#เรื่องสั้นตอนเดียวจบ# Run 9Jan2021
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ# Run 9Jan2021  (อ่าน 2001 ครั้ง)

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Re: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ# Run 9Jan2021
«ตอบ #1 เมื่อ09-01-2021 14:17:56 »

Run

Light up, light up
As if you have a choice

https://youtu.be/jqpAgMxhx30



เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือดังแสบแก้วหู ผมกดเลื่อนเวลาไปอีกสิบนาที ก่อนจะนอนต่อ แต่คนข้าง ๆ กลับผุดลุกขึ้น สัมผัสจากตอหนวดทิ่มแก้ม ทิ้งความรู้สึกยุบยิบและไออุ่นไว้จาง ๆ
แม้จะง่วงนอนแค่ไหนก็ตาม แม้ตายังหนัก แต่หูก็นอนฟังเสียงน้ำกระทบพื้นไปเรื่อย ๆ จนเหมือนจะเคลิ้มอีกรอบ เสียงนาฬิกาปลุกก็ดังขึ้นอีก

ผมถอนหายใจ หรี่ตาขึ้นมองแสงไฟสลัวจากห้องน้ำ เขาออกมาแล้ว กำลังเช็ดตัวด้วยผ้าขนหนูสีเก่า มีเศษผ้าขาดตรงขอบ
เคยบอกว่าเดี๋ยวซื้อให้ เขาก็ไม่เอา บอกว่าผืนนี้นุ่มดี ไม่อยากเปลี่ยน แต่อายุของมันไม่ใช่น้อย ๆ เลย ทำไมเขาไม่นึกถึงสุขภาพบ้างนะ ผ้ามันสกปรกมากขนาดนั้น

"ตื่นได้แล้ว"
เขาเขย่าไหล่เบา ๆ ผมอิดออด

"ขี้เกียจ"

"เดี๋ยวไปทำงานสาย"

"วันนี้อยากกินอะไร"

"อะไรก็ได้"

ผมลุกขึ้น รีบอาบน้ำแปรงฟัน ออกมาทาแป้งให้หอม ๆ เขาแอบจูบไหล่ตอนผมหันหลัง

"กินข้าวเหนียวหมูปิ้งนะ"
ผมบอก

"อื้ม กินได้หมด"

.
.
.

เราเดินจูงมืออกมาจากห้องเช่า ทักทายน้องมายด์เด็กอนุบาลข้างห้องที่นั่งรอแม่ไปส่งโรงเรียน
ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที จึงถึงปากซอย กลิ่นหมูปิ้งแบบดั้งเดิมหอมฉุย เป็นเรื่องเดียวที่ผมชอบในย่านนี้

"ข้าวเหนียวสองห่อ หมูปิ้งสองไม้ครับ"
เขาสั่ง

"กินน้อยเนาะเด็กสมัยนี้"
ป้าคนขายแกแซวตามปกติ ผมไม่เคยรู้ชื่อสักที แต่เราก็เคยเมาท์เรื่องร้านหมูปิ้งนมสดในซอยถัดไปอยู่บ่อย ๆ

"ง่วงมั้ย"

"ไม่ง่วง"
เขาลูบหัวผมเบาๆเมื่อรู้ว่าคำตอบตรงข้ามกับสีหน้า
เราสองคนทำงานใกล้กัน จึงรอรถเมล์สายเดียวกัน ถ้าโชคดีหน่อยก็จะได้นั่งรถเมล์ฟรี จากประสบการณ์แล้ว อีกไม่นาน รถเมล์ฟรีก็จะมา ผมเลยรีบแบ่งหมูปิ้งให้เขา เรากินแค่คนละไม้ ถามว่าอิ่มไหม...ผมอิ่มนะ แต่สำหรับเขาแล้ว มันคงไม่อิ่มแน่ แต่ก็ต้องอดทน เพราะเงินที่จ่ายค่าหมูปิ้งไป 20 บาทเมื่อครู่ ก็เป็นเงินก้อนสุดท้ายแล้ว แต่ไม่เป็นไร วันนี้เงินเดือนออก จะเข้าบัญชีเขาประมาณบ่ายสาม ส่วนของผมเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟธรรมดา ได้ค่าแรงวันละ 300 บาท เจ้านายจึงจะให้เป็นเงินสดตอนเลิกงาน

"มาแล้ว"
เขาทัก แล้วจับมือผมก้าวขึ้นรถเมล์ด้วยกัน
ตอนเช้าอย่างนี้ไม่มีที่นั่งให้ผู้ชายแน่นอน ผมกับเขาเดินไปช่วงท้ายของรถ เกาะห่วงด้านบน เขายืนซ้อนหลัง คอยประคองเมื่อรถกระชาก

"เดี๋ยวก็ถึงแล้ว"
เขาบอก ในใจคงอยากด่าลุงคนขับเต็มทน แต่ก็ทำได้แค่ทน ช่างมันเถอะ นาน ๆ ทีจะเจอคนขับห่วย ๆ ผมไม่ถือสาหาความ

เรายืนโงนเงนอยู่บนรถอีกสิบนาทีจึงถึงที่หมาย
ที่ทำงานของเขาเป็นโรงแรมเล็ก ๆ เขาเป็นช่างประจำโรงแรม รายได้แค่หมื่นต้น ๆ ส่วนผมอยู่ในร้านกาแฟข้าง ๆ ตำแหน่งพนักงานเสิร์ฟ แต่อันที่จริงก็ทำทุกอย่างที่คนอื่นเขาไม่ทำกัน ยกเว้นบาริสต้า พี่นายเคยสอนผมชงอะไรง่าย ๆ แล้ว แต่ผมไม่อยากเรียนเอง ไม่ชอบเลย ที่มาเป็นพนักงานเสิร์ฟ ก็ใช่ว่าจะอยากทำ เพียงแค่ต้องอยู่ใกล้เขาเท่านั้น

"ตั้งใจทำงานนะ"
เราโบกมือลากันและกัน ต่างฝ่ายต่างหันหน้าออกจากกันไปคนละทาง

อากาศวันนี้ร้อนอบอ้าว ผมเงยหน้ามองฟ้าสีฟ้าสดใส ไร้เมฆบดบังแสงแดด ปาดเหงื่อผุดพรายพร้อมกับยิ้มให้กำลังใจตัวเอง
เอาน่า วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน ไม่ต้องกินไข่หรือบะหมี่เป็นมื้อเย็นแล้ว


"วันนี้แฟนเข้ากะเช้าเหรอ"
พี่นายบาริสต้าประจำร้านเอ่ยทัก พี่แกไม่ใช่เจ้าของร้าน แต่มักมาถึงไวกว่าใครเพื่อน ส่วนเจ้าของร้านชื่อพี่ปลา มาเป็นคนสุดท้ายเสมอ พอมาแล้วก็มักจะบ่น ๆ ว่าร้านไม่ดีอย่างนั้นไม่ดีอย่างนี้ แล้วก็นั่งตากแอร์ที่โต๊ะตัวประจำของแก ถ้าไม่มีใครไปยุ่งวุ่นวาย วันนั้นร้านก็จะสงบ

“กินอะไรเย็น ๆ มั้ย”

“ไม่เป็นไรครับ”

“เอาน่า พี่พกน้ำแดงมาชงเอง ขี้เกียจฟังพี่ปลาบ่น”

“แกบ่นก็ถูกแล้ว แอบกินของร้านนี่นา”

“พี่เคยทำร้านอื่น เจ้านายใจดีไม่ขี้เหนียวเท่าที่นี่เล้ย”

ผมขำ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ใจเราก็คิดว่าไม่ถูกไปซะส่วนใหญ่ แต่ด้วยความที่เป็นเพื่อนร่วมงานคนเดียว ก็ทำได้แค่ยิ้ม การออกมาอยู่กับเขากันแค่สองคน ทำให้ได้เรียนรู้ว่าเราต้องมีเพื่อนบ้าง พูดอย่างเปิดอกก็เอาไว้พึ่งพากันนั่นแหละ
ผมกับพี่นายเตรียมของรอเปิดร้านตามปกติ จวบจนเวลา 8.30 น. ผมจึงพลิกป้ายหน้าร้านว่า ‘เปิด’ ไม่นานก็มีลูกค้าเดินเข้าร้านมาสั่งกาแฟ ขนมปัง แซนด์วิชง่ายๆ เป็นอาหารเช้าของวัยทำงาน
ผมทำงานไปเรื่อยๆ ตามปกติอย่างที่ควรจะเป็น การทำงานช่วยไม่ให้นึกถึงเรื่องราวเก่าๆ ที่ทำให้เราเป็นอย่างทุกวันนี้เท่าไหร่ มันมีความสุขนะที่ได้อยู่กับเขา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันลำบาก...มันไม่สบายเลย เราสองคนที่เคยมีเงินใช้จ่ายอย่างมีความสุข อยากกินอะไรก็ได้กิน อยากดูหนังก็ได้ดู อยากลองซื้อของไม่จำเป็นมาใช้ก็ซื้อได้ แล้วจะทิ้งขว้างหรือยกให้คนอื่นต่อเลยก็ได้อย่างสบายใจ ไม่เคยทุกข์ร้อนเรื่องเงิน แต่พอเราออกมาอยู่กันสองคน...ลำบากมาก ต้องกระเบียดกระเสียนทุกอย่าง เงินมีไว้สำหรับซื้อสิ่งที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น ผมกับเขารู้ซึ้งเลยล่ะว่ากว่าจะได้เงินมาสักก้อน เราต้องเหนื่อยแค่ไหน กดดันแค่ไหน ความรู้ก็แค่ชั้นม.3 จบมาตั้งสองปีแล้ว ยังไม่ได้เรียนต่อเลย

"วันนี้หน้าซีดนะคะคุณรัน"
เสียงพี่ปลาฉุดให้ผมหลุดจากภวังค์ ผมสะบัดหัว ยิ้มให้พี่เขาที่กำลังจิ้มเค้กร้านตัวเองใส่ปาก

"ไม่สบายเหรอจ๊ะ"

"สบายดีครับ"

"สบายดีอะร้าย ใต้ตาลึกโบ๋ เมื่อคืนจัดหนักล่ะสิ"

ท่องไว้ เขาเป็นเจ้านาย พี่ปลาก็เป็นซะอย่างนี้ ชอบแซวไปเรื่อย ไม่ค่อยมีกาลเทศะเท่าไหร่ อย่างน้อยก็ดีกว่าเจอเจ้านายใจร้ายกดขี่ข่มเหงแล้วกัน

ผมยิ้มให้แกอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกมาหน้าร้านเมื่อได้ยินเสียงกระดิ่งตรงประตูเตือนว่าลูกค้าเข้าร้าน

"อ๊ะ!"
บุคคลที่ไม่อยากเจอมากที่สุด
บุคคลที่เคยทำร้ายเราจนแทบบ้า
บุคคลที่เคยบอกว่ารัก หวังดี...แต่กลับผลักไสไล่ส่ง
บุคคลที่ผมเคยเรียกว่า "พ่อ"

"สั่งกาแฟได้ไหมครับ"
น้ำเสียงราบเรียบกับใบหน้าที่ไม่เคยแสดงออกว่ารัก ผมเลิกเรียกเขาว่าพ่อตั้งนานแล้ว

"ครับ"
แต่เราก็ต้องทำตามหน้าที่ ผมเดินไปบอกพี่นายให้ชงกาแฟ แล้วหลบเข้าหลังร้าน นาทีนี้พี่ปลาน่าพิสมัยกว่าคนข้างนอกนั่นเยอะ

"พี่ปลาครับ ผมขอลาได้ไหม"

"นั่นไง ว่าแล้วเชียว ไปๆ เอาเงินไป แล้วอย่าลืมกินยาล่ะ"
เจ้าของร้านหยิบปึกเงินขึ้นมานับราวกับว่ารู้อยู่แล้วว่าผมต้องหนีกลับบ้าน แกยัดแบงก์พันหลายใบใส่มือ ก่อนจะโบกมือไล่
ผมยกมือไหว้
"ถ้าแฟนผมมารับ ฝากบอกเขาว่าผมกลับก่อนนะครับพี่"

"แล้วทำไมเอ็งไปโทรบอกเอง"

"กลัวไม่รับโทรศัพท์น่ะครับ"

"เออๆ ได้ๆ กลับดีๆ ล่ะ อย่าเป็นลมเป็นแล้ง หน้าซีดเชียว"

"ขอบคุณนะครับพี่"
ผมยกมือไหว้พี่ปลาอีกรอบ ก่อนจะแทรกตัวออกมาหลังร้าน ต้องเดินหลบๆ ซ่อนๆ ไม่ให้คนในร้านเห็น อาศัยความชำนาญทางจนหลบออกมาขึ้นรถเมล์กลับบ้านได้
ใช้เวลาไม่ถึงสิบห้านาทีในช่วงเวลากลางวัน ผมรีบวิ่งเข้าห้อง หยิบกระเป๋าใบใหญ่ ยัดเสื้อผ้าใส่เท่าที่จะมากได้ ไม่ทิ้งจดหมายหรือข้อความใดๆ ให้เขา เพราะกลัวว่าถ้าเกิดคนๆ นั้นจับตัวเขาไป ก็อาจจะมีโอกาสเปิดโทรศัพท์และรู้ว่าผมจะไปไหน

ก็ได้แต่หวังว่า...เราจะรู้ใจกันมากพอ

.
.
.
.

ผ่านไปประมาณสามชั่วโมงกว่า ผมใกล้ถึงที่หมาย เป็นสถานที่ๆ เราสองคนคุยด้วยกันบ่อยๆ ว่าถ้ามีเวลาจะไปเที่ยวพักผ่อนสักคืน เพราะไม่ไกลจากกรุงเทพฯมาก และค่าครองชีพไม่สูงเหมือนจังหวัดอื่น
รถตู้วิ่งเข้าอำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ผมลงจากรถ คิดว่าควรนั่งพัก หาอะไรกิน แล้วค่อยหารถเพื่อขึ้นไปยังที่พักบนเขื่อนกระเสียว

ที่จริงแล้ว เขาคงรู้ว่าผมหนีมาตั้งแต่ชั่วโมงก่อน เพราะโทรศัพท์มือถือสั่นไม่หยุด ผมรำคาญเลยปิดเครื่องตั้งแต่สายที่ห้า ตอนนี้คงถึงเวลาที่ต้องเปิดเครื่อง อย่างไรก็สงสารเขาถ้าเราหายมาอย่างนี้ คงเป็นห่วงน่าดู

RRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRR

ยิ้มขำกับตัวเอง เปิดเครื่องได้ไม่ทันไร ก็มีสายเรียกเข้าจากเขา

//"รัน! รันอยู่ไหน!"//
เสียงเขาสั่นมาก มากจนผมคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินเสียงแบบนี้จากเขา เขากลัวมาก ร้องไห้สะอึกสะอื้น

"ยังไม่เลิกงานเลยนะ อย่าเล่นมือถือสิ"

//"มันใช่เวลามั้ยรัน! อยู่ไหน ....บอกเราเถอะ"//

"เราขอโทษ"

//"มันไม่มีอะไรแล้วนะรัน  ไม่ต้องกลัวนะ--เฮ่ย! เห็นแล้วๆ จอดครับๆ"//

ผมหันซ้ายหันขวาอยู่ในศาลาริมทาง มองหาเขาตามสัญชาตญาณ พบว่าเขาวิ่งลงจากรถเก๋งสีขาวที่คุ้นตาอยู่อีกฝั่งถนน กำลังหาจังหวะข้ามมา สะเทือนใจอย่างบอกไม่ถูก หน้าของเขาเศร้าชัดแม้เราจะเห็นจากระยะไกล

"รัน..."
น้ำเสียงระโหยโรยแรง ขาแทบจะทรุดลงกับพื้นไม้ที่เต็มไปด้วยเศษดิน ผมรีบประคองเขาให้ลุกขึ้นนั่ง ร่างหนากอดรัดผมราวกับว่าผมจะหายไปอย่างไรอย่างนั้น พร่ำบอกแต่ว่า "อย่าทิ้งเรา" น้ำตาของเขาเปื้อมซึมลาดไหล่ ทำให้ผมกลั้นน้ำตาของตัวเองไว้ไม่ได้เช่นกัน การที่เห็นคนที่เรารักต้องเจ็บปวด มันไม่ใช่เรื่องปกติเลย เพราะเราก็เจ็บปวดเช่นเดียวกัน

"ขอโทษ"

"ทีหลังอย่าทำแบบนี้นะ ต้องคุยกับเราก่อนรู้มั้ย"

"อ...อื้ม"

"พ่อเค้าไม่ได้จะพรากเราสองคนแล้วนะ"

"...."

"รันไม่ต้องเชื่อก็ได้ แต่กลับบ้านกันก่อนนะ"

"บ้านไหน"

"...บ้านเก่า"

บ้านเก่าที่เคยถูกไล่ออกมาอย่างกับหมูกับหมาน่ะเหรอ
คนๆ นั้นปั่นหัวเขาด้วยประโยคไหนกัน เขาถึงได้เชื่อ ผมเสตามองคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถเก๋งคันนั้น จำได้สนิทใจว่าคือใคร ตามเราตั้งแต่ร้านกาแฟ แล้วยังตามแฟนผมจนได้ มีแผนการณ์ไม่น่าไว้วางใจเลย ถ้ากลับไปบ้านนั้น จะเจออะไรบ้างก็ไม่รู้ แค่คำด่าก็ไม่อยากได้ยิน

"เอางี้...เรานอนเล่นที่เขื่อนสักคืนก็ได้ อย่างที่เราเคยแพลนกันไว้ แล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับ"
เขาเสนอพร้อมรอยยิ้มปลอบประโลม มืออุ่นลูบหัวผมเพื่อบอกให้ผมเบาใจ อย่าเพิ่งคิดมาก รู้เพราะเราอยู่ด้วยกันจนไม่ต้องพูดก็รู้ใจกัน ผมเชื่อใจเขานะ แค่กลัวว่าคนๆ นั้นจะหลอกเท่านั้นเอง
.
.
สุดท้ายแล้วผมก็ยอมให้เขาพาไปที่พักโดยให้เขาเลือกเอง เราพักริมเขื่อนกระเสียว อากาศเย็นกำลังดี ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมู่ดาว ไม่เคยเห็นภาพนี้เลยตั้งแต่เกิดมา 19 ปี เขาก็ชอบมากเหมือนกัน นอนจนเคลิ้มหลับอยู่หน้าบ้านพัก ส่วนคนๆ นั้นน่ะเหรอ พักที่ไหนก็ไม่อยากรับรู้ เรายังไม่ได้คุยกัน แต่ท่าทีที่แตกต่างจากเมื่อก่อนราวพลิกฝ่ามือทำให้ผมเริ่มไหวหวั่น ถ้าเป็นเมื่อก่อน ต่อให้มีแผนมาหลอกล่อเพื่อพาผมกลับ คนๆ นั้นจะไม่มีแววตาห่วงหาแบบนี้เลย มักคิดว่าเขาเหนือกว่า เป็นเจ้าชีวิตของผม ดุด่าอย่างไรก็ได้ กักขังอย่างไรก็ได้ เคยแม้กระทั่งเทศน์ผมเรื่องการผิดเพศนั้นเป็นบาปจนผมหลอนอ้วกแตกไปเป็นอาทิตย์

"น้ำค้างลง"
เสียงงัวเงียจากคนข้างๆ ดังขึ้น เขาบิดขี้เกียจ ท่าทางโอเวอร์จนน่าหมั่นไส้

"กลับเข้าไปข้างในมั้ยล่ะ"

"ไม่เอาอะ เย็นดี"
มือหนาแตะขา เป็นเชิงบอกให้ผมเปลี่ยนมานั่งขัดสมาธิ ก่อนจะเอาหัวตัวเองมาหนุนตักผม แถมยังกอดเอวผอมๆ เสียแน่น ซุกหน้าเขากับหน้าท้องจนผมจั๊กจี้

"อุ่นจัง"

"สบายก็นอน นอนเยอะๆ"
เราสองคนต่างทำงานจนพักผ่อนน้อย ไม่ค่อยมีเวลาจู๋จี๋กันนักหรอก ก็ไม่น่าเชื่อนะว่าเราสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้มาตั้ง 2 ปี เราต่างยังเป็นวัยรุ่น ช่วงแรกจึงทะเลาะกันบ่อยเพราะเรื่องเงินล้วนๆ แต่เพราะคำว่ารัก เราถึงสามารถก้าวผ่านอุปสรรคมาได้ตั้งมากมาย การจับมือผ่านเรื่องต่างๆ มาด้วยกัน ทำให้ผมนึกภาพวันที่ไม่มีเขาไม่ออกเลย ถึงแม้อายุยังน้อย แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะไร้เดียงสานะที่จะแยกความรักกับความหลงไม่ออก  อยากให้คนๆ นั้นรับรู้จัง แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ไม่รู้เลยจริงๆ

"ท้องฟ้าสวยเนอะ น่าจะมาตั้งนานแล้ว"

"อื้ม เสียดายจัง"

"ไม่ต้องเสียดายหรอก" เขากุมมือผมไว้ "ต่อไปนี้เราจะดีขึ้น ไม่ลำบากแล้ว"

"เชื่อได้เหรอ เชื่อเขาเหรอ"

"รันก็น่าจะรู้ ดูสายตาเขาสิ"
อย่าทำให้ผมคิดมากได้มั้ย

"แล้วพ่อแม่ของตัวล่ะ"

"เขาคุยกันแล้ว ...วางอคติลงเถอะ ให้อภัยเขา"

"เฮ้อ! ...ยากจังเลย"

"ไม่เอาน้าไม่เครียด ไหนมาให้จูบแก้เครียดหน่อย"

"อะไรเล่า อายเขา"

"มีใครที่ไหนล่ะ ทีงี้ล่ะมาอาย เคยเอากันในรถจนตำรวจมาเห็นแล้วนะ"

"นั่นแหละความอัปยศที่สุดในชีวิต"

"ฮ่าๆๆๆ มานี่มา"
เขาดึงผมให้โน้มคอลง จูบแผ่วเบาเพียงครู่เดียวเพราะเดี๋ยวจะเมื่อย แต่กระนั้นสายตาของเราก็สื่อถึงกันอย่างรู้ใจ เขาลุกขึ้น จับผมลุกตาม เราเดินเข้าห้องพัก ถอดเสื้อผ้าทิ้งไว้ตามทางอย่างกับฮันเซลกับเกรเทลที่ทิ้งเศษขนมปัง แต่สิ่งที่ตามเรามาคือความอยากกระสันของคนรักกัน หาใช่แม่มดใจร้าย

เขารั้งจูบ ไม่ใช่คนรุนแรง ดังนั้นจึงมีแต่รสชาตินุ่มนวลอ่อนหวานที่ทำผมหลงใหลมาหลายปี ทุกสัมผัสของเขาอ่อนโยน เขาเคยบอกผมว่าเพราะผมคือสิ่งล้ำค่า การค่อยๆ ไล่สัมผัสเพื่อซึมซับทุกความรู้สึกนั้นคือช่วงเวลาที่ดีที่สุด จะไม่แลกสิ่งนี้กับใครเด็ดขาด





ผ่านพ้นค่ำคืนแห่งความสุขไป ก็คงต้องถึงเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับความจริงอีกด้าน ผมตื่นแต่เช้า อาบน้ำล้างหน้า แล้วค่อยปลุกคนแรงเยอะ เมื่อคืนทำตั้งนานกว่าจะเหนื่อย สงสัยเก็บกดมาหลายวัน

"กลับบ้านไปคุยมั้ย"
เขาเสนอ

"ไม่เอาอะ คุยที่นี่แหละ"

"มันไม่มีกับดักอะไรหรอก"

"ไม่เอา ไม่ไว้ใจ"

"โอเคๆ งั้นเราโทรบอกเขาเลยนะ"

ผมพยักหน้าตกลง ดื่มน้ำทำใจไปหลายอึก
รอประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มีเสียงเคาะประตู ผมให้เขาเปิด ส่วนตัวเองนั่งเชิดๆ อยู่
ด้วยว่าห้องเป็นห้องธรรมดา ไม่มีเก้าอี้มากมาย เราสองคนผัวเมียจึงนั่งบนเตียง ส่วนเขาที่ผมไม่อยากมองหน้าเท่าไหร่นั่งบนเก้าอี้ ประจันหน้ากัน

"รัน...พ่อขอโทษ"
บางทีจังหวะชีวิตก็ไม่ต้องเป๊ะมากเหมือนนิยายก็ได้ เพราะคำที่เขาพูดออกมานั้น ผมไม่คิดว่าเขาจะพูด ไม่ได้เตรียมใจมาก่อน ที่คิดไว้ในแง่ดีที่สุดคือเขาแค่อยากให้ผมกลับไปเรียนหนังสือ ไม่มีซะหรอกคำขอโทษ

"พ่อขอโทษจริงๆ"

หน้าผมคงเต็มไปด้วยคำถาม เขาถึงพูดชัดๆ อีกครั้ง

บอกตรงๆ ว่าผมไม่รู้ว่าต้องตอบอะไร ผมไม่ใช่คนดีที่ยอมวางทุกสิ่งอย่างทันทีที่มีคนบอกว่าขอโทษ ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา และหวังว่าจะเข้าใจ แต่คนที่เข้าใจผมที่สุดคือคนที่นั่งข้างๆ ฝ่ามืออุ่นกุมมือผมไว้ตลอดเวลา ถ่ายทอดพลังงานบวกให้แก่กัน เขาอมยิ้มให้ผมเมื่อคนที่เคยเรียกว่าพ่อเอ่ยคำสำคัญคำนั้น

"กลับบ้านเรานะ"


*
*

"มึงเถียงกูเหรอ! กูเลี้ยงมึงมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย มึงกล้าเถียงกูเหรอ! ถ้าไม่มีกู มึงจะโตมาขนาดนี้มั้ย"

"อยากเป็นตุ๊ดนัดรึไง! พวกสกปรก"

"กูส่งให้มึงไปเรียน ไม่ใช่ให้ไปหาผัว"

"ไม่ต้องช่วยมัน! ขังมันไว้ในห้องนั่นแหละ ถ้าฉันรู้ว่าใครช่วยมัน ฉันจะไล่ออก"

"คุณไม่ต้องมายุ่งเรื่องของครอบครัวผม! ถึงลูกชายคุณจะเป็นสาเหตุให้ลูกผมเกเรก็เถอะ"

"กูเป็นพ่อ มึงเป็นลูก จำใส่สมองโง่ๆ ของมึงไว้"


*
*

"กลับบ้านเรานะรัน"

ผมหันไปมองหน้าเขาอีกครั้ง รอยยิ้มแห่งความปรารถนาดีส่งตรงสู่หัวใจอันเคยอ่อนล้า เขาทำให้ผมมีชีวิต ทำให้ผมยิ้มได้ ที่เราเป็นอยู่ตอนนี้มันก็มีความสุข แต่เป็นความสุขที่เราต้องคิดทุกย่างก้าวว่าจะทำอย่างไรให้เหลือเงินกินข้าว เขาจะอดอะไรเพื่อให้ผมอิ่ม
เขายอมหนีออกจากบ้านเพื่อมาอยู่กับผม เขาทิ้งทุกอย่างถึงแม้ว่าชีวิตเขากำลังไปได้ดี จากเด็กอัจริยะที่บ้าเครื่องมือช่าง แข่งขันหุ่นยนต์ชนะเลิศระดับโลก กลับต้องมาอยู่กับผม ดูแลผมที่อ่อนแอ
...ผมฉุดรั้งเขามามากพอแล้ว

"ถ้าคุณสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายเราสองคน ผมก็กลับ"

"พ่อสัญญา พ่อผิดไปแล้วจริงๆ ต่อไปนี้ ไม่ว่ารันจะทำอะไร พ่อจะไม่ห้าม รักใคร พ่อก็ไม่ว่า บอกตรงๆ นะลูก พ่อยอมแล้ว พ่อนับถือในตัวหนูมากที่อยู่กันเองได้ตั้งสองปี รันก็รู้ว่าพ่อเฝ้าดูอยู่ตลอด  กลับบ้านนะลูก กลับไปเรียนให้จบ ไปใช้ชีวิตเด็กวัยรุ่นอย่างที่ควรจะเป็น พ่อจะไม่พรากมัน พ่อจะไม่ยอมเป็นคนเห็นแก่ตัวที่ทำลายชีวิตคนถึงสองคน พ่อทนไม่ไหว พ่อทนเห็นลูกลำบากไม่ไหว"

เฮ้อ...คนเราจะเห็นค่าก็ตอนที่ไม่มีเขาอยู่ในชีวิต

บอกตามตรงว่าผมไม่ได้ซาบซึ้งกับคำพูดสวยหรูนั้น 100% แต่มันก็มีน้ำหนักพอที่จะทำให้ผมวางทิฐิลง อีกอย่างก็ทำเพื่อคนข้างๆ นี้ด้วย จะได้กลับไปเรียนต่อให้จบ กลับไปคืนดีกับพ่อแม่ของเขา
ในอนาคต ยังมีอีกหลายด่านให้ต้องฝ่าฟัน ก็ได้แต่หวังว่าเราสองคนจะจับมือกันไปจนถึงวันสุดท้ายของลมหายใจ



____


จบแล้วว
เป็นเรื่องสั้นสั้นๆ แรงบันดาลใจของเรื่องนี้คืออยากเห็นพ่อแม่ขอโทษลูกบ้าง5555 ปกติจะชอบเห็นบทซึ้งๆแบบพ่อแม่ให้อภัย ลูกเข้าไปกราบ ละซึ่งทุกสิ่งทุกอย่าง
แต่ตัวละครของเรายังคงเป็นคนที่มีความรัก โลภ โกรธ หลง อยู่ คงไม่สามารถให้อภัยคนที่ทำร้ายจิตใจกันได้ง่ายๆ
สนุกหรือมีข้อคิดเห็นอย่างไร แชร์กันได้น้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-01-2021 23:51:15 โดย mukmaoY »

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
Re: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ# Run 9Jan2021
«ตอบ #2 เมื่อ09-01-2021 23:19:56 »

พ่อแม่ขอโทษลูกเป็นอะไรที่หาได้ยากจริงๆค่ะ ทั้งสองคนเก่งมากที่อดทนผ่านกันมาได้ ต้องรักกันมากแน่ๆเลย :mew4:

 :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด