[เรื่องสั้น] Cloud9 Diary [จบ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] Cloud9 Diary [จบ]  (อ่าน 6827 ครั้ง)

ออฟไลน์ Chomin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +146/-1
[เรื่องสั้น] Cloud9 Diary [จบ]
« เมื่อ03-10-2018 11:42:14 »

อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

Cloud9 Diary
-chomin-

-------------------------------------------------------

♥ ผลงานอื่นๆ ♥
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-12-2019 22:29:02 โดย Chomin »

ออฟไลน์ Chomin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +146/-1
Re: [เรื่องสั้น] Cloud9 Diary [จบ]
«ตอบ #1 เมื่อ03-10-2018 12:29:47 »

Cloud9
ยามสายฝนโปรยปราย ผมมองเห็น ‘สีฟ้า’ ตรงนอกหน้าต่าง

ผมวางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะ หลังจากที่อัพเดตอินสตาแกรม อันเปรียบเสมือนบันทึกเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันจนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเดิมทีผมไม่ใช่คนติดโซเชียลมากนัก แต่สาเหตุที่ทำให้ผมตัดสินใจเล่นแอปพลิเคชันดังกล่าว มันเป็นเพราะผมอยากจะรู้ ว่าตนเองได้ยินเสียงเป็นสีอะไรบ้าง
เมื่อในแต่ละวัน ผมได้ยินเสียงต่างๆ ตั้งมากมาย

โดยอาการเหล่านี้ ผมคลุกคลีอยู่กับมันมาตั้งแต่เด็ก แล้วก็คิดว่ามันเป็นแค่เรื่องของจินตนาการ ผมก็เลยไม่ใส่ใจ จนกระทั่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ข้อสังเกตก็ยิ่งเด่นชัด เมื่อผมใช้วิธีจดจำปีพุทธศักราช เป็นรูปร่างคน
เช่น ในปี พ.ศ. 2560 ผมมองเห็น ‘เลขสอง’ เป็นคุณยายอ้วนท้วม ‘เลขห้า’ เป็นผู้ชายสูงโปร่งวัยกลางคน ‘เลขหก’ เป็นหญิงสาวผอมเพียว ‘เลขศูนย์’ เป็นเด็กทารกวัยแรกเกิด

ซึ่งตอนนั้นผมก็ดันเผลอตอบคำถามเพื่อนออกไป ว่าปีนี้เป็นปีของคุณยายอ้วนท้วมนั่งอยู่ข้างๆ ผู้ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงโปร่ง ผู้เป็นสามีของหญิงสาวรูปร่างผอมเพียวที่กำลังอุ้มเด็กทารก ซึ่งเพื่อนๆ ก็รีบย้อนถามอย่างงุนงง ว่าผมพูดอะไรออกไป
หลังจากนั้น ผมจึงเริ่มปรับตัวให้คิดและจดจำแบบคนปกติทั่วไป
หาใช่แบบที่คนเป็นซินเนสทีเซียคิด


Cloud9
ยามที่ปลายดินสอเสียดสีลงบนผิวกระดาษ ผมมองเห็น ‘สีชมพู’ อยู่ตรงหน้า

ผมจัดการอัพเดตอินสตาแกรมในช่วงเช้าของวันใหม่ เมื่อระหว่างการทำงานฟรีแลนซ์ เกี่ยวกับการแปลภาษาจีน จะต้องมีการจดโน๊ตคำศัพท์ต่างๆ ลงในกระดาษ และเสียงของปลายดินสอ ก็ทำให้ผมมองเห็น ‘สี’ เดิมๆ ที่คุ้นเคย แต่กระนั้นก็ไม่ได้รบกวนการทำงานของผมมากนัก
เพราะว่าสีดังกล่าว จะลอยคละคุ้งอยู่ในอากาศ ตรงตำแหน่งเกิดเสียงแค่เพียงครู่

และโดยส่วนใหญ่แล้ว คนที่เป็นซินเนสทีเซีย มักจะมีความสามารถอันโดดเด่น แค่เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่สำหรับคนบางคนแล้ว เขาสามารถรับรู้ได้ถึง 3 ประเภท จากที่มีทั้งหมด 61 ประเภท ซึ่งผมเองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่มีการรับรู้มากกว่าหนึ่ง เพราะผมสามารถมองเห็นบุคลิกของตัวอักษร และยังได้ยินเสียงเป็นสี

ติ้ง!

ผมละมือจากการแปลนิยายภาษาจีนอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือน ดังมาจากโทรศัพท์เครื่องเก่ง ครั้นสไลด์หน้าจอ เพื่อเข้าไปยังแอปพลิเคชันดังกล่าว ก็พบว่ามีใครบางคนเข้ามาคอมเมนต์ใต้รูปภาพที่เพิ่งจะอัพไปเมื่อสักครู่

Rafah
รบกวนสอบถามหน่อยครับ สีที่คุณเห็นมีลักษณะเป็นแบบไหน ?

หลังจากอ่านคำถามของคุณระฟ้าจบ ผมก็รีบเฉลยคำตอบอย่างตั้งใจ เพราะผมรู้ว่ามุมมองของกลุ่มคนที่เป็นซินเนสทิเซีย มันคือมุมมองที่ยากเกินกว่าจะจินตนาการ
ดังนั้นคำถามเหล่านี้ จึงมักจะได้เห็นอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากอินสตาแกรมของผม มีผู้ติดตามจำนวนไม่น้อย ยิ่งมีเว็บไซต์มาติดต่อขอนำข้อมูลไปอ้างอิง หลายคนที่ให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็พากันกดฟอลโล่วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

Could9
สีที่ผมเห็น จะเป็นเส้นๆ แบบไล่โทนสี แล้วก็ลอยฟุ้งอยู่ตรงจุดกำเนิดเสียงครับ

ติ้ง!

Rafah
เป็นเส้นตรงหรือครับ แล้วมันเกิดขึ้นนานเท่าไหร่

Could9
ไม่เชิงเป็นเส้นตรงนะครับ คือมันจะเป็นเส้นคดเคี้ยวแบบไล่ระดับโทนสีจากเข้มไปอ่อน ประมาณนี้น่ะครับ แต่ผมเองก็ไม่แน่ใจ ว่าคนที่เป็นซินเนสทิเซียคนอื่นจะเห็นแบบที่ผมเห็นหรือเปล่า ส่วนระยะเวลาในการเกิดสี น่าจะแค่เสี้ยวนาทีมั้งครับ ผมเองก็ไม่เคยจับเวลาเสียด้วย


Cloud9
ยามที่สองมือกำลังสานกระเป๋าไม้ไผ่ ผมมองเห็น ‘สีน้ำตาล’ อยู่ตรงหน้า

ผมจัดการอัพเดตอินสตาแกรมด้วยกิจกรรมใหม่ ที่น้อยคนนักจะทำเป็น เพราะการสานกระเป๋าด้วยไม้ไผ่ จะต้องมีประสบการณ์และความชำนาญ ดังนั้นผมที่เป็นลูกหลานของกิจการส่งออกเครื่องจักสานไทย จึงมีความสามารถทางด้านนี้อย่างเต็มเปี่ยม โดยผมมักจะลงมาช่วยงานที่บ้าน ก็ต่อเมื่อเคลียร์งานฟรีแลนซ์จนเสร็จเรียบร้อย

ติ้ง!

Rafah
คุณอยู่ที่พนัสนิคมหรือครับ ?

หลังจากอ่านข้อความของคุณระฟ้า ผมก็ขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ เพราะส่วนใหญ่แล้ว ไม่ค่อยจะมีใครรู้จักอำเภอพนัสนิคมมากนัก
แม้ว่าจักสานของที่นี่ จะมีชื่อเสียงมากมายก็เถอะ

Cloud9
ใช่ครับ ไม่น่าเชื่อว่าคุณจะรู้จักพนัสนิคมด้วย

ติ้ง!

Rafah
พอดีปู่กับย่าของผมมีบ้านอยู่ที่นั่นน่ะครับ


Cloud9
ยามที่กำลังเหยียบย่ำอยู่บนพื้นไม้ ผมมองเห็น ‘สีส้ม’ อยู่ตรงปลายเท้า

ผมเริ่มต้นวันใหม่ หลังจากทานน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋รองท้องจนอิ่มแปล้ ด้วยการก้าวเดินไปยังเรือนใหญ่ ที่เป็นแหล่งรวมคนงานด้านการจักสาน ซึ่งตัวเรือนหลังนี้ จะปูพื้นด้วยไม้ขัดมัน ที่ผมยังคงจดจำได้ดี ว่าตอนเด็กๆ ผมชอบช่วงที่ต้องถูพื้นด้วยการลงแว็กซ์มากที่สุด
เพราะมันทั้งลื่นและสนุกอย่าบอกใคร

ติ้ง!

Rafah
แล้วถ้าเกิดว่าคุณกำลังเหยียบย่ำอยู่บนพื้นดินอันเฉอะแฉะ คุณจะเห็นสีแตกต่างกันหรือเปล่าครับ

ทว่าคำถามของเขา ทำให้ผมนิ่งคิดเพียงครู่ แต่สุดท้ายในหัวกลับว่างเปล่า ไร้ซึ่งคำตอบ

Cloud9
คำถามนี้ เห็นทีผมคงต้องขอเวลาไปหาคำตอบเสียก่อน

ติ้ง!

Rafah
ไม่มีปัญหาครับ ผมจะรอคำตอบจากคุณนะ


หลังจากวันนั้น ผมก็ไม่ได้อัพเดตอินสตาแกรมอีกเลย เพราะผมเอาแต่เฝ้ารอ ‘การทดลอง’ ในหัวข้อที่คุณระฟ้าสอบถาม ซึ่งฟ้าฝนก็ราวกับกลั่นแกล้ง เมื่อตั้งแต่วันนั้น ปรากฏการณ์ครื้มฟ้าครื้มฝน ก็ไม่มีให้เห็น
แต่พอคลาดสายตาเพียงหน่อยเดียว สายฝนก็เทลงมา จนผ้าที่ตากเอาไว้เปียกปอนไปหมด ผมจึงกระวีกระวาดเก็บผ้าอย่างเร่งด่วน เลยไม่ทันได้สังเกตเสียงหรือสีใดๆ ทั้งสิ้น
ก่อนจะพบว่า..
ผมนี่โง่จริงๆ

เพราะคำถามของคุณระฟ้า ผมไม่จำเป็นจะต้องรอให้ฝนตกก็ได้ ในเมื่อดินมักจะเฉอะแฉะก็ต่อเมื่อโดนน้ำ

ดังนั้นเมื่อผมจัดการผึ่งเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ผมก็เดินตรงไปยังบริเวณพื้นที่ตากผ้า ก่อนจะลองใช้เท้าเหยียบย่ำดัง แปะ แปะ ตรงแถวพื้นดินที่ยังมีน้ำขังอยู่เพียงเล็กน้อย

Cloud9
ยามที่สองเท้ากำลังเหยียบย่ำอยู่บนพื้นดินอันเฉอะแฉะ ผมมองเห็น ‘สีเขียว’ อยู่ตรงปลายเท้า

ติ้ง!

Rafah
ผมนึกว่าคุณลืมไปแล้วเสียอีก

ผมอมยิ้มหลังจากที่ได้อ่านข้อความของคุณระฟ้าอย่างไม่ทราบสาเหตุ

และผมก็เพิ่งจะรู้ตัว..

ว่าข้อความจากเขา มันคือสิ่งที่ผมรอคอย


ผมไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้หมกมุ่นอยู่กับการเฝ้ารอบทสนทนา ผ่านทางแอปพลิเคชันดังกล่าว แต่มองๆ ดูแล้ว ปฏิกิริยาของผม คงจะตอบสนองด้วยความเคยชิน เพราะตั้งแต่วันแรกที่แอคเคาน์ของคุณระฟ้าปรากฏอยู่ในกล่องคอมเมนต์ รายชื่อดังกล่าว ก็ไม่เคยห่างหายไปเหมือนกับคนอื่นๆ

Cloud9
ยามที่เมล็ดเป๊าะแป๊ะแตกกระจาย ผมมองเห็น ‘สีเหลืองทอง’ ปรากฏอยู่ในขัน

หลังจากอัพเดตอินสตาแกรมประจำวันใหม่จนเรียบร้อยแล้ว ผมก็จัดการโยนเมล็ดเป๊าะแป๊ะลงในขันใบเดิมอย่างนึกสนุก ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว ถือเป็นกิจกรรมยอดฮิตในวัยเด็ก
ที่ต่อให้โตแล้วก็เถอะ ผมก็ยังชอบเล่นมันอยู่ดี

ติ้ง!

Rafah
เฮ้ย! คุณชอบเล่นเจ้านี่เหมือนผมเลย ตอนอยู่ที่บ้านปู่กับย่านะ ผมตะเวนหาจนเกลี้ยง เอ้อ! แล้วคุณเคยเหยียบต้นไมยราบหรือเปล่า ที่ใบมันหุบได้น่ะ

Cloud9
เคยสิครับ นั่นก็อีกหนึ่งกิจกรรมโปรดของผมเลยนะ

ติ้ง!

Rafah
แล้วแบบนี้ เวลาที่ต้นไมยราบหุบใบ คุณจะได้ยินเสียงหรือเปล่าครับ แล้วมองเห็นเป็นสีอะไรบ้าง

Cloud9
คำถามนี้ ผมคงต้องขอเวลาไปหาคำตอบอีกแล้วล่ะครับ

ติ้ง!

Rafah
ได้สิครับ ผมจะรอ


รู้ตัวอีกที การอัพเดตอินสตาแกรมของผม ก็กลายเป็นการอัพเดตตามคำเรียกร้องของคุณระฟ้าไปเสียแล้ว และในยามเย็นแบบนี้ ผมก็ปั่นจักรยานไปยังบริเวณวัด ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของผมนัก
โดยจุดหมายปลายก็คือทุ่งนา
อันเป็นแหล่งรวมของต้นไมยราบ

แต่กลับต้องผิดหวัง เมื่อพืชพันธุ์ดังกล่าว ดันถูกรถเหยียบจนหุบหมดแล้ว ผมเลยตัดสินใจปั่นจักรยานผ่านศาลาประชาคม เพื่อมุ่งตรงไปยังถนนที่มีทุ่งนาขนาบทั้งสองฟากฝั่ง
และในยามที่สายลมเย็นๆ ปะทะใบหน้า สีเทาจางๆ ก็ปรากฏอยู่รอบๆ ตัว ตลอดทาง

“เจอสักที”

ผมกล่าวพลางตั้งขาตั้งจักรยาน ก่อนจะนั่งยองๆ ตรงหน้าดงไมยราบ จากนั้นก็ใช้นิ้วจิ้มไปยังใบสีเขียวสดเพียงเล็กน้อย ไม่นานเจ้าต้นไม้ตรงหน้า ก็พากันหุบใบหลีกหนีจากการทักทาย

Cloud9
ยามที่ต้นไมยราบกำลังหุบใบ ผมไม่ได้ยินเสียงและมองไม่เห็นสีใดๆ แต่เวลาที่ผมกำลังใช้เท้าเหยียบย่ำลงบนกอไมยราบ ดัง ตุบ ตุบ! ผมมองเห็น ‘สีแดง’ ปรากฏอยู่ตรงปลายเท้า

ห้านาทีผ่านไป...
หากแต่กล่องคอมเมนต์ยังคงว่างเปล่า

สิบนาทีผ่านไป...
สถานการณ์ยังคงเดิม

สามสิบนาทีผ่านไป..
ผมเริ่มสงสัยว่าสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่บ้านของผมจะเสียหรือเปล่า

หนึ่งชั่วโมงมาเยือน..

ติ้ง!

Rafah
ผมแวะมาตรวจการบ้านแล้วนะครับ


ผมเพิ่งจะรู้ก็เดี๋ยวนี้ ว่าการรอคอยมันทรมาน แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าทำไมผมถึงต้องยึดติดกับการตอบโต้บทสนทนากับคุณระฟ้ามากมายขนาดนั้น ทั้งๆ ที่เราไม่เคยรู้จักกันอย่างเป็นทางการ และยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันด้วย
แต่ถึงจะคิดไปก็ป่วยการ เพราะมันเป็นอะไรที่หาคำตอบได้ยาก

กลางวันนี้ ผมเลือกฝากท้องที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ข้างๆ โรงเรียนสมัยมอต้น ที่อยู่ตรงข้ามกับที่ทำการไปรษณีย์อย่างหิวโหย
ซึ่งในขณะที่พ่อค้ากำลังลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวอยู่นั้น ผมได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของตัวเส้น ที่นอนกองอยู่ในตะกร้อลวกก๋วยเตี๋ยว

Cloud9
ยามที่เส้นก๋วยเตี๋ยวกระโดดไปมาอยู่ในตะกร้อลวก ผมมองเห็นสีบานเย็น ผสมกับสีครีมของน้ำในหม้อต้มสุก

ติ้ง!

Rafah
ใช่ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตรงแถวไปรษณีย์หรือเปล่าครับ

Cloud9
ใช่ครับ

ติ้ง!

Rafah
อยากกินชะมัด ตอนเด็กๆ นี่ร้านประจำของผมเลยนะ

Cloud9
ถ้าคิดถึง คุณก็หาโอกาสมากินสิครับ

ติ้ง!

Rafah
หวังว่าจะมีวันนั้นนะครับ ช่วงนี้งานของผมยุ่งมาก

Cloud9
เอาเป็นว่า ผมจะกินเผื่อคุณแล้วกัน

ติ้ง!

Rafah
ฮ่าๆ ถ้าอย่างนั้น คุณคงต้องเบิ้ลก๋วยเตี๋ยวเพิ่มอีก 1 ชามแล้วล่ะครับ หรือถ้าคุณกินเกาเหลา ก็เบิ้ลข้าว 2 ถ้วยไปเลย


อาทิตย์นี้คงจะเป็นอาทิตย์สุดท้ายสำหรับการใช้ชีวิตแบบชิลๆ เพราะตอนนี้ทางสำนักพิมพ์ได้ส่งต้นฉบับนิยายภาษาจีน มาถึงมือของผมแล้ว ดังนั้นภารกิจการสานกระเป๋าจากไม้ไผ่ จึงต้องทำแบบหามรุ่งหามค่ำอย่างช่วยไม่ได้
เนื่องจากผม ไม่อยากจะผลักภาระไปให้คนอื่น
ฉะนั้นการอัพเดตอินสตาแกรม ก็มีอันต้องร้างราไป

กระทั่งกระเป๋าจากฝีมือของผม ค่อยๆ กลายเป็นรูปร่างจนเสร็จสมบูรณ์ ผมก็ถือโอกาสไปนั่งเล่นที่คาเฟ่แถวๆ ถนนใหญ่ โดยมุมที่ผมเลือก เป็นบริเวณใต้ต้นไม้อันร่มรื่น เพราะในห้องแอร์ ล้วนเต็มไปด้วยเด็กหนุ่มหัวเกรียนและเด็กสาวผมสั้นเท่าติ่งหู

แต่แล้วคาเฟ่อันเงียบสงบ ก็เกิดความวุ่นวายเพียงชั่วคราว เมื่อนักแสดงท่านหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ กำลังก้าวเดินเข้าไปสั่งออร์เดอร์ข้างในห้องแอร์ ลูกค้าที่อยู่รอบๆ ตัวผม จึงพากันเข้าไปอัดอยู่ในพื้นที่อันเย็นฉ่ำ แต่ความกว้างกลับเท่าแมวดิ้นตาย
ดังนั้นเหล่าลูกค้าจึงล้นทะลักออกมาข้างนอก

“พระเอกคนนี้ชื่ออะไรนะ”

ผมอุทานพลางมองจ้องไปยังชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ที่มักจะเห็นตามโทรทัศน์อยู่บ่อยครั้ง เพราะเขาเป็นพระเอกคิวทองน้องใหม่มาแรง เรียกได้ว่าแซงทางโค้งรุ่นพี่ไปมากโข เนื่องจากบทที่ได้รับ ทำให้เขามีโอกาสโชว์ฝีมือการแสดงอย่างเต็มความสามารถ จึงไม่แปลกที่ใครต่อใครจะพากันดีอกดีใจที่ได้พบเจอกับเขาโดยบังเอิญ
ซึ่งผมเองก็เคยดูละครเรื่องแรกของเขาเหมือนกัน แต่ว่าจำชื่อของเขาไม่ได้ ครั้นเมื่อลูกค้าคนอื่นๆ พูดคุยกัน ผมก็ดันได้ยินแค่เพียงชื่อเล่น

แต่แล้วความสนใจของผม ก็ละจากพระเอกคนดังกล่าว เมื่อจู่ๆ ใบไม้ก็ดันร่วงหล่นลงบนโต๊ะ
และผมก็ได้ยินเสียงของการปลิดปลิวอย่างละมุนละม่อม

Cloud9
ยามที่ใบไม้ร่วงหล่น ผมมองเห็น ‘สีเทา’ อยู่ในม่านสายตา

ติ้ง!

Rafah
คุณอยู่ที่ร้านไอดินใช่ไหมครับ ?

Cloud9
ครับ

แม้ว่าผมจะตอบคำถามของเขาเพียงสั้นๆ แต่ปฏิกิริยาของผม กลับไม่ได้นิ่งงัน เพราะริมฝีปากกำลังวาดขึ้นเป็นรอยยิ้ม ขัดกับคำตอบรับ ที่ไม่สามารถแสดงความรู้สึกออกไปได้

ติ้ง!

Rafah
โชคดีจริงๆ ผมเองก็อยู่ที่นั่นเหมือนกัน


ในหัวของผม มีแต่คำว่า ‘บ้าไปแล้ว’ เพราะพระเอกคนดังกล่าว ที่มีชื่อเล่นว่า ‘ฟ้า’ ดันเป็นคนเดียวกับ ‘คุณระฟ้า’ ไปเสียนี่
ผมก็เลยทำตัวไม่ถูก..
แต่เขากลับวางตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติจนน่าทึ่ง

“ทีนี้เราก็ได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการสักทีเนอะ”

คุณระฟ้ากล่าวพลางฉีกยิ้มราวกับผมคือหนึ่งในกลุ่มแฟนคลับของเขาเสียอย่างนั้น หากแต่ผมกลับทำได้แค่เพียงสะดุ้งเฮือกอย่างตกใจกับอะไรบางอย่าง

“ผมระฟ้านะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก คุณ...”

พระเอกชื่อดัง กล่าวแนะนำตัว พลางยื่นมือออกมาตรงหน้า พร้อมกับส่งยิ้มอันเจิดจ้า จนสายตาของผมแทบจะพร่าเบลอ
แต่แล้วผมก็มองเห็นสีเขียวมรกตรายล้อมอยู่รอบกาย
เพราะในเวลานี้.. หัวใจของผมกำลังเต้น ตึก ตึก ตึก อย่างบ้าคลั่ง

“ปลายเมฆครับ”

เมื่อได้สติดีแล้ว ผมก็รีบกล่าวแนะนำตัว พร้อมกับยื่นมืออันสั่นเทาออกไปตรงหน้า พลางกระชับแน่นอย่างขาดสติ จนลืมคิดตริตรองว่าตัวเอง สามารถเอาตัวรอดจากเหตุการณ์สุ่มเสี่ยงของโรคหัวใจได้ง่ายๆ เพียงแค่นึกออกสักนิด ว่าการทักทายดังกล่าว มันคือวัฒนธรรมของฝรั่งตาน้ำข้าว
และกว่าผมจะนึกออก มันก็สายไปเสียแล้ว..

“ผมต้องไปแล้วล่ะครับ ถ้ายังไงพรุ่งนี้.. เราสองคนนัดทานข้าวเที่ยงที่ร้านนั้นกันดีไหม”

เจ้าของคำถามใช้ดวงตาคมกริบ ที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง มาคาดคั้นเอาคำตอบ จนผมจำต้องพยักหน้ารับเพียงน้อยๆ เพราะในเวลานี้ พูดตรงๆ ว่าผมก็ยังไม่อยากจะเชื่อ ว่าคุณระฟ้า คือพระเอกชื่อดังตรงหน้า เพราะแอคเคาน์อินสตาแกรมที่เขาใช้ ดูเหมือนจะเป็นแอคหลุมเสียอย่างนั้น

“ขอเบอร์ของคุณหน่อยสิครับ เผื่อจำเป็นต้องใช้”

และแล้วการแจกเบอร์ให้กับคนตรงหน้า ก็เป็นอีกครั้งที่ผมทำอะไรโดยขาดการไตร่ตรอง เพราะทันทีที่ได้สติ ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่า.. ที่ตั้งของร้านก๋วยเตี๋ยว ไม่ได้หายากเลยสักนิด อีกทั้งตัวร้านก็ไม่ได้ใหญ่โต จนถึงขนาดมีห้องอาหารอันลึกลับซับซ้อน
และร้านดังกล่าว ยังเป็นร้านประจำของเขาด้วย!

“เห้อ บ้าชะมัดเลยเรา”

ผมถอนหายใจ พลางอดบ่นกับตัวเองไม่ได้ เพราะในที่สุด การรับมือกับคุณระฟ้า ก็สิ้นสุดลง

และมันก็ถือว่าเป็นการยุติสัมผัส ที่เกิดจากน้ำเสียงของเขา

ซึ่งสัมผัสดังกล่าว มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับ ตัวเองกำลังถูกโอบกอดด้วยความรัก

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-10-2018 12:48:12 โดย Chomin »

ออฟไลน์ Chomin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +146/-1
Re: [เรื่องสั้น] Cloud9 Diary [จบ]
«ตอบ #2 เมื่อ03-10-2018 12:31:47 »

การได้พบเจอกับคุณระฟ้า ทำให้ผมเข้าใจตัวเองเพิ่มขึ้น ว่าอันที่จริงแล้ว ผมสามารถรับรู้อาการของซินเนสทีเซียได้ถึง 3 ประเภท

ซึ่งประเภทแรก ก็คือการรับรู้บุคลิกของตัวอักษร
ประเภทสอง ก็คือการเห็นเสียงเป็นสี
และประเภทสุดท้าย ก็คือการถูกสัมผัส เมื่อได้ยินเสียง

ดังนั้นช่วงเวลาที่ได้อยู่ใกล้ๆ เขา มันคือช่วงเวลาที่ผมมักจะวางตัวไม่ถูก เพราะปฏิกิริยาทางด้านซินเนสทิเซีย มันกลับเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน
โดยมีสาเหตุมาจาก..
เสียงพูดของเขา และเสียงหัวใจของตัวเอง

ซึ่งความรู้สึกแบบนี้ ผมมั่นใจว่ามันคือความประหม่า เพราะเขาเองก็เป็นดารานักแสดงชื่อดัง อีกทั้งสัมผัสอันอบอุ่นนั่น ก็ยังโอบล้อมอยู่รอบๆ ตัวผม
เนื่องจากเขา เอาแต่พูดทักทายอย่างเป็นธรรมชาติ

“กินก๋วยเตี๋ยวหรือเกาเหลาดีครับ”

“เอ่อ.. ผมเอาเกาเหลาเนื้อเปื่อยแล้วกันครับ”

ผมกล่าวอย่างตกประหม่า เพราะน้ำเสียงของเขา มักจะมาพร้อมกับสัมผัสอุ่นซ่าน ที่มันทำให้ผมรู้สึกหน้าร้อน และยังวางตัวไม่ถูก

“จริงๆ ผมกำลังศึกษาบทละครเรื่องใหม่อยู่ล่ะ โชคดีที่ได้เจออินสตาแกรมของคุณ”

คุณระฟ้าเปิดประเด็น พลางใช้น้ำเสียงเรียบเรื่อยอันเป็นธรรมชาติ ที่บรรดาแฟนคลับต่างพากันเคลิบเคลิ้ม แต่ผมกลับต้องมานั่งหน้าร้อน
เพราะน้ำเสียงอุ่นๆ แบบนั้น
กำลังโอบกอดผมไว้ ราวกับทะนุถนอมเสียเต็มประดา

“คุณแสดงเป็นคนที่เป็นซินเนสทีเซียหรือครับ ?”

“ใช่ครับ ผมเลยอยากจะเข้าใจมุมมองของเขาด้วย ถึงแม้ว่าความสามารถพิเศษในด้านนั้น จะไม่ได้ถูกถ่ายทอดออกมามากมายก็เถอะ แต่ผมก็ยังอยากจะศึกษาเอาไว้”

สิ้นคำอธิบายของเขา ผมก็เลือกส่งยิ้มกลับไป

เพราะว่าการพูดคุยต่อบทสนทนากับอีกฝ่าย มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ


“โรงเรียนดูเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะครับ”

หลังจากทานมื้อกลางวันจนอิ่มแปล้ เราสองคนก็พากันไประลึกความหลังในวัยเรียน เวลานี้.. คุณระฟ้าถึงได้มีโอกาสเพ่งพิจารณา พลางกล่าวสรุปอย่างตรงประเด็น ในระหว่างที่เราสองคนกำลังก้าวเดินไปตามเส้นทาง ที่เชื่อมกับประตูหน้าโรงเรียน อย่างไม่ต้องกังวล ว่าจะตากแดดจนผิวไหม้ เนื่องทางโรงเรียนได้มุงหลังคาเอาไว้ ตั้งแต่ตอนที่ผมยังเรียนอยู่ที่นี่

“นั่นสิครับ”

ผมกล่าวอย่างเห็นด้วย เมื่อฝั่งขวามือของเรานั้น เป็นสนามฟุตบอล ที่ในตอนนี้ อัฒจรรย์ที่เคยนั่งในช่วงเทศกาลกีฬาสี มีการสร้างแบบมุงหลังคาเอาไว้อย่างดิบดี ผิดกับตอนที่ผมเรียนอยู่ที่นี่ลิบลับ ส่วนฝั่งซ้ายมือ จำได้ว่าเป็นห้องเรียนดนตรีไทยกับห้องเรียนศิลปะ
ถัดไปอีกหน่อยจะเป็นสนามตะกร้อ และสนามบาส ส่วนขวามือจะเป็นพื้นที่เข้าแถวของระดับ ม.3 ส่วนตอน ม.4 ต้องย้ายไปเข้าแถวตรงข้างเสาธง และตอน ม.6 ก็ย้ายไปเข้าแถวตรงสนามวอลเล่

“อ่า.. ตรงนั้นที่ประจำของห้องผมตอนคาบโฮมรูมเลยนี่”

ผมกล่าวพลางชี้ไปยังถนนเส้นเล็ก ที่เชื่อมกับโรงเรียนประถมที่อยู่ข้างๆ กัน

“นั่นสิครับ ผมจำได้ว่าผม เคยเฝ้ามองคุณจากตรงนี้”

คุณระฟ้ากล่าวพลางเอี้ยวตัวไปทางด้านหลัง และชี้ไปยังบริเวณสนามวอลเล่ ซึ่งอยู่ทางฝั่งตรงกันข้าม กับพื้นที่ในคาบโฮมรูม

และคำพูดดังกล่าว..

มันก็ทำให้ผมมองเห็นสีเขียวมรกต

อีกทั้งยังรับรู้ได้ถึงสัมผัสอันแสนอบอุ่น ที่กำลังโอบล้อมอยู่รอบกาย

ชัดเจนยิ่งกว่าที่เคย..


ผมนอนไม่หลับ โดยมีสาเหตุมาจากคำพูดของพ่อพระเอกชื่อดัง ที่บ่งบอกเป็นนัยๆ ว่า เขารู้จักผมอยู่ก่อนแล้ว อีกทั้งยังเคยแอบมองอยู่ห่างๆ เสียด้วย

ถ้าอย่างนั้น การที่เขาขอเบอร์ผม ทั้งๆ ที่มันก็เป็นร้านประจำของเจ้าตัว จะมีเหตุผลอะไรไปได้

นอกจาก...

‘จีบ’

ตึก ตึก ตึก

เสียงการบีบรัดของหัวใจ ดังระรัวอย่างรวดเร็ว จนทำให้ผมมองเห็นสีเขียวมรกตอยู่ตรงตำแหน่งดังกล่าว

ครืด ครืด

ผมหันไปมองยังสีม่วงอ่อน อันเป็นสีของการสั่นไหวจากโทรศัพท์เครื่องเก่ง แต่เมื่อเห็นเป็นเบอร์ที่ไม่ได้เมมไว้ ผมก็ตัดสินใจไม่รับสาย เพราะถ้าหากเป็นเรื่องงาน ส่วนใหญ่จะโทรมาตอนกลางวัน และนี่ก็สี่ทุ่มกว่าแล้ว ผมจึงคิดว่าเบอร์ดังกล่าว คงจะมีใครสักคนโทรผิด หรือไม่ก็อาจจะโทรมาก่อกวน อย่างที่เคยพบเจอก็เป็นได้

Cloud9
ยามที่โทรศัพท์กำลังสั่นครืดคราด ผมมองเห็น ‘สีม่วงอ่อน’ ปรากฏอยู่ตรงโต๊ะข้างเตียง

หลังจากอัพเดตอินสตาแกรม ที่เดี๋ยวนี้ห่างหายจากกิจกรรมดังกล่าวไปนานพอสมควร ผมก็วางโทรศัพท์ไว้ตรงที่เดิม ก่อนจะล้มตัวลงนอน เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่นิทราอย่างใจหวัง

ติ้ง!

Rafah
พรุ่งนี้ไปปั่นจักรยานเล่นกันนะครับ ผมจะรอคุณที่ศาลาประชาคม

ผมอ่านทวนคำเชิญชวนของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ไม่ได้ตอบกลับไปแต่อย่างใด

เพราะในตอนนี้ผมกำลังฟุ้งซ่าน

เมื่อการกระทำของเขา มันกำลังย้ำเตือนกับผมว่า..

เขากำลัง ‘จีบ’ ผม

และผมก็วางตัวไม่ถูก เมื่อต้องอยู่ใกล้เขา


เช้าวันนี้ แทนที่ผมจะลุกขึ้นมาทำงาน ผมกลับเอาแต่นอนกลิ้งไปกลิ้งมาอย่างคิดไม่ตก ว่าจะเอายังไงกับนัดหมายของเขาดี เพราะในตอนนี้ ใจของผมกำลังแบ่งแยกออกเป็นสองฝ่าย

โดยฝ่ายหนึ่งบอกให้ไป และอีกฝ่ายหนึ่งกลับย้ำนักย้ำหนา ว่าอย่าไปเลย เพราะถ้าแกไป แกจะต้องเจอกับสถานการณ์ชวนใจสั่น ที่ผมเริ่มจะเข้าใจแล้วล่ะว่า คำพูดบางประโยคของเขา ในตอนที่อยู่โรงเรียนด้วยกัน 

มันทำให้ผม ‘หวั่นไหว’

“ใจง่ายชะมัดเลยเรา”

เมื่อสรุปอาการลนๆ ของตนเองได้ ผมก็ไม่พลาดที่จะบ่นตัวเองอีกสักหน่อย เหตุเพราะอันที่จริงแล้ว เราสองคนเพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่นาน แต่การได้รับรู้ว่าใครบางคน คอยแอบมองเราอยู่ มันก็ทำให้ในอกพองฟูได้ไม่ใช่เหรอ

ถ้าอย่างนั้น.. การที่ผมหวั่นไหว

ก็ไม่ใช่เพราะว่าผมใจง่ายสักหน่อย


“รอนานไหมครับ ?”

ผมเอ่ยถามเมื่อเดินทางมาจนถึงที่หมายแล้ว ฝ่ายเจ้าของนัด ก็ได้แต่ส่ายหน้าพลางอมยิ้มน้อยๆ ทำเอาผมไม่รู้สึกถึงความเป็นดาราดังของอีกฝ่ายเลย เพราะในตอนนี้ ภาพลักษณ์ของเขา ก็เป็นเพียงแค่ชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่ชอบทำกิจกรรมอันเรียบง่าย
อย่างเช่น ‘การปั่นจักรยาน’ ไปตามเส้นทางที่มีทุ่งนาขนาบข้าง

“ตอนเด็กๆ ผมเคยมาปั่นจักรยานเล่นกับคุณอา ตรงบ่อบำบัดน้ำด้วยล่ะ” ผมกล่าวพลางชี้ไปยังเส้นทางหนึ่ง ซึ่งเป็นทางเข้าบ่อบำบัดน้ำ หรืออะไรสักอย่างที่ผมเองก็เรียกไม่ถูกเหมือนกัน จำได้ว่าทางเข้าของมัน จะต้องผ่านกองขยะอันเหม็นฉึ่ง และวันดีคืนดี นกแร้งก็พากันอวดโฉมอย่างสง่างาม
แต่พวกมันกลับดูน่ากลัวในสายตาของผมเสียนี่

“ส่วนผม จะชอบปั่นไปเรื่อยๆ มีครั้งนึง เคยปั่นไปเจอคลองเล็กๆ ที่มีกอไผ่ใหญ่ๆ อยู่ตรงริมถนนด้วย”

“อ๋อ~ ตรงนั้นผมก็เคยปั่นผ่านเหมือนกัน”

ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ว่าการได้พูดคุยกับเขาในช่วงเวลาที่ยาวนานกว่าปกติ มันจะทำให้ผมรู้สึกคุ้นชิน จนทำให้การวางตัว ไม่เด๋อๆ ด๋าๆ เท่าคราแรก

แต่ไอ้สัมผัสราวกับโอบกอด ที่ผมกำลังเผชิญอยู่นี้

ให้ตายมันก็ยังไม่ชินสักที

ทำไมนะทำไม..

ทำไมถึงต้องมีปฏิกิริยาแค่เพราะน้ำเสียงของเขาด้วย!


ผมชอบเวลาที่ทุ่งนาเต็มไปด้วยต้นกล้าสีเขียวอ่อน เพราะมันทำให้รู้สึกสดชื่นยิ่งกว่าได้กินน้ำอัดลมเสียอีก

“ไกลเหมือนกันนะเนี่ย”

คุณระฟ้ากล่าว เมื่อในที่สุด เราสองคนก็พากันปั่นจักรยานผ่านทุ่งนา จนกระทั่งพบกับถนนคอนกรีตที่แต่ก่อนเคยเป็นดินรุงรัง จนมาถึงบ้านหลังหนึ่ง ท่าทางจะทำฟาร์มอะไรสักอย่าง ที่มีหมาดุมาก ปั่นจักรยานผ่านที ก็ถูกไล่กวดที
เล่นเอากว่าจะถึงที่หมาย ผมก็หอบแฮ่กๆ

หลังจากนั้น เราทั้งคู่ก็พากันนั่งคล่อมจักรยาน เพื่อมองน้ำคลองไหลลงจากที่สูงราวกับน้ำตกขนาดย่อม แต่แล้วความสนใจของผมก็ถูกดึงดูดด้วยเสียงดัง พึ่บๆ ของเจ้านกกระปูดตาแดง ที่กำลังบินไปเกาะกิ่งไม้ในระยะไม่ไกลนัก
ผมจึงตัดสินใจถ่ายรูปของมัน เพื่ออัพเดตอินสตาแกรมสักหน่อย

Cloud9
ยามที่นกกระปูดบินผ่าน ผมมองเห็น ‘สีเทาอ่อน’ อยู่ในอากาศ

“พรุ่งนี้..ผมต้องกลับกรุงเทพแล้วล่ะ”

สิ้นคำกล่าวของเขา ผมก็เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายจนเต็มตาได้เสียที เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมไม่เคยกล้ามองหน้าของเขาเลย

“ผมขอโทรหาคุณได้หรือเปล่า ?”


จำได้ว่า คำถามในเชิงขอติดต่อเป็นการส่วนตัว เป็นคำถามแรกที่ผมตอบออกไปด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบาและประหยัดคำพูด

เราทั้งคู่ จึงมีโอกาสได้พูดคุยกันแทบทุกคืน

หากแต่คืนนี้.. เหตุใดเจ้าโทรศัพท์เครื่องเก่งจึงนิ่งเงียบราวกับก้อนหินไปเสียได้!

“ถ่ายละครอยู่ล่ะมั้ง”

ผมสรุปคำตอบให้กับตัวเอง เพราะเมื่อสองวันก่อน พ่อพระเอกชื่อดัง เขาก็บอกไปแล้ว ว่าอาทิตย์นี้จะเริ่มถ่ายทำ ดังนั้นเวลาของเขาจึงไม่มากมายเท่ากับที่ผ่านมา เพราะในช่วงนั้น เขากำลังอยู่ในช่วงปิดกล้องละครเรื่องเก่า และกำลังศึกษาบทละครเรื่องใหม่ ก็เลยทำให้มีเวลาว่างมาพูดคุยกับผมได้

“ไม่ชินเลยแฮะ”

ผมบ่นกับตัวเอง เมื่อกิจกรรมที่ต้องทำก่อนนอน อย่างเช่น การคุยโทรศัพท์ หรือว่าการตอบคอมเมนต์ มันเริ่มจะห่างหายไป แต่แล้วผมก็หยุดคิดฟุ้งซ่าน และลุกขึ้นจากเตียง เพื่อลุยงานแปลของตัวเองต่อ

ซึ่งกว่าผมจะได้ฤกษ์เข้านอน

ก็ตอนที่คุณระฟ้าส่งข้อความมาอวยพรให้ ‘ฝันดี’


Cloud9
เวลาที่ผมดูละคร ผมมักจะรู้สึกว่าเพลงประกอบละคร มีสีสันสวยงาม

หลังจากลุยงานแปลจนเมื่อยขบ ผมก็เลือกนอนดูละครของคุณระฟ้า เป็นการพักสมอง ซึ่งเรื่องที่ผมเลือกดู ก็เป็นเรื่องที่ผมเคยดูไปแล้ว
เพราะผมกำลังเกิดความสงสัย เกี่ยวกับอะไรบางอย่าง ดังนั้นการเลือกดูละครของอีกฝ่าย จึงเป็นการค้นหาคำตอบที่แม่นยำ

ซึ่งผมก็ค้นพบว่า การได้ยินเสียงของคุณระฟ้าผ่านทางโทรศัพท์และโทรทัศน์ ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกราวกับถูกโอบกอด
และยังไม่สามารถรับรู้สีสันต่างๆ ได้

ครืด ครืด

“วันนี้เลิกกองแล้วเหรอครับ”

ผมเอ่ยถามทันทีที่ใครบางคน โทรมาขัดจังหวะการดูละคร

“ยังครับ ตอนนี้เป็นคิวของคนอื่น แต่ผมกำลังสงสัยเรื่องที่คุณอัพลงในอินสตราแกรมนิดหน่อย”

“อ้อ คือเวลาที่ได้ฟังเพลง ผมจะมองเห็นสีสันมากมาย อย่างเช่น สีฟ้า สีม่วง สีเทา สีดำ สีชมพู ผสมผสานเป็นภาพวาดศิลปะสวยๆ น่ะครับ”

“มหัศจรรย์ดีแฮะ แต่พี่ก็ยังนึกภาพไม่ออกอยู่ดี”

ชายหนุ่มจากปลายสาย กล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ราวกับต้องการจะพูดกับตัวเอง หากแต่ผมกลับได้ยินประโยคดังกล่าวอย่างชัดเจน

และคำว่า ‘พี่’ มันก็ทำให้ก้อนเนื้อในอกข้างซ้าย เต้นระรัวจนเกิดสีเขียวมรกต


“ครับ การได้เล่นละครเรื่องนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเอง กำลังได้รับโชคสองชั้น ชั้นแรกคือการได้รับโอกาสจากผู้หลักผู้ใหญ่ที่เอ็นดูเรา ส่วนชั้นที่สองคือการได้พบแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับบทละครที่ผมต้องเล่น ซึ่งมุมมองของคนที่เป็นซินเนสทีเซีย ค่อนข้างน่าทึ่งมากทีเดียว”

หลังจากได้ฟังบทสัมภาษณ์อันแอบแฝงความรู้สึกดีอกดีใจที่ได้เจอกันของพระเอกชื่อดัง ใบหน้าของผมก็เริ่มร้อนผะผ่าว ขณะที่ในอกก็สั่นรัวอย่างหวั่นไหว เพราะทุกวันนี้ อะไรหลายๆ อย่างมันก็ชัดเจนดีอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้สารภาพออกมาอย่างเป็นทางการก็เท่านั้น

ครืด ครืด

“เมฆใกล้จะนอนหรือยัง ?”

“ใกล้แล้วครับ แต่ก็คุยได้”

“เห้อ~ วันนี้เหนื่อยจัง..”

“ถ้าเหนื่อยก็รีบวางสายได้แล้วครับ เอาไว้คุยกันวันอื่นก็ได้”

“ไม่เอา”

ผมนอนอมยิ้ม เมื่อคุณพระเอกชื่อดัง กำลังงอแงผ่านทางปลายสาย

“เรามาคบกันดีไหม ไหนๆ ก็ทำตัวเหมือนคนคบกันอยู่แล้ว”

จู่ๆ อีกฝ่ายก็เอ่ยถามขึ้นมา อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอาผมนึกขำ เพราะมันเป็นการเอ่ยขออย่างเรียบง่าย ราวกับถามว่า วันนี้นอนหรือยัง

“อื้อ”

และในเมื่อเขาส่งคำถามมาอย่างเรียบง่าย ผมเองก็ตอบกลับไปอย่างเรียบง่ายเช่นกัน

“สงสัยคืนนี้ พี่คงจะฝันดีกว่าทุกคืนแน่ๆ เพราะเราได้คุยกันนานกว่าปกติ แถมยังเป็นแฟนกันแล้วด้วย”

“เหมือนฝันจริงๆ”

คนปลายสายเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ทำเอาผมเกิดความสงสัย

“ทำไมล่ะครับ ?”

“ก็ตั้งแต่เรียนจบมอปลาย เราสองคนก็เรียนกันคนละมหาลัย โอกาสจะได้ทำความรู้จักกันแบบจริงๆ จังๆ ก็เลยไม่มี แต่จะให้พี่เข้าไปทำความรู้จักตั้งแต่ที่รู้ตัวว่าชอบก็ไม่กล้า พี่ถึงได้ให้สัมภาษณ์ไปไงว่าการได้เล่นละครเรื่องนี้คือโชคสองชั้น เพราะใจจริง พี่คิดว่าเราสองคน คงจะไม่มีโอกาสได้กลับมาเจอกันอีกแล้ว”

หลังจากได้ฟังคำอธิบายอันแสนตรงไปตรงมาของพระเอกชื่อดังอย่างคุณระฟ้า ผมก็นิ่งเงียบไปสักพัก ก่อนจะเอื้อนเอ่ยอย่างแผ่วเบา..

“พี่ฟ้ารู้ไหม ตอนนี้ผมกำลังมองเห็นสีเขียวมรกต”

“หืม ? เสียงของพี่ก็มีสีด้วยเหรอ”

“เปล่าครับ แต่มันเป็นเพราะผมกำลังใจเต้นแรง แล้วทุกครั้งที่ใจเต้นแรง ผมก็มักจะเห็นสีเขียวมรกต”

“แล้วเวลาที่เราได้ยินเสียงใจเต้นแบบปกติล่ะ สีจะแตกต่างกันหรือเปล่า”

“ไม่ต่างครับ แต่จะเลือนรางกว่า”

“โลกของเมฆคงจะเต็มไปด้วยสีสัน แล้วก็เรื่องสนุกๆ ทั้งนั้นเลยเนอะ”

“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ”

ผมเอ่ยตอบอย่างไม่คิดจะขยายความใดๆ แม้ผมจะรู้ดีอยู่แก่ใจ ว่าการที่ความรู้สึกของเรามีพัฒนาการมากขึ้นเรื่อยๆ เราก็มักจะหวนคิดถึงช่วงเวลาหนึ่ง ที่ทำให้เรามีความสุข ซึ่งผมก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าความสามารถพิเศษพวกนั้น

มันทำให้รู้สึก ‘คิดถึง’ สัมผัสที่เกิดจากเสียงของอีกฝ่ายมากมายแค่ไหน

ซึ่งความรู้สึกแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องน่าสนุกเอาเสียเลย


“ผมว่าจะเข้ากรุงเทพไปทำธุระสักหน่อย”

“เมฆก็มาค้างที่คอนโดพี่สิ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยเดินทาง”

ผมอมยิ้ม เมื่อนึกไปถึงบทสนทนาล่าสุดที่เราสองคนเพิ่งจะคุยกัน ซึ่งใครบางคน คงจะไม่ทันได้รู้ตัว ว่ากำลังตกหลุมพรางของผมเข้าให้แล้ว

เพราะอันที่จริง ผมไม่ได้มีธุระที่ไหน

ก็แค่..

คิดถึง อยากเจอหน้า และอยากได้ยินเสียง ก็เท่านั้น..

“มีงานโฆษณาเยอะเลยแฮะ”

ผมพูดกับตัวเอง เมื่อเห็นภาพของคนในความคิดถึงติดอยู่ตามสถานีรถไฟฟ้าจนละลานตา

ครืด ครืด

“ครับ”

“เมฆมาถูกแน่นะ ?”

“แน่สิครับ”

“งั้นเอาเป็นว่า พี่ฝากคีย์การ์ดไว้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์นะ แล้ววันนี้กว่าพี่จะกลับก็คงจะดึกๆ เลย ยังไงก็ตามสบายแล้วกันนะเมฆ ไม่ต้องเกรงใจ”

“โอเคครับ ผมจะใช้ชีวิตให้เหมือนกับตอนอยู่ที่บ้านของตัวเองเลย”


กว่าผมจะเดินทางมาจนถึงคอนโดของพี่ระฟ้า ก็เล่นเอาแทบหมดแรง เพราะแดดมันร้อนจนทำเอาร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย ดังนั้นผมจึงรีบทำตัวสบายๆ ตามที่อีกคนสั่งไว้

“หลับซะแล้ว”

ผมสะดุ้งตื่นอย่างตกใจ เมื่อจู่ๆ ก็ถูกสัมผัสราวกับโอบกอด แต่พอลืมตามองเห็นภาพของเจ้าของห้อง ผมก็ส่งยิ้มกลับไปให้

“โทษทีที่ทำให้ตกใจตื่น เมฆนอนต่อเถอะ พี่ก็จะไปอาบน้ำแล้วเหมือนกัน”

ผมส่งยิ้มบางๆ ตอบกลับไป จากนั้นผมก็เริ่มจะเคลิ้มหลับ เพราะอีกฝ่ายกลับมาดึกอย่างที่บอกไว้

“คิดถึง”

กระทั่งเจ้าของห้องจัดการกับตัวเองเสร็จ พื้นที่ทางฝั่งซ้ายก็ยวบลง จากนั้นก็ตามมาน้ำเสียงทุ้มนุ่ม ที่มักจะมาพร้อมกับสัมผัสอบอุ่นราวกับตกอยู่ในอ้อมกอดของอีกฝ่าย หากแต่ครานี้ มันไม่ใช่แค่เพียงการรับรู้อันเป็นจุดเด่นของซินเนสทีเซีย

เพราะผมกำลังถูกโอบกอดจากใครบางคน

และอ้อมกอดนั้น ก็ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นยิ่งกว่าสัมผัสที่เคยได้รับ

“ฝันดีนะเมฆ”

“ฝันดีเหมือนกันครับพี่ฟ้า”

ผมเอี้ยวตัวไปข้างหลัง เพื่ออวยพรให้อีกฝ่าย จึงทำให้รับรู้ว่ามันเป็นการกระทำที่ผิดมหันต์
เพราะในเวลานี้ ใบหน้าของเราอยู่ใกล้กันมาก

และมันก็มากพอที่จะทำให้โฟกัสทางสายตาพร่าเบลอ..

อีกทั้งยังทำให้เกิดอารมณ์หวามไหว จนชักพาให้ริมฝีปากของอีกฝ่าย แต้มจูบแรกระหว่างกันเป็นการรับขวัญ

หลังจากนั้น ‘ความสุข’ ก็คละคลุ้งไปทั่วอก จนกลายเป็นสีเขียวมรกต

เพราะสำหรับผมแล้ว ‘พี่ฟ้า’ ก็คือ ‘Cloud9’ ที่ผมใฝ่หา..

ซึ่งคำว่า ‘Cloud9’ ในความหมายของผม ก็คือคนที่ทำให้ผม มีความสุขแบบสุดๆ

❦ The end ❦

พอดีเราอัพทางโทรศัพท์ ถ้าหากจัดหน้าอ่านยาก เราจะมาแก้อีกครั้งเมื่อได้โน๊ตบุ๊กแล้วนะคะ สำหรับเรื่องนี้เราอยากเสนอมุมมองของคนเป็นซินเนสทีเซียดูค่ะ หวังว่าจะชอบกันนะ

แวะมาเพิ่มแหล่งข้อมูลอ้างอิงเล็กน้อย เผื่อหลายๆ คนมาอ่านแล้วอาจจะยังมองภาพไม่ออก
http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2009/04/X7707655/X7707655.html

วนอันนี้เป็นสีต่างๆ ที่คุณ Melissa McCracken มองเห็นจากเพลงที่ได้ฟัง
https://www.catdumb.com/synesthesia/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-10-2018 13:42:24 โดย Chomin »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: [เรื่องสั้น] Cloud9 Diary [จบ]
«ตอบ #3 เมื่อ03-10-2018 17:48:44 »

ดีงาม..มมมมมม   :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
Re: [เรื่องสั้น] Cloud9 Diary [จบ]
«ตอบ #4 เมื่อ11-10-2018 23:16:56 »

งื้อ เขิน
บรรยายดีจนรู้สึกไปด้วยเลยค่ะ

 :pig4:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: [เรื่องสั้น] Cloud9 Diary [จบ]
«ตอบ #5 เมื่อ12-10-2018 15:40:24 »

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ MinorMa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
Re: [เรื่องสั้น] Cloud9 Diary [จบ]
«ตอบ #6 เมื่อ13-10-2018 23:23:34 »

น่ารักอบอุ่นมาก ความรักไม่จำเป็นต้องหวืดหวาก็ได้เนอะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด