โลกนี้มันกลม จนเราสองคนมาเจอกัน*****ตอนที่1 และเราก็หากันจนเจอ*****|11/3/2559
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: โลกนี้มันกลม จนเราสองคนมาเจอกัน*****ตอนที่1 และเราก็หากันจนเจอ*****|11/3/2559  (อ่าน 1343 ครั้ง)

ออฟไลน์ Be mine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม




“เอ้ยๆ ไอ้แว่นมาแล้วเว้ย”

เสียงเห่าหอนดังมาแต่เช้าทันทีที่ผมก้าวเข้ามาในโรงเรียน ผมพยายามเดินให้เร็วที่สุดเพื่อให้ผ่านไอ้พวกนรกนั่น ผมไม่ได้กลัวหรอกนะครับ แค่ไม่อยากจะมีเรื่องในโรงเรียนเท่านั้น

“จะรีบไปไหนว่ะไอ้แว่น เจอเพื่อนไม่ทัก หยิ่งหรือไง”

“ฉันจำไม่ได้นะว่าเคยมีเพื่อนปากเสียแบบพวกนาย”

ผมหันไปตอบด้วยหน้านิ่งๆ และคงจะเป็นหน้าเอ๋อๆด้วยสำหรับพวกนั้น ถึงจะโดนผมว่าแต่พวกมันกลับหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน แต่มีเพียงคนเดียวที่มองแล้วแค่ยิ้มๆ ไอ้ลูเซี่ยน หัวหน้าแก๊งนรกนั่นเอง ผมนี่โคตรจะเสียดายหน้าหล่อๆของมันเหลือเกิน เกิดมาหน้าตาดีขั้นเทพ กับหุ่นสูงๆสุดเพอร์เฟ็คแต่ดันมีปากเป็นหมา และลูเซี่ยนก็เป็นคนเดียวในแก๊งนรกที่ผมจำชื่อได้ เพราะเราเรียนอยู่ห้องเดียวกัน

“หรอออ แต่พวกกูอยากเป็นเพื่อนกับมึงนะ”

ไอ้ลูเซี่ยนมันเดินมากอดคอผม และสิ้งที่น่าเจ็บใจที่สุดก็คือ ผมดันหัวใจเต้นแรง แถมยังรู้สึกร้อนวูบวาบที่หน้าอีกต่างหาก นี่ผมตกหลุมรักไอ้ปากเสียหน้าหล่อหรอเนี่ย



และวันที่ผมรอคอยก็มาถึง นั่นคือวันจบการศึกษา และเป็นวันสุดท้ายที่ผมจะได้เจอแก๊งนรกนี่

“พวกกูต้องคิดถึงมึงแน่ๆเลยว่ะไอ้แว่น”

นี่เป็นประโยคพวกมันพูดดีที่สุดกับผม นะ ถ้าไม่มีประโยคต่อมาว่า

“คงไม่มีใครที่พวกกูแกล้งแล้วสนุกเท่าคนเอ๋อๆอย่างมึงแล้ว”

ผมไม่ได้เอ๋ออย่างที่พวกมันบอกหรอกนะครับ แค่ผมใส่แว่นหนาๆคงจะทำให้บุคลิกผมเหมือนเด็กเนิร์ดที่เอาแต่หมกมุ่นอยู่กับกองหนังสือไม่สนใจโลก แต่ที่จริงแล้วผมแค่พยายามทำตัวให้ไม่เป็นที่สนใจของคนอื่นต่างหาก แต่ผมคงจะคิดผิด เพราะมีไอ้แก๊งนรก 5 คนนี่แหละที่เข้ามาวุ่นวายกับผมทุกวัน ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่หนึ่งปี ผมนั่นแทบจะหาความสงบสุขในการเรียนได้เลยสักวัน

“จบแล้วก็อย่าได้เจอกันอีกเลยนะ”

ผมบอกแล้วเดินผ่านไป แต่ก็มีมือมาดึงแขนผมไว้ก่อน ผมหันไปมองอย่างไม่พอใจ แต่พอเห็นว่าเป็นลูเซี่ยนหัวใจผมก็เต้นแรงอีกครั้ง ถึงผมจะดีใจที่ไม่ต้องมาได้ยินเสียงที่กวนประสาทอย่างนี้ แต่ลึกๆแล้ว ผมก็เสียใจที่จะไม่ได้เจอหน้าของคนคนนี้อีกแล้ว แต่อย่างไรความดีใจมันก็มีมากกว่า

“ปล่อย!"

“ทำไม รังเกียจหรอ”

“รู้ตัวก็ดี งั้นก็ปล่อยได้แล้ว เพราะฉันโคตรจะรังเกียจนายเลย”

ลูเซี่ยนมองผมอย่างยิ้มๆ แล้วก็ทำในสิ่งที่ทำให้หัวใจของผมแทบหยุดเต้นแล้วก็กลับมาเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอก ผมเอามืออีกข้างมาจับแก้มที่โดนหอมโดยอัตโนมัติ

“เป็นไง หายรังเกียจฉันหรือยัง”

มันยังมีหน้ามายักคิ้วให้ผมอีกนะ เสียงหัวเราะจากลูกสมุนของมันก็ทำให้เปลี่ยนจากเขินเป็นโกรธได้ทันที หนึ่งปีที่ผ่านมาครั้งนี้เป็นการแกล้งที่เจ็บที่สุด มันกล้าดีอย่างไรถึงมาล้อเล่นต่อหัวใจผมอย่างนี้

“ไอ้ ไอ้บ้าลูเซี่ยน! ไอ้หัวหน้าแก๊งนรก! ฉันเกลียดนาย ต่อไปนี้อย่างได้เจอกันอีกเลยนะ!”

ผมตะโกนด่าอย่างลืมอาย  ไม่สนใจแล้วว่าใครจะมองมาบ้าง แต่ตอนนี้ผมรู้แค่โกรธแล้วอยากจะด่าอะไรออกไปให้คนตรงหน้าเจ็บบ้าง แต่ผมก็ด่าออกไปได้แค่นั้น ผมวิ่งหนีออกไปแต่เสียงหัวเราะยังคงตามหลังมาไม่หาย ภาพลูเซี่ยนที่ผมหน้าผมอย่างตกใจก็ยังคงติดตาผมอยู่ ผมวิ่งหนีจนไม่ได้ยินเสียงพวกบ้านั่นแล้ว ผมยกมือปาดน้ำตาที่ไหลออกมาเมื่อไหร่ไม่รู้ นี่ผมรังเกียจลูเซี่ยนอย่างที่พูดออกไปจริงๆหรอถึงได้ร้องไห้ออกมา ใช่แล้ว ผมต้องเกลียดลูเซี่ยนแน่ๆ นั่นถือเป็นเรื่องดีที่สุด ลาขาดนะไอ้บ้าลูเซี่ยน  โลกคงจะไม่กลมเกินไปจนทำให้เราได้เจอกันอีกหรอกนะ



เอาออเดิร์ฟมาเสิร์ฟเรียกน้ำย่อยไปก่อนนะ  :hao6:
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-03-2016 20:20:23 โดย Be mine »

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เสียใจนะแว่น คนแต่งเขาบอกโลกกลม
ลูเชี่ยนอย่าเอาแต่แกล้งคนที่ชอบซิ

ออฟไลน์ Be mine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ตอนที่ 1 และเราก็หากันจนเจอ

“แกริค แกริคอดทนไว้ก่อนนะ ฮึก หมอ หมอช่วยพี่ผมด้วย ฮือออ”
ตากลมโตที่เอ่อล้มไปด้วยน้ำตามองหมอที่มีสีหน้าลำบากใจ เขาพยายามที่สุดแล้วที่จะฉุดชีวิตของคนไข้ของเขาไว้ และยิ่งเป็นความต้องการของคนไข้ที่ต้องการจะจากไปยิ่งทำให้เขาลำบากใจเป็นสองเท่า เพราะยิ่งยื้อเท่าไหร่ คนไข้ก็จะยิ่งทรมาน หมอและพยาบาลที่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าได้แต่เบือนหน้าหนีเพราะไม่อาจจะทนเห็นภาพที่คนตัวเล็กร้องไห้จนน้ำตาแทบไหลออกมาเป็นสายเลือดได้ ถึงแม้พวกเขาจะไม่ใช่ญาติ แต่ก็ทำให้พวกเขารู้สึกบีดรัดหัวใจจนเจ็บไปกับคนตรงหน้าได้

“ไม่เป็นไรนะกัส ถึงพี่จะจากไปแต่พี่ก็จะอยู่ตรงนี้ตลอดไปนะ”
เสียงของแกริคพูดออกมาอย่างแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยินพร้อมกับมือที่พยายามยกขึ้นแล้ววางลงตำแหน่งอกข้างซ้ายของผู้เป็นน้องชายที่เอาแต่ส่ายหน้าและร้องไห้จนแทบจะขาดใจ

“ไม่เอานะแกริค ฮือออ แกริคอย่าทิ้งให้กัสอยู่คนเดียวนะ กัสขอร้อง กัส ฮึก ขอร้อง”

“ใครบอกว่ากัสจะอยู่คนเดียว กัสยังมีหลานชายที่น่ารักอยู่นะ ฝากลูกของพี่ด้วยนะกัส”

“แกริค แกริค ฮือออ ไม่นะแกริค!!”
ร่างเล็กกรีดร้องอย่างสุดเสียงเมื่อคนที่เพิ่งยิ้มให้เขาค่อยๆหลับตาลงและจากไป
ไม่เหลือแล้วสินะ เขาไม่เหลือใครแล้ว คนเดียวที่ทำให้เขาอยากใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้จากไปแล้ว ทำไมมันเจ็บอย่างนี้นะ เจ็บ เจ็บมากจริงๆ เจ็บจนทนไม่ไหวแล้ว

ร่างเล็กล้มลงอย่างหมดแรงเนื่องจากการร้องไห้อย่างหนัก หมอและพยาบาลต่างเขามาช่วยกันปฐมพยาบาลและพาคนตัวเล็กไปนอนพัก



เปลือกตาสีอ่อนลืมขึ้นอย่างอ่อนล้า น้ำตาที่ยังไม่ทันเหือดแห้งเอ่อล้นแล้วค่อยๆกลั้นตัวไหลลงมาอาบสองแก้มซีด แต่ไม่มีเสียงสะอื้อร้องแต่อย่างใด ถึงจะไม่มีเสียงใดๆออกมาแต่ภายในใจก็เจ็บจนผมแทบจะตายตามพี่ชายไปให้ได้ วันนี้แล้วสินะที่ผมจะมีโอกาสได้อยู่กับพี่ชายเป็นครั้งสุดท้าย การแบกรับหน้าที่ด้วยตัวคนเดียวแบบนี้มันหนักจริงๆเลยนะ หนักจนผมรู้สึกว่าจะแบกมันไม่ไหว แต่ผมจะไม่ยอมทำตัวอ่อนแออีกต่อไป ผมจะต้องเข้มแข็งเพื่อให้คนที่มันทำร้ายพี่ชายของผมไม่สามารถดูถูกผมได้ และผมก็จะตามตัวมันมารับกรรมที่มันทำไว้ให้ได้

“กัสไหวหรือเปล่าครับ พี่ว่าไปนั่วพักก่อนดีกว่า”
พี่โรเจอร์หรือผู้กอง โรเจอร์ที่เป็นเพื่อนร่วมงานของแกริครีบเข้ามาประคองผมที่จะล้มลงเพราะร่างกายที่อ่อนล้า

“ขอบคุณครับพี่ ขอบคุณที่ช่วยผมจัดการงานศพแกริคด้วยนะครับ ถ้าไม่มีพี่ผมก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี

“ไม่เป็นไร แกริคมันเป็นเพื่อนพี่ และกัสก็เป็นเหมือนของน้องพี่ มีอะไรก็บอกพี่ได้เลยนะ พี่ยินดีช่วยทุกอย่าง”
ผมยิ้มขอบคุณคนตรงหน้าจากใจจริง ผมไม่มีญาติที่ไหน ทั้งชีวิตผมมีแค่แกริค แกริคคนเดียวที่เลี้ยงดูผมมาตั้งแต่จำความได้ ถึงแม้ว่าผมกับแกริคจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน เพราะแกริคส่งผมไปเรียนที่ต่างประเทศตั้งแต่ผมจบมัธยมโดยที่ผมก็ไม่รู้เหตุผล แต่หลังที่ผมเรียนจบก็รีบกลับมาเพื่อจะได้มาอยู่กับพี่ชายคนเดียว แต่กลับกลายเป็นผมต้องกลับมาเพื่ออยู่คนเดียว

“พี่โรเจอร์ได้เบาะแสของคนร้ายบ้างหรือยังครับ”

“ตอนนี้ทางตำรวจกำลังตามหาหลักฐานอยู่ แต่คงต้องใช่เวลานานหน่อย เพราะคนร้ายเป็นพวกของผู้มีอิทธิพล หรือเรียกได้ว่าเป็นลูกน้องของแก๊งมาเฟียใหญ่”
คำว่าแก๊งทำให้ผมย้อนกลับไปนึกถึงสมัยเรียนมัธยม ผมรีบสะบัดหน้าไล่ความคิดที่ไม่ค่อยน่าจะจดจำทิ้งไป ตอนนี้ผมมีเรื่องที่ใหญ่กว่านั้นต้องจัดการ

“ใครบอกว่ากัสจะอยู่คนเดียว กัสยังมีหลานชายที่น่ารักอยู่นะ ฝากลูกของพี่ด้วยนะกัส”
ลูกแกริค หลานของผม ผมจะต้องตามหาหลานให้เจอ

“พี่โรเจอร์พอจะรู้จักนักสืบเก่งๆบ้างไหมครับ”



ผมมองเอกสารที่อยู่ในมือ และรูปถ่ายเด็กชายวัยสามขวบที่หน้าตาคล้ายผมมากอย่างน่าตกใจ ทันทีที่ผมได้รูปและที่อยู่ของหลานชายเพียงคนเดียวของผม ผมก็รีบมาตามที่อยู่ทันทีโดยไม่ฟังคำเตือนของคนที่ผมจ้างให้มาสืบ

“แต่ผมของเตือนคุณไว้นะ ว่าอย่าไปยุ่งกับคนของแก๊ง Pheonix ดีกว่านะครับ ถ้าคุณยังไม่อยากอายุสั้น”
แก๊งฟีนิกซ์หรอ นี่คงจะเป็นแก๊งมาเฟียชื่อดัง และอาจจะเป็นแก๊งเดียวกับที่ทำร้ายพี่ชายของผม เท่าที่พี่โรเจอร์เล่าให้ผมฟัง สาเหตุที่แกริคโดยทำร้ายเพราะแกริคกำลังทำคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ของแก๊งมาเฟียใหญ่อยู่ พวกมันคงจะไม่พอใจจึงให้ลูกน้องมาทำร้ายแกริคจนตาย และถ้าเป็นแก๊งเดียวกันกับแก๊งฟีนิกซ์ หลานของผมก็คงจะไม่ปลอดภัย
ผมยืนอยู่หน้ารั้วบ้านหลังใหญ่ ที่ใหญ่มากจนไม่น่าจะเรียกว่าบ้านได้ ที่มองลอดรั้วไปที่ประตูก็มีผู้ชายตัวใหญ่สี่คนใส่สูทที่ไม่ค่อยเข้ากับหน้าตาเท่าไหร่ในความคิดผม

“คุณมาหาใครหรอครับ”
ผู้ชายวัยกลางคนเดินเข้ามาถามผมที่อยู่อีกฝั่งของรั่ว ถึงคำพูดจะดูสุภาพ แต่ด้วยน่าตาก็ทำให้ผมกลัวจนเกือบจะลืมคำพูดที่เตรียมมาไว้เป็นอย่างดี

“ผมมาหาเจ้าของบ้านหลังนี้”

“ผมคงให้คุณเข้าพบไม่ได้หรอกครับ เพราะว่าคุณลูเซี่ยนไม่อยู่”
ชื่อที่ได้ยินทำให้หัวใจผมกระตุก เป็นชื่อที่ผมจำได้ไม่มีวันลืมถึงแม้จะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่ผมบอกแล้วไง ว่าโลกมันคงจะไม่กลมเกินไปจนทำให้เรามาพบกันอีกครั้งก็ได้

“แล้วหลานของคุณลูเซี่ยนอยู่ไหม”

“คุณหมายถึงใครครับ คุณลูเซี่ยนไม่มีหลานนะครับ”
หรือว่านักสืบจะให้ที่อยู่มาผิด

“คุณเคยเห็นเด็กคนนี้บ้างไหมครับ”
ผมยื่นรูปลอดรั้วเหล็กไปให้ชายคนนั้นดู

“อ้อ นี่คุณหนูริกเกอร์ ลูกชายของคุณลูเซี่ยน”
ลูกหรอ ทำไมลูกแกริคถึงไปเป็นลูกของตาลูเซี่ยนอะไรนั่นได้

“แล้วคุณมีธุระอะไรหรอครับ บอกผมก็ไว้ก่อนก็ได้นะครับ แต่ว่าไปแล้วหน้าคุณก็เหมือนกับคุณหนูริกเกอร์เหมือนกันนะครับ หรือว่าคุณจะเป็นญาติของคุณลูเซี่ยน”

“ใช่ครับ ผมเป็นญาติกับคุณลูเซี่ยนเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ”

“งั้นเชิญคุณเข้ามารอข้างในก่อนก็ได้นะครับ อีกสักพักคุณลูเซี่ยนก็กลับมาแล้ว”

“แล้วริกเกอร์อยู่ไหนหรอ”
ผมถามคนที่เดินนำหน้าผมไปที่ประตูบานใหญ่ที่มียักษ์ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู

“คุณหนูริกเกอร์อยู่ในบ้านครับ คุณเดินเข้าไปก็จะเจอเองครับ”
เมื่อมาส่งผมที่หน้าประตูชายคนนั้นก็เดินกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ ผมมองหน้าคนเฝ้าประตูแล้วก็ต้องสะดุ้ง คนอะไรน่ากลัวชะมัด

“มองอะไร ฉันไม่ใช่โจรสักหน่อย ไม่ต้องมาทำหน้าเข้มแบบนั้นใส่ก็ได้”
ผมบอกแล้วรีบเดินเข้าไปในบ้าน อะไรกันข้างนอกคนเฝ้าตั้งเยอะแยะ แต่ในบ้านกลับไปมีคนเลยสักคน ข้างในก็กว๊างกว้าง คิดว่าจะอยู่สักร้อยคน

“คุณหนูริกเกอร์อย่าวิ่งอย่างนั้นนะคะ เดี๋ยวล้มมาแล้วคาด้าจะโดนคุณลูเซี่ยนว่า”
ผมเดินตามเสียงของผู้หญิงเข้าไปในห้องขนาดกว้างที่บนพื้นเต็มไปด้วยของเล่นจนแทบจะไม่มีที่ว่างให้เดินได้ ผมเข้าไปในห้องก็จะเห็นที่มาของเสียงกำลังหน้าซีดและพยายามเดินฝ่าของเล่นไปอย่างลำบากเพื่อไปไล่จับเด็กชายที่วิ่งหนีและหลบของเล่นบนพื้นได้อย่างชำนาญ

“เอ่อ ขอโทษนะครับ”
เสียงของผมทำให้ทั้งสองคนหยุดแล้วหันมามอง เด็กชายวิ่งมาหยุดตรงหน้าผม ส่วนผู้หญิงวัยกลางคนก็ยืนหอบ

“พี่เป็นใครหรอครับ แล้วพี่มาทำไม เป็นคนร้ายหรือเปล่า”
เสียงเล็กๆแบบเด็กเอ่ยถามผมอย่างสดใส ผมนั่งคุกเข่าแล้วยิ้มให้เด็กกว้างๆเพื่อสร้างมิตรภาพในการพบกันครั้งแรก

“อาไม่ได้เป็นคนร้ายหรอกครับ อาเป็นอาของริกเกอร์ และจะมารับริกเกอร์ไปอยู่ด้วย ริกเกอร์ไปอยู่กับอานะครับ”

“ริกเกอร์จะไม่ไปไหนทั้งนั้น!!”
เสียงตวาดดังลั่นอยู่ข้างหลังจนผมตกใจกอดริกเกอร์แน่น

“ป๊ะป๋า”
ริกเกอร์เรียกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังผมอย่างดีใจแล้วออกจากอ้อมกอดผมไปหาคนนั้น ผมยืนขึ้นทำใจก่อนจะหันไปมองคนนั้นอย่างกลัวๆ จะไม่ให้กลัวได้อย่างไร แค่เสียงก็โหดจะตายแล้ว หน้าตาไม่อย่างกับมหาโจรเลยหรือไง แต่ผมก็ต้องตกใจอีกครั้งที่คนตรงหน้าไม่ได้หน้าตาน่ากลัวอย่างที่ผมคิดไว้ในตอนแรก แต่กลับหล่อมาก หล่อจนเหมือนมีแสงบางอย่างพุ่งออกมาจากตัว แต่มันก็หายไปทันทีที่ผมเผลอจ้องตาดุๆที่มองมาที่ผมอย่างโกรธๆ หัวใจผมเต้นแรง มือสั่น ปากสั่น ไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากผม ที่ผมคิดว่าโลกคงกลมไม่มากเท่าไหร่นั่นผมคิดผิด เพราะคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผม คือ ไอ้หัวหน้าแก๊งนรกในสมัยมัธยมของผม ไอ้บ้าลูเซี่ยนนั่นเอง

“นายเป็นใคร เข้ามาในบ้านฉันได้ไง”
ลูเซี่ยนยังคงความเข้มของเสียงไว้อย่างตอนแรกเพียงแต่ไม่ได้ตะคอกถาม

“ฉ….ฉัน ชื่อกัส ฉัน เป็นอาของริกเกอร์”
ผมตอบออกไปโดยที่ปากยังไม่หายสั่น ลูเซี่ยนที่อุ้มริกเกอร์อยู่ชะโงกหน้ามาใกล้หน้าผมแล้วมองอย่างพิจารณา หัวใจผมยิ่งเต้นแรงขึ้น ลุ้นว่าลูเซี่ยนจะจำผมได้ไหม คิ้วลูเซี่ยนขมวดเข้าหากันยิ่งบีบรัดหัวใจผมยิ่งขึ้น

“ขี้เหร่อย่างนายเนี่ยนะเป็นอาของริกเกอร์”
ลูเซี่ยนเอาหน้าออกไปแล้วพูดคำพูดที่ทำให้ผมแน่ใจเลยว่าเป็นลูเซี่ยนคนเดียวกันอย่างไม่ต้องสงสัย

“ปากยังเสียเหมือนเดิม”
ผมกระซิบบอกกับตัวเอง แต่คนหูดีกลับไปยิน

“นายว่าไงนะ”

“นอกจากนายจะปากหมาแล้วนายยังหูดีเหมือนหมาด้วยนะ”
ผมว่ากลับโดยลืมว่าเมื่อไม่นานมานี้ผมยังกลัวเสียงหมอนี่อยู่เลย ผมไม่ยอมหรอก เรื่องอะไรมาว่าผมขี้เหร่ล่ะ ตอนเรียนมหาลัยมีแต่คนบอกว่าผมน่ารักทั้งนั่น ลูเซี่ยนไม่ได้ว่าอะไรว่าอะไรผมกลับเพียงแค่ยิ้ม เป็นยิ้มที่ผมจำได้แม่น

“ฉันว่าฉันคุ้นๆหน้านายนะ”

“ไม่คุ้นหรอก จะคุ้นได้ไง เราเพิ่งเคยเจอกัน นายเพิ่งเจอฉัน และฉันก็เพิ่งเจอนาย นายจะมาคุ้นหน้าฉันได้ไง”
ผมรีบบอกก่อนที่ลูเซี่ยนก่อนที่จะจำได้ว่าผมคือไอ้แว่นคนนั้น แต่ตอนนี้ผมไม่ได้ใส่แว่นหนาๆกรอบใหญ่ๆแล้ว แถมผมยังสูงขึ้นด้วย ตัดผมทรงใหม่ เรียกได้ว่าไม่เหลือคราบเด็กเนิร์ดคนนั้นเลย ลูเซี่ยนก็คงจะจำไม่ได้หรอก

“นั่นสินะ แล้วนายเป็นอาของริกเกอร์จริงๆหรอ”

“ก็จริงน่ะสิ เห็นไหมว่าฉันกับริกเกอร์หน้าเหมือนกันอย่างกับแกะ”
ผมยื่นหน้าเข้าไปให้ลูเซี่ยนดูใกล้ๆ แต่พอรู้ตัวก็รีบเอาหน้ากลับมา นี่ผมทำอะไรไปเนี่ย ดูสิลูเซี่ยนมันยิ้มใหญ่เลย ผมแกล้งทำหน้าหงุดหงิดกลบเกลื่อนความเขินที่คิดว่าคงปิดไม่มิดเพราะผมเริ่มรู้สึกร้อนๆที่หน้า และคาดว่ามันต้องแดงแน่ๆ

“พี่เป็นอาของริกเกอร์หรอครับ”
ริกเกอร์ถามผม ผมยิ้มให้หลานแล้วพยักหน้ายื่นยันคำตอบ

“ใช่แล้วครับ อาเป็นอาของริกเกอร์แล้วจะมาพาริกเกอร์ไปอยู่ด้วย”

“ริกเกอร์ต้องอยู่ที่นี่”
ลูเซี่ยนบอกผมด้วยเสียงที่เริ่มจะโหดขึ้นมานิดๆ แต่ผมไม่กลัวแล้ว

“ริกเกอร์ไปอยู่กับอานะครับ”
ผมไม่สนใจคนหน้าบึ้งแล้วถามหลานต่อ

“ไม่เอาครับ ริกเกอร์จะอยู่กับป๊ะป๋าที่นี่”
เพล้ง! ผมเหมือนได้ยินเสียงหน้าตัวเองแตก ตอนแรกผมคิดว่าริกเกอร์จะตอบตกลงอย่างแน่นอน แต่ท่าทางผมจะคิดผิดอย่างแรง ริกเกอร์ดูจะติดนายลูเซี่ยนมากด้วย

“ฮ่าๆๆ ทีนี่นายก็กลับไปได้แล้ว”
ลูเซี่ยนหัวเราะเสียงดังแล้วบอกไล่ผมทั้งๆที่ยังไม่หยุดหัวเราะ ผมเหมือนได้ย้อนไปช่วงมัธยมที่ผมโดนแก๊งนรกหัวเราะเยาะเวลาที่ผมทำอะไรเอ๋อๆออกไป

“หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้เลยนะ และฉันก็จะพาริกเกอร์ไปอยู่ด้วยให้ได้ ฉันจะไม่ปล่อยให้ริกเกอร์อยู่กับคนอันตรายอย่างนายที่เป็นหัวหน้าแก๊งนรกหรอก”

“เมื่อกี้นายเรียกฉันว่าอะไรนะ”

“คนอันตรายไง”
ผมมองหน้าลูเซี่ยนอย่างงๆ หมอนี่ความจำสั้นหรือไง ผมเพิ่งพูดไปแต่ดันจำไม่ได้ซะงั้น

“นายเรียกฉันว่าหัวหน้าแก๊งอะไรนะ”

“แก๊งนรกไง ก็นายมันเป็นหัวหน้าแก๊งนะ..”
ผมเอามือปิดปากตัวเองทันทีที่หลุดพูดออกไป ซวยแล้วไงเรา อย่างนี้ลูเซี่ยนจะจำได้ไหมเนี่ย

“ฉันเหมือนเคยได้คนเรียกฉันแบบนี้มาก่อน แต่นึกไม่ออกว่าเคยได้ยินมาจากไหน”
ผมถอดหายใจเฮือกใหญ่ โชคดีที่ลูเซี่ยนจำไม่ได้ แต่ผมก็อยากรู้นะว่าถ้าลูเซี่ยนรู้ว่าผมเป็นคนเดียวกับไอ้แว่นแล้วเขาจะทำอย่างไร

“คิดไปเองแล้วนายน่ะ แล้วก็ส่งริกเกอร์มาให้ฉันด้วย ริกเกอร์ไปอยู่กับอานะครับ อาสัญญาว่าจะดูแลริกเกอร์ให้ดีกว่าป๊ะป๋าของริกเกอร์เลยนะ”
ผมยังพยายามโน้มน้าวริกเกอร์ ผมยิ้มออกมาเมื่อริกเกอร์เริ่มหน้านิ่ว คงจะกำลังคิดอยู่ แต่ผมก็ต้องผิดหวังเมื่อริกเกอร์ส่ายหัวปฏิเสธ นี่ผมจะต้องกลับไปอยู่คนเดียวอีกหรอเนี่ย

“ริกเกอร์ไม่สงสารอาหรอครับ ถ้าริกเกอร์ไม่ไปอยู่กับอา อาก็ต้องอยู่คนเดียว อาก็ต้องเหงามากๆด้วย”
ผมทำหน้าเศร้าใส่ริกเกอร์ เด็กเริ่มทำหน้าเศร้าตามผมแล้วหันไปมองหน้าป๊ะป๋าที่อุ้มอยู่อย่างขอความคิดเห็น ผมทึ้งเหมือนกันนะที่คนอย่างลูเซี่ยนสามารถเลี้ยงริกเกอร์ได้จนโตและฉลาดขนาดนี้

“ป๊ะป๋าครับ ให้พี่สาวมาอยู่กับพวกได้ไหมครับ”

“ริกเกอร์ครับ อาเป็นผู้ชายเหมือนริกเกอร์นะครับ แล้วอาก็ไม่อยู่ที่นี่หรอกนะ”
ผมแก้ตัวที่ริกเกอร์เรียกผมว่าพี่สาว นี่ผมเหมือนผู้หญิงขนาดนั้นเลยหรอครับ เพื่อนที่มหาลัยก็ทักกันหลายคน แต่ผมก็คิดว่าพวกมันแกล้งเล่น แต่นี่เด็กทักผมก็คงต้องเชื่อแล้วล่ะ

“พี่สาวไม่อยากมาอยู่กับริกเกอร์หรอครับ”
ท่าทางที่ผมแก้ตัวไปริกเกอร์จะไม่ได้ฟังเลย

“อาอยากอยู่กับริกเกอร์นะครับ แต่ถ้าให้อามาอยู่บ้านหลังนี้ด้วย อาไม่เอาหรอกครับ”

“ทำไมล่ะ นายรังเกียจหรอ”
คำถามเดิมดังขึ้นมา ผมมองหน้าลูเซี่ยนที่ยิ้มอย่างยียวนมาให้ ตกลงหมอนี่จำผมได้หรือไม่ได้กันแน่นะ แล้วผมควรจะตอบว่าอะไร ถ้าตอบแบบเดิมแล้วจะโดนแบบเดิมด้วยหรือเปล่า

“รังเกียจใคร แต่ถ้าเป็นรังเกียจนายก็ไม่แน่”
ผมตอบกลับไปแล้วลุ้นๆว่าจะโดนหอมแก้มไหม แต่เห็นลูเซี่ยนนิ่งเลยเสียดาย เฮ้ย โล่งใจต่างหาก

“นะครับ พี่สาวมาอยู่กับริกเกอร์นะครับ พี่สาวจะได้ไม่เหงา ริกเกอร์ก็จะไม่เหงา แต่ถ้าริกเกอร์ไปอยู่กับพี่สาวป๊ะป๋าก็จะเหงา ริกเกอร์รู้ว่าป๊ะป๋าไม่อยากเหงา”

“รู้ดีจริงๆนะเรา ฟอดดดด ส่วนนายก็มาอยู่ด้วยกันอย่างที่ริกเกอร์บอกก็ได้ นายจะได้มาช่วยฉันเลี้ยงริกเกอร์ด้วย ท่าทางคาด้าคงจะรับมือเจ้าแสบไม่ไหว”
ลูเซี่ยนมองเลยไปข้างหลังผมที่ผู้หญิงที่วิ่งไล่ริกเกอร์อยู่ก่อนหน้านี้กำลังเก็บของด้วยท่าทางที่ยังเหนื่อยไม่หาย

“ไม่เป็นไรค่ะคุณลูเซี่ยน ป้ายังไหว”

“ไม่เป็นไรครับ แค่งานในบ้านก็หนักแล้วยังต้องมาโดนเจ้าแสบเล่นงานอีก ตกลงนายมาอยู่ที่นี่นะ เดี๋ยวฉันจะให้คนไปจัดห้องข้างๆห้องริกเกอร์ให้”
พูดจบลูเซี่ยนก็อุ้มริกเกอร์เดินไป ทิ้งให้ผมได้แต่อ้าปากค้าง คำที่เตรียมจะโวยวายจำต้องกลืนลงคอแล้วเดินตามลูเซี่ยนไปที่ห้องอาหารขนาดกลาง มีโต๊ะไม้สีน้ำตาลขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง

“พี่สาวมานั่งข้างๆริกเกอร์นะครับ”
มือเล็กๆกวักเรียกผมจนแทบจะหลุด ผมเดินไปนั่งข้างๆริกเกอร์ โดยมีลูเซี่ยนนั่งอยู่หัวโต๊ะ

“ริกเกอร์ครับ อาเป็นผู้ชายนะครับ เลิกเรียกอาว่าพี่สาวได้แล้ว”

“ริกเกอร์ไม่เรียกพี่สาวก็ได้”

“ดีมากครับ”

“แต่ริกเกอร์จะเรียกว่าหม่าม้า เพราะหม่าม้าจะได้คู่กับป๊ะป๋าของริกเกอร์”
ผมแทบตกเก้าอี้กับคำพูดของเด็ก ส่วนคนที่โดนจับคู่ให้ก็เอาแต่ยิ้ม เป็นยิ้มที่ผมไม่ชอบเอาเสียเลย เพราะมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังเสียเปรียบอย่างไรก็ไม่รู้


ต่อข้างล่างจ้า

.
.
.
.
.
.
.

ออฟไลน์ Be mine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ครับพี่โรเจอร์ ถ้าได้เบาะแสอะไรก็รีบบอกผมเลยนะครับ ขอบคุณนะครับพี่”
ผมวางสายจากพี่โรเจอร์ ผมโทรไปถามเรื่องเบาะแสคนร้าย แต่พี่โรเจอร์ก็บอกว่ายังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย ผมสงสัยจริงๆว่าพวกมันมีอำนาจขนาดไหนกันตำรวจถึงทำอะไรไม่ได้ และอีกอย่างที่ผมสงสัยก็คือ ไอ้แก๊งมาเฟียที่ว่าใช่แก๊งเดียวกับแก๊งของลูเซี่ยนหรือเปล่า ถ้าเป็นแก๊งเดียวกันผมควรจะทำอย่างไรดี แต่ผมกับริกเกอร์จะตกอยู่ในอันตรายหรือเปล่า แต่การที่ผมมาอยู่ในบ้านนี้ก็ดีเหมือนกัน ผมจะได้ลองสืบดูว่าใช่แก๊งเดียวกันหรือเปล่า

“หม่าม้าทำอะไรอยู่หรอครับ”
ริกเกอร์เดินมาหาผมที่สวนข้างบ้าน ผมยิ้มให้แต่พอเห็นคนที่เดินตามมาด้วยก็ต้องทำหน้าเซ็งทันที นี่ผมจะไม่มีโอกาสได้อยู่กับหลานสองคนเลยใช่ไหม

“อากำลังคิดแผนจะพาริกเกอร์หนีอยู่ครับ”
ผมแกล้งบอก อยากจะแกล้งคนที่อารมณ์ดีจนเกินเหตุ ไม่รู้เป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียใหญ่อย่างแก๊งฟินิกซ์ได้ไง ไม่ได้ดูน่ากลัวเลยสักนิด

“ถ้าคิดว่าทำได้ก็เชิญ”
ท่าทางมั่นใจของลูเซี่ยนทำให้ผมหมั่นไส้ ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากเงยหน้าจากริกเกอร์ไปแลบลิ้นใส่คนช่างกวน

“หม่าม้าเป็นหม่าม้าของริกเกอร์ หม่าม้าก็ต้องเรียกตัวเองว่าหม่าม้าด้วย”

“อาเป็นอาของริกเกอร์ ไม่ใช่หม่าม้า เพราะฉะนั้น อาจะเรียกตัวเองว่าอา และริกเกอร์ต้องเรียกอาว่าอาเหมือนกัน”
ผมอธิบายยาวไม่แพ้เด็กช่างคิดช่างพูด ที่ท่าทางจะไม่ฟังที่ผมพยายามจะอธิบายให้เข้าใจเลย และคนที่เป็นป๊ะป๋าก็ไม่ยอมช่วยกันอธิบายอีกต่างหาก

“ไม่ใช่ หม่าม้าเป็นหม่าม้า”

“ไม่ใช่ครับ อาเป็นอา”

“หม่าม้า”

“อา”

“หม่าม้า”

“อา ฮึก”
เจ้าตัวเล็กเบะปากน้ำตาคลอแล้ว ผมที่กำลังจะเถียงกลับต้องเปลี่ยนเป็นคำพูดปลอบทันที

“โอ๋ๆๆ ริกเกอร์คนเก่งไม่ร้องนะครับ นี่นายไม่คิดจะมาช่วยฉันปลอบเลยหรือไง”
ผมหันไปว่าคนที่นั่งไขว้ห่างมองดูเหตุการณ์อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

“ใครเป็นต้นเหตุก็ปลอบเองสิ”

“ชิ โอ๋ๆ ริกเกอร์คนเก่งเงียบนะครับ”

“ฮึก ริกเกอร์จะเรียกหม่าม้า ฮึก”

“โอเคครับๆ เรียกหม่าม้าก็ได้ครับ ริกเกอร์เงียบนะ”

“สัญญานะครับ ฮึก”

“ครับ สัญญาครับ”
ผมยื่นนิ้วไปเกี่ยวก้อยกับริกเกอร์ และก็ได้ผลครับ เด็กขี้แยเมื่อกี้กลับยิ้มกว้างให้ผมโดยจะไม่รู้เลยว่าเพิ่งร้องไห้มาถ้าไม่เห็นคราบน้ำตาที่ยังเต็มแก้ม

“ฮึฮึ นายนี่หลอกง่ายชะมัด”

“หลอก หลอกอะไร นี่ริกเกอร์หลอกอาหรอครับ”

“หม่าม้าผิดสัญญานะครับ”

“แต่ริกเกอร์หลอกอา เอ้ย หม่าม้า”

“ริกเกอร์ไม่ได้หลอกนะครับ แต่ป๊ะป๋าบอกว่าทำแบบนี้แล้วหม่าม้าจะเชื่อ”
ผมหันไปมองค้อนไอ้คนต้นคิดที่ยักคิ้วส่งมาให้ผม

“ฝากไว้ก่อนนะ ฉันมีโอกาสเมื่อไหร่จะพาริกเกอร์หนีไปสุดขั้วโลกเลย”

“ตามสบายเลย ถ้านายมีความสามารถมากพอ”

“นี่ลูเซี่ยน ขอถามอะไรหน่อยสิ”
ผมถามลูเซี่ยนเมื่อริกเกอร์ไปวิ่งเล่นที่สนามกับลูกน้องลูเซี่ยนสี่ห้าคน

“ว่ามาสิ”

“แม่ริกเกอร์ไปไหนหรอ”
ผมถามคำถามที่คาใจออกไป แต่ไม่รู้ว่ามันเป็นคำถามที่ควรจะถามหรือเปล่า ดูแววตาของลูเซี่ยนวูบไหวแวบหนึ่ง แต่ก็ถูกแทนทีโดยแววตาเรียบเฉยดังเดิม

“แม่ริกเกอร์ตายตั้งแต่ริกเกอร์อายุได้ 1 ขวบ”

“แล้วทำไมริกเกอร์ถึงไม่ไปอยู่กับแกริค เอ่อ ฉันหมายถึงพ่อของริกเกอร์น่ะ”

“นายคิดว่าฉันจะปล่อยหลานให้ไปอยู่กับคนที่ทิ้งพี่สาวฉันไปอย่างนั้นน่ะหรอ”

“นายรู้ได้ไงว่าแกริคทิ้งพี่สาวนายและริกเกอร์ไป”

“นายไม่ต้องรู้หรอก”
ผมได้แต่เงียบฟัง เพราะผมไปอยู่ต่างประเทศเลยไม่รู้ว่าที่นี่เกิดอะไรขึ้นมาบ้าง

“แต่ฉันมั่นใจว่าแกริคไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งพี่สาวนายและลูกไป ฉันว่าเขาต้องมีเหตุผล”

“เฮอะ นายจะไปรู้อะไร แล้วนี่มันไปอยู่ไหนแล้วล่ะ หรือว่าตายไปแล้ว”
ลูเซี่ยนถามออกมา เป็นคำถามที่ทำให้ความโกรธของผมพุ่งปรี๊ด

“นายมันงี่เง่าลูเซี่ยน! ทำไมนายไม่คิดจะถามเหตุผลของคนอื่นก่อนที่จะตัดสินใจโง่ๆด้วยตัวเอง และที่พี่ฉันตายไปก็คงเป็นฝีมือนายด้วยใช่ไหม”
ผมกระชากคอเสื้อลูเซี่ยน ลูกน้องที่เฝ้ามองอยู่กรูกันเข้ามาแต่ลูเซี่ยนยกมือห้ามเอาไว้ ลูเซี่ยนมองไปที่สนามก็เห็นว่าริกเกอร์ไม่เห็นเหตุการณ์ตรงนี้เลยพูดออกมา

“พี่นายตายแล้วหรอ”
ลูเซี่ยนถามอย่างแปลกใจ ถ้าเขาแกล้งถามก็คงเป็นการแสดงละครที่สมจริงมาก

“นายจะบอกว่าไม่รู้งั้นหรอ แล้วไอ้แก๊งมาเฟียที่มันสั่งให้คนมาทำร้ายพี่ชายฉันก็คงไม่ใช่แก๊งฟีนิกซ์ของนายงั้นสินะ!”
ผมยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากคอเสื้อลูเซี่ยน ถึงแม่มันจะทุลักทุเลมากสำหรับผม ก็ลูเซี่ยนตัวสูงอย่างกับเปรต

“นายคิดว่าที่นี่มีแก๊งมาเฟียแค่แก๊งเดียวหรือไง”
เมื่อได้ยินคำตอบของลูเซี่ยน ผมก็ค่อยๆปล่อยคอเสื้อ แล้วถอยห่างออกมาสงบอารมณ์ตัวเองแล้วคิดตามสิ่งที่ได้ยิน

“นายนี่ไม้เปลี่ยนเลยนะ”

“พูดอะไรของนาย”

“ไม่มีอะไรหรอก มานั่งสิ เดี๋ยวฉันจะเล่าอะไรให้ฟัง”

“ที่เมืองนี้มีแก๊งมาเฟียใหญ่อยู่ทั้งหมด 3 แก๊ง ก็คือ แก๊งโดมินิก แก๊งไฮด้า และก็แก๊งฟีนิกซ์ของฉัน สามแก๊งนี้ไม่ถูกกัน ถ้าเจอกันที่ไหนได้นองเลือดทุกครั้ง และเมื่อ 4 ปีที่แล้วก็เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นระหว่างทั้งสามแก๊ง สงครามกลางเมืองครั้งนั้นทำให้ฉันต้องสูญเสียพ่อ ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง ตอนนั้นฉันอายุ 18 ปี ก็ต้องมารับรู้เรื่องราวต่างๆมากมาย และ ฉันทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียพ่อไป แต่ลาน่า พี่สาวของฉันก็คอยอยู่ข้างๆฉันจนฉันเข้มแข็งพอที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าแก๊ง แต่ฉันไม่ต้องการจะให้ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอย ฉันไม่อยากจะต้องสูญเสียใครไปอีกแล้ว ฉันเลยตัดสินใจว่าแก๊งของฉันจะต้องวางมือจากวงการมืดเสียที แต่มันก็สายไป เพราะพวกมัน พวกมันก็มาพรากพี่สาวที่ฉันรักมากที่สุดไป แต่ก็ยังดีนะที่ฉันยังมีริกเกอร์ที่เป็นครอบครัว ฉันเลยสัญญาว่าจะดูแลริกเกอร์ให้ดีที่สุด”
ผมได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดก็รู้สึกเห็นใจและสงสารคนตัวใหญ่ที่ดูเข้มแข็งแต่ภายในใจกำลังปวดราว และนี่คงจะเป็นเห็นผลที่ 4 ปีที่แล้ว แกริคถึงได้ส่งผมไปเรียนต่อต่างประเทศ

“นายโชคดีนะที่มีริกเกอร์ แต่ฉันนี้สิที่ไม่มีใครเลย วันที่ฉันลงเครื่องบินมาเหยียบแผ่นดินนี้อีกครั้ง ฉันดีใจมากที่จะได้กลับมาอยู่กับพี่ชาย แต่ยังไม่ทันจะได้ออกจากสนามบิน ฉันก็ได้รับโทรศัพท์จากตำรวจว่าแกริคโดนทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ตอนนั้นฉันช็อกไปเลย ไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอะไร ควรเดินไปทางไหน ลืมแม้กระทั่งจะหายใจ ฉันรีบตรงไปที่โรงพยาบาล ภาพที่ฉันเห็นทำให้ฉันแทบจะตายไปตรงนั้น ร่างแกริคที่เต็มไปด้วยบาดแผลและเลือด แกริคไม่ยอมให้หมอรักษาเอาแต่เรียกหาฉัน ฉันร้องไห้จนแทบขาดใจ ตะโกนเรียกสุดเสียงเพื่อให้แกริคกลับมาหาฉัน แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความว่างเปล่า ไม่มีมือที่คอยประคองเมื่อฉันล้มลงไปที่พื้น ไม่มีมือที่ลูบหัวปลอบฉัน ไม่มีเสียงที่คอยบอกว่าให้ฉันหยุดร้องไห้ ไม่มีอีกแล้ว ก่อนจะจากไป แกริคได้ฝากให้ฉันดูแลลูกของเขา  ฉันก็เพิ่งรู้ว่าแกริคมีลูก และริกเกอร์ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันอยู่บนโลกนี้ต่อ ทั้งๆที่ฉันอยากจะตายตามแกริคไป”
คำเล่าที่พรั่งพรูพร้อมกับน้ำตาที่แห้งหายไปนายได้กลับมาอีกครั้ง ลูเซี่ยนดึงผมเขาไปกอด อ้อมกอดที่อบอุ่น อ้อมกอดที่ผมไม่เคยได้รับมา 4 ปี ผมร้องไห้ออกมาจนพอใจ แต่คนที่กอดปลอบอยู่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย

“นี่นาย ปล่อยได้แล้ว”

“ไม่ร้องต่อล่ะ ฉันยังอยากปลอบนายอยู่เลย”
รอยยิ้มอ่อนโยนเรียกเลือดมารวมกันที่ใบหน้าของผม ลูเซี่ยนทำให้ผมเขินอีกแล้ว

“ไอ้ลูเซี่ยนบ้า!”

“ฮึฮึ แล้วนายรู้หรือยังว่าใครทำร้ายพี่ของนาย”

“ทางตำรวจบอกว่าเป็นแก๊งมาเฟียใหญ่ มันคงแค้นที่แกริคกำลังทำคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ตอนแรกฉันก็คิดว่าเป็นแก๊งนาย แต่หัวหน้าแก๊งนรกแบบนายคงจะทำร้ายใครไม่ได้หรอก"
ผมเชื่อว่าคนอย่างลูเซี่ยนไม่มีทางทำร้ายพี่ของผม ไม่รู้ว่าเพราะเหตุผลอะไร แต่เพราะหัวใจมันบอกมาอย่างนั้นมั้ง แหวะ! หัวใจมันบอก คิดเองก็จะอ้วกเอง

“ฉันพอจะรู้แล้วว่าเป็นใคร ถึงแม้ฉันจะไม่ค่อยชอบพี่นายเท่าไหร่ แต่ฉันก็จะช่วยนายตามจับคนร้ายละกัน”

“จริงหรอ”

“อื้ม แต่นายต้องสัญญานะว่าจะอยู่กับฉัน อยู่กับริกเกอร์ที่นี่ ตลอดไป”
คำว่าตลอดไปก้องอยู่ในหูผมจนไม่รับรู้อะไรรอบตัว ความรู้สึกเมื่อ 4 ปีก่อนกลับมาอีกครั้ง ความรู้สึกที่ผมเคยมีต่อลูเซี่ยน หัวหน้าแก๊งนรกได้กลับมาอีกครั้ง และท่าทางมันจะรุนแรงกว่าเดิมด้วย

“นี่กัส กัส!”

“ฮะ ฮะ นายว่าอะไรนะ”

“นี่นายเหม่อลอยไปดาวอังคารหรือไง ฉันถามว่านายจะนายจะตกลงไหม”

“ตกลงก็ได้ นี่เห็นว่านายขอร้องหรอกนะเลยยอม”
ลูเซี่ยนเขกลงมาที่หัวผมดังโป้ก แต่ไม่เจ็บเท่าไหร่ ผมคลำหัวปอยๆแล้วมองคนที่ทำร้ายอย่างเคืองๆ

“ไม่ต้องมามองอย่างนั้นเลย”

“นี่ ทำไมนายถึงไม่พาริกเกอร์ไปหาแกริคบ้างล่ะ”

“นายจะรู้ไปทำไม”

“นายกลัวแกริคจะพาริกเกอร์ไปอยู่ด้วยใช่ไหมล่ะ นายกลัวเหงาเหมือนที่ริกเกอร์บอกใช่ไหม”

“พูดมากไร้สาระ”

“นายไม่เหมาะจะเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียเลย เหมาะจะเป็นหัวหน้าแก๊งนรกเหมือนเดิมมากกว่า”
ผมกระซิบกับตัวเอง และครั้งนี้คนหูดีไม่ได้ยิน หรือว่าได้ยินแต่แกล้งไม่ได้ยินก็ไม่รู้

“คุณลูเซี่ยนครับ ที่โกดังมีเรื่องกันครับ”
ลูกน้องที่เพิ่งวิ่งเข้ามาบอกกับลูเซี่ยนอย่างเกร็งๆ

“ใคร”

“ลูกน้องแก๊งไฮ้ด้าครับ”

“เตรียมรถ กัส ฉันฝากนายดูแลริกเกอร์ด้วยนะ ฉันขอไปทำธุระก่อน แล้วจะกลับมากินข้าวเย็นด้วย”

“ลูเซี่ยน”
ผมเรียกลูเซี่ยนที่กำลังจะเดินไป ลูเซี่ยนหันกลับมาด้วยใบหน้านิ่งเฉย แต่แววตากลับมีความดุดัน ไม่เหมือนกับลูเซี่ยนที่เป็นหัวหน้าแก๊งนรกที่ผมรู้จัก

“ว่าไง”

“ระวังตัวด้วยนะ”
ลูเซี่ยนยิ้มให้ผมก่อนจะหันหลังเดินจากไป




มาแว้วๆๆ :hao7: รอกันนานไหม เราขอโทษที่ปล่อยให้รอนาน กว่าจะแย่งโน๊ตบุ๊คมาจากน้องชายได้แทบจะฆ่ากันตาย ตอนนี้มันก็ยังนั่งเฝ้าเราอยู่ เอาตอนแรกมาลงให้แล้วหวังว่าคงจะไม่ผิดหวังกันนะ มีอะไรก็ติชมหรือแสดงความคิดเห็นกันได้ คนแต่งใจดี ไม่กัด 5555 ไปละ น้องมันจะกัดหัวเราแล้ว ถ้าแย่งโน๊ตบุ๊คสำเร็จอีกครั้งจะมาลงให้ต่อนนะ รักคนอ่านทุกคน จุ๊บๆ :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด