[เรื่องสั้น] ขอได้มั้ยรอยยิ้มของนาย? l ขอครั้งที่ 2 l (23.03.59)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] ขอได้มั้ยรอยยิ้มของนาย? l ขอครั้งที่ 2 l (23.03.59)  (อ่าน 1396 ครั้ง)

ออฟไลน์ mint_wannaluk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0




อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0






ขอครั้งที่ 2



สกู๊ปปี้แดงสดแล่นเข้ามาจอดในโซนจอดรถจักรยานยนต์ของห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่ตั้งอยู่ใกล้สถานศึกษา ถือเป็นย่านของเด็กวัยรุ่นส่วนมากยึดเป็นแหล่งผ่อนคลายหลังเลิกเรียน สกู๊ปปี้คันเก่งของเฟิร์สเลี้ยวเขาช่องเล็กๆเพื่อจอด แต่ยังไม่ทันที่รถจะจอดสนิทดีคนที่ซ้อนด้านหลังก็กระโดดลงซะแล้ว ทำให้รถคันเก่งของเขาเกิดการเสียหลักนิดหน่อย เจ้าของรถตวัดสายตาไปยังเพื่อนสนิทที่ดันกระโดดลงก่อนเขาจะจอดเสร็จ ดีนะที่ประครองรถไว้ได้ไม่ ไม่งั้นมีหวังล้มพร้อมรถทับคันอื่นกลายเป็นโดมิโน่แหง

“เร็วๆสิเฟริส เดี๋ยวเราซื้อของไม่ทัน” ผมหันกลับไปมองเฟิร์สที่ตอนนี้ส่งสายตาดุๆมาให้ ผมเอียงคอเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย อะไรหว่า? ทำไมต้องดุผมด้วยล่ะเนี่ย

“มึงนี่มัน.. ! ฮึ่ยย” เฟิร์สยกนิ้วขึ้นชี้หน้าผมพลางทำเสียงฟึดฟัดอยู่คนเดียว อะไรของเขานะ

“ไม่ต้องบ่นเลย รีบล็อครถได้แล้ว จะได้ไปช่วยเราเลือกของขวัญ เดี๋ยวหกโมงเย็นพี่นะก็มารับกลับบ้านด้วย” ผมพูดพลางนึกถึง ‘พี่นะ’ ลูกพี่ลูกน้องของผมที่โตมาด้วยกัน ตั้งแต่พี่นะไปเรียนมหา’ลัยผมก็แทบไม่ได้เจอหน้าเลยนอกจากพี่นะจะได้หยุดยาวๆถึงได้กลับมาเยี่ยมบ้านทีอย่างครั้งนี้

ผมเข้าไปกระตุกแขนของเฟิร์สเพื่อเร่ง เฟิร์สกรอกตาหน่ายๆใส่ผมก่อนจะล็อครถและลงมายืนเต็มความสูงข้างๆผม เฟิร์สผลักหัวผมด้วยความหมั่นไส้ที่ผมเอาแต่เร่งเจ้าตัวไม่เลิกตั้งแต่อยู่โรงเรียนแล้ว แต่ผมไม่โกรธหรอก คิกๆ เพราะวันนี้ผมมาซื้อของขวัญในวัดคล้ายวันเกิดให้กับพีชในวันพรุ่งนี้ วันที่ 9 มกราคม แค่คิดถึงใบหน้าพีชที่เปื้อนยิ้มก็รู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ผมยกมือขึ้นลูกแก้มตัวเองหน่อยๆเมื่อรู้สึกถึงความรู้สึกร้อนผ่าวที่แก้มทั้งสองข้าง เฟิร์สชะโงกมามองผม คงสงสัยที่ผมเงียบไป แต่พอเห็นท่าทางของผมก็ดันหลุดขำออกมาซะงั้น

“ฮ่าๆๆ มึงนี่เป็นเอามากนะ ไปกันได้แล้วไอ้เตี้ย” ผมหันไปฟาดผั๊วะเข้าให้ที่แขนของเฟิร์สกับสรรพนามที่ใช้เรียกผม

“สูงตายแหละ ไอ้คนคิดไปเอง” ผมแลบลิ้นใส่เฟิร์สก่อนจะหมุนตัววิ่งหนีเท้าที่ลอยตามก้นผมมา ก็ผมพูดจริงนี่ครับ สูงกว่าผมแค่สองสามเซนทำมาเป็นเบ่ง โถ่..
ผมวิ่งหลบเท้าของเพื่อนสนิทมาได้ไม่ไกลนักสายตาก็พลันไปสะดุดเข้ากับร่างสูงโปร่งอันคุ้นตาที่เดินลิ่วมาทางผม ยิ่งเข้าใกล้เท่าไหร่ยิ่งแจ่มแจ้งชัดเจนแก่สายตาของผมแล้วว่าผู้ชายสูงโปร่งหน้าตาหล่อใสตรงหน้าคือพีช! ผมเบิกตากว้าง หัวใจกระตุกเต้นถี่รัว ขาที่ก้าวเดินหยุดชะงักทำให้เฟิร์นที่วิ่งตามมาชนเข้ากับแผ่นหลังของผมและตามมาด้วยเสียงพึมพำจับใจความได้ว่า ‘แม่ง หยุดวิ่งเอาดื้อๆแบบนี้เลยเหรอวะ’ ทำให้สติของผมเริ่มกลับมาแล้วบ้าง แต่เหมือนชายหนุ่มที่ผมจ้องเมื่อครู่จะเริ่มรู้ตัวและสังเกตเห็นพวกผมเข้าแล้ว จึงหันมาตะโกนทัก

“อ้าว!! มิน เฟิร์ส มาทะ.. ทำ เฮ้ย!! มิน มิน! จะรีบไปไหน!!!???” ผมที่สะดุ้งกับเสียงทักของพีชจนเกินเหตุ ส่งผลให้ขาทั้งสองข้างวิ่งหนีเข้าไปในตัวห้างสรรพสินค้าตรงหน้าด้วยความเร็วสูง เสียงทุ่มตะโกนเรียกผมเสียงดันตามหลังมานั้นไม่ได้ทำให้ผมหยุดวิ่งหนีลดความเร็วลงแต่อย่างใด ยังคงหลับหูหลับตาวิ่งอยู่อย่างนั้น

จนกระทั่งมารู้สึกตัวอีกทีตอนที่ขึ้นบันไดเลื่อนมายังชั้นสอง ผมเดินไปพิงเสาแถวนั้นอย่างหมดแรง หอบหายใจสูดอากาศเข้าปอดให้มากที่สุด สายตากวาดมองไปรอบตัวด้วยความระแวง กลัวคนที่ตัวเองหนีมาเมื่อครู่จะมาเจอผมเข้า ผมยกมือขึ้นมากุมตรงอกด้านซ้ายที่มีก้อนเนื้อก้อนเต้นกระหน่ำเพราะความเหนื่อยจากการวิ่งสี่คูนร้อยของผม แต่ไอ้ความรู้สึกวูบวาบในใจและความร้อนผ่าวที่แก้มทั้งสองข้างนี้น่าจะมาจากต้นเหตุของเหตุการณ์ซะมากกว่าสินะ

หลังจากเหตุการณ์การวิ่งสี่คูนร้อยของผมผ่านไปไม่นานผมก็โดนเฟิร์สบ่นซะหูชาว่าผมเขินอะไรไม่เข้าเรื่อง ผมไม่ผิดเถอะ มันเป็นรีเฟล็กของร่างกายผม อีกอย่าง ผมเพิ่งจะสารภาพกับพีชไปได้ไม่นาน ใครจะกล้าสู้หน้าตรงๆแบบฉับพลันทันทีแบบนี้ได้กัน

“เฟิร์สๆ ระหว่างสีดำกับสีกรม เอาตัวไหนดี?” ผมสะกิดเพื่อนสนิทให้หันหน้ามาช่วยพิจารณาเสื้อแขนยาวสองตัวในมือ ตอนนี้ผมอยู่ในร้านเสื้อผ้าแบรนโปรดของผม และเสื้อที่กำลังเลือกนี้ตั้งใจจะซื้อเป็นของขวัญให้กับพีช ผมอยากจะให้ของที่สามารถนำมาใช้ได้ ไม่ใช่เอามาตั้งไว้เฉยๆ อย่างน้อยเวลาหยิบมาใช้เราก็ได้นึกถึงคนที่ให้มา ผมจึงเลือกให้เสื้อเป็นของขวัญซะเลย

“ส่วนตัวกูชอบสีกรมนะ” เฟิร์สพิจารณาอยู่เพียงครู่ และตอบออกมา

“เราก็ชอบสีกรมนะ สีดำเห็นพีชมีเยอะแล้ว.. นี่ครับ ผมเอาตัวนี้ครับ” ผมเอ่ยตอบเฟิร์ส ประโยคหลังหันไปพูดกับพนักงานที่ยิ้มแย้มรับเสื้อจากมือผมไปคิดตังค์

“ทีเรื่องแบบนี้รู้ดีจริงเชียวนะมึง” แววตาล้อเลียนมาพร้อมกับน้ำเสียงกวนของเฟิร์สทำเอาผมหันไปค้อนตาเขียวใส่แม้มือจะรับถุงจากพนักงานอยู่ก็ตาม เจ้าตัวก็หัวเราะชอบใจที่ได้แกล้งผมก่อนจะกอดคอผมออกจากร้านไปซื้อของต่ออีกสองสามที่และพาผมมาส่งที่หน้าโรงเรียน



“ขอบใจมากนะเฟิร์สที่พาเราไปซื้อของ” ผมยิ้มกว้างส่งหมวกกันน็อคคืนให้คนตรงหน้า หลังจากรถของเฟิร์สหยุดจอดที่หน้าโรงเรียน เจ้าของหมวกรับหมวกไปห้อยเก็บไว้และส่งมะเหงกมาเขกหัวผมไม่แรงนัก ผมกุมหัวร้องโอดโอยเบาๆ

“เออ ที่กูยอมเพราะเรื่องของไอ้พีชมันทำให้มึงมีความสุขหรอกนะ” เฟิร์สยิ้มกลับมาให้ผมน้อยๆสื่อว่าตัวเองนั้นคิดแบบนั้นจริงๆ ผมเข้าใจดีครับ ก็เฟิร์สน่ะห่วงผมมากกว่าใคร เรียกว่าแม่คนที่สองของผมก็ว่าได้ แต่อะไรที่ผมทำแล้วมีความสุข แม้เฟิร์สจะไม่ชอบแต่ก็จะไม่แทรกแซงเด็ดขาด เรื่องนี้ก็เช่นกัน

“งั้นเราไปแล้วนะ พี่นะมารอแล้ว” ผมโบกมือให้เฟิร์สก่อนจะวิ่งไปอีกทางตรงไปยังรถโตโยต้าแครมรีสีดำที่จอดรออยู่ ผมเดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งข้างคนขับแทรกตัวเข้าไปนั่งก็พบกับผู้ชายที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายลูกครึ่งกำลังส่งยิ้มกว้างมาให้ผม ผมยิ้มกว้างตอบกลับและยกมือขึ้นไหว้คนที่มีศักดิ์เป็นพี่และเอ่ยทักทายหลังจากที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานาน

“สวัสดีครับพี่นะ ไม่ได้เจอกันนานเลยแอบไปมีสาวสวยคอยเอาใจจนลืมน้องมินไปแล้วรึเปล่าครับ” พี่นะยกมือรับไหว้ผม และหัวเราะรวนทันทีที่ได้ฟังประโยคทักทายของผมจบ มือใหญ่ยื่นมาดึงแก้มผมด้วยความหมั่นเขี้ยว ผมเลยย่นจมูกใส่ ผลที่ได้กลับมาคือฝ่ามือใหญ่ทั้งสองข้างตะปบเข้ายีแก้มผมซะน่วมเลย

“ใครจะไปกล้าลืมเจ้าเด็กขี้อ้อนกันครับ แล้วเมื่อกี้ใครมาส่งเราน่ะ หรือว่าแอบไปมีแฟนไม่บอกพี่ครับ” ดวงตาสีน้ำตาลเรียวหรี่ลงมองจับผิดผม ผมสบตามองดวงตาสีเดียวกันกับผมและทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ใส่ พี่นัดเลยบีบจมูกของผมไปทีเป็นการลงโทษ ผมพยายามปัดป้องออกและหัวเราะกับท่าทางขี้หวงของคนตรงหน้าและตอบคำถามออกไปตามความจริง

“คนนั้นเพื่อนน้องมินต่างหาก พี่นะจำเฟิร์สไม่ได้เหรอครับ ลูกชายแม่ศรเจ้าของตลาด”

“อ๋อ ไอ้เด็กท่าทางกวนๆ พูดจาโผงผางนั่นน่ะเหรอ” ผมพยักหน้าหงึกหงักแทนคำตอบ พี่นะกระตุกยิ้มกับคำตอบของผม ผมได้แต่เลิกคิ้วมองอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป พี่นะเริ่มออกรถขับไปยังเส้นทางที่ผมคุ้นเคยก็ทางกลับบ้านผมนั่นแหละครับ
 
...
เช้าของวันที่ 9 มกราคม ช่างเป็นวันที่สดใสจริงๆเลย อีกทั้งเช้านี้ยังมีสารถีรูปหล่ออย่างพี่นะขับรถมาส่งอีกด้วย ผมกระชับกระเป๋าสะพายของโรงเรียนอีกครั้งและเดินเข้าโรงเรียน และตรงไปยังโรงอาหารกวาดสายตาไปเจอกับกลุ่มเพื่อนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะประจำของเรา สองขาก้าวตรงไปโต๊ะนั้นอย่างรวดเร็ว และทรุดตัวนั่งตรงข้ามอุ้ยที่กำลังดูดเส้นก๋วยเตี๋ยวอยู่ เหลือบไปมองเห็นนัทกำลังนั่งอ่านการ์ตูนโคนัน แต่ไม่ยักกะเห็นเฟิร์สเลยแฮะ

“เฟิร์สล่ะ?” ผมเอ่ยถามอุ้ยเมื่อสอดส่องสายตาดูรอบๆแล้วยังไม่เจอเฟิร์ส

“เห็นมันเฟสมาบอกว่าจะเข้ามาหลังเลิกแถว” นัทเป็นคนตอบคำถามแทนอุ้ยที่กำลังฟาดก๋วยเตี๋ยวร้อนๆด้วยความเร่งรีบ เพราะอีกห้านาทีจะถึงเวลาเข้าแถวแล้ว ผมพยักหน้าตอบนัท พานนึกไปถึงเรื่องเมื่อวานเพราะไม่อยากให้พี่นะสงสัยเรื่องของพวกนั้นจึงต้องไปฝากไว้ที่เฟิร์ส ไม่นานนักเสียงออดบอกถึงเวลาเข้าแถวก็ดังขึ้นพวกผมจึงต้องยุติการสนทนาไว้เพียงเท่านี้


“นี่ ใจคอมึงจะไม่คิดข้าวกินปลาเลยรึไงวะ” เฟิร์สใช้เท้าสะกิดผมเป็นรอบที่สาม
ตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยงครับ พวกผมสี่คนมานั่งกินข้าวที่โรงอาหารด้วยกันเหมือนทุกวัน แต่วันนี้ไม่เหมือนกับทุกวันตรงที่ผมหอบกระดาษสีน้ำตาลอ่อนแผ่นใหญ่ลงมาด้วย ก้มหน้าก้มตาเขียนข้อความ ‘Happy Birthday to Peach’ อย่างบรรจงไม่เป็นอันกินข้าวจนทำให้เฟิร์สต้องสะกิดเตือนหลายรอบ ผมเงยหน้ามองใบหน้านิ่งๆของเฟิร์สก่อนจะส่งรอยยิ้มแหยๆให้และละมือจากกระดาษที่ตั้งใจทำเป็นกระดาษห่อของขวัญมาหาจานข้าวตัวเองแทน

“คร้าบๆ ผมกินแล้วครับแม่ อย่าดุซิครับ” เฟิร์สถลึงตาใส่ผมที่ไปเรียกเจ้าตัวว่าแม่ ส่วนนัทกับอุ้ยที่ได้ยินก็ถึงกับสำลักข้าวจนหน้าดำหน้าแดง เหมือนอยากจะขำ แต่ขำไม่ได้เพราะข้าวยังเต็มปากอยู่ทำได้แค่ทุบโต๊ะด้วยความชอบใจแทน

“เดี๊ยะๆ จะโบกกะโหลกเรียงตัวเลยไอ้พวกนี้” เฟิร์สชี้หน้าพวกผมคาดโทษ แต่ก็ทำได้แค่ฟึดฟัดเดินออกไปซื้อน้ำแค่นั้น ผมหยุดขำพรืดออกมากับท่าทางเหมือนเด็กของเฟิร์ส ฮา ความรู้สึกได้แกล้งใครซักคนมันสนุกแบบนี้เองสินะ

“ว้าว สวยจังเลยอ่ะมิน นี่นายทำเองหรอ??” เสียงเล็กร้องขึ้นมาข้างๆผม ผมหันไปมองร่างเล็กในชุดนักเรียนแขนยาวผูกไทด์บ่งบอกว่าเป็นนักเรียนหญิงมอปลายของที่นี่ มือเรียวเล็กลูบกระดาษสีน้ำตาลที่ผมเขียนค้างได้มากกว่าครึ่ง สายตาช้อนขึ้นมองหน้าร่างเล็กตรงหน้าและผมก็เผยยิ้มกว้างให้กับเธอ

“อื้อ ใช่แล้วล่ะแบ๋ม เราทำเอง” เด็กสาวคนนี้อยู่ห้อง 2 ซึ่งเป็นสายวิทย์-คณิตเช่นเดียวกับห้อง 1 ที่พวกผมอยู่ ‘แบ๋ม’ ถือเป็นควีนของห้องนั้นเลยก็ว่าได้เพราะเธอเรียนเก่งมากโดยเฉพาะด้านคำนวณ  และถ้าถามหาคิงล่ะก็ กำลังนั่งดูดน้ำเสียงดังอยู่ข้างๆผมเนี่ยแหละครับ ก็ ‘อุ้ย’ยังไงล่ะครับ อาจจะฟังดูไม่น่าเชื่อแต่อุ้ยนั้นเรียนเก่งสุดๆเลยล่ะครับ ยิ่งด้านวิทยาศาสตร์ด้วยแล้วยังไม่มีใครล้มตัวท็อปคนนี้ได้เลย

“ทำให้ใครอ่ะ สงสัยทำให้แฟนแน่เลย คิกๆ น่าอิจฉาจัง ถ้าเราเป็นคนนั้นเราคงดีใจยิ้มแก้มแตกแน่ๆที่เห็นมินทำแบบนี้ให้” ผมที่ได้ฟังก็รู้สึกเหมือนความร้อนแล่นขึ้นมาสุมรวมกันที่แก้มทั้งสองข้าง ก้นเริ่มจะนั่งไม่ติดเก้าอี้ ยกมือขึ้นโบกปฏิเสธพัลวัน

“มะ มะ..ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ฟะ แฟ..”

“ไม่ต้องเขินหรอกมิน เราเข้าใจ เดี๋ยวเราไปกินข้าวก่อนนะ บายจ้า” แล้วแบ๋มขยิบตาให้ผมแล้วเธอก็วิ่งหายไปกับกลุ่มคน ผมได้แต่มองตามตาปริบๆ


“ไปได้แล้ว ไปสิวะ ปายยยยย” อุ้ยดันหลังผมให้เดินเข้าไปยังประตูหลังของโรงเรียนสุธาวิทฯ ที่วันนี้ไม่ปิดเร็วเหมือนทุกๆเพราะปกติผมมากับเฟิร์สจะต้องเข้าทางด้านหน้าเพราะประตูปิดหลังจะปิดสี่โมงเย็น ผมหันไปมองหน้าคนที่เอาแต่ดันหลังผมตั้งแต่มาถึงพร้อมกับทำหน้ามุ่ย

“ขอทำใจก่อนสิ เราเพิ่งบอกชอบพีชไปเองนะ ยังไม่กล้าสู้หน้าตรงๆเลยอ่ะ” ผมบ่นอุบใส่ สิ่งที่ได้ตอบกลับมาคือเสียงถอนหายใจยาวของอุ้ย

“มาถึงขนาดนี้ก็รุกจีบไปเลยสิมิน” นัทที่สังเกตเหตุการณ์มาซักพักเอ่ยขึ้น วันนี้เพื่อนๆผมมากันครบองค์ประชุมกันเลยล่ะครับกรู่กันมาเพื่อให้กำลังใจผม(มั้ง)

“บ้า! เราไม่เคยทำแบบนั้นหรอกนะ” ผมปฏิเสธทันที แอบเห็นเฟิร์สกับอุ้ยหันไปพยักเพยิดหน้ากันก่อนที่ทั้งสองคนจะเข้ามาหิ้วปีกผม

“งั้นมึงก็เริ่มมันตอนนี้เลยแล้วกัน”
จากนั้นผมก็โดนหิ้วปีกเข้ามาภายในโรงเรียนแต่เข้ามาได้ไม่เท่าไหร่ผมก็ร้องขอทั้งคู่ให้ปล่อยผม โดยผมรับปากว่าจะเดินไปหาพีชเอง เพราะมีหลายๆคนจ้องมายังพวกเรามากกว่าปกติ ผมเดินลัดเลาะมานิดหน่อยก็เจอกับโต๊ะประจำของพีชข้างตึก 8 ผมสูดหายใจเข้าลึกๆเรียกกำลังใจให้ตัวเองและเดินตรงไปยังโต๊ะที่พีชนั่งอยู่คนเดียว

“พีช” ผมเอ่ยเรียกคนตัวสูงที่ก้มหน้าก้มตาเล่นเกมส์ในโทรศัพท์เอาเป็นเอาตาย แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ยินผมเรียก กลีบปากเรียวสีค่อนข้างอ่อนบ่นพึมพำสบถใส่เกมส์ตรงหน้า ผมแอบอมยิ้มให้กับท่าทางของพีช

จมูกโด่งนี่ทำไมน่ากัดจัง.. ผมคิดได้ดังนั้นจึงโน้มใบหน้าลงไปในระดับเดียวกับพีช เอียงคอมองและส่งเสียงเรียกชื่ออีกครั้ง ครั้งนี้พีชได้ยิน เงยหน้าขึ้นมามองผมและผงะเล็กน้อย ผมแอบเห็นแก้มขาวๆของพีชขึ้นสีเล็กน้อย ดวงตาสีดำขลับฉายแววตกใจระคนดีใจสบเข้ากับผม ผมผละตัวออกมายืนห่างจากพีชทันที เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองดันทำตามความรู้สึกเข้าไปใกล้ชิดมากจนเกินไปซะแล้ว ไอ้บื้อมินเอ้ย!

“มินมาตั้งแต่เมื่อไหร่?” พีชหยัดตัวลุกจากโต๊ะก้าวมายืนตรงหน้าผมและส่งยิ้มกว้างมาให้

“คือเรามาเมื่อกี้ เอ่อ.. เราเอานี่มาให้พีชน่ะ” ผมยื่นถุงที่บรรจุกล่องของขวัญให้ พีชยื่นมือมารับด้วยสีหน้าที่แสดงออกว่ากำลังดีใจ ผมที่ได้เห็นดังนั้นก็รู้สึกเหมือนตัวพองแทบลอย

“...มินเขียนเองเหรอ?” พีชหยิบกล่องขึ้นมาดูและเอ่ยถามผมด้วยเสียงเบาหวิว แต่ในระยะที่ไม่ไกลมานักทำให้ผมได้ยินคำถามชัดเจน นิ้วยาวของพีชไล้ไปตามตัวอักษรเล็กๆบนกระดาษห่อ

“อ.. อื้ม ชอบรึเปล่า?” ผมตอบเสียงตะกุกตะกัก ผมรู้สึกเหมือนกำลังจะมีไข้เลย ให้ตายสิ พีชหันกลับมาสบตากับผมด้วยความรู้สึกหลากหลายในดวงตาคู่นั้น ผมขมวดคิ้วมองพยายามค้นหาความหมายในดวงตาคู่นั้น แต่ผมก็ต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้ รอยยิ้มหวานถูกส่งมาให้ผมแทนเหมือนกับต้องการกระตุ้นหัวใจของผมให้หนักยิ่งขึ้น พร้อมกับคำพูดที่เหมือนต่อลมหายใจของคนแอบชอบแบบผม

“ชอบสิ ชอบมากด้วย”








ความจริงกะให้เรื่องรวบรัดเพื่อไม่ให้เรื่องสั้นกลายเป็นเรื่องยาว
แต่เราว่าแบบนั้นมันคงไม่ฟินเท่าไหร่ เลยขอยาวนิดนึงนะคะ
อย่าเพิ่งเบื่อกันน้าา

 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ดีจ้า

จะรบกวนเอาตอนที่ 2 ไปโพสต์ต่อในทู้แรกทีนะคะ

อันนี้
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52528.0

(แก้ไขหัวกระทู้ได้ที่ reply แรก)

ส่วนอันนี้แจ้งลบไปได้เลยค่ะ เด๋ยวแอดมินจะลบให้เอง ไม่งั้นมันจะขึ้นทู้ใหม่ทุกตอน ตามอ่านลำบากมวั่ก  :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด