สวัสดีผู้อ่านทุกคนนะคะ ยินดีต้นรับเข้าสู่โลกนิยายของ เจ้าหมูอ้วน ค่ะ
นิยายเรื่องแรกเลยที่ลงในเล้า ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน หากมีคำผิดรบกวนแจ้งด้วยนะคะ จะแก้ให้ค่ะ
มาร่วมแสดงความคิดเห็น วิจารณ์ได้เต็มที่เลยนะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
ปล.เตือนก่อนว่าเรื่องนี้ค่อนข้างดราม่าค่ะ (พยายามแต่งให้ดราม่าแล้วจริงๆ) เป็นยังไงฟีดแบคกลับมาได้ตลอดเลยนะคะ
=====================================================================
เมื่อก่อน...เมื่อตอนที่ผมยังไม่มีอะไรเข้ามาในชีวิต ในชีวิตของผมมีเพียง...เงิน และ เพื่อนกินจอมหลอกลวง
เงินที่มีมากมายมหาศาลชนิดที่ว่าผมใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด
เพื่อนกิน ที่เข้ามาหาผมเพราะอำนาจเงิน ไม่มีแม้แต่ความจริงใจให้กัน
ผู้หญิง เข้ามาหาผมเป็นร้อยพัน แต่ก็มีความต้องการเดียวกันคือ เงิน
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิตอันเงียบเหงาของผมนั้น ไม่ได้ต้องการสิ่งที่ผมเป็น แต่ต้องการ เงินของผมเพียงเท่านั้น
.
.
.
.
.
จนกระทั่ง ‘เขา’ เข้ามาในชีวิตผม
เขา...ที่ไม่เคยร้องขออะไรจากผม
เขา...ที่มองเห็นสิ่งที่ผมเป็น
เขา...ที่อยู่เคียงข้างผม
เขา...ที่ไม่เคยทอดทิ้งผมไปไหน
เขา...ที่ผมรักมาตลอด
เขา...ที่รักผมเช่นกัน
เขา...ที่ผมไว้ใจมากที่สุด
แต่วันนี้...ทุกๆอย่างกลับพังทลายลงไปต่อหน้าต่อตาของผม
วันนี้ผมแวะมาหาเขาที่คอนโด กะจะเซอร์ไพรส์ แต่คนที่ถูกเซอร์ไพรส์คงจะเป็นผมซะมากกว่า
“เมื่อไรแกจะเอาเงินจากมันมาให้พ่อสักที นี่ก็ผ่านมาปีกว่าแล้วนะ มันไว้ใจแกมากแค่ไหน ถ้าแกไปขโมยเงินมันมา มันก็ไม่สงสัยแกแท้ๆ”เสียงของชายมีอายุ ดังลอดประตูที่แง้มไว้
“พ่อครับ ผมว่าเราคุยเรื่องนี้กันรู้เรื่องแล้วนะ”เสียงทุ้มนุ่มที่ผมเองก็คุ้นเคยดีตอบกลับชายที่เขาเรียกว่าพ่อ
“แกรู้เรื่องอยู่คนเดียวน่ะสิ แกก็รู้ใช่มั้ยว่าเรากำลังประสบปัญหาด้านการเงิน ลำพังแค่แกคนเดียวหาเงินใช้หนี้บ้านเราไม่ไหวหรอกนะ”
“หนี้ของพ่อคนเดียว ไม่ใช่หนี้ของผม ถ้าพ่อไม่ไปพนันบ้าๆนั่น บ้านเราคงจะสบายกว่านี้!”
“นี่แกหาว่าทั้งหมดนั่นเป็นความผิดของฉันงั้นหรอ!! ไอ้ลูกไม่รักดี”
“หรือพ่อจะบอกว่าคนสร้างหนี้ทั้งหมดนั่นไม่ใช่พ่อ?”
“...”
“ใช่พ่อหรอ ที่เอาเงินก้อนสุดท้ายของบ้านเรา ไปพนันบ้าๆนั่น ทั้งๆที่ก็รู้ดีว่าไอบ่อนเฮงซวยนั่นมันโกงทุกคน!”
“เออ พ่อยอมรับ พ่อทำเอง แต่มันช่วยไม่ได้นี่หว่า ก็เห็นข้อเสนอมันดี”
“เฮอะ! ช่วยไม่ได้ มนก็แค่คำแก้ตัว”
“นี่ฉันเป็นพ่อแกนะ หัดให้ความเคารพกันบ้าง!”
ผมได้แต่ยืนฟังสองพ่อลูกทะเลาะกัน พร้อมน้ำตาที่รินไหล น้ำตาที่ไหลออกมาพร้อมกับความไว้ใจ
หมดแล้ว...ความไว้ใจ
หมดแล้ว...ความรักที่มีให้
หมดแล้ว...ความเชื่อมั่น
ตอนนี้ทุกอย่างที่ยึดเหนี่ยวให้เขาไม่จมลงสู่ความมืดมิด ได้ถูกช่วงชิงไปหมดแล้ว
ผมจะไม่ทำตัวเหมือนนางเอกนิยายน้ำเน่า ที่วิ่งออกไป
ผมจะไม่ทำอะไรโง่ๆ เช่น การฆ่าตัวตาย แม้ตอนนี้ผมจะไม่รู้ว่าจะมีชีวิตต่อไปเพื่ออะไรก็ตาม
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากทำมาที่สุดในตอนนี้...
ผมถีบประตูที่แง้มอยู่อย่างแรงจนกระแทกผนัง สองพ่อลูกนั่นตกใจพอดู โดยเฉพาะเขา ‘ต้นไม้’ หึ ! คงตกใจมากล่ะสิท่า ที่เห็นหมากโง่ๆตัวหนึ่ง เศร้าเสียใจมากมายขนาดนี้
พลั่ก!
“นี่คือค่าตอบแทนที่คุณหลอกผม”
พลั่ก!
“นี่คือข้อหาที่คุณมีปัญหาแล้วไม่ปรึกษาผม”
“เรา-จบ-กัน ขอบคุณที่หลอกให้ผมรักมาตลอด หลังจากนี้ เราจะไม่รู้จักกัน สวัสดี”
ผมไม่รีรอให้ต้นไม้ได้สรรหาคำแก้ตัวอะไรมาหลอกผมอีกครั้ง ผมเดินตรงไปอย่างมุ่งมั่นและต่อยหน้าเขาอย่างเต็มแรง เท่าที่ผมจะทำได้ แล้วเดินออกมา
“พัด รอผมก่อน ขอผมได้อธิบาย”ต้นไม้วิ่งตามมาคว้าแขนผมไว้แล้วออกแรงดึงให้หันหน้ากลับไปหาเขา
“รอ...? รอให้นายเอาคำพูดบ้า กับหน้าตาซื่อๆ มาหลอกผมอีกรอบงั้นสิ ผมไม่ได้โง่นะคุณ!!”
“ผมไม่เคยหลอกนายนะพัด”ต้นไม้พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มๆหวังให้ผมใจเย็นลง
“อย่ามาทำหน้าตาแบบนี้ใส่ผม ผมจะไม่เชื่อคุณอีกต่อไป!”
“พัด...มองหน้าผม มองเข้ามาที่ตาผม แล้วคุณจะรู้ว่าผมไม่ได้โกหก”อีกฝ่ายจับไหล่ของผมทั้งสองข้างไว้แน่น
“คุณนี่มันเล่นละครเก่งจริงๆ”ผมเค่นยิ้มออกมา
“ต้องให้พี่ทำยังไงเธอถึงจะยอมพูดกับพี่ดีๆ”ต้นไม้พยายามพูดต่อรอง แต่ตอนนี้ผมไม่พร้อมจะรับฟังอะไรทั้งนั้น
“เห็นรถที่กำลังวิ่งอยู่นั่นใช่มั้ย?”เขาพยักหน้าพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มซีด คงจะรู้ล่ะมั้งว่าต้องทำยังไง
“โดดลงไปซะสิ แล้วผมจะยอมคุยกับคุณ”ผมพูดนิ่งๆ พยายามแสดงอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลยกับคำพูดในครั้งนี้
“แต่รถนี่มันวิ่งเร็วมากๆเลยนะ ถ้ากระโดดลงไป พี่ก็ตายน่ะสิ”
“นี่คุณยังไม่เข้าใจอีกรึไง ว่ายังไงผมก็ไม่อยากคุยกับคุณ”
“...”
“ถ้าคุณไม่ทำแบบที่ผมบอก ก็...ไปล่ะ”ผมสะบัดตัวอย่างแรงเพื่อให้หลุดจากพันธนาการของเขา แล้วหันหลังเดินออกมา
“ถ้าพี่ทำแบบนั้นแล้ว เธอจะยอมคุยกับพี่ใช่มั้ย?” เขาคว้าข้อมือของผมไว้อีกครั้ง
“ใช่...ถ้าคุณยังมีชีวิตมาคุยกับผมน่ะนะ”ผมยิ้มกว้าง ยิ้มที่ผมพยายามทำให้ดูยียวนที่สุด
“งั้นได้ พี่จะกระโดดลงไป แล้วกลับขึ้นมาคุยกับเธอ”ต้นไม้ปล่อยข้อมือของผมแล้วหันหน้าไปอีกทาง หันหน้าเข้าสู่ถนน ที่มีรถมากมายวิ่งผ่านด้วยความเร็วสูง
แม้นั่นจะเป็นสิ่งที่ผมพูดออกไปว่าให้ทำ แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกไม่ดีขึ้นมา
“เอาสิ โดดเลย รออะไรอยู่ล่ะ?”ถึงใจผมจะกังวลแต่สมองก็ประมวลผลให้ปากพูดอกไปแบบนั้น
วินาทีนั้น ที่ต้นไม้กำลังจะก้าวออกไป ผมอยากออกปากห้ามเขา แต่ด้วยความปากหนักและทิฐิที่มี ทำให้ผมเลือกที่จะเงียบ และคิดว่าเขาคงไม่บ้าจี้ทำตามคำประชดโง่ๆของผม แต่แล้วผมก็รู้ว่าผม ... คิดผิด
ต้นไม้เลือกที่จะกระโดดออกไป แม้จะรู้ดีอยู่แล้วว่า โชคดีแค่ไหนก็ไม่มีทางมีชีวิตรอดกลับมา
เขาขอแค่คนที่เขารักรับรู้ว่า เขาทำได้ทุกอย่างเพื่อคนๆนั้น แม้จะต้องแลกมาด้วยชีวิต เขาก็ไม่คิดเสียดาย
รถพุ่งเข้าชนต้นไม้อย่างแรง ร่างของเขาลอยมากระแทกกับฟุตบาต ด้วยสภาพเลือดท่วมตัว เนื้อตัวถลอกไปหมด แต่ก็ยังพยายามฝืนเปลือกตาที่หนักอึ้ง เพื่อมองหาคนที่เขารัก เขาอยากส่งยิ้มให้ แต่มันก็ยากเหลือเกิน
พัดวิ่งเข้าไปหาต้นไม้ทันที ด้วยน้ำตา เขาคิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะยอมทำถึงขนาดนี้
“พี่ต้น ทำไมพี่ต้องทำถึงขนาดนี้ ทั้งๆที่พี่ก็รู้ว่าพัดไม่ได้อยากให้พี่โดดไปจริงๆ”ผมพูดเสียงสั่น พลางเอามือปาดน้ำตาลวกๆ อีกมือก็พยายามควานหาโทรศัพท์เพื่อโทรเรียกรถพยาบาล
“พี่ไม่รู้หรอกว่านายพูดจริงรึเปล่า พี่แค่อยากคุยกับนาย”ต้นไม้ยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้พัด
“พี่คิดว่าพี่ทำแบบนี้แล้วพัดจะดีใจรึไง พี่มันโง่ โง่ที่สุด”
“ไม่รู้สิ แต่ตอนนี้พี่ดีใจนะ ที่นายกลับมาเรียกพี่ว่า พี่ อีกครั้ง”อีกครั้งที่เขาพยายามยิ้มให้ ถึงมันจะเป็นยิ้มที่ดูอ่อนแรงมากก็ตาม
“พัดจะเรียกพี่ทุกวัน ทุกเวลาเลยนะ ขอแค่...ขอแค่พี่ต้นอย่าจากพัดไปไหนก็พอ”
“ขอบใจนะ”ต้นไม้พยายามฝืนเปลือกตาไม่ให้ปิดลง อย่างน้อยเขาขอให้ได้คุยกับคนรักมากว่านี้อีกสักนิด
“พี่ !! พี่อย่าหลับตานะ พี่ต้นต้องคุยกับพัดนะ พัดอยู่นี่แล้วไง ข้างๆพี่”
“...”
“ถ้าพี่ทิ้งพัดไป พัดจะอยู่ยังไง พี่ต้นก็รู้ว่าพัดไม่เหลือใครแล้วนอกจากพี่”
“พี่รักนายนะพัด รักมาก แต่พี่ขอโทษ ที่พี่ไม่สามารถอธิบายเรื่องต่างๆได้ด้วยตัวเอง พี่ขอโทษจริงๆนะ”ต้นไม้รวบรวมแรงเฮือกสุดท้าย พยายามเอื้อมมือไปลูบผม แล้วเลื่อนมือมาปาดน้ำตาออกให้คนตรงหน้า
“พี่ต้น!!! พี่อย่าหลับสิ ตื่นมาอธิบายให้พัดฟังก่อนนะ พัดยกโทษให้พี่หมดแล้ว พัดไม่โกรธพี่แล้วนะ พี่ตื่นขึ้นมาสิ”พัดพยายามเขย่าร่างของคนรักที่นอนนิ่งไม่ไหวติง
ซึ่งเป็นสัญญาณว่า ... พี่ต้นไม้จากเขาไปแล้ว จากไปในที่ไกลแสนไกล เงินของเขาก็ไม่อาจนำพาให้เขาไปหาได้
หลังจากวันงานศพไม่กี่วัน พ่อของต้นไม้ก็มาหาพัดที่บ้าน พร้อมอธิบายทุกอย่าง ทุกอย่างที่ต้นไม้ไม่มีโอกาสได้อธิบายให้ผมฟัง
บ้านของต้นไม้ประสบภาวะหนี้สินอย่างหนักเพราะพ่อของเขานำเงินก้อนสุดท้ายไปเล่นพนัน แต่กลับถูกฝ่ายนั้นโกง
ภาระทั้งหมดตกมาอยู่ที่ต้นไม้ ที่ต้องหาเงินมาใช้หนี้แทนพ่อ
และเขาก็ทำตามคำแนะนำของพ่ออย่างดี เข้าไปตีสนิทกับพัดแล้วค่อยขอเงินมาใช้หนี้ของทางบ้าน
แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานๆเข้า ความใกล้ชิดสนิทสนมทั้งหมด ผสมปนเปรวมกันกลายเป็น ความรัก
เมื่อความรู้สึกนั้นก่อตัวขึ้นโดยที่ทั้งสองก็รู้ตัวดี วันนั้นวันที่ทั้งสองตกลงคบกัน ต้นไม้ก็มาขอยุติแผนการกับพ่อของเขา แต่ผู้เป็นพ่อก็ไม่ยอม เขาจึงได้แต่เดินหนีออกมาและไม่ฟังคำสั่งใดๆของผู้เป็นพ่อ
สองพ่อลูกก็คุยเรื่องนี้กันทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ไม่ว่ายังไงต้นไม้ก็ยังยืนยันที่จะยุติแผนการ
เพราะเขา...ไม่อยากโกหกคนที่เขารักต่อไป
แต่ในครั้งนั้น บังเอิญผมเข้าไปได้ยิน
ผมผิดเองที่ไม่ให้โอกาสเขา ทั้งๆที่ผมรู้ดีว่าเขาไม่มีทางโกหกผมอยู่แล้ว
ผมผิดเอง ผมขอโทษนะครับพี่ต้นไม้ ผมขอโทษ
ผมทำได้แค่ยืนให้น้ำตาไหลริน ต่อหน้าป้ายชื่อหลุมศพและเปลี่ยนดอกไม้ให้พี่ต้นทุกวัน
“คิดถึงนะครับ ต้นไม้ของผม”
.
.
.
.
.
.
ผมทำได้ ..... แค่นั้นจริงๆ
[/size]