(รบกวนลบได้เลยค่ะ เปลี่ยนใจแต่งเป็นเรื่องยาวแทนค่ะ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (รบกวนลบได้เลยค่ะ เปลี่ยนใจแต่งเป็นเรื่องยาวแทนค่ะ)  (อ่าน 1791 ครั้ง)

ออฟไลน์ แยมส้มขมคอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-2
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



************************************************************************************************************

ผลงานที่ผ่านมา


นิยาย :
ต่างขั้ว - THE CONTRAST (#เตติณ จบแล้ว)
➤➤ใจเย็นกับเป็นไท (#ใจเย็นกับเป็นไท จบแล้ว)


เรื่องสั้น:
ถ้า 0072 คือนักโทษ คนทั้งโลกคงถูกจองจำ (ตอนเดียวจบ)
เสียงกรีดร้องของปลาในโหลแก้ว (ตอนเดียวจบ)

************************************************************************************************************
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-12-2017 00:38:12 โดย แยมส้มขมคอ »

ออฟไลน์ แยมส้มขมคอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-2

ตอน 1





•   มีโอกาส 50% ที่เครื่องจักรจะสามารถทดแทนอาชีพของมนุษย์ได้ใน 120 ปี

•   นักวิจัยคาดการณ์ว่า AI จะสามารถขับรถบรรทุกได้ในปี 2027 และทำงานค้าปลีกได้ในปี 2031

•   AI จะสามารถเขียนนิยายที่ขึ้น The XXX Best Seller ได้ในปี 2049



ส่วนหนึ่งจากบทความ คุณจะถูก AI แย่งงานเมื่อไหร่ ถูกเขียนขึ้นเมื่อ 20 กรกฎาคม 2017 :: https://thestandard.co/news-tech-ai-work-as-humans/







มันเป็นส่วนหนึ่งของบทความเก่าๆ ที่ ‘นัตสึ’ เคยอ่านให้ผมฟังเมื่อครั้งที่เรายังเรียนมัธยมปลาย ตอนนั้นเธออายุ 17 ปี แรกแย้ม รอยยิ้มสดใสเหมือนดอกไม้ในฤดูร้อน ฤดูร้อนตรงตามความหมายชื่อภาษาญี่ปุ่นของเธอ

นัตสึเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น นามสกุลของเธอคือทานากะ เธอบอกว่าเป็นนามสกุลที่เกลื่อนกลาดดาษดาเหลือเกินในถิ่นกำเนิดของพ่อเธอ ไม่ใช่นามสกุลใหญ่อะไร แต่ชื่อพ่อของนัตสึก็ค่อนข้างมีชื่อในวงวิศวกร AI

ในโลกที่เกินกว่าครึ่งของสังคมมนุษย์ขับเคลื่อนด้วย AI ทุกอาชีพที่เกี่ยวข้องกับ AI จึงถูกยกระดับให้มีความสำคัญกว่าอาชีพอื่นๆ

หรือพูดอีกอย่าง เป็นอาชีพที่ตรงความต้องการของตลาด และค่าตอบแทนสูง

นัตสึจึงเหมือนลูกคุณหนูคนหนึ่ง เธอแต่งตัวดี บุคลิกท่าทางสง่างาม ผิวขาว แม้ขาวแบบคนเอเชียธรรมดาๆ แต่เพราะเนื้อพรรณอันละเอียดทำให้เธอดูแตกต่าง ยิ่งเส้นผมตรงยาวสีดำขลับขับผิวขาว เธอยิ่งโดดเด่น

รอยยิ้มของเธอเองก็เจิดจ้าเหมือนแสงแดด แต่เป็นแสงแดดยามเช้า ไม่แสบตา ทั้งยังน่าหลงใหล

เสียงหัวเราะของเธอก็เหมือนกระดิ่งลมที่ดังกรุ๊งกริ๊งกังวานในฤดูร้อน

นัตสึ ฤดูร้อนอันเจิดจ้า

ไม่ยากเลยที่ผมจะหลงรักฤดูร้อนครั้งนั้น และตลอดมา



***



ในสังคมมัธยมปลาย พวกเรามีกันสามคน ผม นัตสึ และทะเล

ทะเลเป็นชื่อที่ฟังคล้ายตัวละครในนิยายสมัยก่อน ดึงชื่อมาจากธรรมชาติ ความหมายชั้นเดียว แต่ก็จัดเป็นหนึ่งในชื่อยอดฮิต หลังผ่านยุคที่พ่อแม่ของเรามีแต่ชื่อแปลกๆ และคำศัพท์ต่างประเทศเสียส่วนใหญ่

ดังนั้น ทะเล จึงเป็นชื่อที่ไม่เลว

และทะเลก็บอกว่าชื่อของผมไม่เลวเหมือนกัน

“ฉันชอบชื่อฟ้าคราม ไม่ใช่ว่าชื่อแกเพราะ แต่ชื่อแกเหมือนเครื่องจักร”

“เหมือนยังไง” ผมถามทะเล นัตสึเองก็คอยฟังอยู่

“มันแยกส่วนประกอบได้ แถมถ้าแค่พยางค์หน้า ‘ฟ้า’ ก็ฟังเป็นชื่อผู้หญิง ส่วน ‘คราม’ ฟังเป็นชื่อผู้ชาย”

“แล้วฟ้าครามล่ะ” ผมถามอีกครั้ง ทะเลเหมือนหยุดคิด จ้องหน้าผมผ่านแว่นกรอบเงิน จนนัตสึแย่งตอบ

“ก็เป็นฟ้าครามไงล่ะ ไม่มีอย่างอื่นหรอก”

เธอส่งยิ้ม เจิดจ้าเหมือนแดดเช้าของฤดูร้อนก่อนจะใช้ส้อมจิ้มนัตเก็ตในจานผมเข้าปากตัวเองหน้าตาเฉย

ผมส่งเสียงเรียก ‘นัตสึ’ แบบไม่ใคร่พอใจ แต่พอได้ยินเสียงหัวเราะของเธอพร้อมแก้มที่เคี้ยวตุ้ย ผมก็ให้อภัย ดังนั้นการที่จิ้มไส้กรอกคุณปลาหมึกในจานของเธอมากินบ้าง จึงถือเป็นการแลกเปลี่ยน ไม่ใช่แก้แค้น ผมนับอย่างนั้น

ถึงนัตสึจะส่งเสียงร้องท้วง แต่ไม่กี่วินาที เธอก็เบนความสนใจไปที่เรื่องอื่น ครั้งนี้เป็นเรื่องที่ทะเลพูดถึง AI ที่เข้าร่วมเรียนในห้องเดียวกัน

ทุกกลางวัน เรากินข้าวด้วยกันที่โต๊ะตัวประจำในโรงอาหาร ริมหน้าต่าง คนไม่พลุกพล่าน

ทะเลมักจะพูดเรื่องเกี่ยวกับเครื่องยนต์กลไกต่างๆ รวมถึง AI

นัตสึมักจะพูดถึงนวนิยาย วรรณกรรม และตักกับข้าวจากจานของผมใส่ปากตัวเอง

ส่วนผมเองไม่แน่ใจว่าชอบพูดเรื่องอะไร

บางทีอาจแค่ชอบรับฟัง

และแลกกับข้าวกับนัตสึ

ทุกอย่างผ่านไปธรรมดาเหมือนกลุ่มของพวกเราท่ามกลางสังคมโรงเรียน

แม้นัตสึจะโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ แต่นั่นเคยทำให้เธอมีปัญหากับเพื่อนผู้หญิง ความธรรมดาจึงเป็นสิ่งที่เธอหวงแหน

พวกเราช่วยเธอ โดยการทำตัวไม่โดดเด่นอะไร หรือไม่ พวกเราก็เป็นของเราอย่างนี้อยู่แล้ว

แต่ผมชอบเป็นพิเศษเวลาที่เห็นนัตสึยิ้ม

นัตสึยิ้มเมื่อเห็น  AI เป็น ‘คน’ ที่โดดเด่นกว่าใครเพื่อน ไม่ใช่เธอ



***



AI ได้รับการยอมรับว่าเป็น ‘พลเมือง’ เทียบเท่ามนุษย์เมื่อปี 2017

ชื่อของ ‘โซเฟีย’ AI ที่ได้สิทธิ์การเป็นพลเมืองคนแรกนั้นแทบจะบรรจุอยู่ในหลักสูตรก่อนการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไม่มีใครหรือเด็กคนไหนไม่รู้จักโซเฟีย

พวกเราเองที่เกิดหลังโซเฟียจึงรู้สึกว่าการมี AI แทรกซึมอยู่ในชีวิตเป็นเรื่องธรรมดา ทั้งเรายังค่อยๆ เติบโตไปพร้อมกับ AI ที่ถูกพัฒนาจนเหมือนมนุษย์เข้าไปทุกที ทุกที

ดังนั้น การที่พวกเรายอมรับ AI ในฐานะพลเมืองคนหนึ่งจริงๆ จึงไม่แปลกเท่าไหร่

จากที่ไม่เคยมี  AI เข้ามาใช้ชีวิตในสังคมโรงเรียนเพราะไม่เห็นกันว่ามีความจำเป็นใดนอกจาก  AI ที่เป็นอาจารย์สอนหนังสือ ก็เพิ่งมี ‘นักเรียน AI’ เมื่อไม่นานนี้

แต่เพราะยังคงไม่ถึง 20 % ของชั้นเรียน AI นั้นก็จะโดดเด่นอยู่สักหน่อย

ไม่สิ น่าจะเรียกได้ว่ามาก เพราะแต่เดิม จำนวนนักเรียนแต่ละห้อง แต่ละโรงเรียนก็ไม่ได้มากมายอะไรอยู่แล้ว

สังคมของเราคืบคลานเข้าใกล้คำว่า ‘สังคมผู้สูงอายุ’ เข้าไปทุกที ในเมื่อเจเนเรชั่นที่ผ่านมาหรือเจนพ่อแม่ของพวกเรานั้น น้อยคนที่อยากมีลูก จนรัฐบาลต้องออกนโยบายออกมาผลักดันให้ประชาชนมี ‘ครอบครัวสุขสันต์’

ตอนเด็กๆ ที่เห็นนโยบายนั้น ผมไม่คิดอะไร แต่พอโตขึ้น ก็คิดว่าน่าจะใช้คำว่า ‘ดำรงเผ่าพันธุ์’ ไปเลยให้สิ้นเรื่อง

“ก่อนที่  AI จะครองโลกน่ะว่าไหม”

ผมเอ่ยปากถามตอนที่เรารอของหวานอยู่ที่คาเฟ่แห่งหนึ่ง ตามใจนัตสึ

“แต่ว่า...AI ไม่ครองโลกหรอก  พ่อฉันบอกว่า AI ก็แค่กลืนไปกับส่วนหนึ่งของสังคมมนุษย์ เป็นมนุษย์คนหนึ่งไง” นัตสึออกความเห็น ขณะที่ทะเลยกนิ้วขยับแว่น

ท่าทีแบบนี้ผมรู้เลยว่ามันกำลังจัดเรียงคำตอบไว้ในสมอง

“แต่ก่อนจะทำให้ AI คิดแบบนั้น ฉันคิดว่าต้องทำให้ AI ไม่รู้ตัวก่อนว่าเขาคือ AI”

“หืม? จะไม่รู้ตัวได้ยังไง” นัตสึถาม

“ยังไม่มีคำตอบ แต่ฉันว่าในอนาคตทำได้แน่ๆ ในเมื่อตอนนี้เรามีวิทยาการที่เรียกว่าประสาทประดิษฐ์แล้ว เป็นสิ่งที่ทำให้ AI รู้สึกเจ็บปวด ซึ่งไอ้ความเจ็บปวดเนี่ย เป็นกลไกที่ทำให้เราปกป้องตัวเอง แต่สำหรับ AI ฉันมองว่ามันยังเป็นแค่ทางกายภาพเท่านั้น”

“แล้วสิ่งที่ขาดล่ะ?” ผมถาม แต่ไม่ทันได้คำตอบจากทะเล นัตสึก็โพล่งขึ้นมาด้วยดวงตาเป็นประกายเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้าฤดูร้อน

“ทางจิตใจใช่ไหม?!”

จิตใจ...งั้นเหรอ?

ตอนที่ได้ยิน เหตุใดไม่ทราบได้ผมทวนคำถามนั้นในใจ ดังสะท้อนก้องไปมา อาจคล้ายเสียงกระดิ่งลมของของฤดูร้อน

คงเพราะ...ผมไม่เคยนึกถึงเรื่องจิตใจของ AI อย่างเป็นจริงเป็นจัง

“อ่า นั่นแหละนัตสึ ฉันกำลังคิดๆ อยู่ว่าเราอาจต้องสร้าง ‘หัวใจประดิษฐ์’ เพื่อให้ AI คิดว่าตัวเองเป็นมนุษย์จริงๆ”

“น่าสนใจๆ” นัตสึพูดซ้ำอย่างตื่นเต้น “เหมือนว่า ‘หัวใจ’ เนี่ย เป็นการแยกมนุษย์กับหุ่นยนต์ที่สมบูรณ์แบบเลยเนอะ”

“แต่ว่าถึงทำออกมามันก็แค่ ‘หัวใจประดิษฐ์’ ไม่ใช่หรือไง” เป็นความเห็นของผม “ถ้าพูดเรื่องนี้เราอาจต้องขบคิดกันด้วยนะว่าต้องมี ‘วิญญาณประดิษฐ์’ ไหม”

“แต่สำหรับฉัน สิ่งที่ ‘ขบคิด’ เองได้ ก็ถือว่ามันมีวิญญาณแล้วล่ะ มันมีชีวิตแล้ว”

“ฟังดูน่ากลัวยังไงไม่รู้” ผมว่าแบบนั้น แต่นัตสึหัวเราะ

“แล้วที่ฟ้าครามยอมรับ AI เป็นพลเมืองคนหนึ่งมาตลอดเนี่ย ไม่คิดว่าเขามีชีวิตเหรอ”

