Solo Travel: เปิดซิงทั้งที...ต้องมาไกลถึงที่นี่เลยเหรอวะ [เรื่องสั้น 3 ตอน] จบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Solo Travel: เปิดซิงทั้งที...ต้องมาไกลถึงที่นี่เลยเหรอวะ [เรื่องสั้น 3 ตอน] จบ  (อ่าน 1220 ครั้ง)

ออฟไลน์ DareamSunshine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
เรื่องสั้น

Solo Travel: เปิดซิงทั้งที...ต้องมาไกลถึงที่นี่เลยเหรอวะ



เคยออกเดินทางคนเดียวรึเปล่า

แล้วเหงาบ้างมั้ย

ถ้าเหงาแล้วทำไงกันอ่ะ



-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อ่านจบแล้ว ฝากติดตามนิยายเรื่อง KISS ME MY SOL (ธวล,รอร) #kissmemysol ต่อด้วยนะคะ นิยายวัยมหาลัยอ่านสบายๆ

เรื่องราวของ โซล...คนหยิ่งแต่ที่จริงแค่เป็นอินโทรเวิร์ท ถูกเพื่อนที่รักลากไปเป็นส่วนหนึ่งในการประกวดดนตรีกับรุ่นพี่...ที่ดันแอบปลื้ม



Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-12-2022 21:00:37 โดย DareamSunshine »

ออฟไลน์ DareamSunshine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
1

คนเหงา



เชี่ย...เหงาชิบหาย

ใครจะไปคิดว่าเที่ยวคนเดียวแม่งจะเหงาได้ขนาดนี้

ก็คนที่นี่เล่นไม่พูดภาษาอังกฤษกับกูเลยนี่หว่า...

น้ำลายกูจะบูดแล้วโว้ยยยยย

ไอ้ออนเซนนี่ก็ดีอยู่หรอก ไพรเวทรูมด้วย ถ้ากูร้องเพลงแก้เหงาห้องข้างๆ เขาจะด่าป่ะวะ

ว่าแล้วก็ปัดความคิดฟุ้งซ่านนั้นออกไปแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นมาโพสต์รูปสถานที่เที่ยวที่ไปมาทั้งวัน ทั้งๆ ที่ตัวยังแช่น้ำร้อนจี๋อยู่

‘สรุปงาน #Kyushuday4 #Yufuincity ฝนตกขนาดนี้ไม่เหงาได้ไงคร้าบ’

เลือกรูป พิมพ์แคปชั่นจบก็กดโพสต์ลงไอจี ไอ้เรื่องอวดรูปน่ะเรื่องรอง ประเด็นสำคัญคือให้แม่รู้ว่ายังไม่ตาย

“สามวันก็ต้องกลับแล้วเหรอวะ” เปรยกับตัวเองเบาๆ มาเที่ยวนี่เหมือนมาฝึกสกิลพูดกับตัวเองไปด้วยแหละ “แสดงว่าสี่วันแล้วนะที่ไม่ได้พูดกับใครเป็นประโยคยาวๆ”

คิดพลางลุกขึ้นจากบ่อน้ำร้อน มากกว่านี้อาจจะเป็นลม...

“ซูมิมะเซ็น นิฮงโกะ ฮานะเซมะเซ็น” อยู่ๆ ก็พูดภาษาต่างถิ่นขึ้นมาแบบงงๆ ไม่มีบริบทด้วยซ้ำ แต่ดันนึกขึ้นได้ว่านี่เป็นประโยคที่ยาวที่สุดที่ออกมาจากปากในวันนี้

พูดถูกรึเปล่ายังไม่รู้เลย

“แล้วหน้ากูมันเหมือนคนที่นี่มากเหรอวะ...” ยังไม่หยุดพึมพำกับตัวเอง

ไม่ได้ล่ะ นี่มันเรียกว่าซึมเศร้าอย่างหนึ่งเลยนะ ถ้ายังไม่เพื่อนคุยเที่ยวไม่สนุกแน่ๆ



อาบน้ำจัดการตัวเองเรียบร้อยก็ใส่ยูกาตะของเรียวกังเดินกลับห้อง ในหัวก็คิดไว้แล้วว่าต้องลองใช้บริการแอพชมพูหาคนคุยบ้างแล้วก่อนจะเฉาตาย



‘Solo Travel in Kyushu, next station Beppu city, Pls tell me where to go :)



อัพเดทสเตตัสเรียบร้อย ปัดขวารัวๆ



It’ s a match!!



- Hey~ Welcome to Kyushu - ทันทีที่แมทช์หนุ่มญี่ปุ่นคนนั้นก็ส่งข้อความมาทักทายทันที

เมื่อกี้แม่งปัดขวาไปเยอะมาก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไอ้หนุ่มนี่เขียนโปรไฟล์ว่าไงบ้าง



‘Ritsumeixxx University’



แค่นั้น จบ... นอกนั้นเป็นภาษาญี่ปุ่นหมดเลยครับผมมมม

แต่ชื่อมหาลัยที่บอกมาเอาไปเสิร์ชแล้วเป็นมหาลัยอินเตอร์ในเบปปุแฮะ

เอาน่า อย่างน้อยพี่แกก็น่าจะพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง

แถม...หน้าตาดีไปอีก ของจริงมั้ยวะเนี่ย



***ต่อไปจะบรรยายเป็นภาษาไทยแม้ว่าจริงๆ แล้วจะใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลาง***



- ขอบคุณครับ! คุณอยู่ที่เบปปุเหรอ? -

- ครับ ทำงานอยู่ที่นี่น่ะ - ตอบแชทไว

- คุณแนะนำที่เที่ยวให้ผมหน่อยได้มั้ย พรุ่งนี้ผมจะไปที่นั่นน่ะ – ถามไปก่อน ถึงแม้ว่าจะวางแพลนเที่ยวไว้เต็มวันแล้วก็เถอะ

- มาที่นี่ต้องบ่อน้ำพุร้อน นอกนั้นก็ไม่มีอะไรมากแฮะ –

- อ้อ ผมก็มีแพลนไปบ่อน้ำพุร้อนเหมือนกัน – ไม่มีอะไรใหม่ๆ เลยโว้ยยย ไม่ถูกใจ

- แล้วคุณมีแพลนสำหรับดินเนอร์หรือยัง? ถ้าสนใจผมพาคุณไปร้านดีๆ ได้นะ-



เดี๋ยวๆ ไม่ได้แนะนำ แต่จะพาไปเลยเหรอวะ

.

.

.

ไม่รู้อะไรดลใจ อาจเป็นเพราะความเหงาล่ะมั้ง ไม่คิดหน้าคิดหลังด้วยซ้ำ...



- Sure!! Please!! –







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-12-2022 20:09:32 โดย DareamSunshine »

ออฟไลน์ DareamSunshine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0


2

คนใจดี



แม่ง...ญี่ปุ่นก็ญี่ปุ่นเถอะ

จะปิดทำการก็ไม่แจ้งในเว็บไซต์บ้างเลย แพลนล่มไปเกือบครึ่ง

สุดท้ายต้องมานั่งแกร่วอยู่ริมชายหาดคนเดียว

เหงาคูณสิบไปอีก

“ลางไม่ดีเลยว่ะ ตอนเย็นโดนเทแน่นอน” พึมพำกับตัวเอง...อีกแล้ว

ในมือยังคงถือกล้องเก็บบรรยากาศตรงหน้า

ทะเลไม่ได้สวยมาก แต่มันก็ดีที่ได้มาเห็นทะเลที่อื่นบ้าง



- คุณคอนเฟิร์มนัดวันนี้รึเปล่า - เพราะไม่อยากรอเก้อ ต้องทักไปถามก่อน โดนเทจะได้วางแผนไปที่อื่น

- ครับ ผมจะเลิกงานประมาณหกโมง เราเจอกันหกครึ่งได้มั้ย – เยสสส!! ไม่เทเว้ย ในที่สุดวันนี้ก็จะมีเพื่อนกินข้าวด้วยสักที

- ครับ –

- คุณรอที่สถานีรถไฟนะ เดี๋ยวผมไปรับ –

- ดีล!! –



6.30 pm.

เชี่ย... ตื่นเต้น

สกิลภาษาอังกฤษกูไหวพอจะคุยกับเขาป่ะวะ

แม่งจะหล่อจริงแบบในรูปป่ะวะ

แล้วนี่กูหน้าตรงปกป่ะวะ... เดี๋ยวแม่งไม่รู้ว่าเป็นกูอีก



- ผมใส่เสื้อยืดสีน้ำเงิน ยืนรอหน้าแฟมมิลี่มาร์ทนะ – กันไว้ก่อนละกัน

- รถสีขาว –



แล้วสายตาก็จ้องรถสีขาวทุกคันที่ขับผ่าน ใจก็เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ

แค่กินข้าว เจอเพื่อนใหม่ ไอ้สัส อย่าตื่นเต้น

เปิดประสบการณ์ใหม่เหมือนมึงมาเที่ยวคนเดียวครั้งแรกแหละ



และแล้ว... รถสีขาวคันหนึ่งก็ขับมาจอดฝั่งตรงข้าม กระจกรถเลื่อนลง...

ปรากฏผู้ชายที่แทบจะถอดออกมาจากภาพถ่ายในแอพ

แถมแม่งยัง...ดูดีกว่ามาก



นี่มันสไตล์หนุ่มญี่ปุ่นแท้ๆ ที่กูชอบเลยนี่หว่า



“ฮาย~~~” เสียงทักทายดังขึ้นทันทีที่ขึ้นรถคนแปลกหน้า

แล้วก็โดน...ดึงไปกอด

สไตล์ฝรั่งแท้เลยมึง เอเชียนเค้าไม่ทักทายกันแบบนี้

“สวัสดี ยินดีที่ได้เจอครับ” ตอบกลับไปด้วยใจสั่นๆ

“เป็นไงบ้างครับ หิวมั้ย” สำเนียงดีด้วย อเมริกันโคตร

“ไม่เท่าไรครับ ที่ทำงานอยู่แถวนี้เหรอ”

“ช่าย ขับรถแค่สิบนาที แต่เมืองนี้ก็แคบมากนะ เมืองเล็กๆ ยังสงสัยอยู่เลยว่าทำไมคุณเลือกมาที่นี่”

“ผมไปทั่วคิวชูเหนือล่ะ หนึ่งวันหนึ่งเมือง”

“อ้อ แล้วเที่ยวมากี่วันแล้วล่ะ”

“วันนี้ก็วันที่ห้าแล้วครับ” ดีจังโว้ย บทสนทนาลื่นไหล...ไม่ติดขัด

“อยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ยครับ”

“เอาที่คุณอยากแนะนำเลย”

“งั้นขอเป็นอิตาเลียนละกัน พิซซ่า พาสต้า ได้มั้ย”



ไอ้สัส มาญี่ปุ่นให้กูกินพิซซ่า ได้ก็ได้ครับ...ขัดได้ด้วยเหรอ



แต่ความหงุดหงิดใจก็หายวับไปเมื่อรถสีขาวขับขึ้นมาถึงร้านอาหารอิตาเลียนสุดหรูบนยอดเขาที่หนึ่ง

เสียดาย...ไม่ได้เห็นวิวข้างทางเพราะมืดมาก

แล้วก็คุยเพลินมาก



“ร้านสวยมาก”

“ดีใจที่ชอบครับ อาหารก็อร่อยนะ ลองดูเมนูก่อนสิ” ญี่ปุ่นล้วนๆ เลยพ่อเอ้ยยย ต้องเปิดกูเกิลทรานสเลทมั้ย

“คุณสั่งเลยครับ ผมอ่านไม่ออก ฮ่าๆ”

“เขาน่าจะมีเมนูภาษาอังกฤษนะ คุณอยากได้มั้ย”

“ไม่เป็นไรครับ คุณสั่งเลยละกัน ผมทานได้หมด” จริงๆ กูหิว กูไม่ได้กินอะไรดีๆ มาหลายวันแล้วด้วย

คนตรงหน้าพยักหน้าตอบรับแล้วหันไปสั่งอาหารเป็นภาษาบ้านเกิด



เชี่ย...สำเนียงภาษาอังกฤษว่าดีแล้ว พอเจอเวลาพูดภาษาญี่ปุ่นเข้าไป...กูตายเลย

เออ นี่เป็นติ่งญี่ปุ่นของจริง ดูหนังญี่ปุ่นตั้งแต่เด็ก ไม่งั้นจะมาเที่ยวที่นี่คนเดียวเหรอ



ไม่นานนัก อาหารจานใหญ่ก็มาวางอยู่ตรงหน้า ตกแต่งสวยงาม พลางคิดวนในหัวว่า...กูจะมีตังจ่ายมั้ยวะ

เขาอุตส่าห์พามา ก็ต้องเลี้ยงมั้ยอ่ะ หรือยังไง? ไม่เคยทำไรแบบนี้อ่ะ



“เป็นไงบ้าง ทริปวันนี้”

“ล่มครับ ตอนแรกแพลนว่าจะไปออนเซนXXX แต่ดันปิดปรับปรุง ก็เลยได้ไปเดินเล่นแถวโฮสเทลแทน”

“ฮะๆ ที่นี่ไม่ค่อยมีอะไรให้เที่ยวเลยใช่มั้ยล่ะ”

“แค่ได้มาเห็นบ้านเมืองก็ดีแล้วนะ”

“งั้นหลังจากทานข้าวเสร็จให้ผมพาไปดูวิวเมืองนี้เอามั้ย”

“ได้เหรอ!! ทำไมคุณใจดีจัง”

“ผมว่างน่ะ แล้วนี่มันก็ฟรายเดย์ไนท์” พูดจบก็ยิ้มหล่อให้หนึ่งที

อกจะแตกครับ



สุดท้ายไอ้คนหล่อใจดีก็อาสาจ่ายทั้งหมด แถมยังขับรถพามาเที่ยวต่อ...

ในที่ๆ ...ถ้ามาเองไม่น่าจะถึง

มันแทบจะเป็นที่เที่ยวแบบโลคอล หาไม่เจอในเว็บไซต์ไหนๆ เลยนะเนี่ย



“สวยมั้ย คนที่นี่ชอบขึ้นมาดูวิวกัน”

ไม่รู้หรอกว่าที่นี่คือที่ไหน แต่ถ้าโดนทิ้งเอาไว้กูกลับไม่ได้ชัวร์

มันเหมือนเป็นจุดชมวิวบนยอดเขาสักที่ ด้วยความมืดมิด พอมองลงไปจะเจอแสงไฟของเมืองทั้งเมืองส่องสว่าง และจุดเด่นของเมืองนี้คือจะมองเห็นควันลอยขึ้นมาเป็นจุดๆ

เปล่าครับ...ไม่ได้ไฟไหม้ มันมาจากบ่อน้ำพุร้อน

“สวยมาก หนาวด้วย” อยู่ๆ ก็เกิดรอยยิ้มกว้างขึ้นมาเมื่อดวงตาจ้องมองไปยังแสงไฟตรงหน้า

อากาศดี วิวสวย ทำไมโชคดีจังวะ

“ชอบคุณยิ้มนะ คุณยิ้มแล้วน่ารักดี”

ชิบหาย มาชมอะไรกูตอนนี้เนี่ย

ยิ้มค้าง หันไปมอง ไอ้หน้าหล่อนั้นก็ยิ้มตอบ

“คนที่นี่ขึ้นมากันบ่อยเหรอ” เปลี่ยนเรื่องดีกว่า มองไปรอบๆ ก็มีคนอื่นขึ้นมายืนดูวิวเหมือนกัน แต่ไม่ได้เยอะมากแบบต้องแย่งพื้นที่กันดู

“อืม ถ้าวันที่อากาศดี ไม่หนาวมาก ไม่มีหมอกลงน่ะ”

“สวยมากเลย เหมาะกับการพาคนมาเดทนะเนี่ย”



“ผมก็พาคุณมาเดทอยู่นี่ไง...”



วอททท!!! เอาจริงดิ!!



“ป่ะ ผมจะพาไปอีกที่หนึ่ง”



อีกที่ๆ ว่าก็คือการมาเดินเล่นริมทะเลอีกฝั่งหนึ่งของเมือง

การนั่งรถข้ามฝั่งเมืองมาเมื่อกี้แทบจะเป็นคนละฟีลจากตอนแรก

ก็แม่ง...แค่ชอบที่หน้ามันหล่อ มันดันป้อนคำหวานใส่กูซะงั้น

แถมใจดีชิบหายอีก

นั่งรถไม่นานมาก แต่กูเกร็งมาก



“เดินเล่นกัน”

ใช่...มันเป็นสถานที่เดินเล่นริมทะเล แต่ไม่ต้องลงไปบนหาดทราย ลมพัดพาความเย็นเข้าหาตัว คนที่มาจากบ้านเมืองร้อนๆ ก็สั่นไปดิ

“มีสถานที่เที่ยวดีๆ เยอะนะเมืองนี้ ถ้าคุณไม่พามาผมก็คงมาเองไม่ได้”

“ถ้าคุณมาอยู่ประจำก็คงเบื่อ วันๆ ทำงานแล้วก็กลับบ้าน”

“แล้วเมืองนี้เป็นบ้านเกิดคุณเหรอ ทำไมถึงมาทำงานที่นี่”

“ผมเรียนจบที่นี่น่ะ ยังต้องช่วยงานมหาลัยอีกสักพักถึงย้ายกลับโตเกียวได้”



เหงาเหมือนกันสินะ...ความเหงาที่แตกต่าง



“ขอบคุณที่พาชมเมืองนะ”

คนฟังส่งรอยยิ้มละลายใจมาให้อีกครั้ง บรรยากาศเงียบงัน ผู้คนบางตา มีเพียงเสียงคลื่นลมทะเล

ร่างสูงเดินไปนั่งตรงม้านั่งแล้วตบปุลงที่ข้างๆ ตัว

“มานั่งด้วยกันสิ”

เดินไปตามอย่างว่าง่าย

“ช่วยหันมาทางนี้หน่อยได้มั้ย”

หันตามอย่างไม่สงสัย

“จุ๊บ”



เหี้ย!!

อะไรกับครับเนี่ยยยยยย!!!



“อื้มมมมมม!” ไม่ใช่เสียงประท้วง แต่เป็นเสียงครางตอบรับเมื่ออีกคนลงจูบหนักขึ้น

ร่างลอยหวิวเข้าสู่ตักกว้างจากการโดนแขนแกร่งโอบอุ้มและกอดรัด



สมองขาวโพลน

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก

กูอยู่ที่ไหน กูทำอะไรอยู่ เกิดอะไรขึ้น



“ชอบมั้ย”

“ฮ....ฮะ!!”

ฮะ...ที่ไม่ใช่คำตอบรับ แต่แทบไม่ได้จับใจฟังด้วยซ้ำว่าพูดอะไร



“ผมชอบกลิ่นคุณจัง” จมูกขาวโด่งซุกลงตรงลำคอที่โผล่พ้นเสื้อยืดคอกลม ขนลุกทันทีที่ได้ยินเสียงสูดดมอยู่ใกล้ๆ ใบหู

“ผมก็ชอบกลิ่นคุณ” กูพูดอะไรออกไปวะเนี่ยยย! เขินอาย ซุกหน้าลงตรงลาดไหล่อีกคน



“จูบตรงนั้นได้นะ” เหมือนโดนสะกดให้ทำตามอย่างว่าง่าย

“อืมมมมม!” เสียงครางอย่างพอใจทำให้ความรู้สึกบางอย่างปะทุขึ้นมา



จนต้องแลบลิ้นเลียเป็นของแถม



“คุณ! ดีมาก อืม” โดนประกบจูบอีกครั้ง แนบแน่นกว่าเดิม แถมยังรุกล้ำมากขึ้นจนเกิดเสียงน่าอาย



ลืมไปหมดแล้วว่าตรงนี้เป็นที่สาธารณะ ในประเทศที่ห่างไกลจากบ้านเกิดกว่าสามพันกิโลเมตร และกับใครก็ไม่รู้ที่แทบจะเรียกว่าคนแปลกหน้า...

บางทีคนเราก็ลืมใช้สมองในบางเหตุการณ์



“Kiss me more...” ยั่วเย้าไม่หยุด รอยจูบเคลื่อนไปทั่วใบหน้า มือหนาก็ซนตามไม่แพ้กัน

เชี่ย!

สะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกโดนสะกิดตรงตุ่มไตภายใต้เสื้อยืดเนื้อเบา มือคว้าหมับเข้าที่ข้อมือใหญ่

จะปล้ำกูที่นี่เลยเรอะ!

“ไม่ได้เหรอ”

“...ไม่เคย”

...

“โอ้ ขอโทษครับ ผมคิดว่าคุณ...เคย” อีกคนสีหน้าเปลี่ยนเป็นรู้สึกผิดทันทีที่ได้ยิน “แต่คุณอายุ 25 แล้วใช่มั้ย”

“อืม...แต่...”

“ซอรี่ ปกติคนที่นี่ทำกันตั้งแต่เป็นวัยรุ่นน่ะ ผมไม่รู้จริงๆ” สองแขนเปลี่ยนมาโอบรอบตัวอย่างหลวมๆ ยังไม่ได้ปล่อยให้ลงจากตัก



นี่สินะที่เรียกว่าคัลเจอร์ช๊อค

ช๊อคจริงกู

สมองกูนี่เหมือนถูกเอาเข้าเครื่องปั่นเบอร์แรงสุด มึนไปหมด



จนต้องกลับมาคิดว่า แล้วที่กูซิงอยู่นี่เพราะอะไรวะ

แค่อยากให้ครั้งแรกเป็นอะไรที่...พิเศษ

แค่นั้นเลย



“แล้วคุณมีอะไรกับคนแปลกหน้าบ่อยเหรอ”

“ไม่เคยเลย”

“อ้าว แล้วผมไม่ใช่คนแปลกหน้าเหรอ”

“ไม่รู้สิ... ตอนเห็นคุณยิ้มผมก็ชอบคุณแล้ว ก็เลยอยากทำอะไรด้วย มันน่าจะเป็นเรื่องปกติใช่มั้ย”



ปกติ...เหรอวะ



“คุณไม่ชอบผมบ้างเหรอ” เสียงอ้อนเลยมึง “ผมไม่บังคับคุณนะ แต่ถ้าคุณสนใจผมจะทำให้มันดี”



ไม่มีการแตะต้อง รุกล้ำ หรือลวนลามเหมือนในนาทีแรก

แต่แค่คำพูดก็ทำให้คล้อยตาม



มันจะมีโอกาสไหนที่ทำให้ ‘ครั้งแรก’ มันพิเศษกว่าตอนนี้อีกวะ



“ผมตกลง”







ออฟไลน์ DareamSunshine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0

3
คนเปิดซิง






จากที่อยากหาคนคุย...กลายมาเป็นได้เพื่อนกินข้าว

จากเพื่อนกินข้าว...กลายมาเป็นไกด์นำเที่ยว

จากไกด์นำเที่ยว...กลายมาเป็นคนเปิดซิงกูได้ไงวะเนี่ย

งงแล้วนะพ่อ!!!



แล้วนี่อีก...

จากโฮสเทล...กลายมาเป็นเลิฟโฮเทลเฉยเลยครับบบ

เปิดประสบการณ์แบบขั้นสุดยอดไปเลยดิ



ทั้งๆ ที่พรุ่งนี้มีแพลนว่าจะต้องนั่งรถไฟไปเมืองต่อไปตั้งแต่หกโมงเช้า

แต่ขณะนี้เวลาเที่ยงคืน...กำลังยืนกอดจูบอยู่กับ...

จบแล้วแพลนกู



“อืมมมมมม” แต่จูบเก่งชิบหาย

“อาบน้ำกันก่อนนะครับ” ปากบอก มือปลดกระดุมกางเกง ถลกเสื้อขึ้น



แล้วก็เปลือยเปล่า



“Come here” กูก็เหมือนเบบี๋คนหนึ่ง เขาพาไปไหนก็ไป ให้ทำอะไรก็ทำ

อีกคนเดินไปเปิดน้ำลงอ่างอาบน้ำขนาดไม่ใหญ่มาก ห้องนี้ก็ไม่ใหญ่มาก มีแต่เตียงอย่างเดียวที่ใหญ่มาก

“หนาวเหรอ เดี๋ยวรอน้ำอุ่นหน่อยนะ” ไม่ได้หนาวแต่ค่อนข้างอาย

ก็เล่นเดินโทงๆ ไม่แคร์สายตากันเลย

นั่น...เดินมากอด เอาไอ้นั่นมาชิดอีก

จูบอีก



“คุณส่งเสียงได้นะ เราอยู่ในที่ส่วนตัวแล้ว”

“ผมไม่ร้องหรอก!”

“หึหึ ลงอ่างกันดีกว่า”



ไม่เคยคิดว่าจะปล่อยตัวปล่อยใจให้กับคนที่เพิ่งรู้จักได้มากขนาดนี้... แต่เอนหลังบนอกแกร่งนี่มันรู้สึกดีจัง



“อื้ออออ!!”

“ตรงนี้คุณสวยจัง”



เชี่ยยย! อย่ามาสะกิดตอนกูกำลังหลับตาอยู่ดิวะ เสียงหลงเลยกู



“หันหน้ามาเร็ว ขึ้นคร่อมผม” ตัวกูนี่ก็เบาหวิวจัง

“จุ๊บบ! จ๊วบ!!” ริมฝีปากฉกลงตรงหน้าอกทันทีที่หันไป เส้นผมตรงหน้าเลยต้องถูกกำแน่นเพื่อระบายอารมณ์

มืออีกข้างถือดีเลื่อนลงไปสัมผัสอีกฝ่ายตามความร้อนแรงที่พุ่งสูงขึ้น

“อืมมมม ดี ดีมาก”



โดนสะกิดบ้าง เป็นไงล่ะ ฮึ



“อย่าดูดแรง” บอกห้ามปราม แต่ไม่คิดจะรับฟัง หัวนมกูตั้งหมดแล้ว

“อยากให้มันบวมๆ อ่ะ”

ไอ้ญี่ปุ่นนี่มันยิ้มทะเล้นได้ด้วย!!!



“อ๊ะ อ๊า!!!”

“So cute!!”

ไม่ต้องชมมม กูครางอยู่ ไม่ต้องชมมมม



แม่ง อยู่ๆ ก็เล่นรูดกันแบบนั้น ชอบทำทีเผลอเหรอ เข่าอ่อนแล้วเนี่ย



“หันหลังหน่อยครับ”

ดันตัวให้หันหลัง คุกเข่า ก้มตัว สองมือเกาะที่ขอบอ่างอีกฝั่ง เปิดด้านหลังให้เห็นอย่างชัดเจน

“ว้าว...สีชมพูสวยมาก”

“อื้ออออ!!! เชี่ย!!” ใช่ สบถภาษาแม่นี่แหละ แปลไม่ออกหรอก

ขยี้ทำไมเนี่ยยยย

นิ้วแม่งถูลงตรงนั้นเต็มๆ สลับกับสะกิดเบาๆ ให้สะดุ้ง



“แผล่บ!!”



ดวงตาเบิกโพลงเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสที่เปลี่ยนไป และไม่เคยจินตนาการมาก่อนว่าจะถูกกระทำในชีวิตจริง...



ไอ้เหี้ยยยยยยย!! กูอยู่โลกไหนกันวะเนี่ย



“แผล่บๆ” ไม่จบ ยังไม่จบ แต่กูครางไปสามบ้านแปดบ้านแล้ว

“อื้ออ พอออ อย่าทำแบบนั้น”



“ชอบมั้ย... I licked your ass”



พอบอกให้หยุด ก็เคลื่อนตัวมาทาบทับ กระซิบริมหู จูบอีกยกหนึ่ง

“ฮ้า ฮะ อา…” หอบหายใจอย่างรุนแรง

“ทำให้หน่อยได้มั้ย” ร่างใหญ่พาตัวเองไปนั่งตรงขอบอ่าง ส่วนสำคัญชี้ตรงเด่เพราะเจ้าของใช้มือสาวไปมาเบาๆ

“ทำไม่เป็น...”

“ไม่เชื่อ...”



ไม่ตอบอะไร แค่ก้มลง ใช้ลิ้นสัมผัสในตอนแรก แล้วครอบปากลงไป...ดูดดึง





“อืมมมมม!! คุณดีที่สุดเลย ดีมาก” ขยี้จนผมยุ่งไปหมดแล้ว...

“น้ำเริ่มเย็นแล้ว...ล้างตัวกัน ไปที่เตียงกันเถอะ ก่อนที่ผมจะทนไม่ไหว”



ทั้งสองร่างเคลื่อนตัวผ่านสายน้ำจากฝักบัว ผ่านผ้าเช็ดตัวผืนหนา แต่ไม่ผ่านเสื้อผ้าอาภรณ์ใดๆ แล้วล้มลงบนเตียง



“ช่วยตัวเองให้ผมดูได้มั้ย...”

“NO…”

“Please…Do it” จับมือ...วางลงไปตรงนั้น แล้วพาขยับก่อนจะปล่อยให้ทำเอง

“อื้ออออ อืมมมม!!” ทำเอง…ครางเอง

“ซี้ดดดดด เซ็กซี่มาก” ทำเอง…อีกคนช่วยคราง กอบกุมของตัวเองแล้วทำตาม

ภาพคนสองคนนั่งอ้าขาให้กัน สัมผัสของตัวเองให้กันดู



แม่งบ้ามาก...



“มานี่มา ได้เวลาแล้ว”

เข้าประจำที่ หัวอยู่ที่หมอน ปลายเท้าแยกออกจากกัน มีร่างอีกคนแทรกระหว่างกลาง

อดไม่ได้ที่จะหายใจถี่ๆ



ถุงยางสีใสสวมลงบนอาวุธที่ตั้งชัน

เจลเนื้อลื่นถูกบีบลงบนมือแล้วส่งไปลูบไล้ตรงช่องทางที่ต้องถูกรุกล้ำต่อไป



แหย่เข้า... แหย่ออก...

ช้าๆ แล้วเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดเสียงน่าอาย



“Hmmmm! You’ re so wet!!”



ปลายเท้าจิกลงต้านทานความเสียว



“อ่อนโยนกับผมนะ”

“ได้ครับ” แล้วมันก็เริ่มพาของจริงเข้ามา



ถึงแม่งจะพูดแบบนั้น...แต่ไอ้เหี้ย...เจ็บชิบหายเลย!!

แม่งทนกันได้ไงวะ!!



“ชู่ววว ใจเย็น ค่อยๆ หายใจ” ติ่งหูนิ่มถูกดูดดึงให้ผ่อนคลาย สะกิดแผ่วเบาตรงหัวนมแต่เสียววาบที่ท้อง



ไอ้นั่นที่เข้ามาตรงด้านหลังไม่ได้เข้ามาพรวดทีเดียว...



มันค่อยๆ ค่อยๆ เคลื่อนตัว

ค่อยๆ ค่อยๆ ทำให้ช่องทางขยาย

ค่อยๆ ค่อยๆ เติมเต็ม

และ..จุก!!!



ริมฝีปากไซร้ไปตามลำคอ ดูดดึงจนรู้เลยว่าต้องเป็นรอย

ต้องทำกลับบ้าง โทษฐานทำให้กูเจ็บ



“อา...ขยับนะ”

“อื้อ...” ครางเบาเพราะความเสียดปนแสบ

“ทำตรงนี้ให้หน่อย” โดนจับมือไปวางตรงหน้าอก ชอบสินะ...ให้เล่นตรงนี้ ขอหยิกหน่อยได้มั้ย

“Be gentle…”

“อื้อออ อื้อ! อื้อ!” บอกให้กูนุ่มนวล ช่วยนุ่มนวลกับกูก่อนได้มั้ยยย

พอมันลื่นปรื๊ดก็เอาใหญ่เลยนะ

เสียวแรงแล้วเนี่ยกู



“อ๊า!!!!!” แม่งพลิกกูขึ้นคร่อมเฉยเลย!!!



“ไหนว่าจะไม่ร้อง หึหึ”



ไม่ร้องก็แย่แล้วคร้าบบบบบบ

ครางเป็นหมาเลยกู!



แล้วไอ้มือนั่นก็บังคับให้โยกตัวขึ้นลง กูก็ได้ใจขย่มเองตามต้องการ พอทำแบบนี้มันคุมจุดได้ดีกว่าเยอะ

มันจะมีตรงจุดหนึ่งที่...เหี้ย เสียวชิบหาย



ไอ้คนหล่อก็นอนยิ้มปริ่มอย่างพอใจ ยิ่งเห็นหน้ายิ่งรู้สึกมากกว่าเดิม



ก้มลงไปดูดดึงยอดอกที่ชอบนักหนา



“อืมมมม! อา อา!!” เสียงเข้มครางทันทีที่โดนจู่โจม “you’ re so sexy!!”



“เพราะผมขึ้นคร่อมคุณอยู่เหรอ ถึงได้เซ็กซี่” ยืดตัวแล้วลูบไล้ตัวเองให้ดู



“คุณรอดมาจนถึงตอนนี้ได้ยังไงนะ”



“คงรอมาทำกับคุณ”



พูดจบก็โดนผลักให้จมลงเตียง โจนจ้วงเข้ามาอย่างรุนแรงตามอารมณ์ เสียงครางดังอย่างที่จำไม่ได้แล้วว่าเคยพูดอะไรเอาไว้



“อ๊ะ กำลังจะเสร็จแล้ว” ร้องบอกเสียงกระเส่า

“ปล่อยออกมา...อา!!” ดึงตัวออกมา ชักรูดพร้อมกันสองสามที แล้วน้ำสีขาวขุ่นก็พ่นกระจาย



เหมือนในหนังเอวีเป๊ะ คนที่นี่เขาไม่ปล่อยใส่ถุงยางเหรอวะ



อีกคนโน้มตัวลงมาจูบลงตรงแก้ม ที่มีน้ำของใครไม่รู้ติดอยู่

“เดี๋ยวเช็ดให้นะครับ”

เสียงหอบดังประสานกัน ก่อนที่ตัวและส่วนล่างจะถูกทำความสะอาดด้วยกระดาษทิชชู



เหนื่อยเกินจะลุกไปล้างตัวดีๆ



วันนี้แม่งโคตรยาวนาน...



“อืมมมมม” ข้างเตียงยุบลง ทั้งตัวถูกดึงเข้าไปกอด ซบลงตรงหน้าอกแล้วผ่อนลมหายใจนอนหลับลง



หรือจริงๆ แล้ว นี่แม่งเป็นแค่ความฝันวะ

คนเหงา...มันจะฝันอะไรก็ได้อะเนอะ

:)



-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อ่านจบแล้ว ฝากติดตามนิยายเรื่อง KISS ME MY SOL (ธวล,รอร) #kissmemysol ต่อด้วยนะคะ นิยายวัยมหาลัยอ่านสบายๆ

เรื่องราวของ โซล...คนหยิ่งแต่ที่จริงแค่เป็นอินโทรเวิร์ท ถูกเพื่อนที่รักลากไปเป็นส่วนหนึ่งในการประกวดดนตรีกับรุ่นพี่...ที่ดันแอบปลื้ม



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-12-2022 21:01:07 โดย DareamSunshine »

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด