ฮัลโหลคุณครับ นั่นไม่ใช่เบอร์ผม! CH24 (17/12/17)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ฮัลโหลคุณครับ นั่นไม่ใช่เบอร์ผม! CH24 (17/12/17)  (อ่าน 17628 ครั้ง)

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
น่ารักดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แล้วเรื่องส้มกับพี่เก่งอ่ะ

ออฟไลน์ Aoo_ooF

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มาตต่อไวไวนะคับ

ออฟไลน์ oommmy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
CH23

ยามเช้าที่บ้านมันดีแบบนี้นี่เองครับ บ้านผมตั้งอยู่แถบชานเมืองของจังหวัดครับ ทำให้ตึกราบ้านช่องไม่มากนัก ธรรมชาติจัดเต็ม บวกกับที่พ่อเป็นคนชอบต้นไม้ครับ เรียกว่าบ้าง่ายกว่า โดนเฉพาะต้นกระบองเพชร นี่คิดว่าอีกหน่อยคงลาออกจากงานมาทำสวนกระบองเพชรแทนแน่ๆ

ส่วนแม่ผมเป็นแม่บ้านที่หลงใหลการกินกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ ยิ่งช่วงที่เชียงใหม่บูมเรื่องคาเฟ่ใหม่ๆ แม่ผมเดินสายไปชิมทุกร้านครับ หลังๆ พ่อเริ่มบ่นว่าถ้ายังเดินสายแบบนี้เรื่อยๆ บ้านผมได้ล้มละลายแน่ สุดท้ายตัดสินใจเปิดร้านกาแฟให้แม่ผมเป็นร้านเล็กๆ ในเมือง แล้วไม่ต้องสงสัยนะครับว่าลักษณะร้านจะเป็นแบบไหน กระบองเพชรนอนอยู่เต็มร้านจนแทบจะไม่มีที่เดินอยู่แล้ว

“วันนี้อยากไปไหนอ่ะลุง” เมื่อคืนหลังจากกลับมาถึงบ้าน สิ่งแรกที่ผมทำคือกินครับ กับข้าวที่แม่ทำให้เหมือนสวรรค์ดีๆ นี่เอง คิดถึงกับข้าวแม่ที่ซู้ดดดด กินจนลืมไปเลยว่ามีมนุษย์อีกหนึ่งคนมาด้วยจากกรุงเทพ ปล่อยให้แม่นั่งมองหน้าลุงเป็นชั่วโมงถึงคิดได้ตอนยัยน้องสาวตัวดีเดินมาสะกิดนั่นแหละ

หลังจากที่แนะนำลุงกับที่บ้านเรียบร้อยแล้ว พ่อก็ไล่ให้ผมพาลุงเข้านอนครับ เตียงห้าฟุตในห้องผมมันช่างดูคับแคบไปเลยเมื่อมีมนุษย์ร่างยักษ์มานอนอยู่ด้วย แต่ลุงก็ไม่บ่นซักคำ แถมยังดึงผมเข้ามานอนกอดเสียด้วยแน่ะ ถึงแม้มันจะไม่ใช่ครั้งแรกของเราก็เถอะนะ งื้อออ

“ที่ไหนก็ได้” แล้วดูคนที่ชวนผมมาสิครับ นอนกะดิกตีนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงสบายใจเฉิบ ไม่ได้รู้สึกว่าอยากจะออกไปเที่ยวไหนเลยนะนั่น แถมพอเมื่อเช้าเกริ่นๆ ว่าผมจะแวะไปหาเพื่อนที่โรงเรียนตอนค่ำๆ ก็ทำหน้าตาไม่พอใจบอกว่ามาเที่ยวกันทั้งที ทำไมเราไม่ไปเที่ยวกัน

“ที่ไหนก็ได้ไม่มี เลือกสิ” เปิดคอมเสิชกูเกิ้ลกันตอนนี้ไปเลยครับ ยอมรับตรงๆ ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา นอกจากบ้านกับโรงเรียนแล้ว ก็ร้านหมูกระทะหน้าปากซอยโรงเรียนนั่นแหละที่ผมไปบ่อยสุด ถ้าไม่อยากลองกล้องจริงๆ อย่าหวังว่าไอ้เจ็ทจะออกจากบ้าน ขี้เกียจขยับตัวครับ ปิดเทอมทีไรนอนอยู่บ้านจนเกือบเป็นแผลกดทับไปแล้ว

“มึงเลือกเลย” ดูคนแก่มันพูดครับ กวนป่ะล่ะ

“สวนพฤกษามะ ลุงชอบต้นไม้ไม่ใช่หรอ” ระยะทางไม่ไกลจากเมืองเท่าไหร่ครับ แถมดูจากรีวิวแล้วที่สำหรับถ่ายรูปเยอะด้วยสิ

“ร้อน”

“งั้นไปไหว้พระป่ะ ดอยสุเทพก็น่าสนนะ เป็นสิริมงคลด้วย” จำได้ว่าเคยไปมาครั้งหนึ่งเมื่อตอนเป็นเด็ก ทางโค้งแม่งโคตรน่าหวาดเสียวครับ

“คนเยอะ”

“งืมม เดอะไจแอนท์เอาป่ะ น่าสนุกอ่ะ เหมือนสวนสนุกเลย” เป็นเหมือนสวนสนุกจริงๆ ครับ มีรถลอยฟ้าให้นั่งชมบรรยากาศรอบๆ น่าสนใจดีนะครับ เห็นเขาว่าเด็กก็นั่งได้ ไม่น่ากลัวเท่าไหร่

“กูกลัวความสูง”

“สวนสัตว์เชียงใหม่อ่ะ เคยดูหมีแพนด้ายัง” จำได้ว่าสมัยที่หมีแพนด้าเข้ามาแรกๆ ผู้คนแห่กันไปนั่งดูเจ้าหมีหน้าโง่นี่กินไผ่กันได้เป็นชั่วโมงๆ ไม่เบื่อกันหรือไงวะ

“มึงเห็นกูเป็นเด็กหรอ”

“งั้นผมไปหาเพื่อน”

“ไม่”

“หึ” เลิกนอนกระดิกตีนแล้วหรอครับไอ้คุณลุง!!!!

......................................................

คุณรู้ไหมครับว่าตอนนี้ผมอยู่ที่ไหน ที่ที่แม่งไม่มีอยู่ในลิสตั้งแต่แรก ไม่ใช่ที่ที่ผมเปิดกูเกิ้ลหาเสียเนิ่นนาน เพราะที่นี่คือ มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านเชียงใหม่ ที่มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และเป็นแหล่งรวบรวมนักศึกษาเกือบครึ่งค่อนมหาวิทยาลัย

ที่สำคัญ คนแม่งเยอะชิบหายยยย!!!!

ไหนเมื่อกี้มึงเพิ่งบอกว่าคนเยอะเลยไม่ไปไงวะ!!

“ชอบถ่ายรูปไม่ใช่หรอ ถ่ายสิ” ปากพูดกับผมครับ แต่สายตานี่ไม่ได้โฟกัสที่ผมเลย ก็แม่งบอกผมว่าจะมาที่นี่เพราะอยากพาผมมาถ่ายรูป เห็นว่าเขาชอบถ่ายรูปเช็คอินกันโครมๆ แม่งเอ๊ย นอกจากบ่อน้ำกับสนามหญ้าแล้ว ไม่มีอะไรให้กูถ่ายได้เลย คนแม่งก็ยั้วเยี้ยยังกับหนอน แพลนกล้องไปทางไหนก็มีแต่คนกับคน จะเอาวิวไหนไปถ่ายรูปวะ

ไอ้คนข้างๆ ก็เอาแต่สอดส่องสายตามองนู่นมองนี่อยู่นั่นแหละ มาด้วยกันสนใจคนอื่นได้ไงวะ แม่งกวนชิบหาย เดี๋ยวกูก็หนีกลับเลยหนิ

“ให้ผมถ่ายไรล่ะครับ แม่งมีแต่คน” หหงุดหงิดครับ ร้อนก็ร้อน แถมแม่งยังไม่มีอะไรน่าถ่ายซักนิด

“ถ่ายๆ ไปเหอะ อย่าเรื่องมาก” เอ้าอิลุง กวนตีนอีกแล้วนะครับ

“เออออออออออออ” เดินหนีแม่ง งอนเว้ยครับ

เดินตามทางมาเรื่อยๆ ก็ยังไม่เจอจุดที่ผมรู้สึกถูกใจเลยครับ อาจเพราะผมเคยมาที่นี่หลายครั้งมากแล้ว เมื่อก่อนเลยฝันว่าอยากเข้าที่นี่ครับ แต่พอมาบ่อยเข้าก็เริ่มอยากออกไปเผชิญโลกกว้างบ้าง บวกกับสอบไม่ติดนี่แหละ เลยกระเตงๆ ตัวเองไปอยู่ในเมืองโน่นนน ได้ใช้ชีวิตสมใจอยากไอ้เจ็ทล่ะ

จนกระทั่งเจอจุดหนึ่งที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะปกติเวลามากับเพื่อนๆ ก็เคยแว๊นมอไซด์ผ่าน ไม่ได้ลงมาเดินดูจริงๆ ว่ามันเป็นยังไง ตรงนี้ค่อนข้างสงบครับ หรือเพราะไม่มีคนเดินเข้ามาถึงรุเปล่าก็ไม่รู้ ต้นไม้ต้นใหญ่ที่บดบังทัศนียภาพรอบนอก แต่พอเดินมาใกล้ๆ จะเห็นว่ามันมีร่องรอยของการถูกขีดอยู่รอบต้น พร้อมกับมีตัวเลขอยู่ข้างๆ เหมือนกันเวลาที่เราวัดส่วนสูง


“สวัสดีครับ”

“...”

“คุณนั่นแหละครับ”

“ครับ?” ตอนแรกผมเข้าใจว่าไม่ได้ทักผมครับ แต่ก็ลืมไปว่าบริเวณนี้มีแค่ผมกับเขาที่ยืนอยู่ตรงนี้ ผมเห็นเขาซักพักแล้วครับ แต่คิดว่าเขาที่นั่งหันหน้าเข้าบ่อน้ำจะส่งเสียงทักทายผมที่เดินอยู่ข้างหลัง

ผู้ชายคนดังกล่าวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะส่งยิ้มอบอุ่นมาให้ผม รูปร่างผอมสูง หน้าคม ใส่แว่น บวกกับเสื้อเชิ้ตกางเกงแสลคที่เดาว่าคงไม่ใช่นักศึกษาที่นี่แน่นอน ว่าแต่เขาเป็นใครกันนะ

“มาเที่ยวหรอครับ?” เขายังคงส่งรอยยื้มอบอุ่นมาให้เหมือนเคย

“ครับ” ไม่ค่อยสนิทใจในการคุยกับผู้ใหญ่ครับ มันเกร็ง แหะๆ

“ผมชื่อพีนะ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

“อ่า เจ็ทครับ”

“สนใจต้นไม้ต้นนี้หรอ” เขาว่าพลางหันหน้าไปทางต้นไม้ต้นเมื่อกี้ครับ “ต้นไม้ต้นนี้คือพ่อของผมเอง”

“...”

“หมายถึงพ่อผมเป็นคนแนะนำต้นไม้ต้นนี้ให้ผมรู้จักน่ะครับ”

“พ่อของคุณคงรักต้นไม้ต้นนี้มากสินะครับ”

“พ่อผมเคยบอกว่า ต้นไม้ต้นนี้คือบ้านของเรา คุณทวดเป็นคนปลูกเอาไว้ เพื่อให้ระลึกถึงกันและกันในยามที่เราไม่เจอกันแล้ว เมื่อก่อนพ่อจะพาเราสองคนพี่น้องมาที่นี่ทุกปีครับ จนตอนนี้เวลาที่ผมมีเรื่องไม่สบายใจก็จะมาที่นี่ มันเหมือนกับว่ามีพ่อคอยให้กำลังใจอยู่ใกล้ๆ น่ะครับ”

คุณพ่อคงไม่ได้อยู่ด้วยแล้วสินะ..

“ผมเชื่อว่าพ่อคุณอยู่ในใจคุณเสมอครับ”

หัวเราะ?

“ฮ่าๆ ขอบคุณครับ”

 “แต่งเรื่องเก่งไม่เปลี่ยนเลยนะพี”

เสียงคุ้นเคยดังมาจากด้านหลังผม เห็นลุงยืนกอดอกหน้าเบื่อโลก กรอกตาไปมา เหมือนเอือมระอาเต็มที

“ก็เด็กมึงหลอกง่ายนี่หว่า” เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหู พร้อมกับสัมผัสแผ่วเบาที่แตะลงข้างแก้ม เดี๋ยวววว เมื่อกี้ไอ้นี่หอมแก้มผมหรอวะ

“เชี่ย!!”

“ลามปามแล้วครับ” ผมถูกลุงกระชากกลับมาสู่อ้อมกอด แต่ช่วยทำเบากว่านี้หน่อยได้ไหมคร้าบบ เจ็บจมูกโว้ยยย

“แค่นี้หวงหรอวะ” จะหันกลับไปมองคนพูดก็ไม่ได้ครับ เพราะตาลุงแม่งกดหัวผมจมมิดไปกับอกมันแน่น กะไม่ให้กูหายใจเลยว่างั้น ตายขึ้นมาจะไปพ่อกับแม่กูว่าไงวะ ซบอกผู้ชายตายงี้หรอวะ บันเทิงชิบหายเลยครัชช

“อย่าลืมคุยกับพ่อล่ะ” ชายคนดังกล่าวว่าแบบนั้นก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้าดังห่างออกไปเรื่อยๆ

“แรด” หลังจากที่ผมถูกปล่อยเป็นอิสระ นี่คือคำแรกที่ลุงพูดกับผมครับ พูดไม่พอ ยังเอามือปาดน้ำลายตัวเองมาป้ายๆ แก้มผมอีกแน่ะ

“สกปรก” ยังๆ คงถูอยู่ครับ มันควรเป็นผมไหมวะที่ต้องพูดคำนี้น่ะ

“เจ็บ”

“อดทน” อดทน? ให้อดทนอะไรวะ

“พอแล้ว”

“หรือให้กูหอมแก้มมึงตรงนี้?” แง่ะ ทนให้มันเช็ดก็ได้ว่ะ!!

................................................................................................

สรุปว่าผู้ชายคนนั้นคือพี่ชายแท้ๆ ของตาลุงครับ แล้วถามว่าทำไมใบหน้าไม่ละม้ายคล้ายคลึงกันเลยซักนิด เพราะลุงมันเหมือนพ่อ ส่วนพี่ชายเหมือนแม่ และเหตุผลที่มันมาที่นี่ก็เพราะจะพาผมมาเจอพี่ชายมันนั่นแหละ

พี หรือปฐพี ลูกชายคนโตของตระกูล ที่มีดีกรีเป็นถึงหนุ่มไฟแรงจบปริญญาเอกด้านฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยชื่อดังทางภาคเหนือ ปัจจุบันเป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัยที่ตนจบมานั่นแหละ พร้อมกับเปิดโรงเรียนสอนพิเศษสำหรับนักเรียนเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย มีสาขาไปทั่วทางแถบภาคเหนือและภาคกลาง นานๆ จะลงไปดูธุรกิจในภาคกลางเสียที ชีวิตส่วนใหญ่จึงอยู่ภาคเหนือเสียมากกว่า

ความจริงแล้ว เพื่อนๆ ผมมันก็ไปลงครอสเรียนกับโรงเรียนกวดวิชานี้กันหลายคนนนะครับ แต่บังเอิญผมเป็นพวกขี้เกียจ เลยไม่เคยไปเรียนกับพวกมันซักครั้งเดียว

“แล้วไหนคือพ่อลุงอ่ะ” ถึงแม้ว่าพี่พีจะแยกออกไปแล้ว แต่เราสองคนก็ยังคงนั่งอยู่ใต้ล้มไม้ต้นเดิมนี่แหละครับ ไม่ได้ขยับตัวไปไหน เพราะตั้งใจว่าจะนั่งดูพพระอาทิตย์ตกไปเลย มุมนี้มองพระอาทิตย์ตกได้พอดีครับ

“ข้างหลังมึงไง”

ขวับ!! รีเฟรกแรกของผมคือหันกลับไปมองครับ แต่ก็ไม่พบอะไรนอกจากต้นไม้ต้นเดิมนี่แหละ

“ไม่เห็นมีเลยลุง”

“ก็ต้นไม้ต้นนี้ไง พ่อกู”

ห้ะ สรุปไอ้เรื่องที่พี่พีเล่าคือเรื่องจริงหรอวะ งง งง งง ไอ้เจ็ทงงจังครับ ไอ้พี่น้องคู่นี้มันมีความย้อนแย้งให้ตัวเองสูงมาก

“ก็เมื่อกี้บอกว่าแต่งเรื่อง?”

“ก็แต่งด้วย เรื่องจริงด้วย”

“..?”

“ต้นไม้ต้นนี้คือพ่อกูจริงๆ มึงเห็นขีดๆ บนต้นไม้ไหม สมัยเด็กๆ พ่อกูพามาวัดส่วนสูงที่นี่บ่อยๆ เมื่อก่อนครอบครัวกูอยู่ที่เชียงใหม่นี่แหละ สมัยนั้นที่นี่ยังไม่เจริญเท่านี้หรอก ความทรงจำกูก็มีไม่มาก กูจำได้ว่าพ่อกูชอบพามาเที่ยวที่นี่เป็นประจำ เพราะมันเป็นที่ที่พ่อกับแม่กูเจอกัน พบกันรัก มันเลยเป็นสถานที่ความทรงจำของครอบครัวเรา”

“...”
 
“แต่วันหนึ่งแม่กูเกิดป่วยขึ้นมา พ่อเลยต้องย้ายครอบครัวเราไปอยู่ในกรุงเทพ ตอนแรกเราคิดว่าย้ายไปอยู่กับคุณย่า แต่พ่อเป็นคนหัวรั้น อยากมีบ้านเป็นของตัวเองมากกว่า ก็บ้านหลังนั้นแหละ ที่พ่อกูซื้อไว้ ที่มีต้นไม้เยอะแยะขนาดนั้นก็เพราะพ่อกูอยากให้บรรยากาศมันเหมือนที่นี่ พ่อพยายามปลูกต้นไม้หลายๆ ต้น เพื่อให้เราไม่ลืมที่นี่ แต่สุดท้ายแม่ก็จากไป พร้อมกับบอกพ่อกูว่าจะมาคอยอยู่ที่นี่”

“บอกทีว่าไม่ใช่ละครเรื่องคู่กรรม”

“เออ โกโบริคือพ่อกูเอง สัส จะฟังต่อไหม”

“คร้าบบบบ”

“พ่อกูก็พยายามเข้มแข็งนะ ทั้งๆ ที่ย่าจะยื่นมือเข้ามาช่วยเลี้ยงกูกับเฮีย แต่น้ายศก็เอาสองแฝดมาฝากย่าเลี้ยงซะก่อน พ่อกูเลยต้องประคับประคองครอบครัวด้วยตัวเอง จนพีเรียนจบปริญญาตรี และได้ทุนไปเรียนต่อโทและเอก พ่อก็เริ่มป่วยลงเรื่อยๆ จนกูสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้นั่นแหละ พ่อก็จากไป แล้วก็บอกพวกกูว่าให้เอาเถ้ากระดูกมาโปรยไว้ที่นี่”

“งั้นเราก็นั่งทับพ่อลุงอยู่ดิ”

“เออ พ่อกูกระซิบให้กูฟังอยู่ว่ามึงหนัก”

“..”

“หึ” เกลียดอิตาลุงนี่ชิบหาย รู้ว่ากลัวผีก็ยังจะแกล้งอีกแน่ะ หรือว่าไม่ได้แกล้งวะ ชักหลอนแล้วนะโว้ยย นี่พระอาทิตย์ก็ใกล้ตกเต็มที นั่งอยู่ตรงนี้อีกหน่อยจะมีอะไรมาสะกิดกูป่ะวะ อย่ามาหลอกผมเลยนะครับคุณพ่อ แงงง

“กูอยากพามึงมาแนะนำให้พ่อกับแม่รู้จัก” อยู่ดีดีลุงก็พูดขึ้นมาครับ

“..”

“พ่อครับ คนนี้ไงที่ผมเคยเล่าให้ฟังบ่อยๆ ผมพามาหาพ่อแล้วนะ มันชื่อเจ็ท แต่ที่บ้านเรียกมันว่าภูมิ มันเป็นคนตลกครับ ชอบทำตัวบ้อๆ บอๆ ขนาดพียังบอกเลยว่ามันตลก”


“...”

“ผมอยากให้พ่อรู้ว่าผมเลือกแล้วนะครับ มันอาจจะไม่ได้ทำงานบ้านเก่งเหมือนแม่ ไม่ได้เรียนได้ที่หนึ่งตลอดเหมือนพี ไม่ได้หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนสองแฝดที่พ่อรักนักหนา แต่มันเป็นคนที่ผมเลือกแล้วครับ อยากให้พ่อรักมัน เหมือนที่มันรัก” ประโยคสุดท้ายลุงหันกลับมามองหน้าผม ก่อนจะหยิบกำไลโซ่ออกมาจากกระเป๋ากางเกงชูขึ้นตรงหน้าผม

“แล้วมึงล่ะ ยินดีจะเป็นคนคนนั้นของกูไหม”

ตื้นตันจนพูดอะไรไม่ออก ได้แต่พยักหน้ายิกๆ ให้ลุง ก่อนที่แขนซ้ายจะถูกพันธนาการด้วยกำไลโซ่อันนั้น มีเจ้าของแล้วครับ ไอ้เจ็ทคนนี้มีเจ้าของจริงๆ แล้วครับ โฮกกก

“เบ้ปากทำไม ใส่ให้กูบ้างสิ” ยื่นแขนซ้ายพร้อมกับกำไลโซ่อีกเส้นที่มีขนาดใหญ่กว่ามาทางผม คว้ามาใส่ให้ลุงบ้าง ของคู่ชิ้นแรกของผมกับลุง งื้อออ

“โซ่นี้บอกว่ากูและมึงมีเจ้าของแล้ว เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ห้ามให้ใครแตะต้องมีงอีก ไม่เว้นแม้แต่พี เข้าใจไหม?”

“ครับ”

.............................................................................
เค้ายังมีชีวิตอยู่ แงงง ไม่มีข้ออ้างใดๆ สำหรับการมาช้า
เพราะตั้งใจจะมาตั้งแต่สองวันก่อน แต่เค้าก็ไม่ได้มา ขอโทษฮ้าบบบ
ยังติดตามเราอยู่ใช่ม้ายยย งื้ออออออ

ขอบคุณที่ยังไม่ทิ้งกันนะคะะะะ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
น่าร้ากกก

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ซึ้งมากครับ,,,

โรแมนติกดีด้วย,,,

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
น่ารักอ่ะ มีล่ามโซ่ให้กันด้วย  :mew1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
คิดถึงงงงงงงงง

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
เป็นแฟนกันสักที!!!!

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
มีเจ้าของแล้วววว

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ความโรแมนติกนี้!!!

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
น่ารักมากมาย ..

ออฟไลน์ oommmy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
CH24

หลังจากที่ผมกับลุงตกลงเป็นแฟนกันเรียบร้อย ตาลุงก็ไม่รู้ไปเอาความกล้าบ้าบิ่นมาจากไหน เดินไปหาพ่อผมดุ่มๆ พร้อมบอกว่า ‘ผมเป็นแฟนเจ็ท เอ๊ย ภูมิครับ’ ไอ้ชิบหายยย!! เสียงตะคริวหล่นกระทบกระทะดังมาจากครัวเลยครับ วิ่งไปดูแทบไม่ทัน ดีค่ะ แม่ผมแค่ถือตะหลิวกับกระทะที่เพิ่งล้างเสร็จ เกือบงานเข้าแล้วไหล่ะ

ส่วนพ่อผมน่ะหรอ ช็อคตั้งแต่ลุงพูดจบแล้วครับ สะกิดเรียกตั้งนานกว่าจะรู้สึกตัวแน่ะ ตลกกว่านั้นคือ พ่อผมแม่งเดินขึ้นห้อง แล้วลงมาพร้อมกล่องถุงยางอนามัยพร้อมกับบอกว่า ‘ถึงเป็นผู้ชายก็ต้องรู้จักป้องกันนะ’ พีคกว่าลุงก็พ่อผมนั่นแหละคร้าบบบบบบบบบ!

อาหารเย็นมื้อนั้นจึงเป็นมื้อที่ครอบครัวเราขยายใหญ่ขึ้น เพราะมีลุงกับพี่พีมาร่วมรับประทานอาหารด้วย

“ถึงหอแล้วโทรหาแม่ด้วยนะภูมิ” และตอนนี้เรากำลังยืนกันอยู่ที่สนามบินเชียงใหม่ครับ เวลาสองสามวันสองคืนที่เชียงใหม่ของผมกับลุงผ่านไปไวเหลือเกิน ขากลับรอบนี้ผมแบกแคปหมู น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง ไส้อั่ว และบลาๆๆ เต็มกระเป๋าไปหมด ไม่ใช่ของฝากนะครับ ผมเอากลับไปกินเอง 55555 ก็คนมันคิดถึงบ้านนี่หว่า จากบ้านมาไกลก็คิดถึงอาหารพื้นเมืองบ้านตัวเองเป็นธรรมดา

“ฝากดูแลภูมิด้วยนะที แล้วมาเยี่ยมพ่อกับแม่บ่อยๆ นะครับ”

“ครับ” ผมดีใจนะครับที่พ่อกับแม่ผมยอมรับลุง เพราะมันเท่ากับว่าลุงจะมีพ่อกับแม่ผมมาเป็นครอบครัวเพิ่ม ผมรู้ว่าถึงลุงจะไม่เคยบอกว่าเหงา แต่การที่เราไม่มีพ่อและแม่ไว้เป็นที่ปรึกษายามเหนื่อย มันก็คงจะเหงาบ้างแหละ

กอดพ่อกับแม่ให้ชื่นใจหนึ่งที ก่อนจะยกมือสวัสดีแล้วเดินเข้าเกต เสียดายนะครับที่เรามากันแค่ไม่กี่วัน ยังอยากอยู่บ้านอยู่เลยน่ะสิ ปิดเทอมนี้รับรองผมของลางานพี่โจ้กลับบ้านยาวแน่นอน

...
หลังจากกลับจากเชียงใหม่ตอนนี้ก็ผ่านมาได้เดือนกว่าแล้วครับ ชีวิตประจำวันชองผมก็เหมือนเดิมทุกวัน ไปเรียน ทำงาน วนลูปไปเรื่อยๆ ไม่ต่างกันกับลุงที่วันวันมุดหัวอยู่ได้ในห้องแลป เราเจอกันบ้างประปราย ส่วนใหญ่จะเป็นผมไปหาที่คณะเพื่อกินข้าวกลางวันด้วยกัน หรือลุงแวะมาหาผมก่อนจะเลิกงาน แล้วอยู่รอจนผมกลับถึงหอ ชีวิตประจำวันของเราสองคนก็เหมือนคู่รักธรรมดาทั่วไป

แต่ที่มันไม่ธรรมดาคือสิ่งมีชีวิตเพศหญิงอีกหนึ่งคนที่ชักจะเจอะเจอกันบ่อยเหลือเกินช่วงนี้ แน่นอนว่าที่ผมพูดถึงนี่ไม่ใช่ไอ้คุณส้มหรือยะหยาแน่นอน แต่เขาคือพี่เบลล์ครับ

ในทุกวันที่ผมไปหาลุงที่คณะ ก็มักจะเห็นพี่เบลล์อยู่ในห้องแลปกับลุงทุกครั้ง ในช่วงแรกๆ ลุงก็พยายามบอกกับผมว่าต้องเข้าแลปด้วยกันทุกวัน เพราะคณะแพทย์จะมีช่วงที่ยังต้องทำแลปคล้ายๆ กัน ทำให้ช่วยๆ กันทำ ผมเข้าใจนะครับ แต่ที่ไม่เข้าใจคือมันต้องถึงขั้นตามลุงไปหาผมที่ที่ร้านพี่โจ้ด้วยเรอะ!

นิ่งครับ นิ่งสงบสยบทุกการเคลื่อนไหว เฝ้าสังเกตการณ์เงียบๆ เดี๋ยวกระต่ายตื่น ถามว่าทำไมผมถึงนิ่งได้ขนาดนี้น่ะหรอ เพราะผมยังเชื่อใจลุงว่ามันไม่มีอะไรจริงๆ ในทางกลับกัน ผมรู้สึกตงิดๆ ใจกับพี่เบลล์มากเลยครับ

จุดเริ่มต้นของความหงิดไม่ใช่เพราะผมเจอพี่เบลล์บ่อยจนเกือบทุกวันหรอกนะ แต่ตั้งแต่ที่ผมกับลุงเปิดตัวกันอย่างเต็มตัวแล้ว ผมก็รู้สึกว่าสายตาที่พี่เบลล์มองผมเปลี่ยนไป เหมือนมีอะไรในใจ บางคครั้งที่ลุงเผลอ พี่เบลล์มักจะจ้องมองผมด้วยสายตาแปลกๆ และคนที่ช่วยยืนยันความคิดนี้ก็คือส้มครับ

“กูฟันธงว่าพี่เบลล์แม่งคิดไม่ซื่อกับพี่ทีชัวร์” ตอนนี้เรากำลังอยู่ในคาบเรียนตอนบ่ายครับ ถามว่าทำไมถึงนั่งคุยกันได้น่ะหรอ เพราะอาจารย์ปล่อยให้เราทำงานกลุ่มครับ

“เสี้ยมอีกแล้วนะมึง” หยิมส่งเสียงกลับมาหน่ายๆ พร้อมกับเขียนรายชื่อสมาชิกกลุ่มไปด้วย

“กูไม่ได้เสี้ยม มึงก็เห็นว่าวันนี้พี่เบลล์แม่งทำหน้ายังไงตอนเห็นพี่ทีซื้อน้ำให้ไอ้เจ็ท” สะดุ้งโหยงตอนที่มันตบโต๊ะดังฉาดใหญ่พร้อมกับส่งเสียงดุตอกกลับหยิม

“แต่กูยังไม่ได้อยากให้เจ็ทมันคิดไปไกล เข้าใจไหมวะไอ้คุณส้ม” เงยหน้ามาส่งสายตาดุกลับไปบ้าง

“เหอะ!”
บทสนทนาแบบนี้มันเริ่มมาซักพักแล้วครับ ตั้งแต่ที่ส้มเล็งเห็นความผิดปกตินั้นเหมือนกับที่ผมเห็น เพียงแค่ด้วยนิสัยไม่ยอมคนของมัน ทำให้มันแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจนในเรื่องนี้ และยังคงมีหยิมที่พยายามปรามไม่ให้ส้มมันคิดไกลไปมากกว่านี้ คงมีเพียงยะหยาที่เพียงส่งยิ้มมาให้ผมเบาๆ เพื่อเป็นการปลอบใจ

“เรื่องนี้มันควรเป็นเรื่องของคนสองคนป่ะวะ ตอนนี้พี่ทีทำทุกอย่างชัดเจนอยู่แล้วว่าไอ้เจ็ทคือที่หนึ่ง ถึงมึงจะไม่เชื่อใจพี่เบลล์ แต่อย่างน้อยมึงก็ควรเชื่อใจลูกพี่ลูกน้องกูบ้างว่าจะไม่ทำให้เพื่อนของเราเสียใจ” ร่ายยาวทั้งๆ ที่มือยังไม่หยุดเขียน จนผมสงสัยว่าชื่อพวกเราสี่คนมันต้องเขียนนานขนาดนั้นเชียวหรือ แต่ก็ได้คำตอบเป็นกระดาษที่ลิสรายการหัวข้อที่เราต้องหาข้อมูลทำรายงานแทน สองแฝดไม่เคยทำให้พวกผมผิดหวังจริงๆ ครับ เพราะตอนนี้ยะหยาก็กำลังเปิดคอมเพื่อเสิร์ชหาข้อมูลคร่าวๆ ไปด้วย

“กูเชื่อใจพี่ที แต่กูไม่เชื่อใจผู้หญิงคนนั้น”

“ประเด็นคือไอ้เจ็ทเชื่อใจใครมากกว่ามั้ง”

“แต่..”

“แต่ถ้าตอนนี้มึงไม่ช่วยพวกกูทำงาน กูจะตัดชื่อมึงออกจากกลุ่ม!” เป็นการตัดจบบทสนาที่เฉียบขาดตามสไตล์หยุมหยิมเลยล่ะครับ

ก็จริงอย่างที่หยิมว่านั่นแหละ ประเด็นคือผมยังเชื่อใจลุงอยู่ เพราะโซ่ที่คล้องเราสองคนไว้ด้วยกัน มันยังคงทำหน้าที่เชื่อมเราสองคนไว้ด้วยกันอยู่นะ

.............................................................................................

Natee : วันนี้เลิกช้า ไม่ต้องรอกินข้าวก็ได้นะ

ผมเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงตามเดิม หลังจากที่เพิ่งก้าวออกจากห้องเลคเชอร์ในคาบเช้า วันนี้ไอ้คุณส้มโดดเรียนด้วยสาเหตุใดไม่อาจทราบได้ ตอนนึ้จึงเหลือผมอยู่กับสองแฝด และกำลังมุ่งหน้าไปยังโรงอาหารกลางของมหาวิทยาลัย เราไม่ค่อยมากินที่นี่บ่อยนักครับ ถ้าไม่กินกันที่คณะตัวเอง ก็จะกินที่คณะลุง แต่เพราะวันนี้เราเลิกเรียนเร็วเป็นพิเศษ สองแฝดจึงเลือกมาที่นี่แทน

“หยากินอะไร เดี๋ยวหยิมไปซื้อให้” เราเลือกที่จะให้ยะหยานั่งจองโต๊ะครับ เพราะถึงเราจะเลิกเรียนเร็ว แต่ปริมาณนักศึกษาที่มากินข้าวที่นี่ก็ไม่น้อยเลยทีเดียว รวมทั้งร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าเด็ดที่เลืองลือนักหนา ก็มีคนเข้าคิวต่อแถวยาวจนเกือบสุดโรงอาหารกันลยทีเดียว

ผมไม่ทันได้ฟังว่าหยาสั่งอาหารอะไร เพราะใจจดจ่ออยู่ที่ร้านข้าวมันไก่ข้างร้านก๋วยเตี๋ยวที่คนต่อแถวอยู่แค่สามสี่คน ผมเป็นพวกขี้เกียจต่อแถวครับ ร้านไหนคนน้อยก็กินร้านนั้น และดูท่าว่าร้านข้าวมันไก่กำลังตอบโจทย์ผมตอนนี้มากครับ

“มึงคะ กูจะเม้าส์” ผู้หญิงที่ต่อแถวตามหลังผมสะกิดเรียกเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆยิกๆ ผู้หญิงเป็นเพศที่ตลกดีนะครับ เพราะไม่ว่าจะที่ไหนหรือทำอะไร ก็มีเรื่องมีคุยกันได้ตลอด

“เมื่อกี้ค่า ตอนนี้กูเดินไปส่งงาน แล้วผ่านห้องแลปเคมี กูเห็นค่า โคตรจะแซ่บ”

แลปเคมี?

“ให้กูเดาได้ไหม” เพื่อนสาวอีกคนที่อยู่ข้างๆ รีบสวนกลับทันที

“อ่ะลอง”

“พี่ทีชัวร์” ตบมือดังฉาดใหญ่หลังจากเพื่อนเดาถูก ให้ตายเถอะแค่ได้ยินชื่อพี่ทีก็ทำให้ผมเริ่มรู้สึกโหวงวูบแปลกๆ ไม่หรอกน่า คนชื่อทีมีเยอะแยะ มันคงไม่บังเอิญว่าต้องเป็นคนคนเดียวกันหรอก

“แล้วอีกคนล่ะ”

“โหหห ขนาดนี้ยังต้องถามอีกหรอก”

จนถึงตอนนี้ใจผมเต้นตุบตับ มือไม้สั่นไปหมด มือเอื้อมไปลูบโซ่ที่คล้องอยู่บนข้อมือเบาๆ เย็นเฉียบ ไม่ต่างจากหัวใจผมตอนนี้ หลังจากชื่อของบุคคลอีกคนหลุดออกมาจากผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างหลังผม พร้อมกับเหตุการณ์ในห้องแลปนั้นที่ทำให้ผมตัดสินใจเดินกลับไปหยิบกระเป๋าที่โต๊ะเงียบๆ แล้วเดินออกจากโรงอาหารทันที

................................................................................................

‘กูเห็นเขาจูบกันค่า กับพี่เบลล์ดาวแพทย์ ในแลปเมื่อกี้เลย ทุกทีกูเดินผ่านเฉยๆ เว้ย แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้วันนี้กูหันไปมองที่ประตูห้องแลป แล้วโป๊ะเชะ เต็มสองตาเลยมึงเอ๋ยย กูนี่โคตรจะอิจฉา แม่งหญิงก็สวยชายก็หล่อ เหมาะสมกันยังกะกิ่งทองใบหยก ทำบุญด้วยอะไรวะ ถึงได้โชคดีกันขนาดนี้’

ผมไม่รู้ว่าเรื่องนี้มันจริงมากแค่ไหน แต่ให้ตายเถอะครับ ผมหยุดคิดเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ ผมรู้ว่าผมควรถามเรื่องนี้กับลุงให้รู้เรื่อง แต่ผมก็เกลียดตัวเองเหลือเกินที่เป็นคนจำพวกชอบหนีปัญหา และยังฝืนกักเก็บความรู้สึกหน่วงๆ เหล่านี้ไว้ในใจ

หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ผมก็ทำตัวปกติตามเดิม แม้ในใจจะรู้สึกถึงความปวดหนึบๆ ตลอดเวลา แต่ผมก็ยังไม่กล้าจะถามความจริงกับทั้งสองคน

สองแฝดรับรู้ถึงความผิดปกติของผม เพราะหลังจากที่ผมหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกจากโรงอาหารทันที ก็เป็นยะหยาที่วิ่งตามมาฉุดมือผมไว้ แล้วถามถึงความผิดปกตินั้น แต่ทำเพียงแค่เดินกลับไปนั่งเงียบๆ ที่โต๊ะดังเดิม แม้จะมีอาหารที่หยิมซื้อมาเพิ่มให้วางอยู่ตรงหน้า ก็ไม่ได้รับความสนใจจากผม ไม่มีคำตอบสำรับคำถามที่สองแฝดเฝ้าถาม และดูเหมือนว่าทั้งสองจะรู้ว่าผมไม่ต้องการคุยในเวลานั้น ทั้งสองจึงเลิกเร่งเร้า และทำตัวเหมือนปกติกับผม แม้จะมีบ้างที่ได้รับสายตาที่เป็นห่วงจากยะหยา หรือสายตาที่มีแต่คำถามของหยิมก็ตาม

หรือแม้จะกระทั่งส้มที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้น ก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ รอบตัวผม แต่มันเป็นก็เลือกที่จะไม่ถาม และรอให้ผมเป็นคนพูดออกมาเอง

ผมยังคงทำกิจวัตรประจำตัวเหมือนเดิม ไปเรียน ทำงาน กลับหอมานอน หรือแม้กระทั่งการเจอหรือพูดคุยกับลุง ก็ยังคงมีรอยยิ้มให้เสมอ ผมไม่รู้ว่าลุงจะรู้รึเปล่าว่าผมแปลกไป แต่ให้ตายเถอะครับ ไม่กล้าจะเอ่ยคำถามนั้นออกไป และไม่พยายามค้นหาคำตอบ เพราะผมกลัวเหมือนเกิน กลัวความจริง

“วันนี้เหมือนเดิมนะครับ” และเป็นอีกวันที่ลุงมาหาผมที่ร้านหลังจากทำแลป และยังคงเป็นอีกวันที่ลุงมีผู้ติดตามมาด้วย

“อืมมม ช่วงนี้พี่อ้วนมากอ่ะเจ็ท พี่ของอเมริกาโน่ดีกว่า หวานน้อยนะจ๊ะ” พวกคุณเดาถูกแล้วครับ พี่เบลล์ตามลุงมาทุกครั้งที่พวกเขาเข้าแลปด้วยกัน

ผมเคยสงสัยนะครับว่านักศึกษาเอกเคมีกับนักศนึกษาแพทย์ทำไมถึงต้องเข้าแลปด้วยกันบ่อยๆ หรือทำไมต้องทำโปรเจคร่วมกัน ผมเคยถามเรื่องนี้กับลุงครับ พร้อมกับได้คำตอบว่าตอนนี้ลุงกำลังสนใจพวกผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับยา แต่ไม่มีเพื่อนที่เรื่องเภสัชเลย แต่ต้องหาข้อมูลเรื่องยาจากเพื่อนที่เรื่องคณะแพทย์แทน และเพื่อนคนนั้นก็คือพี่เบลล์ครับ

“ครับ” ผมรับออเดอร์จากพี่เบลล์ก่อนจะหันไปทำเครื่องดื่มที่ถูกสั่ง ส่วนของลุงเป็นอะไรก็ได้ตามใจผม ลุงเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่มาหาผม จนผมหมดมุกจะหาอะไรแปลกๆ มาให้ลุงลองชิมแล้วครับ เมนูง่ายๆอย่างสตอเบอรี่ปั่น หรือสตอเบอรี่โยเกิร์ตจึงถูกนำมาเสิร์ฟสลับๆ กันไป

“ทีไม่ลองกินอย่างอื่นบ้างหรอ”

“เราชอบสตอเบอรี่น่ะ”

“โห ที่จะชอบแค่ไหน แต่ถ้ากินเป็นประจำทุกวันแบบนี้ เราก็เบื่อเหมือนกันนะ” ผมวางเครื่องดื่มลองที่บาร์เงียบๆ ก่อนจะหันกลับไปสนใจหน้าเคาท์เตอร์ของตัวเองตามเดิม ได้ยินเสียงทั้งสองคุยกับเจื้อแจ้ว ตั้งแต่เรื่องล้มฟ้าอากาศจนถึงเรื่องในห้องแลป พวกเขามักจะนำเรื่องในห้องแลปมาปรึกษากันต่อที่นี่เสมอ และแยกย้ายกันเมื่อผมเลิกงาน

ผมไม่เข้าใจหรอกครับว่าทำไมพี่เบลล์จะต้องรอจนผมเลิกงานก่อนถึงค่อยกลับบ้าน หรือทำไมจะต้องตามลุงมาที่นี่เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับงานที่ไม่ได้เร่งรีบอะไรแล้ว ล่าสุดที่ผมรู้คือลุงแค่ต้องทำพรีเซ้นท์ให้ผ่าน ทุกอย่างก็จะเสร็จสมบูรณ์ นั่นเท่ากับว่าข้อมูลที่ลุงต้องการ มันก็น่าจะเพียงพอแล้ว

“เหม่ออะไร” เสียงคุ้นเคยดังมาจากโต๊ะประจำ ดึงความสนใจของผมกลับไปที่บุคคลที่ผมกำลังนึกถึงในใจ เห็นลุงกำลังนั่งมองมาที่ผม ตรงหน้ามีแก้วสตอเบอรี่ปั่นที่ถูกดูดไปมากกว่าครึ่ง และข้างกันก็มีแก้วอเมริกาโน่เย็นที่ถูกแตะไปเล็กน้อยวางอยู่ แต่เจ้าของแก้วใบนั้นไม่ได้นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ว่างตัวนั้น

“เบลล์ไปคุยโทรศัพท์ด้านนอก” มองไปที่กระจกหน้าร้าน เห็นพี่เบลล์กำลังคุยโทรศัพท์ด้วยใบหน้าเคร่งเครียด

“แล้วเมื่อกี้เหม่ออะไร ไม่สบายรึเปล่า” ไม่พูดเปล่า ยังเอามือมาอังหน้าผากผมไปด้วย เป็นจังหวะเดียวกับที่พี่เบลล์เปิดประตูก้าวเข้าร้านพอดี ตาสบตา ให้ตายเถอะครับ ผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย

ไม่ได้อยากเปิดศึกกับใคร แต่สายตาท้าทายที่ส่งมาแบบนั้น ผมว่าผมไม่ได้คิดไปเอง

.......................................................
ไม่มีข้อแก้ตัวสำหรับการหายไปจ้า โงยยยยยย
ได้โปรดอย่าดุด่ากันเลยหนาาา เราไม่ได้แตะคอมเลยง่ะ
บวกทั้งมีปัญหาเรื่องงานรุมเร้านิดหน่อย

แต่เราจะพยายามเรามาต่อก่อนปีใหม่แน่นอนน้า งื้ออ
ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามนะจ๊ะ

ออฟไลน์ Somporn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่ารัก ขอตามด้วยคนน่าาา

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
มาม่าชามใหญ่ ชะนีตัวเดิม มาอีกแล้ว :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

คนที่เป็นปัญหา ก็คนเดิม
แล้วที่จูบกันในแลป จริงใช่ไหม  :hao3:
ถ้าพี่ที มีใจให้นางจริง ก็บอกเจ็ทตรงๆ

จะมีคนชื่อที ซ้ำ แล้วฝ่ายหญิงเป็นดาวซ้ำหรือ
ไม่มีของเน่า แมลงวันไม่ตอม เอ๊ย.......ไม่มีมูลฝอย หมาไม่ขี้         
หรือฝ่ายหญิงเริ่ม ฝ่ายชายเลยตามน้ำ ไม่อยากเสียมารยาท  o18

แต่พอนางส่งสายตาท้าทายเจ้ท ก็......ใช่เลย
ยิ่งตามตัวทีติด แม้เขามาหาแฟน ยังเสนอหน้ามาจนเขาเลิกงาน
อะไรจะเสือก เอ๊ย......เสนอหน้าขนาดนั้น

เป็นเจ็ท จะไม่ทน เป็นไรเป็นกัน ไม่ใช่สีทาหลังคานี่ จะได้ทนได้
ดีกว่าทนทรมาน คิดมาก ถามจะๆต่อหน้าทั้งคู่ไปเล้ย 
จูบกันในแลปก็แล้ว ตามกันจัง......เอาไงแน่
จะได้รู้ว่าใครแอปเปิ้ล ใครสตรอเบอรี่ เหอะ........

ไรท์ มาต่อไวๆ นะ อยากอ่านต่ออีกและ  :ling1: :ling1: :ling1:
ขอให้ปัญหาของไรท์ ผ่านไปด้วยดีนะ เอาใจช่วย  :mew1: :mew1: :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เครียดเรื่องงานเหมือนกัน เครียดจนอยากตบชะนีเบลล์  :fcuk:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เกาเหลาก็มา มาต่อด้วยนะจ๊ะถือว่าเป็นการชดเชยที่ทิ้งให้ค้าง แฮ่ๆ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ตบเลย. 555

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
เฮียทีแสดงความชัดเจนให้นางเห็นหน่อย

นางจะได้เลิกคัน เจ็ทจะหึงก็ไม่กล้าทั้งที่มีสิทธิ์เฮ้ยยยยยย..

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ตามกันต่อ ..

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
กว่าความสัมพันธ์จะชัดเจนก็น๊านนาน ชัดเจนแล้วยังจะมีเบลเข้ามาอี๊ก ชีวิตเจ็ทนี่ไม่ค่อยสงบสุขนะ
จะจัดการไงละทีนี้ เอาแต่หนีบางทีมันก็น่าเบื่อนะเจ็ท

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
พี่เบลล์จะเอาไง? ต้องการอะไร?
ลุงหนะ เชื่อใจได้ แต่อีกคนหล่ะ

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
งื้อรออออออ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
รอไรท์  :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เรามารอไรท์ที่เวปทุกวันเลย~ :monkeysad:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด