รักวุ่นวายก็แค่ผู้ชายเขารักกัน(พี่เขารักกัน)EP.2(พี่โจXพี่อ้น) รุกเจอรุก NC
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักวุ่นวายก็แค่ผู้ชายเขารักกัน(พี่เขารักกัน)EP.2(พี่โจXพี่อ้น) รุกเจอรุก NC  (อ่าน 215 ครั้ง)

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-03-2024 07:15:04 โดย PFlove »

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
ภาคนี้เป็นความรักบ้านจอจาน พี่โจพี่อ้นจะมาอยู่ในภาคนี้นะคะ  ภาคนี้คู่รักที่ไม่ตรงคู่  เหมือนมวยไม่ถูกคู่ยังไงก็ไม่รู้ แล้วเขาจะกลับมาตรงคู่กันได้ไหม  ก็ต้องมีคู่ที่สมหวังและผิดหวัง

คำเตือน นิยายเรื่องนี้ไรท์แต่งมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น เนื้อเรื่องจินตนาการขึ้นมาเอง เป็นแนวผู้ชายท้องได้ ดังนั้นไม่มีหลักวิชาการใดๆ มาอ้างอิงไม่มีแน่นอนค่ะ ไม่มีหลักวิชาทางการแพทย์ถ้าผิดพลาดประการใดไรท์ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ไรท์ไม่มีเจตนาจะพาดพิงผู้ใดให้เกิดความเสียหาย ชื่อตัวละครและสถานที่ถูกสมมุติขึ้นมาเท่านั้นค่ะ
เนื้อเรื่องบิดเบือนจากความจริงมาก

มีคำหยาบคาย

มีNC เยอะหน่อยเพราะรุ่นพี่หื่น

 

 

               

นิยายเรื่องนี่เป็นภาคที่แยกมาจากรุ่นน้องเขารักกันค่ะแต่เป็นความรักรุ่นพี่

มีฉากรุ่นแรงตามวัยของรุ่นพี่

มี่ค่อยมีเรื่องผู้หญิงมาวุ่นวายเช่นกันวุ่นวายกันเองภาคนี้จะเป็นรุ่นพี่บ้านจอจาน

มีคำคำหยาบคายค่อนข้างเยอะถ้ารับไม่ได้ไม่เป็นไรค่ะ

กดออกได้เลยแต่ขอไว้แค่อย่าคอมเม้นบันทอนกำลังใจกันก็พอถ้าไม่ยอมเพราะนิยายเรื่องนี่ยาวไปไม่เป็นไรนะคะ

ขอแค่อย่าประชดประชันกันก็พอนะคะแต่ก็อยากจะฝากไว้ให้ลองอ่านดูค่ะ ขอบคุณค่ะ

จากใจไรท์ค่ะ

เครดิตรูปภาพด้วยนะคะ

ไรท์นำมาประกอบเพื่อเพิ่มมอรรถรสเท่านั้นค่ะ

สารบัญ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2024 12:24:59 โดย PFlove »

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
      
   EP.1(พี่โจX พี่บีม)พี่อยากดูแลบีม

            Part’s พี่โจ พี่คนโตบ้านจอจาน พี่สุดหล่อเชื้อสายชีค พี่โจโตมากับพี่อ้น พี่ดิมและพี่ตุ๊ เหล่าบรรดาพี่ๆททำหน้าที่ดูแลน้องเล็กของบ้าน พากันไปเที่ยวก็มีพี่ๆตามไปดูแล ทำหน้าที่พี่ชาย จึงไม่แปลกที่จะพี่ๆจะสนิทกันมากจนกระทั้งเกิดเรื่องแต่ตอนที่เกิดเรื่องพี่โจน่ะบินมาดูไบด่วนกับพ่อของเขา มันจึงทำให้โจพลาดเหตุการณ์นั้นไปและเขาก็ยังไม่รู้จนถึงตอนนี้ว่าเกิดอะไรขั้นกับตุ๊และอ้นและดิมอีกคน (คนนี้แค่รักเพื่อนแต่ก็ต่อยกับพี่ตุ๊แทนเพื่อน)

   วันนี้ผมได้รับเชิญให้มาร่วมงานกาล่าดินเนอร์และประมูลเพชร พลอย เพื่อการกุศล ผมเป็นสปอนเซอร์และผมยังร่วมลงทุนกับเพื่อนผมไอ้แม็กซ์ แม็กซ์มันมีน้องสาวชื่อมิ้ง มันป็นเพื่อนผมตอนที่เรียนที่อังกฤษ ผมเลยร่วมลงทุนกับมันช่วยเพื่อนด้วยและผมก็ได้ผลตอบแทน เพชรพลอยราคาเป็นล้าน ไม่แปลกหรอกเพราะว่ามีมหาเศรษฐีทุกมุมโลกมาร่วมประมูล วันนี้ผมได้เห็นน้องบีมมาด้วย น้องชายคนที่สองของบ้าน บ.ใบไม้ที่ผมตามจีบอยู่ แต่น้องบีมนั่งห่างจากผมซะนี้ ทำไมผมไม่ทราบล่วงหน้าว่าบีมจะมา ปกติพี่บรูคส์กับรินทร์เขาจะมาด้วยกันแต่ว่าวันนี้บีมมาได้ไงก็ไม่รู้ ผมก็นั่งกับเลขาคนสวยของผม( ไม่ต้องหวงครับเลขาผมเป็นทอม)

   “คุณจีน่า ผมสนใจเส้นนี้ ผมกระซิบบอกจีน่า เธอพยักหน้าก่อนทำการลงประมูลให้ผมทันที สร้อยเส้นนี้มีเพชรถึง 52 น้ำหนักรวม 104.84 กะรัต ราคาอยู่ที่ $10 ล้าน ดอลล่าสหรัฐ

   “เรียบร้อยแล้วค่ะ คุณโจ คุณประมูลได้ค่ะเพราะว่าเครดิตคุณดีเป็นที่น่าเชื่อถือค่ะ” คุณจีน่าพูด ผมพนักหน้าแต่ละหว่างนั้นผมหันไปมองหาบีมแต่ก็ไม่เจอนี่เขาหายไปไหนของเขาน่ะ

   “คุณจีน่าจัดการทุกอย่างให้ผมที่น่ะครับ ผมจะไปทักทายคุณบีมสักหน่อย”ผมบอกจีน่า เธอพยักหน้า

   “พี่ชัชครับ ผมฝากดูแลคุณจีน่าให้ผมด้วยนะครับ เดี๋ยวผมมา ผมขอออกไปหาน้องบีมสักครูครับ” ผมกระซิบข้างหูการ์ดคนที่มาดูแลผม พี่ชัชเป็น สไนป์เปอร์ฝีมือดีแต่ลากออกจากราชกกร เพราะมีปัญหาภายใน พ่อผมชวนมาคุ้มกันพวกผม พี่เขาฝีมือดีมาก ผมเดินออกตามหาน้องบีมผมทันที มองซ้ายมองขวาจนไปเจอบีม เขายืนอยู่ ผมเดาว่าน่าจะประมูลได้สักชิ้นสองชิ้นนี้แหละ ผมตั้งท่าจะตัวไปหาบีมทันที

               “พี่โจค่ะ “ผมได้ยินเสียงผู้หญิง เรียกชื่อผม ผมหันไปมอง คนนั้นคือน้องมิอาร์ ผมละอยากจะหาทางหนีแต่ไม่ทันแล้ว นางค่อยจะงาบผมลูกเดียวเลย

   มิอาร์เขาเป็นน้องสาวเพื่อนผมไอ้แมกซ์ ไอ้แมกซ์เป็นลูกครึ้งไทยอเมริกัน แมกซ์เป็นเพื่อนกับผมมาตั้งแต่เรียนมัธยมแต่ว่าแม็กซ์มันเรียนมหาวิทยาลัยคนละที่กับผมแต่ก็ติดต่อกันเป็นเพื่อนกัน จนวันหนึ่งแมกซ์ครอบครัวมันล้มละลาย เลยมาขอให้ผมช่วยและทำธุรกิจด้วยกันจนตอนนี้ฟื้นตัวได้ดี ผมกับแม็กซ์ลงทุนทำธุรกิจด้วยกันตั้งแต่ใกล้จะเรียนจบ ผมก็ปล่อยแมกซ์มันบริหารเองส่วนผมก็ดูธุรกิจของพ่อผมไปแต่ก็ไปประชุมกับมันบ้างบ้างโอกาสแต่รายงานทุกอย่างส่งตรงถึงผมทุกที

   “ว่าไงครับน้องมิอาร์” ผมหันมาส่งยิ้มให้เธอ มิอาร์เป็นหญิงสาวมั่นใจในตัวเองสูง เธอเก่งออกแบบดีไซด์ เธอสวยแต่ว่าไม่ใช่ทางของผมแต่เธอก็พยายามสูงเหลือเกินที่จะใช้ความสวยล้อตาล้อใจผมเหลือเกินแต่ผมไม่รู้สึกอะไรด้วยเลยจริงๆ

   “พี่โจ ไปนั่งดื่มอะไรกันหน่อยไหมค่ะ พอดีว่ามิอาร์กับพี่แมกซ์เจอคนสำคัญที่เราต้องคุยดัวยนะคะ” มิอาร์บอกผม ผมหันไปมองทางน้องบีม ที่กำลังยืนคุยกับแขกในงาน

   “นะคะเพราะว่าคนนี่สำคัญมากๆค่ะ จะทำให้ธุรกิจเรายิ่งเดินไปข้างหน้าได้ค่ะ” มิอาร์เธอย้ำกับผม ผมหันมามองหน้าเธอ ธุรกิจก่อนก็ได้ว่ะ ผมคิดในใจเพราะว่าผมจะช่วยไอ้แมกซ์ก็คงต้องช่วยให้ไปได้ดีเช่นกัน ถ้าแมกซ์มันพังผมก็จะเสียเครดิตไปด้วยแต่ก็ไม่มากมายเท่าไหร่

   “โอเคครับมิอาร์ “ผมตอบเธอ

   “แต่พี่มีเวลาไม่มากนะครับ พี่อยากจะคุยกับบีมเขาน่ะ “ผมบอกมิอาร์ เธอหันไปกอดอกมองบีมที่ยืนอยู่ สายตาของเธอดูอิจฉาบีมอย่างเห็นได้ชัด ถ้าแค่สายตาผมก็ไม่ว่าอะไรแต่ถ้าแตะต้องบีมผม ผมก็คงต้องต่อว่าเธอบ้างแหละ

   “ได้ซิค่ะ ไปกันเลยนะคะ” มิอาร์หันมาพูดกับผม ผมเดินตามเธฮไป มิอาร์เธอหันมามองผมก่อนจะเดินถอยหลังมาหาผมเพื่อรอจะเดินไปพร้อมๆกันกับผมและเกาะแขนผมทันที ผมก็พยายามแกะมือของเธอออกแต่ก็ไม่ยอมปล่อย แกะอีกมืออีกมือก็เกาะทันทีแถมยังหันไปส่งยิ้มให้กล้องถ่ายรูปในงานประมาณว่าเขาคือคนสำคัญของผม จนบีมหันมามองผมแว๊ปหนึ่ง แว๊ปเดียวจริงๆแค่นั้นเอง

               “น้องมิอาร์ไม่เอานะครับ อย่าทำแบบนี้ซิ เราน่ะจะเสียหายนะครับ เพราะว่าพี่กับเราไม่ได้เป็นแฟนกัน” ผมบอกเธอแต่จังหวะนั้นมีสายเข้ามาพอดีเลยเป็นสายของอาเป้ ผมหันมามองมิอาร์ก่อนจะยกมือขอเวลาก่อน เธอชักสีหน้าหงุดหงิดใส่ผมเล็กน้อย แต่ผมก็หลบไปหาที่คุยทันที

   (สวัสดีครับอาเป้) ผมทักทายอาเป้

   (โจก่อนกลับไปที่ดูไบแวะมาฉลองกับอาหน่อยซิ วันนี้ไอ้แพทมันจบแล้ว อามาที่นี้ด้วยกับพี่อธิคมอ่ะ อยากเจอว่ะโจ)อาเป้บอกผม อาเป้นี่เก่งจริงๆ รู้ได้ยังไงว่าผมจะบินไปที่ดูไบต่อเพื่อนไปดูมหาวิทยาลัยให้แจ็คเข้าเรียน ตอนนี้ไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนอยู่ด้วย นั้นคือติ๊กและพาย ดิวและแอ้

   (ว่าไงโจ อาอยากเจอ)อาเป้ถามผม

   (ก็ได้ครับอาเสร็จ ถ้าอย่างนั้นชวนน้องบีมไปด้วยดีกว่าครับ จะได้พาบีมไปเที่ยวบ้าง ผมว่าบีมไม่มีเวลาไปเองแน่ๆ เพราะว่าตอนนี้บีมมาที่เดียวกับผมเลยครับอา) ผมบอกอาเป้

(ได้ซิ มาหาอาที่ผับเลยน่ะ ห้ามเบี้ยวน่ะ)อาเป้พูดก่อนจะรีบกดวางผมไป ระหว่างนั้นผมเหลือบไปเห็นน้องบีบคุยกับใครสักคนที่ผมรู้จักมันดี ไอ้ไบรอัน ไอ้นี้คงมาประมูลด้วยซิน่ะแต่ว่าว่าไอ้นี้มันเจ้าชู้และพวกพี้ยาตัวพ่อเลย มันจะพยายามคุยกับน้องบีบทั้งที่บีมพยายามจะปลีกตัวออก

“พี่โจคะ เสร็จหรือยังคะ” มิอาร์ถามผม

“เดี๋ยวพี่ตามไปมิอาร์ พี่มีธุระด่วน” ผมหันมาบอกเธอและเดินออกไปทันทีเพื่อตรงไปหาน้องบีมทันที

“คุณบีมครับ ผมว่าระหว่างรอนี้ เราไปหาอะไรดื่มกันนิดๆหน่อยๆไหมครับ ผมอยากรู้เรื่องธุรกิจที่กรุงโซลนะครับ ตอนนี้ผมกำลังขยายตลาดไปที่นั้น…” ไอ้ไบรอันมันกำลังยืนเบียดเสียดเพื่อคุยกับน้องบีม ผมไปถึงก็แทรกตรงกลางระหว่างมันกับบีมทันที

   “เฮ้ย!!”มันชักสีหน้าไม่พอใจใส่ผมทันที

   “บีม” ผมเรียกน้องบีม น้องบีมหันมาหาผมและยิ้มให้แบบเหยือกเย็น แบบนี้ที่น้องๆเขาเรียกกันว่าเจ้าชายน้ำแข็ง มีแต่ความเยือกเย็นแต่กับผมแปลกน่ะ รอยยิ้มนี้ดูพริมใจโจเหลือเกิน นี้ถ้าบอกไอ้แจ็คนี้มันมองบนใส่ผมทันทีเลย แจ็คนี้ไม้เบื้อไม้เมาเลยแหละ เพราะว่าแจ็คคิดเสมอว่าบีมกันเขาออกจากบอยมาตลอด(แต่ไม่คิดว่าตัวมันเองเลยสักนิด ผมไม่ได้เข้าข้างน้องเลยจริงๆ ยอมรับฮาๆ)

   “ครับพี่โจ“บีมทักทายผมกลับ มันสั้นแต่ได้ความรู้สึกโจไปเต็มๆ ผมยืนมองหน้าบีม เขายืนนิ่งมองผม

   “ขอโทษนะครับคุณโจ ผมคุยธุรกิจกับคุณบีมอยู่ครับ” ไบรอันสะกิดผม ผมหันไปมอง

   “มันหมดเวลาคุยแล้วเรื่องงานแล้วครับ ตอนนี้ต้องพักเบรกน่ะ ส่วนวันนี้เขามาประมูลไม่ได้มาคุยปัญหาธุรกิจ ถ้าอยากคุย อีเมลไปหาพี่บรูคส์ ส่วนน้องบีมเขาจะไปคุยกับผม เรามีเรื่องเกี่ยวกับครอบครัว เฉพาะคนในครอบครัวเขาจะคุยกัน ไม่รับคนนอก โอเคน่ะ บายไบรอัน “ผมพูดและดึงแขนบีมออกมาทันที ไอ้ไบรอันมันหันมามองผม

   “แต่ผมคุยกับคุณบีมค้างอยู่นะครับ ผมว่าคุณนั้นแหละที่ควรจะกลับไปรอส่งอิเมลไปนัดเวลาครับคุณโจ” ไบรอันบอกผม ผมหันมามองหน้า ผมนี่น่ะต้องส่งอีเมลนัดเวลา

    “พี่โจมีเรื่องอะไรด่วนเหรอครับ ถ้ามีก็คุยกันตรงนี้ก็ได้มั้งครับ” บีมถามผม ผมหันไปมองไอ้ไบรอัน มันก็ยืนมองผม สายตามันกวนโอ้ยมาก

   “พี่อยากชวนไปบีมไปหาดื่มอะไรกันหน่อยนะครับบีมและค่อยคุยกันนะบีม” ผมถามบีม บีมก็พ่นลมหายใจออกมายาว ก่อนจะมองผม มือเรียวสวยนั้น จับเสื้อสูทสีขาว บ้านนี้มีจุดเด่นออกงานด้วยสูทสีขาวเสมอ บ้านบอใบไม้ มันยิ่งทำให้ผมจินตนาการไปถึงเจ้าชายของผม บีมหันไปมองคนที่คุยคงอยากชิ้งอยู่ ผมพยักหน้า ว่าไปดีกว่าอย่าอยู่กับมันเลย บีมพยักหน้ากับผมเล็กน้อย

   “ขอโทษนะครับคุณไบรอัน ผมต้องขอตัว ผมมีเรื่องจะคุยกับพี่โจ เอาไว้เราค่อยคุยกันใหม่นะครับ ถ้าคุณยังสนใจอยู่ ผมจะให้เลขาฯของผมติดต่อไปนะครับ” บีมหันไปบอกคนตรงหน้าดูท่าจะโกรธเอาเรื่องอยู่ เห็นไอ้ไบรอันมันบีมแก้วเหล้าแน่น ส่วนผมก็ดึงแขนบีมออกมา ออกมาจนไกลออกไปสักระยะ

 “ทำไมไปคุยกับไอ้หมอนี้ละบีม บีมไม่รู้เหรอว่าไอ้นี้มันร้ายมาก สก็อตไบรท์เนี๊ยะ” ผมถามบีม บีมมองหน้าผม

“เท่าที่ผมยืนคุยกับเขา เขาชื่อไบรอันครับพี่โจ ไม่ใช่สกอ๊ตไบรท์”บีมตอบผมนิ่งๆ

 “นั้นแหละ อย่าไปคุยกับมัน”ผมพูดกับบีม

   “พี่โจครับ เขามาเป็นแขกในงานนี้และงานนี้พ่อผมก็เป็นสปอนเซอร์ใหญ่ ดังนั้นการที่เขาเข้ามาทักทายผม ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ถ้าผมปฏิเสธการสนทนากับเขาไป นั้นจะกลายเป็นเรื่องแปลกครับ “บีมหันมาบอกผม ผมหันมาเจอน้องมิ้งที่ยืนมมองผมพาบีมออกมาด้วย มิ้งมองบีมนานกว่าผมหน่อย

   “พี่โจค่ะ น้องมิอาร์เดินมาเรียกผมอีกครั้ง

   “พี่จะเข้าไปตอนนี้เลย”ผมพูดและจูงมือบีมไปด้วยไปนั่งด้วยกัน

   “พี่โจค่ะ มิอาร์ชวนแค่พี่โจนะคะและนี้มันธุรกิจของเรา เราไม่ควรให้คนนอก”น้องมิอาร์พูด 

    “มิอาร์ครับ พี่บีมเขาไม่ใช่คนนอกสำหรับพี่นะคะ” ผมบอกมิอาร์ เขาหันขวับไปมองน้องบีม บีมก็หันไปมองทางอื่น ผมรู้ว่าบีมคงไม่ชอบให้ใครมาทำกิริยาแบบนี้กับเขา

   “พี่โจบีมไม่ไปดีกว่ามันธุรกิจของพี่ บีมจะกลับขึ้นห้องพักแล้วครับเพราะว่าผมเหนื่อยและผมจะต้องเดินทางต่อพรุ่งนี้แต่เช้า “บีมหันมาบอกผม ผมหันไปมองสายตาอ้อนวอนอยู่กับพี่เถอะน่ะ

   “บีมพี่ว่าจะชวนบีมไปหาอาเป้” ผมบอกบีม

   “ผมพึ่งจะเจออาเป้เมื่อวันก่อนครับ ผมไปกับพ่อ ไปหาลุงหนึ่งด้วยกัน เขาติติงเรื่องน้องๆมากับพ่อผมและคนที่ทำเรื่องคือน้องชายของพี่ แจ็คครับ ดังนั้นผมเจออาเป้แล้วครับ ขอบคุณ “บีมบอกผม ผมก็ยิ้มแหยะ บีมมองมือผมที่พยายามดึงรั้งเขาเอาไว้

   ““คนเขาไม่อยากอยู่พี่จะรั้งเขาทำไมค่ะ”น้องมิอาร์พูด เขาจับแขนผมที่พยายามดึ้งรั้งบีมเอาไว้ ผมเลยต้องปล่อยมือบีมเพราะว่าสายตาที่เยือกเย็นนั้นมองมือผม

    “ผมจะกลับเลยด้วยครับ ผมจะไปเก็บของเพราะผมมีธุระด้วย ขอตัวนะครับ” บีมพูด ผมนี้รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง น้องบีมจะกลับแล้วเหรอ อดพาไปหาอะไรดื่มด้วยกันเลย

   “ถ้าอย่างนั้น บีมก็กลับเลยดีดีนะครับ กลับถึงบ้านแล้วโทรหาพี่ด้วยนะ พี่เป็นห่วง” ผมหันไปบอกบีม บีมยิ้มให้ผมและหันมามองมิ้ง เธอมองบีม

     “ครับ ผมจะโทรบอกพี่โจ เป็นห่วงเหมือนกัน ระวังตัวดีดีนะครับ ผู้หญิงสมัยนี้ร้ายน่าดูนะครับ ร้ายกว่าผู้ชายอย่างพวกผมซะอีก ร้ายพอจะลากผู้ชายไปเองได้เลย ไม่เหมือนรุ่นก่อนๆต้องรอผู้ชายแต่เดี๋ยวนี้กลัว กลัวไม่พีคู่ น่าขันนะครับพี่โจ” บีมพูดและเอาจัดเน้กไท้ให้ผมด้วย แน่นอนน้องมิ้งมองตาเขียวปัดและสะบัดไป บีมก็รีบเดินออกไปจากทันทีเช่นกัน ผมรู้ว่าบีมแค่แกล้งมิ้งแต่โจชอบให้ทำแบบนี้ ผมเดินตามมิ้งไปเช่นกัน

    “มิอาร์ครับ”ผมเรียกชื่อเธอ มิอาร์หยุดเท้าเดินก่อนจะหันมามองหน้าผม

   “พี่ขอพูดครั้งสุดท้าย อย่าทำกิริยาแบบนั้นกับบีมน้องพีอีก ไม่งั้นพี่จะคุยกับไอ้แม็กซ์ และมิ้งก็ไม่มีสิทธิ์มาทำกิริยาแบบนี้กับใครก็ตามที่พี่คุยด้วยทั้งนั้น มันสิทธิ์ของพี่ครับ “ผมพูดกับเธอ เธอมีสีหน้าสลดลง

   ผมเดินไปที่โต๊ะที่แมกซ์มันนั่งอยู่ มีนักธุรกิจสามสี่คนนั่งอยู่  แต่ละคนเป็นเจ้าของธุระกิจส่งออกเพชรพลอยทั้งนั้นเขานั่งคุยกันอยู่กับแม็กซ์เพื่อนของผม ผมหันหลังมามิอาร์ก็หายไปแล้ว คงไปหาเพื่อนเธอ ผมเดินไปที่โต๊ะ

   “ขอโทษนะครับ ผมขอแนะนำ หุ้นส่วนคนสำคัญของผม โจครับ “แมกซ์แนะนำผมกับคนที่เขาคุยด้วย แต่ล่ะคนก็ลุกขึ้นมาจับมือผมเป็นการทักทายแบบตะวันตก

   “ยินดีที่รู้จักนะครับ ผมว่าผมเห็นคุณตามหน้าหนังสือ ซีอีโอรุ่นใหม่ไฟแรงอายุยังน้อยแต่ว่าผลงานด้านธุรกิจนี้แถทบจะแซงหน้าพวกผมไปอยู่แล้ว “หนึ่งในนั้นผมรู้จัก ผมเจอเขาที่ดูไบบ่อยๆ

   “ขอบคุณนะครับ”ผมพูดก่อนจะนั่งลง

   “คุณประมูลเพชรได้ แถมยังเป็นตัวท๊อปซะด้วย ยินดีด้วยนะครับ” หนึ่งในนั้นพูดขึ้น ผมหันมามองแมกซ์

   “แม็กซ์ หลังจากคุยกันแล้ว กูมีเรื่องต้องคุยกับมึงด้วยน่ะ” ผมกระซิบกับแม็กซ์ แม็กซ์พยักหน้ากับผมและผมก็เริ่มดำเนินการคุยธุรกิจกันต่อทันที

   ตื้ด!! ข้อความเข้ามือถือของผม ผมเหลือบมองข้อความ เป็นข้อความจากอ้น

   (โจ พรุ่งนี้กูว่างมาแรดกับกูหน่อย กูอยากกอดมึงมากกกกก)ไอ้อ้นมันส่งข้อความมาบอกผม อยากกอดอย่างเดียวเหรอ ผมนี่อยากจะด่ามันจริงๆ แต่ก็ไม่ได้นั่งคุยธุระอยู่ ผมเลยต้องเก็บมือถือใส่กระเป๋าไปก่อนและหันมาคุยธุระต่อ ผมยังไม่บอกมันหรอกว่าผมจะไปกรุงเทพพรุ่งนี้และไปหาอาเป้กับอธิคมแต่เช้าก่อนจะบินต่อไปยังดูไบ เพื่อไปดูที่เรียนให้น้องชายของผมแจ็ค (ทำหน้าที่แทนพ่อจะหมดแล้วผมน่ะ จนแจ็คมันเรียกพ่อโจ)

               Part’s บีม ผมชื่อบีม ผมเป็นน้องคนที่สองของบ้าน บ.ใบไม้ ผมไม่ใช่ลูกของพ่อณะ ผมเป็นลูกของลุงหนึ่งแต่พี่ๆน้องๆ ยังไม่มีใครรู้ แค่พี่บรูคส์เท่านสั้นที่รู้โดยบังเอิญและมันก็ทำให้พี่บรูคส์ไม่เคยไว้ใจผมกลัวผมจะทำร้ายบอยตลอดเวลา ผมยอมรับว่า ข่าวสารนั้นผมส่งให้ ผู้เป็นพ่อผมรับทราบตลอด ผมรู้ว่าพ่อผมหวังดีกับหลานๆ ทุกคนแต่ทุกคนไม่ได้มองแบบนั้นเลยมองว่าพ่อของผมเขาเผด็ดการ แต่ผมก็ยังต้องอยู่กับพ่อกฤษณะเพราะว่าเขาเลี้ยงดูผมมาตั้งแต่เกิด ผมเองมีน้องอีกคนแต่ว่าผมก็ไม่รู้ว่าเขาคือใคร  ผมแอบคิดน่ะ หรือว่าจะเป็นบอยกันแน่

   “น้องบีม อย่าเพิ่งกลับซิครับ “ผมหันมาเจอไอ้ไบรอันไอ้คนนี้ก็ ตื้อผมจริง ผมรู้ว่ามันนะพี้ยาตัวพ่อไม่อยากยุ่งแต่ติดที่ว่าเป็นลูกสปอนเซอร์หลายรายการและไม่อยากให้พ่อกับพี่บรูคส์มีปัญหา

   “ผมต้องมีงานพรุ่งนี้ต่อ ผมคงอยู่ต่อคุยกับคุณไม่ได้นะครับ” ผมพูดและหันหลังออก

   “หมับ “มันจับแขนผมไว้ผมก็มอง

   “ผมอยากคุยกับคุณบีม คุยกับผมก่อนนะครับ” ไบรอันพูด ผมก็มองมือเขา ให้เขาปล่อยแขนผม

   “ผมพูดชัดเจนแล้วนะครับว่าผมมีธุรด่วนตอนเช้า ผมไม่สะดวกอยู่คุยด้วย” ผมพูดกับเขาเสียงแข็งขึ้น

   “ก็บอกให้อยู่ไง อย่าเล่นตัวหน่อยเลย ผู้หญิงก็ไม่ใช่” ผมก็มองหน้าเลยทีนี้ เขาตะคอกเสียงดังใส่ผม มุมปากผมกระตุกเป็นรอยยิ้ม ที่แท้มันก็สร้างภาพว่ามันสุภาพกับผมแต่จริงๆไม่ใช่

   “ปึก” แล้วผมจะสุภาพกับมันทำไม ผมสะบัดมือมันออกทันที

   “ถึงไม่ใช่ผู้หญิง แต่ผมก็มีศักดิ์ศรีพอที่จะไม่ลงไปคลุกกับสิ่งสกปรกอย่างคุณ ผมรู้ว่าคุณเป็นใคร ทำอะไร ผมเองก็ยังแปลกใจที่คุณกลับได้มานั่งประมูลเพชรพลอยที่นี้ มันคงแค่ธุรกิจบังหน้าซิน่ะ” ผมพูด ทำให้คนตรงหน้าผม โกรธจัดจนกล้ามนี้ขบกันเป็นสันนูน

      “สมกับที่มิอาร์เธอบอกกับผมไว้ไม่มีผิด ว่าคุณปากร้ายใช่เล่น” คนตรงหน้าผมพูด ผมยิ้มเล็กน้อยที่แท้มันก็ทำเพราะผู้หญิงคนนั้นที่พยายามเกาะติดพี่โจนี่เอง

     “งั้นก็ไปเอานางซะ กูไม่เอามึงแค่นี่น่ะ” ผมพูดพร้อมกับสะบัดจะเดินออกแต่ว่า

    “ปึก” มันจับแขนผมกำและสะบัดผมกลับมา โชคดีที่ผมทรงตัวเอาไว้ได้ ผมน่ะพึ่งจะสั่งคนคุ้มกันของผมไปพักผ่อนด้วยซิ ผมเองมีห้องพักชั้นบนสุด

    “ได้ งั้นมึงเป็นเมียกู คราวนี้มึงเอากูแน่ๆ” ผมได้ยินแต่ร่างผมถูกจับให้กระเด็นเข้าไปในห้องหนึ่ง ผมเองก็ไม่รู้ว่าห้องอะไรแต่ว่ามันแคบมาก ผมค่อยๆขยับตัวเพราะว่าจุกที่มันโยนผมเข้ามาแบบนี้ ไอ้คนนั้นมันยืนจังก้าอยู่ที่ตรงประตู

   “จะทำอะไร” ผมถามมัน มันกำท่าจะปิดประตูแต่ว่า

   “ขอให้สนุกนะ ไบรอัน อย่าลืมขอบคุณด้วยล่ะ หึๆ” เสียงนี้ ผู้หญิงที่ชื่อมิอาร์นี้ ที่อยู่กับพี่โจ มันร่วมมือกับไอ้นี้ทำร้ายผมอย่างนั้นเหรอ

   “เธอมั่นใจน่ะคนคุ้มกันบีมเขาไปหมดแล้ว” ไอ้นี้มันถามขึ้น

   “ใช่ซิ ฉันได้ยินมันสั่งให้พวกนั้นไปพักกันแล้วดังนั้น เหลือแค่มันนี่แหละ จัดการให้เรียบร้อยล่ะ เอาให้พี่โจไม่กล้ากลับไปคุยกับมันเลย”เธอพูด แสดงว่าเธอไปยืนแอบฟังผมบอกคนคุ้มกันของผม ผมลุกขึ้นมาได้ก็ทำท่าจะเดินออก

   “หลีกไปกูจะกลับห้องพัก” ผมพูดแต่ว่ามันเข้ามาขวางผมเอาไว้ไม่ยอมให้ผมผ่านไปได้

    “ผลั๊ก” ที่ท้องผม ผมถึงกลับถอยตัวงอ แต่ยังยันไว้ได้

           ผมค่อยๆลุกขึ้นนั่งแต่ยังกุมท้องเอาไว้เพราะว่าจุก ผมคิดว่าต้องโทรหาคนคุ้มกันผมแต่ว่ามือถือมันหยุดจากกระเป๋ากางเกงผมไป หลังจากที่ผมหยิบขึ้นมาอ่านข้อความตอนแรกพี่บรูคส์บอกจะมาแต่ว่ารินทร์เขาเป็นลมพี่บรูคส์เลยรีบพาไปส่งโรงพยาบาลซะก่อน หลังจากที่อ่านข้อความ

   “ปึก”ไอ้ไบรอันมันเตะมือถือผมกระเด็นไป และมันก็ตรงดิ่งมา

   “ผลั๊ก ผลั๊ก ผลั๊ก!” มันเข้ามาซ้ำผมอีกสองทีด้วยเท้าของมันเข้าที่ท้องของผม ผมถึงกับตัวงอเลยทีเดียว ผมเงยหน้ามองมันและพยายามถอยออก

    “ไปก่อนนะ จัดการเต็มที่เลยน่ะ ฉันจะไปจิ๊บไวน์รอดูคลิป อย่าลืมส่งให้ดูล่ะ ถึวจะไม่อยากดูแต่ก็อยากเห็นไอ้นี้มันโดนของดี จนพี่โจไม่อยากกลับไปหามันอีก  “มิอาร์พูดก่อนจะเดินออกไปและปิดประตูขังผมกับไอ้ไบรอันนี้ไว้ในนี้และไอ้คนนี้มันกำลังเข้ามาค่อมผมผมพยายามต่อสู้แต่ผมไม่มีแรงพอ ผมพยายามดันมันออก แต่ว่ามันมีแรงมากกว่าผม ดันเท่าไหร่มันก็ไม่ออกไปจากตัวผม ผมค่อยๆถอย ถอยไปจน มือผมไปขว้ากับขวดอะไรสักอย่างใกล้ๆมือผมเอาไว้และปล่อยให้ไอ้ไบรอันมันไซ้ไปตามซอกคอของผม ผมสะอิดสะเอียนแต่ต้องยอมมันก่อน

     “ถ้ายอมพี่ตั้งแต่แรกก็ไม่เจ็บตัวน่ะคนดีแต่ถ้าเป็นเด็กดีกับพี่ พี่จะทำให้สุขสมจนต้องร้องขอพี่อีกเลยครับน้องบีม” พี่เขาพูดและผมก็

   “เพล๊ง!” ผมเอาขวดตีหัวมัน ได้เลือดเลยที่นี้

   “ไอ้สัตว์ มึงทำกู กูไม่เอาทำเมียแล้ว มึงตาย” มันโกรธผมมากเรียกได้ว่าโกรธจัดเลยทีเดยว มันจะเข้ามาบีบคอผมทันที ผมเองก็ไม่ยอมตายคือตายเหมือนกันผมดิ้นรนและพยายามจับมือที่หนาๆของมันแต่ว่าไม่เป็นผล

   “ผลั๊ก” จู่ๆก็มีคนเตะประตูและพังเข้ามา คนของพี่โจนั้นเอง 

   “นั้นไงคุณโจ “ผมได้ยินเสียง ไอ้คนที่บีบคอผมก็ลุกขึ้นทันทีด้วยความตกใจผม และพี่ชัชก็เข้าไปรวบตัวแต่มันต่อสู้พี่ชัชเลย จัดไปหลานท่าทำเอาสลบไปเลย

   “แคร็กๆๆๆ”ผมก็โดนมันบีบคอจนเกือบขาดอากาศหายใ พี่โจที่รีบเข้ามาหาผมและประครองผมทันที ผมมองพี่เขา พี่เขาก็พยักหน้ากับพี่ชัชคนที่คุ้มกันพี่โจ ก่อนจะอุ้มร่างผมลอยขึ้นและออกไปทันที

   “คุณบีบถูกทำร้าย “ผมได้ยินพี่ชัชพูดแต่ร่างผมถูกพี่โจอุ้มออกไปแล้ว มีเจ้าหน้าที่คนอื่นมาให้ความช่วยเหลือแลพี่โจก็พาผมออกไปอีกทางเพื่อไม่ให้คนอื่นๆในงานเห็นผม ผมเองก็ไม่อยากเป็นข่าวดัง

   “โทรบอกคนที่ดูแลคุณบีมให้ผมด้วยว่า คุณบีมอยู่ที่ห้องพักของผม” พี่โจหันไปบอกใครสักคน ประตูลิฟท์ลงมาพอดีและเขาก็พาผมเข้าไปในลิฟท์นั้น

   “คุณจีน่า ผมคงไม่ลงไปที่งานแล้ว คุณบีมถูกทำร้าย ผมรบกวนเอาชุดปฐมพยาบาลมาให้ผมหน่อยครับและรบกวนติดตามเรื่องคนที่ทำร้ายคุณบีมให้ผมทีครับ แจ้งตำรวจเลยก็ได้ครับ” พี่โจพูด

   “พี่โจ.. อย่าแจ้งตำรวจครับพี่โจ ผมไม่เป็นอะไรแล้ว นะครับ” ผมบอกพี่โจ ผมไม่อยากเป็นเรื่องเป็นราวและเรื่องนี้คงไปถึงพี่บรูคส์เพราะว่าพี่บรูคส์เคยเตือนผมเรื่องไอ้ไบรอันหลายครั้งแล้วและที่ผมยอมพูดคุยกับมันเพราะว่าผมเห็นไอ้มาตินลูกบุญธรรมพ่อผม พ่อหนึ่งมาติดต่อกับมันบ่อยๆ ผมแต่ผมไม่ได้บอกพี่บรูคส์เรื่องนี้เพราะเขาแทบจะไม่มีเวลาให้ผมเหมือนเมื่อก่อนเลย ก่อนที่จะรู้ว่าผมคือใคร

   “ทำไมละบีม” พี่โจถามผม

   “ผมไม่อยากเป็นเรื่องมากกว่านี้แต่ผมอยากให้พี่จัดการคนคนหนึ่งให้ผมหน่อยเพราะว่าเขาคือคนต้นเหตุ”ผมบอกพี่โจ

   “ใครบีม” พี่โจถามผม ผมก็ขยับตัวแต่ว่า

   “โอ้ยย” ผมร้องออกมาเพราะว่าเจ็บ ผมกำลังจะลงไปยืนเองสักหน่อย

   “บีมอย่างขยับเลย พี่จะพาเราไปที่ห้องพี่ก่อน”พี่โจพูด ทันทีที่ประตูลิฟท์เปิดพี่โจก็พาผมพุ้งออกมาจากลิฟท์ไปทันที ผมก็ไม่ได้พูดอะไรอีก จนกระทั้งไปถึงห้องพักของพี่โจ ที่มีการ์ดคอยยืนคุ้มกันอยู่ ประตูถูกเปิด พี่โจพาผมเข้าไปด้านในและพี่โจก็วางผมลงที่บนโซฟาหรู ในห้องพักหรูหรา ร่างผมถูกวางลงอย่างเบามือที่สุด

         “บีม มันทำอะไรมากกว่านั้นไหมครับบีม” พี่โจถามผม พร้อมกับสำรวจร่างกายของผม

         “ไม่มีครับพี่โจ” ผมพูดกับพี่โจเสียงสั่นเล็กน้อย ผมยอมรับว่าผมตกใจมาก ไม่คิดว่าไอ้ไบรอันมันจะกล้าทำกับผมขนาดนี้ทั้งที่ในนี้มีการ์ดของผมและพี่โจและสถานที่แบบนี้ด้วย คนเยอะแยะขนาดนี้

          “ไหนให้พี่ดูที่คอเราซิครับบีม” พี่โจพูดและแตะที่ลำคอผม เพราะว่าถูกไอ้บ้านั้นบีมคอขนาดนั้น แน่นอนผิวขาวๆของผมต้องเป็นรอยนิ้วมันอยู่แล้ว และมันก็เป็นจริงด้วย ตอนนี้เจ้าหน้าที่เข้ามาเอากล่องชุดปฐมพยายาลมาให้พี่โจ พี่โจ เอายามาทาให้ผม และพยักหน้าให้เขาออกไปก่อน

          “พี่โจ อย่าบอกพ่อกับพี่บรูคส์นะครับ ผมขอ” ผมพูดกับพี่โจ พี่โจมองหน้าผม

          “โอ้ยย!!” พี่โจแตะที่ท้องผมที่โดนมันต่อยท้องของผมและเตะอีกสองสามทีนี่แหละ

          “มันต่อยท้องด้วยเหรอบีม” พี่โจถามผม ผมพยักหน้า

           “โธ่ เอ่ย บีมน่าจะอยู่ใกล้ๆพี่นะ รู้ไหม” พี่โจพูด ผมแค่ยิ้มให้แอบคิดในใจ นี้อยู่ห่างๆชะนีนั้นยังส่งคนมาทำร้ายผมเลยน่ะ พี่โจค่อยๆเลิกชายเสื้อผมขึ้นและพี่โจก็ทายาที่หน้าท้องของผม อย่างเบามือ ขนาดพี่โจเบามือที่สุดแล้วผมก็ยังเจ็บอยู่เลย

             ตื้ด!! มือถือพี่โจสั่น พี่โจก้มลงไปหยิบขึ้นมาอ่าน

             “บีม พี่บรูคส์รู้เรื่องแล้ว คนของบีมโทรบอกพี่บรูคส์น่ะ” พี่โจบอกผม ผมนี้แทบจะพ้นลมหายใจออกมาทันที

             “พี่โจผมจะกลับแล้ว ผมต้องกลับแล้ว” ผมพูดพี่โจกระเทิบมาหาผมและมองผม ผมรู้ว่าพี่โจก็พยายามจีบผมแต่ผมรักใครไม่ได้อีกแล้วผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขาหมดรักผมไปแล้ว และคงไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว

   “หมับ” พี่โจ เข้ามาและประกบริมฝีปากนั้นกับริมฝีปากผม เบาๆ แค่นั้น แต่ว่าผมดันพี่โจเอาไว้ มันเลยแค่ริมฝีปากแตะกันเฉยๆ

   “พี่อยากปกป้องบีมนะ” พี่โจพูดกับผม

   “พี่อยากดูแลบีม อยากอยู่ข้างๆบีม เหมือนเมื่อก่อนที่เราไปดูแลน้องๆและบีมไปด้วย นะครับ” พี่โจพูด

   “เออ พี่โจ บีมยังไม่พร้อม ผมขอนะ ผมจะกลับแล้ว โอ้ยย” ผมพยายามลุกแต่ยังเจ็บอยู่พี่โจก็เข้ามาประครองผม ผมยกมือว่าผมไหว และพี่โจก็ประครองผมลงมาด้านล่าง ผมเห็นตำรวจมาแต่ผมไม่อยากไปให้การอะไรทั้งนั้น

   “คุณโจครับ คุณแมกซ์ขอคุยด้วยหน่อย” พี่ชัช เดินเข้ามาหาพี่โจ พี่โจหันมามองหน้าผมทันที ผมลืมไปเลยว่าจะบอกว่าใครคือต้นเหตุ แต่ผมคิดว่าพี่โจรู้แล้วแหละ ผมพยักหน้ากับเขา

   “ได้ซิ แต่เร็วนะครับเพราะว่าผมจะรีบไปส่งคุณบีมนะครับพี่” พี่โจพูด และเพื่อนพี่โจก็เข้ามา ผมก็มองหน้าเขา

   “ว่าไงแม็กซ์” พี่โจถามคนนั้น

   “เออ ไอ้เวรนั้นมันสารภาพว่าน้องสาวกูยุมันให้ทำ” พี่เขาพูด ผมหันมามองหน้าพี่โจ

   “ มึงอย่าเอาเรื่องมันเลยนะ ไม่งั้นน้องกูโดนไปด้วย มิ้งมันทำไปเพรามันหึงมึงอ่ะโจ”พี่เขาพูด ส่วนพี่โจก็หันไปมองคนนั้นและหันกลับมามองผมว่าจะเอายังไง

   “ให้มันจบไปแล้วกันพี่โจ และบอกเขาด้วยว่าอย่ามายุ่งกับผมอีก “ผมพูดและเดินออกทันทีพี่โจคุยอะไรกับเพื่อนเขาดูซีเรียสก่อนจะเดินกลับมาหาผม

   “บีม พี่ขอโทษนะที่พี่เป็นต้นเหตุ เรื่องนี้ “พี่โจพูดกับผม

   “ช่างมันเถอะพี่โจแต่ผมก็ต้องขอบคุณที่พี่เข้าไปช่วยผมต่างหาก ผมกลับก่อนนะครับ การ์ดผมเขาหาผมแล้ว ผมโอเคพี่โจ ยังไงบีมโทรบอกทันทีที่บีมถึงบ้านแล้ว พี่โจ ขอบคุณนะครับ” ผมพูดและเดินออกมาทันที

   “คุณบีม” การ์ดของผมพี่แบรด ตรงเข้ามาหาผม

           “ผมควรจะอยู่กับคุณบีม ผมขอโทษนะครับ” พี่แบรดเขาพูดอย่างรู้สึกผิด

           “ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็ให้พวกพี่ไปพักแต่ยังไงก็รบกวน เอาของผมกลับด้วยนะครับ” ผมบอกการ์ดคนดูแลผม
       
           “พาผมไปที่เครื่องบินเลยนะครับ ผมบินกลับเลย”ผมบอกพี่แบรด

           “ตอนนี้คุณบรูคส์ รออยู่แล้วครับคุณบีม” พี่แบรดบอกผม ผมหันไปมองพี่แบรด

            “ตอนแรกคุณบรูคส์จะบินไปก่อนเพราะคุณบีมมาคนละเครื่องกับคุณบรูคส์ครับแต่ว่าตอนนี้คุณบรูคส์ให้เครื่องคุณบรุคส์จอดรอคุณบีมอยู่ที่สนามบินส่วนตัวครับ “พี่แบรดบอกผม ผมพยักหน้าแค่นั้นก่อนจะเดินไปขึ้นรถที่มารอรับผมและรถยนต์ก็แล่นออกไปทันที

           TBC

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
EP.2(พี่บีมXพี่บรูคส์)แค่คนเคยรัก

          Part’ s บีม  ผมเดินทางไปขึ้นเครื่องบินส่วนตัวกลับไปบ้านที่ลอนดอน ผมมาร่วมงานกับพี่บรูคส์แต่ว่าพี่บรูคส์เขาติดคุยกับนักธุรกิจเลยให้ผมไปแทนคนเดียวและผมได้ยินมาว่าวารินทร์เป็นลมพี่บรูคส์เลยไม่เข้าไปในงานปล่อยให้ผมฉานเดี่ยวคนเดียว ผมก็คิดว่าพี่เขาจะกลับก่อนแล้วแต่นี้ส่งคนมารับผมกลับเพราะว่าผมมีเรื่องเกิดขึ้น

           ผมนั่งเงียบๆ ในรถที่มีการ์ดและเป็นคนขับรถ พี่เขาชื่อพี่ไคโรและคอนเนอร์ เขาเป็นคู่แฝดกันแต่หน้าตาไม่ค่อยเหมือนกัน เขาเป็นอดีตสไนเปอร์ทั้งคู่ เป็นคนสนิทที่คอยดูแลพี่บรูคส์กับวารินทร์โดยเฉพาะ ส่วนการ์ดการ์ดของผมพี่แบรด พี่คนนี้เขาจบการเป็นการ์ดโดยตรงพี่เขาเป็นลูกครึ่งไทย สเปนและเจแปน  ส่วนวารินทร์ก็คือเพื่อนของผมอีกที วารินทร์เขาเป็นลูกของคนที่เคยช่วยชีวิตพ่อผมเอาไว้ พ่อแท้ๆ ของผมและพ่อกฤษณะก็พาเขามาเรียนโรงเรียนประจำพร้อมกับผมและเขาคือคนที่รู้ความลับของผมพร้อมกับพี่บรูคส์ เขากับผมสนิทกันมาก จนวันที่ผมกับพี่บรูคส์มีปัญหา พี่บรุคส์เขาก็ไปคบกับวารินทร์แทน ผมก็คงทำได้แค่แสดงความดีใจกับเขาทั้งคู่

           “คุณบีมครับถึงแล้วครับ” พี่คอนเนอร์ บอกผม ผมพยักหน้าตอบ

            “คุณบีมเดินไหวไหมครับ” พี่เขาถามผม

            “ผมโอเคครับ “ผมตอบแค่นั้น
           "พี่แบรดเขาจะไปรอคุณบีมที่โน้นเลยนะครับ" พี่คอนเนอร์บอกผม ผมพยักหน้าแค่นั้น

                        ผมเดินไปยังเจ้าหน้าที่ที่รอตรวจสอบเอกสารพาสสปอร์ตของผมก่อนขึ้นเครื่องบินส่วนตัวที่จอดรออยู่ในที่จอดที่ถูกจัดเอาไว้ ใช้เวลาไม่นานก็เดินผ่านเข้าไปด้านใน การ์ดยืนคุ้มกันแน่นหนา เครื่องบินหรูที่จอดรออยู่ เครื่องบินลำนี้มีครบทุกอย่าง ตัวเครื่องทันสมัย ใช้เวลาในการบินสั้นกว่าเครื่องบินโดยสารทั่วไป

            “เชิญครับคุณบีม คุณบรูคส์อยู่บนเครื่องกับคุณวารินทร์แล้วครับ” พี่ไคโรบอกผม ผมพยักหน้า ผมก็ใช้เครื่องนี้เดินทางออกจะบ่อยแต่ทำไมครั้งนี้ เท้าผมไม่อยากก้าวขึ้นไปเลย ผมรู้ว่ามันบาดตาและบาดใจและต้องทำเหมือนไม่รู้สึก มันยากที่สุด สุดท้ายผมก็ต้องก้าวเท้าขึ้นไปอยู่ดี

           “เชิญค่ะคุณบีม “พนักงานที่รอต้อนรับบนเครื่อง ผายมือให้ผมเดินเข้าไป ผมไม่ต้องกวาดตามองไปรอบๆ ก็เห็นว่าพี่บรูคส์เขานั่งจิบไวน์อยู่กับวารินทร์ วารินทร์เขาสุขภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พี่บรูคส์จึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ผมได้แต่มองเพราะว่าที่ตรงนั้นเคยเป็นของผมมาก่อน

            “คุณบีมจะทานเลยไหมคะ” พนักงานต้อนรับาถมผม ผมยืนมองคู่รักที่กำลังดูอะไรสักอย่างด้วยกัน

            “คุณบีมค่ะ “ผมสะดุ้งก่อนจะหันมามองพนักงานคนนั้น เธอยิ้มให้ผม

            “เออ คุณถามผมว่าอะไรนะครับ” ผมหันไปถามเธอกลับ เธอมีสีหน้าฉงนที่ว่าเธอถามผมแต่ผมกลับไม่ได้ยินทั้งที่ไม่ได้ยืนอยู่ไกลกันเลย

          “ดิฉันถามว่า คุณบีมจะรับอาหารบนเครื่องเลยไหมคะ ดิฉันจะได้ จัดมาให้ค่ะ “เธอถามผม

           “ไม่ดีกว่าครับ ผมยังไม่ค่อยหิว ผมอยาก เออ นอนพักนะครับ” ผมพูดเพราะว่าอีกหลายชั่วโมงเลยกว่าจะถึงลอนดอน ถึงจะเป็นเครื่องบินเจ็ทบินได้เร็วกว่าเครื่องบินปกติก็ตาม ผมเดินไปยังห้องพักเพราะว่าเครื่องบินนี้มีห้องนอนสำหรับนอนพัก ผมต้องเดินผ่านเขาทั้งคู่ซิน่ะ

             “บีม” วารินทร์เงยหน้าขึ้นมาจากนิตยสารอะไรสักเล่ม ผมไม่ได้ก้มลงมอง เขาลุกพร้วดขึ้นมาทันทีมาหยุดตรงหน้าผม

             “พี่เขาโทรมาบอกรินทร์ว่า บีมถูกทำร้ายเหรอ เป็นยังไงบ้าง” วารินทร์ถามผม พี่บรูคส์เงยหน้ามองผมแค่นั้น

               “ดูก็ไม่น่าจะเป็นอะไรเยอะใช่ไหมบีม” พี่บรูคส์ถามผมด้วยน้ำเสียงเย็นชา ที่ไม่เหมือนเมื่อก่อน พี่ชายที่เคยดูแลผม รักผม ความรักที่เกินพี่น้องแต่สุดท้ายมันมาพังลงเพราะว่าเขารู้ว่าผมเป็นลูกใคร

              “ไม่มากครับ พอดีว่าพี่โจไปช่วยผมเอาไว้ได้ครับ” ผมพูด

              “ก็ดีแล้ว ถ้าโจเขาดูแลเราได้ น่าจะรับเขาเป็นแฟนน่ะบีมเพราะดูแล้ว ศัตรูเยอะเหมือนกันนะเราน่ะ” พี่บรูคส์พูดแค่นั้น

              “พี่บรูคส์” วารินทร์หันไปเรียกพี่บรูคส์
              "หรือไม่ถูก" พี่บรูคส์พูดโดยไม่มองหน้าผม เขายังคงก้มลงมองหนังสื่อตรงหน้า มันเหมือนหนังสือที่คู่รักกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกัน

               “ทานอะไรด้วยกันก่อนซิบีม” วารินทร์หันมาบอกผม ผมหันไปมองพี่บรูคส์ เขานั่งจิบไวน์แดง

               “ไม่ดีกว่า บีมไม่ค่อยหิว บีมอยากพัก” ผมพูดตัดบทไม่อยากทนอยู่ตรงนี้ ต่อให้เหมือนผมไม่รู้สึกแต่ลึกๆผมเจ็บที่สุดแต่ผมก็ต้องเลือกว่าผู้มีพระคุณหรือว่าคนที่ให้ชีวิต

               “ผมขอนอนพักนะครับ “ผมหันไปบอกพนักงานที่ดูแลบนเครื่องก่อนจะเดินเข้าไปในห้องพัก ผมเข้าไปในห้อง ผมปลดเนกไทออก ก่อนจะถอดเสื้อสูทออกเช่นกันแต่ว่า

              “โอ๊ยย!!” ผมเจ็บที่ชายโครงที่โดนไอ้ไบรอันมันเตะเข้าไปสองสามทีได้ ผมค่อยๆ ถอดมันออกไป ผมเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจะได้จัดการอาบน้ำชำระร่างกาย มองคนในกระจก ทำไมแค่ผมเป็นลูกคนที่เขาคิดว่า เขาเป็นคนที่ต้องการทำลายองค์กรแล้วผมต้องทำอย่างที่เขาต้องการอย่างนั้นเหรอ ผมไม่ใช่แต่มันก็ไม่อาจจะลบมันออกไปจากความคิดของเขาได้

                ผมค่อยๆ ถอดเสื้อเชิ้ตออก ผมเห็นได้ถึงรอยช้ำที่ชัดเจน ร้องเท้าคัทชูของไอ้ไบรอันมันมีอะไรแข็งๆ ผมเดาว่าน่าจะเป็นแผ่นเงินหรืออะไรสักอย่างมันถึงได้สร้างรอบช้ำไว้ที่ชายโครงผมแบบนี้ โชคดีที่ไม่หักแต่ก็เจ็บเอาเรื่องเหมือนกัน ผมไม่ได้แสดงออกให้พี่โจเห็น ถ้าเห็นพี่โจคงเอาเรื่องไอ้ไบรอันถึงที่สุดแน่ๆ ผมจัดการเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำ อาบน้ำชำระร่างกายซะก่อนจะได้นอนพัก ผมใช้เวลาไม่นานในตู้อาบน้ำหรูนั้นก่อนจะออกมาสวมเสื้อคลุมอาบน้ำ ผมไม่ทันได้สังเกต ว่ามีคนยืนหันหลังให้ผมอยู่ ผมรู้ดีว่าเขาคือใครพี่บรูคส์

               “พี่จะมาบอกว่าไม่ต้องไปที่บริษัทแม่ที่กรุงโซลน่ะ พี่จะไปกับวารินทร์เอง เราก็พักซะ กลับไปบ้านแล้วกัน เพื่อว่าบีอยากจะพักบ้าง ช่วงนี้แบงก์เขาค่อนข้างงอแง” พี่บรูคส์พูด

                “แต่พี่หวังว่าบีมจะรู้น่ะว่าบุญคุณใครสำคัญกว่ากัน ที่จะไม่ทำร้ายคนที่ให้บีมมีทุกวันนี้” พี่บรูคส์พูดก่อนจะเดินออกไป และผมยังไม่ทันได้ให้คำตอบอะไรเลย นั้นแปลว่าเขาออกคำสั่งผมใช่ไหมให้ผมกลับบ้าน

                 ผมเดินมาที่เตียงนอน ก่อนจะมองเห็นหลอดยาที่วางเอาไว้ หลอดยาสำหรับฟกช้ำ ผมเอื้อมหยิบมาแต่มันเจ็บ จนต้องกลั้นใจเพื่อจะได้ทายานั้น ผมหันไปเห็นมือถือของผมที่วางเอาไว้บนแท่นชาร์จ แบทมันหมดไปแล้วแต่ผมไม่ได้สังเกต มีคนหยิบเอามาวางเอาไว้เพิ่มชาร์จแบทเตอรี่ให้ผม มีข้อความเข้ามาพอดี ข้อความจากพี่โจ

                 (บีม เป็นยังไงบ้างครับ พี่เป็นห่วงมากน่ะครับ ทายาด้วยนะครับ เดี๋ยวจะช้ำมากไป ถ้าปวดทานยาแก้ปวดด้วยนะครับคนดี พี่จะไปงานกาล่าที่มิลาน พี่หวังว่าบีมจะไปนะครับ เจอกันครับ ….) พี่โจ ผมพ่นลมหายใจออกมายาวๆ นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่โจพยายามแจกขนมจีบให้ผม แจกมานานแล้วตั้งแต่ผมกับพี่บรูคส์เราคบกันแต่ว่าการคบกันที่ถูกปิดบังไว้แค่พี่น้อง มันบอกใครไม่ได้ในตอนนั้น ใครจะรับได้แต่ว่าพอพี่บรูคส์รู้ว่าผมเป็นลูกใคร ทุกอย่างมันพลิกผัน กลายเป็นผมเป็นคนอื่นในสายตาเขาทันที

                  (ขอบคุณนะครับพี่โจ) ผมส่งข้อความไปขอบคุณเขาก่อนจะค่อยๆ ทิ้งตัวลงนอน ตอนเครื่องใกล้จะถึง พนักงานจะมาเรียกผมเอง ผมเลยคิดว่านอนหลับสักสองสามชั่วโมงคงจะดีขึ้น ผมผล็อยหลับไปตอนไหน นานแค่ไหนไม่รู้ ผมหลับสนิทจนกระทั่ง ผมรู้สึกว่ามีใครบางคนมานั่งข้างๆ ผม ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้น ผมนอนตะแคงอยู่ เอาด้านที่ฟกช้ำขึ้นและตอนนี้เสื้อคลุมผมมันถูกถลกเปิดให้เห็นชายโครงที่ผอมบางของผม ผมค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมอง ใบหน้าใครสักคนที่คุ้นเคย เขากำลังจ้องมองรอบช้ำนั้น ผมรู้สึกว่ามีนิ้วมือเรียวยาวกำลังป้ายยาทาให้ผมอยู่

                  “ชู!!!” พี่เขาส่งเสียงห้ามผม

                  “ทำไมไม่ทายาซะ มันช้ำเห็นไหม” พี่บรูคส์ถามผม

                  “ผมพึ่งจะทาก่อนออกมาครับพี่บรูคส์ พี่โจเขาทาให้แล้วนะครับ” ผมบอกพี่บรูคส์

                  “โอ๊ยย” ผมรู้สึกว่านิ้วนั้นกดลงไปแต่ไม่แรง

                   “เจ็บมากไหม” พี่บรูคส์ถามผม

                  “ไม่ครับ “ผมกลั้นใจพูดว่าผมไม่เจ็บ

                  “ถ้าเป็นเยอะ ให้ไคโรพาไปตรวจอีกทีที่โรงพยาบาลไหมตอนที่เครื่องลงจอดแล้ว” พี่บรูคส์ถามผม ผมมองหน้าพี่บรูคส์ ผมไม่อยากให้คนอื่นแต่อยากให้เป็นคนนี้เหมือนที่เคยทำพาผมไป แต่มันคงไม่มีวันนั้นแล้ว

                  “พี่จะไปบ้าน บรูคลินเขาไม่ค่อยสบาย” พี่บรูคส์พูด ผมตกใจดันตัวเองขึ้น

                   “โอ๊ยย!!!” ผมลืมตัวมันเลยเจ็บจี้ด

                  “บีม” พี่บรูคส์เองก็ลืมตัวที่รีบทิ้งตัวลงและประคองตัวผม ใบหน้าผมกับพี่บรูคส์มันใกล้กันมาก จนหายใจรดกัน ริมฝีปากบางๆ ของเขาคนนั้น ที่เคยสัมผัสริมฝีปากของผมมาก่อน มันเหมือนมีเวทมนตร์ ทำให้ผมขยับปากตาม เป็นรสจูบแรกที่ผมเคยได้รับ มันเร็วไปสำหรับผมในวันก่อนจะเข้าสู้วัยรุ่น รสจูบที่ผมไม่เคยลืม

                 “ไม่ได้บีม พี่มีวารินทร์แล้ว” พี่บรูคส์พูดก่อนจะจัดท่าให้ผมนั่งได้สะดวก

                 “ลูกผมเป็นอะไรพี่บรูคส์” ผมถามพี่บรูคส์

                  “เขาแค่แพ้อากาศ ช่วงนี้อากาศมันเปลี่ยนแปลงบ่อยน่ะ เขาอาจจะเป็นภูมิแพ้ พี่ว่าจะพาเขาไปหาหมอภูมิแพ้โดยตรงเพื่อจะได้รับวัคซีนสำหรับภูมิแพ้ “พี่บรูคส์พูด

                 “เขาถามถึงบีมน่ะ ว่างๆ ก็เข้าไปหาลูกบ้างแต่พี่ไม่อยากให้บีมไปเวลาที่พี่ไปกับวารินทร์ ต่อให้รินทร์ไม่พูดพี่ก็ไม่อยากทำร้ายเขา” พี่บรูคส์พูด

                  “แต่พี่เลือกทำร้ายผม” ผมพูด พี่บรูคส์ยืนนิ่งก่อนจะหันหลังเดินออกไปทันทีโดยไม่พูดอะไร ประตูปิดลงทันทีเช่นกัน ผมคงไม่ได้เขากลับคืนมาแล้ว พี่บรูคส์ ผมเสียเขาไปแล้ว ผมเสียผมให้เพื่อนรักผมไปแล้ว ผมควรจะดีใจมากกว่าเสียใจใช่ไหมที่คนที่ดูแลคนทีผมรักทั้งสามคนคือคนที่เป็นเพื่อนที่รักของผม วารินทร์เขาก็ดูแล บรูคลินกับเบรย์เดนดีไม่แพ้ผมเหมือนกัน ส่วนผมคงต้องทำหน้าที่ของผมเช่นกัน

                    Part’ s พี่บรูคส์ ผมเดินกลับมาที่ห้องพักของผม ผมเห็นวารินทร์ยังคงเช็กตารางงานของผมอยู่ วารินทร์เองก็สุขภาพไม่ค่อยดี ผมต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด วารินทร์เขาอ่อนโยน มีความหวานละมุนเหมือนกับบีมแต่ถามว่าอ่อนโยนกว่าไหม อ่อนโยนกว่าบีมตรงที่เขาไม่ใช่คนที่เหมือนไม่มีความรู้สึกอย่างบีม บีมเจ้าชายน้ำแข็งที่พวกนั้นมันตั้งให้ ผมได้ยินมานานแล้วแหละ

                    “พี่บรูคส์ไปดูบีมมาแล้วใช่ไหมครับ” วารินทร์ ละสายตาจากไอแพตหันมาถามผม

                   “หมับ” ผมดึงไอแพทออก วารินทร์มองหน้าผมทันที

                   “พอแล้ว งานพี่น่ะแน่นแล้ว พี่รู้ “ผมพูด

                   “ผมอยากให้บีมได้พักบ้างและพี่บรูคส์ก็งานเยอะเกินไป ผมแค่จะกระจายมันออกไปบ้างแค่นั้นเอง” วารินทร์พูด วารินทร์เป็นทั้งคนรักและเลขาส่วนตัวของผม

                  “ถ้าอยากให้พี่พักก็ต้องหยุดทำงานได้แล้ว หันมาดูแลพี่ซิ พี่จะได้พัก” ผมพูด ผมค่อยๆ ช้อนใบหน้าของวารินทร์และก้มลงจูบ รสจูบที่หอมหวาน ผมจูบกันดูดดดื่ม ผมยอมรับว่าผมอารมณ์ค้างมามาจากห้องนั้น ที่ผมไปหาเขา ไปทางยาให้เขา ถึงจะโกรธและเกลียดแต่มันก็ยังไม่อาจทำให้ผมไม่รู้สึกกับบีม บีมทำสิ่งที่ผมโกรธมากเขาเกือบทำให้บอยเสี่ยงเพราะว่าเขาอาจจะเป็นคนที่อยากจะให้ตำแหน่งผู้นำไปอยู่กับคนอื่น ผมไม่ไว้ใจเขาและไม่เคยไว้ใจเขาเลยสักนิด



                      ผมกับบีมมีความสัมพันธุ์ที่ลึกซึ้งกันมานานตั้งแต่บีมยังไม่สิบห้าจนล่วงเลยมาไกล ส่วนวารินทร์ผมก็รู้จักในฐานะที่เขาเป็นเพื่อนสนิทกับบีม เขามาอยู่ในความดูแลพ่อผมเช่นกันแต่ไม่ใช่ในฐานะบุตรบุญธรรมเหมือนบีม ดังนั้นมันก็ไม่ผิดถ้าผมจะมีวารินทร์มาเป็นคนรักของผม คนรักที่ไม่มีพิษร้ายเหมือนเขาคนนั้น

                   “อืมมม” ผมก้มลงไซ้ที่ซอกคอของวารินทร์ ซอกคอที่ขาวนวลนั้น รูปร่างที่ผอมบอบบาง ผมลูปไล้ไปมาจนแกนกายผมเริ่มผงาด มันพร้อมจะออกมาสู้รบอายูภายใต้กางเกงชุดนอน ผมปลดกระดุมเสื้อของวารินทร์ ก่อนจะลุกขึ้นมาปลดกระดุมเสื้อของผมเช่นกัน เสื้อผ้าถูกถอดโยนไปคนละทิศละทางทันที เซ็กส์บนเครื่องบินไม่ใช่เรื่องแปลกของผมที่เดินทางปล่อยกับวารินทร์

                  “อืมม” ผมทาบทับลงบนไปตัววารินทร์โดยไม่ได้ทิ้งน้ำหนักทั้งตัว ใช้แขนดันเอาไว้ ผมก้มลงจูบวารินทร์อย่างหนักหน่วง เซ็กส์ที่เร้าร้อนกำลังเกิดขึ้นในห้องนอนส่วนตัวบนเครื่องบินส่วนตัว มันอาจจะมีบางช่วงที่ตกหลุมอากาศบ้างแต่ไม่ใช่อุปสรรคของผมสองคน รินทร์เองก็ไม่เบา เขาตอบสนองผมได้ดี

                  “อ้าห์ อืมม พี่บรูคส์” ผมพลิกตัววารินทร์ให้มาอยู่ในท่าคุกเข่าและสอดใส่มันไปในช่องทางแคบด้านหลังที่คับแน่น เอวที่ขยับเด้งเข้าออกตามจังหวะ ไม่ต้องห่วงว่าลูกเรือหรือใครจะมาแอบฟังเพราะว่านี้คือกฏที่ผมตั้งเอาไว้ เวลาส่วนตัวห้ามรบกวน พวกเขาจะรู้ดีและปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

                  “อ้าห์” ไม่นานผมก็กอดร่างที่ผอมบางนั้นจากด้านหลัง ผมเปียกชุ้มไปด้วยเหงื่อจากกิจกรรมที่ทำเป็นประจำ ผมก้มลงจูบวารินทร์ วารินทร์ก็จูบผมตอบ

                 “ดีขึ้นไหมครับ” วารินทร์ถามผม ผมมองหน้าเขาแสดงว่าเขารู้

                 “ผมรู้ว่าพี่ยังรักบีมอยู่ “วารินทร์พูด

                  “มันแค่เคยรัก ต่อไปนี้คือวารินทร์ ห้ามพูดคำนี้อีก นี่คือคำสั่งพี่” ผมพูดก่อนจะค่อยถอยหลังออกและผมก็พลิกเขามากอดในอ้อมกอดของผม ผมหอมที่หน้าผากวารินทร์ วารินทร์มองหน้าผมตาแป๋ว

                   “พี่จะไปหาลูกน่ะ บรูคลินไม่ค่อยสบาย ส่วนบีมเขาจะกลับบ้านไปช่วยบีดูแล แบงก์ “ผมพูดกับวารินทร์

                  “ทำไมพี่ไม่ให้บีมไปหาบรูคลิน เขาอาจจะอยากให้บีมดูแลเขาบ้าง” วารินทร์พูด ผมนิ่งเงียบ ผมกับบีมตัดสินมีลูกกันเมื่อสามปีที่แล้ว บรูคลินคลอดก่อนแบงก์ลูกของบอยไม่กี่เดือนและหลังจากนั้นผมถึงได้รู้ความจริงและผมก็ตัดสินใจผิดไปที่อยากมีทายาทกับคนที่ผมรัก ตอนนี้ก็แค่ทำหน้าที่พ่อของเขาทั้งคู่แค่นั้น ไม่ใช่คนรักเพราะว่าคำนั้นมันจะไม่มีวันกลับมาอีก ผมพูดเอาไว้ต่อหน้าเขาแล้ว แค่พี่ชายและน้องชาย จะไม่มีวันข้ามกลับมาเป็นคนรักกันได้อีก

                  Part’ s วารินทร์ ผมปล่อยให้พี่บรูคส์ระบายมันออกมาก่อนจะพี่บรูคส์จะผลอยหลับไป ผมลุกขึ้นแต่งตัว ผมยืนมองผู้ชายที่นอนหลับอยู่บนเตียงนอนที่นุ่มสบายที่สุด ยิ่งอยู่บนเครื่องบินแบบนี้เหมือนนอนอยู่บนก้อนเมฆไม่มีผิด  ใครจะมีโอกาสแบบนี้ได้ง่ายๆ ถ้าไม่รวยจริงๆ ผมหันไปมองงานที่ผมทำค้างเอาไว้อยู่ ผมคิดว่าจะเดินออกไปเพื่อไปถามพนักงานว่าบีมทานอะไรหรือยัง ผมเห็นสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คนสองคนนี้ปากแข็งกันทั้งคู่ น่าจริงๆ พี่บรูคส์ก็เหลือเกินปากแข็งแต่ก็แอบไปดูบีม ผมไม่เคยโกรธเขาเลยน่ะ ผมรู้ว่าผมควรอยู่ที่จุดไหนของผมเพราะว่าผมก็รู้ว่าผมที่ตรงนั้นมันไม่ได้เป็นของผมอยู่ดีแต่ผมก็ทำหน้าที่ดูแลคนที่ผมรักให้ดีที่สุด 

                  “คุณรินทร์ “ผมเดินมาก็เจอพี่คอนเนอร์ การ์ดที่ดูแลพี่บรูคส์และผม เขาพึ่งเข้ามาเป็นการ์ดดูแลได้แค่สามปีเท่านั้น แต่ว่าเขามีฝีมือในการทำหน้าที่การ์ดมาแล้วเกือบแปดปีเท่าที่ผมทราบ

                  “เห็นคุณบีมออกมาทานอาหารหรือยังครับ” ผมถามพี่เขา

                   “ยังเลยครับ แต่ว่าคุณบีมสั่งเอาไว้ว่าจะนอนพักน่ะ ครับคุณรินทร์ “พี่คอนเนอร์ตอบผม ผมพยักหน้า

                  “คุณรินทร์ ต้องการอาหารว่างหรือเปล่าครับ ผมจะได้บอกกับพนักงานที่ดูแลให้จัดมาให้นะครับ” พี่คอนเนอร์ถามผม

                  “ไม่ดีกว่าครับ ผมขอนั่งทำงานสักครู่นะครับเพราะว่าพี่บรูคส์เขาเพลีย เขาหลับไปแล้วนะครับ” ผมบอกพี่คอนเนอร์ ผมหันไปมองเห็นพี่ไคโรเขานั่ง ดูไอแพตเพื่อฆ่าเวลาในการทำหน้าที่การ์ดคุ้มกัน เดินไปหาที่นั่งจังหวะนั้นเครื่องน่าจะตกหลุมอากาศพอดีผมเลยเสียหลัก

                  “คุณรินทร์” พี่คอนเนอร์รีบเข้ามารับผมเอาไว้ไม่ให้ผมไถลไปกระแทกกับโต๊ะ

                 “ปึก” ร่างผมกระแทกกับอกแน่นๆ นั้น

                 “โอ้ว!!” เสียงพี่ไคโรเขามองผมสองคน ผมรีบดันแผ่นอกนั้นออกทันที ผมกลืนน้ำลายลงคอไปพร้อมกันเช่นกัน ผมแอบเห็นพี่ไคโรทำนิ้วเฉือนคอให้พี่คอนเนอร์ ส่วนพี่เขาก็แอบส่งกลางให้คู่แฝดพี่เขา

                 “ผมขอโทษนะครับ ผมเห็นว่าคุณรินทร์เสียหลักผมเลยเข้ามากันเอาไว้นะครับ กลัวจะกระแทกโต๊ะ บอสจะฆ่าผมได้ครับถ้าคุณรินทร์เจ็บตัว” พี่คอนเนอร์พูดเหมือนจะแก้ตัวน่ะ ผมก็ยิ้มให้เขา  ก่อนจะเดินเลี่ยงไปหาที่นั่ง พี่คอนเนอร์เขาเดินออกไป สักพักพนักงานก็เดินออกมาพร้อมกับของว่าง เขาวางลงตรงหน้าผม ผมชอบทานผลไม้มากที่สุด เขาจัดหามาให้ผมทันที ผมเงยหน้าขึ้นพร้อมกับยิ้มขอบคุณเขา

                 “รับอะไรเพิ่มกดกริ่งเรียกได้ตลอดเวลานะคะคุณรินทร์ “พนักงานเขาบอกผม ผมพยักหน้า ก่อนจะหันไปเห็นพี่คอนเนอร์เขานั่งตรงข้ามกับพี่ไคโร เขานั่งคุยกัน พี่เขาหันมามองผมก่อนจะยิ้มให้ผมแค่นั้น ผมดูจากตารางงาน พี่บรูคส์ต้องไปงานที่มิลานด้วย เป็นแฟชั้นเครื่องประดับ งานนี้ใหญ่กว่าที่สิงคโปร์อีกและมีชื่อของบีมด้วยเช่นกัน

                   ภาพวัยเด็กที่ผมกับบีมเราเป็นเพื่อนกันมานาน ผมเห็นความรักของพี่บรูคส์กับบีมมานานเช่นกัน ผมเคยคิดอิจฉาบีมมาตลอดแต่แค่คิดในใจและผมก็ไม่เคยเอาความลับของบีมกับพี่บรูคส์ไปเปิดเผยที่ไหน ทุกคนรู้กันว่าเขาคือพี่น้องแต่จริงๆ ไม่ใช่และเขาทั้งคู่ก็มีมากกว่านั้น จนวันที่ทุกอย่างมันแตกหัก พี่บรูคส์เขารู้ว่าผมก็แอบชอบพี่บรูคส์มาก่อนเหมือนกัน ผมเลยเลื่อนขึ้นมาเป็นคนรักแทนบีมแต่ผมทำหน้าที่เลขาพี่บรูคส์มานานแล้วตั้งแต่ใกล้จะเรียนจบ จนตอนนี้ที่เป็นมากกว่าเลขาส่วนตัว ผมเองก็เคยคิดว่าไม่อยากเสียเขาคืนไปเหมือนกันแต่ผมก็ยังรู้สึกว่า ผมยังไม่ใช่คนในหัวใจพี่บรูคส์อยู่ดี แต่พี่เขาก็บอกผมว่าเขาจะไม่มีวันทิ้งผม ดังนั้นจุดนี้มันอาจจะไม่ใช่จุดที่ดีที่สุดแต่ผมเชื่อว่ามันมีความสุขทีสุดของผม

                     “คุณรินทร์ครับ เครื่องใกล้จะถึงแล้ว ผมว่าคุณรินทร์ไปปลุกคุณบรูคส์เถอะครับ ส่วนคุณบีมเขาตื่นแล้ว เขาส่งข้อความบอกพนักงานขออาหารเช้าที่ห้องพักเลยครับ “พี่ไคโรเดินมาบอกผม ผมพยักหน้าและเก็บทุกอย่างเพื่อจะเข้าไปปลุกพี่บรูคส์

                   “ผมขออาหารเช้าเน้นโปรตีนให้พี่บรูคส์หน่อยนะครับ” ผมหันไปบอกพี่ไคโร เขาพยักหน้าและเดินไปที่พนักงานดูแลบนเครื่องบิน ผมเดินกลับเข้าไปในห้องนอน ผมเห็นพี่บรูคส์ตื่นแล้ว พี่เขามองหน้าผม

                    “ดื้อจริงๆ เรานิ พี่บอกพักงานได้แล้วรินทร์” พี่บรูคส์บ่นผมทันที

                    “ผมนอนมาก่อนจะขึ้นเครื่องแล้วนี่ครับพี่บรูคส์และผมไม่ชอบให้งานผมค้างคาผมเลยขอทำให้เสร็จจะดีกว่าครับพี่บรูคส์” ผมพูด

                    “ผมว่าตอนนี้พี่ไปเตรียมตัวดีกว่านะครับเราจะได้ไปต่อเครื่องที่จะไปหาบรูคลินกับเบรย์เดนกัน เขาคงดีใจที่เห็นพี่ไปหาเขา เขาคิดถึงพี่…” ผมพูด พี่บรูคส์หันมามองหน้าผม

                    “เราอยากมีลูกกับพี่ไหม” พี่บรูคส์ถามผม

                     “ไม่ดีกว่าครับ ผมอยากให้พี่ดูแลเขาสองคนให้ดีที่สุดและเขาก็เป็นเครื่องเตือนใจบางอย่างของพี่อย่างดี ผมเองอยู่ในจุดที่ดีที่สุดแล้ว ผมพอแล้วครับ” ผมพูด พี่บรูคส์มองหน้าผม

                     “รินทร์” พี่บรูคส์เรียกผม

                     “ไปเตรียมตัวได้แล้วครับ” ผมพูดและหันหลังเพื่อเตรียมเสื้อผ้าให้พี่บรูคส์เขาจะได้เตรียมตัวก่อนเครื่องจะจอดที่สนามบินนานาชาติ ที่เราได้ขอใบอนุญาตเอาไว้เรียบร้อยแล้วแต่ต้องทำตามเหมือนเครื่องบินทั่วไป คือต้องผ่านตรวจคนเข้าเมืองก่อนจะไปยังเครื่องบินภายในประเทศเพื่อไปหาลูกชายของพี่บรูคส์กับบีม ผมก็รักเขาสองคนเหมือนเขาเป็นลูกผมเช่นกัน ผมก็รู้ว่าบีมแอบบินไปหาเขาสองคนเหมือนกัน ไปดูแลเขาสองคนในฐานะที่บีมก็เป็พ่อเขาสองคนเหมือนพี่บรูคส์

                    TBC…

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-03-2024 18:34:56 โดย PFlove »

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
EP.2(พี่โจXพี่อ้)พี่อ้นเคยบอกรักพี่โจ

                 Part’ s โจ ผมดันไปรับปากอาเป้ว่าจะไปหาอาเป้เพื่อไปฉลองให้แพท ที่แพทเรียนจบนักเรียนนายร้อยสังกัดกองกำลังทหารเรือตามอาเปรมดิ์ ผมเจอแพทบ่อยเหมือนกันเพราะว่าพวกผมก็ต้องไปดูแล สมาคมที่พวกผมสนับสนุนและแน่นอน ทีมแพทย์และทีมทหารก็ต้องตามไปคุ้มกันเพราะว่าที่ผมไปจะมีกลุ่มพวกหัวรุนแรงคอยกันไม่อยากให้พวกเขาติดต่อกับพวกผม แต่น่าแปลก ผมไม่ค่อยได้เจอพวกไอ้อ้นไอ้ดิมเลย นอกจากมันจะมาหาผมหรือว่าผมไปหาและมันรู้ก็มาลากผมไปเที่ยวด้วยตลอด แน่ล่ะพวกไอ้อ้นไอ้ดิม เป็นหน่วยรบพิเศษ ออกแต่งานใหญ่ๆ

                  “ไอ้ปีเตอร์ มึงอย่าไปไหนไกลน่ะ เพื่อว่ากูกลับต้องมาตามหามึงอีก” ผมสั่งไอ้คนคุ้มกันผม อดีตนายทหารเหมือนกันและมันก็เป็นเพื่อนของผมที่สนิทมาตั้งแต่เรียนมัธยมและมันดันถูกกดดันให้ออก ผมเลยชวนมาคุ้มกันผมซะเลย ตอนนี้มันติดหนึบไม่อยากไปจากครอบครัวผมแล้ว ก็แน่ละ ทำงานยังไงให้เหมือนไปเที่ยว

                  “ได้ครับคุณบอส!” ไอ้ปีเตอร์มันเรียกผม ผมนี่เป็นผับส่วนตัวที่เฉพาะเมมเบอร์เท่านั้นและผับนี้พวกไอ้อ้นไอ้หมอดิมมันเป็นคนถือหุ้นอยู่ ผับหรูดูดีแต่รับคนจำกัด

                   (ครับพ่อ ผมกำลังจะไปครับ ผมไปกับพี่อู๋ครับ ได้ครับพ่อ ครับ บายครับ) จังหวะนั้นผมเดินมาถึงก็เจอแพท เดินออกมาพร้อมกับคุยโทรศัพท์มาด้วย ดูสีหน้าน่าจะงานเข้า

                  “แพท!!” ผมเรียกแพท แพทมองหน้าผมก่อนจะเก็บมือถือเข้าไปในกระเป๋า

                  “พี่โจสวัสดีครับ” แพททักทายผมพร้อมกับยกมือไหว้ผม ผมก็ยกมือรับไหว้แพท ผมก็รู้วาวัฒนธรรมที่นี้แตกต่างกันกับที่ผมอยู่ แต่ผมก็เรียนรู้วัฒน์ของที่นี้เอาไว้เช่นกันแม้ว่าผมจะหัวนอกกันทั้งบ้านก็ตาม

                  “นี่จะไปไหนละแพท” ผมถามแพท

“ผมต้องรีบกลับด่วนครับพี่โจ ลุงสี่โดนลอบยิงครับ” แพทบอกผม

                   “เฮ้ยจริงดิ! ลุงสี่เป็นไงบ้างอ่ะ” ผมถามแพททันที แพทส่ายหัวไปมาว่าไม่แน่ใจ

                   “แล้วอาเปรมดิ์ไปด้วยกันกับลุงสี่หรือเปล่า” ผมถามแพทต่ออีกทันที ไม่ได้รอคำตอบแรก

                   “ไปครับแต่ว่าพ่อผมปลอดภัย ส่วนลุงสี่โดนไปนัดหนึ่งครับ “แพทพูด

                   “แพท… ไปเลยน่ะ เครื่องบินรออยู่แล้วที่ค่ายฯแพท” พี่อู๋ เดินออกมาหาแพท ผมจำได้ดีเขาคือลูกคนโตของลุงสี่และเป็นเพื่อนรักของพี่อธิคมแฟนอาเป้ด้วย ผมยกมือไหว้พี่เขาทันที

                   “งั้นผมไปก่อนนะพี่โจ” แพทบอกผม

                    “ไปก่อนน่ะโจพี่รีบ” พี่อู๋บอกผม ผมนะเข้าใจเพราะว่าพ่อพี่เขาถูกยิงทั้งคน

                    “พี่จะรีบไปดูซิว่าใครฝากกระสุนไว้ให้พ่อพี่และถ้าพี่รู้ พี่จะได้ส่งกลับคืนถูกๆ” พี่อู๋พูด ส่งกลับคืนเลยเหรอแปลว่าพี่แกจะไปถล่มเขาคืนใช่ไหม

                    “แต่พ่อพี่น่าจะไม่เป็นอะไรมาก พี่คิดว่าพ่อพี่หนังเหนียวน่ะ กระสุนเลยแค่เข้าไปนิดเดียว “พี่อุ่พูดพร้อมกับทำมือด้วยว่าเข้าไปนิดเดียวจริงๆ ผมพยักหน้าและพี่อู๋แกก็พาแพทเดินออกไปทันที ดูท่าจะรีบมาก ผมก็เดินเข้าไปด้านในอาเป้กับพี่อธิคมรออยู่ ผมรู้ว่าพี่เป้กับพี่อธิคมน่าจะอยู่ในห้องวีไอพีแน่นอน พวกผมอยู่ที่นั่นเพื่อป้องกันการมีเรื่องกับคนอื่นที่ไม่ชอบสิ่งที่พ่อผมกับพวกผมเป็น

                    “สวัสดีครับ ผมมากับพี่อธิคมกับพี่เป้ครับ” ผมบอกคนที่ยืนคุมอยู่ด้านหน้าเพื่อไม่ให้คนที่ไม่ใช่เพื่อนของพวกผมเข้าไปด้านในได้ เขาก็พยักหน้าก่อนจะเปิดประตูให้ผมเข้าไปและสิ่งที่ผมเห็น ผมแทบจะเดินออกเลย ไม่ได้มีแค่อาเป้กับพี่อธิคมแต่มีไอ้อ้นด้วย

                   “ไอ้โจ มึงอย่างเดินกลับไปเชียวน่ะ” ไอ้อ้นมันหันมาพูด ผมหันมามองหน้ามัน ก่อนจะเดินกลับเข้าไป ไอ้อ้นมันลุกขึ้นยืนพร้อมกับเข้ามาโอบคอผมเข้าไปทันที

                    “อาเป้ พี่อธิคมหวัดดีครับ” ผมทักทายทั้งคู่

                    “อาเป้ ไม่เห็นบอกเลยว่าไอ้อ้นมันจะมาอ่ะ” ผมบ่นอาผมทันทีก่อนจะนั่งลง ไอ้อ้นมันเรียกเด็กที่มาดูแล ผมมองดูแล้วในห้องนี้มีคนมาเล่นแผ่นเพลงมันให้ยืนโยกหัวเต้นไปมาด้วย สักพักเด็กเสิร์ฟก็นำแก้วเหล้าที่ผสมมาเสิร์ฟให้ผม

                   “แล้วนี่จะอยู่ดึกไหมเนี๊ยะอาเป้ แพทมันไปแล้วอ่ะ” ผมถามอาเป้

                   “ไอ้อ้นไง มันพึ่งกลับมาจากไปร่วมฝึกหน่วยซีลมา มันพึ่งกลับมาถึงวันนี้เอง พี่ชายอายังไม่เห็นหน้ามันเลยน่ะ มันมาหาอาแล้ว เอาใจมันหน่อย ฉลองให้มันไปเลย” อาเป้พูดผมหันไปมองหน้ามันประมาณว่าใช่เหรอ ผมก็กระดกดื่มเหล้าแต่ว่าต้องวางแก้วลงเพราะว่าเข้มมากเลย

                   “น้องเขาชงเหล้าเข้มไปไหม” ผมถามไอ้อ้น

                   “กูชงเองเลย พิเศษไหมล่ะ “ไอ้อ้นมันพูด

                   “มึงชงแบบนี้นี่มันเกือบจะเพรียวๆ แล้วน่ะไอ้อ้น นึกว่ากูดื่มบรั่นดีเหรอ” ผมพูดต่อว่ามัน

                   “แค่นี้ทำบ่น คืนนี้อ้นขอหนักๆ” ไอ้อ้นพูด

                   “ไอ้อ้นไอ้ดิมอ่ะ มันอยู่ไหนของมันเนี๊ยะ” อาเป้ถามไอ้อ้น ผมหันมามองเออ เพื่อนคู่หูมันไปไหน

                   “ผมโทรหามันเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ตอนนั้นมันบอกว่าติดไฟแดงอยู่” ไอ้อ้นบอกผม

                   “ไฟแดงที่ไหนติดนานขนาดนี้ว่ะอ้นนี่มันจอดรถแล้ว” พี่อธิคมพูด อาเป้ก็พยักหน้าว่าเห็นด้วย
 
                   “มันไปจอดปั่ม ปั้ม กับใครหรือเปล่าให้อ้น” อาเป้พูด ผมนี่ยกแก้วเหล้าว่าเห็นด้วยกับอาเป้ผม อ้นหันมามองหน้าผม

                   “แป๊บน่ะอา ไอ้ดิมมันส่งข้อความมาบอกว่า มันกำลังปั๊มหัวใจคนประสบอุบัติเหตุอยู่ มันเลยมาช้า” ไอ้อ้นมันอ่านข้อความมือถือ ผมหันไปมองหน้ามัน

                    “มึงให้มันตามคนไข้กลับไปโรงพยาบาลเลย ไปดูแลคนไข้ต่อที่นั่นเพราะว่ามันเป็นหมอและนี่ดึกป่านนี้ยังไม่มาอีก พวกกูจะกลับกันแล้ว” อาเป้พูด

                    “อา…ไอ้โจมันก็พึ่งมาน่ะอา จะรีบกลับไปไหน นานๆ พี่อธิคมจะพาอามาเที่ยว” ไอ้อ้นมันโยนมาให้ผมทันที ผมนั่งกระดกดื่ม จะว่าไป ผมยังไม่ได้รับข้อความตอบรับจากบีมอีกเลยตั้งแต่ส่งเขาขึ้นรถเพื่อไปส่งบีมขึ้นเครื่องบินส่วนตัว ผมก็หยิบมือถือขึ้นมาแต่ว่า

                    “ปึก!!” ไอ้อ้นมันคว้าไปจากมือของผม

                   “อะไรวะ มึงเลิกติดต่องานสักพักได้ไหม อยู่กับกู กับอาเป้และพี่อธิคม ห้ามเล่นมือถือ “ไอ้อ้นพูด

                   “มึงจำไม่ได้เหรอ อาเป้เคยบอกว่าห้ามเล่นมือถือไอแพทบนโต๊ะกินข้าว” ไอ้อ้นมันพูดยกประเด็นมาได้น่าให้ผมดึงขนจมูกมันจริงๆ

                  “นั้นมันตอนกินข้าวแต่นี้มันบนโต๊ะเหล้า อาเป้เขาไม่ว่าแล้วมั้งไอ้อ้น” พี่อธิคมพูดปนหัวเราะ "กูชวนมึงมาดื่มเหล้าไม่ได้ชวนมากินข้าว"อาเป้พูด

                  “มึงขนาดนี้แล้วกูเลิกบ่นมึงแล้วและตอนนั้นกูไม่ได้บ่นเพราะกูเอง อากูสั่งมาอีกที ตอนบังคับให้พวกมึงกินข้าวกัน

                  “อาเป้พูด อาเป้เลี้ยงดูพวกผมแทนพ่อ เพราะว่าพ่อผมช่วงนั้นมีปัญหาองค์กรเยอะมากต้องแก้ไข ส่วนอาเป้กำลังเรียนมหาวิทยาลัย อาเป้กับพวกผมอายุห่างกันไม่มาก เป็นอาที่เด็กที่สุดก็ว่าได้ อาเป้ห่างจากพ่อผมรอบกว่าๆ เกือบสองรอบ

                   “เมื่อวานไปไหนมาโจ” อาเป้ถามผม

                   “เมื่อวานมีประมูลเพชร ที่ว่าจะเอาไปเป็นการกุศลอ่ะอา ผมประมูลได้สร้อยเพชรและเมื่อวานผมก็เจอบีมไปที่นั่นด้วยแต่ไม่ได้ถามว่าประมูลอะไร ผมลืมถาม มัวแต่คุยกับบีม” ผมพูดแต่ผมไม่ได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับบีม ผมหันมามองไอ้อ้น มันมองหน้าผมจังหวะนั้น ไอ้หมอดิมเดินทำหน้าหล่อๆ เข้ามาพอดีเลย

                  “อาเป้ พี่อธิคม หวัดดีครับ” ไอ้ดิมมันไหว้อาเป้กับพี่อธิคมก่อนจะหันมาเจอผม

                 “เชี้ย!!” มันตกใจจนต้องเอามือมันนี่กุมหน้าอกมันเอง มันจะแอคติ้งอะไรกันขนาดนี้

                  “มึงตกใจกูทำไมไอ้ดิม” ผมถามไอ้ดิม

                  “มึงมาไงเนี๊ยะ ประตูโดเรมอนเหรอ” ไอ้ดิมมันถามผม

                  “ประตูทางเข้านี่แหละไม่ต้องโดเรมอนหรอก ไอ้ดิม!” ผมพูด

                  “มึงมาจากไหน ลอนดอนเหรอ หรือว่าลอนดอนกับที่ผับนี้ก็แค่ปากซอย” ไอ้ดิมมันพูด ผมหันไปหาอะไรปาใส่มันดีน่ะ ปากมันก็ไม่ได้แพ้ไอ้อ้นเท่าไหร่เลย

                  “กูมาจากสิงคโปร์โว้ย!!” ผมบอกไอ้หมอดิม

                  “อาชวนโจมันเองเพราะว่าโจมันต้องบินกลับไปดูไบและต้องมาพักเครื่องที่นี้อยู่ดี เลยชวนมาดื่มบ้าง” อาเป้พูด ผมหันมามองไอ้ดิม

                  “มึงก็ไม่บอกกูเลยน่ะไอ้อ้น ว่าไอ้พี่คนโตบ้านจอจานมา” ไอ้หมอดิมมันหันไปต่อว่าไอ้อ้น

                  “กูส่งข้อความบอกมึงว่าไง เซอร์ไพรส์ให้มึงรีบมา” ไอ้อ้นมันบอกไอ้ดิม

                  “กูรู้ว่ามึงบอกกูว่ามีเซอไพรส์ ไอ้กูก็นึกว่ามึงมีเด็กใหม่ ให้กูรีบมา” ไอ้ดิมมันพูด ผมหันมา

                  “ปึด!!” ดึงขนจมูกมันทันที ไอ้นี่พอกันเลยคู่หูคู่ฮาแต่พากันไปเสียบเขา

                  “ดึงทำไมไอ้โจ” ไอ้ดิมมันบ่นผม

                   “อาเป้สั่งห้ามพกเด็กมาเพราะว่าพกมาทีไร เกิดสงครามกลางเมืองทุกที “ไอ้อ้นมันพูด อาเป้พยักหน้า

                   “แต่กูอยู่ได้ไม่นานน่ะ กูให้ปีเตอร์มันรอ เดี๋ยวมันเมาคอพับกลายเป็นกูที่ต้องทำหน้าที่คนขับแทนและพามันกลับไปกับกูอีก” ผมพูด

                  “และเผลอๆ กูอาจจะได้ดูแลมันแทนที่มันจะดูแลกู ในฐานะการ์ดของกูและกูก็จะเลื่อนตำแหน่งจากบอสของมันมาเป็นลูกน้องมันแทนอีก” ผมหันมาบอกไอ้อ้น เป็นไงล่ะเหตุผลผมเยอะไหม

                    “พี่อธิคมผมจะไปห้องน้ำอ่ะ พี่ไปไหม” อาเป้พูดและพี่อธิคมก็พยักหน้าว่าไปด้วย ผมหันมามองไอ้อ้นและไอ้ดิมมันก็กระดกเหล้าดื่ม เพราะว่าเด็กชงเหล้ารอมันตั้งแต่ไอ้หมอดิมมาโผ่ที่ปากประตูทางเข้าแล้ว ไอ้อ้นมันเดินหายไปสักพักมันกลับมาพร้อมกับถาดอะไรสักอย่าง ผมหันไปมอง ถึงกับช๊อก มันจะเล่นช็อตดริ้งเลยเหรอ

                  “อ้นกูไม่เอาน่ะ “ผมปฏิเสธทันที

                  “โจ นานๆ ทีกูจะเจอมึงน่ะ นี้กูไปฝึกแถมฝึกใกลๆ กับเกาะที่มีอริอยู่ด้วย มึงรู้ไหมว่าเสียวสันหลังแค่ไหนและดีที่กูสองคนรอดมาได้ มาฉลอง ลองไลฟ์ให้กูกันหน่อย ห้ามปฏิเสธเพราะว่ากูจะเฮิร์ทหนักมาก” ไอ้อ้นมันพูด ผมหันมามอง จะดีไหมเนี๊ยะ!

                 “เอาน่ะคนละทีและพออาเป้กลับมา พี่อธิคมอีก แป๊บเดียวก็หมดถาดนี้แล้วยังไม่ทันเมาเลย” ไอ้อ้นมันพูด ผมก็รับมาถือไว้หนึ่งแก้วเล็ก สีสันน่าทานมากแต่ผมรู้ว่ามันเพรียวและแรง มันเลยมาเป็นแก้วเล็กๆ แบบนี้

                “เร็วๆ อย่าป๊อด” ไอ้อ้นพูด ผมนี่เลือกมาหาผิดคนจริงๆ ถ้าไปหาไอ้ตุ๊นี้ผมคง ไม่ต้องมาดื่มอะไรแบบนี้ ไอ้ตุ๊มันไม่อยากให้ผมดื่มแอลกอฮอล์ มันคอยห้ามซะด้วยซ้ำแต่ไอ้อ้นนี้ เชียร์เลย

                “อืมมม” ผมกระดกดื่มไปพร้อมๆ กัน หน้าตาผมเหยเกไปเลยและไอ้ดิมก็ไม่แพ้กัน ส่วนไอ้อ้นนี้ มันดื่มแบบไม่รู้สึกอะไรนี่มันเก๊กหน้ามันหรือเปล่า ผมหันมามอง

                “มึงไม่รู้สึกเหรอ” ผมถามไอ้อ้น ผมรีบหันไปหยิบมะนาวมาทันทีมาเป็นตัวช่วย

                  “อ้น กูต้องไปดูมหาวิทยาลัยให้น้องกู กูเอาแก้วเดียวพอน่ะ” ผมพูด และจังหวะนั้นมีคนเดินเข้ามา เขาเป็นพนักงานในผับนี่แหละ

                  “พี่อ้นครับ อาของพี่เขาให้มาบอกว่าเขาต้องกลับก่อนเพราะว่างานแฟนอาเข้าครับ” ผมหันมามองหน้ากันและมองไอ้อ้นและมองถาดเครื่องดื่มที่มันไปเอามา ถ้าดื่มสามคนนี้ ผมว่าผมน๊อกแน่ๆ

                  “ฉิบหายแล้วไอ้อ้น!!” ไอ้ดิมมันยังร้องเลย

                  “เอาน่ะ กูสั่งมาแล้วและที่สำคัญ ฉลองให้พวกกูหน่อยโจ” ไอ้อ้นพูด ผมหันมามองหน้ามันและไอ้ดิม

                  “เอาน่ะ หมดถาดนี้กลับเลย” ไอ้อ้นพูด ผมหยิบมาแก้วหนึ่งและไอ้ดิม ไอ้ดิมมันยังสยองอยู่เลย ผมกำลังจะดื่ม

                  “ไอ้โจเอาแก้วนี่ดีกว่า มันเหมาะกับมึงมาก” ไอ้อ้นมันพูดและมันก็ส่งแก้วสีชมพูมาแลกกับของผมไป

                  “มันสีชมพู!!” ผมหันไปบอกไอ้อ้น

                  “เพราะมันโลกสวยเหรอ ฮาๆ” ไอ้หมอดิมมันแซวผมทันที

                   “ก็ใช่ไงโลกสวย คิดเองเออเองว่าน้องบีมจะมีใจให้มัน โลกสวยไหมล่ะ ทั้งที่น้องบีมเขาคุยกับมันนับคำได้เลย นี้มันยังคิดว่าน้องเขามีใจอีก” ไอ้อ้นแซวผม ผมหันไปมองหน้ามัน มันว่าน้องบีมของผม

                    “อันนี้เรียกว่าความรักทำคนตาบอดดีกว่า” ไอ้ดิมพูด ไอ้นี่อีกคน เข้าขากันได้ดีจริงๆ ผมมองหน้ามันสองคน ผมลุกกลับดีกว่า "หมับ"ไอ้ดิมมันจับแขนผมเอาไว้ "ไมึงไปแซวมัน มันงอน มึงเห็นไหมไอ้อ้น มึงควรกำลังใจมันดิว่ะ"ไอ้ดิมพูด "นั่งลง แค่นี้ทำน้อยใจไปได้" ไอ้ดิมพูด ผมก็ต้องนั่งลงที่เดิม

                    “คนอื่นเขาเห็นกันหมดว่าน้องไม่อยากจะคุยกับมึงและยิ่งพวกกูน้องก็ไม่อยากคุยเลยด้วยซ้ำ มันก็แปลกว่า น้องแกไม่สนโลกและก็ไม่สนมึง!” ไอ้อ้นพูด ผมหันมามองหน้ามัน ไม่มีช่วยยังเสือกซ้ำผมอยู่ได้

                     “เอาน่ะดื่มๆ ล่วงหน้าเพื่อว่าวันที่มึงจะรู้ตัวว่ามึงกินแห้วมาถึง เชียร์!” ไอ้อ้นพูดและยกแก้วขึ้นมา ผมนี้ไม่อยากยกเลยเพราะมันบอกว่าผมอาจจะกินแห้ว ผมมองแก้วไอ้ดิมไปจ่อรออยู่ด้วยกันกับแก้วไอ้อ้นและมันสองคนก็มองมาผม

                     “มาดิ มึงรออะไรเนี๊ยะ! กูสองคนรออยู่ มีมารยาทนิดหนึ่งและให้กูสองคนยกค้างเอาไว้อยู่ได้ มันเมื่อย!” ไอ้อ้นพูด ผมก็ต้องยกแก้วขึ้นไปชนกับแก้วมันสองคนก่อนจะกระดกดื่มรวดเดียว ผมสามคนก็ดื่มกันอีกต่อๆ กันจนหมด เหล้านี้มันแรงกมากทีเดียวเลย จากที่ยืนเริ่มไม่ไหวแล้ว นั่งที่เก้าอี้ทรงสูงแทนยืนเลยผม

                     “กูไปห้องน้ำก่อนน่ะ “ไอ้อ้นมันลุกขึ้นและบอกผมสองคน ไอ้ดิมโบกมือว่าไปเถอะ

                     “ไอ้อ้น หมดนี่กลับเลยน่ะ กูเริ่มไม่ไหวแล้ว” ผมพูด ไอ้อ้นมันพยักหน้าและมันก็เดินออกไป หายไปสักพักก่อนจะเดินกลับเข้ามาและมันก็ชวนพวกผมดื่มจนหมดถาด

                      “ฟั๊ก!!” ผมเองเพราะว่ามันเข้มเต็มรสชาติมาก

                      “กูสาบานได้ กูไม่เอาแล้วน่ะอ้น “ผมพูด ตอนนี้เริ่มมึนๆ ตาลายๆ แล้วผม ผมหยิบมือถือมาจะโทรหาไอ้ปีเตอร์ว่าผมจะกลับแล้ว

                      “หมับ” ไอ้อ้นมันจับมือผมเอาไว้

                      “มึงจะโทรหาไอ้ปีเตอร์เหรอ” ไอ้อ้นมันถามผม

                      “ทำไมอะ มึงเจอมันด้านนอกเหรอ” ผมถามไอ้อ้น

                      “เจอว่ะแต่ว่ากูบอกให้มันพาเด็กไป ฉึกๆ ไม่ต้องเป็นห่วงบอสมัน กูบอกให้มันไปได้เลยและมันก็เชื่อกูว่ะ!” ไอ้อ้นมันบอกผม ผมสะบัดหน้าไปมองหน้าไอ้อ้น มันมีสิทธิ์อะไรมาสั่งคนของผมเนี๊ยะ

                      “อะไรน่ะ!!! มันไปแล้ว!!” ผมถามไอ้อ้น มันพยักหน้าว่าไปแล้ว

                      “กูบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงมึง พาเด็กไปฉึกๆ ได้เลย ส่วนมึงกูพาไปเอง มันก็ยกนิ้วโอเคกลับมา มันอนุมัติให้กูดูแลมึงแล้ว “ไอ้อ้นมันพูด ผมอยากจะบ้าตาย!

                     “มึงไม่ใช่บอสมัน มันควรจะเข้ามาถามกูนี่” ผมพูดกับไอ้อ้น

                     “กูบอกมันไปแล้ว เอาน่ะ มึงไปกับพวกกู กูดูแลมึง มึงไม่ไว้ใจกูกับไอ้ดิมขนาดนั้นเลยเหรอวะ” ไอ้อ้นพูด

                     “แต่ก่อนไป กูขอเพียวๆ สักกรมดิ ไม่ใหญ่ กลมเล็กๆ” ไอ้อ้นมันพูดก่อนจะโชว์ขวดเหล้า ผมนี่ยกมือขึ้นแตะหน้าผากตัวเอง ไอ้ดิมก็เหมือนกัน

                      “กูน่าจะตามไปส่งคนไข้ที่โรงพยาบาลเลย ไม่น่ามาเลยจริงๆ ไอ้เชี้ยอ้น! มึงเล่นจัดหนักขนาดนี้ ถ้ามีเครสมากูลุกไม่ไหว พ่อด่ากูแน่ๆ ” ไอ้ดิมไม่วายบ่นไอ้อ้นเหมือนกันและไอ้อ้นมันก็รินใส่แก้วมาให้ผมสองคนแบบเพียวๆ ผมดื่มกันไปกี่แก้วไม่รู้แต่ที่แน่ๆ โจเริ่มเดินไม่ตรง ทรงตัวไม่อยู่ พูดง่ายๆ โจไม่เหมือนเดิมและผมก็คิดว่าผมควรจะกลับก่อนที่ภาพจะตัดไปเลย

                       “กูจะกลับแล้วอ้น มึงจะอยู่ก็อยู่ กูนั่งแทคซี่กลับ” ผมพูดแต่ว่าไอ้อ้นมันเข้ามาประคองผม

                       “กลับด้วยกัน ใครจะให้มึงนั่งแท็คซี่กลับคนเดียว ดูดิ มึงใส่แบรนด์เนมมาขนาดนี้ มึงไม่รอดแน่นอน โดนหมกอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ “ไอ้อ้นมันพูด ก่อนจะประคองผมออกไป

                       “ไอ้อ้น กูไม่มากับมึงแล้วน่ะ มึงเล่นแบบนี้กูจะไปไหวไหม ไปติดต่อมหาวิทยาลัยให้น้องกู” ผมบ่นมันไปด้วยตลอดทาง แต่ก็ยอมให้มันประคองผมออกไปเพราะว่าผมเองก็เดินไม่ตรงแล้วเหมือนกัน เดินเป๋ยิ่งกว่าปูซะอีก ไอ้อ้นมันพยุงผมลงไปจนถึงชั้นล่างสุด มันพาผมไปใส่ไว้ในรถด้านหน้าเพื่อนั่งข้างคนขับ ส่วนไอ้ดิมมันก็ตามเข้ามาในสภาพที่ไม่ต่างจากผมแต่น่าแปลกไอ้อ้นมันไม่เมาเท่าพวกผมเลย ไอ้นี่มันคอแข็ง ส่วนน่ะตอนนี้คอพับแล้วมั้งแต่ยังพอมีสติอยู่ ไอ้อ้นมันเข้ามาในรถทำหน้าที่คนขับรถ อ้นหันมามองหน้าผมก่อนจะปรับเก้าอี้ให้ผมนอนลง

                           “ไอ้ดิมมันนั่งข้างหลังอ้น มันโอเค” ไอ้อ้นบอกผม ผมพยักหน้า รถไอ้อ้นมันหรูมากและแรงด้วย ซูเปอร์คาร์และไอ้อ้นมันก็ออกรถ ผมมึงๆ แต่ก็พอมีสติอยู่บ้าง

                          “โจ” อ้นเรียกผม

                         “อืมม” ผมขานรับก่อนจะหันมามองหน้ามัน

                        “ไอ้ดิมอ่ะ” ผมถามไอ้อ้น

                        “ไอ้ดิมมันหลับไปแล้ว” ไอ้อ้นมันบอกผม ผมทำท่าจะลุกแต่ว่าไอ้อ้นมันดันอกผมเอาไว้

                         “นอนไปก่อน คอนโดกูอยู่โน่นเลยชานเมืองไม่ได้อยู่ใจกลางกรุงเทพ “ไอ้อ้นพูด

                         “มึงซื้อคอนโดใหม่” ผมถามไอ้อ้น

                         “เออ หรูหราหมาไม่กล้าเห่า” ไอ้อ้นพูด

                          “ทำไมวะ” ผมถามไอ้อ้น

                         “หมาเห่าแต่เครื่องบิน “ไอ้อ้นพูด ผมนี่ขำตายเลย ผมก็เอนตัวลงนอน ผมรู้ว่าไอ้อ้นมันขับรถเร็ว ผมหันไปมองไอ้อ้น มันเร็วจริงๆ ด้วย

                         “อ้น มึงอย่าขับเร็วดิ” ผมบอกไอ้อ้น

                         “กลัวเหรอ” อ้นหันมาถามผมยิ้มๆ

                         “อืมม กูยังอยากช่วยพ่อกูดูแลน้องๆ ก่อนไอ้อ้น” ผมพูด

                          “หมับ” จู่ๆ มันก็กุมมือผม

                         “จับมือไว้ จะได้ไม่กลัว” อ้นมันพูด มันกุมมือผมไว้มือหนึ่งและอีกมือหนึ่งบังคับพวงมาลัย ผมนี่แทบจะตื่นเลย

                          “ไอ้อ้น!! อันนี้กูกลัวมากกว่า มึงขับรถพวงมาลัยมือเดียว “ผมรีบสะบัดมือมันออกทันที

                          “นี้มันรถซูเปอร์คาร์และที่สำคัญ มันทันสมัยสุดๆ กลัวอะไร หึ?” ไอ้อ้นมันพูดและยังพยายามกุมมือผมเอาไว้ ผมจะแกะมือมันออกมันก็ทำอีกจนผมเออ อยากกุมก็กุมไปเลย

                            “หึๆ” ไอ้อ้นมันหัวเราะในลำคอ

                            “โจ กูอยากเจอมึงทุกวันว่ะ ถ้าทำได้” ไอ้อ้นมันพูด

                            “หึๆ” ผมหัวเราะในลำคอ

                            “มึงกับกูสายเดียวกันเหรอจะได้เดินชนกันทุกวัน” ผมถามไอ้อ้น

                             “ถ้าไม่ติดว่าพ่อกูต้องการกู กูก็ไปสายเดียวกับมึงแล้วโจ” อ้นพูด ผมหันไปมองไอ้อ้น มันคิดแบบนั้นจริงๆ เหรอว่ะ ผมนิ่งอึ้งไปหลายนาทีและเงียบไปเลยตลอดทาง ไม่กล้าพูดอะไรอีกเลยนี่มันผ่านมาหลายปีแล้วน่ะ ไม่น่ะ ผมกับมันแยกกันไปหลายปีแต่ก็มาเจอกันบ้างตามโอกาส ผมว่าวันนี้มันาอาจจะเมาน่ะผมว่า ผมเลยแกล้งหลับดีกว่าเพราะว่าผมอยากพักสายตาสักสิบนาที แต่ถามว่าหลับสนิทไหม ไม่สนิท จนผมรู้สึกว่ามีมือมาลูบไล่ที่แก้มของผม ลูบอยู่แบบนั้นและยังลูบไล้ที่ปลายจมูกโด้งๆ ของผม จุดเด่นของบ้านผมเลย จมูกโด่งประหนึ่งเจ้าชายทะเลทราย

                               “โจ อ้นรักโจ รักมานานแล้วอ่ะแต่มึงอ่ะ ไม่ให้โอกาสกูสักที ไปรอโอกาสที่เขาไม่ได้อยากให้มึงทำไมว่ะ” เสียงที่ดังมาจากข้างหูผมเบาๆ จนผมต้องค่อยๆ ลืมตาขึ้น และสิ่งที่ผมเห็นคือใบหน้าไอ้อ้นมันประชิดหน้าผมมาก จนแทบจะจูบผมอยู่แล้ว

                            “ไอ้อ้น” ผมรีบดันมันออกทันที

                             “มึงทำอะไรอ้น” ผมถามไอ้อ้นก่อนจะดันตัวเองยขึ้นมานั่ง

                             “กูก็มองมึงไงว่ามึงจะตื่นไหม กูจอดรอมาสามสิบนาทีได้แล้ว” ไอ้อ้นพูด ผมหันไปมองรอบๆ นี่มันที่จอดรถเหรอ ดูส่วนตัวมาก ผมหันไปมองไอ้หมอดิมมันยังไม่ฟื้นเลย

                             “ปึก!!” ไอ้อ้นมันเอาอะไรปาไปทีไอ้หมอดิมไม่รู้

                            “ไอ้อ้น!!” ไอ้หมอดิมฝื่นขึ้นมามันก็ปากล่องที่ไอ้อ้นปาไปคืนมาและไอ้หมอดิมมันก็ตื่นลืมตาและมองไปรอบๆ รถทันทีเพราะว่ามาถึงแล้ว คอนโดที่ผมไม่คุ้นเคยไม่เคยมาเคยมาแต่มันอยู่ใจกลางเมือง

                           “ไปขึ้นไปนอนที่เพ้นเฮาส์กู “ไอ้อ้นพูด ผมพยักพเยิดก่อนจะก้าวเท้าลงจากรถและไอ้อ้นมันก็เข้ามาประคองผม ส่วนไอ้ดิมมันดูแลตัวเองแต่ว่ามันก็ไม่ได้น้อยไปจากผมหรอก ไอ้อ้นกอดประคองผมขึ้นไป ผมหยิบมือถือขึ้นมาท่าจะกดส่งข้อความหาไอ้ปีเตอร์ แต่ว่าพิมพ์ไม่ถูกสักทีเลยเลือกส่งข้อความเสียงแทน

                         “ไอ้ปีเตอร์ พรุ่งนี้เอาชุดมาให้ด้วยและมึงมาถึง มึงโดนแน่!!” ผมส่งข้อความเสียงไปหาปีเตอร์แทน มันจะได้รับรู้ว่ามันจะโดนหนักที่ทิ้งผมไว้กับไอ้อ้น

                           ไอ้อ้นมันพยุงผมไปจนถึงลิฟต์และเข้าไปในลิฟต์ ผมยืนพิงไอ้อ้นเพราะว่าผมยืนเองคงไม่รอด น่าแปลกไอ้อ้นมันแข็งจริงๆ มันไม่มีอาการเหมาเลยสักนิดแต่มันก็พาผมไปถึงห้องพักหรูของมัน ผมเดินเข้าไปในห้องก่อนจะตรงไปที่ห้องนอนทันที ถามว่าเมามากจนไม่ไหวไหม ไม่ใช่ ผมคิดว่าผมดีขึ้นมาหน่อยแล้วดังนั้นขออาบน้ำก่อนเลยแล้วกัน แต่ก่อนเข้าไปอาบน้ำ ผมเป็นห่วงบีมมากเลยส่งข้อความหาบีมก่อน

                       TBC…

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
EP.2(พี่โจXพี่อ้น) รุกเจอรุก( NC )

              Part’ s อ้น ผมพี่อ้น พี่ชายคนโตบ้านอออ่าง ผมพึ่งจะกลับมาจากฝึกหฤโหด ผ่านช่วงฝึกนรกมา ผมก็เกือบจะตีระฆังขอออกแล้วแต่ว่าไอ้ดิมมันบอกให้หึดสู้อีกหน่อยเพราะว่านี้คือความหวังที่พ่อผมตั้งใจเอาไว้และถ้าผมผ่านตรงนี้ไปได้ ผมจะไปได้ไกลอีก (จริงเหรอ อ้นว่าน่าจะงานเยอะขึ้นมากกว่า ฮาๆ) และอาเป้ก็เลยชวนพวกผมมาดื่มและยังชวนหลานรักมาด้วยอีกโจ ผมบอกอาเป้ว่าอย่าบอกโจว่าผมมา ถ้าบอกว่าผมมามันจะไม่มาเพราะว่ามันกล้วพวกผม พวกผมดื่มกันเก่งไงและสุดท้ายผมก็เล่นมันจนได้ ด้วยช๊อตดริ้ง หลังจากที่อาเป้กับพี่อธิคมพากันกลับเพราะว่ามีงานเข้าเหมือนกัน นี้ผมก็ลากโจมานอนคอนโดหรูไม่ได้อยู่ใจกลางกรุงแต่อยู่ออกไปทางชานเมือง คอนโดนี้ไม่มีใครรู้ มีแค่ผมกับไอ้ดิมเท่านั้นและตอนนี่มีโจอีกคน
             “ไอ้ดิม มึงนอนที่โซฟานะ กูขอละ กูมีห้องเดียว มึงจะมานอนเบียดไม่ได้เพราะว่ากูอยากเบียดไอ้โจกู” ผมบอกไอ้หมอดิม มันกึ่งหลับกึ่งตื่น หมอดิมพยักหน้ากับผม ผมก็เดินเข้าไปในห้องนอน ผมเห็นโจเข้าห้องน้ำไปแล้ว ผมเลยไปเปิดตู้หาผ้าขนหนูมาให้โจ
             “โจ ผ้าขนหนู “ผมเปิดประตูเข้าไป ในห้องน้ำ ผมอาบน้ำกันมาตั้งแต่เด็กและผมกับทหารคนอื่นๆ และไอ้ดิมด้วยก็ทำแบบนี้กันมาตลอด นั้นือผมแก้อาบน้ำ แก้แบบที่เห็นหมด
            “ขอบใจว่ะอ้น” โจบอกผม ผมเดินออกมาจากห้องน้ำ ผมเห็นมือถือโจวางอยู่ ผมรู้รหัสผ่านมือถือโจ ผมเปิดดู สิ่งที่ผมเห็นคือข้อความที่ส่งมาจากน้องบีม มันเจอน้องบีมก่อนจะมา น้องบีมขอบคุณไอ้โจด้วย ใช้คำพูดน่ารักมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งกันด้วย แล้วอ้นจะทนเหรอ เดินไปเปิดประตู ผมเห็นไอ้ดิมมันนอนแล้ว ไอ้ดิมมันเมาหนักกว่าไอ้โจและผมและมันก็พึ่งอาบน้ำก่อนออกมาจากโรงพยาบาลของมัน ผมเลยปล่อยให้มันนอนไปเลย เขาบอกคนเมามากห้ามอาบน้ำดังนั้นผมคิดว่าให้นอนดมกลิ่นเหล้าในตัวมันไปแล้วกัน ผมเดินไปปิดประตูลง กดล๊อกประตูด้วยทันที

                  ผมถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมดและเดินเข้าไปในห้องน้ำ โจยังยืนให้สายน้ำสาดรถจากด้านบนเพราะว่าห้องน้ำผมเป็นแบบฝักบัวลอย ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องน้ำ โจที่ยืนเอามือยันผนังห้องน้ำอยู่เอี้ยวตัวมามองผม
           “ไอ้อ้น มึงควรจะรอกูเสร็จก่อนน่ะมึง” โจพูด
           “รอทำไมอ่ะ ก็เสร็จไปพร้อมกันเลยดิ “ผมพูดพร้อมกับตรงเข้าเข้าไปกอดโจจากด้านหลัง โจไม่ใช่คนเล่นกล้ามแต่มีกล้ามเนื้อเพราะว่าชอบเล่นกีฬาตีสควอช โจมันตีเก่ง ผมกับไอ้ดิมยังสู้ไม่ได้เลยแต่ว่าผมนี้ วิดพื้น โหนบาร์ ดันพื้นมือเดียวแพล้งได้นานมากล่าสุดสิบกว่านาทีเลยทีเดียวแต่มีตอนโดนทำโทษที่โหดที่สุดแพล้งเป็นชั่วโมง อันนั้นทำเอาอ้นเกือบตาย
           “หมับ” ผมกอดโจจากด้านหลังและซุกไซ้ไปตามซอกคอ
           “ไอ้อ้นมึงอะไรน่ะ” ไอ้โจมันถามผม
           “ไม่รู้จริงๆ เหรอว่ากูคิดยังไงโจ” ผมถามโจ โจหันมามองหน้าผม สายตาที่ราดรถใบหน้าและลำตัวนั้น มันเซ็กซี่มากจริงๆ ส่วนผมกล้ามเนื้ออกแน่นๆ ตอนฝึกฟิตตัวเองหนักมาก กินอาหารโปรตีนหนักมากจนกล้ามนี้เน้นๆ เลยทีเดียว
           “กูว่ากูไปดีกว่า” โจพูด ผมก็ใช้มือกันโจเอาไว้ เพราะว่าการที่ผมเข้ามาแบบนี้ ไม่รอดออกไปแน่ๆ โจ ผมใช้กันตัวโจเอาไว้
            “อย่าอ้น” โจร้องห้ามผมแต่ว่าผมไม่รอ ผมตรงเข้าไปและรุกเร้าโจทันที ต่อให้โจจะไม่ยอมแต่ผมก็คิดว่าร่างกายโจไม่ฟังหรอก ผมตรงซุกไซ้ไปตามลำคอแผ่นอกของโจ
            “อย่า…อะ…อ้น …” โจมันร้องว่าอย่าแต่ว่ามันก็เด้งสู้ผมน่ะ ผมไล้จูบลงมาจนถึงหน้าท้องแข็งนั้น โจเกร็งหน้าท้องหน้าดู มันแข็งปังจนรู้สึกได้ ที่ผมไม่หยุดเพราะว่าแอลกอลฮอล์ในร่างกายด้วย ผมว่าโจก็ต้องการ ผมพรมจูบไปเรื่อยจากผ่นอกไปจนถึงหน้าท้องร่องสิบเอ็ดนั้น แม้จะไม่ถึงขั้นซิกแพคเหมือนผมก็ตาม
            “อ้น… พะ……พอ…อ้น…อ้น..ซี้ด…มึงแกล้งกูใช่ไหม…” โจร้องครางและถามผมไปด้วย ผมลุกขึ้นจากที่ย่องอยู่
            “ไม่ได้แกล้ง โจ อ้นเอาจริง” ผมพูดก่อนจะประกบริมฝีปากนั้นทันที ตอนแรกโจมันก็เม้มปากหนีแต่ว่านิ้วผมกำลังหยอกเล่นกับสองจุดนั้นของโจ
            “อ้าห์” มันทำให้โจเพลอเผยอริมฝีปากร้องครางและผมก็สอดลิ้นเข้าไป ผมเชื่อว่าโจไม่กัดผมหรอก ผมเชื่อว่าโจก็มีใจให้ผมแต่ติดอะไรผมไม่แน่ใจ จะใช่น้องบีมเจ้าชายน้ำแข็งไหม ไม่น่าจะใช้ ฝ่ามือที่เริ่มดันผมออกเปลี่ยนเป็นโอบกอดและลูบไล้ที่แผ่นหลังผมแทน
            “อ้นขอน่ะ” ผมกระซิบแต่ว่าไม่มีการตอบอะไรแปลว่ายอมมั้ง ผมหยิบเอาหลอดเจลหล่อลื่นติดมือเข้ามาด้วยและผมก็เอามาทาให้ทาให้รอบเพื่อคนที่ผมรักจะได้ไม่เจ็บมาก ผมยกขาโจขึ้นมาหนึ่งข้างก่อนจะค่อยๆจ่อเข้าช่องทางรักนั้น โจมองหน้าผมหายใจหอบจากการจูบที่เรียกว่ามารธอนจนคนที่หลังจนกระจกหายใจหอบเหนื่อย นึกเสียว่าไปวิ่งรอบสนามกีฬาแห่งชาติมาเถอะ
           “โอ้ววว!!” โจร้องออกมาไม่ดังมาก ผมค่อยๆ ดันเข้าไปช้าๆ ช้าๆ
           “โอ๊ยยย” โจร้องดังขึ้น ผมก็ดันเข้าไปแต่ดันได้ยากมาก
           “ดันยากโจ” ผมพูด
           “ก็กูซิงไอ้สัตว์อ้น” โจพูดพร้อมหรี่ตาลงมามองผมด้วย
           “งั้นเด็กกูไม่ซิงอะดิ ดันง่ายกว่าอีก” ผมพูด
           “กูไม่รู้แต่กูซิงและตอนนี้เจ็บมาไอ้อ้น” ไอ้โจพูด
           “มันไปได้ครึ่งแล้วจะถอนตัวก็ทันแล้ว เคยได้ยินไหม กลับตัวก็ไม่ได้ดังนั้นกูต้องไปให้ถึง” ผมพูดและดันเข้าไปอีกจนเกือบจะได้แล้ว
           “กูเคยได้ยินแต่กลับตัวก็ไม่ได้แต่ไปไม่ถึงไอ้สัตว์อ้น!”
           “โอ้วว อ้น โอ้วว!!” โจร้องอย่างต่อเนื่อง อาวุธผมดันเข้าไปจนสุด ผมก็เริ่มขยับแต่ช้าๆ เนิบๆ และเน้นๆ ผมเงยหน้ามองหน้าโจ โจขยับริมฝีปากแปลว่าอยากให้ผมจูบ ผมก็จูบโจตอบ
          “ยังเจ็บอยู่ไหมอ่ะโจ” ผมถามโจและเด้งเอวผมไปด้วย สีหน้าโจเหยเกมาก มันไม่เชิงว่าบอกว่าเจ็บแต่เหมือนเสียวมากกว่า
         “โอ๊วะ โอ้ว อ้น” โจร้องครางอีกครั้ง
         “อย่าร้องดังเดี๋ยวไอ้ดิมมันตื่นมาโจ” ผมบอกโจ โจมองหน้าผม
        “น่ะโจน่ะ อ้นขอ” ผมกระซิบบอกโจ
        “มาขอกูทำไมไม่ไปขอเด็กมึงอ่ะ โอ้ว อ้น ซี้ด!!!” โจพูดไปร้องครางไปด้วย
        “โจ อ้นรักโจไง “ผมพูดผมชวนคุยเพื่อให้โจลืมความเจ็บระหว่างนั้นก็เด้งเข้าเด้งออก ผมยกเท้าโจขึ้นลอยไว้หนึ่งข้าง
        “ปักๆๆๆๆ” เนื้อกระแทกเนื้อ เสียงดังสนั่นห้องน้ำ โจมันก็มีอารมณ์ผมเห็นสีหน้ามันแล้วผ่านกระจก
         “อ้าห์” อันนี้อ้นเองเรียบร้อยแล้ว พอเสร็จผมก็จูบโจ โจก็จูบผมตอบ น่าจะเคริ้มไปกับผมแล้วแหละ
         “โอ้ว ชิท!! “โจพูดก่อนจะดันผมออก ผมมองโจ
        “มึงทำอะไรของมึงเนี๊ยะอ้น!!!” โจถามผม ตอนนี้ผมก็เสร็จสมไปแล้ว
        “อ้นรักโจ” ผมพูด
        “มึงบ้าไปแล้วอ้น กูบอกมึงแล้วว่ากูกับมึงสายเดียวกัน มึงทำแบบนี้ทำไมวะ ไอ้อ้น แล้วนี่มึงจะให้กูไว้ใจมึงอีกได้ยังไงวะ” โจมันพูด ผมก็เงยหน้ามองหน้าโจ
        “อ้นรับผิดชอบ” ผมพูด
        “พอเถอะ” โจโบกมือให้ผม
        “รีบอาบน้ำเถอะ กูจะได้นอน กูง่วงและกูต้องไปแต่เช้าน่ะอ้น” โจพูด ผมพยักหน้า โจหันไปเปิดให้น้ำไหล่ลงมา โจหันไปหยิบเอาสบู่ ผมชอบใช้สบู่มากกว่า พอมีสบู่มันก็ดีอย่างนี่แหละ มันเป็นตัวช่วยได้
       “มึงใช้สบู่ก้อนอยู่อีกเหรอ” โจหันมาถามผม
       “มีสบู่เหลวน่ะแต่ไม่ชอบ” ผมพูด
       “ไปหยิบให้ไหม” ผมถามโจ
       “ไม่ต้องอ่ะกูรีบ” โจพูดเหมือนมันจะหัวเสียน่ะ ผมพยักหน้าและจู่ๆ
       “ปึก” โจมันทำสบู่หล่น ผมก็มองหน้าโจ ผมคิดในใจแค่นี้มือไม้อ่อนเลยเหรอ ผมก็ยกมือบอกว่าจะเก็บให้ ผมหันไปก้มลงเก็บสบู่ แหมถไลไปไกลเลยน่ะและจังหวะนั้น "หมับ" ผมรู้สึว่ามีคนมาจับสะโพกของผม จับแน่นสะด้วยและคนนั้นก็คือโจ ไม่จับเปล่ามันสวมความเป็นชายจ่อเข้าทางประตูหลังผมทันที
        “โจ!!” ผมเรียกเสียงหลง
        “กูก็สายเสียบอ้น มึงเสียบกูแล้วกูจะไม่เสียบมึงกลับเหรอ อันนี้เสมอกันอ้น” โจพูด
        “ยืนนิ่งๆ ดิ กูดันไม่ถนัดอ้น” โจพูด ผมก็ต้องยอมแล้วแหละมันจอเข้าไปแล้ว โจเร้าโรมโดยการเอามือลูบแผ่นอกผมขนาดนี้ ผมยืดตัวขึ้นและหันไปเกาะกระจกตู้อาบน้ำ เอาหน้าแหนบเลยดีกว่า
        “ท่าเก็บสบู่มึงยั่วกูวะอ้น” โจพูด
        “กูไม่น่าพลาดเพราะท่าเก็บสบูเลยให้ตายซิ!” ผมพูด
        “โอ้ยยย!!” ผมร้องออกมาดังพอสมควร เจ็บคับแน่น ของโจมันไม่ได้ใหญ่มากแต่ว่ามันยาวกว่าผม
        “อย่าร้องดังดิอ้น เดี๋ยวไอ้ดิมมันก็เข้ามาเห็นมึงสภาพนี่หรอกและมีหวังมันล้อมึงแน่” โจพูด ผมก็ต้องอดกลั้นเลยไม่กล้าร้อง กลัวเสียหน้าไอ้ดิมมัน (แต่ว่าไอ้นี่มันไปอดนอนมาหรือว่ามันดื่มไปหนักกว่าพวกผม มันถึงได้หลับสนิทจนไม่ได้ยินสงครามในห้องน้ำแบบนี้)
       “ปักๆๆๆๆ” เสียงซอยบั้นท้ายผมถี่ๆ ผมน่ะใช้มือยันกระจกก็จริงแต่ว่าใบหน้าผมก็ติดกระจกน ผมมองเห็นมือถือที่ตั้งอยู่ เห็นชัดเจนเลยมั้งน่ะหน้าผมและโจก็เอามือยันไว้เช่นกันแต่ว่าอยู่ระหว่างตัวผม
       “ทำไมมันคับแน่นวะอ้น” โจพูด
       “กูยังซิงไงไม่น่าถาม” ผมพูด
       “งั้นกูกับมึงก็เสมอกัน” ไอ้โจพูด ก่อนจะเด้งรัวๆ ใส่บั้นท้ายและแล้วก็เรียบร้อยโจมันพ่นน้ำรักมาเต็มที่ ก่อนจะถอนงวงช้างออก คนอะไรไม่เน้นใหญ่แต่เน้นยาว ผมก้มลงมอง มีเลือดไหล่ลงมากับสายน้ำ ถามว่าผมสู้ได้น่ะแต่ว่าผมไม่อยากสู้ ผมหันมามองโจ
       “มึงยอมกู” โจถามผม
       “ใช่ไง คนแรกและคนเดียว” ผมพูด
       “อาบน้ำเถอะ” โจบอกผม ผมก็รีบอาบน้ำเพราะว่าตอนนี้มันจะตีสามแล้ว โจเดินออกไปคนแรกหลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมน่ะเตรียมเสื้อผ้าเอาไว้ให้แล้ว ชุดนอนของผมเอง โจหยิบมาสวมใส่ ผมหันไปมองโจ
        “อ้น… อย่าทำกับกูแบบนี้อีก” โจหันมาบอกผม
        “โจกูรักมึง” ผมพูด ผมมองหน้าโจ ผมว่ามันดูสายตาผมออกว่าผมพูดจริงๆ ไม่เหมือนคนอื่นและผมไม่เคยบอกรักใคร ถามว่าต้าร์บอกไหม บอกแต่ทุกทีคือโดนบังคับ
       “อ้น กูกำลังจีบบีมอยู่.” โจหันมาบอกผม
        “ก็เขาไม่ได้เอามึงอ่ะโจ” ผมพูด
       “เมื่อวานกูไปช่วยเขาเพราะว่าเขากำลังโดนทำร้าย เขาดูเหมือนจะใจอ่อนให้กูแล้ว” โจพูด ผมมองโจ ไม่น่าจะจริงๆ มั้ง
       “แต่มึงอย่าทำกับกูอีก ขอเป็นครั้งเดียว” โจหันมาชี้นหน้าผม แต่ว่าผมมีเหรอจะทำครั้งเดียวเพราะว่าผมบันทึกเอาไว้ในมือถือผมด้วยแต่ผมคงต้องไปลบที่ผมโดนโจมันกดออกก่อน ใบหน้าผมติดกระจกขนาดนั้น ผมว่าชัดเจนเต็มหน้าจอแน่นอน ผมกับโจแยกย้ายกันขึ้นเตียงนอน ผมอยากดึงมันมากอดน่ะแต่โจมันหลับแล้ว เลยต้องปล่อยให้โจมันนอนไปเลย ไม่กล้ากวน ผมไม่เคยกลัวใคร กลัวอยู่คนเดียวคือโจ

           Part’ s โจ เมื่อคืนผมไม่คิดเลยว่าจะมาโดนไอ้อ้นมันกดผม ผมรู้ว่ามันคิดยังไงกับผม ผมอุตส่าห์หายไปหลายปีและอ้นมันก็เข้าไปเรียนนายร้อยหลายปีเลยกว่าจะมาเจอกัน พอมาเจอกันมันก็ไม่ได้มีท่าทีอะไรกับผม เหมือนกับว่ามันน่าจะรับได้แล้วแต่นี้อะไรมันดันมากดผมซะนี้ ผมเองก็รุก ผมก็มีดีเหมือนกัน ถึงน้องบีมจะยังไม่ให้โจแต่โจก็มีคนให้โจกดแต่เขาทำเพื่อเงินและผมต้องตรวจสอบประวัติอย่างดี มีประจำแค่ไม่กี่คน ผมจะไม่ยอมทิ้งตำแหน่งรุก
          “หมับ” ผมหันมามองคนที่พลิกตัวมากอดผม ไอ้อ้น ผมว่ามันแกล้งมากกว่า มันน่ะตื่นแล้ว
         “อ้น!!” ผมเรียกไอ้อ้น
         “อืมมม” ยังอีก ยังไม่ยอมตื่นทำทีเหมือนอย่ามากวนมันอีก
         “อ้น!!” ผมเรียกมันอีก มันก็ทำทีไม่ยอมตื่น ได้ผมก็คงต้องใช้ตัวช่วยในการปลุกมัน
         “ผลัก” ผมถีบมันลงไปเลยจากเตียง
          “ตุบ!!” เสียงดังเลย
          “โอ๊ยยโจ!!! หักเลยของกู” ไอ้อ้นมันร้องแต่ว่าอะไรมันหักละ เฮ้ย!! อย่าบอกน่ะว่า แขนขามันหักน่ะ ผมถีบมันเบาๆ และห้องมันก็มีพรม ผมรับลุกไปและเดินอ้อมไปหามันทันที
          “อ้น อะไรของมึงหัก” ผมถามไอ้อ้น
          “น้องกูน่ะ มันกำลังโด่ได้ที่ มึงถีบกูตกมาปักพื้นแบบนี้ มันก็หักดิวะ” ไอ้อ้นมันพูด ผมอยากจะกระทืบมันซ้ำจริงๆ
          “กูจะอาบน้ำแล้วเพราะว่าไอ้ปีเตอร์จะมาถึงแล้ว” ผมพูด ผมหันไปมองมือถือ ไอ้ปีเปอร์มันไปเอาชุดสูทของผมที่ห้องเสื้อประจำมาให้ผม ผมเดินเข้าไปในห้องน้ำอาบน้ำแต่ว่ารอบนี้ผมล๊อกประตูกลัวไอ้อ้นมันซ่ากับผมอีกรอบ ผมยืนอาบน้ำใต้ฝักบัว จะว่าไปเมื่อคืนมันก็มีความสุขแปลกๆ น่ะผมน่ะ ผมยืนให้สายน้ำรดกายตัวเองแต่จู่ๆ ก็มีคนเปิดประตูเข้ามา ผมหันไปมองว่ามันเปิดเข้ามได้ยังไงอีกไอ้อ้น ผมกดล๊อกประตู ไอ้อ้นมันชูกุญแจให้ผมดูและอ้นมันก็ปิดประตู มันเข้ามาหาผม เข้ามากอดผมอีกแล้ว
          “อะไรอีกไอ้อ้น กูไม่เอาแล้วกูรีบไป” ผมพูด
          “อยากอาบน้ำด้วย” อ้นพูด
          “เมื่อก่อนก็อาบน้ำด้วยกัน จำไม่ได้เหรอ” ผมถามโจ โจหันมามองหน้าผม
          “ก็ตอนนั้นมันเด็กไม่ได้คิดอะไร” ผมพูดกับอ้น
          “กูคิดน่ะตอนนั้น “อ้นพูด ผมหันมามองหน้ามัน มันพึงจะสิบเอ็ดสิบสองปีเองน่ะ มันคิดแล้วเหรอ อ้นพยักหน้าว่าใช่ มันคิดจริงๆ
          “อยากทำตั้งแต่ตอนนั้นแล้วแต่กลัวโจโกรธ” อ้นพูด
          “แล้วตอนนี้ล่ะ ไม่คิดว่าจะไม่โกรธเหรอ” ผมถามอ้น อ้นมันหยิบเอาสบู่เหลวติดมือมาด้วย อ้นเทสบู่ใส่มือและลูบไล้ไปตามลำตัวของผม สายน้ำทีไหลรินลงมา ผมมองหน้าไอ้อ้น ทำไมมันทำให้ผมใจอ่อนกับมันจนได้
          “หมับ” อ้นเอาแขนยันกระหนาบลำตัวผมเอาไว้
          “อ้นรู้ว่าโจไม่โกรธอ้นหรอก อ้นรู้มากกว่านั้นว่าโจก็รักอ้น แต่เพราะอะไรอ่ะ ที่โจเลือกปิดกันอ้นเอาไว้ “อ้นถามผม ผมก็มองหน้าอ้น
          “มีอะไร ทำไมโจเปลี่ยนไป เพราะว่าใครหรือเปล่าโจ” อ้นถามผม ผมมองหน้าอ้น ผมกลืนน้ำลายลงคอผมไป สายตาผมมองที่อ้น อ้นประกบจูบผม ผมก็เผลอจูบอ้นมันตอบ
          “ปักๆ” เสียงเคาะประตู ผมดันอ้นออกทันที ไม่น่าจะเรียกว่าดันเรียกว่าผลักดีกว่า
          “อ้น ไอ้ดิมมันเคาะประตู มันจะเข้าห้องน้ำหรือเปล่ามึง” ผมถามไอ้อ้น
         “ข้างนอกก็มีห้องน้ำ มันจะมาเข้ามทำไม ถ้ามันมาเข้ามันคงเข้าตั้งแต่ตอนที่กำลังเข้ากันแล้ว” อ้นพูดก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้น
         “ผมพยักหน้าว่าไปดูดิ” ไอ้อ้นก็ส่ายหน้าอย่างเสียอารมณ์และอ้นก็เดินออกไปจากห้องน้ำ ผมยืนให้สายน้ำราดรดตัวผมเพื่อล้างสบู่เหลวออกไปจนกหมดและผมก็รับออกมา ผมเห็นเสื้อผ้าผมวางเอาไว้อยู่แล้ว
         “ไอ้ปีเตอร์มาถึงแล้ว” อ้นบอกผม ผมพยักหน้าและรีบเอาเสื้อผ้าเข้าไปแต่งตัวทันที ไอ้อ้นมันเดินเข้ามาและหยิบเอาพวกครีมและน้ำหอมมาให้ผมใช้ ผมหันไปมองอ้น
          “อ้นจะรอน่ะ “อ้นพูด ผมหันไปมองมันอีกจะรออะไรอีก
          “รออะไรอีกอ้น” ผมถามอ้น
          “รอเอามึงอีกอ่ะ “ไอ้อ้นพูด ผมหันมามองและหยิบเอาหลอดยาสีฟันปาใส่มันทันที มันพูดมาได้ว่ารอเอาผมอีก ผมรีบแต่งทรงผม อ้นมันก็แต่งตัวเหมือนกัน
         “กลับแล้วเหรออ้น” ผมถามอ้น
         “พ่อส่งข้อความมาบอกว่าจะไปหาลุงหนึ่งด่วนเพราะว่างานเข้า แต่งานอะไรไม่รู้อ่ะ” อ้นพูด ผมพยักหน้า ก่อนจะรีบเดินออกมาข้างนอก ผมเห็นมือถือผม มีสายไม่ได้รับ พ่อผมเอง พ่อคงโทรมาถามว่าผมเตรียมไปติดต่อมหาวิทยาลัยให้แจ็คหรือยังแน่ๆ
         (ครับพ่อ ผมกำลังรีบไปที่สนามบินพ่อ ผมมาพักที่กรุงเทพพ่อ) ผมบอกพ่อผมทันที
         (โจไม่ต้องไปดูมหาวิทยาลัยให้แจ็คแล้ว ดูท่าจะไม่ได้ไปแล้วมหาวิทยาลัยน่ะ ได้กลับไปเป็นนักเรียนมัธยมใหม่อีกครั้ง” พ่อผมพูด
         (พ่อพูดเล่นใช่ไหมอ่ะ) ผมถามพ่อผม
         (ไม่ได้พูดเล่นหรอกโจ นี้พ่อจะไปหาลุงหนึ่ง เขาเรียกพ่อๆ เข้าไปคุยกันทั้งหมดเลย) พ่อผมพูด นี้พ่อผมก็โดนด้วยเหรอ
        (ทำไมอ่ะพ่อ) ผมถามพ่อผม
         (เมื่อวันก่อนพากันไปมีเรื่องกับลูกชายคนเล็กของลุงคามิน นี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่มันก็ส่งผลกระทบมากกว่าทุกครั้งโจ ดังนั้น พ่อคงต้องส่งเขาไปทำโทษตามที่พี่หนี่งเคยเสนอเอาไว้โจ) พ่อผมพูด ผมหันมามองอ้นเดินออกมาแล้ว อ้นเช็ดตัวก่อนจะแต่งตัว อันหยุดมองผมสีหน้ามันกังวล
          “มีอะไร “อ้นพูดให้ผมอ่านปาก ผมสั่นหัวไปมา
          (กลับมาบ้านที่ลอนดอนเลยนะอ้น แจ็คอยู่ที่บ้าน กลับไปดูน้องให้พ่อหน่อยโจ) พ่อบอกผม
          (ได้ครับพ่อ ผมจะกลับบินกลับเดี๋ยวนี้) ผมอบกพ่อก่อนจะกดวางสายไป ผมหันมามองอ้อ้น
          “พ่อกูบอกว่า ไอ้แจ็คไม่ได้ไปเรียนมหาวิทยาลัยแล้วว่ะ กูไม่ต้องไปดูไบแล้ว” ผมบอกอ้น
          “ทำไมอ่ะ” อ้นมันถามผมกลับทันที
         “ไอ้แจ็คมันเรื่องและดันไปมีเรื่องกับลูกชายคนเล็กของคามิน “ผมบอกไอ้อ้น
          “อย่าบอกน่ะว่าโดนยกแก๊งเลยน่ะ” ไอ้อ้นมันพูด
          “กูต้องรีบกลับ แจ็คมันอยู่บ้าน “ผมบอกไอ้อ้น ก่อนจะเดินออก ผมหันไปหยิบมือถือผม ผมเห็นมือถือไอ้อ้นมันวางเอาไว้ เหมือนกับว่ามันเปิดวีดิโอ้อะไรค้างเอาไว้อยู่ ผมหยิบขึ้นมาดู มันเป็นวิดีโอที่มันมีอะไรกับผม ผมตกใจมากที่ไอ้อ้นมันบันทึกเอาไว้ด้วย
           “หมับ” ไอ้อ้นมันแย่งเอามือถือมันคืนไปทันที
           “ไอ้อ้น มึงบันทึกวิดีโอทำไมวะ” ผมถามไอ้อ้น
          “เอาไว้ดู” ไอ้อ้นมันพูด
           “ไม่เอาอ้น” ผมพูด
           “เอาไว้ดูเฉยๆ ไม่ไปทำอะไรแบบนั้นหรอก” อ้นพูด
          “ไม่เอาอ้น ลบ” ผมพูด อ้นมันก็ไม่ให้มือถือมัน
           “อ้น” ผมพูด
           “กูโกรธนะโว้ย” ผมพูด
           “ถึงลบกูก็มีอีก มีไฟล์สำรอง” อ้นพูด
           “เอาไว้ว่างๆ มาเจอกันอีกน่ะ “อ้นพูด
           “เมื่อคืนอ่ะ สุดยอด อ้นชอบ” อ้นเดินมากระซิบข้างหูผม จังหวะนั้นไอ้ดิมมันเดินเข้ามาพอดี ไอ้ดิมมันมองผมกับไอ้อ้น
           “มีอะไรกันหรือเปล่าว่ะ “ไอ้ดิมมันถามผม
          “ไม่มีอ่ะ กูจะกลับแล้ว” ผมบอกไอ้ดิม
           “กูก็รอไปเถอะ รอไปอาบน้ำ “ไอ้ดิมมันพูดก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป มันน่าจะมีห้องอาบน้ำห้องเดียวในห้องนอนมันนี้มั้ง
            “ข้างนอกมันห้องน้ำอย่างเดียวแต่ห้องอาบน้ำมีห้องเดียว ไม่เน้นรับแขกเยอะ” ไอ้อ้นมันพูดแค่นั้น ผมพยักหน้าและทำท่าจะเดินออกเพราะว่าไอ้ปีเตอร์มันรอผมอยู่
           "ตั้งใจไว้รับมึงคนเดียวเลยโจ" แต่อันนี้ทำให้ผมหันมามองหน้าไอ้อ้น
           "เมื่อคืนมึงก็รับกูไปน่ะ กูจำได้ ติดใจหรือไง" ผมพูด ไอ้อ้นมันมองหน้าผม มันเอามือไปแตะที่ก้นมัน
           "กูกลับแล้ว อยากรับกูอีก ก็บอกน่ะ" ผมพูด
          “หมับ” แต่ไอ้อ้นมันจับแขนผมและดึงผมกลับไปกอดเฉยเลย ไอ้อ้นมันเข้ามาสวมกอดผมจากด้านหลัง ผมรีบหันไปมองว่าไอ้ดิมมันจะเดินหันหลังกลับมาไหม ผมรีบแกะมือไอ้อ้น ก่อนจะหันมาชี้หน้ามัน อยากจะด่ามันจริงๆ
           “กูไปแล้ว “ผมพูดและหยิบทุกอย่าง ผมเดินออกมาก็เจอไอ้ปีเตอร์มันนั่งรออยู่ พอปีเตอร์มันเห็นผมก็รีบลุกขึ้นยืนทำหน้าที่การ์ดทันที มันสวมแว่นตามาด้วย ผมว่าเมื่อคืนมันคงจัดหนักจนฟ้าเหลืองเลยซิท่า ไอ้เวรปีเตอร์ ผมยืนมองหน้ามัน
            “รถพร้อมแล้วครับบอส!!” ไอ้ปีเตอร์พูด
            “มึงอ่ะ พร้อมไหม  มึงเล่นทิ้งกูไปกับ…” ผมกำลังจะบ่นมันพอดี
           “อะไรวะไอ้โจ มึงจะบ่นมันทำไม มันเวลาเลิกงานแล้ว ก็ให้มันไปหาความสุขบ้างดิ “ไอ้อ้นมันเดินออกมา
           “ว่าแต่กี่ยกวะเมื่อคืน เห็นพาไปตั้งสองคน กูว่าน้ำมึงหมดถังแล้วมั้ง” ไอ้อ้นมันแซวไอ้ปีเตอร์ ผมหันมาเหล่ตามองไอ้ปีเปอร์มันยิ้มและแอบชูประมาณว่าสี่ยกได้มั้งมันน่ะ ผมก็มองบนใส่ไอ้บอดี้การ์ดผมทันที
           “ไปได้แล้วไอ้ปีเตอร์ “ผมพูดและหันมามองไอ้อ้น ไอ้อ้นมันยิ้มแปลก พอไอ้ปีเตอร์มันหันหลังได้ไอ้อ้นมันก็ทำปากส่งจูบให้ผม ผมหันไปส่งนิ้วกลางให้มันแต่ไอ้อ้นมันยังทำ ไอ้ปีเตอร์จะหันมาคุยกับผมพอดี
            “ไอ้ปีเตอร์มึงโทรบอกเขาเลยว่าให้เปลี่ยนเป็นบินไปลอนดอนแทนตอนนี้เลย ให้ทำเรื่องเปลี่ยนแผนการบินด่วน” ผมบอกไอ้ปีเตอร์ ไอ้ปีเตอร์มันเลยหยิบมือถือมันขึ้นมาก่อนจะหันมาเห็นไอ้อ้น ผมทำนิ้วเฉือนคอ จังหวะนั้นไอ้ดิมเดินออกมาพอดีมันแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว
            “ไปแล้วดิม” ผมโบกมือให้ไอ้ดิมและรีบลากไอ้ปีเตอร์ออกไปซะก่อน ผมอยากจะบ้าตาย นี้ผมเผลอไปมีอะไรกับไอ้อ้นได้ยังไงและนี้มันยังบันทึกวิดีโอเอาไว้อีก ถึงผมจะรู้ว่าไอ้อ้นมันไม่เอามาทำร้ายผมหรอก แต่ว่ามันก็ไม่ควรที่จะเก็บเอาไว้ ผมรีบลงมาที่ชั้นล่าง เดินผ่านสาวๆ ไม่ได้เลยไอ้ปีเตอร์มันหันไปส่งยิ้มให้สาวๆ ทั้งที่มันทำหน้าที่บอร์ดี้การ์ดให้ผมอยู่แท้ๆ
           TBC…


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด