[เรื่องสั้น]ขอให้เป็นเพียงฝัน :: ตอนแรก 12/02/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น]ขอให้เป็นเพียงฝัน :: ตอนแรก 12/02/61  (อ่าน 1319 ครั้ง)

ออฟไลน์ little_porcupine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



ขอให้เป็นเพียงฝัน
ภาวินxธนัท

เรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง
การรักษาทางการแพทย์ในเรื่อง อาจจะผิดพลาด ไม่ถูกต้องและไม่ตรงกับหลักความเป็นจริงทั้งหมด
ผู้แต่งต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ


Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ little_porcupine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ขอให้เป็นเพียงฝัน
ตอนแรก







“ปัง!!”
เสียงดังกึกก้องที่สามารถหยุดทุกอย่างลงได้ แม้กระทั่งลมหายใจของใครคนหนึ่ง

สรรพสิ่งรอบบริเวณหยุดนิ่งไปชั่วขณะ แต่กลับมีร่างร่างหนึ่งที่ล้มลงตามกฎของแรงโน้มถ่วง พร้อมกับของเหลวสีแดงข้นที่ไหลเจิ่งนองอยู่ใต้ร่างนั้น ราวกับร่างนั้นถูกรองรับด้วยพรมกำมะหยี่สีสด ดวงตาปรือปรอยค่อยๆ ปิดลง และไม่รับรู้สิ่งใดอีกต่อไป

ผ่านไปชั่วอึดใจ ผู้คนโดยรอบเริ่มขยับ กระชับวงล้อมเข้าใกล้ร่างที่นอนจมกองเลือดอยู่ แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปสัมผัส หรือให้การช่วยเหลือใดๆ ได้แต่ยืนล้อมร่างนั้นราวกับกำลังยืนไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย

“วี้ หว่อ วี้ หว่อ วี้ หว่อ” เสียงไซเรนของรถพยาบาลดังขึ้น ก่อนที่ตัวรถจะเคลื่อนเข้ามาจอดใกล้ๆ ประตูรถเปิดออก เหล่าเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องมือเร่งเข้าช่วยเหลือทันที ผู้คนเริ่มแหวกทาง และกระจายตัวออกห่างร่างนั้น คงจะพอมีคนที่มีสติโทรเรียกรถพยาบาลมาเป็นแน่

ร่างนั้นถูกเคลื่อนย้ายจากจุดเกิดเหตุ มุ่งตรงสู่โรงพยาบาล ที่เกิดเหตุก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาทำหน้าที่ตรวจสอบต่อ และติดตามตัวผู้ก่อเหตุ

“คนไข้มีสภาวะช็อค เพราะเสียเลือดมาก ไม่สามารถตรวจจับชีพจรได้” หมอและพยาบาลประจำรถพยาบาลตรวจอาการเบื้องต้น เพื่อให้ผู้ช่วยลงบันทึกการรักษา ในขณะที่เจ้าหน้าที่อีกสองคนกำลังต่อเครื่องช่วยหายใจและติดตั้งอุปกรณ์ช่วยชีวิต

“ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด....” เสียงเครื่องติดตามสัญญาณชีพและอัตราการเต้นของหัวใจ ดังขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ติดตั้งอุปกรณ์ชั่วคราวบนรถพยาบาลเข้ากับผู้บาดเจ็บเรียบร้อย ตัวเลขที่ปรากฏบนจอมอนิเตอร์ตอนนี้บ่งบอกถึงสภาวะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูงมาก

“ติดต่อห้องผ่าตัด แล้วแจ้งอาจารย์หมอภาวินด้วย คนไข้ไม่มีหลักฐานอะไรติดตัวมาเลย เพราะงั้นตรวจกรุ๊ปเลือดแล้วแจ้งคลังเลือดด่วนเลย!!” หมอประจำรถสั่งงานกับพยาบาลผู้ช่วยอย่างรวดเร็ว มือก็ปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บไปด้วย เจ้าหน้าที่คนนึงก็ทำการ PPV ให้กับผู้บาดเจ็บ ส่วนอีกคนก็เตรียม Factor เพื่อฉีดให้คนไข้

ผู้บาดเจ็บเสียเลือดมาก มีเวลาไม่มากสำหรับการช่วยเหลือ ในทุกๆ วินาทีที่ผ่านไปนั้น ร่างนี้มีโอกาสเสียชีวิตได้ทุกเมื่อ

“ติ๊ด....ติ๊ด....ติ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด______________________” เสียงเตือนจากมอนิเตอร์ดังขึ้น บอกให้รู้ว่าร่างนั้นได้หัวใจหยุดเต้นไปแล้ว

“เครื่องกระตุ้นหัวใจ!!” หมอตะโกนสั่งเสียงดัง พยายามทุกวิถีทางที่จะยื้อชีวิตร่างนี้เอาไว้ให้ได้ ทั้งๆ ที่อีกไม่ไกลก็จะถึงโรงพยาบาลแล้วแท้ๆ

“กลับมานะครับ” นายแพทย์กระซิบข้างหูร่างนั้นแล้วลงมือกระตุ้นหัวใจ

“คุณหมอคะ อาจารย์หมอภาวินออกเวรตั้งแต่เมื่อคืนแล้วค่ะ แล้ววันนี้ก็เป็นวันหยุดของอาจารย์ด้วย แต่เจ้าหน้าที่กำลังติดต่อเข้าเบอร์ส่วนตัวอาจารย์หมอให้ค่ะ”

“ไม่ทันการณ์แน่ๆ มีใครเข้าเวรวอร์ดศัลย์บ้าง”

“มีหมอพุฒิพงษ์กับหมอวิทยาค่ะ”

“งั้นติดต่อหมอพุฒิเลย” พยาบาลผู้ช่วยเพียงพยักหน้ารับคำและทำการติดต่อหมอพุฒิพงษ์ทันที

“ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด...” จากการกระตุ้นหัวใจในที่สุดสัญญาณชีพก็กลับมา รถพยาบาลก็มาถึงโรงพยาบาลพอดี ผู้บาทเจ็บถูกเคลื่อนย้ายเข้าห้องผ่าตัดโดยไม่รอช้า

“ฝากด้วยนะครับหมอพุฒิ”

“อาการหนักขนาดนี้ถ้าได้ฝีมือผ่าตัดของอาจารย์หมอภาวินคงไม่มีปัญหา แต่ยังไงผมจะพยายามเต็มที่ คุณเก่งมากนะที่ช่วยเค้าจนมาถึงโรงพยาบาลได้” หมอพุฒิตบบ่ารุ่นน้องเบาๆ แล้วเข้าห้องผ่าตัดไปทำหน้าที่ของตน
.
.
.
.
.
.
.
“อือ....” ร่างสูงบนเตียงนอนบิดตัวไปมาไล่ความเมื่อย แต่ก็ยังไม่ลืมตา มือก็ปัดป่ายหาคนที่นอนอยู่ข้างๆ แต่ก็เจอเพียงความว่างเปล่า

“หายไปไหนของเค้านะ” ร่างสูงมองไปรอบๆ ห้องนอนแต่ก็ไม่เจออีกคน เงี่ยหูฟังเสียงจากห้องน้ำ ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไร มองไปยังนาฬิกาถึงได้รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงเข้าไปแล้ว

“คงจะอยู่ข้างล่างล่ะมั้ง” บอกกับตัวเอง เพราะคิดว่าอีกคนคงกำลังเตรียมมื้อเที่ยงอยู่ในครัวเป็นแน่ คิดได้แบบนั้นแล้วก็คว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ อาบน้ำให้ร่างกายสดชื่น จะได้ลงไปหาคนที่อยู่ร่วมบ้านเดียวกัน และใช้ชีวิตด้วยกันมานานนับสิบปีอีกคน

ร่างสูงอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ หยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงแล้วจึงเดินลงมาชั้นล่างเพื่อหวังว่าจะเจอใครอีกคน แต่ทว่ากลับไม่มี

“นัท” ส่งเสียงเรียกอีกฝ่ายออกไปแต่ไม่มีเสียงตอบกลับ “นัท” ลองเรียกอีกครั้งก็ยังเหมือนเดิม

“ไปไหนของเค้านะ” หาจนทั่วบ้านแล้วก็ไม่เจอ จึงกดโทรศัพท์เพื่อโทรหา

“Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr” เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังมาจากในห้องครัว ร่างสูงจึงเดินตามเสียงไปก็พบโทรศัพท์มือถือที่มีชื่อ เบอร์ และรูปของเค้าโชว์อยู่บนหน้าจอ

“ออกไปไหนก็ไม่บอก โทรศัพท์ยังลืมพกไปด้วยอีก น่าตีจริงๆ” บ่นให้อีกคนที่ลืมโทรศัพท์ทิ้งไว้ในครัว คิดว่าถ้าอีกฝ่ายกลับมาจะจับตีก้นซะให้เข็ด โทษฐานที่ทำให้เป็นห่วง

ร่างสูงหยิบโทรศัพท์ที่อีกคนนึงลืมไว้ติดมือออกมาจากห้องครัวด้วย

“นัท” ออกมาจากครัวก็เห็นอีกคนยืนอยู่หน้าประตูบ้านพอดี จึงเอ่ยเรียกออกไป

แต่ดูท่าทางคนโดนเรียกจะดูแปลกๆ ไป ไม่ตอบรับ แถมยังดูเหม่อลอยอีกต่างหาก ร่างสูงจึงเดินเข้าไปใกล้ๆ

“นัท” เรียกชื่อพร้อมเขย่าแขนเบาๆ

“อ๊ะ! พี่วิน” คนที่กำลังเหม่อลอยสะดุ้งตกใจ

“เป็นอะไรรึเปล่า ทำไมหน้าซีดแบบนี้ล่ะ” ถามพลางเอามืออังหน้าผากอีกฝ่าย “ไม่มีไข้นี่” ลดมือลงลูบแก้มเบาๆ สายตาทอดมองด้วยความเป็นห่วง

“เข้าไปนั่งพักก่อนดีกว่านะ” วินจูงมือนัทพาเดินมายังห้องรับแขกของบ้าน ในขณะที่จับมือกันนั้นวินสัมผัสได้ถึงฝ่ามือของนัทที่เย็นเฉียบราวกับอีกฝ่ายเพิ่งออกจากห้องเย็นมายังไงยังงั้น ลองเอามือสัมผัสส่วนอื่นก็รู้สึกเย็นไม่ต่างกัน

สีหน้าของนัทซีดเผือดไร้สีเลือด ผิวกายเย็นเฉียบขัดกับอุณหภูมิของอากาศภายนอกอย่างมาก

“นัทเป็นอะไร บอกพี่ซิ”

“เปล่าครับพี่วิน นัทไม่ได้เป็นอะไร”

“แล้วทำไมหน้าซีดตัวเย็นแบบนี้ล่ะ ไปทำอะไรมา” วินยังคงถามต่อ

“นัทแค่ออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์หน้าปากซอยน่ะครับ”

“ออกไปซื้ออะไร หืม? ไหนของล่ะ แล้วทำไมนัทไม่ปลุกพี่ พี่จะได้ออกไปเป็นเพื่อน” วินลูบหัวนัทเบาๆ

“นัทจะทำมื้อเที่ยงให้พี่วินแต่ของสดในตู้เย็นหมด นัทเลยออกไปซื้อ แต่ยังไม่ได้ซื้อนัทก็กลับมาก่อน”

“อ้าว ทำไมล่ะ”

“คือที่หน้าปากซอยมีคนยิงกัน มันเหมือนเกิดขึ้นใกล้ตัวนัทมากเลยพี่วิน ใกล้จนเหมือนนัทเป็นคนที่โดนยิงซะเองอย่างนั้นแหละ พื้นข้างๆ นัทก็มีเลือดนองเต็มพื้นไปหมดเลยครับ นัทกลัวเลยกลับมาซะก่อน”

“ห๊ะ!? ว่าไงนะ!? แล้วนัทเป็นอะไรรึเปล่า บาดเจ็บตรงไหนมั้ย” วินเอ่ยถามด้วยความตกใจ สำรวจตามร่างกายของนัทกลัวอีกคนจะโดนลูกหลงไปด้วย

“นัทไม่เป็นไรครับ แค่ตกใจ นี่กลับมาถึงบ้านได้ยังไงนัทยังไม่รู้ตัวเลย รู้ตัวอีกทีตอนที่พี่วินมาเขย่าแขนนัทแล้ว”

“โอ๋ๆ ขวัญเอ๊ยขวัญมานะครับที่รัก” วินดึงอีกคนมากอดปลอบ ลูบหัวลูบหลังให้หายกลัว นี่คือที่มาของอาการหน้าซีดตัวเย็นที่นัทเป็นสินะ

“นัทนี่ใช้ไม่ได้เลยนะครับ มีคนรักเป็นถึงอาจารย์หมอ แต่พอเห็นเลือดนัทก็กลัวซะแล้ว ช่วยอะไรใครก็ไม่ได้” ตัดพ้อตัวเองแล้วซุกหน้าลงกับอกของวิน

“อย่าว่าตัวเองแบบนั้นสิ คนเราไม่ได้สมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่างหรอกนะ นัทกลัวเลือดช่วยเหลือคนเจ็บไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เรื่องแบบนี้ไว้เป็นหน้าที่หมออย่างพี่ดีกว่าเนอะ” ปลอบใจคนในอ้อมกอด โยกตัวไปมาราวกับกล่อมเด็ก

“คนนั้นคงถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลพี่วินแน่ๆ เลยครับ”

“อืม...ถ้ามีอะไรที่โรงพยาบาลคงโทรหาพี่เองแหละ”

“พี่วินหิวรึยังครับ” นัทพูดเปลี่ยนเรื่อง เพราะยิ่งพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก็ยิ่งกลัว

“ก็เริ่มหิวขึ้นมาแล้วล่ะ แต่นัทไม่ได้ซื้อของเข้ามานี่นะ งั้นเราออกไปกินข้าวข้างนอกกันมั้ย”

“ก็ได้ครับ” นัทพยักหน้าตอบรับ

“งั้นรอพี่แป๊บนึงนะ พี่ไปเอากุญแจรถก่อน” พูดจบวินก็ผละออกมาจากตรงนั้น ขึ้นมาเอากุญแจรถกับกระเป๋าตังค์ในห้องนอน

“Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr” เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะดังขึ้น นัทมองดูก็เห็นเป็นเบอร์โรงพยาบาลโทรเข้าเครื่องของวิน เห็นทีงานนี้คงไม่ได้ไปกินข้าวข้างนอกแต่ต้องเบนเข็มจากร้านอาหารไปเป็นโรงพยาบาลแทน แล้วล่ะ

“พี่วินครับโทรศัพท์” นัทตะโกนบอกวินที่กำลังเดินเข้ามาหาพอดี

“หือ?” วินมองเบอร์ที่โชว์อยู่หน้าจอ สลับกับมองหน้านัทไปด้วย ก่อนจะกดรับสาย

“ภาวินพูดครับ”

“สวัสดีค่ะอาจารย์หมอ คือตอนนี้ที่โรงพยาบาลกำลังต้องการความช่วยเหลือจากอาจารย์หมอโดยด่วนเลยค่ะ” ปลายสายบอกจุดประสงค์ที่โทรมาทันทีไม่ให้เสียเวลา

“เรื่องคนเจ็บที่โดนยิงใช่มั้ยครับ”

“ใช่ค่ะ คุณหมอรู้ได้ยังไงคะ”

“อ่อ ภรรยาผมเล่าให้ฟังน่ะครับ เค้าอยู่ในเหตุการณ์ด้วย แล้วตอนนี้คนเจ็บอาการเป็นยังไงบ้าง” วินถามต่อ เผื่อจะให้คำปรึกษาได้ในระหว่างที่เค้าเดินทางไปโรงพยาบาล

“ตอนนี้ยังผ่าเอาหัวกระสุนออกมาไม่ได้เลยค่ะ เพราะเลือดไหลไม่หยุดปิดปากแผลจนมองไม่เห็นอะไรเลย ความดันสูง หัวใจหยุดเต้นไปสองครั้งแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจอยู่ ก่อนจะมาถึงโรงพยาบาลก็หัวใจหยุดเต้นไปแล้วครั้งนึงแต่ปั๊มคืนมาได้ รวมแล้วคนเจ็บหัวใจหยุดเต้นไปสามครั้งค่ะ” พยาบาลประจำห้องผ่าตัดร่ายยาวถึงอาการของคนเจ็บให้วินฟัง

“ผมจะไปถึงโรงพยาบาลภายในสิบนาที แต่ระหว่างนี้อย่าเพิ่งวางสายนะครับ”

“ได้ค่ะอาจารย์” 

“200 โวลต์ เคลียร์!!” ระหว่างที่คุยกับพยาบาลห้องผ่าตัดอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงหมอพุฒิที่ทำการรักษาคนเจ็บอยู่ดังเข้ามาในสาย

“อึก!” จู่ๆ นัทก็เกิดร่างกายกระตุก แถมยังเจ็บจี๊ดที่หน้าอกอีก

“นัท! เป็นอะไรรึเปล่า” วินถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน นัทก็เริ่มมีอาการผิดปกติ คนเจ็บก็รอเค้าอยู่ที่ในห้องผ่าตัดอีก ทำไมมันวุ่นวายแบบนี้นะ

“นัทไม่เป็นไร พี่วินรีบไปช่วยคนนั้นเถอะครับ เดี๋ยวนัทนอนพักซักหน่อยคงดีขึ้น” นัทตอบเสียงแผ่ว

“ถ้าอย่างนั้นนอนพักนะ อย่าคิดมาก พี่สัญญาว่าจะช่วยเค้าให้ได้ นัทจะได้ไม่ต้องมาคิดถึงเหตุการณ์นี้อีกนะครับ” น้ำเสียงอ่อนโยน กับฝ่ามือที่ลูบหัว ช่วยให้นัทคลายความกังวลไปได้ส่วนหนึ่ง วินคิดว่าอาการของนัทคงมาจากความกลัวบวกกับความเครียด จึงส่งผลแสดงออกมาทางร่างกาย จึงให้นัทนอนพัก และตัวเองก็รีบขับรถมายังโรงพยาบาลทันที
.
.
.
.
.
.
.
.
“เป็นไงบ้างหมอพุฒิ หมอวิท” วินที่มาถึงโรงพยาบาลและเปลี่ยนชุดเรียบร้อย เดินเข้ามาถามหมอศัลย์ทั้งสอง

ทีแรกหมอที่ทำการผ่าตัดเคสนี้คือหมอพุฒิพงษ์ แต่หลังจากคนเจ็บหัวใจหยุดทำงานไปรอบแรกหลังจากเข้าห้องผ่าตัด หมอวิทยาก็เข้ามาช่วย เพราะดูแล้วเคสนี้คงหนักหนาเอาการ แถมตอนนี้ยังใช้เวลาในการรักษาไปพอสมควรแล้ว ขืนปล่อยไว้นานกว่านี้คนเจ็บคงจะทนพิษบาดแผลไม่ไหวเป็นแน่

“ความดันยังสูงอยู่ครับ เลือดก็ยังไม่หยุดไหลด้วย มองไม่เห็นปากแผลเลย” หมอพุฒิตอบ

“บอกได้คำเดียวว่าหนักครับอาจารย์วิน” หมอวิทเสริม

“เดี๋ยวผมรับไม้ต่อเอง” วินบอกแล้วสลับที่กับหมอพุฒิ

“คุณหมอคะ เลือดกรุ๊ปเดียวกับคนเจ็บในคลังเลือดของเราหมดแล้วนะคะ ตอนนี้กำลังติดต่อขอไปยังโรงพยาบาลใกล้ๆ อยู่ค่ะ” พยาบาลห้องผ่าตัดรายงานให้คุณหมอทราบ

“แล้วญาติของคนเจ็บล่ะ เราคงรอเลือดจากโรงพยาบาลอื่นไม่ไหว ถ้าเลือดขาดแบบนี้ แถมเลือดยังไม่หยุดไหลอีก อาจจะต้องมีการรับเลือดโดยตรงถ้าเกิดกรณีฉุกเฉิน” วินถามพยาบาล แล้วอธิบายวิธีการรักษาที่พอเป็นไปได้มากที่สุดในตอนนี้

“คือ…ตอนนี้เรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนเจ็บเป็นใคร เพราะไม่มีหลักฐานแสดงตนติดตัวเลยซักอย่าง เลยยังติดต่อญาติไม่ได้ครับ” หมอพุฒิตอบ

“งั้นก็แย่น่ะสิ” วินเอ่ยเสียงแผ่ว ในหัวก็คิดไปด้วยว่าจะทำอย่างไรดี “โทรศัพท์มือถือก็ไม่มีเหรอ” วินเอ่ยถาม

“ไม่มีครับ” หมอพุฒิตอบอีกครั้ง ส่ายหน้าให้หมอวินอย่างจนปัญญาจริงๆ

“เอาเถอะ ยังไงเราก็ต้องทำให้เต็มที่เท่าที่ทำได้” วินบอกหมอทั้งสอง และพยาบาลทุกคนที่อยู่ในห้อง ทุกคนพยักหน้ารับคำ วินละสายตาจากบาดแผลไปมองหน้าคนเจ็บ เพื่อส่งกำลังใจ “เรามาสู้ไปด้วยกันนะ….ค ครับ” แต่ก่อนที่จะพูดจบก็เป็นอันต้องชะงัก เมื่อเห็นใบหน้าของคนเจ็บเต็มๆ ตา

“อาจารย์วินเป็นอะไรไปครับ” หมอพุฒิเห็นวินนิ่งไปจึงเอ่ยถาม

“ไม่จริงน่า เป็นไปไม่ได้” วินไม่ตอบแต่พูดออกมาราวกับกำลังเพ้อ

“มีอะไรรึเปล่าครับอาจารย์วิน” หมอพุฒิถามอีกครั้ง

“ผมขอดูของใช้ของคนเจ็บหน่อยได้มั้ยครับ”

“ได้ค่ะ” พยาบาลรับคำแล้วไปหยิบถุงพลาสติกที่บรรจุเสื้อผ้าเปื้อนเลือดของคนเจ็บมาให้วินดู

“อาจารย์รู้จักคนเจ็บเหรอครับ” คราวนี้เป็นหมอวิทที่เอ่ยถาม

“นี่ค่ะอาจารย์วิน คนเจ็บไม่มีอะไรติดตัวมาเลยนอกจากเสื้อผ้าที่ใส่ กับเงินในกระเป๋ากางเกง” พยาบาลยื่นถุงพลาสติกให้ วินรับมาด้วยมืออันสั่นเทา ในหัวก็มีแต่คำว่า ‘ไม่จริง เป็นไปไม่ได้’ วนลูปซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น     

“ตุบ!” ถุงพลาสติกในมือวินตกลงสู้พื้นทันทีที่วินเห็นสิ่งที่อยู่ในถุงนั้น แต่วินก็ไม่ได้สนใจจะเก็บมันขึ้นมา

“ขอสำลีชุบน้ำเกลือให้ผมหน่อยครับ” วินเอ่ยขอกับพยาบาลที่ดูแลเรื่องอุปกรณ์

“นี่ค่ะอาจารย์วิน” พยาบาลส่งสิ่งที่วินต้องการให้ ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนได้แต่รอดูว่าวินจะทำอะไร

วินเอาสำลีที่ชุบน้ำเกลือล้างแผลเช็ดคราบเลือดที่ติดอยู่บริเวณสีข้าง เพื่อพิสูจน์ความจริงบางอย่างที่แม้แต่ตนเองยังไม่อยากจะเชื่อ และยังคงมีคำว่า ‘ไม่จริง เป็นไปไม่ได้’ ลอยอยู่ในหัว

เมื่อเช็ดบริเวณนั้นจนสะอาดแล้วสิ่งที่ปรากฏต่อสายตาวิน ทำเอาขาที่เคยมั่นคงถึงกับสั่น หมดเรี่ยวแรง ปานแดงขนาดประมาณเหรียญสิบบริเวณสีข้าง ที่ตัดกับสีผิวขาวเนียนเป็นจุดที่เด่นชัดที่สุดในตัวของคนๆ นี้ และด้วยระยะเวลานับสิบปีที่อยู่ร่วมกันมาก็ไม่มีจุดไหนในตัวคนๆ นี้ที่วินจะจำไม่ได้ เพียงแต่เค้าไม่แน่ใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ทำไมคนที่ควรจะนอนพักผ่อนอยู่ที่บ้านกลับมานอนอยู่บนเตียงผ่าตัดในห้องนี้ได้ แล้วเรื่องที่เกิดก่อนหน้าที่เค้าจะมาโรงพยาบาลนี้ล่ะคืออะไร

“นัท”






TBC


Talk
เอาตอนแรกไปก่อนเนอะ
เรื่องนี้อาจจะจบในสองตอน หรือถ้ายืดคงไม่เกินสามตอน
แต่คนแต่งตั้งพล็อตไว้คือสองตอน
แล้วก็อยากจะถามคนอ่านว่า อยากให้จบแบบ Happy Ending หรือ Bad Ending หรือจบแบบหักมุมไปเลยดี คอมเมนท์กันมาได้เลยค่ะ
คนแต่งจะรอคอมเมนท์จากคนอ่านนะคะ เพราะการแต่งตอนต่อไปขึ้นอยู่กับกำลังใจจากคนอ่านทุกคน อิอิ



 



ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ยังไงก้อชอบแบบ Happy ending 1 โหวตจ้า

ออฟไลน์ มนุษย์สาววาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
นัทสู้ไปกับพี่วินก่อนนะ อยู่พึ่งจากพี่เขาไป

ออฟไลน์ มนุษย์สาววาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
แต่จบแบบ Bad End ก็ดีนะ มันคงเศร้ามากๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด