“ไอ้วิน รับ!”
ฟุบ ตุ้บ ตุ้บ ตึ้ง
“วู้ววว กรี๊ดดดด พี่วินๆ”
“เฮ่ๆๆ 3 แต้มเลยนะมึง โคตรเจ๋ง”
เสียงเฮอึกกะทึกในโรงยิมดังลั่นขึ้นอีกครั้งเมื่อผมชู๊ตลูกบาสในวินาทีสุดท้ายลงห่วง
ผมชื่อชวินหรือที่เพื่อนๆเรียกว่าไอ้วิน เป็นนิสิตนักศึกษาคณะการกีฬาชั้นปีสองในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งโดยที่เข้ามาได้แบบโควต้านักกีฬา และตอนนี้ผมกับเพื่อนๆกำลังแข่งขันบาสเกตบอลกับมหาลัยอื่นเพื่อชิงแชมป์ของจังหวัด
ซึ่งพวกเรานั้นก็ซุ้มซ้อมกันมาอย่างหนักในสองเดือนที่ผ่านมา และมันก็สำเร็จผลเมื่อมหาวิทยาลัยของผมชนะอีกฝั่งด้วยคะแนะห่างกันเล็กน้อย 22-25 คะแนน เพราะสามคะแนนสุดท้ายนั้นได้มาจากการชู๊ตสามแต้มของผมนี่แหละครับ
“เฮ้ยไอ้วิน เสร็จแล้วไปแดกข้าวกันกูอยากกินมาม่าต้มยำหลังม.ว่ะ” ไอ้โซ่เพื่อนสนิทผมที่รู้จักกันตั้งแต่สมัยขึ้นม.ปลายและมันก็ตามกันเข้ามาเรียนที่นี่ด้วย
ตอนแรกผมก็ถามมันนะว่าทำไมต้องมาเข้าชมบาสฯตามผมทั้งๆที่มันก็เก่งฟุตบอลมากกว่าบาสอีกแต่ตัวผมนี้ต้องบาสอย่างเดียวครับ แล้วมันก็ให้เหตุผลว่า ‘อยู่กับมึงนี่แหละดี สาวๆกรี๊ดกันเยอะ’ ดูเหตุผลมันสิครับ แต่ก็อย่างว่าล่ะมันเป็นคนง่ายๆสบายๆ ไม่งั้นมันคงไม่มาอยู่กับผมหรอก
“ไปดิ อยากกินพอดีแล้วพวกไอ้ปัฐจะไปด้วยกันป่าว” ผมหันไปถามไอ้โซ่ขณะมองหาเพื่อนที่นั่งเชียร์อยู่ข้างสนาม
“ยังไม่ได้ชวนว่ะ งั้นเดินไปหาพวกมันกัน” ระหว่างเดินออกจากสนามก็มีสาวๆเรียกผมกับไอ้โซ่กันยกใหญ่ ผมหันไม่ผงกหัวให้เนืองๆส่วนไอ้โซ่ก็ทำท่าโปรยจูบที่มันบอกเป็นท่ามหาเสน่ห์ของมันให้สาวๆกรี๊ดกร้าดและตบตีกันไป
“ไอ้โซ่ ไอ้วิน ทางนี้ๆ” เสียงไอ้ปัฐกับมายด์ตะโกนเรียกผมสองคนเพื่อให้เดินไปหา
“เชี้ยวินแม่ง ช็อตสุดท้ายโคตรเจ๋งเลยว่ะ” มาถึงปุ๊ปไอ้ปัฐก็โม้ใหญ่
“ใช่ๆ กูนี้แบบเคลิ้มตามเลยว่ะ อ้ายยย” นี่ก็อีกคนชื่อมายด์ครับ ออกจะหน้าตาน่ารักแต่คำพูดคำจาสวนทางกับหน้าตามาก
“เออพวกมึง กูกับไอ้วินจะไปกินก๋วยเตี๋ยวหลังม.กัน ไปด้วยกันมะ” ไอ้โซ่รีบบอกจุดประสงค์ทันที
“ไปดิๆ หิวพอดีเลย นี่ก็เที่ยงครึ่งละเดี๋ยวบ่ายสองก็มีเรียนต่ออีก” มายด์บอกก่อนจะมองนาฬิกาข้อมือ
“อืม งั้นรีบไปกันเถอะจะได้รีบมาพักหน่อย” ผมเอ่ยชวนทุกคนให้รีบไปที่ร้านกัน
ระหว่างเดินออกประตูหลังม.พวกผมต้องเดินผ่านคณะเศรษฐศาสตร์ ซึ่งตอนนี้ก็มีนศ.นั่งพักผ่อนกันค่อนข้างมาก แต่แม้ว่าคนจะเยอะซักแค่ไหนสายตาผมก็หองหาเขาคนนั้นเจอ เขามักจะนั่งอยู่ที่เดิมตรงมุมข้างๆบันไดขึ้นตึกอยู่เสมอ ทำให้ผมหาเจอไม่ยาก
“เฮ้ยๆไอ้วิน มองทางหน่อยดิวะเดี๋ยวก็สะดุดล้มหรอกมึง” ไอ้โซ่เอ่ยแซวอย่างรู้งาน ตามจริงผมไม่ได้ปิดบังอะไรพวกมันแต่ผมก็ไม่ได้พูดออกไป ซึ่งพวกมันก็รู้ได้จากการกระทำของผมทั้งสิ้น
“หู้ย วันนี้พี่เขาก็น่ารักเหมือนเดิมเลยอะ” ไอ้มายด์พูดขึ้นบ้าง ผมตะหวัดสายตาไปมองมายด์มันก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แถมทำหน้ากวนบาทาผมอีก
“ฟายยย ทำเป็นหวงเขาแม้แต่คุยยังไม่กล้าคุยเล้ย ป๊อดชิบหาย ฮ่าๆๆๆๆ” ไอ้ปัฐพูดพร้อมหัวเราะเยาะใส่
เฮ่ออออ นี่ล่ะครับชีวิตของนายชวินในรั้วมหาลัย เรียนหนังสือแข่งกีฬาและแอบรัก…..
ผมจะขอเล่าที่มาในการแอบรักครั้งนี้หน่อยนะครับ มันเริ่มมาจากตอนปีหนึ่งที่ผมต้องไปเข้าค่ายอาสาที่ต่างจังหวัดเพื่อเก็บคะแนนของวิชาหนึ่ง ซึ่งก็มีไอ้สามตัวนี้ไปด้วยเพราะพวกมันก็ลงวิชาเลือกเดียวกับผม เขาคนนั้นเป็นรุ่นพี่ผมสองปี เขาคนนั้นแนะนำตัวเองว่าชื่อต้นน้ำและเขาคนนั้นก็เป็นวิทยากรที่ชี้แจงจุดประสงค์ในการมาทำค่ายอาสาครั้งนี้ นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมเจอเขา
ระหว่างที่ทำค่ายอาสาผมก็ได้แอบมองเขาอยู่บ่อยครั้งเพราะด้วยหน้าตาที่ติดจะจิ้มลิ้มของเขาทำให้ผมเผลอมองนานจนบางครั้งเขาก็หันมาเจอและส่งยิ้มบางๆกลับมาให้ แต่ตัวผมก็ไม่ได้ส่งยิ้มกลับไปแถมรีบหันหน้าหนีเพราะโดนจับได้ว่แอบมองน่ะสิ
...เขาจะหาว่าผมหยิ่งไหมนะที่ไม่ได้ส่งยิ้มกลับไป
หลังกลับจากค่ายอาสานั้นผมก็ได้มีโอกาสเจอเขาบ่อยๆภายในมหาลัย เคยเดินผ่านแต่ก็แค่ยิ้มตามมารยาทเท่านั้นไม่ได้คุยอะไรกันเลย มีครั้งหนึ่งผมเห็นเขาอยู่กับผู้ชายคนนึงบ่อยๆผู้ชายคนนั้นคือพี่กรเดือนมหาลัยคณะวิศวะ ผมเลยให้ไอ้โซ่ไปสืบเพราะมันขี้เสือกอยู่แล้วจนได้รู้ว่าเขาคบอยู่กับพี่กรได้สักพักใหญ่ๆแล้ว อ่า อกผมหักดังเปรอะเลยครับงานนี้
กลับมาที่ปัจจุบันดีกว่า ถึงตอนนี้จะผ่านมาจนผมขึ้นปีสองแล้วผมก็ยังแอบมองพี่เขาอยู่ดี ถึงแม้ตอนนี้เขาจะเลิกกับพี่กรไปเมื่อหลายเดือนก่อนผมก็ยังไม่กล้าเข้าไปคุยกับเขาอยู่ดี
ผมได้ยินจากไอ้โซ่ว่าเขาค่อนข้างเฮิร์ทมากทีเดียว แตกต่างจากไอ้พี่กรที่ยังควงคนนู้นคนนี้ไปเรื่อย เจ็บใจแทนพี่เขามากอยากจะเข้าไปตั้นหน้ามันสักที มาทำกับสุดที่รักผมแบบนี้ใจมันทำด้วยอะไรกันนะ!
“เออไอ้วิน วันก่อนนะเว้ย กูเห็นพี่กรเดินไปคุยอะไรกับพี่ต้นน้ำก็ไม่รู้แล้วอยู่ๆพี่ต้นน้ำก็ผลักพี่กรออกและรีบเดินหนีไปเลย” ไอ้ปัฐผู้ขี้เสือกหมายเลขสองทำท่ากระซิบกระซาก
“หรอ ยังไงๆเหลามาาา” ไอ้มายด์ผู้ขี้เสือกหมายเลขสามเร่งอยากรู้
“จะอะไรซะอีกล่ะ พี่มันจะมาขอคืนดีไงแต่พี่ต้นน้ำไม่กลับไปเว้ย ถ้าเป็นกูนะจะขอต่อยแม่งซักหมดสองหมัดก่อนเดินออกไป” ไอ้โซ่ผู้ขี้เสือกหมายเลขหนึ่งโพล่งขึ้นมา
“ไอ้วิน กูว่ามันน่าจะถึงเวลามึงแล้วนะ หัดเข้าหาพี่ต้นน้ำซักทีแล้วเขาจะรู้ได้ยังไงวะว่ายังมีผู้ชายดีๆอยู่รอเขาตรงนี้น่ะ” ไอ้โซ่พูดเสนอแนะออกมา
“กูไม่รู้จะเริ่มยังไง จะให้กูเดินเข้าไปแล้วบอก ‘พี่ต้นน้ำ ผมชอบพี่มานานแล้วครับ’ ยังงี้หรอวะ?” ผมพูดตอบพลางขมวดคิ้วส่งไป
แต่อยู่ๆไอ้ปัฐก็ตาค้างทำปากพะงาบๆต่างจากไอ้โซ่ที่ยิ้มแบบมีเลสนัย ทำให้ผมกับมายด์หันหลังมองด้านหลังทันที
เขายืนอยู่ข้างหลังผมครับ!! ตายห่าแล้ว เขาจะได้ยินที่ผมพูดเมื่อกี้ไหมเนี่ย
----------------------------------------
“พี่ต้นน้ำสวัสดีครับ” ไอ้โซ่พูดทักขึ้นพร้อมกับยกมือไหว้พวกผมก็ทำตามไอ้โซ่เช่นเดียวกัน
“อ่า สวัสดีครับน้องๆพักกันอยู่หรอ?” ไอ้มายด์พยักหน้าแล้วรีบสะกิดแขนให้ผมตอบเขา
“ครับ แล้ว แล้วพี่ล่ะ มาทำอะไร” เขายืนยิ้มๆแล้วตอบกลับมาทำเอาผมหน้าแตกทีเดียว
“นี่ใต้คณะพี่นะจะเจอก็ไม่แปลก ฮ่ะๆ พี่ไปก่อนนะทุกคน บายๆ” ไอ้ห่าวิน มึงมันโง่มากไม่น่าถามอะไรโง่ๆออกไปเลย
“เชี้ยยยย คนอะไรยิ้มโคตรน่ารักอะมึง อิวิน กูขอเถอะนะ กูอยากด้ายยยย” ไอ้มายด์พูดลิ้นพันแล้วครับตอนนี้ ผมอยากทุบกะโหลกมันซักทีแต่ลืมไปว่ามันเป็นผู้หญิง
“ไอ้วิน กูว่าโอกาสมาถึงมึงแล้วล่ะ” ไอ้ปัฐพูดแล้วบุ้ยปากลงด้านล่างทำให้พวกผมหันไปมองตาม หื้ม กระดาษอะไร
“นายสายธรณ์ วิชาระณะกูล ชั้นปีสี่ห้องสามคณะเศรษฐศาสตร์” มันคือชื่อของคนที่ผมแอบชอบและเขาเพิ่งเดินจากไปเมื่อกี้เอง
“ไป รีบตามไปเร็วมึง เดี๋ยวพลาดโอกาสดีๆนะ” ไอ้โซ่พูดพร้อมขยิบตามาให้
ผมรีบลุกวิ่งตรงไปยันทางขึ้นที่เขาเดินขึ้นไปทันที ผมจะไม่พลาดอีกแล้วครั้งนี้ผมจะจับเขาให้อยู่กับผมตลอดไป
-----------------------------------
หลังจากพระเอกเราวิ่งไป ฝ่ายเพื่อนๆผู้หวังดีทั้งสาม………
“มึงว่ามันจะรู้ไหมวะ ว่าจริงๆแล้วพี่เขายืนอยู่ข้างหลังมันสักพักแล้ว” ขี้เสือกหมายเลขหนึ่งถามเพื่อนทั้งสองออกไป
“กูว่าไม่น่าจะรู้เพราะกูก็ไม่รู้เหมือนกัน ฮ่าๆๆ”ขี้เสือกหมายเลขสามพูด
“ถ้าคราวนี้แม่งยังพลาดอีกนะ กูจะทุบหัวมันแล้วเอาไปถวายพี่ต้นน้ำเองเลย!!” ขี้เสือกหมายเลขสองพูด
“ไปพวกเรา! ไปแอบดูมันกัน วู้ฮู้วววว” แล้วภารกิจของแก๊งขี้เสือกทั้งสามก็เริ่มขึ้น ทั้งสามรีบกระดึ๊บออกจากโต๊ะเพื่อไปแอบดูเพื่อนตัวเอง
-----------------------------------
ผมวิ่งตามพี่ต้นน้ำขึ้นมาบนตึก ซึ่งเหมือนเขาจะหยุดเดินก็หันหลังกลับมากระทันหันทำให้ผมที่กำลังวิ่งตามนั้นหยุดตัวไม่ทันจนชนเข้ากับคนตัวเล็กตรงหน้า ดีที่ผมไวหน่อยรวบเอวเขาไว้ก่อนจะล้มพับลงไปนอนกับพื้น
“อ๊ะ! ขอโทษทีพี่ ผมรีบวิ่งไปหน่อยเจ็บตรงไหนไหมครับ” ผมรีบจับคนตัวเล็กขึ้นยืนแล้วมองสำรวจที่ตัวของเขา
“อ่า ไม่เป็นไรๆ คือพี่ผิดเองแหละที่หยุดเดินกะทันหัน” เขาว่าพร้อมโค้งขอโทษผมเนืองๆ “แล้ว…ทำไมเราถึงขึ้นมาบนตึกนี้ล่ะ มีเรียนหรอ แล้ว…เพื่อนไปไหนกันหมด” เขาถามผมออกมารัวๆ
“เปล่ามีเรียนครับ ผมเอานี่มาให้” เขามองตามมือผมที่ยื่นกระดาษมาตรงหน้า “พี่ทำตกไว้ตอนที่คุยข้างล่างผมเลยเอาขึ้นมาให้”
เขาพยักหน้าแล้วเอ่ยขอบคุณเบาๆก่อนจะรับกระดาษแผ่นนั้นไป
“ผมไปก่อนนะครับ สวัสดีครับ” ขณะที่ผมกล่าวลาและหันหลังกลับก็มีเสียงเรียกดังขึ้น
“วิน เดี๋ยว!” หื้ม? เขาจำชื่อผมได้ด้วยหรอเนี่ย ดีใจจัง
“ครับ? มีอะไรหรือเปล่า” ผมถามไปพลางข่มอาการตื่นเต้นไว้
“คือ เมื่อกี้ ที่คุยกันด้านล่างน่ะเรื่องจริงหรอ?” เอ๊ะ เรื่องจริงอะไรหว่า ผมทำหน้างงเหมือนเป็นเชิงถามกลับไป “ก็ ที่ ที่เราพูดกับพวกเพื่อน….ว่า ‘ชอบพี่’ น่ะ”
อ๊ากกกกกกกก พี่เขาได้ยินจริงๆด้วย ตายแล้วๆทำยังไงดี แล้วนั้นพี่เขาหน้าแดงทำไมหรือว่าเขาเองก็เขินเหมือนกันนะ เอาวะ! มาถึงตรงนี้แล้วก็บอกมันออกไปเลยแล้วกัน
“อ่า ใช่ครับ คือ จริงๆแล้วผมชอบพี่มาตั้งนานแล้ว แต่ไม่เคยมีโอกาสได้คุยกันเลย แถมก่อนหน้านี้พี่ก็มีแฟนอยู่แล้วผมเลยไม่กล้าเข้าไปคุยด้วย” พอพูดจบ อยู่ๆคนตรงหน้าผมก็ขำพรืดออกมาทำผมงงเป็นไก่ตาแตกเลยครับ นี่พี่เขาเห็นความรักของผมเป็นเรื่องตลกหรอเนี่ย!
“ฮิๆ ขอโทษๆ ไม่ได้ตั้งใจจะขำนะแต่วินเป็นคนที่หน้านิ่งมากๆอะ คือ นี่เราสารภาพรักพี่อยู่ใช่รึป่าวแต่หน้าเรามันดูเหมือนคนไม่ตื่นเต้นหรือไม่ตกใจเลย ทำได้ไงอ่ะสอนพี่มั้งดิ” พี่เขายิ้มกลับมาให้พร้อมประโยคยาวๆครั้งแรกที่เราเคยพูดกัน
“เอ่อ หน้าผมมันเป็นแบบนี้อยู่แล้วน่ะ จะอธิบายยังไงดีล่ะ ตอนนี้ผมก็ตื่นเต้นอยู่นะแต่ผมก็เก็บอาการและสีหน้าได้น่ะ” ผมตอบกลับไป ดูท่าเขาจะตั้งใจฟังมากจริงๆเพราะตาแบ๊วๆจ้องผมไม่กระพริบเลย ท่าทางแบบนี้ดูน่ารักมากจริงๆ
“ตกลงเราสารภาพรักพี่อยู่ใช่ไหมครับ?” เขาถามผมขึ้นอีกครั้ง
“แล้วพี่คิดว่ายังไงล่ะครับ?” ผมยิ้มมุมปากนิดๆ หน้าผมต้องร้ายกาจแน่ๆเลยเขาถึงได้ถลึงตาใส่แบบนั้น
“เอ๊ะ พี่ถามเราอยู่นะครับกวนพี่หรอ” แล้วคนตัวเล็กก็เขยิบเข้ามาใกล้ทำท่าขู่ใส่คงนึกว่าน่ากลัวมากมั้ง แหน่ะ ดูทำหน้าเขาเดี๋ยวจับจูบซะเลยดีไหม
“จุ๊บ!” อ่าว ดันมือไวไปตามความคิดเสียนี่ เผลอจับหน้าคนตัวเล็กแล้วจุ๊บเบาๆไปที
“นี่ ทำอะไรน่ะ!” ดูท่าเขาจะตกใจมากหน้าแดงไปหมดไม่รู้ว่าเขินหรือโมโหนะนั่น
สงสัยคงไม่คิดว่าผมจะกล้าทำแต่จริงๆตอนนี้ผมก็รู้สึกหน้าด้านขึ้นมานิดนึงซะแล้วสิครับ หึๆ
“พี่ต้นน้ำครับ ผมชอบพี่เป็นแฟนกับผมได้ไหมครับ” พี่ต้นน้ำไม่ตอบแต่ยืนก้มหน้าอยู่อย่างนั้น ผมจึงจับแก้มทั้งสองของเขาแล้วจ้องดวงตาคู่สวยที่อยู่ตรงหน้า
“นะครับ เป็นแฟนกับผมนะ” ผมทำเสียงอ้อนที่ไม่เคยคิดว่าจะทำมันมาก่อน ซึ่งเจ้าตัวก็หลบตาแล้วทำท่าทางลังเล
“แต่เรา...เพิ่งเคยคุยกันเอง” เขายกมือขึ้นมาจับแขนผมทั้งสองข้าง
“ถ้าพี่ได้ยินที่ผมคุยกับเพื่อนก็น่าจะรู้นะว่าผมรอมานานขนาดไหน” ผมตอบคนตัวเล็กด้วยความหนักแน่นเพื่อทำให้เขามั่นใจในตัวผม
“แต่....อื้ม ก็ได้” เขาทำท่าจะค้านแต่แล้วเขาก็ตอบตกลง ถึงตรงนี้ผมดีใจมากใจผมเต้นแรงมากๆเลย ได้มาแล้วในที่สุดก็ได้มาอยู่ในอ้อมกอดแล้ว สุดที่รักของผม….
“อ๊ะ ยิ้มแล้วๆ คิๆ” เขาเอ่ยแซวผมหลังจากที่ผมเผลอยิ้มกว้าง หมั่นเขี้ยวจริงๆเลยดึงแก้มนิ่มๆไปทีนึง ตบท้ายด้วยหอมแก้มอย่างแรง
ฟอดดดด…..
“อื้ออออ คนฉวยโอกาส” คนตรงหน้าว่าแบบไม่จริงจังนักเห็นได้จากอาการเขินกับรอยยิ้มหวานๆ
เฮ่ฮฮ วู้วววววว วี้ดวี้ววว …….. มันมาแล้วครับไอ้พวกมารผจญ เฮ่อออออ คนจะสวีทกันสักหน่อยไม่ได้เลยนะพวกมึง!!!
THE END
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ถ้าว่างๆคิดพล็อตเรื่องจะมาลงใหม่อีกค่า