เรื่องนี้ไม่มีชื่อ โดย จิรัฎฐิติกานต์
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องนี้ไม่มีชื่อ โดย จิรัฎฐิติกานต์  (อ่าน 69422 ครั้ง)

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
ใช่ครับ ชีวิตคนเราสั้นมากจริง จงมีความสุขกับปัจจุบันเถอะ
จะได้ไม่ต้องมามองอดีตแล้วเสียใจว่าไม่ได้ทำมัน
********************************************
ตอนที่ 21
ตื่นเช้าขึ้นมา ไอ้เดียร์ยังไม่ตื่น ผมเลยลุกขึ้นมานั่งมองหน้ามัน ทำไม คนที่เรารักกับคนที่รักเรามันถึงไม่เป็นคนเดียวกันนะ ถ้าคนที่นอนข้างหน้าผมตอนนี้เป็นคนที่ผมรัก ผมคงมีความสุขมากกว่านี้ ทำไมคำสัญญาที่มันให้ไว้เป็นแค่ลมปากที่มันพูดออกมาโดยไม่ตั้งใจงั้นหรอ ตลอดเวลาที่ผ่านมามันไม่เคยรักผมเลยใช่มั้ย ตอนนั้นผมเครียดมากจนอดร้องไห้ออกมาไม่ได้ต่อหน้าคนอื่นผมจะต้องเข้มแข็ง ผมไม่อยากเป็นคนแพ้ แต่คนที่รู้ว่าผมทุกข์เพียงใดก้อเห็นจะมีแต่ไอ้ดาและไอ้เดียร์เท่านั้น ซึ่งผมไว้ใจกล้าที่จะร้องไห้ให้มันเห็น
“กานต์ มึงร้องไห้อีกแล้วหรอ เงียบนะ อย่าคิดมากดิวะ”
เดียร์มันคงได้ยินเสียงผมสะอื้น ยิ่งมันดีกับผม ผมยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าพอ ที่จะรับความรักจากมัน ตอนที่ผมร้องไห้อย่างน้อยยังมีไหล่ของมันให้ผมได้พิง ทำให้ผมไม่รู้สึกว่าโลกนี้ไม่เหลือใคร อย่างน้อยมันยังอยู่เคียงข้างผม ผมอยากให้มันกอดผมไว้นานๆ แต่กลัวว่าจะยิ่งทำให้มันเจ็บมากไปกว่านี้ ถ้ามันมีใครที่จะต้องเจ็บ ขอให้เป็นผมที่เจ็บเอง ดีกว่าที่จะดึงมันมาเจ็บด้วย
“เดียร์ กูขออะไรมึงอย่างนึงได้มั้ย”
“อะไรล่ะ”
“ขอให้มึงรักกู...แค่เพื่อนคนนึงได้มั้ย กูไม่อยากให้มึงมาเจ็บเพราะกู”
“กูไม่เคยเจ็บ ไม่เคยเสียใจเลยนะ ตั้งแต่วันที่กูรู้ว่ากูรักมึง อาจจะมีน้อยใจบ้าง แต่กูไม่เคยเสียใจ และกูก้อจะรอมึงนะ”
“กูจอร้องนะเดียร์ มึงอย่าทำให้กูรู้สึกเลวมากไปกว่านี้เลย กู....กูรักมึงไม่ได้จริงๆ”
“ไม่เอา ไม่ร้องไห้นะกานต์ มึงอยากให้กูเป็นอะไร กูก้อจะเป็นให้มึงตามต้องการ อย่าร้องไห้นะ”
“เดียร์มึงรู้มั้ย มึงคือเพื่อนรักของกูนะ”
“เออ กูรู้น่า ไปล้างหน้าไป เดี๋ยวหาข้าวกินได้กลับบ้าน”
“ครับผม ไอ้เพื่อนรัก”
ผมกลัวถ้ามันรักผมมากกว่าเพื่อน วันนึงผมอาจจะต้องเสียมันไป เพราะความเลวของผม แต่ถ้ามันเป็นเพื่อนของผม ความรักความห่วงใย ความเป็นเพื่อนมันจะไม่มีวันเปลี่ยนไปได้
หลังจากกินข้าวเสร็จผมก้อกลับบ้าน มาถึงบ้านม้าเริ่มบ่นเรื่องไม่ค่อยอยู่บ้าน วันๆมัวแต่ไปทางนู้นที ทางนี้ที รู้ว่าม้าห่วงนะครับ แต่ตอนนั้นมันหงุดหงิดยังงัยไม่รู้ เหมือนอารมณ์ประมาณว่ารู้แล้วน่าไม่ต้องมาบ่นหรอก แล้วม้ายังบอกอีกว่าไอ้ตั้มโทรมาหาหลายรอบแล้ว มีอะไรหนักหนาโทรอยู่นั่นแหละ ให้โทรกลับไปหามันด้วย รู้สึกเบื่อๆเลยเดินหนีขึ้นห้องนอนแล้วยกหูโทรศัพท์ออก แล้วนอนฟังเพลง เลิฟเอฟเอ็มมันเป็นบ้าอะไรไม่รู้เปิดแต่เพลงอารมณ์ประมาณอกหัก เลยนอนร้องไห้อีกแล้ว เอาวะร้องไห้ให้พอ เดี๋ยวเย็นนี้มีนัดจะต้องมีความสุขมากแน่ๆ
ประมาณ 5 โมงเย็นเลยลงมาอาบน้ำล้างหน้าล้างตา แต่งตัวเตรียมไปตามนัด
“กานต์ลื้อ จะไปไหนอีก”
“โห ม้าไปแป็ปเดียวแหละน่า เดี๋ยวก้อมา”
“เค้าเป๋ แป็ปเดียว ลื้อเคยคิดจะอยู่บ้านมั่งมั้ย”
“ม้า จะบ่นให้ได้อะไร กานต์เบื่อจะฟังแล้วนะ ไปแล้ว”
ผมรีบขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาพร้อมกับเสียงให้พรอีกยาวเหยียดไล่หลัง ทำไมวะ กูต้องมีแต่เรื่องไม่สบายใจตลอดเลย อยากหลับไม่อยากตื่นมารับรู้อะไรอีกแล้วเหนื่อยเหลือเกิน ขี่รถไปถึงบ้านไอ้ดา ไอ้ดากับพิมพ์รออยู่แล้ว เลยไปรับไอ้ปุ๊กกัน
"กานต์ เราไม่มั่นใจนะว่าปุ๊กมันจะไปด้วยได้รึเปล่า”
“อ้าว ทำไมล่ะ”
“วันนี้วันเกิดพี่บุ๋ม พี่สาวมัน แล้วพี่มันไม่ชอบให้มันไปไหนมาไหนกับผู้ชายด้วยสิ”
เอาล่ะสิ มันจะเบี้ยวกูรึเปล่าวะ คงไม่หรอกมั้ง มันรับปากแล้วนี่ พอไปถึงบ้านปุ๊ก มันรีบลากผมเข้าไปในบ้านทันที
“พี่บุ๋ม วันนี้ปุ๊กออกไปข้างนอกแป็ปนะ ไปธุระกะเพื่อน”
“แล้วนั่นใคร จับมือเข้ามาน่ะ”
“เพื่อนปุ๊กเอง ไม่ต้องคิดมากนะ มันชอบผู้ชาย มันไม่ได้มาจีบปุ๊กหรอก”
“หวัดดีครับ/ค่ะพี่บุ๋ม” พวกผมสามคนสวัสดีพี่สาวปุ๊ก
“เออ ดูเหมือนผู้ชายปกติ ไม่น่าเป็นกะเทยเลยนะ”
แป่ว นี่กูเหมือนกะเทยหรอเนี่ย
“เขาไม่เรียกกะเทยพี่บุ๋ม เขาเรียกเกย์ มันไม่ใช่สาวขนาดนั้น”
“เออ เรียกรัยก้อช่างมันเหอะ เดี๋ยวคืนนี้ตามไปที่คาราโอเกะแล้วกัน ไปทั้งหมดนี่แหละ วันนี้วันเกิดพี่ไปเที่ยวด้วยกัน ห้ามเบี้ยวนะ”
“ครับ/ค่ะ”
โหย ตอนพี่บุ๋มมองนะเหมือนจะกินเลยอ่ะ โคตรดุเลยนะ แต่พอพูดก้อใจดีนี่หว่า แต่ไอ้ปุ๊กบอกว่าดุมาก เคยตีมันเกือบตายตอนจับได้ว่ามันแอบสูบบุหรี่ เป็นเราคงตีมันเหมือนกันแหละวะ เป็นผู้หญิงดันริสูบบุหรี่ ออกมาจากบ้านปุ๊กรีบตรงไปหอเบส ตอนนั้นยังไม่รู้หรอกหอไหนยังงัยแต่อย่างที่บอกสองสาวเธอชำนาญทางเพราะเข้ามาจีบหนุ่มบ่อย พอไปถึงเบสกำลังนั่งเล่นอยู่ที่กำแพงหน้าหอกับเพื่อนๆพอดีเลย กำแพงมันเป็นกำแพงเตี้ยประมาณเอวเอง กันอะไรไม่ได้หรอก ไม่รู้เหมือนกันจะสร้างไว้ทำไมแค่นั้น
“หวัดดีครับเบส”
“ครับ นึกว่าจะไม่มาซะแล้วนะเนี่ย รอนานจัง”
“โห บอกว่ามาก้อมาดิ พอดีรอปุ๊กอยู่อ่ะ”
“เข้าไปนั่งเล่นข้างในก่อนดิกานต์ ปุ๊ก แล้วก้อเอ่อ”
“ดากับพิมพ์เพื่อนกานต์เอง”
“ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก เบสครับ”
จากนั้นเบสพาพวกเราเข้าไปนั่งเล่นที่ห้องดูทีวีในหอ พวกเด็กหอมันไปเที่ยวตลาดกันหมด เพื่อนเบสก้อกลับหอไปแล้วนั่งคุยสักพัก ไอ้ดาก้อบอกว่าเดี๋ยวจะไปซื้อของแป็ปนึง พิมพ์กับปุ๊กเลยขอตามไปด้วย นี่จะทิ้งกูไว้คนเดียวหรอวะ กูเขินนะ พอมันออกไปแล้ว ผมเงียบเพราะไม่รู้จะเริ่มคุยยังงัย ตอนนั้นมันยังไม่จัดเท่าไหร่อ่ะ
“กานต์ เป็นรัยเปล่า เงียบจัง ไม่เห็นคุยกะเบสเลย”
“เปล่า เบสคุยมาดิ กานต์คุยไม่ค่อยเก่ง”
“งั้นเรามาผลัดกันถามนะกานต์ถามอะรัยเบส เบสก้อตอบ เบสถามอะรัยกานต์กานต์ก้อตอบเบส โอเคป่ะ”
“ครับผม”
“งั้น เบสถามกานต์ก่อนนะ กานต์ชอบเบสตรงไหนหรอ”
เอาล่ะสิกู กูจะตอบว่าอะไรดีวะเนี่ย
“ก้อ...ไม่รู้ดิ มันชอบอ่ะ บอกไม่ถูก”
“หรอ งั้นกานต์ถามรัยเบสอ่ะ”
“แล้ว...เบส คิดยังงัยกับกานต์ล่ะ”
“อืมม์ ถ้ากานต์ชอบเบส เบสคบด้วยคงมีความสุขน่ะสิ”
“ขอบคุณครับ”
“ขอบคุณ เรื่องอะไรอ่ะ”
“ก้อเบสยอมเป็นแฟนกานต์แล้วนี่”
“ใครบอก โมเมเอาเองแล้ว”
“กานต์ไปยังเดี๋ยวพี่บุ๋มรอนานนะ” เสียงปุ๊กตะโกนเข้ามาเรียก
“เบสครับ เดี๋ยวกานไปก่อนนะ ไม่รู้ละ ถือว่าเบสตกลงแล้วนะ พรุ่งนี้กานต์มาหานะครับ”
เสร็จแล้วก้อรีบวิ่งออกมา ปุ๊กนั่งรอที่รถแล้ว เลยไปหาพวกพี่บุ๋มที่คาราโอเกะกัน ไปถึงคนเยอะมากญาติไอ้ปุ๊กเต็มห้องวีเลย 10 กว่าคนได้ เข้าไปเลยไปนั่งกันมุมห้องขณะที่กำลังนั่งกินอะไรเพลินๆอยู่ ก้อพอดีไปสะดุดตากับเด็กคนนึงอายุน่าจะประมาณ 14 หน้าตาน่ารักตาโต เหมือนกบเลย ชอบอ่ะ อยากทำความรู้จักน่ากลัวต้องให้เพื่อนปุ๊กช่วยอีกแล้ว

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
แล้วมันจะยังงัยต่อไปอะ

พูห์ :untrust:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
เหอะๆ
ตอนที่ 22
“ปุ๊ก ปุ๊ก เด็กตาโตๆที่นั่งอยู่ตรงนั้นใครหรอ”
“ไหนอ่ะ อ๋อ ไอ้บูม หลานเราเอง นายชอบหรอ”
“เออ อยากรู้จัก น่ารักดี”
“เดี๋ยวจัดการให้ บูม เอาไมค์อันนั้นมาให้อี๊ปุ๊กทีดิ”
ไอ้น้องบูมลุกเดินมา พอมองใกล้ๆแล้วมันน่ารักดีนะครับตาโต ปากบาง จมูกโด่งรับกับหน้า รูปร่างกำลังดี เห็นแล้วน่าฟัดเป็นที่สุด หุหุหุ
“บูม นี่เพื่อนอี๊ปุ๊กนะ พี่กานต์ พี่ดา”
“หวัดดีครับ พี่กานต์ พี่ดา”
เสียงน่ารักดีอ่ะ เสียงเด็กกำลังแตกหนุ่ม น้องบูมมันเรียนที่เดียวกับเบสด้วย  แต่บูมเรียนอยู่ ม.2 ปีหน้าจะขึ้นม.3 คุยกันก้อถามเรื่องเรียนบ้าง เรื่องอื่นบ้าง
“เออ บูมเนี่ยพอดีเลย ต่อไปนี้นะ เวลาเลิกเรียนพิเศษตอนเย็น อี๊ฝนให้พี่กานต์ไปรับบูมกลับบ้านแล้วกันนะ เพราะช่วงนี้อี๊ต้องทำธุระอย่างอื่นด้วย”
“ไม่ดีมั้ง อี๊ฝนจะให้บูมไปกวนพี่กานต์ พี่เขาจะว่างหรอ เดี๋ยวบูมเดินกลับบ้านเองก้อได้ กว่าบูมจะเลิกเรียนพิเศษตั้ง 5 โมงนะ”
“กานต์ ตอนเย็นนายไปรับบูมได้ป่าว”
“ได้สิ ตอนเย็นว่างอยู่แล้ว เอางี้นะพี่รอรับบูมที่ร้านน้ำแข็งไส ตรงข้ามวัดคริสต์แล้วกันนะ”
“เอางั้นหรอครับ ก้อได้ครับ ขอบคุณพี่กานต์ครับ”
ใจอยากจะบอกว่าขอมากกว่าคำว่าขอบคุณได้ป่าว แต่เดี๋ยวมันส่ออาการมากไป ที่ไม่นัดรับมันหน้าโรงเรียนกลัวเจอเบสด้วย กลัวแห้วทั้งสองทาง ให้อะไรมันเรียบร้อยก่อน แล้วค่อยว่ากันใหม่ พอเลิกจากคาราโอเกะกันปุ๊กชวนชี่รถร่อนรอบตลาดสักรอบนึงก่อนเข้าบ้าน ดีว่าตอนนั้นน้ำมันไม่แพงนะ ไอ้เรื่องขี่รถร่อนในตลาดมันเลยไม่เปลืองเท่าไหร่
“บูม กลับกะอี๊ป่าว”
“ไปงัยอ่ะอี๊ปุ๊ก”
“รถกานต์นี่แหละ อัดสามไป”
“ครับ เดี๋ยวบูมบอกแม่ก่อนนะ”
พอน้องบูมเดินกลับมาปุ๊กก้อบอกให้น้องบูมนั่งหน้า หุหุหุ มันรู้มั้ยเนี่ยมันกำลังจะทำให้หลานมันกลายเป็นเหยื่อเรานะเนี่ย พอบูมนั่งตอนนั้นมองแต่คออย่างเดียวเลย มีความรู้สึกว่าคอมันน่ากัดดี โอ๊ยเห็นแล้วอยากฟัดมากๆ แต่ต้องควบคุมอาการไว้ก่อน เดี๋ยวน้องมันตกใจ ขี่รถร่อนกัน วันนั้น มันเป็นวันอาทิตย์ เลยไม่ค่อยมีใครเพราะปกติวันที่เด็กตลาดจะขี่รถร่อนกันเยอะจะเป็นวันศุกร์ วันเสาร์มากกว่า ตลาดมันเลยเงียบๆ พอส่งปุ๊กกับบูมเสร็จแล้วกลับเข้าบ้านอาบน้ำนอน ก่อนนอนผมไม่ลืมที่จะยกหูโทรศัพท์ออก ขี้เกียจรับสาย
ตื่นขึ้นมาตอนเช้า ผมต้องนั่งทำใจอยู่พักนึง ไม่อยากไปเรียน ไม่อยากเจอหน้ามัน กลัวอดร้องไห้ไม่ได้ จะทำยังงัยดีวะ กูจะหลบมันยังงัยดี พอดีนึกขึ้นได้เรายังมีไอ้ระนี่หว่า เอามากันได้นี่ เลยรีบอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียนแต่เช้า เพราะระมันอยู่หอในถ้าช้ามันจะกินข้าว เราต้องรอกว่าจะกินข้าวเสร็จ พอไปถึงบรีบไปหน้าหอหาไอ้ระ วานเพื่อนมันไปตามมาให้
“ระ ไปกินข้าวเช้ากับกานต์หน่อยดิ”
“วันนี้ทำไมพูดอ้อนจัง แล้วแฟนกานต์ล่ะ”
“ไม่มี กานต์โสดแล้ว นะ นะอยากกินข้าวกับระนะ”
“ได้ เดี๋ยวระไปบอกเพื่อนก่อน กานต์รอตรงนี้นะ”
“อืมม์ รออยู่นะ เร็วด้วย หิวจะแย่แล้ว”
“รู้แล้ว”
พอระออกมา เลยเดินไปโรงอาหารกันตอนนั้นเพื่อนในห้องก้อมีมามั่งแล้วแต่ไม่ได้เข้าไปนั่งกับมัน ผมเลือกนั่งโต๊ะในสุด เพราะขี้เกียจนั่งกับเพื่อน กลัวเดี๋ยวไอ้ตั้มมามันจะต้องมานั่งด้วย เอางี้แหละวะดีที่สุดแล้ว
“ระ ต่อไปนี้ระต้องมากินข้าวกะกานต์ทุกวันนะ ทั้งเช้าและก้อเที่ยงด้วย ได้ป่าว”
“ทำไมอ่ะ”
“ก้อ...กานต์อยากอยู่ใกล้ๆระ อยากกินข้าวกับระอ่ะดิ”
“”จริงดิ อย่าหลอกกันนะ”
“ไม่หลอกหรอกน่า กานต์อยากอยู่ใกล้ๆระน้า เชื่อกานต์นะ”
“อ่ะ เชื่อก้อได้ งั้นระจะกินข้าวกับกานต์ทุกวันเลย”
“ขอบคุณครับ”
ตอนนั้นนึกเหมือนกันว่าผมไม่น่านั่งมุมนี้เลย เพราะมันเห็นทางเข้าโรงอาหารพอดีอ่ะ ไอ้ตั้ม ไอ้นนท์ แล้วก้อไอ้เดียร์เดินมาพอดีเลย มันมองมา แต่ผมทำเป็นไม่เห็น คุยหัวเราะกับไอ้ระ ทำเหมือนมีกันแค่ 2 คน
“กานต์ เดี๋ยวระไปซื้อน้ำให้นะ กานต์กินน้ำอะไรดี”
“ครับ อะไรก้อได้ ระซื้อมากานต์กินได้หมดแหละ”
“แป็บนึงนะ”
พอระเดินออกไป ไอ้ตั้มมันเดินเข้ามาหาผม
“ทำไม ต้องมานั่งกินข้าวกับมันด้วย”
“.......................”
“ถามว่าทำไม”
“กูจะกินกับใคร เกี่ยวอะไรกับมึงด้วย มึงเป็นพ่อกูรึงัย”
“ทำไมต้องทำอย่างนี้ด้วย”
“ทำงัย กูกินข้าวกะแฟนกู กูผิดเหรอ”
“มึงเป็นแฟนกันตั้งแต่เมื่อไหร่”
“เป็นเมื่อไหร่ มึงจะรู้ทำไม”
“กานต์ น้ำได้แล้ว”
ผมรับแก้วจากมือไอ้ระแล้วก้อทำเหมือนไอ้ตั้มไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น ในเมื่อมันทำผมได้ ผมก้อทำมันได้เหมือนกัน ผมคุยกับไอ้ระ หัวเราะกันสองคน จนไอ้ตั้มเดินกลับไปที่โต๊ะ
“มันมาคุยอะรัยกับกานต์”
“สนใจทำไมอ่ะ ตอนนี้กานต์มีระคนเดียวนะ ไม่มีใครหรอก”
ตอนนั้นรู้สึกผิดเหมือนกันนะ แต่มันไม่มีใครรักกันจริงหรอกน่า โกหกมั่งช่างมันเถอะ มันไม่รู้ก้อเรื่องของมัน รึถึงมันรู้มันคงไม่รู้สึกอะไร ก้อแค่สนุกๆแค่นั้นเอง คิดอะไรมาก พอดีออดเข้าแถวดังเลยต้องไปเข้าแถวเตรียมลงช็อป
“ระ ตอนพักเที่ยงรอกานต์ที่หน้าช็อปนะ เดี๋ยวกานต์มาหา”
“อืมม์ เดี๋ยวรอที่หน้าช็อปนะ”
“ครับ”
วันนั้นลงช็อป ดีที่อยู่คนละแผนกกับมันไม่งั้นเครียดตายเลย พอพักเที่ยงก้อรีบออกมาจากช็อป ไอ้ตั้มมันยืนรออยู่ข้างหน้าช็อป
“คุยอะไรด้วยหน่อยดิ”
“มีอะรัยต้องคุย ไม่มีแล้ว หมดแล้ว”
“กูบอกว่าคุยแป็บนึงงัย”
มันไม่ฟังเสียงลากผมไปข้างบ้านพักอธิการทันที
**************************************************************
 
 
 

rarmz

  • บุคคลทั่วไป
ตาตั้มจะลากกานต์ไปไหนอ่ะ เง้อออ



รออ่านตอนต่อไปอยุ่น๊าค๊าบ พี่เรย์
(พุดเปนอยุ่ประโยคเดว* - -)

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
ประโยคเดียวของรามเปลี่ยนได้ปะ
เป็น  รอพี่เรย์ต่อไปอยุ่น๊าค๊าบ  :haun6:

*******************************************
ตอนที่ 23
“ปล่อยกู กูจะไปกินข้าว”
“มึงต้องฟังกูก่อน กูรักมึงนะกานต์”
“งั้นรูปที่อยู่ในกระเป๋าตังค์มึง มันเป็นสิ่งแสดงถึงความรักที่มึงมีให้กูล่ะสิ”
“มึงฟังกูมั่งสิ”
“กูไม่ฟัง กูไม่เชื่อมึงแล้ว เมื่อมึงโกหกกูแล้ว กูจะไม่เชื่อมึงอีกต่อไป ในเมื่อมึงเริ่มนับหนึ่ง ต่อไปก้อจะต้องมี สอง สาม สี่ เรื่อยไป”
“ทำมัยมึงไม่มีเหตุผลเลยวะ”
“การมีเหตุผลของมึงคืออะรัย คือการที่กูต้องทำเป็นไม่รู้ว่ามึงกำลังจะทิ้งกูงั้นหรอ”
“กูไม่เคยพูดเลยนะว่าจะเลิกกับมึง”
“แล้วที่มึงทำคืออะรัย กูบอกมึงแล้ว ว่ากูไม่ชอบคนโกหก มึงจำเอาไว้ มึงทำให้กูเจ็บเท่าไหร่ มึงต้องเจ็บมากกว่ากู”
ตอนนั้นมันเจ็บมาก ทำมัยมันจะต้องทำอย่างนี้กับกูด้วยวะ ผมเดินออกมา ไม่อยากเห็นหน้ามันอีกแล้ว ใจนึงยังรักมันมาก ลึกๆก้อดีใจกับคำพูดที่มันบอกว่ายังรักเรา แต่อีกใจนึงก้อคอยบอกคอยเตือนว่าสิ่งที่มันทำล่ะ นั่นหรอ คือความรักที่มันบอก
“โห มาช้าจัง ระหิวแล้วนะเนี่ย”
“โทษที พอดีเก็บของอยู่น่ะ”
“กานต์ไม่สบายป่าว สีหน้าไม่ค่อยดีนะ”
“ปวดหัวนิดหน่อยน่ะ ไปกินข้าวกันดีกว่า ระหิวแย่แล้วนี่”
พอเดินไปถึงโรงอาหารตอนนั้นนักเรียนดูบางตาลงไปแล้ว คงเพราะมัวไปทะเลาะกับไอ้ตั้มอยู่ ตอนที่เดินเข้าไปกับไอ้ระ พวกเพื่อนในห้องที่ยังนั่งกินข้าวอยู่มันมองมา คงสงสัยว่าทำมัยไม่เดินมากับไอ้ตั้ม เพราะตอนนั้นคนที่รู้เรื่องผมทะเลาะกับไอ้ตั้มยังมีเฉพาะคนในกลุ่มผม
“เดี๋ยวระไปซื้อข้าวให้นะ”
“อืมม์ งั้นเดี๋ยวกานต์ไปซื้อน้ำละกัน เดี๋ยวนั่งโต๊ะนี้นะ”
พอผมซื้อน้ำเสร็จเลยเดินมานั่งรอไอ้ระ พอระซื้อข้าวกลับมาระหว่างที่นั่งกินข้าว เราก้อคุยกัน ระพยายามถามถึงสาเหตุที่ผมเลิกกับตั้ม แต่ผมบอกไปว่าถ้ายังอยากคุยกะผมให้เลิกถามเรื่องนี้ เพราะผมไม่อยากพูดถึง
“กานต์ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จไปเล่นบาสกันป่ะ”
“หึ ไม่เอาอ่ะ ลงช็อปก้อเหนื่อยแล้ว ขี้เกียจเล่น ไปอ่านหนังสือห้องสมุดดีกว่า”
“ก้อได้ ตามใจ ดีเลยระได้ไปหารายงานด้วย”
สรุปเลยไปช่วยระหาหนังสือทำรายงาน พอบ่ายกลับเข้าช็อป มีความรู้สึกว่าหัวใจมันห่อเหี่ยวยังงัยก้อไม่รู้ บอกไม่ถูกรู้สึกเบื่อมาก อยากที่จะไปให้พ้นตรงนั้นความรู้สึกนั้น ตอนเย็นเลิกเรียน เดินออกมาพร้อมไอ้ดา กะไอ้เดียร์ และก้อเพื่อนคนอื่นๆ ระหว่างนั้นไอ้ตั้มกับไอ้นนท์ก้อเดินตามมา
“กานต์ เดี๋ยวนั่งเล่นบ้านกูก่อนป่ะ”
“โทษทีว่ะ เดียร์พอดีกูมีนัดอ่ะ”
“อ้าว นัดกับใครวะ”
“กูก้อนัดกับเด็กกูมั่งดิ ตามประสาคนโสด”
“อ๋อ ที่ชื่อเบสอ่ะนะ คนที่มึงไปจีบมาวันนั้นอ่ะหรอ”
“เออ วันนี้กูว่าจะไปชวน เบสไปกินข้าว แต่ว่าเดี๋ยวกูต้องไปรับน้องบูมก่อนด้วย”
“โอ้โห เพื่อนกูนี่ เสน่ห์แรงไม่เบานะเว้ย”
จริงๆ ไม่อยากให้เดียร์มันพูดถึงเรื่องวนี้หรอก ไม่ใช่เกรงใจไอ้ตั้มนะแต่ไม่อยากทำร้ายความรู้สึกเดียร์มากกว่า เพราะไม่มีใครรู้เรื่องระหว่างผมกับมัน ที่มันพูดคงต้องการให้ไอ้ตั้มได้ยิน ที่จริงมันอยากให้ผมกลับมาดีกับไอ้ตั้ม มันรู้ว่าผมรักไอ้ตั้มมาก แต่มันเองก้อรู้ว่าผมแค้นมากแค่ไหน มันเลยไม่กล้าบอกให้ผมดีกับไอ้ตั้มโดยตรง
“เออกูกะไอ้ดาไปก่อนนะ นี่สี่โมงกว่าแล้ว เดี๋ยวกูไปรับน้องไม่ทัน”
“เออ พรุ่งนี้เจอกันนะ”
ระหว่างที่ขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้านกะไอ้ดา ไอ้ดามันถามขึ้นมา
“มึงทำยังงี้ มึงมีความสุขหรอวะ”
“สุขสิ มึงดูหน้ากูสิ กูยิ้มอยู่เนี่ย”
“กานต์ มึงเป็นเพื่อนกะกูนะ กูรับฟังมึงได้ทุกอย่าง มึงเป็นยังงัย มึงนึกว่ากูดูไม่ออกหรอวะ”
“ดูออก แล้วมึงจะถามกูทำไมล่ะ กูก้อแค่ไม่อยากแพ้”
“นี่มันไม่ใช่เรื่องแพ้ชนะ นะเว้ย”
“ไม่รู้ดิ ในเมื่อมันมีคนอื่น กูก้อจะมีมั่ง เมื่อมันทำกูเจ็บ กูไม่ยอมเจ็บคนเดียวหรอก”
“แล้วมึงคิดว่ามันคุ้มหรอวะ”
“กูบอกแล้ว กูทำให้มันได้ทุกอย่าง เมื่อมันทำกูเจ็บ กูก้อทำทุกอย่างเพื่อให้มันเจ็บได้เหมือนกัน”
**************************************************************



ตอนที่ 24
“เออ ว่าแต่ กูต้องไปรอรับน้องบูมกะมึงด้วยป่ะเนี่ย”
“ไม่ต้องเลย กูไปส่งมึงก่อน มึงก้อไปรับพิมพ์มา เดี๋ยวไปกินข้าวกัน”
“กินที่ไหนอีกอ่ะ”
“ยังไม่รู้ แต่จะไปรับเบสไปกินด้วย”
“อ่ะนะ แล้วปุ๊กล่ะวะ”
“ก้อเดี๋ยวกูรับมา พอถึงหอเบส ก้อให้มันย้ายไปนั่งกะมึงดิ”
“โห แล้วมึงจะเอาพวกกูไปด้วยทำไมวะเนี่ย”
“เออน่า กูยังไม่ชิน เดี๋ยวอีกหน่อยมึงก้อไม่ต้องมาแล้ว ทนแป็ป”
“อ๋อ นี่มึงคิดจะถีบหัวพวกกูส่งแล้วหรอวะเนี่ย”
“มึงจะเอางัยวะชวนไปก้อบ่น พอบอกว่าเดี๋ยวไม่ต้องไปแล้ว ยังมาบ่นกูอีก”
“กูไม่เอางัยหรอก แต่มึงอย่าปิดกูแล้วกัน มีรัยก้อบอก เพื่อนกันนะเว้ย”
“เออ ขอบใจ”
พอส่งไอ้ดาที่บ้านแล้วผมรีบเข้าบ้านอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามารอน้องบูมที่ร้านน้ำแข็งไส นั่งรอได้สักพัก เด็กนักเรียนเริ่มทยอยออกมาจากโรงเรียนกัน
“พี่กานต์มารอบูมนานยังครับ”
“ไม่นานหรอก พี่พึ่งมานั่งเมื่อสักพักนี่เอง บูมกินรัยมั้ย”
“ไม่เอาอ่ะครับ กลับช้าเดี๋ยวโกบุ๋มว่าเอา แค่ปกติอี๊ปุ๊กชวนไปร่อน โกบุ๋มยังบ่นซะ นี่อี๊ปุ๊กไม่ได้มารับเองด้วยบ่นตายเลย”
“ครับ งั้นกลับกันเลยดีกว่า”
รอได้ครับ เด็กมันน่ารัก รอนิดรอหน่อยรีบร้อนมากไป เดี๋ยวน้องบูมมันตกใจ พอพาบูมไปส่งถึงบ้าน ผมเลยนั่งรอไอ้ปุ๊กกลับจากเรียนพิเศษ ระหว่างที่นั่งรอโดนพี่บุ๋มซักประวัติ พี่บุ๋มแกเป็นสาวแก่ไม่มีสามีไม่มีลูก และค่อนข้างจะหวงไอ้ปุ๊กที่เป็นน้องสาวมาก เพราะพ่อแม่ตายตั้งแต่ปุ๊กยังเด็ก พี่บุ๋มเป็นคนเลี้ยงมา ผมเลยขอพี่บุ๋มว่าเดี๋ยววันนี้จะไปหาอะไรกินกัน พี่บุ๋มไม่ว่าอะไรแต่ห้ามมาส่งเกินสามทุ่ม เพราะพรุ่งนี้ต้องไปเรียน พอปุ๊กกลับมา มันรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกมากะผม
“กานต์ นายขอยังงัยวะ พี่บุ๋มถึงยอมให้เราออกมากะนายง่ายๆเนี่ย”
“ป่าว คุยปกติ แล้วบอกว่าจะพาแกออกมากินข้าว พี่บุ๋มก้อให้”
“รู้ป่าว ปกติพี่บุ๋มไม่ค่อยให้เราไปไหนกะคนอื่นง่ายๆหรอกนะ มีแต่ไอ้พิมพ์นี่แหละ ตอนนี้มีแกอีกคน กล่อมยังงัยวะเนี่ย”
“เด็กดีก้ออย่างงี้แหละ พี่เขาดูออก”
“ดีตายแหละ ว่าแต่จะกินรัยเนี่ย”
“ไปบ้านไอ้ดาก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยไปหอเบสกัน จะกินรัยค่อยว่ากัน”
“อ๋อจะไปกินข้าวกับผู้ชาย แล้วจะลากพวกชั้นไปทำไม”
“ไปเป็นเพื่อนหน่อยดิ แกก้อได้ไปดูหนุ่มด้วยงัย”
“เออ ได้นี่เห็นว่าเป็นแกนะ ตอบแทนที่พาออกมาจากบ้านได้”
จากนั้นพอไปหาไอ้ดาเลยออกมาหอเบสกัน มาถึงเบสมันนั่งอยู่ที่เดิมที่กำแพงนั่นแหละ กำลังนั่งคุยกับเพื่อนมัน หน้าตาน่ารักดี ผิวคล้ำไปหน่อย มีจอนด้วย ดูดีเหมือนกัน
“นึกว่าจะไม่มาหาอีกแล้วนะเนี่ย กานต์”
“มาดิครับ รีบมาจะแย่แล้ว เบสกินข้าวยัง”
“ยัง รอกานต์อยู่”
“จริงดิ หิวยังเนี่ย กานต์มาช้าไปป่าว”
“ไม่หรอกพึ่งหกโมงกว่าเอง ปกติเบสกินประมาณทุ่มกว่านั่นแหละ”     
“อ๋อ ครับ แล้วกินรัยกันดี”
“แล้วแต่ พวกกานต์อยากกินรัยกันอ่ะ”
“งั้นไปกินผัดไทแยกหัวแตกละกัน”
“อยู่ที่ไหนอ่ะ เบสไม่ใช่คนที่นี่นะ”
“เอาน่า เดี๋ยวก้อรู้เอง ว่าแต่เพื่อนเบสไปกินด้วยป่ะเนี่ย”
เบสหันไปคุยกะเพื่อน ซึ่งก้อตกลงไปด้วย เลยให้ปุ๊กไปนั่งกับไอ้ดา ส่วนเบสกะเพื่อนมานั่งกับผม ระหว่างทางเบสเอามือมาจับเอว ผมรู้สึกหยิวๆยังงัยไม่รู้ ชอบจังเลยมีคนน่ารักมาซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เนี่ย
ระหว่างที่นั่งกินผัดไทเลยรู้ว่าเพื่อนเบสชื่อเพชรเป็นเด็กกรุงเทพเหมือนกัน แต่อยู่คนละหอ ผมฃอบมองหน้าเพชรนะมันคมดีอ่ะ แต่ไม่กล้ามองมากเดี๋ยวเบสสังเกตเห็น แต่ว่าตอนที่ผมมองหน้าเพชร เพชรเหมือนจะรู้ตัว จะหลบตาผม ไม่กล้ามองตอบ ชอบจริงๆ เวลาที่มองใครแล้วไม่กล้าสู้สายตา มันสนุกนะที่ได้แกล้งอ่ะ
เสร็จแล้วเลยไปส่งไอ้ปุ๊กที่บ้าน จากนั้นก้อแยกกัน ไอ้ดาไปกับพิมพ์ ผมไปส่งเบสกับเพชรที่หอ โดยแวะส่งเพชรก่อน ค่อยไปนั่งคุยกับเบสหน้าหอ ตอนนั้นเริ่มมืดแล้ว
“อืมม์ เบสรู้ป่ะ กานต์คิดถึงเบสมากเลยนะ”
“เบสเนี่ยนะ กานต์จะมาคิดถึงเบสทำมัยล่ะ”
“ก้อเบสน่ารักนี่ จริงๆนะ”
“พูดอย่างนี้กะคนอื่นบ่อยล่ะสิ”
“ไม่จริงอ่ะ กานต์ไม่เคยพูดกะใครเลยน้า”
“ครับ เชื่อครับ”
“วันนี้มืดแล้ว เดี๋ยวกานต์กลับบ้านก่อนดีกว่า แต่ว่าก่อนกลับกานต์ขอรัยเบสอย่างได้ป่ะ”
“ขออะรัยล่ะ”
ผมจับมือเบสขึ้นมาจูบทีนึง ตอนนั้นเบสคงเขิน ผมเดาเอานะ จากท่าทางและสีหน้าที่เห็นไม่ค่อยชัด
“เล่นอะไรอ่ะ”
“มือหอมจังเลย เมื่อไหร่กานต์จะได้จูบตรงอื่นนอกจากมือน้า”
“บ้าดิ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ”
“ครับ ฝันถึงกานต์บ้างนะครับ เบส”
กลับมาถึงบ้านม้าก้อเริ่มบ่นด้วยประโยคเดิมประมาณว่าไม่ค่อยอยู่บ้าน โอ๊ยขี้เกียจฟังเดินหนีไปอาบน้ำขึ้นห้องฟังเพลงดีกว่า พอดีโทรศัพท์ดังแต่รับไม่ทันม้ารับก่อน ดีว่าเป็นไอ้ดาโทรมา เลยบอกม้าว่ารับสายบนห้องแล้ว
“เออ มีรัยวะคิดถึงกูรึงัยกลับบ้านปุ๊ปโทรหากูเนี่ย”
“เออ กูคิดถึงมึง”
“ไอ้สันดานนี่ เสือ_พูดเล่น มีรัยก้อว่ามา”
“แล้วอบรมปีนี้ มึงจะไปยังงัย”
เออจริงด้วย ลืมสนิทเลย ว่าจะต้องไปอบรมกับเด็กคริสต์ โอ๊ยจะทำยังงัยวะเนี่ย
“ไม่รู้ดิ คงต้องไปกะเด็กคริสต์อ่ะ”
“แล้วมึงจะไหวหรอ ไปกะเด็กพุทธดีกว่ามั้ง”
“แล้วมึงจะให้กูบอกคุณพ่อยังงัย บอกว่ากูเลิกกะมันแล้ว เลยเลิกความคิดที่จะเข้าคริสต์หรอ บ้าดิ”
“งั้นจะทำงัย”
“กูก้ออยู่กะไอ้บอย ไอ้หนึ่งดิ”
“เออ อย่าเครียดมากละกัน ร้องไห้ให้มันน้อยหน่อยนะ”
“ครับ คุณพ่อ ลูกรู้แล้วครับ”
“ไอ้สาดนี่ คนเป็นห่วงนะมึง”
“เออ ขอบใจมาก เพื่อน”
ไอ้บอยกับไอ้หนึ่งเป็นเด็กประจำครับ เรียนห้องเดียวกันนี่แหละ ตอนที่มันรู้ว่าผมจะเรียนคำสอน มันคอยช่วยผมประจำ ยังงัยลากมันมาเป็นเพื่อนคงได้แหละน่า ที่จริงเมื่อกี้ตอนไอ้ดาบอกคิดถึงก้อตกใจเหมือนกันนะ เพราะสนิทกะมันมาก ถึงขนาดว่าเคยนอนใส่แต่กางเกงในอย่างเดียวด้วยกันมาแล้ว แต่ไม่เคยมีอะรัยกัน ผมเองยังงงตัวเองเหมือนกัน ว่าทำมัยถึงไม่คิดอะรัยกะมัน ทั้งที่มันก้อไม่ใช่คนขี้เหร่ ผมว่าคงเป็นเพราะคำว่าเพื่อนมั้ง ที่มันทำให้ผมไม่คิดอะไรมากไปกว่านั้น อ้อ ต้องจำให้ขึ้นใจ ก่อนนอนอย่าลืมยกหูโทรศัพท์ออก จากนั้นก้อฟังเพลงจนหลับไป
**************************************************************

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ทำไมกานต์ดูเป็นคน ไรสติแบบนี้อะ

ไม่ยอมฟังอะไรเลย

เฮ้อ........

พูห์ :try2:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
ความรักทำให้คนตาบอดไง
บางทีเรื่องเล็กก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้
***********************************************************

ตอนที่ 25
หลังจากวันนั้นมาอีกอาทิตย์นึงก้อถึงวันที่จะต้องไปอบรมแล้ว เซ็งชีวิตจังเลย เวลาอาทิตย์นึงตอนนั้นก้อไม่มีอะรัยมาก ความคืบหน้ากับเบสคือ ได้หอมแก้มแล้ว ส่วนไอ้น้องบูม มันยังหวงตัวอยู่เลยต้องใจเย็นๆ เดี๋ยวน้องมันจะตกใจ
แต่ที่น่าห่วง คงเป็นตัวเราเอง ปีนั้นโรงเรียนพาไปที่บ้านพักดอนบอสโก เขาตะเกียบ หัวหิน ระหว่างทางที่นั่งรถไป ได้แต่นึกในใจ ทำไมเวลาที่คนเรามีความสุขเรามักจะลืมความทุกข์นะ รึว่าจริงๆแล้วโลกนี้มันไม่เคยมีความสุขอยู่หรอก มีแต่ความทุกข์ เพียงแต่ว่าจะทุกข์มาก หรือว่าทุกข์น้อย พอทุกข์น้อย เราก้อสมมุติเรียกมันว่าความสุข เราถึงไม่เคยรู้สึกเลยว่าความสุขมันเป็นยังไง มีแต่ความทุกข์ที่มันอยู่เป็นเพื่อนเราตลอดเวลา นั่งคิดเรื่อยเปื่อยไปตลอดทางจนถึงเขาตะเกียบ
“บอย หนึ่ง มึงมานี่ก่อนดิ”
“ทำมัยวะ ไม่รีบเอาของไปจองที่ก่อนหรอ”
“ก้อ...เดี๋ยวก่อนดิ ไม่ต้องรีบหรอกขึ้นไปท้ายๆ ดีกว่า กูไม่อยากนอนข้างมัน”
“เออ งั้นเดี๋ยวค่อยขึ้นก้อได้”
พอขึ้นไปที่พักมันจะเป็นห้องยาว มีห้องน้ำอยู่ด้านซ้าย ด้านขวา  ก้อเห็นไอ้ตั้มกะไอ้นนท์มันเลือกที่นอนตรงกลางพอดี เลยชวนไอ้บอย ไอ้หนึ่งไปนอนริม ให้มันนอนซ้ายขวา คิดมากไปป่าววะเนี่ย ทำยังกะจะมีใครมาปล้ำ พอจัดของเสร็จก้อลงไปร่วมกิจกรรม เริ่มจากการละลายพฤติกรรม ระหว่างที่เล่นเกม พยายามไม่เฉียดเข้าไปใกล้มัน ทำมัยว้า ยิ่งไม่อยากเจอยิ่งต้องอยู่ใกล้
ตกกลางคืนจะมีกิจกรรมยอดฮิตของบ้านดอนบอสโกเขาตะเกียบ เซอร์จะแจกกระป๋องให้พร้อมไอ้ช้อนขุดอ่ะนะ ให้ออกไปหาปูลมกัน ไม่รุ้ว่าจะมีคนรู้จักกันเยอะรึป่าว ปูลมจะเป็นปูตัวเล็กสีขาวๆ จะอยู่ในรูตามริมหาดปากรูมันจะมีทรายเป็นเม็ดอยู่ วันนั้นเป็นครั้งแรกที่เคยหา โดยมีบอยกะหนึ่งไปด้วยกันมีไฟฉายไปอันนึง คอยฉายไปแล้วจะเห็นปูมันวิ่งสีขาวสะท้อนแสงไฟ เมื่อเห็นมันลงรูก้อเอาช้อนที่มีนั่นแหละขุดลงไป แล้วคอยจับ ปูลมที่ได้จะเอาไปชุบแป้งทอด ก่อนทอดต้องแกะกระดองแล้วล้างมันปูออกก่อน เขาบอกว่าถ้าไม่ล้างมันปู ท้องจะเสียเวลาที่กินเข้าไป จริงๆก้ออยากลองนะว่ามันจะจริงรึป่าว ถ้าใครเคยลองช่วยบอกทีละกัน ระหว่างที่กำลังขุดหาปูกัน ผมไม่ได้สังเกตว่าไอ้บอยกะไอ้หนึ่งมันหายไปตอนไหน รู้สึกอีกทีก้อได้ยินเสียง
“กานต์ นี่เราไม่มีทางที่จะพูดดีกันได้แล้วใช่มั้ย”
“บอกแล้วงัย มันหมดไปแล้ว มันหมดไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว ขอตัวนะ ไม่มีอะรัยจะพุดแล้ว”
ในใจนึกเคืองไอ้สองคนนั่น ทำไมมันทิ้งเราไว้เฉยเลย พอไปเจอมันสองคน แทนที่เราจะเป็นฝ่ายว่ามัน มันกลับเป็นฝ่ายมาว่าเราอีกว่าทำมัยไม่ฟังเหตุผลไอ้ตั้มบ้าง ความรู้สึกตอนนั้นคือทำไมไม่มีใครคิดถึงใจเราบ้างว่ามันเจ็บแค่ไหน
“ถ้าพวกมึงคิดว่ากูเป็นคนผิด กูก้อไม่ว่าอะไร แล้วแต่พวกมึงละกัน”
“กานต์ กูไม่ได้หมายความว่ามึงผิดนะ แต่มึงน่าจะฟังมันบ้างดิวะ”
“ฟังหรอให้กูฟังอะรัย ที่มันพูดมาเคยมีความจริงบ้างมั้ย กูขอร้อง ถ้ามึงยังอยากคบกะกู อย่าเอ่ยถึงเรื่องของมันอีก กูไม่อยากฟัง”
“เออ ไม่ฟังก้อไม่ฟัง”
พอเลิกคุยเรื่องไอ้ตั้มแล้วก้อเดินกลับมาที่บ้านพัก ทำปูกัน แต่ตอนนั้นไม่มีอารมณ์สนุกเลย ทำมัยจะต้องมานั่งเครียดด้วยวะ คงเพราะไม่มีใคร ตอนนั้นถ้ามีระอยู่ด้วยรึมีใครที่จีบไว้อยู่คงจะไม่เหงาเท่านี้ ทั้งที่อยู่ท่ามกลางคนเยอะแยะ แต่ทำมัยเหมือนมีเราอยู่คนเดียว รู้สึกเบื่อๆเลยเดินขึ้นไปล้างตัวแล้วก้อนอนอยู่เงียบๆคนเดียว อยากอยู่กับตัวเอง อยากรักตัวเองให้มากกว่านี้ ตอนนั้นน้ำตามันไหลออกมาเอง ทำมัยเราต้องรักมันมากขนาดนี้ ทำมัยถึงลืมมันไม่ได้ ทั้งที่มันทำเราเจ็บมากขนาดนี้ โอ๊ย เครียด วันนี้ขอเท่านี้ก่อนละกัน เขียนต่อไม่ไหวแล้วอ่ะครับ พรุ่งนี้จะมาต่อให้ครับ
**************************************************************


ตอนที่ 26
คืนนั้นนอนร้องไห้ไปจนหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ มารู้ตัวอีกที ตอนเช้ามืด ลุกขึ้นมายังไม่มีใครตื่น เลยออกไปเดินเล่นดีกว่า เดินเล่นให้ลมมันพัดเผื่อว่าอะไรมันจะดีขึ้น
“ตื่นแต่เช้าเลยหรอลูก”
“ครับ อรุณสวัสดิ์ครับ คุณพ่อ”
นึกว่าใคร ที่แท้ก้อคุณพ่ออธิการน่ะเอง ท่านคงออกมาเดินเล่นตอนเช้าเหมือนกัน
“มีอะรัยรึเปล่า พ่อว่าพักนี้ ลูกไม่ค่อยร่าเริงเหมือนเมื่อก่อนเลยนะ”
“ไม่มีอะรัยมากหรอกครับ พอดีผมแค่มีเรื่องที่ไม่สบายใจนิดหน่อยครับ”
“กานต์ ลูกเชื่อในแม่พระใช่มั้ย”
“ครับ คุณพ่อ”
“ถ้าอย่างนั้นลูกลองขอแม่พระดูสิ เผื่อว่าปัญหาของลูกมันจะมีทางออกนะ”
“ครับ ผมจะลองดูครับ”
“วันนี้ตอนเย็น พ่อจะทำเทเซ่ ลูกช่วยเตรียมเพลงทีนะ”
“ครับ เดี๋ยวผมเตรียมให้ครับ”
หลังจากนั้นคุณพ่อพาเดินกลับมาที่บ้านพักผมเลยเดินขึ้นไปบนห้องตอนนี้พวกเพื่อนๆ ตื่นนอนกันเกือบหมดแล้ว ผมเดินเข้าไปหาไอ้บอยกับไอ้หนึ่ง
“ไปไหนมาวะกานต์”
“กูไปเดินเล่นมา ที่ชายหาดอ่ะ”
“โหไม่ปลุกกูเลย กูจะได้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นมั่ง”
“ดูทำมัย พระอาทิตย์ที่ไหนมันก้อเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าที่นี่จะมีพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกันสองดวงเมื่อไหร่”
“อ้าว มีแรงกวนตี...แล้วหรอวะ”
“กูก้อไม่ได้เป็นอะรัยซะหน่อย”
“ไม่ได้เป็นอะรัย แล้วเมื่อคืนนี้ หมาที่ไหนมันมานอนร้องไห้จนหลับไปวะ”
“แล้วเมื่อคืนนี้หมาตัวไหนนอนร้องไห้จนหลับน้ำตาเปียกหมอนวะ” บอยกระซิบถาม
“ไม่รู้ มันตายไปแล้วเว้ย ตอนนี้มีแต่หมาที่ร่าเริงเว้ย”
“เออ กูจะพยายามเชื่อดู”
“บอย มึงเล่นกีต้าร์ทีได้ป่าว พอดีคืนนี้พ่อเขาจะทำเทเซ่อ่ะ”
“หึ กูเล่นเป็นแต่ออร์แกนอ่ะดิ กีต้าร์กูไม่ถนัดไม่บอกไอ้นนท์ล่ะ”
“หึ กูไม่พูดกะมันอ่ะ”
“เรื่องอะรัยอีกล่ะมึง”
“ก้อ...มันเป็นเพื่อนกะไอ้นั่นอ่ะดิ”
“มึงบ้าป่าว แล้วมึงไม่ใช่เพื่อนมันรึงัย เดี๋ยวกูบอกมันเอง โอเคนะ”
เลยตามเลย ในเมื่อบอยมันบอกให้ จริงแล้วไม่ได้โกรธไอ้นนท์มากหรอกนะ แต่ด้วยทิฐิมั้ง เลยไม่ยอมไปพูดกะมันก่อน
หลังอาหารเช้าวันนั้นมีการแบ่งกลุ่มเพื่อแบ่งปันพระวาจากัน ไม่รู้ว่าโชคชะตาเล่นตลกอะรัย ทำให้ผมต้องไปอยู่กลุ่มเดียวกับไอ้ตั้ม ก่อนเริ่มคุณพ่ออธิการนำสวดภาวนาหลังจากนั้นก้อร้องเพลงจงแสวงหา จากนั้นคุณพ่อให้ผมเป็นคนเลือกบทอ่าน โดยวิธีการเลือกคือนำพระคัมภีร์มาแล้วอธิษฐานจากนั้นเปิดไปหน้าไหนก้อได้ ให้เลือกข้อความที่อ่านแล้วประทับใจมากที่สุด
ตอนนั้นผมอธิษฐานขอให้มีทางออกในเรื่องที่ผมรู้สึกว่ากำลังประสบกับความทุกข์ใจอยู่เมื่อผมเปิดไปก้อเป็นจดหมายจากนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ฉบับที่ 1 ข้อความที่ประทับใจนั้นมีอยู่ว่า
“เมื่อข้าพเจ้ายังเป็นเด็ก ข้าพเจ้าพูดอย่างเด็ก คิดอย่างเด็ก ใคร่ครวญหาเหตุผลอย่างเด็ก แต่เมื่อข้าพเจ้าเป็นผู้ใหญ่ ข้าพเจ้าก็เลิกอาการเด็กเสีย
เพราะว่าบัดนี้เราเห็นสลัวๆเหมือนดูในกระจก แต่เวลานั้นจะได้เห็นหน้ากันชัดเจน เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้ารู้แต่ส่วนหนึ่ง แต่เวลานั้นข้าพเจ้าจะรู้แจ้งเหมือนได้รู้จักข้าพเจ้าแล้วด้วย
ดังนั้นยังตั้งอยู่สามสิ่ง คือความเชื่อ ความหวังใจ ความรัก แต่ความรักใหญ่ที่สุด”
“กานต์ ลูกเข้าใจความหมายของบทอ่านตอนนี้มั้ย”
“ไม่ค่อยแน่ใจครับ คุณพ่อ”
“ความรัก คืออะไร ความรักคือ การแบ่งปัน Love is sharing ความรักคือการให้ กานต์ ความรักที่พระทรงมอบให้มนุษย์นั้น เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่นะลูก คำว่าความรัก ไม่จำเป็นที่จะต้องมีความสัมพันธ์กันทางกาย ขอเพียงความสัมพันธ์กันทางใจ ความรักนั้นเป็นสิ่งที่ดี ....”
จริงๆแล้วคุณพ่อท่านอธิบายมากกว่านี้แต่ผมเองจำไม่ค่อยได้เพราะมันนานมากแล้ว ตอนนั้นผมไม่ได้คิดเลยว่าคุณพ่อท่านต้องการที่จะสื่ออะรัยบางอย่างถึงผม ผมเองก้อไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำมัยถึงเปิดเจอบทอ่านหน้านั้น บางทีคำแนะนำที่ดีที่สุด เรากลับไม่ได้ให้ความสำคัญ เป็นเราเองที่ผลักไสสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเราออกไปเอง เป็นเราที่ทำลายสิ่งที่พยายามสร้างมันขึ้นมา ทำไมคนเราถึงไม่รู้ตัวกันเลย เวลาที่ทำลายสิ่งที่สำคัญลงไป
**************************************************************

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
อืมมมม

ตอนนี้ซึ้งจัง

Love is sharing


Pooh :monkeysad:

Kimhan

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วสนุกดีครับ

แล้วก็สถานที่ในเรื่องคุ้นมากๆ 

ทำให้นึกถึงตอนเรียน มัถยมเลย

ขอบใจ บลูนะ ที่เอามาให้อ่าน :myeye:


ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
มัธยม วดต.อะหรือ
บางคนอ่ะเถื่อนตอนไปเรียนรด.เจอกัน ชอบๆ  :monkeylove2:
 :haun5:

ว้าวพูห์ท่าทางอาการหนัก เหมือนคนตกในหลุมรักเลย
อันแน่ มีรายก็บอกมา
 :kikkik:





ตอนที่ 27
ในช่วงบ่ายผมต้องเตรียมเพลงเทเซ่ ตั้งแต่ที่ผมรู้เรื่องไอ้ตั้มแล้วไม่ได้พูดกะไอ้นนท์เลย นี่เป็นครั้งแรกที่กลับมาพูดกะมัน แต่ผมพยายามที่จะไม่สนใจที่จะคุยเรื่องอื่น ที่พูดกะมันก้อมีแค่เรื่องเพลงที่จะใช้ และซ้อมนิดหน่อย
“กานต์ มึงหายโกรธกูยัง” ไอ้นนท์ถามระหว่างทีกำลังซ้อมเพลงอยู่
“ถ้ากูยังไม่หาย กูคงไม่มานั่งซ้อมเพลงกะมึงหรอก”
“แล้วไอ้...”
“ไม่ต้องพูดถึงมัน ถ้ามึงยังอยากให้กูคุยกะมึง หยุดซะ”
“เออ ก้อได้วะ”
คืนนั้นมีการทำเทเซ่ เทเซ่ก้อจะเป็นการภาวนาอย่างหนึ่งนะครับที่ผมชอบมาก เพราะมันจะเรียบง่ายดี มีการร้องเพลง มีการอ่านบทอ่าน และก้อรำพึงภาวนา ในส่วนของเพลงเทเซ่หาฟังได้ที่นี่นะครับ
http://mychristiansong.com/mychristiansong/myjukebox.php?sort=albums&albums=29
ตอนที่ทำเทเซ่นั้นผมอดคิดถึงเรื่องของไอ้ตั้มไม่ได้ไม่รู้สิ เวลาที่ผมอยู่เงียบๆ ผมมักจะนึกถึงมันเสมอ ทำมัยเราถึงรักคนคนนึงได้มากมายขนาดนี้ ความรักนี่แปลกดีนะ รสชาติของมันมีทั้งรสหวานและรสขม เป็นรสชาติที่โลดโผน ใครที่ไม่เคยคงจะไม่เคยรู้ ส่วนใครที่เคยแล้วคงจะเข้าใจว่ามันเป็นอย่างรัย
พอเริ่มคิดก้อเริ่มร้องไห้ ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องเก่าๆ จะต้องร้องไห้ทุกครั้ง ภาพเก่าๆ ที่เคยใช้เวลาด้วยกันมันผ่านเข้ามาในหัว แต่ต้องรีบระงับความรู้สึกนั้น เพราะยังไม่เสร็จพิธี เดี๋ยวจะต้องร้องเพลงอีก การฝืนทำเป็นไม่รู้สึกนี่มันช่างทรมานเหลือเกิน
“เป็นรัยป่าววะ”
“กูไม่เป็นรัยหรอก กูแค่คิดอะรัยนิดหน่อย”
“ไหวนะมึงอ่ะ”
“เออน่า”
ตอนทำเทเซ่เสร็จ รู้สึกไม่สบายใจเลยเดินไปหาคุณพ่ออธิการ เพื่อไปคุยกับท่าน เพราะวันพรุ่งนี้จะกลับแล้วคงจะหายทรมานสักที อย่างน้อยถ้าไม่เห็นหน้า มันคงทรมานน้อยกว่านี้ พอคุยกับคุณพ่อเสร็จเลยกลับขึ้นไปนอนพรุ่งนี้จะต้องไปดูงานก่อนกลับกัน ที่โรงงานเหล็กที่บางสะพาน โดยแวะไปทำมิสซาที่แสงอรุณก่อน พอกลับมาถึงบ้านรู้สึกดีใจมากที่พ้นมาได้สักที
เข้าไปในบ้านเสร็จก้อเอาเสื้อผ้าออกจากกระเป๋า นอนหลับไปตื่นนึง ตื่นมาอีกทีทุ่มกว่าแล้วเลยอาบน้ำ ตั้งใจจะไปหาเบส พอออกจากบ้านมาขี่รถไปหอเบสเพราะวันนี้ตั้งใจแล้วที่จะไปหาคนเดียว
“เบส เบสอยู่ป่าว”
“อ้าวกานต์ เข้ามาดิ วันนี้ไม่กลัวเบสแล้วหรอ กล้ามาคนเดียว”
“ใครกลัวเบสล่ะ เบสออกจะน่ารักขนาดเนี้ย”
“ครับ ขอบคุณครับ พูดบ่อยเดี๋ยวก้อลอยกันพอดี”
“เบสกินข้าวยัง ไปหารัยกินกันดีกว่า”
“ไปดิ ไปกินอะรัยดีล่ะ”
“งั้นเดี๋ยววันนี้กานต์ พาไปกินก๋วยเตี๋ยวรูละกัน”
“กานต์พาไปกินที่ไหนเบสก้อไปที่นั่นแหละ”
“ก้อกานต์เป็นคนขี่มอเตอร์ไซค์นี่นา ถ้าเบสไม่ไป กานต์คงต้องปล่อยเบสลงเดินเองอ่ะนะ”
“โห ใจร้ายกับเบสขนาดนั้นเลยหรอ”
“ก้อกานต์เป็นคนพาไป เบสต้องตามใจกานต์ดิครับ”
“ได้ครับ ตามใจกานต์ก้อได้”
หลังจากนั้นเราก้อไปกินก๋วยเตี๋ยวรูกัน สาเหตุที่เรียกก๋วยเตี๋ยวรูเนี่ย ก้อคือว่ามันอยู่ในซอยของซอยอีกที มันเหมือนเป็นรูเข้าไปอ่ะครับ คนทั่วไปเขาเลยเรียกกันก๋วยเตี๋ยวรู ขายตั้งแต่ช่วงค่ำถึงประมาณตี2 – ตี3 ประมาณว่าเที่ยวเสร็จก้อมากินได้ สะดวกดี
พอกินก๋วยเตี๋ยวเสร็จเลยพาเบสไปนั่งเล่นริมน้ำกัน พอไปถึงที่นั่งมันเต็มหมดแล้ว ดีเหมือนกันเพราะตรงที่นั่งมันสว่างมากเกินไป เลยชวนเบสเดินลงไปตามขั้นบันไดลงท่าน้ำเพราะไม่มีใคร แถมไฟส่องไปไม่ค่อยถึง บรรยากาศดี ลมพัดสบาย
“เบส กานต์ขอจับมือเบสหน่อยได้ป่ะ”
“เอาดิ ไม่ได้ห้ามนี่”
“ครับ ขอบคุณครับ”
ระหว่างที่นั่งจับมือเบสนั้น ผมก้อเอาหัวไปซบบ่าเบส จริงๆอยากให้เบสซบนะ แต่ว่ามันสูงกว่า เลยดึงมันมาซบไม่ถนัด ต้องซบมันเอง ตอนนั้นยังอดคิดถึงไอ้ตั้มไม่ได้อีก มันเป็นอะไรนักหนา ทำมันต้องนึกถึงมันตลอดเลย เลยตัดสินใจอยากที่จะลืมมันให้ได้ ผมหันไปโน้มคอเบสลงมาประกบปากจูบเบศ โดยที่เบสเองยังไม่ทันตั้งตัว
************************************************************** 


ตอนที่ 28
หลังจากผมดึงเบสลงมาจูบ พอถอนปากออก เบสก้อหลบตาผม
“เบส โกรธกานต์หรอครับ ที่กานต์ทำแบบนี้”
“ป่าว ใครโกรธล่ะครับ”
“งั้น กานต์จูบอีกทีได้ป่ะ”
“ตรงนี้อ่ะหรอ”
“อืมม์ ไม่มีใครเห็นหรอก นะ ถ้าไม่โกรธก้อต้องยอมดิครับ”
“ได้ครับ นี่เห็นว่าเป็นกานต์นะ”
ผมจูบเบสอีกทีเราแลกลิ้นกัน มือผมเริ่มอยู่ไม่สุขแล้วล่ะ ลูบไปทั่วหลังเบส ผมกัดไปที่คางเบสเบาๆ เบสเองก้อเอามือมาจิกที่หัวไหล่ผม พร้อมส่งเสียงครางออกมาเบาๆ
“กานต์อย่า เบสเสียว”
ตอนนั้นอยากทำอะรัยก้อได้เพื่อให้ลืมไอ้ตั้ม ผมเอามือเลิกเสื้อเบสขึ้นมา ซุกหน้าลงไปที่ท้องน้อยของเบส ผมพึ่งสังเกตเห็นนะครับ ว่าหน้าท้องเบสแถวท้องน้อยมีปานแดงอยู่ด้วย ผมเอามือดึงกางเกงของเบสลงพร้อมกับกางเกงใน ท่อนเนื้อของเบสก้อผงาดขึ้นมา ผมเอาปากครอบลงไป ขนาดของมันกำลังดี แต่เอียงซ้ายหน่อยนึง ตอนนั้นเบสเอามือจิกหัวผมแน่น
“กานต์ พอก่อนเถอะ ที่นี่คนมันเยอะนะ”
“ไม่มีใครเห็นหรอกครับ”
“ไปที่หอเบสเถอะ ที่นี่เดี๋ยวใครมาเห็น อายเขา”
“โห มันมืดขนาดนี้แล้วไม่มีใครเห็นหรอกน่า”
“ไม่เอาครับ ถ้ากานต์ไม่หยุด เบสโกรธจริงนะ”
สรุปเลยต้องหยุด กะว่าจะเปลี่ยนบรรยากาศซะหน่อย ตอนนั้นเบสแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วดึงมือผมลุกขึ้น พร้อมกับชวนขี่รถกลับไปที่หอ ตอนนั้นผมว่ามันทำให้ผมลืมไอ้ตั้มไปได้เหมือนกันนะ
พอถึงหอเบส เบสเดินพาผมขึ้นไปบนห้องโดยบอกเพื่อนว่าขอคุยกันส่วนตัวแป็ปนึง เพราะห้องที่เบสพักนั้นจะอยู่กันสามคนครับ พอเข้าห้องได้ผมรีบประกบปากจูบเบสทันที ตอนนั้นมันอารมณ์ค้างอยู่อ่ะ เลยต้องรีบต่อ ระหว่างที่จูบผมแกะกระดุมเสื้อเบสออกไปด้วย พอถอดออกเห็นรุปร่างเบสแล้วผมชอบมาก ผมเองเป็นคนชอบคนผอม ยิ่งผอมเหมือนขี้ยายิ่งชอบมากเป็นพิเศษ
“เบสครับ เบสมีปานแดงด้วยหรอครับเนี่ย”
“อืมม์ เรามีมาตั้งแต่เด็กแล้วละ ทำไมหรอ”
“ป่าวครับ น่ารักดี”
“ปานเนี่ยนะ น่ารัก”
“อะรัยที่เป็นเบสอ่ะ น่ารักทุกอย่างแหละครับ”
ผมจูบไปที่ท้องน้อยเบส จากนั้นเอามือถอดกางเกงพร้อมกับกางเกงในลงไป จากนั้นเอาปากครอบลงไป เบสสะดุ้งเอามือจิกหัวผมทันที ผมดันให้เบสไปนั่งลงที่เตียง ระหว่างนั้นผมถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกด้วย ผมผลักเบสลงนอนที่เตียงเริ่มซุกไซร้ไปทั่วตัวเบสอีกที
“เบสครับ ทำให้กานต์มั่งดิครับ นะครับที่รัก”
ผมนั่งคร่อมอยู่บริเวณหน้าของเบส ส่งท่อนเนื้อของผมเข้าไปที่ปากของเบส เบสค่อยๆเผยอปากรับผมเด้งเอวส่งเข้าไป เบสเอามือยันท้องน้อยผมไว้ คงไม่อยากให้มันเข้าลึกมากเกินไป ผมเองอยากสัมผัสกับท่อนเนื้อของเบสบ้างจึงเปลี่ยนมาเล่นท่า 69 กันโดยเบสอยู่ข้างล่าง ผมเลียไปตามซอกขาของเบส ลากลิ้นไปจนถึงก้นของเบส ผมเอามือแหวกก้นเบสออกแล้วฉกลิ้นลงไป
“อย่ากานต์ เสียว อย่าทำอย่างนั้นดิ”
ตอนนั้นผมปากไม่ว่างที่จะตอบแล้วครับ ตอนนั้นผมรัวลิ้นลงไป เบสหยุดดูดผมแล้ว มัวแต่ส่งเสี่ยงครางอยู่ มือผมยังรูดท่อนเนื้อของเบสไปด้วย
“เบสครับ กานต์ขอนะ”
“ไม่เอาอ่ะ เบสไม่เคย แล้วตอนนี้ก้อไม่มีถุงด้วยนะ”
“ไม่เป็นรัยครับ กานต์ขอนะ รักกานต์มั้ยครับ ถ้าเบสไม่รักกานต์ก้อไม่เป็นรัยครับ”
ผมหยุดทันที แล้วนั่งลงเฉยๆข้างเบส
“โกรธเบสหรอกานต์”
“ป่าวครับ กานต์ไม่มีสิทธิ์หรอกครับ”
“เบสยังไม่พร้อมนะ อย่าโกรธนะ”
“กานต์บอกแล้วว่าไม่โกรธ กานต์บังคับใจใครไม่ได้หรอกครับ”
“ไหนบอกว่าไม่โกรธ”
“ป่าวหรอกครับ แค่รู้สึกว่ากานต์คงไม่มีค่าพอสำหรับเบสเท่านั้นเอง กานต์กลับละนะครับ”
ตอนนั้นผมลุกขึ้นมา มันเสียอารมณ์ด้วยมั้ง หงุดหงิดบอกไม่ถูก แต่เบสก้อดึงมือผมไว้ ไม่ยอมให้ผมลุกออกไป
**************************************************************   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-01-2007 21:58:23 โดย b|ueBoYhUb »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






rarmz

  • บุคคลทั่วไป
แบบนี้เค้าเรียกว่าอารมณ์พาไปได้ป่ะคับ???



อ่ะๆ ตามใจพี่เรย์



"รอพี่เรย์อยุ่นะค๊าบบบบบบ"  :-[



RrMz`,,

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
กานต์จะเปงอย่างนี้ไปอีกนานรึป่าวนะ

พูห์ คนเลว





ปล.

ตกหลุมรักหนูบลูได้ป่าวครับ

 :yeb:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
RrMz`,,  อ่านแล้วเสียว รอพี่เรย์ ฟังแล้วชื่นจาย  :haun6:

พูห์   อะตกหลุมรักอ่ะได้ครับ แต่อย่ารักผมหมดใจนะ เพราะหัวใจผมมันตายไปนานแล้ว  :impress3:

คิกคิก ยุทธการดันกระทู้

ใครหลงเข้ามาบ้างยกมือขึ้น

 :kikkik:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ชิชิ

หนูบลูกินยาบ้าไปเลย

คึกทุกกระทู้เชียว

พูห์ คนเลวๆ

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ได้เข้ามาอ่านซะนาน.....

กว่าจะตามอ่านทัน...เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน.... :try2:

แล้วกานต์เป็นไรไปเนี่ย...............รอต่อนะคับพี่เรย์ :yeb:

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
เฮ้อ กว่าจะอ่านทัน

ทำตัวอย่างงี้ ประชดเนี่ย ไม่ดีเลย  :try2:

ที่ไม่ดีเนี่ย เพราะ ไม่มาประชดกับผมอ่ะ อิอิ  :yeb:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
รออย่างมีความหวัง  :impress: :impress: :impress: :impress:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
เรย์ว้อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เมื่อไหร่จะมาลงเรื่องนี้ต่อ
หรือจรอให้ครบสิบเมนท์ฟร่ะ


พูห์ คนเลวๆ

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
รอครบสิบเม้นต์แล้วจะมาต่อเร็วๆนะครับ

***********************************************

ตอนที่ 29
ตอนนั้นผมแกะมือเบสออก ไม่ยอมให้เบสจับมือผม
“ถ้ากานต์ไม่มีค่าพอสำหรับเบส ไม่ต้องฝืนใจหรอกนะ ขอโทษด้วยละกัน”
“กานต์ฟังเบสก่อนสิ”
“ไว้พรุ่งนี้กานต์มาหาเบสใหม่ละกัน วันนี้กานต์เหนื่อย ขอตัวก่อนนะ”
เดินออกมายังนึกสงสัยตัวเองเหมือนกัน ทำมัยเราถึงเป็นคนแบบนี้นะ เวลาที่รู้สึกขัดใจ ไม่ได้อย่างใจแล้วจะไม่รับฟังใครเลย อันนี้คงเป็นข้อเสียสำคัญ ระหว่างที่ขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาจากหอเบส พอดีเห็นมีคนเดินอยู่ข้างหน้ารู้สึกคุ้นตากับรูปร่างพอขี่ไปถึงพอดีเห็นหน้าเลยรู้ว่าเป็นเพชร

“เพชร ไปไหนหรอครับ”
“ว่าจะไปซื้อของแถวนี้หน่อยน่ะครับ”
“ไปกะกานต์ดิ เดี๋ยวกานต์ไปส่ง”
“ไม่เป็นรัยหรอก แค่นี้เอง”
“ไปเหอะ กานต์จะชวนเพชรไปขี่รถเล่นเป็นเพื่อนด้วย”

เพชรเลยขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ ผมพาเพชรไปซื้อของเสร็จแล้วก้อขี่รถร่อนกัน ตอนนั้นมันหงุดหงิดเลยค่อนข้างที่จะขี่รถเร็ว เพชรเองนั่งเหมือนเกร็งคงเพราะกลัวมั้ง ระหว่างที่ขี่รถผมไม่ได้พูดอะไรกับเพชรเลย เพชรเองก้อนั่งนิ่ง จนเวลาผ่านไปสักพัก ผมรู้สึกดีขึ้นจึงเริ่มชวนเพชรคุย

“อาทิตย์นี้เพชรไม่ได้กลับบ้านหรอครับ”
“ไม่ได้กลับหรอก พอดีแม่ไม่อยู่บ้านน่ะ เลยไม่รู้จะกลับไปทำไม กานต์ไปไหนมาล่ะ ไม่เห็นหน้ามาสองสามวัน”
“พอดี ที่โรงเรียนเขาพาไปอบรมที่เขาตะเกียบมาน่ะ”
“ดีจังนะ ได้ไปทะเลด้วย”
“โห ก้อแค่เขาตะเกียบเอง ไปมาบ่อยเกินอ่ะ พูดยังกะเพชรไม่เคยไป”
“มันยังดีกว่าไม่ได้ไปไหนละกัน ว่าแต่ ทำไมวันนี้ถึงชวนเพชรมาขี่รถเล่นได้ล่ะ เบสไม่ว่างหรอ”
“ป่าวซะหน่อย แค่ออกมาจากหอเบสจะกลับบ้าน พอดีเห็นเพชร เลยชวนมาขี่รถเล่นน่ะ”

ถึงแม้เพชรจะผิวคล้ำไปหน่อย แต่ก้อจัดว่าเป็นคนที่ดูดีพอสมควร เวลาที่อยู่ใกล้ผมรู้สึกมีความสุข ผมเองไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำมัย เราถึงรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่โหยหาความรัก ต้องการความรักจากคนอื่น อยากให้มีคนมารักเราเยอะๆ อยากเป็นที่สนใจ อยากให้มีคนมาใส่ใจในตัวเรา

ร่อนได้สักพักนึง ก้อต้องพาเพชรไปส่งหอ เพราะถ้าดึกมากเกินไปหอจะปิด เพชรต้องปีนเข้าหออีก ซึ่งถ้าโดนจับได้คงไม่ดีเท่าไหร่ พอจอดมอเตอร์ไซค์หน้าหอเพชร เพชรลงไปยืนข้างมอเตอไซค์

“ขอบใจละกัน อุตส่าห์พาไปซื้อของ แถมยังพาไปขี่รถเล่นอีก สนุกดี ไว้เจอกันนะ บาย”
“เอ่อ เพชร ถ้ากานต์จะมาชวนเพชรไปขี่รถเล่นอีก จะได้ป่ะ”
“อ้าว แล้วเบสล่ะ”
“ไม่เกี่ยวกับเบสนี่ กานต์ชวนเพชร”
“กานต์เป็นแฟนเบสไม่ใช่หรอครับ ไม่ดีมั้ง”
“เพชร รู้อะรัยป่าว”
“รู้อะรัยล่ะครับ”
“บางที ถ้ากานต์เจอเพชรก่อน มันอาจจะไม่เป็นอย่างทุกวันนี้ก้อได้นะครับ แต่เมื่อมันเป็นอย่างนี้แล้ว กานต์คงต้องทำให้ดีที่สุดถึงแม้ว่าใจกานต์อาจจะไม่ได้อยู่ที่คนที่กานต์ตบก้อตาม หวังว่าเพชรคงเข้าใจนะครับ”

พูดเสร็จก้อขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกมา ปล่อยให้คนที่ฟังเขาคิดเอาเอง กลับมาถึงบ้านรีบอาบน้ำขึ้นไปนอนฟังเพลงบนห้องดีกว่า ชีวิตคนเรานี่แปลกดี ทำมัยบางเวลากลับลืมบางเรื่องได้ง่าย แต่บางทีมันกลับตามมาหลอกหลอน บางทีชัดเจน บางทีมืดมัว ไม่รู้ว่าสิ่งไหนจริง สิ่งไหนเท็จ ใครกันจะแยกได้ ใครกันเป็นคนเปรียบเทียบคนแรก
**************************************************************


ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
กานต์เปงคนยังงัยกันแน่นะ

 :untrust:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






gobgab

  • บุคคลทั่วไป
อยากจำกลับลืม.........อยากลืมกลับจำ :impress:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
ถ้าทุกคนไม่มีความทรงจำ เราคงไม่ต่างจากหุ่นยนต์

.................................

ตอนที่ 30
      เช้าวันรุ่งขึ้น อาทิตย์นี้ไม่ต้องลงช็อป ก้อจะเรียนสบายๆ แต่ช่วงนั้นไม่สบายแล้วละ เพราะว่าใกล้จะสอบแล้ว ต้องอ่านหนังสือและเคลียร์งานค้างเก่าส่งมาเซอร์ให้หมด เลยไม่มีเวลาไปเล่นกีฬาอะรัย สำหรับโรงเรียนผมมีคำขวัญโรงเรียนว่า “ร่าเริง ขยัน ศรัทธา”
     
      นั่นคือสาเหตุที่ โดยปกติแล้วถ้าไม่ใช่ช่วงเวลาใกล้สอบ จะไม่มีนักเรียนมานั่งอยู่เฉยๆ จับกลุ่มคุยในช่วงกลางวัน ทุกคนจะต้องมีกิจกรรมทำ ไม่ว่าจะเล่นกีฬา จะซ้อมดนตรี หรืออะรัยก้อตาม ข้อห้ามที่สำคัญคือการนั่งจับกลุ่มคุยกัน เพราะคุณพ่อบอกว่าเป็นการใช้เวลาที่ไร้ค่า

      วันจันทร์นั้น พอดีว่าจะต้องรีบเคลียร์งานส่งมาเซอร์ทวิตตี้ ความจริงเซอร์เขาชื่ออื่น ทีนี้ด้วยความที่สนิทกัน เลยตั้งชื่อให้เซอร์ใหม่ ว่ามันน่ารักดี เพียงแต่มันไม่ค่อยเหมาะกับหน้าเขาเท่าไหร่ ชื่อมันออกจะน่ารักเกินหน้าไปหน่อยนึง เคยหลุดปากเรียกต่อหน้า เลยโดนตบกะโหลกไปทีนึง โทษฐานเอ็นดู เซอร์บอกว่าถ้าเป็นคนอื่นไม่ใช่เอ็งเรียกอาจมีโดนเตะ เลยต้องขึ้นไปทำงานบนห้องสมุด

      “นั่งคนเดียวหรอครับ พี่นั่งด้วยได้มั้ย”
      “อยากนั่งก้อนั่งดิพี่ ห้องสมุดโรงเรียน พ่อแม่ผมไม่ได้มาสร้างไว้ให้ผมเมื่อไหร่” นึกว่าใครพี่พลน่ะเอง
      “ไม่รู้นี่ กลัวไม่ให้นั่งด้วย”
      “จะนั่งก้อนั่งดิ แล้วเลิกมายืนชนหลังได้แล้ว จั๊กกะจี้”

      จะไม่ให้จั๊กกะจี้ได้งัยล่ะ มายืนข้างหลังไม่ว่า เล่นเอาอะรัยมาชนหลังเราด้วย แถมรู้สึกว่ามันไม่ค่อยจะนิ่งเท่าไหร่ นึกในใจนี่มันในห้องสมุดนะเฟ้ย จะมาทำอะรัยวะเนี่ย ก่อนที่อารมณ์จะเตลิด พี่พลก้อเดินมานั่งข้างๆ

      “เลิกกะแฟนแล้วหรอ น้องกานต์”
      “พี่พลจะถามทำมัยล่ะ หรือจะมารับอาสาดามหัวใจให้ผม”
      “พี่ไม่กล้าหรอกครับ น้องกานต์ก้อมีระมาดามให้แล้วไม่ใช่หรอ”
      โรงเรียนผม เป็นโรงเรียนที่ไม่ใหญ่มาก เรื่องทุกเรื่องในโรงเรียนเลย รู้กันทั่วไปหมด แถมพี่พลยังอยู่หอในเหมือนระด้วยเลยไม่แปลกใจ ที่พี่เขาจะรู้

      “แต่ใจจริง ผมอยากให้พี่เป็นคนมาดามหัวใจให้ผมมากกว่านะ”
      “แน่ใจเรอะ มีคนดามกี่คนแล้วล่ะครับ ถึงมาชวนพี่เนี่ย”
      “กี่คนก้อไม่สำคัญนี่ครับ ขึ้นอยู่ว่าพี่กับผม เราคิดยังงัย”
      “แล้วน้องกานต์ล่ะครับ คิดยังงัย”

      ตอนนั้นผมเอามือไปลูบหลังมือพี่พล แล้วนั่งจ้องหน้าแต่ไม่ได้พูดอะรัย แค่นี้ถ้าไม่โง่เกินไป น่าจะเข้าใจความหมายได้ดีแล้ว พี่พลเองก้อเอามือมาลูบต้นขาผม ตอนนั้นผมรีบจับมือพี่พลออก กลัวคนอื่นเห็น ถึงผมจะใจกล้าแต่ยังไม่หน้าด้านนะครับ

      “เดี๋ยวจะขึ้นเรียนแล้ว ผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะพี่”
      “พี่ไปด้วยคนดิ”
      “ไม่ได้ห้ามนี่ครับ อยากไปก้อไป”

      ห้องน้ำโรงเรียนจะอยู่หลังช็อปช่างเชื่อม พอเดินไปถึงทำธุระเสร็จแล้วกำลังจะเดินกลับตึกเรียนเพราะจะได้เวลาเข้าเรียนช่วงบ่ายแล้ว พี่พลจับมือไว้แล้วดึงผมเข้าห้องน้ำไป พอล็อคประตูได้พี่พลก้อจูบปากผมทันที ยอมรับจริงๆว่า ตั้งแต่จูบมา ไม่เคยเจอใครจูบเก่งเท่าพี่เขามาก่อน เล่นเอาเราตัวเบา เหมือนจะลอย พอพี่พลเริ่มจะไซร้ต่อไป ผมรีบจับหัวพี่เขาไว้

      “อย่าพี่ จะเข้าเรียนแล้ว เดี๋ยวไปเรียนไม่ทัน”
      “แปปเดียวนะ พี่ขอนะครับ”
      “ไม่เอาพี่ ถ้าพี่ไม่หยุดเดี๋ยวกานต์โกรธจริงๆนะ”

      ต้องใช้ไม้นี้ถึงจะยอมหยุด ถ้าไม่อย่างนั้นสงสัยคงไม่ได้ขึ้นไปเรียนแน่นอน ตอนที่จะออกจากห้องน้ำ ให้พี่พลออกไปก่อนสักประมาณ 5 นาทีผมถึงออกไป แต่ว่าตอนที่ออกไปนั้นปรากฏว่าไอ้ตั้มครับ มันยืนอยู่หน้าห้องน้ำพอดี พอมันเห็นผมออกมา มันเดินตรงเข้ามาหาผมทันที

      “มึงเข้าไปทำอะรัยกะไอ้หน้าหนูนั่น”
      “ทำมัย กูจะทำอะรัยมันก้อเรื่องของกู ไม่เกี่ยวกะมึง”
      “สำส่อน มึงมั่วขนาดนี้เลยหรอ”
      “ขอบใจที่ชม รู้ไว้ละกัน ที่กูเป็นอย่างนี้ก้อเพราะมึงนั่นแหละ”
      พูดเสร็จแล้วผมยิ้มเหยียดๆมุมปากให้มัน แล้วเดินออกมา เจ็บจังเลย ทำมัย ทำมัย ทำมัย ไม่มีใครเข้าใจหรอกมั้งความรู้สึกนี้ เมื่อกูเจ็บ กูจะไม่ยอมเจ็บคนเดียว กูไม่ยอมให้ใครมาทำกูคนเดียวหรอก ตอนนั้นผมคิดในใจ พอขึ้นเรียนรู้สึกเครียดมาก กำมือจนเล็บมันจิกเข้าไปในเนื้อไม่รู้สึกตัวเลย

      เลิกเรียนไปรอรับน้องบูม ต้องทำตัวเสมอต้นเสมอปลาย น้องมันจะได้รู้สึกดีด้วย วันนี้ตั้งใจว่าจะไม่เข้าไปหาเบส ยังไม่อยากเจอ ให้เวลาเบสคิดเอาเองดีกว่า ส่งน้องบูมเสร็จเลยไปหาเพชรที่หอ

      “เพชร ไปขี่รถเล่นกันดีกว่านะ”
      “อ้าว แล้วเบสล่ะ”
      “พอดีวันนี้อยากชวนเพชร จะไปมั้ยล่ะ ถ้ารบกวนก้อขอโทษด้วยละกัน”
      “ป่าว ไปก้อไป ไม่ได้ว่าอะรัยนี่”

ตอนนั้นผมน่ะเปลี่ยนชุดแล้ว แต่เพชรยังใส่ชุดนักเรียนอยู่เลย น่ารักดีแฮะ เวลาใส่ชุดนักเรียนเสื้อขาวกางเกงน้ำเงินเนี่ย พอขี่รถเล่นได้พักนึง ผมพาเพชรเข้าไปที่บ้านไอ้ดา ตอนที่เข้าไปถึง ไอ้ดากับพิมพ์ทำหน้าแปลกใจ คงสงสัยว่าทำมัย ผมถึงมากะไอ้เพชรได้ มันคงงงว่าผมไปสนิทกันตอนไหน

      “หิวข้าวว่ะ จะมาชวนไปหาอะรัยกิน ไปมะ ไปรับปุ๊กอีกคนนึง”
“เออ ไปดิ ว่าจะไปหาอะรัยกินกันอยู่พอดี”
      ที่บ้านปุ๊ก ปุ๊กมันมองด้วยความสงสัย พอได้จังหวะมันดึงผมไปที่หลังบ้านมันทันที

      “ไปพามาได้งัยเนี่ย เพื่อนเบสมันไม่ใช่หรอ”
      “ใครว่าไม่ใช่ล่ะ”
      “โห ไม่กลัวเบสมันรู้หรอ จีบเบสแล้วยังมาจีบเพื่อนมันอีกเนี่ย”
      “รู้ก้อช่างมัน เบื่อคนงี่เง่า”
      “อ้าว นี่ทะเลาะกันเรื่องอะรัยหรอ”
      “ไม่มีอะรัยหรอก เรื่องไม่เป็นเรื่อง”
      ใครจะไปกล้าบอกถึงสาเหตุล่ะ ถึงสนิทยังงัย มันก้อยังเป็นผู้หญิง จะให้มันมารู้อะรัยมากคงไม่ดี เลยลากมันมาหน้าบ้านขอพี่บุ๋มพามันไปกินข้าว พอกินเสร็จเลยไปส่งเพชรที่หอ เพราะมืดมากแล้วเหมือนกัน

      “ขอบคุณนะครับ วันนี้กานต์รู้สึกว่าอาหารอร่อยกว่าทุกวันเลยนะเนี่ย”
      “เอ่อครับ ไว้คุยกันนะ อ้อ อย่าลืมไปหาเบสด้วยนะครับ”
      “เพชร กานต์ขอนะ เวลาคุยกัน อย่าพูดถึงคนอื่นได้ป่ะ”
      “คนอื่นที่ไหน นั่นแฟนกานต์นะ”
      “โอเค แล้วแต่เพชรละกัน ขอโทษนะครับ เดี๋ยวจะทำตามที่เพชรต้องการ อยากให้ไปหาเบสใช่ป่ะ เดี๋ยวกานต์ไปหาก้อได้”
      “อยากทำรัยก้อทำดิ ทำมัยต้องทำตามที่เพชรต้องการด้วยล่ะ”
      “แล้วแต่จะคิดครับ ไม่อยากพูดมาก ไปก่อนนะ จะรีบไปหาเบสตามที่เพชรบอก”

      ไปถึงหอเบส เบสนั่งอยู่ที่เดิม พอจอดรถ เบสมองหน้าผม
      “กานต์หายโกรธเบสยัง”
      “ป่าว บอกแล้วไม่เคยโกรธ ไม่เคนคิดจะโกรธด้วย”
      “ไม่จริงอ่ะ ไม่โกรธกานต์ต้องมาตั้งนานแล้วดิ นี่พึ่งมาเอาตอนนี้”
      “ก้อมาแล้วงัย ถ้าโกรธคงไม่มาหาหรอกรู้ป่าว”
      “ครับ เบสขอโทษนะ ต่อไปเบสจะไม่ขัดใจกานต์แล้ว”
      “ครับ แต่วันนี้กานต์ขอตัวก่อนนะ เดี๋ยวต้องไปส่งปุ๊กด้วย กลัวเข้าบ้านดึกเดี๋ยวม้าว่า”
      “เบสคิดถึงกานต์นะ”
      “ครับ กานต์ก้อเช่นกัน”

      พอขี่รถออกมา ปุ๊กมันซักใหญ่เลย มันสงสัยว่าทำได้ยังงัย ถึงได้จีบพร้อมกันสองคน ผมก้อบอกว่าไม่รู้ดิ อยากคุยกะใครก้อคุย คุยแล้วเรารู้สึกดีเราก้อคุย แต่ถ้าคุยแล้วรู้สึกไม่ดีก้อไม่คุย แค่นั้นเอง

      คนเรานี่แปลกดี ทำมัยถึงกลัว กลัวว่าอนาคตจะเป็นอย่างรัย คิดนั่น คิดนี่สารพัด ทำมัยถึงไม่มีใครคิดบ้างว่า แค่เรามีความสุขอยู่กับปัจจุบัน อนาคตมันก้อแค่สิ่งเพ้อฝัน มีความสุขกับปัจจุบันดีกว่า ปัจจุบันเป็นสิ่งสำคัญ คำสัญญา มันก้อแค่เรื่องของลมปาก ที่ผ่านมา และมันพร้อมที่จะผ่านไป
บางคนเคยบอกว่าจะทำอย่างนั้น จะทำอย่างนี้ แต่ไม่เห็นว่าจะทำตามที่บอก แล้วทำมัย เราถึงจะต้องไปติดอยู่ตรงคำพูดของคนที่เขาไม่เคยคิดจะรักษามันเลยนะ รู้ทั้งรู้แต่บางเวลา มันก้ออดไม่ได้ มันเป็นความอ่อนไหวหรือความโง่เฉพาะตัวกันแน่นะ ที่ยังจะไปยึดติดกับคำพูดของคนบางคน ที่บางทีเขาอาจลืมไปตั้งแต่มันพ้นจากปากเขามาแล้วก้อได้
**************************************************************

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
ตามอ่านทันแว้วววว   :laugh:  :laugh:  :laugh:

อ่านมาถึงตอนนี้แล้วอึดอัดจัง   ตัวเองเจ็บก็เลยต้องทำให้คนอื่นเจ็บด้วยงั้นสิ  ไม่ชอบนิสัยแบบนี้เลยให้ตายสิ (โทดทีนะเจ้าของเรื่อง 555)  เรื่องตั้มกับผู้หญิงอะไรนั่นก็ไม่พูดกันเนอะ  ขัดจายยยยยย

รออ่านต่อนะ  พี่เรย์สุดหล่อ  :yeb:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
มูมู่น้อย  โห กว่าจะตามทัน เรื่องจะจบแล้วป่าวหวา คิกคิก  :monkeylaugh2:

รักมากบางทีก็แค้นมากอ่ะครับ   :sad4:
***************************************************

ตอนที่ 31
      หลังจากวันที่ไอ้ตั้มเห็นผมออกมาจากห้องน้ำกับพี่พลแล้ว เรายิ่งมึนตึงกันมากกว่าเดิม เคยถามใจตัวเอง ว่าคิดถูกแล้วหรือ ที่ทำให้มันเป็นอย่างนี้ ว่างเปล่าไม่มีคำตอบใดๆ ออกมาจากสมองเลย แต่ไม่นานก้อเกิดเรื่องที่ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไป มันเริ่มจากวันศุกร์ของอาทิตย์นั้นเอง

      “กานต์ ตอนนี้เราจีบรุ่นน้องนายอยู่นะรู้ป่าว”
      “จริงดิ ไปจีบใครอ่ะ ไม่เห็นรู้เลย”
      “ชื่ออั้ม เรียนช่างกลปี 1”
      “อุบเงียบเลยน้า ไม่บอกกันมั่ง”
      “แล้วนายมีเวลาให้เราบอกหรอ เห็นวุ่นวายกะหนุ่มๆทุกวัน”
      “ครับ ผมผิดเองครับ”
      “วันนี้ เราว่าจะชวนนายไปหาอั้มหน่อย ไปป่ะ”
      “ไปดิ จะไปดูหน้า ไม่ค่อยรู้จักเด็กรุ่นน้องช่างกลซะด้วย”

      ปุ๊กพาผมไปบ้านอั้ม บ้านอั้มเป็นทาวน์เฮาส์ที่แม่ซื้อไว้ให้สามคนพี่น้องอยู่ เพราะบ้านอั้มจริง อยู่ห่างตัวเมืองออกไปอีกไกลพอสมควร อั้มเป็นลูกคนกลาง พี่ชายตนโตเข้าไปเรียนกรุงเทพแล้ว นานๆ จะกลับมาทีนึง บ้านนี้จึงมีแค่อั้มอยู่กับออฟสองคนพี่น้องเป็นส่วนใหญ่

      เป็นธรรมดาอยู่แล้ว บ้านที่ไม่มีผู้ใหญ่อยู่ด้วย จึงมักเป็นที่รวมของเพื่อนๆ ตอนที่ไปหาอั้มนั้น มีเพื่อนอั้มอยู่ด้วยอีก 4 คน แต่ไม่ใช่นักเรียนโรงเรียนผมหรอกนะ เพราะมันใส่ชุดแบบเด็กสายสามัญ น่ากลัวจะเป็นเพื่อนเก่าอั้มสมัยเรียนม.ต้น กำลังนั่งดูทีวีกันอยู่

      “ปุ๊ก มาแล้วหรอ หวัดดีครับพี่กานต์ นั่งกันก่อนดิ”
      “หวัดดีครับ เรารู้จักพี่ด้วยหรอ”
      “โหพี่ ทำยังกะโรงเรียนเรานักเรียนเป็นพัน พี่อย่าบอกว่าไม่เคยเห็นหน้าผมนะ”
      “ก้อเคยเห็นแต่ไม่ได้สนใจน่ะ ไม่รู้จักมาก่อนนี่หว่า ใครจะไปมองอยู่”
      “ผมหล่อไม่พอที่พี่จะมองหรอครับ”

      เวรล่ะสิ ดันมาพูดงี้ ไอ้บ้าเอ๊ย เพื่อนมันมองหน้าผมกันหมดเลย คงสงสัยคำพูดไอ้อั้มอ่ะ เพราะปกติแล้วรสนิยมของผมจะเป็นที่รู้ในโรงเรียนดี แต่กับคนนอกโรงเรียนที่ไม่รู้ จะไม่มีใครทันสังเกต ผมเองทำตัวเหมือนผู้ชายปกติทั่วๆไป เล่นมาพูดงี้เดี๋ยวเพื่อนมันก้อรู้หมดดิ

      “ถ้าอั้มไม่หล่อ เพื่อนพี่มันคงไม่ชอบน้องหรอก จริงมั้ยปุ๊ก”
      “ขอบคุณที่ชมครับ เออพี่ นี่เพื่อนผมนะ เป้ โจ เบล เก่ง เรียนม.ต้นมาด้วยกันอ่ะ”
      “หวัดดีครับ พี่ๆ”

      น้อง 4 คนนี้ประสานเสียงกันดีจัง พวกน้องมันเรียนกันที่โรงเรียนมัธยมประจำอำเภอ มองดูแล้วทั้งหมดหน้าตาก้อธรรมดา เลยไม่ค่อยสนใจอะรัยเท่าไหร่ โดยมากจะไปสนใจกะทีวีมากกว่า
      ระหว่างที่นั่งดูทีวีอยู่ มีความรู้สึกเหมือนมีคนมอง แต่ไม่ค่อยแน่ใจ พอหันไปดู ก้อไม่เห็นว่าใครมันจะมอง น่ากลัวจะคิดมากไปเอง แต่ผ่านไปสักพัก ยังรู้สึกอีกคราวนี้ค่อยๆ แอบมองกลับไป ปรากฎว่าเป็นเป้ที่แอบมองผมอยู่ ตอนนั้นสงสัยเหมือนกัน แต่ไม่ใช่คิดว่ามันจะมาชอบหรอกนะ คิดว่ามันมองจะหาเรื่องรึป่าววะ

      “เป้ มีปัญหาอะรัยในใจรึป่าว พี่ว่าเป้มองหน้าพี่บ่อยเกินไปมั้ง”
      “ป่าวครับ ไม่มีอะรัย”
      “ไม่มีอะรัยก้อดีแล้ว พี่ไม่อยากมีเรื่องกะใครหรอกนะครับ”
      “โหพี่กานต์ คิดมากไปได้ เป้มันไม่มีอะรัยหรอก ผมขอนะครับ”
      “เออ ไม่รู้ดิ พี่ไม่ชอบให้คนมามองหน้า มีอะรัยก้อพูดมาดีๆ”

      ตอนนั้นไม่รู้เหมือนกันว่า ไปว่ามันทำมัย จริงๆแล้วกะอีแค่มองหน้า ไม่น่าใช่เรื่องใหญ่ แต่ทั่วไปเด็กช่างมันมีเรื่องกันก้อเพราะมองหน้านี่แหละ จะเรียกว่าสันดานก้อคงได้
     
อั้มพยายามให้ผมคุยกับเป้ เพื่อที่จะได้สนิทกันมากขึ้น คงกลัวผมจะขวางหูขวางตาแล้วอาละวาดมั้ง ตอนนั้นมันขวางหูขวางตาเหมือนหมาบ้าไปหมด
**************************************************************       

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
เหอเหอ

จะเปงยังงัยต่อไปหนอ

 :confuse:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
กานต์จะไปชอบกับเป้อีกเหรอ รักใหม่  :untrust:

รออ่าน รออ่าน  :yeb:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
รักแรกของไม่ลืมไปจากใจง่ายๆกันม้างครับ
แม้ปากจะบอกว่าลืมได้แล้ว ก็ยังนึกถึงมันเสมอ

*******************************************************
ตอนที่ 32
      ตอนบ่ายวันเสาร์ ขณะที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่หน้าบ้าน เสียงโทรศัพท์ก้อดังขึ้น ตอนนั้นไม่มีใครอยู่บ้าน เลยต้องลุกไปรับโทรศัพท์

      “หวัดดีครับ ขอสายใครครับ”
      “กานต์หรอระพูดนะครับ”
      “อ้าวครับ มีอะรัยรึป่าว”
      “พรุ่งนี้กานต์อยู่บ้านมั้ยครับ”
      “อืมม์ น่าจะอยู่ครับ มีอะรัยรึป่าว”
      “พรุ่งนี้ พอบราเดอร์ปล่อยเด็กหอออกข้างนอก ระไปหากานต์ที่บ้านได้มั้ยครับ”
      “ได้สิครับ กานต์ก้อคิดถึงระจังเลยครับ”
      “พรุ่งนี้บ่ายนะ เดี๋ยวระไปหา”
      “จะรอนะครับ”

      เด็กหอในของโรงเรียนผมเนี่ย ถ้าไม่ได้กลับบ้าน บราเดอร์ที่ดูแลเขาจะปล่อยให้มาเที่ยวมาซื้อของที่ตลาดแต่เฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้น จึงเป็นเหมือนวันปล่อยผีมั้ง เพราะจะเห็นเด็กหอในเดินที่ตลาดเต็มไปหมด

      ตอนเย็นออกไปหาเพชรที่หอ ระหว่างที่นั่งคุยกันอยู่กับเพชรนั้นเอง

      “กานต์ มาทำอะรัยที่นี่”
      “พอดีผ่านมาเจอเพชรเลยนั่งคุยอ่ะ”
      “นี่ใช่มั้ย สาเหตุที่ไม่ไปหาเบสพักนี้”
      “ป่าวครับ เบสอย่าคิดมากดิ”
      “ไม่เคยคิดเลยนะ ว่าเพชรกับกานต์จะทำอย่างนี้กับเบส”

      โอ๊ย มันซวยอะรัยขนาดนี้ว้า ไม่คิดว่าจะมาหากันเอาตอนนี้ แต่จริงๆแล้ว หอมันใกล้กัน เพื่อนกันเดินมาหาก้อไม่ใช่เรื่องแปลกนี่นา

      “ตามไปง้อเบสสิ เดี๋ยวเบสโกรธมากไปกว่านี้”
      “แล้วเพชรล่ะครับ”
      “เบสเป็นแฟนกานต์นะ แต่เพชรไม่ใช่ อย่าทำร้ายเบสสิ”
      “แล้วใจของกานต์ล่ะ เพชรอยากให้กานต์ทำร้ายใจตัวเองหรอ”
      “กานต์ เพชรไม่อยากเป็นคนผิดนะ”
      “เพชรไม่ผิดหรอก ถ้าจะผิด คงผิดที่กานต์เอง ผิดที่กานต์ไม่เข้มแข็งพอ ไม่กล้าที่จะเลือกคนที่กานต์รัก ไม่กล้าที่จะบอกเบส ว่าจริงๆแล้วมันเป็นอย่างรัย”
      “แล้วกานต์จะหั้ยเพชรทำยังงัย เพชรไม่รู้”
      “เพชรครับ ถ้ากานต์อยากจะขอคบกับเพชรต่อไปได้มั้ย”
      “แล้วเบสล่ะ กานต์จะเอาเบสไว้ที่ไหน”
      “ก้อ...สิ่งที่กานต์จะขอบางทีมันอาจมากไปนะ แต่เพชรจะว่าอะรัยมั้ยถ้ากานต์จะขอคบทั้งคู่”
      “เพชรตอบกานต์ไม่ได้หรอก เพชรเป็นคนที่มาทีหลัง กานต์ถามเบสเอาละกัน สำหรับเพชรคงแล้วแต่เบสมัน”
      “งั้นเดี๋ยวกานต์ไปเคลียร์กับเบสก่อนนะ”

      โล่งไปเปลาะนึง เหลืออีกเปลาะแถมยังเป็นเรื่องใหญ่ด้วย จะแกตัวยังงัยดีว้า ตอนที่ไปถึงหอเบส เบสขึ้นไปบนห้องแล้ว เลยบอกเพื่อนเบสว่าเดี๋ยวเดินขึ้นไปหาเอง พอไปถึงก้อเคาะประตูห้องเบส

      “มีอะรัย ปวดหัว จะนอน”
      “กานต์ขอเข้าไปนะเบส”
“มาทำมัยครับ ไม่คุยกะเพชรต่อหรอ”
      “เบส ฟังกานต์ก่อนดิ นะครับเบส”
      “มีอะรัยก้อว่ามาดิ จะฟัง”
      “เบส กานต์ขอโทษนะ กานต์ไม่ได้อยากให้มันเป็นอย่างนี้นะ แต่กานต์ผิดเองที่เผลอใจไป ขอโทษนะครับ”
      “ไม่เป็นรัย ขอให้มีความสุขกับเพชรละกัน แต่เบสไม่อยากจะเชื่อว่ากานต์กับเพชรจะทำอย่างนี้กับเบสเลยนะ”
      “เบสครับ กานต์ผิดเอง เบสอย่าโกรธเพชรเลยนะ กานต์ไม่อยากเป็นคนที่ทำให้เพื่อนต้องมาทะเลาะกัน”
      “แล้วจะให้ทำยังงัย เมื่อเพชรดี กานต์ก้อเลือกเพชรเถอะ”
      “ครับกานต์จะเลือก แต่ว่า เรื่องนี้กานต์เป็นคนผิด ถ้าจะมีใครต้องเจ็บ คนนั้นควรเป็นกานต์มากกว่า ขอนะ ขอให้เบสดีกับเพชรนะ อย่ามาทะเลาะเพราะคนอย่างกานต์เลย”
      “กานต์จะทำอะรัยอ่ะ”
      “กานต์ขอไม่เลือกใครได้มั้ยครับ กานต์ไม่เข้มแข็งพอ ไม่กล้าที่จะตัดใครไป ขอโทษนะ ที่อ่อนแอ”

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
เหอ เหอ  :try2:

เดียร์ปายหนายยยยยยยยยยยยย  :serius2:

กานต์ต้องการ การเยียวยาด่วน  :impress:







PS. จะพาลมากไปแล้วนะกานต์  :pigangry2:



ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
 “กานต์ขอไม่เลือกใครได้มั้ยครับ กานต์ไม่เข้มแข็งพอ ไม่กล้าที่จะตัดใครไป ขอโทษนะ ที่อ่อนแอ”

คำตอบทุเรศมากเลย  ชิส์  หมั่นไส้กานต์วุ้ยย   :o

เมื่อไหร่จะเลิกเนี่ย  สงสารชาวบ้านอ่า  เป็นเหยื่อการแก้แค้นของกานต์  เฮ้อ  เมื่อไหร่ตั้มหรือใครจะทำให้กานต์ลืมความเจ็บช้ำในใจได้น้า  รักมากก็แค้นมาก   :monkeysad2:
 

hotdog

  • บุคคลทั่วไป
กานต์   สงสารเบส  :untrust:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด