[เรื่องสั้น] ตามสัญญา[ตอนเดียวจบ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] ตามสัญญา[ตอนเดียวจบ]  (อ่าน 1997 ครั้ง)

ออฟไลน์ NewYear42

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ภข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

........................................................................................


ตามสัญญา


“ใบบุญครับ”

เสียงเรียกของชายหนุ่มร่างสูง

ทำให้เด็กหนุ่มที่นั่งแกว่งชิงช้าอยู่ข้างๆต้องหยุดกระทันหันแล้วขานรับชายหนุ่มพร้อมกับยิ้มด้วยใบหน้าที่สดใส

“ว่าไงครับพี่เอก”


“อีกไม่กี่วันพี่จะต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วน่ะ”


ชายหนุ่มพูดด้วยใบหน้าที่หม่นหมองลงเพราะเขารักเด็กหนุ่มที่นั่งข้างๆแต่เขาจำเป็นต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นเพราะครอบครัวได้สถานที่ทำงานใหม่และนั้นก็เท่ากับว่าเขาเองก็ต้องย้ายไปเรียนที่แห่งใหม่ด้วยเช่นกัน


“ครับใบบุญรู้แล้วว่าพี่เอกจะย้าย...ใบบุญถึงอยากอยู่กับพี่เอกแบบนี้นานๆไงครับ”


แต่เด็กหนุ่มกับไม่ทุกข์ร้อนอะไรกับบอกชายหนุ่มว่าเขากำลังตักตวงเวลาให้พวกเขาสองคนได้อยู่ด้วยกันนานๆก่อนจะจากกันไป

และมันก็ทำให้ชายหนุ่มนั้นคิดตามเด็กหนุ่มแล้วพลอยยิ้มตามใบหน้าของเด็กหนุ่มที่มักมีรอยยิ้มอยู่เสมอมันจึงทำให้เขาหายคิดมากได้


“ถ้าพี่เอกคิดถึงใบบุญ...พี่เอกก็มองท้องฟ้าบ่อยๆสิครับ”


อยู่ๆเด็กหนุ่มก็พูดว่าให้เขานั้นมองไปบนท้องฟ้าหากคิดถึงกันชายหนุ่มจึงมองตามที่เด็กหนุ่มบอก

เขารู้สึกว่าท้องนั้นมันช่างสดใสเหมือนรอยยิ้มของเด็กหนุ่มซะเหลือเกิน

เวลานั้นช่างผ่านไปเร็วเหมือนสายฝนที่ร่วงหล่นลงมาสู่พื้นดินที่ยามแดดออกมันก็ค่อยๆหายไปจนไม่เหลือน้ำสักหยดเหลือไว้เพียงแค่พื้นที่แหกแห้ง


“ใบบุญครับ...พี่ไปแล้วใบบุญอย่าลืมพี่น่ะ”


ชายหนุ่มกล่าวบอกเด็กหนุ่มที่วันนี้ได้มารอส่งเขาที่กำลังจะย้ายไปอยู่ที่อื่นที่แสนไกลจากที่แห่งนี้


“ใบบุญไม่ลืมพี่เอกหรอกครับ...อ๊ะนี้กำไลที่ใบบุญร้อยเองใบบุญให้พี่เอกเอาไว้จะได้ไม่ลืมใบบุญ”


เด็กหนุ่มยืนกำไลลูกปัดให้กับชายหนุ่มตรงหน้าที่ร้อยเอง

พร้อมกับกำชับว่านี้คือของแทนความหลังของพวกเขา


“พี่ไม่ลืมหรอกน่า...พี่ก็มีของจะให้ใบบุญเหมือนกันรอแปปนึงน่ะ”


ชายหนุ่มจึงรีบวิ่งไปที่กระเป๋าของตนหยิบเอาสมุดโน๊ตเล่มหนึ่งหน้าปกเป็นรูปเขากับเด็กหนุ่มใบบุณที่เขาเป็นคนติดมันเอาไว้เองก่อนจะวิ่งกลับมายืนให้แก่เด็กหนุ่ม


“อ๊ะนี้...ถึงมันจะไม่มีค่าอะไรสำหรับคนอื่นแต่ว่ามันมีค่าสำหรับพี่มากใบบุญช่วยรักษามันเอาไว้ได้ไหม...จนกว่าพี่จะกลับมา”

“ได้สิ...ใบบุญจะเก็บมันเอาไว้อย่างดี...ว่าแต่ใบบุญเขียนใส่ในนี้ได้ไหม”

เด็กหนุ่มตอบรับพร้อมกลับยิ้มให้กับชายหนุ่มแล้วจึงถามอีกครั้งว่าเขานั้นสามารถจะขีดเขียนใส่สมุดเล่มนี้ได้หรือเปล่า

“ได้สิทำไมจะไม่ได้”

“งั้นก็ดีเลย...ใบบุญจะเขียนทุกอาทิตย์เลยจนกว่าพี่เอกจะกลับมา”

“สัญญาแล้วน่ะ”

“สัญญาสิ...พี่เอกก็เหมือนกันต้องกลับมาน่ะใบบุญจะรอ”

“ครับพี่สัญญา”

#NewYear42
เรื่องสั้นเรื่องนี้...แต่งไว้เมื่อ5ปีได้แล้ว
เราเลยอยากให้ทุกคนลองอ่านดู
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ NewYear42

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ตามสัญญา

“ใบบุญครับ”

เสียงเรียกของชายหนุ่มร่างสูงทำให้เด็กหนุ่มที่นั่งแกว่งชิงช้าอยู่ข้างๆต้องหยุดกระทันหันแล้วขานรับชายหนุ่มพร้อมกับยิ้มด้วยใบหน้าที่สดใส

“ว่าไงครับพี่เอก”

“อีกไม่กี่วันพี่จะต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วน่ะ”

ชายหนุ่มพูดด้วยใบหน้าที่หม่นหมองลงเพราะเขารักเด็กหนุ่มที่นั่งข้างๆแต่เขาจำเป็นต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นเพราะครอบครัวได้สถานที่ทำงานใหม่และนั้นก็เท่ากับว่าเขาเองก็ต้องย้ายไปเรียนที่แห่งใหม่ด้วยเช่นกัน

“ครับใบบุญรู้แล้วว่าพี่เอกจะย้าย...ใบบุญถึงอยากอยู่กับพี่เอกแบบนี้นานๆไงครับ”

แต่เด็กหนุ่มกับไม่ทุกข์ร้อนอะไรกับบอกชายหนุ่มว่าเขากำลังตักตวงเวลาให้พวกเขาสองคนได้อยู่ด้วยกันนานๆก่อนจะจากกันไปและมันก็ทำให้ชายหนุ่มนั้นคิดตามเด็กหนุ่มแล้วพลอยยิ้มตามใบหน้าของเด็กหนุ่มที่มักมีรอยยิ้มอยู่เสมอมันจึงทำให้เขาหายคิดมากได้

“ถ้าพี่เอกคิดถึงใบบุญ...พี่เอกก็มองท้องฟ้าบ่อยๆสิครับ”

อยู่ๆเด็กหนุ่มก็พูดว่าให้เขานั้นมองไปบนท้องฟ้าหากคิดถึงกันชายหนุ่มจึงมองตามที่เด็กหนุ่มบอก

เขารู้สึกว่าท้องนั้นมันช่างสดใสเหมือนรอยยิ้มของเด็กหนุ่มซะเหลือเกิน

เวลานั้นช่างผ่านไปเร็วเหมือนสายฝนที่ร่วงหล่นลงมาสู่พื้นดินที่ยามแดดออกมันก็ค่อยๆหายไปจนไม่เหลือน้ำสักหยดเหลือไว้เพียงแค่พื้นที่แหกแห้ง

“ใบบุญครับ...พี่ไปแล้วใบบุญอย่าลืมพี่น่ะ”

ชายหนุ่มกล่าวบอกเด็กหนุ่มที่วันนี้ได้มารอส่งเขาที่กำลังจะย้ายไปอยู่ที่อื่นที่แสนไกลจากที่แห่งนี้

“ใบบุญไม่ลืมพี่เอกหรอกครับ...อ๊ะนี้กำไลที่ใบบุญร้อยเองใบบุญให้พี่เอกเอาไว้จะได้ไม่ลืมใบบุญ”

เด็กหนุ่มยืนกำไลลูกปัดให้กับชายหนุ่มตรงหน้าที่ร้อยเองพร้อมกับกำชับว่านี้คือของแทนความหลังของพวกเขา

“พี่ไม่ลืมหรอกน่า...พี่ก็มีของจะให้ใบบุญเหมือนกันรอแปปนึงน่ะ”

ชายหนุ่มจึงรีบวิ่งไปที่กระเป๋าของตนหยิบเอาสมุดโน๊ตเล่มหนึ่งหน้าปกเป็นรูปเขากับเด็กหนุ่มใบบุณที่เขาเป็นคนติดมันเอาไว้เองก่อนจะวิ่งกลับมายืนให้แก่เด็กหนุ่ม

“อ๊ะนี้...ถึงมันจะไม่มีค่าอะไรสำหรับคนอื่นแต่ว่ามันมีค่าสำหรับพี่มากใบบุญช่วยรักษามันเอาไว้ได้ไหม...จนกว่าพี่จะกลับมา”

“ได้สิ...ใบบุญจะเก็บมันเอาไว้อย่างดี...ว่าแต่ใบบุญเขียนใส่ในนี้ได้ไหม”

เด็กหนุ่มตอบรับพร้อมกลับยิ้มให้กับชายหนุ่มแล้วจึงถามอีกครั้งว่าเขานั้นสามารถจะขีดเขียนใส่สมุดเล่มนี้ได้หรือเปล่า

“ได้สิทำไมจะไม่ได้”

“งั้นก็ดีเลย...ใบบุญจะเขียนทุกอาทิตย์เลยจนกว่าพี่เอกจะกลับมา”

“สัญญาแล้วน่ะ”

“สัญญาสิ...พี่เอกก็เหมือนกันต้องกลับมาน่ะใบบุญจะรอ”

“ครับพี่สัญญา”

ในโลกนี้นั้นอะไรๆก็ไม่แน่นอนความรักก็เช่นกัน

ในโลกที่มีก้อนเมฆปกคลุมไปทั่วท้องฟ้านั้นอยากรู้เหลือเกินว่ามันมีอะไรอยู่บนนั้นกันน่ะ

ชายหนุ่มร่างสูงที่นั่งเล่นอยู่ริมน้ำของเมืองกรุงเพื่อมองท้องฟ้าตอนเช้าของที่นี้แทบทุกวัน

เขามักจะมองและคิดในใจเสมอว่าเขามีความรู้สึกคิดถึงใครสักคนและความจำลางๆแต่เขากลับคิดไม่ออก

“คนในความทรงจำลางๆคนนั้นคือใครกันน่ะ...ทำไมรู้สึกคิดถึงเหลือเกิน”

ชายหนุ่มมักพูดแบบนี้กลับตัวเองเสมอเวลามองท้องฟ้าเขามักจะเห็นภาพของใครสักคนนั้นส่งยิ้มสดใสมาให้กลับเขาอยู่เสมอและมันพอยท์ทำให้เขายิ้มตามเสมอแม้แต่กลับมาจากทำงานพอมองท้องฟ้าก็ทำให้เขาหายเหนื่อยในทันทีเหมือนว่ามีใครสักคนนั้นให้กำลังใจเขาอยู่เสมอ

“เอก”

ผู้หญิงวัยทองที่ยังดูสวยซึ่งเธอคือมารดาของชายหนุ่มพูดขึ้นตอนรับประทานอาหารเย็น

“ครับแม่”

“อาทิตย์หน้าพ่อเขาวานให้เอกไปดูงานแทนเขาให้หน่อย”

“ที่ไหนหรอครับ”

“เชียงใหม่น่ะ...มันเป็นไร้องุ่นบ้านเก่าเราไงเอก”

เมื่อเธอพูดจบคำว่าบ้านเก่าของชายหนุ่มนั้นทำให้เขานึกออกได้ว่าเขาเคยไปอยู่ที่เชียงใหม่ก่อนจะมาที่นี้ตอนเขาอายุ16 และตอนนี้มันก็ผ่านมา10 ปีแล้วที่เขาจากที่นั้นมา

“ได้ครับ”

ก่อนวันเดินทางไปเชียงใหม่ชายหนุ่มได้เตรียมเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นเก็บใส่กระเป๋าใบปานกลาง

เขาเตรียมของใส่กระเป๋าไปเรื่อยๆจนใกล้จะเสร็จแต่หากพอเขากำลังเปิดลิ้นชักเครื่องแป้งที่ไม่ค่อยจะได้เปิดสักเท่าไหร่แต่หากวันนี้เขารู้สึกอยากจะเปิดมันและได้พบกับกำไลลูกปัดเส้นหนึ่งที่วางอยู่

ชายหนุ่มค่อยๆหยิบมันขึ้นมาก่อนจะสวมใส่ข้อมือตนเองชายหนุ่มจำได้ว่ากำไลเส้นนี้เคยมีคนให้กับเขามาและเวลามองมันเขารู้สึกเช่นเดียวกับที่มองท้องฟ้าแต่หากเขาเก็บมันไว้ในนี้นานเกินไปจนเกือบลืมไปด้วยซ้ำแต่ที่เขาลืมจริงๆก็คือใครคือคนที่ให้กำไลลูกปัดเส้นนี้กับเขากัน

การเดินทางนั้นแม้จะมีเนินภูเขามากมายแต่มันกลับไม่ลำบากอะไรแต่มันกลับคุ้มเสียด้วยซ้ำพอผ่านตัวเมืองไปแล้วเส้นทางก็มีต้นไม้มากมายเต็มไปหมดทำให้อากาศนั้นยิ่งมีความบริสุทธิ์จากตอนแรกชายหนุ่มนั้นปิดกระจกรถซะสนิทแต่พอเจอต้นไม้ใบหญ้าเขาจึงปิดแอร์ในรถแล้วเปิดกระจกรถแทนทำให้อากาศบริสุทธิ์ผ่านเข้ามา

ชายหนุ่มขับมาได้ไม่นานก็เจอป้ายบอกทางไปไร้องุ่นที่เขาจะต้องไปที่แห่งนั้นและเป็นสถานที่ที่เขาได้จากมาเมื่อ10 ปีก่อน

พอขับมาได้ไม่กี่กิโลเมตรก็เจอกับบ้านไม้หลังเล็กๆอยู่หลายหลังขับเข้าไปอีกก็เจอเข้ากับต้นองุ่นที่เรียงกันเป็นพุ่มสวยงามแถมตอนนี้ต้นองุ่นกำลังออกผลพอดีมันเป็นภาพที่สวยงามมากที่เดียว

เขาขับรถมาจนมาจอดที่บ้านหลังใหญ่หลังหนึ่งแม้มันจะผ่านมาเป็น10 ปีแต่เขากลับจำมันได้ทันทีเพราะมันมีความทรงจำของเขาอยู่มากมายพอลงจากรถเรียบร้อยก็เจอกับหญิงชราคนหนึ่งเดินลงมาจากตัวบ้าน

“คุณหนูเอกของป้าศรี”

แม้จะผ่านมา10 ปีแต่หญิงชรากับจำชายหนุ่มได้ทันทีเพราะเธอเป็นคนเลี้ยงชายหนุ่มมาแต่เล็กๆมันคงไม่แปลกหากเธอจะจำเขาได้

“สวัสดีครับคุณป้า”

“ค่ะคุณหนู...คุณหนูของป้าโตเป็นหนุ่มแล้วหรอเนี้ย”

“ครับป้า”

พอคุยเสร็จชายหนุ่มจึงขนสัมภาระของตัวเองลงจากรถเพื่อขึ้นไปบนบ้าน

“มาค่ะเดี๋ยวป้าถือกระเป๋าให้”

“ไม่ต้องครับผมถือเองดีกว่าป้าอายุมากแล้วเดี๋ยวเกิดเป็นอะไรขึ้นมาผมจะทำยังไงล่ะ”

พอขึ้นบ้านมาได้หญิงชราก็เดินนำทางไปยังห้องนอนของชายหนุ่มทันที

บ้านหลังนี้แม้จะผ่านมา10 ปีแล้วแต่ยังคงความสวยเอาไว้แม้ตัวบ้านจะทำจากปูนแต่ระเบียงนั้นกลับใช้ไม้ยื่นมาออกมาเป็นระเบียงหน้าบ้านนั้นตกแต่งด้วยดอกไม้หลายพันธุ์มาจัดเรียงเป็นสวนย่อมๆและมีต้นไม้ต้นใหญ่หนึ่งต้นเอาไว้กันแสงแดดที่ส่องลงมาส่วนใต้ต้นไม้มีม้าหินอ่อนเอาไว้สำหรับนั่งมันช่างเป็นบ้านที่สวยอยู่หลังหนึ่งเลยก็ว่าได้

ส่วนข้างในตัวบ้านใช้สีขาวตกแต่งให้ดูสะอาดตาชั้นล่างมีห้องลับแขกหนึ่งห้องห้องนั่งเล่นหนึ่งห้องน้ำอีกสองห้องและห้องครัวอีกหนึ่งส่วนชั้นสองมีห้องนอนอยู่สองห้องและห้องน้ำในตัวอีกคนละห้อง

พอเข้ามาในห้องมาเป็นที่เรียบร้อยชายหนุ่มก็เก็บของใส่ตู้เสื้อผ้าส่วนหญิงชราก็ขอตัวกลับไปแล้วเช่นกัน

ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีจากฟ้าเป็นสีแดงส้มบ่งบอกเวลาว่าฟ้ากำลังจะมืดค่ำ

ชายหนุ่มยังคงนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินอยู่ที่ระเบียงของบ้านมันช่างเป็นภาพที่สวยงามมากภาพหนึ่งรวมกับภาพทิวทัศน์ที่มีไร้องุ่นที่ผลกำลังดกอยู่เต็มต้นแล้วยิ่งเป็นภาพที่เขาจะจดจำมันเอาไว้เป็นอย่างดี

พอท้องฟ้ามืดแล้วดวงดาวก็เริ่มออกมาท่องราตรีบนท้องฟ้าชายหนุ่มยังคงนั่งอยู่ที่เดิมยังคงไม่ไปไหน

เขามองท้องฟ้าในยามราตรีแล้วรู้สึกสดชื้นมันไม่เหมือนในเมืองที่เขามาเพราะที่นั้นมีดาวให้เห็นแทบนับดวงได้ด้วยซ้ำที่เป็นเช่นนั้นเพราะแสงไฟมากมายที่ส่องแสงบดบังดวงดาวจนมิด

ภาพของใครสักคนที่เขาเฝ้ามองท้องฟ้าอยู่เสมอภาพของคนๆนั้นมันเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆแต่มันก็ยังไม่ชัดเจนพอที่เขาจะจำคนๆนั้นได้สักทีแต่ชายหนุ่มก็ยังคงพยายามนึกมันให้ออกเพราะความรู้สึกเขามันบอกว่าคนในความทรงจำของเขาคนนั้นอยู่ที่แห่งนี้ที่ที่เขาจากไปเมื่อนานมาแล้ว

ในยามเช้าท้องฟ้าสดใสมีเด็กผู้ชายสองคนเดินเล่นอยู่ในสวนไร้องุ่น

“พี่เอกพี่ว่าถ้าใบบุญเอาดอกไม้หลังสวนที่เราปลูกไปจัดแต่งไว้ในห้องพี่พี่เอกว่ามันจะโตไหม”

เด็กชายที่ตัวเล็กพูดถามเด็กชายอีกคนที่มีอายุมากกว่าแต่คำถามของเด็กชายตัวเล็กนั้นทำให้คนที่อายุมากกว่าได้แต่ยิ้มตามเพราะความน่ารักของเด็กตัวเล็ก

“โตสิทำไมมันจะไม่โตล่ะ”

เด็กชายตัวโตตอบพร้อมกับยิ้มตามเด็กหนุ่มตัวเล็กที่กำลังเดินไปด้วยพร้อมกับเก็บองุ่นไปด้วย

“งั้นก็ดีเลย...ใบบุญจะได้ไปนอนกับพี่เอกบ่อยๆ”

“ก็ดีน่ะ...พี่จะได้กอดเราบ่อยเหมือนกัน”

“บ้าหรอ...ใบบุญก็หวงเนื้อหวงตัวเหมือนน่ะฮ่าฮ่าฮ่า”

เด็กหนุ่มตัวโตได้แต่ยิ้มตามคำที่เด็กชายตัวเล็กพูดแต่สิ่งที่เด็กหนุ่มตัวโตพูดนั้นเป็นสิ่งที่เขาต้องการจริงๆในใจลึกๆแล้วเขาอยากจะกอดเด็กชายตัวเล็กไว้ในอ้อมกอดตัวเองอยู่ตลอดด้วยซ้ำแต่มันก็ทำไม่ได้

หลังจากที่กลับมาจากเดินเล่นเก็บองุ่นในยามเช้าก็กลับมายังบ้านของเด็กตัวโต

“พี่เอกใบบุญไปเอาดอกไม้ไปใส่กระถางก่อนน่ะแล้วเดี๋ยวเอาไปไว้บนห้องพี่เอกด้วยเลย”

“ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยก็เรียกนะพี่อาบน้ำก่อน”

“ครับป๋ม”

เด็กชายตัวเล็กพูดพร้อมทำท่าเหมือนทหารที่ทำความเคารพแล้ววิ่งออกไปสวนที่ปลูกดอกไม้ไว้ทันที

หลังจากที่เด็กชายตัวเล็กไปแล้วเด็กชายตัวโตก็ได้แต่ยิ้มตามแล้วขึ้นไปอาบน้ำทันที

เด็กชายตัวเล็กที่ขะมักเขม้นกับการนำดอกกุหลาบใส่ในกระถางเพื่อนำไปไว้ในห้องของเด็กชายตัวโตจนทำให้ต้นเลอะแก้มซึ่งเด็กชายตัวโตที่พึ่งเดินมาถึงเห็นเข้าเลยหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดแก้มให้

“อ๊ะ! พี่เอกเองหรอใบบุญตกใจหมดเลย”

“ฮ่าฮ่าฮ่าพี่เห็นที่แก้มใบบุญมันเลอะดินน่ะเลยเช็ดให้”

“ขอ...ขอบคุณครับ”

เด็กชายตัวเล็กขอบคุณพร้อมแก้มสีขาวที่แดงเพราะความเขิล

“มาเดี๋ยวพี่ช่วยดีกว่าจะได้เสร็จเร็วๆ”

พูดจบชายหนุ่มก็ช่วยนำกุหลาบไปใส่กระถางทันทีเด็กชายตัวเล็กยังคงหน้าเด็กอยู่เช่นเดิมเพราะยังไม่หายเขิลกับสิ่งที่เด็กชายตัวโตทำ

“อ่า...เสร็จสักทีงั้นเราเอาไปไว้ในห้องพี่เอกกัน”

เด็กชายตัวเล็กพูดขึ้นหลังจากนำกุหลาบใส่กระถางเป็นที่เรียบร้อย

“งั้นลุยกันเลย”

แสงในยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องกระทบกับดวงตาของชายหนุ่มที่ตอนนี้ค่อยๆตื่นขึ้นมาจากในห่วงแห่งความฝันฝันที่เหมือนจริง

“ใบบุญ”

คำพูดแรกของวันนี้ได้หลุดออกมาจากจากปากของชายหนุ่มมันเป็นชื่อที่เขาคุ้นเคยแต่ก็ยังนึกอะไรไม่ออกนอกจากความทรงจำในฝัน

“ใช่! ดอกกุหลาบ”

พอนึกออกชายหนุ่มจึงรีบลงจากเตียงเพื่อมองหามันทันทีแต่หากหาทั่วห้องแล้วกลับไม่พบเจอมันสักทีหรือมันแค่ความฝันของเขากัน

พอหาทั่วบ้านก็ยังคงไม่เจอเช่นเดิมชายหนุ่มจึงหยุดที่จะหาต้นกุหลาบสีแดงที่เห็นในฝันแล้วกลับขึ้นห้องไปอาบน้ำแทน

“คุณหนูเอกคะ...ป้าเตรียมอาหารไว้ให้ในครัวแล้วถ้าหิวก็ไปตักกินได้เลยนะค่ะป้าขอตัวกลับไปบ้านก่อนบ่ายๆจะมาอีก”

หลังจากที่ชายหนุ่มลงมาจากบนห้องก็ลงมาพบกับป้าศรีที่กำลังจะกลับบ้านพอดีแต่ชายหนุ่มทักเอาไว้ก่อน

“เดี๋ยวก่อนครับป้าศรี”

“ว่าไงคะ”

“เอ่อคือ...ป้าศรีเคยเห็นดอกกุหลาบสีแดงที่ปลูกใส่กระถางไว้ในห้องของผมไหม”

“อื่ออออ….ถ้าจำไม่ผิดหนูใบบุญเอาไปแล้วนิคะ”

หญิงชราทำท่าคิดสักพักแล้วตอบชายหนุ่มซึ่งคำว่าใบบุญนั้นทำให้ชายหนุ่มหัวใจเต้นแรง

“แล้วใบบุญเขาอยู่ไหนหรอครับ”

“หนูใบบุญแกไม่อยู่หรอกคะ...รู้สึกจะไปต่างจังหวัด”

คำตอบของหญิงชราทำเอาชายหนุ่มที่กำลังตื่นเต้นหยุดลงทันที

“แล้วเขาจะกลับมาเมื่อไหร่ครับ”

“วันจันทร์หน้าคะ”

“จันทร์หน้าเลยหรอครับ”

“ใช่คะ...งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้วป้าขอตัวกลับก่อนนะค่ะ”

หลังจากหญิงชรากลับไปเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มจึงได้แต่คิดว่าการพบกันของเขากับอีกคนทำไมมันยากเย็นอย่างนี้

เขาจะไม่คิดหนักเลยหากวันจันทร์หน้านั้นเขาจะต้องกลับบ้านที่เมืองกรุงซะก่อน

“พี่เอกๆตื่นสิใบบุญมีอะไรจะให้ดูด้วย”

เสียงเล็กๆของเด็กผู้ชายตัวเล็กเรียกเขาพร้อมกับเขย่าเพื่อปลูกเด็กชายตัวโต

“ตื่นแล้วๆ...มีอะไรหรอใบบุญ”

“พี่เอกตามใบบุญมาใบบุญจะพาไปดูอะไร”

เด็กชายตัวเล็กดึงเด็กชายตัวโตให้วิ่งตามตัวเองมาจนมาหยุดอยู่ทุ่งดอกไม้ที่เต็มไปด้วยดอกไม้ต่างๆหลายชนิดแถมมีผีเสื้อสีสันมากมายบินเต็มไปหมด

“พี่เอกว่าสวยไหม”

เด็กชายตัวเล็กพูดถามความคิดเห็น

“สวยมากเลยใบบุญ...แล้วนี้สวนของใครหรอ”

“ของคุณแม่ใบบุญเอง”

เด็กชายตัวเล็กตอบพร้อมกับยิ้มส่งไปให้เด็กชายร่างสูง

“คุณหนูเอกค่ะ!คุณหนูเอก!”

หญิงชราส่งเสียงปลูกชายหนุ่มพร้อมกับเขย่าให้ตื่นซึ่งมันได้ผลมันทำให้ชายหนุ่มตื่นจากความฝัน

“มีอะไรหรอครับป้าศรี”

“ป้าเห็นมันบ่ายกว่าๆแล้วคุณหนูคงหิวเลยมาปลุกให้ไปทานข้าวน่ะค่ะ”

หญิงชราตอบชายหนุ่มที่ค่อยๆลุกขึ้นนั่งบนโซฟา

“อ้อครับเดี๋ยวผมไปทาน”

“ค่ะ...งั้นป้าขอตัวไปดูไร้ก่อนละกัน”

“ครับ”

หลังจากหญิงชราไปแล้วชายหนุ่มจึงมุ่งหน้าเข้าไปในครัวเพราะเริ่มรู้สึกหิวขึ้นมา

อาหารกลางวันของชายหนุ่มก็ไม่ใช่อาหารหรูหราเหมือนตอนอยู่ในเมืองเพราะอาหารที่อยู่ตรงหน้าชายหนุ่มก็แค่ผัดกระเพราะไก่ธรรมดาแต่รสชาติมันกับไม่ธรรมดารวมทั้งกลิ่นที่ลอยออกมาติดจมูกชายหนุ่มจึงมุ่งหน้าตักกินอาหารจนหมดแต่พอทานหมดแล้วชายหนุ่มกับรู้สึกคุ้นเคยรสชาติอาหารที่เพิ่งทานหมดไปมันเหมือนเคยมีใครสักคนชอบทำให้กินบ่อยๆ

“สงสัยคงคิดไปเองล่ะมั้ง”

พอล้างจานเรียบร้อยชายหนุ่มจึงคิดว่าจะไปเดินชมไร้องุ่นที่ตอนนี้ขึ้นเป็นพวงดูน่ากิน

วันนี้อากาศร้อนไม่มากซึ่งตอนนี้ในไร้ก็ยังมีคนงานตัดพวงองุ่นที่โตเต็มที่ใส่ตะกร้าเพื่อนำเอาไปส่งขายในตลาดและพวกห้างต่างๆ

ตุ๊บ!

“โอ้ย!”

ชายหนุ่มมั่วแต่เดินดูลูกองุ่นโดยไม่ได้มองทางสักเท่าไหร่ทำให้ชนเข้ากับใครสักคนที่กำลังขนตะกร้าที่เต็มไปด้วยลูกองุ่นทำให้ชายคนหนึ่งซึ่งเอาผ้าปกคลุมใบหน้าเอาไว้ทำให้ไม่เห็นใบหน้า

“ขอโทษครับ...ผมมั่วแต่มองต้นองุ่นเลยไม่ได้มองทาง”

“มมม...ไม่เป็นไรครับผมขอตัวก่อนนะ”

พูดจบชายคนดังกล่าวก็ยกตะกร้าเดินหายไปทันที

“เสียงยังหนุ่มอยู่เลยนิแถมตัวเล็กกว่าเราอีกยกตะกร้าหนักขนาดนั้นไหวได้ยังไงกัน” ชายหนุ่มพูดกับตัวเองแล้วก็ได้แต่มองทางที่ร่างเล็กนั้นหายไปแต่ชายหนุ่มกับพบอะไรสักอย่างที่ตกอยู่บนพื้นหญ้าชายหนุ่มจึงก้มลงไปเก็บมาถือเอาไว้ซึ่งมันก็คือสมุดเก่าๆเล่มหนึ่งมีการเขียนบันทึกไว้จนหมดเล่มแล้วแต่หน้าปกมันยังดูใหม่เหมือนเจ้าของจะรักษามันเอาไว้อย่างดี

“สงสัยจะเป็นของคนเมื่อกี้แน่ๆเลย”

ชายหนุ่มเดินกลับมาที่บ้านสวนพร้อมกับสมุดที่เก็บได้ความจริงเขาอยากจะเอาไปคืนให้กับชายคนนั้นแต่เขาไม่รู้ว่าจะเอาไปคืนยังไงเพราะไม่รู้ชื่อแถมยังไม่เห็นหน้าเขาคนนั้นด้วยซ้ำจึงต้องเอากลับมาด้วย

ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีบ่งบอกเวลาว่าพระอาทิตย์ใกล้จะตกดินชายหนุ่มจึงมานั่งชมพระอาทิตย์เช่นทุกวันที่เขามาอยู่ที่นี้ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ห้าแล้วที่เขามาอยู่ที่บนเขาบนดอยอย่างนี้แต่มันก็เป็นที่ที่ชายหนุ่มชอบเช่นกันถึงแม้โทรศัพท์จะไม่ค่อยมีสัญญาณแต่มันมักจะมีภาพที่สวยงามให้เขาได้ชมอยู่เสมอรวมทั้งสภาพอากาศที่สดชื้น

แต่หากวันนี้ไม่เหมือนกับทุกวันสักเท่าไหร่เพราะวันนี้เขาหยิบสมุดเล่มเล่มที่ชายปริศนาทำตกเอาไว้นั้นมาด้วย

เขาไม่รู้ว่าอะไรบันดาลใจให้หยิบมันมาด้วยเพราะหลายวันมานี้เขาเอามันมาตั้งไว้บนหัวเตียงแต่ไม่ได้หยิบมันขึ้นมาอ่านเลยแต่พอมาวันนี้เขารู้สึกว่าสมุดเล่มนี้มันมีความคุ้นเคยเลยหยิบมันออกมาด้วย

27/04/xx

วันนี้ก็เป็นวันที่5 แล้วน่ะที่เขาได้จากไปไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้างจะดูแลตัวเองดีหรือเปล่า

วันนี้ช่วงบ่ายมีฝนตกหนักมากมันทำให้ผมคิดถึงอ้อมกอดของเขาที่มักจะกอดผมเวลาผมกลัว

เสียงฟ้าร้องยิ่งดังมากผมก็ยิ่งทำตัวไม่ถูกได้เพียงแต่ห่มผ้าเอาหมอนปิดหูตัวเองเอาไว้

ผมคิดถึงอ้อมกอดของเขาจัง

……………………………………

04/05/xx

วันนี้ผมยังคงมานั่งเล่นอยู่ห้องของเขาผมรู้สึกคิดถึงเขาจัง

ดอกกุหลาบที่ปลูกเอาไว้ในห้องเหมือนมันจะไม่ร่าเริงแล้วสิ

ดอกมันเริ่มมีสีช้ำๆด้วยเลยเอามันกลับมาบ้านด้วย

...……………………………………………

15/05/xx

วันนี้เป็นวันเกิดของผมมีกล่องของขวัญของเขาส่งมาจากที่แสนไกลมาให้ผมด้วย

ข้างในมันมีแหวนเงินมีลายลักษณ์อักษรชื่อเขาเอาไว้ด้วย

มีอีกอย่างที่เขาส่งมาคือการ์ดอวยพรวันเกิดในนั้นเขียนเอาไว้ว่า

แหวนที่เขาส่งมามีอีกวงแต่มันสลักชื่อของเขาเอาไว้ซึ่งเขาบอกว่ามันเป็นตัวแทนอีกชิ้น

ต่อสัญญาที่เขาจะกลับมาหาผม

…………………………………

27/12/xx

วันนี้เป็นวันเกิดของเขาและวันนี้เราได้พบเจอกันอีกครั้งในเมืองเรานัดเจอกันที่ในห้างแห่งหนึ่ง

ซึ่งผมก็หลงทางคงไม่แปลกก็ผมพึ่งจะเคยมาในเมืองนี่น่ะแต่ผมก็ยังมาทันเวลานัดพอดี

วันนี้สนุกมากเลยแต่ว่าผมก็อยู่ได้ไม่กี่วันก็ต้องกลับแล้วคงคิดถึงเขามากแน่ๆเลย

………………………………………

31/05/xx

วันนี้เป็นวันสุดท้ายพรุ้งนี้ผมก็ต้องกลับเขาพาผมไปนั่งเรือชมวิวของแม่น้ำในเมือง

มันสนุกจริงๆน่ะและเราก็สัญญากันว่าเราจะต้องเจอกันอีกครั้ง

และเขาบอกว่าอยากมีสวนดอกไม้ของเราสองคน

แต่แล้วตอนกลับเกิดมีรถคันหนึ่งขับมาตัดหน้ารถมอเตอร์ไซค์ของพวกเรา

ทำให้ต้องเบรครถแต่มันก็คงไม่ทันแล้วผมได้แต่โทษตัวเองทำให้มันเกิดเรื่อง

ถ้าหากผมไม่ขอให้เขาพาผมไปเที่ยวเป็นวันสุดท้ายมันคงไม่เป็นแบบนี้

ผมไม่บาดเจ็บอะไรมากแค่แขนหักข้างนึ่งเพียงเท่านั้นแต่เขาศีษะได้รับการกระทบกระเทือน

อย่างหนักหมอบอกว่าเขาอาดจะความจำเสื่อมมันทำให้ผมต้องโทษตัวเองอยู่อย่างนั้น

ผมเอาแต่ร้องไห้จนพ่อและแม่ของเขาต้องเขามากอดผมเอาไว้

…………………………….

03/01/xx

ผมยังไม่ได้กลับแต่ยังคงมาเฝ้าเขาอยู่ที่เตียงทุกวันรอว่าเขาจะตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่

ฟ้าคงเห็นใจผมละมั้งเขาถึงได้ฟื้นขึ้นมาแต่ก็คงเล่นตลกกับผมด้วยเช่นกัน

เพราะเขาจำใครไม่ได้เลยสักคนผมคงกลายเป็นคนใบกินไปเรียบร้อยเพราะพูดไม่ออก

น้ำตามันไหลไม่หยุดมันเป็นเพราะผมที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ใช่ไหม

………………………………

พออ่านถึงแค่นั้นชายหนุ่มไม่รู้ว่าน้ำตามันไหลออกมาตอนไหนกันเหมือนกับว่ามันมีบางอย่างที่มันคุ้นเคยแต่ยังนึกมันไม่ออกสักทีเขาจึงเก็บสมุดบันทึกเล่มนั้นแล้วเข้าห้องเพื่อนอนทันทีเนื่องด้วยตอนนี้มันดึกมากพอสมควรแล้วและเขารู้สึกว่ามันเหนื่อยๆยังไงไม่รู้เช่นกันพอถึงเตียงก็หลับสนิททันที

แสงในยามเช้าของวันใหม่ส่องผ่านหน้าต่างห้องของชายหนุ่มแต่หากตอนนี้กลับไม่ได้นอนอยู่บนเตียงเช่นทุกวัน

หากแต่ตอนนี้เขากำลังจัดเตรียมเสื้อผ้าและของใช้ลงกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวกลับ

หลังจากจัดเตรียมของเรียบร้อยก็อาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน 10 โมงเช้าเพื่อกลับไปเมืองกรุง ถ้าหากรถไม่ติดก็คงถึงตอนดึกๆแต่หากรถติดคงถึงเช้าพรุ้งนี้จึงจะถึงซึ่งชายหนุ่มได้คำนวณเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

“ป้าศรีครับ...ผมไปก่อนนะ”

“เดินทางปลอดภัยนะคะ”

หลังจากบอกลาหญิงชราแล้วชายหนุ่มก็ออกรถทันที

………………………………………

ในยามสายในสวนที่เต็มไปด้วยดอกไม้แต่จุดเด่นของของที่นี้คือดอกกุหลาบสีต่างๆที่จัดเป็นย่อมๆให้เป็นรูปร่างต่างๆ และพุ่มดอกไม้อื่นๆ ปูทางด้วยหินอ่อนเป็นทางเดิน

“เขาคงกลับไปแล้วสินะ”

เสียงเล็กๆไม่ใหญ่มากของใครสักคนพูดกับดอกกุหลาบสีแดงต้นหนึ่งซึ่งเป็นต้นที่เขาเอามันออกมาปลูกเดี่ยวๆเพียงต้นเดียว

“………………….”

“ลืมไปว่านายมันเป็นแค่ดอกไม้พูดไม่ได้นี้นะ”

เด็กหนุ่มร่างเล็กยังคงนั่งมองดอกไม้ที่เขารักสุดหัวใจ

“ฉันอยากให้เขามาเห็นที่นี้นะ...แต่ว่าฉันยังกลัวการพบเจอกัน”

เด็กหนุ่มพูดกับดอกกุหลาบพร้อมกับใบหน้าที่ค่อยๆมีน้ำตาไหลรินจากดวงตาคู่สวย

“ทำไมต้องกลัวด้วยล่ะ”

หากอยู่ๆ กลับมีเสียงปริศนาพูดขึ้นมาทำให้เด็กหนุ่มตกใจเพราะเขารู้ดีว่าน้ำเสียงเป็นของใคร

“พพพ...พี่เอก”

เด็กหนุ่มเรียกชื่อชายดังกล่าวด้วยเสียงสั่นๆพร้อมกับหันหลังกลับไปมองใครบางนที่อยู่ด้านหลังของเขา

“ใช่...พี่เอง”

ชายหนุ่มตอบรับพร้อมกลับยิ้มให้กับเด็กหนุ่ม

“พี่กลับไปแล้วไม่ใช่หรอ”

“ใช่พี่กลับไปแล้ว...แต่พอดีพี่จำบางอย่างขึ้นมาได้”

“แล้วพี่มาที่นี้ได้ยังไง”

“จากสมุดเล่มนี้ไง”

ชายหนุ่มหยิบสมุดบันทึกขึ้นมาให้เด็กหนุ่มดู

“พี่จำทุกอย่างได้แล้ว”

“พพพ...พี่เอกจำได้จริงหรอ”

“ใช่พี่จำได้หมดแล้ว...อย่าร้องไห้เลยน่ะ”

ชายหนุ่มค่อยเช็ดน้ำตาของเด็กหนุ่มที่ยังคงไหลรินออกจากใบหน้า

“ฮึก ฮือออ ฮึก”

เด็กหนุ่มน้ำตากลับไหลมากกว่าตอนแรกและสวมกอดชายหนุ่มเอาไว้แน่นซึ่งชายหนุ่มก็กอดตอบเช่นกัน

“ร้องไห้เป็นเด็กแบบนี้ได้ยังไงกันเนี้ย”

ชายหนุ่มพูดแกล้งเด็กหนุ่มด้วยรอยยิ้ม

“ก็เพราะพี่ไงผมถึงร้องแบบนี้ ฮึก”

“โอ๋ โอ๋ ไม่ร้องนะคนดีของพี่”

“ฮึก พี่เอกบ้า ฮึก พี่เอกบ้า”

เด็กหนุ่มพูดไปร้องไห้ไปพร้อมกับมือสองข้างที่ทุบไหล่ของชายหนุ่ม

“ห้าห้าห้า...ใช่ครับพี่บ้า...บ้าที่รักใบบุญจนหมดหัวใจไงครับ”

คำพูดของชายหนุ่มทำเอาผิวขาวๆของเด็กหนุ่มแดงไปทั้งตัว

“ผมก็รักพี่เหมือนกัน”

เด็กหนุ่มพูดตอบชายหนุ่มกลับเบาๆ

“ หืม...เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะพูดใหม่อีกทีหน่อยสิ”

ชายหนุ่มยิ้มกรุ่มกริ่มใส่เด็กหนุ่ม คำเมื่อกี้ชายหนุ่มได้ยินมันชัดเจนแต่เขาแค่อยากจะแกล้งเด็กหนุ่มเล่นๆ

“พี่เอกบ้า...ใครจะพูดให้ฟัง”

“อ้าวใบบุญ...รอพี่ด้วยสิ”

ชายหนุ่มจึงวิ่งตามเด็กหนุ่มที่หน้าแดงเพราะเขิลเดินออกไปจากสวน

ในคืนวันที่ชายหนุ่มนำสมุดบันทึกเล่มนั้นมาอ่านซึ่งวันนั้นเขานอนไวจึงทำให้ตื่นขึ้นมายามดึกๆเพราะได้ยินเสียงของเท้าใครบางคนที่เดินหาอะไรสักอย่างในห้องของเขา

“สมุดบันทึกอยู่ไหนเนี้ย”

เสียงพูดกับตัวเองเบาๆของใครบางคนทำให้ชายหนุ่มที่ตอนแรกคิดว่าขโมยแต่พอได้ยินเสียงกับคำที่ใครบางคนพูดออกมาทำให้เขาแกล้งทำเป็นนอนนิ่งๆเพื่อให้เขาคนนั้นหามันต่อไป

“รูปนั้นคงไม่หล่นหายจากสมุดนะ...เฮ้อ”

พอแน่ใจแล้วว่าหามันไม่พบเด็กหนุ่มจึงค่อยๆเดินออกจากห้องไป

แต่ชายหนุ่มที่แกล้งหลับกลับค่อยๆหยิบสิ่งที่เด็กหนุ่มหาเมื่อกี้ออกมาจากใต้หมอน

“รูปอะไรกันนะ”

.................................................................................

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด