One shot ---- 'รัก' เพียงคำเดียวเท่านั้น [End] 20-05-2015
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: One shot ---- 'รัก' เพียงคำเดียวเท่านั้น [End] 20-05-2015  (อ่าน 3523 ครั้ง)

ออฟไลน์ BlackWinddy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


ยินดีต้อนรับเข้าสู่อาณาจักรของคนแอบรัก ขอให้ทุกท่านสนุกกับการอ่าน ^^
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2015 15:32:06 โดย BlackWinddy »

ออฟไลน์ BlackWinddy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: 'รัก' เพียงคำเดียวเท่านั้น
«ตอบ #1 เมื่อ20-05-2015 14:02:19 »





‘รัก’ เพียงคำเดียวเท่านั้น




          ผมเชื่อว่าหลายๆคนในที่นี้ คงเคยมีความรักในวัยเรียนที่แสนจะสดใส ตื่นเต้น แต่ถ้าจะให้พูดถึงตัวผมเองแล้ว ความรักในช่วงม.ปลายของผมนั้น ก็เป็นเพียงแค่การเฝ้ามอง และคอยดูแลอีกฝ่ายอย่างเงียบๆเพียงเท่านั้น จนถึงตอนที่เขาหายไปจากชีวิตผม

          การที่รู้ชายจะมารักกับผู้ชายด้วยกัน มันไม่ใช่เรื่องที่สังคมจะยอมรับกันได้ง่ายๆ ดังนั้นผมจึงต้องปิดผนึกความลับนี้ไว้กับตัวเอง และไม่ให้ใครเห็นเป็นอันขาด

          “อรุณสวัสดิ์ครับ หัวหน้า” ผมพูด ในขณะที่เดินเข้ามานั่งโต๊ะของตัวเอง ผมทำงานเป็นเลขาให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง หัวหน้าผมเขาเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยพูด แต่กลับเก่งเกินใคร บริษัทของเราทำงานเกี่ยวกับการตลาด และมักจะติดต่องานกับชาวต่างชาติอยู่บ่อยๆ ผมพูดได้แค่สามภาษาครับ แต่หัวหน้าผมกลับพูดได้ถึงห้าภาษาเลยทีเดียว

         “วันนี้หัวหน้ามีนัดพบกับบริษัทไพรเธอร์เวสตอนเที่ยง มีการประชุมฝ่ายบุคคลตอนบ่ายสาม ส่วนที่เหลือผมจะเรียนให้ทราบอีกครั้งครับ”ผมหยิบสมุดบันทึกขึ้นมาอ่านอย่างรู้หน้าที่

         “ขอบใจ ตอนเที่ยงนายต้องไปกับฉันด้วย”

         “รับทราบครับ” ผมพูด ก่อนจะถือเอกสารกองใหญ่ และเดินไปสั่งงานลูกน้อง งานเลขาก็ไม่ได้มีอะไรที่ยุ่งยากมากนัก เพียงแต่ต้องมีความรวดเร็ว การตัดสินใจที่เด็ดขาด ฉลาด มีไหวพริบ และเข้าใจคำสั่งของผู้เป็นเจ้านายได้เป็นอย่างดี
          ผมทำงานที่นี้มาครึ่งปีแล้ว และผมก็คิดว่า ผมคงจะทำงานที่นี้ต่อไป ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นซะก่อน








           ผมไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลย ว่าโลกมันจะกลมขนาดนี้ ผมรู้แค่ว่า หลังจากที่เขาจบม.ปลายไป เขาก็ไปเรียนต่อนอก และเราก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย จนมาถึงตอนนี้.. คนๆนั้นกำลังยืนอยู่ตรงหน้าผม เขาคือคนที่ผมแอบชอบ..

           “นี้คือคุณเมฆ ประธานบริษัทไพรเธอร์เวสครับ”เลขาของเขาแนะนำตัวเขาขึ้นมา ในตอนที่เราทั้งสี่คนนั่งลงบนเก้าอี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประธานของผมนั่งอยู่ตรงข้ามกับเขา ในขณะที่ผมเองก็นั่งตรงกันข้ามเลขา ขวามือของผมคือประธาน ซ้ายมือของผมคือคนๆนั้น

           ...ให้ตายสิ นี้เป็นการกลั่นแกล้งกันใช่ไหม! ให้คนที่แอบชอบเขามากๆมาพบเจอเขาหลังจากที่ผ่านไปหกปีเนี่ยนะ ผมไม่รู้จะทำยังไงกับหัวใจตัวเองดี ที่มันดังตึกๆตักๆไม่หยุดราวกับกู่ร้องด้วยความดีใจที่ได้พบเจอกันอีกครั้ง  ผมรักษาสีหน้าให้นิ่งสนิทเหมือนที่เคยทำเวลาติดต่องานกับบริษัทอื่นอยู่เหมือนเช่นทุกครั้งที่ผมเคยทำ

            ผมกลัวจังเลยว่า บางทีเขาอาจจะจำผมไม่ได้.. แต่นั้นก็ดีไป อ่า.. แต่ถ้าเขาจำผมได้ มันก็ ดีเหมือนกันนะ ผมชักจะสับสนกับตัวเองซะแล้วสิ

           “ไม่ได้พบกันนานนะ อรุณ” คนๆนั้นเอ่ยทักผม

           ...อ้าว คุยกันเสร็จแล้วเหรอ?

           ผมหันไปมองประธานที่พยักหน้ามาให้ ก่อนจะหันไปยิ้มการค้าให้เขา

            “เช่นกันครับ คุณเมฆ”

            ผมเห็นเขาขมวดคิ้วอยู่หน่ายๆ

            “เรียกฉันแบบเดิมก็ได้” เขาพูด ก่อนจะหันไปพูดประธานบริษัทผม “คุณคงไม่ว่านะครับ ถ้าผมจะขอคุยกับการส่วนตัวกับเขา”
 
             เมื่อกี้เขาว่าอะไรนะ!?

            ผมหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มแก้เครียด ในขณะที่มองไปยังประธานของตัวเอง ประธานนั่งหน้านิ่งไม่เปลี่ยนแปลง ก่อนจะถาม “รู้จักกันเหรอครับ?”

            “ครับ”คุณเมฆยิ้ม ก่อนจะเอ่ยอธิบาย “พอดีเราจบมาจากโรงเรียนเซนปีเตอร์ที่เดียวกันนะครับ”

           “ตามสบาย ผมว่าจะกลับไปทำงานพอดี”
 
            “ประธาน..”นั้นเสียงผมครับ ประธานส่ายหน้าให้ผมหน่อยๆ ก่อนจะเดินออกไป บางทีประธานอาจจะคิดว่านี้เป็นเรื่องของการค้า ยิ่งเรารู้จักหรือสนิทกับอีกฝ่ายมากเท่าไหร่ก็จะดีต่อการติดต่องาน




            “คุณเมฆมีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ?”ผมพูดขึ้น หลังจากที่เลขาเขาลุกขึ้น ขอตัวกลับไปทำงาน

            “อรุณ เรียกฉันแบบเดิมเถอะ” เขาพูด ในขณะที่เอนตัวลงไปพิงผนักโต๊ะ

            ผมยังไม่ได้บอกพวกคุณสินะครับว่า ชั้นนี้เป็นชั้นบนสุดของโรงแรมที่มีบริษัทไพรเธอร์เวสเป็นหุ่นส่วน และตอนนี้ผมอยู่กับเขาเพียงลำพัง ผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย ให้ตายสิ มันรู้สึกเหมือนผมไม่เป็นตัวของตัวเอง

            “ฉันไม่คิดเลยว่า จะได้เจอนายที่นี้” เขาพูด

            “ผมก็เหมือนกัน”

            “นายยังเป็นเหมือนเดิมอยู่ใช่ไหม”เขาพูดพร้อมกับมองผมด้วยสายตาคมกริบคู่นั้น สายตาที่ทำให้ผมรู้สึกอยากหนีออกไปจากตรงนี้ ความลับของผมยังไม่ถูกไม่เปิดเผย ผมกลัว กลัวเหลือเกิน หากจ้องมองตาคู่นั้นนานๆ บางทีผมอาจจะเผลอพูดบอกเขาไปในสิ่งที่ไม่ควรก็ได้

            “เหมือนเดิมหรือครับ?”ผมถามเขาอย่างงงๆ

            “เลิกทำหน้าแบบนั้นสักทีเถอะ นายกำลังทำให้ฉันเป็นบ้า”

            “ผมไม่เข้าใจ”

             ผมก็แค่เพื่อนธรรมดาๆคนหนึ่งของคุณ ที่ค่อยช่วยคุณ มองดูคุณอยู่ห่างๆอยู่เพียงเท่านั้น คุณไม่ต้องมาสนใจผม ผมไม่ได้มีความสำคัญขนาดนั้นหรอก

            “เลิกมองฉันแบบนั้นด้วย” เขาพูด ในขณะมือหนาจับใบหน้าไว้ ริมฝีปากของเขาก้มลงมาที่ปากผม

             ...เขาจูบผม!!

            “อ๊ะ.. ทำอะไรนะครับ!!”ผมรีบผลักเขาออกอย่างรวดเร็ว “คุณต้องการอะไรจากผมก็ช่วยพูดมากให้ชัดๆเลย คุณเมฆ ผมไม่ใช่สิ่งของที่คุณจะมาทำอะไรก็ได้นะครับ!”

            ผมพูด ก่อนจะเดินหนีเขาไปด้วยความตกใจ โดยไม่หันกลับไปดูเลยว่าอีกฝ่ายกำลังทำสีหน้าแบบไหน







           “เฮ้อ..”ผมถอนหายใจเบาๆ หลังจากที่ทำงานชิ้นแรกเสร็จ
            ทำไมผมถึงเป็นคนแบบนี้กันนะ ความจริงเมื่อวานน่าจะคุยกับเขาให้รู้เรื่อง ว่าเขาจูบเราทำไมกัน เขาชอบเรารึเปล่า เพ้อเจ้อแล้ววะ ไอ้อรุณ คนอย่างเมฆเนี่ยนะจะชอบนาย ถ้าเขาชอบจริงๆ เขาคงไม่หายไปตั้งหลายปีโดยที่ไม่บอกเราล่วงหน้าหรอก นี้มันบ้าไปแล้วจริงๆ

           “โอ๊ย!”ผมร้องออกมาเบา ก่อนจะหันขวับไปมองคนที่เอาเอกสารมาตีหัวผม “หัวหน้า”ผมพูดพึมพำเบาๆ ประธานครับ ประธานบริษัท ทำไมหมู่นี้ชอบทำร้ายร่างกายลูกน้องจังเลยละครับ

           “เหม่ออีกแล้ว”

            “ขอโทษครับ”

           “ไปส่งงานให้ฉันด้วย”

           “เอ่อ เรื่องแบบนั้น ให้คนส่งเอกสารไปส่งสิครับ”

            ประธานมาแปลกๆนะเนี่ยวันนี้ ทั้งๆที่เห็นว่าผมมีงานยุ่งอยู่แล้วแท้ๆ แถมคนส่งเอกสารประจำก็มีทำไมไม่ใช่ ทำไมต้องมาใช้ผมด้วยละเนี่ย?

            “ฉันสั่งนาย”ประธานพูดสั้นๆสามคำ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง

            อะไรของประธานวะ?
   
             ผมหยิบกุญแจรถเครื่อง ก่อนจะมองชื่อที่อยู่ของเอกสารที่ทำเอาผมอยากจะร้องไห้ออกมา ‘บริษัทไพรเธอร์เวส จำกัด’
เยี่ยมเลยครับประธาน ให้โอกาสในการพูดคุยกับคนๆนั้นมา ทั้งๆที่ผมยังไม่ทันตั้งตัว

              ...ฝากคนอื่นไปส่งได้ไหมวะ?...

              ผมหันไปมองประธานที่นั่งอยู่ในห้อง ห้องส่วนตัวของประธานเป็นกระจกใสครับ ไม่ยากที่จะมองเห็นคนที่อยู่ด้านใน แล้วผมก็ได้เห็นว่า ประธานกำลังจ้องผมอยู่

               อ่า... เข้าใจแล้วครับ
 
              ผมพยักหน้า ก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนพร้อมเอกสารในมือ

              เป็นแบบนี้ก็คงเลี่ยงไม่ได้ซะแล้ว ก็ประธานเล่นมองผมซะขนาดนี้








             มาอยู่ที่นี่แล้ว บริษัทไพรเธอร์เวส จำกัด

             ผมมองไปยังตึกสูงเสียดฟ้า บริษัทของเมฆ เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ดังแห่งหนึ่งในเมืองไทยพอๆกับของประธานผมเลยก็ว่าได้
             ท่าทางเมฆคงทำงานหนักไม่น้อย
              ผมคิด ในขณะที่เดินเข้าไปที่โต๊ะประชาสัมพันธ์

             “มาพบใครค่ะ”

             “ผม อรุณ มาจากบริษัทซ่านซี มาพบประธานเมฆครับ”

             “อ่อ คุณนั้นเอง เชิญด้านที่ชั้นบนสุดเลยค่ะ ห้องทางซ้ายนะค่ะ”

             “ขอบคุณครับ”

             ผมเดินขึ้นไปเข้าไปในลิฟท์และกดชั้นบนสุดโดยทันที





             ผมหลับตาลงชั่วขณะ ก่อนจะผลักประตู ภาพที่ผมเห็น เล่นเอาผมยืนนิ่ง ตกตะลึงอย่างทำอะไรไม่ถูก ประธานของบริษัทนี้ ช่างเป็นคนที่ชอบทำอะไรประเจิดประเจ้อสิ้นดีเลย

             ผมยิ้มเย้ยหยันตัวเอง ในขณะที่มองดูเมฆกำลังจูบกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ พร้อมเขาผละออกจากกัน พูดคุยกับด้วยภาษาสเปนที่ผมไม่อาจจะเข้าใจ  ก่อนที่คุณเมฆจะหันมามองผม

            “มาแล้วเหรอ?”เขาพูดพร้อมรอยยิ้มอย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่สำหรับผมไม่ใช่แบบนั้น

            “ครับ ผมเอาเอกสารมาให้ ช่วยเซ็นรับ แล้วขอตัวอย่างสินค้า 057 กลับไปด้วย”ผมยิ้มตอบกลับเขา ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังทำสีหน้าแบบไหนอยู่ เมฆถึงได้มองผมอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะเซ็นชื่อรับเอกสาร แต่ดึงมันออกมาอ่านอย่างละเอียด
           
            “ไหนละครับ ตัวอย่างสินค้า?”ผมถามเร่งเขา แม้รู้ตัวว่ามันอาจจะเป็นการเสียมารยาท   แต่ก็ยังดีกว่ายืนเป็นส่วนเกินอยู่ตรงนี้

            เมฆมองหน้าผมชั่วขณะ ก่อนจะหันไปพูดอะไรบางอย่างกับผู้หญิงคนนั้น เธอทำหน้าตกใจเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มให้เขา

            “ตามผมมาสิ”เมฆบอก พร้อมกับเดินนำผมเข้าไปในห้องๆหนึ่ง

           “ไหนละครับ เอกสาร?”ผมเอ่ยถามเขาอีกครั้งด้วยสีหน้าเย็นชาเมื่ออยู่ด้วยกันสองคน

           “ไม่มีหรอก”เขาพูด ทำเอาผมมองเขาอย่างหงุดหงิด

            “หมายความว่าไงครับ?”ผมรู้ว่าตัวเองกำลังพูดเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่จ้องมองหน้าเขา

            “ตัวอย่างอะไรนั้น.. ไม่มีหรอก” เขาพูด พร้อมผลักผมติดกับผนังห้องอย่างรวดเร็ว ไม่มีแม้แต่เวลาให้ตั้งสติ เมฆก้มหน้าลงมาจูบผมด้วย ในขณะที่ผมพยายามขัดขืนเขา มือทั้งสองข้างของผมถูกเขาจับไว้แน่น ในขณะที่ขาของเขาก็สกัดขาผมไว้ เนื้อตัวของเราแนบชิดกัน ในขณะที่ผมได้แต่มองเขาอย่างตั้งคำถาม พร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมา

             นี่เขาเห็นผมเป็นใครกันแน่.. เพื่อนของเขา คนที่ไม่ได้เจอกันนาน หรือว่า ผมเป็นแค่ของเล่นของเขากันแน่ ผมไม่เข้าใจเขาเลยจริงๆ ทำไมเวลาทำให้คนเราเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนผมเข้าใจเขาดีแท้ๆ แต่ทำไมตอนนี้ กลับไม่มีอะไรเลยซักอย่างที่ผมจะเข้าใจเขา
             
             รสชาติจูบของเขา เป็นเต็มไปความร้อนแรง ทั้งดูด ทั้งเลียริมฝีปากของผม จนผมแทบจะหมดแรง ราวกับเขากำลังใส่ความรู้สึก นึกคิด และส่งผ่านความร้อนระอุมาให้แก่ตัวผม

             แอร์ในห้องช่วยอะไรไม่ได้เลยกับความร้อนที่ผมได้รับจากเขาในตอนนี้

             “นายกำลังทำให้ฉันเป็นบ้า”

             มาอีกแล้ว คำพูดแบบนี้ ผมลืมตาขึ้นมามองเขา แต่ก็ถูกมือหนาปิดตาเอาไว้

             “ทำไม”ผมเอ่ยถามด้วยเสียงแหบหน่อยๆ

              “ฉันตามหานายมาตลอดรู้บ้างไหม ทำไมนายถึงไม่อยู่บ้านที่เดิมที่เคยอยู่ ทำไมนายถึงต้องไปเรียนต่อที่ยุโรป ฉันไม่เข้าใจนายเลยจริงๆ นายชอบฉันไม่ใช่เหรอ?”

               ...ใครหายไปก่อนกันแน่

               ผมหอบหายใจเบาๆจากจูบมาราธอนนั้น ก่อนจะพูดกับเขาทั้งๆที่ยังโดนปิดตาอยู่ “เมฆรู้?”

             “ใช่ ฉันรู้ ฉันรู้มาตลอด แต่ฉันคิดว่ามันเป็นแค่ความรักแบบเด็กๆ เดี๋ยวนายก็คงลืมมันไป เดี๋ยวเราทั้งคู่ก็ต้องแต่งงานมีลูก ฉันเลยทำตัวเฉยๆทุกครั้งที่นายเข้ามาใกล้ฉัน”

            “ฮะๆ.. งั้นเหรอ เพิ่งรู้นะเนี่ย”ผมพยายามหัวเราะออกมาอย่างขำๆ แม้จะรู้ว่ามันเป็นการฝืนทำก็ตาม สัมผัสได้ถึงแขนข้างหนึ่งที่กำลังโอบเอวผมเอาไว้

            “แต่ว่า.. ดูเหมือนฉันจะลืมนายไม่ได้”เขาพูดพร้อมกับจูบผมอีกครั้ง ก่อนจะผละออกอย่างอ่อยอิ่ง “ผมชอบแววตาคู่นั้นของนาย อรุณ แววตาที่มองมาแต่ฉันไม่เปลี่ยนแปลง แววตาที่ทำให้ฉันรู้สึกผิดทุกครั้งที่ทำตัวเป็นเพื่อนนาย”

            “….”

            “แล้วนายลองมาดูฉันตอนนี้สิ ฉันยังลืมนายไม่ได้ และดูเหมือนฉันลืมนายไม่ได้แม้แต่นาทีเดียว ฉันคงรักนายเข้าแล้ว อรุณ”
            ผมเม้มปากแน่นอย่างตกใจ ในขณะที่น้ำใสๆไหลลงมาจากตาของผมไม่ยอมหยุด มันไม่ใช่ความเศร้า หากแต่เป็นความดีใจ

           เมฆเอามือออกจากตาของผม เขาจูบซับน้ำตาให้ผม ในขณะที่มือของเขาเลือนลงมาลูบไล้ก้นของผม “เป็นของฉันเถอะ อรุณ ฉันรู้ว่านายยังรักฉัน”เขาพูด พร้อมยิ้มกว้างขึ้นเมื่อเห็นผมพยักหน้าให้เขา

            ....นายนี้มันใจร้ายจริงๆ ไม่รู้เลยรึไงว่า ทั้งหัวใจฉันเป็นของนายมาตั้งนานแล้ว..
 





           ประธานบริษัทซ่านซี่เหลือบมองเวลา ก่อนจะถอนหายใจอย่างแผ่วเบา ลูกน้องของเขาหายไปสามชม.แล้ว ชายหนุ่มคิด พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคน

            “ไม่ว่าง” นั้นคือคำพูดแรกจากคนที่เขาโทรหา แต่แค่คำทักทายแรกเท่านั้น เขาก็รู้ได้เลยทันทีว่า แผนการของอีกฝ่ายไปได้ด้วยดี ถึงแม้จะทำให้อรุณเวลาของเขามาทำงานไม่รอดก็ตามที

            “ฉันแค่จะโทรมาบอกว่า อย่าลืมที่เราสัญญากันเอาไว้ละ”

            “รู้แล้วน่า รุ่นพี่นี่พูดมากจังฮะ เดี๋ยวไม่เกินสี่เดือน ไพเรสจะต้องติดต่อรุ่นพี่แน่นอน”

            “ให้มันจริงเถอะ”

            “ผมวางนะ”

             ประธานบริษัทซ่านซี่เหยียดยิ้มขึ้นมาในทันทีที่อีกฝ่ายรีบวางสาย เขาชักจะเริ่มรู้สึกสงสารเลขาของเขาเข้าแล้วสิ ไม่รู้ว่า เผลอไปชอบคนเจ้าเล่ห์แบบนั้นได้ยังไงกัน

              เมฆ.. ช่างเป็นคนที่รับมือยาก และเอาแต่ใจตัวเอง อยากได้อะไรก็ต้องได้ โดยเฉพาะหัวใจของเขา สงสัยอีกไม่กี่วันเขาคงต้องหาเลขาใหม่ซะแล้วสิ..






Next --- One shot --- 'รัก' มันคือพรหมลิขิต
ภาคของประธานซ่านซี กับผู้หญิงปริศนาคนนั้นค่ะ
แล้วพบกัน กับความรักสั่่นๆ หากแต่ลึกซึกและยาวนาน จนแทบจะอธิบายออกไปทั้งหมดไม่ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-05-2015 09:19:28 โดย BlackWinddy »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
อรุณจ๊ะ ความทุ่มเทจริงใจของนายไม่เสียเปล่าจริงๆ
น่ารักดี

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
อรุณ~ หนูอย่าไปยอมเมฆง่ายๆ สิคะ เพราะ เรื่องที่เมฆยืนจูบกับผู้หญิงคนนั้นยังไม่เคลียร์เลยน้าา :ling1:

ออฟไลน์ ButterLatis

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
 :angry2: อย่ายอมง่ายๆสิ  เรื่องชะนีสเปนเมื่อกี้ยังไม่เคลียร์เลย  :z6:

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
รักกันแล้วมันก็ไม่แคล้วกันหรอกนะ อิอิ  :-[ :o8:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด