บุพเพวายร้าย(สอง)
07.50%
“ อยากรู้นักเดี๋ยวพาไปเจอ!” ผมบอกกดสายทิ้ง ก่อนที่จะเปิดประตูรถออกไปและเดินไปกดลิฟท์ด้วยความไม่พอใจ(มากถึงมากที่สุด!)
จะห่วงอะไรกันหนักหนา วะ!!
พอเข้าไปในห้องก็เดินตรงไปหาจักรที่คิดน่าว่านอนอยู่บนเตียง แต่ก่อนที่มือผมจะจับลูกบิดประตูมันก็เปิดจากด้านในเสียก่อน
“ ...................?!”
เป็นจักรที่เปิดประตู
“ ..................” จักรมองหน้าผมตาเบิกโตด้วยความตกใจ ผมมองจักรตั้งแต่หัวจรดเท้า กางเกงจักรตัวเดิม แต่เป็นเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้าของผมและยังใส่แจ๊ตแก็ตสีดำของผมด้วย ?
ดูยังไง มันก็น้องใส่เสื้อพี่...ไม่ได้เข้าเลยสักนิด
จักรเดินถอยหลัง
“ จะไปไหน มิทราบครับ?” ผมถาม เดินไปหารู้อยู่แล้วว่าคงจะกลับบ้าน
“ เรื่องของกรู!”“ ผัวถามดีๆขึ้นมรึงกรู ไม่น่ารักเลยนะครับ” ผมพูดยิ้ม จักรตอบโต้ด้วยสายตาเกลียดชังอย่างที่สุด
“ เรื่องของกรู!” “ ไหนๆก็ไหนๆแล้วเดี๋ยวผัวพาไปกินข้าว” ผมบอก ดึงแขนจักรพร้อมลากให้เดินตาม ถึงผมจะไม่ได้สัมผัสผิวจักรโดยตรงแต่รู้ว่าจักรตัวร้อน
“ กรูไม่ไป ปล่อยกรู!!” สะบัดมือให้หลุดน่าจะรุนแรงที่สุดแล้ว แต่มันไม่มากพอ
“ จะไปกินข้าวหรืออยากให้ผัวกิน” ผมบอกทุกคำพูดขู่ในตัวของมันเอง
“ มรึงไม่ใช่ผัวกรู!!” พูดพร้อมจ้องผมเขม็ง ราวกับว่าโกรธแค้นมาแต่ชาติปรางไหน ซึ่งนั่นคงจะเป็นผมมากกว่าที่จะทำแบบนั้น
“ ท่าทางเมียคงจะอยากให้ผัวทวนความจำ” ผมบอกคิดจะทำจริง
“ สัด! อย่ามาแตะต้องกรู ไอ้โรคจิต ไอ้โสโครก!!” “ เฮอะ!” ผมยักไหล่
“ อย่ามาทำปากเก่ง พอเอาเข้าจริงก็ช่วยตัวเองไม่ได้ พอโดนเอาก็ครางจนเสร็จ”
หมับ!
ผมจับมือจักรที่ยกขึ้นจะชกผมไว้ ใบหน้าจักรสั่น คิ้วเรียวแดงขมวดเหมือนเกร็งเพราะอารมณ์โกรธ
“ บอกให้มาก็มา” ผมบอกช้อนตัวจักรขึ้นอุ้ม(แบบเจ้าบ่าวอุ้มเจ้าสาว)
“ ปล่อยกรู ปล่อยกรู!!” จักรดิ้นเอามือตีผม
“ ...........” ผมไม่สนใจ อยากดิ้นอยากร้องโวยวาย ถ้าไม่อายเขาผมก็ไม่อาย
พอออกมานอกห้อง ผมมองเห็นคนกำลังเดินเข้าลิฟท์
“ รอด้วยครับ!?” ผมบอกวิ่งไปเพื่อให้ทันลิฟท์โดยไม่รู้ว่าลิฟท์ขึ้นหรือลง
ผู้ชายที่เดินเข้าลิฟท์ไปก่อนกดลิฟท์รอผม
“ ขอบคุณครับ” ผมบอกเมื่อเข้าไปอยู่ในลิฟท์แล้ว ส่วนจักรไม่ได้ดิ้นหรือโวยวายแต่เงียบทำตาปริบๆ(สายตาเคืองๆมาทางผม)
“ ฮึ” ผมทำเสียงในลำคอ ประมาณว่าไม่แน่จริงนิ่หว่า จักรเงยหน้ามองผมกับสายตาเขียวปั๊ด
ผู้ชายคนข้างๆหันมามองผมกับจักรครั้งหนึ่งแต่ไม่พูดอะไร ตอนนั้นจักรหันหน้าหลบเข้ามาในอกผม ทั้งที่เกลียดผมยังกะอะไรดี
คงอาย
ผมก็อายเหมือนกันแต่ทำหน้าด้านไว้ก่อน เกิดมาก็เพิ่งจะเคยอุ้มผู้ชายต่อหน้าสาธารณชน
แต่คิดไปคิดมาทำไมผมต้องอาย อุ้มผู้ชายไม่ผิดกฎหมายสักหน่อย คิดแบบนั้นความอายหายไปเหมือนไม่มีเคยมี(ฮา)
“.............” ผมรู้สึกว่าจักรตัวสั่น เพราะ....คิดว่าน่าจะหนาวไม่งั้นคงไม่ใส่เสื้อหลายตัวแบบนี้ ทั้งตัวยังร้อนอีก เมื่อคืนก็ไม่สบาย นี่ยาที่ไอ้แบงค์ซื้อมาก็ยังไม่ได้กิน
กริ่ง!?
ลิฟท์หยุดที่ชั้น 3 มีผู้หญิง 2 คนเดินเข้ามา ผมขยับที่ไปชิดมุมขวา และแน่นอนเธอ 2 คนหันมามอง ผมยิ้มให้ว่ามองทำไมครับ สงสัยถามผมสิครับ
“ น้องชายไม่สบายหรือค่ะ?” เธอน่าจะเป็นแม่ของอีกคนเพราะอายุดูห่างกันมาก
“ ครับ” ผมบอก จักรเอาหน้าดันอกผมเหมือนว่าอยากจะให้หน้าหายไปให้ได้
อะไรจะขนาดนั้น
กริ่ง!
ลิฟท์เปิดชั้นG(สักที) ผู้ชายคนที่เข้ามาคนแรกเดินออกไปตามด้วยผม เพราะ 2 แม่ลุกขยับให้ผมออกก่อน
“ขอบคุณครับ” ผมบอกแล้วเดินไปหารถ แล้วให้จักรยืนก่อน ผมเปิดประตูรถให้ แต่จักรจะเดินหนีผมจับแขนได้ก็ขู่โหมดโหดหื่นๆว่า
“ ขึ้นรถไม่งั้นปล้ำ” จักรตวัดสายตารวดเร็วมากผมไม่พอใจมาก ผมยิ้มเพราะผมเหนือกว่าเห็นๆ
55หัวเราะให้ตัวเอง เกิดมาไม่เคยต้องขู่แบบนี้ ก็สนุกดีอยู่ แต่สะใจมากกว่าที่จักรต้องมาเชื่อฟังคำสั่งผม
“ เร็วๆ”ผมเร่ง จักรเลยเข้าไปนั่งในรถ ผมยังไม่ปิดประตูรถแต่มองหน้าบึ้งๆของจักร
ก็แค่เนี้ย
ในรถผมบอกจักรว่าจะพาไปไหน?
“ ............” จักรเงียบไม่พูดไม่แสดงความคิดเห็น หน้าก็เชิดขึ้นยังกะว่าเชื้อผู้ดีเข้าสิง
จนไปถึงห้าง จอดรถแล้วผมก็มาเปิดประตูให้จักรที่ไม่ยอมขยับเขยื้อนว่าจะลงมาสักที ผมเปิดประตูให้แล้วยังต้องดึงมือให้ออกมาอีก
“ เร็วๆออกมา” ผมบอกเสียงเข้ม จักรจ้องผมโกรธไม่พอใจเช่นเดิม
“ มรึงจะบังคับกรูให้ทำตามที่มรึงต้องการไปถึงไหน ข่มขืนกรูยังไม่พอรึไง!” จักรพูด ผมทำเป็นไม่ได้ยิน จูงแขนจักรเดินเข้าไปในห้าง(จากด้านข้างที่จอดรถ)
กริ้งๆ
มือถือผมดัง ผมเอาขึ้นมาดู ‘แบงค์’
“ ถึงไหนแล้ว ตอนนี้กรูกับไอ้วุฒิมาถึงแล้ว”
“ มาถึงแล้ว กำลังไป” ผมตอบ แต่ก็ปรายตามองจักรที่เดินเซมากขึ้นเรื่อยๆจนผมคิดว่าไม่นานต้องล้มลงไปแน่ ๆยังดีที่ผมเห็นร้านP เลยเดินเข้า พนักงานต้อนรับสาวถามผมว่ากี่ที่ ผมบอกเพื่อนมาก่อนแล้วให้ไปพาไปห้องที่ไอ้แบงค์บอก
หลังจากถอดรองเท้าเรียบร้อยแล้วผมกับจักรก็เข้าไปในห้องด้านใน ไอ้แบงค์ไอ้วุฒินั่งรออยู่แล้ว บนโต๊ะไม่มีอะไรนอกจากชาเย็น 4 แก้ว(และจานตะเกียบ ช้อน 4 ชุด) คงสั่งให้ผมกับจักรด้วย
“ ................” เข้าไปข้างในผมนั่ง แต่จักรไม่ยอมนั่ง
มีเรื่องให้พูดตลอด ไม่ยอมที่จะโอนอ่อนตาม ต้องให้โมโหทุกที
“ นั่งลง” จักรเชิดทำเป็นไม่ได้ยิน ผมรู้สึกว่าตัวเองเสียหน้าเล็กน้อยครับที่สั่งจักรไม่ได้
“ บอกว่านั่งลง! ” ผมพูดดึงแขนจักรเต็มแรงให้นั่งลง
ตุบ! จักรนั่งลงเพราะผมกระชากแขนลงมา (อยากกวนดีนักอย่างนี้แหละสม!)
“สั่งอะไรรึยัง?” ผมถามไอ้แบงค์ไอ้วุฒิ แต่พวกมัน 2 คนสบตาผม ผมยักไหล่ว่าไม่มีอะไร และก็สบตากับไอ้แบงค์บอกมันว่านี่ไงพามาแล้วไง มีอะไรบุบสลายไหม จะได้เลิกห่วงมันสักที!
“ จักรเอาอะไรร้อนๆไหม ชาเย็นที่พี่สั่งให้ก็แค่สั่งไม่ไว้เฉยๆ” ไอ้แบงค์บอก จักรหันไปอีกทางแล้วบอกว่า
“ ถ้าอยากทำอะไรให้รู้สึกดี พากรูกลับบ้าน ไม่งั้นก็เงียบไปส่ะ!” เอ๊ะ ไอ้แบงค์อุตสาห์เป็นห่วงทำเป็น
ผมโกรธนะครับไม่ใช่ไม่โกรธแต่คิดว่าตัวเองควรจะใจเย็นไว้ก่อน ตอนนี้
ที่นั่งเป็นโต๊ะญี่ปุ่น 3 ตัวเรียงติดกันครับ ซึ่งมากไปสำหรับคน 4 คน ไอ้แบงค์กับไอ้วุฒินั่งติดกันกันผมนั่งเดียวกับจักร และผมนั่งตรงข้ามไอ้วุฒิ
ครืด!
เสียงเลื่อนประตูเปิดออก พนักงานชุดญี่ปุ่นเอาอาหารมาเสริฟ และก็ตามมาอีก 1 คน ตอนนี้จึงมีอาหารหลายอย่างวางอยู่บนโต๊ะ
“ ................” ไอ้แบงค์เอาถ้วยไข่ตุ่นร้อนๆวางไว้หน้าจักร
“ พี่สั่งให้” ไอ้แบงค์บอก ผมหันหน้าไปมองจักร เจ้าตัวไม่มีท่าทีอะไร (ตอนนั้นพนักงานเอาอาหารมาเสริ์ฟอีก 1 คนและมี 1 อย่างเป็นของโปรดผมครับ คือเทปันนั่นเอง)
พวกผมก็พากันกินไป แต่จักรไม่ยอมกินอะไร ได้แต่นั่งหันหน้าไปแนวเดิมตั้งแต่ที่ไอ้แบงค์ถามครั้งแรกนั่นแหละ
“ ทำไมไม่กิน?” ผมถาม
“ กรูไม่หิว!” ตอบเสียงห้วนคนมันกำลังจะดีก็จะเดือดขึ้นมา จะบอกว่าไม่หิว ทั้งที่ไมได้กินข้าวตั้งแต่เมื่อวาน ใครเชื่อก็หมาแล้ว
“บอกให้กินก็ต้องกิน!” ตอนนี้ไอ้แบงค์ไอ้วุฒิหยุดกินแล้วหันมามองผม
“ .............” จักรหันหน้ามาหา แล้วจับแก้วชาขึ้นมาสาดใส่หน้าผม
“ มรึงอยากกินก็กินเอง!” น้ำชาเขียวเย็นๆโดนหน้าผมเต็มและมันไหลลงตามคอจนเสื้อเปียก
“ มรึง!” ผมว่าลุกขึ้น คิดว่าทำดีด้วยสักหน่อยแล้วเชียว
“ อย่าคิดว่าพอไม่สบายแล้วกรูจะไม่กล้าทำอะไร และจะบอกให้มรึงรู้ไว้ด้วยว่าถึงจะมีเพื่อนกรู 2 คนอยู่ที่นี่ด้วยแต่ถ้ากรูจะทำอะไรมรึงจริงๆ ก็ไม่มีใครช่วยมรึง!” ผมบอกเอาแก้วผมที่กินไปครึ่งแก้วแล้วสาดหน้าจักรเหมือนกัน
“ ชนะ! ” (ไอ้แบงค์)
** ** ** * *
ทั้งที่เป็นวันหยุด แต่ยุ่งวุ่นวายพอดู
เมื่อวานท่านน้องชายยืมโน๊ตบุ๊ค(ทราบว่าไอ้คุยกับท่านโม ท่านโมได้ข่าวเรื่องนี้จากเพื่อนอีกที เลยเข้ามาอ่านบุพเพฯ(ขอบคุณเจ้าค่ะ) เจ้าหญิงรู้ว่าท่านๆอึดอัดกับบุพเพฯพอดู แต่ไม่คิดว่าจะมากขนาดนั้น ต้องขอโทษจริงๆเจ้าค่ะ
แต่ก็ขอบคุณที่ติดตาม
คำผิด
ท่านChae
ท่านpattra_13(ขอบคุณท่านน้องที่ส่งกำลังใจให้ บางทีเจ้าหญิงก็แซดไปเหมือนกันเจ้าค่ะ )
ท่านกระต่ายชมจันทร์