The Color of Love : ​Pink Loved ความรักสีชมพู (The End)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Color of Love : ​Pink Loved ความรักสีชมพู (The End)  (อ่าน 27615 ครั้ง)

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: ฺBlack Heart : หัวใจสีดำ
«ตอบ #30 เมื่อ30-10-2017 21:48:54 »

คู่พี่ใหญ่สีดำลงตัวแล้ว น่ารัก
รออ่านทุกคู่น่ะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ฺBlack Heart : หัวใจสีดำ
«ตอบ #31 เมื่อ30-10-2017 22:38:48 »

รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
Re: ฺBlack Heart : หัวใจสีดำ
«ตอบ #32 เมื่อ30-10-2017 23:25:20 »

 :ling3: :ling3:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
Re: ฺBlack Heart : หัวใจสีดำ
«ตอบ #33 เมื่อ31-10-2017 12:36:35 »

ยิ้มหวานเชียว ..

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: ฺBlack Heart : หัวใจสีดำ -The End-
«ตอบ #34 เมื่อ01-11-2017 20:24:00 »

Black Heart 10 : สีดำ (อนาคินxนิลกาฬ) -The End-

ที่ห้องประชุมใหญ่ของบริษัททุกคนมาพร้อมหน้ากัน วันนี้แปลกใจกับท่านประธานที่ยิ้มไม่ยอมหุบ โดยมีเลขาคนสนิทนั่งอยู่ข้างๆ

“แล้วโปรดิวเซอร์ของเรามาหรือยัง”อนาคินเอ่ยถามการตลาด

“อ่อ กำลังมาคะ”

“มาช้าแบบนี้จะเอาบริษัทนี้หรอครับเฮีย”เสียงกรีนเอ่ยขึ้น

“บริษัทนี้มีชื่อเสียงมากนะ รออีกนิดแล้วกันอย่าทำเป็นดาราใจร้อนสิ หน้างอไม่น่ารักเลย”อนาคินเอ่ยตำหนิน้องชายอย่างน่ารัก สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนในห้องหลังจากที่ไม่มีโมเมนต์ว่ท่านประธานเอ่ยแซวเล่นกับคนอื่นๆแบบนี้มานานแล้ว

สักพักร่างสูงของใครคนหนึ่งก็เดินเข้ามา ร่างสูงที่ทำให้นิลกาฬตาคาง แถมอนาคินเองนึกหงุดหงิดหัวใจเล็กน้อยแต่เขาก็ต้องวางตัวให้เหมาะกับการเป็นนักธุรกิจ

“คุณชยางกูร”นิลกาฬเอ่ยขึ้นเสียงหลง อนาคินปรายตามองอย่างไม่พอใจนักก่อนจะขยับเท้าไปชนเท้าของนิลกาฬ

“คุณนิล”ชยางกูรดีใจมากที่เจอนิลกาฬที่นี้

“ไอ้ๆๆ”เสียงหนึ่งโดดขึ้นมา ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่กลับเป็นเสียงกรีนที่ดังขึ้นกลางหองประชุม

“กรีนมีมารยาทหน่อย นั่งลง”อนาคินเอ่ยปรามน้องชาย

“คุณชยางกูร เจ้าของบริษัท CY โปรดิวเซอร์ ที่ผ่านการประมูลโปรเจคตัวใหม่ของเราคะ”เสียงผู้จัดการการตลาดเอ่ยขึ้นแนะนำ

“สวัสดีครับคุณอนาคิน และคุณนิล ดีใจจังครับที่ได้เจอคุณนิลอีก”ชยางกูรเอ่ยขึ้นอย่างลืมตัวเพราะความดีใจ อนาคินเห็นท่าไม่ดีนักก็สายตาไอ้โปรดิวเซอร์หนุ่มกำลังหวานหยาดเยิ้มอยู่ มือหนากวาดโอบที่ไหล่ของนิลกาฬทันที

“อื้ม นิลจ๊ะช่วยโทรไปร้านอาหารที่เราสองคนจะไปดินเนอร์กันคืนนี้อีกทีสิ ว่าเขายังมีเมนู"**จับชู้ลงหม้อ"**อยู่ใหม”

“ห๊ะ!...อะไรนะครับ มันมีเมนูนี้ด้วยหรอครับ”นิลกาฬเอ่ยขึ้นอย่าง งงๆ

“มีสิครับ ไปสั่งให้หน่อยนะครับที่รัก”อนาคินเอ่ยขึ้น สายตากลับมองมายังชยางกูรก่อนจะเอ่ยขึ้น

“อื้ม งั้นผมว่าเรามาคุยเรื่องงานกันเลยไหม ผมรีบอ่ะต้องพาเมียไปกินข้าว...”อนาคินเอ่ยขึ้นอย่างไม่สนใจใครจะพูดอะไร ตอนนี้แค่อยากจะให้โปรดิวเซอร์หนุ่มตรงหน้ารู้ว่าคนที่คุณกำลังมองคือเมียผมเอง

...

..

ไม่มีอะไรที่เรียกว่าแน่นอนกับความรัก ถ้าคิดว่าหัวใจหนึ่งดวงจะรักคนหนึ่งได้เพียงคนเดียว นั่นคุณกำลังคิดผิดเพราะการที่คิดว่าตัวเองจะรักใครมากที่สุดได้แค่คนเดียวมันเป็นเรื่องโกหกสำหรับความรัก

“พี่แบล็คว่าพี่นิ่มจะให้อภัยนิลไหม และพี่นิ่มเขาจะโกรธนิลไหมครับ”นิลกาฬเอ่ยขึ้นถามคนข้างๆ ที่ตอนนี้ยืนมองรูปหญิงสาวหน้าหลุมศพมือหนึ่งถือช่อดอกไม้ส่วนอีกมือจับมือของนิลกาฬไว้แน่น สายตามองไปยังหญฺงสาวที่เขาคิดว่าเขารักมากที่สุดและคงไม่มีใครจะมาแทนที่นิรมลได้ แต่เมื่อโชคชะตาพาเขามาเจอกับนิลกาฬเขากลับต้องมองความรักใหม่

“ไม่หรอก ถ้าคุณนิ่มคิดแบบนั้นเธอคงไม่ส่งนิลมาเจอกับพี่หรอก”อนาคินเอ่ยขึ้นก่อนจะวางดอกไม้บนหลุมฝังศพพร้อมนิลกาฬ

“ขอบคุณนะคุณนิ่ม ที่พานิลกาฬมาเจอกับผม ผมคิดว่าไม่ใช่แค่โชคชะตาที่พาให้เรามาเจอกันและรักกันแต่มันคือพรหมลิขิตที่ลิขิตให้ผมได้มีคุณและนิลกาฬได้ดูแล”อนาคินเอ่ยออกมา สายตคมละจากหลุมฝังศพตรงหน้าก่อนจะหันมองนิลกาฬที่ละสายตามามองอนาคินเช่นกัน

“นิล ต่อไปนี้พี่จะดูแลนิลให้ดีที่สุด และจะรักนิลมห้มากที่สุดเท่าที่ชีวิตพี่จะหายใจอยู่”อนาคินเอ่ยเสร็จนิลกาฬรีบยกมือปิดปากหนาทันทีก่อนจะเอ่ยขึ้น

“อย่าพูดแบบนั้นสิครับ นิลไม่ได้เรียกร้องอะไร แค่ได้รักพี่ก็ไม่ต้องการอะไรแล้วครับ”

“นิลกาฬ...”อนาคินเอ่ยพร้อมใช้นิ้วเชยคางสวยนั้นให้เชิดขึ้นแล้วกดจูบที่ริมฝีปากนั้นทันทีอยางไม่ลังเล

“เราจะรักกันตลอดไป”อนาคินเอ่ย

ที่บ้านหลังใหญ่วันนี้มีงานเลี้ยงเล็กๆที่ถูกจัดขึ้นเฉพาะครอบครัว เป็นงานเลี้ยงระหว่างอนาคินละนิลกาฬ รอยยิ้มของทั้งสองช่างแทงใจอีกคนนัก เกรย์เดินเลี่ยงออกมานั่งอยู่ริมสระน้ำ สายตามองไปยังนิลกาฬที่กำลังยิ้มและหัวเราะออกมาด้วยความสุข

“เดี๋ยวนิลมานะครับ”นิลกาฬเอ่ยบอกอนาคินที่กำลังนั่งพูดคุยกับน้องๆ เป็นครั้งแรกที่อนาคินปล่อยตัวเองให้เมามายได้ขนาดนี้ ซึ่งนิลกาฬก็ไม่ได้ห้ามอะไ

“จะไปไหนอ่า...”อนาคินเอ่ยอ้อนๆ ใบหน้าหล่อเหลาคลอเคลียคนข้างๆไปมา

“โธ่ เฮียไอ้โรคติดเมียอ่ะ เลิกได้แล้วพี่นิลไม่ได้ไปไหนสักหน่อย”เสียงบลูเอ่ยแซวพี่ชาย

“นิลขอไปคุยกับคุณเกรย์สักแปบนะครับ”นิลกาฬเอ่ยบอก

“ให้แปบเดียวนะ พี่หวง”อนาคินเอ่ยกระซิบเบาๆจนอีกคนหน้าแดงฉ่าออกมา

“บ้าแระ เดี๋ยวนิลมานะครับ”นิลกาฬเอ่ยขึ้นพร้อมกับเกินตรงไปยังอีกฝั่งของสระน้ำ



อีกด้านของสระ ใบหน้าคมเข้มกำลังนั่งเหมอมองไปยังน้ำใสสระที่มันกระพึ่มเพราะแรงลม ไม่อยากจะให้สายตาต้องเห็นแล้วทำให้ใจต้องเจ็บ

“นั่งด้วยได้ไหมครับ”เสียงเอ่ยจากด้านหลัง เกรย์เองรู้ว่าเป็นใคร

“เชิญครับ”เกรย์เอ่ยขึ้นพร้อมขยับที่ให้นิลกาฬนั่งรอยยิ้มแห้งๆที่ยกยิ้มขึ้นดูยังไงก็ไม่มีความสุข เหมือนยังมีอะไรแฝงอยู่

“หายไปไหนมาครับ”นิลกาฬเอ่ยถามเมื่อความเงียบเข้ามาปกคลุมเป็นเวลาเกือบสิบนาที

“ไปทำให้หัวใจแข็งแรงครับ หัวใจผมมันรู้สึกอ่อนแออย่างบอกไม่ถูก”

“เพราะผมใช่ไหม”

“ไม่ใช่หรอก เพราะตัวผมเองต่างหาก คุณนิลไม่ผิดอะไรเลย เพราะผมทั้งหมดที่ทำให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้น”เกรย์เอ่ยขึ้น สายตากลับมองไปยังใครคนหนึ่งที่เดินมาจากในบ้าน

“ผมไม่รู้ว่าคุณเกรย์คิดยังไงกับผม แต่ผมเองก็ขอขอบคุณที่คุณรู้สึกดีๆกับผมมาตลอด แต่ความรักมันห้ามกันไม่ได้จริงๆ แม้แต่แรกผมรู้ว่าพี่แบล็คไม่มีทางรักผม แต่ผมก็ไม่ได้เสียใจ”

“แต่ตอนนี้เฮียก็รักคุณมาก เหมือนที่คุณรักเฮียมาตลอดแล้วไม่มาทางรักผม”เกรย์เอ่ยออกมา นิลกาฬจับมือหนาที่กำลังกุมแก้วเหล้าอยู่ไว้ สื่อออกไปถึงมิตรภาพ

“ผมขอโทษนะครับ คุณพอจะยกโทษให้ผมได้ไหม”นิลกาฬเอ่ยออกมา เกรย์หันมองนิลกาฬด้วยสายตาตัดพ้อเล็กน้อย แต่จะทำยังไงได้ก็ในเมื่อนิลกาฬเลือกแล้วที่จะเป็นพี่สะใภ้ของตัวเอง

“หึ ผมไม่ยกโทษใหเหรอก เพราะไม่รุ้จะยกโทษเรื่องอะไร ในเมื่อคุณไม่ผิดอะไรเลยนี่ครับ”เกรย์เอ่ยขึ้นพร้อมหัวเราะออกมาเบาๆ

“คุณเกรย์...”นิลกาฬเอ่ยออกมาเบาๆ

“คุณนิล ผมขออะไรอย่างได้ไหมครับ”เกรย์เอ่ยขึ้นสายตเป็นเชิงขอร้อง นิลกาฬยกยิ้มให้ก่อนจะเอ่ยถามกลับ

“ขออะไรหรอครับ”นิลกาฬเอ่ยขึ้น

“ผมขอกอดคุณนิลได้ไหม ฐานะเพื่อนก่อนที่เราสองคนจะเปลี่ยนสถานะ”เกรย์เอ่ย นิลกาฬยกยิ้มออกมาก่อนจะพยักหน้า

“ได้สิครับ”นิลกาฬอ้าแขนกว้างออกมา เกรย์สวมกอดนิลกาฬไว้แน่น

ทั้งสองสวมกอดกันนานพอสมควร นานพอที่สายตาของใครคนหนึ่งจะเห็นภาพนั้น น้ำตาไหลออกมาผ่านม่านตาสีสวย แววตาแสนเศร้ากำลังบ่งบอกว่ามันเจ็บแค่ไหนก่อนจะตกใจและรีบเดินจ้ำออกไปจากจุดนั้น

“เจ้าเกรย์กอดเมียเฮียนานไปแล้วนะ”เสียงเอ่ยของอนาคินที่เดินเข้ามา ก่อนจะหันมองอะไรบางอย่างที่หลังพุ่มไม้เคลื่อนไหวไวๆออกไป

“ใครอ่ะ...”เสียงอนาคินเอ่ยขึ้นทั้งนิลกาฬและเกรย์จึงผละออกจากกันและเดินเข้ามาสมทบ อนาคินเดินอ้อมไปหลังพุ่มไม้ปต่ไม่พบใคร

“อะไรครับเฮีย”เกรย์เอ่ยขึ้นถาม

“เมื่อกี้เฮียเห็นใครยืนอยู่ตรงนี้ แต่ช่างเหอะคงจะเป็นเด็กๆในบ้านเดินไปมามั้ง ว่าแต่นี่กอดเมียเฮียนานไปแล้วไหม”อนาคินเอ่ยแซวน้องชาย

“ถ้าเฮียทำให้คุณนิลเสียใจ ผมจะโกรธเฮียมากๆด้วย เข้าใจไหมครับ”เกรย์เอ่ยขึ้นกอ่นะจยิ้มออกมา

“ไม่มีทางแน่นอน เพราะคนนี้เฮียรักมาก รักจนถวายชีวิตให้ได้เลยหล่ะ”อนาคินเอ่ยพร้อมโอบไหล่นิลกาฬไว้

“กับพี่นิ่ม เฮียก็พูดแบบนี้”เกรย์เอ่ยขึ้นก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้อนาคินกับนิลกาฬที่ยืนอยู่

“ไอ้น้องบ้า”อนาคินสบถเบาๆ นิลกาฬหันมองอนาคินเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้โกรธและงอนอะไรเพราะรู้ดีว่าตอนนี้อนาคินรักตัวเองมากแค่ไหน

“เมียจ๋า”อนาคินเอ่ยอ้อนๆ นิลกาฬแอบอมยิ้มเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ยิ้มออกมาก่อนจะแกล้งเดินออกไป อนาคินก็รีบเดินตามทันที

“นิล อย่างอนพี่สิ”อนาคินเอ่ยขึ้น นิลกาฬแอบหัวเราะเบาๆออกมาจนอนาคินคิดว่าตัวเองถูกนิลกาฬแกล้งจึงรวบร่างโปร่งนั้นขึ้นทันที

หมับ!

“อ๊ะ...พี่แบล็คจะทำอะไรอ่ะ”นิลกาฬเอ่ยขึ้นเมื่อรู้ว่าอนาคินกำลังจะทำอะไรตอนนี้

“ไม่ปล่อย พี่กำลังจะทำโทษคนที่แกล้งพี่ เตรียมตัวนะครับเมียรัก”อนาคินเอ่ยขึ้นก่อนจะอุ้มนิลกาฬมาที่ริมสระ พร้อมตะโกนบอกน้องๆอีกด้านให้ดู

“ทุกคน เล่นน้ำกันไหม ถ้าอยากเล่นก็ลงมาเลย...”อนาคินเอ่ยเสร็จก็กระโดลงสระน้ำทั้งๆที่อุ้มนิลกาฬอยู่ในมือ

โครม...

“เฮีย อย่าแกล้ง ฮ่าๆๆ”เสียงหัวเราะออกมาดังทั่วสระน้ำของบ้าน เมื่อเสียงกระโดลงสระตามมาอีกหลายชีวิต

รอยยิ้มและความสุขกำลังบังเกิดกับบ้านหลังนี้อีกครั้งนับจากที่เจ้าของบ้านปิดตายเรื่องหัวใจมานานหลายปี นับจากนี้บ้านหลังใหญ่ที่คิดว่ามีแต่ความมืดมนจะมีแต่ความสุข ทุกคนคิดแบบนั้น

...

“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ พี่แบล็ค...เบาๆหน่อย นิลจุกครับ อ่าห์”เสียงหวานเอ่ยร้องขออย่างแสนหวาน เมื่อใบหน้าหวานกำลังซุกอยู่กับหมอนใบโต สะโพกกลมถูกยกขึ้นจากฝ่ามือหนาที่กำลังบีบเค้นสะโพกนั้น

“อ่าห์...นิลจ๋า พี่มีความสุขเหลือเกิน”อนาคินสอบกายเข้าออกตามจังหวะรัก ปากก็พร่ำแต่ความสุขที่กำลังบังเกิดขึ้น จากผู้ชายที่เขากำลังรักจนหมดใจ

เกือบสามชั่วโมงที่คู่ข้าวใหม่ปลามันกำลังมีความสุข ความสุขที่แสนจะเกินคำบรรยายแต่มันต่างกันกับคนอีกห้องที่ตอนนี้มันมีเพียงความหม่นหมอง และค้างคาในใจ

“จะนอนได้หรือยัง หรือจะให้ฉันต้องเอานายอีกยกสองยกถึงจะนอนได้”

“ฮึกๆ”

“หยุดร้องได้แล้ว น่ารำคาญ”

....The End...

"ความรักไม่ว่าจะอยู่ในสีอะไร ยังไงมันก็คือความรัก"

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-01-2018 19:32:34 โดย Papai »

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: ฺBlack Heart : หัวใจสีดำ
«ตอบ #35 เมื่อ02-11-2017 07:55:30 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ฺBlack Heart : หัวใจสีดำ
«ตอบ #36 เมื่อ02-11-2017 08:04:29 »

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
Re: ฺBlack Heart : หัวใจสีดำ
«ตอบ #37 เมื่อ02-11-2017 12:15:59 »

รอ คู่ ตอนต่อไป

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: ฺBlack Heart : หัวใจสีดำ
«ตอบ #38 เมื่อ02-11-2017 19:32:50 »

เฮียแบล็คสายหื่นจัดนิลซะ ฮ่าๆๆๆๆ คู่นี้แฮปปี้แล้ว
คู่ต่อไปจะเป็นใคร เกรย์ หรือ กรีน รออออ

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: ฺBlack Heart : หัวใจสีดำ
«ตอบ #39 เมื่อ02-11-2017 21:06:47 »

 :katai3: :katai3: :katai3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ฺBlack Heart : หัวใจสีดำ
« ตอบ #39 เมื่อ: 02-11-2017 21:06:47 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Gray Diary ไดอารี่สีเทา
«ตอบ #40 เมื่อ03-11-2017 20:48:50 »

Gray Diary ไดอารี่สีเทา
[/size]


ธนาคิม กิจสุนทรวิริยะกุล ทายาทคนรอง อายุ 28ปี เขาคอยช่วยพี่ชายคนโตบริหารกิจการของครอบครัวเพราะอายุห่างกันไม่มากนักทั้งสองจึงดูจะเข้าใจกัน ธนาคิมเป็นคนพูดน้อย ชีวิตนี้นอกจากพี่น้องของเขาแล้ว เขาไม่เคยจะยิ้มให้ใครเกินห้าครั้ง หรือไม่เคยมีใครได้ยินเสียงหัวเราะของเขาเลย เขาไม่อยากมีความรักเขาไม่อยากเป็นเหมือนเพื่อนรักของเขาที่ถูกผู้หญิงหลอกไปวันๆ การไม่มีพันธะอะไรนั้นคือสิ่งที่เขาคิดว่ามันคือชีวิตของเขา ความรักไม่มีอยู่จริงในหญิงชายหรือชายชาย แต่เขากลับหลงรักพี่สะใภ้ตัวเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-11-2017 20:52:56 โดย Papai »

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : Gray Diary ไดอารี่สีเทา
«ตอบ #41 เมื่อ03-11-2017 20:53:16 »

รอยด์ หนุ่มน้อยวัย 16 ปี เด็กกำพร้าหลานชายของนิลกาฬ ด้วยความเป็นเด็กกำพร้าใบหน้าที่แสนน่ารักถูกบดบังด้วยความเศร้าหมอง จะมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่กับอาและพี่พิ้งค์พี่ชายคนใหม่ รอยด์หลงรักพี่พิ้งค์ผู้แสนดีแต่ชีวิตกลับเล่นตลก เมื่อถูกผู้ชายใจร้ายอย่างธนาคิม ข่มขืนจากที่เป็นเด็กไม่คิดอะไร อยากจะให้เรื่องราวนี้หายไปแต่ในเมื่อตราบาปนั้นยังคงหลอกหลอนเขา อีกทั้งความใกล้ชิดกลับทำให้รอยด์หลงรักธนาคิมโดยไม่รู้ตัว




ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
Re: The Color of Love : Gray Diary ไดอารี่สีเทา
«ตอบ #42 เมื่อ04-11-2017 11:54:28 »

บทนำ ตอนใหม่ มาแล้ว ..

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : Gray Diary ไดอารี่สีเทา
«ตอบ #43 เมื่อ04-11-2017 11:57:09 »

คืนนี้มาต่อให้นะ

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : Gray Diary ไดอารี่สีเทา
«ตอบ #44 เมื่อ04-11-2017 21:44:45 »


Gray Diary 1 : บันทึกสีเทา (ธนาคิมxรอยด์)

ทะเลกว้างที่ถูกจับจ้องมองจากสายตาแสนเศร้าของผู้ชายร่างสูงตัวค่อนไปทางสูงใหญ่อย่าง ธนาคิม หรือทุกคนเรียกว่าเกรย์ บุตรชายคนรองของเจ้าสัวระดับต้นๆของประเทศ เขาขับรถออกมาจากบ้านตั้งแต่เมื่อคืน หลังจากที่เขาทำเรื่องบ้าบอนั้นไป สองมือที่ประสานกันแน่นโอบกอดเข่าแกร่งเมื่อเขายังนั่งอยู่ริมหาดทรายขาวนั้นตั้งแต่เมื่อคืน

เมื่อสี่ชั่วโมงก่อนหน้า

“ถ้าไม่ใช่เฮียผมไม่มีทางที่จะยอมให้คุณนิลเป็นของใคร”เสียงสบถกับตัวเองพร้อมแก้วเหล้าในมือ สายตาเจ็บปวดจ้องมองไปยังชั้นบน เขานั่งดื่มหลังจากที่ทุกคนพากันขึ้นนอน วันนี้พี่ชายคนโตของบ้านประกาศรักใหม่กับคนที่ธนาคิมหลงรักอย่างนิลกาฬ ทั้งๆที่เขาเองก็ไม่เคยมองใครเลยเพราะไม่อยากเจ็บปวดเหมือนเพื่อนสนิทที่โดนหลอกเพราะความรัก

“อ๊ะ! คุณเกรย์”เสียงเอ่ยของอีกคนที่เดินลงมาจากชั้นบน ธนาคิมมองคนตัวเล็กในชุดนอนที่แสนจะน่ารักสมวัยกับเจ้าของชุดนี้นัก

“ทำไมยังไม่นอน นี่มันกี่โมงแล้ว”ธนาคิมเอ่ยถาม ใบหน้าเศร้าๆเป็นเอกลักษณ์ของรอยด์นับจากที่พ่อแม่เสีย รอยด์เองดูเป็นเด็กที่ไม่ค่อยยิ้มมากนัก ใบหน้าดูเศร้าตลอดเวลา

“ผมหิวน้ำครับ ว่าแต่คุณเกรย์หล่ะครับยังไม่นอนอีกหรอ”เสียงเบาเอ่ยถามกลับ ธนาคิมยิ่งหงุดหงิดใจอยู่เป็นทุนทำให้ตัวเองยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ที่อยู่ๆเด็กน้อยตรงหน้าก็เอ่ยย้อนถาม

“ถ้านอนแล้วจะเห็นไหม พูดไม่คิด”ธนาคิมเอ่ยตอบกลับ รอยด์ก้มหน้าก้มตาเดินไปห้องครัวทันทีเพื่อไปรินน้ำหลังจากที่เอ่ยขอโทษ

“ขอโทษครับ”ธนาคิมมองตามร่างเล็กตัวน้อยเดินหายไปทางครัวจนเวลาไม่นานก็เห็นรอยด์เดินกลับมา ด้วยความที่แอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกายไปจำนวนหนึ่งทำให้สติธนาคิมดูไม่นิ่งนัก

หมับ

“อ๊ะ...คุณเกรย์จะทำอะไรครับ”รอยด์เอ่ยถามทันทีที่ธนาคิมคว้าข้อมือเล็กและโอบไหล่เล็กแนบเข้าหาลำตัว

“พาฉันไปส่งห้องหน่อยสิ”ธนาคมเอ่ย กลิ่นแป้งเด็กหอมๆทำให้ธนาคิมก้มกดจมูกที่ซอกคอของรอยด์จนเด็กน้อยนึกสะดุ้ง

“อุ้ย...”

“หึ...”ธนาคิมหัวเราะออกมาเล็กน้อยในลำคอ

รอยด์พาร่างสูงที่โอนไปเอนมาเข้าห้องนอนอีกด้านของตึก ห้องนอนสีเทาถูกตกแต่งทุกอย่างเป็นสีเทาทั้งห้องสมกับชื่อเจ้าของห้อง รอยด์ค่อยๆวางคนตัวสูงกว่านอนบนที่นอนแต่ทว่ากลับล้มลงไปกองอยู่บนที่นอนด้วยกัน อ้อมกอดแสนอบอุ่นที่ตอนนี้กำลังโอบกอดรอยด์อยู่ทำให้รอยด์เผลอซบที่อกแกร่งนั้น

“คุณนิล”เสียงเพ้อของธนาคิมเพ้อออกมา รอยด์เองก็พอรู้ว่าเกรย์หลงรักอาตัวเอง เหมือนที่รอยด์เองก็แอบมองเกรย์อยู่บ่อยๆเพราะท่าทางอ่อนโยนเวลาที่เกรย์แสดงกับพิ้งค์ รอยด์มักจะนึกอิจฉาอ้อมกอดนั้นเสมอ

“คุณเกรย์ปล่อยก่อนนะครับ ผมหายใจไม่ออก”รอยด์เอ่ยเมื่ออ้อมกอดนั้นเริ่มแน่นขึ้นและลมหายใจเริ่มหอบขึ้นถี่รัว มือหนาและใบหน้าเริ่มซุกซนไซร้ไปทั่วซอกคอขาวเนียนของรอยด์

“อื้ออออ”เสียงครางเบาๆในลำคอหนา ใบหน้าแสนจะต้องการบางอย่างของคนตัวสูง

หมับ...

“อ๊ะ...คะ...คุณเกรย์...อย่าครับ”เสียงหวานเอ่ยร้องขอให้ปล่อยเมื่อตอนนี้ร่างของรอยด์กำลังอยู่ใต้ร่างของธนาคิมแล้ว ร่างสูงคร่อมร่างบางไว้ ข้อมือที่ถูกตรึงเหมือนไม้กางเขนสองขาถูกขาเกร่งตรึงไว้เช่นกัน

“ปล่อยผมเถอะ...ขอร้องนะครับคุณเกรย์...”เด็กน้อยวัยสิบหกกำลังถูกพรากบางอย่างไปจากชีวิต ครั้งแรกของเด็กน้อยมันช่างเจ็บปวดเหลือเกินแต่มันก็ไม่เจ็บปวดเท่าคนที่กำลังมีความสุขบนความเจ็บปวดของเขาตอนนี้กำลังเพ้อแต่ชื่อนิลกาฬ

“อ๊ะ อ๊ะ ฮึกๆ ได้โปรด ปล่อยผมนะครับ หื้อๆ”เสียงอ้อนวอนไม่เป็นผล กลิ่นคาวคลุ้งไปทั่วห้องบนที่นอนสีเทาเข้มตอนนี้ดูมันยับยู่ยี่ไปหมด เหมือนร่างกายของเด็กน้อยวัยสิบหกคนนี้มันกำลังแหลกไม่มีชิ้นดีเช่นกัน

เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงร่างกายเปลือยเปล่าของรอยด์ที่นอนขดตัวอยู่บนที่นอน น้ำตาที่ไหลออกมาอย่างต่อเนื่องเจ็บปวดกายและหัวใจแต่ไม่สามารถร้องออกมาได้เสียงดังไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว โดยมีเกรย์ที่นั่งอยู่ขอบเตียงสองมือกุมไปที่ขมับตัวเองอย่างโมโหเมื่อเขามาคิดถึงสิ่งที่เขาทำไปเมื่อสักครู่ มันบ้าสิ้นดีที่เขาทำกับเด็กน้อยคนหนึ่งอย่างไม่รู้จักบาปกรรม

“ฮึกๆ...”เสียงร้องไห้สะอื้นจากรอยด์ที่กำลังคอยๆพาตัวเองลงจาดเตียงนอนสีเทาเข้ม เลือดและน้ำรักจากอีกคนไหลหยดตามขาเรียวเล็ก รอยด์ค่อยๆสวมเสื้อผ้าทั้งๆที่ไม่มีแรงจะพูดอะไร

“จะไปไหน...”ธนาคิมเอ่ยถามแต่รอยด์ไม่ได้พูดอะไร พยายามพาตัวเองเดินออกไปจากห้องนี้อย่างไม่หันมองคนที่ยืนอยู่ในห้อง

“รอยด์ ฉันถามว่าจะไปไหน”ธนาคิมเอ่ยถามเสียงแข็ง

“ผมจะกลับห้องครับ”รอยด์เอ่ยพร้อมกับพาร่างตัวเองออกไปทันที ปล่อยให้ธนาคิมที่กำหมัดแน่นอาระวาดกับข้าวของในห้อง

โครม โครม โครม

เสียงข้าวของที่ถูกเทกระจาดสงบลง เสียงรถจากโรงเก็บรถก็ถูกขับออกไปทันที ปล่อยให้คนที่บ้านตอนนี้กำลังอลมานกันน่าดู



..

หมอไวท์ที่เดินเข้าห้องมาเป็นคนแรกพร้อมสำรวจห้องที่เกลื่อนไปด้วยของตอนนี้ก่อนจะเจอกับอะไรบางอย่าง เข้าจึงก้มมองและพอจะรู้ว่ามันคืออะไร ทั้งเลือดและคราบน้ำรักมันคลุ้งเล็กน้อย หมอไวท์มองเห็นกระดุมสีฟ้าสองเม็ดกระเด็นอยู่ก่อนที่ทุกคนจะเข้ามาหมอไวท์ก็สำรวจทุกคนพบว่าไม่มีใครใส่เสื้อผ้าที่เป็นสีฟ้าเลยจนคิดได้ว่าเขาเจอรอยด์เมื่อตอนหัวค่ำ เด็กน้อยคนนั้นใส่ชุดนอนสีฟ้า

“เฮียทำอะไรเด็กคนนั้นหรอ”หมอไวท์สบถกับตัวเอง

เสียงคลื่นมันซัดเข้าฝั่งเหมือนดนตรีที่แสนจะไพเราะ แต่ไม่ได้ทำให้คนที่นั่งอยู่ตอนนี้มีความสุขได้ มือถือถูกปิดสนิท

“แม่ง ทำไปได้ยังไงว่ะแล้วจะมองหน้าคุณนิลยังไง แล้วคุณนิลจะโกรธไหม”ธนาคิมเอ่ยด่าทอตัวเองอย่างหัวเสียแต่การกระวนกระวายใจมันไม่ใช่แค่กลัวนิลกาฬโกรธแต่มันคืออะไรบางอย่างที่มันฝังอยู่ในใจของเขาตอนนี้มากกว่า

ทางด้านรอยด์ที่ยังคงนอนซมอยู่บนที่นอนด้วยพิษไข้ ช่องทางหลังที่ฉีกขาดระบมไปทั่วสะโพกทำให้รอยด์เองไม่สามารถไปโรงเรียนได้

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้นสักพักพร้อมร่างสูงของหมอไวท์ที่พาตัวเองเข้ามาดูเด็กน้อยในห้อง หมอไวท์คิดว่าหมอคิดถูกแล้วเรื่องเมื่อคืนนี้เพราะดูจากคนที่นอนอยู่บนเตียงตอนนี้ร่างกายน่าสงสสารนัก

“คุณหมอ...”รอยด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก

“ไม่ต้องลุกหรอก พี่แค่มาดูรอยด์แค่นั้นเองเห็นไม่ลงไปทานข้าวและอีกอย่างพิ้งค์ก็กำชับพี่ไว้ว่าอย่าลืมมาดูน้องชายของเขาด้วย”หมอไวท์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล รอยด์ยกยิ้มหวานออกมาแม้จะไม่มีแรงนักก็ตามแต่เขาก็ดีใจที่พิ้งค์ยังคงเป็นห่วงตัวเองอยู่

“ขอบคุณครับ”หมอไวท์เดินเข้ามาจับที่หน้าผากและจับชีพจรไม่กี่นาทีก็เปิดกะเป๋ายาและจัดยาอะไรไม่รู้ไม่กี่อย่างเตรียมไว้ก่อนจะเอ่ยขึ้น

“ทานข้าวแล้วทานยานี้ให้หมดนะ พี่จัดไว้สองชุด กินตอนกลางวันด้วยแล้วจะทำให้แผลที่จะอักเสษหายไวขึ้น”หมอไวท์เอ่ยทำเอารอยด์หันมองหมอนิ่งก่อนจะเอ่ยขึ้น

“คุณหมอพูดอะไรนะครับ”

“รอยด์ พี่อายุมากกว่ารอยด์นะ เรื่องของรอยด์กับเฮียเกรย์พี่รู้ว่าเกิดอะไรและไม่ต้องห่วงว่าพี่จะบอกใคร แต่พี่อยากบอกรอยด์ว่า เฮียน่าจะมีเหตุผลบางอย่างที่ทำแบบนี้”หมอไวท์เอ่ย

“คุณหมอพูดอะไร ผมไม่เข้าใจหรอกครับแต่ก็ขอขอบคุณมากนะครับที่เป็นห่วงผม”รอยด์เอ่ยขึ้นพร้อมยกมือไหว้หมอไว้ท์

“เอาไว้อยากจะพูดก็เข้าใจอีกทีแล้วกัน พี่ไปทำงานก่อนนะเอาไว้ตอนเย็นจะมาดูอาการอีกที เอ่อแล้วไลน์บอกพิ้งค์ด้วยเดี๋ยวจะเป็นห่วง”หมอไวท์เอ่ยขึ้นก่อนจะเดินออกไป รอยด์ที่กลืนน้ำลายลงคออย่างแสนฝืดเขานอนคิดเรื่องราวมากมายอย่างเด็กสิบหกจะคิดได้ หมอไว้ท์รู้เรื่องของเขา และพิ้งค์หล่ะจะรู้ไหมรอยด์กลัวพิ้งค์จะรู้ว่าเขาเป็นอะไรตอนนี้

เวลาผ่านไปช่วงบ่ายรอยด์นอนตื่นขึ้นมาก็รู้สึกเมื่อยตัว ได้ยาหมอวท์ไปทำให้เขาเบาตัวขึ้นเยอะ เขาค่อยๆพาตัวเองเดินไปข้างนอกเพื่อจะได้ยืดเส้นยืดสาย แต่เมื่อเขาผ่านห้องนอนสีเทาห้องนั้นก็ทำให้น้ำตาจะไหลออกมา

“มันเลวร้ายเกินไปสำหรับผม ถ้าเมื่อคืนนี้คุณเห็นว่าคนที่คุณกำลังมีอะไรด้วยคือผมไม่ใช่อานิล”รอยด์เอ่ยกับตัวเองก่อนจะเดินกลับห้องนอนตัวเอง แต่ทว่ายังไม่ทันจะเดินเข้าห้องเสียงแมวสาวใช้ก็เรียกรอยด์ขึ้น

“คุณรอยด์คะ ดีขึ้นแล้วหรอคะหรือจะเอาอะไรหรือเปล่า”

“เปล่าครับ นอนอยู่ในห้องมันเบื่อๆอ่ะครับแล้วพี่แมวจะไปไหนครับ”

“อ่อจะเอาของไปเก็บให้คุณเกรย์คะ คุณนิลฝากไว้”รอยด์เห็นว่าเป็นของที่อาตัวเองฝากไว้ทำให้เขารีบอาสาทันทีเพราะลึกๆก็อยากรู้ว่าของนั้นคืออะไร

“งั้นผมเอาไปเก็บให้ก็ได้ครับ พี่แมวจะได้ไปทำอย่างอื่น”

“รบกวนคุณรอยด์ด้วยนะคะ”รอยด์ยิ้มหวานให้ก่อนจะมองสาวใช้เดินลับออกมา

รอยด์นั่งพินิจไดอารี่สีเทาเล่มสวยอยู่นานที่จริงอยากจะรู้ใจแทบขาดว่าข้างในบันทึกอะไร เพราะอาของเขาฝากให้ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นคนทำลายชีวิตเขาเมื่อคืนนี้

“ฟู่ววววววว”รอยด์พ่นลมหายใจเบาๆก่อนจะเสียมารยาทเปิดอ่านไดอารี่สีเทานั้น เพียงข้อความแรกก็ทำให้หัวใจของรอยด์เต้นไม่เป็นจังหวะ

Gray Diary Page x

“การอยู่คนเดียวไม่ได้ทำให้เราทำอะไรเองไม่ได้สักหน่อย กินข้าวคนเดียว ดูหนังคนเดียว ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ขับรถคนเดียวก็ไม่ได้ทำให้ถึงที่หมายช้าเลย”

รอยด์นั่งอ่านไดอารี่นั้นไปเรื่อยๆ รอยยิ้มค่อยๆผุดออกมาเล็กน้อยกับชีวิตประจำวันของธนาคิม รอยด์เองรู้สึกหัวใจเต้นแรงเมื่อรู้ว่าธนาคิมไม่เคยมีแฟนและไม่เคยมีเดทกับใครมาก่อน แต่เมื่ออ่านไหถึงหน้าท้ายๆใบหน้ายิ้มแย้มกลับหุบยิ้มทันที

Gray Diary Page xxx

“โชคชะตาที่ทำให้ผมไม่อยากเจอใคร แต่มันคือพรหมลิขิตที่ทำให้ผมเจอคุณ ชื่อนิลกาฬ ชื่อนี้คือสิ่งที่ต้องการมาทั้งชีวิต ความสวยงามที่แฝงบนใบหน้าที่แม้จะดูไม่สดใส แต่ก็มีเสน่ห์นัก รักครั้งแรกมันเป็นแบบนี้เองหรอ ทำให้ผู้ชายอย่างเราหลงใหลกับความอ่อนหวาน ความน่ารักและความดีที่มีให้ ผมตกหลุมรักคุณแล้วคุณนิล”

ปึก!

ไดอารี่สีเทาเล่มสวยหลุดมือโดยไม่รู้ตัว ความอ่อนแรงที่จุกอยู่ในอก เมื่อคืนเจ้าของไดอารี่พร่ำแต่ชื่อนี้ตลอดกิจกรรมอย่างว่า ยิ่งคิดถึงเสียงพร่ำเพ้อของความสุขยิ่งทำให้เจ็บ

“เราไม่ได้ชอบคุณเกรย์ เราชอบพี่พิ้งค์ คุณเกรย์แค่ทำให้เราสับสนเท่านั้น แค่สับสนจริงๆ”



หลายวันต่อมาธนาคิมกลับมาจากการทบทบทวนหัวใจตัวเอง แม้จะเจ็บปวดแต่ก็ต้องฝืนเพราะเขาเองก็ไม่มีทางจะแยกคนรักของพี่ชายแน่นอน อีกทั้งนิลกาฬเองก็ไม่ได้มีใจให้กับตัวเอง

“พี่พิ้งค์จะต้องไปทำรายงานที่ห้องพี่เลิฟอีกแล้วหรอครับ”เสียงเอ่ยอ้อนๆของรอยด์เอ่ยถามพี่ชายคนสนิท ที่ตอนนี้กำลังจะเดินลงไปยังบ้านพักด้านหลัง

“อื้ม ต้องทำรายงานส่งอาจารย์อ่ะ รอยด์เป็นอะไรหรือเปล่า”พิ้งค์หนุ่มหน้าหวานแสนใจดี ด้วยความที่เป็นน้องคนเล็กสุดและไม่เคยมีน้องชายเมื่อตอนนี้เขาต้องเป็นพี่ของรอยด์เขาจึงเอาใจใส่รอยด์มาก และก็มาเสียจนเด็กน้อยอย่างรอยด์กลับหลงรัก

“ให้พี่เลิฟมาทำรายงานที่ห้องพี่พิ้งค์ไม่ได้หรอครับ”เสียงอ้อนเอ่ยอีกครั้ง

“ไม่ได้หรอก เฮียแบล็คไม่ชอบให้ใครขึ้นมาบนตึกตอนดึก รอยด์ก็รู้นี่และอีกอย่างหลังสองทุ่มไม่มีใครกล้าขึ้นตึกใหญ่หรอก อย่างอแงสิ”พิ้งค์เอ่ยอย่างใจเย็น

“ก็ตอนนี้ไม่มีใครอยู่เลย อานิลกับคุณแบล็คก็ไปงานเลี้ยง คุณหมอก็เข้าเวรแล้วไหนจะคุณบลูและคุณกรีนก็ไม่กลับอีก รอยด์ต้องอยู่คนเดียวบนตึกเนี้ยนะ”น้ำเสียงอ้อนๆเอ่ยออกมาสองแขนเล็กโอบกอดร่างของพิ้งค์ไว้ พิ้งค์เองก็นึกสงสารรอยด์ที่ต้องอยู่คนเดียว

“งั้นเดี๋ยวพี่โทรให้เลิฟขึ้นมาบนตึกก็ได้ แต่ห้ามบอกใครนะ”พิ้งค์เอ่ยขึ้นพร้อมกำชับรอยด์ ใบหน้าน่ารักพยักหน้ารับทราบแต่ยังไม่ทันจะยกมือถือโทรร่างสูงของใครคนหนึ่งก็เดินเข้ามา

“เฮียเกรย์...”เสียงพิ้งค์เอ่ยอย่างดีใจและยิ้มหวานทันทีด้วยความดีใจที่จะมีคนอยู่กับรอยด์แล้ว แต่คนข้างๆกลับหน้าถอดสีทันที รอยด์เดินไปด้านหลังพิ้งค์อย่างอัตโนมัติ แต่พิ้งค์เองก็ไม่ได้สังเกตอะไร

“เฮียไปไหนมาครับ รู้ไหมว่าทุกคนเป็นห่วง”พิ้งค์เอ่ยขึ้นอย่างดีใจ

“ทุกคนเลยหรอ”ธนาคิมเอ่ยถามน้องชายคนเล็ก แต่สาวตากลับมองไปยังคนข้างหลังที่ยืนก้มหน้าอยู่

“ใช่สิ ทุกคนหล่ะ ว่าแต่เฮียมาก็ดีแล้วพอดีเค้าต้องไปทำรายงานกับเลิฟ ต้องส่งพรุ่งนี้แล้วด้วย แล้ววันนี้ไม่มีคนอยู่บ้านเลย รอยด์กลัวอ่ะครับถ้าเฮียไม่ออกไปไหนอีกเค้ารบกวนเฮียอยู่เป็นเพื่อนรอยด์ได้ไหมอ่า เค้าจะรีบกลับมานะ”พิ้งค์เอ่ยเสร็จก็รีบเดินออกไปทันทีทิ้งให้รอยด์ที่กำลังทำหน้าตาร้องไห้อยู่ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกจริงๆ

ธนาคิมยืนมองรอยด์อยู่นาน เด็กน้อยก็ยิ่งตัวลีบลงเรื่อยๆเนื้อตัวสันไปหมดเพราะความกลัวและก็โกรธ ภาพคืนนั้นยังคงวิ่งเข้ามาในสมองเรื่อยๆ

“จะไปไหน...”เสียงเข้มเอ่ยขึ้นทันทีที่ร่างเล็กกำลังพาตัวเองขึ้นสู่ชั้นบน ธนาคิมก็รีบวิ่งตามไปติดๆ ที่จริงธนาคิมอยากที่จะขอโทษรอยด์กับเรื่องที่เกิดและก็อยากจะรับผิดชอบกับเรื่องที่มันเกิดขึ้นเช่นกัน

“รอยด์...รอยด์ฉันบอกให้หยุดเดี๋ยวนี้”เสียงดุธนาคิมเอ่ยขึ้น รอยด์ก็รีบหยุดอย่างว่าง่ายเพราะความกลัว ธนาคิมเดินเข้ามาประชิดด้านหลังของรอยด์ ความสูงของรอยด์แค่คางของธนาคิมทำให้ดูรอยด์ตัวเล็กน่าปกป้องนัก

หมับ!

“อ๊ะ! คุณเกรย์จะพาผมไปไหน”เสียงรอยด์เอ่ยขึ้นเมื่อธนาคิมโอบไหล่บางของรอยด์ดึงตรงไปยังห้องของเขาเอง

“ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”ธนาคิมเอ่ยบอก รอยด์ที่ได้แต่เงียบแม้ฝืนก็คงไม่เป็นผล แถมตอนนี้หัวใจของเขากำลังเต้นแรงไปหมดเพราะอ้อมกอดของธนาคิม อ้อมกอดที่ทำไมมันช่างเจ็บปวดและเยือกเย็นเหลือเกิน

.............................

"บันทึกมีไว้จดเรื่องราวที่เป็นความทรงจำเท่านั้นหรอ"
[/size]

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : Gray Diary ไดอารี่สีเทา
«ตอบ #45 เมื่อ05-11-2017 10:40:29 »

มาลงแล้วจ้า :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : Gray Diary ไดอารี่สีเทา
«ตอบ #46 เมื่อ06-11-2017 20:27:35 »



Gray Diary 2 : ห้องนอนสีเทา (ธนาคิมxรอยด์)

“จะร้องไห้ทำไม เสียใจอะไรนักหนา ฉันบอกแล้วไงว่าฉันจะรับผิดชอบนายเอง”ธนาคิมเอ่ยบอกรอยด์ที่ยังคงนอนหันหลังให้กับธนาคิมตอนนี้ เมื่อชั่วโมงก่อนธนาคิมเองก็แค่จะคุยกับรอยด์ให้เข้าใจและจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นเอง แต่รอยด์กลับไม่ต้องการเพราะไม่อยากให้ธนาคิมมารับผิดชอบตนเพียงเพราะธนาคิมเองก็ไม่ได้รักตัวเองอยู่แล้ว

เมื่อชั่วโมงก่อน

“เรื่องคืนนั้น ฉันจะรับผิดชอบนายเอง ฉันจะบอกเฮียและทุกคนว่าเกิดอะไรขึ้น”ธนาคิมเอ่ยบอก รอยด์ที่นั่งอยู่บนโซฟาในห้องนอน มือสองมือบีบกันไปมารู้สึกหน่วงๆกับคำพูดของธนาคิม และข้อความในไดอารี่

“ไม่ต้องหรอกครับ อย่ามารับผิดชอบกับสิ่งที่คุณเกรย์ทำกับผมหรอก ปล่อยให้มันเป็นความลับแบบนี้เถอะครับ และอีกอย่างเราสองคนก็ไม่ได้มีใจให้กันอย่ามาฝืนรับผิดชอบเลยครับ”รอยด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆที่ฝืนความรู้สึกหน่วงๆอยู่ข้างใน

“นายพูดเหมือนไม่ใช่เด็กสิบหกเลยนะ แต่ฉันก็ไม่ใช่เด็กสิบหกเหมือนกัน ฉันมีความรับผิดชอบพออยู่กันแบบฝืนๆนี่หล่ะ พรุ่งนี้ฉันจะบอกเฮียและทุกคนเอง”ธนาคิมเอ่ยขึ้น เขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงแม่จะทำเพราะฝืนจะทำเขาเองก็ต้องทำให้ได้อย่างที่รับผิดชอบ

“งั้น ผมขอเวลาหน่อยนะครับ ผมยังไม่อยากให้ใครรู้ โดยเฉพาะพี่พิ้งค์”รอยด์เอ่ยขึ้นพร้อมกลั้นน้ำตาไว้ ธนาคิมขมวดคิ้วเข้าหากัน

“อื้ม นายชอบพิ้งค์หรอ แล้วพิ้งค์รู้ไหม”ธนาคิมเอ่ยถาม

“ไม่รู้ครับ คุณเกรย์อย่าบอกนะครับ ผมไม่อยากให้พี่พิ้งค์โกรธผม”รอยด์เอ่ยขึ้นอย่างขอร้อง ใบหน้าน่ารัก สายตาเว้าวอนทำให้ธนาคิมรู้สึกวูบวาบในอกแปลกๆ

“แล้วรู้ไหม ว่าพิ้งค์ชอบเลิฟ”ธนาคินเอ่ยบอกคนที่นอนอยู่ตอนนี้ ใบหน้าดูตกใจเล็กน้อยพร้อมกับแววตาที่ดูเศร้าทันที ริมฝีปากเม้มเข้าหากัน ฟันบนที่ขบริมฝีปากล่างอย่างเจ็บปวด

“เจ็บมากไหม หึ...ฉันก็เจ็บแบบนี้หล่ะเมื่อรู้ว่าอาของเธอกลายเป็นพี่สะใภ้ของฉัน นายว่ามันเจ็บไหมหล่ะ”ธนาคิมเอ่ยขึ้น พร้อมล้มตัวลงนอนราบบนที่นอน หัวใจเจ็บปวด

รอยด์แอบมองใบหน้าที่หันมาเพียงเสี้ยวด้านข้าง บางครั้งธนาคิมก็อาจจะมีความรู้สึกเดียวกันกับตัวเองก็ได้ที่รักใครคนหนึ่งเพียงข้างเดียว รอยด์ค่อยๆพากตัวเองลุกขึ้นแต่ถูกธนาคิมเอ่ยทัก

“จะไปไหน”ธนาคิมเอ่ยขึ้นพร้อมรั้งแขนเรียวเล็กไว้

“ผมจะกลับห้องครับ”รอยด์เอ่ยขึ้น

“จะรีบกลับไปไหน นอนที่นี่หล่ะ”ธนาคิมเอ่ยพร้อมรั้งร่างเล็กกว่าเข้ามาสวมกอด แต่รอยด์กลับขืนตัวเองเล็กน้อย ธนาคิมเองก็ยังคงรั้งรอยด์ไว้แน่นก่อนจะเอ่ยขึ้น

“นอนที่นี่ ถ้าไม่อยากให้ฉันบอกทุกคน”ธนาคิมเอ่ยขู่

“จะให้ผมนอนที่นี่ทำไมกัน ในเมื่อคุณก็ได้ไปแล้วนี่หรือคุณยังไม่พอกับร่างการของผม”รอยด์เอ่ยขึ้นด้วยเสียงเรียบ ถ้าไม่ได้พูดคุยกันมาก่อนว่ารอยด์หลงรักพิ้งค์ ธนาคิมคงคิดว่ารอยด์กำลังงอนและน้อยใจตัวเองอยู่

“ฉันบอกว่าให้นอนที่นี่ก็ต้องนอนที่นี่ แล้วไอ้น้ำตาที่กำลังทำท่าจะไหลออกมาเก็บมันซะเพราะมันใช้ไม่ได้กับฉัน”ธนาคิมเอ่ยขึ้นก่อนจะสวมกอดรอยด์ไว้แน่นและบังคับให้รอยด์หลับไป ลัรอยด์เองก็เหนื่อยจะฝืนอีกแล้วตอนนี้ตัวเขาเองก็เพลียมากพอแล้วเช่นกัน

เช้าวันต่อมาร่างเล็กซุกตัวอยู่ที่อกของธนาคิม สองร่างสวมกอดกันดั่งคนรักกัน รอยด์ปรือตาขึ้นมองไปด้านนอกหน้าต่างที่มีแสงอ่อนๆกำลังสาดส่องเข้ามา ก่อนจะมองใบหน้าของธนาคิมยามโด

นแสงแดดตอนเช้าช่างดูดีเหลือเกิน รอยด์ค่อยๆพาตัวเองกลับห้องยามเช้าแบบนี้คงยังไม่มีใครตื่นแน่นอน เขารีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะออกจากบ้านให้ไวที่สุดแม้ช่องทางหลังจะรู้สึกว่ายังระบมอยู่

“รอยด์...”เสียงวายเพื่อนร่วมคลาสเอ่ยเรียกเมื่อรอยด์กำลังเดินลงจากแท็กซี่

“หวัดดีวาย”รอยด์เอ่ยขึ้นพร้อมฝืนตัวเองเดินปกติเข้าโรงเรียนพร้อมเพื่อน

“ทำไมวันนี้มาแท็กซี่หล่ะฎวายเอ่ยถาม

“อ่อ พี่พิ้งค์มีสอบอ่ะ เราเลยมาแท็กซี่ดีกว่า”รอยด์เอ่ยบอก วายเองก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ

ตลอดวันที่เรียนรอยด์ไม่สบายตัวเลยสักนิด เขาปวดเมื่อยไปหมด ทั้งง่วงทั้งเพลีย แถมยังจะเจ็บช่องทางหลังที่ยังระบมอยู่

“ไปนอนห้องพยาบาลเถอะ ดูหน้าตาสิซีดเซียวหมดแล้ว”วายเอ่ยถามเพื่อนอย่างเป็นห่วงนัก

“ไม่เป็นไร เราโอเค”รอยด์เอ่ยขึ้น ถ้าไปห้องพยาบาลตอนนี้พยาบาลเวรวันนี้ต้องถามเยอะแน่นอน เขาไม่อยากโดนซักมากนัก

“งั้นเย็นนี้ที่บ้านมารับไหม หรือให้เราไปส่งดี”วายเอ่ยอย่างเป็นห่วง รอยด์ที่วันนี้ทั้งวันก็ฝืนพออยู่แล้วเขาจึงพยักหน้าเป็นเชิงว่าให้วายไปส่งที่บ้าน

“ขอบใจมากนะวาย เดี๋ยวเราโทรหาอานิลก่อนแล้วกันว่าเย็นนี้กลับกับวาย”รอยด์เอ่ยขึ้นพร้อมยกมือถือขึ้นมากดโทรหาอาตัวเอง

ทางด้านธนาคิมที่ฝืนพาตัวเองไปทำงานเช้านี้หลังจากที่หงุดหงิดเรื่องที่ตื่นมาไม่เจอรอยด์นอนอยู่ เขาตั้งใจจะบังคับเด็กน้อยให้นอนพักผ่อน เพราะเมื่อคืนเขาเองก็ห้ามตัวเองไม่ได้กับเรื่องที่ทำรักรอยด์ไปหลายรอบ

“มีเรื่องอะไรจะคุยกับเฮียหรอ”อนาคินเอ่ยถามน้องชายที่เดินเข้ามาเพื่อจะขอคุยเรื่องของตัวเองกับรอยด์

“ให้นิลออกไปก่อนไหมครับ”น้ำเสียงแสนจะนิ่มนวลเอ่ยขึ้น หัวใจธนาคิมแทบจะบ้า เขาแสนเสียดายนิลกาฬนักและใบหน้าแสนหวานทำให้เขาเกิดอาการขี้ขลาดขึ้นมาก

“ไม่เป็นไรครับคุณนิล พอดีผมแค่จะคุยกับเฮียเรื่องโปเจคที่ออิตาลี คุณมอแกนด์ตอบกลับมาแล้วว่าจะร่วมทุนกับเราครับ”ธนาคิมเอ่ยขึ้น อนาคินยกยิ้มมุมปากทันทีด้วยความดีใจ

“ว้าว นี่สิถึงจะเป็นน้องเฮีย เก่งจริงๆเจ้าเกรย์”อนาคินสวมกอดน้องชายแน่น

“ได้เฮียช่วยด้วยผมเลยทำสำเร็จ”ธนาคิมเอ่ยอย่างถ่อมตัว สายตามองไปยังอีกคนมุมห้องที่ยกยิ้มหวานเช่นกัน ในใจนึกอยากขอโทษนิลกาฬที่ทำกับหลานชายของนิลกาฬแบบนั้น

กริ๊งงงงงงงง

ทั้งสามหันมองมือถือเครื่องสวยของนิลกาฬที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน อนาคิมที่ดูจะห่วงเมียนักหลังจากเปิดตัวว่าคบหากัน ร่างสูงของอนาคิมรีบเดินไปหานิลกาฬและเอ่ยถาม

“ใครโทรมาอ่ะ”เสียงเชิงดุเล็กน้อยแต่ไม่ได้มีอะไรเลยสักนิด ใครๆน่าจะมองออก ธนาคิมเห็นว่าตัวเองน่าจะเป็นส่วนเกินของห้องนี้จึงเอ่ยขึ้น

“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับเฮีย...คุณนิล”ธนาคิมเอ่ยขึ้น แต่ยังไม่ทันก้าวออกจากห้องก็ต้องหยุดเท้าทันทีเมื่อได้ยินเสียงสนทนาของนิลกาฬกับคนปลายสาย

“ว่าไงครับรอยด์”

(“อานิล วันนี้รอยด์กลับกับวายนะฮะ พอดีรอยด์ไม่ค่อยสบาย”)

“อ้าวไม่สบายหรอ แล้วเป็นอะไรมากไหม ให้อาไปรับดีไหม”

(“ไม่เป็นไรฮะ ยังไหวอยู่เย็นนี้รอยด์จะไปส่งนะฮะ”)

“แต่วายขับมอเตอร์ไซด์ อาเป็นห่วงอ่ะเดี๋ยวอาไปรับดีกว่านะ”

(“ครับอานิล”)

เสียงสนทนาจบลงอนาคิมที่รู้ว่าปลายสายคือรอยด์ก็ไม่ได้ว่าอะไรแค่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงว่ารอยด์ไม่สบายเป็นอะไรมากไหม

“ให้เจ้าแจ้งไปรับไหม วันนี้เราก็ไม่ได้ไปไหนแล้วนี่”อนาคินเอ่ยบอก

“ก็ดีนะครับ”นิลกาฬเสริมขึ้น แต่คนที่ยังคงหยุดฟังอยู่ก็เลยเอ่ยขึ้นบ้าง

“เดี๋ยวผมจะต้องออกไปทพธุระข้างนอก น่าจะแถวๆโรงเรียนรอยด์ เดี๋ยวผมแวะรับให้แล้วกันครับ”ธนาคิมเอ่ยเสนอ นิลกาฬยิ้มหวานให้ทันทีเพราะอย่างน้อยก็คนกันเองที่จะไปรับรอยด์

“งั้นรบกวนด้วยแล้วกันนะเจ้าเกรย์”อนาคินเอ่ย

“ขอบคุณมากนะครับคุณเกรย์”นิลกาฬเอ่ยพร้อมยิ้มหวาน ธนาคิมได้แค่ยิ้มอ่อนๆและเดินออกไป เพราะไม่อยากเจอสายตาและรอยยิ้มหวานแบบนี้ของนิลกาฬอีก

ธนาคิมขับรถออกมาแถวหน้าโรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่ง เขาจอดรออยู่ลานจอดรถผู้ปกครองอยู่นานนับจากออกจากบริษัท ที่จริงไม่ได้มีธุระอะไรเลย เขาแค่อยากจะแสดงความรับผิดชอบที่ทำให้รอยด์ไม่สบายเท่านั้น

“อานิลมารับหรอ แล้วจอดรถที่ไหนหล่ะ”เสียงวายเอ่ยขึ้นเมื่อเดินลงจากตึกเรียน วายนึกเสียดายที่ไม่ได้พารอยด์กลับเอง ไม่ได้ให้รอยด์ซ้อนมอเตอร์ไซด์คันใหม่ราคาค่อนแสนตามแบบลูกคนมีเงิน นับตั้งแต่ซื้อมา

“วายกลับก่อนก็ได้ เดี๋ยวเรานั่งรออานิลเอง”รอยด์เอ่ยบอก ก็ตอนนี้วายกลับประคองร่างของรอยด์ไว้เพราะความเป็นห่วง

“ไม่เอาหรอก เราจะทิ้งรอยด์ไว้ได้ไงกัน เรารอเป็นเพื่อนนะ”วายเอ่ยอย่างแสนดื้อ รอยด์ยิ้มและถอนหายใจกับความดื้อของเพื่อนสนิทคนนี้ แต่รอยยิ้มที่ยกขึ้นบนใบหน้าทำให้คนที่นั่งอยู่ในรถเผลอจับพวงมาลัยแน่นอย่างลืมตัว

“บ้าชะมัด หลายใจชะมัด ไหนบอกชอบเจ้าพิ้งค์หนักหนาไง และนี่ออกจากบ้านมาก็มีอีกคน ร่านชะมัด”ธนาคิมสบถกับตัวเอง สายตาจ้องมองไปยังทั้งคู่ที่กำลังคุยหยอกล้อกันอยู่ห่อนจะเดินลงจากรถและดิ่งไปหาเด็กผู้ชายทั้งคู่

“กลับบ้านหรือยัง”เสียงเอ่ยดุของธนาคิมเอ่ย น้ำเสียงคุ้นๆทำให้รอยด์เงยหน้าขึ้น จากรอยยิ้มที่คุยหัวเราะกับวายกลับหุบยิ้มทันทีพร้อมหัวใจที่เต้นแรง เพราะไม่คิดว่าจะได้เจอธนาคิมที่นี่

“คะ...คุณเกรย์ มาได้ไงครับ”รอยด์เอ่ยถามเบาๆ

“มารับกลับบ้าน คุณนิลสั่งไว้”ธนาคิมเอ่ยบอก รอยด์เม้มริมฝีปากเข้าหากันพร้อมพยักหน้ากับหัวใจที่หน่วงๆ

“ถ้าอานิลไม่สั่งก็คงไม่มารับใช่ไหมครับ”รอยด์เอ่ยขึ้นโดยไม่รู้ว่าคำพูดของตัวเองใครๆที่ฟังอยู่ก็คงรู้ว่ากำลังงอนหรือน้อยใจอยู่ วายเองก็รู้สึกยุบยิบหัวใจมองไปยังคนร่างสูงที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร

“แล้วแต่จะคิด ฉันไปรอที่รถ ร่ำลาแฟนก่อนก็ได้ แค่ห้านาทีนะ”ธนาคิมเอ่ยบอกก่อนจะเดินตรงไปที่รถ ทิ้งให้รอยด์มองตาม ตอนนี้ร้อนหน้าตาไปหมดอยากโกรธผู้ชายตัวสูงคนนี้นัก

“เขาเป็นใครอ่ะ น่ากลัวจัง”วายเอ่ย

“น้องอาเขยเราเองหล่ะ เอาไว้เจอกันพรุ่งนี้วาย เรากลับหล่ะ บายๆ”รอยด์พร้อมโบกมือลากเพื่อนสนิท ใบหน้าจากยิ้มแย้มหุบยิ้มทันทีที่เข้ามานั่งในรถ

“หึ ดีนะที่เจ้าพิ้งค์ไม่รู้ว่านายแอบชอบ เพราะถ้าเจ้าพิ้งค์ก็ชอบนายด้วยสงสัยน้องฉันต้องชีช้ำแน่ๆ หลายใจชะมัด ฉันคิดว่ามีแต่ผู้หญิงนะที่เขาทำกัน”รอยดหันมองธนาคิมตาขวาง

“มีสิทธิ์อะไรมาว่าผมแบบนี้ ผมจะหลายใจยังไงมันก็เรื่องของผม”รอยด์เอ่ยขึ้นอย่างโมโห ธนาคิมมองไปยังใบหน้าที่หงิกงอ ไม่ได้แปลกอะไรเลยจากที่เห็นทุกวัน เพราะรอยด์ไม่เคยยิ้มให้ธนาคิมเลยสักครั้ง ก็พอๆกับที่ธนาคิมไม่เคยยิ้มให้รอยด์เลยสักครั้งเช่นกัน

ความเงียบเกือบชั่วโมงครึ่งที่อึดอัดอยู่บนรถกับการกลับมาถึงบ้าน เมื่อรถจอดสนิทร่างเล็กก็ตัวปลิวลงรถทันทีโดยไม่มีแม้คำขอบคุณจากปากของรอยด์ ธนามคิมเองก็มองอย่างขัดใจ

“จะลองดีกับฉันหรือไง”ธนาคิมสบถกับตัวเองเบาๆก่อนจะเดินขึ้นชั้นบนตามรอยด์ไป

“รอยด์...เปิดประตูเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่เปิดฉันจะพังเข้าไป”เสียงธนาคิมเริ่มดังขึ้น รอยด์เองก็นึกกลัวว่าคนในบ้านจะได้ยิน รอยด์จึงเปิดประตูให้ธนาคิมเข้ามา

“มีอะไรหรอครับ”รอยด์เอ่ยขึ้น

“ทำไมไม่ขอบคุณสักคำ”ธนามคิมเอ่ยขึ้นถาม

“อ่อ ต้องการคำขอบคุณหรอครับ แต่เท่าที่ผมเข้าใจคือคุณไปรับผมเพียงเพราะอานิลสั่งไม่ใช่หรอกหรอ”รอยด์เอ่ยขึ้นอย่างตัดพ้อแต่เขาไม่รู้ตัวจริงๆว่ากำลังแสดงความรู้สึกแบบนั้นอยู่

“รอยด์...ปากดีนักนะ”ธนาคิมเอ่ยพร้อมพลักร่างเล็กของรอยด์ล้มลงบนที่นอน ก่อนจะทาบด้วยร่างตัวเอง มือหนาที่จับลายคางแหลมไว้ สายตาหวานที่จ้องมองกลับอย่างไม่กลัวเช่นกัน

“ผมคิดเสมอว่าคุณเป็นคนอ่อนโยน นึกอิจฉาพี่พิ้งค์และก็นึกอิจฉาอานิลแต่เอาเข้าจริงๆผมเองโชคดีแล้วที่คุณไม่อ่อนโยนกับผม เพราะผมจะได้ไม่หลงใหลว่าคุณคือเทพบุตร เพราะที่จริงแล้วคุณมันก็ซาตาน”คำพูดของรอยด์มันคือคำพูดของเด็กวัยสิบหกจริงๆ แต่เป็นเด็กวัยสิบหกที่เจอเรื่องราวมากมายจนตัวเองเหมือคนวัยยี่สิบหก

“หรอ แล้วแต่จะคิดแล้วกันเพราะว่ายังไง นายก็เป็นของฉัน จะมองฉันเป็นเทพบุตรหรือซาตานนายก็เป็นของฉันอยู่ดี”ธนาคิมเอ่ยขึ้น พร้อมกดจูบที่ริมฝีปากนั้นจากที่ตอนแรกมันดูจะรุนแรงนักแต่เพียงแค่ไม่กี่นาทีเมื่อร่างเล็กที่กำลังขืนตัวอยู่กลับเผลอจูบตอบไป ความนุ่มนวลค่อยๆเพิ่มมาขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

“อื่ออออ”เสียงครางเบาๆในลำคออยากจะผลักร่างสูงใหญ่ออกจากร่างกายนัก แต่กลับได้แค่คิดเท่านั้นมือเล็กกลับยอมให้อีกคนประสานนิ้วทั้งห้าเข้าด้วยกันก่อนจะพาร่างกายและความรู้สึกแปลกๆลอยล่องไปในอากาศ

“ทำไมเป็นผมหล่ะครับ...อ่าห์”รอยด์เอ่ยขึ้นหลังจากที่ล่องลอยไปแล้วในอากาศโดยมีธนาคิมกำลังสวมกอดอยู่

“ไม่รู้ว่าทำไม แต่ฉันเลือกแล้ว”ธนาคิมเอ่ยเสียงสุดท้ายก่อนจะหลับไปหลังกิจกรรมแห่งความเร้าร้อนนั้น

................................
"ถ้าเลือกแล้วที่จะใช้สีเทา ทุกอย่างก็ไม่จำเป็นต้องเป็นสีเทาเสมอ"
[/size]

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: The Color of Love : Gray Diary ไดอารี่สีเทา
«ตอบ #47 เมื่อ07-11-2017 19:00:48 »

หาเจอล่ะ
ไล่อ่านล่ะ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: The Color of Love : Gray Diary ไดอารี่สีเทา
«ตอบ #48 เมื่อ07-11-2017 19:32:31 »

คุณเกร์ยใจร้ายกับรอยด์อ่ะ ชิๆๆ
รอลุ้นจะรักกันจริงๆๆเมื่อไร

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
Re: The Color of Love : Gray Diary ไดอารี่สีเทา
«ตอบ #49 เมื่อ08-11-2017 16:25:31 »

มีงอนกันตลอดเลย ..

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: The Color of Love : Gray Diary ไดอารี่สีเทา
« ตอบ #49 เมื่อ: 08-11-2017 16:25:31 »





ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : Gray Diary ไดอารี่สีเทา
«ตอบ #50 เมื่อ10-11-2017 20:50:34 »


Gray Diary 3 : อารมณ์สีเทา (ธนาคิมxรอยด์)
[/size]
นับจากนั้นมาธนาคิมและรอยด์ก็มักจะมานอนด้วยกันเสมอ ไม่สินะธนาคิมต่างหากที่มักจะบังคับรอยด์ให้นอนด้วยเสมอ ซึ่งการกระทำของทั้งสองไม่พ้นสายตาหมอไวท์ได้เลย ทำให้หมอไวท์เองก็ทนเห็นพี่ชายตัวเองทำผิดไม่ไหวแล้ว

“เฮีย หมอขอคุยด้วยหน่อยสิ”หมอไวท์เอ่ยบอกพี่ชายที่นั่งอยู่สนามหญ้า

“ว่าไงหมอ นั่งก่อนสิ”ธนาคิมเอ่ยบอกน้องชาย วันนี้ทั้งหมดพากันมารวมตัวที่บ้านเพราะพี่ชายคนโตมีงานเลี้ยงแต่งงานเล็กๆในครอบครัวตัวเอง บรรยากาศในสนามหญ้าอ้อมไปทางสระว่ายน้ำตอนนี้ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม สวยจนธนาคิมรู้สึกจุกไปทั้งหน้าอก

“ช่วงนี้เราสองคนไม่ค่อยได้คุยกันเลย ว่าไหมเฮีย”หมอไวท์เอ่ยขึ้นพร้อมยกยิ้มและหันมองร่างเล็กของรอยด์ที่กำลังช่วยทุกคนตกแต่งสถานที่อยู่ตอนนี้ด้วยรอยยิ้ม เช่นเดียวกับที่ธนาคิมมองไปเช่นกัน

“เฮียว่ารอยด์เป็นไงมั้ง”อยู่ๆหมอไวท์ก็เอ่ยขึ้น

“เป็นไง คืออะไร”ธนาคิมเอ่ยขึ้นทันทีเหมือนคนร้อนตัว

“จะเสียงดังทำไมครับ ก็แค่ถามว่าเป็นไงมั้งก็แค่นั้นเอง”หมอไวท์มองพี่ชายออกแล้วว่ากำลังรู้สึกยังไง แม้จะยังไม่ชัดเจนนักก็ตาม

“ก็ไม่เข้าใจไง อยู่ๆหมอก็มาถามเฮียแบบนี้ หรือว่าหมอชอบเด็กคนนั้น”ธนาคิมเอ่ยถาม หมอไวท์จึงยกยิ้มขึ้นอย่างมีอะไรบางอย่าง ใบหน้าหล่อเหลาของหมอหนุ่มกำลังหันไปมองรอยด์ที่กำลังนั่งอยู่กับพิ้งค์และเลิฟ สายตาอบอุ่น รอยยิ้มที่แสนจะดูดีทำให้ธนาคิมนึกกลัวอะไรบางอย่าง

“หมอเอ็นดูรอยด์ เด็กน้อยที่ไม่มีทั้งพ่อและแม่ มีเพียงแค่คุณนิลที่ยอมสละชีวิตอีกครึ่งเพื่อหลาน แต่รอยด์ก็ต้องยอมรับว่าคุณนิลต้องมีใครสักคนดูแล และตอนนี้ก็เหมือนหมอไง หมอก็อยากดูแลรอยด์ เฮียว่าไงเห็นด้วยกับหมอไหม”หมอไวท์เอ่ยถามพี่ชายที่ตอนนี้นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่เหมือนจะตั้งใจฟังน้องชายพูดแต่สายตาและจิตใจกลับเพ่งไปยังร่างบางตัวเล็กของรอยด์ จนหมอไวท์ต้องเอ่ยย้ำถามอีกครั้ง

“เฮียครับ เฮียเห็นด้วยไหม”หมอไวท์เอ่ยถาม ธนาคิมหลบสายตาลงก่อนจะยกแก้วกาแฟขึ้นมาจรดที่ริมฝีปาก สายตามองไปทางอื่นแทนพร้อมเอ่ยขึ้น

“แล้วแต่สิ แต่เท่าที่รู้รอยด์อ่ะชอบเจ้าพิ้งค์ ถ้าหมอจะจีบก็ตามใจแล้วกัน เฮียไม่ขอออกความคิดเห็น”ธนาคิมเอ่ยขึ้น หมอไวท์ยิ้มอ่อนๆเพราะท่าทางของพี่ชายเริ่มหงุดหงิดเห็นได้ชัด

“ไม่แปลกที่รอยด์จะชอบเจ้าพิ้งค์ เพราะทั้งสองตัวติดกันตลอด ถ้ารอยด์กับเจ้าพิ้งค์ห่างกันบ้างหมอว่าไม่นานหรอกที่รอยด์จะชอบหมอได้ในไม่ช้า”หมอไวท์ยังคงเอ่ยยั่วพี่ชายตัวเองอยู่

**“ไม่มีทาง”**อยู่ๆธนาคิมก็เอ่ยขึ้นอย่างลืมตัว หมอไวท์จึงยกยิ้มขึ้นและย้ำพี่ชายอีกครั้ง

“เฮียว่าไงนะครับ ไม่มีทางหรอ...ไม่มีทางที่รอยด์จะมาชอบหมอ หรือไม่มีทางที่เฮียจะปล่อยให้รอยด์มาชอบหมอหล่ะ”ธนาคมิหันมองน้อยชายทันที เขาไม่โกรธที่น้องชายกล้ารู้ความรู้สึกตัวเองแต่เขาแปลกใจที่น้องชายกลับรู้ว่าตัวเองรู้สึกอะไรและรู้ความลับอะไรระหว่างเขาและรอยด์

“หมอ ว่าอะไรนะ นี่หมอรู้อะไรมา”ธนาคิมเริ่มร้อนลนมากขึ้น หมอไวท์จึงยิ้มออกมาสมกับใบหน้าที่ดูหล่อเหลาจึงเอ่ยขึ้นตรงๆออกไป

“เฮีย หมอรู้นะว่าเฮียทำอะไรรอยด์ และหมอก็อยากจะให้เฮียบอกคุณนิลและบอกเฮียแบล็คด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นกับรอยด์ หมอรู้นะว่านี่ไม่ใช่นิสัยเฮียที่ไม่มีความรับผิดชอบ”ใบหน้าเครียดเล็กน้อยของธนาคิมทำให้อนาคินที่เดินเข้ามาหาน้องชายทั้งสอง

“คุยอะไรกันหน้าเครียดเชียว”อนาคินเดินมานั่งลงข้างๆธนาคิมที่กำลังนั่งนิ่มอยู่

“เปล่าครับเฮีย พอดีเฮียเกรย์อยากจะบอกอะไรเฮียอ่ะ”หมอไวท์เอ่ยขึ้นพร้อมยกยิ้มให้ธนาคิมที่ถลึงตาใส่น้องชาย

“หมอไวท์ เงียบไปเลย”

“อะไรๆ เสียงดุแบบนี้ต้องมีอะไรฟ้องเฮียแน่เลยใช่ไหมหมอไวท์”อนาคินรู้นิสัยน้องทั้งสองดีถ้าหมอไวท์จะฟ้องอะไรหรือธนาคิมทำอะไรผิดจะทำเสียงดุหมอไวท์เสมอ

“เฮียถามเฮียเกรย์เองดิ”หมอไวท์ยกยิ้มขๆอย่างสะใจ

“เฮ้อออ แพ้เจ้าหมอทุกทีสิหน่า”ธนาคิมเอ่ยขึ้น ทนแรงกดดันจากพี่ชายและสายตาน้องชายไม่ได้จริงๆ

“งั้นมีอะไรก็ว่ามา เราทั้งหมดไม่เคยมีความลับต่อกันไม่ใช่หรอ คุณป๊าเคยบอกไว้ว่าให้รักกันและให้เฮียดูแลพวกนายทุกคน”อนาคิมเอ่ยขึ้นทุกครั้งที่เขาจะสอนน้องๆจะต้องอ้างชื่อบิดาก่อนเสมอ

“ตรงนี้คงไม่สะดวก ผมว่าเข้าไปข้างในกันครับ และตามเมียเฮียด้วยเพราะเกี่ยวกับเขา”ธนาคินเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินเข้าบ้านไป อนาคินที่ยังงงๆกับน้องชายคนรองก็หันมองน้องชายอีกคน

“พี่ชายหมอเป็นไรว่ะ แปลกๆแล้วก็เกี่ยวกับเมียเฮียด้วย”อนาคิมเอ่ยถามหมอไวท์

“เข้าไปเถอะเฮีย เดี๋ยวผมตามคุณนิลเองครับ”หมอไวท์เอ่ยก่อนจะเดินไปยังนิลกาฬที่กำลังนั่งคุยกับบลูและกรีนอยู่

....

..

เวลาไม่นานทั้งสี่คนก็มาพร้อมกันที่ห้องนั่งเล่น บรรยากาศในห้องที่ดูจะตึงเครียดเล็กน้อยเมื่อธนาคินเอ่ยเล่าเรื่องราวและความในใจออกมา นิลกาฬที่ตอนนี้มืนไปหมดแล้วไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นคนทำลายหลานตัวเอง หยาดน้ำตาอุ่นๆที่ไหลออกมา

“คุณนิลผมขอโทษ และทุกคนด้วยผมยินดีจะรับผิดชอบทุกอย่างแต่ว่ารอยด์เองไม่ยอมให้ผมรับผิดชอบตัวเขา”ธนาคิมเอ่ยขึ้น อนาคินโอบไหล่เมียรักไว้ก่อนจะเอ่ยขึ้น

“พี่ขอโทษแทนน้องชายพี่ด้วยนะ พี่รับประกันได้ว่าเจ้าเกรย์เป็นคนมีความรับผิดชอบและเป็นคนดี”อนาคินเอ่ยบอก เขามั่นใจแบบนั้น แม้ว่าจะโมโหธนาคิมก็ตาม

“ผมรับประกันได้ครับว่าพี่ชายผมเป็นคนดี”หมอไวท์เอ่ยย้ำ นิลกาฬเองก็ไม่ได้โกรธธนาคิมเลยเขากำลังโกรธตัวเองที่พารอยด์มาที่นี่

“ผมรู้ครับว่าคุณเกรย์เป็นคนดี และผมก็ไม่โกรธคุณเกรย์เลยสักนิด แต่รอยด์ถึงจะเป็นเด็กแค่สิบหก รอยด์มีความคิดความอ่านออกจะเป็นผู้ใหญ่สักนิดเพราะว่าเขาต้องช่วยเหลือตัวเองมาตั้งแต่เด็กยังไงผมเองก็เป็นห่วงความรู้สึกของหลานครับ”

“แล้วเราจะทำยังไงหล่ะครับ”หมอไวท์เอ่ยถามทุกคนดูจะเครียดทันทีโดยเฉพาะธนาคิมที่รู้สึกไม่โอเคเลยสักนิดแทนที่เปิดเผยเรื่องราวแล้วเขาน่าจะสบายใจ

“เดี๋ยวผมพูดกับรอยด์เองครับ รอยด์เชื่อฟังผมอยู่ ยังไงรอยด์ก็หลานของผม”นิลกาฬเอ่ยขึ้น ธนาคิมเดินเข้ามาประชิดตัวนิลกาฬที่กำลังยืนมองธนาคิมอยู่ แววตาที่โกรธแต่ทำอะไรไม่ได้นั้นแต้มอยู่บนใบหน้าที่ดูดีของนิลกาฬ

“นายจะทำอะไรอ่ะ”อนาคินเอ่ยถามน้องชายเพราะรู้ดีวาน้องชายชอบเมียรักตัวเองอยู่

“หึงดูเวลาด้วยครับเฮีย ผมแค่จะบอกว่า คุณนิลไม่ต้องพูดกับรอยด์หรอกครับ เดี๋ยวผมพูดกับเขาเอง”ธนาคิมเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินออกไป

...

..

งานเลี้ยงที่เริ่มขึ้นด้วยความสุขและรอยยิ้ม มีแต่ธนาคิมที่นั่งจ้องมองไปยังอีกฝังของสระน้ำ สายตาไม่ได้จ้องเพียงนิลกาฬเท่านั้นแต่สายตาจับจ้องไปยังร่างบางที่กำลังถือของมากมายไปเสิร์ฟให้กับน้องชายคนเล็กของเขาอย่างพิ้งค์

“นั่งด้วยได้ไหมครับ”เสียงเอ่ยจากด้านหลัง ธนาคิมเองรู้ว่าเป็นใคร

“เชิญครับ”ธนาคิมเอ่ยขึ้นพร้อมขยับที่ให้นิลกาฬนั่งรอยยิ้มแห้งๆที่ยกยิ้มขึ้นดูยังไงก็ไม่มีความสุข เหมือนยังมีอะไรแฝงอยู่ ทั้งสองนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ

ทางด้านรอยด์ที่แอบมองธนาคิมเรื่อยๆก็รู้สึกใจเต้นแรง หัวใจดูเหมือนหน่วงๆเมื่อเห็นธนาคิมนั่งพูดคุยกับนิลกาฬ ยิ่งไม่รู้ว่าคุยอะไรกันยิ่งทำให้รอยด์กระสับกระส่าย

“เดี๋ยวรอยด์ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับพี่พิ้งค์”รอยด์เอ่ยบอก

“อื้ม...รีบๆมานะ”พิ้งค์ยิ้มให้

รอยด์เดินเข้าบ้านไป แทนที่เขาจะเดินเข้าห้องน้ำ แต่เขากลับย้อนมาอีกด้านของสระน้ำ อยากรู้ว่าผู้ชายคนนั้นคุยกับอาตัวเองว่าอะไร จะบอกเรื่องราวของเขากับอาหรือไม่ แต่ยิ่งฟังประโยคสนทนากลับยิ่งหน่วงๆและจุกที่อกอย่างบอกไม่ถูก

“คุณนิล ผมขออะไรอย่างได้ไหมครับ” ธนาคิมเอ่ยขึ้นสายตเป็นเชิงขอร้อง นิลกาฬยกยิ้มให้ก่อนจะเอ่ยถามกลับ

“ขออะไรหรอครับ” นิลกาฬเอ่ยขึ้น

“ผมขอกอดคุณนิลได้ไหม ในฐานะเพื่อนก่อนที่เราสองคนจะเปลี่ยนสถานะ” ธนาคิมเอ่ย นิลกาฬยกยิ้มออกมาก่อนจะพยักหน้า

“ได้สิครับ” นิลกาฬอ้าแขนกว้างออกมา ธนาคิมสวมกอดนิลกาฬไว้แน่น ทั้งสองสวมกอดกันนานพอสมควร นานพอที่สายตาของใครคนหนึ่งจะเห็นภาพนั้น น้ำตาไหลออกมาผ่านม่านตาสีสวย แววตาแสนเศร้ากำลังบ่งบอกว่ามันเจ็บแค่ไหน ยังไม่ทันที่รอยด์จะหันเดินออกไปเสียงของอนาคิน

“เจ้าเกรย์กอดเมียเฮียนานไปแล้วนะ” เสียงเอ่ยของอนาคินดังขึ้น ทำเอารอยด์ตกใจรีบวิ่งออกไปทันที

รอยด์วิ่งขึ้นบ้านทันที น้ำตาที่ไหลออกมามันคือความรู้สึกแปลกๆว่าที่จริงเขาร้องไห้เพราะอะไร เจ็บปวดเพราะอะไร แค่ภาพที่ธนาคิมกอดนิลกาฬรอยด์ก็รู้สึกหน่วงๆแล้ว

“เราต้องไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดสิ เพราะเราไม่ได้รู้สึกกับผู้ชายคนนั้น”รอยด์เอ่ยกับตัวเอง ใบหน้าเล็กมุดที่หมอนใหญ่ของตัวเอง

ทางด้านธนาคิมหลังจากงานเลี้ยงเลิกลา พี่น้องทั้งหมดพากันเข้าห้องเรียบร้อย มีแต่ธนาคิมที่ยังนั่งอยู่เพราะตอนนี้กำลังส่ายสายตามองหาร่างบางตัวเล็กของรอยด์

“ไปไหนว่ะ”ธนาคิมสบถออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าบ้านและตรงไปยังห้องนอนแต่ไม่ใช่ห้องนอนของตัวเอง ห้องนอนของรอยด์กลายเป็นห้องประจำของธนาคิมไปแล้ว

ร่างสูงตรงเข้าไปยังงเตียงนอน เขาพินิจใบหน้าที่มีคราบน้ำตาอยู่บนเตียง ยามหลับไหลรอยด์คือเด็กน้อยคนหนึ่ง ธนาคิมยกมือลูบไล้ไปยังใบหน้าของรอยด์เบาๆจนคนที่นอนหลับไหลอยู่ตกใจตื่นขึ้นมา

“อ๊ะ...คุณ เข้ามาได้ยังไง”รอยด์เอ่ยหน้าตื่นพร้อมลุกขึ้นทันทีแต่ก็ช้ากว่าอ้อมแขนของธนาคิมที่คร่อมร่างของตัวเองไว้ กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ส่งกลิ่นอ่อนๆกระตุ้นอะไรบางอย่างในตัว แต่ภาพที่ธนาคิมเพิ่งกอดกับนิลกาฬก็แล่นเข้ามา รอยด์รีบผลักธนาคิมออกทันที

ผลั่ก...

“อ๊ะ...เป็นบ้าอะไรอีก”ธนาคิมเอ่ยขึ้นอย่างฉุนที่มือเล็กกล้าผลักตัวเองออก

“ไปนอนที่ห้องคุณได้แล้วครับ”รอยด์เอ่ยขึ้น ใบหน้าหวานเบือนหน้าที่ออก เหมือนกำลังไม่พอใจ

“ไม่ไป ฉันจะนอนที่นี่”ธนาคิมเอ่ยขึ้นพร้อมรวบร่างของรอยด์เข้ามาแนบที่อ้อมกอด ก่อนจะจับรอยด์คร่อมไว้บนร่างตัวเอง

“ปะ...ปล่อยนะครับ”รอยด์เอ่ยขึ้น

“หึ อยู่ในอ้อมกอดเสือ กวางน้อยอย่างนายยังจะกล้าร้องขอชีวิตอีกหรอ”ธนาคิมเอ่ย พร้อมกดจูบที่ริมฝีปากของรอยด์ ลิ้นร้อนสอดเข้าไปในโพรงปากเล็กนั้นอย่าช่ำชอง มือหนาล๊อคท้ายทอยไว้แน่น รอยด์แทบจะสติกระเจิงเมื่อตอนนี้ลมหายใจของเขามันกำลังจะขาดใจ

“อื้อ...”เสียงครางท้วงในลำคอของรอยด์ยิ่งทำให้ธนาคิมกดย้ำอีกครั้ง ความอุ่นของริมฝีปากที่ประกบกันกลายเป็นความเร้าร้อนของความต้องการของร่างกาย

“อ่าห์...รอยด์”ธนาคิมเพ้อเรียกชื่อของรอยด์ออกมา ชุดนอนตัวบางของรอยด์ถูกถอดออกอย่างง่ายดายด้วยมือหนาของธนาคิม

“อื้ม...อ๊ะ...ปล่อยผมเถอะ อ่าห์”รอยด์เอ่ยครางพร้อมแอ่นกายเข้าหาธนาคิมอย่างห้ามตัวเองไม่ได้

“อ่าห์...คุณนิล...”เสียงธนาคิมเอ่ยครางขึ้นอย่างแหบพร่า แค่ชื่อของนิลกาฬก็ทำให้เขามีความสุขได้หรอ ธนาคิมคิดและอยากจะลองใจตัวเองดูและมันก็เป็นผลข้างเมื่อรอยด์ที่กำลังพาตัวเองโยกตัวขึ้นลงตามจังหวะของตัณหา ราคะที่กำลังบังเกิดตอนนี้ขยุ้มมือเล็กไว้แน่นที่หน้าอกของธนาคิน น้ำตากำลังไหลออกมาเป็นทางพร้อมเสียงที่ครางออกมาไม่เป็นภาษา

“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ ถ้ารักอานิลมาก อื้อ แล้วมาเอากับผมทำไม ฮึกๆ”เสียงสะอื้นปนเสียงครางออกมา มือหนาประคองหัวกลมของรอยด์ไว้แน่นก่อนจะพลิกร่างเล็กนอนราบลง สะโพกหนาสอบเข้าออกตามจังหวะของความต้องการ มืออีกข้างค่อยๆเช็ดน้ำตาของเด็กน้อยคนนี้ไว้โดยไม่รู้ว่ารอยด์ร้องไห้เพราะเสียใจหรือเจ็บ

“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ พอเถอะ ได้โปรด ผมเจ็บ อ่าห์”รอยด์เอ่ยขึ้น รอยด์ไม่ได้เจ็บร่างกายเลยสักนิดตอนนี้เขาชินกับร่างกายที่ถูกกระทำแล้ว แต่หัวใจที่ถูกกระทำตอนนี้ด้วยเสียงครางของผู้ชายที่บอกว่าเป็นสามีของเขาเอง

“อ่าห์...”เสียงครางพร้อมหายใจที่หอบเมื่อตอนนี้เขาได้ปลดปล่อยเข้าสู่ร่างกายของรอยด์ไปแล้ว

“ไปล้างเนื้อตัวป่ะ เดี๋ยวจะได้นอนกัน”ธนาคิมเอ่ยขึ้น รอยด์ที่ค่อยๆพาตัวเองไปชำระร่างกายแต่กลับถูกธนาคิมรวบตัวอุ้มเข้าห้องน้ำไป

“อ๊ะ คุณปล่อยผมนะเดี๋ยวผมร่วง”รอยด์เอ่ยขึ้น รีบโอบกอดต้นคอของธนาคิมเข้าห้องน้ำไป

“ขืนรอนายเดินไปเองคงจะได้นอนเช้าหล่ะมั้ง ฉันทำความสะอาดให้เอง”ธนาคิมเอ่ยพร้อมดึงรอยด์ที่เข่าแทบพับเพราะความเพลียมาก

“มะ...ไม่ต้องครับ ผม...”มือที่พยายามดึงมือของธนาคิมออกแต่ไม่เป็นผล

“เงียบๆได้ไหม ฉันง่วงแล้ว”ธนาคิมเอ่ยขึ้น รอยด์ได้แต่ปล่อยให้อีกคนทำตามใจ ยิ่งเห็นธนาคิมก้มถูกสบู่ให้เขายิ่งร้องไห้ออกมา มันคือความรู้สึกของความสุขไม่ใช่ความทุกข์แต่ธนาคิมได้คิดแบบนั้น ธนาคิมคิดว่ารอยด์ร้องไห้เพราะที่ต้องเสียงสิ่งนั้นให้ธนาคิม

“จะนอนได้หรือยัง หรือจะให้ฉันต้องเอานายอีกยกสองยกถึงจะนอนได้”

“ฮึกๆ”

“หยุดร้องได้แล้ว น่ารำคาญ”ธนาคิมเอ่ยดุก่อนจะดึงรอยด์เข้ามสวมกอด

“รำคาญก็ไปนอนที่ห้องคุณสิครับ”รอยด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียน้อยใจออกมาอย่างเห็นได้ชัดจนธนาคิมที่ได้ยินแอบยกยิ้มเล็กน้อย

“ไม่...จบนะ นอนได้แล้วพรุ่งนี้จะพาไปดูหนัง”รอยด์รีบหันไปมองธนาคิมทันที ไปดูหนังหรอไม่เคยจะรู้สึกว่าธนาคิมอยากดูหนังกับเขาเลยสักครั้ง แล้วนี่คืออะไรกัน

“ไม่ต้องมองหน้าแบบนั้น ก็แค่อยากไปดูหนังด้วยก็แค่นั้น นอนได้แล้วฉันง่วงมากหรือจะให้เอากันอีกสักยกถึงจะนอนได้”ธนาคิมเอ่ยออกมาทำเอารอยด์รีบหุบปากและนอนหลับตาลงทันทีอย่างว่าง่าย วันนี้รอยด์ปรับอารมณ์ผู้ชายคนนี้ไม่ถูกจริงๆ มันคืออะไรกันแน่นะ

.....................

"อารมณ์สีเทา เราเดาไม่ได้ว่ากำลังคิดอะไร"
[/size]


ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: The Color of Love : Gray Diary ไดอารี่สีเทา
«ตอบ #51 เมื่อ10-11-2017 22:09:39 »

พี่เกรย์จะทำดีกับรอยด์ได้จริงๆๆใช่ไหมเนี่ย
ลุ้นต่อ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
Re: The Color of Love : Gray Diary ไดอารี่สีเทา
«ตอบ #52 เมื่อ11-11-2017 13:47:35 »

น่ารัก น่าปลอบ

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : Gray Diary ไดอารี่สีเทา
«ตอบ #53 เมื่อ13-11-2017 20:31:15 »

Gray Diary 4 : เดทแรก (ธนาคิมxรอยด์)

ธนาคิมพารอยด์มาห้างแถวชานเมือง เพราะตามนิสัยแล้วธนาคิมไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย ไม่ชอบคนวุ่นวาย ไม่ชอบรถติด และไม่ชอบเสียงดัง อาจจะเป็นครั้งแรกที่เขามาดูเดินห้างเวลานี้

“จะกินก่อนหรือจะดูหนังก่อนหล่ะ”ธนาคิมเอ่ยถามคนตัวเล็กกว่าที่เดินข้างๆ

“แล้วแต่คุณเกรย์เลยครับ”รอยด์เอ่ย ไม่บ่อยที่เขาจะออกมาแบบนี้ ที่จริงรอยนิสัยก็คล้ายๆกับธนาคิมคือไม่ชอบคนเยอะและไม่ชอบคนวุ่นวาย

“เอ้า...วันนี้ฉันให้เป็นวันของนาย จะกินจะทำอะไรก็บอกได้เลย”ธนาคิมเอ่ยขึ้น ใบหน้างอแสนน่ารักหันมองหน้าธนาคิมก่อนจะทำปากหมุบหมิบเล็กน้อย

“อย่านินทา จะพูดก็พูดมาต่อหน้า ฉันไม่ชอบให้นินทาลับหลัง”ธนาคิมเอ่ยขึ้น

“ไม่ได้นินทาสักหน่อยครับ”รอยด์เอ่ยขึ้นรอยยิ้มกลับผุดที่มบหน้าของตัวเองเล็กน้อยอย่างห้ามไม่ได้

“ไม่ได้นินทาได้ไงกัน เมื่อกี้ฉันยังเห็นนายทำปากหมุบหมิบว่าฉันอยู่เลย ถ้าไม่บอกว่านินทาอะไร ฉันจะจูบนายตรงนี้หล่ะนะ”ธนาคิมเอ่ยขึ้นทำท่าจะจูบรอยด์จริงๆ เด็กน้อยถึงกับหันมาด้วยใบหน้าแดงก่อนจะเอ่ยขึ้น

“กะ...ก็แค่ว่า ไม่ใช่แฟนกันสักหน่อยทำไมต้องตามใจผมหล่ะ”รอยด์เอ่ยขึ้น ใบหน้าร้อนผ่าวไปหมด ตอนแรก็กลัวธนาคิมโกรธที่กล้าคิดแบบนี้ กลัวคำพูดที่เจ็บปวดเวลาถูกธนาคิมเหน็บแต่ละครังก็ตาม

“วันนี้ฉันตามใจนาย และนายก็ไม่ใช่แฟนฉันด้วย เข้าใจใหม่เสียด้วย”ธนาคิมเอ่ยขึ้น รอยด์ที่รู้สึกเจ็บแปลบทันที กับคำพูดของธนาคิม รู้ทั้งรู้ว่าคำตอบเป็นแบบนี้รอยด์เองก็ไม่ได้หวังอะไรมาก

“รู้ครับว่าผมไม่ใช่แฟนคุณ เพราะหัวใจคุณมีแต่อานิล”รอยด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเบาลงและความน้อยใจมันก็มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากเดิม จนธนาคิมเองก็เริ่มมั่นใจในบางอย่าง

“น้อยใจหรอ ถ้าน้อยใจก็บอกทุกคนว่าเป็นอะไรกับฉัน และก็บอกทุกคนว่านายเต็มใจเป็นของฉัน”ธนาคิมเอ่ยขึ้น รอยด์ขมวดคิ้วเข้าหากันพร้อมเอ่ยขึ้น

“เพื่ออะไรหล่ะครับ แม้จะบอกคนอื่นแบบนั้น ผมก็ยังไม่ใช่แฟนคุณอยู่ดี”รอยด์เอ่ยขึ้นถามกลับ

“ไม่ใช่แฟน แต่นายเป็นเมียไง เป็นเมียของฉันเข้าใจไหม”ธนาคิมเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินไปที่ตู้กดตั๋วหนังเพื่อซื้อตั๋ว รอยด์มองตามอย่างนิ่งๆ คือเสียงเพลงด้านนอกตอนนี้มันฟังยังไงก็ไม่ดังเลยสักนิดเพราะตอนนี้หูของรอยด์ก้องเพียงประโยค เมียของฉัน เท่านั้น

ในโรงหนังที่มืดเล็กน้อย ระหว่างที่รอหนังเริ่มฉายรอยด์นั่งกอดตัวเองเล็กน้อย อย่างที่รู้ว่าโรงหนังอากาศเย็นมากเพียงใด รอยด์ที่ทั้งรู้สึกหนาวและรู้สึกอบอุ่นในเวลาเดียวกัน นี่คือเดทแรกของรอยด์กับผู้ชายหัวใจสีเทาคนนี้ช่างดูอึดอัดและแฝงด้วยความอบอุ่นเหลือเกิน

“เดี๋ยวฉันมานะ”ธนาคิมเอ่ยขึ้น รอยด์ที่กลัวว่าจะถูกทิ้งให้อยู่ที่โรงหนังนี้จึงรีบเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ

“ไปไหนครับ หนังจะฉายแล้วนะครับ”รอยด์เอ่ยขึ้น ธนาคิมยกมือจับหัวกลมของรอยด์ขึ้นจนหัวใจรอยด์หล่นวูบทันที ช่างแปลกและรู้สึกดีจัง

“เดี๋ยวมาหน่า อย่าทำเสียงเหมือนเด็กโดนถูกทิ้งสิ”ธนาคิมเอ่ยด้วยน้ำเสียงปกติ เขาไม่ทำเสียงแข็งและเสียงดุแต่อย่างใด

“ที่จริงผมน่าจะทำให้ชินนะครับ วันไหนถูกทิ้งจริงๆผมจะได้ไม่รู้สึกกลัว”รอยด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ธนาคิมจึงรีบตัดบททันที

“เดี๋ยวฉันมานะ”ธนาคิมเอ่ยพร้อมกับเดินออกไป รอยด์มองตามหลังกว้างออกไป คนเริ่มทยอยเข้ามาเรื่อยๆ หนังเริ่มฉายตัวอย่าง แต่คนข้างๆรอยด์ก็ยังไม่เห็นมาสักที

“หรือเราจะถูกทิ้งนะ”รอยด์เอ่ยในใจเบาๆมองไปทางเข้าก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของคนร่างสูงที่คุ้นเคยเลย

ปึก!

“โอ๊ะ!...ขอโทษครับ”ก็การที่รอยด์หันซ้ายหันขวามองหาธนาคิมทำให้แขนของเขาไปชนกับผู้ชายข้างๆ

“ไม่เป็นไรครับ”เสียงนุ่มหล่อเอ่ยกลับ แม้จะมืดแต่รอยด์ก็มองเห็นว่าผู้ชายข้างๆเขาหน้าตาดีใช้ได้

“แน่ใจนะครับ ให้ผมไปซื้อบ๊อปคอร์นให้นะครับ”รอยด์เอ่ยขึ้น

“ไม่เป็นไรครับ หกไม่เยอะเลยและผมเองก็กินคนเดียวไม่หมดหรอก หกบ้างก็ดีครับ ฮ่าๆๆ”ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมหัวเราะออกมาเบาๆ รอยด์เองก็หัวเราะออกมาเบาๆ

“ผมซีครับ”

“รอยด์ครับ”

“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”รอยด์ยิ้มหวานออกมา

“เช่นกันครับ”รอยด์เอ่ย

“แล้วมาคนเดียวเหมือนกันเลยนะครับ”ซีเอ่ยขึ้นถาม แต่ยังไม่ทันที่รอยด์จะเอ่ยต่อ ไฟก็ปิดลงมืดสนิทและหนังก็เริ่มฉาย ทั้งซีและรอยด์จึงไม่ได้พูดอะไรต่อ รอยด์เองก็คิดว่าธนาคิมคงไม่อยากจะดูหนังกับเขาหรอกมั้งถึงหายไปนานขนาดนี้

“ก็น่าจะยอมรับตั้งแต่แรกนะ รอยด์”รอยด์คิดในใจสองแขนโอบกอดตัวเองไว้ แม้คนจะอยู่เต็มโรงหนังแต่ตอนนี้รอยด์กลับคิดว่าตัวเองเหมือนนั่งคนเดียว

“อ่ะ บ๊อปคอร์นและน้ำ”รอยด์หันตามเสียงที่เอ่ย ร่างสูงที่ดูเหมือนหายใจแรง รอยด์แม้ตกใจเล็กน้อยแต่ก็รู้สึกใจเต้นแรงนัก

“ไม่รู้ว่านายชอบรสอะไรหรือน้ำอะไร ฉันเลยซื้อมาทั้งสามแบบเลย”ธนาคิมเอ่ยขึ้นพร้อมบ๊อบคอร์นสามถังใหญ่

“คุณออกไปซื้อของพวกนี้มาหรอครับ”รอยด์เอ่ยถามด้วยใจเต้นแรง

“อื้ม ต่อคิวยาวมากเลย คนแน่นจริงๆเลย”ธนาคิมเอ่ยโดยไม่คิดอะไร รอยด์จึงดึงผ้าเช็ดหน้าขึ้นมายื่นให่ธนาคิม

“เช็ดเหงื่อหน่อยไหมครับ”รอยด์เอ่ยขึ้น ธนาคิมโน้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนจะกระซิบบอกรอยด์เบาๆ

“เช็ดให้หน่อยสิ มือฉันถือบ๊อบคอร์นอยู่”ธนาคิมเอ่ยขึ้น รอยด์อึกอักเกน้อยก่อนจะยกผ้าเช็ดน้ำซับที่หน้าผากเบาๆ

“ขอบใจนะ ป้อนบ๊อบคอร์นฉันด้วยนะ มือฉันไม่ว่าง”ธนาคิมเอ่ยออกมา ยิ่งทำให้ใบหน้าของรอยด์ร้อนวาบไปหมดจากที่เมื่อสักครู่หนาวจับใจ

“คุณเกรย์ครับ ผมขอบ๊อบคอร์นถังหนึ่งได้ไหมครับ”รอยด์เอ่ยขึ้น เขาอยากจะเอาไปใช้คืนซีที่นั่งอยู่ข้างๆตอนนี้

“เอาไปทำอะไร ฉันถือไว้ก็ดีแล้วนี่”ธนาคิมเอ่ยขึ้นบอก รอยด์จึงโน้มใบหน้าลงกระซิบที่หูของธนาคิมเบาๆ

“พอดีผมเผลอไปชนคนข้างๆทำบ๊อบคอร์นเขาหกครับ อยากจะใช้คืนเขา”รอยด์เอ่ยขึ้น ธนาคิมหันหน้ามาทางรอยด์อย่างจงใจทำให้แก้มของธนาคิมโดนที่จมูกและริมฝีปากของรอยด์ไปเน้นๆ

จุ๊บ

“อ๊ะ ขอโทษครับ”รอยด์เอ่ยเมื่อจมูกและริมฝีปากของรอยด์ไปโดนที่แก้มของธนาคิมเต็มๆ

“ไม่เป็นไร เธอหอมฉันบ้างจะเป็นไรไป”ธนาคิมเอ่ยพร้อมหัวเราะออกมาเบาๆ เอารอยด์ไปไม่ถูกจริงๆก่อนจะถือถังบ๊อปคอร์นหันไปทางอีกคน

“คุณซีครับ ผมเอามาใช้คืน”รอยด์เอ่ยเบาๆ ธนาคิมมองตามทันทีว่ารอยด์คุยกับใครแต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยอะไร

“เอามาคืนทำไมครับ แล้วคุณพ่อจะอิ่มหรอครับ”ซีเอ่ยขึ้นพร้อมปรายตามองธนาคิมที่จ้องมองอยู่

“ห๊ะ...! ว่าอะไรนะครับ”รอยด์เอ่ยขึ้นอย่างตกใจกับประโยคของซี

“ดูหนังนะครับ กรุณาอย่าเสียงดัง เกรงใจคนอื่นบ้าง”ธนาคิมเอ่ยขึ้น มือหนาโอบไหล่บางของรอยด์ไว้พร้อมดึงเข้ามาหาตัวเอง

“ดูหนังเสร็จช่วยบอกด้วยว่าผู้ชายคนนั้นคือใคร”ธนาคิมเอ่ยขึ้น รอยด์เงยหน้ามองธนาคิม ไม่ได้โกรธเลยที่เสียงดุเอ่ยถาม แต่กำลังใจเต้นแรงเมื่อคิดว่าธนาคิมกำลังหึงตัวเองอยู่

เวลาผ่านไปสองชั่วโมงกว่าที่รอยด์อยู่ในอ้อมกอดของธนามคิมจนหนังจบ มันช่างเป็นนาทีที่แสนวิเศษจริงๆ ธนามคิมแอบหอมแก้มรอยด์เป็นบางครั้งที่ขยับตัว ทั้งสองเดินออกจากโรงหนังทันที

“หนังสนุกไหม”ธนาคิมเอ่ยถาม

“สนุกครับ ผมว่าเรื่องนี้ต้องมีภาคต่อแน่ๆเลย”รอยด์เอ่ยพร้อมหัวเราะออกมา

“เวลานายยิ้มรู้ตัวไหมว่านายสดใสมาก และนายก็น่ารักมากด้วย”ธนาคิมเอ่ยขึ้น รอยด์รีบหลบสายตาทันทีก่อนที่เสียงของใครคนหนึ่งจะดังขึ้น

“คุณรอยด์ครับ”

“อ้าว คุณซี”รอยด์เอ่ยขึ้นพร้อมยกยิ้มแต่คนที่หุบยิ้มทันทีคือธนาคิม

“ใคร...?”เสียงแข็งเอ่ยออกมาพร้อมมือหนาที่โอบไหล่บางไว้

“สวัสดีครับคุณพ่อ”ซีเอ่ยขึ้นพร้อมยกมือไหว้ธนาคิมจนรอยด์เผลอหัวเราะออกมา

“คะ...ใครพ่อว่ะ แล้วนี่เป็นอะไรกับรอยด์ รู้จักกันหรอ”ธนาคิมเอ่ยถามด้วยเสียงดุๆ ซีทำหน้าเหวอไปเลยเมื่อธนาคิมโอบกอดรอยด์ไว้และกดจมูกที่ขมับของรอย

จุ๊บ

“ตอบพี่มาสิ ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใครครับที่รัก”ธนาคิมเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ไม่ใช่แค่ซีที่ทำหน้าเหวอเท่านั้นรอยด์เองก็ทำหน้าเหวอเช่นกัน ไม่คิดว่าธนาคิมจะทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น

“เอ่อ...คือ ซีนี่เป็นคุณเกรย์เป็น...”รอยด์ยังไม่ทันที่จะเอ่ยต่อธนาคิมรีบเอ่ยขึ้นทันที

“แฟน เป็นแฟนอ่ะ ชัดนะแล้วนี่เพื่อนรอยด์หรอ”ธนาคิมเอ่ยขึ้น รอยด์จึงเล่าให้ฟังว่ารู้จักซีได้ยังไง กว่าจะคุยกันจบก็เกือบจะสิบนาที

...

..

ธนาคิมพารอยด์มาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง สายตาของธนาคิมยังจ้องไปยังร่างบางตรงหน้าอย่างมีคำถามและเขาเองก็ไม่อยากได้คำตอบ เพราะตอนนี้รอยด์ก็ไม่ได้โต้แย้งอะไรว่าธนาคิมเป็นแฟนของรอยด์

“กลับถึงบ้านเล่าให้ฉันฟังด้วย แบบละเอียด”ธนาคิมเอ่ยขึ้น

“จะฟังเลยก็ได้นะครับ ผมพร้อมจะเล่าให้ฟังได้เลยตอนนี้”

“ไม่ฟังตอนนี้เพราะฉันต้องการทานข้าวอย่างมีความสุข กับนาย”ธนาคิมเอ่ยขึ้นพร้อมยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย

“ผมไม่เข้าใจคุณเลยจริงๆครับ ว่าตอนนี้คุณคิดอะไรอยู่”รอยด์เอ่ยขึ้นพร้อมจ้องมองไปยังดวงตาของธนาคิม

“ไม่ต้องเข้าใจหรอก เพราะนายต้องอยู่เรียนรู้ฉันอีกนาน ไม่ใช่สิต้องบอกว่าตลอดชีวิต หึๆๆ”ธนาคิมเอ่ยขึ้นพร้อมหัวเราะออกมา

“ตลอดชีวิต คำนี้ดีนะครับถ้าใช้สำหรับคนที่เรารัก”รอยด์เอ่ยขึ้นเบาๆเหมือนบ่นกับตัวเองซึ่งธนาคิมเองแทบจะไม่ได้ยิน

“ทานข้าวเสร็จอยากไปไหนอีกไหม”ธนาคิมเอ่ยถาม รอยด์ขมวดคิ้วเข้าหากันเหมือนทุกครั้ง ใบหน้าของรอยแทบจะไม่มีรอยยิ้มเลย และไม่บ่อยที่จะจะเห็นรอยยิ้มจากรอยด์ ธนาคิมใช้มือคลี่หัวคิ้วที่ขมวดอยู่ของรอยด์ออกจากกันก่อนจะเอ่ยขึ้น

“เป็นเด็กเป็นเล็กทำไมชอบทำหน้านิ่วคิ้วขมวดแบบนี้หล่ะ”รอยด์มองไปยังใบหน้าของธนาคิม เขาชอบจังเวลาที่ธนาคิมทำแบบนี้กับตัวเองเพราะมันช่างอบอุ่นนัก รอยด์เผลอจับมือธนาคิมไว้ก่อนจะเอ่ยขึ้น

“ถ้าคุณดีกับผมแบบนี้ตลอดไปก็ดีสินะครับ”รอยด์เอ่ยขึ้น ธนาคิมยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย

“รอยด์ ให้ฉันดูแลนายนะ”ธนาคิมเอ่ยขึ้น รอยด์ยกยิ้มหวานออกมา แม้ว่าจะสับสนไปบ้างว่าอยู่ๆธนาคิมทำไมถึงเปลี่ยนไป อารมณ์แตกต่างกับช่วงแรกๆที่ทั้งสองมีอะไรกัน

“คุณเกรย์...”รอยด์เอ่ยออกมา และตอนนี้หัวใจเด็กคนนี้กำลังพองโต ยิ่งแน่ชัดว่าการกระทำของธนาคิมที่โรงหนังมันชัดเจนว่าธนาคิมมีใจให้ตัวเอง ซึ่งเขาไม่ได้คิดไปเอง

“ยังไม่ให้คำตอบฉันก็ได้นะ แต่ว่าวันนี้ฉันก็พยายามที่จะทำให้เราสองคนเข้ากันได้”ธนาคิมเอ่ยขึ้นบอก

“ผมเองก็รู้สึกดีครับสำหรับวันนี้ ถ้าคุณเกรย์คิดว่าคนที่อยู่ข้างคุณเกรย์เป็นผม ซึ่งผมเองก็ไม่ปฏิเสธอะไร”รอยด์เอ่ยขึ้น

“อื้ม ฉันจะพยายามให้มากที่สุดนะ ให้ฉันดูแลนายนับจากนี้นะ รอยด์”ธนาคิมเอ่ยขึ้น

“ครับคุณเกรย์”รอยด์เอ่ยพร้อมยกยิ้มออกมา หัวใจมันพอโตได้เพราะอ้อมกอดที่แสนอบอุ่น แม้ว่าหนทางข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นรอยด์ก็จะลองเดินฝ่ามันไป เพราะตอนนี้หัวใจของรอยด์กำลังมีแต่ธนาคิม

ธนาคิมและรอยด์กลับจากเที่ยวช่วงค่ำ ตอนนี้ที่บ้านดูเงียบ อาจเพราะเป็นวันธรรมดาจึงไม่ค่อยมีใครมานอนบ้านนัก ยกเว้นอนาคินและนิลกาฬที่นั่งอยู่ห้องนั่งเล่น

“เจ้าเกรย์ รอยด์ไปไหนกันมา”อนาคินเอ่ยถามเมื่อธนาคิมและรอยด์เดินผ่านห้องนั่งเล่นที่มีอนาคินที่กำลังนั่งอยู่ห้องนั่งเล่น

“ไปดูหนัง กินข้าวมา แล้วยังไม่นอนกันหรอครับ”ธนาคิมเอ่ย รอยด์เองก็ขอตัวขึ้นข้างบน วันนี้ทั้งวันเข้าเพลียน่าดู

“ยัง ว่าแต่ดีกันแล้วหรอ แล้วรอยด์โอเคกับนายไหม”อนาคินเอ่ยถามน้องชาย

“ครับ เราสองคนเข้าใจกันแล้ว และผมก็คงจะดูแลเด็กคนนี้”ธนาคิมเอ่ย

“แล้วรักเค้าไหมหล่ะ ถึงจะขอดูแลเขาอ่ะ”อนาคินถามน้องชาย

“อยู่ๆไปคงรักกันมั้งครับ อนาคตผมบอกไม่ได้หรอก”ธนาคิมเอ่ยพร้อมมองไปยังด้านบน

“อื้ม ไม่รักก็บอกเขาไปนะอย่าฝืนอยู่ทั้งๆที่ไม่ได้รักแล้วสักวันนายจะเสียใจ เฮียไปนอนหล่ะ”อนาคินเอ่ยบอกน้องชายก่อนจะเดินขึ้นห้องไป ทิ้งให้ธนาคิมครุ่นคิดอยู่ว่าที่จริงแล้วเขารู้สึกยังไงกับรอยด์

................................

"ถ้าไม่มีใจให้กัน ไม่มีทางจะฝืนอยู่ด้วยกัน"


ออฟไลน์ MayuYume

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: The Color of Love : Gray Diary ไดอารี่สีเทา
«ตอบ #54 เมื่อ13-11-2017 21:32:05 »

อ่านแค่ตอนแรกแล้วเห็นรูปตอนท้ายคู่เกรย์รอยด์ คนแต่งนี่แบคฮวีใช่มั้ยคะ---  :o8:  :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : Gray Diary ไดอารี่สีเทา
«ตอบ #55 เมื่อ14-11-2017 20:27:55 »

ใช่แล้วจ้า #แบคฮวี #มินฮวาน #หลินฮุน #องเนียล อ่า

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
Re: The Color of Love : Gray Diary ไดอารี่สีเทา
«ตอบ #56 เมื่อ16-11-2017 15:44:31 »

ไม่รัก ไม่ต้อง ..

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : Gray Diary ไดอารี่สีเทา
«ตอบ #57 เมื่อ16-11-2017 21:05:32 »



Gray Diary 5 : ความรู้สึก (ธนาคิมxรอยด์)
[/size]

วันนี้รอยด์มาโรงเรียนตามปกติ แต่ที่ดูไม่ปกติดก็คงรถคนสวยที่เคยมารับ-ส่งรอยด์ที่โรงเรียน มันแปลกไปจากเดิมทุกวัน จากมินิคันน่ารักของพิ้งค์ หรือเอคคอสสีดำของบ้านก็มีบีเอ็มสีหมอกของคนตัวสูงใบหน้าหล่อ ทายาทคนรองของนักธุรกิจชื่อดัง

“ตอนเย็นเลิกเรียนแล้ว มารอฉันที่นี่นะ ฉันจะมารับ”ธนาคิมเอ่ยขึ้นบอกรอยด์ที่ทำหน้าตาเหวอทันที

“คุณจะมารับผมหรอครับ แล้วคุณ...”รอยด์เอ่ยยังไม่เสร็จธนาคิมก็เอ่ยตัดบททันที

“เลิกเรียนสามโมงใช่ไหม รอฉันแล้วกัน”

“คะ...ครับ สวัสดีครับ”รอยด์เอ่ยเบาๆพร้อมยกมือสวัสดี แต่ธนาคิมกลับรั้งแขนเรียวเอาไว้ก่อนจะเอ่ยขึ้น

“หอมแก้มฉันหน่อยสิ เหมือนสามีจะไปทำงานแล้วภรรยาให้กำลังใจอ่ะ”ธนาคิมเอ่ยขึ้นหน้าตาแม้จะดูนิ่งแต่หูของธนาคิมกลับแดงฉ่า ซึ่งไม่แพ้กับใบหน้าของรอยด์ที่แดงฉ่าไม่แพ้กัน

“เอ่อ อ่า คะ...คือ”รอยด์เองก็เคอะเขินกับท่าทีของธนาคิม

ฟอดดดด

“อ๊ะ...”เสียงรอยด์อุทานออกมาอย่างตกใจ เมื่ออยู่ๆธนาคิมก็กดจมูกที่แก้มของรอยด์

“ถ้ารอให้นายหอมแก้ม สงสัยไม่ได้ไปทำงานพอดี เย็นๆเจอกันนะ”ธนาคิมเอ่ยขึ้น

“ครับ”รอยด์เอ่ยพร้อมเดินลงจากรถ ใบหน้าร้อนผ่าวไปหมดจนวายที่เดินเขามาเอ่ยแซว

“หวัดดีรอยด์ เป็นอะไรไปหน้าแดงแต่เช้าเลย”วายเอ่ยพร้อมกอดคอรอยด์ทันทีอย่างคุ้นเคย ซึ่งก็เป็นแบบนี้ประจำ

“เปล่า แล้วนี่ทำไมเดินเข้ามาหล่ะ ไม่ได้เอารถมาหรอกหรอ”รอยด์เอ่ยถามวาย เพราะธรรมดาแล้ววายจะมาพร้อม MSX รุ่นใหม่คู่ใจ

“อ่อ เย็นนี้พี่ชายมารับไปงานวันเกิดแม่อ่ะ”

“อื้ม”รอยด์เอ่ยออกมา

“กินรัยมายัง”วายเอ่ยถามรอยด์

“เรียบร้อยแล้ว วายยังไม่ได้กินหรอ”

“อื้ม พาเราไปกินโจ๊กด้านหน้าหน่อยสิ”วายเอ่ยก่อนจะดึงรอยด์ไปทางร้านโจ๊กหน้าโรงเรียน ทั้งคู่คุยกันเรื่อยเปื่อยด้วยรอยยิ้มยามเช้า

การกระทำทั้งสองไม่พ้นสายตาคมของคนที่กำลังนั่งมองอยู่ ธนาคิมกำพวงมาลัยไว้แม้จะไม่แน่นนักแต่ก็ทำให้รู้สึกว่าเจ็บได้

“คืนนี้เจอกัน”ธนาคิมเอ่ยออกมาก่อนจะขับรถออกไป

ทั้งวันธนาคิมไม่เป็นอันทำงาน แม้แต่ตอนนี้กำลังนั่งประชุมงานกับพี่ชายคนโตก็ตาม ในมือเอาแต่มองโทรศัพท์จะโทรหาก็คิดว่ารอยด์ยังคงเรียนอยู่

“อาทิตย์หน้าเฮียจะให้นายไปอิตาลีอีกครั้ง เพราะเจ้ากรีนต้องไปถ่ายโฆษณาที่โน้น อาทิตย์หนึ่ง”อนาคินเอ่ยบอกในที่ประชุม

“อาทิตย์หนึ่งเลยหรอครับ”ธนาคิมเอ่ยขึ้น

“อื้ม ทำไมหรอ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”

“เปล่าครับ”ธนาคิมเอ่ยขึ้น ในหัวกำลังครุ่นคิดว่าจะทำยังไงกับรอยด์ดี เพราะกลัวว่าเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่ออย่างวายจะทำคะแนนตอนช่วงที่เขาไม่อยู่

ช่วงเวลาบ่ายสามโมงเย็นรอยด์เดินมารอธนาคิมที่เดิม โดยมีวายนั่งรอเป็นเพื่อนเพราะวันนี้พี่ชายรอยด์มารับ ทั้งสองจึงนั่งคุยกันไปและเล่นโทรศัพท์กันไป

“เราถามจิงๆเถอะ ว่าคุณเกยร์อะไรเนี้ยเขาทำไมต้องมารับ มาส่งรอยด์ด้วยทั้งๆที่รอยด์เป็นแค่คนอาศัยของบ้านเท่านั้น”วายเอ่ยขึ้นถามอย่างสงสัย

“ไม่รู้เหมือนกัน เขาคงเอ็นดูเรามั้ง”รอยด์เอ่ยขึ้น ทั้งๆที่รู้ว้าหตุผลของธนาคิมคืออยากดูแลรอยด์อย่างที่เขาพูดไว้

“หรอ แต่ดูเหมือนเขาไม่ชอบขี้หน้าเราเลย รอยด์ว่าม่ะ”วายเอ่ยขึ้นตรงๆ

“ไม่ใช่หรอกมั้ง คุณเกรย์ไม่ค่อยยิ้ม ไม่ค่อยพูด หน้าตาเลยดูเฉยๆ ดุๆแบบนั้นหล่ะ”รอยด์เอ่ยเถียงแทน ระหว่างที่คุยกันอยู่นั้นรถของพี่ชายรอยด์ก็แล่นเข้ามาเทียบ

“พี่ชายเรามาแล้ว รอยด์อาจจะยังไม่เคยเจอพี่ชายเรา มานี่เราจะพาไปรู้จัก”วายเอ่ยขึ้น รอยด์เดินตามวายไปก่อนจะเห็นว่าคนในรถคือคนเดียวกับคนที่โรงหนัง

“พี่ซี นี่เพื่อนของวาย ชื่อ....”ยังไม่ทันที่วายจะเอ่ยแนะนำรอยด์เสียงซีก็เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มและท่าทางดีใจ

“คุณรอยด์”

“คุณซี”

ทั้งสองทักทายกันอย่างคุ้นเคยจนวายเองสงสัยจึงถามขึ้นว่ารู้จักกันได้ยังไง และพากันมานั่งคุยกันที่ร้ายไอศกรีมข้างๆโรงเรียน ซึ่งตอนแรกรอยด์เองก็ตั้งใจรอธนาคิม แต่ซีบอกว่าใกล้ๆนี่เอง

“ไม่คิดว่าจะเจอคุณรอยด์ที่นี่ และไม่คิดว่าจะเป็นเพื่อนกับเจ้าหัวเล็กด้วย”ซีเอ่ยขึ้น

“เราสองคนเพิ่งเป็นเพื่อนสนิทกันช่วงที่ผมเพิ่งย้ายามานี่หล่ะครับ”รอยด์เอ่ยขึ้น

“อ้าว แล้วคุณรอยด์เคยเรียนที่ไหนมาก่อนหรอครับ”ซีเอ่ยถาม

“ผมย้ายมาจากซิคาโก้ครับ”

“ว้าว ไกลจังนะครับ แต่เราสองคนก็ได้มาเจอกัน”ซีเอ่ยออกมา เหมือนคนมุขเสี่ยวๆ เพราะซีออกจะเป็นคนตลอกหน่อยๆ งายหันมองพี่ชายทันทีก่อนจะแตะที่เท้าพี่ชายตัวเอง

ปึก

“โอ๊ย ไอ้หัวเล็กมาแตะพี่ทำไมว่ะ”ซีหันไปดุน้องชาย

“รอยด์อ่ะ เพื่อนสนิทเค้าอย่ามารุ่มร่ามนะ”วายเอ่ยบอกพี่ชาย ทั้งสองจึงทำสงสครามขนาดย่อมเล็กน้อยจนรอยด์หัวเราะออกมากับความน่ารักของพี่น้องคู่นี้

“ผมอยากมีพี่ชายแบบคุณซีจังครับ”รอยด์เอ่ยขึ้น ซีจึงยิ้มหวานใหห้ก่อนจะเอ่ยขึ้น

“ผมยินดีครับ แต่ที่จริงไม่อยากเป็นพี่ชายเลย สำหรับคุณรอยด์”ซีเอ่ยขึ้น

อึก

“ว่าอะไรนะครับ”รอยด์เอ่ยย้ำอีกครั้ง

“พูดเล่นอ่ะครับ ว่าแต่วันก่อนที่ผมเจอคุณรอยด์กับผู้ชายที่อ้างว่าเป็นแฟนคุณรอยด์อ่ะ คนนั้นแฟนจริงๆหรอครับ”ซีเอ่ยขึ้น วายรีบหันมามองเพื่อนทันที

“แฟนหรอ แฟนที่ไหน เมื่อไหร่ทำไมเราไม่รู้”วายเอ่ยขึ้น

“ผมว่าผู้ชายคนนั้นโกหกผมแน่ๆเลย เพราะคุณรอยด์เพิ่งสิบหกเอง อีตานั้นแก่แล้วน่าจะเป็นตาแก่อยากป้อเด็กแน่ๆเลยคุณรอยด์ต้องระวังตัวนะครับ”ซีเอ่ยขึ้น ทำเอารอยด์หลุดยิ้มออกมา

“ตาแก่เลยหรอ คราวหน้าไปไหนบอกเรานะเราไปเป็นเพื่อนได้”วายเอ่ยขึ้น สองพี่น้องพากันห่วงใยรอยด์

ระหว่างที่ทั้งสามคุยกันอยู่อย่างสนุกสนาน สายตาของอีกคู่กำลังจ้องมองอยู่ ก่อนจะยกมือถือขึ้นมากดหาคนในร้าน ที่กำลังหัวเราะอยู่ตอนนี้ก็หน้าเปลี่ยนทันทีเพราะคนปลายสายคือคนที่บอกเขาว่าจะมารับ

“ครับ”รอยด์เอ่ยรับสาย

“อยู่ไหน”เสียงธนาคิมเอ่ยดุๆ

“อยู่ร้านไอศกรีมแถวหน้าโรงเรียนครับ”

“ฉันบอกแล้วไงให้รอฉัน ทำไมไม่เชื่อฟังกันเลย”

“ผมขอโทษครับ งั้นเดี๋ยวผมจะรีบไปนะครับ”รอยด์เอ่ยอย่างกลัวๆจนวายเอ่ยขึ้นถาม

“คุณเกรย์มารับแล้วหรอ”วายเอ่ย

“อื้ม วาย คุณซีกลับก่อนนะครับ”รอยด์เอ่ยขึ้น ยังไม่ทันจะเอ่ยอะไรต่อเสียงปลายสายก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“เร็วๆ ฉันให้เวลาแค่ห้านาที”ธนาคิมเอ่ยพร้อมกดวางทันที

ร่างบางแบกกระเป๋าเป้มาอย่างพะรุงพะรังวิ่งตรงมายังรถคันสวยที่จอดอยู่ ธนาคิมยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะปลดล๊อคประตูเพื่อให้รอยด์ขึ้นรถมา

“แฮ่กๆ ขอโทษนะครับมานานแล้วหรอ”รอยด์เอ่ยขึ้นพร้อมเสียงหอบ เหงื่อที่ผุดออกมาเยอะแยะมากมาย ยิ่งทำให้รอยด์ดูน่ารักกว่าเดิม ธนาคิมล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมาก่อนจะเอ่ยขึ้น

“หันหน้ามาสิ...”ธนาคิมเอ่ย รอยด์หันมาทางธนาคิมอย่างว่าง่ายและก็ตกใจเมื่อผ้าเช็ดหน้าของธนาคิมกลับถูกซับที่หน้าผากและขมับเนียนของรอยด์

ฟอดดด

“กลิ่นเหงื่อนายทำไมหอมจัง”ธนาคิมเอ่ยขึ้นหลังจากกดจมูกที่แก้มของรอยด์

“บ้าสิครับ กลิ่นเหงื่อที่ไหนจะหอม”รอยด์เอ่ยขึ้นพร้อมหน้าที่คงจะไม่มีที่ว่างให้แดงอีกแล้ว

“นี่กล้าว่าฉันหรอ รู้ไหมว่ายังมีความผิดอยู่นะ เรื่องที่ไม่รอฉันอยู่ที่นี่ แถมยังไปกับผู้ชายคนอื่นอีก”ธนาคิมเอ่ยขึ้น

“เอ่อ แค่ไปกับวายและพี่ชายวายครับ แต่ถ้าทำให้คุณธนาคิมต้องรอผมต้องขอโทษด้วย”รอยด์เอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิด

“ขอโทษอย่างเดียวไม่ได้ ต้องรับโทษด้วย รู้นะว่าจะต้องรับโทษอะไร และยังไง”ธนาคิมเอ่ยขึ้น ก่อนจะขับรถออกไปอย่างไม่พูดอะไร ทิ้งให้รอยด์นั่งเงียบพร้อมใบหน้าที่แดงฉ่าออกมา

...

..

“อื่อ~~”เสียงครางเบาๆในลำคอ บ่งบอกว่าเจ้าของเสียงกำลังเสียวซ่านแค่ไหน ร่างเปลือยของรอยด์ที่ถูกธนาคิมอุ้มไว้ หลังเนียนแนบที่ฝาผนังก่อนที่จะถูกโยกตาจังหวะของคนตัวสูง

“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ คุณเกรย์ อ่าห์”รอยเอ่ยครางออกมาด้วยเสียงที่อารมณ์บ่งบอกว่าสุขแค่ไหน มือเล็กจิกเล็บลงกลาหลัง สองแขนโอบกอดรอบคอแกร่งไว้แน่นเพื่อไม่ให้ร่วงลงมา กล้ามที่แขนของธนาคิมดูแข็งแรงนักเมื่ออุ้มรอยด์ไว้แนบอกตอนนี้

“ฮ่าห์...นายมันดื้อมาก อื่อ อื่อ ดื้อกับฉันเหลือเกิน เพราะฉะนั้นนายต้องโดนแบบนี้”ธนาคิมเอ่ยพร้อมกระแทกตัวของรอยด์ลงอย่างแรง

“อ๊ะ เบาๆครับผมจุก อื่อ”รอยด์ขึ้นทั้งๆที่ตัวเองก็รู้สึกเสียวซ่านนักกับกิจกรรมนี้

ก็ตั้งแต่จอดรถได้ธนาคิมก็ลงโทษรอยด์ด้วยวิธีการทรมานบนเตียง จนตอนนี้กินเวลาไปเกือบสามชั่วโมงแล้วที่ทั้งสองทำกิจกรรมกัน

“อื่ออออ”เสียงครางอย่างหมดแรงของรอยด์ที่นอนซบที่อกของธนาคิมเมื่อเจออีกคนกำลังกวนใจอยู่

“นายเป็นของฉัน กล้าดียังไงถึงไปคุยกับผู้ชายคนอื่น”ธนาคินเอ่ยขึ้นทั้งๆที่ยังลูบไล้มือวนไปทั่วแผ่นหลังเนียนนั้นไปมา รอยด์ที่หมดแรงจะเถียงธนาคิมแล้ว ตอนนี้อยากจะพักผ่อนร่างกายจะแย่

“ผมไม่ได้กล้าดี แต่วายคือเพื่อนรักของผม ไม่ให้ผมคุยกับวายแล้วจะให้ผมคุยกับใคร ผมมีวายเป็นเพื่อนแค่คนเดียวนะครับ”รอยด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเหนื่อยแรง

“แต่นาย...”ยังไม่ทันที่ธนาคิมจะเอ่ยต่อ รอยด์ก็รวบรวมแรงเอ่ยขึ้น

“คุณเกรย์ครับ ผมเหนื่อยจังเลย เรื่องของคนอื่นเอาไว้คุยวันหลังนะครับ ตอนนี้ผมง่วงมากแล้ว”รอยด์เอ่ยอย่างอ้อนๆ ธนาคิมเห็นท่าทางของรอยด์แบบนี้ยิ่งรู้สึกปั่นป่วนกว่าเดิม

“ก็ได้ ฉันจะให้นายพัก เห็นว่าเมียอ้อนหรอกนะเนี้ย”ธนาคิมเอ่ยขึ้น รอยด์เงยหน้าขึ้นมองรับกับจูบที่หน้าผากพอดีก่อนจะหลับตาลงด้วยความเพลีย

วันนี้วันศุกร์ทุกคนจะมารวมตัวกันที่บ้านเพื่อทนอาหารค่ำ รอยด์กลับจากโรงเรียนช่วงเย็นวันนี้ธนาคิมไม่ได้ไปรับเพราะมีธุระ แต่ก็มาทันที่จะทานข้าวกับทุกคน รอยด์ยกหม้อซุปออกมาตั้งที่โต๊ะช่วยป้าพรแบบนี้เสมอ

หมับ!

“รอยด์...คิดถึงพี่ไหมไม่อยู่หลายวันเลย”เสียงหวานของพิ้งค์เอ่ยขึ้นเมื่อวิ่งเข้ามากอดร่างบางของรอยด์ไว้

“คุณพิ้งค์...ไปเกือบสองอาทิตย์เลยนะครับ เป็นไงมั้งที่ค่ายสนุกไหมครับ”รอยด์เอ่ยถาม

“สนุกสิ แต่ที่ไม่สนุกก็คือคนไปด้วย น่าเบื่อมาก หน้าตาจะหงิกงอไปไหน”พิ้งค์เอ่ยพร้อมกับปรายตามองเลิฟหลานป้าพรที่อาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิด

“พี่เลิฟไปทำอะไรคุณพิ้งค์หรอครับเนี้ย”รอยด์เอ่ยถามเสียงแข็งนิดหน่อย

“พี่เปล่านะ แต่คุณพิ้งค์ของรอยด์เขาเป็นคนฮอตไง พี่ไม่กล้าไปวุ่นวายมากหรอกกลัวความฮอตของคุณพิ้งค์จะหายไป”เลิฟเอ่ยขึ้น

“ก็พอๆกันป่ะ นายก็ฮอตเหมือนกันแระ ไม่งั้นสาวๆคณะอื่นจะมาทั้งขอเบอร์ขอไลน์หรอกหรอ ชิส์”เสียงเอ่ยพิ้งค์ที่ประชดประชันเอ่ยออกมา ถ้าเป็นเมื่อก่อนรอยด์จะนึกหงุดหงิดที่เห็นพิ้งค์กับเลิฟอยู่ด้วยกัน และทำท่าทีเหมือนหึงหวงกัน แต่ตอนนี้เขากลับไม่คิดแบบนั้นแล้ว

“ทำอะไรกันอยู่เนี้ย ไปล้างไม้ล้างมือมาทานข้าวกันครับ”เสียงนิลกาฬเอ่ยขึ้น อนาคินเดินมาสมทบก่อนจะเอ่ยขึ้น

“เจ้าเกรย์บอกว่าจะเอาอะไรไหม พอดีกำลังกลับผ่านร้านคุณไหมพอดี”อนาคินเอ่ยขึ้น

“คุณไหมหรอครับ คุณไหมคือใครหรอ”นิลกาฬเอ่ยขึ้น เสียงบลูที่กำลังเดินเข้ามาเอ่ยขึ้น

“ได้ยินเหมือนชื่อพี่ไหม เฮียเกรย์กับพี่ไหมกลับมาคบกันอีกแล้วหรอครับ”บลูเอ่ยขึ้น นิลกาฬหันมองบลูและเอ่ยขึ้นถามทันที

“อะไรนะครับ คบกันหรอหมายความไงครับพี่แบล็ค”อนาคินเองก็ลืมไปเลยว่ายังไม่ได้เล่าเรื่องราวของธนาคินกับรอยด์ให้บลูและพิ้งค์ฟัง แต่ถึงเล่าตอนนี้ก็คงจะไม่ทันเสียแล้ว

“พิ้งค์อยากกินเค้กอ่ะ เค้กร้านพี่ไหมอร่อยมาก เมื่อก่อนกินบ่อยมากตั้งแต่เลิกกับเฮียเกรย์ก็อดกินเลย”เสียงพิ้งค์เอ่ยขึ้น

“เฮียว่าไปที่โต๊ะอาหารดีกว่า หมอพาเจ้าบลูกับหนูพิ้งค์ไปล้างมือที่ครัวไป”อนาคินเอ่ยขึ้นอย่างรู้กัน

“อะไร เค้าเพิ่งล้างมานะ”พิ้งค์เอ่ยขึ้น

“ผมเพิ่งล้างมือมานะเฮีย”บลูเอ่ยขึ้น

“มาเถอะเดี๋ยวเฮียพาไปล้างมือ”หมอไวท์เอ่ยขึ้นก่อนจะลากน้องทั้งสองเข้าครัว

“เฮียอย่าลืมบอกเฮียเกรย์ว่าชวนพี่ไหมมาทานข้าวที่บ้านนะครับ พิ้งค์อยากกินเค้ก”พิ้งค์ตะโกนออกมา ที่บ้านนี้รู้จักผู้หญิงคนนั้น ยิ่งคิดยิ่งทำให้รอยด์หน้าซีดและอ่อนแรงไปหมด นี่สินะที่เขากำลังเจอ คือรอยด์กำลังรู้สึกว่ารอยด์รักธนาคิมเข้าแล้วเต็มหัวใจ

..........................

"ความรู้สึกดีจะมาพร้อมกับความรู้สึกหน่วงๆ"

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: The Color of Love : Gray Diary ไดอารี่สีเทา
«ตอบ #58 เมื่อ16-11-2017 22:02:17 »

ตัวกระตุ้นปัญหามาเพิ่มแล้ว นุกหนาน อิอิ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
Re: The Color of Love : Gray Diary ไดอารี่สีเทา
«ตอบ #59 เมื่อ17-11-2017 13:01:25 »

เดี๋ยวก็ไป อิตาลี อีก ..

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด