[SF โน่กัน's] กาลครั้งหนึ่ง OP
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [SF โน่กัน's] กาลครั้งหนึ่ง OP  (อ่าน 1697 ครั้ง)

ออฟไลน์ Mabel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในป่าที่ถัดไปจากสวนสาธารณะของหมู่บ้านเรา หากใครหลงเข้าไปก็จะเจอกับศาลเจ้าที่เก่าแก่ตั้งอยู่ข้างๆนั้นจะมีลำธารใสไหลผ่าน ว่ากันว่าศาลเจ้านั้นมีภูติคอยปกปักรักษาดูแลอยู่ หากใครเป็นเด็กดีเขาก็ช่วยพาออกจากป่า แต่หากเป็นเด็กดื้อภูติตนนั้นก็จะกินเด็กคนนั้นเข้าไป ...
 
เด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุราวๆ 8 ขวบกำลังนั่งเล่นอยู่บริเวณสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ตรงกันข้ามบ้านของเขา เด็กชายพลันนึกถึงเรื่องที่คุณยายเล่าให้ฟังทุกคืน เรื่องภูติในศาลเจ้ากับเรื่องเล่าต่างๆในป่าถัดออกไป เด็กชายคนนั้นมองเข้าไปในป่าที่ไกลแสนไกล เขาลุกขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปในป่าที่ดูจะลึกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เด็กชายก้าวข้ามโซ่ที่กั้นระหว่างสวนสาธารณะกับป่านั้นก่อนจะเดินตรงดิ่งเข้าไป
 
พระอาทิตย์ส่องแสงลงมาตรงหัวบอกเป็นนัยว่านี้ผ่านมาครึ่งวันแล้ว เด็กชายพยายามที่จะเดินหาศาลเจ้าที่คุณยายของเขาเล่าให้ฟัง แต่ยิ่งเดินลึกเข้าไปเท่าไหร่ก็ไม่มีวี่แววของศาลเจ้าที่ว่าเลย เด็กชายตัดใจเมื่อคิดว่าคงถูกคุณยายหลอกจึงคิดจะหันหลังกลับ แต่ทว่า เมื่อเขาหันหลังกลับไปก็พบเพียงต้นไม้ที่เรียงรายทอดกายจนสุดสายตา ต้นไม้พวกนี้ดูเหมือนกันไปหมด เขาจำไม่ได้ว่าตัวเองเดินตรงมาหรือเลี้ยวผ่านต้นไม้ต้นไหนมาบ้าง
 
เด็กชายเดินอย่างไม่ละความพยายาม เขายังคงเดินหาทางออกจากป่านี้ให้ได้ แต่ยิ่งเดินมามากเท่าไหร่มันก็เหมือนเขาเดินเข้ามาลึกมากขึ้นเท่านั้น เด็กชายล้มตัวลงนอนไปกับพื้นหญ้าความเหน็ดเหนื่อยและความเมื่อยล้าจากการเดินมาหลายชั่วโมงติดต่อกัน ทำให้เขาไม่มีแรงที่จะทำอะไรแล้ว
 
"นี่ เด็กชายคนนั้นน่ะ" เสียงทุ้มของใครบางคนดังขึ้น เด็กชายรีบลืมตาเมื่อได้ยินเสียงของคน
 
"อ่า พี่ชาย ผมหลงครับช่วยผมออกไปที" เด็กชายเอ่ย คนตรงหน้าเป็นชายร่างสูงใส่ชุดกึ่งสูทสีขาว เด็กชายลุกขึ้นก่อนจะวิ่งเข้าไปหาชายแปลกหน้าอย่างไม่กลัว แต่สิ่งที่ได้ก็คือ
 
ปั่ก !

"ทำไมพี่ชายต้องหลบด้วยง่าาาา" เด็กชายงอแงขึ้นมาเมื่อเห็นว่าพี่ชายตรงหน้าไม่ยอมให้เขาแตะต้องตัว
 
"เจ้าจับข้าไม่ได้หรอก" ชายร่างสูงพูดขึ้นก่อนจะนั่งย่องๆข้างๆเด็กชาย
 
"ทำไมล่ะ?" เด็กชายถามกลับอย่างไร้เดียงสา
 
"ก็เพราะว่าข้าไม่เหมือนกับเจ้าไง" ชายร่างสูงคนนั้นพูดพลางจับมือของเด็กชาย เด็กชายสัมผัสได้ถึงความเย็นราวกับสายลมพัดที่ผ่านมือคู่เล็กนั้นไป
 
"ทะ ทำไม..." เด็กชายดูจะตกใจเล็กน้อยเมื่อสิ่งที่เขาเห็นตรงหน้าเป็นสิ่งที่เขาอยากจะพบมากที่สุด มือของชายตรงหน้านั้นผ่านมือของเขาไปอย่างง่ายดายราวกับเวทมนตร์
 
"คุณคือคุณภูติใช่ไหม?" เด็กชายถามก่อนดวงตากลมโตจะเป็นประกาย
 
"ใช่ ข้าคือภูติที่ดูแลป่าที่นี่" เมื่อพี่ชายตรงหน้าให้คำตอบเด็กชายก็กระโดดโลนเต้นอย่างดีใจจนสุดตัว
 
"คุณยายไม่ได้หลอกผมจริงๆด้วย ผมอยากไปดูศาลของคุณอ่า!!" เด็กชายพูดก่อนจะมองหน้าพี่ชายคนนั้นอย่างอ้อนๆ
 
"ก็ได้นะ ... แต่นี้มันเย็นแล้วข้าว่าเจ้ากลับบ้านไปเถอะ" พี่ชายตรงหน้าพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน
 
"เดินตามข้ามา ข้าจะพากลับบ้าน" พี่ชายร่างสูงพูดขึ้นก่อนจะก้าวเท้าออกไป เด็กชายมองแผ่นหลังของพี่ชายอย่างงงๆแต่ก็ต้องลุกแล้ววิ่งตามไปอย่างช่วยไม่ได้
 
ผมเจอภูติแล้วจริงๆน่ะหรอ? ผมเห็นเขาแล้ว นิทานที่คุณยายเล่นเป็นเรื่องจริง ดีจังที่เราเป็นเด็กดีมาตลอดคุณภูติเลยช่วยพาเราออกจากที่นี่ ดีจังเลยยย ดีจังน้าาาาาา

"เดินตรงไปก็เจอสวนสาธารณะแล้ว ข้าไปนะ" คุณภูติพูดก่อนจะหันหลังไป
 
"เดี๋ยว! พรุ่งนี้พาผมไปศาลเจ้าของคุณนะ" ผมตะโกนบอกคุณภูติซึ่งเขาหยุดฝีเท้าลงพร้อมกับหันหน้ามาหาผม
 
"อย่าดีกว่า" คุณภูติพูดด้วยเสียงเรียบเฉยกับแววตาที่เหมือนไม่มีอะไรเลยนอกจากสีขาวกับดำ
 
"ผมชื่อกันนะ คุณภูติชื่ออะไรหรอ" ผมถามก่อนคุณภูติจะถอนหายใจพรืดใหญ่ เหนื่อยใจอะไรหรอ?
 
"ภาคิน รู้แค่นั้นแล้วไม่ต้องกลับม-"
 
"เจอกันพรุ่งนี้นะคุณภูติภาคิน!!" ผมไม่รอให้เขาพูดจบแล้วรีบชิ่งออกมาเลย ผมอยากเห็นศาลเจ้าที่ข้างๆมีลำธารใสๆไหลอย่างอ้อยอิ่งซะจนรอให้ถึงพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้ว




"ยายๆๆๆ น้องกันเจอภูติที่ยายเล่าให้ฟังแล้ว พรุ่งนี้คุณภูติภาคินจะพาน้องกันไปดูศาลด้วยยย" เด็กชายเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้คุณยายของเขาฟัง
 
"คุณภูติหล่อมากเลย ขาว สูง น้องกันชอบมากเลยยยย" เด็กชายพรรณนาถึงรูปร่างลักษณะของชายคนนั้นอย่างคล่องแคล่วจนคุณยายแอบคิดไม่ได้ว่าใครกันนะที่มาหลอกหลานเขา
 
"จริงหรอลูก? น่าตื่นเต้นจริงๆนะ" ถึงจะรู้ว่าเรื่องที่ตนเล่าให้หลานฟังทุกวันจะเป็นแค่นิทานหลอกเด็ก แต่คุณยายก็ยังคงหลอกหลานของตัวเองต่อไปเพียงเพราะคิดว่ามันคือความสุขของเด็กชาย

แสงจันทร์ยามพบค่ำส่องกระทบบนผิวน้ำใสที่ไหลเชี่ยวทำให้บนพื้นน้ำระยิบระยับราวกับดวงดาวบนท้องนภา ชายร่างสูงนั่งอยู่บนโขดหิน สายตาคมมองดูลำธารที่ไหลไปอย่างไม่มีจุดหมาย ยามค่ำคืนของที่นี่ช่างเงียบสงบยิ่งนัก



รุ่งอรุณ
 
แสงแดดอ่อนยามเช้าช่างเหมาะแก่การมาออกกำลังกายที่สวนสาธารณะของคนในหมู่บ้านนี้ เช่นเดียวกับเด็กชายเขามักจะมาออกกำลังกายกับคุณแม่และคุณยายเป็นประจำทุกเช้าในวันหยุด
 
"แม่ครับ วันนี้น้องกันขอไปเล่นนะครับ" เด็กชายพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าคุณแม่กำลังจะพาเขากลับบ้าน
 
"ยังเช้าอยู่เลยนะ" คุณแม่พูดเพราะปกติเมื่อออกกำลังเสร็จทั้งสามคนจะต้องเข้าไปทานขนมอร่อยๆในบ้านกันก่อน
 
"กันจะไปหาคุณภูติ"
 
"เอ๋? คุณภูติหรอ?" คุณแม่ถามเด็กชายด้วยความสงสัย ภูตินี่ชื่อเพื่อนใหม่หรือเปล่านะ?
 
“ปล่อยไปเถอะจ้ะ แล้วอย่ากลับเย็นนะลูก" คุณยายเดินมาพูดข้างๆคุณแม่ เมื่อได้ยินดังนั้น เด็กชายก็รีบวิ่งไปที่สวนสาธารณะก่อนจะข้ามเขตกั้นเข้าไปในป่า

แดดอุ่นๆยามเช้ากับต้นไม้ที่สูงราวๆตึก 4 ชั้นทำให้ที่นี้ดูร่มรื่นและเย็นสบาย เด็กชายรู้สึกว่าวิ่งมาไกลพอสมควรก็หยุดพัก เขานอนลงไปกับพื้นหญ้านุ่มเขียวขจี กลิ่นของหญ้าที่พัดมากับสายลมแตะจมูกจนรู้สึกสดชื่น
 
"มาจริงๆหรอเนี่ย" เสียงทุ้มที่คุ้นหูในความคิดของเด็กชายดังขึ้น เด็กชายลุกขึ้นก่อนจะพบกับคุณภูติที่เขาสุดแสนจะภูมิใจนำเสนอ(?)
 
"คุณบอกว่าจะพาไปดูศาลเจ้าไม่ใช่หรออ" เด็กชายพูดพลางนึกถึงเรื่องเมื่อวาน เขาบอกว่าจะพาเราไปดูจริงๆนะ
 
"ข้าจำไม่ได้ว่าบอกเจ้าไปเมื่อไหร่" เมื่อร่างสูงพูดขึ้นเด็กชายก็คอตกราวกับแมวน้อยที่อดอาหารมาเป็นเวลานาน
 
"ก็ได้ๆ ข้าจะพาเจ้าไป" เมื่อได้ยินดังนั้นจากแมวน้อยหิวโซก็กลายเป็นแมวน้อยขี้อ้อน เด็กชายวิ่งตรงไปทางร่างสูงก่อนจะอ้าแขนกว้างๆแล้วกระโดดคว้าร่างตรงหน้าไว้ และแน่นอนว่าผลที่ได้
 
ปั่ก !
 
"ข้าบอกแล้วว่าเจ้าสัมผัสข้าไม่ได้" ร่างสูงพูดก่อนจะเข้าไปนั่งยองๆข้างๆร่างบางที่ล้มหน้าถลากไถลมาชนกับต้นไม้
 
"แหะๆ ลืม" เด็กชายเกาหัวแกรกๆแก้เขินก่อนจะลุกแล้วปัดเสื้อผ้าที่เปรอะเปื้อน
 
"ไปกันได้แล้ว" ร่างสูงลุกขึ้นแล้วเดินนำทางไป เขาทั้งสองคนเดินมาไม่ห่างกันมากนัก แต่ดูเหมือนความเร็วของทั้งสองคนจะไม่เท่ากันเพราะในขณะที่ร่างสูงกำลังเดินชมนกชมไม้แต่เด็กชายข้างหลังกลับต้องวิ่งตาม
 
เขาเดินกันมาไม่นานนัก เขาก็เดินมาจนถึงที่โล่งเป็นลานกว้างที่มีต้นไม้ล้อมรอบ หญ้าที่ขึ้นบนพื้นมีดอกไม้งอกออกมาเล็กน้อยทำให้พื้นที่สีเขียวโล่งๆแห่งนี้มีสีสันมากยิ่งขึ้น
 
"ว้าววว สายจังเลยย" เด็กชายล้มตัวลงนอนก่อนจะเกลือกกลิ้งไปรอบๆ เขาหยิบดอกไม้เล็กๆขึ้นมาก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าคุณแม่เคยสอนให้ทำมงกุฎดอกไม้
 
"จ๊างงงงง สวยไหมม?" เด็กชายนำมงกุฎดอกไม้หลากสีที่ตัวเองเป็นคนรอยไปสวมไว้ที่หัวของร่างสูง
 
"เอ๋?"
 
"มีอะไรแปลกหรือไง" ร่างสูงถามเมื่อเห็นว่าเด็กชายกำลังทำท่าสงสัยเขา
 
"ทำไมมงกุฎดอกไม้ของผมถึงไม่ทะลุลงมาล่ะ?" เด็กชายถามด้วยความแปลกใจเพราะร่างสูงบอกกับเขาเองว่าไม่สามารถสัมผัสตัวเขาได้
 
"ข้าสัมผัสได้ทุกอย่างยกเว้นสิ่งมีชีวิต” ร่างสูงเอ่ยก่อนจะสังเกตเห็นสีหน้าที่งุนงงของเด็กชายตรงหน้า
 
"สิ่งที่มีหัวใจแบบเจ้าไง" ร่างสูงพูดพลางหยิบมงกุฎดอกไม้บนหัวของตัวเองมาสวมไว้ที่หัวของเด็กชายแทน
 
"คุณไม่มีหัวใจ?"
 
"ถูกต้อง"
 
"คุณรักใครไม่ได้แล้วใช่ไหม?" จู่ๆเด็กชายก็พูดขึ้นทำเอาร่างสูงถึงกับชะงัก

"อ่าา ก็นะ..." ร่างสูงอึกอักไม่รู้ว่าควรจะตอบเด็กตรงหน้าว่าอย่างไร ถึงสรรหาคำตอบใดมาตอบเด็กตรงหน้าก็คงไม่เข้าใจอยู่ดี
 
"เราไปกันได้แล้วนะ" ร่างสูงพูดก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินนำออกไป ร่างบางดูจะเดินตามไม่ทัน ดังนั้นร่างสูงจึงหยิบดอกไม้ขึ้นมาหนึ่งดอกก่อนจะร่ายมนตร์พึมพำ ชั่วพริบตาดอกไม้นั่นก็หลายเป็นเชือกที่ทำขึ้นจากการนำดอกไม้มารอยต่อกันไปซะแล้ว เขายื่นมันให้เด็กชาย เด็กชายมองร่างสูงที่ผูกเชือกดอกไม้นั่นเข้ากับมือซ้ายของเขา เด็กชายจึงทำตามโดยการผูกไว้ที่มือขวา
 
การกระทำของร่างสูงดูเหมือนจะลดระยะห่างของการเดินทั้งคู่ ทั้งสองเดินเคียงข้างกันโดยมีเชือกดอกไม้เป็นเหมือนสิ่งที่เชื่อมความสัมพันธ์ของทั้งสองเข้าด้วยกัน
 
"ถึงแล้วนะ" ร่างสูงพูดขึ้นพลางผายมือออกอย่างมีมารยาท เด็กชายเบิกตากว้างเมื่อพบสิ่งที่เขาคิดว่าคุณยายหลอกเขามาตลอด แต่ไม่เลย สิ่งที่คุณยายเล่าให้ฟังมันเหมือนกับที่ตรงหน้าของเขาแห่งนี้ทุกประการ ศาลเจ้าเก่าแก่แต่ไม่ผุพังข้างๆมีลำธารไหลผ่าน
 
เหมือนกับฝันเลยน้าา
 
"ผมชอบที่นี้มากๆเลยนะ" ร่างบางพูดก่อนจะหันมายิ้มให้ร่างสูง รอยยิ้มของเด็กชายที่ไร้เดียงสา
 
"ไปนั่งที่ริมน้ำกันเถอะ" ร่างสูงพูดพลางกระตุกเชือกที่แขนของเขาเพื่อให้เด็กชายรู้ตัว
 
"น้ำเย็นจังเลยย อ๊ะ! แบบนี้ปลายไม่ตายหมดหรอ?"
 
"ทำไมล่ะ?"
 
"ก็คุณยายบอกว่าน้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย" เด็กชายตอบตาแป๋ว เห้ออออ นั่นมันก็แค่สำนวนไม่ใช่เรอะ? -_-
 
"ข้าว่าเจ้าเข้าใจผิดแล้วนะ มันเป็นเพียงคำเปรียบเปรยต่างหาก"
 
"คำเปรียบเปรย?"
 
"หมายถึงสำนวนหนะ"
 
"สำนวน?" ร่างสูงรู้สึกว่ามันจะเร็วไปที่จะพูดเรื่องนี้กับเด็กอายุ 8 ขวบ แต่ก็นะถึงเขาจะคิดว่า 8 ขวบนี่น่าจะรู้อะไรมากกว่านี้ก็เถอะ -O-
 
"น้องกันมาเล่นที่นี้ทุกวันเลยได้ไหม?" เด็กชายพูดก่อนจะยกเท้าขึ้นจากน้ำ
 
"จะมาทุกวัน? น้องกัน?" ร่างสูงทวนคำถาม หมายความว่าเจ้าจะเอาน้องชายมาเล่นด้วยอย่างงั้นหรอ?
 
"ผมไงชื่อกัน" เด็กชายพูดพลางชี้นิ้วมาที่ตนเอง จริงสิเด็กคนนี้ชื่อกันนี่นา
 
"จริงสินะ ถ้าเจ้าอยากมาก็มาสิ" ร่างสูงพูดพลางลุกขึ้น
 
"จริงนะ? ว่าแต่ทำไมคุณถึงใส่ชุดแบบนั้น เป็นภูติแต่ทำไมใส่ชุดแบบนั้น?" ทำไมข้าใส่ชุดแบบนี้มันแปลกยังไง ชุดกึ่งสูทสีสาวบริสุทธิ์ของข้าออกจะงดงามพวกภูติก็บอกแบบนั้นนะ - -
 
"ที่จริงก่อนข้าจะมาเป็นภูติข้าเคยเป็นมนุษย์นะ แต่ข้าทำไม่ดีไว้กับศาลนี้ข้าเลยถูกลงโทษให้มาดูแลศาลนี้ตลอดจนวาระสุดท้าย" เขาเล่าชีวประวัติของตนเองให้เด็กชายตาแป๋วที่นั่งฟังอย่างสนใจแต่ก็คงไม่รู้เรื่องอยู่ดี
 
"วาระสุดท้าย?"
 
"จุดสิ้นสุดของชีวิตบนโลก" ถึงจะไม่เข้าใจแต่เด็กชายก็ดูจะสนใจกับการเป็นภูติของร่างสูงตรงหน้าราวกับเห็นว่าภูติคืออาชีพอย่างหนึ่ง
 
"กันอยากมาเป็นภูติกับคุณด้วยยย!" เด็กชายพูดก่อนจะลุกขึ้นด้วยสีหน้าและแววตาที่มุ่งมั่น
 
"ฮ่าๆ เด็กอย่างเจ้าช่างไร้เดียงสาจริงๆ" ร่างสูงพูดพลางขำออกมาเล็กน้อยกับความไร้เดียงสาของเด็กชายตรงหน้า
 
"อ๊ะ! จะเย็นแล้วนะ กันต้องกลับบ้านแล้ว" เด็กชายผู้ก่อนจะวิ่งออกไปแต่กลับถูกอะไรบางอย่างรั้งไว้จนต้องเด้งกลับมา เขามองหาสาเหตุก่อนจะเจอเชือกดอกไม้ที่แขนของเขา
 
"ข้าจะไปส่ง ถ้าเจ้าไปคนเดียวไม่รู้จะไปหลงที่ไหนอีก" ร่างสูงพูดก่อนจะเดินนำเด็กชายไป เด็กชายถูกเชือกดอกไม้ที่ข้อมือถึงเขาไปพร้อมกับร่างสูงที่เดินออกไปเขาจึงต้องเดินตามไปอย่างขัดไม่ได้
 



หลังจากนั้นกันก็มาเล่นกับข้าตลอดตั้งแต่เช้าจรดเย็น ที่จริงแล้วในป่านี้มันน่าเบื่อสำหรับข้ามากๆ แต่พอกันเข้ามาชีวิตประจำวันของข้าก็ดูจะสดใสขึ้น การได้เล่น ได้หัวเราะกับเจ้าตัวเล็กมันทำให้วันทั้งวันข้าลืมคำว่าเบื่อไปเลย ข้าอยู่ที่นี้มาเกือบ 20 ปีแล้ว
 
ข้าเฝ้ามองเด็กๆวิ่งเล่นกันในสวนสาธารณะที่สร้างขึ้นจากป่าที่ข้าดูแล จนกระทั่งวันนี้มีเด็กชายคนนึงเข้ามาเล่นที่นี้ เด็กชายหน้าตาน่ารัก ตาโต ปากจมูกและจมูกที่เข้ารูป ข้าเฝ้ามองเด็กคนนั้นมาตลอดเวลา 8 ปีจนเขาเข้ามาหลงใกล้ๆศาลของข้านั่นแหละ ข้ารู้สึกประหม่าอย่างไรก็ไม่รู้ กว่าจะทำใจเข้าไปคุยได้ก็ปาไปครึ่งชั่วโมง ข้ากลัวว่าเด็กชายคนนั้นจะกลัวข้า แต่มันกลับตรงกันข้าม ...
 
"คุณภาคินนนน~" เสียงของกันดังขึ้นข้างหลังข้า ข้าหันไปมองเด็กชายที่กำลังวิ่งเข้ามาหาข้า

"อย่าวิ่งสิ ถ้าเจ้าล้มไปข้าจะไม่รักษาให้แล้วนะ" ข้าพูดปรามเด็กซนคนนี้ ชอบเล่นอะไรพิเรนๆจนต้องได้แผลมาทุกที
 
"แถ่แดมมมมมม~" กันเอามงกุฎดอกไม้ที่เขาเป็นคนรอยมาวางบนหัวข้า
 
"เจ้าทำเป็นอย่างเดียวหรือไง" ข้าถามพลางหยิบมงกุฎดอกไม้บนหัวมาดู ฝีมือไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ
 
"แล้วคุณทำได้ไหม ห้ามร่ายมนต์นะ" กันพูดก่อนจะนั่งลงข้างๆข้า
 
"นี่เจ้าคิดจะมาท้าข้าหรอ?"
 
"ใช่ กันท้า ถ้าคุณทำได้..." กันเว้นระยะไว้อย่างไม่รู้จะเติมอะไรลงบนช่องว่างดี(?)
 
"ถ้าทำได้ก็สอนกันบ้างงง" กันพูดพลางทำหน้าแมวน้อยขี้อ้อมตามแบบของเขา
 
"ได้งั้นข้าจะทำให้" ข้าเด็ดดอกไม้มาหนึ่งดอกก่อนจะพันๆม้วนๆมันให้เป็นไปตามสิ่งที่ข้าต้องการ
 
"ยื่นมือมาสิ" กันทำหน้างงๆแต่ก็ยื่นมือซ้ายออกมาอย่างว่าง่าย รู้ดีจริงๆนะ ข้าสวมแหวนดอกไม้ที่ทำขึ้นเมื่อกี้ไว้ที่นิ้วนางข้างซ้ายของกัน
 
"เจ้าบอกว่าอยากอยู่กับข้าตลอดไปใช่ไหม" ข้าถามกันก่อนคนตรงหน้าจะพยักหน้าขึ้นลง
 
"งั้นก็เป็นเจ้าสาวของข้านะ" กันมองหน้าข้าอย่างครุ่นคิดแต่ก็หยักหน้างึกๆให้ข้า
 
"กันเป็นเจ้าสาวให้ภาคินงั้นก็แสดงว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปใช่ไหม"เด็กน้อยตรงหน้าข้าถามด้วยความไร้เดียงสา น่ารักจริงๆ
 
"ถูกต้องแล้วเจ้าสาวของข้า" ข้าพูดก่อนจะก้มลงไปบรรจงจูบที่แหวนดอกไม้บนนิ้วนางข้างซ้ายของกัน กันดูจะไม่เข้าใจอะไรมากนักแต่ก็ฉีกยิ้มให้อย่างสดใส อ่าา รอยยิ้มของเจ้ามันช่างงดงามเสียจริง
 
เพราะแบบนี้ไงข้าถึงหลงใหลในตัวของเจ้า ... กัน




"เจ้าสาว เจ้าสาว เจ้าสาว" เด็กชายเดินกลับบ้านมาพร้อมกับฮัมเพลงที่แต่งขึ้นเองโดยเนื้อมีแต่คำว่า 'เจ้าสาว' ตลอดทาง
 
"น้องกันจะมีเจ้าสาวแล้วหรอลูก" เมื่อคุณยายกับคุณแม่เห็นน้องกันร้องเพลงแบบนั้นจึงถามขึ้นพร้อมกันอย่างมิได้นัดหมาย (ที่ผมสายเพราะคุณไม่นัดผม(?):หมาย#ข้ามไป)
 
"น้องกันจะเป็นเจ้าสาวต่างหากกก"
 
"ห้ะะะะะะะ?!!!!!" คุณยายและคุณแม่ต่างตกใจกับคำพูดของลูกและหลานชายของตัวเอง
 
"กันเป็นเจ้าสาวของคุณภาคินน้าาา" ทั้งคุณแม่และคุณยายหันมามองหน้ากันตาปริบๆ ใครคือคุณภาคิณ? แต่ท่านทั้งสองก็ไม่คิดจะห้ามปรามอะไรกับเจ้าสาวคุณภาคินคนนี้เพราะคิดเพียงว่ามันคือจินตนาการของเด็กๆ
 
"กันอยากให้ถึงพรุ่งนี้เช้าไวๆจางงงงงง"(^O^) <--- เป็นเอามากจ้าา
 



เวลาผ่านไปหลายปีเด็กชายก็เริ่มโตขึ้นทุกๆวันตามกาลเวลา ทุกๆอย่างรอบตัวของเด็กชายเปลี่ยนไปหมด ทั้งเพื่อน โรงเรียน คนรู้จัก และสภาพแวดล้อมต่างๆก็พลอยเปลี่ยนไปตามเวลาเช่นกัน บางอย่างอาจจะเปลี่ยนไปแต่ว่าอาจจะไม่ใช่ทุกอย่าง ...
 
“เบื่อมากเลย คนที่มหาลัยไม่เคยมีใครคิดจะช่วยกันทำรายงานเลย บลาๆๆ” กันนั่งบ่นถึงเรื่องที่มหาลัยของเขาให้ข้าฟัง คนตัวเล็กนั่งบ่นมาตั้งแต่เช้าจนตอนนี้ก็ปาไปครึ่งวันแล้ว - -
 
“อ่าๆ ข้ารู้แล้วว่าเจ้าเบื่อ ข้าก็เบื่อเหมือนกัน” ข้าพูดก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปนั่งริมลำธารพลางเอาเท้าลงไปสัมผัสกับน้ำเย็น ข้าหยิบรูปภาพของกันที่เขาเป็นคนเอามาให้บอกว่าเอาไว้ดูเวลาคิดถึง
 
“ภาคินเบื่อกันหรออ” ไอ้ตัวเล็กเดินเข้ามานั่งข้างๆข้าก่อนจะมองหน้าข้าด้วยแววตาที่ออดอ้อนของแมวน้อย
 
“เปล่า ข้าเบื่อที่ไม่ค่อยได้เจอเจ้าเลย” ตั้งแต่ไอ้ตัวเล็กไปเรียนมหาลัยก็กลับมามาแค่เสาร์-อาทิตย์ ตอนแรกเขาบอกว่าจะกลับมาทุกเดือน ทุกเดือนเรอะ!! ใครจะไปทนไหววว - -
 
“น่าๆ อีกไม่กี่ปีกันก็จบแล้วน้า” ได้ยินแบบนั้นจากปากของเขาก็รู้สึกดี อยากกอดคนตรงหน้าจัง อยากสัมผัสทุกอย่างในร่างกายของเขา แต่ก็คงได้แค่คิดสินะ
 
“ขอมือหน่อยสิ”
 
“กันไม่ใช่หมานะ!!!” กันพูดก่อนจะสะบัดหน้าไปทางอื่น
 
“ข้าไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ขอมือหน่อย” กันทำหน้างอนๆแต่ก็ยอมยื่นมือมาให้ข้า ข้าเอาแหวนดอกไม้ที่ทำตอนนั่งฟังคนตัวเล็กบ่นอยู่ ข้าบรรจงสวมมันกับนิ้วนางข้างซ้ายของกันอย่างระมัดระวัง ข้าก้มลงไปจูบเบาๆบนแหวนดอกไม้นั้น
 
“ข้าจะรอเข้ากลับมาเป็นเจ้าสาวของข้านะ” ข้าหยิบรูปภาพที่กันให้ไว้ก่อนจะยกมันปิดที่ปากของเขาแล้วค่อยๆก้มลงไปทาบริมฝีปากกับรูปนั้น รูปภาพที่บางทำให้ข้ารับรู้ถึงริมฝีปากของคนตรงหน้า รู้สึกดีจัง …
 
“พอได้แล้ว กันกลับแล้วนะ” กันลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไป
 
“ให้ข้าไปส่งนะ” ข้าเดินไปเคียงข้างคนตัวเล็ก ถึงเวลาจะผ่านไปนานขนาดไหนข้ากับเขาก็ยังอยู่กับด้วยเสมอ ร่างกายของเราเหมือนผู้ติดไว้ด้วยเชือกดอกไม้ที่ข้าเป็นคนทำขึ้นเมื่อวันวาน ข้ารอจนถึงวาระสุดท้ายของเจ้าไม่ไหวแล้วนะกัน ...
.
.
.
.
.
 
“เจ้าทำผิดฐานลักลอบทำมิดีมิร้ายกับหญิงสาวในป่าของข้า เจ้าจะต้องรับโทษโดยกานดูแลศาลนี้ต่อจากข้า” เสียงของภูติตนหนึ่งพูดกับผม ผมไม่เข้าใจ มันเกิดอะไรขึ้น การที่ผมพาสาวไป...ที่ศาลนั้นมันผิดด้วยหรออ?
 
“เจ้าต้องอยู่ที่นี้จนกว่าจะมีใครสักคนมาตกหลุมรักเจ้า”
 
“ตกหลุมรักผม?” ง่ายๆแหละสินะ แค่ใช้หน้าตาอันหล่อเหลากับคารมและมือปลาหมึก(?)ของเราก็เพียงพอแล้ว หึหึ
 
“มีข้อแม้คือ เจ้าจะไม่สามารถจับต้องสิ่งมีชีวิตได้” อืมจับไม่ได้เลยก็ดี ห๊ะ!!!!!!!! จับไม่ได้ แสดงว่าทำ..อย่างนั้นไม่ได้เลยยย?!!!
 
“ขี้โกง ทีท่านยังจับได้เลยนะ!!!!”
 
“เจ้ากับข้ามันต่างกันเจ้าคนหื่นกาม” ใครหื่มกาม? ผมน่ะหรอ? เขาเรียกแตกตื่นทางเพศเท่านั้นเองครับท่านภูติ -.,-
 
“แล้วใครจะมาตกหลุมรักผมล่ะ?” ผมตอบอย่างอ่อนใจ ใครเล่าจะยอมหลงรักภูติที่ทำไม่ได้แม้แต่แตะต้องตัวของเขา แค่รู้ว่าเป็นภูติก็หนีหางจุกตูดกันหมดแล้วมั้ง
 
“หากไม่มีเจ้าก็ต้องอยู่ที่นี้ตลอดไป”
 
“เฮ้อออออออออออออออ”
 
“แต่หากมี เมื่อมีคนตกหลุมรักเจ้าแล้วเขายังรักเจ้าเสมอจนวาระสุดท้าย เจ้าจะได้กลับมาเกิดใหม่เคียงคู่กับมนุษย์ผู้นั้นไม่เกี่ยวกับหญิงหรือชาย” ห๊ะ? นอกจากจะต้องให้ตกหลุมรักแล้วยังจะต้องให้รักเราคนเดียวอีกหรอเนี่ยย?!! ใครมันจะไปรอฟ่ะ!!!! - -


.
.
.
.
.

ข้าเคยคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่มีวันเกิดขึ้นจริง เป็นฝันที่ลมๆแล้งๆ แต่หากมาวันนี้มันไม่ใช่อีกแล้ว ข้าได้รู้สึกถึงความรักจากเด็กชายคนนี้มาตลอด 11 ปีช่างสั้นนักในความคิดของข้า ข้ายังจำครั้งแรกที่ได้สบตา พูดคุย กับเด็กคนนี้ได้ไม่มีวันลืมราวกับพึ่งพบเจอมันเมื่อวานนี้เอง เสียงหวานๆ รอยยิ้มสวยๆของเขาทำให้ข้าหลงใหล ไม่รู้ทำไมแต่ข้ารู้สึกได้ว่าเราทั้งสองคนเป็นคู่กันอย่างพรากไม่ได้แน่นอน
 
ข้ารอวันที่จะเคียงคู่กับเจ้าแทบไม่ไหวแล้ว .... นภัทร

____________________________________________________________________________________________

ยังไม่จบนะ เรื่องนี้มีสองตอนจ้าาา อันนี้เป็น OP (OPEN) ตอนสองจะเป็น ED (END) ดีไม่ดียังไงอยากให้ช่วยคอมเม้นติชมกันหน่อยนะคะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ :-[


ปล.เราแต่งเรื่องสั้นของ โน่กัน ไว้เยอะอยู่แต่ลงในเว็บเด็กดีนะคะ นิยายเราไม่ค่อยมีคนสนใจ TT เลยอยากลองเอามาลงที่อื่นบ้างค่ะ


Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: [SF โน่กัน's] กาลครั้งหนึ่ง OP
«ตอบ #1 เมื่อ02-07-2016 12:45:11 »

รอต่อจ้าาาาาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด