[เรื่องสั้น] แสงตะวันส่องเพทาย (--จบ--) 22.10.18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] แสงตะวันส่องเพทาย (--จบ--) 22.10.18  (อ่าน 1497 ครั้ง)

ออฟไลน์ adisablady

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม






Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-10-2018 22:38:58 โดย adisablady »

ออฟไลน์ adisablady

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
แสงตะวันส่องเพทาย
“อ้าว น้องเพทายวันนี้ทำไมกลับเร็วละคะ” ดาแม่บ้านเห็นเด็กหนุ่มเดินเข้ามาในห้องครัว แทนที่เขาจะต้องอยู่โรงเรียนในเวลานี้

“อ๋อ ตอนบ่ายคุณครูมีประชุมครับ ที่จริงตอนนี้โรงเรียนยังไม่ปล่อย ก็เลยแอบหนีกลับมาบ้านก่อนครับพี่ดา” เด็กหนุ่มชั้นม.5 ที่เข้ามานั่งโต๊ะในห้องครัว พูดไปยิ้มไป

“อ่าว แล้วหนีออกมายังไงละคะ” ดาสงสัยเมื่อโรงเรียนยังไม่เลิกแล้วเด็กหนุ่มออกมาได้ยังไง

“ก็โดดรั้วโรงเรียนออกมาครับ 555” เด็กหนุ่มยังคงมีสีหน้ามีความสุขตอนที่พูดออกมา

“ตายแล้วน้องเพทาย เดี๋ยวคุณจีนรู้เข้าจะโดนว่าเอา” ดาพูดออกไปเพราะเห็นว่าเพทายเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้ไม่นาน ถ้าเกิดคุณจีนซึ่งเป็นป้าของเพทายรู้เรื่องนี้ขึ้นมา จะทำให้เพทายถูกมองเป็นเด็กไม่ดีเอาได้ ซึ่งคนในบ้านก็ดูเหมือนจะไม่ชอบเพทายอยู่แล้วคนหนึ่ง

“ก็อย่าให้รู้สิครับ ก็ไม่มีเรียน ผมก็ไม่อยากอยู่โรงเรียนแล้ว” เพทายพูดเสียงอ่อน แล้วมองหน้าดาด้วยตาปริบ ๆ จนทำให้ดาต้องถอนหายใจออกมายาว ๆ

“แล้วนี่ทานข้าวเที่ยงหรือยัง พี่ทำข้าวต้มไว้ ทานไหมเดี๋ยวพี่ตักมาให้” ดาถามเด็กหนุ่มเมื่อเห็นว่ากลับมาบ้านตอนยังไม่ถึงบ่าย

“ทานแล้วครับ แล้วทำไมถึงทำข้าวต้มตอนเที่ยงอะครับ” เพทายถามเพราะปกติบ้านนี้จะไม่ทานข้าวต้มตอนเที่ยง จะมีมื้อเช้าบ้างแค่บางวันเท่านั้น มื้อเช้าส่วนใหญ่จะเป็นนม ขนมปังไส้กรอก กาแฟ หรือหมูปิ้งซะมากกว่า

“พี่ตะวันยังไม่ลงมาทานข้าวเช้าเลยค่ะ  พี่ไปเคาะที่ห้องแล้วเห็นบ่นว่าปวดหัว บอกว่าถ้าหิวจะลงมากินเอง” ดาคิดว่าตะวันอาจจะไม่สบาย แต่ก็ไม่กล้าขึ้นไปเรียกซ้ำสอง เพราะตะวันเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบให้ใครยุ่งวุ่นวายกับตัวเองมาก

“คงตายแล้วมั้งครับ” เพทายพูดออกไปอย่างงั้น ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบตะวัน แต่เป็นเพราะตะวันมากกว่าที่ไม่ชอบเขา ตะวันไม่ชอบเพทายตั้งแต่วันแรกที่เพทายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ เขาเข้ามาอยู่ในฐานะญาติที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และไม่รู้ว่าจะต้องอยู่จนถึงเมื่อไหร่
 
“น้องเพทาย ทำไมพูดแบบนี้ละคะ พี่เขาอาจจะไม่สบายอยู่ก็ได้” ดารู้ว่าตะวันไม่ชอบเพทาย แต่ยังไงตะวันก็เป็นลูกชายเจ้าของบ้านนี้ และเพทายก็ต้องอยู่บ้านหลังนี้ไปอีกนาน จึงไม่อยากให้สองคนนี้เขาโกรธเกลียดกัน

“งั้นพี่ตักข้าวมาให้ผมถ้วยหนึ่ง เดียวผมเอาขึ้นไปให้เอง” เพทายคิดว่าคนไม่สบายยังไงก็ต้องมีคนดูแล จะปล่อยให้ดูแลตัวเองได้อย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาเขาถูกสั่งสอนมาแบบนั้น แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถดูแลคนที่คอยสั่งสอนเขามาแบบนั้นได้อีกแล้ว ไม่มีอีกแล้ว

“ได้ค่ะ แต่พี่ไม่แน่ใจว่าพี่ตะวันจะทานหรือป่าวนะคะ” ดารู้สึกดีใจขึ้นมาเมื่อได้ยินเพทายเสนอแบบนั้น แต่ก็แอบหวั่นใจนิด ๆ ว่าอะไรมันจะดีขึ้น หรือแย่ลง แต่เมื่อคิดไปแล้วมันก็ไม่เสียหายอะไร อย่างน้อยเป็นความหวังดีของเพทาย

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ถือว่าเราทำหน้าทีของเรา” หน้าที่ดูแลคนป่วย ถ้าอีกฝ่ายไม่สบายจริง ก็แล้วแต่ว่าเขาอยากจะรับมันไว้หรือป่าว ถ้าไม่ก็ช่วยไม่ได้ ดูแลตัวเองแล้วกัน

“ให้พี่ถือไปให้ไหมคะ” ดาก็แอบกลัวว่าเผื่อเกิดอะไรขึ้น จะได้ห้ามปรามกันได้

“ผมถือไปเองครับ ขอร้อน ๆ เลยนะครับ”

#แสงตะวันส่องเพทาย

“ก๊อก ๆ ๆ พี่ตะวัน พี่ตะวันเปิดประตู ก๊อก ๆ ๆ ๆ เปิดประตู” เพทายยืนอยู่หน้าห้องของตะวันบนชั้นสองของบ้าน มือข้างหนึ่งถือถาดข้าวต้ม มืออีกข้างก็เคาะประตู เพทายไม่ค่อยได้ขึ้นมาชั้นสองของบ้านเท่าไหร่ เพราะห้องของเขาอยู่ชั้นล่าง

“นั่นใคร” เสียงตะวันเจ้าของห้องตะโกนมาจากด้านใน ฟังดูแล้วไม่ค่อยจะสบอารมณ์สักเท่าไหร่ที่กำลังถูกรบกวน

“มาเปิดประตูก่อน ก๊อก ๆ ๆ พี่ตะวัน” เพทายไม่อยากจะบอกชื่อตัวเองออกไปสักเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าตะวันจะพอเดาได้ว่าเป็นใคร มันอาจจะทำให้ตะวันมีอารมณ์มาเปิดประตูมากกว่าได้ยินชื่อเขา

“แกมีอะไร ไอ้เพทาย น่ารำคาญ” เมื่อประตูห้องถูกเปิดออก สภาพตะวันที่ดูเหมือนเพิ่งตื่นนอนทำหน้าหงุดหงิด หน้าแดงระเรื่อเหมือนมีไข้ ไอร้อนที่แผ่ออกมาจากร่ายกายจนรู้สึกได้

“นึกว่าตายแล้ว” เพทายหาจังหวะใช้หลังตัวเองดันประตูให้เปิดกว้างแล้วแทรกตัวเข้าไปในห้องอย่างเสียมารยาท

“กวนตีน แล้วเข้ามาทำไม ออกไปฉันจะนอน” ตะวันไม่พอใจที่เห็นเพทายถือถาดข้าวเข้ามาในห้องรบกวนเขา มันทำให้เขาปวดหัวยิ่งขึ้น

“กินข้าวก่อนแล้วค่อยนอน” เพทายเดินเข้าไปเอาถาดว่างบนโต๊ะเขียนหนังสือปลายเตียง แล้วมองไปยังเจ้าของห้องที่ยังยืนอยู่ที่ประตู

“ยุ่งไม่เข้าเรื่อง ฉันไม่หิว” ตะวันปิดประตู เดินเข้ามาหาสิ่งแปลกปลอมในห้อง เขาไม่อยากมีเรื่อง แต่ก็ไม่อยากให้ใครอยู่ในห้องตอนนี้ โดยเฉพาะเพทาย เขาไม่ชอบ แต่ก็ไม่มีแรงต่อเถียง

“ไปนั่งที่เตียง มามองหน้าผมทำไม ไม่ปวดหัวหรอ” เพทายพูดเมื่อเห็นตะวันยืนมองหน้าคิ้วขมวดเข้าหากัน อาการเท่าที่ดูก็ไม่ค่อยดีนัก น่าจะมีไข้สูง

“ฉันไม่กิน ออกไปซะ” ตะวันเลือกที่จะไม่สนใจคนตรงหน้าเพราะพิษไข้ แล้วกลับไปนอนบนเตียงของตัวเอง

“ถ้าพี่ไม่กิน ผมจะพูดมากกวนพี่อยู่ในห้องนี้แหละ พี่ไม่สบายข้าวปลาไม่ยอมกิน นี่มันเที่ยงกว่าแล้ว ถึงพี่จะไม่หิวพี่ก็ควรกิน ปากพี่ไม่อยาก แต่กระเพาะพี่ก็ต้องมีอะไรลงท้องบ้าง พี่ไม่กินก็จะแสบท้องหมด แล้วเมื่อไหร่จะหาย พี่ควรลุกไปกินข้าวก่อนแล้วค่อยนอนต่อ ถ้าพี่ไม่ลุกขึ้นมากิน ผมจะโทรไปบอกให้ป้าจีน แม่พี่อาจจะต้องออกงานมาหาพี่เลย หรือจะให้ผมเรียกรถพยาบาลมาลากตัวไปโรงพยาบาลเลย หมอน่าจะเจาะเส้นเลือดพี่ให้น้ำเกลือ...”

“เอ่อ ๆ  ๆ น่ารำคาญจริง” ใจจริงตะวันอยากจะพูดว่า ‘หยุดพูดแล้วออกไปซะ’ แต่เพราะร่างกายเขายังไม่มีพลังงานมาก จึงได้แต่พูดเพื่อตัดบทเออออไป ก็จริงอย่างที่เพทายพูด เขาควรกินอะไรบ้าง

“เออแล้วก็ลุกขึ้นมานั่งสิครับ” เพทายยกถาดข้าวต้มมาไว้บนโต๊ะเล็กข้างเตียง แล้วตัวเองก็นั่งลงไปบนขอบเตียงมองคนป่วยที่ได้แต่นอนมองเขาอยู่เหนื่อย ๆ

“อืม ฉันจะกิน แล้วก็ออกไปได้แล้ว” ตะวันดันตัวลุกขึ้นมานั่งพิงหิวเตียง มองเห็นถ้วยข้าวต้มอยู่ข้างเตียงแล้วก็เอ่ยไล่เพทายทันที

“ เดี๋ยวป้อนให้” เพทายรู้ว่าคนไม่สบายรู้สึกว่าตัวเองกำลังอ่อนแอ และต้องการกำลังใจจากคนรอบข้าง แม้ว่าเขาจะเป็นคนอื่นสายตาตะวัน แต่ก็น่าจะพอให้กำลังใจได้บ้าง ตอนที่เพทายเองไม่สบายเขาก็จะอยากจะอ้อนพ่ออ้อนแม่เขาเหมือนกัน

“ไม่ต้อง ฉันกินเองได้” ตะวันรู้สึกตกใจเล็กน้อยที่คนตรงหน้าพูดแบบนั้น เพราะเขาคุ้นชินกับแม่เท่านั้นที่จะป้อนข้าว แต่ก็นานเท่าไหร่แล้วจนจำไม่ได้ว่าแม่เขาป้อนข้าวให้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่

“เห็นควันไหม ว่ามันร้อนอยู่เดี๋ยวเป่าให้ พี่แค่อยู่เฉย ๆ นั่งพิงไป จะได้ไม่ปวดหัว” เพทายหยิบถ้วยข้าวต้มขึ้นมาพร้อมจานรอง แล้วค่อย ๆ คน ค่อย ๆ เป่า ถ้วยเข้าต้มที่ยังมีควันขึ้นอยู่ให้เย็นลง

ตะวันยอมให้เพทายป้อนคำแรก คำที่สอง และอีกสองสามคำ  ซึ่งก็เป็นอย่างที่เพทายพูด การที่เขาอยู่เฉย ๆ ไม่ทำให้เขาปวดหัวมาก และไม่ลำบากในการกิน ก็ดีอยู่เหมือนกัน

“พอ ไม่กินแล้ว” ตะวันรู้สึกว่าตัวเองกินไปหลายคำแล้ว และต้องการจะนอนต่อ ซึ่งเขาทานเข้าไปยังไม่ถึงครึ่งถ้วยเลย

“นี่พี่กินไปแค่ 6 คำเองนะ อย่าพึ่งนอน นั่งก่อน เดี๋ยวก็เป็นกรดไหลย้อนหรอก” เพทายห้ามตะวันทันทีเมื่อ ตะวันทำท่าจะกลับลงไปนอนทันทีหลังเพิ่งกินข้าวเสร็จ

“เรื่องมากชะมัด” ตะวันยังไม่ทันได้ลงไปนอน แต่ก็ชะงัก แล้วก็พลิกตัวเองขึ้นมานั่งเอาหัวพิงหัวเตียงอย่างเดิม แล้วก็หลับตาลง

“พี่นอนท่านี้ไปก่อน ถ้าเมื่อยค่อยลงไปนอน” เพทายพอใจเมื่อเห็นตะวันนอนในท่าปลอดภัย “อืม อร่อยออก ทำไมทานนิดเดียว” เพทายแอบฉวยโอกาสชิม ข้าวต้มในมือที่ตะวันไม่ทานแล้ว รสชาติดีทีเดียวและยังอุ่น ๆ อีกด้วย

“แล้วนายมากินของฉันทำไม” ตะวันลืมตาขึ้นมาดู แล้วเห็นช้อนข้าวต้มที่เขาเพิ่งกินเมื่อกี้อยู่คาปากของอีกคน
 
“ก็พี่อิ่มแล้ว แค่อยากลองชิมดู ถ้าอยากกินอีกก็ลงไปกินข้างล่างเองละกัน” เพทายเห็นตะวันมองเขากินข้าวต้มด้วยความงุนงง

“ใครบอกว่าฉันอิ่ม เอามานี่ฉันจะกิน นายนั่นแหละลงไป” ใช่ ตะวันยังกินไม่อิ่ม เขาแค่อยากนอนต่อมากกว่า แต่การที่เห็นเพทายกินของของเขา เขาไม่ยอม มากินของเขาได้ไง ข้าวต้มอร่อยอย่างที่เพทายพูด ก่อนหน้านี้เขาอาจจะไม่อยากกิน แต่ตอนนี้ทำถึงอยากกินขึ้นมา เขาก็ไม่เข้าใจความป่วยของตัวเอง

“อะ ทานให้หมดนะ เดี๋ยวลงไปเอาน้ำมาให้” เพทายยื่นถ้วยข้าวต้มให้ตะวันถือ เพทายจับไว้อยู่นาน เมื่อมั่นใจว่าตะวันถือไหวก็ละมือออกมา

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รอค่าาา ไรเตอร์มาต่อเร็วๆน้าา สนุกมากๆๆ พี่ตะวันน่าจะสายซึนหรือเปล่า :hao7: :3123: :L1:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
หืมมมมมมมมมม มีความต่อปากต่อคำกันเก่งงงงง รอค่ะะะะะ

ออฟไลน์ adisablady

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เพทายเห็นว่าในห้องตะวันไม่มีน้ำดื่ม จึงลงไปเอาน้ำดื่มขวดใหญ่ในห้องครัว พร้อมแก้วน้ำ และไม่ลืมขอยาลดไข้จากดามาด้วย เมื่อขึ้นมาถึงก็เห็นว่าเจ้าของห้องล้มตัวลงไปนอนเรียบร้อยแล้ว ร่างสูงยาวดูหมดสภาพไร้ซึ่งความดุร้ายอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ ถ้วยข้าวต้มที่ทานจนหมดถูกวางไว้ข้างเตียง ภาพที่เพทายเห็นจึงทำให้เขาหงุดหงิดเล็กน้อย มันอาจจะไม่ดีต่อสุขภาพเมื่อทานแล้วนอนทันที แต่ก็อยากยุ่งอะไรมากให้คนที่นอนอยู่รำคาญ แต่เขายังจำเป็นต้องยุ่งกับคนป่วยต่ออีกหน่อย

“พี่ตะวันลุกขึ้นมากินยาก่อน” เพทายเรียกตะวันที่นอนคุดคู้ในผ้าห่มผืนหนา ซึ่งพร้อมจะหลับต่ออีกยาว

“ไม่กินเว้ย” ตะวันตอบออกไปโดยไม่ใส่ใจเพทายที่ยืนมองเขาอยู่ข้างเตียง ยังคงกอดผ้าห่มแนบแน่น

“ทำไมพี่ต้องทำให้มันยากด้วย แค่กินยาเดี๋ยวพี่ก็หาย ไม่อยากหายหรือไง” เพทายพูดไปพร้อมพยายามดึงผ้าห่มให้กระตุกเบา ๆ เพื่อเรียกให้คนในนั้นลุกมากินยา

“ไม่ต้อง เดี๋ยวมันก็หายเอง” ตะวันเหวี่ยงใส่เพทายเล็กน้อยด้วยความรำคาญและไม่อยากกินยา เพราะไม่ชอบ ปกติแล้วเขาไม่ค่อยจะป่วย แต่ก็มีนาน ๆ ทีที่จะเป็นขึ้นมาบ้าง แม่ของเขาจะเป็นคนที่บังคับให้เขากินยา เมื่อไหร่ที่ต้องมียาไปทานที่โรงเรียน เขาก็จะไม่กิน การที่เขาไม่กินยา มันก็ทำให้เขาหายเองได้ ตะวันคิดแบบนั้นเสมอ

“มันก็จะหายช้าไง ลุกมากินน้ำแล้วก็เอายายัดเข้าปากไปแค่นั้น เมื่อกี้พี่กินข้าวแต่ยังไม่ได้กินน้ำนะ ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลย” เพทายพยายามหาคำพูดต่าง ๆ หว่านล้อม ให้คนไม่ยอมกินยาลุกขึ้นมาให้ได้ เขาไม่เคยคิดเลยว่าการบังคับให้ใครมากินยามันจะเป็นเรื่องยากแบบนี้ โดยเฉพาะตะวัน

ปกติแล้วเพทายกับตะวันไม่ค่อยได้พูดคุยกันสักเท่าไหร่ เพราะตะวันไม่ได้อยากจะคุยกับเพทาย ซึ่งตะวันดูจะไม่ชอบขี้หน้าเพทายด้วย แต่ตอนนี้เป็นโอกาสของเพทายได้ข่มขู่อีกฝ่ายที่กำลังป่วยอยู่และดูไม่มีพิษสงอะไร ความเกรี้ยวกราดที่เคยเจอก่อนหน้านี้ลดลงไปเยอะ เพทายนึกอยากให้ตะวันป่วยแบบนี้ต่อไป เพราะรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในเขตปลอดภัย บางทีการมองร้ายของตะวันก็มีผลต่อการใช้ชีวิตในบ้านหลังนี้ของเพทาย

“เป็นแม่ฉันหรือไง” ตะวันลืมตาขึ้นและหันไปมองแรงใส่เพทาย ไม่พอใจคนพูดมาก แต่ก็ดันตัวลุกขึ้นมาช้า ๆ ตะวันไม่ควรจะใส่ใจอะไรกับคำพูดของเพทาย แต่การกระทำมันช่าง...ตรงกันข้าม เพราะเขาป่วยงั้นหรอ หิวน้ำปวดหัวจัง

“ก็แม่พี่ไม่อยู่ ผมรู้ว่าถ้าแม่พี่บอกให้พี่กิน พี่ก็จะกิน” เพทายพูดไปอย่างนั้น ซึ่งมีคนในครอบครัวไม่กี่คนหรอกที่ทำให้เรากินยาได้ เขามองดูตะวันที่เอาหัวขึ้นมาพิงหัวเตียงอีกครั้ง สายตาที่มองมาดุ ๆ แต่เพทายไม่กลัว เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายหมดฤทธิ์แค่ไหน ถึงตะวันจะไม่พอใจเขา แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้ ดูแล้วไม่ค่อยจะมีแรงทำอะไรสักเท่าไหร่ จะพูดจะจาแต่ละคำเหมือนต้องใช้พลังมากทีเดียว

เพทายรินน้ำใส่แก้ว แกะเม็ดยาลดไข้ออกจากซอง วางในจานรองแก้วแล้วยื่นให้ตะวัน

“พูดมาก ทำไมมีสองเม็ด” ตะวันเห็นจำนวนยาในจานรองที่ถูกยื่นมาตรงหน้า เขาไม่กินยาสองเม็ด แค่เม็ดเดียวก็กลืนยากอยู่แล้ว

“จะได้หายเร็ว ๆ ไง ไม่มีใครตายเพราะกินยาพารา 2 เม็ดหรอกนะ ผู้ใหญ่เขาสามารถกินครั้งละ 2 เม็ดได้ หรือว่าพี่จะเป็นคนแรกที่กินแล้วตาย” เพทายแหย่คนไม่ยอมกินยาเล่นขำ ๆ แต่ไม่รู้เจ้าตัวจะขำหรือป่าวนะ ที่กล้าพูดเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายป่วย ถือว่านี่เป็นการให้กำลังใจละกัน

“ออกไปได้ละ เก็บของออกไปด้วย” ตะวันหยิบยา 2 เม็ดขึ้นมาแล้วโยนเข้าไปในปากทีเดียว ตะวันไม่ได้กลัวรสขมของยา แล้วเขาก็หยิบแก้วน้ำที่เพทายยื่นให้ขึ้นมาดื่ม ค่อย ๆ ดื่ม ค่อย ๆ ดื่ม เพราะยามันไม่ยอมลงไปในคอ

เพทายยังมองตะวันกินยาทั้งที่อีกฝ่ายเอ่ยปากไล่เขาออกไปอีกครั้ง แต่ดูเหมือนการกินยาของตะวันยังไม่สำเร็จ เขายังต้องรินน้ำให้ตะวันเป็นแก้วที่สอง

‘กินยาแค่นี้ ทำเหมือนเป็นเด็กอนุบาลไปได้ ต้องเป็นคนประเภทไหนถึงได้เกลียดการกินยา’ เพทายคิดในใจ ในจังหวะนั้นมือข้างหนึ่งของตะวันวางลงมาบนเตียงทำให้แขนของเพทายสัมผัสกับความร้อนที่ออกมาจากผิวหนังของตะวัน

“พี่ตะวัน ทำไมตัวร้อนแบบนี้ ปล่อยตัวเองแบบนี้ได้ไง ผมจะเช็ดตัวให้ เดี๋ยวก็ช็อคเอาหรอก” ตะวันถือวิสาสะเอามือไปสัมผัสที่แขนของตะวัน ไล่ไปที่ต้นแขนที่เป็นมัดกล้ามแน่นได้สัดส่วน  และเอาหลังมืออังไปที่หน้าผาก จนถูกมือของอีกคนปัดออก

“ไม่ต้องไม่เช็ด ฉันอาบน้ำแล้ว” ตะวันตอบอย่างไม่พอใจ ทุกคำพูดที่ออกไปทำให้เขารู้สึกเหนื่อย ไม่อยากจะพูดอะไรให้มากนัก และการประมวลผลที่แย่ลงทำให้เขาพูดออกไปไม่ตรงกับความรู้สึกตัวเอง คนตรงหน้ายังจองมองมาที่เขาไม่ละสายตา และยังถูกมือเย็นเข้ามาสัมผัสที่ลำคอ ไม่รู้จะยุ่งอะไรนักหนา

“ผมไม่ได้อยากจะเช็ดให้พี่สะอาด แต่จะเช็ดให้ไข้พี่ลดลง ตอนนี้ 40 องศากว่าแล้วมั้งนะ” เพทายยังคงจับที่ต้นแขนของตะวันให้แน่ใจ ว่าร่างกายของตะวันตอนนี้มีอุณหภูมิที่สูงเกินไป นึกแล้วก็น่าโมโหคนป่วยตรงหน้านัก เพราะเขาไม่เคยถูกปล่อยให้ไข้ขึ้นสูงแบบนี้ เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองมีไข้ก็ต้องรีบกินยาไว้ก่อน แล้วคนในครอบครับจะคอยเช็ดตัวให้

“ไม่ต้องมายุ่ง ปวดหัว จะนอน” ตอนนี้ตะวันไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้นนอกจากอยู่ในความสงบ แล้วขึ้นไปเฝ้าพระอินทร์ แต่ก็ไม่สามารถจะลากคนในห้องอีกคนให้ออกไปได้ เขาอ่อนแรงเกินไป และแรงบีบบนหัวที่มาเป็นพัก ๆ ตะวันคืนแก้วน้ำให้เพทาย แล้วก็ล้มตัวนอนทันที

“พี่ก็นอนไปดิ แค่อยู่เฉย ๆ เดี๋ยวเช็ดให้ ถอดเสื้อให้ด้วย”  เพทายบอกตะวันก่อนตัดสินใจเข้าไปในห้องน้ำหาของใส่น้ำมาเช็ดตัวตะวัน โชคดีมีผ้าเช็ดหน้าแขวนที่ราวตากผ้าในห้องน้ำอยู่แล้ว จึงไม่ต้องไปค้นหาในตู้เสื้อผ้าที่เป็นส่วนตัวของตะวัน กะละมังเล็กถูกใส่น้ำแล้วแช่ผ้าเช็ดหน้าลงไปนำไปวางไว้ข้างเตียง ซึ่งถาดถ้วยชามขวดน้ำถูกย้ายไปโต๊ะปลายเตียงแล้ว

“แล้วนายจะเปิดแอร์ทำไมฉันหนาว” ตะวันโวยขึ้นเมื่อเขาได้ยินเสียงเปิดแอร์ และลมเย็นเริ่มมาสัมผัสตัวเขา ตะวันดึงผ้าห่มให้กระชับตัวมากขึ้น

“ให้มันระบายความร้อนไง เดี๋ยวเช็ดตัวเสร็จค่อยห่มผ้า พี่ตะวัน” เพทายพูดพยายามดึงผ้าห่มออก แต่ตะวันยังคงนอนแน่นิ่งกอดผ้าห่อแน่น ทำเป็นไม่สนใจ 

“พี่ตะวัน ถอดเสื้อดิ พี่ตัวร้อน ไข้จะไม่ลดนะ” เพทายร้องขอตะวันอีกครั้ง ให้ช่วยให้ความร่วมมือกันหน่อย ไม่งั้นคงต้องปล่อยเลยตามเลย “นะพี่ เดี๋ยวเช็ดตัวให้ไข้ลดนิดนึง”

“ถอดเอง ขี้เกียจ ปวดหัว” ตะวันพูดออกมา แต่ยังนอนอยู่แบบเดิม ไม่ลืมตามามองด้วยซ้ำ ตะวันไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองพูดออกไปแบบนั้น ถ้าเขาไม่ได้เป็นอะไรเขาไม่มีวันพูดออกไปแน่นอน หรือยอมปล่อยทำให้เสร็จแล้วไปซะ

“ได้.......(ไอ้พี่ตะวัน)” เพทายกล่นด่าในใจ และพร้อมเริ่มทำภารกิจครั้งใหญ่

เพทายดึงผ้าห่มออกจากตัวตะวัน ทำให้ตะวันทำเสียงหงุดหงิดออกมาเล็กน้อย เพทายขอให้ตะวันนอนหงายเพื่อจะได้ง่ายในการถอดเสื้อ เจ้าตัวก็ยอมทำตามง่าย ๆ เสื้อยืดสีขาวผืนบางเบาสบายของตะวันค่อย ๆ ถูกร่นขึ้นมาส่วนบนของลำตัว ทำให้เห็นสัดส่วนของร่างกายชัดเจนยิ่งขึ้น

กล้ามหน้าท้องที่เป็นคลื่นรูปทรงสวยงาม ไล่ขึ้นไปเป็นกล้ามหน้าอกดูมีเนื้อแน่นกระชับเหมือนผ่านการออกกำลังกายเป็นประจำของชายหนุ่มโตเต็มวัย วัย 21 ปี ผิวเรียบเนียนเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่เพทายรู้สึกอิจฉา เขาอยากจะมีร่างกายดูดีแบบนี้บ้าง กล้ามแขนยังพอมีบ้าง แต่ถ้าได้มีกล้ามหน้าท้องกับหน้าอกนี่เท่ห์สุด ๆ เพทายคิดว่าตอนนี้เขาอายุ 17 ปี ยังมีเวลาสร้างกล้ามเนื้ออีกเยอะ วันหนึ่งเขาจะต้องดูดีอย่างตะวันในตอนนี้ให้ได้ ถึงแม้จะเตี้ยกว่าตะวันอยู่นิดหน่อย ตอนนี้เพทายสูง 170 ซม. แต่ตะวันสูงราว 180 กว่า ซม. ยังเหลือเวลาอีก 3-4 ปี ซึ่งเขาอาจจะสูงกว่าตะวันก็เป็นได้

เพทายจะถอดเสื้อที่ติดตรงช่วงไหล่ เขาจึงบอกให้ตะวันช่วยยกแขนขึ้นและยกหลังขึ้นให้เสื้อรอดผ่านออกไปได้ ตะวันทำตามทั้งที่ยังหลับตาอยู่ ใบหน้าคมสันคิวหนาเป็นทรงเข้ากันได้ดีกับจมูกพร้อมไรหนวดจางๆของตะวัน ตอนนี้หล่อเหลาดูดีไม่มีพิษไม่มีภัยน่ามองยิ่งกว่าตอนที่จ้องมาแล้วคิ้วขมวดเข้าหากัน ถ้าตะวันไม่ป่วย เพทายก็คงไม่มีวันได้เห็นมุมนี้ของตะวัน เมื่อคิดแล้ว เพทายก็ไม่อยากให้ตะวันหายป่วยจริง ๆ เพราะตะวันมักทำหน้าเกรี้ยวกราดใส่เขาอยู่เสมอ

เพทายนำผ้าชุบน้ำบิดหมาด ๆ ค่อย ๆ เริ่มเช็ดตรงซอกคอ หน้าอก ไล่ลงไปหน้าท้อง ไอร้อนจากร่างกายตะวันยังคงรู้สึกได้ผ่านผ้าชุบน้ำที่เช็ดไป เพทายคงต้องเช็ดอยู่หลายรอบกว่าอุณหภูมิร่างกายของตะวันจะลดลง

“เย็น หนาว” ตะวันร้องขึ้นเมื่อร่างกายได้รับความเย็นจากการเช็ดตัว และลมจากแอร์ที่อุณหภูมิค่อย ๆ ต่ำลง

“อดทนสิครับ แป๊บเดียวเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว” เพทายบอกไปขณะที่ถูกสายตายของตะวันจองมองอย่างข่มขู่ หลับตาเมื่อกี้ยังดูดีอยู่เลย ลืมตาขึ้นมาก็เหมือนคนละคน แต่เพทายยังเช็ดแขนทั้งสองข้างตะวันต่อไป ไม่สนใจจะว่าอะไรก็ช่าง

“เร็ว ๆ ฉันหนาวจะตายอยู่แล้ว” ตะวันโวยเมื่อตอนนี้กำลังถูกเพทายเช็ดขาทั้งสองข้าง ทั้งที่นอนตัวเปลือยเปล่าเหลือเพียงบ๊อกเซอร์แค่ตัวเดียว ผิวเปลือยของเขาสัมผัสความเย็นจากผ้าเช็ดตัวและไอเย็นจากแอร์ ทำให้เขาหนาวสั่นขึ้นมา

“เดี๋ยวผมบอกพ่อพี่จองวัดให้” เพทายเอาผ้าไปชุดน้ำแล้วบิด ๆ อีกครั้ง

“ปากดีนะมึง” ตะวันว่าพร้อมกับมองหน้าเพทาย ที่ตอนนี้กำลังเช็ดหน้าอกของเขา และแขนทั้งสองข้างอีกครั้ง  ตะวันก็ปล่อยให้เพทายทำโดยไม่ได้ห้ามอะไรอีก

“อ่า เสร็จแล้ว” เพทายนำผ้าชุบน้ำมาพับ ๆ แล้วค่อย ๆ วางบนหน้าผากของตะวัน สายตาเพทายสบกับตะวันที่นอนมองอยู่สักพัก

“เสร็จแล้วก็ออกไปซะ ล็อคห้องให้ด้วย” ตะวันพูดเมื่อยังเห็นเพทายนั่งมองเขานิ่ง ๆ อยู่ข้างเตียง

เพทายลุกเอาของทุกอย่างไปเก็บ แล้วกลับเข้ามาในห้องของตะวันอีกครั้ง ตะวันนอนห่มผ้าเรียบร้อย แต่ไม่ได้ใส่เสื้อ เพราะเจ้าตัวขี้เกียจไม่ยอมใส่เอง

“พี่ตะวัน ผมขอเล่นเกมได้มั้ย พี่ก็นอนไป” เพทายเห็นเครื่องเล่นเกมอยู่หน้าทีวีตั้งแต่เขามาแล้ว เขาอยากเล่นมัน แต่... ต้องขออนุญาตเจ้าของก่อน

“ไม่ ออกไป ฉันจะนอน” ตะวันพูดไม่ลืมตาเหมือนเคย เพราะรำคาญ ทำไมถึงยังไม่ไปสักที

“พี่ ผมจะไม่เสียงดัง ผมจะใส่หูฟัง  ผมจะไม่รบกวนพี่ นะพี่นะ” ด้วยความที่อยากเล่นมาก ก็ต้องยอมใช้ลูกอ้อน อ้อนตอนป่วยนี่แหละ เพราะถ้าตะวันไม่ป่วยเขาคงไม่มีโอกาสได้เข้ามาในห้องนี้อีกแล้ว อาจจะเป็นครั้งเดียวสำหรับเขาก็ได้

“ห้ามเสียงดัง ให้ฉันนอนได้แล้ว” ตะวันตอบคนหน้ารำคาญ เขาอยากนอนเต็มทีแล้ว ใครอยากจะทำอะไรก็ทำไป

“พี่นอนนะครับ  ห่มผ้าดี ๆ เดี๋ยวผมปิดแอร์ให้ถ้าพี่หนาว” เพทายเอาใจตะวันเข้าไปจัดผ้าห่มดูให้เรียบร้อยว่าตะวันห่มผ้าดีแล้ว เปลี่ยนผ้าชุบน้ำบนหน้าผากให้อีกรอบ และตั้งเวลาปิดแอร์อีก 1 ชั่วโมง แล้วตัวเองก็ลงไปจัดการกับเกมรุ่นใหม่หน้าทีวีทันทีอย่างเบา ๆ เพราะยังไงเพทายก็เป็นเด็กหนุ่มเล่นเกมธรรมคนหนึ่งเหมือนวัยรุ่นทั่วไป

-----------------------#แสงตะวันส่องเพทาย-----------------------------------
ความร้อนที่วิ่งทั่วร่างกายทำให้ตะวันต้องตื่น เขารู้สึกว่าตัวเองร้อนมากหรืออาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยา อาการปวดหัวรู้สึกดีขึ้น ตะวันมองไปที่แอร์เห็นว่ามันปิดอยู่ จึงมองหารีโมทแอร์เพื่อจะเปิดมัน เขาเห็นมันอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือปลายเตียงจึงลุกไป

แต่เขาต้องตกใจเมื่อมีร่างของเด็กหนุ่มนอนไม่ใส่เสื้ออยู่ปลายเตียง ตะวันนึกขึ้นได้ว่าเพทายขอเขาเล่นเกมซึ่งตอนนี้ทีวีและเครื่องเล่นเกมถูกปิดไปแล้ว คงเล่นจนง่วงแล้วก็หลับไป แล้วทำไมต้องถอดเสื้อ หรืออาจร้อนเพราะไม่ได้เปิดแอร์ แล้วทำไมต้องมานอนปลายเตียงหน้าทีวีตรงนี้ ทำไมไม่กลับไปนอนที่ห้องตัวเอง ตะวันไปหยิบรีโมทเปิดแอร์ให้อากาศเย็นสบาย แล้วเข้าไปล้างหน้าล้างตาแต่งตัวลงไปข้างล่าง ก่อนออกจากห้องตะวันไปหยิบเอาผ้าห่มผืนเล็กที่มักจะเอาติดไว้ในรถมาห่มให้เด็กหนุ่มที่ยังนอนอยู่บนพื้น กลัวว่าเดี๋ยวแอร์ลงคงจะหนาว

“เป็นไงบ้างลูก ดีขึ้นบ้างรึยัง” จีนถามลูกชายเมื่อเดินเข้ามานั่งที่โซฟาในห้องนั่งเล่น

“ดีขึ้นแล้วครับ แต่ยังมึน ๆ นิดหน่อย” ตะวันขยับเข้าไปใกล้กับจีน เมื่อจีนทำเหมือนจะขอจับตัว

“แล้วน้องละ เห็นดาบอกว่าเพทายเอาข้าวเอายาไปให้ที่ห้องแล้วก็หายไปเลย” จีนถามด้วยความสงสัย เพราะตะวันดูจะไม่ค่อยชอบเพทายเท่าไหร่

“หลับอยู่บนห้องครับ เห็นบอกว่าจะขอเล่นเกม ผมตื่นมาอีกทีก็หลับไปแล้ว” ตะวันตอบ

“แม่ว่าน้องนิสัยก็ไม่ได้แย่นะ เราก็หัดพูดจาดี ๆ กับน้องบ้าง” จีนพูดของร้องตะวัน

“ก็ผมไม่ชอบมัน” ตะวันมีเหตุผลที่ไม่ชอบเพทาย เพราะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อยู่ ๆ ก็มาบอกว่าเป็นญาติพ่อแม่ตาย แล้วมาขออยู่ด้วยให้ครอบครัวเขาช่วยเลี้ยง ถึงมันจะเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ แต่สำหรับเขา เพทายทำให้เขาลำบากใจชะมัด

“ไม่ชอบก็หัวเริ่มชอบซะบ้าง ยังไงก็ได้อยู่บ้านหลังเดียวกันแล้ว หนีกันไม่พ้นหรอก” จีนบอกลูกชายไป เพราะจีนเองดีใจมากที่เพทายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ และอยากจะเลี้ยงดูเหมือนลูกอีกคนหนึ่ง ถึงแม้ที่ผ่านมาเกี่ยวกับครอบครัวของเพทายจะเคยเป็นเรื่องเลวร้ายสำหรับจีน “อ้าวเพทาย ตื่นแล้วหรอลูก”

“หวัดดีครับป้าจีน พี่ตะวัน พี่ออกมาทำไมไม่เรียกผมอ่ะ” เพทายยกมือไว้จีนก่อนจะยิงคำถามใส่ตะวัน

“ฉันไม่อยากเรียก” ตะวันตอบห้วน ๆ เมื่อเห็นเพทายลงมาจาห้องของเขาใส่เสื้อเรียบร้อยแล้ว

“อะ ไข้ลดแล้ว แต่ยังอุ่น ๆ” เพทายเข้ามานั่งข้างตะวันพร้อมกับเอาหลังมือเข้าไปแตะที่ลำคอของตะวัน ก่อนจะโดนตะวันผลักออก

“นี่ทำอะไร ไม่ต้องมายุ่ง” ตะวันมองเพทายอย่างหงุดหงิด

“ป้าจีนครับ เมื่อกี้พี่ตะวันตัวร้อนมาก ๆ เลย ดีนะผมให้กินยา แล้วเช็ดตัวให้ ไม่งั้นพี่เขาช็อคตายแน่ ๆ เลย” เพทายแอบฟ้องป้าตัวเอง เมื่อเห็นว่าลูกชายของเธอไม่ยอมดูแลตัวเอง ไม่ยอมกินข้าว กินยา แล้วปล่อยให้ตัวร้อนมาก ๆ

“พี่ตะวันยอมกินยา แล้วเราก็เช็ดตัวให้พี่ตะวันหรอลูก” จีนถามในเรื่องที่ไม่น่าเชื่อถ้าไม่ได้ยินกับหูตัวเอง

“พูดมาก....” ตะวันพูดพร้อมกับส่งสายตาดุออกไป


 
----------------------------------------------------จบ--------------------------------------------------

ไม่รู้ว่าชอบกันรึป่าวนะคะ แต่ก็พยายามเขียนให้ดูดึงดูดมากที่สุด
เรื่องแรกที่เขียนจบ
ยังไงก็คอมเมนต์กันมาเยอะ ๆ นะคะ เผื่อจะมีแรงเขียนเรื่องต่อไป
เรื่องต่อไปที่จะเขียนเป็นแนวโอเมก้า แต่ขอดูกระแสเรื่องนี้ก่อน
ว่าถูกใจผู้อ่านทุกท่านหรือไป

การบ้านสำหรับผู้อ่าน
1.อยากรู้เรื่องราวส่วนไหนที่ไม่ได้เล่าออกไป
2.เคมีตัวเอกคู่นี้เป็นยังไงบ้าง


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด