กราบขอบพระคุณ ทุกคอมเมนท์ และ ทุกแต้ม นะคับ m(_ _)m ซึ้งใจมากมาย
แค่ได้เห็นข้อความแสดงว่ายังมีคนอ่านอยู่แม้เพียงเล็กน้อยก็ดีใจมากแล้ว ....
.. ยิ่งได้เห็นข้อความที่บอกว่านิยายเล็กๆ ของเราทำให้คนอ่านมีความสุขได้บ้าง ก็ยิ่งดีใจมากมาย
ว่าแต่ ถ้านายเอกจะชื่อ คริต น่าจะดีกว่า คิด นะ ไม่รู้ดิ แค่ความเห็นธรรมดาๆ นะคะ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำคร้าบ *โค้งงามๆ* ... แต่ถ้าจะแก้ตอนนี้ก็คงต้องกลับไปแก้ใหม่หมด
เจ้าตัวอยากแก้ แต่เจ้าตัวขี้เกียจเพื่อนรักเพื่อนตายมันไม่ยอมเอาด้วยอ่ะคับ แหะๆ
แต่ก็ขอบคุณสำหรับคำแนะนำมากๆ เลยฮะ
หมายเหตุ* ตอนนี้เป็นตอนที่ผู้แต่งมีความเห็นว่า ไม่ต้องอ่าน ข้ามไปเลยก็ได้ -_-
เพราะไม่มีผลใดๆ กับเนื้อเรื่องทั้งสิ้น (แล้วมันจะแต่งมาทำไมวะ -_-?)
ดังนั้นก็เลย ลงตอน 6 (ที่พอจะมีเนื้อเรื่องอยู่บ้าง) ไปอีกตอน
------------------------------------------------------------------------------------------------
เทพีของผม 05
"วู้วววว ~!!" เสียงบ้าบอคอแตกของผมอาจจะทำให้คนห้องข้างๆ นึกอยากเขวี้ยงรองเท้าซักคู่สองคู่มาให้ผมใช้ถ้าเขาไม่เสียดาย หลังจากช่วงเวลาอันยาวนานของปิดเทอมกำลังจะสิ้นสุดลงไม่พอผมยังคิดอะไรๆ ดีๆ ออกอีกแล้ว ให้ตายสิ! คนขยันสันหลังสั้นกว่าความยาวแม่น้ำไนล์ไปหน่อยนึงอย่างผมเกิดมายังไม่เคยจด จ่อรอคอยกับการเปิดเทอมขนาดนี้มาก่อนเลย .. อ๊ะๆ แต่ผมไม่ได้ปล่อยเวลาปิดเทอมให้สูญเปล่าหรือทำให้ความสัมพันธ์ของเราห่างหาย ไปอย่างที่คนเขียนมันแอบหวังไว้แล้วก็จะเนียนหายเลิกแต่งนิยายเรื่องนี้ไปซะ ดื้อๆ หรอกนะ ผมยังคงติดต่อกับคิดทางโทรศัพท์อย่างสม่ำเสมอ เพียงแต่ว่าผมต้องพยายามพูดให้เนียนที่สุดเรียกว่าแทบจะต้องเขียนสคริปต์ ล่วงหน้ากันพลาดกันเลย เช่นผมอยากจะบอกว่าคิดถึงเขา .. ก็ต้องแกล้งแซวไปว่าคิดถึงน้องคิตตี้คนนั้นจังเพื่อให้คิดด่ากลับ แต่ก็นั่นแหละครับ แค่ได้พูดออกจากปากไปว่าคิดถึง ... ให้ความคำนึงส่งไปถึงใบหูนั้น ... ผมก็โอเคแล้ว
อ้อๆ นอกจากนี้น้องคิตตี้ที่เคยอยู่ในโทรศัพท์มือถือของผม บัดนี้นอกจากผมจะทำการถ่ายโอนมันลงคอมพิวเตอร์ทั้งสองไดร์ฟเพื่อป้องกัน การอัตรธานหายไปอย่างไร้วี่แววแล้ว ผมยังเอาไปอัดเป็นภาพเก็บไว้ในกระเป๋าตังค์คู่ใจของผมอีกด้วย...
"แฟนน้องเหรอ?" พนักงานหญิงร้านอัดรูปถามผมยิ้มๆ
"ครับ น่ารักใช่มั้ยพี่?" ผมยิ้มกว้างแอบอ้างไปอย่างมั่นใจเพราะมันคงไม่มีอะไรบังเอิญเวอร์หรอก
"น่ารักสิจ๊ะ แหม... ประกวดสงกรานต์ที่ผ่านมาน่ะเหรอ?" ผมพยักหน้ารับอย่างภาคภูมิแทน
"หน้าคล้ายๆ เด็กผู้ชายแถวบ้านพี่คนนึงเลย แต่ไม่ใช่หรอก เพราะเค้าเป็นผู้ชายแล้วก็ไม่ได้อยู่ที่นี่น่ะ"
.. ง่ะ ลืมนึกไปว่าคนเขียนเรื่องนี้ชอบความบังเอิญที่งี่เง่า ..
"ชื่ออะไรเหรอครับ?"
"ชื่อคิดน่ะ เป็นเด็กดีนะ อืม... ยิ่งดูยิ่งคล้าย พี่ก็เลยสะดุดใจกับรูปที่น้องเอามาอัดนี่แหละ"
"อ๋อ แฟนผมชื่อแมวครับ" ตอบไปอย่างไม่ต้องคิดมาก คิตตี้ = แมว ใช่มั้ยล่ะครับ? งั้นก็ชื่อแมวไปก่อนละกันนะคิด .. เพราะไม่อยากจะนึกสภาพตัวเองเลยถ้าคิดรู้เข้าว่าอยู่ดีๆ ผมเอาเค้ามาแอบอ้างแบบนี้
"อ้อๆ"
"งั้นผมไปก่อนนะครับ" ว่าแล้วก็คว้ารูปชิ่งออกมาเลย ไม่ได้ชักดาบครับ ... เงินน่ะจ่ายแล้ว แต่ดูจากสภาพการณ์แล้วรีบชิ่งก่อนพี่แกจะถามอะไรมากกว่านี้ดีกว่า ... นั่นล่ะครับ จากนั้นรูปน้องคิตตี้ก็แอบซ่อนอยู่ในกระเป๋าตังค์ด้านในของผมโดยที่ผมทำเป็น เอาบัตรประชาชนของตัวเองมาวางซ้อนไว้ เผื่อโอกาสไหนคิดหูไวตาไวอีกจะได้ไม่ซวยเข้า
อ้อ ส่วนเรื่องดีๆ ที่สมองอันชั่วร้ายนิดๆ ของผมคิดได้น่ะก็ไม่มีอะไรหรอก ฮี่ๆๆ จะเปิดเทอมแล้วใช่มั้ยล่ะครับ? คิดก็ต้องกลับมาซะทีแต่ผมจะไม่ยอมปล่อยให้คิดนั่งรถทัวร์กลับมาหรอก ...นายแดนสุดหล่อคนนี้จะส่งราชรถไปเกยถึงประตูบ้านคิดด้วยตัวเอง แต่ของแบบนี้ไม่ต้องถามก็รู้แหละครับว่าคิดไม่มีทางยอมให้ผมเสียเวลาขนาด นั้นไปรับเขาข้ามจังหวัดแน่นอน แม้ว่าผมออกจะเต็มใจจากก้นบึ้งแต่ก็บอกเจ้าตัวตรงๆ ไม่ได้ จึงแกล้งบอกไปว่ายังไงซะก็จะรวดไปรับไอ่เกมส์อยู่แล้วจะได้ไม่เสียเที่ยว ทั้งที่ความจริงไอ่เกมส์มันกลับเครื่องแหละครับ หุหุ แต่เดี๋ยวไว้ค่อยแก้ตัวก็ได้
"เอางั้นเหรอ?"
"ไม่ดีรึไง? ไหนๆ กลับมาทั้งทีก็กลับมาพร้อมกันเลย ประหยัดดีออก"
"งั้นให้ฉันช่วยออกค่าน้ำมันให้ก็ยังดีนะ"
"โหย .. ไม่ต้องหรอก ไอ่เกมส์มันไม่เห็นคิดอย่างคิดเลย อย่าคิดมากน่า อ่อ แล้วก็ห้ามขัดใจด้วยนะ" ผมหัวเราะ
"ปัทโธ่! อย่าให้ฉันขโมยมือถือนายมาได้ก็แล้วกัน"
แต่นั่นแหละครับ คิดไม่เคยยอมรับของใครฟรีๆ หรอก พอผมไปถึงก็โหย ... ของฝากของกินของอะไรต่อมิอะไรจากน้าพรแม่ของคิดและตัวคิดเองก็แทบจะเต็มคัน รถ และแน่นอนว่าคิดก็ถามถึงเกมส์
"อ๋อ ลืมบอกไปๆ ..ไอ่เกมส์มันจะกลับเครื่องน่ะ มันเพิ่งบอกว่ามันติดอะไรไม่รู้ยังกลับวันนี้ไม่ได้ เลยจะตามไปทีหลังกลับเครื่องเอา"
"อ่าว ..."
"น่า ไม่เป็นไรๆ คุณแม่ครับผมลานะครับ รับรองว่าจะดูแลคิดให้ถึงที่หมายโดยปลอดภัย" ผมยกมือไหว้น้าพรอย่างสุภาพ
"จ้ะ ฝากคิดด้วยนะลูก"
"ครับผม" ฝากไว้ตลอดชีวิตเลยก็ได้นะคร้าบ
"ผมไปนะครับแม่ ..."
ผมผละออกมาปล่อยให้สองแม่ลูกได้ร่ำลากันอย่างเป็นการส่วนตัว ... เอ ... รู้สึกว่าทางการกำลังรณรงค์ให้ขับรถไม่เกิน 90 กม./ชม. ใช่มั้ยครับ? ฮี่ๆๆ ผมจะขับรถช้าๆ เพื่อประหยัดน้ำมันและเพื่อสวัสดิภาพความสัมพันธ์ของเราสองคนดีมั้ยน้อ ...
()()()()()()()()()()()()()()()()()()()()()()()()()()()()()()()()()()()()()()
'.....จบมันไปได้แล้ว หยุดอย่าเพ้อฝันต่อ ที่แล้วๆ มาก็มากพอ....'
คลิ๊ก! เพลงบ้าอะไรฟะ!? คนจะเพ้อฝันแล้วไงเธอมาเกี่ยวอะไรด้วยไม่ทราบ (พาลกับเพลงก็เป็นนะ) ผมกดเปลี่ยนคลื่นวิทยุนั้นทันทีเพราะมันช่างทำลายบรรยากาศโรแมนติก(ไปคน เดียว)ของผมจริงๆ
'......ก็เลิกกันแล้ว ให้มันจบๆ ไป ... ก็เลิกกันแล้ว เรื่องเดิมไม่ต้องแคร์....'
คลิ๊ก! ป๋าเบิร์ดก็ป๋าเบิร์ดเหอะ เสียงดีแค่ไหนวันนี้ก็ไม่อยากฟัง
'.....มีแต่เสียงเพลงที่ว่างเปล่า ... จบลงแล้วความรักของเรา.....'
คลิ๊ก! ถึงผมจะรักเสียงพี่บุรินทร์แค่ไหน แต่ ... วันนี้ไม่อยากฟังครับ! โรแมนติก น่ะโรแมนติก! ขอแบคกิ้งซาวนด์ประกอบนิยายที่มันเข้ากับสถานการณ์หน่อยจะได้ไหม?
"แดน นายไม่ชอบฟังเพลงไทยเหรอ?"
"อ่ะ ..อ้อ เปล่าๆ ชอบนะแต่มันคลื่นไม่ค่อยชัดน่ะ" ผมแถเถือกไถ ... "เอ้อ คิด นายลองหาคลื่นดูก็ได้นะ"
"อืมๆ .." คิดกดจูนคลื่นอัตโนมัติไปหนึ่งครั้ง
'.....วันดีๆ ทุกๆ วันคือวันดีๆ ฉันมีความสุขทุกนาที เพราะมีเธอ
เธอทำให้ฉันรู้ว่า ... ว่าโลกใบนี้งดงามเท่าไร
อยากจะมีของขวัญเพื่อให้เธอดีใจ ถึงแม้มันไม่เหมือนใครๆ ... ขออภัย
อาจดูว่ามันไร้ค่า แต่อยากจะยกให้เธอได้ไหม
ก็ฉันมีเพียงแค่ความรัก รักของฉันให้เธอรับไป ... จะได้ไหม
และแม้ฉันมีแค่ความรัก แต่ฉันก็ยกให้เธอทั้งใจ
อาจไม่เลิศเลอเหมือนใคร ... แต่ก็เต็มใจให้เธอ
อยู่ดีๆ ฉันก็เจอกับคนดีๆ คุ้มเหลือเกินชีวิตที่มี คุ้มจริงๆ
อยากมีของขวัญล้ำค่า แต่คนอย่างฉันก็มีเท่านี้
ก็ฉันมีเพียงแค่ความรัก ก็รักของฉันให้เธอรับไป ... จะได้ไหม
และแม้ฉันมีแค่ความรัก แต่ฉันก็ยกให้เธอทั้งใจ
อาจไม่เลิศเลอเหมือนใคร ... แต่ก็เต็มใจให้เธอ อยากให้เก็บไว้นะเธอ ...'
อ๊ากกกกก ขอบคุณครับพี่เบนสำหรับเสียงเพราะๆ พี่กบและอ๊อฟบิ๊กแอสสำหรับเนื้อเพลง พี่โต๋สำหรับเสียงเปียโนในเพลง พี่ชาตรีสำหรับโซโล่กีต้าร์ พี่นอคริเซนโด้สำหรับเสียงเบส พี่ชัดบอดี้สแลมสำหรับเสียงกลอง และท่านอื่นๆ ที่ผมจำไม่ได้ ในที่สุดพวกพี่ก็ช่วยชีวิตผมที่ประทานเพลงนี้มา (เวอร์มากกกก) ผมค่อยๆ ลัลล้าไปกับจังหวะเพลง ... แบบนี้สิค่อยสมกับบรรยากาศตอนนี้หน่อย ....
....
.......
............ เห็นคนเขียนมันแอบยิ้ม ... ตะหงิดๆ เหมือนความซวยจะมาเยือน
"แดน ..?" คิดหันมามองหน้าผมเมื่อเห็นผมจอดรถท่ามกลางแดดร้อนระอุ
"แป๊ปนะ ขอจอดดูอะไรหน่อย" ผมบอกแล้วเปิดประตูรถออกไปดูข้างหลัง ...พระเจ้า!? เวลาซื้อหวยให้มันถูกแบบนี้เถอะ ยางหลังข้างซ้ายแบน ... เฮ้อ!
"ยางแบนเหรอแดน?"
"อ่า" ผมตอบรับเซ็งๆ ช่างขยันหาเรื่องทำลายความสุขผมจริงๆ นะไอ่คนเขียน! ฝากไว้ก่อนเหอะ~!
"แต่ไม่เป็นไร ยางอะไหล่ฉันมี เครื่องมือ แม่แรงก็มี แต่คิดว่าขับไปอีกหน่อยดีกว่าตรงนี้มันเปลี่ยว ถ้าจำไม่ผิดจากขามา เดี๋ยวอีกนิดเดียวมันจะมีร้านขายข้าวโพดเล็กๆ เป็นแถวเลยใช่ป่ะ?"
"อ่า ใช่ๆ แต่มันขับไปได้เหรอ?"
"นิดหน่อยก็ได้อยู่แหละ.."
จากนั้นผมก็ขับรถมาซักพักถึงที่ที่ว่าไว้ แถวนี้ก็เป็นถนนธรรมดาที่มีรถขับสวนไปมาเป็นระยะๆ แหละครับ หากแต่ว่าไม่รู้ทำไมถึงมีแต่ร้านขายข้าวโพดปิ้ง ข้าวโพดปิ้ง ข้าวโพดปิ้ง และ ข้าวโพดปิ้ง อย่างกับถูกจัดระเบียบสังคมไว้ว่าต้องขายตรงนี้เท่านั้น ที่ผมเลือกตรงนี้เพราะมันไม่เปลี่ยวนี่ล่ะครับ ถึงแม้จะเป็นกลางวันแสกๆ ที่แดดแรงแสกหน้าผมขนาดไหนแต่ความเป็นห่วงคิดสุดหัวใจของผมต้องมาก่อนเสมอ
"โทษทีนะที่ทำให้เสียเวลา"
"ไม่ ..ไม่หรอก เอ้อ มีไรให้ฉันช่วยได้มั้ย?" คิดถามขณะผมถอดเอายางอะไหล่และหยิบเอาแม่แรงออกจากหลังรถ ช่วยอะไรดีล่ะคิด ... ช่วยรับฉันเป็นแฟนล่ะได้รึเปล่า? หุหุหุ ไม่เอาหรอกครับ ขืนมาบอกรักกันตอนนี้มีแนวโน้มจะถูกต่อยกระเด็นลงเขาเอาชีวิตไม่รอดกันได้
"ไม่มีหรอก คิดหิวมั้ย? ของกินในรถก็มีหรือไม่ก็ข้าวโพดเพียบเลย" ผมยิ้มให้ ก่อนจะหันไปจัดการกับล้อหลังท่ามกลางแดดที่เปรี้ยงๆๆๆ ลงมาอย่างกับอยากจะฆ่ากันให้ตาย แต่มีคิดยืนให้กำลังใจอยู่แบบนี้ก็โอเคล่ะว้า ฮี่ๆ
"เดี๋ยวมานะ......" อ่าว พูดแล้วก็ไปเลย ... เออดิ เห็นผมมีความสุขเป็นทนไม่ได้ใช่มะไอ่คนเขียน!? เออๆ ถ้าวันไหนผมชอกช้ำตายด้วยฝีมือนายแล้วนิยายเรื่องนี้ไม่มีพระเอกก็อย่ามาโทษกันก็แล้วกัน เฮอะ!
"........." หลังจากใช้แม่แรงยกรถขึ้นมาในระดับที่เพียงพอแล้วผมก็จัดการถอดล้อออก โห .. มือดำปี๋เลย แล้วไอ่เหงื่อนี่ก็ไหลเอาๆ อยากจะยกมือขึ้นปาดเหงื่อแบบเท่ๆ ซะหน่อยก็มีหวังได้กลายเป็นขวานฟ้าหน้าดำกันล่ะงานนี้
"ร้อนมั้ย?" เสียงจับใจถามขึ้น แหม๊~ แค่ได้ยินก็หายร้อนแล้วล่ะครับ ...
"นิดหน่อย ไม่เป็นไร" ผมเงยหน้าไปตอบคนที่ถือน้ำข้าวโพดอยู่ในมือพร้อมส่งรอยยิ้มจับจิตไปให้
"โห ... เหงื่อออกเยอะเลย นี่นายแอบหนีไปเล่นฟุตบอลมารึเปล่า? ฮ่าๆ" หัวเราะกันเสร็จสรรพแล้วเจ้าตัวก็หนีแดดเข้าไปในรถ ... ง่า ไม่ใช่หรอก คิดไม่ใช่คนแบบนั้น! นั่นไงครับ เขาเดินออกมาแล้วพร้อมกับกระดาษทิชชู่ เอ๋..?
คุณเคยได้ยินคำว่า 'ถึงตายก็ไม่เสียดายชาติเกิด' มั้ยครับ? ผม...ผมว่าผมพอจะเข้าใจมันแล้ว ... เมื่อเจ้าของมือเรียวๆ คู่นั้นเข้ามานั่งยองๆ ลงใกล้ผมแล้วจัดการซับเหงื่อให้ผมเบาๆ อ๊ากกกกกกกกกกก ~!! อยู่นานๆ อีกนิดนะ อยู่นานๆ อีกนิด ... แดด แดดจ๋า ส่องลงมาแรงๆ เล้ย! ... ฉันยอมตาย! เหงื่อ ... เจ้าเหงื่อทั้งหลายจงไหลออกมา โอม จงไหลออกมา ~ มี ค ว า ม สุ ข เ ว้ ย ย ย ย . . .
"แดน น้ำข้าวโพดหน่อยมั้ย เย็นชื่นใจดี" แม้มือนั้นจะผละออกไปแล้ว แต่เจ้าตัวก็ยังอยู่ไม่ไกลพร้อมกับส่งขวดน้ำข้าวโพดสีเหลืองอ่อนๆ ให้
"อ่ะ ไม่เป็นไร มือไม่ว่างน่ะ มันเปื้อนด้วย..." ผมทำเสียงอ่อยๆ ให้ดูน่าสงสารนิดๆ ตาเป็นประกายปิ๊งๆ บ่งบอกว่าอยากกินคนตรงหน้า เอ๊ยย~! น้ำข้าวโพดมากแค่ไหน
"เอาสิ.." ว่าพลางจับหลอดมาให้ที่ปากผม มืออีกข้างก็ถือขวดน้ำข้าวโพดให้ ...... อ๊ากกกกกกกกก รอบฉอง !~ รสชาติของน้ำข้าวโพดหวานเย็นชื่นใจที่ไหลผ่านคอน่ะไม่เท่าไหร่ ... แต่คนที่อยู่ใกล้ๆ นี่สิหวานกว่า (เน่าได้อีก) ผมค่อยๆ ดูดน้ำข้าวโพดจากปลายหลอดอย่างช้าและมากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อประวิง เวลาแห่งความสุข หึหึหึ ~ อ่า .... เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปไวเสมอ
"หมดแล้ว ...ท่าทางนายจะหิวน้ำน่าดูทำไมไม่บอกกันแต่แรกเล่า" คิดถาม หึหึ ใครหิวน้ำ? ตอนนี้เซลล์ในร่างกายของผมมันบวมน้ำไปหมดแล้วมากกว่า แต่เพื่อแลกกะความสุขละย่อมได้ๆ ถือว่าเล็กน้อยครับเล็กน้อย เอริ๊ก~
"อ่า .. ขอบใจมากนะ" ผมได้แต่ยิ้ม พยายามคว้าเอาวิญญาณที่หลุดลอยไปในห้วงอากาศกลับมาสิงร่างตามเดิมแล้ว ปฏิบัติการเปลี่ยนล้อรถต่อเสมือนหนึ่งไม่มีอะไรเกิดขึ้น เอาวะ! แต่งมาตั้ง 5 ตอนแล้วอุตส่าห์ให้ผมได้มีความสุขอย่างกับพระเอกคนอื่นเค้าบ้างก็เป็นพระ กรุณาล้นพ้นแล้วค้าบ ~ ผมจะจดจำทุกวินาทีนี้ตลอดไป ...