สามปีผ่านไประบบสั่นสะเทือนเตือนเจ้าของโทรศัพท์มือถือให้รับรู้ว่ามีข้อความเข้า ร่างสูงจึงหยิบมากดดูข้อความ
“พบกันที่เดิมของเรา” เขายิ้มกว้าง รีบกดข้อความตอบกลับไป
“ตามที่คุณต้องการครับที่รัก”
“ขับรถระวังด้วยนะ อย่าขับเร็วนักล่ะ”
“คงจะยากสักหน่อย เพราะผมอยากไปพบคุณให้เร็วที่สุด”นักกีฬาเบสบอลมืออาชีพของทีมดังโบกมือลาทีมงานและพวกนักข่าวจากภายในงานฉลองชัยชนะประจำปี หลังจากการให้สัมภาษณ์ ถ่ายรูปและรับประทานอาหารร่วมกันเรียบร้อยแล้ว ร่างสูงก็ปราดออกจากงาน ตรงไปยังรถสปอร์ตคันหรูที่จอดรออยู่ รถซึ่งเขาได้รับเป็นรางวัลจากสปอนเซอร์ เนื่องจากการแข่งขันชนะเลิศในนัดที่แล้ว
คิมุระ เร็น ได้ชื่อว่าเป็นนักกีฬามือต้นๆ ของประเทศ เขามีค่าตัวแพงติดอันดับหนึ่งในห้าของนักกีฬาเบสบอลอาชีพเลยทีเดียว ความเก่งกาจและความมุ่งมั่นของเขาทำให้มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่รักของผู้คนไปทั่ว
มือหยาบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรไปหามารดา ซึ่งในเวลานี้พวกเขาพักอยู่ในบ้านหลังใหญ่แถบชานเมืองด้วยกันอย่างสงบสุข ฮานาโกะแข็งแรงขึ้นมาก ที่จริงก็สามารถไปทำงานได้แล้วด้วยซ้ำ หากลูกชายไม่ยินยอมให้มารดาของเขาต้องลำบากอีก
“แม่ครับ คืนนี้ผมไม่กลับนะ”
“จ้า จะไปฉลองกันที่บ้านชายหาดสินะ”
“ครับ” เร็นหัวเราะ
“ขับรถดีๆ นะลูก แล้วก็ ยินดีด้วยกับชัยชนะนะจ๊ะ”
“คร้าบบบ หลับฝันดีนะครับแม่”
รถสปอร์ตคันหรูวิ่งไปบนทางด่วน มุ่งตรงไปยังบ้านพักส่วนตัวริมหาดซึ่งคืนนี้เป็นที่ที่คนรักของเขารออยู่ บ้านพักซึ่งสำหรับตัวเขาแล้ว เต็มไปด้วยความทรงจำมากมาย
ร่างสูงจอดรถเทียบตรงทางเข้าตัวบ้าน รีบลงจากรถแล้วสาวเท้ายาวๆ เข้าไปภายในบ้านที่มืดสนิท หากเขารู้ที่ทางในบ้านหลังนี้ดีจึงไม่มีปัญหาใดๆ ขายาวพาเจ้าของตรงไปยังห้องนอนขนาดใหญ่
“คุณดาริลครับ ผมมาแล้ว”
ภายในห้องนอนเงียบสงัด มีเทียนจุดไว้ให้แสงพอสลัว เมื่อเขาก้าวเข้าไปในห้อง ก็ต้องสะดุ้งตัวเพราะเสียงดังปังและเศษกระดาษสีๆ ที่พุ่งตรงมาที่ตน
ปัง!
ดาริลดึงพลุกระดาษแบบพวยในมือ “ยินดีด้วยกับชัยชนะนะ เร็น”
“คุณดาริล” เมื่อได้เห็นคนรักที่ร่างกายมีเพียงเสื้อเบสบอลตัวโตสวมอยู่ แขนแกร่งก็รวบเอวบางเข้ามากอด “คิดถึงคุณจังเลย”
มือขาวทุบไหล่หนาเบาๆ “คิดถึงอะไร เมื่อคืนก็เพิ่งเจอกัน”
“ฮื่อ! แต่เมื่อคืนทำอะไรไม่ได้อย่างใจเพราะวันนี้ผมมีแข่ง คืนนี้ผมจะขอทบต้นทบดอกเลย” ใบหน้าหล่อเหลาซุกเข้ากับซอกคอหอมกรุ่นแล้วพรมจูบอย่างแสนรัก พออีกฝ่ายหัวเราะคิกคัก เขาก็ย่อตัวลงอุ้มร่างผอมบางขึ้นมาแนบกาย แล้วพาไปวางลงบนเตียง จากนั้นจึงคุกเข่าลงบนพื้นข้างๆ กัน
“ทำไมไปนั่งตรงนั้น”
เร็นล้วงมือเข้าไปภายในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะหยิบกล่องไม้ขัดเงาขึ้นมาเปิดออก “ที่จริง... ผมตั้งใจว่าจะสวมให้กับคุณต่อหน้าแม่... แต่ผมรอไม่ไหว อยากให้คุณสวมมันจะแย่แล้ว ขอโทษที่ใช้เวลานานไปสักหน่อย”
ริมฝีปากสีแดงคลี่ยิ้ม “ไม่เห็นนานเลย... แต่ก็คุ้มที่รอ” พลางยื่นมือออกไปตรงหน้าอีกฝ่าย “ใส่ให้หน่อยสิ”
มือหยาบหยิบแหวนแพลตตินัมฝังเพชรล้อมทั้งวงออกมาจากในกล่อง หลังจากที่มีเงินรายได้จากการเข้าทีมเบสบอลอาชีพ สิ่งแรกที่เขาทำก็คือคืนเงินจำนวนสามล้านเยนให้กับดาริล จากนั้นก็เก็บเงินซื้อที่ดินแถบชานเมืองเพื่อสร้างบ้านไว้อยู่อาศัยกับมารดาและคนรัก ซึ่งต้องใช้เงินเป็นจำนวนไม่น้อย แต่เร็นก็เพียรพยายามเก็บเงินต่อไปอย่างตั้งใจ เพื่อที่จะซื้อแหวนวงนี้มาให้กับคนรักตามคำสัญญา เขาค่อยๆ สวมเข้าไปบนนิ้วนางข้างซ้าย แล้วแนบจูบประทับลงไป “คุณดาริล... ผมรักคุณ เราอยู่ด้วยกันมาสามปีแล้วนะครับ ผมรักคุณมากขึ้นทุกปีเลยนะ”
ดาริลยิ้มหวาน พลางโน้มใบหน้าเข้าไปเพื่อแต้มจูบ ทว่าเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน “อ๊ะ รอเดี๋ยวนะ”
เร็นขมวดคิ้ว ใครกันที่ทำให้ดาริลทิ้งเวลาโรแมนติกกับตัวเขาไปรับโทรศัพท์ได้นี่ “....” ร่างสูงนึกน้อยใจ ขณะที่เงี่ยหูฟังการสนทนา
“คลอดแล้ว ผู้หญิงอีกละ ฮ่าๆๆ อื้อ ไว้จะไปเยี่ยม... จะพาเร็นกับคุณแม่ไปด้วย แล้วเจอกัน”
“ใครน่ะครับ” เร็นถามเสียงขรึม
“คาโอรุน่ะ วันนี้คลอดลูกคนที่สาม ลูกสาวอีกแล้วล่ะ”
หลังจากที่หย่าร้างกันไป หญิงสาวก็ย้ายไปอยู่ประเทศอเมริกาเพื่อดูแลสาขาใหม่ของเครือบริษัทรอส ร่วมกับคนรักของเธอซึ่งปัจจุบันอยู่ในตำแหน่งผู้ช่วยของดาริล พวกเขาแต่งงานและซื้อบ้านหลังสวยไว้เพื่อสร้างครอบครัวใหม่ที่นั่น ส่วนบริษัทฟูจิฮาระนั้น ดาริลกลายเป็นผู้ถือหุ้นแทนตัวเธอ เขาเจรจากับผู้ถือหุ้นที่เหลือจนส่วนใหญ่ยินยอมให้บริษัทฟูจิฮาระเข้ามารวมเป็นอีกบริษัทในเครือรอสเรียบร้อย คาโอรุจึงเป็นอิสระจากครอบครัว เช่นเดียวกันกับดาริล ชายหนุ่มถือหุ้นเกือบทั้งหมดของเครือบริษัทรอส เขาจึงเป็นบุคคลที่มีอำนาจมากที่สุด แล้วยังเป็นเจ้าของบริษัทที่เคยลงทุนร่วมกันกับคาโอรุ ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีก็กลายเป็นหนึ่งในสิบบริษัทใหม่ที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในประเทศ
เร็นหัวเราะเบาๆ “โอ้โห! คุณไดอิจินี่ ขยันจังเลยนะครับ”
แขนเรียวคล้องลำคอหนาแล้วดึงร่างสูงเข้ามาใกล้ “...เอาไว้เราไปเยี่ยมพวกเขากันนะ”
เร็นยิ้มกว้าง “ฤดูการแข่งขันจบแล้ว ผมเพิ่งได้พักร้อนมาหนึ่งเดือนพอดีเลย”
“อืม... งั้นไปเที่ยวกันต่อด้วย อ๊ะ...” ยังไม่ทันพูดจนจบประโยค ร่างผอมบางก็ถูกดันเบาๆ ให้นอนลงไปบนเตียง โดยที่ร่างสูงคืบคลานขึ้นมาคร่อมทับ
“เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลังนะครับ ตอนนี้... ขอรางวัลให้เอซคนดังของไจแอนท์ก่อนนะ”
แสงสีนวลของจันทราทอดผ่านลงมายังสองร่างเปลือยเปล่าที่หลอมรวมเข้าเป็นหนึ่ง บนท้องฟ้าซึ่งไร้เมฆหมอกใดๆ ส่งผลให้ดวงจันทร์ทอแสงสว่างไสว เฉกเช่นเดียวกันกับหัวใจสองดวงที่เข้าใจกันและกัน ไม่มีม่านหมอกใดๆ มากางกั้นหรือสร้างความขุ่นเคืองใจให้กันอีก มีเพียงคำว่า
รัก ชัดเจนอยู่ในโสตประสาทของทั้งสองคน
ENDจบลงเรียบร้อยแล้ว สำหรับความรักของไซคี (น้องเร็น) กับอีรอส (ดาริล) นะคะ แฮปปี้เอนดิ้ง~
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาจนจบเรื่องค่ะ
เดี๋ยวพรุ่งนี้มาลงนิสรีนตอนจบนะคะ ^^ อาทิตย์นี้ฮัสกี้ลงจบเรื่องสองเรื่องเลย แอร๊...
แล้วจะแจ้งข่าวการรวมเล่มอีกที ประมาณอาทิตย์หน้านะคะ ขอบคุณมากค่า
พบกันในเรื่องใหม่ (ที่ยังไม่รู้จะได้ฤกษ์ลงเมื่อไหร่) นะคะ รักทุกคนเลยยยย
ปล. ขอโทษคุณRoseBulletด้วยน้า แง จบซะแล้ว ได้หวานกันนิดนึงนะคะ ><