ตอนที่ 2
“บังเอิญจัง”
ฟ้าลั่นทักคนที่กำลังหยิบไอติม
“อ้าว ไง…. เมีย ไอติมมึง”
คิ้วขมวดเมื่ออีกฝ่ายดูไม่ใส่ใจนัก
“เชอๆ สเลอบี้มันยังไม่แข็งอ่ะ กดยังไม่ได้”
เชอเบทก้าวเท้าไปที่ตู้กดเสลอบี้ ไม่สนใจฟ้าลั่นที่ยืนขมวดคิ้ว….
“ไงเพื่อนฟ้า โดนเด็กเมิน”
“สัส…ไม่ต้องย้ำ”
หยิบแมกนั่มแจกเพื่อนคนละอันก่อนเดินไปจ่ายตัง เซ็งนิดหน่อยที่ไม่ได้รับความสนใจแต่ก็เข้าใจว่าแต่ละฝ่ายต่างมีชีวิตของตัวเองไม่ยุ่งเกี่ยวกัน
แต่กับกิ๊กคนอื่นไม่เห็นเมินเขาขนาดนี้?
หรือเพราะมันก็โชกโชนพอตัวเหมือนกัน
เหลือบมองคนข้างตัวที่มาจ่ายตังอีกช่อง แขนขาวพาดอยู่บนไหล่ของผู้ชายตัวเล็ก เชอเบทหันมายักคิ้วทักคู่ขาที่พึ่งแยกกันตอนเช้าแล้วเดินผ่านฟ้าลั่นกับเพื่อนออกไป
“เป็นไงเพื่อนฟ้า ถูกฟันแล้วทิ้งของแท้ ฮ่าๆๆๆๆ”
“เชี่ยหุบปาก ไม่งั้นเอาไอติมกูคืนมา”
“ฮ่าๆๆๆๆ มันขำจริงๆว่ะ เอาน่ามึง เด็กมันก็ดังพอตัว จะเมินมึงก็ไม่แปลก อาจจะมีหล่อกว่ามึงเข้ามาในชีวิตเยอะแยะ”
“เออ ไปกินเหล้าดีกว่าว่ะ”
“ขอบโลกมั้ยล่ะ? เผื่อจะได้มันอีกคืน”
ตบหัวเพื่อนที่ยังแซวไม่หยุดไปที
“ไม่โว้ย ไปผับดีกว่า เบื่อร้านเหล้ามหาลัย ไปมะ?”
“สัส ตบซะแรง เออๆเอาดิ อยากเต้นมาหลายคืนแล้วว่ะ”
“อยากไปคั่วสาวด้วย”
“เชี่ยปิงหื่น”
“กูทำตามไอ้ฟ้า”
“หึหึ ไปโว้ย คืนนี้เกี้ยวสาวกันดีกว่า”
ตอนเย็นฟ้าลั่นพาเติ้ลไปกินข้าวแล้วไปส่งที่หอพัก จูบหวานๆที่ข้างแก้ม….และกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดนักศึกษากลายเป็นเสื้อเชิ้ตสีดำสนิทไม่ติดกระดุมสามเม็ดบนโชว์แผงอกที่มีรอบสักรูปทรงเรขาคณิตทับกันที่อกซ้าย กางเกงยีนส์รองเท้าหนัง ทรงผมเซ็ตเปิดหน้า ตบแป้งและฉีดน้ำหอมราคาแพง
นัดกับปิงและแท็ปที่หน้าผับเลยในตอนสี่ทุ่ม
“เชี่ยโคตรเด็ด”
ปิงตาวาวเมื่อเจอสาวนุ่งน้อยห่มน้อยนมทะลักเต้นอวดทรวดทรงอยู่ข้างไม่ไกล อีกฝั่งก็ไม่ต่างกัน แต่ละคนเหมือนแข่งกันแต่งตัวมาโชว์ความเซ็กซี่
“มาๆชนๆ”
เหล้าราคาแพงกับค่าเปิดโต๊ะที่เสียไป ฟ้าลั่นยิ้มกรุ้มกริ่มขยิบตาให้ทุกสายตาที่สบ หรือยกแก้วทักทายโต๊ะที่ยกแก้วทักทายมา
“เพลงโคตรตื๊ด กูไปเต้นก่อน”
แท๊ปยักคิ้วเลียปากก่อนจะเดินเบียดเข้าไปในฟลอร์หน้าเวที
“กูไปมั่ง”
ปิงรีบดอดตามเพื่อนไป
ฟ้าลั่นไม่ใช่สายเต้น แค่ชอบกินบรรยากาศ โยกหัวน้อยๆ จิบเหล้าแพงๆก็พอ
สักพักก็มีสาวแวะเวียนมาชนหรือแวะมานั่ง แต่สำหรับคืนนี้มันยังเร็วไปที่จะเลือกใครสักคนกลับไปนอนด้วยกัน ต้องรอเวลาอีกนิด…
กินบรรยากาศจนเห็นร่างคุ้นตา
ผู้ชายผมยาวใส่เสื้อกล้ามสีดำและกางเกงยีนส์เดฟสีดำรองเท้าหนัง….เกือบไม่แน่ใจเพราะทุกทีอีกฝ่ายจะใส่แต่เสื้อยืดสีขาว
จนกระทั่งมือขาวที่ถือแก้วยกมาชนกับโต๊ะใกล้เคียงทำให้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย…เชอเบท
ไม่ทันให้ได้มองจนมั่นใจ เชอเบทเดินหายไปกับฝูงชนในมุมที่มองไม่เห็นเพราะคนเยอะไปหมด จะลุกไปก็ไม่ได้เพราะเพื่อนไม่อยู่เฝ้าโต๊ะสักคน
“เชี่ยโคตรมันส์”
สองเพื่อนกลับมา ฟ้าลั่นรีบลุกไปตามหาคน
“ไปไหนวะ”
“ปวดฉี่ เดี๋ยวมา”
เดินแหวกไปตามกลุ่มคน ไม่มีอารมณ์จะสานสัมพันธ์กับคนที่เข้ามาทักหรือใจกล้าขนาดล้วงมือเข้ามารูปแผ่นอก แค่ดันออกแล้วยิ้มจาง
ตาคมสอดส่องไปทุกที่เท่าที่แสงสลัวจะอำนวย…เจอแล้ว
เชอเบทเดินผ่านไปทางอีกฝั่ง…ก่อนหายไปในห้องน้ำ
ขายาวรีบก้าวตามไป
ห้องน้ำที่ตกแต่งด้วยหินอ่อนดูดีสมกับเป็นผับดังมีคนอยู่ประปราย บ้างเมาแล้ว บ้างกำลังสานสัมพันธ์ลึกซึ้ง…เชอเบทยืนอยู่กระจกบานในสุด กำลังล้างมือ
ยิ้มมุมปาก ก้าวเท้าเดินไปล้างมือข้างๆ
“บังเอิญนะ”
“หือ ฟ้าลั่น?”
“เที่ยวผับด้วยหรอ”
เชอเบทยิ้มสะบัดมือเปียกน้ำแล้วเอนหลังพิงกับซิงค์แทน
“ก็เที่ยวบ้าง ตามวาระและโอกาส มึงล่ะ?”
“เมมเบอร์”
“รวยจริง กูจะเข้ายังต้องเกาะเขามา”
หัวเราะไม่จริงจัง…ฟ้าลั่นขยับเข้าไปกักคนตัวขาวไว้ในอ้อมแขนด้วยการเอามือเท้าไว้กับซิงค์น้ำ
เชอเบทเลิกคิ้วก่อนหัวเราะขำ
“ติดใจรึไง”
“คิดว่าไงล่ะ”
ยืนหน้าเข้าไปใกล้จนปลายจมูกชนกัน….แพขนตาที่เรียงตัวอยู่เหนือนัยน์ตาคมหลุบลงเพราะเจ้าของจ้องไปที่เรียวปากบางที่ใกล้แสนใกล้
ตาเรียวกระพริบ…กลั้นหายใจกับกลิ่นกายดิบเถื่อนที่อยู่รอบตัวฟ้าลั่นราวกับฟีโรโมนล่อให้ติดกับ…
กลิ่นน้ำหอมผู้ชายจากลำคอแกร่ง…ให้ตายก็นึกไม่ออกว่ากลิ่นอะไร ทำไมมันช่าง….ล่อลวง หยอกล้อความรู้สึก
“คิดว่า…รออะไร?”
ข้อมือขาวถูกมือสีแทนดึงให้เดินตามเข้าไปในห้องน้ำห้องในสุด เชอเบทถูกดันเข้ากับกำแพงหินอ่อน คางขาวถูกล็อคให้แหงนขึ้นรับจูบร้อนเอาแต่ใจ…
ไม่มีคำว่าเล้าโลม…มีแต่ความอยากที่แสดงออกมา
จูบดูดดื่มผสมฟันคมที่ขบไปทั่วจนเจ็บปาก…แต่โคตรรู้สึกดี
มือหนาที่บีบเคล้นไปทั่วผิวเนื้อจนทำได้แค่ยึดลำคอแกร่งไว้เป็นหลัก เงยหน้าครางแผ่วปล่อยให้อีกฝ่ายทำรอยเพิ่มไว้ที่คอ
“รอยเก่ายังไม่หายเลยสัส”
โวยเสียงแหบพร่า
“หึหึ…”
ฟ้าลั่นเลิกเสื้อกล้ามสีดำของเชอเบทขึ้นก่อนจะส่งลิ้นร้อนไปหยอกล้อกับยอดอกสีชมพู…ตวัดลิ้นชิมจนกายขาวบิดเร่าสองมือขยุ้มกลุ่มผมของฟ้าลั่นระบายอารมณ์
ยกยิ้มที่เห็นหน้าขาวแดงก่ำ…ตาเรียวพราวน้ำตาเพราะความเสียวซ่าน
“ใช้แค่มือก่อนนะ”
มือหนาปลดซิบกางเกงแล้วล้วงเข้าไปในชั้นในกอบกุมแกนกายไซส์เล็กกว่าที่เริ่มแข็งตัว ของเขาก็ปวดหนึบแต่ไม่อยากทำที่นี่…..เพราะถ้าทำจนเสร็จเชอเบทคงเดินกลับออกไปไม่ไหว
“อ๊า ฟ้า…”
แม้แค่มือ…สัมผัสของฟ้าลั่นราวกับช่ำชอง รู้ว่าจุดไหน แบบไหนที่ทำให้รู้สึกดี ไหนจะจูบที่สัมผัสใบหูแล้วแกล้งกระซิบคำหยาบ
คายหื่นกาม….
ไม่นานเชอเบทก็เริ่มตัวกระตุก
ฟ้าลั่นจับร่างโปร่งหันหาโถส้วม โก่งโค้งลง ค่อยๆรีดน้ำขาวขุ่นออกมา….แม้บางส่วนจะไม่ยอมพุ่งออกไปเลอะเทอะฝาโถส้วมก็ตาม
เชอเบทโดนรีดน้ำจนแทบหมด เอนตัวพิงอกแกร่งที่ยังคงจูบซับไปทั่วลำคอ
“แค่นี้เหนื่อยแล้วหรอ”
“เชี่ย มึงนี่ทะลึ่ง”
“ไปต่อกันนะ?”
“กูยังไม่เมาเลย”
“ไปเมากับกูสองคน”
“แต่…อื้ออออ”
พูดมาก ต้องโดนจูบ…
“ห้องรังหนูนั่นอ่ะนะ?”
ห้องพักโทรมๆที่ฟ้าลั่นเช่าทิ้งไว้พาคนมากก ไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไร ไม่มีข้าวของ มีแค่เตียงกับผ้าปูเก่าๆ แต่มันก็สะดวกเพราะทั้งชั้นไม่มีใครอยู่ ใครจะบ้าไปอยู่ชั้นห้าที่ไม่มีลิฟต์นอกจากเดิน…
“ไม่ชอบรึไง”
“กลิ่นสาบคนก่อนๆของมึงคลุ้งจนเหม็น”
ยิ้มกวนก่อนจะผลักฟ้าลั่นชนประตู ดึงกางเกงของตัวเองขึ้นมาใส่ จิ๊ปากที่อีกฝ่ายยังเอามือมาวนเวียนกับก้นตัวเองจนต้องตีมือเพี๊ยะ
“โอ้ยเจ็บ”
“สำออยสัส…”
แกล้งบีบขย้ำมังกรที่พองตัวคืน…
“สัส….เดี๋ยวมังกรก็พ่นน้ำ”
“จะไปไม่ไป?”
“หึหึ….”
เอวถูกรั้งไปโอบให้เดินข้างกัน ฟ้าลั่นเดินไปล้างมือที่เลอะคราบน้ำกามของเชอเบท ตบสะโพกมนใต้กางเกงยีนส์รัดรูปให้อีกฝ่ายสะดุ้งถลึงตาใส่แล้วโอบเอวลากออกมา
“แค่โอบก็พอปะ”
ส่ายหัวปลง มือที่โอบเอวดันล้วงเข้ามาลูบไล้ผิวกายใต้เสื้อกล้าม
“ทำหวง”
“หื่นให้มันรู้เวลาหน่อย”
มาจนถึงรถอินโนว่าสีขาว ฟ้าลั่นเปิดประตูข้างคนขับดันเชอเบทขึ้นไปนั่งแล้วโน้มคอขาวสวยลงมารับจูบเอาแต่ใจอีกครั้ง
“น่าเอาตรงนี้จริงๆ”
“ไอ้เงี่ยนเอ้ย”
“นั่งดีๆล่ะอย่าซน”
“ไม่คิดว่ากูขับรถมาบ้างรึไง”
“แล้วมึงขับมาปะล่ะ?”
“ไม่ว่ะ”
ยักคิ้วกวน
ฟ้าลั่นจับคนกวนตีนจูบอีกที…แม่งหมั่นไส้
รถอินโนว่าขับทะยานฝ่าการจราจรที่คล่องตัวในยามค่ำคืน….เชอเบทนั่งกดโทรศัพท์เล่นไปเรื่อย เอนกายพิงไหล่แกร่งของคนขับรถ ยอมให้มือสากลูบไล้ไปตามสะดวก
“จูบดิ๊”
ไฟแดงก็เรียกร้องให้ยื่นหน้าเข้าไปจูบ…
ท่อนลำที่ดันกางเกงฟ้าลั่นออกมาบ่งบอกว่าอยากขนาดไหน…
แกล้งเอามือไปลูบก็ถูกปัดออก
“เดี๋ยวแหกโค้งตายห่าก่อนได้เอา”
“มึงนี่ ฮ่าๆ เงี่ยนจริงจังว่ะ”
“เพราะมึงนั่นล่ะ ขำอะไร”
“เปล๊า….”
ห้องรังหนูบนตึกชั้นห้าถูกใช้เป็นที่ระบายอารมณ์อีกคืน….
==========================================
สไตล์การเขียนของเรื่องนี้คือ เดาเอาเองว่าบทไหนใครพูด 55555555555 แต่จริงๆแล้วก็ไม่งงมากนะ มั้ง เราชอบมากเลย
ตกลง ชื่อเรื่องอันนี้แหละเนอะ -。。。-