ช่วงจังหวะหนึ่งในชีวิตที่ผ่านมา เมื่อมองกลับไปบางครั้งก็พบเจอร้อยยิ้ม บางครั้งก็เจอคราบน้ำตา บางความเจอความเหนื่อยล้าจนท้อใจ บางครั้งเจอกำลังใจที่เคยได้รับ บางครั้งเจอมิตรภาพ แต่บางครั้งก็เจอกับการแย่งชิงแข่งขัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ มันไม่ย้อนกลับมาอีกแล้ว
ถนนที่เต็มไปด้วยผู้คน แสงไฟละลานตา เสียงพูดคุยมากมาย การแลกเปลี่ยนซื้อขาย สมชื่อที่ถูกเรียกว่าตลาด แผงขายของเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนของไร้สาระไม่ค่อยมีประโยชน์หลากสีสันเรียงรายเต็มไปหมด ของที่โดนเหมาเรียกรวมๆว่าของเล่น
ถึงรอบๆจะมีผู้คนให้ความสนใจมากมายแต่ร้านของเล่นเล็กๆกลับว่างเปล่า นานๆครั้งจะมีใครสักคนหยุดมอง แต่นานมากกว่านั้นถึงจะมีคนยอมหยิบพวกมันกลับไป แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่พ้นเด็กตัวเล็กๆที่งอแงจนผู้ปกครองต้องซื้อเพื่อจบปัญหาไม่เพราะอยากได้สักเท่าไหร่
“พี่ครับอันนี้เท่าไหร่”
เหมือนทุกครั้งที่เจอ ๆ มาเด็กตัวเล็กๆยังคงให้ความสนใจสีสันที่สะดุดตาของบรรดาเหล่าของเล่นที่นอนเรียงรายอยู่บนผ้าปูสีเข้ม รถตุ๊กๆทำจากกระป๋องน้ำอัดลมสีแดงถูกหยิบขึ้นมาอีกครั้ง วันนี้คงไม่ต่ำกว่าสิบ แต่ก็ยังไม่ถูกขายออกไป
“320”
“แพงอะพี่ ป๋องนี้ไปซื้อยังไม่ถึงร้อยเลย”
เสียงต่อรองของลูกค้าเช่นทุกครั้งที่บอกราคา ยังคงเป็นเช่นเดิม เพราะสีที่สะดุดตา หรืออาจเป็นเพราะอะไรบางอย่างในตัวรถคันนั้นจึงมีแต่ผู้คนให้ความสนใจ
“ก็ดูคันอื่นสิ ตุ๊กๆ สามล้อ รถอื่นก็มี คันที่วิ่งไม่ได้คันละห้าสิบ คันที่วิ่งได้ร้อยนึง”
“แล้วทำไมคันนี้แพงหละพี่มันบินได้หรอ
“เออมันบินได้”
แต่สิ่งที่บินได้ไม่ใช่รถคันนั้นหรอก แค่กระป๋องน้ำอัดลมธรรมดา ไม่ได้มีแม่เหล็กมาดูดมันสักหน่อยจะไปบินได้ยังไง ทั้งที่จะตอบแบบนั้นก็ได้แต่ตะกอนอะไรบางอย่างทำให้ตอบอย่างอื่นออกไป ทั้งที่มันก็เป็นแค่ความทรงจำที่บินหายไปก็เท่านั้น
“ผมขอซื้อคันนี้”
“ไม่สนใจคันอื่นหรอราคาถูกกว่าตั้งเยอะ”
ทันทีที่รถสีแดงถูกวางลง กลับมีกระดาษสีม่วงใบหนึ่งยื่นมาตรงหน้า ใบหน้าที่มีปีกหมวกแก๊ปปิดไว้ทำให้มองไม่เห็นว่าใคร แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องสนใจอะไรมากนักแค่คนซื้อกับคนขาย
“วันนี้ยังขายไม่ได้ ไม่มีตังทอน”
“งั้นก็ไม่ต้องทอน ขอบคุณครับ”
“เออๆ”
ลูกค้าประหลาดจากไปพร้อมรถตุ๊กๆคันที่วางเอาไว้ที่เดิมอยู่หลายวัน ตำแหน่งตรงนั้นกลายเป็นที่ว่าง เหมือนช่องว่างบางอย่างในใจ มันกลวงโบ๋จนรู้สึกว่างเปล่า แต่เมื่อนึกถึงรอยยิ้มของคนที่มองเจ้ารถคันสีแดงคันนั้น ตรงที่คิดว่าว่างเปล่ามันกลับเต้นระรัว
รถกระป๋องหนึ่งคันที่ราคาทุนไม่กี่บาท คันเดียวที่ตั้งราคาสูงกว่าทุกคัน คันเดียวที่มีสีสันที่แปลกไป คันเดียวที่ตั้งเอาไว้ในมุมที่ไม่ได้โดดเด่น เทียบเท่าคันอื่น คันเดียวที่ได้รับความสนใจ คันเดียวที่ทำให้มีเงินพอจะทำให้ไม่ต้องอด
กระดาษสีม่วงที่มีราคาถูกพลิกไปมาสองสามครั้งก่อนจะถูกพับเก็บใส่กระเป๋าที่คาดเอาไว้รวมๆกับใบอื่นที่มีสีคล้ายๆรถคันที่พึ่งขายออกไปรวมไปถึงสีเทาที่ถูกพับแยกไว้ ฝ่ามือตบกระเป๋าเบาๆหลังจากรูดซิบเก็บกระดาษพวกนั้น ถุงกระสอบถูกเปิดออกอีกครั้งพร้อมกับมือที่คุ้ยหาอะไรบางอย่าง เสียงดังก๊องแก๊ง
รถตุ๊กๆกระป๋องสีแดงยังคงวางอยู่ที่เดิมเช่นทุกครั้ง ไม่ว่ามันจะถูกซื้อไปกี่ครั้ง ก็ยังคงมีรถกระป๋องสีแดงวางอยู่เช่นเดิมเบียดเสียดกับรถกระป๋องคันอื่นที่สีสันสันและรูปแบบแตกต่างกันไป
“คันนี้เท่าไหร่”
“320”
เสียงถามราคายังคงดังขึ้นเหมือนทุกครั้ง และยังจะเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆจนกว่ารถที่ทำจากกระป๋องสีแดงที่อยู่ในกระสอบจะถูกเอามาวางขายจนหมด หรือไม่ก็หมดเวลาขายก็เท่านั้น