***{เรื่องสั้น} สัญญาเมื่อเหมันต์ - [END] 13/3/2017***
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ***{เรื่องสั้น} สัญญาเมื่อเหมันต์ - [END] 13/3/2017***  (อ่าน 1444 ครั้ง)

ออฟไลน์ ronny7

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
********************************************************************


สัญญาเมื่อเหมันต์
Ronny เขียน





   บนเชิงเขาใกล้กับโตรกเขาของแม่น้ำที่ไหลจากน้ำตกสูงชันขนาดใหญ่ เป็นที่ตั้งของอณาจักรลึบลับที่หลบซ่อนจากสายตามนุษย์อย่างมิดชิดอยู่ในหุบเขาสูงใหญ่ราวกับเป็นภาพวาดในฝัน แสงอาทิตย์อุ่นๆ สาดแสงอ่อนทะลุม่านเมฆที่ล่องลอยอย่างอิสระบนฟ้ากว้าง แต่กลับให้ความรู้สึกเย็นสบายเมื่อสายลมในช่วงต้นฤดูหนาวพัดผ่าน ใบไม้เล็กๆ สีขาวราวกับกลีบดอกลิลลี่ค่อยๆ ทอดทิ้งกิ่งไม้แล้วร่วงหล่นลงสู่พื้นดินอย่างช้าๆ

   ภายใต้หลังคากระจกใสของศาลาที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเหล็กกล้าสีขาวสะอาด ชายชราผมสีขาวกระเซิงยาวประบ่า ใบหน้ามีแต่ริ้วรอยเหี่ยวย่นซึ่งผ่านกาลเวลามายาวนานและถูกแต่งแต้มด้วยไรหนวดจางๆ เขากำลังนั่งอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มร่างเพรียวบางที่ทั้งสง่างามและสว่างสดใส รอยยิ้มจางๆ ที่ดูเศร้าสร้อยของอีกฝ่ายทว่าอ่อนโยนจนอบอุ่นไปจนถึงขั้วหัวใจ

   “อคิราห์ ดวงตาของเจ้ายังคงพร่างพราวดังคราแรกที่ข้าได้พบกับเจ้า” นัยน์ตาคมกริบฉายแววหลงไหลแต่กลับอ่อนล้าเหลือทน ฝามือหยาบเอื้อมไปสัมผัสแก้มนวลอย่างแผ่วเบาเพื่อซึมซับไออุ่นเป็นครั้งสุดท้าย

   “หากเป็นเช่นนั้นจริง ท่านก็จดจำข้าเมื่อครั้งที่ท่านยังเยาว์ได้แล้ว เช่นนั้นรึ?” เสียงหวานชวนหลงไหลเอ่ยปากถามด้วยรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้า

   “ข้าชราลงมากนัก...มันพร่าเลือนเกินกว่าจะจดจำได้ หากแต่ดวงตาที่ลึกลับทว่าเจิดจรัสของเจ้ายังคงตราตรึงอยู่ในห้วงความทรงจำเก่าของข้า” น้ำเสียงแหบแห้งถูกเอ่ยออกมา พร้อมดวงตาคมที่มองนัยน์ตาสีดำคลับที่ดูลึกลับแต่กลับแวววับราวกับคืนเดือนดับที่เต็มไปด้วยดวงดารากระจ่างชัดเจน “มันช่างงดงามเสียจริง”

   ใบหน้าของทั้งคู่เคลื่อนเข้าหากัน ริมฝีปากอ่อนนุ่มที่สัมผัสถึงกันจนแนบชิดและหลอมรวมกันเป็นหนึ่ง สัมผัสแผ่วเบาและนุ่มนวลราวขนนกนำพาคนทั้งคู่ล่องลอยเข้าไปในภวังค์ที่ไร้ซึ่งกาลเวลาราวกับเนิ่นนานชั่วนิรันดร์

   จุมพิตแสนหอมหวานและล้ำลึกสิ้นสุดลงในเวลาต่อมา แต่กลับทิ้งความรู้สึกร้อนวูบวาบและสัมผัสนุ่มนวลตรงริมฝีปาก ฝามือหยาบประคองใบหน้าหวานของอีกฝ่ายไว้อย่างนุ่มนวลไม่มีทีท่าว่าจะยอมผละออกง่ายๆ

   “มนุษย์ธรรมดาเช่นข้า คงไม่อาจครองคู่อยู่กับเจ้าได้ดั่งใจปรารถนา ช่างน่าเศร้านัก”

   “อามันต์...” น้ำเสียงสั่นเครือถูกเอ่ยพร้อมกับโอบร่างสูงใหญ่พลางซบหน้าลงบนอกกว้างของอีกฝ่ายทันที ดวงตากลมโตปิดเปลือกตาลงสนิทเพื่อซ่อนหยดน้ำตาและความหวาดหวั่นในแววตาไว้อย่างมิดชิด

   อ้อมแขนที่ล้าเกือบถึงขีดสุดโอบรอบร่างเพรียวไว้แน่นคล้ายกับกลัวจะพรากจากกันอย่างไม่มีวันหวนคืน

   “จำที่ข้าเคยบอกท่านได้ไหม....” อคิราห์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่กลับสั่นเครือเล็กน้อย “ชีวิตอมตะของข้า...จะมีท่านเป็นเจ้าของดวงใจเพียงผู้เดียวเท่านั้น”

   “หากข้าได้มีโอกาสใช้ชีวิตอมตะเช่นเจ้า คำอำลาก็ไม่จำเป็นต่อเราสองอีกต่อไป” น้ำเสียงราบเรียบของชายชราถูกเอ่ยออกมา ทว่ามันกลับแฝงไปด้วยความเจ็บปวดที่แสนโศกเศร้า

   “แม้ต้องเผชิญโลกยืดยาวเพียงลำพัง ข้าก็จะอยู่เพื่อรอท่าน ข้าให้คำมั่น”

   “ข้าจะไม่ขอให้เจ้ามีชีวิตอมตะที่น่าเศร้าเช่นนั้นหรอก...ยอดรัก”

   แม้อยากจะรั้งและครอบครองทุกสิ่งของอีกฝ่ายไว้คนเดียวตลอดไป แต่อามันต์ก็ไม่ปรารถนาที่จะให้คนที่เขารักมากยิ่งกว่าชีวิตของตนจะต้องทุกข์ทนและข่มขื่นอยู่เพียงลำพังเช่นนั้นอย่างไม่สิ้นสุด

   “นั่นเป็นสิทธิ์ของข้า เช่นเดียวกับหัวใจข้า”

   แววตาของอคิราห์ที่มองเขา มันไร้ซึ่งความคลางแคลงใดๆ มันมั่นคงเสียจนอามันต์ต้องยอมโอนอ่อนไปกับมัน

   “หากเจ้ายังคงเฝ้ารอข้า ต่อให้ต้องเดินทางไปอีกกี่ชีวิต ข้าจะค้นหาจนกว่าจะพานพนกับเจ้า” ฝามือหนาที่ไร้เรี่ยวแรงค่อยๆ ลูบไล้ใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา “รอเวลาที่คำมั่นและความทรงจำของข้าจะชักนำวิญญาณดวงนี้กลับมาหาดวงใจอีกครา...”

   “ข้าจะเฝ้ารอท่าน...จนกว่าดวงวิญญาณของข้าจะม้อดไหม้”

   เมื่อลมหายใจขาดห้วง แขนแกร่งที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงร่วงหล่นตามแรงโน้มถ่วงอย่างห้ามไม่อยู่ สิ่งสุดท้ายที่ดวงวิญญาณได้รับรู้คือสัมผัสที่แสนอบอุ่นที่คอยห่อหุ้มร่างกายดั่งผ้าห่มผืนบางเพื่อผ่านพ้นความหนาวเหน็บของฤดูหนาว

   อ้อมแขนเรียวกอดกระชับร่างสูงใหญ่ที่แก่ชราลงเข้าแนบชิดกับร่างของตน เรียวมือของเขาไล่สัมผัสไปทั่วใบหน้าที่ดูสงบนิ่งของอีกฝ่ายอย่างแช่มช้าและแผ่วเบาก่อนจะเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

   “อามันต์...ดวงวิญญาณของท่านได้นำดวงใจและความรักของข้าไปพร้อมกับท่านแล้ว”

   ใบหน้าหวานค่อยๆ ก้มหน้าลงจนปลายจมูกสัมผัสหน้าผากของอีกฝ่ายอย่างนุ่มนวลพลางฝากจุมพิตเพื่อกล่าวคำอำลาเพียงแค่ชั่วเวลาหนึ่งไว้ ก่อนจะค่อยๆ ผละออกมามองใบหน้าคมที่ไร้วิญญาณของอีกฝ่ายด้วยแววตาที่เปล่งประกายอย่างลึกซึ้งและสื่อความนัยน์อย่างชัดเจน หยดน้ำเล็กๆ ร่วงหล่นจากดวงตาคู่สวยทว่าไร้ซึ่งเสียงสะอื้นราวกับยอมรับในโชคชะตาของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว

   “ข้าจะไม่เอ่ยคำลา จนกว่ากาลเวลาจะนำเราทั้งสองมาพบกัน ข้าจะจดจำเรื่องราวของสองเราและเฝ้ารอคอยท่าน เช่นนั้นแล้ว...มันไม่ใช่การจากลา”






   “อคิราห์!!!” เสียงแหบห้าวตะโกนเรียกสุดเสียง พร้อมร่างสูงใหญ่ของอัคนีที่สะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับแสงสนธยาอ่อนๆ ในย่ำรุ่ง เหงือเม็ดเล็กๆ ผุดพรายไปทั่วกายแกร่ง

   อัคนียกมือขึ้นลูบหน้าแล้วกุมขมับตัวเองพลางนวดคลึงเบาๆ

   อีกแล้ว... ความฝันที่ดูคล้ายความจริงถึงชายหนุ่มคนนั้น คนที่เขาจะเฝ้าฝันถึงทุกครั้งที่ฤดูหนาวในทุกๆ ปีมาเยือน ตั้งแต่เด็กจนโตเขาก็มักจะฝันถึงเหตุการณ์เดิมๆ ซ้ำๆ และทุกครั้งภาพฝันจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ชัดเจนราวกับเขาถูกดึงเขาไปในอีกโลกหนึ่งที่เขาอาจเคยรู้จัก แต่เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา ภาพฝันที่เห็นช่างเลือนลางเสียจนจับต้นชนปลายไม่ถูก มันเพียงแต่ทิ้งร่องรอยของความรู้สึกมากมายที่แทบจะเอ่อล้นออกมาพร้อมกับภาพชายหนุ่มนาม...อคิราห์

   แม้ทุกอย่างจะเป็นเพียงความฝัน แต่เขายังคงแว่วเสียงเรียกที่อ่อนโยนของอคิราห์ที่กระซิบแผ่วเบาอยู่ข้างหู สัมผัสนุ่มนวลลูบไล้อยู่ที่ข้างแก้มของเขายังคงหลงเหลือกลิ่นกายหอมหวานของอีกฝ่ายติดอยู่ สัมผัสที่คอยปลอบโยนหัวใจเศร้าหมองและโดดเดี่ยวของเขามาจนถึงวันนี้

   มันเกิดอะไรขึ้นกับหัวใจของเขากันแน่ อัคนียังคงสับสนกับความรู้สึกที่พรั่งพรูออกมา ความรู้สึกราวกับทำมันหายไปที่ไหนซักแห่ง หรือแม้กระทั่งหลงลืมบางสิ่งที่สำคัญไป หัวใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความทรงจำ ความรักที่บ้าคลั่ง ความรู้สึกโหยหาแปลกๆ ทั้งหมดนั่นมันคืออะไรกัน เขาไม่เข้าใจมันเลย...

   “อคิราห์... คุณเป็นใครกัน ถึงทำให้หัวใจผมบ้าคลั่งได้ขนาดนี้” เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ

   แม้จะรู้สึกถึงใครคนหนึ่งมาตลอด แต่ฤดูหนาวที่กระสับกระส่ายเดียวดายก็กลับมาเยือนอีกครั้ง ลมเย็นที่สุดแสนไร้ปราณีพัดผ่านสัมผัสผิวกายจนรู้สึกถึงความรื่นรมย์ในชีวิตที่ถูกช่วงชิงไป ความเปล่าเปลี่ยวเริ่มคลี่ม่านออกมา ช่วงเวลาอันโหดร้ายกำลังโคจรเข้ามาหาเขาอีกครั้ง

   จู่ๆ นาฬกาปลุกสีดำด้านที่วางอยู่บนโต๊ะเริ่มส่งเสียงดังกริ๊งๆ แสงไฟจากจอแอลอีดีบอกเวลาเจ็ดโมงเช้า ช่วยเรียกสติที่ล่องลอยของชายหนุ่มให้กลับคืนมา เขาตั้งสติอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะปิดเสียงปลุกที่ดังก้องไปทั่วห้องให้หยุดลง

   เป็นอีกครั้งที่เขาตื่นขึ้นมาก่อนเสียงนาฬิกาปลุกจะดังขึ้น มันแทบจะเป็นเรื่องปกติที่เขามักจะสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากการเฝ้าฝันถึงภาพความทรงจำเก่าๆในอดีต ที่เขารู้สึกว่ามันเป็นเช่นนั้น

   อัคนีส่ายหัวเบาๆ ทิ้งความคิดที่ยุ่งเหยิงของตัวเองไป แล้วจึงลากสังขารของตนไปชำระล้างร่างกายและเตรียมตัวออกเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดทันที เขาใช้เวลาเตรียมตัวไม่นานนักก่อนจะขี่บิ๊กไบค์คันโปรดออกไป

   อัคนี ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ผู้มีใบหน้าคมสันได้รูป ที่ยังครองสถานะโสดมาตลอดด้วยวัย 37 ปี เขาไม่เคยคบหาดูใจกับใครคนไหนเลยตลอดทั้งชีวิต เขาไม่เคยต้องการใครเลยราวกับรอคอยใครคนหนึ่งมาตลอด ใครสักคนที่เขาเชื่อมั่นว่ากำลังรอคอยเขาเช่นกัน

   แม้เขาจะใช้ชีวิตด้วยการแสวงโชคอยู่ในเมืองใหญ่ แต่เมื่อฤดูหนาวมาเยือน กิจกรรมที่เขาจะต้องทำในทุกๆปี คือการกลับบ้านเกิด ด้วยความรู้สึกคล้ายกับสายลมหนาวกำลังเรียกหา

   ฤดูหนาวคือสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเศร้าหมองและเปล่าเปลี่ยว สายลมเย็นยะเยือกที่ผัดเข้ามาปะทะร่างกายถูกปกป้องด้วยเสื้อหนังสีเข้มที่เขาสวมไว้ แต่ผิวหนังก็ยังรู้สึกถึงความหนาวเย็นของฤดูกาล ความหนาวเย็นที่ทำให้เขาหวนนึกถึงอคิราห์ ชายหนุ่มที่เขาฝันถึงตลอดตั้งแต่จำความได้ คนที่ทำให้จิตใจเขาสงบแต่กลับบ้าคลั่งในเวลาเดียวกัน

   ความฝันที่ให้ความรู้สึกคุ้นเคยนั่น จนอัคนีเผลอคิดไปว่าอีกฝ่ายอาจมีตัวตนอยู่จริงบนโลกที่กว้างใหญ่ใบนี้ และเขามั่นใจเหลือเกินว่า อคิราห์คือคนที่จะปลดปล่อยเขาจากความเศร้าอันแสนโหดร้ายและนำความรื่นรมย์กลับคืนมา มันอาจฟังดูสิ้นหวังแต่หัวใจเขารู้สึกและรอคอยด้วยความเชื่อมั่นมาตลอด

   บิ๊กไบค์คันใหญ่วิ่งแหวกสายลมเย็นอยู่บนถนนเส้นหลักจนนำร่างสูงใหญ่ออกจากเมืองหลวงเข้าสู่พื้นที่ที่มีต้นไม้ปกคลุมอยู่เต็มสองข้างทาง ผ่านบ้านเรือนหลังแล้วหลังเล่าและผู้คนที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายตามวิถีของคนชนบท


Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ ronny7

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0


   เวลายังคงเดินไปเรื่อยๆ จนเย็นย่ำสนธยามาเยือน ดวงอาทิตย์ใกล้อัสดง ส่องแสงสีทองประกายแสดที่ช่างอ้างว้างและหดหู่ หมู่เมฆสีเข้มล่องลอยอย่างอิสระแต่กลับวังเวง นัยน์ตาสีเข้มทอดสายตามองดวงตะวันที่ลับเหลี่ยมเขาไปทุกขณะ ในห้วงหนึ่งของความรู้สึก มันสงบเงียบแต่กลับรู้สึกเปล่าเปลี่ยวใจและว้าเหว่เหลือทน

   จู่ๆ เครื่องยนต์ของบิ๊กไบค์คันใหญ่ก็ดับลงเสียดื้อๆ สองข้างทางโดยรอบเต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่เรียงรายอย่างไร้ระเบียบ ไม่มีผู้คนและที่อยู่อาศัยแม้จะมองไปจนสุดสายตาก็ตาม

   อัคนีก้าวลงจากรถแล้วจอดมันไว้ข้างทาง แล้วยืนรอเพื่อขอความช่วยเหลือจากรถที่จะวิ่งผ่านแถวนี้ แต่ทว่าสายตาของเขากลับสะดุดเข้ากับบ่อน้ำพุวงกลมสองชั้นซึ่งทำด้วยหินอ่อนที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ริมถนน แม้มันจะพุพังและดูทรุดโทรมจนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม แต่เขากลับมองเห็นสภาพดั่งเดิมที่มันเคยเป็น

   บ่อน้ำพุวงกลมสองชั้นที่สร้างด้วยหินอ่อนสีขาวที่มีริ้วลายหลายสีตามธรรมชาติส่งละอองน้ำระบำต้องแสงอาทิตย์เป็นประกายระยิบระยับชวนมอง รอบๆ บริเวณบ่อน้ำเต็มไปด้วยดอกกุหลาบขาวบานสะพรั่ง แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็นร่างของใครคนหนึ่งที่คุ้นตา ชายหนุ่มผู้มีเส้นผมสีซีดยาวสะลวยที่ต้องแสงอาทิตย์กลายเป็นสีทองอ่อนๆ สว่างสวยงามจับใจ

   เด็กหนุ่มผมสีเข้มผู้หลงทางรู้สึกราวกับกำลังหลับฝันทั้งๆ ที่ยังตื่นอยู่ หัวใจเขารู้สึกเคลิบเคลิ้มไปกับชายหนุ่มเบื้องหน้า เป็นครั้งแรกที่เขาคิดว่าตนเองได้พบกับเทพยดาผู้มาจากสรวงสวรรค์


   อัคนีค่อนข้างประหลาดใจกับภาพความทรงที่หลั่งไหลเข้ามา มันกำลังตอกย้ำให้เขามั่นใจว่า เขารู้จักสถานที่แห่งนี้และคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี แม้ไม่มีอะไรเป็นข้อพิสูจน์ แต่เขาเชื่อมั่นอย่างหมดหัวใจ

   สองเท้าก้าวออกเดินไปตามทางเดินเล็กๆ เรื่อยๆ ด้วยแรงดึงดูดจากสามัญสำนึกของตน จนนำร่างสูงใหญ่มาถึงตีนเขาเตี้ยแคระที่ดูแห้งแล้ง บนสันเขาเบื้องหน้ามีต้นไม้ใหญ่ตั้งตระหง่านและแผ่กิ่งก้านสาขาที่ไร้ใบจนขยายใหญ่ดูน่าเกรงขามดูคล้ายต้นไม้ที่ตายไปแล้ว ทว่าสิ่งที่ฉายชัดอยู่ในส่วนหนึ่งของความทรงจำกลับไม่ใช่อย่างที่เขาเห็น

   บนสันเขาที่ดารดาษไปด้วยดอกเดซี่บานอวดสีขาวเหลืองสวยสดเต็มพื้นป่าท่ามกลางต้นหญ้าอ่อนนุ่มเขียวขจี ต้นไม้สูงใหญ่ต้นหนึ่งตั้งตระง่านอยู่ใจกลางทุ่ง ใบของมันที่ดูคล้ายเถาวัลย์อ่อนนุ่มสีขาวห้อยยาวลงมาแทบจะแตะพื้นดิน สายลมพัดพริ้วใบไม้ปลิวไหวและส่งกลิ่นหอมฟุ้งหวานกระจัดกระจายไปทั่ว

   “ความงามของมวลหมู่ไม้ ก็ไม่อาจเทียบกับความงามของเจ้าได้เลย...อคิราห์ มันล้นออกมาจากดวงตาของข้า” ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ผู้มีเรือนผมสีเข้มเอื้อมมือไปสัมผัสเส้นผมสีซีดของอีกฝ่ายอย่างนุ่มนวลจากนั้นก็ก้มลงสูดกลิ่นหอมจากเส้นผมนุ่มดุจแพรไหมจนพอใจ ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงหลงไหลเสียเต็มประดา “ความปรารถนาที่ไหลรินอยู่นี้... เจ้าช่างเป็นสิ่งมึนเมาสำหรับข้าโดยแท้”

   “ไม่ได้มีเพียงท่านเท่านั้น” มือเรียวเล็กไล่แตะตามแผงอกกว้างของร่างสูงใหญ่อย่างแผ่วเบา “ตัวข้าเองก็หลงมึนเมาอยู่ห้วงรักของท่านอย่างถอนตัวไม่ขึ้น”


   ชายหนุ่มทั้งสองเคลื่อนกายเข้าหากันอย่างช้าๆ จนร่างกายแทบจะหลอมรวมกลายเป็นหนึ่ง ก่อนจะมอบจุมพิตแสนหวานให้แก่กัน มันทั้งลึกซึ้งและรัญจวนใจ ร่างเพรียวบางที่อยู่ในอ้อมแขนแกร่งของร่างสูงใหญ่ดูเจิดจรัสราวดวงจันทร์สุกสกาวที่ลอยเด่นแม้จะอยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์เจิดจ้า

   “อคิราห์ อีกแล้ว”

   อัคนีฉีกยิ้มมุมปากเล็กน้อยกับภาพที่อยู่ในหัว แม้จะรู้สึกเศร้าอยู่บ้างแต่เขากลับอบอุ่นใจจนความสุขมันแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เป็นครั้งแรกที่รู้สึกอิ่มเอมใจเช่นนี้

    ‘อามันต์’ เสียงเรียกที่คุ้นหูดังอยู่ไม่ไกล อัดนีจึงกวาดสายตามองไปรอบๆ แต่กลับมองไม่เห็นใครเลย

   ชายหนุ่มจึงตัดสินใจเดินขึ้นไปบนเขาเตี้ยแคระแห่งนี้จนมาถึงสันเขาตามเสียงเรียกหาที่เขาเพิ่งได้ยิน โดยหวังจะพบคำตอบที่เขาตามหา นัยน์ตาสีเข้มของเขากวาดมองไปทั่วจนมองเห็นซุ่มโค้งหินสูงใหญ่สวยแปลกตาที่ดูเก่าแก่และพุพังอย่างหนัก เขารีบก้าวเท้าเดินตรงไปยังซุ้มโค้งหินนั่นอย่างไม่ลังเล

   ซุ้มโค้งหินเบื้องหน้าเขาแม้จะดูเก่าแก่จนไม่สามารถคำนวณหาอายุได้ แต่รอยแกะสลักแปลกๆก็ยังคงหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ที่เขาไม่เคยเห็นแล้ว มันก็พร่าเลือนเสียจนเขาไม่อาจเห็นมันได้อย่างชัดเจน

   มือหนาเอื้อมไปสัมผัสรอยแตกร้าวบนซุ้มหินขรุขระอย่างช้าๆ ก่อนจะปิดเปลือกตาลงและรอคอยบางสิ่งบางอย่างอย่างใจเย็น

    ‘จงเปิดประตูของท่านเพื่อนำทางแด่ตัวข้า’ เสียงหวานกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหู

   อัคนีลืมตาขึ้นมามองซุ้มโค้งหินให้เต็มตาอีกครั้งก่อนจะเอ่ยพูดประโยคที่เขาเพิ่งได้ยินอย่างชัดถ้อยชัดคำ

   “จงเปิดประตูของท่านเพื่อนำทางแด่ตัวข้า”

   สิ้นเสียงพูดของอัคนี เถาดอกไม้สีฟ้าอ่อนค่อยๆ ไต่สูงเลื้อยพันเกี่ยวกันไปมาตามซอกหินที่แตกร้าวของซุ้มโค้งหินจนกลายเป็นสีฟ้าอ่อนสวยงาม ทางเดินเล็กๆ ค่อยๆ ปรากฎต่อสายตาเขาแล้วก็ทอดยาวออกไปเรื่อยๆ จนไปถึงสะพานอิฐเบื้องหน้า

   ชายหนุ่มยังคงเดินตามทางเล็กๆ ไปอย่างไม่ลดละจนไปถึงสะพานอิฐโค้งสีคล้ำขับกับความทะมึ๋งทึงและมั่นคงของมัน แม่น้ำสายใหญ่ไหลเอื่อยๆ อยู่เบื้องล่างอย่างไม่รู้จักเบื่อ เบื้องหน้าเขาเป็นที่ตั้งของสิ่งก่อสร้างใหญ่โตดูคล้ายอณาจักรโบราณที่เคยรุ่งเรือง

   ร่างสูงใหญ่เดินไปเรื่อยๆ ด้วยความรู้สึกที่ถูกฉุดดึงไปข้างหน้า ดวงตาคมของเขามองเห็นศาลาทรงกลมที่ทำด้วยเหล็กสีขาวตั้งอยู่บริเวณเนินหินจนสามารถมองเห็นน้ำตกสูงชันอยู่เบื้องหลัง

   “นี่มันเรื่องจริงใช่ไหมเนี่ย”

   ชายหนุ่มรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่เห็น จนบางครั้งก็เผลอคิดไปว่า ครั้งนี้ก็อาจเป็นความฝันดังเช่นทุกครั้ง จนเมื่อสะดุดตากับใครคนหนึ่ง วินาทีนั้นอัคนีแทบจะหยุดหายใจ เมื่อมองเห็นชายหนุ่มที่ยืนหันหลังอยู่เบื้องหน้าเขา

   ชายหนุ่มผิวขาวผ่องดุจหิมะบริสุทธ์ ร่างกายบอบบางของเขาสวมเสื้อคลุมยาวสีขาวแจ่มจ้าที่ดูเรียบง่ายทว่าวิจิตรงดงามยิ่งนัก ผมยาวสลวยสีซีดปลิวไสวเมื่อสายลมผัดผ่าน ความงามที่บริสุทธิ์ช่างกระจ่างพร่างพราวราวกับเขาได้หลงเข้าไปในความฝันของตัวเอง

   ชายหนุ่มรูปงามผ่องดุจแสงจันทร์นวลที่ยืนอยู่ที่ศาลาสีขาวสะอาดตา ทำให้อัคนีรู้สึกเคลิบเคลิ้มราวกับความรักทั้งหมดของเขากำลังรินไหลออกมา สายลมหนาวบรรเลงท่วงทำนองแห่งรัก มวลหมู่ไม้ไหวเอนร่วมขับขานไปตามท่วงทำนองนั้น ไม่มีสิ่งใดจะเทียบเท่าสิ่งที่เห็นอยู่นี้ได้เลย...ช่างงดงามจับใจยิ่ง

   “อคิราห์”

   สิ้นเสียงเรียกที่เต็มไปด้วยความโหยหาของอัคนี เขาก็พุ่งเข้าไปหาอีกฝ่ายแทบจะทันทีก่อนหยุดยืนให้ห่างเพียงไม่กี่คืบเท่านั้น ชายหนุ่มผมสีซีดยาวสลวยค่อยๆ หันหน้าไปมองตามต้นเสียงด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข หยาดน้ำตาก็พาลไหลอาบแก้มนวลอย่างห้ามไม่อยู่ 

   “หนึ่งสหัสวรรษที่ข้าเฝ้ารอคอยมาตลอด ในที่สุดท่านก็กลับมา” ชายหนุ่มร่างเพรียวเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมกับเสียงสะอื้นแผ่วเบา

   อัคนีได้แต่มองอีกฝ่ายไม่วางตา แม้ความงดงามไร้ที่ติกับสิ่งที่เห็นจะดึงดูดใจเพียงใด ก็มิอาจเทียบเท่าความรู้สึกของเขาในเวลานี้ได้เลย เขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกนับล้านที่บีบอัดอยู่ในความทรงจำจางๆ ของเขา สัมผัสที่คุ้นเคย กลิ่นกายที่หอมหวาน ความรักที่เบ่งบานสวยงาม ใบหน้าที่เขาหลงไหลมานานแสนนาน เขายังคงจดจำมันได้จากบางที่ในส่วนลึกของจิตใจ

   “อคิราห์ ใช่จริงๆ เหรอ?”

   อคิราห์เพียงแค่ยิ้มมุมปากบางๆ เป็นคำตอบ

   “ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?”

   อัคนีรู้สึกราวกับโลกทั้งใบของเขาหยุดหมุนไปชั่วครู่ราวกับไร้ซึ่งกาลเวลา ฝามือหนาเอื้อมไปประคองใบหน้าของอคิราห์ด้วยความรู้สึกโหยหาแปลกใหม่ที่เขาคุ้นเคยมาตลอดชีวิตพลางลูบไล้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะสวมกอดอีกฝ่ายไว้แน่นแนบอกเพื่อสัมผัสถึงไออุ่นที่ทำให้เขารู้สึกสงบและบ้าคลั่งในเวลาเดียวกัน แค่เพียงสัมผัสที่เรียบง่ายนี้ อ้อมกอดที่อ่อนโยนและถะนุถนอมเช่นนี้ อ้อมกอดที่รอคอยมานานแสนนานคล้ายว่ายาวนานถึงพันปี ได้เติมเต็มความรู้สึกของคนทั้งคู่

   “ในที่สุด ผมก็ได้พบกับคุณ”

   “ท่านกลับมาหาข้าตามคำมั่น การอคอยของข้าได้สิ้นสุดลงแล้ว”

   “เป็นคุณมาตลอด คนที่ผมเฝ้าฝันถึงมาทั้งชีวิต หรือนี่เป็นเพียงแค่ความฝันเช่นทุกครั้งกันแน่”

   “ไม่มีสิ่งใดจะเป็นจริงได้เท่านี้อีกแล้ว...ยอดรัก”

   “คุณรอผมมาตลอด...ขอบคุณจริงๆ อคิราห์”

   “ข้ารอท่าน เพราะท่านสัญญาว่าจะกลับมาหาข้า เพียงได้สัมผัสท่านในวันนี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับเวลาหนึ่งพันปีที่ผ่านมาของข้า ขอบคุณ...อามันต์”

   อัคนีไม่แน่ใจนักว่าเขาโอบกอดอีกฝ่ายไว้นานเพียงใด แต่ไม่สำคัญเลย เพราะเขารู้ดีว่าทั้งตัวเขาเองและอคิราห์ต่างก็อยากกอบโกยเอาความรู้สึกที่สุขใจจนอยากร้องไห้นี้ไว้ให้นานที่สุด เพื่อชดเชยความเดียวดายและความทุกข์ที่สั่งสมมานานให้หายไปจากใจเสียที

   “ผมจำอะไรเกี่ยวกับคุณแทบไม่ได้เลย...” จู่ๆ อัคนีก็พูดขึ้นมาในขณะกอดรัดอีกฝ่ายให้แน่นขึ้น “แต่ทำไมกันน่ะ ทำไมผมถึงได้โหยหาอ้อมกอดของคุณมากมายถึงขนาดนี้ จนผมแทบอยากหยุดทุกอย่างไว้แค่ตรงนี้ แค่มีผมกับคุณ โลกของผมก็สมบูรณ์แล้ว” คำพูดราบเรียบของอัคนีพรั่งพรูออกมาพร้อมกับหยดน้ำเล็กๆ ที่ค่อยๆ ไหลออกจากดวงตา “ผมคิดว่า...ผมรักคุณ รักคุณมาตลอด ความรักทั้งหมดที่ผมมี...มันเป็นของคุณ คุณทำให้ผมรู้สึกแบบนั้น”

   “ข้าเองก็จงรักเพียงแต่ท่านเสมอมา เพียงแค่ท่านตอบรับความรู้สึกของข้า ความทรงจำในอดีตกาลก็ไม่สำคัญอีกไป ต่อให้ท่านจะลืมข้าไปจนสิ้น หากตราบใดที่ท่านยังคงมองมาที่ข้า ความรักของข้าก็สมบูรณ์แล้ว”

   สิ้นเสียงพูดของอคิราห์ อัคนีจึงค่อยๆ ผละออกมามองใบหน้าที่งดงามไร้ที่ติของอีกฝ่ายอย่างเต็มตาอีกครั้ง แม้ใบหน้าหวานของอีกฝ่ายจะมีน้ำตาไหลอาบแก้มที่ขึ้นสีเรื่อชวนมองก็ไม่อาจกลบรัศมีจากคนนี้ได้เลย...ช่างงดงามกระจ่างจับใจเสียจริง

   สองมือหนาของอัคนีค่อยๆ ยกขึ้นมาประคองใบหน้าของอคิราห์อีกครั้ง นิ้วโป้งของเขาเกลี่ยเช็ดน้ำตาสีใสอย่างแผ่วเบา ก่อนที่ดวงตาของเขาจะสอดประสานเข้ากับนัยน์ตาที่กำลังวูบไหวของอีกฝ่าย จนทุกอย่างในหัวขาวโพลนไปหมด

   ใบหน้าของชายหนุ่มทั้งคู่เคลื่อนเข้าหากันอย่างแช่มช้า ก่อนที่ริมฝีปากเย็นเฉียบของอัคนีจะประทับบนริมฝีปากบางอย่างนิ่มนวลแล้วจึงดูดเม้มริมฝีปากล่างของอีกฝ่ายอย่างดูดดื่ม สองมือสอดเข้าไรผมนุ่มอย่างแผ่วเบา เขารู้สึกถึงแขนเรียวโอบรอบลำคอแข็งแกร่งของตน

   ริมฝีปากที่ร้อนรุ่ม เลือดที่กำลือดที่กำลังสูบฉีดไปทั่วร่าง ลมหายใจที่หอบเร่งจนจังหวะผิดเพี้ยนไปหมดและความหอมหวานจากรสจูบที่กำลังทำให้เขาบ้าคลั่ง อัคนีจึงโหมจังหวะให้ร้อนแรงยิ่งขึ้น จากที่เคยแผ่วเบาเป็นลำนำเริ่มทวีความเร็วและหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกพุ่งพล่านด้วยอารมณ์ความต้องการภายใต้รสจูบที่ลึกซึ้ง

   อคิราห์ค่อยๆ ผละออกมาจนริมริมฝีปากของตนเป็นอิสระก่อนที่เขาจะถูกกลืนกินด้วยความปรารถนาของที่แรงกล้าของพวกเขา

   ในขณะที่ปลายจมูกยังชนกันอยู่ ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดใบหน้าของกันและกัน เขาจ้องมองใบหน้าคมเข้มด้วยรอยยิ้มที่หวานซึ้ง ก่อนที่ใบหน้าหวานจะฉายแววเศร้างหมองอีกครั้ง หยดน้ำน้ำเล็กๆ ก็พาลไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

   “อคิราห์” อัคนีเอ่ยเรียกด้วยความกังวลใจเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของอีกฝ่าย “คุณร้องไห้ เพราะผมเหรอ?” คำถามที่เอ่ยออกมาพร้อมกับค่อยๆ เช็ดหยดน้ำตาอย่างนุ่มนวล

   “ไม่ใช่ท่าน หากแต่เป็นตัวข้าเอง”

   จู่ๆ ร่างของอคิราห์ค่อยๆ จางให้ไปทีละน้อยๆ จนอัคนีเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกตินี้

   “อคิราห์!! นี่มันเกิดอะไรขึ้น!?” อัคนีถามขึ้นด้วยความตกใจพร้อมกับผละออกมามองอีกฝ่ายให้ถนัดขึ้น

   “หมดเวลาของข้าแล้ว เพียงเท่านี้หัวใจของข้าก็ถูกเติมเต็มจากท่านแล้ว” น้ำเสียงสั่นเครือถูกเอ่ยพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุดหย่อน

   “หมายความว่ายังไง หมดเวลาแล้ว” น้ำเสียงของอัคนีดูเป็นกังวลและหวาดหวั่นไม่น้อย

   “อามันต์” น้ำเสียงของอคิราห์ยังคงอ่อนโยนเช่นทุกครั้ง ใบหน้าของเขายังคงพร่างพราวไม่เคยแปรเปลี่ยน “ท่านได้นำความรักมาสู่ใจข้าอีกครั้ง เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับการอคอยที่ยาวนาน... เพียงพอแล้วต่อความรู้สึกมากมายของข้า” น้ำตาหยดเล็กๆ ยังคงไหลออกจากดวงตาคู่สวยไม่ขาดสาย “ข้าจะเฝ้ารักท่านไปชั่วนิจนิรันดร์”

   อัคนีได้แต่มองอีกฝ่ายค่อยๆจางหายไป เขาพยายามเอื้อมมือไปสัมผัส ทว่ามันสายเกินไปเสียแล้ว เวลานี้ อคิราห์ของเขาเป็นเพียงแค่เงาจางๆ เท่านั้น

   “อคิราห์ อย่าทิ้งผมไปแบบนี้ ผมรอคุณมาตลอดชีวิต” น้ำเสียงของอัคนีที่เอ่ยออกมามันทั้งโศกเศร้าและเว้าวอนสะท้อนอยู่ในแววตาที่สั่นหวิวพร้อมกับน้ำใสๆ ที่ไหลออกจากดวงตาคม “นี่หรือคือการตอบแทนสำหรับการอคอยที่ยาวนานของเรา...อคิราห์”

   “ยกโทษให้ข้าด้วย...ยอดรัก ข้ามีชีวิตอยู่เพื่อรอท่าน เพียงแต่ข้าไม่อาจอยู่ร่วมกับท่านได้อีก มันเป็นกฏแห่งชะตา” อคิราห์ส่งยิ้มบางๆ ให้อัคนีเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าและเจ็บปวดจนแทบจะทุกข์ทรมาณไปกับมัน “ลาก่อน”

   “ไม่นะ อคิราห์ ผมไม่มีทางยอมรับมันได้ อคิราห์!!!” อัคนีตะโกนออกไปสุดเสียงเมื่อคนที่เคยยืนอยู่เบื้องหน้าจางหายไปต่อหน้าต่อตา ร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขากลับอ่อนแรงจนร่างทรุดลงไปกับพื้น เรี่ยวแรงที่เคยมีมากมายถูกสูบไปจนแทบจะหายไปจากร่าง มันเหนื่อยล้าและสิ้นหวัง...ความหวังในชีวิตพังทลายไปอย่างไม่ใยดี

   ชีวิตที่ผ่านมาของเขา แม้จะเหงาเปล่าเปลี่ยวเพียงใด อัคนีก็ยังรู้สึกถึงความหวังและความอบอุ่นบางอย่างที่คอยห่อหุ่มร่างกายเขามาตลอด แต่เวลานี้เขากลับรู้สึกถึงลมหนาวที่เยือกเย็นจนถึงกระดูก มันเจ็บปวดทรมาณ ความอบอุ่นทั้งหมดจางหายไปพร้อมกับร่างของอคิราห์ พร้อมกับนำหิมะสีขาวมาเยือกแข็งหัวใจของเขา ความโดดเดี่ยว อ้างว้าง เปล่าเปลี่ยวรุนแรงกว่าที่ผ่านมากมายนัก จนรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังยืนอยู่คนเดียวบนโลกที่มืดสนิท ไม่มีแม้แสงดาวดวงเล็กๆ คอยนำทาง ฤดูใบไม้ผลิจะไม่มีวันหวนคืน ตราบที่ไม่มีความอบอุ่นจากอคิราห์มาละลายฤดูหนาวในใจของเขา

   อัคนีก้มลงมองฝามือของตัวเอง สัมผัสของอคิราห์ยังคงหลงเหลือไว้บนฝามืออุ่นๆ ของเขา กลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของอีกฝ่ายยังคงติดอยู่กับเขาไม่จางหายไปไหน และความรู้สึกมากมายที่กำลังถาโถมตัวเขา มันไม่มีวันที่ลดน้อยลงได้ เพราะอคิราห์คือความรู้สึกทั้งหมดที่เขามี เขาไม่อาจยอมรับชะตาในครั้งนี้ได้

   เมื่อชะตาลิขิตให้หัวใจทั้งสองดวงถูกผูกมัดไว้อย่างแน่นแฟ้นจนเดินทางผ่านกาลเวลามายาวนานข้ามภพข้ามชาติเพื่อรอวันพบเจอ และเมื่อดวงใจยังคงคะนึงหา อัคนีเลือกที่จะเชื่อว่าชะตาจะลิขิตให้เขาไปพบอคิราห์อีกครั้ง และเขาจะรอจนถึงวันนั้น...วันที่เขาจะพานพบดวงใจแห่งรักอีกครั้ง

   “อคิราห์... ไม่ว่าจะยังไง ผมจะรอคุณตลอดไป นี่คือคำสัญญาของผม” เสียงพึมพำแสนรวดร้าวดังขึ้นมาพร้อมกับแสงแห่งการรอคอยที่ยังคงดำเนินต่อไป...




[End]





ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ได้อยู่ด้วยกันในครั้งก่อน หลังจากนั้นก็รอกันไปรอกันมาอย่างนี้เหรอ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เงิบ..บบบ รอแล้วได้อะไร เศร้าอ่ะ   o22

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด