หากไม่ใช่.....รัก..... 15
ยามเช้าในวันอาทิตย์ปกติแล้ววันนี้ควรจะเป็นวันพักผ่อนของวาริณ แต่มีเฉพาะครั้งนี้ที่ดูแตกต่างออกไป เขาไม่ได้เปิดร้านเหมือนอย่างวันอื่น แต่กลับมานั่งรอเพื่อหวังพบใครบางคน
"สวัสดีครับ" ใบหน้าหวานเจ้าของส่วนสูงมาตรฐานชายไทย กำลังยืนส่งยิ้มมาให้เขา
"ยินดีต้อนรับครับ......" เขาทักทายตอบกลับไปแต่สายตาแอบเหลือบมองไปยังด้านหลัง ที่ถนนฝั่งตรงข้ามกลับไม่เห็นรถสีแดงจอดอยู่เหมือนอย่างเคย
"วันนี้พี่ซีนไม่ได้มาด้วยหรอกครับ....ผมมาคนเดียว" อีกฝ่ายพูดอย่างรู้ทัน
"หะหะ งั้นหรือครับ" เขาที่ถูกจับได้ก็รีบหัวเราะกลบเกลื่อนไป
"วันนี้ที่นี่เงียบจังเลย"
"วันนี้ไม่มีลูกค้าอยู่แล้วเพราะงั้นเชิญตามสบายเลยนะครับ"
"ครับ" ร่างบางส่งยิ้มให้อีกครั้งก่อนจะหยิบเครื่องดนตรีออกจากกระเป๋า
"คุณแทน ถนัดมือซ้ายหรือครับ" เขาพอเดาออกเมื่อเห็นจากท่าทางของอีกฝ่าย
"ใช่ครับ เพราะงั้นถึงได้ลำบากนิดหน่อย"
"นั่นสินะ งั้นลองเล่นตามผมดูก่อนดีมั้ย" เขาเดินไปหลังร้านเพื่อหยิบกีตาร์ตัวเก่งออกมา เขาลองขยับนิ้วสองสามครั้ง
"ฟังดูแตกต่างกับที่ผมเล่นเลย"
"อาจจะลำบากตอนแรกถ้าชินแล้วก็คงไม่มีปัญหา"
"ผมจะลองดู" เขามองอีกฝ่ายที่กำลังลองเล่นท่อนเดิมซ้ำๆ จนดูคล่องแคล่วขึ้นมาก
"เริ่มดีขึ้นแล้วนะครับ"
"อื้ม" เมื่อได้รับคำชมรอยยิ้มนั่นก็แสดงความดีใจจนปิดไม่มิดออกมา นิ้วเรียวบางขยับเสียงดนตรีก็ถูกเล่นเป็นจังหวะ เริ่มฟังเป็นทำนองขึ้นเรื่อยๆ ดวงตากลมโตช้อนมองมาที่เขาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยอะไรบางอย่าง
"นี่...เรามาทำข้อตกลงกันสักหน่อยดีมั้ยครับ" เสียงหวานที่พูดแทรกขึ้นพร้อมรอยยิ้มทำให้ไม่รู้ว่าเป็นเสียงจากเครื่องดนตรีหรือเสียงของอีกฝ่ายกันแน่
"ครับ? .....เมื่อกี้คุณแทนพูดอะไรรึเปล่า" เขาถามเพื่อความแน่ใจ เพราะอาจเป็นตัวเขาเองที่ฟังผิดไป
"ไม่ต้องสุภาพกับผมก็ได้ เรียกผมว่าแทนก็พอ กลับกันผมจะเรียกพี่ว่า พี่วาดีมั้ย"
"......อืม" เพราะเห็นอีกฝ่ายเป็นแขกเขาเลยไม่ได้ใช้คำพูดปกติที่พูดกับคนอายุน้อยกว่า แต่ถ้าอีกฝ่ายเป็นคนพูดออกมาเองละก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องปฏิเสธ
"ถ้างั้นผมมีคำถาม รบกวนช่วยตอบตามตรงด้วยนะครับ" ไม่ทันได้สังเกต ตั้งแต่เมื่อไรที่เสียงจากเครื่องดนตรีเงียบลง
"ได้สิ" เขาตอบรับไปเพราะคิดว่าอีกฝ่ายคงอยากจะขอคำแนะนำในการเล่นเครื่องดนตรีชิ้นนี้
แต่ความจริงกลับเป็นคำถามที่สร้างความลำบากใจพอควร
.
.
.
ระยะเวลาเลยผ่านมาครึ่งวัน อีกฝ่ายเรียนรู้ได้เร็วแต่ก็ยังมีเล่นผิดอยู่บ้างเขาเลยเดินเข้าไปซ้อนที่ด้านหลัง จับนิ้วเรียวบางให้ค่อยๆ เปลี่ยนตาม โดยไม่ทันได้คิดสักนิดว่าคนที่มองเข้ามาจะเข้าใจผิดอย่างไร
"อ่ะ พี่ซีน" ร่างบางที่อยู่ในวงแขนเขาร้องขึ้นมา
"......." เขามองไปตามเสียงเรียกในที่สุดก็พบคนที่เขารอคอยมาทั้งวัน เขาส่งยิ้มให้ไปแต่กลับมีเพียงสีหน้าเรียบนิ่งตอบกลับมา ดวงตาสีน้ำตาลอมแดงหรี่ลงเล็กน้อย ความไม่พอใจถูกส่งออกมาผ่านแววตา
เขาผละออกจากร่างบางทันทีแล้วหลบไปยืนอยู่ด้านหลัง ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเข้ามาตั้งแต่เมื่อไรเขาไม่ได้ยินเสียงเปิดประตูหรือกระดิ่งที่แขวนอยู่เลย
"ดูสนิทกันเร็วดีนะครับ" น้ำเสียงราบเรียบถูกเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มบาง
"ไม่หรอกครับ....คุณซีนนั่งพักสักหน่อยดีมั้ยครับผมจะไปเอาชามาให้" วาริณบอกปัดก่อนจะพยามชักชวนให้คนตรงหน้าอยู่ต่อ
"ไม่ต้องผมจะกลับแล้ว" อีกฝ่ายปฏิเสธทันที
"เอ้ะ จะกลับแล้วเหรอครับ" ซีนไม่ตอบเพียงหันสายตามองไปที่ร่างบาง ไม่นานแทนก็เก็บเครื่องดนตรีเสร็จเรียบร้อยแล้วหันมาบอกกับเขาก่อนจะเดินออกไป
"วันนี้ขอบคุณมากเลยนะครับพี่วา"
"ครับ"
"ขอโทษที่มารบกวนวันหยุดของคุณ" น้ำเสียงของร่างโปร่งยังคงราบเรียบเช่นเดิม
"ไม่เป็นไรครับ ไม่ได้รบกวนอะไร" แม้อีกฝ่ายจะแสดงออกแบบนั้นแต่วาริณยังคงส่งยิ้มอ่อนโยนไปให้เหมือนอย่างทุกครั้ง ทำให้คนที่ทำตัวประชดประชันเมื่อครู่ต้องนิ่งไป
"อืม" ไม่นานอีกฝ่ายก็ส่งเสียงตอบกลับมา เมื่อได้ยินอย่างนั้นวาริณจึงค่อยวางใจออกมายืนส่งทั้งคู่จนลับสายตา
เมื่อทั้งสองเดินกลับมานั่งที่รถอีกครั้งร่างบางก็หันไปถามคนที่นั่งอยู่ตรงที่คนขับทันที "พี่ซีนหงุดหงิดอะไร"
"เปล่านี่"
"โกหกแถมยังไม่ยอมพูดดีๆ กับพี่วาอีก"
"อยู่ด้วยกันไม่ถึงวัน ก็เข้าข้างกันขนาดนี้เลยนะ"
"ก็วันนี้พี่เขาอุตส่าห์นั่งสอนผมตั้งแต่เช้าไม่ได้พักเลย"
".........."
นั่นสินะเขาหงุดหงิดอีกฝ่ายเรื่องอะไร ทั้งๆ ที่เป็นคนไปขอให้อีกฝ่ายช่วยดูแลแท้ๆ หรือจะเป็นเพราะทั้งสองคนใกล้ชิดกันเกินไป อีกฝ่ายเป็นคนยังไงเขาก็รู้ดีแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังอดที่จะไม่พอใจไม่ได้อยู่ดี
.
.
.
แสงแดดส่องผ่านร่มเงากระทบเข้ามาในร้าน วาริณเผลอมองออกไปที่บานกระจกอีกครั้ง ขบคิดแต่เรื่องที่เกิดเมื่อวานกลัวมันจะทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจถึงแม้ในความเป็นจริงจะไม่มีอะไรเลยก็ตาม แต่เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะกังวล
"เฮีย" กล้าส่งเสียงเรียกออกมาเมื่อเห็นอีกคนกำลังเหม่อลอย
"หืม" ปล่อยวางเรื่องที่คิดก่อนหน้านี้ลงก่อนจะหันไปมองอีกฝ่าย
"เดี๋ยวเดือนหน้าผมมีฝึกซ้อมสำหรับแข่งคงจะไม่ได้มา" เด็กหนุ่มพูดอย่างเสียดาย
"พี่น่ะไม่เป็นอะไรหรอก แต่พ่อของเราน่ะอนุญาตแล้วหรอ"
"ก็นะ พอดีมีหลายเรื่องเขาเลยโอเค"
"งั้นก็ดีแล้ว แต่ยังไงก็ระวังตัวด้วยอย่าประมาทล่ะ" เขาเตือนด้วยความเป็นห่วง การแข่งขันที่ใช้ความเร็วเป็นตัวตัดสินไม่ว่ายังไงมันก็อันตรายอยู่ดี
"ครับๆ ผมรู้แล้วๆ "
กริ๊ง~ เสียงโทรศัพท์ในร้านดังแทรกขึ้นมา
กล้าเดินถอยออกไปทำงานของตัวเองต่อ เขาที่อยู่ใกล้กว่าเลยเป็นคนเข้ามารับสายแทน "ครับ" น้ำเสียงทุ้มผ่านไปยังปลายสาย
"สวัสดีค่ะร้านดอกไม้ใช่มั้ยคะ พอดีอยากสั่งดอกไม้สักช่อค่ะ"
"ครับ ไม่ทราบว่าอยากสั่งเป็นช่อดอกไม้แบบไหนครับ"
"แบบที่เป็นทางการสักหน่อย ขนาดก็ใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย สีโทนสุภาพไม่ฉูดฉาด" ปลายสายพยามบอกรายละเอียดที่เด่นชัดออกมา ที่เขารู้ได้คืออีกฝ่ายไม่น่าจะใช่ลูกค้าประจำ ไม่แน่อาจจะเป็นลูกค้ารายใหม่ซึ่งเป็นไปได้ว่าคงมีใครแนะนำมา
"ได้ครับ"
"คะ" หญิงสาวที่ถือสายอยู่แปลกใจเล็กน้อยที่ทางร้านไม่ถามถึงรายละเอียดอะไรเพิ่มอีก ทำให้เริ่มกังวลใจกลัวว่าจะไม่ได้ตามที่ต้องการ แต่เพราะเจ้านายของเธอเป็นคนแนะนำมานั่นเลยเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
"จะให้จัดส่งไปที่ไหนครับ"
"อ่อที่ตึก......ชั้น21 ให้บอกว่ามาพบดารวีค่ะ"
"ครับ จะจัดส่งให้ภายในหนึ่งชั่วโมงนะครับ"
"มีคนสั่งดอกไม้เหรอเฮีย" ทันทีที่เขาวางสายกล้าก็เดินเข้ามาหา
"ใช่เห็นว่าที่ตึก....น่ะ" เขาตอบไปพลางจัดดอกไม้ตามความต้องการของลูกค้าไปพลาง
"โห ตึกนั่นได้ยินว่ามันสูงมากเลยนี่"
"ก็น่าจะประมาณนั้น"
"ให้ผมไปส่งให้มั้ยเฮีย แป๊บเดียวถึง"
"ไม่ต้องหรอกกล้า เราเพิ่งสอบเสร็จมาพักสักหน่อยเถอะ"
"แค่นี้เอง ไม่เป็นไรหรอก"
"พี่ไปเองดีกว่า ฝากเราเฝ้าร้านให้หน่อยก็แล้วกัน"
"เอางั้นก็ได้ ขับดีๆ นะครับเฮีย" เขาพยักหน้าตอบ เพราะระยะห่างไม่มากเท่าที่คิดเลยทำให้มาส่งของก่อนเวลาที่นัดไว้มาก เขาหอบดอกไม้เข้าตึกสูง ถ้าดูจากตรงนี้ยิ่งดูสูงกว่าที่เห็นหลายเท่าตัว ภายในเป็นสีขาวสะอาดตาถูกประดับตกแต่งไว้อย่างเรียบหรู
"ผมมาพบคุณดารวีครับ" เขาเดินเข้าไปหาพนักงานต้อนรับ เพื่อบอกจุดประสงค์ที่มา
"ค่ะ เชิญที่ชั้น21 ได้เลยค่ะ" เขาขึ้นลิฟต์ตามที่พนักงานบอก แต่เมื่อมาถึงชั้นที่21 ก็พบว่ามีหญิงสาวเพียงคนเดียวที่อยู่บนชั้นนี้เขาเลยเดินตรงเข้าไปหา
"คุณดารวีหรือเปล่าครับ ผมเอาดอกไม้มาส่ง"
"ใช่ค่ะ ดอกไม้ที่สั่งไว้หรอคะเร็วจัง"
เธอรับดอกไม้ไปพิจารณา ภายในช่อประดับด้วยดอกไม้หลากหลาย ทั้งกุหลาบสีชมพูอมขาว ลิลลี่และคาเนชั่นสีอ่อนไล่สีสวยงามดูดีกว่าที่เป็นสีขาวล้วนเพียงอย่างเดียวซักอีก
"สวยจังเลยนะคะ มิน่าคุณซีนถึงได้แนะนำมา" เธอถอนสายตาจากช่อดอกไม้แล้วหันกลับมามองที่เขา
"คุณซีน? "
"ค่ะ ฉันเห็นคุณซีนหอบดอกไม้สวยๆ มาเกือบทุกครั้งคงจะมาจากที่นี่เหมือนกัน"
"ดีใจที่ได้ยินอย่างนั้นครับ" คุณซีนที่ว่าใช่คนเดียวกับที่เขารู้จักหรือเปล่า ใจจริงก็อยากจะถามออกไป แต่ว่าการได้มาที่นี่เขาก็รับรู้ได้ถึงสิ่งที่แตกต่างกันระหว่างข้างในตึกสูงกับภายนอกที่เขาอยู่ กว่าจะขึ้นมาถึงชั้นนี้เขาถูกสายตาเป็นสิบคู่มองมา ความกดดันบางอย่างที่พยามบังคับให้เขาต้องยอมรับว่าเรานั้นแตกต่างกัน
คนที่อยู่อีกฝั่งของประตูบานนั้นก็คงเป็นคนหนึ่งที่อยู่คนละระดับกับเขา แค่คิดว่าที่ผ่านมาก็มีระยะห่างมากพอแล้วเขาเลยไม่อยากจะให้มันมากกว่าเดิมขึ้นไปอีก
'ดา' เสียงที่ดังผ่านโทรศัพท์เครื่องนั้นเรียกให้เขาหันกลับไปมอง
"ค่ะ"
"ขอตัวก่อนนะคะ"
"ครับ" ดวงตาสีน้ำตาลยังคงจ้องมองตามเธอไป บานประตูที่ถูกเปิดออกมาเพียงครู่หนึ่ง ทำให้เห็นคนที่นั่งอยู่ด้านในแค่พริบตาเดียว แต่เท่านั้นเขาก็ยังรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่คิดไว้หรือไม่
ไม่ต้องรอเวลาขาทั้งสองข้างก็ก้าวออกมา รีบพาตัวเองให้พ้นจากที่ตรงนั้นทันที แต่เดินออกมาได้ไม่เท่าไรก็มีแรงเข้าปะทะที่ตรงหน้า เขาเซถอยหลังเล็กน้อยต่างกับใครอีกคนที่ล้มลงกับพื้นไป
"โธ่เว้ย ทำไมถึงไม่มองทาง!!" เสียงโอดครวญดังขึ้นมา เพราะมันเป็นทางแยกพอดีเขาเลยไม่ทันสังเกตว่ามีใครกำลังเดินมาทางนี้หรือไม่
"ต้องขอโทษด้วย คุณบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า" เขาโน้มตัวลงส่งมือข้างหนึ่งไปหวังจะช่วยฉุดรั้งอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น แต่ความหวังดีนั้นกลับถูกปฏิเสธ อีกฝ่ายปัดมือที่เขายื่นไปทิ้งก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงกึ่งตวาด "จะไม่เจ็บได้ยังไง!" จากนั้นอีกฝ่ายก็พยามลุกยืนด้วยตัวเอง
"เฮ้ยอย่าเสียงดังน่า" คนที่มาด้วยเข้าไปเตือนแต่คนตรงหน้าก็ไม่ฟังยกมือขึ้นมาชี้หน้าเขา
"ก็ดูมันสิเป็นแค่คนส่งของแท้ๆ"
"ช่างมันเถอะน่า"
"ยังไม่รีบไปจากตรงนี้อีกเกะกะลูกตาชะมัด " ไม่พูดเปล่าคนตรงหน้าก็ผลักเขาให้ถอยห่างออกไปสองสามก้าว
เฮ้อ ในที่แบบนี้ก็มีคนหลายประเภทสินะ ถึงเขาจะไม่ตอบโต้ก็ใช่ว่าจะพอใจที่ถูกปฏิบัติแบบนี้ แต่เพราะเข้าดีใจว่าคนประเภทนี้โต้ตอบไปก็ไม่มีความหมายอะไรขึ้นมา
"ไม่ได้ยินรึไง! " พนักงานคนนั้นเข้ามากระชากคอเสื้อเขา คงไม่พอใจที่เห็นเขาไม่ตอบโต้อะไรออกไป ดีแล้วที่ไม่ได้ให้กล้ามา ไม่งั้นคงเป็นเรื่องแน่
"ไอ้นี่ ยืนเงียบหาอะไรวะ" เขาเพียงชายตาไปมองอีกครั้งไม่อยากจะมีเรื่องเลยจริงๆ
.
.
.
"พวกคุณมาโวยวายอะไรกันตรงนี้" เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้ทุกอย่างสงบลง จากนั้นร่างกายเขาก็ดูเหมือนจะหยุดนิ่งไปจริงๆ
"ค คุณซีน" คนตรงหน้าหยุดชะงักทันทีเมื่อเห็นใครเดินเข้ามาใกล้ เมื่อรู้สึกตัวก็รีบปล่อยมือที่รั้งคอเสื้อเขาออกไป
"คือว่า....." รออยู่นานเสียงติดขัดก็ยังพูดไม่จบประโยค
"ฉันไม่มีเวลาว่างมากหรอกนะ" น้ำเสียงเยือกเย็นดุจน้ำแข็งเอ่ยขึ้นมาทำให้อีกฝ่ายกลับไปเงียบอย่างเดิม ทั้งเขาและพนักงานตรงหน้าต่างก็ไม่กล้าหันไปสบตา
"อ้ะ คนส่งดอกไม้เมื่อกี้นี่คะ " หญิงสาวที่เดินตามมาทีหลังร้องทักขึ้นมา
"ส่งดอกไม้" ซีนมองกลับไปที่คนข้างหน้า อีกฝ่ายกำลังยืนหันหลังให้ก็จริงแต่ถ้าสังเกตดีๆ จะรู้สึกว่าคล้ายคลึงกับคนที่เขารู้จัก มือข้างหนึ่งเอื้อมไปคว้าต้นแขนอีกฝ่ายไว้ทันที
"ดาเป็นคนให้เขาขึ้นมาส่งเอง " สิ้นคำมือที่รั้งต้นแขนถูกบีบให้แรงขึ้นอีก พยามบังคับให้อีกฝ่ายหันหน้ามาเจอเขา
"คุณ.....วา" เมื่อได้สบตากันคนตรงหน้าก็มีสีหน้าไม่พอใจมากขึ้น นั่นยิ่งทำให้วาริณรู้สึกแย่กว่าเดิม
"เดี๋ยวฉันจะมาคิดบัญชีทีหลัง" ซีนคาดโทษคนที่เหลือก่อนจะพาอีกฝ่ายเดินหันกลับไป
"ค ครับ" พนักงานสองคนหน้าซีดขึ้นมา เมื่อรู้ว่าคนส่งของเมื่อกี้เป็นคนรู้จักกับเจ้าของเรือนผมสีแดง
"ขอโทษค่ะคุณซีน ดาไม่รู้ว่า..." เธอเดินตามเจ้านายตัวเองไปพลางอธิบายเหตุผล
"ดา" แค่เรียกคำเดียวเธอก็รู้ตัวว่ากำลังเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่าย เลยตัดสินใจถอยออกมา
"ค่ะ งั้นดาขอตัวไปส่งเอกสารก่อนนะคะ"
พอไม่มีใครขวางซีนเลยพาอีกคนกลับมาที่ห้องทำงานของตัวเอง ตอนนี้เรานั่งอยู่ตรงข้ามกัน วาริณยังคงไม่ยอมสบตากับเขาสักที
"คือผมไม่รู้ว่าคุณซีนอยู่ที่นี่" อีกฝ่ายค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา ดวงตาสีน้ำตาลดูหมองลงอย่างเห็นได้ชัด
"หรอ แต่คุณดูไม่ตกใจเลยนะที่เห็นผม"
"ผมเพิ่งรู้ตอนที่ขึ้นมาส่งดอกไม้"
"........."
"......ขอโทษที่ทำให้คุณต้องวุ่นวาย"
ซีนไม่รู้เหตุผลเหมือนกันว่าทำไมตัวเองต้องหงุดหงิดขนาดนี้ เพราะอีกฝ่ายทำให้เขาเสียหน้ากับคนพวกนั้น หรือการที่มาเจอเขาที่เป็นแบบนี้ ควรจะทำยังไงกับคนตรงหน้าดี
"คุณมายังไง"
"เอ่อมอเตอร์ไซค์ครับ" นิ้วเรียวบางเคาะโต๊ะดัง กึกๆ เวลาผ่านไปสักพักพอให้ได้พักหายใจ
"มาเถอะ ผมจะไปส่งคุณที่ชั้นล่าง" ปกติที่ชั้นนี้นอกจากเขาก็แทบจะไม่มีพนักงานคนอื่นอีก ส่วนสองคนเมื่อกี้คงแวะมาส่งเอกสารเท่านั้น ไม่รู้ว่าเป็นคนจากฝ่ายไหน ไร้มารยาทซะจริง ตอนนี้ที่คอเสื้อของอีกฝ่ายยังมีรอยยับอยู่เลย ถ้าเกิดเห็นบนใบหน้านั้นมีรอยแดงเขาคงจะหงุดหงิดยิ่งกว่านี้
"ไม่เป็นไรครับ ผมไปเองได้"
"อย่าให้ต้องพูดซ้ำได้มั้ย! " เสียงตวาดดังออกมาทำให้อีกฝ่ายหยุดชะงัก
"ครับ" วาริณลูบต้นคอไปมา ยอมเดินตามอีกฝ่ายมาเงียบๆ ก่อนจะเปิดปากพูดอีกครั้ง
"คุณซีน"
"......"
"ถ้าผมทำอะไรให้คุณไม่พอใจ บอกมาได้นะครับผมจะปรับปรุง"
"หึ ก็ไม่พอใจที่คุณเป็นแบบนี้นั่นแหละ" ให้ตายเถอะ ที่เขาเคยถามอีกฝ่ายไปและคนตรงหน้าตอบกลับมายังไงเขาจำได้ดี แต่ก็ไม่นึกว่าจะขนาดนี้
'ไม่โต้ตอบถ้าไม่จำเป็น' พอเป็นเรื่องของตัวเองเลยไม่จำเป็นรึไง นึกแล้วก็หงุดหงิด เขาเอื้อมมือไปจัดคอเสื้อที่มีรอยยับให้อีกฝ่าย
"....."
".....เอาเป็นว่าครั้งนี้ผมผิดเอง ขอโทษด้วยที่พนักงานของผมทำตัวไร้มารยาทกับคุณ"
"ไม่หรอกครับ ผมเองที่...ครับ" อีกฝ่ายยอมเงียบไป เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นไปสบตา
"ดี คราวหน้าถ้าคุณหรือใครมาอีกให้บอกว่ามาพบผม ซีน ศิภาวัช"
"......."
"เข้าใจแล้วใช่มั้ย"
"ครับ"
"แล้ววันหลังผมจะแวะไปที่ร้าน" เขาบอกเพียงเท่านั้นรอยยิ้มของอีกฝ่ายก็ปรากฏให้เห็นเป็นครั้งแรกของวัน
"แล้วผมจะรอครับ" รอยยิ้มอ่อนโยนนั่นทำให้ความไม่พอใจจางหายไปจนหมด
พอไปส่งอีกฝ่ายเสร็จก็กลับมาที่ห้องทำงานตามเดิม มือเรียวผลักประตูออกเล็กน้อยก่อนจะหันไปหาคนที่เดินตามด้านหลังมา
"ถ้าดากลับมาแล้วให้เข้ามาพบฉันด้วย" เสียงเรียบนิ่งสั่งก่อนจะเดินเข้าห้องไป
.
.
.
"พนักงานสองคนเมื่อกี้เป็นคนจากฝ่ายไหน"
"ฝ่ายบัญชีค่ะ"
"อืม"
"คนเมื่อกี้เป็นคนรู้จักของคุณซีนหรอคะ"
"อือ เขาชื่อวาริน"
"ขอโทษนะคะถ้าดารู้คงจะดูแลดีกว่านี้"
"ไม่ใช่ความผิดเธอหรอก" คนพวกนั้นผิดเองที่คิดจะมาเอาเปรียบใครที่นี่ ยิ่งถ้าคนคนนั้นเป็นคนของเขา
"ฝากเธอจัดการก็แล้วกัน"
"ได้ค่ะ"
ฝ่ายบัญชีงั้นหรอ คนๆ นั้นสินะแม้กระทั่งลูกน้องของอีกฝ่ายยังตามมารังควานเขาถึงที่นี่
to be continue.
.............................................................................
มาต่อแล้วค่ะ มีบางส่วนที่รู้สึกว่าต้องแก้ไขอีกจะพยามค่อยๆ ปรับไปทีละนิดนะคะ มีตรงไหนติดขัดก็บอกได้ค่ะ ในตอนนี้ก็จะเห็นว่าทั้งคู่ค่อยๆ รู้จักกันมากขึ้น
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นนะคะ
ยังไงก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยค่ะ