เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 13}}} [UP 10/11/19]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 13}}} [UP 10/11/19]  (อ่าน 13236 ครั้ง)

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
 ต้มโคล้งทำพิษ555

ออฟไลน์ net. net_n2537

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ BBChin JungBB

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
รออยู่นะ  :z13:

ออฟไลน์ tonako2yuri

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0


เรือนหลังที่ 11



   วันต่อมาแทนกานต์นั้นรีบมายังเรือนของท่านเจ้าคุณจอมทัพตั้งแต่เช้ามืดขนาดที่ไก่ยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำ ทำให้พวกบ่าวไพร่ต่างพากันแตกตื่นรีบหาน้ำหาท่ามาต้อนรับ โดยคุณหญิงพัณณิตาเดินออกมาจากห้องนอนพร้อมท่านเจ้าคุณจอมทัพด้วยท่าทางที่ประหลาดใจทำให้แทนกานต์รีบยกมือขึ้นไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยความเคารพ

   "อรุณสวัสดิ์ขอรับคุณลุง คุณป้า"

   "มาทำอะไรตั้งแต่เช้ารึพ่อแทน"  พัณณิตาแอบอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกฝ่ายมองไปยังห้องนอนของลูกตนเอง  "หรือนัดแม่พาขวัญเอาไว้"

   "ขอรับ" แทนกานต์อมยิ้ม "เมื่อวานผิดนัดไปแล้วครั้งหนึ่งวันนี้เลยรีบมากลัวพาขวัญโกรธอีกน่ะขอรับ"

   "วันนี้ไม่มีงานทำรึพ่อแทน"

   จอมทัพขัดขึ้นมาทำให้แทนกานต์ชะงักก่อนจะยิ้มกว้างให้อีกฝ่ายอย่างเคารพ

   "ข้าจัดการเสร็จตั้งแต่เมื่อวานแล้วขอรับคุณลุง"

   "อีกซักพักคงจะตื่นแล้วล่ะ เดี๋ยวนี้แม่พาขวัญตื่นไว"

   พัณณิตาอมยิ้มพร้อมกับหยิบพัดมาพัดอย่างสบายอกสบายใจ

   "คงเพราะชอบแอบไปหนีเที่ยวกับพ่อแทนทุกวันกระมั้ง"

   "อย่าว่าพาขวัญเลยขอรับ ไม่ได้เจอกันมาตั้งนานแถมเห็นว่าป่วยอีกต่างหากข้าจึงอยากทำให้น้องผ่อนคลายบ้าง"

    ซึ่งคำตอบนั้นทำให้พัณณิตายิ้มกว้างขึ้นมามากกว่าเดิม

   "ถ้าอย่างนั้นคงจะไม่ขัดใช่หรือไม่หากป้าจะจัดงานแต่งงานของพวกเจ้าทั้งสองอีกครั้ง"

   "หากคุณป้าเห็นสมควร ข้าเองก็ไม่ขัดอะไรหรอกขอรับ"

    แทนกานต์ยิ้มกว้างด้วยความเก้อเขินเล็กน้อยก่อนจะสะดุ้งเมื่อจอมทัพขัดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงดุดัน

   "เรื่องออกเรือนนั้นเอาไว้ก่อนเถิด ตอนนี้แม่พาขวัญคงยังไม่พร้อม"

   "ไม่เป็นไรขอรับคุณลุง ข้ารอได้"

   แทนกานต์ยิ้มมุมปากพร้อมจ้องตากับจอมทัพอย่างจริงจัง  ก่อนที่จะละสายตาแล้วเปลี่ยนไปมองคนตัวเล็กที่พึ่งเดินออกมาจากห้องด้วยชุดสีชมพูหวานเข้ากันกับเครื่องประดับพองามพร้อมกับใบหน้าหวานที่ถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางค์ประทินโฉมเล็กน้อย ทำให้อดที่จะละสายตาออกจากอีกฝ่ายไม่ได้ก่อนจะสะดุ้งเมื่่อได้ยินเสียงของจอมทัพขัดขึ้นมาเช่นเดิม

   "อะแฮ่ม! มองอันใดรึพ่อแทน"

   "ข้ามองพาขวัญขอรับ"

   แทนกานต์ตอบอย่างไม่เกรงกลัวก่อนจะหันไปมองจอมขวัญที่มองมาด้วยความงุนงง

   "วันนี้เจ้าสวยมากเลยนะ ตื่นนานแล้วรึ"

   "ตื่นซักพักแล้วเจ้าค่ะ"

    จอมขวัญตอบตามมารยาทก่อนจะหันมายิ้มหวานใส่จอมทัพและพัณณิตาและแนะนำบ่าวที่นั่งก้มหน้าก้มตาอยู่ด้านหลังตนเอง

   "คุณพ่อ คุณแม่เจ้าคะ ลูกขอให้หวานขึ้นมาเป็นบ่าวรับใช้ส่วนตัวแทนสร้อยทิพย์ที่กลับบ้านได้ไหมเจ้าคะ"

   "นังสร้อยกลับบ้านอย่างนั้นหรือ ไม่มาร่ำลาข้าบ้างเลยนะนังนี่"

   พัณณิตาอารมณ์เสียเล็กน้อยแต่ก็ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ

   "แต่เอาเถอะนังหวานมันก็หลานสาวนังสร้อยก็ไว้ใจให้ดูแลเจ้าได้นั่นแหละ"

   "พ่อเองก็ไม่ขัด"

   จอมทัพลูบผมอีกฝ่ายอย่างตามอกตามใจทำให้จอมขวัญยิ้มกว้างออกมาอย่างออดอ้อน

   "ถ้าอย่างนั้นลูกขอไปเที่ยวกับคุณหลวงนะเจ้าคะ"

   "ไปเถอะลูก อย่ากลับดึกนะ"

   พัณณิตาเป็นฝ่ายอนุญาตก่อนที่จอมทัพจะได้คัดค้านอะไร ทำให้จอมขวัญดีอกดีใจเผลอจูงมือแทนกานต์ลงไปจากเรือนด้วยความลืมตัวทำให้จอมทัพหน้าตึงด้วยความหงุดหงิด

   "พี่ยังไม่อนุญาตเลยนะแม่พัณ"

   "แต่น้องอนุญาตแล้วเจ้าค่ะ"

   พัณณิตายิ้มหวานก่อนจะเดินไปทานอาหารเช้าด้วยท่าทางสบายอกสบายใจผิดกับจอมทัพที่ขมวดคิ้วแน่นไปหมด





   แทนกานต์พาจอมขวัญมาเดินตลาดแถวชานเมืองซึ่งมีของขายเยอะมาก ทำให้ทั้งสองตัดสินใจทานอาหารซักอย่างหนึ่งก่อนจะใช้เวลาทั้งวันในการเดินเข้าร้านนู้นออกร้านนี้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

   ซึ่งแทนกานต์ก็ตามใจทุกอย่างด้วยการจ่ายเงินซื้อของให้ตลอดเวลา จนหวานที่เป็นคนถือถุงเงินนั้นแถบไม่ได้ควักออกมาจ่ายสักนิดเดียวจนอดที่จะบ่นกับแสงด้วยความปราบปลื้มไม่ได้

   "โอ้โห้!~ พ่อบุญทุ่มขนาดนี้คุณหนูของหวานจะใจแข็งไปได้ซักกี่น้ำกันเชียว"

   "ข้าเองก็ไม่เคยเห็นคุณหลวงใช้เงินมากขนาดนี้เช่นเดียวกัน"

   แสงถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนเพราะเดี๋ยวนี้คุณหลวงเริ่มใช้เงินเยอะมากขึ้นทั้งที่แต่ก่อนนั้นไม่ค่อยอยากจะซื้ออะไร  หวานกัดปากพร้อมหันมายิ้มให้แสงอย่างออดอ้อน

   "พี่แสงซื้อขนมให้หวานบ้างซิ"

   "เองอยากกินอะไรล่ะ"

   แสงใจอ่อนก่อนจะถูกอีกฝ่ายกอดแขนและเดินลากเข้าไปยังร้านขนมแถวนั้นปล่อยให้เจ้านายทั้งสองยืนดูข้าวของกันเพียงสองคน

   "ปิ่นปักผมสวยจังเลยเจ้าค่ะ"

   "เหมาะกับเจ้าดีนะ"

   แทนกานต์อมยิ้มพร้อมก้มลงไปมองปิ่นปักผมในมือของอีกฝ่ายแต่จอมขวัญกลับสายหน้าพร้อมยกมือลูบต่างหูอย่างลืมตัว

   "ไม่เอาหรอก คราวที่แล้วคุณหลวงก็ซื้อต่างหูให้ข้าไปแล้ว"

   "ทุกสิ่งที่เจ้าชอบข้าพร้อมที่จะให้ได้ทุกอย่าง"

   แทนกานต์ยิ้มมุมปากพร้อมกับยื่นมือไปจ่ายเงินกับแม่ค้าก่อนจะรวบผมคนตรงหน้าขึ้นมาพอประมาณก่อนจะบรรจงปักปิ่นลงไปอย่างเบามือทำให้จอมขวัญหน้าแดงด้วยความเขินอาย

   "ประเจิดประเจ้อเกินไปแล้วนะเจ้าคะ"

   "ไม่เห็นประเจิดประเจ้อตรงไหน"

   แทนกานต์ตอบหน้าตายก่อนจะจับมือนุ่มนิ่มนั้นเดินไปร้านอื่นพร้อมกันทำให้จอมขวัญหน้าแดงด้วยความเขินอายเล็กน้อย

   ซึ่งภาพนั้นทำให้คนที่แอบดูอยู่ตรงร้านค้าไม่ใกล้ไม่ไกลกำมือแน่นแถมดวงตาเต็มไปด้วยความหึงหวง

   "เอาอย่างไรดีขอรับ"

   "เอาไอ้นิลมา"

   เสียงทุ้มออกคำสั่งไม่นานนักม้าตัวสีดำขนาดใหญ่ก็ถูกจูงมาหยุดหยู่ตรงด้านข้างของผู้เป็นเจ้านายก่อนที่มือหนาจะลูบแผงคอนั้นอย่างเบามือทั้งที่แววตานั้นเต็มไปด้วยความอาฆาต

   "แกไม่มีวันรอดแน่ไอ้แทนกานต์"


   ฮี่!!!~


   หลังจากจบประโยคมือหนาก็ฟาดลงไปแถวสะโพกจนม้าตัวใหญ่แตกตื่นวิ่งออกไปด้านหน้าด้วยความหวาดกลัวตามสัญชาตญาณ ริมฝีปากหนาเหยียดยิ้มมุมปากนั้นเต็มไปด้วยความร้ายกาจรอชมผลงานที่กำลังจะเกิดขึ้น

   ซึ่งหวานและแสงเดินออกมาจากร้านขนมก็พบว่าผู้คนด้านหน้านั้นร้องโวยวายกันอย่างแตกตื่นทำให้หวานชะโงกหน้าดูด้วยความสงสัย

   "ชาวบ้านโวยวายอะไรกันน่ะพี่แสง"

   "ไม่รู้สิ พี่ยังไม่เห็นอะไรเลย"

   แสงขมวดคิ้วพร้อมกับพยายามจ้องมองไปด้านหนาเห็นฝุ่นควันหนาฟุ้งไปหมดพร้อมกับชาวบ้านที่พากันกรีดร้องหลบหนีด้วยความหวาดกลัว ไม่นานนักแสงก็เห็นม้าสีดำตัวใหญ่กำลังวิ่งตรงมายังคุณหลวงที่กำลังยืนดูข้าวของแถวนั้นอย่างบ้าคลั้งจนชาวบ้านนั้นพากันห้ามปรามและหลบกันแทบไม่ทัน

   "คุณหลวงระวังขอรับ"

   "คุณหนู!"

   เสียงร้องตะโกนของบ่าวทั้งสองทำให้แทนกานต์หันไปมองเห็นม้าตัวใหญ่กำลังตรงเข้ามาจึงรีบคว้าเอวบางของจอมขวัญดึงเข้าหาตนเองเพื่อหลบม้าที่กำลังวิ่งพุ่งเข้ามาหาได้อย่างหวุดหวิด แต่เพราะแรงดึงอย่างไม่ทันตั้งตัวนั้นทำให้ทั้งสองล้มลงไปกองกับพื้นพร้อมกันอย่างรุนแรง

   "โอ๊ะ!!"

   'จุ๊บ!'

   ริมฝีปากของทั้งสองประกบกันอย่างแนบแน่นปนกระแทกเล็กน้อยเพราะแรงล้มเมื่อครู่ทำให้ทั้งสองจ้องมองกันอยู่นาน  จนจอมขวัญที่นอนอยู่ด้านบนเป็นฝ่ายยันตนเองออกมาก่อนด้วยท่าทางขัดเขิน

   "เอ่อ...คือ..."

   จอมขวัญพูดติดขัดพร้อมหัวใจที่เต้นแรงไม่หยุดแถมแก้มยุ้ยนั้นที่เริ่มขึ้นสีด้วยความเขินอาย

   ทางด้านแทนกานต์นิ่งอึ้งไม่ต่างกัน ดวงตาคนแอบลอบมองใบหน้าหวานของอีกฝ่ายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยแต่ก็อดที่จะแซวไม่ได้เหมือนกัน

   "เจ็บตรงไหนไหม แต่ทำไมหน้าแดงขนาดนั้นเล่า"

   "เอ่อ...ม...ไม่เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญรีบลุกขึ้นยืนทั้งที่มือปิดปากตัวเองไว้แน่นด้วยใบหน้าที่แดงก่ำด้วยความเขินอายและอับอายต่อสายตาขาวบ้านที่มองมาจนทำอะไรไม่ถูกจึงลากหวานให้วิ่งหนีออกไปจากตรงนั้นเพื่อจะกลับบ้านเอง

   "ห...หวาน"

   "เจ้าคะ?"

   "กลับบ้านกันเถอะ"

   "ห๊ะ!"

   หวานทำหน้าตาเหรอหราก่อนจะโดนลากไปโดยที่แทนกานต์ยังทำหน้าตางุนงงพยายามรั้งแต่อีกฝ่ายกลับวิ่งหนีตนเองด้วยความตื่นตระหนก

   "เดี๋ยวก่อนซิจอมขวัญ!"

   "คุณหลวงขอรับ"

   แทนกานต์หันไปมองแสงที่เดินกลับมาพร้อมกับม้าตัวนั้นที่เกือบจะชนตนเอง

   "มีอะไรรึแสง แล้วไปตามจับมันมาทำไม"

   "คุณหลวง...ม้าตัวนี้เป็นของท่านหมื่นแสงหล้าขอครับ"

   "อ้ายแสงหล้างั้นหรอ? หึ่ม! รีบตามจอมขวัญไปกันเถอะ"

   พอรู้ว่าเป็นม้าของผู้ใดนั้นแทนกานต์จึงกำมือแน่นแล้วรีบเดินไปยังทิศทางที่จอมขวัญพึ่งเดินหนีไปเมื่อครู่อย่างเร่งรีบด้วยความเป็นห่วง






    ทางด้านจอมขวัญนั้นรีบเดินออกมาจากแถวตลาดด้วยเขินอายปนอับอายมากที่โดนแทนกานต์จูบกลางตลาด ก่อนจะหันไปค้อนหวานบ่าวรับใช้คนสนิทที่หัวเราะไม่หยุด

   "หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้นะหวาน"

   "หวานตลกนี่เจ้าคะคุณหนู"

   หัวเราะเสียงเบาด้วยใบหน้าที่แดงไปหมดด้วยความเขินอายเพราะพึ่งเคยเห็นคนจูบกันกลางตลาต ทำให้จอมขวัญทำแก้มพองลมใส่อย่างแง่งอนแล้วแกล้งเดินหนีซึ่งหวานรีบเดินตามทั้งที่ยิ้มและหัวเราะล้อเลียนตลอดเวลา

   "ข้าไม่คุยกับหวานแล้ว!"

   'ปึก!'

   "โอ๊ะ! ขอ..."

   จอมขวัญไม่ทันระวังตัวเพราะกำลังหันไปแง่งอนกับหวานซึ่งพอหันหน้ากลับมาอีกทีก็ชนเข้ากับอกของแสงหล้าที่มายืนตอนไหนไม่รู้แถมยกมือขึ้นมากอดเอวตนเองแน่นพร้อมรอยยิ้มและสายตาที่เจ้าเล่ห์

   "ระวังหน่อยซิพาขวัญ"

   "หมื่นแสงหล้า"

   จอมขวัญเบิกตากว้างด้วยความตกใจแต่แสงหล้ากลับแสยะยิ้มมาให้อย่างร้ายกาจ

   "คิดถึงจัง ไม่ได้เจอน้องพาขวัญตั้งนานแหนะ ถ้าอย่างนั้นมีเวลาว่างไปนั่งคุยกับพี่ซักหน่อยคงไม่เป็นอะไรกระมั้ง"

   "ไม่ไปเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญตกใจพยายามขืนตัวและจะดันอีกฝ่ายออกซึ่งหวานก็เข้ามาช่วยอีกแรง

   "ปล่อยคุณหนูนะเจ้าคะท่านหมื่น"

   "อย่ามายุ่ง!"

   แสงหล้าชักสีหน้าก่อนจะหันไปสั่งพวกบ่าวรับใช้ของตนเองที่ยืนอยู่ด้านหลัง

   "พวกเองจับมันเอาไว้ อย่าให้เข้ามาขัดใจช้าอีก"

   "อ๊าย! คุณหนู!"

   หวานที่กำลังจะเข้ามาช่วยแต่ถูกคนของแสงหล้ารุมจับเอาไว้ทำให้ร้องออกมาด้วยความตกใจก่อนจะถูกลากไปมัดไว้กับต้นไม้ทำให้จอมขวัญท่าทางตื่นตระหนก

   "หวาน! หวาน!"

   "ส่วนเจ้ามากับข้า"

   แสงหล้าพยายามดึงแขนแต่จอมขวัญกลับยื้อเอาไว้ด้วยหน้าตาท่าทางไม่พอใจ

   "ปล่อยเดี๋ยวนี้! ทำไมต้องทำร้ายคนของข้าด้วย!"

   "มันอยากมาขัดใจข้าเอง"

   แสงหล้าทำท่าทางขัดใจก่อนจะแสยะยิ้มตรงมุมปากด้วยความร้ายกาจพร้อมจ้องมองร่างบางตรงหน้าตาเป็นมัน

   "อย่าไปคิดเรื่องของคนอื่นเลย มาคิดเรื่องของเรากันดีกว่า"

   "ห๊ะ" จอมขวัญทำหน้าตางุนงง "เรื่อง...เรื่องอะไร"

   "เรื่องที่เจ้า..."

   แสงหล้ายื่นเข้าไปกระซิบข้างหูจนอีกฝ่ายขนลุกชันไปทั้งตัว

   "กำลังจะเป็นเมียข้าไง"

   "ไม่! ปล่อยข้านะ"

   จอมขวัญพยายามสะบัดอีกฝ่ายด้วยท่าทางรังเกียจแต่อีกฝ่ายดันกำข้อมือแน่นกว่าเดิมด้วยแววตามุ่งร้าย

   "ข้าไม่ปล่อย! ข้ารอเวลานี้มานานแล้วและจะไม่มีวันปล่อยไปไหนอีก"

   "ไม่!!"

   จอมขวัญร้องเสียงหลงพยายามต่อสู้ขัดขืนอีกฝ่ายแต่ก็โดนแสงหล้าลากออกมาให้ห่างไปจากตรงนั้นพอสมควรจึงหยุดเดินและรั้งเอวอีกฝ่ายให้เข้ามาหาตนเองจนเกือบแนบชิดไปทุกส่วนแถมยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูอีกต่างหาก

   "ขัดขืนไปก็เปล่าประโยชน์ ยอมเป็นเมียข้าเถอะพาขวัญ"

   "ไม่เอาโว๊ยย!"

   จอมขวัญร้องลั่นด้วยความตกใจพร้อมดันหน้าอกฝ่ายที่พยายามจะจูบตนเองนั้นด้วยท่าทางรังเกียจแล้วยกเท้าขึ้นมาถีบตรงแถวท้องอย่างแรงจนอีกฝ่ายล้มลงไปกองกับพื้น ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาวิ่งหนีซึ่งแสงหล้าเจบใจรีบวิ่งไล่ตามจนคว้าแขนเรียวบางของคนตรงหน้าได้แล้วเผลอเหวี่ยงไปอย่างลืมตัวด้วยความโมโห

   "หยุดขัดขืนซักทีได้ไหม!"

   ปึก!

   "โอ๊ย!"

   จอมขวัญร้องออกมาด้วยความเจ็บเพราะเมื่อตนโดนอีกฝ่ายนั้นเหวี่ยงจนล้มลงไปหัวฟาดกับท่อนไม้จนเลือดไหลออกมาเยอะพอสมควร แต่ด้วยความหน้ามืดตามัวทำให้แสงหล้าไม่ทันสังเกตุพราะมัวแต่จะซุกหน้าเข้าไปตรงซอกคอของอีกฝ่ายแต่ต้องชะงักเมื่อเห็นเลือดที่ไหลเต็มไปหมด

   "พาขวัญ"

   "เจ็บ..."

   "เจ้าเลือดออก"

   แสงหล้าทำหน้าตาตกใจเอื้อมมือไปซับเลือดพร้อมกับก้มหน้าลงไปหาอย่างห่วงใยแต่ด้วยความที่จอมขวัญยังตื่นกลัวจึงพยายามพลักอีกฝ่ายให้ออกห่าง

  จอมขวัญหลับตาแน่นด้วยความเจ็บแผลตรงหน้าผากและพยายามร้องขอความช่วยเหลือจนหมดแรงพร้อมกับนึกถึงใบหน้าของใครบางคนที่คอยมาช่วยเหลือตนเองตลอดเวลา


   "แทนกานต์...ช่วยด้วย..."


   "จอมขวัญ!!!"


   เสียงตะโกนที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตรงนั้นดังขึ้นอย่างตื่นตระหนกทำให้จอมขวัญเหลือบไปมองก่อนจะนิ่งค้างเมื่อเห็นผู้ชายที่กำลังวิ่งมานั้นคุ้นตาและทำให้หัวใจที่เริ่มเลือนลางภาพของอีกฝ่ายนั้นกลับมาเต้นแรงชัดเจนขึ้นอีกครั้ง



    "คินตา...???!!"





********************

ออฟไลน์ tonako2yuri

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0




เรือนหลังที่ 12


   หลังจากวันนั้นที่จอมขวัญหายตัวไปคินตาก็พยายามตามหาอีกฝ่ายทุกที่ไม่ว่าจะเป็นแถวรอบวัดหรือที่บ้านแต่ทว่าหาเท่าไหร่ก็หาไม่พบ

   เจอเพียงสร้อยคอเส้นเดียวที่ตกบนพื้นหญ้าซึ่งตรงแถวนั้นไม่มีบึงน้ำอะไรทั้งสิ้น

   ทำให้คินตากินไม่ได้นอนไม่หลับพยามตามหาอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้ จนต้องกลับไปหาหลวงพ่อที่วัดอีกครั้งด้วยท่าทางร้อนใจ

   "จอมขวัญกลับมาที่วัดบ้างหรือไม่ครับหลวงพ่อ"

   "ไม่ได้กลับมาเลยโยม"

   หลวงพ่อถอนหายใจอย่างเวทนาอีกฝ่ายทำให้คินตาทำสีหน้าผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด

   "ที่วัดก็ไม่มีแถมไม่ได้กลับบ้านอีกต่างหาก แล้วจอมขวัญจะไปอยู่ที่ไหนกัน"

   "บางทีอาจจะอยู่ในที่ไกลแสนไกล"

   หลวงพ่อพึมพัมอย่างแผ่วเบาก่อนจะหยิบบางอย่างออกจากถุงย่ามมากำเอาไว้พร้อมพึมพัมคาถาบางอย่างทำให้คินตามองด้วยความประหลาดใจ

   "ยื่นข้อมือซ้ายมาซิ"

   "ครับ?"

   แม้จะงุนงงแต่คินตาก็ยอมยื่นข้อมือซ้ายไปด้านหน้าแต่โดยดีซึ่งหลวงพ่อก็บรรจงผูกสายสิญจน์ตรงข้อมือซ้ายพร้อมทั้งพึมพัมคาถาไปด้วยจนจบก่อนจะเป่าอย่างแผ่วเบาแต่ทำให้คินตาขนลุกไปหมด

   "หลวงพ่อสายสิญจน์เส้นนี้ทำไมหรือครับ"

   "ทางข้างหน้าอาจยากลำบากนัก เองห้ามถอดสายสิญจน์เส้นนี้เด็ดขาด"

   หลวงพ่อจ้องมองมาด้วยสายตาจริงจัง

   "เข้าใจไหม"

   "ครับ"

   คินตาตอบรับแต่ยังทำสีหน้ากังวลไม่หาย

   "แต่ผมต้องทำยังไงถึงจะได้เจอจอมขวัญอีกครั้งล่ะครับหลวงพ่อ หลวงพ่อช่วยชี้แนะให้หน่อยได้ไหมครับ"

   "เฮ้อ~"

   หลวงพ่อถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบาก่อนจะพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้อีกฝ่ายนั้นงุนงง

   "ของที่ล้ำค่าจะนำพาเจ้าไปพบกับโชคชะตา"

   "คืออะไรหรือครับหลวงพ่อ"

   คินตาไม่เข้าใจแต่ยังไม่ทันที่จะได้ถามอะไรเพิ่มเติมหลวงพ่อก็เข้าสู่สมาธิไปเสียแล้ว ทำให้คินตาตัดสินใจกราบลาแล้วเดินออกมาจากโบสถ์ด้วยความงุนงง

   "หลวงพ่อหมายถึงอะไรกันนะ??"





    คืนวันนั้นเองคินตาตัดสินใจมานอนที่บ้านของจอมขวัญเผื่อว่าอีกฝ่ายจะกลับมาบ้าน แต่ทว่ารอไปจนเกือบถึงเที่ยงคืนก็ไม่พบแม้แต่เงาของอีกฝ่ายทำให้คินตาถอนหายใจออกมาอย่างหนักอกหนักใจ

   "แล้วจะไปหาจอมขวัญได้ที่ไหนเนี่ย"

   ระหว่างที่กำลังเครียดอยู่นั้นดวงตาคมก็เหลือบไปเห็นสร้อยคอของอีกฝ่ายที่วางอยู่บนหัวเตียงกำลังส่องแสงสว่างเรืองรอง ซึ่งเป็นสร้อยคออันเดียวกันกับที่ถูกทิ้งไว้บนพื้นหญ้าคู่กันกับกล้องถ่ายรูป พร้อมกับเสียงหลวงพ่อที่ดังก้องขึ้นมาเสียงดัง


   'ของที่ล้ำค่าจะนำพาเจ้าไปพบกับโชคชะตา'


   "สร้อยเส้นนี้จะพาเราไปหาจอมขวัญได้ไหมนะ"

   คินตาเริ่มคิดจริงจังก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบสร้อยคอเส้นนั้นกุมเอาไว้แน่นพร้อมนึกถึงใบหน้าของจอมขวัญที่คิดถึงมาตลอด


   'อยากเจอจอมขวัญอีกครั้ง'


   คิดได้เท่านั้นก่อนที่สติสุดท้ายจะดับวูบไปและรู้สึกเหมือนมีแรงอะไรบางบางอย่างกำลังดึงตนเองเข้าไปในสร้อยเส้นนั้น

   ก่อนที่แสงสว่างจะดับลงพร้อมกับสร้อยเส้นงามที่หล่นลงไปอยู่บนเตียงและไฟทั้งบ้านที่ดับลงพร้อมกันอย่างน่าประหลาดใจ

   ซึ่งภาพที่เห็นในนิมิตนั้นทำให้หลวงพ่อลืมตาขึ้นมามองแสงเทียนตรงหน้าด้วยแววตาที่ลำบากใจไม่น้อย

   "โชคชะตาของพวกเจ้าได้เริ่มขึ้นแล้ว"







   'ช่วย...ด้วย'


   "อืมมม..."

   คินตานั้นลืมตาขึ้นมามองรอบกายด้วยความงุนงงเพราะตนเองยืนอยู่กลางป่า ก่อนจะเหมือนได้ยินเสียงคนร้องเรียกขอความช่วยเหลือดังมาจากอีกทางหนึ่ง

   ทำให้คินตารีบวิ่งวิ่งตามเสียงไปเพื่อจะช่วยเหลือก็พบผู้ชายคนหนึ่งกำลังรังแกผู้หญิงอยู่แต่ดูไปดูมาดันหน้าตาเหมือนเพื่อนของเขาที่หายตัวไปเมื่อหลายเดือนที่แล้ว

   "จอมขวัญ!"

   เมื่อคิดได้อย่างนั้นคินตาจึงรีบวิ่งเข้าไปกระชากแสงหล้าให้ผละออกจากจอมขวัญแล้วลากมาต่อยเข้าไปที่ใบหน้าหล่อเหลานั้นอย่างแรงหลายต่อหลายทีจนอีกฝ่ายสลบไป

   ก่อนที่คินตาจะง้างหมัดเพื่อต่อยอีกครั้งก็ต้องชะงักค้างได้ยินเสียงคุ้นเคยของคนที่ตามหาเรียกชื่อตัวเองอย่างแผ่วเบา

   "คินตา"

   "หืม?"

   คินตาหันไปมองด้วยสายตาที่เบิกตากว้างเมื่อเห็นใบหน้าสวยหวานที่คุ้นเคยแถมยังไว้ผมยาวและแต่งตัวผู้หญิงอีกต่างหาก

    "จ...จอมขวัญจริงด้วย!?"

   "คินตา!"

   จอมขวัญตะโกนเรียกอีกฝ่ายอย่างดีใจทำให้คินตาผละออกจากร่างที่นอนสลบของแสงหล้าและตรงเข้ามาหาก่อนที่จะโดนจอมขวัญดึงเข้าไปกอดแน่นแล้วร้องไห้เสียงดังลั่น

   "ฮืออ ฮึก! จอมคิดว่าจะไม่ได้เจอคินอีกแล้วนะเนี่ย ฮึก! จอมคิดถึงคินนะ ฮืออ~"

   "ในที่สุดคินก็หาจอมจนเจอซักทีนะ รู้ไหมว่าคินเป็นห่วงจอมมากแค่ไหน"

   คินตาลูบผมอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบาพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงมากยิ่งขึ้นจนหน้าแดงไปหมด แถมยิ่งตอนนี้อีกฝ่ายยังไว้ผมยาวแถมอยู่ในชุดผู้หญิงแบบนี้อีกทำให้คินตาสงสัยหลายอย่างจนเผลอหลุดพูดออกไป

   "เกิดอะไรขึ้นน่ะจอม ทำไมจอมถึงมาที่นี่ได้ ทำไมตอนที่จอมหายไปคินถึงหาจอมไม่เจอ แล้วทำไมจอมถึงแต่งตัวเป็นผู้หญิงแบบนี้ด้วยล่ะ"

   "เรื่องมันยาวน่ะคิน"

   จอมขวัญยิ้มแห้งไม่รู้ว่าควรจะเริ่มเรื่องไหนอธิบายให้อีกฝ่ายฟังก่อนดีนะ แต่ทว่าต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงที่เริ่มคุ้นเคยตะโกนเรียกมาดังลั่น

   "พาขวัญ!"

   "เดี๋ยวจอมเล่าให้คินฟังทีหลังนะ"

   จอมขวัญยังไม่พร้อมจะเล่าให้ฟังตอนนี้เพราะต้องเตรียมรับมือกับแทนกานต์ที่เดินเข้ามาหาด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง

   ฝ่ายแทนกานต์เองนั้นพอเห็นจอมขวัญนั่งอยู่บนพื้นก็รีบวิ่งมาหาด้วยความเป็นห่วงก่อนจะขมวดคิ้วแน่นเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังกอดผู้ชายคนอื่นแน่น จึงเผลอพูดเสียงไม่พอใจออกไปอย่างลืมตัว

   "เจ้าปลอดภัยหรือไม่พาขวัญ แล้วชายผู้นี้คือใครกันเหตุใดจึงต้องกอดกันแน่นขนาดนั้น"

   "เขาเป็นคนมาช่วยข้าไว้น่ะเจ้าค่ะ"

    จอมขวัญตอบคำถามนั้นก่อนจะเผลอปล่อยมือออกจากคินตาในจังหวะที่แทนกานต์ยกมือขึ้นมาจับบริเวณแผลบริเวณหัวนั้นอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับห้ามเลือดให้อย่างเบามือแถมคิ้วยังขมวดจนแทบจะติดกัน

   "ไอ้แสงหล้ามันทำเจ้าบาดเจ็บขนาดนี้ด้วยอย่างนั้นหรือ เจ็บมากหรือไม่"

   "ข้าไม่เป็นไร...อย่าขมวดคิ้วซิเจ้าคะ"

   จอมขวัญยกมือขึ้นไปจิ้มตรงหว่างคิ้วของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบาทำให้แทนกานต์ได้โอกาสกุมมือนุ่มนิ่มนั้นแน่น ก่อนจะประคองจอมขวัญให้ลุกขึ้นยืนแล้วปัดเศษใบไม้ออกไปจากตัวให้อย่างอ่อนโยน

   "แล้วหวานล่ะ...เห็นหวานบ้างไหม"

   "ไม่ต้องกังวลข้าให้แสงดูแลนางอยู่ทางด้านนู้นน่ะ"

    แทนกานต์ตอบพร้อมกับเหลือบมองแสงหล้าที่นอนสลบอยู่บนพื้นด้วยความคับแค้นใจ

    "ไอ้แสงหล้า ข้าน่าจะฆ่ามันให้ตายนัก"

    "อย่าเลยเจ้าค่ะ เรารีบไปหาหวานกันดีกว่า"

   จอมขวัญรั้งแขนอีกฝ่ายเอาไว้แล้วรีบลากออกไปจากตรงนั้นโดยมีคินตาเดินตามหลังปล่อยให้แสงหล้านอนสลบอยู่เพียงคนเดียว








    เมื่อลากอีกฝ่ายออกมาได้แล้วจอมขวัญจึงรีบเดินย้อนกลับมาทางเดิมด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะโล่งใจเพราะเห็นแสงคนรับใช้ของแทนกานต์กำลังปลดเชือกตรงข้อมือให้หวานอยู่ตรงใต้ต้นไม้ใหญ่

   พอหวานเห็นจอมขวัญก็รีบวิ่งเข้ามาเกาะแขนเจ้านายของตนทันทีด้วยความตื่นกลัวและเป็นห่วง

   "คุณหนูพาขวัญเป็นอะไรมากหรือไม่เจ้าคะ หวานตกใจแทบแย่ตอนที่เห็นคุณหนูโดนพาตัวไป"

   "ข้าไม่เป็นอะไร แล้วเจ้าล่ะเป็นอะไรหรือไม่"

   จอมขวัญสำรวจคนตรงหน้าด้วยความเป็นห่วงก่อนที่หวานจะส่ายหน้าปฏิเสธแต่แอบแก้มแดงเมื่อพูดถึงคนที่ช่วยตนเอง

   "หวานไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะคุณหนู โชคดียิ่งนักที่พี่แสงมาช่วยไว้ทัน"

   "ดีแล้วล่ะ"

   จอมขวัญถอนหายใจก่อนหันไปมองแทนกานต์ที่ยื่นจับมือตนเองไม่ยอมปล่อยแม้จะพยายามดึงมือออกก็ตาม

   "ปล่อยมือข้าได้รึยังเจ้าคะคุณหลวง"

   "ยัง"

   แทนกานต์ทำหน้าตาบึ้งตึงก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว

   "จนกว่าเจ้าจะยอมบอกข้าว่าผู้ชายคนนี้คือใคร"

   "เรากลับไปคุยกันที่เรือนดีหรือไม่เจ้าคะ ข้าจะได้ทำแผลด้วย"

   จอมขวัญพยายามเลี่ยงคำตอบซึ่งแทนกานต์ก็ตามใจอีกฝ่ายโดยการเอามือนุ่มนิ่มนั้นมาจับไว้แถมแน่นขึ้นกว่าเดิมแล้วพาเดินไปพร้อมกับตนเอง

   "ถ้าอย่างนั้นเรากลับเรือนกันเถิด"

   "อ...อืม เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญหน้าแดงก่อนจะยอมเดินตามอีกฝ่ายไปอย่างง่ายดายโดยไม่ลืมที่จะหันไปชวนคินตาให้เดินตามมา

   "ไปกันเถอะ"

   "เอ่อ...เออ"

   คินตาตอบรับอย่างงุนงงและเดินตามหลังด้วยความหงุดหงิดที่จอมขวัญไปสนิทกับคนอื่นนอกจากตนเอง



    เมื่อลากอีกฝ่ายออกมาได้แล้วจอมขวัญจึงรีบเดินย้อนกลับมาทางเดิมด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะโล่งใจเพราะเห็นแสงคนรับใช้ของแทนกานต์กำลังปลดเชือกตรงข้อมือให้หวานอยู่ตรงใต้ต้นไม้ใหญ่

   พอหวานเห็นจอมขวัญก็รีบวิ่งเข้ามาเกาะแขนเจ้านายของตนทันทีด้วยความตื่นกลัวและเป็นห่วง

   "คุณหนูพาขวัญเป็นอะไรมากหรือไม่เจ้าคะ หวานตกใจแทบแย่ตอนที่เห็นคุณหนูโดนพาตัวไป"

   "ข้าไม่เป็นอะไร แล้วเจ้าล่ะเป็นอะไรหรือไม่"

   จอมขวัญสำรวจคนตรงหน้าด้วยความเป็นห่วงก่อนที่หวานจะส่ายหน้าปฏิเสธแต่แอบแก้มแดงเมื่อพูดถึงคนที่ช่วยตนเอง

   "หวานไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะคุณหนู โชคดียิ่งนักที่พี่แสงมาช่วยไว้ทัน"

   "ดีแล้วล่ะ"

   จอมขวัญถอนหายใจก่อนหันไปมองแทนกานต์ที่ยื่นจับมือตนเองไม่ยอมปล่อยแม้จะพยายามดึงมือออกก็ตาม

   "ปล่อยมือข้าได้รึยังเจ้าคะคุณหลวง"

   "ยัง"

   แทนกานต์ทำหน้าตาบึ้งตึงก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว

   "จนกว่าเจ้าจะยอมบอกข้าว่าผู้ชายคนนี้คือใคร"

   "เรากลับไปคุยกันที่เรือนดีหรือไม่เจ้าคะ ข้าจะได้ทำแผลด้วย"

   จอมขวัญพยายามเลี่ยงคำตอบซึ่งแทนกานต์ก็ตามใจอีกฝ่ายโดยการเอามือนุ่มนิ่มนั้นมาจับไว้แถมแน่นขึ้นกว่าเดิมแล้วพาเดินไปพร้อมกับตนเอง

   "ถ้าอย่างนั้นเรากลับเรือนกันเถิด"

   "อ...อืม เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญหน้าแดงก่อนจะยอมเดินตามอีกฝ่ายไปอย่างง่ายดายโดยไม่ลืมที่จะหันไปชวนคินตาให้เดินตามมา

   "ไปกันเถอะ"

   "เอ่อ...เออ"

   คินตาตอบรับอย่างงุนงงและเดินตามหลังด้วยความหงุดหงิดที่จอมขวัญไปสนิทกับคนอื่นนอกจากตนเอง






    ทางฝั่งคุณหญิงพัณณิตาและท่านเจ้าคุณจอมทัพยื่นรออยู่ด้านล่างของเรือนเพราะนี่ก็ยามเย็นมากแล้วด้วยแต่ทั้งสองคนก็ยังไม่กลับมาทำให้คุณหญิงพัณณิตาใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเป็นกังวลมาก

   "ทำอย่างไรดีล่ะเจ้าคะคุณพี่ หากพาขวัญหลงทางกับแทนกานต์หรือหายตัวไปไม่กลับมาอีกล่ะ"

   "อย่าเพิ่งวิตกกังวลไปเลยแม่พัณ มีแทนกานต์ไปด้วยพาขวัญไม่เป็นอะไรหรอก"

   จอมทัพปลอบใจอีกฝ่ายขัดกับภายในที่เป็นห่วงจอมขวัญมาก ก่อนที่เมืองจะวิ่งเข้ามารายงานด้วยใบหน้าและรอยยิ้มที่ยินดีมาก

   "คุณหนูพาขวัญกับคุณหลวงแทนกานต์กลับมาแล้วขอครับ"

   "จริงหรืออ้ายเมือง"

   พัณณิตาดีใจรีบเดินออกไปก่อนอย่างรีบร้อนโดยที่มีจอมทัพเดินตามมาด้านหลังไม่ห่างด้วยความโล่งอก

   พอถึงหน้าสะพานขึ้นเรือนพัณณิตาก็ตรงเข้าไปกอดจอมขวัญทั้นทีพร้อมกับร้องไห้ฟูมฟายทำให้แทนกานต์ต้องยอมปลอยมือออกมาอย่างเสียดาย

   "ฮึก! พาขวัญหายไปไหนมานานสองนานล่ะลูก แม่เป็นห่วงเจ้าแทบแย่"

   "ลูกกลับมาแล้ว อย่าร้องไห้ซิเจ้าคะคุณแม่"

   จอมขวัญยกมือขึ้นมากอดเอวของอีกฝ่ายกลับอย่างออดอ้อนก่อนจะสะดุ้งเมื่อจอมทัพยื่นมือมาจับตรงแผลบนศีรษะของตนเองด้วยความกังวลใจ

   "เลือดออกด้วย เกิดอะไรกันขึ้นหรือพาขวัญ"

   "พาขวัญบาดเจ็บด้วยหรอลูก"

   พัณณิตาถามด้วยน้ำเสียงแตกตื่นพร้อมกับจ้องมองมองบาดแผลตรงหน้าผากของลูกด้วยอาการเป็นกังวล

   "ตายแล้ว!!! แผลใหญ่เชียวรีบขึ้นเรือนกันเถิดเดี๋ยวแม่พาไปทำแผล...นี่นังพริ้ม!!"

   "เจ้าคะนายแม่"

   พริ้มพรายสะดุ้งสุดตัวเมื่อพัณณิตาหันมาทำเสียงดังใส่ตนเองด้วยท่าทางรีบร้อนและเอาแต่ใจ

   "นังพริ้มเองรีบให้บ่าวไพร่ตระเตรียมยาให้ลูกข้าเดี๋ยวนี้เลย!!!"

   "เจ้าค่ะนายแม่"

   พริ้มพรายรีบวิ่งขึ้นไปบนเรือนพร้อมบ่าวจำนวนหนึ่งด้วยความเร่งรีบเพื่อไปเตรียมยาสำหรับการทำแผล  ส่วนพัณณิตาหันมาลูบผมอย่างอ่อนโยนแล้วรีบประคองลูกตัวเองขึ้นเรือนด้วยความเป็นห่วง

   "ใกล้ค่ำแล้วอากาศเริ่มเย็นรีบขึ้นไปบนเรือนกันเถิดลูก"

   พัณณิตาชะงักเล็กน้อยก่อนจะหันไปชวนแทนกานต์ด้วยน้ำเสียงที่เอ็นดู

   "พ่อแทนก็ขึ้นมาด้วยกันนะ ป้ามีหลายเรื่องที่ต้องถามเยอะเลย"

   "ขอรับคุณป้า"

   แทนกานต์ไม่ปฏิเสธพร้อมกับเดินตามหลังท่านเจ้าคุณขึ้นไปบนเรือนและปิดท้ายด้วยคินตาที่เดินขึ้นเรือนมาพร้อมกับบ่าวรับใช้

   เมื่อขึ้นมาบนเรือนแล้วพัณณิตาก็รีบหาผ้าสะอาดมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวลูกสาวของตนที่มีแผลถลอกเต็มไปหมดทำให้อดที่จะบ่นออกมาไม่ได้

   "เจ็บมาไหมพาขวัญ ดูซิมีแผลเต็มไปหมดเลย"

   "ลูกไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะคุณแม่"

   จอมขวัญส่ายหน้าพร้อมยิ้มหวานให้อย่างเอาใจแต่ไม่ได้ทำให้พัณณิตาหายกังวลเลยซักนิดเดียว

   ยิ่งเมื่อท่านเจ้าคุณจอมทัพเห็นบาดแผลของจอมขวัญที่ไม่ได้มีแค่ตรงหัวแต่มีลอยถลอกไปทั่วหลายจุด ทำให้รีบหันไปถามแทนกานต์ด้วยสายตาที่คาดคั้นและเต็มไปด้วยความโมโห

   "มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นหะพ่อแทน ทำไมแม่พาขวัญถึงบาดเจ็บกลับมาแบบนี้"

   "พาขวัญ..."

   แทนกานต์เว้นจังหวะเล็กน้อยก่อนจะเหลือบไปมองคนตัวเล็กที่ส่ายหน้าอย่างห้ามปราม แต่พอเห็นสายตาของผู้ใหญ่ทั้งสองที่มองอย่างคาดคั้นแล้วจึงตอบคำถามอย่างจำใจ

   "โดนฉุดขอรับ"

   "ตายแล้ว!"

   พัณณิตายกมือขึ้นมาแทบหน้าอกลมแทบจับ

   "แต่พาขวัญไปกับพ่อแทนไม่ใช่หรือแล้วไปโดนฉุดได้อย่างไรกัน"

   "เราสองคนหลงทางกันที่ตลาดขอรับ ส่วนใครมาฉุดนั้นข้าเองก็ไม่อยากพูด"

   แทนกานต์กำมือแน่นพยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองไม่ให้โกรธไปมากกว่าเดิม

   "ให้พาขวัญตอบเองเถิดขอครับ"

   "เรื่องเป็นไงมาไงรีบบอกมาซิลูก"

   พัณณิตาถามอย่างร้อนใจไม่ต่างกับจอมทัพที่เริ่มหงุดหงิด

   "ตอบมาซิลูก"

   "ลูก...คือลูก..."

   จอมขวัญอึกอักอยู่อย่างนั้นจนพัณณิตาต้องหันไปถามหวานที่กำลังนั่งห่อลูกประคบอยู่ด้านหลังลูกของตนเองด้วยสายตาที่คาดคั้น

   "นังหวาน! เองบอกข้ามาซิว่าใครเป็นคนฉุดลูกสาวข้า"

   "คือ..."

    หวานชะงักเมื่อจอมขวัญส่งสายตามาอย่างห้ามปรามทำให้จอมทัพขมวดคิ้วแล้วจ้องไปยังแสงที่หมอบอยู่ด้านหลังนายของตนเอง

   "อ้ายแสง เองมานี้ซิ"

   "ขอรับ"

   แสงรับคำพร้อมคลานออกมาด้านหน้าด้วยท่าทางที่เงอะงะเล็กน้อยพร้อมก้มหน้าลงไปแทบจะติดพื้น

   "เองเห็นคนร้ายที่ฉุดลูกสาวข้าไปหรือไม่"

   "เห็นขอรับคุณหลวง"

   คำถามนั้นทำให้แสงตอบไปตามความจริงตามประสาคนซื่อ

   "ตอนที่กระผมเข้าไปช่วยแม่หวานนั้น กระผมเห็นเป็นคนรับใช้ของท่านหมื่นแสงหล้าขอครับ"

   "คนของแสงหล้าอย่างนั้นหรือ?"

   จอมทัพเริ่มขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจพร้อมกับจ้องมองไปทางจอมขวัญที่เริ่มหลบสายตาตนเองอย่างกลัวความผิด

   "พาขวัญตอบพ่อมาตามตรง แสงหล้าเป็นคนทำร้ายและลักพาตัวลูกไปใช่หรือไม่"

   "เจ้าค่ะคุณพ่อ"

   จอมขวัญตอบรับอย่างจำใจทำให้จอมทัพโมโหอย่างหนักจนขนาดกระทืบเท้าอย่างแรงจนเสียงดังลั่นไปทั้งเรือน

   "บังอาจนัก! นึกว่าเป็นลูกของเจ้าพระยาอาทิตย์ฝ่ายการทหารแล้วจักทำอะไรก็ได้อย่างนั้นหรือ พ่อมันก็ร้ายเหลือเกินมิรู้จักห้ามปรามลูกของมันบ้างซักเรื่องเดียว"

   "ใจเย็นลงก่อนเถิดเจ้าค่ะคุณพี่"

   พัณณิตายื่นมือไปจับตรงแขนของท่านเจ้าคุณก่อนจะหันไปรับน้ำเย็นจากพริ้มพรายมายื่นให้คนที่กำลังโมโหจัดอย่างเอาใจ

   "ดื่มน้ำก่อนเถิดเจ้าค่ะจะได้ใจเย็นลง"

   "ขอบใจนะแม่พัณ"

   จอมทัพยอมดื่มน้ำเย็นในขันใบนั้นก่อนที่มองไปยังใบหน้าของจอมขวัญอย่างอ่อนใจ

   "แต่ตอนนี้เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยก็ถือว่าดีมากแล้วล่ะพาขวัญ"

   "เจ้าค่ะคุณพ่อ"

   จอมขวัญยิ้มหวานให้อย่างเอาใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายหายโกรธลงมานิดหน่อย  ก่อนที่แทนกานต์จะเหลือบมองไปยังคินตาที่นั่งอยู่ตรงพื้นข้างล่างตรงด้านหลังเมืองด้วยสายตาจับผิด

   "พาขวัญยังไม่ได้บอกข้าเลยนะว่าไปรู้จักมักจี่กับผู้ชายคนนี้ตอนไหน"

   "ผู้ชายคนนี้ชื่อ คินตา เขาเป็นคนช่วยข้าเอาไว้"

   จอมขวัญตอบพร้อมกับหลับตาลงเมื่อหวานเอาลูกประคบมาประคบบริเวณแผลของตนเอง แต่แทนกานต์ยังขมวดคิ้วมากขึ้นเพราะตอนนี้กำลังเต็มไปด้วยความหึงหวง

   "คนที่ช่วยชีวิตเอาไว้ต้องสนิทสนมขนาดรู้จักชื่อเสียงเรียงรามแล้วถึงขั้นต้องเดินจับมือกันด้วยหรือ"

   "ข้ารู้จักคินตามาก่อนแล้ว"

   จอมขวัญมองไปทางอื่นเล็กน้อยราวกับกำลังคิดคำตอบ

   "คินตาคือ..."

   "หลานชายของลุงเองแหละพ่อแทน"

   จอมทัพพูดขึ้นมาทำให้ทั้งหมดต้องหันไปมองด้วยความแปลกใจ พัณณิตายกพัดขึ้นมาโบกด้วยพร้อมจ้องหน้าคินตาที่นั่งอยู่ตรงพื้นด้วยความสงสัย

   "เรามีหลานชายตอนไหนกันหรือเจ้าคะคุณพี่ ญาติฝ่ายน้องรึก็ไม่มีชื่อนี้หรือจะเป็นญาติของคุณพี่กันเจ้าคะ"

   "ลูกชายของแม่กิ่งแก้วน่ะ เจ้าจำแม่กิ่งแก้วได้หรือไม่แม่พัณ"

   จอมทัพหันไปถามพัณณิตาที่ทำท่าทางคิดหนักแล้วหันไปยิ้มตรงมุมปากให้จอมขวัญที่ยิ้มหวานมาให้อย่างเอาใจ

   "แม่กิ่งแก้ว? กิ่งแก้ว...อ๋อ! แม่กิ่งแก้วน้องสาวคนสุดท้ายของคุณพี่ที่อยู่ลพบุรีใช่หรือไม่เจ้าคะ โอ้! โตเป็นหนุ่มขนาดนี้เชียวรึ"

   พิณณิตายิ้มหวานพร้อมกับกวักมือเรียกคินตาที่นั่งอยู่ด้านหลังของเมืองด้วยสายตาเอ็นดู

   "ไหนมาหาป้าซิลูก"

   "เอ่อ...ขอรับ"

   คินตาลุกขึ้นเดินไปนั่งลงตรงหน้าของพัณณิตาด้วยความงุนงงพร้อมกับไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนตรงหน้าอย่างนอบน้อม

   "สวัสดีขอรับคุณลุง คุณป้า"

   "ชื่อคินตาใช่ไหม" 

   พัณณิตายิ้มหวานก่อนจะลูยผมคนตรงหน้าด้วยความเอ็นดู

   "แล้วนี่แม่กิ่งแก้วสบายดี หรือไม่จ๊ะ"

   "เอ่อ...สบายดีขอรับ คุณแม่ฝากความคิดถึงมาถึงคุณลุงคุณป้าด้วยนะขอรับ"

   คินตาสวมรอยเป็นหลานชายท่านเจ้าคุณอย่างแนบเนียนสมกับที่เรียนการแสดงมาจนจอมขวัญแอบอมยิ้มพร้อมจ้องมองใบหน้าแทนกานต์ที่นิ่งไปด้วยสายตาขบขัน

   "ไม่ทราบว่าคุณหลวงมีเรื่องอะไรสงสัยอะไรอีกหรือไม่เจ้าคะ"

   "หากเป็นเช่นนั้นข้าเองก็สบายใจที่รู้ว่าคู่หมั้นคู่หมายของข้าไม่ได้มีใจไปให้ชายอื่น"

   แทนกานต์กระตุกยิ้มพร้อมกับยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนอย่างนอบน้อม

   "นี่ก็ดึกมากแล้วข้าขอลาก่อนขอรับคุณลุง คุณป้า"

   "เดินทางกลับโดยปลอดภัยนะพ่อแทน"

   จอมทัพพยักหน้าก่อนจะยกน้ำขึ้นมาดื่มแล้วต้องสำลักเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของพัณณิตาที่หันไปคะยั้นคะยอลูกตนเอง

   "พาขวัญ เดินออกไปส่งพี่เขาซิลูก"

   "เจ้าค่ะคุณแม่"

   จอมขวัญยิ้มแห้งพร้อมจ้องไปยังแทนกานต์ที่เหยียดยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจจนอดที่จะหมั้นไส้ไม่ได้

   "นั่งยิ้มทำไมเจ้าคะ คุณหลวงรีบกลับเรือนไม่ใช่หรือ"

   "เสียมารยาทน่ะพาขวัญ"

   พัณณิตาดุลูกตนเองแต่แทนกานต์ห้ามเอาไว้ซะก่อนพร้อมกับลุกชึ้นยืนแล้วไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองอีกครั้ง

   "อย่าดุเลยครับคุณป้า ข้าลาขอครับ"

   "เดี๋ยวลูกมานะเจ้าคะ"

   จอมขวัญแกล้งยิ้มหวานแล้วเดินลงเรือนไปพร้อมกันกับแทนกานต์ที่ยกมือขึ้นมาโอบไหล่บอบบางนั่นพร้อมกับหันไปแสยะยิ้มเยาะเย้ยคินตาที่นั่งอยู่ข้างจอมทัพแล้วจึงหันกลับมายิ้มกว้างให้กับจอมขวัญที่ตอนนี้ทำตาโตจนแทบจะแยกเขี้ยวใส่ท่ามกลางพัณณิตาที่ยกพักขึ้นมาพัดอย่างปลื้มอกปลื้มใจ

   "คุณพี่ว่าเด็กสองคนนี้ดูแปลกไปไหมเจ้า"

   "ทำไมรึแม่พัณ" จอมทัพขมวดคิ้วแน่น "พี่ก็ไม่เห็นทั้งสองจะแปลกอะไรตรงไหนเลย"

   "แปลกซิเจ้าคะเพราะยิ่งนานวันทั้งสองคนยิ่งเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยกเลยนะเจ้าคะคุณพี่ น้องล่ะอยากจะให้ถึงวันที่ลูกสาวของเราจะได้ออกเรือนซักที"

   พัณณิตายิ้มกว้างก่อนจะหันไปสั่งคนรับใช้ที่อยู่ด้านหลังด้วยความกระตือรือร้น

   "นังพริ้ม พรุ่งนี้เตรียมเรือให้ข้าที ข้าจะไปที่เรือนท่านเจ้าคุณแทนนิษฐ์  จะไปคุยกับแม่รินเรื่องฤกษ์แต่งงานอย่างจริงจังเสียที"

   "เจ้าค่ะนายแม่"

   พริ้มพรายรีบตอบรับทันทีก่อนจะเดินตามพัณณิตาที่รีบเข้าห้องนอนไม่อยู่ฟังเสียงบ่นของจอมทัพที่เริ่มเหนื่อยจะห้ามปราม

   "แม่พัณนะแม่พัณ ทำไมถึงอยากเร่งรัดให้ลูกแต่งงานนักนะ"

   "แต่งงานอะไรกันขอรับท่านเจ้าคุณ"

   คินตากระซิบให้ได้ยินกันเพียงสองคนทำให้จอมทัพหันมามองด้วยสีหน้าท่าทางที่ลำบากใจ

   "ไว้เจ้าไปถามกับจอมขวัญเองเถิด"

   "ขอรับ"

   คินตารับคำพร้อมกับมองไปยังแถวบันไดหน้าเรือนด้วยท่าทางที่เป็นห่วงหมายมั่นจะถามเรื่องที่เกิดขึ้นและต้องรู้เรื่องทุกอย่างให้ละเอียดเลย








    พอลงมาด้านล่างพ้นจากสายตาของบ่าวรับใช้บนเรือนแล้วจอมขวัญก็รีบสะบัดตัวออกจากมือของแทนกานต์พร้อมกับทำหน้าตาไม่พอใจใส่คนที่ทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้

   "โอบทำไมเจ้าคะ"

   "ข้าโอบไม่ได้หรือ?"

   แทนกานต์ขมวดคิ้วพร้อมกับจ้องตาอีกฝ่ายด้วยสายตาเริ่มกวนประสาท

   "ข้าเป็นคู่หมั้นของเจ้านะ"

   "คู่หมั้นของพาขวัญ ไม่ใช่คู่หมั้นของข้าซักหน่อย"

   จอมขวัญขมวดคิ้วแน่นพร้อมกับเชิดหน้าใส่อีกฝ่ายด้วยความแง่งอน ก่อนจะสะดุ้งเมื่อแทนกานต์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้แบบไม่ทันตั้งตัว

   "ไม่ว่าจะพาขวัญหรือจอมขวัญก็จะต้องหมั้นหมายและออกเรือนกับข้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้หรอกนะ"

   "กลับเรือนไปเลยไป...ข้าจะพักผ่อน"

   จอมขวัญพลักอีกฝ่ายให้ออกไปจากตนเองด้วยใบหน้าที่เริ่มแดงก่ำเพราะเขินกับคำพูดของอีกฝ่ายก่อนจะชะงักเมื่อแทนกานต์ยกมือขึ้นมาลูบบริเวณแผลของตนเองอย่างอ่อนโยนและเบามือมาก

   "รักษาตัวเองด้วยนะจอมขวัญ ข้าคงจะทนไม่ได้ถ้าหากเห็นเจ้าต้องมาเจ็บตัวอย่างนี้อีก"

   "เจ้าค่ะคุณหลวง"

   จอมขวัญตอบรับด้วยท่าทางว่านอนสอนง่ายแถมแก้มนั้นเริ่มแดงทำให้แทนกานต์เหยียดยิ้มออกมาพร้อมกับแอบหอมแก้มนุ่มนิ่มน่าหมั่นเขี้ยวนั่นไปเต็มปอด

   "ถ้าเช่นนั้นข้าขอกลับเรือนก่อนนะจอมขวัญ"

   ฟอด!

   "อ๊ะ! คนฉวยโอกาส"

   จอมขวัญหันไปโวยวายใส่ด้วยความแง่งอน

   "รีบกลับเรือนไปได้แล้วเจ้าค่ะ"

   "แล้วพรุ่งนี้ข้าจะมาเยี่ยมเจ้า"

   แทนกานต์อมยิ้มพร้อมมองอีกฝ่ายด้วยสายตากรุ่มกริ่ม

   "รอข้าด้วยนะเข้าใจไหม"

   "เจ้าค่ะ!"

   จอมขวัญตอบรับด้วยความรำคาญ

   "ไปซักทีซิเจ้าคะ"

   "ข้าลาล่ะ อย่าลืมฝันถึงข้าด้วยนะแม่จอมขวัญ"

   แทนกานต์หัวเราะในลำคอแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็วปล่อยให้จอมขวัญยืนกุมแก้มข้างที่โดนหอมด้วยใบหน้าที่แดงก่ำพร้อมหัวใจที่เต้นแรงไม่หยุด ท่ามกลางสายตาของหวานที่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ส่งสายตาให้คุณหนูของตนเองอย่างเอ็นดู

   "คุณหนูหน้าแดงไปหมดเลยนะเจ้าคะ"

   "อากาศมันร้อนน่ะหวาน"

   จอมขวัญทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ทำให้หวานอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

   "แต่หวานว่าอากาศเย็นดีออกนะเจ้าคะไม่เห็นร้อนตรงไหนเลย"

   "เอ่อ..."

   จอมขวัญชะงักพร้อมกับทำหน้างอลงเล็กน้อยอย่างขัดใจ

   "สงสัยข้าคงจะไม่สบาย"

   "หวานรู้แล้วเจ้าค่ะว่าคุณหนูเป็นโรคอะไร"

   หวานอมยิ้มพร้อมมองคนตรงหน้าด้วยสายตาพราวระยับเต็มไปด้วยความล้อเลียน

   "โรคเขินอาย อาการเริ่มต้นของคนตกหลุมรักเจ้าค่ะ"

   "หวาน!!!"

   จอมขวัญหน้าแดงจัดพร้อมสะบัดหน้าหนีไปทางอื่นด้วยความแง่งอน

   "ข้าจะขึ้นเรือนแล้ว"

   "รอหวานด้วยซิเจ้าคะคุณหนู"

   หวานรีบเร่งฝีเท้าตามเจ้านายตนเองที่เดินหนีขึ้นไปบนเรือนด้วยความแง่งอน



************* :กอด1: มีต่อค่ะ :กอด1:*************

ออฟไลน์ tonako2yuri

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0



   ก่อนที่จอมขวัญจะต้องชะงักเมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาพบคินตาที่เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วกำลังนั่งรอเจ้าของห้องอยู่ตรงที่นั่งแถวหน้ากระจก

   ตอนนี้คินตาอยู่ในเสื้อผ้าแพรไหมสีน้ำเงินเข้ม ด้านล่างนุ่งโจงกระเบนแบบยาวเลยเข่าสีน้ำตาลเปลือกไม้ พร้อมกับผ้าแพรคาดตรงเอวสีครีมที่ผูดเอาไว้ไม่แน่นมาก ทำให้ดูหล่อและลงตัวเข้ากับยุคสมัยมากจนจอมขวัญอดที่จะยิ้มกว้างอย่างชื่นชมไม่ได้

   "คินแต่งตัวแบบนี้แล้วดูหล่อมากเลยนะ"

   "ท่านเจ้าคุณเป็นคนเลือกเสื้อผ้าให้น่ะ"

   คินตาอมยิ้มพร้อมกับมองคนตรงหน้าที่ยังอยู่ในสภาพมอมแมม

   "จอมไปอาบน้ำก่อนเถอะ แล้วเดี๋ยวค่อยมาคุยกัน"

   "ได้สิ"

   จอมขวัญตอบรับเสียงใสก่อนจะเดินตามหวานลงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าตรงท่าน้ำของเรือนซึ่งใช้เวลาซักพักหนึ่งกว่าจะได้ฤกษ์กลับขึ้นมาบนห้อง ซึ่งเพื่อนสนิทนั้นยังนั่งอยู่ที่เดิมแต่แทบจะหลับคาหมอนอิง

   "อย่าพึ่งหลับซิคิน!"

   "เสร็จแล้วหรอจอ...."

   คินตาชะงักค้างกับภาพตรงหน้าในสภาพที่จอมขวัญอยู่ในชุดนอนแบบผู้หญิงสีชมพูอ่อนนั่นแหละถึงจะมีผ้าคลุมทับเอาไว้แต่ปกปิดความขาวไม่ได้ ทำให้คินตาหัวใจเต้นแรง

   "จอมใส่แบบนี้แล้วดูเนียนเหมือนผู้หญิงมาก็เลยนะ"

   "เนียนซิ! จอมต้องปลอมตัวเป็นผู้หญิงเพราะสัญญากับท่านเจ้าคุณเอาไว้แล้ว"

   จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมกับเดินมานั่งข้างเพื่อนสนิทที่รีบเขยิบหนีไปชิดริมขอบที่นั่งทันที

    "ท่านเจ้าคุณเล่าให้คินฟังบ้างแล้วใช่ไหม"

   "ใช่แล้ว"

   คินตาตอบรับก่อนจะมองคนตรงหน้าด้วยสายตาทีเป็นกังวล

   "แต่ที่คินอยากจะรู้คือจอมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง รู้ไหมว่าคินตามหาจอมเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ"

   "จอมจำได้แค่ว่าวันนั้นที่จอมรอคินไปซื้อน้ำ จอมเดินมาแถวหลังวัดที่มีบึงน้ำและเต็มไปด้วยดอกบัว จอมเดินเข้าไปถ่ายรูปแต่พลาดลื่นตกน้ำ จอมจำได้ว่าตอนนั้นจอมจมน้ำเพราะว่ายน้ำไม่เป็น"

   จอมขวัญกำมือเล็กน้อยด้วยความหวาดกลัวเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น

   "จอมดิ้นจนหมดแรงคิดว่าจะจมน้ำตายซะแล้ว แต่ทว่ากลับตื่นขึ้นมากลางป่าแล้วได้เจอกับท่านเจ้าคุณนั่นแหละ"

   "บึงน้ำอย่างนั้นหรือ"

   คินตาขมวดคิ้วแน่นด้วยสีหน้าเป็นกังวล

   "แต่ที่คินไปเจอกล้องของจอมน่ะบริเวณแถวนั้นไม่มีบึงน้ำเลยนะ"

   "คินแกล้งจอมรึเปล่าเนี่ย"

   จอมขวัญหัวเราะในลำคอพร้อมกับมองด้วยสายตาสงสัย

   "มาคุยเรื่องของคินกันดีกว่าไหนบอกจอมมาซิว่าคินมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง"

   "คินมาได้เพราะ..."

   คินตาชะงักรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่มันขาดหายไปพร้อมกับยกมือขึ้นมากุมตรงหัวของตัวเองที่เริ่มปวดอย่างทรมาน

   "คิน...คินจำไม่ได้"

   "ห๊ะ!"

   จอมขวัญทำท่าทางตกใจรวมถึงหวานที่นั่งฟังอยู่บนพื้นแต่พอเห็นท่าทางทรมาณของเพื่อนก็ไม่อยากรบเร้าอะไรมากมาย ก่อนที่จะเอื้อมมือไปลูบแผ่นหลังของเพื่อนสนิทอย่างอ่อนโยน

   "ไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดแล้วนะคิน"

   "แต่คินดีใจมากนะที่ได้พบจอมอีกครั้ง"

   คินตาเอื้อมมือมาจับมือของคนตัวเล็กมากุมเอาไว้แน่นพร้อมรอยยิ้มและแววตาที่แพรวพราวระยิบระยับ

   "บางทีโชคชะตาอาจกำหนดให้เราต้องมาพบกันกันก็ได้เนอะ จอมเห็นด้วยไหม"

   "คินพูดอะไรเนี่ย"

   จอมขวัญหัวเราะเล็กน้อยพร้อมหลบสายตาไปทางอื่นด้วยความเขินอาย

   "เชื่อในเรื่องพวกนี้ด้วยรึไงเมื่อก่อนไม่เคยสนใจนี่หน่า"

   "คินเชื่อเรื่องพวกนี้ก็ตอนที่จอมหายไปนี่แหละ"

   คินตายกมือขึ้นมาผมตัวเองอย่างเก้อเขินก่อนจะทำหน้าตาบึ้งตึงเมื่อนึกถึงใครบางคนที่เดินโอบไหล่เพื่อนสนิทเขาเมื่อตอนหัวค่ำ

   "ยังมีอีกเรื่องที่คินสงสัย"

   "เรื่องอะไรหรอคิน"

   จอมขวัญเอียงคอถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นอกฝ่ายทำท่าทางจริงจัง

   "ผู้ชายคนนั้นคือใคร"

   "คุณหลวงแทนกานต์น่ะหรอ"

   จอมขวัญทำท่าทางคิดก่อนจะตอบออกไปตามความจริง

   "คนสนิทของคุณพ่อในกรมพระคลังหลวงน่ะ"

   "แล้วจอมกับผู้ชายคนนั้นเป็นอะไรกัน"

   คินตาขมวดคิ้วแน่นแต่จอมขวัญกลับยักไหล่แล้วตอบอย่างสบาย

   "แทนกานต์เป็นคู่หมั้นของพาขวัญ"

   "แล้วทำไมต้องมาทำท่าทางใกล้ชิดกับจอมด้วย"

   คินตาทำหน้าตาบึ้งตึงทำให้จอมขวัญต้องหันมามองคนเริ่มหงุดหงิดด้วยสายตาที่สงสัย

   "คนเป็นคู่หมั้นกันก็ต้องใกล้ชิดกันเป็นธรรมดา อย่าลืมซิว่าจอมกำลังปลอมตัวเป็นพาขวัญอยู่นะ"

   "แล้วอีกนานเท่าไหร่ที่จอมจะเลิกปลอมตัว"

   คินตาเริ่มทำตัวงี่เง่าจนจอมขวัญแอบลอบถอนหายใจ

   "จนกว่าจะหาพาขวัญเจอไง"

   "แต่คินไม่ชอบ!"

   คินตากระแทกเสียงดังอย่างลืมตัวก่อนจะทำเสียงอ่อนลงเมื่อเพื่อนสนิทมองมาด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ

   "ไม่ชอบ...ตอนที่หมอนั่นเข้าใกล้จอม"

   "ไม่งี่เง่าซิคิน"

   จอมขวัญอมยิ้มพร้อมยื่นมือไปลูบผมเพื่อนสนิทอย่างอ่อนโยน

   "ยังไงซะคินก็มาอันดับหนึ่งเสมอ ไม่ต้องน้อยใจนะ"

   "จริงนะ"

   คินตาเลิกทำหน้าหงอยพร้อมจ้องมองใบหน้าน่ารักของเพื่อนสนิทที่แอบรักอยู่นานสองนานด้วยสายตาที่หลงใหลซึ่งจอมขวัญก็ยิ้มหวานแล้วเอียงคอหลบสายตาเล็กน้อยด้วยความเขินอาย 

   ก่อนที่จะถูกหวานที่นั่งฟังเรื่องราวของทั้งสองคนนั้นขัดจังหวะขึ้นมาเมื่อเห็นว่าถึงเวลาอันควรที่ต้องแยกย้ายกัน

   "ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว หากบ่าวไพร่คนไหนมาเห็นจะเอาไปนินทาได้ที่ชายหญิงอยู่ในห้องสองต่อสองเกือบค่อนคืนขนาดนี้"

   "หวานพูดก็มีเหตุผล"

   จอมขวัญพยักหน้าอย่างเห็นด้วยก่อนจะหันไปไล่เพื่อนสนิทที่นั่งนิ่งยังไม่ยอมลุกไปไหน

   "คินกลับไปพักที่ห้องก่อนเถอะ"

   "เอาอย่างนั้นก็ได้"

   คินตากัดฟันด้วยความไม่พอใจเล็กน้อยก่อนจะเดินออกมาจากห้องแต่ยังไม่วายหันไปลาเพื่อนสนิทด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

   "ฝันดีนะจอม"

   "ฝันดีจ้ะคิน"

    จอมขวัญยิ้มกว้างก่อนที่หวานจะรีบปิดประตูห้องแล้วลงกลอนทันทีทำให้คินตาขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่พอใจก่อนจะยอมเดินกลับไปที่ห้องของตนเอง




**********************


มาแล้วจ้าาา


พ่อแทนคนขี้หึง2019


เชียร์ใครระหว่าง

แทนกานต์ VS คินตา

แต่จะได้เกิดศึกชิงนายกันรึเปล่าอันนี้ก็ไม่รู้นะคะ  :laugh:



 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ BBChin JungBB

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
โอ้ กลับมาแล้ว

ขอเชียร์คุณหลวงเหมือนเดิม
แต่ก็อยากให้คินตามีคู่ด้วย

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
คินตา จะเจอคู่ไหมนะ  o18

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
โห มาแบบแพ็คคู่  จะเลือกยังไงล่ะทีนี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
คินตามมาช่วยได้ทันเวลาเลย o13 อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน55555

ออฟไลน์ night-nnc

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 จะเป็นยังไงต่อเนี้ย
รอลุ้นเลย
 :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ Plakhem

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :katai2-1: รอตอนต่อไปนะคับ

ออฟไลน์ Plakhem

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :ruready คนแต่งหายอ่ะ 1 เดือนแล้วน๊าาา :hao4:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3

ออฟไลน์ tonako2yuri

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0



เรือนหลังที่ 13


   เวลาเช้ามืดในช่วงที่ฟ้ายังไม่สว่างดีนักบ่าวไพร่ในเรือนของท่านเจ้าคุณจักรกฤษณ์ต่างพากันจัดเตรียมอาหารคาวหวานและของอื่นอีกมากมายสำหรับใส่บาตรในตอนเช้า

   โดยที่คุณหญิงเพชรรัตนานั้นกำลังนั่งคัดดอกไม้มาร้อยพวงมาลัยหลายพวงเพื่อที่จะถวายพระ ซึ่งระหว่างที่กำลังนั่งร้อยพวงมาลัยอย่างจริงจังจึงทำให้ไม่รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่กำลังย่องเข้ามาด้านหลังก่อนจะจู่โจมเข้ามากอดแน่นจนคนถูกกอดสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจ

   หมับ!

   "ว๊าย! ตายแล้ว!!!"

   เพชรรัตนาร้องเสียงดังลั่นก่อนจะหันมามองก็พบลูกชายคนโตของตัวเองกำลังหัวเราะพร้อมกับกอดตัวเองแน่นขึ้นกว่าเดิม

   "พ่อจักร!"

   "ตกใจอะไรหรือขอรับคุณแม่"

   จักรกวินยิ้มกว้างก่อนจะจับมือเพชรรัตนาที่ฟาดลงมาตรงแขนตนเองอย่างหมั่นไส้

   "เล่นอะไรไม่รู้เรื่องหากแม่ตกใจจนตายไปใครจะรับผิดชอบ"

   "โธ่! ไม่พูดเรื่องตายซิขอรับคุณแม่"

   จักรกวินทำหน้าตาออดอ้อนก่อนจะมองหาน้องชายที่ตนเองได้ยินเสียงให้บ่าวเตรียมเรือตั้งแต่เช้า

   "แล้วพ่อกริชรีบไปไหนแต่เช้าขอรับ"

   "ไปเที่ยวเล่นตามประสา" 

   เพชรรัตนาถอนหายใจออกมาอย่างสงสารพร้อมพูดให้ท้ายลูกชายคนเล็กเต็มที่ 

   "ปล่อยน้องไปเถิด พ่อกริชน่ะพึ่งกลับมาจากเมืองเพชรคงอยากจะเล่นสนุกก่อนรับราชการ"

   "ขอรับ" จักรกวินตอบรับก่อนจะยิ้มออกมาอย่างน้อยใจนิดหน่อย "ลูกก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนะขอรับ แค่ถามหาเท่านั้นเอง"

   "ทำไมวันนี้พ่อจักรลูกแม่ถึงตื่นแต่เช้าได้ล่ะจ๊ะ"

   เพชรรัตนาเปลี่ยนเรื่องอย่างแนบเนียนพร้อมขมวดคิ้วแน่นด้วยความสงสัยเพราะลูกชายคนโตของตัวเองตื่นเช้าเป็นกับเขาด้วย ซึ่งพอได้ยินแบบนั้นจักรกวินก็โอบกอดแม่ตนเองอย่างออดอ้อน

   "ลูกอยากช่วยคุณแม่เตรียมของใส่บาตรน่ะขอรับ"

   "พ่อจักรของแม่น่ารักที่สุด"

   เพชรรัตนาจับใบหน้าลูกชายโยกไปโยกมาย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนที่จะทำหน้าตาเคร่งเครียดกับข่าวที่พึงได้ยินจากนังอิ่มเมื่อคืน

   "พ่อจักรรู้เรื่องหนูพาขวัญรึยังลูก"

   "น้องพาขวัญทำไมหรือขอรับคุณแม่"

   จักรกวินชะงักก่อนจะมองแม่ตัวเองอย่างสงสัย

   "นังอิ่มนำข่าวจากบ่าวเรือนนู้นมาบอกแม่เมื่อคืนนี้เอง เรื่องที่หนูพาขวัญโดนพ่อแสงหล้าฉุดเมื่อวานนี้น่ะจ้ะ"

   เพชรรัตนาตอบด้วยสีหน้าและท่าทางที่เป็นห่วง

   "โชคดีนะที่พ่อแทนกานต์ไปช่วยเอาไว้ทัน ไม่อย่างนั้นนะแม่ไม่อยากจะคิดเลย"

   "จริงหรือขอรับคุณแม่ ไม่ได้การละ!"

   จักรกวินกำมือแน่นก่อนจะหันไปสั่งบ่าวรับใช้คนสนิทที่หมอบอยู่แถวหน้าประตูเรือน

   "อ้ายไม้ไปเตรียมเรือเร็ว"

   "ให้เตรียมเรือ?" ไม้ขมวดคิ้วแน่นด้วยความงุนงง "จะไปไหนหรือขอรับท่านออกขุน"

   "ไปเรือนท่านเจ้าคุณจอมทัพน่ะซิ" จักรกวินขึ้นเสียงใส่อย่างขัดใจ "ข้าจะไปเยี่ยมอาการน้องพาขวัญ"

   "ขอรับ"

   ไม้รับคำก่อนจะรีบวิ่งลงไปจากเรือนเพื่อเตรียมเรือก่อนที่จักรกวินจะหันไปลาผู้เป็นแม่

   "จะไปตอนนี้เลยหรือจ๊ะพ่อจักร"

   เพชรรัตนาเงยหน้าดูท้องฟ้าที่ยังไม่ค่อยสว่างมากนัก

   "ยังเช้ามืดอยู่เลยนะ"

   "ต้องรีบไปขอรับ"

   จักรกวินตอบพร้อมกับกำมือแน่นด้วยความหงุดหงิดเมื่อนึกถึงใครอีกคนที่จ้องจะแย่งพาขวัญไปจากตัวเอง

   "ไม่อย่างนั้นอ้ายแทนกานต์มีโอกาสกับน้องพาขวัญน่ะซิ"

   "ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปเถอะจ้ะพ่อจักรลูกแม่" เพชรรัตนนาเอื้อมมือมาลูบหลังลูกชายตัวเองอย่างปลื้มอกปลื้มใจ "เอาใจน้องเขาให้มากเหมือนที่แม่สอนไว้เข้าใจไหม"

   "ขอรับคุณแม่"

   จักรกวินตอบรับก่อนจะรีบเดินลงไปจากเรือนท่ามกลางความสงสัยของจักรกฤษณ์ที่พึ่งเดินออกมาจากห้องหนังสือ

   "นั่นพ่อจักรจะรีบไปไหนรึแม่เพชร"

   "ไปหาแม่พาขวัญเจ้าค่ะ" 

   เพชรรัตนาหันมายิ้มหวานแล้วตอบคำถามอย่างถูกอกถูกใจจนจักรกฤษณ์เลิกคิ้วแล้วถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่สงสัย

   "มีเรื่องอะไรที่ทำให้ต้องรีบไปขนาดนั้นล่ะ"

   "พ่อจักรเป็นห่วงแม่พาขวัญในเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานเลยรีบไปหาที่เรือนน่ะเจ้าค่ะคุณพี่"

    เพชรรัตนาตอบด้วยรอยยิ้มทำให้จักรกฤษณ์พยักหน้าพร้อมนั่งลงข้างภรรยาตนเองด้วยสีหน้าที่หนักใจเล็กน้อย

   "ดูพ่อจักรจะห่วงแม่พาขวัญมากทั้งที่อีกฝ่ายเองก็มีคู่หมั้นคู่หมายอยู่แล้ว"

   "พ่อจักรนั้นรักมาตั้งแต่แรกพบนี่เจ้าคะ อย่าขัดขวางลูกเลยเจ้าค่ะ"

   พัณณิตายิ้มหวานก่อนจะรินน้ำชาใส่ถ้วยแล้วยื่นไปให้อีกฝ่ายอย่าเอาใจ

   "น้ำชาเจ้าค่ะ"

   "เอาเถอะ ถ้าลูกชอบก็ตามใจข้าไม่ขัดขวางอะไรหรอก"

   จักรกฤษณ์หยิบถ้วยน้ำชาขึ้นมาดื่มพรางสายตาคมที่มองหาใครบางคนที่หายไปจากเรือนตั้งแต่เช้ามืดด้วยความหงุดหงิด

   "แล้วนี่แม่เพชรเห็นเจ้ากริชบ้างไหม หายไปไหนแต่เช้ามืด"

   "คงจะอออกไปเที่ยวเล่นแถวนี้แหละเจ้าค่ะคุณพี่"

   เพชรรัตนายิ้มหวานพร้อมกับรินน้ำชาให้อีกครั้งอย่างเอาอกเอาใจมากกว่าเดิมแล้วพยายามเปลี่ยนเรื่อง

   "น้ำชารสชาติดีไหมเจ้าคะคุณพี่ น้องให้พวกบ่าวไพร่ไปซื้อมาให้จากเรือสำเภาพ่อค้าชาวจีนที่ตลาดเลยนะเจ้าคะ"

   "อร่อย"

   จักรกฤษณ์ตอบแค่นั้นก่อนจะยกชาขึ้นมาดื่มอีกรอบด้วยอาการหงุดหงิด

   "ตั้งแต่พ่อกริชกลับมาจากเมืองเพชรก็ไม่เคยอยู่ติดบ้านเลยซักวัน หวังว่าจะไม่ไปพังตลาดแบบคราวนั้นอีกนะ"

   "พ่อจักรกริชไม่เด็กแล้วนะเจ้าคะคุณพี่!" เพชรรัตนาเริ่มขึ้นเสียงอย่างไม่ชอบใจ "คุณพี่ก็ชอบเอาเรื่องเก่ามาพูดอยู่เรื่อย"

   "แม่เพชรก็ชอบให้ท้ายลูก"

   จักรกฤษณ์ยังไม่หยุดจนเพชรรัตนาเอื้อมมือมาจับถ้วยน้ำชาไว้พร้อมทำหน้าตาข่มขู่

   "คุณพี่จะดื่มน้ำชาไหมเจ้าคะ"

   "ดื่ม!"

    จักรกฤษณ์ดื่มน้ำชาเข้าไปอีกอึกใหญ่จนหมดแก้วก่อนจะยื่นไปให้อีกครั้งแต่อีกฝ่ายกลับนิ่งเฉย

   "ขอน้ำชาเพิ่มหน่อยซิแม่เพชร"

   "ไม่ให้แล้วเจ้าค่ะ!"

   เพชรรัตนาเชิดหน้าขึ้นและไม่ยอมเติมน้ำชาให้อย่างแง่งอนก่อนจะหันไปสั่งบ่าวคนสนิทที่นั่งอยู่ข้างหลังตัวเองเสียงดังลั่น

   "นังอิ่ม"

   "เจ้าคะคุณหญิง"

   อิ่มตอบกลับไปทั้งที่ยังนั่งก้มหน้าลงไปแทบจะติดพื้นเพื่อรอฟังคำสั่งเจ้านายตนเองที่เริ่มจะโมโห

   "รีบเก็บสำรับแล้วเตรียมของไปใส่บาตรตรงท่าน้ำด้วย"

   "เจ้าค่ะนายหญิง"

    อิ่มหันไปสั่งพวกบ่าวไพร่ให้ไปเก็บสำรับน้ำชาแล้วเดินลงไปจากเรือนเพื่อเตรียมของรอใส่บาตรโดยมีเพชรรัตนาเดินน้ำลงไปด้วยอาการแง่งอน จนจักรกฤษณ์ต้องถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด



   'ตามใจลูกจนเคยตัว ใครว่าจะตามใจพ่อจักรเพียงคนเดียวซักที่ไหน ยิ่งเป็นเจ้ากริชยิ่งแตะไม่ได้'






   ไม่นานนักไม้ก็พายเรือมาถึงบริเวณท่าน้ำของเรือนท่านเจ้าคุณจอมทัพก็ต้องชะงักเมื่อด้านข้างไม่ไกลออกไปเจอเรือของหลวงแทนกานต์จอดผูกเอาไว้ ซึ่งไม้นั้นจำได้อย่างแม่นยำ

   "นั่นเรือของหลวงแทนกานต์นี่ขอรับท่านออกขุน"

   "รีบไปเร็วอ้ายไม้"

   จักรกวินเร่งบ่าวรับใช้ซึ่งพอเรือจอดสนิทเจ้าตัวจึงเร่งฝีเท้าเดินขึ้นเรือนมาอย่างรีบร้อนก่อนจะชะงักเมื่อเห็นแทนกานต์กำลังนั่งรออยู่กับพัณณิตาที่ออกมาต้อนรับตั้งแต่เช้า 

   ซึ่งเสียงเดินนั้นทำให้พัณณิตาที่นั่งอยู่ตรงห้องโถงเงยหน้ามองคนที่พึ่งขึ้นเรือนมาด้วยสีหน้าและท่าทางที่ตกอกตกใจ

   "อ้าว! พ่อจักร"

   "สวัสดีขอรับคุณป้า"

   จักรกวินยกมือขึ้นไหว้พัณณิตาอย่างนอบน้อมก่อนจะทำใบหน้าบึ้งตึงเมื่อเห็นใครบางคนที่มาตั้งแต่เช้า

   "สวัสดีหลวงแทนกานต์"

   "สวัสดีออกขุนจักรกวิน"

    แทนกานต์ตอบรับตามมารยาทก่อนจะทำเป็นไม่สนใจยกชาขึ้นมาดื่ม ทำให้พัณณิตาต้องยิ้มกว้างแล้วมองมาด้วยท่าทางแปลกใจ

   "พ่อจักรมาทำอะไรที่เรือนแต่เช้าหรือจ๊ะ"

   "ข้ามาหาพาขวัญขอรับ" จักรกวินตอบกลับไปทันทีด้วยท่าทางร้อนใจ "ได้ข่าวว่าเมื่อวานถูกทำร้ายจึงรีบมาหาด้วยความเป็นห่วง"

   "เหมือนพ่อแทนเลย"

   พัณณิตามองไปยังคู่หมั้นคู่หมายของลูกตนเองอย่างปลื้มอกปลื้มใจ

   "มาตั้งแต่เข้ามืดขนาดนี้ไม่รู้ว่าเมื่อคืนได้นอนรึเปล่า"

   "นอนขอรับ" แทนกานต์อมยิ้มตรงมุมปาก "แต่เป็นห่วงอาการเมื่อวานนี้เลยรีบมาแต่เช้า"

   "พ่อแทนนี่รู้ใจแม่พาขวัญเสียจริง"

    พัณณิตาเอ่ยชมออกมาอย่างเอ็นดูก่อนจะหันไปเรียกหวานที่กำลังถือขันใส่น้ำเพื่อเอาไปให้เจ้านายตัวเองล้างหน้าตอนตื่นนอน

   "นังหวาน"

   "เจ้าคะคุณหญิง"

   หวานชะงักพร้อมนั่งก้มหน้าลงตรงนั้นด้วยท่าทางหวาดกลัวเล็กน้อยพร้อมรับคำสั่งของเจ้านาย

   "ไปปลุกแม่พาขวัญมาอาบน้ำอาบท่าเสียให้เรียบร้อย"

    พัณณิตายกพัดขึ้นมาพัดด้วยท่าทางพออกพอใจ

   "คุณหลวงกับออกขุนมาเยี่ยมน่ะ"

   "เจ้าค่ะคุณหญิง"

   หวานตอบรับก่อนจะเดินเลี่ยงไปทางห้องนอนของเจ้านายตนเองที่อยู่ด้านในอีกฟากหนึ่ง ก่อนที่พัณณิตาจะหันมายิ้มหวานให้กับสองหนุ่มด้วยท่าทางเป็นมิตร

   "ถ้าเช่นนั้นก็รอคุยกันไปก่อนนะเดี๋ยวป้าไปปลุกคุณลุงเขาก่อน เห็นว่ามีงานราชการที่จะต้องทำ"

   "ขอรับคุณป้า"

   สองหนุ่มตอบรับพร้อมกันทำให้พัณณิตายิ้มกว้างก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องกับบ่าวรับใช้คนสนิทปล่อยให้ทั้งสองคนนั่งกันอยู่สองคนด้วยกัน

    จักรกวินมองแทนกานต์ด้วยท่าทางหงุดหงิดส่วนทางกานต์เองก็เงียบเฉยพร้อมกับดื่มน้ำชาอย่างไม่แสดงท่าทางอะไรทั้งที่รู้สึกไม่พอใจไม่ต่างกัน




    ซึ่งท่าทางแบบนั้นอยู่ในสายตาของฝ้ายที่แอบเกาะขอบประตูก่อนจะรีบวิ่งแจ้นกลับเข้าห้องไปจัดการปลุกคุณหนูของตนเองที่ยังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงด้วยท่าทางและน้ำเสียงที่เร่งรีบ

   "คุณหนูเจ้าคะ"

   ออกแรงเขย่าเพิ่มอีกนิดเมื่อเห็นอีกฝ่ายยังนอนนิ่งไม่ขยับไปไหน

   "รีบตื่นเถิดเจ้าค่ะ!"

   "มีอะไรหะนังฝ้าย!"

   พลอยปภัสโวยวายเสียงดังลั่นก่อนจะสะบัดคนที่กล้ารบกวนตัวเองด้วยความหงุดหงิด

   "เองมาปลุกข้าทำไมแต่เช้า"

   "คือ..."

   ยังไม่ทันจะตอบอะไรเจ้านายตนเองก็พูดดักขึ้นมาอย่างข่มขู่

   "ถ้าไม่มีเรื่องด่วนอะไรข้าจะถีบเองไปอยู่เรือนครัว"

   "เรื่องด่วนเรื่องสำคัญแน่เจ้าค่ะคุณหนู"

   ฝ้ายตอบอย่างมั่นอกมั่นใจพร้อมเขยิบเข้ามาใกล้ทำให้พลอยปภัสเอียงคอเล็กน้อยอย่างเริ่มจะสนใจ

   "เรื่องอะไร"

   "ท่านออกขุนจักรมาที่เรือนเจ้าคะ"

   พอได้ยินแบบนั้นพลอยปภัสก็ลุกขึ้นมานั่งตัวตรงด้วยความตื่นเต้น

   "ห๊ะ! พี่จักรน่ะหรือ"

   "ออกขุนจักรตัวจริงเสียงจริงเลยเจ้าค่ะ"

   ฝ้ายยิ้มกว้างพร้อมเอามือมาเกาะแขนเจ้านายตัวเองอย่างเอาใจ ทำให้พลอยปภัสยิ้มกว้างออกมาอย่างพึงพอใจ

   "มาตั้งแต่เมื่อไหร่"

   "มาตั้งแต่เช้ามืดเจ้าค่ะ"  ฝ้ายตอบก่อนจะกระซิบกระซาบในสิ่งที่ตนเองแอบได้ยินมา "เห็นว่าจะมาดูอาการคุณหนูพาขวัญน่ะเจ้าค่ะ"

   "นังฝ้าย! เองรีบเตรียมเสื้อผ้าให้ข้าเร็ว เอาลายผ้าที่สวยที่สุดนะ"

    พลอยปภัสออกคำสั่งพร้อมลุกขึ้นมาดูเงาตัวเองในกระจกด้วยสีหน้าและแววตาที่เต็มไปด้วยแผนการมากมาย

   "ข้าจะออกไปต้อนรับพี่จักร"

   "เจ้าค่ะคุณหนู"

   ฝ้ายตอบรับพร้อมกับเปิดหีบที่ใส่เสื้อผ้าแล้วรื้อออกมาเลือกหลากหลายผืนจนเต็มห้องไปหมด




    "เสร็จเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ"

   ทางด้านของหวานจัดการแต่งตัวให้เจ้านายตนเองอย่างเร่งรีบจนเสร็จเรียบร้อยก็หันมาเก็บผ้าหลากหลายสีที่รื้อออกมามากพอสมควร

   "คุณหนูรีบออกไปก่อนเลยนะเจ้าคะเดี๋ยวหวานเก็บของนิดหนึ่ง"

   "ได้"

   จอมขวัญรับคำก่อนจะเดินมาเปิดประตูไม้บานใหญ่เพื่อจะออกไปจากห้อง

   แอ๊ด~

   "อ๊ะ! คิน"

   จอมขวัญตกใจเมื่อเห็นคินตายืนยิ้มแฉ่งอยู่หน้าห้องด้วยชุดอยู่บ้านของท่านเจ้าคุณจอมทัพที่ดูใหญ่ไปหน่อยจนอดที่จะแอบขำไม่ได้

   "ชุดนี้ดูเหมาะกับคินดีนะ"

   "ใช่ไหมล่ะ คินใส่อะไรก็ดูหล่อไปหมด"

   คินตาเชินหน้าขึ้นแล้วเอ่ยชมตัวเองอย่างภูมิอกภูมิใจจนคนฟังเบ้ปากใส่ด้วยความหมั่นไส้

   "จ้ะพ่อคนหล่อ"

   "แล้วนี่ทำไมจอมตื่นแต่เช้าจัง คินตั้งใจจะมาปลุกซักหน่อย"

   คินตาบ่นอุบอิบออกมาอย่างเสียดายทำให้หวานหมวดคิ้วแน่นอย่างไม่ชอบใจ

   "จะเข้าห้องคุณหนูสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะพ่อคินตา"

   "ข้ารู้แล้วน่ะ"

   คินตาทำปากยื่นออกมาอย่างหงุดหงิดทำให้เพื่อนสนิทที่ยืนดูอยู่นั้นหัวเราะออกมาเล็กน้อยด้วยท่าทางขบขัน

   "จอมจะไปคุยกับคุณหลวงและท่านออกขุนน่ะ"

   จอมขวัญยิ้มหวานก่อนจะเอ่ยชวนอีกฝ่ายอย่างเอาใจ

   "คินจะไปคุยด้วยกันไหม"

   "คุณหลวงเมื่อวานน่ะหรอ"

   คินตาเลิกคิ้วก่อนจะกระตุกยิ้มตรงมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์

   "เอาซิ! คินไปด้วย"

   "งั้นไปกันเถอะ"

   จอมขวัญยิ้มหวานก่อนจะคล้องแขนเพื่อนสนิทพาเดินออกไปพร้อมกัน ท่ามกลางความตกใจของหวานที่มองท่าทางของทั้งสองคนที่ใกล้ชิดกันมากเกินไป

   "คุณหนูไปกอดแขนอย่างนั้นได้อย่างไรเจ้าคะ หากคุณหญิงมาเห็นเข้าหวานต้องโดนลงโทษแน่"

   "ยืนบ่นอะไรอยู่คนเดียวน่ะ มาเร็วซิหวาน"

   จอมขวัญหันมาเร่งด้วยรอยยิ้มขบขันเพราะแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินอีกฝ่ายบ่นทำให้หวานหน้ามุ่ยลงก่อนจะเดินมาเอามือบางเนียนนุ่มนั้นออกจากแขนแกร่งอย่างรวดเร็ว

   "ปล่อยได้แล้วเจ้าค่ะ พวกบ่าวไพร่มองกันอยู่นะเจ้าคะ"

   "แต่คินเป็นญาตินะ"

   จอมขวัญอมยิ้มกับสีหน้ากังวลของคนรับใช้คนสนิทที่ดูเคร่งเครียดมากกว่าเดิมแถมยังตอบกลับมาอย่างเข้มงวด

   "ชายหญิงถึงจะเป็นญาติก็ไม่ควรใกล้กันเจ้าค่ะ!"

   "ข้าแค่แกล้งเจ้าเล่นเท่านั้นเอง"

   จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมยื่นมือไปจับแก้มของอีกฝ่ายยืดออกมาอย่างหมั่นเขี้ยว

   "อย่างทำหน้าแบบนั้นซิ"

   "คุณหนูขี้แกล้งตั้งแต่เมื่อไหร่เจ้าคะ"

   หวานสะบัดหน้าหนีเล็กน้อยอย่างแง่งอนก่อนจะหันมาอมยิ้มแล้วดึงจอมขวัญให้เดินมาพร้อมกัน

   "รีบไปกันเถอะเจ้าค่ะ ตอนนี้คุณหลวงกำลังรอคุณหนูอยู่นะเจ้าคะ"

   "อื้ม!"

   จอมขวัญตอบรับก่อนจะหันมาชวนเพื่อนสนิทให้รีบเดินตามมา

   "ไปกันเถอะคิน"

   "อืม"

   คินตาเดินตามหลังไปด้วยหน้าตาที่บึ้งตึงและสายตาที่ไม่พอใจก่อนจะกำมือแน่นเมื่อหวานหันหน้ากลับมามองแล้วแลบลิ้นใส่ด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้ปนเยาะเย้ย

    พอเดินมาถึงห้องโถงใหญ่ก็พบกับสองหนุ่มที่นั่งดื่มชากันคนละฝั่งด้วยบรรยากาศอึมครึมทำให้จอมขวัญแสร้งยิ้มหวานแล้วเข้าไปทักทายทั้งสองคนด้วยท่าทางนอบน้อม

   "สวัสดีเจ้าค่ะคุณหลวง ท่านออกขุน"

   "สวัสดี"

   ทั้งสองตอบรับพร้อมกันก่อนที่จอมขวัญจะนั่งลงตรงด้านข้างแทนกานต์พร้อมกับคินตาที่รีบเดินมานั่งข้างตัวเองแทรกกลางระหว่างจักรกวินอย่างรวดเร็ว ทำให้จักรกวินมองอย่างไม่ชอบใจผิดกับแทนกานต์ที่ทำท่าทางสนใจกับน้ำชาในถ้วยแต่แอบลอบมองแล้วกระตุกยิ้มตรงมุมปากอย่างขบขัน

   ซึ่งจอมขวัญไม่รู้สึกถึงอาการเหล่านั้นเพราะกำลังขมวดคิ้วแล้วจ้องมองมายังคนที่ไม่ค่อยโผล่มาเรือนตนเองซักเท่าไหร่ด้วยอาการและท่าทางที่สงสัย

   "ออกขุนจักรมาทำอะไรที่เรือนนี้ตั้งแต่เช้าหรือเจ้าคะ"

   "พี่ตังใจจะมาเยี่ยมน้องพาขวัญน่ะ"

   จักรกวินยิ้มกว้างซึ่งคำตอบนั้นทำให้จอมขวัญเอียงคอมองอย่างแปลกใจ

   "มาเยี่ยมหรือเจ้าคะ?"

   "น้องพาขวัญสบายดีหรือไม่"

  จักรกวินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มและสายตาที่หลงใหล

   "สบายดีเจ้าค่ะ" จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมจ้องมองด้วยความสงสัย "มีเรื่องอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ"

   "เมื่อเช้าพี่ได้ข่าวจากคุณแม่ว่าน้องพาขวัญนั้นโดนอ้ายแสงหล้าฉุด"  จักรกวินจ้องมองมาด้วนสายตาเป็นห่วงเป็นใย "แล้วน้องพาขวัญบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่"

   "ไม่เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญส่ายหน้าแล้วยิ้มออกมาอย่างอ่อนหวาน

   "ขอบคุณที่ออกขุนเป็นห่วงข้านะเจ้าคะ"

   "ถ้าเป็นเช่นนั้นพี่ก็โล่งใจ"

   จักรกวินยิ้มกว้างก่อนจะเหลือบไปมองยังคินตาที่นั่งอยู่ข้างกับพาขวัญด้วยความสงสัยไม่หาย

   "แล้วผู้ชายคนนี้เป็นลูกเต้าเหล่าใครกันทำไมถึงมาอยู่บนเรือนน้องได้"

   "คินตาเจ้าค่ะ ลูกชายคนเดียวของคุณน้ากิ่งแก้วซึ่งเป็นน้องสาวของคุณพ่อ พึ่งเดินทางมาจากลพบุรีเมื่อวานนี้เจ้าค่ะ"

  จอมขวัญยิ้มกว้างก่อนจะหันไปทางเพื่อนสนิทที่กำลังทำใบหน้าบึ้งตึง

   "ส่วนคนนั้นคือ ออกขุนจักรกวิน ลูกชายของท่านเจ้าคุณจักรกฤษณ์ฝ่ายกรมเสบียงกับคุณหญิงเพชรรัตนาน่ะ"

   "อ๋อ สวัสดีขอรับท่านออกขุน"

   คินตายกมือไหว้ด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยตามมารยาทซึ่งจักรกวินเองก็ยกมือขึ้นมารับไหว้เช่นเดียวกัน

   "ไม่ต้องไหว้หรอก ดูเหมือนเจ้าจะอายุน้อยกว่าข้าไม่เท่าไหร่ใช่ไหม"

   "ข้าอายุมากกว่าพาขวัญไม่ถึงครึ่งปีนะขอรับ"

   คินตากระตุกยิ้มตรงมุมปากพร้อมกับแสร้งทำสีหน้าลำบากใจ

   "หรือหน้าข้าดูล่วงเลยไปจะแก่เท่าท่านออกขุนอย่างนั้นหรือขอรับ"

   "เอ่อ...คือ..."

   จักรกวินทำหน้าเหวอไม่รู้ว่าควรจะปลอบหรือเจ็บใจก่อนดี

   "ข้าไม่ได้หมายความว่าเจ้าหน้าแก่หรอกหนา"

   "ถ้าไม่ได้หน้าแก่แล้วยังไงล่ะครับท่านออกขุน"

   คินตากระตุกยิ้มตรงมุมปากด้วยความสนุกสนาน

   "หรือข้าแต่งตัวดูแก่มากเกินไป"

   "ไม่ใช่นะ"

   จักรกวินยกมือขึ้นมาโบกปัดไปมายิ่งทำให้คินตาแกล้งทำท่าคิดหนัก

   "หรือข้าเสียงแก่รึเปล่านะ ต้องใช่แน่เลย"

   "คิกคิก"

   จอมขวัญยกมือขึ้นมาปิดกั้นเสียงหัวเราะก่อนจะเอื้อมมือไปหยิกหลังเพื่อนสนิทที่กำลังกลั่นแกล้งจักรกวินอยู่นั้นอย่างหมั่นไส้

   "เลิกแกล้งท่านออกขุนได้แล้วน่ะคิน"

   "ข้าไม่ได้แกล้งอะไรเลยนะพาขวัญ"

   คินตาตอบอย่างลอยหน้าลอยตาทำให้จอมขวัญกลั้นหัวเราะ ก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงกระแอมไอขัดขึ้นมาจากคนที่นั่งเงียบอยู่นาน

   "อะแฮ่ม!"

   "มีอะไรติดคอหรือเจ้าคะคุณหลวง"

   จอมขวัญแสร้งถามด้วยความหมั่นไส้ทำให้แทนกานต์แอบอมยิ้มเล็กน้อย

   "ข้ามาถึงที่เรือนแล้วนอกจากบ่าวไพร่ที่เอาน้ำเอาท่ามาให้ดื่มแล้วนั้น ข้าก็ยังไม่ได้กินอะไรมาเลย แถมอากาศเช้านี้มันช่างร้อนนัก"

   มือหนายกขึ้นมาพัดเล็กน้อยพร้อมจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตาแพรวพราว

   "หากวันนี้เจ้าจะเป็นผู้ลงมือทำสำรับคาวหวานด้วยตนเองได้หรือไม่ เพราะข้าเคยชิมรสมือการทำอาหารของเจ้าแล้วช่างอร่อยมาก"

   "หืม?"

   จอมขวัญทำหน้าตาประหลาดใจเมื่อวันนี้คุณหลวงตรงหน้านั้นมาแปลกแถมอยากให้ทำอาหารอีกต่างหาก ซึ่งคินตาที่พอจะรู้ว่าแทนกานต์จะทำอะไรจึงพูดเสริมขึ้นมาบ้างด้วยท่าทางที่อวดเล็กน้อย

   "ข้าเองก็คิดถึงขนมหวานของเจ้าเหมือนกันนะพาขวัญ"

   "ถ้าอยากกินกันมากขนาดนั้น ข้าก็คงจะขัดอะไรไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญถอนหายใจเมื่อเพื่อนสนิทก็เล่นอะไรแปลกประหลาดไปกับเขาด้วย

   "ถ้าเช่นนั้นนั่งรอกันซักพักหนึ่งนะเจ้าคะ ข้าขอตัวก่อน"

   "รีบไปรีบมานะ"

   แทนกานต์เสริมขึ้นมาทำให้จอมขวัญหันมาแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะเดินลงไปยังเรือนครัวพร้อมกับหวานซึ่งเป็นบ่าวรับใช้คนสนิทปล่อยให้บรรยากาศตรงห้องโถงนั้นเริ่มมีความอึมครึมมากกว่าเดิม ก่อนที่จักรกวินจะเอ่ยถามคินตาด้วยท่าทางสนอกสนใจ

   "น้องคินตาสนิทกับน้องพาขวัญมากหรือไม่"

   "สนิทซิ"

   คิตตาจ้องใบหน้าคมของออกขุนตรงหน้านั้นอย่างเหนือกว่า

   "สนิทมากด้วย"

   "สนิทขนาดไหนรึ"

   จักรกวินหลุดปากถามออกมาอย่างร้อนใจทำให้คินตาแสยะยิ้มตรงมุมปาก

   "มากกว่าท่านออกขุนแน่นอน"

   "ข้าเองก็เห็นพาขวัญมาตั้งแต่เด็ก" แทนกานต์พูดขึ้นมาบ้างหลังจากที่นั่งเงียบไปนานด้วยสายตาจับผิด "เหตุใดจึงไม่เห็นเจ้ามาที่เรือนท่านเจ้าคุณเลยล่ะ"

   "ข้าต้องอยู่กับแม่ข้าที่ลพบุรีน่ะซิ"

   คินตาตอบคำถามนี้อย่างคล่องแคล่วเพราะถูกจอมทัพสอนมาเมื่อคืน ซึ่งจักรกวินที่ได้ยินคำตอบนั้นก็เผลอขมวดคิ้วแล้วถามอีกฝ่ายด้วยความสงสัย

   "แล้วมาคราวนี้น้องคินตาอยู่กี่วันเล่า"

   "ไม่มีกำหนด"

   คินตาตอบแค่นั้นพร้อมกับยกน้ำชาขึ้นมาดื่มก่อนจะแอบกระซิบกับตัวเองอย่างแผ่วเบา

   "จนกว่าจะหาทางกลับบ้านได้"

   "น้องคินตาพูดว่าอะไรนะ"

   จักรกวินถามอย่างสงสัยพร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้เพราะเห็นอีกฝ่ายแอบบ่นอะไรอยู่คนเดียวทำให้คินตารีบผลักหน้าอีกฝ่ายออกไปด้วยความรังเกียจ

   "ไม่มีอะไร อย่ายื่นหน้ามาแบบนี้ซิท่านออกขุน"

   บ่นแบบนั้นพร้อมกับยกมือขึ้นมาลูบแขนตัวเองอย่างขนลุก

   "ขนลุกขนพองไปหมด"

   "โธ่!"

   จักรกวินมีสีหน้าเจื่อนลงเมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่าย

   "อย่าทำท่าทางแบบนั้นใส่ข้าซิน้องคินตา"

   "แล้วไม่ต้องเรียกข้าว่าน้องด้วย"

   คินตาทำตาโตใส่แล้วสะบัดหน้าหนีอย่างไม่ชอบใจ

   "ฟังแล้วสยดสยอง"

   "น้อง..."

   ยังไม่ทันที่จักรกวินจะได้ง้ออีกฝ่ายเพิ่มเติมก็มีเสียงเรียกร้องมาจากทางด้านหลังของของเรือนพร้อมใครบางคนที่คุ้นเคยกำลังเดินตรงเข้ามาหาตนเองอย่างรวดเร็ว

   "พี่จักร~"



******************มีต่อค่ะ*******************

ออฟไลน์ tonako2yuri

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0



   หมับ!

   "พี่จักรมาที่เรือนเพราะคิดถึงพลอยใช่ไหมเจ้าคะ"

   พลอยปภัสเดินเข้ามากอดแขนจักรกวินด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่ออดอ้อนทำให้จักรกวินทำสีหน้าหนักใจ

   "แม่พลอย พี่ว่าปล่อยแขนพี่ก่อนดีกว่าไหม"

   "ไม่เอาเจ้าค่ะ พลอยไม่ปล่อย"

   พลอยปภัสตอบอย่างดื้อดึงพร้อมเชิดหน้าใส่คู่หมั้นคู่หมายของน้องสาวก่อนจะสะดุดตากับคนแปลกหน้าที่แม้จะหน้าตาหล่อแต่มาอยู่ที่เรือนของตนได้ยังไง

   "ใครกันเจ้าคะ เพื่อนพี่จักรกับคุณหลวงหรือเจ้าคะ"

   "อ้าว! เจ้าไม่รู้จักคินตาหรอกหรือ"

   จักรกวินทำหน้าตาเหวอพร้อมกับมองหน้าคนที่เกาะแขนตัวเองอยู่อย่างสงสัยซึ่งพลอยปภัสก็รีบส่ายหน้าทันที

   "พลอยจะไปรู้จักได้ยังไงเจ้าคะ"

   "คนนี้คือคืนตาหลานชายท่านเจ้าคุณจอมทัพ พ่อของเจ้าไง"

   แทนกานต์ตอบเสียงเรียบพร้อมจ้องมองไปยังคินตาที่พยายามทำสีหน้าปกติแต่คำตอบนั้นทำให้พลอยปภัสขมวดคิ้วแน่นด้วยความสงสัย

   "หลานชายคุณพ่ออย่างนั้นหรอ ทำไมข้าถึงไม่เคยเห็นมาก่อน"

   "เจ้าอาจจะลืมรึเปล่า"

   คินตาตอบกลับด้วยน้ำเสียงปกติทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทำให้พลอยปภัสขมวดคิ้วอย่างขัดใจ

   "แต่ข้าไม่เคยเห็นหน้าเจ้า!"

   "แม่พลอยอาจจะลืมไปแล้วก็ได้นะ"

   จักรกวินช่วยไกล่เกลี่ยทำให้พลอยปภัสใจเย็นลงพร้อมมองไปยังคนที่อายุน้อยกว่าอย่างไม่พอใจ

   "ข้าอายุมากกว่าเจ้านะ ทำไมถึงพูดจาห้วนแบบนั้น"

   "ข้าขอโทษขอรับพี่พลอย"

   คินตาตีเนียนตามน้ำไปอย่างไหลลื่นก่อนจะเหลือบไปเห็นจอมทัพและพัณณิตาที่เดินออกมาจากห้องพอดี

   "ถ้าไม่เชื่อพี่พลอยก็ลองถามคุณลุงดูซิขอรับ"

   "มีอะไรกันรึพ่อคินตา ทำไมเสียงดังไปทั้งเรือน"

   พัณณิตาถามอย่างสงสัยก่อนที่คินตาจะส่ายหน้าแล้วเดินเข้ามากอดอย่างเอาใจ

   "ไม่มีอะไรหรอกขอรับคุณป้า แค่พี่พลอยเข้าใจหลานผิดไปหน่อย"

   "มีอะไรสงสัยรึแม่พลอย"

   จอมทัพมองลูงสาวคนโตของตนเองด้วยสายตาสงสัยทำให้พลอยปภัสรีบแสร้งยิ้มหวานมาให้อย่างเอาใจทันที

   "พลอยแค่ไม่แน่ใจว่าเคยรู้จักคินตาตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะเจ้าค่ะคุณพ่อ"

   "คินตาคือลูกของแม่กิ่งแก้วน้องสาวของพ่อที่ลพบุรีและยังไม่เคยมาที่นี่เลย ไม่แปลกที่เจ้าจะไม่เคยเห็น"

   จอมทัพอธิบายอย่างรวดรัดซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่แพรวพรรณรายเดินขึ้นมาบนบ้านพอดี

   "แม่กิ่งแก้วมีลูกด้วยหรือเจ้าคะคุณพี่ ทำไมน้องถึงไม่รู้ล่ะ"

   "เจ้าไม่ได้ไปเจอตั้งนานอาจจะไม่รู้ อายุก็รุ่นราวคราวเดียวกับพาขวัญเลยล่ะ"

   จอมทัพหันมาอธิบายก่อนจะทำเนียนเปลี่ยนเรื่องทันที

   "แล้วแม่แพรวไปไหนมารึ ทำไมถึงออกจากเรือนไปตั้งแต่เช้า"

   "น้องไปทำธุระมาน่ะเจ้าค่ะคุณพี่"

    แพรวพรรณรายตอบพร้อมกับเชิดหน้าขึ้นจ้องมองคินตาที่ยกมือไหว้ด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร

   "ทำไมไม่เห็นเหมือนแม่กิ่งแก้วเลย"

   "คือ..."

    คินตาชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมาด้วยสีหน้าท่าทางปกติ

    "ข้าหน้าตาเหมือนพ่อน่ะขอรับคุณป้า"

   "ใครเป็นป้า!" แพรวพรรณรายขมวดคิ้วแล้วขึ้นเสียงอย่างหงุดหงิด "ฉันอายุเท่ากับแม่กิ่งแก้ว เพราะฉะนั้นเรียกน้าพอ"

   "ขอรับคุณน้า"

    คินตาตอบรับด้วยรอยยิ้มกว้างทั้งที่อยากจะหัวเราะออกมาที่แกล้งอีกฝ่ายได้สำเร็จก่อนจะเดินไปนั่งข้างพัณณิตาแล้วคอยนวดแขนให้อย่างเอาใจ

   "หลานนวดให้คุณป้านะขอรับ"

    "ดีเลย ป้ากำลังปวดเมื่อยพอดี"

   พัณณิตายิ้มกว้างก่อนจะเอามือมาลูบผมของคินตาอย่างเอ็นดู ท่ามกลางสายตาของแพรวพรรณรายมองมาตลอดเวลาอย่างจับผิด ซึ่งจอมทัพเห็นว่าไม่เป็นการดีจึงชวนเปลี่ยนเรื่อง

   "แล้วนี่แม่พาขวัญหายไปไหนเสียล่ะ ข้านึกว่าจะนั่งคุยกับพวกเจ้าเสียอีก"

   "ข้าขอให้พาขวัญทำอาหารให้ทานน่ะขอรับ ตอนนี้คงจะอยู่ที่เรือนครัว"

   แทนกานต์ที่นั่งเงียบมานานตอบคำถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบซึ่งนั่นทำให้พัณณิตาอมยิ้มออกมาอย่างถูกอกถูกใจ

   "พ่อแทนอยากกินรสมือน้องขนาดนั้นเลยหรอจ๊ะ"

   "ขอรับ"

   แทนกานต์ตอบคำถามแค่นั้นก่อนที่จักรกวินจะพูดแทรกขึ้นมา

   "ข้าก็อยากกินเหมือนกันขอรับคุณป้า"

   "พี่จักรอยากจะกินอะไรเจ้าคะ เดี๋ยวพลอยลงมือทำให้พี่จักรกินทุกอย่างเลย"

   พลอยปภัสกอดแขนเกร่งนั่นอย่างเอาอกเอาใจจนจักรกวินหน้าซีดลงเมื่อนึกถึงฝีมือการทำอาหารของอีกฝ่ายที่เผลอกินเข้าไปอย่างไม่ได้ตั้งใจเมื่อตอนปีกลายที่แล้ว

   "พี่ว่าอย่าทำดีกว่านะ"

   "ทำไมล่ะเจ้าคะ!"

   พลอยปภัสมุ่ยหน้าลงอย่างแง่งอนทำให้จักรกวินยิ้มแห้งท่ามกลางเสียงหัวเราะของพวกบ่าวไพร่ที่พากันกลั้นขำทั้งเรือน

   "เจ้าเหมาะจะนั่งเฉยที่สุดแล้วล่ะแม่พลอย"

   "จริงหรือเจ้าคะ"

   พลอยปภัสยิ้มกว้างพร้อมกระชับแขนที่กอดไว้ให้แน่นกว่าเดิม

   "ถ้าอย่างนั้นพลอยขอนั่งข้างพี่จักรนะเจ้าคะ"

   "เอ่อ...คือ..."

    จักรกวินอึกอักพร้อมเหลือบมองจอมทัพอย่างเกรงใจ

   "ปล่อยก่อนเถอะแม่พลอย คุณลุงมองอยู่นะ"

   "พี่จักร..."

   พลอยปภัสกำลังจะแย้งแต่เสียงของจอมทัพขัดขึ้นมาซะก่อน

   "แม่พลอย! ปล่อยพ่อจักรแล้วมานั่งข้างพ่อนี่มา"

   "เจ้าค่ะ!"

   พลอยปภัสปล่อยแขนแล้วเดินมานั่งข้างผู้เป็นพ่อด้วยใบหน้าบึ้งตึง ท่ามกลางความโล่งใจของจักรกวินที่เอามือขึ้นมาลูบอกอย่างลืมตัว






    ทางด้านของจอมขวัญก็เดินดูข้าวของเครื่องปรุงในเรือนครัวมากมายเต็มไปหมดจนไม่รู้จะทำอาหารอะไรไว้ให้พวกกลุ่มคนที่รออยู่บนเรือนนั้นกินดี ซึ่งหวานเองก็ช่วยเจ้านายตัวเองคิดตลอดเวลาจนเริ่มเป็นกังวล

   "คุณหนูจะทำอะไรดีเจ้าคะ หวานคิดจนปวดหัวไปหมดแล้วนะเจ้าคะ"

   "นั่นซิ อาหารอะไรนะที่เหมาะกับจะกินในวันที่อากาศร้อน"

    จอมขวัญเดินออกมานั่งลงบนแคร่พรางคิดอย่างหนักก่อนจะเหลือบไปเห็นพวกบ่าวไพร่กำลังซาวข้าวจากกระชอนกันอยู่จึงยิ้มหวานออกมาเมื่อนึกถึงอาหารที่คุณย่าชอบทำให้ตอนหน้าร้อน




...


   '...ฤดูร้อนก่อนเก่าทำข้าวแช่

   น่าชมแต่เครื่องกับสำรับฉัน

   ช่างทำเป็นดอกจอกและดอกจันทน์

   งามจนชั้นกระชายทำเหมือนจำปา

   มะม่วงดิบหยิบดูจึงรู้จัก

   ช่างน่ารักทำเป็นเช่นมัจฉา...'



   "กลอนอะไรครับคุณยาย เพราะจังเลย"

   จอมขวัญวัยห้าขวบเกาะขอบของห้องครัวที่เอาเก้าอี้มาต่อขาเพื่อจะมองดูคุณย่าที่อมยิ้มแล้วทำอาหารตรงหน้าอย่างบรรจงแต่ก็ตอบคำถามหลานชายตัวน้อยด้วยความเอ็นดู

   "กลอนนี้มาจากบทกวีรำพันพิลาปของท่านสุนทรภู่จ้ะ"

   "คุณยายกำลังทำอะไรอ่ะครับ หอมจัง"

   จอมขวัญถามขึ้นมาอย่างสนอกสนใจทำให้ผู้เป็นย่ายิ้มออกมาอย่างเอ็นดู

   "ข้าวแช่น่ะลูก คนสมัยก่อนนิยมกินในหน้าร้อน อร่อยชื่นใจแถมคลายร้อนได้อีกนะ"

   "ว๊าว~"

   จอมขวัญทำตาเปล่งประกายก่อนจะเอียงตัวมากอดเอวย่าตัวเองอย่างออดอ้อน

   "จอมอยากกินจังเลยครับคุณย่า"

   "ถ้าอยากกินจอมต้องมาช่วยย่าทำนะครับ เข้าใจไหม"

    มือที่เหี่ยวย่นไปตามวัยเอื้อมมือมาหยิกแก้มป่องของหลานชายอย่างหมั่นเขี้ยวซึ่งจอมขวัญก็รีบตอบรับอย่างกระตือรือร้น

   "ได้เลยครับผม"


...




   "หวาน"

   จอมขวัญหันมายิ้มให้กับคนรับใช้คนสนิทจนตาหยี

   "ข้าคิดออกแล้วว่าจะทำอะไรดี"

   "อะไรหรือเจ้าคะ"

   หวานเอียงคอถามด้วยความอยากรู้ทำให้จอมขวัญอมยิ้มพร้อมกับตอบออกมาด้วยสายตาเปล่งประกาย

   "ข้าวแช่"

   "ข้าวแช่หรือเจ้าคะ!" หวานยกมือขึ้นมาทาบตรงหน้าอกอย่างตกอกตกใจ "คุณหนูทำเป็นด้วยหรือเจ้าคะ"

   "จอมขวัญหลานย่าจอมจันทร์ซะอย่าง"

   จอมขวัญยิ้มกว้างออกมาอย่างสนุกสนานด้วยแววตาที่เปล่งประกายไปด้วยความตื่นเต้นเพราะไม่ได้ทำมานาน

   "แถมอร่อยมากด้วยนะ"

   "ดีงามเจ้าค่ะ"

   หวานอมยิ้มตรงมุมปากอย่างเห็นดีเห็นงามก่อนจะถามเจ้านายของตัวเองอย่างเอาใจ

   "ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวหวานไปจัดการกับพวกบ่าวไพร่ให้นะเจ้าคะ"

   "ขอบใจนะจ๊ะหวาน"

   จอมขวัญยิ้มกว้างก่อนจะเดินตามหวานเข้าไปในเรือนครัวอีกครั้งพร้อมแบ่งงานพวกบ่าวไพร่   ก่อนจะเดินไปคัดเมล็ดข้าวที่บ่าวคนหนึ่งกำลังซาวจนได้มาพอประมาณซึ่งจอมขวัญนำข้าวที่คัดแล้วนั้นใส่ลงไปในน้ำที่เดือดจัด ต้มจนข้าวข้างนอกพอสุกจึงบีบมะนาวลงไปเล็กน้อยเพื่อขจัดกลิ่น รอจนเม็ดข้าวขาวจึงให้บ่าวนำข้าวในหม้อนั้นมาเทใส่กระชอนจนสะเด็ดน้ำแล้วนำไปแช่ในน้ำฝนที่โรยไปด้วยดอกมะลิ และนำไปนึ่งบนผ้าขาวบางในหม้อดินเผาที่จุดควันเทียนเอาไว้ที่ก้นหม้อ

   ก่อนที่จะเดินไปตักน้ำฝนที่ใส่ไว้ในคนโทดินเผานั้นลงไปในหม้อดินเผาจนพอประมาณตามด้วยดอกมะลิโลยลงไปในน้ำ ดอกกุหลาบ และปิดท้ายด้วยดอกชมนาด จากนั้นนำควั่นเทียนอบมาวางไว้ในกะลาขนาดเล็กก่อนจะจุดไฟแล้วนำไปลอยน้ำในหม้อนั้นก่อนจะปิดฝาเพื่อเป็นการอบควันเทียน

   หลังจากจัดการเรื่องข้าวเสร็จแล้วจึงหันมาสนใจเครื่องเคียงที่มีหลากหลายทั้งลูกกะปิที่ด้านนั้นมีปลาช่อนย่าง ตะไคร้ กระชายบด หัวหอม กะปิ ผสมคลุกเคล้าไปกับหัวกะทิแล้วนำมาปั้นเป็นลูกกลมขนาดพอดีคำก่อนจะชุบไข่และนำไปทอดจนสีเหลืองทอง  พริกหยวกสอดไส้ปลาเค็มที่ห่อด้วยไข่ที่โรยเป็นตาข่ายในกระทะอย่างสวยงาม   หัวหอมทอดที่นำหอมมาปอกและผ่ากลางสอดไส้กะปิและปลาแห้งชุบแป้งทอดให้เหลืองกรอบ   นอกจากนี้ยังมีปลายี่สนผัดหวานและปลาหวานฝอยมาเป็นเครื่องเคียงอีกด้วย

   หลังจากทำเครื่องเคียงเสร็จแล้วก็หันมาจัดจานด้วยกระชายที่แกะสลักเป็นรูปดอกจำปา ต้นหอมจัดรวมกันเป็นรูปคล้ายดอกไม้ มะม่วงเขียวเสวยดิบรสชาติเปรี้ยวแกะสลักเป็นรูปกลีบใบไม้ พริกชี้ฟ้าแดงนำมาแกะสลักไว้อย่างสวยงามจนพวกบ่าวไพร่ต่างพากันนั่งมองอย่างชื่นชม

    พอเตรียมของเสร็จเรียบร้อยก็นำอาหารทุกอย่างใส่ลงในจานกระเบื้องเคลือบที่มีลวดลายและสีสันที่สวยแปลกตาจนอดที่จะแปลกใจไม่ได้

   "เรือนเรามีจานกระเบื้องเคลือบลายแบบนี้ด้วยหรอ แถมครบชุดอีกต่างหาก"

   "คุณหลวงซื้อให้คุณหญิงตอนมาขอแต่งงานเจ้าค่ะ"

    บ่าวคนหนึ่งที่อยู่ในเรือนครัวมานานตอบคำถามด้วยรอยยิ้ม

   "เห็นว่าซื้อมาจากพ่อค้าชาวจีนด้วยนะเจ้าคะ"

   "คุณพ่อนี่โรแมนติกดีจัง"

   จอมขวัญพึมพัมในลำคอพร้อมกับยิ้มหวานออกมาอย่างน่ารักทำให้พวกบ่าวไพร่พากันอมยิ้มด้วยความเอ็นดู

   ก่อนจะตักข้าวที่นึ่งจนหอมแล้วใส่จานตามมาด้วยน้ำที่นำมาปรุงด้วยกลิ่นของดอกไม้ที่อบด้วยควันเทียนจนส่งกลิ่นหอมไปทั้งเรือนครัวและปิดท้ายด้วยการโรยด้วยดอกมะลิ กลีบดอกกุหลาบ และกลีบดอกบัวเพื่อเพิ่มสีสันสดใสอีกครั้ง ทำให้บ่าวไพร่พากันกลืนน้ำลายด้วยความหิวกับกลิ่นหอมแบบนั้น

    หลังจากเตรียมของคาวเสร็จแล้วก็ต้องมานั่งคิดถึงของหวานซึ่งเป็นคนรับใช้คนสนิทและบ่าวรับใช้ต่างนั่งรอคำสั่งจากคุณหนูคนเล็กของเรือนที่กำลังนั่งคิดอย่างเคร่งเครียดอีกรอบ

   "ขนมหวานจะทำเป็นอะไรดีเจ้าคะคุณหนู"

   "นั่นซิ ขนมหวานจะทำเป็นอะไรดีนะ"

    จอมขวัญขมวดคิ้วร้อมกับนึกถึงขนมหวานที่ไม่หนักพวกน้ำกะทิจนเกินไปก่อนจะเหลือบไปเห็นต้นโสนที่มีดอกสีเหลืองบานเต็มต้นไปหมด

   "นึกออกแล้ว ข้าจะทำขนมดอกโสน"

   "ดอกโสนมาทำเป็นขนมได้ด้วยหรือเจ้าคะ"

    พวกบ่าวไพร่ต่างหันมามองด้วยสายตางุนงงทำให้จอมขวัญยิ้มหวานออกมาอย่างร่าเริง

   "แน่นอน แถมอร่อยด้วยนะ"

   "พวกเองอย่างพึ่งงงเลย รีบไปเก็บดอกโสนมาเถอะ ป่านนี้พวกคุณบนเรือนรอนานแล้วกระมั้ง"

   หวานเร่งบ่าวไพร่ไปเก็บดอกโสนซึ่งไม่นานนักก็ได้กลับมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งจอมขวัญนั้นจัดการร่อนแป้งในกระชอนเสร็จพอดีจึงนำดอกโสนมาพรมน้ำฝนจนพอชื้นแล้าคลุกเคล้าเข้ากับแป้งที่ผสมน้ำตาลปีบ  แล้วนำหัวกระทิที่บ่าวไพร่คนเรียบร้อยมาคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน  หลังจากนั้นจึงเทไปบนผ้าขาวบางที่ชุบน้ำพอหมาดก่อนจะนำไปนึ่งในหม้อดินเผา เมื่อสุกแล้วจึงนำขนมมาใส่ชามกระเบื้องพร้อมโรยหน้าด้วยน้ำตาลทรายและมะพร้าวที่ขูดจนเป็นเส้นเล็กที่นำไปคลุกเคล้ากับเกลือซึ่งหน้าตาและสีสันของขนมชนิดนี้น่ารับประทานมากจนพวกบ่าวไพร่ต่างมองกันตาเป็นมัน






    เมื่อเตรียมสำรับอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วจอมขวัญจึงเดินมาพร้อมกับพวกบ่าวไพร่ถือสำรับอาหารเดินตามมากันมาหลายคน ก่อนจะนำมาวางตรงโต๊ะเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ถอยไปนั่งก้มหน้าอยู่แถวมุมหนึ่งของเรือนอย่างเรียบร้อย

   ซึ่งทุกคนก็พากันสนใจอาหารตรงหน้าที่ไม่ค่อยจะได้ทำกินกันบ่อยนัก ทำให้พัณณิตามองอาหารตรงหน้าอย่างปลื้มอกปลื้มใจ

   "ลูกแม่ทำข้าวแช่อย่างนั้นหรือ หน้าตาน่ากินเชียว"

   "เจ้าค่ะคุณแม่ เห็นคุณหลวงบ่นว่าร้อนเลยลองทำข้าวแช่ดูน่ะเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญตอบก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้กับแทนกานต์ที่ก้มลงไปสูดดมกลิ่นหอมของอาหารตรงหน้า

   "ทานให้อร่อยนะเจ้าคะคุณหลวง"

   "หอม"

   แทนกานต์เอ่ยขึ้นมาพร้อมกับตักน้ำข้าวแช่เข้าปากทำให้รับรู้ถึงความหอมหวานที่คลุ้งจนมองมาที่คู่หมั้นคู่หมายด้วยสายตาเปล่งประกาย

   "หอมมาก เจ้าใส่ดอกชมนาดด้วยรึ"

   "เจ้าค่ะ คุณหลวงรู้ด้วยหรือเจ้าคะ"

   จอมขวัญชะงักเล็กน้อยก่อนจะหน้าแดงเพราะคำตอบของอีกฝ่าย

   "ข้าขอบกลิ่นหอมของดอกชมนาด เจ้าเก่งมากที่นำมาทำให้น้ำของข้าวแช่มีกลิ่นที่หอมและหวานมากแตกต่างจากที่เคยได้กินมา"

   "คุณหลวงก็พูดเกินไปเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญหน้าแดงจัดพร้อมก้บก้มหน้าทานข้าวด้วยท่าทางที่เขินอายท่ามกลางร่างสูงที่ยิ้มออกมาอย่างกรุ่มกริ่ม

   "แต่พี่น่ะชอบหัวหอมทอดของน้องพาขวัญมากเลยนะ รสชาติแสนจะนุ่มนวลหอมละมุนไม่แข็งกระด้างเลยล่ะ"

   จักรกวินไม่ยอมแพ้พูดแทรกพร้อมกับยิ้มกว้างมาให้อย่างเอาใจ ทำให้คินตาแอบเบะปากก่อนจะชมฝีมือการทำอาหารของเพื่อนสนิทที่ไม่ได้กินมานาน

   "ลูกกะปิมีรสเข้มข้นและมีกลิ่นหอมมากเหมือนเดิมเลยนะ"

   "ข้าทำซะอย่างจะไม่อร่อยได้ยังไงล่ะ"

   จอมขวัญยิ้มกว้างก่อนจะตักพริกหยวกสอดใส่ไปวางในจานของพัณณิตาอย่างเอาอกเอาใจ

   "คุณแม่ทานให้หมดเลยนะเจ้าคะ"

   "ขอบใจนะลูก พาขวัญลูกแม่นี่ฝีมือการทำอาหารพัฒนาขึ้นเยอะมากเลยนะ"

   พัณณิตายกมือขึ้นมาลูบผมลูกตนเองอย่างรักใคร่พร้อมหันไปถามว่าที่คู่หมั้นลูกตัวเองอย่างเอาใจ

   "อร่อยไหมจ๊ะพ่อแทน"

   "อร่อยขอรับ"

   แทนกานต์อมยิ้มพร้อมกับหันเอ่ยชมจอมขวัญด้วยแววตาเปล่งประกาย

   "ฝีมือการทำอาหารของเจ้าได้ชิมกี่ครั้งก็อร่อยเหมือนเดิม"

   "ถ้าอย่างนั้นพ่อแทนก็มาชิมฝีมือของน้องทุกมื้อเลยก็ได้นะจ๊ะ"

   พัณณิตาเอ่ยออกมาอย่างกระตือรือร้นทำให้แทนกานต์อมยิ้มตรงมุมปากอย่างถูกใจ

   "ถ้าคุณป้าไม่ว่าอะไร ข้าจะมาทานทุกมื้อเลยขอรับ"

   "ไม่ว่าหรอกจ้ะ"

   พัณณิตายิ้มกว้างพร้อมกับลูบหลังลูกสาวตัวเองอย่างตื่นเต้น

   "หรือพ่อแทนจะย้ายมานอนที่นี่ก็ได้นะ น้องจะได้มีเพื่อนคุยด้วยไง

   "อะแฮ่ม!'

   "อะไรติดคอเจ้าคะคุณพี่"

   พัณณิตาเหลือบตามองด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะมองข้าวในจานของอีกฝ่ายที่พล่องไปเกือบครึ่ง

   "แต่คุณพี่ทานเยอะแบบนี้แสดงว่าอาหารของลูกเราอร่อยใช่ไหมเจ้าคะ"

   "อร่อยมาก" จอมทัพเอ่ยชมบ้างพร้อมยกมือลูบผมสวยด้วยความเอ็นดู "ฝีมือของลูกสู้ระดับพวกนางในวังหลวงได้เลยนะ"

   "คุณพ่อก็พูดเกินไปเข้าค่ะ"

   จอมขวัญยิ้มหวานออกมาอย่างเขินอายก่อนจะลงมือทานอาหารด้วยความดีใจที่ทุกคนนั้นถูกปาก แต่ทว่าพลอยปภัสกลับไม่แตะต้องอาหารแถมทำท่าทางพะอืดพะอมจนต้องยกมือขึ้นมาปิดจมูกทำให้จอมทัพหันมามองด้วยความเป็นห่วง

   "แม่พลอย ทำไมไม่กินข้าวล่ะลูก"

   "เหม็น!"

   กึก

   "เหม็นอะไรรึแม่พลอย"

   จอมทัพถามออกมาอย่างสงสัยพร้อมกับคนที่อยู่ตรงนั้นพากันชะงักมือที่กำลังตักอาหาร ทำให้พลอยปภัสที่กำลังยกมือขึ้นมาปิดปากนั้นหลบสายตาแล้วทำเป็นเลื่อนจานไปด้านหน้าด้วยท่าทางรังเกียจ

   "พลอยเหม็นกลิ่นกะปิน่ะเจ้าค่ะคุณพ่อ"

   "ข้าทำกลิ่นไม่แรงนะเจ้าคะพี่พลอย" จอมขวัญก้มหน้าดมลูกกะปิที่ตนเองทอดอีกครัง "หอมกำลังดีเลย"

   "แต่พี่เหม็น"

   พลอยปภัสทำตาขวางพร้อมทั้งกอดแขนจักรกวินอย่างออดอ้อน

   "พี่จักรกินเข้าไปได้อย่างไรเจ้าคะ เดี๋ยวท้องเสียหรอก"

   "แม่พลอย"

   จักรกวินเอ็ดพร้อมเลื้อมมือมาแกะมือบางออกพร้อมมองหน้าพวกผู้ใหญ่อย่างเกรงใจ

   "เจ้าไปพูดแบบนั้นเดี๋ยวน้องพาขวัญเสียใจนะ"

   "พลอยไม่สน"

   พลอยปภัสเชิดหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่งทำให้จอมขวัญแอบถอนหายใจออกมาเล็กน้อย

   "เรื่องเท่านี้ไม่เสียใจหรอกเจ้าค่ะ เดี๋ยววันหลังน้องจะทำให้กลิ่นน้อยกว่านี้ดีไหมเจ้าคะพี่พลอย"

   "ดีจ้ะ"

    พลอยปภัสเชิดหน้าพร้อมขยับไปกอดแขนจักรกวินอย่างเอาอกเอาใจ

   "พี่จักรทานผักดีกว่านะเจ้าคะ หรือจะเอาปลายี่สนผัดหวานดีไหมเจ้าคะ"

   "พี่ชอบกินลูกกะปิมากกว่า"

    จักรกวินยิ้มแห้งพร้อมตักลูกกะปิมากินทำให้พลอยปภัสขยับตัวออกห่างพร้อมทำหน้าตาสะอิดสะเอียน ซึ่งพอรู้แบบนั้นร่างสูงจึงตักมากินอีกหลายต่อหลายคำทำให้พวกบ่าวไพร่พากันหัวเราะในลำคออย่างขบขัน



    หลังจากทานอาหารคาวกันเสร็จแล้วจอมขวัญจึงพยักหน้าให้พวกบ่าวไพร่พากันนำขนมหวานขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะจนครบซึ่งทุกคนต่างจ้องมองด้วยความแปลกใจยกเว้นแทนกานต์เลิกคิ้วพร้อมกับแอบอมยิ้มตรงมุมปากเล็กน้อย

   "ขนมดอกโสน"

   "ใช้แล้วเจ้าค่ะ ข้าทำขนมดอกโสนมาให้ซึ่งมีสรรพคุณแก้พิษร้อนถอนพิษไข้ได้"

    จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมกับมองหน้าแทนกานต์ด้วยแววตาเปล่งประกาย

   "ข้าตั้งใจทำมากเลยนะเจ้าคะ เห็นคุณหลวงบนว่าร้อนน่ะเจ้าค่ะ"

   "เจ้าช่างรู้ใจข้ายิ่งนัก จำได้ด้วยหรือว่าข้าชอบกินดอกโสน"

   แทนกานต์ยิ้มกว้างกลับไปพร้อมตักขนมเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย

   "ช่างอร่อยยิ่งนัก"

   "เอ่อคือ..."

   จอมขวัญอ้ำอึ้งเพราะไม่คิดว่าจะเป็นของโปรดของอีกฝ่าย จนกระทั่งพัณณิตาเอื้อมมือมาจับต้นแขนเรียกสติอย่างแผ่วเบาพร้อมคะยั้นคะยอให้ตอบอย่างถูกอกถูกใจ

   "พี่เขาเอ่ยชมขนาดนี้ ตอบอะไรไปหน่อยซิลูก"

   "เจ้าค่ะคุณแม่"

   จอมขวัญชะงักเล็กน้อยก่อนจะยิ้มหวานตอบกลับไปด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

   "ข้าตั้งใจทำขนมชนิดนี้มาก เห็นคุณหลวงชื่นชอบแบบนี้ข้าก็ดีใจเจ้าค่ะ"

   "ข้าชอบมากเลยล่ะ"

    แทนกานต์ยิ้มตรงมุมปากแล้วตักขนมทานต่อด้วยสายตาแพรวพราวทำให้จอมขวัญหน้าร้อนขึ้นมาเล็กน้อย พอเห็นท่าทางแบบนั้นทำให้คินตาขมวดคิ้วก่อนจะเรียกร้องความสนใจจากเพื่อนสนิทบ้าง

   "แต่คินก็ชอบขนมดอกโสนมากเหมือนกันนะ วันหลังทำขนมคุ้กกี้ให้กินอีกบ้างซิ"

   "คุก...คุกกี้รึ"

   พัณณิตาขมวดคิ้วแน่นด้วยความสงสัย

   "คุกกี้คือขนมใดกัน ข้าไม่เคยเห็นจะได้ยิน คุณพี่เคยได้ยินไหมเจ้าคะ"

   "ข้าไม่เคยได้ยินเช่นเดียวกัน"

   จอมทัพขมวดคิ้วมาจนแถบจะติดกันด้วยความงุนงง

   "แถมชื่อช่างประหลาดนัก"

   "คือขนมใดกันรึน้องพาขวัญ"

   จักรกวินถามขึ้นมาอย่างสนใจผิดกับแทนกานต์ที่ขมวดคิ้วแน่นด้วยความไม่ชอบใจนักทำให้จอมขวัญเอื้อมมือไปหยิกเอวเพื่อนสนิทก่อนจะตอบคำถามทุกคนด้วยรอยยิ้ม

   "คินตาคงจะหมายถึงขนมโสมนัสน่ะเจ้าค่ะ"

   "อ๋อ ขนมโสมนัสนี่เอง"

   ทุกคนในที่นั้นต่างพยักหน้าอย่างเข้าใจในชื่อขนมที่หากินได้ยากเพราะวิธีการทำนั้นลำบากพอสมควร พัณณิตาจึงลูบผมลูกสาวตนเองอย่างชื่นชม

   "ลูกพาขวัญของแม่ทำขนมโสมนัสเป็นด้วยรึ"

   "แค่ลองทำให้คินตาลองชิมดูน่ะเจ้าค่ะ"

    จอมขวัญยิ้มหวานก่อนจะอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อถูกพัณณิตาคะยั้นคะยออีกครั้ง

   "วันหลังทำให้พี่แทนกานต์เขากินด้วยซิลูก"

   "ลูกกลัวคุณหลวงจะไม่ว่างลองชิมน่ะซิเจ้าคะ"

   จอมขวัญพูดเลี่ยงแต่ท่าทางแบบนั้นทำให้แทนกานต์อมยิ้มตรงมุมปากพร้อมพูดอวดขึ้นมาบ้าง

   "ข้าว่างพอที่จะชิมฝีมือขนมของเจ้าอยู่แล้ว แถมขนมลำเจียกที่เจ้าแอบห่อให้ข้าเมื่อวันก่อนนั้นพ่อกันต์นิษฐ์ชื่นชอบมากเลยล่ะ"

   "กันต์นิษฐ์?"

   จอมขวัญขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจทำให้จอมทัพอธิบายด้วยท่าทางที่เอ็นดู

   "กันต์นิษฐ์ น้องชายของพ่อแทนกานต์น่ะ ตอนนี้อายุได้กี่ขวบปีแล้วรึพ่อแทน"

   "ห้าขวบขอรับ"

   แทนกานต์ยิ้มกว้างพร้อมกับมองคนน่ารักที่ยังทำหน้าตางุนงงไม่หาย

   "แล้ววันหลังข้าจะพาพ่อกันต์นิษฐ์มาเล่นกับเจ้าที่เรือนบ้างก็แล้วกันนะพาขวัญ"

   "เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญยิ้มแห้งเพราะยังประติดประต่อเรื่องไม่ค่อยถูกซักเท่าไหร่ ส่วนจักรกวินนั้นกำลังจะพูดแทรกขัดจังหวะก็โดนพลอยปถัสเบียดเข้ามามากกว่าเดิมพร้อมหยิบขนมดอกโสนมาจะป้อนให้อย่างเอาอกเอาใจ

   "พี่จักรทานเถิดเจ้าค่ะ เดี๋ยวน้องป้อน"

   "ไม่เป็นไรแม่พลอย"

    จักรกวินส่ายหน้าพร้อมดันมือขาวนั้นไปให้พ้นจากหน้าของตัวเอง

   "อิ่มแล้วน่ะ"

   "ขนมไม่ถูกปากหรือเจ้าคะ ทำไมพี่จักรอิ่มเร็วล่ะ"

   พลอยปภัสแกล้งพูดเสียงดังพร้อมปลายตามองไปยังน้องสาวต่างมารดาอย่างเยาะเย้ยทำให้จักรกวินรีบแก้ตัวทันที

   "ไม่ใช่ขนมน้องพาขวัญไม่อร่อยนะ แต่พอดีพี่ติดราชการพอดีน่ะ"

   "ถ้าเช่นนั้นก็รีบไปเถิดพ่อจักร"

   พัณณิตาสนับสนุนให้ลงจากเรือนทำให้จักรกวินหน้าเสียเล็กน้อยก่อนจะยกมือไหว้ผู้ใหญ่ของเรือนอย่างนอบน้อม

   "ข้าลาแล้วขอครับคุณหลวง คุณป้าพัณ คุณป้าแพรว"

   "โชคดีนะพ่อจักร"

    จอมทัพพยักหน้ารับพร้อมตักขนมเข้าปากทำให้จักรกวินหันมายิ้มหวานให้กับจอมขวัญด้วยความเสียดาย

   "พี่ไปแล้วนะน้องพาขวัญ ไว้เดี๋ยวจะมาเยี่ยมอีก"

   "เจ้าค่ะออกขุนจักร"

   จอมขวัญยิ้มรับตามมารยาททำให้จักรกวินยิ้มกว้างเดินลงจากเรือนไปด้วยท่าทางมีความสุขทำให้พลอยปภัสกำมือแน่นด้วยความไม่พอใจก่อนที่แพรวพรรณรายจะเอื้อมมือดันหลังลูกตนเองอย่างแผ่วเบา

   "มัวทำไรอยู่ล่ะแม่พลอย ทำไมไม่ลงไปส่งท่านออกขุนเขาล่ะลูก"

   "เจ้าค่ะคุณแม่"

   พลอยปภัสยิ้มกว้างก่อนจะรีบเดินลงไปจากเรือนด้วยท่าทางรีบร้อน  ทุกคนจึงหันกลับมาสนใจขนมหวานตรงหน้าอีกครั้ง

   จนกระทั้งพัณณิตาเอ่ยถึงฝีมือการทำอาหารของลูกตนเองอย่างขื่นชมอีกครั้ง

   "แต่จะพูดไปฝีมือการทำอาหารและขนมหวานของแม่พาขวัญนี่พัฒนาขึ้นไปมากโขเลยนะเจ้าคะคุณพี่"

   "ถูกต้องแล้วล่ะแม่พัณ"

    จอมทัพพลอยยิ้มตามและสนับสนุนคำชมนั้นอย่างภูมิใจทำให้แพรวพรรณรายเอ่ยแรกขึ้นมาบ้าง

   "แม่พลอยก็ทำขนมอร่อยนะเจ้าคะคุณพี่"

   "แม่พลอยน่ะรึ"

    พัณณิตายิ้มเยาะพร้อมกับแกล้งพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้แพรวพรรณรายกำมือแน่น

   "ให้จุดไฟไม่ไหม้ทั้งเรือนครัวก่อนเถิดแล้วค่อยมาทำขนม"

   "อุ๊ปส์"

   พวกบ่าวไพร่ทั้งเรือนพากันกลั้นขำไม่เว้นแม้แต่จอมทัพที่ก็พลอยเห็นดีเห็นงามจนแพรวพรรณรายวางช้อนลงอย่างแรงด้วยความขัดใจ

   "น้องอิ่มแล้วเจ้าค่ะ ขอตัวก่อนนะเจ้าคะคุณพี่"

   "เดี๋ยวซิแม่แพรว"

   จอมทัพห้ามปรามไว้ไม่ทันเพราะพอพูดจบแพรวพรรณรายก็เดินสะบัดเข้าห้องไปด้วยความคับแค้นใจ ทำให้จอมทัพมองตามหลังอย่างเป็นกังวล 

   "แม่แพรวคงจะโกรธมากที่โดนแม่พัณแกล้งพูดแบบนั้น"

   "คุณพี่อย่าไปสนใจเลยเจ้าค่ะ" พัณณิตาเอื้อมมือมาแตะแขนก่อนจะเชิญชวนให้กินขนมตรงหน้าอย่างเอาอกเอาใจ "มาทานขนมกันต่อเถอะ"

   "อืม"

    จอมทัพตอบรับด้วยน้ำเสียงในลำคอก่อนจะลงมือกินขนมหวานตรงหน้าต่อทำให้พัณณิตาเหยียดยิ้มอย่างพึงพอใจ

    ส่วนคินตาก็ยกมือขึ้นมาลูบเอวตรงแถวที่โดนหยิกด้วยความเจ็บพร้อมยื่นหน้าเข้าไปกระซิบกระซาบด้วยความแง่งอน

   "จอมหยิกคินซะเต็มแรงเลยนะ"

   "คินอยากหลุดก่อนทำไหมล่ะ"

    จอมขวัญปากยื่นใส่ก่อนจะหันมาสนใจจานกระเบื้องของแทนกานต์ที่ยื่นมาเกือบชนหน้าตัวเอง

   "คุณหลวงยื่นจานมาทำไมเจ้าคะ"

   "ตักขนมให้ข้าหน่อย"

   แทนกานต์พูดน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แอบส่งสายตาออดอ้อนจนจอมขวัญถอนหายใจแล้วรับจากกระเบื้องมาถือไว้ก่อนจะตักขนมดอกโสนใส่จานคนตรงหน้าด้วยท่าทางนุ่มนวลท่ามกลางสายตาของคู่หมั้นคู่หมายและเพื่อนสนิทที่แอบลอบมองมาตลอดเวลาด้วยสายตาหลงใหล



***************มีต่อค่ะ****************

ออฟไลน์ tonako2yuri

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0



    พอตักเสร็จแล้วก็ยื่นกลับไปให้ก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อคนตรงหน้าไม่ยอมรับจานไปซักที

   "คุณหลวง...คุณหลวงเจ้าคะ!"

   "ห๊ะ!"

    แทนกานต์สะดุ้งสุดตัวก่อนจะเอื้อมมือไปรับจานโดยแอบจับมือบางนุ่มนวลนั้นอย่างแนบเนียน

   "น่ากินมาก ขอบใจเจ้ามากนะ"

   "เจ้าค่ะ"

    จอมขวัญรีบดึงมือกลับมาด้วยใบหน้าแดงก่ำพร้อมเหลือบมามองคินตาที่ทำหน้าตาไม่พอใจ

   "คินปวดท้องหรอ ทำไมทำหน้าตาแบบนั้นล่ะ"

   "หวง"

   คินตาเผลอหลุดปากออกมาทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นพากันชะงักแล้วมองมาด้วยความสงสัย สายตาที่มองมานั้นทำให้คินตายิ้มแห้งออกมาด้วยอาการเก้อเขิน

   "ข้าหวงขนมน่ะ"

   "หวงอะไรล่ะคิน"

   จอมขวัญยิ้มหวานมาให้ด้วยสีหน้าและแววตาที่ขบขัน

   "ขนมมีตั้งเยอะ"

   "ถ้าไม่พอเดี๋ยวป้าให้พวกบ่าวไพร่ทำเพิ่มก็ได้"

   พัณณิตาเสริมขึ้นมาอย่างขบขันไม่แพ้กันทำให้คินตาตอบรับด้วยน้ำเสียงที่อายเล็กน้อย

   "ขอรับคุณป้า"

   "หึ"

   แทนกานต์หัวเราะในลำคอก่อนจะลงมือตักขนมเขาปากด้วยท่าทางยียวนทำให้คินตากำมือแน่นพร้อมกับตักขนมเข้าปากด้วยความไวไม่แพ้กันโดยมีจอมขวัญนั่งมองอยู่ตรงกลางด้วยความสงสัย

    ซึ่งท่าทางแบบนั้นทำให้จอมทัพมองด้วยสายตาขัดใจและอาการหวงลูกเริ่มกลับมาอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปนาน




    ทางด้านของพลอยปภัสนั้นเร่งฝีเท้าเดินตามมาจนทันจึงเอื้อมมือไปกอดอีกฝ่ายจากด้านหลังแน่นพร้อมซบหน้าลงไปถูไถอย่างออดอ้อน

   "พี่จักรจะรีบไปไหนเจ้าคะ พลอยยังไม่หายคิดถึงเลย"

   "แม่พลอย!"

   จักรกวินขึ้นเสียงพร้อมหันซ้ายขวาด้วยกลัวว่าคนอื่นที่นอกจากบ่าวไพร่นั้นจะมาเห็น

   "ปล่อยพี่ก่อนเถิด เจ้าเป็นสาวเป็นนางนะจะมากอดผู้ชายหน้าเรือนแบบนี้มันดูไม่งาม"

   "ทำไมจะไม่งามเจ้าคะ"

   พลอยปภัสเอียงคอพร้อมขมวดคิ้วแน่นด้วยความสงสัย

   "หรือพี่จักรอายพวกบ่าวไพร่"

   "สมควรจะอายนะแม่พลอย"

   จักรกวินถอนหายใจพร้อมกับพยายามถึงมือออกแต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมปล่อยแถมกอดแน่นมากยิ่งขึ้นจนต้องถอนหายใจออกมาอย่างรำคาญ

   "แม่พลอย..."

   "แต่พลอยไม่อายนี่เจ้าคะ"

   พลอยปภัสพูดแทรกขึ้นมาพร้อมกอดอีกฝ่ายแน่นอย่างเอาแต่ใจตัวเอง

   "พลอยคิดถึงพี่จักรมากเลยนะเจ้าคะ"

   "แม่พลอยมาพูดกับผู้ชายแบบนี้ไม่สมควรนะ"

   จักรกวินห้ามปรามอีกครั้งแต่พลอยปภัสไม่สนใจแถมซบลงกับแผ่นหลังกว้างของคนตรงหน้าด้วยท่าทางออดอ้อน

   "พี่จักรก็รู้นี่คะว่าพลอยรักพี่จักรมากแค่ไหน"

   "แต่เจ้าก็พอรู้บ้างใช่หรือไม่ว่าพี่รักน้องพาขวัญมากแค่ไหน"

   จักรกวินมองคนตรงหน้าด้วยสายตาจริงจังปนไปด้วยความลำบากใจ

   "อย่าให้พี่ต้องพูดทำร้ายจิตใจเจ้าเลยนะแม่พลอย"

   "อะไรกันเจ้าคะ" พลอยปภัสชักสีหน้าพร้อมเอามือออกจากอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ "พี่จักรเองก็รู้ดีไม่ใช่หรอว่าแม่พาขวัญรักคุณหลวงน่ะ"

   "เรื่องนั้น..."  จักรกวินชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะทำท่าทีไม่รู้สึกอะไร "พี่พอจะรู้มาบ้าง"

   "พี่จักรรู้แล้วจะไปทนรักแม่พาขวัญทำไมเจ้าคะ"

   พลอยปภัสกอดอกพร้อมกับชักสีหน้าอย่างไม่พอใจก่อนจะเกาะแขนแล้วยิ้มหวานให้อีกฝ่ายอย่างออดอ้อน

   "หันมาสนใจคนใกล้ตัวอย่างพลอยไม่ดีกว่าหรือเจ้าคะ"

   "แม้พี่จะรู้ว่าแทบจะไม่มีโอกาสชนะ"

   จักรกวินแกะมือที่เกาะแขนอยู่นั้นออกไปอย่างไม่ใยดีพร้อมน้ำเสียงที่เข้มมากกว่าเดิม

   "แต่พี่ก็จะไม่ออกเรือนกับแม่พลอยเช่นเดียวกัน"

   "ทำไม่ล่ะเจ้าคะ!"

   พลอยปภัสชักสีหน้าไม่พอใจและแววตาเต็มไปด้วยความโกรธเคือง

   "ทำไมพี่จักรถึงออกเรือนกับพลอยไม่ได้"

   "เพราะพี่ไม่ได้รักแม่พลอยไงล่ะ"

   จักรกวินตอบกลับมาทำทันทีทำให้พลอยปภัสหวีดร้องเสียงดังลั่น

   "พี่จักร!"

   "อ้ายไม้"

   จักรกวินหันไปสั่งบ่าวรับใช้ที่ยืนนิ่งอยู่กับที่ด้วยความขัดใจ

   "จะยืนดูอยู่ทำไมรีบไปเอาเรือมาเร็ว"

   "ขอรับ"

   ไม้รีบวิ่งไปเอาเรือที่ผูกไว้ไกลจากท่าน้ำใหญ่เล็กน้อยด้วยความเร่งรีบก่อนที่จักรกวินหันไปลาพลอยปภัสที่ทำใบหน้าบึ้งตึง

   "พี่ลาก่อนนะ พอดีมีประชุมกับกลุ่มขุนนางที่เรือนใหญ่"

   "พี่จักร..."

   พลอยปภัสเห็นจักรกวินกำลังจะเดินหนีไปก็โผเข้ากอดคนตรงหน้าอีกครั้งพร้อมกระชับอ้อมกอดแน่นไม่ยอมปล่อย

   หมับ!

   "แม่พลอย!"

    จักรกวินตกใจร้องเสียงหลงก่อนจะพยายามดึงมือบางนั้นออกจากตัวของตนเอง

   "ทำอะไรน่ะ!"

   "พลอยรักพี่จักร"

    พลอยปภัสซบหน้าลงไปก้บแผ่นหลังกว้างของคนตรงหน้าอย่างออดอ้อน

   "พลอยรักพี่มาตั้งแต่เด็กแล้ว รักก่อนที่พี่จะรู้จักกับแม่พาขวัญเสียอีก"

   "ปล่อยเถอะแม่พลอย"

   จักรกวินหันซ้ายหันขวากลัวว่าใครจะมาเห็นแล้วเข้าใจผิด

   "หากท่านเจ้าคุณมาเห็นเจ้าทำตัวแบบนี้จะโดนลงหวายเอานะ"

   "พลอยไม่ปล่อย"

   พลอยปภัสส่ายหน้าแถมเพิ่มแรงกอดให้มากขึ้นกว่าเดิม

   "พลอยรักพี่จักรนะเจ้าคะ"

   "แต่พี่ไม่ได้รัก"

   จักรกวินตอบกลับอย่างรวดเร็วด้วยน้ำเสียงหนักแน่นทำให้พลอยปภัสชะงักพร้อมกับทำสีหน้าเสียใจ

   "พี่จักร..."

   "ปล่อยได้แล้ว"

   จักรกวินดึงมือบางนุ่มนิ่มออกอย่างแรงด้วยความอึดอัด

   "หากพวกบ่าวไพร่คนอื่นมาเห็นมันจะดูไม่งาม"

   "พี่..."

   พลอยปภัสกำลังจะเอื้อมมือมารั้งไว้แต่จักรกวินกลับเบี่ยงตัวหลบแล้วรีบกล่าวลาทันที

   "พี่ลาล่ะนะ"

   "เดี๋ยวก่อนอย่าพึ่งไปซิเจ้าคะ!"

   พลอยปภัสร้องเรียกเสียงหลงแต่จักรกวินไม่หยุดฟังแถมรีบเดินหนีขึ้นไปนั่งลงบนเรือก่อนจะหันไปสั่งไม้ด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ

   "อ้ายไม้ออกเรือเร็ว"

   "ขอครับท่านขุน"

   ไม้รับคำสั่งพร้อมกับดันเรือออกจากท่าในจังหวะเดียวกันกับที่พลอยปภัสมาถึงตรงท่าเทียบเรือพอดีทำให้ยืนกรีดร้องกระทืบเท้าด้วยความขัดใจ

   "พี่จักร!!!"

   "คุณหนูไม่ร้องโวยวายนะเจ้าคะ"

    ฝ้ายเอื้อมมือมารั้งเจ้านายตัวเองพร้อมกับหันซ้ายหันขวาด้วยความกังวล

   "เดี๋ยวพวกบ่าวไพร่มาเห็นเข้าจะเอาไปคุยกันสนุกปากนะเจ้าคะ"

   "จะไปสนใจทำไมล่ะ!"

   พลอยปภัสสะบัดตัวออกก่อนจะเดินกระทืบเท้าขึ้นมาบนเรือนด้วยความหงุดหงิด

   พอเดินขึ้นมาบนเรือนก็เห็นจอมขวัญกำลังเตรียมพานดอกมะลิสำหรับจะร้อยพวงมาลัยในช่วงบ่ายจึงเดินเข้าไปแย่งพานมาถือเอาไว้เอง

   "พาขวัญ!"

   "พี่พลอยมีอะไรหรือเจ้าคะ"

   จอมขวัญเอียงคอถามด้วยความสงสัยก่อนจะชะงักเมื่อพลอยปภัสสาดดอกมะลิทั้งถาดใส่หน้าพร้อมกับโยนพานทิ้งลงบนพื้นเสียงดังลั่นทำให้คนทั้งเรือนหันมามองด้วยความตกใจ

   ซึ่งภาพนั้นทำให้จอมทัพที่จะออกไปนอกบ้านตะโกนเสียงดังลั่นด้วยความโมโห

   "พลอยปภัส! ทำไมถึงทำแบบนั้นใส่น้องหะ!!!"

   "มันจะแย่งออกขุนจักรไปจากลูก"

   พลอยปภัสมองน้องสาวต่างแม่ด้ายสายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉา

   "อย่าคิดว่าจะแย่งออกขุนจักรไปจากข้า ไม่เช่นนั้นเราจะได้เห็นดีกัน"

   "ข้าไม่ได้จะแย่งออกขุนจักรไปจากพี่พลอยเลยนะเจ้าคะ พี่พลอยอาจจะลืมไปว่าข้าเป็นคู่หมั้นคู่หมายของคุณหลวงแทนกานต์"

   จอมขวัญกำมือแน่นพยายามข่มอารมณ์ของตัวเองก่อนจะจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่เริ่มหงุดหงิด

   "แล้วพี่พลอยมาปัดพานดอกไม้แบบนี้ รู้ไหมเจ้าคะว่าดอกมะลิที่ข้าเก็บมาน่ะช้ำไปหมด"

   "ข้าไม่สน!"

    พลอยปภัสเชิดหน้าขึ้นก่อนจะกำชับอีกครั้งด้วยสีหน้าและท่าทางที่ข่มขู่

   "ขอเตือนอีกครั้ง อย่ายุ่งกับออกขุนจักรเด็ดขาด"

   "ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกพลอยปภัส"

   แทนกานต์เดินมาหยุดยืนข้างจอมขวัญพร้อมโอบกอดอีกฝ่ายเข้ามาหาตนเองแล้วจ้องมองพลอยปภัสด้วยสายตาไม่พอใจ

   "เพราะข้าจะดูแลพาขวัญอย่างดี ไม่ให้ไปยุ่งกับออกขุนของเจ้าเด็ดขาด"

   "ถ้าแบบนั้นก็ดีมากเลยเจ้าค่ะ!"

   พลอยปภัสสะบัดหน้าหนีพร้อมเดินหายเข้าไปในห้องพร้อมฝ้ายที่เดินตามหลังเจ้านายตัวเองอย่างรีบร้อน

     พออีกฝ่ายเข้าห้องไปแล้วพวกบ่าวไพร่จึงพากนมาช่วยเก็บดอกมะลิที่กระจายเกลื่อนเต็มพื้น โดยเฉพาะหวานที่ปัดตามเนื้อตัวของเจ้านายตัวเองที่ยังยืนจ้องตากับคุณหลวงด้วยความเป็นห่วง ซึ่งภาพเหตุการณ์นั้นทำให้จอมทัพถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ

   "แม่พลอยนี่นับวันยิ่งเอาแต่ใจมากขึ้นทุกวัน"

   "คงจะเป็นตามที่แม่แพรวสอนน่ะเจ้าค่ะ คุณพี่อย่าไปสนใจเลยนะเจ้าคะ"

   พัณณิตายกมือลูบแขนแกร่งอย่างปลอบใจก่อนจะหันไปมองจอมขวัญด้วยความสงสาร

   "สงสารก็แต่ลูกของเรา"

   "นั่นซินะ"

   จอมทัพถอนหายใจออกมาด้วยความเป็นห่วงก่อนที่จะถูกพัณณิตากอดแขนแล้วพามาส่งตรงบันไดเรือน

   "คุณพี่รีบไปเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวจะไม่ทันนะเจ้าคะ"

   "ฝากดูแลลูกด้วยนะแม่พัณ"

   "เจ้าค่ะคุณพี่"

    พัณณิตาเดินไปส่งจอมทัพตรงบันไดหน้าเรือนก่อนจะหันมาจ้องแทนกานต์ที่เป็นห่วงลูกตนเองด้วยท่าทางปลื้มอกปลื้มใจจนอดที่จะกระซิบกับพริ้มพรายที่นั่งเก็บเศษดอกมะลิ

   "นังพริ้ม เองว่าพ่อแทนเริ่มจะรักแม่พาขวัญรึยัง"

   "บ่าวคิดว่าคุณหลวงน่ะ"

   พริ้มพรายยกมือป้องปากก่อนจะกระซิบข้างหูเจ้านายตัวเองอย่างเอาใจ

   "รักจนไม่รู้จะรักยังไงแล้วเจ้าค่ะ"

   "ฮะฮะ เองพูดถูกใจข้า"

    พัณณ์ตายิ้มกว้างอย่างถูกอกถูกใจก่อนจะเหลือบมองแทนกานต์ที่ยืนโอบลูกสาวตัวเองไม่ยอมปล่อย

   "เจ็บอะไรไหมจอมขวัญ"

   แทนกานต์ถามด้วยน้ำเสียงและแววตาที่เป็นห่วงก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบดอกมะลิที่ติดอยู่บนหัวออกอย่างอ่อนโยนทำให้จอมขวัญยืนนิ่ง สายตาจ้องมองอีกฝ่ายไม่กระพริบแถมหัวใจเริ่มเต้นแรงจนห้ามไม่ไหว

   "ม...ไม่เจ้าค่ะ"

   "โล่งอกไปที"

   แทนกานต์ถอนหายใจก่อนจะยิ้มกว้างออกมาอย่างโล่งอกทำให้จอมขวัญหน้าแดงจัดก่อนจะอมยิ้มมุมปากเล็กน้อยด้วยความเขินอาย

   "ขอบคุณที่มาช่วยข้าไว้นะเจ้าคะ"

   "ไม่เป็นไร"

   แทนกานต์สายหน้าพร้อมจับแก้มอีกฝ่ายด้วยความทะนุถนอม

   "อย่าลืมซิว่าเจ้าเป็นคู่หมั้นของข้านะ"

   "คู่หมั้นของพาขวัญต่างหากเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญตวัดสายตามามองค้อนก่อนจะเดินหนีมานั่งข้างพัณณิตาที่ยกมือขึ้นมาลูบผมอย่างเอ็นดูพร้อมกับพวกบ่าวไพร่ที่นำพานดอกมะลิ ดอกกุหลาบ ดอกดาวเรือง และดอกรักมาวางจัดไว้เต็มไปหมดทำให้จอมขวัญอมยิ้มก่อนจะลงมือร้อยพวงมาลัยโดยมีหวานคอยเป็นลูกมือช่วยหยิบข้าวของให้อย่างคล่องแคล่ว ท่ามกลางสายตาของแทนกานต์ที่จ้องมองตาไม่กระพริบจนคินตาที่นั่งเยื้องไปหน่อยต้องตวัดสายตามองอย่างไม่พอใจ

   "มองมากไปรึเปล่าคุณหลวง"

   "ไม่มากหรอก ตามประสาคู่หมั้นคู่หมาย"

   แทนกานต์เหยียดยิ้มพร้อมกับจ้องมาที่คินตาด้วยแววตาที่รู้ทัน

   "ไม่เหมือนใครบางคนที่คิดไม่ซื่อ"

   "ข้าคิดไม่ซื่อตรงไหน"

   คินตาขมวดคิ้วแน่นด้วยความหงุดหงิดทำให้แทนกานต์กระตุกยิ้มตรงมุมปาก

   "ข้ายังไม่ได้พูดอะไรถึงเจ้าเลยนะ"

   "นี่เจ้า!"

   คินตายกนิ้วขึ้นมาชี้หน้าอีกฝ่ายก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงพัณณิตาที่ถามขึ้นมาอย่างขัดจังหวะ

   "สองหนุ่มกระซิบกระซาบอะไรกันสองคนจ๊ะ"

   "ไม่มีอะไรขอรับคุณป้า"

   คินตารีบตอบกลับพร้อมเอามือลงมาวางไว้ข้างตัวเหมือนเดิมซึ่งพัณณิตาเองก็ไม่ได้ติดใจอะไรพร้อมกับหันมาคุยกับแทนกานต์ด้วยสายตาที่เอ็นดู

   "พ่อแทนสนใจเอาพวงมาลัยไปไหว้พระไหมจ๊ะ"

   "ดีเลยขอครับ"

   แทนกานอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะมองไปยังจอมขวัญด้วยแววตาเปล่งประกาย

   "จะดีกว่านั้นหากพวงมาลัยนั้นเป็นฝีมือของพาขวัญ"

   "พ่อแทนกำลังอ้อนลูกของป้าอย่างนั้นหรือ"

    พัณณิตายิ้มกว้างออกมาอย่างถูกอกถูกใจก่อนจะลูบผมลูกสาวตัวเองด้วยท่าทางรักใคร่

   "พาขวัญก็ร้อยพวงมาลัยให้พี่เขาไปไหว้พระที่เรือนหน่อยนะลูก"

   "เจ้าค่ะคุณแม่"

   จอมขวัญรับคำอย่างจำยอมเพราะขัดใจอะไรไม่ได้ทำให้พัณณิตายิ่งถูกอกถูกใจหันไปชวนหลานชายที่ชอบทำท่าทางจะขัดขวางทั้งสองคน

   "พ่อคินตาไปช่วยป้าจัดหนังสือที่ห้องตำราหน่อยได้ไหมจ๊ะ เห็นคุณพี่ไม่อยู่พอดีจึงจะเข้าไปเก็บกวาดเสียหน่อย"

    "ได้ครับคุณน้า"

    คินตาตอบรับคำของพัณณิตาอย่างไม่ค่อยเต็มใจพร้อมเอื้อมมือไปประคองให้อีกฝ่ายลุกขึ้นยืนก่อนที่พัณณิตาจะหันมาพูดกับทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม

   "ถ้าอย่างนั้นก็อยู่ด้วยกันสองคนไปก่อนเนอะ พ่อแทนนั่งเป็นเพื่อนน้องไปจนกว่าพวงมาลัยจะเสร็จนะจ๊ะ"

   "ขอรับคุณป้า"

   แทนกานต์พยักหน้าพร้อมกับนั่งมองจนทั้งสองคนหายเข้าไปในห้องหนังสือ ก่อนที่จะย้ายมานั่งตรงด้านข้างของจอมขวัญที่ตวัดสายตาขึ้นมามองแล้วก้มลงไปร้อยพวงมาลัยต่ออย่างไม่สนใจ

   ซึ่งท่าทางแบบนั้นทำให้แทนกานต์อมยิ้มแล้วจ้องมองอีกฝ่ายร้อยมาลัยตลอดเวลาอย่างเพลินตาจนจอมขวัญทนไม่ไหวตีสีหน้าบึ้งตึงใส่อย่างหงุดหงิด

   "มองอะไรเจ้าคะ"

   "มองจอมขวัญร้อยมาลัยยังไงล่ะ"

   คำตอบนั้นทำให้จอมขวัญยื่นปากออกมาอย่างขัดใจก่อนจะหันหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อซ่อนความเขินที่ตอนนี้หัวใจเต้นแรงขึ้นมากกว่าเดิม ทั้งสองใช้เวลานั่งอยู่ด้วยกันจนถึงยามเย็นที่แดดเริ่มร่มจอมขวัญก็ร้อยพวงมาลัยเสร็จซึ่งพวงใหญ่และงดงามเป็นระเบียบมากพร้อมเหล่าดอกไม้ตัดสีสันกันเป็นลวดลายที่ดูสวยแปลกตามากซึ่งทำให้แทนกานต์มองด้วยความชื่นชม

   "เจ้าร้อยพวงมาลัยสวยมาก ใครเป็นคนสอนหรอ"

   "คุณย่าของข้าน่ะ"

    จอมขวัญยิ้มหวานเมื่อเห็นอีกฝ่ายชื่นชอบพวงมาลัยของตนเองก่อนจะมองท้องฟ้าที่เริ่มจะมืด

   "ตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว คุณหลวงรีบกลับบ้านเถิดเจ้าค่ะ"

   "ถ้าอย่างนั้นข้ากลับล่ะนะ"

   แทนกานต์ยอมทำตามอีกฝ่ายอย่างว่านอนสอนง่ายเพราะตอนนี้สนใจลวดลายของพวงมาลัยที่ถืออยู่ในมือมากกว่า  ก่อนจะชะงักเมื่ออีกฝ่ายเอื้อมมือมารั้งแขนเอาไว้พร้อมกับยื่นห่อขนมมาให้ตนเองถึงสองห่อทำให้อดที่มองด้วยความสงสัยไม่ได้

    "ขนมดอกโสนเจ้าค่ะ เห็นว่าคุณหลวงมีน้องชายจึงฝากไปให้พ่อกันต์นิษฐ์ทานเล่น ส่วนอีกห่อนั้น..."

   จอมขวัญกัดปากตัวเองเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ประหม่าจนมากเกินไป

   "ข้าเห็นว่าคุณหลวงชอบทานเลยเตรียมไว้ให้เจ้าค่ะ"

   "หึ"

  แทนกานต์หัวเราะในลำคอก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองคู่หมั้นคู่หมายของตัวเองด้วยสายตาเปล่งประกาย

   "ขอบใจนะจอมขวัญ"

   "เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญหน้าแดงขึ้นมากกว่าเดิมด้วยความเขินอายทำอะไรไม่ถูกจึงพลักอีกฝ่ายให้หันหลังและดันไปตรงแถวหน้าบันได้เรือน

   "รีบกลับได้แล้วเจ้าค่ะ"

   ฟอด!

   "แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ"

   แทนกานต์หอมแก้มอีกฝ่ายอย่างหมั่นเขี้ยวก่อนจะเดินลงจากเรือนไปด้วยรอยยิ้มกว้างแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ปล่อยให้จอมขวัญจับแก้มตัวเองพร้อมมุ่ยหน้าลงด้วยความโกรธปนไปด้วยความเขินอาย

   "เจ้าเล่ห์...ฉวยโอกาส"

   "แต่ดูเหมาะกับคุณหนูจอมขวัญของหวานมากเลยนะเจ้าคะ"

   หวานยิ้มกว้างพร้อมส่งสายตามามองเจ้านายตัวเองอย่างหยอกล้อทำให้จอมขวัญก้มลงมามองอย่างขัดใจ

   "แถมทำให้คุณหนูเขินหน้าแดงไปหมด"

   "หน้าแดงอะไรล่ะ"

   จอมขวัญมุ่ยหน้าลงก่อนจะรีบเดินกลับห้องด้วยความแง่งอน

   "ข้าไม่คุยด้วยแล้ว กลับห้องดีกว่า"

   "รอด้วยซิเจ้าคะคุณหนู"

    หวานรีบเดินตามหลังเจ้านายตัวเองไปด้วยรอยยิ้มที่เอ็นดู ท่ามกลางสายตาของคินตาที่มองมาจากห้องหนังสือด้วยความไม่พอใจ






    เมื่อถึงเวลายามดึกดื่นบ่าวไพร่ในเรือนต่างดับไฟนอนยกเว้นภายในห้องของคุณหนูคนโตที่ยังจุดไฟจากตะเกียงสว่างทั่วทั้งห้อง พร้อมกับเสียงอาเจียนของพลอยปภัสที่หนักมากกว่าเดิมซึ่งเสียงและอาการที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ฝ้ายรีบลงกลอนประตูและหน้าต่างก่อนจะเดินมานั่งนวดขาเจ้านายตัวเองด้วยท่าทางกังวล

    "คุณหนูเจ้าคะ พวกบ่าวไพร่ยังอยู่เต็มเรือนไปหมดเบาเสียงลงหน่อยซิเจ้าคะ"

   "เองนั่นแหละที่ต้องเงียบไปเลยนังฝ้าย"

   พลอยปภัสเอาผ้ามาเช็ดปากตัวเองก่อนจะมองไปยังกระบุงที่ใส่ผลไม้บางอย่างเต็มไปหมด

   "เองไปเอาเม็ดมะยมให้ข้าหน่อยซิ"

   "เจ้าค่ะ"

    ฝ้ายเดินไปตักเม็ดมะยมมาเล็กน้อยก่อนจะนำมาให้เจ้านายตัวเองที่รีบยื่นมือมาแย่งไปหยิบกินอย่างรวดเร็ว ซึ่งท่าทางแบบนั้นยิ่งทำให้ฝ้ายนั้นเป็นกังวล
 
  "แต่อาการของคุณหนูน่ะ...มากขึ้นทุกวันเลยนะเจ้าคะ"

   "เอ๊ะ! พูดมากจังเลยนะนังฝ้าย"

   พลอยปภัสหันมามองตาขวางทำให้ฝ้ายรีบก้มหน้าหลบสายตาอย่างรวดเร็วด้วยความควาดกลัว

   "ฝ้ายแค่เป็นห่วง"

   ฝ้ายเอื้อมมือมาเกาะขาแล้วนวดให้อย่างเอาอกเอาใจ

   "กลัวคนอื่นจับได้น่ะเจ้าค่ะ"

   "จับไม่ได้หรอกน่ะ"

   พลอยปภัสสะบัดหน้าหนีพร้อมทั้งหยิบมะยมรสเปรี้ยวขึ้นมากัดด้วยความหิว

   "เองไปเอามะยมมาให้ข้าอีกหน่อยไป"

   "เจ้าค่ะ"

   ฝ้ายตอบรับก่อนจะหยิบจานกระเบื้องไปตรงกระบุงที่อยู่ตรงมุมห้องซึ่งใส่มะยมที่ล้างจนสะอาดแล้วมาใส่จานสองกำมือใหญ่ก่อนจะนำมาให้เจ้านายตัวเองที่รีบหยิบกินทันที ฝ้ายนั่งมองเจ้านายตนเองด้วยสายตาเป็นกังวลมากกว่าเดิม

   "แต่ซักวันหนึ่งท้องคุณหนูโตขึ้นมานะเจ้าคะ" ฝ้ายถอนหายใจก่อนจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่ยั่วยุ "หากพวกบ่าวไพร่คนอื่นรู้เรื่องเข้าจะเอาไปพูดเสียหายได้นะเจ้าคะ"

   "ข้าไม่ยอมขายหน้าแบบนั้นแน่"

   พลอยปภัสเชิดหน้าขึ้นอย่างถือเนื้อถือตัวกอนจะชะงักเมื่อฝ้ายพูดอะไรบางอย่างที่ขัดหูขัดตาตนเองมาก

   "แต่ออกขุนจักรกวินไม่มีท่าทีจะเล่นด้วยกับคุณหนูเลยนะเจ้าคะ"

   "ข้าจะไม่ง้อจักรกวินอีกต่อไปแล้ว"

    พลอยปภัสมองเงาตัวเองในกระจกด้วยสายตาที่หลงใหลและพึงพอใจในความงามของตัวเอง

   "คนสวยอย่างข้าใครเห็นก็ต้องการทั้งนั้นนั่นแหละ"

   "แล้วใครล่ะเจ้าคะ"

    ฝ้ายถามต่อด้วยความอยากรู้อยากเห็นทำให้พลอยปภัสแสยะยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย

   "เจ้าพระยาเรืองเพชร แห่งเมืองพิษณุโลก"

   "ตายแล้ว!"

   ฝ้ายทำสีหน้าตกอกตกใจพร้อมเอนไปด้านหลังราวกับจะเป็นลม

   "แต่เจ้าพระยาน่ะอายุมากกว่าท่านเจ้าคุณมากถึงขนาดเป็นรุ่นพ่อของท่านเจ้าคุณเลยนะเจ้าคะ"

   "ข้ารู้แล้วน่ะ"

   พลอยปภัสขมวดคิ้วพร้อมเชิดหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง

   "แต่ก็ร่ำรวยมากที่สุดในเมืองพิษณุโลก แถมคุณแม่บอกว่าท่านเจ้าพระยาเรืองเพชรน่ะสนใจข้ามากที่สุด"

   "แต่ท่านเจ้าคุณจอมทัพจะยอมหรือเจ้าคะ" ฝ้ายถามด้วยน้ำเสียงลำบากใจ "ยิ่งไม่ถูกกันด้วยนะเจ้าคะ"

   "จะไปสนใจอันใด ข้าแต่งนะคุณพ่อไม่ได้แต่งซักหน่อย"

   พลอยปภัสกัดผลมะยมที่เปรี้ยวจนเข็ดฟันนั้นด้วยท่าทางเอร็ดอร่อยก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินคำถามจากฝ้ายที่ยังกังวลไม่เลิก

   "แล้วจะเชื่อหรือเจ้าคะว่าเป็นลูกของตนเอง"

   "ข้ามีวิธีของข้าก็แล้วกัน" พลอยปภัสแสยะออกมาอย่างร้ายกาจ "เองเตรียมเก็บเสื้อผ้าตามข้าไปพิษณุโลกได้เลย"

   "เจ้าค่ะคุณหนู"

    ฝ้ายรับคำอย่างดีใจพร้อมไปเลือกผ้าแพรผ้าไหมพร้อมเครื่องประดับมากมายด้วยท่าทางตื่นเต้นท่ามกลางรอยยิ้มร้ายของเจ้านายตนเองซึ่งเต็มไปด้วยแผนการตลอดเวลา





    ทางด้านของเรือนท่านเจ้าคุณอาทิตย์เองก็ยังไม่มีใครได้ดับไฟในเรือนเพราะยังไม่มีเจ้านายคนไหนที่เข้านอน แถมบนเรือนนั้นยังเกิดความวุ่นวายขนาดย่อมอีกต่างหาก

   "โอ๊ยยยยยยย"

    แสงหล้าแหกปากเสียงดังลั่นพร้อมถีบเพลิงที่กดแผลมากเกินไปจนกระเด็นแทบจะหงายหลังไปชนกับแสนกล้าที่หมอบอยู่บนพื้น

   "เองทำแผลไม่เป็นรึไงหะไอ้เพลิง"

   "บ่าวเบามือแล้วนะขอรับท่านหมื่น"

    เพลิงตอบกลับก่อนจะรีบก้มหน้าลงไปแทบจะติดพื้นเมื่อแสงหล้ายกเท้าขึ้นมาจะถีบแต่ผู้เป็นแม่กลับเอื้อมมือมาจับแขนเอาไว้อย่างห้ามปราม

   "ไม่เอาซิลูก อย่าไปพาลใส่อ้ายเพลิงเลย"

   "แต่มันมือหนักนี่ขอรับคุณแม่"

   แสงหล้ายอมนั่งลงพร้อมยกมือขึ้นมาจับตามใบหน้าที่เขียวช้ำของตัวเองอย่างเจ็บใจ

   "คุณแม่ดูหน้าของลูกซิขอรับ"

   "โธ๋...พ่อแสงหล้าลูกแม่"

    พราวพิลาศยกมือขึ้นมาลูบไล้ใบหน้าของลูกชายด้วยความสงสารแต่ระหว่างที่กำลังจะปลอบโยนนั้นกลับมีเสียงทุ้มแทรกขึ้นมาอย่างเยาะเย้ยพร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่เดินเข้ามานั่งด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์

   "สมน้ำหน้า หาเรื่องใส่ตัวทั้งนั้น"

   "อย่าว่าลูกซิเจ้าคะคุณพี่"

    พราวพิลาศห้ามปรามสามีอย่างไม่ชอบใจทำให้อาทิตย์หัวเราะออกมาเสียงดังลั่นด้วยความสมเพช

   "ฮะฮะ! จะไม่ให้ข้าว่าได้อย่างไรกันหะแม่พราว ในเมื่อลูกตัวดีของแม่พราวไปทำเรื่องงามหน้าให้เขาลือกันทั่วพระนคร"

   "ลือเรื่องอะไรเจ้าคะ"

    พราวพิลาศเอียงคอถามด้วยความสงสัยทำให้อาทิตย์เสยะยิ้มแล้วตวาดลูกชายตัวดีด้วยความโมโห

   "ชาวบ้านเขาลือกันทั่วพระนครว่า ลูกชายคนเดียวของท่านเจ้าคุณอาทิตย์ไปฉุดลูกสาวบ้านอื่นน่ะซิ!"

   "ตายแล้ว!"

   พราวพิลาศยกมือกุมอกด้วยความตกใจแต่นั่นไม่เท่ากับประโยคต่อมาของสามีที่เริ่มโมโหหนักกว่าเดิม

   "แถมไปฉุดใครไม่ฉุด! ดันไปฉุดแม่พาขวัญลูกสาวของไอ้จอมทัพเสียอีก!!"

   จอมทัพกำมือแน่นแถมหน้าตายังแดงก่ำไปด้วยความโกรธ

   "ถ้าเป็นหญิงอื่นข้าจะไม่อับอายขายขี้หน้าชาวบ้านขนาดนี้เลย!!!"

   "พ่อแสงหล้า!"

    พราวพิลาศหันมาทำหน้าดุใส่ลูกชายก่อนจะเลื่อนมือไปลูบผมนั้นอย่างใจอ่อน

   "ทำไมถึงต้องฉุดด้วยล่ะลูก รักแม่พาขวัญขนาดนั้นเลยหรือ"

   "ขอรับ ลูกรักพาขวัญมาก"

    แสงหล้าตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นพร้อมกอดเอวพราวพิลาศอย่างออดอ้อน

   "คุณแม่ไปสู่ขอพาขวัญให้ลูกนะขอรับ"

   "คือแม่..."

    พราวพิลาศทำสีหน้าลำบากใจแต่ยังไม่ทันพูดอะไรอาทิตย์ก็พูดแทรกขึ้นมาด้วยความโมโห

   "จะไปสู่ของให้มันไล่ตะเพิดมาอย่างนั้นน่ะหรือ!"

   "อย่าตวาดใส่ลูกซิเจ้าคะคุณพี่"

    พราวพิลาศกอดแสงหล้าแน่นเพื่อกันไม่ให้ทำร้าย ซึ่งท่าทางแบบนั้นทำให้อาทิตย์โกรธจนตัวสั่น อาระวาดเสียงดังด้วยความโมโห

   "ปกป้องมันเข้าไปนะแม่พราว! พ่อขอเตือนอีกครั้งนะแสงหล้า เลิกยุ่งกับลูกสาวของไอ้จอมทัพได้แล้ว! หากมีคราวหน้าอีกเองได้เห็นดีกับพ่อแน่!"

   "คุณพี่จะทำอะไรลูกเจ้าคะ!"

   พราวพิลาศเริ่มโมโหเดินตามหลังอาทิตย์ที่กระทืบเท้าเดินหนีเข้าไปในห้องหนังสือก่อนที่จะมีเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงจนพราวพิลาศทนไม่ไหวปาข้าวของใส่แล้วเดินหนีเข้าไปในห้องนอนพร้อมสั่งบ่าวไพร่ล็อกประตูให้แน่นหนา



*****************ต่ออีกนิดค่ะ*************

ออฟไลน์ tonako2yuri

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0



   ซึ่งเหตุการณ์นั้นไม่ได้ทำให้แสงหล้าตกใจแต่อย่างใดแถมยังนั่งจับแก้มและมุมปากของตัวเองด้วยความเคียดแค้นก่อนจะตวัดสายตาไปมองแสนกล้าอย่างหงุดหงิด

   "เรื่องที่ข้าให้ไปสืบได้ความว่าอย่างไรบ้าง"

   "คนที่ทำร้ายร่างกายท่านหมื่นคือ คินตา บุตรชายของแม่กิ่งแก้วซึ่งเป็นน้องสาวของท่านเจ้าคุณจอมทัพ พึ่งเดินทางมาจากเมืองลพบุรีเมื่อวานนี้ขอรับ"

   แสนกล้าบอกข้อมูลที่ตนแอบเข้าไปสืบกับบ่าวไพร่ในเรือนของท่านเจ้าคุณจอมทัพเกือบครึ่งค่อนวัน

  "แถมตอนนี้ยังพักอาศัยอยู่เรือนท่านเจ้าคุณด้วยนะขอครับท่านหมื่น"

   "คินตาอย่างนั้นหรือ"

   แสนหล้าพยักหน้าพร้อมลูบไล้ใบหน้าของตัวเองที่เขียวช้ำอย่างเจ็บใจ

   "กล้าทำร้ายข้าแบบนี้ได้เห็นดีกันแน่"

   "ท่านหมื่นจะส่งคนไปจัดการเลยไหมขอรับ"

   แสนกล้าถามขึ้นมาอย่างกระตือรือร้นก่อนจะหลบอยู่ด้านหลังของเพลิงเมื่อแสงหล้ากระทืบเท้าลงบนเรือนด้วยความขัดใจ

   "เองโง่หรือโง่หะไอ้กล้า!"

   แสงหล้าคว้าถุงเงินแล้วโยนให้บ่าวรับใช้อย่างแรง

    "นี่เงินค่าจ้างของเอง"

   "ขอบพระคุณขอรับท่านหมื่น"

    แสนกล้ายิ้มกว้างพร้อมทั้งคว้าถุงเงินมากุมไว้ทำให้เพลิงหันมามองด้วยความหมั่นไส้แต่ยังไม่ทันพูดอะไรแสงหล้าก็เรียกชื่อตนเองเสียงดังลั่น

   "นั่งบื้ออยู่ทำไมหะไอ้เพลิง รีบมาทำแผลให้ข้าต่อซิ"

   "คุณหลวงไม่อยากทำแล้วไม่ใช่หรือขอรับ"

   เพลิงตอบอย่างใสซื่อทำให้โดนแสงหล้าตวาดกลับมาอย่างเอาแต่ใจ

   "ข้าสั่งให้มาทำแผลก็มาทำซิ!"

   "ขอรับท่านหมื่น"

   เพลิงรีบออกห่างจากเพื่อนสนิทแล้วมานั่งคุกเข่าข้างแสงหล้าพร้อมเอื้อมมือเอาลูกประคบมาคลึงตรงแผลอย่างเบามือ แต่แค่กดไปเพียงเล็กน้อยเสียงทุ้มก็โวยวายขึ้นมาอีกครั้ง

   "โอ๊ยยยย ไอ้เพลิง!"

   "บ่าวเบามือที่สุดแล้วนะขอครับท่านหมื่น"

   เพลิงตอบด้วยน้ำเสียงที่ตื่นกลัวพร้อมก้มหน้าไปแทบจะติดพื้นก่อนจะจะงักเมื่อถูกมือหนาของเจ้านายตัวเองให้ลุกขึ้นมานั่งข้างกันบนที่นั่งยิ่งทำให้ตัวสั่นมากขึ้นไปอีก

   "ท่านหมื่น..."

   "เองนั่งแบบนี้น่าจะสะดวกกว่าไหม"

   แสงหล้าทำหน้าตาบึ้งตึงด้วยความหงุดหงิด

   "ถ้านั่งแบบนี้แล้วเองยังมือหนักอีกข้าจะถีบลงไปจนตกเรือนเลย"

   "ข...ขอรับท่านหมื่น"

   เพลิงตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือก่อนจะเอาลูกประคบมาประคบบนใบหน้าหล่อเหลานั้นอีกครั้งอย่างเบามือด้วยหัวใจที่เต้นแรงไปหมด   ท่ามกลางสายตาของแสนกล้าที่มองมายังทั้งสองคนด้วยความไม่พอใจ



***************************

 :-[

ตอนนี้มีหลายทีมให้เลือกมาก

ทั้ง ทีมแทนกานต์ ทีมคืนตา ทีมจักรกวิน หรือ ทีมแสงหล้า

ลูกสาวบ้านนี้สวยมากกกกก คุณพ่อก็หวงมากกกกก :laugh:



 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Plakhem

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :katai2-1:  รอมานาน แต่ก็มาแบบจุใจยาวๆกันไป รอตอนต่อไปนะคับ :mew3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Plakhem

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :really2: รอตอนต่อไปน๊าาาาา  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เพิ่งเข้ามาอ่านสนุกมากเลยค่ะ คินตาจะคู่กับออกขุนจักรหรือเปล่าน้าาาา

ออฟไลน์ Plakhem

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :jul1: รออยู่น๊า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด