เรื่องราว
ชายในชุดเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้น ที่กำลังนั่งฟุบอยู่บนที่โต๊ะเขียนแบบขนาดใหญ่ ภายหลังคือเตียงที่รกรุงรังเต็มไปด้วยม้วนกระดาษแผ่นบางขนาดใหญ่ ทั้งยังมีอุปกรณ์มากมายในการทำงานกองระเกะระกะ
ติ้ด ติ้ด ติ้ด ติ้ด ติ้ด .....
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ชายที่ฟุบอยู่บนโต๊ะขนาดใหญ่กว่าตัว หันมาคว้ามือถือกดปิดเสียงนาฬิกาปลุกอย่างงัวเงีย เขาลุกขึ้นใช้เท้าเขี่ยสิ่งของรอบกายให้พ้นางเพื่อนที่จะเดินผ่าน เพื่อไปล้างหน้า
เวลา 6.27 เป็นเวลาที่เขาตั้งปลุกเป็นประจำ หลายครั้งที่เค้าจะงัวเงียปิดเสียงแล้วนอนต่อ ในวันที่งานยุ่งเป็นพิเศษ วันนี้ หลังจากที่ล้างหน้าเสร็จ เขาก็เก็บของรอบตัวไปพลาง เพื่อรอบางอย่าง
Line
Fa: ไปทำงานแล้วนะ
เขาวางงานที่กำลังรวบรวมไว้บนโต๊ะข้างกายแล้วหยิบมือถือของตัวเอง สไลด์หน้าจอที่มีสัญลักษณ์สีเขียวขึ้นเตือนอยู่ การกระทำนี้ดำเนินต่อไป เรื่อยๆ ซ้ำวนเวียนนานนับปี คนสองคน ที่ใช้ตัวอักษรสื่อถึงกันเป็นเรื่องปกติ มีการทะเลาะกันบ้าง นานๆครั้งในเรื่องเล็กน้อย
ครับ ผมเองผมชื่อแพทครับ นักศึกษาธรรมดาๆ เฟรชชี่ใสๆกำลังอยู่ในช่วงไฟนอลมหาประลัยอย่างที่หลายๆคนพอจะทราบ แม้จะอยู่ในฤดูสอบ แต่ก็เป็นฤดูส่งงานกันด้วยครับ หนังสือก็ต้องอ่าน งานก็ต้องส่ง แม้ในคณะผมจะมีการสอบที่น้อยกว่าคณะอื่นมาก เพราะการสอบส่วนใหญ่คือส่งงานเป็นหลัก นั่นแหละครับ ตอนนี้หลังจากกวาดงานมากองรวมกันจนพอมีที่ว่างแทรกตัวไปสัมผัสกับฟูกเตียงนอน เพื่ออรรถรสในการคุยกับคนในใจของผม
ว่ากันว่า คนเรามักมีเวลาให้สิ่งที่ชอบอยู่เสมอ ผมว่ามันจริงในส่วนนึงนะ ไม่รู้ว่าเพราะผมอยู่ในวัยเรียนด้วยมั้ย หรือผมไม่มีความรับผิดชอบพอ แต่ผมมักแบ่งเวลาในจุดนี้ จุดที่เค้าคนนั้นของผมพอจะใช้เวลาด้วยกันได้
“เป็นไงมั่งวันนี้ ปวดหัวอยู่มั้ย” ด้วยความที่ว่าผมก็รู้ว่างานของเค้ามักยุ่งอยู่เสมอๆ แล้วเวลาแบบนี้ก็มักจะมีอาการปวดหัว ปวดท้อง ปวดตา เป็นธรรมดาของคนแก่มั้ยนะ ไม่แน่ใจ ฮ่าๆๆ
“ตอนนี้ยังไม่ปวด แต่ไม่อยากไปทำงาน งานยุ่ง เบื่อแล้ว เหนื่อยด้วย”
“เดี๋ยวพี่ฟาก็หยุดแล้ว เนี่ย อาทิตย์นึงผ่านไปไวจะตาย”
“แพททำงานถึงไหนแล้ว ได้นอนยัง”
ครับ บทสนทนาที่คุยกันในระยะเวลาสั้นประมาสี่สิบห้านาทีในตอนเช้าๆแบบนี้ เราก็คุยในเรื่องทั่วไป ผมเล่าเรื่องของผมบ้าง พี่ฟาก็เล่าเรื่องงานเขาบ้าง เราใช้เวลาแบบนี้ ในลักษณะแบบนี้ในทุกๆวัน ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมโอเคนะ ทุกอย่างก็ดูแฮปปี้ดี บางทีที่เราทะเลาะกันบ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ด้วยเรื่องไร้สาระบางประการ ก็ทำให้เราเกือบเลิกคุยกันมาแล้วเหมือนกันนะครับ ฮ่าๆ
ผมกับพี่ฟาเป็นหนึ่งในสถานะยอดฮิต คนคุยกัน เอาจริงคือไม่มีสถานะ จะพี่น้องก็ไม่เชิง จะแฟนก็ไม่ใช่อะไรประมาณนี้ จริงๆผมค่อนข้างต้องการความชัดเจนนะ แต่ถ้าพี่เค้าโอเคผมก็โอเค หรือที่ผมโอเคเพราะอย่างนึง ผมไม่แน่ใจด้วย ว่าผมต้องการคบกับเค้าจริงๆมั้ย ผมไม่เคยคบกับผู้ชาย แม้ในเรื่องของความรู้สึกที่ผมมีให้พี่เค้าจะมั่นคงขนาดไหน แต่ก็ยังคงมีแวบนึงที่ผมไม่มั่นใจในตัวเอง
ผมว่าเราสองคนน่ะความรู้สึกตรงกัน ชอบพอกัน แม้ครั้งแรกผมจะชอบเค้าก่อนก็ตาม แต่เห้ย ผมก็ไม่เคยที่จะชอบผู้ชายคนอื่นเลย แต่กับคนนี้ ผมดันชอบเค้า ผมได้มีโอกาสคุยกับเค้าบ้าง เราได้คุยกันเรื่อยๆในช่วงนึง ผมที่ชอบเค้าอยู่แล้วในส่วนของครั้งแรกนั้น พอคุยกันรู้จักกันมากขึ้น ผมก็ยิ่งชอบเค้า มันมีหลายเหตุการณ์ที่ทำให้ผมสับสน ว่ายังไง คุยกันแบบนี้มันยังไงวะ แล้วตอนนั้นก็ได้เคลียร์ จากพี่น้องผ่านๆกลายเป็นสถานะว่างเปล่าที่มีความรู้สึกต่อกัน
และด้วยความที่เราห่างกันทั้งระยะทาง และอายุ จึงมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต่างกัน และต้องปรับเข้าหากัน ครั้งที่เราเริ่มรู้จักกันนั้นผมอยู่ช่วงมัธยมนั่นแหละ แล้วแบบเออมันก็ต้องมีไม่เข้าใจกันมั่งแหละเนอะ เราก็มีบ้าง แต่เราก็เทคแคร์กันเรื่อยๆ เราไปไหนมาไหนเราก็บอกกัน ผมที่กลับดึก หรือไปร้านเหล้าเป็นบางครั้งคราก็โดนดุเป็นครั้งๆไป
คุณมองว่าความสัมพันธ์ของเราเป็นแบบไหนกัน ในมุมมองของผม แม้จะมีคนเข้าหาผม แม้ว่าผมจะไม่ได้เพิกเฉยกับคนที่เข้ามา แต่ผมขีดแบ่งไว้ว่าคุณเข้ามาได้เท่าไหร่ เอาจริงแล้วคุณรู้มั้ย คนที่ขีดเส้นแบ่งในใจของผมน่ะ คือตัวพี่ฟาเอง แม้เค้าจะไม่รู้ก็ตาม
To be con………..
ค่า สวัสดีนะคะ ขอแทนตัวว่าเหนือนะคะ เป็นเรื่องที่พยายามแต่งอยู่หลายครั้ง อยากให้ลองติดตามดู ติชมกันได้นะคะ ขอบคุณมากๆ และขะพยายามแก้ไขค่ะ