19
ทันทีที่ร่างสูงวัยของใครอีกคนเปิดประตูเข้ามา หยางอี้ดึงให้ผมอยู่ด้านหลังทันทีผมกุมชายเสื้อคนตัวสูงแน่นแม้จะบอกว่าไม่คิดอะไรแต่ว่าผมก็ไม่ได้คิดว่าจะได้เจอหน้ากันเร็วแบบนี้ที่คิดไว้ผมแค่จะมาเจอพี่รันแค่นั้นแต่เมื่อเห็นว่าทั้งหยางอี้และพี่รันต่างยืนอยู่ข้างผม
“ผมไม่ได้มายุยงอะไรพี่รัน ถ้าจะพูดให้ถูกผมมาช่วยพี่รันต่างหาก” ผมตอบกลับไปคนที่ดีแต่ทำให้ลูกชายตัวเองเดือดร้อนนะไม่มีสิทธิที่จะมาว่าผมหรอกนะ
“ไอ้เด็กเหลือขออย่างแกจะช่วยใครได้” น้ำเสียงเย่อหยิ่งและดูถูกถ้าหากเป็นเมื่อก่อน ผมคงได้แต่ก้มหน้าไม่ยอมตอบโต้แต่ตอนนี้ผมกับเขาไม่เกี่ยวข้องกันอีกแล้วและผมมีคนที่คอยปกป้องอีกด้วย ผมขยับขึ้นไปยืนข้างๆคนตัวสูงที่หันมามองด้วยความแปลกใจทำท่าว่าจะถามอะไรแต่ผมกลับกุมมือใหญ่ไว้พร้อมกับหันไปยิ้มให้ ท่าทางสนิทสนมอยู่ในสายตาคนเป็นพี่และคนที่บุกเข้ามา
“พวกวิปริต”
“พวกผมไม่ได้วิปริต และก็คงดีกว่าคนที่ผลาญเงินและทำให้ลูกชายตัวเองลำบาก” ผมสวนกลับไปทันที พอได้ยินผมว่าจี้ใจดำคนคนนั้นก็เหมือนเลือดขึ้นหน้าพุ่งเข้ามาพร้อมกับยกมือขึ้นหมายที่จะตบผม
หมับ!!
“อย่าคิดจะแตะต้องริน” น้ำเสียงเย็นที่ผมไม่ได้ยินมานานพร้อมกับความกดดันที่แผ่ออกมาพี่รันถึงกลับขยับถอยห่างทั้งห้องมีเพียงเสียงร้องโอดโอยของคนที่ได้ชื่อว่าพ่อ
“พี่ปล่อยเถอะครับ รินไม่เป็นไร” ผมจับมือหยางอี้พร้อมกับยิ้มให้ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมที่จะทำตามแต่ก็ยังไม่สายผลักคนคนนั้นออก
“แกทำร้ายฉัน ฉันจะแจ้งความจับแก ไอ้รันทำไมไม่ช่วยพ่อ” ผมได้แต่ถอนหายใจกับอาการโวยวายของคนตรงหน้า
“คุณควรรู้ตัวได้แล้วนะว่าทำอะไรไว้บ้าง ครั้งที่แล้วที่ผมช่วยก็เพราะจะตัดความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพวกคุณ กับอีกอย่างเพราะผมอยากจะทำให้คุณรู้ว่าคนอย่างผมทำอะไรได้มากกว่าที่คุณดูถูก” ผมเว้นช่วงสักพัก “แต่ดูเหมือนคุณก็ไม่รู้ตัวเลย เงินที่ผมจ่ายไปให้คุณก็เอาไปลงที่บ่อนกับพวกผู้หญิงรุ่นลูก” ดวงตาชราเบิกกว้างเพราะไม่คิดว่าไอ้เด็กเหลือขอที่เขาเคยปรามาสไว้จะรู้เรื่องราวขนาดนี้
“เรื่องที่คุณให้เพื่อนมาร่วมหุ้นแล้วเอาเงินไปใช้ยังไม่เท่าไหร่แต่ที่คุณปั่นป่วนบริษัทโดยการเอาเงินไปใช้จนทำให้ขาดสภาพคล่องทั้งๆที่ผมให้แอบชดเชยให้ไปแล้ว” พี่รันทำหน้าตกใจแต่กับคนที่ยังนั่งหน้าซีดตอนนี้หน้ายิ่งซีดลงกว่าเดิม ผมมองคนตรงหน้าอย่างเย็นชาและไม่รู้สึกอะไรคนคนนี้ถูกพี่ชายเขาตามใจไปมากเลยทีเดียว
“พี่รัน รินจะมาร่วมหุ้นด้วยแต่ถึงจะร่วมหุ้นแต่เงินที่รินเอาเข้ามาช่วยพี่รันต้องใช้คืนทีหลัง”
“แล้วรินเอาเงินมาแต่ไหนเยอะแยะ” ที่พี่รันถามผมดูออกว่าไม่ได้ถามเพราะอยากรู้อยากเห็นแต่ถามด้วยความเป็นห่วงแต่ก่อนที่จะตอบก็มีคนตอบให้เสียก่อน
“ทรัพย์สินของรินตอนนี้มีมากกว่าที่คุณคิดและด้วยฝีมือของน้องต่อให้ไม่ทำอะไรก็มีกินมีใช้” อันนี้หยางอี้ไม่ได้ไม่ได้พูดเกินจริงถึงจะยกคาสิโนให้เฮียหลงจัดการแต่เงินที่ผมเป็นหุ้นส่วนใหญ่ก็ไม่ได้น้อยเลยซักนิด
“ไม่ต้องห่วงรินหรอกครับไว้รินจะส่งทนายมาล่ะกัน รินต้องไปแล้ว” เพราะไม่อยากอยู่ใช้อากาศร่วมกับคนโลภไม่รู้จักพอปล่อยให้พี่รันจัดการไปแล้วกันตอนนี้ผมเริ่มหิวแล้ว ยกมือไหว้พี่รันแล้วจูงมือหยางอี้ไปยังลานจอดรถ
“อยากกอดพี่ไหม” พอขึ้นรถคำถามแรกจากปากคนที่เงียบมาโดยตลอดไม่ใช่เรื่องที่ผมทำลงไป พอผมหันไปมองคนตัวโตก็อ้าแขนออกผมก็ขยับเข้าไปกอดเอวสอบซุกหน้าลงกับอกกว้างมือใหญ่ลูบหลังผมเบาๆปล่อยความเงียบเคลื่อนผ่านจนกระทั่งมาถึงร้านอาหารผมถึงผละออก ผมเดินเคียงร่างสูงพร้อมกับคนติดตาม
“ไอ้หยางงงง” ผมได้ยินเสียงถอนหายใจอย่างเบือหน่ายจากคนข้างๆ คนที่ร้องตะโกนลั่นอย่างไม่เกรงสายตาใครคือเพื่อนของหยางอี้ คนที่ผมเคยเห็นเมื่อตอนโดนจับมา พี่ชินคนนั้นนั่นเอง
“อย่าคิดจะมากอดกูเลยนะ” ผมแอบขำเมื่อพี่ชินทำท่าจะพุ่งเข้ามากอดแต่โดนหยางอี้ยกเท้าขึ้นมากันไว้พอดี
“มึง... กูไม่กอดมึงก็ได้ น้องริน”
เกร๊ก
เหมือนได้ยินเสียงลั่นไก ผมที่ยืนอยู่ข้างๆหันไปมองส่วนพี่ชินจากที่จะพุ่งเข้ามากอดกลับกระโดดถอยห่างไปเป็นวา
“มะ...มึงกูเพื่อนมึงนะ”
“เพราะมึงเป็นเพื่อนกูนะสิถ้าคนอื่นกูเปาดับไปแล้ว อย่าคิดแตะน้อง” ให้ตายเถอะคนนี้จะทำให้ผมใจเต้นเกินไปแล้ว ผมขยับเข้าไปชิดพร้อมกับยกมือลูบต้นแขนใหญ่เบาๆเพื่อที่จะให้คนตัวโตใจเย็นๆ พี่ชินยืนกอดอกเบ้ปากด้วยหมั่นไส้ ตอนโน้นแม่งจับตัวเขามาทีตอนนี้ล่ะน้องอย่างนั้นน้องอย่างนี้ อยากจะแหมยาวไปถึงดาวอังคาร
“เออๆ แม่งไปกินข้าวเถอะกูให้เด็กจัดห้องไว้ให้แล้ว”
“เอ่อสวัสดีครับพี่ชิน” เพราะทั้งสองคนมัวแต่เล่นผมเลยหาโอกาสที่จะทักทายคนตรงหน้าไม่ได้สักที
“ดีครับ พี่เตรียมของอร่อยๆไว้รอน้องรินเลยนะ” เหมือนพี่ชินจะสนุก สนุกกับการที่ได้กวนเพื่อนตัวเอง
เดินตามพี่ชินจนมาถึงห้องส่วนตัวพอทุกคนนั่งเรียบร้อยอาหารก็ถูกยกเข้ามาเสิร์ฟ หลายอย่างเป็นอาหารไทยที่ผมชอบไม่ต้องเดาให้ยากเลยว่าใครเป็นคนจัดการนอกจากคนที่นั่งข้างๆ
“รินนั่งทานไปก่อนเลยนะ พี่ออกไปคุยงานข้างนอกครู่หนึ่ง” นั่งทานไปได้สักพักคนตัวโตก็ลากพี่นิวออกไปข้างนอกเหลือเพียงลูกน้องอีกคนกับพี่ชินที่ขยับมาใกล้ผมทันทีที่หยางอี้เดินออกไป
“กับไอ้หยางนี่ยังไงกันครับน้องริน” สายตาที่มองมาส่งสายตาอยากรู้อยากเห็นอย่างไม่ปิดบัง
“ก็ไม่ยังไงครับ”
“โถ่ไม่สนุกเลย บอกพี่หน่อยไม่ได้เหรอ” จะให้บอกอะไรกันเพราะสิ่งที่พี่ชินถามผมก็ยังไม่รู้เลยว่ามันอยู่ตรงไหน เพราะมันก็ยังไม่ชัดเจนระหว่างผมกับหยางอี้ ผมได้แต่ส่งยิ้มจางๆให้พี่ชิน
“นี่พี่มีอะไรให้รินชิม” บอกเสร็จพี่ชินก็ยกมือเรียกพนักงานมาและกระซิบสั่งเบาๆ พอผมถามก็ไม่ยอมตอบว่ามันคืออะไร แก้วไวน์ทรงสูงถูกยกเข้ามาเสิร์ฟ
“อะไรอ่ะ ผมไม่กินนะพี่ชิน”
“ไม่ใช่ไวน์หรอกน่าลองชิมดูอร่อยนะ” เพราะแรงคะยันคะยอหรือเพราะกลิ่นผลไม้และดอกไม้อ่อนๆที่ชวนให้ลิ้มลองทำให้ผมยกแก้วน้ำขึ้นจิบ รสหวานอมเปรี้ยวที่ไม่มีแอลกอฮอล์กับกลิ่นดอกไม้อ่อนๆที่หอมขึ้นแตะจมูกทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะจิบขึ้นอีกหลายๆคำ พอหมดแก้วพี่ชินก็ส่งมาให้อีกแก้ว จนตอนนี้ข้างหน้าผมเต็มไปด้วยแก้วไวน์
อือ
ไหนว่าไม่มีแอลกอฮอล์ไงแต่ทำไมผมรู้สึกมึนหัวแบบนี้นะ
“อือ..”
ปัง!!
“ไอ้ชิน มึงทำอะไรน้อง” หยางอี้ที่ได้รับรายงานจากลูกน้องว่าน้องถูกไอ้เพื่อนซี้หลอกให้ทดลองเครื่องดื่มใหม่ กว่าจะปลีกตัวออกมาได้ น้องก็นั่งหน้าแดงตัวเอนไปเอนมาเรียบร้อย
“อะไรก็น้องอยากกินเองนะเว้ยกูไม่เกี่ยว”
“ไอ้สะ...” ผมที่กำลังด่าไอ้คนที่กำลังจะหนีออกจากห้องต้องกลืนคำด่าลงคอเมื่อน้องเอนตัวมาชิดแล้วยกมือกอดเอวซุกหน้าลงกับหน้าท้องแล้วถูไถเบาๆ
“อือ..เสียงดังอ่ะ พี่...รินง่วง” ใครไม่ตายแต่ผมตายครับฉากนี้ น้องเงยหน้าขึ้นทั้งๆที่ซุกหน้าท้องผมอยู่ดวงตากลมฉ่ำวาวไปด้วยน้ำใสเพราะอาการมึนหัว
“ง่วงเหรอครับ”
“อือ รินมึนหัวด้วยอ่า” ปกติน้องก็น่ารักอยู่แล้วพอเมาแล้วในหัวผมมีแต่คำว่าน่ารักๆวนไปมา
“งั้นกลับเลยไหมครับ” แงะมือน้องออกจากเอวแล้วนั่งลงให้เสมอกัน น้องทำหน้ายู่เมื่อไม่ได้ซุกผม
“แต่รินอยากกินอีก”
“พอแล้วครับน้องเมาแล้วนะ” เด็กดื้อส่ายหน้าไปมาทำหน้าขัดใจงอแงอยากจะกินไอ้เครื่องดื่มของชิน
“น้องไม่เมา รินจะกิน”
“งั้นไปกินที่ห้องนะครับ”
“อืออออ เอาเยอะๆนะ” ตอนนี้ต่อให้น้องเรียกร้องอยากได้อะไรผมก็จะหามาให้ ทำไมเมาแล้วน่ารักแบบนี้นะ น้องยิ้มกว้างจนตาหยี โน้มมากอดผมทั้งตัวยังดีที่ผมตั้งตัวทันไม่อย่างนั้นล้มไปทั้งคู่แน่ๆ กอดยังไม่เท่าไหร่แต่ใบหน้าเล็กที่ซุกซอกคอเขาแถมกลิ่นหอมดอกไม้และผลไม้จากเครื่องดื่มนั่นแทบทำให้ผมขาดสติ
“เฮ้ๆอย่ามากดกันตรงนี้นะเว้ย”
“หุบปากมึงไปเลยไอ้ชิน กูจะคิดบัญชีทีหลัง” ผมอุ้มน้องขึ้นแนบอกเจ้าตัวก็ให้ความร่วมมือซุกหน้าลงกับซอกคอมือคล้องแน่น ปากบางพึมพำไม่ได้ศัพท์ จับใจความไม่ได้ได้ยินเพียงชื่อผมลางๆ ขายาวก้าวไปยังรถแล้วสั่งให้นิวรีบขับกลับยังที่พัก เมาขนาดนี้พรุ่งนี้ต้องเมาค้างแน่ๆ
“อือมึน รินมึนอ่า”
“ครับเด็กดี นั่งนิ่งๆนะ” ผมโอบเอวบางให้อยู่นิ่งๆอีกข้างก็กดหัวทุยให้ซบบนอก แต่เหมือนน้องจะไม่ยอมพยายามส่ายหัวดิ้นลงจากตักคงเพราะมึนหัว
“ถ้ามึนก็นอนก่อนนะ”ผมลูบหลังกล่อมคนตัวเล็กพร้อมกับกอดน้องแน่นเพราะรู้ถึงนิสัยน้องดี มือเล็กกำเสื้อผมแน่นไม่นานก็หลับไป คอยดูนะบัญชีนี้จะเก็บย้อนหลังทีเดียวฝากไว้ก่อนเถอะไอ้ชิน พอมาถึงที่พักผมก็อุ้มน้องขึ้นห้องค่อยๆวางลงบนเตียง
ผมลุกไปหยิบผ้าขนหนูชุบน้ำค่อยๆมาเช็ดตัว ขณะที่เช็ดไปผมต้องคิดเรื่องต่างๆพยายามไม่โฟกัสกับผิวเนียนที่แดงเรือไปทั้งตัวให้ตายเถอะน้องจะต้องขอบคุณเขาที่มีความอดทนขนาดนี้หลังจากเช็ดตัวก็ใส่ชุดนอนให้เรียบร้อย ไม่เคยดูแลใครขนาดนี้แต่เมื่อมองใบหน้าเล็กๆที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ ผมก็เต็มใจ
“เมาได้น่ารักนะเรา” ผมนั่งลงข้างๆกดจมูกลงกับหน้าผากเนียนแล้วลุกขึ้นเพื่อที่จะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
หมับ
“งือ ไม่เอา...อยู่กับรินนะ”
ครับไม่ต้องไปไหนแล้วแค่น้ำเสียงอ้อนๆนั่นผมก็ไม่ไปไหนแล้วนี่ยังคว้าเสื้อผมไว้ทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ ผมถอดเสื้อนอกออกพร้อมกับขยับตัวขึ้นไปนอนข้างๆคว้าตัวบางเข้ามากอด แผนที่จะทำในวันนี้คงต้องยกเลิกแล้วล่ะ ปล่อยให้น้องนอนกอดนอนซุกจนเผลอหลับไปด้วยกัน
.
.
ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกชาไปครึ่งแถบพอหันไปมองเวลาก็เห็นว่าล่วงเลยเข้าสู่เช้าวันใหม่แล้วและสิ่งที่ทำให้ผมตัวชาก็คือร่างบางที่นอนเกยทับผมอยู่ครึ่งตัวจะให้ไม่ชาได้ยังไงล่ะ วันนี้ต้องเดินทางตอนเก้าโมงเช้าผมเลยต้องปลุกให้น้องตื่น
“ริน ตื่นได้แล้วครับ”
“อืออ ปวดหัว” เสียงแหบพร่าของน้องทำให้ผมต้องคิ้วขมวดคนไม่เคยดื่มอาจจะไม่สบายได้
“ปวดหัวมากไหมครับ เดี๋ยวพี่จะให้คนหาน้ำขิงมาให้ทาน”
“ไม่เอารินไม่กินน้ำขิง”เจ้าตัวยุ่งทำท่างอแงส่ายหน้าไปมาบนตัวผม
“งั้นลุกไปล้างหน้าล้างตาก่อนดีไหมครับ” เจ้าตัวพยักหน้าแต่ก็ยังนอนเกยผมอยู่สักพักก่อนที่จะค่อยๆลุกขึ้นนั่งหัวฟูใบหน้ายับยู่ยี่
“ลุกไหวไหมครับ”
“ครับ” เมื่อเห็นว่าน้องไหวผมเลยเดินออกไปข้างนอกไปที่ครัวก็เห็นนมเตรียมน้ำขิงและอาหารเช้าไว้เรียบร้อยแล้ว
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณหยาง”
“อรุณสวัสดิ์ครับ น้องคงเมาค้าง”
“รายนั้นเคยทานเสียที่ไหนล่ะคะ นมถึงได้เตรียมน้ำขิงไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ” ผมขอบคุณนมพร้อมกับนั่งรอน้องก็เดินออกมาใบหน้าขาวซีดหมดแล้ว ไอ้ชินคอยดูเขาจะคิดบัญชีเอาคืนให้เข็ด
“ไหวไหมครับ” เดินเข้าไปจูงมือเล็กที่อุณหภูมิร้อนกว่าปกติ
“ไหวครับแค่มึนๆ หิวแล้วล่ะครับ” คงจะเป็นผมที่คิดมากไปเองพอพาน้องไปนั่งทานข้าวบังคับน้องให้จิบน้ำขิงหน้าซีดๆถึงค่อยมีเลือดฝาด ผมให้น้องนั่งพักส่วนตัวเองก็ไปเก็บของส่วนเรื่องบริษัทผมก็ส่งทนายไปจัดการแทนแล้วน้องจะได้ไปเที่ยวโดยไม่ต้องพะวงอะไรอีก และเหมือนเจ้าตัวจะลืมไปแล้วว่าจะทำอะไรหรือไม่ก็แฮงค์มากจนไม่อยากจะสนใจ
“ไหวไหมครับ เดี๋ยวถึงโน้นค่อยพักยาวๆนะ”
“อือ...รินไม่ไหวแล้ว” เจ้าตัวว่าแค่นั้นก่อนที่จะซบกับไหล่ผมแล้วหลับไปตั้งแต่เครื่องยังไม่ขึ้น อ่า..น่ารักจังเลยน้า ผมจะทนได้สักกี่ครั้งเชียว
******************************************************
โอ๊ยยเกลียดดด คนอะไรหลงได้น่าหมั่นไส้มาก
อ่านแล้วเป็นไงบอกเราด้วยนะคะ
อย่าลืมคอมเม้นต์ กดติดตาม กดถูกใจให้ด้วยนะคะ
miikii : นางหลงมากกกกกกก ตามใจหนักมากกก
กาแฟมั้ยฮะจ้าว :
fc_fic :
Billie :