตะไมเนี่ย!?”
“ด่ากู”
“โหหหหหหหหห ตัวเองเป็นคนพูดเองนะ กูโค้ดคำพูดมาเดี๊ยะๆ เลย” ผมยืนเหย่งๆ ขาเดียว ยกขาข้างที่โดนเตะเอาไว้ ทำหน้าบูดเบี้ยว
“กูพูดได้คนเดียว แต่คนอื่นห้ามพูดเว้ย” มันบอก พร้อมกับดันตัวออกจากผม ยืนมองไอ้กระต่ายขาเดียวแบบขำๆ
“โห โคตรเอาแต่ใจเลยแม่ง…” ผมสถบเบาๆ แต่คงไปเข้าหูไอ้คนข้างๆ เข้า
“…ก็ใช่ไง ยังเปลี่ยนใจได้นะ”
ไอ้มาร์ชเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ….จนผมต้องรีบเงยหน้าขึ้น ตรงเข้าไปคว้าข้อมือมันทันที แต่โดนสะบัดออก ผมรีบจับใหม่ ให้แน่นกว่าเดิม มันพยายามสะบัดอีกที แต่ก็ไม่ออก…ทำหน้ามุ่ย
“ล้อเล่นน่ะ…จะเอาแต่ใจแค่ไหนก็ได้…”
ผมดึงมันเข้ามา…สองมือผมจับอยู่ที่มือสองข้างของมัน ลูบเบาๆ…ใบหน้าเราสองคนแทบจะชนกัน จมูกเกยจมูก..
“…ทำไงได้ล่ะ ก็รักไปแล้วนี่”
หน้าไอ้มาร์ชกลายเป็นสีแดงถือกอย่างชัดเจน…มันรีบสะบัดมือออก แต่ผมไม่ยอม…เรื่องดิ บรรยากาศและท่าทางไอ้ตัวแสบเป็นใจขนาดนี้…
“แต่แย่เนอะ รักเค้าข้างเดียว…ปวดใจชะมัด” พร้อมกับแอ็กติ้งหน้าเศร้าสุดตรีน
“…รู้ตัวก็ดี”
“ไรวะ…ไม่มีเยื่อใยซักนิดอ่ะคนเรา”
“ปล่อยได้แล้ว…หิว” มันยังคงดิ้นไปดิ้นมาสะบัดมือจะหนีลูกเดียว
“ไม่เอา บอกก่อนทำไมอยากให้อยู่”
“ก็…แค่อยากให้อยู่”
“ฟังไม่ขึ้น…บอกใหม่”
“ไรเล่า!”
“เร็วๆ บอกมา”
“ก็แค่อยากให้อยู่ด้วย…กูไม่อยากอยู่คนเดียว…ตอนนี้” มันบอกเสียงเบา จนผมรู้สึกสงสาร แต่ก็ยังอยากทดสอบความรู้สึกมันอยู่นิดหน่อย
“ถ้าแค่ต้องการให้คนอยู่ด้วย…ก็เป็นใครก็ได้ใช่มั้ย ถ้าอย่างงั้นเรียกพี่แดนมาก็ได้นี่ รายนั้นอยากอยู่ด้วยแน่ๆ”
“….ไม่เอา”
“ทำไม”
“มึงจะถามทำไมเนี่ย! ก็รู้เหตุผลอยู่แล้ว!” มันตะโกนเสียงดังใส่หน้าผม พร้อมกับง้างมือทุบแขนผมด้วย
“โอ๊ย…ทำไมล่ะ ไม่รู้ ก็บอกมาสิ”
“เร็วๆ…ไม่งั้นกลับนะ” ไอ้มาร์ชเงียบ ผมเลยไอ้โอกาสขู่…ตอนนี้กรูถือไพ่เหนือกว่าเว้ย
“…..กลับไปเลย”
ทันทีที่มันพูด ผมก็แอบเจ็บจี๊ดที่ใจนะครับ …แต่อาศัยความด้าน และลูกตื้อ (ขี้แกล้งหน่อยๆ) เลยทำเป็นปล่อยมือ กลับหลังหัน และก้าวขาจะเดินกลับจริงๆ …อ๊ะอ๊ะ ไม่ลืมทำหน้าเศร้าสลดด้วย
“เดี๋ยว”
ผมหันหลับไปมองตามเสียง…
“โอ๊ยยยยๆๆๆ”
และนี่ก็คือเสียงผมเองครับ แม่ม ไอ้มาร์ชดันประเคนหมัดรัวใส่ผมไม่ยั้ง อะไรวะ!? นี่กรูแบบกะหันมาแล้วเจอประโยคง้อน่ารักๆ เต็มที่ เกือบอ้าแขนเตรียมรับอ้อมกอดจากอีกฝ่าย….แต่ไหงจากกอดนุ่มๆ เปลี่ยนเป็นหมัดแย็บแทนฟะ??....
“มาร์ช!”
“…ไอ้เลวๆๆๆๆๆ ไอ้เหี้ยซัน ไอ้ชั่ว ไอ้….ไอ้…ลองออกไปจากห้องนี้ดูสิ กูฆ่ามึงแน่!”
เหวอออ อึ้งครับอึ้ง….นี่อะไรเนี่ย ผมได้แต่ยกมือขึ้นปัดป้องหมดที่รัวกระหน่ำลงมาตามตัวบ้าง แขนบ้าง หน้าบ้าง…
แต่พอสติกลับมา…ก็คลี่ยิ้ม
“หึหึ ง้อกันที ทำไมพูดจามะนาวไม่มีน้ำเล้ยยย” ผมส่ายหน้าอย่างระอา
“เออ ไม่มี นี่แหล่ะกู ทำไม จะทำไม หะ หะ” มันทำหน้าเชิดๆ แบบหาเรื่อง หนอย…มันน่าจับจูบนัก
“ไม่ทำไมครับ…นอกจากจะจับปล้ำให้หนำใจ”
ว่าแล้วก็รีบคว้าไอ้ตัวเล็กตรงหน้าเข้ามาในอ้อมกอด ละเลงจูบลงใบหน้ามันไม่ยั้ง
“เอาคืนๆ เมื่อกี้กี่หมัดหะ… จะจับจูบให้เยินเลย”
ปากพูดไป แต่ก็บรรจงไล้จูบไปตามใบหน้ามันจนทั่วครับ ทั้งตา คิ้ว จมูก แก้ม ปาก คาง…เมื่อกี้ทำร้ายร่างกายมากเท่าไหร่ ผมจะทำร้ายมันกลับเท่านั้น และคาดว่าแรงกว่าหลายเท่า เอาให้ครางไม่หยุดเลย หึหึ
“โอยยยย ไอ้บ้า!...อื้อออ”
เสียงต้านทานและด่าทอ มือที่จิกกัดทุบตี กลับกลายเป็นเสียงครางอ่อนๆ และมือเหนี่ยวรั้งเกาะคอผมแน่นแทน…เราแลกจูบกันเนิ่นนาน ลิ้นแลกลิ้นจนเมื่อย ผมจึงละออกจากปากนุ่มของมัน แล้วพูดขึ้นมาว่า….
“ไปในห้องครัวกัน”
***TBC
โหหห ยาววว (มองขึ้นไปข้างบน)....รึเปล่า?กระซวกรีล่าง ฉึกๆ พั่บๆๆๆ ซี้ดดด(!?)
ยาวไม่ยาวไม่รู้ คืนนี้ขอร้อง อย่าสะกิด!
V
V