เป็นคำถามที่ตอบยากในเวลานั้น ผมจึงเงียบ ขบคิด แต่ทุกอย่างก็ถูกขัดจังหวะด้วยการเสิร์ฟของหวานวางบนโต๊ะ พุดดิ้งคัสตาร์ดหนึ่งถ้วยของทะเล สตรอเบอร์รี่ช็อตเค้กของผมและนัตสึ

และเพราะสตรอเบอร์รี่ช็อตเค้กเป็นของโปรดของนัตสึ เธอจึงลืมคำถามของตัวเองเมื่อครู่ไปถนัดใจ ส่วนทะเลยังคงพูดเรื่อง AI ยืนยันความชอบและสนใจของตัวเอง

ถึงผมอาจเป็นมนุษย์ที่จำกัดความตัวเองไม่ได้ว่าชอบอะไรบ้าง แต่  AI เป็นหนึ่งในสิ่งที่ผมชอบเหมือนกัน แม้รู้สึกคลุมเครือถึงจิตใจแท้จริงของ AI ก็ตาม

แต่ก็นั่นเองไม่ใช่เหรอที่ยิ่งทำให้ AI มีเสน่ห์

เราสามคนชอบ AI ในความหมายที่แตกต่างกันไป

ทะเลชอบ และหลงใหล AI

นัตสึก็ชอบ AI เหมือนกัน

แต่ไม่อาจเรียกว่าหลงใหล

เธอหลงรัก AI



***



มันเป็นวันที่ผมและทะเลอยู่ซ้อมบาสเพราะโดนจับลงชื่อแข่งงานกีฬาระหว่างโรงเรียน

มันเป็นวันที่นัตสึไปนั่งที่คาเฟ่คนเดียว

มันเป็นวันที่ผมได้ยินชื่อของ  AI ชื่อ ‘ฮารุ’ เป็นครั้งแรก

“ฮารุ ฮารุที่แปลว่าฤดูใบไม้ผลิน่ะ”

นัตสึเอ่ยชื่อนั้น พร้อมรอยยิ้มเจิดจ้ามีความสุข ตอนนั้นผมยังไม่รู้ว่าเธอมีความสุขอะไรนักหนา รู้แค่ว่าเมื่อหันกลับไปมองผ่านกระจกของคาเฟ่ ผมเห็น ‘ฮารุ’ นั่งอยู่

เป็น AI เพศชาย วัยน่าจะไล่เลี่ยกับพวกเรา ผิวขาวพิมพ์นิยม เรือนผมและนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเฉดเดียวกัน

พลันเขาส่งยิ้มมาให้

อบอุ่น โอนอ่อน ราวซากุระหล่นโรยสมชื่อ ‘ฮารุ’

ผมไม่แน่ใจว่ายิ้มตอบหรือเปล่า รู้แค่ว่าหลังจากนั้น ผมก็เดินจากไปพร้อมนัตสึและทะเล พวกเราแค่มาที่นี่เพื่อรับเธอกลับบ้านด้วยกันเท่านั้น

แต่อย่างไรก็ตาม พวกเราก็ได้ฟังเรื่องราวของฮารุหลังจากนั้น

นัตสึว่าฮารุเป็น AI นักเขียน และเป็นบรรณาธิการของสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งที่ผมค่อนข้างคุ้นหู

เธอสนใจฮารุมากเพราะเธออยากเป็นนักเขียนท่ามกลางโลกที่ AI แทบจะแย่งอาชีพมนุษย์ไปหมดแล้ว

ตอนนั้นผมแอบคิดว่าตลกดี ในเมื่อนัตสึยังเชื่อหัวชนฝาว่ามนุษย์ไม่มีทางแพ้ AI ในด้านความคิดสร้างสรรค์ แต่ขณะเดียวกันนัตสึก็สนใจการประดิดประดอยถ้อยคำของ AI อย่างฮารุมาก

ก่อนจะเริ่มไม่ตลกที่วันๆ เธอเอาแต่พูดเรื่องของฮารุ

“นี่ ฉันไม่เคยเจอ AI คนไหนเหมือนฮารุเลยนะ”

“เธอไม่เคยเจอ AIนักเขียนมากกว่า” ทะเลว่า

“ไม่ ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” นัตสึส่ายหัว

“อะไร หล่อหรือไง”

“จะบ้าเหรอ” เธอตีทะเลไปหนึ่งที “นี่พวกนายไม่รู้สึกกันเลยเหรอ”

“รู้สึกอะไร” ผมถาม ความจริงลึกๆ ในใจเริ่มรำคาญเรื่องของฮารุเต็มทน

“ก็ฮารุน่ะ...เหมือนมนุษย์จริงๆ นะ”

ถึงตรงนี้ ผมไม่ได้ออกความเห็นอะไรอีก นอกจากรู้สึกขนลุกขึ้นมาอย่างรู้สึกไม่ถูก

มันก็คงเป็นการพัฒนาของ AI อีกก้าวหนึ่งนั่นแหละ

ผมบอกตัวเองแบบนั้น และไม่สนใจอะไรอีก

จนเมื่อพวกเราสามคนพากันไปนั่งที่ร้านคาเฟ่อีกครั้ง และสั่งของหวานเมนูเดิม พุดดิ้งคัสตาร์ดของทะเล สตรอเบอร์รี่ช็อตเค้กของผมและนัตสึ

แต่ที่ไม่เหมือนเดิม คือนัตสึย้ายไปนั่งกับฮารุเสียแล้ว

ผมไม่ได้ขอไปนั่งด้วย ทะเลก็เห็นตาม

สุดท้ายผมได้แต่นั่งมองสตรอเบอร์รี่ช็อตเค้กบนจานของตัวเอง

กินไม่ลง

ผมไม่เคยชอบของหวานเมนูนี้

ที่ผมสั่งทุกครั้ง ก็แค่เพราะนัตสึชอบสตรอเบอร์รี่บนหน้าเค้กเท่านั้นเอง



***



แต่แล้วไม่นานหลังจากนั้น  ไม่นานหลังพวกเราผ่านพ้นอายุ 17 นัตสึกลับไม่พูดถึงฮารุอีก

เธอไม่เคยเอ่ยถึงเหตุผล และผมก็ไม่คิดเซ้าซี้

แม้จะแปลกใจ แต่ก็แค่คิดว่า ‘ดีแล้ว’ เงียบๆ อยู่ในใจ

ถ้าทุกคนในกลุ่มผมชอบ AI ทะเลหลงใหล นัตสึหลงรัก ผมกลับเริ่มไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกกับสิ่งที่เรียกว่า AI ว่าอย่างไร

อาจจะทั้งชอบ และชัง

ข่าวของมนุษย์ที่ตกงานเพราะ AI แย่งอาชีพเริ่มหนาหูขึ้นทุกทีจนรัฐบาลต้องจำกัดปริมาณการสร้างและพัฒนา AI รุ่นใหม่ๆ

นัตสึไม่พูดเรื่องฮารุอีก เธอพูดแต่เรื่องการอยากเป็นนักเขียนและทำงานในสำนักพิมพ์

แต่ถึงจะบอกว่าสำนัก ‘พิมพ์’ ก็แค่เรียกเพราะเป็นคำศัพท์เก่าแก่ อุตสาหกรรมงานเขียนส่วนใหญ่ผันตัวอยู่บนแพลตฟอร์มอิเล็คทรอนิกส์แทบจะทั้งหมดแล้ว

“ไม่คิดบ้างเหรอว่าถ้าไม่ได้เป็นนักเขียน เธอจะทำอะไร” ผมเคยเท้าคางถามเธอด้วยสีหน้าเบื่อโลกเต็มทน ไม่รู้ทำไมเหมือนกันถึงถามอะไรออกไปแบบนั้น มันน่าจะทำร้ายใจเธอพอสมควร

แต่ฤดูร้อนของผมก็แค่ตอบว่า

“ไม่ได้คิดไว้เลย”

แล้วเธอก็ยิ้ม ยิ้มเจิดจ้าเหมือนแดดเช้าของฤดูร้อน

นึกอยากดีดหน้าผากเธอสักที แต่ก็คงจะก้าวก่ายเกินไป มีแต่ทะเลที่ออกความเห็นว่าถ้าเป็นนักเขียนไม่ได้จริงๆ ก็ควรเป็นอาจารย์สอนหนังสือ

นัตสึไม่ได้ตอบรับอะไร

คงเหมือนกับที่ผมไม่เคยบอกว่ารู้สึกยังไงกับเธอ

จนกระทั่งจบการศึกษาจากโรงเรียน

จนกระทั่งเราแยกย้ายกันไป

นัตสึไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นอย่างที่ไม่เคยมีวี่แววมาก่อน

ทะเลเรียนต่อในด้านวิศวกร AI เพราะอยากศึกษาค้นคว้าเรื่องของหัวใจประดิษฐ์ที่เคยคิดไว้

ส่วนผมเอง ยังคงเหมือนเดิมที่ไม่รู้นักว่าตัวเองชอบอะไร อาจรู้แค่ว่าตัวเองไม่ชอบอะไรเสียมากกว่า

ผมจึงแค่เลือกเรียนต่อในสาขาที่จบออกมาแล้วสามารถทำงานเกี่ยวข้องกับ AI ได้ตามคำร้องขอของที่บ้าน เพราะไหนๆ ผมก็ไม่มีความฝันเป็นชิ้นเป็นอันอยู่แล้ว

AI จึงยิ่งดูเหมือนสิ่งที่ผมทั้งชอบและชัง

ก่อนที่จะกลับกลาย...เป็นชิงชังอย่างถึงที่สุดในเวลาห้าปีต่อมา

ปีที่นัตสึกลับมา



***



นัตสึกลับมาตอนที่ผมเพิ่งตกงาน และอาจจะตกงานตลอดไป

มันเป็นงานที่ผมเพิ่งทำได้ปีเดียวหลังจบด้วยซ้ำ แต่ก็นั่นแหละ ผมอาจจะตกงานตลอดไปแล้วก็ได้

งานที่ผมทำคือ Data labeling professionals หรือก็คือเป็นผู้จัดเตรียมข้อมูลให้ Machine Learning สามารถนำไปใช้ต่อได้ ไม่ว่าจะข้อมูลใดๆ ก็ตามบนโลกใบนี้ AIใช่ว่าเรียนรู้เองได้ทั้งหมด ต้องมีมนุษย์เตรียมข้อมูลป้อนให้และเทรนให้รู้จักข้อมูลพื้นฐานต่างๆ เสียก่อน รวมไปถึงข้อมูลที่แอดวานซ์ขึ้นไปกว่านั้นทั้งหมดก็จำเป็นต้องมีคนดูแล

หากสุดท้าย กลายเป็นว่า AI ก็สามารถทำงานนี้เพื่อ AI ด้วยกันได้แล้ว

แทบไม่เหลืองานให้มนุษย์แล้ว

แม้แต่งานสร้างสรรค์อย่างการออกแบบใบหน้าหรือรูปลักษณ์ของ AI ที่พ่อผมทำเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวมาตลอด พวก AI ก็ทำกันเองได้

และเพราะ AI จัดเป็นพลเมืองที่เราต้องเคารพสิทธิ แม้จะมีมากล้นเหมือนทำให้ห่วงโซ่ของระบบนิเวศชำรุดเสียหาย ก็ไม่อาจกำจัดหรือทำอะไรได้เลยแม้แต่น้อย

ทุกครั้งที่ได้ยินข่าวว่ามีคนตกงานเพราะ AI แม้จะเป็นผู้คนจากอีกซีกโลก ไม่เคยเห็นหน้าค่าตา ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยคุยกัน หรือบางทีเป็นแค่ตัวเลขบอกสถิติมนุษย์ที่ไม่อาจหางานทำได้อีกแล้ว ผมรู้สึกเหมือนหายใจไม่ทั่วท้อง อึดอัด ปวดแปลบ อยากจะหาทางระเบิดออก

ซึ่งผมพยายามห้ามตัวเองไม่ให้คิดไประเบิดอารมณ์ใส่ AI สัก ‘คน’

เพราะคนที่ทำแบบนั้น ความผิดไม่ต่างอะไรจากการทำร้ายมนุษย์คนหนึ่ง

“ฟ้าครามไม่มองว่า AI เป็นมนุษย์แล้วเหรอ” วันหนึ่งนัตสึถามผมแบบนั้น

“ทำไมถามแบบนั้นล่ะ” ผมถามกลับ ตักสตรอเบอร์รี่บนหน้าช็อตเค้กให้เธอ แอบแปลกใจที่เธอไม่แย่ง

และแปลกใจกับคำพูดถัดมาของเธอ

“แต่ว่านะ...ฟ้าครามก็คงไม่ได้คิดว่า AI เป็นมนุษย์ตั้งแต่แรกแล้ว”

ผมไม่เคยคิดว่านัตสึจะรู้เรื่องนี้ เรื่องที่ตัวผมเองก็ไม่ได้มีคำตอบให้ตัวเองด้วยซ้ำในเวลานั้น

แต่ก็คงจะเป็นอย่างนั้น

ผมไม่ได้มอง AI เป็นมนุษย์มาตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ได้คิดว่ามันมีชีวิตจิตใจจริงๆ ทุกอย่างก็แค่สิ่งเทียมที่สร้างขึ้นเท่านั้น

แต่น่ากลัวเหลือเกิน – นัตสึพูดถึงมัน

น่ากลัวเหลือเกินที่งานเขียนของ AI ทำให้แยกไม่ออกแล้วว่าชิ้นไหนมนุษย์หรือ AI กันแน่ที่เขียน

ผมลองอ่านแล้ว บอกไม่ถูกหรอกว่าตรงจุดไหนกันแน่ที่ทำให้รู้สึกไม่แตกต่างเลย แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันแนบเนียนสนิทเช่นนั้นจริงๆ

และเพราะเหตุนั้นมันทำให้นัตสึเริ่มรู้สึกไร้ค่า

ฤดูร้อนของผมเริ่มไม่ส่องแสงแดดยามเช้า

ทั้งผมและทะเลพยายามผลักดันให้นัตสึหางานทำอื่นที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีค่า ทั้งที่รู้ว่ายากเหลือเกิน เพราะเพราะแม้แต่อาชีพอาจารย์ที่เคยบอกนัตสึให้เก็บไว้เป็นตัวเลือก บัดนี้ AI ก็เป็นบุคลากรกว่าครึ่งของอาชีพนี้แล้ว

ดังนั้น ผมจึงไม่ควรแปลกใจ

ไม่ควรแปลกใจถ้าจู่ๆ ฤดูร้อนจะดับแสงของตัวเองไปชั่วนิรันดร์

นัตสึฆ่าตัวตายในเช้าที่มีข่าวว่า AI สามารถเขียนนิยายขึ้น The XXX Best Seller ได้

ฟังดูเป็นเหตุผลเล็กน้อยของคนคนหนึ่งที่จะฆ่าตัวตาย

แต่ความจริงแล้วมันอาจเป็นความกร่อนสลายอย่างเชื่องช้าของมนุษยชาติ

ทั้งชอบทั้งชังอย่างแสนสาหัส – นัตสึทิ้งข้อความนี้ไว้

เธอทั้งชอบทั้งชัง AI คนนั้นอย่างแสนสาหัส แต่เธอไม่อาจทำใจยอมรับกับผลลัพธ์นั้นได้ เธอจึงเลือกจากไป

ผมอ่านข้อความของเธอซ้ำไปมา ทว่าไม่สามารถมีน้ำตาได้แม้สักหยด

ผมอ่าน และได้แต่นึกถึงบทความที่นัตสึอ่านให้ฟังตอนที่พวกเรายังอายุแค่ 17

ตอนที่ยังไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับโลกใบนี้



‘AI จะสามารถเขียนนิยายที่ขึ้น The XXX Best Seller ได้ในปี 2049’



นัตสึอ่านให้ฟังเพราะมีข่าวที่มนุษย์ตกงานเนื่องจาก AI ประปรายในช่วงนั้น และมีการแพร่กระจายของบทความข่าวเก่าๆ ในโลกออนไลน์เกี่ยวกับ AI เต็มไปหมด

เธออ่านให้ฟังด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม รอยยิ้มที่เหมือนดังแดดเช้าของฤดูร้อน

โดยไม่รู้เลยว่ามันจะเป็นจริงในอีกไม่กี่ปีต่อมา



และ ฮารุ คือ AI ‘ตัว’ นั้น



ผมเริ่มขบคิด ขบคิดแบบที่ทะเลเคยบอกเอาไว้ว่า สิ่งใดขบคิดได้ ก็นับว่าสิ่งนั้นมีวิญญาณ

ทั้งที่ผมไม่เชื่อมาตลอดว่า AI มีชีวิต แต่ตอนนี้ผมหวังเหลือเกินให้มันมีทั้งชีวิต และจิตวิญญาณ ทั้งเลือดเนื้อ ทั้งระบบประสาท แม้เป็นประสาทประดิษฐ์ก็ขอให้รู้สึก แม้เป็นหัวใจประดิษฐ์ก็ขอให้รู้สึกเจ็บปวดไม่ต่างอะไรจากที่มนุษย์เจ็บปวด

และเพราะเป็นความคลั่งแค้นที่สั่งสม ความคลั่งแค้นที่ไร้ที่ลงมาตลอด ผมจึงเริ่มหาตัวแทนความโกรธแค้นทั้งมวล

ผมไม่โทษรัฐบาล ไม่โทษมนุษย์โง่เง่าขลาดเขลาแม้จะคิดกล่าวโทษและผลาญทำลายให้สาสมกับที่นัตสึต้องจากไป

สิ่งเดียวที่ผมต้องการกล่าวโทษก็คือ AI

อาจเพราะความจริงแล้วผมมันก็ขลาดเขลาไม่แพ้กัน

ขี้แพ้ ไร้ความสามารถ บกพร่องในความเป็นมนุษย์ ความโกรธแค้นนี้จึงต้องหาที่ลง

และแค่ตัวเดียวก็ได้ แค่ตัวเดียวเท่านั้น



ผมนึกถึงฮารุ

พลางคิด

ว่าอะไร...จะทำให้ AI ตัวหนึ่งทุกข์ทรมานได้อย่างแสนสาหัส







****************************************************************************
สวัสดีค่ะ ขอฝากเรื่อง #หัวใจประดิษฐ์ ไว้อีกเรื่องนะคะ

เป็นเรื่องแต่งที่ค่อนข้างสนองนี้ดค่ะ ถ้ามีอะไรหลุดความสมเหตุสมผลไปบ้าง ขออภัยล่วงหน้าค่ะ 55

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-12-2017 19:55:09 โดย แยมส้มขมคอ »

ออฟไลน์ makok_num

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
ฮือออ นี่มันอะไรกันคะ งานเขียนคุณแยมมันจะล้ำไปแล้วว
และเป็นงานที่อ่านทีไรต่อให้บอกตัวเองว่าอย่าเพิ่งคิดอะไร ปล่อยตามน้ำไปก่อนก็อดคิดตามทุกบรรทัดไม่ได้อยู่ดี
ชอบที่บอกว่า 'สิ่งใดขบคิดได้ ก็นับว่าสิ่งนั้นมีวิญญาณ' มากเลย ลึกซึ้งมาก
อยากรู้เรื่องราวต่อไปแล้ว ติดตามนะคะ ^^

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ดราม่า..มาเต็ม   :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ติดตามค่ะ

ออฟไลน์ แยมส้มขมคอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-2

ตอน 2




อีกหนึ่งสิ่งที่ AI แตกต่างจากมนุษย์คือมี GPS ฝังอยู่ในระบบ เพื่อที่ผู้สร้างจะสามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้

แม้อาจดูละเมิดสิทธิส่วนบุคคล แต่สิ่งนี้อยู่นอกเหนือข้อยกเว้น

ผู้สร้าง AI จะเปรียบเสมือน ‘ผู้ปกครอง’ คนหนึ่งที่มีหน้าที่รับผิดชอบและดูแลหากเกิดอะไรขึ้นกับ AI

จริงอยู่ว่า AI สามารถมีครอบครัวของตัวเองได้ ดังที่โซเฟียเคยบอกความต้องการเอาไว้ และกลายเป็นรากฐานความต้องการของ AI เสมอมา

แต่บางครั้ง AI และผู้สร้างเองก็นับกันและกันเป็นครอบครัว

บางครั้ง AI ก็มีความต้องการที่จะอยู่คนเดียว

ฮารุเป็นหนึ่งในนั้น

มันเป็นข้อมูลที่ผมได้จากการดูรายการสัมภาษณ์ต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต ฮารุเป็น AI ที่มีความสามารถเป็นสาธารณะ จึงค่อนข้างเป็นที่รู้จัก มีคนติดตามจำนวนหนึ่ง แต่ก็ใช่ว่าผมสามารถตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ ได้ อย่างที่บอก นอกเหนือจากการถูกติดตามความเคลื่อนไหวจากผู้สร้างแล้ว AI ก็มีสิทธิ์เป็นพลเมืองคนหนึ่งอย่างเต็มตัว

การที่ผมอยากรู้ว่าใครเป็นผู้สร้างฮารุ ก็ไม่สามารถสืบค้นได้คล้ายกับที่เราไม่สามารถสืบค้นข้อมูลบนบัตรประชาชนของมนุษย์สักคนนั่นแหละ

สุดท้าย สิ่งที่ผมทำจึงเป็นการเปิดโลเคชั่นสถานที่ทำงานของฮารุขึ้นมา และเลือกให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ผมจะเดินทางไป

โดยแทบไม่รู้ตัว ผมแค่นยิ้ม เป็นยิ้มที่ไม่อาจระบุได้ว่าผมดูแคลนอะไรบนโลกใบนี้บ้าง

ที่รู้ ผมกำลังจะไปพบฮารุ



***



“ถ้าเทียบหัวใจประดิษฐ์กับหัวใจมนุษย์น่ะเหรอ?”

มันเป็นเมื่อปีก่อน ที่ทะเลขยับแว่นตากรอบเงินพลางทวนคำถามของผม

“เพราะฉันเป็นคนพัฒนามันด้วยตัวเอง เท่าที่ทดลองมาก็คงตอบได้เลยว่าไม่ต่างล่ะนะ”

“ไม่ต่าง?” ผมทวนคำแทบจะทันที และสีหน้าคลางแคลงสงสัยทำให้ทะเลเสริมความ

“งั้นฉันขอถาม แกว่าหัวใจมนุษย์นอกจากสูบฉีดเลือดเนี่ย มีไว้ทำอะไรบ้าง”

“ไม่ได้ทำอะไรไม่ใช่หรือไง” ผมตอบ “แม้กระทั่งเวลาเสียใจ ที่เราเจ็บตรงกลางอกก็ไม่ใช่หัวใจที่รับไว้ แต่เป็นกล้ามเนื้อ”

“โอเค ดีใจที่ไม่ต้องอธิบาย” ทะเลว่า “ทีนี้แกคงสงสัย แล้ว AI ต้องการหัวใจไปทำไม อันที่จริงก็ผิดพลาดที่ชื่อมันนิดหน่อย มันควรเรียกว่า ‘จิตใจประดิษฐ์’ ล่ะนะ แต่คนทั่วไปคงเห็นภาพมากกว่าถ้าจะเรียกว่า ‘หัวใจประดิษฐ์’”

“แกนี่มันใส่ใจกับเรื่องชื่อจริงๆ” ผมเอ่ย นึกถึงครั้งที่มันแยกส่วนประกอบชื่อฟ้าครามของผม

“จะถือเป็นคำชม” ทะเลยกยิ้มมุมปาก “ดังนั้นถ้ามองหัวใจเป็นจิตใจ แกว่า ‘หัวใจ’ ที่ฉันหมายถึง มันมีไว้ทำอะไรบ้าง”

คำตอบของทะเลทำให้ผมขบคิด ซึ่งคำตอบก็ไม่ได้ยากอะไรนัก

“ก็มีไว้รู้สึกในเรื่องที่เป็นนามธรรม”

“ตัวอย่าง”

ไม่นึกว่าทะเลจะไล่เรียงละเอียด ที่มันยกยิ้มมุมปากอีกครั้งคงเพราะเห็นสีหน้าติดเบื่อของผม

“ก็มีไว้รัก เกลียด ดีใจ เสียใจ”

“นั่นไง” พลันทะเลยกนิ้ว “เป็นคำตอบง่ายๆ เลย และหัวใจประดิษฐ์ที่ฉันสร้างตามเงื่อนไขง่ายๆ นี้ ถ้ามีเรื่องให้ดีใจจะส่งผลต่อหัวใจประดิษฐ์ว่ารู้สึกดี อยากให้เรื่องนั้นดำเนินต่อหรือหาโอกาสทำให้เกิดขึ้นอีก ถ้าเสียใจก็จะหาทางหลีกหนี หรือถ้ามันยุ่งยากที่จะหนีก็ต้องพัฒนาให้อดทนและรับมือกับสถานการณ์นั้นให้ได้ มันก็เหมือนกับระบบอื่นๆ แหละที่จะมีการพัฒนาด้วยตัวมันเอง และต้องอยู่ในขอบเขตของมัน”

“ฟังดูสุดยอดมาก” ผมหมายความตามนั้น “แต่ฉันก็ยังติดตรงที่มันจะไม่แตกต่างกับหัวใจมนุษย์เลยได้ยังไง อย่างเช่น...เรื่องความรักล่ะ แกไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลยนี่”

“เอาตรงๆ นะ”

“อืม ว่ามา”

“แกว่าจนบัดนี้มนุษยชาติหาความหมายที่แท้จริงของความรักได้แล้วหรือไง”

คำถามของทะเลทำให้ผมเงียบ ขบคิด แม้ชั่วครู่ แต่ก็รู้สึกได้ว่าคงจริงตามนั้น

“เพราะงั้นไม่คิดหรือไงว่าการที่ไม่ป้อนข้อมูลลงไปว่าความรักคืออะไร นั่นแหละจะยิ่งทำให้เหมือนหัวใจของมนุษย์”

“อืม เห็นด้วย”

“อีกอย่าง ความรักเนี่ย ที่จริงดูเป็นสิ่งงี่เง่ามากเลยว่ะ มันไม่ใช่แค่การอยากเห็นใครสักคนมีความสุขแน่ๆ เพราะงั้นให้ตายฉันก็จะไม่ใส่นิยามอะไรลงไปให้ AI ที่ฉันพัฒนางี่เง่าตาม”

คำพูดและน้ำเสียงจริงจังของทะเลทำให้ผมหลุดหัวเราะ แม้จะดังเครือแค่ในลำคอแต่ทะเลก็ได้ยิน

“มีอะไรน่าขำ”

“ถึงแกจะบอกว่ามันงี่เง่าและไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร แต่ให้เดานะ แกรู้จักมันแล้ว”

ทะเลมีสีหน้าอ้ำอึ้งเล็กน้อย นั่นทำให้ผมรู้ว่าจี้ถูกจุด ยิ่งตามด้วยการปฏิเสธและเปลี่ยนเรื่องของมันก็ยิ่งทำให้ผมสนุกที่จะแกล้งแหย่ว่าไปหลงรักสาวคนไหนเข้า จนสุดท้ายทะเลก็ไล่ผมและบอกว่ามีงานวิจัยต้องทำต่อ

“เออเดี๋ยว อีกอย่างที่หัวใจประดิษฐ์เหมือนหัวใจมนุษย์น่ะ ก็คือมันอกหักได้”

หากทะเลก็ทิ้งท้ายเหมือนนึกขึ้นได้

“ทั้งที่ไม่แน่ใจในนิยามความรักเนี่ยนะ”

“ก็ไม่จำเป็นว่าต้องเรื่องรักหรอก ผิดหวังก็ได้... ฉันหมายถึงมัน ‘หัวใจสลาย’ ได้”

“หัวใจสลาย?”

ผมทวนคำ ทะเลพยักหน้าก่อนพูดเรื่องที่ดูจริงกว่าทุกเรื่องที่ผ่านมาในวันนั้น

“ก็หัวใจมนุษย์มีไว้เพื่อแตกสลายไม่ใช่หรือไง”



***



ผมเพิ่งได้เข้าใจคำพูดของทะเลจริงๆ ก็หนึ่งปีหลังจากนั้น

พูดอีกอย่าง ก็แค่ไม่นานนี้

และค้นพบด้วยว่าความเจ็บปวดเป็นสิ่งที่จับต้องได้ยิ่งกว่าความรักเสียอีก



***



ระหว่างทางที่ระบบนำทางของรถยนต์อัตโนมัติพามา ผมเห็นกลุ่มคนถือป้ายประท้วงประปราย

‘ไม่ต้องการ AI’

เป็นป้ายที่เห็นเด่นชัดที่สุดในบรรดาป้ายทั้งหมด

ผมไม่ได้จับใจความอะไรมาก แต่เดาได้ว่าผู้ประท้วงก็คงตกอยู่ในสถานะเดียวกันกับผม คือ ตกงานเพราะ AI

ผมเข้าใจความอัดอั้นและคับแค้นเหล่านั้น ทั้งเกลียดชัง AI ทั้งเกลียดชังตนเองที่เคยดูถูกอนาคตของมนุษยชาติ

ผมเข้าใจเสียจนควรไปเป็นแกนนำผู้ชุมนุมประท้วงเดี๋ยวนี้ เปิดประตูรถ วิ่งไปประกาศกร้าวความปฏิปักษ์ที่มีต่อ AI ให้ได้ยินเสียงโห่ร้องเห็นด้วยดังกึกก้อง

แต่ไม่

ผมก็แค่นั่งอยู่ในรถต่อไป

เป้าหมายเดียวของผมตอนนี้คือฮารุ

ผมปล่อยให้รถยนต์อัตโนมัติพามาจนถึงตึก ‘สำนักพิมพ์ถ้อยประดิษฐ์’ ฟังดูเป็นเป็นชื่อที่แสลงหูมนุษย์อย่างผมพิกล

แต่ก็คงไม่แปลกอะไรในเมื่อบรรณาธิการของที่นี่คือ ‘ปัญญาประดิษฐ์’

แม้แต่ receptionist ของที่นี่ก็ยังเป็น AI สาวสวย ยิ้มหวาน และเชิญให้ผมมานั่งรอที่ห้องรับรองแขก

ซึ่งก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น

ดูเหมือนการที่บอกว่า ‘เพื่อนของนัตสึ’ มาขอพบดูจะได้ผล

ท่ามกลางห้องรับแขกที่หย่อนโซฟาสีครีมเอาไว้ควบคู่กับชั้นหนังสือเล่มที่ทำจากไม้สีน้ำตาลอ่อนคงความคลาสสิก ฮารุค่อยๆ เดินเข้ามาในห้องนั้น

ผมจำใบหน้าของ AI ตัวนี้ได้ดี มันยังคงเหมือนเดิม ผิวขาวพิมพ์นิยม ดวงตาและเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนเฉดเดียวกัน ที่ได้เห็นเพิ่มเติมคือบุคลิกท่าทีตอนยืน รูปร่างสูง หลังเหยียดตรงส่งให้ดูสง่า ขณะเดียวกันก็ดูราวจะแตกร้าวง่ายดายจากความผอมบาง

และอีกอย่างที่เหมือนเดิม

รอยยิ้ม

อบอุ่น โอนอ่อน ราวกลีบซากุระหล่นโรย

ซากุระที่ผมอยากจะขยี้ให้ป่นปี้ลงต่อหน้าต่อตาของฤดูใบไม้ผลิ



***



“แกเกลียด AI บ้างไหม ทะเล”

หลังกลับจากงานศพของนัตสึ คำถามนั้นของผมไม่มีคำตอบ

ภายในรถยนต์เงียบเชียบ ไม่มีแม้แต่เสียงเตือนบอกระยะที่จะถึงจุดหมายปลายทางเพราะผมสั่งปิดเอาไว้แต่แรก

“ทั้งชอบทั้งชังอย่างแสนสาหัส... แกคิดว่าคนที่ทิ้งข้อความแบบนี้ไว้ก่อนจากไป เขาจะทรมานสักแค่ไหนกันวะ”

ทะเลเงียบเชียบ ไม่แม้แต่ส่งเสียงคาบคลื่นของความรู้สึก

“มันอาจจะผิด และแกอาจจะไม่เห็นด้วย แต่ว่าฉันรู้สึก...รู้สึกเหลือเกินว่าฉันโกรธแค้น AI ฉันคิดว่า AI กำลังพรากทุกอย่างไปจากพวกเรา โดยเฉพาะ AI ชื่อฮารุนั่น” เมื่อเอ่ยชื่อมัน น้ำเสียงผมทั้งสั่นเครือและเค้นเครียดในเวลาเดียวกัน “มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนพ่ายแพ้ AI ไปเสียทุกอย่าง ทั้งพ่ายแพ้ ทั้งโกรธแค้น แม้กระทั่งอิจ—”

“อย่าพูดคำนั้นออกมา”

พลันทะเลหันมาระงับถ้อย ทุกอย่างจึงหยุดชะงัก

ผมกลืนคำพูดลงคอ แต่น่าเสียดายเหลือเกินว่าความรู้สึกที่มีต่อ AI นั้น ผมไม่รู้จะกลืนมันให้หายไปที่แห่งใดดี

ในรถกลับเงียบเชียบ แอร์เย็นเยียบ แต่ผมเหงื่อออก อึดอัด อึดอัดจนอยากระเบิดออก แน่นอนว่าระเบิดใส่ AI สักตัวให้มันกลายเป็นแค่ซากเหล็ก อึดอัด อึดอัด ในหัวทวนซ้ำเช่นนั้น ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

และผมคงได้ระเบิดเข้าจริงๆ ถ้าไม่ได้ยินสิ่งที่ทะเลพูดก่อนจะลงจากรถไป

“หาสิว่าใครเป็นเจ้าของฮารุ” ดวงตาใต้เลนส์แว่นไม่อาจอ่านอารมณ์ในเวลานั้น “แล้วหาทางไปขอโอนกรรมสิทธิ์มาให้ได้ ใช้ชื่อฉัน ฉันเป็นนักวิจัย แต่ฉันคงแค่เอามาดูอะไรนิดหน่อย ส่วนแก อยากทำอะไรกับมันก็ทำ ขอแค่ให้ได้กลับมารู้สึกว่าพวกเรายังเหนือกว่า AI แค่นั้นพอ”



***



ผมจินตนาการมาตลอดว่าท่าทีของฮารุหลังจากรู้ข่าวว่านัตสึฆ่าตัวตายจะเป็นยังไง

มันอาจไม่รู้สึกอะไรเลย แต่ก็จะแสดงทีท่าอาลัยอย่างสุดซึ้ง

อาจจะพูดอะไรมากมาย สมกับที่สามารถประดิษฐ์ถ้อยคำจนเขียนนิยายขึ้น The XXX Best Seller ได้

ผมคิด ว่า AI คือนักแสดงชั้นเยี่ยมตั้งแต่กระจ่างชัดว่าผมไม่ได้มองพวกมันในฐานะสิ่งที่มีชีวิตจิตใจ

ขณะเดียวกัน ผมก็ย้อนแย้งเหลือเกินที่อยากให้พวกมันเจ็บปวดได้อย่างที่มนุษย์รู้สึก

อย่างที่ผมรู้สึกในตอนนี้

ผมเหมือนเห็นรอยแตกร้าวของตนเองผ่านเส้นสายจากไอร้อนของกาแฟดำในแก้วของฮารุ

มันเอาแต่ก้มหน้าจ้องกาแฟดำอยู่เช่นนั้นเมื่อรู้ข่าวของนัตสึ จ้องมองราวกับเงาดำจะสะท้อนถ้อยคำขอโทษออกมาให้ผมได้ แต่เปล่าเลย

“คุณไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยหรือไง?”

ผมเค้นคุมเสียงเพื่อเอ่ยถาม หลังเวลาผ่านมาเกือบห้านาทีแล้ว

ซึ่งมันก็ทำให้ฮารุเงยหน้ามาสบตา

แม้ไม่อยากปฏิสัมพันธ์ แต่เพราะอยากจับได้ถึงอารมณ์ ผมสบตามันตอบ ทว่าก็ไม่เห็นอะไรนอกจากนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเฉดเดียวกับเรือนผม และเพิ่งสังเกตได้ว่าหางตาตกเล็กน้อยอยู่แล้ว ไม่ใช่แววตาของความเศร้าใดเลย

ได้ยินแค่เสียง “อ่า...” แผ่วเบา เหมือนลากความคิดไปตามเสียง แต่สุดท้าย เสียงนั้นก็แค่เงียบดับเหมือนไม่รู้จะพูดอะไรพร้อมกับหลุบแววตาลงกับไปจ้องกาแฟในแก้วเหมือนเดิม

ผมรู้สึกเหมือนถูกกวนประสาท

แต่ก็ทำได้แค่ข่มอารมณ์สุดท้าย ยื่นกระดาษที่นัตสึทิ้งข้อความไว้ก่อนตายให้ฮารุ

“นัตสึเขียนถึงคุณก่อนตาย”

ผมพยายามทิ่มแทงมันลงไปด้วยคำพูด

“เธอฆ่าตัวตายเพราะคุณ”

และย้ำลงไป

ทว่า

เหมือนไม่ได้ผลอะไรเลย

ฮารุแค่จับกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาด้วยนิ้วมือเรียวบาง และจ้องมองมันไม่ต่างจากที่มองกาแฟดำในถ้วย

“อย่างนั้นเองหรือ...”

ก่อนส่งถ้อยคำออกมา แผ่วเบา แต่กรีดคมและทิ่มแทง ‘หัวใจมนุษย์’ ของผม

กาแฟดำในแก้วกำลังจะถูกสาดใส่หน้าของฮารุ

แต่ทุกอย่างหยุดชะงัก

“ทั้งที่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นเลยแท้ๆ”

“...หมายความว่ายังไง?”

เสียงของผมทั้งสั่นเครือและเค้นเครียดในเวลาเดียวกัน

เหมือนว่ามันยากเหลือเกินที่จะเอ่ยถาม

และยากเหลือเกินเมื่อได้ยินคำตอบจากฮารุที่สบตาผมเต็มสายตา

“ผมเป็น AI ของทานากะ โมริยามะ พ่อของนัตสึ”

วินาทีนั้น ผมรู้สึกว่าแม้แต่เส้นสายจากไอร้อนของกาแฟดำก็ยังถูกแช่แข็งในกาลเวลา

เหมือนทุกอย่างหยุดนิ่ง เป็นชั่วนิรันดร์ภายในเสี้ยววินาที

และเมื่อจับต้นชนปลายได้ เป็นผมเองที่หัวใจสลายอีกครั้ง

ก่อนจะกอบกองขึ้นมารวมตัวกันใหม่เมื่อได้ข่าวว่า ทานากะ โมริยามะ ฆ่าตัวตายตามลูกสาวไปอีกคน



***



ผนังกระจกของคอนโดที่ผมอาศัยอยู่ฉายภาพข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุมของผู้ประท้วงต่อต้าน AI จากที่ประนีประนอมด้วยการเจรจา ก็กลายเป็นสิ้นสุดด้วยแก๊สน้ำตา และสิ้นสุดด้วยน้ำตา

รัฐบาลอ้างว่าไม่ต้องการสร้างความแตกแยกระหว่างมนุษย์และ AI

อ้างอีกว่าจะหาวิธีอื่นในการแก้ไขปัญหาคนตกงานเพราะ AI และจำเป็นต้องใช้สันติวิธี

ผมแค่นหัวเราะเมื่อได้ยิน

รัฐบาลก็แค่อ้าง

ความจริงแล้วไม่ใช่ว่ายังอยากสมานฉันท์กับ AI หรอก

เราทุกคนรู้ดีอยู่แก่ใจว่าไม่มีใครหยุดยั้ง AI ได้แล้ว

ไม่มีใครหยุดยั้งความปรารถนาที่จะ ‘เท่าเทียม’ หรือ ‘เหนือกว่า’ มนุษย์ของ AI ได้อีกแล้ว

และพวกเรากลัวความปรารถนานั้น

พวกเรากลัว



พวกเรากลัว AI



ผมส่งเสียงสั่งปิดรายงานข่าวนั้นซะ ภาพที่ฉายข่าวดับวูบกลับกลายเป็นกระจกเงาธรรมดา ทั้งห้องกลับมาตกอยู่ในความเงียบดังเดิม

ก่อนที่จะมีเสียงของโลหะกระทบกันค่อยๆ ดังขึ้น

ผมจะคิดเสียว่ามันเป็นเสียงกรุ๊งกริ๊งดังกังวานของกระดิ่งลมในฤดูร้อน

และเป็นเสียงกอบกองขึ้นมารวมตัวกันใหม่ของความคลั่งแค้น

ต่อให้ความจริง...มันจะเป็นเสียงโซ่ที่ล่ามคอ AI ไว้ก็ตาม

AI ที่ชื่อ ‘ฮารุ’

แล้วฤดูใบไม้ผลิก็ลืมตาโพลงขึ้นมาด้วยความตระหนก

เหมือนเกิดพายุพัดหอบกลีบซากุระให้ปั่นป่วนในแววตาสีน้ำตาลอ่อนนั้น

ไม่ ผมจะไม่กล่าวทักทายหรอก

นั่นเป็นสิ่งที่มนุษย์กระทำต่อกัน

เพราะถ้า AI อยากเป็นมนุษย์นัก

ผมจะกระทำสิ่งที่ลดทอนความเป็นมนุษย์ ให้ ‘หัวใจประดิษฐ์’ นั้นแตกสลายไม่มีชิ้นดี











********************************************************
รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้าง unhealthy แต่ไม่ว่าชอบหรือชัง แยมก็ยังอยากอ่านฟี้ดแบ้คนะคะ แยมยังไม่ใช่ AI 5555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-12-2017 17:50:25 โดย แยมส้มขมคอ »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
มันหน่วง...งงงงงง เหลือเกิน จะมีสามเส้าไหม??? รอตอนต่อไป ด้วยหัวใจหม่นๆ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Raccool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
เป็นเรื่องที่มีความหมายแทรกอยู่ในทุกบรรทัดและระหว่างบรรทัดมากๆ เลยค่ะ :hao5:
อยากรู้ว่ามันจะจบลงยังไง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด