[เรื่องสั้น] Mission Complete ภารกิจแข่งรัก (ตอนที่ 4 แข่งรัก)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] Mission Complete ภารกิจแข่งรัก (ตอนที่ 4 แข่งรัก)  (อ่าน 1433 ครั้ง)

ออฟไลน์ A.Hikaru

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ

เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด


3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม


6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง


....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาตเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail


16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

 เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17




เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


*****************************************************************************************


Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-07-2016 14:50:08 โดย A.Hikaru »

ออฟไลน์ A.Hikaru

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชายไม่จริงVSหญิงแท้กับการแข่งขันที่มีหัวใจของหนุ่มน้อยหน้ามนเป็นเดิมพัน
[/b][/i]


1
ถูกตาต้องใจ



ณ ห้องประชุมเล็กของบริษัทแห่งหนึ่ง วันนี้มีการปฐมนิเทศพนักงานใหม่ที่เพิ่งมาทำงานเป็นวันแรก ทุกคนดูกระตือรือร้นและตั้งใจฟังคำแนะนำต่าง ๆ เป็นพิเศษ แต่ละคนหน้าใสและดูอ่อนเยาว์ สมกับที่เพิ่งจบจากรั้วมหาวิทยาลัย

“น่ารักเป็นบ้าเลย เห็นเขาบอกว่าน้องคนนั้นเคยเป็นดาวมหา’ลัยด้วย ชื่อน้องดาว น่ารักชะมัดเลย” พนักงานคนหนึ่งเอ่ยกับเพื่อน ๆ

“งั้น ๆ แหละ ตอนฉันเรียน ฉันก็เป็นดาวเด่นของคณะเหมือนกัน” คนพูดเป็นสาววัยเกือบสามสิบนามว่ากวาง ผู้เป็นเหมือนเจ้ใหญ่ เธอพูดพลางมองเด็กใหม่คนนั้นด้วยแววตาเหนือว่านิด ๆ

“ตอนนั้นผ่านมากี่สิบปีแล้วเจ้” รุ่นน้องหนุ่มใจสาวหุ่นล่ำเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้

“ไม่ถึงสิบย่ะยายอ๋อง แค่เจ็ดแปดปีเอง” เธอตอบแล้วค้อนตาคว่ำ จริง ๆ ใบหน้าของเธอก็อ่อนเยาว์พอจะวัดกับเด็กใหม่ได้อยู่ เพราะประโคมครีมบำรุงผิวเป็นประจำตั้งแต่อายุเข้าย่างเลขสอง

“เดี๋ยว ๆ เจ้ ผมว่าถึงนะ เจ้เข้ามหา’ลัยตอนสิบแปด ตอนนี้ก็สามสิบแล้วนี่” อีกคนทำเป็นนับนิ้วก่อนตาโต “โอ้โห สิบกว่าปีแล้วเจ้ ไม่น่าเชื่อเลย ถ้านับเป็นสายรหัส เจ้คงเป็นคุณทวดของคุณทวดของคุณทวดแน่เลย”

“ไอ้หนุ่ม เดี๋ยวเถอะ พูดอะไรหยาบคายแบบนั้น ระวังฉันจะไม่เบิกสำรองจ่ายให้นาย” กวางชี้นิ้วคาดโทษ ทำเอารุ่นน้องหน้าจ๋อย

“โอ๋ ๆๆๆ เจ้อย่างอนสิ ผมกำลังจะบอกว่าเจ้เป็นทวดของทวดที่หน้าเด็กที่สุด และรุ่นน้องต้องอิจฉากันแน่ ๆ ถ้ารู้ว่าเจ้อายุเท่าไหร่ นี่ถ้าเทียบกันแล้ว หน้าเจ้อ่อนว่าน้อง ๆ พวกนั้นอีกนะครับ”

“แน่นอนอยู่แล้ว” กวางยอมรับหน้าชื่น

“รู้ว่าคนเขาพูดโกหกก็ยังจะเชื่ออีกนะคนเรา สมแล้วที่โดนหลอกแล้วหลอกอีก” อ๋องพูดพลางส่ายหน้ ถึงเขาจะอายุน้อยกว่ากวาง แต่ด้วยความสนิททำให้หยอกล้อกันแรง ๆ ได้

“นังอ๋อง ระวังจะกลายเป็นว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเองนะยะ แล้วอย่ามาร้องห่มร้องไห้ระบายกับฉันอีกล่ะ ฉันไม่รับฟัง ไม่ไปฉะให้แล้วนะ”

“แหม เจ้ก็...” อ๋องพูดไม่ออกเมื่อโดนสวน เขาทำเป็นค้อนแล้วเมินไปทางอื่น ก่อนสายตาจะปะทะกับเด็กหนุ่มหน้าใสในชุดเสื้อเชิ้ตสีอ่อนสะอาดตา ทำเอาอ๋องชะงัก เด็กคนนั้นยิ้มให้เขาผ่านกระจกใสก่อนหันไปสนใจวิทยากรหน้ากระดาน

“ต๊ายเจ้! เจ้ดูเด็กคนนั้นสิ น่ารักเป็นบ้าเลย น่ารักน่าเอาที่สุด สเปกอ๋องเลย” อ๋องพูดแบบไม่เก็บอาการ ทำให้กวางรีบยื่นหน้าไปมอง

“ไหน ๆ คนไหน ขอฉันดูหน่อย” กวางรีบถาม เพราะสเปกของรุ่นน้องเป็นสเปกเดียวกับเธอ ถ้าเข้าตาอ๋อง แสดงว่าเข้าตาเธอด้วย ทั้งสองจึงเป็นเหมือนคู่หู เวลาไปเที่ยวประจำปีจึงมักจับคู่กันส่องหาแต่ผู้ชายหล่อ

“เด็กใหม่ในห้องอบรมน่ะเจ้ หน้าใสมาก ผิวขาวสะอาด ร่างสูงโปร่ง สเปกเลยเจ้” อ๋องบรรยาย กวางเพ่งมองและไม่ต้องถามซ้ำว่าคนไหน เธอก็รู้ทันที เพราะมีอยู่คนเดียวที่หล่อสะดุดตา

“ฉันจอง ใครห้ามยุ่งเด็ดขาด โดยเฉพาะแก นังอ๋อง นั่นเด็กของฉัน” กวางประกาศแล้วมองเพื่อนรุ่นน้องตาขวาง แสดงอาการหวงเต็มที่

“เจ้...” อ๋องลากเสียงแล้วหัวเราะ “ยังไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามกันเลย จะมาจงมาจองอะไร คนนี้อ๋องเห็นก่อน ต้องเป็นของอ๋องสิเจ้”

“ไม่ได้ เขาไม่สนใจแกหรอก หล่อ ๆ แบบนี้ ต้องคู่กับคนสวย ๆ อย่างฉัน”

“เจ้ไม่รู้เหรอว่าผีย่อมเห็นผี เขาไม่สนใจเจ้หรอก เชื่อดิ”

“ไม่ เขาไม่เป็นแบบนั้นหรอก” กวางบอก ขณะที่อ๋องกลอกตา

“หน้าตาดีจริง ๆ ด้วย เขาจะอยู่แผนกไหนนะ ท่าทางเรียบร้อยแบบนี้ อยากให้มาทำแผนกบัญชีจัง หน้าตาแบบนี้ต้องทำงานเรียบร้อยแน่ ๆ” พนักงานฝ่ายบัญชีตั้งความหวัง

“หน้าตาแบบนี้ต้องอยู่แผนกประชาสัมพันธ์สิ รับรองว่าลูกค้ามาติดต่อไม่ขาดแน่ ๆ” อีกคนออกความเห็น แต่ละคนไม่ยอมไปทำงานของตน เอาแต่มานั่งลุ้นเด็กใหม่ที่อยู่ในห้องประชุม

“ผิดหมด เด็กคนนั้นต้องอยู่แผนกการตลาด เพราะเขาคือเนื้อคู่ของฉัน” กวางทำเสียงมั่นใจ หลายคนกลอกตาแต่ไม่มีใครกล้าขัดเพราะเธออาวุโสที่สุดในกลุ่ม บางคนกล้าหน่อยก็ทำเป็นถอนหายใจให้เธอได้ยิน

“พนันกันมั้ยล่ะ ถ้าเด็กคนนั้นอยู่การตลาดจริง ๆ เอามาให้ฉันคนละพันเลย”

“ไม่!” หลายเสียงประสานกันอย่างพร้อมเพรียง

“ถ้าเด็กคนนั้นอยู่แผนกเดียวกับเจ้จริง หนูขอให้เขาได้แฟนเป็นคนในแผนกนั้นแล้วกันนะเจ้” รุ่นน้องที่ทำงานในแผนกประชาสัมพันธ์บอก

“ดี ๆ ถ้าอยู่การตลาดจริง แสดงว่าเขาต้องเป็นเนื้อคู่ของฉันแน่ ๆ”

“เขาเป็นเนื้อคู่ของอ๋องต่างหาก”

“ไม่มีทาง เมื่ออาทิตย์ก่อนฉันเพิ่งไปดูดวงมา เขาบอกว่าฉันจะมีความรักกับคนที่อายุน้อยกว่า และเขาคนนั้นจะเป็นคู่แท้ของฉันด้วย ฉันว่าต้องเป็นเด็กคนนี้แน่”

“เมื่อเดือนก่อนเจ้บอกว่าเนื้อคู่เป็นคนสูงอายุมีฐานะไม่ใช่เหรอ” คนหนึ่งทัก ทำเอากวางตาขวางเมื่อโดนขัด

“ทำไมยะ ไม่เชื่อฉันหรือไง” เธอทำเสียงสูงข่ม

“เปล่าจ้า ยังไงหนูขอแสดงความยินดีกับเจ้ล่วงหน้าเลยนะ” รุ่นน้องบอกก่อนเดินเลี่ยงไปทำงานเพราะอู้มานานแล้ว ขณะที่คนอื่น ๆ ก็เริ่มสลายตัวเช่นกัน


......................................................


ก่อนเที่ยงเล็กน้อย เด็กใหม่จำนวนห้าคนก็ถูกส่งเข้าแผนกที่ตนจะต้องทำงาน หนุ่มน้อยหน้าใสที่หลายคนหมายปองได้อยู่แผนกการตลาดสมใจเจ้กวางและอ๋องที่ลุ้นกันตัวโก่งจนแทบไม่ทำงานทำการ


“ผมราเชนทร์ครับหรือจะเรียกว่าเชนก็ได้ เพิ่งจบปริญญาตรีมาครับ ทำงานที่นี่เป็นที่แรก ยังไงฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ” เด็กหนุ่มหน้าอ่อนผู้มีรอยยิ้มสดใสแนะนำตัวแล้วค้อมศีรษะให้กับรุ่นพี่

“พี่ยินดีรับทั้งตัวและหัวใจของเชนจ้ะ พี่ชื่อกวางนะจ๊ะ เป็นหัวหน้าทีมในส่วนส่งเสริมการตลาดจ้ะ มีอะไรถามพี่ได้หมดเลยนะ พี่บอกเชนได้หมดทุกเรื่อง” กวางแนะนำตัว

“พี่ชื่ออ๋อง เป็นผู้ช่วยเจ้กวาง เชนจะถามจากพี่ก็ได้ พี่คุยรู้เรื่องมากกว่าเจ้กวาง” อ๋องสกัดรุ่นพี่เต็มที่

“พี่ชื่อหนุ่มมีอะไรก็ถามจากพี่ได้”

“พี่ชื่อแพตค่ะ เพิ่งเข้ามาทำงานเมื่อปีที่แล้ว เราน่าจะรุ่น ๆ เดียวกัน” อีกคนแนะนำบ้าง เชนยิ้มให้ทุกคน

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

“เราเพิ่งจะเจอกันครั้งแรก ยังไม่ต้องทำงานก่อนก็ได้นะ เพราะนี่ก็จะเที่ยงแล้ว เชนแนะนำตัวให้พวกพี่ ๆ รู้จักหน่อยสิจ๊ะ เช่นว่า ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร มีไลฟ์สไตล์แบบไหน พี่จะได้รู้ว่าเราจะเข้ากันได้หรือเปล่า”

“เจ้...” อ๋องลากเสียงยาว

“พี่หมายถึงว่าพวกเราต้องทำงานด้วยกัน การรู้ว่าอีกคนชอบหรือไม่ชอบอะไรก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่เหรอ และอ๋อง อย่าเรียกพี่ว่าเจ้ได้ไหม มันฟังดูสูงวัยยังไงไม่รู้ เรียกพี่ดีกว่านะ” กวางบอกเสียงหวานอ่อนโยนฟังดูเป็นมิตร แต่แอบถลึงตาใส่รุ่นน้องที่บังอาจเรียกเธอซะแก่แบบนั้น

“ได้ครับพี่กวาง” อ๋องยอมอย่างว่าง่าย เพราะเมื่อใดที่เจ้พูดเพราะแสดงว่าเจ้กำลังอารมณ์ไม่ดี

“ดีมากจ้ะ เอาละ เชนแนะนำตัวได้เลยจ้ะ ชอบกินอะไร ชอบสีอะไร ไม่ชอบอะไร ชอบคนแบบไหน ผู้หญิงในสเปกเป็นยังไง ต้องผมประบ่าหรือเปล่า หรือว่าต้องทำผมสีน้ำตาลประกายทองไหม แล้วชอบผู้หญิงใส่เครื่องประดับหรือเปล่า อย่างพวกแหวนหรือกำไลอะไรพวกนั้นน่ะ” กวางพูดพลางกวัดแกว่งแขนไปมาเพื่อให้อีกฝ่ายเห็นแหวนและกำไลข้อมือวงใหญ่หลายวงเกือบเต็มแขนของตัวเอง ขณะที่เพื่อนร่วมแผนกต่างพากันกลอกตา ส่วนเด็กหนุ่มน้องใหม่เอาแต่ยิ้ม

“ผมชอบหมดครับ ขอให้ดูดีก็พอ แต่ผมไม่ชอบคนเยอะครับ ผมว่ามันดูวุ่นวาย”

“แล้วนิสัยล่ะ เชนชอบคนนิสัยยังไง” กวางถามแล้วค่อย ๆ ปลดกำไลข้อมือออกจากแขนให้เหลือแค่หนึ่งวง อ๋องแอบหัวเราะ ทำให้รุ่นพี่ต้องแอบถลึงตาใส่

“ผมชอบคนง่าย ๆ อยู่ใกล้แล้วสบายใจครับ เรื่องหน้าตาผมเฉย ๆ”

“แหม ดีจัง พี่ก็เป็นคนง่าย ๆ ไม่ถือตัว สบาย ๆ จ้ะ”

“นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว เราไปกินข้าวดีกว่าเนอะ เดี๋ยวให้พี่กวางเลี้ยงรับน้อง แล้วช่วงบ่าย เชนค่อยมาเรียนรู้งานนะ” อ๋องเสนอ เพื่อนอีกสองคนเฮแล้วรีบออกไปรอนอกห้อง เชนยิ้มแล้วเดินตามแพตกับหนุ่มออกไป กวางรีบเข้ามาประชิดอ๋อง

 “ตีเนียนเลยนะหล่อน ขอบอกไว้ก่อนว่าฉันเลี้ยงน้องเชนคนเดียว คนอื่นไม่เกี่ยว”

“แหมเจ้ คิดจะทุ่มแล้วก็ต้องให้สุด ๆ ไปเลยสิ แบบนี้มันไม่ใจเลยนะรู้ป่ะ ระวังน้องเขาจะหาว่าเจ้ใจป๊อดนะ”

“งั้นเหรอ” กวางเริ่มคล้อยตาม

“คิดจะเอาใจเด็กมันต้องทุ่มทุนนะเจ้ หรือคิดอีกที เจ้ไม่ต้องทุ่มทุนก็ได้นะ เพราะถึงยังไง เจ้ก็ต้องกินแห้วอยู่แล้วล่ะ” อ๋องพูดยิ้ม ๆ

“แต่ดวงฉันจะได้กินเด็กนะแก” กวางบอก

“อ๋องบอกเจ้แล้วไงว่าผีย่อมเห็นผี น้องเขาไม่ชอบผู้หญิงหรอก” อ๋องกระซิบ

“บ้า แกอย่ามารู้ดีหน่อยเลย คนก่อนก็มั่นใจว่าเห็นผีแน่นอน แล้วเป็นไงล่ะ เขาแทบจะยกพวกมารุมจนเกือบได้ไปเห็นผีในยมโลกแล้ว” กวางย้อนควาหลัง

“อย่าไปพูดถึงเรื่องเก่าสิเจ้ บางทีเรด้ามันก็มีผิดพลาดกันบ้าง ขนาดผลจากดาวเทียมยังเชื่อถือไม่ค่อยได้เลย แต่คราวนี้อ๋องมั่นใจนะ อ๋องอ่านสายตาของเขาออก เมื่อกี้เจ้เห็นป่าว เขาหันมายิ้มให้อ๋องด้วย”

“มั่วนิ่ม เขาก็ยิ้มให้ทุกคนนั่นแหละ เด็กใหม่นิสัยดีก็งี้ ยิ้มแย้มเป็นมิตรกับทุกคน แกอย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย”

“เจ้ก็หลงตัวเองไม่แพ้คนอื่นหรอก”

“นี่...มื้อนี้อยากจ่ายเองใช่ไหม”

“โอเค ๆ ยกนี้เจ้ชนะ” อ๋องยอมแล้วรีบเดินออกจากห้องทำงาน

.............................................................


ร้านสุกี้ในคอมมูนิตี้มอลล์หรือที่เรียกในภาษาชาวบ้านว่าห้างขนาดเล็กแถวที่ทำงานคือร้านที่กวางเลือกสำหรับมื้อเที่ยงในวันนี้ รุ่นน้องของเธอแต่ละคนสั่งกันแบบจัดเต็มเพราะนาน ๆ กวางจะเป็นคนออกปากเลี้ยงสักที หญิงสาวค้อนอ๋องตาคว่ำ เหตุเพราะเป็นตัวตั้งตัวตี แต่เมื่อเทียบกับการได้นั่งใกล้ ๆ เด็กใหม่ เธอก็ถือว่าคุ้มค่า แถมเชนยังตักนู่นตักนี่ให้เธอกินแบบไม่ขาดอีกด้วย

“แหม น่ารักจังเลย ขอบใจเชนมากเลยนะ”

“ไม่เป็นไรครับ จะกินอะไรอีกไหมครับ เดี๋ยวผมตักให้”

“พี่กวางเขาชอบกินตับจ้ะ โดยเฉพาะตับอ่อน ๆ เขาชอบกินมาก” อ๋องบอกแล้วหัวเราะคิกคัก ขณะที่กวางยิ้มเอียงอาย

“ใช่ พี่ชอบกินตับอ่อน เชนลวกให้พี่หน่อยสิ”

เด็กหนุ่มทำตามอย่างว่าง่าย ปากก็ถามคนอื่นไปด้วย “พี่หนุ่มกับพี่แพตล่ะครับ ชอบกินอะไร”

“พี่ชอบกินผักบุ้งค่ะ” แพตตอบ

“พี่ชอบลูกชิ้นกับเกี๊ยวปลา”

เชนจัดแจงใส่ทั้งสองรายการลงไป กวางยิ้มแล้วมองอ๋องแบบชนะนิด ๆ ก่อนหุบยิ้มเมื่อเชนเอ่ยว่า “ส่วนพี่อ๋องชอบหมูสไลด์ใช่ไหมครับ เมื่อกี้ผมเห็นพี่กินคนเดียวสองถาดเลย”

“อุ๊ย เห็นด้วยเหรอ นั่งมองพี่อยู่ใช่ไหมเนี่ย” อ๋องถามเขิน ๆ ...บ้าจัง นั่งมองก็ไม่บอก เขากินไปตั้งเยอะ ไม่รู้เชนจะคิดว่าเขาตะกละหรือเปล่า

“เชนเขานั่งตรงข้ามเธอ ก็ต้องเห็นอยู่แล้ว ใช่ไหมจ้ะเชน” กวางถามเสียงอ่อนเสียหวาน เชนยิ้มแล้วคีบหมูสไลด์ลวกในหม้อ เมื่อหมูเปลี่ยนเป็นสีซีด เขาก็วางใส่จานให้อ๋อง

“ขอบใจนะ น่ารักช่างเอาใจจริง ๆ เด็กคนนี้” อ๋องชม ทำเอาเชนยิ้มกว้าง ดวงตาของเขาเป็นประกายจนหนุ่มและแพตสังเกตเห็น สองหนุ่มสาวหลบมองหน้ากันแล้วอมยิ้ม ขณะที่กวางก็เห็นแววตาของเชนที่มองอ๋อง และเห็นรุ่นน้องหนุ่มใจสาวส่งยิ้มมาให้แบบเหนือกว่านิด ๆ

“เชนเอาแต่ลวกให้คนอื่น พี่ไม่เห็นเชนตักให้ตัวเองบ้างเลย เชนชอบกินอะไร เดี๋ยวพี่ลวกให้”

“ผมชอบบัวลอยน้ำขิงครับ ส่วนอย่างอื่น ผมกินได้หมด ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ”

“งั้นเรารีบอิ่มกันดีกว่าไหม เชนจะได้สั่งบัวลอยมากิน เอ้า ๆ สั่งกันแค่นี้พอแล้วนะ รีบ ๆ เข้าจะได้สั่งขนมหวานแล้ว” กวางหันไปเร่งเพื่อน

“ไม่เป็นไรครับ พี่ ๆ กินกันได้ตามสบายเลย จริง ๆ ผมก็ยังไม่อิ่มเท่าไหร่เลย หมูสไลด์ของพี่อ๋องก็ยังไม่หมด”

“อิ่มหรือยังจ๊ะอ๋อง” กวางถามเสียงหวาน

“เริ่ม ๆ จะอิ่มแล้วครับ แพต หนุ่ม ช่วยหน่อยสิ” อ๋องหันไปขอร้องเพื่อน ก่อนเทหมูสไลด์รวดเดียวใส่หม้อ

“เดี๋ยวผมช่วยกินนะครับ” เชนอาสาอีกแรง

“พี่ตักให้เชนเองจ้ะ” ว่าแล้วกวางก็กุลีกุจีตักหมูใส่จานให้เชนพร้อมทั้งตักผักตักลูกชิ้นให้เขาด้วย

มื้อนี้จบลงด้วยความอิ่มแปล้ เชนยิ้มกว้างจนตาเป็นสระอิให้รุ่นพี่ใจดี ทำเอากวางถึงกับตัวลอยด้วยความเคลิบเคลิ้มกับรอยยิ้มแสนน่ารักของเด็กใหม่

เธอหลงเสน่ห์เด็กคนนี้เข้าเต็มเป้าแล้ว

และนอกจากกวาง อ๋องก็เป็นอีกคนที่โดนรอยยิ้มนั้นสะกดให้ยืนนิ่ง เขารักรอยยิ้มสดใสนั้นเหลือเกิน และอยากเป็นคนเดียวที่ได้รอยยิ้มแบบนั้นของเชน เห็นที่งานนี้ต้องแข่งกับอิเจ้หน่อยแล้ว

จากที่คิดว่าจะปล่อยให้กวางได้สมหวังในความรักบ้าง เพราะเจ้าหล่อนก็อายุพอสมควรแล้ว แถมยังออกหน้าออกตาว่าชอบเด็กคนนี้หนักหนา ทำให้เขาไม่อยากขัดคอ แต่ตอนนี้ อ๋องตั้งปณิธานแล้ว เขาขอลงแข่งในสนามรักแห่งนี้ เพื่อแย่งชิงหัวใจของหนุ่มน้อยหน้ามนมาครอง และเขา...ต้องเป็นผู้ชนะ



...


เพิ่งลงที่นี่ครั้งแรก ฝากติดตามด้วยนะคะ   :mew1:

ออฟไลน์ taltal020441

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
สู้ๆค่ะ รออ่านต่อนะคะ

ออฟไลน์ A.Hikaru

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0


2

“แกกำลังคิดอะไรอยู่นังอ๋อง” กวางเดินมากระแซรุ่นน้องแล้วถามเสียงเขียว ระหว่างที่เดินกลับตึก อ๋องทำหน้ามึน

“อะไรเจ้ อ๋องยังไม่ได้ทำอะไรเลย”

“ฉันเห็นสายตาที่แกมองเชนนะ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้”

“โธ่เอ๊ยเจ้” อ๋องร้องแล้วหัวเราะ “แล้วเจ้ไม่เห็นสายตาที่น้องเชนรูปหล่อมองอ๋องบ้างเลยเหรอ ไม่รู้หรือไงว่านั่นน่ะเป็นสายตาของคนแอบชอบเขามองกัน อ๋องบอกเจ้แล้วไงว่าน้องเชนน่ะ เขาไม่ชอบเจ้หรอก เจ้พยายามไปก็เท่านั้น เสียเงินเปล่า”

“ฉันไม่เชื่อหรอกว่าตัวเองจะไม่มีเสน่ห์ดึงดูดขนาดนั้น และฉันจะทำให้เขาเปลี่ยนใจให้ได้ แกคอยดูฝีมือฉันแล้วกัน”

“ดูเจ้จริงจังมากกว่าคนอื่นนะ” อ๋องตั้งข้อสังเกต

“คนนี้ตรงสเปกฉันที่สุด และหัวใจฉันก็บอกตัวเองว่าเขาคือคนที่ใช่ ฉันผิดหวังและไร้คู่ก็เพื่อมาเจอเขานี่แหละ”

“ไม่ใช่ผิดหวังเพราะโดนหลอกหรือเจ้”

“นังอ๋อง!” กวางแว้ดแต่เป็นแบบเบา ๆ เพราะกลัวคนที่เดินนำหน้าได้ยิน “เลิกพูดเรื่องเก่า ๆ ได้แล้ว ชีวิตคนเราต้องเดินหน้าและฉันมองแต่อนาคตเท่านั้น”

“แต่เชนไม่ใช่อนาคตของเจ้าหรอกนะ เขาคืออนาคตของอ๋อง” รุ่นน้องพูดยิ้ม ๆ แล้วขยิบตา

“อย่าริอ่านมาแข่งกับฉัน” หญิงสาวบอกเสียงนิ่ม ขณะที่อ๋องยกไหล่แบบไม่สนใจ

“เจ้อย่าลืมว่าคนนี้อ๋องเห็นก่อน เพราะงั้นน้องเชนต้องเป็นของอ๋อง เจ้นั่นแหละอย่ามาแข่งเสียให้ยากเลย และอ๋องบอกแล้วไงว่าผีย่อมเห็นผี เขาไม่สนใจเจ้หรอก แล้วนี่ ๆๆ” อ๋องทำเสียงตื่นเต้นเมื่อนึกอะไรขึ้นได้ “เมื่อกี้เจ้เห็นไหมว่าน้องเชนเขามองอ๋องยังไง เขายิ้มให้อ๋องยังไง เจ้เตรียมสวมเสื้อคนแพ้ได้เลย” อ๋องพูดอย่างมั่นใจ

“ไม่มีทาง ฉันไม่มีวันแพ้แกหรอก”

“งั้นเรามาแข่งกัน”

“ได้!”

ชายไม่จริงกับหญิงแท้ยื่นมือออกมาจับกันแน่นเสมือนเป็นการตกลงร่วมภารกิจนี้ โดยมีหัวใจของหนุ่มน้อยที่เดินนำหน้าเป็นเดิมพัน!



เมื่อตกลงร่วมภารกิจพิชิตใจเด็กใหม่ กวางก็เริ่มปฏิบัติการทันที โดยใช้ตำแหน่งหัวหน้าในการเรียกเชนเข้าไปพบและให้เชนติดตามไปไหนมาไหนอย่างกับเงาก็ไม่ปาน และยังเป็นคนสอนงานเชนด้วยตัวเองอีกด้วยทั้งที่จะให้หนุ่มหรือแพตหรืออ๋องเป็นคนสอนก็ได้ แต่ถึงกระนั้นเพื่อนร่วมแผนกก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะการมีเด็กใหม่หน้าตาหล่อเหลามาให้กวางเคลิ้มก็ดีไปอย่าง เพราะจะได้ไม่ต้องทนฟังเสียงบ่น ตอนนี้กวางเปลี่ยนเป็นคนละคนแล้ว เพราะต้องแอ๊บใสใจดีเพื่อเอาใจเด็ก
แม้หลายคนจะยินดีแต่ก็อดขำไม่ได้เพราะไม่ชินกับท่าทางเรียบร้อยของเจ้กวางผู้เคยแว้ด ๆ เสียงดังอยู่เป็นประจำ

“เชนเข้าใจเรื่องแผนการโปรโมตงานของบะหมี่ดูดีหรือยัง” กวางถามเด็กใหม่ระหว่างที่วางแฟ้มเล่มหนาบนโต๊ะ

“เรียบร้อยแล้วครับ”

“แล้วเครื่องดื่มชูกำลังดีสปอร์ตล่ะ สรุปแผนออกมาหรือยัง” เธอถามอีก

“เสร็จแล้วครับ” เชนบอกแล้วดันแฟ้มงานสีดำให้

“แล้วได้อ่านคุณสมบัติของน้ำชาดีซ่าหรือยัง”

“เพิ่งจะเริ่มอ่านครับ พี่กวางจะเอาแล้วหรือครับ” เชนถามเสียงอ่อนแกมรู้สึกผิดแล้วรีบหาเอกสารของน้ำยี่ห้อใหม่ที่บริษัทจะนำออกขายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

“ไม่จ้ะไม่ พี่ไม่รีบ พี่แค่ถามเฉย ๆ จ้ะ แค่นี้เชนก็เรียนรู้งานได้เร็วกว่าคนอื่นแล้ว ตอนที่อ๋องเข้ามาทำงานน่ะ พี่ต้องสอนตั้งเป็นเดือนเลยนะกว่าเขาจะสรุปงานเป็น” กวางบอกโดยจงใจเปรียบเทียบ

“พี่อย่าพูดให้ผมดูแย่หน่อยเลย ตอนนั้นพี่ก็สอนงานไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่หรอก เพราะเข้าก่อนผมแค่สองปี และผมยังจำวันที่พี่เสือย้ายไปข้างบนได้ เขาบอกว่าพี่เป็นคนสอนยาก เข้าใจอะไรยาก ไม่รู้ว่าคิดผิดหรือเปล่าที่ดึงขึ้นมาเป็นหัวหน้า” อ๋องไม่ยอมแพ้รีบเกทับทันที ทำเอากวางถลึงตาใส่

“แต่ในที่สุดพี่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพี่เป็นหัวหน้าได้ และเชนรู้ไหมว่าพี่ได้พนักงานดีเด่นถึงสองปีซ้อนเลยนะ ถ้าพี่ทำงานไม่ดีหรือผลงานไม่เข้าตา พี่คงไม่ได้รางวัลหรอก จริงไหมจ๊ะ”

“จริงครับ พี่กวางเก่งที่สุดเลย สอนงานผมก็เข้าใจดีทุกอย่าง ผมดีใจที่ได้เรียนรู้งานกับพี่กวางครับ” เชนพูดเอาใจ ทำเอากวางยิ้มกว้างแล้วหันไปยักคิ้วหลิ่วตาให้อ๋อง

“แต่พี่ ๆ ทุกคนก็เก่งครับ ทั้งพี่หนุ่ม พี่แพตและพี่อ๋อง ผมดีใจที่ได้ร่วมงานกับทุกคนครับ”

“จริง ๆ งานบางงานเชนถามจากพี่ก็ได้นะ ไม่ต้องไปรบกวนพี่กวางหรอก ปกติพี่เขางานยุ่งจะตาย นี่ต้องเจียดเวลามาสอนงานเชนอีก งานที่ต้องสรุปเลยทำไม่ทันเลย” อ๋องออกความเห็น

“นั่นสิครับพี่กวาง เมื่อวานผมเข้าประชุมกับฝ่ายแผนงาน คุยกันไม่รู้เรื่องเลย และเหมือนเขาจะหัวเสียนิด ๆ ด้วยที่พี่ไม่เข้าประชุมแต่ส่งผมไปแทน ครั้งหน้าผมไม่ไปแล้วนะ” หนุ่มบอก

“งั้นให้อ๋องไป”

“ไม่ครับ” รุ่นน้องปฏิเสธเสียงแข็ง “ครั้งก่อนผมไปประชุมกับฝ่ายผลิตแทนพี่แล้ว เขาก็ถามมาเหมือนกันว่าทำไมพี่กวางไม่ไปประชุม ส่งตัวแทนมาทำไม เหมือนไม่ให้เกียรติเขาเลย และผมก็บอกไปแล้วว่าครั้งหน้าพี่จะไปเอง”

“อะไร ๆ ก็โยนมาให้ฉันกันหมด” กวางเริ่มบ่น

“ก็พี่เป็นหัวหน้านี่ครับ แล้วอีกอย่าง ถ้าเรานัดประชุมแล้วฝ่ายอื่นส่งลูกน้องที่คุยไม่รู้เรื่องไป มันเสียทั้งแผนกนะครับ” อ๋องให้เหตุผล

“นั่นสิครับพี่กวาง ผมว่าพี่เข้าประชุมดีกว่านะครับ” เชนออกความเห็น

“แล้วอีกอย่างนะครับ ผมว่าอย่าเพิ่งให้เชนไปประชุมกับพี่เลย เขายังใหม่ เกิดใครถามอะไรขึ้นมาแล้วตอบไม่ได้ มันจะเสียนะครับ และตัวเชนเองก็จะกดดันไปด้วย ผมว่าให้เชนค่อย ๆ ฝึกอยู่ในแผนกดีกว่าครับ” หนุ่มออกความเห็นแล้วหันไปพูดกับเด็กใหม่

“เชนเพิ่งเข้ามาทำงานไม่ถึงเดือน อาจยังไม่เข้าใจหรือลำดับงานไม่ดี พี่ไม่ได้บอกว่าเชนไม่เก่งหรือทำงานแย่นะ แค่เป็นห่วงกลัวจะเครียดเกินไป”

“ครับ ผมเข้าใจพี่หนุ่มครับ” เชนรับคำแล้วยิ้ม “และผมก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้นะครับ เพราะบางครั้ง เข้าไปนั่งประชุมแล้วผมก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ จนคิดว่าตัวเองโง่หรือเปล่าที่จับใจความได้ช้า จะบอกพี่กวางหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่กล้า กลัวพี่กวางจะผิดหวังที่อุตส่าห์ไว้ใจ” เขาสารภาพเสียงเบา

 “โธ่ เชน ใครจะคิดแบบนั้น” กวางพูดเสียอ่อนด้วยท่าทางเอ็นดูเด็กหนุ่ม “พี่ขอโทษนะจ๊ะที่ทำให้เชนลำบากใจ พี่เห็นว่าเชนเก่งและตั้งใจทำงาน เลยอยากฝึกให้เป็นงานเร็ว ๆ ลืมไปว่าบางครั้ง ถ้าเราใส่อะไรให้เยอะเกินไปก็อาจจะล้นได้” เธอเอ่ยเสียงรู้สึกผิด เพราะนอกจากเธออยากให้เขาเก่งเร็ว ๆ แล้ว การได้ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ๆ ก็อาจช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นขึ้นด้วย

เธอเห็นแก่ตัวและอยากชนะอ๋องมากเกินไปจนทำให้เชนเกิดความรู้สึกอึดอัด แต่...ถ้าให้เชนทำงานอยู่ที่นี่ก็เท่ากับปล่อยปลาย่างเชนไว้กับแมวอ๋องน่ะสิ และถ้าจะให้ใครสอนงาน ก็ต้องเป็นอ๋องด้วย เพราะมีความอาวุโสถัดจากเธอ
ไม่ได้หรอก เธอจะปล่อยปลาย่างเชนให้อยู่กับแมวอ๋องไม่ได้เด็ดขาด มีหวังโดนคาบไปกินแน่ ๆ

“งั้นต่อไป พี่จะให้หนุ่มเป็นคนสอนงานเราแล้วกันนะ” นี่คงเป็นวิธีเดียวที่กวางคิดออกและคิดว่าดีที่สุดสำหรับการสกัดไม่ให้อ๋องเข้าใกล้เชนได้

“ผมหรือครับ” หนุ่มทวนแบบไม่มั่นใจ “ให้พี่อ๋องช่วยสอนไม่ดีหรือครับ...ไม่ใช่ว่าพี่ไม่อยากสอนเชนนะ แต่พี่ว่าพี่อ๋องน่าจะคุยรู้เรื่องมากกว่า” เขาหันไปบอกรุ่นน้อง เกรงอีกฝ่ายจะเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองเป็นคนหวงวิชาหรือรังเกียจจนไม่ยอมสอน

“อ๋องงานยุ่ง ให้เธอสอนดีกว่า ทำไมหรือ มีปัญหาอะไรจ๊ะ” กวางถามเสียงหวานแล้วยิ้มอ่อน ท่าทางของเธอทำให้หนุ่มรู้สึกขนลุก

“ก็ได้ครับ” เขารับคำเสียงอ่อย




การสอนงานของหนุ่มไม่มีอะไรมากแค่ให้เชนนั่งอ่านแผนการตลาดเก่า ๆ เพื่อใช้เป็นแนวทาง ใจจริงเขาก็อยากสอนงานที่เป็นปัจจุบัน แต่ติดที่ตัวเขาเองก็ไม่ค่อยเชี่ยวชาญนัก เพราะเพิ่งเข้ามาทำงานแค่ไม่กี่ปี กว่าจะทำแผนโปรโมตสินค้าสักตัวก็คิดหัวแทบระเบิด แล้วนี่ยังจะให้มาสอนงานเด็กใหม่ที่ดูจะเก่งเกินหน้ารุ่นพี่อีก แบบนี้มันจะไหวเหรอ

“พี่หนุ่มว่าถ้าเราทำแผนโปรโมตขนมอบกรอบดาด้าโดยเพิ่มของแถมสำหรับเด็กไปด้วย พี่คิดจะกระตุ้นยอดได้เท่าไหร่ครับ” เชนถาม บริษัทที่เขาทำงานอยู่ ผลิตสินค้าเกี่ยวกับของกินแบบครอบจักรวาลตั้งแต่ขนมเด็กเล็กไปจนถึงเครื่องดื่มชูกำลังสำหรับคนทำงาน

“ก็น่าจะโอเคนะ พี่เห็นที่ไหน ๆ ก็ทำแบนี้”

“จะเอาของเล่นเป็นอะไรดีครับ หุ่นยนต์ตัวต่อที่อื่น ๆ ก็ทำกันหมดแล้ว ผมไม่อยากทำเลียนแบบ” เชนถามความเห็น

“แต่เด็ก ๆ ชอบแบบนั้นกันนะ”

“หรือว่าจะทำเป็นแบบสะสมแล้วเอามาแลกของที่ดีครับ”

“พี่ว่าไม่ดี” อ๋องออกความเห็น “อย่าลืมว่าขนมนี้เป้าหมายคือเด็กวัยห้าถึงสิบขวบ พวกเขาไม่มีเวลามานั่งเก็บนั่งสะสมแล้วรอเวลาเพื่อมาแลกของหรอก ถ้าคิดจะแถมต้องแถมเข้าไปในซองเลย เขาจะได้เอาไปเล่นทันที และถ้าอยากเพิ่มยอด ก็จับเป็นแพ็คคู่ใส่กล่องที่มีของแถมอยู่ด้านในแล้วอัพราคาเพิ่ม เน้นขายในห้างเป็นหลัก”

“ความคิดดีมากเลยครับ” เชนชมแล้วยิ้มปลื้ม อ๋องยิ้มรับ

“พี่อ๋องเขาเก่งแบบนี้แหละ เป็นมือขวาพี่กวางเขา” หนุ่มบอก เขาไม่เคยนึกอิจฉาเพื่อนร่วมงานเพราะรู้ตัวว่ามีประสบการณ์น้อยกว่าอ๋อง

“นายก็เก่งหนุ่ม เชื่อสิว่าทำงานอีกสองสามปีเดี๋ยวก็แซงหน้าเรา” อ๋องให้กำลังใจ

“แล้วแพตล่ะคะ อีกกี่ปีถึงจะเก่งเหมือนพี่อ๋องกับพี่กวาง”

“ต้องเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ แต่พี่เชื่อว่าเราสามคนอีกหน่อยต้องเก่งกว่าพี่หรือพี่กวางแน่ ๆ เชื่อสิ”

“พวกเราจะพยายามค่ะ/ครับ” ทั้งสามคนรับคำพร้อมกัน

หลังจากวันนั้น หนุ่มก็เข้าไปคุยกับกวางเพื่อขอให้อ๋องเป็นคนฝึกเชน เพราะเชื่อว่าเชนต้องเก่งกว่านี้แน่หากได้คนเก่ง ๆ มีความคิดสร้างสรรค์อย่างอ๋องคอยดูแล และไม่ใช่ว่าเขาจะเกี่ยงงานแต่เพราะรู้ฝีมือว่ายังไม่ถึงขั้นสอนใครได้ และหากกวางอยากให้เด็กใหม่เก่งเร็ว ๆ ก็ต้องเป็นคนสอนงานเองหรือไม่ก็ต้องให้อ๋องเป็นคนสอน

หญิงสาวมีท่าทางลำบากใจ  เธอรู้ตัวเองว่าคงสอนงานเชนได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเพราะงานที่ต้องรับผิดชอบก็รัดตัวอยู่แล้ว แถมยังถูกคาดคั้นมาอีกให้เข้าประชุมด้วยตัวเองห้ามส่งตัวแทนมาเด็ดขาด เพราะจะทำให้งานช้า ไม่ได้ข้อสรุป...เห็นทีงานนี้คงต้องปล่อยให้อ๋องทำคะแนนไปก่อน และเมื่อสะสางงานของตัวเองแล้ว เธอจะเร่งทำคะแนนกลับคืน

หวังว่าเชนจะรอเธอได้ ไม่เปลี่ยนใจไปเสียก่อน


...................................................................................



ตอนที่ 2 มาแล้ว ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ   ^____^



ออฟไลน์ A.Hikaru

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0


ตอนที่ 3
จอง!!


การเข้ามาสอนงานแบบตัวต่อตัวทำให้อ๋องมีโอกาสใกล้ชิดเด็กหนุ่มที่ตนหมายปองมากขึ้น เขาลอบมองเชนทุกครั้งที่มีโอกาส และท่าทีของเชนที่มีให้เขาก็ทำให้อ๋องคิดลึกคิดไกลพอสมควร เพราะเด็กหนุ่มเป็นคนสุภาพ ยิ้มสวย เป็นมิตรกับทุกคน จนบางครั้งอ๋องก็อดคิดไม่ได้ว่าเด็กหนุ่มมีใจให้เขาหรือเปล่า

เรื่องผีเห็นผีที่เขามักพูดให้กวางฟังเป็นเรื่องโกหก จริง ๆ แล้วเขาดูไม่ออกหรอก มีบ้างที่เดาผิดเดาถูกสลับกันไป คนที่เดาถูกก็เพราะรู้อยู่ก่อนแล้ว และถึงเชนจะหน้าหวานผิวบาง แต่ก็ดูออกว่าเป็นผู้ชายแท้ ๆ เต็มตัว และไม่มีท่าทีออกสาวให้เห็นสักนิด แม้จะสังเกตหรืออาศัยทีเผลอก็ตาม

แต่งานนี้เขาจะแพ้รุ่นพี่ไม่ได้ เป้าหมายไม่ใช่การแข่งขันแต่คือใจของเด็กหนุ่มคนนั้นที่เขาจะต้องคว้ามาให้ได้

เมื่อตั้งใจไว้แล้ว เขาก็ต้องทำให้ได้เพราะเชนก็ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจเขาและบางครั้งก็ดูเหมือนว่าอยากคุยกับเขามากกว่าคนอื่นด้วย ทำให้ความหวังของอ๋องมีเพิ่มขึ้น

“พี่อ๋องเก่งจังนะครับ” เด็กหนุ่มชมหลังจากฟังบรรยายแผนการตลาดโปรโมตสินค้าของอ๋องจบลง

“อีกหน่อยเชนก็จะเก่งแบบพี่ และเชื่อสิเชนต้องเก่งกว่าพี่แน่ ๆ เพราะสมัยพี่อายุเท่าเชน พี่ยังไม่ค่อยรู้อะไรเลย เชนก้าวหน้ากว่าพี่ตั้งเยอะ”

“เพราะผมมีคนเก่ง ๆ คอยสอนต่างหากครับ ต่อไปผมอยากเก่งเหมือนพี่ครับ”

“เชนเก่งไม่เหมือนหรอก เพราะเชนจะเก่งกว่าพี่ เชื่อสิ”

“ครับ เชื่อผมพี่” เชนบอกแล้วยิ้มกว้างจนตาหยี ดวงตาของเขาเป็นประกายสดใสเหมือนมีดวงดาวระยิบระยับอยู่ด้านใน ทำเอาอ๋องรู้สึกเขินกับดวงตาคู่นั้น

“เชื่อคนง่ายระวังถูกหลอกนะเรา” อ๋องแซวแล้วเลี่ยงไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตน เชนเดินไปนั่งตรงข้าม

“พี่อ๋องคงไม่ใจร้ายหลอกผมได้ลงคอหรอก จริงไหมครับ” เชนถาม

“ใครจะกล้าหลอกเชนได้ล่ะ และเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน เย็นนี้พี่จะเลี้ยงข้าวเชนเอง”

“จริงหรือครับ อย่าหลอกผมให้ดีใจเล่นนะครับ” น้ำเสียงของเชนมีแววดีใจมาก

“จริงสิ บอกแล้วไงว่าพี่ไม่กล้าหลอกเชนหรอก ว่างให้พี่เลี้ยงไหมล่ะ หรือว่านัดใครไว้แล้ว” เขาถามแบบล้อ ๆ แต่ตั้งใจฟังคำตอบเต็มที่

“ถ้าพี่อ๋องจะเลี้ยง ผมจะยกเลิกทุกคิวเพื่อพี่คนเดียวเลยครับ”

“แหม!” อ๋องค้อนแล้วทำหน้างอน ๆ “เพราะคำว่าเลี้ยงสินะ เชนถึงได้ตื่นเต้นแบบนี้ นี่ถ้าพี่ไม่เลี้ยง เชนคงไม่ไปหรอกใช่ไหม”

“ขอแค่พี่ชวนผม ต่อให้ชวนเล่น ๆ ผมก็จะไปจริง ๆ ครับ” น้ำเสียงของเขามีแววจริงจัง

“ปากหวานจริงนะเรา มิน่าล่ะใคร ๆ ถึงได้ชอบนัก”

“รวมถึงพี่อ๋องด้วยหรือเปล่าครับ”

ห๊า! เชนถามว่าอะไรนะ รวมถึงเราด้วยงั้นเหรอ ถามทำไม ต้องการสื่ออะไร กะ...กรี๊ดดดด...

อ๋องแทบเก็บอาการไม่อยู่เมื่อได้ยินคำถามชวนให้คิดไปไกลใจหวั่นไหวแบบนั้น เขาเขินจนต้องเมินหน้าไปทางอื่นเพื่อกลั้นยิ้ม

“เชนอยากให้รวมพี่ด้วยหรือเปล่าล่ะ” อ๋องถามกลับเพื่อหยั่งเชิง

รวมด้วย...รวมด้วย...รวมด้วย ใจของเขาเต้นรัวเป็นจังหวะและร่ำร้องให้อีกฝ่ายพูดคำนั้นออกมา

“อยากครับ แต่ผมไม่ชอบบังคับใคร แล้วพี่อ๋องล่ะครับคิดยังไง”

...พี่ชอบเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหน้าแล้วล่ะ...อ๋องอยากจะพูดประโยคนั้นให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่ก็กลัวเด็กใหม่จะตกใจ เพราะเขายังไม่แน่ใจว่าเชนพูดเพราะรู้จักแบบนั้นจริง ๆ หรือแค่เห็นว่าเขาไม่ใช่ชายแท้เลยอยากแกล้งพูดเพื่อให้ขำขันคลายเครียด

“ฮัลโหล ๆ คุยอะไรกันอยู่ค่ะ มากินมะม่วงกันค่ะ แก้ง่วงยามบ่าย” เสียงทักของแพตดังขึ้นที่หน้าประตูห้อง ก่อนเจ้าตัวจะเดินเข้ามาพร้อมผลไม้ถุงใหญ่ ทำให้อ๋องที่กำลังจะอ้าปากตอบต้องหยุดแล้วหันไปสนใจของฝากแทน

“พ่อค้าหล่อเหรอ ถึงได้เหมามาเยอะขนาดนี้” อ๋องถามประชด

“ใช่ค่ะพี่ พ่อค้าหล่อมาก แพตยืนมองแล้วเคลิ้มเลย ไป ๆ มา ๆ ได้ทั้งมะม่วง สัปปะรด แตงโม และอะไร ๆ มาเต็มเลย มาค่ะ มาช่วยกันกิน เชนชอบกินอะไร หยิบได้เลยนะ” แพตชวน

“ขอบคุณครับพี่แพต ท่าทางพ่อค้าจะหล่อเอามาก ๆ ถึงทำให้พี่แพตจ่ายเงินไปเยอะขนาดนี้” เชนดูอึ้ง ๆ

“เปล่าหรอกพี่ล้อเล่น” แพตพูดแล้วหัวเราะ “พ่อค้าเป็นคุณลุงสูงอายุแล้ว พี่เห็นผลไม้เหลือเต็มตู้ก็เลยไปช่วยซื้อน่ะ แกจะได้กลับเร็ว ๆ เที่ยง ๆ แบบนี้อากาศร้อนด้วย สงสารแก”

“สวยแล้วยังใจบุญอีกนะครับ พี่แพตเป็นคนดีจริง ๆ...ผมขอแตงโมแล้วกันนะครับ ขอบคุณครับ” เชนชมแล้วหยิบถุงแตงโมกลับไปที่โต๊ะ ขณะที่อ๋องหรี่ตามองสาวน้อยประจำแผนกด้วยแววตาไม่เป็นมิตรก่อนเดินไปใกล้

“เธอคิดจะเป็นคู่แข่งของฉันหรือยะยัยแพต” อ๋องกระซิบ

“เปล่าค่ะ แพตไม่ได้คิดอะไรกับเชนเลยนะคะ แหม เชนก็ปากหวานไปเรื่อย เขาไม่ได้คิดอะไรกับแพตหรอก” หญิงสาวรีบปฏิเสธ

“แน่ใจ?”

“แน่สิคะ แพตไม่กล้าแย่งพี่อ๋องกับพี่กวางหรอก” เธอยืนยัน

“แล้วไป พรุ่งนี้ฉันไปเหมาผลไม้ของลุงนั่นบ้างดีกว่า เชนจะได้ปลื้มฉันบ้าง” อ๋องเปรยแล้วกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง

 
 
ข้าวมื้อเย็นที่อ๋องตั้งใจจะเลี้ยงเชนมีอันต้องยกเลิก เพราะเด็กหนุ่มมีธุระกับทางบ้านต้องรีบกลับด่วน อ๋องบ่นเสียดายเพราะเขาอุตส่าห์ซ้อมแผนการเพื่อชวนอีกฝ่ายตั้งนาน แต่ก็ถือว่ายังไม่หมดหวัง เพราะเชนบอกว่าโอกาสหน้ายังมีและยังพูดตบท้ายด้วยว่าเขาต้องได้เลี้ยงข้าวแน่ ๆ

“ถ้าพี่นัดวันเสาร์ล่ะ เชนสะดวกหรือเปล่า” อ๋องขยับความพิเศษขึ้นมาอีกหน่อยแล้วรอฟังคำตอบด้วยใจระทึก เขากับเชนเดินออกจากห้องทำงานพร้อมกัน เพราะเชนบอกว่าจะชวนถือถุงสัมภาระไปใส่ที่รถให้

“สะดวกครับ ที่ไหน กี่โมงว่ามาได้เลยครับ”

“เสาร์นี้ที่ห้างใกล้บริษัทนี่แหละ พอดีว่าพี่ได้บัตรส่วนลดค่าอาหารของร้านนั่นมา”

“โธ่ เพราะได้ส่วนลดหรือครับ ผมคิดว่าพี่อ๋องอยากเลี้ยงผมจริง ๆ ซะอีก” เชนพูดเสียงละห้อยน้อยใจ

“ก็ตั้งใจจะเลี้ยงเชนนั่นแหละ ไม่งั้นคงเอามาเลี้ยงทั้งแผนกแล้ว หรือถ้าเชนรู้สึกไม่ดี พี่เก็บบัตรส่วนลดไว้ใช้คราวหน้าก็ได้” อ่องบอก

“ไม่เป็นไรครับ ผมล้อเล่น” เชนบอกแล้วหัวเราะน้อย ๆ

“ว่าแต่เชนจะติดรถพี่ไปลงกลางทางดีมั้ยหรือว่าจะให้พี่ไปส่งที่บ้านก็ได้นะ เราจะได้ถึงบ้านเร็วขึ้น เจ้าบ๊องเป็นยังไงบ้างล่ะ” อ๋องอาสาพร้อมถามถึงสุนัขของเขา

“ไม่เป็นไรแล้วครับ มันคลอดลูกปลอดภัยแล้ว ตอนแรกก็เป็นห่วงแทบแย่คิดว่าจะไม่รอดซะแล้ว นี่ถ้ารู้เร็วกว่านี้ก็คงไม่ต้องยกเลิกนัดพี่อ๋อง แต่ผมบอกที่บ้านไปแล้วว่าจะกลับไปกินข้าวด้วย ถ้าโทรไปบอกว่าไม่กลับ มีหวังโดนสวดแน่ ๆ เลยครับ เพราะแม่ทำอาหารเผื่อไว้แล้ว” เชนพูดแบบตัดสินใจลำบาก

“ไม่เป็นไร เชนบอกแม่แล้วก็กลับบ้านเถอะ อย่าปล่อยให้ผู้ใหญ่ต้องรอ บ้านเชนอยู่แถวไหนล่ะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง จะได้ถึงเร็วขึ้น”

“ดีครับ ผมก็อยากกลับไปดูลูกของเจ้าบ๊องแล้ว แม่บอกว่ามีตั้งสี่ตัว สวยทุกตัวเลยครับ”

“งั้นเราไปกัน ถ้าสวยจริง พี่ขอสักตัวนะ” อ๋องพูดทีเล่นทีจริง

“ได้เลยครับ ผมเชื่อว่าพี่อ๋องต้องดูแลลูกเจ้าบ๊องดีแน่ ๆ ครับ”

“อย่าทำเป็นพูดไป พี่น่ะเลี้ยงอะไรไม่เคยรอดเลยนะ ตายทุกตัวเลย”

“หรือครับ” เชนทำเสียงเหลือเชื่อแล้วหัวเราะก่อนเดินตามอ๋องไปยังลานจอดรถ ทั้งสองไม่รู้เลยว่าตลอดการคุยกันมีใครคนหนึ่งลอบสังเกตและแอบฟังการสนทนาอยู่เงียบ ๆ

หน๊อยย! นังอ๋อง เร่งทำคะแนนใหญ่เลยนะ มีนัดแนะกันไปกินข้าววันหยุดด้วย มีไปส่งที่บ้านหลังเลิกงานด้วย ไม่ได้! เธอยอมไม่ได้เด็ดขาด...กวางคิดด้วยอาการขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน

คิดจะมาแย่งผู้ชายของฉันเหรอ ฝันไปเถอะ บอกแล้วไงว่าผู้ชายคนนี้ฉันจอง!
 

 
“ยังไงเชนมาช่วยพี่หน่อยนะ จริง ๆ พี่ก็ไม่อยากรบกวนวันหยุดของเชนหรอก แต่พี่ทำไม่ทันจริง ๆ” กวางพูดด้วยน้ำเสียงเกรงใจ หลังจากขอความช่วยเหลือให้เด็กหนุ่มมาทำงานวันเสาร์

ขณะที่เชนยังไม่ตอบทันทีทันใด ความจริง เขาจะตอนรับก็ได้ เพราะถึงอย่างไรวันเสาร์นี้ก็ต้องมาแถวนี้อยู่แล้ว แต่เขาอยากมาแบบสบาย ๆ กินข้าวเที่ยงแบบไม่ต้องเร่งรีบหรือพะวงกับงาน

“พี่อยากให้เชนมานะเพราะเชนจะได้ฝึกเรื่องการลำดับเอกสารด้วย และไม่ได้ทำเปล่า ๆ นะ เชนได้โอทีด้วย” เธอยกเหตุผลและหาข้ออ้างดึงดูด “ว่าแต่เชนว่างใช่ไหม ไม่ได้ไปไหนใช่ไหม” ตบท้ายด้วยประโยคคำถามที่ฟังดูคล้ายอยากให้เขาตอบว่าใช่

“ก็...”

“เชนต้องว่างอยู่แล้ว นะ ๆ มาช่วยพี่หน่อย พี่ทำไม่ทันจริง ๆ นี่ก็ขอช่วยแพตไปแล้วแต่เขาจะไปเที่ยวกับแฟน หนุ่มก็ไม่ว่างเพราะเขาบอกว่าจะกลับต่างจังหวัด อ๋องก็บอกว่าไม่ว่างอีก เชนอย่าปฏิเสธพี่อีกคนนะ ไม่งั้นคืนนี้พี่คงต้องนอนที่นี่แน่เลย”

“ก็ได้ครับ วันเสาร์นี้ผมจะมาช่วยพี่กวางเอง” เด็กหนุ่มยอมตกลง

“จริงหรือเชน ขอบใจนะจ๊ะ ขอบใจจริง ๆ ถ้าพี่ไม่ได้เชน พี่คงแย่แน่เลย” กวางยิ้มกว้างด้วยความดีใจและสมหวัง

“ไม่เป็นไรครับ เรื่องแค่นี้เอง”

“และพี่มีอีกอย่างจะขอเชนด้วย ไม่รู้ว่าจะลำบากเชนหรือเปล่า” เธอเอ่ยแบบเกรงใจ

“บอกมาเลยครับ”

“พี่ไม่อยากให้เชนบอกใครว่าวันเสาร์นี้จะมาช่วยพี่ คือ...พี่ไม่อยากให้คนอื่น ๆ รู้สึกไม่ดีน่ะ ที่พวกเขาติดธุระกันหมดแล้วปล่อยให้เชนมาช่วยพี่แค่คนเดียว”

“ได้ครับ” เด็กหนุ่มเข้าใจ กวางยิ้มก่อนเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานด้วยแบบมีชัย ปล่อยให้เชนทำหน้าลำบากใจอยู่ด้านหลัง


.........................................................................



เหมือนเด็กจะมีใจให้นะ ว่ามั้ยคะ ^_^



ออฟไลน์ A.Hikaru

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ตอนที่ 4
แข่งรัก


“พรุ่งนี้คงให้พี่อ๋องเลี้ยงข้าวไม่ได้แล้วครับ พอดีว่าผมติดธุระกับทางบ้านอีกแล้ว” เชนพูดด้วยน้ำเสียงเกรงใจแกมรู้สึกผิดไปตามสายในช่วงเวลาสองทุ่มกว่า ตอนที่อยู่บริษัท เขาไม่ได้บอกอ๋องเรื่องนี้ เพราะกลัวจะแสดงสีหน้าพิธุรให้อีกฝ่ายจับได้

“อ้าว งั้นเหรอ” น้ำเสียงของอ๋องฟังดูผิดหวังชัดเจน “แต่ไม่เป็นไรหรอก เชนไปทำธุระกับทางบ้านเถอะ”

“น่าเสียดายจัง อุตส่าห์นัดกันไว้แล้วเชียว”

“ไม่เป็นไรหรอก วันหยุดนี้ไม่ว่างก็เลื่อนเป็นวันหยุดหน้าก็ได้ บัตรส่วนลดของพี่ยังไม่หมดอายุ” อ๋องพูดติดตลก

“เปลี่ยนเป็นวันอาทิตย์ได้มั้ยล่ะครับ” เชนเสนอ

อ๋องยิ้มปากแทบฉีกเมื่อได้ฟัง ใจอยากตอบรับในทันที แต่เพื่อความแน่ใจว่าคิดไม่ผิด ทำให้อ๋องต้องกลั้นใจตอบอีกแบบ “วันอาทิตย์เป็นวันของครอบครัว ไว้วันเสาร์หน้าเราค่อยไปกินก็ได้”

“เอาแบบนั้นหรือครับ” น้ำเสียงของเชนฟังดูผิดหวัง

“หรือถ้าเชนอยากไปจริง ๆ พี่อยากชวนเชนไปเที่ยวที่อื่นมากกว่า เชนอยากไปไหม”

“ไปครับ” เด็กหนุ่มรับปากทันทีทั้งที่ยังไม่รู้ว่าคือที่ไหน

“พี่อยากไปสวนสนุก เชนจะไปกับพี่ไหม”

“ไปครับไป ผมอยากไปเที่ยวสวนสนุก”

“โอเค งั้นสิบโมงเราเจอกันที่ฟิวเจอร์รังสิตนะ เดี๋ยวพี่ไปรับ”

“ครับ แล้วเจอกันนะครับ”

อ๋องวางโทรศัพท์ลงด้วยสีหน้ายิ้มกริ่ม เขามองตัวเองในกระจกแล้วยักคิ้วหลิ่วตาให้ “คราวนี้อิเจ้แพ้แน่ ๆ บอกแล้วไงว่าเด็กคนนี้ต้องเป็นของเราคนเดียว อิอิอิ ใส่ชุดอะไรไปเดทวันอาทิตย์นี้ดีนะ” เขาทำเสียงแบบคิดหนักแล้วหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียวก่อนตรงไปเลือกเสื้อผ้าที่เรียงเป็นตับอยู่ในตู้ด้วยท่าทางร่าเริง


 
 
เช้าวันสาร์ เชนมาที่บริษัทตามที่ได้รับปากกับกวาง งานของเขาไม่มีอะไรเลย นอกจากเรียงเอกสารเข้าแฟ้มพร้อมฟังกวางบอกรายละเอียดอีกนิดหน่อย ซึ่งเรื่องนี้กวางก็เคยบอกเขาแล้วและมันก็ไม่ได้ยากหรือต้องใช้เวลามากนัก และจริง ๆ แล้วการจัดเอกสารพวกนี้ ช่วยกันคนละไม้คนมือหลังเลิกงานก็ยังได้เลย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมกวางต้องให้เขามาทำโอทีในวันหยุดด้วย

แต่เมื่อมาแล้วและเพื่อไม่ให้กวางรู้สึกไม่ดี ทำให้เชนต้องทำหน้านิ่ง ๆ และตั้งใจฟังสิ่งที่กวางสอน กระทั่งก่อนเที่ยงเล็กน้อย งานทุกอย่างก็เรียบร้อย นี่ขนาดว่าทำกันแค่สองคนยังใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง นี่ถ้าช่วยกันทำสี่ห้าคนคงเสร็จเร็วกว่านี้แน่...เชนคิดแต่ไม่ได้พูดออกไป

“ขอบใจเชนมากเลยนะที่มาช่วยพี่ในวันนี้ ถ้าไม่ได้เชนพี่คงแย่แน่เลย” กวางเอ่ยหลังจากเก็บงานเรียบร้อยแล้ว

“ไม่เป็นไรครับ เรื่องนี้แค่เอง”

“ว่าแต่อย่างเชนเนี่ย วันหยุดไม่ได้นัดใครไว้เหรอ” เธอชวนคุยเพราะอยากรู้ว่าเชนจะบอกเธอหรือเปล่าที่เขานัดอ๋องไว้

“ไม่มีครับ ปกติวันหยุดผมจะอยู่บ้านมากกว่า”

“ไม่ออกไปเที่ยวกับฟงกับแฟนบ้างเลยเหรอ อย่าบอกนะว่าไม่มี น่ารักนิสัยดีอย่างเชน พี่ไม่เชื่อหรอกว่ายังไม่มีแฟน”

“ผมยังไม่มีแฟนครับ” เชนตอบแล้วหัวเราะน้อย ๆ

“แสดงว่าเชนต้องเป็นคนเลือกพอสมควร ว่าแต่ เชนชอบผู้หญิงแบบไหนล่ะ อย่างพี่เนี่ยพอจะมีสิทธิ์ลุ้นมั้ย” กวางถามทีเล่นทีจริง เชนหัวเราะจนตาเป็นรูปสระอิ

“จริง ๆ ผมชอบคนอายุมากกว่านะครับ ดูเป็นคนมีประสบการณ์ชีวิตดี และไม่ชอบคนที่ทำตัวเป็นเด็ก ๆ มันทำให้ผมปวดหัว”

“สเปกเชนคือพี่ชัด ๆ เลยนะเนี่ย” เธอเข้าข้างตัวเองสุดฤทธิ์ “เชนพูดเอาใจพี่หรือเปล่าเนี่ย”

“ไม่ครับ ผมชอบคนอายุมากกว่าจริง ๆ”

“งั้นลองคบกับพี่ดูมั้ยล่ะ” เธอถามอีกและมองรุ่นน้องด้วยแววตาจริงจัง เรื่องความกล้าบ้าบิ่นไม่มีใครเกินเธอเลยจริง ๆ ขณะที่เชนหัวเราะชอบใจ ท่าทางของเขาเหมือนเข้าใจว่าเธอพูดเล่นมากกว่าพูดจริง

“งานตรงนี้ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหมครับ” เขาถาม “ถ้าอย่างนั้น ผมกลับก่อนดีกว่า”

“ดะ เดี๋ยว ให้พี่เลี้ยงข้าวขอบคุณเชนนะ วันนี้พี่กวนเวลาเชนมาตั้งครึ่งวัน”

“แต่...”

“นะ ๆ ห้างใกล้ ๆ นี้ก็ได้ เชนอยากกินอะไร พี่เลี้ยงไม่อั้นเลย ไปกันดีกว่า พี่หิวแล้ว” พูดจบก็คว้ากระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องทำงาน ทำให้เชนต้องตามไป

 
 
ร้านที่กวางพารุ่นน้องไปกินคือร้านที่อ๋องตั้งใจจะเลี้ยงเชนในวันนี้ หญิงสาวสั่งอาหารมาหลายอย่างและบอกให้เชนเลือกได้ตามสบาย แต่เด็กหนุ่มก็สั่งเพียงไม่กี่อย่างและนั่งกินแบบเงียบ ๆ กวางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นพร้อมเช็กอินสถานที่ในเฟสบุ๊กและยังมีข้อความต่อท้ายว่า

“มีความสุข ฟินจัง”

หลายเสียงถามให้พรึ่บว่าเธอมีความสุขเรื่องอะไร และไปกินข้าวที่ห้างแถวที่ทำงานทำไม ไปกับใคร แต่กวางไม่ตอบ เธอบอกเพียงสั้น ๆ ว่าผ่านมาทำธุระเลยแวะกินข้าว และมีความสุขที่ได้กินของอร่อย แต่ก็แอบลงท้ายด้วยเสียงหัวเราะ อิอิ และตัวสติ๊กเกอร์แลบลิ้น เหมือนกำลังล้อเล่นอย่างไรอย่างนั้น

และนอกจากกวางจะเข้าสู่โลกอินเทอร์เนตแล้ว เธอยังคอยลอบสังเกตเชนไปด้วยและเห็นเขาก้มมองหน้าจอเป็นระยะ เขาคงเห็นแล้วที่เธอเช็กอิน เด็กหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ไม่ได้เอ่ยอะไรและไม่ได้แสดงความคิดเห็นหรือกดถูกใจด้วย

“เชนไม่กังวลหรอกว่าจะมีใครรู้ว่าเชนมาที่นี่ พี่ไม่ได้แท๊กชื่อเชนไม่ได้บอกว่ามากับเชน” กวางเอ่ย

“ครับ คือ...ผมไม่ได้กังวลขนาดนั้นหรอกนะครับ เพียงแต่ไม่อยากให้มีคนถามน่ะครับว่าทำไมถึงมากินข้าวกับพี่กวาง เดี๋ยวพี่กวางจะดูไม่ดี”

“ขอบใจจ้ะ เชนเนี่ย น่ารักตลอดเลยนะ” เธอชมแล้วตักกับข้าวใส่จานเขาอย่างเอาใจ ระหว่างนั้นก็ลอบเก็บภาพทีเผลอของเขาเป็นระยะด้วย โดยทำทีเป็นยกมือถือแล้วกด ๆ เหมือนกำลังพิมพ์ข้อความ ซึ่งเชนก็ไม่ได้เอ๊ะใจเลยว่าตัวเองกำลังถูกถ่ายภาพอยู่

 
 
ตึ่ง...ตึ่ง...

เสียงแจ้งเตือนไลน์ดังขึ้น ทำให้อ๋องที่กำลังจะล้มตัวลงนอนต้องคว้าโทรศัพท์ที่อยู่ข้างเตียงมาเปิดดู คนส่งคือกวาง

“ยัยเจ้ส่งภาพอะไรมาเยอะแยะ เกิดคิดถึงอะไรขึ้นมาตอนนี้เนี่ย” อ๋องบ่นแล้วเปิดดูก่อนชะงัก คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย

ภาพที่กวางส่งมาคือภาพของเชนในอิริยาบถต่าง ๆ

นอกจากจะมีภาพแล้ว กวางยังส่งข้อความมาให้เจ็บใจเล่น ๆ อีกด้วย

“เมื่อตอนเที่ยงไปกินข้าวกับคนนี้มาแหละ เขาไม่ให้บอกใคร อิอิ”

“คราวนี้ก็รู้แล้วใช่ไหมว่าใครคือผู้ชนะ โฮ๊ะ โฮ๊ะ”

อ๋องสไลด์ภาพกลับขึ้นไปอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าคนที่เห็นใช่เชนจริง ๆ ซึ่งก็ไม่ผิดตัว เขาได้แต่นิ่งอึ้ง

เชนยกเลิกนัดเขาเพื่อไปกินข้าวกับกวางอย่างนั้นหรือ แล้วท่าทางดีใจเมื่อรู้ว่าเขาจะเลี้ยงข้าวคืออะไร น้ำเสียงเศร้า ๆ ที่โทรมาขอเลื่อนนัดคืออะไร แล้วคำพูดที่บอกว่าอยากไปเที่ยวสวนสนุกกับเขาคืออะไร

โกหกและแกล้งทำเป็นดีใจเพื่อความสนุกอย่างนั้นหรือ แล้วสุดท้ายก็กลับไปหาผู้หญิง ปล่อยให้เขาได้แต่ยืนมองด้วยความพ่ายแพ้

เขาแพ้อิเจ้แล้ว...

“ดีใจด้วย คราวนี้เจ้สมหวังแล้ว” อ๋องพิมพ์ข้อความตอบกลับไปพร้อมสติกเกอร์จุดพลุและสติ๊กเกอร์ยิ้มร่า ขณะที่ในความเป็นจริงกลับตรงข้ามกับรูปสติ๊กเกอร์ กวางส่งรูปโค้งขอบคุณมาให้ จากนั้นก็บอกราตรีสวัสดิ์


 
 
เชนเดินเตร่ไปเตร่มายังชั้นหนึ่งภายในห้างสรรพสินค้าที่นัดกับอ๋องไว้ เขาส่งข้อความหาหลายครั้งแต่อ๋องก็ไม่ตอบเลย ตอนแรกเขาเข้าใจว่าอ๋องน่าจะกำลังขับรถอยู่ แต่พอนานเข้าก็ชักเอ๊ะใจจึงลองโทรถามดูว่าถึงไหนแล้ว แต่อ๋องก็ไม่รับสาย ยิ่งทำให้เชนร้อนใจ

“ผมรอนานแล้ว พี่อ๋องอยู่ไหนครับ ใกล้ถึงหรือยัง”

“ผมโทรมาหลายครั้งแล้ว ไม่เห็นพี่รับสายเลย”

“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ผมเป็นห่วงพี่นะครับ”

เชนส่งข้อความหาหลายครั้ง ทุกข้อความได้รับการอ่านทั้งหมด แต่น่าแปลกที่อ๋องไม่ยอมตอบอะไรกลับมาเลย ทำให้เชนงงและไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้น

“โกรธอะไรผมหรือครับ ทำไมไม่ยอมตอบข้อความเลย ไม่ไปเที่ยวกันแล้วหรือครับ” เชนส่งข้อความไปพร้อมสติ๊กเกอร์รูปคนกำมืออ้อนวอน ใบหน้าเหมือนจะร้องไห้

“พี่ขอยกเลิกนัด ขอโทษด้วย” อ๋องตัดสินใจส่งข้อความกลับไป

“ผมจะรออยู่ที่นี่จนกว่าพี่จะมาหรืออธิบายให้ผมเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น” เชนส่งข้อความกลับไป ท่าทางของเขาค่อนข้างลน และเมื่อข้อความขึ้นว่าอ่านแล้ว เขาก็ต่อสายถึงอ๋องทันที

เสียงสัญญาณดังอยู่นาน อ๋องก็รับสาย

“เกิดอะไรขึ้นครับพี่อ๋อง ทำไมถึงได้ยกเลิกนัด ติดธุระด่วนหรือครับ”

“ใช่ พี่ติดธุระ เชนกลับไปเถอะ” น้ำเสียงของอ๋องมันตึงอย่างเห็นได้ชัด ไม่เห็นหน้าแต่เชนก็รู้ว่าอ๋องกำลังโกรธอยู่

“ทำไมครับ ผมอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พี่บอกผมตรง ๆ ได้ไหมครับ”

“แล้วเชนบอกพี่ตรง ๆ ได้ไหมว่าโกหกพี่ทำไม” อ๋องถาม

“โกหก ผมโกหกเรื่องอะไรครับ”

“ก็เรื่องที่ยกเลิกนัดเมื่อวานแล้วไปกินข้าวกับพี่กวางนั่นไง”

“พี่อ๋องรู้เรื่องนี้ได้ยังไงครับ พี่กวางบอกพี่งั้นเหรอ”

“ทำไมต้องตกใจด้วย ถ้าเชนอยากไปไหนกับพี่กวางก็ไม่เห็นจำเป็นต้องมาโกหกพี่เลย”

“ไม่ใช่นะครับ ผมโกหกไม่ใช่เพราะอยากไปกับพี่กวาง พี่อ๋องกำลังเข้าใจผิด ผมอยากให้เรามาคุยกัน นะครับพี่ มาคุยกับผมหน่อย ผมอยากอธิบาย” น้ำเสียงของเชนเต็มไปด้วยความอ้อนวอน จนอ๋องเริ่มใจอ่อน

“อธิบายทางโทรศัพท์ก็ได้นี่”

“ไม่ครับ เราต้องเจอกัน นะครับ ออกมาคุยกับผมหน่อย ผมจะนั่งรอพี่อยู่ที่ห้างนี้ไม่ไปไหน จนกว่าพี่จะมา ต่อให้รอทั้งวัน ผมก็จะรอ”

“เชนทำแบบนี้ทำไม”

“ถ้าอยากรู้ก็มาคุยกันสิครับ ผมจะรออยู่ที่ม้านั่งชั้นหนึ่งใกล้ทางออก และจะนั่งรอจนห้างปิดครับ” พูดจบเชนก็วางสายไป


..................................................


ตอนหน้าจบแล้วค่ะ :)


จะเคลียร์กันได้หรือเปล่า รอติดตามนะคะ ตอนหน้าจบแล้วค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด