บทที่ 1
เช้าวันต่อมา
เรียวตะเดินเข้ามาในซอยเพื่อหาของอยู่ใหม่ของเขากับข้าวของที่ขนมาด้วยสองสามชิ้น
ทันทีที่เห็นสภาพของอพาร์ทเม้นท์ที่เขาต้องใช้ชีวิตอยู่อีกหลายเดือนเรียวตะก็ผิวปากออกมาอย่างถูกใจ ชายหนุ่มเดินขึ้นไปชั้นสอง หยุดอยู่ตรงหน้าห้องหมายเลข 016 เพื่อไขกุญแจเข้าไป
มันเป็นห้องโล่งๆที่มีพื้นที่พอจะให้คนสองคนอยู่ได้ มีห้องน้ำในตัว ถ้าได้ติดโปสเตอร์ กับทาสีเพิ่มอีกหน่อย คงจะถูกใจเขาไม่น้อยเลยทีเดียว
เขาวางคีบอร์ดคู่ใจที่พามาด้วยพิงไว้กับผนังห้อง ก่อนกระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงที่ถูกจับเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
“ยะฮู้~!” ชายหนุ่มตะโกนออกมาสุดเสียง ก่อนจะกลิ้งไปมา หัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว
ห้องนี้จะเป็นห้องที่เขาใช้เวลาอยู่กับมันนานหลายเดือนเลยที่เดียว จนกว่าจะย้ายออกนั้นแหละ หรือไม่ก็ ตอนที่เขาเรียนจบแล้ว
เรียวตะยิ้มบาง นอนหงาย เขามองไปยังเพดาน พร้อมกับคิดว่าจะลองตกแต่งห้องนี้ยังไงดีอยู่ ในขณะที่เขากำลังเหม่อลอยอยู่นั้นเอง
“ขอโทษนะครับ” ใบหน้าเนียนใสได้รูปของชายหนุ่มคนหนึ่งโผล่หน้าออกมาห่างกับหน้าเขาเพียงไม่กี่คืบจนเขาต้องผงะ หลับตาปี้แล้วกลิ้งลงมาตกเตียงด้วยท่าที่ไม่สวยนัก!
“...เป็นอะไรรึเปล่าครับ”
...ผี ไม่น่าจะโผล่มาตอนเย็นได้นี่!
ชายหนุ่มคิด ก่อนจะมองมือหนาที่ยืนออกมาตรงหน้าเขา
“= =;;”
“.....?”
“= =;;;”
“.....”
“ไม่ๆ ไม่เป็นไร ว่าแต่นายเป็นใครนะ ทำไมมาอยู่นี่ได้!”
นัยน์ตาสีน้ำตาลจ้องมองแขกที่แน่ใจแล้วว่าไม่ใช่ผีอย่างงุนงง ในขณะที่ตัวเขาลุกขึ้นมายืนเองโดยไม่สนใจรับการช่วยเหลือจากอีกฝ่าย
“ขอโทษครับที่เข้ามาโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า พอดีผมเห็นประตูมันเปิดอยู่นะ ผมเลยคิดว่าจะแวะมาทักทายเพื่อนห้องข้างๆนะครับ ผมอยู่ห้อง 017 ทางขวามือของคุณ” คนๆนั้นพูดอธิบาย
“ทาคาฮิโระ ทาคุยะ”เขาพูดแนะนำตัว
สายตาอ่อนโยนที่จ้องมองมายังเขาในขณะที่พูด พร้อมกับดวงตาสีฟ้าแพรวพราว ที่ทั้งน่าดึงดูดและหลงใหล ผมสีทองคลอเคลียกับใบหน้าได้รูปยิ่งเสริมให้ทาคาฮิโระ ทาคุยะดูทรงเสน่ห์มากขึ้นเป็นเท่าตัว
เรียวตะมองอีกฝ่ายอย่างอึ้งๆ.. คนบ้าอะไร ดูดีกว่าเราซะอีก เขาคิด พร้อมกับยกมือขึ้นมาเสยผมตัวเอง
“ไอซาวา เรียวตะ ยินดีที่ได้รู้จัก”
และเป็นอีกครั้งที่มือหนายื่นมาให้เขาจับ แต่คราวนี้ไม่ใช่เพราะต้องการช่วยเหลือ แต่เป็นการทำความรู้จัก
เรียวตะมองอย่างลังเลชั่วขณะ ก่อนจะจับมือเขาไว้ แล้วส่งยิ้มแหงๆไปให้
...ไม่ใช่ผีจริงๆด้วย
“ทาคาฮิโระซัง เป็นชาวต่างชาติสินะ?”
“ลูกครึ่งนะครับ” ทาคุยะตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยก็บอกได้นะ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ เพราะดูท่าทางคุณยังมีงานให้ทำอีกเยอะเลย ผมไม่รบกวนละ”ชายหนุ่มพูด พร้อมมองสภาพห้องที่ยังไม่ได้จัดเลยของเขา
“อื้ม... ไว้ว่างๆจะแวะไปทักนะ”เรียวตะบอกอย่างเป็นมารยาทด้วยรอยยิ้มแหงๆ หลังจากที่อีกฝ่ายเดินออกไป เรียวตะก็ล้มตัวลงนอนอย่างเดิมโดยไม่สนใจจะจัดของอะไรนัก
เพื่อนข้างห้องของเขาดูดีซะจนผู้ชายแท้ๆอย่างเรียวตะถึงขั้นเผลอมองเลยที่เดียว
“...ว่าแต่ หมอนั้นเป็นลูกครึ้งประเทศไหนหวา”เขาพึมพำ พร้อมเหม่อมองไปยังเพดานอีกรอบ ก่อนจะเผลอผลอยหลับไป
เช้าวันใหม่
เรียวตะตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย เนื่องจากเขายังไม่ชินที่ นัยน์ตาสีน้ำตาลจ้องมองผมฟู่ๆของตัวที่ดูไม่ได้นักอย่างสะลืมสะลือ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ แต่งตัว และออกมาในคราบของชุดนักศึกษาใส่แว่นที่ดูเนียนๆ ไม่เข้ากับนิสัยของเจ้าตัว
วันนี้เป็นวันเรียนวันแรกของมหาลัย สำหรับเรียวตะที่อยู่ปีสองแล้ว แต่เพราะเกรดเขาลดลงมากในการสอบช่วงปีหนึ่ง ทำให้พ่อแม่บังคับให้เขามาอยู่หอ เพื่อให้ลูกของตัวเองตั้งใจเรียนมากขึ้น
เรียวตะเดินเข้าโรงเรียนไปในคราบหนุ่มแว่นมาดนิ่ง และยิ้มน้อยๆให้กับคนที่มาทักทายเขา
บุคลิกของเขาที่แสดงออกมาในโรงเรียนตั้งแต่ปีที่แล้ว จะเป็นคนนิ่งๆ ไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจมากนัก ซึ่งต่างกับเวลาที่เขาอยู่ข้างนอกกับเพื่อนกลุ่มที่สนิท เขาจะรื่นเริง เป็นตัวของตัว จนใครๆก็อยากเข้าหา แต่ก็ใช่ว่า คราบหนุ่มแว่นนักศึกษาของเขาจะไม่มีใครสนใจ แม้จะทำตัวนิ่งๆ
สุภาพสงบต่อทุกคน แต่เขาก็เป็นถึงสภานักศึกษา ฝ่ายวิชาการ(ที่กำลังถูกปลดเพราะคะแนนลดลง) ทำให้สาวๆบางส่วนหลงใหลในความเคร่งขรึมและจริงจังของเขาไม่น้อย
“อ้าว ไอซี่~” เด็กหนุ่มย้อมผมสีแดง ที่ด้านซ้ายมีต่างหูรูปเกงเขนยาวปักอยู่ กับใบหน้าที่ออกแนวน่ารัก เสริมให้เขาดูดีไม่น้อย เอ่ยทัก
“คุซี่...” เรียวตะยิ้มนิดๆ ก่อนจะพูดต่อ “บอกกี่ครั้งแล้ว อย่าเรียกชื่อฉันแต๋วๆแบบนั้น” ชายหนุ่มแสร้งทำเป็นขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเอาหนังสือไปเขกหัวเพื่อนสนิทเบาๆ แต่ทางฝ่ายคุเสะ เรียว ที่เป็นเพื่อนสนิทเขากลับหัวเราะร่า พร้อมดึงคอเขามาใกล้ๆตัว
“วางมาดได้เก่งเหมือนเดิมเลยนะ พ่อคนสองบุคลิก ตอนปิดเทอมไปเที่ยวด้วยกัน ใครกันนะ... ย้อมผมซะสีแดงจ๋าเป็นเพื่อนฉัน แล้วพาไปเล่นอะไรแปลกๆนะ..”
“นั่นมันนิสัยส่วนตัวฉันนี้~” เรียวตะกระซิบตอบ ก่อนจะผลักคุเสะออกห่างเมื่อเห็นว่าตนเริ่มกลายเป็นที่สนใจ
“วันนี้ได้ข่าวว่ามีอาจารย์ใหม่จบนอกมาสอนอังกฤษเพิ่มด้วยละ เห็นเขาว่าหล่อม๊ากกก สาวๆงี้ปลื้มกันใหญ่ ดูท่าทางงานนี้นายจะถูกแย่งตำแหน่งความฮอตไปอีกแล้วนะ”
“เหอะ คิดว่าฉันสนใจ?” เรียวตะขยับแว่นตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะกระซิบเบาๆให้ได้ยินกันสองคน “ถึงจะหล่อยังไง ก็หล่อไม่เท่าหัวใจของฉันหรอก”
“เหรอออ~”คุเสะ เรียวเห็นแล้วอดหมั่นไสเพื่อนตัวเองไม่ได้ วางตัวดีซะจนเขาอยากจะกระชากหน้ากากของมันออกมาหรืออยากจะยั่วให้มันหลุดนิสัยส่วนตัวออกมาซักครั้ง คงจะน่าสนุกไม่น้อย
เมื่อก่อนเขากับเรียวตะไม่ถูกกันเลย เพราะฝ่ายหนึ่งเป็นพวกบ้าแฟชั่น ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งดูเป็นพวกเรียบร้อยเจ้าระเบียบ แต่ที่ไหนละ ช่วงคืนวันหนึ่งเขาดันไปเจอคนที่หน้าตาคล้ายมันอยู่ในผับ แต่กลับใส่วิกผมยาวสีดำแซมแดง แล้วก็มีสร้อยคอที่ดูเถือนๆที่กำลังร้องเพลงบนเวทีจนทำให้ใครหลายคนมองมันตาไม่กระพริบ โดยเฉพาะเวลาร้องเพลงช้า เสียงของมันดูมีเสน่ห์มากจนแม้แต่ผู้ชายอย่างเขาก็อดชื่นชมและหลงใหลไม่ได้ หลังจากนั้น เขาก็มาที่ผับนั้นเป็นประจำทุกวันจนรู้ตารางเวลาที่มันจะมาร้องเพลง พอเขาไปบ่อยมากขึ้นจนมันสังเกตเห็น บางทีก็ยิ้มให้เขาบ้างอย่างกับเรารู้จักกันแบบนักร้องกับคนฟังซะอย่างนั้น แต่พอมาอยู่ที่โรงเรียน บุคลิกของเรียบร้อย นิ่งๆของมันทำให้เขาไม่ได้เอ๊ะใจเลยว่าเป็นคนๆเดียวกันเลย จนมาวันหนึ่งหนุ่มแว่นที่ว่าถูกบรรดาแฟนคลับผลักดันให้ขึ้นเวทีในงานโรงเรียนอย่างปฏิเสธไม่ได้ มันถูกใช้ให้ร้องเพลง และนั้นแหละทำให้เขารู้ว่า มันคือ เรียว นักร้องที่เขาชื่นชอบมากๆ เขาเลยเริ่มเข้าใกล้มันตีสนิทมันจนมันยอมบอกความจริง และกลายเป็นเพื่อนที่สนิทกันหลังจากนั้น
“นั้นไง อาจารย์ใหม่ที่เราจะเจอ” คุเสะ เรียวชี้นิ้วไปยังคนผมทอง รูปร่างสงหน้าตาดีแบบชาวต่างชาติให้เรียวตะเห็น
ทันทีที่ในนัยน์ตาสีน้ำตาลภายใต้กรอบแว่นหันไปมอง ห่างตาของเขาก็กระตุกแปลกๆ..
“เป็นไรไปเรียว นายกำลังขมวดคิ้วอยู่นะ”
“ไม่มีอะไร เราไปเข้าเรียนกันเถอะ”
เรียวตะพูดตัดบทอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะเดินเข้าห้องเรียนไป
หวังว่ามันคงไม่ใช่อย่างที่เขาคิดหรอกนะ
เรียวตะ กับคุเสะเข้ามาห้องเรียน ก่อนที่คุเสะจะรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง พร้อมกับหูฟัง และก็รีบกดปุ่มไปมา ก่อนจะยืนให้เรียวตะ
“ฉันชอบเพลงนี้นะ Wherever you are อ่ะ ลองฟังดูสิ” คุเสะยืนหูฟังมาให้เขา ในขณะที่นั่งอยู่ใกล้ๆกัน
เรียวตะรับไว้ พร้อมกับเปิดฟังโดยไม่ว่าอะไร การที่คุเสะเปลี่ยนเรื่องแบบนี้ถือว่าเป็นการดีสำหรับเขา ถึงแม้เรื่องที่ว่า มันเกี่ยวกับการต้องร้องเพลงให้คุเสะฟังก็ตามที
Wherever you are, I always make you smile
(ไม่ว่าเธอจะอยู่หนใด ฉันจะทำให้เธอยิ้มเสมอ)
Wherever you are, I'm always by your side
(ไม่ว่าเธออยู่หนใด ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ)
Whatever you say, kimi wo omou kimochi
(ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร ความรู้สึกที่มีให้เธอ)
I promise you"forever"right now
(ฉันขอสัญญานับจากนี้"ตลอดไป")
เรียวตะหลับตาลงอย่างช้าๆ เมื่อได้ฟังเพลงถูกใจเขาไม่น้อย ท่าทางของเขาทำให้คุเสะ เรียวยิ้มนิดๆ ก่อนจะเห็นอาจารย์ใหม่ที่กำลังเดินเข้ามาในห้อง และจ้องมองเรียวตะอยู่
คุเสะสะกิดแขนเรียวตะให้ลืมตาขึ้นมาดู ทาคุยะที่กำลังจ้องมองเขา ดวงตาสีฟ้าคู่สวยราวกับมองเขาออกอย่างทะลุปรุโปร่ง มันทำให้เขารู้สึกแปลกๆทุกครั้งที่สบกับมัน ไม่ว่าจะเป็นครั้งแรกที่เจอกัน หรือแม้แต่ตอนนี้ ไม่ใช่ความรู้สึกเหมือนอาจารย์มองนักศึกษา แต่มันให้ความรู้สึกเหมือนคนที่เหนือกว่ากำลังมองคนที่ต่ำกว่าอย่างท้าทาย
ทาคุยะยิ้มอย่างอ่อนโยนออกมา แต่ไม่รู้ทำไมเรียวตะถึงรู้สึกว่ารอยยิ้มกวนประสาท เสแสร้งนั่น ส่งมาให้โดยเฉพาะเขา ดวงตาสีฟ้าพราวระยิบที่สบกับนัยน์ตาสีน้ำตาลภายใต้กรอบแว่นชั่วขณะนั้น แม้จะไม่นาน แต่สิ่งที่สื่อออกมานั้นกลับรับรู้ได้ถึงการท้าทาย ความเจ้าเล่ห์ และราวกำลังสนุกกับการพบกันในอีกครั้ง ในสถานการณ์ที่ต่างกันของพวกเขาสองคนในตอนนี้ มันเป็นสายตาที่ดูสนุกซะจนเรียวตะต้องแสร้งหันไปมองทางอื่นแทน
“สวัสดีครับ ผมทาคาฮิโระ ทาคุยะครับ จะเป็นครูผู้ช่วยในการเขียนภาษาอังกฤษให้กับพวกเธอจากปีนี้เป็นต้นไป หวังว่าพวกคุณคงไม่ว่าอะไรคนต่างชาติอย่างผมที่จะมาทำงานคล้ายที่ปรึกษาห้องให้กับพวกคุณนะ”
ทาคาฮิโระ ทาคุยะพูดด้วยเสียงนุ่มทุ่มน่าฟัง พร้อมกับดวงตาคู่สวยที่เบนกลับไปมองนักศึกษาในห้องอย่างอ่อนโยนจนทำให้ทุกคนในห้องไว้วางใจและรู้สึกถูกชะตา
...ทำไมเมื่อวานเขาไม่สังเกตเลยนะ คนๆนี้มีท่าทางที่คล้ายกับเขา ภายใต้ท่าทางแสนดีนั้น อาจจะมีอะไรซุกซ่อนอยู่อย่างแนบเนียนก็เป็นได้
เรียวตะคิด ในขณะที่เขาถอดหูฟังออก และนั่งมองชายหนุ่มคนนั้นพูดกับนักเรียนที่สงสัยเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของเขา
"มิน่าละ... เราถึงรู้สึกแปลกๆ" เรียวตะพึมพำออกมา โดยที่ใครไม่ได้ยิน แม้แต่คุเสะ เรียวที่นั่งอยู่ใกล้ๆเขายังสนใจแต่อาจารย์คนใหม่
เรียวตะในคราบหนุ่มแว่นหยิบหนังสือการผ่าตัดขึ้นมาบังใบหน้าของตัวเองไว้ และทำท่าเหมือนกับเจ้าตัวกำลังอ่านมันอยู่ ทั้งๆที่ความจริงแล้วใบหน้าหวานเท่กลับถูกแต้มไปรอยยิ้ม ในนัยน์ตาสีน้ำตาลพราวระยิบระยับราวกับเจอของที่ถูกใจจนปิดไม่มิด
ทั้งสายตาที่มองเขามาอย่างท้าทายคู่นั้น ทั้งท่าทางอ่อนโยนที่มีต่อนักศึกษาในห้อง ทุกการกระทำของทาคุยะได้ถูกเรียวตะจับตามองไว้แล้ว
ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มให้อีกฝ่าย เมื่อทั้งสองคนสบตากันอีกครั้ง
...ทาคาฮิโระ ทาคุยะ อีกไม่นานหมอนี้ต้องมาหาเขาที่ห้องแน่นอน...
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ในขณะที่เรียวตะกำลังนั่งอ่านหนังสือฆาตกรอยู่ ชายหนุ่มผิวปากนิดๆ พร้อมกับเดินออกไปเปิดประตู
“เฮ้ย เรียว ไปกันได้แล้ว... อ้าว ทำไมทำหน้าแบบนั้นละ?”
“นายเองเหรอเรน.. เปล่าไม่มีอะไรหรอก ไปกันเถอะ”
เรียวตะอดเบ้หน้านิดๆไม่ได้เมื่อคนที่มาเคาะห้องเขาไม่ใช่คนที่เขาคิดไว้ในตอนกลางวัน
“วันนี้เรย์ไม่ว่างนะ เพราะงั้นเราคงจะเล่นเพลงจังหวะหนักๆไม่ได้”
“อื้อ ไม่เป็นไร รีบไปแต่งตัวกันเถอะ ป่านี้คนคงมารอดูแล้วละ”
เรียวตะเดินออกจากห้องเรน คนที่มารับตัวเขาด้วยการแสดงตัวที่ต่างออกไปจากตอนมา นัยน์ตาสีน้ำตาลของเขาถูกเปลี่ยนเป็นฟ้าใสด้วยคอนแทคเลนส์ และผมสีทองยาวปิดบังตาข้างซ้ายที่ถูกรวบไว้ด้านหลังบางส่วนเพื่อให้ดูเซ่อๆ กับเสื้อคอกว้างสีขาวเปิดไหล่ที่ต้นแขนด้านซ้ายของเขามีคำว่า R สักอยู่พร้อมกับลวดลายดอกกุหลาบเล็กๆที่ดูราวกับกับดักใยแมงมุมซึ่งจับตัวอักษรตัวนั้นเอาไว้ และสร้อยคอสีดำสนิทสองสามเส้นยาวที่มีจี้รูปกางเขนสีดำสนิท กับกางเกงหนังสีดำเข้มแวววับ ในขณะที่เรน เพื่อนของเขาใส่วิกผมสีทอง และตาสีฟ้าที่เสริมให้เรนดูหล่อน่าหลงใหลขึ้นอีกเท่าตัว แต่เสื้อของเรนเป็นคอกว้างสีดำ ที่เผยให้เห็นรอยสักแบบเดียวกัน
คอนเซ็ปวงของเขาในวันนี้ คือรักต้องห้าม แต่ไม่รู้ทำไมต้องเป็นหนุ่มตาฟ้า ผมทองที่ทำให้เรียวตะนึกถึงบางคนที่น่าสนใจในตอนนี้อย่างอดไม่ได้
ชายหนุ่มสองคนเดินเข้ามาในผับ S ด้วยเสียงกรี๊ดของบรรดาแฟนๆที่รอคอยอยู่ แต่ไม่กล้าเข้าไปใกล้มาก เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าวงนี้ชอบทำตัวลึกลับ และยังมีเรย์กับโร สมาชิกสองคนที่แค่เห็นก็รู้สึกถึงอันตรายและความป่าเถื่อนอย่างที่สุด จึงค่อยช่วยกันท่า ไม่ให้ผู้หญิงหรือบรรดาแฟนๆเข้ามาให้มาก
“วันนี้ก็ครึกครื้นเหมือนเดิมเลยนะ~” เรียวตะพูด พร้อมส่งจูบให้แฟนๆที่มองเขาอยู่
“นั้นสินะ แต่มันอาจจะดีกว่านี้ ถ้าไม่มีไอ้บ้าบางคนค่อยโปรยเสน่ห์ไปทั่ว” เรนกล่าว พร้อมหัวเราะเบาๆ ก่อนจะโอบไหล่เรียวตะให้เพื่อเร่งให้รีบเดินไปถึงที่นัดซักที
“สวัสดี เรียว เรน พวกนายนี้ชอบเฉียดมาสายตลอดเลยนะ” สาวสวยซายะ ริน พูดขึ้น พร้อมกับมองไปยังพวกเรียวตะอย่างตำหนิ
“โธ่... รินที่รักครับ พวกผมก็มาทันนะ ใช่ม่า พวก^^?”
“ช่ายยย”สองเสียงจากสมาชิกฝาแฝดในวง รัน โร ตอบรับทันที ในขณะที่เรนเดินเข้าไปหอมแก้มแฟนสาวของเขาซึ่งก็คือ ริน เรียกเสียงฮิ้วๆจากฝาแฝดจอมป่วนได้เป็นอย่างดี ในขณะที่สมาชิกอีกคนยังเงียบอยู่อย่างเสมอต้นเสมอปลาย
“สวัสดี ราส”เรียวตะหันไปมองเด็กหนุ่มอีกคนที่นั่งอยู่โดยไม่ได้สนทนากับใครเลย ราสแค่พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะยืนแก้วไวน์ให้เรียวตะราวกับเป็นการทักทาย
R Poison Project วงที่รวบรวมสมาชิกที่สนิทกันตั้งแต่ม.ต้นจนตอนนี้ขึ้นมหาลัย โดยที่ทุกคนในสมาชิกมีชื่อนำหน้าว่า R ทั้งเจ็ดคน ในขณะที่รินเป็นผู้หญิงคนเดียวเป็นผู้จัดการวง และแต่ละคนต่างมีหน้าตาและความดึงดูดให้ลุ่มหลงที่ต่างกันออกไป
เรน ชายหนุ่มหน้าตาดี หล่อเข้มดูอ่อนโยนที่มีดวงตาคมกริบเหมือนเยี่ยว เป็นนักร้องเสียงเท่บาดใจผู้ฟัง โดยเฉพาะเพลงเร็ว เพลงร็อคนี่ต้องยกให้เขาเป็นอันดับหนึ่งในเรื่องความมันส์ บ้าคลั่ง และเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง
เรียวตะ หนุ่มหน้าหวานเท่ แต่กลับมีนิสัยที่เป็นกันเองและบ้าสุดกู่ จนบางครั้งการกระทำของเขาก็สามารถทำให้แฟนๆอึ้ง ทึ้ง ไปตามกัน เป็นนักร้องและมือคีบอร์ดในวง เสียงนุ่มใสของเขา เข้ากันได้ดีกับเพลงช้า ซึ่งมันเน้นให้เสียงเขาทรงเสน่ห์มากจนทำให้ทุกเพศทุกวัยหลงใหลกันอย่างถอนตัวไม่ได้ ยิ่งบางเพลงที่ทำเสียงเซ็กซี่คู่กับเรนยิ่งทำให้แฟนคลับคลั่งเขาเป็นที่สุด
รัน มือกีต้าร์ที่เล่นได้ทั้งแนวร็อค และแนวช้า ซึ่งเป็นเสียงพื้นหลังที่ดีของวง หน้าหนุ่มลูกครึ่งจีนที่มีนิสัยน่ารัก ร่าเริง และเข้ากับเรียวตะได้ดีจนซายะ รินต้องเอือมระอา
โร พี่ชายฝาแฝดของรัน ทำหน้าที่เล่นกีต้าร์คู่กับรัน แต่โรจะเน้นไปทางกีต้าโซโล่ และการเล่นเสียง เพื่อให้เพลงดูทรงเสน่ห์และน่าหลงใหลมากขึ้น โร คนพี่จะมีนิสัยตรงไปตรงมา ร่าเริง เป็นกันเอง แต่กับคนที่ไม่สนิทเขาจะออกแนวโหดๆ อันตราย และไม่น่าเข้าใกล้ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นบรรดาแฟนคลังบางส่วนก็ยังชอบในความโหด และใบหน้ายิ้มแย้มของเขาเวลาอยู่กับวงเป็นที่สุด
ราส มือเบสที่มีนิสัยนิ่งเงียบ ไม่ค่อยพูด เป็นหนุ่มลูกครึ่งอิตาลี ญิ่ปุ่น ที่ถูกเรียวตะและรินพบเข้าตอนเรียนม.ต้น เพราะเพิ่งกลับอยู่ญิ่ปุ่น บวกกับวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนกันเลย ทำให้ราสเลือกที่อยู่คนเดียว แต่แล้วความสงบสุขของเขาก็จบลง เมื่อมารู้จักกับเรียวตะ ริน และบรรดาสมาชิกคนอื่นที่มีทั้งความเกรียน ความบ้า ความร่าเริงผสมกันจนแทบจะไม่สนใจตัวตนที่นิ่งเงียบของเขา ราสเป็นชายหนุ่มร่างสูง ที่ถนัดร้องในแนวแร็พ หน้าตาออกไปทางต่างชาติ รูปร่างสูงใหญ่ และถือได้ว่าเป็นมันสมองของวง เวลาที่วงมีปัญหา ชายผู้นิ่งเงียบคนนี้นี่แหละ จะจัดการได้ทุกอย่าง
เรย์ มือกลองที่ไม่ได้มีดีแค่จังหวะ แต่ยังร่วมไปถึงนิสัยป่าเถื่อน แม้ภายนอกของเขาจะสีหน้านิ่งเฉยออกแนวเย็นชาก็ตาม แต่คงต้องบอกได้เลยว่า หมอนี้นี่แหละอันธพาล จอมหาเรื่อง ใจร้อน คู่หูของโร!