หงส์ซาน
ตอนที่ 26 บอดี้กินหมอ
หมอขยับปากเบาๆ พอๆ กับผมที่ทำแบบเดียวกัน ปากเราแนบสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ ผมใช้มือข้างที่เจ็บจับท้ายทอยหมอตรึงให้หน้าแหงน กดปากแนบสนิทมากขึ้น
ผมขยับดันหมอแนบโซฟา มอบรสจูบจาบจ้วงให้ นานมากทีเดียวที่ไม่ได้สัมผัสหมอแบบนี้
แผ่นหลังหมอแนบติดโซฟา โดยมีเรือนร่างผมคร่อมอยู่ด้านบน จูนกันไม่ยากอยู่แล้วเพราะเคยๆ กันอยู่
“ขึ้นไปข้างบน”
หมอถอนปากออกมาพูดหอบๆ พอๆ กับพยายามดันตัวผมออก ผมลุกตาม แต่ไม่ได้ถอนริมฝีปากออก เราใช้ปากแนบปาก ห้ำหั่นกันด้วยลิ้น สองมือลูบไล้กันและกัน สองขาสลับกันก้าวขึ้นบันได
ผมไม่ได้ถามว่าหมอยังพร้อมอยู่ไหม
แต่ผมไม่สน จะถึงขั้นไหน ขอแค่ได้ทำให้คนคนนี้ครางได้ผมก็ถือว่าโอเคแล้ว เสื้อหมอถูกผมถอดปลิวหายไประหว่างบันได เข็มขัดผมถูกรูดหายก่อนประตูห้องนอนจะเปิด ซิปผมถูกรูดในระหว่างประตูถูกเปิดออก พอๆ กับของหมอเอง พอเข้าห้องได้ เราสองคนก็พากันหมุนติ้วขึ้นไปกองอยู่บนเตียง ผมถลกถอดกางเกงพร้อมชั้นในโยนทิ้งไปไกล พอๆ กับหมอที่จัดการของตัวเองเช่นกัน
ปากเรายังไม่หลุดออกจากกัน กระทั่งร่างกายของเราเปลือยเปล่า
“คุณบอกว่าคุณพร้อม”
ผมถอนปากออกมาถาม สีหน้าหมอดูเร้าอารมณ์สุดๆ
“ใช่ ฉันพร้อม”
ผมไม่ถามอะไรต่อ บดจูบอีกรอบ รังแกให้หมอครางด้วยการคลึงเคล้าน้องหมอด้านล่าง บดขยี้ติ่งไตเล็ก ๆ ด้านบน
“แต่ถ้าจะให้ดี”
หมอพูดหอบๆ ชี้มือไปยังลิ้นชักข้างหัวเตียง
“คอนด้อมกับเจล”
ผมไม่พูดอะไร เข้าใจความหมายของหมอดี ต่อให้พร้อมแต่ร่างกายอาจมีปัญหาถ้าไม่ลดแรงเสียดสีลงบ้าง ผมรีบกระเถิบขึ้นไปเปิดมันออก หยิบคอนด้อมออกมาดู
หมอยิ้ม
“ไซส์นายนั่นแหละ ฉันเตรียมไว้ให้”
ผมไม่โต้ตอบอะไร ฉีกมันด้วยปาก สวมใส่โดยไม่ต้องมอง ปากยังไม่หยุดกระตุ้นอารมณ์ของคนด้านล่าง หยิบเจลมาเทใส่มือจนชุ่ม
ผมพิสูจน์ความพร้อมของหมอด้วยนิ้ว
ใช่ ผมเคยพยายามมาแล้ว มันปิดสนิทมาตลอด แต่วันนี้มันต่างออกไป ช่องทางที่เหมือนจะไม่มีรู ตอนนี้มันขยายออกให้นิ้วผมแทรกเข้าไปได้
ผมครางในลำคอด้วยความพอใจ ภาพการผสานร่างที่ผมคิดไว้ใกล้เป็นจริงแล้ว หมอเกร็งอย่างเห็นได้ชัด ผมขยับนิ้วเข้าไปอย่างใจเย็น มันเข้าได้ง่ายๆ แต่ก็ยังรัดแน่นจนเจ็บนิ้ว
ไม่ต้องเดาเลยว่าถ้าเปลี่ยนจากนิ้วเป็นน้องผม มันจะคับแน่นขนาดไหน ผมจับหมอพลิกคุกเข่า เพราะคิดว่าท่านี้น่าจะทำให้เข้าได้ง่ายกว่า
เป็นไปตามที่ผมคิดจริงๆ
ผมเคลื่อนที่หาจุดจีสปอต หมอกระตุกเกร็งอย่างเห็นได้ชัดครางออกมาเบาๆ ผมกดย้ำอยู่ตรงจุดนั้น กระทั่งร่างกายหมอลื่นไหลให้ผมขยับนิ้วได้ง่ายขึ้น เสียงครางเร้าอารมณ์กับการเคลื่อนไหวอย่างทรมานของหมอแทบจะระเบิดผมเป็นจุณ
ผมพยายามอดทนเพราะอยากให้หมอเจ็บน้อยที่สุด กระทั่งมั่นใจว่าเขาพร้อมแล้วจริงๆ ผมถึงได้ถอนนิ้วออก ผมราดเจลลงไปเพิ่ม จับน้องตัวเองค่อยๆ กดแทรกเข้าไป
สวรรค์ ผมทำได้แล้วจริงๆ
แม้จะแค่ส่วนหัว แต่ผมก็ทำได้แล้ว ผมเสือกไสท่อนล่างเข้าไปอย่างใจเย็นที่สุด หมอเองก็พยายามผ่อนคลายร่างกายอย่างที่สุดเหมือนกัน
กระทั่งน้องผมเข้าไปได้จนหมด
ผมมองท่อนล่างที่จมหายเข้าไปในช่องทางเล็กๆ นั้น ไม่พูดอะไรอีก เริ่มต้นบรรเลงทันที
“เจ็บไหม” ผมถาม
“เจ็บ แต่ทนได้”
หมอตอบอย่างอึดอัด ผมไม่แปลกใจนักหรอก ขยับเพิ่มความเร็วขึ้น
มันดีกว่าที่ผมจินตนาการเอาไว้มากโข หมอครางรับทุกการเคลื่อนไหวจากผมเคล้าไปกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อ ผมจับหมอพลิกหงาย ใช้มือกุมของหมอไว้ขยับให้ ถึงร่างกายหมอไม่ใช่สาวๆ หุ่นสะโอดสะอง ไม่ได้มีนมให้เคล้าคลึงได้อย่างที่เคยทำ แต่หมอก็มีเสน่ห์ในแบบของหมอ
ผมเคยบอกแล้วว่าอยากทำให้เขาครางขาดใจเพราะรสรักของผม และตอนนี้ผมกำลังทำอยู่ ผมจับขาหมอพาดไหล่สองข้าง ขยับด้านล่างเป็นจังหวะ
ผมว่าตอนนี้หมอคงไม่เจ็บแล้ว แต่อาจมีอึดอัด ที่เหลือคงเป็นความเสียวซ่าน หมอครางเสียงดังมากขึ้น ยิ่งครางอารมณ์บ้าดีเดือดของผมยิ่งปะทุ แรงมีเท่าไหร่ ผมใส่ไปไม่ยั้ง ไม่สนว่าจะเป็นครั้งแรกของหมอด้วย กระทั่งหมอเองทนไม่ไหวกำลังจะไป ผมหยุดตัวเองลงทันที หมออ้าปากค้าง
ผมยกยิ้ม
“มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกหมอ”
“อย่าแกล้งกันซันไรส์ ฉันอยากถึงจะแย่แล้ว”
หมอยกมือทำท่าจะจับน้องตัวเอง แต่ผมยึดจับมือหมอไว้ ยกกดเหนือหัว
ผมรอเวลานี้มานาน เวลาที่จะได้รังแกหมอ ผมไม่ปล่อยไปง่ายๆ หรอก
“ซันไรส์ เร็ว เร็วสิ ปล่อยมือ”
ผมไม่ได้ทำตาม ขยับอย่างเชื่องช้า หมอขยับบีบรัด ควงสะโพก สองขาโอบรัดรอบเอว ผมหัวเราะหึๆ ก้มจูบหมอ ซุกซอกคอ ไล่ต่ำลงมายังติ่งไตเล็กๆ กัดมันเบาๆ หมอแอ่นอก รัดน้องผมแรงขึ้น
คอนด้อมยิ่งทำให้ผมอึดยิ่งกว่าเดิม ผมบรรเลงไปสักพัก หมอก็ใช้เรี่ยวแรงพลิกกลับขึ้นไปนั่งด้านบนได้
“ฉันไม่ยอมให้นายรังแกได้ฝ่ายเดียวหรอกนะซันไรส์”
แล้วหมอก็จัดการโยกไหวด้วยตัวเองเลย ผมครางอย่างพอใจในลีลาผู้นำของหมอ
หมออึดมากจริงๆ ลุยมาตั้งนานก็ยังไม่เหน็ดเหนื่อย แต่เหงื่อนี่แตกพลั่กอย่างเห็นได้ชัด
ผมปล่อยให้หมอลุยเองอยู่พักใหญ่ๆ ก็พลิกหมอกลับลงไปนอนแทนที่ เร่งจังหวะรัวเร็วกระทั่งหมอเสร็จนำไปก่อน(แน่นอนว่าผมต้องใช้มือช่วย) ผมตามหลังไปติดๆ
ผมหอบหายใจแรง คร่อมอยู่เหนือร่างหมอ หมอขยับ ผลักผมออกเบาๆ เบ้หน้าพลิกตัวตะแคงข้าง
“รอบเดียวพอนะ เจ็บ”
ผมหัวเราะหึๆ ไม่พูดอะไร ถอดดึงคอนด้อมเปี่ยมไปด้วยน้ำขุ่นๆ ขยับลุกเอามันไปทิ้งถังขยะไม่ห่าง หมอยังนอนไม่ขยับอยู่กับที่
“รู้ว่าแรงเยอะ แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้”
หมอพูดเสียงเบา ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ
“คิดแล้วใช่ไหมว่าไม่น่าเลย คบกับผู้หญิงดีกว่าอีก”
หมอพลิกตัวนอนหงาย
“เปล่า ตรงกันข้าม ฉันรู้สึกดีสุดๆ ไปเลยต่างหาก”
พูดจบหมอก็รั้งผมลงไปจูบเบาๆ และผมก็ตอบรับด้วยการจูบตอบดีๆ เช่นกัน
ผมถอนปากออกมองหน้าหมอ
“คุณเหมาะจะเป็นรุกมากกว่ารับนะ ถ้าชอบแนวนี้จริงๆ ทำไมไม่ไปหาหนุ่มๆ น่ารักสักคนนอนด้วย แบบหงส์ซานก็ได้”
หมอยกยิ้ม
“ก็ใช่ แต่ระหว่างหมาพันธุ์เล็กๆ กับหมาพันธุ์ใหญ่ๆ ฉันชอบเลี้ยงหมาพันธุ์ใหญ่ๆ มากกว่า”
“ผมไม่ใช่หมา และไม่ยอมให้คุณเลี้ยงด้วย” ผมตอบกลับฉุนๆ
หมอยิ้มอีกที โอบวงแขนมารอบลำคอผม ผมเกลี่ยเส้นผมออกจากหน้าหมอให้เบาๆ มันเปียกราวกับอาบน้ำมาเลย
“ซันไรส์ นายมันก็เหมือนหมานั่นแหละ แต่เป็นหมาป่า ไม่ชอบให้ใครมาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ รักอิสระ ดุดัน กล้าหาญ ชีวิตของนายไม่ได้เป็นของนาย แต่เป็นของจ่าฝูงอย่างไป่หลง”
ผมจ้องหน้าเขา
“แล้วอะไรที่คุณชอบในตัวผม”
“ฉันชอบนายที่เป็นนายนั่นแหละ ไม่ได้อยากจับใส่ปลอกคอสักหน่อย แต่ให้รู้ว่ามีฉันเป็นเจ้าของก็พอ”
“ผมไม่ใช่หมา” ผมเตือนอีกที
หมอหัวเราะ ตวัดขามารอบเอวผม
“ไม่เจ็บรึไง”
“เจ็บสิ ไม่ลองมาโดนบ้าง”
ผมส่ายหัว
“และอย่าคิดให้ผมโดนด้วย”
หมอยิ้ม จูบผมอีกรอบเบาๆ
“เดี๋ยวก็ตื่นอีกรอบหรอก”
หมอเบ้หน้า “พักยกก่อน เจ็บจริงๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหงส์ซานถึงได้เดี้ยงทุกครั้งที่โดนไป่หลงทำ”
ผมพยักหน้าเห็นด้วย
เขามองตาผม น้องผมกระตุกขึ้นมาอีกครั้งจริงๆ หมอรีบผลักผมออกห่างทันที
“รีบไปอาบน้ำก่อนมันจะตื่นเต็มที่เลย ตอนนี้ไม่มีแรงแม้แต่จะใช้มือแล้ว”
ผมหัวเราะหึๆ ลุกขึ้นยืนตระหง่านอยู่เหนือเขา
หมอกวาดมองมารอบๆ
“หุ่นนายดีมากจริงๆ ขนาดมีผ้าพันแผลยังดูดี”
“อย่ากระตุ้นกันด้วยคำพูดดีกว่า”
หมอเลิกคิ้ว สีหน้ากรุ้มกริ่มให้ผมเดาไม่ออกว่าหมอคิดอะไร
“ในตู้มีผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้าไซส์นายแขวนไว้ริมขวาสุด ส่วนพลาสติกกันน้ำอยู่ข้างล่าง ในกระเป๋าเครื่องมือใหญ่ ฝากหยิบน้ำเย็นๆ มาให้ด้วยขวดหนึ่ง”
ผมเดินเปลือยไปเปิดตู้เสื้อผ้า ภายในนั้นมีเสื้อผ้าของหมอแขวนเรียงกันไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย กลิ่นหอมสะอาดๆ ลอยคลุ้ง ผมมองไปยังริมฝั่งขวาสุด ดึงเอาชุดที่แขวนไว้ออกมาดู มันเป็นเสื้อยืดกางเกงผ้าสไตล์ลำลอง ไซส์และยี่ห้อที่ผมชอบเด๊ะๆ
“อ้อ”
หมอพูด ผมหันไปมอง
“มีชั้นในด้วย อยู่ในลิ้นชักแถวล่างแถบขวามือชั้นบนสุด”
ผมเลิกคิ้ว เปิดลิ้นชักชั้นที่หมอบอกออกดู ในนั้นมีชั้นในของหมอทั้งหมดพับเรียงกันไว้อย่างเป็นระเบียบ แต่มีชิ้นหนึ่งอยู่ในซองพลาสติก มีตัวหนังสือเขียนด้วยเมจิกสั้นๆ
‘สำหรับนาย ซันไรส์’
ผมหัวเราะหึๆ มองรอยยิ้มกว้างที่ถูกวาดไว้บนนั้น หยิบมาแกะออกดู
มันไซส์และยี่ห้อที่ผมใช้ประจำจริงๆ
ผมเหลือบมองคนที่นอนหงายบนเตียง หมอยักคิ้วให้สองที
ผมหัวเราะในลำคอ พาดชุดไว้บนพนักเก้าอี้ หยิบผ้าเช็ดตัวมาพันรอบเอว เดินผ่านหมอลงไปข้างล่าง
“อย่าลืมน้ำนะ”
หมอตะโกนเตือนมาตามหลัง ผมไม่ได้ตอบรับ เดินลงไปข้างล่าง ลูกๆ ของหมอพากันวิ่งกรูเข้ามาหา
พวกมันดุกับทุกคน ยกเว้นกับผมและเจ้านายมันเองนั่นแหละ (และน่าจะแม่บ้านอีกคน) ผมลูบหัวพวกมันตัวละที เดินไปคุ้ยหาพลาสติกปิดแผลสำหรับอาบน้ำ ได้มาหนึ่งชิ้น จัดการสวมใส่ที่แขน เดินไปเปิดตู้เย็น หยิบน้ำมาหนึ่งขวด
หันมองไปที่ถาดอาหารหมา
จริงๆ ไม่ห่วงเท่าไหร่หรอก เพราะมีคนดูแลให้อาหารตลอด ผมเดินไปยังชั้นวางอาหารของพวกมัน ไล่มือตามซองขนมที่วางเรียงกันเป็นแผง พวกมันส่ายหางดิ๊กๆ สังเกตเห็นว่ามีซองหนึ่งที่พวกมันดูจะดี๊ด๊ามากเป็นพิเศษให้เดาเอาว่าพวกมันน่าจะชอบที่สุด
ผมหยิบมาฉีกซอง ป้อนพวกมันตัวละชิ้น จนหมดก็ทิ้งลงถังขยะ ถือน้ำเย็นเดินขึ้นชั้นบนไป
หมอนอนเอาแขนพาดตาไว้ พอผมไปก็ลดแขนลง
“ทำไม เสียใจที่เสียความบริสุทธิ์รึไง”
หมอยกยิ้ม
“เปล่า กำลังเสียใจที่ทำได้แค่รอบเดียวต่างหาก”
ผมส่ายหัว โยนน้ำให้ หมอรับไว้ได้ทัน หมุนเปิดฝา ยกดื่มอึกๆ ผมไม่ได้สนใจหมออีกเดินเข้าห้องน้ำไป ใช้เวลาอาบไม่นานก็เดินออกมา หมอหลับไปแล้ว ผมหยิบเสื้อผ้าที่พาดไว้มาใส่ เดินไปใกล้หมอ จับแขนเขย่าปลุก
“ลุกอาบน้ำก่อน ค่อยมานอนต่อ”
หมองัวเงียลุกนั่ง เบ้หน้านิดๆ ผมกอดอกยืนมอง
“ต้องให้อุ้มไหม”
ผมถามเป็นเชิงเย้า
“ไม่ต้อง ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น”
หมอลุกจากเตียง เดินอย่างมั่นคงตรงไปหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป
ผมพ่นลมหายใจแรง กัดกราม ก้มมองบางสิ่งด้านล่าง คีบหัวคิ้ว
ใจเย็นสิวะลูกพ่อ
พักใหญ่ๆ หมอก็เดินพันผ้าเช็ดตัวออกมา เปิดตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อยืดกางเกงขาสั้นมาใส่
ผมยกนาฬิกามอง
“คงได้เวลาที่ผมต้องกลับ”
ผมก้มหยิบเสื้อผ้าตัวเอง แต่หมอยึดจับชายเสื้อผมไว้
“ค้างด้วยกันสักคืนสิ”
ผมส่ายหัว
“ผมต้องกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ”
“แต่นายบาดเจ็บอยู่นะ”
“มันไม่ได้แย่ขนาดทำให้ผมทำงานไม่ได้หรอกนะ และถ้าผมไม่บอก ก็ไม่มีใครรู้ว่าผมบาดเจ็บ”
หมอจ้องตาผม
“ฉันไม่อยากนอนคนเดียว”
ผมจ้องตาเขากลับนิ่งๆ
“เอาลูกๆ ของคุณขึ้นมานอนด้วยสิ”
หมอพ่นลมหายใจออกแรง
“ถ้านายไม่นอนนี่ ฉันจะตามไปนอนด้วยที่ห้องของนาย”
ผมพ่นลมหายใจแรงบ้าง หันกลับไปเผชิญหน้ากับเขาตรงๆ จ้องกลับด้วยสีหน้าซีเรียส
“หมอ…วันนี้คุณรับผมได้แค่รอบเดียวนะ แต่ความต้องการของผมมันไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้หรอกนะ มันอันตรายเกินไปสำหรับหมอ”
ผมจับมือเขามาวางบนเป้าที่กำลังตุง หมอก้มมอง
ผมไม่ได้ต้องการขู่เขา แต่ผมพูดจริง กลิ่นตัวหมอหลังอาบน้ำยิ่งทำให้ผมรู้สึกอึดอัด
หมอยิ้ม โอบวงแขนมารอบลำคอผม
“ได้อาบน้ำ เรี่ยวแรงกลับมาขึ้นเยอะ ขอพักข้างล่างก่อน แต่นี่ยังทำงานไหว”
หมออ้าปากนิดๆ แลบลิ้นให้ดู
ผมกัดกราม ไม่อดทนอะไรอีกต่อไป รวบจับหมอโยนขึ้นเตียง
“โอ๊ย เบาๆ สิ”
หมอเบ้หน้า
ผมจับสองมือหมอตรึงกับที่นอน ไม่พูดอะไรก้มปิดปากหมอไว้ทันที
พลังของหมอนั้นเหลือร้าย ผมตื่นอีกทีก็สายของวัน ตื่นสายกว่าหมออีกต่างหาก ลืมตาขึ้นมาก็เห็นหมอเดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว ในสภาพผ้าเช็ดตัวพันเอว
อยากบอกว่าเมื่อคืน ผมสอยหมอไปอีกหนึ่งยกเพราะอารมณ์พาไป (ผมไม่ได้บังคับหรอกนะ หมออนุญาตของหมอเอง)
ผมลุกจากที่นอน เดินเปลือยไปหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป ใช้เวลาไม่นานก็อาบเสร็จ ออกไปกะจะใส่ชุดเดิมตัวเอง แต่ผมมองหาไม่เจอ ผมขมวดคิ้ว หมอไม่อยู่ด้วย ผมจำต้องหยิบชุดเดิมมาสวม เดินลงไปชั้นล่าง
หมอไม่ได้อยู่ในห้องรับแขก ผมกวาดมองไปรอบๆ ได้ยินเสียงเครื่องซักผ้าดังเบาๆ ผมเดินไปดู เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้ากำลังทำงานอยู่ และเท่าที่มอง เสื้อผ้าสี่ห้าชิ้นที่กำลังถูกปั่นอยู่นั้นเป็นของผมทั้งหมด
ผมถอนหายใจแรง แม้กระทั่งเสื้อสูทผมหมอยังจับปั่นเข้าไปด้วย
เนื้อผ้าเสียหมด
ผมละความสนใจจากเสื้อผ้า เดินหาหมอต่อ ได้ยินเสียงเห่าแบบดีใจของพวกเด็กๆ ดังมาจากแถวๆ หน้าบ้าน ผมเดินไปดู เห็นหมอกำลังคุยอยู่กับแม่บ้านตรงประตูรั้วเล็ก เธอยื่นถุงผักและขนมปังให้หมอ หมอรับมาถือ แม่บ้านบอกลา ขึ้นจักรยาน ปั่นจากไป หมอปิดประตูลง เดินย้อนกลับมาโดยมีลูกๆ ของหมอพากันวิ่งล้อมหน้าล้อมหลัง
“ฝากด้วย”
หมอยื่นสิ่งของที่อยู่ในมือทั้งหมดให้ผม
ผมถอนหายใจอีกรอบ รู้ดีว่าหมอหมายถึงอะไร หิ้วของทุกอย่างเข้าครัวไป หยิบผ้ากันเปื้อนลายหวานแหววของแม่บ้านมาสวม รื้อผักจากถุงมาล้างทำความสะอาด
แค่เห็นวัสดุ ผมก็รู้แล้วว่าควรจะทำอะไร หมอเดินมานั่งบนเคาน์เตอร์บาร์ข้างๆ มอง
หิวพอกันครับ ผมทำเมนูง่ายๆ แต่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร ไม่ถึงยี่สิบนาทีทุกอย่างก็ออกมาเรียบร้อยสวยงาม ผมหยิบอาหารสองจานเดินไปยังโต๊ะกินข้าว หมอเดินตามมานั่งฝั่งตรงข้าม ผมรินน้ำใส่แก้วสองใบ วางไว้เคียงจาน
หมอตักกินทันที
“อร่อย”
ไม่ต้องบอกผมก็พอจะเดาออก
“เจ็บไหม”
ผมถามอีกรอบ เพราะเมื่อคืนผมเล่นหมอค่อนข้างหนัก
“ไหว”
หมอบอกยิ้มๆ ใช้เวลาไม่นานเราก็อิ่ม
“ไม่เกินชั่วโมงเสื้อผ้านายก็น่าจะแห้ง แต่รีดเองนะ ได้เสื้อผ้าแล้วค่อยกลับละกัน” หมอบอกเองโดยไม่ต้องให้ผมถาม
ดีแล้วล่ะ เพราะถ้าไปทั้งที่เสื้อผ้าเปื้อนเลือด อาจไม่โสภาเท่าไหร่
ผมอาสาทำความสะอาดจานชาม ในขณะที่หมอ ไปฝังตัวนอนคว่ำบนโซฟา โดยมีลูกๆ คร่อมขี่อยู่ด้านหลัง รายนั้นหัวเราะร่วน
ผมเดินออกไปหา กอดอกมอง
“ถามอะไรหน่อยได้ไหม”
หมอเงยหน้ามอง
“เอาสิ”
แล้วพลิกหงาย พี่เชฟ เจ้าหมาพันธุ์เยอรมันเชฟเฟิร์ดที่คอยจังหวะอยู่กระโดดคร่อมขี่พ่อมันเองทันที หมอหัวเราะร่วน จับหน้าหมาบีบบี้เข้าหากันจนหน้าหล่อๆ ของมันเบี้ยวไปหมด หมอหัวเราะขบขันยิ่งกว่าเดิมกับผลงานตัวเอง
“อะไร” หมอเงยหน้าถามอีกรอบเพราะผมยังไม่ได้ถาม
“คุณเตรียมตัวยังไงสำหรับเมื่อคืน เพราะก่อนหน้านี้ผมจำได้ว่าไม่เคยเข้าได้เลย แต่เมื่อคืนมันเข้าได้”
หมอเลิกคิ้วสูง ดันหมาออกลุกนั่งดีๆ
“มันน่าแปลกใจขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ใช่”
“มันมีอุปกรณ์และยาที่ใช้สำหรับเตรียมพร้อมเรื่องพวกนี้อยู่ ฝึกบ่อยๆ มันก็ได้เอง”
ผมไม่ได้ถามต่อว่าฝึกแบบไหน พอจะเดาๆ ออกบ้างอยู่หรอก ผมส่ายหัวไปมา ได้ยินเสียงกริ่งดังหน้าบ้าน หมอหันไปมอง ลุกขึ้นเดินออกไป พักหนึ่งก็เดินกลับเข้ามาใหม่พร้อมซองสีน้ำตาลในมือ
ผมมองอย่างไม่ไว้ใจ รับมาถือไว้ ตรวจสอบดูด้วยตัวเอง ผมเทสิ่งที่อยู่ภายในลงบนโต๊ะ
มันคือกระเป๋าเงิน มือถือและพวงกุญแจ ของสามสิ่งที่หมอมีติดตัวก่อนโดนจับไป มีกระดาษแผ่นเล็กๆ แนบติดมาด้วย
“ของนายคุณหมอปัญญาอ่อน เพิ่งรู้ว่าซันไรส์เป็นของนายนะเนี่ย”
ลอร่า
ผมหน้าตึง เพราะสิ่งที่ห้อยอยู่กับกุญแจหมอคือพวงกุญแจรูปหัวใจอีกชิ้น โดยมีรูปหมอกับผมอยู่คู่กันเหมือนอย่างที่หมอเคยให้ผม
หมอยิ้มแหะ ยักไหล่ไม่แก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้น ผมถอนหายใจแรงหมดข้อแก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้นเหมือนกัน
ผมคร่าเวลาด้วยการเดินเล่นไปรอบๆ ผมเคยมาบ้านหมอก็จริง แต่ก็ไม่เคยสำรวจอะไรแบบละเอียดมากนัก ผมไล่ดูตั้งแต่ประกาศณียบัตรการแพทย์ รูปถ่ายตั้งแต่สมัยยังเด็ก
ท่าทางแสบน่าดู ติดการ์ตูนตั้งแต่เด็กๆ เลยด้วย ไม่น่าเชื่อว่าคนแบบนี้จะจับมีดผ่าตัดได้
ผมหยิบรูปถ่ายของหมอกับผมตอนดูพระอาทิตย์ขึ้นมาดู คว่ำมันลง ก่อนชะงักเพราะแรงกอดจากทางด้านหลัง
มือนั้นซุกซนลอดผ่านชายเสื้อเข้ามาที่หน้าท้อง ลูบไล้หมุนวน รู้สึกถึงแรงจูบเบาๆ ที่แผ่นหลังด้วย
“อย่ามากระตุ้นกันดีกว่าหมอ หากคุณไม่อยากเจ็บตัวอีกรอบ ผมมันพวกตื่นง่าย”
“คิดว่าฉันไม่รู้รึไง”
หมอเลื่อนมือลงไปคลึงน้องผมผ่านกางเกง ไม่เกินสิบวิมันก็ตื่นเต็มที่ หมอขยับมาด้านหน้า ย่อตัวคุกเข่าลงตรงหน้าผม ผมไม่ห้าม น้องผมดีดผึงออกมา หมอจัดการจับมันไว้ในมือ แล้วปรนเปรอผมไว้ในปากทันที ผมซี้ดปาก คลึงหัวหมอเบาๆ
หมออมดูดแรงจนผมไปง่ายๆ ผมมองหน้าหมอ มองคนที่ยังมีความสุขกับการเก็บกินหยาดน้ำอุ่นๆ ของผมอยู่
หมอลุกขึ้นยืน ด้านหลังหมอคือตู้หนังสือที่มีรูปถ่ายตั้งโชว์ไว้จำนวนหนึ่ง หมอเลิกถอดเสื้อออกจากหัวจนท่อนบนเปลือยเปล่า
“เวลามีไม่มาก ขอเก็บสกอร์นายก่อนไปสักหน่อย”
หมอโอบวงแขนมารอบคอผม และผมก็ร้อนขึ้นมาทันทีเช่นกัน
“ไหวเหรอ”
“ไม่ไหวก็ต้องไหว อยากจะแย่แล้ว”
ผมชอบหมออยู่อย่างก็ความตรงของหมอนี่แหละ ผมเลิกถอดเสื้อออกจากหัวเช่นกัน แนบปากชิดปาก พากันเดินไปที่โซฟา ผมทิ้งตัวหมอลงไป กระชากดึงกางเกงหมอออก พอๆ กับกางเกงตัวเองจนร่างกายเปลือยเปล่า
“คอนด้อมข้างล่างมีไหม”
ผมถามในขณะที่พร้อมจะพุ่งเข้าประตูชัยแล้ว
“ไม่มี เข้ามาได้เลยไม่เป็นไร”
ผมมองหน้าหมอ
“แน่ใจนะ”
“เรื่องความปลอดภัย นายไว้ใจหมอได้ ส่วนนายฉันมั่นใจเช่นกัน ส่วนเรื่องความฝืดเคือง ไม่ต้องห่วง ร่างกายฉันปรับสภาพได้ ถ้าไม่ไหวจริงๆ เดี๋ยวค่อยใส่”
ผมไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรอีก จับหมอนอนหงาย ยกขาหมอพาดไหล่ข้างหนึ่ง แล้วค่อยๆ สอดส่วนหัวเข้าไป
หมอค่อยๆ คลายตัว โอบรับของผมเข้าไปทีละนิดทีละนิด
“ให้ตาย ดีกว่าตอนใส่คอนด้อมอีก”
ผมบอกตามตรง
“ฉันรู้”
หมอบอกอย่างอึดอัด บีบรัดผมแน่น ผมยกยิ้ม
“คุณตั้งใจจะเอาใจผมใช่ไหม”
“ใช่”
ผมหัวเราะหึ ๆ ขยับกระแทกน้องเข้าไปทีเดียวจนสุดความยาว หมอกัดกรามแน่นอย่างอดทน
“อย่าเพิ่งตายก่อนล่ะหมอ”
ผมบอกพร้อมขยับลุกขึ้นไปนั่งข้างโซฟา โดยโอบเอาหมอมานั่งคร่อมบนตัก
หมอเบ้หน้า กัดกรามแน่นยิ่งกว่าเดิม ยกยิ้ม
“ฉันสู้”
ผมซี้ดปากอย่างรู้สึกพอใจ โอบรอบลำตัวหมอเพื่อให้หมอขยับเคลื่อนไหว
หมอสู้กับผมจริงๆ สู้อย่างไม่ยอมแพ้ด้วย ขยับบั้นเอว ควง ส่าย หรือยกตัวขึ้นลง
“นี่จำวิธีพวกนี้มาจากสาวๆ ที่เคยร่อนหรือว่าศึกษาเทคนิคนี้มาเอง”
ผมถามตอนหมอกำลังขยับโยกไหวชนิดตายกันไปข้าง
“ทั้งคู่”
หมอโอบวงแขนมารอบลำคอผม แนบปากจูบ ผมโอบกอดตอบ กล้ามเนื้อแน่นๆ แนบชิดติดกัน
วิกเซอร์กับเอ็ดเวิร์ดพูดถูก
ผมไม่มีทางหลุดมือจากนายพรานคนนี้แน่ๆ ผมจับหมอพลิกคุกเข่ากับโซฟา ผมยืนด้วยขาเดียว อีกข้างคุกเข่าอยู่บนโซฟา จัดการคนด้านล่าง
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้อง ผมเลียริมฝีปากตัวเองเบาๆ ขยับด้วยจังหวะเชื่องช้าบ้าง รัวเร็วบ้าง หนักบ้างช้าบ้าง ท่าสุดท้ายผมกดหมอลงไปนอนนาบพื้นโซฟา บดขยี้หมอในท่ามิชชันนารีคว่ำหน้า หมอครางอึดอัด ท่านี้ส่วนนั้นของหมอจะบีบรัดกลืนกินของผมแน่นมาก
“ข้างในหรือข้างนอก”
ผมถามหมอหอบๆ เมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะไปถึง
“อยากได้ข้างใน”
หมอตอบกลับมาอู้อี้ ผมทำตาม กระแทกรัวๆ อีกเกือบสิบครั้ง ก่อนพ่นลาวาร้อนทั้งหมดเข้าไปภายใน หมอไปก่อนหน้าผมพักหนึ่งแล้ว
ผมจ้องมองน้ำรักขาวๆ ของตัวเองที่รูดเลอะออกมาภายนอก มันดูดีจริงๆ
ผมกระตุกอีกสองสามทีทุกอย่างก็จบสิ้น ผมทิ้งตัวลงคว่ำทับหมอไว้ พักเหนื่อย หมอหมดแรงข้าวต้มไปแล้ว
ได้ยินเสียงมือถือดังเบาๆ ผมถอนตัวออก เดินไปหยิบมากดรับ คนโทรมาคือเจ้านาย เจ้านายถามถึงหมอเพราะหงส์ซานเป็นห่วง ผมเหลือบมองคนที่ยังนอนคว่ำหน้าหมดแรง รายงานแค่ว่าหมอปลอดภัย และกำลังพักผ่อนอยู่ ผมพูดคุยกับเจ้านายอยู่พักใหญ่ ตอนแรกคิดว่าจะโดนเรียกตัวกลับ แต่เจ้านายให้พักได้หนึ่งวัน
ผมกดวางสาย หันไปมองเจ้าของเรือนร่างเปลือยเปล่าตรงหน้า ผมโยนมือถือทิ้ง คร่อมทับเรือนร่างนั้นอีกครั้ง
“รอบเดียวไม่พอหรอกนะหมอ”
ผมจับหมอพลิกหงาย หมอยิ้ม
“ฉันรู้”
แล้วปากของเราก็แนบชิดกันอีกครั้ง
To be Con...
สักคนละเม้นท์ -,.-
ข่าวสารและนิยายเรื่องอื่นๆ:
https://goo.gl/WbWxt8