เหนือเมฆ [บทที่ 55 : เหนือเมฆ (จบ)][p.80][260716]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เหนือเมฆ [บทที่ 55 : เหนือเมฆ (จบ)][p.80][260716]  (อ่าน 865901 ครั้ง)

ออฟไลน์ patsakon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
Re: เหนือเมฆ [บทที่ 46 : ผีหลอก][p.68][140616]
«ตอบ #2040 เมื่อ14-06-2016 21:14:47 »

555ฮามาก ขำจนน้ำตาไหลเลย :m20:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: เหนือเมฆ [บทที่ 46 : ผีหลอก][p.68][140616]
«ตอบ #2041 เมื่อ14-06-2016 21:27:30 »

ค่ายนี้วุ่นวายพิลึก ดีที่งานเสรจทันเวลา แถมมีเวลาเมาอีก โอ้ยยย ฮา

ออฟไลน์ eaimeaimm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: เหนือเมฆ [บทที่ 46 : ผีหลอก][p.68][140616]
«ตอบ #2042 เมื่อ14-06-2016 23:29:13 »

ขำแต่ละคน5555555555555555

ออฟไลน์ alt1991

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
Re: เหนือเมฆ [บทที่ 46 : ผีหลอก][p.68][140616]
«ตอบ #2043 เมื่อ15-06-2016 03:01:35 »

 :m20: :m20: :m20: :jul3: :jul3: :jul3: :m20: :m20: :m20:

ออฟไลน์ Dolamon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: เหนือเมฆ [บทที่ 46 : ผีหลอก][p.68][140616]
«ตอบ #2044 เมื่อ15-06-2016 04:46:01 »

 :m20: :m20: :m20:
สภาพแต่ละคน บอกเลยว่า 55555

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: เหนือเมฆ [บทที่ 46 : ผีหลอก][p.68][140616]
«ตอบ #2045 เมื่อ15-06-2016 05:18:03 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Onsm

  • To be Continue
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: เหนือเมฆ [บทที่ 46 : ผีหลอก][p.68][140616]
«ตอบ #2046 เมื่อ15-06-2016 08:29:38 »

 :m20:  ฮามาก จินตนาการตามแล้วหยุดฮาไม่ได้จริงๆ

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: เหนือเมฆ [บทที่ 46 : ผีหลอก][p.68][140616]
«ตอบ #2047 เมื่อ15-06-2016 08:50:04 »

อ่านตอนแรกก็ลุ้นๆว่าจะเจอสิ่งลี้ลับเปล่า แต่พอมาเจอตั้งใจกับแหนมและตำลึงลงโอ่งเท่านั้นแหละ ขำจนปวดท้อง

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: เหนือเมฆ [บทที่ 46 : ผีหลอก][p.68][140616]
«ตอบ #2048 เมื่อ15-06-2016 22:36:11 »

โอ๊ยยย แต่ละคน ช่างทำไปได้นะ 5555555555555555555  :m20: :m20: :m20: :m20: :m20: :m20: :m20: :m20:

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
Re: เหนือเมฆ [บทที่ 46 : ผีหลอก][p.68][140616]
«ตอบ #2049 เมื่อ16-06-2016 07:06:58 »

คือน้ำตาไหล
ฮามากกกกกกกกกกกกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เหนือเมฆ [บทที่ 46 : ผีหลอก][p.68][140616]
« ตอบ #2049 เมื่อ: 16-06-2016 07:06:58 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
Re: เหนือเมฆ [บทที่ 46 : ผีหลอก][p.68][140616]
«ตอบ #2050 เมื่อ16-06-2016 17:54:20 »

พี่ไม้น่าจะสงสันเรื่องน้ำคบกับเมฆแล้วแน่เลยถึงได้โทรมาเผื่อบังเอิญเจอเมฆมาด้วย  :serius2:

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4
Re: เหนือเมฆ [บทที่ 46 : ผีหลอก][p.68][140616]
«ตอบ #2051 เมื่อ21-06-2016 19:38:42 »



Chapter 47 : ค่ายอาสาวันสุดท้าย


หลังจากรุ่นน้องปีหนึ่งเดินออกไปได้สักพัก พวกปีสามที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเป็นกลุ่มสุดท้ายก็มาเคาะประตูเรียกให้พวกเขาไปอาบน้ำต่อ กว่าจะเสร็จกันก็ใกล้เวลาห้าโมงเย็นตามที่นัดไว้พอดี รุ่นพี่รุ่นน้องจึงเคลื่อนขบวนกันไปยังศาลาบำเพ็ญกุศล

ทว่าเมื่อไปถึง รุ่นน้องปีหนึ่งทั้งสามคนก็นั่งอยู่ที่นั่นพร้อมกับครูอาสาก่อนแล้ว บนเสื่อที่พวกเขานั่งอยู่มีเด็กสาวรุ่นๆ สี่คนนั่งปะปนอยู่ด้วย สองในสี่คนนั้นขนาบข้างเมฆ พวกเขากำลังพูดคุยกันอย่างถูกคอราวกับเคยรู้จักกันมาก่อน

“นี่ พี่ๆ เขามาแล้ว ชวนเพื่อนลุกไปได้แล้วน่ะ” ครูแห้วสะกิดเด็กสาวคนที่นั่งอยู่ข้างกัน

“ให้พี่ๆ นั่งอีกเสื่อก็ได้นี่คะ คนตั้งเยอะนั่งเสื่อผืนเดียวไม่พอหรอก” หนึ่งในกลุ่มเด็กสาวตอบ

ตั้งใจยิ้มแหยๆ เขาหันไปสบสายตากับน้ำทันที “เฮ้ย เอาไงดีวะ”

ใบหน้าของน้ำไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ เป็นพิเศษ เขาชำเลืองมองเมฆซึ่งยังไม่ได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าเขามาถึงแล้ว จากนั้นจึงเดินนำไปนั่งลงบนเสื่ออีกผืน

“น่าแปลกที่ไอ้เมฆแม่งขายดีกว่าไอ้น้ำ” ป๊อกเด้งหันมองไปรอบๆ ด้วยความประหลาดใจ งานบุญในวันนี้มีคนมาร่วมเยอะกว่าเมื่อวานมาก มีวัยรุ่นสาวๆ หลายคน ซึ่งสายตาของแต่ละคนก็พุ่งตรงไปที่รุ่นน้องปีหนึ่งของเขา “มึงอาจจะแก่ไป หรือไม่ก็ไม่ใช่เสป็คสาวภูธรว่ะ”

“......” น้ำไม่ได้พูดอะไร หากก็อดรู้สึกแปลกๆ ในหัวใจไม่ได้ จริงอยู่ที่เขาไม่ชอบให้ใครๆ มายุ่งกับเมฆ แต่ก็คิดว่าเขาไม่ควรจะโกรธกับการที่อีกฝ่ายแค่พูดคุยกับคนอื่นไม่ใช่หรือ ไม่อย่างนั้นก็คงต้องจับเด็กหนุ่มไปขังเอาไว้แล้ว

นัยน์ตาเรียวชำเลืองมองรุ่นน้องปีหนึ่งอีกครั้ง ซึ่งอีกฝ่ายก็ยังคงพูดคุยกับพวกเด็กสาวไม่หยุด เขาผ่อนลมหายใจออกยาว ก่อนจะหันกลับมานั่งคิดถึงเรื่องของพี่ชาย ไม่รู้เพราะเหตุใด แต่เขาชักรู้สึกเป็นกังวลชอบกล

หลังจากที่พวกเด็กหนุ่มนั่งลงบนเสื่อไปชั่วครู่ ลุงเจ้าภาพคนเมื่อวานก็เข้ามาพูดคุยพร้อมกับเรียกให้คนยกอาหารมาเสิร์ฟให้ พวกเขานั่งรับประทานกันไปอย่างเงียบเชียบ

ปกติแล้วน้ำมักจะนั่งนิ่งๆ ไม่ค่อยพูดอะไรนักเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว สำหรับรุ่นน้องปีสองและปีสามจึงเห็นว่าที่ชายหนุ่มนิ่งไปเป็นเรื่องปกติ ทว่าสำหรับเพื่อนพ้องทั้งห้า พวกเขาเริ่มจะสัมผัสได้ถึงลมพายุเบาๆ

ทางฝ่ายเมฆนั้น เขาเพิ่งจะรู้ตัวว่าพวกรุ่นพี่ตามมาสมทบแล้วก็ตอนที่แหนมสะกิดบอกนั่นล่ะ เด็กหนุ่มอยากจะลุกไปหา แต่ก็ติดที่ว่าพวกเด็กสาวอ่อนวัยกว่ากำลังสอบถามเขาถึงการเตรียมตัวแอดมิชชั่นเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ เขาจะไม่ช่วยเป็นที่ปรึกษาให้ก็ไม่ได้เพราะเห็นว่าพวกเธอเป็นหลานสาวของเจ้าภาพ

“พี่ๆ จ๋า น้องไม่เก่งฟิสิกส์เลย ทำไงดี”

“ไม่เก่งแล้วจะเรียนวิดวะรอดเหรอ ไปเล็งคณะอื่นดีกว่ามั้ย” แหนมตอบไปตรงๆ 

“ก็อยากเรียนนี่นา”

ตำลึงค่อยๆ ขยับเข้าไปนั่งชิดกับเมฆ “เฮ้ย ไอ้เมฆ กูว่าพวกน้องเขาไม่ได้อยากจะปรึกษาเรื่องแอดมิชชั่นแล้วว่ะ”

เจ้าของชื่อโน้มเข้าไปกระซิบตอบ “กูก็ว่างั้น เอาไงดีวะ” ทว่าในขณะที่กำลังมองหาทางหนีทีไล่อยู่นั้น หนึ่งในเด็กสาวก็เข้ามานั่งประชิดตัวพร้อมกับถือโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือ

“พี่เมฆแลกเบอร์มือถือกันนะ”

“หา! เอ่อ...” เมฆทำท่าเลิ่กลั่ก “พี่ว่า...”

ในระหว่างที่เด็กหนุ่มกำลังอ้ำอึ้งอยู่นั้น จู่ๆ น้ำก็ลุกขึ้นพรวด เขาบอกกับเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ด้วยกัน “กูจะไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกดินสักหน่อย”

“เฮ้ย มึงจะไปยังไง”

“ยืมจักรยานครูไป ฝนหยุดตกพอดี” ชายหนุ่มยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา คว้ากล้องคู่ใจที่นำติดมือมาด้วยก่อนจะเดินไปหาครู โดยที่ไม่ได้หันไปสบสายตากับรุ่นน้องปีหนึ่งทั้งสามคน “ครูครับ ผมขอยืมจักรยานแป๊บสิครับ จะไปถ่ายรูปสักหน่อย”

“เอาเลย ตามสบาย ตรงทางเข้าศาลามีจอดอยู่แค่สามคันนั่นละ เลือกเอาเลย”

“ขอบคุณครับ”

เมื่อตอนที่น้ำก้าวเข้ามาใกล้ พวกเด็กสาวก็หันไปสนใจเขาอยู่ แต่พอเขาเดินไป พวกเธอก็หันมาเกาะแกะเมฆต่อ หากคราวนี้เด็กหนุ่มรีบลุกขึ้นตาม “ครูครับ งั้นผมยืมจักรยานด้วยคนนะ” จากนั้นก็วิ่งไล่หลังรุ่นพี่ออกไป


ดวงอาทิตย์คล้อยลงต่ำจวนเจียนจะแตะผืนน้ำ ส่งผลให้ก้อนเมฆที่ปลายฟ้าฉาบสีส้มทองสวยงาม ในตอนนี้ฝนหยุดตกไปแล้ว เหลือทิ้งไว้เพียงต้นไม้และพื้นดินที่ชื้นแฉะ

เด็กหนุ่มก้าวยาวๆ ไล่หลังรุ่นพี่ไปจนทัน “พี่น้ำ จะไปไหนเหรอครับ”

“ไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกน้ำ” น้ำตอบพลางเลือกจักรยานมาหนึ่งคันแล้วขี่ออกไป

เมฆก้าวขึ้นไปนั่งบนจักรยานอีกคันพร้อมตะโกนไล่หลัง “ผมไปด้วยนะ”

เมื่อไปถึงหาด ดวงอาทิตย์ก็จมลงไปในน้ำเกือบครึ่งดวงแล้ว ชายหนุ่มหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปไว้หลายๆ รูป ก่อนจะหันไปบอกกับรุ่นน้อง

“เมฆ มาเดินบนหาดหน่อย”

“หือ พี่น้ำจะถ่ายรูปผมเหรอ” เด็กหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอกขณะที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปบนหาดตรงจุดที่รุ่นพี่ชี้ เขานึกว่าพี่น้ำจะโกรธจนไม่ยอมพูดกับเขาซะแล้วสิ

“อือ”

“ถ้างั้นต้องให้ผมถ่ายรูปพี่น้ำด้วยนะ”

“โอเค รีบๆ มาไวๆ เดี๋ยวแสงหมด”

สองหนุ่มผลัดกันถ่ายรูปจนกระทั่งดวงอาทิตย์มุดลงไปใต้ผืนน้ำ ท้องฟ้าในยามค่ำคืนมีเพียงเมฆลอยต่ำประปราย ดวงจันทร์เกือบเต็มดวงทอแสงกระจ่าง พวกเขานั่งลงด้วยกันบนหาดเพื่อดูภาพที่ถ่ายมาได้

“อะไรกัน ถ่ายมาเป็นสิบรูป ชัดอยู่ไม่กี่รูป” น้ำต่อว่ารุ่นน้องพลางส่ายหน้าไปมา

เมฆยื่นหน้าเข้าไปตอบ “ก็นายแบบหล่อเกิน ผมเลยมือสั่น”

“อืม ก็คงจริง” รุ่นพี่ตอบเสียงเรียบ แล้วก้มลงมองภาพที่ถ่ายมาจากในจอ LCD ไปเรื่อยๆ

ในตอนแรกเด็กหนุ่มก็ก้มหน้าลงมองภาพด้วยกันกับเจ้าของกล้อง หากสักพักสายตาก็เปลี่ยนตำแหน่ง เขาเงยหน้าขึ้นแล้วจ้องมองใบหน้าด้านข้างของรุ่นพี่เขม็ง

“ไม่ดูรูปแล้วรึไง” ชายหนุ่มถามโดยที่สายตายังคงจดจ่ออยู่บนจอ LCD ของกล้อง

“มีอย่างอื่นน่าสนใจกว่านี่นา”

“......”

“พี่น้ำไม่ได้โกรธผมใช่มั้ย เรื่องน้องๆ หลานเจ้าภาพน่ะ” เมฆใช้หัวไหล่กระแซะรุ่นพี่เบาๆ “เขามาถามเรื่องแอดมิชชั่น ผมก็เลยอธิบายให้”

“อืม”

“แต่ที่จริง ผมก็อยากให้พี่น้ำหึงผมนะ...”

“งั้นเหรอ” น้ำเสียงของคนตอบยังคงนิ่งเฉยเช่นเดิม

“เพราะอย่างน้อยผมก็จะได้รู้ว่าพี่น้ำแคร์ผมมากเหมือนกัน” เมฆขยับเข้าไปจูบแก้มคนที่เอาแต่สนใจกล้องในมือ

ครั้งนี้ความพยายามของเด็กหนุ่มเป็นผล รุ่นพี่เงยหน้าขึ้นพร้อมกับหันมาสบสายตากับเขา

“แต่พี่น้ำไม่หึงก็ไม่แปลกหรอก เพราะพี่ก็รู้ว่าผมรักพี่คนเดียว” เมฆพูดพลางเอื้อมมือไปกุมมืออีกฝ่ายไว้

น้ำนิ่งอึ้ง เขารู้อยู่แก่ใจดีว่ารุ่นน้องเป็นคนที่กล้าแสดงความรู้สึกและพูดสิ่งที่คิดออกมาตรงๆ แต่นั่นก็ยังทำให้เขารู้สึกแปลกใจได้เสมอ คงเป็นเพราะตัวเขาต่างกับเด็กหนุ่มราวกับฟ้าเหว

นัยน์ตาเรียวอ่อนแสงลง เขากุมมือของรุ่นน้องตอบพร้อมกับหันหน้าออกไปรับลมจากทะเล

ในความมืดของยามค่ำคืน มีเพียงเสียงคลื่นดังแผ่วๆ สลับกับเสียงเสียดสีกันของใบมะพร้าวจากบริเวณชายหาด

เมฆชำเลืองมองใบหน้าของรุ่นพี่อยู่สักพัก ก่อนจะถามขึ้น “พี่น้ำเหมือนมีอะไรอยู่ในใจ...”

“รู้ดีจังนะ”

“ก็ผมน่ะ คอยสังเกตพี่น้ำของผมอยู่ทุกอิริยาบถ” เมฆยิ้มกว้าง “คิดอะไรอยู่เหรอครับ”

“...คิดเรื่องที่บ้านนิดหน่อย”

“มีเรื่องอะไรเล่าให้ผมฟังได้น้า ผมเป็นผู้ฟังที่ดีนะพี่” ดวงตาสีนิลสบประสานกับรุ่นพี่อยู่ชั่วครู่ จากนั้นจึงค่อยๆ เอนศีรษะซบลงบนไหล่อีกฝ่าย “บ้านพี่น้ำ... ที่ญี่ปุ่นน่ะเหรอ”

“อืม”

“ผมยังไม่เคยไปญี่ปุ่นเลย อยากไปดูซากุระบ้าง คงสวยเนอะ”

“ก็สวยดี”

เมฆนิ่งไปสักพัก ก่อนจะถามต่อ “เรียนจบแล้วพี่น้ำจะต้องไปญี่ปุ่นมั้ย”

“...ไม่อยากจะไป”

“ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไปสิครับ” เด็กหนุ่มยกแขนขึ้นโอบเอวรุ่นพี่ “ผมก็ไม่อยากให้พี่น้ำไป ระหว่างรอให้ผมเรียนจบ ไปช่วยขายก๋วยเตี๋ยวที่บ้านผมก่อนก็ได้ ไหนๆ ก็บอกแม่ไว้ว่าจะแต่งเข้าบ้านผมอยู่แล้วนี่ครับ แล้วหลังจากนั้นผมจะเลือกไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น เราค่อยไปพร้อมกันนะ”

น้ำหัวเราะเบาๆ “ไปขายก๋วยเตี๋ยวเหรอ? ถ้าพี่ทำแบบนั้นจริง ที่บ้านเมฆคงตกใจแย่”

“ก็คงตกใจอะครับ แต่ความจริงก็คือความจริง ยังไงก็หนีไปไม่พ้น ยังไงทุกคนก็ต้องยอมรับให้ได้ว่าผมรักพี่น้ำ” เมฆค่อยๆ เคลื่อนมือที่โอบเอวรุ่นพี่ขึ้นมาโอบไหล่ไว้แทน “พี่น้ำไม่ต้องห่วงนะ ผมจะดูแลพี่น้ำเอง”

ชายหนุ่มชำเลืองมองคนที่ใช้ศีรษะซุกไซ้ตนอย่างออดอ้อน เขายิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะยกแขนขึ้นโอบเอวรุ่นน้องบ้าง
เขารู้จักกับเมฆมาหนึ่งเทอมแล้ว ก็คิดว่าพอจะรู้นิสัยอีกฝ่ายดี เพราะเด็กหนุ่มมีนิสัยชอบดูแลและช่างปกป้องเช่นนี้ จึงสะดุดตาเขาตั้งแต่วันแรกที่รับน้องมหาวิทยาลัย คำพูดของอีกฝ่ายทำให้เขาคลายความกังวลใจลงไปได้มันเสียทุกครั้ง

แต่หน้าที่ดูแล มันควรจะเป็นของเขามากกว่า ดังนั้นเขาควรจะเลิกคิดมาก แล้วพยายามสู้ให้มากกว่านี้

“ขอบใจนะ” น้ำก้มลงจูบหน้าผากเด็กหนุ่มเบาๆ

เมฆเงยหน้าขึ้นประสานสายตากับรุ่นพี่ จากนั้นจึงเคลื่อนศีรษะเข้าไปใกล้ ริมฝีปากคลอเคลียอยู่บนเรียวปากบาง เขาแนบจูบอย่างอ่อนโยน ค่อยๆ ละเลียดจนอีกฝ่ายจูบตอบ

สองลิ้นเกี่ยวกอดกันจนคุ้นชิน ริมฝีปากที่บดเบียดกันร้อนจนแทบจะหลอมละลายไปด้วยกัน เด็กหนุ่มดันไหล่รุ่นพี่ให้เอนตัวลงนอนบนพื้นทราย โดยที่ยังไม่ยอมละริมฝีปากออกมา พร้อมกับพาตัวเองขึ้นไปทาบทับบนตัวชายหนุ่ม

น้ำลูบไล้แผ่นหลังของคนบนร่าง ก่อนมือข้างหนึ่งจะเคลื่อนขึ้นมากดท้ายทอยเด็กหนุ่มไว้ ส่วนมืออีกข้างเลื่อนลงไปยังสะโพก

“พี่น้ำ” เมฆกระซิบชิดเรียวปากที่เขาเพิ่งละออกมา จากนั้นจึงจูบไซ้ไปตามลำคอ สายลมจากท้องทะเลไม่สามารถทำให้อารมณ์ของเขาเย็นลงได้เลย กลับโหมหนักขึ้นกว่าเดิมเสียอีก

“อืม” น้ำปิดตาลง ปล่อยตัวปล่อยใจให้เป็นไปตามความต้องการของตนโดยไม่สนใจพื้นทรายที่ชื้นแฉะ เขาค่อยๆ สอดมือเข้าไปในชายเสื้อของเด็กหนุ่มพลางปรือตาขึ้นมอง ก่อนจะยิ้มมุมปากเมื่อรู้สึกถึงความแข็งขึงของคนบนร่างที่กดลงบนต้นขาตน

เมฆยันตัวขึ้นนั่งบนเข่าโดยที่ยังคร่อมตัวรุ่นพี่ไว้ เขาเคลื่อนมือที่เย็นเฉียบและสั่นอยู่น้อยๆ ผ่านตัวเสื้อ ไล่ลงมาจนถึงขอบกางเกง จากนั้นจึงประสานสายตากับรุ่นพี่

เด็กหนุ่มนึกลังเลในใจ แต่จูบเมื่อกี้อีกฝ่ายก็ตอบสนองดี เพราะงั้นเขาน่าจะเดินหน้าต่อไปได้ อีกอย่างตอนนี้ตัวเขาก็พร้อมออกรบเต็มที่แล้วด้วย

“พี่น้ำ เอ่อ...”

คนใต้ร่างราวกับรู้ใจ เขาเอื้อมมือไปรูดซิปกางเกงยีนของเมฆแล้วสอดมือเข้าไปสัมผัสส่วนร้อนภายในกางเกง “ดูท่าตรงนี้จะอึดอัด”

“เฮ้ย! พี่น้ำ เดี๋ยว...” นัยน์ตาสีเข้มเบิกโพลง แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร รุ่นพี่ก็กระตุกแขนเขาให้ทาบทับลงไปบนตัวอีกครั้ง

เมื่อใบหน้าอยู่ชิดกันเพียงแค่ปลายเล็บกั้น ลมหายใจอุ่นๆ ประสานกัน หัวใจของเด็กหนุ่มก็เต้นระส่ำ สัมผัสจากฝ่ามือของคนใต้ร่างที่ตรงส่วนสำคัญของเขาร้อนเสียยิ่งกว่าไฟ เขาแนบจูบเรียวปากที่ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ แล้วสอดมือเข้าไปในเสื้อเพื่อสัมผัสผิวกายของรุ่นพี่บ้าง

“ฮื่อ...” เมฆกัดฟันกรอด เขาเคลื่อนมือลงสู่ที่ต่ำ ทว่าพอจะรูดซิปกางเกงลง รุ่นพี่ก็ใช้มืออีกข้างหยุดมือของเขาไว้เสียก่อน เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว พลางเงยหน้าขึ้นประสานสายตากับเจ้าของมือนั้น “พี่น้ำ”

“ไม่ต้องหรอก”

“แต่ผมอยากทำ”

“เอาไว้วันหลังเถอะ”

“ไม่เอาครับ ผมอยากทำ” เด็กหนุ่มรีบรูดซิปกางเกงลง แล้วลองสัมผัสส่วนไวสัมผัสของรุ่นพี่บ้าง


แต่แล้วก็ต้องชะงักกึก


...ของพี่น้ำ... มันไม่แข็งเหมือนของเขา


คำพูดของเพื่อนรักทั้งสองคนแล่นแวบเข้ามาในความคิดทันใด

“กูว่าเรื่องแรกสุดที่มึงต้องกังวลคือ ไอ้นั่นของมึงกับของพี่เขาจะตั้งได้มั้ยตอนที่ต้องลงสนามรบอะ พี่เขาเป็นผู้ชายนะมึง มีแท่งๆ เหมือนมึงด้วย”


เด็กหนุ่มหน้าเสีย “.....” ถ้าไม่มีแท่งเหมือนกันแล้วจะลงสนามรบได้อย่างไรกันล่ะ

“พี่ทำให้เมฆเอง ไม่ต้องห่วงพี่หรอกน่า”

เมฆผละออก เวลานี้ความรุ่มร้อนตรงกลางร่างหายไปสิ้น เขาทิ้งตัวลงนั่งเคียงข้างรุ่นพี่ “.....”

“เมฆ เป็นอะไรไป”

“พี่น้ำ ไม่อยากทำกับผมเหรอ”

“เฮ้ย พูดอะไรอย่างนั้น”

“แต่ของพี่น้ำ...” คนพูดจ้องไปบนกางเกงของชายหนุ่มเขม็ง

น้ำดีดหน้าผากของเด็กหนุ่มเบาๆ “คิดมากน่ะ ครั้งนี้พี่แค่อยากทำให้เมฆ” เขาจะพูดออกไปตรงๆ ได้อย่างไรว่า ถ้าหากเขาเริ่มแล้วล่ะก็คงจะหยุดตัวเองไม่ได้ เขาไม่อยากให้ครั้งแรกเกิดขึ้นบนหาดโดยไม่ได้ตั้งใจเช่นนี้ เพราะเมฆเป็นคนสำคัญ จึงอยากจะใส่ใจให้มาก

เมฆยังคงอ้ำอึ้ง เรียกว่ายังช็อกไม่หาย ในศีรษะคิดกังวัลไปสารพัด ตัวเขาไม่สามารถทำให้รุ่นพี่มีอารมณ์ร่วมได้ ทำไมวะ? เพราะเป็นผู้ชายเหมือนกันงั้นหรือ? หรือว่าเพราะเขายังขาดประสบการณ์?

ชายหนุ่มโอบไหล่รุ่นน้องแล้วดึงเข้าหาตัว “พี่บอกแล้วไงว่าไม่ต้องคิดมาก เอาไว้เมื่อถึงเวลาเหมาะสม เราค่อยทำด้วยกันก็ได้นี่นา”

“เมื่อไหร่ล่ะครับ”

“เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เดี๋ยวก็รู้เองแหละ”

คำตอบของรุ่นพี่ทำให้อึ้งยิ่งกว่า... เด็กหนุ่มก้มลงรูดซิปกางเกงแล้วลุกขึ้นพรวด จากนั้นจึงส่งมือให้คนที่ยังนั่งอยู่จับยึด “เรากลับกันเถอะครับ ออกมานานแล้ว ป่านนี้ครูคงรอจักรยานอยู่”

“เมฆ...” น้ำลุกตามพร้อมกับจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เขาถอนหายใจอย่างแผ่วเบา ยังไม่ทันพูดอะไรเมฆก็เดินกลับไปยังจักรยานเสียก่อนแล้ว เขาจึงจำใจต้องรีบตามไป

ตลอดทางที่ทั้งสองขี่จักรยานกลับไปยังศาลาบำเพ็ญกุศลมีเพียงความเงียบเชียบ เมฆไม่ยอมหันไปสบสายตากับน้ำเลยเพราะมัวแต่กังวลคิดฟุ้งซ่านไปเรื่อย พอคืนจักรยานให้ครูอาสาแล้วทั้งสองก็กลับไปที่บ้านพักพร้อมกับทุกคนที่รอกันอยู่ พวกเขาจึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยปรับความเข้าใจกันอีก

..

....

..

เช้ามืดของวันใหม่ นักศึกษาตื่นกันขึ้นมาอย่างงัวเงีย พวกเขาเร่งรีบล้างหน้าแปรงฟัน ไปบอกลากับหลวงพ่อก่อนจะออกเดินทางกันตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น เพื่อที่จะไปถึงมหาวิทยาลัยในตอนเย็นพอดี

พวกเขาแบ่งกันไปนั่งในรถตู้จำนวนสองคันเฉกเช่นเมื่อตอนขามา เมฆและน้ำนั่งแยกกันตลอดการเดินทาง แม้ระหว่างทางจะมีการหยุดรับประทานอาหาร ทว่าก็มีเพื่อนพ้องรายล้อมอยู่ตลอด น้ำพยายามทำตัวให้เป็นปกติ ซึ่งก็ไม่ได้ยากจนเกินไป เพราะเขาก็เป็นคนนิ่งๆ อยู่แล้ว ส่วนเมฆก็ทำเป็นหลับไปตลอดทาง ประกอบกับที่เขาไม่สบายอยู่แล้วด้วย จึงยังไม่มีใครสงสัยอะไร

ก่อนจะถึงมหาวิทยาลัยนั้น รถตู้จะแล่นผ่านคอนโดมิเนียมของน้ำ ดังนั้นตั้งใจจึงเสนอว่าควรจะแวะส่งน้ำที่นั่นก่อน เพราะว่าเมื่อตอนขาไป น้ำเข้ามามหาวิทยาลัยด้วยกันกับเขา รถจึงไม่ได้จอดอยู่ภายในมหาวิทยาลัย แล้วดึกๆ ก็เดินทางกลับที่พักลำบาก

“ลุง เดี๋ยวแวะส่งเพื่อนผมก่อนนะ” ตั้งใจบอกกับลุงคนขับ ก่อนจะหันมาหาเพื่อนรัก “มึงหาอะไรกินที่คอนโดฯ ได้ป่าว ตอนนี้ร้านเจ๊น่าจะยังเปิด”

น้ำชำเลืองมองเด็กหนุ่มซึ่งยังคงทำเป็นหลับ เขาถอนหายใจเบาๆ “อือ”

ไม่นานรถก็เคลื่อนเข้าไปจอดด้านหน้าคอนโดมิเนียม ซึ่งพอน้ำจะก้าวลงจากรถ เขาก็หันไปเรียกเด็กหนุ่ม “เมฆ”

เจ้าของชื่อเรียกทำท่าเหมือนเพิ่งตื่น “อ้าว พี่น้ำจะไปแล้วเหรอ งั้นก็บายครับ”

“.....” น้ำชะงักไปเล็กน้อย หากก็ก้าวลงจากรถตู้ไปอย่างเงียบเชียบ แล้วเดินเข้าตึกคอนโดมิเนียมไปโดยไม่หันกลับมาอีก

บรรยากาศเช่นนี้ ไม่ต้องฉลาดมากนักก็ยังเข้าใจได้ เพื่อนรักอีกห้าชีวิตของน้ำหันขวับไปที่เด็กหนุ่มทันที แต่อีกฝ่ายกลับเอนหลังทำเป็นนอนต่อ ทั้งที่จริงก็ไม่ได้หลับเลยตลอดการเดินทาง พวกเขาจะถามก็เกรงว่ารุ่นน้องไม่สบายอยู่ จึงได้แต่เก็บความสงสัยกันไว้ในใจ

ต่อมารถตู้ก็แวะไปส่งรุ่นพี่ที่หอด้านนอกมหาวิทยาลัย แล้วจึงไปส่งรุ่นน้องปีหนึ่งสามคนที่หอในเป็นกลุ่มสุดท้าย

เด็กหนุ่มสามคนเดินสะโหลสะเหลลงมาจากรถ กล่าวขอบคุณลุงคนขับแล้วก้าวเท้าฉับๆ ตรงไปยังหอพักของตน

“เฮ้ย ไปหาไรกินที่ห้องกูกัน” แหนมเอ่ยปากชักชวน

“ไม่อะ กูจะนอน”

“มึงนอนมาตลอดทางแล้ว ยังง่วงอีกเหรอวะ” แหนมถามอย่างงงๆ

“ไอ้เมฆมันไม่ค่อยสบายนี่ แต่มึงควรกินอะไรก่อนกินยา แล้วค่อยนอนนะ” ตำลึงโอบไหล่เพื่อน “ไปๆ แดกก่อน แล้วมึงจะนอนก็เรื่องของมึง”

“เออ ก็ได้” เมฆจำใจต้องเดินไปยังหอเก้าด้วยกันกับเพื่อนรักทั้งสองคน

แหนมกับตำลึงจัดการต้มบะหมี่สำเร็จรูปให้ เมฆจึงไม่ต้องทำอะไรมาก เขานั่งลงรับประทานอาหารไปเล็กน้อยแล้วจึงขอตัวกลับ

“มึงนอนห้องกูก็ได้นี่หว่า ยังไม่มีใครกลับมาสักคน”

“ไม่ล่ะ กูอยากนอนยาวๆ เหนื่อยๆ เพลียๆ ว่ะ”

“ก็ตามใจมึง ถ้าพรุ่งนี้อาการไม่ดีขึ้นเดี๋ยวไปหาหมอกัน”

“อือ”

เมฆลุกขึ้นหยิบเป้ขึ้นสะพายบ่า กำลังจะเดินออกจากห้องแต่แหนมกับตำลึงคว้าชายเสื้อเขาไว้เสียก่อน “ไอ้เมฆ”

“มึง... โอเคป่ะวะ ดูแปลกๆ ไม่ใช่ป่วยอย่างเดียวมั้ง”

“นั่นดิ ดูพี่น้ำก็แปลกๆ ทะเลาะกันเหรอ”

เมฆอ้าปากคล้ายจะพูดอะไร แต่ก็ตัดสินใจตอบไปเลี่ยงๆ ไป “เปล่า ไม่มีไรนี่” ทั้งที่ในหัวใจหนักอึ้ง “กูไปก่อนล่ะ” พอบอกลาแล้วก็ก้มหน้าก้มตาเดินลงบันไดไปยังชั้นหนึ่ง

เนื่องจากอีกสองสามวันถึงจะเปิดเทอม นักศึกษาจึงยังกลับมาหอพักกันไม่มากนัก ดังนั้นในเวลากลางคืนเช่นนี้จึงแทบไม่มีใครเดินผ่านไปมาสักเท่าไหร่ แล้วยังเงียบเสียจนเมฆได้ยินเสียงฝีเท้าของตนเองชัดเจน


(มีต่อค่ะ)

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4
Re: เหนือเมฆ [บทที่ 46 : ผีหลอก][p.68][140616]
«ตอบ #2052 เมื่อ21-06-2016 19:39:03 »



บนทางเท้าระหว่างทางที่เมฆเดินไปยังหอพักของตนซึ่งอยู่ติดๆ กัน มีรถสีดำคันหนึ่งเคลื่อนเข้ามาช้าๆ ก่อนจะจอดเทียบทางเท้าไม่ไกลจากจุดที่เขาเดินอยู่ จากนั้นก็มีผู้ชายในชุดเสื้อยืดกับกางเกงยีนคนหนึ่งก้าวออกมาจากรถ เมฆชำเลืองมองอย่างสงสัย เพราะดูจากอายุแล้วคนคนนี้ไม่ใช่นักศึกษาในมหาวิทยาลัยแน่ๆ

ชายคนนั้นยืนหันรีหันขวาง แล้วล้วงหยิบบางสิ่งบางอย่างจากกระเป๋ากางเกงออกมาดู ทำให้แผ่นกระดาษแผ่นหนึ่งร่วงลงมาโดยที่เขาไม่ทันรู้ตัว

“คุณครับ ของตก!” เมฆเดินไปหยิบแผ่นกระดาษนั่นแล้วเรียกอีกฝ่ายไว้

“อ้อ ขอบใจ”

หากพอจะส่งคืนให้ก็สังเกตเห็นข้อความบนนั้นว่าเป็นลายมือเขียนวันและเวลากลับจากค่ายอาสาของโรงเรียนวัดที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว “หือ? ค่ายอาสานี่...”

ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น “น้องรู้จักใครที่ไปค่ายนี้เหรอ”

เมฆเงยหน้าขึ้นพิจารณาคนที่อยู่ตรงหน้า จะว่าไป... หน้าตาก็คุ้นๆ แฮะ แต่เหมือนใครเขาก็ไม่แน่ใจ “รู้จักครับ ผมก็เพิ่งกลับจากค่ายนี้”

“อ้อ ดีเลย” ชายคนนั้นคว้าแขนเด็กหนุ่มไว้ทันควัน “กลับมากันหมดแล้วใช่มั้ย น้องบอกมาหน่อย ค่ายนี้มีไปกันกี่คน ชื่ออะไรบ้าง มีผู้หญิงไปด้วยรึเปล่า”

เมฆดึงแขนตนเองออก “เฮ้ย คุณบ้ารึเปล่า จู่ๆ มาถามแบบนี้ใครเขาจะบอก”

“พี่มีค่าตอบแทนให้นะ” ชายหนุ่มหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาแล้วหยิบธนบัตรใบละพันบาทส่งให้ “เอ้า บอกมาหน่อย”

เมฆชักสีหน้าพร้อมกับผลักมืออีกฝ่ายกลับ “ไม่เอา” เขารีบหันหลังเดินกลับออกไป ทว่าชายคนนั้นก็ดึงเสื้อไว้อีก

“สองพันก็ได้ บอกหน่อย”

“ผมไม่ต้องการ ไปถามคนอื่นไป” เด็กหนุ่มชักรู้สึกแปลกๆ หากคราวนี้พอจะรีบเดินหนีไปก็มีผู้ชายอีกสองคนก้าวลงมาจากรถ ตรงเข้ามาขวางเขาไว้ “เฮ้ย ถอยไปนะ”

“อย่าทำน้องเขาตกใจ” ชายคนแรกรีบรุดเข้าไปหาเมฆ “พี่แค่อยากถามอะไรนิดหน่อยเท่านั้น สามพันก็ได้เอ้า”

“ผมไม่ต้องการเงินคุณ คุณบ้ารึเปล่าวะ ผมไม่รู้จักคุณสักหน่อย จู่ๆ จะให้บอกข้อมูลของเพื่อนผมได้ไง งั้นก็บอกมาก่อนสิว่าคุณเป็นใคร”

“พี่เป็น...” ชายคนนั้นนิ่งอึ้ง “...เป็นพ่อของตั้งใจ”

“ฮะ?” นัยน์ตาสีเข้มจ้องคนตรงหน้าเขม็ง พิจารณาจากศีรษะลงไปจรดปลายเท้า และจากปลายเท้าขึ้นมายังศีรษะอีกรอบ “เป็นพ่อ? คุณมีลูกตอนกี่ขวบวะ เห็นผมเป็นเด็กปัญญาอ่อนเหรอ” เมฆรู้สึกปวดศีรษะจี๊ดๆ ขึ้นมาทันที เขาอยากจะกลับหอไปอาบน้ำนอนเต็มทีแล้ว

หากชายคนเดิมยังคงไม่ยอมปล่อยเด็กหนุ่มไปง่ายๆ เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดรูปแล้วส่งให้ดู “แหม พี่ดูเด็กมากเลยเหรอ เห็นแบบนี้จะสี่สิบแล้วนา เนี่ย ดูสิ รูปพี่กับตั้งใจ”

เมฆชำเลืองมอง แล้วหันไปจ้องหน้าจอโทรศัพท์มือถือนั้นชัดๆ อีกครั้ง “ถ้าคุณเป็นพ่อจริงแล้วทำไมไม่ถามพี่ตั้งใจเอง”

“คือว่า เฮ้อ... ตั้งใจมันไม่ค่อยถูกกับพี่น่ะ มันวัยรุ่นไง ตั้งแต่เข้ามหาลัยมานี่ก็แทบไม่ค่อยคุยกันเลย แล้วปิดเทอมนี่มันก็กลับบ้านไปแค่ไม่กี่วัน แถมยังมีท่าทีแปลกๆ แป๊บๆ ก็จะรีบกลับมามหาลัยซะละ บอกว่ามีธุระ มีค่ายอาสานี่ พี่ก็เลยสงสัยว่ามันไปค่ายจริงรึเปล่า หรือว่าที่จริงไปเที่ยวกับแฟน”

“อ้อ...” เด็กหนุ่มพยักหน้า “งั้นคุณก็ไม่ต้องห่วงหรอก พี่ตั้งใจไม่ได้มีแฟน แล้วก็ไปค่ายอาสาจริงๆ ที่ไปค่ายก็มีพี่ผู้หญิงไป... แต่คือ... พี่เค้าไม่สนใจพี่ตั้งใจแน่นอน”

“แน่ใจเหรอ ตั้งใจมันอาจจะชอบเขาก็ได้รึเปล่า”

“ไม่มีทางหรอกคุณ เพราะพี่ผู้หญิงที่ไปเขาไม่สนผู้ชายอะ”

“อ่อ” ชายสูงวัยกว่าทำหน้าครุ่นคิด แล้วถามต่อ “ว่าแต่ตั้งใจมันอยู่หอไหนเหรอน้อง”

เมฆมองอีกฝ่ายด้วยสายตาขุ่นๆ “เป็นพ่อประสาอะไร ลูกอยู่หอไหนก็ยังไม่รู้ แบบนี้ถ้าคุณเป็นพ่อพี่เขาจริง ก็สมควรที่พี่เขาจะไม่คุยด้วย”

คำตอบของเด็กหนุ่มส่งผลให้อีกฝ่ายชะงักไปชั่วครู่ แต่เขาก็พยายามแก้ตัว “โธ่ ก็พี่ไม่ค่อยมีเวลา แล้วตั้งใจมันก็ไม่ค่อยยอมคุยกับพี่นี่น้อง ถามอะไรมันก็ไม่เคยตอบ”

“พี่ตั้งใจอยู่หอนอก ตรงนี้เป็นหอในของปีหนึ่งเท่านั้น ผมไม่ตอบอะไรคุณแล้วนะ ไปล่ะ”

“เดี๋ยวสิๆ พี่ถามอีกนิดเดียว นะๆ”

เมฆถอนหายใจยาว “อะไรอีกอะครับ”

“ตั้งใจสนิทกับใครเป็นพิเศษรึเปล่า”

“ผมก็เห็นพี่เขาอยู่กับกลุ่มเพื่อนตลอด แต่ก็สนิทกันทั้งหมดนะ” เด็กหนุ่มถามอีกฝ่ายกลับบ้าง “ถ้าเป็นพ่อพี่ตั้งใจจริง อย่างน้อยคุณก็น่าจะรู้ว่ากลุ่มเพื่อนพี่ตั้งใจมีใครบ้าง คุณบอกได้รึเปล่า”

“ได้สิ ไข่ย้อย ป๊อกเด้ง ใบตอง เต้าหู้ แล้วก็... น้ำ”

พอได้ยินเช่นนั้น น้ำเสียงของเมฆก็อ่อนลงบ้าง เพราะตอบได้ขนาดนี้ก็น่าจะเป็นคนรู้จักของรุ่นพี่จริงๆ แต่ถึงอย่างไรก็คงไม่ใช่บิดาแน่ๆ “พี่ตั้งใจเป็นรุ่นพี่ที่ผมนับถือมาก กลุ่มพี่เขาเป็นคนดีทุกคนแล้วก็สนิทกันมากจริงๆ ขนาดพี่น้ำอยู่ต่างคณะยังมารวมกลุ่มด้วยกันแทบทุกวันเลย ผมว่าคุณไม่ต้องห่วงพี่เขาหรอก ที่พี่เขากลับจากบ้านเร็วทั้งที่ยังปิดเทอม ก็น่าจะเป็นเพราะเรื่องค่ายอาสานี่ล่ะครับ พี่เขาเป็นหัวหน้า ก็ต้องมาเตรียมเรื่องที่มหาลัยให้พร้อม” เด็กหนุ่มยิ้มบาง “พี่ตั้งใจน่ะ ตอนเป็นเฮดว้ากเท่สุดๆ ไปเลยนะครับ กลุ่มของพี่ตั้งใจเป็นที่รักของคนในคณะมากเลย พวกพี่เขาเคยช่วยผมไว้ตั้งหลายเรื่อง”

“ดีจังเลยนะ” ชายสูงวัยกว่ายิ้มตาม

“หมดห่วงแล้วนะครับ งั้นผมไปนะ”

“เดี๋ยวๆ คำถามสุดท้ายแล้ว พี่ถามหน่อย วันที่ 3 มกราน่ะ เป็นวันพิเศษยังไงเหรอ”

“หือ?” เมฆหันขวับ “ทำไมเหรอครับ”

...นั่นมันวันเกิดของเขา แต่ก็คิดว่าไม่ควรตอบอีกฝ่ายไปตามตรง เพราะเขายังไม่ค่อยจะไว้ใจคนคนนี้นัก

“คือ... เอ้อ... ก็เห็นตั้งใจจะรีบกลับไปให้ทัน...”

เด็กหนุ่มขมวดคิ้วจนแทบเป็นปม “พี่ตั้งใจไปเที่ยวกับพวกผมอยู่นะตอนนั้น ยังไม่ได้กลับบ้านสักหน่อย”

“เอ๊ยๆ พี่พูดผิดน่ะ พี่หมายถึงพี่อยากให้เขากลับบ้านวันที่สามไง”

เมฆหลุบตาลงต่ำ ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตอบ “คงเป็นเพราะพวกผมวางแผนเที่ยวกันไว้ก่อนแล้ว จู่ๆ จะกลับก็คงไม่ได้มั้งครับ”

“อ้อ...”

“ผมไปได้รึยัง”

“น้องชื่ออะไรนะ”

เด็กหนุ่มถอนหายใจ “ชื่อเมฆครับ”

“เมฆ” คนแก่กว่าทวนชื่อ “เรียนคณะเดียวกับตั้งใจ แต่อยู่ปีหนึ่งสินะ”

เมฆพยักหน้ารับ “อยู่ภาคเดียวกันด้วยครับ”

“อ้อ...” ชายสูงวัยกว่ายกมือขึ้นตบไหล่เด็กหนุ่มเบาๆ “ยินดีที่ได้รู้จักนะ เมฆ เรื่องที่เราคุยกัน เรื่องที่พี่มาที่นี่ ขอให้เก็บเป็นความลับนะ ถ้าตั้งใจรู้ เดี๋ยวมันจะยิ่งโกรธพี่น่ะ”

“ตั้งแต่ผมรู้จักพ่อเพื่อนมา ก็เพิ่งมีคุณนี่แหละที่เรียกตัวเองว่าพี่”

“งะ... งั้นเหรอ แต่พี่เป็นพ่อวัยละอ่อนนี่นา” อีกฝ่ายเถียง “อะ เพื่อเป็นการตอบแทน...” คนพูดล้วงหยิบของจากกระเป๋ากางเกงอีกครั้ง

“ไม่ต้องๆ ผมไม่ต้องการอะไรตอบแทน ปล่อยผมกลับหอทีเถอะ ผมเหนื่อยแล้ว ง่วงด้วย”

“ไม่ได้จะให้เลย จะให้ดูเฉยๆ” ชายสูงวัยกว่าหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากด แล้วส่งให้เด็กหนุ่มดู “ดูสิ รูปตั้งใจกับเพื่อนสมัยมอต้น น่ารักมั้ย”

เมฆทำท่าจะเบือนหน้าหนีในคราวแรก แต่พอได้ยินว่าเป็นเพื่อนสมัยมัธยมต้น เขาก็หันขวับ

บนหน้าจอนั้นมีภาพของเด็กชายหกคนในชุดนักเรียนกางเกงสีน้ำเงิน ใบหน้าของรุ่นพี่ทั้งห้าคนไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก แต่พี่น้ำของเขาน่ะ ดูโดดเด่น ตัวสูงกว่าใครในกลุ่มมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

นัยน์ตาสีนิลจ้องมองภาพพลางอมยิ้ม เขาไม่ได้รู้ตัวเลยว่าอีกฝ่ายกำลังสังเกตตัวเขาอยู่ทุกอิริยาบถ

“น่ารักใช่มั้ย”

“ครับ”

“ดูอีกป่าว มีอีกเยอะเลยนะ”

“ดูครับ”

“ไปนั่งดูในรถกันดีกว่า ยืนนานแล้ว พี่เมื่อย”

“ไหนว่ายังละอ่อนไงครับ ทำไมเมื่อยไวจัง”

“เอาน่าๆ ไปๆ”

เมฆยอมเดินตามเข้าไปนั่งบนเบาะหลังรถด้วยอย่างว่าง่าย สายตาเขาจับจ้องอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ แสดงความสนอกสนใจออกมาอย่างชัดเจน

ชายสูงวัยกว่ายิ้มมุมปาก จากท่าทางของเมฆบ่งบอกชัดเจนว่าสนิทกับกลุ่มของน้ำดี เพราะงั้นเขาจึงคิดจะตีซี้ เพื่อหลอกถามข้อมูล เขากดเลื่อนภาพไปทีละภาพ แรกๆ ก็เป็นภาพของเด็กชายหกคน ต่อมาก็แบ่งกลุ่มกันถ่ายบ้าง ไล่จากภาพสมัยมัธยมต้นมาจนถึงชั้นมัธยมปลาย

เวลานี้เมฆรู้สึกสนิทใจขึ้น ก็ลองอีกฝ่ายมีรูปสมัยเด็กเยอะขนาดนี้ได้ อย่างไรก็ต้องเป็นคนในครอบครัวแน่ๆ “พี่ตั้งใจหน้าตาไม่เปลี่ยนเลย”

“ก็ไม่เปลี่ยนทั้งหกคนนั่นละ ส่วนคนนี้ก็หล่อขึ้นนิดหน่อย” คนแก่กว่าชี้ไปที่น้ำ พร้อมกับเลื่อนไปยังรูปต่อไป ซึ่งเป็นรูปเดี่ยวของน้ำพอดี

เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง แล้วพูดออกไปอย่างลืมตัว “โอ้โห พี่น้ำตอนมอปลายน่ารักชะมัด”

“มีรูปน่ารักกว่ารูปนี้อีก” คนพูดดึงโทรศัพท์มือถือกลับไปค้นหาภาพใหม่ จากนั้นจึงส่งให้อีกฝ่ายดู

ภาพบนหน้าจอเป็นภาพของน้ำล่าสุดเมื่อตอนอยู่ที่ญี่ปุ่น ชายหนุ่มอยู่ในเสื้อสเวตเตอร์คอวีกับกางเกงยีน จึงทำให้มองเห็นสร้อยคอคล้องเกียร์สีเงินได้

เมฆจ้องภาพนั้นแล้วชะงัก ขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางเงยหน้าขึ้นประสานสายตากับเจ้าของโทรศัพท์มือถือ

...เขาเชื่อว่าผู้ชายคนนี้รู้จักกับรุ่นพี่ของเขาจริง แต่คนคนนี้ อาจจะไม่ใช่คนในครอบครัวพี่ตั้งใจก็ได้

“ทำไมคุณมีรูปพี่น้ำเยอะจัง รูปนี้น่าจะถ่ายเมื่อไม่นานมานี้เอง”

“พี่มีรูปเพื่อนของตั้งใจทุกคนนั่นล่ะ เป็นพ่อคนนึงก็เหมือนเป็นพ่อทั้งกลุ่มแหละ”

เมฆย่นคิ้วเข้าหากัน “ถ้าคุณสนิทกับเพื่อนพี่ตั้งใจได้ คุณก็น่าจะสนิทกับพี่ตั้งใจนะ”

“พี่คุยกับเพื่อนตั้งใจบ้าง เพื่อที่จะได้ถามข่าวคราวของตั้งใจไงล่ะ” ชายหนุ่มตอบพลางยิ้มกริ่ม “แต่ว่า... น้องดูเหมือนจะรู้จักกับน้ำดีเหมือนกันนะ ทั้งที่อยู่คนละคณะกัน”

“ผม... ก็เพราะกลุ่มรุ่นพี่ผมสนิทกับพี่น้ำไงครับ แล้วผมกับรุ่นพี่ก็สนิทกัน” เด็กหนุ่มรู้สึกคลางแคลงใจมากขึ้น เขาชำเลืองมองชายสูงวัยกว่าอย่างไม่ไว้วางใจนัก เพราะรู้สึกว่าคนคนนี้อาจจะถามเขาเรื่องพี่ตั้งใจเพื่อบังหน้าเท่านั้น

“ดีจัง... ดีเลย” คนแก่กว่าพยักหน้าหงึกหงัก

เมฆเห็นท่าไม่ค่อยจะดี เขาจึงรีบกล่าวขอตัว “ขอบคุณที่ให้ผมดูรูปครับ แต่ผมต้องกลับหอละ ใกล้เวลาหอปิดแล้ว”

แต่พอเด็กหนุ่มจะก้าวลงจากรถ อีกฝ่ายก็คว้าแขนเขาหมับ พร้อมกับโน้มตัวเข้ามาหา

“อย่าบอกใครว่าคุยกับพี่ โอเคนะ”

เมฆลังเล หากก็ตอบกลับไปเสียงเบา “ครับ” เขารีบรุดลงจากรถแล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าหอพักไปอย่างรวดเร็ว


หลังจากเด็กหนุ่มวิ่งเข้าตึกไปแล้ว ผู้ชายอีกสองคนก็ก้าวขึ้นไปนั่งด้านหน้ารถ พวกเขาหันกลับไปถามผู้เป็นนาย “จะไปไหนต่อมั้ยครับ คุณไม้”

“ไม่ล่ะ กลับโรงแรมได้”

ขณะที่รถยนต์เคลื่อนออกไปช้าๆ เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ชายหนุ่มผู้เป็นนายใหญ่ชำเลืองมอง แล้วหยิบขึ้นมากดรับสาย

“เจอตั้งใจกับน้ำมั้ยคะ” คนที่อยู่ปลายสายถามขึ้นทันที

“ไม่เจอ แต่เจอเด็กคนนึงที่ไปค่ายอาสาเหมือนกัน แล้วก็เป็นรุ่นน้องที่สนิทกับกลุ่มของตั้งใจด้วย”

“เหรอคะ แล้วเขาว่ายังไงบ้าง”

“เขาว่ากลุ่มเพื่อนยังอยู่ด้วยกัน สนิทกันดี ไปค่ายอาสาก็ไปด้วยกัน”

“ถ้างั้นน้ำก็น่าจะยังไม่มีแฟนนะคะ บางทีเขาอาจจะแค่รีบกลับไปค่ายอาสาอย่างที่เขาบอกก็ได้นะ”

“แต่ริซาโกะ คุณก็เห็นนี่ว่าน้ำเปลี่ยนไป แล้วตอนที่เขาบอกว่าจะต้องกลับเพราะมีธุระวันที่สามน่ะ พวกเพื่อนเขาไปเที่ยวกันอยู่ ผมว่ามันมีอะไรแปลกๆ”

“ระวังน้ำจะโกรธเอา ถ้ารู้เข้าว่าคุณไปวุ่นวายที่มหาลัยเขาน่ะ”

“ครับๆ เขาไม่ทันรู้หรอก พรุ่งนี้ผมจะเข้าไปประชุมที่กรุงเทพฯ แล้วก็กลับบ้านละ” ชายหนุ่มกดวางสายโทรศัพท์ไป จากนั้นจึงเอนหลังพิงเบาะแล้วหันหน้าออกไปทางบานกระจกรถ เขากับภรรยาตั้งข้อสังเกตว่าน้ำกับตั้งใจสนิทกันมาก พวกเขามักจะอยู่ด้วยกันเสมอๆ จึงคิดว่าบางทีตั้งใจอาจจะรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้น้ำเปลี่ยนไป ถ้าลองติดตามดูตั้งใจหรือพูดคุยสอบถามก็อาจจะได้รู้อะไรเกี่ยวกับน้ำบ้าง เนื่องจากไม่สามารถถามเอาจากน้ำได้ง่ายๆ ส่วนตัวเขาช่วงนี้ก็ต้องเดินทางมาประชุมที่กรุงเทพฯ กับพัทยาหลายครั้ง เลยลองแวะมาดูลาดเลาด้วยตนเอง แล้วก็โชคดีเหลือเกินที่ได้มาพบรุ่นน้องที่สนิทกัน เพราะที่จริงเขาก็คิดว่าน่าจะเข้าถึงตัวตั้งใจได้ยาก

ลูกน้องที่นั่งด้านหลังพวงมาลัยเคลื่อนรถลึกเข้าไปด้านในมหาวิทยาลัยเพื่อหาที่วกรถกลับ ส่วนชายคนที่นั่งข้างๆ กันเสนอว่าให้ขับต่อไปเรื่อยๆ คงจะมีทางวนออกเอง ขณะที่กำลังปรึกษาหาทางออกกันอยู่นั้น รถก็เคลื่อนผ่านหน้าตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่ตรงหน้าตึกมีรูปปั้นสัญลักษณ์ของเกียร์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่

เมื่อไม้เห็นเข้าก็นึกเอะใจ “เกียร์นี่” คล้ายๆ กับจี้ที่ห้อยคอน้องชายเขาหรือเปล่านะ “เขาเอามาห้อยคอกันด้วยเหรอ แฟชั่นใหม่รึไง”

ชายคนที่นั่งข้างคนขับหันมาตอบ “เกียร์เป็นสัญลักษณ์ของคณะวิศวะครับคุณไม้ คณะนี้เขามีประชุมเชียร์ ระบบ SOTUS อะไรมากมายในช่วงรับน้องตอนปีหนึ่ง พอประชุมเชียร์เสร็จก็จะได้รับเกียร์มาห้อยคอน่ะครับ”

“หืม?” ไม้ขมวดคิ้ว “แล้วถ้าคนใส่ไม่ได้เรียนวิศวะล่ะ”

“เขามีแฟนอยู่วิศวะมั้งคุณไม้ แบบว่าจะได้รู้ว่ามีแฟนแล้ว อยู่วิศวะอะไรอย่างงี้”

“อ้อ...” คราวนี้ไม้ทำหน้าขรึมกว่าเดิม เขานั่งนิ่งค้างอยู่ในท่าเดิมจนกระทั่งรถเคลื่อนเข้าไปจอดในโรงแรมที่พัก


หลังจากอาบน้ำแล้วเด็กหนุ่มก็มาเอนหลังนอนอยู่ภายในห้องที่เงียบกริบ ในชั้นเดียวกันกับเขามีนักศึกษากลับมาหอพักแล้วหลายห้อง แต่ว่าดึกดื่นขนาดนี้ทุกห้องก็ปิดไฟนอนกันหมด

“เฮ้อ... ทำไงดีวะกู รู้สึกแย่ชะมัด” เมฆพึมพำกับตนเอง เขาทำตัวไม่ดีกับพี่น้ำ เขารู้ตัวดี

หากเพราะไม่มั่นใจจึงทำให้หัวใจหวั่นไหว ถ้าหากพี่น้ำรักชอบเขาบ้างสักนิด เวลาที่นัวเนียกัน ไอ้ตรงส่วนนั้นมันก็น่าจะมีปฏิกิริยาบ้างไม่ใช่หรือ แต่จะว่าไป ตอนที่เขาพยายามจะกดพี่น้ำไว้ใต้ร่าง อีกฝ่ายก็พลิกกลับมันเสียทุกที

หรือว่าที่จริงแล้ว... พี่น้ำไม่ได้คิดจะคบกับเขาเหมือนคนเป็นแฟนกันวะ

เมฆหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดดู บนหน้าจอนั้นว่างเปล่า ไม่มีข้อความใดๆ จากคนที่เขานึกถึง 

“พี่น้ำจะทำอะไรอยู่วะเนี่ย ดึกขนาดนี้แล้ว”

เด็กหนุ่มถามตัวเองว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี แล้วก็ได้คำตอบมาว่า ไม่ว่าอย่างไรเขาก็รักพี่น้ำ เพราะงั้นเมื่อรักแล้ว ก็คงต้องสู้ต่อไป

เมฆนอนนิ่งทำใจอยู่สักพัก แล้วปลายนิ้วก็เคลื่อนไปเตรียมกดโทรออก ทว่ามีสายเรียกเข้ามาเสียก่อน

“เย้ย! อะ... พี่น้ำ...”

หัวใจเต้นสั่นรัว เขารีบกดรับสายทันที “พี่น้ำยังไม่นอนเหรอ”

“นึกว่าเมฆจะไม่รับโทรศัพท์พี่ซะแล้วสิ”

“ไม่รับอะไรกันครับ ที่จริงผมกำลังจะโทรไปหาพี่น้ำเลย”

“งั้นเหรอ”

เด็กหนุ่มนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดเสียงอ่อย “พี่น้ำ... ผมขอโทษนะครับ”

“ขอโทษเรื่องอะไร”

“...คือ...”

“ช่างมันเถอะ พรุ่งนี้อยากกินอะไร เดี๋ยวพี่แวะซื้อเข้าไปให้นะ”

“ผมขอโทษที่เอาแต่ใจ แล้วก็... ขอโทษที่งอนพี่น้ำนะครับ”

คราวนี้น้ำเป็นฝ่ายนิ่งอึ้งไปบ้าง ก็อีกฝ่ายเล่นยอมรับออกมาตรงๆ เช่นนี้ แต่คำพูดของเด็กหนุ่มก็ทำให้น้ำยิ้มออกมาได้ “อืม รู้ตัวก็ดี ไอ้เด็กขี้งอน”

เมฆหัวเราะเบาๆ “พี่น้ำอุตส่าห์โทรมาง้อผมด้วยอะ ขอบคุณนะครับ ไม่นึกไม่ฝันเลยนะเนี่ย”

“ไม่ง้อแฟนพี่ แล้วจะให้ไปง้อใคร”

เด็กหนุ่มใจอ่อนยวบ พี่น้ำนี่ช่างรู้จุดอ่อนของเขาจริงๆ เจอคำพูดแบบนี้เข้าไป เขาก็แทบจะลืมเรื่องขุ่นเคืองในใจไปได้เลย “....”

“ซึ้งมั้ย”

“โธ่ ก็ซึ้งจนกระทั่งพี่น้ำถามเนี่ยแหละครับ” เมฆส่ายหน้าไปมา พลางยกมือขึ้นเกาศีรษะ ก่อนจะนึกถึงชายแปลกหน้าที่เพิ่งเจอขึ้นมาได้ “เอ้อ พี่น้ำครับ ในกลุ่มพี่น้ำมีใครมีพี่ชาย... แก่กว่ามากๆ มั้ยครับ” พอถามไปแล้วก็ขมวดคิ้ว เพราะบางทีอาจจะไม่ใช่พี่ แต่เป็นน้า หรืออา ก็ได้นี่หว่า

“ทำไมเหรอ”

“คือเมื่อกี้...” เด็กหนุ่มเม้มปาก เขาไม่แน่ใจสักหน่อยว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ถ้าไปสงสัยแล้วเหมาว่าเป็นญาติใครๆ ก็คงไม่ดีนัก

“เมื่อกี้?”

“คือ... เอ้อ เมื่อตอนเดินกลับหอ ผมเดินสวนกับคนนึง หน้าคุ้นๆ เหมือนใครสักคนในกลุ่มพี่น้ำ เลยลองถามดูอะครับ”

“งั้นเหรอ แต่ถ้าเป็นคนรู้จักของเพื่อนพี่ ก็ไม่น่าจะไปป้วนเปี้ยนแถวหอปีหนึ่งนะ”

“ช่างเถอะครับ มันมืด ผมคงมองผิด ว่าแต่พรุ่งนี้พี่น้ำจะเข้ามามหาลัยกี่โมง”

“นัดประชุมสรุปค่ายอาสากันตอนบ่าย พี่ก็เลยว่าจะเข้าไปเที่ยง จะได้เอามื้อเที่ยงไปให้เมฆกับเพื่อนด้วย ที่หอไม่น่าจะมีอะไรกินกันใช่มั้ย”

“ครับ แต่พี่น้ำไม่ต้องห่วงพวกผมก็ได้ เดี๋ยวออกไปหาอะไรกินที่ตลาดเอา”

“ไม่เป็นไร เอาล่ะ เมฆนอนเถอะ อย่าลืมกินยาก่อนนอนด้วยนะ”

“คร้าบ” เด็กหนุ่มตอบเสียงกวนๆ ก่อนจะกดวางสายไป


TBC~*


ลงยาวมากเลย วรั้ยยยย~

สงสัยว่าพายุ(ในเรื่อง)กำลังก่อตัวเบาๆ แล้วมั้ยนะ 5555555555

พี่ไม้จะมาแบบไหน พี่น้ำจะแข็ง(อัลรัย?)ได้หรือไม่  :o8: โปรดติดตามกันต่อนะคะ กร๊าก

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่า


ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เอาล่ะสิ.  พี่ไม้สืบไปสืบมาระวังจะยิ่งเงิบนะจ๊ะ
ว่าแต่พี่น้องหน้าตาไม่คล้ายกันเหรอ
น้องเมฆตื่นเต้นมากไปไงไม่ใช่พี่น้ำตายด้านสักหน่อย

ขอบคุณค่ะ    :katai2-1: 

ออฟไลน์ packy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มาม่ามาก็ไม่กลัว จะจับลวกเส้น แล้วผัดใส่ไข่ให้เมฆกินเลย
ก็เค้ารักกันออกปานนั้นนะคะคู้นนนน

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ถ้ารู้ความจิงจะเปงไงนะ

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
พี่ไม้เหมือนพ่อที่หวงลูกสาวเลยนะ
รึเพราะว่าเลี้ยงน้องจนเหมือนลูก เลยหวงเป็นพิเศษ

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ไม่ชอบนิสัยวุ่นวายของไม้เลยจริงๆดูเจ้ากี้เจ้าการอะปากบอกรักน้องแต่จริงๆเหมือนชอบบังคับมากกว่า

ออฟไลน์ cowinsend

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 463
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
อย่ามีมาม่าน้าาาาา :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
เป็นใครก็นอยปะว่ะ ฉันพร้อมแต่เธอไม่ อ่านแล้วนอยไปกะน้องเมฆเลย 5555

แล้วพี่ไม้นี่จะยังไง แหม๋...จะเนียนมาสืบข่าวก็ดันเจอต้นตอ ดีนะน้องเมฆคนซื่อยังคิดไรไม่ทันเพราะอึนที่พี่น้ำไม่แข็งอยู่ 5555

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ทำไมน้ำไม่ขึ้น เอ้ย! ไม่ใช่ประเด็น  :hao7:

ออฟไลน์ Kkookai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เหอะๆ พี่น้ำ...

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
พี่ไม้นี่ขี้หวงนะเนี่ยยย  :hao3:

จะเป็นไงต่อน้อออ  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ความจะแตกแล้ววว พี่ชายพี่น้ำมาแล้ววว หุหุ จริงๆ พี่น้ำซ่อนความหื่นไว้อย่างมิดชิดใช่มั้ย 5555

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
เมฆน่ารักดีอ่ะ ใสซื่อดี งอนก็ว่างอน  :man1:

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ XVIII.88

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
    • XVIII.88
เพราะพี่น้ำไม่ถนัด เลยยังไม่ลุก แต่ถ้าได้รุกพี่น้ำถนัด :hao6:

แต่พี่ไม้ อะไรของพี่ค้าาาาาาาา
พี่อยากดราม่ากับน้องตัวเองใช่ม้ายยยยยย~~

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ นางสาวกานาเลส

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ถ้านี่เป็นเมฆ นี่ก็อาจจะเฟลเหมือนเมฆนะ 55555555 อะไรกตน พี่น้ำไม่มีอารมณ์ร่วมเลยยยย.ส่วนอิพี่ไม้ น้องโตแล้วนะ ทำไมต้องยุ่งวุ่นวายขนาดนี้ด้วย ถ้ามาทำดราม่าใส่ โดนน้ำกรดสาดแน่นอน !!!!

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด