มีธนาคาร 2 แห่งที่ยินดีอนุมัติสินเชื่อบ้านซึ่งเป็นการกู้ร่วมกันระหว่างเพศทางเลือก
1. ธนาคารยูโอบี
2. ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด
ธนาคารยูโอบี
สินเชื่อที่เพศทางเลือกสามารถกู้ร่วมกันนั้นไม่ได้เป็นสินเชื่อที่ออกแบบมาเพื่อเพศทางเลือกโดยเฉพาะ แต่เป็นสินเชื่อบ้านแบบเดียวกับที่เสนอแก่บุคคลทั่วไป ซึ่งมีการพิจารณาถึงคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้กู้ร่วมตามปกติ ได้แก่ ผู้กู้ร่วมต้องมีสัญชาติไทย อายุซึ่งเมื่อรวมกับระยะเวลากู้แล้วจะต้องไม่เกิน 60 ปี ด้านความสามารถในการชำระหนี้จะต้องเป็นผู้ที่มีรายได้เพียงพอต่อการชำระงวดหนี้ ตรวจสอบจากการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน และด้านหลักประกันก็จะมีตรวจสอบเอกสารต่างๆ เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ เอกสารสิทธิ์ สัญญาจะซื้อจะขาย รูปถ่ายอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น และมีการประเมินมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์เพื่อกำหนดเพดานของวงเงินกู้ สำหรับการกู้ร่วมระหว่างเพศทางเลือกนั้นทางธนาคารกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม โดยจะต้องมีผู้กู้ร่วมฝ่ายหนึ่งซึ่งธนาคารประเมินว่าสามารถกู้บ้านหลังนี้ได้ด้วยตัวเองเพียงคนเดียว และผู้กู้ร่วมอีกคนที่เหลือก็ต้องมีความสามารถในการผ่อนชำระในฐานะผู้กู้ร่วมด้วย เจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคารยูโอบียอมรับว่าสำหรับการกู้ร่วมระหว่างเพศทางเลือกนั้นธนาคารประเมินว่ามีความเสี่ยงที่สูงกว่าการกู้ร่วมระหว่างคู่สมรสชายหญิงและสูงกว่าการกู้ร่วมชายหญิงซึ่งไม่ได้จดทะเบียนสมรส ซึ่งการรับรู้ความเสี่ยงที่สูงกว่าทำให้ธนาคารอาจพิจารณาให้วงเงินกู้ที่ต่ำกว่าไปบ้างเมื่อเทียบกับการกู้ร่วมในคู่สมรสที่จดทะเบียนสมรส
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด
เป็นอีกธนาคารหนึ่งที่เปิดโอกาสให้การกู้ร่วมกันเป็นเรื่องง่ายขึ้นโดยไม่มีข้อจำกัด ดังนั้นจึงเป็นอีกธนาคารที่คู่รักเพศทางเลือกสามารถกู้บ้านร่วมกันได้ โดยธนาคารกำหนดเงื่อนไขคุณสมบัติของผู้กู้และผู้กู้ร่วมเอาไว้อย่างกว้างๆ คือจะต้องเป็นผู้ที่มีรายได้ประจำ ขั้นต่ำเดือนละ 15,000 บาท นอกจากนั้นธนาคารก็จะตรวจสอบคุณสมบัติส่วนตัวของผู้กู้ร่วมแต่ละฝ่าย และความสามารถทางการเงิน รวมไปถึงหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อประเมินวงเงินกู้ที่เหมาะสม และอัตราดอกเบี้ยซึ่งแตกต่างกันออกไปตามผู้กู้แต่ละราย ถ้าหากเป็นโครงการที่ทางธนาคารสนับสนุนอยู่ก็อาจจะได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับโครงการทั่วไป สินเชื่อบ้านที่ผู้กู้ร่วมเพศทางเลือกสามารถใช้บริการได้ก็คือ สินเชื่อบ้านมอร์เกจ วัน ซึ่งเจ้าหน้าที่สินเชื่อ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดอธิบายถึงความน่าสนใจของสินเชื่อตัวนี้ว่า ความน่าสนใจจะอยู่ที่หลักการคำนวณดอกเบี้ยในแต่ละงวดชำระที่แตกต่างจากสินเชื่อของธนาคารอื่นๆ โดยสินเชื่อบ้านมอร์เกจ วันนี้จะมีบัญชีซึ่งผู้กู้สามารถนำเงินรายได้ อาจจะเป็น เงินเดือน เงินหมุนเวียน หรือเงินอื่นๆ เข้ามาฝากไว้ในบัญชีสินเชื่อบ้านมอร์เกจ วัน ซึ่งในการคำนวณดอกเบี้ยจะนำยอดหนี้หักลดด้วยยอดเงินฝากในบัญชีแล้วจึงนำไปคำนวณดอกเบี้ย ทำให้อัตราดอกเบี้ยที่คำนวณได้ลดลงตามยอดเงินฝาก โดยที่เงินฝากในบัญชีสินเชื่อบ้านมอร์เกจ วันนี้ผู้กู้สามารถฝากเพิ่มหรือถอนออกได้โดยอิสระ และเมื่อไรก็ตามที่มีการฝากเงินเกินกว่าครึ่งหนึ่งของเงินต้นส่วนที่เกินกว่าครึ่งหนึ่งของเงินต้นไปจะนำไปหักออกจากยอดหนี้ทันที ซึ่งก็คือการโปะยอดหนี้นั่นเอง ทำให้ผู้กู้มีโอกาสปิดยอดหนี้ได้เร็วขึ้น
ที่มา
http://www.ddproperty.com/++++++++++
คำแนะนำ
1. คุณไม่ควรโอนเงินทั้งหมดไปที่บัญชีของแฟน เนื่องจากผู้กู้และผู้กู้ร่วมจะต้องแสดง statement ย้อนหลัง 6 เดือนให้ธนาคารพิจารณา ดังนั้นคุณควรจะเปิดบัญชีใหม่ขึ้นมา 1 บัญชี (ฝากประจำก็จะดี) และโอนเงินเข้าทุกๆ เดือน จำนวนไม่ต้องมาก สักเดือนละ 5 พัน และไม่ต้องเบิกเลยตลอด 6 เดือน statement จะได้สวย และธนาคารจะพิจารณาวินัยในการออมเงินของคุณจากตรงนี้ ซึ่งแฟนของคุณก็จะต้องทำแบบเดียวกัน
2. ให้เตรียมเงินดาวน์และค่าประกันสินเชื่อไว้ด้วย เพราะปกติคอนโดจะกู้ได้ประมาณ 85% ของราคาขาย
3. หลักฐานแสดงรายได้ แฟนของคุณให้ใช้ slip เงินเดือน ส่วนตัวคุณให้ใช้ใบรับรองเงินเดือน (ถ้าเป็นไปได้ให้ HR รวมค่า service charge เป็นเงินเดือนก้อนเดียวเลย ไม่ต้องแยกออกมาต่างหาก เพราะบางที bank ก็พิจารณารายได้จากเงินเดือนอย่างเดียว)
ในกรณีที่คุณอยากจะไปยื่นกู้ที่อื่นนอกจาก 2 ธนาคารนี้
1. ก่อนอื่นให้คุณหรือแฟนย้ายเข้าทะเบียนบ้านเดียวกันก่อนยื่นกู้อย่างน้อย 6 เดือน และแจ้งว่าเป็นญาติกัน (ผมไม่แน่ใจว่า case นี้จะผ่านหรือเปล่า แต่เท่าที่เห็นผู้กู้กับผู้กู้ร่วมหลายคนก็ใช้คนละนามสกุลหลาย case อยู่เหมือนกัน)
2. หรือ ให้บ้านฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรับแฟนหรือคุณเป็นบุตรบุญธรรมแล้วค่อยยื่นกู้