ตอนที่49.3 เสียงเพรียกจากชะนียนต์
ยังครับยัง…………….ถ้าคุณคิดว่าแค่นี้จะหนีรอดไปได้น่ะผิดแล้ว…………หลังจากนังแอ้มไปตามยามมาช่วยแงะฟันนังผีบร้านี่ออกไปจากแขนได้ การวิ่งสี่คูณร้อยเมตรก็เกิดขึ้น……มือข้างนึงจับแขนนังแอ้มวิ่ง อีกข้างก็คอยปัดฝ่าฝูงชนออกมาหารถ…………. ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังวิ่งราวกระชากสร้อยชาวบ้านหนีตำรวจมายังไงยังงั้นเลย…….อร๊ายยยยยยยยยย………สวรรค์โปรดแท๊กซี่ว่างผ่านมาพอดี………ข้าพเจ้าสองคนแทบวิ่งไปตัดหน้ารถให้หยุดแล้วรีบยัดตัวเองเข้าไปในรถทันที………เฮ้อออออ………..รอดแล้วกรู
“ไปไหนครับ”พี่คนขับถามด้วยสีหน้างงๆ……เออ นั่นสิ ชั้นจะไปไหนเนี่ย
“เอ่อ ไปเอ็มโพเรี่ยมค่ะ”นังแอ้มตอบแทน
ระหว่างทางรถมันค่อนข้างเยอะ พี่แกเลยจะวิ่งไปทางพระรามสี่ แต่รถก็มาติดตรงข้างมาบุญครองซะก่อน…….
“ว๊าย นังป้องแขนแก…..”จู่ๆนังแอ้มร้องขึ้นมา…………….เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย………………แขนช้านนนนนนนนนนนนนนนนน…………………เมื่อกี้ที่นังชะนีบ้ามันกัด…………เลือดออกด้วยยยยยยย…………..อร๊ายยยยยยยยยยยยยยย…………เมื่อกี้ตอนวิ่งมาไม่ทันดู…….ตอนนี้เห็นเลือดไหลเป็นทางเลย นี่ถ้าแขนชั้นเป็นแผลเป็นนี่ชั้นจะไปตบล้างบางแกนังแป๋มมมมมมมมมม
“ต๊าย นี่แผลจะเน่ามั๊ยเนี่ย โดนสัตว์กัด”แอ้มมันทักพร้อมกับเอาทิชชู่ช่วยซับแผล
ปังงงง!!!! ปังๆๆๆๆ…………..ว๊ายยยยยยยยยยย……….ตกใจสิยะอะไรมาดังข้างรถ……….อิฉันกะนังแอ้มพร้อมกะพี่คนขับรีบหันไปดูแทบไม่ทัน…………………………กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด …………$@#%&^$#&%^#%@^$%$#@%@!#$@#%#@$@#
นังแป๋มมันกำลังเกาะกระจกรถด้านข้างอยู่คุณผู้ช้มมมมมมมมมมมมมม!!!!!!!!!!!!!!!!!!
สภาพเจ๊แกตอนนี้หยั่งกะชะนีวิกลจริตวิ่งหนีแหกซ่องออกมาช่วงมีภาวะภัยสงครามเลยทีเดียว………….ผมที่เคยเซ็ตมาอย่างดีตอนนี้กระเซอะกระเซิงเหมือนถูกทึ้งจากคนร่วมสิบ…………หน้าที่บิดเบี้ยวด้วยความโกรธกำลังแนบอยู่ที่กระจก……… หน้าอิฉันกับมันห่างกันเพียงแค่แผ่นบางๆกั้น………… สายตามันกำลังจับจ้องไปยังมือนังแอ้มที่กำลังเอาทิชชู่กดแผลห้ามเลือดให้อิฉันอยู่ด้วยความชิงชัง……………มือนึงเกาะกระจกรถอีกมือพยายามเปิดเข้ามา………แต่เดชะบุญตอนขึ้นได้ล็อคไว้แล้วมันเลยเปิดเข้ามาไม่ได้ ……….แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ เลือดดดดดดด………………….เลือดของช้านนนนนนนนนนน……….เลอะที่ปากมันอยู่………………..เลือดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ท่ามกลางสายตานับสิบคู่ที่กำลังจ้องมาที่พวกอิฉัน………ประหนึ่งกำลังมีการถ่ายละครเรื่องบ้านผีปอบเกิดขึ้น………..รถข้างหน้าก็เริ่มเคลื่อนไป………นังแอ้มไม่รอช้ารีบสั่งการโชเฟอร์โดนพลันทันที
“ขับไปเร็วพี่….. มีคนบ้ามันจะบุกเข้ามา”เท่านั้นแหละเฮียแกรีบออกรถแทบจะไปชนรถคันหน้า……….แต่อย่าคิดว่าชะนีบ้าจะยอม ชีทำท่าจะกระโดดเกาะกระโปรงรถ แต่บังเอิญกระโปรงที่ชีใส่ไม่อำนวย
รถแล่นมาซักระยะพี่คนขับก็ถามด้วยเสียงสั่นตกใจว่าผู้หญิงเมื่อกี้เป็นใคร…………แต่ไม่ทันที่พวกอิฉันจะตอบ………..…..เฮียแกก็ถามต่อว่า…………ทำไมเค้าต้องซ้อนมอเตอร์ไซตามาด้วย!!!! ......................... อุกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด………………ม่ายยยยยยยยยยยยยยย ………นี่มันหนังสยองขวัญรึไงเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
อ๊ายยยยยยยยยยยยยย นังชะนีบ้ามันกำลังปีนขึ้นเหยียบเบาะ กะจะกระโจนมาเกาะรถอิชั้นแล้ววววววววว……..
………………….สาธุ ……………….ขอขอบพระคุณ คุณตำรวจไทยทุกท่าน ที่ช่วยดูแลบ้านเมืองเป็นอย่างดี ……………….ครั้งนี้ปฏิบัติหน้าที่ได้สมกับความคาดหวังของประชาชนเป็นอย่างมาก………..ลากหัวนังชะนีบ้าออกจากท้องถนนไปได้เนื่องจากกรณีซ้อนจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อคเป็นคดีพื้นฐาน
สรุปว่าวันนั้นก่อนกลับ….นังแอ้มเลยลากไปลงบันทึกประจำวันที่สน.กันไว้ก่อนว่าอยู่ๆก็ถูกทำร้ายร่างกาย ……..พอถึงบ้านแน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องมีการบอกกล่าวให้พ่อแม่รับรู้………..ตลอดเวลาที่เล่า นังแอ้มก็อยู่ด้วยช่วยอธิบาย…………..
สรุปว่าเรื่องก็ผ่านไปได้ด้วยดี……..โดยพ่อแม่ของป้องบุกไปคุยกับพ่อแม่แป๋มโดยตรงและมีรูปถ่ายแผลที่แขนไอ้ป้องไปด้วย…….การเจรจาก็เลยสำเร็จลงได้ พ่อแม่ฝ่ายนั้นก็รับปากว่าจะอบรมสั่งสอนลูกสาวมากขึ้นไม่ให้มาก่อกวนป้องอีก………………………..
ทุกอย่างเลยจบลงด้วยดีครับ……………………………………….
มั้งนะ แบร่ๆๆๆๆๆ