นิยาย เพื่อนรัก แต่ง จบ แล้วครับ อ่านได้เลย
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยาย เพื่อนรัก แต่ง จบ แล้วครับ อ่านได้เลย  (อ่าน 1982 ครั้ง)

ออฟไลน์ aaron6708

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ aaron6708

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เรื่องของเรื่องทั้งหมด มันเริ่มจากชื่อที่แสนจะเชยๆของผม    ใครจะคิดว่าแค่ชื่อ เด็กชายบัวลอย จะทำให้ผมโดนหัวเราะเยาะ จากคนเส้นตื้น  อย่างคุณชายเอกภพ เพื่อนร่วมห้องที่แสนจะหล่อเหลา น่ารักน่าชัง จนผมโกรธไม่ลง  เลยได้แต่ทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ได้แต่แอบมองคุณชายเอกไปวันๆเวลาเขาเผลอ  แอบมองตรงๆไม่ได้ด้วยสิ เดียวโดนข้อหากวนตีนคุณชายเขาอีก แม้ว่าผมจะโดนตบ โดนถีบ โดนแกล้ง จากคุณชายเอก แต่ไม่รู้ทำไมผมกลับแอบชอบที่ได้ใกล้ชิดคุณชายเขาขนาดได้แตะเนื้อต้องตัวกันแบบนั้น 
แล้วถามว่าทำไมผมถึงยอมแบบนี้ บอกได้คำเดียวครับ คือผมหลงรักคุณชายเขามาตั้งแต่ผมเด็กๆเรื่องมันก็เกิดขึ้น สัก ตอนผมเรียนอยู่ ป.1 กำลังจะขึ้น ป.2 ละมั้ง ที่ผมได้ตามพ่อไปรับจ้างตัดหญ้าที่บ้านคุณชายเอก หึๆ อย่าหาว่าผมเว่อร์เลยนะที่เรียกเขาว่าคุณชาย  ก็ไม่รู้จะพูดยังไง คือแบบว่าเขาเกิดมาเป็นคุณชายจริงๆนะ  บ้านรึวังผมก็ยังไม่แน่ใจ ตัดหญ้าทั้งวันไม่ได้พักเลย ยังใช้เวลา 3 วันกว่าจะเสร็จ วันสุดท้ายที่ผมกับพ่อมาตัดหญ้า ในตอนบ่ายแก่ๆ ผมกำลังนั่งพักอยู่ใต้ต้นไม้  อยู่ๆคุณชายเอกเขาก็เดินมาหาผม ยื่นถุงใส่ขนมนมเนยน้ำอัดลมให้ พร้อมกับรอยยิ้มสวยๆที่ทำให้ผมสตั้นไปหลายวินาที มือนิ่มๆเสียงเพราะๆกับชุดนักเรียนหรูๆของโรงเรียนดัง ทำเอาผมนึกว่าเทวะดาตัวน้อยๆลงมาจากสวรรค์มาเดินเล่นบนโลกมนุษย์ชะอีก  รอยยิ้มสดใสกระจ่างบนใบหน้า คำพูดเพราะๆหวานๆที่คุณชายเอกเขาพูดกับ พ่อกับแม่ ท่าทางอ่อนโยนน่าทะนุถนอม เมื่อตอนนั้น มันช่างต่างจากตอนนี้ชะเหลือเกิน  ผมได้แต่นั่งมองคนที่เคยเป็นเทวดาในใจผม ได้แต่หวนรำลึกถึงความหลังที่แสนหวาน และได้แต่เก็บไว้ในใจ ไม่อาจกล่าวบอกคำในใจให้ใครได้รับรู้
"กูอยากกิน บัวลอย ไข่เค็ม ชิบหายเลย"  มาละครับมุกประจำตัวของคุณชายเขา ผมได้ยินเสียคุณชายดังแว่วมาทำเอาตื่นจากภวัง
"ไข่เค็ม นะมึง ไข่เค็ม ฮ่าๆๆ"  พอพูดถึงไข่เค็ม คุณชายก็จะหัวเราะ แบบจริงๆจังๆด้วยสิ แล้วก็จะมีเสียงหัวเราะของลูกสมุน ตามมาเป็นพรวน  ผมละไม่เข้าใจ คุณชายเขามีปัญหาอะไรกับไข่เค็มกันนะ ผมได้แต่ถอนหายใจ ทำหน้าบึ้งหน่อยๆส่งไปให้ คุณชายจะได้ไม่เสียใจ แม้ว่าผมจะขำมากๆ แต่ก็ต้องแกล้งโกรธ เขาจะได้คิดว่าแกล้งผมได้สำเร็จ แล้วเขาจะอารมดี ไม่กวนผมมากเกินไป   แม้ในใจอยากให้กวนได้ทั้งวันทั้งคืนก็ตามเถอะ
คุณๆจะรู้กันรึเปล่าครับ ตั้งแต่วันนั้น ที่ผมได้รับรอยยิ้มจากคุณชายเอก  ผมก็เหมือนคนบ้า ได้แต่เพ้อคิดถึงเขาตลอด แม้จะไม่มีโอกาสได้คุยกันอีกเลย แต่ถ้ามีโอกาส ผมจะแวะไปแอบดูคุณชายเอกอยู่เรื่อยๆ  แอบดูอยู่ห่างๆ  ตลอด 4 ปี ที่ผมหลงรักคนๆนี้  แอบเดินเฉียดๆบ้าง จนได้รู้ว่าคุณชายจะมาเรียนโรงเรียนรัฐบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง แม้จะเป็นรงเรียนรัฐบาล แต่ก็ต้องจ่ายค่าเรียนอื่นๆที่โรงเรียนเรียกเก็บ เทอมหนึ่งก็เป็นหมื่นๆ แต่ผมก็มีความหวัง เพราะโรงเรียนนี้มีต่ำแหน่งที่เรียกว่า นักเรียนทุนอยู่  แม้ว่าคนจนๆอย่างผม ถ้าอยู่ต่ำแหน่งนี้ผมก็สามารถเรียนที่นี้ได้ ผมจะได้ใกล้ชิดได้รู้จัก กับคุณชายเอก ยอดดวงใจของผม ทุกอย่างนั้นดูดี ไปหมด  แต่มันผิดที่ชื่อของผม ชื่อที่ทำให้ผมต้องผิดหวัง กลายมาเป็นตัวตลกประจำห้อง เมื่อยอดดวงใจของผมเป็นคนเส้นตื้น  ทันทีที่แนะนำตัวหน้าชั้นเพียงแค่ได้ยินชื่อผม เด็กชายบัวลอย  คุณชายเอกก็หัวเราะออกมาทันที เลย  ผมยังจำได้  ทันทีที่  ผมบอกว่า ชื่อเด็กชายบัวลอย ก็มีเสียง " ใข่เค็ม " ของคุณชายดังขึ้น ก่อนที่ผมจะแนะนำนามสกุลตัวเองชะอีก  จากนั้นคุณชายก็ทั้งตบโต๊ะ ทั้งกระทืบเท้า หัวเราะชื่อผม พร้อมกับเรียกผมว่า  บัวลอย ไข่เค็ม   จากนั้น ผมก็ได้นามสกุลไข่เค็ม  มาแทนที่นามสกุลจริงๆของผม   ทุกคนรู้จักชื่อผม ว่า บัวลอย ไข่เค็ม นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา 
โชคดีเพียงอย่างเดียวของผมที่โรงเรียนนี้ ก็มีแค่ ผมเป็นนักเรียนทุน  ผลการเรียนต้องไม่ต่ำกว่า 3.8 ในแต่ละเทอม  และมันก็ทำให้ผมได้รับความนิยมเวลาทำรายงาน หรือ ติวข้อสอบ ใครๆก็มาลุมล้อมผม ก็จะมีแต่คุณชายเอกกับลูกสมุนนี้ละ ที่ไม่เคยจะสนใจผมเลย  ผมก็ได้แต่หวัง ว่าวันหนึ่ง เขาจะหันมามองผมบ้าง สักนิดก็ยังดี

วันเวลาผ่านไป ไวเหมือนโกหก  สำหรับผมนึกว่ามันเพิ่งผ่านไปแค่ไม่กี่วัน  แต่ความจริงเวลาล่วงเลยมาจนถึงเวลาสอบกลางภาคเรียนแล้ว ผมที่ตั้งอกตั้งใจมาโรงเรียน เพียงแค่จะได้เห็นหน้าสุดที่รักของผม และเรียนๆเล่นๆเป็นของแถม  ตอนนี้ต้องรับงานหนัก เพื่อนๆลุมล้อมขอคำปรึกษา ให้ช่วยติวข้อสอบให้ มันช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่กลายเป็นที่รักของใครๆ แต่ในใจผมกลับร้อนลุ่ม เจ็บปวด แสนทรมาน สายตาผมคอยแต่จดจ้องดูคุณชายเอก ที่นับวันรอยยิ้มบนใบหน้าค่อยๆหายไปทีละนิดๆ ขนาดผมเดินไปกวนโอ้ย ตรงๆ คุณชายเอก ยังแทบไม่ยิ้มเลย ผมเป็นห่วงมาก ไม่รู้คุณชายเอกเป็นอะไร  ทำเอาผมแทบกินไม่ได้นอนไม่หลับ

ผมยืนมองป้าย ประกาศขายบ้าน  บ้านหลังโตๆ บ้านที่ๆผมพบกับความรักครั้งแรก บ้านที่มีความทรงจำที่แสนหวานของผม กับ เทวดาตัวน้อยๆของผม ตอนนี้บ้านหลังนี้กำลังจะเป็นของคนอื่น เป็นของใครก็ไม่รู้ ผมรู้สึกตกใจและเสียใจหัวใจแทบแตกสะลาย  นับตั้งแต่สอบกลางภาคเสร็จ คุณชายของผมก็มาเรียนบ้างไม่มาบ้าง ขาดๆหยุดๆ อยู่เป็นเดือนสองเดือน จนสุดท้ายก็ขาดเรียนไปเป็นอาทิตย์ ถามใครๆก็ไม่มีใครรู้ ทำเอาผมร้อนรนจนต้องวิ่งแจ้นมาแอบดูถึงที่บ้าน ก็ต้องมาเจอเรื่องคอขาดบาดตายแบบนี้  คุณชายของผมหายไปไหน น้ำตาผมไหล หัวใจแทบแตก ความรักของผมนี้มันจะถึงจุดจบแล้วงั้นหรอ มันช่างไม่ยุติธรรม เทพแห่งความรักช่างใจดำทอดทิ้งให้ความรักของผมต้งจบสิ้นพินาศ แม้แต่จะกล่าวคำร่ำลากันสักคำก่อนจากผมก็ยังไม่มีโอกาส ผมได้แต่เดิน น้ำตานองหน้าสายตาผมยังคอยสอดส่องมองหาคนที่ผมรัก   ขออีกสักครั้งขอโอกาสให้ผมอีกสักครั้ง ถ้าได้เจอกันอีก ผมจะร้องบอกเขาดังๆว่าผมรักเขามากขนาดไหน แม้จะโดนเกลียดโดนโกรธ โดนแตะโดนต่อย ยังไงผมก็ยอม ขอเพียงแค่ได้เห็นหน้าอีกสักครั้ง อีกสักครั้ง ........

ผ่านมาสองอาทิตย์ ที่ไร้วี่แววของคุณชาย  ส่วนผมมาโรงเรียนด้วยน้ำตานองหน้า  หัวใจกลัดหนอง เจ็บจนชาไร้ความรู้สึก เพียงแค่คิดว่าจะไม่ได้เจอคุณชายอีก น้ำตาผมก็ไหลพรากเป็นสายเลือด การจากใครสักคนที่เรารักมันช่างทรมาน ผมเพิ่งเข้าใจตอนนี้เองว่า ตายทั้งเป็นนั้นมันเป็นยังไง

ผ่านมาสามเดือน ผมก็กลายเป็นซอมบี้เดินได้  ต่ำแหน่งนักเรียนทุนปลิวกระเด็นไปไกลลิบ  ผมต้องออกจากโรงเรียนเพราะไม่มีค่าเทอม แต่ผมหาได้สนใจไม่ โรงเรียนที่มีแต่ความทรงใจที่ทำให้ผมเจ็บปวด มองไปทางไหนก็มีแต่ภาพหลอนของคุณชายเอก ตามมาตอกย้ำให้ผมช้ำอกช้ำใจ นับตั้งแต่วันที่ผมเป็นอิสระจากโรงเรียน ทุกวันผมต้องเดินเหม่อลอยผ่านมาที่บ้านหลังโตหลังนี้ทุกที มาเพื่อตอกย้ำความเจ็บปวด เพื่อที่ผมจะได้ไม่ลืม ไม่ลืมคนที่ผมรัก

" ตุบ "  เสียงบางอย่างกระโดนลงมาจากกำแพง ตรงหัวมุมถนนของบ้านอดีตคุณชายเอก ทำเอาผมตกใจตื่น รีบหลบเข้าข้างทางตรงพุ่มดอกไม้ริมรั้ว  แอบมองดูผ่านพุ่มไม้  มองเห็นใครบางคนกำลังหันซ้ายหันขวา  ก่อนจะเดินย่องๆไปยังบ้านอีกหลังที่อยู่ตรงข้าม ปีนผ่านรั้วหนาหายเข้าไปในบ้านหลังนั้น  ผมนี้ตื่นตกใจเยี่ยวแทบแตก เกิดมาเพิ่งเคยเห็นหัวขโมยแห่งบารามอสตัวเป็นๆ เฮ้ยไม่ใช่ละ หัวขโมยตัวเป็นๆ ผมหันช้ายหัวขวา เตียมจะชิ่ง เกิดมีใครผ่านมาเจอผมเดินดุ่มๆอยู่ตรงนี้ แล้วหาว่าผมเป็นขโมยผมได้ซวยแน่ๆ ขณะกำลังจะออกวิ่ง ไฟบ้านหลังนั้น ก็ติดพรึบ หัวโขโมยจอมวายร้ายก็วิ่งหน้าตั้งแผ่นออกมาจากบ้านหอบเอาสมบัติกองโตสะพายไว้บนหลังปีนต้นไม้ริมรั่วปีข้ามเข้าไปในบ้านคุณชาย  เสียงคนแอะอะโวยวายดังแว่วมา แสงไฟจากรถยนต์วิ่งมาตามถนนด้วยความเร็ว ผมนี้กลัวจนเนื้อเต้น ก่อนจะถือวิชาลิงปีนต้นไม้ต้นนั้นตามเจ้าหัวขโมยตัวแสบตามมันไปติดๆ หวุดหวิดโดนจับตัว เสียงคนแซงแช่ดังอยู่นอกกำแพง มองเห็นเจ้าหัวขโมยวิ่งลิบๆไปทางหลังบ้าน ผมก็วิ่งตาม ยังไงซะหนีตามหัวขโมยผมอาจรอดจากการถูกจับตัว จะเดินโทงๆตามถนนแล้วบอกว่าผมไม่รู้คงไม่มีใครเชื่อ บ้านผมไม่ได้อยู่แถวนี้แล้วมีกิจธุระอันใดถึงมาเดินท่อมๆมืดๆค่ำๆอยู่แถวนี้กันละแก้ตัวไปยังไงก็คงฟังไม่ขึ้น  ผมวิ่งตามเจ้าหัวขโมยจนทันเห็นว่ามันแลี้ยวเข้าในอาคารหลังเล็กๆที่อยู่หลังบ้าน แสงไฟสาดสองเข้ามาภายในบ้านผมหลบแทบไม่ทัน "มันต้องเข้าไปในบ้านนี้แน่ๆ" เสียงคนตะโกนดังแว่วมาก่อนจะมีใครอีกหลายๆคนปีนรั้วตามเข้ามาในบ้าน ผมรีบวิ่งไปที่อาคารหลังเล็กนั่นเปิดประตูและรีบปิดลงทันใด  สายตาสอดส่องหาคนร้าย แต่สิ่งที่เห็น ภายในอาคารมันมีเพียงความว่างเปล่า โล่งโจ้ง หาวี่แววสิ่งมีชีวิตสักตัวก็ไม่มี ยกเว้นผมคนเดียว  "แอด"  เสียงเปิดประตู ผมหันควับไปมอง "มานี้ เจ้าไข่เค็มเร้วๆ"   ไม่ต้องรอช้า ไม่ต้องบอก ผมก็วิ่งไปสุดตัวอยู่แล้ว ณ ตอนนี้ แค่ได้ยินชื่อเรียก "เจ้าไข่เค็ม" หัวใจผมที่แห้งผากก็ชุ่มชื่นไปด้วยหยาดน้ำทิพย์จากสรวงสวรรค์

ผมนั่งกอดกันกลมกับคุณชายในห้อง ลับ ที่มืดสนิท เสียงคนข้างนอกยังตามหาตัวหัวขโมยกันจ้าละหวัน  จนผมต้องกลั้นหายใจหน้าเขียวหน้าม่วง แต่ก็ไม่ยอมปล่อยตัวคุณชายที่ตอนนี้คงลืมตัวให้ผมกอดอย่างแนบสนิท  แม้จะเหม็นกลิ่นตัวคุณชายที่ผมคิดว่าคงไม่ได้อาบน้ำมาสักสามเดือนแล้วกระมั้งก็ตามที     

" นี้มึงปล่อยกูดิ กอดกูซะกูอาย เลย มึงไม่เหม็นรึไงวะ ขนาดกูยังเหม็นตัวกูเองเลยเนี้ย " 
" โทษที พอดีเราดีใจไปหน่อย เลยเผลอตัวไปนิด " ผมบอกคุณชายเอก แล้วยิ้มให้จนตาหยี่ สายตาของเราสองคนจ้องกันอยู่นานสองนาน (ที่จริงไม่ถึง 5 วินาทีชะด้วยช้ำ) 
"มึงมาอยู่แถวนี้ได้ไงวะ ค่ำๆมืดๆ" คุณชายเขาถามผม แล้วผมจะตอบยังไงดีละเนี้ย เพราะตอนนี้ในหัวผม มีแต่คำว่า ดีใจ ดีใจ และดีใจอยู่เต็มไปหมดเลยนะสิ

สรุป คราวๆ จากการสอบสวน บ้านคุณชายโดนฟ้องล้มละลายเพราะบริษัทโดนโกง พ่อแม่ติดคุกอยู่ต่างประเทศ อยู่ๆก็มีคนมายึดบ้านแล้วก็ไล่คุณชายออกจากบ้าน เงินทองที่มี ก็หร่อยหรอ บ้านที่มีก็โดนยึด เงินก็หมด เลยต้องมาเป็นหัวขโมยบารามอส สุดเท่ ตอนแรกๆก็ขโมยได้ง่ายๆ พอขโมยไปขโมยมาเรื่องมันก็ดังขึ้นเรื่อยๆ หลายๆบ้านเริ่มระวังกัน สุดท้ายก็เริ่มขโมยไม่ได้ หลายบ้านเอาหมามาเลี้ยงหลายบ้านติดกล้องวงจรปิด หลายบ้านติดสัญญาณกันขโมย แค่ 3 - 4 เดือนก็แทบหาบ้านที่จะขโมยไม่ได้ ชีวิตคุณชายช่างน่าเศร้า เพราะอยู่ตัวคนเดียวไร้ญาติขาดมิตร  เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่เคยมีใครออกมายอมรับคุณชายไปเลี้ยงดูปูเสื่อเลย ทั้งๆที่คุณชายก็หลบอยู่ที่บ้านหลังนี้มาตั้งแต่ต้น ตอนกลางวันนอนอุดอู้อยู่ในห้องลับแแคบๆ ที่คุณชายบอกว่าเป็นห้องหลบภัย ตอนกลางคืนออกย่องเบาหาขโมยอาหาร ในครัวเขามากิน น้ำไม่มีใช้เพราะโดนตัด ไฟไม่มีใช้เพราะโดนตัดเหมือนกัน จะเข้าห้องน้ำทีต้องหากิ่งไม้ใบหญ้าเอาไว้เช็ด ...... ...... ผมได้ฟังแล้วหัวใจยิ่งบอบช้ำ อดที่จะสงสารคุณชายไม่ได้ ชีวิต คุณหนูที่หยิบจับอะไรไม่เป็น ต้องมาตกระกำลำบากอย่างนี้ แค่คุณชายมีชีวิตรอดมาจนถึงวันนี้ได้ ผมถือว่าสวรรค์เมตตาผมมากแล้ว  ผมสัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้คุณชายลำบากมากไปกว่านี้อีกแล้ว ผมรับไม่ได้ อือๆๆ

" นี้ๆ ตามมาทางนี้ "  ผมบอกคุณชายเบาๆ ขณะเดินลัดเลาะไปตามทางเดินเล็กๆในสะลัมเพื่อกลับบ้านผม กว่าจะลากตัวคุณชายมาได้เล่นเอาจนเหนื่อย แม่น้ำห้าสายที่ว่าแน่ๆ ผมชักมาจนแห้งขอด ยังแทบเอาคุณชายตามมาด้วยไม่ได้ แต่สุดท้ายคุณชายก็ยอมตามผมมาจนได้ ผมหันไปมองคุณชายที่เดินตามหลังมาเหงื่อไหลไคลย้อยตามใบหน้า ดูเซ็กชี่น่ารักน่ากอดไม่ใช่หยอก ในมือคุณชายมีกระเป๋าเสื้อผ้า สองใบ โต ที่ท่าทางหนักไม่ใช่เล่นส่วน ผมได้แต่ให้กำลังใจ ในขณะที่กระชับกระเป๋าเสื้อผ้าอีก 4 ใบในมือตัวเอง ให้มั่น มันหนักจริงๆนะ ทำไมของใช้คุณชายมันเยอะขนาดนี้  ผมนี้แทบลิ้นห้อย แต่ต้องเก็บไว้ ทนไว้ กลั้นไว้ เพราะผมกลัวคุณชายจะเสียใจ

" หลังนี้แหละ "  ผมบอกคุณชายที่เดินตามหลังมา บ้านน้อยหลังเล็กๆนี้เป็นสมบัติส่วนตัวของผม เป็นสมบัติที่ผมได้มาจากกองมรดกของท่านแม่ บ้านที่มีขนาด พีนที่ กว้าง 3.5 เมตร ยาว 6 เมตร มี 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ กับ1 ห้องครัว ที่ต่อไปในไม่ช้าก็จะกลายเป็นเรือนหอของผม กับคุณชายในอนาคต 

"นี้บ้านนายหรอ หลังเล็กจัง บ้านนายคงจนมากๆเลยนะ เรานึกว่านายจะรวยชะอีกเห็นเป็นนักเรียนโรงเรียน xxx"  ผมนี้น้ำตาแทบตกใน   หลังจากที่ได้ฟังคุณชายพูด แต่ผมก็เข้าใจนะ คนจนๆนะ คงไปเข้าโรงเรียนดังๆอย่างโรงเรียน xxx ไม่ไหวหรอกถ้าไม่ใช่คนรวยๆหน่อย  แต่เพราะผมเป็นนักเรียนทุนไง ผมเลยเรียนได้

"นี้ ไข่เค็ม อ่างอาบน้ำบ้านนายนี้  ไม่มีน้ำร้อนหรอ"  ผมได้ยินเสียงร้องถามจากคุณชายเลยเดินไปดู โอ้แม่เจ้า ....
คุณชายลอยน้ำตุบป่องๆ ในแท้งน้ำที่เปิดน้ำใส่ไว้อาบ  ผมนี้แทบซ็อก มองคุณชายตาค้าง เกิดมาเพิ่งเคยเห็นคุณชายถอดเสื้อ โชว์แผงอกขาวๆ กับเม็ดนมสีชมพูอ่อนๆ ที่อยู่ใต้น้ำนั้น ผมอยากดู ผมอยากเห็น พระเจ้าช่วยลูกช้างด้วย ลูกช้างผมมันแข็ง ผมควรทำไงดี
"มะ ไม่มี รีบอาบน้ำนะ ดึกแล้วเดียวเป็นหวัด จะได้รีบนอน" ผมรีบบอกคุณชาย ก่อนจะรีบวิ่งออกจากบ้านไปวิ่งออกกำลังกายให้จิตใจสงบลง  แค่ไม่กี่นาที ที่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน ผมก็แทบเป็นบ้า ในความน่ารักของคุณชาย และความไร้เดียงสา แล้วผมจะอดใจไหวไปได้ถึงตอนไหนกัน ผมไม่อยากหน้ามืดตามัวจับคุณชายปล้ำหรอกนะ ความรักของผมนะ มันต้องสวยงาม และต้องเกิดจากความรักที่บริสุทธิ์ จากผมและคุณชายเท่านั้น

" แก๊ก " ผมเปิดประตูเข้าห้องนอน หลังจากที่ทำจิตใจให้สงบแล้ว วิ่งจนเหนื่อย กว่าภาพอันแสนเซ้กชี่ติดตาจะจางหาย
"อะ เอ้ย ทำไรอะ" แล้วผมก็ต้องร้องเสียงหลง มองคุณชายที่ตอนนี้ นอนแก้ผ้าล่อนจ้อนอยู่บนฟูกนอน  ท่าทางจะหลับมิหลับแหล่ นี้ รึว่าคุณชายจะยั่วผมให้ใจแตกกันแน่ ไม่ไหวแล้วหัวใจผมแต้นแรงเลือดลมสูบฉีด แล้วเจ้าช้างน้อยที่อุตสาห์ไปทำให้หลับก็เด้งตัวขึ้นมาทันทีทันใด
" อะ มาแล้วหรอ ไปไหนมา เรารอกางแกงในแห้งอยู่นะ ถ้าไม่ใส่นอนมันนอนไม่หลับ " ผมหันไปมองตามมือที่ชี้ๆ ของคุณชาย ก่อนจะเจอกางเกงในตัวจิ๋ว ที่ตากไว้บนพัดลม มันส่ายไปส่ายมาตามการหันของพัดลมไปมา อืม ขอบอก ผมนี้สักอิจฉาพัดลมขึ้นมาชะแล้วสิ อะไม่ใช่ละ
"นี้แล้วทำไม่นอนแก้ผ้าแบบนี้ละ ไม่ใส่เสื้อผ้ารอ กางเกงในแห้ง" ผมถามเสียงกระตุก ขณะสายตารีบจดจำภาพประวัติสาทตรงหน้าเอาไว้ให้มากที่สุด ก่อนจะรีบเดินไปหาผ้าเช็ดตัวมาโยนให้คุณชายพันตัวไว้รอ   กางเกงในแห้ง
"ก็เสื้อผ้ามันไม่ได้สักเลยสักตัวนะสิ มันเหม็น ถ้าใส่แล้วตัวมันก็จะเหม็น เรากลัวไข่เค็ม รังเกรียดเราอะ" คุณชายพูดด้วยน้ำเสียงสลด ทำเอาผมใจแป๋ว โธ่ ใครกัน ใครจะกล้ารังเกรียด อยากบอกเหลือเกิน อยากบอกให้ได้ยินดังๆกันไปเลยว่า ไข่เค็มคนนี้รัก คุณชายมากขนาดไหน
สุดท้ายผมเลยต้องเอาเตารีด มารีดกางเกงในให้คุณชายใส่ นอน ด้วยอาการมือสั่นเทา  ให้ตายเถอะ ขอร้อง ช่วยไปนั่งดูไกลๆหน่อยได้มัยเล่า อย่ามานั่งมองผมตาเป๋วแหว น่ารักๆ โชว์หัวนมสีชมพูน่าเลีย เอ้ย น่าดูอย่างนี้ใกล้ๆผมเลยให้ตายสิ ผมนี้แข็งปวด จนน้ำแทบแตกอยู่แล้ว
"อะ นี้ รีบใส่นะ จะได้นอนๆ " ผมรีบยืนกางเกงในให้ คุณชายรับไปใส่ ท่านจะได้รีบแต่งตัวชะที ผมลุกขึ้นยืนอย่างลืมตัว อยากออกไปจากตรงนี้ มันอึดอัดคับแน่นไปหมดแล้ว
"หมับ" เสียงบีบบางอย่าง จากมือนิ้มๆ ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ  ทำเอาผมสะท้านสะเทือนไปทั้งตัว  แข้งขาหมดแรง แทบทรุดลงกับพื้น
" ไรอะ จู๋แข็งเองหรอ นึกว่าซ่อนขนมไว้ชะอีกแซ็งเลย มันต้องแข็งตอนตื่นนอนใหม่ๆสิ มาแข็งทำไมตอนนี้ แข็งผิดเวลา นึกว่าจะได้กินขนมชะอีก หึ" คุณชายทำหน้ายู่ใส่ผม ก่อนจะบ่นงุงงิงๆไปแต่งตัว แต่ผมนี้ ที่เป๋ากางเกงมีรอยน้ำซึมออกมาเป็นวง บางส่วนไหลย้อยลงไปตามขา อย่าไปพูดที่ไหนให้ใครได้ยินได้ฟัง บีบเดียวน้ำแตก ไข่เค็มอายเขา อือๆๆๆ

เสียงนกร้องจิ้มๆ  เอ้ยยย   จิ๊บ ๆ  ดังแว่วมา บ่งบอกว่าเวลาเช้าได้มาเยือนแล้ว ผมรู้สึกตัวงัวเงีย ขึ้นมา  อืม ทำไมมันหนักจัง อะ อืม อะไรกันทำไมมันเสียวแปลบๆ ที่หัวนมแบบนี้  พอคิดได้ก็สะดุ้งลืมตาโพลงขึ้นมาทันทีก่อนจะเห็นใบหน้าที่แสนน่ารัก ของคุณชายหลับตาพริ้มนอนดูดหัวนมผมอยู่  อะแม่ง โครตเสียวเลย อยากจะผลักคุณชายออก แต่ไม่กล้า บางทีตอนนี้คุณชายอาจจะกำลังฝันดี  ผมต้องอดทน  อึก อือ อ่า โอ้ย สุดยอด อะอ่า  "อือๆ "ผมครางออกมาเสียงแผ่ว เมื่อถึงจุดสุดยอด แค่โดนดูดนม และอาจจะดิ้นแรงไปหน่อย ตอนน้ำแตกรอบเช้า คุณชายเลยรู้สึกตัว
"อืม แจ๊บๆ " คุณชายงัวเงียลุกขึ้น พลาง ใช้มือสีตา น้ำลายไหลยืดนิดๆ แม่งผอยากดูดปากเล็กๆนั่นจัง แต่ไม่ไหวแล้ว แค่ไม่กี่ชั่วโมงทำผมนน้ำแตกไปสองรอบ ทั้งๆที่ไม่ได้ตั้งใจถ้าตั้งใจผมคงน้ำหมดตัวแห้งกรอบตายแน่นอน
"เช้าแล้วหรอ " เสียงคุณชายพูด ขณะมองหน้าผม
"เป็นอะไรทำไมนอนหน้าแดงๆ เป็นไข้รึเปล่า" คุณชายพูดพลางเอามือมาแตะที่หน้าผากผม และทำหน้าตาท่าทางสงสัย เหมือนเด็กน้อย ไม่ไหวแล้วจะน่ารักไปไหน ผมนี้จะสำลักความสุขตายเพราะความรักแล้วรู้มัย 

กว่าจะลุกจากเตียง พาคุณชายหอบเอาผ้าไปสักที่ตู้สักหยอดเหรียนเสร็จ ก็ปาไป 9 โมงกว่าๆ  แดดเริ่มร้อน แต่ผมก็มีความสุข ได้มองคุณชายสำรวจนั่นโน่นนี้ เหมือนเด็กน้อยออกสู่โลกกว้างเป็นครั้งแรก
"มาชักผ้านี้สนุกจริงๆเลยนะ ไม่เคยมาชักผ้าเองเลย " คุณชายพูดแล้วหันมายิ้มให้ผมตาหยี่ ทำเอาผมยิ้มจนแก้มแทบปริ มีความสุขจนลืมโลก แค่สิ่งเล็กๆน้อยๆที่ใครๆก็ทำเป็นทุกคนและบางคนก็ขี้เกรียจทำ  แต่ดูเหมือนมันจะสนุกสุดเมื่อคุณชายได้ทำมัน  ช่างกระตือรือล้นเหมาะที่จะเป็นเจ้าสาวของผมจริงๆ ให้ตายสิ

"พี่สาวครับ ชื้อพวงมาลัยผมหน่อยสิครับ 20 บาทเองครับ พี่สาวคนสวย" ผมนั่งมองคุณชายขายพวงมาลัย ที่หน้าตลาด ตรงป้ายรถเมล์ ขายดิบขายดี จนคนร้อยพวงมาลัยอย่างผมร้อยให้แทบไม่ทัน   ใบหน้าแดงๆเพราะความร้อน กับไรผมที่เปียกเหงื่อ ช่างดูเซ็กชี่ จนใครๆก็แทบหันหลังกลับมามอง รอยยิ้มที่สดใส ยิ้มฟันขาวแปล่งเป็นประกาย ดวงตาที่สดใส ยื่นพวงมาลัยขายให้ใครอดใจไม่ชื้อ  คนๆนั้นก็ช่างเถอะ

"นี้ หาเงินได้ง่ายๆเลยนะ  แบบนี้รวยแน่ๆเลย เนอะไข่เค็ม" เสียงคุณชายร้องดังมา ก่อนจะวิ่งมาหาผม แต่ว่า คำว่า ไข่เค็ม ที่ดังออกมานั้น ทำเอาผมหน้าแดงช่าน ใครๆหลายๆคนหยุดกึก หันมามอง ไข่เค็มอย่างผม ก่อนจะพ่นลมกลั้นหัวเราะรีบเดินจากไป   ขนาดแม่ค้าในตลาดที่ชี้ๆกัน ผมยังได้ยินเสียงหัวเราะดังแว่วมาให้ได้ยิน โธ่ พังหมดเลยภาพพจน์เสื่อเสียง เด็กชายแสนดี ที่ผมพรากเพรียนสร้างขึ้นมา ต้องพังลงเพราะ ไข่คน เฮ้ย ไข่เค็ม คำเดียว .......

"นี้หนุ่มน้อย ไปไงมาไงถึงมาอยู่กับ ไข่เค็ม เอ้ย โทษจะ ถึงมาอยู่กับ บัวลอย มาช่วยมันขายพวงมาลัยได้ละ" ป้าๆ น้าๆ ยายๆ ในตลาดลุมถาม คุณชายของผมจนสุดทาง  คำตอบของคุณชายช่างหดหู่ใครๆได้ฟังก็สงสาร
"ผมไม่มีบ้านครับ บ้านโดนยึด พ่อกับแม่ก็ไม่กลับมา ไข่เค็มเป็นเพื่อนที่โรงเรียน ให้ผมมาอยู่ด้วยครับ"
"โธ่ น่าสงสารจัง ถ้า ไข่ เฮ้ย บัวลอยมันเลี้ยงดูไม่ดี มาอยู่กับป้านะ ป้าจะเลี้ยงดูให้ดีกว่าลูก ดีกว่าผัวแก่ๆที่บ้านเป็นสิบๆเท่าเลย น่าสงสารจัง โธ่ อือๆ" .......
เสียงโอดควญด้วยความสงสารดังระงมไปทั่วตลาด  แต่คนที่รับศึกฆนักคือผม ที่ต้องหอบหิ้วของฝากจากป้าๆน้าๆยายๆ ที่เกิดใจดีผิดปกติหยิบโน่นหยิบนี้เป็นของฝากคุณชาย กันเป็นมือระวิง ส่วนคุณชายนะหรอ เดินไปให้คนนั้นกอดที หอมที จนผมนี้ตาร้อนเป็นไฟไปหมดแล้ว

ออฟไลน์ aaron6708

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

"เอ้อ เหนื่อยจัง ตลาดนี้มีแต่คนใจดีๆ เลยเนอะ ไม่เหมือนในห้าง ได้ของฝากเพรียบเลย" เสียงคุณชายบ่นๆ เดินถือถุงขนมหวาน "บัวลอย ไข่เค็ม" ที่แม่ค้าขนมหวานให้มาและเป็นถุงเดียวที่คุณชายยอมถือ เองอย่างหวงแหนเดินตัวปลิวเข้าบ้าน  ส่วนผมนะหรอ ต้องแบกกระสอบของฝากหลังแทบหัก ขอร้องเถอะ ถ้าเป็นร้านขายครกขายสาก ขายเตาไม่ต้องฝากคุณชายมันก็ได้นะ ผมหนัก ให้ครกสากให้เตานี้  คุณชายมันรู้จักรึเปล่าผมก็ยังไม่แน่ใจ

"อะนี้ กำไรแบ่งกันคนละครึ่งนะ" ผมนับเงินรายได้แบ่งคุณชาย หลังจากหักต้นทุนแล้ว แบ่งกันได้คนละสองร้อย คุณชายมองเงินในมือตาแป๋ว ก่อนจะร้องเย้ แล้วกระโดดกอดผม "จุ๊บ" เสียงจุ๊บเบาๆที่ข้างแก้ม แต่ผมได้ยินชัดยังกะเสียงฟ้าผ่า
"ขอบใจนะไข่เค็ม นี้เงินก้อนแรกในชีวิตเลยนะที่เราหาเองได้" คุณชายพูดแล้วก็ยิ้ม ก่อนจะเดินถือเงินสองร้อยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หายเข้าไปในครัว
ส่วนผมเอามือลูบแก้มเบาๆ หัวใจสั่นรัว สักวันผมอาจจะตกใจตายได้ง่ายๆแน่ๆเลย ได้โปรดอย่าน่ารักมากไปกว่านี้จะได้มัย คุณชายเอกที่รักของผม

ผ่านไปได้ สองสามอาทิตย์ ตลาดคึกครื้นกว่าช่วงเวลาไหนๆ  เสียงกรีดร้องแทบตลาดแตก ยิ่งกว่าดารามาเดินตลาดชะอีก เมื่อหนุ่มน้อยขวัญใจพ่อยกแม่ยก ได้มีโอกาสหยิบไมค์ร้องเพลง  จากวงค์ดนตรีเปิดหมวก ผมเองก็เพิ่งจะรู้ คุณชายของผม เท่ยิ่งกว่าดาราซะอีก เสียงร้องที่เพราะมีเสนห์เฉพาะตัว ลีลาการเต้นโชว์ที่สุดยอด ส่งยิ้มมาแต่ละที ทำเอาหัวใจสาวเล็กสาวใหญ่สาวน้อยสาวเทียมสาวแท้ แทบละลายลงบนดิน  ไม่ต้องพูดถึงพวงมาลัยคล้องคอ รายได้ดีกว่าขายพวงมาลัยทั้งอาทิตย์รวมกันชะอีก

"ว่าไงจ๊ะ น้องเอกวันนี้อยากได้เนื้อหมูหรอจ๊ะ มาพี่สาวยกให้ฟรีๆสักกิโล" ผมได้ยินคำว่าพี่สาวผมถึงกับสะอึก ก่อนจะจ้องมองหน้าคนเป็นพี่สาวอีกทีเพื่อให้มันใจว่าฟังไม่ผิด เอามือขยี้ตาอีกทีเผื่อตาฝาด แต่สิ่งที่เห็นนั้นมันก็คือ ป้านวลแม่ค้าขายเนื้อวัย 40 สิบปลายๆ จะ 50 แล้วไม่ใช่หรอ
"อ่อ ป้า นวล"  คือที่จริงผมกำลังจะทักท้วงอะนะ ผมเกิดและเติบโตมาในตลาดแห่งนี้ ได้ยินตั้งแต่อ้อนแต่ออก ใครๆก็เรียกแกว่าป้านวล บางคนก็ยายนวลซะด้วยซ้ำ แต่ไหงวันนี้ เป็นพี่นวลได้หว่า บัวลอยงง ครับ
"หยุดเดียวนี้ ไอ้บัวลอย ไข่เน่า แกเรียกใครว่าป้านวลฮะ นี้ๆ พี่นวลโว้ย เดียวโดนตบกระบาลแตก ไอ้เด็กนี้"   ป้านวล หรือ  พี่นวลหันมาแวดใส่ผมทันที ก่อนจะหันไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ให้คุณชายเอกของผม"
"พี่ นวลครับ น้องเอกรับไม่ได้จริงๆครับ ของชื้อของขาย วันนี้น้องเอกจ่ายเงินนะครับ เดียวพี่นวลขาดทุน ถ้าไม่รับเงิน น้องเอกงอลพี่นวลจริงๆด้วยนะครับ"
"ไม่ๆ นะน้องเอก จ๊ะๆวันนี้พี่นวลรับเงินน้องเอกจ๊ะ ส่วนนี้พี่นวลแถมให้นะจ๊ะ อย่าปฏิเสธพี่นวลเลยนะ พี่นวลให้ด้วยความรักนะจ๊ะ น้องเอก"
ผมยืนดูป้านวล รับเงินจากมือของคุณชาย แค่หยิบเอาเงินแต่ป้านวนก็จับๆลูบๆมือคุณชายอยู่นั่นแหละ ส่วนมืออีกข้าง ก็หยิบโน่นหยิบนี้ มาวางกองๆไว้เป็นของแถมจนกองพะเนิน
"อะแฮมๆ " ผมต้องทำเสียงเล็กน้อยเพื่อให้ป้านวลรู้สึกตัว จะได้ปล่อยๆมือ คุณชายของผมสักที ช่วงหลังๆมานี้ผมอยากล่ามคุณชายไว้ที่บ้านไม่ให้ออกไปไหนเลยจริงๆ   

เวลาผ่านไป จากเดือนเป็นปี จากปีเป็นเดือน คุณชายของผม ตัวสูงล่ำ หนุ่นปิกน่าลูบ หน้าตาคมคายหล่อเหลา ดารายังอายขอบอก ทั้งๆที่อายุแค่ 15 ปี เท่านั้น ผมกับคุณชายยังอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังเล็กๆของผม เราสองคนช่วยกันทำมาหากินตามประสา (ผัวเมีย อิอิ)  เด็กหนุ่มสองคน ผมยังไม่เคยได้มีโอกาสบอกรักคุณชายเลยสักครั้ง
ยิ่งนานวันความกล้าที่เคยมีก็ยิ่งลดน้อยถอยลงแต่ความรักของผมกลับเพิ่มขึ้นๆทุกๆวินาที เพียงแค่ได้เห็นคุณชายยิ้มให้ใครๆ ที่สวยๆหล่อๆ แล้วหันกลับมามองตัวเองที่ผอมๆแห้งๆ หน้าตาบ้านๆ ความมั่นใจที่มีก็หดหายไปจนหมด แค่ทุกวันนี้คุณชายยังยอมอยู่ที่บ้านหลังเล็กๆกับผม จนถึงวันนี้มันก็คือปาฏิหารมากแล้ว มีใครหลายๆคนมาชวนคุณชายไปอยู่ด้วย สาวแก่แม่หม้าย ร่ำรวยๆ มากมายเงินทอง ทุกคนต่างรักและอยากให้คุณชายไปอยู่ด้วย ทั้งๆที่แค่ทิ้งผมไป ชีวิตเขาก็จะมีความสุขมีเงินมีทองใช้ไม่ขัดสน แต่เขาก็ไม่ไป เขายังอยู่กับผม คนจนๆที่หาเช้ากินค่ำ อยู่ในบ้านหลังเล็กๆ อยู่ด้วยกันเพียงสองคนแบบนี้
เรายังคงมีความสุขต่อมาอีกหลายเดือน  ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ช่วงนี้ผมได้รับความรักจากคุณชายเป็นพิเศษ คุณชายเดินตามผมเป็นเงาตามตัว จะทำอะไรก็คอยช่วย คอยส่งยิ้มให้กัน ผมอยากหยุดช่วงเวลานี้ไว้ไม่อยากให้ผ่านเลยไปไหนเลย ช่วงเวลาที่เทพพระเจ้าแห่งความรักท่านคงจะห็นใจผม เห็นใจในความรักที่ผมมีมาตลอด 7 ปี ของผม
"นี้ พรุ่งนี้วันเกิด ไข่เค็ม อยากได้อะไรเป็นของขวัญรึเปล่า" เสียงทุ่มๆนุ่มๆถามผม  เร็วจังแปลบเดียวผมก็ 16 ปีแล้วสินะ โตเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้ว
"ไม่ละ เปลืองตังค์ แค่ชื้ออะไรมาทำกินกันเล็กๆน้อยๆก็พอแล้ว  เอกจะกินเนื้อย่างเปล่าละ พิเศษสุดๆเลยนะนานๆได้กินที" ผมตอบคุณชาย และยิ้มให้
"ได้สิ  โตเป็นหนุ่มแล้วนี้ 16 แล้ว เดียวเราชื้อเหล้ามากินกันนะ" คุณชายพูดและยิ้มให้ผม อืม นั่นสิ 16 แล้ว ผมโตแล้ว ส่วนคุณชายเอก 16 ปี ได้ตั้งหลายเดือนแล้ว เหล้ายาปลาปิ้งก็เคยกินมาหมดแล้ว มีแต่ผมนี้แหละที่ยังไม่เคย กลัวเงินหมด ขวดหนึ่งตั้งแพง ผมต้องเก็บเงินไว้สร้างอนาคตนี้เนอะ ไม่อยากให้เอก อยู่อย่างลำบาก แต่พรุ่งนี้ผม ก็ 16 แล้ว หรือบางทีควรบอกความจริงคุณชายไปดีนะ
"อือ ได้ " ผมตอบรับเบาๆ แล้วยิ้มให้คนที่ผมรัก

วันนี้บรรยากาศแสนโรแมนติก เรามีกระทะหมูย่าง เหล้าหงษ์ขวดโตน้ำอัดลมแป็บชี่ โซดานิดหน่อย และ คุณชาย ที่นั่งอยู่ตรงหน้าผม  เหล้าหงษ์ ผสมแป็บชี่ ถูกรินให้ผมกินแล้วแล้วแก้วเล่า ผมกินไม่กี่แก้วหรอก ก็ออกอาการจะเมาแล้วตามประสาคนไม่เคยกิน
"ไข่เค็ม ขอบคุณนะ"  เสียงคุณชายพูดขึ้นมาแผ่วเบา ก่อนหลุบสายตาลงมองแก้วเหล้าในมือ
"ขอบคุณเรื่องอะไรอะ เอก" ผมยังยิ้มและยังมีความสุข ในวันครบรอบวันเกิดของผม คุณชายเอกเงยหน้ามองผมและตอบ ผมเบาๆว่า
"ขอบคุณ ที่เก็บเรามาเลี้ยง และสอนให้เรารู้จักโลกกว้างใบนี้" คุณชายพูดและยิ้มให้ผม แต่แววตาที่มองผมมันดูเศร้าๆ จนผมใจหาย
" เอก เป็นอะไรรึเปล่า " ผมถามออกไป กล้าๆกลัวๆผมไม่รู้เอกเป็นอะไรทำไมพูดอะไรแปลกๆ
" แล้วก็ขอบคุณที่ รัก คนอย่างเรานะ "
" กึก " หัวใจผมเต้นระรัวแทบกระเด็นออกมาจากอกช้างช้าย
"เอก ระ รู้หรอ วะ ว่าเรารัก เอก" ผมพูดเสียงสั่นๆ มือไม้ก็สั่นไปหมดทำอะไรก็ไม่ถูก อยู่ดีๆก็ถูกจับได้ว่าแอบชอบ คุณชาย
"รู้ดิ เราเองก็ชอบ ไข่เค็มนะ รอให้พูด ก็ไม่ยอมพูดสักที ทั้งๆที่แอบ จุ๊บ แอบหอมแก้ม เรา แอบบอกรักเราตอนหลับประจำ แต่ตอนตื่น ก็ไม่เคยพูดอะไรเลยสักอย่างมันน่าน้อยใจนะรู้มัย "
"อึก อือๆ" ผมนี้ดีใจจนร้องให้ออกมา ทำไมกันนะ ถ้าผมกล้ากว่านี้นิดหน่อยแค่พูดคำว่ารักออกไป ผมจะมีควาสุขมากกว่านี้แท้ๆ
"เรารักนาย เอก  รัก รักที่สุด" ผมพูดตอนนี้หวังว่าคงไม่สายเกินไปนะ สำหรับคำว่ารักของผม

"ไข่เค็ม ไม่สิ ต้องไข่หวานสินะ" คุณชายพูด ทำเอาผมหน้าแดง จนต้องเอามือตบแขนคุณชายเบาๆ
"เอกมีของขวัญจะให้" คุณชายพูดแล้วจุ๊บผมเบาๆที่แก้ม ก่อนจะลุกขึ้นเดินโทงๆ ให้อะไรบางอย่างแก่วงไปมา มันน่าเจ็บใจนัก ทั้งๆที่ผมคิดมาตลอดว่าคุณชายจะเป็นเมียผม  แต่ทำไม ตอนนี้ มันกลับกันแบบนี้ได้ ผมได้แต่นอนหน้าแดง มองคุณชายเดินไปมาไม่อายฟ้าอายดิน ก่อนจะเดินกลับมานอนลงห่อมผ้าข้างๆผม  ทำให้ผมหายใจคล่องคอขึ้น ใหญ่จริงๆนะ ผมนี้อ้าปากจนสุดถึงอมเข้าไปได้ อิอิ
"นี้ ให้ ต่อไปจะได้ไม่ต้องลำบากอีก ถ้าเอกไม่อยู่ ไม่มีใครดูแล ไข่เค็มจะได้สะบาย"
"อะไรอะ" เพราะความดีใจจนไม่ทันฉุกคิดถึงคำพูดของคุณชาย ถ้าฉุกคิดสักนิด ผมคงจะได้มีความสุขเพิ่มขึ้นอีกสักหลายๆชั่วโมง ไม่ใช่นอนหลับเป็นตายปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไปแบบนี้
"พรุ่งนี้แกะดูก็รู้"  คุณชายบอกผม และกอดผมเข้าไปในอ้อมกอด เรานอนกอดกันทั้งคืน ผมหลับฝันดีที่สุดในชีวิตตั้งแต่เกิดมา หลับในอ้อมกอดของคนที่เรารัก จะมีสิ่งใดในโลกที่จะทำให้หลับฝันดีได้เท่านี้อีกเล่า
 
"ไข่เค็มตื่นเร็ว  เอกต้องไปแล้วนะ"  ผมสะดุ้งตื่น มองดูเอกที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว
"เอก จะไปไหน กลับกี่โมง" ผมถามไปเพราะความเคยชิน วันนี้วันเสาร์เอกมีร้องเพลงที่ตลาด มอบความสุขให้ใครๆหลายๆคนได้ฟังเสียงเพลงของเขา
" ไม่รู้ แม่มารับ ไม่รู้จะไปไหน" เสียงเอกเศร้า ส่วนผมจากที่หลับๆก็ตื่นเต็มตา ด้วยความตกใจ
"บัวลอยแต่งตัวนะเอกกับแม่จะรออยู่ข้างนอก" เอกพูดและลุกขึ้นเดินจากผมไป  ผมรีบแต่งตัวอย่างรวดเร็วน้ำท่าก็ไม่อาบหน้าก็ไม่ล้างจับเสื้อผ้าได้ก็รีบๆสวมใส่ และวิ่งออกไปหน้าบ้าน  มีเอก และผู้หญิงคนหนึ่งยืนรอผมอยู่
"สวัสดีจ๊ะ บัวลอย" ผู้หญิงคนนั้นพูดและยิ้มให้ผมทั้งน้ำตา
"แม่ขอบคุณ  ขอบคุณบัวลอยจริงๆ ที่ดูแลเอก ถ้าไม่มีบัวลอย เอกคงแย่กว่านี้ แม่คิดไม่ออกเลยเอกจะอยู่ยังไง"
"แม่ขอบคุณบัวลอยนะ" เธอพูดและโผเข้ามากอดผมทั้งน้ำตา ผมก็อึ้งจนทำอะไรไม่ถูก ผมมองหน้าเอก เอกก็ยิ้ม และเดินเข้ามากอดผม เราสามคนกอดกันกลมอยู่หน้าบ้าน
"เอกขอบคุณ บัวลอย  เอกจะไม่ลืม ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่ผ่านมา ขอบคุณสำหรับความรักที่บัวลอยมีให้เอกสัญญา ชั่วชีวิตนี้เอกจะไม่ลืมบัวลอย" เอกพูดและร้องให้ออกมา


ที่ตลาดวันนี้คนเยอะเป็นพิเศษ ใครๆก็มารอฟังเพลงจากนักร้องชื่อดังขวัญใจชาวตลาด แม่ค้า พ่อค้า ลูกค้า ต่างพากันยิ้มแย้มสดใส  แต่จะมีใครรู้บ้างนะว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เราจะได้ยินเสียงเพลงเพราะๆแบบนี้อีก

"ขอบคุณ ครับ ขอบคุณพี่ๆทุกคนเลยนะครับ วันนี้ น้องเอกตั้งใจร้องเป็นพิเศษเลย เพื่อมอบให้เป็นของขวัญแก่ทุกคน ชาวตลาด  และ วันนี้น้องเอก ก็มีเรื่องที่น่ายินดีที่สุดมาบอกพี่ๆทุกคน แต่ก่อนอื่นน้องเอกก็อยากขอบคุณ พี่ๆพ่อค้าแม่ขายทุกคนเลยนะครับ ที่ได้ช่วยเลี้ยงดูอบรมน้องเอกมา ไม่รู้จะยังจำกันได้รึเปล่า เมื่อสามปีก่อน ผมมีเหตุให้ต้องเร่ร่อนออกจากบ้าน ตอนนั้นคงอายุสัก 13 ปี และผมโชคดีที่ได้เจอกับ บัวลอย  ไข่เค็ม  หึๆๆ ผมดีใจและอยากบอกกับทุกคนว่า ถ้าวันนั้น บัวลอยไม่ชวนผมมาอยู่ด้วย ผมคงกลายเป็นเด็กเร่ร่อน อาจจะเป็นหัวขโมย หรือโจรผู้ร้าย เป็นขยะของสังคม ต่างๆนาๆ แต่เพราะมีบัวลอยเพื่อนที่ผมเคยแกล้ง เคยล้อ และทำเรื่องไม่ดีต่างๆเอาไว้มากมายตอนที่เราเรียนหนังสือด้วยกัน  แต่เมื่อผมลำบากไร้ญาติขาดมิตร ถูกทิ้งไม่มีใครเหลียวแล ใครจะคิดละครับว่า คนที่เรารังแกเขามาตลอด จะเป็นคนที่ยื่นมามาช่วยเราเอาไว้ ขอบคุณอีกครั้งนะเพื่อนรัก บัวลอย ขอบคุณจากส่วนลึกที่สุดของหัวใจของผู้ชายคนนี้เลย บัวลอยจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเราและจะเป็นตลอดไปตราบใดที่เรายังมีลมหายใจในหัวใจของเราจะมีคนที่ชื่อว่าบัวลอยอยู่ข้างในนี้ในหัวใจของเราตลอดไปเพื่อนรัก....
 เอาละครับหลายคนอาจแปลกใจว่าวันนี้น้องเอกเป็นอะไร ทำไมพูดมากจัง น้องเอกแค่ดีใจที่สุดในโลกเลยครับ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วน้องเอกได้เจอแม่ น้องเอกได้เจอครอบครัวของน้องเอก ครอบครัวที่น้องเอกพลัดพรากจากกันเมื่อสามปีก่อน  แม่ของน้องเอกกลับมารับน้องเอกไปอยู่ด้วย ดังนั้นวันนี้คงจะเป็นวันสุดท้ายที่น้องเอกจะได้ขึ้นมาร้องเพลงบนเวทีแห่งนี้  ที่นี้ตลาดนี้ ทุกคนที่รักและเอ็นดูน้องเอกมาตลอดสามปี วันนี้น้องเอกต้องจากไปน้องเอกไม่มีสิงใดจะตอบแทนน้ำใจของทุกคนได้เลย แต่น้องเอกสัญญาครับ ที่นี้ทุกความทรงจำ จะอยู่ในนี้ จะอยู่ในใจของน้องเอกจนลมหายใจสุดท้าย ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกอย่างขอบคุณมากครับ"

เสียงร้องให้ดังระงม ไม่รู้ใครเป็นใคร มดแตกรังยังน่าดูกว่าภาพตรงนี้ ภาพที่ฝูงชนชาวตลาดพากันทิ้งแผงขายของวิ่งเข้าไปรุมกอด สุดที่รักของผม เสียงร้องตะโกนแซงแซ่ฟังไม่ได้ศัพท์จับไม่ได้ความ กว่าความวุ่นวายจะจบลงให้เวลาเป็นชั่วโมงๆ ผมได้แต่ยืนมองดูภาพตรงน้ำ ผมไม่สามารถกลั้นน้ำตาแห่งความเสียใจและความดีใจได้เลย ผมเสียใจที่วันนี้เอกเพื่อนรัก คนที่ผมหลงรักมาตลอด 7 ปี วันนี้จะต้องจากผมไป  แต่ผมก็ร้องให้ดีใจที่คนที่ผมรัก ได้พบกับครอบครัวอีกครั้ง ครอบครัวที่เขารัก  ผมความจะทำยังไงดีกับความรู้สึกปวดหนึบที่หัวใจ แค่หายใจแรงๆก็เหมือนมันจะระเบิดได้ทุกเวลานี้ดี

จากวันนั้นที่ผมได้มีโอกาสไปส่งเอก ที่สนามบิน ผ่านมานานเท่าไรแล้วนะ สามปี ไม่สิ สี่ปีแล้วสินะ ตอนนี้เราก็อายุ 20 ปีแล้ว เผลอแปลบเดียว เวลาก็ล่วงเลยมานานขนาดนี้แล้ว ทั้งๆที่ผมยังคิดว่าเรื่องมันเพิ่งจะผ่านไปได้ไม่กี่อาทิตย์เอง  ทุกวันเราเล่นเฟสหากัน เราคุยกันแม้จะอยู่คนละชีกโลกก็ตาม เราเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เวลาที่เราเคยมีให้กันก็เริ่มน้อยลง เอกไปเรียนต่อ เวลาที่โน่น กับที่นี้ประเทศไทย ต่างกันสุดขั้ว ถ้าผมตื่นเช้า เอกเข้านอนตอนเย็น  สุดท้ายก็เหลือเพียง อาทิตย์ละ ครั้ง สองครั้ง ที่เราอดหลับอดนอนคุยกันได้ แล้วก็เหลือเพียงเดือนละครั้ง  แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมรักเขาน้อยลงได้เลย   
วันหนึ่งในเฟสของผมก็มีข้อความจากคนที่ผมรักที่สุดเข้ามาว่า " ไข่เค็ม เอกจะแต่งงานแล้วนะ วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ เอกอยากให้ไข่เค็มมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวจัง ช่วงนี้มรสุมชีวิตรุมเล้า เอกคิดถึง ไข่เค็มจัง รักบัวลอยเสมอเลยนะ จากเพื่อนรัก เอกภพ"   หลังจากที่ได้อ่าน น้ำตาผมก็ไหลออกมา แม้จะเจ็บหน่วงๆ แต่ผมกับดีใจที่สุดที่เห็นคนที่ผมรัก ต่อจากนี้จะมีความสุขมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
"ขอให้เอกมีความสุข เพื่อนคนนี้จะคอยเป็นกำลังใจให้ทุกวินาที ยังรักเพื่อนเสมอ บัวลอย ไข่เค็ม ของเอก"
ตอบตอบกลับข้อความของเพื่อน พลางมองวิวนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย
"ก็อกๆ" เสียงเคาะประตูดังขึ้น
"บอส ครับ ได้เวลาประชุม คณะกรรมการบริหาร ตลาดแล้วครับ"  เสียงเลขาของผมดังขึ้น ผมมองดูนาฬิกา แล้วต้องลอบถอยหายใจ คงถึงเวลาแล้วสินะ ที่เราจะหาความสุขใส่ตัวเองชะที ผมยิ้มให้กับภาพในเฟสบุค ภาพชายหญิงคู่หนึ่งที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุข ก่อนจะปิดคอมพิวเตอร์  และเดินออกไปประชุมคณะกรรมการบริหารตลาด  ตลาดที่แม่ทิ้งไว้ให้ผม ดูแลตั้งแต่เด็ก ตอนนี้มีคนอยากทุบทิ้งเอาที่ไปทำศูยน์การค้า  ถ้าผมไม่ตายใครก็อย่าหวังจะทุบตลาดแห่งความทรงจำของผมไปได้ ประชุมรอบนี้คงมันพิลึก พี่ๆครับ รู้จักบัวลอย ไข่เค็ม ของคุณชายเอกน้อยไปซะแล้ว

            จบ บริบูรณ์ คร๊าบ   

ออฟไลน์ whitelavenders

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
รวบรัดไปนิดนึงนะคะ แต่สนุกดี
คิดว่าจะได้คู่กันซะอีกเนาะ เสียดายจัง เหมือนเอกฟันแล้วทิ้งเลย 5555555
ทำไมบัวลอยทำตัวจนจังอะ จริงๆเป็นเจ้าของตลาดไม่ใช่หรอ
 :hao4:

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
สนุกมากครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด