เป้าหมาย (อิสระในการมองเป้า)
หงุดหงิดๆๆ!!
จะไม่ให้ผมหงุดหงิดได้ไงในเมื่อหลังจากเมื่อคืนผมโดนไอ้เปาโลกระซวกความเป็นชายมันก็หายไปกับสายลมในเช้าถัดมาโดยทิ้งกระดาษโน้ตแทนใจว่า
ไปรับน้องก่อนนะครับ จะรีบกลับมาดูแล
...รักเมีย
พร้อมชามข้าวต้มกับยาที่วางไว้อยู่บนโต๊ะอาหาร คงสงสัยสินะว่ามันก็แลดูรักและดูแลเป็นห่วงผมอย่างดีแต่ประเด็นคือ มันปล่อยในจนกูท้องเสีย นอกจากจะเจ็บตูดมหาศาลแล้วยังต้องมานั่งเบ่งอึอย่างแสบๆตูดด้วย
และหลังจากนั้นผมก็พยายามหลบหน้ามันตลอด ไม่อยากให้มารับผิดชอบอะไรทั้งนั้นแหละ ผู้ชายด้วยกันไม่เห็นเสียหายอะไรอีกอย่างผมไม่ชอบมีพันธะอะไรมาผูกแข้งผูกขา ขืนไอ้เป้าใหญ่ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของไม่ยอมให้ผมมองเป้าที่ล้ำค่าของชายชาตรีคนอื่นมีหวังไอ้เขมคงเฉาตาย
"เขม!"แค่ได้ยินเสียงโดยไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเป็นใคร
"ว่าไงน้องเปาโล"เรียกชื่อแบบห่างเหินพลางเมินไปมองเป้าคนที่เดินผ่านไปผ่านมา
"หลบหน้าผมทำไม"
"ใครหลบวะ กูก็ยังยืนมองหน้ามึงอยู่นี่ไง"
"เขมเป็นเมียผมแล้วนะ ย้ายมาอยู่กับผมนะครับ"นั่นไง คิดจะกักขังผมไว้ในกรงนกน้อยสินะคิดว่าได้กูแค่ครั้งเดียวแต่หลายรอบจะทำให้กูติดใจมึงรึไง
"น้ำแตกแล้วแยกทาง มึงไม่ต้องมารับผิดชอบกู"พูดจบผมก็เดินผ่านหน้าไอ้เปาโลไปเหมือนธาตุอากาศแต่มันฉุดมือผมไว้จนขยับไปไหนไม่ได้
"ผมรักเขมนะ"
"แค่คืนเดียวมันไม่สามารถทำให้กูรักมึงได้หรอกนะ เพราะฉะนั้นเลิกยุ่งกับกูได้แล้ว"ผมกระชากมือตัวเองออกก่อนจะเดินล้วงกระเป๋าแมนๆไปจากไอ้เปาโลที่ยืนเล่นเป็นนางเอกมิวสิควิดิโออยู่อย่างเศร้าๆ
ทำถูกแล้วที่กูเลือก(สวม)เขาแล้วทิ้งมันไว้ตรงกลางทาง~
"ไอ้เลว ชั่ว"
"พี่เป้าฟันแล้วทิ้ง นิสัยไม่ดี"
คำด่าทอจากเพื่อนสนิทคิดซื่อกับน้องรหัสสุดเลิฟไม่ทำให้ผมกลับตัวกลับใจแต่อย่างใดแอบน้อยใจเล็กๆที่พวกมันคิดว่าผมผิดทั้งที่คนผิดมันคือไอ้เป้าใหญ่ที่ข่มขืนผม ผมควรจะได้รับคำปลอบประโลมไม่ใช่คำด่าทอสาดเสียเทเสียสิวะ
"มันข่มขืนกู"
"แต่ไอ้เป้าใหญ่มันก็รับผิดชอบพี่นี่ไง"
"ได้เขาเป็นผัวแล้วทิ้งๆขว้างๆได้ไงวะ"
"กูผิดหรอวะ"ผมย่นหน้าไม่พอใจ
"ผิด!!"สองเพื่อนพ้องน้องพี่ตอบพร้อมเพรียงกันใส่หน้าผมจนน้ำลายหยดใส่ ดีที่เศษผักเศษข้าวไม่ติดหน้าผมไปด้วย
"กูเสียหายแต่ไม่เอาเรื่องนี่กูก็พ่อพระขนาดไหนแล้ว"พูดแล้วเสียอารมณ์ พวกมันก็ยังหาสารพัดเหตุผลทำให้ผมดูผิดและให้ผมไปขอโทษไอ้เปาโลแต่มีหรือคนอย่างเขมจะยอม
.
.
. และแล้วผมก็มายืนอยู่หน้าคณะดักรอไอ้เปาโลเพื่อขอโทษไม่รู้ไปเถียงกับพวกมันอีท่าไหนกลายเป็นว่าผมต้องมาขอโทษมันอนู่นี่ไงแค่คำสองพยางค์แปปเดียวก็จบไม่มีทางสานต่อจะไปยากอะไร หึ
"อ้าว น้องเป้ามายืนอะไรตรงนี้คนเดียว"
"พี่คิว สวัสดีครับ...ผมมารอจบเรื่องกับคนคนหนึ่งอ่ะครับ"ว่าพลางแอบเหล่มองเป้าของพี่คิวปี 4 คณะแพทย์เล็กน้อย อ่า...ยังสวยงามดุจพญามารเหมือนเดิม
"แหนะ แอบมองเป้าพี่อีกแล้วหรอ"
"กางเกงสวยดีครับเลยมอง"จับได้อีกนี่แอบมองแบบเนียนๆแล้วนะ
"กางเกงนักศึกษาเนี่ยนะ ฮ่าๆ...โกหกไม่เก่งเอาซะเลยนะน้องเป้า"
"แหะๆ"ผมยิ้มแหยๆให้พี่แกที่ฉลาดถ้าไม่ฉลาดคงเข้าคณะแพทย์ของที่นี่ไม่ได้อ่ะครับ
"เขม!"เหตุการณ์แดจาวูก็เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อเสียงเดิมๆตะโกนเรียกชื่อผมแบบเดิมๆแต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือแววตาวาวโรจโกรธเคือง
"วันนี้วันเกิดพี่ ไปมั้ยที่ผับxxx"
"ไม่ไปครับ!"ไม่ใช่เสียงผมที่ตอบไปแบบไร้มารยาทแบบนั้นหรอกจะมีใครซะอีกละ
"ไปครับพี่คิวแล้วเจอกันนะครับ"
"เขม!"
"งั้นพี่ไปก่อนนะ"พี่คิวหันไปยักคิ้วหลิ่วตาเป็นเชิงเหนือกว่าให้ไอ้เปาโล มันก็ยิ้มเย็นๆส่งกลับ พระเอกอย่างผมก็ต้องห้ามไม่ให้เมีย?ทั้งสองตบกัน
"เปาโลมาคุยกัน"เห็นมันทำหน้าตาไม่พอใจแต่ก็ยอมเดินตามผมมาที่ตึกหลังคณะโดยดี
"มันคือใครทำไมต้องชวนเขมไปงานวันตายของมันด้วยล่ะครับ"
"พูดจาให้มันดีๆหน่อย นั่นน่ะรุ่นพี่มึงสามปีเลยนะ"เปาโลทำท่าทางหงุดหงิดหงุ่นหง่านเหมือนประจำเดือนไม่มาแล้วหายใจเข้าออกยาวๆระงับอารมณ์แปรปรวนเป็นผู้หญิงท้อง
"เขมไม่ต้องมาย้ำหรอกนะว่า..."
"กูขอโทษ"
"อย่าตอกย้ำนักจะได้...ห้ะ?!"หน้าตามันหวอจนผมอดขำไม่ได้แต่ก็ต้องตีหน้าขรึมไว้
"กูจะพูดแค่ครั้งเดียว กูขอโทษ...ไปละ"
"เดี๋ยวครับ ขอโทษอะไร"จะมาซื่อบื้ออะไรตอนนี้วะหน้าตารึก็ออกจะฉลาดแต่ทีกับเรื่องนี้โง่ดักดานชิบหาย
"ที่กูขอโทษมึงเนี่ยเพื่อที่จะได้จบเรื่อง ขอล่ะออกไปจากชีวิตกูสักที"อาจจะดูโหดร้ายแต่ผมไม่พร้อมจะมีใครจริงๆมันกระทันหันเกินไป เรื่องคืนนั้นมันก็แค่เรื่องผิดพลาดของเด็กคนหนึ่งที่หลงเห็นผิดเป็นถูกมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