(เรื่องสั้น) เริ่มที่รัก ตอนที่ 13 แค่คืบ (25/2/2560) #ตอนจบ#
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องสั้น) เริ่มที่รัก ตอนที่ 13 แค่คืบ (25/2/2560) #ตอนจบ#  (อ่าน 8692 ครั้ง)

ออฟไลน์ maneethewa

  • มณีเทวา
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
    • Maneethewa - มณีเทวา
ไวยิ่งกว่าปรอท

สวัสดีครับ ผมพี่ปรอท อุณหภูมิเองครับ
ผมมีเรื่องจะมาสารภาพ
ผมหลงรักเด็กคนหนึ่งตั้งแต่แรกเห็น
เด็กคนนั้นเป็นเพื่อนของน้อง
และเด็กคนนั้นเป็นผู้ชาย
   
   ผมเรียนจบวิศวะโยธาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของประเทศ ก็มหาวิทยาลัยเดียวกับองศาหรือน้องมุมนั่นแหละครับ พอเรียนจบก็ไปร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่ต่างประเทศเพื่อหาประสบการณ์ ก่อนจะกลับมารับช่วงต่อกิจการของครอบครัว

   ในช่วงแรกที่เปิดบริษัท ผมยุ่งมากจนแทบจะไม่ได้กลับบ้านเลย เพราะต้องเริ่มต้นอะไรใหม่ทั้งหมด ทั้งเหนื่อย ทั้งท้อมาก็หลายรอบ แต่ผมกับเพื่อนๆ ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ที่บ้านทั้งพ่อแม่และน้องชายก็โทรมาให้กำลังใจเป็นระยะ

   มุมเป็นน้องชายคนเดียวของผมครับ เราห่างกันหลายปี พอผมเรียนจบ มุมก็เพิ่งจะเข้าเรียนปีหนึ่ง ผมเลือกเรียนวิศวะ เพื่อมาดูแลธุรกิจของที่บ้าน แล้วปล่อยให้มุมไปเรียนหมอตามที่ใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก มุมค่อนข้างจะติดผม เพราะพ่อกับแม่เรางานยุ่ง ปล่อยให้ผมเป็นคนดูแลมันมาตั้งแต่เด็ก มาอยู่ไกลแบบนี้ก็สงสารมันเหมือนกันครับ มันคงจะเหงา อย่าว่าแต่มันเลย ผมก็เหงาจับใจเหมือนกัน

   มีเรื่องอะไรมุมจะโทรปรึกษาและเล่าให้ผมฟังเสมอ ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องเพื่อน ตอนแรกๆ มุมเล่าให้ฟังว่ามีเพื่อนสนิทชื่อวิรงรอง แล้วก็ส่งรูปมาให้ดู น้องวิเป็นคนน่ารักครับ แต่อย่างที่มุมบอก ผมไม่ได้ชอบผู้หญิง ผมรู้ตัวเองตั้งแต่เริ่มเข้าวัยรุ่น และเคลียร์ตัวเองกับพ่อแม่เรียบร้อย ซึ่งท่านก็ใจกว้าง ยอมรับได้ และเข้าใจดี ผมก็เลยเลือกเรียนสายนี้ และตั้งใจเรียนเพื่อทดแทนที่ไม่สามารถมีหลานสืบสกุลให้ท่านได้

   หลังจากสนิทกับน้องวิไปสักพัก ก็เริ่มมีชื่อเพื่อนอีกคนแทรกมาในบทสนทนา ฟังน้ำเสียงก็รู้ว่ามุมมันเอ็นดูเพื่อนคนนี้มาก จนผมชักอยากจะเห็นหน้า ยิ่งมุมเล่าให้ฟังเรื่องนิสัยใจคอของเพื่อนกับคนในครอบครัวผมก็ยิ่งประทับใจและดีใจที่มีคนช่วยดูแลน้องระหว่างที่ผมไม่อยู่

    แล้ววันหนึ่ง มุมมันก็ส่งรูปเด็กผู้ชายที่กำลังนั่งหันข้างก้มหน้าเขียนอะไรสักอย่างอยู่บนโต๊ะมาให้ดู
น้องกี กีฏะ

    แค่เห็นครั้งแรกก็ “ติดตา ตรึงใจ”

    คนอะไรแค่มองข้างๆ ยังน่ารักมากขนาดนี้ ผมบันทึกรูปนั้นแล้วตั้งเป็นภาพหน้าจอ มองเห็นทีไรก็รู้สึกอารมณ์ดีทุกครั้ง ฟังน้องพูดถึงทีไรก็มีความสุข เป็นเอามากแล้วครับผม ผมเปรยๆ กับมุมว่าอยากเจอเพื่อนสนิทของมัน แต่นัดกันทีไรเป็นอันล่มทุกที เลยไม่ได้เจอตัวจริงสักทีจนผมแทบจะถอดใจ
แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็เข้าข้างผม

   หลังจากบริษัทเริ่มอยู่ตัว ผมก็ปล่อยให้เพื่อนลุยเดี่ยว แล้วขอกลับมาช่วยงานที่บ้าน แต่กว่าจะได้กลับมาจริงๆ ก็ต้องใช้เวลาเพื่อเคลียร์อะไรหลายๆ อย่างนานพอดู

   พอกลับมาถึงผมก็ตระเวนกลับไปเยี่ยมเพื่อนสนิทสมัยเรียนมหาวิทยาลัยและมัธยม

   มีอยู่วันหนึ่งผมไปเยี่ยมจักรเพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัยอีกคนของผม ระหว่างที่มันทำกับข้าวให้ผมกิน มันก็ไล่ให้ผมไปส่งการ์ตูนให้มันที่ร้านเช่าร้านเดิม ซึ่งผมรู้จักดี เพราะเคยไปนอนกับมัน และเคยไปเช่าหนังสือกับมันบ่อยๆ

   ผมคว้ารถมอเตอร์ไซต์ของมันแล้วขี่ไปที่ร้าน พอคืนหนังสือเสร็จ ผมก็ผลักประตูออกมาด้วยความลืมตัว (แต่ก่อนมันเป็นแบบเลื่อนปิดครับ ผมยังไม่ชิน) โดนคนที่กำลังจะก้าวเข้ามาจังๆ ผมรีบทรุดตัวลงนั่งถามอาการน้องมัน เรียกว่าน้องเพราะมันยังอยู่ในชุดนักศึกษาเลยครับ แต่พอน้องมันเงยหน้ามาให้เห็นชัดๆ แค่นั้นแหละ หัวใจผมก็เต้นกระหน่ำด้วยความยินดีเพราะผมจำได้ทันที
   ‘น้องกี’

    เห็นในรูปคิดว่าน่ารักแล้ว แต่พอมาเห็นตัวจริงนี่ โคตรน่ารักเลยครับ ผมต้องพยายามเก็บอาการไม่ให้เผลอคว้าตัวน้องมากอด เนียนแจกเบอร์กับเขียนชื่อให้ไป เพราะหวังว่าน้องมันจะโทรกลับมาหาบ้าง ตื่นเต้นมากจนลืมขอเบอร์น้องกลับ พลาดที่สุด!
วันต่อๆ มาผมก็ติดธุระหลายอย่างซะจนไปดักเจอน้องไม่ได้ กว่าจะได้กลับไปก็ผ่านไปอีกหลายวัน เนียนถามเรื่องน้องกับมุมก็รู้ว่าน้องยังโสด ถ้ายังไม่เจอกันอีกผมก็ว่าจะบอกเรื่องนี้กับมุมแล้วขอให้น้องช่วยครับ อยู่ใกล้แค่นี้แล้ว ผมไม่ปล่อยหลุดมือไปง่ายๆ แน่

    ผมกลับไปบ้านไอ้จักรอีกครั้งเพื่อไปดักเจอน้องที่ร้านหนังสือ แล้วก็ได้เจอครับ ผมทำเนียนถามชื่อน้อง แค่น้องมันเรียกแทนตัวเองว่าน้องกีผมก็แทบละลาย น้องมันเขินได้น่ารักจนอยากจะจับมาฟัดแรงๆ ผมกลัวใจตัวเองเลยชวนออกจากร้านมายืนคุยกันข้างนอก

    ผมทำมึนขอเลี้ยงข้าวน้องเป็นการขอโทษ ซึ่งน้องก็ตามไปอย่างว่าง่าย พอไปถึงผมก็แอบถามนั่นถามนี่ น้องกีก็ตอบกลับมาอย่างมึนๆ น่ารักที่สุด ผมอาศัยช่วงที่น้องกำลังงงขอโทรศัพท์มากดเบอร์ของตัวเองลงไป ในที่สุดก็ได้เบอร์น้องมาครอบครองแล้วครับ หึๆ พอไลน์ของน้องเด้งมาผมก็ทักกลับไป แล้วยืนยิ้มอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้า
ผมไปบ้านจักรบ่อยจนมันแปลกใจ มันถามว่าติดใจอะไรแถวนี้หรือเปล่า น้องเจ น้องของมันก็คงเข้าใจผิด คิดว่าผมไปที่บ้านบ่อยๆ เพราะน้อง ถ้าผมไม่มีน้องกีอยู่ในใจ ผมก็อาจจะสนใจน้องครับ แต่นี่ผมมีน้องกีเต็มหัวใจมาหลายปี ถึงไม่เห็นหน้าก็ใช่ว่าจะลืม มารู้ตัวว่าปล่อยน้องให้หลุดมือไม่ได้ก็ตอนที่ได้เห็นตัวจริงครั้งแรกนั่นแหละครับ ผมไม่อยากให้ความหวังน้องเจเลยพยายามถอยห่างออกมา

    ผมคุยกับน้องกีมาตลอดทั้งทักทายตอนเช้า คุยสัพเพเหระระหว่างวัน แล้วก็บอกฝันดีก่อนนอน ผมคิดว่าน้องมันน่าจะเข้าใจนะครับว่าไอ้ที่ผมทำอยู่นี่ เขาเรียกว่าจีบ

    ผมเคยแอบถามน้องกีแล้วว่าวันเกิดผม น้องจะไปไหนหรือเปล่า น้องมันบอกว่าจะไปงานวันเกิดพี่เพื่อน ผมดีใจมากที่จะได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการสักที ผมจะได้รุกได้เต็มที่ แต่ในวันงานมันพลาดตรงไอ้จักรพาน้องเจมาด้วย แล้วน้องเจก็เกาะติดผมแจจนน้องกีเข้าใจผิด ผมไม่กล้าปัดแขนน้องเจออก เพราะกลัวน้องเจเสียหน้า

    ผมกลับไปพูดกับไอ้จักรตรงๆ ตอนมันปลีกตัวเดินไปเข้าห้องน้ำ แล้วขอเคลียร์กับน้องเจให้รู้เรื่อง กว่าจะเคลียร์กันจบ ผมก็ต้องปลอบน้องเจที่ร้องไห้เสียใจอยู่ตั้งนาน

    พอกลับไปไม่เห็นน้องกีก็ได้แต่ถอนหายใจ คงต้องอาศัยความช่วยเหลือจากมุมทีหลังแล้วล่ะครับ แล้วพวกเพื่อนเวรก็พากันมอมเหล้าผมซะจนเมา มันพยุงผมไปส่งถึงบนบ้าน พอพ้นบันไดแล้วก็บอกให้มันกลับไปกินต่อ ผมเดินกลับห้องเองไหว
แต่ด้วยความเมา ทำให้ผมเดินกลับเข้าห้องเดิมของตัวเอง พอไปถึงก็ล้มตัวลงนอนทันที นอนไปได้สักพัก ผมก็พลิกตัวไปเจอคนที่นอนอยู่ข้างๆ น้องกี ผมต้องฝันไปแน่ๆ น้องกีจะมาอยู่ในห้องผมได้ยังไง ด้วยความเมาและความรู้สึกในหัวใจ ทำให้ผมแตะต้องน้องกีไป เพราะคิดว่ากำลังอยู่ในความฝัน แต่พอตื่นมาเท่านั้นแหละครับ ผมก็รู้ว่าเรื่องเมื่อคืนมันคือความจริง เพราะหลักฐานยังอยู่บนเตียง

    ผมแน่ใจมากยิ่งขึ้นเมื่อโทรหาและไลน์หาน้องกีไม่ได้ น้องมันตัดทุกช่องทางการติดต่อจนผมกระวนกระวายใจอยากจะเคลียร์กับมุมใจจะขาด แต่ช่วงนี้มันใกล้สอบ  แทบจะไม่ได้กลับมาบ้านเลย  โทรไปก็แทบจะไม่ว่างคุยเพราะติวกับเพื่อนอยู่  อีกอย่างผมก็ไม่อยากจะรบกวนเวลาอ่านหนังสือมัน กลัวมันจะไม่มีสมาธิ ผมเลยไปดักรอแถวคณะของน้องกีและคณะของมุมที่มหาวิทยาลัยเองในทุกเวลาที่ว่าง แต่ก็ไม่เคยเจอน้องเลยครับ หลบเก่งมาก ถึงอย่างนั้นก็ไม่ละความพยายาม ยังคงตั้งหน้าตั้งตาโทร  ส่งข้อความ ไลน์หา และไปดักรอทุกครั้งที่มีโอกาสเหมือนเดิมแต่ก็ยังไม่เจอ

    ผมรอเวลาอย่างใจจดใจจ่อกระวนกระวายใจแทบบ้า จนมุมสอบเสร็จผมถึงได้ไปเคลียร์กับน้อง โดนมุมมันต่อยมาครั้งหนึ่ง ผมก็ไม่ว่าอะไร เพระผมรู้ว่ามุมมันรักน้องกีเหมือนน้องตัวเอง เคลียร์เสร็จก็ขอให้มุมช่วย มุมมันก็รับปาก แต่มันขอไปคุยกับน้องกีก่อนแล้วให้น้องตัดสินใจเอง

    แต่คนที่ผมได้เจอก่อนคือน้องวิ พอเจอตัวผมก็ตบหน้าผมไปสองทีจนผมหน้าหัน ก็สมควรครับ ผมเป็นคนผิดจริง จะโดนตบ โดนต่อยอีกกี่ทีก็ได้ ขอแค่ผมได้เจอน้องกี ขอโอกาสให้ผมได้ดูแลน้องกีบ้าง น้องคือคนที่ใช่ของผมจริงๆ ผมคงทนไม่ได้ถ้าต้องเสียน้องไป

    พอตอนเย็นผมก็ได้รับโทรศัพท์จากแพทย์หญิงรตีพี่สาวของน้องกี ผมจำรตีได้ เพราะเรียนรุ่นเดียวกัน รตีก็คงจำผมได้เหมือนกัน เราเคลียร์กันยาวมาก และผมก็โดนรตีเหน็บไปหลายที แต่ตอนนี้จะด่าจะว่าอะไรผมยอมหมดครับ ขอแค่ทุกคนให้โอกาสผมก็พอ

    มุมมันบอกให้ผมรอไปก่อน น้องกียังไม่พร้อมจะเจอ ผมก็ได้แต่อดทนรอ น้องกีเห็นใจพี่เถอะครับ ตอนนี้พี่ใจจะขาดแล้ว

------

เอาพี่ปรอทมาทิ้งไว้ก่อนค่ะ

ที่จริงตอนหน้าคือตอนจบแล้วค่ะ ตอนเขียนรีบมากกกก แหะๆ ขอเวลาเพิ่มอีกนิด ปรับอีกหน่อย แล้วจะมาลงต่อนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามมาถึงตอนนี้ค่ะ กราบงามๆ

 :impress2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-02-2017 09:27:46 โดย maneethewa »

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
Re: (เรื่องสั้น) เริ่มที่รัก (14/2/2560)
«ตอบ #31 เมื่อ14-02-2017 01:19:06 »

รอให้พี่ปรอทเคลียร์กับน้องกีเร็วๆ   :pig4:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: (เรื่องสั้น) เริ่มที่รัก (14/2/2560)
«ตอบ #32 เมื่อ14-02-2017 07:55:52 »

ศาลลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่ง เพราะรักแรกพบ อร๊าย..ยยยย พี่มันโรแมนติก  :L1:
+1เป็ด ฮะ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: (เรื่องสั้น) เริ่มที่รัก (14/2/2560)
«ตอบ #33 เมื่อ14-02-2017 13:11:49 »

 :mc4:
พระเอกมาแว๊ววววว

น่าจะไปทำประกันนะ
มาเร็วไปเร็ว
 :t2:

ไวเหมือนปรอท
พี่ปรอทไวทุกเรื่อง จริงง่ะ

คืนนั้นก็ไว แป๊บเดียวเอ๊งงง ไวจริงๆนะ#น้องกี
ก๊ากกกกกกกก  :laugh:

ออฟไลน์ maneethewa

  • มณีเทวา
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
    • Maneethewa - มณีเทวา
Re: (เรื่องสั้น) เริ่มที่รัก (14/2/2560)
«ตอบ #34 เมื่อ14-02-2017 13:24:00 »

:mc4:
พระเอกมาแว๊ววววว

น่าจะไปทำประกันนะ
มาเร็วไปเร็ว
 :t2:

ไวเหมือนปรอท
พี่ปรอทไวทุกเรื่อง จริงง่ะ

คืนนั้นก็ไว แป๊บเดียวเอ๊งงง ไวจริงๆนะ#น้องกี
ก๊ากกกกกกกก  :laugh:

กร๊ากกกก ใจร้ายยยยยย 555555555

 :hao7:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: (เรื่องสั้น) เริ่มที่รัก (14/2/2560)
«ตอบ #35 เมื่อ17-02-2017 13:14:02 »

ปรอทไหล
55+++

ออฟไลน์ maneethewa

  • มณีเทวา
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
    • Maneethewa - มณีเทวา
อีกไกลแค่ไหน

   ระหว่างที่รอคำตอบจากน้องกีด้วยความทุรนทุรายได้ไม่กี่วัน  ผมก็ไม่อาจทนอยู่เฉยๆ ได้  เลยต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเพิ่มโอกาสให้ตัวเองบ้าง  ผมขอร้องมุมให้บอกเส้นทางไปบ้านน้องกีให้จนสำเร็จ  พอมุมเขียนแผนที่ให้เสร็จ  ผมก็ขับรถออกไปที่บ้านน้องกีในตอนนั้นเลย

   ผมจอดรถอยู่ข้างรั้วบ้านน้องกีตอนเที่ยงคืนในตัวบ้านมืดสนิท  มีเพียงแสงไฟบริเวณรั้วและหน้าบ้านเท่านั้นที่ยังสว่างอยู่  ผมได้แต่นั่งมองอยู่ในรถเงียบๆ เพิ่งเข้าใจสำนวนที่ว่าไม่เห็นหน้า  เห็นหลังคาบ้านก็ยังดีก็ตอนนี้แหละครับ  แค่รู้ว่าน้องกีอยู่ในนั้น  อาจจะกำลังหลับฝันอยู่  แค่นี้ก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาเล็กน้อย  นั่งอยู่สักพักผมก็ขับรถกลับบ้าน  ระหว่างทางก็คิดหาวิธีในการขอโทษน้องกีไปตลอดทาง

   ผมรีบตื่นมาตั้งแต่เช้าเพราะตั้งใจจะเริ่มปฏิบัติการไปง้อน้องกีที่บ้านตามที่คิดมาตั้งแต่เมื่อคืน  เมื่อวานได้เห็นหลังคาบ้าน  วันนี้แค่ขอให้ได้เห็นหน้าสักนิดก็ยังดี  เมื่อลงมาที่โต๊ะอาหารก็เจอกับคุณพ่อคุณแม่ที่นั่งอยู่พอดี  ท่านทั้งสองทราบเรื่องของผมกับน้องกีตั้งแต่วันที่ผมเคลียร์กับมุมแล้วโดนต่อย  พอเห็นหน้าผมก็เลยโดนซักจนสะอาด  ผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ท่านฟัง  คุณพ่อท่านผิดหวังและตำหนิในเรื่องที่ผมไม่ประมาณตนจนคุมสติตัวเองไม่ได้  ผมก็ได้แต่ก้มหน้ายอมรับผิด  เพราะถ้าคนที่ผมตื่นมาเจอไม่ใช่น้องกี  ผมก็คงเหมือนตกนรกทั้งเป็น 

   ส่วนคุณแม่  ด้วยความที่เอ็นดูน้องกีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  ก็แทบจะแล่นไปสู่ขอน้องให้ผมซะเดี๋ยวนั้น  แต่มุมห้ามไว้ก่อน  เพราะน้องกียังไม่ให้อภัย  ยังไม่อยากเจอหน้าผม  และขอเวลาในการตัดสินใจก่อน  ซึ่งผมก็เคารพการตัดสินใจของน้องโดยดี  แต่ต่อให้น้องกีตัดผมออกจากชีวิต  ผมก็จะไม่ยอมแพ้  จะพยายามจนกว่าจะได้น้องมาอยู่ใกล้ๆ ทั้งตัวและหัวใจให้ได้

   พอรู้ว่าผมจะไปหาน้องกีที่บ้าน  คุณแม่ก็รีบไปหยิบขนมที่ซื้อมาจากต่างประเทศถุงใหญ่มาให้ผมเอาไปฝากน้องด้วย  ระหว่างทางผมแวะซื้อขนมจากร้านโปรดของน้องเพิ่มอีกถุงตามคำแนะนำของมุมที่ขอตามไปด้วย

   เมื่อไปถึงบ้านน้อง  ผมก็ให้มุมถือขนมลงจากรถเข้าบ้านไปบอกน้องกีก่อนว่าผมมาด้วยและขออนุญาตเจอน้องบ้าง  ถ้าน้องยังไม่พร้อมจะเห็นหน้า  ผมก็ขอจะรออยู่บนรถขอมองน้องจากตรงนี้ก็พอ

   ผมได้แต่นั่งมองมุมเดินเข้าประตูรั้วไปในสวนข้างๆ บ้านด้วยความตื่นเต้น  สักพักมุมก็เดินออกมาจากสวนพร้อมกับน้องกี  แค่ได้เห็นหน้า  หัวใจก็เต้นกระหน่ำด้วยความยินดี  มุมคุยกับน้องแล้วก็บุ้ยใบ้มาทางผม  น้องกีมองมาที่รถก่อนที่จะเบือนหน้ากลับไปส่ายหัวกับมุมจนผมใจแป้ว  ระหว่างที่มุมกำลังเดินกลับมาที่รถ  ก็มีผู้ชายในชุดทหารคนหนึ่งเดินออกมาจากบ้านแล้วตรงมาหาน้องกี  น้องยิ้มกว้างให้เขา  ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะจับหัวน้องโยกด้วยความเอ็นดู  แล้วจูงมือกันเดินเข้าบ้านไป  ตอนนี้รอยยิ้มของผมหายไปพร้อมกับหัวใจที่เหมือนจะหยุดเต้นไปแล้ว


------------------------------------------------

ใครรอสมน้ำหน้าอยู่เชิญค่ะ ถถถ ใครๆ ก็ไม่รักลูกกรอก เอ๊ย! ลูกปรอทของแม่ มาหาแม่มา เดี๋ยวแม่ซ้ำให้ ฮ่าๆๆๆ

 :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-02-2017 09:25:52 โดย maneethewa »

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
 :m4:
สมน้ำหน้า



แค่นี้ถ้าจะทำให้พี่ปรอท
เสียใจมากแล้วล่ะก็
กลับไปง้อน้องเจดิ
ยังจะทันนะ
 :m14:

+1 ฮับ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
อีกไกลแค่ไหนจนกว่าฉันจะใกล้..บอกที
สมน้ำหน้า จนกว่าน้องจะใจอ่อน หุหุ   :laugh:

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
สมน้ำหน้าดีไหม 55

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ maneethewa

  • มณีเทวา
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
    • Maneethewa - มณีเทวา
คนเคียงข้าง

   ตั้งแต่ที่ไอ้วิกับไอ้มุมมาเคลียร์กับผมในวันนั้น ผมก็นั่งคิด นอนคิด ตีลังกาคิดทบทวนความรู้สึกของตัวเองว่าที่รู้สึกกับพี่ปรอทมันเป็นความรู้สึกหลงใหลเพียงชั่ววูบหรือว่าเป็นความรักกันแน่ 

   ผมค่อยๆ คิดอย่างใจเย็น  พอตรองตกก็รู้สึกอารมณ์ดีจนทำให้ตื่นมาตั้งแต่เช้า  ว่าจะไปบอกเรื่องที่ตัดสินใจและปรึกษากับไอ้วิอีกที  แต่พอลงมาจากห้องก็เจอคนที่ไม่เจอมานานมาก  ‘พี่รัชต์ - วิรัชต์’ พี่ชายของไอ้วิลูกพี่ลูกน้องอีกคนของผมนั่งส่งยิ้มมาให้  ผมรีบวิ่งไปหา  ยกมือไหว้เรียบร้อย  ก่อนจะโผเข้าหาอ้อมแขนที่อ้าไว้รอด้วยความคิดถึง  พี่รัชต์จับผมฟัดจนไอ้วิเอ่ยปากแซวถึงได้ยอมปล่อย

   “แหมพี่รัชต์  เกรงใจน้องแท้ๆ บ้างค่ะ  กับวิไม่เห็นกอดรัดฟัดเหวี่ยงอย่างนี้เลย” วิรงรองมันมองเราทั้งสองด้วยความหมั่นไส้

   พี่รัชต์หัวเราะขำๆ ยีหัวผมด้วยความเอ็นดูก่อนจะตอบน้องบังเกิดเกล้าไป

   “ก็เรามันไม่น่ารักเหมือนน้องกีนี่” ไอ้วิหันไปค้อนพี่ชายตัวเองงอนๆ

    ถ้าไอ้วิเหมือนน้องแท้ๆ ของเจ๊รตี  ผมก็เหมือนน้องแท้ๆ ของพี่รัชต์นี่แหละครับ  ตั้งแต่เด็กๆ ในขณะที่วิมันติดเจ๊รตีแจจนก็อปนิสัยกันมา  ผมก็ตามพี่รัชต์ต้อยๆ ไม่ห่าง  เพราะพี่รัชต์ชอบออกโรงปกป้องและตามใจผมมากกว่าใครในบ้าน 

    พี่รัชต์เป็นเหมือนพี่ชายคนโตของทั้งสองบ้าน  ด้วยอายุที่มากกว่าเราสามคนและนิสัยที่อบอุ่นอ่อนโยน  ใจดีและพึ่งพาได้  ทำให้เราทั้งสามคนทั้งรักเคารพและเชื่อฟังพี่ทุกอย่าง  พี่รัชต์มีอาชีพเป็นทหาร  นานมากกกกถึงจะกลับมาบ้านสักที  พี่แกชอบอยู่ตามตะเข็บชายแดนยิ่งกว่าบ้านของตัวเองซะอีก  จนบางทีเราแทบจะลืมไปแล้วว่ามีพี่ชายกับเขาอีกหนึ่งคน

    มีแต่คนบอกว่าพี่รัชต์หน้าตาผ่าเหล่า  เพราะในขณะที่เราทั้งสามคนรูปร่างและหน้าตาแทบจะก็อปกันมาคือผิวขาวๆ ตาโตๆ ปากแดงๆ  พี่รัชต์กลับมีรูปร่างสูงใหญ่  หน้าตาคมเข้ม  ยิ่งทำงานกลางแจ้งผิวยิ่งคร้ามแดด  หน้าดูดุขึ้นกว่าเดิมจนไอ้วิมันแซวว่าเป็นทหารหรือผู้ก่อการร้ายกันแน่  น้ามาลัยบอกว่าพี่รัชต์หน้าตาเหมือนคุณปู่มากกว่าพ่อตัวเองอย่างน้าทักษ์อีก

    พี่รัชต์กับวิมากินข้าวที่บ้านผม  ส่วนน้ามาลีกับน้าทักษ์เข้าสวนไปแล้ว  พอกินข้าวเสร็จพ่อกับแม่ก็ตามน้าทั้งสองเข้าสวนไป  เหลือแค่เราสี่คนที่มานั่งคุยกันที่ห้องรับแขก  ผมเดินออกไปรดน้ำต้นไม้ที่สวนข้างๆ บ้านก่อนตามที่แม่ฝากไว้  ระหว่างที่รดน้ำอยู่ไอ้มุมก็ไลน์มาบอกในไลน์กลุ่ม (มีผม, ไอ้มุมกับไอ้วิ) ว่าตอนนี้อยู่หน้าบ้าน  ผมเลยบอกมันไปว่าอยู่ที่สวนให้เข้ามาเลย     

    ไอ้มุมเดินถือขนมหอบใหญ่มาหาบอกว่าแม่กับพี่ปรอทซื้อมาฝาก  เราสองคนเดินออกมาหน้าบ้าน  มุมก็บอกว่าพี่ปรอทมาด้วยแต่คอยอยู่ที่รถ  พี่ปรอทขอเจอผมหน่อยได้ไหม  ผมหันไปมองที่รถ  แค่รู้ว่าพี่มันอยู่ในนั้น  หัวใจก็เต้นกระหน่ำด้วยความตื่นเต้น  ถึงจะตัดสินใจแล้ว  แต่ผมดันปอดแหกเลยปฏิเสธไป  ความรู้สึกมันบอกไม่ถูก  อยากเจอก็อยาก  อีกใจก็รู้สึกว่ายังไม่พร้อมจะเจอพี่มันตอนนี้  ให้ผมได้ตั้งตัวอีกนิดเถอะ  มันกะทันหันเกินไปผมทำตัวไม่ถูกจริงๆ

    ระหว่างที่มุมเดินกลับไปบอกพี่ปรอทที่รถ  พี่รัชต์ก็เดินออกมาหา  บอกว่าเจ๊รตีให้มาตาม  ผมยังไม่ทันได้บอกไอ้มุม  ก็โดนพี่รัชต์ลากเข้าบ้านมาซะก่อน

    พอมาถึงห้องรับแขกก็เห็นเจ๊รตีนั่งกอดอกเหยียดยิ้มอยู่  ส่วนไอ้วินั่งทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้อยู่ข้างๆ หันมามองหน้าพี่รัชต์ถึงปากจะยังยิ้มแต่ตาดุๆ นั้นฉายแววคาดคั้นจนผมขนลุก ฮือ ไอ้วิเล่นผมซะแล้วไหมล่ะ  พี่รัชต์ดึงผมไปนั่งที่โซฟาแล้วก็นั่งกดดันจากฝั่งตรงข้าม

    “เล่ามาครับ” คะ... ใครก็ได้ช่วยด้วย  พี่รัชต์เวอร์ชั่นนี้ผมกลัววววว  ขนาดเจ๊รตียังไม่กล้าหือ  นับประสาอะไรกับผมที่อ่อนที่สุดในบ้านล่ะครับ  ระหว่างที่รวบรวมกำลังใจอยู่  ไอ้มุมก็เดินเข้ามาในบ้านซะก่อน  ผมถอนหายใจเฮือกด้วยความโล่งอกแล้วหันไปมองไอ้มุมแทน  ขอเวลาตั้งตัวแป๊บนึงก็ยังดีครับ

    “สวัสดีครับ  ผมมุมครับเป็นเพื่อนวิกับกี  พี่...” ไอ้มุมยกมือไหว้  สายตาจ้องไปที่พี่รัชต์  พี่รัชต์ก็ยกมือรับไหว้ก่อนตอบ

    “พี่ ‘เสือ’ ครับ” หือ พี่รัชต์เล่นอะไร ‘เสือ’ เป็นฉายาตอนเด็กๆ ของพี่รัชต์  ด้วยความที่หวงพวกเราสามคนมากยิ่งกว่าจงอางหวงไข่  ใครกล้ามาแกล้งนี่เป็นเรื่อง  มีแต่คนบอกว่าตอนเด็กๆ พี่รัชต์ดุอย่างกับเสือ  พวกผู้ใหญ่จึงเรียกว่า ‘ไอ้เสือ’ ซึ่งเหมาะกับหน้าตายิ่งกว่าชื่อจริงซะอีก (ผมว่าชื่อพี่รัชต์ฟังดูมุ้งมิ้งขัดกับหน้าตาพิกล)

    ไอ้มุมหันมามองหน้าผมที่กำลังนั่งเอ๋ออยู่อย่างต้องการคำอธิบาย  แล้วก็หันไปมองไอ้วิกับเจ๊รตีที่นั่งเฉยๆ ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้โดยไม่มีคำอธิบายหรือขยายความเกี่ยวกับพี่รัชต์เพิ่มแต่อย่างใด  มันก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วบอกลากลับบ้าน 

    ผมไม่แปลกใจที่ไอ้มุมมันไม่รู้จักพี่รัชต์  เพราะอย่างที่บอกนานๆ พี่แกจะกลับมาบ้านซะที  กลับมาทีก็ไปขลุกอยู่บ้านเพื่อน  ทำให้ไม่ได้เจอกันซะทีพอๆ กับพี่ปรอทนั่นแหละ  แถมพี่รัชต์ยังไม่ชอบถ่ายรูป  ชอบเป็นตากล้องให้ซะมากกว่า  รูปหมู่ครอบครัวจึงขาดรูปพี่รัชต์ตลอด

    สักพักก็มีเสียงไลน์จากโทรศัพท์ดังขึ้น  ไอ้มุมมันไลน์มาถามว่าพี่รัชต์เป็นใคร  เจ๊รตีชะโงกไปดูของไอ้วิแล้วก็แสยะยิ้ม  ทั้งคู่กระซิบกระซาบคุยอะไรกันสักอย่าง  ไอ้วิก็กดตอบไลน์ยิกๆ  ส่วนพี่รัชต์ก็หันหน้ามากดดันผมเหมือนเดิม  จนผมต้องวางโทรศัพท์ไว้ไม่ได้ดูต่อว่าไอ้วิตอบไอ้มุมว่ายังไงอีก เฮือก! ผมพยายามหายใจเข้าลึกๆ เพื่อรวบรวมกำลังใจ

    ผมเล่าเรื่องทุกอย่างให้พี่รัชต์ฟังทั้งหมด  พี่รัชต์นั่งฟังเงียบๆ สงสัยตรงไหนก็ถามเป็นระยะๆ มีไอ้วิคอยเล่าแทรกในส่วนที่ผมทำลืมๆ ไป  มึงไม่ต้องให้ความร่วมมือมากขนาดนี้ก็ได้นะวิ  พี่รัชต์ถามว่าผมรู้สึกยังไงกับพี่ปรอท  ถามถึงขั้นที่ว่าผมจะทำยังไงต่อไป  พอซักฟอกจนสะอาดพี่รัชต์นิ่งไปสักพักก็โน้มตัวมาข้างหน้า  ยิ้มให้อย่างอ่อนโยนแต่ตาเป็นประกายวาววับจนทำเอาผมขนลุกไปทั้งตัว

    “กีจะว่าอะไรไหม  ถ้าพี่จะขอทดสอบพี่ปรอทของกีหน่อย” ฟังดูเหมือนประโยคคำถาม  แต่ที่จริงมันเป็นประโยคบอกเล่า  บอกให้รับรู้ไว้เฉยๆ มากกว่า  ซึ่งผมจะไปว่าอะไรได้ครับ  ในเมื่อเจ๊รตีกับไอ้วิยิ้มชั่วร้ายเห็นดีเห็นงามด้วยอย่างนั้น  เสียงส่วนน้อยอย่างผมก็ได้แต่จำใจยอมรับ  (โชคดีนะครับพี่ปรอท)

   ผมนั่งอ่านไลน์ที่ไอ้วิมันโต้ตอบกับไอ้มุมก็ได้แต่งง  ไอ้วิมันบอกว่าพี่รัชต์ชื่อเสือเป็นลูกชายของเพื่อนพ่อที่แวะมาเยี่ยมแล้วมันก็บอกว่าพี่เสือกำลังตามจีบผม  แถมพ่อกับแม่ก็เห็นดีเห็นงามไปด้วยพร้อมเปิดทางให้เต็มที่  มันแต่งเรื่องเป็นตุเป็นตะสมกับที่มันชอบอ่านนิยายจริงๆ  แถมไอ้วิมันยังห้ามไม่ได้ผมตอบไลน์กลุ่ม  ไลน์ส่วนตัวกับไอ้มุมก็ห้าม  ให้ผมอยู่เฉยๆ เผด็จการจริงๆ คนบ้านนี้  แต่ผมก็ทำตามแต่โดยดี  เพราะอยากจะรู้ว่าทั้งสามคนคิดจะทำอะไรกันแน่

   วันรุ่งขึ้นพี่รัชต์มาที่บ้านแต่เช้าบอกว่าอยากไปดูหนัง  เราสี่คนนั่งรถไปที่ห้างใกล้บ้าน  พอซื้อตั๋วหนังเสร็จกว่าหนังจะเริ่มก็อีกนาน  เลยเดินดูของรอเวลากันเรื่อยๆ ระหว่างที่ดูเสื้อผ้ากันอยู่  ไอ้มุมก็เข้ามาทักพร้อมกับพี่ปรอทที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วส่งสายตาเว้าวอนมาให้จนผมต้องหลบตาวูบ  เพราะรู้สึกว่าหน้ามันร้อนผ่าวแถมหัวใจยังเต้นกระหน่ำจนเหมือนหัวใจจะวายซะให้ได้  พอยกมือไหว้พี่มันแล้วพี่รัชต์ก็เดินเข้ามาบัง  ยกมือรับไหว้ทั้งคู่แล้วก็ชวนพี่ปรอทกับไอ้มุมไปดูหนังด้วยกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

   ระหว่างเดินดูของ  ผมรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก  พี่รัชต์จูงมือผมตลอดอย่างกับเด็กอนุบาล  พอจะดึงมือออกพี่ก็กำแน่นขึ้นแถมส่งสายตาดุๆ มาให้ ฮือ ยอมแล้วครับ  อย่ากินหัวผมเลย  ผมเลยต้องปล่อยเลยตามเลย  ผมเคยขัดพี่แกได้ที่ไหนล่ะครับ  พอเผลอไปสบตาพี่ปรอทก็ได้รับสายตาตัดพ้อมาให้ตลอด  โอย! ผมจะบ้า  อยากจะหายตัวไปจากตรงนี้มากครับบอกตรงๆ

   พอถึงเวลาเข้าโรงหนังผมค่อยหายใจหายคอโล่งหน่อย  แต่โล่งได้แป๊บเดียว  พอจะเข้าที่นั่งผมโดนดันไปดันมาไม่รู้อีท่าไหนได้เข้าไปนั่งติดกับพี่ปรอทพอดี (ซื้อตั๋วไม่พร้อมกันแล้วได้มานั่งติดกันได้ยังไงหว่า  บังเอิญจริงๆ) ไอ้นั่งข้างกันนี่ไม่เท่าไหร่  ปัญหาคือพี่มันไม่ได้มองจอหนังเลยนั่งจ้องแต่หน้าผมเนี่ย  นี่หน้าคนครับพี่ไม่ใช่หนังหน้า เอ๊ย! หน้าหนัง  มองกันขนาดนี้คิดว่าผมจะดูหนังรู้เรื่องไหมครับ  ส่วนพี่รัชต์ก็เรียกร้องความสนใจสะกิดชวนกินป๊อบคอร์นกับน้ำอัดลมตลอด  เล่นเอาผมเหงื่อแตกพลั่กๆ ทั้งที่แอร์เย็นๆ นี่แหละ   

   ออกมาจากโรงหนังก็เที่ยงกว่าๆ พอดี  พี่รัชต์ชวนทุกคนไปกินข้าวด้วยกัน  ระหว่างกินข้าวพี่แกมานั่งข้างๆ ผมแล้วก็ตักนั่นตักนี่ให้ใส่จานให้พร้อมยิ้มหวานเจี๊ยบจนผมแทบจะเป็นเบาหวานตายคาจานข้าว  ถามจริงๆ นี่พี่เมาน้ำอัดลมหรือเปล่าครับ  ส่วนพี่ปรอทที่นั่งตรงข้ามก็ได้แต่มอง  พอสบตากับพี่รัชต์ก็แทบจะมีกระแสไฟแล่นเปรี๊ยะๆ แล้วคิดว่าผมจะกินข้าวลงไหมครับ  ผมอยากจะร้องไห้  ได้แต่ก้มหน้าก้มตามองจานข้าวเหมือนไม่เคยเห็นมาก่อน  ตอนพี่รัชต์เรียกเก็บเงินนี่ผมแทบจะถอนหายใจเฮือก  เดินออกมาจากร้านได้ผมก็รีบจ้ำกลับรถ  ไม่ไหวครับ  โดนอำนาจมืดกดดัน  ผมรับมือไม่ไหว  ขอกลับไปตั้งหลักที่บ้านก่อน  แต่พอลงไปถึงลานจอดรถ  พี่ปรอทก็รั้งพี่รัชต์ไว้

   “ผมขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมครับ” พี่รัชต์ยิ้มรับ  แล้วหันมาโยกหัวผมด้วยความเอ็นดูกว่าปกติ  พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเกินความจำเป็น

   “น้องกีไปรอที่รถก่อนนะครับ  เดี๋ยวพี่ตามไป” ผมมองหน้าพี่รัชต์แล้วเหลือบไปมองพี่ปรอทด้วยความกังวล

   “ไปสิครับ” อูย ย้ำเสียงหนักๆ แบบนี้ต้องรีบหนีอย่างไวครับ  ไอ้วิมันลากผมไปพอพ้นสายตามันก็พาไปแอบฟังอยู่ข้างเสาใกล้ๆ แล้วหัวเราะคิกคักกับเจ๊รตีสองคน  ส่วนไอ้มุมก็ตามมางงๆ เออ  มึงไม่ได้งงคนเดียวหรอกมุม  ณ ตอนนี้กูก็งงเหมือนกัน
   
   “มีธุระอะไรกับพี่เหรอครับ” พี่รัชต์ยืนกอดอกถามพี่ปรอทยิ้มๆ

   “พี่คิดยังไงกับน้องกีครับ” พี่ปรอทถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

   “อืม... น้องกีเหรอ  ก็น่ารักดีนะ  ทั้งซื่อ  ทั้งน่าฟัด  ทั้งน่ากอด” ท้ายประโยคลากเสียงยาวแล้วเหยียดยิ้มด้วยสีหน้าที่กวนอวัยวะเบื้องล่างสุดๆ ท่าทางเหมือนจะยังไม่หายเมาน้ำอัดลม  ผมละเป็นห่วงพี่ผมจริงๆ นะ

   “พี่เสือ! ถ้าพี่ไม่คิดจริงจังก็อย่ามายุ่งกับน้องกี” พี่ปรอทเริ่มพูดเสียงดังขึ้น

   “แล้วปรอทมีสิทธิ์อะไรมาห้ามพี่” พี่รัชต์ยังมีสีหน้ายียวน  แต่เปลี่ยนท่าจากกอดอกเป็นเอามือเกี่ยวกระเป๋ากางเกงไว้  แต่ละท่าน่าหมั่นไส้หมั่นพุงจนผมอยากจะซื้อไปทิ้ง  พี่รัชต์เวอร์ชั่นนี้นี่ผมไม่เคยเห็นเลยจริงๆ

   “ตอนนี้ผมอาจจะยังไม่มีสิทธิ์  แต่บอกให้พี่รู้ไว้ก่อนว่าผมรักน้องกี  และผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายน้องเด็ดขาด  ถ้าพี่ไม่จริงจังกับน้อง  ผมก็จะขัดขวางให้ถึงที่สุด”

     อ๊ากกกก ฟังแล้วเขินจนอยากจะมุดพื้นคอนกรีต  ไอ้วิกับไอ้มุมส่งยิ้มล้อเลียน  ส่วนเจ๊รตีนี่ทำท่าเหมือนอยากจะอ้วก  ผมถลึงตาใส่ทั้งพี่ทั้งเพื่อนแก้เขิน  ก่อนจะหันไปฟังต่อ

    “หึๆ เรื่องแบบนี้ใครดีใครได้สิครับ  น้องกีทั้งน่ารัก” ทอดเสียงไว้สักพัก  “แล้วก็น่ากิน  แถมป้ามาลีกับลุงกฤษณ์ก็เปิดทางให้ขนาดนี้  ถ้าพี่ปล่อยให้หลุดมือ  ไม่ได้ชิมสักครั้ง  พี่ก็โง่สิครับ” หน้าพี่รัชดูชั่วช้ายิ่งกว่าตัวร้ายละครหลังข่าวซะอีก  นะ... น่ากลัว  ใครก็ได้เอาพี่รัชต์ที่แสนดีคนเดิมมาคืนผมที

    “พี่เสือ!!”  พี่ปรอทเรียกพี่รัชต์เสียงดังด้วยความโมโห  ทำท่าจะพุ่งเข้าไปต่อยพี่รัชต์  จนผมต้องวิ่งออกจากหลังเสาเข้าไปห้าม

    “หยุดนะพี่ปรอท!” พี่ปรอทชะงัก  แต่พี่รัชต์ดันมือไวสวนไปหนึ่งหมัดจนพี่ปรอทล้มลง

    “พี่ปรอท” ผมกำลังจะวิ่งไปดูพี่ปรอทแต่โดนพี่รัชต์ดึงกลับมา  พี่ปรอทเช็ดเลือดที่มุมปาก  ไอ้มุมที่วิ่งตามมาก็มาพยุงพี่ปรอทลุกขึ้น

   “น้องกีบอกไปซิ  ว่าน้องกีจะเลือกใคร” พี่รัชต์ถามผมที่กำลังยืนมึนกับเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่

    “พี่...”

    “ได้ยินแล้วใช่ไหม  ว่าน้องเลือกพี่” คือ ผมไม่ได้เลือกใครคร้าบ ผมจะเรียกชื่อพี่  ทำไมพี่ผมเป็นคนแบบนี้วะ

    “ในเมื่อน้องกีเลือกพี่แล้ว  ต่อไปห้ามปรอทมายุ่งกับน้องกีอีก  เข้าใจนะ” พูดจบก็ลากผมเดินออกไป

    “ไม่ครับ  จนกว่าพี่จะรับปากว่าจะไม่ทำร้ายน้องกี  ไม่งั้นผมก็จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด”

    พี่รัชต์แอบยิ้มขำๆ สมใจแล้วล่ะสิ  ต่อยเค้าจนปากแตกขนาดนั้น  แต่พี่แกก็แค่ยักไหล่อย่างยียวน  แล้วเราก็เดินจากมา  ผมหันไปมองพี่ปรอท  พี่มันมองมาด้วยสายตาห่วงใยจนผมใจอ่อนยวบ

    พอขึ้นรถได้  ทั้งสามคนก็แปะมือกัน  ผมได้กระพริบตาปริบๆ มอง

    “พี่รัชต์น่าจะต่อยเผื่อรตีอีกสักหมัด” เจ๊รตีสายโหดพูดขึ้นมาเป็นคนแรก  ผมเริ่มจะเข้าใจแล้วละว่าทั้งสามคนเล่นอะไรกัน (ความรู้สึกช้าไปนะลูก)
 
    “ฮ่าๆๆๆ พอเถอะ  นั่นก็โดนไปเต็มๆ แล้ว  เดี๋ยวคนแถวนี้จะร้องไห้ซะเปล่าๆ” อยู่ดีๆ ก็โดนแซวจนผมหน้าร้อนขึ้นมาทันที

    “เหอะ  รตียังไม่สะใจเลย”

    “จะว่าไปก็สงสารพี่ปรอทเหมือนกันนะคะพี่รตี  ที่ผ่านมาก็โดนไปหลายดอกแล้ว  โดนวิตบไปสองที  ไอ้มุมอีกหนึ่งหมัด  บวกกับหมัดหนักๆ ของพี่รัชต์อีกหมัด” ไอ้วิมันเสริมให้  พอได้ยินอย่างนั้นเจ๊รตีก็ทำท่าพอใจขึ้นมาอีกหน่อย

    พี่รัชต์หันมายิ้มให้ผม  โยกหัวเบาๆ แล้วบอก

    “พี่ให้ผ่าน” หือ  ผ่านอะไร  อะไรผ่าน  ผมงง  พอเห็นผมทำหน้าเอ๋อใส่พี่รัชต์ก็หัวเราะด้วยความเอ็นดู

    “พี่ปรอทของกีน่ะ  พี่ให้ผ่าน  พี่ยอมรับแล้ว  หนักแน่น  จริงใจดี  อนุญาตให้กีคบด้วยได้  แต่ถ้าทำกีเสียใจเมื่อไหร่  บอกพี่  พี่จะกลับมาจัดการให้ทันที” ผมยิ้มกว้างยินดีที่พี่รัชต์ยอมรับ  แล้วก็ยินดีที่ผมเลือกคนไม่ผิด


    เราแวะตลาดสดซื้อของมาทำอาหาร  เพราะเย็นนี้จะมีเลี้ยงต้อนรับพี่รัชต์กันนิดหน่อยที่นานๆ พี่แกจะยอมห่างจากตะเข็บชายแดนสุดที่รักมาได้  เรามาตั้งเตาย่างกันที่สนามหน้าบ้าน  ทั้งกินทั้งเม้าท์กันจนคอแห้งเพราะไม่ได้เจอกันมานาน  ในบ้านมีแต่เสียงหัวเราะ  ได้อยู่ท่ามกลางคนที่รัก  ผมมีความสุขมากที่สุด  พอผู้ใหญ่แยกย้ายกันไปนอน  ก็เหลือแต่เราสี่คน  แต่ละคนเผากันเองให้พี่รัชต์ฟังเต็มที่  เสียดายที่เจ๊รตีมีคนไข้ด่วน  ทำให้ต้องรีบไปโรงพยาบาลโดยมีพี่รัชต์ไปส่ง  ดีที่งานเลี้ยงเราปลอดแอลกอฮอล์เลยไม่ต้องเป็นห่วงมาก

    ผมกับไอ้วิคุยกันอีกนิดหน่อยก่อนที่ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับห้อง  พออาบน้ำเสร็จ  ผมก็มานั่งปลดล็อคเบอร์โทรศัพท์  ปลดล็อคไลน์พี่ปรอท  แล้วก็โทรหาไอ้มุม  เพราะรู้ว่าป่านนี้มันก็ยังไม่นอนหรอก  น่าจะยังเล่นเกมอยู่  ผมโทรไปอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ไอ้มุมฟัง  แล้วก็ฝากบอกไปถึงพี่ปรอทว่าถ้ายังมั่นใจในความรู้สึกที่มีต่อผม  ก็ให้รู้ว่าผมขอให้โอกาสพี่ปรอทอีกครั้ง  ทำไมผมไม่โทรหาพี่ปรอทเลยเหรอครับ  โธ่! ก็ผมมันปอดแหกไง  จะอะไรล่ะ แหะๆ (ตอนหลังไอ้มุมมันมาเล่าให้ฟังว่าพี่มุมขับรถมาที่บ้านผมตอนตี 1 เอ่อ! พี่จะมาปล้นบ้านผมเหรอครับดึกขนาดนี้)

   พอรุ่งเช้าพี่ปรอทกับไอ้มุมก็มานั่งเรียบร้อยอยู่ที่โต๊ะรับแขกกับคุณพ่อคุณแม่  เข้ามาพูดคุยทำความรู้จักและขอโอกาสคบกับผม ที่จริงพี่มันแทบจะยกพานดอกไม้ธูปเทียนแพมาขอขมาพ่อแม่ผมด้วย แต่ผมไม่อนุญาต เวอร์ไปไหมครับพี่ กูอายครับ อีกอย่างผมไม่ได้บอกเรื่องที่เกิดในคืนนั้นให้พ่อกับแม่ฟังครับ ไม่อยากให้ท่านไม่สบายใจ เจ๊รตีที่หยุดอยู่บ้านพอดีถามผมว่าจะให้วางยาในแก้วน้ำเลยไหม เดี๋ยวพี่จัดให้ เอ่อ พี่ครับ ได้ข่าวว่าพี่เป็นแพทย์ไม่ใช่ฆาตกร  โหดจริงจัง  พี่ใครวะ  ส่วนพี่รัชต์ก็ขู่พี่ปรอทไว้ก่อนกลับไปทำงานว่าถ้าทำให้ผมเสียใจ  จะกลับมาจัดการเอง  พี่ปรอทก็ยิ้มหน้าบานรับคำอย่างหนักแน่นว่าจะไม่มีวันทำให้ผมเสียใจแน่  ผมก็ได้แต่เขินเมื่อได้รับสายตาล้อเลียนจากทุกคนในบ้าน  เอาที่สบายใจเลยครับ  ล้อได้ล้อไป  ไม่คิดว่าผมจะอายเลยรึไง  ฮึ่ย!

   หลังจากนั้นมาพี่ปรอทก็อัญเชิญตัวเองมาที่บ้านผมแทบทุกวัน เช้าถึงเย็นถึงเลยทีเดียว เช้าแวะมาหาก่อนออกไปทำงาน พอเย็นๆ หลังเลิกงานก็ลากไอ้มุมมาหาผมที่บ้าน มากินข้าวบ้านผมแทบทุกวัน คิดเงินได้ไหมครับ มันเปลือง ฮ่าๆๆ ผมบอกว่าไม่ต้องมาบ่อยขนาดนั้นก็ได้  ผมกลัวจะเหนื่อย  แต่พี่ปรอทบอกไม่เป็นไร  มันเป็นความสุขของพี่  พี่พูดโดยไม่อาย  แต่คนฟังอย่างผมอายครับ งื้อ  ส่วนไอ้มุม วันไหนเจ๊รตีอยู่บ้านก็ชอบไปกวนประสาทพี่ผม แถมสายตาที่มองกันก็...หึๆ คู่นี้ชักจะยังไงๆ แล้วครับ สักวันผมจะง้างปากไอ้มุมให้ได้ ไม่บังอาจไปง้างปากเจ๊รตีหรอกครับ ผมกลัวตาย

   แต่แบบนี้ก็ดีครับ ได้เรียนรู้นิสัยใจคอกันจริงๆ แถมอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ เพราะพ่อกับแม่ผมก็เป็นห่วง กลัวว่าความรักของเพศเดียวกันมันจะไม่ยืนยาว ท่านกลัวผมจะเสียใจ พอได้โอกาสพี่ปรอทก็แสดงความจริงใจให้เห็นอย่างเต็มที่ ว่างๆ ก็ไปช่วยพ่อดูแลต้นไม้ ช่วยแม่ถือของที่ตลาด มาช่วยผมทำกับข้าว จนตอนนี้กลายเป็นขวัญใจของผู้ใหญ่ทั้งสองบ้านไปแล้วครับ อะไรก็ลูกปรอท ลูกปรอทจนผมหมั่นไส้ แอบหยิกพุงพี่มันไปหลายที ช่วงนี้ชีวิตดี๊ดีครับ อิจฉาผมล่ะสิ ฮ่าๆๆๆๆ


**************************
คืนนี้มีนัดกับหน้ากากนักร้องค่ะ เลยเอาน้องกีมาฝากไว้ก่อน ฝากลูกสาว เอ๊ย! ลูกชายไว้ด้วยนะคะ

:mew3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-02-2017 09:24:46 โดย maneethewa »

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
 แหม แหม.  ดูรายการเดียวกันเลย.   อยากเห็นแบบ. "หน้ากากสาววาย". จะมีมั้ยนะ.   :pigha2:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
แต่ละคนเล่นใหญ่รัชดาลัยเธียเตอร์ทั้งนั้น  ดีที่ทุกอย่างลงตัว  o13 #ทีมหน้ากากทุเรียน

ออฟไลน์ maneethewa

  • มณีเทวา
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
    • Maneethewa - มณีเทวา
แค่คืบ

   ปิดเทอมยาวๆ แบบนี้ มันต้องไปเที่ยวครับ ผมอ้อนชวนคนที่บ้านหนีเที่ยวกัน ซึ่งทุกคนก็ยอมแต่โดยดี ทั้งพ่อแม่ น้าๆ กับเจ๊รตีเคลียร์งานกันหัวปั่น  ที่จริงก็คุยกันมานานแล้วครับว่าจะหาโอกาสไปเที่ยวด้วยกันบ้าง  เสียดายที่พี่รัชต์รีบกลับซะก่อนไปด้วยไม่ได้  ไม่งั้นถ้าได้ไปพร้อมหน้าพร้อมตากันคงจะดีกว่านี้

   พอได้ฤกษ์ผมจัดข้าวของเตรียมอาหารอย่างมีความสุข เมื่อถึงเวลาออกเดินทางก็ลงมาจากห้องเจอพี่ปรอทนั่งเรียบร้อยอยู่ที่ห้องรับแขก ดูท่าทางแล้วไม่น่าจะมานั่งเล่นเฉยๆ เอ่อ ใครชวนพี่ไม่ทราบครับ ได้ข่าวว่าเขาไปเที่ยวกันตามประสาครอบครัว

   พอเห็นผมเดินลงมาพี่มันก็ลุกขึ้นมาหาแล้วคว้ากระเป๋าไปถือให้ ผมยกมือไหว้ตามมารยาท

   “พี่ช่วยถือครับ” พูดจบก็ยิ้มกว้างกลับมาให้ จนผมต้องหันหน้าหนี กลัวเผลอปล้ำพี่มัน แหะๆ

   ผมเลือกไปเที่ยวที่จังหวัดกาญจนบุรีครับ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เท่าไหร่ เดินทางไม่เหนื่อยมาก จุดหมายคือน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น เพราะผมเห็นในรีวิวการท่องเที่ยวแล้วอยากไป ซึ่งทุกคนก็ตามใจและเห็นด้วย

   ตอนแรกที่วางแผนการเดินทาง ก็คิดว่าจะขับรถไปกันเอง แต่พี่ปรอทเอารถตู้กับคนขับรถมาแล้วพาพ่อแม่มาด้วย เลยไปรถคันเดียวกันเลย เด็กๆ อย่างพวกผมก็ไปนั่งข้างหลัง พี่ปรอทมันนั่งมองผมแล้วส่งยิ้มให้ตลอดเวลา หัวใจผมก็เต้นกระหน่ำไปสิ พี่มันกะจะไม่ให้หัวใจผมได้พักได้ผ่อนกันเลยรึไงครับ ถ้าผมเป็นโรคหัวใจไปใครจะรับผิดชอบ

   ระหว่างทางมันต้องขึ้นแพขนานยนตร์ข้ามเขื่อนศรีนครินทร์ไป บรรยากาศดีมากครับ ลมพัดมาอากาศเย็นสบาย พ่อกับแม่ของเราก็นั่งคุยกันไป พี่รตีก็นั่งทะเลาะกับไอ้มุม ส่วนผมกับไอ้วิก็เดินไปหามุมถ่ายรูป โดยมีพี่ปรอทเป็นตากล้องให้ พอถ่ายเสร็จผมก็เดินไปหาพี่มันเพื่อขอดูรูป

   “ไหนขอกีดูหน่อยครับว่าสวยไหม” ผมชะโงกเข้าไปดูใกล้ๆ

   อะแฮ่ม! พอได้ยินเสียงไอ้วิกระแอมผมก็เงยขึ้นมองหน้าพี่ปรอทก็เห็นพี่มันมองมาตาเยิ้ม คือ มึงเพลาๆ ลงบ้างก็ได้ครับสายตาเนี่ย มองยังกับจะแดกกันไปทั้งตัว งื้อ ผมเขิน

   ผมถอยห่างออกมา รู้สึกว่าหน้าร้อนๆ สงสัยแดดจะแรงไปหน่อย

   “ทำอะไรเห็นใจคนโสดบ้างเท้อ ยืนหัวโด่อยู่นี่ เห็นหัวกันบ้างไหมคะพี่” ไอ้วิมันแซวขึ้น ส่วนพี่ปรอทก็หัวเราะชอบใจ

   “จะเห็นได้ยังไงครับ สายตาพี่มีแต่น้องกี” อื้อหือ เสี่ยวมากพี่มึ๊ง

   “อ้วกกก ขออ้วกแป๊บนะกี กูเมาคลื่น” ส่วนผมจะทำอะไรได้ครับ ยืนเขินไปสิ

   เราไปถึงจุดหมายช่วงบ่ายๆ พอไปถึงก็ช่วยกันขนของเข้าไปเก็บในบ้านพัก ถ้ามากันเองผมก็อยากจะลองกางเต็นท์อยู่หรอก แต่นี่มีผู้ใหญ่มาด้วย กลัวท่านไม่สะดวกเลยจองเป็นบ้านพักแทน

   หลังจากเก็บสัมภาระเสร็จ เราก็ออกไปเดินเล่นถ่ายรูปชมบรรยากาศกัน กะว่ารอให้เย็นๆ กว่านี้หน่อยค่อยออกมาเล่นน้ำ ส่วนพวกผู้ใหญ่ก็ขอแยกไปนั่งจิบกาแฟคุยกันสบายๆ ที่ร้านค้าสวัสดิการของอุทยาน เราไปเดินถ่ายรูปกันที่น้ำตกตั้งแต่ชั้นที่เป็นชั้นเดียวกับบ้านพักคือชั้นที่ 4 ฉัตรแก้ว ชั้นนี้น้ำตกสวยมาก สายน้ำทิ้งตัวจากหน้าผาลงสู่พื้นดินเป็นสาย

   เก็บภาพตรงป้ายได้ไปหลายภาพ  โอ้เอ้ตรงจุดนี้อยู่นาน จึงตัดสินใจเดินไล่ขึ้นไปข้างบนก่อน ชั้นที่ 5 ไหลจนหลง ชั้นที่ 6 ดงผีเสื้อ พอถึงชั้นที่ 7 ร่มเกล้า ก็ค่อยเดินย้อนกลับมา เพื่อลงไปที่ชั้นที่ 3 วังหน้าผา ชั้นที่ 2 ม่านขมิ้น และชั้นที่ 1 ดงว่าน ชั้นล่างๆ มองเห็นน้ำเป็นสีเขียวมรกต น้ำใส น่าเล่นมาก จนผมอยากจะกระโดดลงไปเล่นตอนนั้นเลย แต่ไอ้วิห้ามไว้กลัวว่าผมจะไม่สบาย วิกูแข็งแรงแล้วเหอะ ผมก็ได้แต่มองตาละห้อยฝากไว้ก่อนเถอะน้องน้ำ  เย็นนี้เจอกันครับ

   เดินกันจนเมื่อยขา ก็เดินกลับขึ้นมาที่บ้านพักเหมือนเดิม บ้านพักมีอยู่ 3 ห้อง ห้องละ 3 เตียง หลักๆ เราแบ่งกันพักโดยยึดผู้ใหญ่เป็นหลัก ห้องแรกเป็นของพ่อแม่  เจ๊รตีกับผม ห้องที่สองเป็นของน้าๆ กับไอ้วิ อีกห้องก็เป็นของพ่อแม่พี่ปรอท ส่วนพี่ปรอทกับไอ้มุมก็ไปเช่าเต็นท์มาตั้งใกล้ๆ พี่ปรอทมองผมเดินเข้าห้องมาตาละห้อย ให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะครับ อยู่ใกล้กันแค่นี้เอง ผมก็ได้แต่หัวเราะขำ กลับมารื้อของในห้องเตรียมตัวเล่นน้ำด้วยความตื่นเต้น พอจัดของเสร็จก็ชวนไอ้วิไปหาอะไรกินที่ร้านสวัสดิการ พี่ปรอทกับไอ้มุมก็ช่วยกันกางเต็นท์ต่อ

   พอแดดเริ่มหุบผมก็เปลี่ยนชุดใส่เล่นน้ำ ก็เสื้อยืดกางเกงขาสั้นนั่นแหละครับ ตอนแรกผมใส่เสื้อสีขาวไป แต่โดนทั้งไอ้วิและพี่ปรอทไล่ให้ไปเปลี่ยน ลืมกันไปรึเปล่ากูผู้ชายครับ ไม่มีหน้าอกเหมือนสาวๆ ซะหน่อย วู้!

   หลังจากเปลี่ยนเสื้อตามใจท่านๆ เสร็จแล้ว ผมก็รีบเดินไปยังน้ำตกชั้นที่หมายตาไว้ทันที ผมไปชั้นที่ถัดลงมาจากชั้นบ้านพักครับ เพราะขี้เกียจเดินไกล เล่นน้ำหมดแรงจะได้เดินกลับไหว

   ตอนนี้ไม่มีใครมาเล่นแล้วครับ สงสัยคนอื่นจะเล่นกันเต็มที่แล้ว ผมจูงมือไอ้วิก้าวลงไปในน้ำ ไม่กล้ากระโดดลงกลัวหัวไปฟาดหินแล้วอาจจะตายโดยใช่เหตุ มีพี่ปรอทกับไอ้มุมตามลงมาติดๆ ส่วนพี่รตีเจ๊แกแก่แล้วครับ ปล่อยให้อยู่กับผู้ใหญ่ไป ชู่ววว อย่าไปบอกเจ๊นะว่าผมนินทา

   เจอน้ำเย็นๆ บรรยากาศดีๆ แล้วรู้สึกสดชื่นมากครับ เราซัดน้ำใส่กันอย่างสนุกสนาน ผมดำน้ำไปดึงขาพี่ปรอทแล้วก็โผล่ขึ้นมา พี่ปรอทก็ดึงแขนผมไว้ไม่ให้ดำหนีไปอีก พอลืมตาขึ้นมาผมก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าหน้าเราอยู่ใกล้กันในระยะประชิด พี่ปรอทอมยิ้ม มองตาผมนิ่งๆ ก่อนจะค่อยๆ โน้มหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

   “อะแฮ่มมม” ผมแทบหงายหลังเมื่อได้ยินเสียงกระแอมของก้าง เอ๊ย! ของเพื่อนทั้งสองคน

   “เอ่อ ลืมไปหรือเปล่าครับว่าตรงนี้ยังมีมนุษย์อยู่ด้วยสองคน” ไอ้มุมมันแซวขำๆ

   “นั่นสิ โลกนี้ไม่ได้มีแค่เราสองกับผองปลานะคะพี่ปรอท หวานไม่แคร์สื่อเลย เกรงใจกันหน่อยก็ดีนะ” ไอ้วิก็ไม่ยอมน้อยหน้า

   ผมขอดำน้ำหนีอายได้ไหมครับ พี่ปรอทก็เอาแต่หัวเราะแล้วก็ดึงตัวผมเข้ามาโอบเอวไว้

   “ทำไมครับ อิจฉาเหรอ” ยังมีหน้าไปถามเขาอีกนะ

   “ไม่อิจฉาเลยค่ะ แค่ตาลุกเป็นไฟแค่นั้นเอ๊ง อีกอย่างวิเป็นห่วงกลัวว่าปลาแถวนี้จะเป็นเบาหวานตายหมดซะก่อน” มันส่งสายตาล้อเลียนกลับมา แล้วทั้งสามคนก็หัวเราะขึ้นพร้อมกัน

   ถามกันบ้างไหม ว่ากูอายหรือเปล่า ณ จุดๆ นี้ผมอยากดำน้ำหนี ไปโผล่อีกทีที่กรุงเทพฯ เลยครับ ฮือออออ

   เล่นน้ำกันจนตัวซีดได้ที่ ท้องก็ร้องพอดี พี่รตีมาเรียกเราขึ้นไปกินข้าวกันครับ บอกว่าพวกพ่อๆ แม่ๆ สั่งอาหารไว้รอแล้ว ให้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วตามไปที่ร้านได้เลย

   อาหารที่นี่อร่อยใช้ได้เลยครับ ปลาตัวใหญ่ๆ ต้มยำรสแซ่บ ผัดเผ็ดไก่รสจัด หลังจากใช้พลังงานในการเล่นน้ำไปเยอะ เราก็ซัดกันเต็มที่ อาหารที่สั่งมาหมดเกลี้ยง อิ่มจนแทบจะคลานกลับบ้านพักไปเลยครับ

   กินข้าวเสร็จพี่ปรอทก็ขออนุญาตชวนผมไปเดินเล่น เราเดินคุยกันไปเรื่อยๆ จนไปถึงจุดชมวิว ก็นั่งลงแล้วแหงนหน้ามองดาวกันเงียบๆ

   “น้องกีครับ” ผมหันไปมองหน้าพี่ปรอท พอสายตาเริ่มชินกับความมืดก็เห็นหน้าพี่มันชัดเจน ที่จริงต่อให้หลับตาหน้าพี่ปรอทก็ชัดอยู่ดี เพราะภาพของพี่มันอยู่ทั้งในสายตาและในหัวใจของผมตลอดเวลาอยู่แล้ว

   “พี่อยากจะรู้ ว่าตอนนี้น้องกียกโทษให้พี่หรือยัง” ผมหัวเราะเบาๆ

   “ถ้ายังไม่ยกโทษให้ พี่ปรอทคงไม่ได้มาอยู่ตรงนี้หรอกครับ” พี่ปรอทยิ้มออกมาด้วยความดีใจ

   “ถ้าอย่างนั้น เราเป็นแฟนกันแล้วนะ” เรื่องโมเมนี่พี่แกถนัดมากครับ ผมละยอมใจ ผมแกล้งแหงนหน้าขึ้นมองดาวบนท้องฟ้าแล้วเงียบไป

   “โธ่ น้องกีครับ อย่าแกล้งพี่เลย พี่ใจจะขาด” อ้อนขนาดนี้ คิดว่าผมยังจะใจแข็งอยู่ไหมครับ ผมหันมายิ้มให้พี่ปรอท แล้วก็ผงกหัวให้อย่างเขินๆ

   “ครับ” แค่ได้ยินคำตอบพี่ปรอทก็ยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายพราวระยับ สวยยิ่งกว่าดาวบนฟ้าเป็นไหนๆ

   “ขอบคุณครับ พี่จะไม่ทำให้น้องกีผิดหวัง” เราสบตากันเงียบๆ ในสายตาต่างก็สื่อความรู้สึกในหัวใจของกันและกันอย่างชัดเจน ก่อนที่พี่ปรอทจะขยับเข้ามาใกล้ ผมหลับตาลงรับสัมผัสจากพี่ปรอทด้วยความเต็มใจ พี่ปรอทค่อยๆ จูบลงมาอย่างนุ่มนวล อ่อนหวาน คลอเคล้าริมฝีปากของผมเนิ่นนานจนแทบหายใจไม่ออก

   จูบจนพอไปก็ผละตัวออกมาสบตา แล้วดึงตัวผมไปกอดแนบอก ผมรู้สึกเลยว่าหัวใจพี่มันเต้นแรงพอๆ กับหัวใจของผม เรายังคงนั่งดูดาวกันต่อเงียบๆ ปล่อยให้หัวใจสื่อถึงกัน คืนนี้ฟ้าโปร่ง ดาวบนฟ้าสวยจับใจ อาจจะเพราะคนที่อยู่ใกล้ๆ ที่ทำให้รู้สึกว่า ดาวในวันนี้สวยยิ่งกว่าทุกๆ วัน

จบ...
[/b]


จบแล้วค่า  เป็นนิยาย/เรื่องสั้นขนาดยาวที่สุดเรื่องแรกที่แต่งจบ แถมเป็นวายด้วย ขอบคุณที่ติดตามมาถึงตอนนี้ ขอบคุณทุกคอมเม้นท์กับ +เป็ดที่เห็นทีไรก็ทำให้ยิ้มจนแก้มปริ เป็นกำลังใจให้อย่างดีเลยค่ะ ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ด้วยค่ะ
ฝากน้องกี ลูกชายคนแรกไว้ด้วยนะคะ

ขอเวลาฝึกปรือฝีมือสัก 3 ปี แค่กๆ แล้วจะเข็นเรื่องอื่นๆ มาให้ลองอ่านกันนะคะ  ขึ้นบทนำไว้หลายเรื่องแล้ว เอิ้กกกก

ตอบ คห.บน #ทีมหน้ากากทุเรียนค่ะ หุๆ

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น #ถ่ายเองค่ะ แต่แนบไม่เป็น ถถถ




:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ฝากนิยายเรื่องใหม่ด้วยค่า ลูกชายคนใหม่ เพิ่งจะเริ่มต้วมเตี้ยม แหะๆ

"ดินแดนแห่งรัก อาณาจักรแห่งใจ" แนวแฟนตาซีนะคะ

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58607.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-04-2017 20:00:47 โดย maneethewa »

ออฟไลน์ Gatjang_naka

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
น่ารัก มากคะ น้องกี ขอใส่กระเป๋าหิ้วกลับบ้านได้ไหมคะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ขอตอนพิเศษด่วนๆคร๊าบ..บบบบบบบบบบบบบบบ   :hao5:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
น้องกีน่ารัก อยากให้มีตอนพิเศษต่ออีก :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Raina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
สนุกดีค่ะ เอาไปเขียนเป็นเรื่องยาวได้เลยนะเนี่ย  o13

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี่ปรอท น้องกี  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
น้องกี น่ารักมาก
พี่ปรอท ก็ทั้งหล่อ ทั้งอบอุ่น
จบแบบสมหวังและ
แมงมุม พี่รตี  :mew1: :mew1: :mew1:
ขอตอนพิเศษหวานๆ เอ่อ......nc ยิ่งดีใหญ่   
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
 o13 แฮปปี้ สนุกค่ะตัวละครทุกตัวมีบทเด่นรักน้อง หวังดีกัยน้องทุกคน น้องกีน่ารักกกกกกก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด