โลกแห่ง POTALY นำเสนอ
The Peaceful สันติภาพ ปะทะ ความรักบึ้ม!!!!!!!!!!!!!
เสียงระเบิดดังสนั่นลั่นไปทั่วใจกลางเมือง ห้างสรรพสินค้าหรูหราอันดับต้นๆ ถูกแรงอัดแน่นจนทำให้ระเบิด ผู้คนที่มาใช้บริการนับสิบถูกพรากชีวิตไปโดยไม่รู้ตัว และอีกนับร้อยที่ได้รับบาดเจ็บนอนเรียงรายไปเท่าบริเวณนั้น พนักงานรักษาความปลอดภัยที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ จับต้นชนปลายไม่ถูกก็ได้แต่เข้าช่วยเหลือคนเหล่านั้นและเริ่มติดต่อไปยังเหล่าผู้พิทักษ์สันติบาล แต่ทว่าไม่กี่วินาทีต่อมา อีกฟากฝั่งของตึกอาคารก็เกิดการระเบิดอีกครั้ง
บึ้ม!!!!!!!!!!!!!
เสียงกรีดร้องดังระงมไปทั่วพื้นที่ เหล่าผู้คนต่างถูกความน่ากลัวบางอย่างเข้าครอบงำ ห้างหรูหราที่ยิ่งใหญ่ขณะนี้คล้ายจะกลายเป็นสนามซ้อมรบอย่างใดอย่างนั้น
“ติดต่อผู้ดูแลความมั่นคงหรือยัง!” ผู้บริหารของห้างใหญ่เสียงดังลั่นถามพนักงานใกล้ตัว ชายหนุ่มผู้ทำหน้าที่เลขารีบรนตอบเจ้านาย
“แจ้งเรื่องไปแล้วครับ ส่วนพวกรถฉุกเฉินตอนนี้กำลังมาครับ!” บาตันที่ได้ยินเลขารายงานนั้นก็ขมวดคิ้วพลางเดินกึ่งวิ่งไปยังพื้นที่ จนพบภาพตรงหน้า ...คนล้มตายบาดเจ็บเกือบนับพัน
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น” หลังจากที่ภาพตรงหน้าของเขาได้ปรากฏ บาตันก็ได้แต่หดหู่
“มีรายงานมาว่าเป็นระเบิดครับ แต่ไม่ยังทราบต้นเหตุ ต้องรอตำรวจและเจ้าหน้าที่มาก่อนครับ” รูซรีบรายงานต่อเจ้านาย บาตันสั่งส่งคนให้เข้าช่วยเหลือคนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ แม้จะยังไม่รู้ว่าเหตุใดจึงเกิดการระเบิดอย่างหนักสองครั้งติดในห้างของเขา ตอนนี้ก็ต้องรีบช่วยคนก่อน แต่ในขณะที่พนักงานกำลังอพยพทั้งศพ คนเจ็บและคนอื่นๆ ออกจากพื้นที่ บนท้องฟ้าที่เพิ่งดำมืดในช่วงหัวค่ำก็ปรากฏร่างสูงโปร่งของใครบางคนที่ลอยตัวอยู่เหนือยอดตึกห้าง ร่างนั้นค่อยๆ ลดความสูงที่ลอยตัวลงมาพื้นที่อย่างช้าๆ
“นั่น..อะไร” รูซที่สังเกตเห็นบางอย่างบนฟ้ารีบทักท้วงพลางชี้นิ้ว บาตันที่กำลังสั่งคนงานก็ชะงักไปมอง ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อร่างสูงโปร่งของผู้ชายคนหนึ่ง กำลังลอยลงมาจากฟ้า…
“.....!!” คนที่ถูกอพยพออกไปจากพื้นที่บริเวณนั้นปลอดภัยทั้งหมด แต่ในขณะเดียวกัน ผู้บริหารห้างและเลขา กำลังเผชิญหน้ากับบางสิ่งบางอย่างอยู่ในพื้นที่
พรึ่บ!
เท้าขนาดพอดีของชายปริศนาแตะลงบนพื้นหญ้าบริเวณที่เกิดเหตุครั้งแรก ทำให้รู้ว่า ผู้ชายคนนี้ยืนลงบนพื้นโลกแล้ว….
“สวัสดี” เสียงทุ้มดังขึ้นทักทายมนุษย์สองคนที่ยืนนิ่งอยู่อย่างไม่ใส่ใจนัก ริมฝีปากบางนั้นเหยียดยิ้มอย่างเยือกเย็น
“คุณเป็นใคร..” บาตันพยายามพูดออกมาโดยไม่ให้เสียงนั้นสั่น เพราะตัวเขาสั่นไปหมด ร่างตรงหน้าเขาเป็นผีหรือคนกันแน่ ใครจะลอยมาจากฟ้าได้กันล่ะ
“เจ้าชีวิตของพวกแก” ริมฝีปากเหยียดออกพูดอย่างสบายใจ แต่ความสบายใจนั้นกลับทำให้บาตันและรูซสั่นสะท้านไปทั่วร่าง
“คุณเป็นคนวางระเบิดใช่ไหม...” บาตันที่พยายามรวบรวมสติและคำพูดนั้นถามออกมา ถึงแม้เขาอยากจะถอยหนีไปซะก็ตาม รูซที่ยืนหลบอยู่หลังเขาก็เหมือนจะขาดสติเพราะความเหนือมนุษย์ของชายตรงหน้า
“วางระเบิด? หึ! เปล่า… แต่นี่ต่างหาก”
สิ้นคำตอบของชายปริศนา มือขาวซีดของเขาก็ส่องแสงสีแดงและขว้างก้อนพลังสีแดงนั้นเข้าไปในตัวตึกอีกรอบ
วาบ!!
บี้ม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เกิดการระเบิดขึ้นอีกครั้งระเบิดก้อนสีแดงนั้นเข้าปะทะกับตัวตึก แรงอัดระเบิดทำให้พื้นที่โดยรอบโดนอัดไปลม บาตันและรูซที่สะดุ้งลั่นจนเกือบปลิวไปพร้อมแรงอัดนั้นเข่าทรุด บาตันมองสิ่งที่เกิดตรงหน้าอย่างอึ้ง แต่ในขณะเดียว รถของตำรวจเกือบนับสิบและรถฉุกเฉินก็กรูเข้ามาในพื้นที่ แต่..
“ก็แค่สวะ…”
วีหว่อ!!!!!! (เสียงรถตำรวจ)
บึ้ม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ตูม!!!!
“เห้ย!!!!!”
รถทางราชการนับสิบระเบิดไปแถบในช่วงเสี้ยววินาทีหลังจากที่ชายปริศนาปล่อยพลังออกมาจากฝ่ามือ รูซแทบจะกรีดร้องออกมาอย่างตกใจสุดขีด!
“มะ มันบ้าแล้ว! คุณทำแบบนี้ทำไม” เสียงของบาตันสั่นอย่างเห็นได้ชัด เขาทั้งหวาดกลัว หดหู่และโกรธในเวลาเดียวกัน เขาหันมามองชายปริศนาตรงหน้า แต่ได้รับเพียงรอยยิ้มที่เหยียด
“หึ…..”
มือซีดยกขึ้นมาตรงหน้าของบาตัน ก่อนจะปรากฏแสงสีแดงสาดไปทั่วใบหน้าของเขา รูซที่อยู่ใกล้ๆ บาตันกรีดร้องออกมาทันที
“ไม่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
เผละ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ร่างช่วงบนของบาตันแตกเละกระจายจนน่าเกลียด ชิ้นเนื้อที่แตกออกมาเล็กๆ และเลือดที่กระจายเปื้อนไปยังรูซ เสียงกรีดร้องที่เห็นเจ้านายของตนถูกชายปริศนาทำให้ร่างเละนั้น ทำให้เจ้าตัวหมดสติไป….
“แด่..ความสันติภาพของโลก” สิ้นคำพูดชายปริศนา เขาก็หายตัวไป ทิ้งร่างหมดสติของรูซและร่างครึ่งล่างของบาตันไว้…
The Peaceful สันติภาพ ปะทะ ความรัก
ณ สภากลางแห่งอาณาจักร การประชุมปัญหาความมั่นคงฉุกเฉินได้เริ่มขึ้น เมื่อทางการได้รับแจ้งการก่อการร้ายในเขตใจกลางเมืองคูเลท ขณะเดียวกันก็ทราบว่านายกเทศมนตรีเขตคูเลทก็ถูกลอบสังหารโดยคนร้ายคนเดียวกัน ตอนนี้ทั่วของเมืองคูเลทถูกปิดล้อมไปด้วยกองกำลังทหารเพื่อระงับและป้องกันการหลบหนีของคนร้าย และขณะที่การประชุมกำลังจบลง ฝ่ายทหารก็ส่งข่าวมาว่า กำลังเกิดการปะทะใหญ่ระหว่างกองกำลังทหารและคนร้ายเพียงคนเดียว ...พวกเขายังเน้นด้วยว่า เหมือนคนร้ายจะเป็นผู้ถือครองกำไลพลังที่มีอานุภาพพลังงานที่หาสิ่งต้านทานด้วยยาก
“.....!!!” ในที่ประชุมสภากลางเริ่มแตกตื่นเมื่อทราบรายงานข่าว คาทา..ประธานสภาวัยหนุ่มที่เพิ่งรับตำแหน่งได้หนึ่งปีจึงเริ่มหาข้อยุติ
“หากเป็นจริงไปตามรายงานของข่าว แสดงว่าในโลกนี้นอกจากแหวนพลังที่อาณาจักรของเราถือครองอยู่ ก็อาจจะมีสิ่งอื่นที่ทรงพลังเช่นเดียวกัน แสดงว่าคนร้ายต้องไม่ใช่ชาวบ้านหรือคนธรรมดาแน่นอน ผมขอใช้อำนาจของประธานสภากลางสั่งให้กองกำลังถอยออกมา และห้ามปะทะกับคนร้ายเด็ดขาด เพื่อป้องกันการสูญเสีย!” คาทาออกคำสั่ง พนักงานสภาจึงรีบปฏิบัติหน้าที่ทันที คาทาได้สั่งให้เหล่าสมาชิกสภาทำการประชุมหาลือกันต่อไป ส่วนตนก็ออกมาด้านนอก เพื่อไปยังสถานที่เกิดเหตุเมืองคูเลท
“ไหวหรือเปล่าคาทา นี่งานใหญ่เชียวนะ” เคน เพื่อนสนิทและคนรู้ใจของคาทา ควบตำแหน่งเลขาส่วนตัวเอ่ยขึ้นขณะที่คาทาก้าวออกจากที่ประชุม ร่างโปร่งที่ใบหน้าจริงจังซึ่งขัดกับรูปหน้าที่ดูอ่อนโยนก็ยิ้มบางๆ
“ไม่ไหวก็ต้องไหว รับหน้าที่ใหญ่ขนาดนี้มาแล้ว ฉันต้องทำให้ได้” คาทาพูดขึ้น เคนส่งยิ้มให้ว่าที่คนรัก ก่อนจะนำพาคาทาไปยังสถานที่เกิดเหตุโดยรถยนต์ ในขณะที่กำลังเดินทางอยู่นั้น คาทาจึงนึกได้อย่างหนึ่ง
“นี่เคน นายคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้น มันจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือเปล่า” คาทาพูดขึ้น ในขณะที่เคนกำลังทำหน้าที่ขับรถอยู่
“เรื่องที่อดีตประมุขถูกลอบฆ่าน่ะเหรอ”
“ใช่..”
“ฉันก็ไม่รู้นะ เพราะตอนนี้ยังไม่มีอะไรที่เป็นหลักฐานเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นเลย”
“นั่นสินะ มันคงไม่เกี่ยวกันหรอก” คาทาพูดขึ้นพลางพยักหน้าเข้าใจที่เคนพูด
“ว่าแต่พวกทหารที่ล้อมเมืองคูเลทอยู่เป็นทหารพวกไหนเหรอ” เคนเอ่ยขึ้นถาม
“คนของพลเอกนาโต้น่ะ เขาเหมือนจะรู้เรื่องกำไลพลังของคนร้ายด้วย ฉันกะว่าจะไปคุยกับเขาพอดี”
“นายก็ระวังตัวด้วยนะ ยิ่งเป็นคนอ่อนแออยู่” เคนพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“ใครอ่อนแอ อย่ามาว่าฉันนะ ฉันแข็งแรงจะตาย”
“โอเคๆ แข็งแรงมาก” ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น วิทยุในรถยนต์ที่เปิดเพลงเบาๆ อยู่ก็ตัดสัญญาณเป็นการรายงานข่าวด่วน
“ข่าวด่วน! ผู้ก่อการร้ายในเมืองคูเลทได้หลุดพ้นการจับกุมของทางการ และออกจากเมืองคูเลทไปแล้ว ขณะนี้ไร้เบาะแสว่าผู้ก่อการร้ายคนนี้อยู่ที่ใด โปรดให้ทุกคนระวังตัวให้ดี”
เอี๊ยด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ขณะที่วิทยุรายงานข่าวเสร็จ เคนก็เหยียบเบรกกะทันหัน จนคาทาแทบจะไปกองอยู่บนพื้นรถ
“ก เกิดอะไรขึ้น” คาทาพูดขึ้นเสียงดัง เคนชี้ไปยังด้านหน้าของรถ คาทามองตามไป ก่อนจะพบผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนประจันหน้าอยู่ เคนเห็นท่าไม่ดีจึงรีบบอกให้คาทาอยู่ในรถ ห้ามออกไป ส่วนตนเองก็ออกไปจากรถ และเข้าไปหาชายปริศนา
“คุณเป็นใคร...” ถึงแม้ในใจของเคนคิดว่ามันผิดปกติ แต่ก็หวังว่าคนตรงหน้าจะเป็นเพียงชาวเมืองที่ชอบก่อกวนเท่านั้น
“เป็นคนที่จะลงโทษพวกแก...” ชายปริศนาพุ่งเข้าหาเคนอย่างรวดเร็ว ร่างโปร่งลอยตัวเร่งเข้าพุ่งใส่ มือขวาซีดพยายามเอื้อมเข้าบีบคอหนาของเคน และร่างสูงไหวพริบดี และปล่อยพลังที่ตนมีเข้าใส่ร่างขาวซีดของชายปริศนา
ตู้ม!!!
ทันทีที่ชายปริศนาหลบพลังของเคนได้ พลังนั้นก็พุ่งระเบิดไปกลางถนน แต่ในพริบตาเดียวของเคน ร่างโปร่งปริศนาก็มาโผล่อยู่ด้านหลังของเขาแล้ว
“เคน ระวัง!!!!!!!!” คาทาที่พุ่งออกมาจากรถร้องตะโกนบอกว่าที่คนรัก แต่มันสายไปแล้ว
“แด่สันติภาพของโลก....”
ซู้ม!!!!!!!!!!!!!
นิ้วชี้ของชายปริศนาจิ้มเข้าที่ตำแหน่งหัวใจของเคนจากทางด้านหลัง ก่อนที่ปลายนิ้วชี้นั้นจะปล่อยพลังสีแดงทะลุเป็นทางยาวผ่านร่างของเคน
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก!” ร่างสูงที่เป็นรูโหว่ที่หัวใจฟุบลงพื้นถนน คาทาตัวสั่น น้ำตาไหลพราก
“เคน!!!!!!!!!!!!” เขาพุ่งไปหาร่างของว่าที่คนรักอย่างไม่กลัวคนที่ยืนอยู่
“เคน เคน!! ไม่!!!!!!!!!!!!!!!!!!” คาทากอดร่างไร้วิญญาณนั้นไว้อย่างทรมานจิตใจ ชายปริศนามองร่างทั้งสองนั้นออย่างเหยียดยิ้ม ก่อนที่จะยกนิ้วชี้ชี้ไปทางคาทา และจะทำเช่นเดียวกันกับที่ทำกับเคน แต่ทว่า
“หยุดได้แล้ว ซูวีกา...” เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากท้องฟ้า ซูวีกาชะงักนิ้วมือ ก่อนจะกำมือแน่น
“แก...มาจนได้”
เปรี้ยง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
จู่ๆ สายฟ้าก็ผ่าลงมาที่ร่างของซูวีกาจนดังสนั่น คาทาหันไปมองก็พบว่าซูวีกาถูกสายฟ้านั้นมัดตัวไว้อย่างหนาแน่น ร่างโปร่งดิ้นอย่างทุรนทุราย
วาบ!!!!!!!
และก็ปรากฏร่างของชายชราผู้หนึ่งขึ้นท่ามกลางเหตุการณ์นั้น ซูวีกามองร่างชรานั้นอย่างเกลียดแค้น
“แก ทำไมต้องขัดขวางฉันด้วย!!!! ฉันทำเพื่อสันติภาพของโลก! อาณาจักรรานันท์แห่งนี้มันกำลังกลืนกินโลกทั้งใบอยู่ ฉันเพียงทำเพื่อชาวโลกทั้งหลาย!!!!!!!!!!!” ซูวีกาพูดออกมาอย่างเสียงดัง ชายชราที่ประกายแสงสีขาวนั้นเดินเข้าไปใกล้ซูวีกา
“แต่เจ้ากำลังฆ่าคนอย่างเป็นผักปลา นี่หรือคือการทำเพื่อชาวโลก หยุดได้แล้วซูวีกา กลับไปในที่ของเจ้าเถิด” ชายชราเอื้อมมือไปปลดกำไลแห่งพลังที่ซูวีกาครอบครองอยู่ออก ก่อนจะพูดขึ้นต่อ
“จนกลับไป....”
เปรี้ยง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
สายฟ้าผ่าลงมาอีกครั้ง ร่างของซูวีกาหายไปในพริบตา คาทาอึ้งเล็กน้อย แต่ก็ลุกขึ้นเผชิญหน้ากับชายชราผู้นั้น
“เจ้าไม่ต้องกลัวข้า ข้าคือพระเจ้าของโลก เป็นคนดูแลความเป็นไปต่างๆ ของโลกนี้ และมาที่นี่เพื่อหยุดชายคนนั้น”
“ท ท่านคือพระเจ้าจริงหรือ....”
“ใช่ ทุกสิ่งที่ซูวีกากระทำลงไป มันอาจจะกลับคืนมาไม่ได้ คนรักของเจ้าก็ตายไปแล้ว ข้าเสียใจด้วย”
“ผ ผม ผมเสียใจจริงๆ ท ทำไมคนๆ นั้นต้องทำแบบนี้ด้วย!!!!!!!!!!!!” คาทาที่เสียใจอยู่เต็มอกนั้นร้องไห้โฮออกมาอย่างอดกลั้นไม่ได้ เขาเข้าไปกอดร่างของเคนเอาไว้ และร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
“ทุกอย่างข้าขอเสียใจด้วย แต่ด้วยที่อาณาจักรรานันท์แห่งนี้เป็นมหาอำนาจที่โลกเกรงกลัว นี่อาจจะเป็นบทเรียนของอาณาจักรของพวกเจ้า ข้าฝากไปบอกประมุขของเจ้าด้วยว่า ในโลกนี้ยังมีอีกหลายสิ่งที่เขาต้องเจอ ......ส่วนนี่ คือกำไลแห่งพลัง ข้าขอมอบให้แก่เจ้า เพื่อที่เจ้าจะใช้พลังนี้ในทางที่ดีต่อไป....” พระเจ้ามอบกำไลแห่งหลังสวมให้กับคาทาที่ยังร้องไห้อยู่ คาทาสะบัดมืออกมาเล็กน้อย แต่ก็รับไว้ พระเจ้ายิ้มบางๆ ให้กับคาทา
“เจ้าจงสู้ต่อไป....” พระเจ้าพูดเสร็จก็หายตัวไปทันที คาทามองกำไลแห่งพลัง ก่อนจะเหลือบไปมองเคนที่ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว
“ถึงยังไง... ก็ไม่มีสิ่งไหนที่เทียบนายได้ เคน... ฉันไม่เคยพูดคำนี้กับนายเลย แต่ฉันอยากจะพูดมากเหลือเกิน ขอให้นายได้ยินด้วยนะ.....
ฉันรักนาย....”
End
ฝากติดตามเรื่องสั้นของ โลก POTALY ด้วยนะครับ
เรื่องสั้นทุกเรื่องของ POTALY ที่ผู้เขียนได้รวบรวมไว้ที่กระทู้นี้