เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงที่ในห้องพักของผู้ป่วยมีแต่ความเงียบเข้าปกคลุมผสานไปกับเสียงลมหายใจเบาๆของทั้งสองคนที่สอดประสานเป็นจังหวะเดียวกัน ทันใดบานประตูก็เปิดเข้ามาพร้อมกับเสียงรองเท้าส้นเตี้ยพร้อมด้วยร่างอวบแต่ดูภูมิฐานสมวัยของคุณหญิงจิตตราและร่างอ้วนใหญ่ของนมใหญ่ที่เดินตามเข้ามา ทั้งสองคนดูจะนิ่งไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นว่าข้างเตียงนั้นมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งนั่งฟุบหลับอยู่ข้างๆเตียงของพศวัตในขณะที่มือของทั้งสองยังกอบกุมกันเอาไว้
"เด็กคนนั้น...." นมใหญ่อุทานออกมาเบาๆ
"เอาของเยี่ยมไปวางนะ แล้วออกไปก่อนไปนมใหญ่ เดี๋ยวฉันอยู่เอง" คุณหญิงจิตตราเอ่ยด้วยเสียงเบาซึ่งนมใหญ่เองก็พยักหน้ารับคำก่อนจะเดินออกไป คนเป็นแม่เดินไปยืนอีกด้านหนึ่งของเตียงมองหน้าของคนป่วยพลางส่ายหน้า ก่อนจะหันไปมองเด็กหนุ่มที่ฟุบหลับอยู่ตรงนั้น ก่อนจะยื่นมือไปสะกิดให้ลูกชายตื่น
"แมกซ์....แมกซ์..."
เสียงฝีเท้าที่เข้ามาใกล้ทำให้เด็กหนุ่มผมสั้นค่อยๆลืมตาขึ้นแล้วเมื่อพบว่ามีบุคคลที่สามเข้ามาในห้องคนป่วยโดยที่เขาเพิ่งจะตื่นจากการฟุบหลับไปข้างๆพศวัตแบบนี้
"อ่ะ..." เด็กหนุ่มสะดุ้งโหยง มือพาลดึงออกจากมือของพศวัต คุณจิตตราสบตาเด็กหนุ่มนิ่ง ก่อนจะตบไหล่ลูกชายที่ดูจะยังไม่ตื่นเบาๆ
"แมกซ์....แม่มาเยี่ยมนะ"
"อืมม์.. "ชายหนุ่มครางในลำคอเบาๆแล้วค่อยๆลืมตาขึ้น
"ครับแม่.. "ดูเขาจะไม่ตกใจอะไรกับการมาของคุณหญิงจิตตราผู้เป็นแม่เลยมือแกร่งจับมือของเด็กหนุ่มเอาไว้แน่นไม่ให้หนีไปไหน
"นอนไม่รู้เรื่องรู้ราวอีกแล้วนะเรา.... แม่เอาของมาเยี่ยม" คนเป็นแม่ว่าพลางมองหน้าของสมปอง เด็กหนุ่มยกมือไหว้อย่างหวาดๆ
"สวัสดีครับคุณผู้หญิง...." ดวงตากลมของเด็กหนุ่มมองหน้าของคนตรงหน้าสลับกับพศวัตไปมาด้วยความสับสน
"อ่า...ผมว่าผมขอตัวดีกว่าครับ" ว่าพลางก็ทำท่าจะลุกขึ้น
"จะไปไหน?" พศวัตถามเสียงเข้มแล้วดึงข้อมือเล็กๆนั่นเอาไว้
"น้อย..นี่คุณหญิงจิตตราแม่พี่ แม่ครับ นี่ น้อยครับ "
"อ่ะ...สวัสดีครับ" เด็กหนุ่มหันไปมองหน้าพศวัตด้วยสายตาเชิงดุก่อนจะหันกลับมายกมือไหว้คุณหญิงอย่างนอบน้อม
"สวัสดีครับคุณผู้หญิง ผมชื่อน้อยครับ...ทำงานอยู่ทึ่ร้านคุณรามินทร์ครับ"
"แฟนผมครับแม่ "พศวัตพูดแทรกขึ้นมาทันทีแล้วยิ้มให้ผู้เป็นแม่
"คุณแมกซ์!"สมปองหันไปโวยใส่คนป่วยด้วยใบหน้าแดงก่ำจนพาลจะดำแทบจะในทันที
"เอ่อ...คุณผู้หญิงครับเชิญนั่งก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะไปเอาน้ำมาเสริฟ" เด็กหนุ่มตะลีตะลานจะรีบลุกไปหาน้ำท่ามาให้คุณหญิงแต่ก็ไปไม่ได้เพราะมือใหญ่ของพศวัตยังยึดมือของเขาเอาไว้แน่น
....เอ้ยยยย ปล่อยยยยย อายจะเอาหน้าซุกดินได้อยู่แล้ว....."แมกซ์...พูดอะไรแบบนั้น ไปแกล้งเด็กทำไม แล้วนั่น ปล่อยมือได้แล้ว..." คุณหญิงพูดอมยื้มพลางตีมือลูกชายที่ดูจะไม่ยอมปล่อยจากมือของเด็กหนุ่มที่ดูจะทั้งเขินอายจนทำตัวไม่ถูก
พศวัตหัวเราะเบาๆกับท่าทางลนลานของคนรัก เขาเลยยอมปล่อยมือให้เด็กหนุ่มไปหาน้ำมาให้ผู้เป็นแม่ของเขา คุณหญิงจิตตรากระแอมไอเบาๆ เป็นเชิงปรามลูกชายก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆลูก
"แมกซ์...มีอะไรจะบอกแม่ไหมเนี่ย "
"ผมบอกไปแล้วนี่ครับ คุณผู้หญิง... "พศวัตยิ้มเรียกแม่ของตัวเองด้วยคำที่สมปองพร่ำเรียกพลางหันไปมองเด็กหนุ่มที่อยู่หน้าตู้เย็น
" คนนี้ผมจริงจังนะครับ "
"...ก็เห็นเล่นไปหมด จะรู้ได้ยังไง... แล้วนี่ลูกเต้าเหล่าใคร อายุเท่าไรเนี่ยดูยังเด็กอยู่เลย แมกซ์...." ดวงตาของคุณหญิงจิตตรามองหน้าลูกชายอย่างเอาเรื่อง
"ก็...ตอนนี้ก็คง 18 แล้วมั๊งครับ "พอถูกดุแบบนั้น ผู้ชายตัวโตเลยตอบกลับมาเสียงเบา แล้วหันไปหาตัวช่วย
"ใช่ไหม? เราน่ะ 18 แล้วใช่ไหม? "
"ครับ...สิบแปดแล้วครับ" เด็กหนุ่มหันมาตอบทำหน้างงๆ พลางเดินเอาน้ำเย็นและกาแฟร้อนมาเสริฟให้คุณหญิงจิตตรา
"สิบแปด??....แล้วมาทำงานให้รามินทร์เหรอ..." คุณหญิงจิตราอุทานด้วยความตกใจ
"ครับ เป็นผู้จัดการร้านครับ แล้วคุณรามินทร์ก็ให้เฝ้าที่ร้านด้วยครับ" เด็กหนุ่มตอบหน้าซื่อ
"เอ๊ะ แมกซ์แล้วนี่จำได้ว่าเด็กคนนี้ก็ทำงานอยู่ที่ร้านเก่าด้วยไม่ใช่เหรอ...ไม่ได้ร่ำเรียนอะไร?"
"ก็เขาต้องทำงานนี่ครับ "ชายหนุ่มถอนหายใจ พอแม่เขาพูดเรื่องเรียนขึ้นมาก็รู้ได้ทันทีเลยว่ากำลังจะเปิดประเด็นอะไร
"แต่ก็จบ กศน. ม.3 นะครับ "
"แล้วให้มาดูร้านอีก? โอเค แม่ไม่ว่านะ เรื่องทำงานที่ร้าน แต่เราก็ต้องคิดด้วยว่า เจ้าหนูเนี่ย...อยากจะเรียนต่อไหม แม่เคยสอนไงว่าเราต้องไม่ปิดโอกาสของใคร ถึงเขาจะเป็นลูกจ้างหรืออะไรก็ต้องเอาใจใส่ดูแลเขาให้ได้ทุกเรื่องเเท่าที่ทำได้ เข้าใจไหม..."คุณหญิงจิตตราดูจะไม่ได้สนใจเลยว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเป็นอย่างไร ดุจะห่วงแค่ว่า เด็กคนนี้จะได้เรียน และมีคุณภาพชีวิตยังไงเท่านั้น ที่เธอเปิดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมาไม่ได้ต้องการจะดูถูกการศึกษาหรือฐานะของใคร แต่มันทำให้เธอตกใจว่ายังมีเด็กที่ขาดโอกาสอยู่ใกล้มือเธอขนาดนี้ ทั้งๆที่เธอก็ช่วยงานการกุศลให้นักเรียนที่ขัดสนในชนบทมามากมาย
"แล้วนี่นอนที่ร้าน พวกนี้เขาคงไม่ได้ให้นอนห้องรกๆหรอกนะ ใส่ใจใครที่ไหนกัน แมกซ์เนี่ย.... เออ แล้วหนูชื่ออะไรนะ น้อย? ใช่ไหม... เป็นลูกใครล่ะ บ้านอยู่ไหน"
"เอ่อ...เอ่อ.....อยู่ขอนแก่นครับ...คุณแม่ผมเสียแล้วครับ ก็ได้คุณรามินทร์ช่วยเรื่องที่อยู่กับงานให้น่ะครับ" เด็กหนุ่มตอบพลางก้มหัวลงเล็กน้อยนึกหวาดหวั่นเล็กๆกับรัศมี “คุณนาย” ของคุณหญิงจิตตรา
"อืม ดีแล้วๆ....แล้วยังไงล่ะ หนูกับลูกชายป้าเนี่ย" ทันใดนึกจะเปลี่ยนเข้าประเด็น”หลัก”คุณแม่ก็หักเลี้ยวเข้ากระทันหันได้เสียอย่างนั้นทำเอาสมปองหันไปมองหน้าพศวัตเหลอหลา ใบหน้าแดงก่ำ
"เอ่อ...ผม...เอ่อ....."
"แม่ครับ "พศวัตขมวดคิ้ว
"อะไรเล่า...ทีเราพูดตรงๆได้แม่ก็ถามตรงๆได้บ้างซิ่" คุณหญิงจิตตราหันไปย้อนลูกชาย
"ขอโทษนะครับคุณหญิง คือผม...ผม....ผมขอตัวก่อนนะครับ" สมปองไม่รู้จะพูดอย่างไรก้มลงยกมือไหว้คุณหญิงจิตตราเสียต่ำก่อนจะมองหน้าพศวัตที่นอนอยู่บนเตียงด้วยสายตาลำบากใจไม่น้อย ก่อนจะวิ่งออกจากห้องไป
+++++++++++++++
"เฮ้ย อ้าว น้อย! "พศวัตเรียกอีกฝ่ายเอาไว้แต่ก็ไม่ทันแล้ว จึงหันมาโวยใส่แม่ตัวเองเล็กๆ
" แม่อะ! ทำแบบนี้เด็กมันก็กลัวกันพอดี แล้วผมจะทำยังไงล่ะทีนี้ "
"อ้าว...อยากเอาเข้าบ้านไม่ใช่เหรอ...แม่ก็ต้องถามหน่อยซิ่ว่าลูกเต้าเหล่าใคร จะมาหลอกลูกแม่กินหรือเปล่า...สัมภาษณ์ก็ไม่ได้ นี่ แมกซ์ จะหาแม่ที่ไหน ที่จะรับมือลูกเป็นได้แบบเราได้ขนาดนี้อีกเนี่ย กี่คนๆก็เป็นแบบนี้ แล้วทีแม่อยากสัมภาษณ์ ลูกเขย? เอ๊ะ เขาเรียกลูกเขยใช่ไหม...จะไม่ให้แม่ได้รู้จักได้คุยเลยหรือไงกัน" คุณหญิงจิตตราว่าพลางหัวเราะ เรื่องของสมปองเธอก็พอจะได้ยินได้ฟังมาจากนมใหญ่เหมือนกันว่า ดูพศวัตจะถูกใจถึงขนาดเคยพามาดูมาแลที่บ้านอยู่พักหนึ่ง
"ลูกสะใภ้ครับแม่ .. มันเป็นเมียผม " พอพูดออกมาต่อหน้าแม่แบบนั้นก็นึกโล่งใจที่สมปองชิ่งหนีออกไปเมื่อครู่เพราะถ้าสมปองมาได้ยินประโยคนี้คงได้วิ่งกลับมาต่อยเขาเพราะความอายบวกโกรธแล้ววิ่งหนีไปอีกเป็นแน่
"...........เอาอย่างนั้นเลยนะ" คุณหญิงดูจะนิ่งไปพักก่อนจะพยักหน้าเหมือนจะทำความเข้าใจ
"แล้วเอายังไง...เขาเด็กมากเลยนะ ..."
"แต่นอกจากผม เขาก็ไม่มีใครแล้วครับแม่ เด็กคนนี้น่าสงสารนะครับ แม่รู้ไหมว่าข้อมือมันแข็งมือมันหยาบขนาดไหน .. น้อยมันเป็นนักมวยเด็ก แต่ก็ต้องเลิกชกเพราะโดนนอค .. เพราะแบบนี้ มันเรียนได้ไม่เท่าคนอื่น "ชายหนุ่มเริ่มเล่าเรื่องของคนรักให้ผู้เป็นแม่ฟัง เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ
"เข้าใจนะครับ.. "
"ทั้งรักทั้งสงสารเลยอย่างนั้น?...เอาเป็นว่า อยากทำอะไรก็ไม่ว่าหรอกนะ...แต่ก็ต้องถามเจ้าตัวเขาให้ดี...แล้วเรื่องเรียนนี่แม่พูดจริง ส่งเรียนซะ ถ้าอยากให้เข้ามาทำงานที่ร้านเป็นจริงจัง...แล้วเรื่องที่หลับที่นอนก็...ไปซื้อคอนโดซะไป แม่ไล่แกออกจากบ้าน" ไม่วายยังพูดติดตลก
"มินมันยังหนีไปนอนกับตาแมนเลย"
"..........แม่ครับ...ขอบคุณนะครับที่เข้าใจพวกผม "สิ่งที่ผู้เป็นแม่พูดทำให้เขาซาบซึ้งใจ เขากับรามินทร์โชคดีมากที่ครอบครัวเข้าใจและไม่บังคับให้ต้องเลือกหน้าตาทางสังคมเหมือนครอบครัวของทินกฤต แถมยังยอมรับคนที่พวกเขาเลือก
หวังว่าซักวันแม่ของเขาจะรักสมปองได้อย่างที่รักกตัญญุเหมือนลูกอีกคนซึ่งเขาจะต้องทำให้ได้
...อีกไม่นานนี้หรอก...
+++++++++++++++
หลังจากโดนไล่ออกมาจากบ้านพศวัตก็พาสมปองไปเลือกคอนโดที่จะอยู่ด้วยกัน ซึ่งสุดท้ายแล้วก็เลือกเอาที่ๆใกล้ๆรถไฟฟ้าเพื่อที่เด็กหนุ่มจะได้มาทำงานได้สะดวก โดยที่พศวัตเป็นคนเลือกโครงการและห้อง แน่นอนว่าถึงจะอยูกันแค่สองคนแต่ก็ต้องเป็นห้องใหญ่และเป็นส่วนตัวอยู่ชั้นบนสุดอยู่ดี
"พรุ่งนี้ ไปหาแม่กันนะ " ชายหนุ่มเอ่ยชวนเสียงพร่า พร้อมๆกับฝังริมฝีปากไปทั่วแผ่นหลังสีน้ำผึ้งของคนที่นอนตะแคงให้อยู่ มือทั้งสองข้างลูบไล้ทั่วผิวกายเปล่าเปลือยใต้ผ้าห่ม
"หาคุณหญิงอ่ะเหรอครับ " เด็กหนุ่มแทบจะลุกพรวดขึ้นมาด้วยความตกใจ ผ้าห่มลงมากองอยู่ตรงเอวดูหมิ่นเหม่อย่างบอกไม่ถูก เบื้องหลังเป็นหน้าต่างกระจกบานใหญ่มองออกไปเห็นวิวยามค่ำคืนของกรุงเทพ
"ครับ .. แม่อยากเจอเรานะ มากๆเลย "ร่างสูงขยับเข้าไปหา พลางดันร่างเล็กลงกับเตียงนุ่มจนแทบจมหายไปทั้งตัว
"แต่...ผมอายท่านี่นา...เขินด้วย...ไม่เอาอ่ะ ขอพลัดอีกนะครับ นะครับ" สมปองยกมือไหว้อีกฝ่ายแทบจะท่วมหัว
"แม่บอกว่าพรุ่งนี้อยากกินลาบ .. พี่ไปโม้ไว้เยอะ..ไปนะ?. "คำถามนั้นไม่ได้ต้องการคำตอบ ริมฝีปากหนาแนบลงมาที่ปากเล็กๆที่ทำท่าจะเถียง ปลายลิ้นร้อนรุกเร้าไปมาในปากเล็กๆ ก่อนจะลามไปทั่วตัว จนทำให้คนตัวเล็กเถียงอะไรไม่ได้อีก
"อื้อ....อื้อ....งื้อ..." เสียงอู้อี้ฟังไม่ได้ศัพท์ดัง สมปองทั้งทุบหลังให้อีกฝ่ายถอยออกไปแต่ดูจะไม่เป็นผล จึงปล่อยให้อีกฝ่ายสัมผัสตัวเองไปตามใจชอบ พศวัตคงได้ยินเสียงพึมพำเป็นชื่อเมนูกับเครื่องปรุงไปเบาๆ
"ครับ...ครับ.....จะทำตามใจคุณผู้หญิงก็ได้ครับ......" เด็กหนุ่มว่าก่อนจะดึงอีกฝ่ายขึ่นมาจูบที่ข้างแก้มเบาๆ
"ให้ทำกับข้าวผมทำได้ ทำสวนก็ได้ แต่ให้ทำแบบนี้ผมทำกับคุณแมกซ์คนเดียวนะครับ"
"ก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้วล่ะ ..
เรื่องนี้น่ะ กับพี่คนเดียวเท่านั้นนะ เข้าใจไหม? "ว่าแล้วก็จับร่างเล็กๆที่เปลือยเปล่าให้มานั่งคร่อมตนเองไว้ ผ้าห่มถูกดึงออกไปให้พ้นๆ คืนนี้เขาอยากเห็นคนตัวเล็กนี้ให้ชัดๆ เพราะยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งสมปองโตขึ้น เป็นหนุ่มมากขึ้นเขายิ่งหลงใหลคนตรงหน้านี้จนแทบจะเรียกว่าโงหัวไม่ขึ้น นิสัยซื่อๆที่ทำให้นึกรักยังคงอยู่ในขณะที่เรือนกายนี่ก็สมบูรณ์จนอยากสัมผัสทั้งวันไม่จนไม่อยากจะปล่อยมือ
"ครับ...กับคุณแมกซ์คนเดียวครับ" เด็กหนุ่มรับคำอย่างว่าง่าย ว่าพลางยกแขนกอดอีกฝ่าย และแม้พศวัตจะมองไม่เห็นใบหน้านั้นคงพอจะรู้ได้ว่า เด็กหนุ่มกำลังยิ้มด้วยความรู้สึกสุขใจแค่ไหน ทั้งที่ผ่านเรื่องราวมากมายทั้งทำให้เสียใจ เจ็บใจ หรือแม้แต่เจ็บตัว แต่ก็ดูเหมือนว่าในที่สุดเขากับชายหนุ่มร่างสูงคนนี้จะได้อยู่ด้วยกัน และเป็นเขาเองที่ยอมรับในสิ่งที่ตนเองเป็นไดัในที่สุดเช่นกัน
"เฮ้อ .. แย่เลยน้า เราทำหน้าแบบนี้ พูดแบบนี้ จะให้พี่หลงเด็กไปไหนเนี่ย?? "ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วกระชับร่างเล็กให้แนบกับตัวเองแน่นๆ จมูกก็ฝังกับลำคอเล็กสูดกลิ่นหอมสบู่เด็กที่เขาเลือกให้ใช้
" อืมม์ .. กลิ่นเด็กนี่มันหอมจริงๆแฮะ .. "-fin-
talk : ก็จบไปแล้วนะคะ สำหรับ Series ที่ 3 กันอย่างน่ารัก เนอะ ... รีดเดอร์คงจะหลงเด็กกันเป็นแถวใช่ไหมล่ะคะ? สำหรับเรื่องต่อไปเป็นเรื่องของเอก กับพี่บาส ค่ะ ยังจำพวกเขาได้ไหมเอ่ย เป็นเรื่องในรั้วมหาวิทยาลัยนะคะ เบรกจากความเครียดมั่งอะไรมั่ง เนอะ! แต่ว่า....ไรเตอร์ขออนุญาตทิ้งระยะโพสต์ไว้จนกว่าโคไรเตอร์จะออกจากโรงพยาบาลนะคะ ดังนั้นเลยขอแปะไว้ตรงนี้ก่อนค่ะ หอมกลิ่นกาแฟ Series>>4th Story : จะกั๊กไปทำไม..ก็ใจมันสั่งมา