#1
มันเป็นวันที่อากาศร้อนมากอ่ะ ....
ฉันกึ่งเดินกึ่งวิ่งจากสถานีรถไฟฟ้าสยาม เสียบหูฟังสีขาวที่ซื้อมาจากไดโซ(ละเอียดมากค่ะ) ในมือถือโทรศัพท์พลางค่อยๆเลือกเพลงประกอบการเดินในเช้านี้ไปคณะ วันนี้ร้อนจัง ฉันคิด พร้อมเอามือเลื่อนขึ้นเลื่อนลงเลือกเพลงไปมาแล้วมาจบที่ I believe ( japanese version ) ของคุณแม่ ทาทายัง !! เพลงนี้แล้วกัน ฉันไม่ลืมตั้งค่าให้มันเล่นวนไปอย่างนั้น (เป็นคนย้ำคิดย้ำทำและชอบอะไรก็จะฟังจะดูจะอ่านไปซ้ำๆอยู่แบบนั้นได้เป็นปีๆ) เย็นนี้สงสัยฝนจะตก ... ไม่รู้ว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น ฉันมองเข้าไปในไดโซแล้วถามตัวเองว่า เราควรจะซื้อร่มไปตั้งแต่ตอนนี้เลยป่ะ ? แต่เมื่อภาพร่มสีขาวใส กระจายอยู่เต็มห้องนับไปมาในหัวได้ไม่ต่ำกว่าสิบคัน ฉันยักไหล่ให้ตัวเองเดินผ่านไปอย่างเร็ว ตกก็ตกสิ ตกค่อยวิ่งมาซื้อแล้วกัน
ฉันเดินมาจนถึงประตู มหาวิทยาลัย ข้ามถนนเล็กๆหน้าคณะ เดินเข้ามายังลานกว้างๆ"หน้าบ้าน” เราเรียกลานกว้างๆหน้าคณะเราว่าหน้าบ้าน ( นั่ลลัคอ่ะ ) กวาดตาหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ยังไม่เห็นใคร ก็ก้มลงดูนาฬิกาตัวเอง นี่เก้าโมงจะครึ่งแล้วนะ ทำไมยังไม่มากันอีก ...
อีโบ้ท ... ( เสียงมันต้องดังเบอร์ไหน ใส่หูฟังอยู่ ยังได้ยินเสียงมันเรียก ) ฉันหันหลังไปตามเสียงเรียกนั้น อ่าว ก็มากันครบแล้วนี่
“ก็มองหาอยู่ ทำไมมานั่งตรงนี้” ฉันร้องทักกลุ่มเพื่อน รุ่นพี่มักจะเรียกพวกเราทั้งหมดว่า แสนแสบ เคยมีพี่คนนึงบอกว่า พวกเอ็งอ่ะมันแสบ แสบแล้วก็เหม็นเหมือนน้ำในคลอง ( เกี่ยวไรกันวะพี่ ) แต่พวกเราก็ดูเหมือนจะภูมิใจกับชื่อนี้มาก มากถึงขนาดเอามาตั้งชื่อ LINE GROUP ว่า “แสนแสบ” นั้นแหละ
“หยุดเห่า แล้วนั่ง” นังต่ายรีบดึงแขนฉันลงไปนั่งที่เก้าอี้ พร้อมทำหน้าตา กรุ่มกริ่ม ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“มึงสิเห่า อีสากกระบือ” แรงมาแรงกลับ ไม่โกง
“แรวงงงงงงงง” พีน่าร้องรับ เปะปากเป็น พีทาโกรัสคว่ำ กรอกตาเป็น ฆ แล้วพูดต่อว่า “ใจเย็นก่อนค่ะ สีกา”
“เอ้า ก็พวกมึง มีอะไรกัน ทำไมมาถึงแล้วเปลี่ยนที่นั่งก็ไม่บอกกู” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“เงียบ อีเชื้อโรค ถ้ามึงอ่าน LINE กลุ่ม มึงจะไม่ โกรธา” แฮงค์พูดขึ้น ทั้งๆที่สายตาของมันยังไม่ละจาก โทรศัพท์มือถือที่มันถือไว้
“อะไรวะ” ฉันขมวดคิ้วพลาง ก้มลงเปิดไลน์อ่าน อืม มันพิมพ์บอกกันมาแล้วจริงๆ
"มาแล้วพวกมึงงงงงงงงงงงงงง” พีน่าตะเบ็งเสียงขึ้น พลางเบิกตาส่งสัญญาน
“ไหน อะไร ใครมา” ฉันหันไปตามทางที่พีน่าหันไป เห็นนิสิตปีหนึ่งแต่งตัวเรียบร้อยเดินเรียงแถวกันมาจากฝั่งโขง (มหาวิทยาลัยเราใหญ่ มีหลายฝั่งหลายโซน คณะเราอยู่ฝั่งแผ่นดินใหญ่(ตั้งเอง) ด้านหลังเป็นฝั่งทะเล(ก็ตั้งเองอีก) ด้านหน้าลึกเข้าไปมีหลายคณะเหมือนกันแต่ไกลมากเรียกฝั่งโขง(ตั้งเอง) อ่ะค่ะ)
“นั่นปีหนึ่งแน่หรอวะ” แฮงค์พูดขึ้น พร้อมขยับแว่นไปมา
“เออ ทำไมพวกนางดู ... เจริญวัย” ต่ายสมทบ
“ตกลงพวกมึงย้ายโต๊ะมานั่งหน้าบ้าน เพราะจะมาส่องเด็กปี1” ฉันร้องถาม
“สิยะ” ประสานเสียงตอบ ... เออ เจริญ
“ฉันว่าขาน้องผู้หญิงคนนั้น ใหญ่กว่าหัวฉันอีกนะ” ฉันพูดขึ้น
“แต่แขนน้องผู้ชายคนนั้นใหญ่มากกกกกก และแซ่บเว่อร์” พีน่าพูดแบบไม่เว้นช่องไฟ
“จ้องอะไรกันตาเป็นมันเลยนะพวกมึง” เจ็ท ลี่ บอย เดินมาทำหน้าตาสงสัย
“มึงอ่านไลน์กลุ่มหรือยัง” แฮงค์ถาม
“แล้วสิ” เจ็ทตอบ "เดินคุยกับ ลี่กับบอย มาอยู่เนี่ย ว่ามันอะไรก๊านนนนนนนนนนนนนนน"
“ก็นั่งลง ฉิ่งจั้วเชี่ย แล้วดูเงียบๆ” แฮงค์พูดพร้อมเขยิบให้สมาชิกอีกสามคนมานั่งข้างๆ
— ครบองค์แล้วค่ะ “แสนแสบ”หรือ 7 speed wonders --
“ตกลงพวกมึงดูอะไรกันอ่ะ” บอยถามขึ้นอีก
“กูไม่รู้กูเพิ่งมาถึงมันก็ให้กูนั่งแล้วมองไปกับมัน” ฉันตอบ พลางชะเง้อมองยืดตัวขึ้นแล้วพูดต่อว่า
“อ๋อ พวกวิทย์กีฬาน่ะมึง พวกนางเลยดูเจริญวัย ใหญ่โต”
“มึงรู้ได้ไงว่าวิทย์กีฬา” พีน่าพูดขึ้นแต่ฉันยังไม่ได้ตอบ แล้วนางก็พูดขึ้นเองว่า “มึงวิทย์กีฬาจริงๆดูธงท้ายแถวสิ”
“ไหน/ไหนวะ” ที่เหลือร้องขึ้นแทบจะพร้อมกัน แล้วไม่นานก็ร้องพร้อมๆกันอีกว่า “อ๋อออออออออออออ”
“ดูดีเนอะ ตัวโต และกล้ามใหญ่ ถ้าหากว่าเธอเดินควง ก็คงจะมั่นใจ ว่าฉันนั้นจะปลอดภัยไม่ว่าฉันจะไปที่ใด” ต่ายร้องเพลง
“ไม่กินกันเองหมดแล้วหรอวะ ผู้ชายอยู่ใก้ลกันเยอะๆ แบบเพื่อน แมนๆ กูรักมึงว่ะ ไรเงี้ย” บอย สมบท
“มึงอ่านนิยายให้น้อยๆลงหน่อยนะ” ฉันพูด “พอค่ะ จบ ขึ้นเรียน จะสิบโมงแล้วเด้อหมู่ ไปปปปปป”
ระหว่างทางขึ้นไปบนตึกเรียน เราเดินผ่านแถวรับน้องคณะเราเอง จริงๆมันคือความรับผิดชอบของปีสองอย่างพวกเรานี่แหละที่ต้องมาแต่เช้าเพื่อเข้าร่วมกิจกรรม แต่นังเจ็ทเคยบอกว่า ในเมื่อเขาบอกปีหนึ่งว่า กิจกรรมตามความสมัครใจจะเข้าร่วมก็ได้ไม่ต้องเข้าร่วมก็ได้ กฏระเบียบนี้ก็ควรจะใช้กับปีสองได้ด้วย #จะร่วมก็ได้ไม่ร่วมก็ได้ แต่ไม่รู้สิมันยังรู้สึกผิดๆที่ไม่ได้มาช่วยงานอะไรเขาเลย ฉันได้แต่คิดในใจว่า วันไหนพี่พร้อมพี่จะยอมตื่นเช้ามาเล่นกับน้องนะคะ บายยยยยย
ฉันเดินขึ้นมาจนถึงชั้นสาม หันลงไปมองแถวนิสิตวิทย์กีฬาปีหนึ่งเดินเรียงแถวข้ามไปเรียนไปทางคณะวิทย์ฯคิดถึงเรื่องตัวเองกับเพื่อนสมัยยังเป็นปี1เราผ่านอีเวลาพวกนี้มาได้ยังไงอ่ะ คิดแล้วก็อดขำไม่ได้ “เล่นยามาหรอยะ อารมณ์ดียิ้มอะไร ไปค่ะเข้าห้อง ไถนา” นังเจ็ทแซว ฉันไม่ตอบ แต่ยังอมยิ้มอยู่แบบนั้น หายใจออกเบาๆ เปิดเสียงโทรศัพท์มือถือแล้วเดินตามเพื่อนเข้าห้องเรียนไป .....
###มันเป็นวันที่อากาศร้อนมากอ่ะ .... ร้อนจนคิดว่า นี่เราอยู่ที่ไหน กรุงเทพฯหรือทะเลทราบโกบี ชีวิตฉันก็ยังคงเป็นไปเหมือนเดิม กินอิ่มนอนหลับ หัวเราะร่วนไปกับเพื่อน มีความสุขอยู่กับการที่ไม่ต้องคิดอะไร รับผิดชอบอะไร เหมือนจะเรียนไปวันๆ อ่านหนังสือสอบไปให้มันจบๆ ฉันจำวันที่แน่นอนไม่ได้ ว่ามันเป็นวันที่เท่าไหร่เดือนอะไร แต่เรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นอ่ะ จำได้ไม่ลืมเลยนะ : ) แล้วจะมาเล่าให้ฟัง###
-TOKYODOME
PS.ถ้าเธอรักโบ้ทกับเรียว ( TOKYO LOVE STORY พ.ศ.2543 )
เธอก็จะรักโบ้ทกับ ... เรื่องของเขา
BKK Love Story ในปี พ.ศ. 2561 เหมือนกัน (^3^)