เพื่อนสนิท…คิดซื่อ(บื้อ)
ตอน 1
“เห้ย เชี่ยนิว เห็นไอ้ไม้ป่ะวะ” ผมหันไปถามผู้ชายผิวคล้ำๆข้างๆ มันชื่อนิวครับ หล่อคมคายคล้ายพี่เคน อย่างไงอย่างงั้น
“อ๋อ ไอ้ไม้ กูเห็นน้องน้ำหวาน ม.5 เรียกมันไปคุย สองต่อสองเลยนะเว้ยย ฮอตจริงๆ”
อีกแล้วสินะ…
“อะไรวะ แม่งคาบไปแดกอีกแล้วหรอ!” ไอ้ต่อ..เพื่อนอีกคนพูดแทรกขึ้นมา
“เดือนนี้กี่คนแล้วนะ” ไอ้หมูที่กำลังเคี้ยวข้าวตุ้ยๆถามอย่างสงสัย
“3คนครับผมมมมมม” ทุกคนพยักหน้าอย่างไม่แปลกใจ และคุยเรื่องสัพเพเรหะอื่นๆ
ผมชะเง้อมองหาบุคคลที่พวกผมเพิ่งพูดถึงกันไปหยกๆ …ทำไมคราวนี้คุยนานจัง
“กล้า”
หรือมันจะปฏิเสธไม่ออก
“ไอ้กล้า”
หรือว่าจะตอบตกลง..
“ไอ้เหี้ยกล้า!”
ผมตกใจตัวสะดุ้งโหยง “ไอ้เหี้ยนิว เรียกเบาๆก็ได้ป่ะ กูตกใจหมด” ผมตีไอ้นิวไปป๊าบนึง
“อ้าวสัสส กูเรียกตั้งนานมึงไม่ได้ยินเอง…เห้ยๆ เพื่อนรักมึงเดินมานู่นแล้ว”
ผมรีบหันขวับไปทางที่ไอ้นิวบุ้ยปาก…ไอ้ไม้ครับ มันเดินมาพร้อมทำหน้านิ่งๆเหมือนชีวิตไม่มีความสุข มันมักจะเป็นแบบนี้เสมอๆ ไม่ค่อยแสดงออกมาก ขนาดเพื่อนสนิทที่สุดของมัน อย่างผมคนนี้ยังเดามันไม่ค่อยออกเลย แต่หน้าตาบอกบุญไม่รับแบบนั้น กลับบดบังรัศมีความหล่อของมันไม่ได้เลย แถมมันยังเป็นที่นิยมของสาวๆอีกด้วย (สาวๆบอกว่าลึกลับน่าค้นหา เหอะๆ =_=)
“ว่าไงครับ..คุณไม้สุดหล่อ น้องน้ำหวานเรียกไปคุยเรื่องอะไรเอ่ยยย”
“ฮิ้วววววว”
ไอ้นิวเปิดประเด็นแซวพ่อคนสุดฮอต ตามมาด้วยไอ้ต่อกับไอ้หมูพร้อมใจกันฮิ้วฮ้าว น่าหมั่นไส้จังโว๊ะ
“ก็..เหมือนๆเดิม” ไอ้ไม้พูดตอบหน้านิ่งๆ
“นี่พวกกูกะแล้ว สารภาพรักอีกแล้วสินะ! แบ่งสาวๆให้พวกกูบ้างดิ” ไอ้ต่อพูดไปยิ้มไปราวกับภูมิใจในตัวเพื่อนคนนี้มาก
“แล้วมึงตอบเค้าไปว่าไงหรอไม้”คราวนี้คนถามเป็นไอ้หมูที่ยังเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ
ผมหันไปมองหน้าไม้ที่ยังคงนิ่งเหมือนเดิม ไอ้ไม้เหล่ตามามองทางผม ทำให้ผมต้องแกล้งเสมองไปทางอื่น
เชี่ยไรเนี่ยยย ทำไมหัวใจมันเต้นตุ้มๆต่อมๆวะ
“หึ..ความลับ” ไอ้ไม้ตอบพร้อมยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ
“โห่ววววว ไอ้เชี่ยไม้ กั๊กทำไมวะ”
“คราวนี้มึงตอบตกลงใช่ไหม!!!”
“ไอ้ม้ายยยยยยยย บอกมา เล่ามา”
เพื่อนๆต่างพากันเซ้าซี้ไอ้หน้าหล่อที่ทำตัวหล่อ(และเสือกหล่อจริงๆ)
ปึง!
ผมตบโต๊ะลุกยืนขึ้น นั่นทำให้ทั้งโต๊ะหันมามอง
“กู…กูไปห้องสมุดหน่อยนะ” ว่าแล้วผมก็รีบเดินดุ่มๆออกมาจากโต๊ะ โดยไม่สนใจว่ามีสายตาคู่นึงที่มองผมจนลับสายตา……
คาบบ่ายจบไปแบบที่ผมแทบไม่ได้ฟังอะไรที่อาจารย์พูดทั้งนั้น เหมือนในหัวมีเรื่องในคิดตลอดเวลา ไอ้นิวที่นั่งข้างๆก็ไม่ชวนผมคุยเลย มันคงรู้ว่าผมหงุดหงิดอะไรสักอย่าง
นั่นสิ…แล้วผมหงุดหงิดอะไรวะ
“มึง..” ไอ้นิวส่งเสียงขณะที่ทุกคนกำลังเก็บกระเป๋ากลับบ้าน
“ว่า?”
“มึงเป็นไรป่าววะ ทะเลาะกับไอ้ไม้?”
“ทำไมกูต้องทะเลาะกับมันด้วยล่ะวะ” ยิ่งได้ยินชื่อมัน ผมยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่
“ก็มึงหงุดหงิดทีไร เกี่ยวกับไอ้ไม้ทุกที กูเข้าใจนะเว้ย พวกมึงสนิทกันมาก มีไรก็รีบเคลียร์กัน”
“เดี๋ยวๆๆๆ กูไม่ได้ทะเลาะกับมัน สาดดด ไม่ฟังกูเลย” จริงอย่างที่มันว่า ผมสนิทกับไม้ที่สุดในกลุ่ม เพราะบ้านใกล้กับมัน เลยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่อนุบาลแล้ว
“เอ้าหรอ ถ้าไม่ได้ทะเลาะกับมันแล้วมึงเป็นอะไรวะ”
คือ..กูก็ไม่รู้เหมือนกันไงว่าเป็นอะไร
“กูแค่..ปวดหัวนิดหน่อยว่ะ”
“อ่อออ เออ กูว่าจะไปกินน้ำปั่นกัน กูชวนไม้และ แต่ไม้บอกว่าดูมึงก่อนว่ามึงไปไหม”
“อืม…กูคงไม่ไป อยากกลับไปนอน” ทำไม ทำไมมันต้องดูผมก่อนวะ..
“เออๆ งั้นกูไปก่อน คราวหน้าไปด้วยนะสัส” ไอ้นิวว่าจบก็หิ้วกระเป๋าวิ่งออกไป
แก็งค์ผมมีทั้งหมด 5 คนครับ ไอ้นิว ไอ้ต่อ ไอ้หมู ผม แล้วก็ไอ้ไม้ คนทั้งโรงเรียนรู้จักกันในนาม 5มหาปลัย ฮ่าๆๆ ก็นะ ชอบก่อเรื่องวุ่นๆกันประจำ แถมมีหนุ่มหล่อของโรงเรียนอยู่ตั้ง 3 คน ก็ไอ้ไม้ตัวดี ไอ้นิว แล้วก็ผม ถึงคนอื่นจะบอกันว่ามี 2 หนุ่มหล่อ แต่ผมขอนับผมเป็น 3 แล้วกันนะ ฮ่าๆ
แต่ถึงเป็นแก็งค์เดียวกันแต่ก็เรียนคนละห้องครับ ผมกับนิว อยู่ห้องควีน ไอ้หมูไอ้ต่อห้องบ๊วย กร๊ากกกกก ส่วนไอ้ไม้….เดาไม่ยาก ห้องคิงเลยครับ หล่อ รวย เก่ง นี่สินะนิยามของคำว่าสมบูรณ์แบบ
ระหว่างที่ผมกำลังนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย
“ยังเก็บกระเป๋าไม่เสร็จหรอ”
ไอ้ไม้นั่งลงเก้าอี้ข้างๆผมที่ว่างอยู่ ผมตกใจนิดหน่อยแต่ก็ชินกับการที่มันมานั่งแบบนี้
“อืม เก็บอยู่” ผมรีบยัดๆสมุดหนังสือ และปากกาต่างๆนานาใส่กระเป๋า
“เมื่อกลางวันเป็นไร”
“เปล่านี่..ก็แค่..”
“โกหก” มันจับข้อมือผมที่กำลังเก็บข้าวของอยู่ ผมหยุดชะงักทันที และมองหน้ามอง ตาสีน้ำตาลเข้มของมันจ้องเหมือนต้องการเค้นความจริงทั้งหมด “เป็นอะไร..ก็พูดดิ”
ผมรู้สึกร้อนวูบไปหมด หลุบตาไม่อยากมองหน้ามันตรงๆ
“เปล่าๆ แค่ปวดหัวนิดหน่อย” โกหกไปแบบนี้แหละดี เพราะผมก็ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆว่าหงุดหงิดอะไรกันแน่
“หรอ..” ไม้หรี่ตามองอย่างสงสัย และพึมพำอะไรสักอย่าง
“ว่าไงนะ”
“เปล่านี่ ปะ กลับบ้านกัน” มันลุกขึ้นและเดินนำไป
“มึง มึงไม่ไปกับพวกนิว?” ผมถามอย่างสงสัย
“ก็มึงไม่ไป”
“ทำเป็นหมาติดเจ้านายไปได้ ฮ่าๆ” ผมทำเป็นขำกลบเกลื่อน
“…”
“มึงจะไปก็ได้นะ กูกลับได้ ไม่มีใครฉุด ฮ่าๆ”
“….” หน้าหล่อๆก็ยังคงนิ่ง
“หรือว่ามึงจะกลับบ้านกับน้องน้ำหวานก็ได้นะ กิ๊วๆ” โอ๊ยยยย ผมพูดอะไรวะ
“หึ..” มันยิ้มมุมปากกระชากใจอย่างที่มันชอบทำ “ปกติกลับด้วยกันนี่ ก็ทำแบบปกติ..ไม่ได้แล้วหรือไง”
“อะ อืมม ก็แค่ถามให้แน่ใจ ว่าไม่มีธุระที่อื่น”
มันพยักหน้า และเดินนำไป ผมก็ทำได้แค่เดินตามอย่างเงียบๆ ทำไมพูดถึงน้องน้ำหวานแล้วมันไม่ปฏิเสธวะ… หรือว่าจะคบกันแล้วจริงๆ
ผมสลัดความคิดแปลกๆของผมทิ้งไป มันจะคบกับใครทำอะไรก็เรื่องของมันดิ ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันอยู่ดี!! ผมวิ่งตามคนตัวสูงกว่าและกระโดดกอดคอทันที
มันหันมามองหน้าผมอย่างงงๆ แต่ก็ปรับสีหน้าเป็นปกติ
ตลอดทางผมพยายามชวนมันคุยไปเรื่อยเปื่อย ผมพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุดทั้งๆที่ในใจมีเรื่องที่ผมค้างคาใจอยู่ น่าหงุดหงิดจังเลยนะ
ผมอยู่บ้านใกล้กับมัน ไม่สิๆบ้านตรงข้ามกับมันเลยต่างหาก เราเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ด้วยความที่มันพูดน้อยและหน้านิ่งเลยไม่ค่อยมีเพื่อนสักเท่าไหร่ ผิดกับผมที่มักมีคนเข้าหาอยู่เสมอ(ผมเฟรนลี่นินา) เพราะงั้นพอมันสนิทกับผม มันก็ติดผมแจเลย มีช่วงม.ปลายนี่แหละที่มันเริ่มมีเพื่อนคนอื่นบ้างแล้ว(เพราะต้องแยกห้องกัน) แต่ยังไงมันก็ยังติดผมอยู่ดี ฮ่าๆๆ เห็นงี้มันเด็กจะตายไป
เราเดินกันมาจนใกล้ถึงบ้าน หมู่บ้านเราใกล้กับโรงเรียนครับ ปกติตอนเช้านั่งรถเมล์แต่ตอนเย็นชอบเดินกลับ เหตุผลก็เพราะไอ้ไม้ครับ มันบอกว่า ถ้าไม่รีบก็เดินเอา จะได้ออกกำลังกายด้วย เหอๆ เลยเดินจนชินแล้วครับ
“แวะเซเว่นป่ะ” ไม้หันมาถามผม
“ไม่อ่ะ”
“ปกติจะซื้อไมโล”
“ก็วันนี้ไม่ปกติ” ผมยักคิ้วยียวน ก็วันนี้มันไม่ค่อยอยากกินนิหว่า
“กวนตีน” ขนาดด่าผมมันยังหน้านิ่งเลยครับ “คืนนี้มาเล่นเกมส์ไหม ซื้อเกมส์มาใหม่ มึงน่าจะชอบ”
“ไม่อ่ะ ไม่อยากเล่นว่ะ” ผมไม่ค่อยอยากอยู่กับมันสองคนต่างหาก มันยังหงุดหงิดอยู่นิดหน่อย
“เสียดายจัง” มันทำหน้าเสียดายไม่ถึงครึ่งวิแล้วก็กลับไปนิ่งต่อ
ตอนนี้เราหยุดอยู่หน้าบ้าน มันมักจะรอให้ผมเข้าบ้านก่อนเสมอ ตั้งแต่เด็กๆแล้วล่ะ โดยให้เหตุผลว่า กลัวผมหนีไปเล่นกับคนอื่นต่อจากมัน แต่ตอนนี้แม้ว่าจะโตแล้วมันก็ยังคงทำแบบนี้ตลอด
“เข้าบ้าน” มันสั่งด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ผมยังไม่อยากเข้าไป มัน..มันยังค้างคา
“เออมึง..สรุปมึงกับน้องน้ำหวาน” ปากผมมักไวกว่าความคิดเสมอ ถามจนได้
“ไม่ได้คบ”
“จริงอ่ะ!”
“โกหกทำไม”
“ก็น้องเค้า..น่ารักดี” แว๊บนึงที่เห็นเหมือนมันยิ้มออกมา แต่แล้วหน้าก็กลับมานิ่งแบบเดิม
“ไม่ใช่แบบที่ชอบ”“แล้วชอบแบบไหน” อีกครั้งที่ปากไวกว่าความคิด “ก็สนิทกับมึงจะตาย แต่ไม่เคยรู้เลย” รนทำไมวะผม ทำไมต้องรีบแก้ตัว
“สนใจ?” เอาอีกแล้ว มันกระตุกยิ้มอีกแล้ว
“ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร” ผมโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกยังไงไม่รู้แฮะ “เออไม้ คืนนี้กูไปเล่นเกมส์นะ”
“เป็นปกติสักที”
มันพึมพำอะไรสักอย่างและยิ้มให้ผม
ความรู้สึกชนะอย่างแปลกๆผุดขึ้นมา รอยยิ้มแบบนี้น้องน้ำหวานก็ไม่มีทางได้เห็นหรอก
กว่าจะกินข้าวอาบน้ำเสร็จก็ปาเข้าไปทุ่มกว่า ปกติผมหมกอยู่บ้านไอ้ไม้มากกว่าบ้านตัวเองอีกครับ แต่วันนี้ต้องมารอไอ้น้องชายตัวดีทำการบ้านเสร็จ จะได้ไปเล่นเกมส์กี่โมงวะเนี่ยย
“ไอ้เชี่ยกลาย มึงนั่งแชทแบบนี้จะเสร็จไหมวะ รีบทำเลย”
“ถ้าพี่กล้ารีบงั้นทำให้กลายหน่อยดิ ต้องตอบไลน์สาวๆอ่ะดิ” เลือกได้ผมก็ไม่อยากมานั่งสั่งมันทำการบ้านหรอกครับ แต่แม่ผมนี่สิ สั่งมาให้ดูมันทำให้เสร็จ อีกอย่างเห็นงี้ผมก็แอบหัวดีนะเออ เลยพอจะสอนกับเค้าได้บ้าง
“ไม่ต้องเลย รีบๆทำ สงสัยอะไรก็ถาม” ผมว่าเสร็จ ก็อ่านการ์ตูนวันพีชในมือต่อ
ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงไอ้กลายก็ทำเสร็จ ผมเด้งตัวลุกขึ้นจากที่นอนทันที
“พี่กล้าจะไปหาพี่ไม้หรอ” กลายถาม
“เออ เล่นเกมส์”
“กลายไปด้วยดิ!”
“ไม่เอา เดี๋ยวไปทำห้องไอ้ไม้รกอีก”
“โห่วววว จะสวีทกันก็บอกกลายดีๆก็ได้”
“ทะลึ่งหน้าแล้วมึงอ่ะ” ผมปาหมอนใส่ไอ้เด็กตัวดี
กลายขำนิดหน่อย แล้วก็เล่นโทรศัพท์ในมือต่อ มันอยู่คนละโรงเรียนกับผมครับ แต่ดูเหมือนว่ามันจะฮอตน่าดู มีสาวคุยตลอด เปลี่ยนคู่ควงไปเรื่อย แม่งนำหน้าพี่มันอีก ดูท่าคงเชี่ยวชาญน่าดูแฮะ
“ไอ้กลาย” มันเงยหน้าจากโทรศัพท์มองผม “คือเพื่อนกูคนนึงอ่ะ..เค้ามีเพื่อนสนิทมากใช่ป่ะ”
มันพยักหน้าตอบรับทำหน้าตั้งตาตั้งใจฟัง
“เออ คือเป็นเพื่อนสนิทกันมากๆเลยนะ แต่พอวันนึงเพื่ออีกคนแม่งจะมีแฟน ไอ้คนนั้นก็ดันหงุดหงิดซะได้”
“เห้ยพี่กล้า ผู้ชายด้วยกันป่ะเนี่ย กลายขนลุกเลยอ่ะ” มันทำหน้าหยีๆและลูบแขนตัวเอง
“เออๆ ผู้ชายด้วยกันนี่แหละ แล้วมันทำไมวะ”
“พี่กล้าซื่อไปป่ะเนี่ย เพื่อนพี่กล้าชอบเพื่อนอีกคนอ่ะดิ ก็เลยหึงอ่ะแหละ บรึ๊ยยยยย”
ชอบ? ผมชอบไอ้ไม้? หึง? ผมหึงมันด้วย?
“เออ แต่ก็ไม่แน่นะพี่กล้า อาจจะเป็นอาการหึงเพื่อนก็ได้ กลายก็เคยเป็นกับเพื่อนผู้ชาย เวลามันไปสนิทกับคนอื่นนอกจากตัวเองอ่ะ”
“อ๋อหรอ” เออ ใช่เลยยยยย ผมก็แค่หึงเพื่อน ก็สนิทกับไอ้ไม้จะตาย ถ้ามันมีแฟนก็ลืมผมอ่ะดิ โด่ววววว ก็นึกว่าอะไร ถึงว่าตอนรู้ว่ามันไม่ได้เป็นแฟนกับน้องน้ำหวานถึงโล่งใจ ฮี่ๆ โถ่เอ้ยยยย หึงเพื่อนนี่เอง
“เออ ขอบคุณมากไอ้น้องรัก กูไปบ้านไอ้ไม้นะ”
กลายพยักหน้าอย่างเป็นเรื่องปกติที่ผมจะไปขลุกตัวอยู่ที่บ้านไอ้ไม้
โถ่เอ้ย ก็แค่หึงเพื่อนผมใช้เวลาไม่ถึงสามนาทีก็เดินเข้ามาในบ้านไอ้ไม้ เจอป้าแหววแม่บ้านของบ้านไอ้ไม้ทันทีที่เปิดประตูเข้ามา
“อ้าว น้องกล้า ป้ากำลังจะกลับเลย วันนี้มาซะดึกเลยนะ” ตอนนี้ก็เกือบๆสองทุ่มอ่ะครับ ปกติผมมาขลุกตั้งแต่ทุ่มครึ่งได้
“พอดีสอนการบ้านไอ้กลายน่ะครับ” เอาจริงๆก็ไม่ได้สอนหรอก นอนอ่านการ์ตูนรอมันทำการบ้านเท่านั้นแหละ
“แหม เป็นพี่ชายที่ดีจังนะ” ผมยิ้มรับคำชมจากป้าแหวว
“ป้าแหวว แล้ววันนี้ป๊าไม่อยู่หรอครับ”
“คุณผู้ชายไปดูงานที่ภูเก็ตจ้ะ กลับอาทิตย์หน้าเลย ดีนะที่มีน้องกล้า ไม่งั้นน้องไม้เหงาแย่ ฮุฮุ”
ผมยิ้มแหะๆให้ป้าแหวว ป้าแกก็ชวนคุยตามประสานิดหน่อยและแกก็ขอตัวกลับไป ผมล็อกประตูบ้านก่อนที่จะขึ้นไปที่ห้องคุณชายของบ้านนี้ ป๊าของไม้เป็นเจ้าของโรงแรมที่มีสาขาย่อยไปทั่วประเทศ งานยุ่งบ่อยๆ แม่ของไม้ก็เสียตั้งแต่มันยังเด็ก ก็คงมีแต่ผมที่อยู่เป็นเพื่อนมันมากกว่าใคร
“เฮนโหลววววววววว” ผมเปิดตัวอย่างสง่างาม ไอ้ไม้ที่นอนอ่านการ์ตูนอยู่บนเตียงหันมามองอย่างไม่ค่อยใส่ใจ
“ไหน เกมส์ไรๆๆ ที่ว่าซื้อมาใหม่น่ะ” ผมรีบดี๊ด๊าไปนั่งทับหลังมันที่นอนคว่ำอยู่
“อยู่หน้าทีวีอ่ะ” ผมลุกกระโดดโหยงๆไปที่ทีวี
“เหี้ยยยยยยยยย!! นี่มันเกมส์วันพีชตัวใหม่!!! เชี่ยไม้ มึงซื้อมาเร็วจัง เพิ่งวางขายที่ญี่ปุ่นเมื่อวานเอง”
ผมดีใจจนกระโดดกอดมัน
“ชอบป่ะ” มันถาม
“ชอบดิ”
“เกมส์หรือกู”
“เกมส์ดิสาดดดดด” มันหัวเราะยิ้มๆ
“ทำไมอารมณ์ดีแล้วล่ะ เมื่อเย็นยังแปลกๆอยู่เลย”
ผมหยุดสนใจแผ่นเกมส์ในมือ และไปสนใจหน้าคนตรงหน้าแทน
“แปลกยังไง” เห็นมันนิ่งๆเงียบๆไม่ยักรู้ว่ารู้สึกแปลก เพราะผมอุตส่าห์ทำตัวให้เป็นปกติ
“ไม่รู้ดิ”มันเกาหัว “ก็มึงดูพยายามทำตัวให้เป็นปกติ แต่มันไม่ใช่” มันรู้ด้วย
“เออ ก็บอกอยู่ไงว่าปวดหัว แต่มันดีขึ้นแล้ว” ผมรู้สึกผิดจังที่ทำให้มันอึดอัด ถ้าผมเป็นมันคงเลิกคบผมไปแล้ว ตอนเย็นนอยด์มัน สักพักทำตัวปกติ แล้วก็ถามอะไรไม่เข้าเรื่อง(เรื่องน้องน้ำหวาน) แล้วตอนนี้ก็มาดี๊ด๊าอีก ทำไมถึงหลายอารมณ์ขนาดนี้นะ
“อืม ช่างเถอะ”
“เออ เล่นเกมส์กัน”
บรรยากาศของผมกับไม้กับมาเป็นปกติ ผมก็ยังคงพูดมากเหมือนเดิม กวนตีนเหมือนเดิม ส่วนไอ้ไม้ก็เป็นไอ้ไม้เหมือนเดิมล่ะนะ
“กร๊ากกกกกกกกกกกกกก มึงกากสาดดดดดดดดด” ผมหัวเราะเยาะเย้ยมัน หลังจากมันแพ้ผมไปสิบเกมส์รวด
“กูอ่อนให้” ดูมัน ดูมันน แพ้แล้วยังเก๊ก
“หรา มึงก็แพ้กูตลอดนี่ ไอ้ไม้คนกากก” จริงครับ มันแพ้ผมทุกเกมส์นั่นแหละ
“กูเอาจริงแล้วมึงจะหนาว”
“ก็เอาจริงๆสักทีสิคะพี่ไม้ขา”
“จะให้กู’เอา’จริงๆหรอวะ” มันหันหน้ามายิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ แต่เดี๋ยวๆทำไมต้องเน้นคำว่า ‘เอา’
“ทะลึ่งแล้วนะมึงอ่ะ”
“ทีเรื่องแบบนี้ทำเป็นอาย”
“กูไม่ได้อาย สัส!” ผมปิดบทสนทนาโดยการเดินไปที่ตู้เย็น คอแห้งครับ หาน้ำกิน
ปรากฏว่าเจอกล่องนมสีเขียวเต็มตู้ไปหมด ผมเลยหยิบมาเจาะดูด อาห์ อร่อยจุมม
“ไมโลเต็มตู้เลยนะ มึงไม่ชอบนี่นา”
“แต่มึงชอบ”
ผมรู้สึกดีทุกครั้งที่มีเพื่อนแบบมัน แม้มันจะพูดน้อยแต่มันก็ใส่ใจผมตลอด ผมชอบอะไรไม่ชอบอะไร ผมคิดอะไรอยู่ มันรู้ดีไปหมด จนบางทีผมคิดว่ามันเป็นร่างอวตารของผมซะอีก
“เชี่ยย ห้าทุ่มกว่าแล้วหรอเนี่ย”ผมหันไปมองนาฬิกา ที่บ้านผมนอนกันแล้วแน่ๆเลย “นอนนี่นะ” ผมหันไปพูดกับไม้ที่นอนรอบนเตียงแล้ว มันตบเตียงปุๆเป็นการเชิญชวนให้ผมไปนอนข้างมัน
ผมปิดไฟ และรีบกระโจนขึ้นเตียงทันที ปกติถ้าเกินห้าทุ่มผมจะนอนที่บ้านไอ้ไม้อยู่แล้ว ซึ่งที่บ้านของผมต่างชินกันดี
แสงไฟจากถนนข้างหน้าส่องเข้ามาในห้องทำให้ผมเห็นหน้าคนที่หลับตาพริ้มอยู่ข้างๆ มันหล่อจริงๆนะ ขนตานี่ยาวกว่าผู้หญิงบางคนอีก หน้าก็ใสกริ๊ง มันหล่อจนผู้ชายอิจฉาจริงๆเลยว่ะ
“เลิกจ้องได้ยัง”
อ้าวว มันยังไม่หลับหรอวะ มันหลับตาอยู่นี่แล้วรู้ได้ไงกูจ้อง หล่อไม่พอยังเทพอีกนะมึง
“…” ผมเงียบ ไม่ตอบมัน และหลับตาปี๋
แกล้งหลับครับ งานแกล้งหลับ
“แกล้งหลับหรอ” บางทีผมก็เกลียดไอ้ไม้ที่รู้ทันผมเกินไป
“….” อย่ายอมแพ้ เงียบไปเรื่อยๆนี่แหละ เดี๋ยวมันก็เลิกพูด
“เนียนเนอะ”
“…”
“กูปล้ำนะ” ห้ะ อะไรนะ!!
“เห้ยยยยยยยย”
พูดไม่ทันขาดคำมันก็ขึ้นคร่อมผม
“ลุกไป ไอ้เชี่ยยย” ผมเอามือตีไหล่มัน แต่มันไม่สะเทือนสักนิด
“ก็มึงกวน” มันว่าเสร็จก็จั๊กจี้เอวผม ผมดิ้นอย่างแรง แต่ก็ไปไหนไม่ได้เพราะน้ำหนักตัวมันที่คร่อมอยู่
“ฮ่าๆๆๆๆ ปล่อยๆ เชี่ย ฮ่าๆๆๆ” ผมขำไปดิ้นไป น้ำตาไหลเลย นั่นมันจุดอ่อนผมนะ TT
“ยอมให้กูปล้ำดิ เดี๋ยวปล่อย” มันดูสะใจมากที่แกล้งผมได้ ผมใช้จังหวะที่มันหยุดไปแปปนึงพลิกตัวขึ้นคร่อมมันแทน
พรึบบ
ตอนนี้มันอยู่ได้อาณัติผมแล้ว วะฮ่าๆๆ
“เกมส์เปลี่ยนแล้วว่ะเพื่อน” ผมยิ้มอย่างผู้ชนะ ผมล็อกมือไอ้ไม้ไว้ด้วยแขนทั้งสองข้างของผม แหม อีโรติกน่าดู แต่ไม่ครับ! มันคือสงคราม
“อย่าคิดว่ามึงรู้จุดอ่อนกูคนเดียวดิ” ผมว่าไปยิ้มเยาะไป เราเล่นมวยปล้ำกันบ่อยครับ ช่วงนั้นบ้ากันมาก ปล้ำกันเช้าเย็น เอ่อออ มวยปล้ำน่ะครับ
ผมก้มลงเอาจมูก(ที่แสนโด่ง) ถูๆที่ซอกคอของไอ้ไม้
“ฮ่าๆๆๆ กูยอมๆ” ผมขำไปดิ้นไป เสียภาพพจน์นิ่งๆของมันเลยครับ สะใจวุ้ย เอาอีกๆ
ผมเอาจมูกถูคอมันสลับซ้ายขวา มันก็ดิ้นไปหัวเราะไป เอ ปกติผมใช้แค่นิ้วๆจิ้มๆ ไม่รู้เลยว่าตัวมันจะหอมขนาดนี้ หอมจัง… จากที่จมูกถูๆจิ้มๆ กลายเป็นว่าผมจุ๊บที่คอมันซะได้
“กล้า” ไอ้ไม้หยุดดิ้นและเรียกชื่อผม ผมชะงักทันที นี่กูทำอะไรลงปายยยยยยยยย
“ฮ่าๆๆ ยอมแล้วใช่ไหมล่ะ” ผมหัวเราะกลบเกลื่อน เขินแปลกๆแฮะ
พรึบบ
อีกครั้งที่เราสลับตำแหน่งกัน ไอ้ไม้พลิกตัวเองมาคร่อมผมแทน คราวนี้บรรยากาศแปลกไป แอร์ก็เย็นนะ แต่ผมกลับรู้สึกร้อน
“กล้า” มันเรียกชื่อผมอีกครั้ง และโน้มตัวลงมา จนจมูกจะชนกันอยู่แล้ว
ตึกตัก ตึกตัก
“วะ..ว่าไง” ทำไมเสียงผมถึงสั่นขนาดนั้นล่ะ!
“หลับตาหน่อยดิ” ทำไมเสียงมันเซ็กซี่จังวะ
“ทะ..ทำไมอ่ะ”
“ไม่ต้องหลับก็ได้”
พูดจบริมฝีปากของมันก็แตะเบาๆที่ริมฝีปากของผม ไม่ถึงสิบวิที่ริมฝีปากเราสัมผัสกัน มันก็ถอนออกและมองหน้าผม ผมอึ้งจนไม่รู้จะพูดอะไรกับมันดี ควรทำให้เป็นเรื่องตลกไหม หรือว่าควรโกรธ
“ดึกแล้ว นอนเถอะ” มันปล่อยผมเป็นอิสระแล้วล้มตัวนอน
ผมไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น เมื่อกี้มันอะไรกัน มันจูบผมใช่ไหม แค่สัมผัสสั้นๆเมื่อกี้ ทำไมผมรู้สึกว่ามันทำให้เลือดในร่างกายผมสูบฉีดขนาดนี้ล่ะ
ผมไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ถึงทำแบบนั้น แต่ที่แน่ๆผมว่าเพื่อนเค้าไม่จูบกันนะตอนนี้ห้องเงียบมาก มีแค่เสียงแอร์เบาๆเท่านั้น ผมได้แต่ภาวนาให้คนข้างๆหลับไปแล้ว
เพราะผมกลัว
กลัวว่าไอ้เพื่อนตัวดีจะได้ว่ายินเสียงหัวใจของผมเต้นแรงขนาดไหน!!!คุยกัน : สวัสดีค่าาา นี่เป็นเรื่องแรกนะคะ มีอะไรผิดพลาดก็ขอโทษด้วยค่า เป็นยังไงกันบ้างคะ เขินจัง ฮ่าๆๆ ติชมได้นะคะ จะพยายามปรับปรุงเรื่อยๆค่า >_<