✽ ✽ ✽ ต่อค่ะ ✽ ✽ ✽
หลังจากที่หายป่วยและร่างกายกลับมาเป็นปกติเรียบร้อยในวันรุ่งขึ้นน้ำเหนือก็ตื่นแต่เช้าเพราะวันนี้เขามีนัดสัมภาษณ์งาน น้ำเหนือหยิบเสื้อเชิ้ตสีครีมเรียบๆ แบบพอดีตัวกับกางเกงสแลคขากระบอกเล็กสีดำ คาดเข็มขัดสีดำอีกเส้น สำรวจเสื้อผ้าหน้าผมของตัวเองจนเรียบร้อยก็หยิบกระเป๋าที่ใส่แฟ้มเรซูเม่รวมไปถึงผลงานสมัยตอนเรียนและตอนทำงานที่บริษัทเก่าแล้วออกจากหอตรงไปยังห้างสรรพสินค้าชั้นนำทันที
แม้ว่าตัวห้างสรรพสินค้ายังไม่เปิดแต่ก็ยังมีเส้นทางของพนักงาน และคนขายของในห้างให้เข้าออก น้ำเหนือเองก็ใช้เส้นทางนั้นเพื่อเข้าไปในตัวห้างเช่นกันเพราะวันนี้เขามีนัดสัมภาษณ์งานตอนเก้าโมงเช้าซึ่งยังไม่ใช่เวลาเปิดทำการของห้างสรรพสินค้า
ประตูเหล็กแบบเลื่อนขึ้นของหน้าร้านเพชรเพทายยังคงปิดอยู่และเปิดอยู่หนึ่งบานตรงส่วนของประตูเข้าร้าน ภายในร้านมีพนักงานสองสามคนเตรียมเปิดร้านอยู่ น้ำเหนือจึงผลักประตูเข้าไป
"สวัสดีครับ ผมน้ำเหนือมีนัดสัมภาษณ์งานกับคุณสุภาผู้จัดการร้านครับ"
"อ๋อ... ผู้จัดการกำลังมา เข้ามารอด้านในก่อนสิ" พนักงานคนหนึ่งพูดก่อนจะเดินนำน้ำเหนือไปบริเวณด้านหลังของร้านซึ่งแบ่งห้องเป็นสัดส่วนเสียจนน้ำเหนือยังนึกอึ้ง เพราะเขานึกว่าด้านหลังของร้านจะเป็นพื้นที่โล่งๆ ไว้เก็บของ หรือไม่ก็คงเต็มไปด้วยกล่องใส่ของมากกว่า แต่นี่มีแบ่งเป็นห้องเก็บของ ห้องเก็บเครื่องประดับ แล้วดูเหมือนยังมีแบ่งเป็นห้องทำงานของผู้จัดการร้านกับห้องประชุมอีกด้วย เหมือนยกออฟฟิตขนาดย่อมมาอยู่ด้านหลังร้านเลยทีเดียว
"นั่งรอในนี้ก่อนนะ เดี๋ยวผู้จัดการก็มาแล้ว"
"ขอบคุณครับ"
น้ำเหนือนั่งรอด้วยความตื่นเต้นและกังวลไปหมดแต่ก็พยายามทำสมาธิเพื่อที่เขาจะได้ไม่ลนลานจนพลาดโอกาสในการทำงานในร้านนี้ นั่งรออยู่ไม่นานประตูห้องทำงานที่น้ำเหนือเข้ามานั่งรอก็เปิดออก ผู้มาใหม่เป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่ยังดูสาวมากทีเดียว เธอมีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมา
"น้ำเหนือใช่ไหม"
"ใช่ครับ ผมน้ำเหนือครับ"
"ฉันสุภานะ ขอโทษทีที่ปล่อยให้รอ อย่างนั้นเรามาเริ่มกันเลยนะ"
น้ำเหนือค่อนข้างแปลกใจทีเดียวเพราะตอนแรกที่ได้ยินชื่อเขาต้องคิดว่าคงจะเป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่ท่าทางดูน่าเกรงขามหรือดูดุกว่านี้ แต่งตัวด้วยชุดทำงานเนียบแบบกระโปรง แต่คิดว่าอายุคงมากกว่าห้าสิบแล้ว แต่คุณสุภาตรงหน้าน้ำเหนืออย่างมากก็คงสี่สิบต้นๆ การแต่งกายก็ดูทะมัดทะแม่ง และดูเป็นกันเองจนน้ำเหนือรู้สึกผ่อนคลายขึ้น
การสัมภาษณ์แทบไม่มีอะไรนอกจากถามว่าเรียนจบที่ไหน เคยทำงานที่ไหน และขอดูผลงานแค่นั้น ก่อนที่ผู้จัดการร้านจะดันกระดาษปากกา ดินสอ รวมไปถึงดินสอสีกล่องใหญ่มาตรงหน้าน้ำเหนือ
"ฉันมีชุดหลายชุดเลย ฉันชอบซื้อเสื้อผ้าแต่ไม่ค่อยชอบซื้อเครื่องประดับอย่างมากก็ซื้อแค่ชุดเดียวหรือไม่ก็แค่สร้อยคอเส้นเดียว แต่ฉันอยากได้เครื่องประดับที่สามารถใส่ได้ทุกชุดที่ฉันมี ออกแบบให้ฉันหน่อยสิ" คุณสุภายิ้ม
"ผมขอถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ" น้ำเหนือพูดเมื่อคนตรงหน้าพยักหน้ารับก็เอ่ยถามต่อทันที "ชุดที่คุณมี... มีสไตล์ไหนบ้างหรือครับ"
"มีหลายสไตล์เลย แบบเซ็กซี่ก็มีนะ หวานๆ ก็มี หรือแนววินเทจนิดๆ ฮิปสเตอร์ก็มี"
"ครับ" น้ำเหนือรับคำก่อนจะเริ่มหยิบดินสอขึ้นมาร่างภาพในหัว โดยมีคุณสุภาคอยมองอยู่ตลอดเวลาแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้น้ำเหนือเสียสมาธิแต่อย่างใด เมื่อเขาได้จับดินสอร่างแบบเครื่องประดับเมื่อไหร่น้ำเหนือก็แทบจะลืมทุกอย่างและจดจ่อกับงานตรงหน้า ใช้เวลาไปกว่าหนึ่งชั่วโมงกระดาษขนาดเอสามเปล่าๆ ก็เต็มไปด้วยเส้นสายและสีสัน
"เสร็จแล้วครับ" น้ำเหนือดันกระดาษแผ่นนั้นไปตรงหน้าคุณสุภาก่อนจะเริ่มอธิบายถึงคอนเซ็ปของเครื่องประดับ "เนื่องจากคุณมีเสื้อผ้าหลายสไตล์ผมจึงออกแบบเครื่องประดับแบบที่สามารถประยุกต์ใส่ได้กับทุกชุด และสามารถปรับเปลี่ยนได้ครับ"
สุภานั่งฟังการอธิบายของน้ำเหนือเงียบพร้อมกับพยักหน้ารับจนกระทั่งน้ำเหนืออธิบายงานเสร็จเรียบร้อยก็ยิ้มออกมา "โอ๊ตบอกว่าเธอเก่งแล้วเธอก็เก่งจริงๆ นั่นแหละนะ ยินดีต้อนรับนะน้ำเหนือฉันรับเธอเข้าทำงาน"
คนฟังอึ้งค้างก่อนจะยิ้มกว้างแล้วยกมือไหว้ขอบคุณทันที "ขอบคุณมากครับคุณสุภา ขอบคุณจริงๆ ครับ"
น้ำเหนือเข้าทำงานที่ร้านในตำแหน่งทีมออกแบบเครื่องประดับ ตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเขาสามารถเข้ากับทุกคนในร้านได้เป็นอย่างดีเพราะน้ำเหนือเป็นคนมีสัมมาคารวะ รู้จักกาลเทศะจนพี่ๆ ในร้านต่างก็เอ็นดูน้องชายคนเล็กของร้านคนนี้กันหมด โดยเฉพาะความมีน้ำใจของน้ำเหนือที่มักจะมาแต่เช้าเพื่อช่วยเปิดร้านหรือกลับดึกเพื่อช่วยเก็บของปิดร้าน การทำงานของน้ำเหนือนั้นมีความสุขมากจนเขาแทบจะลืมเลือนเรื่องราวร้ายๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตในช่วงก่อนหน้านี้ไปจนหมดสิ้น
"น้ำเหนือเดี๋ยวบ่ายนี้คุณหญิงมรกตจะมาที่ร้านนะ ยังไงเดี๋ยวตอนบ่ายอยู่กับฉันนะวันนี้เจ้าโอ๊ตลาป่วยเสียนี่" คุณสุภาหันมาพูดกับน้ำเหนือที่กำลังช่วยพนักงานในร้านเตรียมของเพื่อเปิดร้าน
ชื่อของคุณหญิงมรกตทำเอาน้ำเหนือชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะหันไปถาม "ท่านจะมากับใครหรือครับ"
คุณสุภาผู้จัดการร้านเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย "คงจะเลขาท่านละมั้งส่วนใหญ่ท่านจะมากับเลขา"
ได้ฟังแบบนั้นก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกถ้าหากคุณหญิงมรกตมากับเลขาน้ำเหนือก็คงไม่ต้องเจอกับผู้ชายคนนั้น... คนที่น้ำเหนือทำเหมือนลืมแต่จริงๆ แล้วยังไม่เคยลืมเลย
ตลอดทั้งช่วงเช้าน้ำเหนือไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่ในใจรู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูกทั้งกังวล ทั้งกลัวและตื่นเต้นปะปนกันไปหมด ได้แต่บอกตัวเองว่าไม่มีทางเจอกันหรอกผู้ชายคนนั้น... ควอซ์ต อชิตพล ไม่มีทางหรอกที่น้ำเหนือจะได้เจออีก
ในช่วงก่อนบ่ายสองโมงน้ำเหนือไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาดับความรู้สึกที่มันรบกวนหัวใจออกไป
"เราแค่กังวลที่จะต้องต้อนรับคุณหญิงมรกตตั้งหาก ไม่ได้กลัวว่าจะเจอคนคนนั้นหรือเปล่า เราแค่กังวลจะทำตัวไม่ถูกต่อหน้าคุณหญิง ใช่ๆ เรากังวลเรื่องนี้" น้ำเหนือบอกตัวเองแบบนั้นสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อเรียกขวัญและกำลังใจของตัวเอง จนเมื่อทำสมาธิได้แล้วจึงเดินกลับไปที่ร้านอีกรอบ
"สวัสดีค่ะ / ครับ" คุณสุภา น้ำเหนือรวมไปถึงพนักงานคนอื่นพูดออกมาพร้อมกันทันทีที่ประตูหน้าร้านเปิดออก ก่อนที่คุณสุภาจะเดินเข้าไปหาผู้มาใหม่ทั้งสองคนแล้วยกมือไหว้ "สวัสดีค่ะคุณหญิงมรกต คุณอชิตพล"
กึก!
น้ำเหนือชะงักไปทันทีที่ได้ยินเสียงคุณสุภาเรียกใครอีกคนด้วยก่อนจะขยับตัวถอนหลบไปด้านหลังและเอาแต่ยืนก้มหน้าก้มตาไม่เงยหน้ามองตรงไปข้างหน้า
อาจจะแค่คนชื่อเหมือน... อาจจะไม่ใช่ผู้ชายคนนั้นก็ได้
"สวัสดีจ๊ะคุณสุภา ไม่ต้องพิธีรีตองอะไรมากหรอก ฉันแค่แวะเข้ามาดูเฉยๆ เห็นคุณหญิงเปรมสุดาบอกว่าเครื่องประดับชิ้นใหม่ที่มาสั่งที่ร้านสวยมากเลยตั้งใจจะมาชมเชยเสียหน่อย" เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นซึ่งน้ำเหนือคิดว่าคงเป็นคุณหญิงมรกตแน่นอน
"อ๋อ... ฝีมือของน้องโอ๊ตค่ะ แต่วันนี้น้องโอ๊ตไม่สบายไม่ได้มาทำงาน แต่ว่ามีน้องน้ำเหนืออีกคนที่ช่วยออกแบบเครื่องประดับชิ้นนี้นะคะ" คุณสุภาพูดทำเอาน้ำเหนือที่ยืนหลบๆ เพราะไม่อยากเป็นที่สนใจถึงกับสะดุ้ง และแน่นอนว่าชื่อน้ำเหนือก็สะดุดใจใครอีกคนที่ยืนเงียบอยู่ด้วย
"หรอจ๊ะ ไหนเอ่ย ใช่พนักงานใหม่ที่คุณสุภาบอกหรือเปล่า"
"ใช่ค่ะ รอสักครู่นะคะ" คุณสุภาพูดกับคุณหญิงก่อนจะหันมาหาน้ำเหนือแล้วเอ่ยเรียก "น้ำเหนือ ออกมานี่เร็วๆ เข้า"
แม้จะไม่อยากเดินออกไปมากแค่ไหนแต่ก็ทำไม่ได้น้ำเหนือจึงต้องเดินออกไปด้านหน้า ยืนหลบอยู่ด้านหลังของผู้จัดการร้านให้คุณสุภาต้องยิ้มขำแล้วดึงคนเก่งออกมายืนข้างกัน "น้ำเหนือนี่คุณหญิงมรกตเจ้าของร้าน แล้วก็ลูกชายของท่านคุณอชิตพลตอนนี้ดูแลบริษัทจิลเวล บริสตันอยู่ ส่วนนี่น้ำเหนือค่ะ"
น้ำเหนือยกมือไหว้คนทั้งสอง "สวัสดีครับคุณหญิงมรกต คุณอชิตพล" แม้จะไม่อยากเงยหน้าขึ้นแต่การที่เขาจะมายืนก้มหน้าก้มตาต่อหน้าเจ้านายก็คงจะไม่ดีนักเขาจึงเลือกที่จะเงยหน้าขึ้นสบตากับคุณหญิงมรกตแต่หางตาก็มองเห็นลูกชายของท่านที่ยืนเยื้องอยู่ด้านหลังอย่างชัดเจน
แค่ทำเป็นไม่เห็น ทำเป็นไม่รู้จัก ทำเหมือนเขาเป็นอากาศก็พอน้ำเหนือ...ควอซ์ตชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นน้ำเหนือชัดๆ แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเพียงแค่ยืนมองนิ่งๆ เท่านั้น
"หนูน้ำเหนือสินะยังดูเด็กอยู่มากเลยนะแต่ก็เก่งมากเลยนะจ๊ะ คุณหญิงเปรมสุดาเอ่ยชมฝีมือการออกแบบใหญ่เลย ฉันเลยได้เครดิตไปเยอะเลยเชียว" คุณหญิงมรกตส่งยิ้มเป็นมิตรให้กับคนตรงหน้าที่เหมือนจะสบตาตรงๆ แต่ก็ไม่กล้าแล้วนึกเอ็นดูในความน่ารักนั้น
"ไม่ครับ... คนที่ออกแบบจริงๆ คือพี่โอ๊ตครับผมเพียงแค่ช่วยเหลือเล็กน้อยเท่านั้น ไม่กล้าที่จะรับคำชมหรอกครับ"
"แต่หนูก็เป็นหนึ่งในทีมงานนี่จ๊ะ ยังไงก็สมควรได้รับคำชมแล้ว"
"น้ำเหนือนี่เก่งจริงๆ ค่ะคุณหญิงช่วยโอ๊ตได้เยอะเลยทีเดียวบางชิ้นก็ออกแบบเองแทบทั้งหมด ถ้าคุณหญิงจำได้เครื่องประดับที่ดิฉันส่งให้เมื่ออาทิตย์ก่อนที่เป็นสร้อยเส้นยาวที่สามารสวมแบบทบกันจนเหมือนเป็นสองเส้นได้นั่นก็เป็นผลงานของน้ำเหนือนะคะ" คุณสุภาที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดขึ้นทันทีไม่ได้เยินยอจนเกินเหตุแต่พูดในความเป็นจริง "เป็นผลงานออกแบบหนึ่งชั่วโมงของน้ำเหนือตอนมาสัมภาษณ์งานค่ะ"
คุณหญิงมรกตย้ายมามองหน้าน้ำเหนือทันที "จริงหรอคุณสุภา ฉันชอบสร้อยเส้นนั้นมาเลยนะนี่ก็สั่งให้คนทำแล้วว่าจะเอามาใส่อวดคนอื่นก่อน"
น้ำเหนือไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไปจึงทำได้เพียงแค่ยิ้มเท่านั้นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินคุณหญิงมรกตพูด "ฉันถูกชะตาน้ำเหนือมากเลยดูเป็นเด็กดีเชียว คุณสุภาถ้าฉันอยากจะยืมตัวน้ำเหนือไปจะได้ไหม เหมือนเป็นคนติดตามน่ะแต่น้ำเหนือไม่ต้องกังวลนะจ๊ะ เราจะยังได้ทำงานออกแบบอยู่ที่นี่แหละ"
"เออ... คือผม..." น้ำเหนือหันมองผู้จัดการร้านที่พนักหน้าให้ ถ้าหากปฏิเสธไปคงไม่ดีแน่ แล้วเขาจะทำอะไรได้นอกจากเอ่ยรับคำ "ครับคุณหญิง... ถ้ามีอะไรให้ผมรับใช้ก็บอกได้เลยครับ"
คุณหญิงมรกตเข้าไปคุยกับคุณสุภาต่อในห้องทำงานโดยมีควอซ์ตตามเข้าไปด้วย น้ำเหนือและพนักงานคนอื่นๆ จึงกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง ร่างเพรียวของน้ำเหนือเดินเข้าไปในห้องที่เหมือนเป็นห้องประชุมและมันคือห้องทำงานของเขาและโอ๊ตไว้สำหรับนั่งออกแบบเครื่องประดับ กระดาษเอสีมากมายวางเกลือนอยู่บนโต๊ะ คงมีแค่ห้องนี้นี่แหละที่ค่อนข้างรก เพราะเต็มไปด้วยแฟ้มแบบเครื่องประดับและกระดาษ
คนที่ไม่มีสมาธิหลังจากเจอคนที่ไม่อยากเจอนั่งนิ่งๆ เพื่อเรียกสมาธิของตัวเองกลับมาอีกครั้ง แม้จะบอกกับตัวเองว่าลืมแล้ว ลืมทุกอย่างแต่ลึกๆ ในใจน้ำเหนือรู้ดีว่าไม่เคยลืม ทั้งความอ่อนโยน และความรุนแรงของควอซ์ต น้ำเหนือไม่เคยลืมเลยจริงๆ
คนที่นั่งเหม่อถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องเปิดและปิดลงพร้อมกับเสียงลงกลอน น้ำเหนือมองผู้ชายตรงหน้าด้วยความระแวงค่อยๆ ลุกขึ้นยืนเพื่อมองหาทางหนีทีไล่หากเกิดอะไรขึ้น
"ค... คุณ"
"ฉันไม่นึกเลยนะว่าจะมาเจอเธอที่นี่น้ำเหนือ" ควอซ์ตยิ้มมุมปากอย่างที่ชอบทำพลางมองลูกกวางน้อยที่ยืนตัวสั่น
น้ำเหนือไม่ได้ตอบอะไรออกไปเพียงแค่เสหน้าหลบไปทางอื่นก่อนจะสะดุ้งอีกรอบเมื่อคนตัวสูงสาวเท้ายาวๆ ไม่กี่ก้าวก็มายืนประชิดตัว "เจ้านายพูดด้วย... ควรจะพูดตอบไม่ใช่หรือ"
ใบหน้าคมหล่อเหลาอย่างลูกครึ่งเลื่อนเข้ามาใกล้จนน้ำเหนือก็เอนตัวหนีแต่ก็ไปไหนไม่รอดเมื่อคนตัวสูงใช้สองมือวางเท้าไว้ที่โต๊ะกักร่างของน้ำเหนือเอาไว้ คนที่ถูกคุกคามทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้เพื่อเพิ่มระยะห่างแต่นั่นก็ยิ่งทำให้คนคุกคามมีโอกาสรุกไล่มากยิ่งขึ้น
"ผม... คุณอชิตพลมีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ"
มือหนายกขึ้นดันปลายคางเพื่อให้ใบหน้าที่ก้มหลบเขาเงยหน้า รอยยิ้มร้ายๆ ปรากฏบนใบหน้าคมคายนั้นทันทีเมื่อเห็นลูกกวางน้อยกำลังตัวสั่น "ทำไมพูดจาห่างเหินแบบนั้นละน้ำเหนือ เราสองคนก็คนกันเองไม่ใช่หรือไง หึหึหึ"
"ถ้าคุณอชิตพลไม่มีอะไรช่วยปล่อยผมด้วยครับ ผมมีงานต้องทำต่อ" แม้จะทำเป็นนิ่งแต่ในใจของน้ำเหนือนั้นกำลังสั่นอย่างรุนแรง
"คืนนั้น...เธอยังเรียกฉัน ‘พี่ควอซ์ตครับ’ อยู่เลยนะ" คนตัวสูงโน้มลงมากระซิบข้างใบหูพร้อมกับเป่าลมเข้าหูให้น้ำเหนือตัวสั่น "เรียกฉันแบบนั้นอีกสิน้ำเหนือ"
คนกลัวกลั้นใจผลักร่างนั้นออกห่างก่อนจะลุกหนี ต้องอยู่ให้ห่างจากคนคนนี้ ต้องหนีไปให้พ้น ร่างที่กำลังเดินหนีนั้นถูกคว้าเข้าที่ข้อมือ ควอซ์ตออกแรงดึงจนน้ำเหนือเซกลับมาอีกรอบริมฝีปากบางทาบทับลงบนกลีบปากของน้ำเหนือทันทีจนคนโดนจูบได้แต่ตาโตด้วยความตกใจ สองมือทั้งทุบทั้งตีแต่ก็ไม่ได้ทำให้ร่างหนากว่านั้นสะทกสะท้าน และไม่นานคนที่เชี่ยวชาญก็จัดการคนไม่ประสีประสาเสียจนสิ้นฤทธิ์
"หึหึหึ เธอหนีฉันไม่พ้นจริงๆ นั่นแหละน้ำเหนือ โดนแค่นี้ก็หมดแรงแล้ว"
"ผมเกลียดคุณ" เสียงที่ไม่ได้ดังไปกว่าเสียงกระซิบลอดออกมาจากริมฝีปากของน้ำเหนือ
"เกลียดมากขนาดไหน แต่ฉันก็เป็น ‘ผัว’ เธออยู่ดีน้ำเหนือ" เสียงของควอซ์ตดังกระแทกเข้าไปในใจตอกย้ำความสัมพันธ์ทางกายของพวกเขาว่ามันเคยดำเนินไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
เพียะ!
สิ้นคำพูดของควอซ์ตคนที่โดนตอกย้ำความสัมพันธ์ก็สะบัดมือใส่หน้านั้นทันทีจนคนถูกตบถึงกับตาวาวด้วยความกรุ่นโกรธกระชากร่างบางเข้ามาใกล้แล้วก้มลงจูบด้วยสัมผัสที่รุนแรงและหยาบโลน น้ำตาที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนไหนออกจากดวงตาของน้ำเหนืออย่างที่เจ้าตัวไม่สามารถห้ามได้ ควอซ์ตกัดลงที่ริมฝีปากของน้ำเหนือเพื่อให้เจ้าตัวเปิดปากขึ้นก่อนจะสอดปลายลิ้นเข้าไป จูบที่รุนแรงจนน้ำเหนือรับรู้ถึงกลิ่นความเลือดในปากของตัวเอง
และทันทีที่ถอนจูบออกร่างของน้ำเหนือก็แทบจะทรุดลงกับพื้นถ้าหากไม่ได้อีกคนรั้งแขนเอาไว้ "ผม… ผม อึก... ไปทำอะไรให้คุณ ทำไมต้องตามจองล้างจอมผลาญผมแบบนี้ ฮือ... ผมชดใช้ให้คุณไปหมดแล้ว ชดใช้... อึก... ไปหมดแล้ว"
น้ำตาของน้ำเหนือทำให้ควอซ์ตชะงัก เขาไม่ได้ตั้งใจจะรุนแรงหรือทำร้ายจิตใจอะไรแต่พอเด็กคนนี้ตั้งท่ารังเกียจเขา แต่เพียงเด็กคนนี้ตบเขาความโกรธก็พุ่งขึ้นมาทันที
"ฉัน..."
ควอซ์ตปล่อยมือออกจากน้ำเหนือและร่างนั้นก็ทรุดนั่งกับพื้นทันทีความเข้มแข็งที่น้ำเหนือแสร้งทำมาตลอดถูกทำลายลงในไม่กี่นาทีเพียงเพราะผู้ชายคนนี้ปรากฏตัวขึ้น คนที่ยังสับสนกับความรู้สึกของตัวเองยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองพลางมองร่างที่ดูอ่อนแอบอบบางตรงหน้าแล้วถอนหายใจ
"จำเอาไว้น้ำเหนือ ถ้าฉันยังไม่ปล่อยเธอก็ไม่มีสิทธิไปไหนทั้งนั้น" ควอซ์ตพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินออกจากห้องไปด้วยความรู้สึกหนักอึ้งในอก ตลอดเวลาหนึ่งเดือนกว่าเกือบสองเดือนที่ผ่านมาแม้เขาจะทำตัวเหมือนเดิมยังคงออกไปเที่ยวไปดื่มเหมือนปกติ แต่เขาก็รับรู้ถึงความแปลกไปของตัวเอง และวันนี้เขาก็แน่ใจแล้วว่าทุกอย่างมันเป็นเพราะน้ำเหนือ
เพราะความไม่ประสีประสาแต่ทว่าก็ยั่วยวนของน้ำเหนือ สัมผัสทุกอย่าง เสียงร้องยังคงฝั่งแน่นไม่หายไปจากความคิดของควอซ์ตเลยสักนิด บอกใคร...ใครจะเชื่อว่าคนอย่างควอซ์ต อชิตพล บริสตันห่างหายจากคู่นอนมาเป็นเดือนแล้ว ทุกครั้งที่ได้กอดใครเขาก็มักจะคิดถึงน้ำเหนือเสมอ แม้ว่าคนๆ นั้นจะมีรูปร่างที่คล้ายกันกับน้ำเหนือแต่ก็ไม่สามารถแทนกันได้
เขาแค่ไม่เคยเจอคนบริสุทธิ์ เพราะบรรดาคู่นอนที่ผ่านมาของเขามักจะเจนจัดในเรื่องบนเตียงอยู่แล้ว พอมาเจอคนที่ไม่เคยแบบน้ำเหนือมันเลยทำให้เขารู้สึกติดใจก็แค่นั้น ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรนอกเหนือไปจากนั้นแน่นอน
ไม่มีทาง...TBC.************************************************
ขอโทษที่ปล่อยให้รอนานนะคะ เรื่องนี้นี่แต่งยากจริงๆ อีกอย่างกำลังสับสนด้วยค่ะว่าจะทำยังไงกับพี่ควอซ์ตดี ตอนนี้น้ำเหนือได้งานทำเรียบร้อยแล้วแต่ดันต้องเจอพี่ควอซ์ตอีกแล้ว และคงเจอกันบ่อยๆ เพราะคุณหญิงมรกตของเราดันรู้สึกเอ็นดูน้องจนอยากเรียกใช้เสียอย่างนั้น อย่าพึ่งเกลียดพี่เขาไปมากกว่านี้นะคะเพราะจริงๆ แล้วพี่ควอซ์ตไม่ใช่คนร้ายค่ะ เขายังแค่สับสนในใจตัวเองอยู่เนอะ อย่างที่เขาบอกเขาไม่เคยเจอใครแบบน้ำเหนือแต่เขาตีความรู้สึกนั้นไปในทางเรื่องบนเตียงตามประสาผู้ชายเพลย์บอยแต่ลึกๆ ในใจนั้นก็... นะ
คอมเมนต์ให้กำลังใจคนเขียนหน่อยนะคะ แล้วเจอกันต่อหน้าค่ะ
แวะไปคุยกันในเพจเฟสบุ๊ค ทวงถาม ตามติดนิยายของฟางกันเยอะๆนะ ไปคุยกันได้นะคะ ฟางเองก็ตอบตลอดเช่นกันค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับคนที่เล่นทวิตเตอร์และอยากพูดคุยถึงนิยายเรื่องนี้ช่วยกันติดแฮชแท็ก #พี่ควอซ์ตน้องเหนือ ฟางตามส่องทุกแท็กที่ฟางแต่งค่ะ ฮี่... หรือจะเข้าไปพูดคุย ทวงถามตามติดนิยายได้ที่ @Fangiily_GC นะคะ