ผมไม่อยากเป็นแบบนี้
story by แสงเหนือ
......ผมชื่อแสง
ครั้งหนึ่งผมเคยชอบชื่อของตัวเอง
แต่นานวันเข้าผมก็รู้สึกว่าชีวิตของผมช่างต่างจากชื่อเหลือเกิน...
"ไอ้แสง!!มึงอยู่ไหน!" เสียงตะโกนเรียกชื่อของเขาดังขึ้นให้ได้ยินทั่วบ้าน
เอาตัวสั่นหลบอยู่ใต้โต้ะในครัว
กลัว...
"มึงจะออกมาดีๆหรืออยากเจ็บตัวห้ะ!"
ยิ่งได้ยินเสียงเข้ามาใกล้เท่าไหร่ ตัวเขาก็ยิ่งสั่นมากขึ้นจนควบคุมไม่ได้
หึหึ
"คิดว่าจะหลบกูพ้นงั้นเหรอ"
เฮือก!
ตัวเขาถูกกระชากออกมาจากใต้โต้ะทันทีที่ถูกพบ
"รู้มั้ยมึงทำอะไรไว้!"อีกฝ่ายกระชากหัวของเขาให้หน้าขึ้น "มึงกล้ามากนะที่ทำแบบนี้ รู้มั้ยว่ากูเสียหายไปเท่าไร!!"
ยิ่งอีกฝ่ายโกรธมากเท่าไรแรงที่ดึงผมเขาไว้ก็แรงขึ้นเท่านั้น
"ผ ผมไม่อยากทำ บ แบบนั้นแล้ว"เสียงผมสั่สนเพราะความกลัวและความเจ็บ
"มึงว่าไงน่ะ ไม่อยากทำงั้นเหรอ ไม่อยากทำใช่มั้ย!!"
อีกคนเหวี่ยงเขาลงกับพื้นอย่างแรง ส่งผมให้ตัวของผมกระแทกเข้ากับพิ้นอย่างจัง
เจ็บ..
แต่แค่นั้นคงไม่สาแกใจเมื่อคนที่เหวี่ยงเขาลงมา กระทืบเขาซ้ำเข้าไปอีก
ผมยกแขนป้องศรีษะ พยายามขดตัวไว้ให้มากที่สุด แต่ก็ดูเหมือนว่าจะช่วยอะไรเขาไม่ได้มาก
อั่ก!
จุก..
เมื่อเท้าถูกกระทืบลงมาที่ท้องเขาเข้าอย่างจัง
"มึงยังจะกล้าทำแบบนี้อีกมั้ย!!"
สภาพตอนนี้ของเขาคงเละมากจนดูไม่ได้แต่ก็ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายผ่อนแรงในการทำร้ายเขาลงเลย
ตรงกันข้ามดูเหมือนอีกฝ่ายจะพอใจมากกว่าที่เห็นสภาพของเขาเป็นแบบนี้
เมื่อไหร่...เขาจะหลุดพ้นไปจากชีวิตแบบนี้สักที..
หลังถูกซ้อมเสร็จผมก็มีสภาพเกือบปางตาย แต่ก็ไม่ยักกะตายให้มันรู้แล้วรู้รอด ผมมีไข้ขึ้นสูงในวัดถัดมาแต่ก็ไม่ได้รับการดูแลใส่ใจจากคนในบ้านแม้แต่อย่างไร
ผมเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่เกิด เขาถูกทิ่งไว้ที่หน้าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
ทุกครั้งที่ผมมองดูเด็กคนอื่นเดินจับมือกับพ่อแม่ท่าทางมีความสุข....มันทำให้ผมรู้สึกอิจฉา
จนกระทั่งวันหนึ่งแม่ใหญ่บอกจะมีคนมารับอุปถรรมผม ตอนนั้นผมรู้สึกดีใจมาก จินตนาการถึงครอบครัวที่สดใส พ่อ เเม่ ลูก
เขานอนไม่ค่อยหลับเพราะตื่นเต้นที่จะได้เจอพวกเขา
เมื่อแรกเห็น ผู้ใหญ่ใจดีสองคนกำลังนั่งคุยอยูกับแม่ใหญ่ เมื่อเห็นผมพวกเขาสิงคนก็ส่งยิ้มมาให้
ผมยกมือไหว้สวัสดีตามที่ได้รับการบอกสอนมา
"เรียกพ่อกับแม่ด้วยสิจ้ะ"เขาบอกกับผมแบบนั้น
"พ่อ แม่"
*******************************************************************************************************************
หลังจากเขาที่กลับถึงบ้านหลังจากออกไป'ส่งของ'
ในบ้านมีผู้ชายตัวอ้วนคล้ายอาเสี่ย และลูกน้องอีกสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง
“แสงมาพอดีเลย สวัสดีเสี่ยชัยเขาสิลูก”
สองสามีภรรยาบอกกับเขา
“สวัสดีครับ” แม้จะยังงงกับคำที่สองคนนั้นใช้เรียกเขาและท่าทีประหม่าเช่นนั้น แต่ว่าผมที่ทำตามอยู่ดี
ผมยกมือขึ้นไหว้ คนที่พวกเขาเรียกว่าคุณชัย
“นี่ลูกบุตรธรรมของพวกเราเอง…อายุ16 ค่ะ พอจะใช้ได้มั้ยค่ะ”
“ถูกใจมาก 555” ชายอ้วนคนนั้นมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ “ตามที่ตกลง อั้วจะยกดอกเดือนที่ให้ก่อน”
“ขอบคุณมากเลยนะคะ” พวกเขาทั้งสองขอบคุณชายตรงหน้าด้วยท่าทางดีอกดีใจ “แสง ไปขอบคุณเขาสิ”
เธอดันหลังของผมให้เข้าไปหาผู้ชายคนนั้น “ข ขอบคุณครับ”
ยมพนมมือขอบคุณ แต่จู่ๆเขาก็เอามือมาประคองมือของเขาไว้แล้วลูบเบาๆ
ขยะแขยง..
ความรู้สึกเขาที่มือนั้นสัมผัส เขารีบชักมือกลับมาทันที อีกฝ่ายก็ไม่ได้ว่าอะไรแค่ยิ้มให้กับเขา
“อีกสามวันฉันจะส่งคนมารับ” ชายอ้วนคนนั้นเอ่ยกับสองสามามีภรรยา ก่อนที่จะหันมาบอกกับผม
“เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ”
เมื่อเสี่ยชัยและลูกน้องของเขาออกไปจากบ้านจนหมดแล้ว
“นี่มันอะไรกันครับ”ผมถามเมื่อเหลือแค่พวกเรา
“ก็อย่างที่มึงเห็น เสี่ยเขาถูกใจมึง” ถูกใจเขา?
“ผมไม่เข้าใจ”
“ไอ้อ้วนนั่นมันอยากได้มึงไงไอ้โง่!”
“แค่มึงทำให้เสี่ยเขาถูกใจมึงก็จะสบายแล้ว รวมถึงพวกกูด้วย”
“ม ไม่ ผมไม่ทำ!”
แม้ผมจะทำทุกเรื่องให้พวกเขาได้แต่นี่เป็นสิ่งเดียวที่เขายอมไม่ได้ อย่างน้อยถึงแม้ชีวิตของเขาจะบัดซบสักแค่ไหนแต่ก็ขอให้เขายังเหลือศักดิ์ศรีความเป็นคนไว้บ้างก็ยังดี
“มึงกล้าขัดคำสั่งพวกกูเหรอ!!” ผู้เป็นสามีตรงเข้ามาบีบคอของเขาแน่นทันทีที่เขาปฏิเสธออกไปแบบนั้น
“เบาๆหน่อยสิ เดี๋ยวมันตายพวกเราก็ซวยหรอก”
แค่กๆ แค่ก
ผมสูดหายใจเข้าปอดทันทีที่ลำคอเป็นอิสระ
อั่ก!
ก่อนจะถูกเตะเข้าที่สีข้าง
ไม่ทำ ยังไงผมก็จะไม่ยอมทำเรื่องแบบนั้นเด็ดขาด ต่อให้ถูกซ้อมจนตายก็ไม่
“ฉันว่ามันไม่ยอมง่ายๆแน่เลยพี่ หากมันทำเสี่ยไม่พอใจเราซวยแน่”
สองสามีปรึกษากัน
“ฉันคิดออกแล้วว่าจะทำยังไงกับมันดี” รอยยิ้มเหี้ยมปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้เป็นสามี
“จับมันไว้”
ตัวผมถูกจับกดไว้กับโต๊ะ แรงทับจากคนที่ตัวใหญ่กว่าทำให้ไม่สามารถกระดุกกระดิกได้บวกกับการโดนเตะในคราแรก ทำให้ผมไม่สามารถออกแรงขัดขืนได้มาก “ป ปล่อยผมเถอะนะครับ”
เสียงขอร้องที่เว้าวอนของผมไม่ได้เข้าหูพวกเขาเลยสักนิด
“กูจะทำให้มึงไม่กล้าขัดคำสั่งพวกกูอีก”
ผมตาเบิกโพลง เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังจะทำอะไร
ของเหลวสีใจที่บรรจุอยู่ในหลอดฉีดยา ผมคุ้นเคยกับมันดีแต่ก็ไม่เคยคิดที่จะแตะต้องไม่มีวัน
ผมดิ้นสุดชีวิตแต่ก็ไม่เป็นผล
แขนข้างหนึ่งถูกจับออกมาตรึงไว้อย่างแน่น
“กูจะทำให้มึงรู้ว่านรกมีจริง”
“ม่ายยยย!”
เข็มฉีดยาแหลมถูกแทงลงที่เส้นเลือดใหญ่ ก่อนที่ของเหลวจากกระบอกฉีดยาจะวิ่งเข้าสู่กระแสเลือด
น้ำตาผมไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
ทำไม…
ทำไมชีวิตเขาต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย
ผู้ชายที่บอกว่าเป็นพ่อผมจับมาขังไว้ในห้องของเขา มือและขาของผมถูกมัดไว้
แต่ว่าจู่ๆเขาก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ราวกับมีผีเสื้อนับร้อยบินเต็มไปหมดรอบๆห้อง
สวย…
เขานอนมองมันอย่างเพลิดเพลิน
ห้องนอนที่เขาเคยคิดว่ามันน่ากลัว แต่วันนี้มันกลับสวยงามอย่างบอกไม่ถูก
ผมยิ้มออกมา
“ฮ่า ฮาๆๆ”
ไม่รู้ทำไมผมถึงหัวเราะ รู้แค่ว่ามันรู้สึกดี
เขาเหม่อลอยอยู่แบบนั้นเกือบทั้งคืน
กว่าจะนอนก็เกือบเช้า
เฮือก!
เขารู้สึกตัวเพราะความเจ็บบริเวณซีกโครง
“เฮ้ย!ตื่นได้แล้ว ”
เหนื่อย…
เขารู้สึกเหมือนไม่มีแรงได้แต่มองหน้าอีคนแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป
“กินข้าว!!”ข้าวถูกเลื่อนมาตรงหน้า ก่อนที่จะแกะเชือกออกให้ผม
“….”
“กินนะมึงอย่าให้กูต้องบังคับ”
หลังจากที่กินข้าวเสร็จ มันก็เข้ามาอัพยาให้ผมอีก
ผมเหม่อลอย นอนอยู่บนที่นอนเฉยๆ ไม่ได้ขัดขืนเหมือนวันแรกเพราะรู้ว่าทำไปก็คงเปล่าประโยชน์
“กูลงทุนกับมึงขนาดนี้ อย่าให้กูขาดทุนล่ะ” มันตบหน้าผมเบาๆสองสามทีก่อนจะเดินออกไป
ผมติดยา…
ผมบอกกับตัวเองเมื่อวันถัดมา มันไม่ได้เข้ามาฉีดยาให้ผม
ผมดิ้นทุรนทุราย
ทรมาน…
เหมือนร่างกายมันจะแตกออกจากกัน
เขาต้องการยา
ผมขดตัวอยู่บนนอน หักห้ามตัวเองเอาไว้
ไม่ได้! เขาจะตกเป็นทาสของมันไม่ได้
เสียงเปิดประตูพร้อมกับร่างของมัน
“เป็นไงบ้าง รู้สึกว่ายาตัวนี้จะแรงเอาเรื่องหมือนกัน”
อึก!
ไม่ไหวแล้ว
มันชูหลอดยาขึ้นมา
“ขอร้องสิ แล้วกูจะให้”
ผมหายใจแรงมากขึ้น เริ่มที่จะควบคุมตัวเองไม่ได้
หยาดน้ำตารินไหลเพราะความทรมาน
“ข ขอร้อง”
หึหึ
มันแสยะยิ้มราวกับถูกใจ
ผมเอื้อมมือออกไปคว้าเอาหลอดยานั้นมา แต่ว่ามันกลับไม่ให้
“หากมึงอยากได้ยา มึงก็ต้องทำตามที่พวกกูสั่ง”
*************************************************************************************************************************
ลูกน้องของเสี่ยชัยมารับผมที่บ้านในตอนเย็น
ตอนนี้ผมอยู่ในในสถานที่ที่เรียกว่าผับ แม้ว่าอายุของเขาจะยังไม่ถึงแต่ก็ไม่ต้องกังวลเพราะว่าสถานที่แห่งนี้มันเป็นธุรกิจอย่างหนึ่งของเสี่ยชัย
เบื้องหน้าอาจเป็นแค่ผับธรรมดาทั่วไปแต่ทว่า เบื้องหลังกลับล้วนเต็มไปด้วยสิ่งผิดกฎหมาย
เขาเพิ่งรู้ว่าที่เขาต้องมาทำอะไรแบบนี้เพราะว่าสองสามีภรรยา เป็นหนีการพนันเสี่ยแล้วไม่มีตังค์ใช้หนี จึงเอาเข้ามาขัดดอกแทน
ลูกน้องของเสี่ยชัยพาผมเดินขึ้นไปยังชั้นบน
“เข้ามา”เสียงจากในห้องดังขึ้น
ประตูถูกเปิดออกโดยคนที่พาผมมา เมื่อผมเดินเข้ามาอีกคนก็ปิดประตูโดยที่ไม่ได้ตามเข้มา
ชายร่างอ้วนคนเดิมที่เขาเห็นที่บ้านนั่งอยู่บนเตียงสีแดงเลือดหมู
มันใส่เสื้อคลุมอาบน้ำตัวเดียว
“มานี่สิ”
ผมเดินเข้าไปหาอย่างว่าง่าย ก่อนจะนั่งลงข้างๆชายคนนั้น
เขายิ้มอย่างพอใจก่อนจะยกมือขึ้นลูบใบหน้าของผม สัมผัสสากจากมือของมันทำให้ผมอยากหันหน้าหนี
ลมหายใจของที่เป่ารดคอดของเขาอยู่ทำให้รู้ว่าอีกคนอยู่ใกล้แค่ไหน
มันฝังจมูกลงไปในคอของเขาก่อนจะสูดดม ผมได้นั่งนิ่งไม่ไหวติง
ก่อนที่มันจะจับมือของผมและบังคับให้ไปจับสิ่งที่แน่นขึงใต้หว่างขาของมัน
ผมหลับตาแน่นไม่กล้าแม้แต่ลืมตาขึ้นมามอง
ผมสั่น
กลัว…ขยะแขยง
ทำไม่ได้
“ผมทำไม่ได้!”
ผมผลักอีกฝ่ายออกจนล้มลงไปที่เตียง
ก่อนที่ผมจะวิ่งหนี แต่ยังไม่ทันที่จะถึงประตูร่างของผมก็ถูกคว้าไว้ก่อนจะถูกเหวี่ยงกลับมา
“กล้ามากน่ะมึง!”
อีกฝ่ายดูโกรธ มันชกเข้าที่ท้องของของเต็มแรง
ความจุกเจ็บแล่นไปทั่งร่าง ก่อนที่มันจะชกซ้ำเข้าที่ใบหน้าของผม
กลิ่นคาวของเลือดคละคลุ้งเต็มจมูก
ความเจ็บทำให้น้ำตาผมไหลออกมา
“หากมึงทำตัวน่ารักแต่ทีแรก ก็คงไม่เจ็บตัวอย่างนี้”
เมื่อเห็นว่าสิ้นฤทธิ์มันถึงกระชากเสื้อของเขาออก
มันนั่งทับกลางตัวของเขาไว้ทำให้ยิ่งดิ้นลำบาก ทั้งๆที่แทบจะไม่มีแรงดิ้นก็ตาม
เสื้อหลุดออกไปจากตัวของเขา ความหนาวของแอร์เย็นเข้าปะทะกับร่างกาย
หนาว…หนาวไปจนถึงขั้วหัวใจ
สายตาผมเหลือบไปเห็นบางอย่าง
มือของผมรีบไปคว้ามันมาทันที
ก่อนจะ…
เพล้ง!!!
เสียงของโคมไฟกระเบื้องที่ตอนนี้มันแตกละเอียดจากฝีมือของเขา
พร้อมกับร่างที่หยุดนิ่งของอีกคนเขาดันร่างที่ทับอยู่ออก
เลือดที่ไหลออกจากศรีษะของเสี่ยชัย ทำให้เขาหายใจสะดุด
ไม่เขาไม่ได้ตั้งใจ
เขาแค่ป้องกันตัว
หากพวกมันรู้มันต้องทำร้ายเขา
กลับบ้านไม่ได้ ให้รู้ไม่ได้
ตัวของเขาสั่นไม่หมด
ก้มมองมือของตัวเองที่เต็มไปด้วยเลือดของอีกคน
ยิ่งทำให้สติเตลิด
ไม่! ไม่! ไม่! ไม่! ไม่! ไม่! ไม่! ไม่!
หนี!!
ใช่! เขาต้องหนี
หนีไปให้ไกลที่สุด
เขาไม่รอช้าขาวิ่งไปที่ประตู เขาเปิดมันออก
ลูกน้องของเสี่ยที่ยืนเฝ้าอยู่ตรงบริเวณทางเดินหน้าห้องด้านหน้า หันมาเห็นเขาพอดี
“เฮ้ย!”
ผมวิ่งทันที
ตายแน่
หากถูกจับได้เขาต้องตายแน่ๆ
ไม่เอา ไม่อยากกลับไปอีกแล้ว
อยากไปให้พ้น
ผมวิ่งไปตามทางเดิน พวกลูกน้องของเสี่ยเริ่มที่จะวิ่งไล่ตามผมมาขึ้นเมื่อรู้ว่าเจ้านายตัวเองถูกทำร้าย
หมับ!
โดนจับได้แล้ว
ไม่นะ
“นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เราได้ล้อมที่นี่ไว้หมดแล้ว”
สิ้นเสียงนั้นความชลมุลต่างๆก็เกิดขึ้นเพราะผู้คนต่างวิ่งหนีกัน
คนที่จับผมไว้ตอนแรกเหมือนจะตกใจจนเผลอปล่อยมือผม
ผมสะบัดมือทิ้งและรีบวิ่งออกมาทันที
ไม่รู้ว่าผมวิ่งจนโผล่ออกมาที่ตรงไหนไม่รู้
บริเวณนี้มืดมากเพราะแทบจะไม่มีแสงไฟ
ผมเดินลากเท้าไปเรื่อยๆ ก่อนจะมองไปยังเบื้องหน้า หนองน้ำที่สะท้อนเข้ากับแสงจันทร์พราวระยับคล้ายกับกำลังปลอบโยนเขา
ผมมองอะไรไม่ค่อยชัดเพราะน้ำอุ่นๆที่ไหลออกมาจากดวงตา แต่ทว่าผมกลับยิ้ม
ยิ้มให้กับโชคชะตาของตัวเอง
เหนื่อยย…
เขาเหนื่อยเหลือเกิน….
เหนื่อยจนไม่อยากที่จะหายใจต่อไปแล้ว
ความเย็นของน้ำที่สัมผัสจากร่างกายได้รับทำให้เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
ผมหลับตา
ปล่อยตัวเองให้จมดิ่งลงสู่ใต้ผิวน้ำ
ในน้ำแม้จะรู้สึกเย็นแต่ทว่า….ผมรู้สึกราวกับตัวเองถูกโอบอุ้มไว้
ก่อนที่สติและตัวของผมจะจมดิ่งลงลึกไปใต้ผืนน้ำ
จบ